Vol. 13 Dec 2016
1
"เหมือนใจหล่น พอทราบความ สท้านทรวง มันหนาวใน อยากตะโกน ปวงชาวไทย เพราะทูนหัว เสด็จกลับ
จมหาย ขนลุกชัน น้ำตาร่วง อกสั่น ก้องหล้า ต่างร้องไห้ ที่สุด ที่เดิม
ในสายน้ำ กลั้นไม่ไหว สะเทือนใจ หวิวเหลือเกิน ฟ้ารู้ไหม ไม่เก้อเขิน จะดำเนิน ณ ก่อนมา"
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้านิตยสาร BEDOUIN & SPARK เจ้าของ Owner บริษัท รุ่งทิพย์ เมรมิต จำกัด ที่ปรึกษา Adviser น.อ.โรจนศักดิ์ คงทอง, พ.อ.จักรกฤษ สุขสัจจี, สุทษิ า รังคเสนี Editoral Team บรรณาธิการ Editor จิตติมา ศรีสังข์ ฝ่ายโฆษณา Advertising Sales Manager ฤทัย สุขสัจจี กองบรรณาธิการ Editor Staff จินตปาตี กราฟฟิคดีไซน์ Graphic Designer สมชาย กิตติพงษ์พัฒนา ช่างภาพ Photography STARY ส่งเอกสาร Messenger ศิรินัส สินมาแก้ว
ติดต่อ
2
บริษัท รุ่งทิพย์ เนรมิตร จำกัด
Distribution Channel ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS 33 สถานี ได้แก่ หมอชิต, สะพานควาย, อารีย์, สนามเป้า อนุสาวรีย์, พญาไท, ราชเทวี, ชิดลม, เพลินจิต, บางนา, อโศก, พร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย, พระโขนง, อ่อนนุช, บางจาก, ปุณณวิถี, อุดมสุข, บางนา, แบริ่ง, สนามกีฬาแห่งชาติ, ราชดำริ, ศาลาแดง, ช่องนนทรี, สุรศักดิ์, สะพานตากสิน, กรุงธนบุรี, วงเวียรใหญ่, โพธิ์นิมิตร, ตลาดพลู, วุฒากาศ, บางหว้า ทางขึ้นสถานีรถไฟใต้ดิน MRT 18 สถานี ได้แก่ หัวลำโพง, สามย่านสีลม, สวนลุมพินี, คลองเตย, ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, สุขุมวิท, เพชรบุรี, พระราม 9, ศูนย์วัฒนธรรมแห่ง
ประเทศไทย, ห้วยขวาง, สุทธิสาร, รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว, สวนจตุจักร, กำแพงเพชร, บางซื่อ ร้านกาแฟ ร้าน HOME MILK COFFEE BAR ร้านนม 6 ร้าน MOKA : muse of caffeine อาคารสิริภิณโญ ถนนศรีอยุธยา ร้าน Malong doo coffee shop จ.เชียงราย ร้านทิณบุตรการ์เด้นท์ จ.ร้อยเอ็ด ร้านก้องกาแฟ ร้าน Le Ranong จ.ระนอง ร้านกาแฟสดทวดพัน จ.ชัยนาท ร้านอริยะ
เบเกอรรี่ จ.สิ ง ห์ บุ รี ร้ า น Cafe' Farmer (ทางไปศาลากลางใหม่ ป ราจี น บุ รี ) จ.ปราจี น บุ รี ,
ร้ า น In Box Cafe จ.มหาสารคาม ร้ า นบ้ า นไร่ ก าแฟ สาขา เอกมั ย ร้ า น Coffeeness
ร้าน COFFEE BUN จ.เลย Cafe' de Museum @ RIVER DUCK สาขาจรัญสนิทวงศ์,
ร้านคอฟฟี่เทลส์ ปากเกร็ด , PixZel caffe' จ.นครศรีธรรมราช โรงแรม โรงแรมเทวราช จังหวัดน่าน, โรงแรมอัศวรรณ จังหวัดหนองคาย, โรงแรมพัทยา นพเก้า จังหวัดพัทยา, พรไพลิน จังหวัดกาญจนบุรี, ศิลามณีคุณหมิงวิว จังหวัดเลย, โรงแรมรามา การ์ เ ด้ น จั ง หวั ด กรุ ง เทพฯ, โรงแรม KANTARY BAY จ.ระยอง, ชวาลั น รี ส อร์ ท จ.นครปฐม,
โรงแรมThe Place Chiangrai จ.เชียงราย คุ้มเจ้าจอมแก้ว รีสอร์ท จ.ลำพูน, Alvarez hotel จ.บุรีรัมย์ , Siva Royal Hotel จ. พัทลุง, ณ นิรันดร์ โรแมนติก บูทีค รีสอร์ท จ.เชียงใหม่
2/45 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220 กองบรรณาธิการ โทร/แฟกซ์. 02 101 1889 ฝ่ายโฆษณา โทร. 081 530 5875, 081 825 4820 E-mail : bedouin.spark@gmail.com f : Bedouin & Spark Fan Page : BEDOUIN & SPARK website : www.bedouin-spark.com
จากดอยฝิ่น สู่ดอยคำ โรงงานหลวง อาหารสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) LIVING SITE MUSEUM
ห้องอาหาร โคสต์ บีช คลับ แอนด์ บิสโทร
3
ใน
อดีตพื้นที่ตลอดแนวเทือกเขาถนนธงชัยที่ทอดผ่าน 7 จังหวัดภาคเหนือ อันได้แก่ แพร่ น่าน ตาก กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอนมีความสูงจากระดับ
น้ำทะเลเฉลี่ย 800 เมตร ด้วยลักษณะทางภูมิประเทศ ทำให้เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโต ของฝิ่น พื้นที่กว่า 16,000 ไร่ ในตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ถูกปกคลุมไปด้วย ความงามของดอกฝิ่น สลับกับเทือกเขาหัวโล้นที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เหมือนภาพวาดที่ งดงามแต่ปราศจากจิตวิญญาณไม่มีผิด จากการเสด็ จ ประพาสต้ น ทางภาคเหนื อ ของพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อปี พ.ศ.2512 ได้ทอดพระเนตรถึงปัญหาและความทุกข์ยากของ ชาวเขา ทีอ่ าศัยอยูใ่ นพืน้ ทีท่ รุ กันดารยากแก่การทำการเกษตรกรรม นอกจากนี้ฝิ่น ยังเป็นพืช ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวเขาเป็นเวลานาน การจะให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่น จึงเป็นปัญหาที่ ละเอียดอ่อนยิ่งนัก อย่างไรก็ตามพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพบว่านอกจาก ฝิ่นแล้ว ยังเก็บลูกท้อพื้นเมืองขาย ซึ่งเป็นท้อลูกเล็ก และคุณภาพไม่ดีนัก แต่กลับสร้างรายได้
4
ให้กับชาวบ้านได้ไม่แพ้ฝิ่น กล่าวคือ ชาวเขา มีรายได้ต่อปีจากการขายฝิ่น 3,000-5,000 บาทต่อปี ในขณะที่รายได้จากการเก็บลูกท้อ ขายนั้นสูงถึง 4,000-12,000 ต่อปี พระองค์ ทรงมีพระราชดำริว่า “…ถ้าท้อลูกนิดๆ ยังทำเงินให้เกษตรกร ได้ ดี เ ท่ า ฝิ่ น แล้ ว เราควรจะเปลี่ ย นยอดให้ ออกมาเป็นท้อใหญ่ หวานฉ่ำ สีชมพูเรื่อดัง แก้มสาวในนิทานจีน เมื่อรายได้จากท้อ และ ผลไม้อื่นสูงกว่าฝิ่นแล้ว ฝิ่นจะสาบสูญไปเอง ตามธรรมชาติ ไม่ ต้ อ งใช้ ก ำลั ง ผลั ก ดั น แต่ อย่างไร…” “…เรื่องที่ช่วยชาวเขา และโครง การ ชาวเขานั้น มีประโยชน์โดยตรงกับชาวเขา
ที่จะส่งเสริมชาวเขาให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น สามารถเพาะปลูกสิ่งที่เป็นประโยชน์ และ เป็ น รายได้ กั บ เขาเอง ที่ มี โ ครงการนี้ จุ ด ประสงค์อย่างหนึง่ ก็คอื มนุษยธรรม หมายถึง ให้ผู้อื่นในถิ่นทุรกันดาร สามารถที่จะมีความ รู้และพยุงตัว มีความเจริญได้ อีกอย่างหนึ่ง ก็ เ ป็ น เรื่ อ งช่ ว ยในทางที่ ทุ ก คนเห็ น ว่ า ควร
จะช่วย เพราะเป็นปัญหาใหญ่ก็คือ ปัญหา เรื่ อ งยาเสพย์ ติ ด ถ้ า สามารถช่ ว ยชาวเขา ปลูกพืชที่เป็นประโยชน์บ้าง เขาจะเลิกปลูก ยาเสพย์ติด คือ ฝิ่น ทำให้นโยบายการระงับ การปราบปรามการสูบฝิ่น และการค้าฝิ่น
ได้ผล อันนี้เป็นผลอีกอย่างหนึ่ง ผลอีกอย่าง
หนึ่ ง ซึ่ ง สำคั ญ มากก็ คื อ ชาวเขาเป็ น ผู้ ที่ ท ำการ เพาะปลูกโดยวิธีที่จะทำให้ บ้านเมืองของเราไปสู่ หายนะได้ โดยที่ถางป่าแล้วปลูกโดยวิธีที่ไม่ถูก ต้อง ถ้าพวกเราไป ช่วยเขา ก็เท่ากับช่วยบ้านเมือง ให้มีความดี ความอยู่ดีกินดี และความปลอดภัย ได้อีกทั่วประเทศ เพราะถ้าสามารถทำโครงการนี้ ได้สำเร็จ ให้ชาวเขาอยู่เป็นหลักแหล่งสามารถที่ จะอยู่ดีกินดีพอสมควร และสนับสนุนนโยบายที่ จะรักษาป่าไม้ รักษาดินให้คืนประโยชน์ ต่อไป ประโยชน์อันนี้จะยั่งยืนมาก…” 5
PB
หาตลาดรับซื้อผลิตผลไม่ได้ เพราะชาวเขาอยู่ห่าง จากตั ว เมื อ ง พ่ อ ค้ า ที่ รั บ ซื้ อ พื ช ผลก็ ก ดราคา ตามใจชอบ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทร มหาภูมิพลอดุลยเดช จึงมีพระราชดำริให้หน่วย งานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งสหกรณ์ชาวเขาขึ้น และทรง ให้ก่อสร้างโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่๑ (ฝาง) ขึ้นที่หมู่บ้านยาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จั ง หวั ด เชี ย งใหม่ ในปี พ.ศ.2515 เพื่ อ รองรั บ ผลผลิตทางการเกษตรนำมาแปรรูปเพื่อช่วยเหลือ เกษตรกร และยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ ของชาวเขาในพื้ น ที่ ลุ่ ม น้ ำ แม่ ง อนและดอย
อ่างขาง ในระยะแรกของการดำเนินการ โรงงานมี ลักษณะเป็นเพียงโรงงานเคลื่อนที่ โดยใช้รถยนต์ ดั ด แปลงให้ เ ป็ น โรงงานเคลื่ อ นที่ ต่ อ มาได้ ใ ช้ อาคารของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเป็น โรงงานชั่วคราว ซึ่งการที่ตั้งโรงงานหลวงอาหาร สำเร็ จ รู ป ขึ้ น มานั้ น เกษตรกรสามารถนำเอา ผลผลิตมาจำหน่ายได้ในราคายุติธรรม มีเงินสด หมุนเวียน และผลผลิตเข้าสู่ตลาดโดยไม่มีการ สู ญ เสี ย หรื อ หากสู ญ เสี ย ก็ เ สี ย ในจำนวนน้ อ ย
ต่อมาได้มีการสร้างโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป ขึ้น ในบริเวณที่เป็นตลาดร่มเกล้า และสหกรณ์
แม่งอนเดิม เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ โรงงานหลวง อาหารสำเร็จรูปได้แบ่งบุคลากรออกเป็น 3 ฝ่ายหลัก คื อ ผู้ จั ด การที่ มี ค วามรู้ เ รื่ อ งการถนอมอาหาร
เจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพ และช่าง 6
ด้
วยพระราชปณิ ธ านพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชที่ ม ี พระราชดำริให้จัดตั้งโครงการพระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขาขึ้น เพื่อแก้ปัญหา การปลูกฝิ่นและทรงต้องการพัฒนา การเป็นอยู่ของพสกนิกรในท้องถิ่นทุรกันดารให้ อยู่ดีกินดี จึงเกิดเป็น “โครงการหลวง” ที่ส่งเสริมให้ชาวเขาเพาะปลูกทำการเกษตร จำพวกผักและผลไม้เมืองหนาว แทนการปลูกฝิ่นที่มีมาแต่ดั้งเดิม โดยทางโครงการ ได้ส่งเสริมให้ปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน ใน ระยะแรกนั้นเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกร ปลูกท้อ และลิ้นจี่ ต่อมาจึงมีการส่งเสริมให้ ปลู ก แอปเปิ้ ล มั น ฝรั่ ง ข้ า วโพดหวาน
ถั่ ว แดงหลวง และมิ้ น ท์ รวมไปถึ ง การ แนะนำให้มีการเลี้ยงปลา และแกะ เป็นต้น
ซึ่งเมื่อมีผลผลิตเกิดขึ้นมาแล้ว ปัญหาก็คือ
ลักษณะของการดำเนินโครงการหลวงนี้ จะมีลักษณะเป็นแบบการพัฒนาชนบท ซึ่งจาก ประวัติความเป็นมามักจะเริ่มต้นด้วยการพัฒนา ท้องที่ มีการจัดตั้งสถานีอนามัยชั้นสองและศูนย์ โภชนาการเด็ก เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของ คนในชุ ม ชนควบคู่ ไ ปด้ ว ย อั น ถื อ ได้ ว่ า เป็ น การ สะท้ อ นแนวคิ ด ด้ า นการช่ ว ยเหลื อ ประชาชน
บนพื้นที่สูงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช เมื่ อ การดำเนิ น งานของโรงงานหลวง อาหารสำเร็ จ รู ป ที่ ๑ (ฝาง) เปิ ด ดำเนิ น การได้ ระยะหนึง่ ใน พ.ศ.2517 ก็ได้มกี ารตัง้ โรงงานหลวง อาหารสำเร็จรูปที่ ๒ (แม่จัน) ขึ้น ต่อมาก็ได้ มี ก า ร ตั้ ง โ ร ง ง า น ห ล ว ง อ า ห า ร ส ำ เ ร็ จ รู ป
ที่ ๓ (เต่างอย) ขึ้น ในพ.ศ. 2523 และโรงงาน หลวงอาหารสำเร็จรูป ที่ ๔ (ละหานทราย) ขึ้นใน พ.ศ. 2525 ทั้งนี้โรงงานที่เปิดภายหลังทั้ง 3 แห่ง ตั้ ง ขึ้ น โดยมี โ รงงานหลวงอาหารสำเร็ จ รู ป ที่ ๑ (ฝาง) เป็นแม่แบบในการดำเนินงาน นอกจากนี้
ในพ.ศ. 2518 ได้ มี ก ารจั ด ตั้ ง โครงการหลวง อาหารสำเร็จรูปมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขึ้นเพื่อ ทำหน้าที่ศึกษา ค้นคว้า และวิจัยผลิตภัณฑ์ที่จะ นำไปดำเนินการในโรงงานหลวงอีก 4 แห่ง โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง)
จัดเป็นโรงานหลวงอาหารสำเร็จรูปแห่งแรกที่ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ตลอดจน เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ ยึดเอาแนวคิดด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมมาใช้ ทั้ ง การใช้ พ ลั ง งานในโรงงานหลวงอาหาร สำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง) ที่นำเอาพลังงานน้ำมาใช้ รวมทั้งการกำจัดของเสีย
อย่ า งไรก็ ต าม พื้ น ที่ ตั้ ง โรงงานหลวงอาหาร สำเร็ จ รู ป ที่ ๑ (ฝาง) ได้ ป ระสบกั บ ปั ญ หาการเกิ ด อุทกภัยขึ้นหลายครั้ง โดยอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ทำ ความ เสี ย หายให้ โ รงงานได้ เ กิ ด ขึ้ น จำนวน 2 ครั้ ง โดย
ครั้งที่ 1 เกิดเมื่อวันที่ 13-15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ส่ ว นครั้ ง ที่ 2 นั้ น เกิ ด จากการที่ น้ ำ ท่ ว ม และดิ น
โคลนถล่ ม ลงมาตามลำห้ ว ยแม่ ง อน แม่ ข าน และ
แม่ขานน้อย ลงมาสู่ที่ราบ เนื่องจากเกิดฝนตกหนัก อย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 8 - 11 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ทำให้ เ กิ ด ความเสี ย หายกั บ โรงงานเป็ น อย่ า งมาก
รวมไปถึ ง มี พื้ น ที่ ที่ ไ ด้ รั บ ความเสี ย หายจำนวน
15 หมู่บ้าน ภายหลังอุทกภัยในครั้งนี้ สมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรความเสียหาย บริเวณหมู่บ้านยาง และ โรงงานหลวงฯ และมีพระราชกระแสรับสั่งให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริ ดำเนินการ ฟื้นฟูและพัฒนาโรงงานหลวงฯ ให้เป็น “พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง)” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนาอย่าง ยั่งยืนด้านอุตสาหกรรม การเกษตรแปรรูป และเพื่อให้ทราบถึงแนว พระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดุ ล ยเดช ในการพั ฒ นาประเทศอย่ า งรอบด้ า นและยั่ ง ยื น ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์พื้นที ่ ทีม่ ชี วี ติ เรียกได้วา่ เป็นการพัฒนาครัง้ ใหญ่ “จากดอยฝิน่ สูด่ อยคำ” นั่นเอง 7
พิ
พิ ธ ภั ณ ฑ์ โ รงงานหลวงที่ 1 (ฝาง) ถู ก จั ด สร้ า งขึ้ น ในรู ป แบบของพิ พิ ธ ภัณฑ์พื้นที่ที่มีชีวิต จุดประสงค์เพื่อให้เป็น แหล่ ง เรี ย นรู้ แ ละพั ฒ นาอย่ า งยั่ ง ยื น ด้ า น อุตสาหกรรมการเกษตรแปรรูป เพื่อเกื้อหนุน และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาชุมชนโดยรอบ เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงแนว พระราชดำริในการพัฒนา และเพื่อความคง อยู่อย่างยั่งยืนของโรงงานหลวงฯ ในห้ อ ง “กำเนิ ด โครงการหลวง”
มีข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาว บ้ า นที่ จั ด แสดงไว้ ไม่ ว่ า จะเป็ น หม้ อ ไห กระทะ โดยเป็นข้าวของที่ได้รับบริจาคและ ให้ยืมจากเจ้าของที่อาศัยในชุมชนบ้านยาง จั ด แสดงไว้ เ พื่ อ ให้ เ ยาวชนได้ ต ระหนั ก ถึ ง ความสำคัญของประวัติศาสตร์ชุมชนและ ความหวงแหนในสมบัติของบรรพบุรุษ นอกจากนั้ น ยั ง มี ค วามเป็ น มาของ กำเนิดโครงการหลวง ที่เกิดขึ้นเมื่อพระบาท สมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรชาว ไทยภู เ ขาเขตจั ง หวั ด ภาคเหนื อ และทอด พระเนตรเห็นป่าไม้บนเขาที่ถูกทำลายจาก การปลู ก ฝิ่ น อี ก ทั้ ง สภาพความเป็ น อยู่
ที่แร้นแค้น พระองค์จึงทรงส่งเสริมให้ชาว บ้ า นปลู ก พื ช เมื อ งหนาวแทนการปลู ก ฝิ่ น รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ จน กลายมาเป็น “โครงการหลวง” ในบริเวณนี้ ยังมีภาพถ่ายเก่าแก่สมัยที่พระบาทสมเด็จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช เยี่ ย ม ราษฎรในพื้นที่ภาคเหนือให้ชมกันด้วย ส่วนในห้อง “กำเนิดโรงงานหลวง อาหารสำเร็ จ รู ป ที่ 1 (ฝาง)” ห้ อ งนี้ มี ภาพถ่ า ยที่ แ สดงให้ เ ห็ น ถึ ง พั ฒ นาการ
ของ โรงงานหลวงฯ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
8
ภายในห้องมี “รถโฟล์ค” ซึ่งเป็นรถยนต์พระราชทานเมื่อแรกก่อตั้งโรงงานหลวงฯ มีรูปภาพเก่าเมื่อครั้ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จ พระราชินีฯ เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์ไปทรง เยี่ยมบ้านยาง และโรงงานหลวงฯ เมื่อปี 2516 อีกด้วย ในห้องนี้ยังจัดแสดงภาพถ่ายบรรยากาศและผู้คนในชุมชนบ้านยางที่มีทั้งชาวไทยและชาวจีนที่
สื บ เชื้ อ สายมาจากชาวจี น ยู น นาน ชาวไทยใหญ่ (ฉาน) และชาวไทยภู เ ขา และมี ก ารดำเนิ น วิ ถี ชี วิ ต
มากว่า 50 ปี ผสมผสานการนับถือศาสนาของชาวพุทธ คริสต์ อิสลาม และการนับถือผีกันอย่างร่มเย็น
ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร อีกทั้งในห้องนี้ยังมีเครื่องจักรในโรงงานหลวงฯ ที่ถูกน้ำน้ำป่าพัดถล่มมาจัด แสดงไว้ให้ชม
ก่อนจะออกจากพิพิธภัณฑ์อย่าลืมแวะซื้อ แวะชมผลิตภัณฑ์ “ดอยคำ” และทราบถึงประวัติ และบทบาททางสั ง คมของบริ ษั ท ฯ และมี พื้ น ที่ สำหรับผู้สนใจศึกษาข้อมูลและงานวิจัยที่เกี่ยว ข้ อ งกั บ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ โรงงานหลวงฯ และชุ ม ชน
โดยรอบที่บริเวณชั้นลอยของห้องอีกด้วย สำหรับคนที่อยากเดินชมบรรยากาศของ ชุมชนบ้านยาง ก็ต้องไม่พลาดไปสักการะศาลเจ้า แม่กวนอิม ซึ่งสถานที่แห่งนี้ ชาวบ้านยางเรียกว่า วัดเจ้าแม่กวนอิม บ้างก็เรียก ศาลเจ้าแม่กวน อิม ชาวบ้านยาง ได้รบั พระมหากรุณาธิคุณ จาก พระบาทสมเด็ จพระปรมิ นทรมหาภูมิพลอดุลย เดช โปรดเกล้าพระราชทานที่ดินสำหรับสร้างวัด พุทธศาสนาขึ้น เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2524 ที่เป็น สถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านยางที่นับถือ พระพุ ท ธศาสนา และมี เ ทศกาลกิ น เจร่ ว มกั น ทุ ก ศาสนาในวั น ตรุ ษ จี น วั ด แห่ ง นี้ เ ป็ น วั ด จี น บรรยากาศรอบๆ จึงเป็นทั้งวัด และเป็นศาลเจ้า
แม่กวนอิม ในสถานที่แห่งเดียวกัน และความ โดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ อีกอย่างหนึ่ง คือ วัด แห่งนี้มีเพียงแม่ชีจำวัด โดยแม่ชีจะสวมชุดสีเทา
แบบชาวจีน แม่ชีในวัดแห่งนี้ จะต้องอุทิศตนแด่ พุทธศาสนาไปตลอดชีวิต แวะชมสถานีอนามัย เก่าที่ในหลวงโปรดให้สร้างพระราชทานแก่ชาว ชุมชนบ้านยาง รวมถึงชมบ้านดิน ที่ยังคงมีหลง เหลือให้เห็นอยู่ไม่กี่หลังในหมู่บ้าน โดยบ้านดิน
เป็ น บ้ า นที่ ช าวจี น ยู น นานสร้ า งไว้ เ มื่ อ เข้ า มาตั้ ง รกรากที่บ้านยาง อีกทั้งไม่ไกลกันมากนักยังเป็นที่ ตั้งของน้ำตกบ้านยางน้ำตกขนาดเล็กที่เป็นแหล่ง น้ำสำคัญของหมู่บ้านอีกด้วย “พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ โ รงงานหลวงอาหาร สำเร็ จ รู ป ที่ 1 (ฝาง)” จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ สำคัญใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และยังเป็นแหล่ง ท่ อ งเที่ ย วที่ แ สดงให้ เ ห็ น ถึ ง กระบวนการแก้ ไ ข ปัญหาและพัฒนาประเทศ แบบบูรณาการของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลย เดช รวมทั้งสะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่และความ หลากหลายของชุมชนอย่างแท้จริง และนี่ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของ โครงการหลวงในพระบาทสมเด็จพระปรมิน ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช และพระมหา กรุ ณ าธิ คุ ณ อั น ล้ น พ้ น ที่ พ ระองค์ มี ต่ อ ชาว ขอบคุณ - พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 1( ฝาง) - กองส่ ง เสริ ม แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย ว การท่ อ งเที่ ย วแห่ ง ประเทศไทย - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ 9
10
11
12
13