Flavours.
Simply
Satisfying.
Crafted to give a harmonious blend of notes and optimised flavour performance, Flavours help raise the bar for your products. Along with a strong suite of regulatory and application support, we ensure a platform that satisfies your every flavouring need.
RICH LEGACY OF PROVEN EXPERTISE
UNIQUE, AUTHENTIC AND STABLE FLAVOURS
SIGNATURE FLAVOURS YOU CAN TRUST
VISIT US AT FOOD INGREDIENTS ASIA 2017 Bangkok, Thailand Hall 103 Booth G17
Singapore and Int’l: (65) 6265 0410 Indonesia: (62) 21 8790 0778 Thailand: (66) 2 862 3055-58 Malaysia: (60) 3 7885 0688/9788
Website: www.kh-roberts.com Email: info@kh-roberts.com KH Roberts is a FSSC 22000 and ISO 9001:2008 certified group of companies. ©2017 KH Roberts Pte. Ltd. All rights reserved.
ad_KH Robert_final.indd 1
8/19/17 9:30 AM
Vacuum Bowl Cutter
Vacuum Tumbler
• • • • •
• Full 304 stainless steel constructed machine with built-in vacuum system. • Designed to meet the needs of large-sized meat and poultry processing in industrial capacity. • Clockwise and counter-clockwise rotation. • Reliable finished product, stable running, low noise operation and easy cleaning.
High-graded SUS 304 stainless steel construction with 6 blade knife-headed cutter with automatic water feeding system (optional). Smooth surfaces giving the cutter most sanitary design for easy and fast clean-up. Superior quality solid stainless steel bowl attached with large diameter bearings guarantees a smooth vibration-free cutting. Touch-screen coloured LCD display monitor system (All process: loading/unloading, bowl cover status, knives & bowl rotation speed, vacuum system parameters, time of process, etc.) Vacuum bowl cutter sized from: 125, 200, 330, 420, 500 Litre capacity.
Meat Dicer
Cutting Rib Machine
• • • • • •
• • • •
Multiple cutting type: dice, shred, slice and strip. Dice cutting size: 4-120 mm Easy to adjust cutting thickness by adjusting button. Precisely single cutting controlled by stepping motor. This machine was specially developed for cutting frozen meat, fresh meat, fish, and chicken meat with bone, etc. Cutting capacity 300-800 kg/hr depends on meat condition and cutting thickness.
Specially developed for slicing sausage, ham, bacon, rib and cheese product. Adjustable cutting thickness: 2-30 mm. Smart product holding arm to avoid product mis-place in the process. Capacity: up to 200 pcs/min.
408/2 ถนนจรัญสนิทวงศ์ บางยี่ขัน บางพลัด กรุงเทพฯ 10700 408/2 Charansanitwong Road, Bangjikan, Bangplad, Bangkok 10700
ad_Better Pack.indd 1
โทร. / Tel. (662) 886 9000 แฟกซ์. / Fax. (662) 886 9393
8/18/17 8:39 AM
Glutathione: A Vital Ingredient กลูตาไธโอน: ส่วนประกอบทางโภชนาการที่จ�ำเป็นแก่ชีวิต Hitomi Ito
Global Sales & Marketing KOHJIN Life Sciences Co., Ltd. info@opitacglutathione.com https://opitacglutathione.com/
OPITACTM Glutathione: บทบาทที่สำ�คัญระดับเซลล์
กลูตาไธโอนมีบทบาทต่อการต้านอนุมลู อิสระ ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกท�ำลาย และ ยังช่วยก�ำจัดสารพิษ โดยตับเป็นอวัยวะที่มีระดับกลูตาไธโอนสูงที่สุด และท�ำหน้าที่ ในการจับสารพิษหลายชนิด เช่น อัลดีไฮด์ โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น โดยจะถูก ขับออกทางปัสสาวะ นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินท�ำให้ผิวขาว ช่วยเพิม่ การเผาผลาญไขมัน กระตุน้ ภูมคิ มุ้ กัน เป็นต้น จากข้อพิสจู น์เหล่านีจ้ งึ สามารถ กล่าวได้ว่ากลูตาไธโอนเป็นส่วนประกอบทางโภชนาการที่จ�ำเป็นแก่ชีวิต
KOHJIN และ OPITACTM Glutathione
บริษัท KOHJIN Life Sciences จ�ำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ ในปัจจุบัน ได้คิดค้นและผลิต OPITACTM Glutathione ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 ด้วยความทุ่มเทกับ การท� ำ งานตลอดหลายทศวรรษที่ ผ ่ า นมา KOHJIN ได้ ผ ลิ ต กลู ต าไธโอนด้ ว ย กระบวนการพิเศษด้วยยีสต์ Torula ที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยจากองค์การอาหาร และยา ประเทศสหรัฐอเมริกา OPITACTM Glutathione นับเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เดียว ทีไ่ ด้รบั การรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้เป็นส่วนประกอบ ทางโภชนาการที่สามารถใช้เติมลงไปในอาหารได้อย่างปลอดภัย หรือ GRAS ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังได้รับการรับรอง Kosher, HALAL (MUI/JAKIM) และ GMP
การบริโภคอาหารทั่วไปนั้นอาจไม่เพียงพอ
กลูตาไธโอนเป็นสารชีวโมเลกุลที่ร่างกายของมนุษย์ผลิตขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่ เมื่อเราอายุมากขึ้น กลูตาไธโอนภายในเซลล์จะลดลงอย่างมากเนื่องจากปัจจัยต่างๆ ที่เราต้องเผชิญในทุกช่วงเวลา เช่น รังสียูวี แอลกอฮอล์ บุหรี่ อนุมูลอิสระ ความเครียด ทางจิตใจหรือทางกายภาพ เป็นต้น การลดลงของระดับกลูตาไธโอนนี้มีความสัมพันธ์ กับโรคต่างๆ อาหารบางชนิด เช่น ผักต้นอ่อน มะเขือเทศ อะโวคาโด มะม่วง เนื้อวัว และตับไก่ มีปริมาณกลูตาไธโอนอยูส่ งู แต่กลูตาไธโอนจะลดลงในระหว่างกระบวนการ แปรรูปอาหาร ดังนั้น การบริโภคทั่วไปอาจไม่เพียงพอ ร่างกายจึงต้องการกลูตาไธโอน เสริมจากอาหารตามปกติ
OPITACTM Glutathione: พิสูจน์แล้วว่าดูดซึมได้ดี
จากข้อมูลการศึกษาล่าสุดในมนุษย์ เมือ่ ปี พ.ศ.2556 ของมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศ ญี่ปุ่น ยืนยันได้ว่ากลูตาไธโอนที่ร่างกายได้รับประทานเสริมเข้าไปนั้น สามารถถูก ดูดซึมเข้าไปสู่ระบบการหมุนเวียนของเลือดในรูปแบบที่เป็นกลูตาไธโอนโดยสมบูรณ์
Translated and Compiled By: Prakaithip Ekwongsupasarn Sales Manager Rama Production Co., Ltd. prakaithip@ramaproduction.com www.ramaproduction.com
ซึ่งเชื่อมพันธะอยู่กับโปรตีน โดยไม่ได้ถูกย่อยสลายเป็นกรดอะมิโนหน่วยย่อย เพื่อใช้เป็นแหล่งสังเคราะห์กลูตาไธโอนในร่างกายคนเราอย่างที่มีการถกเถียง กันมาในอดีต (Park et al, J. Agric. Food Chem (ACS). 62, 6183-6189 (2014))
OPITACTM Glutathione: บทบาทต่อผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันพอกตับ
ภาวะไขมันพอกตับในผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือ Non-alcoholic Fatty Liver (NAFL) เป็นภาวะการผิดปกติของตับที่พบได้บ่อยที่สุดในประเทศที่พัฒนาแล้ว และเกี่ยวข้องกับกลุ่มความผิดปกติที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและ หลอดเลือด (Metabolic syndromes) โรคอ้วน โรคเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจาก พฤติกรรมทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปของคนเราในช่วงทศวรรษทีผ่ า่ นมา ในประเทศญีป่ นุ่ มีประชากรประมาณร้อยละ 10 เป็น NAFL แม้ว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะยังไม่มีการส�ำรวจทางสถิติ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วอาจ ท�ำให้เกิดสถานการณ์คล้ายกันในอนาคต ภาวะ NAFL มีความครอบคลุมลักษณะที่เกิดขึ้นกับตับ ตั้งแต่ภาวะไขมัน พอกตับธรรมดา เริ่มมีการอักเสบของตับ (NASH) จนกลายเป็นโรคตับแข็ง และ พัฒนากลายเป็นมะเร็งตับในที่สุด การดูแลเบื้องต้นส�ำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ คือ การปรับเปลี่ยนวิถีการด�ำเนินชีวิต โดยการลดน�้ำหนัก การควบคุมอาหาร หรือ การออกก�ำลังกาย ซึ่งท�ำได้ยากมาก จากการศึกษาก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่า การรับประทานกลูตาไธโอนสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ และอาจส่งผล ต่อปฏิกิริยารีดอกซ์ในร่างกายมนุษย์ จึงท�ำให้นักวิจัยตั้งสมมติฐานว่าการรั บ ประทานกลู ต าไธโอนสามารถบรรเทาภาวะไขมั น พอกตั บ ในผู ้ ที่ ไ ม่ ดื่ ม แอลกอฮอล์ได้ เพราะการมีไขมันสูงนั้นเสี่ยงต่อการเกิดออกซิเดชันมากขึ้น น�ำไปสู่ภาวะตับอักเสบได้ และจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ ปุ ่ น แสดงให้ เ ห็ น ว่ า การรั บ ประทาน OPITAC TM Glutathione (300 มิลลิกรัม/วัน) เป็นเวลา 4 เดือน ท�ำให้ระดับ Alanine Transaminase (ALT) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การอักเสบของตับของผู้ป่วยลดลงอย่างมีนัยส�ำคัญ ทั้งยังพบว่าระดับไตรกลีเซอไรด์ กรดไขมันที่ไม่ได้ท�ำปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ (Non-esterified fatty acid) และระดับเฟอร์ริตินลดลงด้วยเช่นกัน และนี่คือ อีกหนึ่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกที่พิสูจน์ว่าการรับประทาน กลูตาไธโอนนั้นมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการพัฒนาความผิดปกติของ โรคไขมันพอกตับได้ (Honda et al. BMC Gastroenterology (2017) 17:96)
ADVERTORIAL
Glutathione: Multi-potent Vital Substance
Originally Glutathione was discovered as an endogenous “anti-oxidant”. It can protect our cellular components such as protein, lipid, and nucleic acid from the oxidative stress or damage. Second, Glutathione is highly concentrated in liver which is responsible for detoxification by the conjugation with a wide variety of toxins such as aldehydes, heavy metals, carcinogens, and more and will be excreted into urine. There were reported range of benefits of Glutathione, such as inhibition of melanin formation, enhancing fat consumption, boosting immune function, and so on. All these facts suggest how vital Glutathione is for maintaining our life.
KOHJIN and OPITACTM Glutathione
KOHJIN Life Sciences Co., Ltd., Mitsubishi Corporation group company, started the production of Glutathione in 1968. With the enduring breeding work over the decades, KOHJIN established a sophisticated fermentation process using “Torula Yeast”, edible yeast approved by US-FDA, which enables the stable production and consistent quality of their Glutathione, OPITACTM. OPITACTM Glutathione obtained US-FDA notified GRAS in 2009, which is the sole Glutathione accredited with FDA GRAS status till now. Furthermore, OPITACTM Glutathione is certified with Kosher, HALAL (MUI/JAKIM), and GMP.
Necessity of Glutathione Supplementation
Glutathione can be synthesized and regenerated in cells enzymatically. However endogenous Glutathione is not infinite. As we become aged, intracellular Glutathione will be declined significantly due to the various factors which we could face every moment, such as UV radiation, alcohol intake, cigarette, oxidative stress, mental or physical stress, and more. And decreased Glutathione is highly associated with various kinds of diseases. Some natural foods are rich in Glutathione, such as sprouts, tomato, avocado, mango, and beef/chicken liver but it can be easily degraded during the food processing. Hence it is recommended to take Glutathione as “dietary supplements” on top of the normal diet.
OPITACTM Glutathione: Efficacy of Oral Intake
There was a long controversy on the bioavailability of Glutathione, if orally intaken Glutathione can be absorbed to the body or not, and scientists were rather suspicious on its bioavailability. However recent study casted a new light on this subject; in 2013 a human study demonstrated the increase of protein-bound Glutathione in plasma after supplementation of Glutathione (Kyoto University, Japan). This is the first finding to prove the efficacy of the oral intake of Glutathione. (Park et al, J. Agric. Food Chem (ACS). 62, 6183-6189 (2014))
OPITACTM Glutathione: New Light on Fatty Liver
Non-alcoholic Fatty Liver (NAFL) is the most common liver disorder in developed countries, and is associated with the metabolic syndromes,
obesity, diabetes, which are frequently found worldwide due to the change of the life habits in the past decades. In Japan, around 10% of the population is said to be NAFL. Although no established statistical survey has been available in South East Asia, the rapid economy growth there would potentially incur a similar situation in future. NAFL is a broad spectrum of disease entities, ranging from simple steatosis, Non-alcoholic Steatohepatitis (NASH), and NASH-related cirrhosis, which finally may be progressed to hepatocellular carcinoma. First-line treatment for NAFL still remains to be lifestyle modification to achieve weight reduction, particularly by controlling dietary foods or by exercise which is very difficult to accomplish and maintain. Based on the previous studies which suggested the orally administered Glutathione is absorbed into the blood and may affect the redox status in the human body, the efficacy of orally administered Glutathione on NAFL was examined by an open-label, single-arm, multicenter, pilot study (Yokohama City University, Japan). The primary outcome of this study was an improvement in ALT (Alanine Transaminase, known also as GPT; GlutamicPyruvic Transaminase) level, which is the indicator of the inflammation of liver. 29 out of 34 patients treated with oral administration of Glutathione (300 mg/ day) for 4 months showed reduction in ALT levels. There were also observed the reduction in triglycerides, non-esterified fatty acid, and ferritin levels. Although further study should be required to elucidate the mechanism behind, this study suggests that oral administration of Glutathione supports hepatic metabolism and improves NAFL. This is the first scientific breakthrough that proves Glutathione supplementation may work to reduce the risk of the progression of fatty liver disorder. (Honda et al. BMC Gastroenterology (2017) 17:96)
For more information, please visit https://opitacglutathione.com/ Come to join us to get information at Fi Asia 2017: Stand No. K9
CONTENTS
SEPTEMBER Vol. 12 No. 138
BONUS
BONUS
ATTRACTIONS
ATTRACTIONS
SCOOP
SURF THE AEC 28
ASEAN…To Seek for Resolutions for Creating Sustainability Food and Agricultural Policies for Regional Food Security
นโยบายและยุทธศาสตร์ด้านระบบอาหาร-เกษตรอย่างยั่งยืนเพื่อความมั่นคง ด้านอาหารในภูมิภาค
90 96
ATTRACTIONS \
Food Industry and the Need to Adjust for the Ever-changing Future
STAR ITEMS 20
By: Food Focus Thailand Magazine
SPECIAL REPORT Unchanged - Limited Impact, Fishery Exports Still Rising
38
ผลิตภัณฑ์ดาวเด่นประจ�ำฉบับ
Thailand to be Processed Food Manufacturing Hub
ปั้นไทยเป็นฐานผลิตสินค้าอาหารแปรรูป จับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น บูมตลาดส่งออก อาเซียน อินเดีย และตะวันออกกลาง
48
Clean Label Starches and Flakes
ผลิตภัณฑ์สตาร์ชและมันฝรั่งเกล็ดที่เป็นมิตรต่อฉลาก Clean Label in Processed Meat & Poultry Products
ความท้าทายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปภายใต้เทรนด์ “คลีนลาเบล” By: Yung-Cheng Chang
50
By: Food Focus Thailand Magazine
ฉลากสะอาด...อีกหนึ่งกระแสของส่วนผสมอาหารที่มาแรง
By: Gerben Meursing
Thai-Japanese Business Matching to Boost Exports to ASEAN, India, and the Middle East
Clean Label By: Food Focus Thailand Magazine
45
By: Kasikorn Research Center
SEE THROUGH MARKET 66
STAR ITEMS
SPECIAL FOCUS
TIP Report 2017: Thailand’s Tier-2 Watch List Status
TIP Report 2017 คงสถานะไทยที่ระดับ Tier 2 Watch List: ผลกระทบ อยู่ในวงจ�ำกัด ส่งออกประมงไทยยังขยายตัวได้
62
มะพร้าวและสมุนไพรไทย…พืชอุตสาหกรรมที่ตลาดมีความต้องการสูง
REGULAR
บทสัมภาษณ์คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน “อุตสาหกรรมอาหาร…ต้องปรับเปลี่ยน เพื่ออนาคตประเทศ”
56
Coconut and Thai Herbs… Industrial Crops that’s In Demand By: Food Focus Thailand Magazine
Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit (GIZ) GmbH
SPECIAL INTERVIEW 32
เกาะกระแสซูเปอร์ฟู้ด: โอกาสของมะพร้าวไทยในตลาดโลก By: Kasikorn Research Center
By: ASEAN Sustainable Agrifood Systems
Superfood Trends: Opportunities for Thai Coconuts Abroad
Clean Label Struggle: Natural Colors in Beverage
สีจากธรรมชาติ...เทรนด์สู่ฉลากสะอาดในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม By: Judy Ng
Southeast Asia’s F&B Industry: Thriving or Dying?
53
สถานการณ์ของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้: รุ่ง หรือ ร่วง?
Clean Label Starch Solution for Bakery: Steamed Cake
แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Steamed cake ให้มีเนื้อสัมผัสที่ดีถูกใจผู้บริโภค รับเทรนด์ “คลีนลาเบล” By: Chutarat Kowittaya
By: Mathias Kuepper
45
Ph.D., Poomarin Homtong
SMART PRODUCTION 72
Automation and Robotics Usher in a New Era
ข้อได้เปรียบของการประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ในอุตสาหกรรมอาหารยุคใหม่ By: Food Focus Thailand Magazine
78
32 6-8_
.indd 6
Tapping into the Batch-fried Chips Market with Innovative Turnkey Solutions
เทคโนโลยีล่าสุดและนวัตกรรมชั้นเลิศแบบครบวงจร By: Paul Webster
8/21/17 5:46 PM
Visit us at: Booth No. P1
ad_FIT final.indd 22
8/4/17 11:52 AM
CONTENTS
SEPTEMBER Vol. 12 No. 138
REGULAR
ATTRACTIONS
STRONG QC & QA Eat the Peach, Not the Pesticide
82
ความกังวลเรื่องสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชตกค้างในผักและผลไม้ By: Consumer Reports
Let’s Assure that Food Products are Completely Free
84
from Any Residues and Contaminations
ขจัดยาตกค้างหรือปนเปื้อนในสินค้าให้หมดแบบสมบูรณ์กันเถอะ By: Sahas Ratanasoponchai
STRATEGIC R & D Emulsified Oil: Active Ingredients for Improving
86
Texture Qualities of Cooked Rice
สารออกฤทธิ์ปรับปรุงคุณภาพเนื้อสัมผัสข้าวหุงสุก
56 OCCASIONAL ATTRACTIONS
SAFETY ALERT 99
By: Okuno-Auromex (Thailand) Co., Ltd.
อาหารว่างมื้อส�ำคัญ อุดมด้วยวิตามิน และสารอาหาร By: Chaipattana Solution Co., Ltd.
5 Secrets to Healthier Crisps
เลือกกินมันฝรั่งทอดอย่างไรไม่ท�ำลายสุขภาพ By: Phakham Thaemhong
Prunes from California
88
72
STRENGTHEN THE PACKAGING 102
50
Thermal Analysis of Polymers with Differential Scanning Calorimetry
การวิเคราะห์ความร้อนของพอลิเมอร์ก่อนขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ด้วยเทคนิค Differential Scanning Calorimetry By: Mettler-Toledo (Thailand) Limited
EXHIBITION ATTRACTIONS
SHOW TIMES 105
Post Show – Thailand Retail, Food&Hospitality Services (TRAFS) 2017
งานแสดงสินค้านานาชาติอันดับ 1 ด้านอุปกรณ์เครื่องใช้ อาหารและเครื่องดื่ม ส�ำหรับ โรงแรมและธุรกิจด้านบริการ พร้อมยอดขายทะลุ 150 ล้านบาท
DEPARTMENTS
110 U Share. V Care.
Advertising Index
10 รายชื่อผู้ลงโฆษณา
Schedule of Events
16 ข้อมูลงานนิทรรศการ การประชุม สัมมนา และฝึกอบรมต่างๆ
“Sukishi Gift Voucher worth THB500”
Surrounds
106 อัพเดทข่าวสารในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
6-8_
.indd 8
แบบสอบถามความคิดเห็น พร้อมลุ้นรับของรางวัล
ประกาศรายชื่อผู้โชคดี ได้รับรางวัลประจ�ำฉบับเดือน กรกฎาคม 2560
Share your comment and
The Winners of U Share. V Care.
win a gift
JULY 2017 Issue
8/22/17 2:41 PM
Our Product Category
• Casings: Collagen, Cellulose, Plastic, Fibrous • Ham net • Seasoning: Meat seasonings and Cures, Snack seasonings • Marinade sauce, Dipping sauce
• Whey Protein: Whey protein concentrate, Whey protein isolate • Other ingredient: Colorant, Modified starch, Shelf-life extender, Stabilizer for meat products • Ready to use Microbial test kits (Compact dry) • Food Allergen test kits
I.P.S. International Co., Ltd.
36 Ramintra Road, Minburi, Minburi, Bangkok 10510 Tel: (662) 917 9641-43 Fax: (662) 917 9640 E-mail: ips_inter@hotmail.com ad_IPS final_OK.indd 9
Visit us at: Booth No. Q22
8/19/17 9:07 AM
ADVERTISING INDEX
ADVERTISING INDEX September 2017 Company
Service Info
Page No.
Arcadia Foods Co., Ltd. B299 67 Bayer Thai Co., Ltd. B377 85 BBC nv B477 41 BJC Specialties Co., Ltd. B009 31 Better Pack Co., Ltd. B011 3 Brenntag Ingredients (Thailand) Public Company Limited B036 BC Chaipattana Solution Co., Ltd. B481 19 Clean Air Innovation Co., Ltd. B433 75 Dhawath Technology Systems Co., Ltd. B251 IBC Dynamic Synergy Co., Ltd. B471 97 Eastern Polypack Co., Ltd. B451 101 Ecolab Ltd. B073 79 Emsland Asia Food Innovation Corp. Co., Ltd. B463 47 Febix International Co., Ltd. B487 81 Fiberstar Inc. B482 59 Food Focus Thailand Roadmap # 40: Meat & Poultry Edition Insert Food Focus Thailand Roadmap # 41: Drinking Edition Insert Food Ingredient Technology Co., Ltd. B024 7 Ganeden, Inc B430 21 GNT Group B.V. B464 39 Hi-Cook (Thailand) Co., Ltd. B325 73 Hitec Food Equipment Co., Ltd. B290 77 I.P.S. International Co., Ltd. B006 9 IHI Asia Pacific (Thailand) Co., Ltd. B483 15 Inthaco Co., Ltd. B074 95 John Bean Technologies (Thailand) Ltd. B450 25 Kerry Ingredients (Thailand) Ltd. B467 23 KH Roberts (Thailand) Co., Ltd. B231 IFC Krones (Thailand) Co., Ltd. B104 71 Kuraray (Thailand) Co., Ltd. B355 11 Kurz (Thailand) Ltd. B438 91 Mayekawa (Thailand) Co., Ltd. B382 65 Mettler-Toledo (Thailand) Ltd. B010 103 Nova Pacific Co., Ltd. B268 83 Nutrition Sc Co., Ltd. B261 17 Official Equipment Manufacturing Co., Ltd. B084 10 Ohaus Indochina Limited B303 109 Okuno-Auromex (Thailand) Co., Ltd. B144 87 Panasia Tara Co., Ltd. B418 63 Rama Production Co., Ltd. B109 4-5 Senta Pack Machinery & Service Co., Ltd. B025 13 SGS (Thailand) Limited B017 61 Shrinkflex (Thailand) Co., Ltd. B452 93 Siam Modified Starch Co., Ltd. B280 55 Siam Pro (Thailand) Co., Ltd. B486 43 Tetra Pak (Thailand) Ltd. B371 35 Thai-Neo Biotech Co., Ltd. B156 27 Thai Scale Co., Ltd. B197 57 Thai Unique Co., Ltd. B089 41 Thai-China Flavours and Fragrances Industry Co., Ltd. B167 109 Vita Barentz Co., Ltd. B484 69 Wacker Chemie AG B320 29 Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd.
5/38 Soi Ngamwongwan 25 Yak 26, Bangkhen, Muang Nonthaburi, Nonthaburi 11000 Thailand T +66 2192 9598 F +66 2116 5732 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com
10
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
Ad.Kuraray_FFT#135_June_Final Outline.indd 1
5/22/17 4:53 PM
EDITOR’S TALK มูลค่าส่งออกสินค้าไทยในเดือนมิถุนายน 2560 อยู่ที่ 20,281.8 ล้านเหรียญสหรัฐ แตะระดับ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 11.7 YoY สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ร้อยละ 7.9 ส่วนหนึ่งเป็น ผลจากมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดท่ามกลางทิศทางราคาสินค้าเกษตรที่ชะลอตัว สะท้อนปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของการส่งออกข้าวและการส่งออกน�้ำตาล นอกจากนี้ กระแส Internet of Things (IoT) ของโลกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนการขยายตัวของการส่งออก สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยที่ขยายตัวสูง ต่อเนื่องที่ร้อยละ 19.1 YoY ซึ่งวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โดยทั่วไปจะมีระยะเวลา 2-3 ปี ซึ่งถ้าหาก ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตให้สอดคล้องกับกระแส IoT ก็น่าจะท�ำให้การส่งออกสินค้า อิเล็กทรอนิกส์เป็นแรงขับเคลื่อนส�ำคัญของการส่งออกสินค้าไทยตลอดทั้งปีนี้ จากข้อมูลการส่งออกสินค้าของไทยในช่วงครึง่ แรกของปี 2560 จะเห็นว่าการฟืน้ ตัวอย่างต่อเนือ่ งของเศรษฐกิจ และการค้าโลก รวมถึงวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์น่าจะเป็นแรงสนับสนุนหลักให้การส่งออกสินค้า ศักยภาพของไทยสามารถรักษาโมเมนตัมการขยายตัวได้ในช่วงครึง่ หลังของปีนี้ แต่จากผลทางด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่อการส่งออกไทยที่ทยอยลดลง และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องไปยังครึ่งปีหลัง เนื่องจากราคาน�้ำมันดิบ ในตลาดโลกมีแนวโน้มอ่อนลงจากช่วงครึง่ แรกของปี ก็นา่ จะเป็นแรงกดดันให้การขยายตัวของมูลค่าการส่งออก สินค้าไทยในช่วงครึ่งปีหลังชะลอลงจากช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม จากมูลค่าส่งออกสินค้าไทยที่ขยายตัวสูง เกินคาดในช่วงครึ่งปีแรก จึงท�ำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของมูลค่าส่งออกสินค้าไทย ตลอดทั้งปี 2560 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.8 YoY จากเดิมที่ร้อยละ 2.0 The Thai export value stood at USD 20.28 billion in June, reaching the USD 20 billion level for the second time this year. That total amount exceeded last year’s performance by 11.7 percent as well as surpassing the market estimate of 7.9 percent. One reason behind this growth was unexpectedly high agricultural products exports, even amid weakening agro-products prices, thus reflecting increases in agro-products export volumes, particularly rice and sugar. Another driving force has been the Internet of Things (IoT) trend, which has greatly buoyed electronics shipments by a number of countries. Thailand has been no exception, with our electronics exports surging 19.1 percent YoY. Generally, uptrends in electronic merchandise last about 2-3 years, so if Thai businesses can remodel their production to match the IoT trend, such merchandise could become a mainstay of our exports throughout 2017. Taking into account Thai export data over 1H17, an unrelenting recovery in the global economy and trade, plus the rising trend of electronics products, should help maintain growth momentum of potential exports in 2H17. However, that growth could also be softer than 1H17 performance, since it could be hurt by commodity prices that will gradually fall as crude oil prices tend to fall below 1H17 levels. Considering the above growth trends, KResearch has raised the full-year export growth forecast from 2.0 percent YoY to 3.8 percent YoY.
Food Focus Thailand Magazine Publisher Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. 5/38 Soi Ngamwongwan 25 Yak 26, Bangkhen, Muang Nonthaburi, Nonthaburi 11000 Thailand T +66 2192 9598 F +66 2116 5732 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com
Sirintra Boonsumrej
Managing Editor Food Focus Thailand Magazine
ฝ่ายบรรณาธิการ / Editorial Department บรรณาธิการบริหาร / Managing Editor: ศิรินทรา บุญส�ำเร็จ / Sirintra Boonsumrej ผู้ช่วยบรรณาธิการ / Assistant Editor: อัครพล อนันตโชติ / Arkkrapol Anantachote ผู้สื่อข่าวอาวุโส / Senior Journalist: พิมพ์ชนก กนกลาวัณย์ / Pimchanok Kanoklawan editor@foodfocusthailand.com
ฝ่ายขายและการตลาด / Sales & Marketing Department ผู้อ�ำนวยการฝ่ายธุรกิจ / Business Director: เพ็ญแข ประวัตพิ ฒั นากูล / Phenkhae Prawatphatthanakoon ผู้จัดการฝ่ายขาย / Sales Manager: สิริวรรณ ขาวสะอาด / Siriwan Khaosaard เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโฆษณา / Advertising Sales Executive: นิภาพร ละครอนันต์ / Nipaporn Lakornanan sales@foodfocusthailand.com
ฝ่ายสมาชิก / Circulation Department เจ้าหน้าที่ฝ่ายสมาชิก / Circulation Officer: จิตสุดา ทองปาน / Jitsuda Thongparn ชาลินี จันทานนท์ / Chalinee Chanthanon contact@foodfocusthailand.com นาถเรขา ทัพภูตา / Natrekha Tapputa seminar4@foodfocusthailand.com
ฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Department ผู้อ�ำนวยการฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Director: เจ้าหน้าที่ฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Designer:
สุรีรัตน์ หลักบุตร / Sureerat Lukbud นภพงศ์ กรประเสริฐ / Napaphong Kornprasert
graphic@foodfocusthailand.com
ฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Department ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Manager: นาตยา พงษ์สัตยาพิพัฒน์ / Nataya Pongsatayapipat p.nataya@foodfocusthailand.com
The texts and photos in Food Focus Thailand, as well as personal comments of contributors are all rights reserved. Reproduction of the magazine, in whole or in FOOD FOCUS THAILAND DEC 2016 part, is prohibited without the prior written consent of the publisher.
12
Make Your Benefit
BOARD OF CONSULTANTS Yongvut Saovapruk
Sakchai Sriboonsue D.V.M., LB.
President National Food Institute, Ministry of Industry
President of the Milk Board Dairy Farming Promotion Organization of Thailand
Doojduan Sasanavin
Phanit Laosirirat, Ph.D.
Secretary General National Bureau of Agricultural Commodity and Food Standards Ministry of Agriculture and Cooperatives
Executive Director Thailand Productivity Institute
Boonpeng Santiwattanatam
Assoc. Prof. Ratchanee Kongkachuichai, Ph.D.
Chairman Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries
Director Institute of Nutrition, Mahidol University
Visit Limprana
Prof. Visith Chavasit, Ph.D.Â
Honorary Advisor Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries
Institute of Nutrition, Mahidol University
Sakkhee Sansupa
Assoc. Prof. Sittiwat Lertsiri, Ph.D.
Director Thai Packaging Centre Thailand Institute of Scientific and Technological Research
Dean Faculty of Science, Mahidol University
Prof. Pavinee Chinachoti, Ph.D.
Salinee Wangtal
President Food Science and Technology Association of Thailand (FoSTAT)
Director-General Office of Small and Medium Enterprises Promotion (OSMEP)
Assoc. Prof. Winai Dahlan, Ph.D.
Poj Aramwattananont, Ph.D.
Founding Director The Halal Science Center Chulalongkorn University
President Thai Frozen Foods Association
Pravith Chotiprayanakul CEO GS1 Thailand
Assoc. Prof. Sombat Chinawong, Ph.D.
Director Institute of Food Research and Product Development Kasetsart University
Food and Drug Administration Ministry of Public Health
Food Science and Technology Association of Thailand
National Food Institute Ministry of Industry
GS1 Thailand The Federation of Thai Industries
Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries
Thailand Institute of Scientific and Technological Research
The Halal Science Center Chulalongkorn University
Institute of Food Research and Product Development Kasetsart University
Thailand Productivity Institute Ministry of Industry
Office of Small and Medium Enterprises Promotion
RFID Institute of Thailand The Federation of Thai Industries
Acting for Director RFID Institute of Thailand The Federation of Thai Industries
Thai Packaging Centre Thailand Institute of Scientific and Technological Research
Faculty of Agro-Industry Kasetsart University
Thai Frozen Foods Association
ENDORSEMENT
SPECIAL FOCUS
SEPTEMBER 5-6 VITAFOODS ASIA 2017 @ Singapore E colin.williams@informa.com W www.vitafoodsasia.com 5-7 SEAFOOD EXPO ASIA 2017 @ Wanchai, Hong Kong E hturcotte@divcom.com W www.seafoodexpo.com/asia
14-16 RETAILEX ASEAN & FRANCHISEX ASEAN 2017 @ IMPACT, Nonthaburi, Thailand E Info@retailexasean.com W www.retailexasean.com 14-16 FHW CHINA 2017 @ Shanghai, China E gladys@chinaallworld.com (Ladys Lui) W www.fhcchina.com
6-7 WORLD SUGAR EXPO 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E thai@asiafireworks.com W www.worldsugarexpo.com
14-17 MEAT EXPO CHINA 2017 @ Shanghai, China E meatexpo@china.messefrankfurt.com parisa@worldexgroup.com W www.meatexpochina.com
6-8 THAILAND LAB INTERNATIONAL 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E thailandlab@vnuexhibitionsap.com W www.thailandlab.com
18-20 SWEETS & SNACKS MIDDLE EAST 2017 @ Dubai, UAE. E f.stroeter@koelnmesse.de W www.sweetsmiddleeast.com
6-8 ASIA FRUIT LOGISTICA 2017 @ AsiaWorld-Expo, Hong Kong E info@gp-events.com W www.asiafruitlogistica.com 6-9 FOOD & HOTEL THAILAND 2017 COFFEE & TEA CULTURE HOSPITALITY & RETAIL WINE & SPIRITS THAILAND @ BITEC, Bangkok, Thailand E supaporn.a@besallworld.com W www.foodhotelthailand.com 7-9 SIMA ASEAN THAILAND 2017 @ IMPACT, Nonthaburi, Thailand E ajjimar@impact.co.th W www.sima-asean.com 7-10 @ E W
BANGKOK RHVAC 2017 BITEC, Bangkok, Thailand rhvac@ditp.go.th www.bangkok-rhvac.com
7-10 WORLD FOOD ISTANBUL 2017 @ Istanbul, Turkey E andrew.burman@ite-exhibitions.com W www.ite-turkey.com
Pack Print International
BITEC, Thailand Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. +66 2192 9598 # 104 seminar@foodfocusthailand.com www.foodfocusthailand.com
20-23 PACK PRINT INTERNATIONAL 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E beattrice@mda.com.sg W www.pack-print.de
13-15 FOOD INGREDIENTS ASIA (Fi ASIA) 2017 @ BITEC, Bangkok, Thailand E nongnaphat.j@ubm.com W www.figlobal.com/asia-thailand
16
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
4-6
HEALTH INGREDIENTS JAPAN (Hi JAPAN) 2017 FOOD INGREDIENTS FOR TASTE JAPAN 2017
SAFETY AND TECHNOLOGY JAPAN 2017 @ Tokyo, Japan E nongnaphat.j@ubm.com W www.hijapan.info/eng
@ Challenger Hall, IMPACT Jupiter Room 6-13, Nonthaburi, Thailand By Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. T +66 2192 9598 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com
6 October
7-11 ANUGA 2017 @ Cologne, Germany E pansa@expolink.net W www.anuga.com 19-21 CHINA FOOD & DRINK FAIR 2017 (AUTUMN SESSION) @ Chongqing, China E ann@blithailand.com W www.cfdf.org, www.blithailand.com
11-14 WORLD FOOD MOSCOW 2017 @ Moscow, Russia E tony.higginson@ite-exhibitions.com W www.world-food.ru/en-GB 11-15 DRINKTEC 2017 @ Messe München, Germany E muenchen@gtcc.org (German-Thai Chamber of Commerce) W www.drinktec.com
OCTOBER
Conference
20 September 2017 @ BITEC, Thailand
@ By T E W
28-30 INTERNATIONAL INDONESIA SEAFOOD & MEAT EXPO 2017 @ Jakarta, Indonesia E iism@pelitapromo.com W www.iism-expo.com
31 OCT – 2 NOV GULFOOD MANUFACTURING 2017 @ Dubai, UAE. E gfm@dwtc.com W www.gulfoodmanufacturing.com @ Jupiter Room 11-13, Challenger Hall, IMPACT By Filter Vision Public Co., Ltd. T +66 2192 9598 # 104 E seminar@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com
NOVEMBER 1-4 ALL PACK INDONESIA 2017 @ Jakarta, Indonesia E nessya@kristamedia.com W http://allpack-indonesia.com
ad_Nutrition SC.indd 57
8/11/17 10:01 AM
SPECIAL FOCUS
3-5 CHINA FVF 2017 @ Beijing, China E chinafvf@chgie.com W www.chinafvf.com 7-10 SHANGHAI WORLD OF PACKAGING (swop) 2017 @ Shanghai, China E echo.li@mds.cn/swop@mds.cn W www.swop-online.com 8-10 BUSAN INTERNATIONAL SEAFOOD & FISHERIES EXPO (BISFE) 2017 @ Busan, South Korea E kfta@kfta.net W www.kfta.net 9-11 FOOD INGREDIENTS & HEALTH INGREDIENTS INDIA (Fi & Hi INDIA) 2017 @ Mumbai, India E nongnaphat.j@ubm.com W www.figlobal.com/india 12-15 FOODEX SAUDI 2017 @ Jeddah, Saudi Arabia E rony.haddad@reedsunaidiexpo.com W www.foodexsaudi.com
14-16 FHC CHINA 2017 WINE & SPIRITS CHINA 2017 @ Shanghai, China E project@yimexhibitions.com W www.fhcchina.com 15-18 FOODEXPO & FOODTECH VIETNAM 2017 @ HCMC, Vietnam E trunganh.adpex@gmail.com W www.foodexpo.vn 16-18 FOOD PROCESSING & PACKAGING EXHIBITION (FOODPPEX) HAT YAI @ ICC Hat Yai, Songkhla, Thailand E warisara@sphereexhibits.com.my W www.thaifoodppex.com 16-18 LATIN FOOD & BEVERAGE EXPO 2017 @ Panama, Republic of Panama E mari@latinfoodexpo.com (kanokwan@blithailand.com) W www.latinfoodexpo.com 22-25 SIAL INTERFOOD 2017 @ Jakarta, Indonesia E pierre.barbe@comexposium.com W http://interfood-indonesia.com
28-30 FOOD INGREDIENTS & NATURAL INGREDIENTS EUROPE (Fi & Ni EUROPE) 2017 @ Frankfurt, Germany E nongnaphat.j@ubm.com W www.figlobal.com/fieurope 30 NOV – 2 DEC HONG KONG INTERNATIONAL BAKERY EXPO (HKIBE) 2017 @ Hong Kong E info@hkbakeryexpo.com W www.hkbakeryexpo.com
DECEMBER 11-13 MIDDLE EAST ORGANIC & NATURAL PRODUCTS EXPO DUBAI 2017 @ Dubai, UAE. E info@naturalproductme.com W www.naturalproductme.com 12-14 SIAL MIDDLE EAST 2017 @ Abu Dhabi, UAE. E info@sialme.com W www.sialme.com
SEMINAR & TRAINING SEPTEMBER
Guideline for FSSC 22000 Documentation Guideline for BRC Issue 7 Documentation ISO 22000 Internal Audit SGS (Thailand) Limited
21-22 IRCA Certified ISO 14001: 2015 Auditor Transition Training Course IRCA 17862 By British Standard Institution (BSI)
GMP Mass Catering British Standard Institution (BSI)
25
Transition to ISO 45001:20XX
By
Pest Control British Standard Institution (BSI)
25-29 By
Business Continuity Management Systems Auditor/Lead Auditor (ISO 22301:2012) IRCA A17456 British Standard Institution (BSI)
14-15 11 Development and Documentation Techniques for Food Safety Management By System for I SO 22000/FSSC 22000 By British Standard Institution (BSI) 15 By 11-15 IRCA Certified ISO 14001: 2015 Lead Auditor Training Course IRCA A17903 18-22 Medical Devices – Quality Management Systems Auditor/Lead Auditor (ISO 13485: 2016) IRCA A18190 By British Standard Institution (BSI) By
OH&S Management Systems Auditor/Lead Auditor Training Course IRCA A 17036 British Standard Institution (BSI)
12-13 ISO 22716 (GMP Cosmetic) Internal Audit 19 By SGS (Thailand) Limited By
Big Data Analytic for Defining Strategic Insights Thailand Productivity Institute
13-14 HACCP & GMP Awareness and Interpretation By:
19-20 FSSC 22000 Requirement & Interpretation By SGS (Thailand) Limited
IRCA Certified ISO 9001: 2015 Lead Auditor Training Course IRCA A17955
Guideline for HACCP & GMP Documentation BRC Issue 7 Internal Audit FSSC 22000 Internal Audit SGS (Thailand) Limited
20-21 Advance Food Hygiene 13-14 IE Techniques for Productivity Improvement By SGS (Thailand) Limited By Thailand Productivity Institute 21-22 Risk Assessment Hazard Analysis in Food Industry By SGS (Thailand) Limited
28-29 IRCA Certified ISO 9001:2015 Auditor Transition Training Course IRCA A 17863 By British Standard Institution (BSI) 28-29 Modern Supply Chain & Logistics Management By Thailand Productivity Institute 29 By
BSI Roadshow: Update ISO/DIS 22000:2017 and FSSC Version 4 British Standard Institution (BSI)
CONTACT SGS (Thailand) Limited
Please contact Pandita Dabsomdej T 0 2678 1813 # 2097 F 0 2678 1548 E pandita.dabsomdej@sgs.com W www.sgs.co.th
18
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
Thailand Productivity Institute
Please contact Chaiwat / Sirichai T 0 2619 5500 # 451-455 F 0 2619 8098 E training@ftpi.or.th W www.ftpi.or.th
British Standard Institution (BSI)
Please contact BSI Group (Thailand) Co., Ltd. T 0 2294 4889 F 0 2294 4467 E infothai@bsigroup.com W www.bsigroup.com/en-th
STAR ITEMS ITEM
1
2
3
BOSSAR
Horizontal Form Fill Seal
HI-COOK
High-end Superheated Steam Oven
เตาอบ แบบ Superheated Steam ประสิทธิภาพ สูง จาก “HI-COOK” สามารถช่วยให้การรังสรรค์ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ เ ป็ น ไปได้ อ ย่ า งง่ า ยดายและมี ประสิทธิภาพ ด้วยความสามารถที่มีความยืดหยุ่น สามารถประยุ ก ต์ ใ ช้ ไ ด้ กั บ กระบวนการและ ผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนึ่ง ย่าง ปิ้ง ไปจนถึงการสร้างสีสันให้กับผลิตภัณฑ์ ประเภทเนื้อสัตว์ ปลา หรือแม้กระทั่งผัก เป็นต้น นอกจากนี้ ยั ง มี ร ะบบการหมุ น เวี ย นความร้ อ น แบบปิดที่ช่วยให้สามารถประหยัดไอน�้ำได้อย่างดี และมาพร้อมกับโปรแกรมควบคุมการท�ำงานที่ เข้าใจง่าย อีกด้วย This high-end “HI-COOK” Superheated Steam Oven can help manufacturers to deal with any cooking methods and products starting from steaming, roasting, grilling, coloring, meat, fish, or even vegetables and more. The benefits from this machine are equalized cooking effects, easy usage of program application, shorter process with protected taste and steam saving by closed circuit of hot air circulation.
By: HI-COOK (Thailand) Co., Ltd. www.hicook.co.th
20
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
GRINDAMYL PR 43 Protease Enzyme
GRINDAMYL PR 43 เป็นเอนไซม์โปรตีเอสที่ผลิตจาก เชื้อแบคทีเรียโดยใช้กระบวนการหมัก มีคุณสมบัติ ช่วยปรับปรุงความคงตัวและความยืดหยุ่นของแป้งโด ให้เหมาะสมต่อการใช้งาน รวมถึงยังช่วยปรับปรุง ความกรอบ เหมาะส�ำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์แครกเกอร์ ที่ขึ้นฟูด้วยสารเคมีและบิสกิตชนิดแผ่นบาง GRINDAMYL PR 43 is a protease enzyme which is produced by fermentation with a selected strain of bacteria for improve dough handling, dough extensibility and crispiness. It is suitable for chemically leavened crackers and laminated biscuits.
By: BJC Specialties Co., Ltd. www.bjcspecialties.co.th
เครือ่ งขึน้ รูปถุงพร้อมบรรจุแนวนอน จาก Bossar มีให้เลือกหลากหลายรุน่ ครอบคลุมทุกการใช้งาน ในอุ ต สาหกรรมอาหาร สามารถปรั บ แต่ ง เครื่ อ งจั ก รได้ ต ามความต้ อ งการ นอกจากนี้ ส�ำหรับรุ่น BMS ยังถือเป็นเครื่อง Form Fill Seal รุ ่ น เดี ย วในตลาดขณะนี้ ที่ มี ก ารติ ด ตั้ ง เซอร์ โ ว มอเตอร์แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งสร้างข้อแตกต่าง ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการบ�ำรุง รั ก ษาที่ น ้ อ ยกว่ า เพิ่ ม อั ต ราการผลิ ต ที่ สู ง ขึ้ น เสถียรขึ้น ลดแรงงานคนในการควบคุม และ ประหยัดพลังงาน Bossar’s Horizontal Form Fill and Seal machines can cover all the applications and are customizable to be adapted to each need. Besides the traditional mechanical machines, the BMS series is the only complete Full Servo series in the market. These machines equipped with full servo technology have some interesting advantages; such as less maintenance, higher production, fewer operators required. Besides, they are energy efficient because they use the energy surplus produced by the servos when slowing down.
By: Ferrostaal (Thailand) Co., Ltd. www.ferrostaal.co.th
Made in the USA
STAR ITEMS ITEM
4
5
6
Goodtemp Cold Storage Room System
HYDROLOCK ACB Series
ระบบฆ่าเชื้อสเตอริไลซ์ในบรรจุภัณฑ์ ซีรี่ย์ ACB จาก HYDROLOCK อาศั ย เทคโนโลยี ก ารให้ ความร้ อ นด้ ว ยไอน�้ ำ ล่ า สุ ด ที่ ถู ก ออกแบบ มาเป็นพิเศษเฉพาะส�ำหรับการฆ่าเชื้อผลิตภัณฑ์ ที่เป็นของเหลวทุกรูปแบบ ทั้งซุป ผลิตภัณฑ์จากนม นมถั่วเหลือง กะทิ นมข้าว นมกาแฟ เครื่ อ งดื่ ม โปรตี น ให้ พ ลั ง งาน นอกจากนี้ ยั ง มี ระบบการไหลเวี ย นผลิ ต ภั ณ ฑ์ แ บบต่ อ เนื่ อ ง ช่ ว ยป้ อ งกั น การไหม้ ข องโปรตี น และการ เปลี่ยนแปลงของสีและรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ HYDROLOCK’s ACB series, overpressure sterilizers using steam air heat media, are specially designed for all sterilized liquids (soups, dairy products, soja milk, coconut milk, rice milk, coffee milk, protein based energy drinks). The continuous rotation of the products prevents from any burnt proteins and colour and taste alteration.
By: HYDROLOCK
www.hydrolock-sterilizers.com
22
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
The X5 Pipeline
เครื่องเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปน รุ่น X5 Pipeline สามารถตรวจสอบสิ่งปลอมปนขนาดที่เล็กมากๆ ได้ เช่น โลหะ กระดูก แก้ว และพลาสติกที่หนาแน่น ซึ่งถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์จ�ำพวก เนื้อบด ตับ น�้ำผลไม้ และซุปต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้รับมาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน�้ำ ระดับ IP69K เพื่อรองรับการท�ำความสะอาดด้วยระบบ C.I.P. ที่มี ความร้อน และแรงดันสูงได้อย่างดี Offering good detection levels on a wide range of contaminants including all metal, bone, glass and dense plastics products such as soups, juices, minced meat and slurries. The X5 pipeline also has a complete IP69K ingress rating, making it suitable for C.I.P. with a hightemperature, high-pressure wash down regime.
By: Alliance Technology Co., Ltd. www.atech.co.th
ตูห้ อ้ งเย็นส�ำเร็จรูป ขนาด 2.40 x 2.40 x 2.40 เมตร สามารถท�ำอุณหภูมิได้ต�่ำถึง -30°C ภายในเวลา อันรวดเร็วเพียง 2.5 ชั่วโมง วัสดุภายในผนังตู้ ท�ำจากโฟมโพลียูรีเทน (PU) ความหนาแน่น 40 กก./ลบ.ม. ขั บ ระบบท� ำ ความเย็ น ด้ ว ย คอมเพรสเซอร์ Bitzer จากเยอรมนี พร้อมระบบ แยกน�้ำมันเพื่อวนกลับไปหล่อลื่นคอมเพรสเซอร์ นอกจากนีย้ งั มีระบบฮีทเตอร์สำ� หรับละลายน�ำแข็ง ควบคุมด้วยดิจิทัลคอนโทรลเลอร์ สามารถเลือก ตั้งอุณหภูมิได้ตามความต้องการ Goodtemp Ready-made Cold Storage Room is 2.40x2.40x2.40 meter in size. It can lower the temperature to -30°C within 2.5 hrs. The wall insulated with polyurethane foam has a density of 40 kg/m3. The cooling system is driven with Bitzer compressor form Germany, and integrated with the oil separator system to separate the oil from refrigerant for extending the compressor life times. Uses heater for defrost system and comes with a digital controller for temperature setting.
By: Goodtemp Co., Ltd. www.goodtemp.co.th
STAR ITEMS ITEM
7
8
9
BerryShield™ Innovative Processing Technology
TasteSense™
การลดปริมาณน�้ำตาลในเครื่องดื่ม นอกจาก ความหวานจะลดลงแล้ว หนึ่งปัญหาส�ำคัญคือ รสชาติและเนื้อสัมผัสที่เปลี่ยนไป ซึ่งเราสามารถ ปรับให้สมบูรณ์เหมือนเดิมได้ด้วยผลิตภัณฑ์ TasteSenseTM ของบริษัทเคอร์รี่ ซึ่งเป็นสารสกัด จากธรรมชาติ ที่ ส ามารถช่ ว ยเพิ่ ม การรั บ รส ความหวานและรสชาติ ช่วยให้เครื่องดื่มสูตร น�้ำตาลน้อยยังคงความอร่อยและมีโภชนาการ ที่ดียิ่งขึ้นส�ำหรับผู้บริโภค TasteSense™ is Kerry’s platform for delivering nutritionally optimized products while still providing market relevant signature tastes. The TasteSense™ leads the way in taste and nutrition. In beverages, when sugar is reduced, the taste profile is compromised; with TasteSense™, manufacturer can continue to meet consumers’ taste and nutrition expectations. It is a natural flavor solution derived from our heritage in plant extracts that is effective in sugar reduced products that are healthier for consumers.
By: Kerry
FOOD FOCUS THAILAND
Desktop Thermal Transfer Printer
EDM’s THP600 Series เครือ่ งพิมพ์ Desktop Thermal Transfer Printer ส�ำหรับงานพิมพ์ วัน เดือน ปี Batch/ Lot ที่เป็นชิ้น ที่มีขนาดความกว้าง 70-320 มม. ยาว 130-350 มม. และมีพื้นที่การพิมพ์ ขนาด 53x250 มม. ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 280 มม.ต่อวินาที มาพร้อม “Ribbon Back-Feeding Mechanism” ช่วยประหยัด ริบบอน และควบคุมระยะเว้นข้อความ และระบบ การวัดขนาดความยาวของถุงอัตโนมัติเพื่อป้องกัน การไม่พิมพ์ในกรณีที่ถุงซ้อนทับ EDM’s THP600 Series (Desktop Thermal Transfer Printer) is designed to be printing manufacturing date, Batch/Lot numbers for sheets with 70-320 mm in width and 130-350 mm in length. Maximum printing speed is 280 mm./sec with 53 x 250 mm maximum printable area. The “Ribbon Back-Feeding Mechanism” helps saving ribbon materials. Overlapping detection device can detect overlapping bags and stop automatically before the print unit.
By: Harn Engineering Solution Pcl. www.harn.co.th
www.kerry.com
24
EDM’s THP600 Series
SEP 2017
BerryShield™ เป็นเทคโนโลยีทชี่ ว่ ยรักษาคุณค่า ของส่วนประกอบต่างๆ ในผลเบอร์รี ไม่ให้สญ ู เสีย ไปในระหว่างกระบวนการท�ำให้เป็นผง ท�ำให้ได้ ผลิตภัณฑ์ที่ยังคงมีกลิ่น สี รส คุณค่าทางอาหาร ปริมาณพอลิฟีนอล และวิตามินต่างๆ อย่างครบ ถ้วน อีกทั้งยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความคงทน ต่อความร้อน และความเป็นกรด-ด่าง ท�ำให้ สามารถน�ำไปใช้ในอาหารได้หลากหลายชนิด BerryShield™ มี ใ ห้ เ ลื อ ก 5 ชนิ ด ได้ แ ก่ ทาร์ตเชอร์รี แบล็คเคอแรนท์ เรดเคอร์แรนท์ เอลเดอร์เบอร์รี และสตรอว์เบอร์รี The BerryShield™ technology is a new powerful powder processing tool that protectively envelopes the delicate berry components that are easily destroyed in conventionally processed products. By using this technology, the berry components are stabilized, increased heat and pHresistance during finished product application, rendering berry powders with uniquely improved taste, colour and nutritional content such as polyphenols and vitamins. It is available in 5 powders; tart cherry, blackcurrant, redcurrant, elderberry and strawberry.
By: Brenntag Ingredients (Thailand) Public Co., Ltd. www.brenntag-asia.com
ad_JBT final.indd 11
8/8/17 3:52 PM
STAR ITEMS ITEM
10
11
12
FORM-FILL-SEAL
Multi-lane Automatic Packing Machine Model 634
เครื่ อ งบรรจุ สิ น ค้ า ลงซองพลาสติ ก อั ต โนมั ติ แบบหลายแถว รุ ่ น 634 สามารถใช้ ไ ด้ กั บ อุตสาหกรรมอาหาร เคมี และยา ซึ่งสามารถ เลื อ กใช้ วั ส ดุ ส เตนเลสเกรด 316 ส� ำ หรั บ ทน กรด-ด่างได้ในชิ้นส่วนที่ต้องสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ ตั ว เครื่ อ งใช้ ไ ด้ กั บ ฟิ ล ์ ม ลามิ เ นตที่ มี ค วามหนา 50-100 ไมครอน มีช่วงน�้ำหนักการบรรจุที่ 10-50 กรัม เหมาะส�ำหรับก�ำลังการผลิตสูง และต้องการ ประหยัดเนือ้ ทีใ่ นการวางเครือ่ งจักร สามารถเลือก บรรจุสินค้าได้หลากหลายจากหัวบรรจุแบบอื่นๆ เช่น เกล็ด เม็ด แป้ง ของเหลว ขึ้นอยู่กับหัวบรรจุ ที่เลือกใช้ MULTI-LANE automatic sachet packing machine model 634 is designed for food, chemical and pharmaceutical industries. Customization to be stainless-steel - 316 acid/base resistance - is also available if needed for food industry. The machine supports laminated film with 50-100 micron thickness. Fiiling is ranging from 10 – 50 g. Suitable for high production capability, can do up to 10 lanes. The machine can be dosing products i.e. granulate, powder, liquid depending on dosing head; for example, cup, auger, pump.
By: Thai Sek Son Co., Ltd. www.thaisekson.co.th
26
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
BANDALL Banding Machine
BANDALL เครื่องรัดสายคาดแบบฟิล์มหรือกระดาษ จากเนเธอร์แลนด์ ทีช่ ว่ ยสร้างความน่าสนใจและดึงดูด ให้แก่บรรจุภัณฑ์ เพื่อการสื่อสารทางการตลาดที่มี ประสิทธิภาพ สามารถใส่ข้อมูลได้หลากหลายแบบ ไม่วา่ จะเป็น ชือ่ แบรนด์ ข้อมูลรายละเอียด หรือรูปภาพ ของผลิตภัณฑ์ ในรูปแบบที่มีสีสันสวยงาม นอกจากนี้ ยั ง ช่ วยท� ำให้ ผู ้ บ ริ โ ภคมั่ นใจว่ า ผลิ ต ภั ณฑ์ ยั ง ไม่ ไ ด้ ถูกเปิดมาก่อนอีกด้วย BANDALL มีให้เลือกทั้งแบบ กึ่ ง อั ต โนมั ติ และอั ต โนมั ติ อี ก ทั้ ง ยั ง สามารถใช้ กั บ สายคาดที่มีความกว้างหลากหลายขนาด BANDALL’s banding machines from Netherland are specially designed to use with film or paper bands. Important information such as brand name, product detail, or even product picture can be color printed on the band excellently for a better brand communication. For the machine, it is available in both semi- or fully automatic and can be used with bands in many sizes. Ultimately, having band on the package can also ensure that products on the shelf are unopened which help creating consumer’s confidence.
By: Forefront Foodtech Co., Ltd. www.forefrontfoodtech.com
SmartCal™ Moisture Analyzer Test Substance
SmartCal TM สารทดสอบนวั ต กรรมที่ ผ ่ า น การรับรอง จากสถาบันกลางด้านการวิจัยและ ทดสอบวัสดุแห่งเยอรมนี สอดคล้องกับข้อก�ำหนด ต่างๆ ของอุตสาหกรรมที่มีกฎระเบียบเคร่งครัด ซึ่ ง สามารถช่ ว ยตรวจสอบประสิ ท ธิ ภ าพของ เครื่องวิเคราะห์ความชื้นได้อย่างรวดเร็ว ในเวลา เพียง 10 นาที และสามารถท�ำได้ง่าย โดยใช้วิธี เช่นเดียวกับการวัดความชื้นในตัวอย่างทั่วไป การตรวจสอบเครื่ อ งมื อ ด้ ว ยสารทดสอบ SmartCal TM เป็ น ประจ� ำ ช่ ว ยให้ มั่ น ใจได้ ว ่ า ผลการวัดค่าความชื้นนั้นถูกต้องและน่าเชื่อถือ SmartCalTM, tested by the independent German Federal Institute for Materials Research and Testing, and satisfied by any regulatory requirements, is an innovative test substance that offers a fast way to verify the performance of your moisture analyzer. The test takes just 10 minutes and it is done in the same easy way as a regular measurement. Testing it regularly with SmartCalTM ensures that your moisture measurements are reliable all the time.
By: Mettler-Toledo (Thailand) Limited www.mt.com
AccuPoint AccuPoint Advanced Advanced
SURF THE AEC
ข้อเสนอแนะในการก�ำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์
ด้านระบบอาหาร-เกษตรอย่างยั่งยืน
เพื่อความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาค โครงการระบบอาหาร-เกษตรแบบยั่งยืนแห่งอาเซียน องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ASEAN Sustainable Agrifood Systems Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit (GIZ) GmbH rojana.manowalailao@giz.de
ปริมาณอาหารทีผ ่ ลิตได้มากขึน้ ไม่ได้ทำ� ให้ประเทศหรือภูมภ ิ าคนัน้ ๆ ถูกเรียกว่ามีความมั่นคงทางอาหาร แต่ความมั่นคงทางอาหาร หมายรวมถึงความปลอดภัยของอาหาร ความสามารถในการเข้าถึงอาหาร และผู้บริโภคสามารถเลือกอาหารที่มีประโยชน์และ เหมาะสมกับตน
ภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญกับความท้าทายด้านความมัน่ คง ด้านอาหารและโภชนาการอย่างต่อเนื่อง จากรายงานความไม่มั่นคงทาง อาหารของโลกในปี 2558 โดยองค์ ก ารอาหารและการเกษตรแห่ ง สหประชาชาติ (FAO) แม้จ�ำนวนคนขาดสารอาหารจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ยังคงมีประชากรมากกว่า 1 ใน 9 ของโลกที่ยังคงทุกข์ ทรมานเพราะความหิวโหย ทั้งนี้จ�ำนวนคนที่ขาดสารอาหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องประมาณร้อยละ 50 ในช่วงทศวรรษ ที่ผ่านมาเนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งท�ำให้คนยากจนและ คนที่ด้อยโอกาสมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การเพิ่มจ�ำนวนของกลุ่มคนมีฐานะในภูมิภาคอาเซียน กอปรกับการเติบโตของจ�ำนวนประชากรท�ำให้เกิดความกดดันในด้านความต้องการ อาหาร การใช้ทรัพยากร และเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภค ราคา อาหารที่สูงและผันผวน และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อผลผลิตทางการเกษตรและการอนุรักษ์พื้นที่ทางการเกษตร จากการท�ำเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม และการอพยพย้ายถิ่นฐานของแรงงาน จากชนบทสู ่ เ มื อ ง ถื อ เป็ น ความกดดั น ต่ อ ความมั่ น คงทางอาหารและ โภชนาการในระยะยาว แต่ส�ำหรับในอีก 35 ปีข้างหน้า คาดว่าประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 9 พันล้านคน และการเพิ่มผลผลิตทางอาหารจ�ำเป็นต้องเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เป็นอย่างน้อยเพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของประชากรโลก ทั้งหมดในอนาคตได้ ดังนั้นการประชุมปรึกษาหารือเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในระดับภูมิภาค เรื่อง “ระบบอาหาร-เกษตรอย่างยั่งยืนเพื่อความมั่นคงทางอาหารและการพั ฒ นาที่ ยั่ ง ยื น ในภู มิ ภ าคอาเซี ย น” จึ ง ได้ เ กิ ด ขึ้ น เมื่ อ เดื อ นพฤษภาคม ที่ ผ ่ า นมา ที่ ก รุ ง เทพฯ โดยมี ผู ้ เ ชี่ ย วชาญและผู ้ บ ริ ห ารด้ า นความมั่ น คง ทางอาหารและระบบอาหารเกษตรอย่ า งยั่ ง ยื น จากประเทศสมาคม ประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เข้าร่วมจ�ำนวน 40 ท่าน 28
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
SURF THE AEC
โดยผู้เข้าร่วมประชุมได้น�ำเสนอ แลกเปลี่ยนบทเรียนและประสบการณ์ รวมถึงประเด็นและความท้าทาย เพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะในแนวทางการ ด�ำเนินงานร่วมกันในการก�ำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ระดับชาติและ ระดับภูมิภาคต่อที่ประชุมด้านการเกษตรของอาเซียนในโอกาสต่อไป ดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในพิธีเปิด การประชุมฯ ว่า หลังจากวิกฤตราคาอาหารโลกในปี พ.ศ. 2550 - 2551 การประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียนซัมมิท) มีมติเห็นชอบให้ความมั่นคง ทางอาหารเป็นวาระส�ำคัญเร่งด่วนที่สุดเรื่องหนึ่ง และแนวคิดเรื่องระบบ อาหาร-เกษตรอย่างยั่งยืนจึงได้เริ่มขึ้นและมีการน�ำมาใช้เพื่อมุ่งสู่ความมัน่ คงทางอาหารและการพัฒนาทีย่ งั่ ยืนในภูมภิ าคอาเซียน ซึง่ ระบบอาหารเกษตรอย่ า งยั่ ง ยื น ยั ง จะน� ำ ไปสู ่ ก ารบรรลุ เ ป้ า หมายการพั ฒ นาแห่ ง สหัสวรรษ ทั้งเป้าหมายด้านขจัดความยากจน และความหิวโหย การเพิ่ม คุณค่าทางอาหารและพัฒนาสุขภาพ ลดการท�ำลายสิง่ แวดล้อม ลดสภาวะ โลกร้อน รวมทั้งสร้างความร่วมมือทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และ ระดับโลก ดร.เสริมสุข ยังกล่าวถึงระบบอาหาร-เกษตรอย่างยัง่ ยืนว่าเป็นการผสม ผสานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 และภูมิปัญญาท้องถิ่นในการท�ำ การเกษตรของประเทศสมาชิกอาเซียนไว้ด้วยกันอีกด้วย ทางด้าน ดร. แมทเธียส บิคเคล ผู้อ�ำนวยการโครงการระบบอาหารเกษตรแบบยั่งยืนแห่งอาเซียน องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของ เยอรมัน (GIZ) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างอาเซียนและรัฐบาล เยอรมัน กล่าวถึงระบบอาหาร-เกษตรอย่างยั่งยืนว่าคือ การผลิตผลิตผล และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอย่างปลอดภัย มีคุณภาพ และมีความรั บ ผิ ด ชอบต่ อ สั ง คมและสิ่ ง แวดล้ อ ม เพื่ อ สุ ข ภาพที่ ดี ข องชุ ม ชนและ ระบบนิเวศการเกษตร ผู้บริโภคทุกคนสามารถซื้อหาได้ในราคาที่จ่ายไหว ชุมชนมีชวี ติ ความเป็นอยูโ่ ดยรวมทีด่ ขี นึ้ สามารถปรับตัวกับการพัฒนาและ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ และน�ำวิธีปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี จากประเทศสมาชิกในอาเซียนมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งมี การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูล ทั้งข้อได้เปรียบและความเสี่ยงใน การท�ำการเกษตรอย่างยั่งยืนระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทางด้านศูนย์ให้ค�ำปรึกษาและแบ่งปันความรู้ของภูมิภาคได้จัด สัมมนาในหัวข้อ “ระบบอาหาร-เกษตรยั่งยืนเพื่อความมั่นคงทางอาหาร และการพั ฒ นาอย่ า งยั่ ง ยื น ในภู มิ ภ าคอาเซี ย น” เพื่ อ เป็ น เวที ส� ำ หรั บ ผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักทั้งจากภาครัฐและเอกชนและ องค์ ก รภาคประชาสั ง คมเพื่ อ แลกเปลี่ ย นประสบการณ์ แ ละบทเรี ย น ที่ได้รับ ประเด็นและความท้าทาย ตลอดจนเสาะหาแนวทางการใช้ระบบ เกษตรอาหารยั่งยืน เพื่อความมั่นคงด้านอาหารใน “ระบบเกษตรอาหาร ยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน” ผลของการประชุมระดมสมองครั้งนี้ คาดว่าจะออกมาในรูปแบบของ ข้อเสนอแนะและกลไกความร่วมมือในการก�ำหนดนโยบายแห่งชาติและ ในระดั บ ภู มิ ภ าค และกลยุ ท ธ์ ส� ำ หรั บ “ระบบอาหาร-เกษตรยั่ ง ยื น ” ส�ำหรับภูมิภาคอาเซียน และผลของการประชุมครั้งนี้ยังจะถูกใช้เป็น ส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการท�ำงานไปสู่ระบบเกษตรอาหารยั่งยืน พร้อมทั้งน�ำเสนอไปยังคณะท�ำงานกลุ่มพืชไร่ของอาเซียนเพื่อใช้ในการพิจารณาต่อไปในอนาคต SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
29
SURF THE AEC
ASEAN…to seek for resolutions
for creating sustainability food and agricultural policies for regional food security
The higher amount of food production does not mean a country or region has food security. The food security refers to a condition related to food safety, and individual’s accessibility to food, while consumers can choose foods that are nutritional and appropriate to their health. Southeast Asia has been facing challenges on food security and nutrition. Based on the State of Food Insecurity in the World 2015 by the United Nations Food and Agriculture Organization (FAO), despite the total number of undernourished people has fallen in the past two years, over one in nine people in the world were still suffering from hunger. In South-Eastern Asia, the number of undernourished people has continued its steady decline by about 50 percent over the last decade due to overall inclusive growth, with more of the poor and vulnerable sharing the benefits. Increasing affluence in ASEAN accompanied by population growth puts pressure on food demand and resources competition as well as change consumption patterns. High and volatile food prices, impact of climate change on agriculture, and the conservation of agricultural lands to industrial areas and migration of labour from rural to urban areas are also considered as long-term pressures on food security and nutrition. According to the United Nations, food production will need to increase by at least 60% over the next 35 years to provide food security for the 9 billion people expected to be living on the planet increasing populations while protecting depleting natural resources at the Regional Knowledge Sharing Consultation “Sustainable Agrifood Systems for Food Security and Sustainable Development in the ASEAN Region” held today in May 2017. Dr. Surmsuk Salakpetch, Deputy Director General of Department of Agriculture from Ministry of Agriculture and Cooperatives, Thailand said during the opening session: “In the aftermath of the 2007/2008 food price crisis, the ASEAN Summit of 2009 pledged to embrace food security as a permanent and high priority…Since then, the concept of “Sustainable Agrifood Systems” has been introduced and its approach has been implemented in ASEAN region. This approach has also contributed to achieving Sustainable Development Goals such as ending poverty, eliminating hunger, improving health and nutrition, reducing environmental degradation, combating climate change and building strong partnerships at national, regional and global level.” Dr. Surmsuk also cited that: “ASEAN sustainable agrifood systems also recognizes the integration of local philosophy and wisdoms applied in various countries in the region, for Thailand in particular, agriculture under H.M. King Bhumibol’s Sufficiency Economy Philosophy.” According to Dr. Matthias Bickel, Project Director of German-ASEAN Sustainable Agrifood Systems, Deutsche Gesellschaft für Internationale Zusammenarbeit (GIZ) GmbH, the term agrifood systems is generally characterized by producing safe and quality agriculture products for community and agro-ecosystems health, accessible and affordable to all members of society, supporting smallholder farmers’ livelihoods while ensuring social and environmental responsibility, adopting regionally appropriate agricultural practices, being resilient to development and climate change, and promoting sharing of resources, benefits and risks among the concerned stakeholders. The Regional Knowledge Sharing Consultation “Sustainable Agrifood Systems for Food Security and Sustainable Development in the ASEAN Region” is providing a platform to experts and key multi-stakeholder actors including government, public and private sectors and civil society organization to exchange their experiences and lessons learnt, issues and challenges as well as approaches of sustainable agrifood systems towards food security in ‘ASEAN Sustainable Agrifood Systems. Recommendations and partnership mechanism in shaping national and regional policy and strategies for ‘Sustainable Agrifood Systems’ in the ASEAN region are expected as an outcome of this consultation meeting, and they will be used as part of ASEAN Sustainable Agrifood Systems project’s Executive Report to be submitted to ASEAN Working Groups on Crops for the future consideration.
30
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
Visit us at: Booth No. M1
ad_BJC.indd 3
8/8/17 3:53 PM
SPECIAL INTERVIEW
กองบรรณาธิการ Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
อุตสาหกรรมอาหาร …ต้องปรับเปลี่ยนเพื่ออนาคตประเทศ
ยุ ค โลกไร้ พ รมแดนที่ เ ทคโนโลยี ดิ จิ ทั ล และอิ น เทอร์ เ น็ ต ได้ ย ่ อ ทุ ก ส่ ว น จากทั่วทุกมุมโลกให้ใกล้กันเพียงปลายนิ้ว ได้ส่งผลให้วิถีการใช้ชีวิตและ วิ ถี ก ารด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ ในภาคอุ ต สาหกรรมต่ า งๆ เปลี่ ย นแปลงไปอย่ า ง คาดไม่ ถึ ง อุ ต สาหกรรมอาหารก็ เ ช่ น กั น ที่ ผู ้ ป ระกอบการต่ า งต้ อ ง ปรั บ เปลี่ ย นและพร้ อ มรั บ มื อ …ไม่ ว ่ า คุ ณ จะเป็ น หน้ า เก่ า ที่ แ สนเก๋ า ในเกมการแข่งขัน หรือหน้าใหม่ป้ายแดงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความฝัน และแรงบันดาลใจอันล้นเหลือ…
32
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
นิตยสาร ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์ ได้รับเกียรติเข้าร่วมงานเสวนา Dinner Talk ภายใต้หัวข้อ “อนาคตอุตสาหกรรมอาหารไทย ยุค 4.0” เมื่อวันศุกร์ที่ 16 มิถนุ ายน 2560 ทีผ่ า่ นมา จัดโดยสมาคมนักศึกษาเก่าคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ ในโอกาสนี้ คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี ฟู้ดส์ คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด และบริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด ได้ให้เกียรติพูดคุยถึงแนวโน้มกระแสโลก ตลอดจนมุมมองต่อประเทศไทย 4.0 และอุตสาหกรรมอาหาร 4.0 ไว้อย่าง น่าสนใจ
SPECIAL INTERVIEW “ถ้ า ผู ้ ป ระกอบการเข้ า ใจและตระหนั ก ถึ ง แนวโน้ ม ของกระแสโลก ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนในยุค 4.0 นั่นจะเป็นบันไดขั้นแรก ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามโจทย์ และความต้องการของผู้บริโภค” คุณอภิรักษ์กล่าว พร้อมเสริมว่าแนวโน้ม ของกระแสโลก หรือ Global Mega Trend ล้วนเกี่ยวข้องกับวิถีการใช้ชีวิต และการเปลี่ ย นแปลงต่ า งๆ ที่ เ กิ ด ขึ้ น บนโลกใบนี้ ไม่ ว ่ า จะเป็ น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิต ทางการเกษตรต่อไร่ หรือแม้แต่การขาดแคลนอาหาร “หากถามว่าประเทศใดในโลกทีป่ ระสบความส�ำเร็จมากทีส่ ดุ หลายท่าน อาจค้นหาค�ำตอบจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หรือรายได้ ต่อหัว แต่องค์การอนามัยโลกซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศในสังกัด สหประชาชาติได้ประกาศออกมาแล้วว่าดัชนีชี้วัดที่ดีที่สุดก็คือ ประเทศไหน มีคา่ อายุเฉลีย่ ของประชากรสูงทีส่ ดุ หรือพูดง่ายๆ ก็คอื ประเทศใดทีป่ ระชากร มีอายุยืนมากที่สุด เพราะนั่นหมายถึงประชากรในประเทศนั้นมีความสมดุล ทั้งในการใช้ชีวิตและการท�ำงาน” คุณอภิรักษ์เปิดประเด็น
3 แนวโน้มหลักของกระแสโลก
ดูเหมือนว่า 3 แนวโน้มหลักของกระแสโลกในยุค Internet of Things (IoT) จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เพราะแนวโน้มแรกเป็นเรื่องของการเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุ ทางองค์การสหประชาชาติได้ให้ค�ำนิยามผู้สูงอายุไว้ว่า หมายถึง ประชากรทั้งเพศชายและหญิงที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขึ้นไป โดยองค์การสหประชาชาติได้คาดการณ์ว่าในช่วงปี พ.ศ.2544-2643 ถือว่าเป็นศตวรรษ แห่งผู้สูงอายุ โลกของเราก�ำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งแต่ละประเทศ จะเข้าสูส่ งั คมผูส้ งู อายุแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศ เช่น การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาทางด้านการแพทย์ อาหาร และโภชนาการ เป็นต้น ส� ำ หรั บ ประเทศไทย ส� ำ นั ก งานสถิ ติ แ ห่ ง ชาติ ไ ด้ ส รุ ป ว่ า ไทยก� ำ ลั ง ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 โดยมีประชากรผู้สูงอายุ ร้อยละ 10.4 ของประชากรทัง้ ประเทศ และคาดว่าจะเข้าสูส่ งั คมผูส้ งู อายุโดยสมบูรณ์ ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2567-2568 “แนวโน้ ม ที่ ส องคื อ เรื่ อ งของสุ ข ภาพ โดยต้ อ งเป็ น การมี สุ ข ภาพที่ ดี และแข็งแรงสมบูรณ์ ซึง่ สอดคล้องกับดัชนีชวี้ ดั ว่าประเทศประสบความส�ำเร็จ
มากน้อยเพียงใด แนวโน้มที่สามคือ ความเป็นเมืองหรือการเติบโตของ มหานคร ซึ่ ง โลกของเราผ่ า นการขยายตั ว ของความเป็ น เมื อ งตลอด ศตวรรษที่ 20 และมีข้อมูลที่คาดการณ์ว่าในปี พ.ศ.2593 ประชากรคนเมือง ในโลกใบนีจ้ ะเพิม่ ขึน้ มากถึง 2.4 พันล้านคน คิดเป็นร้อยละ 66 ของประชากรโลก” คุณอภิรกั ษ์กล่าว และขยายความว่าเราไม่สามารถหลีกเลีย่ งการเติบโตของ เมืองใหญ่ๆ ในโลกนี้ได้ แต่จะท�ำอย่างไรที่จะลดความเหลื่อมล�้ำของคนที่ อาศัยอยูใ่ นเมืองและนอกเมือง ในประเทศไทยเองวันนีเ้ ราได้เห็นการเติบโต ของเมืองใหญ่ อย่างเช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งเป็นแหล่งของ โอกาส และน�ำไปสู่แรงขับเคลื่อนของการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ในที่สุด
ขีดความสามารถในการแข่งขัน
“หากจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เรามักจะนึกถึงประเทศมหาอ�ำนาจ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี จีน เป็นต้น ว่าเป็นประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง แต่จริงๆ แล้ว การวัดขีดความสามารถในการแข่งขันของแต่ละประเทศจะวัดจากปัจจัย หลักๆ ได้แก่ ระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ อาทิ ทุนส�ำรองเงินตรา นโยบายของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการเงินการคลัง นโยบายของสถาบันการเงิ น ที่ มี นั้ น สามารถเอื้ อ ประโยชน์ ใ ห้ เ กิ ด เศรษฐกิ จ ใหม่ เ พื่ อ ส่ ง เสริ ม ให้ภาค SMEs เข้มแข็งหรือไม่ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ว่าเป็นอย่างไร” “นอกจากนี้ยังพิจารณาจากนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของเสถียรภาพ ทางการเมือง รวมทั้งภาคเอกชนว่าภาคธุรกิจนั้นๆ มีความเข้มแข็งมากน้อย เพี ย งใด เป็ น แรงงานที่ มี คุ ณ ภาพหรื อ ไม่ ประเทศมี โ ครงสร้ า งของ สาธารณูปโภคในด้านต่างๆ อย่างไร” คุณอภิรักษ์กล่าว พร้อมขยายความว่า การวัดขีดความสามารถในการแข่งขันจึงไม่ได้ขึ้นกับ GDP ของประเทศ ขนาดของประเทศ หรือจ�ำนวนประชากร โดยประเทศที่มีขีดความสามารถใน การแข่งขันสูงสุด 10 อันดับแรกในปี พ.ศ.2560 นี้ ได้แก่ ฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ สวีเดน เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และแคนาดา
การปรับเปลี่ยนประเทศด้วยโมเดลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม โดยเข้าใจและตระหนักถึงแนวโน้มของกระแสโลก ตลอดจนการรวมกลุ่มเป็น คลัสเตอร์ของผู้ประกอบการ จะเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ส�ำ คัญและน�ำพาธุรกิจ อุตสาหกรรมอาหารไทยไปปักธงได้ทั่วโลกได้อย่างน่าภาคภูมิใจ คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี ฟู้ดส์ คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด และบริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
33
SPECIAL INTERVIEW ข้อมูลจากส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ (สศช.) ซึ่งเป็นการแถลงผลการส�ำรวจจาก World Economic Forum (WEF) เรื่อง Global Competitiveness Report (GCR) ประจ�ำปี พ.ศ.2559-2560 ซึ่งแสดงถึงภาพรวมระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศไทยเทียบกับเวทีการค้าโลก ผลการส�ำรวจพบว่า ประเทศไทยอยูใ่ น อันดับที่ 34 จาก 138 ประเทศ ลดลงจากปีก่อนหน้าที่อยู่ในอันดับที่ 32 จาก 140 ประเทศ ทั้งนี้ หากเทียบกับภูมิภาคอาเซียนแล้ว ประเทศไทยมี แนวโน้มลดลงน้อยกว่าประเทศอืน่ ๆ และยังคงมีความสามารถในการแข่งขัน อยู่ในอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ข้อมูลจาก สศช. ยังระบุว่า ในปี พ.ศ.2559 ประเทศไทยมีความโดดเด่น ในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจมหภาค โดยอยู่อันดับที่ 13 จากเดิมอันดับที่ 27 ในปี พ.ศ.2558 ซึ่งตัวชี้วัดที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ การใช้จ่าย ภาครัฐ การออมมวลรวมแห่งชาติ และสัดส่วนหนี้ภาครัฐ นอกจากนั้น ด้านนวัตกรรมก็ได้รับการปรับอันดับดีขึ้น 3 อันดับ โดยอยู่ในอันดับที่ 54 ในปี พ.ศ.2559 จากเดิมอันดับที่ 57 ในปี พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นผลจากการที่ รัฐบาลส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมมาอย่างต่อเนื่อง
4.0 ปรับเปลี่ยนเพื่ออนาคต
“4.0 ถือเป็นความหมายในเชิงสัญลักษณ์ทกี่ ล่าวถึงการปรับเปลีย่ นโครงสร้าง ของระบบเศรษฐกิจไปสู่ Value-based Economy หรือเศรษฐกิจทีข่ บั เคลือ่ น ด้วยนวัตกรรม เปลีย่ นจาก “ท�ำมาก ได้นอ้ ย” เป็น “ท�ำน้อย ได้มาก” เพือ่ สร้าง มูลค่าเพิม่ ให้กบั สินค้า บริการ และเศรษฐกิจของประเทศ” คุณอภิรกั ษ์กล่าว พร้อมเสริมว่า เทคโนโลยีจึงมีความส�ำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันให้เกิด การพัฒนาในด้านต่างๆ ในปี พ.ศ.2560 มี ก ารคาดการณ์ ว ่ า การส่ ง ออกสิ น ค้ า อาหารของ ประเทศไทยจะแตะยอด 1 ล้านล้านบาท และเติบโตขึ้นร้อยละ 6-7 ในฐานะที่ ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ส�ำคัญของโลก การปรับเปลี่ยนเข้าสู่ “อุตสาหกรรม 4.0” ตามนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” จึงนับว่าเป็นโอกาส ครั้งส�ำคัญในการผลักดันประเทศให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง “ผู ้ น� ำ เศรษฐกิ จ ของโลกมี แ นวโน้ ม ที่ จ ะเคลื่ อ นย้ า ยมาสู ่ ป ระเทศใน ภูมิภาคเอเชีย การปรับเปลี่ยนประเทศด้วยโมเดลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยนวัตกรรม โดยเข้าใจและตระหนักถึงแนวโน้มของกระแสโลก ตลอดจน การรวมกลุ่มเป็นคลัสเตอร์ของผู้ประกอบการ จะเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ส�ำคัญ และน� ำ พาธุ ร กิ จ อุ ต สาหกรรมอาหารไทยไปปั ก ธงได้ ทั่ ว โลกได้ อ ย่ า ง น่าภาคภูมิใจ” คุณอภิรักษ์กล่าวสรุป
Food Industry
and the Need to Adjust for the Ever-changing Future
In the borderless world of today where digital technology and internet have minimized and delivered everything from every corner of the world to the touch of convenience at our fingertips, people’s lifestyles and business approaches have drastically and inarguably changed in many unprecedented ways. Food industry is of no exception. Operators need to be quick to adapt and prepare to tackle this fast changing world head on, whether you be the veteran and seasoned old player, or the fresh new face filled to the brim with dreams, visions, and inspirations. 34
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
Food Focus Thailand Magazine was honored to participate in the Dinner Talk discussion forum on the topic of “Future of Food Industry in Thailand 4.0 Era”, on Friday, June 16, 2017. The forum was jointly organized by the Alumni Association of, and the Faculty of Agro-Industry, Chiang Mai University. The forum was granted honor by Mr.Apirak Kosayodhin, Chairman & CEO of V Foods Corporation Co., Ltd. and V Foods (Thailand) Co., Ltd. as a guest speaker on the subject about global mega trend, to share his valued perspectives on Thailand 4.0 and Food Industry 4.0. “It is vital for the operators in this industry to recognize and understand the impact of the ever-changing global trends on the lifestyles of people in the age of 4.0. This is essentially the first step for the operators towards the right R&D approaches to truly answer the needs and lifestyles of the consumers” said Mr.Apirak. He further mentioned that the global mega trend is all about lifestyles, as well as all the changes on this planet, whether they be the climate change, drought--with effects on agro-productivity (Yield per Rai)--, or even famine. “When asked which country in the world is the most successful, many of you here may look for an answer in the numbers of countries’ Gross Domestic Product (GDP), or per capita income. In fact, the World Health Organization or WHO, which is one of
โซลูชั่นระบบออโตเมชั่นเพียงหนึ่งเดียวที่ควบคุมการผลิตได้ทั้งระบบ ประเทศไทยถือเป็นตลาดส�ำคัญส�ำหรับ เต็ดตรา แพ้ค บริษทั ผูน้ ำ� ระดับโลกด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหารทีเ่ ล็งเห็นความส�ำคัญในการร่วมพัฒนา และต่อยอด ‘นวัตกรรมอาหาร’ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อน อุ ต สาหกรรมแปรรู ป ผลผลิ ต ทางการเกษตร ยกระดั บ มาตรฐานความปลอดภั ย ของอาหารและประสิ ท ธิ ภ าพการด� ำ เนิ น งานสู ง สุ ด ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นการผลิตและบรรจุอย่างครบวงจร Tetra Pak® PlantMaster คือโซลูชั่นล่าสุดจาก เต็ดตรา แพ้ค และเป็น ออโตเมชัน่ แพลตฟอร์มหนึง่ เดียวในโลกทีผ่ ผู้ ลิตสามารถใช้ควบคุมการผลิต อาหารและเครื่องดื่มภายในโรงงานแบบครบวงจรได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ เมือ่ วัตถุดบิ เข้าสูก่ ระบวนการแปรรูป ไปจนถึงการบรรจุกล่องและวางสินค้า จึงเอื้อให้มีการตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังตอบโจทย์ส�ำคัญทางธุรกิจของผู้ผลิตในด้านอื่นๆ อาทิ • ลดค่าใช้จ่ายในการผลิต • เสริมประสิทธิภาพการผลิตสูงสุด • ลดความผิดพลาดในการท�ำงานอันอาจเกิดจากมนุษย์ • ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนด้วยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม • รับประกันด้านความปลอดภัยของอาหาร หนึ่งตัวอย่างความส�ำเร็จในภูมิภาค คือ Vinamilk ผูผ้ ลิตนมชัน้ น�ำจากประเทศเวียดนาม ทีใ่ ห้ความไว้วางใจ เลือกใช้ Tetra Pak® PlantMaster ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556
ในการควบคุมการผลิตอย่างครบวงจร ท�ำให้สามารถผลิตนมได้ราว 3 แสนกล่อง ต่อชั่วโมง หรือกว่า 5 ล้านกล่องต่อวัน ระบบการผลิตแบบออโตเมชั่น แบบปราศจากแรงงานมนุษย์ จะเริม่ ท�ำงานตัง้ แต่เมือ่ น�ำ้ นมดิบเดินทางเข้าสู่ แทงก์เก็บน�้ำนมดิบ ผ่านกระบวนการผลิตแบบยูเอชที ก่อนจะถูกล�ำเลียงสู่ แทงก์ปลอดเชื้อเพื่อบรรจุลงในกล่องบรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงการจัดวางกล่อง ลงลัง และวางสินค้าบนพาเลทเพื่อรอการจัดเก็บในคลังสินค้า ผลตอบรับของผู้ผลิตภายในประเทศจากงาน ProPak Asia 2017 เมื่อ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาต่อ Tetra Pak® PlantMaster ยังช่วยตอกย�้ำว่า โซลู ชั่ น ระบบออโตเมชั่ น นี้ คื อ จุ ด เปลี่ ย นอั น ส� ำ คั ญ ที่ จ ะช่ ว ยขั บ เคลื่ อ น การเจริญเติบโตของ ‘การเกษตรสมัยใหม่’ และ ‘นวัตกรรมอาหาร’ ภายใต้ แผนพั ฒ นาเศรษฐกิ จ ฉบั บ ปั จ จุ บั น ได้ อ ย่ า งมี นั ย ส� ำ คั ญ และ อย่างยั่งยืน ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.tetrapak.com/th/packaging/ tetra-pak-plantmaster
หรือติดต่อ
Contact.TH@tetrapak.com
INTEGRATE ALL KIND OF EQUIPMENT, NO MATTER WHAT BRAND
REDUCE TIME LOSSES, DOWNTIME AND WASTE TO CUT OPERATIONAL COSTS
41_AD.Tetra Pack.indd 33
FULL END-TO-END TRACEABILITY
SECURE CONSISTENT PRODUCT QUALITY AND FULL CONTROL OF FOOD SAFETY
8/21/17 5:21 PM
SPECIAL INTERVIEW
the international organizations under the United Nations, has suggested that the best index for national success is the high average age of the national populations. To put it simply: countries with the highest average age are the most successful countries. This is because it reflects the good living conditions of the populations, with work and pleasure balanced out nicely”, remarked Mr.Apirak.
Three Main Global Mega Trends
It seems that the 3 main trends in this Internet of Things (IoT) era are not that far from us after all. The first trend turned out to be about the aging population and the elderly society. The United Nations has defined that older persons are male and female aged 60 years or over, and has forecasted that the year 2001 to 2100 would be defined as the century of the older persons. Our world has been entering the elderly society with different paces in different countries, depending on each country’s environment and conditions, such as the economic growth, medical development, food and nutrition, etc. The National Statistical Office of Thailand announced that Thailand has entered the elderly society since 2005, with numbers of older persons amounted to 10.4 percent of the total national populations. By estimation, the country will fully become the elderly society by the year 2024-2025. The second trend regards the population’s health and wellness, which is in accordance with the index indicating national success. The third trend is the movement towards urbanization and the rapid growth of metropolises. The world has seen the urbanization process over the 20th century and it has been estimated that by the year 2050, urban population will reach 2.4 billion, which is 66 percent of the total global population.” Mr.Apirak further explained that this urbanization and growth of mega cities is not something we can simply sidestep. Instead, we need to find a way to bridge the gap between city and outskirt people. Thailand has also seen and experienced the growth of many of our cities, such as Chiang Mai, Khon Kaen and Phuket. These expansions should be seen as opportunities and a positive drive towards the economic growth of the whole country.
World Competitiveness
“If asked to rank countries in terms of their competitiveness, most people would think of countries like the United States, Germany, and China as the ones with highest competitiveness ranking. However, the main factors used in determining each country’s competitiveness are the economic system employed by that particular country, its currency reserves, as well as its monetary and finance policies. Other things to be considered regarding a country’s competitiveness are whether the country’s major financial institutions have the accommodating policies to promote and strengthen new businesses and SMEs, as well as the country’s policy on Foreign Direct Investment or FDI.” “Government policy towards political stability is also taken into account, as well as the strength of business sectors, quality of overall workforce, and the country’s public utility structure.” With this said, Mr.Apirak also added that national competitiveness is not about country’s GDP, size of country, or number of population. The 2017 first ten highest ranking countries in terms of competitiveness were Hong Kong, Switzerland, the US, Singapore, Sweden, Denmark, Ireland, the Netherlands, Norway and Canada. Office of the National Economic and Social Development Board has recently released the result from the survey done by the World Economic Forum (WEF) on 2016-2017 Global Competitiveness Report (GCR), which showed overall pictures of Thailand’s level of competitiveness compared to other countries in the world trade arena. The survey showed that Thailand is the 34 most competitive nations in the world out of 138 countries, dropping from the previous year’s No.32 out of 140 countries participated in the survey. However, when
36
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
compared to other Asian countries, Thailand’s ranking dropped not as much as the others and still ranked a third place; behind only Singapore and Malaysia. Data from Office of the National Economic and Social Development Board also suggested that in 2016 Thailand was outstanding in developing Macroeconomic environment, placing itself at the 13th ranking—escalating from the 2015’s 27th ranking. Factors that showed distinct development were government budget, gross national savings, and government debt. Moreover, in terms of innovation, Thailand also got up 3 ranks, by placing at No.54 in 2016 from No.57 in 2015, which was the result of government’s steady support and encouragement towards innovation developments.
4.0 -- A Change for the Better Future
Symbolically, 4.0 represents a change in economic structure towards Value-based Economy or Innovation-driven Economy, and a shift from “do more and make less” to “do less and make more” -- to add value to country’s products, services, and economy. That is why technology is so important as a driving force towards all sorts of development,’’ added Mr.Apirak. In 2017, it is estimated that Thailand’s food export will have reached THB 1 trillion in value, and will have grown up 6-7 percent. As one of the world’s leading food producers, the transition towards “Industry 4.0” in accordance with “Thailand 4.0” policy will yield many prospective benefits and propel Thailand to escaping the middle income trap. World economic leadership tends to move to Asian region. Being able to adapt to the Innovation-driven Economy with genuine insight and understanding of the changing global mega trends, along with use of cluster approach by the operators will hopefully launch Thailand’s food industries farther and higher in world’s arena”, concluded Mr.Apirak.
ad_BBC final.indd 7
8/22/17 10:28 AM
SPECIAL FOCUS
กองบรรณาธิการ Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
เมื่อผู้บริโภคในยุคดิจิทัลสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลของสินค้าอาหารที่พวกเขา จะซื้อบริโภคได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น นั่นหมายถึงพวกเขาสามารถ ทราบถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการบริโภควัตถุดิบสังเคราะห์และสารเคมี ปรุงแต่งต่างๆ …และบางทีพวกเขาก็อยากจะกลับสู่ความเป็นธรรมชาติดังเช่นในอดีต
Clean Label
อีกหนึ่งกระแสที่มาแรง ธนาคารเพือ่ การส่งออกและนําเข้าแห่งประเทศไทย ระบุวา่ ความนิยมในอาหาร ทีม่ สี ว่ นช่วยดูแลสุขภาพเป็นสิง่ ทีผ่ บู้ ริโภคให้ความสนใจเป็นลําดับต้นๆ โดยตัวอย่าง ของกระแสดังกล่าวในไทย คือ Clean Food หรืออาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อย สําหรับในตลาดโลกจากการประเมินโดย Innova Market Insights ซึ่งเป็นบริษัท วิจัยและรวบรวมข้อมูลด้านอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก พบว่า Clean Label และ Free-from Food เป็นคุณสมบัตทิ ผี่ บู้ ริโภคในซีกโลกตะวันตกมองหา ทัง้ นี้ ไม่ใช่ กระแสใหม่ แต่กําลังจะเป็นกระแสหลักที่ได้รับความสนใจในตลาดต่างๆ เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง “Clean Label” มีนยิ ามทีแ่ ตกต่างกันในแต่ละประเทศ แต่โดยทัว่ ไปมักหมายถึง ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ท่ี ใ ช้ วั ต ถุ ดิ บ หรื อ เครื่ อ งปรุ ง จากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี ห รื อ สารสังเคราะห์ อาทิ วัตถุปรุงแต่งกลิ่น รส และสี ขณะที่บางหน่วยงานขยายขอบเขต ของ Clean Label ไปถึงฉลากที่ผู้บริโภคอ่านแล้วเข้าใจ เพื่อให้ผู้บริโภคมีข้อมูล มากพอต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า และสามารถประเมินคุณค่าของอาหารได้ตรงกับ ความต้องการ ปัจจุบันอาหาร Clean Label ได้รับความนิยมในหลายภูมิภาคของโลกตาม ความต้องการอาหารปลอดสารปรุงแต่งหรืออาหารธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ในสหราชอาณาจักร TESCO มีการพิมพ์รายชือ่ สารปรุงแต่งทีไ่ ม่ตอ้ งการให้ผสม 38
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
ในอาหารที่จ�ำหน่ายใน TESCO ส่งให้แก่ซัพพลายเออร์ เพื่อให้ผลิตอาหาร Clean Label ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ส่วนในสหรัฐอเมริกา ในปี 2557 พบว่าผลิตภัณฑ์อาหารธรรมชาติมีมูลค่าสูงถึง 30 พันล้านเหรียญสหรัฐ เช่นเดียวกับในยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย ที่ผู้บริโภคมองหาอาหาร ธรรมชาติและหลีกเลี่ยงวัตถุปรุงแต่งอาหารแม้ที่เคยเป็นส่วนประกอบที่ได้รับ ความนิยมมากในอดีตอย่างสารให้ความหวานสังเคราะห์ ทั้งนี้ จากการส�ำรวจกลุ่มผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาโดยหนึ่งในบริษัทผู้น�ำ ด้านธุรกิจวัตถุดิบประกอบอาหารที่เป็นออร์แกนิกและปราศจากการตัดแต่ง พันธุกรรม พบว่าสารปรุงแต่งรสในอาหารที่ผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาต้องการ หลีกเลี่ยงมากที่สุด คือ สารให้ความหวานจากข้าวโพด (High Fructose Corn Syrup; HFCS) ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ท�ำให้ตลาดของสารให้ความหวาน จากพืชชนิดอื่นเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะสารให้ความหวานที่สกัดจากใบของ หญ้าหวาน (Stevia) โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่ผลิตสารสกัดหญ้าหวาน ออกจ�ำหน่ายเชิงพาณิชย์ และยังเป็นประเทศที่ใช้หญ้าหวานมากที่สุดในโลก ปัจจุบันสารสกัดหญ้าหวานครองส่วนแบ่งในตลาดสารให้ความหวานในญี่ปุ่น ถึงร้อยละ 40 ทั้งนี้ Zenith International ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาในอุตสาหกรรม อาหารและเครื่องดื่มระดับสากล ได้ประมาณการณ์ยอดจ�ำหน่ายสารสกัด หญ้าหวานทั่วโลกว่าจะมีมูลค่าถึง 578 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2560
SPECIAL FOCUS
ส�ำหรับในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและ บริโภค (Grocery Manufacturers Association) รายงานว่าในปัจจุบัน ผูบ้ ริโภคชาวอเมริกนั ให้ความส�ำคัญกับสุขภาพและแหล่งทีม่ าของวัตถุดบิ ที่ใช้ในการผลิตสินค้ามากขึ้น รวมถึงขั้นตอนในการผลิตที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม จนก่อให้เกิดกระแสความนิยมบริโภคสินค้าอาหาร Clean Label เป็นวงกว้าง ซึ่งกระแสดังกล่าวได้รับความสนใจและตอบสนอง จากกลุม่ ผูป้ ระกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตและจ�ำหน่ายสินค้าอาหาร อย่างกว้างขวาง ข้อมูลจากส�ำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่ากลุ่มผู้บริโภคที่สนใจบริโภคสินค้าอาหาร Clean Label มากที่สุด คือ กลุ่ม Millennials ซึ่งมีอายุ 18-34 ปี และกลุ่ม Baby Boomers ซึ่งมีอายุ 51-69 ปี โดยถือว่าเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุด ในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน โดยมีประชากรรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 150.3 ล้านคน แบ่งเป็นกลุ่ม Millennials ประมาณ 75.4 ล้านคน และกลุ่ม Baby Boomers ประมาณ 74.9 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 47.12 หรือ ประชากรเกือบครึง่ หนึง่ ของประชากรทัง้ หมดในสหรัฐอเมริกา โดยผูบ้ ริโภค กลุม่ นีม้ คี วามยินดีจา่ ยเงินมากขึน้ เพือ่ ให้ได้มาซึง่ สุขภาพและสิง่ แวดล้อม ที่ดี มีพฤติกรรมในการปฏิเสธการบริโภคสินค้าที่ระบุถึงส่วนประกอบที่ ไม่รจู้ กั มีสารเคมีบางอย่างทีอ่ นั ตรายหากสะสมในระยะยาว หรือแม้กระทัง่
แนวโน้มความต้องการบริโภคสินค้าอาหารของผู้บริโภคชาวอเมริกัน ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ดังจะเห็นได้จากยอดจ�ำหน่ายสินค้าอาหาร ออร์แกนิกและสินค้าอาหารจากวัตถุดิบธรรมชาติที่มีอัตราการขยายตัว เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2558 มียอดจ�ำหน่ายขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็น 4.33 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นร้อยละ 11 และคาดว่าสัดส่วนยอดจ�ำหน่ายสินค้าอาหาร ออร์แกนิกต่อยอดจ�ำหน่ายสินค้าอาหารทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4 ในปี 2555 ไปเป็นร้อยละ 14 ในปี 2563 ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อม เช่น ผูบ้ ริโภคมักจะมีแนวโน้มเลือกซือ้ สินค้าอาหาร ที่มีส่วนผสมบนฉลากระบุว่า Egg white มากกว่า Albumen แม้ว่าวัตถุดิบทั้งสอง จะเป็นวัตถุดิบชนิดเดียวกันก็ตาม ข้อมูลจากการส�ำรวจผูบ้ ริโภคเรือ่ งอาหารและสุขภาพประจ�ำปี 2559 (2016 Food and Health Survey) โดยสถาบันข้อมูลอาหารนานาชาติ (International Food Information Council Foundation) พบว่า ข้อมูลบนฉลากสินค้าอาหารทีผ่ บู้ ริโภคชาว อเมริกันให้ความส�ำคัญตรวจสอบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า ได้แก่ วันหมดอายุ ยีห่ อ้ สินค้า ข้อมูลโภชนาการ วิธกี ารปรุง วัตถุดบิ ทีใ่ ช้ จ�ำนวนหน่วยบริโภค แคลอรี และ คุณประโยชน์ของสารอาหารที่ได้รับ ตามล�ำดับ
SEP 2017
38-44_Special Focus_clean.indd 39
FOOD FOCUS THAILAND
39 8/21/17 3:51 PM
SPECIAL FOCUS
การปรับตัวของผู้ประกอบการ
ผู ้ ป ระกอบการในอุ ต สาหกรรมผลิ ต สิ น ค้ า อาหารรายใหญ่ ห ลายรายใน สหรัฐอเมริกาได้ประกาศแผนการปรับปรุงสูตร ตลอดจนวัตถุดิบในการผลิต สินค้าและฉลากสินค้าให้มขี อ้ มูลทีช่ ดั เจนและเข้าใจง่ายมากขึน้ เพือ่ ตอบสนอง แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ดังเช่น • Nestle` USA Inc. ประกาศใช้ ไ ข่ ไ ก่ ที่ ม าจากฟาร์ ม เลี้ ย งแบบเปิ ด (Cage-free) ในการผลิตสินค้าทุกชนิดที่จ�ำหน่ายในสหรัฐอเมริกาภายใน 5 ปี ซึ่ ง รวมถึ ง สิ น ค้ า ไอศกรี ม แบรนด์ Dreyer’s อี ก ทั้ ง ยั ง ประกาศจะเพิ่ ม สาย ผลิตภัณฑ์ Simple Recipes ซึ่งจะลดจ�ำนวนรายการวัตถุดิบในการผลิตลง จากเดิมเฉลีย่ 22 รายการ เหลือเพียง 7-8 รายการเท่านัน้ นอกจากนี้ ยังจะยกเลิก การใช้คาราจีแนนและแซนแธนกัมในการผลิต โดยเปลี่ยนไปใช้สารเพคติน ซึ่งเป็นสารสกัดจากเปลือกของพืชตระกูลส้มแทน
รูปที่ 1: ข้อมูลบนฉลากสินค้าอาหารที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันให้ความสำ�คัญตรวจสอบ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า ที่มา: International Food Information Council Foundation
นอกจากนี้ ยังพบว่าผูบ้ ริโภคส่วนใหญ่มกั จะอ่านฉลากสินค้าอาหารอย่างรวดเร็ว เพือ่ หาวัตถุดบิ ทีไ่ ม่ตอ้ งการหรือระมัดระวังในการบริโภค โดยสารเคมีสงั เคราะห์และ วัตถุดบิ ส�ำหรับการผลิตอาหารทีผ่ บู้ ริโภคชาวอเมริกนั ส่วนใหญ่หลีกเลีย่ งทีจ่ ะบริโภค แสดงดังตารางที่ 1
Dreyer’s Simple Recipes
ตารางที่ 1 สารเคมีสังเคราะห์และวัตถุดิบสำ�หรับการผลิตอาหารที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงที่จะบริโภค
ชื่อภาษาอังกฤษ
ชื่อภาษาไทย
ส่วนผสมในอาหารประเภทต่างๆ
1. Sodium Nitrite and Sodium Nitrate 2. Partially Hydrogenated Vegetable Oil and Fully Hydrogenated Vegetable Oil 3. Yellow #5 and #6
โซเดียมไนไตรท์ และโซเดียมไนเตรท หรือดินประสิว ไขมันทรานส์ หรือน�้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน
ลูกชิ้น เบคอน ไส้กรอก แหนม และเนื้อสัตว์แปรรูป เป็นต้น มาการีน ขนมปัง อาหารแช่แข็ง เค้ก คุกกี้ และครีมเทียม เป็นต้น
สีเหลืองผสมอาหาร หมายเลข 5 และ 6
4. Butylated Hydroxy Anisole and Butylated Hydroxy Toluene 5. Blue #1 and #2 6. Sodium Phosphate 7. Interesterified Fat 8. Corn Syrup and High-Fructose Corn Syrup
บิวทิเลตไฮดรอกซีแอนิโซล และ บิวทิเลตโฮดรอกซีโทลูอีน หรือสารกันหืน สีฟ้าผสมอาหาร หมายเลข 1 และ 2 โซเดียมฟอสเฟต ไขมันสังเคราะห์ แบะแซ และน�้ำเชื่อมฟรุกโตส
ซีเรียล พุดดิ้ง แป้งส�ำเร็จรูป เครื่องดื่ม มันฝรั่งทอด คุกกี้ และ เครื่องปรุงรสอาหาร เป็นต้น เบียร์ แครกเกอร์ เนย และอาหารที่มีไขมัน เป็นต้น
9. Evaporated Cane Juice 10. Brominated Vegetable Oil 11. Monosodium Glutamate 12. Hydrolyzed Vegetable Protein 13. Modified Starch 14. Red #3 and #40 15. Aspartame
น�้ำตาลอ้อย น�้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมสารโบรมีน ผงชูรส โปรตีนสังเคราะห์จากกระบวนการไฮโดรไลซิส (Hydrolysis) แป้งดัดแปร สีแดงผสมอาหาร หมายเลข 3 และ 40 แอสปาร์แทม
40
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
อาหาร เครื่องดื่ม และขนมที่มีสีฟ้า เขียว ม่วง ไส้กรอก เนื้อแปรรูป แฮม และปลากระป๋อง เป็นต้น พาสต้า มาการีน อาหารแช่แข็ง และซุปกระป๋อง เป็นต้น ขนมปัง ซุปกระป๋อง ซอสปรุงรส ซีเรียล น�้ำอัดลม อาหารแช่แข็ง และไอศกรีม เป็นต้น โยเกิร์ต นมถั่วเหลือง ซีเรียล ไส้กรอก เป็นต้น น�้ำอัดลม และเครื่องดื่มให้พลังงาน เป็นต้น ซุปก้อน ขนมขบเคี้ยว อาหารแปรรูป เป็นต้น ซุปกระป๋อง อาหารแช่แข็ง ซุปผง และซุปก้อน อาหารแปรรูป อาหารลดน�ำ้ หนัก คุกกี้ และอาหารแช่แข็ง เป็นต้น ผลไม้ค็อกเทล ลูกอม เค้ก ซีเรียล เครื่องดื่ม และขนม เป็นต้น อาหาร และเครื่องดื่มพลังงานต�่ำ
SPECIAL FOCUS • Hormel Foods Corporation ประกาศด�ำเนินโครงการ Clean Label เพื่อปรับปรุงข้อมูลบนฉลากสินค้าให้ง่ายต่อการท�ำความเข้าใจของผู้บริโภค โดยเริ่มด�ำเนินการในบางสายผลิตภัณฑ์แล้ว เช่น “Valley Fresh” “Hormel Compleats” และ “Hormel Always Tenders” เป็นต้น นอกจากนี้ยังปรับปรุง สูตรการผลิตสินค้าโดยตัดวัตถุดิบบางชนิดที่ผู้บริโภคหลีกเลี่ยงที่จะบริโภค ออกจากรายการวัตถุดิบส�ำหรับผลิตสินค้า เช่น สารกันบูด สีผสมอาหาร และ สารไนไตรท์ เป็นต้น
สาร Bisphenol A หรือ BPA ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคภายใน ปี 2560
Campbell’s Revised Food Label
Hormel products after label development and altered recipe
• Campbell Soup Company ประกาศเพิ่มข้อมูลส่วนประกอบวัตถุดิบ ที่ ม าจากผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ าหารตั ด แต่ ง พั น ธุ ก รรม (Genetically Modified Organisms; GMO) บนฉลากสินค้าอาหารส�ำเร็จรูปทั้งหมดที่วางจ�ำหน่ายใน สหรัฐอเมริกา เพื่อความโปร่งใสและตอบสนองกระแสความต้องการของ ผู ้ บ ริ โ ภค นอกจากนี้ จ ะเปลี่ ย นไปใช้ ก ระป๋ อ งบรรจุ อ าหารที่ ป ราศจาก
• Kellogg’s ประกาศเพิม่ สายผลิตภัณฑ์ซเี รียลประเภททีม่ ปี ริมาณน�ำ้ ตาลต�ำ่ ภายใต้แบรนด์ “Froot Loops” และ “Apple Jacks” และการวางจ�ำหน่ายสินค้า ประเภทธัญพืชอบกรอบ เช่น Mueslis และ Granolas ที่มีวัตถุดิบหลักมาจาก ธรรมชาติ นอกจากนี้ ยั ง ประกาศยกเลิ ก การใช้ ส ารเคมี แ ต่ ง สี แ ละกลิ่ น ในกระบวนการผลิตสินค้าซีเรียล ขนมขบเคี้ยวแบบแท่ง และอาหารแช่แข็ง แบรนด์ “Eggo”
Kellogg’s Cereal Products
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
41
SPECIAL FOCUS 2. ผู้ประกอบการควรศึกษา วิจัย และพัฒนาหาวัตถุดิบหรือสารทดแทน • ส�ำหรับในประเทศไทยก็มีผลิตภัณฑ์ที่เข้าข่าย Clean Label อาทิ ลูกชิ้นปลา เท่งไฮ้ ซึง่ คัดสรรเนือ้ ปลาทะเลคุณภาพดี สดจากตลาดปลาทุกวัน จนได้ลกู ชิน้ ปลาทีอ่ ร่อย จากธรรมชาติมาใช้เป็นวัตถุดบิ ในการผลิตแทนวัตถุดบิ สังเคราะห์ทยี่ กเลิกใช้ เหนียว นุ่ม ให้โปรตีนสูง แคลอรีต�่ำ อีกทั้งยังมีโอเมก้า-3 อีกด้วย นอกจากนี้ยังไม่ใช้ โดยมีเป้าหมายเพืเ่ น้นรักษาคุณสมบัติ รูปร่าง และรสชาติของสินค้าให้คงเดิม หรือใกล้เคียงเดิมมากที่สุด วัตถุกันเสีย ไม่ใช้บอแร็กซ์ ไม่ใส่ผงชูรส และไม่ผสมแป้ง 3. ผูป้ ระกอบการควรติดตามข้อมูลข่าวสารทีเ่ กีย่ วกับกฎระเบียบข้อบังคับ ด้านการแสดงฉลากสินค้าขององค์การอาหารและยาในประเทศต่างๆ อย่าง สม�่ำเสมอ เพื่อเตรียมพร้อมปรับตัวให้เป็นไปตามข้อบังคับ เช่น การประกาศ ห้ามใช้ไขมันทรานส์ในการผลิตสินค้าอาหารในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2561 4. นอกจากปัจจัยด้านรสชาติและคุณภาพของสินค้าแล้ว ผู้บริโภคยังให้ ความส�ำคัญกับข้อมูลแหล่งทีม่ าของวัตถุดบิ ทีใ่ ช้ในการผลิต โดยวัตถุดบิ จะต้อง มาจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ ผู้ผลิตจะต้องควบคุมดูแลการปฏิบัติ Teng-Hai Premium Fish Ball ต่อแรงงาน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเป็นธรรม 5. การออกแบบฉลากสินค้าอาหารควรเลือกใช้คำ� ทีเ่ ข้าใจง่ายในการอธิบาย ข้อแนะน�ำและข้อเสนอแนะ 1. ผู้ประกอบการควรศึกษาแนวโน้มความต้องการของคู่ค้า เพื่อให้สามารถปรับปรุง ส่วนประกอบ ข้อมูลโภชนาการ รายการวัตถุดิบ และข้อมูลอื่นๆ 6. ภาครัฐควรให้การสนับสนุนภาคเอกชนในการวิจัยวัสดุบรรจุภัณฑ์ สินค้าให้ตรงตามความต้องการของผูบ้ ริโภค โดยอาจพิจารณาก�ำหนดเป้าหมายระยะสัน้ ที ่ เ ป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อใช้ทดแทนวัสดุบรรจุภัณฑ์เดิม นอกจากนี้ และระยะยาวในการลดหรือยกเลิกการใช้สารเคมีสังเคราะห์ที่อาจจะส่งผลกระทบ ยังควรให้ความส�ำคัญกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการ ต่อสุขภาพผู้บริโภค เช่น สารเคมีแต่งสี กลิ่น รส และสารกันบูด ของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย เอกสารอ้างอิง ธนาคารเพื่อการส่งออกและนําเข้าแห่งประเทศไทย. 2559. เก็บตกจากต่างแดน สิ่งที่ผู้บริโภคมองหาในการเลือกซื้ออาหารในปี 2559 สำ�นักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา. 2559. รายงานภาวะตลาด: Clean Label กระแสสินค้าอาหารมาแรงในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559
When consumers in the digital era can conveniently and rapidly access the information about their food, it means they can also find out easily about the consequences of their consumption of synthetic chemicals … and sometimes they wish to return to the natural way like in the past.
Clean Label
The Booming Trend 42
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
The Export-Import Bank of Thailand (EXIM Bank) revealed that healthy food is a priority to many consumers, especially clean food or minimally processed food in case of Thailand. Meanwhile, in the global market, Innova Market Insights - a global research and information company focuses on food and beverage industry - found that clean label and free-from food are the property that western consumers are looking for. Though the trend is not new, but it is becoming mainstream in many markets constantly. “Clean Label” yields different definitions in each country, but generally, the term refers to products that use natural materials or natural ingredients, and are free from chemical and synthetic substances such as colouring agent and flavouring agent. Meanwhile, some agencies expand the meaning of clean label to cover comprehensive and understanding label giving consumers enough information to purchase, and ability to evaluate nutrition facts to match their demands.
SPECIAL FOCUS Currently, clean label has become popular in many regions of the world thanks to the growing demand for free from additives or natural food. In the United Kingdom, TESCO prints out a list of unwanted food additives they wish to abolish from food on their shelves, and sent to the suppliers to make clean label food responsive to the consumers demand. In the United States, natural food market was worth USD 30 billion in 2014. The similar trend is happening in Europe, Australia and Asia, where consumers are looking for natural and free-from additives food, despite the fact that those additives were very much beloved in the past, such as artificial sweeteners. According to a consumer survey conducted by one of the leading company in organic and non-GMO food ingredients, an additive that consumers are trying to avoid most is High Fructose Corn Syrup (HFCS). This explains why plant-based sweeteners are growing, especially stevia. Japan is the first country that commercially launches stevia, and is a country that consumes the biggest amount of stevia. Stevia dominates the Japanese sweetener market with 40% market share. Zenith International, the international advisor company in food and beverage industry, assessed that stevia sales will reach USD 578 million in 2017. In the US, Grocery Manufacturers Association reported that American consumers are now concerning about health, source of raw materials used in food products, and environmentally friendly manufacture more than before. This consequently resulted in the widespread trend towards clean label food consumption, which is warmly welcomed by food manufacturers and traders. The Office of International Trade Promotion in Miami, USA, stated that age groups that are most interested in clean label are millennials, aged 18-34, and baby boomers, aged 51-69. Together, they account for the largest population group in the US, taking 47.12% of the nation’s population with combined population of 150.3 million -- 75.4 million millennials, and 74.9 million baby boomers, respectively. These consumers are more than willing to spend more money on health and good environment. They also keen to reject products containing unknown ingredients and some dangerous chemicals that accumulate in the long run. For example, consumers are inclined to buy a product with a word “egg white” on the label instead of “albumen”, despite that the two words are the same ingredient. Information from the 2016 Food and Health Survey conducted by the International Food Information Council Foundation found that American consumers prioritize information on a food label in this following order; expiration date, product’s brand, nutrition facts, cooking instruction, ingredients, serving size, calories, and benefit from the nutrients. Furthermore, the research pointed out that many consumers are scanning through the labels quickly to look for unwanted or cautious
It all starts off with consumer perception of “natural”. This then influences decisions made by powerful food groups — food service and retail grocery store chains. Companies compile official lists, explicitly stating the ingredients that cannot be present in food items in their stores or restaurants. e.g. Whole Foods calls their list “Unacceptable Ingredients
for Food” and Panera calls their list the “No No List”.
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
43
SPECIAL FOCUS ingredients. Unwanted synthetic chemicals and ingredients for American consumers are shown in Table 1 (page 40).
Adjustments Made By Leading Food Enterprises Major food enterprises in the US have announced their adjustment plans to revise formula and ingredients, as well as label, to provide clear and comprehensive information according to the demand of consumers. Nestle` USA Inc. announced that the company will use only cage-free chicken eggs in all kind of its products sales in the USA within 5 years, including its Dreyer’s ice cream. The company also announced to add more products to its brand Simple Recipes, which will reduce list of ingredients from average 22 items to only 7-8 items. The company also planned to abolish the use of carrageenan and xanthan gum in production process and replace them with pectin - a substance extracted from natural orange peel. • Hormel Foods Corporation announced that the company will use ‘Clean Label’ campaign to improve its label to be understanding by all consumers. The campaign has already launched in some of its subsidiaries such as “Valley Fresh”, “Hormel Compleats”, and “Hormel Always Tenders”, to name a few. Not only that, the company is also planning to revise its recipe to cut some unwanted ingredients such as preservatives, synthetic colouring agent, and nitrite, for instances. • Campbell Soup Company declared that the company will add information about Genetically Modified Organisms (GMO) ingredients on its processed foods’ label across the States. This measure will create transparency and answer to call
The organic & natural-boom, a consumption profile “pro enjoyment” and the desire of consumers for authenticity and trustworthiness reinforce the clean label trend continues. Going further than “Clean Label” is the term “Transparent Label”, in which it is about factors such as sustainability, fair trade, etc. to integrate. 44
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
from the customers. Moreover, the company is planning to replace its current can packaging with non-Bisphenol A or non-BPA can by 2017, as BPA is dangerous to the health of its consumers. • Kellogg’s said that the company will add 2 low-sugar cereal brands “Froot Loops” and “Apple Jacks” and will sell them along with crispy cereal products like Mueslis and Granolas, whose main ingredients are natural. Moreover, the company has declared that it will stop using synthetic colouring agent and flavouring agent in its snack bar and its frozen food under “Eggo” brand. • In Thailand, there are products that qualify for clean label, too, such as Teng-Hai Premium Fish Ball. Teng-Hai fish balls are made of the best quality and freshest fish selected daily from the fish market, which is why the product possesses pure, fresh taste, and firm, yet, has tender texture. The fish balls are also rich in Omega-3, protein and low in calories, with no-preservatives and no MSG added.
Suggestions 1. Enterprise should study the trends of its trading partner to improve its products to meet the demand, for example, set short-term and long-term goals to reduce or eliminate synthetic chemicals that can be harmful to consumers’ health such as synthetic colouring agents, flavouring agents, and preservatives. 2. Enterprise should study, research, and develop raw materials, ingredients or find natural substitutes to replace synthetic chemicals in food production by focusing on maintaining the same or closely similar quality, appearance, and taste of food. 3. Enterprise should keep itself up-to-date with new regulations on food labelling issued by the Food and Drug Administration in various countries. For example, the USFDA bans on trans-fat usage in food produced in the US, which will come into effect in June 2018. 4. In addition to taste and quality, consumers also value the source of raw materials. The ingredient must have a trustworthy origin, and food manufacturers must ensure proper, equitable, and justify/fair treatment for labor, animal and environment. 5. Food label design should use simple words to describe components, nutrition facts, ingredients, and other information. 6. The public sector should support the private sector in researching for environmentally friendly packaging to replace original packaging. Moreover, it should also focuses on designing a packaging that matches the demand of target consumers.
SPECIAL FOCUS
ผลิตภัณฑ์สตาร์ชและมันฝรั่งเกล็ด
ที่เป็นมิตรต่อฉลาก
แนวโน้มของผลิตภัณฑ์ทม ี่ ก ี ารใช้วต ั ถุดบ ิ ทีม ่ าจากธรรมชาติมก ี ารเติบโตอย่างต่อเนือ่ ง และมีบทบาทส�ำคัญในการตัดสินใจ เลือกซื้อของผู้บริโภค จากข้อมูลการวิจัยตลาดของ บริษัทอินโนวามาร์เก็ตอินไซต์เกี่ยวกับ 10 เทรนด์ของอุตสาหกรรม อาหาร เครื่องดื่ม และสารผสมอาหารต่างๆ ทั่วโลก พบว่าในปี 2558 เรื่อง “From clean to clear label’’ เป็นเทรนด์ ที่ติดอยู่ใน 10 อันดับจากการวิจัยตลาดดังกล่าว ซึ่งหมายถึงการแสดงรายละเอียดในฉลากที่ชัดเจน ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ไม่มีสารตัดต่อทางพันธุกรรม และมีส่วนประกอบที่มาจากธรรมชาติ และกระแสความนิยมในด้านนี้ยังคงได้รับ ความนิยมอย่างต่อเนื่องในปี 2559 โดยอยู่ในหัวข้อ “Free from all’’ โดยทางบริษัทอินโนวามาร์เก็ตอินไซต์ยังได้กล่าว เพิ่มเติมไว้ว่า การบริโภคอาหารที่มาจากธรรมชาติเป็นกระแสที่จะน�ำเรากลับไปสู่ความเป็นธรรมชาติ
เกอร์เบน เมอร์ซิ่ง Gerben Meursing
สืบเนื่องจากความต้องการอาหารที่ปราศจากวัตถุเจือปนในอาหารนั้น มีมากขึ้นเรื่อยๆ ความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณสมบัติและหน้าที่ของสตาร์ช และมันฝรั่งเกล็ด (Flakes) ด้วยกระบวนการผลิตทางกายภาพที่เป็นมิตร ต่ อ ฉลากและสามารถประยุ ก ต์ ใ ช้ กั บ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ าหารได้ ห ลากหลาย จึงเกิดขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง ซึง่ ส่วนผสมอาหารนวัตกรรมกลุม่ นีไ้ ด้ถกู ปล่อยส่ตู ลาด และประสบความส�ำเร็จเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ในอุตสาหกรรมอาหารผลิตภัณฑ์สตาร์ชและมันฝรัง่ เกล็ดแบบทีเ่ ป็นมิตร ต่อฉลาก1 ถูกน�ำไปใช้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการท�ำหน้าที่ด้านความข้นหนืด ปรับปรุงเนื้อสัมผัสให้คงที่ อีกทั้งยังมีความคงทนในกระบวนการผลิต ซึ่งจาก คุณสมบัติที่กล่าวมานั้นถือเป็นลักษณะปรากฏที่ดีของผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้แล้วการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสตาร์ชและมันฝรั่งเกล็ดแบบ ที่เป็นมิตรต่อฉลาก1 ยังช่วยให้นักวิจัยและพัฒนาสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพเหมือนกันกับการใช้แป้งดัดแปร
ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติล่าสุดสำ�หรับเบเกอรีและขนมขบเคี้ยว
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฟเบอร์2 โปรตีน สตาร์ช3 และมันฝรั่งเกล็ดแบบที่เป็นมิตร ต่อฉลาก1 สามารถประยุกต์ใช้ได้ดีในผลิตภัณฑ์กลุ่มเบเกอรีหลากหลายชนิด โดยสามารถท�ำได้หลากหลายหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับความข้นหนืด การปรับปรุงเนื้อสัมผัสให้คงที่ โดยสามารถทนต่อกระบวนการผลิตได้ดี
Managing Director Emsland Asia Food Innovation Corp., Co., Ltd. Emsland Group. info@emsland-group.de
ซึ่งช่วยให้นักวิจัยและพัฒนาสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ในด้านเบเกอรี่ที่มีคุณภาพ เหมือนกันกับการใช้แป้งดัดแปร นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฟเบอร์2 โปรตีน สตาร์ช3 และมันฝรัง่ เกล็ดแบบทีเ่ ป็นมิตรต่อฉลาก1 ยังสามารถตอบโจทย์ของกระแส วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติและปราศจากกลูเตนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากความส�ำเร็จของผลิตภัณฑ์ในกลุม่ สตาร์ช3 และมันฝรัง่ เกล็ดแบบทีเ่ ป็น มิตรต่อฉลาก1 แล้ว ปัจจุบันยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์สตาร์ชนวัตกรรม ที่มีคุณสมบัติพิเศษและเป็นมิตรต่อฉลาก4 ซึ่งเหมาะกับกลุ่มขนมขบเคี้ยวแบบอบ โดยผลิ ต ภั ณ ฑ์ ส ตาร์ ช นวั ต กรรม 4 ที่ เ ป็ น แป้ ง พรี เ จลาติ ไ นซ์ ผลิ ต จากวั ต ถุ ดิ บ ธรรมชาตินสี้ ามารถใช้ได้หลากหลายหน้าที่ ทัง้ ในส่วนการเกาะติด การให้ความข้นหนืด การปรับปรุงเนื้อสัมผัส โดยจะช่วยในกระบวนการควบคุมการพองตัวและช่วย ปรับ ปรุ งด้านรสชาติข องมั นฝรั่ งให้ดีขึ้ นเมื่อ เปรี ยบเทียบกับ การใช้ แป้ง ข้าวโพดข้าวเหนียวในผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวที่ท�ำจากมันฝรั่ง นอกจากนี้ เมือ่ น�ำไปประยุกต์ใช้รว่ มกับผลิตภัณฑ์มนั ฝรัง่ เกล็ดนวัตกรรมอืน่ ๆ5,6 ยังท�ำให้ได้สว่ นผสมทีง่ า่ ยต่อการใช้งานในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ขนมขบเคีย้ ว ที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติได้อีกด้วย โดยสรุปแล้ว ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์สตาร์ชนวัตกรรม4 ส�ำหรับผลิตขนมขบเคีย้ ว แบบอบนั้นมีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การให้รสชาติของมันฝรั่ง ความสามารถSEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
45
SPECIAL FOCUS ในการเป็นเนื้อเดียวกันกับน�้ำได้ การช่วยให้โด (Dough) เป็นเนื้อเดียวกันและ มีความยืดหยุ่น นอกจากนั้นยังช่วยควบคุมความเหนียวขณะที่มีการขึ้นรูปเป็นแผ่น และในกระบวนการผลิตโด ช่วยควบคุมรูปร่างและในการตัดแต่งได้ดี ช่วยควบคุม การพองตัวในระหว่างการอบได้ดี ให้เนือ้ สัมผัสทีก่ รอบเบา เป็นทางเลือกทีส่ ามารถ ใช้แทนแป้งข้าวโพดข้าวเหนียวได้ และช่วยให้ความพองตัวมีความสม�่ำเสมอ
เป็นเนื้อเดียวกัน และให้ความกรอบที่มีรสชาติที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากประโยชน์ดังกล่าวแล้ว ผลิตภัณฑ์สตาร์ช นวัตกรรม4 ยังท�ำให้สามารถลดส่วนผสมในสูตรลงได้เนื่องจากคุณสมบัติ ดังกล่าวข้างต้นที่ครอบคลุม และสามารถระบุที่ฉลากว่าเป็นแป้ง ซึ่งเป็นมิตร ต่อผู้บริโภคอย่างชัดเจน
Clean label
starches and flakes
The trend for label-friendly products continues to grow and is playing an increasing role in the purchase decisions of consumers. The market research company Innova Market Insight releases every year the Top Ten Trends for global food, beverage and nutrition industry. In 2015, the top trend was “From Clean to Clear Label” which means transparency in labelling, non-allergen, non-GMO and using ingredients like our “Grandmothers” used in the kitchen. This trend is continuing in 2016 and is extended by the trend “Free from All”. Innova Market Insight also stated that, The “Clean eating” trend is inspiring a back to basics approach. Due to the growing demand for food that is free from additives, works on the development of functional native starches with application-friendly properties has been intensively conducted. In the food industry, clean label starches and flakes1 are used in many foodstuffs in which they have a positive effect on a variety of functions such as thickening behavior, texture as well as stability tolerance and process tolerance. This guarantees an excellent appearance of food. Using clean label starches and potato flakes1 allows developer creating food products with similar quality than using modified starches.
New Clean Label Products for Snacks and Bakery
In the bakery industry, clean label fibre2, protein, starches3 and flakes1 products are used in many applications in which they have a positive effect on a variety of functions such as thickening behavior, texture as well as stability tolerance and process tolerance. This can aid in an excellent appearance of food and allows developers creating bakery products with same quality as using modified starches. With clean label fibres2, protein, starches3 and flakes1, R&D teams in the bakery industry can follow the important clean label trends which also include the gluten-free trend! The emerging story of clean label starches3 and flakes1 continues with the new development of the latest innovative clean label starches4 for use in baked snacks. One of the latest clean label starches4 found in today market is a pregelatinized, clean label starch applied as an universal binding, thickening and texturizing agent in many food applications,
46
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
especially for baked snacks. It provides controlled expansion and improves due to its origin the potato taste particularly in comparison with e.g. waxy maize alternatives in potato snacks. In combination with other innovative clean label flakes5,6 this innovative blend allows the creator to be in the comfortable situation to be able to manufacture clean label snacks. In summary, advantages that latest clean label starches4 can offer and be such a big benefit to bakery industry may include a power of potato taste, a homogeneous controlled water retention, a uniform and homogeneous dough formation and elasticity, a controlled stickiness while sheeting and dough processing, an excellent shaping and cutting performance, an excellent controlled expansion regulation in baking process, a crispy light texture, an alternative to waxy maizebased products, and an excellent homogeneous expansion with crispiness and brilliant taste. All in all, besides the functional benefits, latest clean label product starches4 allows a shorter ingredient list, due to the fact that it can be labelled simply as starch.
ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information 1 Empure® clean label starches and flakes products 2 Emfibre® clean label fibre products 3 Empro® clean label protein products 4 Empure® AK JEL 200 the latest innovative clean label starches 5,6 Empure® KF and Empure® AKF clean label flakes
ad_Emsland final.indd 34
8/16/17 5:39 PM
SPECIAL FOCUS
ความท้าทายในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปภายใต้เทรนด์
“คลีนลาเบล”
ปัจจุบันการแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหารมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องมาจาก ความระมั ด ระวั ง และความเอาใจใส่ เ กี่ ย วกั บ อาหารที่ เ พิ่ ม มากขึ้ น ของ ผู้บริโภค การผลิตอาหารภายใต้แนวคิดคลีนลาเบล (Clean label) ได้กลายเป็นงานส�ำคัญส�ำหรับผูผ ้ ลิต โดยทัว่ ไปคลีนลาเบลให้ความหมาย ในเชิงของความชัดเจน การปราศจากวัตถุเจือปน และฉลากอาหารสามารถ เข้าใจได้งา่ ย หรืออาจหมายรวมถึงผลิตภัณฑ์ธรรมชาติทไี่ ม่มก ี ารแต่งเติม สารสังเคราะห์หรือเคมีใดๆ ดังนั้น ความท้าทายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่เพียงแค่น�ำสารสังเคราะห์เช่นวัตถุกันเสียหรือวัตถุแต่งกลิ่นรสออก เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการน�ำส่วนประกอบใดๆ ที่มีเลขรหัสวัตถุเจือปน อาหาร (E-number) เช่น สีผสมอาหาร สารให้ความคงตัว อิมลั ซิไฟเออร์ หรือสารปรับปรุงเนื้อสัมผัสออกด้วย
จากข้อมูลโดย Zion Market Research รายงานว่ามูลค่าทางการตลาด ของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปในปี 2016 ที่ผ่านมามีมูลค่ารวมถึง 714 พันล้านเหรียญสหรัฐ และบทความเรื่อง Meat and Poultry: US Retail Market Trends and Opportunities ซึง่ ได้ตพี พิ ม์ใน Packaged Facts, Rockville, MD ยังได้รายงาน ว่าผู้ผลิตเนื้อและสัตว์ปีกแปรรูปต่างตื่นตัว และตอบสนองต่อความต้องการของ ผูบ้ ริโภคในเรือ่ งของคลีนลาเบล โดยการจัดหาผลิตภัณฑ์ทางเลือกทีเ่ ป็นผลิตภัณฑ์ ออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์ทมี่ ลี ดการใช้สารกันเสีย หรือวัตถุเจือปน หรือผลิตภัณฑ์ทไี่ ม่มี การใช้วตั ถุเจือปนอาหารเลย “ผูบ้ ริโภคต่างมองหาผลิตภัณฑ์คลีนลาเบล ซึง่ บนฉลาก อาหารจะปราศจากข้อมูลวัตถุเจือปนอาหาร” David Sprinkle ผู้อ�ำนวยการวิจัย Packaged Facts กล่าว เป็นที่ทราบกันดีว่าโปรตีนเป็นแหล่งของสารอาหาร และมีคุณสมบัติเชิงหน้าที่ จากธรรมชาติ โดยคุณสมบัติเชิงหน้าที่ดังกล่าวนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของโปรตีนที่จะ น�ำมาใช้ โปรตีนจากเนือ้ สัตว์สามารถเข้ากันได้ดกี บั ส่วนผสมทีใ่ ช้รว่ มกับผลิตภัณฑ์ เนื้อสัตว์ ทั้งในด้านของสี กลิ่น และการช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัส อีกทั้งยังปราศจาก E-number สารก่อภูมิแพ้ และสารที่ได้จากการตัดแต่งทางพันธุกรรม ฟอตเฟส มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เนือ้ สัตว์แปรรูป วัตถุประสงค์ การใช้งานเพื่อเพิ่มความสามารถในการอุ้มน�้ำ และการท�ำอิมัลชัน ซึ่งส่งผลต่อ โครงสร้างและเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ มีงานวิจัยหลายฉบับที่ต้องการ ทดแทนหรือลดการใช้ปริมาณฟอสเฟต อย่างไรก็ตาม Bart Heyman, Ph.D.1 48
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
Yung-Cheng Chang Veos Group IPS.TSQA@gmail.com
ได้ศกึ ษาผลของการทดแทนฟอสเฟตโดยใช้โปรตีนสกัดจากสัตว์ พบกว่าการใช้ โปรตีนสกัดจากสัตว์ในปริมาณร้อยละ 0.8 สามารถทดแทนการใช้ฟอตเฟส ในผลิตภัณฑ์ไส้กรอกได้ โดยไม่มีความแตกต่างในด้านความสามารถในการอุม้ น�ำ้ (Water holding capacity) และร้อยละของน�ำ้ หนักทีห่ ายไปในการท�ำให้ สุก (Cooking loss) เมื่อเปรียบเทียบกับตัวอย่างควบคุม Prabhu and Doerscher (2000) ได้ศึกษาผลของการใช้คอลลาเจน จากหนังหมูเพื่อลดปริมาณไขมันในไส้กรอกแฟรงเฟอร์เตอร์ และเพิ่มร้อยละ การผลิตหลังการท�ำสุก (Cooking yield) พบว่าการใช้คอลลาเจนความเข้มข้น ร้อยละ 1 ในสูตรจะช่วยลดปริมาณไขมันในไส้กรอก และช่วยเพิ่มร้อยละ การผลิตหลังการท�ำสุก นอกจากนี้ยังมีการวิจัยของ Pereira et al. (2011) พบว่าการใช้คอลลาเจนสกัดปริมาณร้อยละ 0.4-1 สามารถปรับปรุงคุณภาพ ของไส้กรอกแฟรงเฟอร์เตอร์ ด้านการลดร้อยละของน�ำ้ หนักทีห่ ายไปในการท�ำให้ สุก ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัส และสีของผลิตภัณฑ์ในการผลิตเชิงอุตสาหกรรม การรับรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับคลีนลาเบลจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู ้ บ ริ โ ภคพยายามให้ ค วามส� ำ คั ญ กั บ อาหารที่ ป ราศจากการเติ ม แต่ ง ต้องขอบคุณส่วนผสมแบบคลีนลาเบลที่เป็นทางเลือกในการเพิ่มคุณภาพของ อาหารในชีวิตประจ�ำวัน และช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม/ Additional Information 1 Veos Group (2016)
SPECIAL FOCUS
Clean Label
in Processed Meat & Poultry Products The processing food industry has been put to a challenge since the increasing consumer awareness of the food product. The term “Clean label” therefore become an important task nowadays for the food manufacturers to achieve. The clean label in generous is a sense of clear, clean and understandable declaration of processed food product. It may also stand for natural product without artificial ingredients or chemicals. The challenge of formulation not only is to take out the artificial preservatives or flavors, also to remove the ingredients with E-number that helps for coloring, stabilizing, emulsifying, texturizing and so on. Processed meat industry with an economic value of USD 714 billion in 2016 (Zion Market Research). According to Meat and Poultry: US Retail Market Trends and Opportunities, a recently published report from Packaged Facts, Rockville, Md., meat and poultry processors are responding to consumer demands for clean label products by providing more organic options and products with fewer additives or preservatives or none at all. “Consumers are looking for products with clean labels that provide the free-from information,” said David Sprinkle, research director for Packaged Facts. Protein has long been recognized by its nutritional and functional benefit. Depending on the physical function of the kinds of protein, they help to provide the benefit that processed meat manufactures are looking for. One of the best known natural protein sources is the meat itself. The meat protein is the closest protein ingredient to meat
in terms of amino acid profile, and the texture, color as well as flavor that it can provide. Meat proteins have no E-number, they are natural, allergen free and GMO free. For example: Phosphates are a commonly used additive in variety of meat preparations. The main goal is to improve the water holding and emulsifying capacity of the meat. This results in alteration of the proteins which influence the structure and texture of meat product. However, more and more research is done to replace phosphates as they have negative health impact. In light of phosphates replacement, Bart Heyman, Ph.D. 1 conducted research to replace phosphates by meat protein. The conclusion was that no significant differences were found in proximate analysis, WHC and cooking losses. 0.8 % meat protein can help to produce a phosphate free cooked sausage. Aside from replacing artificial ingredients, studies also discussed the benefit of applying meat protein in processed meat to improve eating quality and cooking yield. Prabhu and Doerscher (2000) utilized dehydrated pork skin collagen in reduced fat frankfurters to increase cooking yield in the final product and was successfully done at 1% collagen adding on top of the formulation. More recently, Pereira et al. (2011) found that 0.4 -1% of collagen protein improves the quality of frankfurter sausage to reduce cooking loss, improves texture and the color preference. In the industrial level, those benefits are often achieved by replacing or synergizing with the artificial ingredients with meat protein. The consumer awareness of clean label will continue to grow as the consumers are increasingly trying to make their diet more “clean.” Thanks to the clean label ingredient options that helps for maintaining, even improving the eating quality and integrity of our daily food while remaining or/and reducing the cost of production. SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
49
SPECIAL FOCUS
Judy Ng
Senior Application Technologist SGP NCD RAC
Translated by: มนต์ราม อินทรศิริ Monrarm Intarasiri
Business Development Manager AS Sales, NCD TH
จากการรายงานโดย Mintel ในปี 2559 พบว่าร้อยละ 32 ของผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มน�้ำอัดลมหรือ เครื่องดื่มอัดก๊าซมีความกังวลเกี่ยวกับส่วนผสมสังเคราะห์ในเครื่องดื่ม และร้อยละ 20 ให้ความเห็น ว่าเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมอาหารจากธรรมชาติจะท�ำให้พวกเขาตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2563 ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่แสดงฉลาก สะอาดจะมีมูลค่าเพิ่มสูงถึง 180 พันล้านเหรียญสหรัฐ
สีผสมอาหาร: วิวัฒนาการแห่งการยอมรับ
เนื่องจากผู้ผลิตเริ่มที่จะพัฒนาสูตรอาหารให้สามารถแสดงฉลากสะอาดได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อ ตอบสนองความต้องการของผูบ้ ริโภค และวัตถุดบิ อาหารชนิดแรกทีผ่ ผู้ ลิตมักเริม่ ทีจ่ ะเปลีย่ นเพือ่ ให้ได้ฉลากสะอาด คือ สีผสมอาหาร
สีเทรนด์ จากธรรมชาติ . .. สู่ฉลากสะอาดในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม อิทธิพลของเทรนด์ฉลากสะอาด (Clean label) นั้นเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่แสดงฉลาก สะอาดก�ำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอาหารจึงจ�ำเป็นต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันต่อเทรนด์ดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีความสนใจเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น เริ่มจากการหลีกเลีย ่ งอาหารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ไปจนถึงการสรรหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จะเห็นได้ว่ารูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปประกอบกับความใส่ใจในการเลือกบริโภคที่มากขึ้นนั้นส่งผลต่อการก�ำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม อาหารและเครื่องดื่มในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง
50
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
SPECIAL FOCUS สีผสมอาหารถูกน�ำมาใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม โดยช่วยให้อาหารและเครื่องดื่มเหล่านั้นมีความสวยงาม น่าดึงดูด สีสันสดใสใกล้เคียงธรรมชาติ และเพื่อทดแทนสีที่สูญเสียไป ในกระบวนการผลิตอาหาร นอกจากนี้ สีสันที่สวยงามยังเป็นตัวช่วย ส�ำคัญที่ท�ำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าด้วย ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์ การอาหารจึงใช้ทงั้ สีธรรมชาติและสีสงั เคราะห์ในการให้สกี บั ผลิตภัณฑ์ อาหารและเครื่องดื่ม ที่ผ่านมา สีสังเคราะห์นิยมน�ำมาใช้อย่างแพร่หลายในการผลิต อาหาร เนือ่ งจากสีสงั เคราะห์มกั จะไม่ได้รบั ผลกระทบจากกระบวนการผลิต หรือจากส่วนผสมอื่นๆ และสีที่ได้นั้นจะเป็นไปตามที่ผู้ผลิตต้องการ ให้เกิดความโดดเด่นและดึงดูดสายตาผู้บริโภคตลอดอายุการเก็บรักษา เนื่องจากการรักษาคุณภาพของสินค้านั้นคือหัวใจส�ำคัญของผู้ผลิต อาหารในการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์และความซื่อสัตย์ที่มีต่อ ผู้บริโภค เมื่อผลิตภัณฑ์ที่แสดงฉลากสะอาดได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากขึ้น ก็จะเห็นว่ามีการเลิกใช้สสี งั เคราะห์และความต้องการใช้สจี ากธรรมชาติ เพิ่มมากขึ้นแทน โดยเฉพาะสีที่ผลิตมาจากผักและผลไม้ซึ่งผ่านขั้นตอน ที่น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติ และมีความเป็นฉลาก สะอาดมากกว่าเดิม
สีผสมอาหารธรรมชาติ1 คืออะไร
ก่อนอื่นต้องท�ำความเข้าใจก่อนว่า ค�ำว่าสีผสมอาหารธรรมชาตินั้นไม่มี ค�ำจ�ำกัดความที่แท้จริง ดังนั้นเมื่อพูดถึงส่วนผสมอาหารสักหนึ่งอย่าง ที่มีความเป็นธรรมชาติ ผู้ผลิตอาหารส่วนใหญ่มักจะยึดตามกฎหมาย ของแต่ละประเทศเพื่อพิจารณาถึงความเป็นธรรมชาติของส่วนผสมนั้น โดยทัว่ ไป สีทใี่ ช้ในอาหารแบ่งออกเป็น สีสงั เคราะห์ สีจากธรรมชาติ และสี ที่ ไ ด้ จ ากวั ต ถุ ดิ บ ประเภทผั ก และผลไม้ โดย “สี สั ง เคราะห์ ” หมายถึง สีที่สังเคราะห์ขึ้นจากวัตถุดิบกลุ่มปิโตรเคมี ให้สีที่สดและเข้มข้น ส่งผลให้มรี าคาถูก ส่วน “สีจากธรรมชาติ” หมายถึง สีทสี่ งั เคราะห์ขนึ้ จาก พืช สัตว์ และฟังไจ โดยสามารถสกัดสารสีออกมาได้ตามที่ต้องการและ ท�ำให้คงตัวด้วยการใช้สารอิมลั ซิไฟเออร์ และสารปรับ pH เป็นต้น สีผสม อาหารโดยทั่วไปจะมีการระบุเลขวัตถุเจือปนอาหารก�ำกับ หรือเลข E-number ส่วนสีชนิดสุดท้าย คือ “สีทไี่ ด้จากวัตถุดบิ ประเภทผักและผลไม้” ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นฉลากสะอาด เพราะเป็นสีที่ได้จากวัตถุดิบ ธรรมชาติที่แท้จริงและผ่านกระบวนการผลิตน้อยมาก เช่น สีม่วงจาก แครอทม่วง สีส้มจากแครอทส้ม และสีแดงจากมันเทศ เป็นต้น
ความท้าทายในการพัฒนาสูตร
ความท้ า ทายส� ำ คั ญ ในการเปลี่ ย นจากการใช้ สี สั ง เคราะห์ ม าเป็ น สีธรรมชาติ นอกจากจะต้องท�ำให้ได้สีที่เหมือนกันแล้ว ยังต้องมั่นใจ ในกลิ่นรส ลักษณะปรากฏ ความคงตัว และราคาซึ่งจะต้องไม่เบี่ยงเบน ไปจากทีก่ ำ� หนดไว้มากนัก ตลาดจ�ำเป็นต้องเข้าใจว่าสีจากน�ำ้ ผักและผลไม้ นั้นไม่ได้มีความเข้มข้นเหมือนอย่างสีสังเคราะห์ ดังนั้นจึงจ�ำเป็นต้องใช้ ในปริมาณที่สูงกว่า ซึ่งก็อาจจะส่งผลให้เกิดกลิ่นและรสชาติอันไม่พึง ประสงค์ในผลิตภัณฑ์ได้
ความคงตัวของสี
ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทมี่ กี ารน�ำสีจากธรรมชาติมาใช้นนั้ จ�ำเป็นจะต้องพิจารณา ถึงตัวแปรต่างๆ และกระบวนการผลิตอย่างรอบคอบ ส่วนผสมอาหารบางชนิด อาจจะส่งผลดีตอ่ สารสีบางอย่าง ในขณะเดียวกันก็อาจท�ำลายสารสีบางอย่างได้ ด้วย ยกตัวอย่างเช่น แอนโทไซยานินสามารถทนกรดได้ดี ในขณะที่สาหร่าย สไปรูลิน่าซึ่งให้สีน�้ำเงิน ไม่ทนกรด และสีจะจางหายไปได้ในสภาวะที่มีกรดสูง ดังนั้น เมื่อเลือกใช้สีจากธรรมชาติแล้ว สารสีที่น�ำมาใช้จะต้องมีความคงตัว เมื่ อ อยู ่ ใ นสภาวะการผลิ ต ที่ มี ค วามร้ อ น และไม่ เ ปลี่ ย นแปลงสี ใ นภายหลั ง ตลอดอายุการเก็บรักษาเมื่อได้รับแสงแดดหรือออกซิเจน ซึ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสี
ราคาส�ำหรับฉลากสะอาด
ราคาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ท�ำให้เกิดความยุ่งยากในการพิจารณาเมื่อมีการปรับ เปลี่ยนสูตร และนอกจากนี้ราคายังขึ้นอยู่กับระดับการให้สีของสารสีท่ีน�ำมาใช้ ด้วย โดยเฉลี่ยแล้วราคาต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตจะเพิ่มสูงขึ้น 5-15 เท่า เมื่อมีการเปลี่ยนจากสีสังเคราะห์มาเป็นสีจากธรรมชาติ
มองอนาคต
ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนจากการใช้สีสังเคราะห์มาเป็นสีจากธรรมชาติจะมีความท้าทายมากมาย แต่ความต้องการเปลีย่ นมาใช้สจี ากธรรมชาติกย็ งั คงเพิม่ ขึน้ และ มี แ นวโน้ ม เติ บ โตมากขึ้ น เนื่ อ งจากผู ้ บ ริ โ ภคหั น มาใส่ ใ จดู แ ลสุ ข ภาพมากขึ้ น โดยมองถึงประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการใช้สีจากธรรมชาติในผลิตภัณฑ์ อาหารที่ พ วกเขารั บ ประทาน ซึ่ ง ความต้ อ งการดั ง กล่ า วนี้ เ องเป็ น สิ่ ง กระตุ ้ น ให้ผู้ผลิตอาหารต้องเร่งปรับเปลี่ยนมาใช้สีจากธรรมชาติในผลิตภัณฑ์อาหาร มากขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information 1 Brenntag Ingredients (Thailand) Public Company Limited. SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
51
SPECIAL FOCUS The influence of the clean label movement has been felt by almost every facet of the industrial food industry, and the beverage segment is no exception. The demand for clean label beverage alternatives only continues to grow and manufacturers have to evolve. Consumer concerns have expanded from avoiding known allergens to seeking out foods and beverages believed to promote healthier lifestyles. This massive shift in priorities is redefining the food and beverage industry.
Clean Label Struggle... Natural Colors in Beverage In 2016, Mintel found of consumers who drink carbonated soft drinks and/or sparkling beverages 32% were concerned about artificial ingredients and 20% stated the use of all-natural ingredients greatly influenced their purchase selection. It is estimated that by 2020 global sales of clean label food and beverage products could reach $180 billion.
Colorants: An Evolution of Perception
As manufacturers begin to reformulate to meet the clean label needs of their consumer base, certain fundamental issues must be addressed — one such area is colorants. Colors are widely used in the food and beverage industries to make food and beverage products more appealing, correct natural variations in colors, and replace color lost in processing. Color is often the major contributor in purchasing decisions made by consumers. Food scientists will use an array of products to achieve the desired color attributes for a specific food or beverage item- ranging from natural to artificial. Previously, artificial colors have been easy to use and are in general not affected by other ingredients or production processes. Beverage producers want their product to be attractive throughout the entire shelflife. Consistency is key for food companies to maintain their brand image and integrity. While the clean label base has grown, we are also seeing the push to move away from artificial colors. Coloring agents of natural origin (which are minimally processed and products of fruit or vegetable juice) are in high demand. These alternatives are considered “natural” or “cleaner” than their chemical and artificial counter parts.
What Actually is “Natural Coloring1”?
It is important to understand that currently there is not a codified definition for natural when discussing coloring. Most manufacturers are guided by the countries’ legislations when determining the naturality of an ingredient. Colors are broadly classified into “Artificial”, “Natural”, “Coloring Foodstuffs”. The first refers to colors which are typically from petrochemicals source. They are usually very bright and intense, resulting
in very low cost. “Natural Colors” refers to colors which are sourced from plant/animal/fungus. The coloring components are selectively extracted and stabilized using emulsifiers, acidity regulators, etc. They are generally labelled with E-numbers. “Coloring Foodstuffs”, also known as clean labels, are processed minimally from their origins, and are labelled as their origin, e.g. black carrot concentrate, sweet potato juice, etc.
Reformulation Challenges
The main challenge when matching an artificially colored product with natural colors, apart from achieving a good match, is to ensure that the flavor, appearance, stability and even price are not severely deviated from the target. The market has to understand that fruit and vegetable juices are not as concentrated as artificial colors, hence requiring higher dosages to be used. The increase usage level presents the potential risk of imparting unwanted flavors, that may be detectable in the final product.
Color Stability
In every reformulation task, the parameters and processing of the application must be taken into consideration. An ingredient which benefits a pigment may be destabilizing to another. For example, Anthocyanins thrive in high acid medium, while the natural blue color, spirulina, fades rapidly at low pH. After successfully choosing a pigment for the application, the pigment has to be subjected to heat processing and shelf-life stability, which exposes the samples to light and oxygen, two catalysts of fading, especially for natural colors.
The Price for Achieving Cleaner Labels
Price is another element contributing to the complications faced during reformulation and is very much dependent on the shade and pigment being used. “On average, the CIU (Cost-In-Use) increases 5-15X when converting from artificial to natural colors”.
Looking to the Future
Despite the challenges posed when converting from artificial to natural colors, we are still seeing strong demand and growth for the latter as consumers are becoming more aware of the health benefits that will impact from taking natural ingredients in the foods they consume. This, in turn, spurs the food manufacturers to accelerate their switch to use natural ingredients in their products.
52
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
SPECIAL FOCUS
ดร.จุฑารัตน์ โกวิทยา
Chutarat Kowittaya, Ph.D.
Assistant Food Innovation Manager chutarat@smscor.com
ภุมริน หอมทอง
Poomarin Homtong
Assistant Food Innovation Manager poomarin@smscor.com SMS Corporation
Clean Label Starch Solution for Bakery:
Steamed Cake
ในยุคทีเ่ ศรษฐกิจขยายตัว ผูค้ นส่วนใหญ่จำ� เป็นต้องปรับเปลีย่ นวิถชี วี ติ ให้ เ ร่ ง รี บ ขึ้ น เพื่ อ ให้ ส อดคล้ อ งกั บ ภาวะที่ มี ก ารแข่ ง ขั น สู ง จึ ง มี เ วลา ในการจัดเตรียมและรับประทานอาหารน้อยลง ฉะนั้นอาหารที่สะดวก พร้อมรับประทาน อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ในบรรจุภัณฑ์จึงเป็นโอกาส ของผูป้ ระกอบการเนือ่ งจากตอบโจทย์ดา้ นความสะดวก (Convenience) อาทิเช่น รับประทานได้ง่าย พกพาสะดวก และหาซื้อง่าย ด้วยปัจจัย เชิงบวกนี้ จึงส่งผลให้ธุรกิจเบเกอรี่เติบโตขึ้นทุกปีและยังมีแนวโน้มเติบโต ต่อไปอีก ในภาวะที่มีการแข่งขันสูงสิ่งส�ำคัญที่จะช่วยกระตุ้นยอดขาย ของผู้ประกอบการให้โตขึ้น คือ การพัฒนาสินค้าให้มีจุดเด่นทั้งด้าน ความสะดวกและด้านสุขภาพ ควบคู่กับการปรับสินค้าให้มีรูปแบบที่ แปลกใหม่ แต่ยังคงมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดี
Steamed cake เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคนี้ได้ เป็นอย่างดี จนได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีนและญี่ปุ่น มีจุดเด่น คือ ใช้การนึง่ แทนการอบ จึงดีตอ่ สุขภาพเหมาะส�ำหรับทุกเพศทุกวัย นิยมรับประทาน เป็นอาหารเช้าหรือเป็นอาหารว่างรองท้อง Steamed cake มีลักษณะคล้าย Sponge cake แต่มีเนื้อแน่น (Dense) นุ่ม (Soft) และยืดหยุ่น (Elastic) กว่า หัวใจส�ำคัญที่ช่วยให้ Steamed cake มีเนื้อสัมผัสที่ดีถูกใจผู้บริโภค คือ แป้งดัดแปร (Modified starch) และวัตถุเจือปนอาหาร (Food additive) แต่ในปัจจุบัน กระแส Clean Label Food ก�ำลังมาแรงจนท�ำให้ผู้ประกอบการ ต้องหันมาปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่เริ่มหันมาใส่ใจ สุขภาพและให้ความส�ำคัญกับเรือ่ งอาหารการกินทีป่ ลอดภัยกันมากขึน้ ผูบ้ ริโภค เชื่อว่าอาหารที่ติดฉลาก Clean label ปลอดภัย มีคุณภาพสูง และดีต่อสุขภาพ เนือ่ งจากใช้สว่ นผสมทีม่ าจากธรรมชาติทผี่ บู้ ริโภคคุน้ เคยในการผลิต ปราศจาก
สารเคมีและสารสังเคราะห์ จึงเป็นสิ่งท้าทายส�ำหรับผู้ประกอบการธุรกิจผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่จะต้องปรับสูตรสินค้าให้ปลอดสารปรุงแต่ง (Additive free) หรือปราศจากวัตถุเจือปนอาหารที่มีเลข E-number โดยที่คุณภาพของสินค้า ยังคงเดิม
Functional Native Starch1
รูปที่ 1 เปรียบเทียบลักษณะเนื้อสัมผัสและการเกิด Air cell ของ Steamed cake ที่มีการใช้แป้งต่างชนิดกัน Figure 1 Appearance and Air Cell Structure of Steamed Cakes
เพื่อตอบโจทย์กระแสดังกล่าว Functional Native Starch 1 ที่ปลอด E-number และปลอด GMO จึงได้รับความนิยมมากขึ้น ก่อให้เกิดการพัฒนา อย่างเข้มข้นจนสามารถน�ำมาปรับใช้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์เบเกอรี่กลุ่มที่มี ฉลากที่เป็นมิตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การพัฒนาและวิจัยที่ เกิดขึน้ อย่างต่อเนือ่ งนีย้ งั สามารถพัฒนาประสิทธิภาพและปริมาณการใช้งานให้ อยูใ่ นระดับสูงสุด กล่าวคือ ผูพ้ ฒ ั นาผลิตภัณฑ์สามารถใช้ Functional Native Starch1 ในปริมาณน้อย เพียงประมาณร้อยละ 10 – 20 ของสูตร ก็เพียงพอส�ำหรับ SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
53
SPECIAL FOCUS การปรับเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์เบเกอรี่โดยเฉพาะ Steamed cake ให้มี Air cell ขนาดเล็กและกระจายตัวอย่างสม�่ำเสมอ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (รูปที่ 1) ซึ่งหากดู จากการทดสอบคุณภาพทางประสาทสัมผัส (รูปที่ 2) จะพบว่า Steamed cake ที่ได้ จะมีเนื้อละเอียด นุ่ม ยืดหยุ่น และไม่เกาะติดฟันขณะรับประทาน ซึ่งให้ลักษณะ ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้แป้งดัดแปร จึงได้รับคะแนนด้านความชอบ (Overall preferences) จากผู้ทดสอบเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ที่ใช้แป้งดัดแปร ดังนั้น หากผู้ประกอบการสามารถพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภคได้ โดยเฉพาะตอบโจทย์กระแส Clean Label Food ที่ ผู้บริโภคเชื่อว่า เป็นอาหารที่ปลอดภัย มีคุณภาพสูง และดีต่อสุขภาพ ก็จะยิ่งเพิ่ม โอกาสในการขยายตลาดธุรกิจเบเกอรี่ให้เติบโตมากขึ้น
รูปที่ 2 แผนภาพการประเมินคุณภาพ ทางประสาทสัมผัสของ Steamed cake ที่มีการใช้แป้งต่างชนิดกัน Figure 2 Sensory Evaluation Score
Functional Native Starch1
Clean Label Starch Solution for Bakery:
Steamed Cake
In an economic expansion era, most people are forced to speed up their lifestyle to match with highly competitive society. Many people have less time to prepare and eat food. Therefore, ready-to-eat meal such as bakery products in packages present as new opportunities for entrepreneurs, because of the convenience it offers e.g. easy to eat, easy to carry, and easy to find. With these positive factors, bakery industry growth surges years after years and will continue to grow. In a highly competitive environment, the key to boost sales for entrepreneurs is to develop products that offer convenience and health qualities, along with modifying the look of the products to be outstanding, with good taste and delicate texture at the same time. Steamed Cake is another bakery product that answers to the demand of consumers these days. The cake receives great feedback in China and Japan. Its main feature is that instead of being baked, it is steamed! This distinctive characteristic makes the cake good for consumers in all ages and suitable to be eaten for breakfast and coffee-break snack. Steamed cake is rather similar to sponge cake, dense, soft, and elastic, but the heart of its charm lies on modified starch and food additives.
54
But nowadays, Clean Label Food trend is so strong that many entrepreneurs need to readjust their marketing strategy following many consumers who are turning to healthier and safer eating habits. Consumers believe that food with clean label is safe, high quality, healthy, uses natural ingredients familiar to them and lacks chemicals and synthetic substances. This poses as a challenge for bakery entrepreneurs who need to adjust their recipes to be free from food additives or substances listed with e-number, while retain the products’ quality. In response to the trend, Functional Native Starch1, which is free from E-number and GMO, becomes more and more popular and has been intensively developed to be used effectively in label friendly bakery. Moreover, the continuous research and development also maximize the product’s efficiency and usability. On the other words, product developer can use only small amount – only 10-20% of former recipe – of functional native starch1 to make airy texture of the bakeries, especially steamed cake, with small and evenly distributed air cells (Figure 1). When consider sensory quality test (Figure 2), we found that steamed cake made with functional native starch has delicate, soft, flexible texture and does not stick to the teeth when eating. The outcome’s quality is similar to steamed cake which uses modified starch, hence the product received equal preferences from testers. Therefore, if the entrepreneurs can develop products and goods in response to the demand of the consumers – especially the clean label food trend which consumers believe means “safe, high quality, and healthy food” – they will have better opportunities to expand bakery businesses in the future.
ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information 1 Natura STN Functional Native Starch by SMS Corporation เอกสารอ้างอิง/References บทความเผยแพร่ประชาสัมพันธ์จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำ�เข้าแห่งประเทศไทย. 2558. สิ่งที่ผู้บริโภคมองหาในการเลือกซื้ออาหารในปี 2559 บทความเผยแพร่ประชาสัมพันธ์จากสำ�นักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองไออามี ประเทศสหรัฐอเมริกา. 2559. รายงานภาวะตลาด: Clean Label กระแสสินค้า อาหารมาแรงในสหรัฐอเมริกา บทความเผยแพร่ประชาสัมพันธ์จากสถาบันอาหาร. 2559. ตลาดขนมอบในประเทศไทย Caroline, S.T.Caroline SCOTT-THOMAS, What do natural and clean label mean anyway? Retrieve from www.foodnavigator.com/Market-Trends/What-do-natural and-clean-label-mean-anyway Enyedy, E.Caroline SCOTT-THOMAS, The year of clean label. Retrieve from www.snackandbakery.com/articles/89943-the-year-of-clean-label FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
Visit us at: Booth No. G9
ad_SMS final.indd 29
8/21/17 5:48 PM
SPECIAL REPORT
กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา คงสถานะไทยในระดับ Tier 2 Watch List ต่อเนื่องจาก ปี 2559 ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ 2560 (TIP Report 2017) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา หลังจากพิจารณาแล้วพบว่าไทยยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่เพิ่มขึ้น ในการแก้ปัญหาด้านแรงงาน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย Kasikorn Research Center www.kasikornresearch.com
TIP Report 2017
คงสถานะไทยที่ระดับ Tier 2 Watch List
ผลกระทบอยู่ในวงจ�ำกัด ส่งออกประมงไทยยังขยายตัวได้ 56
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
SPECIAL REPORT
ด้วยมูลค่าประมาณ 1,417-1,445 ล้านเหรียญสหรัฐ และหนุนให้การส่งออก ผลิตภัณฑ์ประมงของไทยในภาพรวมส�ำหรับปี 2560 มีการขยายตัวที่ร้อยละ 2.5-4.0 ด้วยมูลค่าประมาณ 5,790-5,875 ล้านเหรียญสหรัฐ
IUU Fishing ของสหรัฐอเมริกา ความท้าทายของอุตสาหกรรม ประมงไทยในระยะข้างหน้า
ในระยะข้างหน้า ผู้ประกอบการไทยอาจต้องเผชิญความท้าทายจากการที่ สหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการท�ำประมงผิดกฎหมาย
ผลจากการปรับเพิ่มสถานะของไทยจาก Tier 3 ขึ้นเป็น Tier 2 Watch List ในปี 2559 นั้น ส่งผล ทางตรงต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในสินค้า ส่งออกของไทย โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผลิตภัณฑ์ประมง (หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ถูกจับตาในประเด็นปัญหา ด้านแรงงาน) และเป็นแรงหนุนทางอ้อมร่วมกับ ปัจจัยบวกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความส�ำเร็จ ในการแก้ปญ ั หาโรคตายด่วนในกุง้ (EMS) และการเพิม่ ขึน้ ของอุปทานปลาทูนา่ โลกอันเกิดจากการเพิม่ จ�ำนวนเรือของประเทศแหล่งจับปลาและการเข้าไป ลงทุนของผูป้ ระกอบการรายใหญ่ของไทยในประเทศ ที่เป็นแหล่งวัตถุดิบ ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมการส่งออก ผลิตภัณฑ์ประมงของไทยในปี 2559 กลับมาขยายตัว เป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าการส่งออก ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ป ระมงของไทยในปี 2560 ไปยั ง สหรั ฐ อเมริ ก าซึ่ ง เป็ น ตลาดส่ ง ออกสิ น ค้ า ประมง อันดับ 1 ของไทยจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็น ปีที่ 2 ด้วยอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการผลิต สิ น ค้ า ส่ ง ออกหลั ก ทั้ ง กุ ้ ง และทู น ่ า กระป๋ อ ง และ ผลทางภาพลักษณ์จากสถานการณ์ด้านแรงงาน ที่ ไ ม่ ไ ด้ ด ้ อ ยลงกว่ า ปี ที่ ผ ่ า นมา จากการที่ ส หรั ฐ อเมริกาคงสถานะของไทยในระดับ Tier 2 Watch List ต่อเนื่องเป็นปีที่สองติดต่อกัน เนื่องจากการจัด สถานะใน TIP Report ของสหรัฐอเมริกาไม่ได้มี การก�ำหนดมาตรการแทรกแซงทางการค้าไว้ ดังนั้น ผลจากการจัดสถานะดังกล่าวน่าจะมีผลกระทบ ทางตรงต่อการส่งออกสินค้าประมงของไทยจ�ำกัด นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนทางด้านฤดูกาลจากการที่ ผลผลิตกุ้งจะเริ่มออกสู่ตลาดจ�ำนวนมากในช่วง เดือนพฤษภาคมถึงมิถนุ ายนเป็นต้นไป ท�ำให้คาดว่า ในปี 2560 การส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงของไทย ไปยังสหรัฐอเมริกาจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.0-5.0 SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
57
SPECIAL REPORT
ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) และ บิดเบือนข้อมูลบนฉลากอาหารทะเล (Seafood fraud) โดย ก�ำหนดให้ผู้น�ำเข้าสินค้าทางทะเล1 จากในและนอกน่านน�้ำ สหรัฐอเมริกา ต้องจัดเก็บข้อมูลการท�ำประมงตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Traceability program) ซึ่งจะบังคับใช้ในเดือน มกราคม 2561 ศู น ย์ วิ จั ย กสิ ก รไทยมองว่ า สิ น ค้ า ส่ ง ออกหลั ก อย่ า งกุ ้ ง แม้ว่าจะได้รับการยกเว้นในระยะแรก ด้วยเหตุผลของการช่ ว ยเหลื อ ผู ้ ป ระกอบการภายในสหรั ฐ อเมริ ก าเอง แต่ เ มื่ อ กฎระเบียบภายในของสหรัฐอเมริกาเอือ้ ต่อการด�ำเนินการและ ผู้เลี้ยงกุ้งปรับตัวได้ มาตรการดังกล่าวจะถูกน�ำมาปรับใช้กับ สัตว์น�้ำทุกชนิดอย่างเท่าเทียม ในขณะที่ปลาทูน่าอาจจะได้รับ ผลกระทบไม่มากนักจากการทีผ่ ปู้ ระกอบการรายใหญ่ของไทย เข้ า ไปด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ ในสหรั ฐ อเมริ ก า อย่ า งไรก็ ดี ยั ง พบว่ า ซู เ ปอร์ ม าร์ เ ก็ ต บางแห่ ง ในสหรั ฐ อเมริ ก าได้ เ พิ่ ม ข้ อ ก� ำ หนด ส�ำหรับอาหารทะเลน�ำเข้า เช่น กุ้ง ที่จะวางจ�ำหน่ายในห้างสรรพสินค้าต้องมีใบรับรองมาตรฐานการผลิตจากหน่วยงาน ภายในประเทศ หรื อ ทู น ่ า กระป๋ อ งที่ ผู ้ ผ ลิ ต ต้ อ งปฏิ บั ติ ต าม Traceability program หากจะวางขายในห้างสรรพสินค้า จ�ำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพ (Whole Foods Market) เป็นต้น ดังนัน้ จึงเป็นโอกาสอันดีสำ� หรับผูป้ ระกอบการไทยในการเตรียมตัวล่วงหน้าด้วยการเริม่ จัดเก็บข้อมูลและสร้างมาตรฐาน การท�ำประมงตลอดห่วงโซ่อุปทาน นอกจากเป็นการเตรียม ความพร้อมกับกฎการน�ำเข้าเพิ่มเติมของสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา IUU Fishing (การประมง ผิ ด กฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้ ก ารควบคุ ม ) ของ สหภาพยุโรป ซึ่งเป็นอีกประเด็นที่ผู้ประกอบการไทยยังคงต้อง ติดตามการประกาศผลประเมินสถานะการท�ำประมงของไทย 58
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
ตารางที่ 1 มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงของไทย (หน่วย: ล้านเหรียญสหรัฐ) มูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงไปยังสหรัฐอเมริกา อัตราการเติบโต (%YoY) สัดส่วนมูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงไปยังสหรัฐอเมริกา มูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงทั้งหมด อัตราการเติบโต (%YoY)
2559
2560 5M
2560f
1,376 7.2 24.4 5,649 2.9
483 1.6 21.9 2,206 4.8
1,417-1,445 3.0-5.0 24.4-24.6 5,790-5,875 2.5-4.0
ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ รวบรวมและประมาณการโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ทัง้ นี้ สหภาพยุโรปยังคงสถานะใบเหลืองแก่ไทย ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ผู ้ ป ระกอบการไทยยั ง ต้ อ งให้ ความส�ำคัญกับอุปทานวัตถุดิบของสินค้าหลัก เช่น กุ้งที่ผลิตจากฟาร์มเลี้ยงกุ้งที่สะอาดและ ปลอดภัยเพื่อป้องกันการกลับมาระบาดอีกครั้ง ของโรคตายด่วนในกุง้ ซึง่ เป็นสาเหตุหลักทีท่ ำ� ให้ ผลผลิตกุง้ ของไทยลดลงอย่างมากตัง้ แต่ปลายปี 2555 เป็นต้นมา จนท�ำให้ไทยต้องเสียอันดับ
ในระยะข้างหน้า ผู้ประกอบการไทยอาจต้องเผชิญความท้าทายจากการที่ สหรั ฐ อเมริ ก าประกาศมาตรการเพิ่ ม เติ ม เพื่ อ ป้ อ งกั น การท� ำ ประมง ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) และ บิดเบือนข้อมูลบนฉลากอาหารทะเล (Seafood fraud) ซึ่งจะบังคับใช้ เดือนมกราคม 2561 ดังนั้น ในห้วงเวลานี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีส�ำหรับ ผู้ประกอบการไทยในการเตรียมตัวล่วงหน้าด้วยการเริ่มจัดเก็บข้อมูล และสร้างมาตรฐานการท�ำประมงตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Traceability program)
SPECIAL REPORT
การส่งออกกุง้ มากทีส่ ดุ ในโลกให้แก่คแู่ ข่งส�ำคัญอย่างอินเดีย รวมไป ถึ ง การที่ เ อกวาดอร์ แ ละอิ น โดนี เ ซี ย สามารถพั ฒ นาการเลี้ ย งกุ ้ ง จนมีปริมาณผลผลิตมากกว่าไทยในปัจจุบัน ส่วนทูน่ากระป๋องที่มัก ประสบปัญหาความไม่สม�่ำเสมอของอุปทาน ผู้ประกอบการไทย ควรแสวงหาแหล่งวัตถุดิบใหม่เพิ่มเติม เช่น การสร้างพันธมิตรกับ เรื อ ประมงของประเทศเพื่ อ นบ้ า นที่ เ ป็ น แหล่ ง จั บ ปลาทู น ่ า เช่ น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น หรือการเข้าไปลงทุนในประเทศที่เป็น แหล่ ง จั บ ปลาทู น ่ า เป็ น ต้ น เพื่ อ ให้ มี วั ต ถุ ดิ บ เข้ า สู ่ ส ายการผลิ ต อย่างเพียงพอ อีกหนึง่ ความท้าทาย คือ นโยบายทางการค้าของทรัมป์ทตี่ อ้ งการ แก้ปัญหาการขาดดุลทางการค้า โดยการออกมาตรการตอบโต้กับ ประเทศที่ เ กิ น ดุ ล ทางการค้ า กั บ สหรั ฐ อเมริ ก า เช่ น การขึ้ น ภาษี การจ�ำกัดปริมาณน�ำเข้า การก�ำหนดโควต้าภาษี เป็นต้น โดยในเบื้องต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าในปี 2560 สินค้าประมงของไทยอาจได้รับ ผลกระทบจ�ำกัด เนื่องจากค�ำสั่งซื้อส่วนใหญ่น่าจะด�ำเนินการไปแล้ว ดังนั้น หากสหรัฐอเมริกาจะด�ำเนินมาตรการตอบโต้กับประเทศ คู่ค้าหลัก คาดว่าผลของมาตรการน่าจะเกิดขึ้นในปี 2561 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ความต้องการบริโภคและการยอมรับในมาตรฐานสินค้า ของผูบ้ ริโภคสหรัฐอเมริกาจะยังคงเป็นแรงหนุนทีส่ ำ� คัญต่อการส่งออก สินค้าประมงของไทย นอกจากนี้ ในระยะยาวหากมาตรการกีดกัน ทางการค้ าของประเทศต่ า งๆ ทวี ค วามส� ำคั ญ และมี การก� ำหนด มาตรการที่ ส ่ ง ผลกระทบต่ อ การค้ า ระหว่ า งประเทศ อาจท� ำ ให้ ผู้ประกอบการส่งออกประมงของไทยมีแนวโน้มปรับเปลี่ยนสัดส่วน การผลิตและการส่งออก โดยหันไปพึง่ พาบริษทั ในเครือทีด่ ำ� เนินธุรกิจ ในประเทศที่เป็นแหล่งวัตถุดิบแทน ซึ่งอาจท�ำให้ไทยสูญเสียรายได้ จากการส่งออกไปบางส่วน ข้อมูลเพิ่มเติม 1 บัญชีรายชื่อสัตว์น�้ำสุ่มเสี่ยงผิด IUU Fishing จ�ำนวน 11 ชนิด ได้แก่ ปลาคอดแอตแลนติก ปูสีฟ้าแอตแลนติก ปลากะพงขาว ปลาเก๋า ปูยักษ์สีแดง ปลาคอดแปซิฟิก ปลากะพงแดง ปลิงทะเล ปลาฉลาม ปลาดาบ และปลาทู SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
59
SPECIAL REPORT
TIP Report 2017
In 2016, The Thai fishery industry resumed growth for the first time in four years, thanks to a number of factors. Among them were Thailand’s upgraded status to Tier 2 Watch List, from Tier 3, which directly helped improve our image and confidence toward Thai exports, in particular, fishery products (one of Thai products that have been closely monitored due specifically to certain labor issues). Other factors included our success in tackling the shrimp EMS disease outbreak, increased tuna supplies globally after leading countries in marine fishery bolstered the size of their fishing fleets and because of major Thai investments into countries with abundant fishery resources. In 2017, KResearch believes that Thailand’s fishery product exports to the US - our largest fishery product export market - will grow for the second year, supported by a recovery in our shrimp and canned tuna exports, and the fact that labor issues in the Thai fishery industry have not worsened since 2016, given our status at Tier 2 Watch List. Since the TIP Report does not in itself involve any trade intervention, any direct impact on Thai fishery product exports should be minimal. As more Thai shrimp supplies will enter the market from May to June, it is expected that Thai fishery product exports to the US will have grown 3.0-5.0% to some USD 1.417-1.445 billion in 2017, which would bring our full-year fishery product export growth to 2.5-4.0% to around USD 5.790-5.875 billion.
Table 1 Value of Thai Fishery Product Exports (Unit: USD Million)
Export Value to US Growth (%YoY) Share (%) Total Export Value Growth (%YoY)
2016
5M16
2017f
1,376 7.2 24.4 5,649 2.9
483 1.6 21.9 2,206 4.8
1,417-1,445 3.0-5.0 24.4-24.6 5,790-5,875 2.5-4.0
Source: Ministry of Commerce compiled by KResearch
US IUU Fishing Regulations Present a Challenge for Thai Fishery Industry Ahead
Looking ahead, Thai fishery product producers may be penalized by additional measures to be announced by the US to prevent Illegal, Unreported and Unregulated (IUU) fishing, and seafood fraud, or labeling that do not correctly correspond with the products inside the packaging, which is scheduled to become effective in January 2018. To comply with this regulation, importers of marine products1 sourced from US and non-US territorial waters are required to adopt a traceability program, which involves data collections on sourcing throughout their supply chains. We at KResearch are of the view that our key fishery shipments, for instance shrimp, will be exempted from the IUU Regulation initially because the US wants to help their own shrimp industry. But once
60
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
US shrimp raisers can adjust to the IUU regulation, it is expected that this regulation will be enforced on other fishery products, too. Meanwhile, Thai tuna exports to the US should not be adversely affected much by this regulation because major Thai tuna companies have a business presence in the US. However, it has been found that several supermarkets in the US have introduced new rules on seafood imports, including manufacturing standard certifications issued by the relevant authorities of exporting nations on shrimp products. Moreover, canned tuna processors in exporting nations must comply with the traceability program standards if they want to sell their products in US Whole Foods Markets. Therefore, the remaining time until then should be a good opportunity for Thai operators to make advance preparations, beginning with adopting a traceability program involving data collections on sources and the setting of fishery standards throughout their supply chains. This effort would also help Thai fishery operators to cope with EU IUU Regulation - an issue that must be monitored closely ahead. The EU has extended an official warning or “yellow card” to Thailand since 2015.
SPECIAL REPORT
The US Department of State maintained Thailand’s Tier 2 Watch List placement in their 2017 Trafficking in Persons (TIP) Report released on June 27th because findings showed that Thailand had made little progress in addressing labor issues in the fishery industry.
Another challenge will be President Trump’s trade policy, aimed at addressing US trade deficits. This will likely be implemented via import tariff hikes and the setting of quotas on imports from countries the US has sustained trade deficits with. Preliminary, KResearch is of the view that the impact of such measures on Thai fishery product exports will be minimal because most standing purchase orders had been agreed to. If the US implements these measures, it is expected that their impacts will be apparent in 2018. However, demand for Thai fishery products in the US will continue to support Thai fishery product exports, going forward. In the long-term, Thailand’s fishery export income might be threatened if more countries erect trade barriers and/or other measures threatening global trade. But, Thai fishery product exporters may avoid that problem by allowing their subsidiaries abroad to assume production and export on their behalf.
Looking ahead, Thai fishery product producers may be penalized by additional measures to be announced by the US to prevent IUU fishing, and seafood fraud, which is scheduled to become effective in January 2018. To comply with this regulation, importers of some types of marine products sourced from US and non-US territorial waters are required to adopt a traceability program.
In addition, Thai fishery operators must attach importance to raw material supplies, for instance, shrimp must come from clean and safe farms to prevent EMS outbreaks, which have been responsible for the sharp decline in our shrimp production since late 2012. Since then, Thailand has lost our status as the world’s largest shrimp exporting nation to India, while Ecuador and Indonesia have developed their shrimp farming to the extent that their shrimp outputs are now greater than Thailand’s. For tuna, to cope with common supply shortages, Thai processors should seek new supply sources by establishing partnerships with fishery companies in Indonesia and the Philippines, or investing in countries with abundant tuna resources.
Additional Information 1 Seafood species that may violate IUU Fishing Regulation are Atlantic cod, blue crab (Atlantic), white snapper, grouper, king crab (red), Pacific cod, red snapper, sea cucumber, shark, swordfish and tuna. SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
61
SPECIAL REPORT กองบรรณาธิการ Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
ปั้นไทยเป็นฐานผลิตสินค้าอาหารแปรรูป จับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น บูมตลาดส่งออกอาเซียน อินเดีย และตะวันออกกลาง
สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ผนึกองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญีป่ นุ่ หรือเจโทร กรุงเทพฯ ท�ำบันทึกแสดงเจตจ�ำนง (Memorandum of Intent; MOI) เริ่มต้นความร่วมมือในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารของไทยและญี่ปุ่น ครอบคลุม การน�ำเข้า-ส่งออก การร่วมทุน การให้ค�ำปรึกษา การจับคู่ธุรกิจ และการขยายกิจการ ของผู ้ ป ระกอบการไทยและญี่ ปุ ่ น ชู ก ลยุ ท ธ์ ห ลั ก ด้ ว ย “Food Value Chain” หวังผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอาหารแปรรูปที่มีคุณภาพ พุ่งเป้าการส่งออก ไปยังตลาดอาเซียน อินเดีย และตะวันออกกลางในอนาคต
คุณยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อ�ำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การลงนามในบันทึกแสดงเจตจ�ำนงกับเจโทรครั้งนี้ เพื่อความชัดเจนของ กลุม่ เป้าหมายการให้บริการทีก่ ว้างขวางขึน้ ได้แก่ ผูผ้ ลิตสินค้าอาหารของไทยและ ญี่ปุ่นที่ต่างต้องการส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นหรือประเทศไทย หรือต้องการ ร่วมลงทุนเป็นพันธมิตรกับบริษทั ท้องถิน่ ของแต่ละประเทศ หรือต้องการขยายธุรกิจ ในญีป่ นุ่ หรือประเทศไทย รวมถึงต้องการน�ำสินค้าอาหารส่งออกไปยังประเทศอืน่ ๆ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอีกด้วย แบ่งเป็นการให้บริการแก่กลุม่ เป้าหมาย ดังกล่าว 2 ด้านด้วยกัน คือ 1) ด้านการให้บริการข้อมูลและค�ำปรึกษา อาทิ ข้อมูล กฎ ระเบียบ มาตรฐานสินค้าอาหาร ขั้นตอนการน�ำเข้า-ส่งออก ข้อก�ำหนดด้าน ความปลอดภัยอาหารและมาตรการใหม่ๆ ข้อมูลด้านการตลาดและแนวโน้ม และ การตรวจสอบสินค้าอาหารโดยห้องปฏิบัติการทดสอบ เป็นต้น 2) ด้านการจัด สัมมนาเชิงวิชาการในประเด็นทีเ่ กีย่ วข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร เพือ่ พัฒนา ศักยภาพของผู้ประกอบการ รวมถึงการจับคู่ธุรกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น อนึ่ง ในปี 2559 ไทยส่งออกสินค้าอาหารไปญี่ปุ่นคิดเป็นมูลค่าราว 1.32 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิม่ ขึน้ ร้อยละ 8.0 เมือ่ เทียบกับปีกอ่ น โดยญีป่ นุ่ เป็นตลาด
62
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
ส่งออกอันดับ 2 ของไทย รองจากกลุม่ ประเทศอาเซียน สินค้าหลักทีส่ ามารถเติบโต ได้ดี อาทิ ไก่ กุ้ง ทูน่ากระป๋อง อาหารพร้อมรับประทาน และสับปะรดกระป๋อง เป็นต้น ส�ำหรับในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกไปญี่ปุ่นด้วยมูลค่า 33,064 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 คุณยงวุฒิ ยังได้กล่าวถึงภาพรวมการส่งออกอาหารไทยไตรมาสที่ 1 ปี 2560 พบว่ามีมูลค่า 236,329 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน ขณะที่การส่งออกในรูปเหรียญสหรัฐมีมูลค่า 6,736 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทส่งผลท�ำให้รายได้จากการส่ ง ออกในรู ป เงิ น บาทลดลง โดยสิ น ค้ า หลั ก ที่ มี มู ล ค่ า ส่ ง ออกลดลง ได้ แ ก่ ข้าว น�้ำตาลทราย แป้งมันส�ำปะหลัง กุ้ง สับปะรดกระป๋อง และน�้ำผลไม้ โดยข้าว ลดลงตามความต้องการน�ำเข้าข้าวของผู้ซื้อรายใหญ่ โดยเฉพาะอินโดนีเซียและ ประเทศในแถบแอฟริกาเป็นหลัก น�้ำตาลทรายลดลงตามปริมาณวัตถุดิบอ้อย ในขณะที่แป้งมันส�ำปะหลังลดลงจากการที่ผู้น�ำเข้าโดยเฉพาะจีนหันไปใช้แป้ง ทดแทนจากธัญพืชชนิดอื่น กุ้งลดลงเล็กน้อยจากผลพวงน�้ำท่วมภาคใต้ตั้งแต่ ช่วงปลายปีก่อน ส่วนสับปะรดกระป๋องและน�้ำผลไม้ลดลงจากการที่คู่ค้าชะลอ การสั่งซื้อ “ทัง้ นี้ สินค้าส่งออกทีโ่ ดดเด่น ได้แก่ ไก่ ผลิตภัณฑ์มะพร้าว และอาหารพร้อมรั บ ประทาน โดยไก่ ข ยายตั ว ดี ห ลั ง จากที่ ป ระเทศคู ่ ค ้ า หลั ก อย่ า งญี่ ปุ ่ น เกิ ด การระบาดของโรคไข้หวัดนก รวมทั้งเกาหลีใต้ที่เปิดตลาดไก่สดให้กับไทยได้ไม่นาน ก็ประสบภาวะการระบาดของโรคไข้หวัดนกเช่นกัน ท�ำให้มีการน�ำเข้าไก่จาก ไทยเพิ่ ม ขึ้ น มาก ส่ ว นผลิ ต ภั ณ ฑ์ ม ะพร้ า วซึ่ ง มีจุ ด เด่ น เป็ น สิ น ค้ า เพื่ อ สุ ข ภาพ จึงขยายตัวตามความต้องการในตลาดโลกทีเ่ พิม่ สูงขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง ขณะทีอ่ าหารพร้อมรับประทานขยายตัวได้ดีทั้งในกลุ่มประเทศอาเซียน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย” “เมื่อพิจารณาเฉพาะตลาดอาเซียน (เดิม) พบว่าในไตรมาสที่ 1 นี้มีมูลค่า ส่งออก 27,604 ล้านบาท หดตัวลงร้อยละ 27.6 สินค้าส่งออกที่ลดลงมาก อาทิ ข้าว น�้ำตาล และแป้งมันส�ำปะหลัง ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ส่วนใหญ่ ขยายตัวดี โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ที่ขยายตัวร้อยละ 11.0
SPECIAL REPORT โดยมีสินค้าส่งออกที่ขยายตัวดี ได้แก่ เครื่องดื่ม น�้ำตาลทราย ผลไม้สด และ ผลิตภัณฑ์นม ส่วนการส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 โดยสินค้าส่งออกที่ขยายตัวดีอยู่ในกลุ่มไก่สดแช่แข็งและไก่แปรรูป กุ้งแช่แข็ง และกุ้งแปรรูปเป็นหลัก” คุณยงวุฒิ กล่าวต่อว่า ส�ำหรับภาพรวมการส่งออกอาหารไทยในปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวเพิม่ ขึน้ ร้อยละ 5.3 ประมาณการมูลค่าส่งออกอยูท่ ี่ 1 ล้านล้านบาท ส่วนไตรมาสที่ 2/2560 คาดว่าจะมีมูลค่าการส่งออกราว 250,330 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากค�ำสั่งซื้อของผู้น�ำเข้าที่จะ กลับมาเพิ่มสูงอีกครั้งหลังจากลดลงในช่วงต้นปี รวมทั้งวัตถุดิบหลายรายการ ที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นสอดรับกับความต้องการของโรงงานแปรรูป สินค้าส่งออก ทีค่ าดว่าจะขยายตัวเพิม่ ขึน้ และส่งผลบวกต่อภาพรวมการส่งอาหารไทยในไตรมาสที่ 2 ได้แก่ ไก่ ทูน่ากระป๋อง กุ้ง สับปะรดกระป๋อง เครื่องปรุงรส และผลิตภัณฑ์มะพร้าว เป็นหลัก ส่วนการส่งออกน�ำ้ ตาลทรายและแป้งมันส�ำปะหลังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อไป แต่คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นกว่าไตรมาสแรก
คุณฮิโรคิ มิทสึมาตะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ กล่าวว่า บันทึกแสดงเจตจ�ำนงฉบับนีม้ จี ดุ มุง่ หมายในการเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ ร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารทั้งใน ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น มีกรอบที่กว้างขวางขึ้น เน้นการขยายตลาดสินค้า อาหารแปรรูปโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตไปยังประเทศที่ 3 โดยเฉพาะ ตลาดอาเซียน อินเดีย และตะวันออกกลางซึ่งมีศักยภาพสูง ซึ่งจะใช้กลยุทธ์
การสร้างความแข็งแกร่งด้าน Food Value Chain หรือห่วงโซ่การผลิตสินค้า อาหารแปรรูปที่น�ำเข้าวัตถุดิบมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาผลิตในประเทศ ส�ำหรับการส่งออกสินค้าอาหาร เกษตร ป่าไม้ และประมงของญีป่ นุ่ ในภาพรวม พบว่ามีมูลค่าการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2556 เป็ น ต้ น มา โดยในปี 2559 มี มู ล ค่ า การส่ ง ออกอยู ่ ที่ 750,300 ล้ า นเยน ส่วนเป้าหมายการส่งออกในปี 2562 ตั้งไว้ที่ 1 ล้านล้านเยน ด้านตลาดส่งออกสินค้าอาหารของญีป่ นุ่ มายังประเทศไทย ในปี 2559 มีอตั รา หดตัวลงร้อยละ 8.2 หรือมีมูลค่าราว 32,900 ล้านเยน โดยไทยเป็นตลาดส่งออก อันดับ 6 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ หนังหมู ปลาโอ ปลาทูน่า และปลาซาบะ เป็นต้น ทัง้ นี้ การหดตัวดังกล่าวเนือ่ งจากอัตราแลกเปลีย่ นค่าเงินเยน แข็งตัวขึ้น และสินค้าประมงจากญี่ปุ่นขาดแคลน เชื่อว่าในปี 2560 นี้อัตราเติบโต จะกลับมาสู่สภาวะปกติคือเฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 10
คุณมิทสึมาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการเริ่มต้นความร่วมมือภายใต้ บันทึกฯ ดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม สถาบันอาหารและเจโทรยังได้วางแผนจัดการจับคู่ทางธุรกิจอย่างไม่เป็นทางการโดยได้เริ่มในงาน THAIFEX-World of Food Asia 2017 ที่ผ่านมาอีกด้วย
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
63
SPECIAL REPORT
The National Food Institute (NFI), Ministry of Industry, and Japan External Trade Organization (JETRO), Bangkok, jointly sign a Memorandum of Intent (MOI) as an initial collaborative effort to stimulate Thai-Japanese food industry. The MOI covers imports, exports, joint ventures, consultancy, business matching, and Thai-Japanese business expansion. Highlighted is the main “Food Value Chain” strategy, with an aim to turn Thailand into an efficient manufacturing hub for processed food to be exported to ASEAN countries, India, and the Middle East. Mr.Yongvut Saovapruk, President of the National Food Institute, Ministry of Industry, says the MOI is aimed to serve clearer target groups such as Thai-Japanese food manufacturers that mutually need to import and export their products, overseas companies planning to establish joint venture projects with local partners, those aiming for business expansion in Thailand or Japan, and food exporters targeting other countries while relying on Thailand as a production hub. The services are classified into 2 categories: 1) Data and consultancy services providing information regarding rules, regulations, food standards, import-export procedures, food safety regulations, new measures, trend and marketing information, and lab-based food analysis 2) Organization of academic seminars addressing food business issues to boost up the potential of entrepreneurs and to facilitate Thai-Japanese business matching. In 2016, Thailand’s total food export to Japan increased by 8%YoY to THB 132 billion, with Japan as the country’s second biggest export market after ASEAN. Top performing products included chicken, shrimps, canned tuna, ready-to-eat food, and canned pineapple. In the first quarter of 2017, Thailand grossed THB 33,064 million in food export to Japan, expanding by 8.4%. Mr.Yongvut further adds that the overall Thai food export in the first quarter of 2017 fell by 1.2%YoY to THB 236,329 million while the exports in greenback conditions amounted USD 6,736 million, moving up by 0.3%, with Thai Baht’s appreciation as the cause of the reduced revenue. The main products with decreased export value were rice, sugar, tapioca starch, shrimps, canned
64
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
pineapple, and fruit juice. Rice shipments declined in accordance with lower demand from bigger importers such as Indonesia and African countries. Sugar went downhill due to lower supply of sugar canes while Chinese importers turned away from tapioca in favor of cereal-based starch instead. Shrimps experienced a lesser degree of decrease because of the flooding in Thailand’s southern region at the end of last year. Canned pineapple and fruit juice sales dropped since business partners slowed down the purchases. “Best-performing exports, on the other hand, were chicken, coconut products, and ready-to-eat food. Chicken sales rose considerably after Japan, our main partner, was faced with bird flu situation while South Korea, who recently started importing raw chicken from Thailand, also suffered the same problem. Coconut products, which usually perform well in health-oriented market, did better in response to increasing world demand while ready-to-eat food shipments soared amongst ASEAN countries, the United States, Japan, and Australia”.
The overall picture of Thai food export in 2017 is anticipated to rise by 5.3%, with an estimated value at THB 1 trillion, while the second quarter is predicted to amount THB 250,330 million, growing by 6.2%
SPECIAL REPORT “Regarding (traditional) ASEAN market, the first quarter’s export value totaled THB 27,604 million, dropping by 27.6%. The main products that felt the most impact were rice, sugar, and tapioca starch. Exports to other markets, however, continued to expand, especially to CLMV where the growth hit 11%. The top-performing products included beverages, sugar, fresh fruits, and dairy products while exports to Japan went up by 8.4% mainly in terms of frozen or processed chicken and shrimps.” Mr.Yongvut states that the overall picture of Thai food export in 2017 is anticipated to rise by 5.3%, with an estimated value at THB 1 trillion, while the second quarter is predicted to amount THB 250,330 million, growing by 6.2%, thanks to increasing purchase orders that are expected to bounce back after a slump earlier this year. Additionally, raw materials have increased in terms of stock, thus being able to satisfy factories’ higher demand. Main products that are forecasted to increase in sales and thus contribute positively to Thai
export value is projected at JPY 1 trillion. Japan’s food export to Thailand in 2016 hurtled 8.2% lower, totaling JPY 32,900 million. Thailand ranked 6th in Japan’s export industry with pork skin, tuna, and saba mackerel as main products. The decline was due to the stronger JPY and lack of fishery supply in Japan. It is anticipated that in 2017 the growth will return to normal, with an average increase by 10% annually. Mr.Mitsumata further mentions that, in order to concretely initiate the collaboration under the MOI, the NFI and JETRO have also unofficially organized business matching in THAIFEX-World of Food Asia 2017
food export industry in the second quarter are chicken, canned tuna, shrimps, canned pineapple, seasonings & condiments, and coconut products. Sugar and tapioca starch sales are anticipated to slow down although its overall performance may fare better than that of the first quarter. Mr.Hiroki Mitsumata, President of JETRO Bangkok, says that the MOI is aimed to strengthen Thai-Japanese business relationships and to help the food industry in both countries to achieve wider frames by focusing on the expansion of processed food market with Thailand as the production base for highpotential third-party countries such as ASEAN, India, and the Middle East. By implementing the Food Value Chain strategy, raw materials are to be imported from Japan for the manufacturing of products in Thailand. Japan’s overall export value in food, agricultural, forestry, and fishery products has continually grown for the fourth year since 2013. In 2016, the export value hit JPY 750,300 million while the 2019 targeted SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
65
SEE THROUGH MARKET Mathias Kuepper
Managing Director Koelnmesse Pte. Ltd.
สถานการณ์ของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รุ่ง
หรือ
ร่วง? จากบทความฉบับล่าสุดโดย World Economic Forum for ASEAN ได้คาดการณ์ว่าภายในปี 2593 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 600 ล้านคน จะมีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ส่งผลให้มีการส่งออกระดับภูมิภาคเพิ่มขึ้นอีก ร้อยละ 15 และเกิดการจ้างงานด้านเกษตรกรรมมากกว่า 4.5 ล้านรายการภายในปี 2568 การขยายตัวดังกล่าวนี้ก�ำลังน�ำผลประโยชน์ มหาศาลมาสู่กลุ่มประเทศก�ำลังพัฒนาในไม่ช้า และขณะเดียวกันก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างเอาจริงเอาจังรวมถึง ผลที่อาจเกิดขึ้นกับระบบการจัดหาอาหารในระดับภูมิภาคได้ 66
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
SEE THROUGH MARKET
จากรายงายนี้ชวนให้สงสัยว่าสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจนั้นจะยังคงรองรับกับสถานการณ์ ดั ง กล่ า วได้ อี ก นานเท่ า ใดเพื่ อ ตอบสนองต่ อ ความต้องการของมนุษย์ ดังนั้น ผู้ผลิตอาหาร ทั่ ว โลกและทั้ ง ภู มิ ภ าคควรจะต้ อ งปรั บ ปรุ ง โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพให้ดีขึ้น โดยใช้ ประโยชน์จากเทคโนโลยีและยกระดับเทคโนโลยี ทางด้านการเกษตร ซึ่งไม่เพียงต้องใช้เวลานาน แต่ ยั ง ต้ อ งมี ก ารลงทุ น อย่ า งมี ศั ก ยภาพด้ ว ย เช่นกัน เพื่อให้ตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้ ได้อย่างยั่งยืน แต่หากยังไม่มีการจัดการในเรื่อง เหล่านี้ก็อาจจะเกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคง ทางอาหารในอนาคตได้
การเพิ่มจ�ำนวนของกลุ่มประชากรชนชั้นกลางนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากจ�ำนวนกลุ่มประชากร ยุคมิลเลเนียมที่ปัจจุบันจัดว่าเป็นหนึ่งในสี่ของประชากรหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประชากรกลุ่มนี้เมื่ออายุมากขึ้นจะได้รับรายได้หลังหักภาษีสูงขึ้นและมีรูปแบบการใช้ชีวิต ที่แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อน สิ่งนี้จึงเป็นตัวก�ำหนดและน�ำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบอุปสงค์และ อุปทานได้อย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก BMI Research ซึ่งได้รายงานเกี่ยวกับกลุ่มสินค้าอาหารหลักของ ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่ามีความต้องการสินค้าอาหารโดยเฉพาะสินค้าใน 2 กลุ่มหลัก
การเปลี่ ย นแปลงพฤติ ก รรมการบริ โ ภค อาหารและเครื่ อ งดื่ ม ก่ อ ให้ เ กิ ด ความตึงเครียดด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไร?
ภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รบั การยกย่อง ว่ า เป็ น หนึ่ ง ในภู มิ ภ าคขนาดใหญ่ ที่ ป ระสบ ความส�ำเร็จและมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจมาก ที่สุด คาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้านั้นจะมี จ�ำนวนประชากรชนชั้นกลางเพิ่มมากขึ้นกลาย เป็นกลุ่มประชากรส่วนใหญ่ หรือมีขนาดเป็น สองเท่าประมาณ 400 ล้านคนภายในปี 2560 ทัง้ นี้ คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สิงคโปร์คาดการณ์ว่าประชากรกลุ่มนี้อาจจะมี มากถึงร้อยละ 60 ของภูมิภาคเลยทีเดียว
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
67
SEE THROUGH MARKET
พบว่ามีความต้องการสินค้าอาหารโดยเฉพาะสินค้าใน 2 กลุม่ หลัก อั น ได้ แ ก่ กลุ ่ ม สิ น ค้ า ประมง และน�้ ำ ตาล รวมถึ ง ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ เกี่ ย วข้ อ งจ� ำ นวนมาก จึ งคาดว่ า อั ต ราความต้ อ งการสิ น ค้ า ในกลุ่มเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยเช่นกัน
อั น ได้ แ ก่ กลุ ่ ม สิ น ค้ า ประมง และน�้ ำ ตาล รวมถึ ง ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง จ�ำนวนมาก จึงคาดว่าอัตราความต้องการสินค้าในกลุ่มเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นใน อีก 5 ปีข้างหน้าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยู่ภายใต้การจับตามองนี้คือ ความเสียหายทางสิง่ แวดล้อมอย่างมหาศาลทีอ่ าจเกิดขึน้ จากการผลิตอาหาร เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียหาย เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในระดับที่ได้มีการท�ำนายล่วงหน้าไว้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น การท�ำการประมงเกินขนาดซึง่ เป็นปัญหาระดับโลกมาเป็น เวลานานแล้วนั้น พบว่าร้อยละ 25 ของจ�ำนวนปลาที่ทั่วโลกจับขึ้นมาได้ ไม่สามารถน�ำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ หรือไม่ก็เป็นการจับมาแบบ สู ญ เปล่ า ในขณะที่ อี ก ครึ่ ง หนึ่ ง ของจ� ำ นวนที่ จั บ มาได้ ก็ เ ป็ น เรื่ อ งของ ผลประโยชน์ส่วนบุคคล การปฏิบัติที่ไม่ยั่งยืนเช่นนี้จะท�ำให้จ�ำนวนปลาที่มี ความส�ำคัญทางเศรษฐกิจหมดไปในสองทศวรรษ โดยเฉพาะในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีชุมชนชายฝั่งกระจายตัวอยู่มากย่อมจะได้รับ ผลกระทบจากการจับปลาเกินขนาดนีอ้ ย่างแน่นอน นีเ่ ป็นเพียงสัญญาณเล็กๆ ของปัญหาทีใ่ หญ่กว่าทีเ่ รายังไม่เห็นหรือไม่ทนั สังเกตเท่านัน้ การทีร่ ะบบนิเวศ ทางทะเลก�ำลังถูกท�ำลายนีจ้ ะส่งผลกระทบร้ายแรงตามมามากมายหากไม่ได้ รับการจัดการที่ดี
เช่นนั้น...เราจะจัดการกับความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม (และอาหาร) ที่ขยายตัวมากขึ้นในภูมิภาคนี้ได้อย่างไร
จากการเปลี่ ย นแปลงของภาคการผลิ ต อาหารและเครื่ อ งดื่ ม ในภู มิ ภ าค เอเชี ย ตะวั น ออกเฉี ย งใต้ นี้ ค� ำ ถามคื อ ตลาดจะรั บ มื อ กั บ ความต้ อ งการ ด้านอาหารทีม่ ากขึน้ อย่างทีไ่ ม่เคยมีมาก่อนนีไ้ ด้อย่างไร ในขณะทีก่ ต็ อ้ งมัน่ ใจ ได้ ด ้ ว ยว่ า กระบวนการผลิ ต อาหารนั้ น มี ค วามยั่ ง ยื น เพี ย งพอที่ จ ะรั ก ษา สภาพแวดล้อมส�ำหรับความต้องการในอนาคต จนถึงทุกวันนี้จะเห็นว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มกลับยังไม่ได้ใช้ ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเหมาะสมในการเสริมสร้างขีดความสามารถของ การพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้น เมื่อเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 เทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต (Internet of Things) คอมพิวเตอร์คลาวด์ และ เทคโนโลยีการวิเคราะห์จะได้รบั การพิสจู น์เสียทีวา่ เป็นประโยชน์ในการพัฒนา อย่างยั่งยืน โดยจากการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตพบว่าเทคโนโลยี 68
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
มีขีดความสามารถในการช่วยค�ำนวณวัฏจักรต่างๆ สภาพภูมิอากาศ และ ผลกระทบที่ มี ต ่ อ อุ ป ทานได้ นอกจากนี้ ผู ้ ผ ลิ ต ยั ง สามารถคาดการณ์ ความต้องการและเพิ่มหรือลดอุปทานให้สมดุลได้เพื่อให้เกิดการสูญเสียต�่ำที่สุด ย้ อ นกลั บ ไปที่ ตั ว อย่ า งกรณี ข องการท�ำการประมงเกิ น ขนาด การใช้ เทคโนโลยี จ ะสามารถช่ ว ยตรวจสอบจ� ำ นวนปลาในธรรมชาติ แ ละพื้ น ที่ ที่ท�ำประมงได้ และยังช่วยค�ำนวณปริมาณการจับปลาที่เพียงพอได้ก่อนที่จะ เกิดการท�ำประมงเกินขนาดด้วย นอกจากนี้ ทางด้านการบริโภคน�้ำตาล ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นนั้น เกษตรกรยังสามารถใช้ประโยชน์ จากเทคโนโลยีเพื่อศึกษาสภาพพื้นดินส�ำหรับการเพาะปลูก โดยค�ำนวณ ปริมาณสารอาหารที่ต้นอ้อยจะได้รับในระหว่างการเพาะปลูก ตลอดจน การท�ำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศซึ่งจะช่วยป้องกันการสูญเสีย ผลผลิตทางการเกษตรในกรณีที่เกิดภัยแล้งหรือน�้ำท่วมได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภูมิภาคอาเซียนนั้นส่วนมากคือกลุ่มประเทศ ที่ก�ำลังพัฒนาและอาจไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ประกอบกับการขาดทรัพยากรที่จะใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นให้เกิดประสิทธิภาพ สู ง สุ ด ซึ่ ง นั บ ว่ า เป็ น เรื่ อ งท้ า ทายมากส� ำ หรั บ ภู มิ ภ าคนี้ ดั ง นั้ น จึ ง จ� ำ เป็ น ที่ทั้งภูมิภาคต้องมีความพยายามร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจของทั้ง ภูมิภาคที่ก�ำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้สามารถตอบสนองความต้องการใช้ ทรัพยากรของประชากรได้อย่างยั่งยืน
SEE THROUGH MARKET
แล้วเราจะร่วมกันสร้างความยั่งยืนแห่งอนาคต ได้อย่างไร?
อย่ า งที่ เ ราทราบว่ า มี ห ลายปั จ จั ย เข้ า มามี บ ทบาท เมื่อเราพูดถึงวิธีการที่จะรักษาความยั่งยืนเพื่ออนาคต ดั ง นั้ น การสร้ า งความยั่ ง ยื น ให้ เ กิ ด ขึ้ น ต้ อ งเริ่ ม จาก สิ่งที่ส�ำคัญที่สุดโดยไม่มีทางเลือกอีกต่อไปแล้ว นั่นคือ การวิเคราะห์แก้ไขปัญหาทีเ่ กิดขึน้ ร่วมกันในหลากหลาย มิติ ถึ ง แม้ ว ่ า การที่ รั ฐ บาลในกลุ ่ ม ประเทศสมาชิ ก ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเดินหน้าท�ำงานร่วมกัน อย่ า งจริ ง จั ง มี ก ารแบ่ ง ผลประโยชน์ ข องประชาคม ทั้งภูมิภาคอย่างชัดเจน ก็ยังไม่ก่อให้เกิดการก้าวไป ข้างหน้าได้อย่างที่คาดหวังไว้ และยังคงมีผลกระทบ อี ก ระลอกตามมา นั่ น ก็ คื อ ภาคธุ ร กิ จ ขนาดเล็ ก ไม่ มี การเติบโต อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลก�ำไรจ�ำเป็น ต้ อ งเปลี่ ย นตั ว เองให้ เ ป็ น ตั ว เร่ ง เพื่ อ ขั บ เคลื่ อ นการท� ำ งานของรั ฐ บาล ในประเทศตน และผลักดันวาระการพัฒนาอย่างยัง่ ยืนให้เกิดขึน้ เป็นผลส�ำเร็จ ดั ง นั้ น เพี ย งแค่ ทั้ ง ภู มิ ภ าคร่ ว มมื อ กั น ก็ จ ะสามารถบรรลุ เ ป้ า หมาย ร่วมกันได้
เราทราบดีว่าเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นเรื่องที่ล�ำบากที่สุด ในการจัดการ และรู้ดีว่าสิ่งแวดล้อมจะสามารถตอบสนองความต้องการของ มนุษย์ไปได้อีกนานแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามร่วมมือกันของ แต่ละประเทศอาจส่งผลให้ทั้งภูมิภาคสามารถก้าวเข้าไปใกล้ถึงระดับความมั่นคงทางอาหารในอนาคตก็เป็นได้
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
69
SEE THROUGH MARKET
Southeast Asia’s F&B Industry
Thriving?
OR Dying?
In a recent article released by the World Economic Forum on ASEAN, Southeast Asia, home to more than 600 million people, is expected to see food demand increase by as much as 40% by 2050, increasing the region’s exports by 15% and creating up to 4.5 million new agriculture jobs by 2025. While this brings numerous short-term benefits to the region’s developing economies, it will undeniably place heavy strains on the environment and the regional food supply system.
This begs the question – how long can the environment and economy hold out to meet our needs? In order to sustainably meet these challenges, food producers around the world and in the region would have to improve physical infrastructures, leverage technologies and upgrade farming techniques which are not only time-consuming but potentially costly as well. Yet without it, the future of our food security would be further threatened.
How are evolving patterns of F&B consumption putting strains on the environment? Southeast Asia is increasingly being acknowledged as one of the most successful and economic super-region in the world. As we continue our
70
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
rapid expansion into the next five years, a huge middle class will emerge – more than double in size to exceed 400 million by 2020. The Economic Development Board of Singapore forecasts that this demographic will make up 60% of the region’s population. The expected boom of the middle class will be fuelled by the millennial generation who currently account for one in four of Southeast Asia’s key markets’ population. As they come of age, they will enjoy higher levels of disposable income and develop a different taste palette from previous generations. This will then undoubtedly dictate and alter demand and supply patterns. Data from BMI Research shows that consumption among Southeast Asians in two main food groups are expected to increase
SEE THROUGH MARKET at an increasing rate over the next five years – fish and sugar, and their related products. What goes under the radar, however, is the production of these foods actually has a huge environmental toll, especially on the scale that is predicted. For example, overfishing has been a global problem for a long time now – 25% of world fish stocks are either overexploited or depleted and half of it is currently fully exploited. At current rates, this unsustainable practice will remove important fish stocks within the next two decades. In Southeast Asia, where coastal communities are still very much prevalent, this would greatly threaten food security for these communities. This is just the tip of the iceberg – marine ecosystems would be devastated, leading to serious consequences if left unaddressed.
how we can secure a sustainable future. Therefore, a multi-pronged approach is crucial, and no longer an option. Beginning with solutions already in place, we look to intergovernmental cooperation efforts, the ASEAN Economic Community (AEC). While the benefits of a ‘no-border’ community are clear and an ideal member nation are working towards, it is simply not moving forth as fast as it should be. This creates a ripple effect that channels down to even small businesses. Private and non-profit organisations need to be the catalyst for their local governments to push for the agenda for sustainable development. Only by working hand-in-hand, can we achieve the common goal. Understandably, the topic of environmental sustainability is a difficult one to broach, and knowing how long the environment will be able to hold out to meet our needs is even more difficult to determine; but with inter- and intra-national efforts working hand-in-hand, perhaps we’ll be a step closer towards safeguarding the future of our food security.
So how can we address the region’s growing environmental (and food) concerns?
With such a dynamic food and beverage landscape in Southeast Asia, how can markets then address this unprecedented demand for food, while ensuring our production processes are sustainable enough to conserve the environment for our future needs? To date, the food and beverage industry has not optimally leveraged technology to complement its sustainability efforts. As Industry 4.0 matures, technologies like the Internet of Things, cloud computing and analytics have proven beneficial in this regard. From collecting and analysing historical data, technologies have the capacity to help predict cycles, weather patterns and how that affects supply. Producers can also forecast demand, and correspondingly increase or decrease supply, ensuring minimum wastage. For instance, in the case of overfishing, technology can help monitor natural fish populations, and areas that are being overfished. Action can be then taken before supplies reach an unsalvageable level. Also, with the expected rise in sugar consumption, farmers can take advantage of technology to understand the ground they are growing on, the nutrients that might be missing for the growth of sugarcane. Understanding weather patterns will also help prevent mass loss of crops in the event of droughts or floods. However, given that many ASEAN countries are still developing and might not have access the right technologies and the resources to acquire them, this is an uphill challenge for the region. There needs to be a concerted effort to ensure that our rapidly expanding economy keeps up with demand sustainably.
So how can we work towards attaining a sustainable future? The first step is acknowledging that a cocktail of factors come into play when we talk about
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
71
SMART PRODUCTION
กองบรรณาธิการ Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
ข้อได้เปรียบของการประยุกต์ใช้
ระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์
ในอุตสาหกรรมอาหารยุคใหม่ ในช่วงครึง่ ศตวรรษทีผ ่ า่ นมา ความก้าวหน้าในระบบอัตโนมัตแิ ละหุน ่ ยนต์ได้เปลีย่ นไปทัง้ ในเชิงธุรกิจและ สังคม ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ได้ถูกริเริ่มน�ำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตของโรงงานและ ใช้เทคโนโลยีที่เรียบง่ายอย่างมีประสิทธิผล
อย่างไรก็ตามขณะนี้ บริษัทหลายแห่งทั่วโลกก�ำลังก้าวเข้าสู่ อุตสาหกรรม 4.0 โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ การจัดการข้อมูล ขนาดใหญ่ และ Internet of Things (IoT) เพื่อให้ท�ำงานร่วมกัน ได้อย่างคล่องตัวเพือ่ เพิม่ ผลผลิตและประสิทธิผลการท�ำงานสูงสุด
ประมาณการณ์จำ�นวนหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่มีในโลกในแต่ละปี Estimated Worldwide Annual Supply of Industrial Robots
ตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมทั่วโลก
นับตัง้ แต่ปพี . ศ. 2553 ความต้องการหุน่ ยนต์อตุ สาหกรรมเพิม่ ขึน้ อย่างมาก อันเนื่องมาจากการที่โรงงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง ต่อเนื่องไปสู่ระบบอัตโนมัติและการปรับปรุงด้านเทคนิคที่ก้าวล�้ำ ประเทศไทยมี ศั ก ยภาพในการขยายตลาดเพื่ อ ตอบสนอง ความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกเนื่องจากประเทศไทยมีจ�ำนวน หุ่นยนต์ประมาณ 3,700 ตัว คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าหนึ่งในสี่ของ จ�ำนวนหุ่นยนต์ทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วโลกในปี พ.ศ. 2557 ที่มา: World Robotics 2015 72
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
SMART PRODUCTION
ประมาณการณ์จำ�นวนส่งออกหุ่นยนต์อุตสาหกรรมอเนกประสงค์ในบางประเทศ ปี พ.ศ. 2557 Estimated Yearly Shipments of Multipurpose Industrial Robots in Selected Countries, 2014
ที่มา: World Robotics 2015
ประเทศไทย: การเติบโตของระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีการลงทุน อย่างมากในเครื่องจักรและระบบในช่วง 2-3 ปี ที่ ผ ่ า นมา เพื่ อ เพิ่ ม ระดั บ กระบวนการผลิ ต อั ต โนมั ติ แ ละเพื่ อ รั ก ษาความสามารถ ในการแข่งขันในอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก ท� ำ ให้ เ กิ ด การเติ บ โตขึ้ น ของอุ ต สาหกรรม อัตโนมัตแิ ละอุตสาหกรรมหุน่ ยนต์อย่างรวดเร็ว ในประเทศไทย
ตลาดอัตโนมัติของประเทศไทย
ในทศวรรษที่ ผ ่ า นมาโรงงานอุ ต สาหกรรม ยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรได้หนั มาใช้ ระบบอั ต โนมั ติ ม ากขึ้ น ส่ ง ผลให้ ข นาด ของอุ ต สาหกรรมที่ ใ ช้ ร ะบบอั ต โนมั ติ ข อง ประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก เครื่องจักรและ เทคโนโลยี ใ นตลาดที่ มี ค วามต้ อ งการสู ง สุ ด ได้แก่ สายพานล�ำเลียง ระบบการบรรจุ และ การด�ำเนินงานเฉพาะด้าน
ตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในประเทศไทย
อุ ต สาหกรรมหุ ่ น ยนต์ ร ะดั บ อุ ต สาหกรรม ในประเทศไทยมี ก ารขยายตั ว อย่ า งรวดเร็ ว ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเนื่องจากฐานลูกค้า ที่แข็งแกร่ง มีการคาดการณ์ว่าขนาดของการส่ ง ออกหุ ่ น ยนต์ ร ะดั บ อุ ต สาหกรรมของ ประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 133 จาก 2,131 หน่วย ในปี 2556 เป็น 7,500 หน่วยในปี 2561* SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
73
SMART PRODUCTION
มูลค่านำ�เข้าของอุตสาหกรรมอัตโนมัติในไทย Import Value of Thai Automation Industry
ที่มา/Source: Thai-German Institute ประเภทของความต้องการระบบอัตโนมัติในประเทศไทย Type of Demand for Automation in Thailand
ที่มา/Source: FIBO
ท�ำไมต้องลงทุนในระบบอัตโนมัตแิ ละหุน่ ยนต์สำ� หรับอุตสาหกรรมอาหาร?
“วันนี้ เราไม่สามารถเสิร์ฟอาหารให้ครบทุกเมนูได้ เพราะพ่อครัวไม่ค่อยสบาย” ผู้จัดการทัว่ ไปของโรงแรมแห่งหนึง่ กล่าวขณะทีก่ ำ� ลังถกประเด็นเรื่องการใช้ระบบ อัตโนมัติในอุตสาหกรรมอาหารว่ามีความจ�ำเป็นแค่ไหนในศตวรรษที่ 21 ที่ผ่านมาคงมีเครื่องจักอุปกรณ์ท�ำอาหารเพียงไม่กี่เครื่องที่ถูกประดิษฐ์ให้ ท�ำงานอัตโนมัติ ซึ่งถ้าลองนึกถึงเหตุผลของประเด็นนี้ก็น่าจะเป็นว่า คนทั่วโลก อาจจะไม่ได้นกึ ถึงประโยชน์ทไี่ ด้รบั จากการใช้ระบบอัตโนมัตสิ �ำหรับอุตสาหกรรม อาหารมากสักเท่าไหร่ ดังนั้น เราลองมาดูกันว่า ถ้าเราจะเลือกใช้ระบบอัตโนมัติ กับอุตสาหกรรมแล้ว เราจะได้อะไรจากการลงทุนครั้งนี้บ้าง การลดจ�ำนวนแรงงาน: ในกรณีที่กล่าวมาข้างต้น หากพ่อครัวใหญ่ถูกถอด ออกจากหน้าที่ จะส่งผลต่อระบบการผลิตและการควบคุมเครื่องจักรในครัวทันที 74
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
ซึ่งถ้าระบบอัตโนมัติถูกน�ำเข้ามาใช้ การพึ่งพาหรือความต้องการเชฟก็ลดลง เป็นศูนย์โดย “อัตโนมัต”ิ หลายปัญหาดังกล่าวจะถูกแก้ไขได้ทนั ที เพียงแค่นำ� ระบบอัตโนมัติมาใช้ มาตรฐานอาหาร: รสชาติของอาหารขึ้นอยู่กับอารมณ์ของพ่อครัว ประเด็นนีค้ งปฏิเสธไม่ได้วา่ มีสว่ นมากระดับหนึง่ การมีปญ ั หาส่วนตัวมากมาย มารุมเร้าส่งผลต่อรสชาติอาหาร และอาจจะส่งผลถึงชื่อเสียงของแบรนด์ ของคุณด้วย ถ้าประเด็นนี้เป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ตก ลองเปลี่ยนเป็นระบบ อั ต โนมั ติ อ าจจะช่ ว ยลดปั ญ หาได้ ทุ ก ออเดอร์ จ ะถู ก รั ง สรรออกมา ตรงตามสัง่ และมีรสชาติทคี่ งที่ ซึง่ จะช่วยรักษาและสร้างชือ่ เสียงให้แก่แบรนด์ ของคุ ณ ได้ อ ย่ า งดี ระบบอั ต โนมั ติ ช ่ ว ยให้ ก ารผลิ ต สามารถผลิ ต อาหาร ที่มีคุณภาพที่สม�่ำเสมอ ปราศจากปัญหาเรื่องการผลิต และมีความโปร่งใส
SMART PRODUCTION ปรั บ ปรุ ง ให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพเพื่ อ ป้ อ งกั น และรั ก ษาชื่ อ เสี ย งของแบรนด์ ใ ห้ เ ป็ น ที่ นิ ย มอยู ่ ต ลอด ระบบอัตโนมัตชิ ว่ ยให้เกิดคุณภาพทีส่ ม�ำ่ เสมอปราศจากปัญหาเรือ่ งการผลิตผลิตภัณฑ์ทไี่ ด้มาตรฐาน สม�่ำเสมอและเพิ่มความโปร่งใสให้แก่สินค้า ซึ่งส�ำคัญมากในการรักษาฐานลูกค้าให้พอใจกับ ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ดังนั้นถ้ามีอะไรสักอย่างที่สามารถท�ำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นได้นั้น สิ่งนั้นก็คงหนีไม่พ้นการ ปรับเปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติ ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีนี้จะช่วยสนับสนุนให้แบรนด์ของคุณ เติบโตมากขึ้น และยั่งยืนอย่างแน่นอน เอกสารอ้างอิง/References • Thailand’s Automation & Robotics. 2016. Thailand Board of Investment. www.boi.go.th • 5 Advantages of Automation in Food Industry. 2015. Anita Tejwani. www.dosamatic.com/5-advantages-of-automation-in-food-industry
หมายเหตุ: *International Federation of Robotics
ซึง่ เป็นสิง่ ส�ำคัญในการรักษาความพอใจของผูบ้ ริโภค ที่มีต่อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม การลดและการเพิ่ ม ขึ้ น ของของเสี ย : ข้ อ ได้ เ ปรี ย บสองประการส� ำ คั ญ ของการเปลี่ ย น อุตสาหกรรมไปเป็นระบบอัตโนมัติ คือ ความยืดหยุน่ และศักยภาพในการขยายการผลิตในอนาคต ใน ขณะทีโ่ ซลูชนั ระบบอัตโนมัตทิ คี่ รบวงจรอาจไม่เหมาะ นั ก ส� ำ หรั บ ธุ ร กิ จ ขนาดเล็ ก แต่ ว ่ า ชิ้ น ส่ ว นหรื อ ส่วนประกอบเครื่องจักรอัตโนมัติบางชิ้นนั้นสามารถ เลือกน�ำมาใช้ก่อนได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยัง สามารถปรับแต่งและขยายความสมบูรณ์แบบได้ ไปพร้ อ มๆ กั บ ธุ ร กิ จ ที่ เ ติ บ โตขึ้ น เรื่ อ ยๆ ซึ่ ง ความ ยืดหยุ่นแบบนี้สามารถช่วยการสูญเสียทรัพยากร ต่างๆ ของบริษัทไปได้อย่างดี ความปลอดภั ย ที่ เ พิ่ ม ขึ้ น : ระบบอั ต โนมั ติ ช่ ว ยให้ ผู ้ จั ด การสามารถตรวจสอบและควบคุ ม กระบวนการต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยคัดกรอง ความถูกต้องก่อนส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ อีกทีหนึ่งการมีข้อมูลและอ�ำนาจในการปรับเปลี่ยน ในจุดเดียวหมายถึงระยะเวลาที่จะตอบสนอง และ แก้ไขปัญหาต่างๆ จะลดลงอย่างมาก และปัญหา เล็ ก น้ อ ยจะกลายเป็ น ปั ญ หาใหญ่ น ้ อ ยลง ด้ ว ย ข้ อ ได้ เ ปรี ย บตรงนี้ ที่ ร ะบบอั ต โนมั ติ จ ะเข้ า มาช่ ว ย ปรั บ ปรุ ง วิ ธี ก ารบั น ทึ ก ข้ อ มู ล ของระบบเก่ า ที่ ต ้ อ ง คี ย ์ ข ้ อ มู ล ลงคอมพิ ว เตอร์ ห รื อ จดด้ ว ยปากกาบน กระดาษได้ การปกป้องแบรนด์: การรักษาคุณภาพ ความปลอดภัย และความสะดวกในการติดตามตรวจสอบ ย้อนกลับ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยส�ำคัญที่ต้องมีการ SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
75
SMART PRODUCTION
AUTOMATION AND ROBOTICS USHER IN A NEW ERA
Over the past half a century, dynamic advances in automation and robotics have been transforming both business and society. Automation and robotics were initially used to increase productivity on the production floor of factories and utilized simple technologies.
Now, however, many corporations around the world are transitioning into Industry 4.0, making use of artificial intelligence, big data management, and the Internet of Things (IoT) to seamlessly work together, to exponentially increase both production and productivity.
Global Industrial Robot Market
Since 2010, the demand for industrial robots has substantially increased as a result of factories’ continuous shift toward automation and innovative technical improvements. There is immense potential for Thailand to expand its market to address rising global demand, since Thailand’s total supply of approximately 3,700 robots only accounted for less than a quarter of total global robot installations in 2014.
Thailand: Rising Automation and Robotics Industry
Factories in Thailand have been investing heavily over the past few years in machineries and systems in order to increase the level of process automation and remain competitive in the global manufacturing arena. This has driven market growth in the automation and industrial robot industries in Thailand.
Thailand Automation Market
In the past decade, an increasing number of factories in the automotive, electrical and electronics, food and agricultural industries have been shifting towards automation, driving up the size of Thailand’s automation industry. The machinery and technology in this market that have top demand are conveyors, packing systems, and specialized operations.
Thailand Industrial Robot Market
The industrial robotics industry in Thailand has expanded dramatically over the past decade due to a strong customer base. The size of Thailand’s shipments of industrial robots is estimated to increase by 133% from 2,131 units in 2013 to 7,500 units in 2018 *
Why Invest Automation and Robotic for Food Industry?
“We don’t have 29% of regular foods on menu today as our kitchen expert isn’t well”, said the manager of a reputed hotel while we discussed automation of food products as a necessity in the 21st century. If you too have faced the same problem, then you’re at the right place where the solution is served.
76
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
How many successful food making machines can one recall when the term “automatic” is tossed? ‘Not many’ would be the answer. Trying to find the reason to this, we came across the fact that people of the world are unaware of the benefits one gets on a greater scale on automating the process of food making. Hence, here we are to introduce you to the wonderful world of Automatic Food Making Machines and their benefits!! Labour Reduction: In the case mentioned above, if the kitchen master is removed from the frame, it affects the Dosa Making Machine economical condition of the hotel. If automation is brought into this picture, the dependency or the need of the chef reduces to zero ‘automatically’. Wouldn’t many such cases be solved with just this one step up towards automation!? Food Standardization: Does the taste of the food depend on the mood of the chef? Does his breakup with his girl affect the reputation of your hotel? If this has been your experience then its time you must switch to automation. This will deduct all the possibilities of disastrous food and maintain a taste which shall create a signature reputation for your company. Automation facilitates the consistent quality, trouble-free production and transparency critical to keeping retailers and consumers satisfied with food and beverage products. Wastage Reduction & Expansion: Two significant advantages of industrial switching to automatic machines are their flexibility and potential for expansion. While a complete automation solution might not be appropriate for smaller businesses, industrial automatic components and machinery can be added as needed, and customised and expanded as business with minimal wastage of resources. Increased Safety: Automation allows managers to monitor and have more control over processes, which filters down to further refinements made by staff. Having the data and the power to make adjustments in one place means the time from incident and reaction is shortened significantly, and minor problems have less time to become major. In this manner, automation is a vast improvement over the old-fashioned method of recording data in electronic spreadsheets or paper records. Brand Protection: Maintaining quality, ensuring safety and facilitating traceability all tie into a manufacturer’s key concern: maintaining a brand’s good reputation. Automation facilitates the consistent quality, trouble-free production and transparency critical to keeping retailers and consumers satisfied with food and beverage products. So if you’ve found something that can ease your life, switch to Automation! This shall work as your everyday support in taking your brand to greater heights. What are you waiting for…
Japanese & European Quality for Safety and Delicious Food Ham & Sausage Line: อุตสาหกรรมแฮมและไส้กรอก
Marinated Meat
Hot Smoke House System Intensive Chiller System High Speed Vacuum Stuffer Line
Vacuum Bowl Cutter Tumbler
Vacuum Stuffer + Semi Auto Clipper
Grinder
Emulsifier
Packaging
Slicer: เครื่องหั่น
Vacuum Mixer
Injector
Other machine
Horizontal Packing
Semi-Frozen Slicer
Dumplings: ติ่มซำ�
Encrusting Machine
ad_Hi-tec final.indd 29
Vegetable Slicer
Thermoformer
Battering and Breader Machine
Fryer
ซาลาเปา
Automatic and Table Top Shaomai Forming Machine
8/4/17 11:39 AM
SMART PRODUCTION
Paul Webster
General Manager – Asia tna paul.webster@tnasolutions.com
Tapping into
the Batch-fried Chips Market with Innovative Turnkey Solutions
Preziosi Food (Mitica) หนึ่งในผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวของประเทศอิตาลี เดินหน้าขยายก�ำลังการผลิต เพือ่ ให้สามารถผลิตมันฝรัง่ แผ่นทอดกรอบได้ เพี ย งพอต่ อ ความต้ อ งการของตลาดในประเทศที่ เ ติ บ โต อย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ผ่านการติดตั้งไลน์การผลิตขนมขบเคี้ยว (ทอดปรุงรส และบรรจุ) แบบครบวงจร 1 ที่ ใ ช้ เ ทคโนโลยี ล ่ า สุ ด และนวั ต กรรมชั้ น เลิ ศ แบบครบวงจรเข้ามาประยุกต์
High Performance Frying
Preziosi Food ที่ก�ำลังจะลงทุนในสายการผลิตมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบไลน์ใหม่นั้น มีความต้องการระบบทอดทีม่ ปี ระสิทธิภาพสูงซึง่ สามารถทอดมันฝรัง่ ทีอ่ าจจะมีความหนา มากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังได้สี เนื้อสัมผัส และรสชาติที่ดีเหมือนเดิม ซึ่งท้ายสุดบริษัทฯ ได้เลือกไลน์การทอดแบบ Direct-fired batch2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่ สามารถทอดผลิตภัณฑ์จากกลุ่มพืชหัว โดยเฉพาะมันฝรั่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไลน์การทอดไลน์ใหม่นี้มีนวัตกรรมด้านระบบกรองน�้ำมันต่อเนื่องที่ช่วยกรองเศษ มันฝรั่งเล็กๆ ออกจากน�้ำมัน เพื่อให้มั่นใจว่ามันฝรั่งทอดของ Preziosi Food ได้ ผ่านการทอดด้วยน�้ำมันที่สดใหม่ที่สุดทุกครั้ง ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วการทอดแต่ละครั้งจะ สูญเสียน�้ำมันไปในชิ้นมันฝรั่งประมาณร้อยละ 23 ซึ่งอีกร้อยละ 77 จะถูกหมุนเวียน ผ่านการกรองประสิทธิภาพสูงแล้วน�ำไปผสมกับน�ำมันใหม่เพือ่ ให้ได้ระดับน�ำ้ มันกลับ มาเต็มอีกครั้ง แล้วจึงหมุนเวียนกลับมาใช้ทอดอีกครั้งนึง นอกจากการไหลเวียนของน�้ำมันอย่างต่อเนื่องแล้ว ระบบควบคุมอุณหภูมิยัง สามารถท�ำได้ทง้ั แบบคงทีแ่ ละแบบโซน ซึง่ จ�ำเป็นมากส�ำหรับการควบคุมความร้อนที่ เหมาะสมในกระบวนการทอด ดังนั้นจึงสามารถป้องกันปัญหาเรื่องความร้อนของ น�้ำมันสูงเกินไป การเกิดคาราเมลไลเซชัน และการไหม้หรือการเกิดสีน�้ำตาลของของ ผลิตภัณฑ์ได้ ในขณะเดียวเดียวกันบริษัทฯ ยังมั่นใจได้ว่าจะได้มันฝรั่งทอดที่มีสีสัน สวยงามคงที่ตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่องอีกด้วย 78
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
นอกจากนี้ Preziosi Food ยั ง ต้ อ งการระบบที่ ส ามารถทอด ผลิตภัณฑ์จ�ำนวนมากโดยไม่ท�ำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็น เป้าหมายที่ท้าทาย แต่ด้วยความสามารถในการเรียกคืนความร้อนได้ อย่างรวดเร็วของไลน์ผลิตแบบ Direct-fired batch2 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ช่วยท�ำให้น�้ำมัน มีอณ ุ หภูมทิ เี่ หมาะสมกับการทอดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงท�ำให้ Preziosi Food สามารถเดินการผลิตได้ถึง 230 กิโลกรัม มันฝรั่งทอดต่อชั่วโมง Consistently Flavoured
ขั้นตอนการปรุงรสมีบทบาทส�ำคัญ ทั้งด้านรสชาติ เนื้อสัมผัส และรูปลักษณ์โดยรวม ของผลิตภัณฑ์ ดังนั้น ส�ำหรับรสชาติของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้ถูกเลือกสรรมาเป็นอย่างดี Preziosi Food จึงมองหาระบบการปรุงแต่งรสที่สามารถเคลือบผลิตภัณฑ์ที่มีรูปทรง ไม่สม�่ำเสมอได้อย่างสม�่ำเสมอ คงที่ และเพื่อให้ง่ายต่อการปรับรสชาติและรูปลักษณ์ ของมันฝรั่งทอดให้ออกมาดีที่สุด นอกจากนี้ ความถูกต้องแม่นย�ำก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่ ส�ำคัญส�ำหรับผูผ้ ลิตขนมขบเคีย้ ว การปรุงแต่งทีม่ ากหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลกระทบ อย่างมากต่อค่าใช้จา่ ยทัง้ ด้านวัตถุดบิ และการสูญเสียจากผลิตภัณฑ์ทไี่ ม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นที่ยอมรับ ส�ำหรับทางออกของประเด็นดังกล่าวเหล่านี้ Preziosi Food ได้เลือกที่จะใช้ระบบ On-machine Seasoning (OMS)3 ระบบปรุงรสมาตรฐานและประสิทธิภาพสูงส�ำหรับ มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ โดยระบบนี้นอกจากจะมีกลไกการปรับน�้ำหนักที่ปรับเปลี่ยนได้ หลายแบบ และมาพร้อมเครื่องชั่งแบบสั่นแล้ว ระบบ OMS3 นี้ยังสามารถควบคุม การพ่นน�้ำมันและการไหลของผงปรุงรสให้ลงถังได้โดยตรง ซึ่งช่วยให้สามารถใส่ ผงปรุงรสได้อย่างถูกต้องตามสัดส่วน เพื่อให้ครอบคลุมและกระจายตัวได้ดียิ่งขึ้น นับว่าสามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ของ Preziosi Food ที่ต้องการผลิตผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพสูงอย่างสม�่ำเสมอ
SMART PRODUCTION Single Supplier – Full Integration
“ส�ำหรับบริษัทฯ ที่เน้นคุณภาพ อย่าง Preziosi Food การรักษาความสม�่ำเสมอ ของมาตรฐานและคุณภาพตลอดไลน์การผลิตถือเป็นเรือ่ งส�ำคัญ” Vincenzo Bove ผู้อ�ำนวยการด้านเทคนิคและปฏิบัติการของ Preziosi Food กล่าวพร้อมย�้ำว่า “อย่างไรก็ตาม การมองหาซัพพลายเออร์รายเดียวที่สามารถน�ำเสนอระบบที่มี มาตรฐานและประสิทธิภาพสูงส�ำหรับโรงงานที่มีการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความ หลากหลายมากอย่างเรานั้นไม่ใช่เรื่อง่ายนัก เพราะเราต้องการให้เครื่องทั้งหมด ท�ำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น แต่ ณ ตอนนี้ ไลน์การผลิตขนมขบเคี้ยว (ทอด ปรุงรส และบรรจุ) แบบครบวงจร1 ใหม่ทเี่ ราติดตัง้ ล่าสุดนีส้ ามารถท�ำงานได้อย่าง ลงตัวและมีความยืดหยุ่นตามที่เราต้องการทุกประการ”
นอกจากเป้าหมายด้านประสิทธิภาพแล้ว บริษัทฯ ยัง ต้องการไลน์เครื่องปรุงรสที่มีความยืดหยุ่น เพื่อการขยาย การผลิตในอนาคต เพราะแน่นอนว่าในอนาคตบริษัทฯ ต้องมี การคิดค้นผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้น ความสามารถ ของระบบในการจัดการกับความหลากหลายของผงปรุงรส หลายชนิ ด และระยะเวลาในการสลั บ เปลี่ ย นผงปรุ ง รส ในแต่ละครั้งของการผลิตจึงเป็นปัจจัยที่ส�ำคัญ อีกทั้งยัง ต้องค�ำนึงถึงความง่ายในการท�ำความสะอาดอุปกรณ์และ การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในช่วงเวลาสั้นๆ ด้วย ซึ่ง ระบบ OMS3 สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างดี จึงช่วยให้ Preziosi Food สามารถปฏิ บั ติ ต ามมาตรฐานด้ า นความปลอดภั ย ของ อาหารต่างๆ ได้ ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยลดเวลาการท�ำงาน ให้เหลือน้อยลง เป็นการช่วยลดต้นทุนอีกทางหนึ่ง Top Bagging Performance
Preziosi Food ยังคงเดินหน้าพยายามทีจ่ ะเพิม่ ประสิทธิภาพ สู่ระดับที่สูงขึ้นไป ท�ำให้บริษัทฯ ต้องมองหาเครื่องบรรจุถุง เครือ่ งใหม่มาแทนเครือ่ งเดิม โดยจะต้องเป็นระบบบรรจุแบบ อัตโนมัติที่ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี ข้อจ�ำกัดด้านพื้นที่เป็นอีกปัจจัยส�ำคัญในการตัดสินใจเลือก ลงทุนครั้งนี้ ดังนั้นระบบใหม่ที่จะเลือกเข้ามานั้นจะต้องมีทั้ง ประสิทธิภาพสูงและขนาดกะทัดรัด ท้ายสุดแล้ว โซลูชันการบรรจุที่ดีที่สุด4 ได้ถูกคัดเลือก น�ำมาใช้ โดยไลน์บรรจุใหม่นสี้ ามารถท�ำความเร็วได้สงู สุดถึง 180 ถุงต่อนาที (bpm) และมีประสิทธิภาพสามารถบรรจุให้ ได้ตรงตามเป้าหมายถึงร้อยละ 99 ดังนั้น ส�ำหรับ Preziosi Food การเพิ่มไลน์การบรรจุใหม่ที่ดีที่สุด4 ให้แก่โรงงานผลิต ครั้งนี้ ย่อมหมายถึงผลผลิตที่จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นอกจากนี้ โซลูชนั ด้านการบรรจุ4 นีย้ งั ช่วยเพิม่ ความถูกต้องของบรรจุภณ ั ฑ์ ด้วยการดีไซน์ที่เป็นแบบ Rotary jaw ใช้เทคโนโลยีการปิดผนึก แบบ Impulse ส่งผลให้ Preziosi Food สามารถมั่นใจ ได้ว่าบรรจุภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดมีคุณภาพดีเยี่ยมสม�่ำเสมอ เป็นที่น่าดึงดูดใจแก่ผู้บริโภค มากไปกว่านั้นการมีโซลูชัน ด้านการบรรจุ4 ที่มีประสิทธิภาพยังช่วยลดการปริมาณของเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรจุภัณฑ์ที่ต้องเสียทิ้งลงได้ ท�ำให้ สามารถประหยัดต้นทุนได้อย่างมาก SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
79
SMART PRODUCTION
Tapping into
the Batch-fried Chips Market with Innovative Turnkey Solutions
Italian snack manufacturer Preziosi Food (Mitica) integrated new frying, seasoning and packaging systems1 to launch a new line of batch-fried potato chips. Adding to its existing range of snack products, these innovative solutions1 enabled Preziosi Food to tap into the growing Italian market for this increasingly popular potato chip product.
High Performance Frying
Looking to invest in a brand new line for batch-fried chips, Preziosi Food needed a high performance frying system that efficiently cooks thicker potato slices and delivers the ideal colour, texture and flavour for the perfect chip. The company finally found the answer; a new direct-fired batch fryer2. Ideal for cooking a range of root vegetables, including potatoes, the system’s innovative continuous oil filtration system helps remove both fine and large particles to ensure Preziosi Food’s chips are cooked in the freshest oil possible. Oil management is essential to high performance frying and chip quality. When cooked, potato slices take on 23 per cent of the oil, meaning 77 per cent remains after the batch is complete. The remaining oil is subsequently filtered out and blended with fresh oil to return levels to 100 per cent. Alongside continuous oil circulation, full temperature control is also maintained through constant and zone control systems, essential for optimal heat regulation in the cooking and frying process. As such, overheating of the oil, and any subsequent caramelisation and browning of the product, is prevented, and the company is able to achieve a consistent chip colour. In addition, Preziosi Food also required a system that could fry high volumes of product without raising operating costs. Thanks to the system’s quick heat recovery capabilities, the new direct-fired batch fryer2 optimises production by ensuring the oil returns to optimum frying temperature quickly and efficiently. As a result, Preziosi Food now processes 230 kg/hour of finished product.
80
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
Consistently Flavoured
Seasoning plays an important role in a product’s overall taste, texture and appeal. Once the flavour for the new product line was decided, Preziosi Food required a flavouring system that could coat irregularshaped products consistently and with ease for optimum taste and appearance on every chip produced. In addition, application accuracy was a key consideration for the snack manufacturer. Applying an incorrect level of seasoning can have a significant impact on both input costs in terms of raw materials and wastage costs from rejected products that are either over or under seasoned. In light of these requirements, the company installed a new on-machine seasoning (OMS) system3 to apply seasoning to Preziosi Food’s range of batch-fried chips. Featuring a responsive variable mass seasoning mechanism with dynamic vibratory weigher, the OMS system3 directly controls oil spray and powder flow into the drum. This enables an accurate, proportional amount of seasoning to be evenly applied to the product for improved coverage and flavour dispersion, meeting Preziosi Food’s objectives for a high quality, evenly seasoned end product. In addition, the company was also looking for a seasoning system with the flexibility to meet its future flavour requirements. With plans to expand its range and add additional flavours to the new line, it was crucial that the system could handle the required seasoning type and perform fast flavour changeovers when required. The ability to easily clean the on-machine seasoning (OMS) system3 and perform product changeovers in the shortest amount of time not only allows Preziosi Food to adhere to food safety guidelines, but also to maintain profitability by keeping downtime to a minimum.
SMART PRODUCTION Food’s technical and operations director. “However, finding one supplier that can deliver high performance standards for such a wide range of products is no mean feat. To ensure maximum output, we needed all machines to work together seamlessly. The new equipment1 installed in our plant works in perfect synergy alongside each other and offers us the flexibility we were looking for.”
ข้อมูลเพิ่มเติม / Additional Information 1 tna’s frying, seasoning and packaging systems 2 tna’s FOODesign automated, direct-fired batch-pro® 12 3 The tna intelli-flav® OMS 5 4 The tna robag® FX 3ci Top Bagging Performance
In an effort to take efficiency to the next level, Preziosi Food was looking to replace its existing bagger with an automated packaging system that was easy to use, while also optimising throughput rates. With a relatively limited amount of space available, a key deciding factor for the manufacturer was system footprint. As a result, it was imperative for the new system to maximise the company’s processing space and resources. A new bagging solution4 was provided, which enabled the company to reach unrivalled speeds of 180 bags per minute (bpm) while offering efficiencies of up to 99 per cent of target output. For Preziosi Food, adding a new packaging system 4 to their production facilities meant doubling productivity. In addition to meeting their throughput objectives, the new system4 also enhances packaging accuracy with a rotary jaw design that uses impulse sealing technology. As a result, it helps Preziosi Food ensure high quality, consistent packaging for optimum consumer appeal, as well as reduced packaging film waste, translating into significant cost savings.
Single Supplier – Full Integration
“For a quality-focused company such as Preziosi Food, maintaining consistency throughout the line is essential.” added Vincenzo Bove, Preziosi
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
81
STRONG QC & QA Consumer Reports
ในสหรัฐอเมริกาผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตต่างมองหาสินค้าอาหารที่ดี ต่อสุขภาพในรูปแบบต่างๆ และสิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคทั้งหลายมีความกังวลก็คือเรื่อง สารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชตกค้างในผักและผลไม้ Across America, confusion reigns in the supermarket aisles about how to eat healthfully. One thing on shopper’s minds: the pesticides in fruits and vegetables.
Eat the Peach Not the Pesticide
ความกังวลเรื่องสารเคมี ก�ำจัดศัตรูพืชตกค้างในผักและผลไม้ จากรายงานโดย Consumer Reports ได้เปิดเผยข้อมูลการส�ำรวจผูบ้ ริโภค 1,050 คน พบว่าผูบ้ ริโภคชาวอเมริกนั มีความกังวลเรือ่ งสารเคมีกำ� จัดศัตรูพชื ตกค้างในผักและผลไม้ มากถึงร้อยละ 85 ซึ่งความกังวลนี้น�ำไปสู่ความสนใจในสินค้าผักและผลไม้ออร์แกนิก ซึ่งมีราคาโดยเฉลี่ยสูงกว่าผักและผลไม้ทั่วไปถึงร้อยละ 49 เลยทีเดียว ผู้เชี่ยวชาญจาก Consumer Reports ให้ความเห็นว่าผักและผลไม้ออร์แกนิกถือเป็น ตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่ง เนื่องจากสินค้าเหล่านั้นเป็นประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพ ดีต่อสิ่งแวดล้อม และผู้ที่เพาะปลูก ในขณะที่ผักและผลไม้สดทั่วไปนั้นมีความเสี่ยงของสารเคมีก�ำจัด ศัตรูพืชตกค้างที่มีปริมาณแตกต่างกันไปตั้งแต่ระดับที่น้อยมากไปจนถึงสูงมาก โดยขึ้นอยู่กับ ประเภทของผักและผลไม้ รวมถึงแหล่งเพาะปลูกในพื้นที่ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ใน สหรัฐอเมริกาพบว่า ถัว่ เขียวในปริมาณหนึง่ หน่วยบริโภคจะมีความเสีย่ งในการพบสารเคมี ตกค้างมากกว่าผักบล็อกโคลีในปริมาณที่เท่ากันถึง 200 เท่า Michael Crupain, M.D., M.P.H. ผู้อ�ำนวยการศูนย์ความปลอดภัยด้านอาหารและ การพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่ง Consumer Reports ให้ความเห็นว่าชาวอเมริกันก�ำลังเผชิญ กับสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชตกค้างในหลากหลายรูปแบบจากอาหารที่กินเข้าไปทุกวัน โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรครายงานว่ามีการตรวจพบสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชตกค้าง ในร่างกายของคนอเมริกันมากถึง 29 รายการโดยเฉลี่ย ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าแทบจะ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลีกเลี่ยงไม่กินอาหารที่มีสารตกค้างจากสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืช เพียงแค่เรายังไม่เห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายก็เท่านั้นเอง
สารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชมีทั้งที่ใช้ก่อนและหลังการเพาะปลูก
เมื่อนึกถึงการใช้สารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชในการเพาะปลูกหลายคนก็จะนึกถึงภาพเครื่องบิน ทีบ่ นิ พ่นสารเคมีอยูเ่ หนือฟาร์มผัก หรือคนก�ำลังพ่นสารเคมีบนรถบรรทุกในสวนผลไม้ หรือ ฉีดพ่นสารเคมีลงบนผลิตผลทางการเกษตรในแปลงเพาะปลูก อย่างไรก็ตาม สารเคมีกำ� จัด ศัตรูพืชส่วนมากนั้นมีการน�ำมาใช้ในรูปแบบอื่นๆ ด้วยทั้งก่อนและหลังการเพาะปลูก เช่น ในเมล็ดพันธุ์ การใส่ลงไปในดิน และในผลผลิต 82
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
ยกตัวอย่างเช่น หนึ่งในสามหรือครึ่งหนึ่งของสารตกค้างในผักและผลไม้ หลายชนิดมาจากสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชที่ไม่ได้ใช้ในแปลงเพาะปลูกหรือสวนผลไม้ แต่เป็นสารเคมีทใี่ ช้ในระหว่างการเก็บรักษา โดยเพือ่ ป้องกันแมลงรบกวน และบางชนิด เป็นประเภทที่ใช้เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาผลิตผลสดให้ยาวนานขึ้น เช่น ส้มและพีช มักจะมีสารเคมีกลุ่มป้องกันและก�ำจัดเชื้อราเพื่อยับยังการเกิดราในผลิตผลสด นอกจากนี้ยังสามารถน�ำมาใช้กับผักบางประเภทเพื่อป้องกันการเกิดรากงอก หลังการเก็บเกี่ยว ในกลุม่ เมล็ด สารเคมีกลุม่ ป้องกันและก�ำจัดเชือ้ ราอาจถูกน�ำไปใช้ในระหว่าง การเก็บรักษาเพือ่ ป้องกันการเกิดเชือ้ รา หรือน�ำมาเคลือบผิวเมล็ดในลักษณะของ ยาหรือสารเคมีเพือ่ การป้องกันโรค นอกจากนีย้ งั มีสารเคมีกำ� จัดศัตรูพชื ในรูปของ ก๊าซที่น�ำมาใช้ในลักษณะการรมควันก�ำจัดศัตรูพืช โดยฉีดพ่นไปที่ดินก่อนจะเริ่ม ท�ำการเพาะปลูกเพื่อฆ่าเชื้อบนแปลงเพาะปลูกจากสัตว์ที่อยู่ใต้ผิวดิน
แค่การล้างด้วยน�้ำ สารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชก็หมดไปแล้วใช่หรือไม่?
ผูบ้ ริโภคเกือบครึง่ หนึง่ จากการส�ำรวจเชือ่ ว่าการปอกเปลือกผักและผลไม้เป็นการก�ำจัดหรือลดปริมาณสารเคมีที่ตกค้างลงได้ ในขณะที่ร้อยละ 43 เชื่อว่าการล้าง เป็นวิธีก�ำจัดสารเคมีตกค้างที่ดีวิธีหนึ่ง อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นความเชื่อที่ไม่ผิด การล้างด้วยน�้ำจะท�ำให้สารเคมีตกค้างที่อยู่บนพื้นผิวผักและผลไม้หลุดออกไป และเป็นการชะล้างฝุ่นละอองและแบคทีเรียที่ติดมาด้วยได้อีกทาง แต่ไม่มีทางที่ จะล้างสารเคมีทตี่ กค้างให้หมดไปได้ทงั้ หมด หรือนัน่ ก็คอื ความเสีย่ งทีเ่ กิดขึน้ นัน่ เอง สารเคมีตกค้างอาจยึดติดอยู่ที่ผิวของผลไม้ หรือสารเคลือบผิวผลไม้บางชนิด อาจเคลือบทับสารเคมีทตี่ กค้างอยูน่ นั้ ไปด้วย และสารเคมีกำ� จัดศัตรูพชื ส่วนใหญ่ เป็นยาฆ่าแมลง ซึ่งจะถูกดูดซับไว้ที่ระบบรากของต้นพืชและดูดซึมเข้าสู่ผลหรือ ต้นพืช ดังนั้น สารเคมีดังกล่าวจึงไม่สามารถล้างออกได้หมด โดย USFDA ได้ ตรวจพบสารตกค้ า งจากผลิ ต ผลสดที่ ผ ่ า นการล้ า งโดยให้ น้� ำ ไหลผ่ า น และ ปอกเปลือกด้วยเช่นกัน
STRONG QC & QA
อย่างไรก็ตาม ก็ไม่จ�ำเป็นที่จะต้องสรรหาวิธีล้างที่พิเศษไปจากการล้างด้วย น�้ ำ สะอาดไหลผ่ า น นั ก วิ จั ย จากสถานี ท ดลองทางการเกษตรได้ แ สดงผล การเปรียบเทียบการล้างผักและผลไม้ในน�้ำเปล่าเป็นเวลา 1 นาที เทียบกับน�้ำยาล้าง ผักสี่ชนิดแตกต่างกัน น�้ำยาล้างจาน และน�้ำ พบว่าการใช้น�้ำเพียงอย่างเดียวก็มีผล เช่นเดียวกับการล้างด้วยน�้ำยาล้างจาน นอกจากนี้การใช้มือถู เช่น ลูกพีช หรือ การใช้แปรงช่วยถู เช่น มันฝรั่งหรือแครอทก็จะช่วยขจัดคราบสกปรกและเชื้อโรค ได้ในอีกทางหนึ่ง In fact, a recent Consumer Reports survey of 1,050 people found that pesticides are a concern for 85 percent of Americans. So, are these worries justified? And should we all be buying organics—which can cost an average of 49 percent more than standard produce? Experts at Consumer Reports believe that organic is always the best choice because it is better for your health, the environment, and the people who grow our food. The risk from pesticides on conventional produce varies from very low to very high, depending on the type of produce and on the country where it’s grown. The differences can be dramatic. For instance, eating one serving of green beans from the U.S. is 200 times riskier than eating a serving of U.S.-grown broccoli. “We’re exposed to a cocktail of chemicals from our food on a daily basis,” says Michael Crupain, M.D., M.P.H., director of Consumer Reports’ Food Safety and Sustainability Center. For instance, the Centers for Disease Control and Prevention reports that there are traces of 29 different pesticides in the average American’s body. “It’s not realistic to expect we wouldn’t have any pesticides in our bodies in this day and age, but that would be the ideal,” says Crupain. “We just don’t know enough about the health effects.”
Pesticides Used Before and After Plant Cultivation
When people think of pesticides applied to crops, they probably picture an airplane flying over a farm field, or a truck with a sprayer driving through an orchard, spraying pesticides on the crops while they are growing. But in the case of many pesticides, application is often applied to seeds, soil, and crops before and after the actual growing period. For example, on some fruits and vegetables, one-third to one-half of the residues are from pesticides that were not applied in the fields or orchards but in storage. Some pesticides applied in storage target insects, but others are used to lengthen the shelf life of the produce. For example, many types of fruit, such as oranges and peaches, are treated with a fungicide to inhibit mold. Chemicals can also be applied to vegetables after harvest to prevent sprouting. In the case of seeds, fungicides may be applied during storage to prevent molding, or the seeds may be individually coated in pesticides as a prophylactic pest treatment. Additionally, pesticides in the form of gas, known as fumigants, are often injected into the soil prior to planting to sterilize the fields from subterranean pests.
Can You Wash Away Pesticides?
About half of the people in a recent Consumer Reports survey believe that peeling fruit or vegetables removes or reduces pesticides and 43 percent think you can remove them by washing: And they’re right— sort of. Rinsing can remove the surface residues, as well as dirt and bacteria. But you can’t completely wash away the pesticides—or the risk. Pesticides can stick to soft skins, and the wax coating used on some produce can trap pesticide residues. And some pesticides are systemic, that is they are taken up by the plant’s root system and get into the fruit or vegetable flesh so they can’t be washed off. What’s more, the USDA measures pesticide residues after produce has been rinsed in cold running water and/or inedible peels and rinds are removed. Wash your produce—conventional and organic—in running water. You don’t need any special washes. Researchers at the Connecticut Agricultural Experiment Station compared rinsing fruit and vegetables in plain water for one minute with washing them with vegetable washes (four different ones) and a solution of dishwashing soap and water. Water alone was as effective as any of the washes or soap. Rubbing produce with soft skins like peaches or using a vegetable brush on harder items like potatoes or carrots will help remove residues, dirt and germs.
เอกสารอ้างอิง/Reference https://www.consumerreports.org/cro/health/natural-health/pesticides/index.htm https://article.images.consumerreports.org/prod/content/dam/cro/news_articles/ health/CR_FSASC_FromCroptoTablePesticides_Mar2015.pdf
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
83
STRONG QC & QA สหัส รัตนะโสภณชัย
ขจัดยาตกค้างหรือปนเปื้อน ในสินค้าให้หมดแบบสมบูรณ์กันเถอะ
Sahas Ratanasoponchai
Assistant Vice President: Hygiene Business Betagro Group sahas@betagro.com
วงการอุตสาหกรรมอาหารยังคงมีประเด็นอย่างต่อเนือ่ งในการร่วมกันจัดการการใช้ยาสัตว์ในปศุสตั ว์ โดยมีทั้งการประกาศห้ามใช้ การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล การหยุดยาให้เป็นไปตามข้อก�ำหนด การควบคุมการใช้ยาให้มีการออกใบสั่งสัตวแพทย์ แม้ยังมีอีกหลายช่องทางที่อาจควบคุมไม่ถึง แต่ทั้งหลายทั้งปวงเพื่อเหตุผลในการจัดการเรื่องเชื้อดื้อยาที่มีผลต่อสุขภาพมวลรวมของมนุษยชาติ ในอนาคต
การใช้ยาสัตว์ในปัจจุบันไม่มีการมุ่งเน้นเป็น Growth Promoter อีกแล้ว ทั้งมีการบังคับการจัดการอย่าง เข้มงวด แต่ก็ยังมีการพบสารตกค้างอยู่บ้าง ทั้งก่อนปล่อยสินค้าหรือถึงมือลูกค้า อะไรบ้างที่เป็นสาเหตุที่ยัง ท�ำให้เกิดประเด็นเหล่านี้ ลองหันกลับมาดูทั้งซัพพลายเชนว่ามีอะไรที่ท�ำให้ไม่เป็นอาหารปลอดภัย (Food Safety) 1. ณ โรงงานผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็นโรงงานแปรรูป โรงช�ำแหละ หรือโรงงานปรุงสุก ส�ำรวจทุกขั้นตอนกัน อีกครั้งอย่างต่อเนื่อง ว่ามีจุดใดที่อาจมียาตกค้างหรือปนเปื้อนที่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจหรือไม่ เช่น มีการใช้ สารเคมีทำ� ความสะอาดทีป่ นเปือ้ นยาหรือไม่ เป็นสิง่ ทีเ่ ราอาจนึกไม่ถงึ ก็ได้ หากมีการปนเปือ้ นเกิดขึน้ ส�ำรวจกัน หรือยังว่ามีการน�ำยาที่ใช้กับมนุษย์เข้าไปในไลน์การผลิตแบบไม่ตั้งใจของพนักงาน ที่น�ำติดตัวเข้าไปแล้วเกิด ความผิดพลาดปนเปื้อนขึ้น ในกรณีนี้มักจะเป็นยาน�้ำที่ใช้หยอดตาเพื่อบรรเทาอาการคันหรือฆ่าเชื้อ แต่ทั้งนี้ มันเป็นความผิดพลาดทั้งการน�ำยาเข้าไลน์การผลิต และการไม่ตรวจสอบการน�ำสิ่งต้องห้ามเข้าไลน์ 2. ณ โรงงานอาหารสัตว์ที่อาจมีการผสมยาสัตว์เพื่อการรักษา แต่กระบวนการท�ำความสะอาด หรือ Flushing ไม่ดีพอ ท�ำให้มียาสัตว์ตกค้างอยู่ตามท่อหรือมุมต่างๆ สุดท้ายสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น อาหารสัตว์มีการปนเปื้อนยาในหลากหลายความเข้มข้นและต่างชนิดได้ ซึ่งท�ำให้การรักษาไม่เป็นไปตาม ที่ต้องการ รวมทั้งปนเปื้อนในการให้อาหารระยะสุดท้ายได้ 3. ณ ฟาร์ม การใช้ยาในการรักษายังมีความจ�ำเป็น ดังนั้น การใช้ยาในฟาร์มแม้จะควบคุมดูแลแล้ว แต่การตกค้างหรือปนเปื้อนมีอยู่เสมอ ได้แก่ 3.1 อาหารสัตว์ที่ผสมยานั้นตกค้างตามท่อล�ำเลียงอาหาร กลายเป็นการตกค้างอย่างค่อยเป็นค่อยไป และตกค้างในเนื้อสัตว์ในที่สุด 3.2 ยาสัตว์ที่ละลายน�้ำตกค้างตามท่อที่ละลาย โดยเกิดจากการล้างท่อไม่สะอาดหลังจากต้องหยุด การใช้ยา หรือแม้แต่การใช้ยาที่เข้มข้นมากเกินไป จนยาไม่ละลายเกิดการสะสมในท่อได้ อีกทั้ง น�้ำที่ใช้ในฟาร์มที่อาจไม่เหมาะสมกับการละลาย ท�ำให้มียาตกตะกอนเกาะติดตามท่อได้ 3.3 มีการใช้สารหรือวัตถุดิบที่ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ไปว่าคืออะไรกันแน่ จากการที่มีผู้น�ำมาเสนอ เพื่อช่วยให้กระบวนการเลี้ยงดีขึ้น ทั้งที่อาจมียาปนเปื้อนในวัตถุดิบเหล่านั้น เช่น การใช้สมุนไพร บางตัวที่ไม่มีการรับรองแหล่งผลิตหรือขึ้นทะเบียน
84
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
ด้วยเหตุผลทีก่ ล่าวมาทัง้ หมด เป็นเพียงส่วนเดียว ที่ต้องก�ำกับดูแลตลอดทั้งซัพพลายเชน เพื่อขจัด ยาตกค้างหรือปนเปือ้ นให้หมดไปอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเป็นการยืนยันว่าผู้ผลิตอย่างพวกเราใส่ใจในเรื่อง ดังกล่าวอย่างมีคุณธรรม มิใช่เพียงค�ำกล่าวอ้าง โฆษณา แต่ ยั ง มี ค วามผิ ด พลาดอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง เสมอมา…เรามาช่วยกันท�ำให้เกิด Food Safety ที่มี คุณธรรมกันเถอะ…
STRONG QC & QA
Let’s Assure that Food Products are Completely Free from Any Residues and Contaminations The food industry continues to conjoin an ongoing issue in the management of veterinary drug used in livestock. Under the regulations on administration of veterinary drugs, the announcement includes prohibited, reasonable uses, discontinuation under the rules, controlled usage by veterinarian prescriptions. Although there are many factors that the controlled measures may not be covered, all of the reasons behind are to manage on the drug resistance that adversely affects the total health of humanity in the future.
3.3 Being uses of an unknown source of substance or raw material that was recommended to help improve animal husbandry process. On the other hand, those raw materials may also be contaminated, such as the use of herbs that are not certified source or registered. For all the reasons mentioned above, they are the only some parts that must be supervised throughout the supply chain to eliminate the residue or contaminate completely. It has been equally reconfirmed that we, as the producers, pay attention to such matters decently, not just ad claims. Yet, there is always a constant miscarriage ... Let's help to produce a food safety morally.
Today, it is no longer focused animal medicines as a Growth Promoter. Even though the enforcement is strictly mandated, some remaining residues are found both before releasing the product or reaching the customer. What are the causes of these issues? Let's look back on the thorough supply chain. What is unsettling Food Safety? 1. At the factory, including a processing plant, a slaughter house, or a further processing plant, they should be continuously explored possibilities in every single step. Whether there are any potential pesticide residues or contaminants that are not caused by intention. For example, is cleaning agent being used contaminated with the residue? It could be something we cannot imagine when a contamination occurs. Have you investigated whether human medicine was introduced into the production line by the employee's unintentional, and that caused contamination? In this case, it is often a water-based eye drops used to relieve itching or disinfection. However, it was a mistake to both taking the drugs into production lines and failing to inspect the forbidden before entry. 2. At animal feed mills where veterinary drugs may be mixed for animal treatment, when the cleaning process or flushing is however not good enough, that allows the drug residue remaining in the pipe or at different corners. These can be accumulated more and more. The animal feeds finally contain a wide range of substance as a co-contaminant with different concentration arising from those residues. Consequently, the options for remedial action are limited, including a contamination in final feeding products. 3. At the farm, the use of the veterinary medicine is still in need. Even though they are under controlled, the residue or contamination is always being there. For instance: 3.1 Medicated feeds are left and gradually increased in the feeding tube. Finally, they become a residue in the meat. 3.2 The remaining of water soluble drugs along the dissolved pipe is caused by the unclean pipe after stop using the drug. An excessive use of concentration drug can also be insoluble and accumulated in the tube. Besides, water used in the farm may not be suitable for dissolving, which causes sediment sitting in the tube. SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
85
STRATEGIC R&D Okuno-Auromex (Thailand) Co., Ltd. salefoods@okuno-auromex.com
ข้าวหุงสุกคือหนึ่งในบรรดาผลิตภัณฑ์ข้าวที่ได้รับความนิยมเพราะเป็นอาหาร พร้อมรับประทาน (Ready to Eat; RTE ส่วนใหญ่มีข้าวหุงสุกเป็นองค์ประกอบหลัก) ที่สามารถตอบสนองวิถีชีวิตเร่งรีบของคนในสังคมเมือง อีกทั้งจ�ำนวนร้านสะดวกซื้อ ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของคนกลุ่มนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าร้านค้าเหล่านั้นทั้ง บนชั้นวางของ ตู้เย็น หรือแช่ตู้แช่แข็งมักมีสินค้าประเภทข้าวหุงสุกพร้อมรับประทาน หลากหลายเมนูอย่างเช่น กะเพราไก่ ปลาซาบะย่างซอสเทริยากิคกู่ บั ข้าวหุงสุก เป็นต้น คุณภาพของข้าวหุงสุกจะเปลี่ยนแปลงหรือเสื่อมเสียง่ายระหว่างการเก็บรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อุณหภูมิต�่ำ การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงด้านสี เนื้อสัมผัส และ คุณสมบัติทางเคมีฟิสิกส์อื่นๆ ส�ำหรับเนื้อสัมผัสของข้าวหุงสุกนั้น ได้แก่ ความนุ่ม อันเป็นปัจจัยส�ำคัญที่มีผ ลต่อการยอมรับของผู้บริโภค เมื่อเริ่มเก็บรักษาระยะเวลา ไม่นาน เนื้อสัมผัสของข้าวหุงสุกจะเริ่มแน่นและแข็งเนื่องจากการคืนตัวของแป้งหรือ สตาร์ช (Staling or Starch retrogradation) ซึ่งปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อปรากฎการณ์ ดังกล่าวทีม่ กี ารเผยแพร่ตามการวิจยั ก่อนหน้าหลายงาน คือ พันธุข์ า้ ว ปริมาณอะมิโลส และอุณหภูมิการเก็บรักษา (ของข้าวหุงสุก) ตัวอย่างเช่น การศึกษาจ�ำนวนมากพบว่า อุณหภูมิการเก็บรักษาที่ -18°C (แช่เยือกแข็ง) ช่วยชะลอความแข็งของข้าวหุงสุกได้ ดีกว่าที่อุณหภูมิ 4°C (แช่เย็น) อย่างไรก็ตาม การควบคุมปัจจัยเหล่านี้ยังไม่สามารถ ท�ำให้ได้คุณภาพข้าวหุงสุกที่ดีที่สุดได้ และการเติมส่วนประกอบอาหารอื่นระหว่าง กระบวนการหุงข้าวยังมีความจ�ำเป็นเพื่อพัฒนาเนื้อสัมผัสที่ต้องการของผลิตภัณฑ์ การเติมสารบางประเภทในปริมาณเล็กน้อยเพือ่ ให้เกิดปฏิกริ ยิ ากับข้าวในระหว่าง การให้ความร้อนสามารถช่วยปรับปรุงเนือ้ สัมผัสข้าวหุงสุกได้ โดยทัว่ ไปน�ำ้ มันเป็นสาร ที่ถูกน�ำมาประยุกต์ใช้มาเป็นเวลานานแล้วเพื่อคงความนุ่มของข้าวหุงสุก น�้ำตาลและ น�้ำตาลแอลกอฮอล์เป็นกลุ่มถัดมา โดยทรีฮาโลสและซอร์บิทอลเป็นสารในกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสารกลุ่มดังกล่าวนี้สามารถช่วยลดการคืนตัว ของข้าวหุงสุก (ลดการคืนตัวของแป้ง) ท�ำให้อายุผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นได้ระหว่างการเก็บ รักษาที่อุณภูมิต�่ำ ถึงแม้ว่าสารกลุ่มน�้ำมันและน�้ำตาลจะสามารถช่วยคงความนุ่มและ ความเหนียวได้บ้าง แต่คุณสมบัติด้านเนื้อสัมผัสข้าวหุงสุกที่ดียิ่งขึ้นยังคงต้องการ
จากสารที่มีศักยภาพสูง ดังนั้น สารผสมระหว่างอิมัลซิฟายเออร์และน�้ำมัน ที่เรียกว่า อิมัลซิฟายออยล์ เป็นสารออกฤทธิ์ (Active ingredient) ที่ดีที่สุด ณ ปัจจุบัน องค์ประกอบหลักของเมล็ดข้าวคือสตาร์ช (ปกติปริมาณมากกว่าร้อยละ 75) ที่โดยพื้นฐานเมื่อข้าวได้รับความร้อนในสภาวะที่มีปริมาณน�ำ้ มากเกินพอก็จะสุก อย่างสมบูรณ์ (เจลาติไนเซชัน) ซึ่งการเติมสารออกฤทธิ์ปริมาณเล็กน้อยลงในน�้ำ ที่หุ้งข้าว เมล็ดข้าวจะพองตัวและดูดซับสารได้ในระหว่างกระบวนการ ดังนั้น การคืนตัวของสตาร์ชนีจ้ งึ ถูกป้องกันโดยสารออกฤทธิ์ ส่งผลให้ขา้ วอุม้ น�ำ้ ได้ดแี ละ มีเนื้อสัมผัสเป็นที่น่าพอใจ ในบรรดาอิมัลซิฟายเออร์นั้นกลีเซอรอลเอสเทอร์ของ กรดไขมัน พอลิกลีเซอรอลเอสเทอร์ของกรดไขมัน และเลซิตินเป็นสารออกฤทธิ์ ที่มีประสิทธิสูงในการคงความนุ่มและความเหนียวของข้าวหุงสุก นอกจากนี้ งานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าการใช้น�้ำมันพืชผสมและอิมัลซิฟายเออร์ให้ผลลัพธ์ที่ดี ในการปรับปรุงเนื้อสัมผัสข้าวหุงสุก โดยมีการศึกษาเผยว่าเนื้อสัมผัสของข้าวหุงสุก ที่ มี ก ารเติ ม อิ มั ล ซิ ฟ ายออยล์ มี ค ่ า การยอมรั บ ทางประสาทสั ม ผั ส ที่ สู ง กว่ า ตัวอย่างที่ไม่ได้เติมสาร และตัวอย่างอย่างที่เติมน�้ำตาล จึงกล่าวโดยสรุปได้ว่า อิมลั ซิฟายออยล์นเี้ ป็นสารทีม่ คี วามจ�ำเป็นต่อการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ขา้ วหุงสุกให้ มีเนื้อสัมผัสที่ดีเยี่ยมตลอดระยะเวลาการเก็บรักษา
ข้าวเป็นอาหารหลักของชาวเอเชียและมีแนวโน้มค่อยๆ ขยายตัวไปยัง ภู มิ ภ าคอื่ น ด้ ว ย ปั จ จุ บั น หลายประเทศในเอเชี ย รวมทั้ ง ไทยคาดหวั ง ที่เปลี่ยนจากการผลิตข้าวเพียงเพื่อบริโภคภายในประเทศมาเป็นผู้ผลิต เพื่อส่งออกในทศวรรษถัดไป ซึ่งสถานการณ์การแข่งขันนี้ท�ำให้ปริมาณ และมูลค่าของข้าวลดต�่ำลงเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากจะดึงราคาข้าวให้เพิ่ม สูงขึ้น ภาคอุตสาหกรรมจ�ำเป็นต้องน�ำข้าวมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ หลายประเภทอันจะท�ำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามเท่า
สารออกฤทธิ์ปรับปรุงคุณภาพเนื้อสัมผัสข้าวหุงสุก 86
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
STRATEGIC R&D
Active Ingredients for Improving Texture Qualities of Cooked Rice Rice is staple food for Asian people, and now gradually expand to other regions. Recently, many Asian countries, including Thailand, expect to move away from self-sufficiency and become rice exporter over the next decades. This situation of competition extremely brings down export quantity and value of rice. To increase value per unit, industries must process rice in various types, and price of the treated product will go up ≥ 3 times. Most popular one of rice product is cooked rice because ready to eat food (RTE: mainly compose with cooked rice) can serve busy lifestyle of city people, and higher numbers of convenience store have responded consume demand of them. In the store shelf, refrigerator or freezer, it is easy to find cooked rice with many RTE recipes, for instance holy basil chicken and grilled teriyaki saba with cooked rice. Qualities of cooked rice easily change or deteriorate during storage, particularly at low temperature. These changing qualities which include color, and texture, and other physicochemical properties. Texture of fresh cooked rice, such as softness, is important factor on consumer acceptance. Texture of cooked rice is starting tough and rigid after short storage period because of staling or starch retrogradation. Main factors influence on these phenomena are cultivar, amylose content, and storage temperature (of cooked rice) which have been revealed by previous researches. For example, many studies found storage temperature -18°C (freeze) was greater than 4°C (chill) to retard hardness of cooked rice. However, controlling these parameters cannot give best quality of cooked rice, and adding food ingredients in cooking step is necessary to develop designable texture of product. To improve quality texture of cooked rice, addition of some minor ingredients is applied and interacted during heating. Oil application is commonly used to keep softness of cooked rice for longtime. Sugar and sugar alcohol are later groups which trehalose and sorbitol are well-known. Both ingredients influence to reduce staling process of cooked rice product at low temperature storage, resulting in shelf life extension. Even if oil and sugar components can maintain soft and sticky properties, better texture of cooked rice requires more potential ingredients. Combinations of emulsifier and oil, called emulsified oil, are greatest active ingredients nowadays.
เอกสารอ้างอิง/References กฤษณพงศ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล. แนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวไทย. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. www.cpd.go.th. 2557. Hibi Y, Kitamura S., Kuge T. Effect of lipids on retrogradation of cooked rice. Cereal Chemistry. 1990; 67(1): 7-10. Kuzutani N. The effect of anti-aging of rice by “top bloomy” – emulsified oil for rice –. Top Food Techno Focus. 2010; 14: 10-15. Maeda T, Matsuura N, Utsunomiya T, Sitsujiand T, Morita N. Effects of repeated freezing and thawing treatments on retrogradation of starch in rice. 55th Australian Cereal Chemistry Conference and Pacific Rim Symposium. 2005.Yu SF, Ma Y, Tian D, Sun DW. Combined effects of freezing and storage conditions on the staling of cooked rice. CIGR XVIIth World Congress. 2010. Kladsuk S, Sirisomboon P.th Determination of hardness characteristic of cooked rice samples in rice industry. The 14 TSAE National Conference and the 6th TSAE International Conference: TSAE. 2013. Zhout Z, Robardst K, Helliwellt S, Blanchard C. Ageing of storage rice: changes in chemical and physical attributes. Journal of Cereal Science. 2001; 33: 1-10.
Main composition of rice granule is starch (normal content > 75%) which is basically heated in excess water and completely cooked (gelatinization). Adding small amount of active ingredients, the swollen granule will absorb the dispersed agents (active ingredients with water) during gelatinization. Thus, staling of cooked rice has been prevented by the ingredients, causing good water holding capacity and pleasant texture. Among of emulsifiers, glycerol ester of fatty acid, polyglycerol ester of fatty acid, lecithin are effective active ingredients for maintain softness and stickiness of cooked rice. Moreover, scientific researches indicated that uses of mixed vegetable oil and the emulsifiers effectively improve texture qualities of cooked rice. The studies revealed that texture of cooked rice with emulsified oil addition significantly showed higher value of sensory acceptance than no additive (control sample) and sugar treatments. Consequently, cooked rice products need special formula of emulsified oil mixture for achieving perfect texture along storage time.
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
87
STRATEGIC R & D
บริษัท ชัยพัฒนาโซลูชั่น จ�ำกัด
Chaipattana Solution Co., Ltd. sales@chaipattana-solution.com
Prunes from California
อาหารว่างมื้อส�ำคัญ อุดมด้วยวิตามิน และสารอาหาร ข้อมูลจากงานวิจัยได้รายงานถึงคุณสมบัติของพลัมแห้ง หรือที่รู้จักกัน ในชื่อของพรุน และผลิตภัณฑ์จากพรุนมากมายว่ามีส่วนประกอบของ สารออกฤทธิ์ ท างชี ว ภาพที่ มี ป ระโยชน์ ต ่ อ สุ ข ภาพเมื่ อ น� ำ มาบริ โ ภค ในลูกพรุนมีปริมาณของซอร์บิทอล กรดควินิก กรดคลอโรเจนิก วิตามินเค 1 โบรอน ทองแดง และโพแทสเซียมในปริมาณที่สูง สารประกอบ ที่มีอยู่ในพรุนเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเมื่อบริโภคเป็นประจ�ำ ดังนั้น การรับประทานพรุนเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ จะช่วยให้รู้สึกอิ่ม และลดการรั บ ประทานอาหารมื้ อ หลั ก ได้ ดี ซึ่ ง เป็ น ประโยชน์ ต ่ อ การ ควบคุมและลดความเสีย่ งต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และเกีย่ วพัน กับโรคหลอดเลือดหัวใจ
แม้พรุนจะมีรสหวานแต่ก็ไม่ส่งผลให้ระดับน�้ำตาลในเลือดและอินซูลินในร่างกาย เพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด อีกทั้งยังส่งผลดีโดยตรงต่อระบบทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็น การป้ อ งกั น อาการท้ อ งผู ก และมะเร็ ง ล� ำ ไส้ ใ หญ่ โดยสารประกอบฟี น อลและสาร เมตาบอไลต์ต่างๆ ที่อยู่ในพรุนมีส่วนในการเป็นสารยับยั้งเชื้อแบคทีเรียในทางเดินอาหาร และทางเดินปัสสาวะได้ นอกจากนี้ยังพบว่าพรุนมีส่วนช่วยในเรื่องกระดูกพรุน โดยมีการ ศึกษาทั้งในห้องปฎิบัติการและในเซลล์เพาะเลี้ยง Dried Plum for Digestive Health
พรุนเป็นแหล่งของแอนตี้ออกซิแดนท์ พอลิฟีนอล และใยอาหาร ซึ่งมีการตั้งสมมติฐานว่า พรุนอาจมีคุณสมบัติในการเป็นพรีไบโอติก (Prebiotic) เพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม ส่งเสริม สุขภาพของล�ำไส้ และลดความรุนแรงของโรคล�ำไส้อักเสบเฉียบพลันได้ 88
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
Composition of dried plums and their products has been described by a research paper with special attention to possibly bioactive compounds. Dried plums contain significant amounts of sorbitol, quinic acid, chlorogenic acids, vitamin K1, boron, copper, and potassium. Synergistic action of these and other compounds, which are also present in dried plums in less conspicuous amounts, may have beneficial health effects when dried plums are regularly consumed. Snacking on dried plums may increase satiety and reduce the subsequent intake of food, helping to control obesity, diabetes, and related cardiovascular diseases. The Effect of Prunes on Stool Output, Whole Gut Transit Time and Gastrointestinal Symptoms: a Randomized Controlled Trial
เป็นที่ทราบกันว่า พรุนช่วยในการท�ำงานของล�ำไส้ให้มีประสิทธิภาพ และมี งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าพรุนช่วยปรับให้มีการขับถ่ายถี่ขึ้น และท้องผูกน้อยลง การที่ พ รุ น มี เ ส้ น ใยสู ง และมี ส ่ ว นประกอบของซอร์ บิ ท อลอาจจะช่ ว ยให้ เ กิ ด การระบายที่ดีขึ้น ผู้ท่ีสุขภาพดี พรุนจะช่วยเพิ่มน�้ำหนักของอุจจาระและการเคลื่อนที่ของล�ำไส้ แต่จะไม่ลดเวลาในการถ่ายเทของเสียในล�ำไส้ น�้ำหนักของอุจจาระเกี่ยวเนื่อง ผกผันกับความเสี่ยงมะเร็งล�ำไส้ใหญ่ การค้นพบนี้สนับสนุนว่าพรุนมีประโยชน์ ต่อสุขภาพ ช่วยให้การท�ำงานของระบบล�ำไส้ท�ำงานเป็นปรกติ
STRATEGIC R & D Good Snack Selection…A Better Way for A Better Health
จากการศึกษา ได้ระบุว่า “การบริโภคขนมขบเคี้ยวในสตรีมีอิทธิพล ต่อการบริโภคของผูห้ ญิงในเรือ่ งเกีย่ วกับปริมาณไตรกลีเซอร์ไรด์ และ การท�ำงานของล�ำไส้” ทัง้ นี้ การรับประทานอาหารว่างอย่างเหมาะสม นั้นจะสามารถช่วยในเรื่องการควบคุมน�้ำหนัก และท�ำให้มีสุขภาพ ดีขึ้น นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่เหมาะสมในระหว่างมื้อ อาหารนั้นก็เป็นสิ่งที่ส�ำคัญเช่นกัน ซึ่งพบว่าการบริโภคคุกกี้ที่มีไขมันต�่ำ และมี พ รุ น เป็ น ส่ ว นประกอบจะช่ ว ยส่ ง เสริ ม การตอบสนองต่ อ ไตรกลีเซอไรด์ในพลาสมาที่ดีขึ้น การได้รับคุณภาพจากอาหารดีขึ้น และการท�ำงานของล�ำไส้ที่ดีขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่กล่าวว่า การบริโภคอาหารว่างที่มี คาร์โบไฮเดรตสูงนั้นมีผลต่อกลูโคสในพลาสมา อินซูลิน และกรีลิน (Ghrelin) ในผู้ใหญ่ที่มีน�้ำหนักเกิน จากการศึกษาประสิทธิภาพของ พรุ น กั บ มั ฟ ฟิ น ไขมั น ต�่ ำ ต่ อ การตอบสนองความอิ่ ม และอิ น ซู ลิ น ก่อนและหลังการบริโภคของทานเล่นทัง้ สองแบบ พบว่าผลลัพธ์คอ่ นข้าง จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับแนวคิด การบริโภคอาหารว่าง เช่น พรุน สามารถช่วยเพิม่ ความไวของอินซูลนิ ได้ดกี ว่า เมือ่ เทียบกับการบริโภค อาหารว่างจ�ำพวก Isocaloric (อาหารที่มีจ�ำนวนแคลอรี่เท่ากัน) Satiety...Enhanced
การบริโภคผลไม้แห้งช่วยให้อมิ่ ในระหว่างการลดน�ำ้ หนัก โดยจากการ ศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง (i) ผลของการบริโภคพรุนระหว่างที่มีการ ควบคุมน�้ำหนัก (ii) การบริโภคอาหารที่มีเส้นใยอาหารน้อยนั้นจะ รู้สึกอย่างไรเมื่อต้องบริโภคพรุนร่วมในมื้ออาหารเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ และ (iii) พรุนจะสามารถท�ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ ดีต่อความอยากอาหารอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งผลการศึกษาพบว่า การบริโภคพรุนส�ำหรับผู้ที่ควบคุมน�้ำหนักนั้นไม่ก่อให้เกิดผลเสีย แต่อย่างใด อีกทั้งยังชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ในระยะยาวด้วย ซึ่งผลการ ทดลองครัง้ นีน้ า่ จะมีความสัมพันธ์กบั เรือ่ งของความอยากอาหารด้วย Bone Healthier
จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเซลล์กระดูก Osteocytes สามารถ ควบคุมการสร้างกระดูกได้ผ่านการสร้าง Sclerostin และควบคุม การสลายตัวของกระดูกได้ ผ่านการตรวจสอบกลไกการท�ำงานของ พรุนที่มีผลต่อการลดการสูญเสียกระดูก โดยการศึกษาได้ท�ำการวัด ระดับซีรัม ของ NF-kB ligand (RANKL), Osteoprotegerin (OPG) และ Sclerostin ในสตรีวัยหมดประจ�ำเดือนที่เป็นโรคกระดูกพรุน จ�ำนวน 160 ราย พบว่าการบริโภคพรุนส่งผลเชิงบวกต่อกระดูก ซึง่ ส่วนหนึง่ นัน้ สืบเนือ่ งมาจากการยับยัง้ การผลิต RANKL การส่งเสริม OPG และการยับยั้ง Sclerostin นอกจากนีย้ งั มีการศึกษาทีเ่ ปรียบเทียบระหว่างพรุนและแอปเปิล้ แห้งที่มีผลต่อกระดูกในสตรีวัยหมดประจ�ำเดือน พบว่านอกจาก การรักษาด้วยยาแผนปัจจุบนั แล้ว การใช้ชวี ติ และปัจจัยด้านโภชนาการ บางประการสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนได้ โดยพบว่า พรุนเป็นหนึง่ ในปัจจัยทางโภชนาการ นับว่าเป็นผลไม้ทมี่ ปี ระสิทธิภาพ มากทีส่ ดุ ในการป้องกันและการลดการสูญเสียมวลกระดูก การศึกษา เรื่องนี้ยืนยันเรื่องการบริโภคพรุนว่าสามารถเพิ่มความหนาแน่น ของมวลกระดูก (Bone Mineral Density; BMD) ในสตรีวัยหมด ประจ�ำเดือนได้
Despite their sweet taste, dried plums do not cause large postprandial rise in blood glucose and insulin. Direct effects in the gastrointestinal tract include prevention of constipation and possibly colon cancer. The characteristic phenolic compounds and their metabolites may also act as antibacterial agents in both gastrointestinal and urinary tracts. The indirect salutary effects on bone turnover are supported by numerous laboratory studies with animals and cell cultures
Dried Plum for Digestive Health
Dried plums are a source of antioxidants, polyphenolics and dietary fibre, which we hypothesize could have a prebiotic effect, improve metabolism and bowel health, and mitigate effects of acute gastroenteritis.
The Effect of Prunes on Stool Output, Whole Gut Transit Time and Gastrointestinal Symptoms: a Randomized Controlled Trial
Prunes (dried plums) are perceived to help maintain healthy bowel function and preliminary research suggests they improve stool frequency and consistency in mild constipation. The high fibre and sorbitol content may aid in laxation. In healthy individuals, prunes seem well tolerated and significantly increase stool weight and bowel movements, but do not decrease whole gut transit time. Stool weight is inversely related to colon cancer risk. These finding support the existing health claim for prunes in the maintenance of normal bowel function.
Good Snack Selection…A Better Way for A Better Health
One of pilot studies has indicated that “snack influences nutrient intake, triglycerides, and bowel habits of adult women”. Because appropriate snacking can promote a healthy body weight and serve as an important contributor to a healthy diet for women, identification of suitable foods for incorporation between meals is essential. The results suggest that relative to a commercially processed low-fat cookie snack, dried plums promote more favourable plasma triglyceride response, improved dietary quality, and slightly improved bowel function. Carbohydrate-rich snacks influence plasma glucose, insulin and ghrelin responses in overweight adults. The effects of a whole food (dried plums; DP) or refined (low-fat muffins; LFM) snack on satiety and insulin responses following consumption were assessed before and after a snack intervention trial. The results support the concept that consuming a whole food snack such as dried plums enhances insulin sensitivity as compared to an isocaloric refined snack food,
Satiety...Enhanced
Consumption of dried fruit has been advised against during weight loss despite evidence it enhances satiety. This study examined whether (i) incorporating prunes into a weight loss intervention undermined weight control; (ii) low fibre consumers could tolerate the inclusion of prunes in their diet for a 12-week period, and (iii) prunes induced chronic beneficial changes in appetite. This study clearly demonstrates no negative consequences of including prunes into weight control diets with some indication of benefit to long-term success. This may relate to chronic appetite effects.
Bone Healthier
Recent research has shown that osteocytes may control bone formation via the production of sclerostin and bone resorption. To investigate the mechanism of action of dried plum in reversing bone loss, we measured serum levels of RANKL, OPG and sclerostin in osteopenic postmenopausal women (n 160). These preliminary data may indicate that the positive effects of dried plum on bone are in part due to the suppression of RANKL production, the promotion of OPG and the inhibition of sclerostin. Another study is also shown comparative effects of dried plum and dried apple on bone in 2 postmenopausal women. Aside from existing drug therapies, certain lifestyle and nutritional factors are known to reduce the risk of osteoporosis. Among the nutritional factors, dried plum or prunes (Prunus domestica L.) is the most effective fruit in both preventing and reversing bone loss. The findings of the present study confirmed the ability of dried plum in improving BMD in postmenopausal women in part due to suppressing the rate of bone turnover.
For the list of references, please directly contact the author.
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
89
SCOOP ศูนย์วิจัยกสิกรไทย Kasikorn Research Center www.kasikornresearch.com
เกาะกระแสซูเปอร์ฟู้ด โอกาสของมะพร้าวไทยในตลาดโลก
กระแสดูแลสุขภาพที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรและอาหารบางประเภทได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ในประเทศพัฒนาแล้วยังได้มีการจัดหมวดหมู่อาหารประเภทต่างๆ ที่มีความเชื่อว่าเป็นอาหารที่มีผลดีต่อสุขภาพ โดยเรียกอาหารจ�ำพวกนี้ว่า “ซูเปอร์ฟู้ด (Superfood)”
ถึงแม้จะมีนักวิชาการจ�ำนวนหนึ่งได้ออกมาวิจารณ์ว่า อาหารที่ถูกจัดให้เป็น ซูเปอร์ฟู้ดเป็นเพียงการกล่าวอ้างทางการตลาดเท่านั้น มิได้ผ่านการจัดหมวดหมู่ ทางวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ดี อาหารในกลุม่ นีใ้ นประเทศพัฒนาแล้วได้รบั ความนิยมตามกระแสการรักษาสุขภาพ ซึง่ ก่อให้เกิดความต้องการเพิม่ ขึน้ จ�ำนวนมาก จากงานวิจัยของ Mintel ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยทางผลิตภัณฑ์และการตลาด พบว่า ในช่วงปี 2554-2558 มีการออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มชนิดใหม่ที่ใช้ค�ำที่ เกีย่ วข้องกับซูเปอร์ฟดู้ ขยายตัวถึงร้อยละ 202 โดยผลิตภัณฑ์เหล่านีม้ กั มีสว่ นผสมของ วัตถุดิบที่เชื่อว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ด เช่น คีนัว (Quinoa) เมล็ดเชีย (Chia seeds) รวมทั้ง มะพร้าว เฉพาะในปี 2558 การออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครือ่ งดืม่ ชนิดใหม่ทเี่ กีย่ วข้อง กับซูเปอร์ฟดู้ นัน้ ขยายตัวถึงร้อยละ 36 ซึง่ ส่วนใหญ่เป็นการขยายตัวในประเทศพัฒนา แล้ว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ และแคนาดา เป็นต้น
มะพร้าว…หนึ่งในซูเปอร์ฟู้ด
มะพร้าวเป็นหนึง่ ในพืชเศรษฐกิจของไทย และยังถูกจัดว่าเป็นหนึง่ ในซูเปอร์ฟดู้ มะพร้าว และผลิตภัณฑ์ทเี่ กีย่ วข้องกับมะพร้าวทัง้ ทางตรง เช่น มะพร้าวทัง้ ลูก น�ำ้ มะพร้าว น�ำ้ มันมะพร้าว และใช้มะพร้าวเป็นวัตถุดิบ เช่น กะทิ เครื่องส�ำอาง ได้รับอานิสงส์โดยได้รับ ความนิยมในตลาดโลก นอกจากนี้ การขยายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับมะพร้าวเข้าสู่ ตลาดในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น เครื่องดื่มรสต่างๆ ผสมน�้ำมะพร้าว เครื่องส�ำอางที่มี ส่ ว นผสมของน�้ ำ มั น มะพร้ า ว เป็ น ต้ น ก็ ไ ด้ ส ่ ง ผลให้ ค วามต้ อ งการมะพร้ า วและ ผลิตภัณฑ์มะพร้าวในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน
ที่แปรรูปจากมะพร้าวก็มีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงเช่นเดียวกัน โดยมีมูลค่า ตลาดโลกอยู่ที่ 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากปีก่อนหน้าร้อยละ 14.8 แม้ว่าความต้องการมะพร้าวที่เกิดขึ้นในโลกจะสูงขึ้นตามกระแสของการรัก สุขภาพ แต่การปลูกมะพร้าวในโลกกลับมีปริมาณลดลงเป็นล�ำดับ โดยพื้นที่ปลูก มะพร้าวทั่วโลกในช่วงปี 2553-2557 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 75.9 ล้านไร่ และมีผลผลิต เฉลี่ยอยู่ที่ 68.8 พันล้านลูกต่อปี หรือเท่ากับมีผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่ 906 ลูก อย่างไรก็ตาม พื้นที่เพาะปลูกและปริมาณผลผลิตมีแนวโน้มลดต�่ำลง และล่าสุด ในปี 2560 ประเทศผูผ้ ลิตมะพร้าวหลักของโลกอย่างฟิลปิ ปินส์กป็ ระสบกับปัญหา ทางสภาพอากาศ ท�ำให้ผลผลิตมะพร้าวลดต�่ำลง ในส่วนของอินโดนีเซีย จังหวัด สุลาเวสี ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกมะพร้าวที่ส�ำคัญก็ได้ประสบกับปัญหาผลผลิตต่อไร่ที่ ลดต�่ำลง เนื่องจากอายุของต้นมะพร้าวได้ผ่านจุดสูงสุดและเริ่มให้ผลผลิตที่ต�่ำลง นอกจากนั้น ผลผลิตมะพร้าวในประเทศอินเดียก็ต้องพบกับปัญหาศัตรูพืช ดังนั้น ในปี 2560 ผลผลิตมะพร้าวในโลกจึงมีแนวโน้มที่จะลดลง
ความต้องการมะพร้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้น…แต่ผลผลิตไม่ทันกับ ความต้องการ การบริโภคผลิตภัณฑ์มะพร้าวในตลาดโลกได้เพิม่ ขึน้ อย่างมาก ในปี 2559 มีการบริโภค น�้ำมะพร้าวถึง 160 ล้านแกลลอน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.06 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 19.5 นอกจากนี้ กะทิซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ 90
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
ที่มา: The Asian and Pacific Coconut Community
SCOOP
ผลิตภัณฑ์มะพร้าวของไทย
มะพร้าวเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจของไทย ในปี 2558 มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 1.2 ล้านไร่ และมีผลผลิตประมาณ 1 ล้านตัน ผลผลิตส่วนหนึง่ จะใช้บริโภคภายใน ประเทศโดยเป็นวัตถุดิบส�ำหรับโรงงานกะทิ และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นการส่งออก โดยสัดส่วนการบริโภคในประเทศกับอุตสาหกรรมและการส่งออกเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 60:40 พืน้ ทีเ่ พาะปลูกมะพร้าวทีส่ ำ� คัญของไทยส่วนใหญ่จะอยูใ่ นภาคใต้ โดยจังหวัด ที่มีผลผลิตมะพร้าวมากที่สุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อย่างไรก็ตาม จากกระแสความนิยมในสินค้ามะพร้าว ส่งผลให้ความต้องการวัตถุดบิ มะพร้าวไปผลิตเพื่อการส่งออกยังคงไม่เพียงพอ ภาครัฐจึงได้อนุญาตให้มีการน�ำเข้า มะพร้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน มะพร้าวถูกจัดอยู่ในหมวดสินค้าควบคุม ยังไม่สามารถน�ำเข้าได้อย่างเสรี ผลิตภัณฑ์มะพร้าวมีการแบ่งหมวดหมู่ออกเป็นสินค้าจ�ำนวนมาก ทั้งมะพร้าวสด มะพร้าวแปรรูปขั้นต้น เช่น กะทิ น�้ำมันมะพร้าว เป็นต้น โดยกะทิถือเป็นสินค้า ส่งออกทีส่ ำ� คัญของไทย มีสดั ส่วนกว่าร้อยละ 75 ของสัดส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์ มะพร้าวทั้งหมด โดยตลาดส่งออกส�ำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และ ออสเตรเลีย การส่งออกกะทิมีแนวโน้มที่เพิ่มขึน้ ตามกระแสความนิยมอาหารไทย จ�ำนวนร้านอาหารไทยที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศ รวมทั้งกระแสการดูแลสุขภาพ โดยในปี 2559 ไทยส่งออกกะทิทั้งสิ้น 10.9 พันล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 12.6 และมีการขยายตัวเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 16.7 นอกจากนัน้ ผลิตภัณฑ์มะพร้าวประเภทอืน่ ๆ ก็มแี นวโน้มขยายตัวในอัตราสูง เช่นเดียวกันจากกระแสการรักสุขภาพและซูเปอร์ฟดู้ ทีเ่ กิดขึน้ ในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น น�้ำมันมะพร้าว ที่งานวิจัยจ�ำนวนมากยืนยันว่าน�้ำมันมะพร้าวมีส่วนผสม
มูลค่าการส่งออกกะทิและผลิตภัณฑ์มะพร้าว (ไม่รวมน�้ำมะพร้าว) กะทิส�ำเร็จรูป (พันล้านบาท) ผลิตภัณฑ์มะพร้าว (พันล้านบาท)
ที่มา: กระทรวงพาณิชย์
ของกรดลอริก (Lauric acid) ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งการบริโภคผ่าน การรับประทาน หรือการน�ำมาเป็นส่วนประกอบของเครือ่ งส�ำอาง และน�ำ้ มะพร้าว ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ส่วนหนึง่ จากกระแสการรักสุขภาพ และรสชาติของ มะพร้าวน�้ำหอมไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในประเทศจีน รวมถึงผลจากงานวิจัยที่ระบุถึง องค์ประกอบที่เป็นประโยชน์ของน�้ำมะพร้าว ท�ำให้นักกีฬาจ�ำนวนมากหันมาดื่ม
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
91
SCOOP จากความต้องการกะทิทเี่ พิม่ สูงขึน้ จากความนิยมในอาหารไทย รวมทัง้ การขยายตัว ของจ�ำนวนร้านอาหารไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วอย่าง สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ทีต่ อ้ งใช้กะทิเป็นส่วนประกอบ ท�ำให้ศนู ย์วจิ ยั กสิกรไทย มองว่า แนวโน้มความต้องการกะทิจะยังขยายตัวต่อไปในระยะข้างหน้า โดยคาดว่า ในปี 2560 การส่งออกกะทิจะขยายตัวที่ร้อยละ 16.5 คิดเป็นมูลค่า 12.7 พันล้านบาท โดยมีตลาดหลักในสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา อีกทั้งกระแสความนิยมใน ผลิตภัณฑ์มะพร้าวประเภทอื่นๆ ท�ำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์มะพร้าวมีแนวโน้มจะ ขยายตัวต่อไปในระยะข้างหน้าเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์มะพร้าว ในปี 2560 จะขยายตัวที่ร้อยละ 18.5 คิดเป็นมูลค่า 16.4 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม การส่งออกผลิตภัณฑ์มะพร้าวของไทยยังคงมีสัดส่วนที่ไม่สูงนักเมื่อเปรียบเทียบกับ ผู้น�ำการค้ามะพร้าวโลกอย่างอินโดนีเซียหรือฟิลิปปินส์
ต้นน�้ำถึงปลายน�้ำ: อุตสาหกรรมมะพร้าว
ผู้น�ำการส่งออกมะพร้าวหลักของโลก ซึ่งได้แก่ อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ต่างมี ความพร้อมในการส่งออกผลิตภัณฑ์มะพร้าวมากกว่าไทยซึง่ มีผลผลิตทีต่ ำ�่ กว่า รวมทัง้ ค่าจ้างแรงงานที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับผู้น�ำการส่งออกมะพร้าวหลักของโลก อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มะพร้าวของไทยมีจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ท�ำให้มะพร้าว ไทยได้รบั ความสนใจในตลาด ทัง้ ผลิตภัณฑ์แปรรูปมะพร้าวของไทยทีไ่ ด้รบั การยอมรับ ว่ามีคุณภาพที่ดีกว่าคู่แข่ง รวมทั้งมะพร้าวน�้ำหอมที่มีรสชาติและกลิ่นหอมอันเป็น เอกลักษณ์ เนื่องจากเป็นมะพร้าวพันธุ์พิเศษที่สามารถปลูกได้เฉพาะในประเทศไทย และมีจำ� นวนมากในแถบจังหวัดภาคกลางเท่านัน้ จากจุดเด่นดังกล่าว ศูนย์วจิ ยั กสิกรไทย มองว่า ไทยมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์มะพร้าวของไทยให้เป็นทั้งเกษตร และอุตสาหกรรมชั้นน�ำ ซึ่งแนวทางการพัฒนาสามารถท�ำได้ทั้งซัพพลายเชน ตั้งแต่ ต้นน�้ำถึงปลายน�้ำ ดังนี้
Need to know แนวโน้มความต้องการกะทิและผลิตภัณฑ์มะพร้าวของไทยจะยัง ขยายตัวต่อไปในระยะข้างหน้า โดยคาดว่าในปี 2560 การส่งออก ผลิตภัณฑ์มะพร้าวจะขยายตัวที่ร้อยละ 18.5 คิดเป็นมูลค่า 16.4 พันล้านบาท และการส่งออกกะทิจะขยายตัวทีร่ อ้ ยละ 16.5 คิดเป็นมูลค่า 12.7 พันล้านบาท
ต้นน�้ำ: เกษตรกรผู้ปลูก
ปั ญ หาการขาดแคลนวั ต ถุ ดิ บ จากพื้ น ที่ แ ละ ผลผลิตทีล่ ดลงของมะพร้าวได้สวนทางกับความต้องการมะพร้าวในตลาดโลกและความต้องการ น�ำมาเป็นวัตถุดบิ ในประเทศ ท�ำให้ผปู้ ระกอบการ จ�ำเป็นต้องน�ำเข้ามะพร้าวแกงที่เป็นวัตถุดิบในการคั้นกะทิจากประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งมะพร้าวน�้ำหอมที่เป็นพันธุ์พิเศษและสามารถปลูกได้ในไทยเท่านั้นยังเป็นที่ ต้องการในต่างประเทศเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในประเทศจีน ดังนั้น คาดว่าราคา มะพร้าวทัง้ สองชนิดจะมีแนวโน้มราคาทีด่ ตี อ่ เนือ่ ง จึงเป็นโอกาสอันดีของเกษตรกรซึง่ ปลูกพืชชนิดอื่นอยู่ที่จะปรับเปลี่ยนมาปลูกมะพร้าว และยังสอดคล้องกับแผนปฏิบัติ การพัฒนาการผลิตมะพร้าวและถั่วเหลืองแบบครบวงจรของภาครัฐที่คาดว่าจะมี นโยบายที่ช่วยเหลือให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนจากพืชชนิดอื่นมาปลูกมะพร้าวได้อย่าง สะดวกมากขึ้น 92
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
อย่างไรก็ดี การปรับเปลีย่ นจากพืชชนิดอืน่ มาปลูกมะพร้าวจ�ำเป็นต้องใช้เวลา ในการออกผลผลิตทั้งพันธุ์ต้นเตี้ยที่จะให้ผลผลิตภายใน 3-4 ปี และพันธุ์ต้นสูง ทีจ่ ะให้ผลผลิตภายใน 5-6 ปี ซึง่ อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรทีจ่ ะปรับเปลีย่ นจาก พืชชนิดอืน่ ได้ รวมถึงมะพร้าวแกงทีแ่ ม้จะสามารถปลูกได้ทกุ ภาคของประเทศไทย แต่จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินเป็นกลาง ลักษณะดินร่วนปนทราย และมีฝน กระจายสม�่ำเสมอตลอดปี ในขณะที่มะพร้าวน�้ำหอมจะเหมาะสมกับพื้นที่ที่มีน�้ำ ค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในภาคกลาง อีกทั้งการปลูกมะพร้าวของไทย ในปัจจุบันยังคงมีผลผลิตที่ต�่ำจากปัญหาด้านศัตรูพืชและวิธีการปลูกมะพร้าว ซึ่งยังต้องพัฒนาองค์ความรู้ของเกษตรกรเพื่อขจัดปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบ ต่อผลผลิตของมะพร้าว
กลางน�้ำ: ผู้ค้า และ SMEs
จากราคาสินค้าเกษตรหลักต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นราคาข้าวหรือมันส�ำปะหลังในช่วงที่ ผ่านมาและแนวโน้มในระยะข้างหน้า ซึ่งคาดว่าผู้ค้าพืชไร่ในสินค้าเกษตรหลักจะ ต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ผู้ค้าอาจพิจารณาค้ามะพร้าวที่มี แนวโน้มราคาทีด่ ใี นระยะข้างหน้า โดยการป้อนให้กบั ทัง้ SMEs และอุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ที่ในปัจจุบันประสบกับปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ อย่างไรก็ดี ความนิยมของมะพร้าวน�ำ้ หอมกลับท�ำให้มพี อ่ ค้าชาวจีนเข้ามาตัง้ โรงคัดบรรจุผลไม้ หรือที่เรียกกันว่า “ล้ง” มากขึ้น เพื่อรับซื้อมะพร้าวน�้ำหอมถึงในสวนและส่งออก ไปประเทศจีน การเกิดขึ้นของล้งอาจท�ำให้เกิดการผูกขาดการซื้อขาย และส่ง ผลกระทบต่อราคาของมะพร้าวน�้ำหอมของไทย
SCOOP
มะพร้าวเป็นหนึง่ ในพืชเศรษฐกิจและถูกจัดว่าเป็น หนึ่งในซูเปอร์ฟู้ด ส่งผลให้ความต้องการมะพร้าว และผลิตภัณฑ์ทเี่ กีย่ วข้องกับมะพร้าวในตลาดโลก สูงขึน้ อย่างมาก แต่กลับไม่สอดคล้องกับการปลูก มะพร้าวทีม่ ปี ริมาณลดลงเป็นล�ำดับทัว่ โลก อีกทัง้ ในปี 2560 ประเทศผู้ผลิตมะพร้าวหลักของโลก ต่างประสบปัญหาทางด้านผลผลิตที่ลดลง
อาหาร และขนม หรือเครือ่ งส�ำอางทัง้ การบ�ำรุงผิวพรรณและเส้นผมทีม่ สี ว่ นประกอบของมะพร้าวหรือน�ำ้ มัน มะพร้าว หรือพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิมให้มีคุณภาพและเป็นการสร้างมูลค่า เช่น กะทิออร์แกนิก การสร้างแบรนด์กะทิผ่านร้านอาหารไทยที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ดี จากข้อจ�ำกัดที่มะพร้าวไทยยังมีปริมาณผลผลิตไม่เท่ากับประเทศผู้ค้ามะพร้าวชั้นน�ำ ผูป้ ระกอบการจึงจ�ำเป็นต้องสร้างเอกลักษณ์ รวมทัง้ ใช้การวิจยั และพัฒนาเพือ่ พัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ มะพร้าวของไทยที่มีศักยภาพให้เข้าสู่ตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche market) เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าและ ความแตกต่ า งให้ กั บ มะพร้ า วของไทย ผู ้ ป ระกอบการรายใหญ่ อ าจพิ จ ารณาไปถึ ง การไปลงทุ น ในต่างประเทศที่มีวัตถุดิบมะพร้าวเพื่อลดต้นทุนการผลิตและป้องกันปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ มะพร้าวในระยะยาว
ส�ำหรับ SMEs การน�ำผลผลิตมะพร้าวมาแปรรูปขั้นต้น ไม่ว่าจะเป็นน�้ำมะพร้าวหอม กะทิ หรือน�้ำมันมะพร้าวสกัด เย็ น เพื่ อ การส่ ง ออกมี แ นวโน้ ม ที่ ดี โดยเฉพาะในตลาด ประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าความ ต้องการผลิตภัณฑ์มะพร้าวจะยังมีความต้องการสูงต่อไป ในระยะข้างหน้า ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีของ SMEs ในการ ขยายก�ำลังการผลิตเพื่อพัฒนาธุรกิจต่อไป นอกจากนั้น การวิจัยและพัฒนาโดย SMEs อาจเริ่มต้นจากการทดลอง ขนาดเล็ก หรือร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร เพื่อน�ำมาสู่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีส่วนผสมของมะพร้าว ซึ่งมีแนวโน้ม ที่ จ ะประสบความส� ำ เร็ จ ได้ จ ากกระแสความนิ ย มของ มะพร้าวในตลาดโลก
ปลายน�้ำ: มะพร้าว 4.0 โอกาสในการพัฒนา สินค้าของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
การแปรรูปผลิตภัณฑ์มะพร้าวเพื่อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ ใหม่ๆ อาจจ�ำเป็นต้องใช้เงินลงทุนที่สูงซึ่งเป็นข้อจ�ำกัดของ SMEs ดั ง นั้ น อุ ต สาหกรรมขนาดใหญ่ ค วรใช้ ก ระแส ความนิยมในมะพร้าว เพื่อน�ำมาสู่การวิจัยและพัฒนา สินค้าใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับแนวทางไทยแลนด์ 4.0 เพื่อ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์มะพร้าว โดยอาจพัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ เครื่องดื่มรสชาติต่างๆ ที่มีส่วนผสม ของมะพร้ า วที่ ป ั จ จุ บั น ได้ รั บ ความนิ ย มในต่ า งประเทศ SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
93
SCOOP
Superfood Trends
Opportunities for Thai Coconuts Abroad The worldwide growth of health-conscious trends has significantly helped bolster the production of some crops and foods, classified by developed countries as healthy, or “superfoods”.
However, some academics have claimed that the growth of “superfoods” is a phenomenon of marketing, since these foods have not been formally classified as such, based on the scientific approach. Nevertheless, superfoods have gained popularity in developed countries due to the growing healthier diet trend, which has significantly helped spur their demand. Research conducted by Mintel, a privately-owned, London-based market research firm, shows that new F&B products with names related to superfoods introduced between 2011 and 2015 had surged 202%. Such products typically contained quinoa, chia seeds and/or coconut. In 2015, new F&B products related to superfoods grew 36%, largely in developed countries, such as the US, Australia, Britain and Canada.
Coconut is a Superfood
Coconut is one of Thailand’s major economic crops, and has been classified as a superfood. Coconut products, including whole coconuts, coconut juice and oil, plus those derived from coconuts, such as coconut milk and cosmetics, have benefited from the health craze and have thus become popular in global markets. An array of coconut-related products has already made greater inroads into developed countries, such as coconut juicebased beverages that come in many flavors, and coconut oil-based cosmetics. As a result, demand for coconuts and related products in world markets has increased markedly.
Coconut Production cannot Keep Pace with Surging Demand
Global consumption of coconuts and related products has grown substantially in recent years, thanks to their growing popularity. In 2016, global demand for coconut juice reached 160 million gallons, equivalent to over USD 2.06 billion, surging 19.5% YoY. Global consumption of coconut milk, a processed product from coconuts, performed well too, soaring 14.8% YoY to USD 0.9 billion. Despite rising global demand for coconuts in line with the healthconscious trend, coconut cultivation worldwide is falling. Between 2010 and 2014, global coconut cultivation area and output averaged 75.9 million rai and 68.8 billion coconuts p.a., or 906 coconuts/rai, suggesting that coconut cultivation area and production are set to decline. In 2017, the world’s major coconut-producing countries, in particular the Philippines, are facing unfavorable weather conditions, thus causing their coconut output to fall. Indonesia’s Sulawesi, the country’s major coconut growing area, is facing dwindling coconut yield/rai, because most coconut trees there have already exceeded their maturity, thus offering reduced yields. India’s coconut cultivation has been adversely affected by infestations. Given these circumstances, global coconut output is projected to decline in 2017.
Thailand’s Coconut
Coconut is one of Thailand’s major economic crops. In 2015, coconut growing areas in the country totaled approximately 1.2 million rai, yielding about 1 million tons of coconuts. A part of that total was used domestically as raw material for coconut milk processors, and the rest was exported. Over the past five years, the ratio of domestic coconut consumption (also for industrial use) to exports was at 60:40.
94
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
Major coconut growing areas are in the southern region, with the highest output seen in Prachuap Khiri Khan, Chumphon and Surat Thani. Robust demand has resulted in shortages of coconuts as a raw material for export-oriented processing. To address this issue, the government has temporarily allowed businesses to import coconuts from our neighboring countries, such as Indonesia and Malaysia, though coconuts are still subject to import control. There are numerous coconut products in Thailand, including fresh and primary processed coconut products, such as coconut milk and juice. Coconut milk is Thailand’s most important related export, accounting for 75% of total coconut product shipments, largely to the EU, US and Australia. Coconut milk exports show bright prospects amid the growing popularity of Thai cuisine, increased numbers of Thai restaurants and health-conscious trends abroad. In 2016, the value of such exports reached THB 10.9 billion, rising 12.6% YoY, and the average growth in export value over the past five years was at 16.7%. Other coconut products also exhibit promising growth as a result of the health-conscious trends and demand for superfoods in developed countries. These include coconut oil – it has been confirmed by research studies that its lauric acid offers health benefits for the body through direct consumption or application via cosmetics. Coconut juice has gained popularity in recent years, partly because of the health craze and increased demand for Thai “Nam Hom” coconuts in China, given their fragrance and flavor. In addition, research studies show that coconut juice contains a high amount of nutrients and minerals, thus attracting a lot of athletes to drink it. On account of soaring demand for coconut milk for use in Thai cuisine and the proliferation of Thai restaurants abroad, especially in the EU and US, KResearch is of the view that demand for coconut milk will see continued strong growth. In 2017, we project that Thai coconut milk exports will grow 16.5% to THB 12.7 billion. Major export destinations are the EU and US. Given the popularity of other coconut products, their demand abroad will be strong, as well. We thus project that exports of other coconut products will advance 18.5% to THB 16.4 billion. However, Thai coconut product shipments remain low relative to leading coconut trading countries, such as Indonesia and the Philippines.
SCOOP Downstream-Upstream Coconut Industry
Thailand is less competitive in exporting coconut products than Indonesia, the Philippines and India – the world’s leading coconut exporting nations – because our coconut production is lower, while our labor costs are higher. However, Thai coconut products have outstanding and unique features, which make them more appealing to export markets. Aside from our processed coconut products that are said to be of superior quality than those of our rivals, Thai “Nam Hom” coconuts are distinct from other coconut varieties due to their unique fragrance and flavor, and they can be grown only in Thailand, largely in the central region. Given this, KResearch is of the view that Thailand has the potential to upgrade our coconut cultivation into a major agro-processing industry. The entire coconut supply chain can be developed, as follows:
Downstream: Coconut 4.0 Presents Product Development Opportunities for Large Enterprises
Using innovations in processing new coconut products may require substantial investment, which is a restriction faced by SMEs. Therefore, large enterprises may capitalize on the popularity of coconuts via R&D to develop value-added products in line with the Thailand 4.0 policy, which may include coconut-based beverages in different flavors that are now very popular abroad, plus foods and desserts, or hair & skin care products. They may switch to organic products that have added value, such as coconut milk. Branding of their organic coconut milk may be made via Thai restaurants abroad. Due to Thailand’s low coconut output relative to other leading coconut growing countries, Thai entrepreneurs may have to focus on branding and use R&D to improve their products, targeting niche markets. Such efforts are needed to differentiate themselves from rivals and add value to their coconut products. Large enterprises may consider investing in major coconut growing countries so that they can secure stable raw material supplies, thus helping them reduce processing costs and avoid such shortages in the long term.
Upstream: Coconut Growers
Due to a shortage of brown “mature” coconuts in Thailand as a result of dwindling output even as demand grows at home and abroad, businesses have to import such coconuts from neighboring countries to process into coconut milk. This coupled with increased demand for young Thai “Nam Hom” coconuts abroad, particularly from China, leads us at KResearch to project that prices of both types of coconut will increase steadily, going forward. This, therefore, presents good opportunities for farmers growing other crops to switch to coconut cultivation, because it is in line with the government’s action plans to promote integrated coconut and soybean cultivation through various measures that will assist farmers in making a smooth transition. However, farmers switching from other crops may find it difficult to grow coconuts because it is timeconsuming; for instance, the dwarf variety takes 3-4 years to bear fruit, and the tall variety takes even longer at 5-6 years. In addition, although coconuts can be grown across the country, they only thrive in areas of loamy sand and with scattered rainfalls throughout the year, while the “Nam Hom” variety grows well only in areas having sufficient water, largely in the central region. Moreover, the current coconut production in Thailand remains low, while coconut cultivation is at risk of infestations; therefore, farmers must improve their know-how to cope with these problems.
Midstream: Traders and SMEs
As prices of commodities, including rice and cassava, are projected to remain volatile in the near future, related traders may consider switching to coconuts because their prices are set to be more favorable. Their coconuts can be supplied to SMEs and large processing companies facing a shortage of this raw material. Meanwhile, the popularity of “Nam Hom” coconuts has attracted Chinese traders to set up fruit selection facilities in Thailand to purchase this coconut variety at farms for export to China. This incident could lead to a monopoly in trade, which could adversely affect the Thai “Nam Hom” coconut price, going forward. SMEs processing primary coconut products, including “Nam Hom” coconut juice, coconut milk and virgin cold-pressed coconut oil, will see bright export prospects, especially in developed countries. KResearch projects that demand for coconut products abroad will continue to be strong, presenting opportunities ahead for SMEs to expand related production. In product R&D, SMEs may start a small project by themselves or in cooperation with their business partners to introduce new coconut products that will likely be successful, thanks to growing popularity of such products abroad. SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
95
SCOOP
กองบรรณาธิการ Editorial Team
Food Focus Thailand Magazine editor@foodfocusthailand.com
มะพร้าวและสมุนไพรไทย…
พืชอุตสาหกรรมที่ตลาดมีความต้องการสูง
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมในกลุ่มมะพร้าวมีการส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เฉพาะในปี 2559 มีมูลค่าส่งออก 14,544 ล้านบาท ขยายตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 โดยตลาดส่งออกหลักของไทย 3 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนร้อยละ 30.3 รองลงมาคือ สหภาพยุโรป และจีน มีสัดส่วน ร้อยละ 28.3 และ 10.9 ตามล�ำดับ
ในบรรดาตลาดส่งออกหลักของไทย จีนถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงสุดถึงร้อยละ 100.2 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2555-2559) ซึ่งเป็นผลมาจากความนิยมบริโภคน�้ำกะทิเป็น เครือ่ งดืม่ ของชาวจีน โดยผลิตภัณฑ์มะพร้าวส่งออกทีส่ ำ� คัญของไทย ได้แก่ กะทิสำ� เร็จรูป (ร้อยละ 75.1) มะพร้าวอ่อน (ร้อยละ 14.5) มะพร้าวแห้ง (ร้อยละ 5.4) มะพร้าวสด (ร้อยละ 2.5) และน�้ำมันมะพร้าว (ร้อยละ 2.4) โดยผลิตภัณฑ์มะพร้าวสดขยายตัว โดดเด่นที่สุด คิดเป็นร้อยละ 178.9 จากความต้องการของประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง รองลงมาคือ น�้ำมันมะพร้าว ขยายตัวร้อยละ 60.4 จากอัตราการเติบโตดังกล่าว ส�ำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ผนึกก�ำลังกับสถาบันอาหาร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร. ธัญบุร)ี จัดท�ำโครงการสนับสนุนเครือข่าย SMEs ปี 2560 หนุนรวมกลุม่ ธุรกิจเกษตร เพิม่ พืน้ ทีเ่ พาะปลูกมะพร้าวและสมุนไพรไทยประเภทออร์แกนิก 25 เครือข่าย ด้วยการน�ำ เทคโนโลยีมาเพิ่มอายุการเก็บรักษา และพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องส�ำอางจากสมุนไพร ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ โดยคาดว่าจะมีผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ ไม่น้อยกว่า 4,000 ราย คุณสาลินี วังตาล ผู้อ�ำนวยการ สสว. เปิดเผยว่า สสว. ได้บูรณาการความร่วมมือกับ สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม และ มทร. ธัญบุรี ด�ำเนินโครงการสนับสนุน เครือข่าย SMEs ปี 2560 ภายใต้งบประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อสร้างเครือข่ายและ ยกระดับ SMEs ในอุตสาหกรรมมะพร้าวและสมุนไพร ตลอดห่วงโซ่การผลิต มุง่ สนับสนุน การน�ำผลงานวิจัยมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในเชิงพาณิชย์ พร้อมรองรับการขยายตัวของตลาดโลก ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง “การสนับสนุนเครือข่าย SMEs ในกลุม่ อุตสาหกรรมมะพร้าวนีจ้ ะเน้น ส่งเสริมผู้ประกอบการต้นน�้ำเป็นหลัก เนื่องจากผลผลิตในปัจจุบัน ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ประกอบกับการขาดแคลนแรงงาน จึงต้องพึง่ พิงการน�ำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศ เฉพาะในปี 2560 ประเมิน จากการขยายก�ำลังการผลิตของผู้ประกอบการรายใหญ่และการเพิ่มขึ้น 96
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
ของผู้ประกอบการรายใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมมะพร้าว คาดว่าการส่งออกมะพร้าว ของไทยจะมีมูลค่า 17,492 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 ในระยะยาว ยังคงมีแนวโน้มเติบโตตามกระแสนิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ SMEs ไทย จึงควรพยายามเร่งผลผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อที่จะไม่พลาดโอกาส โครงการคลัสเตอร์ในครั้งนี้ กลุ่มธุรกิจมะพร้าวที่จะเน้น คือ การผลิตกะทิส�ำเร็จรูป เครื่องดื่มน�้ำมะพร้าว และเครื่องส�ำอางที่ใช้มะพร้าวเป็นวัตถุดิบ ซึ่ง ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 กลุ่ม มีอัตราการเติบโตสูง ในขณะที่ผลผลิตมีข้อจ�ำกัดด้านวัตถุดิบ คือ ปลูกมะพร้าวได้น้อยกว่าความต้องการ ดังนั้น สสว. และสถาบันอาหาร ร่วมมือ กับกรมส่งเสริมการเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งรวมถึงภาคเอกชน จะสนับสนุนให้มีการเพิ่มผลผลิต ด้วยการให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูกและ พันธุ์มะพร้าวคุณภาพ ได้ก�ำหนดพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อ�ำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด หรือใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการเพิ่มมูลค่าในเรื่อง ของการบ่งบอกต้นก�ำเนิดของผลิตภัณฑ์ (Geographical Indication; GI) เช่น ในพื้นที่เกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และในส่วนกระบวนการผลิตจะเน้นในเรื่อง ยืดอายุการเก็บรักษา การลดกลิ่นของมะพร้าวในกลุ่มเครื่องส�ำอางเป็นส�ำคัญ ส�ำหรับคลัสเตอร์สมุนไพร เน้นเรือ่ งการน�ำสมุนไพรมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยาใช้ทาภายนอก และเครือ่ งส�ำอาง ซึง่ ตลาดมีความต้องการสมุนไพรประเภท ออร์แกนิก ในขณะที่สมุนไพรของไทยมีผลผลิตเพียงพอ แต่ยังไม่เป็นออร์แกนิก โดย มทร. ธัญบุรี จะร่วมกับสมาคมผู้ผลิตยาสมุนไพรไทยให้ความรู้ แก่ผปู้ ระกอบการ SMEs เกษตรทัว่ ประเทศ เช่น เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น สกลนคร พังงา นครศรีธรรมราช สระบุรี และจันทบุรี ในส่วนของกระบวนการผลิตต้องน�ำเทคโนโลยีมาช่วยในการลด ความชืน้ ของสมุนไพร การรับรองมาตรฐานการผลิตโดยจดทะเบียน อย. และพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ๆ ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ สมัยใหม่ เช่น แผ่นมาส์กบ�ำรุงหน้า สเปรย์น�้ำแร่ฉีดหน้าจาก สมุนไพร เป็นต้น
SCOOP
สสว. ตั้งเป้ารวบรวมกลุ่มอุตสาหกรรมมะพร้าว รวม 25 เครือข่าย ผู้ประกอบการได้รับการพัฒนาศักยภาพ จ�ำนวน 3,300 ราย และกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร รวม 5 เครือข่าย ผู้ประกอบการได้รับการพัฒนาศักยภาพ จ�ำนวน 700 ราย รวมเป็นผู้ประกอบการ จ�ำนวน 4,000 ราย คุ ณ ยงวุ ฒิ เสาวพฤกษ์ ผู ้ อ� ำ นวยการสถาบั น อาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถาบันอาหารได้รับมอบหมาย ให้เป็นหน่วยงานด�ำเนินการโครงการสนับสนุนเครือข่าย SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมมะพร้าว โดยมีกรอบระยะเวลา การด�ำเนินงาน 5 เดือน (พ.ค.-ก.ย. 2560) มีการคัดเลือก ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจ�ำนวน 3,300 ราย เพื่อให้เกิด การรวมกลุ่ม 25 เครือข่ายตามเป้าหมาย เกิดการพัฒนา ศักยภาพผู้ประสานงานเครือข่าย (Cluster Development Agent; CDA) จ�ำนวนไม่น้อยกว่า 70 ราย ทั้งนี้ จะน�ำผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการที่เกี่ยวข้องเข้าไปจัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ การด�ำเนินการธุรกิจให้กบั กลุม่ ผูป้ ระกอบการทีไ่ ด้รบั คัดเลือก เข้ า ร่ ว มโครงการในแต่ ล ะกลุ ่ ม อาทิ จั ด อบรมหลั ก สู ต ร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ หลักสูตรมาตรฐานการผลิต หลักสูตร การเพิม่ ประสิทธิภาพการผลิต หลักสูตรการพัฒนาคลัสเตอร์ เพื่อให้จัดท�ำแผนการพัฒนากลุ่มคลัสเตอร์ ทั้งระยะสั้น (1 ปี) ระยะกลาง (3 ปี) และระยะยาว (5 ปี) หลักสูตรการตลาด และการสร้างแบรนด์เชิงสร้างสรรค์ส�ำหรับผู้น�ำเครือข่าย มะพร้าวไทย รวมถึงการท�ำเวิร์กช็อป นอกจากนีย้ งั ให้การส่งเสริมผ่านช่องทางการตลาดออฟไลน์ ได้แก่ การน�ำสินค้าที่ได้รับการคัดเลือกไปจ�ำหน่ายในงาน แสดงสินค้าต่างประเทศหรือจัดให้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ภายในประเทศ เป็ น ต้ น ขณะเดี ย วกั น ก็ จ ะส่ ง เสริ ม ผ่ า น ช่องทางการตลาดออนไลน์ โดยการท�ำ E-marketplace ให้แต่ละกลุ่มคลัสเตอร์ทั้งหมด 25 กลุ่ม ผ่านทาง Lazada/ Tarad/Truemart เป็นต้น เป็นระยะเวลา 1 ปี และจัดให้มี การเพิ่มช่องทางการจ�ำหน่าย โดยจัดท�ำเว็บไซต์ของแต่ละ กลุ่มคลัสเตอร์ โดยจัดท�ำเป็น Coconut Pavilion เพื่อเป็น ต้นแบบในการเชือ่ มโยงทัง้ ในระดับประเทศ และต่างประเทศ อีกด้วย คุณพงศ์พิชญ์ ต่วนภูษา รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวว่า ส�ำหรับ มทร. ธัญบุรี ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานด�ำเนินโครงการสนับสนุน เครือข่าย SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย เพื่อ ยกระดับผู้ประกอบการทั้งต้นน�้ำ ได้แก่ กลุ่มผู้ปลูกสมุนไพร กลางน�้ำ ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกอบการที่แปรรูปสมุนไพร เป็นเครือ่ งส�ำอาง กลุม่ ผูป้ ระกอบการทีแ่ ปรรูปสมุนไพรเป็นยา กลุม่ ผูป้ ระกอบการทีแ่ ปรรูปสมุนไพรเป็นอาหารและเครือ่ งดืม่ และกลุ ่ ม ปลายน�้ ำ คื อ กลุ ่ ม ผู ้ จ� ำ หน่ า ยค้ า ปลี ก และค้ า ส่ ง ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ได้จากสมุนไพร โดยมีเป้าหมายในปี 2560 ให้เกิดการรวมกลุม่ 5 เครือข่าย ยกระดับผูป้ ระกอบการจ�ำนวน 700 ราย โดยใช้นวัตกรรมและองค์ความรู้ให้มีผลิตภาพ ในด้านต่างๆ สูงขึ้น และมีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพ
ผู้ประสานงานเครือข่ายให้เป็นผู้น�ำในการพัฒนาในด้านต่างๆ จ�ำนวน 10 ราย ซึ่งจะมีการจัดการประชุม และให้ความรู้กับผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าร่วมโครงการในทุกภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ (เชียงใหม่ พิษณุโลก) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น สกลนคร) ภาคใต้ (พังงา นครศรีธรรมราช) และภาคกลาง (สระบุรี จันทบุรี)
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
97
SCOOP
Coconut and Thai Herbs…
Industrial Crops that’s In Demand In the past 5 years, the Thai coconut industry has continuously grown. In 2016, particularly, the industry exported THB 14,544 million in value, expanding 11.6%. The three main markets for the industry are the United States of America with 30.3% market share, follows by the European Union and China, with 28.3% and 10.9% market share, respectively.
Among Thailand’s main export markets, China has the most significant growth of 100.2% in the past 5 years (2012-2016), due to the popularity of coconut milk drinks liked by Chinese. The prominent coconut export of Thailand include instant coconut milk (75.1%), young coconut (14.5%), dried coconut (5.4%), fresh coconut (2.5%), and coconut oil (2.4%). So far, fresh coconut has seen the most significant growth at 178.9% largely because of the demand from China, follows by coconut oil which expands 60.4%. Considering the growth rate, the Office of Small and Medium Enterprises Promotion (OSMEP), the National Food Institute (NFI), and the Rajamangala University of Technology Thanyaburi (RMUTT) have collaborated to create SMEs Network Promotion 2017 Program. The program aims to create 25 networks of agricultural enterprises to increase planting areas of organic coconut and Thai herbs, utilize technology to improve the products’ shelf life, and develop cosmetics from the products to fit with modern lifestyle. At least 4,000 operators are expected to be benefited from this program. Mrs.Salinee Wangtal, Director-General of OSMEP revealed that OSMEP, in collaboration with NFI, Ministry of Industry, and RMUTT, will run the SMEs Network Promotion 2017 with THB 60 million budget to create a network and improve the supply chain capacity of Thai SMEs in coconut and herb industries. This will include applying knowledge from researches to develop the products to meet with market demands in Thailand and the growing international market. “The support for SMEs in the coconut industry will primarily focus on upstream enterprises because current production yield is not enough for the market demand. Shortage of labor in the industry is another problem. So far, we rely on the import of coconut from other countries. In 2017, assessing from the capacity expansion of major players and increasing number of new comers, we expect that Thailand’s coconut export will reach THB 17,492 million, expanding 20.3%. In long term, the industry also has a good prospect due to healthy food trend. Thus, Thai SMEs should accelerate their productions and develop their products to catch the opportunities”. This cluster project will emphasize on enterprises who produce instant coconut milk, coconut juice, and coconut-based cosmetics. The 3 industries have shown high growth potential, despite facing material shortages from coconut yields. The OSMEP and NFI are going to cooperate with the Department of Agricultural Extension and other related organizations from both the public and private sectors in order to boost coconut production. For example, in Chaturaphak Phiman district in Roi Et province, the cluster
98
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
will focus on spreading knowledge about the plantation and quality coconut breed. In Koh Pha-Ngan of Surat Thani province, it will focus on enhancing technology for Geographical Indication (GI). For production process, it will focus on how to extend shelf-life and reduce coconut smell in cosmetics products. Meanwhile, the herb cluster will focus on how to use herbs for dietary supplements, external medicine, and cosmetics. So far, there is a demand for organic herbs and there are enough Thai herb supplies in the market though they are not organic. Here, RMUTT will collaborate with the Thai Herbal Products Association (THPA) to educate SMEs across the country like in Chiang Mai, Phitsanulok, Khon Kaen, Sakon Nakhon, Phangnga, Nakhon Si Thammarat, Saraburi, and Chanthaburi. Nonetheless, there is the need for technological support to decrease the moisture in the products, the certification process from Food and Drug Administration (FDA), and product development to meet modern lifestyle such as facial mask and facial mineral water spray, to name a few. OSMEP plans to gather 25 networks of 3,300 potentially enhanced coconut enterprises, and 5 networks of 700 potentially boosted herb enterprise. In total, it will support 4,000 enterprises. Mr.Yongvut Saovapruk, President of National Food Institute (NFI), Ministry of Industry, stated that the NFI is tasked with duty to support SMEs cluster in coconut industry. The cluster has 5-month timeframe from May to September 2017. The cluster is opening for registration to seek for 3,300 interested participants to take part in 25 target clusters in order to create no less than 70 Cluster Development Agents (CDA). The NFI will invite specialists and scholars to engage in the capacity development trainings for the selected enterprises. The trainings will be divided in groups such as product development, production standard, productivity enhancement, and cluster development to optimize for short term (1 year), medium term (3 years), and long term (5 years) clusters. Moreover, marketing and creative brand management trainings and workshops for leading coconut enterprises will be arranged as well. Additionally, there will be a promotion through offline channels such as bringing selected products to international trade fair or arranging for domestic business matching. At the same time, online channels such as E-marketplace promotion via Lazada/Tarad/Truemart will also be conducted for one year for all 25 clusters. Websites for each cluster will also hope to be created to expand distribution channel and set up into Coconut Pavilion to create domestic and international network model. Mr.Pongpitch Tuanpusa, Deputy Director Administrative of RMUTT, said that RMUTT is assigned to work on supporting Thai herb SMEs to develop upstream enterprises (herb growers), midstream enterprises (herbal cosmetic producers, herbal medicine producers, herbal food and beverage producers), and downstream enterprises (retailers and wholesalers). The program desires to establish 5 networks in 2017 and improve 700 enterprises using innovation and knowledge in many aspects, as well as develop 10 CDAs to be the leaders in each development aspect. Meetings and trainings will be arranged for interested enterprises in various provinces of every region of Thailand - Northern region (Chiang Mai, Phitsanulok), Northeastern region (Khon Kaen, Sakon Nakhon), Southern region (Phangnga, Nakhon Si Thammarat), and Central region (Saraburi, Chanthaburi).
SAFETY ALERT
ผาค�ำ แถมโฮง Phakham Thaemhong
Client Manager British Standard Institution (BSI) phakham.thaemhong@bsigroup.com
เลือกกินมันฝรั่งทอดอย่างไร ไม่ทำ�ลายสุขภาพ
มันฝรั่งทอดกรอบเป็นขนมขบเคี้ยวที่หลายคนชอบหยิบมากินเพลินๆ ในเวลาว่าง เช่น ดูทีวี หรือปิคนิคนอกบ้าน เพราะว่ามีรสชาติอร่อยและหาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป แล้วเราจะเลือกมันฝรั่งทอดกรอบอย่างไรเพื่อไม่ท�ำลายสุขภาพ
ทำ�ความรู้จักกับมันฝรั่ง
1
ชนิดน�ำ้ มันทีใ่ ช้ทอด การเลือกกินขนมขบเคีย้ วประเภทมันฝรัง่ ทีผ่ า่ นการทอดด้วย น�ำ้ มันทีม่ กี รดไขมันไม่อมิ่ ตัวซึง่ มีสารต้านอนุมลู อิสระนัน้ จะเป็นประโยชน์ตอ่ สุขภาพ ชื่อสามัญ: Potato, Irish potato, White potato ชื่อวิทยาศาสตร์: Solanum tuberosum L. จัดอยู่ในวงศ์มะเขือ (SOLANA- มากกว่า โดยกรดไขมัน แบ่งได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ตามโครงสร้างทางชีวเคมี คือ CEAE) • กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated fatty acid) ไขมันชนิดนี้จะมีอยู่ในอาหารประเภท มันฝรั่งมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า มันเทศ มันอาลู มันอีลู (ภาคเหนือ) เป็นต้น เนื้อสัตว์ที่มีชั้นสีขาว หรือหนังสัตว์ปีก ไข่แดง น�้ำมันหมู เนย นม ผลิตภัณฑ์จากนม รวม ถึงน�้ำมันที่ได้จากพืชบางชนิดก็เป็นแหล่งไขมันอิ่มตัวด้วย เช่น กรดไขมันปาล์มมิติก มันฝรั่งทอดเพื่อสุขภาพพิจารณาจาก... การเลือกซือ้ มันฝรัง่ ทอดกรอบควรดูขอ้ มูลโภชนาการ (Nutrition facts) และข้อมูล (Palmitic) ที่มีมากในน�้ำมันปาล์ม น�้ำมันมะพร้าว ไขมันสัตว์ และผลิตภัณฑ์นมเนย กรด ส่วนประกอบที่ส�ำคัญ (Ingredients) ที่ระบุบนซอง เพื่อประกอบการพิจารณาใน ไขมันชนิดนีจ้ ะมีสถานะอันเฉือ่ ยเนือยในกระบวนการเคมีของร่างกาย ถ้าไม่ถกู ย่อยไปใช้ เป็นพลังงานก็มีแนวโน้มที่จะตกตะกอนในหลอดเลือด ท�ำให้ไขมันในเลือดสูง เกิดความ การเลือก ดังนี้ เสี่ยงที่จะอุดตันในหลอดเลือดได้ เป็นต้นเหตุของโรคความดันโลหิตสูง หัวใจและสมอง ขาดเลือด เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ • กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acid) การบริโภคไขมันชนิดนี้จะช่วยให้ คอเลสเทอรอลในเลือดลดลง เช่น น�้ำมันร�ำข้าว เป็นน�้ำมันพืชชนิดหนึ่ง ผลิตจากร�ำข้าว มีโอริซานอล ซึง่ สารตัวนีม้ แี ต่ในร�ำข้าว สารตัวนีจ้ ะช่วยต้านอนุมลู อิสระ และป้องกันการ เกิดออกซิเดชันได้สูง ท�ำให้ไม่ต้องใส่สารกันหืนในน�้ำมันร�ำข้าว หรือกระบวนการเติม ไนโตรเจนซึ่งท�ำให้เกิดไขมันทรานส์ (Trans-fat) ซึ่งมีผลเสียต่อสุขภาพ ไขมันทรานส์เป็นกรดไขมันที่เกิดจากกระบวนการแปรรูปกรดไขมันไม่อิ่มตัวให้ กลายเป็นกรดไขมันอิ่มตัวสูง ตัวอย่างเช่น การท�ำน�้ำมันพืชจะมีการเติมไฮโดรเจนลงไป ในน�้ำมันพืช เรียกว่า กระบวนการไฮโดรจีเนชัน (Hydrogenation) เช่น น�้ำมันปาล์ม น�ำ้ มันถัว่ เหลือง หรือแม้กระทัง่ การแปรรูปให้มลี กั ษณะเป็นกึง่ ของแข็ง เช่น มาการีนหรือ เนยเทียม เนยขาว ครีมเทียม เป็นต้น โดยวัตถุดิบเหล่านี้จะมีชื่อบนฉลากอาหาร คือ กรดไขมันชนิดทรานส์ หรือ Hydrogenated oil หรือ Partially hydrogenated oil ปัจจัยที่มีผลต่อการดูดซับน�้ำมันในการทอด • อุณหภูมิน�้ำมันที่ใช้ทอด อุณหภูมิน�้ำมันที่ใช้ทอดที่สูงมีผลต่อแผ่นมันฝรั่งทอด ทีจ่ ะกรอบเร็วขึน้ ความชืน้ จะลดลงตามระยะเวลาการทอด สัดส่วนของน�ำ้ มันทีด่ ดู ซับกับ ความชื้นที่ลดลงไม่ได้เป็นสัดส่วนโดยตรงต่อกัน แต่ความชื้นที่เหลือในผลิตภัณฑ์ขึ้นกับ อุณหภูมิที่ใช้ทอด • ความหนาของแผ่นมันฝรั่งที่ทอด มันฝรั่งที่มีค่าความถ่วงจ�ำเพาะ > 1.0 และ ค่า dry matter > 24% จะให้มันฝรั่งทอดที่มีค่าดูดซับน�้ำมันน้อยกว่า (Lulai and Orr,1979) แผ่นมันฝรั่งที่หนากว่ามีขนาดพื้นที่ผิวน้อยลงเมื่อเทียบกับปริมาตรของแผ่น ดังนั้นจึงดูดซับน�้ำมันได้น้อยกว่าแผ่นบาง • การเตรียมก่อนการทอด (Pre- frying treatment) ปริมาณน�ำ้ ในมันฝรัง่ ก่อนทอด มีผลต่อการดูดซับน�้ำมัน การดึงน�้ำออกจากมันฝรั่งก่อนทอดช่วยลดการดูดซับน�้ำมัน เช่น การลวก อย่างไรก็ตาม การลวกไม่ได้มีผลอย่างมีนัยยะให้การดูดซับน�ำ้ มันลดลง เพียงแต่จะช่วยให้มันฝรั่งทอดมีสีสม�่ำเสมอ ท�ำให้การดูดซับน�้ำมันน้อยลงจากการท�ำให้ แป้งในมันฝรั่งเป็นเจล ช่วยลดระยะเวลาในการทอด และปรับปรุงด้านเนื้อสัมผัส SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
99
SAFETY ALERT นอกจากนี้ยังมีการให้ความร้อนแบบอื่นๆ เช่น ไมโครเวฟ ลมร้อน (Hot air dried) ทั้งนี้ การให้ความร้อนแบบลมร้อน จะท�ำให้มันฝรั่งดูดซับน�้ำมันได้น้อยกว่าไมโครเวฟ ในขณะที่ Freeze fried chip กลับให้มันฝรั่งดูดซับน�้ำมันได้มากกว่าหลังทอด • คุณภาพน�้ำมัน (Oil quality) การใช้น�้ำมันทอดที่มีคุณภาพต�่ำจะท�ำให้มันฝรั่ง มีลกั ษณะอมน�ำ้ มัน (Oilier) แม้วา่ ปริมาณน�ำ้ มัน (Oil content) หลังทอดจะเท่ากันก็ตาม เมื่อเทียบกับการทอดโดยใช้น�้ำมันใหม่ เนื่องจากน�้ำมันที่คุณภาพต�่ำจะมีความเข้มข้น ที่พื้นผิวแผ่นมันฝรั่งด้วยสภาพที่ความหนืดมากกว่าจึงท�ำให้น�้ำมันดังกล่าวไม่สามารถ ระบายออกจากแผ่นมันฝรั่งระหว่างท�ำความเย็น (Tseng et al., 1996)
2
รสชาติ เลือกมันฝรั่งทอดที่ดีต่อสุขภาพมากสุด ควรเลือกจากรสดั้งเดิม เช่น รส เกลือ ดีกว่ามันฝรั่งทอดที่ใส่ผงปรุงรส เนื่องจากมันฝรั่งทอดที่ใส่ผงปรุงรส ส่วน ใหญ่น�้ำมันที่ใช้ทอดเป็นน�้ำมันใหม่ผสมน�้ำมันทอดซ�้ำ และผงปรุงรสอาจมีปริมาณ โซเดียมสูงกว่ารสเกลือธรรมดา
3
สีหลังการทอด เลือกสีมันฝรั่งหลังทอดที่สีไม่เข้ม เพื่อหลีกเลี่ยงอะคริลาไมด์ (Acrylamide) ซึ่งเกิดจากอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง (Carbohydrate-rich food) เช่น เมล็ดธัญชาติ (Cereal grain) พืชหัว เช่น มันฝรั่ง เมื่อผ่านการแปรรูปอาหารที่มี ความชื้นต�่ำด้วยความร้อนสูง คือ อุณหภูมิสูงกว่า 120°C และเกิดขึ้นเมื่ออาหารมี ความชื้นน้อย เช่น การทอด (Frying) การอบ (Baking) การคั่ว (Roasting) การปิ้ง (Toasting) การย่าง (Grilling) เป็นต้น ผลการวิจยั ในห้องปฏิบตั กิ ารพบว่าอะคริลาไมด์ เป็นสารก่อมะเร็งในสัตว์ทดลอง และมีความเสีย่ งทีจ่ ะท�ำให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ จัดเป็น อันตรายทางเคมี (Chemical hazard)
4
ส่วนประกอบ (Ingredient) ที่ไม่มีผงชูรส (โมโนโซเดียมกลูตาเมต) ทางเลือก หนึ่งของผู้บริโภคคือพิจารณาข้อมูลส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ว่าไม่มีส่วน ประกอบของผงชูรส เนื่องจากการศึกษาพบว่าสาเหตุส�ำคัญที่ท�ำให้ผงชูรสจัดเป็นสารที่เป็นอันตราย หากบริโภคในปริมาณมากก็คือ วัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่มีการหมักและใช้สาร เคมีหลายชนิด ทัง้ กรดเกลือ (กรดไฮโดรคลอริก) ก�ำมะถัน (ซัลฟูรกิ ) ยูเรีย (สารประกอบ ส�ำคัญในปัสสาวะมนุษย์) และด่างโซดาไฟ ซึง่ สิง่ เหล่านีส้ ง่ ผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย มนุษย์ ท�ำให้เกิดโรคภัยต่างๆ มากมาย เช่น ท�ำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ส่งผล ให้สมองส่วนหน้าท�ำงานผิดปกติ โทษของผงชูรสส่งผลต่อประสาทตา ท�ำให้กระดูกและ ไขกระดูกถูกท�ำลาย ท�ำให้ผิวหนังไม่แข็งแรง ก่อให้เกิดความผิดปกติกับทารกในครรภ์ เพิ่มความเสี่ยงโรคไตและความดันโลหิตสูง เป็นต้น
5
เลือกมันฝรั่งแท้ทอดกรอบดีกว่าแป้งมันฝรั่งทอดกรอบ เพื่อให้ได้ ประโยชน์จากหัวมันฝรั่งโดยตรงควรเลือกชนิดมันฝรั่งแท้ทอดกรอบ ซึ่งจะ ระบุบนฉลากว่ามันฝรัง่ แท้ ดีกว่าแป้งมันฝรัง่ ทอดกรอบเนือ่ งจากมีสว่ นประกอบ ของแป้งมันฝรั่งหรือแป้งชนิดอื่นเป็นส่วนประกอบ ซึ่งผ่านกระบวนการแปรรูป มากมายกว่าจะเป็นมันฝรั่งทอด เนื่องจากหัวมันฝรั่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง คือ มีปริมาณ ของแป้ง โปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินบางชนิดอยู่ในเกณฑ์สูง จึงใช้เป็นอาหาร ประจ�ำวันได้เป็นอย่างดี ซึ่งประชากรในยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะรับประทาน มันฝรั่งเป็นอาหารหลักแทนข้าว โดยวิธีน�ำมาต้ม ทอด อบ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบว่าโปรตีนที่ได้จากมันฝรั่งมีคุณภาพสูงกว่าโปรตีนที่ได้จากถั่วลิสงอีกด้วย และด้วยความที่มันฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ท�ำให้นัก โภชนาการเชื่อว่าหากคนที่ติดอยู่บนเกาะร้างปลูกมันฝรั่งไว้กินเป็นอาหารพวก เขาจะไม่มีวันอดตาย และนี่คือเหตุผลที่ว่าเหตุใดกัปตันเรือในสมัยก่อนจึงนิยม บรรทุกมันฝรั่งไว้เป็นเสบียงส�ำหรับการเดินทาง การเลือกซื้อมันฝรั่งจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ บริโภคฉลาดเลือกเพือ่ ให้มนั่ ใจว่ากระบวนการผลิตได้มาตรฐาน ทุกขัน้ ตอนตัง้ แต่ การรับวัตถุดบิ การผลิต การควบคุมคุณภาพ จนถึงมือผูบ้ ริโภค ไม่วา่ จะเป็นด้าน คุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร เช่น ระบบมาตรฐาน GMP&HACCP, ISO 22000 ,FSSC 22000 หรือ BRC food เป็นต้น อาทิเช่น คุณภาพน�้ำมันให้ เป็นไปตามมาตรฐานมีการควบคุมค่า Acid value, Peroxide value รวมถึงค่า Polar รวมถึงอันตรายด้านอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ได้ทั้งคุณภาพและมี ความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
เอกสารอ้างอิง/Reference หนังสือสมุนไพรลดไขมันในเลือด 140 ชนิด. (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก). “มันฝรั่ง” หน้า 153 140 herbs of blood-reducing herbs. (Pharmacist, Churairat Kerddonfaek). “Potato” page 153. www.myZegrain.com http://www.acrylamide-food.org www.thaihealth.or.th www.doctor.or.th. http://sukkaphap-d.com https://medthai.com Rosana G. Moreira ; Department of biological and Agriculture engineering; “The engineering aspect of deep fat frying”
5 Secrets
to Healthier Crisps
Crisps are commonly served as a snack that many people like to eat during their free time such as watching TV, going picnic, or hanging outside because it is delicious and easy to buy at convenience stores. Then how do we choose the crisps without health risks. Getting to Know Potatoes Common Name: Potato, Irish potato, White potato Scientific name: Solanum tuberosum L. is in the family of Solanum (SOLANACEAE) Potatoes have other local names as sweet potatoes, Alu potato, Elu potato (in the Northern part), etc.
100
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
How to Choose the Perfect Crisps? Secrets to healthier crisps should consider on nutrition facts and ingredients issuing on the products and consider factors as follows:
SAFETY ALERT
1
Type of Oil Choose crisps that are fried with oils containing unsaturated fatty acids that have antioxidant benefits as it will create better health benefit. Fatty acids can be divided into two major types of biochemical structure as follows: • Saturated fatty acid - The fats are most often found in animal products such as meat with a white layer or poultry skin, egg yolks, pork fat, milk butter, dairy products, as well as some vegetable oils; for example, cooking palm oil, coconut oil, which are source of palmitic fatty acids. Without double bonds or other functional groups, these fatty acids are nearly chemically inert and thus can be subjected to drastic chemical conditions (temperature, oxidation). It is likely to precipitate in blood vessels, making high fat in blood and causing risk of arterial blockage, which is cause of high blood pressure, heart disease, and cerebral ischemia, hemiplegia, and paralysis, etc. • Unsaturated fatty acid – It helps to reduce cholesterol in the human blood. Unsaturated fatty acid is such as rice bran oil, which is vegetable oil made from rice bran. Rice bran oil has oryzanol, which is antioxidant and prevent high oxidation. Thus, manufacturers do not need to put on rancidity or fill nitrogen in rice bran oil, as the process create Trans-fat, which is bad for health. Trans-fat is the fatty acid that is caused by the processing procedure of unsaturated fatty acids into high-saturated fatty acid. For example, a process to replenish hydrogen into vegetable oil is called hydrogenation. This process has been used in vegetable oil such as palm oil, soybean oil or even semi-solid processing procedure such as margarine, white butter, and coffee creamer, etc. These ingredients are named on the food label as trans fatty acids, or hydrogenated oil or partially hydrogenated oil. Factors that affect oil absorption • Oil temperature used for frying potato - the high friction oil temperature affects the crisps faster. Moisture will be decreased following frying period. The proportion of absorbed oil with reduced moisture is not directly proportional to each other, but the remaining moisture in the product depends on the temperature used for frying. • Thickness of crisps - potatoes with a specific gravity value of> 1.0 and a dry matter> 24% will result in lower oil absorption of crisps (Lulai and Orr, 1979). The thicker crisps have less surface area compared to the volume of the crisps, consequence it absorbs less oil than thin sheets. • Pre- frying treatment - Water amount in chips before frying has an effect on oil absorption. The process to dehydrate crisps before frying such as blanching can help reduce oil absorption. However, blanching has not created significant on oil absorption, but it can only help the crisps have a consistent color, makes the absorption of less oil by making the starch in the potato to become gel, help reduce frying time, and improve texture of crisps. Moreover, there are also other types of heating such as microwave and hot air dried. The hot air dried will help crisps absorb less oil compare with microwave, while freeze fried crisps will cause potatoes absorb more oil after frying. • Oil quality - the use of low quality frying oil makes the potatoes look oily (Oilier), although the oil content after frying is in the same amount compared to frying with new oil. Due to the low-quality oil will have high density on the surface of crisps; thus, it could not drain from crisps during cooling. (Tseng et al., 1996)
made MSG is harmful when consumed in large quantities because of raw materials and production procedure, which are included fermented and use of various chemicals including hydrochloric acid, sulfuric, urea (essential compounds in human urine), and alkaline caustic. Those substances have impact on human body systems. It causes many diseases such as damage immune system, the frontal brain dysfunction, affects the optic nerve, destroy bone and bone marrow, cause weak skin, and abnormalities in the fetus, increase risk of kidney disease, and high blood pressure.
5
Choose real potato rather than potato-starch snack To get direct benefit from potato tubers, choose the real crisps. It is stated on the label that ‘original’. Real potato is better than fried potato-starch snack or other flours because other starch have passed many processing procedure compared with crisps. Potato tuber is high nutritious foods as it has carbohydrate, proteins, minerals, and some vitamins. It can be a daily consumption food. The population in Europe and the United States eat potatoes as a staple food instead of rice. Potato is cooked by many methods such as boiled, fried, baked, etc. Also, the study found that potato has higher quality protein compared with peanut as potatoes rich in vitamins and minerals, nutritionist is believed that if people stuck on a deserted island and grow potatoes as their food, they will never starve to death. This is the reason why in the past captains like to stock potatoes on their ships during their travelling. To purchase potatoes from certified manufacturers is another option for wise consumers so that they can ensure that the product has high standardized production process in every step from taking raw material to production and controlling of production quality until the final product reach consumers. Moreover, consumers can also seek for food safety standard and certification such as GMP & HACCP, ISO 22000, FSSC 22000 or BRC food standards so they can know about many things such as oil quality standards, which have control on acid value, peroxide value, and polar value, as well as other hazards to ensure that the product has both quality and safe for consumers.
2
Flavors For the healthy concern, consumers should choose the original flavor such as salt flavor. Salted crisps are better than seasoning flavor because seasoned potato chips are mostly used mixed oil between new and used cooking oil, while seasoning powder may have higher sodium than salted flavor.
3
Color after frying Choose light color crisps in order to avoid acrylamide, which is caused by carbohydrate rich-foods such as cereal grain, tuber crop like potato. Acrylamide also occurred after low humidity food being processed with high temperatures above 120 °C and occur when food has low moisture, such as frying, baking, roasting, toasting, and grilling, etc. The research outcome in the laboratory found that acrylamide is a carcinogen in experimental animals. And there is a risk of cancer in humans. Acrylamide is a chemical hazard.
4
Ingredient with no MSG (Monosodium glutamate) One option for consumers is to consider the ingredient information of the product that does not contain MSG. The study has shown that the major reason that SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
101
STRENGTHEN THE PACKAGING บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จ�ำกัด Mettler-Toledo (Thailand) Limited
MT-TH.CustomerSupport@mt.com
การวิเคราะห์ความร้อนของพอลิเมอร์ก่อนขึ้นรูป เป็นบรรจุภัณฑ์และอื่นๆ ด้วยเทคนิค
Differential Scanning Calorimetry บทความนี้เป็นบทความแรกใน 6 บทความเรื่อง การวิเคราะห์ความร้อนของพอลิเมอร์ ซึ่งจะมีการสาธิตและอธิบายถึงผลกระทบต่างๆ ที่สามารถท�ำการ วิเคราะห์ด้วยความร้อนเพื่อก�ำหนดตัวอย่างการทดลองโดยการใช้วัสดุพลาสติก 3 ประเภทคือ เทอร์โมพลาสติก (PET) เทอร์โมเซ็ท (UK 600) และ ยาง (WOO1) ซึ่งการวิเคราะห์ความร้อนนี้ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมพอลิเมอร์ ปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ ยานยนต์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องส�ำอาง ตลอดจนงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
การวิเคราะห์ความร้อนประกอบไปด้วยการใช้เทคนิคที่ต้องใช้เวลาในการวัด คุณสมบัติทางกายภาพของสาร และยังต้องใช้เทคนิคและโปรแกรมในการควบคุม อุณหภูมิ ซึ่งได้แก่ Differential Scanning Calorimetry (DSC) การวิเคราะห์ Thermograviatric Analysis (TGA) การวิเคราะห์ทางความร้อน (TMA) และ Dynamic Mechanical Analysis (DMA) เครื่องมือ Thermal Analysis เป็นเครื่องมือที่ใช้ส�ำหรับการวิเคราะห์ วิจัย และ พั ฒ นาการเพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพกระบวนการในการควบคุ ม คุ ณ ภาพของวั ส ดุ แ ละ การวิเคราะห์ถึงความเสียหาย ไปจนถึงการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ที่จะท�ำการผลิต อย่างเช่น ค่าความชื้น, Additive, Plasticizers, Filler และปริมาณของ Impurity หรือ Contaminate ที่ปนเปื้อนอยู่ นอกจากนั้น ยังมีวิธีการต่างๆ ที่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการแปรรูปของความร้อน และ การปรับสภาพ (การจัดเก็บและการใช้งาน) ในเรือ่ งของความเค้น (Mechanical stress) และความเครียดเชิงกล (Mechanical strain) รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงขนาด (Dimensional change) อีกด้วย โดยบทความแรกนีจ้ ะอธิบายถึงวิธกี ารใช้ DSC ในเชิงการวิเคราะห์เทอร์โมพลาสติก PET (Polyethylene terephthalate) ให้มากทีส่ ดุ เท่าทีจ่ ะท�ำได้ โดยผลของวิธกี ารต่างๆ จะถูกน�ำมาเปรียบเทียบกัน โดยหัวข้อหลักที่จะกล่าวถึง ได้แก่ Glass transition, Cold crystallization, Recrystallization, Melting และ Thermal history 102
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
PET
PET เป็นกลุ่มตัวอย่างของกลุ่มพอลิเมอร์เทอร์โมพลาสติก ซึ่งเป็นโพลีเอสเตอร์ ที่ผลิตขึ้นในการเกิดปฏิกิริยาระหว่าง Polycondensation ระหว่าง Terephthalic acid และ Ethylene glycol โดยมีโครงสร้างแสดงดังรูปที่ 1
รูปที่ 1: โครงสร้างของ PET
Figure 1: PET’s structure
PET เหมาะส� ำ หรั บ การใช้ ง านที่ ห ลากหลาย โดยที่ รู ้ จั ก กั น ดี ที่ สุ ด คื อ การผลิตขวดพลาสติกในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังใช้เป็นเส้นใยใน อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มกีฬา เนื่องจากคุณสมบัติการฉีกขาดและทนต่อสภาพ อากาศที่ดีเยี่ยม และมีการดูดซึมน�้ำที่ต�่ำ
STRENGTHEN THE PACKAGING รูปที่ 2:
ท�ำการทดลอง DSC โดยการใช้ PET เป็นตัวอย่าง ช่วงอุณหภูมิ 30-300 ํC; อัตราการให้ความร้อนที่ 20 K / min; ก๊าซไนโตรเจนที่ 50 มล. / นาที
Temperature range 30-300 at 50 mL/min
Figure 2: The main effects measured by DSC using PET as a sample.
ํC; heating rate 20 K/min; purge gas nitrogen
โดยเส้นกราฟ DSC สามารถใช้ศึกษาค่าความร้อนจ�ำเพาะ (Specific Heat Capacity) ซึ่งมีขั้นตอนมาตรฐานที่แตกต่างกันส�ำหรับการก�ำหนดอุณหภูมิของการเปลี่ยนแปลง และยังได้รับการประเมินโดยตรงจากซอฟต์แวร์2 ซึ่งแสดงไว้ในรูปที่ 2 ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Iniformation 1 เซ็นเซอร์ FRS5 ของเมทเล่อร์-โทเลโด / The FRS5 sensor from Mettler-Toledo 2 ซอฟต์แวร์ STARe ของเมทเล่อร์-โทเลโด / The STARe software from Mettler-Toledo
ฟิล์ม 500 urns เหมาะส�ำหรับการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ม่านกันแดด เป็นต้น จะเป็นฟิล์มส�ำเร็จที่ท�ำการเคลือบ มาเรี ย บร้ อ ยแล้ ว หรื อ เคลื อ บลามิ เ นตมาแล้ ว และมั ก ใช้กันอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ส�ำหรับ บรรจุภัณฑ์กาแฟหรืออาหารอื่นๆ เพื่อป้องกันการสูญเสีย กลิ่น คุณสมบัติของวัสดุจึงเป็นสิ่งส�ำคัญมากเพื่อรับประกัน คุณภาพให้คงที่
ผลของการทดลอง
การวัดด้วยกระบวนการ DSC ทีอ่ ธิบายไว้ในบทความนีไ้ ด้ใช้ กระบวนการ DSC ควบคู่ไปกับเซ็นเซอร์1 และมีการประเมิน ผลด้วยซอฟต์แวร์2 เตรียมตัวอย่างโดยชั่ง PET ประมาณ 3 ถึง 10 มิลลิกรัม และท�ำ Pretreated ที่ขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว ตัวอย่างควรมีพื้นผิวเรียบและมีการสัมผัสกับ DSC Pan (Crucible) ได้ดี โดยถ้วย Crucible ต้องมีลักษณะที่ไม่ บิดเบี้ยวเมื่อมีการปิดผนึกฝา
การวัดและการประเมินผล
DSC เป็นเทคนิคทีใ่ ช้สำ�หรับการวัดค่าพลังงานทางความร้อน ของตัวอย่าง เมื่อตัวอย่างนั้นอยู่ภายใต้สภาวะที่มีอุณหภูมิ และเวลา วิธีการนี้จะช่วยให้การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ และปฏิกิริยาทางเคมีสามารถวัดได้เป็นปริมาณ ผลจะถูกวิเคราะห์โดยใช้การวัด DSC ที่ต่างกัน รูปที่ 2 แสดงให้เห็นถึงสิง่ ส�ำคัญทีจ่ ะเกิดขึน้ เมือ่ PET ถูกวัดโดย DSC จะท�ำให้เกิดลักษณะเฉพาะตัวของสาร ซึง่ คุณสมบัตดิ งั กล่าว สามารถใช้ในการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ รูปที่ 2 แสดงกราฟที่วัดค่าความร้อนโดยทั่วไปของ ตั ว อย่ า ง PET โดยจะแสดงให้ เ ห็ น ถึ ง อุ ณ หภู มิ ข อง การเปลี่ ย นแปลงของ Glass transition, การตกผลึ ก (Crystallization) และการละลาย (Melting) การเปลีย่ นแปลง สภาวะ Glass transition ที่ปรากฏพบ Enthalpy relaxation ซึ่งมีลักษณะเป็นพีคการดูดพลังงาน เกิดจากที่ตัวอย่างนั้น ถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิต�่ำกว่าอุณหภูมิของ Glass transition เป็นเวลานาน การเกิด Cold crystallization เกิดเมือ่ อุณหภูมิ ของตัวอย่างนั้นลงอย่างรวดเร็ว และไม่เกิดการตกผลึก ในระหว่างขั้นตอนของการลดอุณหภูมิของเครื่อง DSC ลง SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
103
STRENGTHEN THE PACKAGING
Thermal analysis of polymers with
Differential Scanning Calorimetry
This is the first of a series of six articles on the thermal analysis of polymers. The aim is to demonstrate and explain the various effects that can be measured by thermal analysis to characterize samples. The experiments have been performed using three different types of plastic materials, namely a thermoplastic (PET), a thermoset (UK 600), and an elastomer (WOO1). Thermal analysis is widely used in the polymer, petrochemical, chemical, pharmaceutical, automotive, microelectronics, food, and cosmetics industries as well as in scientific research. Thermal analysis encompasses a group of techniques that are to measure the physical properties of a substance as a function of time while the substance is subjected to a controlled temperature program. The techniques include DSC (Differential Scanning Calorimetry), TGA (Thermogravimetric Analysis), TMA (Thermomechanical Analysis) and DMA (Dynamic Mechanical Analysis). Thermal analysis is employed in research and development, process optimization, quality control, material failure and damage analysis as well as to analyze competitive products. For example, the influence of moisture content, additives, plasticizers or fillers, and the content of impurities and contaminants can be determined from thermal measurements. Furthermore, the different methods yield information about the processing, thermal history and pretreatment (storage and use), mechanical stress or strain, and dimensional changes. This first article describes how DSC is used to analyze a thermoplastic, PET (polyethylene terephthalate), as comprehensively as possible. The results of the various methods are compared with one another. The main topics discussed are Glass transition, Cold crystallization, Recrystallization, Melting, and Thermal history.
PET
PET was chosen to represent the group of thermoplastic polymers. It is a polyester produced in a polycondensation reaction between terephthalic acid and ethylene glycol. Its structure is shown in Figure 1. PET is used for many different applications. One of the most wellknown is the manufacture of plastic bottles in the beverage industry. It is also used as a fiber in the sports clothing industry because of its excellent crease-, tear-and weather-resistance properties and low water absorption Films of to 500 urns are used for packaging materials, for the manufacture of furniture, sunshades, and so on. The finished films are often coated or laminated with other films and are widely sued in the food industry, for example for packaging coffee or other foodstuffs to prevent
104
FOOD FOCUS THAILAND
SEP 2017
the loss of aroma. The characterization of the properties of the material is therefore very important in order to guarantee constant quality.
Experimental Details
The DSC measurements described in this article were performed using a DSC equipped with an sensor1 and evaluated with a software2. PET samples weighing about 3 to 10 mg were prepared and pretreated depending on the application. In general, samples should have a flat surface and make good contact with the crucible. The bottom of the crucible should not be deformed by the sample material when it is sealed.
Measurements and Results
DSC is a technique that measures the heat flow of samples as a function of temperature or time. The method allows physical transitions and chemical reactions to be quantitatively measured . Effects of type will be analyzed with the aid of different DSC measurements. Figure 2 shows the most important events that occur when PET is measured by DSC. These are often characteristic for a substance and serve as a fingerprint, enabling them to be used for quality control. Figure 2 displays a typical first heating measurement curve of a PET sample. It shows the glass transition, cold crystallization, and melting. The glass transition exhibits enthalpy relaxation, which is shown by the overlapping endothermic peak. The latter occurs when the sample has been stored for a long time at a temperature below the glass transition. Cold crystallization takes place when the sample is cooled rapidly and has no time to crystallize during the cooling phase. The DSC curve can also be used to determine the specific heat capacity. Different standard procedures exist for the determination of the glass transition temperature; several of these are evaluated directly by a software2 and are shown in Figure 2.
SHOW TIMES TIMES SHOW
Post Show
TRAFS 2017…Ended Successfully with Trades Exceeding 150 Million Baht ปิดฉากงานแสดงนานาชาติอันดับ 1 อุปกรณ์ เครื่องใช้ อาหารและเครื่องดื่ม ส�ำหรับโรงแรมและธุรกิจด้านบริการ พร้อมยอดขายทะลุ 150 ล้านบาท
TRAFS 2017 งานแสดงสินค้านานาชาติอันดับ 1 อุปกรณ์ เครื่องใช้ อาหาร และ เครื่องดื่ม ส�ำหรับโรงแรมและธุรกิจด้านบริการที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 11 ปิดฉากลงอย่างสวยงาม ท�ำสถิติมีผู้เข้าชมงานเกือบ 10,000 คน จาก 33 ประเทศ ด้านผู้ร่วมจัดแสดงพึงพอใจ ขอขยายพื้นที่แสดงปีหน้า นายกวิน กิตติบุญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จ�ำกัด เปิดเผยว่า งาน Thailand Retail, Food & Hospitality Service หรือ TRAFS 2017 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13-16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ไบเทค ปิดฉากลงด้วยยอดขายในงานกว่า 150 ล้านบาท ทั้งนี้ งาน TRAFS 2017 ที่จัดภายใต้คอนเซ็ปต์ “One Stop Hotel/ Food Service Solutions” มีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 8,945 คน จาก 33 ประเทศ แบ่งเป็นผู้เข้า ชมงาน คนไทย 8,769 และต่างชาติ 176 คน ผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศ 10 อันดับแรกประกอบด้วย เมียนมา จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ญี่ปุ่น ลาว บังคลาเทศ สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน นายกวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามผู้ร่วมจัดแสดงพบว่ามีความพึงพอใจกับ จ�ำนวนและคุณภาพของผู้เข้าชมงาน ซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการ ผู้บริหารธุรกิจ โรงแรม รีสอร์ท คอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์เมนต์ ภัตตาคาร Fine Dinning ร้านกาแฟ เบเกอรี ไอศกรีม โดยมีการเจรจาธุรกิจตลอด 4 วันของการจัดงานและมีการสั่งซื้อสินค้าอุปกรณ์ วัตถุดิบ และของใช้ส�ำหรับธุรกิจโรงแรมและงานบริการอาหารกับผู้แสดงทั้งชาวไทยและ ต่างประเทศ TRAFS 2018 จะกลับมาอีกครั้งระหว่างวันที่ 12-15 กรกฏาคม 2561 ณ ไบเทค กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อีเมล์ retailtrafs.kavin@gmail.com หรือ เว็บไซต์ www.thalandhoreca.com
The 11th TRAFTS 2017 ended successfully with nearly 10,000 visitors from 33 countries and great satisfaction from exhibitors who ask for larger venue next year. Kavin Kittiboonya, Managing Director of Kavin Intertrade Co., Ltd., revealed that Thailand Retail, Food & Hospitality Service, or as known as TRAFTS 2017, was held on July 13-16 at BITEC, Bangkok and has wrapped up with trading value of more than 150 million baht. Kavin said that TRAFS 2017 was organized under the concept “One Stop Hotel/Food Service Solutions”. The exhibition welcomed 8,945 visitors in total from 33 countries. Among these 8,769 visitors are Thais, while other 176 foreign visitors. The top 10 origins of visitors are Myanmar, China, Malaysia, Singapore, India, Japan, Laos, Bangladesh, the United States, and Taiwan. He later added that, based on questionnaire on satisfaction, our exhibitors were very happy with the show both in term of numbers and quality of visitors. The exhibition visitors were entrepreneurs and managers in various businesses such as hotel, resort, condominium, service apartment, restaurant, coffee shop, bakery, and ice-cream parlor. Throughout the 4 days of the exhibition, there were on-going business negotiation and order placements for tool, ingredients, hotel and food service equipment from both Thai and foreign traders. TRAFS 2018 will be held again on July 12-15, 2018 at BITEC, Bangkok. For more information, please email to retailtrafs.kavin @gmail.com or visit www.thailandhoreca.com
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
105
SURROUNDS
Mettler-Toledo Organized Occupational Health and Working Environment Safety Training
SGS Seminar: Beyond Advanced Food Hygiene for Hospitality Business
กรุงเทพฯ, 3 สิงหาคม 2560 - บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จ�ำกัด ได้มกี ารจัดอบรมภายใต้ เรือ่ ง “ความปลอดภัยด้านอาชีวอนามัยและ สภาพแวดล้อมในการท�ำงาน ส�ำหรับพนักงานทัว่ ไปและพนักงานเข้าใหม่” ซึ่ ง การจั ด อบรมในครั้งนี้ เมทเล่อร์-โทเลโด ได้รับ เกียรติ จ ากอาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย เป็นผู้บรรยาย การอบรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความเข้าใจ ตรงกันในเรือ่ งของความรูค้ วามปลอดภัยในการท�ำงาน เพือ่ ลดความเสีย่ งต่อ การเกิดอุบัติเหตุอันตรายต่าง ๆ ขณะปฏิบัติงาน และเพื่อให้เป็นไปตาม กฎกระทรวงก� ำ หนดมาตรฐานในการบริ ห ารและการจั ด การด้ า น ความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการท�ำงาน พ.ศ. 2549
กรุงเทพฯ - บริษทั เอสจีเอส (ประเทศไทย) จ�ำกัด ผู้เชี่ยวชาญในด้านการตรวจสอบ การทดสอบ และการรับรองระบบ ได้จัด สัมมนา ในหัวข้อ “Beyond Advanced Food Hygiene for Hospitality Business” โดยได้รบั เกียรติ จากคุณรัชดาภรณ์ จีนบุญ ผู้เชี่ยวชาญและเป็นหัวหน้าผู้ตรวจประเมินด้านอาหารปลอดภัย บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จ�ำกัด ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายในครัง้ นี้ งานสัมมนาในครัง้ นีจ้ ดั ขึน้ เพื่อให้ความรู้เรื่องมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ Food Hygiene และระบบมาตรฐาน อาหารปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับระดับสากลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Hospitality เช่น GMP/HACCP, ISO 22000, ISO 9001 และ Mystery Shopper Audit เพื่ อ ช่ ว ยในการเตรี ย มความพร้ อ มในการเติ บ โตทางธุ ร กิ จ อย่ า งยั่ ง ยื น ซึ่ ง จะ เป็นประโยชน์กับกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร บริการจัดงานเลี้ยง เป็นต้น อีกทั้ง ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์อันดีให้กับองค์กรของท่านในการพัฒนาระบบคุณภาพ และการให้บริการที่ดีต่อไป ทั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน เป็นจ�ำนวนมาก
Bangkok, 3 August 2017 - Mettler-Toledo (Thailand) Limited organized an in-house training under the topic of “Occupational Health and Working Environment Safety”. The training was given by experts from Employers’ Confederation of Thailand (ECOT) which mainly aimed to raise understanding and awareness of working environment safety. This training is also a part of Ministerial Regulation on the Prescribing of Standard for Administration and Management of Occupational Safety, Health and Environment in Relation to Heat, Light and Noise B.E. 2549 (A.D. 2006). www.mt.com
Bangkok - SGS (Thailand) Limited, the world’s leading inspection, verification, testing and certification company organized the seminar under the topic of “Beyond Advanced Food Hygiene for Hospitality business” taught by Ratchadaporn Jeenboon, Lead Tutor and Lead Auditor, SGS (Thailand) Limited. The objective is to circulate and update information of food hygiene/food safety standards such as GMP and HACCP, including the importance and benefits for the hospitality services of Hotel, Restaurant, Catering services and etc. Moreover, we introduced the interesting related standards such as ISO 22000, ISO 9001 and Mystery Shopper Audit scheme, which will help the organization to be recognized internationally and step forward to high level on services quality which many attendees interestingly joined in this seminar. www.sgs.co.th
Food Safety in Commercial Kitchens
กรุงเทพฯ, 12 กรกฎาคม 2560 - ปัจจุบนั ธุรกิจบริการอาหารมีการแข่งขันอย่างดุเดือด ทั้งด้วยการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมและอุปกรณ์ที่ล�้ำสมัยเพื่อน�ำเสนอการบริการ ด้านอาหารจากหลังครัวสู่หน้าร้าน แต่สิ่งส�ำคัญที่เป็นหัวใจของความส�ำเร็จ คือเรื่อง ความปลอดภัยและสุขอนามัยในธุรกิจบริการอาหาร Food Safety in Commercial Kitchens งานสัมมนาด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในการผลิตและการจัดการ ธุรกิจบริการอาหารจึงได้จัดขึ้น โดย บริษัท บี มีเดีย โฟกัส (ประเทศไทย) จ�ำกัด ภายในงานแสดงสินค้า HORECA ASIA 2017 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อน�ำเสนอแนวทางปฏิบัติอันเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการอาหาร ให้สามารถผลิตอาหารที่มีความปลอดภัยและมีคุณภาพดีส�ำหรับผู้บริโภค ภายในงานสัมมนาได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุดสาย ตรีวานิช ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ บรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ “แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยและ การจัดการสุขอนามัยในธุรกิจบริการอาหาร” โดยได้รับความสนใจจาก ผู้ประกอบการ ธุรกิจร้านอาหาร คาเฟ่ ธุรกิจบริการอาหารและการจัดเลี้ยง ผู้ที่ก�ำลังเริ่มต้นท�ำธุรกิจ หรือกลุ่ม Startup และ SMEs ตลอดจนบุคคลทั่วไปที่สนใจรวม 122 ราย 106
FOOD FOCUS THAILAND
106-108_Surrounds.indd 106
Bangkok, 12 July 2017 Nowadays, food service industry is fiercely competitive. Innovative technology and advanced tools are used to provide outstanding food service from kitchen to storefront, but the key to successful business still relies on food safety and hygiene. The seminar, “Food Safety in Commercial Kitchens”, which focuses on food safety and sanitation in food producing and food management, was organised by Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. In HoReCa ASIA 2017 at Queen Sirikit National Convention Center in order to provide practical strategy for food service businesses to produce safe and quality products for their consumers. The seminar welcomed honorary speaker, Assistant Professor Dr.Sudsai Trevanich from the Department of Food Science and Technology, Faculty of Agro-Industry, Kasetsart University, who gave lecture on “Guidelines for Safety and Hygiene Management in Food Service Industry”. The seminar attracted 122 participants including entrepreneurs in restaurant, cafe, food service and catering, startups, SMEs, and general public. www.foodfocusthailand.com
SEP 2017 www.tateandlyle.com
8/21/17 5:26 PM
SURROUNDS
ABB Digitalization for a Sustainable Growth of Food & Beverage Industry Seminar
อยุธยา, 3 สิงหาคม 2560 - บริษัท เอบีบี (ไทยแลนด์) จ�ำกัด จัดงานสัมมนาเชิงวิชาการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ บริการส�ำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้ธีม “ABB Digitalization for a Sustainable Growth of Food & Beverage Industry” ณ โรงแรมคลาสสิ ก คามี โ อ มุ ่ ง เน้ น ประเด็ น หลั ก ที่ครอบคลุมทั้งในเรื่อง Power & Utility และ Process & Palletizing โดยพร้อมกันนี้ยังน�ำนวัตกรรมและดิจิทัลโซลูชันมาจัดแสดงให้แก่ ผู ้ เ ข้ า ร่ ว มงานได้ ช มและดู ก ารสาธิ ต การใช้ ง านมากถึ ง 18 บู ธ และยั ง จั ด กิ จ กรรมให้ ผู ้ เ ข้ า ร่ ว มงานได้ ร ่ ว มสนุ ก ตลอดวั น อาทิ Virtual Reality Game ที่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดสอบหยิบช็อกโกแลต แข่งกับหุ่นยนต์ของเอบีบี ที่เป็นไฮไลท์ส�ำคัญ
Ayutthaya, 3 August 2017 - ABB (Thailand) Co., Ltd. held an academic seminar on products and services in food and beverage industry under the theme “ABB Digitalization for a Sustainable Growth of Food and Beverage Industry”. The seminar was held at Classic Kameo Hotel and covered various topic including Power & Utility and Process & Palletizing, as well as 18 boots of innovation and solutions showcases and other activities. One of the highlight was a virtual reality game in which attendee can compete with ABB’s robot to seize a chocolate.
www.abb.co.th
The Dates for Interpack 2020 Have Been Set Components Parallel Again
เยอรมนี - จากรายการงานแสดงสินค้าโดย Düsseldorf นั้น งานแสดงสินค้า interpack จะมีก�ำหนดจัดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า ระหว่างวันที่ 7-13 พฤษภาคม 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้า Düsseldorf Exhibition Centre โดยงานแสดงสินค้าครั้งที่ผ่านมาซึ่งจัดขึ้น ในช่วงเดือนพฤษภาคมนัน้ ได้รบั ความสนใจจากผูเ้ ข้าร่วมจัดแสดงสินค้า 2,865 ราย และหนาแน่นด้วยผูเ้ ข้าร่วมชมงาน 170,500 คน ทั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบริษัทต่างๆ ที่มาร่วมงาน โดยผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าหลายรายชื่นชอบที่ภายในงานนั้น เต็มไปด้วยผูเ้ ข้าร่วมชมงานทีม่ คี ณ ุ ภาพทัง้ จากเยอรมนีและประเทศต่างๆ ทัว่ โลกทัง้ ยังล้วนเป็นกลุม่ ทีม่ ศี กั ยภาพในการสัง่ ซือ้ สินค้า ภายในงานทันที และบริษทั จ�ำนวนมากกล่าวว่าพวกเขาไม่เคยได้รบั รายการสัง่ ซือ้ แบบเฉพาะเจาะจงอย่างทีเ่ คยเกิดขึน้ ภายในงาน แสดงสินค้านี้มาก่อน โดยภายในปี 2573 ทางผู้จัดงาน Messe Düsseldorf มีแผนจะทุ่มเงินลงทุนทั้งหมดกว่า 636 ล้านยูโร ในการต่อเติมศูนย์แสดงสินค้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและทันสมัย มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นก้าวส�ำคัญในการต้อนรับผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าและผู้เข้าร่วมชมงาน interpack 2020 โดยจะมีการออกแบบใหม่ทั้งหมดที่บริเวณฝั่งทางเข้าทางใต้และสร้าง ฮอลล์แสดงสินค้าฮอลล์ 1 ใหม่ โดยใช้วัสดุก่อสร้างเลียนแบบยุค 1970 และจะเปิดใช้งานแทนฮอลล์ 1 และฮอลล์ 2 เดิมในช่วงฤดูร้อนปี 2562 ฮอลล์แสดงสินค้าที่สร้างใหม่นี้มีขนาดพื้นที่ 12,025 ตารางเมตร ใหญ่พอที่จะท�ำให้งานแสดงสินค้า interpack 2020 มีพื้นที่การจัดแสดงงานเพิ่มขึ้นกว่า 550 ตารางเมตร เทียบกับฮอล์เดิมทีเ่ คยจัดมา นอกจากนีย้ งั มีการออกแบบห้องโถงขนาดใหญ่โดยมีพนื้ ทีป่ ระมาณ 2,100 ตารางเมตร เชือ่ มต่อกับด้านนอก หลังคาสูง 17 เมตร (56 ฟุต) ออกแบบ ด้วยโครงสร้างไฟเบอร์กลาสทีแ่ สงส่องผ่านได้ และมีการจัดแสงไฟด้วยเทคนิคไฟ LED แบบผสมผสาน ภายในอาคารออกแบบให้มหี อ้ งประชุม 6 ห้อง ซึง่ เชือ่ มต่อกับ Congress Centre Süd ด้านพื้นที่จัดแสดงสินค้าในโซน interpack components นั้นจะจัดขึ้นบริเวณพื้นที่ตรงกลางภายในศูนย์แสดงสินค้าเช่นเดิม โดยการออกแบบและสร้างพื้นที่ การจัดงานดังกล่าวนี้จะเสร็จสมบูรณ์ไปพร้อมๆ กับการเปิดตัวงานแสดงสินค้า interpack ปี 2563 เนื่องจากโซนแสดงสินค้าที่จัดอย่างพิเศษนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากซัพพลายเออร์ในครั้งที่ผ่านมา จึงหวังว่านี่จะเป็นทางเลือกที่มากขึ้นในการเดินทางมาร่วมงานครั้งต่อไป ส�ำหรับบริษัทต่างๆ ที่ก�ำลังรอเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าภายในงาน interpack หรือ interpack components 2020 สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ในช่วงปลายปี 2560 โดยจะปิดรับลงทะเบียนอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี 2562 ซึ่งทางผู้จัด Messe Düsseldorf นั้นก็จะออกมาอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานให้ทราบกัน อีกครั้งในโอกาสต่อไป Germany - Following the Düsseldorf trade fair cycle, the next interpack at the Düsseldorf Exhibition Centre will be held in three years’ time, from 7 to 13 May 2020. The last interpack, which took place in May this year and attracted 2,865 exhibitors and 170,500 visitors, met with a highly positive response among the companies that came. Exhibitors praised, above all, the quality of the German and international visitors and their strikingly high willingness to place orders. A number of firms said they had never received so many specific orders during a trade fair before. By the year 2030 Messe Düsseldorf will have invested a total of EUR 636 million from its own funds in the expansion and modernisation of the exhibition centre. One milestone to welcome exhibitors and visitors at interpack 2020 will be the completely redesigned South Entrance and a new Hall 1. The new building will replace the former Halls 1 and 2 in summer 2019, buildings whose basic substance dates back to the 1970s. The new Hall 1 will have a capacity of 12,025 square metres, so that interpack 2020 will have just over 550 additional square metres of hall space compared with the previous facilities. In addition to a new Hall 1, the new complex will have a foyer directly outside, about 2,100 square metres in size, with a 17-metre (56-foot) steeply pointed canopy made from translucent glass fibre fabric with integrated LED lighting. It will have six meeting rooms and direct access to Congress Centre Süd. The suppliers’ trade fair components – special trade fair by interpack will run completely in parallel with interpack again in 2020 and will be held at a central location within the exhibition centre. This idea met with a highly positive response among this year’s exhibitors, so that expansion options are now being explored for 2020. Any companies wanting to exhibit at either interpack or components in 2020, can register at a much earlier stage this time – at the end of 2017. The official closing date will be sometime in spring 2019, and the precise details will be announced by Messe Düsseldorf in due course. www.interpack.com
SEP 2017
106-108_Surrounds.indd 107
FOOD FOCUS THAILAND
107 8/21/17 5:27 PM
SURROUNDS
Certificates of International Standard by BSI
The 91st and 92nd Academic Seminar of TCS
สมุทรสาคร - สถาบันมาตรฐานอังกฤษ BSI มอบใบรับรองระบบมาตรฐาน GMP และ HACCP ให้แก่ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จ�ำกัด (มหาชน) ผู้น�ำด้านอุตสาหกรรม ขนมหวาน เบเกอรี กาแฟ ภายใต้แบรนด์ อาฟเตอร์ ยู ณ โรงงานทีน่ คิ มอุตสาหกรรม สินสาคร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังด�ำเนินธุรกิจร้านเบเกอรีชื่อดัง อาทิ “ร้าน อาฟเตอร์ ยู” และ “ร้านเมโกริ” โดยมาตรฐาน GMP และ HACCP ส�ำหรับ สถานประกอบการนี้ มี ค วามเกี่ ย วข้ อ งกั บ การรั บ รองระบบบริ ห ารจั ด การ ด้านอาหารปลอดภัย และการจัดการด้านสุขลักษณะที่ดี โดยเสริมสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และเพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกค้าที่ใช้บริการ
นครปฐม, 7 กรกฎาคม 2560/ ระยอง, 18 สิงหาคม 2560 บริ ษั ท ไทยคาลิ เ บรชั่ น เซอร์ วิ ส www.foodfocusthailand.com จ� ำ กั ด ได้ จั ด สั ม มนาเชิ ง วิ ช าการ ครั้งที่ 91 ณ ส�ำนักงานใหญ่ และ ครั้งที่ 92 ณ โรงแรมโกลเด้นซิต้ี ระยอง โดยมีนายสมหวัง วงศ์ด้วง ผูจ้ ดั การฝ่ายห้องปฏิบตั กิ ารสอบเทียบ ให้เกียรติเป็นวิทยากรในการบรรยาย ในหั ว ข้ อ เรื่ อ ง “Intermediate Check เครื่ อ งชั่ ง และการอ่ า นค่ า ใบ Certificate” ซึ่งการจัดสัมมนาดังกล่าวนี้มีจุดมุ่งหวังเพื่อให้ผู้ประกอบการ สามารถน�ำความรู้ไปใช้ในการท�ำงานให้ได้ประโยชน์มากขึ้น
Samut Sakhon - British Standard Institution (BSI) has presented the Certification of GMP & HACCP Codex to After You Public Company Limited, the leading coffee and bakery industry in Thailand. The company also operates the dessert café named “After You” and “Maygori”. As the current standard for quality management system, GMP & HACCP assist the company to ensure compliance with Food Safety Systems, Good Manufacturing Practices, Hazard Analysis and Critical Control Point in manufacture. The standard also enhances company images to the global and gets confidences from both domestic and international customers.
Nakhon Pathom, 7 July 2017/ Rayong, 18 August 2017 -Thai Calibration Service Ltd., arranged its 91st and 92nd Academic Seminars at its headquarter, and Golden City Hotel in Rayong Province, respectively. In both events, Mr.Somwang Wongduang, Director of Calibration Laboratory Department, attended as honored speakers on the topic of “Intermediate Check, Weighing Machine, and Certification Reading”. The seminars aimed to provide attendees useful knowledge to improve work capacity.
www.bsigroup.com/en-th
www.thaical.com
HORECA ASIA 2017 Exceeds Expectations!
กรุงเทพฯ, 12-14 กรกฎาคม 2560 - HORECA ASIA 2017 ยิม้ รับความส�ำเร็จปีแรก กลุ่มผู้ซ้ือจากประเทศไทยและต่างประเทศ 300 ราย สนใจเข้าร่วมจับคู่ธุรกิจ ในงานแสดงสินค้าและบริการนานาชาติส�ำหรับธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร กาแฟ และ รับจัดเลี้ยง ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิรกิ ติ ิ์ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านแหล่ง วัตถุดบิ สินค้า และบริการ พร้อมเปิดโอกาสการค้าส�ำหรับผูป้ ระกอบการไทยสูต่ ลาดสากล ภายในงานมีผปู้ ระกอบการทีส่ นใจเข้าร่วมแสดงงานทัง้ สิน้ กว่า 180 คูหา 5 พาวิลเลียน เป็นคูหาจากต่างประเทศร้อยละ 30 ผูเ้ ยีย่ มชมงานประมาณ 8,000 ราย เป็นกลุม่ ผูซ้ อื้ จากต่างประเทศร้อยละ 20 จากประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย อินโดนีเซีย และ กลุ่ม CLMV ได้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี ร้านกาแฟ ผู ้ ป ระกอบการอสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ บ้ า น คอนโด และอพาร์ ท เม้ น ท์ นั ก ออกแบบ นักการตลาด นักโฆษณา นักธุรกิจ นักลงทุน และผู้สนใจทั่วไป ส�ำหรับไฮไลท์ของการจัดงานครั้งนี้ ต้ อ งยกให้ กั บ การจั ด แสดงสาธิ ต นวัตกรรมการออกแบบ และการบริหาร จั ด การ โดยเฉพาะธุ ร กิ จ โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจรับจัดเลี้ยง ที่ช่วย ผู้ประกอบการในการลดต้นทุนการผลิต และการบริ ห าร ขณะเดี ย วกั น ก็ ช ่ ว ย ต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้ด้วยแนวทางใหม่ พัฒนาธุรกิจเดิมสู่ตลาดกลุ่มใหม่ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลง ไปในยุค 4.0 108
FOOD FOCUS THAILAND
106-108_Surrounds.indd 108
Bangkok, 12-14 July 2017-HORECA ASIA 2017 started off its first year with good news as 300 Thai and foreign buyers are interested in joining the business matching session at HORECA ASIA 2017, an international trade show for hotel, restaurant, cafe, and catering service industries, which held at the Queen Sirikit National Convention Center. Under this year’s theme, Total Solution, HORECA ASIA served business demands for raw materials, goods, and services, and to open up trade opportunities for Thai entrepreneurs, enabling them to conduct business in the international scale. HORECA ASIA joined by over 180 booths of entrepreneurs in 5 pavilions, 30 of which are hosted by international operators. It drew attentions around 8,000 buyers, 20% of them come from China, Taiwan, South Korea, India, Indonesia, and CLMV, who are designers, marketers, advertisers, business people, investors, business operators in hotel, restaurant, bakery, cafe, real estate, house, condominium, and apartment businesses, and the general public. Highlights of this event are product demonstrations, design innovations, and management techniques which are especially useful for hotel, restaurant, and catering businesses to help entrepreneurs reduce production and administration costs while allowing them to generate incomes through new approaches, such as repositioning old businesses for new markett to stay consistent with changing consumer behavior and market needs in the Thailand 4.0 era. www.horecaasiaexpo.com
SEP 2017
8/21/17 5:27 PM
P R O D U C T
P R O F I SURROUNDS L E
T. 02 192 9598
Visit us at: Booth No. M5
SEP 2017
FOOD FOCUS THAILAND
109
U SHARE. V CARE.
September 2017
Let us know which articles you interested in, please inform Should you have any enquiries, please inform us the service info code (s) Advertisement
B
B
B
B
Article
C
C
C
C
Product
P
P
P
P
Please share your comment with us!
Please fill in the form in ENGLISH Name-Surname: Position: Company Name:
Starbucks Water Bottles worth THB550 (Only 2 Lucky Winners)
Company Address:
Tel: Fax: E-mail:
Note: This picture is for advertising only.
Website:
We look forward to your feedback and suggestions. editor@foodfocusthailand.com, contact@foodfocusthailand.com +66 2116 5732
The winner of U. Share V. Care in July 2017 1. Pinkaew Saengwiroj QA Departmen, MC-TOWA International, Sweeteners Co., Ltd. 2. Wisit Sodsaengthien Managing Director, Bow Bakery House Co.,Ltd.
The gift will be delivered to you by post. Thank you.
Sukishi Gift Voucher THB500 (Only 2 Lucky Winners)
“From conception to implementation”
Understanding >> Accessing >> Developing
For the processes of Foods, Pharmaceuticals, Beverages, Cosmetics, Feed mills, Petrochemicals, Plastic and other type of processes. 3 Powder Process 3 Piping Service 3 Process Machine
3 Fabrication 3 Utility 3 Automation
Fabrication
Powder Process
Cup Sealing Machine
Evapor®
Piping Service & Utility
Dhawath Technology Systems Co., Ltd.
SoliValve®
Process Machine
“Help You to Feed the World”
2 Moo. 3 Lumlukka, Lumlukka, Pathumthani 12150 Tel: +662 5495508 Fax: +662 5495500 E-mail: Sales@dhawathsystems.co.th www.dhawathsystems.co.th www.facebook.com/dhawathsystems ad_Dhawat_May.indd 19
8/19/17 9:34 AM
ad_Brenntag.pdf
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
1
8/3/17
9:18 AM