May 2019 l Vol.14 No.158
TH-EN
MAY 2019 Vol.14 No.158
Service & Solutions
for Food and Packaging
Cover_FPT_kanoon.indd 2
24/4/2562 BE 18:23
A TEAM OF SPECIALISTS & EXPERTS
Our experienced service team are well skilled, individually trained and supported by our partners from overseas. We are committed to ensure that the company provides the ultimate levels of technical service and support.
NEW INTERNATIONAL INNOVATIVE TECHNOLOGY CENTER
Our new international innovative technology center is offering a hand-on experience to our valued clients and all food science professionals and students. This new technology center is fully equipped with advanced technology machines which replicate a real production environment to help visitors understand any circumstances that they could encounter in their own factories. And with our trained experts, accurate information and awareness can be thoroughly given. “For 15 years in food industry, we have been committed to give the best service and solution for food processing and packaging. However, we also emphasize on human resource throughout the industry chain. We thus hope that this resource and high technology center will be such a place where industry needs can be met in term of skilled human resources.” Mr.Axel Arras, Managing Director of FPT Food Process Technology Group of Companies.
FPT Food Process Technology Co., Ltd.
64 Moo 2, Soi Wat Nam Daeng, Srinakarin Road, Bangkaew, Bangplee, Samutprakarn 10540 Thailand Tel: +66 (0) 2753-7794-6 Fax: +66 (0) 2753-7791 Website: www.fpt-asia.com ad_FPT_��������_OK.indd 2
Visit us at : Booth No. BJ01 Hall 102
23/4/2562 BE 19:43
TH-EN
May 2019 l Vol. 14 No.158
P.61 SPICE Oils
and Oleoresins
AIR Quality
in Production Facilities
Consummately Capable
ROBOT Technology
Food Processing LINE Inspection:
to prevent the loss Sodium Chloride Measurement
F&B Factory in
Taiwan
Sour Leafy Plants
Visit us at THAIFEX - World of Food Asia 2019, 28 May - 01 June 2019 @ IMPACT Exhibition Center Hall 6, Booth No. J37
Cover_Food_158_May-1.indd 2
23/4/2562 BE 18:15
Food Processing & Packaging System
FOOD PROCESSING MACHINE Superheated Steam Oven
Visit us at : Booth No. BK01 Hall 102
Far Infrared Fryer
PACKAGING SYSTEM High Speed Horizontal Form-Fill-Seal
Retort Pouch Filler & Sealer Rotary Packing Machine
408/2 ถนนจรัญสนิทวงศ์ บางยี่ขัน บางพลัด กรุงเทพฯ 10700 408/2 Charansanitwong Road, Bangjikan, Bangplad, Bangkok 10700
ad_Better Pack.indd 1
โทร. / Tel. (662) 886 9000 แฟกซ์. / Fax. (662) 886 9393
22/4/2562 BE 13:55
ADVERTORIAL
119 Years of Quality and Service in the Meat Business and Over 15 Years of Success in the Asian Food Industry
119 ปี แห่งคุณภาพและบริการในธุรกิจเนื้อสัตว์ และมากกว่า 15 ปี
แห่งความส�ำเร็จของอุตสาหกรรมอาหารในภูมิภาคเอเชีย
“ผมเริ่มต้นจากการที่เติบโตมาเป็นทายาทรุ่นที่สี่ในธุรกิจบุชเชอร์ ในประเทศ เยอรมนี ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของตระกูลมาเป็นระยะเวลากว่า 119 ปี แน่นอนว่า เมื่อผมโตขึ้นผมต้องการที่จะพัฒนาธุรกิจของเราให้ก้าวไปสู่อีกขั้น นี่คือ จุดเริ่มต้นที่ท�ำให้ผมมีความหลงใหลในศาสตร์ของการแปรรูปเนื้อมากขึ้น จนท�ำให้ผมต้องพยายามค้นคว้า เรียนรู้ และฝึกฝน เพื่อสามารถสอบผ่านและ ได้รับการรับรองเป็นมาสเตอร์ด้านการแปรรูปเนื้อสัตว์ (Trained Master Butcher) นอกจากนี้ ผมยังเข้าแข่งขันการท�ำซอสเซจรายการใหญ่เทียบได้กับ โอลิมปิคและคว้าแชมป์มาครองได้ส�ำเร็จ ซึ่งผมภูมิใจอย่างยิ่ง” คุณอัคเซล อาร์ราส ซีอีโอ ของกลุ่มบริษัทในเครือเอฟพีที ฟู้ด โพรเซสส์ เทคโนโลจี กล่าวน�ำกับ ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์ ถึงเส้นทางก่อนจะมาเป็นผู้บริหารของบริษัท ผู้ให้บริการด้านเครื่องจักรแปรรูปและบรรจุส�ำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เริ่มต้นจากในประเทศไทย ตลอด 15 ปี ในวงการอุตสาหกรรมอาหาร เอฟพีทีต่างเป็นที่รู้จักในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะใน ด้านการเป็นผู้จัดจ�ำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปเนื้อสัตว์แบบครบวงจรมาตรฐาน สากลจากเยอรมนีและทั่วโลก อีกทั้งยังสามารถให้ค�ำแนะน�ำและบริการใน รูปแบบ Turn-key ได้อีกด้วย จากขนาดขององค์กรที่ตอนแรกมีพนักงาน เพียงแค่หยิบมือและให้บริการขายเครื่องจักรไม่กี่ยี่ห้อในปี 2547 จนประสบ ความส�ำเร็จและมีส�ำนักงานอยู่ทั่วเอเชียและตะวันออกกลางได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันเอฟพีทีมีออฟฟิศส�ำหรับการสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารทั่วภูมิภาค ดังกล่าวอยู่ถึง 14 แห่ง ซึ่งแน่นอนว่าชื่อเสียงที่ได้รับและสั่งสมมานั้นสามารถ รับประกันในคุณภาพของเครื่องจักรและบริการของเอฟพีทีได้ในทุกมิติอย่าง ดีเยี่ยม คุณอัคเซล กล่าวอีกว่า “ที่เอฟพีที เรายึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่ว่า To be the Most Admired Services Company in Southeast Asia for its People, Performance, and Partnership ซึ่งหมายความว่าเราต้องมีบุคลากรเป็นเลิศ ท�ำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นคู่ค้าที่ไว้ใจได้ ซึ่งจะน�ำพาลูกค้าของเรา ให้ประสบความส�ำเร็จไปด้วยกัน ดังนั้น ตลอดระยะเวลา 15 ปี ในวงการ เราไม่เพียงขายเครื่องจักร แต่เราให้บริการในรูปแบบ Turn-key เราได้พัฒนา ทีมเซอร์วสิ ของเราให้มคี วามเชีย่ วชาญในเทคโนโลยีอย่างต่อเนือ่ งและถือมูลค่า สต๊อกอะไหล่ส�ำรองสูงถึง 2.6 ล้านยูโร คุณสมบัติเหล่านี้ท�ำให้เราโดดเด่นจาก เอเยนต์ขายเครื่องจักรทั่วๆ ไป เรามีศูนย์เทคโนโลยี International Innovative Technology Center หรือเรียกว่า IITC ที่ซึ่งลูกค้าของเราสามารถเข้ามาศึกษา และทดลองไอเดียใหม่ๆ กับเราในการทดสอบกับเครื่องจักรในการผลิตจริง ภายใต้การแนะน�ำของทีมนักวิทยาศาสตร์การอาหาร (Food technologist) ของเรา นอกจากนี้ ศูนย์ IITC ยังมีจุดหมายเป็นศูนย์การเรียนรู้ส�ำหรับ มหาวิทยาลัยชั้นน�ำและหน่วยงานค้นคว้าและวิจัยเช่นกัน” นอกจากเล่าเรือ่ งราว 15 ปี จนถึงปัจจุบนั ของเอฟพีที คุณอัคเซลยังกล่าวถึง ตลาดอาหารในปัจจุบันว่า “ถึงแม้อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารจะเปลี่ยนแปลง 6-7_Advertorial_FPT_kanoon.indd 6
ไปตามกาลเวลา แต่ส่ิงหนึ่งที่ยังคงเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันเสมอมาก็คือ เทรนด์ ความต้องการของตลาดที่ใส่ใจการรักษาสุขภาพและการแสดงความกังวลต่อสิ่งแวดล้อม นั้นมีบทบาทส�ำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ความกังวลเกี่ยวกับขยะพลาสติกและการลด การปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความต้องการทางด้าน บรรจุภัณฑ์นั่นเอง” “เอฟพีทีเน้นย�้ำในเรื่องนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ และความชื่นชอบส่วนตัวของผม ในการผลิตอาหารคุณภาพสูงเป็นทุนเดิม ท�ำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ซอสเซจจึงเป็นเรื่อง ที่เอฟพีทีใส่ใจพัฒนาคุณภาพการผลิตซอสเซจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการด้วย ระบบออโตเมชันหรือด้วยระบบกึ่งออโตเมชัน ที่ต้องบูรณาการกับเครื่องจักรใหม่ๆ เข้าไป ด้วย อีกทั้งเทรนด์ปัจจุบันในการผลิตยังคงเน้นเรื่องการลดเวลา การลดคน การเพิ่ม ระบบออโตเมชันให้มากขึน้ และระบบทวนสอบย้อนกลับ (Food traceability) ในขณะทีย่ งั ต้องรักษาคุณภาพให้คงที่ด้วย” “ตลอด 9 ปี ที่ ผ ่ า นมา เอฟพี ที ไ ด้ ร ่ ว มมื อ กั บ ผู ้ ผ ลิ ต ซอสเซจยั ก ษ์ ใ หญ่ ทั้ ง หลาย แห่งเอเชียอาคเนย์ เพื่อเข้าร่วมแข่งขันในการท�ำซอสเซจระดับโลก โดยปีล่าสุด งาน IFFA 2016 จัดขึ้นโดย German Butchers’ Association (DFV) เราสามารถคว้ารางวัลมากมาย กลับมาได้ส�ำเร็จ นี่เป็นหนึ่งในความส�ำเร็จที่ทางเอฟพีทีได้พยายามผลักดันผู้ผลิตซอสเซจ มาโดยตลอด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราไม่ใช่แค่บริษัทที่เน้นการขายเป็นหลัก แต่เรามุ่งมั่น อย่างตั้งใจในการท�ำงานและพัฒนาร่วมกับคู่ค้าในทุกขั้นตอน ทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างแท้จริง” คุณอัคเซลอธิบายเพิ่ม “ตั้งแต่ในอดีต เอฟพีทีพยายามน�ำเสนอความส�ำคัญของการท�ำงานด้วยระบบออโตเมชันกับวงการด้านอาหาร และในปัจจุบันเรายังน�ำเสนอเครื่องมือที่เรียกว่า “State of the Art” ให้กับการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรม 3.0 ไปยัง 4.0 อีกทั้งเอฟพีทีเองได้โปรโมทการเปลี่ยนผ่านนี้ให้กับประเทศไทยที่ชาวต่างชาติต่างรู้จักเป็นอย่างดีในฐานะ “ครัวของโลก” เพือ่ ทุกคนจะได้บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารทีอ่ ร่อย สะอาด ปลอดภัย มีการทวนสอบย้อนกลับ (Food traceability) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” คุณอัคเซลเอ่ยถึงเป้าหมายที่ส�ำคัญ ในตลาดอาหารปัจจุบันทั่วโลกว่า “ไม่นานมานี้ เอฟพีทีได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งหลายใน การน�ำเสนอโซลูชัน 4.0 ส�ำหรับกระบวนการแปรรูปเนื้อสัตว์และซอสเซจซึ่งเราตั้งชื่อมันว่า “เส้นทางดิจทิ ลั สูโ่ รงงานอัจฉริยะ” โซลูชนั ดังกล่าวท�ำให้เราได้รบั รางวัลด้านความปลอดภัย ทางด้านอาหาร และสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นอย่างมากมาย โดยใช้การเชื่อมต่อและส่งผ่าน ข้อมูลระหว่างต้นทางการผลิตไปยังเครื่องมือสื่อสารของลูกค้า เพราะการจัดการข้อมูล และการควบคุมการผลิตอย่างเต็มรูปแบบนี้เอง ท�ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในแบบทุกที่ ทุกเวลา และทันเหตุการณ์” สรุปแล้วจะเห็นได้ชัดว่า เทคโนโลยีนั้นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และยืนรอเราอยู่ ทัว่ ทุกมุมโลก เหลือก็แต่เพียงการตัดสินใจทีเ่ ฉียบคมในการน�ำไปผสานเพือ่ ให้เกิดประโยชน์ สูงสุดตลอดทั้งห่วงโซ่เท่านั้นเอง
24/4/2562 BE 09:26
Mr.Axel Arras
Managing Director FPT Food Process Technology Group of Companies
“I was growing up as the fourth generation of a German butcher business, which we considered as our family’s traditional trade for over 119 years to date. Certainly, growing up, I had the determination to develop this business to the next step. This was the beginning to my inspiration to master the delicate science of meat processing. Since then I have persevered to study, explore, and train as much as I could until I could pass the examination to be certified as a “Professional German Master Butcher”. Moreover, I led the German National Team for an international sausage competition, an event equivalent to the Olympics for the meat industry, which I am proud to claim world championship,” Mr.Axel Arras, Managing Director of FPT Food Process Technology Group of Companies, recounted to Food Focus Thailand about his background before becoming an executive for a leading processing and packaging machinery distributor and servicing company in the food industry. During the past 15 years, first starting in the Thai food industry, FPT has become more and more widely known in the SEA region, especially as an integrated turn-key distributor and provider for cuttingedge meat processing technology mainly from Germany and other European countries. The company’s size has expanded significantly from just a handful of employees distributing a few machinery brands in 2004. Now, the company is very successfully operating with several local offices around the Asia and Middle East continents. At present, FPT boasts 14 international offices for supporting the food industry throughout these regions. Unquestionably, the company’s reputation and high recognition in the market has been established. Mr.Arras remarked, “At FPT, we are committed to the vision, ‘To be the Most Admired Services Company in Southeast Asia for its People, Performance, and Partnership’. This means that we must have excellent human resources which can work effectively and that can be a trusted partner to our customers in order to succeed together. Therefore, over the past 15 years in the industry, we are not only a machine distributor, but we also provide consultancy on turn-key project solutions. With 24/7 service support by our dedicated teams of trained engineers and 2.6 million Euro value of spare parts on stock, these qualities make us outstanding from other agents in the market. As we never stop developing ourselves to providing the best sales and service to our customers, we decided to expand our strengths by establishing an International Innovative Technology Center (IITC) where our customers can visit to share and research on new ideas. Then, they can have real experiments with actual products on actual production machines with guidance from our team of food technologist experts. This IITC will also be a knowledge center for food-related science faculties for top universities and research faculties.” “Although the food processing industry overall has been transformed from time to time, the driving factor of production has constantly been to follow the trends in the market. Likewise, we can see the same trend in the meat processing industry in which health and environmental concerns are playing a more and more significant role. For instance, the concerns about plastic waste and carbon footprint reduction are also becoming a few leading issues of concern which we must accept is mainly caused by the packaging requirement trends.” “FPT places high emphasis on product innovation. With my own personal interest in high quality food manufacturing, we have always strived for the development of high quality sausages, as well as fully or semi-automatic production processes, that must be integrated with new machine technologies, since current production trends still focus on time reduction, labor reduction, increased automation, and precise food traceability, while still maintaining product quality.” “For the last 9 years, FPT has motivated several leading Asian sausage producers in participating in the world sausage competition during IFFA exhibitions, which is organized by the German Butchers’ Association (DFV), resulting in FPT customers bringing gold medals to their homes. This is just a part of our achievements, which shows that we are not only a company that focuses only on selling, but we are also determined to work and develop with our customers, supported from our partners, at every step, both directly and indirectly,” he explained. “In the past, we were constantly trying to present the importance of automation to the food industry. At present, we are providing state-ofthe-art equipment for the transition from Industry 3.0 to 4.0. Thailand is known as “The Kitchen of the World”, and we promote this transition to the country to ensure that everyone will be able to consume delicious, clean, safe, traceable, and environmentally-friendly food products.” Mr.Arras emphasized on the important goals in the current food market around the world, adding that, “FPT has collaborated with several partners in presenting a 4.0 solution for meat and sausage processing which we name ‘The Digital Path to Smart Factory’. For this solution, we received the prestigious Food Safety Award, and we are in the process to create many new opportunities by connecting the customers’ shop floor to the devices of their “top floor” office. Data management and fully controlled production will be carried out with the highest efficiency, just-in-time in every way.” Obviously, food technology has been developing continuously, and it is waiting for us in every corner in the world. What remains is the sharp decision to integrate this for maximizing benefits throughout the supply chain.
Tel: +66 (0) 2753-7794-6 6-7_Advertorial_FPT_kanoon.indd 7
Fax: +66 (0) 2753-7791
Website: www.fpt-asia.com 24/4/2562 BE 09:26
ADVERTORIAL
แหล่งโปรตีนเพื่อสุขภาพ
จากถั่วลันเตา
ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ มี โ ปรตี น สู ง ก� ำ ลั ง เป็ น ที่ นิ ย มและเป็ น ที่ รั บ รู ้ กั น มากขึน้ ส�ำหรับผูท้ ใี่ ส่ใจด้านสุขภาพ แม้วา่ โปรตีนจากสัตว์ยงั คงเป็น แหล่งโปรตีนหลัก แต่จ�ำนวนผู้ที่หันมาบริโภคอาหารมังสวิรัติก็มี เป็นจ�ำนวนมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น โปรตีนจากถั่วลันเตาจึงเป็นแหล่ง โปรตี น ที่ ส� ำ คั ญ เพื่ อ ตอบสนองความต้ อ งการของกลุ ่ ม ผู ้ บ ริ โ ภค ดังกล่าว โปรตีนถือเป็นส่วนส�ำคัญของโครงสร้างในร่างกาย และแหล่ง ของโปรตีนส่วนมากจะมาจากสัตว์ แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน กระแสการบริโภคอาหารมังสวิรัติหรือแม้กระทั่งความต้องการ คุณค่าทางอาหารในกลุ่มอาหารประเภทนี้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ว่าโปรตีนจากพืชนั้นมีความส�ำคัญ ทั้งในด้านคุณภาพและเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีอีกทางหนึ่ง
ถั่วลันเตา…แหล่งของโปรตีนที่มีความเหมาะสม
โปรตีนไอโซเลทจากถั่วลันเตาจัดเป็นแหล่งของกรดอะมิโนจ�ำเป็นของร่างกาย เกือบทั้งหมด เนื่องจากร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างกรดอะมิโนดังกล่าวได้เอง เหมือนกรดอะมิโนแบบไม่จำ� เป็น จึงเป็นเหตุผลว่าท�ำไมเราต้องมีการบริโภคโปรตีน ในกลุม่ นีจ้ ากอาหาร และนัน่ ก็เป็นทีม่ าของกลุม่ บริษทั เอ็มสแลนด์ ทีม่ กี ารน�ำเสนอ ผลิตภัณฑ์ Empro® ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนจากถั่วลันเตา จัดเป็นโปรตีนเข้มข้นที่มี โปรตีนขั้นต�่ำอยู่ที่ร้อยละ 84 และมีความแตกต่างจากโปรตีนที่มาจากสัตว์ อีกทั้งยัง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการน�ำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้อย่างหลากหลาย ด้วยเหตุนี้จึงท�ำให้เราได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เพื่อเป็นทางเลือกส�ำหรับ ผู้ที่ต้องการบริโภคโปรตีนจากพืชเพื่อทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ และเหมาะกับ ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เสริมคุณค่าให้กับ ผูท้ ชี่ อบออกก�ำลังกาย โปรตีนจากถัว่ ลันเตานีย้ งั มีคณ ุ สมบัตเิ ป็นอิมลั ซิไฟเออร์ทดี่ ี
Pea protein
as a healthy source of protein Protein-rich products are becoming ever more popular as health awareness increases. While protein from animal sources remains the mainstay, the demand for vegan alternatives is rising. To meet this growing demand for a healthy protein source, peas have been moving to the fore. Proteins are important building blocks for our body. We can thank them for the elementary functions of our cells. In our diet, most of the proteins we eat are animal proteins. Current trends, however, are increasingly looking to vegetarian or even vegan nutrition – proving that plant-based protein has long been more than just a passing trend. Despite these changes in our diet, we do not have to give up on high-quality, protein-enriched products.
Suitable Source of Protein
Pea-based protein isolates contain a high concentration of almost all the essential amino acids. Unlike the non-essential types, our body cannot synthesize these amino acids on its own. That is why we must have them in our diet. Under its Empro® brand, the Emsland Group is offering a product line of pea-based proteins. With a protein content of at least 84%, the pea protein isolate distinguishes itself as an alternative to animal protein sources in numerous applications. This makes it possible to develop an attractive product range of vegan meat alternatives, convenience products, and sports nutrition options. The emulsifying properties of the pea protein isolate ideally suits it to producing vegan sauces and mayonnaise. And when used in baked goods, it yields an increased volume and consistent pore formation.
8-9_Advertorial_Emsland.indd 8
Protein Extrudates
Apart from the protein-enrichment powders, extruded proteins are also seeing an uptick in popularity. With the development of Empro® Tex, the Emsland Group is responding to this trend. Available in various sizes and with varying protein content, the extrudates are particularly popular ingredients for innovative developments in breakfast products, bars, and snacks. In addition to the incentive “rich in protein”, the Protein Crisps have an attractive look and a crispy texture.
Trend-driven Product Design
The world of protein shakes is a growth market. Our increasing health awareness and the growing focus on healthy nutrition are expanding the popularity of protein powders among athletes and professionals to so-called “casual users.” These are consumers who do not engage in strenuous physical activity but wish to maintain a healthy lifestyle. This more positive perception of proteins is pushing numerous product innovations in this category. In addition to the widespread protein powders and shakes with whey as protein sources, products containing alternative protein sources are increasingly coming to the fore. For these innovative developments, Empro® E 86 HV offers the right properties, thanks to the balanced amino acid profile and a high-viscosity formation. Into one shake go 30 g of instant powder. A drink enriched with this type of pea protein contains about 23 grams of pure protein, which covers more than a third of the protein intake recommended by the WHO for a person weighing 80 kg. Vegan protein shakes are just one example of innovative developments that are in touch with current trends and appeal to different target groups by promising a healthy and mindful lifestyle.
22/4/2562 BE 15:02
ADVERTORIAL
และมีความเหมาะสมในการท�ำซอส มายองเนส ส�ำหรับกลุ่มที่ บริโภคมังสวิรัติ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มปริมาตรและโครงสร้าง ภายในขนมอบได้อีกด้วย
โปรตีนที่ผ่านการขึ้นรูป
นอกเหนือจากโปรตีนที่มีลักษณะเป็นผงแล้ว โปรตีนที่ผ่านการขึ้นรูป โดยเครื่องเอ็กซ์ทรูเดอร์ก็เริ่มได้รับความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นด้วย และทางบริษัทก็ได้มีการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ Empro® Tex ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีด้วยกัน หลายขนาดและมีปริมาณโปรตีนที่แตกต่างกัน ซึ่ง Empro® Tex สามารถน�ำไปเป็นส่วนประกอบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเช้า กลุ ่ ม ขนมขบเคี้ ย วแบบแท่ ง และแบบทั่ ว ไป โดยจุ ด เด่ น คื อ เป็นแหล่งของโปรตีน นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในด้านการให้เนื้อสัมผัส ที่กรอบและสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
8-9_Advertorial_Emsland.indd 9
แนวโน้มการออกแบบผลิตภัณฑ์
ในปัจจุบันเครื่องดื่มเสริมโปรตีนก�ำลังมี การเติ บ โต การรั บ รู ้ ใ นด้ า นสุ ข ภาพและ คุณค่าทางโภชนาการของโปรตีนในกลุม่ นักกีฬา ตลอดจนกลุม่ ผูเ้ ชีย่ วชาญซึง่ เรียกว่ากลุม่ “Casual Users” ซึ่ ง ลู ก ค้ า กลุ ่ ม นี้ ไ ม่ ไ ด้ อ อกก� ำ ลั ง กายที่ ห นั ก มาก แต่ มี ค วามสนใจในด้ า น การดูแลสุขภาพ และถือว่าเป็นการรับรู้ประโยชน์ของโปรตีนที่ดีอีกทางหนึ่ง ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ Empro® E 86 HV จึงมีคุณสมบัติที่เหมาะสมตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ส�ำหรับผลิตภัณฑ์โปรตีนพร้อมดื่ม 30 กรัม จะมีปริมาณโปรตีน 23 กรัม ซึ่งถือว่า มากกว่าหนึ่งในสามของปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับต่อวันตามที่องค์การอนามัยโลก ก�ำหนดไว้ส�ำหรับคนที่มีน�้ำหนัก 80 กิโลกรัม (ควรได้รับโปรตีน 0.8 กรัมต่อน�้ำหนัก 1 กิโลกรัม) ซึ่งผลิตภัณฑ์โปรตีนพร้อมดื่มนี้ถือเป็นหนึ่งของตัวอย่างที่ต้องการสร้าง ความแตกต่างที่สามารถสอดคล้องในด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตในปัจจุบันของ ผู้บริโภค
22/4/2562 BE 15:29
maY 2019 / Vol. 14 / No. 158
CONTENTS 30 BONUS ATTRACTIONS • SCOOP
53 Salt Meter
เครื่องวัดค่าความเค็มในอาหาร
46
By: Dilok Puanhvuan, Faculty of Engineering, Mahidol University
REGULAR ATTRACTIONS 20 STAR ITEMS
ผลิตภัณฑ์ดาวเด่นประจ�ำฉบับ • SCIENCE & NUTRITION 26 Sour Leafy Plants: Local Vegetables with High Medicinal Benefits
in their Leaves
ผักใบเปรี้ยว: ผักพื้นบ้านมีดีที่ใบ
By: Uthaiwan Suttisansanee, Ph.D., Institute of Nutrition, Mahidol University
• SPECIAL FOCUS
50
30 Innovation in Inspection Technology to Make Significant Gains in
Food Safety
นวัตกรรมด้านการตรวจสอบในสายการผลิตกับการเพิ่มความปลอดภัยของอาหาร
By: Jorge Izquierdo, Market Development, PMMI
34 Product Inspection…The Importance of Good Connectivity
ความส�ำคัญของการเชื่อมโยงที่ดีเพื่อประสิทธิภาพ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์
By: Mettler-Toledo (Thailand) Limited
• SMART PRODUCTION 42 Consummately Capable Robot
36 Food Processing Line Inspection
การตรวจสอบในไลน์การผลิต
By: Settawoot Yoodnunthaphat
British Standards Institution (BSI)
Technology
Compiled and Translated By: Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
By: Krones AG
• STRATEGIC R & D
40 Air Quality in Production Facilities
44 Spice Oils and Oleoresins
By: Aaron Pleitner, Ph.D., FSNS Innovation and Quality
Food Safety Center of Excellence
Translated and Compiled By: Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine
10-12_Content.indd 10
ผักชี…สมุนไพรไทย ประโยชน์และความเสี่ยงต่อสุขภาพ
เทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่เชี่ยวชาญและมีความสามารถ ในการขึ้นรูปขวดเครื่องดื่ม
• STRONG QC & QA การควบคุมคุณภาพอากาศในโรงงานผลิตอาหาร
46 Health Benefits & Risk of Cilantro
By: Megan Ware RDN LD
การประยุกต์ใช้น�้ำมันหอมเครื่องเทศและโอลีโอเรซิน
By: Narongsak Panawat
Ultimate Products Co., Ltd.
Dr.Baby. K. C, CVJ Creative Centre
Synthite Industries Ltd (p)
22/4/2562 BE 18:23
11_ad_Senta Pack.indd 11
22/4/2562 BE 15:37
maY 2019 / Vol. 14 / No. 158
68
CONTENTS 50 Use & Benefits of Thai Herbs
The Great Opportunities for Healthy Herbal Extracted
Drinks
ประโยชน์ของสมุนไพรไทยกับโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มสุขภาพ
By: Kornautchaya Veenuttranon, Yamamori Trading Co., Ltd.
OCCASIONAL ATTRACTIONS
62 CPRAM Aims to Leverage Thailand to Become the Hub of Asian Food Innovations
• SITE VISIT 56 Site Visit Food & Beverage Factory
Discovering the Definitions of Good Food in Taiwan
เยี่ยมชมโรงงานอาหารและเครื่องดื่ม ค้นหาค�ำตอบของนิยามอาหารที่ดี ในแบบฉบับไต้หวัน
By: Pimchanok Kanoklawan, Food Focus Thailand Magazine
By: Editorial Team, Food Focus Thailand Magazine
64 3 Global Bakery Trends to Look for in 2019
ค้นหาเทรนด์ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จาก 3 ลายแทงยอดฮิตปี 2562
By: Amrin Walji, Mintel Compiled and Translated By: Editorial Team, Food Focus Thailand Magazine
68 The Role of Food Industry…Less Salt…Less Diseases
60 Post Show - VIV Asia 2019
วิฟ เอเชีย …การันตีเวทีเจรจาการค้าระดับโลก ด้วยยอดนักลงทุน ต่างชาติสูงขึ้นร้อยละ 7
บทบาทของภาคอุตสาหกรรมอาหารในการ…ลดเค็ม…ลดโรค
By: Low Salt Thailand Network
74 Innovations in Food Processing and Preservation Techniques
นวัตกรรมของเทคโนโลยีในกระบวนการแปรรูปและถนอมอาหาร
89 Pre Show – ProPak Asia 2019
กลับมาอีกครั้งกับงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ด้านกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์
By: Nipat Limsangouan, Institute of Food Research and Product Development (IFRPD)
79 Grab & Go: Convenience Foods Market
ตามติดข้อมูลไฮไลท์ในวงการตลาดอาหารพร้อมรับประทาน
92 Post Show - Food Focus Thailand Roadshow 2019: Productivity & Safety Roadshow # 1 Khon Kaen
มุ่งมั่นสร้างพื้นฐานองค์ความรู้ด้านความปลอดภัยโดยไม่ละทิ้งเรื่อง การเพิ่มผลิตภาพปี 2
96 U Share. V Care.
• SHOW TIMES
CPRAM พร้อมยกระดับขีดความสามารถประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหาร ของภูมิภาคเอเชีย
80 Cold Chain Logistics: Which Area of Services will Thrive?
จับเทรนด์ Cold Chain Logistics บริการด้านไหนรุ่ง?
By: Kamonmarn Janglom, Economic Intelligence Center (EIC)
Siam Commercial Bank Public Company Limited
86 AGENDA Food Focus Thailand Roadmap # 47: Convenience Foods Edition
The Winners of U Share. V Care. MARCH 2019 Issue
DEPARTMENTS 18 Advertising Index
รายชื่อผู้ลงโฆษณา 22 Schedule of Events
ข้อมูลงานนิทรรศการ การประชุม สัมมนา และฝึกอบรมต่างๆ Let’s Catch our Tiny Injured Cell Together!
Happy Meals in Space (2 Lucky Winners)
แบบสอบถามความคิดเห็น พร้อมลุ้นรับของรางวัล
Bacterial Cell Set
93 Surrounds
อัพเดทข่าวสารในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
(Only 2 Lucky Winners)
Supported by Thermo Fisher Scientific
Share your comment and win a gift 10-12_Content.indd 12
23/4/2562 BE 17:16
ad_BJC_final 2019.indd 3
23/4/2562 BE 17:54
EDITOR’S TALK
Slowing US economic
indicators prompt the Fed Sirintra Boonsumrej
Managing Editor Food Focus Thailand Magazine
Publisher Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. 5/38 Soi Ngamwongwan 25 Yak 26, Bangkhen, Muang Nonthaburi, Nonthaburi 11000 Thailand T +66 2192 9598 F +66 2116 5732 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com
ฝ่ายบรรณาธิการ / Editorial Department บรรณาธิการบริหาร / Managing Editor: ศิรินทรา บุญส�ำเร็จ / Sirintra Boonsumrej ผู้ช่วยบรรณาธิการ / Assistant Editor: อัครพล อนันตโชติ / Arkkrapol Anantachote ผู้สื่อข่าวอาวุโส / Senior Journalist: พิมพ์ชนก กนกลาวัณย์ / Pimchanok Kanoklawan editor@foodfocusthailand.com ฝ่ายขายและการตลาด / Sales & Marketing Department ผู้อ�ำนวยการฝ่ายธุรกิจ / Business Director: เพ็ญแข ประวัติพัฒนากูล / Phenkhae Prawatphatthanakoon ผู้จัดการฝ่ายขาย / Sales Manager: สิริวรรณ ขาวสะอาด / Siriwan Khaosaard เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโฆษณา / Advertising Sales Executive: นิภาพร ละครอนันต์ / Nipaporn Lakornanan sales@foodfocusthailand.com ฝ่ายสมาชิก / Circulation Department เจ้าหน้าที่ฝ่ายสมาชิก / Circulation Officer: จิตสุดา ทองปาน / Jitsuda Thongparn ชาลินี จันทานนท์ / Chalinee Chanthanon นาถเรขา ทัพภูตา / Natrekha Tapputa seminar@foodfocusthailand.com ฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Department ผู้อ�ำนวยการฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Director: สุรีรัตน์ หลักบุตร / Sureerat Lukbud graphic@foodfocusthailand.com
ฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Department ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Manager: นาตยา พงษ์สัตยาพิพัฒน์ / Nataya Pongsatayapipat account@foodfocusthailand.com
to hint at only one rate hike in 2019 มีการคาดการณ์วา่ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) จะยังคงอัตราดอกเบีย้ นโยบายทีร่ ะดับร้อยละ 2.25-2.50 ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 19-20 มีนาคม 2562 ทั้งนี้ สถานการณ์ความเสี่ยงจากภายนอกประเทศ ที่อยู่ในระดับสูง ตลอดจนการชะลอลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ ชะลอลง ส่งผลให้เฟดจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งหมายถึงการทิ้งจังหวะ เวลายาวขึ้นในการคงอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของข้อมูลภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ในส่วนของการปรับลดขนาดงบดุล เฟดน่าจะยังคงด�ำเนินการปรับลดขนาดงบดุลที่ระดับ 50 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนไปอีกระยะ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการด�ำเนินนโยบายทางการเงินไว้ เพื่อรองรับวัฏจักรเศรษฐกิจที่อาจชะลอลงในระยะข้างหน้า ท่ามกลางการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ที่ยังคงขยายตัวได้ดีกว่าระดับศักยภาพในระยะยาวในปีนี้ ส�ำหรับผลต่อเศรษฐกิจไทย การส่งสัญญาณชะลอความเข้มงวดในการด�ำเนินนโยบายการเงินของเฟด จะไม่เป็นปัจจัยหนุนการอ่อนค่าของเงินเหรียญสหรัฐมากนัก เนื่องจากตลาดรับรู้ประเด็นดังกล่าวไป บางส่วนแล้ว มองไปข้างหน้า การเคลื่อนไหวของค่าเงินเหรียญสหรัฐยังมีทิศทางผันผวนจากปัจจัยการเมือง ในสหรัฐอเมริกา ตลอดจนเหตุการณ์ ส� ำ คั ญ ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น ทั้ ง การเจรจา การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และประเด็น Brexit ซึ่งจะส่งผลให้ ค่ า เงิ น ในภู มิ ภ าค รวมทั้ ง เงิ น บาท มีความผันผวนตามไปด้วย There is expected that the US Federal Reserve (Fed) to keep the policy rates unchanged at 2.25-2.50 percent during the Federal Open Market Committee meeting on March 19-20, 2019. High external risk, slowing US economic activities and lower US inflation will prompt the Fed to hint at only one rate increase this year. It means that the Fed is likely to take a wait-and-see approach and keep the policy rates unchanged for a longer period until the economic outlook becomes clearer. The Fed is also likely to reduce the balance sheet by USD 50 billion per month for a while to maintain the policy space and prepare for possible cyclical economic downturn in the future, even though the US GDP growth this year has surpassed its long-term potential. Regarding the impact on the Thai economy, the Fed signal toward dovish monetary policy will not significantly lead to the US dollar depreciation because the market has somewhat absorbed the news. Looking ahead, the greenback will continue to be volatile due to the US political situations. Additionally, other events, namely, the trade summit between the US and China and the next round of Brexit negotiations will influence the movement of the US dollar which will result in the volatility of the Thai Baht and other regional currencies as well.
The texts and photos in Food Focus Thailand, as well as personal comments of contributors are all rights reserved. Reproduction of the magazine, in whole or in part, is prohibited without the prior written consent of the publisher.
Food Focus Thailand Magazine
14
FOOD FOCUS THAILAND
14_Editorial.indd 14
DEC 2017
22/4/2562 BE 16:36
Ca
r ro t
B C re am S o u p
ase
The EXECUTIVE CHEF Food Service range is now available in Asia. Supplied in convenient portion sized, re-sealable packs, this range includes soups, sauces, bakery mixes, breaders and Panko, which are specifically aimed at the Hotel, Restaurant and Catering sector.
More information visit us at
BOARD OF CONSULTANTS Sakchai Sriboonsue D.V.M., LB.
President of the Milk Board Dairy Farming Promotion Organization of Thailand
Juadee Pongmaneerat
Secretary General National Bureau of Agricultural Commodity and Food Standards (ACFS)
Visit Limprana
Honorary Advisor Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries
Visit Limlurcha
Chairman Food Processing Industry Club
Pattra Maneesin, Ph.D.
Director Thai Packaging Centre Thailand Institute of Scientific and Technological Research
Asst. Prof. Anadi Nitithamyong, Ph.D.
President Food Science and Technology Association of Thailand (FoSTAT)
Assoc. Prof. Winai Dahlan, Ph.D. Founding Director The Halal Science Center Chulalongkorn University
Assoc. Prof. Sombat Chinawong, Ph.D.
Director Institute of Food Research and Product Development Kasetsart University
Yongvut Saovapruk President National Food Institute Ministry of Industry
Phanit Laosirirat, Ph.D. Executive Director Thailand Productivity Institute
Assoc. Prof. Ratchanee Kongkachuichai, Ph.D. Director Institute of Nutrition Mahidol University
Prof. Visith Chavasit, Ph.D.Â
Institute of Nutrition, Mahidol University
Assoc. Prof. Sittiwat Lertsiri, Ph.D. Dean Faculty of Science Mahidol University
Poj Aramwattananont, Ph.D. President Thai Frozen Foods Association
Pravith Chotiprayanakul
CEO GS1 Thailand The Federation of Thai Industries
Asst. Prof. Akkharawit Kanjana-Opas, Ph.D. CEO Food Innopolis
ENDORSEMENT Food and Drug Administration Ministry of Public Health
Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries
National Food Institute Ministry of Industry
16_Endorsements final.indd 16
Thailand Institute of Scientific and Technological Research
Thailand Productivity Institute Ministry of Industry
Thai Packaging Centre Thailand Institute of Scientific and Technological Research
Office of Small and Medium Enterprises Promotion
Food Science and Technology Association of Thailand
Thai Frozen Foods Association
The Halal Science Center Chulalongkorn University
GS1 Thailand The Federation of Thai Industries
Institute of Food Research and Product Development Kasetsart University
RFID Institute of Thailand The Federation of Thai Industries
Faculty of Agro-Industry Kasetsart University
Food Innopolis
22/4/2562 BE 15:46
ad_Vicchi final.pdf
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
1
20/2/2562 BE
20:23
ADVERTISING INDEX
ADVERTISING INDEX
May 2019 Service Info
Page No.
Abbra Co., Ltd.
B254
37
Alliance Technology Co., Ltd.
B345
73
Arcadia Foods Co., Ltd.
B299
41
Better Pack Co., Ltd.
B011
5
BJC Specialties Co., Ltd.
B462
13
Central Laboratory (Thailand) Co., Ltd.
B051
59
Cleanable Co., Ltd.
B522
77
Dhawath Technology Systems Co., Ltd.
B251
IBC
Ecolab Ltd.
B073
67
Emsland Asia Food Application Co., Ltd.
B463
8-9
Food & Hotel Thailand 2019
B378
49
Company
86-87
Food Focus Thailand Roadmap # 47: Convenience Foods Edition Food Focus Thailand Roadmap # 48: Liquid Foods Edition
88
Food Ingredients Asia 2019
B233
25
Forefront Foodtech Co., Ltd.
B082
69
FPT Food Process Technology Co., Ltd.
B125
FC, 6-7
Green Fresh (Fujian) Foodstuff Co., Ltd.
B331
85
Harn Engineering Solutions Public Co., Ltd.
B236
95
Hitec Food Equipment Co., Ltd.
B290
BC
Ishida (Thailand) Co., Ltd.
B004
4
Kurz (Thailand) Ltd.
B438
75
Mayekawa (Thailand) Co., Ltd.
B382
65
Mettler-Toledo (Thailand) Ltd.
B010
19
Newly Weds Foods (Thailand) Limited
B302
15
Official Equipment Manufacturing Co., Ltd.
B084
18
P&S Steel Work Service Co., Ltd.
B506
39
Productivity and Food Safety Roadshow @ Chiang Mai
95
Senta Pack Machinery & Service Co., Ltd.
B025
11
Succeed Model Co., Ltd.
B497
47
Thai Scale Co., Ltd.
B197
33
THAIFEX-World of Food Asia 2019
B178
29
Thailand Beer Industry Guild
B380
23
The Mighty Co., Ltd.
B517
81
Ulma (Thailand) Co., Ltd.
B524
31, 83
Ultimate Product Co., Ltd.
B529
45
Unify Chemical Co., Ltd.
B410
55
Vicchi Enterprise Co., Ltd.
B096
17, 71
Yamamori Trading Co., Ltd.
B282
51
Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. T +66 2192 9598 E sales@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com
18
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
18_Index new.indd 18
23/4/2562 BE 17:15
Hall 10
2
No. BL
21
กุญแจสำ�คัญสู่คุณภาพการผลิตของอุตสาหกรรมอาหาร
เครื่องตรวจยสพอบาน น�้ำหนักบนสา
หะ เครื่องตลรอวมจปจนับโล ป
ระบบคัดัตแโนยกมัติ น�้ำหนักอ
ระบบการตรวจสอบคุณภาพสินค้า
เครื่องเอ็กปซลเรอยม์ ปน ตรวจสอบสิ่ง
ระบบการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
กระบวนการรับสินค้า
• เครื่องชั่งรถบรรทุก (Truck Scale) • เครื่องชั่งแบบตั้งโต๊ะ (Bench Scale) / แบบวางพื้น (Floor Scale)
ระบบกระบวนการชั่ง / การชั่งแบบผสมสูตร • ระบบการชั่งแบบผสมสูตร (Formulation Weighing) • ระบบการชั่งในกระบวนการบรรจุ (Filling / Dosing / Batching) • จอแสดงผล (Weighing Terminal)
ระบบซอฟต์แวร์เพื่อควบคุมคุณภาพ
• เครื่องชั่งวิเคราะห์ • เครื่องวิเคราะห์ความชื้น • ชุดดูดจ่ายสารละลาย • เครื่องวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง • เครื่องไทเทรตอัตโนมัติ • เครื่องวัดค่าดัชนีหักเหของแสง • เครื่องวิเคราะห์เชิงความร้อน
ระบบการวิเคราะห์แบบออนไลน์
• เครื่องวัดค่าการนำ�ไฟฟ้า (Conductivity) • เครื่องวัดค่าความเข้มข้นกรด-ด่างสำ�หรับกระบวนการ CIP (Chemical Conc. for CIP Process) • เครื่องวัดค่าสีหรือค่าความขุ่น (Color / Turbidity) • เครื่องวัดค่าปริมาณออกซิเจนแบบออพติคัล (Optical DO) • เครื่องวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH)
• ซอฟต์แวร์ที่ใช้สถิติในการควบคุมคุณภาพ ของการผลิต (SQC, FreeWeigh.NET) • ซอฟต์แวร์เพื่อการเชื่อมต่อข้อมูลกับ เครื่องมือในแล็บ และประมวลผล (LabX)
Optical DO
ได้รับการออกแบบให้เหมาะสำ�หรับการใช้งานในพื้นที่เปียกชื้น มีความแม่นยำ�สูง และทนต่อการกัดกร่อน
สาขาระยอง 267/49-50 ถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง 21150 โทรศัพท์ 038 609 561-2 แฟกซ์ 038 607 738 LINE
ad_Mettler-�����.indd 19
Chemical Conc.
Color / Turbidity
ตัวแทนจำ�หน่ายอย่างเป็นทางการ: หจก.ห้างง่วนไช่หลี 280 ซอยอมร ถนนนางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0 2249 8805-8 แฟกซ์ 0 2249 8804 ศูนย์จำ�หน่ายและบริการในภาคใต้: บริษัท เบส บาย ซัพพลาย หาดใหญ่ 46/45-46 หมู่ 4 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โทรศัพท์ 074 212 338 แฟกซ์ 074 212 339
เครื่องชั่งดิจิตอลกันน�้ำ รุ่น CUB ของแท้ Digital Food Portioning Scale – CUB Model
สำ�นักงานกรุงเทพฯ 272 ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 โทรศัพท์ 0 2723 0300 แฟกซ์ 0 2719 6479
pH
Conductivity
Transmitter
ยินดีให้บริการแบบมืออาชีพ ด้วยวิศวกรที่มีประสบการณ์ตรง จากโรงงานผู้ผลิตภายใต้มาตรฐาน ISO 9001:2008 และ ISO/IEC 17025
สาขาขอนแก่น 78/5 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 0 4322 7230 แฟกซ์ 0 4322 7231
@MTTH 23/4/2562 BE 17:07
STAR ITEMS
DrySan Oxy Surface Cleaner & Sanitizer
Freshwater Collagen Peptides
Domino N610i Digital Color Label Press
ดรายแซน อ๊อกซี่ ผลิตภัณฑ์ท�ำความสะอาด และฆ่าเชื้อบนพื้นผิวแบบพร้อมใช้ ที่รวมการท�ำความสะอาดและฆ่าเชื้อไว้ในผลิตภัณฑ์ เดียวเพื่อการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการควบคุม ความชื้ น เป็ น พิ เ ศษ หรื อ บริ เ วณที่ ห ลี ก เลี่ ย ง การใช้น�้ำ สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและยีสต์ ได้หลายสายพันธุ์ พร้อมการระเหยที่รวดเร็ว น� ำ มาซึ่ ง ประสิ ท ธิ ภ าพอั น น่ า ทึ่ ง ปราศจาก สิ่งตกค้าง
แอลทีแอล คอลลาเจน เปปไทด์ คัดสรรวัตถุดิบ จากปลาน�้ำจืด ผ่านกระบวนการผลิตและสกัด ด้วยวิธีเอนไซเมติกไฮโดรไลซิสที่ได้มาตรฐาน จนได้ อ อกมาเป็ น โปรตี น สายสั้ น ที่ มี ป ริ ม าณ กรดอะมิโนสูง โดยเฉพาะ ไกลซีน โพรลีน และ ไฮดรอกซี โ พรลี น เกิ น กว่ า ร้ อ ยละ 50 ของ กรดอะมิโนทั้งหมด เหมาะส�ำหรับน�ำไปใช้ใน อุตสาหกรรมอาหาร เครือ่ งดืม่ และเครือ่ งส�ำอาง
ด้วยเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ทีส่ ามารถเปลีย่ นงานพิมพ์ ได้รวดเร็ว และยังมาพร้อมกับประสิทธิภาพ การพิ ม พ์ ที่ ร วดเร็ ว และแม่ น ย� ำ จึ ง ท� ำ ให้ เครื่องพิมพ์ Domino N610i ที่พิมพ์ได้กว้างถึง 333 มม. (13 นิ้ ว ) ตามมาตรฐานของ อุตสาหกรรม มาพร้อมหมึก 7 สี รวมสีขาว ทึบแสง และพิมพ์ที่ความละเอียด 600 dpi ความเร็วสูงสุด 75 เมตรต่อนาที เป็นเครือ่ งพิมพ์ สติ๊ ก เกอร์ และลาเบลระบบดิ จิ ทั ล เพี ย ง หนึง่ เดียวทีม่ ปี ระสิทธิภาพเทียบเท่าเครือ่ งพิมพ์ Flexo ในอุตสาหกรรม
DrySan Oxy, a ready-to-use surface cleaner and sanitizer, is an innovative solution that combines cleaning and sanitizing in a single product for use in dry processing environments. It can eradicate broad species of bacteria and yeasts at a rapid evaporation rate bringing about incredible performance without leaving residual active ingredients.
By: Ecolab Ltd.
www.ecolab.com
20
LTL collagen peptides are sourced from sustainably-raised, freshwater fish, highly stable, traceable and single source, shortchain protein building blocks derived from enzymatic hydrolysis with a unique amino acid profile, characterized by a high content of glycine, proline, hydroxyproline, which represent about 50% of the total amino acids, suited to applications such as food, beverage, and cosmetic.
By: Louis T. Leonowens (Thailand) Ltd. www.louist.co.th
With the flexibility offered by rapid job change digital technology, the Domino N610i, with industry standard 333 mm. (13”) print width, up to 7 colours including opaque white, 600dpi ‘native’ print resolution and operating speeds up to 75 m/min (246 ft/min) is the only label press that combines the productivity of flexo printing with the flexibility offered by rapid job change digital technology.
By: Harn Engineering Solutions Pcl. www.harn.co.th
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
20-21_Star Items_Final by AA.indd 20
22/4/2562 BE 15:03
STAR ITEMS
Retractable Detectable Pen Regular Ink
Agri-Acacia™ MCT Oil Powder
Profile Advantage Metal Detector
ปากกาแบบกดได้ ที่ ส ามารถตรวจจั บ ด้ ว ย เครื่องตรวจจับโลหะ และรังสีเอ็กซ์ เหมาะ ส�ำหรับพื้นที่ผลิตที่ต้องการความปลอดภัย ทางอาหาร และควบคุ ม สิ่ ง แปลกปลอม ปนเปือ้ น โดยมีหมึกให้เลือกใช้ทงั้ หมด 4 สี คือ น�้ำเงิน ด�ำ แดง และเขียว ส่วนตัวด้ามปากกา มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ น�้ำเงิน แดง เหลือง และเขียว
Agri-Acacia™ MCT oil powder เป็ น ผลิตภัณฑ์ non-GMO ที่มีค่าดัชนีน�้ำตาลต�่ำ และให้ใยอาหารจาก Acacia Gum ซึ่งเป็น เทคโนโลยีพิเศษส�ำหรับผลิตภัณฑ์ ดังนั้นจึง เหมาะส�ำหรับผลิตภัณฑ์ควบคุมน�้ำหนักใน ปัจจุบัน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเป็นผลมาจาก Medium Chain Triglycerides เป็นกรดไขมัน อิ่ ม ตั ว สายโมเลกุ ล ยาวปานกลางที่ พ บตาม ธรรมชาติในน�ำ้ มันมะพร้าวและน�ำ้ มันปาล์ม มี ส่วนช่วยในการปรับสมดุลน�ำ้ ตาลในเลือด ช่วย เรื่องระบบการเผาผลาญของร่างกาย และยัง สามารถน�ำไปใช้เป็นพลังงานส�ำรองได้ทันที เมือ่ ร่างกายอยูใ่ นสภาวะน�ำ้ ตาลในกระแสเลือด ต�่ำอีกด้วย
เครื่องตรวจจับโลหะ Profile Advantage นี้ มี ร ะดั บ ความไวเพิ่ ม ขึ้ น สู ง สุ ด ถึ ง ร้ อ ยละ 50 ในการตรวจจั บ โลหะขนาดเล็ ก ที่ ป นเปื ้ อ น ในผลิตภัณฑ์ที่เปียก ร้อน แข็ง เย็น หรือบรรจุ ในฟิลม์ โลหะ โดยอาศัยเทคโนโลยีหลายความถี่ พร้ อ มกั น และการกดสั ญ ญาณผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ เพิ่มความไวในการตรวจจับสูงสุดด้วยจ�ำนวน การคัดแยกผิดพลาดเป็นศูนย์ อีกทั้งยังใช้งาน ง่าย และทนทาน มาพร้อมหน้าจอควบคุม แบบสั ม ผั ส ที่ มี ไ อคอนที่ เ ข้ า ใจและใช้ ง าน ได้ง่าย
A retractable pen which can be detected by a metal detector and X-ray. Suitable for a production area that food safety program and foreign body control are required. Available in 4 ink colors (blue, black, red and green) and 4 different housings (blue, red, yellow and green).
By: Cleanable Co., Ltd.
www.cleanable.co.th
Agri-Acacia™ MCT oil powder is nonGMO, low glycemic, high prebiotic fiber and ketogenic friendly ingredient which is extremely functional in meal replacements for today’s weight conscious consumers. Medium Chain Triglycerides (MCTs) are unique fatty acids found naturally in coconut and palm oils. They have the remarkable ability to stabilize blood sugar and enhance ketone body production and act as alternative fuel for the body when blood sugar is in short supply. They also help improve digestion and nutrient absorption.
By: Brenntag Ingredients (Thailand) Plc. www.brenntag.com/food-nutrition
Profile Advantage metal detector delivers up to 50 percent improved sensitivity to detect smaller metal contaminants when inspecting products that are wet, hot, chilled, cooling or packed in metallized film which use Multi-Simultaneous Frequency & Product Signal Suppression Technology deliver the ultimate detection sensitivity with zero false triggering. Moreover, it’s simple to use and robust detector design which is easy to use icon driven touch screen.
By: Mettler-Toledo (Thailand) Ltd. www.mt.com
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 20-21_Star Items_Final by AA.indd 21
21
22/4/2562 BE 15:03
MAY 4-9 IFFA 2019 @ Frankfurt, Germany E info@thailand.messefrankfurt.com W www.iffa.com 7-9 VITAFOODS EUROPE 2019 @ Geneva, Switzerland E susie.wang@informa.com W www.vitafoods.eu.com 7-9 SEAFOOD EXPO GLOBAL 2019 @ Brussels, Belgium E hturcotte@divcom.com W www.seafoodexpo.com 7-10 HOFEX (BIENNIAL) 2019 Co-located with PROWINE ASIA 2019 @ Hong Kong E exhibit@hofex.com (Exhibiting) visit@hofex.com (Visiting) W www.hofex.com www.hongkong.prowineasia.com 9-11 @ E W
EUVEND & COFFEENA 2019 Cologne, Germany warisara@expolink.net (Warisara) www.euvend-coffeena.com
14-16 SIAL CHINA 2019 @ Shanghai, China E info@sialchina.cn rudee@francothaicc.com (Franco-Thai Chamber of Commerce) W www.sialchina.com
47
24 May 2019 @ Challenger Hall, IMPACT By Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. T +66 2192 9598 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com
22
11-14 FISPAL FOOD SERVICE 2019 @ Sao Paulo, Brazil E falecom@informa.com W www.fispalfoodservice.com.br
28 MAY – 1 JUNE THAIFEX – WORLD OF FOOD ASIA 2019 @ Challenger Hall & IMPACT, Nonthaburi, Thailand E warisara@expolink.net (Warisara) l.how@koelnmesse.com.sg W www.worldoffoodasia.com
12-15 PROPAK ASIA 2019 @ BITEC, Bangkok, Thailand E piyaporn.l@ubm.com W www.propakasia.com
29-31 INTERFOOD ASTANA 2019 @ Astana, Kazakhstan E zdorovie@iteca.kz (kanokwan@blithailand.com) W www.interfoodastana.kz/en 29-31 CHINA FRUIT LOGISTICA 2019 @ Shanghai, China E pimpornravee@gp-events.com info@gp-events.cn W www.chinafruitlogistica.cn
JUNE 5-7 SIMA ASEAN THAILAND 2019 @ IMPACT, Nonthaburi, Thailand E ajjimar@impact.co.th W www.sima-asean.com
21-24 SEOUL FOOD & HOTEL 2019 @ Seoul, Korea E tom.poole@ubm.com (kanokwan@blithailand.com) W www.seoulfoodnhotel.co.kr 9
24-26 IFEX PHILIPPINES 2019 @ Manila, The Philippines E ifexphilippines@citem.com.ph W www.ifexphilippines.com
5-7 FOOD & HOTEL MYANMAR 2019 Co-located with COFFEE & TEA MYANMAR 2019 @ Yangon, Myanmar E fraser.hawkes@ubm.com supaporn.a@ubm.com W www.foodandhotelmyanmar.com 9-11 BREWING CONFERENCE BANGKOK 2019 @ BITEC, Bangkok, Thailand E hendel@vlb-berlin.org (Olaf Hendel) Chonlada_m@boonrawd.co.th W www.brewingconference.com 11-14 EXPOVINIS BRAZIL 2019 @ Sao Paulo, Brazil E visitante.fev@informa.com W www.expovinis.com.br
19-21 FOOD INGREDIENTS ASIA – CHINA (Fi ASIA-CHINA) 2019 Co-located with PROPAK CHINA 2019, FOODPACK CHINA 2019 @ Shanghai, China E lydia.ma@ubmsinoexpo.com W www.figlobal.com/asia-china/home 19-22 FOOD TAIPEI, FOODTECH & PHARMATECH TAIPEI, TAIPEI PACK, TAIWAN HORECA & HALAL TAIWAN 2019 @ Taipei, Taiwan R.O.C E foodtaipei@taitra.org.tw W www.foodtaipei.com.tw 25-28 FISPAL TECNOLOGIA 2019 @ Sao Paulo, Brazil E falecom@informa.com W www.fispaltecnologia.com
3
2019
Chiang Mai June 26th
PRODUCTIVITY & SAFETY ROADSHOW
26-28 MALAYSIA INTERNATIONAL FOOD & BEVERAGE (MIFB) 2019 @ Kuala Lumpur, Malaysia E mifb@sphereexhibits.com.my W www.mifb.com.my 27-29 EXPO FOOD GUANGZHOU 2019 @ Guangzhou, China E paul.chen@ubmsinoexpo.com W www.fggle.com 30 JUN -2 JUL SUMMER FANCY FOOD SHOW 2019 @ New York, U.S.A. E membership@specialtyfood.com W www.specialtyfood.com
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
22-24_Schedule of Event.indd 22
22/4/2562 BE 18:46
39_ad_TBIG-kanoon.indd 39
22/4/2562 BE 16:47
SEMINAR & TRAINING May
JULY 1-3 @ E W
HOTELEX & FINE FOOD BEIJING 2019 Co-located with EXPO BAKERY & ICE CREAM BEIJING 2019 EXPO COFFEE & TEA BEIJING 2019 Beijing, China hotelex@ubmsinoexpo.com www.en.hotelex.cn/shanghai-exhibition
9-12 FOOMA JAPAN 2019 @ Tokyo Big Sight, Japan W www.foomajapan.jp 11-14 TFBO & TRAFS 2019 @ BITEC, Bangkok, Thailand E unchalee@kavinintertrade.co.th W www.thailandfranchising.com www.thailandhoreca.com 24-27 INTELLIGENT WAREHOUSE 2019 @ IMPACT, Bangkok, Thailand E jenkit@expolink.net W http://intelligent-warehouse.com 24-27 FOOD & HOTEL INDONESIA 2019 Co-located with RETAIL INDONESIA 2019 @ Jakarta, Indonesia E wiwiek@pamerindo.com W www.foodhotelindonesia.com
AUGUST 15-17 MYANMAR FOODBEV 2019 Co-located with MYANMAR RETAIL EXPO 2019 @ Yangon, Myanmar E info@icvex.com W www.myanmarfoodbev.com 28-30 NATURAL & ORGANIC PRODUCTS ASIA (NOPA) 2019 @ Wanchai, Hong Kong E visit@naturalandorganicasia.com (kanokwan@blithailand.com) W www.naturalproducts.com.hk www.naturalandorganicasia.com
6 By
ISO 31000:2018 Application of Risk Management Systems British Standard Institution (BSI)
6-10 By
CQI and IRCA Certified ISO 14001:2015 Lead Auditor Training Course British Standard Institution (BSI)
7 By
ISO 9001:2015 Requirement British Standard Institution (BSI)
9 By
Aspect Identification for Environmental Systems British Standard Institution (BSI)
10 By
ISO 45001:2018 Requirement British Standard Institution (BSI)
14 By
Risk Management for ISO 9001:2015 British Standard Institution (BSI)
15-16 By
Operations Management with Performance Excellence Framework Warehouse and Inventory Management Moving for 4.0 Thailand Productivity Institute
16 By
Implementation of HACCP in Food Processing Plant National Food Institute
21 By
ISO/IEC 17025:2017 National Food Institute
22-23 By
IE Techniques for Productivity Improvement Thailand Productivity Institute
23 By
Thriving in Forces of Change: Future Skills Development (Soft &Tech) for Digital Transformation Thailand Productivity Institute
23-24 By
ISO 9001:2015 Internal Audit ISO 22301:2012 Documentation Preparation Workshop (BIA, BCP, Testing kit, etc.) British Standard Institution (BSI)
24 By
Risk Assessment for ISO 45001:2018 British Standard Institution (BSI)
27-31 By
CQI and IRCA Certified ISO 9001:2015 Lead Auditor Training Course British Standard Institution (BSI)
30-31 By
ISO 45001:2018 Implementation British Standard Institution (BSI)
CONTACT
British Standard Institution (BSI) T 0 2294 4889 E infothai@bsigroup.com
National Food Institute (NFI) T 0 2422 8688 E dujduan@nfi.or.th
Thailand Productivity Institute T 0 2619 5500 # 451-455 E training@ftpi.or.th
24
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
22-24_Schedule of Event.indd 24
22/4/2562 BE 18:46
ad_Fi Asia2019.indd 33
5/4/2562 BE 09:34
SCIENCE & NUTRITION
ดร.อุทัยวรรณ สุทธิศันสนีย์
ผักใบเปรี้ยว: ผักพื้นบ้านมีดีที่ใบ
Uthaiwan Suttisansanee, Ph.D.
Lecturer/Researcher Institute of Nutrition, Mahidol University uthaiwan.sut@mahidol.ac.th
การรับประทานอาหารไทยเพื่อสุขภาพ เช่น อาหารที่อุดมไปด้วยพืชผักและสมุนไพร เป็นหนึ่งในทางเลือกของการลดความเสี่ยง การเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
พืชผักเหล่านี้มีสารอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะวิตามิน เช่น วิตามินเอ บี ซี อี และแร่ธาตุ ที่มีความจ�ำเป็นต่อการเจริญเติบโต และ การท�ำงานในระบบต่างๆ ของร่างกาย ประกอบกับรสชาติของอาหารไทย ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กล่าวคือ อาหารแต่ละชนิดจะมี 2-3 รสชาติ ผสมผสานกัน ท�ำให้เกิดความกลมกล่อม ขาดรสชาติใดรสชาติหนึ่งจะท�ำให้ รสเพี้ยนไป เช่น แกงส้ม จะมีทั้งรสเปรี้ยว หวาน และเผ็ด โดยทั่วไป รสเปรี้ยวจะได้จากน�้ำมะนาวและน�้ำมะขาม ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณ วิ ต ามิ น ซี สู ง อย่า งไรก็ตาม ผักบางชนิดมีรสชาติเ ปรี้ ย วเช่ น เดี ย วกั น หากแต่เป็นรสเปรีย้ วทีม่ าจากกรดอินทรีย์ ผักเหล่านีก้ น็ ยิ มน�ำมาลวกแนม กับน�้ำพริก เช่น ใบติ้ว ใบเม็ก หรือใช้เป็นองค์ประกอบในสูตรอาหารเพื่อ ให้ได้รสเปรี้ยว เช่น แกงหมูใบชะมวง ต้มย�ำไก่ใส่ใบมะขามอ่อน และ ย�ำไก่ใบมะกอก เป็นต้น ซึ่งใบผักรสเปรี้ยวเหล่านี้นอกจากจะให้รสชาติ เปรี้ยวที่กลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย
ชะมวง (Garcinia cowa Roxb.) มีชื่ออื่นๆ เช่น กะมวง มวงส้ม ส้มป่อง หมากโมก อยู่ในวงศ์ Guttiferae หรือ Clusiaceae มีลักษณะเป็น พุ่มไม้ หรือต้นไม้มีความสูงประมาณ 5-10 ซม. พืชชนิดนี้เป็นแหล่งของ สารทุติยภูมิ อันรวมไปถึง แซนโทน อนุพันธ์ของ Acylphloroglucinol ฟลาโวนอยด์ไกลโคไซด์ เบนโซฟีโนน กรดไฮดรอกซีซิตริก และกรดฟีนอลิก[1-4] สารออกฤทธิ์ ท างชี ว ภาพเหล่ า นี้ มี ฤ ทธิ์ ท างชี ว เคมี แ ละเภสั ช วิ ท ยา ที่หลากหลาย จากการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า ชะมวงได้รับการวิจัยด้าน คุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรามากที่สุด โดยพบว่าชะมวงมีฤทธิ์ ต้านจุลชีพ เช่น เชื้อ Staphylococcus aureus (อาหารเป็นพิษ) เชื้อ Plasmodium falciparum (โรคมาลาเรีย) เชื้อ Aspergillus flavus (ผลิต สารพิษอะฟลาท็อกซิน) เชื้อ Pseudomonas aeruginosa (ดื้อยา) และ เชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคทางพืช[5-6] นอกจากนี้ ชะมวงยังมีฤทธิ์เป็นพิษต่อ เซลล์มะเร็ง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และบรรเทาไข้[7] คุณสมบัติเหล่านี้ คาดว่าจะเกิดจากสารกลุ่มแซนโทนที่มีกลุ่มฟังก์ชันฟีนอลิกซึ่งมีฤทธิ์ต้าน อนุมูลอิสระ ติ้ว (Cratoxylum formosum (Jack.) Dyer) มีชื่ออื่นๆ เช่น กวยโชง กุยฉ่องเซ้า ตาว ติว้ แดง ติว้ ยาง ติว้ เลือด ติว้ เหลือง แต้ว แต้วหิน อยูใ่ นวงศ์ Clusiaceae พบขึน้ ตามป่าเบญจพรรณแล้งทุกภาค ติว้ มีสารออกฤทธิท์ าง ชีวภาพ ได้แก่ แซนโทน ฟลาโวนอยด์ และแอนทราควิโนน[8] และมี สรรพคุณทางยา เช่น ใบของติว้ พบว่ามีฤทธิต์ า้ นเซลล์มะเร็งตับ ไวรัส จุลชีพ และการกลายพันธุ์ นอกจากนี้ ยังมีฤทธิป์ อ้ งกันหลอดเลือดและกระเพาะอาหาร[9-10] ติ้วยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ โดยสารหลักที่มี คุณสมบัติดังกล่าว คือ กรดคลอโรเจนิค[11]
ชะมวง 26
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
26-28_Science & Nutrition_������������.indd 26
22/4/2562 BE 16:59
SCIENCE & NUTRITION
ติ้ว
มะขาม
มะกอก
เม็ก
มะขาม (Tamarindus indica L.) เป็นต้นไม้ในตระกูล Caesalpiniaceae มะขามมีกรดทาร์ทาริก น�้ำตาลรีดวิ ซ์ น�ำ้ มันหอมระเหย กรดไขมันอิสระ อนุพนั ธ์ของกรดไขมัน ฟลาโวนอยด์ไกลโคไซด์ (Vitexin, Isovitexin, Orientin และ Isoorientin) และส่วนประกอบ อื่นๆ[12] มะขามมักใช้ประกอบอาหาร ท�ำให้มีรสเปรี้ยว ผลและ เมล็ดยังมีฤทธิใ์ นการฆ่าจุลชีพ ช่วยในการย่อยอาหาร เป็นยาระบาย ขับเสมหะ ช่วยควบคุมอาการเบาหวาน และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน[13] นอกจากนี้ ยังพบว่าสารสกัดจากเนื้อมะขามมีสารประกอบพอลิฟีนอลสูง ช่วยลดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งในหนูทดลอง และมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ[14] ส่วนใบอ่อนของมะขาม สามารถใช้เป็นส่วนผสมที่ให้รสเปรี้ยวแทนมะนาว และพบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ มีฤทธิ์ แก้ปวด และต้านการตายของเซลล์ตับแบบอะพอพโทซิส[13] มะกอก (Spondias pinnata (Linn.f.) Kurz) เป็นพืชในตระกูล Anacardiaceae มีลักษณะเป็นไม้ผลัดใบ ที่มีความสูง 15-30 เมตร เมื่อโตเต็มที่ สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายอย่างที่พบในมะกอก ได้แก่ ฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ อัลคาลอยด์ คาร์โบไฮเดรต ซาโปนิน สเตียรอยด์ และกัม ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่ากัมจากมะกอก เป็นสารพอลิแซคคาไรด์ที่มีสภาวะเป็นกรด โดยการสร้างพันธะกับเบต้า-อะไมลิน กรดโอลีนโนลิก และกรดอะมิโน บางชนิด [15] สารสกัดหยาบจากมะกอกมีคุณสมบัติทางยา โดยมีฤทธิ์ต้านโรคบิด ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านอาการซึมเศร้า ขับปัสสาวะ เป็นยาระบาย และต้านวัณโรค มะกอกยังเป็นแหล่งที่มาของสารต้าน อนุมูลอิสระธรรมชาติที่ไม่มีความเป็นพิษอีกด้วย[16] เม็ก (Syzygium gratum (Wight) S.N. Mitra.) มีชื่ออื่นๆ เช่น ไคร้เม็ด ยีมือแล เสม็ด เสม็ดขาว เสม็ดแดง เม็กอยูใ่ นวงศ์ Myrtaceae เป็นต้นไม้ขนาดกลางทีม่ คี วามสูงประมาณ 20 เมตร ถึงแม้วา่ การศึกษา สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในเม็กยังมีน้อย แต่คุณสมบัติทางยาของสารสกัดหยาบจากเม็ก พบว่ามีฤทธิ์ต้าน อนุมูลอิสระสูง[10] พืชชนิดนี้ได้รับการตั้งสมมติฐานว่าไม่มีความเป็นพิษ เนื่องจากเป็นพืชที่ชาวบ้านน�ำไป บริโภคได้ทุกวัน ดังนั้น สารสกัดหยาบของเม็กจึงถูกน�ำมาทดสอบในผู้ป่วยที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย[17] รวมทั้ง ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในหนู[18]
เอกสารอ้ างอิง/References 1. Na Pattalung, P., Thongtheeraparp, W., Wiriyachitra, P., Taylor, W.C. 1994. Xanthones of Garcinia cowa. Planta Med 60: 365–8. 2. Likhitwitayawuid, K., Phadungchroen, T., Krungkrai, J. 1998. Antimalarial xanthones from Garcinia cowa Planta Med. 64, 70–72. 3. Jena, B.S., Jayaprakasha G.K., Sakariah, K.K. 2002. Organic acids from leaves, fruits, and rinds of Garcinia cowa. J Agric Food Chem 50: 3431-4. 4. Lee, H.H., Chan, H.K. 1977. 1,3,6-Trihydroxy-7-methoxy-8-(3,7dimethyl-2,6 octadienyl) xanthone from Garcinia cowa. Phytochem. 16, 2038–40. 5. Joseph, G.S., Jayaprakasha, G.K., Selvi, A.T., Jena, B.S., Sakariah, K.K. 2005. Antiaflatoxigenic and antioxidant activities of Garcinia extracts. Int J Food Microbiol 101: 153-60. 6. Nanasombat, S., Teckchuen, N. 2009. Antimicrobial, antioxidant and anticancer activities of Thai local vegetables. J Med Plants Res 3(5): 443-9. 7. Xu, G., Kan, W.L., Zhou, Y., Song, J.Z., Han, Q.B., Qiao, C.F., Cho, C.H., Rudd, J.A., Lin, G. and Xu, H.X. 2010. Cytotoxic acylphloroglucinol derivatives from the twigs of Garcinia cowa. J Nat Prod 73(2): 104-8. 8. Boonsri, S., Karalai, C., Ponglimanont, C., Kanjana-opas, A., Chantrapromma, K. 2006. Antibacterial and cytotoxic xanthones from the roots of Cratoxylum formosum. Phytochem 67: 723-7. 9. Waiyaput, W., Payungporn, S., Issara-Amphorm, J., Panjaworayan, N.T. 2012. Inhibitory effects of crude extract from some edible Thai plants against replication of hepatitis B virus and human liver cancer cells. BMC Complement Altern Med 12(1): 246. 10. Kukongviriyapan, U., Luangaram, S., Leekhaosoong, K., Kukongviriyapan, V., Preeprame, S. 2007. Antioxidant and vascular protective activities of Cratoxylum formosum, Syzygium gratum and Limnophila aromatica. Biol Pharm Bull 30(4): 661-6. 11. Maisuthisakul, P., Suttajit, M., Pongsawatmanit, R. 2007. Assessment of phenolic content and free radical-scavenging capacity of some Thai indigenous plants. Food Chem 100: 1409-18. 12. Escalona-Arranz, J.C., Perez-Roses, R. Jimenez, I. L., Rodriguez-Amado, J., Argota-Coello, H., Canizares-Lay, J., Morris-Quevedo, H.J., Sierra-Gonzalez, G. 2010. Chemical constituents of Tamarindus indica L. leaves. Cuban Journal of Chemistry [online] Available at http://www.redalyc.org/articulo.oa?id=443543720011 13. Bhadoriya, S.S., Ganeshpurkar, A., Narwaria, J., Rai, G., Jain, A.P. 2011. Tamarindus indica: Extent of explored potential. Pharmacogn Rev 5(9):73-81. 14. Martinello, F., Soares, S.M., Franco, J.J., Santos, A.C., Sugohara, A., Garcia, S.B., Curti, C.,Uyemura, S.A. 2006. Hypolipemic and antioxidant activities from Tamarindus indica L. pulp fruit extract in hypercholesterolemic hamsters. Food Chem Toxicol 47: 163–70. 15. Arranz, J.C.E., Diaz, J.G., Perez-Roses, R., la Vega, J.D. 2014. Effect of Tamarindus indica L.leaves' fluid extract on human blood cells. Nat Prod Res 28(18): 1-4. 16. Sameh, S., Al-Sayed, E., Labib, R.M., Singab, A.N. 2018. Genus Spondias: A Phytochemical and Pharmacological Review. Evid Based Complement Alternat Med [online] Available at https://doi.org/10.1155/2018/5382904 17. Bureemas, J., Kukongviriyapan, V., Kukongviriyapan, U., Senggunprai, L. 2007. Effects of Syzygium gratum on antioxidant system in β-thalassemia/Hb E patients. KKU Res J 7(2): 15-21. 18. Senggunprai, L., Kukongviriyapan, V., Prawan, A., Kukongviriyapan, U. 2010. Consumption of Syzygium gratum promotes the antioxidant defense system in mice. Plant Foods Hum Nutr 65(4):403-9. MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND
26-28_Science & Nutrition_������������.indd 27
27
22/4/2562 BE 16:59
SCIENCE & NUTRITION
Sour Leafy Plants:
Local Vegetables with High Medicinal Benefits in their Leaves Consuming healthy Thai foods, such as foods rich in vegetables and herbs, is one of the alternative pathways to reduce the risk of non-communicable diseases. These vegetables contain a variety of nutrients, especially vitamins such as vitamin A, B, C, E, and minerals, which are essential for growth and balance in various systems of the body. Besides, Thai food has unique taste, each of which comprises of 2-3 flavors mixing together, resulting in a balance of taste. Missing one of the flavors can cause the taste to be distorted. For example, the taste of sour curry is a combination of sour, sweet and spicy. Sour taste can be obtained from lemon juice and tamarind juice due to high amount of vitamin C. Some vegetables also have a sour taste; however, this is a result of high amount of organic acids. Normally, these vegetables are boiled and blended with chili paste, such as leaves of Cratoxylum formosum (Jack.) Dyer and Syzygium gratum (Wight) S.N. Mitra. Some sour leafy vegetables are used as a component in recipes for sour taste such as pork curry, chicken spicy soup with young shoot of tamarind leaves and spicy salad with Spondias pinnata (Linn.f.) Kurz leaves. These sour leaves provide a unique, sour taste with health benefits.
Garcinia cowa Roxb. (local names as Cha-Muang, Ka-Muang,
Muang-Som, Som-Pong and Mak-Mok) is in the Family Guttiferae or Clusiaceae with a shape of shrubs or polygamous trees of around 5-10 cm of height. This plant possesses a rich source of secondary metabolites including prenylated xanthone, acylphloroglucinol derivatives, flavanone glycosides, benzophenones, hydroxycitric acids and phenolic acids[1-4]. These bioactive compounds possess a wide range of biochemical and pharmacological activities. The most widely investigation on this plant has been emphasized on antibacterial and fungal properties. It was found that G. cowa exhibits an antimicrobial function against Staphylococcus aureus (food poisoning), Plasmodium falciparum (malarial parasite), Aspergillus flavus (aflatoxin production), Pseudomonas aeruginosa (drug resistance) and phytopathogenic fungi[5-6]. Besides, G. cowa also possesses cytotoxic effect toward cancer cell lines, improves blood circulation and relieves fever [7]. These properties are the results of its xanthone with phenolic functional groups that exhibit antioxidant properties.
Cratoxylum formosum (Jack.) Dyer (local names as Kui-
Chung, Kui-Chong-Chao, Taw, Tew-Daeng, Tew-Yang, Tew-Laud, TewLeung, Teaw and Teaw-Hin) is in the Clusiaceae family, which is found in all mixed deciduous forests. Its bioactive compounds consist of xanthones, flavonoids and anthraquinones[8]. C. formosum had been reported to possess several medicinal properties. Leaves of C. formosum were found to function against liver cancer cell line as well as possess antiviral activity, antimicrobial activity, antimutagenicity, vascular and gastric protective effects[9-10]. Besides, it was found that this plant provides
28
a source of antioxidant, which is corresponded to the function of chlorogenic acid[11].
Tamarindus indica L. is a tree in the Caesalpiniaceae family.
T. indica contains high contents of tartaric acid and reducing sugars, essential oils, free and conjugated fatty acids, flavonoid glycosides (vitexin, isovitexin, orientin and isoorientin) and other components [12] . Tamarind fruit is often used for cooking for its sour taste. Fruit and seeds possess anti-microbial activity, increase digestion, support laxative effect, control diabetes and improve immune system[13]. In addition, tamarind extract had been reported to contain high level of polyphenols, resulting in reduced arteriosclerosis in rat model and increase antioxidant properties[14]. Young leaves of T. indica can sometimes be employed as sour ingredient instead of lemon and were found to possess antioxidant activity, anti-inflammatory activity, antinociceptive activity and anti-apoptotic and hepatoprotective effects[13].
Spondias pinnata (Linn.f.) Kurz (Thai local name of Makok)
in the Anacardiaceae family is a deciduous tree with a height of 15-30 meters when fully grown. Several bioactive compounds from the isolation of this tree include flavonoids, glycosides, alkaloids, carbohydrates, saponins, steroids and gums. Interestingly, gums from S. pinnata are acidic polysaccharides, forming bonds with β-amyrin, oleanolic acid or some amino acids[15]. The crude extract from the plant possesses various medicinal properties including function against dysentery, antibacterial activities, central nervous system depressant effect, diuretic and laxative activity as well as antitubercular properties. S. pinnata is also a potential source of natural antioxidant with no significant toxicity being observed[16].
Syzygium gratum (Wight) S.N. Mitra. (Thai local name of
Meg, Kai-Meg, Yee-Meu-Lea, Samed, Samed-Kwaw, Samed-Deang and Meg) in the Myrtaceae family is a medium sized tree of around 20 meters tall. Regardless of its little information on isolated bioactive compounds from this plant, its biological property towards medicinal values of the crude extract was found to possess high antioxidant activities[10]. The plant was hypothesized to exhibit none to less toxicity since locals can daily consume this plant. Hence, its crude extract was examined against β-thalassemia/HbE in patients[17] as well as investigated antioxidant defense system in mice[18].
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
26-28_Science & Nutrition_������������.indd 28
22/4/2562 BE 16:59
29_ad_Thaifex 2019.indd 19
17/4/2562 BE 17:32
SPECIAL FOCUS
Jorge Izquierdo,
Vice President Market Development, PMMI
แปลโดย / Translated by กองบรรณาธิการ นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
นวัตกรรมด้านการตรวจสอบในสายการผลิต
กับการเพิ่มความปลอดภัยของอาหาร เมื่อความแม่นย�ำจับคู่ความเร็วในระบบ การตรวจจับด้วยภาพ (Vision System)
จากรถยนต์บินได้สู่แหล่งพลังงานที่ยั่งยืน วิสัยทัศน์แห่งวันพรุ่งนี้เทคโนโลยีที่ ช่วยยกระดับชีวติ ทีจ่ ะท�ำให้วธิ กี ารท�ำงานมีประสิทธิภาพมากยิง่ ขึน้ แม้วา่ โซลูชนั บางอย่างจะยังไกลความเป็นจริง แต่ผู้บุกเบิกการผลิตได้ออกแบบรูปแบบการ ท�ำงานด้วยการใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทที่ นั สมัยเข้ามาช่วยให้ ผู้ผลิตสามารถเพิ่มความปลอดภัยด้านอาหารได้ โดยในขณะเดียวกันก็ สามารถเพิม่ ประสิทธิภาพการผลิตด้วย ความก้าวหน้าล่าสุดเหล่านีย้ งั รวมถึง ผู้ผลิตที่มุ่งเน้นที่การจัดการต้นทุนให้สอดคล้องกับความสามารถและตลาด เทคโนโลยีอัตโนมัติโดยเฉพาะ อาทิ ระบบจับภาพของเครื่องจักร (Machine vision) ซึ่งคาดว่าจะเติบโตมากขึ้น ตามรายงานสถานะอุตสาหกรรมของ สหรัฐอเมริกาในปี 2561 ในการผลิตเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์ที่จัดท�ำโดย สมาคมเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์และการแปรรูป (PMMI) ซึ่งระบุว่า หมวด เครื่องจักรตรวจสอบ ตรวจจับ และตรวจสอบน�้ำหนักบนสายพาน คาดว่าจะ ขยายตัวต่อเนื่องถึงร้อยละ 8.6 จาก 438 ล้านเหรียญในปี 2560 30
ในปัจจุบัน ผู้ผลิตอาหารต้องตรวจสอบทุกชิ้นส่วนใน สายการผลิต สายการผลิตแบบเก่าอาจต้องตรวจสอบ ฉลากที่เหมาะสมโดยให้ค�ำตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่” เท่านั้น แต่ปัจจุบันโซลูชันการตรวจจับด้วยภาพจะให้ ค�ำตอบที่ซับซ้อนได้มากกว่าหนึ่งค�ำตอบ ระบบการตรวจจับด้วยภาพช่วยให้การมองเห็นมีความครอบคลุม และแม่นย�ำยิ่งขึ้นในการตรวจสอบว่าฉลากที่เหมาะสม อยู่ในระดับที่เหมาะสมท�ำให้มั่นใจได้ว่าขวดไม่แตก หรื อ บิ่ น และได้ รั บ การบรรจุ ใ นระดั บ ที่ เ หมาะสม เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นการลงทุนในอุปกรณ์ตรวจสอบใหม่ ที่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้หลายประเภท ซึง่ มีความแม่นย�ำและความเร็วทีส่ งู ขึน้ ซึง่ เป็นการเพิม่ โอกาสในการประหยัดต้นทุน ประการแรก ผู้ผลิต ต้องการทีจ่ ะลดปริมาณของเสียทีส่ ะสมจากผลิตภัณฑ์ ทีม่ ขี อ้ บกพร่อง ประการทีส่ อง พวกเขาต้องการลดเวลา การหยุดท�ำงานทีเ่ กิดจากการหยุดชะงักและการแก้ไข ในจุ ด ที่ จ� ำ เป็ น ในกรณี ที่ เ กิ ด ความผิ ด ปกติ หรื อ ข้อผิดพลาด ท�ำให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) มากที่ สุ ด ท้ า ยนี้ บ ริ ษั ท ยั ง สามารถหลี ก เลี่ ย งการเรียกคืนที่อาจเกิดขึ้นและลดผลกระทบที่อาจเกิดต่อ ชื่อเสียงของแบรนด์สินค้าได้อีกด้วย
HMI ที่พัฒนาแล้ว และการวิเคราะห์ข้อมูล ที่ช่วยให้การด�ำเนินงานง่ายขึ้น
การออกแบบที่ชาญฉลาดไม่ได้จ�ำกัดแค่เพียงกลไก ของอุปกรณ์ตรวจสอบด้วยภาพในปัจจุบัน ระบบ Human-Machine Interface (HMI) ได้รับการพัฒนา เพือ่ ให้สามารถใช้งานได้งา่ ยขึน้ เทคโนโลยีนไี้ ม่จำ� เป็น
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
30-33_Special Focus_Line Inspection.indd 30
22/4/2562 BE 17:36
SPECIAL FOCUS ความก้าวหน้าด้านความปลอดภัยของอาหารและการปฏิบัติตาม กฎระเบียบที่ก�ำหนดโดยส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) และหน่วยงานอื่นๆ
เทคโนโลยีเอ็กซเรย์ (X-ray)
ต้องมีการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีทักษะ แต่ยังช่วยลดเวลาใน การฝึกอบรมให้สั้นลงและน�ำไปสู่ผลิตผลที่มากขึ้น ตัวอย่าง เช่น ผู้ประกอบการที่ต้อง จ�ำกัดการฝึกอบรม สามารถใช้งานเครื่องจักรและเปลี่ยนไปใช้สูตรหรือรูปแบบ บรรจุภณ ั ฑ์ทแี่ ตกต่างกัน ตัวเลือกเมนูยงั ช่วยให้ผปู้ ฏิบตั งิ านสามารถเลือกโปรแกรม ที่เปิดใช้งานและน�ำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประโยชน์ของ HMI ไม่ได้จ�ำกัดอยู่ที่สิ่งที่คุณเห็น แต่ยังพบในการรวบรวมและ วิเคราะห์ข้อมูลที่มีความสอดคล้องและความรวดเร็วในหลายกรณี ซึ่งสามารถ รวมข้อมูลจากอุปกรณ์ดั้งเดิม ในขณะเดียวกันโซลูชันของปัจจุบันช่วยให้ผู้ประมวลผล จัดเก็บและแสดงตัวบ่งชี้ที่ส�ำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจ�ำเป็นต่อการสร้าง
จากจุดเริ่มต้นในการตรวจจับวัสดุแปลกปลอมในผลิตภัณฑ์ เช่น แก้ว โลหะ และพลาสติก เทคโนโลยีเอ็กซเรย์นั้นได้มีวิวัฒนาการมา อย่างยาวนาน อุปกรณ์ตรวจสอบมีความไวมากขึ้น และสามารถ ส่งข้อมูลได้กว้างขึ้น จากการตรวจสอบรูปร่างและขอบข่ายของ ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อบอกความหนาแน่นและปริมาตร เทคโนโลยี เอ็กซเรย์ไม่เพียงแต่ชว่ ยตรวจจับวัสดุแปลกปลอม แต่ยงั ให้ขอ้ มูลโดย ละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ผลิตยังเพิ่มความไวของเครื่องตรวจจับได้ ในอดีต พลังงานที่จ�ำเป็นในการใช้งานอุปกรณ์ต้องการการระบายความร้อน ในระหว่างการด�ำเนินการ ปัจจุบันการใช้พลังงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่จ�ำเป็นต้องลดความร้อนและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ ในขณะที่ ใช้พลังงานน้อยลงระหว่างการใช้งาน เนื่องจากความไวของเครื่องตรวจจับ ทั้งยังมีข้อมูลใหม่มากมายที่จะเก็บไว้ซึ่งสามารถช่วยให้ บริษัทต่างๆ สร้างโปรโตคอลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการท�ำงานของ พวกเขาได้มากขึ้น
ad_ULMA
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 30-33_Special Focus_Line Inspection.indd 31
31
22/4/2562 BE 17:36
SPECIAL FOCUS
Innovation in Inspection Technology
to Make Significant Gains in Food Safety
Where Accuracy Meets Speed in Vision Systems Today’s food manufacturers must inspect every item on their processing line. Older protocols may have only required checking for proper label adherence, providing a “yes or no” answer. Now, detection solutions deliver more than a just single piece of a complex puzzle. Vision systems provide more comprehensive and precise observations—checking that the right label is on at the right level, assuring that the bottle is not broken or chipped and is filled to the right level, etc.
From flying cars to sustainable energy sources, visions of tomorrow’s most life-enhancing technologies invariably revolve around more efficient ways to operate. Although some of these solutions lie in a more distant reality, manufacturing’s pioneers have shaped cutting-edge forms of product inspection technology that help processors make significant gains in food safety while enhancing efficiency. These recent strides also have manufacturers focusing on cost in alignment with capability— and niche automation markets, such as machine vision, are expected to grow even more. According to the 2018 State of the Industry US Packaging Machinery Report produced by PMMI, the Association for Packaging and Processing Technologies, the Inspecting, Detecting and Checkweighing Machinery category is projected to expand from $438 million in 2017, experiencing an 8.6 percent annual growth.
32
All together, investment in new inspection equipment that can detect multiple types of anomalies with greater precision and speed invites opportunities for cost savings. Firstly, processors stand to reduce the waste that accumulates from defective product. Secondly, they are minimizing the downtime that stems from stoppages and fixes required in the event of a malfunction or missed inconsistent output, maximizing return on investment (ROI). Last, but not least, the company avoids a potential recall and a devastating hit to its brand reputation.
Improved HMI and Data Analysis Eases Operations Smart design isn’t simply limited to the mechanics of today’s vision inspection equipment. The Human-Machine Interface
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
30-33_Special Focus_Line Inspection.indd 32
22/4/2562 BE 17:36
SPECIAL FOCUS
during its operation. Now that the power is pointedly less, there is no need for cooling and health risks have also been reduced significantly, while also consuming less energy during usage. Due to the sensitivity of the detectors, there’s an abundance of new information to garner that can help companies build protocols for efficiency into their operations.
เอกสารอ้างอิง/Reference New food inspection equipment offers greater performance and cost savings. www.food safetystrategies.com/articles/587-new-food-inspection-equipment-offers-greater-perfor mance-and-cost-savings (HMI) has also improved to offer more intuitive operator capability. This technology does not require extensive training of a skilled worker, which translates in shorter training and higher productivity. For example, operators with limited training can operate machines and transition to different formulations or packaging formats. Menu options make it easy for operators to select programs, which enable swift changeovers. The value of HMIs is not limited to what you see; it’s also found in the consistency and expediency of data collection and analysis, in many cases able to integrate data from legacy equipment on the same line. Today’s solutions help processors to store and display key performance indicators that are essential to making strides in food safety and meeting increasingly regulations set by the Food and Drug Administration (FDA) and other agencies.
X-ray Technology Evolves From its origins in detecting foreign materials in products, such as glass, metal and plastic, x-ray technology has come a long way. The inspection equipment has become more sensitive and is able to deliver more breadth of information; from examining the shape and edges of a food product to telling you its density and volume. X-ray technology no longer just detects a foreign piece of material, it provides detailed information about the product. In addition, manufacturers have increased the sensitivity of the detectors. In the past, the power necessary to operate the equipment required cooling
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 30-33_Special Focus_Line Inspection.indd 33
33
22/4/2562 BE 17:36
SPECIAL FOCUS
บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จำ�กัด Mettler-Toledo (Thailand) Limited MT-TH.CustomerSupport@mt.com
Product Inspection… The Importance of Good Connectivity ความส�ำคัญของการเชื่อมโยงที่ดี เพื่อประสิทธิภาพการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ ความปลอดภั ย ทางอาหารเป็ น ข้ อ กั ง วลอั น ดั บ หนึ่ ง ส� ำ หรั บ ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม การส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อน เข้ า สู ่ ห ่ ว งโซ่ ก ารค้ า ปลี ก อาจมี ผ ลกระทบร้ า ยแรง ทั้ ง นี้ ผู ้ ผ ลิ ต ยั ง ตระหนั ก เป็ น อย่ า งดี ถึ ง ความจ� ำ เป็ น ที่ จ ะต้ อ งเข้ ม งวดใน การตรวจจั บ สิ่ ง ปนเปื ้ อ นทางกายภาพ ซึ่ ง สุ ข ภาพและความปลอดภั ย ของผู ้ บ ริ โ ภคนั้ น เป็ น เรื่ อ งที่ ต ้ อ งค� ำ นึ ง ถึ ง เป็ น หลั ก แต่ ชื่ อ เสี ย งของแบรนด์ แ ละผลกระทบด้ า นลบที่ อ าจส่ ง ผลต่ อ ความเชือ่ มัน่ ของผูบ้ ริโภคและผลก�ำไร ก็เป็นสิง่ ทีต่ อ้ งค�ำนึงถึงเช่นกัน เพื่อปกป้องผู้บริโภค และเพื่อปกป้องผู้ผลิต แนวปฏิบัติด้านกฎระเบียบ ได้มีการพัฒนาอย่างมีนัยส�ำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งการจัดการข้อมูล มีบทบาทส�ำคัญอย่างยิง่ กฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงความปลอดภัยด้านอาหาร ให้ทนั สมัย (Food Safety Modernization Act; FSMA) ระบบ HACCP ส�ำหรับ การวิเคราะห์อันตราย และจุดควบคุมวิกฤต และการวิเคราะห์อันตรายและ การควบคุมเชิงป้องกัน บนพืน้ ฐานของการประเมินความเสีย่ ง (HARPC) ทัง้ หมดนี้ ต้องการการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับมาตรฐาน GFSI เช่น BRC v6, IFS v6 , FSSC 22000 และ SQF 2000 โดยข้อบังคับระบุว่าผู้ผลิตมีหน้าที่รับผิดชอบในการระบุความเสี่ยงที่อาจ เกิดขึ้นจากการปนเปื้อนและปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค เช่น บรรจุภณ ั ฑ์ทเี่ สียหาย การใช้มาตรการทีน่ า่ พึงพอใจเพือ่ ลดความเสีย่ งเหล่านัน้ อาทิ การเอ็กซเรย์ การตรวจจับโลหะ การใช้เครื่องตรวจสอบน�้ำหนัก และระบบ การจับภาพ (Vision inspection) และการบันทึกและจัดท�ำเอกสารข้อมูล สายการผลิต เช่น บันทึกประวัตกิ ารตรวจสอบและการปฏิเสธสินค้า เอกสารทีเ่ ป็น ลายลักษณ์อักษรนั้นมีความส�ำคัญต่อการปฏิบัติตามข้อก�ำหนด เนื่องจาก หน่วยงานที่ดูแลอาจต้องการข้อมูลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในเวลาใดก็ได้ ดังนัน้ การมีระบบจัดการข้อมูลทีม่ ปี ระสิทธิภาพจึงเป็นสิง่ ส�ำคัญ 34
การเชื่อมโยงคือทุกสิ่ง
การรวบรวมข้อมูล การเก็บรักษาบันทึกประสิทธิภาพ และการปฏิบตั ติ าม เป็น สิ่ ง ส� ำ คั ญ ของแผนความปลอดภั ย อาหารที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ นอกจากนี้ วิธกี ารทีผ่ ผู้ ลิตสามารถบรรลุเป้าหมายนีไ้ ด้ในแง่ของอุปกรณ์ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ ยังคงมีความจ�ำเป็นทีต่ อ้ งมีการพัฒนาอย่างต่อเนือ่ ง ระบบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ ที่มีอยู่โดยทั่วไปในปัจจุบันสามารถน�ำไปใช้กับระบบซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลทั้งจากภายในและภายนอก ตัวอย่างเช่น แพ็คเกจแบบ บูรณาการที่เชื่อมต่อกับการตรวจจับโลหะ การตรวจเอ็กซเรย์ และอุปกรณ์ ตรวจสอบน�้ำหนักบนสายพานที่รองรับการจัดการรับประกันคุณภาพพร้อม การเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์เพือ่ ควบคุมปัญหาด้านคุณภาพ การเก็บข้อมูลและข้อมูลทางสถิตเิ ป็นประโยชน์ตอ่ ผูผ้ ลิตอย่างเต็มที่ เพราะ จะช่วยให้พวกเขาสามารถเรียกดูรายงานการเปลีย่ นแปลงการเข้ากะ รายงาน แต่ละหมวด รายงานสถานะสุขภาพของเครือ่ งจักรและอุปกรณ์ และทีส่ ำ� คัญคือ สถิตกิ ารปฏิเสธและยอมรับสินค้า ซึง่ ล้วนแต่เป็นองค์ประกอบทีส่ ำ� คัญมากใน การบันทึกหากมีเหตุการณ์ที่ผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนถูกน�ำเข้าสู่ตลาด และ ส่งผลกระทบต่อผูบ้ ริโภค ผูผ้ ลิตทีป่ ระสบปัญหาอาจถูกขอให้แสดงหลักฐานว่า พวกเขาได้ท�ำทุกอย่างภายใต้ขอบเขตของพวกเขาเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ เช่นนี้ ภาระการพิสจู น์อยูก่ บั ผูผ้ ลิตและเพือ่ ให้การป้องกันเกิดประสิทธิภาพสูงสุด จะต้องมีข้อมูลที่มีคุณภาพและแม่นย�ำในการใช้งานข้อมูลสถิตินี้ ประวัติ การปฏิเสธสินค้าสามารถคัดแยกและระบุหมวดหมูต่ ามประเภทของเหตุการณ์ ทีเ่ กิดการปฏิเสธสินค้าได้ เช่น ปริมาณการเติมสินค้า สินค้าทีแ่ ตกหักเสียหาย หรือสินค้าทีม่ สี งิ่ แปลกปลอมปนเปือ้ น การรวบรวมข้อมูลที่ทันเหตุการณ์สามารถใช้ในการตรวจสอบระบบ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้งทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดควบคุมที่ส�ำคัญในสาย การผลิตไม่วา่ จะอยูท่ ไี่ หน และระบบสามารถเชือ่ มต่อผ่านอีเธอร์เน็ต ข้อมูลต่างๆ สามารถตรวจสอบควบคู่ไปกับกระบวนการจากสถานีท�ำงาน หรือแม้กระทั่ง สามารถดูได้จากทางไกล บนแล็ปท็อป หรือแท็บเล็ต ตัวเลือกการเชื่อมต่อ
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
34-35_Special Focus_Mettler.indd 34
23/4/2562 BE 17:03
SPECIAL FOCUS เหล่านี้ช่วยให้ผู้ควบคุมการผลิตได้เห็นภาพที่แท้จริงของการท�ำงานจากที่ใด ก็ตามที่พวกเขาอยู่
ข้อมูลช่วยเพิ่มผลผลิต
สายการผลิ ต ความเร็ ว สู ง และแม้ แ ต่ ส ายการผลิ ต ที่ ท� ำ งานด้ ว ยความเร็ ว ต�ำ่ กว่าก็สามารถให้ขอ้ มูลจ�ำนวนมหาศาลและเป็นวิธที ผี่ ผู้ ลิตรวบรวมและตีความ ข้อมูลนีซ้ งึ่ จะมีผลต่อมูลค่าทีเ่ พิม่ ขึน้ ในการด�ำเนินงานของพวกเขาโดยเฉพาะ การท�ำให้ผู้ประกอบการพ้นจากการจัดการข้อมูลด้วยตนเองจะช่วยให้ พวกเขามีประสิทธิผลและท�ำงานในเชิงรุกมากขึน้ ในด้านอืน่ ๆ ตัวอย่างเช่น ข้อมูล จากการทดสอบประสิทธิภาพเป็นระยะ (PVR) สามารถรวบรวมได้โดยอัตโนมัติ จากจุดควบคุมวิกฤต ท�ำให้ไม่ต้องรวบรวมด้วยตนเอง บุคลากรที่มีคุณภาพ สามารถดู จ� ำ นวนหมวดหมู ่ แ ละสิ น ค้ า แต่ ล ะล็ อ ตได้ ง ่ า ยท� ำ ให้ ม องเห็ น กระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าถึงข้อมูลการผลิตแบบเรียลไทม์ผ่านซอฟต์แวร์การจัดการผลผลิต ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถระบุปัญหาใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นในไลน์การผลิตได้ Food safety is the number one concern for food and beverage manufacturers. Sending a contaminated product into the retail supply chain can have very serious consequences and producers are well aware of the need to be stringent when it comes to the detection of physical contaminants. Consumer health is of course the main concern, but brand reputation and the negative effect an incident could have on consumer confidence – and therefore profits – must also be taken into consideration. In order to safeguard consumers – and also to protect manufacturers – the regulatory landscape has evolved significantly in recent years, and data management is playing an ever-important role. The Food Safety Modernization Act – also referred to as FSMA – Hazard Analysis and Critical Control Points (HACCP) and Hazard Analysis and Risk Based Preventive Controls (HARPC) legislation all require effective data management, as do GFSI standards such as BRC v6, IFS v6, FSSC 22000 and SQF 2000. The regulations state that processors are responsible for identifying potential risks with regard to contamination and other factors that could affect consumers – such as damaged packaging - implementing satisfactory measures to mitigate those risks, such as x-ray, metal detection, checkweighers and vision systems, and recording and documenting production line data such as inspection and rejection records. Written documentation is critical to remain compliant, as governing bodies may demand product inspection data at any time, therefore having a system in place that effectively manages that data is critical.
Connectivity is Everything
Collecting information and maintaining records is a critical aspect of an effective food safety plan, and indeed compliance, and the way in which manufacturers are able to achieve this in terms of product inspection equipment continues to evolve. Product inspection systems available on the market today can be implemented with a range of software capabilities, which can enable the use of data for both internal and external audits. For example, an integrated package is available that connects with metal detection, x-ray inspection and checkweigher devices providing Quality Assurance Managers with full real-time access to process data to remain in control of quality issues. This data capture and statistical information can be used to a manufacturer’s full advantage, allowing them to run shift reports, batch reports, health status reports of the machines and, importantly, reject
34-35_Special Focus_Mettler.indd 35
อย่างรวดเร็ว และสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นก่อนที่จะกลายเป็นอันตราย ต่อประสิทธิภาพของสายการผลิต ปัญหาทีเ่ กิดซ�ำ้ ยังสามารถระบุและจัดการได้ อย่างง่ายดายเพือ่ เพิม่ ประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนีค้ วามสามารถในการเข้าถึงระบบตรวจสอบผลิตภัณฑ์จากทางไกลเพือ่ จุดประสงค์ในการตัง้ ค่าและ เปลี่ยนไลน์การผลิตท�ำให้การหยุดชะงักท�ำงานลดลงได้อย่างมาก การตั้งค่า สามารถถูกเก็บไว้สำ� หรับใช้ในอนาคตหลังจากการตัง้ ค่าเริม่ ต้นกระบวนการท�ำให้ กระบวนการท�ำงานเกิดความคล่องตัวและต่อเนือ่ ง ท้ายนี้ ข้อมูลการตรวจสอบสภาวะวิกฤติของกระบวนการยังสามารถรวบรวม ได้จากระบบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ และน�ำเสนอต่อผู้ผลิตในรูปแบบที่ง่ายต่อ การตีความภายใต้ระบบ “สัญญาณไฟจราจร” ไอคอนสีเขียวบนอินเทอร์เฟซ ซอฟต์แวร์บง่ ชีว้ า่ กระบวนการโดยรวมยังคงท�ำงานได้ดี ไอคอนสีเหลืองแสดงถึง ค�ำเตือนล่วงหน้า ซึง่ อาจเกิดเหตุการณ์ทไี่ ม่พงึ ประสงค์เกิดขึน้ ในขณะทีไ่ อคอน สีแดงเตือนว่ามีปญ ั หาในสายการผลิต ข้อมูลทัง้ หมดสามารถเก็บไว้ใช้ในอนาคต ภายในฐานข้อมูลและสามารถส่งออกในรูปแบบ xml หรือ csv ก็ได้ดว้ ย and accept statistics. The latter is of course a very important element to record as, should there be an incident where a contaminated product has entered the market and had an effect on a consumer, the manufacturer in question may be asked to provide evidence that they have done everything in their power to avoid such an occurrence. The burden of proof lies with the manufacturer, and to provide an effective due diligence defense will require the reinforcement of good quality, accurate data. To bolster this statistical data, reject images can also be archived and categorized by the type of event that triggered that reject – such as fill level, broken product or foreign bodies. The live collection of data can be used to monitor all product inspection systems installed as critical control points on a production line, wherever they are located, and systems can be connected via Ethernet. Information can be monitored alongside the process from a workstation, or can even be viewed remotely – on a laptop or tablet for example. These connectivity options enable production controllers to get a true picture of operations from wherever they may be located.
Data Enhances Productivity
High throughput production lines, and even those that run at slower speeds, produce a vast amount of data, and it is how manufacturers collect and interpret this data that will influence how much value it adds to their particular operation. Freeing operators from manual data handling enables them to be more productive and proactive in other areas. For example, data from periodic performance tests (PVR) can be collected automatically from critical control points, eliminating the need for manual collection. Batch and lot numbers can also be viewed easily by quality personnel, giving them excellent visibility of production processes. Full real-time access to manufacturing data via productivity management software allows operators to quickly identify any issues that may occur on the line and to rectify those issues before they become detrimental to line efficiency. Recurring problems can also be easily identified and dealt with in order to streamline production. In addition, the ability to access product inspection systems remotely for purposes of set up and change overs between production batches means that downtime can be significantly reduced. Settings can also be stored for future use after initial set up, further streamlining processes. Finally, process critical condition monitoring data can also be collected from product inspection systems. It is presented to operators in an easy to interpret ‘traffic light’ format. Green icons on the software interface indicate that all is well, amber icons give an early warning if adverse trends are developing, while red icons warn of line stopping problems. All data can be stored for future use within a database and can be exported in xml or csv formats.
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND
35
22/4/2562 BE 17:39
SPECIAL FOCUS
การตรวจสอบในไลน์การผลิต การตรวจสอบในไลน์ ก ารผลิ ต เป็ น การทวนสอบเพื่ อ ยื น ยั น ถึ ง ประสิ ท ธิ ภ าพ และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนขั้นตอนการท�ำงานในองค์กร โดยการตรวจสอบแบ่งออกเป็นการตรวจสอบในเชิงกายภาพ ตัง้ แต่การใช้ประสาทสัมผัส ต่างๆ ของทางร่างกาย (Organoleptic or Sensory test) ไปจนถึงการใช้ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่างๆ มาร่วมทดสอบ
เรามาท�ำความรูจ้ กั วิธกี ารทดสอบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ ทีโ่ รงงานผลิต อาหารส่วนใหญ่ได้น�ำไปใช้ โดยเริ่มตั้งแต่
1. การตรวจสอบด้วยประสาทสัมผัส (Organoleptic or Sensory Test) คือ การตรวจสอบโดยอาศัยประสาทสัมผัสของมนุษย์ ได้แก่
• ประสาทสัมผัสทางตาเพื่อแยกความแตกต่างทางด้านสีสัน (Color) • ประสาทสัมผัสทางการสัมผัส เช่น การบดเคี้ยว การบีบหรือสัมผัสด้วย มือเพื่อรับรู้ถึงเนื้อสัมผัส (Texture) • ประสาทสัมผัสทางการดมกลิ่น เพื่อแยกหรือรับรู้ทางด้านกลิ่นของ ผลิตภัณฑ์ (Odor) • ประสาทสัมผัสการรับรู้รสชาติโดยการชิม เพื่อแยกรสชาติต่างๆ ของ อาหาร (Taste) • ประสาทสัมผัสทางการได้ยิน หรือการฟัง เช่น การแยกความแตกต่าง ความกรอบของผลิตภัณฑ์ (Crispness) ซึง่ การตรวจสอบด้วยวิธนี จี้ ำ� เป็นต้องอาศัยผูท้ มี่ คี วามรู้ ความเชีย่ วชาญ และ ประสบการณ์เป็นผู้ทดสอบ เนื่องจากเป็นการตัดสินใจโดยตัวบุคคลเท่านั้น
2. การตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ (Instrumental Analysis) คือ
การตรวจสอบเพือ่ ยืนยันค่าต่างๆ ในอาหารโดยใช้เครือ่ งมือวัด หรืออุปกรณ์ตา่ งๆ เป็นตัวรายงานผล โดยขอยกตัวอย่างเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีใช้กันทั่วไปจนถึง เครื่องมือส�ำคัญที่สามารถวิเคราะห์ และแสดงผลได้โดยละเอียด 2.1 การตรวจสอบค่าพารามิเตอร์ในอาหารเบือ้ งต้น คือ การตรวจสอบ คุณภาพของอาหาร หรือวัตถุดิบอย่างง่าย ได้แก่ การตรวจค่า pH, Brix, water activity (aw), Moisture Content (MC) ซึ่งปัจจุบันจะมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ ที่ออกแบบมาเพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่อุปกรณ์ตรวจวัดลักษณะพกพา (Handheld) ไปจนถึงเครื่องมือที่ต้อง ติ ด ตั้ ง อยู ่ กั บ ที่ แ ละสามารถใช้ ห รื อ รายงานผลได้ ม ากกว่ า หนึ่ ง ฟั ง ก์ ชั น (Multi-function instrument) 2.2 การตรวจสอบค่ า พารามิ เ ตอร์ ใ นอาหารเชิ ง ลึ ก หรือเรียกว่า 36
เสฏฐวุฒิ ยอดนันทพัฒน์ Settawoot Yoodnunthaphat
Client Manager British Standards Institution (BSI) settawoot.yoodnunthaphat@bsigroup.com
การตรวจสอบค่ า เฉพาะ (Specific parameter) โดยเป็ น การตรวจค่ า พารามิเตอร์เฉพาะของอาหาร หรือวัตถุดิบแต่ละประเภท เช่น • การตรวจวิเคราะห์หาสารต่างชนิดในรูปแบบของก๊าซ กลิ่นในอาหาร โดยตามธรรมชาติแล้วมนุษย์สามารถแยกหรือตอบสนองสารให้กลิ่นได้ถึง 5,000 – 10,000 ชนิด แต่ยังมีสารให้กลิ่นอีกหลายชนิดที่มนุษย์ไม่สามารถ แยกหรือจ�ำแนกได้อย่างชัดเจน เครื่องวิเคราะห์สาร Gas Chromatography (GC) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถใช้แยกสารให้กลิ่นแต่ละชนิดให้เกิด ความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยอาศัยความแตกต่างของอัตราการเคลื่อนที่ของแต่ละ องค์ประกอบของสารผสมบนเฟสคงที่ (Stationary phase) ภายใต้การพา ของเฟสเคลื่อนที่ (Mobile phase) คือ ก๊าซฮีเลียม อย่างไรก็ตาม การทดสอบ ด้วยเครื่อง GC จะได้ผลออกมาเป็นเชิงปริมาณ ไม่สามารถวิเคราะห์สารที่มี ความซับซ้อน ไม่สามารถบอกได้วา่ สารระเหยทีแ่ ยกได้นนั้ สารใดเป็นสารทีใ่ ห้ กลิ่นหรือไม่ ดังนั้น เครื่องมือดังกล่าวจึงได้ถูกพัฒนาต่อพ่วงกับอุปกรณ์ Mass Spectrometry (MS) เป็น Gas Chromatography-Mass Spectrometry (GC-MS) ที่สามารถวิเคราะห์ผลและรายงานได้ถึงชนิดสารระเหยในแต่ละ องค์ประกอบ โดยหลักการท�ำงาน คือ สารต่างๆ ที่แยกได้จากเครื่องแยก สารที่ใช้ก๊าซเป็นตัวพา (Gas chromatography) และสารเชิงเดี่ยวต่างๆ เหล่ า นั้ น เข้ า สู ่ ส ่ ว นของ MS โมเลกุ ล ของสารเชิ ง เดี่ ย วจะได้ รั บ พลั ง งาน จากล�ำแสงอิเล็กตรอนพลังงานสูงที่ค่า 70 อิเล็กตรอนโวลต์ เพื่อท�ำให้เกิด การแตกตัวอยูใ่ นรูปประจุ เรียกว่า “Molecular ion, M+ หรือ M+.” ซึง่ ท�ำให้เกิด การจ�ำแนกประเภทหรือองค์ประกอบต่างๆ GC และ GC-MS สามารถตรวจวิเคราะห์หาก๊าซ เช่น ก๊าซไฮโดรเจน สารประกอบกลุ่มแอลกอฮอล์ เอสเทอร์ อัลดีไฮด์ คีโตน น�้ำมันหอมระเหย กลุ่มกรดไขมัน และเมทิลเอสเตอร์ และกรดไขมันจ�ำเป็นในตัวอย่าง ได้แก่ DHA หรือ EPA ในน�้ำมันปลา • การตรวจวิเคราะห์หาสารต่างชนิดในรูปแบบของเหลว อาทิ อาหาร ยา เครื่องส�ำอาง และสารสกัดสมุนไพร ซึ่งอยู่ในรูปแบบของเหลว โดยส่วนใหญ่ มักจะเห็นการใช้เครื่องมือ High Performance Liquid Chromatography (HPLC) ซึ่งเป็นเครื่องมือแยกและวิเคราะห์สารที่อยู่ในรูปของเหลว ท�ำให้
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
36-39_Special Focus_BSI.indd 36
22/4/2562 BE 18:06
SPECIAL FOCUS สามารถวิเคราะห์สารได้หลากหลาย โดยเครือ่ ง HPLC ทีป่ ระกอบร่วมกับ Diode Array Detector (DAD) หรือ Photo Diode Array (PDA) และ Evaporative Light Scattering Detector (ELSD) นอกจากนั้น HPLC ยัง สามารถวิเคราะห์หาสารพิษเชื้อราซึ่งหากเครื่องได้ ประกอบกับ Fluorescent Detector และ UV Detector โดยมีระบบ Pre-column Derivatization ซึ่งแสงของ UV จะช่วยเพิม่ ประสิทธิภาพการวิเคราะห์สารพิษจาก เชื้อราประเภทอะฟลาทอกซินได้เป็นอย่างดี HPLC สามารถวิเคราะห์สารที่เป็นสูตรผสมของ อาหาร เช่น ปริมาณน�้ำมัน และไขมัน น�้ำตาล โปรตีน วิเคราะห์สารที่อยู่ในกลุ่มกรดอินทรีย์ในอาหารเพื่อ ตรวจสอบความสด หรือเครื่องดื่ม เช่น กรดฟอสฟอริก กรดฟอร์มิก กรดแอซีติก และวิเคราะห์ปริมาณสารเติมแต่งในอาหารเพื่อตรวจสอบคุณภาพ เช่น กรด เบนโซอิก กรดซอร์บิก กรดดีไฮโดรแอซีติก เป็นต้น • การตรวจวิเคราะห์หาสารต่างชนิดในรูปแบบ ของสารอินทรีย์ โดยใช้เครื่องทดสอบที่เรียกว่า NIR Spectroscopy ซึ่ง NIR ย่อมาจาก Near-infrared เป็ น วิ ธี ก ารวิ เ คราะห์ โ มเลกุ ล ที่ ไ ม่ ท� ำ ลายตั ว อย่ า ง อาศั ย การตรวจวั ด ปริ ม าณแสงที่ ถู ก ดู ด กลื น โดย ตัวอย่างในช่วงความยาวคลื่นประมาณ 400-2,500 นาโนเมตร เป็นวิธกี ารทีใ่ ห้ผลทีด่ แี ละรวดเร็ว ถูกน�ำมา ใช้ในการตรวจวัดผลิตภัณฑ์ทั้งในเชิงปริมาณและ คุณภาพ ตั้งแต่การตรวจสอบวัตถุดิบไปจนถึงการตรวจสอบและปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้ หลักการท�ำงานของเครื่องจะใช้วิธีการฉายคลื่น แสง NIR ลงไปในตัวอย่าง จากนั้นตัวอย่างผลิตภัณฑ์ จะดูดกลืนคลื่นพลังงานและก่อให้เกิดการกระตุ้น การสั่นสะเทือนของโมเลกุลใน Functional groups ต่างๆ 2 ลักษณะ คือ การยืดหด (Stretching) และ การเปลี่ยนมุม (Blending) ช่วงความถี่ Overtones และ Combination ของหมู่ฟังก์ชัน O-H, C-H, N-H และ O=H ซึ่งเป็นโมเลกุลหลักของสารอินทรีย์ และ ถ้าหากโครงสร้างโมเลกุลของสารตัวอย่างที่ตรวจวัด มีความซับซ้อน สเปคตรัมที่ได้จะยิ่งมีการซ้อนทับกัน มากขึน้ เมือ่ วิเคราะห์สเปคตรัมเหล่านีจ้ งึ ต้องแยกแยะ และแสดงลักษณะเฉพาะโดยน�ำวิธีการทางคณิตศาสตร์ และสถิติ (Chemometrics) มาใช้ในการหาค่าเฉลี่ย NIR Spectroscopy ได้ถูกประยุกต์ใช้ในการตรวจสอบวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ เช่น ใช้ในการจ�ำแนกความแตกต่างของวัตถุ เช่น สารทีเ่ ป็น Excipients หรือสารทีม่ นี ำ�้ เป็นองค์ประกอบ การจ� ำ แนกความสุ ก ของผลมะม่ ว งแต่ ล ะลู ก การแยกแยะรูปแบบของ Polymorph ในสารประกอบ ของตัวยาในรูปของยาอัดเม็ด การวิเคราะห์ขนาด อนุภาคทีอ่ ยูใ่ นระหว่างกระบวนการท�ำให้เป็นเม็ดเล็กๆ ซึ่ ง จากที่ ก ล่ า วมาเป็ น เพี ย งตั ว อย่ า งวิ ธี ก าร-
ตรวจสอบคุ ณ ภาพในไลน์ ก ารผลิ ต ในความเป็ น จริ ง แม้ อ งค์ ก รจะใช้ เ ครื่ อ งมื อ ที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ หรื อ มี ความละเอียดมากน้อยเพียงใด แต่หากยังขาดการวางแผน การสุ่มตัวอย่างในไลน์ผลิตที่มีประสิทธิภาพผลการตรวจสอบ หรือทดสอบนั้นอาจจะไม่ได้เป็นตัวแทนที่ดีส�ำหรับการยืนยันด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ หรือวัตถุดิบนั้นๆ
การสุ่มตรวจคุณภาพส�ำหรับผลิตภัณฑ์อาหาร และวัตถุดิบสามารถจ�ำแนกออกเป็น 2 ประเภท
1. วิธีตรวจสอบทุกชิ้น (Screening inspection) คือ การตรวจสอบสินค้าแบบ 100 (100% Inspection) วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและใช้กันทั่วไปส�ำหรับ การตรวจสอบทีไ่ ม่ทำ� ให้สนิ ค้าเสียหา เพือ่ เป็นการหาของเสีย (Defective) จากกระบวนการผลิต เช่น การตรวจสอบฉลากของผลิตภัณฑ์อาหารทุกห่อหรือภาชนะบรรจุ มีการระบุข้อความส�ำคัญ เช่น สารก่อเกิดภูมิแพ้ ข้อมูลวิธีการรับประทานหรือบริโภคถูกต้องกับผลิตภัณฑ์ทุกห่อหรือไม่ หรือ การตรวจสอบน�้ำหนักบรรจุทุกผลิตภัณฑ์ 100% เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมีน�้ำหนักที่ถูกต้อง 2. วิธีการสุ่มตัวอย่างจากแต่ละรุ่น (Sampling) การสุ่มตัวอย่างจากสินค้าในแต่ละรุ่นเป็น การหลีกเลี่ยงวิธีตรวจสอบแบบ 100% ในการผลิตสินค้าครั้งละจ�ำนวนมากๆ รวมกันเป็นกลุ่มก้อน จะเรียกว่า รุ่น (Lot) เช่น วัตถุดิบที่ส่งเข้ามาในโรงงานแต่ละครั้ง หรือผลิตภัณฑ์ส�ำเร็จรูปที่ผลิต เสร็จในแต่ละช่วงเวลาหรือในแต่ละวัน ถือเป็น 1 รุ่น แทนที่จะตรวจสอบทุกชิ้นก็จะสุ่มเลือก บางชิ้ น ในแต่ ล ะรุ ่ น มาตรวจสอบเท่ า นั้ น และมี เ กณฑ์ ที่ ก� ำหนดในการตั ด สิ น ใจว่ า จะยอมรั บ (Accept) หรือจะปฏิเสธ (Reject) วัตถุดิบหรือสินค้าส�ำเร็จรูปทั้งรุ่นที่สุ่มมาตรวจสอบ ซึ่งเกณฑ์ ดังกล่าวอาจจะอ้างอิงจากตารางการสุ่ม AQL (Acceptable Quality Level) หรือตารางระดับ คุณภาพที่ยอมรับได้ หรือขีดจ�ำกัดคุณภาพที่ยอมรับได้ ซึ่งเป็นแผนการสุ่มตัวอย่างที่มีประสิทธิภาพ อย่างมาก
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 36-39_Special Focus_BSI.indd 37
37
22/4/2562 BE 18:06
SPECIAL FOCUS
Food Processing Line Inspection The production line inspection is a verification method to ensure the product quality on site at different stages of production process, as well as operating procedures in the organization. The inspection is divided into physical examination from the use of various senses of the body (Organoleptic or Sensory test), through using the tool or various instruments for testing. Here is the examination of products in various methods that most food manufacturers have used, starting from
1. Organoleptic or Sensory Test is an examination based on the different senses of humans, including • Sense of sight to distinguish color (Color) • Sense of touch such as chewing, squeezing, or touching with the hands to recognize the texture (Texture) • Sense of smell to separate or recognize the smell of the product (Odor) • Sense of taste by tasting to separate the various flavors of food (Taste) • Sense of hearing or listening such as the separation of the crispness of the product (Crispness) The testing by this method requires the knowledgeable, expertise, and experience person as a tester since it is decided by the person only.
2. Instrumental Analysis is an examination to confirm various
values in food by using instruments or various tools as a measure. There are general instruments that can analyze and provide the result in specifics. 2.1 General Parameters for primary food testing is an examination to check the quality of food or simply check of raw materials. The methods are included pH, Brix, water activity (aw), Moisture Content (MC). Currently many tools and instruments are designed to facilitate users in various forms such as handheld tools, measuring tools that need to be installed, and tools that be able to use or provide results for more than one function or multi-function instrument. 2.2 Specific Parameters to find an in-depth outcome or a specific parameter of food or each type of raw materials as follows • Analysis of various substances in the form of gas, odor in food, naturally, humans can distinguish or respond to 5,000 - 10,000 kinds of odor substances. Yet, there are many other substances that humans cannot clearly distinguish or categorize. Therefore, Gas Chromatography (GC) is a device that can be used to distinguish each kind of odor clearly by varying the rate of movement of each component of the mixture on a stationary phase under the mobile phase, which is helium gas. The outcome of the GC testing will come out in term of volume. It cannot analyze complex substances or cannot tell whether isolated volatile substances give odor or not. Hence, this device has been developed
38
and attached to the Mass Spectrometry (MS) as Gas ChromatographyMass Spectrometry (GC-MS) which can analyze results and report on volatile compounds in each element. The working principle is various substances which are distinguished from the gas chromatography and various monoclonal substances, enter to the MS, then the monoclonal molecule will receive energy from the highenergy electron beam at the value of 70 electron volts in order to breakdown into the charge form called “Molecular ion, M+ or M+.” which create classification or other elements. GC and GC-MS can analyze for gas such as hydrogen gas, alcohol gas, esters, aldehydes, ketones, essential oils, fatty acid, methyl ester, and essential fatty acids such as DHA or EPA in fish oil. • Analysis of various substances in liquid form such as food, medicine, cosmetics and herbal extracts, which is in liquid form. Normally, we will see the use of the High Performance Liquid Chromatography (HPLC), which is a device to distinguish and analyze substances that are in liquid form, making it possible to analyze a wide range of substances by the HPLC with is combined with the Diode Array Detector (DAD) or Photo Diode Array (PDA) and Evaporative Light Scattering Detector (ELSD). In addition, HPLC can also detect fungal toxins as if the device is installed with Fluorescent Detector and UV Detector with Pre-column Derivatization System, the UV light will increase the efficiency for analyzing on the aflatoxin toxin effectively. HPLC is able to analyze substances that are ingredient of food such as quantity of oil and fat, sugar, and protein. It can analyze substances such as organic acids in food to determine freshness or analyze beverages such as phosphoric acid, formic acid, acetic acid, as well as the amount of food additive to check on the quality such as benzoic acid, sorbic acid, and dehydroacetic acid etc. • Analysis of various substances in the form of organic substance by using a testing instrument called NIR Spectroscopy, which NIR stands for Near-infrared. It is a molecular analysis method that does not destroy samples. The analysis is based on the measurement of the amount of light absorbed by the sample in the wavelength range of about 400-2,500 nm. It is a method that provides effective and rapid outcomes. This method is used to measure products both in quantity and quality from a testing of raw material to inspection and improvement of product quality.
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
36-39_Special Focus_BSI.indd 38
22/4/2562 BE 18:07
SPECIAL FOCUS The working principle of the instrument is to use the NIR light-wave on the sample. Then, the product samples will absorb the energy-wave and cause the vibration of the molecules in the functional groups in two different ways: stretching and blending. The frequency range, overtones and combination of functions of O-H, C-H, N-H and O=H, which are the major molecules of organic substance. If the molecular structure of the testing sample is complex, the spectrum will be more overlapped. When analyzing these spectra, it is necessary to distinguish and show specific characteristics by using mathematical and statistical methods (Chemometrics) to find the mean rate. NIR Spectroscopy has been applied to examine raw materials and products in a variety of forms, for example, to distinguish objects such as Excipients substance or water-containing substances, an identifying the ripeness of each mango, an identifying of polymorph in the drug's compounds in the form of tablets, an analysis of particle size during the granulation process those samples. The above information is just an example of how to check the quality in the production line. In fact, even though the organization uses effective tools or high resolution if there have no efficient plan for sampling products from the production line, the results of the inspection or testing may not be a good representative for confirming on the quality of products or raw materials.
เอกสารอ้างอิง/References Angelika Gratzfeld-Hüsgen and Rainer Schuster, (2001). HPLC for Food Analysis, Agilent Technologies Company, Printed in Germany, 134 H. Krishna Iyer, (1972). Method of Sensory Evaluation of Quality and Application of Statistical Methods in sensory evaluation problem with the special reference to fishery products, Control Institute of Fisheries Technology, 10, p.104-108 Katherine A. Bakeev, Near-Infrared Spectroscopy as a Process Analytical Tool, Part I: Laboratory Appli cations, Spectroscopy, 18(11), November 2003, p. 32-35, http://www.spectroscopymag.com/ spectroscopy/article/ articleDetail.jsp?id=74624 Ohloff, G., in Progress in the Chemistry of Organic Natural Products, eds. W. Herz, H. Grisebach and G.W. Kirby, Springer-Verlag, New York, (1978), vol. 35, p. 431. Rijkens, F.; Boelens, H., Proceedings of the International Symposium Aroma Research, Zeist, Pudoc, Wageningen, (1975), p. 203. Szabó P. Balázs, (2012). Sensory evaluation in food industry, Élelmiszerbiztonság és gasztronómia vonatkozású egyetemi együttműködés, DE-SZTE-EKF-NYME , projekt segítségével jött létre, p. 1-32 www.nirapplication.blogspot.com/2008/03/nir-spectrometer.html www.freshplaza.com/article/2150131/nir-technology-guide-to-quality-mango www.bsc.dip.go.th/th/category/quality-control/qs-qualitycheck www.th.asia-topwin-inspection.com/info/aql-28859457.html
The sampling quality inspection on food products and raw materials can be classified into two types as follows:
1. Screening Inspection is a 100 percent inspection of goods. This method is simple and commonly used for inspections that do not damage the product in order to find defective from the production process such as the inspecting on the labels of every food product or containers which has put on important messages such as allergen, how to eat or consumed which is correct and match with each package, or checking weight of every product in 100 percent to ensure that every product has the correct weight. 2. Sampling Methods From Each Lot Sampling products in each lot is a method to avoid 100 percent inspection methods in the mass production at a time, which is called a lot such as raw materials that are delivered to each factory at a time or finished products produced in each period or each day, which are considered as one lot model, instead of checking every piece. It will randomly select some pieces in each lot for inspection only and have criteria for deciding whether to accept or reject the raw material or finished product in the lot. The criteria may be based on criteria from AQL (Acceptable Quality Level), which means acceptable quality level which is a very effective sampling plan.
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 36-39_Special Focus_BSI.indd 39
39
23/4/2562 BE 17:12
STRONG QC & QA
Aaron Pleitner, Ph.D.
Principal Scientist FSNS Innovation and Quality Food Safety Center of Excellence
Translated and Compiled By: กองบรรณาธิการ
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
การควบคุมคุณภาพอากาศในโรงงานผลิตอาหาร
ความก้ า วหน้ า และการพั ฒ นาของระบบการจั ด การความปลอดภั ย อาหารส� ำ หรั บ โรงงานผลิ ต อาหารแต่ ล ะแห่ ง นั้ น ได้ น� ำ แผน การด�ำเนินงานและการยกระดับการบริหารจัดการสิง่ แวดล้อมหรือ EMP มาปฏิบต ั ิ โดยเป้าหมายของแผนดังกล่าวนีก ้ เ็ พือ่ ตรวจประเมิน และตรวจหาเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่ภายในพื้นที่การผลิต เมื่อพิจารณาถึงเรื่องคุณภาพอากาศภายในโรงงานผลิต สิ่งหนึ่งที่ต้อง พิจารณาเป็นอันดับแรกก็คือการประเมินด้านคุณภาพ โดยทั่วไปมี 2 แนวทาง ทีส่ ามารถปฏิบตั ไิ ด้งา่ ยและได้รบั ความนิยมมากทีส่ ดุ นัน่ ก็คอื การตรวจประเมิน โดยใช้ ร ะบบการตกตะกอน และระบบการวั ด และควบคุ ม ฝุ ่ น ละอองลอย ในอากาศ ระบบการตกตะกอนใช้ส�ำหรับการตกตะกอนอนุภาคอากาศตามธรรมชาติ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยวางจานเพาะเชื้อทั้งชนิดอาหารแข็งและอาหารเหลว ที่ประกอบด้วยสารอาหารซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ เป้าหมาย (เช่น ยีสต์ รา แบคทีเรีย) ไว้ในบริเวณภายในโรงงานผลิต ทั้งนี้ อนุ ภ าคของอากาศจะตกลงบนจานอาหารเลี้ ย งเชื้ อ เองตามธรรมชาติ ข อง แรงโน้มถ่วง อีกระบบคือการวัดและควบคุมฝุ่นละอองลอยในอากาศซึ่งมีความแม่นย�ำ ในการตรวจประเมินคุณภาพอากาศได้ดีกว่าแบบแรก แต่จ�ำเป็นต้องซื้อหรือ เช่าอุปกรณ์เครื่องมือที่เฉพาะทาง โดยการท�ำงานของระบบดังกล่าวจะมี เครือ่ งมือการเก็บตัวอย่างซึง่ ใช้แรงดันเจ็ทหรือแรงดูดในการเก็บตัวอย่างอากาศ ด้วยอัตราเร็วหนึง่ ตามปริมาตรทีต่ อ้ งการ อากาศทีเ่ ก็บเข้ามานีจ้ ะถูกส่งต่อไปยัง จานเพาะเชื้อที่อยู่ภายในระบบ โดยวิธีการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงาน สามารถเก็บตัวอย่างและก�ำหนดค่ามาตรฐานได้จากปริมาตรอากาศที่เก็บ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าบนเครื่องมือ นอกจากนี้ การตรวจประเมินและตรวจหาเชื้อจุลินทรีย์ที่มีในโรงงานผลิต ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่สามารถน�ำมาปฏิบัติได้เพื่อลดโอกาสการปนเปื้อนของ ผลิตภัณฑ์ โดยขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมอีก 2 วิธีการ คือ วิธีการแรก คือการใช้งาน และการบ�ำรุงรักษาระบบ HVAC และระบบการกรองอากาศทั่วทั้งโรงงาน อย่างเหมาะสม (อาทิ การให้ความร้อน การระบายอากาศ และการปรับอากาศ) โดยระบบ HVAC ช่วยให้สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ภายใน โรงงานผลิตได้ รวมถึงสามารถก�ำหนดทิศทางการไหลของอากาศและแรงดัน อากาศภายในสถานที่ผลิต ในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์นั้น 40
ตราบใดที่อุณหภูมิยังคงต�่ำกว่าค่าที่เหมาะสมส�ำหรับจุลินทรีย์ส่วนใหญ่แล้ว การเจริญเติบโตของเชือ้ จุลนิ ทรียก์ จ็ ะลดลง ส่วนในการควบคุมความชืน้ สัมพัทธ์ จะเป็ น การควบคุ ม ปริ ม าณความชื้ น ในอากาศภายในโรงาน ด้ ว ยเหตุ นี้ การควบคุมความชื้นสัมพัทธ์และปริมาณความชื้นในอากาศจะช่วยป้องกัน การเกิดจุดน�้ำค้างหรือลดโอกาสเกิดไอน�้ำกลั่นตัวเป็นหยดน�้ำได้ วิ ธี ก ารที่ ส องในการควบคุ ม การแพร่ ก ระจายและการปนเปื ้ อ นของ ผลิตภัณฑ์ คือ การใช้หลักการไล่ระดับของอากาศ กล่าวคือ ระดับความชัน ของความกดอากาศจะช่วยป้องกันการปนเปื้อนข้ามระหว่างพื้นที่รับวัตถุดิบ ส่วนผสมอาหาร พื้นที่การผลิต การบรรจุ และคลังจัดเก็บสินค้าได้ โดยการไล่ ระดับของอากาศนั้นเกิดจากจลศาสตร์ของสภาวะความดันอากาศที่สูงกว่า ไหลลงสู่ความดันอากาศที่ต�่ำกว่าโดยไม่มีการไหลย้อนกลับ ในการน� ำ ไปประยุ ก ต์ ใ ช้ ง านโดยเฉพาะเรื่ อ งการไหลของอากาศนี้ เราสามารถใช้ประโยชน์จากทิศทางการไหลของอากาศเพื่อควบคุมอากาศให้ ไหลออกจากห้องที่มีการบรรจุและปิดผนึกผลิตภัณฑ์แปรรูปแล้วไปยังพื้นที่ อื่นๆ ของโรงงาน โดยทิศทางการไล่ระดับของอากาศจะช่วยลดการปนเปื้อน ของเชือ้ จุลนิ ทรียก์ อ่ โรคทีม่ ากับอากาศจากพืน้ ทีร่ บั วัตถุดบิ ไปสูผ่ ลิตภัณฑ์สำ� เร็จ โดยภาพรวมแล้ ว การท� ำ ความเข้ า ใจสภาพการไหลของอากาศและ คุณภาพอากาศภายในโรงงานผลิตแต่ละแห่งเป็นสิ่งที่ส�ำคัญ ในการตรวจ ประเมินตามช่วงเวลาทีก่ ำ� หนดจะท�ำให้พนักงานฝ่าย QA/QC สามารถควบคุม อัตราการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคในอากาศ ทั้งยีสต์ เชื้อรา และ แบคทีเรียในโรงงานผลิตได้ นอกจากนี้ การท�ำความเข้าใจเกีย่ วกับการควบคุมและการไหลของอากาศ สามารถก�ำหนดมาตรการป้องกันเพื่อช่วยลดการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์ (เช่น การไล่ระดับของอากาศ) และเมื่อเราลดการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์ให้ น้ อ ยลงที่ สุ ด เราก็ จ ะประสบความส� ำ เร็ จ ในการผลิ ต ผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ าหาร ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงส�ำหรับผู้บริโภคได้ เนื่องจากไม่มีจุลินทรีย์ที่เป็น อันตรายหรือจุลินทรีย์ที่อาจน�ำไปสู่การเสื่อมเสียของอาหารได้เลย
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
40-41_Strong QC&QA_Inddoor Air.indd 40
22/4/2562 BE 19:14
STRONG QC & QA
Air Quality in Production Facilities
The development and evolution of Food Safety Plans for each individual food production facility has included the implementation and the upgrading of environmental monitoring programs (EMP). The goal of an EMP is to gauge and monitor the presence of microorganisms within the manufacturing site.
room where post-processed product is being packaged and sealed, and toward other areas of the plant. This air gradient direction will mitigate the contamination of airborne microorganisms from the raw ingredient areas into finished product solely from the air. Overall, it is important to understand the state of air flow and quality within each production facility. In measuring, at predetermined frequencies, the QA/QC staff can maintain a pulse on the presence of yeast, mold, and bacteria that are airborne and translocating throughout the facility. Furthermore, by understanding the management and flow of the air, preventive measures can be put in place (i.e. air flow gradients) to minimize product contamination. By minimizing product contamination, the goal of providing a safe and high quality product to the consumer is attained without the presence of harmful microorganisms or microorganisms that could lead to spoilage.
When considering air quality at a production facility, one of the first steps to take is to assess what the quality is. The two most popular and easiest to perform are sedimentation and impactor systems. Sedimentation applies to the natural downward settling of air particles over time. A petri dish containing agar and a medium consisting of nutrients beneficial to the target (i.e. yeast, mold, bacteria) is prepared and then placed at a location within the production facility. Due to natural gravitational forces, air particles will settle onto the petri dish. The impactor system method is more precise but requires the purchase or rental of specialized equipment. The Impactor system employs a mechanical sampler that uses a jet or vacuum to draw in air streams at a known rate and thus volume. The air that is mechanically collected is then directly applied onto a petri dish within the Impactor system. This allows for the operator to normalize across sampling events and standardize as to how much air volume is collected, based on the jet or vacuum setting. In addition to measuring and observing the presence of microorganisms, additional steps can and should be taken to further minimize the potential for product contamination. This includes, but is not limited to, two approaches. The first approach is the use and upkeep of a proper HVAC (heating, ventilation and air conditioning) and filtration system for the air moving throughout the plant. The HVAC system allows for the management of temperature and humidity within the production facility as well as air flow direction and pressurization. By controlling the temperature and humidity, microbial growth is mitigated as long as the temperature is kept lower than that considered ideal for most microorganisms. In controlling the humidity, moisture control is in place. To this end, by managing the humidity and air moisture, reaching the dew point can be prevented or lowered. The second approach to managing further spread and contamination of product is the use of air pressure gradients. Such gradients will prevent cross-contamination between the raw ingredient area, production area, packaging and warehouse storage. A gradient is established due to the kinetics of a higher air pressure state flowing into a lower air pressure state without any bi-directional flow. In applying this, one can take advantage of air flow directions to have air flowing outward from the
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 40-41_Strong QC&QA_Inddoor Air.indd 41
41
22/4/2562 BE 19:14
SMART PRODUCTION
เทคโนโลยีหุ่นยนต์
ที่เชี่ยวชาญและมีความสามารถ ในการขึ้นรูปขวดเครื่องดื่ม โครเนส เอจี Krones AG
เปลี่ยนโมลด์ได้ภายใน 15 นาที
เทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่มีความก้าวหน้า1 สามารถท�ำให้ระบบการผลิตขวด PET ที่ ต้องเปลีย ่ นรูปแบบขวดในการผลิตสามารถท�ำงานได้ในเวลาทีร่ วดเร็วอย่างไม่เคย เป็นมาก่อน โดยโปรแกรมที่ถูกออกแบบขึ้นนี้ประกอบไปด้วยระบบการท�ำงาน แบบอัตโนมัติที่แยกส่วนกันในกระบวนการต่างๆ ของการผลิตขวดในปัจจุบัน ซึ่งช่วยสนับสนุนการท�ำงานของผู้ผลิต โดยความก้าวหน้าหนึ่งที่เห็นได้ชัด ได้แก่ เทคโนโลยีการเปลี่ยนแบบโมลด์ในกระบวนการผลิตด้วยหุ่นยนต์ 2 ซึ่งท�ำให้ การเข้ามามีสว่ นร่วมของแรงงานคนกลายเป็นสิง่ ทีไ่ ม่จำ� เป็นอีกต่อไป เมือ่ แบบโมลด์ สามารถเปลี่ยนได้อย่างอัตโนมัติในกระบวนการผลิต3 โดยวิธีการท�ำงานของหุ่นยนต์ที่มีความก้าวหน้า1 นี้ เริ่มจากการที่แขนที่ขึ้นรูปขวดเลื่อนโมลด์ เข้าไปยังจุดที่ใช้ในการเปลี่ยนโมลด์โดยอัตโนมัติ ซึ่งในขณะเดียวกัน ประตูชัตเตอร์ลูกกลิ้งก็จะ เปิดออกและปลดล็อกโมลด์ให้เข้ามาอยู่ในแท่น หลังจากที่หุ่นยนต์หยิบโมลด์ทั้งหมดได้แล้ว (โมลด์ทั้ง 2 ข้างและฐาน) ส่วนที่อุ้มโมลด์ไว้ก็จะเปิดออกเพื่อให้หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนโมลด์ เข้าไปด้านใน ก่อนที่จะติดตั้งลงบนพาเลตต์เปล่าภายในแท่นขึ้นรูป สิ่งเดียวที่แรงงานมนุษย์ ต้ อ งท� ำ คื อ ใส่ พ าเลตต์ ที่ มี โ มลด์ บ รรจุ อ ยู ่ ด ้ า นในเข้ า ไปในระยะการท� ำ งานของหุ ่ น ยนต์ ก ่ อ น กระบวนการเปลี่ยนโมลด์จะเริ่มขึ้น และน�ำออกมาหลังจากนั้น ซึ่งพื้นที่การท�ำงานของหุ่นยนต์จะ ถูกป้องกันไว้โดยลูกกรง
42
การเปลี่ยนโมลด์ด้วยหุ่นยนต์นี้สามารถท�ำได้อย่างรวดเร็ว น่าเชื่อถือ และแม่นย�ำ โดยความเร็วที่ได้มานั้นมาจากการ เปลี่ยนกระบวนการทั้งหมดให้เป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะเริ่ม เดินเครื่องทันทีหลังจากที่ขวดสุดท้ายในโมลด์นั้นขึ้นรูปเสร็จ ก่อนออกจากระบบการขึ้นรูปขวดที่ทันสมัย3 และส่วนผสม ที่เตรียมไว้ของขวดแบบใหม่ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการเป่าขึ้น รู ป แทบจะทั น ที ห ลั ง การเปลี่ ย นแปลงโมลด์ เ สร็ จ สิ้ น นอกจากนี้ ด้ ว ยความแม่ น ย� ำ ของหุ ่ น ยนต์ ทุ ก วิ น าที ใ น กระบวนการผลิตจะถูกใช้อย่างพิถีพิถันและไม่มีการเสียเวลา โดยเปล่าประโยชน์เลย ความน่าเชื่อถือของกระบวนการเปลี่ยนโมลด์นั้นยังเป็นผลมาจากการเลือกใช้หุ่นยนต์ที่ได้รับ การทดสอบในกระบวนการอุตสาหกรรมมาไม่ต�่ำกว่าพันครั้ง และพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสมกับงานเปลี่ยนโมลด์มากที่สุด และเนื่องจากการท�ำงานทุกอย่างของหุ่นยนต์ถูกตั้งค่าไว้ ล่วงหน้าแล้ว ความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในจังหวะการท�ำงาน สามารถป้องกันได้ทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้น แท็ก RFID ที่ติด อยู่กับโมลด์ทุกชิ้น ท�ำให้การท�ำงานเกิดขึ้นได้อย่างไม่สับสน และสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ทั้งยังป้องกันการติดตั้ง โมลด์ผิดชิ้น และท�ำให้การติดตั้งโมลด์ในจุดขึ้นรูปมีความชัดเจน ช่วยยืนยันความแม่นย�ำของระบบการเปลี่ยนโมลด์ ท้ายที่สุด ระบบอัตโนมัติยังท�ำให้ระยะเวลาในการเปลี่ยน โมลด์เป็นระบบมากขึ้น ในทุกกระบวนการผลิต ความสมบูรณ์แบบนี้ยังสะท้อนออกมาในรูปของปริมาณ การเปลี่ยนโมลด์ในกระบวนการขึ้นรูปขวดที่ทันสมัย3 ที่มีฐาน ขึ้นรูปขวด 24 ชนิดและมีหุ่นยนต์ที่มีความล�้ำเลิศ1 1 ตัวนั้น สามารถเปลี่ยนโมลด์ได้เสร็จสิ้นภายใน 15 นาทีเท่านั้น ซึ่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ OEE ของการผลิต และยังช่วยให้ผลิต สินค้าได้ในปริมาณมากขึ้นอย่างมีนัยยะส�ำคัญ ทั้งนี้ ยังรวม ไปถึ ง อุ ป กรณ์ อั ต โนมั ติ อื่ น ๆ เช่ น เทคโนโลยี หุ ่ น ยนต์ ล�้ำหน้า1 ในการบรรจุและแพ็คสินค้า โดยส่วนประกอบต่างๆ ในกระบวนการอัตโนมัตินั้น สามารถปรับปรุงได้อย่างเจาะจง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
42-43_Smart Production_Liquid Food.indd 42
22/4/2562 BE 18:42
SMART PRODUCTION
Consummately Capable Robot Technology An advanced robot technology1 enables bottlers running PET containers to achieve a complete article change-over to different products, types, formats and packs in record time. The programme designed consists of individual automation components. In conjunction with the machines of the bottling line concerned, today modules control the processes involved and support the operators in their work. Advances are particularly apparent in terms of replacing the moulds, where a mould robot module2 comes into play, rendering operator interventions almost entirely superfluous when moulds are being replaced on a bottling machine3
And this is how an advanced robot technology1 works: when the change-over procedure begins, the stretch blow-moulding machine automatically moves the blowmoulding station to the change-over position, while the machine’s guard, in the shape of a roller shutter, opens, whereupon the mould in the blow-moulding station is unlocked. After a robot has grasped the complete mould (i.e. with both halves and the base), the mould carrier opens, the robot removes the mould package, and places it in an empty pallet slot on the waiting mould-change trolley. It then immediately removes a new mould package and inserts it in the blow-moulding station. All that remains for the operator to do is to ingress the pallets with the moulds into the robot’s working range, protected by a grating, before the change-over procedure, and remove them again afterwards.
the a bottling machine3. Equally, the first preforms enter the oven as soon as the change-over has been completed. Moreover, thanks to the robot’s functional precision, every second of the change-over procedure is meticulously planned, and there are no unnecessary non-productive times. The reliability of the changeover procedure is attributable to deployment of a robot, a type proven in industrial applications a thousand times over, and ideally suited for the task of mould replacement. Since the robot’s function sequence is preprogrammed, sequencerelated errors are entirely prevented. Moreover, RFID tags on each mould permit unambiguous, reliable identification – thus precluding the installation of incorrect moulds. In addition, they also assure unambiguous assignment of moulds to blowmoulding stations, which ensures the reproducibility of the change-over function. And finally, the automated procedure enables the duration of the change-over routine to be incorporated precisely into every production schedule. This perfection is also reflected in quantifiable figures: mould replacement on a bottling machine3 with 24 blow-moulding stations and a mould robot2 , for example, is completed in less than 15 minutes. That also enables the line’s OEE to be improved, and significantly more articles to be produced than hitherto. This likewise applies, of course, to the other automation components from an advanced robot technology1, for the packer or the filler. The components used for automation in a line can be individually specified to suit the wishes of the client concerned.
ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information 1 LineXpress from Krones 2 MouldXpress Robot module from Krones 3 Contiform 3 Pro. from Krones
Mould Change-over in 15 Minutes
Mould replacement is thus performed swiftly, reliably and reproducibly. The swiftness results from the change-over procedure’s being automated and starting immediately as soon as the last bottle for the current batch has left
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 42-43_Smart Production_Liquid Food.indd 43
43
22/4/2562 BE 18:42
STRATEGIC R & D
ณรงค์ศักดิ์ ปณวัตร Narongsak Panawat
Managing Director Ultimate Products Co., Ltd. ultimate@ksc.th.com
ด็อกเตอร์ เบบี้ เค ซี Baby K. C., Ph.D.
Vice President CVJ Creative Centre Synthite Industries Ltd (p) babykc@synthite.com
การประยุกต์ใช้น�้ำมันหอมเครื่องเทศและโอลีโอเรซิน
Spice Oils and Oleoresins
ในปัจจุบันสารผสมอาหารทางธรรมชาติมีบทบาทส�ำคัญต่อชีวิตมนุษย์ ในหลายๆ ด้านทีแ่ ตกต่างกัน โดยสารผสมเหล่านัน ้ สามารถเป็นส่วนประกอบ หลักในอาหารที่เรากิน หรือในเครื่องดื่มที่ช่วยดับกระหาย หรือแม้แต่ ในยารักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ไม่เว้นกระทั่งเครื่องส�ำอางเพื่อความสวย ความงาม และเครื่องแต่งกายที่ท�ำให้เราดูทันสมัย เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้นั้นความต้องการสารผสมอาหารทางธรรมชาติมีเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของอารยธรรม มนุษย์ใช้สมุนไพร เครื่องเทศ และพืชผักในหลากหลาย วัตถุประสงค์ ยกตัวอย่างเช่น การใช้เป็นยา หมึกเขียนภาพ และใช้เป็นอาหาร ทั้งๆ ที่ไม่ได้ มีความรู้เกี่ยวกับสารผสมอาหารทางธรรมชาติ หรือลักษณะทางเคมี หรือบทบาทหน้าที่ของ สารเหล่านั้น เมื่อมาถึงยุคของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่จึงเกิดความท้าทายใน การใช้สารผสมอาหารเพื่อตอบสนองต่อความต้องการ รวมถึงการรู้ถึงแหล่งที่มา ตลอดจน วิธีการคัดแยกสารเหล่านั้น
ประโยชน์ของน�้ำมันหอมเครื่องเทศและโอลีโอเรซิน
โอลีโอเรซินหรือสารสกัดเครื่องเทศ คือ สารสกัดแท้ๆ ของเครื่องเทศที่เต็มไปด้วยรสชาติและ กลิ่นเฉพาะของเครื่องเทศ ซึ่งเป็นรูปแบบสารสกัดที่เข้มข้นมากที่สุด โดยประโยชน์ที่ส�ำคัญ ของการใช้โอลีโอเรซิน ได้แก่ 1) สารสกัดมีคุณภาพสม�่ำเสมอดีต่อการใช้งาน 2) โอลีโอเรซินมีอายุการเก็บรักษาได้นานกว่าผงเครื่องเทศสด 3) ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อย ยกตัวอย่างเช่น โอลีโอเรซินจากพริก 1 กิโลกรัม (มีความเข้มข้น ของสารแคพไซซินร้อยละ 5) สามารถใช้แทนพริกป่นได้ถึง 50 กิโลกรัม 4) ประโยชน์ในด้านต้นทุน เนื่องจากมีต้นทุนต�่ำเพราะใช้ในปริมาณที่น้อยกว่า 5) ปริมาณการใช้ที่แนะน�ำคงที่และง่ายต่อการน�ำไปใช้ในระบบการผลิตของโรงงาน อีกทั้งผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีกลิ่นและรสชาติสม�่ำเสมอทั่วทั้งผลิตภัณฑ์ 6) โอลีโอเรซินสามารถผลิตใช้ได้ตลอดทั้งปี
การประยุกต์ใช้น�้ำมันหอมเครื่องเทศและโอลีโอเรซิน
• น�้ ำ มั น หอมเครื่ อ งเทศส� ำ หรั บ การเพิ่ ม ความหอมและกลิ่ น รส น�้ ำ มั น หอม เครื่องเทศ คือ สารสกัดที่ได้จากเครื่องเทศซึ่งผ่านการสกัดโดยกระบวนการกลั่นด้วยไอน�้ำ และจัดเป็นสารทุติยภูมิของเครื่องเทศ อีกทั้งยังเป็นส่วนส�ำคัญของกลิ่นเครื่องเทศและ มีคุณสมบัติในด้านความหอม น�้ำมันหอมระเหยจากเครื่องเทศมักจะมีคุณลักษณะของกลิ่น ตามชนิดเครื่องเทศ ดังนั้นจึงมีการน�ำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น�้ำหอม เครื่องส�ำอาง เครื่องของใช้ในห้องน�้ำ เครื่องดื่ม เป็นต้น โดยได้รับความนิยมน�ำมาใช้อย่างแพร่หลายใน บรรดาผู้ผลิตกลิ่นรส • การใช้โอลีโอเรซินสกัดจากเครื่องเทศเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติ น�้ำมันหอมสกัด 44
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
44-45_Strategic R&D_Ultimate.indd 44
จากเครือ่ งเทศนัน้ มีลกั ษณะเป็นของเหลวข้นซึง่ สกัดได้จากเครือ่ งเทศ ชนิดต่างๆ ดังนั้น สารสกัดซึ่งเป็นอนุพันธ์ของเครื่องเทศที่ได้จะมี ลักษณะและคุณสมบัติเหมือนกันกับเครื่องเทศที่สกัดมา โอลีโอเรซิน จึงได้รับความนิยมน�ำมาใช้ในการแต่งกลิ่นรสส�ำหรับอาหารและ อุตสาหกรรมอาหารต่างๆ • เครื่ อ งปรุ ง รสชนิ ด เหลวส� ำ หรั บ การปรั บ ปรุ ง โปรไฟล์ รสชาติและการเตรียมเครือ่ งปรุงรส จากความเชีย่ วชาญในรสชาติ อาหารแสนอร่อยของโลกตะวันตกและยุโรปได้มอบประสบการณ์ อันมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับความหลากหลายของมนุษยชาติทั่วโลก และ พบว่าเครื่องเทศคือสิ่งที่เชื่อมต่อโดยธรรมชาติระหว่างความรู้สึกและ ความคิด และเป็นสือ่ กลางในการส่งต่อความเข้มข้นและความซับซ้อน ของรสชาติ กั บ ประสาทสั ม ผั ส การออกแบบและพิ ถี พิ ถั น ใน รายละเอียดอย่างอดทนและเพียรพยายามจึงท�ำให้ได้มาซึ่งรสชาติ อาหารนานาชนิดที่มีความเฉพาะเจาะจงในรูปแบบของเครื่องปรุงรส ชนิดเหลวทีส่ ร้างขึน้ เพือ่ เลียนแบบทักษะทีแ่ ท้จริงและคงไว้ซงึ่ รสมือใน การปรุงอาหารแต่ละจานได้อย่างสม�่ำเสมอในทุกๆ เวลา เช่น รสชาติ อาหารอาหรับ อาหารทิเบต อาหารไทย และอาหารจีนที่ล้วนแล้วแต่ เป็นรสชาติอาหารหลักๆ ของโลก การผสมผสานอย่างเข้มข้นและ การเตรียมเครื่องปรุงรสที่ไม่เหมือนใครท�ำให้อาหารเหล่านั้นมีความโดดเด่นได้ในทุกครั้งที่เสิร์ฟ นอกจานี้ อาหารที่มีรสชาติจัดจ้านและ เผ็ดร้อนยังถูกสร้างขึน้ เพือ่ “เป็นมิตรกับกระเพาะอาหาร” ด้วยการผสม ผสานที่น่าตื่นตาตื่นใจของสมุนไพรและส่วนผสมพิเศษที่มีให้เลือก มากมาย
สารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติส�ำหรับการปรับปรุงอายุ การเก็บรักษา
การเกิดออกซิเดชันของอาหารเกิดขึน้ เมือ่ อาหารสัมผัสกับอากาศ โดย ในอาหารประกอบด้วยไขมัน/น�้ำมัน ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะเกิด การออกซิเดชันได้ ปฏิกิริยาออกซิเดชันของน�้ำมันและไขมันไม่อิ่มตัว ส่วนใหญ่เกิดขึน้ ผ่านกระบวนการแลกเปลีย่ นอนุมลู อิสระและสามารถ น�ำไปสู่การหืนต่อไปได้ สารต้านอนุมลู อิสระ คือโมเลกุลทีส่ ามารถชะลอการเกิดปฏิกริ ยิ า ออกซิเดชันและมักจะมีการเติมลงไปในอาหารเพื่อลดความเสียหาย ที่เกิดจากปฏิกิริยาดังกล่าวและเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา สารต้าน 23/4/2562 BE 17:10
STRATEGIC R & D อนุมูลอิสระสามารถเติมในน�้ำมันและอาหารที่มีน�้ำมันเป็น ส่วนประกอบ เช่น น�้ำสลัด สแน็กส์ ซีเรียล เบเกอรี่ เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ และถั่วอบแห้งต่างๆ In the modern world, bio ingredients have important roles in different spectrums of human life. They can be a major component of foods we eat, beverages that quench our thirst, medicines that cure our illness, cosmetics that make us beautiful, and clothes that make us fashionable. Therefore, the demand for the bio ingredients is increasing day by day.
of taste and senses. Designed and detailed with high amount of patience and perseverance, these specific international cuisines comes to you in the form of liquid blends, made to replicate the same genuine skill and craftsmanship enjoyable in each dish every time. Once again carrying us to the diversified talents of the Arabian, Tibetan, Thai and Chinese cuisines to name a few that dominate this part of the world. Immensely rich blends and unique preparatory, make these dishes stand ahead in every table. These spicy enriched tangle’s and high note cuisines are also made to be “stomach friendly” with the amazing inclusion of herby and leafy specialties found in them.
Natural Antioxidants for Improving Shelf Life
Oxidation of food occur when the food is exposed to air. Food containing fats/oils are at particularly high risk of oxidation. The oxidation of unsaturated oils and fats primarily take place via a free radical mediated process and can lead to rancidity. Antioxidants are molecules which can delay oxidation and usually added to food to minimize oxidative damage and extend shelf life. It can be added to oil and oil containing foods such as salad dressings, snacks, cereals, bakery, beverages, meat products, and dried nuts.
Since the beginning of civilization, human beings are utilizing herbs, spices and vegetables for various purposes. For instance like medicine, painting, and food even without any knowledge of its bio ingredients, its chemistry, or its function. Modern science and technology have a challenge to meet the requirement of the demanding society with respect to the development of new bio ingredients, their sources, and the method of isolation.
Benefits of Spice Oils and Oleoresins
Spice oleoresins are true essence that bind both taste and aroma of spices in the most concentrated form. These isolates serve as convenient substitutes for raw spices in processed food products. The major advantages of oleoresin are: 1) Consistency in product quality. 2) Longer shelf life compared to raw spice powders. 3) Storage area required is minimized. For example, one kg. of chili oleoresin (5% capsaicin) can replace up to 50 kg. of ground chili. 4) Cost benefit, cost is minimized since lower dosage is used in final application). 5) Dosage will remain constant and easy to use in automated plants and the final product will have consistent taste and flavour. 6) Availability of oleoresin throughout the year.
Application of Spice Oils and Oleoresins
• Spice Oils for Enhancing the Aroma and Flavours Spice oil is a spice derivative that is extracted generally by steam distillation process. These are the secondary metabolites of spices and is endowed with the major part of the spice flavor and fragrance properties. The essential oil of a spice usually has the characteristic aroma of the source spice. Hence it has been used in various applications like perfumery, cosmetics, toiletries, beverages and is widely used by many flavour house. • Spice Oleoresins for Increasing Flavour and Taste Spice oleoresins are essentially the concentrated liquid form obtained from spices. This spice derivative has the same character and property of the spice it is obtained from. Oleoresins are popularly used for food flavouring in the food processing industries. • Liquid Seasonings for Improving Flavour Profile and Seasoning Preparations Mastering the delicious preparations of the Western world and Europe gives a scintillating experience of diversity of mankind across the globe. Spice has been the nature’s bridge connecting across minds and thoughts and medium of transferring intense and intricate feelings
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 44-45_Strategic R&D_Ultimate.indd 45
45
22/4/2562 BE 17:43
STRATEGIC R & D
Megan Ware RDN LD
Compiled and Translated By:
กองบรรณาธิการ นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
ผักชี คือ พืชสมุนไพรที่มีความคล้ายคลึงกับพาร์สลีย์ ซึ่งช่วย เพิ่มความหอมอร่อยให้กับซุปและอาหารอื่นๆ หลายชนิด ผักชีมี สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเป็นแหล่งของ สารต้ า นอนุ มู ล อิ ส ระที่ ย อดเยี่ ย มเช่ น เดี ย วกั บ ผลไม้ แ ละผั ก ในการน� ำ ผั ก ชี ม าโรยบนอาหารซึ่ ง นอกจาก จะเพิม่ กลิน่ รสแล้วนัน้ ยังช่วยลดปริมาณ การบริโภคโซเดียมได้อีกทางหนึ่งด้วย
ผักชี…สมุนไพรไทย
พร้อมประโยชน์และความเสี่ยงต่อสุขภาพ
ผักชี (Cilantro) หรืออาจเรียกว่า Coriander เป็นพืชสมุนไพรล้มลุกชนิด หนึ่ง จัดอยู่ในวงศ์ Apiaceae ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3,700 สายพันธุ์ ประกอบด้วย แครอท เซเลอรี่ และพาร์สลีย์ โดยในทุกส่วนของผักชีสามารถรับประทานได้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ใบสดและเมล็ดแห้งมาเป็นส่วนผสมในการปรุงอาหาร ในต่างประเทศอย่างอังกฤษจะเรียกพืชสมุนไพรนี้ว่า Coriander มาจากชื่อ วิทยาศาสตร์ Coriandrum sativum ในสหรัฐอเมริกาจะเรียกใบผักชีวา่ Cilantro (มาจากภาษาสเปน) และเรียกเมล็ดว่า Coriander นอกจานีช้ าวอเมริกนั ยังรูจ้ กั ผักชีในชื่อว่า Chinese parsley
ผักชีมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
การบริ โ ภคอาหารจากพื ช ทุ ก ชนิ ด ช่ ว ยลดความเสี่ ย งของสภาวะสุ ข ภาพ ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต โดยมีงานวิจัยหลายฉบับชี้ให้เห็นว่า การบริโภคอาหารจากพืชมากขึ้น เช่น การรับประทานผักชีก็อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วนลงพุง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริม สุขภาพผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรง ทั้งยังเพิ่มพลังงาน และลดน�้ำหนัก ร่างกายโดยรวม • ผลต้านมะเร็ง การศึกษาวิจัยซึ่งได้รายงานในวารสารโภชนาการทาง การแพทย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชีใ้ ห้เห็นว่าพืชสมุนไพรบางชนิดในวงศ์ Apiaceae อย่างเช่นผักชีนนั้ สามารถป้องกันการก่อตัวของสารเฮเทอโรไซคลิกเอมีน (HCA) ที่เกิดขึ้นในเนื้อสัตว์ระหว่างการปรุงอาหาร โดยทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติได้ระบุว่า HCAs เป็นสารเคมีที่เกิดขึ้น เมื่อเนื้อสัตว์สุกที่อุณหภูมิสูง และการบริโภคอาหารที่มีปริมาณ HCAs สูงก็จะ มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้สูงขึ้นด้วย อีกหนึ่งงานวิจัยซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวรสารวิชาการวิทยาศาสตร์การอาหาร โดยมุ่งไปที่การใช้สมุนไพร 46
ในแถบภูมิภาคอาเซียน 5 ชนิด หนึ่งในนั้นคือ Coriandrum sativum หรือเมล็ด ผักชีเป็นส่วนประกอบในการปรุงสุกเนื้อสัตว์ พบว่าเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกโดยมี ส่วนผสมของสมุนไพรดังกล่าวพบการก่อตัวของสารเฮเทอโรไซคลิกเอมีนลดลง อย่างมีนัยส�ำคัญ • ลดความเจ็บปวดและการอักเสบ ยังคงมีหลักฐานทางการวิจัยออกมา เรือ่ ยๆ เกีย่ วกับประโยชน์ของเมล็ดผักชีในการบรรเทาความเจ็บปวดและใช้เป็น ยาต้านการอักเสบ โดยมีการศึกษาฤทธิ์การต้านการอักเสบของสารสกัดจาก เมล็ดผักชีในหนูทดลองที่มีอาการอักเสบและเจ็บปวด พบว่าสารสกัดของเมล็ด ผักชีสายพันธุ์ C. sativum ที่สกัดด้วยน�้ำและเอทานอลมีฤทธิ์ในการบรรเทา ความเจ็บปวดและการอักเสบได้ อย่างไรก็ตามก็ยังจ�ำเป็นต้องศึกษาประเมิน เพิม่ เติมส�ำหรับการวิเคราะห์องค์ประกอบทางพฤกษเคมีทเี่ กีย่ วข้องกับการศึกษา ดังกล่าวนี้ต่อไป นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2558 ซึ่งได้ตรวจสอบ คุณสมบัติของสารสกัดเมล็ดผักชีที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการเจ็บปวดในหนูทดลอง และยังพบผลกระทบของการใช้สารสกัดดังกล่าวต่อการบรรเทาอาการเจ็บปวด นี้ด้วย • แคโรทีนอยด์ ในผักชีก็มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแคโรทีนอยด์ซึ่ง สามารถลดความเสี่ยงของสภาวะการเจ็บป่วยต่างๆ เช่น มะเร็งหลายชนิด และ โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา โดยมีการศึกษาวิจัยซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวารสาร โภชนาการมนุษย์ พบว่ากระเพราและเมล็ดผักชีมีปริมาณสารแคโรทีนอยด์ ประเภท บีตา-แคโรทีน และบีตา-คริปโทแซนทินในระดับสูงที่สุด นอกจากนี้ ยังพบสารลูทีนและซีแซนทินซึ่งรู้จักกันดีในคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ • มีคณ ุ สมบัตใิ นการต้านเชือ้ รา แม้จะมียารักษาโรคการติดเชือ้ รามากมาย เช่น เชื้อราในปาก แต่ก็ยังพบผลข้างเคียงที่ไม่ค่อยน่าพอใจนัก ด้วยเหตุผล
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
46-48_Strategic R&D_Thai Ingredient.indd 46
22/4/2562 BE 18:15
STRATEGIC R & D ดังกล่าวจึงมีความสนใจในการพัฒนาสารประกอบซึง่ มี พื้นฐานมาจากส่วนผสมทางธรรมชาติที่สามารถมีฤทธิ์ ต้านการติดเชื้อราได้ โดยมีงานศึกษาวิจัยฉบับหนึ่งซึ่ง เผยแพร่ในวารสาร PLOS One ได้ท�ำการทดสอบฤทธิ์ การต้านเชื้อรา Candida albicans ของน�้ำมันหอม ระเหยสกัดจากผักชี โดยผู้เขียนได้ให้ข้อสรุปว่าน�้ำมัน หอมระเหยซึ่งสกัดจากใบผักชีนั้นมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อราและแนะน�ำให้มีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป • ใช้เป็นวัตถุกันเสียธรรมชาติ เนื่องจากน�้ำมัน สกัดจากใบผักชีมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูง เมื่อ ใช้เติมลงไปในอาหารจะมีฤทธิ์ในการยังยั้งการเกิด ปฏิ กิ ริ ย าออกซิ เ ดชั น ที่ ไ ม่ ต ้ อ งการ ทั้ ง ยั้ ง ชะลอและ ป้องกันการเสื่อมเสียของอาหารด้วย โดยสารประกอบ Dodecanal ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบในใบและเมล็ด ผั ก ชี นั้ น มี คุ ณ สมบั ติ ใ นการต้ า นเชื้ อ แบคที เ รี ย Salmonella โดยผลการศึกษาในระดับการทดลอง พบว่าสารออกฤทธิ์ดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการฆ่า เชื้อแบคทีเรียได้ถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับยาปฏิชีวนะ เจนตามัยซินที่มีการใช้กันโดยทั่วไป • ใช้ล้างพิษตะกั่ว จากการศึกษาพบว่าผักชีนั้น มีสว่ นช่วยลดการสะสมของตะกัว่ ในหนูทดลอง ซึง่ ก็เป็น สัญญาณทีด่ สี ำ� หรับการใช้ผกั ชีในการล้างพิษตะกัว่ และ สารพิษจากโลหะหนักชนิดอืน่ ๆ เนือ่ งจากมีศกั ยภาพใน การดักจับโลหะเหมือนสารคีเลต (สารอินทรียท์ สี่ ามารถ สร้างพันธะจับกับโลหะ) ผักชีจึงเริ่มมีการศึกษาในเชิง ของสารบ�ำบัดน�ำ้ ธรรมชาติ โดยปัจจัยทางด้านการต้าน เชื้อแบคทีเรียและสารจับโลหะหนักนั้นยังน�ำไปสู่การประยุกต์ใช้ในเครือ่ งดืม่ หรือน�ำ้ ผลไม้สำ� หรับล้างสารพิษ ในร่างกาย “การดีท็อกซ์”
แบรนด์หนึ่งซึ่งพบการปนเปื้อนของเชื้อ Salmonella เป็นต้น ในอีกด้านหนึง่ ของเรือ่ งความปลอดภัยอาหาร ผักชีจดั เป็นสารก่อภูมแิ พ้ชนิดหนึง่ และเนือ่ งจาก สมุนไพรดังกล่าวมักใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องเทศต่างๆ จึงเป็นเรื่องยากมากในการตรวจสอบ โดย Sherry Coleman Collins นักโภชนาการท่านหนึง่ ได้กล่าวว่า "ผักชีอยูใ่ นตระกูลเครือ่ งเทศทีป่ ระกอบ ไปด้วยเมล็ดยี่หร่า เฟนเนล และเซเลอรี่ ซึ่งสารผสมอาหารทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับการเกิดอาการ แพ้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา" ดังนั้น ผู้ที่มีแนวโน้มแพ้สารก่อภูมิแพ้ดังกล่าวก็ควรระวังเรื่องนี้ไว้ด้วย จะเห็นได้วา่ ทัง้ ประโยชน์และความเสีย่ งทัง้ หมดทัง้ มวลนีล้ ว้ นเกีย่ วข้องกับอาหารในองค์รวมหรือ รูปแบบการกินโดยรวมซึ่งส�ำคัญที่สุดในการป้องกันโรคและเสริมสร้างการมีสุขภาพที่ดี และจะดี ยิ่งขึ้นหากกินอาหารที่มีความหลากหลายมากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่อาหารแต่ละชนิด เพราะการกิน อาหารที่หลากหลายจะเป็นกุญแจส�ำคัญที่ท�ำให้เรามีสุขภาพที่ดี
ความเสี่ยงของสมุนไพรใบจิ๋ว
การบริโภคสมุนไพรอย่างผักชีนั้นถือว่าดี แต่ก็มาพร้อม กับความเสี่ยงต่อสุขภาพหากมีการปนเปื้อนของเชื้อ Salmonella โดยส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ศึกษาเกี่ยวกับการขนส่ง อาหารมากกว่า 20,000 ครั้ง พบว่าการน�ำเข้าผักชี ร้อยละ 15 นั้นมีการปนเปื้อนเชื้อ Salmonella โดยพบ มากกว่ า ร้ อ ยละ 80 ของการน� ำ เข้ า เครื่ อ งเทศของ สหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม การทดสอบเชื้อดังกล่าว ด�ำเนินการในตอนที่น�ำเข้า ซึ่งเมื่อผ่านเข้าสู่ในระดับ ค้าปลีกแล้วก็จะมีโอกาสเกิดความเสี่ยงน้อยลงและยิ่ง โดยเฉพาะกับบริษัทเครื่องเทศขนาดใหญ่ท่ีมีชื่อเสียง ทั้งนี้ การให้ความร้อนกับอาหารที่อุณหภูมิ 150-170 องศาฟาเรนไฮต์ จ ะฆ่ า เชื้ อ แบคที เ รี ย รวมถึ ง เชื้ อ Salmonella ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่พบความเสี่ยงเลย เช่น เมือ่ ปี 2558 องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้ ประกาศเรียกคืนสินค้าประเภทเครื่องเทศจากผักชีของ MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 46-48_Strategic R&D_Thai Ingredient.indd 47
47
22/4/2562 BE 18:16
STRATEGIC R & D
Cilantro is a herb that is related to parsley. It is a tasty addition to soups and other dishes, and the nutrients it contains may offer a range of health benefits. Like many fruits and vegetables, cilantro is a good source of antioxidants. Using cilantro to flavor food can also help to cut down on sodium intake.
Health Benefits & Risk of
Cilantro
Cilantro is an annual herb from the family Apiaceae, which contains 3,700 species including carrots, celery, and parsley. All parts of the plant are edible, but the fresh leaves and dried seeds are most commonly used in cooking. Often known in the United Kingdom as coriander, cilantro comes from the plant Coriandrum sativum. In the United States, the leaves of the plant are known as cilantro (the Spanish translation) and the seeds are called coriander. Cilantro is also commonly known as Chinese parsley.
Benefits
Consuming plant-based foods of all kinds is associated with a reduced risk of many lifestyle-related health conditions. Some studies suggest that increasing consumption of plant foods like cilantro may decrease the risk of obesity, diabetes, and heart disease while promoting healthy skin and hair, increased energy, and overall lower weight. • Anticancer Effects A study, reported in the American Journal of Clinical Nutrition, suggests that some spices, including coriander, can prevent heterocyclic amine (HCA) from forming in meats during cooking. The National Cancer Institute defines HCAs as chemicals formed when meat is cooked at high temperatures. A high consumption of foods containing HCAs is associated with a higher risk of cancer. A study published in the Journal of Food Science looked at the use of five Asian spices, including Coriandrum sativum (C. sativum), or coriander, in cooking meats. In the meats cooked with those spices, the formation of HCAs was significantly lower. • Pain and Inflammation There is a growing body of evidence that coriander may one day be useful as an analgesic and anti-inflammatory drug. A study that investigated the potential anti-inflammatory activities of extracts of coriander seeds on inflammation and pain in mice concluded: The aqueous and ethanolic extracts of C. sativum seeds demonstrated significant analgesic and anti-inflammatory activities. However, further evaluation is required for analysis of phytochemical constituents involved in these activities. A similar study, published in 2015, investigated the analgesic properties of coriander in mice. They also found an analgesic effect associated with coriander extracts. • Carotenoids As antioxidants, dietary carotenoids can decrease the risk of numerous conditions, including several cancers and eye disease. A study published in Plant Foods for Human Nutrition showed that basil and coriander contained the highest levels of the carotenoids betacarotene and beta-cryptoxanthin, as well as lutein and zeaxanthin, all known for their antioxidant properties. • Antifungal Properties Although there are a number of treatments for fungal infections, such oral candidiasis (thrush), they often cause
48
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
46-48_Strategic R&D_Thai Ingredient.indd 48
unpleasant side effects. For this reason, there is interest in developing compounds based on natural ingredients that can fight fungal infections. A study, published in PLOS One, tested coriander-based essential oil against Candida albicans. The authors conclude that the oil, produced from coriander leaves, does indeed have an antifungal property and recommend further studies. • Natural Preservative Due to its high antioxidant content, oil extracted from the leaves of cilantro has been shown to inhibit unwanted oxidation when added to other foods, delaying or preventing spoilage. A compound found in the leaves and seeds of cilantro dodecanal - has also been found to have an antibacterial effect against Salmonella. In laboratory tests, dodecanal was twice as efficient at killing Salmonella than the commonly used medicinal antibiotic gentamicin. • Lead Detoxification Cilantro has been found to suppress lead accumulation in rats, which gives promise for the use of cilantro to combat lead and other heavy metal toxicity. Because of its ability to chelate (bond chemicals together), cilantro is also being studied as a natural water purifier. The antimicrobial and heavy metal chelation factors of cilantro have led to its recent use in many "detoxification" juices and drinks.
Risks
Salmonella is a potential health risk when consuming coriander. In a study of more than 20,000 food shipments, the United States Food and Drug Administration (FDA) found that 15 percent of coriander imports were contaminated with Salmonella. More than 80 percent of the U.S. spice supply is imported. The testing for Salmonella was conducted at the time of import. At a retail level, the risk is less likely, particularly with large, more reputable spice companies. Heating food to 150 to 170 degrees Fahrenheit will kill bacteria, including Salmonella. However, in 2015, the FDA published a recall of a brand of coriander spice that had the potential to contain Salmonella. Coriander may be an allergen, and because it is often used in combination with spices, it is hard to detect. According to dietitian Sherry Coleman Collins, "Coriander is in the family of spices that includes caraway, fennel, and celery, all of which have been implicated in allergic reactions in recent years." People who tend to be sensitive to allergens should be aware of this when using coriander. It is the total diet or overall eating pattern that is most important in disease prevention and achieving good health. It is better to eat a diet with variety than to concentrate on individual foods as the key to good health.
เอกสารอ้างอิง/Reference www.medicalnewstoday.com/articles/277627.php 22/4/2562 BE 18:16
ad_FHT final.pdf
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
1
22/4/2562 BE
14:07
STRATEGIC R & D
ประโยชน์ของสมุนไพรไทย
กับโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสุขภาพ กรณ์อัฐชญา วีณุตตรานนท์ Kornautchaya Veenuttranon
Researcher Yamamori R&D Center Yamamori Trading Co., Ltd. kornautchaya@yamamoritrading.com
ความมหัศจรรย์ของสมุนไพรไทย
ถ้ า จะกล่ า วถึ ง ส่ ว นผสมอาหารไทยที่ มี ส ่ ว นสร้ า ง เอกลักษณ์และชื่อเสียงให้อาหารไทยโด่งดังไปทั่วโลก ทัง้ ในด้านรสชาติและคุณประโยชน์ทดี่ ตี อ่ สุขภาพก็ตอ้ ง ยกให้สมุนไพรของไทยอย่างแน่นอน สมุนไพรไทยที่มี คุณประโยชน์ปรากฎข้อมูลในบัญชียาหลักแห่งชาตินนั้ มีมากถึง 247 ชนิด (อ้างอิงข้อมูลจากกองยาแผนไทย และสมุนไพร1) หลายชนิดมีปรากฎในต�ำรับอาหารไทย
ตารางที่ 1 คุณประโยชน์ของสมุนไพรไทยในเครื่องดื่ม Table 1 Benefits of Thai herbs as a drink
คุณลักษณะ Attribute
ความหวาน Sweetness
ความเปรี้ยว Sourness
ความขม Bitterness
ความเผ็ดร้อน Spiciness
50
ชื่อสมุนไพร Name of Herbs
ส่วนของสมุนไพร Part
ชะเอมเทศ Licorice
ราก Root
น�้ำผึ้ง Honey
น�้ำผึ้งแท้ Raw
มะขามป้อม Emblic myrobalan มะกรูด Kaffir lime
ผล Fruit ผลเปลือกและใบ Fruit/ peel/ leaf
ฝาง Caesalpinia sappan
เปลือก Bark
ฟ้าทะลายโจร Chiretta
ใบ-หน่อ Leaf, Bud
อบเชย Cinnamon
เปลือก Bark
พริกไทยด�ำ Black pepper
ผล Fruit
การท�ำงาน2-3 Actions • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
แก้ไอ ขับเสมหะ / Antitussive, demulcent for soothing mucous เป็นยาระบายอ่อนๆ / Laxative for flatulence รักษาวัณโรคปอด / Pectoral for lung disease ตัวช่วยในยาแก้ไอให้ชุ่มคอ / Adjuvant-antitussive - a soothing effect on the throat, demulcent ขับเสมหะ / Expectorant เป็นยาระบาย แก้ลกั ปิดลักเปิด / Laxative for indigestion and antiscorbutic ขับลมในล�ำไส้ / Carminative ฟอกโลหิตระดู / A blood purifier (women) ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ ปรับระบบภูมิคุ้มกัน / Antioxidant, anti-inflammatory, and immune system improvement แก้ไข้ ลดความดัน / Fever - blood pressure treatment แก้ล�ำไส้อักเสบ / Detoxifying of intestinal infection ช่วยโรคทางตับและถุงน�้ำดี เบาหวาน ภาวะน�้ำตาลในเลือดต�่ำ / Benefit for liver and gall bladder disorders, diabetes and hypoglycemia ขับปัสสาวะ - บ�ำรุงหัวใจ / Stimulant for kidneys - heart and circulation ลดอาการคัดจมูก / Decongestant for colds ช่วยย่อย / Digestive แก้อาเจียน / Antiemetic ปรับสมดุลประจ�ำเดือน / Promoting of regular menstruation bladder disorders, diabetes and hypoglycemi ช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย / Treating colds ช่วยขับลม / Carminative and antiflatulent a
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
50-52_Strategic R&D_Yamamori.indd 50
22/4/2562 BE 17:30
STRATEGIC R & D โดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่านั่นคือสมุนไพรไทย รวมทั้งไม่รู้ถึง คุณประโยชน์ของสมุนไพรเหล่านั้น เนื่องด้วยสมุนไพร ส�ำหรับคนไทยแต่เดิมก็คือ พืช ผัก และผลไม้ที่ใช้เป็น ยารักษาโรค การใช้เป็นส่วนประกอบอาหารจึงเป็น การถ่ายทอดองค์ความรู้สืบต่อกันรุ่นสู่รุ่น สมุนไพรไทย ไม่ใช่เพียงมีปรากฎแค่ในอาหารเท่านั้นแต่ยังมีการน�ำมาใช้ท�ำเป็นเครื่องดื่ม ยกตัวอย่างเช่น น�้ำกระเจีย๊ บแดงที่ มี ส รรพคุ ณ ช่ ว ยรั ก ษาโรคทางเดิ น ปั ส สาวะ น�้ ำ มะตู ม ช่ ว ยขั บ เสมหะและบรรเทาอาการหวั ด น�้ำใบบัวบกมีฤทธิ์บ�ำรุงระบบประสาท เป็นต้น
แอลกอฮอล์ก็สามารถบริโภคได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการระเหย แอลกอฮอล์ออก… ศ.ดร.วราวุฒิ ครูส่ง อาจารย์ประจ�ำสาขา เทคโนโลยีการหมัก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ให้ค�ำแนะน�ำไว้เกี่ยวกับการสกัดสมุนไพรด้วย การดองน�ำ้ ส้มสายชู (5% กรดอะซีตคิ ) สามารถท�ำได้โดยการดองเป็นเวลา 2 เดือน ด้วยคุณประโยชน์ของน�้ำส้มสายชู5-7 ผสมผสานกับคุณประโยชน์จากสมุนไพร ท�ำให้สมุนไพรสกัดน�้ำส้มสายชูมีความเหมาะสมและสามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น ผสมกับ น�้ำผึ้งเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ใช้เป็นส่วนผสมของน�้ำสลัด หรือใช้ในการหมักเนื้อสัตว์ เป็นต้น ใครๆ ก็สามารถท�ำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากสารสกัดสมุนไพรได้ที่บ้านตามหลักการข้างต้นโดยใช้ สมุนไพรที่มีในครัวเรือน
คุณประโยชน์ของสมุนไพรไทยในเครื่องดื่ม
ส�ำหรับคุณประโยชน์ของสมุนไพรไทยต่อสุขภาพนั้น เป็นประเด็นที่นา่ สนใจ แต่สมุนไพรบางชนิดแทบจะไม่ ถูกใช้ในการปรุงอาหารหรือเครือ่ งดืม่ เลย อาจเนือ่ งมาจาก การไม่ รู ้ ส รรพคุ ณ หรื อ วิ ธี ใ ช้ ในที่ นี้ ส มุ น ไพรไทยที่ น่าสนใจและสามารถพัฒนาเป็นเครื่องดื่มได้จะถูก ยกมาเป็ น ตั ว อย่ า งเพื่ อ ให้ เ ห็ น ถึ ง คุ ณ ประโยชน์ ข อง สมุนไพรเหล่านั้น นอกจากนี้ในด้านรสชาติ สมุนไพร บางชนิดยังสามารถน�ำมาใช้ทดแทนเครื่องปรุงพื้นฐาน ได้ เช่น การใช้ชะเอมเทศที่มีรสหวานส�ำหรับทดแทน การใช้น�้ำตาลทราย
การสกัดสารสมุนไพร
ปัจจัยที่จะส่งผลต่อคุณภาพของสารสกัดออกฤทธิ์ทาง ธรรมชาติ นั่ น ก็ คื อ สภาวะของกระบวนการสกั ด ซึ่ ง กระบวนการสกัดทีม่ มี าแต่โบราณก็เป็นหนึง่ ในวิธที งี่ า่ ย และเหมาะสมในการสกัดเอาสารส�ำคัญออกมา ให้เกิด เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่เราสามารถดื่มได้ทันที (1) วิธีสกัดด้วยน�้ำ ยกตัวอย่างเช่น การต้มใน น�ำ้ เดือดหรือการชงในน�ำ้ ร้อน เป็นวิธพี นื้ ฐานในการสกัด สมุนไพร โดยการท�ำให้สมุนไพรนิ่มลงและผนังเซลล์ ถูกท�ำลายภายใต้สภาวะที่ได้รับความร้อนเป็นระยะเวลา หนึง่ อย่างไรก็ตามการถนอมรักษาคุณภาพของสารสกัด จากวิธีนี้เป็นไปได้ยาก (2) วิธีสกัดโดยการดอง เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ มากกว่ า ในแง่ ข องปริ ม าณสารสกั ด ที่ ไ ด้ เนื่ อ งจาก ความแตกต่ า งของเวลาที่ ใ ช้ ใ นการสกั ด และตั ว ท� ำ ละลายทีใ่ ช้4 โดยทัว่ ไปแล้วตัวท�ำละลายทีใ่ ช้ในการสกัด จะเลือกจากความมีขั้วหรือไม่มีขั้วของกลุ่มสารสกัด เป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการสกัดสารกลุ่ม ฟีนอลิกจากมะขามป้อม สารสกัดที่เลือกใช้ก็ต้องเป็น สารละลายที่มีขั้ว เช่น แอลกอฮอล์ หรือน�้ำ น�้ำส้มสายชู อีกหนึ่งตัวท�ำละลายที่เหมาะส�ำหรับ การสกัดสมุนไพรด้วยวิธีดอง โดยที่ผลิตภัณฑ์สารสกัด ที่ได้จะสามารถบริโภคได้ทันที แม้กระทั่งผู้ที่หลีกเลี่ยง MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 50-52_Strategic R&D_Yamamori.indd 51
51
22/4/2562 BE 17:30
STRATEGIC R & D
Use & Benefits of Thai Herbs The Great Opportunities for Healthy Herbal Extracted Drinks How Wonder at Thai Herbs
There are numerous Thai ingredients which are categorized as Thai herbs and spices, brought Thai food outstanding worldwide in terms of tastes, high nutritional values and useful for health. According to information revealed by Herb and Thai Traditional Medicine Development Division, there are 247 types of Thai herbs existing in pharmacopoeias in the National List of Essential Medicines1. That number is surprisingly big, but it is more surprising that many of them are unconsciously contained in our daily dishes without knowing their health benefits, because Thai herbs is plants, vegetables and fruits that Thais use as medicine for long time, the integration of knowledge to foods has been transferred through the generations. Thai herbs are used not only for our dishes but also for the drinks and refreshment as well, for example, roselle juice as a diuretic agent, Bael fruit juice as a decongestant for the common cold, and Centella asiatica drink as a tonic for the nervous system.
Benefits of Thai Herbs as A Drink
Interestingly, most of Thai herbs contain several healthy functions, but some of them have been rarely used for our daily dishes and drinks due to inaccessibility of information. In this regard, I herein listed some impressive Thai herbs suitable for especially preparing herbal drinks to review their health benefits. Furthermore, based on their taste, it’s shown in the table that some could be used as a replacement of fundamental condiments, for example, Licorice may contribute to reduce sugar in drinks.
Herbs Extraction Method
When extracting the phytochemicals from herbs, the qualities of extract could be greatly affected by the conditions of processes. There are ancient extraction methods suitable for immediate (or daily) preparation of herbal drinks. (1) The aqueous extractions, for example, decoctions and (tea) infusion are easily common methods with the intension to soften and break the cell wall of the herb by heating
52
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
50-52_Strategic R&D_Yamamori.indd 52
for short time, however, preservation of this extract to stock will be difficult. (2) Marinated extraction or herbal tinctures can be thought of as more potent method, in which the number of active compounds is higher than traditional infusion due to the difference in steeping time and solvent used4. The marinating solution or solvent will be selected basically depending on the polarity of targeted compounds, for example, extraction of polar compounds like phenolic from Emblic myrobalan will be done with polar solvent such as alcohol and water. Vinegars are also considered as a selective solvent for herbal marinated extraction. Moreover, they can be used more casually, and its extract can be consumed even by those who concern alcohol intake without evaporation process. Prof.Dr.Warawut Krusong, an expert in fermentation technology at King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang (KMITL), recommends making herbal marinated extraction for 2 months in vinegar containing 5 percent of acetic acid. Because of the benefits of vinegar itself5-7 combined with the benefits of extracted herbs, the herbal extracted vinegar is suitable and beneficial for a broader range of use, for instance, mixed with honey as healthy drinks, used for a part of dressing over salads, or a marinade for meat. Anyone can create their own healthy herbal extracted drinks at home using these processes with Thai household herbs!
เอกสารอ้ างอิง/References 1 Herb and Thai Traditional Medicine Development Division. (2011). Thai herbs existing in pharmacopoeias in the National List of Essential Medicines. Retrieved from http://tdc-herbarium.dtam.moph.go.th/index.html 2 Department of Medical Sciences, Ministry of Public Health. (2017). Thai Herbal Pharmacopoeia 2017. Bangkok, Thailand: Department of Medical Sciences. 3 Barton, L. (Ed.). (2003). A Thai herbal traditional recipe for health and harmony (3rd ed.). Forres, Scotland: Findhorn Press. 4 Olsen, K. (2015). Carotenoid Profiles of Dried Herbs, Water Infusions and Alcoholic Tinctures of Calendula Flower and Catnip, Dandelion, Stinging Nettle, and Violet Leaves. Natural Products Chemistry & Research, 3(1). doi:10.4172/2329-6836.1000160 5 Shishehbor, F., Mansoori, A., & Shirani, F. (2017). Vinegar consumption can attenuate postprandial glucose and insulin responses; a systematic review and meta-analysis of clinical trials. Diabetes Research and Clinical Practice, 127, 1–9. doi:10.1016/j.diabres.2017.01.021 6 Mitrou, P., Petsiou, E., Papakonstantinou, E., Maratou, E., Lambadiari, V., Dimitriadis, P., … Dimitriadis, G. (2015). The role of acetic acid on glucose uptake and blood flow rates in the skeletal muscle in humans with impaired glucose tolerance. European Journal of Clinical Nutrition, 69(6), 734–739. doi:10.1038/ejcn.2014.289 7 Budak, N. H., Aykin, E., Seydim, A. C., Greene, A. K., & Guzel-Seydim, Z. B. (2014). Functional Properties of Vinegar. Journal of Food Science, 79(5), R757–R764. doi:10.1111/1750-3841.12434 22/4/2562 BE 17:30
SCOOP ดิลก ปืนฮวน
Dilok Puanhvuan
Faculty of Engineering, Mahidol University dilok.ee52@gmail.com
เครื่องวัดค่าความเค็มในอาหาร โดยทัว่ ไปความเค็มในอาหารสามารถรับรูไ้ ด้ดว้ ยประสาทรับรสของมนุษย์ ผูป ้ รุงอาหารสามารถเพิม่ รสเค็ม ด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เกลือบริโภค น�้ำปลา ซีอิ๊ว เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีส่วนผสมของ เกลือโซเดียม (NaCl) เมื่อเติมในปริมาณที่มากเกินไปจะส่งผลให้ปริมาณโซเดียมที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน เกินมาตรฐานได้ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคไต เป็นต้น
การปรุงอาหารที่มีรสเค็มจัดอาจเกิดจากประสาทรับรสของผู้ปรุงและ ผู้บริโภคมีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณเกลือโซเดียมที่ได้รับเข้าสู่ ร่างกายมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ความสามารถในการรับ รสเค็มของแต่ละบุคคลอาจมีค่าไม่เท่ากัน ดังนั้น การใช้เครื่องมือที่สามารถ ตรวจรู ้ ค ่ า ความเค็ ม ที่ เ ป็ น มาตรฐานจะช่ ว ยให้ บุ ค คลทั่ ว ไปตระหนั ก ถึ ง ปริมาณเกลือโซเดียมในอาหารมากขึ้น
การตรวจวัดปริมาณเกลือโซเดียม
การตรวจวัดปริมาณเกลือโซเดียมสามารถท�ำได้หลายวิธี ซึ่งวิธีที่มีความแม่นย�ำที่สุด คือ การน�ำตัวอย่างอาหารไปวิเคราะห์เชิงเคมีในห้องปฎิบัติการ ท� ำ ให้ ส ามารถตรวจหาปริ ม าณโซเดี ย มในหน่ ว ยกรั ม ต่ อ มิ ล ลิ ลิ ต ร ทั้ ง นี้ เครื่องวิเคราะห์เชิงเคมีนี้มีราคาที่สูงและใช้เวลาในการทดสอบนาน วิธีการ ที่วัดปริมาณเกลือโซเดียมอย่างง่ายที่สุด คือ การวัดทางอ้อมด้วยการวัด ค่าความน�ำไฟฟ้าในตัวอย่างอาหาร หลักการท�ำงานคือ โซเดียมซึ่งมีขั้ว ประจุไฟฟ้า เมื่อมีปริมาณมากขึ้น ค่าความต้านทานในตัวอย่างอาหารลดลง ส่งผลให้คา่ ความน�ำไฟฟ้าจะเปลีย่ นแปลงสอดคล้องกับปริมาณเกลือโซเดียม ในอาหาร ซึ่งการพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถวัดค่าความน�ำไฟฟ้าไม่มีความซับซ้อน ราคาถูก และสามารถแสดงผลการตรวจวัดได้ทันทีทันใด ปัจจุบัน เครื่องวัดความเค็มในอาหารแบบพกพาที่ใช้หลักการทางอ้อมนี้มีจ�ำหน่าย ทัว่ ไปในตลาดต่างประเทศ เช่น ญีป่ นุ่ เกาหลี ซึง่ เครือ่ งวัดเหล่านีเ้ หมาะส�ำหรับ น�้ำซุปที่มีลักษณะใส ต่างจากอาหารไทยที่มีความหลากหลายของส่วนผสม ส่งผลให้เครือ่ งวัดความเค็มทีผ่ ลิตจากต่างประเทศมีขอ้ จ�ำกัดทีอ่ าจไม่สามารถ ตอบสนองกับอาหารไทยในบางประเภทได้ เครื่องวัดความเค็มในอาหาร1 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตรวจวัดระดับความเค็ม ในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์โซเดียมคลอไรด์ (%NaCl) ในหน่วยกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร (g/100ml) โดยมุ่งเน้นให้เครื่องสามารถวัดค่าความเค็มได้อย่าง รวดเร็ว ราคาประหยัด สามารถใช้ได้กับบุคคลทั่วไป บุคลากรทางการแพทย์ ทีต่ อ้ งวิเคราะห์ปริมาณโซเดียมในห้องปฏิบตั กิ ารหรือจุดบริการทางการแพทย์ นอกจากนีย้ งั สามารถลดค่าใช้จา่ ยในการวิเคราะห์จากการใช้เครือ่ งมือราคาสูง และจากการใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางได้อีกด้วย การท�ำงาน
ของเครื่ อ งวั ด ความเค็ ม นี้ ใ ช้ พื้ น ฐานการน� ำ ไฟฟ้ า (Conductivity) โดยปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน ตัวอย่างอาหารจะแปรผันตรงกับปริมาณ โซเดี ย มคลอไรด์ ส่ ง ผลให้ ร ะบบ ค� ำ นวณหาปริ ม าณเปอร์ เ ซ็ น ต์ โซเดียมคลอไรด์ได้อย่างรวดเร็ว เครื่ อ งวั ด ความเค็ ม ในอาหาร 1 ประกอบด้ ว ยตั ว ประมวลผลไมโครคอนโทรลเลอร์ ที่ ท� ำ หน้ า ที่ ก� ำ เนิ ด พั ล ส์ สั ญ ญาณให้ กั บ วงจรสร้ า งพั ล ส์ แ รงดั น กระแสสลั บ ขนาดเล็ ก ไปที่ โ พรบวั ด สัญญาณ โดยโพรบนี้ประกอบไปด้วยขั้วแอโนดและแคโทด เมื่อโพรบจุ่มอยู่ใน ตัวอย่างอาหาร ปริมาณประจุไฟฟ้าที่ไหลผ่านจากขั้วแอโนดไปยังแคโทดจะ แปรผันกับปริมาณโซเดียมในตัวอย่างอาหารนั้น ซึ่งปริมาณประจุไฟฟ้าที่ไหลผ่านนี้ เรียกอีกอย่างว่าค่าความน�ำไฟฟ้า ทั้งนี้ ประจุไฟฟ้าจะมีค่าน้อยมาก ระบบจึง ต้องมีส่วนวงจรขยายสัญญาณและแปลงค่าประจุไฟฟ้าเป็นค่าแรงดันไฟฟ้า (Current to voltage converter) ซึ่งแรงดันไฟฟ้านี้สามารถอ่านค่าได้ด้วย ตัวประมวลผลไมโครคอนโทรลเลอร์ ด้วยหลักการแปลงข้อมูลอนาลอกเป็นข้อมูล ดิจิทัล (Analog to Digital Converter; ADC) ค่าแรงดันที่อ่านได้นี้จะถูกค�ำนวณ ย้อนกลับหาค่าปริมาณกระแสไฟฟ้าทีไ่ หลผ่านขัว้ แอโนดสูข่ วั้ แคโทด และประเมิน หาค่าปริมาณเปอร์เซ็นต์เกลือโซเดียมในอาหาร โดยตัวประมวลผลไมโครคอนโทรลเลอร์จะส่งค่าที่ได้นี้ไปแสดงผลยังหน้าจอแบบ OLED ขนาด 128x64 พิกเซล วงจรไฟฟ้าที่กล่าวมาข้างต้นนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ซึ่งถูกควบคุม แรงดันด้วยวงจรรวม ตัวประมวลผลไมโครคอนโทรลเลอร์นี้จะถูกฝังสมการทางคณิตศาสตร์ใน การค�ำนวณหาค่าเปอร์เซ็นต์เกลือโซเดียมจากค่าความน�ำไฟฟ้า ดังนั้น ขั้นตอน ที่ส�ำคัญคือ การเก็บข้อมูลสร้างสมการความสัมพันธ์ดังกล่าว โดยสามารถท�ำได้ ด้วยการเตรียมสารละลายตัวอย่างที่รู้ค่า เช่น สารละลายเกลือโซเดียม 0.1%, 0.3%, 0.6%, 0.9% และ 1.5% เพื่อเก็บค่าปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านโพรบ ของแต่ละค่าความเข้มของสารละลายตัวอย่าง ผลการทดลองพบว่าความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณกระแสไฟฟ้าที่วัดได้มีความสัมพันธ์กับระดับ %เกลือโซเดียม MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND
53-55_Scoop_Salt.indd 53
53
22/4/2562 BE 17:03
SCOOP (%NaCl) แบบเชิงเส้น จากนัน้ ค่าตัวแปรของสมการเส้นตรงทีไ่ ด้จากการทดลอง จะถูกบันทึกอยู่ในตัวประมวลผลไมโครคอนโทรลเลอร์เพื่อใช้ส�ำหรับค�ำนวณหา ค่าความเค็มในตัวอย่างอาหารต่อไป ทั้งนี้ ปัจจุบันการสร้างสมการได้ใช้ สารละลายเกลือซึ่งมีความแตกต่างจากอาหารจริง แต่การสร้างสมการทาง คณิ ต ศาสตร์ ที่ เ หมาะกั บ อาหารแต่ ล ะประเภทจ� ำ เป็ น ต้ อ งมี ก ารเก็ บ ข้ อ มู ล จ�ำนวนมาก ซึง่ ระบบทีพ่ ฒ ั นาขึน้ มีความยืดหยุน่ ในการพัฒนาต่อยอดในอนาคต สามารถอัปโหลดโปรแกรมการประมวลผลได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากการแสดงค่าระดับความเค็มในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์โซเดียมคลอไรด์ (%NaCl) แล้ว เครื่องวัดความเค็มในอาหาร1 ยังสามารถแสดงระดับความเค็ม ในรูปแบบเชิงสัญลักษณ์ เพือ่ ง่ายต่อความเข้าใจส�ำหรับบุคคลทัว่ ไปอีกด้วย เช่น แสดงสัญลักษณ์หน้ายิม้ เมือ่ ตัวอย่างอาหารมีความเค็มต�ำ่ (น้อยกว่า 0.7 %NaCl) สัญลักษณ์หน้าธรรมดาเมื่อตัวอย่างอาหารมีความเค็มปานกลาง (ระหว่าง 0.70.9 %NaCl) และแสดงสัญลักษณ์หน้าบึ้งเมื่อตัวอย่างอาหารมีความเค็มสูง (มากกว่า 0.9% NaCl) ทัง้ นี้ ค่าความเค็มในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ทกี่ ำ� หนดมิได้ บ่ ง บอกถึ ง ปริ ม าณหน่ ว ยบริ โ ภคแต่ อ ย่ า งใด หากค่ า เปอร์ เ ซ็ น ต์ มี ค ่ า ต�่ ำ แต่รบั ประทานในปริมาณมาก ปริมาณโซเดียมทีไ่ ด้รบั เข้าสูร่ า่ งกายก็จะมีปริมาณ มากเช่นกัน ทั้งนี้ ควรประเมินปริมาณหน่วยบริโภคประกอบกับค่าเปอร์เซ็นต์
ที่แสดงด้วยเช่นกัน การใช้งานเครื่องวัดความเค็มในอาหาร1 อย่างต่อเนื่องหรือระยะเวลานาน อาจส่งผลให้โพรบเกิดการสึกกร่อน ช�ำรุด หรือมีคราบสิ่งสกปรกบดบังการน�ำไฟฟ้า ส่งผลให้ค่าที่วัดได้ไม่แม่นย�ำเท่าที่ควร ซึ่งระบบที่พัฒนาขึ้นนี้ผู้ใช้งาน สามารถสอบเทียบเครื่องวัดความเค็มในอาหาร1 ได้ด้วยการอ้างอิงกับน�้ำเกลือ มาตรฐาน 0.9% NaCl เมื่อผู้ใช้งานกดปุ่มปรับค่าเครื่องและปุ่มเปิดเครื่องพร้อมกัน ระบบจะปรับปรุงตัวแปรสมการทางคณิตศาสตร์ภายในตัวประมวลผลอย่าง อัตโนมัติ ซึ่งประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการส่งกลับไปยังผู้ผลิตอีกด้วย การใช้งานเครือ่ งวัดความเค็มในอาหาร1 สามารถท�ำได้โดยง่าย โดยจุม่ ปลาย หัวโพรบที่มีลักษณะโลหะสีทองลงในอาหารเหลว กดปุ่มเปิดเครื่องค้างไว้เมื่อ ต้องการวัดค่า พร้อมกับอ่านค่า %NaCl และลักษณะการแสดงใบหน้าบน หน้าจอ เครื่องจะดับลงหลังจากปล่อยนิ้วมือจากปุ่มเปิดเครื่อง หลังจากการวัด ค่าความเค็มในอาหารแต่ละครัง้ ควรท�ำความสะอาดและเช็ดให้แห้ง หรือใช้ทชิ ชูเปียกเช็ดท�ำความสะอาด ในกรณีมคี ราบไขมันสามารถใช้นำ�้ ยาล้างจานท�ำความสะอาดหัวโพรบได้ ทั้งนี้ ไม่ควรจุ่มเครื่องวัดความเค็มในอาหาร1 ทิ้งไว้ในอาหาร และไม่ควรวัดอาหารร้อน ควรใช้วัดอาหาร ณ อุณหภูมิห้องเท่านั้น
Salt Meter
Saltiness in food can generally be sensed by human taste receptors. Salty flavor can be further enhanced by adding sauce and condiments that consist of sodium chloride (NaCl) such as salt, fish sauce, or soy sauce. If used excessively, the amount of sodium ingested into the body may exceed the recommended maximum daily intake, thus posing increased risks of hypertension, cardiovascular problems, or kidney diseases. Overly salty food may derive from the fact that the chef’s or consumer’s taste receptors have become familiar with such flavor, thus potentially leading to increased and continuous intake of sodium chloride. The ability to sense saltiness may also vary in each individual. Therefore, using a standard salt meter will help raise public awareness of the amount of sodium chloride present in food.
Sodium Chloride Measurement
Sodium chloride can be measured in many ways. The most accurate method is the laboratory chemical analysis, which can yield a result expressed in gram per milliliter.
54
Given the nature of the equipment involved, this method; however, is more expensive and takes a lot of time. The simplest, but indirect, alternative is to measure the electrical conductivity of food sample. Since sodium chloride contains electrical charge, when it increases in amount, the electrical resistivity will decrease, resulting in altered state of conductivity which will correspond with the amount of sodium chloride found in food. Developing a conductivitymeasuring tool is simple and more cost-effective. The device can also read and give result immediately. At present, these kinds of portable salt meters are commonly sold in overseas countries such as Japan or Korea. They are suitable for transparent liquid food such as clear soup, which is different from Thai counterparts that contain a variety of ingredients – a factor that renders overseas salt meters less suitable as they cannot be used with certain Thai dishes. A salt meter1 can measure food salinity and display it in sodium chloride percentage (%NaCl), which expresses in gram per 100 milliliters (g/100ml). The device gives a quick reading, is cost-effective, and can be used by ordinary users as well as medical personnel that need to conduct sodium chloride analysis in a laboratory or medical service center. It also reduces the expenses deriving from costly equipment or specialized personnel recruitment. Based on the conductivity principle, the electrical current flowing through the food sample will correspond with the amount of sodium chloride in food, thus facilitating a quick calculation of sodium chloride percentage. A salt meter1 consists of a microcontroller that generates electrical pulses to a small alternating current pulse generator and send them to the measurement probe. The measurement probe composes of an anode and a cathode. When the probe is dipped into a food sample, the electrical charge that is transmitted from the anode to the cathode will vary in accordance with the amount of sodium chloride present in the food sample. The electrical current here is referred conductivity. As the electrical charge is minimal in terms of volume, the measuring system must contain an amplifier circuit and a current-to-
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
53-55_Scoop_Salt.indd 54
22/4/2562 BE 17:03
SCOOP buttons are pressed simultaneously, the system will automatically readjust the mathematical equation inside the microcontroller. This helps save time and cost as there is no need to send the device back to its manufacturer. Using the salt meter1 is easy. Dip the probe’s golden metallic tip into liquid food, long press the power button, the %NaCl and face symbol will be shown on the display. They will disappear if the power button is released. After each use, the device should be cleaned and dried or wiped with wet tissue paper. If fat stain remains, dishwashing liquid may be used to clean the probe’s tip. The device1 should not be left dipped in food, nor is it recommended to be used with hot food as it is suitable for room temperature only.
voltage converter so that the voltage can be read by the microcontroller using an analog-to-digital converter (ADC). The read voltage will then be converted back to show the electrical current volume that flows from the anode to the cathode, which will then be used to calculate the sodium chloride percentage (%NaCl). The microcontroller then sends the calculated value to the 128x64 pixels OLED display. The circuits mentioned here are battery-powered, and the voltage is controlled by an integrated circuit. The microcontroller is embedded with a mathematical equation that calculates sodium chloride percentage (%NaCl) from conductivity. A vital step, therefore, is to collect data to formulate the equation for such correlation. This can be done by preparing sampling saline solutions with known concentration such as 0.1%, 0.3%, 0.6%, 0.9% and 1.5%. The data of electrical charge flowing through the probe dipped in each sampling solution will then be collected. The result shows that there is a linear correlation between the measured electrical current and the sodium chloride percentage (%NaCl). The variable of the linear equation from the data collection experiment will then be recorded in the microcontroller and later be used in the calculation for salinity in a food sample. At present, the formulated equation is based on sodium chloride solutions, which are different from real food matrix. The formulation of the mathematical equations that are suitable for each type of food involves the collection of a lot of data. This system is flexible and can be further improved in the future, thus enabling the processing program to be uploaded continuously. Apart from displaying salinity in sodium chloride percentage (%NaCl), a salt meter1 can also display symbols that facilitate easy understanding such as a smiley face when there is low salinity (less than 0.7 %NaCl), a normal face for medium salinity (between 0.7-0.9 %NaCI), and an unhappy face for high salinity (more than 0.9 %NaCl). The percentage; however, does not indicate a consumption unit. Even with a low percentage of sodium, if a higher amount of food is consumed, the amount of sodium intake into the body will also increase. Therefore, consumption unit should also be taken into consideration together with the displayed sodium chloride percentage. Continuous use of the device 1 during a prolonged period of time may wear away or damage the probe. Impurities may intervene in the reading of electrical conductivity, leading to inaccurate results. In this system, user can calibrate the device1 by referring to the standard saline solution (0.9 %NaCl). When the calibration and power
ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information 1 เครื่องวัดความเค็มในอาหาร CHEM meter พัฒนาโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล Salt meter, named CHEM meter, is developed by the Faculty of Engineering, Mahidol University
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 53-55_Scoop_Salt.indd 55
55
23/4/2562 BE 16:27
SITE VISIT พิมพ์ชนก กนกลาวัณย์ Pimchanok Kanoklawan
Senior Journalist Food Focus Thailand Magazine Ka.pimchanok@foodfocusthailand.com
เยี่ยมชมโรงงานอาหารและเครื่องดื่ม
ค้นหาค�ำตอบของนิยามอาหารที่ดี ในแบบฉบับไต้หวัน
ทุกวันนี้ใครๆ ก็พูดถึงการมีสุขภาพที่ดี ยิ่งส�ำหรับคนไต้หวันแล้วจะให้ความส�ำคัญกับคุณภาพอาหาร มากเป็นพิเศษ เพราะพวกเขาเชือ่ ว่าการกินอาหารทีด ่ จี ะท�ำให้มสี ขุ ภาพทีด ่ ไี ด้จากภายใน ก็เหมือนทีเ่ ราชอบ พูดว่า “You are what you eat” นั่นเอง และอาหารที่ดีเป็นอย่างไรกัน? ทริปนี้จึงพาไปค้นหาค�ำตอบ ของนิยามอาหารทีด ่ ใี นแบบฉบับไต้หวันจากผูผ ้ ลิตอาหาร เครือ่ งจักร และอุปกรณ์ตา่ งๆ ในอุตสาหกรรม อาหารและเครื่องดื่มไต้หวัน จ�ำนวน 8 แห่ง ที่ต่างพร้อมใจเปิดบ้านให้ได้เยี่ยมชมกันอย่างใกล้ชิดพร้อมเผย ไฮไลท์สินค้าที่เตรียมน�ำไปอวดโฉมภายในงาน Food Taipei 2019 ไว้อย่างน่าสนใจ @ Taipei
โรงงานผลิตอาหารแห่งแรกที่เดินทางไปถึงนี้ อยู่ที่ไทเปโดยขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบธรรมชาติคุณภาพ ระดั บ ดี เ ลิ ศ เพราะผู ้ ผ ลิ ต เชื่ อ ว่ า วั ต ถุ ดิ บ ที่ ดี คื อ หั ว ใจส� ำ คั ญ ของ ผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีส�ำหรับผู้บริโภค I-MEI Foods คือผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ ขนมขบเคี้ยวรายใหญ่ที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยการผลิตเค้กข้าวไต้หวัน เค้กสับประรด นูกัต และขนมไต้หวันแบบโบราณนานาชนิด ต่อมาได้ขยายไลน์การผลิตเพิ่ม ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นมและเบเกอรี่เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจบริการอาหาร โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ ขนมปังอิงลิชมัฟฟินที่ส่งจ�ำหน่ายไปยังร้านแมคโดนัล ทัว่ ทัง้ ไต้หวัน โรงงานแห่งนีผ้ ลิตสินค้าอาหารมากกว่า 2,000 รายการทัง้ ผลิตภัณฑ์ อาหารและเสริมอาหาร โดยทั้งหมดใช้วัตถุดิบทางการเกษตรที่ปลอดสารพิษ มีระบบการจัดการฟาร์มและการขนส่งที่ทันสมัย ท�ำให้มั่นใจในวัตถุดิบที่มี คุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีแล็บวิจัยและพัฒนาที่มุ่งเน้นศึกษาการพัฒนาสูตร รสชาติอาหารเฉพาะทางส�ำหรับผู้ป่วย ผู้สูงวัย และผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ตลอดจน การน�ำวัตถุดิบธรรมชาติมาผลิตผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันนัล นอกจากพื้นที่ของ โรงงานแล้วยังมีศูนย์การเรียนรู้ด้านอาหารสุขภาพซึ่งเปิดบริการให้ผู้ที่สนใจ เข้ามาศึกษาคุณประโยชน์ของวัตถุดิบอาหารนานาชนิดทั้งพืชผัก ผลไม้ สมุนไพร พร้อมเปิดโอกาสให้สร้างสรรค์เมนูอาหารเพื่อสุขภาพอันเป็นจุดเริ่มต้นของ การเสริมสร้างสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย
56
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
56-59_Site Visit_Taitra Trip.indd 56
@ New Taipei City
ถัดมาทีพ่ นื้ ทีโ่ ดยรอบเมืองหลวงอย่างเขตปกครองพิเศษนิวไทเป พาไปชมโรงงานผลิตชานมไข่มุกแบบครบวงจร Sunny Syrup Food ซึ่ ง เป็ น ผู ้ ผ ลิ ต และจั ด จ� ำ หน่ า ยวั ต ถุ ดิ บ ส�ำหรับเครื่องดื่มชานมไข่มุกทุกรูปแบบ พร้อมบริการ รับจ้างผลิตตามความต้องการลูกค้าทั่วโลก โรงงาน แห่ ง นี้ ผ ลิ ต ตั้ ง แต่ น�้ ำ ผลไม้ เ ข้ ม ข้ น ไซรั ป รสผลไม้ ท็อปปิง้ ต่างๆ โดยเฉพาะเม็ดไข่มกุ ชนิดเหนียวนุม่ ทีม่ ี ให้เลือกหลากหลายเกรดหลายรูปแบบ ทั้งชนิดดิบ ต้มแล้ว และแบบฉีกซองพร้อมเสิร์ฟ ซึ่งรูปแบบก็ พัฒนาไปตามเทรนด์ของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน ทั่วโลก เช่น ไข่มุกแบบเหนียวนุ่มจะเป็นที่ถูกใจ ตลาดอเมริกา ยุโรป ส่วนในตลาดเอเชียชื่นชอบ ไข่มุกแบบ Popping bubble ซึ่งเป็นไข่มุกที่น�ำน�้ำผลไม้มาผสมด้วย โซเดียมอัลจิเนทโดยใช้เทคนิค Spherification ท�ำให้เป็นเม็ดกลมๆ ใสๆ ส�ำหรับ ชาวไต้หวันเองก็พยายามน�ำเทรนด์ด้วยการสร้างสูตรรสชาติใหม่ๆ ตลอดเวลา เช่นล่าสุดได้น�ำไซรัปรสกาแฟมาผสมในชานมไข่มุกไว้ได้อย่างกลมกล่อม และคาดว่าจะเป็นสูตรที่ได้รับความนิยมต่อไปในหลายประเทศ นอกจากเหล่าผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ด้านเจ้าของเทคโนโลยี เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหารก็พร้อมพาไปรู้จักกับนวัตกรรมเครื่องจักรระบบ อัตโนมัติซึ่งเป็นโซลูชันส�ำคัญของการผลิตอาหารที่ดีส�ำหรับผู้บริโภคเช่นกัน การได้เห็นการท�ำงานของเครื่องจักรในการผลิตจริงนั้นดูจะเป็นเรื่องส�ำคัญ อันดับต้นๆ ของการตัดสินใจเลือกซือ้ เครือ่ งจักรสักหนึง่ เครือ่ งส�ำหรับผูผ้ ลิตอาหาร ที่ไต้หวัน Hundred Machine Enterprise (HM Food) ผู้ผลิตเครื่องจักรส�ำหรับ อุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทาน อาทิ ติ่มซ�ำ ซาลาเปา เค้กข้าว และเบเกอรี่ แช่ แ ข็ ง ต่ า งๆ ได้ พ าชมโชว์ รู ม สิ น ค้ า แห่ ง ใหม่ ซึ่ ง อยู ่ ไ ม่ ไ กลจากโรงงานผลิ ต เครื่องจักรในเมืองนิวไทเป พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณเดือน มิถุนายนปีนี้ โชว์รูมแห่งนี้จัดแสดงเครื่องจักรหลายรุ่นหลายขนาดและยังมีพ้ืนที่ 22/4/2562 BE 17:59
SITE VISIT สาธิตการท�ำงานของเครื่องจักร ท�ำให้ลูกค้าได้เห็นกระบวนการผลิตสินค้าจริง และสามารถตัดสินใจเลือกเครื่องจักรให้เหมาะกับอุตสาหกรรมของตนได้ โดยโรงงานแห่งนี้เน้นผลิตเครื่องจักรส�ำหรับตลาดไต้หวันและต่างประเทศ เช่น ไทย สิงคโปร์ แคนาดา ออสเตรเลีย ส่วนตลาดจีนซึง่ เป็นตลาดหลักนัน้ ทางผูผ้ ลิต ได้จัดตั้งโรงงานผลิตเครื่องจักรส�ำหรับตลาดจีนขึ้นโดยเฉพาะที่มณฑลเจียงซู เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในงาน Food Taipei 2019 นี้ได้เตรียมน�ำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ แขนกลส�ำหรับอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทานไปสาธิตภายในงานด้วย อีกหนึ่งโรงงานผู้ผลิตเครื่องจักรส�ำหรับกลุ่มอาหารชาติพันธุ์ที่ได้รับความไว้ วางใจไปทัว่ โลก Anko Food Machines ผูผ้ ลิตและออกแบบเครือ่ งจักรผลิตติม่ ซ�ำ ขนมเค้ก/ขนมใส่ไส้ ปอเปี๊ยะ เกี๊ยวต่างๆ และปัจจุบันได้ออกแบบและผลิต เครื่องท�ำแผ่นแป้งตอติญ่าเพื่อขยายตลาดกลุ่มอาหาร Grab & Go มากขึ้นและ เตรียมน�ำไปจัดแสดงสาธิตให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิดในงาน Food Taipei 2019 ทั้งนี้ ร้อยละ 85 ของเครื่องจักรที่ผลิตจะส่งออกตลาดต่างประเทศ เช่น ไทย เวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ ตุรกี ออสเตรเลีย เป็นต้น ส�ำหรับผลิตภัณฑ์ขนมขบเคีย้ ว และเบเกอรีส่ อดไส้ตา่ งๆ นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ อาหารกลุม่ ใหญ่ทสี่ ร้างการแข่งขันให้กบั ผูผ้ ลิตเครือ่ งจักรในกลุม่ เครือ่ งผสมอาหาร อยู่ไม่น้อย โดยความท้าทายของสินค้ากลุ่มนี้ก็เห็นจะเป็นก�ำลังการผลิตของ เครื่องที่ต้องตอบโจทย์อุตสาหกรรมทั้งแบบครัวเรือนไปจนถึงโรงงานขนาดใหญ่ ได้อย่างครอบคลุม Seven Castle ผู้ผลิตเครื่องผสมอาหารทั้งแบบแมนนวล แบบอั ต โนมั ติ และแบบกึ่ ง อั ต โนมั ติ ซึ่ ง มี ก� ำ ลั ง ผลิ ต ตั้ ง แต่ ข นาดเล็ ก กลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ รวมถึงเครื่องผสมอาหารอัตโนมัติส�ำหรับอุตสาหกรรม ปีนี้เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีเครื่องผสมอาหารแบบกึ่งอัตโนมัติด้วยระบบการให้ ความร้ อ นแบบใหม่ ที่ น อกเหนื อ จากการใช้ ดี เ ซล/แก๊ ส ไฟฟ้ า และไอน�้ ำ ซึ่งคาดตอบโจทย์การผลิตอาหารหลากหลายประเภทมากขึ้น ทั้งซอส ซุป ไส้ขนม และเบเกอรี่ ถัดมาอีกหนึ่งโรงงาน Yuan Cuang Food Machine (YCFM) ผู้ผลิตเครื่อง เอ็ ก ซ์ ท รู เ ดอร์ ส� ำ หรั บ ผลิ ต ข้ า วพอง โดยเครื่ อ งดั ง กล่ า วสามารถปรั บ ระดั บ ความร้อนได้หลายระดับและไม่จ�ำเป็นต้องใช้น�้ำมัน สามารถขึ้นรูปอาหารได้ หลากหลาย อาทิ เกลียว แท่งสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม แผ่นกลม หรือแบบตัวอักษร ภาษาอังกฤษ นอกจากความเชีย่ วชาญในการผลิตเครือ่ งเอ็กซ์ทรูเดอร์แล้ว YCFM ยังออกแบบไลน์การผลิตขนมขบเคีย้ วซึง่ พัฒนาต่อยอดมาจากเครือ่ งจักรดังกล่าว โดยสามารถออกแบบไลน์ผลิตผลิตภัณฑ์ขนมข้าวพองเคลือบช็อกโกแลตและ รสชาติอนื่ ๆ ได้อกี มากมาย ซึง่ นอกจากบริษทั จะออกแบบไลน์การผลิตนีเ้ พือ่ ผลิต สินค้าเป็นตัวอย่างส�ำหรับลูกค้าที่สนใจเครื่องจักรแล้ว บริษัทยังสามารถผลิต สินค้าจ�ำหน่ายภายใต้แบรนด์ของตัวเองได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย
ทดลองผลิตสินค้าจริงส�ำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เพือ่ ตอบโจทย์ความต้องการของ ลูกค้าได้อย่างชัดเจน โดยได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตอาหารในไต้หวันและ ตลาดเอเชียในหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศไทย @ Kaohsiung
เรียบชายฝั่งไปทางตอนใต้ พาไปชมแหล่งผลิตอาหารทะเลสด และแปรรูปที่เมืองเกาสงซึ่งเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ทีน่ เี่ ป็นแหล่งผลิตสินค้าประมงมากมายทัง้ ในรูปแบบฟาร์มสัตว์นำ�้ และโรงงานผลิตอาหารทะเลแช่เย็น แช่แข็ง ซึง่ ทัง้ หมดล้วนแล้วแต่ เน้นคุณภาพและความสดใหม่ของอาหารทะเลโดยใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ ในการผลิตแทบจะทุกขั้นตอน Anyong Biotech ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่เย็น แช่แข็ง ซึ่งแม้เพิ่ง เปิดตัวมาไม่นานแต่สามารถเข้าถึงกลุ่มตลาดอาหารเพื่อสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว โรงงานแห่งนีร้ บั วัตถุดบิ อาหารทะเลสด จากในพื้นที่เป็นหลัก โดยผลิตเนื้อปลา ตัดแต่งแช่แข็งเพือ่ จ�ำหน่ายในประเทศ ร้อยละ 80 และส่งออกไปฮ่องกง ญีป่ นุ่ จุดเด่นของอาหารทะเลแช่แข็งของที่ โรงงานแห่งนี้คือ ความสดใหม่ของ เนื้อปลาที่แม้ผ่านการแช่แข็งมาแล้ว เป็นสัปดาห์ ภายหลังการท�ำละลาย เนื้อปลาก็ยังคงความสดใหม่ และ มีรสชาติอร่อย ทั้งยังคงคุณค่าทาง โภชนาการไว้ได้ครบถ้วน ทางผูผ้ ลิตได้เล่าว่าโรงงานลงทุนติดตัง้ ระบบการแช่แข็ง ที่เรียกว่า Cell Alive System (CAS-FRESH) จากญี่ปุ่น โดยเป็นระบบการแช่แข็ง ที่อาศัยการท�ำงานของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและการสั่นสะเทือนของโมเลกุล เพือ่ จ�ำกัดการก่อตัวของผลึกน�ำ้ แข็งจึงไม่ทำ� ลายเนือ้ เยือ่ ของเซลล์ เทคโนโลยี CAS Freezing สามารถแช่แข็งเนื้อปลาที่ตัดแต่งแล้วหรือปลาทั้งตัวที่บรรจุในถุง สุญญากาศได้ภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง และน�ำมาเก็บรักษาที่อุณหภูมิ -25๐C ถึ ง -50 ๐C ในคลั ง สิ น ค้ า (CAS Warehouse Storage) ซึ่ ง ได้ ติ ด ตั้ ง ระบบ CAS-FRESH ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยได้รับการจัดให้เป็นคลังสินค้าอาหาร แช่แข็งที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดในเอเชียเลยทีเดียว การเดินทางไปไต้หวันครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์ ได้รบั เชิญจากสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน ประจ�ำประเทศไทย (TAITRA) ให้เป็นตัวแทนสื่อหนึ่งเดียวจากประเทศไทยเข้าร่วมเดินทางไปพร้อมกับ สื่ออุตสาหกรรมต่างประเทศ เพื่อเยี่ยมชมโรงงานผู้ผลิตอาหาร เครื่องจักร และ อุปกรณ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ตอบรับเข้าร่วมงานแสดง @ Tainan City เพราะอุ ต สาหกรรมอาหารไต้ ห วั น ไม่ ไ ด้ มี แ ค่ แ ถบไทเป สินค้านานาชาติ Food Taipei 2019 ระหว่างวันที่ 19-22 มิถนุ ายน 2562 ณ Taipei เมืองทางตอนใต้อย่างไถหนานที่นอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยว World Trade Center ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลให้กับ ทางศิลปะแล้วยังเป็นที่ตั้งของโรงงานผู้ผลิตเครื่องจักร Best Food & Pastry ผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมงานในปีนี้ Machinery (Tai Yuh Machine Enterprise) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและออกแบบไลน์ การผลิตส�ำหรับอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทาน เบเกอรี่แช่แข็ง อาหาร ชาติพันธุ์ เช่น ติ่มซ�ำ ซาลาเปา เป็นต้น ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน การออกแบบเครือ่ งจักรมากว่า 20 ปี ทีมวิศวกร ฝ่ายวิจัยและพัฒนาเครื่องจักร ของที่ นี่ จึ ง สามารถออกแบบ เครื่ อ งจั ก รและไลน์ ก ารผลิ ต ได้ หลากหลายครอบคลุมกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน ตลอดจนให้บริการ MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 57 56-59_Site Visit_Taitra Trip.indd 57
22/4/2562 BE 17:59
SITE VISIT
Site Visit Food & Beverage Factory
Discovering the Definitions of Good Food in Taiwan Nowadays, people have paid high interested on health consciousness, especially for Taiwanese people who are highly concerned on quality of food because they believe that eating good food can make good health like the phrase saying, "You are what you eat". You may wonder what is good food? This trip will take us to find answers on the definition of good food from eight food and machinery manufacturers in Taiwan that are willing to open their plants for our visiting and reveal highlights for showing at the Food Taipei 2019, an international food and beverage showcase in Taiwan.
@ Taipei The first food factory that we visited is located in Taipei. This factory is known for the best quality raw materials as the manufacturer believe that good raw materials are the heart of good food products for consumers. I-MEI Foods is a large snack manufacturer which started its business with Taiwanese rice cake, pine-apple cake, nougat, and a wide range of Taiwanese desserts. Later on, the company has expanded the production line to the dairy and bakery products to support the growth of the food service business. One of its main products are English muffins that are sold to McDonald's stores throughout Taiwan. This plant produces more than 2,000 products, including food products and food supplements by using chemical-free agricultural raw materials, and have modern farm and transportation management systems creating high confidence on quality ingredients. Moreover, there is a research and development laboratory that focuses on the development of specialized food flavor formulas for patients, elderly and allergy sufferers., while also bringing natural raw materials to produce functional food products. Besides the factory itself, there is also a R&D center for food, which is open for those who are interested in studying the benefits of food ingredients, including vegetables, fruits, herbs, while also open an opportunity for visitors to create a healthy food menu as a way to enhance the health and well-being of consumers of all ages.
@ New Taipei City Next station, we went to the perimeter of Taipei so called the New Taipei City by visiting to the integrated Boba or Bubble tea factory “Sunny Syrup Food”, which is a manufacturer and distributor for all ingredients of Bubble tea drinks which are prompted to produce Bubble tea products as customer’s demand from around the world. This factory produces concentrated fruit juice, fruit syrup, toppings especially soft Bubble (tapioca ball) that have a wide variety of grades, including raw, boiled, and ready-to-serve Bubble in pack. The Bubble is developed according to the different trends of consumer around the world, such as soft Bubble, which is favored among the European and American market, while in Asian markets, consumers are like
58
Popping Bubble, which are made from fruit juice mixed with sodium alginate by using Spherification techniques making a clear round bubble. Meanwhile, Taiwanese people are trying to lead the trend by creating new flavor and new recipes all the time. For example, it has mixed the coffee syrup with Bubble tea creating a new perfect recipe. This recipe is expected to be popular in many countries soon. During this trip, besides food and beverage manufacturers, the owners of the food machinery and technology in food industry also led us to learn on the automatic machinery innovation, which is an important solution for good food production for consumers as well. Seeing the machinery working in reality in the production line seems to be one of the top reasons for making decision to buy a machine for food manufacturers in Taiwan. Hundred Machine Enterprise (HM Food), a manufacturer for ready-to-eat food machinery such as dim sum, bun, rice cake, and various kind of frozen bakery products, took us to its new Antenna showroom, which is not far from the factory in New Taipei City, which will be ready for an official open for service in June this year. This showroom displays various sizes and models of machines, while also has a demonstration zone for machine, so that customers can see the real production process and can decide to choose the machine for their industry. This factory focuses on producing machines for serving Taiwan and overseas markets such as Thailand, Singapore, Canada, and Australia, while for China market, which is the main market, the manufacturer has established a factory for serving this market in particular in Jiangsu province, China. For the Food Taipei 2019, the new robot arm technology for convenience products is ready to be demonstrated in the event. Another machine manufacturer for ethnic food groups that have been trusted around the global “Anko Food Machines” is a manufacturer and designer of dim sum production machine, cake/ pastry production machine, spring rolls and other dumplings production machine, and recently the company has designed and manufactured a tortilla production machine for expanding its market to Grab & Go consumers which will be a highlight machine for Food Taipei 2019. From the total machinery productions of the company, about 85 percent of its machinery are exported to overseas such as to Thailand, Vietnam, Hong Kong, Singapore, Turkey, and Australia.
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
56-59_Site Visit_Taitra Trip.indd 58
23/4/2562 BE 17:09
SITE VISIT Snack and bakery are considered one of the biggest food group that creates high competitiveness among machinery manufacturers. The challenge for this group of products is the production capacity of the machines that have to meet the industrial’s demand from small to large scale manufacturing. Seven Castle, a manufacturer of food mixers, both manual, automation, and semi-automation machinery, has differences manufacturing capacity from small, medium to large, while also has automatic food mixer for food processing industry. The company will launch a new heating system of semi-automation mixer besides diesel, gas, electricity, or steam, which respond to the various production of food, including sauces, soups, pastry, and bakery. Next destination is Yuan Cuang Food Machine (YCFM), a manufacturer for grain extruder machine, which the machine can adjust the heat in many levels without using fuel. The machine can create various mole of food such as spiral, triangle, round, or in English alphabet form. Besides expertise in extruder machine manufacturing, YCFM also designs snack production lines that are further developed from its machine by producing various kinds of grain extruder with chocolate coating and many other flavors. The company does not only design the production line to produce products as an example for customers, but the company can also produce products sold under its own brands.
uniqueness of the frozen seafood from this plant is the freshness of the fish even through freezing for several weeks. After melting, the fish is still fresh, delicious, and still maintain nutritional value. The manufacturer said that the plant invested in the installation of a freezing system called Cell Alive System (CAS-FRESH) from Japan. It is a freezing system that relies on the operation of electromagnetic fields and molecular vibrations to limit the formation of ice; therefore, it does not destroy the tissue of the cell. CAS Freezing technology can freeze the trimmed fish or whole fish packed in a vacuum bag in just 3 hours. After that the product will be kept at a temperature between -25oC to -50oC in CAS Warehouse Storage, which has installed CAS-FRESH system. This plant has been classified as the largest and most modern frozen food warehouse in Asia. The trip to Taiwan is a courtesy invitation granted by the Taiwan External Trade Development Council (TAITRA) for Food Focus Thailand magazine as the only one Thai media among others international media to visit food, machinery, and equipment manufacturers in food and beverage industry in Taiwan, which will attend the incoming Food Taipei 2019, an international food and beverage showcase in Taiwan from June 19-22, 2019 at Taipei World Trade Center. However, the information will be an idea to their visit to the event this year.
@ Tainan City The Taiwan food industry does not limit only in Taipei. Tainan, the southern city of Taiwan is being not only as a town for art and culture tourism, the city is also home of Best Food & Pastry Machinery (Tai Yuh Machine Enterprise), which is a manufacturer and designer for ready-to eat food production line, such as frozen bakery, and ethnic food including dim sum, and steamed bun. With the expertise in machinery design for more than 20 years, the research and development engineers of the company can design various machines and production lines covering ready-to-eat food groups, as well as providing experimental services to produce real products for various industries to demand of customers which the company has been trusted by food manufacturers in Taiwan and Asian markets in many countries, especially Thailand.
@ Kaohsiung Along the coast to the southern part of Taiwan, Kaohsiung is a city for fresh and processed seafood production, which is the largest port in Taiwan. This is the source of all kind of fishery products, including from aquaculture farms, and frozen seafood plants, all of which focus on the quality and freshness of seafood by using automated technology in almost every step of its production. Anyong Biotech, a chilled and frozen seafood manufacturer. Although, this factory has been opened for a while, it can rapidly reach the health food market. This factory mainly uses fresh seafood from the area by producing frozen fish meat for sale in the country by 80 percent, while the remaining are for exporting to Hong Kong and Japan. The
56-59_Site Visit_Taitra Trip.indd 59
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND
59
22/4/2562 BE 18:00
SHOW TIMES
Post Show
VIV Asia 2019 Wins Visitors’ Increase from Overseas
45,000 นักลงทุนในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ร่วมชมงาน วิฟ เอเชีย…การันตี The 2019 edition of VIV Asia attracted more than 45,000 professional visits, confirming the เวทีเจรจาการค้าระดับโลก ด้วยยอดนักลงทุนต่างชาติสูงขึ้น วิฟ เอเชีย 2019 ที่เพิ่งจบไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประสบความส�ำเร็จในการจัดงาน ตามเป้าหมาย โดยมียอดผู้เข้าชมงานมากกว่า 45,000 รายตลอดสามวัน การันตีความส�ำเร็จของ การจัดงานที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า วิฟ เอเชีย เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและสัมมนาส�ำหรับอุตสาหกรรม ปศุสัตว์และสัตว์น�้ำ อันดับ 1 ของภูมิภาค ครอบคลุมตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ อาหารสัตว์ จนกระทั่งถึง กระบวนการผลิตอาหารเพื่อการบริโภค ในการจัดงานปี 2019 วิฟ เอเชีย ได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งด้วย การมีจดุ ยืนทีแ่ ข็งแกร่งในแง่ของการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศทีห่ ลัง่ ไหลเข้ามาเยีย่ มชมงาน โดย มีอัตราเติบโตสูงถึงร้อยละ 7 ของครั้งที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนทั่วโลกให้ความส�ำคัญและ เชือ่ มัน่ กับงานวิฟ เอเชีย ชีใ้ ห้เห็นว่างาน วิฟ เอเชีย เป็นงานทีม่ คี วามส�ำคัญต่ออุตสาหกรรมทีน่ กั ลงทุน ต่างให้ความส�ำคัญ และได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจกลับไปจากการมาเยี่ยมชมงานในครั้งนี้ การรวมตัวกันของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ด้วยความเข้มแข็งของเครือข่ายธุรกิจผ่าน VIV worldwide ที่มีเครือข่ายผู้ซื้อและผู้ผลิตระดับโลก ส่งผลให้งาน วิฟ เอเชีย มีผเู้ ข้าชมงานชาวต่างประเทศมากกว่าร้อยละ 65 จากยอดผูเ้ ข้าชมงานทัง้ หมด 45,023 ราย จากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการันตีถึงการเป็นเวทีเจรจาธุรกิจระดับสากลอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ผูเ้ ข้าชมส่วนใหญ่มาจากภูมภิ าค แบ่งเป็นผูเ้ ข้าชมงานชาวจีน มากเป็นอันดับสอง รองจากประเทศไทย ซึง่ เพิม่ ขึน้ ถึงร้อยละ 12 นอกจากนัน้ ยังมี 10 ประเทศทีม่ จี ำ� นวนผูเ้ ข้าชมงานเพิม่ มากขึน้ ได้แก่ ประเทศอินเดีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย บังคลาเทศ สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ไต้หวัน และ ปากีสถาน อีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามองนั่นคือ ประเทศกัมพูชา ที่มีผู้เข้าชมงานมากขึ้นอย่างมี นัยส�ำคัญติด 20 อันดับเป็นครั้งแรก ในส่วนของผู้เข้าชมงานจากประเทศปากีสถานก็ยังคงเดินทาง มาเยี่ยมชมงานแม้ว่าภายในประเทศจะมีการปิดน่านฟ้า ซึ่งมีผู้เข้าชมงานอยู่ในอันดับที่ 11 โปรแกรมและงานสัมมนาพิเศษที่ตอบโจทย์ครบทุกประเด็นในห่วงโซ่อาหาร ผู้เข้าชมงาน วิฟ เอเชีย ไม่ได้มาเพื่อการเยี่ยมชมงานและขยายเครือข่ายธุรกิจเท่านั้น งานสัมมนาและการประชุม วิชาการต่างๆ ภายในงานวิฟ เอเชีย ก็ได้รบั ความสนใจจากผูเ้ ข้าชมงานเช่นเดียวกัน ในปีนมี้ งี านสัมมนา มากกว่า 89 หัวข้อการประชุม ซึ่งมีวิทยากรกว่า 200 คน จากทั่วโลกมาแบ่งปันความรู้ รายละเอียด โปรแกรมและข้อมูลงานสัมมนาทั้งหมดสามารถสืบค้นได้ใน วิฟ เอเชีย 2019 ที่จะเผยแพร่ทาง www.viv.net และ www.vivasia.nl วิฟ เอเชีย จะกลับมาอีกในปี 2021 (2564) ทางคณะผู้จัดงาน VNU Exhibitions Asia Pacific และ VNU Exhibitions Europe ขอขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วมการจัดงานในปี 2019 (2562) รายละเอียด เพิ่มเติม ติดต่อ www.viv.net หรือ www.vivasia.nl 60
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
60_ShowTime_VIV Asia.indd 60
big attendance of the previous appointment.
Already known since 2017 as the No.1 international trade show from Feed to Food in Asia, VIV Asia 2019 took another step forward in strengthening its international character with a 7% increase of visits from outside of the hosting country. The enthusiasm and energy distinguishing the Feed to Food Asian markets resonated at BITEC throughout the show time, giving all attendees another memorable experience at VIV Asia. The biggest international industry gathering of Asia A good 65% of the total 45,023 visits registered at VIV Asia in 2019 came to Bangkok from outside of Thailand, confirming the international flavour of this show where local visitors counted this time for 35%, against the 39% Thai visits audited in 2017. With Asian markets in the lead, overseas visitors came from more than 120 countries. China, once again the first visiting country after Thailand, significantly increased its attendance by 12% compared to the previous edition. Following China, the top 10 visiting markets this year were: India, the Philippines, Vietnam, Indonesia, Malaysia, Bangladesh, Republic of Korea, Taiwan, and Pakistan. Interesting to note, Cambodia claimed in this edition a place in the top 20 visiting countries completing more and more the ASEAN markets coverage at the show. Despite the air space closure affecting visitors’ attendance right before the show dates, Pakistan managed to confirm its 11th position in the visiting countries’ list. Extensive Program & Complete Value Chain on Display. Visitors attending VIV Asia, not only did they find the A to Z / Feed to Food offer on display at the show ground, but also a wide range of conference and seminar programs to learn, network, and share knowledge. 89 sessions were presented by partners, exhibitors and organizers, with around 200 high-level speakers flying from all over the world to discuss. All program details can be found in the VIV Asia 2019 Show review that will be published on www.viv.net and www.vivasia.nl VIV Asia will be back in 2021. The organizers, VNU Exhibitions Asia Pacific and VNU Exhibitions Europe, would like to thank everyone who joined the 2019 edition.
23/4/2562 BE 16:02
MAY 2019 No.53
Trend, Market Analysis and Technology of Convenience Foods Industry
P.62
CPRAM Aims to Leverage Thailand to Become the Hub of Asian Food Innovations
61_Cover_Sup_Conven.indd 61
P.64
3 Global Bakery Trends to Look for in 2019
P.68
The Role of Food Industry… Less Salt… Less Diseases
P.74
Innovations in Food Processing and Preservation Techniques
P.80
Cold Chain Logistics: Which Area of Services will Thrive?
22/4/2562 BE 16:19
เรียบเรียงโดย/Compiled By: กองบรรณาธิการ นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
CPRAM Aims to Leverage Thailand to Become the Hub of Asian Food Innovations
บริษท ั ซีพแี รม จ�ำกัด ผูผ ้ ลิตและจัดจ�ำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานรายใหญ่ทสี่ ด ุ ในประเทศไทย และหนึง่ ในผูน ้ ำ� ด้าน Food Provider มาตรฐานโลก ได้วางแผนทิศทางธุรกิจ “CPRAM Transformation Roadmap” พร้อมเดินหน้า พัฒนาศักยภาพมาตรฐานยกระดับขีดความสามารถความเป็นผูน ้ ำ� Food Provider และก้าวสูผ ่ น ู้ ำ� นวัตกรรมอาหาร ของประเทศและในภูมิภาคเอเชีย CPRAM Co., Ltd., the largest producer and distributor of ready-to-eat food in Thailand and one of the leaders in world standard food provider, detailed the business direction of “CPRAM Transformation Roadmap” to announce the potential development plan for becoming a leading food provider and food innovation in the country and in Asia.
ปัจจุบัน บริษัท ซีพีแรม จ�ำกัด มีสัดส่วนของยอดขายอาหารพร้อมรับประทาน ร้อยละ 65 และ เบเกอรี่ ร้อยละ 35 ด้วยผลิตภัณฑ์กว่า 900 SKUs โดยมีสินค้าและบริการในกลุ่มบริษัทฯ อาทิ แบรนด์ เจด ดราก้อน แบรนด์เลอแปง แบรนด์เดลี่ไทย แบรนด์เดลิกาเซีย แบรนด์ซีพีแรม เคเทอริ่ง และแบรนด์ ฟู้ดดี้:ดี เป็นต้น จ�ำหน่ายผ่านช่องทางร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และร้านค้าชั้นน�ำ ทั่วประเทศกว่า 20,000 แห่ง รวมถึงส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก CPRAM Transformation Roadmap
คุณวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จ�ำกัด กล่าวว่า ซีพีแรมเดินทางผ่านยุคต่างๆ จวบจนปัจจุบันยุคที่ 7 คือ “ยุคศรีอัจฉริยะ” แต่ละยุคใช้เวลา 5 ปี ยุคนี้ได้ยกระดับขีดความสามารถของ องค์กรด้วย CPRAM 4.0 ขับเคลือ่ นองค์กรด้วยเทคโนโลยีและเป็นผูน้ ำ� 3S (Food Safety, Food Security และ Food Sustainability) สู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหารของโลก รวมถึงก�ำหนดยุทธศาสตร์ องค์กรยุคที่ 7 ระยะ 5 ปี ด้วย “CPRAM Transformation Roadmap” ประกอบด้วย (1) Organization Transformation (2) New Business (Vending machine, Catering Service) (3) Digitalization (4) Robotization และ (5) จัดตั้ง Food Technology Exchange Center (FTEC) พร้อมตั้งเป้าหมาย ยอดขาย 20,000 ล้านบาท ในปี 2562 ด้วยกลยุทธ์การขยายตลาดทั้งเชิงลึกตอบโจทย์ความต้องการ เฉพาะของผู้บริโภค และเชิงกว้างสู่ภูมิภาคทั่วประเทศไทย หลังจากประกาศทิศทางองค์กร 5 ปี (2561-2565) เมือ่ วันที่ 12 ธันวาคม 2560 ในการขยายการผลิต ไปสู่ภูมิภาคมากขึ้น ได้มีโรงงานใหม่เกิดขึ้นอีก 5 แห่ง โดย 2 แห่งในที่ตั้งใหม่ คือ โรงงานล�ำพูน และ โรงงานสุราษฎร์ธานี และอีก 3 แห่งในที่ตั้งเดิม คือ โรงงานชลบุรี โรงงานขอนแก่น และโรงงานบ่อเงิน จังหวัดปทุมธานี ด้วยงบลงทุน 4,000 ล้านบาท ปัจจุบนั ได้สร้างแล้วเสร็จ ซึง่ มีกำ� ลังการผลิตอาหารพร้อม รับประทานแช่เย็นและแช่เยือกแข็งเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50-70 รองรับการขยายตัวของตลาดที่เพิ่มขึ้นและ ช่วยเสริมสร้างศักยภาพการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจและการสร้างงานสร้างรายได้ในภูมิภาค 62
MAY 2019
CPRAM has a proportion of sales of 65% ready-to-eat food and 35% of bakery products with over 900 SKUs products. Brands and services in the CPRAM group consist of Jade Dragon, Le Pan, DeliThai, Delicasia, CPRAM Catering, and Foodie:D brand, etc. All sold through 20,000 7-ELEVEN stores, supermarkets, restaurants, and leading stores nationwide, including exports to countries around the world.
CPRAM Transformation Roadmap
Mr.Wisade Wisidwinyoo, President of CPRAM Co., Ltd. said that CPRAM travels through various eras. Today, CPRAM is entering the 7th generation, “Genius Era” — each period takes 5 years. Nowadays, the company raises the capacity of the organization with CPRAM 4.0 policy which is driving by technology. The company elevates ready-to-eat food with 3S (Food Safety, Food Security and Food Sustainability) to achieve the sustainability of the global food industry. The company has also established the organization strategy for the 7th generation with the name “CPRAM Transformation Roadmap”, which consists of Organization Transformation, New Business (Vending machine, Catering Service), Digitalization, Robotization, and the establishment of Food Technology Exchange
NO. 53
62-63_Artice 1_CPRAM.indd 62
22/4/2562 BE 16:40
Convenience Foods Supplement Edition
ขณะเดียวกันยังได้เข้าใกล้แหล่งวัตถุดิบในท้องถิ่น และ ช่วยให้อาหารที่ผลิตออกจากโรงงานกระจายไปสู่ร้านค้า ในเวลาสั้นลง จากเดิมต้องใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง ลดเหลือ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น “ปัจจุบัน ซีพีแรมประกอบด้วยโรงงาน 7 แห่ง ได้แก่ ปทุมธานี 2 แห่ง กรุงเทพฯ ชลบุรี ขอนแก่น ล�ำพูน และ สุราษฎร์ธานี นอกจากจะผลิตสินค้าส่งให้กบั เซเว่น-อีเลฟเว่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และร้านค้าชัน้ น�ำในแต่ละภูมภิ าค แล้ว ยังผลิต “อาหารท้องถิน่ ” ในรูปแบบอาหารแช่เย็นส�ำหรับ ผู้บริโภคในท้องถิ่นโดยเฉพาะ จากเดิมมีเฉพาะเมนูทั่วไป ที่ขายทั่วประเทศ (Nationwide) แต่นับจากนี้จะมีสัดส่วน สินค้าเมนูอาหารท้องถิ่น ร้อยละ 25-30 และอาหารเมนู Nationwide ร้อยละ 70-75 การพัฒนาเมนูอาหารท้องถิ่น เราไม่ได้จะไปแข่งกับร้านอาหารพื้นเมือง เพราะถึงอย่างไร ร้านอาหารท้องถิ่นมีความหลากหลายและอร่อย แต่เพื่อ ตอบโจทย์ผบู้ ริโภคในเวลาดึกทีไ่ ม่มรี า้ นอาหารเปิดให้บริการ แล้ ว เป็ น การเติ ม เต็ ม ตลาดของซี พี แ รมในต่ า งจั ง หวั ด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่นั้นๆ ด้วย” นอกจากนีย้ งั เตรียมจัดตัง้ Food Technology Exchange Center (FTEC) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการสร้างความร่วมมือ และประสานงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารทั้ ง ภาครั ฐ และภาคเอกชน ประกอบด้ ว ยนั ก วิ จั ย นักพัฒนา และผู้ใช้ใน 3 เทคโนโลยีส�ำคัญ ได้แก่ Biotech, Digitech และ Robotech สู่ความยั่งยืนของอาหาร รวมถึง เป็นการยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมอาหารไทย ตั้งแต่ต้นน�้ำถึงปลายน�้ำ FTEC ยังมีผู้เชี่ยวชาญทั้งในและ ต่างประเทศในการบูรณาการศาสตร์ต่างๆ กับเทคโนโลยี เข้าด้วยกัน เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผล สูงสุด ในการร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร “ซีพีแรมยังวางการใช้งบร้อยละ 1 ของยอดขาย หรือ ปีละ 150-200 ล้านบาท ทุ่มให้กับการวิจัยและพัฒนาให้ได้ มาซึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมของตนเอง เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ยกระดับองค์กรสู่ CPRAM 4.0 รวมถึง ยกระดั บ ขี ด ความสามารถของประเทศไทยในการเป็ น ศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารของภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งยังใช้ เทคโนโลยีชวี ภาพมาพัฒนาอาหารสุขภาพและอาหารส�ำหรับ บุคคลเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้สูงวัย อาหารเด็ก และอาหารของ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น เราจะน�ำเอาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และระบบการผลิตอัตโนมัติมาร่วมท�ำงานในโรงงานในจุด ที่ท�ำงานหนักและมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ” “จากการที่สังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน ซีพีแรมจึงได้พัฒนาสินค้าออกมาตอบสนองความต้องการ กลุ่มผู้สูงอายุ คือ ข้าวต้มผู้สูงวัย มีคุณสมบัติเคี้ยวแหลกง่าย ดูดซึมได้ดี และมีคุณค่าทางโภชนาการที่ผู้สูงอายุต้องการ นอกจากนี้ยังได้พัฒนาอาหารสุขภาพและอาหารส�ำหรับ บุคคลเฉพาะกลุ่ม อาทิ กลุ่มผู้ป่วยหรือมีโรคประจ�ำตัว ซึ่ง ต้องการอาหารคุณสมบัติพิเศษอีกด้วย” คุณวิเศษ กล่าว
Center (FTEC). The company targets sales of THB 20,000 million in 2019, with both in-depth market expansion strategies to meet the specific needs of consumers, and broadly into regions throughout Thailand. After announcing the 5-year corporate direction (2018-2022) on December 12, 2017, CPRAM is expanding and upgrading its facilities in the existing factory locations, which are Chon Buri, Khon Kaen and Bo-Ngern at Pathum Thani. Moving further away from Bangkok, the company is also building new factories in Lamphun and Surat Thani with a total budget of THB 4,000 million. In five years, CPRAM envisions its total number of factories will increase the company’s current capacity by 50-70%. With the bigger capacity, the company can also strengthen the potential of economic growth and job creation, generate income in the region. At the same time, the company can also strengthen its original equipment manufacturing services in providing raw and semicooked materials. This move will help CPRAM’s food products take a shorter time before distributing to the store (from 6-7 hours to 2-3 hours). “CPRAM currently consists of 7 factories — 2 in Pathum Thani, Bangkok, Chon Buri, Khon Kaen, Lamphun, and Surat Thani. Besides producing products delivered to 7-ELEVEN stores, supermarkets, restaurants, and leading stores in each region, another important mission is to produce the “Local Food” in the form of “Chilled Food” for local consumers. From Nationwide menu which is a general menu that sold throughout the country, but CPRAM is exploring possibilities of Local Food. There will be a proportion of local food menu around 25-30% and Nationwide menu food around 70-75%. By the development of local food menus, we are not going to compete with local restaurants because of local restaurants are diverse and delicious. Our purpose is to meet consumers in the late hours that’s no restaurants open. This way will fulfill the market of CPRAM in the provinces as well as meeting the needs
of consumers in that area.” CPRAM is currently preparing to set up the Food Technology Exchange Center (FTEC) to be a center for cooperation with all sectors related to Thai food industry, both public and private areas, such as researchers, developers and users who specialize in 3 key technologies, including Biotech, Digitech and Robotech, which will result in sustainable food development as well as enhancing the capabilities of Thai food industry from upstream to downstream. “CPRAM also unveils THB 150-200 million budget plan per year or 1% of sales to the research and development for own technology and innovation to drive the business. CPRAM aims to elevate the organization to CPRAM 4.0, enhancing the capabilities of Thailand in becoming the food innovation center of Asia as well as apply biotechnology in developing special and healthy food such as food for the elderly, children and diabetics. Robot technology and automated production systems will be implemented in factories at many points that have many workloads and high health risks.” “Thai population structure is changing which is moving towards an aging society. The company has developed products to meet the needs of the elderly which is now marketed as boiled rice for the elderly with easily crushed chewing, well absorbed and nutritious. Not only the elderly customers, but CPRAM also develops healthy food and food for specific individuals. The company wants to meet the needs of patients with congenital diseases which requires special dietary features.” Mr.Wisade added.
MAY 2019 62-63_Artice 1_CPRAM.indd 63
NO. 53
63
22/4/2562 BE 16:41
Amrin Walji
Senior Innovation Analyst Mintel
Compiled and Translated By: กองบรรณาธิการ
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์
Editorial Team
3to Global Bakery Trends Look for in 2019 Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
ค้นหาเทรนด์ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จาก 3 ลายแทงยอดฮิตปี 2562
ในขณะที่ผู้บริโภคเริ่มลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตลงนั้น แบรนด์ขนมปังต่างๆ ก็จะต้องหาหนทางท�ำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์ขนมปังของตัวเองนั้นเป็นที่จดจ�ำได้ ในมุมมองของผู้บริโภค หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การมีสุขภาพ ที่ดีขึ้น โดยอาจดึงดูดด้วยสีสันสดใส กลิ่นรสเอกลักษณ์ในแบบชาติพันธุ์ และ พัฒนาไปในรูปแบบที่ดีขึ้นส�ำหรับผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ตอบโจทย์ ความต้องการที่หลากหลาย ลองมาค้นหาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เบเกอรี่จากเทรนด์ฮิตทั่วโลก ดังต่อไปนี้ As consumers cut their consumption of carbs, brands need to make bread memorable – or at least healthier – through vivid colours, ethnic flavours and better-for-you versions.
1
มีรสผัก สีสันสดใส ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของผักคือ
วิถีการตลาดสุดสตรองค์ของหลายๆ แบรนด์ที่น�ำมาใช้เพื่อดึงดูด ความสนใจในเชิงบวกด้านโภชนาการ การใช้ผักที่มีสีสันสดใส เช่น แครอท หรือบีทรูทนั้นช่วยท�ำให้ผลิตภัณฑ์มีเนื้อของผักอย่างแท้จริงและ ช่วยเพิ่มกลิ่นรสโดยรวมของผลิตภัณฑ์ด้วย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ มินเทลได้เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์ขนมปังที่มีส่วนผสมของผักนั้นยังคงเป็น ผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มส�ำหรับผู้บริโภคในยุโรป โดยคิดเป็นร้อยละ 6 ของ ผลิตภัณฑ์ขนมปังที่เปิดตัวขึ้นทั้งหมดในยุโรปเมื่อปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ขนมปังรสผักต่างๆ Leivon Leipomo Flat Rye Bread with Root Vegetables เปิดตัวอย่างสวยงามในประเทศฟินแลนด์ โดยเป็น ผลิตภัณฑ์ขนมปังที่มีส่วนผสมของบีทรูท แครอท และพาร์สนิป อีกหนึ่ง ตัวอย่าง คือ ผลิตภัณฑ์ขนมปังโทสต์จากบราซิล Fhom Veg Super Thin Toasts ซึ่งมีสีสันสวยงามอย่างชมพูและส้มที่มาจากแครอท บีทรูท และ ผักโขม ด้านผลิตภัณฑ์แผ่นทาโก้กร็ กุ ตลาดสหรัฐอเมริกาได้ไม่นอ้ ย โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์แผ่นทาโก้ผักโขม Raw Wraps Spinach Soft Tacos ที่ผลิตจาก 64
MAY 2019
NO. 53
64-66_Artice 2_Bakery Trend.indd 64
1
Colourful Vegetable Bread Bakery products containing
vegetables are a strong way for brands to tap into interest in positive nutrition. Using brightly coloured veggies, such as carrot or beetroot, makes the vegetable content more tangible and helps to provide an overall flavour boost. Despite this, vegetablebased bread currently remains niche in Europe at 6% of all bread launches in the last year, according to Mintel Global New Products Database (GNPD). Leivon Leipomo Flat Rye Bread with Root Vegetables, launched in Finland, is 30% made with vegetables including beetroot, carrot
Source: rawwraps.org 22/4/2562 BE 17:46
Convenience Foods Supplement Edition
Source: eatcaulipower.com
Source: eatcaulipower.com
อินกรีเดียนท์ธรรมดาๆ เพียง 4 ชนิด คือ แอปเปิ้ล ผักโขม หัวหอมใหญ่ และใยอาหารไซเลียม
and parsnip. While Brazil’s Fhom Veg Super Thin Toasts’green, pink and orange hues come from spinach, beetroot and carrot. Catering to raw and paleo diets, Raw Wraps Spinach Soft Tacos (USA) are made with four simple ingredients: apples, spinach, onions and psyllium.
2
รู้สึกเหมือนกินขนมปัง แต่ขอโลว์คาร์บ เทรนด์ลดการบริโภค
คาร์โบไฮเดรตได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการน�ำมาเป็นคอนเซ็ปท์ของอาหารหลายๆ จานเลย ทีเดียว ซึ่งก็ยิ่งเป็นการส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาเน้นบริโภคโปรตีนและผัก มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความกังวลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพยังคงเป็นอุปสรรค ส�ำคัญในการบริโภคขนมปังที่บ่อยขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ด้านผู้ผลิตขนมปัง จึงหันมาให้ความสนใจในเรื่องโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพด้วยความหวังที่ว่า จะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจเรื่องสุขภาพได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ Hovis ประเทศอังกฤษได้ออกผลิตภัณฑ์ขนมปัง เพื่อสุขภาพโดยลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง แต่เพิ่มความเพลิดเพลินไปที่ รสชาติซึ่งมีให้เลือกถึง 3 รสชาติด้วยกัน คือ Softy and Tasty White เนื้อ ขนมนุ่ม รสชาติอร่อย ได้รสชาติเหมือนขนมปังสีขาว Tasty Wholemeal เต็มรสชาติของโฮลวีต และ Deliciously Seeded เนือ้ แน่นๆ ด้วยธัญพืช โดยที่ ขนมปังแต่ละโลฟนั้นลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลงจากสูตรปกติถึงร้อยละ 30 นอกจากนี้ยังเติมคุณประโยชน์ของโปรตีนและไฟเบอร์เข้าไปอีกด้วย อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจคือแป้งพิซซ่าดอกกะหล�่ำ Cauliflower crust pizza ซึ่งโด่งดังมากในเรื่องแป้งพิซซ่าโลว์คาร์บบนโลก IG และตามบล็อก อาหารต่างๆ ต่อมา Caulipower ก็ได้มีการจ�ำหน่ายในรูปของการแบ่งบรรจุ ตามปริมาณต่างๆ โดยฝีมือของคุณแม่ลูกสองชาวแคนาดาซึ่งก็มีที่มา จากลูกๆ ของเธอนั้นแพ้กลูเตน การใช้ผลิตภัณฑ์แป้งพิซซ่าประเภทนี้ จึงเป็นเหมือนทางเลือกในการรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้กับหลายๆ คนไปด้วย
2
Low Carbs Cutting down on carbohydrates has become
popular in recent years as many adopt diets that encourage higher intake of proteins and vegetables. Health-related concerns are key barriers to more frequent consumption of bread.
3
แลนดิ้ ง รสชาติ ม าจากทุ ก มุ ม โลก อย่างเอเชียบ้านเรามี
ร้านอาหารประจ�ำชาติและแผงขายอาหารข้างถนนมากมายและ ค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในวงการธุรกิจบริการอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ โลกของการปรุงอาหารจึงสามารถขยายโอกาสการใช้ขนมปังและผลิตภัณฑ์ แป้งขนมปังได้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีรูปแบบ ตามวัฒนธรรมการจิ้ม เช่น สเปน เม็กซิกัน อินเดีย และตะวันออกกลาง ซึ่งมี MAY 2019 64-66_Artice 2_Bakery Trend.indd 65
NO. 53
65
23/4/2562 BE 17:50
Convenience Foods Supplement Edition
ส่วนช่วยกระตุ้นความต้องการแผ่นแป้งหรือขนมปังประเภทต่างๆ ได้อย่างมาก ทีเดียว หากให้เห็นภาพลองนึกถึงผลิตภัณฑ์แผ่นแป้งตอร์ติยาจากประเทศอังกฤษ Santa Maria Street Food Kingston Style Coconut & Pepper Tortillas ซึ่งเป็น แผ่นแป้งตอร์ติยาที่บางและนุ่ม มีกลิ่นหอมของมะพร้าวและพริกไทยเล็กน้อย แผ่นแป้งตอร์ติยาชนิดนี้ได้รับการกล่าวขานอย่างมากส�ำหรับอาหาร Jamaican jerk tacos และยังได้รับการยกย่องให้เป็นส่วนผสมแนะน�ำด้วย อีกทั้งยังมีแววว่า จะถูกใจผู้บริโภคที่ก�ำลังมองหาความบันเทิงในรูปแบบแปลกใหม่ สร้างความท้าทาย และเข้ากันได้กับอาหารแบบต่างๆ
Source: santamariaworld.com
อีกหนึง่ ไอเดียทีน่ า่ สนใจคือ ผลิตภัณฑ์ขนมปัง Tesco Finest Ras El Hanout Flatbread จากประเทศอังกฤษ ซึ่งกล่าวกันว่าเต็มไปด้วยรสชาติในแบบฉบับ แอฟริกาเหนือแท้ๆ มีส่วนผสมของลูกเกดหวาน แอปริคอท และการผสมผสาน ของเครือ่ งเทศถึงเก้าชนิด อีกทัง้ เป็นการพิสจู น์ให้เห็นถึงความหมายทีแ่ ท้จริงของ “รสชาติที่แปลกใหม่ตามสไตล์อาหารชาติพันธุ์” จากในประเทศต่างๆ หากมอง ในเอเชียก็จะมีตวั อย่างผลิตภัณฑ์ขนมปังจากประเทศเกาหลี Sajo Royal Pretzel ซึง่ ได้แรงบันดาลใจในความเป็นขนมสไตล์บาวาเรียสอดไส้ชอ็ กโกลแลต สามารถ เข้าอุ่นด้วยไมโครเวฟเพื่อให้ไส้ช็อกโกแลตละลายเยิ้มอยู่ข้างในขนมปังเหล่านี้ ก็เป็นลูกเล่นที่ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้อย่างมาก
As a response, bread producers are shifting their efforts towards positive nutrition in the hope to connect with health-conscious consumers. Hovis has introduced a range of naturally low carbohydrate breads in the UK: Softy and Tasty White, Tasty Wholemeal, and Deliciously Seeded. Each loaf is said to contain 30% less carbohydrates than ordinary loaves, as well as added wheat protein and fibre. Another notable example is Cauliflower crust pizza, a popular low-carb recipe on Instagram and food blogs. A packaged version has been launched in Canada by Caulipower, founded by the mum of two gluten-intolerant children to provide them with delicious alternatives to carbs.
3 Source: catalogue.veganknowhow.com
เอกสารอ้างอิง/Reference www.mintel.com/blog/food-market-news/3-global-bakery-trends to-look-for-in-2019
66
MAY 2019
World Flavours As ethnic restaurants and street food
stalls take over the foodservice scene, world cuisines can expand usage occasions for bread and bread products. Specifically, cuisines with a ‘dip culture’ (eg Spanish, Mexican, Indian and Middle Eastern) could help drive demand for specific bread types. Santa Maria Street Food Kingston Style Coconut & Pepper Tortillas are described as soft, thin tortillas with a delicious coconut flavour and a hint of pepper. The tortillas are said to be ideal for Jamaican jerk tacos and feature a recipe suggestion. They’re likely to appeal to consumers seeking fun, adventurous and customisable food solutions. Tesco Finest Ras El Hanout Flatbread (UK) is said to be bursting with authentic North African flavours, featuring sweet raisins, apricots and a blend of nine spices. And to prove that the definition of ‘exotic’ changes in every country. South Korean Sajo Royal Pretzel looks to Bavaria for inspiration for this microwaveable, chocolaty-filled pretzel.
NO. 53
64-66_Artice 2_Bakery Trend.indd 66
23/4/2562 BE 17:18
ad_Ecolab final.indd 29
6/20/17 10:06 AM
เครือข่ายลดบริโภคเค็ม Low Salt Thailand Network www.lowsaltthai.com
The Role of Food Industry …Less Salt…Less Diseases
บทบาทของภาคอุตสาหกรรมอาหาร ในการ…ลดเค็ม…ลดโรค
ปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารมีการใช้โซเดียมหรือสารประกอบโซเดียม เพื่อช่วยยืดอายุการเก็บรักษา ปรับปรุง หรือคงไว้ซึ่งลักษณะของอาหาร บางประการ แต่สำ� หรับผูบ ้ ริโภคอาหารทีม่ โี ซเดียมมากเกินไปอาจจะส่งผล ต่อสุขภาพได้ในระยะยาว โดยจะเห็นได้จากจ�ำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อ เรื้อรัง (Non-communicable Diseases; NCDs) ที่เพิ่มขึ้นทุกปี Nowadays, sodium or sodium compound are popularly used by food manufacturers to extend food’s shelf-life and to improve or retain food qualities. However, consuming excess amount of high-sodium food could cause long-term health problems such as non-communicable diseases (NCDs), as seen from the increasing number of patients suffering from the diseases every year.
ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นจ�ำนวนมาก สาเหตุมาจาก การรับประทานอาหารที่มีปริมาณน�้ำตาล ไขมัน โซเดียม มากเกินกว่าปริมาณที่ก�ำหนด ในแต่ละวัน (ปริมาณสารอาหารอ้างอิงทีค่ วรได้รบั ประจ�ำวัน (Dietary Reference Intake; Thai DRI)) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกลือหรือโซเดียมที่มีอยู่ในอาหารส�ำเร็จรูป และอาหาร ที่ขายตามท้องถนน ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไต อัมพฤกษ์อัมพาต เป็นต้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับตัวชี้วัดขององค์การอนามัยโลกในการตั้งเป้าหมายสู่การลด การบริโภคโซเดียมในอาหารลงร้อยละ 30 ภายในปี 2568 ด้วยเหตุนี้ ส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับเครือข่ายลดบริโภคเค็ม และองค์การอนามัยโลก จึงร่วมกันผลักดันการลดการบริโภคเกลือหรือโซเดียมตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 8 เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือกับผู้ผลิตอาหารในการลดปริมาณเกลือหรือ โซเดียมลง โดยเน้นที่อาหารกลุ่มเสี่ยงทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ ขนมขบเคี้ยว อาหารกึ่งส�ำเร็จรูป 68
MAY 2019
Many Thais are suffering from NCDs from regularly consuming high sugar, high fat, and high sodium food. Most times, the content of the substances is above average advised in the Dietary Reference Intake (Thai DRI), especially salt or sodium in convenience foods and street foods. This causes high risks for NCDs like cardiovascular diseases, hypertension, kidney diseases, and paralysis, for instances. The statistic also matches with the index from the World Health Organization (WHO) and by 2015, WHO aims to reduce sodium consumption by 30%. Consequently, the Food and Drug Administration (Thai FDA), together with Low Salt Thailand Network and WHO are pushing for the reduction of salt and sodium consumption. This follows the 8th resolution of the National Health Assembly (NHA) that aims to find the solution to collaborate with food manufacturers to reduce the salt and sodium usage. The resolution targets 4 types of food, namely, snacks, instant/ semi-processed foods, seasonings, and chilled/frozen foods. Nonetheless, many countries have enforced measures to restrict and/or encourage voluntary reduction
NO. 53
68-72_Artice 3_Sodium RTE.indd 68
22/4/2562 BE 16:34
Convenience Foods Supplement Edition
เครื่องปรุงรส อาหารแช่เย็นและแช่เยือกแข็ง อีกทั้งยังพบว่าหลายประเทศ ได้ มี ม าตรการแบบบั ง คั บ และ/หรื อ สมั ค รใจในการลดปริ ม าณเกลื อ หรือโซเดียมในอาหารส�ำเร็จรูป (กลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน) และกลุ่ม อาหารกึ่งส�ำเร็จรูป ในประเทศไทยมีผู้ประกอบการที่ผลิตอาหารส�ำเร็จรูปเป็นจ�ำนวนมาก และมีสว่ นส�ำคัญในการช่วยปรับลดปริมาณเกลือหรือโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหาร จากผลการส�ำรวจสถานการณ์การแสดงข้อมูลบนฉลากโภชนาการ ของผลิตภัณฑ์อาหารที่มีจ�ำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงปี 2555 ของส�ำนักอาหาร อย. ร่วมกับเครือข่ายลดบริโภคเค็ม พบว่าแหล่งของโซเดียมทีป่ ระชากรไทยได้รบั จากผลิตภัณฑ์อาหารส�ำเร็จรูปที่พร้อมบริโภคมากที่สุด คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารกึง่ ส�ำเร็จรูป (บะหมี/่ ก๋วยเตีย๋ วส�ำเร็จรูป) มีคา่ เฉลีย่ อยูท่ ี่ 1,272 มิลลิกรัม ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค และกลุ่มผลิตภัณฑ์โจ๊ก/ข้าวต้มส�ำเร็จรูป มีค่าเฉลี่ย อยู่ที่ 1,269 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค (นักโภชนาการแนะน�ำว่าอาหาร มือ้ หลักควรมีปริมาณโซเดียมไม่เกิน 600 มิลลิกรัมต่อหนึง่ หน่วยบริโภค และ อาหารว่างควรมีปริมาณโซเดียมไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค) อีกทั้งอาหารส�ำเร็จรูปบางอย่างนิยมน�ำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบ อาหารด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความส�ำคัญของผู้ผลิตอาหารซึ่งมีผลต่อ การบริโภคเกลือหรือโซเดียมในอาหารของประชากรไทยเป็นอย่างมากที่จะ ต้องร่วมมือกันเพือ่ ลดการบริโภคเกลือและโซเดียมตามทีอ่ งค์การอนามัยโลก ก�ำหนดให้การลดบริโภคเกลือเป็น 1 ใน 9 เป้าหมายโลกในการควบคุมปัญหา โรคไม่ติดต่อภายในปี 2568 โดยก�ำหนดให้ลดการบริโภคเกลือและโซเดียม ของประชาชนทั่วไปให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี 2568
of the amount of salt and sodium used in convenience foods and instant/ semi-processed foods. As there are numbers of convenience food manufacturers in Thailand, they can play prominent role in reducing salt and sodium levels in food products. From the review of nutrition facts on food packaging that available in shopping malls and convenient stores in Greater Bangkok conducted by the Thai FDA and Low Salt Thailand Network in 2012, it was found that the main source of sodium consumed by Thais is ready-to-eat foods. Instant noodle contains an average index of 1,272 mg per serving, while instant congee/porridge has around 1,269 mg per serving. (Nutritionists suggest that main meal and supper meal should contain no more than 600 mg and 100 mg of sodium content per serving, respectively.) Some convenience foods are used as raw material for cooking, which further signify the important role of food producers in reducing salt and sodium consumption among Thais. They need to collaborate to reduce the consumption following WHO’s determination, in which salt reduction by 30% is 1 of the 9 global goals to control NCDs by 2025.
Public-Private Join Force to Find Less Salt Measures
Public and private sectors push for voluntary targets to reduce sodium in instant/semi-processed foods, chilled/frozen foods, seasonings, and snacks in Thailand. In order to achieve the goal, a median and voluntary target must be created and agreed upon by every party involving in the project. The criteria to reduce sodium is based on the average sodium content in particular food types, for which manufacturers should reduce by 10% every 2 years and received annual follow ups. Thai FDA’s deputy secretary-general, Dr.Poonlarp Chantavichitwong revealed that Thai FDA, joined with Low Salt Thailand Network, WHO, and the private sector including processed/convenience foods manufacturers, met to discuss about the voluntary goal to reduce sodium
MAY 2019 68-72_Artice 3_Sodium RTE.indd 69
NO. 53
69
22/4/2562 BE 16:34
Convenience Foods Supplement Edition
รวมพลังรัฐ-เอกชน ถกหามาตรการลดเค็ม ลดโรค
ภาครัฐและเอกชนร่วมกันผลักดันจัดท�ำเป้าหมายเชิงสมัครใจในการลดปริมาณ โซเดียมในอาหารส�ำเร็จรูปของไทยใน 4 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ อาหารกึ่งส�ำเร็จรูป อาหารแช่เย็น/แช่เยือกแข็ง ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส และขนมขบเคี้ยว มีแนวทาง การด�ำเนินงานโดยจัดท�ำค่ากลางและค่าเป้าหมายเชิงสมัครใจในการปรับลดปริมาณ โซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหาร 4 กลุ่ม ผ่านการเห็นชอบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดย แบ่งเป็นเกณฑ์ในการลดปริมาณโซเดียมอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยของปริมาณโซเดียม ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นั้นๆ โดยจะปรับลดร้อยละ 10 ในทุกๆ 2 ปี และมีการติดตามผล ปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์ทุกปี นพ.พู ล ลาภ ฉั น ทวิ จิ ต รวงศ์ รองเลขาธิ ก ารคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า อย. ได้รว่ มกับเครือข่ายลดบริโภคเค็ม องค์การอนามัยโลก และภาคเอกชน ซึ่งประกอบด้วย ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ประชุมหารือเพื่อจัดท�ำ เป้าหมายเชิงสมัครใจในการลดปริมาณโซเดียมในอาหาร และร่วมกันหาแนวทางหรือ มาตรการในการลดโซเดี ย มหรื อ ช่ ว ยกั น ผลั ก ดั น ให้ เ กิ ด กฎหมายหรื อ ข้ อ บั ง คั บ กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารภาคเอกชน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายลดบริโภคเกลือและโซเดียม เพื่อลดโรคไม่ติดต่อ ระดับชาติ ได้ประชุมเพื่อขับเคลื่อนโรงพยาบาลลดเค็มน้อยอร่อย (3) ดี ทั่วประเทศ 83 แห่ง พร้อมที่จะเดินหน้าเพื่อปรับลดปริมาณลดค่าปริมาณโซเดียมลง จากเดิม 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน เป็น 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจากนี้ การให้บริการอาหาร ในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งอาหาร ส�ำหรับผู้ป่วยที่มารักษาในโรงพยาบาล อาหารจากร้านค้าสวัสดิการของโรงพยาบาล หรืออาหารส�ำหรับญาติและผูท้ มี่ ารับการบริการภายในโรงพยาบาลจะต้องเป็นอาหาร ที่มีปริมาณโซเดียมต�่ำด้วย ดร. นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อ�ำนวยการส�ำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ ส�ำนักงาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สสส. ร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้ คนไทยมีสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้คนไทยบริโภคโซเดียมสูงเกินกว่าค่าก�ำหนด ขององค์การอนามัยโลกถึง 2 เท่า หรือประมาณ 4,350 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเป็นสาเหตุ ส� ำ คั ญ ของการเกิ ด โรคไม่ ติ ด ต่ อ เรื้ อ รั ง โดยเฉพาะโรคความดั น โลหิ ต สู ง โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง การบริโภคอาหารโซเดียมสูงยังเป็นปัจจัย ที่น�ำไปสู่ความเคยชินต่อรสเค็ม หรือพฤติกรรมติดเค็ม ท�ำให้บริโภคอาหารโซเดียมสูง เพิม่ ขึน้ เรือ่ ยๆ ซึง่ เป็นอุปสรรคส�ำคัญต่อการปรับลดปริมาณโซเดียม แนวทางการปรับลด ปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารที่นิยมในปัจจุบัน คือ การใช้สารทดแทนเกลือ เช่น เกลือโพแทสเซียมคลอไรด์ ซึ่งยังมีข้อจ�ำกัดบางประการ เช่น ท�ำให้เกิดรสเฝื่อน ในอาหาร หรือการใช้ในผูป้ ว่ ยทีต่ อ้ งจ�ำกัดปริมาณโพแทสเซียม ดังนัน้ การหาแนวทาง ปรับลดโซเดียมในอาหารโดยไม่ส่งผลกระทบต่อรสชาติและการยอมรับของผู้บริโภค จึงถือเป็นเป้าหมายส�ำคัญอีกทางหนึ่ง รองศาสตราจารย์ นพ.เกรี ย งศั ก ดิ์ วารี แ สงทิ พ ย์ นายกสมาคมโรคไตแห่ ง ประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์โรคไตในปัจจุบันก�ำลังเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก ปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ย�้ำให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน และประกาศให้มีการขับเคลื่อน นโยบายลดเกลือและโซเดียมแห่งชาติตั้งแต่ปี 2560 มีหลายประเทศทั่วโลกที่ออก มาตรการเก็บภาษีเกลือออกมาแล้ว เนื่องจากไม่สามารถปรับลดปริมาณโซเดียมใน อาหารลงได้ หรือไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิต ได้แก่ บริษัท ร้านค้า กลุ่ม ฟาสต์ฟู้ดส์ต่างๆ ส�ำหรับในประเทศไทยยังอาศัยการเจรจาพูดคุยระหว่างภาครัฐกับ เอกชนตามความสมัครใจ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีการผลิตผลิตภัณฑ์ ลดโซเดียมหรืออาหารลดโซเดียมออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาส�ำคัญ อยูท่ พี่ ฤติกรรมของผูบ้ ริโภคทีจ่ ะต้องสร้างการรับรูอ้ ย่างสม�ำ่ เสมอให้มกี ารเปลีย่ นแปลง 70
MAY 2019
NO. 53
68-72_Artice 3_Sodium RTE.indd 70
content in foods, and find the conclusion about the role of food manufacturers. The team also works together to find the solution or measures to reduce sodium and encourage the enforcement of laws or regulations on private food enterprises. Dr.Surasak Kantachuvesiri, Chairman of the Low Salt Thailand Network stated that the National Committee on the reduction of Salt and Sodium Consumption to curb NCDs held a meeting to call 83 hospitals nationwide to reduce salt content under the project “Lod Khem Noi Aroi (3) Dee”. The group aims to reduce sodium content from 2,400 mg per day to 2,000 mg per day, and all the food in central hospitals and general hospitals overseen by the MOPH - including food for the in-patient and food available in canteen - must be low sodium. Dr.Pairoj Saonuam, Director of the Promotion of Health Lifestyle Section, Thai Health Promotion Foundation, reiterated that ThaiHealth is working with every stakeholder to improve the health among Thais, but many are still consuming sodium 2 times higher than the amount advised by the WHO - 4,350 mg per day. This is the prominent cause for NCDs, especially hypertension, kidney diseases, cardiovascular disease, and cerebrovascular disorders. Not only that, people get used to consuming high sodium food, which eventually leads to gradual increase of salt content. The familiarity makes it difficult to reduce salt. One popular method used by manufacturers is to use salt substitution such as potassium chloride salt, but the substance sometimes creates unpalatable in food and is restricted from using in patients who need to limit potassium consumption. Therefore, finding the solution to reduce sodium content, while maintaining the deliciousness of the food and acceptance from consumers becomes another important goal. Associate Professor Dr.Kriangsak Wareesaengthip, President of the Nephrology Society of Thailand, said that kidney disease is a global issue. In Thailand, the national policy to reduce salt and sodium has been pushed since 2017 and we’ve seen many countries developed the procedure to collect salt tax as they fail to reduce sodium content in food or lack the participation from food manufacturers such as shops, companies, and fast food services. Thailand relies on the voluntary negotiation between the public and the private sectors, which received good response as manufacturers constantly produce low-sodium food and food with less sodium content. However, the main problem remains the consumers behaviours. Here, an awareness must be created to embolden changes in how Thais consume food, because eating spicy food will make it hard to switch to average-taste food. WHO Representative to Thailand, Dr.Daniel Kertesz, said that the reduction of salt consumption among population is important, and is an efficient way to leverage the health of the global population. Therefore, WHO encourages people to consume only 5 g of salt per day, or 1 teaspoon per day, following measures conducted on evidence-based practice. Thai people consume salt and sodium nearly twice as much of the figure advised by the WHO, and more Thais are continuously suffering from hypertension. Hypertension is a risk factor for heart and cardiovascular diseases, which are the cause of death of nearly 30% in Thailand. Reformulation of convenience foods to reduce salt content is important to reduce salt consumption among Thai people. The less salt measure will be an effective strategy, which works in many countries, to protect the health of the global population.
22/4/2562 BE 16:34
Convenience Foods Supplement Edition
แนวทางการรับประทานอาหาร จากรสชาติอาหารจัดจ้านให้เปลี่ยนมาเป็นรสชาติ อาหารที่มีความพอดีให้ได้ ดร.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผูแ้ ทนองค์การอนามัยโลกประจ�ำประเทศไทย กล่าวว่า การลดบริโภคเกลือในประชากรมีความส�ำคัญ และมีความคุ้มค่าในการท�ำให้ สุขภาพของประชากรทั่วโลกดีขึ้น องค์การอนามัยโลกได้ส่งเสริมให้ทุกประเทศ ลดการบริโภคเกลือในประชากรให้เหลือ 5 กรัมต่อวัน หรือ 1 ช้อนชาต่อวัน โดยยึด รูปแบบวิธีการจัดการปัญหาตามหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งการบริโภคเกลือของ ประชากรไทยสูงเกือบ 2 เท่า ของระดับที่องค์การอนามัยโลกแนะน�ำ ปัจจุบัน ประชากรไทยเป็นโรคความดันโลหิตสูงและมีแนวโน้มเพิม่ มากขึน้ ซึง่ โรคความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส�ำคัญส�ำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของ การตายเกือบร้อยละ 30 ของการเสียชีวิตทั้งหมดในประเทศไทย ดังนั้น การปรับ สูตรอาหารส�ำเร็จรูปให้ลดปริมาณเกลือลงจึงเป็นมาตรการส�ำคัญทีจ่ ะช่วยลดการบริโภคเกลือในประชากรไทย ส่วนการปรับสูตรอาหารลดโซเดียมจะเป็นยุทธศาสตร์ ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งใช้ได้ผลแล้วในหลายๆ ประเทศทั่วโลก เพื่อที่จะช่วยรักษา สุขภาพของประชากรของตนไว้อย่างถ้วนหน้า
ความส�ำเร็จของเครือข่ายลดบริโภคเค็ม ปี 2561
ในปี 2561 เครือข่ายลดบริโภคเค็ม ร่วมกับ สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย และส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เผยความส�ำเร็จ ในการลดบริโภคเค็มและการขับเคลื่อนนโยบายลดเกลือและโซเดียมแห่งชาติ ประจ�ำปี 2561 พร้อมสรุปความส�ำเร็จของนักวิจยั ไทยกับผลงานวิจยั รวม 6 โครงการ และเปิดตัวคลิปภาพยนตร์สนั้ รณรงค์ลดเค็ม เรือ่ ง “The Ingredients: มือ้ พิ(ษ)เศษ” ทั้งยังมีการมอบรางวัลให้แก่องค์กรภาครัฐและเอกชนด้านอุตสาหกรรมอาหารที่มี
“
The WHO’s policy to encourage countries to decrease salt consumption among their citizen to 5g. a day to ensure better health.
”
The Success of Low Salt Thailand Network in 2018
In 2018, Low Salt Thailand Network, The Nephrology Society of Thailand, and Thai Health Promotion Foundation (ThaiHealth) publicly declared their success in reducing the consumption of salty food and the success of the national policy to reduce salt and sodium content. They also celebrated the success of Thai researchers in 6 projects and launched a short film “The Ingredients: Special (Toxic) Meal”, as well as handed out awards for organizations in the public and the private sectors for taking part in reducing sodium consumption among Thais. Dr.Surasak said that the cooperation to urge manufacturers to reduce sodium content, there were 68 companies took part; 50 beverage manufacturers, 3 seasonings manufacturers,
MAY 2019 68-72_Artice 3_Sodium RTE.indd 71
NO. 53
71
22/4/2562 BE 16:35
Convenience Foods Supplement Edition
ส่วนช่วยในการลดการบริโภคโซเดียมของคนไทย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า จากการร่วมกันผลักดันให้ บริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารในท้องตลาดและจ�ำหน่ายในท้องตลาดมี การปรับเปลี่ยนฉลากเพื่อลดโซเดียม จนถึงปัจจุบันมีบริษัทจ�ำนวน 68 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทเครื่องดื่ม 50 บริษัท บริษัทเครื่องปรุงรส 3 บริษัท บริษัทผลิตภัณฑ์นม 7 บริษัท กลุ่มอาหารกึ่งส�ำเร็จรูป 4 บริษัท กลุม่ ขนมขบเคีย้ ว 3 บริษทั กลุม่ ไอศกรีม 1 บริษทั นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ ที่เปลี่ยนฉลากและจ�ำหน่ายในท้องตลาดแล้วทั้งหมด 250 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์เครือ่ งดืม่ 193 ผลิตภัณฑ์ กลุม่ อาหารกึง่ ส�ำเร็จรูป 10 ผลิตภัณฑ์ กลุ่มขนมขบเคี้ยว 5 ผลิตภัณฑ์ กลุ่มไอศกรีม 8 ผลิตภัณฑ์ กลุ่มเครื่องปรุงรส 7 ผลิตภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์นม 27 ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ อย. ได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการผลิตอาหารที่ลดหวาน มัน เค็ม ติดฉลาก “ทางเลือกสุขภาพ” เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือก ในการบริโภคอาหารที่เหมาะกับสุขภาพของตนเอง โดยมีผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านการรับรองแล้วทั้งสิ้น 633 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็นกลุ่มอาหารมื้อหลัก 10 ผลิตภัณฑ์ เครื่องปรุงรส 12 ผลิตภัณฑ์ อาหารกึ่งส�ำเร็จรูป (บะหมี่ และโจ๊ก) 22 ผลิตภัณฑ์ ขนมขบเคี้ยว 30 ผลิตภัณฑ์ กลุ่มเครื่องดื่ม 458 ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์นม 81 ผลิตภัณฑ์ และไอศกรีม 20 ผลิตภัณฑ์ ส�ำหรับงานวิจยั ของเครือข่ายลดบริโภคเค็มในปี 2561 ส่วนใหญ่เป็น งานวิจัยที่ต่อยอดและพัฒนาจากงานวิจัยเดิม เพื่อพัฒนาให้งานวิจัย เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและสังคมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย 6 โครงการเด่น ได้แก่ 1. โครงการวิจยั การผลิตเครือ่ งตรวจสอบความเค็มในตัวอย่างอาหาร และปัสสาวะ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพของประชาชนทั่วไป 2. โครงการวิจยั Food Safety Forum: ลดเกลือโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารส�ำเร็จรูป 3. โครงการวิจยั ต้นแบบผลิตภัณฑ์เกลือลดโซเดียม: การใช้ประโยชน์ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ 4. โครงการวิจัยการศึกษาปริมาณโซเดียมและโซเดียมคลอไรด์ ในอาหารบาทวิถี (Street foods) 5. โครงการวิจัยการพัฒนาคุณภาพปลาร้าและผลิตภัณฑ์ปลาร้า ทางเลือกตามภูมิปัญญาท้องถิ่น 6. โครงการวิจัยการทดสอบความแม่นย�ำของเครื่องตรวจปริมาณ เกลือในตัวอย่างอาหารและปัสสาวะเพื่อประเมินการบริโภคเกลือในคน และการประยุกต์ใช้เพื่อช่วยลดการบริโภคเกลือในประชากร ทั้งนี้ รางวัลประเภทองค์กรดีเด่นด้านช่วยสนับสนุนการลดบริโภค โซเดียม มี 3 รางวัล ได้แก่ 1. วิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจการอาหารไทย และนานาชาติ 2. บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จ�ำกัด และ 3. กรมวิทยาศาสตร์บริการ ส� ำ หรั บ รางวั ล องค์ ก รดี เ ด่ น ด้ า นสร้ า งสรรค์ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ สุ ข ภาพ (ลดโซเดียม) มี 10 รางวัล ได้แก่ 1. บริษัท ซีพี ออลล์ จ�ำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ริชชี่ ไรซ์ โปรดักส์ จ�ำกัด 3. บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จ�ำกัด (มหาชน) 4. บริษัท นอติลุสฟู้ด (ประเทศไทย) จ�ำกัด 5. บริษัท เค.เอส. เอฟ ฟู้ดส์โปรดักส์ จ�ำกัด 6. บริษัท ไทยรสทิพย์ จ�ำกัด 7. บริษัท Tasty Treasure จ�ำกัด 8. บริษัท อกริ โพรเซสซิ่ง อินดัสทรี จ�ำกัด 9. บริษัท อาหารเบทเทอร์ จ�ำกัด และ 10. บริษัท ลีนมิลออลคลีน จ�ำกัด 72
MAY 2019
“
The less salt measure will be an effective strategy, which works in many countries, to protect the health of the global population.
”
7 dairy manufacturers, 4 instant/semi-processed foods manufactures, 3 snacks manufacturers, and 1 ice-cream manufacturer. Furthermore, there is the change of label in 250 available products; 193 beverages, 10 instant/ semi-processed foods, 5 snacks, 8 ice-creams, 7 seasonings, and 27 dairy products. Furthermore, the Thai FDA also emboldens food enterprises to adopt “healthier logo” tag onto their products after reducing sugar, fat, and salt in their formulation, in order to inform consumers about additional choices they have when choosing appropriate food for their health. Now, 633 products were authorized; 10 main dishes, 12 seasonings, 22 instant/semi-processed foods (noodle and porridge), 30 snacks, 458 beverages, 81 dairy products, and 20 ice creams. Meanwhile, Low Salt Thailand Network’s researches conducted in 2018 are mostly secondary and developed on previous studies with the intention to practically apply existing knowledge to consumers and society. These researchers are; 1. Research on the production of CHEM meter for food samples and urine to reduce health risks among the public 2. Research on food safety forum: sodium reduction in convenience foods 3. Research on low-sodium salt prototype: commercial use and technology transfer 4. Research on sodium and sodium chloride level in street foods 5. Research on the quality development of fermented fish (Plaa-Raa) and optional fermented fish from local wisdom 6. Research on the accuracy of CHEM meter when used for food samples and urines to evaluate the salt consumption in human and the function to reduce salt among the population What’s more, in 2018, the Low Salt Thailand Network handed out 2 types of award prizes; (1) excellent organizations in promoting the reduction of salt and sodium consumption, and (2) excellent organizations in creating healthy products (low-sodium). The first category went to 1. Thai & International Food Technological College (TIFTEC) 2. Toyota Daihatsu Engineering & Manufacturing Co., Ltd. (TDEM), and 3. Department of Science Service (DSS). For excellent organizations in creating healthy products (low-sodium), 10 prizes were awarded to 1. CP All Public Company Limited; 2. Richy Rice Products Co., Ltd.; 3. S&P Syndicate Public Company Limited; 4. Nautilus Food (Thailand) Limited; 5. K.S.F Foods Products Co., Ltd.; 6. Thai Rosthip Co., Ltd.; 7. Tasty Treasure Co., Ltd.; 8. Agri Processing Industry Co., Ltd.; 9. Better Foods Co., Ltd.; and 10. Lean Mill All Clean Co., Ltd.
NO. 53
68-72_Artice 3_Sodium RTE.indd 72
22/4/2562 BE 16:35
CHECK & DETECT SYSTEMS FOR THE FOOD, PHARMACEUTICAL & PACKAGING INDUSTRIES Metal Detection Systems
LOMA’S IQ4 Metal Detection Series- used for the detection of metal contaminants within the Food, Pharmaceutical and Packaging Industries
Visit us at : Booth No. AE39 Hall 98
RELIABLE DETECTION PERFORMANCE • New product screen, new mechanics, variable frequency technology 31 to 882 KHZ
ROBUST “DESIGN TO SURVIVE” • Proven ultra-harsh mechanics, an improved lip and screen with new sealing arrangement provides “beyond” IP69K rating, hygienic and easy to clean
MODERN & INTUITIVE • New 7” colour touchscreen, a crisp and freshened up UI and enhanced functionality help deliver a much-improved user experience
X-ray Inspection Systems LOMA’s X5 X-ray Systems come complete with full colour touchscreen and multi-level password access storing data logged events for traceability
Checkweighing Combination Systems
LOMA’s CW3 Checkweighing Systems provide in-line dynamic checkweighing capabilities in a compact package. They are designed to help reduce product give-away and save you money.
ALLIANCE TECHNOLOGY CO., LTD.
2/1 Soi Ramkhamhaeng 164, Khwaeng Minburi, Khet Minburi, Bangkok 10510 Thailand Website: www.atech.co.th E-mail: sales@atech.co.th Facebook: Alliance Technology Co., Ltd. Telephone: 0 2117 3465, 0 2117 3467 ad_Alliance.indd 3
23/4/2562 BE 17:23
นิพัฒน์ ลิ้มสงวน Nipat Limsangouan
Researcher Senior Professional Level Department of Food Processing and Preservation Institute of Food Research and Product Development (IFRPD) Kasetsart University ifrnpl@ku.ac.th
Innovations in Food Processing and Preservation Techniques
นวัตกรรมของเทคโนโลยีในกระบวนการแปรรูปและถนอมอาหาร High Pressure Processing
กระบวนการใช้ความดันสูงในการแปรรูปหรือถนอมอาหารเป็นกระบวนการหนึ่งที่มีการศึกษาและน�ำมาประยุกต์ใช้กับอาหารเป็นเวลานานกว่า ศตวรรษแล้ว และในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อาหารที่ผลิตและแปรรูปโดยใช้ กระบวนการนี้ประสบผลส�ำเร็จทางการค้ามากมาย โดยเฉพาะในประเทศ ญีป่ นุ่ ซึง่ เป็นประเทศเริม่ แรกในการวิจยั และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากการใช้ ความดันสูงเพื่อให้มีความหลากหลายมากขึ้น และกระตุ้นให้มีการผลิตให้ แพร่หลายขึน้ ในหลายๆ ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรัง่ เศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี และสวีเดน กระบวนการใช้ความดันสูงในการแปรรูปและถนอมอาหารนั้นจะต้องใช้ ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์หลายแขนงมาประกอบกัน ซึ่งรวมทั้งด้านเคมี ด้านจุลนิ ทรีย์ และด้านวิศวกรรม (Ledward และคณะ, 1995) เพือ่ ให้สามารถ น�ำวิธกี ารเหล่านีม้ าใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และท�ำให้อาหารมีความปลอดภัย ปัจจุบันมีการน�ำกระบวนการใช้ความดันสูงมาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ อาหารบางชนิดและให้ผลดี สามารถน�ำมาผลิตและจ�ำหน่ายทางการค้าได้ เช่น อาหารประเภทกรด อาทิ แยม เครื่องดื่มน�้ำผลไม้ และโยเกิร์ต เป็นต้น ส�ำหรับข้อดีของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการนี้ คือ จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงคุณภาพจากเดิม จึงท�ำให้ยังคงรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้ แม้วา่ กระบวนการใช้ความดันสูงนัน้ จะต้องใช้งบประมาณเริม่ ต้นในการลงทุน ค่อนข้างสูง แต่จะให้ผลตอบแทนคุ้มค่าในระยะยาว อีกทั้งเป็นเทคโนโลยี สะอาด ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีการใช้ความดันสูง เริ่มต้นมาจากการใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเซรามิก เหล็ก และซูเปอร์74
MAY 2019
High Pressure Processing
High pressure processing is a food-processing and preservation technique that has been studied and applied to food for many centuries. Many modern-day food products manufactured and processed via this method are met with commercial success, especially in Japan, which was that first country that pioneered the research and development of high pressure food processing in order to allow for a higher level of variety and to encourage the application of such method in food production in other countries such as USA, France, UK, Germany, and Sweden. High pressure processing requires a combination of multiple scientific disciplines, including chemistry, microbiology, and engineering (Ledward, et al., 1955), to ensure its effective application and food safety. High pressure processing is presently used on certain types of foods such as acid foods like jam, fruit juice, and yogurt. The technique has yielded optimal results that further facilitate commercial manufacturing and successes thereof. The upside of this method is that the obtained food quality remains unchanged with its nutritional value unaffected. Although the high pressure processing requires a relatively high amount of initial investment, it yields worthwhile long-term returns, not to mention the fact that it is a clean and environmentally friendly technology. The high pressure processing saw its first use in the ceramic, iron, and super alloy industries before subsequently being extended to the food industry. The effects of high pressure on microorganisms have been studied since the 20th century. In 1899, a research journal concerning the use of high pressure to prolong the shelf-life of milk was published. Fifteen years later, a research conducted in France on its effect on bacteria revealed that the use of high pressure of 600 MPa can eliminate
NO. 53
74-78_Artice 4_HPP &Ohmic.indd 74
22/4/2562 BE 16:25
Convenience Foods Supplement Edition
อัลลอยด์ และเริ่มมีการน�ำมาใช้กับอุตสาหกรรมอาหารในภายหลัง มีการศึกษาผลของความดันสูงต่อจุลินทรีย์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ซึ่งในปี ค.ศ. 1899 มีการตีพิมพ์วารสารงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ความดันเพื่อยืดอายุการเก็บ รักษาน�้ำนม และหลังจากนั้น 15 ปี มีการศึกษาวิจัยฝรั่งเศสเรื่องผลของความดันสูง ต่อแบคทีเรีย โดยพบว่าการใช้ความดันสูง 600 เมกะปาสคาล สามารถท�ำลาย เซลล์จลุ นิ ทรียป์ กติ (Vegetative cells) ได้ ต่อมาในปี ค.ศ.1914 นักวิจยั ชาวอเมริกนั ชื่อ Bridgeman ศึกษาผลของความดันสูงต่อการตกตะกอนโปรตีน จากผลงาน ดังกล่าวท�ำให้เขาได้รับรางวัลโนเบล อย่างไรก็ตาม งานวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี การใช้ความดันสูงยังไม่เป็นที่น่าสนใจมากนักจนกระทั่งในช่วงปี ค.ศ.1980 จึงเริม่ มีการวิจยั การใช้เทคโนโลยีนอี้ กี ครัง้ หนึง่ ในสหรัฐอเมริกา ญีป่ นุ่ และประเทศ ในยุโรป และมีการวางจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการแปรรูปโดยการใช้ความดัน เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1990 (Earnshaw,1996) การใช้ความดันสูงในกระบวนการแปรรูปอาหารนั้นมีนักวิจัยหลายท่านที่ให้ ค�ำจ�ำกัดความและก�ำหนดช่วงของความดันที่ใช้แตกต่างกันออกไป เช่น เป็น กระบวนการที่ให้ความดันสูงแก่อาหารที่อุณหภูมิปกติหรืออุณหภูมิห้องในช่วง 4,000-9,000 atm (Potakamury และคณะ, 1995) หรือ 100-1,000 MPa (Ledward, 1995; Earnshaw, 1996) หรือ 100-600 MPa (Mertens, 1995) หรือ 100-800 MPa (Farkas and Hoover, 2000) มีการใช้น�้ำเป็นตัวกลางในการผ่าน ความดันให้แก่อาหาร (Pressurizing medium) เนื่องจากสะดวกและปลอดภัย ส�ำหรับอาหาร หรืออาจใช้แก๊สเป็นตัวกลางได้เช่นเดียวกัน (ในสภาวะความดัน น้อยกว่า 50 MPa) แต่การใช้แก๊สไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากอาจท�ำให้เกิดพลังงาน ที่ สู ง เกิ น ไป และเกิ ด ปั ญ หาเกี่ ย วกั บ ความปลอดภั ย ในเรื่ อ งการระเบิ ด ของ ถังความดันได้ ส�ำหรับน�้ำที่ใช้เป็นตัวกลางนั้นจะมีปริมาตรลดลงเพียงเล็กน้อย
vegetative cells. In 1914, Bridgeman, an American researcher, studied the effect of high pressure on protein coagulation, which consequently earned him a Nobel Prize. The application of high pressure; nevertheless, did not become the focus of wider attention until 1980 in which research attempts on this technology were resumed in USA, Japan, and Europe, in addition to the first-ever commercialization of the products processed by means of high pressure processing in Japan in 1990 (Earnshaw, 1996). The pressure ranges for food processing may vary as they are determined differently by each researcher. To illustrate, high pressure can be applied to foods at room temperature within the ranges of 4,000-9,000 atm (Potakamury, et al., 1995), 100-1,000 MPa (Ledward, 1995; Earnshaw, 1996), 100-600 MPa (Mertens, 1995), or 100-800 MPa (Farkas and Hoover, 2000). Water functions as a pressurizing medium as it is safer and more convenient for foods. Gas can also act as an alternative medium (in a state with pressure lower than 50 MPa), but it is not a popular choice because it can generate an excessive level of energy and may compromise the overall safety due to possible explosion of pressure tanks. The volume of water is minimally reduced by the high pressure during which the water retains much less energy than other types of medium, hence reduced risks of explosion. Liquid foods can be placed in pressure tanks and then undergo the pressurization directly. Solid or semi-solid foods; however, shall first be put in flexible containers which are then placed in the liquid medium inside pressure tanks before the activation of the pressurization with predetermined pressure levels. High pressurization is a non-thermal food processing technique that generates very little to no heat. The work is caused by the compression during the pressurization, as known as adiabatic heat, which can elevate the food temperature by 3 °C per 100 MPa.
MAY 2019 74-78_Artice 4_HPP &Ohmic.indd 75
NO. 53
75
22/4/2562 BE 16:25
Convenience Foods Supplement Edition
หลังจากให้ความดันสูงแก่อาหาร และขณะให้ความดัน น�้ำจะช่วยเก็บพลังงานไว้ น้อยกว่ามาก จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการระเบิดได้ ในส่วนของอาหาร ที่ มี ลั ก ษณะเป็ น ของเหลวสามารถน� ำ มาใส่ ใ นถั ง ความดั น และให้ ค วามดั น ได้โดยตรง ในกรณีทอี่ าหารมีลกั ษณะเป็นของแข็งหรือของแข็งผสมของเหลวอาจ น�ำมาบรรจุในภาชนะบรรจุทอี่ อ่ นตัว (Flexible containers) และจุม่ ลงในของเหลว ที่เป็นตัวกลางในถังความดัน แล้วจึงให้ความดันจนถึงระดับที่ก�ำหนดไว้ได้ การใช้ความดันสูงในการแปรรูปอาหารจัดเป็นกระบวนการแปรรูปทีไ่ ม่ทำ� ให้ เกิดความร้อน (Non-thermal Process) หรือเกิดความร้อนขึ้นน้อยมาก ซึ่ง ความร้อนหรืองาน (work) ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากการกดอัดในระหว่างการให้ ความดัน (Pressurization) หรือที่เรียกว่า Adiabatic heat ซึ่งจะท�ำให้อุณหภูมิ ของอาหารเพิ่มขึ้นประมาณ 3 °C ต่อ 100 MPa ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ ของอาหารด้วย แต่ความร้อนทีเ่ กิดขึน้ นีจ้ ะหายไปทันทีทลี่ ดความดันจนถึงระดับ ความดันบรรยากาศปกติ (Farkas and Hoover, 2000) ข้อดีของกระบวนการนี้ คือ ไม่ทำ� ให้เกิดความร้อน ซึง่ ส่งผลให้คณ ุ ภาพอาหาร เกิดการเปลีย่ นแปลงเพียงเล็กน้อย แต่สามารถท�ำลายหรือยับยัง้ จุลนิ ทรียท์ ที่ ำ� ให้ เกิดโรคและจุลินทรีย์ที่ท�ำให้อาหารเกิดการเสื่อมเสียได้ดี รวมทั้งช่วยยับยั้ง เอนไซม์ ท�ำให้สามารถใช้ผลิตอาหารที่มีคุณภาพสูงได้ กระบวนการนี้จึงได้รับ ความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (Barbosa-Canovas และคณะ,1998) Knorr และ Heinz (2001) พบว่าการใช้ความดันสูงในการแปรรูป สามารถ ท�ำลายเซลล์ของจุลินทรีย์ รวมทั้งยับยั้งการท�ำงานของเอนไซม์ในจุลินทรีย์ จึงมีผลท�ำให้จุลินทรีย์ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาถึง ผลของการใช้ความดันในการยับยั้งการเจริญของสปอร์แบคทีเรีย (Margosch และคณะ, 2004) และไวรัส (Koutchma และคณะ, 2005) อีกด้วย Ohmic Heating
Variations, however, may occur depending on food’s components. The generated work will immediately dissipate as soon as the pressure returns to normal. (Farkas and Hoover, 2000) The advantage of this technique is it doesn’t generate heat, thus minimally affecting food quality while, at the same time, eliminating or inhibiting microorganisms both pathogenic bacteria and food spoilage bacteria. In addition, enzymes are inhibited during this process, which allows for a production of high-quality foods. These are the reasons why this method has gradually become more popular (Barbosa-Canovas, et al., 1998). Knorr and Heinz (2001) found that the use of high pressurization in food processing can destroy cells and inhibit enzymes of microorganisms, hence the inhibition of microbial growth. The studies on the inhibiting effects of high pressurization on the growth of bacterial spores (Margosch, et al., 2004) and viruses (Koutchma, et al., 2005) were also conducted.
การให้ความร้อนแบบโอห์มมิก คือ การให้ความร้อนจากความต้านทานไฟฟ้าของ Ohmic Heating อาหาร (Electrical resistance heating) เนือ่ งจากการถ่ายเทความร้อนโดยการน�ำ Ohmic heating is an electrical resistance heating technique. The heat ความร้อนในการสเตอริไลส์อาหารเหลวที่มีชิ้นอาหารที่เป็นของแข็งอยู่ด้วยนั้นมี transfer by thermal conduction in the sterilization of liquid foods solid has certain limitations. So, the heating process that ข้อจ�ำกัด ดังนัน้ วิธกี ารท�ำให้เกิดความร้อนทีถ่ กู สร้างขึน้ จากภายในตัวอาหารเอง containing relies on volumetric techniques can, to a certain extent, bypass those (Volumetric techniques) จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจาก obstacles. Thanks to the electrical resistance in foods, the transmitted อาหารมีความต้านทานไฟฟ้า การส่งผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปในอาหารจะท�ำให้ electrical current will evenly generate heat in every part of the targeted foods. เกิดความร้อนขึ้นทั่วทุกส่วนของอาหารอย่างสม�่ำเสมอ Ohmic heating is based on the induction heating that derives ลักษณะการให้ความร้อนแบบโอห์มมิก คือ การเหนีย่ วน�ำท�ำให้เกิดความร้อน from food’s electrical resistance where a direct contact between จากความต้านทานไฟฟ้าของอาหาร โดยใช้อิเล็กโทรดสัมผัสกับอาหารโดยตรง electrodes and food is established (a method different from heating induction by microwave which requires no physical contact between (ซึ่งจะแตกต่างกับการให้ความร้อนจากไมโครเวฟ เนื่องจากอาหารจะไม่สัมผัส the two components). The principles of ohmic heating can be กับอุปกรณ์) ส�ำหรับหลักการของการท�ำให้เกิดความร้อนแบบโอห์มมิก เมื่อผ่าน described that electrical current passes through food and induces กระแสไฟฟ้าไปยังอาหาร จะท�ำให้เกิดความร้อนขึ้น โดยทั่วไปกระแสไฟฟ้าที่ใช้ heat. Generally, low frequency alternating current of 50-60 Hz is applied and transmitted from specially designed and produced เป็นกระแสไฟฟ้าสลับความถีต่ ำ�่ (Low frequency alternating current) ประมาณ electrodes to food without causing the contamination by any 50-60 Hz โดยจะส่งกระแสไฟฟ้าผ่านจากอิเล็กโทรดที่ถูกออกแบบและผลิตขึ้น substances that are involved in the process. Other benefits include reduction of chemical reaction and lower cost when compared เฉพาะไปยังอาหาร ซึ่งจะไม่เกิดการปนเปื้อนจากสารที่ใช้ท�ำลงไปยังอาหาร the to other methods. When the electrical current comes into contact รวมทั้งช่วยลดปฏิกิริยาทางเคมี และช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการแปรรูป with the food containing solid and liquid phases, heat is induced due อาหารโดยวิธกี ารอืน่ เมือ่ อาหารทีป่ ระกอบด้วยส่วนทีเ่ ป็นของแข็งและของเหลว to the food’s electrical resistance. If the solid and liquid phases of food have equal electrical resistance, their rates of heat generation สัมผัสกับกระแสไฟฟ้าจะท�ำให้อาหารนั้นร้อนขึ้นเนื่องจากความต้านทานไฟฟ้า the will also be similar. ของอาหาร และถ้าอาหารทั้งสองเฟส (ของแข็งและของเหลว) มีความต้านทาน There was an experiment that compared the rates in which heat was generated in food, either in solid or liquid phases, through ไฟฟ้าเท่ากันจะท�ำให้อัตราการเกิดความร้อนเท่ากัน conventional and ohmic heating processes, it was found that the จากการทดลองเปรียบเทียบอัตราการเกิดความร้อนในอาหาร ทั้งในส่วน temperature of the solid phase undergoing conventional heating rose ที่เป็นของแข็งและของเหลว ระหว่างกระบวนการให้ความร้อนแบบดั้งเดิม more slowly than that of its liquid counterpart. In ohmic heating, the 76
MAY 2019
NO. 53
74-78_Artice 4_HPP &Ohmic.indd 76
22/4/2562 BE 16:26
Convenience Foods Supplement Edition
(Conventional) และแบบโอห์มมิก พบว่าอุณหภูมิของชิ้นอาหารที่เป็น ของแข็งซึ่งได้รับการให้ความร้อนแบบดั้งเดิมจะเพิ่มขึ้นช้ากว่าอุณหภูมิของ ส่วนที่เป็นของเหลว ในขณะที่กระบวนการให้ความร้อนแบบโอห์มมิกนั้น อุณหภูมิของส่วนที่เป็นของชิ้นอาหารที่เป็นของแข็งจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าใน ส่วนทีเ่ ป็นของเหลว ดังนัน้ จึงสามารถน�ำหลักการนีไ้ ปใช้ในการฆ่าเชือ้ อาหาร ที่เป็นของเหลวในอุตสาหกรรมอาหาร ในปัจจุบันได้มีการตรวจสอบและ พิจารณาในเรื่องต่างๆ ทั้งกระบวนการและความปลอดภัย เช่น 1. การออกแบบเกี่ยวกับระบบการใช้ไฟฟ้า เพื่อหลีกเลี่ยงการแก้ปัญหา การเกิดการแยกน�้ำจากกระแสไฟฟ้า (Electrolysis) และการป้องกันการปนเปื้อนของสารที่มาจากการกัดกร่อนของอิเล็กโทรด หรือการป้องกันการปนเปื้อนจากอาหารที่เกิดการไหม้ในบริเวณบางจุดที่มีชิ้นอาหารอยู่ด้วยได้ โดยจัดเป็นกระบวนการ High Temperature Short Time (HTST) กระบวนการหนึ่ง การท�ำให้เกิดความร้อนโดยการใช้กระแสไฟฟ้าถูกคิดค้นขึ้นเพื่อใช้ ในการพาสเจอร์ไรส์อาหารตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1930 โดยมีการประยุกต์ใช้ ในการละลายอาหารแช่เยือกแข็ง (Thawing) และการอบ (Baking) ซึ่งก่อนที่ กระบวนการนี้จะได้รับการยอมรับ และน�ำมาใช้ระดับอุตสาหกรรม 2. ประสิทธิภาพในการควบคุมการท�ำให้เกิดความร้อนและอัตราการไหล ของอาหาร 3. การใช้เทคนิคการบรรจุอาหารแบบปลอดเชือ้ ซึง่ ใช้ในการบรรจุอาหาร ทั้งแบบของเหลวและของแข็ง 4. ประสิทธิภาพในการประหยัดต้นทุนของกระบวนการฆ่าเชื้อแบบ โอห์มมิก ซึ่งใช้กระแสไฟฟ้าในการฆ่าเชื้อในอาหาร ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้
temperature of the solid phase increased faster than that of the liquid phase. Therefore, this principle can industrially be applied in the elimination of all living microorganisms in liquid foods. Currently, various aspects need to be considered and checked in order to ensure safety and effective procedures as follows: 1. Electrical system must be designed to avoid problems arising from electrolysis, to prevent the contamination by any substances deriving from the corrosion of electrodes, or to prevent the contamination by partially burned foods. This can be classified as a High Temperature Short Time process (HTST). The induction of heat by means of electricity was invented in order to pasteurize food since 1930. It was applied in the thawing process of frozen food and baking before being widely accepted and used on the industrial level. 2. The effectiveness in controlling the heat induction and the flow rate of food. 3. The application of aseptic food packaging techniques applied to both solid and liquid phases of food. 4. The effectiveness of cost saving of the ohmic processing that relies on electrical current to eliminate microorganisms in foods. This method was previously found to be unsuccessful since direct current was used, thus causing electrolysis on electrodes. Such method required expensive electrodes. The current method, on the other hand, has eliminated such disadvantage thanks to the company1 that improved and developed a germ-eliminating system by means of alternating current heat inductor, which helped reduce cost and make the technique more commercially viable. (Parrott, 1992) Ohmic heating can generate thermal sterilization in liquid foods containing solid phase of up to 60%, with an approximate heating rate of 1 °C per second. This method can eliminate living microorganisms in liquid foods with large solid particles (such as
MAY 2019 74-78_Artice 4_HPP &Ohmic.indd 77
NO. 53
77
22/4/2562 BE 16:26
Convenience Foods Supplement Edition
พบว่าไม่ประสบความส�ำเร็จ เนื่องจากแต่เดิมใช้ไฟฟ้ากระแสตรงจากแหล่งไฟฟ้าท�ำให้ เกิดปฏิกริ ยิ าอิเล็กโตรไลซิสบนอิเล็กโทรด ซึง่ ต้องใช้อเิ ล็กโทรดทีม่ รี าคาสูง แต่ในปัจจุบนั ข้อเสียดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยบริษัทแห่งหนึ่ง1 ได้ปรับปรุงและพัฒนาระบบการฆ่าเชือ้ ด้วยเครือ่ งให้ความร้อนด้วยกระแสไฟฟ้าสลับ เพือ่ ลดต้นทุนและสามารถน�ำไปใช้ ในทางการค้าได้ (Parrott, 1992) กระบวนการให้ความร้อนแบบโอห์มมิกนี้ีสามารถให้ความร้อนแบบสเตอริไลส์ ในอาหารเหลวที่มีปริมาณชิ้นอาหารแข็งอยู่มากถึงร้อยละ 60 ได้ โดยมีอัตราการเพิ่ม ของอุณหภูมิในการให้ความร้อนประมาณ 1 °C ต่อวินาที ซึ่งสามารถใช้กระบวนการนี้ ในการฆ่าเชือ้ อาหารเหลวทีม่ ชี นิ้ อาหารแข็งขนาดใหญ่ได้ (เช่น มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 25 มิลลิเมตร) นอกจากนัน้ กระบวนการให้ความร้อนแบบโอห์มมิกสามารถน�ำไปประยุกต์ ใช้กับกระบวนการฆ่าเชื้ออาหารได้หลายรูปแบบ ได้แก่ 1. ใช้ร่วมกับกระบวนการบรรจุแบบปลอดเชื้อ (Aseptic processing) ส�ำหรับ อาหารที่มีคุณค่าสูงและอาหารพร้อมรับประทาน โดยสามารถเก็บรักษาและขนส่งได้ ที่อุณหภูมิห้อง 2. ใช้พาสเจอร์ไรส์อาหารเหลวที่มีชิ้นอาหารส�ำหรับการบรรจุร้อน (Hot filling) 3. ใช้เพิ่มระดับอุณหภูมิของอาหารก่อนน�ำอาหารนั้นไปฆ่าเชื้อต่อโดยวิธีดั้งเดิม (อาหารบรรจุกระป๋อง) 4. ใช้ในการผลิตอาหารพาสเจอร์ไรส์ อาหารพร้อมรับประทานทีม่ คี วามสะอาดและ มีคุณค่าสูง โดยสามารถเก็บรักษาและขนส่งโดยการแช่เย็น กระบวนการให้ความร้อน แบบโอห์มมิกนั้นแตกต่างจากกระบวนการให้ความร้อนแบบอื่นๆ ตรงที่ไม่มีการแผ่กระจายของความร้อน ไม่ว่าจะเป็นการแผ่กระจายความร้อนจากด้านนอกไปยัง จุดศูนย์กลางของอาหาร (ในการฆ่าเชื้ออาหารในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท) หรือจาก ด้านนอกของชิ้นอาหารไปยังจุดศูนย์กลางด้านใน (โดยใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน แบบท่อหรือแบบกวาด) ซึ่งกระบวนการให้ความร้อนแบบโอห์มมิกนี้จะท�ำให้เกิด ความร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง สม�่ำเสมอ และรวดเร็ว ท�ำให้มีความปลอดภัยจากจุลินทรีย์ ในระดับสูง จากการทดสอบพบว่ากระบวนการนี้มีช่วงของค่า Lethality ที่แคบมาก จากผิวหน้าไปยังจุดศูนย์กลางของชิ้นอาหาร (Parrott, 1992) นอกเหนือจากเทคโนโลยีดงั กล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีเทคโนโลยีอนื่ ๆ ทีไ่ ด้นำ� มาประยุกต์ ใช้ในการแปรรูปและถนอมอาหารอีกมาก เช่น การใช้โอโซน การใช้ระบบอัลตร้าโซนิค การใช้รังสีไมโครเวฟ และการใช้เอนไซม์ เป็นต้น ทั้งนี้ การจะน�ำเทคโนโลยีใดๆ มาใช้ จะต้องค�ำนึงถึงวัตถุดิบที่ใช้ คุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ได้ และอายุการเก็บรักษา ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เป็นส�ำคัญ
those with 25 mm diameter). Additionally, ohmic heating can also be applied in various types of pasteurization/ sterilization process as follows: 1. Ohmic heating can be applied in conjunction with aseptic processing of foods with high nutritional value and ready-to-eat products, which can subsequently be kept and transported in room temperature. 2. It can pasteurize liquid foods with solid phase for hot filling. 3. It can be used to elevate the temperature of the foods that are to be subjected to conventional processing (canned foods). 4. It can be applied in the manufacturing of pasteurized foods and ready-to-eat products with high nutritional value and hygiene. The food products can be stored in refrigeration for storage and transport. Ohmic heating is different from other heating processing methods as it causes no heat penetration, be it from the outside to the core of the food (as sterilization in a hermetically sealed container) or from the external to the core of the food (by means of shell or tubular heat exchangers). The ohmic heating quickly generates constant heat, thus offering a higher level of microbiological safety. According to experiments, it was found that this process has a very narrow lethality range from the food’s surface to its core (Parrott, 1992). Apart from these innovations, there are many other technologies for food processing and preservation such as ozone technology, ultrasonic technology, microwave irradiation, and enzyme technology. The application of these technologies; however, need to specially take into consideration, among many other factors, the raw materials, the characteristics, and the shelf-life of each specific food product.
ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information 1 APV Baker
78
MAY 2019
NO. 53
74-78_Artice 4_HPP &Ohmic.indd 78
23/4/2562 BE 17:53
MAY 2019 79 infographic.indd 81
NO. 53
81
23/4/2562 BE 19:25
กมลมาลย์ แจ้งล้อม Kamonmarn Janglom
Economic Intelligence Center (EIC) Siam Commercial Bank Public Company Limited kamonmarn.janglom@scb.co.th
Cold Chain Logistics:
Which Area of Services will Thrive? จับเทรนด์ Cold Chain Logistics บริการด้านไหนรุ่ง? ปัจจุบัน Cold chain logistics มีมูลค่าตลาดราว 2.6 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโต ราว 8% CAGR จากปี 2562 ถึงปี 2565 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการขยายตัวของ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม Today, the cold chain logistics market in Thailand is worth around THB 26 billion and is likely to grow by 8% CAGR from 2019 to 2022 with the expansion of food and beverage industry being the main driver.
Cold chain logistics หรือระบบการขนส่งและคลังสินค้าแบบควบคุม อุณหภูมถิ กู พัฒนาและน�ำมาใช้มากยิง่ ขึน้ กับกลุม่ ธุรกิจอาหารและเครือ่ งดืม่ แทนระบบโลจิสติกส์ทวั่ ไป เพือ่ รักษาคุณภาพและลดอัตราการเสียของสินค้า โดยเฉพาะสินค้าประเภทเนือ้ สัตว์ ผักและผลไม้ อาหารทะเล อาหารส�ำเร็จรูป เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์จากนม สะท้อนได้จากมูลค่าตลาด Cold chain logistics ของไทยในปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท หรือมีสัดส่วน ประมาณ 5% ของตลาดโลจิสติกส์ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มูลค่า ตลาดมีสัดส่วนเพียง 2% ทั้งนี้ ความต้องการใช้บริการ Cold chain logistics ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนือ่ งราว 8%CAGR ในอีก 3 ปีขา้ งหน้า (25622565) โดยมีปจั จัยสนับสนุนหลักมาจากปริมาณการส่งออกผลไม้ไปยังตลาด จีนที่เติบโตแบบก้าวกระโดด การกลับมาฟื้นตัวของการส่งออกอาหารทะเล จากการปลดล็อกใบเหลือง IUU Fishing รวมถึงการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อและแฟรนไชส์ร้านอาหาร 80
MAY 2019
Figure 1: Cold chain logistics* market size (Unit: THB billion) Remark: *Calculated from transportation and rental costs of temperature controlled warehouse and the volume of main products that require cold chain logistics. Source: EIC analysis based on data from the Department of Internal Trade, Ministry of Commerce of Thailand.
NO. 53
80-85_Artice 5_Cold Chain SCB-sureerat_kanoon’s iMac.indd 80
23/4/2562 BE 17:40
Convenience Foods Supplement Edition Cold chain logistics, a type of logistics that involves warehousing and transportation of products in a temperature-controlled environment, has been continuously developed and increasingly adopted by the food and beverage business to replace traditional logistics services. The benefits of using cold chain logistics are that the quality of products is maintained while the rate of spoilage is reduced, especially for meats, fruits and vegetables, seafood products, ready meals, beverages, and dairy products. The increasing demand of cold chain logistics is reflected in its market value as it has
Cold chain logistics ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ คลังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ และการขนส่ง สินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ โดยการให้บริการคลังสินค้า แบบควบคุมอุณหภูมิ มีอัตราก�ำไรขั้นต้นเฉลี่ยสูงกว่า การขนส่งสินค้าราว 15% คลังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมทิ มี่ สี ญ ั ญาระยะยาว มีอัตราก�ำไรขั้นต้นเฉลี่ยถึง 40% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวของอุปสงค์ในตลาดและอัตราค่าเช่า พื้นที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยทั่วไปการเช่าคลังสินค้าแบบ ควบคุมอุณหภูมิมี 2 รูปแบบ คือ คลังสินค้าที่มีสัญญาเช่า ระยะยาว 3 ปีขึ้นไป และคลังสินค้ารับฝากชั่วคราว โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2556-2560) พบว่า คลังสินค้า ที่ มี สั ญ ญาเช่ า ระยะยาวมี อั ต ราก� ำ ไรขั้ น ต้ น เฉลี่ ย สู ง ราว 40% และมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 27% เมื่อเปรียบเทียบกับคลังสินค้ารับฝากชั่วคราวที่แม้จะมี การเติบโตของรายได้เฉลีย่ สูงถึง 160% แต่ให้อตั ราก�ำไร ขั้นต้นเฉลี่ยค่อนข้างต�่ำเพียง 15% เป็นผลจากต้นทุน ค่าแรงงานที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากผู้ประกอบการต้อง จัดหาแรงงานเพื่อขนถ่ายสินค้าให้พร้อมเสมอ ขณะที่ การท� ำ สั ญ ญาเช่ า ระยะยาวตั้ ง แต่ 3 ปี ขึ้ น ไป ผู ้ เ ช่ า ส่วนใหญ่ลงทุนในการติดตัง้ อุปกรณ์ลำ� เลียง ระบบจัดเก็บ สินค้า และจ้างแรงงานเอง ส่งผลให้ผู้ประกอบการ มีความได้เปรียบในด้านต้นทุนและการจัดการพื้นที่ คลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ธุรกิจนี้ยังมี ผู้เล่นน้อยรายเพราะเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสูง รวมถึงมีระยะเวลาคืนทุนที่ค่อนข้างนาน ในอนาคตอีไอซีประเมินว่า ในระยะสั้นอัตราก�ำไร ขั้ น ต้ น เฉลี่ ย ของคลั ง สิ น ค้ า แบบควบคุ ม อุ ณ หภู มิ มี แนวโน้มเพิม่ สูงขึน้ จากการขยายตัวของอุปสงค์ในตลาด และการปรับขึ้นของอัตราค่าเช่าพื้นที่ราว 5% ต่อปี ขณะที่ต้นทุนการด�ำเนินการหลักอย่างอัตราค่าไฟฟ้า มีแนวโน้มปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ บ ริ ก ารขนส่ ง แบบควบคุ ม อุ ณ หภู มิ ที่ มี พันธมิตรทางธุรกิจมีอัตราก�ำไรขั้นต้นเฉลี่ยราว 24% MAY 2019 80-85_Artice 5_Cold Chain SCB-sureerat_kanoon’s iMac.indd 81
NO. 53
81
23/4/2562 BE 17:38
Convenience Foods Supplement Edition
Figure 2: Financial performance comparison between logistics service providers of the temperature-controlled warehousing and transportation in the past 5 years (2013-2017) (Unit: %) Remark: Size of a circle denotes the firm’s authorised capital. Source: EIC analysis based on data from ENLITE and annual report 56-1.
และมีแนวโน้มลดลงจากการแข่งขันด้านราคา รวมถึงความเสีย่ งจากความผันผวน ของราคาน�้ำมัน ซึ่งการให้บริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิมี 2 รูปแบบหลัก คือ การให้บริการขนส่งส่วนใหญ่แก่พนั ธมิตรธุรกิจ (มากกว่า 70%) และการให้บริการ ขนส่งแก่ลูกค้าทั่วไป โดยผู้ประกอบการที่มีพันธมิตรทางธุรกิจจะมีอัตราก�ำไร ขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 24% ซึ่งสูงกว่าผู้ประกอบการที่รับจ้างขนส่งสินค้าให้กับลูกค้า ทั่วไปที่มีอัตราก�ำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 6% เนื่องจากการสร้างพันธมิตรทางการค้า
82
MAY 2019
grown to THB 26 billion, or accounts for 5% of a total logistics market rising from 2% in 2017. The market value of cold chain logistics is also likely to continue to grow by 8% CAGR in the next three years (2019-2022) with the main supporting factors; the exponential growth of fruit exports to China, the recovery of seafood exports after the lifting of IUU Fishing yellow card, and the rapid expansion in the number of convenience stores and restaurant chains. Cold chain logistics consists of two important temperaturecontrolled activities: warehousing and transportation. On average, temperature-controlled warehousing yields a higher gross profit margin than transportation by 15%. Temperature-controlled warehousing under a longer-term contract has a high gross profit margin at 40% and is likely to increase based on demand expansion and higher rental fees. In general, renting a temperature-controlled warehouse consists of two types: Long-term rental with a 3-year contract or longer and temporary warehouse rental. Over the past five years (2013-2017), it was found that temperature-controlled warehousing under longterm contracts has a high gross profit margin at around 40% with a revenue growth rate of around 27%. Although the revenue for temporary rental has grown at 160%, a gross profit margin is lower at only around 15%. This is due to higher labour costs since labours are required at all time to service short-notice clients. With longterm contracts, warehouse renters will invest in machinery and equipment as well as hire their own employees to assist the operation. Therefore, the owners of a temperature-controlled warehousing are at an advantage in terms of costs and warehousing space management. However, there is still only a limited number of service providers due to high initial investment and a long payback period. EIC expects gross profit margin for the temperature-controlled warehousing in short term to increase due to a higher market demand and higher rental fees that averagely grow by 5% per year. Meanwhile, the costs of electricity, an important direct cost for this type of business, is likely to grow by a small amount.
NO. 53
79-83_Artice 5_Cold Chain SCB-sureerat_kanoon’s iMac.indd 82
22/4/2562 BE 17:16
Convenience Foods Supplement Edition
ทั้ ง ในรู ป แบบของการร่ ว มทุ น และการร่ ว มมื อ พั ฒ นาโครงข่ า ยการขนส่ ง ท� ำ ให้ ผู ้ ป ระกอบการสามารถบริ ห ารจั ด การ เส้นทางการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้นซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการให้บริการ อย่างไรก็ดี อัตราก�ำไรขั้นต้นเฉลี่ยของ การให้บริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ มี แ นวโน้ ม ลดลง เนื่ อ งจากธุ ร กิ จ นี้ ใ ช้ เงิ น ลงทุ น ไม่ สู ง มากนั ก ผู ้ เ ล่ น รายใหม่ สามารถเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้ไม่ยาก และการขนส่งสินค้าส่วนใหญ่มีการเจรจาสัญญา ใหม่ทุก 1 ปี จึงส่งผลให้เกิดการแข่งขัน ด้ า นราคาที่ รุ น แรงมี ก ารตั ด ราคาค่ า บริการ อีกทั้งผู้ประกอบการต้องรับความเสี่ ย งจากความผั น ผวนของราคาน�้ ำ มั น ที่ มี สั ด ส่ ว นราว 30%-40% ของต้นทุนการให้บริการขนส่ง อีไอซีประเมินว่า การสร้างพันธมิตรและการท�ำสัญญาระยะยาวกับ ผู้ว่าจ้างถือเป็น 2 กลยุทธ์ส�ำคัญสู่ความส�ำเร็จของธุรกิจขนส่งสินค้าและ คลังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ จากการศึกษาข้างต้น สามารถประเมิน ได้ว่า การสร้างพันธมิตรทางการค้ากับผู้ผลิตสินค้า ร้านค้าปลีกชั้นน�ำ และ ร้านอาหารแฟรนไชส์ จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีฐานลูกค้าที่แน่นอนและ
Temperature-controlled transportation with business partners have a gross profit margin of 24% but are likely to decline due to a price competition and the risk from oil price fluctuation. Temperature-controlled transportation services can be divided into two patterns based on their main customers. They are either focused on providing services to their business partners or to all customers. Business with partners possesses a gross profit margin at 24%, higher than those providing services to all customers whose a gross profit margin at 6%. This is because partnership, whether in the form of jointventure or co-development of a transportation network, allows business to manage their transportation routes effectively leading to lower operational costs. However, a gross profit margin for temperature-controlled transportation is likely to reduce in the future. This is due to the low barrier to entry nature of the business where new players do not need a large investment and transportation contracts are often negotiated every year. With increasing entrants, as a result, service providers are likely to face increasing competition in price and service. At the same time, service providers are also exposed to the fluctuations in oil price as it accounts for 30%-40% of the total costs.
MAY 2019 79-83_Artice 5_Cold Chain SCB-sureerat_kanoon’s iMac.indd 83
NO. 53
83
22/4/2562 BE 17:16
Convenience Foods Supplement Edition
“
The increasing demand of cold chain logistics is reflected in its market value as it has grown to THB 26 billion, or accounts for 5% of a total logistics market rising from 2% in 2017. The market value of cold chain logistics is also likely to continue to grow by 8% CAGR in the next three years (2019-2022).
”
มีโอกาสที่จะได้รับรายได้อย่างสม�่ำเสมอ ซึ่งการสร้างพันธมิตรมักพบเห็น ในรูปแบบการร่วมทุนและการร่วมมือพัฒนาโครงข่ายการให้บริการ เพื่อ ตอบโจทย์ความต้องการในหลายมิติ นอกจากนี้ การท�ำสัญญาระยะยาว 3 ปีขึ้นไปถือเป็นอีกกลยุทธ์ส�ำคัญของธุรกิจ cold chain logistics เนื่องจาก ผูป้ ระกอบการสามารถวางแผนการด�ำเนินงานธุรกิจ เพือ่ ให้เกิดความคุม้ ค่า การลงทุนและควบคุมต้นทุนการด�ำเนินงานได้ รวมทั้งสามารถเพิ่มมูลค่า ของการใช้ประโยชน์คลังสินค้าและรถขนส่งได้มากขึ้น ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มหันมาใช้บริการ cold chain logistics จากผู ้ ป ระกอบการโลจิ ส ติ ก ส์ ม ากขึ้ น จึ ง ถื อ เป็ น โอกาสของ ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจ โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ของ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเฉลี่ยอยู่ที่ราว 10% ของค่าใช้จ่ายด้านการขาย ทั้งหมด เมื่อความต้องการด้านโลจิสติกส์ปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบ cold chain ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและเม็ดเงินลงทุนที่ค่อนข้างสูง ทั้งการสร้าง คลังสินค้า การจัดซือ้ รถขนส่งสินค้า รวมถึงการลงทุนด้านไอทีในการควบคุม ระบบความเย็นให้มีเสถียรภาพ เป็นผลให้กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม หันมาใช้ผู้ประกอบการ cold chain logistics ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามา บริ ห ารจั ด การมากขึ้ น เพื่ อ ลดขั้ น ตอนการท� ำ งานและลดต้ น ทุ น ด้ า น โลจิสติกส์ โดยการใช้บริการ cold chain logistics ส�ำหรับธุรกิจอาหารและ เครือ่ งดืม่ พบมากใน 2 รูปแบบได้แก่ 1) ธุรกิจอาหารและเครือ่ งดืม่ เองจับมือ กับผู้ประกอบการโลจิสติกส์จัดตั้งบริษัทในรูปแบบพันธมิตรธุรกิจเพื่อให้ บริการ cold chain logistics แบบครบวงจรกับกลุ่มธุรกิจในเครือ แล้วจึง ขยายการให้บริการไปสู่ธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน 2) ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ใช้บริการจากผู้ให้บริการ cold chain logistics ในรูปแบบ outsource ซึ่งการใช้บริการ cold chain logistics ทั้ง 2 รูปแบบเป็นโอกาสของ ผูป้ ระกอบการโลจิสติกส์เดิมและผูป้ ระกอบการหน้าใหม่ทตี่ อ้ งการก้าวเข้าสู่ ธุรกิจ cold chain อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจ cold chain logistics จะ ต้องเตรียมพร้อมเผชิญกับความท้าทาย 3 ประการ ได้แก่ ความแตกต่างของ อุณหภูมทิ ใี่ ช้สำ� หรับสินค้าแต่ละประเภท การแข่งขันทีม่ แี นวโน้มรุนแรง และ กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น 84
MAY 2019
EIC suggests that entering into a business partnership and signing a long-term contract are two important strategies toward the success of temperature-controlled warehousing and transportation services. From the earlier analysis, it can be argued that forming a partnership with product manufacturers, leading retailers, and restaurant chains can help business develop a fruitful relationship with a customer and maintain a stable revenue stream. Partnerships are often developed in the form of joint-venture or co-development in integrated services network that could fulfil different service requests. In addition, signing a long-term contract with a term of 3-year or longer is also another important key success factor since it allows business to develop an effective strategy to get a higher effective return and a maximum cost efficiency, as well as to optimize warehouse and truck capacity utilisation. Nowadays, food and beverage businesses are increasingly using cold chain logistics service providers representing an significant opportunity for new entrants. Generally, logistics costs for food and beverage business account for 10% of the total selling costs. Once cold chain logistics has become more necessary as well as requires specialisation of cold chain professionals and high capital investment (e.g. warehouse building, transport vehicles and IT system), food and beverage business are tend to use logistics service providers who specialize in cold chain rather than operating their own. These logistics service providers will help business reduce work processes and logistics costs. Cold chain logistics was found in two forms that are 1) Food and beverage business and logistics service providers establish a business partnership at cooperate level providing a complete cold chain logistics solutions for business and expanding to other similar businesses and 2) Food and beverage business outsources cold chain logistics service providers. Both types of cold chain logistics service forms represent important opportunities for both existing logistics service providers and prospective service providers to enter the cold chain logistics business. Nevertheless, there are three important challenges for new cold chain service providers; different temperature levels required for different products, intense competition, and more stringent regulations.
NO. 53
80-83_Artice 5_Cold Chain SCB-sureerat_kanoon’s iMac.indd 84
23/4/2562 BE 17:36
Convenience Foods Supplement Edition
ในอนาคตธุรกิจ cold chain logistics มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้มากขึ้น อีกทั้ง ยังมีผู้ให้บริการที่ได้มาตรฐานไม่มากนัก จึงเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการในหลาย กลุม่ ธุรกิจจับตามองเพือ่ สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจ ขณะทีอ่ ปุ สรรคส�ำคัญของ ธุรกิจนีย้ งั คงอยูท่ ่ี 1) ความแตกต่างของอุณหภูมทิ ใี่ ช้ขนส่งและจัดเก็บสินค้าแต่ละ ประเภท ตามมาตรฐานส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ท�ำให้ผู้ประกอบการที่จะเริ่มธุรกิจนี้ต้องโฟกัสสินค้าที่ต้องการให้ บริการอย่างชัดเจน รวมถึงการขออนุญาตขนส่งและจัดเก็บอย่างถูกต้อง เพราะ ผู ้ ป ระกอบการไม่ ส ามารถเปลี่ ย นประเภทสิ น ค้ า ที่ ใ ห้ บ ริ ก ารได้ ง ่ า ยนั ก 2) การแข่งขันทีม่ แี นวโน้มรุนแรงขึน้ ในระยะยาว ซึง่ ส่วนหนึง่ เป็นผลจากเทรนด์ทกี่ ลุม่ ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเริ่มจับมือกับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์เพื่อจัดการระบบ cold chain logistics แบบครบวงจรให้กบั บริษทั ในเครือ และขยายการให้บริการ กับธุรกิจในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการโลจิสติกส์เดิมที่ไม่มีบริการ cold chain และผูเ้ ล่นใหม่ทจี่ ะเข้ามาในตลาด cold chain logistics มีการแข่งขัน ที่รุนแรงขึ้น และ 3) กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสุขอนามัยที่มีแนวโน้ม เข้มงวดมากขึ้นในหลายประเทศ เช่น การติดฉลาก RFID ส�ำหรับผู้บริโภคเพื่อ ตรวจสอบประวัตสิ ถานะอุณหภูมขิ องสินค้าในสหรัฐอเมริกา และข้อบังคับ Good Distribution Practice ส�ำหรับผูป้ ระกอบการ cold chain logistics ในสหภาพยุโรป ซึ่งจะท�ำให้ผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการสูงขึ้น รวมถึงความเสี่ยง จากสถานการณ์ทางการค้าทีม่ ผี ลต่อสินค้าทีต่ อ้ งการบริการ cold chain logistics เช่น อินโดนีเซียใช้มาตรการจ�ำกัดการน�ำเข้าพืชสวนจากต่างประเทศ ท�ำให้ การส่งออกสินค้าเกษตรไทยได้รับผลกระทบตามไปด้วย
Cold chain logistics business has potential to grow further while there is currently a limited number of service providers certified international standard. Therefore, cold chain logistics is an attractive opportunity for existing logistics service provider and prospective service providers to expand their business. However, there are also important challenges to consider which are 1) Different levels of temperature required for transporting and storing of different products according to the Thai Food and Drug Administration standards and related agencies. Prospective cold chain logistics service providers need to clarify a product focused and apply for permits accordingly since it will be difficult to change product with different requirements 2) Competition will become more intense in a long term since some food and beverage business already established formal relationships at cooperate level to provide a complete cold chain logistics solution with a view to future expansion. Therefore, logistics service providers without cold chain solution and prospective service providers will face intense competition and 3) Regulations related to the environment and sanitation are becoming more stringent in many countries, such as the requirement of RFID labelling in the US for consumers to trace temperatures and the enforcement of Good Distribution Practice for cold chain logistics providers in the EU which will create additional costs for logistics service providers. Additionally, they are also likely to face other trade-related risks on products requiring cold chain logistics, for example, the import restrictions on horticultural products adopted by Indonesia that affected Thai exports of agricultural products.
MAY 2019 79-83_Artice 5_Cold Chain SCB-sureerat_kanoon’s iMac.indd 85
NO. 53
85
22/4/2562 BE 17:16
47
9
24 May 2019
Jupiter 4-10, Challenger Hall, IMPACT
Make Customers' Lives More Convenient Track 1
TREND: out of the BOX
8.00-9.00 ลงทะเบียน 9.00-10.00 Keynote Address: ตลาดอาหารพร้อมรับประทานในประเทศไทย • สถานการณ์ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานในรูปแบบแช่เย็น แช่เยือกแข็ง และวางจ�ำหน่ายที่อุณหภูมิห้องในปัจจุบัน • โอกาสและอุปสรรคในการแข่งขัน • การคาดการณ์ในอนาคต โดย: คุณเดวิด เล้า ชิ ไว
อุปนายกและประธานกลุ่มผู้ผลิตเครื่องปรุงและอาหารพร้อมรับประทาน สมาคมผู้ผลิตอาหารส�ำเร็จรูป
10.00-10.30 How to Leverage Quality & Safety in Processed Food Factory โดย: ห้างหุ้นส่วนจ�ำกัด คลีนิคอลไดแอกโนสติคส์ 10.30-11.15 พักรับประทานอาหารว่าง พร้อมเยี่ยมชมนวัตกรรมส�ำหรับอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน 11.15-12.15 เส้นทางการพัฒนาและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน • ส่วนผสมอาหารที่มาแรง • เจาะประเด็นร้อนของตลาดผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานในรูปแบบ แช่เย็น แช่เยือกแข็ง และวางจ�ำหน่ายที่อุณหภูมิห้อง • อัปเดตผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานประเภทต่างๆ ในตลาดทัว่ โลก และเอเชียแปซิฟิก • สรุปประเด็นส�ำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร พร้อมรับประทานประเภทต่างๆ ในปัจจุบันและอนาคต โดย: ดร.สุวิมล เจริญสิทธิ์
ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
86-87_Convenience 2019.indd 86
12.15-13.30 พักรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมเยี่ยมชมนวัตกรรมส�ำหรับอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน 13.30-14.45 มาตรฐานอาหารพร้อมรับประทานตามข้อก�ำหนดของ FSMA • แนวทางปฏิบัติส�ำหรับผู้ประกอบการตามกฎหมายการปรับปรุง ความปลอดภัยของอาหารให้ทันสมัยขององค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา โดย: กองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร
ส�ำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)
มูลนิธิส่งเสริมโภชนาการ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
14.45-15.15 พักรับประทานอาหารว่าง พร้อมเยี่ยมชมนวัตกรรมส�ำหรับอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน 15.15-16.30 ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานเพื่อสุขภาพ • มาตรการลดหวาน มัน เค็ม ที่ส่งผลต่อการผลิตผลิตภัณฑ์ อาหารพร้อมรับประทาน • แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานเพื่อสุขภาพ • อัปเดตเกณฑ์การจัดท�ำ Healthier Logo ในผลิตภัณฑ์อาหาร พร้อมรับประทาน โดย: ศาสตราจารย์ ดร.วิสิฐ จะวะสิต
16.30-16.40 ปิดการสัมมนาและจับรางวัลผู้โชคดี
22/4/2562 BE 18:33
Track 2
TECH: out of the BOX
8.00-9.00 ลงทะเบียน 9.00-10.00 นวัตกรรมของบรรจุภัณฑ์ส�ำหรับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ อาหารพร้อมรับประทาน • คุณสมบัตขิ องวัสดุบรรจุภณ ั ฑ์สำ� หรับการบรรจุผลิตภัณฑ์อาหาร พร้อมรับประทานในรูปแบบแช่เย็น แช่เยือกแข็ง และวางจ�ำหน่าย ที่อุณหภูมิห้อง • เทคโนโลยีใหม่ๆ ของวัสดุบรรจุภัณฑ์ตา่ งๆ โดย: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐดนัย หาญการสุจริต
ภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
10.00-10.30 Sanitation Transformation โดย: คุณโชคชัย พงษ์ทิพย์พิทักษ์
ผู้จัดการฝ่ายขาย ไทย-อินโดไชน่า-ฟิลิปปินส์ บริษัท เอ็กโคแล็บ จ�ำกัด
10.30-11.15 พักรับประทานอาหารว่าง พร้อมเยี่ยมชมนวัตกรรม ส�ำหรับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน 11.15-12.15 การออกแบบระบบโลจิสติกส์โซ่ความเย็นส�ำหรับผลิตภัณฑ์ อาหารพร้อมรับประทานแช่เย็น • ถอดบทเรียนปัญหาของระบบโลจิสติกส์โซ่ความเย็น • กรณีศึกษาแนวทางการออกแบบระบบในผลิตภัณฑ์อาหาร พร้อมรับประทานแช่เย็น โดย: รองศาสตราจารย์ ดร.พรธิภา องค์คุณารักษ์
ภาควิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
12.15-13.30 พักรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมเยี่ยมชมนวัตกรรมส�ำหรับอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน 13.30-14.45 แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานส�ำหรับผู้สูงอายุ • สถานการณ์ผู้สูงอายุในประเทศไทย • ความต้องการบริโภคอาหารของผู้สูงอายุ • ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานทีเ่ หมาะสมกับผูส้ งู อายุ: ลักษณะเนือ้ สัมผัส คุณค่าทางโภชนาการ และเทคโนโลยีกระบวนการแปรรูป โดย: ดร.ธัญญ์นลิน วิญญูประสิทธิ์ ศูนย์นวัตกรรมและการอ้างอิงด้านอาหารเพื่อโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
14.45-15.15 พักรับประทานอาหารว่าง พร้อมเยี่ยมชมนวัตกรรมส�ำหรับอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน 15.15-16.30 การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานด้วยนวัตกรรมการแปรรูป ที่ใช้และไม่ใช้ความร้อน • จุดเด่นและจุดด้อยของเทคโนโลยีการแช่เย็น แช่เยือกแข็ง การฆ่าเชื้อระดับ พาสเจอร์ไรส์และสเตอริไลส์ต่างๆ • ตัวอย่างจริงของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแปรรูปยุคใหม่ในระดับอุตสาหกรรม อาทิ เทคโนโลยีโอห์มมิค เทคโนโลยีไมโครเวฟ เป็นต้น โดย: ดร.พิศมัย ศรีชาเยช
นักวิจัยช�ำนาญการ ฝ่ายกระบวนการผลิตแปรรูป สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
16.30-16.40 ปิดการสัมมนาและจับรางวัลผู้โชคดี
Main Sponsor:
Co-sponsor:
Display:
by
Organized By:
Official Publication:
For more information, please contact
Chalinee 08 6368 0506 86-87_Convenience 2019.indd 87
23/4/2562 BE 17:42
48
9
19 July 2019
@ Challenger Hall, IMPACT
Let the Business Flows
Liquid foods refer foods that are normally liquid and foods that turn to liquid when stored at room temperature. They include beverages (water, carbonated drink, juice); oil (butter, margarine, cream); desserts (ice cream, yogurt); sauces & condiments (sugar, honey, syrups, soup broth), etc. The seminar addresses the challenging trends & opportunities, marketing strategies, processing & packaging solutions and so on. Let’s the information flows!
k Trac Sauces & Condiments 1 เส้นทางตลาดซอสและเครื่องปรุงรสของประเทศไทย เส้นทางการพัฒนาและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ซอสและเครื่องปรุงรส ยกระดับผลิตภาพในโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเหลว
r Call fo l specia!! offer
k Trac Dairy & Drinks 2 เส้นทางการพัฒนาและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม แนวทางการเพิ่มมูลค่านมและผลิตภัณฑ์จากนม เทคโนโลยีฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในเครื่องดื่มผลไม้และสมุนไพร
Main Sponsor:
Co-sponsor:
Display:
Organized By:
For more information, please contact
Chalinee 08 6368 0506
Official Publication:
SHOW TIMES
Pre Show
ProPak Asia 2019 Asia’s No.1 Processing & Packaging Event
The Premier Processing & Packaging Event for Asia Returns 12-15 June 2019 @ BITEC, Bangkok, Thailand (10 AM – 6 PM) ProPak Asia เป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอันดับ 1 ทีย่ งิ่ ใหญ่และดีทสี่ ดุ ของ เอเชี ย เป็ น เวที ที่ เ ชื่ อ มต่ อ กั บ ภู มิ ภ าคซึ่ ง อุ ต สาหกรรมการผลิ ต และบรรจุ ภั ณ ฑ์ มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งขึ้นทุกๆ ปี ตลอดระยะเวลากว่า 26 ปี ProPak Asia ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถดึงดูดผู้ซื้อและซัพพลายเออร์ที่มีคุณภาพ จากนานาชาติให้เข้ามาร่วมงานได้เป็นจ�ำนวนมาก รวมถึงเป็นงานที่มีการจัดแสดง เทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดที่ดีที่สุด ProPak Asia 2019 มีผู้ร่วมจัดแสดงงานกว่า 1,900 ราย จาก 50 ประเทศ และ 18 พาวิลเลียน จาก 13 ประเทศผู้น�ำด้านการการผลิตบรรจุภัณฑ์และเครื่องจักรที่ใช้ ในการแปรรูป อาทิ เยอรมนี อิตาลี ญีป่ นุ่ และ จีน พร้อมจัดแสดงเครือ่ งจักร ผลิตภัณฑ์ และบริการ กว่า 20,000 รายการ บนพื้นที่จัดแสดงงานกว่า 60,000 ตารางเมตร ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงาน กว่า 50,000 คน ตลอด 4 วันของการจัดงาน ProPak Asia 2019 ถือเป็นงานส�ำคัญ ที่ต้องเข้าร่วมส�ำหรับผู้อยู่ในอุตสาหกรรม ProPak Asia 2019 ประกอบด้วย 9 โซนอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขาย พบกั น เพื่ อ พั ฒ นาธุ ร กิ จ ร่ ว มกั น ได้ ง ่ า ยขึ้ น ProcessingTechAsia, PackagingTechAsia, DrinkTechAsia, PharmaTechAsia, Lab&TestAsia, MaterialsAsia, Coding,Marking&LabellingAsia, Coldchain,Logistics& WarehousingAsia และ Printech Asia ProPak Asia เป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมของเอเชียส�ำหรับเอเชียที่ต้อง เข้าร่วมอย่างแท้จริง ด้วยคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ความสามารถในการจัดการและมาตรฐานโรงงานซึ่งถูกขับเคลื่อนให้มีมาตรฐานที่ สูงขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภค ระบบอัตโนมัติใหม่และการยกระดับของ เทคโนโลยีซึ่งจะถูกน�ำมาจัดแสดงภายในงาน
Booth No. EB33 Hall 106 SATO AUTO-ID (THAILAND) www.satothailand.co.th • Printer barcode • Auto label and apply • Label factory
ProPak Asia is the No. 1 and largest industry event of its kind in Asia. It’s Asia’s best platform to connect to the regions rapidly expanding processing and packaging industries. Going from strength to strength every year, ProPak Asia has a proven track record over 26 years of delivering the highest quality and quantity trade buyers, the greatest number and selection of international suppliers, and the best showcase of latest technology and innovations. ProPak Asia 2019 will present over 1,900 exhibitors from more than 50 countries, and 18 pavilions from 13 separate countries including leading producers of packaging and processing machinery from Germany, Italy, Japan and China. Showcase over 20,000 machines, products, and services from across the world on over 60,000 sqm. at BITEC, Bangkok. And connect an estimated 50,000 industry professional visitors over its 4 day show. ProPak Asia 2019 is a Must-Attend event for the industry. ProPak Asia 2019 includes 9 industry zones making it easier for buyers and sellers to meet and develop great business together which includes ProcessingTechAsia, PackagingTechAsia, DrinkTechAsia, PharmaTechAsia, Lab&TestAsia, MaterialsAsia,Coding,Marking& LabellingAsia, Coldchain,Logistics& WarehousingAsia and Printech Asia. ProPak Asia truly is the “Must-Attend” industry event in Asia for Asia, as quality and variety of products increase and expand, and productivity of operations and manufacturing standards are driven higher by consumer demands and new automation and technological advances, which will be presented at the show. For more information, please visit www.propakasia.com or Facebook Page www.facebook.com/ProPakAsia
Booth No. BK01 Hall102 Better Pack www.betterpack.co.th • Fuji horizontal form-fill-seal machine • Rotary packing machine with auto cup feeder • Aiho automatic rice cooker • Superheated steam oven • Vertical form-fill-seal machine with multihead weigher
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 89-91_ShowTime_Propak.indd 89
89
23/4/2562 BE 17:14
SHOW TIMES
Booth No. BJ01 Hall 102 FPT Food Process Technology www.fpt-asia.com
Alliance Technology www.atech.co.th
• World-leading hygienic entrances and advanced drainage systems • Warehouse management and production automation • Custom software for food production • Environmentally friendly packaging technology • Nearly-zero” emissions filter and carbon footprint reduction
• New LOMA IQ4 metal detector with 70 frequencies operate • X-ray inspection to enhance food safety • Cw3 Checkweigher
Booth No. BS63 Hall 103
Both No. AB21 Hall 98
Thai Scale www.thaiscale.co.th
ULMA Packaging (Thailand) www.ulmapackaging.com
• Eagle’s H-series metal detector a cost-effective metal detection system, ideal for inspecting wet and dry products • AW-5600FX the latest upgrade tackles hard-to-wrap items with ease
• Flow Wrapper Sienna LS for multipack application • Thermoform TFS 200: stainless steel, easy cleaning, hygienic design, and IP-65 • Traysealer TSA 540: easy cleaning, hygienic design, IP-65 and can pack MAP, vacuum and skin
Booth No. AW01 Hall 100
Booth No. EG01 Hall 106
Siam Golden Sales and Service www.siamgoldengroup.co.th
Kuraray (Thailand) www.kuraray.com
• Customization and counselling service in packing line for any scales of manufacturing business • Professional packing machine service • The most reliable after service • PP band manufacturer
• EVAL Resin: high gas barriers resin for food and agro-culture packaging • PLANTIC: high gas barrier bio-plastic film / sheet • MonoSol: water soluble film for consumer products and edible packaging
Booth No. AZ01 Hall 100
Booth No. BK11 Hall 102
Ishida (Thailand) www.ishida.com
Forefront Foodtech www.forefrontfoodtech.com
• X-Ray inspection systems, the best detection capabilities, and highest sensitivity of any on the market • Bag maker, a solution that greatly speeds up packaging process, comes to your company’s ability to operate quickly and efficiently • The accuracy, reliability, and hygienic design of Ishida multihead weighers have helped to transform the packing operation
• BANDALL semi-automatic banding machine - model BA32-20-50 • FREY high speed vacuum stuffer with chain linking system - model KAS system • KRONEN continuous washer for fruit and vegetable - model GEWA 3800V Plus • EMERSON smoking and cooking chamber – model Compacta
Booth No. BE01 Hall 101 Senta Pack Machinery & Service www.sentapack.com • Automatic vertical and horizontal form fill seal machine by KAWASHIMA. Easy to operate, sanitary and easy to maintenance • High speed rotary pre-made bag filling and sealing machine • X-ray inspection system by System Square. Various inspection problems are solved
90
Booth No. AE39 Hall 98
Booth No. BH11 HALL 101 Mechanical & Food Process Engineering www.mechfood.com
• Equipment, machine and turn-key • Conveyor system and material handling equipment • Washing machine (basket, tray, crate, bin, part, etc.) • Robotic and automation • Multihead weighing-packing, and check Weighing Machine
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
89-91_ShowTime_Propak.indd 90
22/4/2562 BE 19:22
Visit us at : Booth No. BD39
SHOW TIMES
Booth No. BL31 Hall 102
Booth No. BC01 Hall 101
Mettler-Toledo (Thailand) www.mt.com
K&W Global Technology (Thailand) www.kw.co.th
• Mettler-Toledo’s HX204 moisture analyzer with 0.1 mg readability premium performance • Mettler-Toledo’s ICS series with ACM360 multifunctional piece counting, totalizing and checkweighing scales • Mettler-Toledo’s X34 series x-ray inspection with a minimum False Reject Rates (FRR) and 5 years generator warranty
Booth No. CB41 Hall 105
R
• VEMAG length portioning machine for equal lengths with casing magazine type LPG218 • SEYDELMANN automatic grinder type AU200U • LIMA meat-bone separator type RM150S
Booth No. BC11 Hall 101
Official Equipment Manufacturing www.official.co.th
HITEC Food Equipment www.hitec-th.com
• Chemical storage cabinet • Laminar airflow • Fume hood • Laboratory furniture • Biohazard
• Vacuum Linkwel automatic sausage hanging and stick loading trolley system • New technology for ready-to-eat and bakery line • Expertise machinery consulting in meat processing technology
Booth No. AZ11 Hall 100
Booth No. BE01 Hall 101
Mayekawa (Thailand) www.mayekawathailand.com
HI-COOK (Thailand) www.hicook.co.th
• WINGDAS automated chicken wing drumettes deboning machine • WINGDAS is for either deboning chicken wing drumettes or deboning chicken tulips • WINGDAS gives a high quality and high yield • WINGDAS is deboning chicken wing drumettes through automation
• Super heated steam oven model BSCE • Yaki-Pro oven model TIMPJ • Compact gas fryer model TDC
Booth No.BZ57 Hall 104
Booth No. BK39 Hall 102
Toyox Trading (Thailand) www.toyoxthai.com
N.P.B. Machine And Service www.npbmachine.com
• Crimping service in control room especially for food grade hose crimping, one and only in Thailand • New food grade duct hose • New hose clamp and connector • Toyo silicone hose with USP class VI for pharmaceutical industry
• Rotary weighing system • Automatic blister packing machine • Automatic horizontal packing machine
Booth No. BI01 Hall 102
Booth No. EF19 Hall 106
MT Food Systems www.mtfs.co.th
Harn Engineering Solutions www.harn.co.th
• Grasselli KSL400 boneless horizontal slicer • Unitherm micro spiral oven • Marelec Portio 1DAP intelligent portion cutter • InnospeXion x-ray system • Astech automatic band saw and RoboQbo 15-4 universal cutter
• Domino’s range of Ax-Series Continuous Ink Jet (CIJ) printers offers proven performance • Domino’s V-Series range of Thermal Transfer Overprint (TTO) coders can at 300dpi quality • Domino’s G20i is intuitive to use, easy to install and ideally suited to high resolution coding • The D-Series lasers offer a power range of 10W, 30W and 60W lasers to fit all your coding needs
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 89-91_ShowTime_Propak.indd 91
91
22/4/2562 BE 19:22
2019
26 February 2019 @ AVANI Khon Kaen Hotel & Convention Centre, Khon Kaen
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์ มุ่งมั่นสร้างพื้นฐาน องค์ความรูใ้ นการเพิม่ ผลิตภาพโดยไม่ละทิง้ เรือ่ งความปลอดภัยซึง่ เป็นประเด็นส�ำคัญของอุตสาหกรรมอาหาร และเครือ่ งดืม่ ในชัว่ โมงนีใ้ นธีม “Productivity & Safety Roadshow” ตลอดปี 2562 และในครัง้ แรกของปีนเี้ ราเริม่ ต้นทีจ่ งั หวัดขอนแก่น โดยได้รับเกียรติจากกูรูแห่งวงการอุตสาหกรรมอาหารร่วมเดินทางไปให้ความรู้ แบบเต็มก�ำลังทั้ง “เพิ่มผลิตภาพ” โดยคุณวุฒิพงศ์ บุญนายวา ผู้จัดการ ส่วนบริหารการผลิต สถาบันเพิ่มผลิตแห่งชาติ และ “เพิ่มความปลอดภัย” โดย คุณเกียรติพงษ์ ค�ำดี นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ปิดท้ายสัมมนาด้วยกิจกรรมจากผู้ร่วมจัดแสดง สินค้าและลุ้นรับของรางวัลต่างๆ ภายในงาน
เพิม่ ผลิตภาพ: ค้นหาแนวทางและเครือ่ งมือเพือ่ เพิม่ ผลิตภาพในการผลิตอย่าง มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ การวัดประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร (Overall Equipment Effectiveness; OEE) คือวิธีการที่ดีวิธีหนึ่งที่นอกจากท�ำให้รู้ประสิทธิผลของเครื่องจักร แล้วยังรู้ถึงสาเหตุของความสูญเสียที่เกิดขึ้นในภาพรวม ทั้งนี้ แนวทางการปรับปรุง ประสิทธิผลโดยรวมของเครือ่ งจักรเริม่ ต้นทีผ่ ปู้ ฏิบตั งิ านโดยสามารถปฏิบตั ติ ามบนพืน้ ฐาน 4 ประการที่จ�ำเป็น คือ สามารถรักษาสภาวะที่เหมาะสมของครื่องจักร ค้นหาสิ่งผิดปกติ ได้ แก้ไขสิ่งผิดปกติได้เบื้องต้น และสามารถปรับตั้งสภาวะที่เหมาะสมของเครื่องจักรได้ OEE จึงเป็นพืน้ ฐานส�ำคัญในการติดตามความคืบหน้าของการผลิต และสามารถปรับปรุง ตลอดจนลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ เพิ่มความปลอดภัย: ร่วมกันปกป้องผู้บริโภคและชื่อเสียงของบริษัทด้วย การป้องกันเรื่องการปลอมปนอาหาร จากปัญหาการปลอมปนของน�้ำผึ้งได้ส่งผลกระทบ ต่ออุตสาหกรรมน�ำ้ ผึ้งไทยอย่างมาก จ�ำเป็นอย่างยิ่งในการค้นหาวิธีการตรวจสอบความจริงแท้และการปลอมปนของน�้ำผึ้งที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถน�ำไปปฏิบัติได้จริง ในระดับอุตสาหกรรม เทคนิคไอโซโทปเสถียรในน�้ำตาลและโปรตีนในน�้ำผึ้งสามารถ น�ำมาประยุกต์ใช้ในการตรวจสอบการปลอมปนของน�้ำผึ้งได้โดยการใช้เครื่อง EA-IRMS อาศัยเกณฑ์ที่ว่าถ้าคาร์บอน-13 ในน�้ำตาลมีค่าน้อยกว่า -23.5 ‰ โดยค่า -23. 5 เป็นค่า ที่ใช้อ้างอิงในการตรวจพิสูจน์ความแท้ของ น�้ำผึ้ง และความแตกต่างกันของค่าไอโซโทป ของคาร์ บ อน-13 ในน�้ ำ ตาล และโปรตี น แตกต่างกันน้อยกว่า 1 ‰ แสดงว่าเป็นน�้ำผึ้ง แท้จากธรรมชาติ
1
Khon Kaen
SHOW TIMES
February 26th
Welcome you to “Productivity & Safety Roadshow 2019”. Hit the road with Food Focus Thailand! No issue is stronger, at this moment, than productivity improvement and there can be no compromise on food safety. The first destination of this year, we went to Khon Kaen with the food industry professional speakers in “Boost Productivity” by Mr.Wuttipong Boonnaiva, Production Management Department Manager from Thailand Productivity Institute and “Better Food Safety” by Mr.Kiattipong Kamdee, Research Scientist from Thailand Institute of Nuclear Technology (Public Organization). Moreover, participants also had a chance to check out various products showcased in the event, participate in activities and win the prize. Boost Productivity: How to Increase Food & Beverage Manufacturing Efficiency OEE (Overall Equipment Effectiveness) is the gold standard not only for measuring manufacturing productivity but also lead to the core of loose in overall production. Guidelines for improving the Overall Equipment Effectiveness, starting with the operator by being able to follow on the 4 basic principles; maintain the optimum condition of the machine, finding unusual things, solving the initial irregularities and improving the condition of the machine. OEE is useful as both a benchmark and a baseline to track progress over time in eliminating waste from a given production asset. Better Food Safety: How to Control Food Adulteration – Honey Case Study Honey adulteration is the main problem to effect honey industry of Thailand. It is very effective to reliability of consumer therefore identification of honey adulteration is very important for authentication. Stable isotope techniques in sugar and protein of honey samples can be applied to identify the adulteration of honey by using EA-IRMS. The standard value of 13C should be lower than -23.5 ‰ VPDB in honey and different between 13C in honey and protein should be less than 1 ‰ VPDB indicating pure honey.
โอกาสในการเรียนรู้และสร้างเครือข่าย/Connect the Great Opportunity by Showing Up! พิกดั ต่อไป...เราจะเดินทางไปที่ “จังหวัดชลบุร”ี ...เตรียมพบความรูแ้ ละความสนุกสนานกันได้ภายในงานสัมมนา Food Focus Thailand Roadshow 2019: Productivity & Safety Roadshow # 2 ในวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2562 โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา
The 2nd destination of this year is “Chon Buri” @ Ambassador City Jomtien Pattaya, Chon Buri. Shall we meet in the next edition, Thailand Roadshow 2019: Productivity & Safety Roadshow # 2 on Friday, FOCUS THAILAND MAR 2018 2692 AprilFOOD 2019.
92_ShowTime_Samut_Khon Kaen.indd 92
22/4/2562 BE 19:27
SURROUNDS Rayong, 13 March 2019
www.mt.com
Mettler-Toledo (Thailand) Organized a Comprehensive Training on Lean and Truck Scale Training
บริษทั เมทเลอร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จ�ำกัด ได้ จัดสัมมนา เรื่อง ระบบผลิตแบบลีน กับการประยุกต์ ใช้งานเครือ่ งชัง่ ในไลน์การผลิต และเครือ่ งชัง่ รถบรรทุก ณ โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น จังหวัดระยอง โดยมี จุดประสงค์เพื่อแนะน�ำหลักการเบื้องต้นของระบบ การผลิตแบบลีนและการวิเคราะห์ ซึ่งเป็นระบบที่ ทัว่ โลกให้การยอมรับว่าเป็นระบบการผลิตทีส่ ามารถ ลดต้นทุน และลดความสูญเสียโอกาสทางการผลิต ได้อย่างดี ผ่านการประยุกต์การใช้งานเทคโนโลยี เครื่องชั่งที่ทันสมัย โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญ จาก เมทเลอร์-โทเลโด (ประเทศไทย) และทีมงานที่ มีประสบการณ์รว่ มให้ความรูแ้ ละตอบข้อซักถามจาก ผู้เข้าร่วมงานในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น เทคโนโลยี เครื่องชั่งรถบรรทุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ข้ อ กฎหมายส�ำ หรับ เครื่องชั่งรถบรรทุก ตัว อย่า ง การประยุกต์การใช้งานเครื่องชั่งในระบบการผลิต และการสาธิตการใช้งานระบบเครื่องชั่งรถบรรทุก เป็นต้น
Mettler-Toledo (Thailand) Ltd. held a seminar on “Lean production system with application of scales in production lines and truck scales” at Star Convention Hotel, Rayong. This seminar aims to introduce the basic principles of lean production systems and analysis which is globally recognized as a production system that can reduce costs and reduce loss of production opportunities by applying applications and weighing technology. Additionally to the main objective, this event was also honorably joined by guess speaker along with Mettler-Toledo (Thailand) specialists to provide knowledge about truck scale technology to increas efficiency including legal requirements for truck scales and examples of applications for scales in production systems as well as demonstration of truck scale systems by an experienced team.
Bangkok, Thailand
www.ulmapackaging.com
ULMA Packaging Opens Its Own Subsidiary in Thailand Strengthening Its Presence in Southeast Asia
ULMA Packaging หนึ่ ง ในผู ้ น� ำ ด้ า น การออกแบบและน� ำ เสนอระบบการบรรจุ ผลิตภัณฑ์อาหารได้ให้ความส�ำคัญกับการให้ บริการกลุม่ ลูกค้าในภาคพืน้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Mr.Mikel Kortabitarte ผู้อ�ำนวยการ ฝ่ายการค้า กล่าวว่า “เราได้เปิดส�ำนักงานขึ้น ในประเทศไทย เพื่อที่จะสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างทันท่วงที อีกทัง้ ยังเป็นการยกระดับการให้บริการเชิงเทคนิคไปสูม่ าตรฐานทีส่ งู ขึน้ อีกด้วย” ULMA Packaging มุ่งเน้นในประสิทธิภาพการผลิตและระบบของ เครื่องจักร ดังนั้น การดูแลกลุ่มลูกค้าอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่ส�ำคัญ อย่างยิ่ง ส�ำนักงานในประเทศไทยนี้จะเป็นศูนย์กลางการให้ค�ำปรึกษา พรั่งพร้อมด้วยทีมงานเชิงเทคนิคเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเครื่องจักรต่างๆ จะมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของลูกค้า คุณจักรกฤษณ์ อภิกุล กรรมการผู้จัดการ ULMA Packaging (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งได้ร่วมงานกับ ULMA Packaging และมี ประสบการณ์ในกลุ่มธุรกิจนี้มาอย่างยาวนาน กล่าวว่า “อุตสาหกรรม อาหารในประเทศไทยมีศักยภาพในการเติบโตเป็นอย่างมาก นับเป็น โอกาสที่ดีในการจัดตั้งส�ำนักงานขึ้น เรามั่นใจว่าจะสามารถดูแลกลุ่ม ลูกค้าได้อย่างเต็มที่และประสบความส�ำเร็จในอนาคต”
With a strong international focus, ULMA Packaging is a world reference in the design and manufacture of packaging systems, especially for fresh products in the demanding food industry. With this recent commercial venture, ULMA aims to offer its customers in this Southeast Asian countries a more personalised service and a technical service tailored to the needs of each project. As remarked by Mr.Mikel Kortabitarte, Commercial Director of ULMA Packaging, “We decided to set up a business in Thailand as many of our customers were requesting a more hands-on service, and we wanted to offer the Thai industry a technical service of a higher standard”. ULMA Packaging’s priority is always to ensure outstanding operability and productivity for our customers, so it is important to try to be as close as possible to them in each of the markets in which the firm is present. The new subsidiary will offer local commercial advice, with our technical service ensuring that our equipment operates with maximum efficiency, to provide added value to the customers’ businesses. The new subsidiary, located in Bangkok will be managed by Mr. Chuckkrit Apikul, who has joined ULMA with extensive experience in the sector. As noted by Mr.Apikul, “The Thai market is extremely attractive for ULMA given its current size and strong potential for growth. We are very optimistic about the future of this new subsidiary, which we are sure will be a resounding success”.
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 93-94_Surrounds.indd 93
93
22/4/2562 BE 18:39
SURROUNDS Bangkok
www.bsigroup.com/en-th
CPRAM Got the ISO 22301:2012 BCMS from BSI
สถาบันมาตรฐานอังกฤษ (BSI) ขอร่วมแสดงความยินดีกับ บริษัท ซีพีแรม จ� ำ กั ด ในวาระแห่ ง ความส� ำ เร็ จ ส� ำ หรั บ การจั ด การความต่ อ เนื่ อ งทางธุ ร กิ จ ISO 22301:2012 จากสถาบันมาตรฐานอังกฤษ (BSI) ระบบการจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCMS) ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อปกป้องบริษัทจากความเสี่ยง ทีเ่ กีย่ วข้องกับการหยุดท�ำงานทีอ่ าจเกิดขึน้ จากการหยุดชะงักในกระบวนการผลิต หรือภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด British Standard Institution (BSI) has congratulated and presented certificates of ISO 22301:2012 for Business Continuity Management System (BCMS) to CPRAM Co., Ltd. The Business Continuity Management System (BCMS) has been developed to protect companies from the risks associated with downtime which can occur due to unexpected disruptions or disasters. Saraburi, 5 April 2019
www.cpf.co.th
CPF Launches New Corn Silage Plant to Boost Milk Production
นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ ธุรกิจผลิตและขายอาหารสัตว์บก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จ�ำกัด (มหาชน) หรือซีพเี อฟ เปิดเผยว่า ซีพเี อฟด�ำเนินธุรกิจผลิตอาหารโคนมมานานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะอาหารข้นส�ำเร็จรูป ขณะทีโ่ คเป็นสัตว์เคีย้ วเอือ้ งมี 4 กระเพาะ จ�ำเป็นต้องได้รบั ทัง้ อาหารข้นและ อาหารหยาบในสัดส่วนที่สมดุล ธุรกิจขายอาหารสัตว์บกซีพีเอฟ ส�ำนักวิชาการอาหารสัตว์เครือเจริญโภคภัณฑ์ CP-Meiji และธุรกิจพืชครบวงจร-ข้าวโพด จึงร่วมกันด�ำเนินโครงการ “ศูนย์ผลิตอาหารหยาบส�ำหรับโคนม” ณ ฟาร์มพืชไร่ ต�ำบลแสลงพัน อ�ำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี เพื่อน�ำหลักวิชาการมาพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ที่ เหมาะสม ด้วยการจัดหาพืชอาหารสัตว์ภายใต้โครงการผลิตข้าวโพดหมักส�ำหรับเกษตรกรน�ำไปเป็นอาหารโคนม เพื่อให้ได้น�้ำนมคุณภาพดี ป้อนให้กับโรงงานแปรรูปนมของ CP-Meiji ต่อไป “ฟาร์มพืชไร่แสลงพันเป็นสถานที่วิจัยและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นศูนย์ผลิต Corn silage เนื่องจากรายล้อมไปด้วยฟาร์มโคนมที่หนาแน่นที่สุดในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ ซีพีเอฟที่ต้องการผลิตสินค้าเพื่อจ�ำหน่ายในพื้นที่ที่มีความต้องการสูง โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายการผลิตที่ประมาณ 20,000 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท” นายเรวัติ กล่าว นายสายัณห์ หงษา ประธานคณะผูบ้ ริหารฝ่ายปฏิบตั กิ าร ธุรกิจพืชครบวงจร–ข้าวโพด บริษทั เจริญโภคภัณฑ์ โปรดิวส์ จ�ำกัด หรือ CPP กล่าวว่า ข้าวโพดหมักเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดแรกที่ถูกเลือกน�ำมาผลิต เนื่องจากมีวัตถุดิบที่สามารถผลิตได้ในประเทศ และข้าวโพดอาหาร สัตว์มีจุดเด่นที่มีเปอร์เซ็นต์แป้งสูง มีเปอร์เซ็นต์โปรตีนที่ดี มีอัตราการสะสมแป้งระยะสั้น อายุเก็บเกี่ยวไว ในขณะที่ใบยังเขียว ทั้งยังมีผลผลิตต่อไร่สูง ธุรกิจพืช ครบวงจรจึงใช้ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาข้าวโพดมากว่า 40 ปี ในการทุ่มเทวิจัยและพัฒนาคัดสรรสายพันธุ์ข้าวโพดที่เหมาะสมส�ำหรับผลิต Corn silage ด้วยมุ่งหวังผลิตอาหารสัตว์ที่เป็นต้นน�้ำ ทั้งอาหารข้นและอาหารหยาบส่งต่อแก่เกษตรกรฟาร์มโคนม เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจอุตสาหกรรมแปรรูปมีน�้ำนมดิบที่สามารถ ควบคุมได้ตลอดกระบวนการจนถึงมือผู้บริโภค “การที่ CPP และซีพีเอฟ ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวส�ำคัญของเครือซีพีที่ได้ผนึกก�ำลังเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคง ขยายตลาด และเพิ่มโอกาสอุตสาหกรรมโคนมไทย ให้มีศักยภาพที่จะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ที่ส�ำคัญยังช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีผลิตภัณฑ์ อาหารหยาบ Corn silage ทีม่ คี ณ ุ ภาพสูงและเหมาะกับความต้องการของโค ขณะเดียวกันทีมงานยังพัฒนาพืน้ ทีแ่ ปลงปลูกให้สามารถปลูกข้าวโพดนอกจากฤดูกาล ที่ต้องผลิตเมล็ดพันธุ์หลัก นับเป็นการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อย่างสูงสุด” นายสายัณห์ กล่าว Mr.Rewat Hathaisattayapong, Chief Operating Officer of CPF, said the new feed product is a jointly development between CPF, Charoen Pokphand Produce (CPP), and CP-Meiji to produce high quality corn silage for dairy farmers. The new forage will help cows to stay healthy and feed a superior quality milk to Thai dairy industry, enabling the industry to deliver best quality milk to consumers. Location-wise, the new corn silage plant is located in CPF’s field crop research facility in Saraburi, the largest dairy farming area in Thailand. It will also act as a center of dairy forage research, using over 30 years of CPF’s experience in dairy cow’s feed and CPP’s 40 years of experience in corn research. In addition to the facility, the project has a planting area developed for off-season farming, making it to be able to produce corn all year round. The joint project is expected to produce around 20,000 metric tonnes of quality forage, worth over THB 50 million, in this year. Mr.Sayan Hongsa, Chief Operating Officer of CPP, said the project has chosen to produce corn silage due to its nutritional benefits and high yield rate. CPP has constantly developed maize for making quality silage. Corn silage provides higher starch and protein when compare to other types of silage. It is also easy for cow, which has a complex digestive system because of its ruminant stomach, to digest the forage. “The joint project is a significant progress for CP Group. It makes new market opportunity for us. Moreover, the project will uplift the quality of Thai dairy products to be on par with leading countries,” he said.
94
FOOD FOCUS THAILAND MAY 2019
93-94_Surrounds.indd 94
22/4/2562 BE 18:39
P R O D U C T
P R O F SURROUNDS I L E
MAY 2019 FOOD FOCUS THAILAND 95_Product Profile.indd 95
95
22/4/2562 BE 14:17
U SHARE. V CARE.
May
Let us know which Service
info you interested in, please inform
Should you have any enquiries, please inform us the service info code (s) Advertisement
B
B
B
B
Article
C
C
C
C
Product
P
P
P
P
w
Please share your comment with us!
Please fill in the form in ENGLISH Name-Surname: Position: Company Name: Company Address:
Happy Meals in Space (2 Lucky Winners)
Tel: Fax: E-mail:
Note: This picture is for advertising only.
Website:
We look forward to your feedback and suggestions. editor@foodfocusthailand.com, contact@foodfocusthailand.com +66 2116 5732
The winner of U Share. V Care. in March 2019 1. Navaporn Sukpotharom Flavor Evaluator, Chemico Group 2. Chanakarn Dissara R & D Supervisor, Theppadungporn Coconut Co., Ltd. The gift will be delivered to you by post. Thank you. 96_Usahre_final.indd 96
Let’s Catch our Tiny Injured Cell Together! Bacterial Cell Set
(Only 2 Lucky Winners) Supported by Thermo Fisher Scientific 24/4/2562 BE 18:28
Visit us at Booth No. ZZ29 Hall 1
ad_Dhawath_�����.indd 97
17/4/2562 BE 17:20
Japanese & European Quality for Safety and Delicious Food Ham & Sausage Line: อุตสาหกรรมผลิตแฮมและไส้กรอก
Marinated Machine
Hot Smoke House System Intensive Chiller System High Speed Vacuum Stuffer Line
Vacuum Bowl Cutter Tumbler
Vacuum Stuffer + Semi Auto Clipper
Grinder
Emulsifier
Slicer: เครื่องสไลซ์/หั่น
Packaging: เครื่องบรรจุ
Vacuum Mixer
Injector
Other Machine: เครื่องจักรอื่นๆ
Horizontal Packing
Semi-Frozen Slicer
Dumplings Line: ไลน์ผลิตติ่มซำ�
Encrusting Machine
Vegetable Slicer
Thermoformer
เกี๊ยวซ่า
Battering and Breader Machine
Fryer
Find a map and directions to the new office here.
Automatic and Table Top Shaomai Forming Machine
Visit us at : Booth No. BC11 Hall 101
Address: 1970, 1971, 1972 Moo 1, Sukhumvit Road, Tel: 0 2026 3543, 0 2117 3658 Soi Sukhumvit 74, Samrongnuea Sub-District, Fax: 0 2117 3659 Mueang Samutprakan District, Samutprakan 10270 E-mail: sales@hitec-th.com, contact@hitec-th.com Thailand Website: www.hitec-th.com, www.hitec-jp.com
New Location
ad_Hi-tec final.indd 13
22/4/2562 BE 14:02