JOURNAL OF DEPARTMENT OF RURAL ROADS
กรมทางหลวงชนบท
วารสาร
ปี ที่ 19 ฉบั บ เดื อ นธั น วาคม 2564 - มกราคม 2565
6 ่ คัง ่ เสริมเศรษฐกิจอย่างมัง ทช. ก่อสร้างสะพาน คอนกรีตเสริมเหล็กข้ามแม่นำ�้ น่าน จ.พิ ษณุโลก
u r e F u t
8
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เสริมคุณภาพชีวิต
4
D R R.
่ ริเวณถนนสาย นม.4008 ลงพื้ นทีบ จ.นครราชสีมา D R R.
u r e F u t
9
เปิดสะพานพระราชวังจันทน์ สะพานเหล็กโค้งแห่งแรก ของประเทศไทย
ภาพในอดีต
30
www.drr.go.th
สะพานพระราชวังจันทน์ จ.พิ ษณุโลก
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
ทช. ขอคุย Editor’s Talk
วารสารกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ฉบับประจ�ำเดือนธันวาคม 2564 ถึง มกราคม 2565 บอกเลยว่า พลาดไม่ ได้ครับ เพราะเป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่านศักราชใหม่ แน่นอนว่ามีทั้งข่าวสารที่น่าสนใจและ มาตรการต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จะท�ำให้เราได้เห็นถึงประสิทธิภาพในการดูแลประชาชนของ กรมทางหลวงชนบทอย่างเต็มที่รวมไปถึงโครงการก่อสร้างที่ส�ำคัญของ ทช. ที่เรายังคงน�ำมาอัพเดทกัน เช่นเคยครับ และคอลัมน์ทนี่ า่ สนใจอีกเพียบ อย่างคอลัมน์ Spotlight ในฉบับนี้ จะท�ำให้เราได้ขอ้ คิดอะไรบ้าง ต้อง ไปติดตามกันครับ รวมถึงสาระความรู้ในคอลัมน์กฎหมายน่ารู้ ก็เรียกได้ว่ามีประโยชน์และน่าสนใจอย่าง มากเลยครับ คอลัมน์ ทช.เพือ่ ประชาชน ก็จะท�ำให้เราได้เห็นถึงความมีจติ สาธารณะและรอยยิม้ ของทัง้ ผู้ให้ และผู้รับครับ เรื่องราวดีดีเหล่านี้ก็จะเป็นพลังบวกในการขับเคลื่อนชีวิตของเราได้ ไม่มากก็น้อยครับ ไปติดตามกันเลยครับ...
OF Contents DEPARTMENTRURAL ROADS สารบัญ
กองบรรณาธิการ ผู้อำ�นวยการสำ�นักบริหารกลาง สำ�นักส่วนกลาง สำ�นักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท หมวดบำ�รุงทางหลวงชนบท กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่
จัดทำ�โดย สำ�นักบริหารกลาง กรมทางหลวงชนบท เลขที่ 9 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 โทรศัพท์ 0 2551 5202 www.drr.go.th
3 4-5 6-7 8-9 10 - 13 14 - 15 16 - 19 20 - 21 22 - 23 24 25 26 27 28 - 29 30 31
ทช. รวมใจภักดิ์ ๘ มกราคม วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทช. โฟกัส เปิดสะพานพระราชวังจันทน์ สะพานเหล็กโค้งแห่งแรกของประเทศไทย มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ให้แก่ชาวพิษณุโลก พร้อมปล่อยขบวนรถอำ�นวยความปลอดภัยการจราจรในช่วงเทศกาลหยุดยาวนี้
ทช. อัพเดท เสริมคุณภาพชีวิต เสริมเศรษฐกิจอย่างมั่งคั่ง ทช. ก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ข้ามแม่น้ำ�น่าน จ.พิษณุโลก
DRR. Future รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่บริเวณถนนสาย นม.4008 จ.นครราชสีมา ฯลฯ Travel on Rural Roads สะพานพระราชวังจันทน์ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.พิษณุโลก กิจกรรมผู้บริหาร สร้าง ซ่อม ส่งเสริม บ้านเลขที่ 9 กรมทางหลวงชนบท รองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 คุยตามมุม นายพิสุทธิ์ สุทธิพุน
ผู้อำ�นวยการแขวงทางหลวงชนบทยะลา
ทช. เพื่อประชาชน กรมทางหลวงชนบท ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยในสายทาง พร้อมเข้าซ่อมแซม
ฟื้นฟูเส้นทางเพื่ออำ�นวยความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนอย่างทันท่วงที
กฎหมายหน้ารู้ โอนทรัพย์ หนีหนี้ที่ต้องชำ�ระ
Safety รู้หรือไม่? ระบบเตือนทางแยกช่วยลดอุบัติเหตุได้ มองผ่านเลนส์
เปิดสะพานพระราชวังจันทน์ สะพานเหล็กโค้งแห่งแรกของประเทศไทย มอบเป็นของขวัญปี ใหม่ 2565 ให้แก่ชาวพิษณุโลก Spotlight วิศวกรรมเป็นเรื่องท้าทาย การเรียนรู้ต่อยอดจึงไม่มีที่สิ้นสุดถอดรหัสหนุ่มวิศวกร กรมทางหลวงชนบท ดีกรี วิศวะจุฬาฯ และนักเรียนทุน ก.พ. จาก USA ริมทางชนบท ภาพในอดีต “สะพานภูมิพล”
เรื่องเล่าจากนายช่าง นายคลังวิชญ์ อุทัยเรือง ตำ�แหน่ง นายช่างโยธาอาวุโส
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
3
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อม คณะผูบ้ ริหารกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธเี ปิดสะพานพระราชวัง จันทน์ (โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น�้ำน่าน) อ�ำเภอเมือง จังหวัด พิษณุโลก เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับประชาชน และได้ ปล่อยขบวนรถอ�ำนวยความปลอดภัยการจราจรเพื่ออ�ำนวยความสะดวก ปลอดภัยให้กับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิล�ำเนาในช่วงเทศกาล วันหยุดยาว โดยมีหน่วยงานที่ได้บูรณาการร่วมกัน ประกอบด้วย กรม ทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า และ กรมท่าอากาศยาน ทั้งนี้ มีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัด พิษณุโลก กล่าวต้อนรับ นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง ชนบท กล่าวถึงรายละเอียดของการก่อสร้างสะพานพระราชวังจันทน์และ การปล่อยขบวนรถฯ ณ บริเวณสะพานพระราชวังจันทน์ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลกเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และศาสนาเป็นจ�ำนวนมาก ส่งผลให้บริเวณโดยรอบแหล่งท่องเที่ยวหรือ สถานที่ส�ำคัญมีปริมาณการจราจรที่หนาแน่น ทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยว วารสาร กรมทางหลวงชนบท
4
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
เปิ ดสะพานพระราชวังจันทน์ สะพานเหล็กโค้งแห่งแรกของประเทศไทย มอบเป็ นของขวัญปี ใหม่ 2565 ให้แก่ชาวพิ ษณุโลก พร้อมปล่อยขบวนรถอำ�นวยความปลอดภัยการจราจรในช่วงเทศกาลหยุดยาวนี้ และพุทธศาสนิกชนได้รบั ความสะดวกสบายในการเดินทางระหว่างแหล่ง ท่องเทีย่ วได้อย่างต่อเนือ่ งเป็นวงรอบ ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเทีย่ วและ สนับสนุนการกระจายรายได้สชู่ มุ ชนอย่างยัง่ ยืน ตลอดจนเป็นการบรรเทา ความแออัดของการจราจรบริเวณสะพานนเรศวร ตามนโยบายของนาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทช.จึงได้ด�ำเนิน การก่อสร้างสะพานพระราชวังจันทน์ (โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่นำ�้ น่าน) อ�ำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้ง สิ้น 79.950 ล้านบาท โดยสะพานดังกล่าวจะตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์ ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ เชื่อมต่อไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น�้ำ น่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดนางพญา และวัดราชบูรณะ ตัวสะพานมีความยาวรวม 116 เมตร แบ่งเป็น 5 ช่วง ความยาว ผิวทางกว้าง 7 เมตร รองรับการจราจร 2 ช่องจราจร (ไป-กลับ) แต่ละด้านของสะพานมีทางเท้าและ ทางจักรยานกว้างด้านละ 3 เมตร โครงสร้างสะพานช่วงข้ามแม่น�้ำมีลักษณะเป็นสะพานเหล็กโค้ง (Steel Arch Bridge) ส�ำหรับทางหลวงแห่งแรกของประเทศไทย ความยาวช่วง 80 เมตร เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อสร้างเสาตอม่อในแม่น�้ำอันอาจจะเป็น อุปสรรคต่อประเพณีการแข่งเรือยาวที่จัดขึ้นเป็นประจ�ำทุกปี นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างการก่อสร้าง ทช.ยังได้มีมาตรการเร่งรัดงานโดยการผลิต โครงสร้างเหล็กของสะพานแยกเป็นส่วน ๆ ในโรงงานแล้วน�ำมาประกอบ ติดตั้งในพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งมาตรการดังกล่าวนอกจากจะท�ำให้ก่อสร้าง ได้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้แล้ว ยังสามารถช่วยลดผลกระทบจากการ ก่อสร้างต่อประชาชนในพื้นที่ได้ ส�ำหรับส่วนประกอบอื่น ๆ ของสะพาน ได้แก่ ราวสะพานและเสาไฟฟ้าแสงสว่าง ได้ออกแบบให้มีความสวยงาม โดยน�ำรูปแบบทางจิตรกรรมของท้องถิน่ มาประยุกต์ ประกอบกับลักษณะ ทางโครงสร้างของสะพานทีแ่ ตกต่างจากสะพานอืน่ และสถาปัตยกรรมทีม่ ี ความสวยงาม ท�ำให้สะพานแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์ค (Landmark) ที่ส�ำคัญ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลกได้อีกด้วย วารสาร กรมทางหลวงชนบท
5
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
เสริมคุณภาพชีวิต เสริมเศรษฐกิจอย่างมั่งคั่ง ทช. ก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามแม่น้ำ� น่าน จ.พิ ษณุโลก เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง สร้างความปลอดภัยใน การขนส่ง ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน... ทช.อัพเดต ฉบับนี้จะพาไป ชมโครงการใหม่แกะกล่องที่ก�ำลังด�ำเนินการก่อสร้างให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ได้ใช้งานอย่าง “โครงการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ข้ามแม่นำ�้ น่าน จ.พิษณุโลก” ทีจ่ ะช่วยอ�ำนวยความสะดวก เชือ่ มโยงการ คมนาคมระหว่าง 2 ฟากฝัง่ แถมช่วยลดระยะทางจากต�ำบลงิว้ งาม ไปต�ำบล วังน�้ำคู้ได้ถึง 12 กิโลเมตร อีกด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยอ�ำนวยความสะดวกในการ เดิ น ทางแก่ ป ระชาชน ทช.จึ ง ได้ ด�ำเนิ น การก่ อ สร้ า งสะพานคอนกรี ต เสริมเหล็กข้ามแม่นำ�้ น่าน ต�ำบลงิว้ งาม, วังนำ�้ คู้ อ�ำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยสะพานดังกล่าวเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 140 เมตร ผิวจราจรกว้าง 9 เมตร ทางเท้ากว้างข้างละ 1 เมตร พร้อมก่อสร้างถนนเสริมต่อเชื่อมจราจรแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 7 เมตร ยาว 491 เมตร มีไหล่ทาง พร้อมติดตั้งป้ายจราจร เส้นผิวจราจรและวางท่อ เพื่อช่วยอ�ำนวยความสะดวกและ ปลอดภัยในการสัญจรกับประชาชนในพื้นที่ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและขนส่งพืชผลทางการเกษตรได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น วารสาร กรมทางหลวงชนบท
6
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
ไม่เพียงแต่ในเรื่องการก่อสร้างเท่านั้น ทช.ยังได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ก่อนก่อสร้าง เพื่อให้ ผูท้ เี่ กีย่ วข้องได้มโี อกาสเสนอความคิดเห็น ให้สะพานสายนีม้ สี ว่ นช่วยอ�ำนวยความสะดวกปลอดภัยและเป็นประโยชน์กบั คนในพืน้ ที่ มากที่สุดด้วย... แต่อดใจรอกันอีกนิด เพราะโครงการยังอยู่ในช่วงด�ำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้ประชาชน สัญจรพร้อมโลดแล่นไปกับการเดินทางเชื่อมต่อทั้ง 2 ฝั่งฟากได้อย่างคล่องตัว ได้ในช่วงประมาณกลางปี 2565 นี้แน่นอน
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
7
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
D R R.
u r e F u t
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้ นที่บริเวณถนนสาย นม.4008 จ.นครราชสีมา
และติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของโครงการก่อสร้างฯ เพื่ อยกระดับการคมนาคม รองรับการเจริญเติบโตของเมืองให้ประชาชน สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายศักดิส์ ยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผูบ้ ริหารกระทรวงคมนาคม ลงพืน้ ทีบ่ ริเวณทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 201 กม.ที่ 34+930 จุดเริ่มต้นของโครงการก่อสร้างถนนสาย นม.4008 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ถึง แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 อ�ำเภอด่านขุนทด, พระทองค�ำ จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ ได้พบปะกับประชาชน เพื่อ รับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยมีนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การ ต้อนรับ นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมคณะ น�ำลงพื้นที่และบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ณ บริเวณโครงการฯ นายอภิรฐั ไชยวงศ์นอ้ ย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดนครราชสีมา (กรอ. จังหวัดนครราชสีมา) ได้เล็งเห็นความส�ำคัญในการยกระดับ การคมนาคมในจังหวัดนครราชสีมา เพือ่ บรรเทาปัญหาการจราจรของถนนสายหลักและรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคต ตามนโยบายของนายศักดิส์ ยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงคมนาคม ทช.จึงได้ด�ำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย นม.4008 แยก ทล.201 - แยก ทล.205 อ�ำเภอด่านขุนทด, พระทองค�ำ จังหวัดนครราชสีมา โดยโครงการดังกล่าวมีลกั ษณะเป็นถนนก่อสร้าง ใหม่ ปรับปรุงและขยายถนนเดิม (นม.4008) มีจุดเริ่มต้นจากแยก ทล.201 บริเวณอ�ำเภอด่านขุนทด แนวถนนโครงการเป็นถนน ตัดใหม่ผ่านพื้นที่เกษตรกรรมไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือตัดกับ ทล.2148 และเข้าสู่ทางหลวงชนบทสาย นม.4008 ซึ่ง ด�ำเนินการปรับปรุงและขยายถนนเดิม จากนัน้ มุง่ ตรงไปตัดกับ ทล.205 และแนวสายทางโครงการจะไปสิน้ สุดที่ ทล.2369 บริเวณ อ�ำเภอพระทองค�ำ ซึ่งรูปแบบโครงการเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร พร้อมโครงสร้างต่างระดับ จ�ำนวน 3 แห่ง บริเวณจุดตัด ทล.201 บริเวณจุดตัด ทล.2148 และบริเวณจุดตัด ทล.205 รวมระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร วารสาร กรมทางหลวงชนบท
8
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
D R R.
ปัจจุบนั โครงการดังกล่าวส�ำรวจและออกแบบแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถออกพระราชกฤษฎีกา เวนคืนที่ดินได้ในปี 2565 จากนั้นจะด�ำเนินการส�ำรวจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 และจ่ายค่าชดเชย อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืน โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2568 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี หากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจรของ ทล.2 ทล.201 และ ทล.205 นอกจากนีย้ งั สามารถแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบริเวณทางแยก เพิม่ ทางลัด ทางเลีย่ งไปสู่ กลุม่ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในพืน้ ทีจ่ งั หวัดนครราชสีมา ได้เป็นอย่างดี
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
9
u r e F u t
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
สะพานพระราชวังจันทน์ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ ส่งเสรมการท่ ิ องเที่ยว จ.พิษณุโลก
จังหวัดพิษณุโลก นอกจากจะเป็นเมืองทีม่ ที เี่ ทีย่ วธรรมชาติ สวย ๆ แล้ว ก็ยังมีที่เที่ยวประวัติศาสตร์ ที่ส�ำคัญอีกด้วยนะคะ สถานที่แห่งนั้น มีชื่อว่า พระราชวังจันทน์ นั่นเองครับ ถือได้ว่า ที่นี่เป็นแหล่งโบราณสถานเลยก็ว่าได้ ที่ส�ำคัญคือเกี่ยวข้องกับ พระนเรศวรด้วยครับ มาเรียนรูป้ ระวัตศิ าสตร์ของทีน่ ไี่ ปพร้อม ๆ กัน เลยดีกว่า พระราชวังจันทน์ ที่เที่ยวประวัติศาสตร์ พิษณุโลก พระราชวังจันทน์ เป็นพระราชวังโบราณ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น�้ำ น่านฝั่งตะวันตก ใน ต�ำบลบ้านคลอง อ�ำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งที่นี่เป็น สถานที่เสด็จพระราชสมภพของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเป็นทีป่ ระทับของพระองค์เมือ่ ทรงด�ำรงต�ำแหน่งอุปราชนั่นเอง ในตอนนั้นเมืองพิษณุโลกยังมี ฐานะเป็นเมืองหน้าด่านส�ำคัญของกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย โดย สถานที่แห่งนี้กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถาน พร้อมทั้งประกาศขอบเขตที่ดินโบราณสถาน ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2537 แล้ว ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวส�ำคัญที่อยู่ในบริเวณ พระราชวัง จันทน์ นั้น ก็จะมีตั้งแต่ ศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ ที่ เป็นอาคารไว้จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชวังจันทน์ เมือง พิษณุโลก และพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เช่น บันทึกประวัตศิ าสตร์ 9 ศตวรรษ เมืองพิษณุโลก ศิลปกรรม และงานช่างหลวงพิษณุโลก แบบจ�ำลองวัดส�ำคัญ 3 วัด ในเขต พระราชวังจันทน์ เป็นต้น วารสาร กรมทางหลวงชนบท
10
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
ต่อมาคือ วัดวิหารทอง อยูท่ างทิศใต้ของ พระราชวังจันทน์ จะเป็นเจดียป์ ระธานทีม่ รี ปู แบบเป็นพระ ปรางค์ ในสมัยอยุธยาตอนต้นค่ะ ซึง่ ปัจจุบนั นัน้ เหลือเพียงแค่สว่ นฐานเขียงและฐานบัวลูกฟักเท่านัน้ ค่ะ สันนิษฐานว่าเคยเป็นทีป่ ระดิษฐานพระอัฏฐารส ทีป่ จั จุบนั ได้ประดิษฐานอยูภ่ ายในอุโบสถวัดสระ เกศนั่นเองค่ะ ก็เลยได้มีการจ�ำลองพระพุทธรูปขนาดเท่าองค์จริงมาประดิษฐานไว้ในวิหารดั่งเดิมค่ะ วัดนี้น่าจะมีอายุมาอย่างยาวนานราว ๆ พุทธศตวรรษที่ 20-21 เลยทีเดียวที่ผ่านมาการเดินทางจาก ฝั่งตะวันตกไปฝั่งตะวันออกของแม่น�้ำน่านจะอาศัยสะพานนเรศวรเป็นหลักท�ำให้การจราจรคับคั่ง
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
11
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
กรมทางหลวงชนบท จึงด�ำเนินการก่อสร้างสะพานพระราชวังจันทน์ (โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่นำ�้ น่าน) โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง ทั้งสิ้น 79.950 ล้านบาท โดยสะพานดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์ ประวัตศิ าสตร์พระราชวังจันทน์ เชือ่ มต่อไปยังฝัง่ ตะวันออกของแม่นำ�้ น่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดนางพญา และวัด ราชบูรณะ ว่าแล้วก็เดินทางไปต่อ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่คนในพื้นที่เรียกว่า “วัดใหญ่” ที่อยู่ห่างจากพระราชวังจันทน์ 800 เมตร วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ เป็นวัดหลวงชัน้ เอก ชนิด วรมหาวิหาร ตัง้ อยูใ่ นต�ำบลในเมือง อ�ำเภอ เมือง จังหวัดพิษณุโลก เป็นวัดส�ำคัญคูบ่ า้ นคูเ่ มืองพิษณุโลกมาตัง้ แต่ในอดีต หลักฐานพงศาวดารเหนือได้กล่าวไว้ว่า เมื่อราวปี พ.ศ. 1900 พระมหา ธรรมราชาที่ 1 หรือ พระยาลิไท กษัตริยแ์ ห่งกรุงสุโขทัย เป็นทีป่ ระดิษฐาน พระพุทธชินราช ในพระวิหารหลวงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชยั หล่อด้วย ทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิว้ และสูง 7 ศอก เส้นพระ วรกายอ่อนช้อย พระขนงโค้ง ปลายนิ้วพระหัตถ์เป็นลักษณะ ทีฒงฺคุลี คือ ทัง้ สีน่ วิ้ เท่ากัน สร้างโดยช่างจาก เมืองศรีสชั นาลัย และ เมืองหริภญ ุ ชัย ใน ช่วงเวลาเดียวกับการสร้าง วัดพระศรีรตั นมหาธาตุ ในสมัยสุโขทัย นับเป็น พระพุทธรูปทีง่ ดงามมากทีส่ ดุ ในประเทศไทยและมีความส�ำคัญกับชาวเมือง พิษณุโลกเป็นอย่างมาก และหากเดินข้ามมาฝัง่ ตรงข้ามถนนท่านก็จะมาถึง วารสาร กรมทางหลวงชนบท
12
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
วัดนางพญา วัดนางพญาตั้งอยู่บริเวณเดียวกับวัดราชบูรณะ ถัดไปทางทิศตะวันออก มีลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยเดียวกับวัด ราชบูรณะ ต่างกันที่วัดนางพญาไม่มีพระอุโบสถมีแต่วิหาร วัดนี้มีชื่อเสียงในด้านพระเครื่อง เรียกว่า พระนางพญา ซึ่ง เล่าลือกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ พระนางพญาเป็นสุดยอดพระ หนึ่งในชุดเบญจภาคี พระเครื่องนางพญามีชื่อเสียงทางด้าน เมตตามหานิยม โดยเฉพาะสุภาพสตรีทเี่ ป็นนักปกครองและหัวหน้างาน ต้องดูแลลูกน้องจ�ำนวนมาก โดยจะมีความเชือ่ ว่าจะท�ำให้ผู้ใต้ปกครองย�ำเกรงประดุจ “นางพญา” ปัจจุบันหาได้ยากมาก มีก็แต่ที่ได้สร้างจ�ำลองขึ้นภายหลัง วัดนางพญา มีพระประธานในอุโบสถเรียกพระสมเด็จนางพญาเรือนแก้ว นอกจากนี้มีพระเครื่องพิมพ์นางพญา พระพิมพ์นางพญานี้ สันนิษฐานว่า สมเด็จพระมหาธรรมราชา ผู้ครองเมืองพิษณุโลกในขณะนั้น ได้ทรงสร้างขึ้นเพื่อ พระราชทานแก่พระวิสุทธิกษัตริย์องค์พระมเหสี เนื่องในโอกาสที่พระองค์สร้างวัดนางพญา และวัดราชบูรณะ และได้ น�ำพระนางพญาบรรจุไว้บนหอระฆังของเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของวัด ต่อมาเมื่อเจดีย์หักพังลงมา พระนาง พญาจึงตกลงมาปะปนกับซากเจดีย์ และกระจายทัว่ ไปในบริเวณวัด ได้มกี ารพบกรุพระนางพญาครัง้ แรกเมือ่ ประมาณปี พ.ศ. 2444 และได้น�ำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และให้บรรดาข้าราชบริพาร ครั้ง หลังเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2485 ในสมัยสงครามมหาเอเซียบูรพา เมื่อมีการขุดหลุมหลบภัยจึงไปพบพระนางพญาเป็น จ�ำนวนมาก กระจายอยูท่ วั่ ไปในบริเวณวัด พระพิมพ์นางพญา เป็นพระพิมพ์ปางมารวิชยั องค์พระอยูใ่ นกรอบสามเหลีย่ ม หน้าจั่ว มีเหลี่ยมรอยตัดด้วยเส้นตอกตัดเรียบร้อยสวยงาม
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
13
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
กิจกรรม ผู บร�หาร
กรมทางหลวงชนบท รับรางวัลรัฐบาลดิจิทัล
ประจำ�ปี 2564 (Digital Government Awards 2021) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลประจ�ำปี 2564 “Digital Government Awards 2021” แก่หน่วยงานภาครัฐทีม่ กี ารปรับเปลีย่ นองค์กรสูก่ ารเป็นรัฐบาลดิจทิ ลั ในระดับสูง จ�ำนวนทัง้ สิน้ 33 รางวัล และได้มอบนโยบายทิศทางการขับเคลือ่ น รัฐบาลดิจิทัล พร้อมแสดงความยินดีกับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลฯ โดยมีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจ�ำส�ำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บริหารหน่วยงาน ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและเจ้าหน้าทีท่ เี่ กีย่ วข้อง ตลอดจนสือ่ มวลชนเข้าร่วมงาน ซึง่ จัดขึน้ โดยส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจทิ ลั (องค์การมหาชน)หรือ DGA เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้กับหน่วยงานภาครัฐ ณ สโมสรทหารบก วิภาวดี กรุงเทพฯ ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท มีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เข้ารับมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลประจ�ำปี 2564 สาขา รางวัลพัฒนาการดีเด่นหน่วยงานระดับกรมที่ให้บริการเป็นหลัก
อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ประชุมการเตรียมความพร้อมแผนอำ�นวยความสะดวก และปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ของกรม
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ประชุมการเตรียมความพร้อมแผนอ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดิน ทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ของกรม เพื่อติดตามแผนอ�ำนวยความปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม – 4 มกราคม 2565 ภายใต้การรณรงค์ “เดินทางสะดวก ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” โดยมีนายศาศวัต ภูริภัสสรกุล ผูอ้ �ำนวยการส�ำนักอ�ำนวยความปลอดภัย สรุปผลการด�ำเนินการ ซึง่ มีแผนในการด�ำเนินการ ดังนี้ คืนพืน้ ผิวจราจรพร้อมหยุดการด�ำเนินงานในบริเวณ โครงการก่อสร้างหรือบูรณะถนนและสะพาน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อ�ำนวยความปลอดภัย ไฟแสงสว่าง และไฟสัญญาณจราจรให้ครบถ้วน จัดตั้งศูนย์ ความปลอดภัยทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ประสานงานทั้งหน่วยงานภายในภายนอก และจัดเจ้าหน้าที่ประจ�ำสายด่วน 1164, CCTV, ระบบวิทยุสื่อสาร ระบบ Conference พร้อมจัดตั้งหน่วยบริการประชาชน โดยพิจารณาจากความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่และสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) และชุดตรวจการณ์เฝ้าระวังอุบัติเหตุ อ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทาง ทั้งนี้ได้ประชุมผ่านระบบ Vdo Conference และผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม Zoom) ไปยังส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 1 – 18 และแขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศ ณ ห้องประชุมธารสิทธิ์พงษ์ ชั้น 3 อาคาร 2 กรมทางหลวงชนบท วารสาร กรมทางหลวงชนบท
14
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
กิจกรรม ผู บร�หาร
รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท
ประชุมคณะทำ�งานบริการข้อมูล กรมทางหลวงชนบท นายผดุงศักดิ์ สรุจิกําจรวัฒนะ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ประชุมคณะท�ำงานบริการข้อมูล กรมทางหลวงชนบท ครั้งที่ 1/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Zoom Meeting โดยมีนายชาครีย์ บ�ำรุงวงศ์ ผูอ้ �ำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร และผูท้ เี่ กีย่ วข้องเข้าร่วมประชุม เพือ่ พิจารณา บัญชี ข้อมูล (Data Catalog) ค�ำอธิบายข้อมูล (Meta Data) พจนานุกรมข้อมูล (Data Dictionary) ณ ห้อง ประชุม 4 อาคาร 1 กรมทางหลวงชนบทเขตบางเขน กรุงเทพฯ
รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ตรวจเยี่ยมพร้อมเปิดศูนย์อ ำ�นวยความปลอดภัย ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ของแขวงทางหลวงชนบทปัตตานี
นายไกวัลย์ โรจนานุกลู รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ตรวจเยีย่ มพร้อมติดตามผลการด�ำเนินงานของแขวงทางหลวงชนบทปัตตานีและพบปะ ให้ก�ำลังใจเจ้าหน้าทีท่ ปี่ ฏิบตั งิ าน ในการนีไ้ ด้เยีย่ มชมพืน้ ทีบ่ ริเวณรอบแขวงทางหลวงชนบทปัตตานีพร้อมเปิดศูนย์อ �ำนวยความปลอดภัยช ว่ งเทศกาล ปีใหม่2565 จากนั้นได้มอบเจลแอลกอฮอล์ และสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับเจ้าหน้าที่ โดยได้เน้นย�้ำเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกัน การแพร่ระบาดของ เชือ้ ไวรัส COVID-19 ท�ำความสะอาดทีม่ กี ารสัมผัสบ่อย สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือหรือใช้แอลกอฮอล์เจล และ ประชาสัมพันธ์ “เดินทางสะดวก ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” เพือ่ อ�ำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กบั ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยมีนายหยา หัสสะ รักษาราชการผูอ้ �ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทปัตตานีให้การต้อนรับและน�ำลงพืน้ ทีเ่ ยีย่ มชม ณ แขวงทางหลวงชนบท ปัตตานี
วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท
ประชุมติดตามโครงการก่อสร้างถนนสาย รย.3013 อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายวิศว์ รัตนโชติ วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านบ�ำรุงรักษาทางและสะพาน) พร้อมคณะ ประชุมติดตามโครงการก่อสร้างถนนสาย ทางหลวงชนบท รย.3013 แยก ทางหลวงหมายเลข 331 – ทางหลวงหมายเลข 3191 อ�ำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เพื่อติดตามความก้าวหน้า ผลการด�ำเนินงาน และปัญหาอุปสรรค โดยมีนายวิษณุ เพชรวีระ วิศวกรโยธาช�ำนาญการ (หัวหน้าโครงการฯ) ส�ำนักก่อสร้างทาง รายงานผลการ ด�ำเนินงาน ณ ห้องประชุมส�ำนักงานโครงการ ทั้งนี้ วิศวกรใหญ่ฯได้เน้นย�้ำ ให้เตรียมความพร้อมช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 พร้อมก�ำชับป้ายเตือนไฟฟ้าส่องสว่าง ผิวจราจร เพื่ออ�ำนวยความ สะดวกให้กับประขาชนผู้ใช้เส้นทาง และเร่งรัดผลการด�ำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ วารสาร กรมทางหลวงชนบท
15
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
งานปรับปรุงไหล่ทาง ถนนสาย กบ.4004 บ.เหนือคลอง แขวงทางหลวงชนบทกระบี่ ด�ำเนินงานป้องกันการกัดเซาะบริเวณ ไหล่ทาง ถนนสาย กบ.4004 แยกทล.4156 - บ้านเหนือคลอง อ�ำเภอ เหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางของ ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ตามนโยบายของกรมทางหลวงชนบท
งานซ่อมระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ถนนสาย กบ.1020 บ้านกอตง แขวงทางหลวงชนบทกระบี่ ด�ำเนินงานซ่อมระบบ ไฟฟ้าแสงสว่าง ถนนสาย กบ.1020 แยกทล.4 - บ้านกอตง อ�ำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เพือ่ ความสะดวกปลอดภัยใน การเดินทางของประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ตามนโยบายของ กรมทางหลวงชนบท
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
16
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
แขวงทางหลวงชนบทตรัง เร่งดำ�เนินการซ่อมบำ�รุงไฟฟ้าแสงสว่างสัญญาณจราจร สาย ตง.4008 บ.หาดปากเมง แขวงทางหลวงชนบทตรัง เร่งด�ำเนินการซ่อมบ�ำรุงไฟฟ้าแสงสว่างสัญญาณจราจร สาย ตง.4008 แยก ทล.4046 - บ.หาดปากเมง อ.กันตัง, สิเกา จ.ตรัง (ช่วง กม.ที่ 27+290) เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง
แขวงทางหลวงชนบทตรัง กำ�หนดวันประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ�ปะเหลียน
เชื่อมอำ�เภอกันตังกับอำ�เภอหาดสำ�ราญ จังหวัดตรัง บริษัทประชารัฐรักสามัคคีตรัง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จ�ำกัด โดยนายลือพงษ์ อ๋องเจริญ ประธานกรรมการ นายโยธา ศรีโยธา รักษา การผู้อ�ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทตรัง ได้ลงพื้นที่อ�ำเภอกันตัง เนื่องด้วยท่านนายอ�ำเภอกันตังติดราชการจึงได้มอบหมายให้ปลัด อ�ำเภอร่วมปรึกษาหารือก�ำหนดวันรับฟังความคิดเห็นโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น�้ำปะเหลียนเชื่อมอ�ำเภอกันตังกับอ�ำเภอหาดส�ำราญ จังหวัดตรัง ในการนี้ได้มีก�ำนันต�ำบลกันตังใต้ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลกันตังใต้ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต�ำบลวังวนเข้าร่วมปรึกษา หารือก�ำหนดวันประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการดังกล่าว ***ผลการหารือสรุปได้ดังนี้ 1. วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 เวลา 13.00 น. ประชุมรับฟังความคิดเห็นที่ต�ำบลกันตังใต้ อ�ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 2. วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 เวลา 15.00 น. ประชุมรับฟังความคิดเห็นที่ต�ำบลวังวน อ�ำเภอกันตัง จังหวัดตรัง 3. ส�ำหรับสถานที่ประชุม และจ�ำนวนผู้เข้าร่วมประชุมมอบหมายให้ก�ำนันผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 ต�ำบลเป็นผู้ก�ำหนด เนื่องจากท่านนาย อ�ำเภอกันตังติดภารกิจ ทางนายลือพงษ์ อ๋องเจริญ ประธานกรรมการ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีตรังฯ ได้มอบเอกสารหนังสือ Timeline โครงการสร้างสะพานข้ามแม่นำ�้ ปะเหลียนเชือ่ มอ�ำเภอกันตังกับอ�ำเภอหาดส�ำราญ จังหวัดตรังให้กบั ปลัดอ�ำเภอเพือ่ มอบให้ทา่ นนายอ�ำเภอ กันตังต่อไป วารสาร กรมทางหลวงชนบท
17
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
แขวงทางหลวงชนบทตรัง ตรวจสอบคุณสมบัติ วัสดุผิวทาง AC แขวงทางหลวงชนบทตรัง ตรวจสอบคุณสมบัติวัสดุผิวทาง AC และค้ดเลือกผู้มี คุณสมบัติเบื้องต้นในการจ้าง สาขางานบ�ำรุงทาง ประเภทงานบูรณะทางแบบ Pavement In - Place Recycing และคณะอนุกรรมการพิจารณาการคัดเลือก ฯ ได้ท�ำการ ทดสอบประสิทธิภาพเครื่องจักร ณ แขวงทางหลวงชนบทตรัง
แขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ร่วมปล่อยขบวนรถรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมการดำ�เนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และการรักษาความปลอดภัย อำ�นวยความสะดวกทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565
แขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา โดย นายไพวรรณ์ เขียวอ่อน ผูอ้ �ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา (รก.) พร้อมด้วยเจ้า หน้าที่ ร่วมปล่อยขบวนรถรณรงค์ปอ้ งกันและลดอุบตั เิ หตุทางถนน เพือ่ เป็นการเตรียมความพร้อมการด�ำเนินงานป้องกันและลดอุบตั เิ หตุ ทางถนน และการรักษาความปลอดภัย อ�ำนวยความสะดวกทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ณ แขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ต�ำบลหนองบัวศาลา อ�ำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
18
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
สำ�นักงานทางหลวงชนบทที่ 9 (อุตรดิตถ์) ตั้งด่านชั่งน้ำ�หนักยานพาหนะเคลื่อนที่ ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 9 (อุตรดิตถ์) โดยส่วนบูรณะลงพืน้ ทีต่ งั้ ด่านชัง่ นำ�้ หนักยาน พาหนะเคลือ่ นที่ สายพล.4003 แยกทล.1086 - บ้านกระบังอ.เมือง, พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อการตรวจสอบและป้องปรามผู้กระท�ำผิดพรบ.ทางหลวงซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสีย หายต่อถนนทางหลวงชนบท
แขวงทางหลวงชนบทราชบุรี ได้ดำ�เนินการจัดตั้ง หน่วยชั่งน้ำ�หนักเคลื่อนที่ ถนนสาย รบ.4044 แขวงทางหลวงชนบทราชบุรี ได้ด�ำเนินการจัดตั้งหน่วยชั่งน�้ำหนักเคลื่อนที่ ถนนสาย รบ.4044 แยกทางหลวงหมายเลข 3273 - บ้านหนองขาม อ�ำเภอ บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ป้องกันการบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายก�ำหนด และลด ความเสียหายก่อนเวลา
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
19
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
กรมทางหลวงชนบท รองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปี ใหม่ 2565 กรมทางหลวงชนบทได้ เตรียมแผนอ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้กับประชาชน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีการเดินทางท่องเที่ยวและเดินทางกลับภูมิล�ำเนาของประชาชนเป็นจ�ำนวนมาก กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ค�ำนึงถึงความส�ำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงระหว่างการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว จึง ได้จัดท�ำแผนอ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 (ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 – วันที่ 4 มกราคม 2565) เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยการบูรณาการร่วมกับ หน่วยงานในพืน้ ทีใ่ นการร่วมป้องกันและลดอุบตั เิ หตุทางถนน ตามนโยบายของนายศักดิส์ ยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวง คมนาคม ที่ได้ก�ำชับให้ด�ำเนินการตามมาตรการอ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัยรองรับการเดินทางช่วงปีใหม่ 2565 ซึ่งมีแผน ในการด�ำเนินการ ดังนี้ ช่วงเตรียมความพร้อมและช่วงการรณรงค์ (ระหว่างวันที่ 14 – 28 ธันวาคม 2564) - ปรับปรุงซ่อมแซมถนนและสะพานในความรับผิดชอบให้มคี วามสะดวกปลอดภัย พร้อมติดตัง้ อุปกรณ์อ�ำนวยความปลอดภัย ไฟฟ้าแสงสว่าง และสัญญาณจราจรให้ครบถ้วน - ตรวจสอบปรับปรุงป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร ไฟฟ้าแสงสว่าง รวมถึงไฟสัญญาณจราจรในเส้นทางลัด ทางเลี่ยงและ เส้นทางเข้าแหล่งท่องเที่ยวให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ - วางแผนการด�ำเนินงานในบริเวณโครงการก่อสร้างหรือบูรณะถนนและสะพานให้สอดคล้องกับช่วงเทศกาล พร้อมเร่งเตรียม ความพร้อมคืนพื้นผิวจราจรให้ประชาชนสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย วารสาร กรมทางหลวงชนบท
20
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
- ตรวจสอบเตรียมความพร้อมระบบสายด่วน 1146, ระบบ CCTV, ระบบวิทยุสื่อสาร และระบบ Conference - ประชาสัมพันธ์และรณรงค์การอ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัยของ ทช.ผ่านช่องทางต่าง ๆ ช่วงควบคุมเข้มข้น (ระหว่าง วันที่ 29 ธันวาคม 2564 – 4 มกราคม 2565) - คืนพื้นผิวจราจรพร้อมหยุดการด�ำเนินงานในบริเวณโครงการก่อสร้างหรือบูรณะถนนและสะพาน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ อ�ำนวยความปลอดภัย ไฟแสงสว่าง และไฟสัญญาณจราจรให้ครบถ้วน - จัดตั้งศูนย์ความปลอดภัยทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประสานงานทั้งหน่วยงานภายในและภายนอก รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ประจ�ำสายด่วน 1164, CCTV, ระบบวิทยุสื่อสาร และระบบ Conference - จัดตั้งหน่วยบริการประชาชน โดยพิจารณาจากความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ ไวรัสโควิด-19 (COVID-19) - จัดชุดตรวจการณ์เฝ้าระวังอุบัติเหตุ อ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทาง ติดตั้งสัญญาณไฟแจ้งเตือนบริเวณจุด เสี่ยง ทางลาดชัน และบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมเข้าเก็บข้อมูลจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ช่วงหลังเทศกาล (ระหว่างวันที่ 5 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2565) - รวบรวมสรุปข้อมูลอุบัติเหตุ วิเคราะห์ ประมวลผล พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไข/ป้องกัน - สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุง/ แก้ไข จุดอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุช่วงควบคุมเข้มข้น - เร่งด�ำเนินการปรับปรุง/ แก้ไข (ระยะสั้น) จุดที่เกิดอุบัติเหตุให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถติดต่อ สอบถามเส้นทางของกรมทางหลวงชนบทหรือแจ้งเหตุได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146 หรือ เว็บไซต์ www.drr.go.th วารสาร กรมทางหลวงชนบท
21
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
นายพิสุทธิ์ สุทธิพุน ผู้อ�ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทยะลา
กรมททางหลวงชนบท มีภารกิจก่อสร้างทางหลวงสายรองอยู่
ทั่วประเทศ ผู้อ่านหลายท่านจึงอยากให้ถ่ายทอดความเป็นอยู่และแนวคิด ของชาวทางหลวงชนบทในพื้นที่สุดปลายด้านขวาน คุยตามมุมจึงน�ำผู้อ่าน ลงใต้ไปสัมผัสกับวิถีชีวิต “คนสร้างทางจังหวัดยะลา” และผู้ที่จะบอกเล่า ได้ดที สี่ ดุ ก็คอื ผูท้ ปี่ ฏิบตั งิ านอยูใ่ นพืน้ ที่ นายพิสทุ ธิ์ สุทธิพนุ ผูอ้ �ำนวยการแขวง ทางหลวงชนบทยะลา หรือ ผอ. เม่น ของพี่น้องชาว ทช. เป็นที่ทราบกันดีว่าจังหวัดยะลา มีอาณาเขตทางใต้ติดกับประเทศ มาเลเซีย เป็นจังหวัดเดียวในภาคใต้ที่ไม่ติดทะเล และเป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุด ของประเทศไทย ดังปรากฏในค�ำขวัญประจ�ำจังหวัด คือ “ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” ผอ.เม่น เล่าให้ทมี งานฟังว่าไม่วา่ ทัศนียภาพของจังหวัดยะลาและรสชาติของอาหาร ถ้าได้มาลองแล้วจะต้องติดใจไม่รลู้ มื ทีมงานก็เชื่อว่าอย่างนั้นเพราะดูจากค�ำขวัญประจ�ำจังหวัดยะลาก็พาเราจินตนาการในทัศยนียภาพไปไกล และก่อนที่จะไปไกลกว่านี้ ผอ. เม่นพาทีมงาน U - Turn เข้ามาในการพัฒนาทางหลวงสายรองและวิถีชีวิตคนสร้างทางต่อ เพราะพื้นที่ที่ดูแลอยู่ในความสนใจของ ประชาชนจ�ำนวนมากจึงต้องมีหลักในการด�ำเนินชีวิตและการพัฒนาเพื่อน�ำความเป็นอยู่ที่ดีสู่ประชาชนในพื้นที่ ผอ. เม่น เล่าต่อว่า ผมน้อมน�ำพระราชด�ำรัส ของ รัชกาลที่ 9 มาเป็นหลักในการพัฒนาและการปฏิบตั หิ น้าทีม่ าตลอดชีวติ ราชการของผม คือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ผมเข้ารับราชการตั้งแต่ปี 2538 ในต�ำแหน่ง วิศวกรโยธา 3 จนถึงวันนี้เป็นผู้อ�ำนวยการแขวงทางหลวงชนบท ถ้าจะให้ขยายความในสิ่งทียึดเป็นหลักน�ำทางผมจะระลึกในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เสมอ นั่นคือการใช้ชีวิตอย่างเพียงพอ ส่วนในด้านการปฏิบัติงานผมจะเน้นการท�ำงานที่มีภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เพื่อสร้างความเข้าใจร่วม กันระหว่างผู้สร้างทางกับเป็นผู้ใช้ทาง คือ เราต้องเข้าใจความต้องการของประชาชน และประชาชนต้องเข้าใจว่าเราก�ำลังจะท�ำอะไร ท�ำอย่างไร เพื่อใคร และจะยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องในพื้นที่ได้อย่างไร นั่นหมายถึงจะต้องเข้าใจร่วมกันในทุกมิติ นอกจากนี้ ต้องเข้าถึง หมายถึง เราต้องท�ำงานอย่างบูรณาเพื่อพัฒนาพื้นที่ร่วมกับทุกภาคส่วน ดังนั้นเราต้องเข้าถึงทุกทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
22
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
ท้องถิ่น ภาคเอกชน หรือภาคประชาชน เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายอย่างมีประผลมาก ที่สุด การเข้าใจและเข้าถึงจะน�ำสู่การพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการอย่างเป็น รูปธรรมทัง้ ในระยะสัน้ ระยะกลาง และระยะยาว และสิง่ ส�ำคัญ คือ บุคลากรของเราซึง่ จะ ละเลยไม่ได้เพราะเป็นฐานขับเคลือ่ นภารกิจทางหลวงชนบทให้ประสบผลส�ำเร็จ ดังนัน้ การ สร้างขวัญและก�ำลังใจจึงเป็นสิง่ ส�ำคัญ เจ้าหน้าทีจ่ งึ เป็นเหมือนคนในครอบครัว ท�ำอย่างไร คนในครอบครัวจึงมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สิ่งเหล่านี้ ล้วนส่งผลต่อสังคมของคนท�ำงานทั้งสิ้น ผมจึงจัดตั้งสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ภายใต้ กองทุ น “ทช. ยะลา เรารั ก กั น ” ซึ่ ง เป็ น แนวคิ ด ร่ ว มของครอบครั ว ทางหลวงชนบทยะลาเพือ่ ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเจ้าหน้าทีใ่ นเบือ้ งต้น และในอีกด้านหนึ่งผู้ที่มีความประพฤติและปฏิบัติดี ขยัน มุ่งมั่นท�ำงาน มีน�้ำใจ ให้ความ ช่วยเหลือและให้ความร่วมมือในการท�ำงานกับผู้อื่นเสมอ เราจะมีการโหวตร่วมกันใน แต่ละเดือนโดยผลการโหวตมาจากผูบ้ งั คับบัญชา ผูใ้ ต้บงั คับบัญชา และเพือ่ นร่วมงาน ผูไ้ ด้ คะแนนสูงสุดจะได้รบั เกียรติบตั ร และรางวัล เพือ่ ส่งเสริมคนดี อีกด้านหนึง่ การสานความ สัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง และผู้ที่เกษียณอายุราชการไป แล้ว ผมจะใช้โอกาสส�ำคัญ ๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ เชิญมาท�ำบุญใส่บาตรร่วมกันน�ำ มาพบปะกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนและหน่วยงาน และที่จะขาดไม่ได้ คือสุขภาพที่ดีของเจ้าหน้าที่ทุกคนในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทางแขวงฯ ได้ด�ำเนินการตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่น การตรวจวัด อุณหภูมิ การตรวจ ATK การสวมใส่หน้ากาก เป็นต้น นั่นคือความห่วงใยที่มีให้กัน ก่อน หน้าทีจ่ ะมีการแพร่ระบาดจะมีการจัดกิจกรรมกีฬาภายในเพราะต้องการส่งเสริมสุขภาพที่ ดีให้กบั เจ้าหน้าทีแ่ ละความสามัคคีภายในองค์กร และยังคิดต่อยอดอีกว่านอกจากจะสร้าง และสานสัมพันธ์ภายในแขวงแล้ว ยังต้องสานสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานและประชาชนใน พื้นที่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย ผมใช้กีฬาฟุตบอลในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน เพราะนอกจากได้ออกก�ำลังกายท�ำให้มีสุขภาพที่ดีแล้วยังได้เชื่อมมิตร เชื่อมความคิดไป พร้อมกันด้วย ปัจจุบนั ผมเป็นประธานสโมสรฟุตบอลคมนาคมจังหวัดยะลาซึง่ ผมคิดว่าการ ได้ด�ำเนินกิจกรรมร่วมกันจะน�ำสูเ่ ป็นทีมเวริค์ ทีด่ ี รูร้ กั สามัคคี ท�ำให้ชมุ ชนเข็มแข็ง เกิดพลัง แนวร่วมในการพัฒนาพื้นที่ตามมา ผอ. เม่นเล่ามีถงึ ตรงนีพ้ อจะฉายความคิดและวิถชี วี ติ ของพีน่ อ้ งทางหลวงชนบทยะลา ได้ว่า จะใช้หลักปกครองคนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้หลักปกครองใจคนด้วย นั่นคือ ทุกคน คือครอบครัวต้องดูแลและห่วงใยซึง่ กันและกันเหมือนครอบครัว ส่วนในด้านการปฏิบตั งิ าน หรือการด�ำเนินชีวิต ผอ. เม่น น้อมน�ำพระราชด�ำรัสมาเป็นหลักน�ำทางชีวิตเสมอนั่น คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ทางทีมงานต้องขอขอบคุณเรื่องราวและสาระดี ๆ ที่ ผอ. เม่น ถ่ายทอดให้ฟัง ทางทีมงานหวังว่าผู้อ่านจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ได้รับน�ำทางชีวิต เช่นกัน
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
23
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
กรมทางหลวงชนบท ติดตามเฝ้ าระวังสถานการณ์อุทกภัย
ในสายทาง พร้อมเข้าซ่อมแซมฟื้ นฟู เส้นทางเพื่ ออำ�นวยความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนอย่างทันท่วงที
เนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือท�ำให้มี ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ส่งผลให้เส้นทางใน ความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ประสบเหตุ อุทกภัยและดินสไลด์หลายเส้นทาง ส่งผลกระทบต่อการเดิน ทางของประชาชนในแต่ละพืน้ ที่ อย่างไรก็ตาม ทช.ได้มแี นวทาง การเฝ้าระวัง เตรียมรับมือ และฟื้นฟูซ่อมบ�ำรุงเส้นทางที่ได้รับ ความเสียหายอย่างใกล้ชดิ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งก�ำหนดให้ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเตรียมความพร้อม ส�ำหรับอ�ำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนอยู่เสมอ แขวงทางหลวงชนบทแม่ฮ่องสอน ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้น ที่ท�ำความสะอาดบริเวณรางระบายน�้ำเพื่อก�ำจัดวัชพืช เศษ ดินและกิง่ ไม้ทกี่ ดี ขวางทางน�ำ้ บนถนนทางหลวงชนบทสาย มส. 3004 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 – บ้านแม่สามแลบ อ�ำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮอ่ งสอน เนือ่ งจากเป็นหนึง่ ในสายทาง ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยและดินสไลด์ในกรณีที่มีฝน ตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน จึงเป็นการเตรียมความพร้อม รับมือเมื่อเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือทีพ่ ดั ปกคลุมบริเวณ อ่าวไทย ยังส่งผลให้ถนนทางหลวงชนบทสาย ชพ.4011 แยก
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
24
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4198 - บ้านท้องเกร็ง อ�ำเภอ ทุ่งตะโก, สวี จังหวัดชุมพร เกิดดินสไลด์และไหล่ทางทรุดตัว ในบางช่วง ยานพาหนะไม่สามารถสัญจรผ่านได้ชั่วคราว ทาง ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) จึงได้ติดตั้ง ป้ายเตือนและป้ายทางเลีย่ งส�ำหรับแจ้งให้ประชาชนได้รบั ทราบ พร้อมระดมก�ำลังเจ้าหน้าทีเ่ ข้าติดตัง้ สะพานเบลีย์ ความยาว 39 เมตร ในบริเวณดังกล่าว เพือ่ ให้ประชาชนสามารถกลับมาสัญจร ได้ชวั่ คราวก่อน จากนัน้ จึงได้หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและ ความเสียหายที่เกิดจากเหตุอุทกภัยในระยะยาวต่อไป ทช.ได้ค�ำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางในช่วง เวลาดังกล่าว จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเพื่อเฝ้าระวัง เหตุการณ์อย่างใกล้ชดิ ในพืน้ ทีท่ มี่ คี วามเสีย่ งต่อการเกิดอุทกภัย หรื อ ดิ น ถล่ ม อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง รวมถึ ง เตรี ย มความพร้ อ มด้ า น บุคลากรและเครื่องมือเครื่องจักรอยู่เสมอ เพื่อช่วยเหลือและ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่เดินทางสัญจรบน ทางหลวงชนบท
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
กฎหมาย
น ารู
โอนทรัพย์
หนีหนี้ที่ต้องชำ�ระ
นายอาหมัด สองเมือง ผู้อ�ำนวยการกลุ่มนิติกรรม และจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน
นายแดงถูกศาลแพ่งมีค�ำพิพากษาให้ช�ำระหนี้ จ�ำนวน 1,000,000 บาท ให้แก่นายขาว แต่ก่อนที่นายขาวจะบังคับช�ำระหนี้ นายแดงได้โอนทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินให้แก่นายส้ม ท�ำให้ไม่มีทรัพย์สินเหลืออยู่เพื่อช�ำระหนี้อีกต่อไป การกระท�ำของนายแดงมี ความผิดฐานใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 บัญญัติว่า “ผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับช�ำระหนี้ทั้งหมด หรือ แต่บางส่วนซึง่ ได้ใช้หรือจะใช้สทิ ธิเรียกร้องทางศาลให้ช�ำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่ผอู้ นื่ ซึง่ ทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ ตนเองเป็นหนีจ้ �ำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษ จ�ำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสีห่ มืน่ บาท หรือทัง้ จ�ำทัง้ ปรับ” ดงั นัน้ เมือ่ พิจารณาข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมายแล้ว เห็นว่า การทีน่ ายแดงซึง่ ได้ถกู ศาลแพ่งพิพากษาให้ช�ำระหนี้ จ�ำนวน 1,000,000 บาท ให้แก่นายขาว แต่ก่อนบังคับช�ำระหนี้นายแดงมีเจตนาโอนทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินให้แก่นายส้มท�ำให้นายขาวไม่ อาจบังคับช�ำระหนีไ้ ด้ การกระท�ำของนายแดง จึงเป็นการกระท�ำผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ตามมาตรา 350 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
25
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
26
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
เปิ ดสะพานพระราชวังจันทน์ สะพานเหล็กโค้งแห่งแรกของประเทศไทย มอบเป็ นของขวัญปี ใหม่ 2565 ให้แก่ชาวพิ ษณุโลก มุ่งเป็นแลนด์มาร์กส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน พร้อมปล่อยขบวนรถอ�ำนวยความ ปลอดภัยการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
27
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
วิศวกรรมเป็ นเรื่องท้าทาย การเรียนรู้ต่อยอด จึงไม่มีท่สิ ี ้นสุด ถอดรหัสหนุ่มวิศวกรกรมทางหลวงชนบท
ดีกรี วิศวะจุฬาฯ และนักเรียนทุน ก.พ. จาก USA มาพบกันเป็นครั้งที่ 2 ส�ำหรับ คอลัมน์ Spotlight ของ กรมทางหลวงชนบท มาในครั้งนี้ก็พิเศษอีกเช่นเคย ทางทีมได้ คัดสรรวิศวกรของกรมที่มีประวัติที่น่าสนใจและนับได้ว่าเป็น ส่วนส�ำคัญในการขับเคลือ่ นภารกิจขององค์กรให้มปี ระสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากยิ่งขึ้นตามเป้าหมายขององค์กร ในเล่มนี้ เราจะพามารู้จักกับวิศวกรหนุ่มวัย 35 ปี นาย เกริกเกียรติ นุตาลัย (อิฐ) วิศวกรโยธาช�ำนาญการ สังกัด ส�ำนัก ก่อสร้างทาง กรมทางหลวงชนบท ดีกรีนักเรียนทุน ก.พ. จบ การศึกษาระดับปริญญาโทจาก Virginia Polytechnic Institute and State University และระดับปริญญาตรีจากคณะ วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถมยังเป็นศิษย์ เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัยอีกด้วย เ รี ย กได้ ว ่ า คลุ ก คลี กั บ วงการวิ ศ วะมาตั้ ง แต่ เ ด็ ก เลย วารสาร กรมทางหลวงชนบท
28
เนื่องจากที่บ้านท�ำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง นอกจากคุณสมบัติ จะเกรด A แล้ว ประสบการณ์ก็เกรดดีไม่แพ้กัน อิฐ ได้เล่าให้ ทีมงานฟังว่า “ก่อนที่จะบรรจุข้าราชการมีโอกาสได้ไปท�ำงาน ใ นบริ ษั ท เอกชนชั้ น น�ำ ได้ ร ่ ว มเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของโครงการ รถไฟฟ้าสายสีม่วง เริ่มท�ำงานที่บริษัทแห่งนี้หลังจากศึกษาจบ ที่จุฬาฯ ก่อนที่จะได้ทุนของ ก.พ. ไปเรียนต่อในระดับปริญญา โทที่ USA และประสบการณ์ในครั้งนั้นก็ท�ำให้ได้น�ำความรู้ มาปรับใช้กับงานปัจจุบันได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังได้กล่าวถึง เมื่อได้เข้ามาบรรจุเป็นข้าราชการที่กรมทางหลวงชนบทแล้ว ได้ท�ำงานที่หลากหลาย หนึ่งในผลงานที่ภาคภูมิใจนั้นก็ได้มี โอกาสเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของกรม คือ โครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสายแยกทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 1098 – ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ตอน “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
ที่ 2) อ�ำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ระยะทาง 28.780 กิโลเมตร นับว่า เป็นผลงานชิ้นใหญ่ที่ได้มีโอกาสดูแลตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงโครงการ เสร็จสมบูรณ์” นอกจากที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว อิฐ ยังได้พูดถึงความ ประทับใจที่มีต่อหัวหน้างาน (นายสงคราม เชิดวงศ์สูง นายช่างโยธา ช�ำนาญงาน) ที่เป็นแบบอย่างในการท�ำงานที่ดี คอยสอนและแนะน�ำ สิ่งที่ดีให้เสมอ พร้อมทั้งให้โอกาสในการแสดงความคิดเห็นเวลาท�ำงาน ท�ำให้ซึมซับในส่วนนี้ ซึ่งในอนาคตจะน�ำส่วนที่เคยได้รับเหล่านี้ ส่งต่อ ให้กับรุ่นน้องเพื่อเป็นแรงผลักดันเป็นก�ำลังใจในการท�ำงานที่ดีต่อไป สุดท้ายนี้ อิฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า จะพยายามพัฒนาทักษะความรู้ ของตัวเอง ใช้เทคโนโลยีในการท�ำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียนรู้ ทักษะใหม่ ๆ อยูเ่ สมอ ไม่ยดึ ติดกับรูปแบบการท�ำงานเดิม ๆ ต้องมีความ ยืดหยุ่นเป็นสิ่งส�ำคัญในการท�ำงาน และในอนาคตถ้ามีโครงการไหนที่ สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการยกระดับประสิทธิภาพงานวิศวกรรมได้ ก็จะพยายามเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนอย่างเต็มที่ และหากมีโอกาสก็ อยากที่จะลองไปเรียนรู้งานในส่วนภูมิภาค ซึ่งคิดว่าจะท�ำให้ตัวเองได้ รับทักษะ/ ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
29
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
ภาพในอดีต “สะพานภู ม ิ พ ล” สะพานแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กอ่ สร้างขึน้ เมือ่ พ.ศ. 2538 เพือ่ แก้ไขปัญหาจราจร และท�ำให้การเดินทางของประชาชนสะดวกสบายขึน้ ซึง่ ทัง้ 2 สะพานนีเ้ ป็นสะพานข้ามแม่นำ�้ เจ้าพระยา เชือ่ มต่อ 2 จุด ระหว่างกรุงเทพฯ กับ สมุทรปราการ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2549
วารสาร กรมทางหลวงชนบท
30
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”
นายคลังวิชญ์ อุทัยเรือง ต�ำแหน่ง นายช่างโยธาอาวุโส
สวัสดีครับ ผม นายคลังวิชญ์ อุทัยเรือง (อ๊อด) ได้เริ่มเข้ารับราชการเมื่อปี พ.ศ.2537 ถ้าจำ�ไม่ผิด น่าจะอายุประมาณ 23 ปีเองครับ (5555) ในสังกัด สำ�นักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดชลบุรี (รพช.) ในตำ�แหน่งนายช่างโยธา 2 และเมื่อปี พ.ศ.2545 ได้มีการปฏิรูประบบราชการ ก็ได้ปรับเปลี่ยนมาอยู่ใน สังกัดกรมทางหลวงชนบท หน่วยงานแขวงทางหลวงชนบทชลบุรี และปัจจุบันนี้อยู่ในตำ�แหน่งนายช่าง โยธาอาวุโส ได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำ�นวยการหมวดบำ�รุงทางหลวงชนบทบางละมุง และผู้อำ�นวยการกลุ่ม วิชาการ แขวงทางหลวงชนบทชลบุรี อีกหนึ่งตำ�แหน่ง (หัวหมุนเลยครับงานนี้ 5555 ) ถ้าถามถึงเรื่องที่ประทับใจและภูมิใจในการทำ�งานก็มีหลายเรื่องเลยครับ ถ้าให้พูดหมดก็จะคง ไม่จบแน่ ๆ การที่ได้ทำ�งานที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีทั้งเรื่องการเกษตร การท่องเที่ยว และนิคม อุตสาหกรรม ปริมาณจราจรก็มาก รถบรรทุกก็เยอะจึงทำ�ให้เราได้มกี ารคิดพัฒนาโครงการสำ�คัญ ๆ หลาย ๆ โครงการ เพื่อตอบสนองความต้องการของพื้นที่ โดยส่วนตัวงานที่ประทับใจเป็นงานที่ไม่เคยทำ�มาเลย คือ การขอรับการสนับสนุนโครงการก่อสร้างถนน สาย ทล.7 - ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ ริเริม่ โครงการตัง้ แต่ปี พ.ศ.2549 ซึง่ เป็นการตัดถนนใหม่ เริม่ ต้นคือการขายฝันให้ผบู้ ริหารระดับกรมและ กระทรวงครับ (5555) เพื่อให้ความเห็นชอบแนวทางการพัฒนา กว่าจะได้สำ�รวจออกแบบรายละเอียด ก็ปาเข้าไปปี พ.ศ.2554 นานเนาะ (5555) ต้องใช้เวลาในการสำ�รวจอสังหาริมทรัพย์ จ่ายเงินค่าเวนคืน และจนถึงขั้นตอนการก่อสร้างให้สำ�เร็จ เปิดใช้งานได้ในช่วงต้นปี พ.ศ.2564 นับเวลาได้ 16 ปี นานมาก เลยครับกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ ก็ถือว่าเป็นโครงการที่มีความประทับใจและภูมิใจ ในการมีส่วนร่วมใน การริเริ่มและผลักดันในการจัดทำ�โครงการนี้ครับ และอีกความประทับใจนึง ก็คือ... การได้มีส่วนร่วมใน การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวบริเวณโดยรอบ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร – วิหารเซียน – พระพุทธ รูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ผมได้มีส่วนร่วมในกระบวนการคิดและออกแบบ ร่วมกับองค์การบริหารการ พัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า อ.พ.ท. เมื่อปี พ.ศ.2555 ทำ�ให้ได้วางรูปแบบการพัฒนาเส้นทางจักรยานพื้นที่ถนนโครงข่ายของกรมทางหลวงชนบท สายทาง ชบ.1003, ชบ.1008, ชบ.5010, ชบ.3002 จนทำ�ให้เป็นจุดเริ่มต้นของการของบประมาณเพื่อ การพัฒนาและปรับปรุงถนนให้มคี วามสวยงามในปัจจุบนั ส่วนนีจ้ งึ เป็นอีกงานหนึง่ ทีป่ ระทับใจ และยังมี อีกหลายอย่างที่ไม่ได้พูดถึงครับ การทีจ่ ะทำ�งานได้ส�ำ เร็จ เราไม่สามารถทำ�งานได้ดว้ ยตัวคนเดียว เพราะฉะนัน้ การทำ�งานเป็นทีม จึงมีความสำ�คัญ และการมี Connection ก็สำ�คัญไม่น้อยเช่นกัน คำ�สอนและคำ�แนะนำ�ของเจ้านายที่ได้ กล่าวไว้ ผมนั้นก็จำ�ขึ้นใจ “รกคนดีกว่า รกหญ้า” ทุกคนมีส่วนดี หาให้เจอ และใช้คนให้เหมาะกับงาน นีแ่ หละครับ ผมเลยนำ�ท่านมาเป็นแบบอย่างในการทำ�งาน ท่านคือ อดีตอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ท่าน ดรุณ แสงฉาย) เพื่อเป็นแรงผลักดันในการทำ�งาน เพื่อส่วนรวม เพื่อองค์กร และเพื่อประชาชน สุดท้ายนี้ครับ... สิ่งหนึ่งที่อยากฝากให้กับน้อง ๆ ในเรื่องของการทำ�งาน อยากให้คิดว่าหน้าที่ได้ รับมอบหมายนั้น ไม่มีใครจะชอบกับงานทุกอย่างและไม่ใช่ว่าเราจะเก่งทุกเรื่อง การทำ�งานเราต้องทำ�ให้ มีความสุขกับงานที่ได้รับมอบหมาย และการทำ�งานด้วยใจจะทำ�ให้เรามีความสุขกับงานนั้น ผมคิดว่าถ้า เราทำ�ใจให้ชอบกับงานที่ได้ทำ�แล้ว สุดท้ายเราจะมีความสุขกับงาน และงานนั้นก็จะออกมาดีเพราะเรา ทำ�ด้วยใจ เราใส่ใจลงไปกับงานที่เราทำ�นั่นเองครับ
“จงชอบในสิ่งที่เราเป็ น และจงรักในสิ่งที่เราทำ�” วารสาร กรมทางหลวงชนบท
31
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทัง ้ ชาติ”