ปีที่ 18 ฉบับเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2563
กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
ทางหลวงชนบทสาย ขก. 2063
www.drr.go.th
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
ALK Editor’s T
K L A T s ’ r o t i d . E ช ท
ขึ้น กับยุคสมัยมาก า ้ ข เ ้ ให า ห อ ้ ื เน มากขึ้น ักษณ์และ ลี่ยนแปลงรูปล ้ถึงได้ง่ายและมีทางเลือกเพิ่ม าพ เป ร า ก ี ม 4 6 5 ะได้ทั้งภ ่านเข้าได ศักราช 2 แรกของปีพุทธ ok อีกหนึ่งช่องทางเพื่อให้ผู้อ .CODE ที่ติดอยู่ เพียงเท่านี้จ งชนบท บ ั บ ฉ .) ช (ท R างหลวงชนบท การน�ำเสนอในรูปแบบ E-bo รถสัมผัสได้โดยการสแกน Q าวและเสน่ห์สองข้างทางหลว ลอง วารสารกรมท ู้อ่านสามา ีมงานเพิ่ม อายลมหน ามการทด ี ๆ เช่นเดิม ท นใจในมิติต่าง ๆ ของ ทช. ผ ral roads พาไปสัมผัสกลิ่น ลัมน์ ทช. อัพเดท พาไปติดต ด ะ ร า งส ค ง ั ย ่ วคิดและ ต แ เนื้อหาที่น่าส ์ Travel on ru คัญ จังหวัดชลบุรีมาฝาก, คอ มาพูดคุยถึงแน ทยี่ ว ย น ว ้ ท ม ั ด บ ล น ่ น อ น ค งช แ ิ ว ด ั ท ล า งอ อ งห ค า และยัง ผนทอ่ งเ รงการส�ำ ิบดีกรมท ด้วยตัวเอง ีความคืบหน้าโค อดสูท ยังได้รับเกรียติจากอธ ทู้ เี่ ปดิ อา่ น ไมว่ า่ จะเปน็ การวางแ นได้เดินทางไป ม อ ื ม ส ั ส ก ฟ งเ ย ี .โ ช เส ท ะ ล , แ แก่น Oถ รบั ผ นอกจากนี้ CE ทฉบบั นจี้ ะเปน็ ประโยชนส์ ำ� ห นบทไปพร้อมกัน รัก จังหวัดขอน ณ ดินแดนแห่ง างพารา (RFB.) จังหวัดเลย บ น วงช ุ้มย กรมทางหลวงช ู้สองข้างทางหล ิตดตั้งแบริเออร์ห อื่ ใหเ้ กดิ ความสมดลุ วารสาร หมายที่ควรรู้ และการเรียนร ชวี ติ เพ ชน กฎ หลกั การดำ� เนนิ งรายได้ของชุม า ้ ร ส ร า ก น ช ม ุ ีวิตช การเรียนรู้วิถีช
ขอคุย
ntS e ONT ทช. ร่วมใจภักดิ์
ทช.ร่วมพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคม ณ พระบรมรูปทรงงาน จ.สมุทรปราการ
กิจกรรมผู้บริหาร ทช. โฟกัส
โครงการก่อสร้างถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 7 (กม.ที่ 107+200) – ท่าเรือแหลมฉบัง อำ�เภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ทช. อัพเดท
ลย. 2002 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 - บ้านนาซำ�แซง อำ�เภอภูเรือ, อำ�เภอวังสะพุง จังหวัดเลย
ถอดสูท ทช. CEO……ถอดสูท ทช. เพื่อประชาชน
กรมทางหลวงชนบท ติดตั้งสะพานเบลีย์ บนถนนสาย ชน.5028 บ้านวังหมัน จ.ชัยนาท แล้วเสร็จ และเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรแล้ว Travel on rural roads Travel on rural Road......ขก. 4063 แวะไหว้พระ พักบางแสน (2) เช็คอินความรัก เสพธรรมชาติอุทยาน ริมทางชนบท “สะพานเบลีย์” ตัวช่วยสำ�คัญเวลาเกิดอุทกภัย
สร้าง ซ่อม ส่งเสริม บ้านเลขที่ 9
ในวาระครบรอบ 18 ปี กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม
กฎหมายหน้ารู้ เรื่อง รถบรรทุกสิ่งของ จริยธรรมนำ�ใจ โครงการบรรยายธรรมะ หัวข้อ “ทำ�งานอย่างไร ให้มีความสุข” มองผ่านเลนส์ ถนนสร้างรายได้ ต่อยอดและพัฒนาชุมชน เรื่องเล่าจากนายช่าง/ อ่านดีมีรางวัล ทช. วาไรตี้ Spotlight
ทช. คว้ารางวัลที่ 1 “GRAA 2020 ด้านความปลอดภัยทางถนน จากสมาพันธ์ทางหลวงโลกประเทศสหรัฐอเมริกา” เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทเพชรบูรณ์เก็บกระเป๋าสตางค์ส่งคืนเจ้าของ
การมีส่วนร่วม / คลินิกนายช่าง
กองบรรณาธิการ ผู้อำ�นวยการสำ�นักบริหารกลาง สำ�นักส่วนกลาง สำ�นักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท หมวดบำ�รุงทางหลวงชนบท กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ จัดทำ�โดย สำ�นักบริหารกลาง กรมทางหลวงชนบท เลขที่ 9 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 โทรศัพท์ 0 2551 5202 www.drr.go.th
Department of Rural Roads
3 4-5 6-7 8-9 10 - 11 12 13 - 16 17 18 - 21 22 - 23 24 25 26 27 28 - 29 30 31
สารบัญ
ทช. ร่วมใจภักดิ์
ทช.ร่วมพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคม ณ พระบรมรูปทรงงาน จ.สมุทรปราการ เนือ่ งในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมพิ ล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กรมทางหลวงชนบท ร่วมพิธวี างพวงมาลาและ ถวายบังคม ณ พระบรมรูปทรงงาน บริเวณสวนสุขภาพลัดโพธิ์ จ.สมุทรปราการ (13 ต.ค.63) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม น�ำคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม หัวหน้าหน่วยงาน และพนักงานในสังกัด กระทรวงคมนาคม ร่วมพิธวี างพวงมาลาและถวายบังคมหน้าพระบรมรูปทรงงาน เนื่ อ งในโอกาสวั น คล้ า ยวั น สวรรคตพระบาทสมเด็ จ พระบรมชนกาธิ เ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย เพื่อเป็นการน้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ และ พระราชกรณียกิจอันใหญ่หลวงที่ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชน โดยมี นายถาวร เสนเนียม นายอธิรฐั รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารระดับสูงกระทรวง คมนาคม หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมในพิธี ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท มีนายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้ อ มคณะผู ้ บ ริ ห าร ร่ ว มในพิ ธี ว างพวงมาลาและพิ ธี ถ วายบั ง คมน้ อ มร� ำ ลึ ก ณ พระบรมรูปทรงงาน บริเวณสวนสุขภาพลัดโพธิ์ ต�ำบลทรงคะนอง อ�ำเภอ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
“ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
3
4
กิจกรรมผู้บริหาร อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ประชุมคณะกรรมการพิจารณา จัดทำ�โครงการที่ต้องดำ�เนินการ เวนคืนอสังหาริมทรัพย์
นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิ บ ดี ก รมทางหลวงชนบท เป็ น ประธานการประชุ ม คณะกรรมการพิ จ ารณาจั ด ท� ำ โครงการที่ ต้ อ งด� ำ เนิ น การเวนคื น อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ครั้ ง ที่ 1/2563 เพื่ อ รั บ ฟั ง รายงานความก้ า วหน้ า ยกร่ า งพระราชกฤษฎี ก าประจ� ำ ปี ง บประมาณ พ.ศ.2563 ผลสรุ ป โครงการที่ ไ ด้ รั บ การ จั ด สรรงบประมาณ พ.ศ.2564 พร้ อ มพิ จ ารณาแผนยกร่ า ง พระราชกฤษฎีกา แผนงานโครงการที่จะเสนอขอรับการสนับสนุน งบประมาณ ประจ�ำปี พ.ศ.2565 โดยมีผบู้ ริหารระดับสูง ผูอ้ ำ� นวยการ ส�ำนักในส่วนกลาง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมธารสิทธิ์พงษ์ กรมทางหลวงชนบท เขตบางเขน กรุงเทพฯ
รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ประชุมคณะกรรมการ กำ�หนดมาตรฐานงานทางกรมทางหลวงชนบท
นายประศักดิ์ บัณฑุนาค รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการก�ำหนดมาตรฐานงานทาง กรมทางหลวงชนบท ครั้งที่ 3/2563 เพื่อพิจารณาการปรับปรุง มทช.101-2561 : มาตรฐานงานคอนกรีตและคอนกรีตเสริมเหล็ก และ จัดท�ำมทช.247-2563 : มทช.247-2563 : งานท�ำเครื่องหมายจราจรบนผิวทางด้วยวัสดุโคลต์พลาสติกสะท้อนแสง ณ ห้องประชุม 3 กรมทางหลวงชนบท เขตบางเขน กรุงเทพฯ กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
กิจกรรมผู้บริหาร รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครัง้ ที่ 2 (EIA) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา – ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง นายไกวัลย์ โรจนานุกูล รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมคณะ ลงพื้นที่รับฟัง ความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาความเหมาะสมผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในขั้นรายละเอียด (EIA) ก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ต�ำบลเกาะใหญ่ อ�ำเภอ กระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา – ต�ำบลจองถนน อ�ำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง เพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโครงการฯ แนวคิดในการคัดเลือกแนวสายทางและรูป แบบของสะพาน พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในด้านต่างๆ จากประชาชนใน พื้นที่ต�ำบลเกาะใหญ่ ต�ำบลเชิงแส ต�ำบลกระแสสินธุ์ ต�ำบลโรง อ�ำเภอกระแสสินธุ์ อ�ำเภอ สทิงพระ จังหวัดสงขลา และพื้นที่ต�ำบลจองถนน ต�ำบลเขาชัยสน ต�ำบลหานโพธิ์ อ�ำเภอ เขาชัยสน อ�ำเภอโคกม่วง อ�ำเภอควนขนุน อ�ำเภอเขาชัยสน อ�ำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง
วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท นำ�บุคลากรเข้าร่วม
โครงการบรรยายธรรมะ หัวข้อ “ทำ�งานอย่างไร ให้มีความสุข”
นายโกสิ น ท์ พิ ท ยะเวสด์ สุ น ทร วิ ศ วกรใหญ่ กรมทางหลวงชนบท (ด้านควบคุมการก่อสร้าง) เป็น ประธานเปิดโครงการบรรยายธรรมะ หัวข้อ “ท�ำงาน อย่ า งไร ให้ มี ค วามสุ ข ” โดยมี น ายชยทั ต วั ฒ นกู ล ผู ้ อ� ำ นวยการกองส่ ง เสริ ม จริ ย ธรรมและป้ อ งกั น การ ทุจริต กล่าวรายงาน ในการจัดบรรยายธรรมะในครั้งนี้ มีบคุ ลากรของกรมเข้าร่วมรับฟังบรรยายมากกว่า 100 คน และได้รับเกียรติจากพระอาจารย์หาญศักดิ์ ชนฺติสุโภ วัดวิมุตยาราม เป็นผู้บรรยายธรรม ณ ห้องประชุมคุณา กูลสวัสดิ์ ชั้น 9 อาคาร 4 กรมทางหลวงชนบท โดยได้มี การถ่ายทอดสดผ่านช่องทาง facebook Live ไปยัง บุคลากรในส่วนภูมิภาคได้ร่วมรับชม ส�ำหรับโครงการบรรยายธรรมะฯ มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้กับบุคลากรของ กรมให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจ ในหลักธรรมค�ำสอน ของพระพุทธศาสนาให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถน�ำหลัก ธรรมค�ำสอนมาปรับใช้ในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวัน ให้ เกิดทัศนคติที่ดีต่อการท�ำงาน อย่างมีประสิทธิภาพ อีก ทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ในการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้บุคลากรของกรม มีทัศนคติ ค่านิยม ในการปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ “ทางหลวงชนบท
วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท ประชุมคณะทำ�งาน กำ�หนดแนวทางและ หลักเกณฑ์การประเมินผลการดำ�เนินงาน เพื่อสร้างเอกลักษณ์ทาง ทช. ครั้งที่ 2
นายวิศว์ รัตนโชติ วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านบ�ำรุงรักษาทางและสะพาน) ประชุมคณะท�ำงาน ก�ำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์การประเมินผลการด�ำเนินงาน เพื่อสร้างเอกลักษณ์ทาง ทช. ครั้งที่ 2 เพื่อติดตามผล การประเมิ น และวิ เ คราะห์ ก ารด� ำ เนิ น งานเพื่ อ สร้ า ง เอกลักษณ์ทาง ทช. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พร้อม หลั ก การและแนวทางการประเมิ น ผลการด� ำ เนิ น งาน เพือ่ สร้างเอกลักษ์ทาง ทช. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และ การน�ำเสนอในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูง ประจ�ำเดือน ธันวาคม 2563 ณ ห้องประชุมคุณากูลสวัสดิ์ ชัน้ 9 อาคาร 4 กรมทางหลวงชนบท ทัง้ นีเ้ พือ่ การพัฒนาบุคลากรกรมให้ปฏิบตั งิ านจนเกิด เป็นนิสัย มีวินัย มุ่งหวังให้เกิดคุณภาพ และประโยชน์ของ ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
5
6
ทช. โฟกัส
โครงการก่อสร้างถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 7
(กม.ที่ 107+200) – ท่าเรือแหลมฉบัง อำ�เภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ท่าเรือแหลมฉบัง อ�ำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็น ท่าเรือสินค้าหลักของประเทศ ในปัจจุบนั ได้เปิดด�ำเนินการตาม โครงการถึงระยะที่ 2 และจะมีการขยายเข้าสูโ่ ครงการระยะที่ 3 ทางทิศใต้ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเป็นการขนส่งทางถนนรองรับ การขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ที่เข้า – ออก ท่าเรือแหลมฉบัง ซึง่ จะใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 เป็นสายหลัก สภาพ ปัจจุบนั มีปริมาณการจราจรหนาแน่นและติดขัด หากมีการเปิด โครงการท่าเรือในระยะที่ 3 จะมีปัญหาการจราจรมากยิ่งขึ้น
กรมทางหลวงชนบท ได้ท�ำการส�ำรวจออกแบบโครง ข่ายถนนเพื่อเชื่อมต่อทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 บริเวณ กม.ที่ 107+200 ถึงท่าเรือแหลมฉบัง อ�ำเภอศรีราชา จังหวัด ชลบุรี ซึ่งถนนสายดังกล่าว มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเพื่อ รองรับปริมาณการจราจร และการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ จากท่าเรือแหลมฉบัง เป็นการแบ่งเบาปริมาณการจราจรบน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 ซึ่งมีปริมาณการจราจรที่หนา แน่นและติดขัด พร้อมทัง้ เป็นการรองรับการขยายตัวของท่าเรือ แหลมฉบังในอนาคตอีกด้วย
กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
ทช. โฟกัส ถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 7 (กม.ที่ 107+200) – ท่าเรือแหลมฉบัง อ�ำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นการ ก่อสร้างถนนผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 6 – 8 ช่อง จราจร ผิวจราจรกว้างข้างละ 3.50 เมตร พร้อมทางเท้ากว้าง ข้างละ 3.00 เมตร ไหล่ทางคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้างข้างละ 3.25 เมตร พร้อมก่อสร้างสะพานขนาดใหญ่ข้ามทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) 1 แห่ง ความยาวรวม 378.24 เมตร พร้อมก่อสร้างระบบระบายน�้ำ เครื่องหมาย จราจรและอุปกรณ์อำ� นวยความสะดวกและปลอดภัย และติด ตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง โครงการก่ อ สร้ า งถนนสายแยกทางหลวงแผ่ น ดิ น หมายเลข 7 (กม.ที่ 107+200) - ท่าเรือแหลมฉบังอ�ำเภอ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีจุดเริ่มต้นโครงการเริ่มจาก กม.ที่ 8+700 ของทางหลวงชนบทสาย ชบ.3009 ไปทางด้านทิศ ตะวันตก ข้าม ทล.7 (กม.ที่ 107+200) ข้ามจุดตัดทางแยก บริเวณบ้านหนองคล้า ข้ามทางรถไฟสายตะวันออก และ ข้าม ทล.3 (กม.ที่ 131+450) สิ้นสุดโครงการบริเวณท่าเรือ แหลมฉบัง รวมระยะทางประมาณ 10.570 กิโลเมตร โดยมี 4 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น กม.ที่ 7+800 ถึง กม.ที่ 10+570 ระยะทางทั้งสิ้น 2.770 กิโลเมตร ตอนที่ 2 จุดเริม่ ต้น กม.ที่ 5+600 ถึง กม.ที่ 7+800 ระยะ ทางทั้งสิ้น 2.200 กิโลเมตร ตอนที่ 3 จุดเริม่ ต้น กม.ที่ 2+900 ถึง กม.ที่ 5+600 ระยะ ทางทั้งสิ้น 2.700 กิโลเมตร ตอนที่ 4 จุดเริม่ ต้น กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 2+900 ระยะ ทางทั้งสิ้น 2.900 กิโลเมตร โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 1,446,990,000.00 บาท
“ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
7
8
ทช. อัพเดท ลย. 2002 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 - บ้านนาซำ�แซง อำ�เภอภูเรือ, อำ�เภอวังสะพุง จังหวัดเลย
ลย.2002
ผู้อ่านหลายท่านคงทราบกันดีว่า รัฐบาลได้มีโยบายให้ช่วยเหลือเกษตรกร ชาวสวนยางพาราจากสถานการณ์ยางพาราตกต�่ำ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่ม มูลค่าการใช้ยางพาราเพื่อช่วยกันพยุงราคายางพาราให้มีมูลค่าสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ใน ปัจจุบนั กระทรวงคมนาคมได้นำ� นโยบายดังกล่าวมาศึกษาเพือ่ ให้เป็นไปตามนโยบาย รัฐบาล จากการศึกษาพบว่าแนวทางที่ดีที่สุด คือ การน�ำยางพารามาใช้ในการผลิต อุปกรณ์อ�ำนวยความปลอดภัยบนท้องถนน ประกอบด้วย แผ่นยางธรรมชาติหุ้มแท่ง คอนกรีตแบริเออร์ (Rubber Fender Barrier = RFB.) และเสาหลักน�ำทาง (Rubber Guide Post = RGP.) มีการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ มีผลเป็นที่น่าพอใจเป็นไป ตามมาตรฐานสากลแผ่นยางพาราทีใ่ ช้หมุ้ แท่งคอนกรีตแบริเออร์ และเสาหลักน�ำทาง ผ่านกระบวนการผลิตโดยพี่น้องสหกรณ์ชาวสวนยางพารา มีการจัดซื้อโดยตรง ไม่ผา่ นพ่อค้าคนกลาง ทีผ่ า่ นมากรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ได้ดำ� เนินการ ทดสอบร่วมกับสถาบันทีม่ ชี อื่ เสียงด้านความปลอดภัยบนท้องถนน และได้มกี ารติดตัง้ น�ำร่องในจังหวัดเลยเป็นทีแ่ รก ณ สายทางหลวงชนบท ลย.2002 แยกทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 21 – บ้านนาซ�ำแซง อ�ำเภอภูเรือ, อ�ำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ช่วง กม. ที่ 4+900 ถึง กม. ที่ 9+545 ระยะทางรวม 145 เมตร
ลย.2002
ลย.2002
ลย.2002 กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
ทช. อัพเดท
นายธันว์ สินธวาลัย ผู้อ�ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทเลย
วารสารกรมทางหลวงชนบทได้รบั เกรียติจากผูอ้ ำ� นวยการ แขวงทางหลวงชนบทเลย (ธันว์ สินธวาลัย) น�ำลงพื้นที่สาย ทางหลวงชนบท ลย.2002 ในบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยงอันตราย ของถนนสายนี้ โดยผู้อ�ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทเลยได้ ให้ข้อมูลกับทีมงานว่า ที่ผ่านมามีการเกิดอุบัติเหตุในบริเวณดัง กล่าวค่อนข้างบ่อยเพราะสภาพภูมศิ าสตร์ จากทีเ่ ราสังเกตพืน้ ที่ มีทั้งความชัน และมีเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยวเนื่องจากสอง ข้างทางเป็นทั้งป่าไม้และเนินเขา นอกจากนี้ผู้ขับขี่มีพฤติกรรม ขับขี่ค่อนข้างรวดเร็ว มีปริมาณรถบรรทุกขนส่งสินค้า/ พืชผล ทางการเกษตรจากสายเหนือสูอ่ สี านตอนล่างค่อนข้างมาก การ ทดลองติดตั้ง RFB. ในบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยงจึงช่วยลดความ รุนแรงจากการเกิดอุบตั เิ หตุบนท้องถนน สร้างความปลอดภัยให้ แก่ผใู้ ช้เส้นทางทีเ่ ดินทางสัญจรระหว่างอ�ำเภอภูเรือและอ�ำเภอ บางสะพุง ตลอดจนสร้างความมั่นใจในการใช้รถใช้ถนนให้กับ ประชาชน ผู้อ�ำนวยการแขวงฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ตั้งแต่ มีการติดตั้ง RFB. ยังไม่มีรายงานอุบัติเหตุเกิดขึ้นถือว่าเป็น “ทางหลวงชนบท
เรื่องที่น่ายินดี และสอดรับกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ในการสร้ า งความปลอดภั ย บนท้ อ งถนนให้ กั บ ประชาชน แต่ อ ย่ า งไรก็ ต ามต้ อ งขอความร่ ว มมื อ ผู ้ ใ ช้ เ ส้ น ทางให้ ขั บ ขี่ ด้วยความระมัดระวัง มีวินัยในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะใน ช่วงเทศกาลที่มีปริมาณจราจรค่อนข้างหนาแน่น ควรจะขับขี่ อย่างมีสติ ไม่ประมาท เมาไม่ขับ หากง่วงก็ควรแวะพักผ่อน ให้เพียงพอก่อนไปต่อ ขอให้ผู้ขับขี่ทุกคนใส่ใจตนเอง และ ใส่ใจเพื่อนร่วมทาง ร่วมกันลดตัวเลขสถิติอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ ขอส่งต่อความห่วงใยจากแขวงทางหลวงชนบทเลย มายังผูอ้ า่ น หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ของสายทางหลวงชนบท ลย.2002 สามารถสแกน QR Code เพื่อรับชมได้ตามด้านล่างนี้ ในฉบับต่อไปทีมงานวารสารกรมทางหลวงชนบทจะน�ำเรือ่ งราวดี ๆ และน่าสนใจมาน�ำเสนอเพื่อให้ได้อัพเดท ความคืบหน้ากันต่อไป
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
9
10 ถอดสูท ทช.
CEO……ถอดสูท
วารสารกรมทางหลวงชนบท ฉบับนี้ได้รับเกรียติจากอธิบดี กรมทางหลวงชนบทมาถอดสูทกับเราในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด การบริหารงาน การจัดตารางเวลาชีวิต และเรื่องราวต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ทีมงานของเราจึงไม่รอช้าที่จะถอดสูท CEO กรมทางหลวงชนบท และต้อง ขอขอบคุณอธิบดีกรมทางหลวงชนบทที่ได้สละเวลาให้ทีมงานของเรา ถอดสูทเพื่อนำ�สาระดี ๆ มาถ่ายทอดในวารสารกรมทางหลวงชนบท ทีมงานหวังว่าแนวคิดดี ๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการนำ�มาปรับใช้ เพื่อให้ประสบความสำ�เร็จในการบริหารงานเหมือน CEO กรมทางหลวงชนบท
Q A
ในปี 2564 กรมทางหลวงชนบท มีเป้าหมายอย่างไร
เป้าหมายที่อยากจะท�ำให้เกิดขึ้น คือ การพัฒนาความสามารถที่ เราสูญเสียไปในอดีต เช่น การออกแบบเอง การคุมงานเอง การปรับปรุง คุ ณ ภาพตั้ ง แต่ ต ้ น น�้ ำ ถึ ง ปลายน�้ ำ ตอนนี้ ที่ เ ราท� ำ คื อ ส� ำ รวจออกแบบ ประมาณราคาให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง แล้วก็น�ำไปสู่การก่อสร้าง งานที่มีคุณภาพ เป็นแนวทางหรือเป็นนโยบายที่จะท�ำโครงการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ขณะนี้ได้ให้ส�ำนักส�ำรวจและ ออกแบบ (สสอ.) และส�ำนักวิเคราะห์ วิจยั และพัฒนา (สวว.) ไปด�ำเนินการ เรือ่ งความปลอดภัยของผูใ้ ช้รถใช้ถนน คือ แบริเออร์คอนกรีตหุม้ ยางพารา (Rubber Finder Berrier หรือ RFB.) และเสาหลักน�ำทาง (Rubber Guide Post หรือ RGP.) เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเพราะจะช่วย อ�ำนวยความปลอดภัยบนท้องถนนให้เพิ่มมากขึ้น แต่บางคนอาจจะมอง ในเรือ่ งของความสบาย เช่น ตรงนีเ้ มือ่ ก่อนเคยข้ามได้ แต่พอเราเอา RFB. ไปกัน้ อาจจะข้ามไม่ได้เหมือนเดิมต้องเดินอ้อมไปนิดหนึง่ เพือ่ ข้ามถนน แต่ เราอยากให้คำ� นึงว่าทีเ่ ราน�ำ RFB. ไปกัน้ เพือ่ ความปลอดภัยของผูใ้ ช้รถใช้ ถนนเอง และ RFB. มีการทดสอบในเรือ่ งความปลอดภัยซึง่ ผลการทดสอบ มีผลเป็นที่น่าพอใจเป็นไปตามมาตรฐานสากล เราต้องการให้ประชาชน ได้รับความปลอดภัยบนท้องถนนมากที่สุด เราอาจจะต้องต่อสู้กับความ ต้องการความสบาย แต่ความสบายเหล่านั้นสวนทางกับความปลอดภัย ของผู้ใช้รถใช้ถนน ดังนั้นจึงจ�ำเป็นจะต้องด�ำเนินการให้ประชาชนได้รับ ความปลอดภัยและเป็นเป้าหมายที่จะต้องด�ำเนินการเพื่อรักษาความ ปลอดภัยให้กบั ประชาชนให้มากทีส่ ดุ โดยได้กำ� ชับให้นำ� ประชาชนเข้ามา
มีส่วนร่วมเพื่อร่วมก�ำหนดแนวทางในการติดตั้ง และ สร้างความเข้าใจในการด�ำเนินโครงการร่วมกัน ในภาพรวมอยากให้ประชาชนรักษาระเบียบวินัย ในการขั บ ขี่ ในส่ ว นกรมทางหลวงชนบทจะอ� ำ นวย ความสะดวกและความปลอดภัยให้ทุกมิติ ไม่ว่าจะด้าน อุตสาหกรรมขนส่ง การขนส่งพืชผลทางการเกษตร การสัญจรตามปกติของประชาชน หรือถ้าจะข้ามล�ำน�้ำ จากอีกฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งก็ต้องสร้างสะพานเชื่อม เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย แต่ถามว่า ปัจจุบันเป็นอย่างไง ยังขาดสะพานชุมชนอีกมาก และ ประชาชนในพืน้ ทีม่ คี วามต้องการให้สร้างสะพานเพือ่ เชือ่ ม สองฝากฝัง่ เพราะจะช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทาง ให้ได้รับความสะดวกมากขึ้น แต่พอมาดูรายละเอียด เราหยุดเรื่องสะพานชุมชน สะพานแขวน หรือสะพาน ที่เราเคยท�ำในอดีตเราหยุดไปนานมาก แต่ประชาชน ยังมีความต้องการอยู่มาก ดังนั้นกรมทางหลวงชนบท จะต้องสร้างสะพานเพื่อไปเชื่อมต่อซึ่งตรงกับพันธะกิจ by pass คือเชือ่ ม link ทีย่ งั ขาดอยู่ เพราะบางทีโรงเรียน กับวัดอยูค่ นละที่ บ้านเรือนกับวัดอยูค่ นละฝัง่ ที่ทำ� กินกับ แหล่งผลิตอยูค่ นละที่ มันขาดสะพานทีจ่ ะเชือ่ ม สะพาน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะเชื่อมโครงข่ายได้ คงจะเน้นเรื่อง เหล่านี้ให้มากขึ้น
กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
Q A
สิ่งที่ต้องการเปลี่ยนแปลงในปี 2564
อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีเพื่อน�ำมา ปรับใช้ในการท�ำงาน หมายถึง บุคคลากรของกรมทางหลวง ชนบทค่อนข้างน้อย มันหลีกเลีย่ งไม่ได้ทจี่ ะต้องท�ำงานทางด้าน เอกสารมาก ถ้าเราน�ำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับ กรมทางหลวงชนบท ตามที่ ใ ห้ แ นวคิ ด กั บ ศู น ย์ เ ทคโนโลยี สารสนเทศไป ถ้าสามารถท�ำได้ เราจะลดภาระได้มาก คือ ไม่มีการลงข้อมูลซ�้ำซ้อน ระบบการค้นหาข้อมูลเข้าถึงง่าย การตรวจสอบข้ อ มู ล การก่ อ สร้ า งรวดเร็ ว อยากจะเห็ น การเปลี่ยนแปลงด้านนี้มากที่สุด อยากให้ศูนย์เทคโนโลยี สารสนเทศเป็นส�ำนัก และดูแลระบบ Digital ให้กา้ วไปข้างหน้า คนของเราจะเพิ่มขึ้นแน่นอน ต่อไปคุมงานจะต้องติดกล้อง Approved ทาง Digital เพราะคนคุมงานมีอยู่คนเดียวต้อง วิ่งดูงานหลายที่ อาจจะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้ เราท� ำ งานได้ อ ย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพเหมื อ นเดิ ม ในทุ ก ที่ ที่ มี การเปลี่ยนแปลง
Q A
หลักในการปกครองคนจ�ำนวนมาก
สิ่งนี้เป็นวัฒนธรรมของเราอยู่แล้วคือความเป็นพี่น้อง ถ้าสังเกตผมจะเรียก “พี่” เวลาคุยกับพวกเรา แต่ผมอายุ มากกว่า จริง ๆ ผมก็เป็นพี่ แต่ผมเรียกพวกเราว่าพี่ซึ่งมัน จะได้ปลดค�ำว่าผู้บังคับบัญชากับลูกน้อง เราท�ำงานร่วมกัน ทีมเวิร์คร่วมกัน ถือว่าเป็นทีมงานเดียวกัน ผมไม่มีค�ำว่าท่าน ถ้าอย่างนั้นผมคิดว่าเหมือนขาดแขนขาในการท�ำงาน การที่ จะบอกว่าเป็นลูกน้องกับเจ้านายถ้าโดยต�ำแหน่งมันมีอยู่แล้ว แต่การท�ำงานไม่จำ� เป็น การมอบหมาย การสัง่ งานมันมีขนั้ ตอน อยู่แล้ว แต่การท�ำงานจริง ๆ เราต้องมีทีมเวิร์คคือท�ำงาน กั น เป็ น ที ม ซึ่ ง แต่ ล ะส� ำ นั ก ก็ ไ ม่ อ ยากให้ ไ ปตั้ ง ว่ า คุ ณ สั่ ง ผม ต้องเป็นหนังสือมา จริง ๆ อยู่แค่นี้ พูดกันก็ได้ ส่วนหนังสือ จะเป็นเรื่องของ Forrmal ของทางราชการก็ว่าไป งานก็จะ รวดเร็วขึ้น แทนที่จะบอกว่า คุณก็ไปท�ำหนังสือมาแล้วผม จะท�ำต่อ อย่างนี้มันไปไม่รอด “ทางหลวงชนบท
ถอดสูท ทช.
Q
11
ในหนึ่งวันอธิบดีต้องสวมหลายบทบาทมาก เป็น CEO เป็นเพื่อน แล้วต้องเป็นคุณพ่อ มีการจัดการ กับสัดส่วนตารางชีวิตอย่างไรบ้าง
A
มันต้องตัดให้ขาดในแต่ละบทบาท คือหลังจากงาน เสร็จแล้วจะกลับไปบ้าน คือ มันต้องไม่เอาเรือ่ งงานตามไปด้วย อาจจะมีตามกลับไปบ้าง เราก็จะไปหามุมเล็ก ๆ ในการสั่งงาน เวลาอยูบ่ า้ น แต่เราต้องให้เวลากับครอบครัว อย่างเช่น ปัจจุบนั ผมยังนอนกับลูกสาวคนเล็กก็จะนอนด้วยกันประจ�ำ ไม่ใช่ว่า มีหลายบทบาทแล้วจะห่างเหินกันไปเลย กลายเป็นว่ามีความ สัมพันธ์ใกล้ชิดมากกว่าปกติด้วยซ�้ำ วันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ก็จะพยายามอยูก่ บั ครอบครัวให้มากทีส่ ดุ คือทุกอย่างจะต้องมี ความสมดุลและมีความพอดี
Q A
สิ่งที่อยากฝากถึงพี่น้องชาวทางหลวงชนบท
อยากจะฝากกรมทางหลวงชนบทเอาไว้ จริง ๆ ต้องบอกว่า เรามาตั้งแต่โยธา และรพช. รากเหง้าเราเป็นกองช่างมาก่อน เรามี ค วามใกล้ ชิ ด กั บ ประชาชนค่ อ นข้ า งมาก ดั ง นั้ น สิ่ ง ที่ ผ่ า นมาที่ รุ ่ น พี่ เ ค้ า ท� ำ กั น ไว้ ตั้ ง แต่ มี บ ทเฉพาะการต้ อ งยุ บ ภายใน 5 ปี จนมาถึงวันนี้เป็นตัวตนของเรา มีการยอมรับ จากท่ า นผู ้ แ ทนราษฎรและประชาชนทั่ ว ไปว่ า หากขาด เราถนนหนทางที่ เ ขาใช้ อ ยู ่ ก็ จ ะไม่ มี ส ภาพที่ ใ ช้ ง านได้ ดี ก็อยากจะฝากบอกพวกเราว่า กรมทางหลวงชนบทของเรา ต้องอยู่ตลอดไป พวกเราต้องช่วยกันดูแล สิ่งที่ต้องดูแลหมาย ถึงช่ว ยกันดูแ ลประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนให้ใช้ถ นน ที่ มี คุ ณ ภาพ รวมถึ ง มี ค วามสะดวกและปลอดภั ย ในทุ ก มิ ติ ควรจะต้องคิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เพือ่ ให้เป็นไป ตามเจตนารมณ์ทเี่ รายึดมัน่ คือ “ทางหลวงชนบท เชือ่ มโยงทัว่ ไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
12
ทช. เพื่อประชาชน
กรมทางหลวงชนบท ติดตั้งสะพานเบลีย์ บนถนนสาย ชน.5028 บ้านวังหมัน จ.ชัยนาท แล้วเสร็จ และเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรแล้ว กรมทางหลวงชนบท โดยส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 (สระบุร)ี และแขวงทางหลวงชนบทชัยนาท ระดมเจ้าหน้าทีด่ ำ� เนินการ ติดตั้งพร้อมเปิดใช้สะพานเบลีย์บริเวณถนนทางหลวงชนบท สาย ชน.5028 แยกทางหลวงชนบทสาย ชน. 5016-บ้านวังหมัน อ� ำ เภอวั ด สิ ง ห์ จั ง หวั ด ชั ย นาท บริ เ วณ กม.ที่ 10+900 ความยาว 20.00 เมตร แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งใช้การถม เชิงลาดสะพานด้วยวัสดุหินคลุก ปูผิวจราจรลาดยาง และ ติดตัง้ ป้ายอ�ำนวยความปลอดภัย พร้อมให้ประชาชนได้ใช้สญ ั จร ได้ตามปกติ โดยก�ำหนดให้รถทีผ่ า่ นได้ คือ รถไม่เกิน 4 ล้อ ความ
สูงไม่เกิน 2.5 เมตร น�้ำหนักไม่เกิน 10 ตัน ส�ำหรับรถ 6 ล้อ ขึน้ ไป ห้ามผ่านและให้เลีย่ งในการใช้เส้นทาง เพือ่ บรรเทาความ เดือดร้อน อ�ำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้ เส้นทางจากผลกระทบของน�้ำป่าไหลหลากท�ำให้เส้นทางขาด ซึ่งภายหลังการติดตั้งสะพานเบลีย์ ท�ำให้ประชาชนสามารถ สัญจรได้อย่างสะดวก โดยเส้นทางดังกล่าวถือเป็นเส้นทางหลัก ในการใช้ขนส่งพืชผลทางการเกษตรที่ส�ำคัญ อาทิ ขนส่งข้าว อ้อย มันส�ำปะหลัง เป็นต้น
กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
Travel on rural Roads
Travel on rural Road......ขก. 2063 แวะไหว้พระ พักบางแสน (2) เช็คอินความรัก เสพธรรมชาติอุทยาน
ลมหนาวมาอีกครั้ง เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนคงวางแผนเดินทาง เพื่อรับลมหนาวสูดโอโซนเติมพลังสัมผัสธรรมชาติของลมหนาวแต่ละภาค กันแล้ว Travel on rural Road ฉบับแรกของปี 2564 ขอแนะน�ำ สถานที่ท่องเที่ยวบนสายทางหลวงชนบท ขก. 2063 ถนนรอบเขื่อน อุบลรัตน์เดินทางสะดวกสบายไม่ไกลจากตัวเมืองมาก มีธรรมชาติร่มรื่น สองข้างทาง รายล้อมด้วยวัฒนธรรมถิ่นอีสานรอต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้เลือกเที่ยวตาม Life style ของแต่ละท่าน จุดแรกเราแวะนมัสการ วัดพระพุทธบาทภูพานค�ำ ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาภูพานค�ำ อ.อุบลรัตน์ เป็นทีป่ ระดิษฐานรอยพระพุทธบาทจ�ำลอง และหลวงพ่อพระใหญ่ พระพุทธ อุตรมหามงคลอุบลรัตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนสุดมองเห็นเป็นองค์สีขาว สะดุดตาชาวบ้านเรียกหลวงพ่อขาว หรือ หลวงพ่อภูพานค�ำ มีจุดท้าทาย นักท่องเทีย่ วสายบุญทัง้ หลาย คือ บันไดพญานาค 1,049 ขัน้ ชาวบ้านเล่าให้ ฟังว่าผูศ้ รัทธาจะขึน้ ไปนมัสการหลวงพ่อขาวต้องขึน้ บันได้นจี้ ะได้บญ ุ มาก ๆ เราเลยลองขึ้นดูเรียกเหงื่อเผาผลาญพลังงานได้จริง ๆ ถือว่าคุ้มมาก เพราะนอกจากจะได้อธิษฐานขอพรกันแล้ว ยังได้เห็นวิว 360 องศา เมื่ อ มองลงมาข้ า งล่ า งจะเห็ น ต้ น ไม้ เ ขี ย วขจี ตั ด กั บ สายน�้ ำ และภู เ ขาที่ ล้อมรอบ ลมหนาวพัดมาเอื่อย ๆ พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ป่า ท�ำให้ต้องมนต์ของเขาภูพานค�ำ ลืมความเหนื่อยกันเลยที่เดียว “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
13
14
Travel on rural Roads
หลังจากไหว้พระขอพรกันเรียบร้อยแล้ว เราเดินทางแวะ เที่ยวบางแสน 2 ซึ่งคล้ายกับชายหาดบางแสนของจังหวัดชลบุรี นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเล่นน�้ำ ทานอาหาร และสังสรรค์ กับครอบครัวและเพื่อน จุดนี้มีร้านอาหารให้เลือกรับประทานติด ริมน�้ำหลายร้าน นักท่องเที่ยวสามารถทานอาหารพื้นเมืองและ เสพบรรยากาศสวย ๆ ไปพร้อมกัน ถือว่าคุ้มมากห่างจากตัวเมือง ประมาณ 53 กิโลเมตร แวะชิลกับบรรยากาศบางแสน 2 แล้ว ทีมงานเดินทางต่อมาที่ อุทยานแห่งชาติน�้ำพองที่อยู่ริมเขื่อนอุบลรัตน์ เมื่อก่อนเรียกว่า อ่างเก็บน�้ำน�้ำพอง ภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น จุดชมวิวหินช้างสีเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของอุทยาน สามารถ ดื่มด�่ำกับความงามของผืนป่าที่เขียวขจี ตัดกับอ่างเก็บน�้ำที่กว้าง ใหญ่สุดตาล้อมรอบด้วยเทือกเขาภูเวียง ภูเก้า คล้ายภาพวาด ที่เคยเห็นจากการสะบัดปลายแปลงของศิลปินชื่อดัง มีมนต์เสน่ห์ ของผาสละโสด ที่ ก รมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ได้ ท� ำ เป็ น จุ ด พั ก รถเพื่ อ ให้ พั ก ชมความงดงามวิ ว แห่ ง ความรั ก ที่ มี ต� ำ นานเล่ า ต่ อ กั น มาว่ า หนุ ่ ม สาวสั ญ ญากั น ว่ า จะรั ก มั่ น ซื่อสัตย์ และรักเดียว จนชีวิตจะหาไม่ เหมือนนกเงือกที่มีคู่เดียว ตราบนิ จ นิ รั น ดร์ โดยได้ ส ลั ก ชื่ อ หน้ า ผาเป็ น ชื่ อ หนุ ่ ม สาว “ผาสลาสาว” ต่อมาพูดเพี้ยนกันจนเป็น “ผาสละสาว” และ เปลี่ ย นมาเป็ น ผาสละโสดในปั จ จุ บั น คู ่ รั ก หนุ ่ ม สาวมั ก นิ ย ม มาถ่ายรูปกัน ณ จุดนี้ โดยมีความเชือ่ ว่าคูร่ กั ใดทีม่ าสารภาพรักหรือ มาถ่ายภาพก่อนแต่งงานที่นี่จะได้เป็นคู่รักแท้ครองรักอย่างยั่งยืน เราเชื่อว่าภาพทิวทัศน์ที่สุดโรแมนติกจะเปลี่ยนใจชาวโสดทั้งหลาย กลับใจมาสละโสดกัน ณ จุดนี้ กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
Travel on rural Roads
หอมอบอวลด้วยกลิ่นอายความรักกันแล้ว เราก็มาต่อ ที่จุดชมวิวหินช้างสี เป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นทิวทัศน์ของ เขื่อนอุบลรัตน์ที่อยู่ด้านล่าง หากอยากเห็นพระอาทิตย์ตกดิน ทาบแสงทองระเรื่ อ ยขนานขอบฟ้ า เราขอแนะน� ำ ต้ อ งมา ณ จุดนี้ นอกจากนี้ยังมีหินรูปทรงแปลกตาที่สร้างสรรค์โดย สถาปัตยกรรมธรรมชาติเรียงรายกันอยู่บนลานกว้าง จนได้รับ สมญานามทะเลหินช้างสีให้จินตนาการตามแต่จะสรรสร้างกัน ไม่วา่ จะเป็นหินรูปแมวน�ำ้ หินช้างสี หินรูปหอยนางรม ความงาม ที่เก็บมาเล่ายังไม่เท่าตาเห็น เราจึงอยากเชิญชวนให้เดินทาง มาที่ ขก. 2063 กรมทางหลวงชนบทเริ่ ม จากทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 2 (ขอนแก่น - อุดรธานี) เป็นระยะทาง 26 กิโลเมตร จากอ�ำเภอเมืองขอนแก่น มีทางแยกซ้ายมือ จะพบป้ า ยทางไปเขื่ อ นอุ บ ลรั ต น์ บนทางหลวงแผ่ น ดิ น หมายเลข 2109 เดิ น ทางอี ก 22 กิ โ ลเมตรเลี้ ย วซ้ า ยเพื่ อ เข้าสู่ ถนนทางหลวงชนบท ขก. 2063 เดินทาง 500 เมตร เลี้ยวขวาจะพบทางเข้า “วัดพระบาทภูพานค�ำ”เมื่อไหว้พระ ท� ำ บุ ญ เสร็ จ ก็ เ ดิ น ทางออกจากวั ด พระบาทภู พ านค� ำ บนถนนทางหลวงชนบท ขก. 2063 อีกประมาณ 2 กิโลเมตร ช่ ว ง กิ โ ลเมตร 35 จะพบทางเข้ า “บางแสน 2”สถาน ที่ แ วะพั ก รั บ ประทานอาหาร ท� ำ กิ จ กรรมทางน�้ ำ พั ก ผ่ า น กินลมชมวิว เมื่อพักผ่อนหย่อนใจเสร้จก็ออกเดินทางออก “ทางหลวงชนบท
15
จากบางแสน 2 อีกประมาณ 3 กิโลเมตรช่วงกิโลเมตร ที่ 35 ให้มองทางซ้ายมือ จะมีรอยดินรอยหิน ทีผ่ กุ ร่อน จากกระแสลม กระแสน�้ำ เรียกว่า “โสกธาตุ” ตรงจุดนี้ให้จอดรถริมไหล่ทาง ด้ว ยความระมัดระวังเมื่อแวะชมความงามของหินโสกธาตุ เสร็จแล้วเดินทางต่อ อีก 14 กิโลเมตร ช่วงกิโลเมตร ที่ 18 จะเข้าสู่ “อุทยานแห่งชาติน�้ำพอง” ที่สามารถมากางเต้นท์ แคมป์ปง้ิ กันทีล่ านนับดาวทีต่ ดิ กับเขือ่ นอุบลรัตน์ ซึง่ บรรยากาศ ดีมาก ๆ เดินทางต่ออีก 700 เมตร จะพบกับ “ผาสละโสด” ผาที่เป็นต�ำนานรักของหนุ่มขอนแก่น และสาวหนองบัวล�ำภู เป็นต�ำนานความรักทีส่ มหวัง ซึง่ เชือ่ กันว่าคูร่ กั คูไ่ หนมาสารภาพ รักกันที่นี่จะได้เป็นคู่แท้ ครองรักกันยังยืนตลอดไป และเดิน ทางอีก 5 กิโลเมตร ช่วงประมาณกิโลเมตรที่ 13 ให้เลี้ยวซ้ายสู่ ถนนต�ำบล บ้านผือ อีก 5.4 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ ถนนทางหลวงชนบท ขก. 5035 เดินทางต่อไปอีก ประมาณ 11 กิโลเมตร จะถึงจุดชมวิว “ผาพบรัก” ซึ่งโขดหิน ให้เรา สามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปชมวิวได้ และเดินทางต่อ อีก ประมาณ 900 เมตร ก็จะถึงทีท่ ำ� การจุดชมวิวหินช้างสี ซึ่ง ต้องเดินเท้า เข้าไป ประมาณ 600 เมตร ก็จะพบกับ หินข้างสี และ จุดชมวิว ทีส่ ามารถมองเห็น ชมวิวทัศนียภาพ ของเขือ่ นอุบลรัตน์แนะน�ำ ช่วงตอนพระอาทิตย์ตก สวยมาก
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
16
Travel on rural Roads
ข้อมูลจาก : แขวงทางหลวงชนบทขอนแก่น กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
ริมทางชนบท
17
“สะพานเบลีย์”
ตัวช่วยสำ�คัญเวลาเกิดอุทกภัย
สะพานเบลีย์ (Bailey Bridge) เป็นสะพานแบบหนึ่ง ซึ่งตั้งชื่อตามชื่อของเซอร์โดนัลด์ โคลแมน เบลีย์ (Sir Donald Coleman Bailey) วิศวกรชาวอังกฤษ ที่เป็นผู้คิดค้นการก่อสร้างสะพานด้วยวิธีนี้ โดยได้น�ำมาใช้ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองเพื่อเป็นเส้นทางล�ำเลียงทหารและยุทธภัณฑ์ไปยังสมรภูมิรบ โดยในยุคปัจจุบันมักจะใช้เป็นสะพานชั่วคราวในกรณีฉุกเฉิน เช่น เหตุการณ์น�้ำท่วมภาคใต้ที่กระแสน�้ำได้ ท�ำลายถนนและสะพานขาดหลายจุด จนต้องมีการสร้างสะพานเบลีย์ขึ้นมาในเส้นทางดังกล่าว สะพานเบลีย์ มีจุดเด่นคือ เป็นสะพานที่สามารถสร้างและรื้อถอนได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เครื่องจักรมากเหมือนอย่างการ สร้างสะพานทั่วไป กรมทางหลวงชนบทมีสะพานเบลีย์ที่พร้อมใช้งานทั้งสิ้น 1,662 เมตร กระจายอยู่ตามส�ำนักงานทางหลวงชนบทใน ส่วนภูมิภาคดังนี้ ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 1 (ปทุมธานี) 57 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 3 (ชลบุรี) 51 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5 (นครราชสีมา) 75 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 7 (อุบลราชธานี) 84 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 9 (อุตรดิตถ์) 108 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) 126 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 13 (ฉะเชิงเทรา) 75 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 15 (อุดรธานี) 84 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) 75 เมตร
“ทางหลวงชนบท
ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 (สระบุรี) 66 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 4 (เพชรบุรี) 108 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 6 (ขอนแก่น) 69 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 8 (นครสวรรค์) 75 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 10 (เชียงใหม่) 159 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) 120 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 14 (กระบี่) 159 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 16 (กาฬสินธุ์) 120 เมตร ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 18 (สุพรรณบุรี) 51 เมตร
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
18 สร้าง
ซ่อม ส่งเสริม
แขวงทางหลวงชนบทกระบี่ ดำ�เนินงานติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ ด้านกำ�กับ และบังคับใช้กฏหมาย ถนนทางหลวงชนบท สาย กบ.1025 แขวงทางหลวงชนบทกระบี่ ด�ำเนินงานติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ ด้านก�ำกับ และบังคับใช้กฏหมาย ถนนทางหลวงชนบท สาย กบ.1025 แยกทางหลวงหมายเลข 4 - บ้านเขาพนม อ�ำเภอเมือง, เขาพนม จังหวัดกระบี่ ช่วงกม.ที่ 13+600 เพื่อเป็นการ ประชาสัมพันธ์การบังคับใช้กฏหมายให้กับประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ตามนโยบายของกรมทางหลวงชนบท
แขวงทางหลวงชนบทกระบี่ ดำ�เนินงานปะซ่อมบำ�รุงผิวจราจร สาย กบ.4024 แขวงทางหลวงชนบทกระบี่ ด�ำเนินงานปะ ซ่อมบ�ำรุงผิวจราจร สาย กบ.4024 แยกทางหลวง หมายเลข 4034 - บ้านทับแขก อ�ำเภอเมือง จังหวัด กระบี่ ช่วงกม.ที่ 8+700 พื้นที่ 3 ตร.ม. เพื่อความ สะดวกปลอดภั ย ในการเดิ น ทางของประชาชนผู ้ ใช้เส้นทาง ตามนโยบายของกรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
สร้าง
ซ่อม ส่งเสริม
19
แขวงทางหลวงชนบทอุบลราชธานี เริ่มติดตั้งกำ�แพงคอนกรีตเสริมเหล็ก ชนิดหุ้มยางพารา แบ่งทิศทางจราจร ถนนสาย. อบ.4005. แขวงทางหลวงชนบทอุบลราชธานี เริ่มติดตั้งก�ำแพงคอนกรีตเสริมเหล็ก ชนิดหุ้มยางพารา แบ่งทิศทางจราจร ถนนสาย. อบ.4005. ช่วง อ�ำเภอตาลสุม ระยะทาง 2.990 กิโลเมตร ซึง่ จะเป็น ก�ำแพงคอนกรีตหุม้ ยางพารา แห่งแรกของจังหวัดอุบลราชธานี ตามนโยบายกระทรวงคมนาคมเพื่อให้เกิดความปลอดภัย แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนต่อไป
แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสงคราม ร่วมกับแขวงทางหลวงชนบท สมุทรสาคร ดำ�เนินการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรควบคุมยานพาหนะสลับ เดินรถข้ามสะพานเบลีย์ (สะพานแคบ) บนเส้นทางหลวงชนบท สาย สค.2055 แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสงคราม ร่วม กับแขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร ด�ำเนินการ ติดตัง้ ไฟสัญญาณจราจรควบคุมยานพาหนะสลับ เดินรถข้ามสะพานเบลีย์ (สะพานแคบ) บนเส้น ทางหลวงชนบท สาย สค.2055 แยกทางหลวง หมายเลข 35 เมืองสมุทรสงคราม อ�ำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่ออ�ำนวยความสะดวก และปลอดภัยให้แก่ประชาชนในการเดินทาง
“ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
20 สร้าง
ซ่อม ส่งเสริม
แขวงทางหลวงชนบทพัทลุง เข้าดำ�เนินการซ่อมปะหลุมบ่อบนถนนโครง ข่ายทางหลวงชนบทสายพท.1021 แขวงทางหลวงชนบทพัทลุง เข้าด�ำเนินการซ่อมปะหลุมบ่อบนถนนโครงข่ายทางหลวงชนบทสายพท.1021 แยกทล.4 บ้านทุ่งนาชี อ.เมือง/ ศรีนครินทร์/ กงหรา จ.พัทลุง เพื่อให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ตามนโยบายของกรมทางหลวงชนบท
แขวงทางหลวงชนบทตรัง ลงพื้นที่ติดตามโครงการงานขยายความกว้าง สะพาน สาย ตง.๔๐๐๙ บ.ย่านตาขาว นายธีรพร จิระรัตนากร ผูอ้ �ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพืน้ ทีต่ ดิ ตามโครงการงานขยายความ กว้างสะพาน สาย ตง.4009 แยก ทล.4264 - บ.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เพื่อติดตามความก้าวหน้าและผลกระทบแก่ ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง อ�ำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
สร้าง
ซ่อม ส่งเสริม
แขวงทางหลวงชนบทสิงห์บุรี ได้ทำ�การปรับปรุงถนนสาย สห.2010 แขวงทางหลวงชนบทสิงห์บรุ ี ได้ทำ� การปรับปรุงถนนสาย สห.2010 แยกทางหลวงหมายเลข 2010 - บ้านกลาง อ�ำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดบนถนน
แขวงทางหลวงชนบทขอนแก่น เข้าดำ�เนินการตั้งด่าน ชั่งน้ำ�หนัก รถบรรทุกเคลื่อนที่ แขวงทางหลวงชนบทขอนแก่น เข้าด�ำเนินการตั้ง ด่านชั่งน�้ำหนักรถบรรทุกเคลื่อนที่ ในสายทาง ขก.1001 แยกทางหลวงหมายเลข 2 – บ้านหนองอ้อ อ�ำเภอน�้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีรถบรรทุกเข้าชั่งน�้ำหนัก จ�ำนวน 2 คัน ไม่พบรถบรรทุกน�้ำหนักเกินพิกัด เพื่อให้เป็นไปตาม นโยบายของกรมทางหลวงชนบทในการตรวจสอบการ บรรทุกน�้ำหนักเกิน และเพื่อลดปัญหาถนนช�ำรุดเสียหาย เร็วกว่าก�ำหนด
แขวงทางหลวงชนบทบุรีรัมย์ โดยหมวดบำ�รุงทางหลวงชนบท หนองกี่ ได้ดำ�เนินการซ่อมบำ�รุงผิวทาง ลาดยาง ถนนสาย บร.2016 แขวงทางหลวงชนบทบุ รี รั ม ย์ โดยหมวดบ�ำรุ ง ทางหลวงชนบทหนองกี่ ได้ด�ำเนินการซ่อมบ�ำรุงผิวทาง ลาดยาง ถนนสาย บร.2016 แยกทล.24 – บ้านดอนอะราง อ�ำเภอนางรอง, หนองกี่ จังหวัดบุรรี มั ย์ เพือ่ ให้ประชาชนได้ รับความสะดวก และปลอดภัยในการเดินทาง “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
21
22 บ้านเลขที่
9
ในวาระครบรอบ 18 ปี
กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ในวาระครบรอบ 18 ปี กรมทางหลวงชนบท กระทรวง คมนาคม เมือ่ วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ตลอดระยะเวลาทีผ่ า่ นมา ได้มีบทบาทในการก่อสร้าง ขยาย บูรณะ บ�ำรุงรักษาสายทาง เชือ่ มโยงเครือข่ายคมนาคมเข้าสูพ่ นื้ ทีต่ า่ ง ๆ ให้ประชาชนสามารถ เดินทางสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกและปลอดภัย รวมถึงสะพาน ถนนทางเลี่ยง ทางเชื่อม ทางลัด สนับสนุนโครงการพระราชด�ำริ ยุทธศาสตร์ความมั่นคง ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ยุทธศาสตร์ โลจิสติกส์ เพือ่ พัฒนา น�ำความเจริญเข้าสูพ่ นื้ ที่ ตลอดจนช่วยเหลือ สนับสนุน ส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ทักษะทางวิชาการ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ พัฒนาทักษะความสามารถทีจ่ ะ น�ำไปสูก่ ารผลักดันและขับเคลือ่ นประเทศไทยให้กา้ วสูร่ ะดับสากล ย้อนร�ำลึกถึงวันเวลาในอดีต ที่มาของกรมทางหลวงชนบท ซึ่งกว่าจะเป็นกรมทางหลวงชนบทที่มั่นคง และเข้มแข็งอย่าง ในปัจจุบนั ได้นนั้ ต้องต่อสู้ ฝ่าฟันอุปสรรคอย่างมากมาย เมือ่ ปี พ.ศ. 2545 ในสมัยนัน้ ได้มกี ารปฏิรปู ระบบราชการ ตามพระราชบัญญัติ ปรั บ ปรุ ง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ส่ ง ผลให้ มี ก าร ปรับเปลี่ยนกระบวนการบริหารงาน ภายใต้เงื่อนไขต้องยุบเลิก กรมทางหลวงชนบทภายใน 5 ปี ท�ำให้ผู้บริหาร บุคลากรกรม ที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะนั้น ต้องเร่งสร้างผลงาน พิสูจน์ฝีมือ ให้ ประชาชนและสังคมได้รับรู้ถึงความส�ำคัญของหน่วยงาน เพื่อให้
กรมทางหลวงชนบทคงอยู่ต่อไป จากยุบเลิกใน 5 ปี เป็น 10 ปี และได้ประกาศยกเลิกการยุบเลิกกรมทางหลวงชนบท ในท้ายที่สุด โดยอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ที่ร่วมกันผลักดัน มุ่งมั่นสร้างขวัญก�ำลังใจ สร้างผลงาน จนเป็นที่ประจักษ์ ต่อสังคม ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ได้แก่ 1.) นายสุรชัย ธารสิทธิพ์ งษ์ (8 พ.ย. 2545 - 28 พ.ย. 2549) 2.) นายระพินทร์ จารุดลุ (29 พ.ย. 2549 - 10 เม.ย. 2551) 3.) นายสุพจน์ ทรัพย์ลอ้ ม (11 เม.ย. 2551 - 30 ก.ย. 2551) 4.) นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ (31 ต.ค. 2551 - 30 ก.ย. 2554) 5.) นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี (21 ต.ค. 2554 - 30 ก.ย. 2557) 6.) นายดรุณ แสงฉาย (16 ธ.ค. 2557 - 30 ก.ย. 2558) 7.) นายพิศกั ดิ์ จิตวิรยิ ะวศิน (1 ต.ค. 2558 – 8 เม.ย. 2562) 8.) นายกฤชเทพ สิมลี (9 เม.ย. 2562 – 30 ก.ย. 2562) 9.) นายปฐม เฉลยวาเรศ (9 พ.ย. 2562 - ปัจจุบัน)
กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
บ้านเลขที่
9
23
ในปัจจุบนั กรมทางหลวงชนบท มีสายทางในความรับผิดชอบ ทัว่ ประเทศกว่า 3,267 สายทาง ระยะทางรวม 47,960 กิโลเมตร และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีแผนการก่อสร้างจากถนน ลูกรังเป็นถนนลาดยางหรือคอนกรีต 365 โครงการ ระยะทาง 834.620 กิโลเมตร สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 222 โครงการ ความยาวรวม 18,517 เมตร งานซ่อมบ�ำรุงโครงข่ายและ อ�ำนวยความปลอดภัยทั่วประเทศ ตลอดจนการน�ำยางพารา มาใช้เป็นส่วนผสมในอุปกรณ์อ�ำนวยความปลอดภัย “แผ่นยาง ธรรมชาติครอบก�ำแพงคอนกรีต” (RFB) และ “หลักน�ำทางยาง ธรรมชาติ” (RGP) ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง คมนาคม ที่สามารถลดอัตราความรุนแรงที่ท�ำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังร่วมปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ ในการ ป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์ของเชื้อไวรัส COVID-19 และ มาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาฝุน่ ละออง PM 2.5 อย่างเคร่งครัด อีกทั้งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัย พร้อม แก้ไขปัญหาให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางสัญจรได้อย่างทัน ท่วงที ซึ่งกรมทางหลวงชนบทมุ่งมั่นขับเคลื่อน พัฒนาสายทาง พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ให้สามารถเดินทางได้ อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ยกระดับคุณภาพชีวิตของ ประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป
“ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
24 กฎหมายน่ารู้ นางสาวจีรนุช โหนดแจ่ม ผู้อ�ำนวยการกลุ่มกฎหมาย ส�ำนักกฎหมาย
ง อ ง ข ง ่ ิ อ ่ ื เร รถบรรทุก ส ผูข้ บั ขีซ่ งึ่ ขับรถบรรทุกคน สัตว์ หรือสิง่ ของทุกชนิด จ�ำเป็น ต้องจัดให้มีอุปกรณ์ในการป้องกันมิให้คน สัตว์ หรือสิ่งของที่ บรรทุกตกหล่น รั่วไหล ส่งกลิ่น ส่องแสงสะท้อน หรือปลิวไป จากรถ อันอาจก่อเหตุเดือดร้อนร�ำคาญท�ำให้ทางสกปรกเปรอะ เปื้อน ท�ำให้เสื่อมเสียสุขภาพอนามัยแก่ประชาชน หรือก่อให้ เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น หากผู้ขับขี่คนใด ฝ่าฝืนไม่ปฏิบตั ติ ามข้อก�ำหนดดังกล่าว จะมีความผิดตามมาตรา 20 ประกอบกับมาตรา 148 แห่ง พระราชบัญญัตจิ ราจรทางบก พ.ศ. 2522 มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ซึง่ หากสิง่ ของทีบ่ รรทุก
มานัน้ เป็นขยะมูลฝอย สิง่ ปฏิกลู เศษหิน ดิน ทราย แล้วตกหล่น บนทางจราจรหรือไหล่ทาง ผู้ขับขี่ก็จะมีความผิดตามมาตรา 45 ประกอบกับมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 มีโทษจ�ำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจ�ำทั้งปรับ ซึ่งเป็นการกระท�ำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมาย หลายบท ผู้กระท�ำความผิดจะถูกลงโทษตามบทหนัก ดังนั้น ผู้ขับขี่รถบรรทุกสิ่งของจะต้องปฏิบัติตามข้อก�ำหนดในการ ป้องกันสิ่งของที่บรรทุกตกหล่นอย่างเคร่งครัดนะคะ
กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
จริยธรรมนำ�ใจ
ยธรรมะ
หัวข้อวามสุข”
ค ี ม ้ ห ใ ร ไ ง า ่ ย อ น า ง า
รรย บ ร า ก ง โคร
“ทำ�
นายโกสินท์ พิทยะเวสด์สุนทร วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านควบคุม การก่อสร้าง) เป็นประธานเปิดโครงการบรรยายธรรมะ หัวข้อ “ท�ำงานอย่างไร ให้มีความสุข” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้กับบุคลากรของกรมให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจ ในหลักธรรมค�ำสอนของพระพุทธศาสนาให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถน�ำหลัก ธรรมค�ำสอนมาปรับใช้ในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวัน ให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อการท�ำงาน อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมของผู้บริหารในการ เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้บุคลากรของกรมมีทัศนคติ ค่านิยม ในการปฏิบัติงาน อย่างซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยมีนายชยทัต วัฒนกูล ผู้อ�ำนวยการกอง ส่งเสริมจริยธรรมและป้องกันการทุจริต กล่าวรายงาน ในการจัดบรรยายธรรมะ ในครัง้ นี้ มีบคุ ลากรของกรมเข้าร่วมรับฟังบรรยายมากกว่า 100 คน และได้รบั เกียรติจาก พระอาจารย์หาญศักดิ์ ชนฺติสุโภ วัดวิมุตยาราม เป็นผู้บรรยายธรรม ณ ห้องประชุม คุณากูลสวัสดิ์ ชั้น 9 อาคาร 4 กรมทางหลวงชนบท โดยได้มีการถ่ายทอดสดผ่าน ช่องทาง facebook Live ไปยังบุคลากรในส่วนภูมิภาคได้ร่วมรับชม
“ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
25
26
มองผ่านเลนส์
ถนนสร้างรายได้
ต่อยอดและพัฒนาชุมชน
หน้าหนาวนีห้ ลายคนอยากจะมีโอกาสสัมผัสความเย็นสบายของอากาศหลีกหนี ฝุน่ ในเมืองอันแสนวุน่ วาย จังหวัดเลยจึงเป็นตัวเลือกทีด่ ไี ม่นอ้ ยเพราะดีทงั้ อากาศและ ผูค้ นทีเ่ ป็นมิตร ยินดีตอ้ นรับนักท่องเทีย่ วอย่างเราทีต่ อ้ งการพักผ่อนจากงานทีเ่ หนือ่ ยล้า หลายครั้งที่เคยได้ยินจากสื่อต่าง ๆ หรือกลุ่มเพื่อน ๆ ที่เคยไปเยี่ยมชม ความหนาว และความสวยงามในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่มากมาย วันนี้เลยได้มีโอกาสได้ลองไป สัมผัสเองทีท่ คี่ นต่างขนานนามว่าเป็นสถานทีช่ มภูเขาไฟฟูจเิ มืองเลย นัน่ ก็คอื ภูปา่ เปาะ เป็นจุดชมวิวภูหอที่สวยงามสุด ๆ ปลายยอดเป็นเขาหัวตัดเหมือนปล่องไฟ มองแล้ว คล้ายกับ ภูเขาไฟฟูจขิ องประเทศญีป่ นุ่ จึงถูกขนานนามว่า “ฟูจเิ มืองเลย” มีจดุ ชมวิว ทัง้ หมด 4 จุด แต่ละจุดห่างกันประมาณ 200 เมตร ต้องนัง่ รถอีแต๊กขึน้ ไปชม เสนอค่า ขึน้ รถไปชมอยูท่ ี่ ผูใ้ หญ่ 60 บาท เด็ก 20 บาท ระหว่างนัง้ รถจึงได้สนทนากับสารถีวยั เก๋าอย่างลุงโก ลุงโกเล่าว่านอกจากนักท่องเทีย่ วจะได้เยีย่ มทิวทัศน์ของภูปา่ เปาะ ยังมี กลุม่ หัตถกรรมทอผ้าไหมพืน้ เมือง และโฮมสเตย์ให้ได้เลือกพักและเรียนรูว้ ถิ ชี าวบ้าน การเป็นอยู่ของคนบ้านผาหวายแบบใกล้ชิด ส่วนรายได้จากการน�ำนักท่องเที่ยวขึ้นภู ป่าเปาะจะน�ำมารวมกันแล้วหัก 20 % เข้าชมรมเพือ่ น�ำมาพัฒนาชุมชนบ้านผาหวาย และต่อยอดปรับปรุงภูป่าเปาะให้ดียิ่งขึ้น ลุงโกแอบกระซิบว่าปีที่แล้วรายได้ที่หักเข้า ชมรมมีจ�ำนวนถึง 7 หลักเลยที่เดียว ว้าวว!! ถนนทางหลวงชนบทสาย ลย.3029 อ.หนองหิน จ.เลย มีทัศนียภาพสองข้าง ทางที่สวยงามน่ามอง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวปีละไม่ต�่ำกว่า 500,000 คน เพราะ นอกจากภูปา่ เปาะ ยังมีสวนหินผางาม น�ำ้ ตกสวนห้อม และสามารถไปยังอุทยานแห่ง ชาติน�้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ได้อีกด้วย กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
เรื่องเล่าจากนายช่าง / อ่านดีมีรางวัล นายโฆษิต กุลทอง ผู้อํานวยการส่วนปฏิบัติการ แขวงทางหลวงชนบทเลย
เรื่องเล่าจากนายช่าง
สวัสดีครับ นายโฆษิต กุลทอง ผู้อํานวยการส่วนปฏิบัติการ แขวง ทางหลวงชนบทเลย มีประสบการณ์ท�ำงานด้านงานช่าง 30 กว่าปี เริ่มแรก เข้าบรรจุรับราชการในปี พ.ศ. 2533 ส�ำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท หรือ รพช. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวกับการพัฒนาชนบท ต่อสู้กับช่วงสมัยสงครามเย็น เมือ่ ก่อนนัน้ จังหวัดเลยถือเป็นพืน้ ทีส่ แี ดง ทีม่ กี ารแย่งชิงมวลชนทีอ่ าศัยอยูใ่ นพืน้ ที่ ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งรพช.จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ส่วนนั้น ในช่วงแรกนัน้ ผมท�ำงานทีส่ ว่ นกลางมาก่อน และได้ยา้ ยมาท�ำงานทีจ่ งั หวัด เลยซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิด สมัยก่อนการเดินทางในจังหวัดเลยนั้นยากล�ำบาก เพราะยังไม่มีถนน ซึ่งการจะพัฒนานั้นต้องตัดถนนเข้าไปสู่หมู่บ้าน ให้สามารถ สัญจรได้ น�ำความเจริญเข้าไป ด้วยความที่เป็นบ้านเกิด ก็อยากพัฒนาจังหวัด พัฒนาเส้นทางให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น และพยายามพัฒนาให้ความเจริญ เข้าไปหาชาวบ้านให้ได้ สมัยก่อนนั้นการท�ำงานไม่ได้เหมือนกับปัจจุบัน นายช่างเวลาลงพื้นที่ ต้องพกปืนเข้าไปท�ำงานด้วย มีทหารเข้าไปคุมสองข้างทาง ขณะก่อสร้างถนน รุ่นพี่และเจ้าหน้าที่บางคนเสียชีวิตจากการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย ถนนที่สร้าง ในอดีตนั้นจะเป็นการก่อสร้างถนนลูกรังระหว่างหมู่บ้าน ตอนนั้นยังไม่มีการท�ำ ถนนลาดยาง ต้องลงพื้นที่เข้าไปในป่า เดินเท้าเข้าไป ดูพิกัดจากแผนที่ภาพถ่าย ทางอากาศ เพื่อส�ำรวจตัดเส้ นทางเข้ า ไปในแต่ ละหมู ่ บ ้ า น อาหารการกินก็ ค่อนข้างล�ำบากกว่าสมัยนี้ ในช่วงปี พ.ศ. 2537 – 2540 ท�ำงานเป็นหัวหน้าชุดซ่อมบ�ำรุงโครงสร้าง พื้นฐาน รับผิดชอบสายทางกว่า 300 กิโลเมตร ในอ�ำเภอภูเรือ ด่านซ้าย และ นาแห้ว ในส่วนของประสบการณ์ที่เคยเจอนั้นไม่ได้หนักเท่ารุ่นพี่ ที่เคยเจอ มีปญ ั หาชาวบ้านปิดทาง ไม่ให้เข้าไปก่อสร้าง เพราะกลัวจะเสียผลประโยชน์ ซึง่ ต้อง แก้ปัญหาโดยใช้มวลชน เอาผู้น�ำหมู่บ้านเข้าไปช่วยพูดคุย ช่วงปี พ.ศ. 2545 ที่มี การเปลี่ยนแปลงส่วนราชการ เนื่องจากท�ำงานอยู่ด้านโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว จึงมาอยู่กรมทางหลวงชนบท ตามภารกิจเดิม เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านถนน
และโชคดีทไี่ ด้อยูท่ จี่ งั หวัดเลย เพราะเชีย่ วชาญและรูจ้ กั พืน้ ทีใ่ นจังหวัดดี มีเครือข่าย ในการประสานงานช่วยเหลือต่าง ๆ จากที่ได้ท�ำงานมาสิ่งที่รู้สึกภูมิและประทับใจในการท�ำงาน คือการได้เข้าไป ก่อสร้างถนนเข้าสู่หมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านจะรู้สึกดีใจมาก ภูมิใจที่ได้พัฒนาจังหวัด ได้เข้าไปในทุกพืน้ ทีท่ กุ อ�ำเภอในจังหวัดเลย ซึง่ หน่วยงานของเราเป็นทีต่ อ้ งการของ ชาวบ้าน ตั้งแต่ รพช. แม้จะย้ายมาอยู่ ทช. ก็ยังคงติดต่อพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ อยู่เช่นเดิม ทช.เป็นกรมที่ท�ำถนน พัฒนาถนน ซึ่งพัฒนาอย่างมีมาตรฐาน มีความ ปลอดภัย โดย ทช. มีการแบ่งเป็นส�ำนักบ�ำรุงทาง ส�ำนักอ�ำนวยความปลอดภัย ซึง่ ตอบโจทย์ เข้ากับความรูส้ กึ ของเราทีว่ า่ ชาวบ้านเขาต้องการ มีงบประมาณในการ ติดตั้งไฟฟ้า แสงสว่าง ลดการเกิดอุบัติเหตุให้ชาวบ้าน ซึ่งเขาประทับใจ ในอีกส่วน หนึง่ คือ ประทับใจท่านสุรชัย ธารสิทธิพ์ งษ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบทท่านแรก จาก เหตุการณ์สนึ ามิในภาคใต้ เป็นผูน้ ำ� ทีก่ ล้าตัดสินใจ ช่วยเหลือผูป้ ระสบภัยอย่างเต็มที่ เต็มก�ำลัง รูส้ กึ ภูมใิ จมาก เพราะมีขา่ วการช่วยเหลือออกทางโทรทัศน์ทกุ วัน ซึง่ ตอน นัน้ เป็นช่วงก่อตัง้ กรมใหม่ ๆ แต่ทา่ นสามารถเอากลุม่ คนเข้าไปช่วยเหลือ สร้างความ เชื่อมั่นให้แก่บุคลากรเป็นอย่างมาก สุดท้ายแล้วก็อยากฝากถึงกรมและรุน่ น้อง ปัจจุบนั ทีมงานก็เริม่ กลมเกลียวกัน แต่จ�ำนวนคนน้อยลงกว่าสมัยก่อนค่อนข้างมาก ก็อยากให้กรมเน้นเรื่องจ�ำนวน บุคลากรในส่วนของจังหวัดทีม่ ไี ม่เพียงพอ ในฐานะนายช่างรุน่ พี่ จากประสบการณ์ที่ ท�ำงานมา 30 กว่าปี อยากให้นอ้ ง ๆ ยึดความถูกต้อง เพราะปัจจุบนั มีการตรวจสอบ ค่อนข้างเยอะ การประสานงานกับเพื่อนร่วมงาน ฟังค�ำแนะน�ำของรุ่นพี่ที่ถ่ายทอด ประสบการณ์ในด้านการท�ำงาน การแก้ไขปัญหาหน้างาน การประสานงานกับหน่วย งานต่าง ๆ เพราะรุน่ พีเ่ คยเจอปัญหามาก่อน รูว้ ธิ แี ก้ไขปัญหานัน้ อยากให้ชนื่ ชมกัน และกัน ทุกคนมีทั้งด้านดีและไม่ดี อยากให้มองในด้านดีไว้ ปล่อยผ่านในด้านที่ไม่ดี เพราะเราต้องดึงเอาศักยภาพในส่วนที่ดีเข้ามาใช้ในการท�ำงาน
สวัสดีคุณผู้อ่านวารสารกรมทางหลวงชนบทค่ะ “อ่านดีมีรางวัล” ฉบับประจ�ำเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน 2563 ฉบับแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของรางวัลเป็นม่านบัง แดดนะคะ จ�ำนวน 10 ชิ้น ไปติดตามค�ำถามกันเลยค่ะ ค�ำถาม : โครงการก่อสร้างถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 7 (กม.ที่ 107 + 200) – ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง อ�ำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี (ตอนที่ 1 – 4 ) มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ตอบอย่างน้อย 3 ข้อ สามารถเข้าไปตอบค�ำถามด้วยการแสกน QR CODE ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ *การตัดสินของกรรมการถือเป็นสิ้นสุด* *ส่งก่อนมีสิทธิ์ก่อน* “ทางหลวงชนบท
อ่านดี
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
มี
! ล ั ว ง า ร
27
28
ทช. วาไรตี้
ทช. คว้ารางวัลที่ 1 “GRAA 2020 ด้านความปลอดภัยทางถนน จากสมาพันธ์ทางหลวงโลก ประเทศสหรัฐอเมริกา” “ในความเป็นจริงงานปลอดภัยทางสังคมเราท�ำกันมานานแล้ว เพราะไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียในทางหลวงชนบท ตามปฎิญญามอสโควประเทศรัสเซีย ต้องการให้ตัวเลขลดลง ไม่ต�่ำกว่า 50 % และกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายให้แก้ ปัญหาในเชิงป้องกัน เพื่อลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน” นับเป็นข่าวดีของกรมทางหลวงชนบท ในการคว้ารางวัล ที่ 1 GRAA 2020 ด้านความปลอดภัยทางถนนจากสมาพันธ์ ทางหลวงโลก (International Road Federation : IRF) ประเทศสหรัฐอเมริกา วันนีเ้ ราจะมาฟังแนวคิดและแรงบันดาล ใจในการผลักดัน ผลงานจนคว้ารางวัลที่ 1 มาครอบครองจาก ดร.ชาครีย์ บ�ำรุงวงศ์ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานตรวจสอบความ ปลอดภัยงานทางและรักษาการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร งานด้านความปลอดภัยงานทาง เราท�ำมานานแล้ว ในทุก ภาคส่วนให้ความส�ำคัญมากและขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ เพราะ ไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียบนทางหลวงชนบท ตามปฎิญญา
มอสโควประเทศรัสเซีย ต้องการให้ตวั เลขลดลงไม่ตำ�่ กว่า 50% ประเทศไทยเป็นหนึง่ ในประเทศสมาชิก ทีผ่ า่ นมาเราแก้ปญ ั หา โดยเรารอให้เกิดอุบตั เิ หตุกอ่ นจึงเข้าไปแก้ไขในจุดเสีย่ ง แต่ในปี 2017-2018 กระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายให้ แก้ปัญหาใน เชิงป้องกัน คือการวิเคราะห์โครงข่ายถนนทัง้ 47,000 กิโลเมตร มีตรงไหนที่มีความเสี่ยงบ้าง แล้วส่งผู้เชี่ยวชาญไปป้องกัน เมื่อป้องกันไว้ก่อนจะท�ำให้อุบัติเหตุลดลง ซึ่งมีประสิทธิภาพ มากกว่าเดิม ในสองปีที่ผ่านมาเราปรับปรุงจุดเสี่ยงมาก ๆ ไป กว่า 1,309 จุด จากเดิมทีมกี ารสูญเสีย 107 คน ปัจจุบนั เหลือ เพียง 45 คนเท่านั้น
กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
ทช. วาไรตี้
29
นายชาครีย์ บ�ำรุงวงศ์ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานตรวจสอบความปลอดภัยงานทาง
เราจึ ง เลื อ กส่ ง ผลงานที่ เ ราด� ำ เนิ น การนี้ ไ ปยั ง สมาพั น ธ์ ท างหลวง นานาชาติ โดยหลั ก ๆ เราอยากทราบความเห็ น ของผู ้ เ ชี่ ย วชาญ แต่ ผ ล ปรากฏว่าเราได้รางวัลที่ 1 ในสาขาด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็น 1 ใน 12 รางวั ล ของสมาพั น ธ์ ฯ โดยผู ้ เ ชี่ ย วชาญส่ ว นใหญ่ ล งความเห็ น ว่ า เราท� ำ ได้ ถูกต้อง โดยจะน�ำผลงานของเราไปตีพิมพ์เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ประเทศอื่น ๆ ซึ่งผมคิดว่า น่าจะเป็นการน�ำเสนอที่ไม่ใช่เพียงเทคนิคอย่างเดียว แต่เรา ยังน�ำเสนอหลักการ และการปฏิบัติจนสามารถลดอุบัติเหตุได้จริง ผลลัพธ์ มีมูลค่ามากกว่าเงินลงทุน จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ท�ำให้เราได้รางวัลชนะเลิศ ทุกวันนี้เราเพิ่งเริ่มท�ำในเสต็ปแรก นั่นคือเราจะท�ำถนนแบบอธิบายตัวเอง (self-explaining road) คือ ท�ำให้ถนนบอกประชาชนล่วงหน้าว่ามีความเสี่ยง ซึ่งสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้ 57% เมื่อต้นปี 2020 ได้มีการประชุมตาม ปฏิญญามอสโคว ที่กรุงสต็อคโฮม ประเทศสวีเดน มีข้อสรุปว่าวิธีการเดิม เป็นการมองปัจจัยเรือ่ งของพฤติกรรมการขับขีเ่ พียงอย่างเดียว ซึง่ ความเป็นจริง มีปัจจัยอื่น ๆ เช่น ถนน คนเมาไม่มีสติ ขับรถตกคลอง อาจมองว่าคนขับเมา แต่ถ้าถนนตรงนั้นมีแบริเออร์ ผู้ขับจะชนแบริเออร์ และไม่เสียชีวิตก็ได้ ซึ่งเป็นการมองแบบองค์รวม ส่วนเสต็ปที่สองเราจะท�ำถนน เป็นถนนที่เรียกว่าถนนที่ให้อภัย หมายความว่า เมื่อไหร่ที่มีความผิดพลาดเมื่อนั้นจะเกิด อุบัติเหตุ กล่าวคือ ไม่ได้ตั้งใจแต่มันเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาบนท้องถนน ดังนั้น ถนนต้องถูกออกแบบให้ผู้ใช้ถนนไม่เกิดการสูญเสีย นั้นคือหลักการ ของค�ำว่า “forgiving ถนนที่ให้อภัย” นั้นคือ 15 ปีต่อจาก 5 ปีแรกที่เราจะท�ำสเต็ปที่หนึ่ง กรมทางหลวงชนบท จะท�ำถนนที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุด ส่วนในด้านยานยนต์อาจจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญทางด้าน ยานยนต์ในการพัฒนาและท�ำเทคโนโลยีให้ดีที่สุด สามารถจับต้องได้ ส่วนผู้ขับขี่จะมีการสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ที่ปลอดภัย มีการศึกษากฎจราจร ใช้รถ ใช้ถนนเป็นไปตามที่กฎหมายก�ำหนด เพราะถนน คน และรถ ไม่มีอะไรส�ำคัญน้อยกว่ากัน ทุกอย่าง ส�ำคัญเท่ากันหมด จะต้องมองทีอ่ งค์รวมทุกปัจจัย เพราะทุกปัจจัยมีผลทัง้ หมด หากทุกคนท�ำตามหน้าที่ ความสูญเสียทีจ่ ะเกิดขึน้ ไจะลดน้อยลง อยากให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน โดยจะต้องตระหนักถึงหน้าที่ของแต่ละปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ถนน คน หรือรถ ก็ตาม “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
30
Spotlight
เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทเพชรบูรณ์
เก็บกระเป๋าสตางค์ส่งคืนเจ้าของ วารสารกรมทางหลวงชนบทฉบับนี้ มีเรือ่ งราวทีส่ ร้างรอยยิม้ และความประทับใจ ของเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทที่ได้กระท�ำความดี มาฝากกันค่ะ ฉบับนี้ขอขึ้นเหนือไปที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พูดคุยกับคุณน�้ำฝน ขวัญสงค์ นายช่างโยธา แขวงทางหลวงชนบทเพชรบูรณ์ ที่เก็บกระเป๋าสตางค์ส่งคืนเจ้าของ หลังจากได้ทราบว่ามีพลเมืองดีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงชนบทเก็บสิ่งของมีค่า ส่งคืนเจ้าของได้ ทีมบรรณาธิการก็ได้ประสานงานพูดคุยกับคุณน�้ำฝน ขวัญสงค์ นายช่างโยธา พลเมืองดีซึ่งเล่าเหตุการณ์ ให้เราฟังว่า ช่วงเวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง ได้เดินทางกลับบ้าน และแวะเข้าห้องน�้ำที่สถานีบริการน�้ำมันแห่งหนึ่ง สังเกตเห็น กระเป๋าวางอยูบ่ นสุขภัณฑ์ ก็ไม่กล้าหยิบออกมา ได้แต่ยนื รอเผือ่ เจ้าของจะกลับมาเอาคืนไป ซึง่ ก็ยนื อยูน่ าน ไม่เห็นมีใครกลับ เข้ามาก็เลยเข้าไปหยิบ และก็เปิดดูเห็นเอกสารส�ำคัญในกระเป๋าและเงินจ�ำนวนหนึ่ง ซึ่งได้พยายามหาเบอร์ติดต่อแต่ก็ไม่เจอ ลองเอาชือ่ ตามบัตรประชาชนไปค้นในเฟสบุก๊ ก็ไม่เจอ จึงได้ปรึกษากับเพือ่ น เพือ่ นแนะน�ำว่าให้สง่ ไปตามทีอ่ ยูบ่ ตั รประชาชน แต่ก็กลัวไม่ถึงมือเจ้าของ ก็เลยตัดสินใจโพสต์ในเฟสบุ๊กส่วนตัวและแท็กไปที่เพจเพชรบูรณ์ จากนั้นเจ้าของก็ติดต่อมาและ ให้ส่งกลับไปตามที่อยู่บัตรประชาชน ซึ่งตอนนั้นคิดเพียงว่าต้องส่งคืนเจ้าของให้ได้ เพราะคิดว่าถ้าเป็นของของเรา เราก็อยากได้คืน และก็คิดว่าเค้าเองก็คงอยากได้คืนเหมือนกัน และนี่คือบทสัมภาษณ์จากคุณน�้ำฝนค่ะ ซึ่งเรื่องราว ต่อมาเมื่อเจ้าของได้รับกระเป๋าคืนแล้วก็ได้ขอบคุณคุณน�้ำฝนและอยากจะมอบสินน�้ำใจซึ่งคุณน�้ำฝนไม่ขอรับไว้ เก็บไว้แค่ เพียงค่าส่งของเท่านั้น ทีมบรรณาธิการรูส้ กึ ดีใจมากทีเ่ จ้าหน้าทีก่ รมทางหลวงชนบทได้กระท�ำความดี อยากให้มคี นแบบนีใ้ นสังคมมาก ๆ สังคม ของเราจะได้น่าอยู่ยิ่งขึ้นค่ะ ทั้งนี้ ทางทีมบรรณาธิการก็ขอเป็นก�ำลังใจให้คุณน�้ำฝนปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มความ สามารถ และเป็นคนดีของสังคมต่อไปค่ะ Spotlight – คุณน�ำ้ ฝน ขวัญสงค์ ต�ำแหน่งนายช่างโยธา สังกัดแขวงทางหลวงชนบทเพชรบูรณ์ คติในการท�ำงาน – ตั้งใจท�ำงานให้ส�ำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยไม่ได้หวังผล
กรมทางหลวงชนบท
Journal of Department of Rural Roads
ทช. นำ�ประชาชนมีส่วนร่วม
การมีส่วนร่วม / คลินิกนายช่าง
โครงการศึกษาความเหมาะสมผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทางหลวงชนบท น�ำประชาชนเข้ามามีสว่ นร่วมทุกขัน้ ตอนของโครงการศึกษาความเหมาะสม ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (EIA) พร้อมคัดเลือกแนวเส้นทางและรูปแบบสะพาน ทางเชื่อมเกาะลันตา ต.เกาะกลางต.เกาะลันตาน้อย จ.กระบี่ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยส�ำนักก่อสร้างสะพาน จัดประชุมสรุปแนวทางเลือกทีเ่ หมาะสม โครงการ ศึกษาความเหมาะสมผลกระทบสิง่ แวดล้อมในขัน้ รายละเอียด (EIA) เส้นทางเชือ่ มเกาะลันตา ต�ำบลเกาะกลางต�ำบลเกาะลันตาน้อย อ�ำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ โดยได้เชิญกลุ่มเป้าหมาย ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทีเ่ กีย่ วข้องในพืน้ ทีต่ ำ� บลคลองยาง และเกาะกลาง มาร่วมรับฟังสรุปผลการคัดเลือกแนวทางและรูป แบบโครงการเส้นทางเชือ่ มเกาะลันตา (ต�ำบลเกาะกลาง-ต�ำบลเกาะลันตาน้อย) ตลอดจนพืน้ ทีศ่ กึ ษาโครงการ ขั้นตอน กระบวนการด�ำเนินโครงการ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอ แนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงการ เพื่อน�ำมาประกอบใช้พิจารณาการศึกษาของโครงการให้มีความเหมาะสมและ สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้ครบถ้วนมากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา ทช.ได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนไปแล้ว แบ่งเป็น การประชุมปฐมนิเทศ โครงการ, การประชุมกลุม่ ย่อยครัง้ ที่ 1 (2 กลุม่ ), การประชุมสรุปแนวทางเลือกทีเ่ หมาะสม (2 กลุม่ ) และคาดว่า ในเดือนธันวาคม 2563 ทช.จะจัดการประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 2 (2 กลุ่ม) เพื่อน�ำเสนอแนวสายทาง รูปแบบ โครงการ พร้อมผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม มาตรการป้องกันแก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อไป ทั้งนี้ แนวเส้นทางที่ได้คัดเลือกจากผู้เข้าร่วมประชุมนั้น มีพื้นที่ศึกษาจุดเริ่มต้นจากทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 4206 กม.ที่ 26+620 ไปบรรจบกับจุดสิ้นสุดทางหลวงชนบทสาย กบ.5035 ความยาวสะพานรวม เชิงลาดประมาณ 1,950 เมตร รูปแบบโครงการสรุปได้ว่าเป็นแบบสะพานคานขึง (Extradosed Bridge) ซึ่ง นอกจากจะสะดวกต่อการก่อสร้างแล้ว โครงสร้างดังกล่าวยังมีความทนทานต่อการเกิดสนิม/กระแสลม ซ่อม บ�ำรุงง่าย มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม มีราคาค่าก่อสร้าง/บ�ำรุงรักษาที่ต�่ำกว่ารูปแบบอื่น มีผลกระทบ ต่อการฟุ้งกระจายของตะกอนดินและระบบนิเวศวิทยาทางน�้ำน้อยที่สุด ส�ำหรับการประชุมครั้งนี้มีนายวลาวัต บินอุมาร์ ผู้อ�ำนวยการกลุ่มโครงสร้างพิเศษ ส�ำนักก่อสร้าง สะพาน เป็นประธานในพิธีเปิดประชุม นายไกวัล วัฒนา ผู้อ�ำนวยการกลุ่มออกแบบโครงสร้าง ส�ำนักส�ำรวจ และออกแบบ พร้อมผู้แทนจากส�ำนักก่อสร้างสะพาน และประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ประมาณ 150 คน เข้าร่วมประชุม ณ อาคารโรงยิมเอนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนต�ำบลเกาะกลาง ต�ำบลเกาะกลาง อ�ำเภอ เกาะลันตา จังหวัดกระบี่
ช่าง ย า น ก ิ น ิ คล
คอลัมน์คลินิกนายช่าง ฉบับเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2563 ขอน�ำเสนอข้อมูลจากกลุ่มพัฒนาระบบ บริหารงานบ�ำรุง ส�ำนักบ�ำรุงทาง เกี่ยวกับบัญชีโครงข่ายสายทางกรมทางหลวงชนบท ประจ�ำปีงบประมาณ 2565 ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีสายทางในความรับผิดชอบอยู่ทั่วประเทศกว่า 48,000 กิโลเมตร โดยรวบรวมข้อมูล จากโครงข่ายของส�ำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท และหมวดบ�ำรุง ทางหลวงชนบท ที่สามารถน�ำเอาไปใช้ในงานพัฒนา ต่อยอด และเป็นประโยชน์ต่อผู้ ที่สนใจศึกษาข้อมูล ซึ่งมีข้อมูลทั้งรหัสสายทาง ระยะทาง ชนิดผิวจราจร ต�ำแหน่งพิกัด สายทาง และหน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบ ท่านผูอ้ า่ นทุกท่านสามารถเข้าไปดูและดาวน์โหลด ข้อมูล รายละเอียดโครงข่ายสายทางของกรมทางหลวงชนบท ได้ตามคิวอาร์โค้ดนี้เลย “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
31