Food Focus Thailand No. 137 August 2017 by Food Focus Thailand

“From conception to implementation”

Understanding >> Accessing >> Developing

For the processes of Foods, Pharmaceuticals, Beverages, Cosmetics, Feed mills, Petrochemicals, Plastic and other type of processes. 3 Powder Process 3 Piping Service 3 Process Machine

3 Fabrication 3 Utility 3 Automation

Fabrication

Powder Process

Cup Sealing Machine

Evapor®

Piping Service & Utility

Dhawath Technology Systems Co., Ltd.

SoliValve®

Process Machine

“Help You to Feed the World”

2 Moo. 3 Lumlukka, Lumlukka, Pathumthani 12150 Tel: +662 5495508 Fax: +662 5495500 E-mail: Sales@dhawathsystems.co.th www.dhawathsystems.co.th www.facebook.com/dhawathsystems ad_Dhawat_May.indd 19

7/21/17 6:57 PM

A1.indd 1

7/21/17 6:40 PM

ad_BBC final.indd 7

7/20/17 4:53 PM

Food Processing & Packaging System

ONE STOP SERVICE ส�ำหรับธุรกิจอาหารของท่าน

Thermal Food Processing Machine

Automatic Rice Cooking System

Superheated Steam Oven

Dorayaki Making Machine

Food Processing Machine

Bowl Cutter

Meat Slicer

Vegetable Slicer

Packaging Machine

Form-Fill-Seal Machine (vertical type)

Form-Fill-Seal Machine (horizontal type)

Sandwich Wrapping Machine

National Food Institute, Ministry of Industry

Advertorial Advertorial

ธวัช เทคโนโลยี ซิสเต็มส์

12 ปี แห่งการมุ่งมั่นเพื่อความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม... พร้อมตอบโจทย์ยุค 4.0 ธวัช เทคโนโลยี ซิสเต็มส์ บริษัทด้านวิศวกรรมซึ่งก่อตั้งโดยวิศวกรคนไทยได้ยึดมั่นในเอกลักษณ์ ของความเป็นไทย และน�ำเอาความรู้ด้านวิศวกรรมจากประสบการณ์การท�ำงานทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ ผสานกับการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศชั้นน�ำทางอุตสาหกรรม ทั้งยุโรป อเมริ ก า และเอเชี ย ให้ กั บ ที ม วิ ศ วกร เพื่ อ ร่ ว มเป็ น คู ่ ค ้ า และพั ฒ นาร่ ว มไปกั บ ผู ้ ป ระกอบการ ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และวัสดุบรรจุภัณฑ์

“งานด้านวิศวกรรมอาหารได้พฒ ั นาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและต่อเนือ่ ง” คุณธวัช จินาพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธวัช เทคโนโลยี ซิสเต็มส์ จ�ำกัด กล่าว พร้อมเสริมว่า ในอดีตผลิตภัณฑ์อาหารส�ำเร็จรูปในบ้านเรายังมีความหลากหลายไม่มากนัก และมี ความแตกต่างจากอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ ทั้งอาหารที่ปรุงในครัวเรือนและอาหารจาก ร้านริมบาทวิถี (Street food) ในด้านความสดใหม่ ลักษณะปรากฏ รสชาติ และลักษณะ เนื้อสัมผัส นอกจากนี้ อาหารส�ำเร็จรูปยังมีราคาแพงกว่าอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ ถึงกว่าเท่าตัว “แต่ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารส�ำเร็จรูปมีความสดใหม่ บรรจุภัณฑ์สะอาด ปลอดภัย สวยงาม มีความสม�่ำเสมอในด้านรสชาติและคุณภาพ มีราคาที่เหมาะสม และสามารถหาซื้ อ ได้ ต ามร้ า นสะดวกซื้ อ ทั้ ง ยั ง ตอบโจทย์ ไ ลฟ์ ส ไตล์ ข องผู ้ ค น ทีเ่ ปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากสามารถอุ่นในไมโครเวฟก่อนรับประทาน ที่ส�ำคัญคือมั่นใจได้ ในความปลอดภัยของอาหาร (Food safety)” คุณธวัชกล่าว

ระบบอัตโนมัติ…ตอบโจทย์ยุคอุตสาหกรรม 4.0

กระบวนการผลิตอาหารนั้นต้องพึ่งพาแรงงานคนเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำอย่างไรจึงจะใช้ แรงงานคนลดลง ประเด็นนี้คุณธวัชให้ความเห็นว่า การลดแรงงานคนไม่เพียงแต่เป็น การรับมือกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะคนงานในระดับปฏิบตั กิ ารเท่านัน้ แต่ในสายการผลิตอาหาร หากมีจ�ำนวนผู้ที่เกี่ยวข้องลดลง และมีการน�ำระบบอัตโนมัติ เข้ามาประยุกต์ใช้ ก็จะช่วยให้สามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์อาหารที่ผลิตได้มีคุณภาพ “ในเรื่องของการพัฒนากระบวนการผลิต ทางบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัทคู่ค้า ในการพัฒนาระบบอัตโนมัติเพื่อใช้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น หุ่นยนต์ ระบบควบคุมอัตโนมัติ เป็นต้น เราได้ร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ทั้งในไทยและ ต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญ โดยน�ำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม กับเครื่องจักรและสภาวะเงื่อนไขของอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทย”

สร้าง “คน” ด้วย “ความรู้” คู่ “คุณธรรม”

“ไม่ใช่เพียงแค่การทุม่ งบซือ้ เทคโนโลยีตา่ งๆ แล้วก็จบไป แต่จริงๆ แล้วคือการร่วมมือกัน ระหว่างบริษัทคู่ค้าที่จะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีและผู้ใช้เทคโนโลยี” “ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ทีเ่ ราจะเปลีย่ นจาก “ท�ำมากได้นอ้ ย” เป็น “ท�ำน้อยได้มาก” นั้น ผมมองว่าก่อนที่เราจะน�ำระบบอัตโนมัติมาใช้ เราต้องสร้างคนและพัฒนาคนก่อน เพื่อให้สามารถรองรับการท�ำงานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ดังกล่าวได้” “การสร้างคน สร้างทีมงานวิจัย และพัฒนาไปด้วยกันนั้นเป็นเรื่องที่ส�ำคัญมาก อันจะน�ำไปสู่การพัฒนาองค์กรอย่างมั่นคงและยั่งยืน” คุณธวัชกล่าวย�้ำ

4-5_Adver_Dhawath.indd 4

ชีวิตที่สมดุล

จากการทีบ่ ริษทั ฯ ให้ความส�ำคัญกับ “คน” มาเป็นอันดับหนึง่ พืน้ ทีก่ ว่า 10 ไร่ 2 งาน (16,000 ตารางเมตร) ย่านล�ำลูกกา คลอง 9 จึงได้ถกู เนรมิตให้เป็นส่วนของส�ำนักงาน โรงงาน ศูนย์วิจัย พัฒนา และฝึกอบรมเชิงเทคนิค ตลอดจนพื้นที่สันทนาการ อาทิ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม โซนฟิตเนส มุมจัดสวนที่ร่มรื่นและสบายตา ซึ่งเปิดให้ บริการกับทั้งพนักงาน คู่ค้า และชุมชนใกล้เคียงได้อย่างลงตัว ศูนย์วจิ ยั พัฒนา และฝึกอบรมเชิงเทคนิค ของบริษทั ฯ ท�ำหน้าทีเ่ ป็นห้องทดลอง เสมื อ นจริ ง ให้ กั บ คู ่ ค ้ า รวมไปถึ ง รองรั บ การวิ จั ย และพั ฒ นากระบวนการของ บริษัทฯ เองด้วย การก่อตั้งศูนย์ฯ ดังกล่าวช่วยให้บริษัทฯ และคู่ค้าสามารถเข้าใจถึง ความต้องการที่หลายครั้งมีความซับซ้อนและจ�ำเพาะเจาะจงได้อย่างลึกซึ้งทั้งทาง ทฤษฎีและเทคนิค นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้ด�ำเนินรอยตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักสวนครัวและน�ำมาจ�ำหน่ายในราคาย่อมเยา รายได้จากการจ�ำหน่ายน�ำมา สมทบทุนช่วยเหลือเด็กพิการซ�้ำซ้อน…นับเป็นการสร้างความสมดุลของชีวติ ให้กบั พนักงานทุกคนอย่างแท้จริง และเป็นตัวอย่างให้พนักงานได้นอ้ มน�ำแนวพระราชด�ำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไปใช้ในการด�ำเนินชีวิต ด้วยความมุง่ มัน่ ทีจ่ ะพัฒนาในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนือ่ งและประสบการณ์ทสี่ งั่ สม มา 12 ปี พร้อมทีมงานฝีมอื คุณภาพกว่า 100 ชีวติ บริษทั ฯ มีความเชือ่ มัน่ ว่า สามารถ ให้บริการเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารได้ตั้งแต่การเริ่มต้น วางแผนผังโรงงาน การออกแบบไลน์การผลิต การผลิต การติดตั้งถังสแตนเลส ไซโลสแตนเลส และเครื่องจักรส�ำหรับกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ผง พรีมิกซ์ (Premix) เครื่องปรุงรส กาแฟ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตลอดจนระบบแบทชิ่ง (Batching) และผสม โดยน� ำ กระบวนการอั ต โนมั ติ เ ข้ า มาประยุ ก ต์ ใ ช้ ใ ห้ มี ความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในราคาที่คุ้มค่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็น ผู้น�ำเข้าเครื่องจักรในการผลิตบะหมี่ส�ำเร็จรูปทั้งกระบวนการ และพร้อมร่วมมือกับ คู่ค้าทุกท่านในการคิดค้นและวิจัยเพื่อให้ได้มาซึ่งกระบวนการแปรรูปที่ทันสมัย ครบวงจร มีประสิทธิภาพสูงสุด อันเป็นปัจจัยส�ำคัญของการผลิตอาหารปลอดภัย และนโยบายผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลกอย่างยั่งยืนอีกด้วย

7/25/17 5:04 PM

Advertorial Advertorial

Dhawath Technology Systems

12 Years of Expertise in Engineering For Every Solution in 4.0 Era

Dhawath Technology Systems, an engineering company founded by a Thai engineer, is passionate about Thai identity and has bring together its international and domestic experiences, a mix of technologies from advanced countries such as in Europe, America, and Asia, to relay on its Thai engineering team. It aims to find partners and develop together with enterprises in food, beverage, and packaging material industries.

“Food engineering is rapidly and continuously evolving.” said Managing Director Mr.Dhawath Chinarphanta. In the past, ready-meal products in the Thai market offered few varieties and were positioned differently from freshly-cooked meal from household and street food vendors. Freshlycooked meal was regarded for its marvellous freshness, appearance, taste and texture, while ready-meal was twice more expensive, added Mr.Dhawath. “But nowadays, processed food is fresh, safe, and consistent in terms of taste and quality, and comes in a clean, safe, and nice looking package. It becomes more affordable and answers to the changing lifestyle, with reasonable price, and easy to find in convenient stores. The food can be heated in the microwave before eating, and customers are ensured of the food safety.” said Mr. Dhawath.

Automation…The Solution for Industry 4.0 Era

The food production process relies heavily on labour, and the important question is how we are going to minimize the reliance. Mr. Dhawath believes that downsizing workforce would provide the solution for labour shortage, especially in the operational level. Nonetheless, in food manufacturing chain, if numbers of related persons in the food production are replaced by automation technology, production process will be mainly controlled by the automated system resulting in quality food products. “In terms of process development, the company collaborates with partners in developing automation system, which work on enhancing and adjusting machines and

คุณธวัช จินาพันธ์

Mr.Dhawath Chinarphanta Managing Director

equipment, e.g. robot and automatic control system. We work with various companies from Thailand and abroad, and apply those technologies to match with our machineries and the condition of food industry in Thailand.”

Creating “Human” with “Knowledge” and “Moral”

“It is not only about injecting money into technology and get it done. It is actually about collaboration between the partners who cooperatively develop the technology and the users who uses technology.” “In the Industry 4.0 era, we are trying to change from “work more for less” to “work less for more”. We need to develop our human resources to use the technology before we can guarantee the result from the machine.” “Building human resources and research team, while evolving together is very important in developing the company’s stability and sustainability.” said Mr.Dhawath.

Finding Balance

From the company’s “human first” policy, the 10-Rai-2-Ngarn (16,000 sq.m.) land in Khlong 9 of Lumlukka district is transformed into factory, R&D and technical training center, recreational zones e.g. artificial-grass football field, fitness centre, and cozy garden, which welcome for all employees, partners, and locals from nearby community. The company’s R&D and technical training centre serve as virtual laboratory for

partners, as well as supports the company’s R&D process. This centre helps Dhawath Technology Systems and partners to address sophisticated demands and understand specific needs both in theoretical and technical terms. Moreover, the company follows the Philosophy of Sufficient Economy by planting and selling vegetable at affordable prices. The profit gained from the project will be donated to children with redundancy disabilities. This is a true way to create balance in every employee’s life and is an example for employees to adopt the teaching of His Majesty King Bhumibol Adulyadej. With determination to develop everything continuously, an experience of 12 years, and more than 100 highly skilled employees, the company believes that it can provide solutions to every food enterprises, from factory layout, production line designing, production, installation of stainless steel tank, stainless silo, machine for powder products, premixes, seasonings, coffee, food supplements, as well as batching system and mixing. The company applies automation system with appropriation, effectiveness, and reasonable price. Additionally, the company is also a leading supplier of instant noodle processing line in Thailand and we are ready to collaborate with every customer in innovation and research in order to discover modern processing with highest quality for the safe food production. This will, in long term, support Thailand to become the kitchen of the world.

AUG 2017

4-5_Adver_Dhawath.indd 5

FOOD FOCUS THAILAND

5 7/25/17 5:04 PM

CONTENTS BONUS

ATTRACTIONS

SPECIAL TALK BY FDA 20

กฎระเบียบด้านอาหารล่าสุดที่มีผลบังคับใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 378) พ.ศ. 2559 เรื่อง ก�ำหนดพืช สัตว์ หรือส่วนของพืชหรือสัตว์ ที่ห้ามใช้ในอาหาร

AUGUST 2017 Vol. 12 No. 137

REGULAR

ATTRACTIONS

STAR ITEMS 18

Food and Drug Administration, Ministry of Public Health

SURF THE AEC 24

India’s GST, The Biggest Tax Reform, Opens New Opportunities

Benefits of Folk Herbs “Khruea Ma Noi”

ประโยชน์ของพืชสมุนไพรพื้นบ้าน “เครือหมาน้อย” By: Amornrat Aursalung

Yuraporn Sahasakul, Ph.D.

SPECIAL FOCUS 30

China’s Cold Chain is Growing to Meet Demand Despite Its Many Broken Links

for Thai Investors

ธุรกิจห่วงโซ่ความเย็นของจีนก�ำลังเติบโตท่ามกลางการเชื่อมโยงที่ไร้ประสิทธิภาพ

อินเดียลุย GST ยกเครื่องภาษี...โอกาสดีที่ไทยต้องเหลียวมอง

By: Barry Hochfelder

By: Yuwanee Ouinong

SPECIAL INTERVIEW 42

ผลิตภัณฑ์ดาวเด่นประจ�ำฉบับ

SCIENCE & NUTRITION

By: Public and Consumer Affairs Division

STAR ITEMS

Innovative House...Research to Increase Business Opportunities

บ้านแห่งนวัตกรรม…งานวิจัยเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ By: Food Focus Thailand Magazine

India’s Modern Cold Chain… Enhance Business Opportunity

ระบบห่วงโซ่ความเย็นของอินเดียมาแรง...เติมช่องว่างระหว่างธุรกิจต้นน�้ำ สู่ปลายน�้ำ By: Kasikorn Research Center

SMART PRODUCTION 44

Ready-to-Eat Foods in Retort Pouch Extended Shelf Life Innovation without Preservative and Freezer

ถุงรีทอร์ท...นวัตกรรมยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน โดยไม่ต้องอาศัยวัตถุกันเสียและตู้เย็น By: Throngvid Hongsaprabhas

Combination System Check Weigher and Metal Detector with X-Ray Inspection

ระบบเครื่องชั่งน�้ำหนักและตรวจจับสิ่งปลอมปนในเครื่องเดียวกัน By: Mettler-Toledo (Thailand) Limited

STRATEGIC R & D 52

Plant-based, Whole Food Diet The Healthy Nutrition for Kids with Allergies

การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าส�ำหรับเด็กแพ้ง่าย By: Sant Chaiyodsilp, M.D.

56 30 6-8_

.indd 6

24 7/21/17 6:38 PM

Make Your Benefit

CONTENTS

AUGUST 2017 Vol. 12 No. 137

REGULAR

ATTRACTIONS

STRATEGIC R & D Mental Health in the Digital Age

เพิ่มพลังสมอง ปรับโภชนาการทุกวัยทันภัยยุคดิจิทัล By: Gary Small, M.D.

Nutritional Solutions for Optimizing the Golden Years

เข้าสู่วัยสูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพด้วยโภชนาการที่ดี

By: Dr.Kai Lin Ek

Marianne Heer

STRONG QC & QA Food Export Regulation and Standard

กฎหมายอาหารต่างประเทศ By: Wongkan Ditthakavee

OCCASIONAL ATTRACTIONS

SOURCE OF ENGINEER Zero Food Waste Trend - Opportunity for Food Business

In the New Era

EXHIBITION ATTRACTIONS

SHOW TIMES Pre Show – Food Hotel Thailand 2017

73 เปิดโอกาสทางธุรกิจเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันสู่อุตสาหกรรมอาหาร และโรงแรมระดับโลก

จับกระแสการลดขยะอาหารกับโอกาสทางธุรกิจอาหารยุคใหม่ By: Export-Import Bank of Thailand

SAFETY ALERT Microbial Control in Poultry Processing using PAA

Intervention Strategy

การควบคุมจุลินทรีย์ในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกโดยใช้ กรดเปอร์อะซิติก By: Shailendra Singh

SITE VISIT Thailand as a Hub of Food Ingredients Provider

Pre Show – Food Ingredients Asia (Fi Asia) 2017

เวทีส�ำคัญส�ำหรับอุตสาหกรรมส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ไม่สิ้นสุด Pre Show – Meat Expo China 2017

77 ข้อมูลใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์และกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอน 78 80

Pre Show – Pack Print International 2017

เตรียมพบกับงานแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ครั้งส�ำคัญ Post Show – Food Focus Thailand Roadmap 39: Chilled & Frozen Products Edition

ตอบโจทย์และสร้างความมั่นใจได้ว่าอาหารที่มีคุณภาพนั้นเริ่มต้นจากฟาร์ม สู่การผลิต

70 ความแข็งแกร่งของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของอุตสาหกรรมอาหาร และส่วนผสมอาหารในภูมิภาคนี้ By: Food Focus Thailand Magazine

86 U Share. V Care.

DEPARTMENTS Advertising Index

10 รายชื่อผู้ลงโฆษณา

“The Pizza Company Gift Voucher worth THB500”

Schedule of Events

16 ข้อมูลงานนิทรรศการ การประชุม สัมมนา และฝึกอบรมต่างๆ Surrounds

82 อัพเดทข่าวสารในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

6-8_

.indd 8

แบบสอบถามความคิดเห็น พร้อมลุ้นรับของรางวัล

ประกาศรายชื่อผู้โชคดี ได้รับรางวัลประจ�ำฉบับเดือน มิถุนายน 2560

Share your comment and

The Winners of U Share. V Care.

win a gift

JUNE 2017 Issue

7/21/17 6:38 PM

H2O2 – FOOD GRADE Grades • Tetramate, Combimate, Durox • Oxyfresh

H2O2 – ELECTRONIC

Market / Application • Aseptic Packaging for Tetra Pak, Combibloc, Krones, Sidel, Procomac, Shibuya Fillers • Starch Bleaching • Disinfectant in food production line

Grade • SEMI (High Purity) • RGS (Ultra High Purity)

Market / Application • Semiconductors (Water Technology) • Micro Chips • Etching • PCB Board

Leading global supplier of food grade Hydrogen peroxide and Peracetic acid in Asia Visit us at: Booth No. E1

H2O2 – TECHNICAL Grade • 35% AP • 50% STD • 59% STD

Market / Application • Textiles • Pulp and Paper • Leather • Solar cell • Water treatment • Waste water

Thai Peroxide Co., Ltd. (Aditya Birla Group)

Sales office: 77 Moo 6, Soi Sukhaphiban 1, Poochaosamingprai Road, Samrong, Phapradaeng, Samutprakarn 10130 Thailand Tel: 66-2-704 2100 Fax: 66-2- 748 4970 E-mail: abct-tpl.csone@adityabirla.com ad_Aditya Birla.indd 9

PERACETIC ACID – PAA Grade • BIRLOX - 5 • BIRLOX -12 • BIRLOX - 15 • MULTI - 5 • MULTI - 100 • CLARITY

Market / Application • Sanitization in food industries • Dialysis machines • Aquaculture • Farms • Detergents • PET cleaning & PET Aseptic Fillers • Seafood and Meat Product

www.adityabirla.com

7/20/17 10:35 AM

ADVERTISING INDEX

ADVERTISING INDEX August 2017 Company

Page No.

BASF (Thai) Limited

B168

Bayer Thai Co., Ltd.

B377

BBC nv

B477

Insert

Better Pack Co., Ltd.

B011

Jupiter Room, Challenger Hall, IMPACT

BSI Group (Thailand) Co., Ltd.

B444

ปัจจัยหนุนตลาดเครือ ่ งดืม ่ คือ นักท่องเทีย ่ วต่างชาติ และการส่งออกทีเ่ ติบโต อุตสาหกรรมเครือ ่ งดืม ่ ทัง ้ ประเภทมีแอลกอฮอล์ และไม่มแ ี อลกอฮอล์เป็ นส่วนประกอบจึงนับเป็ นอุตสาหกรรมทีส ่ ามารถ เติบโตขึ้นได้อย่างมากและหลากหลายรูปแบบ งานสัมมนาครั้งนี้ น�ำเสนอนวัตกรรมเพื่ อขานรับการผลิตและการตลาดยุคดิจิทัล ในกลุม ่ ผลิตภัณฑ์เครือ ั ด้านกระบวนการแปรรูป ่ งดืม ่ พร้อมโซลูชน การบรรจุ และการพัฒนาเครือ ่ งดืม ่ ใหม่ๆ…ให้โดนใจผู้บริโภค

China Food & Drinks Fair 2018

B217

Dhawath Technology Systems Co., Ltd.

B251

IFC, 4-5

Eastern Polypack Co., Ltd.

B451

10 November 2017

Food Focus Thailand Roadmap # 41: Drinking Edition

Food Focus Thailand Roadmap # 40: Meat & Poultry Edition

Food Innovations and Development Co., Ltd.

B437

Seminar Sessions

Ganeden Inc.

B430

Trend Watching

Goodtemp Co., Ltd.

B475

Hi-Cook (Thailand) Co., Ltd.

B325

IBC

Inthaco Co., Ltd.

B074

Meat Expo 2017

B406

เทรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในยุคดิจิทัล

New beverage products & trend in digital era

Processing & Packaging Watching

นวัตกรรมการแปรรูปและการบรรจุ 4.0 ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม

Mettler-Toledo (Thailand) Ltd.

B010

Processing & packaging 4.0 for beverage manufacturing

MT Food Systems Co., Ltd.

B292

Safety & Quality

National Starch and Chemical (Thailand) Ltd.

B476

PPI Conference 2017

Senta Pack Machinery & Service Co., Ltd.

B025

Thai Peroxide Co., Ltd.

B479

Thai Sek Son Co., Ltd.

B001

Thailand Lab 2017

B362

Wacker Chemie AG

B320

การควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม How to control beverage quality

Packaging Design

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม

Idea and design of beverage packaging Main Sponsor:

Display:

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

คุณชาลินี 08 6908 2377 10

Service Info

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd.

384/38 Ngamwongwan Road Soi 25, Bangkhen, Muang Nonthaburi, Nonthaburi 11000 Thailand T +66 2192 9598 F +66 2116 5732 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com

EDITOR’S TALK กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาคงสถานะไทยในระดับ Tier 2 Watch List ต่อเนื่องจาก ปี 2559 ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ 2560 (TIP Report 2017) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 จึงมีการคาดการณ์กันว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงของไทยในปี 2560 ไปยังสหรัฐอเมริกาจะยังคง ขยายตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ด้วยอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการผลิตสินค้าส่งออกหลักทั้งกุ้งและ ทูน่ากระป๋อง และผลทางภาพลักษณ์จากสถานการณ์ด้านแรงงานที่ไม่ได้ด้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2560 การส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงของไทยไปยังสหรัฐอเมริกาจะขยายตัวที่ ร้อยละ 3.0-5.0 ด้วยมูลค่าประมาณ 1,417-1,445 ล้านเหรียญสหรัฐ และหนุนให้การส่งออกผลิตภัณฑ์ ประมงของไทยในภาพรวมส�ำหรับปี 2560 มีการขยายตัวที่ร้อยละ 2.5-4.0 ด้วยมูลค่าประมาณ 5,790-5,875 ล้านเหรียญสหรัฐ ในระยะข้างหน้า ผู้ประกอบการไทยอาจต้องเผชิญความท้าทายจากการที่สหรัฐอเมริกาประกาศ มาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการท�ำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) และบิดเบือนข้อมูลบนฉลากอาหารทะเล (Seafood fraud) ซึง่ จะบังคับใช้เดือนมกราคม 2561 ดังนั้น ในห้วงเวลานี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีส�ำหรับผู้ประกอบการไทยในการเตรียมตัวล่วงหน้าด้วย การเริ่มจัดเก็บข้อมูลและสร้างมาตรฐานการท�ำประมงตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Traceability program) In the US State Department’s 2017 Trafficking in Persons (TIP) report released on 27 June 2016, Thailand was still on the Tier 2 Watch List of the annual listing, unchanged from last year. Despite that, it is viewed that Thailand’s fishery exports to the US should continue to rise for the second year in 2017, boosted mainly by our recovery in shrimp and canned tuna exports – both being key product categories for us, as well as because the image projected by that rating has not worsened since last year. Total fishery exports to the US this year could grow 3.0-5.0 percent to a total value of USD 1.417-1.445 billion, which would mean growth of 2.5-4.0 percent in our fishery exports, equal to a value of USD 5.790-5.875 billion. Looking ahead, Thai fishery business may be penalized by additional measures to be announced by the US to prevent Illegal, Unreported and Unregulated (IUU) fishing and seafood fraud, or labeling that do not correctly correspond with the products in the packaging, which will be enforced beginning January 2018. The remaining time until then should be a good opportunity for Thai operators to prepare for its effects that might include creating traceability programs that include all required information on their fishery activities throughout their supply chains.

Food Focus Thailand Magazine Publisher Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. 384/38 Ngamwongwan Road Soi 25, Bangkhen, Muang Nonthaburi, Nonthaburi 11000 Thailand T +66 2192 9598 F +66 2116 5732 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com

Sirintra Boonsumrej

Managing Editor Food Focus Thailand Magazine

ฝ่ายบรรณาธิการ / Editorial Department บรรณาธิการบริหาร / Managing Editor: ศิรินทรา บุญส�ำเร็จ / Sirintra Boonsumrej ผู้ช่วยบรรณาธิการ / Assistant Editor: อัครพล อนันตโชติ / Arkkrapol Anantachote ผู้สื่อข่าวอาวุโส / Senior Journalist: พิมพ์ชนก กนกลาวัณย์ / Pimchanok Kanoklawan editor@foodfocusthailand.com

ฝ่ายขายและการตลาด / Sales & Marketing Department ผู้อ�ำนวยการฝ่ายธุรกิจ / Business Director: เพ็ญแข ประวัตพิ ฒั นากูล / Phenkhae Prawatphatthanakoon ผู้จัดการฝ่ายขาย / Sales Manager: สิริวรรณ ขาวสะอาด / Siriwan Khaosaard เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโฆษณา / Advertising Sales Executive: นิภาพร ละครอนันต์ / Nipaporn Lakornanan sales@foodfocusthailand.com

ฝ่ายสมาชิก / Circulation Department เจ้าหน้าที่ฝ่ายสมาชิก / Circulation Officer: จิตสุดา ทองปาน / Jitsuda Thongparn ชาลินี จันทานนท์ / Chalinee Chanthanon contact@foodfocusthailand.com นาถเรขา ทัพภูตา / Natrekha Tapputa seminar4@foodfocusthailand.com

ฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Department ผู้อ�ำนวยการฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Director: เจ้าหน้าที่ฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Designer:

สุรีรัตน์ หลักบุตร / Sureerat Lukbud นภพงศ์ กรประเสริฐ / Napaphong Kornprasert

graphic@foodfocusthailand.com

ฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Department ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Manager: นาตยา พงษ์สัตยาพิพัฒน์ / Nataya Pongsatayapipat p.nataya@foodfocusthailand.com

The texts and photos in Food Focus Thailand, as well as personal comments of contributors are all rights reserved. Reproduction of the magazine, in whole or in FOOD FOCUS THAILAND DEC 2016 part, is prohibited without the prior written consent of the publisher.

Pack Print International

Conference

20 September 2017 @, BITEC, Thailand

HighlightS เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในอนาคต

บรรจุภัณฑ์แบบใด…พิชิตใจผู้สูงอายุ

ฉลากผลิตภัณฑ์อาหาร: การปลอมแปลง และการตรวจสอบ

กลยุทธ์การสร้างแบรนด์: แตกต่าง เพิ่มมูลค่า

บรรจุภัณฑ์บริโภคได้: วิวัฒนาการจากยุค 1.0 สู่ 4.0

Winning with High Quality Digital Packaging

• อย่างไรจึงตอบโจทย์ทิศทางและแนวโน้มต่างๆ เช่น ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ

• บาร์โค้ดมาตรฐานสากลและการประยุกต์ใช้ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

• บรรจุภัณฑ์ที่บริโภคได้คืออะไร? ประโยชน์และ การประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

ดีไซน์…ตัวขับเคลื่อนนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ • ศาสตร์และศิลป์ของงานออกแบบบรรจุภัณฑ์ สู่การต่อยอดในเชิงพาณิชย์

Secure Your Seat

• สถานการณ์โดยรวมของผู้สูงอายุ และความคาดหวังในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์

• การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจ�ำ และกฎหมายการออกแบบโลโก้

** The seminar will be conducted in THAI, except the topic on “Winning with High Quality Digital Packaging” which will be conducted in ENGLISH.

Exhibition organized by:

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Concurrent exhibition by:

ชาลินี 08 6908 2377 T. 0 2192 9598 seminar@foodfocusthailand.com

Conference organized by:

BOARD OF CONSULTANTS Yongvut Saovapruk

Sakchai Sriboonsue D.V.M., LB.

President National Food Institute, Ministry of Industry

President of the Milk Board Dairy Farming Promotion Organization of Thailand

Doojduan Sasanavin

Phanit Laosirirat, Ph.D.

Secretary General National Bureau of Agricultural Commodity and Food Standards Ministry of Agriculture and Cooperatives

Executive Director Thailand Productivity Institute

Boonpeng Santiwattanatam

Assoc. Prof. Ratchanee Kongkachuichai, Ph.D.

Chairman Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries

Director Institute of Nutrition, Mahidol University

Visit Limprana

Prof. Visith Chavasit, Ph.D.Â

Honorary Advisor Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries

Institute of Nutrition, Mahidol University

Sakkhee Sansupa

Assoc. Prof. Sittiwat Lertsiri, Ph.D.

Director Thai Packaging Centre Thailand Institute of Scientific and Technological Research

Dean Faculty of Science, Mahidol University

Prof. Pavinee Chinachoti, Ph.D.

Salinee Wangtal

President Food Science and Technology Association of Thailand (FoSTAT)

Director-General Office of Small and Medium Enterprises Promotion (OSMEP)

Assoc. Prof. Winai Dahlan, Ph.D.

Poj Aramwattananont, Ph.D.

Founding Director The Halal Science Center Chulalongkorn University

President Thai Frozen Foods Association

Pravith Chotiprayanakul CEO GS1 Thailand

Assoc. Prof. Sombat Chinawong, Ph.D.

Director Institute of Food Research and Product Development Kasetsart University

Food and Drug Administration Ministry of Public Health

Food Science and Technology Association of Thailand

National Food Institute Ministry of Industry

GS1 Thailand The Federation of Thai Industries

Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries

Thailand Institute of Scientific and Technological Research

The Halal Science Center Chulalongkorn University

Institute of Food Research and Product Development Kasetsart University

Thailand Productivity Institute Ministry of Industry

Office of Small and Medium Enterprises Promotion

RFID Institute of Thailand The Federation of Thai Industries

Acting for Director RFID Institute of Thailand The Federation of Thai Industries

Thai Packaging Centre Thailand Institute of Scientific and Technological Research

Faculty of Agro-Industry Kasetsart University

Thai Frozen Foods Association

ENDORSEMENT

ad_Ingredion final.indd 2

7/20/17 10:46 AM

SPECIAL FOCUS

AUGUST 9-11 @ E W

MIFB 2017 Kuala Lumpur, Malaysia mifb@sphereexhibits.com.my www.mifb.com.my

16-18 TILOG-LOGISTIX 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E stl3.ditp@gmail.com W www.tilog-logistix.com 17-19 MYANMAR FOODBEV 2017 @ Yangon, Myanmar E info@icvex.com W www.myanmarfoodbev.com 17-21 HKTDC FOOD EXPO 2017 @ Wanchai, Hong Kong E kw.lee@hktdc.org W www.hktdc.com 22-24 FOOD INGREDIENTS & HEALTH INGREDIENTS SOUTH AMERICA (Fi & Hi SOUTH AMERICA) 2017 @ São Paulo, Brazil E gramos@ubmbrazil.com.br nongnaphat.j@ubm.com W www.figlobal.com/southamerica 22-25 INTELLIGENT WAREHOUSE 2017 @ IMPACT, Bangkok, Thailand E jenkit@expolink.net W www.intelligent-warehouse.com 28-30 INDIA FOODEX 2017 @ Bangalore, India E indiafoodex@gmail.com W www.indiafoodex.com 30 AUGUST – 1 SEPTEMBER NATURAL & ORGANIC PRODUCTS ASIA 2017 @ Wanchai, Hong Kong E ilau@divcom.com.hk (kanokwan@blithailand.com) W www.naturalproducts.com.hk

SEPTEMBER 5-6 @ E W

VITAFOODS ASIA 2017 Singapore colin.williams@informa.com www.vitafoodsasia.com

6-7 WORLD SUGAR EXPO 2017 Co-located with WORLD SUGAR CONFERENCE 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E thai@asiafireworks.com W www.worldsugarexpo.com

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

6-8 THAILAND LAB INTERNATIONAL 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E thailandlab@vnuexhibitionsap.com W www.thailandlab.com 6-8 ASIA FRUIT LOGISTICA 2017 @ AsiaWorld-Expo, Hong Kong E info@gp-events.com W www.asiafruitlogistica.com 6-9 FOOD & HOTEL THAILAND 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E supaporn.a@besallworld.com W www.foodhotelthailand.com 7-10 @ E W

BANGKOK RHVAC 2017 BITEC, Bangkok, Thailand rhvac@ditp.go.th www.bangkok-rhvac.com

11-15 DRINKTEC 2017 @ Germany E muenchen@gtcc.org (German-Thai Chamber of Commerce) W www.drinktec.com

OCTOBER 4-6

HEALTH INGREDIENTS JAPAN (Hi JAPAN) 2017

FOOD INGREDIENTS FOR TASTE JAPAN 2017

SAFETY AND TECHNOLOGY JAPAN 2017 @ Tokyo, Japan E nongnaphat.j@ubm.com W www.hijapan.info/eng

@ Challenger Hall, IMPACT Jupiter Room 11-13, Nonthaburi, Thailand By Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. T +66 2192 9598 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com

13-15 FOOD INGREDIENTS ASIA (Fi ASIA) 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E nongnaphat.j@ubm.com W www.figlobal.com/asia-thailand 14-17 MEAT EXPO CHINA 2017 @ Shanghai, China E meatexpo@china.messefrankfurt.com W www.meatexpochina.com 18-20 SWEETS & SNACKS MIDDLE EAST 2017 @ Dubai, UAE E f.stroeter@koelnmesse.de W www.sweetsmiddleeast.com 20-23 PACK PRINT INTERNATIONAL 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E beattrice@mda.com.sg W www.pack-print.de 21-23 PROPAK MYANMAR 2017 @ Yangon, Myanmar E arayabhorn@besallworld.com (Arayabhorn Sukpornchaikul) W www.propakmyanmar.com 25-27 PACK EXPO LASVEGAS 2017 Co-located with HEALTHCARE PACKAGING EXPO 2017 @ Las Vegas, USA E expo@pmmi.org W www.packexpolasvegas.com 26-29 FOOD and HOTEL MALAYSIA 2017 @ Kuala Lumpur, Malaysia E project@yimexhibitions.com W www.foodandhotel.com

6 October

7-11 ANUGA 2017 @ Cologne, Germany E pansa@expolink.net W www.anuga.com 19-21 THE 97th CHINA FOOD & DRINK FAIR 2017 (AUTUMN SESSION) @ Chongqing, China E ann@blithailand.com W www.cfdf.org, www.blithailand.com 25-28 FOOD WEEK KOREA 2017 @ Seoul, Korea E lynn.kwak@coex.co.kr W www.koreafoodweek.com 26-28 FOOD JAPAN 2017 @ Singapore E sales@oishii-world.com estherchin@mpinetwork.com W www.oishii-world.com 31 October – 2 November GULFOOD MANUFACTURING 2017 @ Dubai, UAE E gfm@dwtc.com W www.gulfoodmanufacturing.com

SPECIAL FOCUS

NOVEMBER 7-10 SHANGHAI WORLD OF PACKAGING (swop) 2017 @ Shanghai, China E echo.li@mds.cn/swop@mds.cn W www.swop-online.com 9-11 @ E W

FOOD INGREDIENTS & HEALTH INGREDIENTS INDIA (Fi & Hi INDIA) 2017 Mumbai, India nongnaphat.j@ubm.com www.figlobal.com/india

14-16 @ E W

FHC CHINA 2017 WINE & SPIRITS CHINA 2017 Shanghai, China project@yimexhibitions.com www.fhcchina.com

16-18 FOOD PROCESSING & PACKAGING EXHIBITION (FOODPPEX) HAT YAI @ ICC Hat Yai, Songkhla, Thailand E warisara@sphereexhibits.com.my W www.thaifoodppex.com 16-18 LATIN FOOD & BEVERAGE EXPO 2017 @ Panama, Republic of Panama E mari@latinfoodexpo.com (kanokwan@blithailand.com) W www.latinfoodexpo.com 28-30 FOOD INGREDIENTS & NATURAL INGREDIENTS EUROPE (Fi & Ni EUROPE) 2017 @ Messe Frankfurt, Germany E nongnaphat.j@ubm.com W www.figlobal.com/fieurope

30 November – 2 December HONG KONG INTERNATIONAL BAKERY EXPO (HKIBE) 2017 @ Hong Kong By Vertical Expo Services Company Limited E info@hkbakeryexpo.com W www.hkbakeryexpo.com

DECEMBER 12-14 SIAL MIDDLE EAST 2017 @ Abu Dhabi, UAE E info@sialme.com W www.sialme.com

SEMINAR & TRAINING

FREE SEMINAR

August

AUGUST

10-12 การประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 11 By สำ�นักงานเลขานุการ การประชุมวิชาการโภชนาการ

แห่งชาติ

T 08 1701 8345 E tcn.conference@gmail.com W www.nutritionthailand.org 11 By:

Preparation Before Certified GMP FDA with Third Party Audit British Standard Institution (BSI)

13-14 HACCP & GMP Awareness and Interpretation By

FSSC 22000 Requirement & Interpretation SGS (Thailand) Limited

19-20 Guideline for HACCP & GMP Documentation FSSC 22000 Internal Audit By SGS (Thailand) Limited 20-21 Advance Food Hygiene By SGS (Thailand) Limited 20-21 Service Innovation Era 4.0 By Thailand Productivity Institute 21-22 Risk Assessment Hazard Analysis in Food Industry By SGS (Thailand) Limited 21-25 Information Security Management Systems Auditor/ Lead Auditor (ISO/IEC 27001:2013) IRCA A17287 By British Standard Institution (BSI)

13-14 IE Techniques for Productivity Improvement By Thailand Productivity Institute

28-29 BRC (Issue 7) Requirement and Internal Audit By British Standard Institution (BSI)

14-15 By

28-29 Modern Supply Chain & Logistics Management By Thailand Productivity Institute

Guideline for FSSC 22000 Documentation Guideline for BRC Issue 7 Documentation ISO 22000 Internal Audit SGS (Thailand) Limited

15-16 BRC IoP Issue 5 Requirement & Internal Audit By: British Standard Institution (BSI) 19 Big Data Analytic for Defining Strategic Insights By Thailand Productivity Institute

5 @ By T E W

มาตรฐานสากล GS1 ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม สถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) สถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 0 2345 1200 Info@gs1thailand.org www.gs1thailand.org

22 @ By T E W

เทคนิคการถ่ายภาพเพื่อการค้าออนไลน์ Canon Smart Online SME อาคารสถาบันผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ 08 3685 7112 trainingbkk@thaitrade.com www.nea.ditp.go.th

30-31 ISO 22000 & FSSC Requirement and Internal Audit By British Standard Institution (BSI) 31-4 FSSC 22000 – Food Safety Management Systems August - September Auditor/Lead Auditor Training Course 28-1 IRCA Certified ISO 9001:2015 Lead Auditor Training (ISO 22000:2005) IRCA 17416 Course IRCA A17955 By British Standard Institution (BSI) By British Standard Institution (BSI)

CONTACT SGS (Thailand) Limited

Please contact Pandita Dabsomdej T 0 2678 1813 # 2097 F 0 2678 1548 E pandita.dabsomdej@sgs.com W www.sgs.co.th

Thailand Productivity Institute

Please contact Chaiwat / Sirichai T 0 2619 5500 # 451-455 F 0 2619 8098 E training@ftpi.or.th W www.ftpi.or.th

British Standard Institution (BSI)

Please contact BSI Group (Thailand) Co., Ltd. T 0 2294 4889 F 0 2294 4467 E infothai@bsigroup.com W www.bsigroup.com/en-th AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

STAR ITEMS ITEM

Mediterranean Umami Sodium Reduction Ingredient

KBF-6000XeR High-Speed Vertical Form-Fill-Seal

PH Adjustment Tank

ถังบ�ำบัดสารเคมีเหลือทิ้งขนาดเล็กและกลาง ควบคุมค่า pH ได้แบบอัตโนมัติ เพื่อการบ�ำบัด ที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพก่ อ นปล่ อ ยทิ้ ง สู ่ ร ะบบ ส่วนกลาง Chemical waste treatment plant for small and medium size chemical waste damage system. The process pH controller automatic monitoring and treatment chemical waste water before drained into public area.

By: Official Equipment Manufacturing Co., Ltd. www.official.co.th

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

KBF-6000XeR เครื่ อ งบรรจุ แ นวตั้ ง แบบต่ อ เนื่ อ ง รุ่นความเร็วสูง (มากถึง 130 ถุงต่อนาที) ที่มีการผสมผสานระหว่างเครื่อง KBF-6000Xe ที่มีความเรียบง่าย เข้ากับเครื่อง KBF-6000XR ที่มีความรวดเร็ว และประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้รูปแบบการเคลื่อนไหว ของชุด End seal มีความยืดหยุ่นดังเช่น “การซีล 2 จังหวะ” ซึ่งช่วยป้องกันสินค้าไม่ให้หลุดเข้าไปอยู่ใน พื้นที่ซีลและลดการสูญเสียในการผลิตได้ KBF-6000XeR is a high-speed continuous vertical form fill seal machine that integrates the simplicity of KBF-6000Xe and the high performance of KBF-6000XR. The end seal motion can be set flexibly such as “two step end seal close”. This protects products being caught at end sealing jaws and reduces loss in production.

By: Kawashima Packaging Machinery Co., Ltd. www.kawashima-pack.co.jp/eng

Mediterranean Umami ส่วนผสมอาหารเพื่อ การลดปริ ม าณโซเดี ย มในผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ ไ ด้ รั บ รางวัลชนะเลิศด้านนวัตกรรมจากงาน IFT ’17 Food Expo Innovation Award ซึ่ ง นั บ เป็ น ส่วนผสมอาหารที่ตอบโจทย์เทรนด์ในปัจจุบัน ได้ เ ป็ น อย่ า งดี เพราะมาจากธรรมชาติ แ ละ เป็นมิตรต่อฉลาก เหมาะส�ำหรับการประยุกต์ใช้ใน ผลิตภัณฑ์เนือ้ สัตว์ ซุป ซอส เบเกอร์รี และอาหารพร้อมรับประทาน เพือ่ เติมเต็มรสชาติความอร่อย โดยรวมให้แก่ผลิตภัณฑ์ Mediterranean Umami, IFT ’17 Food Expo Innovation Award winner, solves the challenge of reducing sodium significantly in processed foods while being 100% natural and clean-label. It is an “on-trend” sodium-reduction solution, possessing a great umami flavor profile. It allows product developers to formulate across a range of lower-sodium applications, from meats, soups and sauces to bakery and readymeals.

By: Salt of the Earth

www.saltoftheearthltd.com

SPECIAL STARFOCUS ITEMS

New Entry-Level Parcel-Sorting System

TLX Basic เป็ น โซลู ชั น การคั ด แยกพั ส ดุ แ บบ อั ต โนมั ติ ที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ การจั ด การพั ส ดุ ที่ มี ขนาดเล็กและแบนราบ ทุกขนาดและรูปร่างจะ ถู ก รวบรวมข้ อ มู ล ทั้ ง หมดที่ ส ามารถใช้ ส� ำ หรั บ การจัดเรียง การติดตาม การวางแผนการจัดส่ง และการลดการสูญเสียรายได้ที่ไม่จ�ำเป็น ข้อมูล ขนาด น�้ำหนัก และบาร์โค้ด ที่ถูกตรวจจับได้จะมี ความถูกต้องและสามารถท�ำซ�้ำได้อย่างแม่นย�ำ ซึ่ ง ข้ อ มู ล นี้ ส ามารถสื่ อ สารกั บ ผู ้ จั ด ส่ ง เพื่ อ ด� ำ เนิ น การทั น ที หรื อ ใช้ เ พื่ อ อั พ เดทใบแจ้ ง หนี้ ส�ำหรับจัดเก็บรายได้จากการขนส่ง ความสามารถ ในการรายงานต่างๆ ยังช่วยให้สามารถวิเคราะห์ ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์

OXYLOS

DOODY™

Gas and Micro Leak Analyzer

Vacuum Conveyor

OXYLOS เครื่ อ งมื อ วั ด และวิ เ คราะห์ ก ๊ า ซ เพื่ อ ความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์ ที่มีการผสานฟังก์ชัน การวิเคราะห์อัตโนมัติ abiss® เข้าไปนี้มีคุณสมบัติ อันโดดเด่นมากมายทีถ่ กู น�ำมารวมอยูใ่ นเครือ่ งเดียว ได้แก่ ความสามราถในการวิเคราะห์ก๊าซ O2 / CO2 การวัดการรั่วไหลที่สามารถตรวจสอบรูได้เล็กที่สุด เพียง 5 μm และยังสามารถวัดความสมบูรณ์ของ การปิดผนึกได้ โดยวัดจากความแรงในการปิดผนึก ได้สูงสุดถึง 1.4 บาร์ ซึ่งข้อมูลที่จ�ำเป็นเหล่านี้คือ ผลที่ได้จากการวัดเพียงครั้งเดียว

เครื่ อ งดู ด ล� ำ เลี ย งส� ำ หรั บ วั ต ถุ ดิ บ ขนาดใหญ่ ผง และวัตถุดิบที่เป็นเม็ด DOODY™ Vacuum Conveyor ที่ออกแบบมาให้สามารถล�ำเลียง จัดการ และป้อน (Feed) วั ต ถุ ดิ บ ได้ ใ นเครื่ อ งเดี ย ว ซึ่ ง มาพร้ อ มกั บ เครื่ อ งปรั บ แรงดั น ลมแบบครบเซ็ ต พร้ อ มให้ ก� ำ ลั ง การผลิตสูงสุด 1,000 ลิตรต่อชัว่ โมง นอกจากนี้ ตัวเครือ่ ง ที่ผลิตจากสเตนเลสสตีลคุณภาพสูง เกรด AISI304 และ AISI316L ยังถูกออกแบบตามหลักสุขอนามัย เพื่อให้สะดวกในการท�ำงาน บ�ำรุงรักษา และง่ายต่อ การท�ำความสะอาด

Enriched functionalities of abiss® automated analyzer, the OXYLOS allows to combine on the same packaging at the production workshop: Gas analysis (O2 / CO2), Leak measurement (as small as 5 μm), and Strength of sealing measurement (until 1,4 bar). In one cycle, you get all needed information to check, characterize, qualify your packages of any kind, whether flexible or rigid with or without a protective atmosphere.

DOODY™ Vacuum Conveyor featured with a complete air header and regulator for bulk materials such as dry powder, and granulate is specially constructed with high quality AISI304 and AISI316L stainless steel, and designed to be capable of conveying, handling and feeding in one machine with the maximum capacity of 1,000 liter per hour. And with its hygienic design, the DOODY™ Vacuum Conveyor is also easyto-clean and maintenance.

By: ANÉOLIA

By: Dhawath Technology Systems Co., Ltd. By: Mettler-Toledo (Thailand) Ltd.

www.aneolia.com

www.dhawathsystems.co.th

TLX Basic is a cost-effective automated parcel-sorting solution. Handling parcels, smalls and flats of any shape and size, it captures a complete data profile that can be used for sorting, tracking, load-planning and revenue recovery. Captured dimension, weight and barcode data is accurate and repeatable. This data can then be communicated to a sorter for immediate action or used to update invoices for revenue recovery. Reporting capabilities also allow real-time data analysis. www.mt.com AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SPECIAL TALK BY FDA

The Most Recent Food Regulations have been Enforced Notification of the Ministry of Public Health (No.378) B.E.2559 (2016) Re: Botanicals, animals or parts of botanicals or animals prohibited when used in food กฎระเบียบด้านอาหารล่าสุดที่มีผลบังคับใช้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 378) พ.ศ.2559 เรื่อง ก�ำหนดพืช สัตว์ หรือส่วนของพืชหรือสัตว์ ที่ห้ามใช้ในอาหาร

ส�ำนักอาหาร ส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข Bureau of Food

Food and Drug Administration, Ministry of Public Health food@fda.moph.go.th

ด้วยปรากฏหลักฐานและเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่า สารประกอบหรือกลุ่ม สารประกอบในพืช สัตว์ หรือส่วนของพืชหรือสัตว์บางชนิดไม่ปลอดภัยต่อการบริโภค และไม่ควรน�ำมาใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร ประกอบกับคณะกรรมการด้านวิชาการ ยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของอาเซียน (ASEAN TMHS Scientific Committee; ATSC) ภายใต้คณะท�ำงาน ASEAN Consultative Committee on Standard and Quality Traditional Medicines and Health Supplements Product Working Group (ACCSQ-TMHS PWG) ได้จัดท�ำบัญชีสารส�ำคัญที่ห้ามใช้ใน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Negative List of Substances for Health Supplements) ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคจากการบริโภคอาหาร กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 378) พ.ศ.2559 เรื่อง ก�ำหนดพืช สัตว์ หรือ ส่วนของพืชหรือสัตว์ที่ห้ามใช้ในอาหาร ซึ่งมีสาระส�ำคัญโดยสรุป ดังนี้ 1. ก�ำหนดให้พืช สัตว์ หรือส่วนของพืชหรือสัตว์ จ�ำนวน 73 รายการ ตามตาราง ดังต่อไปนี้ เป็นวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร Table 1

Regarding scientific reasons and evidences which indicate that some compounds or groups of compounds in plants, animals, or parts of plants and animals are not safe for consumption and should not be used as food ingredients as well as the cooperation of The ASEAN TMHS Scientific Committee (ATSC), under the ASEAN Consultative Committee on Standard and Quality Traditional Medicines and Health Supplements Product Working Group (ACCSQTMHS PWG) which develop a Negative List of Substances for Health Supplements, Thai FDA therefore has issued the Notification of the Ministry of Public Health (No. 378) B.E. 2559 Re: Botanicals, animals or parts of botanicals or animals prohibited when used in food in order to protect consumers. The detail of the notification is summarized as follow; 1. 73 specified botanicals, animals, or parts of botanicals or animals listed in the following table are prohibited to use in food.

List of botanicals, animals or parts of botanicals or animals shall be prohibited to use in food Botanicals, animals or parts of botanicals or animals

No.

Scientific Name

Common Name (s)

Harmful Animal/ Plant Part (s)

Animals parts containing hormones

Parts that may contain hormones: Pituitary gland, Thyroid gland, Parathyroid glands, Adrenal glands, Pancreas, Thymus gland, Ovary, Testes, Placenta

Abrus precatorius L.

Indian Licorice, Precatory bean, Jequerity, Mutual love bean (China), Kudri mani (Tamil), Guru Ginja (Telegu)

Seed

Aconitum spp. containing aconite alkaloids including Aconitum kusnezoffri Reichb. Aconitum carmichaeli Debx.

Monkshood, Aconite

Whole plant

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

SPECIAL TALK BY FDA

Botanicals, animals or parts of botanicals or animals

No.

Scientific Name

Harmful Animal/ Plant Part (s)

Common Name (s)

Adonis vernalis L.

Pheasant’s eye

Whole plant

Antiaris toxicaria Lesch.

Upas tree (Javanese Language - arrowpoison), Bark cloth tree

Whole plant

Aristolochia spp. including Aristolochia ringens Vahl. Aristolochia durior Aristolochia pothieri Pierre ex Lecomte

Birthwort, Pelican flower, Sangree root, Sangrel, Serpentaria, Snakeweed

Whole plant

Aspidosperma quebracho-blanco Schltdl.

Quebracho

Bark

Atropa belladonna L.

Deadly Nightshade

Whole plant

Azadirachta indica A.Juss.

Nimba, Neem

Seeds

Barnardia japonica (Thunb) Schult. & Schult.f. Syn : Scilla sinensis (Lour.) Merr.

Berberis spp. containing berberine including Berberis vulgaris L.

Rocky mountain grape, Barberry

Root, bark, Rhizome

Brucea javanica (L.) Merr.

Sumatrana amarissimus, Java brucea

Dried fruits & Seed

Bufo gargarizans Cantor, Bufo melanostictus Schneider, Bufo vulgaris Lour.

Toad, Samsu, Kodok kerok

Venom, Dried secretion, whole body, egg

Calotropis gigantea (L.) Dryand. Calotropis procera (Aiton) Dryand.

Small Crown flower, Giant milkweed

Whole plant

Cannabis sativa L. Cannabis indica Lam.

Marijuana

Whole plant

Catharanthus roseus (L.) G.Don Syn : Vinca rosea L.

Rosy Periwinkle, Madagascar Periwinkle, Old Maid

Whole plant

Cerbera manghas L.

Dog bane, Pink eyed cerbera

Seed

Cerbera odollam Gaertn.

Indian suicide tree, Sea mango

Seed

Chelidonium majus L.

Celandine, Greater Celandine, Nipplewort

Whole plant

Chondrodendron tomentosum Ruiz&Pav

Curare, Pareira, Pareira brava

Stems

Cinchona spp. including Cinchona pubescens Vahl Cinchona succirubra Pav. ex Klotzsch

Cinchona

Bark

Citrullus colocynthis (L.) Schrad.

Bitter apple

Seed, Fruit

Claviceps purpurea (Fr.) Tul

Ergot

Sclerotium

Colchicum autumnale L.

Meadow saffron

Seed

Conium maculatum L.

Hemlock

Whole plant

Croton tiglium L.

Purging Croton

Whole plant

Datura spp. containing hyoscyamine, atropine, scopolamine and apoatropine including Datura alba Nees. Datura fastuosa Linn. Datura metal Linn. Datura stramonium Linn.

Jimson weed, Devil’s apple, Green dragon, Zombie’s cucumber, Moon weed, Trumpet lily, Stinkweed

Whole plant

Delphinium staphisagria L.

Stavesacre

Seeds

Digitalis spp. containing cardenolides including Digitalis purpurea Digitalis lanata

Drimia maritima (L.) Stearn Syn.: Urginea maritima (L.) Baker

Bulb

Whole plant

Bulb

Sea squill, Red squill, Sea onion, Squill

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SPECIAL TALK BY FDA Botanicals, animals or parts of botanicals or animals

No.

Scientific Name

Common Name (s)

Harmful Animal/ Plant Part (s)

Dryobalanops sumatrensis (J.F.Gmel.) Kosterm. Syn. : Dryobalanops aromatica C.F. Gaertn. Dryobalanops lanceolata Burck

Kapur, Borneo camphor, Malay camphor, Sumatra camphor

Whole plant

Dryopteris filix-mas (L.) Schott

Male fern, Aspidium, Male shield Fern

Whole plant

Euphorbia antiquorum L. Euphorbia trigona Mill.

Triangular spurge

Whole plant

Excoecaria agallocha L.

Blinding tree

Whole plant

Fritillaria spp.

Fritillary bulb

Dried bulb

Garcinia elliptica Wall. ex Wight Garcinia hanburyi Hook.f. Garcinia morella (Gaertn.) Desr

Gamboge

Whole plant

Gelsemium sempervirens (L.) J.St.-Hil., Gelsemium elegans (Gardner & Chapm.) Benth

Palaung thay, Yellow Jessamine, Heartbreak grass

Whole plant

Gluta usitata (Wall.) Ding Hou Syn. : Melanorrhoea usitata Wall.

Vanish tree

Latex

Hyoscyamus muticus L. Hyoscyamus niger L.

Henbane, Henblain, Jusquaime

Whole plant

Jatropha multifida L.

Coral Bush, Coral Plant, Physic nut, Guatemala rhubarb

Fruit, Seed

Juniperus sabina L.

Savin, Savine

Whole plant

Lantana camara L.

Tembelekan (Tahi ayam)

Whole plant

Larrea tridentata (SessĂŠ & Moc. ex DC.) Coville Larrea Mexicana Moric

Chaparral

Whole plant

Lobelia nicotianifolia Roth ex Schult. Lobelia inflata L. Lobelia chinensis Lour. Lobelia tupa L.

Indian tobacco

Whole plant

Lytta vesicatoria Linn.

Spanish fly

Whole body

Magnolia officinalis Rehder&E.H.Wilson

Houpo, Houpohua, Lamp post, Officinal Magnolia

Whole plant

Melaleuca alternifolia [Maiden & Betche] Cheel

Tea tree

Leaf, Terminal branch, Tea tree oil

Mitragyna speciosa (Korth.) Havil.

Kratom

Whole plant

Mylabris phalerata Pall. Mylabris cichorii Linnaeus

Blister beetle, Mylabris

Dried body

Nerium oleander L. Syn. : Nerium indicum Mill.

Indian oleander, Exile Tree

Whole plant

Nicotiana tabacum L.

Tobacco

Leaf

Papaver spp. containing morphine & derivatives and codeine

Opium poppy

Whole plant

Pausinystalia johimbe (K.Schum.) Pierre ex Beille

Yohimbe

Bark

Physostigma venenosum Balf.

Calabar bean

Seed

Pilocarpus microphyllus Stapf ex Wardleworth Pilocarpus jaborandi Holmes Pilocarpus pinnatifolius Lem.

Jaborandi

Whole plant

Piper methysticum G. Forst.

Kava Kava

Whole plant

Plumbago zeylanica L.

White leadwort

Roots

Plumbago indica L.

Rose-coloured leadwort

Root, Root bark

Podophyllum emodii Wall. ex Hook.f. & Thomson Podophyllum peltatum L.

American mayapple, Mandrake

Root, Leaf

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

SPECIAL TALK BY FDA Botanicals, animals or parts of botanicals or animals

No.

Scientific Name

Harmful Animal/ Plant Part (s)

Common Name (s)

Psilocybe cubensis (Earle) Singer

Gold caps, Shrooms, Magic mushrooms, Sacred mushrooms

Whole plant

Punica granatum L.

Pomegranate

Stem bark, Root bark

Rauvolfia serpentina (L.) Benth. ex Kurz Syn. : Ophioxylon serpentinum L. Rauvolfia vomitoria Afzel

Rauwolfia, Indian snakeroot, Snakeroot

Whole plant

Sanguinaria canadensis L.

Bloodroot, Indian Paint

Rhizome and Root

Schoenocaulon officinale (Schltdl. & Cham.) A. Gray

Sabadilla

Seed

Senecio aureus L. Senecio jacobaea L. Senecio bicolor Sch.Bip. Senecio nemorensis L. Senecio vulgaris L. Senecio longilobus Benth. Senecio scandens Buch.-Ham. Ex D.Don

Sophora tomentosa L.

Sea coast- Laburnum, Silver Bush

Seed

Spigelia marilandica L.

Worm grass, Pinkroot

Whole plant

Stephania tetrandra S. Moore

Fang ji, Fen fang ji, Han fang ji, Stephania-root

Root

Strophanthus spp. containing strophanthus alkaloids including Strophanthus caudatus Strophanthus gratus Strophanthus wallichii Strophanthus kombe Strophanthus gardeniiflorus

Kombe, Gardenia oleander, Climbing oleander

Seed

Strychnos nux-vomica L. Strychnos ignatii P.J. Bergius Strychnos lucida R.Br. Strychnos roberans A.W.Hill

Nux-vomica, Ignatius bean

Seed, Fruit

Symphytum officinale L. Symphytum asperum Lepech. Symphytum x uplandicum Nyman Symphytum peregrinum Ledeb.

Comfrey

Whole plant

Veratrum viride Aiton Veratrum album L. Veratrum mengtzeanum O.Loes. Veratrum nigrum L. Veratrum stenophyllum Diels Veratrum maackii Regel Veratrum dahuricum (Turcz.) O.Loes. Veratrum grandiflorum (Maxim.ex Miq.) O.Loes. Veratrum taliense O.Loes.

American hellebore, Indian poke, Indian hellebore, False hellebore, Green false hellebore, White hellebore

Whole plant

Vinca minor L.

Lesser periwinkle

Whole plant

2. ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับนี้ จัดว่าเป็นการฝ่าฝืนประกาศ ซึง่ ออกตามมาตรา 6(5) แห่งพระราชบัญญัตอิ าหาร พ.ศ. 2522 มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท 3. ประกาศฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 เป็นต้นไป

2. Any individual who does not abide by this Notification of the Ministry of Public Health is considered violating the notification and will be fined for not more than THB 20,000 in accordance with Section 6(5) of the Food Act B.E.2522 3. This notification is effective from 1st November 2016 onwards.

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง / Relevant Regulation ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 378) พ.ศ. 2559 เรื่อง กำ�หนดพืช สัตว์ หรือส่วนของพืชหรือสัตว์ ที่ห้ามใช้ในอาหาร ลงวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2559 สืบค้นได้จาก http://www.ratchakitcha.soc. go.th/DATA/PDF/2559/E/248/5.PDF Notification of the Ministry of Public Health (No.378) B.E.2559 (2016) Re: Botanicals, animals or parts of botanicals or animals prohibited when used in food. dated 10th October B.E.2559 (2016) Available from: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/248/5.PDF AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SURF THE AEC

รื้อระบบภาษีสุดยุ่งยาก

ด้วยความที่อินเดียเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีการกระจายอ�ำนาจการปกครองไปสู่ แต่ละรัฐ ท�ำให้มีทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของ 29 รัฐที่มีอ�ำนาจก�ำหนด กฎเกณฑ์ของแต่ละรัฐ รวมถึงอัตราภาษีทแี่ ตกต่างกัน ส่งผลให้อนิ เดียเป็นประเทศทีม่ ี การเก็บภาษีที่ซับซ้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก! ซึ่งอาจไม่ใช่เป้าหมายที่น่าดึงดูด ส�ำหรับนักลงทุนต่างชาติสักเท่าไหร่ โดยอุปสรรคส�ำคัญที่เกิดขึ้น ได้แก่ 1. เสียเวลา ศึกษาอัตราภาษีจำ� นวนมาก 2. ตรวจสอบยาก เพราะถูกเก็บภาษีจากหลายหน่วยงาน 3. มีแรงจูงใจมหาศาลให้ติดสินบนเจ้าหน้าที่ 4. การซื้อขายระหว่างรัฐมีต้นทุนสูง และ 5. เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกและการผลิต

ระบบภาษีใหม่ไฉไลกว่าเดิม

GST เป็นระบบที่จะตั้งอัตราภาษีสินค้าและบริการให้มีอัตราเดียวกันทั้งประเทศ ประกอบกับจะยกเลิกภาษีทางอ้อมต่างๆ ประมาณ 15 ประเภท เช่น ภาษีขายระหว่างรัฐ (Central sale tax) ภาษีเข้ารัฐ (Entry tax) ภาษีผ่านแดน (Octori) ภาษีมูลค่าเพิ่ม

และสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ปัจจุบนั มีบริษทั ไทยทีเ่ ข้าไปลงทุนในอินเดียอยูเ่ พียง ประมาณ 20 บริษัท1 โดยยอดคงค้างเงินลงทุนของไทยในอินเดีย ณ ปี 2559 อยูท่ ี่ 906 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีสดั ส่วนเพียงร้อยละ 7.8 ของเงินลงทุนใน CLMV ทั้งๆ ที่อินเดียเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า CLMV ถึง 8 เท่า 1. ธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นธุรกิจที่เห็นประโยชน์ได้ชัดเจนที่สุดจากการปฏิรูป ครั้งนี้ โดยปัจจุบัน ถึงแม้บริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่ของโลกหลายรายได้เข้าไป ด� ำ เนิ น การอยู ่ ใ นอิ น เดี ย แล้ ว แต่ ส ่ ว นแบ่ ง ตลาดส่ ว นใหญ่ ยั ง เป็ น ของผู ้ เ ล่ น รายย่อย2 ในท้องถิ่นต่างๆ โดยอุปสรรคด้านภาษีเป็นหนึ่งในปัจจัยส�ำคัญที่ท�ำให้ ผู้เล่นท้องถิ่นได้เปรียบ ทั้งนี้ การปฏิรูปครั้งนี้จะเป็นกุญแจส�ำคัญที่จะปลดล็อก ธุรกิจโลจิสติกส์ในอินเดีย และเป็นโอกาสส�ำคัญส�ำหรับนักลงทุนไทยมากขึ้น เช่น มีการจ้างบริการโลจิสติกส์จากภายนอก (Outsource) ที่ครบวงจรมากขึ้น การให้ บริการโลจิสติกส์จะมีต้นทุนถูกลง และการวางแผนลงทุนด้านคลังสินค้าและ การกระจายสินค้าจะท�ำได้ง่ายขึ้น เป็นต้น ยุวาณี อุ้ยนอง

Yuwanee Ouinong

Economic Intelligence Center (EIC) Siam Commercial Bank Public Company Limited yuwanee.ouinong@scb.co.th

อินเดียลุย GST ยกเครื่องภาษี

โอกาสดีที่ไทยต้องเหลียวมอง

อินเดีย ประเทศที่ท�ำให้เราได้นึกถึงความหลากหลายและความซับซ้อนในหลายมิติ ทั้งด้านวัฒนธรรม การอยู่ร่วมกันของคน หลายกลุ่มจนท�ำให้อินเดียกลายเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีผู้คนรวมตัวกันมากกว่าพันล้านคน แม้นี่จะเป็นจุดเด่นของอินเดีย ทีด่ งึ ดูดสายตาจากนักลงทุนทัว่ โลก แต่การเข้าไปท�ำธุรกิจในประเทศนีไ้ ม่ใช่เรือ่ งง่ายเลยทีเดียว เพราะด้วยกฎระเบียบหลายอย่าง ที่ค่อนข้างหยุมหยิมและมีความแตกต่างกันในแต่ละรัฐ เห็นได้จากอันดับความง่ายในการท�ำธุรกิจของอินเดียอยู่ที่ 130 จาก 190 ประเทศ แต่วันนี้ อินเดียก�ำลังเปลี่ยนไปภายใต้การน�ำของนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ซึ่งมีหนึ่งนโยบายส�ำคัญ ก�ำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ คือ การยกเครื่องระบบภาษีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ประกาศอิสรภาพเมื่อปี 2490 โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบใหม่ที่เรียกว่า “ระบบ GST” (Goods and Services Tax)

(VAT) ภาษีสรรพสามิต ให้มารวมกันอยูภ่ ายใต้ระบบ GST ทัง้ หมด ทัง้ นี้ กฎหมายฉบับ ใหม่จะก�ำหนดอัตราภาษีของสินค้าและบริการแต่ละประเภทไว้อย่างชัดเจนเป็นอัตรา เท่ากันทั่วประเทศ และให้ด�ำเนินการผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมดเพื่อลดการเผชิญหน้า ระหว่างผู้เสียภาษีและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยการขายสินค้าและบริการในรัฐเดียวกัน จะต้องเสียภาษีให้รฐั บาลท้องถิน่ (State GST: SGST) และรัฐบาลกลาง (Central GST; CGST) ในสัดส่วน 50:50 ท�ำให้มีการตรวจสอบที่รัดกุมจากทั้ง 2 หน่วยงาน และ ส� ำ หรั บ การซื้ อ ขายระหว่ า งรั ฐ จะถู ก จั ด เก็ บ ภาษี โ ดยรั ฐ บาลกลาง (Integrated GST:IGST) เท่ากันทั่วประเทศ

ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมารุกตลาดอินเดียกันดีกว่า

นักลงทุนไทยยังช้ากว่าต่างชาติ หากไม่สนใจอินเดียอาจพลาดโอกาสไป โดยบริษัท จากหลายประเทศทัว่ โลกได้มองเห็นและรีบเข้าไปคว้าโอกาสจากตลาดอินเดียกันเป็น จ�ำนวนมากนับตัง้ แต่รฐั บาลของ Modi เข้าด�ำรงตาแหน่งในปี 2557 มูลค่าการลงทุนจาก ต่างประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 28 YoY ต่อปี โดยเฉพาะการลงทุนจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น 24

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

ที่มา/Source: EIC analysis

SURF THE AEC

ที่มา/Source: EIC analysis

2. ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer products) เช่น อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม สบู่ ยาสระผม เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ของใช้ในบ้าน เป็นต้น โดยธุรกิจนี้ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากจากตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่อย่างอินเดีย ซึ่งยังเป็น ธุรกิจที่ได้รับผลดีจากการปฏิรูปภาษีอย่างชัดเจน โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่ส�ำคัญ ได้แก่ • กระจายสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นธุรกิจที่จ�ำเป็นต้อง อาศัยเครือข่ายการกระจายสินค้าที่กว้างขวางไปสู่ผู้บริโภครายย่อย ดังนั้น ต้นทุน ด้านโลจิสติกส์ที่ลดลงจะเป็นผลดีต่อต้นทุนของธุรกิจนี้โดยตรง อีกทั้ง เมื่ออินเดีย กลายเป็นตลาดเดียวกันทั้งประเทศ ก็จะสามารถสร้างศูนย์กลางบริหารการขาย สินค้าทัว่ ประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพขึน้ ต่างจากในระบบเดิมทีจ่ ะตัง้ คลังสินค้า ไว้ในหลายๆ รัฐ ท�ำให้คาดการณ์ความต้องการสินค้าและบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory) แต่ละแห่งได้ยาก ซึง่ ระบบ GST ก็มสี ว่ นช่วยให้ตา่ งชาติเข้าไปแข่งขัน ได้ง่ายขึ้นเช่นกัน • สินค้าอุปโภคบริโภคหลายประเภทถูกเก็บภาษีในอัตราทีต่ ำ�่ กว่าในระบบเก่า เช่น ธัญพืช หรือนม ก็ได้รับยกเว้นภาษีจากเดิมระบบเก่าต้องเสียภาษีที่ร้อยละ 5

หรือ สบู่ ยาสีฟัน เสียภาษีที่ร้อยละ 18 จากเดิมร้อยละ 22-24 จึงอาจท�ำให้ราคา สินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิดราคาถูกลง และจะกระตุน้ การบริโภคสินค้าประเภทนีไ้ ด้ • หนึ่งในสินค้าที่มีศักยภาพส�ำหรับผู้ประกอบการไทย คือการผลิตอาหาร และเครื่องดื่มที่ผู้ประกอบการไทยจ�ำนวนมากมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ด้วยความที่ อินเดียเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่ก�ำลังเติบโตรวดเร็ว แม้จะมีผู้เล่นรายใหญ่ ในตลาดแล้ว แต่ส่วนแบ่งตลาดอาหารแปรรูปอีกเกือบร้อยละ 50 ยังเป็นของผู้เล่น รายย่อยในอินเดีย3 ทั้งนี้ ระบบภาษี GST จะเอื้อให้บริษัทไทยสามารถเข้าไปแข่งขันกับ ผู้เล่นรายย่อยในอินเดียง่ายขึ้น เช่น สามารถทดลองส่งออกสินค้าไปขายในเมือง ต่างๆ ของอินเดียก่อนได้ จากในอดีตนั้นเป็นเรื่องล�ำบากเพราะต้นทุนการขนส่ง ทีส่ งู ท�ำให้สนิ ค้าทีน่ ำ� เข้าจากไทยมีราคาสูงกว่าจึงแข่งกับผูเ้ ล่นในท้องถิน่ ไม่ได้และ ยังต้องศึกษากฎระเบียบรัฐต่างๆ ซึง่ บริษทั ไทยก็จะเสียเปรียบ หรือการลงทุนสร้าง โรงงานผลิตสินค้าในอินเดีย นอกจากบริษทั ไทยต้องเลือกเมืองทีใ่ ห้สทิ ธิประโยชน์ ด้านการลงทุนที่ดีที่สุดแล้ว ก็ต้องค�ำนึงถึงต้นทุนการกระจายสินค้าไปเมืองอื่นๆ ที่ยุ่งยากด้วย แต่ปัญหาดังกล่าวก็จะลดลงภายใต้ระบบ GST ซึ่งช่วยเปิดทางให้ บริษัทไทยเข้าไปง่ายขึ้น • การปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับคนอินเดียเป็นเรื่องที่จ�ำเป็น ซึ่งไม่ใช่ เรื่องยากเกินไปส�ำหรับบริษัทไทย เช่น บริษัท ดัชมิลล์ ผู้ผลิตนมของไทยที่เข้าไปใน ตลาดอินเดียมาระยะหนึง่ แล้ว ได้รว่ มมือกับบริษทั ท้องถิน่ สร้างโรงงานผลิตสินค้า นมเปรี้ยว โดยใช้ชื่อแบรนด์ Mista Twista เพื่อให้เข้ากับภาษาและวัฒนธรรม อิ น เดี ย และปรั บ รสชาติ ใ ห้ เ ปรี้ ย วน้ อ ยลงเพื่ อ ให้ ถู ก ปากคนอิ น เดี ย บริ ษั ท เจริญโภคภัณฑ์กไ็ ด้เปิดสาขาไก่ยา่ งห้าดาวในชือ่ Five Star Chicken โดยปรับเปลี่ยนเมนูให้เข้ากับรสชาติอินเดีย อาทิ ไก่ทอดมาสซาร่า และมีการโฆษณาผ่าน MV แนวบอลลีวูดเพื่อจับกลุ่มวัยรุ่นอินเดีย หรือผลิตภัณฑ์เครือ่ งครัวของบริษทั ศรีไทยทีไ่ ด้ปรับปรุงดีไซน์ให้เข้ากับ รสนิยมชาวอินเดียจนเป็นที่นิยมของแม่บ้านอินเดียจ�ำนวนมาก เป็นต้น4 นอกจากนี้ วัฒนธรรมการบริโภคของไทยหลายอย่างก็มี ความคล้ายคลึงกับอินเดีย ท�ำให้การปรับเปลี่ยนท�ำได้ไม่ยาก เช่น ผลิตภัณฑ์ถั่วและอาหารว่าง ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ผลไม้อบแห้ง อาหารแช่แข็ง หรือเครือ่ งปรุงรสซึง่ หลายบริษทั ไทยก็ได้รบั มาตรฐาน ฮาลาลอยู่แล้ว และผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็มีการส่งออกไปอินเดีย บ้างแล้วแต่กม็ สี ดั ส่วนไม่ถงึ ร้อยละ 1 ของการส่งออกอาหารของไทย ทั้งหมด คงปฏิเสธไม่ได้วา่ อินเดียจะกลายเป็นแรงขับเคลือ่ นทีส่ ำ� คัญของ เศรษฐกิจโลกในทศวรรษข้างหน้านี้ สองธุรกิจข้างต้นเป็นเพียง ตัวอย่างของธุรกิจที่เห็นประโยชน์ได้ชัดเจนที่สุดจากการปฏิรูปครั้งนี้ ซึ่งไม่ได้ หมายความว่าธุรกิจอืน่ ๆ ควรมองข้ามตลาดอินเดียไป ถึงเวลาแล้วทีน่ กั ลงทุนไทย ควรหั น มองและท� ำ ความเข้ า ใจอิ น เดี ย มากขึ้ น ก่ อ นที่ จ ะพลาดช่ ว งเวลา ที่เหมาะสมนี้ไป

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SURF THE AEC Removing the Complex Tax System.

India, which is a large country, is administered under a decentralized system composing of one central government and 29 states. Each state would have their own administration and were previously allowed to levy different tax rates. As a result, India had among the most complex tax system in the world, of which has been deterring foreign investors from India. Key obstacles for doing business arose from the old tax system includes 1. Understanding the tax system is too time consuming, 2. Inspection is difficult due to having multiple tax collecting agencies, 3. Huge incentive to bribe officers, 4. State-border trades have high cost in both terms of money and time, and 5. Problems in exports and manufacturing.

The New, Unified Tax Regime

GST (Goods and Services Tax) is a system that will unify tax rate on goods and services within the country. The system is a change from the previous that allowed each state set their own tax rate. The new system would replace approximately 15 categories of indirect tax such as central sale tax, entry tax, Octori, VAT, Excise tax, etc. Each product will be imposed the same rate throughout the country. Furthermore, tax

Thai businesses that have potential to benefit from this tax reform are businesses related to logistics and consumer goods. 1. Logistic businesses will have an obvious gain from this reform. Although currently several global logistics firms have already entered the Indian market, the majority of the market share is still accounted by local logistics companies2. The complexity of India’s tax system has been an important hurdle for foreign firms, leading local businesses to have the advantage. This tax reform will be key to unlocking the logistic sector in India. A summary of expected changes to the Indian market and significant opportunities for Thai investors include More logistic service outsourcing, Lower logistics cost, and Drawing up plans for warehouse construction and product distribution will be easier. 2. Consumer products business such as processed food, drinks, soap, shampoo, clothes and household products have immense growth potential given the size of consumer population in India. This business also stands to benefit clearly from this tax reform. The key impacts on this business group are as follows. • More efficient distribution. Businesses related to consumer products require good distribution coverage of their end-user; therefore, lower logistic cost will thus obviously benefit this business group. In fact,

India’s GST

the biggest tax reform opens new opportunities for Thai investors.

India is a country that brings to mind diversity and complexity in virtually all aspects. Its variety of culture, ways of living between social groups and large population size of over a billion has been key feature attracting the focus of investors all over the world. Yet doing business in India is no easy task. Trivial regulations and inconsistencies between states are only part of the problem that has led India’s to rank 130th in ease of doing business out of 190 countries. Until now, the current government under leadership of Prime Minister Narendra Modi is pursuing an ambitious economic reform in multiple areas. One of the top priorities is the biggest tax reform since the country’s independence in 1947. The new tax system called Goods and Services Tax (GST) is now rolling out across India. procedures will be required to conduct online in order to avoid contact between tax payers and government officers. For intra-state trading, tax on goods or services will be collected by between the state government (State GST: SGST) and central government (Central GST: CGST) equally. Therefore, assessment procedures is expected to be strictly complied on both governments. For inter-state trading, the tax, called integrated GST (IGST), will be levied solely by central government.

Exporters divert their shipment to longer route just to avoid state-border checkpoint

It’s Time for Thai Investors to Find Opportunities in India.

Thai investors should turn their attention towards India as they are already steps behind foreign investors. Since the government under Modi’s administration began in 2014, firms all over the world saw the potential for growth and have since rushed for opportunities. The value of foreign investments has since been increasing at average rate 28%YOY with major investments coming from Singapore, Japan and the U.S.. On the contrary only 20 Thai companies1 currently have investments in India. Total investment value of Thai firms in India at the end of 2016 stood at USD 906 million, or only equates to 7.8% of the total investment of Thai firms in CLMV even though India has a population size 8 times greater than CLMV.

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

Source: EIC analysis based on data from World bank, Apparel Resources, and Google maps.

SURF THE AEC once India becomes a single market, these businesses can build central warehouses to better manage stocks and move away from the previous model of having multiple small warehouses in various states, which was difficult to forecast demand and to manage inventory. From such factors, the GST system should in part support foreign firms to be able to compete with local firms. • Several consumer products will be levied a lower tax rate than previously. Under the new system grains or milk, which were previously being charged a tax rate of 5%, will now be exempted from tax. As for soap and toothpaste, they will be subject to a tax rate of 18%, which is lower from its previously level of 22-24%. The new tax system will therefore cut prices of a range of consumer products and in turn encourage more household spending on these goods. • Processed food and beverage is a product that Thai businesses have expertise making it a potential product for Thai businesses. Although several large foreign companies have already entered the Indian market, there is still a window of opportunity given its large and fast growing consumer market and that up to 50% of the market share of the processed food market is currently occupied by small, local players3. The new GST system will ease entry of Thai business to into the market, allowing them to distribute products to various cities in India as a trial run, for instance. Thai firms may previously had been at a disadvantage compared to local firms as expensive logistic cost may have caused Thai imports to cost more than local products. Moreover, Thai firms did not have as good an understanding of the different regulations in each local state as their local competitors. This caused Thai firms deciding to invest in a manufacturing plant in India to struggle in finding optimal location taking in to account cost in distributing products to various cities. Under the new GST system such obstacles are now removed and therefore bringing about new opportunities to Thai firms. • It is necessary to adjust products to fit with Indian consumer preference, a requirement Thai firms can easily meet. Dutchmill, for instance, is a Thai firms that has for some time entered the Indian market and has been working with local firms in building a manufacturing plant. The company launched a new yoghurt drink brand called “Mista Twista”, factoring in local language and culture in the name. The taste was also adjusted by lowering sourness that is more preferred by the local consumers. When Charoen Pokphand opened its Five Star Chicken branch in India, the company added fried chicken masala to its menu and advertised in Bollywood-style MVs to build its presence among the younger Indian consumer group. Srithai also changed its design to better meet with the local preferences and was well received, becoming a popular household item among Indian families4. Furthermore, ethnic food preferences of Thais and Indians are similar therefore adjusting recipes is easily achieved. Products made from beans and snacks, herbal products, dried fruits, frozen food and spices are some example products that can exported to India. Also many Thai firms are already compliant to Halal standards. Although many of the aforementioned products are already being exported to India, their share only account for less than 1% of Thailand’s food exports. Undeniably, India will become a key driver of global growth in the decades to come. Business involved with logistics and consumer products are mere examples of businesses that can profit from this tax reform in India. Thus, other business groups should also keep close watch for opportunities in India. It is now the time Thai investors need to build a better understanding of this market so to not miss timely opportunities for investment.

ข้1 อมูลเพิ่มเติม/Additional Information จากข้อมูลของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี 1 Data from the Royal Thai Embassy, New Delhi, Republic of India 2 Mitra S. (2008), Logistics Industry: Global and Indian Perspectives. 3 จากข้อมูลของ India Brand Equity Foundation (IBEF) 3 Data from the India Brand Equity Foundation (IBEF) 4 จากข้อมูลของศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทย-อินเดีย สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี 4 และประชาชาติธุรกิจ Data from Thai-India Business Information Center, Royal Thai Embassy, New Delhi, Republic of India and Prachachat. AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SCIENCE & NUTRITION

อมรรัตน์ เอื้อสลุง

ดร.ยุราพร สหัสกุล

Amornrat Aursalung

Yuraporn Sahasakul, Ph.D.

Research Assistant

Lecturer Institute of Nutrition, Mahidol University yuraporn.sah@mahidol.ac.th

การเสีย่ งต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น ท�ำให้ระบบทางเดินอาหารและการขับถ่ายท�ำงาน ได้สมบูรณ์เป็นปกติ ลดปริมาณคอเลสเทอรอลและน�้ำตาลในเลือด ใยอาหาร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ตามความสามารถในการละลายน�้ำ ได้แก่ • ใยอาหารที่ละลายน�้ำได้ (Soluble fiber) เช่น กัม เพคติน เฮมิเซลลูโลส ใยอาหารเหล่านี้ถูกแบคทีเรียในล�ำไส้ใหญ่ย่อยสลาย ท�ำให้เกิดกรดไขมันสายสั้น ทีม่ ปี ระโยชน์ตอ่ ผนังล�ำไส้ใหญ่ นอกจากนีย้ งั สามารถเกิดเป็นเจลกับน�ำ้ ช่วยชะลอ การดูดซึมสารพิษ เพิ่มความหนืดของอาหารท�ำให้การดูดซึมน�้ำตาลช้าลง • ใยอาหารที่ไม่ละลายน�้ำ (Insoluble fiber) เช่น เซลลูโลส ลิกนิน เป็น โครงสร้างทีช่ ว่ ยให้พชื แข็งแรง ใยอาหารกลุม่ นีอ้ มุ้ น�ำ้ ได้ดี ช่วยเพิม่ ปริมาณอุจจาระ และท�ำให้อจุ จาระอ่อนนุม่ ช่วยกระตุน้ การเคลือ่ นตัวของล�ำไส้ ท�ำให้ขบั ถ่ายสะดวก ลดอาการท้องผูก และลดเวลาที่สารพิษสัมผัสกับล�ำไส้ ในปัจจุบัน ความต้องการของผู้บริโภคมุ่งสนใจเกี่ยวกับสุขภาพและรูปร่าง กันมากขึน้ ประกอบกับการบริโภคของมนุษย์ในปัจจุบนั ทีน่ ยิ มบริโภคอาหารแปรรูป อาหารส�ำเร็จรูป และอาหารกึง่ ส�ำเร็จรูป จึงท�ำให้บริษทั ผูผ้ ลิตอาหารใช้เส้นใยอาหาร ผสมในอาหารเพือ่ เพิม่ คุณค่าทางโภชนาการให้กบั ผลิตภัณฑ์ แต่แท้จริงแล้วแหล่ง ที่ดีของใยอาหารนั้นได้มาจากการบริโภคพืช ธัญพืช ผักและผลไม้ให้เพียงพอ โดย

ประโยชน์ของพืชสมุนไพรพื้นบ้าน

“เครือหมาน้อย”

ผักผลไม้จัดเป็นองค์ประกอบที่ส�ำคัญยิ่งของอาหารเพื่อสุขภาพ การบริโภค ผักผลไม้ในปริมาณที่เพียงพอช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคไม่ตด ิ ต่อเรือ้ รัง มีผลป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือด ในสมอง มะเร็งปอด และมะเร็งทางเดินอาหาร (Dauchet et al., 2006; Boeing et al., 2012) ทั้งนี้ ผักและผลไม้อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใย อีกทั้งยังมีสารพฤกษเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง

องค์ ก ารอนามั ย โลกระบุ เ กณฑ์ ก ารรั บ ประทานผั ก และผลไม้ ที่ เ หมาะสม คื อ 400-600 กรัมต่อวัน (WHO, 2008) โดยผลการศึกษาขององค์การอนามัยโลกชี้ให้เห็นว่า การบริโภคผักผลไม้ตามเกณฑ์ช่วยลดภาวะโรคหัวใจขาดเลือดและโรคเส้นเลือดใน สมองตีบได้ถึงร้อยละ 31 และ 19 ตามล�ำดับ ส�ำหรับประเทศไทย ส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้จัดท�ำบัญชีสารอาหารที่แนะน�ำให้ควรบริโภคประจ�ำวัน ส�ำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป โดยก�ำหนดว่าควรบริโภคใยอาหารวันละ 25 กรัม (Thai Recommended Daily Intakes; Thai RDI) อย่างไรก็ตาม ผลการส�ำรวจสุขอนามัย ของประชาชนไทยของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าคนไทยร้อยละ 82 รับประทาน ผักผลไม้ต�่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานโลก (ส�ำนักงานการส�ำรวจสภาวะสุขอนามัย, 2552) พฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้ต�่ำนี้ท�ำให้ประชากรไทยมีความเสี่ยงในการเกิดโรค ไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มสูงขึ้น ใยอาหาร (Dietary fiber) ตามค�ำนิยามของสมาคมเคมีธญ ั พืชแห่งอเมริกา (American Association of Cereal Chemists; AACC) หมายถึง ส่วนที่บริโภคได้ของพืชหรือ คาร์โบไฮเดรตทีท่ นต่อการย่อยและการดูดซึมในล�ำไส้เล็กของมนุษย์ แต่อาจถูกย่อยได้ บางส่วนหรือย่อยได้ทั้งหมดโดยแบคทีเรียในล�ำไส้ใหญ่ ทั้งนี้ ใยอาหาร หมายรวมถึง พอลิแซคคาไรด์ โอลิโกแซคคาไรด์ ลิกนิน และสารที่พบในพืช โดยใยอาหารเป็นสารอาหาร ประเภทหนึ ่งที่เมืFOCUS ่อบริโภคเข้ าไปจะให้ ระโยชน์ต่อร่างกาย และอาจจะช่วยลดอัตรา 28 FOOD AUG ป2017 THAILAND

10 อันดับแรกของพืชอาหารที่มีปริมาณใยอาหารสูง เมื่อคิดต่อน�้ำหนักแห้ง 100 กรัม พบว่า เห็ดหูหนูมีใยอาหารเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 93 เม็ดแมงลัก มะเขือพวง และเครือหมาน้อย มีใยอาหารเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 70-73 ใบย่านางและถั่วพูมีใยอาหารเป็นองค์ประกอบร้อยละ 57 ถั่วเมล็ดแห้ง ได้แก่ ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง และถั่วด�ำประกอบด้วยใยอาหาร ร้อยละ 22-29 (Thai Food Composition Tables, 2015) ในบรรดาพืชใยอาหารสูง 10 อันดับแรก ชื่อของ “เครือหมาน้อย” อาจไม่คุ้นหู นัก เครือหมาน้อย หรือกรุงบาดาล (Cyclea barbata Miers) เป็นพืชสมุนไพรใน วงศ์เดียวกับย่านางและบอระเพ็ด (MENISPERMACEAE) ที่มีประวัติการใช้ มายาวนาน พบได้ในประเทศเขตอบอุ่น โดยในทวีปเอเชียพบได้ในประเทศอินเดีย เมียนมา อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว และประเทศไทยทุกภูมิภาค (Smitinand and Larsen, 1991) ใบมีลกั ษณะพิเศษ เมือ่ น�ำมาสกัดด้วยน�ำ้ ในแบบครัวเรือนสามารถ เกิดเป็นเจลได้เองทีอ่ ณ ุ หภูมหิ อ้ งโดยไม่ตอ้ งเติมองค์ประกอบอืน่ เพิม่ เติม โครงสร้าง หลักของเจลจากใบเครือหมาน้อยเป็นใยอาหารชนิดที่ละลายน�้ำได้ ชนิดเพคติน จ�ำพวกเมทอกซิลต�่ำ (Low methoxyl pectin) (Arkarapanthu, 2005) คนท้องถิ่น มักน�ำใบเครือหมาน้อยมาขยีผ้ สมด้วยน�ำ้ เกิดเป็นเจล และน�ำมาบริโภคเป็นอาหาร คาวหวานและใช้เป็นยา ในประเทศอินโดนีเซียมีการสกัดเจลจากใบเครือหมาน้อย เพื่อใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร (Siregar and Miladiyah, 2011) อีกทั้งยังน�ำวุ้นดังกล่าวมาท�ำเป็นเครื่องดื่ม (Manilal and Sabu, 1985) และมี การรับประทานอย่างกว้างขวางในประเทศลาวและอินโดนีเซียเป็นอาหารหวาน ในลักษณะวุ้นในน�้ำเชื่อมและวุ้นในน�้ำกะทิ ในประเทศไทย ชาวบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการน�ำวุ้นจากใบเครือหมาน้อยมาผสมกับป่นปลาทู ได้เป็นอาหารคาวชือ่ น่ารักว่า ป่นหมาน้อย เนือ่ งด้วย สมบัตกิ ารเกิดเจลทีน่ า่ สนใจและการบริโภคทีพ่ บในวงจ�ำกัด จึงท�ำให้เครือหมาน้อย เป็นพืชทีน่ า่ สนใจ โดยผูเ้ ขียนมีโอกาสลงพืน้ ทีส่ ำ� รวจและเก็บตัวอย่างในแถบจังหวัด อุบลราชธานี โดยมีพสี่ นี ลิ เป็นไกด์เจ้าถิน่ ช่วยพาตระเวนพบปะชาวบ้าน เพือ่ สุม่ เก็บ ตัวอย่างใบเครือหมาน้อย จึงมีโอกาสรู้จักกับแม่สุภาพผู้ใจดี ในสวนครัวหลังบ้าน แม่สภุ าพมีพชื ผักสวนครัวและผลไม้ตา่ งๆ ทีม่ ปี ระโยชน์มากมาย เช่น มะเขือ ย่านาง

SCIENCE & NUTRITION พริกขี้หนู กะเพรา มะขาม เสาวรส และแน่นอน พบต้นเครือหมาน้อยเป็นไม้เลื้อย แซมอยู่ด้วย หากสอบถามจากวัยรุ่น วัยท�ำงานในพื้นที่ มักไม่รู้จักพืชชนิดนี้ ส่วนมากมักเป็นผู้ที่มีอายุสักหน่อยจึงจะรู้จักและคุ้นเคยกับการน�ำพืชนี้มาท�ำเป็น อาหาร ผู้เขียนได้ลิ้มรสเมนูป่นหมาน้อยที่แม่สุภาพปรุงให้ใหม่ๆ รสชาตินับว่า แปลกใหม่ รสแซ่บ แต่เนื้อสัมผัสเด้งๆ เป็นวุ้น รับรองว่าใครเพิ่งชิมเป็นครั้งแรก จะต้องบอกว่าไม่เคยรับประทานที่ไหนมาก่อนแน่ๆ หลังจากน�ำตัวอย่างกลับมาศึกษาคุณค่าทางโภชนาการและปริมาณกรด ฟี น อลิ ก ที่ ส ถาบั น โภชนาการ มหาวิ ท ยาลั ย มหิ ด ล พบว่ า ใบสด 100 กรั ม มีองค์ประกอบเป็นคาร์โบไฮเดรต 16.7 กรัม โปรตีน 4.2 กรัม ไขมัน 0.4 กรัม เถ้า 1.7 กรัม ใยอาหารชนิดที่ละลายน�้ำ 8.6 กรัม ใยอาหารชนิดไม่ละลายน�้ำ

1.2 กรัม และแคลเซียม 237.2 มิลลิกรัม และเมื่อวิเคราะห์เจลสดที่คั้นได้จากใบพบว่า เจล 100 กรัม ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต 1.7 กรัม โปรตีน 0.4 กรัม เถ้า 0.2 กรัม แคลเซียม 15.2 มิลลิกรัม ใยอาหารชนิดที่ละลายน�้ำ 1.5 กรัม ซึ่งคิดต่อน�้ำหนักแห้ง พบว่าเป็นใยอาหารสูงถึงร้อยละ 71.4 นอกจากนี้ พบกรดคลอโรเจนิก กรดเฟอริวลิก และกรดพีคูมาริกในใบและเจลที่สกัดได้อีกด้วย (Sahasakul et al., 2015) โดยสรุป ใบและเจลจากใบเครือหมาน้อยมีปริมาณใยอาหารชนิดละลายน�ำ้ อยูส่ งู และมีกรดฟีนอลิกเป็นองค์ประกอบจึงมีแนวโน้มใช้เป็นสมุนไพรและอาหารพื้นบ้าน ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาจน�ำมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ในเชิงอาหารและ โภชนาการ จึงเหมาะสมในการส่งเสริมการศึกษา การปลูก และบริโภคให้แพร่หลาย มากขึ้น เพื่อคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตและสุขภาวะที่ดีของชาวไทย

Benefits of Folk Herbs “Khruea Ma Noi” Fruits and vegetables are important components of a healthy diet. Consuming sufficient amount of fruits and vegetables not only helps prevent constipation, but also reduces risks of some non-communicable diseases (NCDs) including ischemic heart disease, stroke, lung cancer, and gastrointestinal cancer (Dauchet et al., 2006; Boeing et al., 2012). These extraordinary benefits come from the fact that fruits and vegetables are rich in vitamins, minerals and fibers, as well as many favorable antioxidant phytochemicals. World Health Organization (WHO) recommends a minimum consumption of fruits and vegetables at 400-600 g/day (WHO, 2008). Studies by WHO showed that consumption of fruits and vegetables at the suggested amounts can help reduce up to 31% of ischemic heart disease and 19% of stroke. According to the Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI) – by Thai Food and Drug Administration or FDA, a person at the age of/and above 6 years old is recommended to have at least 25 g of fibers daily. Despite this recommendation, report on the 4th National Health Examination survey of Thai people by the Ministry of Public Health indicated that 82% of Thai people consumed less fruits and vegetables in their daily diet than recommended intake levels (National Health Examination Survey Office, 2009). This lowfiber-intake behavior has led to the increased risk of NCD’s among the Thais. According to the American Association of Cereal Chemists (AACC), dietary fiber is “the edible parts of plants or analogous carbohydrates that are resistant to digestion and absorption in the human small intestine with complete or partial fermentation in the large intestine. Dietary fiber includes polysaccharides, oligosaccharides, lignin, and associated plants substances. Dietary fibers promote beneficial physiological effects including laxation, and/ or blood cholesterol attenuation, and/or blood glucose attenuation.” Dietary fibers can be categorized by their solubility in water into 2 groups: • Soluble fibers – such as gums, pectin, hemicellulose, they are fermented by intestinal bacteria and subsequently lead to the production of short-chain fatty acids (SCFAs) which are nutrients for colonic epithelium. Moreover, soluble fibers dissolve in water forming viscous gels which delay toxic absorption, delay gastric emptying, and decrease the rate of glucose absorption. • Insoluble fibers -such as cellulose and lignin, they help plants to maintain their structure and shape. These fibers do not dissolve in water, they have high water-holding capacity and also help to increase the bulk of the stool, making the stool softer and move faster through the colon, prevent constipation and lessen the contact time between toxin and colon walls. Nowadays, modern consumers shift their focus more and more towards their health and wellness but due to convenience and preference reasons, their food choices are largely rely on the processed, ready-to-eat, and readyto-cook foods. Thus, leading to the trend for food manufacturers to supplement dietary fibers in their products. In fact, the best source of fibers is from eating appropriate amount of natural fiber rich foods including whole-grain, fruits and vegetables. According to the data from Thai Food Composition Tables, the top-ten food sources rich in fibers include: Jew’s ear mushroom –contains 93% of fiber content–, basil seed, turkey berry, and Khruea Ma Noi –contain 70-73% of fiber content–, bamboo grass and winged bean –contain 57% of fiber content–, dried beans: green bean, kidney bean, soy bean and black bean –contain 22-29% of fiber content– (Thai Food Composition Tables, 2015). Among these 10 high-fiber plants, “Khruea Ma Noi” may be the one least heard of. Khruea Ma Noi or Krung Badan (Cyclea barbata Miers) is a slender, deciduous climber in MENISPERMACEAE family distributed widespread in tropical regions, including India, Myanmar, Indonesia, Vietnam, Lao PDR, and Thailand (Smitinand and Larsen, 1991). The aqueous extract from the

leaves has a unique characteristic; it turns to gel by itself at room temperature. The main structure of gel is classified as soluble fiber namely low methoxyl pectin (Arkarapanthu, 2005). The plant and its gel are used to make Indonesian indigenous food and medicines for treating gastrointestinal-related diseases and symptoms (Siregar and Miladiyah, 2011) as well as herbal drinks (Manilal and Sabu, 1985). Moreover, this herbal plant is widely consumed in Lao PDR and Indonesia as traditional jelly drink in syrup and coconut milk. In Thailand, the extract is used to make a local dish commonly consumed in the North-Eastern part, including Ubon Ratchathani province. The jelly extract from Khruea Ma Noi leaves is mixed with grounded mackerel meat into this traditional dish –Pon Ma Noi. With its interesting jellified form, together with the fact that this plant is little known of and used in small circles, Khruea Ma Noi can be the new promising plant for herbal material and products. As the writer of this article, I went on a research trip to explore and collect samples of this unique plant in and around Ubon Ratchathani province, with Mr.Srinil as my generous local tour guide. I was taken to and around many villages, to meet with villagers along with collecting samples of Khruea Ma Noi plant. During this expedition I had a chance to meet with auntie Supap –a motherly, kind woman whose backyard garden is filled with arrays of homegrown vegetables like eggplant, bird chili, basil, tamarind, passion fruit, and last but not least, Khruea Ma Noi vine plant. It is a name not so familiar among the locals of the working age and younger generations, but is recognized and used as part of some local dishes by older generations in the village. I had a chance to try some of the Khruea Ma Noi dishes freshly cooked by auntie Supap. The taste is new to the tongue –strong and spicy with springy, jelly-like feel to it. It wouldn’t be too much to say that the taste is very uniquely different. The nutritional composition of Khruea Ma Noi leaves and the aqueous extract was analyzed at the Institute of Nutrition, Mahidol University. The leaves were composed of 16.7 g carbohydrate, 4.2 g protein, 0.4 g fat, 1.7 g ash, 8.6 g soluble dietary fiber, 1.2 g insoluble dietary fiber, and 237.2 mg calcium per 100 g of fresh sample. The aqueous extract consisted of 1.7 g carbohydrate, 0.4 g protein, 0.2 g ash, 15.2 mg calcium, and 1.5 g soluble dietary fiber per 100 g of fresh sample (main component was soluble dietary fiber –approximately 71.4% of the dry weight). Moreover, several phenolic acids were identified in both leaves and gel extract, such as chlorogenic acid, ferulic acid, and p-coumaric acid (Sahasakul et al., 2015).

Conclusion Having high soluble fiber composition and phenolic acids, Khruea

Ma Noi leaves and gel extract are suitable for making herbal remedies and/or healthy local delicacies, and can potentially be developed into a new valuable nutritional ingredient for food. This plant should be further researched for its many benevolent characteristics and should be promoted for planting and consumption among Thai people. For the list of references, please directly contact the authors. AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SPECIAL FOCUS

ธุรกิจห่วงโซ่ความเย็นของจีน

Barry Hochfelder www.foodlogistics.com

ก�ำลังเติบโตท่ามกลางการเชื่อมโยงที่ไร้ประสิทธิภาพ

จากการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยการผลิตไปสู่ผู้บริโภคของจีน ตลอดจนการขยายตัวมากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นของประชากรกลุ่มรายได้ ปานกลางนั้น ส่งผลให้มีความต้องการบริโภคอาหารทั้งผลิตภัณฑ์อาหารสด ยาและเวชภัณฑ์ และอาหารที่มีอายุการเก็บรักษาสั้นในปริมาณที่ เพิม่ มากขึน้ ตามไปด้วย แต่นา่ เสียดายทีจ่ นี มีระบบห่วงโซ่ความเย็นทีม่ ปี ระสิทธิภาพไม่เพียงพอ อีกทัง้ ธุรกิจห่วงโซ่ความเย็นในแต่ละพืน้ ทีย่ งั กระจัดกระจาย และให้บริการได้ไม่ทั่วถึงจึงไม่สามารถเก็บรักษาสินค้าเหล่านั้นให้ดีได้

จีนจัดว่าเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา โดยมีการส่งออกสินค้าเกษตรจากสหรัฐอเมริกามาจีน คิดเป็นร้อยละ 17 ทัง้ ที่ ผลผลิตทางการเกษตรของจีนเองกว่าร้อยละ 10 มีมูลค่าเกือบ 1.4 ล้านล้าน เหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การขยายระบบห่วงโซ่ความเย็นไปในพื้นที่ต่างๆ อย่างทัว่ ถึงในจีนนัน้ เกิดขึน้ ได้ยาก เนือ่ งจากจีนเป็นประเทศทีม่ ขี นาดใหญ่และ มีจ�ำนวนประชากรมาก ประกอบกับการขาดสาธารณูปโภคและการขนส่ง พื้นฐานในหลายพื้นที่ที่อยู่ห่างไกล ข้อมูลจากทีป่ รึกษาด้านธุรกิจและการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ L.E.K. ระบุว่าธุรกิจห่วงโซ่ความเย็นของจีนเติบโตขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา โดยมูลค่าตลาดเติบโตขึ้นจาก 80 พันล้านหยวน (11.73 พันล้าน เหรียญสหรัฐ) ในปี 2554 เป็น 160 พันล้านหยวน (23.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2558 ทั้งนี้ L.E.K. ได้คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมห่วงโซ่ความเย็น ของจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 400 พันล้านหยวน หรือประมาณ 58.6 พันล้าน เหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 โดยธุรกิจการขนส่งจะมีมูลค่าการตลาดคิดเป็น ร้อยละ 40 ธุรกิจห้องเย็นร้อยละ 30 ส่วนที่เหลือคือมูลค่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ภาคการบริการอื่นๆ ในห่วงโซ่ความเย็น

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

ทัง้ ทีเ่ ราเห็นว่ามีการเติบโตอย่างเด่นชัด แต่การพัฒนาอุตสาหกรรมห่วงโซ่ ความเย็นของจีนก็ยังไม่ได้ไปไกลมากนัก และในความเป็นจริงนั้นก็มีตลาด ที่น่าสนใจส�ำหรับนักลงทุน หรือผู้ให้บริการโลจิสติกส์รูปแบบต่างๆ (3PLs) รวมถึงโครงการด้านโลจิสติกส์อนื่ ๆ แต่เนือ่ งจากลักษณะตลาดมีการแยกส่วน กันอย่างมาก สหพันธ์โลจิสติกส์และการจัดซื้อของจีน ได้คาดการณ์ว่ารายได้ จากบริษัทด้านโลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็นชั้นน�ำของจีน 100 บริษัท อาจจะมี มูลค่ารวมกันต�่ำกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าตลาดโดยรวมก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ต่อให้ตลาดธุรกิจห่วงโซ่ความเย็นนั้นก�ำลังเติบโต แต่ก็ยัง ขาดความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ตลอดทั้งระบบอยู่ดี ซึ่งยังคงเป็นเรื่อง ที่น่ากังวล โดยผู้ให้บริการธุรกิจในแต่ละห่วงโซ่นั้นมีรูปแบบการให้บริการ แยกออกจากกัน ไม่วา่ จะเป็นผูใ้ ห้บริการด้านคลังสินค้า บริการขนส่งภาคพืน้ ดิน ขนส่งทางอากาศ การกระจายสินค้า และบริการอืน่ ๆ ซึง่ ยังไม่เชือ่ มโยงกัน และ ขาดการควบคุมโดยตลอดทัง้ ห่วงโซ่ จึงก่อให้เกิดการบริหารจัดการทีผ่ ดิ พลาด มากมายในธุรกิจโลจิสติกส์ นอกจากนี้ เทคโนโลยีนการขนส่งทั้งการควบคุม อุณหภูมิ ระบบการจัดท�ำข้อมูล และการช่วยเหลือทางเทคนิครูปแบบอื่นๆ ยังคงไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่นัก ดังนั้น ผลที่เกิดขึ้นก็คือเรายังคงเห็น

SPECIAL FOCUS อัตราความต้องการการขนส่งสินค้าผักและผลไม้สดในห่วงโซ่ความเย็นนั้น เพิม่ ขึน้ ถึงร้อยละ 20-30 ซึง่ สูงกว่าค่าเฉลีย่ ทีร่ อ้ ยละ 5-10 ของประเทศทีพ่ ฒ ั นาแล้ว ด้านรัฐบาลจีนก็ได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาตลาดโลจิสติกส์ห่วงโซ่ ความเย็นของประเทศ โดยร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมเพือ่ จัดท�ำแผนมาตรฐาน และนโยบายในการก�ำหนดกรอบมาตรฐานต่างๆ อาทิเช่น การบริหารงานทั่วไป ด้ า นการก� ำ กั บ ดู แ ลคุ ณ ภาพ การตรวจสอบ และกั ก กั น ของสาธารณรั ฐ ประชาชนจีน (AQSIQ) และการบริการด้านมาตรฐานของจีน (SAC) โดยได้ ออกข้อก�ำหนดฉบับแรกมาบังคับใช้ส�ำหรับการด�ำเนินการโลจิสติกส์สินค้า ประเภทยาที่ต้องเก็บในอุณหภูมิต�่ำ ในปี 2557 คณะกรรมการพัฒนาการและปฏิรูปแห่งชาติของสาธารณรัฐ ประชาชนจีน (NDRC) ก็ได้ออกข้อก�ำหนดส�ำหรับธุรกิจทีใ่ ห้บริการด้านโลจิสติกส์ ห่วงโซ่ความเย็นส�ำหรับสินค้าประมง และในปีเดียวกันนี้ สมาคมขนส่งทาง อากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้ให้การรับรองมาตรฐานความปลอดภัย พืน้ ฐานส�ำหรับการโลจิสติกส์เครือ่ งมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ของจีนด้วย นอกจากนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง ได้รบั การรับรองตามมาตรฐานดังกล่าว โดยจัดเป็นท่าอากาศยานรายแรกและ รายเดียวของประเทศด้วย นอกจากนี้ ในเอกสารค�ำสัง่ ประธานาธิบดี ฉบับที่ 1 โดยรัฐบาลกลางในปี 2559 ได้มีการเน้นย�้ำถึงแผนการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็น ระหว่างภูมิภาคซึ่งได้ก�ำหนดแผนการด�ำเนินงานผ่านโครงการน�ำร่องต่างๆ ทางด้านนิตยสารธุรกิจของจีน China Business Review ได้รายงาน โดยชีใ้ ห้เห็นว่าหากจีนต้องการให้ธรุ กิจการขนส่งทางอากาศในห่วงโซ่ความเย็น เติบโตอย่างรวดเร็ว จีนจะต้องสร้างคลังสินค้าที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิไว้ใน บริเวณสนามบิน และบริเวณโดยรอบเขตเศรษฐกิจท่าอากาศยาน

โดยปั จ จุ บั น นี้ มี ส ายการบิ น ภายในประเทศของจี น รายใหญ่ ที่ มี ความสามารถในด้านธุรกิจห้องเย็น ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติเซีย่ งไฮ้ผตู่ ง ท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจวไป๋-ยฺหวิน และท่าอากาศยานนานาชาติคนุ หมิง ฉานชุย นอกจากนี้ยังมีศูนย์โลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็นของสองชายฝั่งจีน – ไต้หวัน ศูนย์กลางการขนส่งสินค้าสดและแช่เยือกแข็งในมณฑลตอนกลาง ของจีน และเมื่อไม่นานมานี้ ศูนย์โลจิสติกส์สินค้าประเภทยาและเวชภัณฑ์ ในนครหางโจว ได้ทุ่มเม็ดเงินเพื่อการลงทุนสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานและ การบริการห้องเย็นในระบบห่วงโซ่ความเย็นที่บริเวณโดยรอบเขตเศรษฐกิจ ท่าอากาศยานแล้วด้วยเช่นกัน

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SPECIAL FOCUS

China’s Cold Chain Is Growing to Meet Demand Despite Its Many Broken Links As China continues its transition from a manufacturing-led to consumer-led economy, and its middle class grows larger and stronger, the desire for fresh foods, pharmaceuticals and other perishables is growing along with it. Unfortunately, the Chinese suffer from a fragmented, inefficient cold chain that can’t keep up.

China accounts for 17 percent of U.S. agriculture exports, making it the largest agriculture export market for the United States. At nearly $1.4 trillion, agriculture comprises more than 10 percent of the Chinese economy, but the country’s massive size and population, along with a lagging infrastructure in some of its more remote areas, make it difficult to expand cold chain. The Chinese cold chain market has grown more than 20 percent over the past five years, according to research from London-based global management consulting firm, L.E.K. Consulting. The market has grown from 80 billion Ren Min Bi (RMB) or $11.73 billion in 2011 to 160 billion RMB ($23.5 billion) in 2015. L.E.K. forecasts that the cold chain industry will be valued at 400 billion RMB ($58.6 billion) by 2020, with transportation making up 40 percent of the market, cold storage at 30 percent, and the remainder of the market covering other services. Despite this remarkable growth, the development of China’s cold chain industry is still young, and truth be told, can be an intriguing market for investors, third-party logistics providers (3PLs) and other logistics firms. The market is extremely fragmented; the China Federation of Logistics and Purchasing Cold Chain Logistics Committee estimates that revenue from the top 100 cold chain logistics companies accounts for less than 10 percent of the overall market. Although the market is growing, the unreliability and “breakage” of the cold chain remains a concern. As ownership of each stage of the cold chain—warehousing, ground transportation, airfreight, airports, distribution and other services—is fragmented, the lack of an end-to-end process control results in widespread mismanagement of logistics. Additionally, the use of temperature-monitoring technology, information systems, and other forms of technical assistance is still very immature. As a result, the rate of cargo damage to fresh product within the cold chain is as much as 20 to 30 percent—much higher than the average 5 to 10 percent in developed countries, L.E.K research says. The Chinese government has taken a number of steps, in conjunction with industrial associations, to introduce a series of standards and policies to regulate and help develop its cold chain logistics market, which include: The General Administration of Quality Supervision, Inspection and Quarantine and Standardization Administration of China issued the first Operation Specifications for drug cold chain logistics. In 2014, the National Development and Reform Commission introduced guidelines for cold chain logistics services for aquaculture

32 32

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017 2017

products. Also in 2014, the International Air Transport Association (IATA) introduced a formal certification, “CEIV Pharma,” for medical logistics projects in China. In February 2016, Shanghai Pudong International Airport was the first and only airport to achieve this certification. The “No. 1 Executive Order” of the Central Government in 2016 re-emphasized the plan to accelerate the development of cross-region cold chain logistics industry through pilot projects. The China Business Review points out that to keep up with the rapid growth of air transportation in the cold chain, a number of temperature-controlled warehouses have been built around airports and the surrounding Airport Economic Zone. Top domestic Chinese airports with cold storage capacity include Pudong Airport (Shanghai), Baiyun Airport (Guangzhou) and Kunming Airport. Additionally, firms such as Xiamen Wanxiang Cold Chain Logistics Centre, Central China Hub of Frozen and Fresh Produce, and Hangzhou Pharmaceutical Logistics Park of Stater Logistics have invested heavily in cold storage infrastructure in the surrounding Airport Economic Zone in recent years.

6 October 2017

Jupiter Room, Challenger Hall, IMPACT

ความปลอดภั ย ของผลิ ต ภั ณ ฑ์ เ นื้ อ สั ต ว์ แ ละสั ต ว์ ป ี ก เป็นเรื่องที่ยืดหยุ่นกันไม่ได้ งานสัมมนาในครั้งนี้พร้อม ตอบโจทย์ในด้านการควบคุมและประกันคุณภาพ การวิจย ั และพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด กฎระเบียบและมาตรฐาน ทีเ่ กีย ่ วข้องในอุตสาหกรรมเนือ ้ สัตว์และสัตว์ปก ี เพือ ่ ขยาย ขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

Seminar Session Trend Watching

Processing & Packaging Watching

The competitiveness of meat & poultry manufacturing and potential market

The next cutting-edge technology: profits and quality from processing & packaging 4.0

ศักยภาพการผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสัตว์ปีกไทย สู่ตลาดโลก

นวัตกรรมการแปรรูปและการบรรจุ 4.0… สร้างคุณภาพ สร้างผลก�ำไร

R&D Brainstorm

Safety Watching

Research & development for meat & poultry products

Safety assessment for meat & poultry products

การวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงในด้าน ความปลอดภัยของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และสัตว์ปีก

คิดค้น วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสัตว์ปีก Industry Watching

Law & Regulation Watching

Case Study: Learn valuable experiences of meat & poultry industry

Meat & poultry products regulation

อัพเดทกฎระเบียบการส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ และสัตว์ปีก

เรียนรูป้ ระสบการณ์ตรงจากกรณีศกึ ษาของอุตสาหกรรม การผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสัตว์ปีก

Co-sponsor:

Main Sponsor:

Display:

Organized by:

For more information, please contact

Official Publication:

SPECIAL FOCUS การเปิดเสรีธุรกิจ Cold Chain ในอินเดียตั้งแต่ปี 2554 ท�ำให้ธุรกิจนี้ เติบโตจากที่มีมูลค่าราว 3 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นสามเท่าตัวจนมีมูลค่า 9 พันล้านเหรียญ ในปี 2558 มีผู้เล่นในตลาดไม่ต�่ำกว่า 3,500 ราย แบ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ราว 30 ราย ในจ�ำนวนนี้มีไม่ถึง 10 ราย ที่ ใ ห้ บ ริ ก าร Cold Chain ครบวงจร นอกนั้ น เป็ น ธุ ร กิ จ รายย่ อ ย ของเกษตรกรทีม่ คี ลังสินค้าความเย็นของตนเอง โดยมีไม่กรี่ ายทีม่ รี ถขนส่ง สินค้าด้วยความเย็น จึงมีผลผลิตผักและผลไม้เพียงร้อยละ 3.8 เท่านั้น ทีใ่ ช้ระบบขนส่งด้วยห้องเย็น นับว่าต�ำ่ มากเมือ่ เทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 85-90 ประเด็นดังกล่าว เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา ราคาสินค้าอาหารในประเทศที่เร่งตัวสูงยามเกิดสภาพอากาศแปรปรวน สาเหตุ ห ลั ก ของปั ญ หาเงิ น เฟ้ อ ที่ ห ยั่ ง รากลึ ก ในประเทศมายาวนาน โดยแตะระดับสูงใกล้เคียงร้อยละ 10 มาตั้งแต่ปี 2552 แม้ว่าปัจจุบันจะ ปรับลดลงแต่ก็เป็นผลจากราคาน�้ำมันที่ลดลง

สภาพแวดล้อมดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ธุรกิจ Cold Chain ในอินเดียยังมีช่องว่างให้พัฒนาได้อีกมากจึงจะเพียงพอกับความต้องการ ในปัจจุบันและเตรียมรับกับความต้องการระลอกใหม่ที่เกิดจากนโยบาย กระตุ้นการผลิตภาคเกษตรกรรมตามแผนงบประมาณประจ�ำปี 2559-2560 ซึ่งรัฐบาลทุ่มงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 77 พร้อมทั้งนโยบาย Make in India ที่ได้เดินหน้ายกระดับการผลิตอาหารให้มีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าธุรกิจ Cold Chain ในอินเดียจะคึกคักมากขึ้นอีกเท่าตัวแตะมูลค่า 18 พันล้านเหรียญในปี 2561 จากที่มีมูลค่า 9 พันล้านเหรียญ ในปี 2558 ซึ่งตลาดจะผลักดันให้เกิดความต้องการธุรกิจห่วงโซ่ความเย็นสมัยใหม่ (Modern Cold Chain) ทีไ่ ด้มาตรฐานสากลเพือ่ ให้เกิดประสิทธิภาพการบริหาร จัดการตลอดห่วงโซ่การผลิต

แรงขับเคลื่อนจากภาคการผลิตผลักดันธุรกิจ Modern Cold Chain เร่งตัวแรงต่อเนื่อง

ภาคเกษตรกรรม ปศุสัตว์ ประมง และการแปรรูปอาหารของอินเดีย มีสัดส่วนถึงร้อยละ 18.4 ของเศรษฐกิจ โดยอินเดียส่งออกสินค้าเกษตรอันดับ

ระบบห่วงโซ่ความเย็น ของอิ น เดี ย มาแรง เติมช่องว่างระหว่างธุรกิจต้นน�้ำสู่ปลายน�้ำ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย Kasikorn Research Center

www.kasikornresearch.com

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

SPECIAL FOCUS 6 ของโลก สามารถผลิตผักและผลไม้ได้เป็นอันดับ 2 ของโลก (รองจากจีน) มีก�ำลังการผลิตแต่ละปีราว 164 ล้านตัน และ 91 ล้านตัน ตามล�ำดับ ความพร้อมดังกล่าวดึงดูดให้นกั ลงทุน เข้ามาลงทุน ประกอบกับนโยบายปฏิรปู ภาคเกษตรกรรมและ Make in India ที่มุ่งเน้นปฏิรูปภาคการผลิตเชิงลึก ตลอดจน การจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่ (Mega Food Parks) เพื่ อ สร้ า งความแข็ ง แกร่ ง ในการผลิ ต อาหาร อย่างจริงจัง โน้มน�ำผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลกเข้ามา จับตลาด ปัจจัยต่างๆ ล้วนกระตุ้นให้เกิดความต้องการ Modern Cold Chain อันจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานส�ำคัญ เชื่อมโยงภาคเกษตรกรรมสู่การผลิตอาหารและการบริโภค ในระยะข้างหน้า Modern Cold Chain เป็นรูปแบบที่ต่างจากธุรกิจที่มี ในอินเดีย โดยต้องให้ความส�ำคัญกับรายละเอียดปลีกย่อย ตั้งแต่การใช้วัสดุก่อสร้างคลังสินค้าที่ได้มาตรฐาน ISO หรือ ใช้วัสดุที่เหมาะแก่อุตสาหกรรมอาหาร (Food Grade) ที่ได้ มาตรฐานความปลอดภัย GMP และ HACCP การป้องกัน การเกิดเชือ้ ราและแบคทีเรีย การค�ำนึงถึงสิง่ แวดล้อมโดยใช้ วัสดุที่ปราศจากสาร CFC การใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุน ด้านพลังงานด้วยการใช้วัสดุกันความร้อน การใช้อุปกรณ์ ทีป่ อ้ งกันการรัว่ ไหลของความเย็น การเปลีย่ นไปใช้หลอดไฟ LED และการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์รวมทั้งการเชื่อมต่อ ธุรกิจเข้ากับโลกดิจิทัลโดยการติดตั้งชิพ RFID เพื่อให้ตรวจ สอบสินค้าในคลังได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ด้วยความต้องการ ของตลาดที่มีอยู่ จึงอาจเป็นโอกาสส�ำหรับธุรกิจไทยที่มี ศักยภาพ โดยมีกลยุทธ์การลงทุนในธุรกิจ Modern Cold Chain ในอินเดีย ซึ่งน่าจะสามารถด�ำเนินการได้ 2 รูปแบบ ดังนี้ 1. การเข้าควบรวมกิจการ/ซื้อกิจการ (M&A) ที่มีอยู่แล้ว ในอินเดียถือเป็นวิธีที่สะดวก และได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยผูป้ ระกอบการสามารถเข้าไปสานต่องานของกิจการเดิม ได้อย่างรวดเร็ว การลงทุนในรูปแบบนี้จึงเหมาะกับธุรกิจ ที่ เ ล็ ง เห็ น โอกาสในการพั ฒ นาคลั ง สิ น ค้ า แช่ เ ย็ น ที่ มี เป็นจ�ำนวนมากถึง 7,129 ยูนิต มีความจุรวม 32.8 ล้านตัน ซึ่งกว่าร้อยละ 75.4 ใช้แช่มันฝรั่งเท่านั้น ยังขาดเทคนิคและ เทคโนโลยีในการบริหารจัดการในธุรกิจนี้ค่อนข้างมาก การลงทุนในธุรกิจคลังสินค้าแช่เย็น (Cold Storage) นั ก ลงทุ น สามารถเลื อ กพื้ น ที่ ล งทุ น ที่ ส อดคล้ อ งกั บ ตลาด เป้าหมาย แล้วเข้าไปพัฒนาต่อยอดจากเดิมให้ตอบโจทย์ ดีมานด์ของผลผลิตสินค้าเกษตรในรูปแบบอื่นนอกจากมันฝรั่ง โดยจัดสรรให้จดั เก็บสินค้าได้หลากหลายวัตถุประสงค์ (Multi Purpose) หรือท�ำให้เป็นธุรกิจคลังสินค้าแช่เย็นสาธารณะ (Cold Public Warehouse) ที่ให้บริการเช่าพื้นที่ฝากสินค้า เกษตรจากผูป้ ระกอบการรายย่อย ซึง่ ผูป้ ระกอบการในอินเดีย ยังขาดความช�ำนาญในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ให้สอดคล้องกับผลผลิตสินค้าเกษตรประเภทอื่น

ดังนั้นการเข้าไปบริหารจัดการให้มีต้นทุนที่ต�่ำลง และปรับปรุงเทคโนโลยีความเย็นให้ทันสมัย จะยิง่ หนุนให้สามารถขยายตลาดในประเทศได้มากขึน้ โดยควรพิจารณาร่วมทุน/ซือ้ กิจการเพือ่ สร้าง เครือข่ายคลังสินค้าในแต่ละพื้นที่อันจะช่วยให้การกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องเลือกพื้นที่ ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของธุรกิจ อาทิ การจับตลาดผู้บริโภคในเมืองและห้างค้าปลีกที่ขณะนี้ ก� ำ ลั ง ธุ ร กิ จ ค้ า ปลี ก แบรนด์ ต ่ า งชาติ ทั้ ง สหรั ฐ ฯ ยุ โ รปและอาหรั บ ก� ำ ลั ง ขยายสาขาในเมื อ งรอง บริเวณรัฐปัญจาบ หรยาณา มัธยประเทศ และรัฐคุชราต การมุ่งเน้นตลาดส่งออกและขยาย ตลาดใหม่ ในประเทศบริเวณภาคใต้ ภาคตะวันตก และภาคตะวันออกซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจส�ำคัญ ที่รัฐมหาราษฏระ รัฐทมิฬนาฑูหรือการจับตลาดสินค้าเกษตรในพื้นที่เกษตรกรรมของประเทศ ที่รัฐมัธยประเทศ

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SPECIAL FOCUS 2. การจั ด ตั้ ง ธุ ร กิ จ ใหม่ เ พื่ อ เติ ม เต็ ม ความต้ อ งการที่ มี ใ นขณะนี้ ค่อนข้างท้าทายและมีความเสี่ยงจากความไม่ช�ำนาญในพื้นที่ แต่ก็มีข้อดี ตรงที่ธุรกิจเหล่านี้ยังมีการแข่งขันไม่สูงนัก โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่ สวนอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่ (Mega Food Parks) ที่เร่งรัดพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตอาหารสมัยใหม่มีความพร้อมให้การอุดหนุน ด้ า นเงิ น ทุ น มี ม าตรการให้ กู ้ ด ้ ว ยอั ต ราดอกเบี้ ย พิ เ ศษ พร้ อ มทั้ ง ผ่ อ นผั น ระยะเวลาช� ำ ระเงิ น กู ้ ซึ่ ง ขณะนี้ ทางการอินเดียอนุมัติจัดตั้งแล้ว 17 แห่ง ในรัฐหรยาณา รัฐปัญจาบ รัฐคุชราต รัฐพิหาร รัฐเทลันกานา รัฐโอริสา รัฐทมิฬนาฑู รัฐมหาราษฏระ รัฐเกรละ และยังมีพื้นที่อื่นๆ ที่รอการอนุมัติ อยู่อีก 25 แห่ง ซึ่งธุรกิจที่อินเดียยังขาดแคลน ได้แก่ • ธุรกิจรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Vehicles) ยังต้องการ อีกเป็นจ�ำนวนมากทั่วประเทศ มีโอกาสค่อนข้างดีเพราะมีผู้เล่นน้อยรายและ ในจ�ำนวนดังกล่าวก็ท�ำได้เพียงการขนส่งระยะทางสั้นๆ การรับจ้างขนส่งก็ยัง ไม่แพร่หลาย อีกทั้งการขนส่งทางบกด้วยรถไฟก็ยังไม่มีบริการการขนส่ง ควบคุมอุณหภูมิ ดังนัน้ การขนส่งด้วยรถควบคุมอุณหภูมจิ งึ เป็นช่องทางเดียว ในการน�ำผลผลิตออกจากแหล่งผลิตไปสูผ่ บู้ ริโภค ซึง่ การประเมินของทางการ อินเดียคาดว่าธุรกิจนี้น่าจะเติบโตได้อีก 6 เท่าตัว มาอยู่ที่ 52,800 ยูนิต จากที่มีจ�ำนวนรถขนส่งราว 9,000 ยูนิต และธุรกิจที่มีอยู่ก็ยังต้องพัฒนา อีกมากเพื่อให้รถมีประสิทธิภาพในการท�ำความเย็นและประหยัดพลังงาน รวมทั้งควรน�ำเทคโนโลยีขนส่งเทเลเมติกส์ (Telemetric) เข้ามาสร้างจุดเด่น ในการติดตามสินค้าตลอดเส้นทางขนส่ง • ธุรกิจห้องจัดเตรียมผลผลิต (Pack-House) มีโอกาสเติบโตสูง เป็นธุรกิจที่อยู่บริเวณแหล่งผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งธุรกิจนี้เป็นเสมือนจุดเริ่มต้น ที่จะท�ำให้ผลผลิตภาคเกษตรกรรมไปสู่ปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการเน่าเสียระหว่างการขนส่งสินค้าได้แต่เกษตรกรอินเดียไม่ได้ให้ความ ส�ำคัญกับขัน้ ตอนการล้างผลผลิต คัดขนาด ตัดแต่ง และบรรจุ โดยทางการอินเดีย คาดว่าด้วยปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรในปัจจุบันยังต้องเพิ่มจ�ำนวนห้องจัด เตรียมผลผลิตอีกไม่น้อยกว่า 70,000 ยูนิต จากมีอยู่เพียง 249 ยูนิต เท่านั้น • ธุรกิจห้องควบคุมสภาพแวดล้อม (Ripening Chamber) เป็นธุรกิจ ที่อยู่ปลายทางของสินค้าเกษตรก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดค้าปลีก-ค้าส่ง อีกทั้ง ยังตอบโจทย์ตลาดเพื่อการส่งออกได้เหมาะที่จะลงทุนในทุกพื้นที่ ซึ่งธุรกิจนี้

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

ต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการควบคุมอุณหภูมิความชื้นและปริมาณก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเพื่อให้สินค้าคงความสดและรับประทานได้ ในจังหวะที่พอเหมาะเมื่อถึงมือผู้บริโภค โดยทางการอินเดียคาดว่าต้องเพิ่ม ห้องควบคุมสภาพแวดล้อมอีกกว่า 8,000 ยูนิต จากที่มีเพียง 812 ยูนิต จึงจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิตผักและผลไม้ได้ดีกว่านี้ นอกจากนี้ การประกอบธุรกิจ Cold Chain ในอินเดีย ยังได้สทิ ธิประโยชน์ ทางภาษีเป็นพิเศษส�ำหรับการน�ำเข้าสินค้าทุน เช่น อุปกรณ์ห้องเย็น ฉนวน กันความร้อน และประตู-ม่านห้องเย็น โดยจัดเก็บภาษีน�ำเข้าร้อยละ 5 จากเดิ ม ร้ อ ยละ 10 รวมถึ ง การลดภาษี ส รรพสามิ ต ส� ำ หรั บ การน� ำ เข้ า ตู้คอนเทนเนอร์ท�ำความเย็นเหลือร้อย ละ 6 จากเดิมร้อยละ 12.5 ตลอดจน อานิสงส์จากมาตรการสนับสนุนการลงทุนในภาพรวม ไม่วา่ จะเป็นการลดภาษี การบริการเหลือเพียงร้อยละ 0.5 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ตามแผนงบประมาณของอินเดียประจ�ำปี 2559-2560 และยกเลิกการเก็บ ภาษี บ ริ ก ารเดิ ม ที่ อ ยู ่ ใ นอั ต ราร้ อ ยละ 14 ตั้ ง แต่ วั น ที่ 1 เมษายน 2559 นอกจากนี้ ในกรณีที่เป็นธุรกิจเริ่มใหม่ (Start-up) ที่จดทะเบียนระหว่าง เมษายน 2559 - มีนาคม 2562 ได้สิทธิยกเว้นภาษีก�ำไรเป็นเวลา 3-5 ปี แม้วา่ อินเดียจะมีชอ่ งว่างให้พฒ ั นาธุรกิจ Modern Cold Chain ได้อกี มาก แต่การลงทุนในธุรกิจนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักส�ำหรับธุรกิจต่างชาติเพราะต้องใช้ เม็ดเงินค่อนข้างมาก ในการเช่าพืน้ ทีข่ นาดใหญ่ การก่อสร้างอาคารและลงทุน ในการวางระบบเครื่องจักรควบคุมอุณหภูมิ รถขนส่งด้วยความเย็นสินค้า กว่าจะคืนทุนก็ต้องใช้ระยะเวลานาน ทั้งยังต้องเตรียมแผนพัฒนาทักษะ

SPECIAL FOCUS แรงงานอิ น เดี ย ให้ มี ค วามเชี่ ย วชาญในธุ ร กิ จ นี้ และต้ อ ง ท�ำความเข้าใจกับกฎระเบียบซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ โดยสรุป ปัจจัยต่างๆ ล้วนชีว้ า่ ธุรกิจ Cold Chain ในอินเดีย ยังขาดแคลน และเป็นหัวใจส�ำคัญที่จะปลดล็อกให้ผลผลิต ภาคเกษตรกรรมและการผลิตสินค้าอาหารมีประสิทธิภาพ สูงสุด น�ำมาสูค่ วามมีเสถียรภาพของราคาสินค้าตามเป้าหมาย ของรัฐบาล จึงนับว่าธุรกิจนี้มีลู่ทางค่อนข้างสดใสส�ำหรับ นักลงทุนไทยที่มีความพร้อมเข้าไปมีส่วนร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ Modern Cold Chain ได้แก่ ธุรกิจคลังสินค้า ธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร หรือการพัฒนา เขตอุตสาหกรรมอาหาร ที่ให้บริการ Cold Chain ครบวงจร น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีสอดคล้องกับแรงสนับสนุนของ ทางการ และเปิดโอกาสรอนักลงทุนเข้าไปพัฒนาได้อีกมาก ธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิมีโอกาสแต่มีความท้าทายสูง ทั้งอุปสรรคจากโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่ท�ำให้ต้นทุน การขนส่ ง สู ง และการด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ ต้ อ งมี เ ครื อ ข่ า ยลู ก ค้ า เพียงพอจึงจะสามารถแข่งขันได้ธุรกิจแปรรูปอาหารของไทย ในอินเดียที่มีวางรากฐานมั่นคงมีโอกาสต่อยอดไปสู่กิจกรรม Modern Cold Chain ทัง้ ลักษณะทีต่ อบสนองธุรกิจของตนเอง และขยายธุรกิจให้บริการแก่ภายนอกได้ด้วย

ค่าสาธารณูปโภค ประกอบกับธุรกิจนี้จ�ำเป็นต้องมีเงินทุนหมุนเวียนที่แข็งแกร่งเพราะต้องใช้ ระยะเวลาคื น ทุ น ค่ อ นข้ า งนาน อี ก ทั้ ง อั ต ราดอกเบี้ ย ในระดั บ สู ง ที่ อ ยู ่ ร ้ อ ยละ 6.5 ก็ มี ผ ลต่ อ ต้ น ทุ น ทางการเงินเช่นกัน นอกจากนี้ การมองหาลูกค้าก็ยังต้องอาศัยช่องทางนักธุรกิจอินเดียเป็นตัวช่วย ท�ำตลาด นอกจากนี้ การเติบโตของ Cold Chain ในอินเดียที่ก�ำลังก้าวไปสู่รูปแบบ Modern Cold Chain นั้น เอื้อประโยชน์อีกด้านให้แก่ธุรกิจไทยที่ต้องใช้ประโยชน์จากธุรกิจนี้สามารถเข้าไปลงทุนได้อย่างมี ประสิทธิภาพในอนาคต อาทิ การผลิตและการแปรรูปสินค้าเกษตรกรรม การแปรรูปอาหาร เป็นไป โดยสะดวก ช่วยย่นระยะเวลาการขนส่ง ลดการสูญเสียระหว่างเส้นทางจากฟาร์มสู่ปลายทาง มือผูบ้ ริโภคหรือเข้าสูก่ ระบวนการแปรรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทัง้ ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้า ที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน

ธุรกิจนีอ้ าจเติบโตอีก 2 เท่าตัว แตะมูลค่าไม่ตำ�่ กว่า 18 พันล้านเหรียญ ในปี 2561 โดยธุรกิจห่วงโซ่ ความเย็นสมัยใหม่ (Modern Cold Chain) เป็น เทรนด์ ที่ ส อดคล้ อ งกั บ ความต้ อ งการในภาค เกษตรกรรมและการแปรรูปอาหารในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะในพื้ น ที่ เ ขตอุ ต สาหกรรมอาหาร ขนาดใหญ่ (Mega Food Parks) ที่เพิ่งจัดตั้ง โดยพื้นที่ที่มีโอกาสทางธุรกิจน่าจะอยู่ในบริเวณ Mega Food Parks ที่เหมาะแก่การเริ่มท�ำธุรกิจใหม่ในทุกประเภท ซึ่งการสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ด้วยการร่วมทุนกับนักธุรกิจ อินเดีย หรือการซื้อกิจการ (M&A) เป็นวิธีที่เอื้อประโยชน์แก่ นักลงทุน นอกจากนี้ การพิจารณาพื้นที่ที่มีเครือข่ายนักธุรกิจ ไทย มีตลาดขนาดใหญ่ และโครงสร้างพืน้ ฐานค่อนข้างพร้อม ในรัฐคุชราต รัฐอานธรประเทศ รัฐทมิฬนาฑู และรัฐมหาราษฏระ น่าจะเพิ่มโอกาสความส�ำเร็จได้มากกว่าในพื้นที่อื่น ทั้ ง นี้ อิ น เดี ย เป็ น ตลาดขนาดใหญ่ มี ช ่ อ งว่ า งให้ ธุร กิ จ โลจิ ส ติ ก ส์ เ ติ บ โตได้ อ ย่ า งไม่ ห ยุ ด ยั้ ง อี ก ทั้ ง เปิ ด กว้ า งแก่ นักลงทุนต่างชาติแต่ผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปลงทุน ก็นับว่ายังท้าทายอย่างมาก ซึ่งต้องชั่งน�้ำหนักองค์ประกอบ ด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานที่มีอยู่จ�ำนวนมากแต่ยังขาด ทักษะด้านการให้บริการ Cold Chain อย่างมีประสิทธิภาพ ต้ น ทุ น ค่ า เช่ า พื้ น ที่ ท� ำ ธุ ร กิ จ ค่ า ใช้ จ ่ า ยหมุ น เวี ย น เช่ น AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SPECIAL FOCUS Since the cold chain industry in India has been liberalised in 2011, this business has developed at a faster pace or rose by three folds in value from USD 3 billion to USD 9 billion in 2015. Over 3,500 players are in the industry. Of these, about 30 players are large entrepreneurs, which less than 10 entrepreneurs provide integrated cold chain service, while the remaining are small and medium-sized farmers, which have their own cold storage. Only few amounts of these have their own chill transportations. Thus, only 3.8 percent of vegetables and fruits have been shipped through cold storage. The percentage is very low compared to developed countries, which about 85-90 percent of vegetables and fruits have been shipped through cold chain system. This issue has become a beginning of high food price problem amidst the climate change, and main reason for the inflationary problem, which has been the country’s major difficult for so long. Inflation rate in India has climbed up to 10 percent since 2009 and remaining in a rate since then, despite the rate has edged down slightly following lower oil price in the global market.

Kasikorn Research Center foresees that cold chain business in India has wide gap for developing to serve demand of the current market following the India’s government policy to stimulate the production in agriculture sector during the 2016-2017 fiscal year, which the government has allocated more budget or an increase by 77 percent compared to the previous fiscal year. Moreover, the “Make in India” policy to promote and upgrade food production efficiency in India will also supported this business growth. The center expected that the cold chain industry in India will active and grow by another one fold to worth USD 18 billion in 2018, from about USD 9 billion in 2015. The market will drive up demand for the “Modern Cold Chain” business, which have high international standard to achieve effective management throughout the production chain.

Motivation from the manufacturing sector pushes up the Modern Cold Chain India’s agricultural, livestock, fisheries and food processing sectors are accounted for 18.4 percent of economy. India is the world’s sixthlargest exporter of vegetables and fruits, and the world’s second largest producer (after China). Each year, the production capacity meets 164 million tonnes and 91 million tonnes, respectively. With this high figure, it can attract foreign investors to invest in the country. The government’s

India’s Modern Cold Chain Enhance Business Opportunity

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

SPECIAL FOCUS policy to reform the agricultural sector and “Make in India” policy, which focuses on deepening restructure the manufacturing sector as well as the establishment of a Mega Food Parks to strengthen food production, those factors have stimulated the world’s leading food producers enter to the market. Those factors have also increased the demand for modern cold chain, major infrastructure linking agriculture to food production and consumption sectors in the future. Modern cold chain is different from businesses style in India. It needs to focus on many details. For instance, they needs to concern on the use of building materials for warehouses with get the ISO-certified, or using food grade materials that meet GMP and HACCP safety standards, while can prevent fungal and bacterial, concern on environmental by using CFC-free materials, use technology to reduce energy costs by using thermal materials, use of anti-leakage devices, switch to use LED bulbs and solar cell, as well as connecting businesses to the digital world, by installing RFID chips for fast checking for inventory. Therefore, according to the Kasikorn Research Center, it has foreseen that with strong demand of the market, it is an opportunity for potential Thai businesses to invest there. Two forms of investment in the Modern Cold Chain business in India can be done as follows: 1. Merger and Acquisition (M&A) with existing businesses in India as one of the most convenient way and benefit both parties. With this method, the entrepreneur can quickly get involved in the business. This type of investment is suitable for businesses that see opportunities for the development of cold storage which have over 7,129 units in India, and have combined capacity up to 32.8 million tonnes, which 75.4% of these figure is used for freezing potato. The country has still lack of technology and management techniques in this business. Investing in the cold storage business, investors can choose the investment areas that correspond to the targeted market. After that they can develop the business to meet the demand for other agricultural products, besides potato. Investors should allocate cold storage for multi-purpose or make the business as cold public warehouse for renting and serving small enterprises to freeze their agricultural products as Indian entrepreneurs are lacking expertise to control temperature and humidity for other agricultural products. Therefore, the strategies to manage the costs efficiency and modern the cooling technology will help expand businesses in the domestic market. Joint ventures or acquisitions should be considered to create a warehouse network in each area that will allow efficient distribution of goods. They should also select the area to match the purpose of the business. For instance to penetrate to the urban consumers, while many foreign retailers such as from the United States, Europe, and United Arab Emirates are currently expanding their branches to new emerging cities or secondary cities to Punjab, Haryana, Madhya Pradesh and Gujarat, while businesses focus on export markets and new markets in the southern, western and eastern parts of the country, which are important economic area in Maharashtra, Tamil, Nadu, or if businesses catching in agricultural market, they will go to Madhya Pradesh.

2. Establishing a New Business to Fulfill the Existing Demand. This strategy is quite challenge and risk for inexperienced area. However, it is advantages that these businesses are still not competitive. In particular, the investment in the Mega Food Parks, which are accelerating development to become modern food production infrastructure, and are ready for capital subsidies with special interest rates and the grace period of payment. Currently, Indian government has already approved the establishment of Mega Food Parks in 17 areas such as in Haryana, Punjab, Gujarat, Bihar, Telahan, Orissa, Tamil Nadu, Maharashtra, and Kerala States, while other 25 areas are waiting for approval. Type of businesses that India are still lacking are as follows: • Reefer Vehicles This business is still in great need throughout the country. Enterprises have greater opportunity in this business as few players, while existing players provide short distance service. Transportation service is not widespread, while the temperature control

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SPECIAL FOCUS transportation service on railway is not available. Thus, the transport with temperature controlled vehicles is the only way to transfer agricultural products from production to consumers. Following India’s government’s estimation, it has forecasted that the number of reefer vehicles will grow by six folds from 9,000 units to 52,800 units. Existing businesses will need to develop to make the cooling system more efficient and save more energy, while they should also adopt the telemetric technology for increasing its efficiency in tracking system along the transit route. • Pack-House Business has high growth potential. This business is in the area of a gricultural production. This business is the starting point to make the agricultural production reach the destination effectively, and help reduce rotten products during shipping. However, Indian farmers are not aware of th e importance of cleansing, selecting, cutting and trimming, and packing. India government is expected to increase the number of production rooms to not less than 70,000 units from only 249 units in current. • Ripening Chamber is the last businesses along the agricultural supply chain before entering to the retail and wholesale market. This type of business can serve the export market demand and suitable to invest in all areas. To do this kind of business, investors need to concern highly on the temperature and humidity control, as well as carbon dioxide level in the air to ensure that the products stay fresh and edible at the right pace when it reaches consumers. The Indian authority is expected to increase the number of ripening chamber from the current of only 812 units to 8,000 units in the future, aiming to add more value added for fresh fruits and vegetables. Moreover, the cold chain business in India will enjoy special tax privileges for importing capital goods such as cold storage equipment, insulation, and cold curtains (PVC Strip curtain). The import tax rate will be reduced from 10 percent to 5 percent, while the excise tax for importing of refrigerated containers will be down from 12.5 percent to 6 percent, thanks to the overall investment promotion support measures which have decreased service tax to 0.5 percent since June 1, 2016 according to the Indian budget plan for 2016-2017 and the cancellation of the existing service tax at the rate of 14 percent since April 1, 2016. In addition, for Start-up businesses, which have registered their business license between April 2016 to March 2019, will get profit tax exemption for 3-5 years. Although India has a gap to develop modern cold chain business, to invest in this business is not easy for foreign investors because it needs huge amount of investment capital for renting large area, constructing buildings and investing in the installation system for temperature control and reefer vehicles. It takes a long time in order to get return of investment. Enterprises should also prepare a plan to improve skills for Indian labours to be proficient in this business, while they need to understand the rules and regulations, which are vary in each state. In conclusion, every factor indicates that India is still shortage of the cold chain business. This business is the key to unlock problems in farming and food production, and help increase management efficiency, leading to goods price stabilization in accordance to the government’s target. Thai investors, who are ready to take part in cold chain business, have bright future to do this business in India as follows:

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

Warehouse business, integrated logistics business, or development of food industry zone, which provide the full-service cold chain, those businesses should get well received in line with the government’s support to open an opportunity for investors to help develop the industry. Thai investors have good opportunity to invest in the reefer vehicles or temperature controlled transportation businesses, but it still has many challenges. Those obstacles are such as infrastructure, which need high cost of production, while they need to ensure sufficient number of customers along the supply chain so that they can compete in the market. The Thai food processing business in India, which has a strong fundamental, has the opportunity to expand into modern cold chain business for serving both their own business lines, as well as other businesses. The areas where have great business opportunities are likely to be in the Mega Food Parks, which is suitable for every new businesses. The establishment of a logistics network by forming a joint venture with Indian businessmen, or make a merger and acquisition (M & A) is a way to facilitate investors. In addition, to consider invest in the area with having Thai businessmen network, have large market size, and good basic infrastructure development such as in Gujarat, Andhra Pradesh, Tamil Nadu, and Maharashtra, these areas should increase the chances for successful businesses than in other areas.

The value of this business could grow by double to at least US$ 18 billion in 2018. Modern cold chain is a trend that is consistent with demand in the agricultural and food processing sectors in the future, especially in the newly established Mega Food Parks area. India is a big market. There are wide gap for logistics business to grow continuously as this businesses are open widely for foreign investors. Yet, for Thai entrepreneurs, it is still very challenging for them. Thai investors need to weigh on various factors, including large number of labours but still lack of skills, especially for cold chain service, cost of rental fee, and turnover costs such as utilities. This business also requires strong working capital because it takes a long period to get return of investment. Also, high interest rate at 6.5 per cent is a negative impact on financial costs. In addition, they need to rely on Indian business people to help seeking for customers as local people know the market well and know which marketing tool have high efficiency to reach consumers. In addition, the growth of the cold chain business in India, which is moving towards the modern cold chain model, is another boon for Thai businesses that need to take advantage of this business to invest effectively in the future, such as for manufacturing and processing of agricultural products, and food processing. This will help reduce logistic time, reduce losses during shipping from farm to end-consumers or to processing procedure. It also reduces the cost of shipping, which is one of major problems in current.

SPECIAL INTERVIEW กองบรรณาธิการ Editorial Team

Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com

บ้านแห่งนวัตกรรม…งานวิจัยเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก กลาง หรือใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น หน้าเก่าและเก๋าในวงการ หรือมือใหม่ปา้ ยแดง หลายท่านอาจมีคำ� ถาม… มีไอเดีย แต่ไม่มตี ลาด…หรือ แม้แต่การสานต่อธุรกิจของครอบครัว ซึง่ ต้องปัดฝุน่ ขัดสนิม ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.โสภาค สอนไว ผู้ประสานงานชุดโครงการ Innovative House

Assistant Professor Dr.Sopark Sonwai Coordinator of Innovative House

ค� ำ ถามเหล่ า นี้ อ าจถู ก คลายปม หรื อ จุ ด ประกายความฝั น ใหม่ ๆ ได้ กั บ ชุดโครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House” ซึง่ เป็นหนึง่ ในชุดโครงการ ภายใต้ฝ่ายอุตสาหกรรม ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) “ในวันนี้ สกว. ได้จับมือกับโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของ อุตสาหกรรมไทย (ITAP) ส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมให้การสนับสนุนทุนวิจัยส�ำหรับ SMEs เพื่อพัฒนาศักยภาพของ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นการสร้าง แต้มต่อทางธุรกิจ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.โสภาค สอนไว ผู้ประสานงานชุด โครงการ Innovative House กล่าว พร้อมเสริมว่า เป้าหมายของโครงการนี้ คือ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างเทคโนโลยีและสินค้านวัตกรรม ตลอดจน ศึกษาองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบทางการเกษตร ลดต้นทุน ในการผลิตให้กบั กลุม่ อุตสาหกรรมอาหาร เครือ่ งส�ำอาง เวชส�ำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “เราต้องการสนับสนุนการใช้นวัตกรรมเพื่อผลักดันธุรกิจของผู้ประกอบการ ไม่วา่ คุณอยากจะแก้ปญ ั หาผลิตภัณฑ์เดิม เพิม่ ผลผลิต ลดต้นทุนในการผลิต หรือ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เราดูแลให้จนได้สูตรที่ผู้ประกอบการสามารถน�ำไปผลิต เพื่อจ�ำหน่ายได้” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.โสภาค เล่า ในด้ า นงบประมาณสนั บ สนุ น นั้ น ชุ ด โครงการ “การพั ฒ นาผลิ ต ภั ณ ฑ์ Innovative House” มีงบสนับสนุน 100 ล้านบาท โดยแบ่งประเภทของทุนวิจัย ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มฟังก์ชัน เน้นการสร้างนวัตกรรม งานวิจัยเชิงลึก ใช้ระยะเวลาวิจยั 12-18 เดือน มีงบประมาณสนันสนุนจาก สกว. รวม 52 ล้านบาท ในแต่ละโครงการวิจัย สกว. สนับสนุนงบประมาณให้อย่างมากร้อยละ 80 และ งบประมาณจากผู้ประกอบการเองอย่างน้อยร้อยละ 20 ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของ เงินสด (In cash) ร้อยละ 10 และวัตถุดบิ หรือเครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการท�ำวิจยั (In kind) อีกร้อยละ 10 และ 2) กลุ่ม RPD หรือ Research and Product Development เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่หรือแก้ไขปัญหาเดิม ใช้ระยะเวลาวิจัย 10 เดือน มีงบประมาณสนับสนุนจาก สกว. และ ITAP ของ สวทช. รวม 48 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณของแต่ละโครงการวิจัยเป็น 480,000 บาท โดย สกว. และ ITAP 42

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

ของ สวทช. ให้การสนับสนุน 320,000 บาท และเป็นงบประมาณจากผูป้ ระกอบการ เอง 160,000 บาท โดยจะอยู่ในรูปแบบของเงินสด 80,000 บาท และวัตถุดิบ หรือเครื่องมือที่ใช้ในการท�ำวิจัยอีก 80,000 บาท “ในส่วนของกลุ่ม RPD จะแบ่งการท�ำงานเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ งานวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร การท�ำการตลาดเบื้องต้น และ การออกแบบบรรจุภณ ั ฑ์ตน้ แบบให้กบั ผูป้ ระกอบการ โดยหลังจากจบโครงการ วิจัยกับเราไปแล้ว เรายังติดตามว่าผู้ประกอบการขายสินค้าได้จริงหรือไม่ หรื อ ถ้ า มี ป ั ญ หาหรื อ อุ ป สรรคเราก็ พ ร้ อ มที่ จ ะให้ ก ารช่ ว ยเหลื อ ต่ อ ไป” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.โสภาค กล่าว นับเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ทีโ่ ครงการ Innovative House ได้ทำ� หน้าทีเ่ ป็น บ้านแห่งนวัตกรรมทีอ่ บอุน่ ไปด้วยทีมนักคิดไม่ตำ�่ กว่า 100 ท่าน ทัง้ ทีมนักวิจยั ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการตลาด และทีมนักออกแบบ ที่พร้อม ให้ค�ำปรึกษาและค�ำแนะน�ำแก่ผู้ประกอบการ ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านงานวิจัยและ ได้รับตราสัญลักษณ์ Innovative House ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม อาทิ บริษทั บานาน่า โซไซตี้ จ�ำกัด บริษทั มูรา่ ห์ แดรี่ จ�ำกัด บริษทั ขนมขบคิด จ�ำกัด บริษัท โทฟุซัง จ�ำกัด บริษัท ป้อนค�ำหวาน จ�ำกัด และอีกหลากหลายบริษัท รุน่ พีท่ ผี่ า่ นโครงการนีไ้ ปแล้วจะกลับมารวมกลุม่ เป็นคลัสเตอร์ พร้อมถ่ายทอด และแลกเปลีย่ นประสบการณ์ดงั่ พีส่ อนน้อง เพือ่ เพิม่ ศักยภาพให้กบั ผูป้ ระกอบการ ในรุ่นต่อไป…ผลส�ำเร็จกว่า 10 ปีที่เป็นรูปธรรมนี้จึงตอบโจทย์โครงการที่ว่า “วิจัยได้…ขายจริง” ได้เป็นอย่างดี

ผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสำ�หรับโครงการรุ่นที่ 3 ติดต่อได้ที่ สำ�นักประสานงานชุดโครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House” สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.โสภาค สอนไว โทรศัพท์ 034 109 797 โทรสาร 034 272 194 มือถือ 08 3016 0133 อีเมล์ ssonwai@gmail.com หรือ innovativehouseoffice@gmail.com

SPECIAL INTERVIEW We can get answers and spark some creative idea with the project named “Innovative House Product Development”, one of a series of projects under the industry department of the Thailand Research Fund (TRF). “TRF and the Industrial Technology Assistant Program (ITAP) of the National Science and Technology Development Agency (NSTDA) have jointly supported research scholar for SMEs, which is aimed to develop the potential of enterprises in the food and related industries, as well as enhance business handicap,” Assistant Professor Dr.Sopark Sonwai, Coordinator of Innovative House said. He added that the goal of this project is R&D of the products, build technology and innovative products, as well as study paradigm in order to add value to agricultural products, reduce production costs for food industry, cosmetics, and dietary supplements. ”We would like to support the use of innovation to drive up businesses growth. Whether you want to solve existing product problems, increase productivity, reduce production costs, or even develop new products, we take care to get the formula which can be further expanded for commercial scale,” said Assistant Professor Dr.Sopark.

Research to Increase Business Opportunities Whether food and beverage industry entrepreneurs is small, medium or large, or whether they are new or last-long in the industry, many may have questions, have idea but no market, or a family business, which they need to change and create new idea to serve demand of the market.

In terms of budget support, Innovative House Project has funded THB 100 million. The fund could be divided into two pillars; 1) Functional group focusing on innovation, in-depth research for research period between 12-18 months with a budget of THB 52 million from TRF. In each project, TRF provides support by 80 percent of the budgets, while enterprises have supported their own budget by at least 20 percent, which are in cash (10 percent) and another 10 percent is raw materials or research tools (in-kind) and 2) The RPD Group or Research and Product Development emphasizing on new product development or problem solving. The research period is 10 months. The total budget

funded by TRF and ITAP of NSTDA worth THB 48 million. Each project will be funded worth THB 480,000. TRF and ITAP of NSTDA provides support worth THB 320,000 and enterprises have supported their own budget THB 160,000, which are in cash (THB 80,000) and raw materials or research tools (THB 80,000). ”The RPD group will be divided into three main categories; food science and technology research, primary marketing, and design of prototype packaging. After the end of the research project, we will continue to follow up the case whether enterprises can sell the product to the market or not. We also give further support if enterprises face any problems.” Assistant Professor Dr.Sopark said. For over a decade, the Innovative House Project has served as the home of innovation with a team of creative for more than 100 people which are a team of scientific and technological researchers, marketing and design team. All of them are prompted to provide consultants and suggestions for entrepreneurs. Many successful products from Innovative House and products that get certification and logo from Innovative House are such as Banana Society Co., Ltd., Murrah Dairy Co., Ltd., Kanom Kobkid Co., Ltd., Tofusan Co., Ltd., Pon Kum Wan Co., Ltd. and etc. Companies, which have already joined the project are gathering as a new business cluster. They are ready to transfer know-how and experience to new comer in order to help increase efficiency for next generation enterprises. With the concrete achievement of more than 10 years, it can prove that research work can work well for businesses.

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SMART PRODUCTION ทรงวิทย์ หงสประภาส Throngvid Hongsaprabhas

Manager – Food & Beverage Business Sahapan Century Co., Ltd. (A Company of Sahapan Group) throngvid.h@sahapan.co.th

ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน

ในถุงรีทอร์ท

นวัตกรรมยืดอายุการเก็บรักษาโดยไม่ต้องอาศัย วัตถุกันเสียและตู้เย็น

ในปัจจุบนั นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตอาหารมีมากมายและหลากหลาย ให้ผปู้ ระกอบการเลือกใช้ตามความเหมาะสมของจุดประสงค์ทแี่ ตกต่างกันออกไป เช่น การผลิตอาหารส�ำเร็จรูปพร้อมรับประทาน การลดการใช้สารเคมีในอาหาร ตามเทรนด์ของโลก การยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์อาหารโดยเน้นเรือ่ ง การไม่ใส่วตั ถุกนั เสียและไม่ตอ้ งแช่ตเู้ ย็น เป็นต้น หากมุง่ หวังนวัตกรรมอาหาร ทีม่ คี ณ ุ สมบัตเิ หล่านี้ เทคโนโลยีการผลิตอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ท ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสามารถ น�ำไปใช้เพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรมอาหารได้ในอนาคต

ถุงรีทอร์ทคืออะไร?

ถุงรีทอร์ท (Retort pouch) เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีคุณสมบัติทนต่อความร้อน และความดันสูง น�ำมาใช้ในกระบวนการผลิตอาหารส�ำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ซึ่ ง ผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ าหารพร้ อ มรั บ ประทานในถุ ง รี ท อร์ ท นี้ เ ป็ น การแปรรู ป อาหาร ด้วยความร้อน (Thermal processing) เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในอาหาร โดยบรรจุ ในภาชนะปิดสนิท (Hermetically sealed container) ผ่านกระบวนการควบคุม อุณหภูมิ ระยะเวลา และความดันทีเ่ หมาะสม จัดเป็นวิธกี ารฆ่าเชือ้ ด้วยความร้อน ในระดับ Commercial sterilization ท�ำให้มั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย เมื่อผ่านกระบวนการผลิตดังกล่าวแล้ว สามารถยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ อาหารได้ยาวนาน 12-24 เดือน โดยไม่เน่าเสียหรือเป็นอันตรายจากเชื้อจุลินทรีย์ ไม่ต้องใช้วัตถุกันเสียหรือแช่ตู้เย็น

พัฒนาการของอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ท

เทคโนโลยีการผลิตอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ท เริ่มพัฒนาขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1960 ซึ่ ง สหรั ฐ อเมริ ก าเป็ น ประเทศแรกๆ ที่ น� ำ เทคโนโลยี นี้ ม าใช้ ใ น อุตสาหกรรมการผลิตอาหาร ทั้งอาหารส�ำหรับนักบินอวกาศ และเสบียงอาหาร ส�ำหรับกองทัพในช่วงปี ค.ศ.1965-1968 จนกระทั่งองค์การอาหารและยาของ สหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้รบั รองการใช้ถงุ รีทอร์ทส�ำหรับผลิตอาหารพร้อมรับประทาน ในอุตสาหกรรมครัวเรือนราวปี ค.ศ.1980 ต่อมาเทคโนโลยีนี้เริ่มเป็นที่นิยม 44

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

และใช้อย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น จัดเป็นหนึ่งใน ประเทศที่ นิ ย มบริ โ ภคผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ าหารพร้ อ มรั บ ประทานในถุ ง รี ท อร์ ท ซึ่งผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป โดยมีการวาง จ�ำหน่ายในท้องตลาดมากกว่า 1,000 ประเภท ส�ำหรับประเทศไทยเริ่มมี การวางจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ทตามท้องตลาด มากขึ้น แต่โดยส่วนมากเป็นผลิตภัณฑ์น�ำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องด้วย เทคโนโลยีการผลิตพื้นฐานของอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยที่ผ่านมา มักจะใช้กระบวนการแปรรูปอื่นๆ เช่น อบแห้ง แช่เย็น แช่เยือกแข็ง หรือ อาหารกระป๋อง เมือ่ เปรียบเทียบกับอาหารพร้อมรับประทานประเภทอืน่ ๆ แล้ว อาจกล่าวได้ว่า ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ทยังไม่เป็น ที่แพร่หลายส�ำหรับผู้บริโภคคนไทยมากนัก อย่ า งไรก็ ต าม ในปั จ จุ บั น มี ผู ้ ป ระกอบการในประเทศไทยหลายราย เริม่ เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ท เพื่ อ การส่ ง ออกในตลาดต่ า งประเทศมากขึ้ น ตลอดจนการประยุ ก ต์ ใ ช้ เทคโนโลยีนเี้ พือ่ สร้างนวัตกรรมอาหารใหม่ๆ เพือ่ เติมเต็มช่องว่างทางการตลาด ส�ำหรับอุตสาหกรรมอาหารในประเทศอย่างต่อเนื่อง

หลั ก การยื ด อายุ ก ารเก็ บ รั ก ษาอาหารพร้ อ มรั บ ประทาน ในถุงรีทอร์ท

หลั ก การยื ด อายุ ก ารเก็ บ รั ก ษาอาหารพร้ อ มรั บ ประทานในถุ ง รี ท อร์ ท นั้ น คล้ า ยกั บ อาหารกระป๋ อ ง กล่ า วคื อ เป็ น การน� ำ อาหารที่ เ ตรี ย มกึ่ ง สุ ก (Pre-cooked) น�ำไปเข้าเครื่องฆ่าเชื้อจุลินทรีย์อันเป็นสาเหตุที่ท�ำให้อาหาร เน่าเสีย โดยบรรจุภัณฑ์ถุงรีทอร์ทมีคุณสมบัติในการป้องกันไม่ให้อากาศและ เชือ้ จุลนิ ทรียเ์ ข้าไปสัมผัสกับอาหารหลังจากผลิตภัณฑ์อาหารผ่านกระบวนการ ฆ่าเชื้อแล้ว ด้วยคุณสมบัติเด่นเหล่านี้ ท�ำให้สามารถยืดอายุการเก็บรักษา อาหารได้นานถึง 12-24 เดือน โดยไม่ต้องอาศัยการแช่เย็นหรือใช้วัตถุกันเสีย ซึ่งปัจจัยหลักที่ท�ำให้อาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ทสามารถเก็บรักษา ได้ยาวนาน มี 2 ปัจจัย คือ

SMART PRODUCTION ปัจจัยที่ 1) ถุงรีทอร์ท: ถุงรีทอร์ทเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ปิดผนึกสนิทชนิด อ่อนตัว หรือที่นิยมเรียกว่า Flexible can ประกอบด้วยแผ่นฟิล์มหลายชั้น ทีผ่ นึกเชือ่ มแน่น (Laminate) และขึน้ รูปเป็นถุง (Pouch) โดยแผ่นฟิลม์ สามารถ ทนความร้อนได้สูงกว่า 121 oC ชั้นฟิล์มที่เป็นส่วนประกอบของถุง ได้แก่ ชั้นในเป็นชั้นโครงสร้างหลัก ซึ่งเป็นชั้นหนาที่สุด สัมผัสกับอาหารโดยตรง (Physical food contact layer) มั ก ประกอบไปด้ ว ย พอลิ พ รอพิ ลี น (Polypropylene; PP) พอลิเอทิลนี เทเรฟทาเลต (Polyethylene Terephthalate; PET) ชั้นกลางเป็นชั้นป้องกันการซึมผ่าน (Barrier layer) มักประกอบด้วย แผ่นฟิล์ม EVOH ซึ่งช่วยป้องกันการผ่านเข้าออกของก๊าซและความชื้น และ ชั้ น นอก (Outer layer) มั ก ใช้ วั ส ดุ ที่ ช ่ ว ยเรื่ อ งความแข็ ง แรง ทนทาน มีความเหนียว เช่น พอลิเอสเทอร์ (Polyester) รวมถึงสามารถพิมพ์ข้อมูล หรือรูปภาพบนฟิล์มได้ ปัจจัยที่ 2) การให้ความร้อนในระดับสเตอริไลซ์เพือ่ ฆ่าเชือ้ จุลนิ ทรีย์ อันเป็นสาเหตุของอาหารเน่าเสีย: กระบวนการสเตอริไลซ์เป็นการให้ ความร้อนแก่อาหารที่บรรจุในภาชนะปิดสนิท ที่อุณหภูมิและระยะเวลา เพียงพอส�ำหรับการท�ำลายเชื้อจุลินทรีย์ เหมาะสมกับอาหารแต่ละชนิด ซึ่งการสเตอริไลซ์ในอุตสาหกรรมอาหารจะท�ำในระดับท�ำลายเชื้อที่เป็น อั น ตรายต่ อ ผู ้ บ ริ โ ภค เรี ย กว่ า การฆ่ า เชื้ อ ทางการค้ า (Commercial sterilization) โดยมุ่งท�ำลายแบคทีเรีย Clostridium botulinum เป็นหลัก รวมถึงจุลินทรีย์ที่ท�ำให้เกิดโรค (Pathogens) และจุลินทรีย์ที่ท�ำให้อาหาร เสื่อมคุณภาพ (Spoilage microorganism) ถึงแม้เทคโนโลยีการผลิตอาหารในถุงรีทอร์ทจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษา อาหารได้ยาวนานโดยไม่เน่าเสียจากจุลชีพ นอกจากปัจจัยข้างต้นทีก่ ล่าวมานัน้ การเก็บรักษาอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ท ควรค�ำนึงถึงลักษณะทาง กายภาพของอาหารควบคู่กับการตรวจเชื้อจุลินทรีย์ด้วย อาทิ กลิ่น สี รสชาติ และเนือ้ สัมผัสของอาหารทีอ่ าจเปลีย่ นแปลงไปเมือ่ เก็บรักษาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นจึงควรก�ำหนดอายุการเก็บรักษาของสินค้าให้เหมาะสม เพื่อให้อาหาร ดูน่ารับประทานเมื่อถึงมือผู้บริโภค

ข้อจ�ำกัดของการผลิตอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ท

โดยทั่วไปแล้วเทคโนโลยีการผลิตอาหารมักมาพร้อมกับข้อจ�ำกัด เทคโนโลยี การผลิตอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ทก็เช่นกัน กล่าวคือ ความเหมาะสม ในการน�ำมาประยุกต์ใช้กับอาหารแต่ละประเภท ได้แก่ อาหารทอดหรืออบ ทีต่ อ้ งการให้เนือ้ สัมผัสของอาหารคงความกรุบกรอบไว้ ซึง่ อาหารพร้อมรับประทาน ในถุงรีทอร์ทจะไม่สามารถคงคุณลักษณะนั้นไว้ได้ นอกจากนี้ อาหารพร้อม รับประทานในถุงรีทอร์ทอาจมีลักษณะแตกต่างจากอาหารปรุงสด วัตถุดิบ บางอย่างอาจหดตัวเมื่อได้รับความร้อน เช่น กุ้ง หรือวัตถุดิบบางประเภท

ไม่สามารถทนต่อสภาวะการฆ่าเชือ้ ทีร่ นุ แรงได้ อาจส่งผลให้อาหารนิม่ หรือเละ เช่น มะเขือเทศฝานบาง มะเขือเปราะ เป็นต้น ด้านคุณค่าทางโภชนาการของอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ท เป็นที่ทราบกันว่าการปรุงอาหารสดโดยใช้ความร้อนในระดับหุงต้ม ส่งผลให้ เกิดการสูญเสียวิตามินในอาหาร ซึ่งการผลิตอาหารพร้อมรับประทานใน ถุงรีทอร์ทที่ต้องใช้ความร้อนสูงที่ระดับสเตอริไลซ์เพื่อท�ำลายเชื้อจุลินทรีย์นั้น ยากทีจ่ ะรักษาคุณค่าทางโภชนาการของอาหารกลุม่ วิตามินไว้ให้ครบถ้วนเช่น เดียวกัน อย่างไรก็ตาม อาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ทสามารถคงคุณค่า ของอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และไฟเบอร์ ได้ในปริมาณ ใกล้เคียงตามเดิม

แนวทางและโอกาสของผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ าหารพร้ อ มรั บ ประทาน ในถุงรีทอร์ท

อุตสาหกรรมการผลิตอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ทนัน้ ทัง้ ผูป้ ระกอบการ ทีเ่ ป็นผูผ้ ลิตเองหรือผูว้ า่ จ้างผลิต จ�ำเป็นต้องท�ำความเข้าใจในอุตสาหกรรมดังกล่าว อย่างถี่ถ้วนและมองปัจจัยต่างๆ ให้รอบด้าน ความรู้ด้านการผลิตในระดับ อุตสาหกรรม ด้านอาหาร การวิเคราะห์กลุม่ เป้าหมาย และกฎหมายทีเ่ กีย่ วข้อง ถือเป็นสิ่งที่ต้องตระหนัก โรงงานผู้ผลิตจะต้องมีใบอนุญาตการผลิตตามกลุ่ม ประเภทของอาหารนัน้ ๆ รวมถึงต้องมีบคุ ลากรทีไ่ ด้รบั การรับรองเป็นผูค้ วบคุม การผลิต (Retort supervisor) เพือ่ ให้สามารถด�ำเนินการผลิตและขึน้ ทะเบียน ผลิตภัณฑ์อาหารกับส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ถูกต้อง ตามกฎหมาย นอกจากนี้ ควรค�ำนึงถึงการวิเคราะห์ตลาดและศึกษารูปแบบ ธุรกิจ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น ตลาดอาหารเด็ก ตลาดอาหารผู้สูงอายุ ตลาดอาหารสุขภาพ ที่ให้ความส�ำคัญกับคุณสมบัติ ด้านปราศจากเชือ้ เป็นพิเศษ เป็นต้น รวมถึงวางแผนแนวทางธุรกิจทีเ่ หมาะสม กับเทคโนโลยีรีทอร์ท ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการคลังสินค้า การขนส่ง ตลอดจนการจัดจ�ำหน่ายจนถึงมือผูบ้ ริโภคโดยไม่ตอ้ งอาศัยตูแ้ ช่เย็น ปัจจุบันภาครัฐมีนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตร นวัตกรรม สนับสนุนส่งเสริมแนวคิดการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เพือ่ เพิม่ ศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารในระดับโลก ซึง่ นอกจาก การสรรค์สร้างประเภทอาหารและมุมมองด้านตลาดใหม่ๆ แล้ว เทคโนโลยี การผลิตอาหารพร้อมรับประทานในถุงรีทอร์ท ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของ ผูป้ ระกอบการอุตสาหกรรมอาหารไทยทีส่ ามารถช่วยพัฒนานวัตกรรมอาหาร ในรูปแบบที่หลากหลาย และน�ำไปประยุกต์ต่อยอดกับธุรกิจอาหารไทยได้ ในอนาคต

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SMART PRODUCTION

Extended Shelf Life Innovation without Preservative and Freezer Presently, there are various food production innovations and technologies provided for entrepreneurs to apply upon their purposes i.e. ready-to-eat foods production, reducing the use of food chemicals following the world trend, extending of food products shelf life without using of preservatives and freezers, etc. Focusing on foods innovation with these qualifications, retort pouch technology for ready-to-eat foods can be deemed as an interesting alternative and serving consumers’ satisfaction, also, it can be developed and integrated as food innovation for future. What is Retort Pouch?

Retort pouch is high temperature and pressure resistant food containers used in ready-to-eat food processing. The ready-to-eat food products are food thermal processing to destroy microorganisms in food by using fully sealed container (Hermetically sealed container) through a process of controlling temperature, duration and pressure which is sterilization in high level (Commercial sterilization) to ensure the good hygiene. Once the products have been made, it can extend the shelf life of foods to 12-24 months, it doesn’t need preservatives and freezers without causing food spoilage or microorganisms harmful.

Development of Ready-to-Eat Foods in Retort Pouch

Retort pouch technology for ready-to-eat products has been invented in 1960. This technology was applied on foods production by the United States of America in 1965-1968 for astronaut food production and army provisions production. In 1980, U.S. Food and Drug Administration (USFDA) has certified the use of retort pouch technology for ready-to-eat foods for household industry. Afterward this technology has become well-known and widespread in many countries over the world such as Japan is one of the countries who favor to consume the ready-to-eat foods which can be generally found in their markets for more than 1,000 items. On the other hand, not so many years that Thailand interest in this technology, putting on the market of ready-to-eat foods in retort pouch has increased, but it mainly imported from many countries. This may be due to the fundamental food production of Thailand usually be conceived of other food processing i.e. dried, chilled, frozen or canned foods; if compare to another kind of ready-to-eat foods, it can be deduced that these are not well-known products for Thai consumers. However, many of Thai entrepreneurs has aimed to invest in food industry especially on exported ready-to-eat foods in retort pouches including integration of this technology to continuously create new food innovation to fulfill the marketing gaps of domestic food manufacturing.

Factors of Extending Shelf Life of Ready-to-Eat Food in Retort Pouch

Extending shelf life of ready-to-eat food in retort pouch has similarity to canned food production process which is a sterilization of pre-cooked foods by retort machine to destroy microorganism in foods preventing it from the spoiling. Also, retort pouch has qualification of protecting against exposure to air and microorganism of sterilized foods. With these prominent qualifications, it can extend shelf life of the products to 12-24 months without a need of preservatives and freezers. Extended shelf life factors are;

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

• Retort Pouch: Retort pouch is a fully sealed container (Hermetically sealed container) in a form of pouch constructed with laminate of flexible films called flexible can. The films are tolerant to high temperature greater than 121°C. The pouch mainly consists of 3 films layers are inner layer, the thickest layer, it is a main structure of the pouch which directly contact with foods (Physical food contact layer) usually made of Polypropylene (PP) and Polyethylene Terephthalate (PET); middle layer, this barrier layer is usually made of EVOH films preventing passing of gas and moisture; finally, outer layer, it is constructed with durable, tough and printable materials such as Polyester, etc. • Heating in the Level of Sterilization: Sterilization is heating of foods in the fully sealed container to destroy microorganisms which are causes of food spoilage by controlling temperature and duration sufficient to kill those microorganisms and suit to each type of food. The industrial sterilization or commercial sterilization has aimed to be effective to eliminate harmful germs especially Clostridium botulinum, pathogens and spoilage microorganism.

SMART PRODUCTION

Even though the retort pouch technology for ready-to-eat foods helps to extend shelf life, besides those factors as mentioned above, storage of ready-to-eat products should be considered the physical appearance of foods concurrently with microbial analysis i.e. smell, color, taste and texture of food that might be changed by time. Therefore, the best before date should be defined properly in order to be best appetizing for customers.

Limitation of Ready-to-Eat Foods in Retort Pouch

Generally, food technology usually comes with limitation also the retort pouch technology as well which is the suitability of individually application i.e. fried or baked foods that are required to maintain crispy texture for a period of time which the ready-to-eat foods in retort pouch cannot satisfy to do so; besides, foods through the retort pouch technology may have differences from freshly cooked foods, some ingredients may shrink by heat such as shrimp or some cannot stand to the high treatment condition causing mushy or soft foods i.e. sliced tomato, eggplant, etc. Nutrition of ready-to-eat foods in retort pouch, it has been generally known that cooking heat does destroy vitamins of foods, also production of ready-to-eat foods in retort pouch with high temperature sterilization that aim to destroy microorganisms, it is hardly to keep all food vitamins as well. However, ready-to-eat foods in retort pouch are well-maintaining nutrition products especially the group of carbohydrates, proteins, fats and fibers in the similar amount as freshly cooked food.

Guidelines and Opportunity of Ready-to-Eat Foods in Retort Pouch

Ready-to-eat foods in retort pouch industry, either manufacturers or production employers need to understand it thoroughly and wisely consider all factors, information related to food manufacturing industry, ingredients, target analysis, and related laws and regulations. The manufacturers must be licensed to manufacture according to the type of foods including must have at least 1 retort supervisor to comply with the law and to register food products with the Food and Drug Administration (FDA). Moreover, market analysis and business model are things to be realized in order to meet the satisfaction of targeted consumers i.e. baby food, elderly food and healthy food, etc., that see hygienic food as first priority, including business know-how to evaluate suitability of business type to the technology which will support a cost reduction of warehouse management, transportation and products distribution. Presently, the government has a policy to promote Thailand as an innovative agricultural country, supporting agricultural products processing ideas to increase competitive potential of food industry in the world market. Besides food creativity and vision in new markets, retort pouch technology for ready-to-eat foods is an interesting alternative for Thai food industry entrepreneurs that help to develop food innovation in various ways and continually apply to Thai food business in the future.

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SMART PRODUCTION

บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จ�ำกัด Mettler-Toledo (Thailand) Limited MT-TH.CustomerSupport@mt.com

ระบบเครื่องชั่งน�้ำหนัก

และตรวจจับสิ่งปลอมปนในเครื่องเดียวกัน

ระบบการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายก่อนส่งมอบถึงมือลูกค้านั้น ยังคงได้รับการท้าทายใหม่ๆ จากผู้ใช้งานอยู่เสมอ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ การตรวจสอบ ความเร็วในการตรวจเช็ค ความสะดวกปลอดภัยใน การใช้งาน ตลอดจนความคุ้มค่าในการลงทุนและรองรับการเปลี่ยนแปลง รูปแบบการผลิตในอนาคต

ด้วยเหตุนี้ ระบบการตรวจสอบผลิตภัณฑ์จงึ ได้ถกู พัฒนาขึน้ เพือ่ ตอบสนอง ความต้องการของผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ระบบผสมผสานการตรวจสอบน�ำ้ หนักและตรวจจับโลหะทีท่ รงประสิทธิภาพ1 เป็นต้น ในปี 2560 ระบบผสมผสานการตรวจสอบน�้ ำ หนั ก และตรวจจั บ สิ่ ง ปลอมปนด้ ว ยรั ง สี เ อ็ ก ซ์ ใ หม่ ล ่ า สุ ด2 ได้ ก ้ า วออกสู ่ ต ลาด ระบบใหม่ นี้ มีประสิทธิภาพสูงขึ้นชัดเจน แต่ใช้พลังงานรังสีต�่ำที่สุดในโลกเพียง 20 วัตต์ โดยไม่ท�ำให้ความสามารถในการตรวจจับสิ่งปลอมปนลดลงเนื่องจากใช้

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

เทคโนโลยีการตรวจจับล่าสุดเข้ามาช่วย เพือ่ ชดเชยค่าพลังงานรังสีเอ็กซ์ให้อยู่ ในระดับที่เพียงพอต่อการตรวจจับสิ่งปลอมปน ซึ่งนับเป็นเครื่องเอ็กซ์เรย์2 ที่ปลอดภัยและประหยัดพลังงานที่สุดในปัจจุบัน ในเวลาเดียวกัน ระบบผสมผสานการตรวจสอบน�ำ้ หนักและตรวจจับโลหะ1 ที่ให้ความแม่นย�ำในการชั่งน�้ำหนักสูง พร้อมทั้งรองรับความเร็วสูงที่สุดถึง 600 ชิน้ /นาที อีกทัง้ ยังสามารถปรับเปลีย่ นขนาดสายพานได้หลากหลายขนาด ให้เหมาะสมกับขนาดของสินค้าที่ต้องการชั่ง ซึ่งสอดรับกับรูปแบบการผลิต สมัยใหม่ที่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์มากขึ้นกว่าในอดีต โดยผู้ผลิต สามารถลดค่าใช้จ่ายการลงทุนซื้อเครื่องจักรในอนาคต ได้ถูกคิดค้น พัฒนา จนสามารถออกสู่ตลาดส�ำเร็จ มากกว่ า นั้ น ในส่ ว นของการรวมความสามารถด้ า นการชั่ ง เข้ า กั บ การตรวจจับโลหะ ก็สามารถท�ำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเช่นกัน ซึ่ง การรวมกันครั้งนี้ก็เพราะ เครื่องตรวจจับโลหะนั้นแทบจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ของการตรวจจับสิ่งปลอมปน (จุดควบคุมวิกฤต) ในอุตสาหกรรมการผลิต อาหารและเครื่องดื่ม

SMART PRODUCTION

การออกแบบระบบผสมผสานการตรวจสอบน�้ ำ หนั ก และตรวจจับโลหะ1 ให้สามารถน�ำมาใช้งานได้ดนี นั้ ไม่เพียงแค่ ต้องน�ำหัวตรวจจับโลหะมาประกอบเข้ากับโครงสร้างของ เครื่องตรวจสอบน�้ำหนักเท่านั้น แต่ระบบแบบผสมผสาน จะสมบู ร ณ์ แ บบเมื่ อ มี ก ารบู ร ณาการผสมผสาน User Interface ของทัง้ ระบบเข้าไว้ดว้ ยกัน เพือ่ ให้ผใู้ ช้งานสามารถ ปรั บ ตั้ ง ค่ า การท� ำ งาน พร้ อ มทั้ ง แสดงผลการตรวจสอบ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ไ ว้ ที่ ห น้ า จอเดี ย ว เพื่ อ ความสะดวกและง่ า ย ต่อการใช้งาน ส� ำ หรั บ ตั ว เครื่ อ ง 1 นั้ น ด้ ว ยรู ป แบบการออกแบบที่ มี ความแข็งแรงของโครงสร้างทีม่ ากขึน้ กว่าเครือ่ งในแบบก่อนๆ ท�ำให้การท�ำงานของระบบผสมผสานการตรวจสอบน�้ำหนัก และตรวจจับโลหะนั้นมีความเสถียรสูงกว่าที่ผ่านมามาก เนือ่ งจากโครงสร้างดังกล่าวสามารถลดแรงสัน่ สะเทือนซึง่ เป็น ปัจจัยลบที่ส่งผลทั้งกับความแม่นย�ำ (Accuracy) ของเครื่อง และความไวในการตรวจจับโลหะ (Sensitivity) ของเครื่อง ตรวจจับโลหะ นอกจากนี้ ระบบผสมผสานการตรวจสอบน�้ำหนักและ ตรวจจับโลหะ1 ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว (Total cost of ownership) ลงได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบ ที่ส�ำคัญต่อการพิจารณาของผู้อนุมัติการสั่งซื้อ อีกทั้งยังมี จ�ำนวนชุดสายพานล�ำเลียงที่น้อยกว่าการใช้งานแยกกัน ระหว่ า งเครื่ อ งตรวจสอบน� ำ หนั ก แบบ 3 สายพาน และ เครือ่ งตรวจจับโลหะแบบ 1 สายพานซึง่ ท�ำให้ผใู้ ช้งานสามารถ ลดค่าใช้จ่ายในการบ�ำรุงรักษาลงได้ อีกทั้งสามารถลดพื้นที่ ในการติดตั้งลงได้อีกด้วย ในอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าขนาดใหญ่ขึ้น เช่น แป้ง น�้ำตาล ข้าวสาร ตลอดจน ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหารแต่บรรจุ ลงถุงกระสอบที่มีขนาดใหญ่ เช่น เม็ดพลาสติก เรซิน เป็นต้น การใช้งานเครื่องตรวจสอบแบบผสมผสานการตรวจสอบ น�้ ำ หนั ก และตรวจจั บ โลหะ จึ ง สามารถเป็ น ทางเลื อ ก ที่เหมาะสมต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี และก�ำลังเป็นที่นิยม มากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

หน้าจอแสดงผลของเครื่อง Combi-System Checkweigher & Metal Detector Combi-System Checkweigher & Metal Detector Screen Panel

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SMART PRODUCTION

Combination System Check Weigher and Metal Detector with X-Ray Inspection

The final inspection before delivering products to the customers remains challenging for users both in terms of performance, speed, safety, and cost efficiency when the production system is changing in the future. As a result, product inspection system has been continuously developed in response to the demand of food and beverage manufacturers, whether it is an effective combination system of check weigher and metal detector1, for example. In 2017, the newest combination of check weigher and metal detector with x-ray inspection2 is released into the market, after a long process of brainstorming, developing and marketing. The x-ray inspection that added into the newest model of check weigher2 is a prominent upgrade. It uses the world’s lowest radioactive - 20 watts - without compromising the ability to detect contaminations. The use of the latest detection technology compensates to the use of low x-ray radioactive, and keeps the energy level sufficient to detect contaminations. This is the most economical and the most energy sufficient machine we have today. At the same time, this combination1 offers accurate weight checking and metal detecting at a speed of 600 items/minute. It also supports various sizes of conveyor belt to match with the size of the items, which is in line with modern production and products diversity. Manufacturers can save cost for future purchase of machinery. Moreover, the integration of weighing and metal detection technologies works effectively, too. This combination is due to the fact that metal detector is a common technology in contamination detection (critical control point) in food and beverage industry.

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

The design to make effective check weigher and metal detector1 requires not only the installation of metal detector into the check weigher, but also the installation of integrated user interface. With that, users can adjust the settings, displays, and assessment results in the same screen for their convenience. For the body1, a robust model developed from its predecessors, its check weigher and metal detector is very much more accurate than ever before. The new model structure can reduce vibration, which poses as a negative obstacle for the machine’s accuracy and metal detection sensitivity. Additionally, the check weigher and metal detector combination1 helps users save total cost of ownership. This is an advantage for the assessment of purchase authorization. Not only that, the machine uses less conveyor belts than the 3-conveyor-belts check weigher and the 1-conveyor-belt metal detector combined, which allows user to save more maintenance cost and installation space. From the industries that produce bigger size of products such as flour, sugar and rice, to non-food products in big sacks like thermoplastic and resins, the use of combination system check weigher and metal detector is a great option that is becoming more and more mainstream.

ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information 1 Mettler-Toledo’s Combi System Checkweigher & Metal Detector 2 Mettler-Toledo’s Combi System Checkweigher & X-ray Inspection Generation 2

ad_CFDF final.indd 2

7/20/17 11:15 AM

STRATEGIC R & D

Plant-based, Whole Food Diet

การบริโภคอาหารเพือ่ สุขภาพทีด่ กี ว่าส�ำหรับเด็กแพ้งา่ ย อาหารทีท ่ ำ� ให้ทารกและเด็กเล็กเกิดอาการแพ้กน ั บ่อยนัน ้ มักเป็นอาหาร ง่ายๆ ใกล้ตัวที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวัน เช่น นมวัว ถั่ว แป้งสาลี ไข่ขาว อาหารทะเล หรืออาหารแปรรูปต่างๆ นอกจากนี้ ทั้งสารเคมี และสารปนเปื้อนในอาหารก็เป็นอีกปัญหาส�ำคัญ โดยเฉพาะกับเด็ก ที่อยู่ในช่วงวัยทารกตั้งแต่ 6 เดือนไปจนถึงวัยเด็กเล็ก

หนึ่งในทางแก้อาการแพ้อาหารในเด็กเล็กที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด ก็คือ การรับประทานอาหารแบบ Plant-based, Whole food (PBWF) อันหมายถึง แนวทางการรับประทานอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก โดยพืชผัก หรือธัญพืชที่รับประทานต้องไม่มีการสกัด ไม่มีการขัดสี และไม่มีการแปรรูปใดๆ การส่งเสริมโภชนาการส�ำหรับเด็กเล็กในการรับประทานอาหาร PBWF สามารถท�ำได้หลายวิธี โดยเริ่มได้ตั้งแต่วัยทารกเมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป นอกจากอาหาร PBWF จะช่วยป้องกันอาการแพ้ของเด็กแล้วยังช่วยให้มี สุขภาพที่ดีในระยะยาวด้วย นอกจากนี้ อาหารแบบ PBWF ยังมีส่วนช่วย ท�ำให้เด็กมีความกระตือรือร้นและฉลาดขึ้นด้วย

ความสำ�คัญของโภชนาการอาหาร PBWF ในเด็กเล็ก

• PBWF ท�ำให้เด็กมีความเสี่ยงในการแพ้อาหารลดลง แนวทาง การรับประทานอาหารแบบ PBWF หรือการรับประทานอาหารพืชเป็นหลัก ในรูปแบบใกล้เคียงธรรมชาตินั้น หมายถึงการลดการรับประทานอาหาร ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ อาหารทะเล อาหารแปรรูป หรือ แป้งสาลี ดังนั้น เด็กที่รับประทานอาหารตามแนวทาง PBWF ก็จะมีปัญหา เรื่องอาการแพ้ และปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารน้อยลง

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

นายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ Sant Chaiyodsilp, M.D.

Director of Phyathai Heart Center Harvard Medical International Associated Institute

• อาหารในหมวด PBWF มีสารก่อภูมิแพ้ในปริมาณที่น้อยมาก เด็กวัยทารกอายุครบ 6 เดือนขึ้นไปควรให้เริ่มลองกินอาหาร PBWF เพราะ มีสารก่อภูมิแพ้น้อยกว่าอาหารทั่วๆ ไป ยกตัวอย่างเช่น ข้าวกล้องบด หรือ ข้าวกล้องบดผสมผักผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น แครอท กล้วย หรือฟักทอง • PBWF ท�ำให้เด็กมีสุขภาพดีขึ้นภายในเวลา 4 สัปดาห์เท่านั้น วารสารกุมารเวชศาสตร์ในสหรัฐอเมริการะบุวา่ เด็กทีร่ บั ประทานสารอาหาร พืชเป็นหลักในรูปแบบใกล้เคียงอาหารธรรมชาติกลุ่มโฮลฟู้ดที่เน้นพืชผัก ผลไม้นั้น มีน�้ำหนักและค่าความดันโลหิตที่ลดลง รวมทั้งมีค่าคอเลสเทอรอล อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นภายในเวลาเพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น1 • การรับประทานอาหาร PBWF มีส่วนท�ำให้เด็กมีไอคิวสูงกว่า ค่าเฉลีย่ จากผลการศึกษาในปี 2523 ของนักโภชนาการจากศูนย์การแพทย์ นิวอิงแลนด์ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา นักวิจัยได้วัดไอคิวของเด็ก ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ และพบว่าเด็กที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ รวมทั้งเด็กที่กินเนื้อสัตว์น้อยแต่กินพืชผักมากนั้นมีค่าไอคิวเฉลี่ยมากถึง 116 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป2 • การรับประทานอาหาร PBWF ท�ำให้เด็กมีรูปร่างที่ได้สัดส่วน จากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารเกี่ยวกับโรคในเด็กแห่งสหรัฐอเมริกา (American Journal of Diseases of Children) เมื่อปี 2533 พบว่า หลังจาก การศึกษาระยะยาวเป็นเวลา 2 ปี ในนักเรียนอายุ 6-18 ปี จ�ำนวน 2,272 คน พบว่านักเรียนที่กินอาหารมังสวิรัตินั้นมีรูปร่างที่ผอมกว่า2 แม้วา่ การรับประทานอาหาร PBWF จะมีขอ้ ดีมากมาย แต่หลายคนก็ยงั คงกังวลว่าการรับประทานอาหารตามแนวทางดังกล่าวอาจท�ำให้เด็กเสี่ยง ต่อการขาดสารอาหารได้ อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหาร PBWF นั้น ไม่จ�ำเป็นต้องให้งดการกินเนื้อสัตว์ไปเลย แค่เพียงลดปริมาณของเนื้อสัตว์ กับอาหารแปรรูปให้นอ้ ยลง และรับประทานอาหารทีเ่ น้นผักผลไม้และธัญพืช เป็นหลักให้มากขึน้ นอกจากนีก้ ารรับประทานอาหาร PBWF นัน้ ไม่ได้จำ� กัด อยู่เพียงแค่ผักใบเขียว หากแต่เป็นการผสมผสานโภชนาการโดยใช้ผักและ ธัญพืชหลากหลายชนิด เด็กก็จะได้รบั สารอาหารทีห่ ลากหลายและครบถ้วน ยกตัวอย่างเช่น การได้รับโปรตีนจากถั่วฝักเมล็ดกลม (Peas) ถั่วฝักเมล็ด ไม่กลม (Bean) ถั่วเลนทิล (Lentil) คาร์โบไฮเดรตจากธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีแต่น้อย (Whole grains) โดยเฉพาะข้าวกล้อง และไขมัน จากอะโวกาโด มะกอก ถั่วเปลือกแข็ง (Nut) เมล็ดพืช (Seed) เป็นต้น

STRATEGIC R & D

Plant-based, Whole Food Diet

The Healthy Nutrition for Kids with Allergies Most of the food that causes allergies in kids happened to be common food items that we always have in our daily lives, such as cow milk, beans, wheat flour, egg white, seafood and processed food. Moreover, in today’s modern society, we are also feeding our kids with food filled with chemicals and contaminants causing allergies in them! Some parents, especially moms with kids in the age between six months to toddler-age, are even petrified that their kids will develop food allergies. One of the most talked-about solutions for these allergy problems in kids or babies is related to eating Plant-based, Whole food (PBWF) produce, which is a dietary lifestyle that focuses on the intake of plant- based foods that are not extracted, unpolished or unprocessed and minimizes the intake of processed and animal-derived foods. There are many ways a parent can get started in feeding their kids PBWF foods, and this can be done even while at the baby stages. Apart from potentially preventing allergies and making your baby healthier in the long term, it also makes your kids more active and smart.

Plant-based, Whole Food for Kid’s Nutrition

• A PBWF Diet Helps Reduce Risks of Kids Developing Allergies To follow a PBWF diet means to reduce the consumption of foods that trigger allergies including meat, seafood, processed food and eggs. Therefore, kids who follow a PBWF diet will have fewer problems across both allergies and digestive system. • PBWF Foods Consist of Very Few Allergens When your babies turn six months old, you can start feeding them with PBWF foods because as this food group contains far fewer allergens than common food. For example, you may feed them with brown rice porridge or you may try adding some colorful vegetables or fruits such as bananas, carrots and pumpkins into your brown rice porridge for greater nutritional value. • PBWF Diet Can Improve Kid’s Health in Just Four Weeks According to The Journal of Pediatrics in USA, it was

revealed that children who eat a Plant-based, Whole food diet or the American Heart Association diet can lose weight, lower their blood pressure and improve their cholesterol in just four weeks.1 • PBWF Diet is One of the Factors that Make Kids Have Higher IQ Scores In 1980, a nutritionist at the New England Medical Center in Boston founded that the children who are vegetarian were developmentally above average: their average I.Q. was 116, which is higher than average.2 • A PBWF Diet Makes Kids Slimmer According to the study published on American Journal of Diseases of Children in 1990, after a two-yearlongitudinal study in 2,272 students aged 6-18 years, it found that students who were vegetarians were slimmer. 2 Although PBWF diet offers many health benefits, parents may be still concerned on the risks of nutrient deficits for their kids. However, a PBWF diet does not mean the complete removal of meat from your kid or baby’s diet, but, rather it is a way to focus on the intake of plant- based foods which are not extracted, unpolished or unprocessed and minimize the intake of processed and meats. Moreover, PBWF is not a diet of only green leafy vegetables, it also includes various kinds of vegetables and grains. If you feed your kids with various kinds of vegetables and grains, they will get all nutrient types. For example, proteins from peas, beans, lentils; carbohydrates from whole grains, especially brown rice, and fat from avocados, nuts and seeds.

เอกสารอ้างอิง / Reference 1 Jane Brody [The New York Times]. New York:Personal Health; Available from: http://www.nytimes.com/1987/03/25/garden/personal-health-796387.html?pagewanted=all 2 Joan Sabaté, M.D., Ph.D.; Kristian D. Lindsted, Ph.D.; Ralph D. Harris, MB ChB, FAAP; et al: Anthropometric Parameters of Schoolchildren With Different Life-styles; Available from: http://rchpedi.jamanetwork.com/article.aspx?articleid=515381#tab6 AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

STRATEGIC R & D นายแพทย์แกรี่ สมอลล์ Gary Small, M.D.

A Member of the Herbalife Nutrition Advisory Board (NAB) A Top Brain Expert from the US and a Professor of Psychiatry The University of California, Los Angeles (UCLA)

เพิ่มพลังสมอง

ปรับโภชนาการทุกวัยทันภัยยุคดิจิทัล

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยมีอาการแบบนี้กันบ้าง เช่น ลืมชื่อคนบางคน จ�ำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ตรงไหน ลืมว่าวางโทรศัพท์ไว้ที่ไหน หรือจ�ำไม่ได้แม้กระทั่ง เดินเข้ามาในครัวท�ำไม อาการเหล่านี้ถือเป็นอาการหลงลืมทั่วไปที่คนเราสามารถเป็นได้นานๆ ครั้ง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันอาการเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏแค่ใน กลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะเราพบว่าแม้แต่หนุ่มสาวอายุ 30 หรือ 40 ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องความจ�ำบ่อยขึ้นและจ�ำนวนเพิ่มมากขึ้นจนน่าตกใจ

เนื่องจากปัจจุบัน คนเจเนอเรชั่นมิลเลเนียลหลายล้านคนทั่วโลกเสพติดอุปกรณ์ สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งท�ำให้สมองของคนเราได้รับการกระตุ้นจากอุปกรณ์สื่อสาร เป็นหลัก โดยผลส�ำรวจของเฮอร์บาไลฟ์ซึ่งท�ำการส�ำรวจพนักงานออฟฟิศที่มีอายุ ระหว่าง 25-45 ปี ในไต้หวันเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 61 ของคนท�ำงานกลุ่มนี้ ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นาน 6-10 ชั่วโมงต่อวัน และร้อยละ 78 รู้สึกว่า การใช้อุปกรณ์ เหล่านี้นานเกินไปมีผลกระทบต่อความจ�ำของพวกเขา รวมทั้งประมาณร้อยละ 60 ยอมรับว่าถึงขั้นหลงลืมข้าวของส่วนตัวเลยทีเดียว ส�ำหรับประเทศไทย รายงานของ Google Consumer Barometer ได้ชี้ให้เห็นว่า ร้อยละ 53 ของคนไทยใช้อินเตอร์เน็ตทุกวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 89 นับจากปี 2556 และ ร้อยละ 70 ของคนไทยใช้สมาร์ทโฟน เพิ่มขึ้นร้อยละ 126 นับจากเมื่อ 3 ปีที่แล้วเช่นกัน ในยุคสมัยใหม่ เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งส�ำคัญที่ขาดไม่ได้ในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวันของเรา และเรารูส้ กึ ว่ามันยากทีจ่ ะใช้ชวี ติ โดยไม่มสี มาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ผู้คนพึ่งพาเทคโนโลยีกันอย่างมากจนมันส่งผลต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การท�ำงาน การพูดคุยสื่อสาร และการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ตลอดจนส่งผลให้วิธีการท�ำงานของ สมองเปลี่ยนแปลงไปด้วย รายงานวิจัยหลายฉบับชี้ให้เห็นว่าชาวมิลเลเนียลจ�ำนวนมากที่โตมาในยุคดิจิทัล เริม่ แสดงอาการทีเ่ ป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาเรือ่ งความจ�ำระยะสัน้ และโรคเกีย่ วกับ ความจ�ำอื่นๆ ตลอดจนเสียสมาธิง่ายและมีอาการหลงลืมด้วย

ฝึกฝนสมองให้แข็งแรงและเฉียบแหลมอยู่เสมอ

รายงานวิจัยหลายฉบับของสหรัฐอเมริกาเผยว่า พันธุกรรมเป็นเพียงหนึ่งใน ปัจจัยเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม อาการของโรคอัลไซเมอร์ และสัญญาณอื่นๆ ของ ภาวะสมองเสือ่ มถอย ความจริงแล้วยังมีปจั จัยเสีย่ งอืน่ ๆ อีกมากมาย อาทิ สภาพร่างกาย วิธีจัดการกับความเครียด การกระตุ้นการท�ำงานของสมอง และโภชนาการที่เราต้องให้ ความใส่ใจกันมากขึ้น ข่าวดีก็คือ ความจ�ำของเราไม่จ�ำเป็นต้องเสื่อมถอยไปตามวัย มี รู ป แบบการใช้ ชี วิ ต มากมายที่ ช ่ ว ยลั บ สมองของเราให้ เ ฉี ย บแหลมอยู ่ เ สมอ การออกก�ำลังกายก็เป็นสิ่งจ�ำเป็นที่ช่วยให้เซลล์สมองกระฉับกระเฉงตื่นตัว ในขณะที่ วิธีการฝึกฝนสมองและทบทวนความจ�ำ เช่น เกมส์ปริศนาอักษรไขว้ ซูโดกุ หรือการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ก็ช่วยเสริมสร้างสมองได้เหมือนกัน การลดความเครียดจะช่วย 54

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

ลดความเสี่ยงของการสูญเสียความจ�ำได้ เนื่องจากคนที่มักมีอาการเครียดจะมี โอกาสเสี่ยงเป็นโรคด้านสมองได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ ยังมีผลวิจยั ล่าสุดทีท่ ำ� การทดสอบกับอาสาสมัครสูงอายุกว่า 900 คน พบว่า การปรับนิสัยให้หันมารับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสมอง ซึ่งอุดม ไปด้วยโภชนาการส�ำคัญอย่างถั่วต่างๆ ผักและผลไม้ เมล็ดถั่ว น�้ำมันมะกอก ธัญพืชทีไ่ ม่ผา่ นการขัดสี และปลานัน้ ช่วยชะลอการเสือ่ มถอยของความสามารถ ในการเรียนรูแ้ ละจดจ�ำ (Cognitive decline) ได้เป็นอย่างมาก กล่าวคือสามารถ ช่วยให้สมองแจ่มใสอ่อนเยาว์ลงไปได้อกี ถึง 7.5 ปี ซึง่ แสดงให้เห็นว่าโภชนาการ มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับสุขภาพสมองอย่างไม่อาจแยกจากกันได้การรับประทานอาหารทีด่ แี ละถูกต้องมีสว่ นส�ำคัญทีช่ ว่ ยบ�ำรุงสุขภาพสมองให้สดใส แข็งแรง เป็ น เรื่ อ งส� ำ คั ญ มากที่ ค นทุ ก เพศทุ ก วั ย ต้ อ งตระหนั ก ว่ า มี วิ ธี ก ารเสริ ม สมรรถภาพด้ า นสมองอย่ า งง่ า ย และน� ำ ไปใช้ ไ ด้ จ ริ ง มากมาย ไม่ มี ค� ำ ว่ า เร็วเกินไปที่จะเริ่มฝึกฝนสมองกันตั้งแต่ตอนนี้ คนรุ่นใหม่อาจจะเริ่มจากการฝึกทักษะ เช่น เทคนิคการจ�ำ และการพูดคุยสื่อสารแบบพบเจอหน้ากัน ซึ่งจะ ช่วยฝึกเรื่องการสบตาคู่สนทนาและกิริยาท่าทางในการสนทนาโดยไม่ต้องใช้ ค�ำพูดไปด้วยในตัว ลองใช้วิธีการฝึกฝนสมองแบบนี้ควบคู่ไปกับการออกก�ำลังกาย เป็นประจ�ำทุกวัน รวมทั้งนอนหลับให้เพียงพอ จัดการกับความเครียด และ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพสมอง Percentage of Thais who access the internet daily

STRATEGIC R & D

Mental Health in the Digital Age

Forgetting someone’s name, not remembering where you parked the car, misplacing your phone or forgetting why you came into the kitchen – these are very common memory lapses we experience from time to time. But more and more, these moments don’t happen exclusively to seniors, as even people in their 30’s and 40’s are complaining of more frequent memory problems. Keeping Your Brain Healthy and Sharp

Dr.Small emphasized the importance of brain health and the advantages of maintaining a lifestyle that can help keep the brain young and active. His studies reveal that genetics accounts for only part of the risk of dementia, Alzheimer’s disease and other signs of mental decline, and that there are other factors such as physical conditioning, stress management, mental stimulation and nutrition that we should be aware of. The good news is our memory does not have to decline as we age. There are lifestyle strategies associated with keeping the brain sharp. Physical exercise is a must to keep the brain cells active, and mental and memory exercises such as crossword puzzles, Sudoku or learning a new language to build your brain muscle. Less stress could mean a lower risk of memory loss, since people prone to stress are also more likely to develop brain-related diseases.

Dr.Small shared the results of a Herbalife survey on office workers aged 25 to 45 in Taiwan last year. The study found that 61% of workers use their devices for six to 10 hours a day and 78% reported feeling that their memory was affected by their overuse of the device. Around 60% admitted to forgetting their personal belongings. In Thailand, a recent report by the Google Consumer Barometer revealed that 53% of Thais use the Internet every day. This figure has increased by 89% since 2013. Seventy percent of Thailand’s population uses smart phones, an increase of 126% since three years ago. In the modern world, technology has become an inevitable part of our day-to-day activities, and we find it difficult to get through a day without our smartphones and computers. People have become so dependent on technology, that it is changing the way we live, work, communicate and interact with others. It is also changing the way our brain works. Studies show that a significant number of millennials who have grown up in the digital age are showing signs of short term memory dysfunctions and other disorders, and are more distracted and forgetful.

Nutritional choices that protect the brain: • Emphasize: Beans, fruits, vegetables, nuts, olive oil, poultry, whole grains, fish • Minimize: Butter, cheese, margarine, fast or fried foods, pastries and sweets He also shared a recent study of over 900 older volunteers showing that adherence to a brain-healthy diet consisting of nutritional choices such as beans, fruits, vegetables, nuts, olive oil, whole grains and fish, significantly slows cognitive decline equivalent to a 7.5-year younger brain age. This is an indication that nutrition and brain health are closely linked with each other. Eating the right food is an important part of brain health. It has become increasingly crucial for people across all age groups to be aware that there are simple, practical strategies to enhance brain performance. It is never too early to start training the brain. Young people can start with simple skills such as memory techniques and face-to-face communication that could encourage eye contact and non-verbal cues in a conversation. Combine this mental stimulation with physical exercise each day, enough sleep, stress management, and a brain-healthy diet. By embracing a healthy, active lifestyle today we can maintain a healthier brain for years to come. AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

STRATEGIC R & D

ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปที่ว่าประชากรโลกก�ำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การเพิม่ จ�ำนวนของผูส้ งู อายุได้กลายเป็นประเด็นหลักทีห่ ลายประเทศผูน้ ำ� ทาง เศรษฐกิจของโลกให้ความสนใจมาตลอดช่วง 2-3 ปีทผี่ า่ นมา เมือ่ เปรียบเทียบ ย้อนกลับไปในช่วงปี ค.ศ.1950-1959 ประชากรโลกทีม่ อี ายุ 60 ปี หรือมากกว่า มีจ�ำนวน 205 ล้านคน และได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า หรือประมาณ 606 ล้านคน ภายใน 50 ปีต่อมา ทั้งนี้ ข้อมูลจาก United Nations’ Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (ESCAP) ยังระบุว่าภายในปี ค.ศ. 2050 แถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีประชากรผู้สูงอายุมากที่สุด คือ ประมาณ 2 ใน 3 ของประชากรสูงอายุในโลก และสามารถคาดการณ์ได้ว่า ประชากรที่มีอายุมากที่สุดคือมีอายุมากกว่า 80 ปีขึ้นไปจะครองสัดส่วน มากที่สุดถึงร้อยละ 18 ของจ�ำนวนผู้สูงอายุในปี ค.ศ. 2050 เช่นกัน เมื่อไม่สามารถห้ามภาวะสังคมผู้สูงวัยที่เกิดขึ้นนี้ได้จึงมีความกังวลใน 2 ลักษณะทีเ่ กิดจากอายุทเี่ พิม่ ขึน้ คือ สภาพของจิตใจ และการเคลือ่ นไหวของ ร่างกายทีช่ า้ ลง ในช่วงวัยทองของชีวติ การดูแลรักษาและการป้องกันความผิด

ปกติของร่างกายถือเป็นเรือ่ งพืน้ ฐานทีส่ ร้างความเชือ่ มัน่ ในการมีคณ ุ ภาพชีวติ ที่ ดี และเพื่ อ ที่ จ ะให้ บ รรลุ เ ป้ า หมายนั้ น ความสามารถในการมองเห็ น ภาวะทางจิตใจ และการเคลื่อนไหวของร่างกายจ�ำเป็นต้องได้รับการดูแล เป็นอย่างดี

เมื่อย่างเข้าสู่ภาวะสูงวัย

เมื่อคนเราอายุมากขึ้นจะพบการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น การท� ำ งานของระบบอวั ย วะ การเปลี่ ย นแปลงของสภาพจิ ต ใจ รวมถึ ง ประสิ ท ธิ ภ าพเชิ ง กายภาพ ซึ่ ง ล้ ว นเป็ น สิ่ ง ที่ ต ้ อ งเกิ ด ขึ้ น กั บ ทุ ก คน ดั ง นั้ น อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ หรือสินค้าที่ว่าดีต่อสุขภาพร่างกาย จะได้รบั ความสนใจมากขึน้ โดยเฉพาะความต้องการในการลดพลังงานควบคู่ ไปกับการมองหาสารอาหารที่มีประโยชน์ ผู้บริโภคสูงวัยจะเลือกสรรอาหาร ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเป็นหลัก นั่นหมายถึงการเลือกกินอาหาร ที่มีป ริม าณสารอาหารส�ำคัญสูงขึ้นต่อ หนึ่งหน่วยบริโ ภค และอาหารนั้น

เข้าสู่วัยสูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยโภชนาการที่ดี

โภชนาการที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในแบบของคนรักสุขภาพ โดยโภชนาการมีส่วนส�ำคัญ อย่างยิ่งในการช่วยส่งเสริมให้มีชีวิตที่ยืนยาว ทั้งยังเป็นตัวช่วยในการจัดการกับความเสื่อมสภาพ และความผิดปกติของระบบการท�ำงานต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโภชนาการที่เกี่ยวข้อง กับการเสริมสร้างสุขภาพของสมอง ดวงตา รวมถึงข้อต่อ ที่ก�ำลังได้รับความสนใจ โดยมีการศึกษา ทดลองเพื่อหาแนวทางในการลดความเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติทางสมอง การมองเห็น และ การเคลื่อนไหว

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

Dr.Kai Lin Ek

Marianne Heer

Scientific Marketing Managers BASF Nutrition & Health

STRATEGIC R & D

ต้องมีคุณภาพดี มีขนาดบริโภคที่เล็กลง และสะดวก รวมถึงความต้องการ อาหารเพื่อสุขภาพที่มีปริมาณพอดีส�ำหรับหนึ่งมื้อจะได้รับความนิยมมากขึ้น สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของสังคมผู้สูงวัยที่เกิดขึ้นนี้ด้วย มีการรายงานว่าผู้บริโภคที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป คือกลุ่มผู้ซื้อสินค้าอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีอัตราการซื้อซ�้ำสูงกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ประเภทสินค้า อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซือ้ ซ�ำ้ อาจสูงถึงร้อยละ 80 เลยทีเดียว กลุ ่ ม อาหารและเครื่ อ งดื่ ม เชิ ง ฟั ง ก์ ชั น ก� ำ ลั ง กลายเป็ น ทางเลื อ กที่ ไ ด้ รั บ ความนิยมจากการตอบสนองต่อความกังวลของผู้สูงอายุ เช่น การสูญเสีย ความทรงจ�ำ ความผิดปกติทางการเคลือ่ นไหว ความอ่อนล้า และประสิทธิภาพ การมองเห็นที่ลดลง

สุขภาพสมอง การเรียนรู้ และจดจ�ำ

การรับรู้ของคนเราเกี่ยวข้องกับกระบวนการภายในร่างกาย ซึ่งรวมไปถึง ความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ความคิดริเริ่ม การตัดสินใจ ภาษา และ การจดจ�ำ เมื่อคนเรามีการรับรู้ที่บกพร่องก็จะมีปัญหากับกระบวนการเหล่านี้ ซึ่งจะส่งผลต่อสิ่งที่เคยท�ำได้ในชีวิตประจ�ำวัน และการท�ำงานของสมอง ที่บกพร่องนั้นยังน�ำไปสู่ภาวะสมองเสื่อมซึ่งเป็นรูปแบบอาการที่พบมากที่สุด ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ คือจะมีอาการสูญเสียความทรงจ�ำในระยะสั้นและ ระยะยาว มีความบกพร่องทางกระบวนการคิดและการใช้ชีวิตประจ�ำวัน ตามปกติ ในประเทศญี่ปุ่นมีการประเมินว่ามีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมประมาณ 2 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามประชากรผู้สูงอายุของประเทศ จากการวิจัยพบว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสายยาว (Long chain polyunsaturated fatty acids; LC-PUFA) ในสมองและเนื้อเยื่อประสาท โดยเฉพาะ โอเมก้า-3 และกรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก หรือ EPA และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก หรือ DHA อันเป็นส่วนประกอบส�ำคัญของกรดไขมันไม่อมิ่ ตัวเชิงซ้อนดังกล่าว นัน้ มีความส�ำคัญต่อการควบคุมการท�ำงานของสมอง นอกจากนี้ ระดับโอเมก้า-3 สู ง ซึ่ ง พบในเลื อ ดอาจช่ ว ยเรื่ อ งการท� ำ งานของระบบสมองในผู ้ สู ง อายุ อีกด้วย Longitudinal Study of Aging หรือโครงการวิจยั ผูส้ งู อายุ โดยสถาบันวิจยั ด้านศาสตร์แห่งการมีชีวิตยืนยาวแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japanese National Institute for Longevity Sciences) ได้เปิดเผยผลการศึกษาผูส้ งู อายุญปี่ นุ่ เพศชาย จ�ำนวน 232 คน และเพศหญิงจ�ำนวน 198 คน ที่มีอายุระหว่าง 60-79 ปี โดยตรวจประเมินภาวะสมองเสื่อมและอาการซึมเศร้า พบว่าปริมาณ DHA ในระดั บ สู ง ปานกลางที่ ต รวจพบในผู ้ สู ง อายุ นั้ น มี ส ่ ว นช่ ว ยป้ อ งกั น ภาวะ สมองเสื่อม และอีกหนึ่งกลุ่มการทดลองคือกลุ่มคนญี่ปุ่นทั้งชายและหญิง

อายุระหว่าง 45-70 ปี จ�ำนวนมากกว่า 1,600 คน พบว่าระดับกรดไขมัน โอเมก้า-3 และพฤติกรรมการบริโภคปลาเป็นประจ�ำมีความสัมพันธ์แบบ ตรงกันข้ามกับระดับความเสี่ยงของสมองเสื่อมและอาการซึมเศร้าโดยรวม อย่างไรก็ตาม อาการซึมเศร้าเกิดขึน้ ได้โดยทัว่ ไปกับผูส้ งู อายุทมี่ กี ารท�ำงาน ของสมองผิดปกติและมีความเสีย่ งมากขึน้ ต่อการเกิดโรคสมองเสือ่ มภายหลัง การทดลองเชิงคลินิกแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการเสริมโอเมก้า-3 ต่อการบรรเทาอาการซึมเศร้า ยืนยันด้วยผลลัพธ์กว่าครึ่งหนึ่งที่เป็นบวก โดยในการทดลองแบบสุ่มกับผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมเล็กน้อยจ�ำนวน 50 คน อายุ 65 ปี พบว่ากลุ่มที่เสริมปริมาณ DHA ในปริมาณสูง (DHA 1.55 กรัม และ EPA 0.40 กรัมต่อวัน) หรือเสริม EPA ในปริมาณสูง (EPA 1.67 กรัม และ DHA 0.16 กรัมต่อวัน) เป็นเวลามากกว่า 6 เดือน มีการเปลี่ยนแปลง สภาวะอาการซึมเศร้าที่ดีขึ้นอย่างมีนัยส�ำคัญ ในขณะที่กลุ่มที่เสริมปริมาณ DHA สูงก็ให้ผลลัพธ์ทางด้านความสามารถในการสื่อสารที่คล่องแคล่วขึ้น นอกจากโอเมก้า-3 แล้ว วิตามินบียังมีส่วนช่วยในการท�ำงานของระบบ ประสาทและสมอง ยกตัวอย่างเช่น ระดับปริมาณวิตามินบี 12 ที่ต�่ำจะมีผล ท�ำให้เกิดการสูญเสียความทรงจ�ำและภาวะสมองเสื่อม โดยการ ทดลองแบบ สุ่มแสดงให้เห็นว่าการเสริมวิตามินบี 12 และกรดโฟลิกจะช่วยควบคุม การท�ำงานของระบบการรับรู้ การให้ผสู้ งู อายุรบั ประทานวิตามินบี 12 ปริมาณ 100 ไมโครกรัม และกรดโฟลิกปริมาณ 400 ไมโครกรัม อย่างต่อเนือ่ งทุกวันนัน้ ภายหลัง 24 เดือน พบว่าวิตามินบี 12 และกรดโฟลิกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การท�ำงานของระบบการรับรู้ โดยเฉพาะการจดจ�ำแบบทันทีและการจดจ�ำได้ ในภายหลัง ในกรณีของการขาดวิตามินบี 12 มีสาเหตุมาจากการขาด Intrinsic Factor (IF) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นในเซลล์กระเพาะอาหารท�ำหน้าที่ในการสร้าง และดู ด ซึ ม วิ ต ามิ น บี 12 หรื อ ในกรณี ที่ก ระเพาะอาหารมี น�้ำ ย่ อ ยออกมา ไม่เพียงพอ โดยภาวะทั้งสองอย่างนี้มักพบในผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่

ความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ

อายุที่เพิ่มขึ้นจะพบการเสื่อมสภาพของร่างกายไปตามกาลเวลา สังเกตจาก มวลไขมันในร่างกายที่เพิ่มขึ้น และการลดลงของมวลกล้ามเนื้อ น�ำไปสู่ การเปลี่ยนแปลงของระบบการเผาผลาญของร่างกาย มีการกระจายตัว การสะสมไขมันในร่างกายจากทั้งที่อยู่ใต้ผิวหนังไปจนถึงช่องท้อง ในขณะที่ มวลกล้ามเนือ้ เริม่ ลดลง อันมีสาเหตุมาจากการลดขนาดและความไม่แข็งแรง ของกล้ามเนื้อลาย ในทางการแพทย์มีการยืนยันว่ากรดคอนจูเกเตดไลโนลีอิก หรือ CLA ช่วยลดมวลของไขมันลง โดยเพิ่มน�้ำหนักตัวที่ปราศจากไขมัน และยังมี ประสิทธิภาพในการสลายไขมันช่วงเอวและหน้าท้อง จากการศึกษาเชิงคลินกิ แบบ Meta-analysis หลายฉบับยังสรุปว่า CLA สามารถช่วยลดมวลไขมัน ในร่างกายได้ถึง 0.09 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ผลลัพธ์นี้แม้จะแสดงให้เห็น เพี ย งเล็ ก น้ อ ยในตอนแรก แต่ ก็ ถื อ ว่ า มี นั ย ส� ำ คั ญ เมื่ อ พิ จ ารณาเที ย บกั บ ประชากรที่มีน�้ำหนักตัวมากขึ้นในปัจจุบัน โดยประชากรในประเทศที่พัฒนา แล้วซึ่งมีน�้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.4 กิโลกรัมต่อปี (0.009 กิโลกรัม ต่อสัปดาห์) ผลที่ตามมาก็คือ ผู้สูงอายุจะมีน�้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ได้ตลอด โดย CLA จะมีส่วนช่วยป้องกันการสะสมของมวลไขมัน ในผู้สูงอายุ

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

STRATEGIC R & D

การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับระบบกล้ามเนื้อลายอันเนื่อง มาจากอายุที่เพิ่มขึ้น คือ ความหนาแน่นของมวลกระดูกที่ลดลง โดยเฉพาะ อย่ า งยิ่ ง ผู ้ ห ญิ ง มี แ นวโน้ ม ที่ จ ะสู ญ เสี ย มวลกระดู ก ในอั ต ราที่ ร วดเร็ ว มาก หลังวัยหมดประจ�ำเดือน ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักและภาวะ แทรกซ้อนทีเ่ กีย่ วข้องอืน่ ๆ เพิม่ มากขึน้ แคลเซียมและวิตามินดีเป็นสารอาหาร หลักสองชนิดทีม่ สี ว่ นช่วยในกระบวนการเมทาบอลิซมึ ของกระดูกให้เป็นปกติ และยังช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก นอกจากนี้ วิตามินดียังมีบทบาท ส�ำคัญในการควบคุมการท�ำงานของกล้ามเนือ้ ให้เป็นปกติ รวมถึงช่วยในการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อและลดความเสี่ยงของการสูญเสียของกระดูกเมื่อหกล้ม เมื่อไม่นานมานี้ มีการศึกษาวิจัยและผลการส�ำรวจหลายฉบับที่รายงานถึง ความชุกของการขาดวิตามินดีในประชากรหลายแห่งทั่วโลก โดยเฉพาะ ผูส้ งู อายุซงึ่ ปกติแล้วมักจะได้รบั แสงแดดน้อยลง รวมถึงมีความสามารถในการสังเคราะห์วติ ามินดีทผี่ วิ หนังน้อยลงด้วย ดังนัน้ สมาคมทางด้านสุขภาพจึงได้ เริม่ แนะน�ำการรับประทานวิตามินดีมากขึน้ และเพือ่ ให้เป็นไปตามค�ำแนะน�ำ จึงได้มผี ลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกมามากมายเพือ่ ช่วยลดช่องว่างทีไ่ ม่สามารถ เติมเต็มได้ด้วยมื้ออาหารปกติเพียงอย่างเดียว

การมองเห็นที่ชัดเจน

เช่นเดียวกับร่างกาย เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ดวงตาและการมองเห็นก็เริ่มที่จะ เสือ่ มสภาพตามไปด้วย โดยผูส้ งู อายุมกั มีปญ ั หาทางด้านการมองเห็นอันเนือ่ ง มาจากภาวะต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม หรือ AMD ในทางการแพทย์ พบว่าลูทีนและซีแซนทีนช่วยรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ โดยสารอาหาร ดังกล่าวจัดเป็นรงควัตถุกลุ่มแคโรทีนอยด์พบในผักและผลไม้ ในร่างกาย พบได้มากสุดที่บริเวณจุดศูนย์กลางของเรตินา ซึ่งเป็นส่วนที่เกิดจุดภาพชัด (Macula) โดยจะเห็ น เป็ น จุ ด สี เ หลื อ งซึ่ ง เกิ ด จากรงควั ต ถุ ที่ ป กคลุ ม อยู ่ โดยจุดภาพชัดนีจ้ ะท�ำหน้าทีแ่ สดงภาพทีต่ ามองตรงไปข้างหน้า ท�ำให้เรามอง เห็นรายละเอียดต่างๆ ด้านหน้าได้ ขับรถได้ อ่านหนังสือได้ และเห็นภาพ ได้อย่างชัดเจน ลูทีนและซีแซนทีนท�ำหน้าที่ในการปกป้องดวงตา โดยเพิ่มความเข้มข้น ของรงควัตถุที่ปกคลุมอยู่บริเวณจุดรับภาพ ซึ่งจะท�ำหน้าที่ดูดกลืนแสงสีฟ้า ที่เป็นอันตรายและปกป้องเรตินาจากอันตรายนั้น โทนสีขาวอันเป็นแหล่งของ คลืน่ แสงสีฟา้ ทีอ่ อกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหลอดไฟซึง่ เป็นสาเหตุของ ภาวะความตึงเครียดในดวงตาและการอักเสบของเรตินา นอกจากนี้ ลูทีน ยังท�ำหน้าทีเ่ ป็นสารต้านอนุมลู อิสระทีม่ ปี ระสิทธิภาพช่วยในการปกป้องเซลล์ สิ่งมีชีวิตจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ การที่ร่างกายมีปริมาณ ลูทีนมากจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดจอประสาทตาเสื่อมเมื่อมีอายุ มากขึ้น

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

แล้วร่างกายของเราต้องการลูทนี ในปริมาณเท่าไร? จากการศึกษาแนะน�ำ ว่าการได้รับลูทีน 6-10 มิลลิกรัมต่อวันจะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มความเข้มข้นของรงควัตถุทจี่ ดุ รับภาพ แต่การรับประทานลูทนี โดยทัว่ ไปนัน้ น้อยกว่า ปริมาณทีแ่ นะน�ำมาก ส�ำหรับในกลุม่ ประเทศตะวันตกพบว่าโดยเฉลีย่ ร่างกาย จะได้รับลูทีนเพียงแค่ 1-2 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น นอกจากลูทีนแล้วยังมีหลักฐานเพิ่มเติมอีกมากที่สนับสนุนประโยชน์ของ โอเมก้า-3 ว่าดีต่อสุขภาพดวงตา เนื่องจากกรดไขมันโอเมก้า-3 พบมากที่สุด ในร่างกายอีกแห่งหนึ่งก็คือที่เรตินา ดังนั้น การได้รับโอเมก้า-3 ในปริมาณ ที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายจะช่วยปกป้องดวงตาให้มองเห็นได้ดี แม้มีอายุมากขึ้น การศึกษาแบบ Meta-analysis ยังพบว่าการบริโภคอาหาร ทีม่ ปี ริมาณกรดไขมันโอเมก้า-3 เช่น น�ำ้ มันปลาจะช่วยลดความเสีย่ งจากการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรลืมพื้นฐาน ของสารอาหารที่บ�ำรุงสายสายตาอย่างวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็น สารตั้งต้นของวิตามินเอ โดยมีความจ�ำเป็นต่อการดูและและรักษาดวงตา ให้มองเห็นได้อย่างปกติเช่นกัน

จากการป้องกัน สู่การดูแล

ผู้บริโภคมีความแตกต่างกันเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ซึ่งอาจแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม คือ ด้ า นหนึ่ ง เป็ น กลุ ่ ม ผู ้ ที่ ดู แ ลสุ ข ภาพในเชิ ง รุ ก ทั้ ง ยั ง เปิ ด กว้ า งและเต็ ม ใจ ทีจ่ ะเปลีย่ นแปลงวิถชี วี ติ และอาหาร ในขณะทีอ่ กี ด้านหนึง่ คือผูบ้ ริโภคทีย่ อมรับ กับความชราทีเ่ ป็นไปตามวัยและเลือกทีจ่ ะบ�ำบัดรักษาตามอาการ แม้ในความเป็นจริงคนเราจะแก่ขึ้นไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น แต่แนวคิดการป้องกันก็ยังคงดี กว่าการรักษา และข่าวดีกค็ อื วงการวิทยาศาสตร์และการวิจยั ในยุคปัจจุบนั ได้ ให้ข้อมูลที่เพียงพอแก่เราเพื่อทราบว่าสารอาหารใดจะเหมาะสมและเป็น ประโยชน์กับเราในช่วงเวลาต่างๆ อีกทั้งยังมีหน่วยงานภาครัฐ ผู้ผลิต และ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม ที่ต่างมีส่วนร่วมในการสื่อสารประโยชน์ของ การมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยความหวังว่าจะสามารถจัดการกับอายุที่เพิ่มขึ้น ได้เป็นอย่างดีเมื่อเวลาผ่านไป โภชนาการเป็ น กุ ญ แจส� ำ คั ญ ของชี วิ ต เมื่ อ คนเรามี อ ายุ เ พิ่ ม มากขึ้ น โดยมี ส ่ ว นร่ ว มไปกั บ การดู แ ลรั ก ษาสุ ข ภาพและความเป็ น อยู ่ ต ลอดชี วิ ต ในศตวรรษที่ 20 คนเราคาดหวังว่าจะมีอายุยืนกว่า 30 ปี แต่ความคาดหวัง ด้านสุขภาพในทางกลับกันยังคงตกไป 8-11 ปี ดังนัน้ อาหารทีม่ ปี ระโยชน์และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะเข้ามาเป็นตัวเลือกทีน่ า่ สนใจทีจ่ ะช่วยลดความเสีย่ ง ต่อการขาดสารอาหาร และป้องกันหรือจัดการกับโรคเรื้อรัง ซึ่งจะท�ำให้เรามี คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีความสุขกับการใช้ชีวิตที่ยืนยาวขึ้น

STRATEGIC R & D

Nutritional Solutions for Optimizing the Golden Years

Good nutrition as part of a healthy lifestyle has a significant contribution in giving more life to years, particularly in managing decline and minimizing loss of function. The vital role of nutrition in the maintenance of brain, eye and joint health are discussed along with potential strategies to reduce the risk of cognitive decline, age-related loss of sight and immobility. It will not take anyone by surprise that the world’s population is getting older – aging and its impacts have been dominant topics in the last few years and continue to be widely discussed by some of the biggest economies in the world. Compared to the 1950s, when 205 million persons aged 60 or over were living throughout the world, the number had tripled to 606 million fifty years later. According to United Nations’ Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (ESCAP), almost two-thirds of the world’s older persons will be living in Asia-Pacific by 2050. It is also expected that the proportion of the “oldest-old” (those above 80 years of age) will constitute 18% of older persons by 2050. While there is virtually no stopping of this global phenomenon, there are increasing concerns surrounding two critical areas related to aging: mental decline

and physical immobility. In the golden years of life, maintaining independence and preventing disability are fundamental in ensuring good quality of life. In order to achieve this, functional capacity in terms of sight, mental ability and physical mobility need to be maintained.

The Aging Transition

As we grow older, changes in body composition, organ functions as well as mental and physical performance will occur in all of us. As such, there will be a greater focus on maintaining health and a higher awareness for products offering health benefits. With lower energy requirements while concurrently having increased requirements for some essential nutrients, the aging consumer will be looking for nutrient dense food as a product choice. Nutrient density refers to foods that have high levels of essential nutrients per food unit and are therefore deemed high-quality foods. Smaller packaging sizes as well as convenient and healthier single-serve meals will also become more popular, reflecting the changing lifestyle of the aging population.

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

STRATEGIC R & D

Consumers aged 50+ are already reported to be over-represented among buyers of food brands with health benefits and their repeat purchase rates are higher than average. Depending on the product category, their repeat purchase could be as high as about 80%. Functional foods and beverages are becoming popular solutions to address age-related complaints like memory loss, impaired mobility, fatigue and declining vision.

Cognitive Health And Then Some

Cognition is a combination of mental processes that includes the ability to learn new things, intuition, judgment, language and remembering. When cognition is impaired, a person has trouble with these processes that begin to affect the things he or she can do in everyday life. Later stage cognitive impairment is dementia, the most common form being Alzheimerâ&#x20AC;&#x2122;s disease, is characterized by progressive and profound loss of memory, cognitive function and ability to carry out daily functional activities of living. In Japan, it is estimated that two million people suffer from dementia and this number will likely increase as the population ages. Long chain poly-unsaturated fatty acids (LC-PUFA), in particular omega-3s and specifically eicosapentaenoic acid (EPA) and docosahexaenoic acid (DHA) constitute the predominant LC-PUFAs in the brain and neural tissues. They are crucial for maintenance of brain function and according to several studies, high blood levels of omega-3s may help preserve cognitive functions in the elderly. In the Longitudinal Study of Aging published by the Japanese National Institute for Longevity Sciences, 232 male and 198 female Japanese aged 60-79 were assessed with the mini-mental state examination for cognitive decline. Researchers found that a moderately high level of serum DHA may prevent cognitive decline among community-dwelling elderly Japanese individuals. In another trial with more than 1,600 individuals between 45 and 70 years, researchers found that omega-3 fatty acids and fish consumption were inversely related to the risk of impaired overall cognitive function and speed.

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

Depression is extremely common in older adults with mild cognitive impairment and increases the risk of developing dementia. Clinical trials investigating the efficacy of omega-3 supplementation in alleviating depressive symptoms have found positive results in about half of published studies. In a randomized controlled trial in a group of 50 people over the age of 65 with mild cognitive impairment, researchers found that groups supplemented with high DHA (1.55g DHA + 0.40g EPA)/day or high EPA (1.67g EPA + 0.16g DHA)/day over 6 months significantly improved depression scores while the group supplemented with high DHA also had significantly improved verbal fluency. In addition to omega-3s, there is a fundamental role for B vitamins in neurological and psychological functions. For example, low levels of vitamin B12 have been associated with memory loss and cognitive deficits. Randomized controlled studies show that supplementation of vitamin B12 and folic acid may improve the cognitive status of older adults: long term supplementation of daily oral 400 Îźg folic acid and 100 Îźg vitamin B12 promoted improvement in cognitive functioning after 24 months, particularly in immediate and delayed memory performance. Vitamin B12 deficiency can also be caused by a lack of intrinsic factor, a substance secreted by the stomach cells that binds to vitamin B12 and enables its absorption or inadequate stomach acid supply, both of which are often observed in elderly people.

The Challenge of Physical Changes

Human aging is associated with a significant deterioration of body composition, characterized by an increase in body fat mass and a decrease in lean body mass leading to changes in metabolism. There is a redistribution of body fat from mainly subcutaneous to abdominal fat while the decrease in lean body mass is caused by a reduction in size and strength of skeletal muscle. Conjugated linoleic acid (CLA) has been proven to improve body composition by reducing body fat mass modestly while maintaining or increasing lean body mass, and is also effective in targeting fat in the midriff area. A meta-analysis summarized the findings of various clinical trials and concluded that CLA can reduce body fat mass by 0.09 kg /week. This reduction, though of seemingly little consequence at first glance, is still significant when the current trend of weight gain is considered e.g. populations in developed countries gain an average of 0.4 kg per year (0.009 kg/week). Consequently, these weight gains add up over time and CLA could contribute to prevent the gradual accumulation of fat mass during aging.

STRATEGIC R & D

The other compromise to the muscle-skeletal system from aging is bone density reduction. In particular, women tend to lose bone mass at an accelerated rate after menopause resulting in a higher risk of fractures and other associated complications. Calcium and vitamin D are two key nutrients to support normal bone metabolism and to prevent bone loss. Vitamin D is also vital for the maintenance of normal muscle function and strength to reduce the risk of falls. In the last few years, multiple studies and surveys have reported the prevalence of vitamin D deficiency in various populations in many countries. Elderly people typically get less exposure to the sun and have reduced capacity for skin synthesis of vitamin D. Therefore, health associations have started to increase the recommendations for vitamin D intake. In order to meet this recommended levels, there is a need for fortified foods or dietary supplements to cover gaps that cannot be met through diet alone.

risk of both early and late AMD. Finally, not forgetting the fundamentals, vitamin A and beta-carotene as a precursor of vitamin A, are also essential for the maintenance of normal vision.

From Prevention to Condition Management

The different types of consumers in their active aging years vary. On one end of the spectrum are proactive health managers, open and willing to make changes to their lifestyle and diets while on the other end of the continuum are consumers who accept aging loss as a given and would only medically treat major conditions. While prevention being better than cure is widely touted as the ideal solution, age-related impairments are a reality. The good news is that science and research in this day and age have given us enough information to know how the right nutrients can benefit the right people at the right time. Government bodies, manufactuers and industry stakeholders all have a part to play in communicating the benefits of better health and lifestyle choices in the hope that this aging transition can be better managed over time. Nutrition is key to positively influencing the aging process as well as maintaining health and well-being throughout a personâ&#x20AC;&#x2122;s lifetime. In the 20th century, life expectancy has increased by more than 30 years but health expectancy on the other hand still falls short by 8 to 11 years. Functional foods and dietary supplements can be an attractive option to help reduce the risk of nutrient deficiencies, enhance quality of life and prevent or manage chronic diseases thus making lifetime vitality happen where one can enjoy more life to years.

Maintaining Clear Vision

Just like the body, the eyes and hence sight start to deteriorate over time. Cataracts and age-related macular degeneration (AMD) are the two main causes of vision loss in the elderly. Dietary pigments such as lutein and zeaxanthin belong to the family of carotenoids found in many fruits and vegetables and besides the coloring effect, carotenoids also have many health benefits. Lutein and zeaxanthin in particular are concentrated in the central part of the retina where they accumulate and form the macular pigment known as the yellow spot. The macula is responsible for central vision which is the ability to see clearly when the eyes are looking straight ahead allowing us to drive, read and see details sharply. Here lutein and zeaxanthin play a protective role by increasing macular pigment density absorbing harmful blue light and preventing the retina from damage. Electronic screens and lights emitting cold-white light are sources of blue light which causes oxidative stress and inflammation when it reaches the eyes. Lutein also acts as an effective antioxidant protecting important biomolecules and cells against damage induced by free radicals. A high dietary intake of lutein has also been associated with a reduced risk of age-related macular degeneration. So how much lutein do you need? Studies suggest that 6-10 mg/ day of lutein may be beneficial to increase macular pigment density, but actual intake is far below, on average at only 1-2 mg/day in most Western countries. Besides lutein, a growing body of evidence supports potential benefits of omega-3 fatty acids for eye health, as the retina has one of the highest concentrations of omega-3 fatty acids in the body. Sufficient supply is necessary to maintain and protect visual structures throughout all life stages. Meta-analysis of studies show that the consumption of foods rich in omega-3 fatty acids like oily fish is associated with a reduced AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

STRONG QC & QA จากข้อมูลในปี 25591 ประเทศไทยเป็นผู้น�ำส่งออกอาหารอันดับที่ 13 ของโลก โดยแบ่งสัดส่วนของการส่งออกเป็น อาเซียนร้อยละ 28.4 ญี่ปุ่น ร้อยละ 13.9 สหรัฐอเมริการ้อยละ 11.9 ยุโรปร้อยละ 10 เป็นต้น นอกจากนี้ GFSI Recognized Standard ได้มีการพูดถึงความส�ำคัญของการเข้าถึง กฎหมายไว้ในข้อก�ำหนด เช่น BRC Food Standard issue 7 ข้อก�ำหนด 1.1.62, IFS Food version 6 (April 2014) ข้อก�ำหนด 1.2.10, FSSC Additional Requirement no. 3 และ SQF ข้อ 2.4.1.1 ใจความส�ำคัญของข้อก�ำหนดได้กล่าว่าองค์กรต้องจัดให้มีระบบในการเข้าถึงข้อมูลเพื่อให้มั่นใจได้ว่าองค์กรได้ถูกแจ้งและทบทวนข้อมูล ดังนั้น

สามารถสรุปได้ว่าจุดประสงค์ของข้อก�ำหนดคือเพื่อให้มั่นใจได้ว่าองค์กรได้ มีการเตรียมความพร้อมและเข้าถึงอย่างเป็นระบบ ข้อมูลทีไ่ ด้รบั เป็นปัจจุบนั ทันสมัย สามารถเข้าถึงข้อมูลทางวิชาการ วิทยาศาสตร์ กฎหมายของ ประเทศคูค่ า้ ปลายทาง เป็นต้น และน�ำไปประยุกต์ใช้ในระบบความปลอดภัย ทางอาหารเพื่อป้องกันอันตรายและความเสี่ยงใหม่ๆ นอกจากนี้ ประเด็น ทางด้านความปลอดภัยของอาหารและกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง ต่อเนื่อง

กฎหมายอาหารต่างประเทศ กฎหมายอาหารต่างประเทศท�ำไมจึงมีความส�ำคัญ แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือใดบ้าง ความถี่เท่าไรที่เราควรจะเข้าถึงแหล่งข้อมูล เหล่านี้ล้วนเป็นค�ำถามที่ได้ยินมาบ่อยครั้ง ก่อนอื่นต้องขอท�ำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนดังนี้

วงศ์กานต์ ดิษฐกวี Wongkan Ditthakavee

Lead Auditor wongkan.ditthakavee@sgs.com SGS (Thailand) Limited

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

STRONG QC & QA

ดังนัน้ กฎหมายจึงเป็นส่วนส�ำคัญทีผ่ ปู้ ระกอบการควรให้ความส�ำคัญ เพื่อให้สินค้าสามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้ โดยเริ่มจาก 1. ก�ำหนดทีมงานที่ท�ำหน้าที่รับผิดชอบ 2. ก�ำหนดกรอบเวลาในการเข้าถึงข้อมูล อยู่ที่องค์กรประเมิน แต่ทั้งนี้ ไม่ควรจะเป็น 6 เดือนครั้ง หรือ 1 ครั้งต่อปี เพราะประเด็นทางความปลอดภัยของอาหารและกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 3. เข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ อาทิเช่น • เป็นสมาชิกองค์กรหรือสมาคมการค้าต่างๆ • สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับข่าวสาร เช่น องค์การอาหารและยา ของสหรัฐอเมริกาทีเ่ ปิดช่องทาง ทัง้ twitter, facebook, youtube เป็นต้น • ข่าวสารจากทางภาครัฐบาลหรือหน่วยงานราชการท้องถิ่น เช่น - กองตรวจสอบคุณภาพสินค้าประมง กรมประมง (www4.fisheries.go.th/index.php/dof) (www.fisheries.go.th/quality) - ส�ำนักตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ (www.qcontrol.dld.go.th) - กรมการข้าว (www.ricethailand.go.th/web) - กระทรวงพาณิชย์ (www.moc.go.th) - ส�ำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (www.acfs.go.th) - สถาบันอาหาร (www.nfi.or.th) - กรมส่งเสริมการค้าระหว่างการประเทศ (www.ditp.go.th/home.php) • เว็บไซต์หน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบเกีย่ วกับกฎหมายอาหารของแต่ละ ประเทศ เช่น - สหรัฐอเมริกา (www.fda.gov) - สหภาพยุโรป (www.ec.europa.eu/food/plant_en) - แคนาดา (www.inspection.gc.ca/food) - ญี่ปุ่น (www.jetro.go.jp/en/reports/regulations) - ฮ่องกง (www.cfs.gov.hk/english/food_leg/food_leg.html)

- ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (www.foodstandards.gov.au) - สิงคโปร์ (www.ava.gov.sg) • องค์กรระหว่างประเทศ - Codex Alimentarius (www.fao.org/fao-who-codexalimentar ius/en) - World Health Organization (WHO) (www.who.int/en) - Food and Agricultural Organization of the United Nations (FAO) (www.fao.org/home/en) 4. เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็น�ำมาทบทวนและสื่อสารภายในองค์กร เพื่อให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับกฎหมาย หรือหามาตรการตั้งรับ นอกจากตัวอย่างทีย่ กมาทางองค์กรยังสามารถเข้าถึงได้อกี หลายช่องทาง เช่น การประชุมวิชาการ สัมมนา ข่าวสารทางโทรทัศน์ โดยการติดตามกฎหมายอาหารต่างประเทศนั้นจะท�ำให้ผู้ผลิตสามารถ น�ำมาปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสมและเป็นไปตามข้อก�ำหนดของมาตรฐาน ด้านความปลอดภัยอาหาร เพื่อก�ำจัดความไม่ปลอดภัยทางอาหารและ สามารถที่จะเป็นผู้น�ำธุรกิจในตลาดอาหารได้

เอกสารอ้างอิง 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (www. Thasettakij.com) 2 BRC global standard for food safety issue 7 interpretation guideline

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

STRONG QC & QA In 2016, Thailand is no. 13 of food exporters in the world.1 The product exported to Asian 28.4%, Japan 13.9%, USA 11.9%, Europe 10%, etc. On top of that GFSI recognized standard defined the important of legislative in the requirement such as BRC Food Stand issue 7 clause 1.1.62, IFS Food version 6 (April 2014) clause 1.2.10, FSSC Additional Requirement no. 3 and SQF edition 7.2 clause 2.4.1.1. These clauses are stated to ensure that food operator shall have a system in place to be kept informed of and reviews. Therefore, the objective of this clause is to ensure that food operator remains up to date, is able to meet legislation (relevant legislation, scientific and technical development, industry codes of practice) and can adapt it into their food safety system. As a guide, the steps to comply these are 1. Set the key person or team to update. 2. Frequency to access the information is depend on organization. However, it should not be 6 months per year or once per year due to food safety issues and legislative requirement are constantly changing. 3. The activities to achieve are following • To be membership of a trade association • Subscription to a service provider supplying legal updates or you can follow USFDA from twitter, facebook, youtube, etc.

Food Export

Regulation and Standard Why food export regulation is important nowadays? Where can we find reliable information? Frequency of updating? There are many questions come through among food industry situation that is extremely competitive. We have an answer here.

• Information from government officials or local enforcement offices - Fish Inspection and Quality Control Division Department of Fisheries (www4.fisheries.go.th/index.php/dof), (www.fisheries.go.th/quality) - Bureau of Quality Control of Livestock Products (www.qcontrol.dld.go.th) - Rice department (www.ricethailand. go.th/web) - Ministry of Commerce (www.moc.go.th) - National Bureau of Agricultural Commodity and Food Standards (www.acfs.go.th) - National Food Institute (www.nfi.or.th) - Department of International Trade Promotion, Ministry of Commerce (www.ditp.go.th/home.php) • Access websites covering legislation and standards from food safety authority in each country - US Food and Drug Administration (www.fda.gov) - European Commission (www.ec.europa. eu/food/plant_en) - Canada Food Inspection Agency (www.inspection.gc.ca/food) - Japan External Trade Organization (JETRO) (www.jetro.go.jp/en/reports/ regulations) - Centre of Food Safety, The Government of the Hong Kong Special Administrative Region (www.cfs.gov.hk/english/food_ leg/food_leg.html) - F o o d S t a n d a r d s A u s t r a l i a N e w Zealand (www.foodstandards.gov.au) - Agri-Food & Veterinary Authority of Singapore (AVA) (www.ava.gov.sg) • Access international organization website - Codex Alimentarius International Food standard (CODEX) (www.fao.org/fao who-codexalimentarius/en) - World health organization (WHO) (www.who.int/en) - Food and agricultural organization of the United Nations (FAO) (www.fao.org/ home/en) 4. Reviewed and summarized the information. Appropriate changes resulting from the review shall be communicated to relevant parities to ensure that they adapt it into the system. Although this is not exhaustive list, food operator can obtain information from other channel such as seminar, the meeting and news. Finally, the key message of this topic is remaining up to date, able to meet legislation and can adapt it in to their food safety system to eradicate food insecurity and be the leader in food market business.

Reference 1 Thasettakij newspaper (www.Thasettakij.com) 2 BRC global standard for food safety issue 7 interpretation guideline FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

SOURCE OF ENGINEER

ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและน�ำเข้าแห่งประเทศไทย Export-Import Bank of Thailand www.exim.go.th

จับกระแสการลดขยะอาหาร กับโอกาสทางธุรกิจอาหารยุคใหม่

จากข้อมูลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) ระบุ ว ่ า ขณะที่ ป ระชากรโลกราว 800 ล้ า นคน ยั ง คงเผชิ ญ กั บ ความหิวโหยและประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอยูน่ นั้ ราว 1 ใน 3 ของ ปริ ม าณอาหารทั้ ง หมดที่ ผ ลิ ต เพื่ อ การบริ โ ภค กลั บ กลายเป็ น เศษอาหารหรื อ ขยะอาหาร (Food waste) ที่ สู ญ เสี ย ไปอย่ า ง ไร้ประโยชน์ ทั้งนี้ ขยะอาหารเกิดได้จากทุกขั้นตอน ตลอดห่วงโซ่ อุปทาน ตั้งแต่การผลิต ขนส่ง และจ�ำหน่าย ไปจนถึงมือผู้บริโภค โดยสาเหตุส�ำคัญนอกจากการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว และขนส่งที่ไม่มี ประสิทธิภาพจนท�ำให้ผลผลิตทีไ่ ด้ไม่ตรงกับความต้องการของผูบ้ ริโภค และท�ำให้สินค้าบางส่วนเสียหายแล้ว พบว่า ความสูญเสียส่วนมาก เกิดจากการทีซ่ เู ปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารต่างๆ มักน�ำอาหารทีจ่ ำ� หน่าย ไม่หมดไปทิ้ง (ทั้งที่ยังอยู่ในสภาพรับประทานได้โดยปลอดภัย)

เนือ่ งจากสินค้าดังกล่าวมีขนาดหรือรูปร่างไม่สวยงามตามมาตรฐานทีผ่ บู้ ริโภค นิยมเลือกซือ้ รวมถึงหีบห่อทีบ่ รรจุอยูใ่ นสภาพไม่สมบูรณ์ หรือเกินวันหมดอายุแล้ว ดังนั้นจึงมีสินค้าจ�ำนวนมากที่ถูกทิ้งในแต่ละวัน นอกจากนี้ กลยุทธ์การตลาด ที่บริษัทผู้ผลิตกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้ออาหารในปริมาณมากเกินความจ�ำเป็น อาทิ ซื้อ 1 แถม 1 ท�ำให้ผู้บริโภคแต่ละครัวเรือนต่างมีอาหารเหลือทิ้งมากเช่นกัน ขยะอาหารเหล่านี้ นอกจากเป็นภาระในการจัดการของผู้ประกอบการและ ครัวเรือนแล้ว ยังก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน จากสถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้สังคมหันมาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กับการหาวิธีลดปริมาณขยะอาหาร อาทิ การจัดตั้งธนาคารอาหาร (Food Bank) ในหลายประเทศเพื่อท�ำหน้าที่รวบรวมอาหารที่ไม่เหมาะแก่การจ�ำหน่ายทั้งจาก ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านอาหาร ไปบริจาคให้แก่ผทู้ ขี่ าดแคลน การปรับปริมาณและ และรสชาติของเมนูอาหารในโรงเรียนให้ตรงกับความต้องการของนักเรียนมากขึน้

เพื่อมิให้มีอาหารเหลือทิ้งจ�ำนวนมาก การรณรงค์ให้ผู้บริโภคมีความรู้และ ความเข้ า ใจฉลากสิ น ค้ า ถึ ง ความแตกต่ า งระหว่ า งค� ำ ว่ า “Best Before” และ “Expired Date” ที่ระบุอยู่บนฉลากสินค้า เพื่อลดความสับสนแก่ผู้บริโภค กล่าวคือ • Best Before หมายถึง สินค้าอาหารนี้จะยังคงมีสภาพสดใหม่และ คุณภาพดีหากน�ำมารับประทานก่อนวันที่ระบุ นอกจากนี้ หลังจากวันที่ระบุ ไปแล้วสินค้าอาหารนีก้ ย็ งั สามารถรับประทานหรือน�ำมาปรุงอาหารได้ตามปกติ แต่สินค้าอาหารดังกล่าวอาจมีสี กลิ่น รส หรือเนื้อสัมผัส ที่เปลี่ยนแปลงไปจาก ปกติบ้าง • Expired Date หมายถึง หลังจากวันที่ระบุแล้วห้ามรับประทานหรือ ไม่ควรน�ำมาบริโภค นอกจากนี้ หลายประเทศยังสนับสนุนการลดปริมาณขยะอาหารอย่างจริงจัง ด้วยการก�ำหนดกฎระเบียบขึน้ เฉพาะ อาทิ ฝรัง่ เศสออกกฎหมายห้ามซูเปอร์มาร์เก็ต ทิ้งหรือท�ำลายอาหาร แต่ให้น�ำอาหารเหล่านั้นไปบริจาคแก่องค์กรการกุศล และธนาคารอาหารเกาหลีใต้ตดิ ตัง้ เครือ่ งก�ำจัดขยะเศษอาหาร RFID ในชุมชนทีอ่ ยู่ อาศัย ซึง่ เครือ่ งดังกล่าวจะค�ำนวณน�ำ้ หนักขยะอาหารทีแ่ ต่ละครัวเรือนน�ำมาทิง้ และออกใบเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายจากเจ้าของขยะอาหารดังกล่าว ขณะที่ บางรัฐในสหรัฐอเมริกาก�ำหนดให้บริษัทขนาดใหญ่ต้องแยกและ Recycle ขยะอาหาร เป็นต้น จากกระแสความตื่นตัวในการลดขยะอาหารที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้เกิด ธุรกิจใหม่ๆ หรือการท�ำการตลาดใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดขยะอาหาร ที่น่าสนใจ อาทิ • การจัดตั้งซูเปอร์มาร์เก็ตจ�ำหน่ายของหมดอายุ: ‘Wefood’ ในเมือง โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกของโลกที่จ�ำหน่าย ทั้งอาหารหมดอายุที่ได้รับการเก็บรักษาอย่างดี อาหารที่ใกล้วันหมดอายุ หรือ อาหารที่ได้รับบริจาคมา (ทั้งจากห้างค้าปลีกและผู้ผลิตอาหาร) แต่บรรจุภัณฑ์ มีตำ� หนิ ท�ำให้ราคาจ�ำหน่ายสินค้าเหล่านีถ้ กู กว่าสินค้าราคาปกติถงึ กว่าครึง่ หนึง่ จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก • การจั ด ตั้ ง ร้ า นอาหารที่ มี แ นวคิ ด ช่ ว ยลดขยะอาหาร: อาทิ ร้ า น Rub&Stub ใช้ วั ต ถุ ดิ บ อาหารที่ ไ ด้ รั บ บริ จ าคมาปรุ ง เป็ น เมนู อ าหาร ร้าน WastED ใช้วัตถุดิบที่เหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมอาหารทั่วไปมาใช้ประกอบ เป็นเมนูอาหารที่เสิร์ฟในร้าน AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SOURCE OF ENGINEER • การจัดท�ำ Application เพื่อรณรงค์ลดขยะอาหาร: ปัจจุบนั มีหลากหลาย Application อาทิ Too Good To Go (TGTG) เป็น Application ทีร่ วบรวมลิสต์รายการอาหารทีจ่ ำ� หน่ายไม่หมด จากร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านเบเกอรี ที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยลดขยะอาหาร ผู้ใช้ Application ดังกล่าวสามารถสั่งซื้อ สินค้าอาหารในลิสต์ได้ในราคาถูก และไปรับสินค้าภายในเวลา ที่ก�ำหนด Love Food Hate Waste เป็น Application ที่มีสูตร อาหารมากมาย พร้อมช่วยให้ผใู้ ช้ Application สามารถวางแผน ปรุงอาหารแต่ละเมนูในปริมาณทีเ่ หมาะกับจ�ำนวนผูร้ บั ประทาน และค�ำนวณหาปริมาณวัตถุดบิ ทีเ่ หมาะสม เพือ่ ให้มปี ริมาณขยะ อาหารที่ต้องทิ้งน้อยที่สุด • การเปลี่ยนกลยุทธ์การท�ำตลาด: อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต หลายแห่งลดการใช้กลยุทธ์สง่ เสริมการขาย “ขนาดใหญ่ถกู กว่า” หรือ “ซื้อ 1 แถม 1” ซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้แต่ละครัวเรือนซื้อสินค้า อาหารเกินความจ�ำเป็นจนกลายเป็นขยะเหลือทิ้ง แต่หันมาเน้น การจัดโปรโมชัน่ จ�ำหน่ายผัก-ผลไม้ทไี่ ม่สวยหรือมีตำ� หนิในราคา พิเศษ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง • การสนับสนุนการห่อกลับบ้าน: ร้านอาหารหลายแห่ง ในยุโรปมีมาตรการชักชวนลูกค้าที่รับประทานอาหารไม่หมด ในร้านให้ห่อกลับไปรับประทานต่อที่บ้าน

Wefood เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ในกรุงโคเปนเฮเกนซึ่งด�ำเนินการโดยองค์กร ไม่แสวงหาผลก�ำไร สินค้าที่วางจ�ำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตนี้เป็นสินค้าหมดอายุ หรือบรรจุอยู่ในหีบห่อช�ำรุด มีต�ำหนิ มักเป็นสินค้าที่ได้รับบริจาคจากห้างค้าปลีก ผู้น�ำเข้า-ส่งออก และผู้ผลิตอาหาร สินค้าเหล่านี้มีราคาถูกกว่าราคาสินค้าตามปกติ กว่าครึ่งหนึ่ง พนักงานล้วนเป็นอาสาสมัครที่ตื่นตัวเรื่องการลดปริมาณขยะอาหาร ของโลก ทั้งนี้ รายได้ส่วนหนึ่งจากการด�ำเนินงานจะแบ่งให้กับหน่วยงานการกุศล ทีม่ จี ดุ มุง่ หมายจะขจัดปัญหาความหิวโหยทัว่ โลก ล่าสุด Wefood ได้รบั ความนิยมมาก จนเปิดสาขาที่ 2 ตามมาอย่างรวดเร็ว

จากตัวอย่างธุรกิจใหม่ๆ และการท�ำการตลาดใหม่ๆ ข้างต้น แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากระแส การลดขยะอาหาร หรือ Food waste นั้น มีพลังมากเพียงพอที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งในส่วนของผู้ผลิต ร้านค้า ร้านอาหาร ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกของไทย จะเริม่ พิจารณาปรับปรุงกระบวนการผลิตสินค้าให้ลดการสูญเสียระหว่างผลิต หรือพัฒนาบริการใหม่ๆ ทีส่ นับสนุนและสอดคล้องไปกับแนวทางการลดขยะอาหารของโลก รวมถึงการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ อาทิ ปรับบรรจุภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กลงพอเหมาะกับการรับประทานให้หมดในแต่ละครั้ง การใช้ บรรจุภัณฑ์ที่สามารถน�ำมา Recycle ได้ และการติดฉลากวันหมดอายุหรือวันที่ควรบริโภคก่อน ให้ชัดเจน เป็นต้น

Opportunity for Food Business In the New Era The Food and Agriculture Organization of the United Nations (FAO) says that while 800 million global population are struggling with hunger and food shortage, around one-third of the global food processed for consumption are turning into food waste. Notably, food litter can occur in every process in the supply chain from manufacturing, transport, and distribution to the hands of consumer. One crucial factor, apart from ineffective cultivation and transportation, is that many products were not compatible with the demands of the consumers and damages of products during delivery. We also found that largely the loss comes from supermarket’s policy to throw away unsellable food (despite the fact that the products can still be safely consumed) just because the products are not in the size or shape preferred by consumers, have imperfect packages, or expired. Hence, there are large numbers of products being thrown away each day. Moreover, the marketing strategy of the manufacturers, which encourages consumers to buy more that they need, such as 1-free-1, had influenced each household to generate more food waste. These litters are not only the burden to enterprises and household, but greenhouse gasses produced from the waste are causing global warming, too.

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

SOURCE OF ENGINEER

Wefood is a small supermarket in Copenhagen operated by not-for-profit organization. Its products are either expired, packed in imperfect packages, or donated from supermarket, retail shops, importers, exporters, and manufacturers. The food are sold at half-of-market price and all of its staffs are volunteers. Certain amount of profits are donated to charity with aims to eliminate hunger across the globe. Wefood has gained so much popularity that it has to open the second branch right after.

• Establishing Restaurants with Zero Food Waste Trend: Restaurants like Rub&Stub, which uses donated food as ingredients, and WastED, which uses excess from food industry, are going along with this new trend. • Making Application to Campaign for Zero Food Waste: There are many applications at this moment such as Too Good To Go (TGTG), which combines list of food left unsold from partnered restaurants, coffee shops, and bakeries. Users can order listed food in cheap price and receive the products at specific time. Love Food Hate Waste is another application that provides users with food recipes to help them calculate the right amount of ingredient used in each meal and avoid producing waste at any cost. • Changing Marketing Strategy: Many supermarkets are using promotion strategy such as “cheaper by the dozen” or “buy 1 get 1” which encourages household to buy more than they need. This generates food waste. Having a promotion like selling flawed fruits or vegetables at low price will help reduce waste more efficiently. • Promoting Takeaway Culture: Many restaurants in Europe have the policy to embolden customers to take leftover food back home. From the mentioned examples, it is obvious that zero food waste trend is powerful enough to make some changes among manufacturers, retailers, and restaurants. Hence, it is the time that Thai investors and exporters should consider readjusting production process to reduce food waste, or develop new strategy to foster global zero food waste trend. Not only that, decreasing package size to be per consumption, using recyclable packaging, and vividly printing best before or expiry date are also interesting options.

The situation urges the society to seek for solution to combat food waste. Methods like “Food Bank” were established in many countries to collect unsellable food from supermarket and restaurant and donate them to those in need. Some school canteens also adjust the taste of the food and ingredient in the hope that students will consume more and waste less. Campaigns are conducted to raise awareness of the difference between “Best Before” and “Expired Date” for consumers, for example; • Best Before means that the food remains fresh and in good quality if it is consumed before the specified date. However, the food is still edible and cookable after the date, though the taste, smell, and texture of the food may deviate. • Expired Date means that the food should not be consumed after the specified date. Meanwhile, many countries are seriously promoting waste reduction by specifically implementing regulations. France, for instance, restricts supermarket from disposing or destroying food, but to donate them to not-for-profit organizations and food bank. South Korea installs RFID food waste disposal system in many community area, which will calculate the weight of thrown-away food and charge to the household. Some states in the US also regulate large companies to separate and recycle food waste. The increasingly popular zero food waste trend throughout the world has influence new business ideas or new marketing strategies such as; • Establishing Expired Food Supermarket: “Wefood” in Copenhagen, Denmark, is the world’s first ever supermarket selling good quality expired food, nearly expired food, or donated food (from both retail shops and food manufacturers) with flawed packages. These products are half-price cheaper than the original, which is why the shop is very much popular. AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SAFETY ALERT Shailendra Singh

Assistant Vice President / Peroxides Thai Peroxide Co., Ltd. shailendra.t.singh@adityabirla.com

การฆ่าเชือ้ จุลน ิ ทรียก ์ อ่ โรคเป็นส่วนหนึง่ ของโปรแกรมพืน ้ ฐานในการลด ความเสี่ยงจากการปนเปื้อนภายในไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก โดยกระบวนการท� ำ ลายและฆ่ า เชื้ อ จุ ลิ น ทรี ย ์ ส ่ ง ผลให้ อ าหารมี ความปลอดภัยส�ำหรับผูบ้ ริโภค ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ และเป็นไปตามกฎระเบียบมาตรฐานด้านความปลอดภัยในระดับสากล โดยเฉพาะเชื้ อ จุ ลิ น ทรี ย ์ ก ่ อ โรคในเนื้ อ ไก่ อาทิ Salmonella , Campylobacter และ E. coli ซึ่งอาจปนเปื้อนในกระบวนการผลิตได้

การควบคุมจุลินทรียใ์ นกระบวนการผลิต

ผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกโดยใช้กรดเปอร์อะซิติก ขัน้ ตอนการฆ่าเชือ้ จุลนิ ทรียก์ อ่ โรคนัน้ สามารถท�ำได้โดยใช้ไอน�ำ้ ความร้อน หรือ แม้กระทั่งการใช้สารเคมีในการฆ่าเชื้อ เช่น คลอรีน ไอโอดีน สารประกอบควอตซ์ และการใช้กรดเปอร์อะซิติก เป็นต้น เนื่องจากสารฆ่าเชื้อแต่ละชนิดนั้นมีข้อดีและ ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกใช้สารฆ่าเชื้อที่เหมาะสมจึงเป็นความท้าทายส�ำคัญของ อุตสาหกรรมการผลิตอาหารยุคใหม่ โดยหัวใจส�ำคัญในการเลือกสารฆ่าเชื้อ คือ ประสิทธิภาพในการท�ำลายเชือ้ จุลนิ ทรียก์ อ่ โรคโดยเฉพาะ Salmonella และ E. coli การรักษาก�ำลังการผลิตและผลได้ในการผลิต (Yield) ตลอดจนการค�ำนึงถึง ผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงความสอดคล้องกับกฎระเบียบมาตรฐานด้านความปลอดภัยอาหารในระดับสากลด้วย โดยทัว่ ไปแล้วคลอรีนเป็นสารฆ่าเชือ้ ทีน่ ยิ มใช้กนั ในอุตสาหกรรมอาหาร อย่างไรก็ตาม คลอรีนนั้นมีผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม และมีรายงานหลายฉบับ กล่าวอ้างว่าคลอรีนก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ดังนั้น ในช่วง ทศวรรษที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์จึงได้ศึกษาถึงความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม จากการทดลองใช้สารฆ่าเชื้อชนิดอื่นๆ อย่างเช่น กรดเปอร์อะซิติก ในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรปให้การยอมรับว่ากรดเปอร์อะซิติก หรือ PAA เป็นสารฆ่าเชื้อที่สามารถใช้ได้ในอุตสาหกรรมสัตว์ปีก โดยได้รับการ อนุญาตให้ใช้จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA) องค์กรพิทกั ษ์ สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (US EPA) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐาน อาหารสหภาพยุโรป (DEFRA ส�ำหรับประเทศอังกฤษ) และเมือ่ ไม่นานมานี้ ประเทศ ญี่ปุ่นก็อนุญาตให้ใช้กรดเปอร์อะซิติกในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และสัตว์ปีกเช่นกัน 68

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

รวมถึงอนุญาตให้ใช้ได้ในอุตสาหกรรมผักและผลไม้อีกด้วย เพื่อจุดประสงค์ ส�ำหรับเป็นตัวช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์และเป็นสารใช้ควบคุมจุลลินทรีย์ อย่างไรก็ตาม มีรายงานหลายฉบับจากทั่วโลกที่ได้ศึกษาทดลองโดยใช้ กรดเปอร์อะซิตกิ ฆ่าเชือ้ จุลนิ ทรียก์ อ่ โรคเทียบกับการใช้คลอรีน ซึง่ ผลการทดลอง พบว่ากรดเปอร์อะซิติกสามารถลดปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ได้ดี โดยหนึ่งในงาน One of the study in USA shown

Reduction of Salmonella positive carcasses treated with PAA (Peracetic acid) or chlorine during chilling in a commercial* Chill Water Treatment 85 ppm PAA 30 ppm Chlorine

Carcass Sampling Point

Salmonella % Positive

Pre-Chill

30.5a

Post-Chill

2.5c

Pre-Chill

25.5a

Post-Chill

11.0b

% Reduction

91.8 66.0

a-c Means with no common superscript differ significantly (P<0.05). *Bauermeister, L. J., J. W. Bowers, J. C. Townsend, and S. R. McKee, 2008. Validating the efficacy of peracetic acid mixture as an antimicrobial in poultry chillers. J Food Prot., Vol 71 (6): 1119-1122.

SAFETY ALERT ทดลองดังกล่าวของประเทศสหรัฐอเมริกาได้แสดงให้เห็นถึงการลดลงของ เชื้อ Salmonella ในกระบวนการแช่เย็นอาหาร จากการทดลองใช้กรดเปอร์อะซิตกิ ความเข้มข้น 85 ppm เทียบกับการใช้คลอรีนความเข้มข้น 30 ppm พบว่ามีการลดลงของเชื้อ Salmonella ร้อยละ 91.8 และ 66.0 ตามล�ำดับ จากผลการศึกษาพบว่า กรดเปอร์อะซิตกิ มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชือ้ จุลินทรีย์มากกว่าคลอรีนถึงร้อยละ 30 และยังให้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะ ทางประสาทสัมผัส รวมถึงรักษาคุณภาพของสินค้าได้ดีกว่าอีกด้วย มีการรายงานของสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2548 พบว่ามีการปฏิเสธสินค้า อันเนือ่ งมาจากการปนเปื้อนเชื้อ Salmonella ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 3-4 เท่านัน้ หลังจากมีการน�ำสารฆ่าเชือ้ กรดเปอร์อะซิตกิ มาใช้ ซึง่ แต่เดิมมีการ ปฏิเสธสินค้ามากถึงร้อยละ 20 อันเนื่องมาจากการตรวจพบการปนเปื้อน ของเชื้อดังกล่าวในสินค้าไก่แปรรูป ส�ำหรับประเทศไทยก็มีการรายงาน พบซากสัตว์ปีกที่มีการปนเปื้อนของเชื้อ Salmonella อยู่ประมาณร้อยละ 20-25 แม้ว่าจะมีการใช้คลอรีนในระบบน�้ำล้างของโรงงานแล้วก็ตาม ทั้ ง นี้ หลั ก เกณฑ์ แ นวทางปฏิ บั ติ ต ามมาตรฐาน FSIS ส� ำ หรั บ สถานประกอบการเพื่อลดปริมาณจุลินทรีย์ก่อโรค เช่น Salmonella ได้ ก�ำหนดไว้ว่าปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ที่ตรวจพบต้องน้อยกว่าร้อยละ 9.8 หรือที่ระดับ 5/51

การใช้กรดเปอร์อะซิติกในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค:

• กรดเปอร์อะซิติกได้รับการยอมรับให้ใช้ในอุตสาหกรรมสัตว์ปีก ทั้งรูปแบบการสเปรย์หรือฉีด พ่น การล้าง และการจุ่มลงในสารฆ่าเชื้อ เป็นต้น • ความเข้มข้นสูงสุดของกรดเปอร์อะซิติกที่ใช้ได้ คือ 220 ppm (21 CFR 173.370, USFDA) • กรดเปอร์อะซิติกได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นสารเคมีในการฆ่าเชื้อได้ ตามมาตรฐาน EPA (EPA # 65402-1, EPA # 65402-3) อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้กฎระเบียบด้านความปลอดภัยอาหารและ สิ่งแวดล้อมทั่วโลกมีความเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นที่คาดหวังว่า การใช้กรดเปอร์อะซิติกในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคจะสามารถเข้ามา แทนที่การใช้คลอรีนแบบดั้งเดิมในอุตสาหกรรมอาหารต่อไปได้ USDA-FSIS Performance Standards for Poultry Processing

USDA-FSIS Establishment Category Requirements

Microbial Control

in Poultry Processing using PAA Intervention Strategy Disinfection is part of the basic program that reduces the risk from inline contamination during poultry processing. It helps in keeping the food safe for consumers, extend product shelf-life & comply with global food safety regulations. Such as Salmonella, Campylobacter and E. coli occur in live poultry and gets transferred during processing.

Disinfection process can be done by using steam, heat or use some disinfectants such as chlorine, iodine, quartz compounds and Peracetic acid, etc. Since each disinfectant has different advantages and disadvantages. Choosing the right disinfectant is the key challenge encountered by various processors in modern era. The key criteria for selection are efficacy against Salmonella and E. coli, Yield/productivity, the impact on the health of consumers, environmental impact of using a particular chemistry as disinfectant and conforming to global food safety regulation. Perennially chlorine was the key chemical used as a primary disinfectant across food industries; however, it has adverse environmental impact and some studies mentioned its carcinogenic effects on human life. Hence scientist has been studying the environmentally safe PAA chemistry against chlorine for decades. “Peracetic Acid (PAA)” has been recognized as a key intervention chemical for poultry disinfection in US market (USFDA / EPA) and some European countries (DEFRA of England) and it’s widely used by processors. Recently Japan has approved usage of PAA in poultry, meat and fruit & vegetable as shelf life extender and microbial control reagent. Various studies have been done globally to validate the efficacy of PAA against chlorine, one of the study in USA is as below PAA has about 30% higher efficacy against Chlorine and gives better sensory / texture after treatment. In USA percentage rejection due to Salmonella has gone less than 3-4% with intervention of PAA which was originally about 20% in 2005. Currently in Thailand we observe about 20-25% of chicken carcasses shows Salmonella positive even Chlorine is used in the Water supply of the plant. USDA-FSIS performance standard for poultry for Salmonella level (2015) less than 9.8% or 5/51.

Key Intervention Points for PAA;

• Approved for spray, rinse, dip and chiller application for poultry • Approved up to max 220 ppm (21 CFR 173.370, USFDA) • EPA approved as pesticide (EPA # 65402-1, EPA # 65402-3) As the global food and environment safety regulations will become more stringent we foresee PAA chemistry replacing the traditional chlorine chemistry for key food.

ทีม่ า: www.safefoods.net/blog/2016/feb/26/three-implications-of-usda-performancestandards/

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SITE VISIT การเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทริปดังกล่าวยังเป็นการช่วยเชิญชวนและ จุดประกายให้มีผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าและเข้าเยี่ยมชมงาน Fi Asia 2017 จากต่ า งประเทศมากขึ้ น โดยในปี นี้ Fi Asia 2017 จะจั ด ขึ้ น ในวั น ที่ 13-15 กันยายน ณ ไบเทค บางนา คุณรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อ�ำนวยการกลุ่มโครงการ-ภูมิภาคอาเซียน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จ�ำกัด กล่าวว่า ทางยูบีเอ็มได้คัดสรรและ เชิญสือ่ มวลชนในสาขาการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอาหารโดยเฉพาะ ซึง่ การร่วมทริปในครัง้ นีท้ ำ� ให้สอื่ มวลชนได้เข้าใจถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมอาหาร ตลอดจนความส�ำคัญของส่วนผสมอาหาร และสามารถให้ข้อมูล ที่ถูกต้องกับผู้อ่านในประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ผู้สื่อข่าว 31 ราย จาก 7 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ได้เข้าร่วมทริป ดังกล่าวด้วยการสนับสนุนจากส�ำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. โดยได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาหาร เครื่องดื่ม และส่วนผสมอาหารในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและสมุทรสาคร ซึ่งใช้วัตถุดิบหลักที่มีอยู่ ในประเทศไทย และอีก 2 หน่วยงาน ซึ่งให้ค�ำปรึกษาและการบริการด้าน งานวิจัยแก่ผู้ประกอบการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม

บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จ�ำกัด

บริษทั ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จ�ำกัด เป็นบริษทั ในเครื อ ของบริ ษั ท ทิ ป โก้ ฟู ด ส์ จ� ำ กั ด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้น�ำผลิตภัณฑ์ สั บ ปะรดแปรรู ป เพื่ อ การส่ ง ออกของ ประเทศไทย บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จ� ำ กั ด ด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ น�้ ำ ผลไม้ พ ร้ อ มดื่ ม ภายใต้แบรนด์ Tipco แบรนด์ Squeeze โดยครองส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์น�้ำผลไม้สูงสุดในประเทศไทยถึงกว่า ร้อยละ 50 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความส�ำคัญกับการวิจัยและพัฒนา ปรับปรุงผลผลิตทางการเกษตร โดยได้ลงทุนในบริษัท ทิปโก้ไบโอเท็ค จ�ำกัด ซึ่งได้ท�ำการวิจัยและพัฒนาขยายสายพันธุ์พืช และโรงงานสารสกัดจากพืช ตลอดจนพัฒนาสับปะรดสายพันธุ์ทิปโก้หอมสุวรรณ ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของ ทิปโก้โดยเฉพาะ

เมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จ�ำกัด ผู้จัดงาน Fi Asia ได้จัด “Fi Asia 2017 ASEAN F&B Media Campaign” โดยเชิญสื่อมวลชนในภูมิภาคอาเซียนเข้าเยี่ยมชมโรงงานและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ในประเทศไทย ตั้งเป้าให้ Fi Asia เป็นเวทีกลางส�ำหรับธุรกิจส่วนผสมอาหารของอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

SITE VISIT

บริษัท อาเคเดีย ฟูดส์ จ�ำกัด

บริษัท อาเคเดีย ฟูดส์ จ�ำกัด เป็นผู้สร้างสรรค์ วิจยั และพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุม่ ผลิตภัณฑ์ แป้งผสมและแป้งส�ำเร็จรูป (ได้แก่ Predust Batter และ Tempura) กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอส และน�้ำจิ้ม กลุ่มผลิตภัณฑ์ผงปรุงรสและ ผงหมั ก และกลุ ่ ม ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ส ่ ว นผสมอาหาร โดยได้ รั บ การรั บ รองมาตรฐาน GMP HACCP ISO 9001:2008 HALAL BRC Issue 7 รวมทั้งการันตีด้วยรางวัล สุ ด ยอด SMEs แห่ ง ชาติ ด้ า นการบริ ห ารจั ด การงานองค์ ก รในปี 2558 ตลอดจนรางวัล Thai Select จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ส�ำหรับผลิตภัณฑ์ซอสต้มย�ำ ซอสผัดไทย และซอสผัด นอกจากนี้ ยังมีสินค้าเครื่องปรุงรสภายใต้แบรนด์ อาเคดี้ ปรุงดี ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของ ทางบริษทั ฯ สามารถช่วยอ�ำนวยความสะดวกให้กบั กลุม่ ลูกค้า ซึง่ เป็นโรงงาน ผลิตอาหาร โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเตรียมอาหาร ได้เป็น อย่างดี ทางบริษัทฯ เชื่อว่าอาหารที่ดีช่วยส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ควบคู่ไปกับความคิดสร้างสรรค์นั้นสามารถ น�ำไปสู่ผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีนั่นเอง

บริษัท รามา โปรดั๊กชั่น จ�ำกัด

บริษัท รามา โปรดั๊กชั่น จ�ำกัด เป็นหนึ่ง ในผู้น�ำด้านผู้น�ำเข้าและจัดจ�ำหน่าย ส่ ว นผสมส� ำ หรั บ การประยุ ก ต์ ใ ช้ ใ น อุ ต สาหกรรมอาหาร ยา และวั ต ถุ เจือปนอาหารจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย ทางบริษัทฯ ได้น�ำเสนอ โซลูชันเพื่อการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์อาหารด้วยเอนไซม์ ทรานส์ ก ลู ต ามิ เ นส ที่ มี คุ ณ สมบั ติ เ ด่ น ในด้ า นการเชื่ อ มประสานโปรตี น เพิ่ ม ความสามารถในการอุ ้ ม น�้ ำ ปรั บ ปรุ ง คุ ณ ภาพเนื้ อ สั ม ผั ส ตลอดจน เพิ่มผลผลิตและน�้ำหนักของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ซูริมิ อาหารทะเล และ อีกหลากหลายผลิตภัณฑ์

ทางบริษัทฯ ได้ก่อตั้งศูนย์นวัตกรรม ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องปฏิบัติการทดสอบ วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่พรั่งพร้อม ด้ ว ยเครื่ อ งมื อ และอุ ป กรณ์ ทั น สมั ย เพื่ อ สนั บ สนุ น ข้ อ มู ล เชิงเทคนิคในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ให้กบั ลูกค้า โดยแบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ เนื้อสัตว์และ อาหารทะเลแปรรูป เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากนม เบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์เส้น ตลอดจนผลิตภัณฑ์ลูกอม ขนมหวาน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยา นอกจากนี้ยังมีโรงงานผลิต สารผสมอาหารพรีมกิ ซ์ ตลอดจนโกดังเก็บสินค้าและระบบโลจิสติกส์ ทีไ่ ด้มาตรฐาน จึงมัน่ ใจได้ในคุณภาพของสินค้าและการจัดส่งสินค้า ที่ตรงเวลา ทริ ป ในครั้ ง นี้ ยั ง ได้ พ าสื่ อ มวลชนเข้ า เยี่ ย มชมสถาบั น วิ จั ย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ซึง่ มีบทบาทส�ำคัญ ในด้านงานวิจยั สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับชาติ งานวิจยั จาก วว. หลายผลงานได้น�ำมาถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการ ในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ทั้งระดับต้นน�้ำ กลางน�้ำ และปลายน�้ำ นอกจากนีย้ งั ได้เยีย่ มชมคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึง่ ก่อตัง้ ขึน้ ในปี 2523 เป็นทีย่ อมรับในระดับนานาชาติวา่ เป็นผูน้ ำ� ทางวิชาการ และการวิจัยด้านอุตสาหกรรมเกษตรในเอเชีย ผลิตบัณฑิตและงานวิจัยที่มี คุ ณ ภาพ เป็ น ที่ ย อมรั บ ในระดั บ สากล สอดคล้ อ งกั บ ความต้ อ งการเพื่ อ การพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และอุตสาหกรรมภายในประเทศ นอกจากการเยีย่ มชมโรงงานและหน่วยงานต่างๆ แล้ว ยังได้จดั การประชุม ผู ้ สื่ อ ข่ า ว โดยได้ รั บ เกี ย รติ จ ากคุ ณ ดรุ ณี เอ็ ด เวิ ร ์ ด ส ที่ ป รึ ก ษาสมาคม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารแห่งประเทศไทย (FoSTAT) ร่วมให้ ข้อมูลถึงการพัฒนาและแนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ในอาเซียน ตลอดจนมีงานเลีย้ งรับรองเพือ่ เปิดโอกาสให้ผสู้ อื่ ข่าวได้พดู คุยกับ นั ก อุ ต สาหกรรมอาหาร ซึ่ ง เป็ น อี ก ช่ อ งทางหนึ่ ง ในการประชาสั ม พั น ธ์ ความแข็งแกร่งของประเทศไทยในฐานะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมอาหาร และส่วนผสมอาหารในภูมิภาคนี้ …สารผสมอาหารที่มีคุณภาพ จึ ง นั บ เป็ น ส่ ว นประกอบที่ ส� ำ คั ญ ทีช่ ว่ ยสร้างสรรค์ความแตกต่าง และ เติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ าหารและเครื่ อ งดื่ ม อันจะน�ำไปสูก่ ารเป็น “ครัวของโลก” ได้อย่างยั่งยืน…

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SITE VISIT

Thailand

As a Hub of Food Ingredients Provider

UBM Asia (Thailand) Co., Ltd., the organizer of Fi Asia, recently held a successful journalist program named “Fi Asia 2017 ASEAN F&B Media Campaign” to encourage media coverage and position Fi Asia as the ASEAN business platform for food and beverage ingredients. The event was also aimed to inspire more overseas exhibitors and visitors to attend Fi Asia 2017, which will be held on 13-15 September at BITEC Bangkok, Thailand. “We emphasize on selected media that focus on economic development and food industry. Media will understand the industry, importance of ingredients and communicate right message to consumers, if they have actually visited our incredible country and experienced some of our leading food & beverage companies and their products. They can be right communicating tools to the massive prospects.” said Ms. Rungphech Chitanuwat, Group Director - ASEAN, UBM Asia (Thailand) Co., Ltd. With TCEB’s support, 31 journalists from relevant media from 7 ASEAN countries visited 3 leading food companies in Phra Nakhon Si Ayutthaya and Samut Sakhon and 2 institutes, professional research and service on food and food ingredients, beverage and packaging. All visited companies showcased innovative and high quality products which primarily use the abundance of raw materials sources from Thailand.

Tipco F&B Co., Ltd.

Tipco F&B Co., Ltd. operates as a subsidiary of Tipco Foods Public Company Limited. The company produces and distributes ready to drink juices under Tipco brand and Squeeze brand, holding the largest share (approx. 50%) in the fruit juice market in Thailand. The company also emphasizes on research and development of agricultural products; therefore, Tipco Biotech Co., Ltd. has been founded. Tipco Biotech focuses on research and development of plant expansion, plant and herb extraction and breed development of Tipco Hom Suwan pineapple.

Arcadia Foods Co., Ltd.

Arcadia Foods Co., Ltd. is a pioneer in research and development in a wide range of product lines including premixed flours (such as predust, batter and tempura), sauces and dipping sauces, seasoning powders and marinades, and other food ingredients. The company has been certified for GMP, HACCP, ISO 9001: 2008, HALAL, and BRC Issue 7; and has also received the top national SMEs Award for Organization Management in 2015, as well as the Thai Select Award from the Department of International Trade Promotion, Ministry of Commerce for their Tom Yam sauce, Pad Thai sauce, and stir-fry sauce. The company has also announced ‘Arcady Prung Dee’ branded product line to the market. The company’s products offer great convenience for customers

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

in food manufacturing as well as in the business group consisting of hotels, restaurants and catering – or HoReCa. The company believes that good food or dietary brought people’s life better and R&D along with creativity brought good food & dietary.

Rama Production Co., Ltd.

Rama Production Co., Ltd. has been accepted as one of the leading distributors representing world class manufacturers of food and pharmaceutical ingredients and additives from Europe, USA and Asia. The company presented the solution for value creation which is innovative functional compound based on High-Activity Transglutaminase (TG) Enzyme. It provides excellent functions for protein binding, water holding capacity, texture improvement and yield improvement which allows manufacturers to create value for meat, surimi, seafood products and many more applications. Rama Production’s innovation center is served as application lab for R&D and to provide technical services for solving problems and developing product formulations for various segments of products, namely meat and processed seafood applications, dairy and beverage applications, bakery and noodle applications, as well as confectionery, supplement and pharmaceutical applications. Also, there are premix facility and sanitized warehouse with standardized logistics system ensuring product quality and on time delivery. The program also included a visit to Thailand Institute of Scientific and Technological Research (TISTR) – TISTR has long played an eminent role to accomplish the national research mission in science and technology. As a result, the successes of various research projects have been transferred to the industrial and agricultural sectors from upstream, midstream and downstream operations with the complete process management. The last visit was at Faculty of Agro-Industry, Kasetsart University. Established in 1980, the Faculty of Agro-Industry at Kasetsart University has gained worldwide respect and recognition as Asia’s leader in the field of agro-industry and become the best resource for academic studies and scientific research. The faculty’s researches and academic services respond to the needs of people in the agro-industry and play a vital role in advancing the economic and social development of the nation. This program also included press conference in cooperation with Ms.Darunee Edwards, the Advisory Board of the Food Science and Technology Association of Thailand (FoSTAT). The press conference enables the journalists a better understanding of developments and trends in the Thai and ASEAN food & beverage industries. A networking reception allowed industry leaders to informally network with the journalists to further promote Thailand’s strengths and resources for the food & beverage and food ingredients market. …High quality food ingredient is the key to success as it creates food & beverage product differentiation and complete product perfection. These will sustainably boost Thailand to be the “Kitchen of the World”…

SHOW TIMES

Pre Show

Growth in Tourism Industry 6-9 September 2017 @ BITEC

FHT 2017 เปิดโอกาสทางธุรกิจเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สู่อุตสาหกรรมอาหารและโรงแรมระดับโลก ในปี 2559 รายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยคิดเป็นมูลค่ารวม 2.5 ล้าน ล้านบาท จากนักท่องเที่ยว 32.5 ล้านคน โดยในปี 2560 นี้คาดว่าไทยจะมีรายได้จาก การท่องเที่ยวแตะ 2.71 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.17 โดย 1.78 ล้านล้านบาท เป็นรายได้ จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 และจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 930 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7.5 ทั้งนี้ คาดว่าจะมีจ�ำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคน ด้วยเหตุนี้ท�ำให้ภาคธุรกิจอาหารกลุ่มพรีเมียมและโรงแรมมีการเติบโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นายจัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูบีเอ็ม บีอีเอส เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจอาหารกลุ่ม พรีเมียมและโรงแรมในปี 2560 ว่า ธุรกิจกลุ่มนี้ถือว่ายังคงเป็นธุรกิจดาวรุ่งอย่างต่อเนื่อง โดยได้รบั อานิสงค์จากการเติบโตและการขยายตัวของจ�ำนวนนักท่องเทีย่ ว ซึง่ ภาคอุตสาหกรรม การท่องเทีย่ วนับเป็นภาคอุตสาหกรรมส�ำคัญทีช่ ว่ ยขับเคลือ่ นเศรษฐกิจไทย โดยคิดเป็นประมาณ ร้อยละ 10 ของจีดีพี จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการอาหารกลุ่มพรีเมียมและโรงแรมต่างๆ ทั้งไทย และต่างประเทศมองหาโอกาสที่จะเข้ามาด�ำเนินธุรกิจและน�ำเสนอสินค้าและบริการแก่ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดย Food & Hotel Thailand 2017 ถือว่าเป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและบริการพรีเมียมระดับนานาชาติที่ส�ำคัญ งานหนึง่ ของภูมภิ าค และได้รบั ความสนใจจากนักธุรกิจทัว่ โลกเข้ามาน�ำเสนอสินค้าและบริการ รวมถึงแสวงหาความร่วมมือทางด้านการลงทุนและพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งในปี 2560 นี้มีผู้สนใจ เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าภายในงานกว่า 330 ราย จากกว่า 23 ประเทศ และ 5 พาวิลเลียน จากเบลเยียม จีน เยอรมนี ญี่ปุ่น และไต้หวัน ร่วมด้วยผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าชั้นน�ำจาก ต่างประเทศที่จะมาจัดแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ส�ำหรับอุตสาหกรรม อาหารและเครื่องดื่มจ�ำนวนมาก

Thailand’s tourism industry accounts for about 10 percent of Thailand’s GDP. Tourism has become a key driver of economic growth. The Tourism and Sports Ministry projects tourism revenue in 2017 will reach 2.71 trillion Baht, 8.17% higher than the 2.5 trillion Baht expected in 2016. In 2017 expect income of which 1.78 trillion will come from foreign tourists, growing 8.5% from 2016, and 930 billion Baht, will come from domestic tourists, up 7.5%. And the number of international tourists to Thailand is expected to reach 35 million in 2017, up from 32.5 million in 2016. “We should also focus more on building sustainable growth in the long term to stay competitive in tourism. FHT2017 supports Thailand’s dynamic growth in food and hospitality industries by bringing new products and services from world leading companies. FHT is the industry’s choice to find new ideas, news business, premium products and hospitality solutions that help improve competitiveness and increase profitability of their businesses.” Said Justin Pau, General Manager, UBM BES Food & Hotel Thailand (FHT) 2017 is the leading premium international trade exhibition for Food & Drink, Hotels, Restaurants, Cafes & Bakery, Kitchen & Foodservice Equipment, Hospitality Technology and Hospitality Supplies & Services. FHT2017 will present over 330 participants from 23 countries (90% returned from last year), 5 International Pavilions from Belgium, China, Germany, Japan and Taiwan and the industry’s leading events. The key industry players have also confirmed their participation, including food and beverage companies and many more.

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.foodhotelthailand.com

For more information, please visit website www.foodhotelthailand.com

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SHOW TIMES

10,000+ Sq.m. 4 Halls 17,000 Industry Peers 700 Exhibitors from 56 Countries Pre Show

Food ingredients Asia 2017

The most important meeting place for the Southeast Asian food and beverage ingredients industry

เวทีส�ำคัญส�ำหรับอุตสาหกรรมส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ไม่สิ้นสุด 13 – 15 September 2017 @ BITEC, Thailand

กว่า 21 ปีที่ผ่านมา ที่งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมส่วนผสมอาหาร แห่งเอเชีย หรือ Fi Asia ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทุกภาคส่วน และมีอัตราการเติบโต ของงานกว่าร้อยละ 25 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา นับเป็นงานส�ำหรับอุตสาหกรรมอาหารและ เครื่องดื่มส�ำเร็จรูปที่ยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชีย โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับการต่อยอด ทางธุรกิจกับผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงการค้นพบ นวัตกรรม ด้านส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มอีกมากมาย อาทิเช่น สารท�ำละลาย หรือ สารให้ความหวาน นอกจากนีท้ า่ นจะได้เห็น ดมกลิน่ และสัมผัสรสชาติผลิตภัณฑ์จากการ ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมส่วนผสมอาหาร ใหญ่กว่า และดีกว่าเดิม ด้วยพื้นที่การจัดงานที่ขยายขึ้นมากกว่า 10,000 ตร.ม. ครอบคลุมฮอลล์ 101-104 ท่านจะได้พบกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมส่วนผสมอาหารจาก ผู้ประกอบการชั้นน�ำจากในประเทศและต่างประเทศกว่า 700 ราย จากกว่า 56 ประเทศ ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งท�ำให้งาน Fi Asia 2017 ยังคงเป็นผู้น�ำด้านงานแสดงสินค้าส่วนผสมอาหาร และเครื่ อ งดื่ ม ในเอเชี ย ด้ ว ยการเติ บ โตที่ น ่ า ประทั บ ใจถึ ง ร้ อ ยละ 35 ในปี 2558 ในประเทศไทยที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยแต่ยังรวมถึงภูมิภาคอาเซียนด้วย แหล่งรวมความรู้และเทรนด์ใหม่ๆ งาน Fi Asia 2017 เป็นงานที่รวบรวมความรู้ ทางอุตสาหกรรมอาหารและเครือ่ งดืม่ จากหลากหลายการประชุม สัมมนาวิชาการ สัมมนา ทางเทคนิค การจัดทัวร์ส�ำหรับผู้เข้าชมงาน และโปรแกรมที่น่าสนใจอื่นๆ มายมาย อ�ำนาจในการติดต่อธุรกิจ Fi Asia เป็นงานแสดงสินค้าครบวงจรและสมบูรณ์แบบ ในภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครือ่ งดืม่ ทีค่ ณ ุ จะสามารถค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาและ เชือ่ มต่อธุรกิจกับผูป้ ระกอบการธุรกิจอาหารและเครือ่ งดืม่ ชัน้ น�ำระดับโลกกว่า 17,000 ราย ความส�ำเร็จไร้พรมแดน คุณจะได้พบกับพาวิเลี่ยนจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ทั้ง สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน อินเดีย และ ไทย โดยจะรวบรวมผู้ประกอบการด้าน ส่วนผสมอาหารและเครื่องดื่มชั้นน�ำเพื่อน�ำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของแต่ละประเทศ ส�ำหรับผูท้ สี่ นใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทมี่ ากขึน้ หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.fiasia.com 74

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

For over 21 editions, Food ingredients (Fi) Asia has set the standard as the event for food and beverage industry professionals to discover the latest innovations in food and beverage ingredients and much more from acidifiers to sweeteners, and everything inbetween, you can see, taste and smell the latest innovations in food ingredients. Annual growth of about 25% over the last four years, confirms its status as Asia’s flagship F&B ingredients industry event. In its 22nd edition, Fi Asia 2017 continues to break records for exhibitor and visitor attendance, and takes place for over three days, providing unlimited business opportunities. Bigger and Better Than Ever With over 10,000 sqm. of show area showcasing innovative products as presented by more than 700 leading local, regional and international exhibitors, from all sectors of the food and beverage ingredients industry, from more than 56 countries, Fi Asia 2017 retains its unrivalled position as Asia’s number one food ingredients event. With an impressive 35% growth in 2015, the last edition in Thailand reflects the robust growth of the F&B sector, not only in Thailand, but also the ASEAN region. Furthermore, this demonstrates the value that Fi Asia presents to visitors. Extensive Educational Programme In addition to the tradeshow, Fi Asia 2017 brings you priceless industry knowledge across a wide range of conferences, technical seminars, exhibitor tours and other exciting onsite features to help you get the most out of your time. The Power to Connect Fi Asia is a convenient one-stop event, where the food and beverage industries come together to find solutions, solve problems and connect with world-class suppliers and around 17,000 industry peers. Success Across Borders Several countries from around the world – Thailand, USA, Japan, China, Taiwan and India will gather their fellow exhibitors in dedicated pavilions. These country-specific areas on the show floor will gather the expertise of several national companies and showcase their food and beverage ingredient solutions in an international context. Admission is free! Pre-register online for special benefits, or further information, please go to www.fiasia.com.

SHOW TIMES Show Preview BASF (Thai) Ltd. Booth No. Q1

Arcadia Foods Co., Ltd. Booth No. S35

BASF’s Algae Carotenoids Betatene® is derived from natural microalgae Dunaliella salina. Grown in open-air seawater lagoons, the algae, in response to strong sunlight, temperature and salt concentration, produces a mix of carotenoids, creating ‘nature’s defense system.’ Dunaliella carotenoids are a superior anti-oxidant and have benefits for skin, eye and heart health. Produced under highest quality standards, BASF’s algae carotenoids are harvested using the most natural manufacturing process while preserving the integrity of the carotenoid mix.

We Develop, Create and Supply of Innovative and Safety Food Ingredient Arcadia Foods is a market pioneer in development, create and supply of innovative and safety food ingredient focusing on premix flour, sauces, seasoning and ingredient. At the show, we would like to invite everyone to meet our latest innovation of gluten-free premixed flour, Halal certified Shoyu, and a wide range of sauces as well as various kind of seasoning for poultry, seafood, snack and bakery industry.

Kerry – Taste & Nutrition Company Booth No. W1

Brenntag Ingredients (Thailand) Public Co., Ltd. Booth No. L1

Leading to Better, Authentic Taste Experiences - Delivered by Kerry Consumers today want great-tasting products made from real, trusted and authentic ingredients. At Kerry, we develop solutions that meet these needs. From snacks and meat solutions, to beverages and baked goods, and through our newly launched dairy, culinary and sweet collection, you can partner with us to create more authentic and delicious taste experiences that will delight and nourish your consumers.

A Global Market Leader in Chemicals Distribution Brenntag, a global market leader in chemicals distribution, is a reliable supplier for the food and beverage industry of high-quality ingredients sourced from all over the world. We connect to our customers by understanding and meeting their needs, through our food & beverage team experts. Come and experience the wonders of our food additives showcased in selected applications especially prepared for you.

KH Roberts Pte. Ltd. Booth No. G17

Thai Peroxide Co., Ltd. (Aditya Birla Group) Booth No. E1

“Inspiring Healthful and Flavourful Beverages” The health and wellness trend has evolved with consumers now seeking more exciting alternatives beyond regular juices or low sugar beverages. KH Roberts is launching an exciting range of flavour creations, providing fresh inspirations to healthy beverages. Join us in a sensory experience of Corn Silk Tea, Lavender Coconut and Papaya Latte at Fi Asia 2017!

Leading Global Supplier of Food Grade Hydrogen Peroxide and Peracetic Acid in Asia Our product range includes Durox, Tetramate, Combimate- food grade peroxide for aseptic filling lines of TetraPak, combibloc, etc., Clarity for PET bottle aseptic filling lines of Krones, GEA Procomac, Sidel, Toyo Seikan, Multi-100 for disinfection in poultry, seafood and meat, Birlox 15 for native and modified starch bleaching and disinfection, and high purity peroxide for semiconductor industry.

Okuno-Auromex (Thailand) Co., Ltd. Booth No. M22

Chaipattana Solution Co., Ltd. Booth No. F16

Specialized in Food Additive for Shelf-life Extension and Texture Improvement One of leading distributors of food additive for shelflife extension and texture improvement in various food categories including daily dishes, bread & confectionery, noodle & rice, seafood, meat processing and fruit & vegetable processing. We also have a full range of product development and analysis service.

Proudly present AmazinPlums to Enhance Flavors and Textures With a unique blend of fiber, sugars, acids, and antioxidants, AmazinPlums enhance the flavors and textures of a wide variety of food products. This is possible because of the inherent richness of prune plums produced by Sunsweet. They are rich in texture, phenolic compounds, desirable acids, sweetness, and color.

Emsland Group Booth No. C7

Nutrition Sc Co., Ltd. Booth No. R1

Presenting Latest Innovations for Snacks, Soups & Sauces and Glass Noodles Emsland Group uses renewable crops like potatoes and peas for producing high quality starches, flakes and granules, special derivatives as well as proteins and fibres – all made in Germany. At the show Emsland Group is presenting latest innovations for snacks, soups & sauces and glass noodles.

“S-SWISSE” an Innovative Sweetener Blend for Your Exciting Products Nutrition SC is launching a new product under “S-SWISSE” brand at the beginning of August 2017. S-SWISSE is an innovative, sweetener blend. It has a natural- sweetening profile without bitterness or odor. S-SWISSE is suitable for creating exciting new products, especially in food and beverage.

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SHOW TIMES Show Preview Ganeden Inc. Booth No. F34

Rama Production Co., Ltd. Booth No. K9

Introducing 3 Probiotic-Derived Ingredients to Meet Functional Needs Ganeden® is a global probiotic leader in the food, beverage, animal health, sports nutrition and personal care markets. The company offers three ingredients, including GanedenBC30® - Ganeden’s highly stable probiotic ingredient, Bonicel® - a probiotic-derived, anti-aging personal care ingredient and Staimune™ - a new development that utilizes inactivated GanedenBC30® cells to provide immune benefits. Ganeden has 26+ published studies and more than 135 patents.

“Leading Supplier of Innovative Food & Heath Ingredients for More Than 40 Years” Rama Production accentuates our company image as leading supplier of innovative food and heath ingredients for four decades by highlighting our market-friendly prototypes for well-being and cost optimized concepts in key applications such as REAL functional beverages, cost-effective meat & seafood solutions, healthy bakery and entirely new dietary supplement Ideas.

Food Ingredient Technology Co., Ltd. Booth No. P1

Ingredion Singapore Pte. Ltd. Booth No. E17

Introducing Sternzym Fresh Cake Plus 24052 for a Better Piece of Cake Sternzym Fresh Cake Plus 24052 is Enzyme for stirred cake dough, e.g. fairy or cupcakes, pound cake, high-ratio cake and madeira cake etc. This enzyme enhanced and long-lasting elasticity of the crumb. Less crumbling on cutting and better texture properties and crumb stability. Dosage is 0.015 – 0.05% on flour in low fat & low sugar cake and 0.03 – 0.05% in high fat & high sugar cake.

“HOMECRAFT - No Compromising on The Process Tolerance and Stability” HOMECRAFT Create multi-functional rice flours offer smooth, silky textures, opacity and homemade appeal without compromising on the process tolerance and stability manufacturers expect from a modified starch. Applications testing has shown that the rice flours can enhance formulations of baby foods, soups and sauces; dairy alternatives; fruit fillings and snack products; and meats, batters and ready meals, while also offering advantages in the preparation of gluten-free and dairy-free recipes.

SMS Corporation Co., Ltd. Booth No. G9

Fiberstar Inc. Booth No. E25

Leading in Modified Tapioca Starch SMS Corporation offers a wide range of modified tapioca starches in the functions of texturizer, thickener, emulsifier, fat replacer to serve customers for baked goods, noodle, meat, batter mixed, soup & sauce and instant food products. SMS creates a new product line of functional native starches brand “Natura” to serve requirements for clean label products.

Citri-Fi®, A Natural Citrus Fiber, Ideal for Food Development Fiberstar, Inc. manufactures and sells Citri-Fi®, a natural citrus fiber made by a clean patented process. Citri-Fi’s large surface area provides high water holding capacity and natural emulsification properties. This is ideal for meats, dairy, bakery, sauces, dressings and beverages to improve texture, nutrition and/or cost savings.

DPO (Thailand) Ltd. Booth No. N9

Inthaco Co., Ltd. Booth No. R9

“A Superior Choice of Specialty Ingredients & Additives from Around the World” DPO International offers food manufacturers a superior choice of specialty ingredients & additives from around the world. We collaborate with our customers to improve their product quality and develop new formulations to meet ever changing market demands.

One of The Leading Companies in Spray Drying Natural Extract Powder Inthaco focuses on using natural raw materials. Now for more than 33 years, Inthaco’s products are intentionally chosen by both domestic and international customers to be part of their competitive products.

Nova Pacific Co., Ltd. Iprona AG/SPA Booth No. L29

BJC Specialties Co., Ltd. Booth No. M1

“We Import Quality Life” We are proudly present a wide range of imported fruit juice concentrates of berries / superfruits / tropical fruits / mixed fruits from Italy for pure, no sugar added, no preservatives, no colouring agent, complied to EU standards, certified with ISO 22000-1.

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

“Our Ingredients, Your Qualities” With our motto “Our Ingredients, Your Qualities”, we source and cooperate with trusted food ingredient manufacturers worldwide for products best fit our customers’ different applications and needs in food industry such as processed foods, beverages, dairy products, seasoning and sauces, supplement, bakery and others.

SHOW TIMES

Pre Show

14 – 17 September 2017

Brand new update on meat products showcasing the entire meat processing supply chain

พร้อมอัพเดทข้อมูลใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์และกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอน

มหกรรมเนื้อสัตว์ประเทศจีน Meat Expo China ที่จัดโดยบริษัท Messe Frankfurt (Shanghai) จ�ำกัด และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมหมุนเวียน (Circulation Industry Promotion Center - CIPC) หน่วยงานใน สังกัดกระทรวงพาณิชย์ของจีน ครั้งนี้จะย้ายสู่สถานที่จัดแสดงแห่งใหม่ ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ นานาชาติฉางซา (Changsha International Convention & Exhibition Center) โดยจะจัดร่วมกับ งานมหกรรมอาหารและบริการด้านอาหารประเทศจีน China Food & Catering Expo (CFCE) ที่ได้รับการ สนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์มณฑลหูหนาน เพือ่ เป็นเวทีการค้าและการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจส�ำหรับ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสินค้าที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งธุรกิจการบริการด้านอาหาร โดยคาดว่าจะมี ผูจ้ ดั แสดงงานเข้าร่วมจากกว่า 1,200 บริษทั บนพืน้ ทีก่ ว่า 54,000 ตารางเมตร และคาดว่าน่าจะดึงดูดผูช้ ม ได้ราว 20,000 คน

อัพเดทข้อมูลใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์และกระบวนการผลิต เนื้อสัตว์ในทุกขั้นตอน

Meat Expo China, organised by Messe Frankfurt (Shanghai) Co., Ltd. and Circulation Industry Promotion Center of the Ministry of Commerce (CIPC), is confirmed to take place at the new venue Changsha International Convention & Exhibition Center. The fair will also be held in conjunction with the China Food & Catering Expo (CFCE), which is jointly supported by the Ministry of Commerce and the People’s Government of Hunan Province, to provide a comprehensive trading platform and more business opportunities for meat and related products, and catering industries. The fair is expected to house around 1,200 exhibitors across 54,000 sq.m. of exhibition space and welcome 20,000 visitors.

Brand new update on meat products to showcase the entire meat processing supply chain

ในงาน Meat Expo China 2017 ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง หลากหลายรูปแบบ อาทิ เนือ้ สัตว์ ผลิตภัณฑ์ทมี่ เี นือ้ สัตว์เป็นส่วนประกอบหลัก อาหารทะเลและผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีต่างๆ เช่น เทคโนโลยีในการช�ำแหละ อุปกรณ์ และเครือ่ งมือ การแยกชิน้ ส่วน การชัง่ ตวงน�ำ้ หนัก และเครือ่ งมือและเทคโนโลยีในการผลิตเชิงลึก เทคโนโลยี อุปกรณ์ และเครื่องบรรจุภัณฑ์ เครื่องมือและอุปกรณ์ส�ำหรับการแช่แข็ง แช่เย็น และการจัดแสดง ห้องเย็น เครื่องท�ำความเย็น และอุปกรณ์ส�ำหรับตู้เย็น เป็นต้น ทัง้ นี้ ภาคกลางของประเทศจีนนัน้ มีความต้องการเทคโนโลยีในการแปรรูปเนือ้ สัตว์เป็นอย่างมาก และ งาน Meat Expo China 2017 จะท�ำหน้าที่เป็นสื่อกลางเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว

Meat Expo China 2017 will showcase the comprehensive spectrum of meat products and technology including meat, meatbased products, seafood and products, frozen food, ready meals and convenience products; meat-related processing equipment and technology including abattoir technology, equipment and accessories, dismembering, weighing, measuring and deep processing equipment and technology; packaging equipment, materials and technology; refrigeration equipment and technology including refrigeration, freezer and refrigeration showcase, cold storage, cooling materials and refrigerator accessories and more. Central China has experienced an increasing demand for meat processing technologies and facilities and Meat Expo China 2017 will be the marketplace to fulfill those needs.

จับเทรนด์และเทคโนโลยีในกระแสโลก

Addressing global trends and technologies

ด้วยความพยายามทีจ่ ะยกระดับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเนือ้ สัตว์ ผูจ้ ดั งานจึงเดิน หน้าจัดการประชุมผู้น�ำทางด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหาร ภายในงาน Meat Expo China ด้วย โดยจะเชิญองค์กรชั้นน�ำทางด้านการช�ำแหละและการแปรรูปเนื้อสัตว์จาก ต่างประเทศ เช่น AMEC จากประเทศสเปน และตัวแทนจากแบรนด์ชั้นน�ำ เพื่อมาไขโจทย์เกี่ยวกับเทรนด์ และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าต่างๆ ทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์

Taking the initiative to upgrade the technological advancement of the meat industry, the show organisers will host the Summit of Science and Technology Development in the Meat Industry during the fair. The event will invite slaughtering and meat processingrelated overseas associations such as AMEC (Spain) and representatives from renowned brands to address global trends and related advanced technologies.

For more information, please visit: www.meatexpochina.com, hk.messefrankfurt.com, or e-mail meatexpo@china.messefrankfurt.com.

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SHOW TIMES

Pre Show 20-23 September 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand All-encompassing packaging and printing event to showcase line-up tailored for the industry

งานแสดงเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ที่ครบครันครอบคลุมทุกด้าน ตอบทุกโจทย์ส�ำหรับภาคอุตสาหกรรม

300 Exhibitors from 20 Countries with Many Special Pavilions and Conferences

กลับมาอีกครั้งเป็นครั้งที่ 6 ส�ำหรับงาน PACK PRINT INTERNATIONAL งานแสดงเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ และการพิมพ์ น�ำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในด้านเครื่องจักร เทคโนโลยี และโซลูชันจากอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ และการพิ ม พ์ โดยยึ ด แบบตามการจั ด แสดงงานนิ ท รรศการชั้ น น� ำ ของโลก drupa และ interpack โดยงาน PACK PRINT INTERNATIONAL ครั้งนี้ร่วมจัดงานโดยสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย สมาคม การพิมพ์ไทย และ Messe Dusseldorf Asia ซึ่งในปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงมากกว่า 300 ราย จาก 20 ประเทศ อันประกอบด้วยประเทศและกลุ่มประเทศจากเยอรมนี ซึ่งจัดโดย VDMA โดยได้รับเงินทุนสนับสนุน จากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ไต้หวัน จีน ไทย ญี่ปุ่น และจากประเทศสิงคโปร์เป็นครั้งแรก Returning for its 6th edition, PACK PRINT INTERNATIONAL will present an impressive display of the best in machinery, technologies and solutions from the packaging and printing sectors. Modelled after the world’s leading trade exhibitions in their sectors – drupa and interpack, PACK PRINT INTERNATIONAL is jointly organised by The Thai Packaging Association, The Thai Printing Association and Messe Düsseldorf Asia. This year, on show are 300 leading exhibitors from 20 countries, including national and country groups from Germany – organised by VDMA with approved funding from Federal Republic of Germany, Taiwan, China, Thailand, Japan and for the first time, Singapore.

PACK PRINT INTERNATIONAL งานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นเป็นประจ�ำทุกสองปีเป็นงาน ส�ำคัญที่ได้รับการจัดโดยกลุ่มอุตสาหกรรมส�ำหรับภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ เพื่อท�ำหน้าที่เป็นเวทีส�ำคัญส�ำหรับอุตสาหกรรมทั่วทั้งภูมิภาค โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี มาโดยตลอดจากบริษัทและตัวแทนหลากหลายองค์กรที่แวะเวียนกันมาร่วมจัดแสดง อย่างสม�่ำเสมอ ทั้งนี้ บริษัทชั้นน�ำที่มาร่วมจัดแสดงงาน ได้แก่ HEWLETT-PACKARD, KURZ, KONICA MINOLTA, FERROSTAAL, RISO, RICOH, FUJI XEROX, BOBST, KOENIG & BAUER GROUP (KBA), SCG PACKAGING, ROTOMETRICS, SIAM TOPPAN, FUJIFILM, SANKI MACHINERY, DUPLO, CYBER SM, BST ELTROMAT, BPS UNITED, PMC LABEL MATERIALS, KEYWELL INDUSTRIAL, ROTOMETRICS, ZUND ASIA, NAKAYAMA CORPORATION, TSUKATANI, MBA INTERNATIONAL, HARN ENGINEERING, WAH HO PACKAGING, THAI KK INDUSTRY, FOILMASTER รวมถึงบริษัทอื่นๆ อีกมากมาย

ตลาดเอเชียขับเคลื่อนตลาดบรรจุภัณฑ์โลก และตลาดฉลากในเอเชียที่ก�ำลังเติบโต

จากรายงานของ Smithers Pira เรื่อง อนาคตของบรรจุภัณฑ์โลกถึงปี 2563 บรรจุภัณฑ์ เป็นสินค้าทีจ่ ำ� เป็นต่อชีวติ ประจ�ำวันในตลาดทีพ่ ฒ ั นาแล้ว และสิง่ นี้ ยังเริม่ เป็นประเด็นส�ำคัญ ในประเทศ เศรษฐกิจใหม่ ตลาดบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีมูลค่า 8.12 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 78

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

The biennially-held specialist trade fair – quintessentially one that is curated by the industry, for the industry, continues to gain a foothold in the region as seen through the strong participation and representation – many of which are repeat exhibitors from the packaging and printing industry leaders that include; HEWLETT-PACKARD, KURZ, KONICA MINOLTA, FERROSTAAL, RISO, RICOH, FUJI XEROX, BOBST, KOENIG & BAUER GROUP (KBA), SCG PACKAGING, ROTOMETRICS, SIAM TOPPAN, FUJIFILM, SANKI MACHINERY, DUPLO, CYBER SM, BST ELTROMAT, BPS UNITED, PMC LABEL MATERIALS, KEYWELL INDUSTRIAL, ROTOMETRICS, ZUND ASIA, NAKAYAMA CORPORATION, TSUKATANI, MBA INTERNATIONAL, HARN ENGINEERING, WAH HO PACKAGING, THAI KK INDUSTRY, FOILMASTER and many more.

Asian markets driving growth in global packaging, Asia’s expansive labels market

Packaging is an essential everyday item in developed markets and this is progressively becoming the case in the emerging markets. The market for global packaging amounted to USD 812 billion in 2014, and is forecast to grow at an annual rate of 3.5% to reach USD 998 billion by 2020, largely driven by Asia, according to a recent Smithers Pira report - The Future of Global Packaging to 2020. Alongside these global packaging trends is the expansive labels market in Asia, a new study also from Smithers Pira – The Future of Printed Labels Market to 2019 – shows the region is the largest regional producer of labels with its share expected to grow to more than 41% of the world’s value by 2019.

SHOW TIMES

2557 และมีการคาดการณ์ว่าจะขยายตัวในอัตราร้อยละ 3.5 ต่อปี โดยจะมีมูลค่า กว่ า 9.98 แสนล้ า นเหรี ย ญสหรั ฐ ภายในปี 2563 ซึ่ ง เป็ น ผลมาจากการเติ บ โต ในภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก จากการศึกษาใหม่จาก Smithers Pira เรื่องอนาคตของตลาดฉลากปี 2562 จากแนวโน้มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในตลาดโลก ตลาดฉลากการพิมพ์ในเอเชียมีแนวโน้ม ที่ จ ะขยายตั ว อย่ า งมาก โดยจะเห็ น ว่ า ภู มิ ภ าคนี้ เ ป็ น ผู ้ ผ ลิ ต ฉลากรายใหญ่ ที่ สุ ด โดยคาดว่าส่วนแบ่งในภูมิภาคนี้จะมีการเติบโตมากกว่าร้อยละ 41 ของมูลค่ารวม ของโลกภายในปี 2562 การพิมพ์แบบ Flexography เป็นวิธีการพิมพ์ที่เป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการ ผลิตฉลาก แม้ว่าวิธีการแบบดิจิทัลจะเติบโตอย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับความพยายาม ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การรวมกลุ่มกันของเครือข่ายธุรกิจแบบเฉพาะ ระหว่างประเทศขนาดเล็กในภูมภิ าคเอเชียได้กอ่ ให้เกิดผูเ้ ล่นหลักทีม่ กี ำ� ลังการแข่งขันสูง ประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community - AEC) ซึ่งมี สมาชิก 10 ประเทศเป็นตลาดเกิดใหม่ส�ำหรับซัพพลายเออร์และผู้จัดจ�ำหน่ายใน อุตสาหกรรมฉลากที่น่าจับตามองในช่วงอนาคตข้างหน้า เนื่องจากมีการค้าขายสินค้า การบริการ และการลงทุนมากขึ้น ส�ำหรับตลาดของผู้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มยังคงเป็นหมวดหมู่ที่ใหญ่ที่สุด ของฉลาก ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล และยา

Flexography leads the way as the most common print process in label production, although digital methods are growing rapidly, in tandem with efforts towards sustainability. Also, forming business-specific alliances, smaller countries in Asia have correspondingly become major players in this competitive region. The 10-member ASEAN Economic Community (AEC) is an emerging market for label industry suppliers and converters to watch in the coming years, brought about by enhanced flow of goods, services, and investment capital. For the end use market, food and beverage continues to be the biggest category of labels, followed closely by personal care products and pharmaceuticals.

PACK PRINT INTERNATIONAL เน้นบรรจุภัณฑ์เป็นพิเศษ

Knowledge sharing by industry experts at concurrent events

ตลอดระยะเวลา 4 วันของการจัดงาน PACK PRINT INTERNATIONAL 2017 ได้มีการ ปลุกกระแสการรวมตัวกันของธุรกิจบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ และบ่งบอกถึงเทรนด์ ที่ก�ำลังมาของธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการบรรจุภัณฑ์ หนึ่งในนั้นคือ พาวิลเลี่ยน One Stop Pack & Print ซึ่งจะน�ำเสนอบรรจุภัณฑ์ ที่สร้างสรรค์ ซึ่งได้รับรางวัลจาก 25 สาขาในประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมในหมวดอาหาร และเครื่องดื่ม เภสัชภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องส�ำอาง และสินค้าดูแลส่วนบุคคล และอี ก มากมาย โดยมี เ ป้ า หมายเน้ น การออกแบบบรรจุ ภั ณ ฑ์ ที่ เ ป็ น นวั ต กรรม ตอบโจทย์ผู้ใช้ปลายทาง ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ผู้จัดจ�ำหน่ายวัสดุ และผู้ผลิตเครื่องจักร เพื่อที่จะสามารถน�ำมารวมกลุ่มกันเพื่อรวบรวมและแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ในการสรรหาบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ที่ค�ำนึงถึงระบบนิเวศเป็นส�ำคัญ พาวิลเลี่ยนนี้ จะมุ ่ ง เน้ น ไปที่ บ รรจุ ภั ณ ฑ์ แ ละสิ่ ง พิ ม พ์ ยุ ค 4.0 ซึ่ ง นวั ต กรรมและความก้ า วหน้ า ทางเทคโนโลยีน�ำมาซึ่งความร่วมมือและมุมมองใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ และการพิมพ์

การแลกเปลี่ยนความรู้โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

อีกหนึ่งเวทีที่ท�ำให้งานนี้ครบครัน คือ การจัดการประชุมสัมมนาและงานน�ำเสนอ เชิงเทคนิคต่างๆ ที่ร่วมน�ำเสนอโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและผู้จัดงาน งานนี้ ประกอบด้วยการประชุมเกี่ยวกับการสูญเสียอาหารและของเสีย ที่จัดร่วมกับองค์การ อาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือ กับอุตสาหกรรมบรรจุภณ ั ฑ์ ในการกระตุน้ ให้เกิดการแก้ปญ ั หาเพือ่ ลดการสูญเสียอาหาร และของเสียและหวังว่างานที่น่าตื่นเต้นนี้ ส่งผลประโยชน์ต่อวงการอย่างมีนัยส�ำคัญ” ลงทะเบียนเข้าชมงาน PACK PRINT INTERNATIONAL 2017 ได้ที่ www.pack-print.de

Special Focus: Packaging at PACK PRINT INTERNATIONAL 2017

On the back of these market trends, the industry-leading line-up at the 4-day staging of PACK PRINT INTERNATIONAL 2017 will bring to life the synergistic correlation between pack and print, with an emphasis on packaging. One of which is the One Stop Pack & Print Pavilion, which will showcase 25 award-winning and creative packaging solutions from Thailand covering the food & beverage, pharmaceuticals, electronics, cosmetics and personal care sectors and more, and serve as a targeted platform where innovative packaging designs, packaging end users, packaging producers, material suppliers and machine manufacturers, can come together to source and share best practices in navigating the dynamic packaging and printing ecosystem. Framing this setting would be a focus on Packaging and Printing 4.0 – where innovation and technological advancements bring new synergies and perspectives to packaging and print.

Complementing the show floor is a series of concurrent conferences, seminars and technical presentations led by industry experts and exhibitors. This will include a conference on Food Loss and Waste in collaboration with the Food and Agriculture Organization of the United Nations. “We are pleased to collaborate again with the packaging industry in encouraging a move towards solution for the reduction of food loss and waste and look forward to this exciting event,” said A. Bennett, FAO Senior Food Systems Officer for the Asia Pacific Region. Geared up to be a one-stop converging platform for the industry and to have visitors make the most of their visit to PACK PRINT INTERNATIONAL 2017, networking opportunities with some 15,000 new and potential suppliers, customers and business partners expected from around the world will be made more targeted with a complimentary business matching service, available to all pre-registered visitors.

A. Bennett เจ้าหน้าที่อาวุโส ด้านอาหารของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกขององค์การอาหารและ การเกษตรแห่งสหประชาชาติกล่าว เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ใช้ประโยชน์จากการเข้าชมงานให้ได้มากที่สุด PACK PRINT INTERNATIONAL 2017 มุ่งสู่แพลตฟอร์มที่ได้รวบรวมทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องไว้ใน งานเดียว เพื่อช่วยอ�ำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและผู้เข้าร่วมงานสามารถสร้าง เครือข่ายกับซัพพลายเออร์ใหม่และผู้ประกอบการที่มีศักยภาพกว่า 15,000 ราย ลูกค้า และคูค่ า้ ทางธุรกิจทีค่ าดหวังว่าจะเยือนจากทัว่ โลกจะได้รบั ประโยชน์ทตี่ รงตามเป้าหมายของ ธุรกิจมากขึ้น

For visitor registration to PACK PRINT INTERNATIONAL 2017, please visit www.pack-print.de AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SHOW TIMES

Post Show

food focus Thailand Roadmap # 39:

Chilled & Frozen Products Edition July 7, 2017 @ Jupiter Room, Challenger Hall, IMPACT ข้อมูลจาก Euromonitor International ระบุว่าตลาดอาหารแช่เยือกแข็งในประเทศไทย ในปี 2558 มีมูลค่า 15,700 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 6.0 ต่อปี และคาดการณ์ว่าในปี 2562 จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 19,902 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจัยทีม่ ผี ลต่อตลาดอาหารแช่เยือกแข็ง ได้แก่ รูปแบบการด�ำเนินชีวติ ของคนเมืองทีเ่ น้น ความสะดวก รวดเร็ว ตลอดจนอาหารแช่เยือกแข็งในปัจจุบันมีคุณภาพและมาตรฐาน ใกล้เคียงอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ มากขึ้นกว่าในอดีต นอกจากนี้ยังมีความสะดวก ในการเลือกซื้อ และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจเพื่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม อาหาร แช่เยือกแข็งยังคงมีข้อจ�ำกัดในด้านอายุการเก็บรักษา รสชาติและคุณค่าทางอาหารที่ยัง คงต้องพัฒนาให้ใกล้เคียงกับอาหารแช่เย็นและอาหารปรุงเสร็จใหม่ๆ ให้มากขึ้น อาหารแช่เย็นและแช่เยือกแข็งมีแนวโน้มที่จะพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มากขึ้น อาทิ มีองค์ประกอบของไขมันที่ดีต่อสุขภาพ มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตอย่างสมดุล เน้นโปรตีนที่มีคุณภาพ รวมถึงโปรตีนทางเลือกจากพืช แมลง เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้อง ให้ความส�ำคัญกับสารก่อภูมิแพ้ (Allergen) เนื่องจากผู้บริโภคบางกลุ่มมีอาการแพ้ ในด้านบรรจุภัณฑ์ควรจะเปิดง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในด้านกฎหมาย ทางส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกประกาศ กระทรวงสาธารณสุข เรือ่ ง วิธกี ารวิเคราะห์อนั ตรายและจุดวิกฤตทีต่ อ้ งควบคุมในการผลิต อาหารแช่เยือกแข็งตามหลักเกณฑ์ HACCP โดยได้จัดท�ำโครงการศึกษาศักยภาพผู้ผลิต ในการจัดท�ำระบบ HACCP เพื่อการบังคับใช้เป็นกฎหมายในอุตสาหกรรมอาหาร แช่เยือกแข็ง (ปีงบประมาณ 2549-2553) มาตรวิทยาอุณหภูมนิ บั ว่ามีความส�ำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารแช่เยือกแข็ง เนือ่ งจาก ต้นทุนการผลิตอาหารแช่เยือกแข็งขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบ และการใช้พลังงานในกระบวนการ ผลิตอีกด้วย เนื่องจากต้องใช้พลังงานจ�ำนวนมากในการลดอุณหภูมิของวัตถุดิบตั้งต้น ซึ่งอาจสูงถึง 90 ํC ให้ต�่ำกว่า -18 ํC ข้อมูลที่ได้จากการประยุกต์ใช้มาตรวิทยาอุณหภูมิ เพือ่ วัดอุณหภูมใิ นกระบวนการแช่เยือกแข็ง รวมถึงอุณหภูมขิ องผลิตภัณฑ์อย่างถูกวิธแี ละ แม่นย�ำสามารถน�ำมาปรับเปลีย่ นกระบวนการผลิต รวมถึงปรับตัง้ อุณหภูมใิ นการแช่เยือกแข็ง ใหม่ให้เป็นเงื่อนไขในการผลิตที่เหมาะสม โดยเงื่อนไขและอุณหภูมิที่ปรับตั้งใหม่นี้เป็น อุณหภูมิที่สามารถลดพลังงานในกระบวนการแช่เยือกแข็งลงไปได้ในขณะที่อุณหภูมิ สุดท้ายของผลิตภัณฑ์ที่ได้ยังคงเป็นไปตามมาตรฐาน CODEX CAC /RCP 8-1976 กล่าวคือ มีอุณหภูมิที่ต�่ำกว่า แต่ใกล้เคียง -18 ํC มากที่สุด ซึ่งจะช่วยลดพลังงานในการผลิตอาหารแช่เยือกแข็งลง ส่งผลช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้อย่างเป็นรูปธรรม 80

FOOD FOCUS THAILAND

AUG 2017

According to the Euromonitor International, the market value of frozen food in Thailand was worth THB 15.7 billion in 2015, which has grown continuously by 6% per year. It is expected that the market value will be increased to THB 19.9 billion in 2019. Factors that influence on frozen food market are included people lifestyle, which are now focusing on the fast-moving urbanites, whereas today’s frozen foods have quality and standard that is close to freshly cooked food. Moreover, frozen food is also easy to find, while food producers always develop new products to serve demand of consumers. However, frozen foods still have limited storage shelf life, taste and nutritional that still needs to be developed to be as close as chilled and freshly cooked food. Chilled and frozen foods tend to be developed to become healthier foods, such as have healthy fat, have balanced carbohydrate content, focus on quality of protein, including alternative proteins from plants or insects. Moreover, it also needs to focus on allergens as some consumers are allergy to some allergens. The packaging should be easy to open and environmentally friendly. On the legal side, the Food and Drug Administration (FDA) has issued the Notification of the Ministry of Public Health on Hazard Analysis and Critical Control Points for Frozen Food Production in accordance with HACCP. A study project has been implemented to develop food production efficiency for drawing the HACCP system, which will be enforced under the frozen food industry law (for Fiscal Year 2006-2010). Metrology is important for the frozen food industry. The cost of frozen food is not only relied on price of raw materials, but also on the energy used in the freezing process. This was due to it requires a lot of energy to lower temperature of raw materials from the beginning, which can be as high as 90°C to be lowered than -18°C. With the application of metrology knowledge in temperature measurement, we are able to analyze temperature data and adapt production process. Moreover, we can adjust the freezing temperature to the optimum condition. The optimum condition must be the temperature that can reduce energy in the freezing process, while the final temperature of the frozen product should be in compliance with CODEX CAC/RCP 8-1976, which is as close as -18°C. This leads to energy reduction for freezing process. As a result, the production cost can be lowered in concrete outcome.

SHOW TIMES

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

SURROUNDS

SGS Seminar: Route to ISO 9001:2015 & 14001:2015 Transition and Workshop

ชลบุ รี - บริ ษั ท เอสจี เ อส (ประเทศไทย) จ�ำกัด ผู้เชี่ยวชาญ ในด้านการตรวจสอบ การทดสอบ และการรั บ รองระบบ ได้ จั ด สัมมนา ในหัวข้อ “Route to ISO 9001:2015 & 14001:2015 Transition and Workshop” โดยได้รบั เกียรติจาก คุณกิตศิ กั ดิ์ จิตต์อารี ผูเ้ ชีย่ วชาญและเป็นหัวหน้าผูต้ รวจประเมิน จากประสบการณ์การท�ำงานโดยตรงทางด้านตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันด�ำรง ต�ำแหน่ง QMS Product Manager และนอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก คุณทัศนันท์ เอกเวชวิท ผู้เชี่ยวชาญและหัวหน้าผู้ตรวจประเมิน บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จ�ำกัด มาร่วมเป็นวิทยากรผู้ช่วยผู้บรรยายในครั้งนี้ วั ต ถุ ป ระสงค์ ใ นการจั ด ครั้ ง นี้ เ พื่ อ ให้ ผู ้ เ ข้ า สั ม มนามี ค วามรู ้ แ ละความเข้ า ใจ ในข้อก�ำหนด ISO 9001 และ ISO 14001 เวอร์ชันใหม่ 2015 ที่มีการปรับเปลี่ยนและ มีผลบังคับใช้ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงจะได้รับทราบถึงผลกระทบที่มีต่อระบบ คุณภาพที่องค์กรมีอยู่และการด�ำเนินการขององค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับข้อก�ำหนด ใหม่ พร้อมทั้งน�ำความรู้ที่ได้จากการเรียนทฤษฎีและการลองปฏิบัติ (Workshop) จากงานสัมมนาในครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้ในการปรับเปลี่ยนระบบคุณภาพขององค์กร ต่อไป ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นจ�ำนวนมาก Chonburi - SGS (Thailand) Limited, the world’s leading inspection, verification, testing and certification company organized the seminar under the topic of “Route to ISO 9001:2015 & 14001:2015 Transition and Workshop” taught by Tutor Kitisak Chitaree, Lead Auditor and QMS-Product Manager, SGS (Thailand) Limited and Co-Speaker Tassanan Ekvetchavit, SGS (Thailand) Limited. The objective of the seminar is to provide participants with the knowledge and understanding of the requirements ISO 9001: 2015 and ISO 14001:2015 which have already been modified and effective, the impact on the quality and operation of the organization and comply with the new requirements. Moreover, the knowledge gained from studying the theory and workshop of the seminar that would be helping the participants to apply and modify the quality system of their organization. Many attendees had interest in this seminar.

Enjoy the Italian Cuisine & Meet your Potential Business Partner

กรุงเทพฯ, 1 มิถุนายน 2560 - ส�ำนักงานพาณิชย์ อิตาเลียน (Italian Trade Agency; ITA/ICE) ร่วมกับ Koelnmesse Italia (Anuga), Fiere di Parma – CIBUS, Federalimentare (Italian Federation of Alimentary Industry) จัดงาน Italian Networking Dinner ขึ้น ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ ภายใต้คอนเซ็ป “Enjoy the Italian Cuisine & Meet your Potential Business Partner” เพื่ อ สร้ า งโอกาสทางธุ ร กิ จ ระหว่ า ง ผู้ผลิตสินค้าจากประเทศอิตาลี ผู้แทนจ�ำหน่าย และผู้น�ำเข้าสินค้าของไทยที่มีศักยภาพได้พบ และสานสัมพันธ์ทางธุรกิจ ในโอกาสนีย้ งั ได้นำ� ผูป้ ระกอบการธุรกิจอาหารและ เครื่องดื่มจากประเทศอิตาลีเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าภายในพาวิลเลียนอิตาลี ในงาน Thaifex – World of Food Asia 2017 ด้วย โดยมีผู้ร่วมจัดแสดงสินค้า กว่า 40 บริษัท น�ำเสนอสินค้าอาหารและไวน์ เครื่องดื่ม สินค้าอาหารออแกนิกส์ และส่ ว นผสมอาหารต่ างๆ บนพื้ น ที่ ข นาด 500 ตารางเมตรภายในงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจ�ำนวนมาก Bangkok, 1 June 2017 - Thanks to the cooperation between Koelnmesse Italia (Anuga), Fiere di Parma – CIBUS and Federalimentare (Italian Federation of Alimentary Industry), Italian Trade Agency (ITA/ICE), Trade Promotion Section of the Embassy of Italy had organized the Italian Networking Dinner “Enjoy the Italian Cuisine & Meet your Potential Business Partner” at Mandarin Oriental Hotel Bangkok to provide an exclusive business opportunity for Italian food companies in a big Asian market. It was such a biggest important food and beverage fair in Thailand, Italy pavilion has presented for the fifth time with about 40 important food companies on 500 square meters to showcase their products and services such as fine food & wine, beverage, organics food and ingredients. It was excessively interested by visitors from Thailand and worldwide.

www.sgs.co.th

www.italtrade.com, www.ice.gov.it

กรุงเทพฯ, 4 กรกฎาคม 2560 - เมทเล่อร์-โทเลโด ได้จัดงานสัมมนา หัวข้อ “การวิเคราะห์ความชื้นให้เป็นไปตามความต้องการของกระบวนการผลิต” ณ ห้องสัมมนา ชั้น 3 บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จ�ำกัด (ส�ำนักงาน กรุงเทพฯ) โดยการสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงวิธีการหาค่า ความชื้นในตัวอย่างด้วยวิธีวิเคราะห์แบบมาตรฐาน (Reference method) และวิธีวิเคราะห์แบบรวดเร็ว (Rapid method) รวมถึงการจัดการตัวอย่าง ด้วยวิธีที่ถูกต้อง เพื่อให้ผลการทดสอบนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องและแม่นย�ำ ซึง่ ได้รบั เกียรติจาก คุณทรงพล ทรงสิทธิโชค ผูจ้ ดั การฝ่ายเครือ่ งมือวิทยาศาสตร์ และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้งานเครื่องวิเคราะห์ความชื้นในเชิงเทคนิค และเชิงปฏิบัติร่วมเป็นผู้บรรยาย และตอบข้อซักถามอย่างใกล้ชิด

Bangkok, 4 July 2017 - Mettler-Toledo hosted a seminar on ‘’ Comparability of Moisture Content Based on Process Requirement ‘’ at Seminar room, 3rd floor, Mettler-Toledo (Thailand) Ltd. (Bangkok Office). This seminar aims to spread information about how to analyze moisture content in samples using reference method and rapid method, as well as how to manage samples correctly for accurate and precise results. In this occasion, Mr. Songpol Songsithichoke, Business Area Manager (LAB Division), and a team of experts who are keen users of moisture analyzer both technically and practically, were participated as honorary speakers and kindly provided answers for interested attendees during Q&A session.

Mettler-Toledo Seminar: Moisture Analyser

www.mt.com

FOOD FOCUS THAILAND

82-84_Surrounds.indd 82

AUG 2017 www.tateandlyle.com

7/21/17 6:35 PM

SURROUNDS

Tomco Launches Three New Videojet Advanced coding and marking products for Thailand’s F&B Industry to Support the Era of Industry 4.0

ABF Showcases New High Technology Wastewater Treatment Designed by Veolia

กรุงเทพฯ, 15 มิถุนายน 2560 - บริษัท ทอมโก้ ออโตเมติก แมชชินเนอร์รี่ จ�ำกัด ร่วมกับ Videojet เปิดตัว 3 นวัตกรรม การพิ ม พ์ อั จ ฉริ ย ะ ได้ แ ก่ เครื่ อ งพิ ม พ์ อิ ง ค์ เ จ็ ท ต่ อ เนื่ อ ง Videojet 1860 เครือ่ งพิมพ์เลเซอร์ไฟเบอร์ Videojet 7610 และ Videojet DataFlex® 6530 ที่เป็น เครื่ อ งพิ ม พ์ ร ะบบ Thermal Transfer Overprinting (TTO) ในงาน Propak Asia 2017 โดยทั้ง 3 ระบบใหม่ล่าสุดนี้ใช้เทคโนโลยี ที่มีความก้าวหน้ามากกว่าที่เคยมีมา ด้วยการออกแบบ และพัฒนาสินค้าให้ลูกค้าสามารถ เดินงานสายการผลิตได้นานยิ่งขึ้น คุ้มค่าต่อการลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลา การใช้งาน (TCO) และลดขั้นตอนการใช้งานและดูแลรักษาเครื่อง ส่งผลให้การท�ำงานง่าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ทั้งในตลาดระดับท้องถิ่นและ ระดับภูมิภาค “ในฐานะผู้น�ำที่ได้รับการยอมรับในธุรกิจแพ็คเกจจิง ระบบเข้ารหัส ระบบตรวจสอบ บาร์โค้ด ฉลาก การบรรจุและชั่งน�้ำหนักในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั้งในไทยและ เออีซี เรามุ่งมั่นที่จะน�ำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาใช้ เพื่อช่วยผู้ผลิตให้สามารถรับมือกับ เทรนด์ธรุ กิจใหม่ๆ และอย่างทีท่ ราบกันดี แนวคิดอุตสาหกรรม 4.0 ก�ำลังถูกน�ำไปปรับใช้โดย ผูผ้ ลิตหลายราย และเพือ่ ช่วยให้การเปลีย่ นผ่านเกิดขึน้ อย่างราบรืน่ เราได้เปิดตัวเครือ่ งพิมพ์ Videojet 3 รุ่น ในงาน Propak ยกตัวอย่างเช่น เครื่อง Videojet 1860 ด้วยการน�ำเทคโนโลยี การวิเคราะและคาดการณ์ผ่านระบบเซนเซอร์ มากกว่า 50 จุด ส�ำหรับการวัดค่าประเมินผล กว่า 150 ค่า เพือ่ ให้ผใู้ ช้งานสามารถวางแผนการซ่อมบ�ำรุงได้กอ่ นล่วงหน้าได้มากถึง 8 ช.ม. ท�ำให้สามารถเดินไลน์การผลิตได้อย่างเต็มก�ำลัง” คุณวรเทพ วงศ์สถาปัตย์ ผู้จัดการฝ่าย พัฒนาธุรกิจ บริษัท ทอมโก้ ออโตเมติก แมชชินเนอร์รี จ�ำกัด กล่าว

สมุทรปราการ,13 มิถุนายน 2560 - บริษัท แอสโซซิเอเทต บริติช ฟู๊ดส์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด หรือ “เอบีเอฟ” ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท วีโอเลีย วอเตอร์ เทคโนโลยี่ส์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด ประสบความส�ำเร็จ ในการติดตั้งระบบบ�ำบัดน�้ำเสียส�ำเร็จรูปที่โรงงานผลิตภัณฑ์โอวัลติน ในเครือเอบีเอฟ โครงการดังกล่าวเป็นการบูรณาการเทคโนโลยีของ วีโอเลียในหลายระดับเข้าด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาด้านพื้นที่ ที่มีอยู่จ�ำกัดภายในโรงงาน ทั้งนี้ คุณไมค์เคิล พูนพิพัฒน์ ผู้บริหาร ด้านการพัฒนาโครงการธุรกิจจากวีโอเลีย ประเทศไทย ชี้ว่า “เราใช้ ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบระบบบ�ำบัดน�้ำเสียที่กะทัดรัดแต่ก็มี ประสิทธิภาพการท�ำงานที่ดีเยี่ยม เพื่อรับมือกับปริมาณน�้ำเสียในโรงงาน จ�ำนวนมาก ภายใต้พื้นที่ที่จ�ำกัดของโรงงาน” ในแง่ของพลังงานทดแทน ด้วยระบบการบ�ำบัดน�้ำเสียของวีโอเลีย ภายหลังการบูรณาการเสร็จสมบูรณ์ เอบีเอฟยังสามารถผลิตไบโอแก๊ส ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากระบบบ�ำบัดน�้ำเสียนี้ ซึ่งถูกน�ำไปใช้เป็นแหล่ง พลังงานเสริมร่วมกับการใช้น�้ำมันส�ำหรับระบบก�ำเนิดไอน�้ำของโรงงาน ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและยังเป็นการด�ำเนินการที่สอดคล้องกับ นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของโรงงานโอวัลตินแห่งนี้อีกด้วย

Bangkok, 15 June 2017 - Tomco Automatic Machinery Co., Ltd. and its partner Videojet Technologies introduces three new products at ProPak Asia 2017 including the revolutionary new Videojet 1860 continuous inkjet (CIJ) printer, the Videojet 7610 Fiber Laser, and the Videojet DataFlex® 6530 Thermal Transfer Overprinter (TTO). These latest innovations have been designed to deliver maximum uptime, unprecedented reliability and attractive total cost of ownership figures. These new systems also take advanced technologies further than ever before, simplifying processes to allow operators to dedicate more focus to production-related activities. “As the leading total packaging solutions provider – from coding & marking, inspection to packaging & weighting – for Thailand’s food and beverage industry, Tomco is committed to helping manufacturers stay on top of current industry demands. In order to support our customers’ transition through Industry 4.0 and unleash the future of smart printing, three of Videojet latest innovations were launched at this year’s ProPak Asia. Using industry leading predictive capabilities including an industry-first ink build-up sensor, the 1860 provides up to 8 hours advance notice alerting operators and allowing for corrective actions of the most common potential fault conditions that can impact on line uptime. It utilizes over 50 real time sensors to continuously monitor 150+ key indicators of printer performance; providing expert diagnostics, analytics, and guidance.” Vorrathep Vongsthapat, Business Development Manager, Tomco Automatic Machinery Co., Ltd. said

www.tomco.co.th, www.videojet.sg

Samut Prakan, 13 June 2017 - Associated British Foods (Thailand) Ltd. in partnership with Veolia Water Technologies (Thailand) Ltd. has successfully installed a full turnkey wastewater treatment plant in ABF’s Ovaltine manufacturing plant.This project has integrated many of Veolia’s cutting-edge technologies to overcome the space constraints on the factory grounds. Michael Poonpipat, Business Development Director for Veolia Thailand, shared, “We had to be creative in designing a compact yet robust wastewater treatment plant that could handle a high flow rate within a limited space.” In terms of sustainable energy, Veolia’s recommended suite of wastewater solutions generates renewable biogas, which is a by-product from using anaerobic technologies to treat ABF’s wastewater. The biogas is then used as a supplementary fuel source for the boiler system, which had been modified to utilize both biogas and liquefied petroleum gas. This sustainable process helps to reduce ABF’s overall plant operating costs while enabling the production of Ovaltine to be more environmentally friendly.

www.ovaltine.co.th, www.veoliawatertech.com

AUG 2017

82-84_Surrounds.indd 83

FOOD FOCUS THAILAND

83 7/21/17 6:35 PM

SURROUNDS

Ecolab Pest Elimination Launches Comprehensive Global Large Fly Program to Help Reduce Food Safety Risk

สหรัฐอเมริกา, 31 พฤษภาคม 2560 - Ecolab Inc. ผู้น�ำระดับโลก ด้านเทคโนโลยีน�้ำ สุขอนามัย พลังงาน และบริการที่ปกป้องผู้คนและ ทรัพยากรทีส่ ำ� คัญ ได้เปิดตัวโครงการก�ำจัดแมลงวันขนาดใหญ่โดยค�ำนึงถึง ลู ก ค้ า เป็ น ศู น ย์ ก ลางและการใช้ น วั ต กรรมใหม่ เ พื่ อ ลดความเสี่ ย ง ด้านความปลอดภัยของอาหารที่เกิดขึ้นจากแมลงวันขนาดใหญ่ โครงการดังกล่าวน�ำเสนอวิธีการหลากหลายรูปแบบที่มุ่งเน้นการก�ำจัด แมลงวัน โดยการตรวจสอบและให้ค�ำแนะน�ำ การแก้ปัญหาจากภายนอก และภายนอก และการใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์และวิทยาศาสตร์ ทั้งภายในและภายนอกสถานที่ โครงการก�ำจัดแมลงวันขนาดใหญ่ของ Ecolab ได้มกี ารใช้ STEALTH™ LED Fly Light อันมีประสิทธิภาพทีส่ ดุ พร้อมความปลอดภัยและทนทานเพือ่ ลดความเสี่ยงที่เกิดจากแมลงวันขนาดใหญ่ในสถานกิจการของลูกค้า STEALTH™ LED Fly Light ใช้พลังงานน้อยกว่ารุน่ เทียบเท่าได้ถงึ ร้อยละ 60 เป็นการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่าย เหมาะส�ำหรับการใช้งานทั้งใน ส่วนหน้าและด้านหลังของร้านอาหารและสถานบริการด้านอาหาร โครงการ ก�ำจัดแมลงวันขนาดใหญ่ของ Ecolab สามารถปรับแต่งเพื่อตอบสนอง ความต้องการเฉพาะของทีพ่ กั และสถานเลีย้ งดูระยะยาว โรงงานอาหารและ เครื่องดื่ม และสถานที่อื่นๆ นอกจากนี้ STEALTH™ LED Fly Light ยังได้รับรางวัล Kitchen Innovation Award ปี 2017 โดย National Restaurant Association ในประเทศสหรัฐอเมริกา

USA, 31 May 2017 - Ecolab Inc., the global leader in water, hygiene and energy technologies and services that protect people and vital resources, introduces the Ecolab Large Fly Program, a comprehensive global program from Ecolab Pest Elimination that utilizes an outside-in approach and innovative technology to help reduce the food safety risks associated with large flies. Ecolab’s Large Fly Program offers a multi-faceted approach that proactively addresses fly activity through ongoing inspections and recommendations, exterior and interior treatments and the use of proprietary technology and science both inside and outside the facility. STEALTH™ LED Fly Light, which matches best-in-class efficacy with safety and sustainability to reduce the risks associated with large flies in a customer’s facility. Designed to use up to 60 percent less energy than comparable models, this modern yet discreet design is suited for use in both the front- and back-of-house in restaurants and foodservice facilities. The Ecolab Large Fly Program can also be customized to meet the specific needs of lodging and long-term care properties, food and beverage plants, and other facilities. The STEALTH™ LED Fly Light was awarded a 2017 Kitchen Innovation Award by the National Restaurant Association in the U.S. www.ecolab.com/largefly

BSI Training “FSPCA Preventive Controls for Human Food”

กรุ ง เทพฯ, 26-28 มิถุนายน 2560 - สถาบันมาตรฐานอังกฤษ bsi จัดฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความรู้และความเข้าใจในหลักสูตร “กฎระเบียบด้าน การควบคุมเชิงป้องกันบนพื้นฐานความเสี่ยง (Preventive Control) ส�ำหรับ อาหารมนุษย์” ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง โดยได้รับเกียรติจากคุณปวีณา มณีพล ผูน้ ำ� การตรวจประเมินระบบมาตรฐาน สถาบันมาตรฐานอังกฤษ BSI บรรยายในหั ว ข้ อ ดั ง กล่ า ว โดยได้ รั บ ความสนใจจากผู ้ ป ระกอบการ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเข้าร่วมฝึกอบรมเป็นจ�ำนวนมาก กฎระเบี ย บด้ า นการควบคุ ม เชิ ง ป้ อ งกั น บนพื้ น ฐานความเสี่ ย ง (Preventive Control) ส�ำหรับอาหารมนุษย์ ซึง่ เป็น 1 ใน 7 Core Regulations นั้ น USFDA ได้ ก� ำ หนดให้ ผู ้ ป ระกอบการผลิ ต และแปรรู ป ปรั บ เปลี่ ย น การปฏิบตั ดิ า้ นการวิเคราะห์อนั ตรายและการควบคุมจุดวิกฤติ ไปสูห่ ลักปฏิบตั ิ “การวิ เ คราะห์ อั น ตรายและการควบคุ ม เชิ ง ป้ อ งกั น บนพื้ น ฐานของ การประเมินความเสีย่ ง” เพือ่ ลดเหตุหรือปัจจัยของความเสีย่ งในกระบวนการผลิต และก�ำหนดให้มีผู้ปฏิบัติงานที่ผ่านการรับรองคุณสมบัติเป็น Preventive Control Qualified Individual (PCQI) เป็นผู้ควบคุมการจัดท�ำและบังคับใช้ แผนงานด้ า นความปลอดภั ย อาหาร (Food Safety Plan) ในแต่ ล ะ สถานประกอบการ

Bangkok, 26-28 June 2017 - British Standard Institution (bsi) organized its training on “FSPCA Preventive Controls for Human Food” presented by Ms.Paweena Maneepon, Lead Auditor, British Standard Institution (bsi) at Amari Don Muang Airport Hotel. The training aims to enhance knowledge and in-depth understanding of the food regulations and was fully occupied with professionals from food and beverage industry. According to the Preventive Controls for Human Food Regulation, USFDA has finalized and implemented the Hazard Analysis and Critical Control Point: HACCP to Hazard Analysis and Risk-Based Preventive Control: HARPC to prevent, eliminate (or) reduce hazards to a safe production level. The regulation requires that certain activities be performed by a Preventive Controls Qualified Individual (PCQI) who has successfully completed training in the development and application of risk-based preventive controls. www.bsigroup.com/en-th

FOOD FOCUS THAILAND

82-84_Surrounds.indd 84

AUG 2017

7/21/17 6:35 PM

P R O D U C T

P R O F I SURROUNDS L E

T. 02 192 9598

AUG 2017

FOOD FOCUS THAILAND

August 2017

U SHARE. V CARE.

Let us know which articles you interested in, please inform Should you have any enquiries, please inform us the service info code (s) Advertisement

Article

Product

Please share your comment with us!

Please fill in the form in ENGLISH Name-Surname: Position:

PTT Cash Card THB500 (Only 1 Lucky Winners)

Company Name: Company Address:

Tel: Fax: E-mail:

Note: This picture is for advertising only.

Website:

We look forward to your feedback and suggestions. editor@foodfocusthailand.com, contact@foodfocusthailand.com +66 2116 5732

The winner of U. Share V. Care in June 2017 1. Suleerat Sanguanchiam QMS Supervisor, Kuiburifruit Canning Co., Ltd. 2. Thitiya Klahan R&D Manager, Vanguard Foods (Thailand) Co., Ltd.

The gift will be delivered to you by post. Thank you.

The Pizza Company Gift Voucher THB500 (Only 2 Lucky Winners)

THE EXCELLENCE IN FOOD PROCESSING MACHINE MACHINE ASSEMBLY

By HI-COOK (Thailand)

Compact Fryer

Hot Air Oven

OTHER MACHINE

Super Steam Oven

Steam Cooker

Hybrid Steamer

Sausage Pasteurizer

OUR PARTNER

Tumbler & Massager

ad_Hi-Cook_OK.indd 9

Noodle & Wonton

Oven for Snack

Packaging

Rice Cooker

7/21/17 4:53 PM

ad_BASF_final.indd 7

11/14/16 11:04 AM