วารสารกรมทางหลวงชนบท ฉบับเดือน มิถุนายน - กรกฎาคม 2564

ปีที่ 18 ฉบับเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2564

วา

ร สาร

กรมทางหลวงชนบท

Journal of Department of Rural Roads

ทางหลวงชนบทสาย ศก.3040

www.drr.go.th

“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

ทช. ขอคุย ฉบับทีอ่ ยูใ่ นมือท่านนี้ได้เดินทางมาถึงฉบับที่ 5 แต่ยงั เข้มข้นด้วยเนือ้ หาและสาระประโยชน์ ทีท่ าง ทีมงานสรรหามาฝาก แต่กอ่ นอืน่ ต้องขอกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ทีม่ กี ารระบาดรุนแรงและส่งผลกระทบต่อการด�ำรงชีวติ ประจ�ำวันของพีน่ อ้ งประชาชนอยูใ่ นขณะนี้ กรมทางหลวง ชนบทขอเป็นส่วนหนึง่ ในการปฏิบตั ติ ามมาตรการของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด คือ เว้นระยะห่าง สวมแมส หมัน่ ล้างมือ ตั้งการ์ดให้สูง และขอส่งก�ำลังใจด้วยความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน เราจะจับมือและฟันฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ ไปพร้อม ๆ กัน ที่ผ่านมาอากาศค่อนข้างร้อนถึงร้อนมากเราจึงแนะน�ำให้คลายร้อนกับสายทางหลวงชนบท ทีน่ ำ� สูน่ ำ�้ ตกห้วยวังใหญ่ หลังจากดับร้อนแล้วเราพาไปเทีย่ วสวนทุเรียนภูเขาไฟราชาแห่งผลไม้เมืองร้อนซึง่ นาทีนี้ ไม่แวะคงไม่ได้เพราะเป็นผลไม้ชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางรับโอโซนจากธรรมชาติเรียบร้อยแล้ว เราไม่ลืม UPDATE โครงการก่อสร้างสายทางหลวงชนบทบ้านซับพลู อ�ำเภอวังน�้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา หลังจากนั้นจะมา FOCUS โครงการ Thailand Riviera ถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ของกรมทางหลวงชนบท และพามาท�ำความรู้จักกับแนวคิดและมุมมองดี ๆ จากวิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบทในคอลัมน์ถอดสูท ทช. นอกจากนีย้ งั มีกฎหมายน่ารูม้ าน�ำเสนอให้ประชาชนรับทราบ พร้อมประสบการณ์ทผี่ า่ นการบอกเล่าจากนายช่าง ของกรมทางหลวงชนบท เพียงแค่เปิดวารสารกรมทางหลวงชนบท ฉบับที่ 5 ท่านจะพบกับสิ่งที่ ทช. ขอคุย ได้บอกเล่ามาทั้งหมด

Contents สารบัญ ทช. ร่วมใจภักดิ์

กิจกรรมผู้บริหาร ทช. โฟกัส

ทช. ขอคุย

กรมทางหลวงชนบท ประดับธงชาติคู่กับธงพระนามาภิไธย ส.ท. พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

โครงการก่อสร้าง ถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera)

ทช. อัพเดท โครงการก่อสร้างสายทางหลวงชนบทบ้านซับพลู – วังน้ำ�เขียว นครราชสีมา

กองบรรณาธิการ

ถอดสูท ทช. นายโกสินท์ พิทยะเวสด์สนุ ทร วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านควบคุมการก่อสร้าง)

ผู้อำ�นวยการสำ�นักบริหารกลาง สำ�นักส่วนกลาง สำ�นักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท หมวดบำ�รุงทางหลวงชนบท กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่

ทช. เพื่อประชาชน

บรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมทางหลวงชนบท มอบถุงยังชีพแก่ประชาชนชุมชนสามัคคีร่วมใจ

Travel on Rural Roads คลายร้อนทีน่ �ำ้ ตกห้วยวังใหญ่ แวะสวนทุเรียนภูเขาไฟ สนับสนุนเศรษฐกิจ สร้าง ซ่อม ส่งเสริม

ชุมชน กับสายทางหลวงชนบทศรีสะเกษ

บ้านเลขที่ 9 ทช. พร้อมใจ อำ�นวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 กฎหมายน่ารู้

ทายาทโดยพินัยกรรมกับทายาทโดยธรรมใครมีสิทธิดีกว่ากัน

จริยธรรมนำ�ใจ

กรมทางหลวงชนบทร่วมรณรงค์สร้างสังคมต้านทุจริต ส่งเสริมสถาบันครอบครัว และกลุ่มอาชีพวิศวกร ยึดมั่นในจรรยาบรรณของข้าราชการ “น้อมนำ�ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”

มองผ่านเลนส์ การมีส่วนร่วมภาคประชาชนเป็นหลักการในการบริหารราชการแผ่นดิน ตามหลักธรรมาภิบาล

เรื่องเล่าจากนายช่าง นายสมุทย์ ผลาชีวะ ตำ�แหน่งนายช่างโยธาอาวุโส สำ�นักก่อสร้างทาง ทช. วาไรตี้ อัตราค่าธรรมเนียมการทดสอบวัสดุ สำ�นักวิเคราะห์วิจัยและพัฒนา กรมทางหลวงชนบท ริมทางชนบท ความหมายของหมายเลข.. บนป้ายสายทาง..ของกรมทางหลวงชนบท Spotlight

ชื่นชมบุคลากรหมวดบำ�รุงทางหลวงชนบทหนองเรือ จ.ขอนแก่น เจอกระเป๋าเงิน นำ�ส่งคืนเจ้าของ ลั่น! “ทำ�งานที่ได้รับมอบหมายให้เต็มที่ และทำ�วันนี้ให้ดีที่สุด” การมีส่วนร่วม เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการสำ�รวจออกแบบเส้นทางท่องเที่ยว เลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ด้านตะวันตก (ตะนาวศรี)

จัดทำ�โดย

Department of Rural Roads

3 4-5 6-7 8-9 10 - 12 13 14 -16 17 -20 21 22 23 24 25 26 - 27 28 - 29 30 31

E d i t o r’ s

สำ�นักบริหารกลาง กรมทางหลวงชนบท เลขที่ 9 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 โทรศัพท์ 0 2551 5202 www.drr.go.th

ทช. ร่วมใจภักดิ์

กรมทางหลวงชนบท ประดับธงชาติคู่กับธงพระนามาภิไธย ส.ท.

พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

กรมทางหลวงชนบท ประดับธงชาติคกู่ บั ธงพระนามาภิไธย ส.ท. พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

เนือ่ งในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถนุ ายน 2564 พร้อมตัง้ เครือ่ งราชสักการะ ประดับ ผ้าระบายสีม่วงร่วมกับผ้าระบายสีเหลือง

“ทางหลวงชนบท

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

3

4

กิจกรรมผู้บริหาร อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ร่วมประชุม หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมหัวหน้า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม คณะผูบ้ ริหาร กระทรวงคมนาคม และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม Zoom) โดยในส่วนของกรมทางหลวงชนบทมีนายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดี กรมทางหลวงชนบท นายผดุงศักดิ์ สรุจิก�ำจรวัฒนะ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมคณะ เข้าร่วม ประชุมผ่านระบบดังกล่าว ณ ห้องประชุมกองแผนงาน กรมทางหลวงชนบท กรุงเทพฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด จัดเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ ประกอบการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และจัด เตรียมรายงานข้อมูลการด�ำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมทัง้ ก�ำชับให้หน่วยงานในสังกัด ด�ำเนิน การประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่อที่หลากหลายเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ตรวจสอบข้อมูลของบุคลากรในสังกัดที่ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้ถกู ต้อง และเตรียมพร้อมในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในระยะถัดไป ณ สถานีกลางบางซือ่ รวมถึง ในส่วนของหน่วยงานที่อยู่ในภูมิภาค ได้มอบหมายให้ส�ำนักงานขนส่งประจ�ำจังหวัดเป็นผู้รวบรวมข้อมูล บุคลากรของกระทรวงคมนาคมทีต่ อ้ งการฉีดวัคซีน และด�ำเนินการประสานแต่ละจังหวัดเพือ่ ขอรับวัคซีน ดังกล่าว พร้อมรายงานผลการด�ำเนินงานต่อกระทรวงคมนาคมให้ทราบเป็นประจ�ำทุกวัน

รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท

เป็นประธานเปิดการบรรยายวิธีการใช้ ระบบฐานข้อมูลแหล่งวัสดุของกรมทางหลวงชนบท

รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการปรับปรุง ไฟฟ้าแสงสว่างพร้อมป้ายแสดงข้อมูลการจราจร ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 ถนนราชพฤกษ์ กรุงเทพมหานคร, จ.นนทบุรี นายประศั ก ดิ์ บั ณ ฑุ น าค รองอธิ บ ดี ก รมทางหลวงชนบท พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการปรับปรุงไฟฟ้าแสงสว่างพร้อม ป้ายแสดงข้อมูลจราจรถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 ถนนราชพฤกษ์ เขตธนบุร,ี จอมทอง, ภาษีเจริญ, ตลิง่ ชัน กรุงเทพมหานคร/ อ�ำเภอบางกรวย, เมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการฯ พร้อมแนะน�ำแนวทางในการปฏิบตั งิ าน ในการนีม้ นี ายไพรัช พงษ์ชู ผูอ้ �ำนวยการ หมวดบ�ำรุงทางหลวงชนบทราชพฤกษ์ ส�ำนักบ�ำรุงทาง บรรยายสรุปผล การด�ำเนินงาน ณ บริเวณวงเวียนจุดตัดถนนราชพฤกษ์ - ถนนนครอินทร์

นายไกวั ล ย์ โรจนานุ กู ล รองอธิ บ ดี ก รมทางหลวงชนบท เป็นประธานเปิดการบรรยายวิธีการใช้ระบบฐานข้อมูลแหล่งวัสดุของ กรมทางหลวงชนบท ผ่านสือ่ ประชุมอิเล็กทรอนิกส์ Application Zoom เพื่อรวบรวมแหล่งวัสดุงานก่อสร้างจากทั่วประเทศในระบบฐานข้อมูล และเผยแพร่ให้หน่วยงานภายในกรมทางหลวงชนบทน�ำไปใช้อ้างอิง ส�ำหรับการประมาณราคาและค�ำนวณราคากลางให้เป็นไปในแนวทาง เดียวกัน โดยมีนายจีระพงษ์ ปิณฑะบุตร ผู้อ�ำนวยการส�ำนักส�ำรวจและ ออกแบบ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ทั้งนี้รองอธิบดีฯ ได้เน้นย�้ำในการใช้งานระบบให้ถูกต้องจะได้ ไม่เกิดข้อผิดพลาด และแนวทางการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบาย ของกรมฯ ณ ห้องธารสิทธิ์พงษ์ กรมทางหลวงชนบท เขตบางเขน กรุงเทพฯ

กิจกรรมผู้บริหาร รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการ ศึกษาการจัดทำ�และติดตามการบริหารงบประมาณ

นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท�ำและติดตามการ บริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ประชุมคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท�ำ และติดตามการบริหารงบประมาณ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Application Zoom Cloud Meeting เพื่อพิจารณาภาพรวมการจัดท�ำงบประมาณรายจ่ายประจ�ำ ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ของกระทรวงคมนาคม เพื่อน�ำข้อมูลมาศึกษา วิเคราะห์ ประมวลผลประกอบการพิจารณาจัดท�ำรายงานเสนอสภาผู้แทนราษฏร ในส่วนของกรมทางหลวงชนบทมีนายผดุงศักดิ์ สรุจกิ �ำจรวัฒนะ รองอธิบดี กรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วยนายสมโภชน์ เรืองพระยา ผูอ้ �ำนวยการกองแผนงาน เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมกองแผนงาน กรมทางหลวงชนบท เขตบางเขน กรุงเทพฯ

วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท ร่วมประชุมคณะทำ�งานกลัน่ กรอง โครงการขนาดใหญ่และโครงการสำ�คัญกับสำ�นักงานทรัพยากรน้�ำ แห่งชาติ นายวิศว์ รัตนโชติ วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้ า นบ�ำรุ ง รั ก ษาทางและสะพาน) ร่ ว มประชุ ม คณะท�ำงาน กลั่นกรองโครงการขนาดใหญ่และโครงการส�ำคัญกับส�ำนักงาน ทรัพยากรนำ�้ แห่งชาติ ครัง้ ที่ 2/2564 ผ่านระบบสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม Zoom) เพือ่ รับฟังสรุปข้อมูลโครงการขนาดใหญ่และ โครงการส�ำคัญ โดยมีนายธนิต วิทยเมธ ผูอ้ �ำนวยการกลุม่ บ�ำรุงทาง ส�ำนักบ�ำรุงทาง และคณะ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ส�ำนักบ�ำรุงทาง กรมทางหลวงชนบท เขตบางเขน กรุงเทพฯ

รักษาการ วิศวกรใหญ่

ประชุมติดตามโครงการปรับปรุง บริเวณคอขวดไหล่ทาง สาย สบ.1059

นายทวี แสงสุวรรณโณ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักวิเคราะห์ วิจัยและพัฒนา รักษาการวิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านส�ำรวจและออกแบบ) ประชุมติดตามโครงการปรับปรุงบริเวณคอขวดไหล่ทาง สาย สบ.1059 แยก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1-บ้านธาตุ อ�ำเภอเมือง,แก่งคอย จังหวัดสระบุรี ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting เพื่อติดตามผลการด�ำเนินงาน พร้อมให้ ค�ำแนะน�ำในเรือ่ งการออกแบบด้วยเทคนิคทางวิศวกรรมเพือ่ ป้องกันและแก้ไข ปัญหาการทรุดตัวของถนนทีอ่ าจจะเกิดขึน้ ในอนาคต เพือ่ ความปลอดภัยและ สร้างความมัน่ ใจให้แก่ประชาชนผูใ้ ช้เส้นทาง โดยมี นายจิรายุทธ์ ตัง้ ไพศาลกิจ วิศวกรโยธาช�ำนาญการ ส�ำนักอ�ำนวยความปลอดภัย เป็นผูร้ ายงานรายละเอียด โครงการ ณ ส�ำนักงานวิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท

“ทางหลวงชนบท

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

5

6

ทช. โฟกัส โครงการก่อสร้าง ถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera)

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

ทช. โฟกัส ได้เดินทางเพื่อน�ำสายทางหลวงชนบทที่มี ความส�ำคัญต่อการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และชุมชนมา Focus ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ฉบับนี้เราเดินทางมา ที่ถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ต่อเนื่อง พร้อมแผนก่อสร้างของกรมทางหลวงชนบทที่คาดว่าจะด�ำเนิน การในปี 2565 มาโฟกัสเพื่อประโยชน์ของท่านผู้อ่าน ก่อนอื่น คงต้องให้ความส�ำคัญ Focus ทีค่ วามส�ำคัญของสายทางดังกล่าว Thailand Riviera ด�ำเนินการตามความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี โครงการดังกล่าวมีความส�ำคัญต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว ถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทยเพื่อสร้าง ความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยวเศรษฐกิจ รายได้ สร้างอาชีพ ให้กับชุมชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนมีความ เป็นอยู่ที่ดีขึ้น ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง การพัฒนาโครงข่ายถนน

มีความต่อเนือ่ งด�ำเนินการมาตัง้ แต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบนั และ ได้ก่อสร้างไปแล้ว จ�ำนวน 36 โครงการ ระยะทาง 418.653 กิโลเมตร และมีโครงการที่อยู่ระหว่างด�ำเนินการก่อสร้างอีก จ�ำนวน 4 โครงการ รวมระยะทาง 77.134 กิโลเมตร ประกอบ ด้วย - ถนนทางหลวงชนบทสาย ชพ.4012 แยกทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 4198 – เทศบาลปากน�้ำหลังสวน อ�ำเภอ ทุง่ ตะโก, หลังสวน จังหวัดชุมพร ระยะทาง 23.589 กิโลเมตร ปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 คาดว่าจะ ก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2564 ใช้งบประมาณใน การก่อสร้าง 195.478 ล้านบาท - ถนนทางหลวงชนบทสาย ชพ.4008 แยกทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 4001 – บ้านโพธิแ์ บะ อ�ำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ระยะทางรวม 24.569 กิโลเมตร ปัจจุบันมีความก้าวหน้า

ทช. โฟกัส ไปแล้วกว่าร้อยละ 94 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนมิถนุ ายน 2564 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 180.780 ล้านบาท - ถนนทางหลวงชนบทสาย ชพ.4011 แยกทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 4003 (กม.ที่ 14+350) – บ้านท้องเกร็ง อ�ำเภอสวี, ทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร ระยะทาง 9.085 กิโลเมตร ปัจจุบันมี ความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 27 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ประมาณปลายปี 2564 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 55.900 ล้านบาท - ถนนทางหลวงชนบทสาย ชพ.4019 สายแยกทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 4002 (กม.ที่ 13+100) – บ้านแหลมสันติ อ�ำเภอ หลังสวน, ละแม จังหวัดชุมพร ระยะทาง 19.891 กิโลเมตร ปัจจุบนั มีความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 27 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ประมาณกลางปี 2565 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 172.082 ล้านบาท ในปี 2565 กรมทางหลวงชนบทได้เสนอโครงการเพื่อสร้าง ความต่อเนือ่ ง จ�ำนวน 3 โครงการ ระยะทางรวม 18.829 กิโลเมตร ดังนี้ - ถนนสายเพชรเกษม – สถานีรถไฟทุ่งประดู่ – วัดทับสะแก อ�ำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ ระยะทาง 3.418 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 20.655 ล้านบาท - ถนนสายบ้านบางคอย – บ้านทุง่ คาน้อย อ�ำเภอเมือง จังหวัด ชุมพร ระยะทาง 8.658 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 31.994 ล้านบาท - ถนนสายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4002 (กม.ที่ 13+100) – บ้านแหลมสันติ (ตอนที่ 2) อ�ำเภอหลังสวน, ละแม จังหวัดชุมพร ระยะทาง 6.753 กิโลเมตร งบประมาณในการ ก่อสร้าง 105.494 ล้านบาท Thailand Riviera มีแหล่งท่องเทีย่ วทีม่ คี วามสวยงามจนเป็น ทีโ่ จษขานทัง้ ชาวไทยและชาวต่างชาติและน�ำรายได้สปู่ ระเทศไทย อย่างต่อเนื่อง การพัฒนาสายทาง Thailand Riviera เพื่อให้ ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางจึงเป็นภารกิจ ส�ำคัญของกรมทางหลวงชนบทที่ต้อง FOCUS อย่างต่อเนื่อง และต่อไป

“ทางหลวงชนบท

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

7

8

ทช. อัพเดท

โครงการก่อสร้าง

สายทางหลวงชนบทบ้านซับพลู – วังน้ำ�เขียว นครราชสีมา โครงการก่อสร้างสายทางหลวงชนบทเพื่อรองรับ

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

การเจริญเติบโตของเมืองและการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็น อีกหนึ่งภารกิจส�ำคัญของกรมทางหลวงชนบท และล่าสุดสาย ทางหลวงชนบท นม.3060 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 – บ้านซับพลู อ�ำเภอวังน�ำ้ เขียว จังหวัดนครราชสีมา มีความคืบหน้า ในการก่อสร้างเร็วกว่าแผนที่คาดไว้มากกว่า 7 % ทางทีมงาน จึงไม่รอช้าที่จะน�ำเรื่องราวและความคืบหน้าของโครงการ ดังกล่าวมา UPDATE ให้ผอู้ า่ นได้รบั ทราบไปพร้อม ๆ กับพีน่ อ้ ง ชาวอ�ำเภอวังน�้ำเขียว ตามเรามา UPDATE กันเลย สายทางหลวงชนบทบ้ า นซั บ พลู เ ป็ น อี ก หนึ่ ง สายทาง ที่กรมทางหลวงชนบทด�ำเนินการก่อสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่ออ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางสัญจร และเดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของ

อ�ำเภอวังน�้ำเขียวให้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้การขนส่งพืชผล การเกษตรออกสู่ท้องตลาดจะสะดวกรวดเร็วประหยัดทั้งเงิน และเวลา การไปมาหาสู่ระหว่างจังหวัด อ�ำเภอ ต�ำบล ไม่ต้อง ใช้เวลามากเหมือนเมื่อก่อน และหากพิจารณาตามลักษณะ ภู มิ ศ าสตร์ จั ง หวั ด นครราชสี ม าเป็ น จั ง หวั ด ที่ มี ข นาดใหญ่ มีลักษณะเป็นเมืองชุมทางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ ภาคอีสาน มีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร/ ปศุสัตว์ อุตสาหกรรม มี สิ น ค้ า ภาคการเกษตรและอุ ต สาหกรรมระหว่ า งอ�ำเภอ ปากช่องซึง่ เป็นทีต่ งั้ สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และ สถานีขนส่งรถโดยสารขนาดใหญ่กับอ�ำเภอวังน�้ำเขียว ดังนั้น จึงจ�ำเป็นต้องได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเมือง เพิ่มศักยภาพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการขนส่ง

ทช. อัพเดท

กรมทางหลวงชนบทได้ รั บ มอบหมายให้ พั ฒ นา ทางหลวงชนบท นม.3060 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 – บ้านซับพลู อ�ำเภอวังน�้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ระยะทาง 22.939 กิโลเมตร โดยมีจุดเริ่มต้นการก่อสร้าง กม.ที่ 0+000 บริเวณถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 (กม.ที่ 230+825) ด้ า นซ้ า ยทาง ไปสิ้ น สุ ด การก่ อ สร้ า งบนทางหลวงชนบท สาย นม.3060 (กม.ที่ 22+939) ก่อสร้างเป็นถนนผิวจราจรแบบ แอสฟัลต์คอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร ปัจจุบนั มีความคืบหน้า ในการก่อสร้างโครงการค่อนข้างมากซึ่งคาดว่าจะก่อสร้าง แล้วเสร็จประมาณเดือนมีนาคม 2565 หากเปิดใช้งานอย่าง “ทางหลวงชนบท

เป็นทางการจะช่วยเชือ่ มโยงโครงสร้างพืน้ ฐานด้านคมนาคมของ จังหวัดให้สมบูรณ์ยงิ่ ขึน้ โดยเชือ่ มระหว่างถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 304 บริเวณอ�ำเภอวังน�้ำเขียวไปยังถนนมิตรภาพ ที่อ�ำเภอปากช่อง หากเสร็จสมบูรณ์เชื่อว่าจะสร้างโอกาสและ รายได้ให้กระจายตัวสู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามมา ฉบับหน้าทีมงานจะพาไป UPDATE โครงการที่ก�ำลัง ก่อสร้างของกรมทางหลวงชนบท หรือท่านผูอ้ า่ นต้องการให้เรา UPDATE โครงการไหน สามารถติดต่อตามที่อยู่ที่ปรากฏ อยู่ในวารสาร เราจะพาไป UPDATE ตามที่ท่านผู้อ่านเรียกร้อง แน่นอน

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

9

10 ถอดสูท ทช.

นายโกสินท์ พิทยะเวสด์สุนทร วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านควบคุมการก่อสร้าง)

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

1. แรงบันดาลใจต่อสายอาชีพวิศวกรโยธาและสิ่งที่ยึดมั่นต่อ สายอาชีพ คืออะไร เดิมสมัยเรียนมัธยมต้นผมไม่ได้คิดจะเรียนทางด้านวิศวกรรม แต่อย่างใด คิดอยากจะเป็นนายอ�ำเภอหรือทนายความ ซึ่งคงต้อง เรียนสายรัฐศาสตร์หรือกฎหมายเท่านัน้ จนกระทัง่ ผมได้ดภู าพยนตร์ โฆษณาสร้างถนนเห็นการส่องกล้องส�ำรวจ ต้องปีนเขาไต่เชือกเพื่อ ส�ำรวจพืน้ ที่ เกิดความชอบในอาชีพนีท้ นั ที ถามแม่วา่ ต้องเรียนอะไร ถึงจะได้ท�ำงานแบบนี้ แม่บอกว่าต้องเรียนวิศวะ ซึ่งเข้าเรียนยาก หากอยากเป็นวิศวกร ต้องขยันเรียนหนังสือ สายวิทยาศาสตร์ ซึ่ง เมื่อเข้าเรียนได้ก็รู้สึกว่าใช่เลย ตรงกับความคิดความฝันเลย อาชีพวิศวกรเป็นอาชีพที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม ความมั่นคง แข็งแรงปลอดภัยของสิ่งก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นอาคาร ถนน หรือ สะพาน เป็นสิ่งที่ส�ำคัญที่สุด ดังนั้นจะต้องออกแบบและควบคุมให้

เป็นไปตามหลักวิศวกรรมและหลักจรรยาบรรณวิชาชีพ ผมจะรู้สึก เศร้าใจทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์อาคารถล่ม ถนนหรือสะพานพังและ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยเฉพาะหากเป็นโครงการที่อยู่ใน ความรับผิดชอบของผมด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระหว่างก่อสร้างหรือ หลังจากการเปิดใช้งานแล้ว จะรูส้ กึ ว่าเรามีสว่ นท�ำให้เกิดความสูญเสีย ท�ำบาปกรรมหากเป็นญาติพนี่ อ้ งหรือคนทีเ่ รารักจะรูส้ กึ อย่างไร และ จะต้องพยายามแก้ไขป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก 2. ความท้าทายในเส้นทางข้าราชการในฐานะวิศวกรสร้างทาง และสะพาน ส่วนตัวผมจากประสบการณ์การท�ำงานมี 2 ประเด็น คือ 1. ในส่วนตัวของอาชีพข้าราชการจะต้องน�ำหลักการด้าน วิศวกรรมมาปรับใช้ให้สอดคล้องถูกต้องตามกฎระเบียบ ขั้นตอน

ถอดสูท ทช. วิธกี ารปฏิบตั งิ านราชการ ซึง่ ข้าราชการต้องศึกษา ระเบียบต่าง ๆ ของราชการที่เกี่ยวข้องและขอค�ำแนะน�ำจากผู้บังคับบัญชาหรือ ผู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติงานตั้งแต่เริ่มต้น จนแล้วเสร็จให้เป็นไปตามระเบียบทางราชการที่เกี่ยวข้อง 2. ในส่วนของงานก่อสร้างจะต้องใช้หลักการด้านวิศวกรรม ที่เรียนมาตลอดมาตรฐานต่าง ๆ ของกรมมาประยุกต์ใช้งาน เพื่อ ก�ำกับ ควบคุม บริหารงานก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ ได้คุณภาพงานที่ดี มั่นคงแข็งแรง ปลอดภัย ไม่เกิดอันตรายต่อ ผู้ใช้ทาง ทั้งในระหว่างการก่อสร้างและหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ หากเห็นว่าไม่ปลอดภัย ไม่ถูกต้อง แบบแปลนการก่อสร้างมีข้อ ผิดพลาด หรือสามารถท�ำได้ดีกว่าแบบก�ำหนดต้องรีบแก้ไขทันที โดยยึดหลักประโยชน์ของประชาชนและราชการเป็นส�ำคัญ 3. เหตุการณ์ที่ท�ำให้ประทับใจและจดจ�ำต่อการปฏิบัติหน้าที่ ตลอดระยะเวลาการรับราชการแบ่งเป็น 2 เรื่อง 1. เรื่องบุคคลที่ผมได้มีโอกาสท�ำงานกับท่านอดีตอธิบดี กรมโยธาธิการ (ท่านนิยม นิยมานุสร) ท่านอดีตวิศวกรใหญ่ กรมโยธาธิการ (ท่านเสรี สุธรรมชัย) ท่านวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมทางหลวงชนบท และท่านชาติชาย ทิพย์สุนาวี อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งผมได้รับความรู้ ประสบการณ์ ค�ำปรึกษาในทุก ๆ ด้านเพือ่ แก้ไขข้อบกพร่องให้ผมและยังเป็นแบบ อย่างให้ผมในการท�ำงานตลอดจน การใช้ชีวิตส่วนตัว ผมได้รับ ความรักความเมตตาจากท่านดังกล่าวโดยทีไ่ ม่เคยรูจ้ กั กันมาก่อน เป็นแรงบันดาลใจให้ผมตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ และ น�ำประสบการณ์เหล่านั้นไปถ่ายทอดให้ข้าราชการรุ่นน้อง ๆ อีกด้วย 2. ในเรือ่ งงานทีไ่ ด้มโี อกาสร่วมงานกับเพือ่ นร่วมงาน เริม่ งาน ใหม่ ๆ ของส�ำนักก่อสร้างทาง เช่น การเวนคืน การใช้ IT มา ประยุกต์ใช้ในการควบคุมงานก่อสร้าง และโครงการก่อสร้าง โครงข่ายถนนเพื่อแก้ไขปัญหาน�้ำท่วมกรุงเทพและปริมณฑล ในอนาคต ได้เห็นความส�ำเร็จของงานเหล่านี้ แก้ไขปัญหาความ เดือดร้อนของประชาชนได้ตามเป้าหมาย

“ทางหลวงชนบท

11

4. ปัญหาและอุปสรรคที่ยากที่สุดในการปฏิบัติหน้าที่วิศวกร สร้างทางและมีแนวทางในการแก้ไขอย่างไรบ้าง ส�ำหรับผมแล้วท�ำอย่างไรจึงจะก่อสร้างถนนและสะพานให้ได้ มาตรฐานดังนี้ 1. มั่นคงแข็งแรง ไม่ช�ำรุดเสียหายในระยะเวลาอันรวดเร็ว 2. ระหว่างการก่อสร้าง ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ ประชาชน ในการด�ำเนินชีวิตตามปกติสุขและไม่เกิดอุบัติเหตุจาก การก่อสร้างถนนของเรา 3. หลังเปิดใช้งาน ถนนมีความสะดวก ปลอดภัย ในการสัญจร 4. มีความสวยงาม ซึ่งการด�ำเนินการเพื่อให้ได้คุณภาพงาน ดังกล่าว ต้องอาศัยปัจจัยหลายด้าน เช่น มีผู้ควบคุมงานและ ที ม งานที่ เ ข้ ม แข็ ง คณะกรรมการตรวจการจ้ า งที่ ดี มี ค วามรู ้ ประสบการณ์ ผมโชคดีที่ได้มีพี่น้อง เพื่อนร่วมงานที่ดี เก่ง คอยให้ การสนับสนุนและให้ค�ำแนะน�ำที่ดีแก่ผม เช่น พี่จุมพล แม้นญาติ คุณวทัญญู ฐิตานุวงศ์ คุณกนกกร จตุจนิ ดา คุณสมเกียรติ ชัยประเสริฐ คุณฉัตรนภา รักชาติเจริญ คุณเขตโสภณ โภคารัตนานันท์ รวมทั้ง คุณสุรพันธ์ ไตรรัตน์ ท�ำให้สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ส�ำเร็จ ผลงานมี คุ ณ ภาพดี สวยงาม ได้ รั บ ค�ำชมเชยจากประชาชน อย่างกว้างขวาง ซึ่งผมขอขอบคุณท่านเหล่านั้นเป็นอย่างยิ่งที่ท�ำ สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้น 5. กว่าจะถึงวันนี้ (วันที่ขึ้นเป็น CEO กรมทางหลวงชนบท) มีหลักในการท�ำงาน และด�ำเนินชีวิตในสายอาชีพให้ประสบ ความส�ำเร็จอย่างไร 1. ตั้งใจท�ำงานไม่ประมาท 2. ถ้ามีปญ ั หาศึกษาหาความรูเ้ พิม่ เติมและสอบถามพี่ ๆ และ เพื่อน ๆ ที่มีประสบการณ์ 3. ค�ำนึงถึงส่วนรวมเป็นล�ำดับแรก เนื่องจากเป็นข้าราชการ รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน 4. เป็นวิศวกรท�ำงานต้องยึดหลักวิศวกรรมและจรรยาบรรณ วิชาชีพ 5. ท�ำงานเป็นทีม รับฟังความคิดเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ 6. ถ้าเราผิดพลาดบกพร่องต้องยอมรับผิดและปรึกษาพี่ ๆ เพื่อรีบแก้ไขโดยเร็ว

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

12 ถอดสูท ทช.

6. การบริหารจัดการในฐานะ CEO กรมทางหลวงชนบทมีแนวคิดและหลักการอย่างไร 1. ยึดนโยบายของรัฐบาล กระทรวงและกรม เป็นแนวทางการบริหาร 2. ก�ำกับ ติดตาม ประเมินผล อย่างต่อเนื่องเพื่อให้งานที่ได้รับมอบหมายมีประสิทธิภาพและแก้ไขปัญหา ได้ทันเวลา 3. ท�ำงานเป็นทีม รับฟังความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสิ่งที่ดีมากขึ้น 7. สิ่งส�ำคัญและท้าทายที่สุดในการบริหารงานของวิศวกรใหญ่ และมีวิธีการจัดการอย่างไรให้เกิด ความสมดุล การบริหารบุคคล เนื่องจากคุณภาพของงานของกรม บุคคลากรมีส่วนส�ำคัญมาก ในด้านความรู้ อาจไม่แตกต่างกันมากนัก แต่แนวคิดและวิสยั ทัศน์ของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน การมองภาพรวม ของงานตัง้ แต่ตน้ จนจบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ท�ำให้เกิดข้อผิดพลาดด้วยความรูเ้ ท่าไม่ถงึ การณ์ได้ ผมใช้วิธีเชิญมาหารือ รับฟังความคิดเห็นและท�ำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาของ เขาทุกระดับ ชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริง แนวคิดในการแก้ไขปัญหา ข้อดี ข้อเสีย โดยยึดหลักแก้ไขปัญหา อย่างยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อทางราชการและเป็นไปตามกฎระเบียบของทางราชการ และถ้าเห็นตรง กันแล้ว ก็ขอให้น�ำไปขยายผลต่อไปด้วย 8. วิศวกรใหญ่มวี ธิ กี ารแบ่งสัดส่วนเวลาของชีวติ เพือ่ น สังคม ครอบครัวและเวลาของงานอย่างไร ให้ลงตัวที่สุด เรือ่ งนีเ้ ป็นเรือ่ งยากส�ำหรับผม แต่อย่างน้อยวันอาทิตย์จะเป็นวันของครอบครัว วันเสาร์เป็นสังคมและ เพือ่ น ถ้าว่างก็อยูก่ บั ครอบครัว ส่วนวันธรรมดาท�ำงานออกจากบ้านเช้ากว่าจะกลับถึงบ้านก็คำ�่ แล้ว เนือ่ งจาก ทั้งเรื่องงานและปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ผมโชคดีภรรยาผมและญาติฝ่ายภรรยารับผิดชอบดูแลลูก ๆ เป็นส่วนใหญ่ ผมจึงท�ำงานได้เต็มทีไ่ ม่มคี วามกังวลใจ ทัง้ ยังได้รบั การสนับสนุนการท�ำงานจากครอบครัวเป็นอย่างดี 9. สิ่งที่รักที่สุดในสายอาชีพ และอยากฝากให้น้องๆ สานต่อเพื่อให้ด�ำรงอยู่ต่อไปคืออะไร การเป็นข้าราชการที่ท�ำหน้าที่เป็นวิศวกร เพราะสามารถขับเคลื่อนงานก่อสร้างงานทางและสะพานให้ ขยายไปอย่างกว้างขวางทัว่ ประเทศ ท�ำประโยชน์ให้สงั คม แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน ให้ได้รบั ความ สะดวก ปลอดภัย มีความสุขในการเดินทาง ทัง้ ไปโรงเรียน ขนส่งสินค้าเกษตรกรรม อุตสาหกรรม คนเจ็บไข้ ได้ป่วยไปโรงพยาบาลแม้กระทั่งถนนที่สวยงามท�ำให้เกิดการท่องเที่ยวสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนได้ ยังเคยคิดว่า เราเกิดมาไม่เสียชาติเกิดเหมือนกัน วารสาร กรมทางหลวงชนบท

นายโกสินท์ พิทยะเวสด์สุนทร วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านควบคุมการก่อสร้าง)

อยากจะบอกให้ชาว ทช. ได้ภูมิใจในภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเราทุก ๆ ท่านด้วย ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทย ท�ำให้ประชาชน สะดวกสบาย ปลอดภัย มีความสุข มีรอยยิ้ม ทุกครั้งที่ใช้โครงข่ายทางของ ทช. ถือเป็นเกียรติยศของพวกเราคนสร้างทาง

ทช. เพื่อประชาชน

13

บรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

กรมทางหลวงชนบท มอบถุงยังชีพแก่ประชาชนชุมชนสามัคคีร่วมใจ นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทมอบ ถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนชุมชนสามัคคีร่วมใจ (บางบัว) เขตบางเขน กรุงเทพฯ จ�ำนวน 140 ครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จ�ำเป็น ได้แก่ ข้าวสาร อาหารแห้ง น�้ำดื่ม และหน้ากากอนามัย ซึ่งบริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) ได้น�ำไข่ไก่สดมาร่วมสมทบ เพือ่ ช่วยเหลือแจกจ่ายให้แก่ประชาชนทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัส โคโรนา 2019 (COVID – 19) ที่มีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของประชาชนในชุมชน ณ บริเวณชั้น 1 ด้านหน้าอาคาร 2 กรมทางหลวงชนบท

“ทางหลวงชนบท

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

14

Travel on rural Roads คลายร้อนที่น้ำ�ตกห้วยวังใหญ่ แวะสวนทุเรยนภู ี เขาไฟ สนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน กับสายทางหลวงชนบทศรสะเกษ ี

ร้อน ร้อน ร้อน ย่างเข้าเดือนเมษาผู้อ่านคงถามหาความเย็นเพื่อคลายร้อน

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

บ้างก็นึกถึงทะเล ห้องแอร์ หรือไอศกรีม แต่ Travel on Rural Roads นึกถึงสายทางหลวง ชนบท ศก.4054 เข้าสู่น�้ำตกห้วยวังใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนจะแนะน�ำการเดินทางเพื่อ ลดอุณหภูมใิ นร่างกายและเติมพลังชีวติ ในช่วงฤดูรอ้ น เรามาท�ำความรูจ้ กั กับแหล่งท่องเทีย่ ว “น�ำ้ ตกห้วยวังใหญ่” ซึง่ อยูใ่ นเขตรักษาพันธุส์ ตั ว์ปา่ พนมดงรัก ส�ำนักบริหารพืน้ ทีอ่ นุรกั ษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต�ำบลละลาย อ�ำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เกิดจากห้วยขยูงทีม่ ตี น้ น�ำ้ มาจากเทือกเขาพนมดงรัก ด้านล่างเป็นแอ่งกว้าง มีโขดหิน และต้นไทรใหญ่แผ่ปกคลุมหนาแน่น ด้านบนมีแอ่งน�้ำไม่ลึก เหมาะส�ำหรับเล่นน�้ำ และพักผ่อนบนลานหินเพื่อฟังสายน�้ำตกกระทบโขดหินเหมือนเพลงบรรเลงของขวัญ จากธรรมชาติ ระหว่างนัง่ ฟังเสียงนำ�้ ตกจะมีฝงู ผีเสือ้ จ�ำนวนมากคอยบินทักทายนักท่องเทีย่ ว เหมือนเจ้าบ้านต้อนรับแขกคนส�ำคัญ คืองามแท้หนอ สวรรค์บนดินของภาคอีสาน นักท่องเทีย่ ว ที่สนใจสมุนไพรยังสามารถศึกษาได้จากที่นี่ซึ่งมีไม่ต�่ำกว่า 1,000 ชนิด ใครที่ชอบท่องเที่ยว แบบธรรมชาติ เงียบสงบ ต้องหลงใหลความงามของธรรมชาติแบบไม่ตอ้ งศัลยกรรม ไม่ผดิ หวัง แน่นอน นอกจากนี้บริเวณน�้ำตกจะมีหน่วยพิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พนมดงรักที่คอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวด้วย การเดินทาง : ออกเดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ ด้วยสายทางหลวงหมายเลข 221 ประมาณ กม.ที่ 56 + 400 เลี้ยวขวาเข้าสายทางหลวงชนบท ศก.3005 ประมาณ 25 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2335 ประมาณ 2 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้าย เข้าสายทางหลวงชนบท ศก.4054 เดินทางอีก 12 กิโลเมตร ก็ถึงจุดหมาย

Travel on rural Roads

15

คลายร้อนกับน�ำ้ ตกห้วยวังใหญ่เรียบร้อยแล้วแวะฝากท้องกับสวนทุเรียนภูเขาไฟ ต�ำบลพราน อ�ำเภอขุนหาญ บนสายทางหลวงชนบท ศก.3040 การปลู ก ทุ เ รี ย นที่ จั ง หวั ด ศรี ส ะเกษ ปลู ก กั น มานานกว่ า 20 ปี แ ล้ ว แต่ ที่ โ ด่ ง ดั ง และเป็ น ที่ รู ้ จั ก อย่ า งแพร่ ห ลาย คือ “ทุเรียนภูเขาไฟ” เพราะลักษณะพื้นที่ปลูกเป็นดินภูเขาไฟ เป็นดินแดง โปร่ง ระบายน�้ำได้ดี มีธาตุอาหารจากดินภูเขาไฟ จึงท�ำให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากทุเรียนของจังหวัดอื่น ๆ เนื้อทุเรียนจะกรอบนอก นุ่มใน ละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุนมาก ซึ่งเป็นจุดเด่นของทุเรียนภูเขาไฟ ในช่วงฤดูผลผลิตทุเรียนภูเขาไฟจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาซื้อและแวะชิมทุเรียนจ�ำนวนมาก กรมทางหลวงชนบทจึงเข้าไปสนับสนุนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวเชิงนิเวศของจังหวัดเพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และส่งเสริม เศรษฐกิจชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งขึ้น การเดินทาง : เส้นที่ 1 ออกเดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ บนทางหลวงหมายเลข 221 ประมาณ กม.ที่ 56+400 เลี้ยวขวาเข้าสาย ทางหลวงชนบท ศก.3005 ประมาณ 6 กิโลเมตร จะพบกับ 4 แยกแล้วเลี้ยวขวาเข้าสายทางหลวงชนบท ศก.3040 จากนั้นให้ขับมาสักพัก จะพบกับบริเวณสองข้างทางสวนทุเรียนภูเขาไฟ ต�ำบลพราน อ�ำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เส้นที่ 2 ออกเดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษบนทางหลวงหมายเลข 221 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสายทางหลวงหมายเลข 24 ขับตรงไป ประมาณ 4 กิโลเมตร จะเจอปั้มเล็ก ๆ หน้าทางเข้าให้เลี้ยวซ้ายเข้าสายทางหลวงชนบทหมายเลข 2042 จากนั้นให้ขับมาสักพักจะพบกับ สวนทุเรียนภูเขาไฟบ้านซ�ำตารมย์

“ทางหลวงชนบท

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

16

Travel on rural Roads

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

สร้าง

ทางหลวงชนบทสาย ศก.3039 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 - บ้านพิมาย อ�ำเภออุทุมพรพิสัย, ปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ

เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง เสริมการขนส่งและการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ

กรมทางหลวงชนบท ให้ความส�ำคัญต่อความปลอดภัยในการเดินทางของ ประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ โดยแขวงทางหลวงชนบทศรีสะเกษ ได้ด�ำเนินการ ปรับปรุง Recycling เสริมผิวลาดยางแบบแอสฟัลติกคอนกรีต ระยะทาง 5.890 กิโลเมตร บนทางหลวงชนบทสาย ศก.3039 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 บ้านพิมาย อ�ำเภออุทุมพรพิสัย, ปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้สามารถเดินทาง ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมการขนส่งพืชผลทางการเกษตรจาก อ�ำเภออุทุมพรพิสัยสู่อ�ำเภอปรางค์กู่ พร้อมทั้งสนับสนุนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของ จังหวัด อ�ำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม “ทางหลวงชนบท

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

ซ่อม ส่งเสริม

17

18 สร้าง

ซ่อม ส่งเสริม

ทช.ห่วงใยประชาชน

เตรียมแนวทางรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

เข้าสู่เดือนมิถุนายน ช่วงฤดูฝนโปรดระมัดระวังการใช้รถและ ถนนเป็นพิเศษ กรมทางหลวงชนบท ห่วงใยประชาชน ติดตามเตรียม รับมือกับอุทกภัยอย่างใกล้ชิด ทบทวนแนวทางการเตรียมความ พร้อมเพื่อให้หน่วยงานในส่วนภูมิภาค ส�ำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท และหมวดบ�ำรุงทางหลวงชนบท ด�ำเนินการ ไปในทิ ศ ทางเดี ย วกั น ให้ ส ามารถช่ ว ยเหลื อ ประชาชนได้ อ ย่ า ง ทันท่วงที โดยแบ่งการเตรียมความพร้อมรับมือ เป็น 3 ระยะ ดังนี้ 1. ก่อนเกิดเหตุ จัดเจ้าหน้าที่เข้าด�ำเนินการท�ำความสะอาด ช่ อ งทางระบายน�้ ำ ตั ด หญ้า ก�ำจั ด วั ช พื ช ที่ ข วางทางระบายน�้ ำ ท่อลอด สะพาน และตัดแต่งกิ่งไม้ในเขตทาง ป้องกันกิ่งไม้ตกหล่น หักโค่น เตรียมพร้อมบุคลากร เครือ่ งมือ เครือ่ งจักร อุปกรณ์อ�ำนวย ความปลอดภัย เพือ่ พร้อมสนับสนุนการอพยพเคลือ่ นย้ายประชาชน ออกจากพื้นที่ประสบภัยหรือพื้นที่เสี่ยงภัย

2. ขณะเกิดเหตุ ด�ำเนินการบริหารจัดการเส้นทางและอ�ำนวย ความสะดวกให้ประชาชน เร่งด�ำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นในกรณี ถนนหรื อ สะพานขาด จั ด หาทางเลี่ ย งให้ ป ระชาชนสามารถใช้ เส้นทางได้ชั่วคราว หากมีต้นไม้หักโค่นขวางเส้นทาง ให้รีบน�ำ เครื่ อ งมื อ เครื่ อ งจั ก รเข้ า ด�ำเนิ น การทั น ที พร้ อ มทั้ ง บู ร ณาการ ประสานกั บ หน่ ว ยงานของจั ง หวั ด ในการช่ ว ยเหลื อ ประชาชน ตลอดจนรายงานข้ อ มู ล สายทางที่ ป ระสบอุ ท กภั ย ให้ ผู ้ บ ริ ห าร ได้รับทราบจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ 3. หลั ง น�้ ำ ลด หากตรวจพบสายทางที่ เ กิ ด ความเสี ย หาย รุนแรง ให้ด�ำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถ สัญจรไปมาได้ภายใน 7 วัน และเข้าด�ำเนินการส�ำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา พร้ อ มภาพถ่ า ยสภาพความเสี ย หายหลั ง น�้ำ ลด เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูต่อไป

สร้าง

ซ่อม ส่งเสริม

19

เข้มงวดรถบรรทุก จัดตั้งด่านชั่งน้ำ�หนักยานพาหนะเคลื่อนที่บนทางหลวงชนบท กรมทางหลวงชนบท จัดตั้งด่านชั่งน�้ำหนักยานพาหนะแบบ เคลื่อนที่ เพื่อตรวจสอบน�้ำหนักของรถบรรทุกที่เกินมาตรฐาน ตามมาตรการของกระทรวงคมนาคมและกรมทางหลวงชนบท ป้องกันการช�ำรุดของพื้นผิวถนนในระยะยาว ตามพระราชบัญญัติ ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 61 ซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีโทษจ�ำคุก หรือ ทั้งจ�ำทั้งปรับ และอาจถูกริบรถบรรทุกที่ใช้ในการกระท�ำความผิด นั้นด้วย โดยส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 7 (อุบลราชธานี) ได้ร่วม กับแขวงทางหลวงชนบทศรีสะเกษ และหมวดบ�ำรุงทางหลวงชนบท อุทุมพรพิสัย จัดตั้งด่านชั่งน�้ำหนักยานพาหนะแบบเคลื่อนที่บน ทางหลวงชนบทสาย ศก.3007 แยก ทล.226 - บ้านหนองแคนใหญ่ “ทางหลวงชนบท

อ�ำเภออุทมุ พรพิสยั , เมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ รวมทัง้ ส�ำนักงาน ทางหลวงชนบทที่ 15 (อุดรธานี) ตัง้ ด่านชัง่ น�ำ้ หนักยานพาหนะแบบ เคลื่อนที่บนทางหลวงชนบทสาย นภ.3005 แยก ทล.210 - บ้านกุด กระสู้ อ�ำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวล�ำภู, ทางหลวงชนบทสาย นภ.3038 และ นภ.3037 ถนนผังเมืองรวมจังหวัดหนองบัวล�ำภู โดยผลการตรวจสอบในบริเวณสายทางดังกล่าว ไม่พบรถบรรทุกที่ มีน�้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งนอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจตราเข้มงวด รถบรรทุกไม่ให้มี เศษหิน ดิน ทราย ตกหล่นบนพื้นผิวจราจรหรือ ไหล่ทาง เพื่ออ�ำนวยความสะดวกปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ทางอีกด้วย

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

20 สร้าง

ซ่อม ส่งเสริม

ยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการเดินทาง ของประชาชน ทางหลวงชนบทสาย ชบ.4082 จ.ชลบุรี

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

กรมทางหลวงชนบท อ�ำนวยความสะดวกและปลอดภัย แก่ประชาชนในการเดินทาง และการขนส่งพืชผลทางการเกษตร ทางหลวงชนบทสาย ชบ.4082 จังหวัดชลบุรี เชื่อมต่อทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 3401 ผ่านตัวอ�ำเภอหนองใหญ่ ไปบ้านคลองพลู บรรจบกับทางหลวงชนบทสาย รย.5002 จังหวัดระยอง และยังเป็น เส้นทางลัดจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 (แยกเนินโมก) ผ่ า นทางหลวงแผ่ น ดิ น หมายเลข 3401 เข้ า สู ่ ท างหลวงชนบท สาย ชบ.4082 เพื่อไปยังอ�ำเภอหนองใหญ่ได้อีกด้วย ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 3 (ชลบุร)ี ด�ำเนินการก่อสร้างถนน และยกระดับชั้นทาง พร้อมด�ำเนินโครงการอ�ำนวยความปลอดภัย

และปรับปรุงแก้ไขบริเวณเสี่ยงอันตรายบนทางหลวงชนบทสาย ชบ.4082 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3401 - บ้านคลองพลู อ�ำเภอหนองใหญ่, บ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยแบ่งการด�ำเนินงาน ออกเป็น 2 โครงการ ประกอบด้วย 1. ช่วง กม.ที่ 15+000 - 18+000 ได้ด�ำเนินการก่อสร้าง ผิวจราจรแบบแอสฟัลต์คอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร ความกว้าง รวม 9 เมตร ระยะทาง 3 กิโลเมตร 2. ช่วง กม.ที่ 11+210 - 12+000 ได้ด�ำเนินโครงการอ�ำนวย ความปลอดภัยและปรับปรุงแก้ไขบริเวณจุดเสี่ยง

บ้านเลขที่

9

21

ทช. พร้อมใจ อำ�นวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ฉีดวัคซีน ป้องกันไวรัสโคว ิด-19

“ทางหลวงชนบท

กรมทางหลวงชนบท ด�ำเนินตามมาตรการของกระทรวง คมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข น�ำบุคลากรเข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกันไวรัสโควิด -19 ซึง่ บุคลากรด้านการคมนาคมเป็นบุคลากร ด่านหน้าทีม่ คี วามส�ำคัญ มีความเสีย่ งสูงจากการให้บริการประชาชน และการติดต่อประสานราชการ ทัง้ นี้ เพือ่ ให้เกิดความปลอดภัย สร้าง ความเชือ่ มัน่ ต่อประชาชนผูม้ าติดต่อราชการ ลดการแพร่ระบาดของ เชือ้ ไวรัสโควิด -19 กระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข ได้ ร่วมบูรณาการสถานีกลางบางซือ่ ให้เป็นศูนย์ฉดี วัคซีนกลางบางซือ่ (Central Vaccination Center COVID-19) ศูนย์ฉดี วัคซีนนอก โรงพยาบาล ซึง่ สามารถฉีดวัคซีนได้ประมาณวันละ 10,000 คนต่อวัน โดยจะทยอยฉีดบุคลากรด่านหน้าจากกระทรวงคมนาคม หน่วยงาน ราชการ องค์กร และประชาชนทีล่ งทะเบียนในล�ำดับถัดไป ซึง่ เปิด ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนทุกวัน ตัง้ แต่เวลา 08.00 - 20.00 น. ทช. ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าทีท่ กุ ภาคส่วน ทีร่ ว่ มเสียสละปฏิบตั งิ านในสถานการณ์โควิด -19 และขอร่วมเป็น ก�ำลังใจแก่ทกุ ท่านให้กา้ วผ่านสถานการณ์โควิด -19 นีไ้ ปด้วยดี ทัง้ นี้ ทช.ได้ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าทีด่ �ำเนินการจิตอาสาในการให้บริการ อ�ำนวยความสะดวก ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและเจ้าหน้าทีจ่ าก หน่วยงานต่าง ๆ ทีเ่ ข้ามารับการฉีดวัคซีน ณ สถานีกลางบางซือ่ โดยแนะน�ำข้อมูลเบือ้ งต้นในการฉีดวัคซีน ขัน้ ตอนในการด�ำเนินการ และตอบข้อสงสัยต่าง ๆ แก่ผใ้ ู ช้บริการ เพือ่ ลดภาระในการท�ำงานของ บุคลากรทางการแพทย์ จนกว่าภารกิจ ณ สถานีกลางบางซือ่ จะสิน้ สุด

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

22 กฎหมายน่ารู้ นายอาหมัด สองเมือง นิติกรช�ำนาญการพิเศษ ผู้อ�ำนวยการกลุ่มนิติกรรมและจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน

ทายาท

โดยพินัยกรรมกับ โดยธรรมใครมีสิทธิดีกว่ากัน

ในกรณีทเี่ จ้าของมรดกเสียชีวติ แล้วเจ้าของทรัพย์มรดกได้ เขียนพินัยกรรมไว้ ยกทรัพย์สินให้แก่ผู้รับพินัยกรรมโดยไม่ยก ทรัพย์สนิ ให้แก่ทายาทโดยธรรม ในการแบ่งทรัพย์มรดกให้แบ่ง ทรัพย์สินตามพินัยกรรมก่อน แล้วจึงน�ำทรัพย์มรดกที่เหลือมา แบ่งให้แก่ทายาทโดยธรรมต่อไป ดังนั้น ทายาทโดยพินัยกรรม จึงมีสิทธิดีกว่าทายาทโดยธรรม ทัง้ นี้ เป็นไปตาม มาตรา 1620 แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ที่บัญญัติว่า “ถ้าผู้ใดตายโดยไม่ได้ท�ำพินัยกรรม หรือท�ำพินัยกรรมไว้โดยไม่มีผลบังคับได้ ให้ปันทรัพย์มรดก ทั้งหมดให้แก่ทายาทโดยธรรมของผู้ตายนั้นตามกฎหมาย

ถ้าผูใ้ ดตายโดยท�ำพินยั กรรมไว้ แต่พนิ ยั กรรมนัน้ จ�ำหน่าย หรือ มีผลบังคับได้เพียงแต่บางส่วนแห่งทรัพย์มรดก ให้ปันส่วน ที่มิได้จ�ำหน่ายโดยพินัยกรรม หรือส่วนที่พินัยกรรม ไม่มีผล บังคับให้แก่ทายาทโดยธรรมตามกฎหมาย”

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

จริยธรรมนำ�ใจ

นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วย รองอธิบดีและวิศวกรใหญ่ ให้ความส�ำคัญกับกิจกรรมรณรงค์เสริมสร้างค่านิยมกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพือ่ ต้าน การทุจริต โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากรมทางหลวงชนบทได้ด�ำเนินการตามนโยบายของ รัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยให้ความส�ำคัญกับการสร้างค่านิยมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งมีกองส่งเสริมจริยธรรมและป้องกันการทุจริตเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนภารกิจ ดังกล่าว ดังนั้น เพื่อเป็นการต่อยอดการด�ำเนินการไปสู่กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพื่อ ต้านการทุจริต พร้อมทัง้ อธิบดี ผูบ้ ริหารระดับสูงทุกท่านได้เชิญชวนบุคลากรกรมทางหลวงชนบท ทุกคน ร่วมกันเป็นส่วนหนึง่ ของการสร้างกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพือ่ ต้านการทุจริต โดยเริ่มต้นจากสังคมขนาดเล็กแต่มีความส�ำคัญที่สุด ซึ่งได้แก่ สถาบันครอบครัว ไปสู่องค์กร วิชาชีพซึ่งเป็นสังคมที่สร้างแรงขับเคลื่อนได้มากที่สุด โดยกิจกรรมรณรงค์เสริมสร้างค่านิยมฯ ครั้งนี้ ชาวกรมทางหลวงชนบททุกคนจากทั่วประเทศจะร่วมมือกันท�ำให้กรมทางหลวงชนบท เป็ น หน่ ว ยงานที่ น�ำพาสั ง คมไปสู ่ ก ารเปลี่ ย นแปลง ภายใต้ คุ ณ ธรรมน�ำไทย 4 ประการ “พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา”

“ทางหลวงชนบท

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

23

24

มองผ่านเลนส์

การมีส่วนร่วมภาคประชาชน เป็นหลักการในการบริหารราชการ แผ่นดินตามหลักธรรมาภิบาล

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

การมีส่วนร่วมภาคประชาชน เป็นหลักการในการบริหารราชการแผ่นดิน ตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งจะน�ำไปสู่ระบบราชการที่มีความสุจริตโปร่งใส เปิด เผยข้อมูล เทีย่ งธรรม และมีการบริหารงานทีเ่ น้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้าง ความพึงพอใจให้แก่ประชาชน และความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง “กรมทางหลวงชนบท” ได้ด�ำเนินการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกโครงการ ด้วยการส่งเสริมให้มีการจัดเวที/การประชุม เพื่อสร้างความเข้าใจ และให้ ประชาชน เข้ามามีสว่ นร่วมตัง้ แต่เริม่ ต้นกระบวนการ ซึง่ เป็นผูท้ ไี่ ด้รบั ผลกระทบ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ก่อให้เกิดประโยชน์ กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม/ ภาคประชาชน อันเป็นการสร้างพลังความร่วมมือในการขับเคลื่อนการพัฒนา ระบบราชการไปสูเ่ ป้าหมาย คือ เพิม่ ประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดิน และ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง รวมทัง้ ผลของการพัฒนา ที่เกิดประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน สังคม และประเทศชาติ อย่างยั่งยืน

เรื่องเล่าจากนายช่าง

25

นายสมุทย์ ผลาชีวะ ต�ำแหน่งนายช่างโยธาอาวุโส ส�ำนักก่อสร้างทาง

เรื่องเล่าจากนายช่าง เข้ารับราชการเมือ่ วันที่ 9 เมษายน 2534 ที่ ศูนย์ปฏิบตั กิ ารเร่งรัดพัฒนาชนบท ประจันตคาม กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท กระทรวงมหาดไทย และได้โอนย้ายมาที่ กองสาธารณสถานและทางหลวงท้องถิน่ กรมโยธาธิการ เมือ่ เดือนพฤษภาคม 2535 สาเหตุเพราะเคยท�ำงานอยู่ที่นี่ครับ ปฏิบัติงานควบคุมงานก่อสร้างทางมาโดยตลอด ซึ่งสมัยก่อนเป็นสัญญาจ้าง แบบเหมารวม (Lump sum) เริม่ จากเป็นผูช้ ว่ ยผูค้ วบคุมงานในจังหวัดสมุทรปราการ, จังหวัดสระบุร,ี จังหวัดตรังและจังหวัดกระบี่ ได้รบั แต่งตัง้ เป็นผูค้ วบคุมงาน โครงการ ก่อสร้างถนนลาดยางสายแรก เมื่อปี 2537 ที่อ�ำเภอเมือง จังหวัดยะลา จากนั้นก็มา ควบคุมงานก่อสร้างถนนที่จังหวัดสตูล สงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช ท�ำงาน ก็มีปัญหาตามสภาพพื้นที่ เราก็ควบคุมงานให้ถูกต้องตามรูปแบบและข้อก�ำหนดใน สัญญาจ้าง เช่น งานที่จังหวัดสงขลามีปัญหาเนื่องจาก เจ้าของที่ดินแจ้งความด�ำเนิน คดี กับ อบต. ผู้รับจ้าง ผู้ว่าจ้าง(กรมฯ) ในข้อหาบุกรุกและท�ำลายทรัพย์สิน ซึ่งผมใน ฐานะผู้ควบคุมงาน จ�ำเป็นต้องไปขึ้นศาล โดยที่เราก็ให้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เช่น สัญญาจ้าง รายงานประจ�ำวัน รายงานประจ�ำสัปดาห์ รูปถ่าย ส่งให้อัยการช่วยแก้ ต่างคดีให้ เมื่อผมต้องขึ้นให้การกับศาล (ขณะนั้นควบคุมงานอยู่ที่จังหวัดหนองคาย) ตามความเป็นจริง(ตื่นเต้นมาก ๆ) ต่อมาทนายความก็แจ้งว่าเจ้าของที่ดินขอถอน การด�ำเนินคดีกับกรมฯ คดีเป็นอันสิ้นสุด แต่เราก็ต้องแก้ไขสัญญาและแบบก่อสร้าง เนื่องจากต้องปรับลดระยะทางก่อสร้าง ก่อนหน้าที่คดีจะสิ้นสุดเสียอีก เมือ่ ปี 2541 ก็มคี �ำสัง่ ให้ไปควบคุมงานทีจ่ งั หวัดหนองคาย ก็ท�ำงานด้วยความ สนุก ท�ำงานที่เรารักกับมันท�ำให้เราท�ำได้ดี งานในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนท�ำงาน ง่ายเพราะชาวบ้านต้องการถนนที่กว้างผ่านบ้านใครก็ชอบ เลยไม่ค่อยมีการแก้ไข ปัญหาเท่าไรนัก คุมงานที่จังหวัด อุดรธานี, เลย และสกลนคร จนกระทั่งมาถึงการ เปลีย่ นแปลงเนือ่ งจากการปฏิรปู ระบบราชการ ปี 2545 ได้มาอยูท่ ี่ กลุม่ งานทางหลวง ชนบท ส�ำนักก่อสร้างทาง กรมทางหลวงชนบท เราก็ยงั คงเป็นผูค้ วบคุมงานฯเหมือนทีเ่ คยปฏิบตั มิ า แตกต่างกันทีเ่ ป็นสัญญา จ้างแบบจ่ายเงินตามปริมาณงานทีท่ �ำจริง (Unit Cost) งานเริม่ มีขนาดใหญ่ขน้ึ มีงาน ปริมาณการก่อสร้างมากขึน้ แบบก่อสร้างมีความซับซ้อนมากขึน้ ส่วนมากแล้วงานใน กลุม่ งานเป็นการจ้างเหมาก่อสร้างแบบด�ำเนินการควบคุมงานเอง มีบางสายทีจ่ า้ งให้ บริษัทที่ปรึกษาเป็นผู้ควบคุมงาน ตั้งแต่ปี 2545 ก็ควบคุมงานก่อสร้าง หลายจังหวัด ย้ายไปเรื่อย มีจังหวัด เพชรบูรณ์ สมุทรสาคร, สระแก้ว, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, กาญจนบุรี, บุรีรัมย์, สุรนิ ทร์ และนครราชสีมา ชอบงานก่อสร้างทุกจังหวัด โดยเฉพาะทีจ่ งั หวัดกาญจนบุรี ได้ด�ำเนินการก่อสร้างถนนสายเข้าวัดทิพย์สุคนธาราม ต�ำบลดอนแสลบ อ�ำเภอ

“ทางหลวงชนบท

ห้วยกระเจา เป็นงานก่อสร้างถนนรอบองค์พระ พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ เป็นองค์พระยืนเป็นพระพุทธรูปปางขอฝน ขนาดใหญ่ ใน พระบรมราชินูปถัมภ์ มีความสูงประมาณ 32 เมตร เป็นรูปปั้นที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ของประเทศไทย เป็นการท�ำงานกันหลายหน่วยงานรวมกัน มีส�ำนักงานทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์ กรมชลประทาน สวนนงนุช ท�ำให้ต้องบูรณาการและประสาน งานร่วมกัน วางแผนงานก่อสร้าง การแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ทันตามวัตถุประสงค์เพื่อ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ เนือ่ งในโอกาสมหามงคลทีท่ รงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 เป็นการท�ำงานครั้งแรกที่มีกล้องวงจรปิดบันทึก ตลอด 24 ชั่วโมง จ�ำนวน 20 ตัว จนกระทั่งด�ำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยปัจจุบัน โครงการและศูนย์การเรียนรู้โดยรอบอยู่ภายใต้การดูแลของส�ำนักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ กรมทางหลวงชนบท ยังได้มอบความรู้ในด้านอื่น ๆ ในการเข้ารับการอบรมใน หลาย ๆ หลักสูตร ตามช่วงเวลาของการท�ำงาน เช่น หลักสูตรนักเจรจาไกล่เกลีย่ จัดโดย ส�ำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า, หลักสูตรนายช่างผู้ควบคุม โครงการก่อสร้างทาง รุ่น 4 จัดโดยสมาคมทางหลวงแห่งประเทศไทย, หลักสูตรการมี ส่วนร่วมภาคประชาชน รุ่น 13 จัดโดยสถาบันพระปกเกล้า, หลักสูตรการเสริมสร้าง กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม จัดโดยกรม ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม, หลักสูตรการพัฒนาองค์ความรู้การก่อการร้าย และการ ก่อความไม่สงบ ส�ำหรับผูบ้ ริหาร รุน่ ที่ 13 จัดโดยโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เป็นต้น จากการท�ำงานด้านควบคุมงานก่อสร้างถนนมากกว่า 30 ปี กรมฯยังได้มอบ หมายให้เป็นวิทยากร บรรยาย “หลักสูตรการควบคุมงานก่อสร้างทางและสะพาน” รุ่น 1, 2 จัดโดยส�ำนักฝึกอบรม กรมทางหลวงชนบท และ สอนวิชาการส�ำรวจเพื่อ การก่อสร้าง โรงเรียนแผนที่ กรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในปีการ ศึกษา 2560 – 2563 อีกด้วย ขอฝากน้อง ๆ ที่เริ่มควบคุมงานก่อสร้าง ปัจจุบันมีการตรวจสอบจากหลาย ๆ หน่วยงานและจากประชาชนในท้องที่ จึงขอให้น้อง ๆ ด�ำเนินการตามระเบียบและ ขั้นตอนต่าง ๆ ที่ กรมฯ มีแนวทางไว้ เช่นการด�ำเนินการมีส่วนร่วมภาคประชาชน การจัดท�ำรายงานประจ�ำวัน/ประจ�ำสัปดาห์ คส./ทส. เป็นต้น มีประโยชน์มาก ๆ เพราะการด�ำเนินการต่าง ๆ ที่กล่าวมาจะช่วยให้เราปลอดภัยในการท�ำงาน และ ควรศึกษาเพิ่มเติมความรู้ไปเรื่อย ๆ ตลอดการท�ำงานนะครับ ขอบคุณครับ

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

26

ทช. วาไรตี้

อัตราค่าธรรมเนียมการทดสอบวัสดุ สำ�นักวิเคราะห์วิจัยและพัฒนา กรมทางหลวงชนบท

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

ความส�ำคัญของการทดสอบวัสดุไม่สามารถละเลยได้ การก่อสร้างจ�ำเป็นต้องมีการทดสอบวัสดุ ผูค้ วบคุมงานจะต้องตรวจสอบ ให้แน่ใจว่าวัสดุที่ใช้ตรงตามมาตรฐาน เพื่อดูความแข็งแรงของวัสดุที่จะใช้ก่อสร้าง วัสดุใดจะต้องทดสอบจะก�ำหนดไว้ในเงื่อนไข การก่อสร้าง เช่น การทดสอบหาก�ำลังต้านทานแรงอัดของคอนกรีต แต่วสั ดุบางอย่างจะมีมาตรฐานอุตสาหกรรมประทับตราหรือ แสดงไว้ทวี่ สั ดุแล้ว เช่น เหล็กก็ไม่จ�ำเป็นต้องทดสอบ แต่ถา้ ผูใ้ ช้วสั ดุนนั้ ไม่แน่ใจก็อาจท�ำการทดสอบว่าถูกต้องตามมาตรฐาน หรือ ตามทีป่ ระทับตราหรือไม่ ส�ำหรับหน่วยงานทีจ่ ะท�ำหน้าทีท่ ดสอบนัน้ ขึน้ อยูก่ บั ข้อก�ำหนดในสัญญา หากหน่วยงานผูว้ า่ จ้างมีแผนก หรือกองที่ท�ำหน้าที่ทดสอบมาตรฐานหรือวิเคราะห์วิจัยอยู่แล้วก็จะก�ำหนดให้แผนกหรือกองนั้นเป็นผู้ทดสอบ หรือมีผลทดสอบ ออกจากหน่วยงานราชการที่เชื่อถือได้ กรมทางหลวงชนบท โดยส�ำนักวิเคราะห์วิจัยและพัฒนา ได้ก�ำหนดอัตราค่าธรรมเนียม การทดสอบวัสดุไว้ดังนี้

ทช. วาไรตี้ บัญชีแนบ

อัตราค่ าธรรมเนียมการทดสอบวัสดุ วัสดุ / การทดสอบ ดินเดิม / ดินถม / ทรายถม Subgrade วัสดุคดั เลือก / ทรายถม Selected Material

ลูกรัง / หินคลุก / กรวดคลุก Subbase / Base / Shoulder / Surface

ทดสอบความแน่ นในสนาม

Prime Coat Cape Seal / Para Cape Seal Slurry Seal / Para Slurry Seal AC. / Polymer Modified AC. Natural Rubber Modified AC.

ตัวอย่างจาก Plant / หน้ างาน

ตัวอย่าง AC

(ไม่ผ่านการบดอัด) ตัวอย่างบดอัดประจาวัน 8 ก้ อน/วัน ตัวอย่าง Core จากหน้ างาน

Recycling / Soil Cement UNCONFINED หิน (ผสมคอนกรี ต) ทราย (ผสมคอนกรี ต) แท่งคอนกรี ต Cube แท่งคอนกรี ต Cylinder

Proving Ring Hydraulic Jack (Compressive Test)

รายการทดสอบ

ราคา/หน่ วย

Gradation Compaction (Standard) CBR (Lab) + Swell Gradation Atterberg Limits Compaction (Modified) CBR (Lab) + Swell Gradation Atterberg Limits Compaction (Modified) CBR (Lab) + Swell Abrasion (L.A.) Soundness Field Density ออกแบบ ออกแบบ/ตรวจสอบ ออกแบบ/ตรวจสอบ

150 150 500 150 100 200 500 150 100 200 500 200 500 200 500 3,000 2,000

ออกแบบ/ตรวจสอบ

3,000

Bitumen Content Gradation of Extracted Aggregate Stability & Flow Density Density ออกแบบหาอัตราส่ วนผสม Cement Compaction (Modified) Compressive (ตัวอย่างบดอัดจากหน้ างาน) Gradation Abrasion (L.A.) Gradation + Fineness Modulus Organic Impurities Compression Compression ค่าเคลือบหัวคอนกรี ต  15 ซม.

Calibration Calibration Tensile Test (@ 3 ท่อน / 1 ชุด / ขนาด) Tensile Test (@ 3 ท่อน / 1 ชุด / ขนาด) Tensile Test (@ 3 ท่อน / 1 ชุด / ขนาด)

300 400 100

เหล็กเส้ น, เหล็ กเชื่อกมแรงดึงสูง, Wire Mesh ลวดเหล็ PC-Wire, ลวดเกลียว PC-Strand หมายเหตุ กรณีที่สง่ ลวดเกลียวทดสอบ ตัองตัดเป็ นท่อนละ 1 เมตร พร้ อมต้ องนำ Grip จับมำด้ วย

“ทางหลวงชนบท

50 1,200 200 300 100 200 150 150 20 40 100 300 400 50 100 150

ราคารวม

ปริ มาณ วัสดุ ที่สง่

เอกสาร ระยะเวลา ประกอบ วันทาการ ทีใช้

800

50 kg.

ข้ อกาหนด

Spec.

7 วัน

ตามแบบ

Spec.

950

50 kg.

ข้ อกาหนด ตามแบบ

7 วัน

Spec.

1,150 1,650

50 kg.

ข้ อกาหนด

7 วัน

ตามแบบ

200 500 3,000 2,000

@50 kg. @50 kg. @50 kg.

Job Mix Job Mix

7 วัน 2 วัน 10 วัน 14 วัน 14 วัน

3,000

@50 kg.

Job Mix

14 วัน

500

Spec./แผนผัง

20 kg.

700

Job Mix

850

150

4 วัน 3 วัน

ผลบดอัดประจาวัน

1,400

50 kg.

300 @50 kg.

300

@50 kg.

20

Spec. ข้ อกาหนด

Spec. ข้ อกาหนด

Spec. ข้ อกาหนด

140

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

ตามแบบ ตามแบบ

300

300 400 150 300 450

ข้ อกาหนด

ตามแบบ

@1.00m. @1.00m. @1.00m.

Spec. ข้ อกาหนด

มอก.

10 วัน 5 วัน 4 วัน 3 วัน 2 วัน 2 วัน 3 วัน 3 วัน 5 วัน 5 วัน 5 วัน

27

ริมทางชนบท 28

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

ริมทางชนบท

“ทางหลวงชนบท

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

29

30

Spotlight หนองเรือ ท บ น งช ว ล ห าง ท ง รุ � ำ บ ด ว ม รห ชื่นชมบุคลาก ้รับ ด ไ ่ ี ท น งา � ำ “ท ! น ่ ั ล ง ขอ า ้ เจ น คื ง ส่ � นำ น ิ จ.ขอนแก่น เจอกระเป๋าเง ้ดีที่สุด” มอบหมายให้เต็มที่ และทำ�วันนี้ให

Facebook Fanpage “หมวดบ�ำรุงทางหลวงชนบทหนองเรือ” เปิดเผยเรือ่ งราวทัง้ 2 เหตุการณ์โดยระบุวา่ เหตุการณ์นเี้ กิด เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 นายบุญมี หนุนเจริญ พนักงานทั่วไป บ1 ได้ปฏิบัติหน้าที่งานตัดหญ้าบริเวณสองข้างทาง ในสายทาง ขก.2063 แยกทางหลวงหมายเลข 12 – บ้านท่าเรือ อ.หนองเรือ, บ้านฝาง, อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึง่ เป็นถนนเลียบเขือ่ นอุบลรัตน์ มีรถจักรยานยนต์ มาสอบถามว่า ได้พบกระเป๋าเงินหล่นแถวนี้มั้ย ซึ่งได้หายไปตั้งแต่เมื่อวาน (24 มีนาคม 2564) ในขณะนั้น ได้ตอบไปว่าไม่เจอ และได้ขอเบอร์โทรศัพท์เจ้าของกระเป๋าไว้ และบอกว่าหากเจอจะโทรไปแจ้ง และหลังจากนั้นไปท�ำงาน ตัดหญ้าต่อได้ประมาณ 500 เมตร ก็พบว่ามีกระเป๋าตกอยู่ หล่นในป่าข้างทาง บัตรในกระเป๋าหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้น จึงตรวจดูทบี่ ตั รประชาชน พบว่าเป็นคนคนเดียวกับทีม่ าสอบถามและให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ ซึง่ เจ้าของกระเป๋าได้โพสความประทับใจ ลงกลุ่ม Facebook เรียกเสียงชื่นชมของคนในกลุ่ม เพราะถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม และอีกหนึ่งเหตุการณ์ ที่นายทองคุณ ดุ่งมะรี พนักงานทั่วไป บ1 สังกัด หมวดบ�ำรุงทางหลวงชนบทหนองเรือ อีกเช่นกัน ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อ�ำนวยความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี2564 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 ซึ่งออกลาดตระเวน ในสายทาง ขก.2071 แยกทางหลวงหมายเลข 12 – บ้านสามสวน อ.หนองเรือ, บ้านแท่น จ.ขอนแก่น ขณะลาดตระเวน พบสิง่ ของวางอยูบ่ นถนน จึงได้บอกทีมงานจอดรถลงไปดู พบว่าเป็นโทรศัพท์ จึงได้ตกลงกันกับเพือ่ น ๆ ทีไ่ ปด้วยกันว่าจะจอดรอ สักพัก เผื่อเจ้าของกลับมาตามหา หรือเจ้าของโทรเข้ามาที่เครื่อง จึงได้นัดกับเจ้าของมารับ

วารสาร กรมทางหลวงชนบท

การมีส่วนร่วม

เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

โครงการสำ�รวจออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ด้านตะวันตก (ตะนาวศรี) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการส�ำรวจออกแบบ เส้นทางท่องเทีย่ วเลียบชายฝัง่ ทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ด้านตะวันตก (ตะนาวศรี) เพือ่ ให้ ผูท้ มี่ สี ว่ นเกีย่ วข้องและประชาชนในพืน้ ทีไ่ ด้รบั ทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง และขัน้ ตอนการด�ำเนินงาน ของโครงการ รวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อน�ำไป ประกอบแผนการด�ำเนินงานในอนาคต ในการยกระดับและเพิม่ ศักยภาพของโครงข่ายสายทาง ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว โดยจะมีจุดเริ่มต้นจาก อ�ำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ไปสิน้ สุดทีอ่ �ำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ ประกอบด้วย แนวเส้นทางหลัก เพื่อเชื่อมต่อแนวเส้นทางการท่องเที่ยว แนวเส้นทางที่แยกออกไปยัง แหล่งท่องเที่ยว และแนวเส้นทางที่แยกออกจากแนวเส้นทางหลัก เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับ ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4) ที่ผ่านมา ทช.ได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศ) ไปแล้ว โดยเชิญประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จังหวัดเพชรบุรี 6 อ�ำเภอ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2 อ�ำเภอ ซึ่งได้อธิบายถึงความเป็นมา วัตถุประสงค์ แนวคิด การออกแบบเบื้องต้น แผนด�ำเนินการ และได้จัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นและการ มีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 2 (กลุ่มย่อย) จ�ำนวน 10 เวที ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและ ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้เข้าร่วมประชุม 830 คน เพื่อน�ำเสนอรายละเอียด รูปแบบ แนวคิดในการ พัฒนาโครงการ รวมทัง้ การศึกษาและการเก็บข้อมูลด้านสิง่ แวดล้อม พร้อมทัง้ รับฟังข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากประชาชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ผู้น�ำชุมชน ผูบ้ ริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ในพืน้ ที่ โดยจะน�ำข้อมูลทีไ่ ด้ไปประกอบการด�ำเนินงานของ โครงการและจะจัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น การมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 3 (กลุ่มย่อย) จ�ำนวน 10 เวที และครั้งที่ 4 (ปัจฉิมนิเทศโครงการ) ต่อไป “ทางหลวงชนบท

เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”

31