วารสาร
ปีท่ี 18 ฉบับเดือนกุมภาพั นธ์ - มีนาคม 2564
กรมทางหลวงชนบท Journal of Department of Rural Roads
ถนนสาย ง, ค 3 และ ค 4 ผังเมืองรวมเมืองนครพนม (ถนนพนมนาคราช)
ALK Editor’s T
K L A T s ’ r o . t ทช Edi
ที่ ของทช. ในพนื้ ๆ ง ่ า ต ร า ก ง ร รจู้ กั โค มารถ จะพาทกุ ทา่ นไป กล�ำบากในการเดินทาง ให้สา ชีวิต ม ค า ี น ม ์ ธ ั น ภาพ ภาพ มยา ประจำ� เดอื นกมุ าชนในพื้นที่ดังกล่าว ที่มีควา ว ที่จะน�ำไปสู่การพัฒนาคุณ ะทบั ใจ 3 ่ ี ท ั บ บ ฉ .) ช ย ่ ี ช ะการท่องเท บาก อปุ สรรคหรอื ความปร ลวงชนบท (ท ัฒนาคุณภาพชีวิตของประ ล ห แ ง จ ิ า ก ท ฐ ม ษ ร ร ก เศ ร า น ้ ุ ส วาร ศไทย เพื่อพ ิมการคมนาคมขนส่ง กระต ดำ� เนนิ งานนนั้ มคี วามยากลำ� เท ะ ร ป ง อ ข น ด ทช. ตามแนวชายแ ้อย่างสะดวก ปลอดภัย ส่งเสร ยดู่ กี นิ ดมี ากยงิ่ ขนึ้ ซงึ่ ในการ ว้ ย อาทิ ถอดสทู ได้ ด ี ก อ ั น ก อ ม ม า ได า ต ร ว ิ ด จ ี ค ้ ต ญ ั เดินทางส ทอ้ งถนิ่ ใหม้ ท้ า่ นผอู้ า่ นได อเชิญทุกท่านติดตามอ่านกัน ใน ให น ช ใจ า น ช ส ะ ่ า ร ่ ี น ป บ ั ท ง ร ะ อ ค ความเปน็ อยขู่ ไปติดตามอ่านในเล่มกันนะ คี อลมั นอ์ นื่ ๆ ทสี่ อดแทรกสาร ึ่งเนื้อหาจะเป็นอย่างไรนั้น ข ง ซ ม อะไรซ่อนอยู่บ้า กโครงการกอ่ สรา้ งแลว้ เรายงั นเลนส์ เรื่องเล่าจากนายช่าง า า ่ จ ผ ก ง รู้ มอ และนอ ds กฎหมายน่า a o R l ra u R n Travel o นี้เลยครับ ในวารสารฉบับ
ขอคุย
ntS e ONT สารบัญ ทช. ร่วมใจภักดิ์
กรมทางหลวงชนบท จัดกิจกรรมจิตอาสา “ทำ�ความดี บำ�เพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม” ณ วัดขนุน จ.พิจิตร
กิจกรรมผู้บริหาร ทช. โฟกัส
ทางหลวงชนบท เปิดใช้ถนนผังเมืองรวมเมืองนครพนม (ถนนพนมนาคราช) สนับสนุนการขนส่ง การท่องเที่ยว ส่งเสริมเศรษฐกิจชายแดนไทย - ลาว ทช. อัพเดท สะพานข้ามคลองชิง อำ�เภอกาบัง จังหวัดยะลา
ถอดสูท ทช. นายไกวัลย์ โรจนานุกูล รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ทช. เพื่อประชาชน
กรมทางหลวงชนบท จัดกิจกรรม “มอบความสุข คืนรอยยิ้ม” ให้น้องบนดอย ปีที่ 3 บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างถนนสายทางเข้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ จ.เชียงใหม่
Travel on Rural Roads เมืองสองทะเลใหญ่ จังหวัดสงขลา สร้าง ซ่อม ส่งเสริม
ริมแนวสายทางหลวงชนบท สข.3049
บ้านเลขที่ 9 ทางหลวงชนบทเดินหน้าถนนเพื่อการท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) กฎหมายหน้ารู้ เมื่อทายาทรับมรดก มาพร้อมกับหนี้สิน
จริยธรรมนำ�ใจ กรมทางหลวงชนบท ได้รับรางวัล องค์กรคุณธรรมต้นแบบ
ประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ลำ�ดับที่ 1 ของกระทรวงคมนาคม มองผ่านเลนส์ โครงการเอกลักษณ์ ทช.
ทช. วาไรตี้
กรมทางหลวงชนบท รับมือไฟป่าและหมอกควันในเขตทาง พร้อมสนับสนุนรถบรรทุกน้ำ� และเจ้าหน้าที่บูรณาการดับไฟป่าเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน เรื่องเล่าจากนายช่าง / อ่านดีมีรางวัล นายสงคราม เชิดวงษ์สูง นายช่างโยธาชำ�นาญงาน สำ�นักก่อสร้างทาง ริมทางชนบท ด่านชั่งน้ำ�หนักกรมทางหลวงชนบท
Spotlight
“สิ่งที่รับผิดชอบต้องควบคู่ไปกับสิ่งที่ชอบ”
การมีส่วนร่วม / คลินิกนายช่าง แขวงทางหลวงชนบทขอนแก่น จัดประชุมแสดงความคิดเห็น
ในระหว่างการดำ�เนินการโครงการติดตั้งกำ�แพงคอนกรีตหุ้มด้วย แผ่นยางธรรมชาติ/ วิธีการติดตั้งป้ายจราจร
กองบรรณาธิการ ผู้อำ�นวยการสำ�นักบริหารกลาง สำ�นักส่วนกลาง สำ�นักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท หมวดบำ�รุงทางหลวงชนบท กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่
จัดทำ�โดย
Department of Rural Roads
3 4-5 6-7 8-9 10 - 11 12 13 - 15 16 - 19 20 - 21 22 23 24 25 26 - 27 28 - 29 30 31
สำ�นักบริหารกลาง กรมทางหลวงชนบท เลขที่ 9 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 โทรศัพท์ 0 2551 5202 www.drr.go.th
ทช. ร่วมใจภักดิ์
กรมทางหลวงชนบท จัดกิจกรรมจิตอาสา
“ทำ�ความดี บำ�เพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม” ณ วัดขนุน จ.พิจิตร กรมทางหลวงชนบท โดยแขวงทางหลวงชนบทพิ จิ ต ร และหมวดบ�ำรุงทางหลวงชนบทพิจติ ร น�ำเจ้าหน้าทีใ่ นสังกัดร่วมท�ำ กิจกรรมจิตอาสา บ�ำเพ็ญประโยชน์ในโครงการ “ท�ำความดีเพือ่ ชาติ ศาสน์ กษัตริย”์ โดยร่วมกันท�ำความสะอาดบริเวณรอบพระอุโบสถ วัดขนุน ต�ำบลเมืองเก่า อ�ำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งวัดดังกล่าว มีพื้นที่ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงชนบทสาย พจ.4003 แยกทางหลวง แผ่ น ดิ น หมายเลข 1300 - เทศบาลเมื อ งพิ จิ ต ร อ�ำเภอเมื อ ง จั ง หวั ด พิ จิ ต ร โดยเป็ น กิ จ กรรมที่ จั ด ขึ้ น เพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ สั ง คม การเป็นผูใ้ ห้ การเสียสละ อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่สว่ นรวม ซึง่ การ ลงพืน้ ทีท่ �ำกิจกรรมจิตอาสาในครัง้ นี้ มีนายอ�ำนาจ หงษ์แสนยาธรรม “ทางหลวงชนบท
ผูอ้ �ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทพิจติ ร และนางดวงมาลย์ เกตุทพิ ย์ ผูอ้ �ำนวยการหมวดบ�ำรุงทางหลวงชนบทพิจติ ร น�ำเจ้าหน้าทีล่ งพืน้ ที่ ท�ำกิจกรรม นอกจากนี้ แขวงทางหลวงชนบทพิ จิ ต รมี แ ผนในการจั ด กิจกรรมจิตอาสา ช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่องเป็นประจ�ำทุกเดือน ซึ่งที่ผ่านมาได้ด�ำเนินกิจกรรมจิตอาสามาแล้วหลายกิจกรรม อาทิ การด�ำเนินงานซ่อมถนนในศาลากลางจังหวัดพิจิตร, การท�ำความ สะอาดสถานีรถไฟพิจิตร, ท�ำความสะอาดสวนหย่อมสาธารณะเขต เทศบาลเมือง, ซ่อมถนนในวิทยาลัยเทคนิคพิจิตรและล้างอุโบสถ วัดท่าหลวงพระอารามหลวง อ�ำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
3
4
กิจกรรมผู้บริหาร
อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ร่วมประชุม หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม
นายศั ก ดิ์ ส ยาม ชิ ด ชอบ รั ฐ มนตรี ว ่ า การกระทรวงคมนาคม เป็ น ประธานการประชุ ม หัวหน้าหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อม หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ร่วมประชุมผ่านระบบสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม Zoom) เพือ่ รับฟังข้อสัง่ การจากรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงคมนาคม โดยได้แสดงความขอบคุณทุกหน่วยงานในการ จัดเตรียมข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการอภิปรายในการประชุมสภาฯ ที่ผ่านมา และให้ทุกหน่วยงานติดตามเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับภารกิจหน้าที่ เพื่อด�ำเนินการต่อไป นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานด�ำเนินการตรวจสอบการปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบด้วยมาตรการตามแนวทางป้องกัน เพื่อลดสถิติให้น้อยลง ทั้งนี้ ได้ก�ำชับเรื่องการเซ็นสัญญาการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ขอให้ทุกหน่วยเร่งเซ็นสัญญาให้มีการตรวจสอบรายละเอียดในสัญญาจ้าง 2 ประเด็น คือ งานก่อสร้างในพื้นที่ชุมชนในปริมาณการจราจรสูง ให้ลดผลกระทบต่าง ๆ ต่อชุมชน โดยให้ด�ำเนินการแบบเดียวกับการบริหารโครงการก่อสร้างถนน พระราม 2 ให้ทุกโครงการ ก�ำหนดต�ำแหน่งการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV เพื่อให้สามารถบันทึกภาพวีดีโอระหว่างการก่อสร้าง โดยให้เป็นหน้าที่ของ ผู้รับจ้าง พร้อมเน้นย�้ำในเรื่องงบประมาณ ปี พ.ศ.2564 ให้ทุกหน่วยเร่งรัดในการเบิกจ่าย รีบด�ำเนินการสรุปภายในต้นเดือนมีนาคม หลังจากนั้น ได้มีการมอบหมายให้ กรมทางหลวงชนบท และกรมทางหลวง เข้าตรวจสอบการด�ำเนินการโครงการติดตั้ง RFB และ RGP โดยให้ท�ำการ บูรณาการท�ำความเข้าใจกับประชาชน เกี่ยวกับการติดตั้งเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางในระยะยาว ในส่วนของกรมทางหลวงชนบทมีนายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท และนายผดุงศักดิ์ สรุจกิ �ำจรวัฒนะ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมประชุมผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม Zoom) ณ ห้องประชุมกองแผนงาน กรมทางหลวงชนบท กรุงเทพฯ
รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างสะพาน วารสาร
เข้าศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี
กรมทางหลวงชนบท
นายประศักดิ์ บัณฑุนาค รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมนายอภินันท์ จิรชัยกิตติ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างสะพานเข้าศูนย์ ราชการจังหวัดสระบุรี เพื่อติดตามผลการด�ำเนินงานของโครงการ โดยมีนายพุทธิพงศ์ หะลีห์รัตนวัฒนา ผูอ้ �ำนวยการกลุม่ ควบคุมการก่อสร้างที่ 3 ส�ำนักก่อสร้างสะพาน เป็นผูร้ ายงานผลการด�ำเนินงานโดยภาพรวม ส�ำหรับงานก่อสร้างเป็น สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 670 เมตรขนาด 4 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.25 เมตร ทางเท้ากว้างข้างละ 2 เมตร พร้อมถนนต่อเชือ่ มจุดเริม่ ต้นและจุดสิน้ สุดโครงการ ทัง้ นี้ เมือ่ ก่อสร้างแล้วเสร็จประชาชนจะได้รบั ความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทางมาติดต่อ ราชการ ยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาการเดินทาง การท่องเที่ยวในอนาคต พัฒนาโครงข่ายทางในการ สัญจรบนถนนทางหลวงชนบทให้ปลอดภัย และมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
กิจกรรมผู้บริหาร รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ
จุดตัดทางรถไฟกับถนนสาย ปข.1019 แยก ทล.4 - บ้านปากน�้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายไกวัลย์ โรจนานุกูล รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามความ ก้าวหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ จุดตัดทางรถไฟกับถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1019 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 – บ้านปากน�้ำปราณ อ�ำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ รองอธิบดีฯ ได้เน้นย�้ำในเรื่องการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และให้เพิ่มเติมการติดตั้งป้ายเตือน ไฟฟ้า แสงสว่างในพื้นที่โครงการฯ ให้ครบถ้วน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้เส้นทาง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมเข้มงวดเรื่องฝุ่นละออง (PM 2.5) ในพื้นที่โครงการฯ โดยขอให้ผู้รับจ้าง เพิ่มรอบความถี่ในการรดน�้ำ ดับฝุ่นตามมาตรการของกรมทางหลวงชนบท โครงการดังกล่าว คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2564 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไข ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนได้อย่างสมบูรณ์ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย ในการสัญจรบนถนนทางหลวงชนบท
วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท
ประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้าง ถนนสาย ง1 ผังเมืองรวมเมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ นายโกสินท์ พิทยะเวสด์สุนทร วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านควบคุมการก่อสร้าง) เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้า โครงการก่อสร้างถนนสาย ง1 ผังเมืองรวมเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการ พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคในการ ก่อสร้าง โดยมีนายราชันย์ จันทร นายช่างโยธาช�ำนาญงาน ส�ำนักก่อสร้างทาง รายงานผลการด�ำเนินงาน ณ ห้องประชุมส�ำนักงานโครงการก่อสร้างฯ ทั้งนี้ จังหวัดอุตรดิตถ์มีพื้นที่ติดกับจังหวัดแพร่ สุโขทัย และพิษณุโลก มีแนวโน้มในการขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่อง จึงจ�ำเป็นต้องด�ำเนินการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในชุมชนเมืองและการเดินทาง ขนส่งระหว่างจังหวัด สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด ซึ่งเมื่อ ก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเขตชุมชนเมือง อุตรดิตถ์ แบ่งเบาการจราจรบนถนนสายหลัก รองรับการพัฒนาเมืองและ การเจริญเติบโตของเมืองในอนาคต “ทางหลวงชนบท
วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท ประชุมคณะท�ำงานก�ำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ การประเมินผลการด�ำเนินงาน เพื่อสร้างเอกลักษณ์ ทช.
นายวิศว์ รัตนโชติ วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านบ�ำรุงรักษาทาง และสะพาน) ประชุมคณะท�ำงานก�ำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์การประเมินผล การด�ำเนินงานเพื่อสร้างเอกลักษณ์ ทช. ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยประชุ ม ถ่ า ยทอดผ่ า นระบบ Video Conference ไปยั ง ส�ำนั ก งาน ทางหลวงชนบทที่ 1 -18 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจงหลักเกณฑ์ การประเมิน เพื่อเตรียมความพร้อม สร้างความเข้าใจหลักเกณฑ์การประเมิน ทั้งนี้ วิศวกรใหญ่ได้เน้นย�้ำ การเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ให้มีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ประชาชนพึงพอใจในการใช้บริการ และการส่งเสริม การเป็นพี่เลี้ยงให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ ห้องประชุมธารสิทธิ์พงษ์ ชั้น 3 อาคาร 2 กรมทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
5
6
ทช. โฟกัส
ทางหลวงชนบท เปิดใช้ถนนผังเมืองรวมเมืองนครพนม (ถนนพนมนาคราช) สนับสนุนการขนส่ง การท่องเที่ยว ส่งเสริมเศรษฐกิจชายแดนไทย-ลาว วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
ทช.โฟกัส ฉบับนี้เราจะลงไปโฟกัสกันที่โครงการก่อสร้าง ถนนจั ง หวั ด แนวชายแดนประเทศไทย ที่ จั ง หวั ด นครพนม ถนนสาย ง, ค3 และ ค4 ผังเมืองรวมเมืองนครพนม หรือถนน “พนมนาคราช” สนั บ สนุ น ยุ ท ธศาสตร์ ด ้ า นโลจิ ส ติ ก ส์ การท่องเทีย่ วระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน ที่มีพรมแดนติดริมแม่น�้ำโขง เมืองชายแดนที่มีความ อุดมสมบูรณ์ มีแหล่งท่องเที่ยว วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีความ หลากหลายของวั ฒ นธรรม ชาติ พั น ธุ ์ และประวั ติ ศ าสตร์
ที่ยาวนานของพระธาตุพนม พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด ซึง่ จังหวัดนครพนมนัน้ มีพนื้ ทีอ่ ยูต่ รงข้ามเมืองท่าแขก แขวงค�ำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่เป็นเส้นทางการ คมนาคมขนส่งสินค้า เชื่อมโยงจากประเทศไทย สู่สปป.ลาว เวียดนาม และตอนใต้ของจีน ท�ำให้จังหวัดนครพนมมีการ ขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทช. จึงได้ด�ำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ง, ค3 และ ค4 ผังเมืองรวมเมืองนครพนม (ถนนพนมนาคราช) เพื่อรองรับ การเจริญเติบโตของเมืองนครพนมในอนาคต แก้ไขปัญหาการ จราจรที่หนาแน่น และเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางในพื้นที่
ทช. โฟกัส โดยมีลักษณะการก่อสร้างประกอบด้วย - ถนนสาย ง ถนนตัดใหม่ แยกจากถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 เริ่มต้นบริเวณหน้าหน่วยเรือรักษาความสงบ เรียบร้อยตามล�ำแม่น�้ำโขง (นรข.) และไปสิ้นสุดกับถนนเฟื่องนคร และถนนนิตโย (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22) โดยก่อสร้างเป็น ผิวจราจรแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 4 ช่องจราจร ไป-กลับ ไหล่ทางกว้าง 2 เมตร ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อ�ำนวย ความปลอดภัยตลอดสายทาง มีทางเท้าและระบบระบายน�้ำ ใต้ทางเท้าบริเวณชุมชน พร้อมก่อสร้างสะพาน 1 แห่ง ระยะทาง รวม 3.774 กิโลเมตร - ถนนสาย ค3 และ ค4 แยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 240 (ถนนเลี่ยงเมืองนครพนม) เริ่มต้นบริเวณ กม.ที่ 5+864 และไปตัดกับถนนสาย ง ต่อเนื่องไปเชือ่ มกับถนนเทศาประดิษฐ์ ไปสิน้ สุดกับถนนสุนทรวิจติ ร หรือถนนชยางกูร (ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212) ระยะทางรวม 2.134 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ก่อสร้างถนนใหม่ ผิวจราจรแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 4 ช่องจราจร ไป-กลับ ไหล่ทางกว้าง 2 เมตร เกาะกลาง แบบทาสีตีเส้น ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อ�ำนวยความ ปลอดภัย ระยะทาง 1.223 กิโลเมตร ส่วนที่ 2 ก่อสร้างบนถนนเทศาประดิษฐ์ รูปแบบการ ก่อสร้างมีทั้งช่วงที่รื้อผิวจราจรเดิมแล้วก่อสร้างผิวจราจรใหม่ และช่วงที่ใช้ผิวจราจรเดิมปูผิวแอสฟัลท์คอนกรีตทับบนผิว จราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 4 ช่องจราจร ไป-กลับ ก่อสร้าง ทางเท้าและระบบระบายน�้ำใต้ทางเท้า ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมปรับปรุงทางแยก ติดตัง้ สัญญาณ ไฟจราจร อุปกรณ์อ�ำนวย ความปลอดภัย ระยะทาง 0.911 กิโลเมตร ปั จ จุ บั น ถนนพนมนาคราช ได้ ด�ำเนิ น การก่ อ สร้ า งแล้ ว เสร็จสมบูรณ์ และได้เปิดให้ประชาชนได้ใช้เดินทางสัญจรเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว หากท่านใดแวะเวียนเดินทางไปจังหวัดนครพนม สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวในการเดินทาง ลดระยะเวลา เลี่ยง ความแออัดของปริมาณการจราจรบนทาง สายหลักได้นะครับ
“ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
7
8
ทช. อัพเดท
สะพานข้ามคลองชิง อำ�เภอกาบัง จังหวัดยะลา
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
ทช.อั พ เดท ฉบั บ นี้ จ ะพาไปดู โ ครงการในพื้ น ที่ จั ง หวั ด ยะลา สะพานข้ า มคลองชิ ง อ�ำเภอกาบั ง จั ง หวั ด ยะลา ซึ่ ง สะพาน ดั ง กล่ า วเกิ ด จากองค์ ก ารบริ ห ารส่ ว นต�ำบลบาละ อ�ำเภอกาบั ง จั ง หวั ด ยะลา ขอรั บ การสนั บ สนุ น จากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ให้ ด�ำเนิ น การก่ อ สร้ า งสะพานข้ า มคลองชิ ง ในพื้ น ที่ ต�ำบลบาละ อ�ำเภอกาบัง จังหวัดยะลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน ในพืน้ ทีบ่ า้ นคลองปุด และนักเรียนโรงเรียนบ้านคลองนำ�้ ใส ซึง่ เดิมในอดีต ไม่มีสะพานใช้สัญจรข้ามฝั่ง ท�ำให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 400 คน เกิดความยากล�ำบาก ไม่ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง และไม่สามารถข้ามฝั่งได้ในช่วงฤดูฝน ต้องอ้อมไปใช้ เส้นทางอื่นที่มีระยะไกลในการเดินทาง
ทช. อัพเดท
โดยในปี พ.ศ. 2562 – 2564 ทช.ได้ด�ำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองชิง เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชนในพืน้ ที่ ให้ประชาชนสามารถเดินทางขนส่งพืชผลทางการเกษตรได้อย่างสะดวกปลอดภัยมากยิง่ ขึน้ ลดระยะเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดระยะทางได้ถึง 8 กิโลเมตร สะพานข้ามคลองชิง มีจดุ เริม่ ต้นโครงการบริเวณบ้านคลองชิง เชือ่ มกับบ้านคลองนำ�้ ใส ต�ำบลบาละ อ�ำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ก่ อ สร้ า งเป็ น แบบสะพานคอนกรี ต เสริ ม เหล็ ก ยาว 120 เมตร ผิ ว จราจรกว้ า ง 9 เมตรและก่ อ สร้ า งถนนเชิ ง ลาดแบบ คอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 778 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจร ตีเส้นผิวจราจร และวางท่อ ปัจจุบันสะพานดังกล่าว ด�ำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และเปิดให้ประชาชนใช้เดินทางสัญจรผ่านได้เรียบร้อยแล้ว “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
9
10 ถอดสูท ทช.
นายไกวัลย์ โรจนานุกูล
รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท คอลัมน์ถอดสูท ทช. ฉบับนี้ได้รับเกียรติจากรองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท พูดคุยเกี่ยวกับหลักการ แนวคิด เล่าเรือ่ งราว การแบ่งสมดุลระหว่างการใช้ชวี ติ กับการท�ำงาน และเรือ่ งราวน่าประทับใจในกรมทางหลวงชนบท ทีส่ ามารถ น�ำมาใช้เป็นแนวคิดในการท�ำงาน แก่ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
แนวทางและหลักในท�ำงาน
การแบ่งสมดุลระหว่างการท�ำงานและการใช้ชีวิต
ในการท�ำงานเราก็ต้องยึดในนโยบายของประเทศ นโยบายของกระทรวง นโยบายของกรมฯ หรือของท่าน อธิบดี ที่จะท�ำอย่างไรให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ให้เป็นผลส�ำเร็จได้ เพราะว่าสิง่ ทีเ่ ป็นนโยบาย ก็เหมือนเราไป รับรองกับทางกระทรวงและพีน่ อ้ งประชาชนนะครับ เพราะ ฉะนัน้ การท�ำอย่างไร ให้งานเหล่านัน้ จะเกิดความส�ำเร็จ และ งานบางส่วนของเราอาจมีผลกระทบกับประชาชน ก็ต้อง ท�ำให้ดีที่สุดครับ
เรือ่ งการท�ำงาน ผมก็จะแบ่งสมดุล เรียกว่ามีอยู่ 3 ส่วน เรื่องหลักก็อย่างที่เรียนไปแล้ว ว่าเนื่องจากภาระหน้าที่ ที่ ต ้ อ งรั บ ผิ ด ชอบค่ อ นข้ า งเยอะ ไม่ ใ ช่ เ ฉพาะตั ว เราเอง เป็นขององค์กรด้วยที่เราจะต้องดูแลขับเคลื่อนงาน ในขณะ เดียวกันในส่วนของผูใ้ ต้บงั คับบัญชาหรือว่าน้อง ๆ ทีท่ �ำงาน ร่วมกัน เราจะขับเคลื่อนยังไง ที่จะให้เขาท�ำงานให้ส�ำเร็จ แล้วก็ท�ำแล้วมีความสุข ในส่วนของผมเอง สิ่งที่เราทุกคน คิดถึงก็คือ เรื่องของครอบครัว เพราะฉะนั้นในการท�ำงาน เราต้องพยายามวางแผนการท�ำงาน และอย่างที่กล่าวไป
ถอดสูท ทช. 11 ท�ำยังไงให้งานมันแล้วเสร็จ ในเวลาทีร่ วดเร็วด้วย และในเรือ่ ง การบริหารงบประมาณก็ดี เราต้องมีแผนชัดเจนและท�ำมัน ให้เสร็จ เราจะได้มีเวลาในวันหยุด ถ้าไม่มีภารกิจไม่ว่าจะไป อยู่ที่ไหน ไปอยู่ภาคใต้ 7 ปีกว่า พอวันหยุดเราก็ต้องกลับ มาดูแลครอบครัวเพราะเป็นส่วนหนึ่ง และในขณะเดียวกัน งานที่เป็นสังคม งานสาธารณะต่างๆ ที่เราต้องไปช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนหรืองานที่เราจะต้อง ไปเข้าสังคมกับเพื่อนฝูง เราก็ต้องจัดเวลาให้ได้ เพราะว่า 3 ส่วนนี้มันต้องไปด้วยกัน งานก็ต้องท�ำให้ส�ำเร็จ ครอบครัว ก็ต้องดูแล ไม่ว่าครอบครัวเราเอง ญาติพี่น้องทั้งฝ่ายเราเอง ฝ่ายภรรยาด้วย อันนี้ก็เป็นส่วนส�ำคัญ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราจะต้องร่วมก็ต้องไปด้วยกัน ผมว่าถ้าทั้ง 3 อย่างนี้ เราแบ่งสมดุลได้ในเวลาทีเ่ รามี ทุกคนมีเวลาเท่ากัน 24 ชัว่ โมง เหมือนกัน ถ้าเราจะไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ผมว่าก็คงไม่ได้ จะทุ่มกับงาน 100 เปอร์เซ็น โดยไม่ได้มองครอบครัวเลย คงไม่ได้นะครับ เราก็ต้องบริหารเวลาให้ดี ก็มีหลักในการ ท�ำงานอย่างนี้แหล่ะครับ
ตอนไปอยูภ่ าคใต้ 7 ปีครึง่ ก็ได้ท�ำเต็มที่ เราได้ปรับปรุงต่าง ๆ พั ฒ นาในเรื่ อ งการท�ำงานด้ ว ยนะครั บ เราฝึ ก ให้ ทุ ก คน มีความรับผิดชอบ แล้วก็พฒ ั นาศักยภาพเขาให้สงู ยิง่ ๆ ขึน้ ไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมชื่นชมตลอดก็คือ ไม่ว่าไปอยู่ที่ไหน ผลงาน การด�ำเนินงานของเราจะอยู่ในเกณฑ์ ที่เรียกว่า อยู่ในอันดับต้นของหน่วยตลอด เรื่องของรอยต่อเชื่อมของรุ่นก็เป็นเรื่องส�ำคัญครับ เพราะรัฐบาลมีข้อจ�ำกัดเรื่องการเพิ่มจ�ำนวนข้าราชการ เพราะฉะนัน้ จะเห็นว่ารอยต่อตรงนีม้ นั มีระยะห่างเยอะ รุน่ เก่า กับรุ่นใหม่ และจะเห็นว่าในปีสองปีนี้ ผู้บริหารจะเกษียณ ไปเยอะ ช่วงที่จะมารับต่อมันห่างกันเยอะ เพราะฉะนั้น สิ่ ง หนึ่ ง ที่ เ ราพยายามท�ำในเวลาที่ ผ มมี อ ยู ่ ต อนนี้ น ะครั บ ก็ พ ยายามจะมองว่ า เรื่ อ งหลั ก ที่ ท ่ า นอธิ บ ดี จ ะวางแผน จะท�ำอย่างไรให้กรมฯ ของเรา ถ่ายทอดทัง้ ประสบการณ์และ ความรู้เพื่อให้น้อง ๆ ที่มารับช่วงต่อ เขาสามารถเดินไปได้ และก็เดินได้ดีกว่าเดิมด้วยครับ
เรื่องราวความประทับใจในการท�ำงาน ถ้าหากพูดถึง ผมประทับใจตลอดนะครับ ตั้งแต่เป็น ผู ้ อ�ำนวยการแขวงทางหลวงชนบท เป็ น ผู ้ อ�ำนวยการ ส�ำนักงานทางหลวงชนบทมา 10 กว่าปี เพราะฉะนั้นหลัก ในการคิดของผมตลอด ถ้าไปอยู่ที่ไหนสิ่งที่เราจะต้องดู เรื่ อ งงานก็ พู ด ไปแล้ ว เรื่ อ งความเป็ น อยู ่ ข องลู ก น้ อ ง คืออะไรบ้าง สถานที่ในการท�ำงาน ที่พัก ที่อาศัย อุปกรณ์ ในการอ�ำนวยความสะดวก เพราะฉะนั้นถ้าผมไปอยู่ที่ไหน ผมจะเน้ น การพั ฒ นาที่ อ ยู ่ ที่ อ าศั ย และการให้ บ ริ ก าร ประชาชน ท�ำให้ ดี ที่ สุ ด นะครั บ แล้ ว ก็ จ ะมี ก ารวางแผน ให้ชัดเจนเลยว่า เวลาที่เราอยู่บางทีเราก็คาดคะเนไม่ได้ว่า จะอยู่นานแค่ไหน 1-2 ปี แต่ผมโชคดี ตอนเป็นผู้อ�ำนวยการ แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาครได้อยู่ 4-5 ปี ก็ได้ท�ำเต็มที่ “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
12
ทช. เพื่อประชาชน
กรมทางหลวงชนบท จัดกิจกรรม “มอบความสุข คืนรอยยิ้ม” ให้น้องบนดอย ปีที่ 3 บริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้าง ถนนสายทางเข้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ จ.เชียงใหม่
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบท โดยส�ำนักก่อสร้างทาง จัดกิจกรรม “มอบความสุข คืนรอยยิ้ม” ให้น้องบนดอย ปีที่ 3 หนึ่งใน กิจกรรมจิตอาสาส่งมอบความสุขแก่ผู้ด้อยโอกาส ช่วยเหลือ พั ฒ นาคุ ณ ภาพชี วิ ต ความเป็ น อยู ่ ใ ห้ ดี ยิ่ ง ขึ้ น ณ โรงเรี ย น บ้ า นห้ ว ยโป่ ง อ�ำเภอแม่ ร ะมาด จั ง หวั ด ตาก ซึ่ ง มี พื้ น ที่ อ ยู ่ บริ เ วณแนวโครงการก่ อ สร้ า งถนนสายทางเข้ า ศู น ย์ พั ฒ นา โครงการหลวงเลอตอ อ�ำเภอแม่ ร ะมาด จั ง หวั ด ตาก, อ�ำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ด�ำเนินการจัดกิจกรรม ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ภายในงานมีการร่วมรับประทานอาหาร กลางวัน ระหว่างเด็กนักเรียน ครู เจ้าหน้าที่ และประชาชน ที่ พั ก อาศั ย ในพื้ น ที่ ข ้ า งเคียง โดยมีนายสามารถ เหลืองาม นายช่างโยธาปฏิบตั งิ าน ส�ำนักก่อสร้างทาง กรมทางหลวงชนบท
น�ำเจ้ า หน้ า ที่ เ ข้ า ร่ ว มกิ จ กรรม ทั้ ง นี้ มี น ายสมบู ร ณ์ เป็ ง งา ผูอ้ �ำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยโป่ง ครู นักเรียน เข้าร่วมกิจกรรม และให้การต้อนรับ ปัจจุบัน กรมทางหลวงชนบทอยู่ระหว่างด�ำเนินโครงการ ก่ อ สร้ า งทางเข้ า ศู น ย์ พั ฒ นาโครงการหลวงเลอตอ อ�ำเภอ แม่ ร ะมาด จั ง หวั ด ตาก, อ�ำเภออมก๋ อ ย จั ง หวั ด เชี ย งใหม่ โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ตอน ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้าง แล้วเสร็จทัง้ หมดในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เมือ่ ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยยกระดับการคมนาคมขนส่ง ให้มีความสะดวก รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้กับชาวเขา รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวโครงการหลวง เลอตอในระยะยาวต่อไป
Travel on Rural Roads
13
เมืองสองทะเลใหญ่
จังหวัดสงขลา รมแนวสายทางหลวงชนบท ิ สข.3049 คอลัมน์ Travel on Rural Roads ฉบับนี้จะพาทุกท่านไปเมืองสองทะเลใหญ่ จังหวัดสงขลา รมแนวสาย ิ ทางหลวงชนบท สข.3049 กั บ บรรยากาศที่ เง ียบสงบ เหมาะแก่ ก ารพั ก ผ่ อ น พบกั บ แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วชื่ อ ดั ง แลนด์มาร์คที่น่าสนใจของจังหวัดสงขลา สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่จะได้เรยนรู ี เ้ กี่ยวกับความเป็นมาของเมือง สองทะเลใหญ่แห่งนี้
วัดพะโคะ วัดพะโคะ หรือวัดราชประดิษฐาน เดิมชื่อว่า “วัดหลวง” ตั้งอยู่ที่บริเวณเขาพัทธสิงค์ หมู่ 6 ต�ำบลชุมพล อ�ำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เป็นวัดที่มีความส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ สมัยอยุธยา เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการปกครองของคณะสงฆ์ บริเวณฝั่งตะวันออกของทะเลสาบสงขลา อีกทั้งเดิมเป็นสถานที่ ใช้ดื่มน�้ำพิพัฒน์สัตยาของเจ้าเมืองพัทลุง ซึ่งวัดแห่งนี้เคยเป็นที่ จ�ำพรรษาของสมเด็ จ พะโคะหรื อ หลวงพ่ อ ทวดเหยี ย บน�้ ำ ทะเล พระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนในพื้นที่ให้ความเคารพ ศรัทธา และ นับถือ ภายในบริเวณวัดมีโบราณสถาน โบราณวัตถุ ประดิษฐาน “ทางหลวงชนบท
อยูม่ ากมาย ได้แก่ พระสุวรรณมาลิกเจดียศ์ รีรตั นมหาธาตุ (เจดียท์ อง) สถาปัตยกรรมแบบลังกา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของ พระพุ ท ธเจ้ า ลั ก ษณะเจดี ย ์ ท รงกรวยซ้ อ นกั น บนฐานสี่ เ หลี่ ย ม ได้รับการบูรณะหลายครั้ง และผสมผสานกับเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น นอกจากนี้ยังมีพระพุทธไสยาสน์ หรือพระโคตรมะ พระพุทธรูปปั้น สี ท องปางปริ นิ พ พาน ฝี มื อ ช่ า งปั ้ น ท้ อ งถิ่ น รอยพระพุ ท ธบาท รูปจ�ำลองและอนุสาวรีย์สมเด็จพระราชมุนีสามีราม ซึ่งประดิษฐาน อยู ่ ใ นมณฑปบนยอดเขา และพิ พิธ ภั ณ ฑ์ วั ด พะโคะ ที่ จั ด แสดง วัตถุโบราณมากมาย
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
14
Travel on Rural Roads
หาดสมิหลา ประติมากรรมนางเงือกบนโขดหินริมหาดสมิหลา แลนมาร์คชื่อดังของ จังหวัดสงขลา ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก และต้องแวะเวียนมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เมือ่ มาเทีย่ วสงขลา เรียกได้วา่ ถ้ามาสงขลาไม่มา “หาดสมิหลา” ถือว่ามาไม่ถงึ ชายหาดที่มีชื่อเสียง บรรยากาศเงียบสงบ สามารถลงเล่นน�้ำได้ เนื่องจาก เป็นหาดที่ไม่ลาดชัน มีโขดหินขนาดย่อมยื่นลงทะเล หาดกว้างเป็นแนวยาว ทรายขาวละเอี ย ดที่ เ รี ย กว่ า “ทรายแก้ ว ” เต็ ม ไปด้ ว ยร่ ม เงาของต้ น สน ทิวทัศน์สวยงาม บริเวณโดยรอบมีสวนหย่อม เป็นสถานทีพ่ กั ผ่อน และสถานที่ ท่ อ งเที่ ยวที่ ผู ้ ค นต่ า งแวะเวียนกัน มา จากหาดสามารถมองเห็ น เกาะหนู เกาะแมว อีกสัญลักษณ์หนึง่ ของจังหวัดสงขลา ซึง่ หาดแห่งนีม้ รี า้ นอาหาร ทีพ่ กั และร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งมีกิจกรรมทางน�้ำทั้ง บานาน่าโบ๊ท เจ็ทสกี ไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว แหลมสนอ่อน แหลมสนอ่อน อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแหลมสมิหลา เรียงราย ด้วยทิวสนทะเล บริเวณปลายแหลมเป็นทีป่ ระดิษฐานอนุสาวรียก์ รมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล จังหวัดสงขลา สร้างเมือ่ ปี พ.ศ. 2530 เพือ่ ให้ชาวเรือได้สกั การบูชาก่อนออกไปประกอบอาชีพ ในทะเล แหลมสนอ่อนเป็นจุดชมทัศนียภาพทีส่ วยงามของทะเลสาบสงขลา และ มองเห็นเกาะหนูได้ใกล้และชัดที่สุด นอกจากนี้ ยังมีประติมากรรมพญานาค พ่นน�้ำ จุดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ซึ่งประติมากรรม พญานาคนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ตัง้ อยูส่ ถานทีต่ า่ งกัน ส่วนหัวอยูท่ แี่ หลมสนอ่อน ส่วนล�ำตัวอยู่ที่แหลมสมิหลา ส่วนหางอยู่ที่ถนนชลาทัศน์-หาดสมิหลา
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
หาดมหาราช หาดมหาราช หรือหาดสทิงพระ ชายหาดที่ทอดยาว เรียงรายด้วยป่าสน เป็นทิวแถวยาว ประมาณ 3 กิโลเมตร ในเขตตัวอ�ำเภอสทิงพระ มีบรรยากาศ เงียบสงบ ร่มรื่น และมีความเป็นส่วนตัว เหมาะแก่การพักผ่อน หาดทราย มีสีขาว น�้ำไม่ลึก สามารถลงเล่นน�้ำได้ มีจุดพักผ่อน สามารถชมวิวทิวทัศน์ ด้านหลังแนวหาดเป็นสวนหย่อมและเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ประทับยืนหันหน้าออกสู่ทะเล มีที่พักและร้านอาหารเปิดให้ บริการตลอดแนวหาด เป็นที่พักผ่อนของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้นอนพัก ฟังเสียงคลื่นลมทะเลอย่างสุขใจ
Travel on Rural Roads
GO to Ranot
Sta 0 สข.3049
Luang Pu Thuat Museum Pako Temple
SKA 3049
Sea
408
โรงเรียนสทิงพระวิทยา Sathing Phra Witthaya School สข.3049
SKA 3049
Maharat Beach Sta 1
Com
Son On Cape
Khl a
Song Khla Sea
The network Thailand Riviera
Tinsulanon Bridge
The seashore road under development สะพาน Bridge สถานที่ทองเที่ยว Attractions
Kho yo
Mu
แนวเสนทางถนนเลียบชายฝงทะเลที่กำลังพัฒนา
Samila Beach
407 ean gS ong
ทางหลวงแผนดิน High Way ทางหลวงชนบท Rural Road ทางหลวงทองถิ่น Local Road โครงขาย ไทยแลนดริเวียรา
407
Tinsulanon Bridge
408
GO to Hat Yai
“ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
gS
ratin
o mem
rden
e Ga
tur culp
8
408
15
16
สร้าง ซ่อม ส่งเสริม
ทางหลวงชนบท
ซ่อมสร้างผิวทางคอนกรีตแล้วเสร็จ เน้นสัญจรปลอดภัย กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว บ้านอีต่อง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่สุดเขตชายแดนประเทศไทย ติดแนวชายแดนเมียนมา ในต�ำบลปิล๊อก อ�ำเภอทองผาภูมิ จังหวัด กาญจนบุรี อดีตเมืองแห่งเหมืองแร่ทรี่ งุ่ เรือง อย่างเหมืองปิลอ๊ ก และ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วน่าสนใจหลายแห่งในอ�ำเภอทองผาภูมิ อาทิ จุดชมวิว เนินช้างศึก เขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จุดหมาย ปลายทางของเหล่านักท่องเทีย่ วผูร้ กั ธรรมชาติ ท่ามกลางขุนเขาและ สายหมอก ดินแดนทีเ่ หมาะแก่การพักผ่อนหลีกหนีจากความวุน่ วาย ในอดีตการเดินทางไปยังบ้านอีต่อง ต้องเดินทางโดยใช้ถนน ทางหลวงชนบทสาย กจ.4088 ซึ่งบางช่วงถนนมีผิวจราจรแบบ เคพซี ล (Cape Seal) และบางช่ ว งเป็ น ผิ ว จราจรแบบ คอนกรีตเสริมเหล็ก ระยะทางโดยรวม ยาวประมาณ 38 กิโลเมตร โดยกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้เข้าส�ำรวจบริเวณพื้นที่โครงการ เมื่อปี 2562 พบว่าช่วง กม.ที่ 13+765 – กม.ที่ 17+000 ระยะทาง
3,235 เมตร ผิวทางเกิดการช�ำรุด เนื่องจากการใช้งานมายาวนาน ซึ่งบริเวณจุดดังกล่าว ตั้งอยู่บนภูเขามีความลัดเลาะตามแนวเขา ในช่วงฤดูฝนท�ำให้เกิดการชะล้างของหน้าดิน จึงท�ำให้เกิดปัญหา ดินสไลด์ และการทรุดตัวของถนน ทช.จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งด�ำเนินการ แก้ไข ด�ำเนินการซ่อมสร้างผิวทางคอนกรีตงานบ�ำรุงทางหลวงชนบท สาย กจ.4088 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3272 – บ้านอีต่อง อ�ำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยซ่อมสร้างผิวทางใหม่ ให้เป็นผิวทางแบบคอนกรีตเสริมเหล็กทัง้ หมด ส่วนบริเวณไหล่ทางที่ เกิดปัญหาดินสไลด์ ใช้การก่อสร้างแบบ Bio engineer พร้อมทั้งใช้ กระสอบพิเศษ แบบเรียงซ้อนกันบริเวณ กม.ที่ 16+700 และก่อสร้าง ก�ำแพงกันดินเสริมก�ำลัง จ�ำนวน 2 จุด คือ จุดที่ 1 กม.ที่ 15+100 ยาว 45 เมตร และจุดที่ 2 กม.ที่ 15+850 ยาว 100 เมตร เพื่อรับ แรงอัดและป้องกันการเกิดดินสไลด์ ปัจจุบนั ได้ด�ำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้ประชาชนใช้ สัญจรแล้วเมื่อ 7 ธันวาคม 2563 ซึ่งการซ่อมสร้างดังกล่าว จะช่วย ให้ประชาชนในพืน้ ทีบ่ า้ นอีตอ่ ง อ�ำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สามารถใช้สัญจรขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยอ�ำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ที่เดินทาง เข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นการส่งเสริมการคมนาคม ขั้นพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สร้าง ซ่อม ส่งเสริม เสริมการท่องเที่ยวพระธาตุเรืองรอง และวัดพระธาตุสุพรรณหงส์
ทางหลวงชนบท ลาดยางถนนสาย ศก.4053 จ.ศรีสะเกษ เพื่อความสะดวก ปลอดภัยในการสัญจร
กรมทางหลวงชนบท โดยส�ำนั ก งานทางหลวงชนบทที่ 7 (อุ บ ลราชธานี ) แขวงทางหลวงชนบทศรีสะเกษ ด�ำเนินการปรับปรุง Recycling และเสริมผิวลาดยางแบบ แอสฟัลติกคอนกรีต ถนนทางหลวงชนบทสาย ศก.4053 – แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2373 อ�ำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ระยะทาง 10.650 กิโลเมตร ปัจจุบนั ด�ำเนินการก่อสร้าง แล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย ถนนสายดั ง กล่ า วยั ง สนั บ สนุ น ยุ ท ธศาสตร์ ก ารท่ อ งเที่ ย วของจั ง หวั ด ศรี ส ะเกษ เป็ น เส้ น ทางเข้ า สู ่ พ ระธาตุ เ รื อ งรอง อาคาร 6 ชั้ น รู ป แบบสถาปั ต ยกรรมผสมผสาน ศิลปวัฒนธรรมสีช่ นเผ่าของอีสานใต้ ลาว ส่วย เขมร และเยอ ซึง่ จัดแสดงเป็นพิพธิ ภัณฑ์พนื้ บ้าน ชั้นบนสุดเป็นที่บรรจุพระบรมเกศาธาตุของพระอรหันต์ และยังเป็นทางเข้าสู่วัดพระธาตุ สุพรรณหงส์ วัดทีม่ อี โุ บสถสวยงามอยูก่ ลางน�ำ้ บนเรือสุพรรณหงส์จ�ำลอง หลังคาทรงจัตรุ มุข 3 ชัน้ มียอดมณฑปกลางอุโบสถ โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ถนนสายดังกล่าว ยังเป็น เส้นทางลัดที่ใช้เดินทางสัญจรจากอ�ำเภอเมืองไปอ�ำเภออุทุมพรพิสัย และจากอ�ำเภอราษีไศล ไปยังอ�ำเภอยางชุมน้อยได้อีกด้วย “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
17
18
สร้าง ซ่อม ส่งเสริม
ทางหลวงชนบท
เข้มงวดตรวจชั่งน�้ำหนักเคลื่อนที่ ป้องกันถนนช�ำรุด
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
รถบรรทุกทีม่ นี ำ�้ หนักเกินกว่าทีก่ ฎหมายก�ำหนด หากใช้เส้นทางสัญจร จะส่งผลให้พื้นผิวจราจรได้รับความเสียหาย และมีอายุการใช้งานสั้นลง กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) ไม่ นิ่ ง นอนใจ มอบหมายหน่ ว ยชั่ ง น�้ ำ หนั ก ยานพาหนะแบบเคลื่ อ นที่ ด�ำเนิ น การตรวจเข้ ม ออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบน�้ำหนักรถบรรทุก บนทางหลวงชนบทสาย พร.3017- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 103 อ�ำเภอเมื อ ง, อ�ำเภอหนองม่ ว งไข่ , อ�ำเภอสอง จั ง หวั ด แพร่ ช่วง กม.ที่ 14+450 ถึง 14+800 นอกจากนีแ้ ขวงทางหลวงชนบทร้อยเอ็ด หมวดบ�ำรุงทางหลวงชนบทอาจสามารถ ได้น�ำเจ้าหน้าทีต่ งั้ หน่วยชัง่ น�ำ้ หนัก เคลือ่ นทีบ่ ริเวณถนนทางหลวงชนบทสาย รอ.4052 แยกทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2043 – บ้านหนองทัพไทย อ�ำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งจากการตรวจสอบจากทั้ง 2 แห่ง ไม่พบรถบรรทุกที่บรรทุกน�้ำหนักเกิน กว่ากฎหมายก�ำหนด โดย ทช. และหน่วยงานในสังกัดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้ด�ำเนินการ ตรวจสอบชัง่ น�ำ้ หนักอย่างเคร่งครัด ตามพระราชบัญญัตทิ างหลวง พ.ศ. 2535 เป็นประจ�ำต่อเนื่อง ป้องกันการช�ำรุดเสียหายของผิวทางในระยะยาว เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย ในการเดินทางสัญจร บนถนนทางหลวงชนบท
สร้าง ซ่อม ส่งเสริม
19
ทางหลวงชนบท ตรวจสอบโรงงานผลิต หลักน�ำทางยางธรรมชาติ (RGP) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ก�ำหนด
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 6 (ขอนแก่น) และแขวงทางหลวงชนบทเลย ลงพื้ น ที่ ร ่ ว มตรวจสอบการด�ำเนิ น งานของ วิสาหกิจชุมชนศรีสงคราม อ�ำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ซึ่งได้ตรวจสอบและ รับรองโรงงานผลิตหลักน�ำทางยางธรรมชาติ (Rubber Guide Post : RGP) เพื่อให้คุณลักษณะเป็นไปตามหลักวิชาการ มีมาตรฐานตามที่ได้ก�ำหนดไว้ ตามนโยบายของนายศักดิส์ ยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงคมนาคม และ นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท จากการตรวจสอบพบว่าในส่วนของการผลิต โรงงานมีก�ำลังการผลิตสูงสุด อยู่ที่ 15,000 ต้น/เดือน มีอัตราการใช้ยางพาราอยู่ที่ 270,000 กิโลกรัม ส�ำหรับในด้านคุณภาพการใช้เครื่องมือ เครื่องจักรของโรงงานผ่านการรับรอง จากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และเป็นไปตามมาตรฐานกรมทางหลวงชนบท หลักน�ำทางยางธรรมชาติ หรือ Rubber Guide Post (RGP) เป็นอุปกรณ์อ�ำนวยความปลอดภัย ที่คิดค้น ศึกษา พัฒนา โดยส�ำนักวิเคราะห์ วิจยั และพัฒนา น�ำนำ�้ ยางพารามาใช้ผลิตอุปกรณ์ดงั กล่าวแทนการใช้คอนกรีต โดยได้ผา่ นการทดสอบการชน โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย พบว่าสามารถลดความรุนแรงของอุบัติเหตุจากการชนหลักน�ำทาง ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศ การลงพืน้ ทีต่ รวจสอบในครัง้ นี้ มีนายธันว์ สินธวาลัย ผูอ้ �ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทเลย และนายลิขติ แก้วศิริ ผูอ้ �ำนวยการ ส่วนตรวจสอบและวิเคราะห์ ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 6 (ขอนแก่น) และคณะ ร่วมตรวจสอบการด�ำเนินงานดังกล่าว ณ วิสาหกิจชุมชนศรีสงคราม จังหวัดเลย “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
20 บ้านเลขที่ 9
ทางหลวงชนบทเดินหน้า ถนนเพื่อการท่องเที่ยวและ เส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route)
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) มีนโยบายในการเพิ่มศักยภาพของโครงข่าย สายทาง เพื่อพัฒนาให้เป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) รวมถึงยกระดับถนนให้มคี วามสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง เติมต่อโครงข่ายคมนาคมขนส่งให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนให้เกิด การขยายตัวด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ อันจะน�ำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) และตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของกรมทางหลวงชนบท นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิ บ ดี ก รมทางหลวงชนบท ได้ เ ล็ ง เห็ น ถึ ง ความส�ำคัญในการพัฒนาบุคลากรของกรม เพิ่มศักยภาพ สร้างประสบการณ์ ในการท�ำงาน ให้มีทักษะความสามารถรอบด้าน ลดอุปสรรคในการด�ำเนินงาน ในแต่ละขั้นตอน ตลอดจนการสร้างความเข้าใจและการท�ำงานร่วมกัน จึงได้มี นโยบายให้จัดตั้งคณะท�ำงานบูรณาการเพื่อศึกษาและส�ำรวจออกแบบถนน เพื่อการท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) ในความรับผิดชอบ ของกรมทางหลวงชนบท เพื่อให้วิศวกรโยธา สถาปนิก และนายช่างโยธา ได้เรียนรู้กระบวนการท�ำงานระหว่างส�ำนัก เรียนรู้งานนอกเหนือจากที่ตนเอง ได้รบั มอบหมาย เป็นการถ่ายทอดความรู้ แลกเปลีย่ นประสบการณ์ และสอนงาน ในรูปแบบ On the job training ตัง้ แต่การเริม่ ท�ำแผนการด�ำเนินงาน การออก ส�ำรวจ ประสานงานกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง และการติดตามความ ก้าวหน้า จากการลงพื้นที่ท�ำงานในสถานที่จริง โดยได้มีโครงการถนนเพื่อการ ท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) ดังนี้ 1. เส้ น ทางแห่ ง ความศรั ท ธา “นาคาวิ ถี ” ยกระดั บ การท่ อ งเที่ ย ว เส้นทางริมแม่นำ�้ โขง เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึง่ จะได้เห็นทัศนียภาพ ของแม่น�้ำโขง ตลอดจนวิถีชีวิตของคนในชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น เริ่มต้น สายทางตั้งแต่จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อ�ำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ระยะทางรวม 750 กิโลเมตร
นาคาวิถี
บ้านเลขที่ 9 21
เฉลิมบูรพาชลทิต
Thailand Riviera
2. เส้นทางท่องเทีย่ วเลียบชายเขา “บูรพาคีร”ี ถนนเลียบชายเขาด้านทิศใต้ ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระยะทางประมาณ 175 กิโลเมตร ผ่านแหล่ง ท่องเที่ยวที่ส�ำคัญหลายแห่งในจังหวัดนครนายก นครราชสีมา ปราจีนบุรี และ สระแก้ว เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติปางสีดา 3. ถนนเพือ่ การท่องเทีย่ วเลียบชายฝัง่ ทะเลภาคตะวันออก “เฉลิมบูรพาชลทิต” จาก จ.ระยอง – จ.จันทบุรี หนึง่ ในเส้นทางทีข่ นึ้ ชือ่ เรือ่ งความสวยงามของเส้นทาง ริ ม ฝั ่ ง ทะเลของไทย ที่ มี แ ลนมาร์ ค อย่ า ง จุ ด ชมวิ ว เนิ น นางพญา และ อ่าวคุง้ กระเบน ซึง่ ปัจจุบนั ได้ปรับปรุงบริเวณจุดชมวิวให้มที างจักรยาน ลานจอดรถ และอุปกรณ์อ�ำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อบริการแก่นักท่องเที่ยว 4. ถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) เชื่อมโยงแหล่ง ท่องเทีย่ วตามแนวชายฝัง่ ทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย จาก จ.สมุทรปราการ - จ.นราธิวาส แบ่งการด�ำเนินการเป็น 4 ระยะคือ - ระยะที่ 1 จ.สมุทรสงคราม - จ.ชุมพร ระยะทางประมาณ 659 กิโลเมตร - ระยะที่ 2 จ.ชุมพร – จ.สงขลา ระยะทางประมาณ 555 กิโลเมตร - ระยะที่ 3 หรื อ “เพชรสมุ ท รคี รี ” แบ่ ง ออกเป็ น 2 ช่ ว ง ช่ ว งที่ 1 จ.สมุทรปราการ – จ.สมุทรสงคราม ระยะทางประมาณ 144.59 กิโลเมตร และช่วงที่ 2 จ.เพชรบุรี - จ.ประจวบคีรีขันธ์ ครอบคลุมพื้นที่ 6 อ�ำเภอ ของ จ.เพชรบุรี 2 อ�ำเภอ ของ จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ ระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตร - ระยะที่ 4 จ.สงขลา - จ.นราธิวาส ระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร คาดว่า จะส�ำรวจออกแบบในปี 2566 5. ถนนท่องเที่ยว “บุปผชาติคีรีธาร” ถนนเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เชิงธรรมชาติภาคเหนือตอนบน ระหว่าง จ.แม่ฮอ่ งสอน – จ.เชียงใหม่ ซึง่ มีจดุ เด่น คือ ทิวทัศน์ของขุนเขา ล�ำธาร น�้ำตก พร้อมดอกไม้นานาพรรณที่สวยงาม ในสายทาง โดยก�ำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ โครงการถนนเพื่อการท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) ที่กล่าวมาข้างต้น ได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการออกแบบเส้นทาง อุปกรณ์อ�ำนวยความปลอดภัย ให้มคี วามโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะถิน่ ตามภูมภิ าคของเส้นทางนัน้ ๆ ซึง่ จะเป็น การส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศอย่างทั่วถึง สร้างโอกาส กระจายรายได้ สู่ชุมชนอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
“ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
22 กฎหมายน่ารู้ โดย นายอาหมัด สองเมือง ผู้อ�ำนวยการกลุ่มนิติกรรมและจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน
เรื ่ อ ง เมื่อทายาทรับมรดก
มาพร้อมกับหนี้ สิ น
กรณีเมื่อเจ้าของมรดกเสียชีวิตแล้วได้ทิ้งมรดกพร้อมกับ หนีส้ นิ ไว้ ทัง้ ในกรณีทเี่ จ้ามรดกมีหนีส้ นิ ในจ�ำนวนมากกว่าทรัพย์ มรดก หรือกรณีมแี ต่หนีส้ นิ ไม่มกี ารส่งมอบทรัพย์สนิ ใด ๆ ให้แก่ ทายาทเลย หรือกรณีมีทรัพย์มรดกมากกว่าหนี้สิน ทายาทจะ ต้องรับผิดชอบในหนี้สินนั้นอย่างไร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1601 บัญญัติว่า “ทายาทไม่จ�ำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ ตกทอดแก่ตน”
ดังนั้น เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมายแล้ว เห็นได้ว่ากรณีที่เจ้ามรดกมีหนี้สิน ในจ�ำนวนที่มากกว่าทรัพย์มรดกที่ได้รับ ทายาทไม่ต้อง รับผิดชอบช�ำระหนี้สินเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ได้รับ ส่วนกรณีมแี ต่หนีส้ นิ โดยไม่มกี ารส่งมอบทรัพย์สนิ ใด ๆ เลย ให้แก่ทายาท ทายาทไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้สินนั้น แต่หากกรณีมที รัพย์มรดกมากกว่าหนีส้ นิ ทายาทต้องชดใช้ หนี้สินที่มีทั้งหมดก่อนจากนั้น จึงต้องน�ำมรดกมาแบ่งกัน ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 1601 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
จริยธรรมนำ�ใจ 23
กรมทางหลวงชนบท ได้รับรางวัล องค์กรคุณธรรมต้นแบบ
ประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ลำ�ดับที่ 1 ของกระทรวงคมนาคม ด้วยกรมทางหลวงชนบท โดยกองส่งเสริมจริยธรรมและ ป้องกันการทุจริต ได้จัดท�ำข้อมูลเพื่อเข้ารับการประเมินองค์กร คุณธรรม ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ภายใต้แผนแม่บท ส่ ง เสริ ม คุ ณ ธรรมแห่ ง ชาติ ฉบั บ ที่ 1 (พ.ศ. 2559 – 2564) โดยมีเกณฑ์การประเมินองค์กรคุณธรรมแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 องค์กรส่งเสริมคุณธรรม เกณฑ์การประเมิน ต้องมีการด�ำเนินงานทุกข้อ (ระดับที่ 1) คะแนนรวมไม่นอ้ ยกว่า 3 คะแนน (ผ่านระดับที่ 1) ระดับที่ 2 องค์กรคุณธรรม เกณฑ์การประเมิน ต้องมีการ ด�ำเนินงานทุกข้อในระดับที่ 1 และระดับที่ 2 คะแนนรวมไม่น้อย กว่า 6 คะแนน (ผ่านระดับที่ 2) ระดับที่ 3 องค์กรคุณธรรมต้นแบบ เกณฑ์การประเมิน ต้องมีการด�ำเนินงานทุกข้อในระดับที่ 1 ระดับที่ 2 และระดับที่ 3 คะแนนรวมไม่น้อยกว่า 9 คะแนน ( ผ่านระดับที่ 3) “ทางหลวงชนบท
ในการประชุ ม คณะกรรมการส่ ง เสริ ม คุ ณ ธรรมแห่ ง ชาติ กรมการศาสนา ครัง้ ที่ 1/2563 เมือ่ วันที่ 2 กันยายน 2563 ได้มมี ติ เห็ น ชอบให้ ป ระกาศยกย่ อ งให้ กรมทางหลวงชนบท เป็ น “องค์กรคุณธรรมต้นแบบ” ตามโครงการส่งเสริมชุมชน องค์กร อ�ำเภอ และจังหวัดคุณธรรมประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ภายใต้แผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2559 – 2564) โดยมีผลการประเมินอยู่ในล�ำดับที่ 1 ของกระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงชนบทได้รับเกียรติบัตรรางวัลองค์กร คุณธรรมต้นแบบ ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 อันเป็นการ แสดงให้เห็นถึงผลงานความส�ำเร็จอันเกิดจากความร่วมมือของ ทุกหน่วยจนน�ำไปสู่การได้รับรางวัลดังกล่าว
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
24
มองผ่านเลนส์
โครงการเอกลักษณ์ ทช.
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบทมีภารกิจหลักในการดูแลรักษา การก่อสร้าง การพัฒนาด้านงานทาง ให้ถนนมีความแข็งแรง ปลอดภัยต่อผูใ้ ช้งานทาง ให้ประชาชนใช้ทางอย่างมีความสุข รวมถึงส่งเสริมพัฒนาบุคลากรให้ท�ำงานอย่างมีความสุขด้วย โดยด�ำเนิ น งานให้ มี ผ ลผลิ ต ที่ ดี จ นเห็ น เป็ น เอกลั ก ษณ์ ข อง กรมทางหลวงชนบท กรมทางหลวงชนบทจึงได้มโี ครงการเอกลักษณ์ ทช. เพือ่ ใช้ ประเมินและพัฒนาคุณภาพถนน รวมถึงส�ำรวจความพึงพอใจ ของประชาชน โดยหัวข้อการประเมินแบ่งออกเป็น 4 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 อาคารสถานที่และพัฒนาบุคลากร พิจารณาประเมินอาคารส�ำนักงาน โรงซ่อม อาคารทดสอบ บ้านพักอาศัย เป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงการพัฒนาด้าน บุคลากร เช่น มีการถ่ายทอดองค์ความรู้อย่างสม�่ำเสมอ มิติที่ 2 คุณภาพเครื่องจักรกลและงานทดสอบ พิจารณาการประเมินด้านเครือ่ งจักร ยานพาหนะ เครือ่ งมือ ทดสอบพร้อมใช้งาน
มิติที่ 3 การพัฒนาคุณภาพกระบวนงาน ประเมินกระบวนการท�ำงาน ได้แก่ การวางแผน การส�ำรวจ ออกแบบ การก่อสร้าง งานบ�ำรุงทาง งานอ�ำนวยความปลอดภัย และการบังคับใช้กฎหมายโดยบุคลากร สามารถปฏิบตั งิ านตาม กระบวนการและตรวจสอบได้ มิตทิ ี่ 4 ความพึงพอใจภาคประชาชนและส่งเสริม อปท. เมื่อตรวจสอบกระบวนการท�ำงานและมิตินี้ จะเป็นการ ส�ำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้ทาง รวมถึงส�ำรวจความพึงพอใจ ของ อปท. ที่มี ทช. เป็นพี่เลี้ยง โครงการเอกลักษณ์ ทช. มุ่งหวังให้หน่วยงานในสังกัด กรมทางหลวงชนบท ท�ำงานอย่างเป็นระบบ บุคลากรมีความสุข ประชาชนมี ค วามพึ ง พอใจ และมี ก ารด�ำเนิ น งานจนเป็ น เอกลักษณ์ ข้อมูล : ส�ำนักบ�ำรุงทาง
ทช. วาไรตี้
25
กรมทางหลวงชนบท รับมือไฟป่าและหมอกควันในเขตทาง พร้อมสนับสนุนรถบรรทุกน�้ำและเจ้าหน้าที่บูรณาการดับไฟป่า เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า จากข้ อ สั่ ง การเร่ ง ด่ ว นของรั ฐ มนตรี ว ่ า การกระทรวงคมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ถึงสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ในช่วงเดือนธันวาคม - เมษายนของทุกปี ทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะ พืน้ ทีภ่ าคเหนือ รวมถึงสถานการณ์มลภาวะทางอากาศทีม่ ฝี นุ่ ละออง ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ที่ได้ส่งผลกระทบต่อ สุขภาพของประชาชนในชีวิตประจ�ำวัน และส่งผลต่อคุณภาพของ สิ่งแวดล้อม บดบังทัศนวิสัยเกิดปัญหาต่อการคมนาคมทั้งทางบก และทางอากาศ ทช. ได้ตระหนักและเล็งเห็นความส�ำคัญดังกล่าว จึงได้สั่งการ ให้ ห น่ ว ยงานในพื้ น ที่ รั บ ผิ ด ชอบเตรี ย มความพร้ อ ม เผชิ ญ เหตุ
“ทางหลวงชนบท
กรณีเกิดไฟไหม้ข้างทาง โดยเน้นย�้ำเมื่อมีการตัดหญ้าสองข้าง ทางแล้วเสร็จ ให้จัดเก็บเศษหญ้า วัชพืช ให้เรียบร้อย รวมทั้ง ประชาสัมพันธ์ผา่ นสือ่ ช่องทางต่าง ๆ จัดท�ำป้ายรณรงค์ ให้ประชาชน หยุดเผาป่า หญ้า วัชพืช ในเขตทางหลวงชนบท กรณีเกิดเหตุ ให้สนับสนุนรถบรรทุกน�้ำพร้อมบุคลากร เพื่อบูรณาการดับไฟป่า ร่วมกับหน่วยงานในพืน้ ที่ ตลอดจนติดตาม ตรวจสอบความเสียหาย และรายงานผู้บริหารให้รับทราบทันทีเมื่อเข้าสู่ภาวะปกติ หากประชาชนพบเหตุไฟป่าและหมอกควัน สามารถขอรับ ความช่วยเหลือได้ทสี่ �ำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท หมวดบ�ำรุ ง ทางหลวงชนบทในพื้ น ที่ โดยสามารถแจ้ ง เหตุ ไ ด้ ที่ สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
26
เรื่องเล่าจากนายช่าง นายสงคราม เชิดวงษ์สูง นายช่างโยธาช�ำนาญงาน ส�ำนักก่อสร้างทาง
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
สวัสดีครับ นายสงคราม เชิดวงษ์สงู นายช่างโยธาช�ำนาญงาน ส�ำนั ก ก่ อ สร้ า งทาง แรกเริ่ ม บรรจุ เ ข้ า รั บ ราชการ ปี 2530 ที่แขวงการทางจันทบุรี ด้วยวุฒิ ปวช. และในปี 2533 บรรจุที่ กรมโยธาธิ ก าร ต�ำแหน่ ง นายช่ า งโยธา 2 ปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ณ โครงการทางหลวงท้องถิน่ ซึง่ คือทีต่ งั้ ของกรมทางหลวงชนบท ในปัจจุบนั และเปลีย่ นเป็น กองสาธารณสถานและทางหลวงท้องถิน่ ฝ่ายส�ำรวจและออกแบบ ได้ออกไปส�ำรวจเพื่อน�ำข้อมูลมา ออกแบบก่อสร้างถนน ท�ำประมาณ 4 - 5 ปี รูส้ กึ ว่ามีความรูเ้ รือ่ ง ส�ำรวจออกแบบแล้ว เลยขอออกไปคุมงานก่อสร้าง โครงการแรก ได้ลงไปที่จังหวัดพัทลุง ได้เป็นผู้ช่วยผู้ควบคุมงาน ในอดีตการ คุมงานเป็นสัญญาแบบเหมาจ่าย ไม่ต้องใช้บุคลากรจ�ำนวนมาก มีแค่เจ้าของโครงการและมีพที่ ชี่ ว่ ยคุมซึง่ ได้ท�ำโครงการในหลาย จังหวัด ทั้งพังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางเยอะ หลังจากนั้นทางกองฯ ก็ได้ให้มาเป็นผู้คุมงาน โครงการแรกที่ พัทลุง จากนั้นไปปัตตานี หนองคาย และได้ควบคุมโครงการ ขนาดใหญ่โครงการแรก ถนนวงแหวนรอบกลาง จ.เชียงใหม่ ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี (ตอนที่ 2) ช่วยดูเรื่องงานส�ำรวจ การคิ ด ปริ ม าณงาน ซึ่ ง หลั ง จากนั้ น ก็ มี รุ ่ น พี่ แ นะน�ำว่ า ให้ ไ ป เรียนต่อ เพราะมีความก้าวหน้าในงานน้อย เลยลาศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร ก็หายจากการท�ำงานไป 4 ปี
หลั ง จากเรี ย บจบ ได้ ก ลั บ เข้ า มาท�ำงานในปี 2547 ซึง่ ปรับเปลีย่ นเป็นกรมทางหลวงชนบท โครงการต่าง ๆ ก็จะเป็น โครงการทีใ่ หญ่ขนึ้ ได้กลับไปท�ำโครงการทีเ่ ชียงใหม่ เหมือนเดิม ในโครงการวงแหวนรอบกลางเมืองเชียงใหม่ ได้ไปท�ำอุโมงค์ ลอดทางแยก 5 แยก ตอนนั้นรู้สึกว่าแปลกใหม่ในการท�ำงาน เพราะได้ท�ำร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาฯ ได้เรียนรู้การท�ำงานจาก บริษัทใหญ่ ๆ หลังจากนั้นได้เป็นผู้ช่วยคุมงานโครงการทางเข้า พืชสวนโลกปี 2549 เป็นโครงการแบบ Design and build งานเร่งด่วน ทั้งเวนคืนและก่อสร้าง ซึ่งหลังจากเสร็จโครงการนี้ มีโครงการถนนเลีย่ งเมืองสันป่าตอง (ตอนที่ 1) ในปี 2551 จากนัน้ ได้ไปทางตะวันออก ถนนท่องเทีย่ วของกรมฯ แยกคุง้ วิมาน - บ้าน หมูดดุ (ช่วงวงเวียนโลมาสนามไชย) ได้เป็นผูค้ วบคุมงานโครงการ แล้วหลังจากนั้นก็เป็นผู้ควบคุมงานยาว โครงการแหลมสิงห์ - เกาะแมว ถนนเลี่ยงเมืองสันป่าตอง (ตอนที่ 2) โครงการใหญ่ โครงการแรกที่ ไ ด้ เ ป็ น หั ว หน้ า โครงการ ซึ่ ง ระหว่ า งนั้ น ทางกระทรวงได้ มอบหมายให้ ปรั บปรุ ง พื้ น ที่ โ ครงการหลวง เลยได้ รั บ งานโครงการหลวงมาเพิ่ ม เนื่ อ งจากอยู ่ ใ นพื้ น ที่ จ.เชียงใหม่ อยู่แล้ว โครงการแรก คือ ถนนสายแยก ทล.1013 บ้านห้วยตอง ทีส่ นับสนุนโครงการหลวงทุง่ หลวง โครงการหลวง แม่ แ ฮ ปั จ จุ บั น ก็ ยั ง ท�ำโครงการหลวงอยู ่ ใ นพื้ น ที่ เ ชี ย งใหม่
เรื่องเล่าจากนายช่าง / อ่านดีมีรางวัล ตอนนี้มีถนนสายบ้านแม่แฮน้อย – บ้านแม่สะงะใต้, ถนนสายแยก ทล.1009 – บ้านขุนยะ, ถนนสายแยก ทล.1009 - บ้านแม่แอบ, ทางลอดถนนเลีย่ งเมือง สันป่าตอง (แยกต้นเกว๋น) จะเสร็จปี 2565 และได้ไปช่วยโครงการถนนสาย แยก ทล.1129 (เชียงแสน) - ทล.1 (เมืองเชียงราย) การท�ำงานที่ จ ะมี ป ั ญ หาเยอะหน่ อ ย เป็ น เรื่ อ งการขอใช้ พื้ น ที่ ข อง หน่วยงานอืน่ ซึง่ อาจเกิดความล่าช้าบ้างในขัน้ ตอนของแต่ละหน่วยงาน แต่ก็ ไม่ได้มผี ลกระทบมาก มีปญ ั หาอุทกภัยบ้าง ทีท่ �ำให้งานล่าช้า แต่ทกุ อย่างก็จบ ไปด้วยดี การท�ำงานของเรามันอยูท่ วี่ า่ เรารูจ้ กั หน้าทีแ่ ล้วก็มคี วามรับผิดชอบ ถึงเวลาท�ำงานก็ท�ำงาน เวลาสนุกสนานก็สนุกสนาน การท�ำงานของพีเ่ หมือน เป็นการสอนน้อง ๆ ไปในตัวซึ่งเรามีการคุยกันตลอด ผ่านทางไลน์กลุ่ม เรื่องปัญหา ข้อระเบียบที่มีการเปลี่ยนแปลง ที่เน้นย�้ำตลอด คือ ท�ำวันนี้ ให้ถกู ต้อง เพราะปัจจุบนั ข้อกฎหมาย ข้อระเบียบ มีเยอะและเปลีย่ นแปลงบ่อย จึงต้องคอยศึกษาตลอด เราต้องเรียนรูต้ ลอดเวลาการท�ำงาน การมีไลน์กท็ �ำให้ ชีวติ ง่ายขึน้ แต่ทขี่ าดไปก็คอื การสอนงานตัวต่อตัว การมีปฏิสมั พันธ์กนั เพราะ คุยกันในไลน์ ไม่ได้เจอหน้ากัน ส�ำหรับพีค่ ดิ ว่าการท�ำงานในแบบเดิมมันดีกว่า เพราะได้ใกล้ชิดกัน พี่สอนน้อง อะไรที่พี่เขาสอนมันชัดเจน แต่ปัจจุบัน เราไม่ได้เห็นกัน บางทีคุยในไลน์แต่เราไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจรึเปล่า เพราะเรามองไม่เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนั้น “ความประทับใจในการท�ำงาน หลังก่อสร้างเสร็จจะมีการมีสว่ นร่วมอยูแ่ ล้ว ทุกคนก็พอใจหมด อย่างพืน้ ทีโ่ ครงการหลวง จะยากล�ำบากมากในการเดินทาง อย่างฤดูฝนชาวบ้านจะไม่สามารถใช้เส้นทางเดินทางได้เลย การขนส่ง เวลาเจ็บป่วย ไปหาหมอไม่ได้ พอเราลงไปท�ำมันเห็นผลทันที เพราะบางทีเขารอมาเป็น 10 กว่าปี อย่างโครงการสนับสนุนโครงการหลวงห้วยส้มป่อย พอเรา ไปท�ำมัน ชาวบ้านเขาก็ดีใจ เราก็มีความตั้งใจในการท�ำงานครับ”
่อานดี
สวัสดีคณ ุ ผูอ้ า่ นวารสารกรมทางหลวงชนบทค่ะ “อ่านดีมรี างวัล” ฉบับประจ�ำ เดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2564 ฉบับนีต้ อบค�ำถามรับของทีร่ ะลึกม่านบังแดดรถยนต์ จ�ำนวน 10 ชิน้ ไปติดตามค�ำถามกันเลยค่ะ ค�ำถาม : ถนนสาย ง, ค3 และ ค4 ผังเมืองรวมเมืองนครพนม หรือมีชอื่ เรียกว่า ถนนอะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง สามารถเข้าไปตอบค�ำถามด้วยการแสกน QR CODE ด้านล่างนีไ้ ด้เลยค่ะ *การตัดสินของกรรมการถือเป็นสิน้ สุด* *ส่งก่อนมีสทิ ธิก์ อ่ น* “ทางหลวงชนบท
มี
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
! ล ั ว ง า ร
27
28
ริมทางชนบท
ด่านชั่งน�้ำหนัก กรมทางหลวงชนบท
ปัจจุบันกรมทางหลวงชนบทมีถนนภายใต้ความรับผิดชอบมากกว่า 48,000 กิโลเมตร ซึ่งแต่ละปีต้องใช้งบประมาณ ในการบ�ำรุงรักษาเป็นจ�ำนวนมาก โดยสาเหตุหลักทีท่ �ำให้ถนนเกิดความเสียหายก่อนเวลาอันควร มาจากการบรรทุกน�ำ้ หนัก เกินพิกดั ของรถบรรทุก ด้วยเหตุนี้ กรมทางหลวงชนบทจึงมีนโยบายทีจ่ ะจัดตัง้ ด่านชัง่ นำ�้ หนักเพือ่ ป้องกันและควบคุมการบรรทุก น�้ำหนักของรถบรรทุกบนทางหลวงชนบท โดยด่านชั่งน�้ำหนักของกรมทางหลวงชนบทสามารถแยกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
1. ด่านชั่งน�้ำหนักแบบถาวร คือ ด่านชั่งน�้ำหนักที่ติดตั้งเครื่องชั่งน�้ำหนักแบบสถิตย์ ไว้ภายในด่านชั่งน�้ำหนัก มีเจ้าหน้าที่ ปฏิบตั งิ านควบคุมนำ�้ หนักบรรทุกตามกฎหมายตลอด 24 ชัว่ โมง โดยก่อสร้างบนทางหลวงชนบทสายหลักทีม่ ปี ริมาณรถบรรทุกสูง ปัจจุบันได้มีการจัดตั้งด่านชั่งน�้ำหนักแบบถาวรบนสายทางของกรมทางหลวงชนบท จ�ำนวน 5 แห่ง ได้แก่ • สถานีตรวจสอบน�้ำหนักยานพาหนะ นบ.3021 (ราชพฤกษ์) • สถานีตรวจสอบน�้ำหนักยานพาหนะ สค.2055 • สถานีตรวจสอบน�้ำหนักยานพาหนะ นย.3001 • สถานีตรวจสอบน�้ำหนักยานพาหนะ ฉช.3001 (รอเปิดใช้งาน) • สถานีตรวจสอบน�้ำหนักยานพาหนะ ชม.3035
ริมทางชนบท
29
2. ด่านชั่งน�้ำหนักกึ่งถาวร คือ ด่านชั่งน�้ำหนัก ที่จัดเตรียมช่องจราจรพิเศษไว้ พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องมือชั่งน�้ำหนักแบบ เคลื่อนที่ โดยช่องจราจรที่จัดเตรียมไว้จะช่วยให้การปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่มีความสะดวกและปลอดภัยส�ำหรับจัดรถบรรทุก เข้าชั่ง ปัจจุบันได้มีการจัดตั้งด่านชั่งน�้ำหนักแบบกึ่งถาวรบนสายทางของกรมทางหลวงชนบทจ�ำนวน 2 แห่ง ได้แก่ • ด่านชั่งน�้ำหนักกึ่งถาวร นม.1111 • ด่านชั่งน�้ำหนักกึ่งถาวร นบ.3021 (ราชพฤกษ์) 3. ด่านชั่งน�้ำหนักแบบเคลื่อนที่ จะติดตั้งบนสายทางที่ไม่มีด่านชั่งน�้ำหนักแบบถาวรหรือด่านชั่งน�้ำหนักแบบกึ่งถาวร โดยจัดชุดเจ้าหน้าที่และเครื่องมือชั่งน�้ำหนักเข้าปฏิบัติงานเพื่อสุ่มตรวจสอบการบรรทุกบนสายทางที่คาดว่าจะมีการหลบเลี่ยง ด่านชั่งน�้ำหนักแบบถาวร หรือตรวจสอบบนสายทางที่มีการร้องเรียนเรื่องการบรรทุกน�้ำหนักเกินพิกัด ข้อมูล : ส�ำนักบ�ำรุงทาง “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
30
Spotlight
“สิ่งที่รับผิดชอบต้องควบคู่ ไปกับสิ่งที่ชอบ” เพราะชีวติ คนเรามีหลากหลายบทบาทหน้าที่ การใช้ชวี ติ ให้มคี วามสุขและคุม้ ค่าเป็นสิง่ ทีเ่ ราทุกคน ท�ำได้ วารสารกรมทางหลวงชนบทคอลัมน์ Spotlight ฉบับนี้ ขอพาไปท�ำความรู้จักกับพี่นายช่าง ได้ท�ำงานที่รักและสิ่งที่ชอบไปด้วยอย่างสมดุลค่ะ
วารสาร
กรมทางหลวงชนบท
นายนนทัช ยันตรกิจ ต�ำแหน่งนายช่างโยธาช�ำนาญงาน สังกัดส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) ปฏิบัติหน้าที่ กลุม่ วิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยี ส�ำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) มี ห น้ า ที่ รั บ ผิ ด ชอบ ด้ า นควบคุ ม งานก่ อ สร้ า งถนน และสะพาน ด้ า นฝึ ก อบรม ด้ า นการมี ส ่ ว นร่ ว ม และด้ า นการ ประชาสั ม พั น ธ์ จะเห็ น ว่ า ปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ร อบด้ า นเลยที เ ดี ย วค่ ะ พี่ น นทั ช หรื อ พี่ เ อก เล่ า ให้ ที ม บรรณาธิ ก ารฟั ง ว่ า การท�ำงาน ทีภ่ าคภูมใิ จ คือการได้รบั ผิดชอบพืน้ ทีค่ วบคุมงาน จังหวัดยะลา พืน้ ที่ ทีห่ ลาย ๆ คน คอยเป็นห่วงเป็นใยในเรือ่ งความปลอดภัย จริง ๆ แล้ว เมื่อเราได้เข้าไปพบเจอพูดคุยกับชาวบ้านว่ามีโครงการถนนหรือ สะพานเข้ามาในพืน้ ที่ ช่วยให้ความเป็นอยูเ่ ส้นทางการคมนาคมของ ชาวบ้านสะดวกรวดเร็วดีขนึ้ ชาวบ้านจะรูส้ กึ ดีใจมีรอยยิม้ ให้เราเสมอ การทุม่ เทเอาใจใส่ในการท�ำงานและการจริงใจในการรับทราบปัญหา เป็นสิ่งที่ส�ำคัญมาก น�ำไปสู่การร่วมมือที่ดี เมื่อชาวบ้านไว้วางใจ เราก็ท�ำให้การเข้าพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่การควบคุมงานเป็นไปด้วยดี ส�ำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย แม้แต่ในเรื่องของการด�ำเนินชีวิต ใช้ชีวิต อยู่กับปัจจุบนั วางแนวทางไว้วา่ “สิง่ ทีร่ บั ผิดชอบต้องควบคูไ่ ปกับสิง่ ทีช่ อบ” สิ่ ง ที่ รั บ ผิ ด ชอบ คื อ หน้ า ที่ ก ารงานตามต�ำแหน่ ง และที่ ไ ด้ รั บ มอบหมาย ต้องท�ำเต็มทีใ่ ห้บรรลุเป้าหมาย สิง่ ทีช่ อบ คือ ดนตรี และ กีฬาฟุตบอล ซึ่งเราต้องแบ่งเวลาให้กับสิ่งที่ชอบด้วย นอกจากนี้ ยั ง มี อี ก ด้ า นหนึ่ ง ที่ ส�ำคั ญ และภาคภู มิ ใ จ คื อ การได้มสี ว่ นน�ำดนตรีสงิ่ ทีช่ อบมาช่วยเหลือหน่วยงานและสังคม เช่น การผลิตเพลงรณรงค์การขับขี่ปลอดภัยให้กับกรมทางหลวงชนบท ช่วงเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ เพลง “ขับช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มคัด” ปี พ.ศ. 2561 และผลิต Jingle รายการ ให้กับรายการวิทยุ “ทช.หมอทาง” เพลง “สายด่วน ทช.1146” และได้รบั เชิญให้ผลิต เพลงรณรงค์โครงการ “ถนนปลอดภัยหัวใจเดียวกัน” ของชมรม เยาวชน 32 เพื่อสังคม ปี พ.ศ.2556 ร่วมคอนเสิร์ตกับศิลปินใต้ช่วย น�้ำท่วมครั้งใหญ่ภาคใต้ ปี 2554 และปี 2560 ร่วมคอนเสิร์ตร�ำลึก
เพลงของพ่อ ร.9 จังหวัดสงขลา และดนตรีเพื่อน้องสนับสนุน อาหารกลางวันนักเรียน รร.มหาวชิราวุธสงขลา ส่วนด้านกีฬา ฟุตบอล ได้รบั เชิญเป็นประธานทีป่ รึกษาและนักเตะสโมสรฟุตบอล กล้ายูไนเต็ด ประกอบด้วยศิลปินใต้และนักร้องในอ�ำเภอหาดใหญ่ เพื่อเล่นฟุตบอลช่วยเหลือในกิจกรรมการกุศลต่าง ๆ และร่วม กิจกรรมฟุตบอลการกุศลระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย น�้ำท่วมบ้านคูขุด อ�ำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา และอีกหลาย ๆ รายการ ซึง่ สิง่ ทีไ่ ด้จากการเล่นกีฬาและดนตรี มาใช้ในการท�ำงาน คือ การท�ำงานเป็นทีม การมีสขุ ภาพกายและอารมณ์ทดี่ ี ส่งผลให้ การท�ำงานสนุก การแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่พบเจอผ่านไปได้ด้วย การมีสติที่ดี และนี้คือเรื่องราวของบุคคลที่เราได้ฉาย Spotlight จาก ผู้ชายที่เชื่อว่า “ความสุขควบคู่ไปกับการได้ท�ำในสิ่งที่ชอบ” ท่านผู้อ่านสามารถน�ำแนวคิด การด�ำเนินชีวิต ไปปรับใช้กับตัว เองได้นะคะ แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า มาติดตามกันว่า Spotlight จะไปส่องใครกันนะ?...รอติดตามกันด้วยนะคะ ส�ำหรับฉบับนี้ ขอขอบคุณที่ติดตามคอลัมน์ Spotlight ค่ะ
การมีส่วนร่วม / คลินิกนายช่าง 31
แขวงทางหลวงชนบทขอนแก่น
จัดประชุมแสดงความคิดเห็นในระหว่างการดำ�เนินการ โครงการติดตั้งกำ�แพงคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ นายกล้าหาญ ทารักษา ผูอ้ �ำนวยการแขวงทางหลวงชนบทขอนแก่น ร่วมกับหมวดบ�ำรุง ทางหลวงชนบทขอนแก่น ผู้น�ำชุมชน และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น ในระหว่างการด�ำเนินการโครงการติดตั้งก�ำแพงคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ (Rubber Fender Barrier : RFB) บนถนนทางหลวงชนบทสาย ขก.2009 แยกทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 - บ้านส�ำราญ อ�ำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 0+200 - 1+822 กิโลเมตร เพื่อให้การด�ำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและลดผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และประชาชนบริเวณสองข้างทาง
วิธีการติดตั้งป้ายจราจร คลิ นิ ก นายช่ า ง ฉบั บ เดื อ นกุ ม ภาพั น ธ์ - มี น าคม 2564 ขอเสนอข้อเสนอแนะวิธีการติดตั้งป้ายจราจร จากส�ำนักส�ำรวจ ออกแบบ ทีเ่ ป็นส่วนหนึง่ ของการติดตัง้ ระบบป้ายของถนนทัง้ หมด ซึง่ ได้น�ำข้อสังเกตจากการติดตัง้ ป้ายผิดในหลาย ๆ ต�ำแหน่งมาเตือน แก่ผู้ติดตั้ง ให้ติดตั้งป้ายให้ถูกต้องเหมาะสม โดยสามารถอ่าน รายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ ข้ อ เสนอแนะดั ง กล่ า ว ได้ ต าม QR CODE นี้เลย “ทางหลวงชนบท
เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ”
ง า ่ ช ย า น ก ิ น ิ คล
ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ
กรมทางหลวงชนบท
Department of Rural Roads
9 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220 โทรศัพท์ 02-551-5000 สายด่วน 1146 www.drr.go.th