Annur#2

Page 1


เปิดบวช วารสาร อัน-นูร ฉบับที่ 1/2556


อัลหัมดุลิลลาฮฺชูโกรกันล่ะกือ ปาดออัลลอฮฺ (ชูโกรต่อัลลอฮฺ (ซ.บ.)) ที่ได้ทาให้วารสาร อันนูร เล่มที่ 2 ปี 55 ได้ออกสู่สายตาพี่น้อง ชาวมอ.หาดใหญ่ทุกคน ที่เฝ้าตั้งหน้าตั้งตารอ อ่านอันนูรว่าจะมาพร่าม (มีสาระ) ให้เราได้อ่านกันอีก แว่วเสียง “รอมฎอน” ผ่านหูความรู้สึกรสชาดเดิมๆได้ย้อนกลับเข้าสู้รอยหยักของ สมองยาวไปถึงส่วนลึกในท้องที่เป็นส่วนย่อยของอาหาร นี่ ! ถึงเดือนที่เราต้องอดน้า อด อาหารในแรมเดือนอีกคราแล้วหรือ? (เวลามันช่างเดินขยันเดินจริงๆ) เสียงพูดดังขึ้นจากความคิดใน ชั่วระยะเวลาสั้นๆ ของมนุษย์ที่มักเป็นผู้ที่หลงลืม แต่อย่างไรเล่าสิ่งนี่เป็นความคิด ความรู้สึก ในระยะเวลาอันสั้นๆของพวกเรา มันเทียบไม่ได้เลยกับความคิด ความรู้สึกอีกมากมายที่เกิด ตามมาหลังจากที่เราได้เริ่มย่างก้าวเข้าสู่เดือนนี้จริงๆ เราจะได้สัมผัสมันเดื อนอันประเสริฐที่ แฝงไปด้วยวิทยปัญญา(ฮิกมะฮฺ)ที่มาคู่กันกับเดือนนี่มันเหมือนกับเวเฟอร์ไส้ช็อกโกแล็ตที่ต้องมี คาราเมลมาคู่กันมันถึงจะอร่อยหยดเหย่มถึงกับงมหัวไม่ขึ้นมาให้เราได้สัมผัสกัน อินชาอัลลอฮฺ หากอัลลอฮฺได้ไว้ชีวิตเราอีกครา รอมฎอนปีหน้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรา จะคนที่ได้เตรียมตัว เตรียมใจเพื่อรอคอยและต้อนรับมาเยือนของรอมฎอนปีหน้าอีกครั้งหนึ่ง ^_^ ในเล่มนี่ถือว่าเป็นเล่มอันยาวนานที่หมักตุ๋นเอาไว้ในไหจนหมักหมมเป็นเล่มนี่ขึ้นมา เหมือนกับของดีอย่าง ปลาร้าหรือบูดูบ้านเราที่เป็นอาหารเลืองชื่อ ของดีๆมักจะต้องใช้ ระยะ เวลานานหน่อย (อิอิอิ) เล่มนี่เกริ่ นนาด้วยคอลัมน์ประสบการณ์ของน้องนักศึกษาสายวิทย์ สุขภาพที่จะต้องออกไปรับใช้สังคมอย่าง โรงเรียนคนพิการที่จะต้องเป็นผู้ให้อะไรๆแก่น้องๆที่ นั้นแต่อะไรเล่าจะมากกว่าสิ่งที่เราได้คิดเอาไว้ เราเองกลับเป็นคนที่ได้ของขวัญชิ้นพิเศษ กลับมาให้ได้คิดกันยาวๆกันเลย หากเราเป็นคนหนึ่งที่เป็นมนุษย์ผู้หลงลืมอยู่เนืองๆ อะไรเล่า จะสะกิดให้เรากลับเข้าสู่ทางที่ไม่โดนชัยฏอนหลอกลวง สิ่งนั้นคือคาพูดตักเตือนที่สะกิดอีม่าน เนื้อหาในคอลัมน์นี่จะมาสะกิดอีม่านของพี่น้องให้เข้าสู่ร่องรอยเดิมกัน.....


ผลบุญที่ได้ = 1ความดี x ∞ ดูดิมากแค่ไหน.... และคอลัมน์ด้วยบทกลอนสอนใจใน เรื่องราวของรอมฎอนอันเป็นที่รักของทุกคน รู้สึกรักรอมฎอนเอามากๆเลยนะครับพี่น้องว่า ไหม และต่อด้วยเนื้อหาที่ได้หยิบยกเรื่องราวของเหล่าวีรบุรุษในอดีต อย่าง มุฮัมหมัด ฟาติฮ หัวใจของชายผู้นี่ชั่งสวยงามยิ่งนัก เขาเป็นคนหนุ่มที่สามารถพิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิลได้ เพราะด้วยเหตุอันใดคือ สิ่งยึดมั่นในหัวใจของเขา ไม่ใช่เพราะเขาพูดฉันศรัทธาต่ออัลลอฮฺ พระองค์เดียวดอกหรือ ? และสองคอลัมน์สุดท้ายอย่างระแวง และรอมฎอนกับสุขภาพ ที่มา ปรับความเข้าใจผิดๆของคนทั่วไปที่คิดไปเองว่า การถือศีลอดนั้นจะทาไปทาร้ายสุขภาพของ เรา ในเล่มนี่มีอะไรพิเศษๆมากมาย หากได้เปิดในคอลัมน์ถัดไปหลังจากคอลัมน์รอมฎอนกับ สุขภาพ (ห้ามข้ามทุกๆคอลัมน์นะ -ทางทีมงานน้อยใจน่ะ) อีกทั้งยังประกาศผู้ที่ได้รับของรางวัลที่ร่วมส่ง บทกลอนมาร่วมชิงของรางวัญจากอันนูร ทางทีมงานฝากมาว่า ของรางวัลชิ้นนี่พิเศษมว๊าก แต่ที่เป็นน่าเสียดายยิ่งเพราะในเล่มนี่ไม่มีสารจากผู้นาของเรา ทีมงานเราเห็นอามีรหน้าตา เคร่งเดรียดตลอดเวลาเช้ายันค่าเลยขอดรอปคอลัมน์นั้นไป และแอบฝากเป็นกาลังใจให้อา มีรได้มีสุขภาพแข็งแรงจะได้ทางานอย่างขันแข็งตลอดจนคณะกรรมชมรมทุกคนนะครับ สุดท้ายนี้วารสารอันนูรเสร็จสิ้นด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ที่คอยหนุนหลังเรา อยู่ตลอดเวลา เรานั้นต้องขอบคุณอัลลอฮฺให้มากๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขอให้ ช่วยกันติงมานะครับ แล้วเจอกันใหม่ในเล่มหน้า (อินชาอัลลอฮฺ)


โรงเรียนโสตศึกษา สงขลา

…..Ibtihaaj

1

แต่ละก้าวในรอมฎอน

…..หลานจุฬา

4

รอมฎอนกับบทกลอนสอนใจ

…..สุวิทย์ คล่องทะเล

7

Code of Khilafah

…..เม็ดยาสีบลู

9

ระแวง

…..นามปากกา (เกียร์มะเฟือง)

13

ถือศีลอดมีขอ้ เสียต่อสุขภาพไหม ? …..LuLu’s uMMEE

15

Comic

18

…..อัซซาบิกูนสานักอัซซาบิกอต



1 IBTIHAAJ เขียน

ด้วยพระนามของอัลลอฮ ผูท้ รงเมตตา กรุณาปรานีเสมอ อัสลามุอาลัยกุม วาเราะฮมาตุลลอฮฮ วาบารอกาตุฮ ขอเกริ่ น น าสั ก เล็ ก น้ อ ย บทความนี้ เ ป็ น บทความสั้ น ๆ ที่ ฉั น ได้ ก ลั่ น กรองมาจาก ประสบการณ์โดยตรง ซึ่งฉันคิดว่าสมควรที่จะเผยแพร่ให้พี่น้องได้รับรู้ ถึงความรู้สึกที่ฉัน ได้รับ ณ จุดนั้น และอยากให้พี่น้องได้อ่าน และคิดตามถึงเหตุการณ์ที่เกิ ดขึ้นกับตัวฉันเอง จวบจนจบเรื่อง พี่น้องจะได้รับในสิ่งที่ฉันต้องการสื่อ อย่างแน่นอน (อินชาอัลลอฮ) เ มื่ อ ค รั้ ง ที่ ฉั น ไ ด้ เ ข้ า ม า ศึ ก ษ า ที่ มหาวิ ท ยาลั ย สงขลานคริ น ทร์ วิ ท ยาเขต หาดใหญ่นั้น ทางคณะของฉันได้จัดกิจกรรม บาเพ็ญประโยชน์ขึ้น โดยแบ่งเป็นกลุ่มๆ แต่ละ กลุ่มก็จะได้สถานที่แตกต่างกัน และต้องคิดว่า เราจะต้องบาเพ็ญประโยชน์อะไรให้กับที่นั้น ซึ่ง บางกลุ่มก็ได้โรงพยาบาลบ้างล่ะ โรงเรียนที่ อยู่นอกเมืองบ้างล่ะ และอีกหลากหลายแห่ง โดยกลุ่มของฉันเองได้รับให้ไปที่ “โรงเรียนโสต ศึกษา สงขลา” ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ ม.อ.หาดใหญ่ นี่เอง ซึ่งฉันเองไม่เคยได้เข้าไปสัมผัส ว่าที่นี่ เป็นอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่อัลลอฮเลือกให้ฉันได้ อยู่ ณ จุดๆ นั้น (อัลหัมดุลิลลาฮ !)

และเมื่อถึงเวลา กลุ่มของฉันได้สารวจ ว่าที่นั่ น เป็ น อย่างไร ทั้ง บรรยากาศภายนอก และเด็กๆที่อยู่ในโรงเรียนโสตฯเอง ก้าวแรกที่ ย่างเข้าไปความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ต่างไป จากการเยี่ยมโรงเรียนอื่นๆสักเท่าใดนัก แต่ เมื่อเข้าไปถึงลานกว้างเป็นบริเวณจุดรวมตัว ของเด็กๆ จนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แตกต่าง เด็กหลายคนมองมายังกลุ่มของฉันด้วยความ สงสั ย บ้ า งก็ เ ขิ น และบ้ า งวิ่ ง หนี ไ ปแอบหลั ง คุณครู เป็นภาพที่น่ารักมาก เมื่อคุณครูเห็นว่า กลุ่มของฉันได้มากันจนครบแล้ว เขาก็ได้มา ชี้ แ จงว่ า โรงเรี ย นแห่ ง นี้ เ ป็ น อย่ า งไร อย่ า ง คร่าวๆ ซึ่งฉันจับใจความได้ว่า...

“โรงเรียนนีเ้ ป็นโรงเรียนสาหรับนักเรียนหนูหนวก เป็นใบ้ และเด็กพิการซ้าซ้อน เด็กๆบางคนผู้ปกครองจะมารับในวันศุกร์และมาส่งอีกครัง้ ในวันจันทร์ และในระหว่างที่ เรียนก็จะเป็นโรงเรียนประจา ซึ่งนักเรียนก็จะอยูร่ ว่ มกับคุณครู และโดยส่วนใหญ่คณ ุ ครูที่ นัน้ จะหูหนวก เป็นใบ้ . . .เช่นกัน”


2 ฟังมาถึงตรงนี้ฉันได้พิจารณาแล้วว่า อัลลอฮเลือกเราให้เรามีสุขภาพดี แข็งแรง สมบูรณ์ ให้มันสมอง และวิทยปัญญาอย่างมากมาย อัลลอฮให้เรามีพ่อมีแม่คอยดูแลเอาใจ ใส่ แต่เราก็มักเกเรและทรยศต่ออัลลอฮเสมอ อัสตัฆฟิรุลลอฮ ! อัสตัฆฟิรุลลอฮ! อัสตัฆฟิ รุลลอฮ! นี่เป็นเพียงบทเรียนเล็กๆทีฉ่ ันได้รับ และอีกอย่างที่ฉันรู้สึกประทับใจทุกครั้งทีไ่ ด้นึกถึง นั่นคือ เมื่อถึงเวลาที่จะทากิจกรรม คุณครูให้พวกเราไปแนะนาตัวเป็นภาษามือ ฉันได้รอต่อ แถวอย่างร้อนรนเพื่อที่จะแนะนาตัวให้กับน้องๆ มีเด็กคนหนึ่งมาสะกิดฉันตรงหัวไหล่ และ ทาท่าอะไรสักอย่าง ที่ดูแล้ว งวยงง ! ฉันเพียงแต่ยมิ้ เจือนๆ เพราะฉันเดาไม่ออกจริงๆ ว่าน้อง เขาต้องการจะสื่ออะไร แต่ในใจลึกๆ ฉันรู้สึกอยากรู้ ว่าน้องเขาต้องการจะบอกว่าอะไร ไม่รู้ สิ ! มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่สาคัญเพราะน้องเขา ทาท่านี้ซ้าๆอยู่หลายครั้ง เหมือน ต้องการจะให้ฉันได้เข้าใจจริงๆ ฉันได้แต่จดจาท่าเหล่านั้นเก็บไว้ . . . เมื่อจบกิจกรรมนั้นไป ฉันยังฉงนใจไม่หาย จึงได้เร่งรีบตรงไปถามคุณครู ว่าท่า เหล่านี้มันหมายถึงอะไรกัน ทาไมน้องเขาถึงตั้งใจที่จะอธิบายฉันอยู่หลายครั้งหลายหน และ คาตอบที่ได้มานั้น เทียบทาเอาน้าตาแทบไหล พี่น้องคงเดาไม่ออกเป็นแน่ในสิ่งที่ฉันได้รับรู้ จากคุณครูคนนั้น . . . ฉันจะบอกให้ก็ได้ น้องเขาบอกว่า “หนูเป็นมุสลิมเหมือนกันค่ะ ^^” อัลลอฮูอักบัร ! เมื่อได้ยินเสียงอันแผ๋วเบาจากริมฝีปากเรียวแดงของคุณครูแล้ว หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะยังไงไม่รู้ มั นเป็นความรู้สึกที่อธิบายยากนะ ฉันพูดได้เพียงว่า มันดีใจ รู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นฉันก็รี่เข้าไปหาน้องคนสักครู่นี่ และทาท่าทางเพื่อ บอกกับน้องเขาเช่นกันว่า “พี่ก็เป็นมุสลิม พี่รักน้องนะ ^^” เมื่อน้องเขาเห็นฉันได้แสดง ท่าทางอันนุ่มนวลที่แสดงถึงความรัก น้องเขาก็ยื่นมือมา . . เพื่อที่จะสลามกับฉัน อัลลอฮูอักบัร ! ฉันจึงได้ยื่นมือไปสลามตอบ จากนั้นไม่นาน ก็มีน้องๆกลุ่มนึงเดินกรู เข้ามาเพื่อที่จะสลามกับฉัน แล้วก็ทาท่านั้นซ้าๆกันยกใหญ่ “หนูเป็นมุสลิมค่ะ/ครับ” ฉันได้มี โอกาสพูดคุย ไม่สิ! ต้องเรียกว่าสื่อสารกันมากกว่า ที่มันลึกซึ้งกว่าคาพูดซะอีก มันเป็น ภาษาใจที่เราได้ใช้กับบุคคลเพียงไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่คน น้องหลายๆคนเขียนเป็น ฉันจึงได้มีโอกาส โต้ตอบกับพวกเขาผ่านตัวหนังสือ อัลหัมดุลิลลาฮ และก่อนฉันจะกลับน้องๆได้เข้ามาทักทาย ก่อนฉันจะกลับพร้อมโบกมือลาและฉันทิ้งท้ายด้วยสัญญาที่ให้ไว้กับน้องๆว่า “ฉันจะกลับมา ที่นี่อีกครั้ง (อินชาอัลลอฮ)”


3 สุดท้ายนี้ฉันอยากจะบอกกับพี่น้องได้ตระหนักถึงสิ่งที่เราได้รับจากความเมตตา ของอัลลอฮฺ สิ่งที่เราได้รับจากพระองค์นั้นมากมายเหลือคณานับ มากจนเรามองไม่เห็น มากจนเราหลงลืมพระองค์ ขอต่อพระองค์ทรงอภัยโทษแก่พวกเราด้วยเถิด อัสตัฆฟิรุลลอฮ ! อัสตัฆฟิรุลลอฮ ! อัสตัฆฟิรุลลอฮ ! และอีกหนึ่งอายะฮฺ สรุปบทความที่ข้าพเจ้าได้มอบให้แด่ พี่น้อง ถึงความยิ่งใหญ่ของคาว่า “พี่น้องในอิสลาม” “และได้ทรงให้สนิทสนมระหว่างหัวใจของพวกเขา (คือระหว่างหัวใจของบรรดาผู้ศรัทธา) หากเจ้า ได้จา่ ยสิง่ ทีอ่ ยู่ในแผ่นดินทัง้ หมด เจ้าก็ไม่สามารถให้สนิทสนมระหว่างหัวใจของพวกเขาได้ แต่ทว่าอัลลอฮฺนนั้ ได้ทรงให้สนิทสนมระหว่างพวกเขา และแท้จริงพระองค์นนั้ คือผูท้ รงเด ชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณ” ( อัล-อันฟาล 8:63) และท้ายนี่ ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเราจะได้รู้จักกัน และรักกันในหนทาง ของอัลลอฮ ฟีสะบีลิลาฮฺ (อินชาอัลลอฮ)

วัสลามูอาลัยกุม วาเราะฮมาตุลลอฮ วาบารอกาตุฮ


4 หลานจุฬา เขียน

ขอความสันติสุขจงประสบแด่ผู้อ่านทุกท่านครับ หัวข้อที่ผมได้รับนั้นมัน....เริ่มเลย ดีกว่า ถามผู้อ่านนะครับ ใครรู้จักรอมฎอนบ้าง ? รอมฎอนคืออะไร? มีอะไรให้ทาบ้าง? ค่า ของมันละเท่าไร? และช่วงไหนบ้างที่สาคัญ? ....ok ไม่รู้จะถามอะไรแล้ว งง ถามทาไม รอมฎอนเป็น 1 ใน 12 ของบรรดาเดือนอาหรับ ซึ่งเป็นเดือนลาดับที่ 9 ครับ ที่มี ความประเสริฐที่สุด เพราะอัลกรุอ่านได้ประทานลงมาในเดือนนี้ เรามาว่ากันต่อดีกว่าว่ารอมฎอนเพือ่ ... เพือ่ เพิม่ ความยา เกรงต่ออัลลลอฮ “ผูท้ ี่มีความยาเกรง ต่อออัลลอฮจะให้ ทางออกแก่เรา เสมอ”

เพื่อให้เกิดการทาทานมากขึ้น ยังไง ละ ก็ เ ดื อ นนี้ เ ป็ น เดื อ นแห่ ง การ ทดสอบ ในการอดๆๆ อาหารและ การกระทาในสิ่งที่ไม่ดี ให้เห็นใจคน ที่อดยาก และขอบคุณอัลลลอฮที่ได้ ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่เรา

เพือ่ ให้เราได้เพิม่ อีหม่านของ เราให้สูงขึน้ เพราะมุสลิมทุก คนต้องถูกทดสอบ จะอ้างว่า มีชัยฏอนมายุไม่ได้แล้ว เดือน นีพ้ วกมันถูกล่ามหมด ที่ เหลือคงเป็นแต่ละอาเภอใจ ของแต่ละคนเองนะแหละ

ก่อนถึงรอมฏอนก็มีสุนัตให้ถือศีลอดช่วงชะบาน เพื่อให้พวกเราได้อุ่นเครื่องกัน ถ้าเราลองแบ่งรอมฏอนออกเป็น 3 ส่วน ช่วงสิบวันแรกเป็นช่วงแห่งความเมตตา ช่วงสิบ วันที่สองเป็นช่วงแห่งการให้อภัย ช่วงสิบวันสุดท้ายเป็นช่วงแห่งการทาให้พ้นจากไฟนรก ซึ่ง ช่วงท้ายนี้สาคัญมากนะครับ เพราะมีคืนลัยละตุลก็อดรฺ อาจมีหลักฐานมากมายที่กล่าวว่า คืนนี้อยู่ช่วงไหน แต่หลักฐานที่แข็งแรงที่สุดบอกว่าอยู่ในช่วง สิบคืนสุดท้ายนี้ละครับ


5 โดยเฉพาะวันคี่ แล้วคืนลัยละตุลก็อดรฺ คืออะไรละ ก็คือคืนที่ญิบรีล และบรรดา มลาอิกะห์ลงมากันในคืนนี้จานวนมากมาย เป็นคืนที่มีความประเสริฐมากกว่า 1000 เดือน ..โอ้โฮ...เยอะว่ะ ในสิบวันท้ายนี้ ท่านนบีของเราจะเน้นการทาอิบาดะห์อย่างมาก เพื่อแสวงหาค่าคืนอัน ประเสริ ฐ นี้ ส่ ว นเราจะรู้ ไ ด้ ยั ง ไงว่ า คื น ไหนเป็ น คื น ลั ย ละตุ ล ก็ อ ดรฺ ไม่ มี ใ ครรู้ ห รอกครั บ นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น แต่มีหลักฐานพอจะให้เราสังเกตได้ อย่างเช่น ในคืนนั้นจะมีลม อ่อนๆๆพัดเย็นสบาย ดวงอาทิตย์ในช่วงเช้าจะไม่ร้อนมาก ส่วนการที่มีคนพูดว่า ต้นไม้โน้ม ลงเพื่อสุญูดนั้น อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็ไม่เคยเห็นนี้ครับ แล้วแต่พระประสงค์ของอัลลอฮฺ ครับ

เราทาอะไรบ้างในรอมฎอน....... แต่ว่าเดือนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเดือนอื่นๆๆ แต่ก็มีหลายอย่างที่เดือนอื่นไม่มี เพราะการทาความดีในรอมฏอน มีสูตรอยู่หนึ่งสูตรที่เดือน อื่นๆๆไม่มี คือ สูตรที่ว่า ผลบุญที่ได้ = 1 ความดี x ∞ ดูดิมากแค่ไหน แต่วา่ ทั้งนีท้ ั้งนัน้ ขึน้ อยูก่ บั ความบริสุทธิใ์ จนะครับ ซึง่ สาคัญมากนะครับ ถ้าเราไม่มคี วามบริสุทธิใ์ จเพือ่ อัลลอฮฺ ระวังจะขาดทุน ผมมีเพื่อนที่อยู่ห้องตรงข้าม อยู่คณะเศรษฐศาสตร์ เขาบอกว่าช่วงรอมฏอน เป็นช่วงที่เก็บ เกี่ยวผลผลิตได้มากที่สุด คุ้มค่าทางด้านหลักเศรษศาสตร์ อิบาดะห์ที่เราต้องทาแบ่งเป็น 3 ส่วนนะครับ ได้แก่ ศิยาม กิยาม เอี๊ยะติกาฟ

ศิยาม คือ อิบาดะห์ต่างๆที่ทาในช่วงกลางวัน ในรอมฏอน ได้แก่ การถือศีลอด

กิยาม คือสิ่งที่ทาในช่วงกลางคืน ได้แก่ ละหมาดสุนัตต่างๆๆ โดยเฉพาะละหมาด ตะรอเวียะห์

เอี๊ยะติกาฟ คือการพักในมัสยิดราลึกถึงอัลลอฮฺ


6 ซึ่งในทั้งสาม ส่วนนี้ยังมีการอ่านอัลกรุอ่าน ซิกรุลลอฮฺ การดุอาอฺขอพรต่ออัลลอฮฺ อดกลั้นในการทาความชั่ว จ่ายทานให้อาหารแก่คนยากจน ฯลฯ หลังรอมฏอนก็มีการละหมาดอีดอีดิลฟิตรี หรือทางใต้เรียกว่าฮารีรายอ แถวบ้านผม เรียกวันอีด และที่สาคัญอย่าลืมจ่ายซะกาตฟิตเราะห์ละครับ ให้ก่อนจะละหมาดละไม่งั้นจะ เป็นเพียงแค่การซอดาเกาะห์ธรรมดา ส่วนซะกาตฟิตยะห์ (เฉพาะบุคคลที่ไม่มีความสามารถถือศีล อด) ผมคิดว่ามุสลิมในม.อ.ไม่น่าจะมีนะครับ แข็งแรงกันทุคคนอยู่แล้วนี้ครับส่วนใครจะต่อเชา วาลอีก 6 วันก็ดีไม่น้อยนะครับ ภาคผลเท่ากับการถือศีลอด 1 ปี สุดท้ายก่อนที่รอมฏอนจะจากท่านไป อย่าลืมตรวจสอบตนเองนะครับ ว่าเราทาอะไร ไปบ้าง มีส่วนไหนที่ยังต้องแก้ไขอีกบ้าง ให้เราทาความดีเสมือนว่าเป็นวันสุดท้ายของชีวิต แล้วท่านจะไม่กล้าทาผิดลงไป “อัลลอฮฺเป็นผูช้ ่วยให้สมหวัง และชี้ทางทีเ่ ที่ยงตรง”

วัสลามครับ


7

ถือศีลอด กฏที่ มีค่ายิ่ง จะได้สิ่ง ตอบแทน แดนสวรรค์ อัลลอฮฺทรง พอพระทัย ให้รางวัล ยกเกียรติอัน สูงค่า กว่าทั้งมวล

หนึ่ง…กลิ่นปาก คนที่ มีศลี อด ดุจชมด เชียงนั้น อันหอมหวล ผลบุญนั้น พระองค์ ทรงคานวณ ยากประมวญ คุณค่า น่าตรึกตรอง

สอง…สรรพสิ่ง วิงวอน ขอพรให้ เพื่ออวยชัย ต่อองค์ ทรงสนอง

สาม…สวนสวรรค์ จัดไว้ ให้รับรอง ดั่งแพรทอง ห่อหุ้ม ชุ่มชื่นใจ

สี่…ชัยฏอน ถูกล่าม ตามกาหนด เพื่อให้งด ล่อลวง ปวงเงื่อนไข

ห้า…ปลายรอมฎอน มีค่า อย่าทิ้งไป พระองค์ได้ ประทาน กุรอานมา


8 การถือศีล ต้องระงับ ดับโกรธได้ ไม่ไส่ไคล้ ลับหลัง ทั้งครหา ไม่ตะกละ หืน่ หิว ชิวหาพา กายวาจา ทาดี มีสุนทาน ในคืน ลัยละตุลก็อดรนัน้ ดีกว่าพัน เดือนที่ มีกล่าวขาน มลาอิกะฮฺ ลงมา พาชื่นบาน น้อมกราบกราน พร้อมบ่าว กล่าวขอพร นมาซตะรอเวียะฮฺ เป็นสุนนะฮ์ อย่าละทิ้ง เพราะเป็นสิ่ง เพิ่มความดี นบีสอน กล่าวซิกรุลลอฮฺ สิ่งดี ที่สังวร เอื้ออาทร จ่ายซะกาต ไม่ขาดทุน **************************** สุวิทย์ คล่องทะเล ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=302668


9 เม็ดยาสีบลู เขียน

เคยได้ยินหลายคนบอกไว้ว่า “ อดีตบอกถึงปัจจุบัน และปัจจุบันเป็นผลของอดีต ” หรือที่ว่ากันว่า “อดีต เป็น กุญแจสู่ปจั จุบัน” ย้อนไปในอดีต เรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่มีอายุวัยยี่สิบปีเศษๆกับความฝันอันยิ่งใหญ่ ของเขา ความฝันที่อยากเป็นหนึ่งในบุคคลในหะดีษที่ท่านรอซูลลุลอฮศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ วะซัลลัม ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ แท้จริงกรุงคอนสแตนติโนเปิลจะถูกพิชิตโดยพวกเจ้าและแท้จริงอามีรทีด่ ีที่สุดคืออามีรที่ สามารถพิชิตมันและแท้จริงกองทัพที่ดีทสี่ ุดคือกองทัพของอามีรนัน้ ” (อะฮหมัด:4/335) ความฝันบ่งบอกความเป็นตัวเรา และเด็กหนุ่มคนนั้นก็เป็นอย่างที่เค้าฝันไว้ เค้าได้กลายเป็น มุฮัมหมัด ฟาติฮ ผู้พิชิต กรุงคอนสแตนติโนเบิล ในสมัยอาณาจักรอุษมานียะห์ อะไรที่ทาให้เด็กหนุ่มธรรมดาๆคนหนึ่งลุกขึ้นตามฝัน ทั้งๆที่เขารู้ว่าฝันนี้มันช่าง ยากเย็น และยิ่งใหญ่ หนักเกินกว่าบ่าคนธรรมดาอย่างเขาจะแบกไว้ และมีผู้คนมากมายที่ พยายามทาในสิ่งนี้ ต่างล้วนแล้วไม่สาเร็จ เพราะความศรัทธา เชื่อมัน่ ในหะดีษของท่านรอซูลลุลอฮศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เชื่อมั่นในรหัสที่ท่านรอซูลลุลอฮศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้บอกไว้ ว่า ยังไงเหตุการณ์นี้ จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน และความหวังว่า จะเป็นบุคคลดั่งในหะดีษของท่านรอซูล ลุลอฮศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สุดท้ายเขาก็ได้เป็นผู้ชนะและเป็นบุคคลที่ไขรหัส พิชิต กรุงคอนสแตนติโนเปิล และทา ให้อิสลามในสมัยนั้นความรุ่งเรือง สามารถแผ่ขยายอาณาจักรอิสลามครอบคลุมไปหลาย ทวีปของโลก


10 และรหัส ณ ปัจจุบันยุคของเราอยู่ไหนกัน ??? จากฮาดิษรายงานโดยท่านอะหมัด (อิบนุ ฮัมบาลี)ความว่า “ ยุคของท่านรอซูลลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะ ลัยฮิวะซัลลัมจะอยู่กับท่านนานเท่านานตราบ ที่อัลลอฮซุบฮานาฮูวาตาอะลาทรงประสงค์ พระองค์ จ ะยกมั น ออกไปเมื่ อ พระองค์ ท รง ประสงค์ ( ยุ ค ท่ า นรอซู ลุ ล ลอฮ 23 ปี ) จากนั้นจะเป็นยุคคอลีฟะฮผูน้ าตามแนวทางยุค สมั ย ท่ า นรอซู ล ลุ ล ลอฮศ็ อ ลลั ล ลอฮุ อ ะลั ย ฮิ วะซัลลัมยุคของคอลีฟะฮจะอยู่กับท่านนานเท่า นานตราบที่พระองค์ทรงประสงค์ พระองค์จะ ยกมันออกไปเมื่อพระองค์ทรงประสงค์ (ยุคคอ ลี ฟ ะ ฮ 30 ปี ) จ า ก นั้ น ก็ จ ะ เ ป็ น ยุ ค ข อ ง อาณาจักรที่แสนยาวนาน (อุมัยยะฮ 130 ปี อัมบาซียะฮ 400 ปี อุษมานียะฮ 700 ปี)

มันจะอยู่กับท่านตราบนานเท่านานที่พระองค์ ทรงประสงค์ พระองค์จ ะยกมัน ออกไปเมื่อ พระองค์ทรงประสงค์ จากนั้น จะเป็นยุคของ ทหาร มันจะอยู่กับท่านตราบนานเท่านานและ พระองค์ จ ะยกมั น ออกไปเมื่ อ พระอค์ ท รง ประสงค์ จากนั้นจะเป็นการกลับมาของยุคคี ลาฟะฮยุ ค ที่ มี ก ารปกครอง เหมื อ นยุ ค คอ ลีฟะฮทั้งสี่ ปกครองอิสลามตามแบบท่านรอ ซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม .”

แน่นอนอิสลาม จะกลับมายิง่ ใหญ่อีกครัง้

ปัจจุบันยุคเราเป็นยุคที่คาบเกี่ยวระหว่างยุคทหาร เราจะสังเกตว่าหลายๆประเทศจะ ใช้อานาจทหารในการปกครองกับยุคที่อิสลามจะกาลังมายิ่งใหญ่อีกครั้งคือยุคการกลับมา ของคีลาฟะฮ ยุคที่มีการปกครองเหมือนยุคคอลีฟะฮทั้งสี่แบบฉบับการปกครองเหมือนยุค ของท่านรอซูลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จากหะดีษของท่านรอซูลศ็อลลัลลอฮุอะลั ยฮิวะซัลลัม ได้บอกใบ้รหัสกับเราไว้แล้วว่า คี ลาฟะฮจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และนี่ คือ “กุญแจ” ดอกสาคัญที่จะเปิดประตูสู่คีลาฟะฮสาหรับประชาชาติมุสลิมในยุคเรา เมื่อผลข้างหน้านั้นคีลาฟะฮจะเกิดขึ้น และเราก็รู้ถึงความสาเร็จในภายภาคหน้าแล้ว ยัง มีอีกหรือ? ที่เราจะไม่ไขว่คว้าโอกาสนั้น ในเมื่อเป้าหมายย่อมสาเร็จ เราแค่เป็นเพียงผู้หนึ่งที่ ใส่ชื่อตัวเองลงไป และทาให้สุดความสามารถ ในวันที่อัลลอฮซุบฮานาฮูวาตาอะลาได้ป่าว ประกาศรายชื่อของผู้ที่มีส่วนร่วมกับการกลับมาของคีลาฟะฮ อินชาอัลลอฮ เราจะได้เป็น หนึ่งผู้ที่ยืนเชิ่ดอก ภูมิใจกับความสาเร็จ และเป็นที่ได้รับเกียรติในที่นี้ ณ อัลลอฮ


11 หรือเราอยากอยู่เฉยๆ เป็นผูข้ าดทุน !!!! ถ้าเราลองสังเกตในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามีผู้คนมากมายได้เข้ารับอิสลาม ไม่ว่าจะ เป็นประเทศตะวันตกหรือแม้แต่ประเทศไทยเราเอง หากเราลองใคร่ครวญและทบทวนดู บางครั้งอัลลอฮซุบฮานาฮูวาตาอะลาอาจจะส่งผู้ที่ดีกว่ามาทางานแทนเรา เพราะพวกเรา มั่วแต่เฉยชา หลงระเริงอยุ่กับดุนยาจนลืมภาระหน้าที่ของพวกเราไป และพระองค์ก็ได้บอก ในซูเราะฮ มุฮัมหมัด อายะห์ที่ 38 ความว่า “และถ้าพวกเจ้าผินหลังออก พระองค์กจ็ ะทรงเปลีย่ นหมูช่ นอืน่ แทนพวกเจ้า แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะไม่เป็นเช่นพวกเจ้า” เป้าหมายของอัลลอฮย่อมสาเร็จเสมอ โดยที่พระองค์ไม่ต้องทรงพึ่งผู้ใด ถึงแม้เรา จะยังอยู่เฉยชา ไม่ทาหน้าที่สถาปนาคีลาฟะฮกลับมาอีกครั้ง ยังไงคีลาฟะฮก็จะต้องเกิด เพราะอัลลอฮอย่างเช่นที่พระองค์ได้สัญญาไว้ และแน่นอนเราจะกลายเป็นผูข้ าดทุน หากเรามองสถานการณ์โลกมุสลิมปัจจุบันพี่น้องมุสลิมมากมายทั้ง ที่ซีเรีย ปาเลสไตน์ หรือพี่น้องโรฮิงญากาลังถูกเข่นฆ่า กดขี่ ข่มเหง ถูกทารุณกรรมในชนิดที่ ผู้กระทาไม่อาจถูกเรียกได้ว่ามนุษย์ เมื่อเรือนร่างส่วนหนึ่งของเราเจ็บปวดเจียนตาย แต่อีก เรือนร่างหนึ่งล่ะกาลังทาอะไรกันอยู่ ความยุติธรรมที่มาช้า ก็คอื ความอยุติธรรม กี่มากแล้วกับความสูญเสียของพี่น้องของเราที่เกิดจากความอยุติธรรม และความ ยุติธรรมที่พวกเราบอกว่าจะทาให้แต่กลับเฉยเมย พูดแค่เพียงลมปาก โพสต์กันแค่เป็นช่วง กระแส แต่กลับไม่ทาให้พี่น้องเราจริงๆจังๆกันซะที ถึงเวลาแล้วที่เราต้องลุกขึ้นจริงจัง ให้ความยุติธรรมกับพี่น้องของเรา อย่างน้อยๆ ให้มีพวกพี่น้องในดุอาอฺของเรา และในโอกาส เดือนเราะมาฎอน เดือนแห่งความประเสริฐ เดือนที่ดุอาอของผู้ถือศีล อดจะได้รับการตอบรับ เราควรที่จะใช้โอกาสทองนี้ ถือศีลอดและละหมาดกิลัยมุลัยล ขอดุ อาอฺต่ออัลลอฮซุบฮานาฮูวาตาอะลา ให้ช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมจากความอธรรม ให้อีหม่าน


12 เราเข้มแข็งพร้อมที่จะต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ ใช้อิสลามในการดารงชีวิต ให้อิสลามอยู่ เหนือสิ่งใดทัง้ ปวง คีลาฟะฮจะกลับมาได้อย่างไร? หากเรายังเดินตามศัตรูของอิสลาม สร้างหัวใจที่ล่อเลี้ยงไปด้วยความฝัน เหมือนกับเด็กหนุ่มที่มีชื่อว่า มุฮัมหมัด ฟาติฮ พร้อมขับเคลื่อนความฝันให้เป็นจริงด้วยการลงมือปฏิบัติ ก้มลงสูญุด ขอพรกับอัลลอฮ ยาอัลลอฮใน ช่วงชีวิตหนึ่งของเรา ขอพระองค์ทรงให้เราได้เห็นคีลาฟะฮกลับมา ให้อิสลาม กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!!! เมฆหมอกของปริศนากาลังจะจางหายไป และอินชาอัลลอฮ ประตูคีลาฟะฮกาลังจะถูกเปิดออกในเร็วนี้


13

ล่วงผ่านรุ่งอรุณอันแสนหนาวเหน็บ กลิ่นไอร้อนๆจากหม้อน้าร้อนบนเตาหิน โชยมาเป็นหมอกมหึมาพัดพาความอบอุ่น ไล่ความกดอากาศต่าให้หมดไปจากกาย ฉันเอนกายพาดลงบนเก้าอี้เก่าๆตัวหนึ่ง ฝีปากอันแห้งขอดกระทบขอบแก้วกาแฟอีกครั้ง อาจจะเป็นครั้งที่หมืน่ กว่าๆแล้วกระมั้ง ที่ฉันได้มานั่งจิบกาแฟในชีวิต และอาจจะเป็นครัง้ สุดท้ายก็อาจหารู้ไม่ มือซ้ายยัดใบจากม้วนที่นับไม่ถ้วน เข้าปากจุดไฟอย่างสบายอารมณ์ ในขณะที่มือขวาคว้ากระดาษหนังสือพิมพ์ ทั้งไทยรัฐ เดลินิว มติชน หลากหลายแล้วแต่สายตาจะประสงค์ กวาดสายตาร่ายตัวอักษร พลางพ่นควันขาวๆออกมาอย่างไม่ขาดสาย สายตาเหลือบไปเห็นข่าวบ้านเมืองสาม จชต. ที่กาลังลุกไหม้กินหัวใจผู้บริโภคอยู่ในแผ่นกระดาษ โจรใต้ได้วางระเบิด โจรใต้ได้ลอบยิง โจรใต้ได้ก่อเหตุ


14 สุดแล้วแต่จะอธิบายความโหดร้าย ฉันได้หยุดชะงัก พร้อมรินชาว่างใส่แก้ว สิ่งเหล่านี้ที่อยู่ในหนังสือพิมพ์ วนเวียนอยู่รอบตัวฉัน นี่คือบ้านฉัน นี่คือพี่น้องของฉัน นี่คือพรรคพวกของฉัน สาม จชต.ของฉันจะต้องถูกลงข่าวหน้าหนึ่งไปอีกนานเท่าไร ผู้คนมากมายจะต้องล้มตายอีกมากแค่ไหน เมื่อไหร่จะถึงคิวของฉันก็มอิ าจจะหยั่งรู้ถึง ลูกปืนอันไม่รอู้ ิโหน่อิเหน่จะมากระทบกายฉันเมื่อใด กรรมสิทธ์ทุกอย่างเป็นของอัลลอฮฺผู้ทรงเกรียงไกร ฉันวางแก้วลง มือล้วงกระเป๋า ชักใบยี่สิบ “บังกี่บาท” อาบังน้าชา รับเงินด้วยรอยยิ้ม ฉันสตาร์ทรถคริสตัลคันเก๋ากึ๊กดั่งสนั่น ผสานเสียงสังกะสีร้านน้าชาที่กาลังเลื่อนปิดอย่างช้าๆ “ข้ากลับแล้วนะบัง”

“บังก็ปิดร้านแล้วเหมือนกัน”

นามปากกา (เกียร์มะเฟือง) 25/8/2555


15

LuLu’s uMMEE เขียน

เราะมะฏอนผ่านไปได้พักใหญ่แล้ว ท่านผู้อ่านหลายคนคงจะได้เก็บเกี่ยวผลบุญอย่าง เต็มที่ (อินชาอัลลอฮ) หลายคนอาจจะได้ยินคาถามมากมายเกี่ยวกับการถือศีลอด ไม่ว่าจะ “ทนหิวได้ยังไง ไม่ได้กินทั้งวัน ” ”ถือศีลอดอยู่ แล้วจะมีเรี่ยวแรงมีแรงเรียนไหม?” “ไม่ได้กิน ข้าวทั้งวัน เดี๋ยวก็เป็นลมหรอก” “ไม่กินข้าวยังพอได้ แต่ให้อดน้าเนี่ย จะอยู่ได้ไง” คาถาม มากมายเหล่านี้ ถือเป็นหน้าที่ของเราผู้ศรัทธาที่จะต้องอธิบายให้ผู้ที่ไม่เข้าใจได้ทราบและ เข้าใจอย่างถูกต้อง หากจะกล่ า วว่ าถื อ ศี ล อดทั้ ง วั น เป็ น การทรมานตัวเอง เพราะไม่ได้กินอะไรทั้งวัน นั้ น ความจริ ง แล้ ว มั น เป็ น การงดอาหารมื้ อ หลักเพียงมื้อเดียวเท่านั้น เพราะการถือศีลอด ของชาวมุสลิมต้องมีการทานอาหารซาโฮร ก่ อ นเวลาซุ บ ฮฺ ทดแทนได้ กั บ มื้ อ เช้ า นั่ น เอง แล้ ว หลั ง จากนั้ น ก็ อ ดอาหารมาทานอี ก ครั้ ง ตอนมัฆริบ ซึ่งเป็นเวลาละศีลอดพอดี ดังนั้น หากตื่นมาทานซาโฮร ก็จะไม่ได้ทาให้เป็นการ เหนื่อยเกินไปเลย นอกจากการถือศีล อดยัง เป็ น การช่ ว ยให้ ท างเดิ น อาหารของเราได้ พักผ่อนบ้าง หลังจากใช้งานไม่หยุดไม่หย่อนมา ทั้งปี ให้ได้พักบ้างก็คงจะดี

ในขณะที่ถือศีลอดนั้น ร่างกายเราก็ยังสูญเสีย น้ าทางปั ส สาวะอยู่ หลายคนก็ เ ลยสงสั ย ว่ า แบบนี้จะไม่ขาดน้าหรอ ตอบได้เลยว่าไม่หรอก ค่ะ ตอนเราเสียน้าไปกับปัสสาวะในตอนแรก นั้ น ร่ า งกายของเราก็ จะรั บ รู้ ว่าตอนนี้กาลั ง ขาดน้ านะ จากนั้ น ก็ ส่ ง ข้ อมู ล ไปที่ สมองส่ ว น hypothalamus ท า ใ ห้ มี ก า ร ห ลั่ ง ADH ออกมา ซึ่ง ADH นั้นก็เป็นฮอร์โมนหนึ่งที่เพิ่ม การดูดกลับน้า ทาให้เราเสียน้าทางปัสสาวะ ลดลง ปัสสาวะของเราก็จะมีสีเข้มขึ้นนั้นเอง ลองกลับไปสังเกตดูนะคะ อย่าลืมว่า ผู้สร้าง เราน่ ะ ย่ อ มรู้ ดี ทุ ก อย่ า งเกี่ ย วกั บ เราอยู่ แ ล้ ว พระองค์ไม่ทรงใช้ให้ทาอะไรที่ เป็นอะไรที่เป็น อันตรายต่อเราหรอกค่ะ


16 อีกข้อดีอย่างหนึ่งที่อยากจะแถมไปก็คือ การถือศีลอดนั้นยังช่วยลดระดับน้าตาล และ ไขมันในเลือดได้อีกด้วย เพราะตอนที่เรากาลังอดอาหารนั้น ร่างกายเราก็จะใช้น้าตาลที่มีอยู่ ในร่างกาย ใช้ไปๆเดี๋ยวน้าตาลก็ลดลง จนร่างกายเปลี่ยนมาใช้ไขมันแทนน้าตาล คราวนี้ล่ะ ไขมันก็จะลดลงไปด้วย ประโยชน์หลายต่อจริงๆค่ะ ถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านพอจะมีคาตอบไปตอบคนที่สงสัยในประเด็นเหล่านี้บ้างรึยังค่ะ ความจริงประโยชน์ยังมีอีกมากมายนะค่ะ ไม่ว่าจะในแง่สุขภาพกาย หรือสุขภาพจิต แต่ที่ยก มาข้างต้นนั้นก็คงจะเป็นประเด็นให้ได้คิดกันนะค่ะ ก็อยากจะฝากไว้แค่นี่ ไม่อยากให้ลืมว่า “ผู้สร้างไม่ทรงใช้ให้ทาอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงของพระองค์หรอกค่ะ






ภาพโดย อัซซาบิกูนสานักอัซซาบิกอต เนือ้ เรือ่ ง อัซซาบิกูนสานักอัซซาบิกอต


22

------ Aminah YC ------ด้วยบทกลอน ถือศีลอด ลดเฟสบุ๊ค ละอบายมุข ทาบุญเสริมสุขใน "รอมฎอน"

และ

"รอมฎอนเป็นมากกว่าการถือศีลอด แต่รวมถึงการลดสิ่งที่เป็นนัฟซู

------ญะซากุมลุ ลอฮฺฮคุ ็อยร็อน สาหรับทุกท่านทีไ่ ด้ส่งบทกลอนมาร่วมกันชิงของรางวัลและ หากพี่น้องท่านใดพลาดของรางวัลในครั้งนี้ อย่าได้เสียใจไปเลยครับทางเรายังมีของรางวัล อีกมากมาย รอในโอกาสต่อไป คร๊าบ (อินชาอัลลอฮฺ)


เปิดบวช วารสาร อัน-นูร ฉบับที่ 1/2556



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.