Foodfocusthailand No. 141 December 17

Page 1


ad_Hi-Cook final.indd 2

11/22/17 11:44 AM


Food Processing & Packaging System

High-Speed Horizontal Form-Fill-Seal Alpha8 Series Evolution of Packaging Machines Sealing Quality

Energy Saving

Simple but advanced design mechanism proven the seal quality for wide range of sealing options available.

The Alpha8 adopts center seal induction heater which provides stable heat with less energy usage. Heating in duty only.

Wide Touch Panel/ Universal Design Provides easy-to-see-easyto-use by wide touch screen with carefully design user interface which provides full range of information with comfortable scaling and color for everyone even older or hadicapped people.

408/2 ถนนจรัญสนิทวงศ์ บางยี่ขัน บางพลัด กรุงเทพฯ 10700 408/2 Charansanitwong Road, Bangjikan, Bangplad, Bangkok 10700

ad_Better Pack.indd 1

Auto Calculation Alpha8 adopts the auto-calculation function and operation panel improvement. Just enter the basic information such as product size and scale value.The Alpha8 automatically calculates rejections. No complicated settings or adjustments are necessary.

Easy Film Change/ Reduce Film Route The Alpha8 adopts open-close film feed frame which allows an easier film change also easier sensor cleaning in the same time. Non contact optic sensor replaces limit switch for film run out detection. Fuji’s shorten film route save unused ~500mm in film setting.

โทร. / Tel. (662) 886 9000 แฟกซ์. / Fax. (662) 886 9393

11/23/17 1:59 PM


CONTENTS

DECEMBER 2017 Vol. 12 No. 141

BONUS

REGULAR

SURF THE AEC

STAR ITEMS

ATTRACTIONS

18

ATTRACTIONS

Food Export Growth to Continue in 2018 in Pace

14

with the World Economy

คาดการณ์การส่งออกอาหาร ปี 2561 เติบโตต่อเนื่องตามเศรษฐกิจโลก By: National Food Institute

22

Vietnam Food Retail Business Growing Dramatically

ธุรกิจค้าปลีกอาหารเวียดนามมาแรง โตต่อเนื่อง By: Food Intelligence Center, National Food Institute

Thai SME’s Obstacles in New Product Development Process

ปัจจัยที่พึงระวังในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของผู้ประกอบการอาหาร SMEs

ผลิตภัณฑ์ดาวเด่นประจ�ำฉบับ

SPECIAL FOCUS 26

SPECIAL REPORT

STAR ITEMS

29

By: Throngvid Hongsaprabhas

Modern Trade

ธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่ By: Poonsuk Ninkitsaranont

SMART PRODUCTION 35

Keystone Food Products…One Step Ahead with Turnkey Solutions

ก้าวล�้ำหน้าอีกขั้นกับระบบเทิร์นคีย์ By: Paul Webster

38

Automatic Test System of Vertical Metal Detector

นวัตกรรมเครื่องตรวจจับโลหะในสินค้าที่ไหลตกผ่านตามแนวดิ่ง By: Mettler-Toledo (Thailand) Limited

STRONG QC & QA 41

Food Safety…Facts and Importance

ความปลอดภัยอาหาร...ข้อมูลและความส�ำคัญ By: World Health Organization

STRATEGIC R & D 44

22

41

Diet Therapy

มารู้จักกับวิธีการรับประทานที่แนะน�ำโดยแพทย์เพื่อส่งเสริมสุขภาพดี By: Joe (M.Sc. Nutrition)

29


Make Your Benefit

Tel.: (66) 0 2136 3156

Fax.: (66) 0 2136 316

www.sentapack.com


CONTENTS OCCASIONAL ATTRACTIONS

SOMETHING ABOUT FOOD Entering the Potato Snack World

49 แป้งนวัตกรรมส�ำหรับอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ By: Gerben Meursing

52

Freeze Dried Technology…Get to Know the Technology

DECEMBER 2017 Vol. 12 No. 141

EXHIBITION ATTRACTIONS

SHOW TIMES 64 66

By: Natthamon Chaithongrat

STAND OUT TECHNOLOGY

อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ประสบความส�ำเร็จตอบรับตลาดผู้บริโภคจีนเติบโตมากขึ้น Post Show - Food Focus Thailand Roadmap # 41: Drinking Edition

วงการอุตสาหกรรมเครื่องดื่มคึกคัก ภาครัฐขานรับเทรนด์สุขภาพมาแรง

and Benefits of Freeze Drying

ท�ำความรู้จักกับเทคโนโลยีและประโยชน์ของการท�ำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง

Post Show – Meat Expo China 2017

68 70

Pre Show - FRUIT LOGISTICA 2018

รู้ลึก รู้จริงแห่งอนาคตของธุรกิจผักและผลไม้สด Pre Show - The 98th China Food and Drink Fair Spring (CFDF) 2018

งานแสดงสินค้าด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุด ณ เมืองเฉินตู

Cavity Ring - Down Spectroscopy (CRDS)

55 เทคนิคล่าสุดในการตรวจสอบการเจือปนในน�้ำมะพร้าว By: Rachatin Summaprasit

STANDARD AND REGULATION 58

Food Packaging Fraud for Food Industry

การปลอมบรรจุภัณฑ์อาหารในอุตสาหกรรมอาหาร By: Sompong Nilmanee

SAFETY ALERT Transforming Useless Raw Material into Valuable Products

60 เนรมิตวัตถุดิบด้อยค่า…ให้เป็นสินค้ามีคุณค่า สมราคา By: Sahas Ratanasoponchai

44

STRENGTHEN THE PACKAGING

62

Innovative Green Beverage Packaging

62 นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสิ่งแวดล้อม By: Food Focus Thailand Magazine

DEPARTMENTS

74

U Share. V Care.

Advertising Index

10 รายชื่อผู้ลงโฆษณา

Schedule of Events

12 ข้อมูลงานนิทรรศการ การประชุม สัมมนา และฝึกอบรมต่างๆ

“Gift Voucher The Mall/ Emporium/ Paragon worth THB500”

Surrounds

71 อัพเดทข่าวสารในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

แบบสอบถามความคิดเห็น พร้อมลุ้นรับของรางวัล

ประกาศรายชื่อผู้โชคดี ได้รับรางวัลประจ�ำฉบับเดือน ตุลาคม 2560

Share your comment and

The Winners of U Share. V Care.

win a gift

OCTOBER 2017 Issue



EDITOR’S TALK นัยส�ำคัญของ FTA สหภาพยุโรป (EU) – ญี่ปุ่นต่อ EU นั้นถือเป็นการเปิดเสรีสินค้าเกษตรของ EU ในตลาดญี่ปุ่นมากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีมาตรการปกป้องภาคเกษตรมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การเปิดเสรีดังกล่าว อาจส่งผลต่อการเบี่ยงเบนการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยในญี่ปุ่น ซึ่งสินค้าดังกล่าวนับเป็นสินค้า ที่ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันค่อนข้างมากในเวทีโลกและในตลาดญี่ปุ่น ศูนย์วจิ ยั กสิกรไทยประเมินว่า ผลกระทบต่อการเบีย่ งเบนทางการค้าสินค้าเกษตรมีคอ่ นข้างจ�ำกัดเพียงราว 64 ล้านเหรียญ สหรัฐ (หรือราวร้อยละ 0.3 ของการน�ำเข้าของญี่ปุ่นจากไทย) โดยมาจากความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะหันไปน�ำเข้าจาก EU แทนไทย คิดเป็นมูลค่าราว 9.7 ล้านเหรียญสหรัฐ อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยงประเภทแมวและสุนัข หรือการที่ไทยอาจจะเจาะ ตลาดญีป่ นุ่ ได้ยากขึน้ คิดเป็นมูลค่าราว 54.7 ล้านเหรียญสหรัฐ อาทิ เนือ้ สุกรแปรรูปทีไ่ ทยพยายามเจรจาต่อรองเพิม่ โควต้า การน�ำเข้าจากญี่ปุ่นมาโดยตลอด ผลกระทบต่อภาคเกษตรของไทยที่จ�ำกัดข้างต้นนั้น สืบเนื่องจากสินค้าส่งออกหลักส่วนใหญ่ของไทยมีถิ่นก�ำเนิดเฉพาะ และไทยมีศกั ยภาพในการแปรรูปให้ตรงกับรสนิยมชาวญีป่ นุ่ ได้เป็นอย่างดี (Niche market) อาทิ ผักและผลไม้ทบี่ างส่วน จัดเป็นสินค้าพรีเมียมในญี่ปุ่นอย่าง มังคุด มะพร้าวน�้ำหอม หน่อไม้ฝรั่ง หรือแม้กระทั่งสินค้าประเภทอาหารกึ่งส�ำเร็จรูป และอาหารพร้อมรับประทาน อย่างทูนา่ กระป๋อง ข้าวโพดหวานกระป๋อง และเครือ่ งแกงบรรจุกระป๋อง อีกทัง้ ประเภทสินค้า ที่ไทยส่งออกค่อนข้างแตกต่างกับ EU ในรายละเอียด อย่างไรก็ดี สินค้าบางประเภทของไทยในตลาดญี่ปุ่นเริ่มมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ลดลง ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควร ปรับกลยุทธ์การส่งออก โดยเน้นสินค้าที่ตอบโจทย์กระแสการบริโภคของชาวญี่ปุ่นมากขึ้น อาทิ เกษตรอินทรีย์และ ผักปลอดสารพิษ อาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้ง อาหารไทยบรรจุกระป๋องหรืออาหารไทยพร้อมรับประทานที่หลากหลาย มากขึ้น อาทิ ผัดไทยหรือผัดกะเพราพร้อมทาน นอกจากนี้ ไทยควรเร่งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันผ่านการให้ ความส�ำคัญต่อการเจรจาลดข้อจ�ำกัดที่เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดสินค้าเกษตรของญี่ปุ่น A major implication of the EU-Japan Economic Partnership Agreement, the ‘EU-Japan FTA’, is that it will further liberalize the Japanese agricultural market for EU farm produce. Japan is one of the world’s most protected farm produce markets. The agreement may lead to trade diversion of Thai agricultural food exports to Japan. Once the EU-Japan FTA lowers tariff barriers for EU products entering the Japanese market, that could affect the Thai agricultural and agro-processed exports sent there now, even though Thai products are relatively competitive in international markets. KResearch projects that the agreement can result in limited trade diversion for farm produce exports to Japan. Japanese importers may buy more agricultural products, e.g., animal feed, from the EU, or Thai exporters may find it more difficult to further penetrate the Japanese market, especially for processed pork meat. The scope of trade diversion should be insignificant or merely about USD 64 million (0.3 percent of our total exports sent to Japan) because most Thai agricultural exports are associated with geographical identifications and Thai producers have the potential to meet the demand of the niche market in Japan. Moreover, Thai farm produce exports have unique properties that differ them from those of others. Nonetheless, the market shares of certain Thai products in Japan have begun to shrink. Therefore, Thai exporters should rethink their strategies toward Japan by focusing on products that respond better to new trends in Japanese consumer behavior such as favoring organic agricultural produce, chemical-free vegetables and other ‘healthy foods’.

Food Focus Thailand Magazine Publisher Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. 5/38 Soi Ngamwongwan 25 Yak 26, Bangkhen, Muang Nonthaburi, Nonthaburi 11000 Thailand T +66 2192 9598 F +66 2116 5732 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com

Sirintra Boonsumrej

Managing Editor Food Focus Thailand Magazine

ฝ่ายบรรณาธิการ / Editorial Department บรรณาธิการบริหาร / Managing Editor: ศิรินทรา บุญส�ำเร็จ / Sirintra Boonsumrej ผู้ช่วยบรรณาธิการ / Assistant Editor: อัครพล อนันตโชติ / Arkkrapol Anantachote ผู้สื่อข่าวอาวุโส / Senior Journalist: พิมพ์ชนก กนกลาวัณย์ / Pimchanok Kanoklawan editor@foodfocusthailand.com

ฝ่ายขายและการตลาด / Sales & Marketing Department ผู้อ�ำนวยการฝ่ายธุรกิจ / Business Director: เพ็ญแข ประวัตพิ ฒั นากูล / Phenkhae Prawatphatthanakoon ผู้จัดการฝ่ายขาย / Sales Manager: สิริวรรณ ขาวสะอาด / Siriwan Khaosaard เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโฆษณา / Advertising Sales Executive: นิภาพร ละครอนันต์ / Nipaporn Lakornanan sales@foodfocusthailand.com

ฝ่ายสมาชิก / Circulation Department เจ้าหน้าที่ฝ่ายสมาชิก / Circulation Officer: จิตสุดา ทองปาน / Jitsuda Thongparn ชาลินี จันทานนท์ / Chalinee Chanthanon contact@foodfocusthailand.com นาถเรขา ทัพภูตา / Natrekha Tapputa seminar4@foodfocusthailand.com

ฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Department ผู้อ�ำนวยการฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Director: เจ้าหน้าที่ฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Designer:

สุรีรัตน์ หลักบุตร / Sureerat Lukbud นภพงศ์ กรประเสริฐ / Napaphong Kornprasert

graphic@foodfocusthailand.com

ฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Department ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Manager: นาตยา พงษ์สัตยาพิพัฒน์ / Nataya Pongsatayapipat p.nataya@foodfocusthailand.com

The texts and photos in Food Focus Thailand, as well as personal comments of contributors are all rights reserved. Reproduction of the magazine, in whole or in FOOD FOCUS THAILAND DEC 2016 part, is prohibited without the prior written consent of the publisher.

8


BOARD OF CONSULTANTS Sakchai Sriboonsue D.V.M., LB.

Phanit Laosirirat, Ph.D.

Boonpeng Santiwattanatam

Assoc. Prof. Ratchanee Kongkachuichai, Ph.D.

Visit Limprana

Prof. Visith Chavasit, Ph.D.Â

Sakkhee Sansupa

Assoc. Prof. Sittiwat Lertsiri, Ph.D.

Prof. Pavinee Chinachoti, Ph.D.

Poj Aramwattananont, Ph.D.

President of the Milk Board Dairy Farming Promotion Organization of Thailand

Executive Director Thailand Productivity Institute

Director Institute of Nutrition, Mahidol University

Chairman Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries

Honorary Advisor Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries

Institute of Nutrition, Mahidol University

Director Thai Packaging Centre Thailand Institute of Scientific and Technological Research

Dean Faculty of Science, Mahidol University

President Food Science and Technology Association of Thailand (FoSTAT)

President Thai Frozen Foods Association

Pravith Chotiprayanakul

Assoc. Prof. Winai Dahlan, Ph.D.

CEO GS1 Thailand

Founding Director The Halal Science Center Chulalongkorn University

Acting for Director RFID Institute of Thailand The Federation of Thai Industries

Assoc. Prof. Sombat Chinawong, Ph.D.

Director Institute of Food Research and Product Development Kasetsart University

Yongvut Saovapruk

President National Food Institute, Ministry of Industry

Food and Drug Administration Ministry of Public Health

Food Science and Technology Association of Thailand

National Food Institute Ministry of Industry

GS1 Thailand The Federation of Thai Industries

9_Endorsements final.indd 9

Food Processing Industry Club The Federation of Thai Industries

Thailand Institute of Scientific and Technological Research

The Halal Science Center Chulalongkorn University

Institute of Food Research and Product Development Kasetsart University

Thailand Productivity Institute Ministry of Industry

Office of Small and Medium Enterprises Promotion

Thai Packaging Centre Thailand Institute of Scientific and Technological Research

Faculty of Agro-Industry Kasetsart University

ENDORSEMENT

Thai Frozen Foods Association

RFID Institute of Thailand The Federation of Thai Industries

11/22/17 5:57 PM


ADVERTISING INDEX

ADVERTISING INDEX December 2017 Company

Service Info

Page No.

ANUGA FoodTec 2018

B465

23

Arcadia Foods Co., Ltd.

B299

27

Better Pack Co., Ltd.

B011

3

Brenntag Ingredients (Thailand)

B036

BC

BSI Group (Thailand) Co., Ltd.

B444

53

Dhawath Technology Systems Co., Ltd.

B251

IBC

Ecolab Ltd.

B073

25

Emsland Asia Food Innovation Corp. Co., Ltd.

B463

51

Food Pack Asia 2018

B222

61

Hi-Cook (Thailand) Co., Ltd.

B325

IFC

IHI Asia Pacific (Thailand) Co., Ltd.

B483

7

Inthaco Co., Ltd.

B074

21

Kerry Ingredients (Thailand) Ltd.

B467

11

Material World Co., Ltd.

B137

10

Mettler-Toledo (Thailand) Ltd.

B010

39

MT Food Systems Co., Ltd.

B292

19

Panasia Tara Co., Ltd.

B418

47

Senta Pack Machinery & Service Co., Ltd.

B025

5

SGS (Thailand) Limited

B017

59

Thai Unique Co., Ltd.

B089

57

TNA Asia Ltd.

B445

37

Public Company Limited

Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd. 5/38 Soi Ngamwongwan 25 Yak 26, Bangkhen, Muang Nonthaburi, Nonthaburi 11000 Thailand T +66 2192 9598 F +66 2116 5732 E contact@foodfocusthailand.com W www.foodfocusthailand.com

10

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017



SPECIAL FOCUS

DECEMBER 30 NOV – 2 DEC HONG KONG INTERNATIONAL BAKERY EXPO (HKIBE) 2017 @ Hong Kong E info@hkbakeryexpo.com W www.hkbakeryexpo.com 11-13 MIDDLE EAST ORGANIC & NATURAL PRODUCTS EXPO DUBAI 2017 @ Dubai, UAE. E info@naturalproductme.com W www.naturalproductme.com 12-14 SIAL MIDDLE EAST 2017 @ Abu Dhabi, UAE. E info@sialme.com W www.sialme.com

CALENDAR 2018 JANUARY 18-20 FOOD HOSPITALITY WORLD INDIA (FHW INDIA) 2018 @ Mumbai, India E kanokwan@blithailand.com W www.fhwexpo.com 28-31 ISM 2018 @ Cologne, Germany W www.ism-cologne.com FEBRUARY 1-3 VEGETARIAN FOOD ASIA 2018 LOHAS EXPO 2018 @ Hong Kong E project@yimexhibitions.com W www.vegfoodasia.com www.lohasexpohk.com 1-4 FOOD PACK ASIA 2018 @ BITEC, Bangkok, Thailand E vipregis2015@gmail.com W www.foodpackthailand.com 7-9 @ E W

FRUIT LOGISTICA 2018 Messe Berlin, Germany info@gp-events.com www.fruitlogistica.de/en

MARCH 1-3 FOOD, HOTEL & TOURISM BALI 2018 @ Bali, Indonesia E project@yimexhibitions.com W www.fhtbali.com

12

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

10-12 FOOD EXPO GREECE 2018 @ Athens, Greece E kanokwan@blithailand.com W www.foodexpo.gr

24-26 SEAFOOD EXPO GLOBAL 2018 @ Brussels, Belgium E hturcotte@divcom.com W www.seafoodexpo.com

11-13 SEAFOOD EXPO NORTH AMERICA 2018 SEAFOOD PROCESSING NORTH AMERICA 2018 @ Boston, U.S.A. E hturcotte@divcom.com W www.seafoodexpo.com

24-27 FOODANDHOTELASIA2018 @ Singapore E project@yimexhibitions.com W www.foodnhotelasia.com

18 THE 98th CHINA FOOD & DRINK FAIR (CFDF) 2018 (SPRING SESSION) @ Chengdu, China E ann@blithailand.com W www.cfdf.org www.blithailand.com 20-22 PROPAK VIETNAM 2018 @ HCMC, Vietnam E arayabhorn@besallworld.com (Arayabhorn Sukpornchaikul) W www.propakvietnam.com 20-23 ANUGA FOODTEC 2018 @ Cologne, Germany W www.anugafoodtec.com 22-24 SWEETS & BAKES ASIA 2018 @ Singapore E carine@cems.com.sg W www.sweetsbakesasia.com.sg 26-29 FINE FOOD SHANGHAI 2018 @ Shanghai, China E helen.fan@ubmsinoexpo.com W www.finefood.hotelex.cn/en-us 27-29 HEALTH INGREDIENTS SOUTH EAST ASIA (Hi-SEA) 2018 @ Jakarta, Indonesia E nongnaphat.j@ubm.com W www.figlobal.com/hisoutheastasia APRIL 4-6 WORLDFOOD UZBEKISTAN 2018 @ Tashkent, Uzbekistan E vicky.tan@ite-ap.com (kanokwan@blithailand.com) W www.worldfood.uz 16-18 PACK EXPO EAST 2018 @ Pennsylvania, U.S.A. E bmurray@pmmi.org W www.packexpoeast.com

24-27 PROWINE ASIA 2018 @ Singapore E steffensc@messe-duesseldorf.de W www.prowineasia.com MAY 2-4 @ E W

FOOD INGREDIENTS & HEALTH INGREDIENTS ISTANBUL (Fi & Hi ISTANBUL) 2018 Istanbul, Turkey nongnaphat.j@ubm.com www.figlobal.com/istanbul

16-18 FOOD INGREDIENTS VIETNAM (Fi VIETNAM) 2018 @ HCMC, Vietnam E nureen.c@ubm.com W www.figlobal.com/vietnam/home 16-18 SIAL CHINA 2018 @ Shanghai, China E info@sialchina.cn rudee@francothaicc.com (Franco-Thai Chamber of Commerce) W www.sialchina.com 29 MAY – 2 JUNE THAIFEX – WORLD OF FOOD ASIA 2018 @ Challenger Hall, IMPACT Nonthaburi, Thailand E l.how@koelnmesse.com.sg W ww.worldoffoodasia.com JUNE 6-8 FOOD & HOTEL MYANMAR 2018 @ Yangon, Myanmar E supaporn.a@besallworld.com W www.foodandhotelmyanmar.com 11-13 FOOD INGREDIENTS, HEALTH INGREDIENTS & NATURAL INGREDIENTS ASIA – CHINA (Fi, Hi & Ni ASIA-CHINA) 2018 @ Shanghai, China E lydia.ma@ubmsinoexpo.com W www.figlobal.com/asia-china/home


SPECIAL FOCUS

SEMINAR & TRAINING

FREE SEMINAR

DECEMBER

DECEMBER

7-8 By

Roadmap to Sustainability Excellence Systems Thinking Thailand Productivity Institute

12

ระบบปฏิบัติการอาหารปลอดภัย สำ�หรับผู้ประกอบการ PAS 96

By:

British Standard Institution (BSI)

12-13 การตรวจติดตามภายในมาตรฐาน ISO 9001:2015

By:

British Standard Institution (BSI)

12-13 การดำ�เนินงานระบบมาตรฐาน ISO 14001:2015 By: British Standard Institution (BSI) 12-14 PCQI Training: Preventive Controls for Human Food By: British Standard Institution (BSI)

การควบคุมเอกสารในระบบการจัดการ

13 By:

British Standard Institution (BSI)

13 By

How to Access and Update Food Law SGS (Thailand) Limited

13 Creative Conflict Management 5S Audit Technique for Productivity Improvement By Thailand Productivity Institute 14 By

Introduction to HACCP SGS (Thailand) Limited

14-15 Advance Food Hygiene By SGS (Thailand) Limited 14-15 KPIs- Principles to Practices By Thailand Productivity Institute

ตัวแทนฝ่ายบริหารระบบการบริหารคุณภาพที่มีประสิทธิผล

15 By:

British Standard Institution (BSI)

15 By

IDEA Generation & Value Creation Program Thailand Productivity Institute

22 Food Safety Management: A Practical Practices for the Beverage Industry @ Room 232, Institute of Food Research and Product Development (IFRPD) Kasetsart University By The South East Asia Academy for Beverage Technology T 09 1076 5195 E mookie_137@hotnail.com W www.sea-abt.eu

18-22 IRCA Certified ISO 9001:2015 Lead Auditor Training Course IRCA A17955 By: British Standard Institution (BSI) 19-20 ISO 22716 (GMP Cosmetic) Internal Audit BRC Issue 7 Awareness and Interpretation By SGS (Thailand) Limited 20-21 Internal Audit for HACCP & GMP Guideline for FSSC 22000 Documentation By SGS (Thailand) Limited 21 By

JANUARY 2018

18 IDEA Generation & Value Creation Program By Thailand Productivity Institute

Comparison of GMP Codex Alimentarius and Current GMP for Human Food (cGMP 21 CFR 117) SGS (Thailand) Limited

22-26 IRCA Certified ISO 14001:2015 Lead Auditor Training Course IRCA A17903 By: British Standard Institution (BSI)

21-22 Guideline for BRC Issue 7 Documentation By SGS (Thailand) Limited 22 By

Comparison of HACCP Codex Alimentarius and HARPC for Human Food (cGMP 21 CFR 117) SGS (Thailand) Limited

22 By:

การปรับเปลี่ยนเข้าสู่มาตรฐาน ISO 45001:20XX

(Transition to ISO/DIS 45001.2) British Standard Institution (BSI)

26-27 By

BRC Issue 7 Internal Audit Risk Assessment Hazard Analysis in Food Industry FSSC 22000 Internal Audit SGS (Thailand) Limited

29 January - 2 February 2018 IRCA Certified ISO 9001:2015 Lead Auditor Training Course IRCA A17955 By:

Energy Management Systems (ENMS) Auditor/Lead Auditor (ISO 50001:2011) IRCA A17573 British Standard Institution (BSI)

CONTACT SGS (Thailand) Limited

Please contact Pandita Dabsomdej T 0 2678 1813 # 2097 F 0 2678 1548 E pandita.dabsomdej@sgs.com W www.sgs.co.th

Thailand Productivity Institute

Please contact Chaiwat / Sirichai T 0 2619 5500 # 451-455 F 0 2619 8098 E training@ftpi.or.th W www.ftpi.or.th

British Standard Institution (BSI)

Please contact BSI Group (Thailand) Co., Ltd. T 0 2294 4889 F 0 2294 4467 E infothai@bsigroup.com W www.bsigroup.com/en-th

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

13


STAR ITEMS ITEM

Malted Chocolate Crunch

Chemical Storage Cabinet STD/DF Series

FLEXLAB ตู้เก็บสารเคมี รุ่น 1205819 STD/DF สามารถเก็ บ สารเคมี ไ ด้ ดี มี ร ะบบดู ด อากาศ ภายในตู้ติดตั้งอยู่ตอนบนของตู้ เพื่อดูดกลิ่นไอสารเคมี พร้อมตัวกรองกลิน่ ทีป่ ระกอบด้วย PERcarbon filter 1 ชุด และ Activated carbon filter อีก 1 ชุด ทั้งนี้ยังมีข้อดีอีกคือ ไม่ต้องต่อระบบ ท่อระบายออกนอกอาคาร จึงเหมาะกับการติดตัง้ ในสถานทีท่ มี่ พี นื้ ทีจ่ ำ� กัด ตัวตูผ้ ลิตจากแผ่นเหล็ก เคลือบกันสนิม (Epoxy) ตามมาตรฐาน ASTMB 117 สามารถถอดประกอบได้ (Knock down type) และเป็ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ากบริ ษั ท ที่ ไ ด้ มาตรฐาน ISO 9001, ISO 14001, OHSAS 18001 และ TIS FLEXLAB Chemical Storage Cabinet 1205819 STD/DF comes with an internal ventilation system and 2 step filters, PERcarbon filter and activated carbon filter. Other advantages include no need to install outside ventilation, constructed with EPOXY coated steel, ASTMB 117 standard certified, and knock-down installation available. This FLEXLAB Chemical Storage Cabinet 1205819 STD/DF is manufactured by ISO 9001, ISO 14001, OHSAS 18001 and TIS certified manufacturer.

By: Official Equipment Manufacturing Co., Ltd. www.official.co.th

14

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

High-Speed Bowl Cutter-ZB series

เครื่ อ งสั บ ผสมรุ ่ น ZB ใหม่ ล ่ า สุ ด ตั ว เครื่ อ งเป็ น สเตนเลสคุณภาพสูง เหมาะกับการแปรรูปเนื้อสัตว์ ส� ำ หรั บ การท� ำ ไส้ ก รอก ลู ก ชิ้ น หรื อ เนื้ อ ปรุ ง รส แบบอื่ น ๆ เครื่ อ งสั บ รุ ่ น นี้ ถู ก ออกแบบมาส� ำ หรั บ การสับและผสมอาหารประเภทเนื้อ พร้อมกับการผสม ส่วนผสมอื่นๆ ในเวลาเดียวกันสามารถปรับเวลาสับ น้อยลงเพื่อให้ได้เนื้อสับหยาบ หรือเพิ่มเวลาสับ ถ้าต้องการเนื้อละเอียดตามต้องการ ช่วยลดเวลา ของการท�ำงานตามปกติ ลดเวลาในการท�ำความสะอาด และลดจ�ำนวนคนงานได้อีกด้วย A new High-Speed Bowl Cutter-ZB series is a stainless steel made bowl cutter which provides higher meat quality product such as colour, appearance, texture and higher yields for linked sausages, formed meat products or other specialty processed meat. It allows you to emulsify, coarse chop or fine chop while reducing your grinding time, clean up time, and labor costs.

By: Better Pack Co., Ltd. www.betterpack.co.th

มอลต์ช็อกโกแลตครันช์ (Malted chocolate crunch) ผลิตจากมอลต์สกัดเข้มข้นผสมผสาน กับนม น�้ำตาล และโกโก้ ผ่านกระบวนการอบแห้ ง แบบสุ ญ ญากาศ (Vacuum band Drying process) ซึ่งจะคงความกรอบและ ความหอมละมุนอยูใ่ นมอลต์ชอ็ กโกแลตครันช์ ร่วมเปิดประสบการณ์และเพลิดเพลินไปกับ การกิ น มอลต์ ช็ อ กโกแลตในรู ป แบบใหม่ ด้วยความกรุบกรอบเต็มค�ำพร้อมกับความเข้มข้น ของช็ อ กโกแลตและความหอมของมอลต์ เพิม่ ความตืน่ เต้นให้กบั ไอศกรีม เครือ่ งดืม่ หรือ ขนมหวาน คุกกี้ เค้ก ธัญพืชอัดแท่ง สเปรดด้วย มอลต์ช็อกโกแลตครันช์ Malted Chocolate Crunch are produced by using malt liquid extract, wet mixed with milk, sugar and cocoa, onto a slow-moving band passing through a vacuum drying oven. With this process, it gives the malted chocolate a robust crispy crunch texture, and also pleasant malted chocolate taste. The crunch adds body, texture, mouthfeel and further enjoyment to the chocolate experience. Malted Chocolate Crunch will enliven ice creams, cold drinks, desserts, giving it a whole new experience. Besides, crunch can also be added onto cookies, cakes, cereal bars, and spreads.

By: JJ-Muntons (Thailand) Ltd.

www.ingredients.jjsea.com www.muntonsingredients.com


SPECIAL STARFOCUS ITEMS

4

5

HOMECRAFT Create

Throat Profile

Multi-functional Rice and Tapioca Flour

แป้ ง จากข้ า วและมั น ส� ำ ปะหลั ง ช่ ว ยเพิ่ ม ความคงตัวและเพิม่ เนือ้ สัมผัสของอาหารเอเชีย ทัง้ ยังช่วย ให้สูตรของอาหารกึ่งส�ำเร็จรูปคงไว้ซึ่งความเป็น ต้นต�ำรับและคุณภาพแบบดั้งเดิม จากการที่ Ingredion ได้ท�ำการวิจัยในประเทศไทย พบว่าผู้บริโภคไทย มีความต้องการส่วนผสมอาหาร Clean label มากขึน้ เพื่ อ ตอบสนองต่ อ ความต้ อ งการนี้ Ingredion ได้ พั ฒ นาแป้ ง เอนกประสงค์ HOMECRAFT Create ที่ท�ำจากข้าวและมันส�ำปะหลัง ซึ่งสามารถ ใช้ได้กับอาหารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะ ซุป ซอส โยเกิร์ต ผลไม้ที่ใส่ในอาหาร และอาหารเด็ก Rice and tapioca flours provide highly functional flours with added stability and enhanced texture allow manufacturers to maintain authenticity in recipe formulation and traditional eating quality across a range of convenience foods. Ingredion’s proprietary research on Thai consumers revealed increased demand for clean label ingredients. In response, Ingredion developed HOMECRAFT Create multi-functional rice and tapioca flour to help manufacturers meet consumers demand in a wide array of applications, especially in the soups and sauces, yoghurt dairy drinks, fruit preparations and baby foods.

By: Ingredion Singapore Pte. Ltd. www.apac.ingredion.com

6

Metal Detector

PLANTICTM CF Compostable Barrier with PBS

พลาสติกชีวภาพ PLANTICTM CF ที่สมบูรณ์แบบ เกิดจากการเคลือบระหว่าง PLANTIC และ PBS สามารถใช้ ซี ล ได้ แ ละมี คุ ณ สมบั ติ ใ นการป้ อ งกั น การซึมผ่านของก๊าซและเก็บรักษากลิน่ โดยโครงสร้าง ทัง้ หมดเป็นพลาสติกทีย่ อ่ ยสลายได้ 100% เหมาะสม กั บ บรรจุ ภั ณ ฑ์ ส� ำ หรั บ เมล็ ด กาแฟคั่ ว ซี เ รี ย ล อาหารแห้ง และอาหารสัตว์ เป็นต้น PLANTICTM CF is a new compostable barrier sealant which is laminated film between PLANTIC and PBS. PLANTIC™ CF can provide outstanding gas barrier and aroma barrier performance with 100% compostable from renewable contents. It also gives good seat strength so it is suitable for all compostable pouches - coffee bean, dried products, cereals, feed, etc.

By: Kuraray (Thailand) Co., Ltd. www.evalevoh.com

เครื่องตรวจจับโลหะรุ่น T-Series Profile ได้รับ การออกแบบมาเพื่อใช้ตรวจสินค้าที่ยังไม่บรรจุ ภาชนะในแนวตั้ง ใช้ตรวจสอบโลหะเจือปน ทุกประเภทในผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยตกแบบอิสระ มาพร้อมเทคโนโลยี ZMFZ ช่วยลดพื้นที่ในการติดตั้งได้มากโดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพใน การตรวจสอบ มีการท�ำงานผ่านหน้าจอสีระบบ สัมผัสด้วยระบบปฏิบตั กิ าร Windows ทีท่ นั สมัย ตัวเครื่องติดตั้งได้รวดเร็ว และยังสามารถติดตั้ง ร่วมกับอุปกรณ์ชั่งน�้ำหนักและอุปกรณ์บรรจุ หีบห่อชัน้ น�ำทุกประเภท จึงมัน่ ใจได้วา่ สิง่ เจือปน จะถูกคัดแยก ท�ำให้ผลิตภัณฑ์อาหารมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง Throat Profile Metal Detector (T-series) is a vertical packaging metal detector that comes with Mettler-Toledo’s ZMFZ technology for optimizing an installation space to be minimal without altering the detection efficacy. The T-series is also easily controlled via a full-coloured touchscreen Windows interface. The machine installation and integration to other inspection or packing lines can be easily executed with a limited space. With its proven reliability, manufacturers can ensure product safety and maintain their reputation sustainably.

By: Mettler-Toledo (Thailand) Ltd. ww.mt.com DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

15


STAR ITEMS ITEM

8

7

9

AJIMATETM S Powder Seasoning

AJIMATETM S เป็นผงปรุงรสโคคุมิที่ให้ความอร่อยของน�้ำสต๊อก ซึ่งได้มาจากการวิเคราะห์ Shang Tang (น�้ำสต๊อกคุณภาพสูงที่ได้จากการ เคี่ยวเนื้อหมูและไก่ทั้งตัวเป็นเวลานานถึง 6-8 ชัว่ โมง ซึง่ เป็นเคล็ดลับความอร่อยของอาหารจีน หลากหลายเมนู) จนได้เป็นองค์ประกอบหลักใน AJIMATETM S ที่ให้รสอร่อยเข้มข้นของน�้ำสต๊อก สามารถน�ำไปใช้กับผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ต่างๆ หลากหลายเมนู อาทิเช่น บะหมีก่ งึ่ ส�ำเร็จรูป สตูว์ แกง ซุป น�้ำสลัด เป็นต้น AJIMATETM S is a powder seasoning that gives full-body KOKUMI of meat stock. We have analyzed the secret of deliciousness in Shang Tang, Chinese superior stock made by simmering pork and whole chicken for 6-8 hours. Those key ingredients are brought into AJIMATETM S that can give a wide variety of deliciousness to processed foods. This product has high versatility and can be used in various menus such as instant noodles, stew, curry, hot pot soup and salad dressing.

By: Ajinomoto Co., (Thailand) Ltd. www.ajinomoto.co.th

16

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

KH Roberts Floral Flavours

กลิ่ น ลาเวนเดอร์ แ ละกลิ่ น คาโมมายล์ จากซี รี่ ย ์ กลิ่นดอกไม้สุดพิเศษของ KH Roberts ที่ผ่านการ พัฒนาให้มีความละมุนเหมือนจริงและพิเศษที่สุดนี้ จะช่ ว ยสร้ า งสรรประสบการณ์ ใ ห้ กั บ ผู ้ ที่ ลิ้ ม ลอง ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ไ ด้ อ ย่ า งดี สามารถน� ำ ไปใช้ ไ ด้ ใ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ห ลากหลายชนิ ด โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง ในผลิตภัณฑ์เบเกอร์รี นม และเครื่องดื่ม ส�ำหรับ การเจาะตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ Lavender and Chamomile flavours – creations from the KH Roberts floral flavours range. These balanced flavours with authentic yet delicate floral notes, are highly suitable in bakery, dairy and beverage applications. The flavours’ delivery of close-to-nature authentic notes provides for outstanding product performance in the health and wellness market category.

By: KH Roberts (Thailand) Co., Ltd. www.kh-roberts.com

SoFlexi For “On-the-Go” Finished Products

SoFlexi ในรูปแบบผง ประกอบด้วยส่วนผสม 5 ชนิด รวมทัง้ EPILAC Lowfat Yogurt Powder 48 ได้ รั บ การคิ ด ค้ น และพั ฒ นาเป็ น พิ เ ศษ เพื่อเนรมิตรสชาติโยเกิร์ตให้กับมื้ออาหารว่าง ไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ไอศกรีม มิลค์เชค เครื่องดื่ม เป็นต้น SoFlexi, innovative dairy ingredients, is a powdered mix made of only 5 ingredients and including EPILAC Lowfat Yogurt Powder 48. It was designed as a way to easily create fresh yogurt-tasting snacks in seconds. Whether you’re in the mood for a drinking yogurt, some ice cream, a milkshake, or an acid drink, treat yourself with SoFlexi.

By : EPI Ingredients

www.epi-ingredients.com


SPECIAL STARFOCUS ITEMS

10

11

12

Mitsui Seiki Oil Free Screw Compressor Series

MALTOSWEET

®

Corn Based Maltodextrin

มอลโทเดกซ์ ท ริ น ชนิ ด พิ เ ศษผลิ ต จากสตาร์ ช ข้าวโพดที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยใช้ วัตถุดิบข้าวโพดหัวบุบ (Dent corn) และข้าวโพด ข้ า วเหนี ย ว (Waxy corn) ปลู ก ในท้ อ งถิ่ น ที่ ปราศจากการดัดแปรพันธุกรรม ละลายน�้ำได้ดี มีให้เลือกทั้งแบบผงและเม็ด มอลโทเดกซ์ทริน ชนิดพิเศษนี้ท�ำหน้าที่เป็นตัวประสาน ให้ความหนืด และใช้เป็นสารทดแทนไขมันและเพิ่มน�้ำหนัก เหมาะส� ำ หรั บ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ อ าหารและเครื่ อ งดื่ ม หลากหลายชนิด เช่น นมผงส�ำหรับเด็กแรกเกิด เครื่องดื่มส�ำหรับนักกีฬา ขนมหวาน นม และซอส A nutritive corn-based speciality sweetener made from locally sourced non-GMO dent and waxy corn starch. It is available in powder and granular formats. Maltodextrin acts as a binder, viscosity provider, fat replacer and bulking agent. The ingredient is used in a wide range of food and beverages such as infant formula, sports drinks, dairy desserts and sauces.

By: Tate & Lyle Plc.

www.tateandlyle.com

เครือ่ งปัม๊ ลมมิตซุยเซอิกิ รุน่ 14000X สกรูโมเดล ระบบ Oil free ที่ได้รับการประกอบอย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุ คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น ใช้ Super premium IPM motor (IE4) และเทคโนโลยีหวั สกรูการบีบอัดลม ทีไ่ ม่เหมือนใคร ท�ำให้เครือ่ งปัม๊ ลมสามารถผลิตลมได้ เพิม่ ขึน้ และใช้พลังงานน้อยลง ใช้นำ�้ RO ในการหล่อลืน่ และระบายความร้ อ น อี ก ทั้ ง ยั ง ได้ รั บ ใบรั บ รอง ISO8573-1 Class 0 ท�ำให้มั่นใจได้ว่าลมที่ได้นั้น สะอาด ปราศจากน�้ำมัน 100% ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ เหมาะส�ำหรับอุตสาหกรรม อาหาร ยา เครื่องส�ำอาง เป็นต้น MITSUI SEIKI Oil Free Screw Compressor 14000X series is a high efficient air compressor which specially assembled in Japan. It uses a super premium IPM motor (IE4) and a unique screw design with high technology applied resulting in a better and higher capacity. Moreover, it also uses RO water for lubrication and cooling. It is ISO8573-1 Class 0 certified. Users can be confident that air produced is clean and has no oil contaminated so that the end products are safe and clean. It is suitable for food industry, pharmaceutical, cosmetics, etc.

By: Mitsui Seiki (Thailand) Co., Ltd. www.mitsuiseikithailand.com

New StarLeaf™ Stevia Extract

PureCircle StarLeaf™ สารสกัดจากสตีเวียใหม่ ล่าสุดที่มีปริมาณของ Steviol glycoside ที่เป็น สารกลุ ่ ม ที่ มี คุ ณ สมบั ติ ค วามหวานใกล้ เ คี ย ง น�้ำตาล เช่น Reb M และ Reb D มากกว่า สตีเวียมาตรฐานทั่วไปถึง 20 เท่า นอกจากนี้ยัง ไม่มีแคลอรี ไม่มีรสขมปลายลิ้น และมีความเหมือนน�้ำตาลมากกว่าเดิม PureCircle New StarLeaf™ the first stevia leaf extract from the breakthrough and proprietary stevia. StarLeaf™ stevia contains over 20 times more sugar-like steviol glycoside i.e. Reb M and Reb D compared to standard stevia leaf as zerocalorie sweetener with more upfront sweetness, no bitter linger and a sugar-like taste.

By: Solution Creation Co., Ltd. www.pttgcgroup.com DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

17


SURF THE AEC

คาดการณ์การส่งออกอาหาร ปี 2561 เติบโตต่อเนื่องตามเศรษฐกิจโลก

สถาบันอาหาร National Food Institute www.nfi.or.th

การแถลงข่าวร่วม 3 องค์กรเศรษฐกิจด้านธุรกิจเกษตรและอาหาร โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสถาบันอาหาร เผยส่งออกอาหารไทย 9 เดือนแรก ปี 2560 (มกราคม-กันยายน) มีปริมาณ 25.26 ล้านตัน มูลค่า 768,797 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 8.3 และร้อยละ 9.4 ตามล�ำดับ โดยเติบโตดีในตลาดตะวันออกกลาง (+ ร้อยละ 25.2) จีน (+ ร้อยละ 22.2) กลุ่มประเทศ CLMV (+ ร้อยละ 19.9) และ แอฟริกา (+ ร้อยละ 17.1) ภาพรวมการส่งออกอาหารไทยในปี 2560 คาดว่าจะมีมูลค่า 1.03 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 ชี้ไตรมาสสุดท้าย ยังโตต่อเนื่อตามแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า ทั้งต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ในระดับต�่ำ ปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรในประเทศ ที่เพิ่มสูงขึ้น และเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปี ส่วนปี 2561 ประเมินว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 8.7 มีมูลค่าส่งออก 1.12 ล้านล้านบาท

การแถลงข่ า วร่ ว ม 3 องค์ ก ร โดยสภาอุ ต สาหกรรมแห่ ง ประเทศไทย สภาหอการค้ า แห่ ง ประเทศไทย และสถาบั น อาหาร กระทรวงอุ ต สาหกรรม เรือ่ ง สถานการณ์ธรุ กิจเกษตรและอาหารของไทยในปี 2560 และแนวโน้มในปี 2561 มีตวั แทนหลักของทัง้ 3 องค์กร ประกอบด้วย นายสัตวแพทย์บญ ุ เพ็ง สันติวฒ ั นธรรม ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และคุณยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผูอ้ ำ� นวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมให้รายละเอียดสถานการณ์ ที่เกิดขึ้น คุณยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อ�ำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ในการประสาน 18

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

ความร่วมมือของ 3 องค์กร ในส่วนของสถาบันอาหารจะท�ำหน้าทีร่ วบรวมข้อมูล จากทุ ก ภาคส่ ว นที่ เ กี่ ย วข้ อ งภายใต้ ก ารด� ำ เนิ น งานของศู น ย์ อั จ ฉริ ย ะเพื่ อ อุตสาหกรรมอาหาร หรือ Food Intelligence Center พบว่า ภาคการผลิต อุตสาหกรรมอาหารไทยในช่วง 9 เดือนแรกปี 2560 (มกราคม-กันยายน) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 ส่วนภาคการส่งออกสินค้าอาหารไทยมีปริมาณ 25.26 ล้านตัน มูลค่า 768,797 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 8.3 และร้อยละ 9.4 ตามล�ำดับ เนื่องจากมีความต้องการสินค้าในตลาดโลก ที่เพิ่มขึ้นหลังจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าส�ำคัญเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญีป่ นุ่ รวมถึงจีน ขณะทีเ่ ศรษฐกิจและการค้าในกลุม่


SURF THE AEC ประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น กลุ่มสินค้าหลักที่การส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า ได้แก่ ข้าว ไก่ กุ้ง เครื่องปรุงรส ผลิตภัณฑ์มะพร้าว และอาหารพร้อมรับประทาน ส่วนกลุ่มสินค้า ที่การส่งออกมีปริมาณลดลง แต่มูลค่าขยายตัวสูงขึ้น ได้แก่ น�้ำตาลทราย ซึ่งมี มูลค่าขยายตัวสูงขึ้นตามราคาน�้ำตาลทรายในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูงในครึ่งแรก ของปี เช่นเดียวกับการส่งออกปลาทูนา่ กระป๋อง หลังจากทีผ่ ผู้ ลิตมีการปรับราคา จ�ำหน่ายสูงขึ้นสอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบทูน่าที่เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 100 จาก ปีก่อน ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์สับปะรด (กระป๋องและน�ำ้ สับปะรด) เพิ่มขึ้น ในเชิงปริมาณหลังจากมีความต้องการจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ภาวะที่ผลิตภัณฑ์สับปะรดมีราคาอ่อนตัวลงมากตามราคาวัตถุดิบ สับปะรดโรงงาน สินค้าหลักที่การส่งออกหดตัวลงทั้งปริมาณและมูลค่ามีเพียง 2 กลุ่มสินค้า คือ แป้งมันส�ำปะหลังดิบ (Native starch) และน�้ำผลไม้ (ไม่รวมน�้ำสับปะรด) โดยการส่งออกแป้งมันส�ำปะหลังดิบไปตลาดหลักอย่างจีนต้องเผชิญการแข่งขัน รุนแรงจากผู้ส่งออกเวียดนามที่ใช้ข้อได้เปรียบจากการส่งสินค้าผ่านชายแดน ท�ำให้ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (ร้อยละ 13) ขณะที่ตลาดส่งออกส�ำคัญ อันดับ 2 อย่างอินโดนีเซีย มีการหดตัวมากเช่นกัน เพราะผลผลิตมันส�ำปะหลัง ในอินโดนีเซียมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ส่วนการส่งออกน�้ำผลไม้หดตัวลง เนื่องจาก ผูผ้ ลิตรายใหญ่มกี ารปรับปรุงระบบการผลิตน�ำ้ มะพร้าวให้สอดรับกับมาตรฐาน ใหม่ที่ประกาศใช้โดย European Fruit Juice Association (AIJN) ส่งผลให้ ก�ำลังการผลิตลดลงในช่วงสั้นๆ คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายปี 2560 หรือต้นปีหน้า

“ตลาดส่งออกอาหารไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ที่มีอัตราขยายตัว สูง ได้แก่ ตะวันออกกลาง (+ ร้อยละ 25.2) จีน (+ ร้อยละ 22.2) กลุ่มประเทศ CLMV (+ ร้อยละ 19.9) และแอฟริกา (+ ร้อยละ 17.1) ส่วนตลาดหลักที่ไทย ส่งออกลดลง ได้แก่ อาเซียนเดิม (- ร้อยละ 10.7) สหรัฐอเมริกา (- ร้อยละ 2.3) และสหราชอาณาจักร (- ร้อยละ 10.9) โดยกลุ่มประเทศ CLMV ยังคงเป็นตลาด ส่งออกอาหารอันดับที่ 1 ของไทย มีสัดส่วนร้อยละ 16.6 รองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น (ร้อยละ 13.5) อาเซียนเดิม (ร้อยละ 11.6) สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 10.6) แอฟริกา (ร้อยละ 9.3) จีน (ร้อยละ 9.0) สหภาพยุโรป (ร้อยละ 6.0) ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 4.2) โอเชียเนีย (ร้อยละ 3.3) สหราชอาณาจักร (ร้อยละ 3.0) และ เอเชียใต้ (ร้อยละ 1.6)” คุณยงวุฒิ กล่าวต่อว่า ภาพรวมการส่งออกอาหารไทยในปี 2560 คาดว่าจะ มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1.03 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 ประเมินว่า

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

19


SURF THE AEC อุตสาหกรรมอาหารไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 จะยังได้รับปัจจัย สนับสนุนต่อเนือ่ งจากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ต้นทุนการผลิตทีย่ งั อยู่ ในระดับต�่ำ ปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการส่งออกไก่ ยังได้รับอานิสงส์จากกรณีการระบาดของโรคไข้หวัดนกในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และปัญหาความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยเนื้อสัตว์ของบราซิล ประกอบกับ ความต้องการสินค้าอาหารที่มีแนวโน้มเพิ่มขึน้ เพื่อรองรับเทศกาลเฉลิมฉลองในช่วง ปลายปี จะมีส่วนกระตุ้นให้การส่งออกอาหารไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ขยายตัวต่อเนื่อง ส�ำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารไทยปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง ในอัตราร้อยละ 8.7 โดยมีมูลค่าส่งออก 1.12 ล้านล้านบาท มีตลาดส่งออก ส�ำคัญ ได้แก่ อาเซียน สัดส่วนส่งออกประมาณร้อยละ 30 ญี่ปุ่นร้อยละ 14 สหรัฐอเมริการ้อยละ 10 จีนและแอฟริกามีสัดส่วนเท่ากันที่ร้อยละ 9 เป็นต้น โดยมี ปัจจัยสนับสนุนส�ำคัญประกอบด้วย (1) เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประเมินอัตราขยายตัวของเศรษฐกิจ โลกในปี 2561 ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.7 จากร้อยละ 3.6 ในปี 2560 (2) ผลผลิตสินค้าเกษตรไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออ�ำนวย ได้แก่

ข้าว อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน กุ้ง ไก่ ส่วนผลผลิตมันส�ำปะหลังและข้าวโพด เลี้ยงสัตว์มีแนวโน้มลดลง (3) ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มลดลงตามราคาวัตถุดิบ อาหารสัตว์ทอี่ ยูใ่ นเกณฑ์ตำ�่ จะส่งผลดีตอ่ ต้นทุนการผลิตในอุตสาหกรรมปศุสตั ว์ ของไทย โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ส�ำคัญ 3 รายการ ได้แก่ ข้าวโพด กากถั่วเหลือง และปลาป่น (4) ราคาสินค้าส่งออกหลักของไทยอยู่ในกลุ่มสินค้า ที่ ค าดว่ า จะมี ร าคาเพิ่ ม สู ง ขึ้ น ในตลาดโลกหลายรายการ รวมถึ ง ข้ า ว ไก่ และกุ ้ ง และ (5) ราคาพลั ง งานอยู ่ ใ นระดั บ ต�่ ำ ไม่ ก ระทบต้ น ทุ น สิ น ค้ า ในภาคการผลิตอุตสาหกรรมอาหารตลอดจนภาคการขนส่งมากนัก อนึ่ง รูปแบบสินค้าอาหารส่งออกของไทยมีแนวโน้มพัฒนาไปสู่การเป็น สินค้าอาหารส�ำเร็จรูปพร้อมรับประทานมากขึ้น โดยในปี 2541 สัดส่วนส่งออก สินค้าอาหารส�ำเร็จรูปพร้อมรับประทานมีเพียงร้อยละ 35 ส่วนร้อยละ 65 เป็นการส่งออกอาหารสด/วัตถุดิบ/แปรรูปขั้นต้น แต่ในปี 2559 สินค้าอาหารส�ำเร็จรูป พร้อมรับประทานมีสัดส่วนส่งออกเทียบเท่ากับกลุ่มสินค้าอาหารสด/วัตถุดิบ/ แปรรูปขั้นต้น คือร้อยละ 50 ทั้งนี้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาอัตราการเติบโตในกลุ่ม สินค้าอาหารส�ำเร็จรูปพร้อมรับประทานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7.3 ต่อปี ขณะที่กลุ่ม สินค้าอาหารสด/วัตถุดิบ/แปรรูปขั้นต้น มีอัตราการเติบโตเพียงร้อยละ 5.0

Food Export Growth to Continue in 2018 in Pace with the World Economy A joint press conference, held by 3 agricultural and food business organizations which include The Federation of Thai Industries, Board of Trade of Thailand, and National Food Institute, revealed that Thailand’s food export in the first 9 months of 2017 (JanuarySeptember) reached 25.26 million tons, valued at THB 768,797 million, growing by 8.3% and 9.4% respectively. The export performed well in the markets such as the Middle East (+ 25.2%), China (+ 22.2%), CLMV (+19.9%) and Africa (+ 17.1%). The country’s overall food export values in 2017 are set to reach THB 1.03 trillion, with an increase of 8.4% which is expected to continue in the last quarter thanks to the stronger global economy as well as those of partner countries, lower production costs, higher quantity of domestic agricultural products and end-of-year celebrations. As for 2018, the export is projected to roll up by 8.7%, with a total value at THB 1.12 trillion. The press conference, jointly held by The Federation of Thai Industries, Board of Trade of Thailand, and National Food Institute under the theme of “Agricultural and Food Business Situation in 2017 and the 2018 Trends”, was headed by the main representatives of the aforementioned organizations; Dr.Boonpeng Santiwattanatam, Chairman of Food Processing Industry Club of The Federation of Thai Industries, Dr.Chanintr Chalisarapong, Committee of Board of Trade of Thailand and Mr.Yongvut Saovapruk, President of National Food Institute. Mr.Yongvut Saovapruk, President of National Food Institute,

20

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

revealed that in this joint collaboration, National Food Institute is responsible for collecting data from all involved parties through Food Intelligence C e n t e r. A c c o r d i n g t o t h e collected data, in the first 9 months of 2017 (JanuarySeptember) Thai food manufacturing industry grew by 2.9% while food export industry


SURF THE AEC totaled 25.26 million tons, valued at THB 768,797 million, moving up by 8.3% and 9.4% respectively, thanks to the rising global demand, the economic recovery of Thailand’s main trading partners such as USA, European Union, Japan and China as well as the trade upturn of the Middle Eastern and African countries. The main export products that have seen a rise in both volume and value are rice, chicken, shrimps, seasonings, coconut products and ready-to-eat foods. Sugar is the export product that has experienced a downturn in volume but an increment in value due to the world’s sugar prices that have remained on the high side in the first half of the year. The same goes for canned tuna as manufacturers increased prices to reflect the costs that have jumped up by almost 100% from last year. Meanwhile, the volume of pineapple products (canned pineapple and juice) has been on the rise due to the constantly increasing demand from overseas countries as the prices hurtle down as a response to the lower costs of pineapple raw materials. Only 2 main products have experienced a decline in both quantity and value; native starch and fruit juices (pineapple juice not included). The native starch export to one of Thailand’s main partners, China, faced an intense competition with Vietnamese exporters who took advantage of product logistics through its borders with China, exempting themselves from 13% VAT while Indonesia, Thailand’s second most important export market, made less purchases from Thailand as they turned to rely more on the increased production of domestic tapioca. The export of fruit juices went for a downturn as manufacturers were obliged to implement system improvements for coconut water manufacturing processes as a response to the new standards established by European Fruit Juice Association (AIJN), thus resulting in short-term reduced production capacity, which is expected to return to normal in the end of 2017 or the beginning of 2018. “Thai food export in the first 9 months of 2017 enjoyed a steep growth in, for example, the Middle East (+25.2%), China (+22.2%), CLMV (+19.9%) and Africa (+17.1%). The countries that imported less from Thailand are the original ASEAN countries (-10.7%), USA (-2.3%) and the UK (-10.9%). CLMV countries are still Thailand’s number one trading partners, taking up 16.6% of the market share, followed by Japan (13.5%), the original ASEAN countries (11.6%), USA (10.6%), Africa (9.3%), China (9.0%), EU (6.0%), the Middle East (4.2%), Oceania (3.3%), UK (3.0%) and South Asia (1.6%)” Mr.Yongvut added that the overall Thai food export in 2017 is projected to attain THB 1.03 trillion, with an 8.4% increase. In the last quarter of 2017, the sector is predicted to continue to benefit from various supporting factors such as the growing world economy, the lower production costs and the increase of domestic agricultural products. Additionally, chicken export will also benefit from the outbreak of bird flu in East Asia and the growing concerns over the safety of meat imported from Brazil. Rising demand in food products during the end-of-year holidays will continuously help boost Thai food export industry in the last quarter as well. Concerning the upcoming 2018 trends, Thai food industry is set to grow by 8.7%, amounting THB 1.12 trillion, with important trading partners such as ASEAN countries that should account for 30% of the whole export value, Japan (14%), USA (10%), China and Africa (9% each). The important contributing factors are (1) the world’s economy that is expected to improve by 3.7% from 3.6% in 2017 as recently forecast by the

IMF, (2) the rising supply of Thai agricultural products such as rice, sugar cane, pineapple, shrimps and chicken thanks to proper weather conditions in contrast to the lower quantity of tapioca products and feed corn, (3) the falling food production costs stemming from the decreased prices of animal feeds such as corn, soy bean meal and fish meal, which will positively influence Thai livestock sector, (4) the prices of Thailand’s main food exports such as rice, chicken and shrimps, that are expected to spiral upward in the global market and (5) the energy costs that remain on the lower side, thus contributing positively to the costs of food manufacturing industry and logistics. Thailand’s exported food is predicted to change in terms of type as the products tend to lean more on the ready-to-eat products. In 1998, ready-to-eat foods only accounted for 35% of the total food export while the remaining 65% were fresh foods, raw materials and primary processed foods. In 2016, however, the percentage of the exported ready-to-eat products jumped up to 50%, equaling that of fresh foods, raw materials and primary processed food. In the past 20 years, the annual growth rate of ready-to-eat products has gone up by 7.3% while that of the other types of food only enjoyed a 5.0% increase.

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

21


SPECIAL REPORT

ทรงวิทย์ หงสประภาส Throngvid Hongsaprabhas

Manager – Food & Beverage Business Sahapan Century Co., Ltd. (A Company of Sahapan Group) throngvid.h@sahapan.co.th

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ภาครัฐและภาคเอกชนมีความพยายาม ร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสูก่ ารเป็นครัวของโลก โดยตัง้ เป้าหมาย ให้ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าอาหารรายใหญ่ ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs จึงเป็น อีกหนึง่ ฟันเฟืองส�ำคัญในการขับเคลือ่ นภารกิจดังกล่าวให้เป็นไปตาม เป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารแปรรูป ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs นิยมใช้ สร้ า งมู ล ค่ า เพิ่ ม ให้ กั บ วั ต ถุ ดิ บ ทางการเกษตร และน� ำ ไปประยุ ก ต์ ต่อยอดกับผลิตภัณฑ์อาหารที่จะวางจ�ำหน่ายในอนาคตได้

ปัจจัยที่พึงระวังในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ

ผู้ประกอบการอาหาร SMEs การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (New product development) ให้มีความเป็นนวัตกรรม ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการแปรรูปอาหาร องค์ความรู้ทางวิชาการและการตลาด ตลอดจน ความคิดสร้างสรรค์ เพือ่ ให้ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารแปรรูปทีพ่ ฒ ั นานัน้ มีความโดดเด่น และแตกต่าง ที่ผ่านมาผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs มักไม่ได้ให้ความส�ำคัญกับ การบูรณาการแนวคิดนวัตกรรมเข้ากับกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ท�ำให้เสียโอกาส ในการสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันของกิจการ (Competitive advantage) เนื่องจาก ต้องลงทุนสูง ทั้งในด้านงบประมาณ ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้า รวมถึงขาดบุคลากร ด้านวิจัยและพัฒนาภายในองค์กร จึงมักมุ่งเน้นแต่การผลิตสินค้าเพื่อจ�ำหน่ายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความเป็นนวัตกรรมของผู้ประกอบการ ธุรกิจอาหาร SMEs อาจไม่ใช่เรื่องยากเท่ากับในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันมีหน่วยงาน ภาครัฐหลายหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาให้แก่ภาคเอกชน โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่โดยอาศัยแนวคิด “การสร้างนวัตกรรมแบบ เปิด (Open innovation)” ทีช่ ว่ ยแบ่งเบาภาระของผูป้ ระกอบการอาหาร SMEs ในการวิจยั และพัฒนาในระดับห้องปฏิบัติการ รวมไปถึงการว่าจ้างโรงงานผู้ผลิตอาหารแปรรูปที่ให้ บริการรับจ้างผลิต (Original Equipment Manufacturer; OEM) ซึ่งจะช่วยลดการลงทุน ในด้านโรงงานและบุคลากรด้านการผลิต ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs สามารถผลักดันผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารแปรรูปให้ออกสู่ตลาดได้สะดวกยิ่งขึ้น ทัง้ นี้ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารแปรรูปของผูป้ ระกอบการธุรกิจอาหาร SMEs หลายๆ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ไม่สามารถน�ำออกสู่ตลาดการค้าเชิงพาณิชย์ได้ อันเนื่อง มาจากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาการยกระดับการผลิตในระดับงานวิจัยให้เป็นการผลิต ในเชิ ง อุ ต สาหกรรม ปั ญ หาการผลั ก ดั น สิ น ค้ า ไปสู ่ ต ลาดเพื่ อ การค้ า จริ ง (Actual commercialization) หรือในบางกรณี ปัญหาการยอมรับสินค้านัน้ ในกลุม่ ผูก้ ระจายสินค้า หรือในกลุ่มผู้บริโภค เป็นต้น ถึงแม้ว่าปัจจุบันมีหน่วยงานส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs ในขั้นตอน ต่างๆ ตั้งแต่ภาคการวิจัยและพัฒนา ไปจนถึงภาคการค้าเชิงพาณิชย์ แต่หน่วยงานเหล่านี้ ก็มขี อบเขตในบริบทงานทีแ่ ตกต่างกันไป อาจก่อให้เกิดช่องว่างและรอยต่อในกระบวนการ สร้างสินค้า ดังนั้น ความรู้ความเข้าใจในบทบาทของตนและผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่า 22

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

ของการสร้างนวัตกรรม (Value chain of innovation creation) และความสามารถ ในการบริหารจัดการเพือ่ เชือ่ มโยงช่องว่างดังกล่าวให้เป็นไปอย่างบูรณาการ จึงเป็น ปัจจัยที่ส�ำคัญยิ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความเป็นนวัตกรรมให้ประสบ ความส�ำเร็จ โดยช่องว่างที่ส�ำคัญที่ผู้ประกอบการอาหาร SMEs มักมองข้าม มีดังนี้

ช่องว่างในขั้นตอนการคัดกรองเทคโนโลยีและไอเดียของการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่

เนือ่ งจากเทคโนโลยีแปรรูปอาหารมีหลากหลายประเภท มีความเหมาะสมกับอาหาร แต่ ล ะชนิ ด แตกต่ า งกั น ไป เช่ น เทคโนโลยี รี ท อร์ ท เป็ น เทคโนโลยี ห นึ่ ง ที่ ผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs นิยมเลือกใช้ในการพัฒนาสินค้า เพราะช่วย ยืดอายุผลิตภัณฑ์อาหารให้สามารถเก็บได้นานขึน้ โดยไม่ตอ้ งอาศัยวัตถุกนั เสียและ การแช่ตู้เย็น แต่เทคโนโลยีนี้ก็มีข้อจ�ำกัด กล่าวคือ ไม่เหมาะสมในการน�ำมาใช้กับ วัตถุดิบอาหารบางประเภทที่ไม่ทนต่อสภาวะความร้อนสูง เพราะวัตถุดิบดังกล่าว เมือ่ ผ่านกระบวนการ รสชาติและรูปร่างของอาหารจะแปรสภาพในระดับทีผ่ บู้ ริโภค ไม่สามารถยอมรับได้ เป็นต้น ดังนั้น ความรู้และความเข้าใจในการเลือกใช้ เทคโนโลยีแปรรูปให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์กอ่ นเริม่ กระบวนการพัฒนาสินค้าใหม่ จึงเป็นปัจจัยส�ำคัญในการพัฒนาให้ประสบความส�ำเร็จ นอกจากการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมแล้ว สิง่ ทีส่ ำ� คัญอีกประการหนึง่ คือ ผู้ประกอบการต้องตระหนักถึงทิศทางของผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารแปรรูปที่ ต้องการพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย (Market oriented) บ่อยครัง้ พบว่าผูป้ ระกอบการธุรกิจอาหาร SMEs หลายราย ต้องการผลิต สินค้าใหม่โดยการต่อยอดจากสินค้าที่มีอยู่เดิมเพียงเท่านั้น (Product oriented) แต่ไม่ได้วางคอนเซ็ปท์ในการผลิตเพื่อให้สินค้ามีความแตกต่าง และตอบสนองต่อ ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายเดิมหรือ กลุม่ เป้าหมายใหม่ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทีว่ างจ�ำหน่ายในท้องตลาดขาดความน่าสนใจและมีความคล้ายคลึงกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องตระหนักถึงศักยภาพ


SPECIAL REPORT ขององค์กร จุดแข็งและจุดอ่อน รวมถึงการประเมินสถานการณ์ โอกาส และอุปสรรค ในการด�ำเนินธุรกิจ (SWOT Analysis) พร้อมทั้งเป็นผู้เตรียมข้อมูลทางการตลาด เพื่อก�ำหนดทิศทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนก่อนเริ่มการวิจัยและพัฒนา ร่วมกับหน่วยงานภายนอก

ช่องว่างในขั้นตอนการพัฒนาการผลิตในระดับงานวิจัยสู่การผลิต ในเชิงอุตสาหกรรม การน�ำผลิตภัณฑ์ทพี่ ฒ ั นาใหม่ออกสูต่ ลาดในเชิงพาณิชย์ ผูป้ ระกอบการธุรกิจอาหาร SMEs จ�ำเป็นทีจ่ ะต้องมีความสามารถในการ Scale-up กล่าวคือ ขยายการผลิตใน ระดับงานวิจัยให้เป็นการผลิตในเชิงอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งขั้นตอน ดังกล่าว ตัวผู้ประกอบการอาจด�ำเนินการเอง หรือว่าจ้างโรงงานอื่นที่มีความ เชี่ยวชาญเป็นผู้ผลิต ทั้งนี้ อุปสรรคของการ Scale-up ที่สามารถพบได้ทั่วไป อาทิ การเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นผลิตผลตามฤดูกาล ท�ำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าโดยใช้ วัตถุดิบนั้นตลอดทั้งปีได้ หรือปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบที่น�ำมาใช้ไม่เพียงพอ ต่อรอบการผลิตขัน้ ต�ำ่ ซึง่ มักพบได้กบั วัตถุดบิ ออร์แกนิก หรือวัตถุดบิ ทางการเกษตร ใหม่ๆ เป็นต้น นอกจากนีย้ งั พบปัญหาการเลือกใช้เทคโนโลยีไม่เหมาะสมกับสภาพ การผลิตจริง เช่น ไม่สามารถหาผูร้ บั จ้างผลิตได้เนือ่ งจากเทคโนโลยีทผี่ ปู้ ระกอบการ เลือกใช้หาได้ยากในพื้นที่นั้นๆ หรือปัญหาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากส่วนของ เทคโนโลยีการผลิต ส่งผลกระทบต่อราคาของสินค้า และการยอมรับผลิตภัณฑ์ใหม่ (Market adoption) ในกลุ่มผู้บริโภค เป็นต้น สิ่งส�ำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs ไม่ควรมองข้ามคือ แนวคิดในการพัฒนาการผลิตในระดับงานวิจัยที่ต้องพิจารณาถึงการผลิตในระดับอุตสาหกรรม ควบคู่กันเสมอ เนื่องจากการผลิตทั้ง 2 ขั้นตอนนี้อาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน จึงจ�ำเป็นต้องมีขั้นตอนการทดลองการผลิตในระดับอุตสาหกรรมอีกขั้นตอนหนึ่ง

โดยใช้ปริมาณวัตถุดิบที่สอดคล้องกับการผลิตจริงในระดับอุตสาหกรรม ตลอดจน เครื่องมือที่ใช้จริงในโรงงานผลิต เพื่อให้ได้สูตรอาหารและกระบวนการผลิต ที่เหมาะสมกับสินค้านั้นๆ ซึ่งกระบวนการทดลองการผลิตในระดับอุตสาหกรรม จนกระทั่งสามารถผลิตสินค้าเพื่อจ�ำหน่ายได้นั้น ผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs พึ ง ตระหนั ก ว่ า มี ค วามเป็ น ไปได้ ที่ จ ะต้ อ งท� ำ การทดลองการผลิ ต ในระดั บ อุตสาหกรรมซ�้ำเช่นเดียวกันกับการทดลองการผลิตในระดับงานวิจัย

ช่องว่างในขัน้ ตอนการขึน้ ทะเบียนให้ถกู ต้องตามกฎหมายเพือ่ การค้า เชิงพาณิชย์

บ่อยครั้งที่ผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความเป็นนวัตกรรมได้ส�ำเร็จและพร้อมผลิตในเชิงอุตสาหกรรม แต่กลับพบว่าไม่สามารถน�ำ มาค้าขายเชิงพาณิชย์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปัญหาที่พบ ได้แก่ ผู้ประกอบการ หรือโรงงานที่รับจ้างผลิตมีใบอนุญาตการผลิตที่ระบุขอบเขตประเภทไม่ครอบคลุม

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

23


SPECIAL REPORT กับการผลิตสินค้าใหม่ จึงต้องใช้เวลาเพื่อยื่นขอใบอนุญาตผลิตเพิ่มเติมจากหน่วยงาน ของรัฐ ซึ่งอาจเป็นผลจากความเป็นนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์นั้นที่ท�ำให้สินค้าถูกน�ำไป จัดเป็นหมวดหมู่การผลิตที่แตกต่างออกไปจากเดิม หรือเกิดจากการแบ่งประเภท ของสินค้าที่มีความเป็นนวัตกรรมยังมีความคลุมเครือไม่ชัดเจน เป็นต้น นอกจากนี้ ปัญหาความล่าช้าในการขอขึน้ ทะเบียนอาหารกับสาํ นักงานคณะกรรมการอาหารและ ยา (อย.) อาจเนือ่ งมาจากวัตถุดบิ ทีเ่ ป็นองค์ประกอบของนวัตกรรมอาหารทีเ่ ลือกใช้นนั้ ยังไม่มีข้อก�ำหนดที่ชัดเจน เช่น วัตถุดิบน�ำเข้าใหม่ ตลอดจนข้อก�ำหนดในการเปลี่ ย นแปลงและการควบคุ ม การใช้ วั ต ถุ ดิ บ เหล่ า นั้ น สิ่ ง เหล่ า นี้ แ สดงให้ เ ห็ น ว่ า ผูป้ ระกอบการจ�ำเป็นต้องศึกษาข้อก�ำหนดทางกฎหมายและข้อมูลต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้องให้ ครอบคลุม เพือ่ เป็นข้อมูลประกอบกับการวิจยั และพัฒนาสินค้าในแต่ละขัน้ ตอน ซึง่ จะ

ช่วยป้องกันปัญหาการยื่นจดทะเบียนอาหารที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังได้ นอกจากปัจจัยหลักทีไ่ ด้กล่าวมาแล้วนัน้ ยังมีอกี หลายปัจจัยทีเ่ ป็นอุปสรรค ของผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร SMEs ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ไปสู่การค้า เชิงพาณิชย์ ทั้งปัจจัยที่สามารถควบคุมได้และปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงปัญหาการยอมรับในผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ของผู้บริโภคที่ส่งผลให้เกิดการซื้อซ�้ำอีกด้วย ทั้งนี้ แนวทางส�ำคัญในการป้องกันความล้มเหลวของการพัฒนา สินค้าใหม่ทอี่ าจเกิดขึน้ คือ ผูป้ ระกอบการธุรกิจอาหาร SMEs ต้องเป็นผูบ้ ริหารจัดการ ศึกษาข้อมูล และมองปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ผู้ประกอบการ สามารถก�ำหนดทิศทางในการผลิตและพัฒนาสินค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

It has been many years that Thai government and private sectors put their effort on “Kitchen of the world” project, targeting Thailand to be the biggest food producer and exporter country ranked 1 in 5 of the world. Therefore, SMEs food entrepreneur is considered as main factor to bring about the project achievement. Innovative food product development is one of the wise choices of SMEs food entrepreneur applied to add value to agricultural materials or their food products may launch in the future.

Thai SME’s Obstacles

in New Product Development Process The development of new innovative products requires food processing technology, academic and marketing knowledges, including creative ideas contribute to the different and outstanding characteristic of the products. As former times, SMEs food entrepreneur has overlooked the integrity of innovative ideas into new product development. This causes loosing of opportunity to build the business’ competitive advantage. It is due to high investment both in budget and time of study and research, including the lack of research and development (R&D) personnel in their organizations. According to these reasons and limitation, SMEs food entrepreneurs usually focus on manufacturing the existing products just for sale only. However, the development of new innovative products of the entrepreneur may not facing difficulties as former times. There are many government organizations have been established to particularly provide R&D support for private sectors. This is a new product development by a notion called “open innovation”. These could help SMEs food entrepreneurs to alleviate them in researching and developing their products in labscale including hiring food manufacturing factory (Original Equipment Manufacturer; OEM) to produce food products supplied for their business. As aforesaid, it would help to reduce factorial and producing personnel investment leads to increasing more opportunity for them to launch their innovative processed food products to the market successfully.

24

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

Presently, there is plenty of interesting innovative processed food products but it has failure in commercial market approach due to various causes e.g. problem in scale-up the manufacturing in lab-scale to industrial-scale, problem in actual commercialization approach or market adoption among products distributor or consumer, etc. Even though, there are many organizations supporting SMEs food entrepreneurs in the level of R&D up to commercialization level. These organizations have their own work scopes and responsibility in different ways. This rule could create the gap in products manufacturing process. Therefore, knowledge and understanding in one’s own and others’ context in the value chain of innovation creation and management ability to fill up the gap in integral aspects are important things to develop new innovative products. The major gaps that most of SMEs food entrepreneur has overlooked are as follows:

Gap in the Process of Technology and Idea Selection Due to there are many food processing technology, each one is suitable to apply to different kinds of food. For example, retort pouch technology, one of the technologies that SMEs food entrepreneurs usually choose to develop their products, it helps to extend food products shelf life without using of preservatives and freezers. But this technology also has limitation i.e. it is not suitable to apply


SPECIAL REPORT with non-heat tolerance raw material especially in the high level. The food may not be able to maintain the good taste and appearance as it should be. Therefore, the successful New Product Development (NPD) requires knowledge and understanding in choosing food processing technology appropriately with the products before start NPD process. Another important thing that the entrepreneur must realize is the direction of innovative processed food products that it matches with targeted consumer or not (market oriented). It is frequently found that the SMEs food entrepreneurs want to produce new product by adapting the existing products in the market (product oriented). But they did not set up a production concept to create the difference of products and response to consumer’s actual needs, whether the existed targeted or new targeted consumers. This negligence is reflecting the non-attraction and similarity of products in the market. The entrepreneurs must realize their organization’s potential, strengths and weaknesses, including assessing the situations, opportunities and obstacles in doing business (SWOT Analysis). Also, they must prepare marketing information to determine the direction of product development clearly before start researching and developing by external units.

products, so additional registration from government authority is unavoidable. This is because the innovation of the product causing changes in product manufacturing classification, or due to its classification is unclear. Besides, the request for registration from the Food and Drug Administration (FDA) is delayed because of unclear regulations for ingredients they chose, e.g. new imported raw materials, etc. Also, the regulations do not specify about the change and control of using such material. It indicates that the SMEs food entrepreneurs need to study related laws and regulations thoroughly to be information for products’ research and development in every step to prevent problems related registration issue may occur. Other than these major obstacles have mentioned above; there are many minor factors that can be obstacles for SMEs food entrepreneurs to develop their products as commercialization. Those can be controlled and uncontrolled factors, including the market rejection of the new products effecting in customer’s purchasing respond. Therefore, the best way to prevent failure in new product development is the SMEs food entrepreneurs must manage, study, and consider obstacles and problems in many aspects as much as possible, in order to determine direction of production and development of new products effectively.

Gap in the Process of Manufacturing Development in Lab-scale to Industrialscale (Scale-up)

In order to launch new developed products to the commercial market; SMEs food entrepreneurs must have the scale-up ability i.e. to expand manufacturing capacity in lab-scale to industrial-scale. The entrepreneurs may carry out such process by themselves or hiring the OEM to do it. Obstacles of scale-up generally found are, for examples, choosing seasonal produces as raw materials; the product will not be able to be manufactured for a whole year, or insufficiency of raw materials per one production cycle which can be usually found with organics or new agricultural materials, etc. Moreover, there is a problem of choosing technology; it does not conform to actual manufacturing conditions, such as the OEM cannot supply the products due to technology chosen by the entrepreneur is rarely used in that area. Also, they may have problems of high cost of products formed by increased cost of manufacturing technology. It effects to the products’ price and acceptation among consumers (market adoption). The important things that SMEs food entrepreneurs should pay attention on is to consider the production development process consistently, from lab-scale to industrial-scale. This is because these 2 production scales may result in different ways. Therefore, the step of trial production in industrial-scale is necessarily required i.e. using raw materials in the actual amount of industrial production, including manufacturing by actual tools and equipment used in the factory. This will help to get the suitable food formula and manufacturing process for each product. In the steps from trial production in industrial-scale until the products can be able to sell in commercialization market, SMEs food entrepreneurs should realize that there is high possibility to run the trial production more than one time to obtain the right results, same as the trail production in lab-scale.

Gap in the Process of Registration for Commercialization to Comply with the Law

Many times that SMEs food entrepreneurs have ability to develop new innovative products successfully and ready for industrial manufacturing, but it is a shame that these products cannot be put on the market legally. Its obstacles are, for example, the entrepreneur or OEM possesses the licenses that do not cover types of new DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

25


SPECIAL FOCUS

ธุรกิจค้าปลีกอาหาร

เวียดนามมาแรงโตต่อเนื่อง ธุรกิจค้าปลีกสินค้าอาหารของเวียดนามมีการเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเชิงมูลค่าการตลาด ซึ่งมีอัตราการขยายตัว เฉลี่ ย สู ง ถึ ง ร้ อ ยละ 16.9 ต่ อ ปี ตลอดช่ ว งที่ วิ เ คราะห์ (ปี 2554-2558) โดยในปี 2558 สามารถสร้างรายได้จาก การจ�ำหน่ายคิดเป็นมูลค่า 1,371.4 ล้านล้านด่ง มีจ�ำนวนสาขา รวม 648,900 แห่ง (รูปที่ 1) ส่วนใหญ่เป็นผลจากการขยายตัว ของร้านค้าสะดวกซื้อ ซึ่งมีการเติบโตของมูลค่าการตลาด มากกว่า 3 เท่า ตลอดช่วงที่วิเคราะห์ โดยได้รับอานิสงส์จาก รูปแบบการใช้ชีวิตของชาวเวียดนามที่ต้องท�ำงานยาวนานขึ้น โดยเฉพาะผูท้ ที่ ำ� งานในออฟฟิศ จึงไม่มเี วลามากนักทีจ่ ะออกไป ซือ้ สินค้าอาหาร ดังนัน้ พวกเขามักจะซือ้ สินค้าอาหารกักตุนไว้ คราวละจ�ำนวนมาก โดยเฉพาะอาหารบรรจุเสร็จ เพือ่ ประหยัด เวลาในการปรุงอาหาร โดยสินค้าดังกล่าวมักจะมีวางจ�ำหน่าย อย่างหลากหลายในห้างค้าปลีกสมัยใหม่ รวมถึงไฮเปอร์มาร์เก็ต และซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกอีกรูปแบบหนึ่งที่ก�ำลัง เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

ส�ำหรับการจ�ำหน่ายสินค้าอาหารผ่านอินเทอร์เน็ตถือว่าเป็น อีกรูปแบบหนึ่งที่ก�ำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวเวียดนาม โดยผู้ค้าปลีกรายใหญ่ อย่าง บริษัท Saigon Union of Trading Cooperatives และบริ ษั ท Casino Guichard-Perrachon ต่างพัฒนาเว็บไซต์เพื่อรองรับพฤติกรรมการบริโภคดังกล่าวของ ชาวเวียดนามทีต่ อ้ งการสัง่ ซือ้ สินค้าจากบ้าน อย่างไรก็ตาม แม่บา้ น

ศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร สถาบันอาหาร Food Intelligence Center National Food Institute www.nfi.or.th

2011

2012

2013

2014

Number of Branches (Thousand)

2015

2016

2017

2018

2019

2020

Sales Volume (Trillion Dong)

Figure 1: Retail Industry in Vietnam in 2011 – 2020 Source: Euromonitor International, Forecast for 2016 – 2020

ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ยงั นิยมมาเลือกซือ้ สินค้าอาหารสดทีร่ า้ นค้าปลีกด้วยตนเอง โดยกลุม่ ทีอ่ าศัย อยูใ่ นเขตเมืองจะเลือกไปจับจ่ายซือ้ สินค้าอาหารทีห่ า้ งค้าปลีกสมัยใหม่ ขณะทีก่ ลุม่ ผูท้ อี่ าศัยในเขต ชนบทยังคงชื่นชอบการไปเดินเลือกซื้อสินค้าตามตลาดสดหรือร้านขายของช�ำขนาดเล็กแบบเดิม เนื่องจากพวกเขาเดินทางโดยรถจักรยานยนต์ จึงมีความสะดวกกว่าหากไปซื้อที่ร้านใกล้บ้าน หรือ ร้านข้างทาง แทนการไปจอดรถที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและต้องเสียเวลารอคิวช�ำระเงิน ในปี 2558 ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม จัดเป็นรูปแบบการค้าหลักสินค้าอาหารในเวียดนาม ด้วย สัดส่วนร้อยละ 95 ในเชิงมูลค่า และร้อยละ 99.8 ในเชิงจ�ำนวนสาขา โดยร้านขายของช�ำแบบดัง้ เดิม อื่นๆ เช่น ตลาดสด และร้านขายของช�ำอิสระขนาดเล็ก ครองส่วนแบ่งธุรกิจมากที่สุดร้อยละ 65.3 และ 27.3 ของมูลค่าการค้าปลีกสินค้าอาหารทั้งหมดในเวียดนาม (รูปที่ 2) อย่างไรก็ตาม ทิศทาง การเติบโตของธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมเริ่มถดถอยลง เนื่องจากผู้บริโภคชาวเวียดนามจ�ำนวนมาก เปลี่ยนจากการซื้อสินค้าอาหารจากตลาดสดแบบเดิม และหันไปเลือกซื้อสินค้าอาหารจาก ซูเปอร์มาร์เก็ตมากขึ้น โดยผู้ประกอบธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตต่างลดราคาสินค้า เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ เข้ามาซือ้ สินค้าของตนมากขึน้ เช่นกัน ส่วนร้านค้าลดราคา (Discounters) ในเวียดนามยังไม่ปรากฏ ให้เห็นในปัจจุบัน เนื่องจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่มักจะมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดีกับผู้ผลิตสินค้า อาหารอยู่แล้ว จึงไม่มีความจ�ำเป็นต้องพึ่งพาผู้จัดหาสินค้า (Suppliers) เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลง

ผูเ้ ล่นส�ำคัญ บริษทั Saigon Union of Trading Cooperatives เป็นผูน้ ำ� ธุรกิจค้าปลีกสินค้าอาหาร

ในเวียดนามอย่างต่อเนือ่ ง ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดร้อยละ 1.9 ของมูลค่าธุรกิจค้าปลีกสินค้าอาหาร ทั้งหมดในเวียดนาม ในปี 2558 จากการด�ำเนินร้าน “Co.opMart” และร้าน “Co.op Food” ซึ่งมี จ�ำนวนร้านสาขามากถึง 117 และ 80 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยทางร้าน “Co.opMart” ได้ พัฒนาแอพพลิเคชันบนมือถือส�ำหรับกลุม่ ลูกค้าเดิมของร้านในการเก็บสะสมคะแนนจากการสัง่ ซือ้ 26

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017


SPECIAL FOCUS สินค้า รวมทั้งการรับทราบข่าวสารโปรโมชันสินค้าต่างๆ ของทางร้านด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ค้าปลีกที่จัดเป็นผู้น�ำใน ธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ต ได้แก่ ร้าน “Big C” ของบริษัท Casino Guichard-Perrachon และร้าน “Lotte Mart” ของบริษัท Lotte Shopping มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 1.5 และ 0.3 ของมูลค่าธุรกิจค้าปลีกสินค้าอาหารทั้งหมด ในเวียดนาม ตามล�ำดับ ทั้งนี้ ในปี 2558 ได้มีผู้ค้าปลีก รายใหม่ อย่างร้าน “Vinmart” ของบริษัท VinPro เข้ามา เปิ ด ธุ ร กิ จ ร้ า นค้ า สะดวกซื้ อ ในเวี ย ดนามเป็ น ครั้ ง แรก กว่า 100 สาขา ส่งผลให้ร้าน “Fivimart” ของบริษัท TCT Group ต้องสูญเสียส่วนแบ่งธุรกิจไป ซึ่งต่อมาบริษัท Aeon Vietnam ได้เข้ามาซื้อหุ้นส่วนร้อยละ 30 ของกิจการ ซูเปอร์มาร์เก็ต “Fivimart” และร้อยละ 49 ของกิจการ ซู เ ปอร์ ม าร์ เ ก็ ต “Citimart” ของบริ ษั ท Dong Hung Trading Service เพื่อรักษาสถานะทางธุรกิจนี้ไว้ โดย ร้าน “Co.opMart” และร้าน “Big C” จะเน้นกลยุทธ์ การแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก ขณะที่ร้าน “Lotte Mart” จะเน้นกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลาง-สูง ส่วนร้าน “Fivimart” และร้าน “Citimart” จะเน้นจ�ำหน่ายสินค้า อาหารน�ำเข้า โดยเฉพาะสินค้าน�ำเข้าจากญี่ปุ่น

Source: http://vietnamnewstoday.jcapt.com and http://static.talkvietnam.com

เพือ่ เป็นช่องทางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ขา่ วสารโปรโมชันของทางร้าน ซึง่ จะช่วยประหยัดต้นทุน การด�ำเนินการมากกว่าการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์

แนวโน้ ม ธุ ร กิ จ ธุ ร กิ จ ค้ า ปลี ก สิ น ค้ า อาหารของ

เวียดนามจะมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยใน ปี 2563 คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 1,679.5 ล้านล้านด่ง หรือมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 4.1 ต่อปี ตลอดช่วงที่คาดการณ์ (ปี 2559-2563) ซึ่งเป็น อัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่วิเคราะห์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากอัตราการเติบโตของจ�ำนวนประชากร ชาวเวียดนามที่ลดลง เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น และ ผู้หญิงชาวเวียดนามมีโอกาสในการออกมาหางานท�ำเอง นอกบ้านได้ จึงท�ำให้พวกเขาบางส่วนเลือกทีจ่ ะอยูเ่ ป็นโสด เพื่อลดภาระในการเลี้ยงดูบุตร ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าร้านค้าสะดวกซื้อยังคงมีแนวโน้มการเติบโต ที่ ร วดเร็ ว ที่ สุ ด ด้ ว ยอั ต ราการขยายตั ว เฉลี่ ย ร้ อ ยละ 17.8 ต่อปี ในเชิงมูลค่า ตลอดช่วงที่คาดการณ์ เนื่องจาก กลุ่มผู้ค้าปลีกต่างมีแผนที่จะขยายร้านสาขาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชนบท ในทางตรงกันข้ามคาดว่า ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมจะมีแนวโน้มการเติบโตลดลง เนื่ อ งจากสู ญ เสี ย การแข่ ง ขั น ให้ กั บ กลุ ่ ม ห้ า งค้ า ปลี ก สมัยใหม่ ที่มีจุดเด่นด้านคุณภาพและความปลอดภัย ของสินค้าอาหารมากกว่า นอกจากนีร้ ปู แบบการจ�ำหน่ายสินค้าอาหารผ่านระบบ ออนไลน์และผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือ คาดว่าจะมีการขยายตั ว ที่ ชั ด เจนมากขึ้ น ซึ่ ง เป็ น ผลจากการใช้ ชี วิ ต ที่ ยุ ่ ง วุ ่ น วายของชาวเวี ย ดนาม โดยผู ้ ค ้ า ปลี ก ทั้ ง หลายมี แนวโน้ ม ที่ จ ะพั ฒ นาเว็ บ ไซต์ แ ละแอพพลิ เ คชั น ต่ า งๆ DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

27


SPECIAL FOCUS

Vietnam Food Retail Business Growing dramatically

In the current situation, Vietnam’s food retail industry is growing unstoppably, especially the market value which grows averagely 16.9% annually throughout our period of research (2011 – 2015). Only in 2015, the industry earned 1,371.4 trillion dong profit from sales in 648,900 branches (Figure 1), mostly because of the expansion of convenience store, whose market value growth increased 3 folds during the period. The trend was the result of changing lifestyle, for which many Vietnamese are working longer house, particularly office workers, and they do not have enough time to shop for grocery. Therefore, these consumers are hoarding large amount of food, instant food specifically, to safe cooking time. Such kind of products are often available in modern retail store, hypermarket, and supermarket, which are different types of retail store that are flourishing rapidly during this same period.

Internet food retail store is another Hypermarket interesting shopping channel for Vietnamese Food/Drink/ Cigarette Shop consumers. Many giant retail stores; for e x a m p l e , S a i g o n U n i o n o f Tr a d i n g Convenience Store Cooperatives and Casino GuichardSupermarket Perrachon, are developing their websites in respond to the new consuming behaviour where many prefer to purchase items from their homes. Nonetheless, many Vietnamese housewives still prefer to come to the retail stores. Housewives in urban area are often Independent Traditional found shopping at modern retail stores, while Convenience Store those in rural areas are keen to shop from Traditional wet markets or small convenience stores. For Convenience Store the provincials, it is easier for them to travel to convenience stores close to home than stop at supermarkets and wait for the queue, because they usually commute on motorcycles. In 2015, traditional retail store is the main channel for food trade in Vietnam, taking 95% Figure 2: Retail Businesses Market Share of the total market value, and 99.8% in terms Per Business Type in Vietnam in 2015 Source: Euromonitor International of number of branches. Traditional retail store includes wet market and small independent convenience store, who controls 65.3% and 27.3% of the national market share per volume, respectively. (Figure 2) Nevertheless, traditional retail stores are in decline after many Vietnamese consumers changed from buying food from wet market to buying from supermarket. Supermarkets also run promotion campaign, e.g. price cut, to attract more consumers. Meanwhile, discounters are not yet seen in Vietnam as many large retail chains hold close relationships with food manufacturers, hence, there is no need to rely on suppliers for discounts.

The Key Players

Saigon Union of Trading and Cooperatives, has long been the leading food retailer in Vietnam, controlling 1.9% of the retail market value. In 2015, its “Co.opMart” and “Co. op Food” has 117 branches and 80 branches nationwide, respectively. “Co.opMart” recently develop a mobile phone application for loyal customers to collect points and receive news and promotions. Not only that, there’s also hypermarket players like “Big C” (by Casino Guichard-Perrachon) and “Lotte Mart” (by Lotte Shopping), who control 1.5% and 0.3% of the market share, respectively. We also see a new player in 2015, “Vinmart” (by VinPro), who kicked off with more than 100 branches and stole some market share from “Fivimart” (by TCT Group). Eventually, Aeon Vietnam has brought 30% share from “Fivimart”, and 49% from “Citimart” (by Dong Hung Trading Service) to maintain these businesses. “Co.opMart” and “Big C” focus on price cut strategy, while “Lotte Mart” targets medium to high income consumers. “Fivimart” and “Citimart”, on the other hand, add import foods to their strength, especially with Japanese products.

Market Trends

Food retail industry in Vietnam is set for continuous growth. In 2020, it is forecasted that the industry will generate 1,679.5 trillion dongs and expand averagely at 4.1% per annum between 2016 – 2020. The expected growth rate is relatively decelerated compared to the research period, partly because the slowdown of Vietnamese population growth after cost-of-living has risen and more Vietnamese women are entering the job market. More and more working population decide to remain single to ease the burden from child care. Nevertheless, it is predicted that convenience store will have the most accelerated growth with average 17.8% expansion in value, due to that many retailers are planning to establish more branches, particularly in rural area. On the other hand, traditional retail store is seen to be in decline and losing competitiveness to modern retail store as the latter provides food products in a better quality and safety. Furthermore, we will see a clearer expansion from online and mobile application, as a result of complicated lifestyle of Vietnamese. Many retailers are keen to develop websites and applications to promote news and promotion offers, which will be more budget friendly compared to television advertisement.

28

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017


SPECIAL FOCUS พูลสุข นิลกิจศรานนท์

Poonsuk Ninkitsaranont

poonsuk.ninkitsaranont@krungsri.com

ปิยะนุช สถาพงศ์ภักดี

Piyanuj Zthapongpakdee

piyanuj.zthapongpakdee@krungsri.com Banking Analyst Research Division Bank of Ayudhya PCL.

ธุรกิจร้านค้าปลีก

สมัยใหม่

ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern trade) เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมค้าปลีกค้าส่ง ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 2.2 ล้านล้านบาทในปี 2559 (คิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 15 ของ GDP ซึ่งมีมูลค่าเป็นอันดับสองรองจากอุตสาหกรรมการผลิตที่มีสัดส่วนร้อยละ 27.4)

ในอดีตธุรกิจค้าปลีกในไทยเป็นร้านขายของช�ำขนาดเล็กที่จัดหาสินค้ามา จ�ำหน่ายโดยผ่านตัวกลาง (ผูค้ า้ ส่ง) แต่ปจั จุบนั รูปแบบร้านค้าปลีกเปลีย่ นแปลง ไปเป็นร้านค้าทันสมัย ลดการพึ่งพาผู้ค้าส่ง เนื่องจากผู้ประกอบการมักเป็น นายทุนรายใหญ่ทมี่ เี ครือข่ายสาขาจ�ำนวนมากหรือเป็นผูซ้ อื้ รายใหญ่จงึ มีอาํ นาจ ต่อรองเหนือผู้ผลิตหรือตัวแทนจ�ำหน่ายสินค้า1 มีการบริหารจัดการร้านค้าอย่าง เป็นระบบ กล่าวคือ มีการจัดการสต็อกสินค้า ระบบการจัดการขนส่ง และ ศูนย์กระจายสินค้า ตลอดจนน�ำเทคโนโลยีด้านปฏิบัติการต่างๆ มาใช้ เพื่อสร้าง ความได้เปรียบด้านการตลาด กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในไทยมีการเติบโตอย่าง รวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และเมืองหลักต่างๆ ที่มีความเป็นสังคมเมืองสูง อานิสงส์จากนโยบายรัฐที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามา ลงทุนในธุรกิจค้าปลีกในไทยได้2 นอกจากนี้ ลักษณะของร้านค้าทีม่ คี วามสะดวกสบาย ทันสมัย มีสินค้าที่มีคุณภาพและหลากหลาย จึงสามารถตอบสนอง พฤติกรรมการบริโภคของภาคครัวเรือนได้ดี โดยเฉพาะร้านค้าที่จ�ำหน่ายสินค้า ในชีวิตประจ�ำวัน ใกล้แหล่งชุมชนจะมีการขยายตัวของการลงทุนสูง ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่จงึ เริม่ เข้ามาทดแทนธุรกิจค้าปลีกแบบดัง้ เดิม (Traditional

trade) โดยในปี 2557 ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่มีสัดส่วนร้อยละ 61 ของมูลค่า ตลาดค้าปลีกค้าส่ง เทียบกับในปี 2544 ที่มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 253 รูปแบบร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่ส�ำคัญในปัจจุบันมี 5 ประเภท4 ดังนี้ 1. ห้างสรรพสินค้า (Department Store) เป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่สุด มักตั้งอยู่กลางเมือง การตกแต่งร้านเน้นความสวยงามและมีพนักงานบริการ ให้ค�ำแนะน�ำ เน้นขายสินค้าคุณภาพดี สินค้าแบรนด์เนม ทั้งสินค้าน�ำเข้าจาก ต่างประเทศและผลิตในประเทศ ราคาสินค้าจึงค่อนข้างสูง ผู้น�ำตลาด อาทิ เซ็นทรัล โรบินสัน และเดอะมอลล์ 2. ดิสเคานท์สโตร์ (Discount Store/Hypermarket/Supercenter) เป็น ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ มักต้องลงทุนศูนย์กระจายสินค้า (Distribution center) ควบคู่ด้วย เน้นกลุ่มลูกค้ารายได้ต�่ำถึงปานกลาง สินค้าที่จ�ำหน่ายจึงเป็นสินค้า หลากหลายในราคาประหยัด มักตั้งอยู่กลางเมืองหรือชานเมือง ผู้ประกอบการ ที่ส�ำคัญ อาทิ บิ๊กซี และเทสโก้ โลตัส 3. ซูเปอร์มาร์เก็ต (Supermarket) จ�ำหน่ายสินค้าอาหารและของใช้ประจ�ำวัน เป็นหลัก มีทั้งร้านค้าที่ตั้งเป็นอิสระ อาทิ ฟู้ดแลนด์ และที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า อาทิ ท็อปส์ และโฮม เฟรช มาร์ท เป็นต้น DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

29


SPECIAL FOCUS 4. ร้านสะดวกซื้อ (Convenience Store/Express/Mini Mart) เป็นร้านค้าปลีก ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยม และเข้ามาทดแทนร้านค้าปลีกดั้งเดิม เนื่องจากมีการจัดร้าน และการบริหารจัดการที่ทันสมัย จ�ำหน่ายสินค้าหลากหลาย และที่ตั้งร้านกระจายไป ตามแหล่งชุมชน ผู้ประกอบการส�ำคัญ ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น และแฟมิลี่มาร์ท เป็นต้น 5. ร้านค้าปลีกขายสินค้าเฉพาะอย่าง (Specialty Store) เน้นขายสินค้า เฉพาะด้านทีม่ คี ณ ุ ภาพ ราคาสูง บางร้านขายสินค้าเฉพาะแบรนด์ของตนเอง ทีต่ งั้ ร้าน มักอยู่ในห้างค้าปลีก หรือตามแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการส�ำคัญ อาทิ บู๊ทส์ วัตสัน และซูเปอร์สปอร์ต นอกจากนี้ ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ยงั มีการพัฒนารูปแบบแตกย่อยออกเป็นประเภท ต่างๆ มากขึ้น อาทิ ร้านค้าเฉพาะอย่างที่เน้นสินค้าราคาถูก (Category killer) และ ร้านค้าที่ขายสินค้าราคาเดียว รวมถึงมีการขยายสาขาสู่ต่างจังหวัดและเจาะตลาด ชุมชน ต�ำบล และหมู่บ้าน ท�ำให้ร้านค้าปลีกกลายเป็นศูนย์กลางของชุมชนมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันภาวะ การแข่งขันในธุรกิจก็ทวีความรุนแรงขึ้นเช่นกัน

สถานการณ์ที่ผ่านมา

ธุ ร กิ จ ค้ า ปลี ก สมั ย ใหม่ ใ นไทยเติ บ โตตามความเชื่ อ มั่ น ของผู ้ บ ริ โ ภค จากข้ อ มู ล ของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ระบุว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในไทย ครั้งล่าสุดปี 2557 มูลค่าค้าปลีกขยายตัวในอัตราสูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะร้านค้าปลีกสมัยใหม่ อาทิ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ทีม่ กี ารขยายสาขามาก ท�ำให้มสี ว่ นแบ่งตลาดด้านรายได้เพิม่ ขึน้ และมีบทบาททดแทน ตลาดค้าปลีกดัง้ เดิมเป็นล�ำดับ อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยนับตัง้ แต่ ปี 2556 และปัญหาการเมืองในประเทศ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับภาคเศรษฐกิจฐานรากย�่ำแย่จากราคาพืชผลเกษตรตกต�่ำ ส่งผลให้บรรยากาศการใช้จ่าย ในประเทศซบเซา ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่จึงมีอัตราการเติบโตด้านยอดขายชะลอลง มาก โดยขยายตัวเฉลี่ยเพียงร้อยละ 3.8 ต่อปี ในช่วงปี 2556-2559 เทียบกับที่เติบโต เฉลี่ยร้อยละ 9.5 ในช่วงปี 2553-2555 แม้ภาครัฐจะออกมาตรการเพื่อกระตุ้น การบริโภคเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรายใหญ่ในแต่ละกลุ่มยังคงรักษา ระดับมาร์จินของธุรกิจและลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง การเปิดให้บริการพื้นที่ค้าปลีกสมัยใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นมากในช่วงปี 2556-2558 โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ มีการขยาย การลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค 30

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

ส่งผลให้การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกรุนแรงขึน้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนใหม่ของ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ขนาดใหญ่ชะลอลงบ้างในปี 2559 ซึ่งมีเฉพาะการลงทุน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบที่เพิ่มขึ้นประมาณ 0.13 ล้านตารางเมตร ส่งผลให้พื้นที่ค้าปลีกรวมในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 7.5 ล้านตารางเมตร5 ส่วนการลงทุน ในต่างจังหวัดของผู้ประกอบการร้านค้าปลีกขนาดใหญ่มีการเปิดพื้นที่ใหม่ ไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนร้านค้าและพื้นที่ค้าปลีกขนาดเล็ก โดยเน้น เฉพาะในจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น มีระบบสาธารณูปโภค พร้อม หรือเป็นจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้าและการท่องเที่ยว อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา เป็นต้น สถานการณ์ของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เมื่อพิจารณาตามรูปแบบ ที่ส�ำคัญ มีดังนี้ • ห้างสรรพสินค้า (Department Store) ธุรกิจห้างสรรพสินค้าในไทยขยาย การลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงปี 2555-2556 ซึ่งเป็น ยุคที่เศรษฐกิจต่างจังหวัดเฟื่องฟู มีการซื้อขายที่ดินและการลงทุนโครงการที่อยู่ อาศัยจ�ำนวนมาก จึงเป็นโอกาสในการขยายการลงทุนพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่ โดยผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าต่างขยายการลงทุนในจังหวัด ศูนย์กลางภูมิภาคและจังหวัดท่องเที่ยว หลังจากเศรษฐกิจต่างจังหวัดชะลอตัวตามทิศทางราคาสินค้า เกษตรในช่วงกลางปี 2556 ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าจึงหัน กลับมาขยายการลงทุนในพืน้ ทีก่ รุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าในปี 2559 มีสาขาห้างสรรพสินค้า ทั้งสิ้น 77 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 72 แห่งในปีก่อน (รวบรวม เฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการหลัก ได้แก่ Central Department Store Group และ The Mall Group) ทั้งนี้ ยอดขายของธุรกิจห้างสรรพสินค้าปี 2559 มีอัตราการเติบโตต�่ำสุดเป็นประวัติการณ์เพียงร้อยละ 2.8 ซึ่งต�่ำกว่าช่วงปี 2556-2557 ที่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองใจกลาง กรุ ง เทพฯ และเหตุ ก ารณ์ รั ฐ ประหาร ภาวะเช่ น นี้ ย ่ อ มกดดั น ผลประกอบการเนื่องจากการรับรู้รายได้ต�่ำ แต่ต้นทุนของธุรกิจ ทั้งต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรค่อนข้างสูง ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพจึงเริ่ม หันไปลงทุนขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งในประเทศที่มีศักยภาพ การตลาดสูง เช่น ประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศในยุโรป (ได้ประโยชน์ จากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรป ท�ำให้สามารถเข้าซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการ โดยมีต้นทุนการลงทุนไม่สูงมากนัก) • ดิสเคานท์สโตร์ /ไฮเปอร์มาร์เก็ต /ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (Discount Store/ Hypermarket/Supercenter) การลงทุนในธุรกิจดิสเคานท์สโตร์ที่ผ่านมา มีข้อจ�ำกัดจากการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองของทางการ โดยในปี 2556 ทางการออกกฎหมายควบคุมเพิ่มเติมที่มีความเข้มงวดขึ้น6 ท�ำให้การลงทุน ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ในเขตชุมชนเมืองในปัจจุบนั เกิดได้ยากขึน้ ผูป้ ระกอบการ จึงมีการปรับรูปแบบการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ดังนี้ - การลงทุนในพืน้ ทีก่ รุงเทพฯ และปริมณฑลจะเน้นการลงทุนสาขาทีม่ ขี นาด พื้ น ที่ เ ล็ ก ลง และขยายขอบเขตธุ ร กิ จ ไปยั ง ร้ า นค้ า ปลี ก ประเภทอื่ น ๆ อาทิ เทสโก้ โลตัส ขยายการลงทุนร้านโลตัส เอ็กซ์เพรส และตลาด โลตัส เพือ่ จับตลาด ระดับล่าง ขณะที่บิ๊กซีขยายการลงทุนร้านมินิ บิ๊กซี เพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้น - การลงทุนสาขาขนาดใหญ่ในต่างจังหวัดเป็นอีกทางออกหนึ่งของผู้ประกอบการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการขยายการลงทุนในเมืองรองทีเ่ ริม่ มีการขยายตัวของ


SPECIAL FOCUS ชุมชนเมือง และเมืองศูนย์กลางภูมิภาคที่มีการขยายเส้นทางคมนาคม ซึ่งเปิด พื้นที่ใหม่ๆ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ รายได้ของธุรกิจดิสเคานท์สโตร์มีอัตราการเติบโตค่อนข้างต�่ำ ผลจากภาวะ ตลาดที่ฟื้นตัวช้าและการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ตลอดจนการแข่งขันกับ ร้านค้าปลีกประเภทอื่นๆ อาทิ ร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งจ�ำหน่าย สินค้าประเภทอาหาร (Food) และสินค้าอุปโภคในครัวเรือน รวมถึงร้านขายสินค้า เฉพาะอย่างซึ่งจ�ำหน่ายสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (Non-food) โดยปี 2559 ประเมินว่า รายได้ของธุรกิจดิสเคานท์สโตร์มีอัตราการเติบโตเพียงร้อยละ 2.0 เทียบกับที่ เติบโตถึงร้อยละ 10 ในปี 2555 และเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 2.6 ในช่วง 2556-2558 • ซูเปอร์มาร์เก็ต (Supermarket) การลงทุนในธุรกิจนี้ขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นการลงทุนเปิดสาขาใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดหัวเมือง อาทิ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้บริโภคมี ก�ำลังซื้อ มีตลาดลูกค้าชนชั้นกลางรองรับและมีแนวโน้มเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้จ่ายมานิยมร้านค้าปลีกสมัยใหม่มากขึ้น มีเพียงตลาดโลตัสที่เน้น ขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัดทัง้ หัวเมืองและจังหวัดรองอย่างต่อเนือ่ ง จึงเป็น แบรนด์ที่มีสาขาและพื้นที่ร้านค้าปลีกสูงสุดในกลุ่มนี้ จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าในปี 2559 มีสาขาซูเปอร์มาร์เก็ตจ�ำนวน 448 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 424 แห่งในปีก่อน โดยในปี 2559 ผู้ประกอบการ ที่ลงทุนขยายสาขามากที่สุด คือ ท็อปส์ ที่เปิดสาขาใหม่ถึง 10 แห่ง ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตมีอตั ราการเติบโตดีตอ่ เนือ่ งสูงกว่าธุรกิจค้าปลีกประเภท อื่ น ๆ เนื่ อ งจากมี ร ะบบทั น สมั ย เน้ น การสร้ า งภาพลั ก ษณ์ ที่ ดี และคั ด สรร ผลิตภัณฑ์วางจ�ำหน่ายที่มีคุณภาพและสดใหม่ นอกจากนี้ ยังเน้นเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร (Food safety) เพือ่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับ กลางถึงบน การท�ำกลยุทธ์การตลาดเช่นนี้ท�ำให้ผู้ประกอบการมีอ�ำนาจก�ำหนด ราคาได้ระดับหนึ่ง ขณะที่ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประเมินว่าธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตจะเติบโตในอัตราร้อยละ 9.0 ในปี 2559 ซึ่ง ใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตเฉลี่ยหลายปีที่ผ่านมา • ร้านสะดวกซื้อ (Convenience Store) ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ทมี่ จี ำ� นวนสาขาเพิม่ ขึน้ สูงสุด และเข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจาก ร้านค้าปลีกดั้งเดิมมากที่สุด เนื่องจากผู้เล่นรายใหญ่ ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น ใช้กลยุทธ์ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยขยายขอบเขตไปสู่สถานีบริการน�้ำมัน เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการรายใหม่ ขยายการลงทุนเข้ามาในธุรกิจนี้ ได้แก่ - ผู้ประกอบการไทยรายใหญ่จากกิจการค้าปลีกอื่นๆ อาทิ โลตัส เอ็กซ์เพรส มินิ บิ๊กซี และ ท็อปส์ เดลี่ เป็นต้น ซึ่งมีทั้งการลงทุนร้านค้าอิสระ (Stand alone) และร้านค้าในพื้นที่สถานีบริการน�้ำมัน - การเข้ามาลงทุนของต่างชาติ อาทิ 1) Lawson (ญี่ปุ่น) ที่เข้ามาร่วมทุน กับเครือสหพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของไทยในปี 2555 โดย Lawson เข้ามาขยายสาขาซึง่ บางส่วนปรับเปลีย่ นจากสาขา 108shop เดิม ของกลุ่มสหพัฒน์ เป็น Lawson108 และ 2) Aeon (ญี่ปุ่น) เข้ามาลงทุนเปิด สาขา Maxvalu Tanjai เน้นจ�ำหน่ายอาหารพร้อมรับประทาน และสร้างความแตกต่างโดยวางจ�ำหน่ายสินค้าน�ำเข้าจากญี่ปุ่นในสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 จากการรวบรวมข้อมูลพบว่าในปี 2559 มีสาขาร้านสะดวกซื้อจ�ำนวน 15,325 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มจาก 14,292 แห่งในปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 โดยเป็นการขยายการลงทุนจากทุกแบรนด์ น�ำโดย เซเว่น อีเลฟเว่น เพิ่มขึ้น 773 สาขา (ร้อยละ 8.9) แฟมิลี่มาร์ท เพิ่มขึ้น 50 สาขา (ร้อยละ 4.6) และ ลอว์สัน 108 เพิ่มขึ้น 52 สาขา (ร้อยละ 11.7) เป็นต้น

การเติ บ โตด้ า นรายได้ ข อง ธุ ร กิ จ มี ทิ ศ ทางชะลอลงนั บ จาก ปลายปี 2556 เป็ น ต้ น มา โดย สมาคมผูค้ า้ ปลีกไทยระบุวา่ รายได้ ของร้ า นสะดวกซื้ อ เติ บ โตลดลง จากเฉลี่ยร้อยละ 13.3 ในช่วงปี 2554-2556 เหลือเพียงร้อยละ 3.4 ในปี 2557-2558 และในปี 2559 วิ จั ย กรุ ง ศรี ป ระเมิ น ว่ า จะอยู ่ ที่ ระดับร้อยละ 3.0

แนวโน้มอุตสาหกรรม

ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่มีแนวโน้มปรับดีขึ้นในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า (2561-2563) ตาม การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจไทย (วิจัยกรุงศรีประเมินอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ จะอยูใ่ นช่วงร้อยละ 3.5-4.5 จากเฉลีย่ ร้อยละ 2.4 ในช่วงปี 2556-2559) ทีถ่ กู ขับเคลือ่ น โดยการลงทุน การบริโภค และท่องเที่ยว โดยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อาทิ ระบบคมนาคมขนส่ง การขยายสนามบิน การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ใกล้พื้นที่ชายแดน ตลอดจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ รวมถึงการขยายตัวของ ชุมชนเมืองจะช่วยเพิ่มก�ำลังซื้อของประชาชนในประเทศ จึงเป็นสัญญาณดีต่อการเติบโตของภาคค้าปลีก เมื่อผนวกกับความพยายามของภาคเอกชนในการผลักดันให้ ไทยเป็นศูนย์กลางการช้อปปิง้ ของเอเชีย7 และข้อได้เปรียบของธุรกิจจากจ�ำนวนสาขา ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการที่ผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าผ่านร้านค้าปลีก สมัยใหม่มากขึ้น จะหนุนให้ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่กลับมาขยายตัวดีกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยคาดว่าการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 4-6 ในช่วง 3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจมีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งการแข่งขันจาก 1) ธุรกิจค้าปลีกประเภทเดียวกัน 2) ธุรกิจค้าปลีกข้ามประเภทที่มีกลุ่มเป้าหมาย เดียวกัน และ 3) คู่แข่งรายใหม่ที่จะเข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ ผูป้ ระกอบการร้านค้าแบรนด์ตา่ งชาติทใี่ ห้ความสนใจเปิด/ขยายสาขาในไทยเพือ่ รองรับ ก�ำลังซือ้ จากนักท่องเทีย่ วต่างชาติในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเทีย่ วต่างๆ รวมถึงเล็งเห็น ถึงศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว นอกจากนี้ ยังต้องจับตาการเติบโตอย่างรวดเร็วของร้านค้าออนไลน์ (e-Commerce) ที่จะเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด ได้มากขึ้น โดยคาดว่าตลาด e-Commerce ของไทยจะเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 22 ต่อปี ไปจนถึงปี 25638 เนือ่ งจากผูบ้ ริโภคเริม่ มีความคุน้ เคยกับการสัง่ ซือ้ สินค้าผ่านช่องทาง ดังกล่าว ประกอบกับมีผปู้ ระกอบการต่างชาติรายใหญ่เข้ามาลงทุนธุรกิจ e-Commerce ในไทย จึงคาดว่าผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสมัยใหม่จะต้องเน้นใช้กลยุทธ์ด้านราคา เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและการลดต้นทุนด�ำเนินการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ขณะเดียวกันยังต้องขยายธุรกิจ e-Commerce ควบคู่กับการขายผ่านร้านค้า แนวโน้มการด�ำเนินกิจการเช่นนี้อาจมีผลให้มาร์จินของธุรกิจลดลง ซึ่งมีส่วนให้ธุรกิจ เร่งขยายสาขาให้ครอบคลุมก�ำลังซื้อโดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่เพื่อเพิ่มรายได้และ รักษาระดับการเติบโตในระยะยาว การลงทุ น ในธุ ร กิ จ ค้ า ปลี ก สมั ย ใหม่ จ ะมี ต ่ อ เนื่ อ งทั้ ง ในพื้ น ที่ ก รุ ง เทพฯ และต่ า งจัง หวัด ขณะที่ผู้ ป ระกอบการบางกลุ่ มเดินหน้า ขยายการลงทุนสู่ ต่างประเทศ • การลงทุนในประเทศ ผูป้ ระกอบการมีแนวโน้มขยายการลงทุนพืน้ ทีศ่ นู ย์การค้า และห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น โดยศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าหลายแห่งมีก�ำหนด เปิดในปี 2560-2563 ส่วนการลงทุนในร้านค้าขนาดเล็กมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง โดย อาจมีการลงทุนใหม่ๆ เฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

31


SPECIAL FOCUS รวมถึงในต่างจังหวัดที่มีการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการราย ใหญ่หรือมีการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ • การลงทุนในต่างประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปี 2559 การลงทุนค้าปลีก ค้าส่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากปี 2555 ส่วนหนึ่งเป็นการลงทุนในกลุ่มประเทศ อาเซียน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ โดยอาศัยประโยชน์จากตลาดที่เปิด กว้างและมีศักยภาพการเติบโตจากจ�ำนวนประชากรที่มีมาก ศักยภาพการเติบโต ทางเศรษฐกิจ ก�ำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของชนชั้นกลาง และการขยายตัว ของภาคท่องเทีย่ วในกลุม่ ประเทศอาเซียน ซึง่ จะช่วยหนุนภาคค้าปลีก ทัง้ นี้ คาดว่า ผู้ประกอบการค้าปลีกของไทยจะทยอยขยายการลงทุนไปยังธุรกิจค้าปลีกใน ประเทศเพือ่ นบ้านมากขึน้ หลังจากในปี 2559 ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ยังต้องระวังปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจ ค้าปลีกสมัยใหม่ อาทิ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอาจไม่เป็นไปตามคาด และ แนวโน้มการปรับขึ้นภาษีต่างๆ ในอนาคต โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มที่อาจผลักให้ ระดับราคาสินค้าและบริการสูงขึ้นในวงกว้าง ท�ำให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยลดลง นอกจากนี้ สัดส่วนการใช้บริการจากร้านค้าออนไลน์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตรา เร่ง ตามวิถีการใช้ชีวิตของลูกค้าที่มีการน�ำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการท�ำธุรกิจ (อาทิ การตัดช�ำระค่าสินค้าทางบัตรเติมเงิน/กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) และการน�ำระบบโลจิสติกส์มาใช้เพิ่มขึ้น) เพื่อให้สามารถตอบสนอง ความต้องการได้ทุกเวลา ท�ำให้ความถี่ในการซื้อสินค้าและบริการออนไลน์มี แนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจมีผลให้ร้านค้าปลีกขนาดเล็กมีความเสี่ยงด้านตลาดหรือ ไม่สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว

ข้อมูลเพิ่มเติม/ Additional Information 1 ผู้ประกอบการร้านสมัยใหม่ซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่สามารถใช้กลยุทธ์ขายสินค้าได้ในราคาถูกและ ต�่ำกว่าร้านค้าปลีกดั้งเดิม เนื่องจากมีอ�ำนาจในการก�ำหนดเงื่อนไขและเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ จาก ผู้ผลิตหรือตัวแทนจ�ำหน่ายที่ต้องการวางสินค้าจ�ำหน่ายในร้านค้า อาทิ 1) ค่าแรกเข้าเมื่อวางสินค้า ครั้งแรก 2) ค่าสนับสนุนกิจกรรมการตลาดและบริการ อาทิ ค่าเช่าที่วางของ ค่าหิ้งวาง ค่าติดป้าย ค่าธรรมเนียมพิเศษจากยอดขายรายเดือนกรณีขายได้ตามเป้า ค่าจัดส่งและกระจายสินค้าจาก ศูนย์กระจายสินค้าของห้างไปสาขา 3) ค่าใช้จ่ายการส่งเสริมการขายที่พบในแผ่นพับ ใบปลิว ฯลฯ รวมทั้งขอสินค้าแถมและส่วนลดเพิ่มตามโอกาส เช่น ครบรอบปี เปิดสาขาใหม่ ปรับโฉมกิจการ เทศกาล 4) เครดิตช�ำระค่าสินค้า 90-120 วัน และ 5) มีสัญญาบอกเลิกธุรกิจฝ่ายเดียว 2 คนต่างด้าวที่ประสงค์เข้ามาลงทุนในธุรกิจค้าปลีกค้าส่งซึ่งถือเป็นอาชีพสงวนในบัญชีแนบท้าย 3 ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 นั้น หากลงทุนขั้นต�่ำน้อยกว่า 100 ล้านบาท ต้องยื่นค�ำขออนุญาตจากคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แต่หากลงทุน ตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป สามารถแจ้งและขอใบอนุญาตท�ำธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในไทยได้ทันที นับว่ากฎหมายเปิดช่องให้ต่างชาติเข้ามารุกธุรกิจนี้ได้อย่างเต็มที่ 3 ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ 4 คณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการแรงงาน สภานิตบิ ญ ั ญัตแิ ห่งชาติ รวมร้านค้า ส่งขนาดใหญ่บริการตนเอง (Cash & Carry) เป็นประเภทหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง แต่ในบทความนี้ เน้นเฉพาะธุรกิจค้าปลีก 5 ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย 6 การควบคุมอาคารห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในเขตเมือง อาทิ 1) อาคารพาณิชย์ค้าปลีก ค้าส่งที่มีพื้นที่ ขายน้อยกว่า 300 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในบริเวณที่อนุญาตในผังเมืองรวมได้ 2) อาคารพาณิชย์ค้าปลีก ค้าส่งพื้นที่ตั้งแต่ 300-1,000 ตารางเมตร ต้องอยู่ติดถนนสาธารณะที่มีช่องทางไม่น้อยกว่า 4 ช่องทาง หรือมีเขตทางไม่นอ้ ยกว่า 20 เมตร มีทวี่ า่ งด้านหน้าอาคารห่างจากถนนสาธารณะไม่นอ้ ยกว่า 50 เมตร 3) อาคารพาณิชย์พนื้ ที่ 1,000 ตารางเมตรขึน้ ไป ต้องตัง้ นอกเขตผังเมืองรวม ต้องอยูต่ ดิ ถนนสาธารณะ ที่มีเขตทางไม่น้อยกว่า 40 เมตร มีที่ว่างด้านหน้าอาคารห่างจากถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า 75 เมตร เป็นต้น 7 สมาคมศูนย์การค้าไทย 8 ข้อมูลจาก DHL eCommerce บริษัทในเครือ Deutsche Post Group บริษัทโลจิสติกส์ชั้นน�ำ ระดับโลก

Modern Trade

In 2016, the modern trade sector had a combined value of THB 2.2 trillion, or 15% of GDP, which puts it in second place after the industrial sector, which accounts for 27.4% of GDP.

In the past, the Thai retail sector was dominated by small, family-run grocers which obtained stock from middlemen and distributors. However, the situation has changed considerably and large-scale operators are less dependent on wholesalers as they now own extensive branch networks and are able to occupy favorable bargaining positions when negotiating with producers and wholesalers1. In addition, they have managed to adopt a range of innovations, including shop & stock and distribution management systems, distribution centers, and the widespread use of technology deployed to help in a range of tasks, which allow them to gain various marketing advantages.

32

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

Over the previous two decades, the modern trade sector has seen rapid expansion, in particular in Bangkok and in those regional centers where the level of urbanization has been high. This is a result of government opening the domestic market to foreign investors and operators2 and supporting the expansion of existing businesses. Goods sold in modern trade outlets are many and varied and cover the range of items required for daily life and this ability to meet consumer demand effectively is one factor in explaining how modern traders have been able to usurp the position of traditional grocers, a triumph underlined by the fact that currently, modern traders control


SPECIAL FOCUS 61% of the market in 2014, compared with only 25% in 20013. The outlets can be categorized into five types4, each of which has distinct features. 1. Department stores are the largest retail units which retail higher quality goods, both domestically produced and imported and sell at higher price points than goods in discount stores. Department stores are usually found in city centers, their design works to highlight visual appeal and they are typically staffed with assistants who help to advise and assist shoppers. Central, Robinson and the Mall are major operators in this mold. 2. Discount stores/hypermarkets/supercenters are large-scale retailers which sell primarily to lower-and mid-level consumers. Outlets may be found in both city centers and on the edges of urban areas and the stock range typically emphasizes value and low price. These types of outlets operate distribution centers. In this group, Big C, and Tesco Lotus are the main players. 3. Supermarkets focus on the distribution of foods and household consumer goods. Businesses may either operate free-standing retail units (e.g. Foodland) or be found in department stores (e.g. Tops Supermarket and Home Fresh Mart). 4. Convenience stores are small retail units which are rising in popularity, taking market share from older style retailers. Consumers prefer modern outlets which carry a wide range of stock and which are conveniently located in or near communities. 7-Eleven and FamilyMart are notable examples of this type of store. 5. Specialty stores are found in large communities and retail higher quality and higher priced goods, including the retailer’s own brands. Boots, Watsons, and Supersports are examples here. In addition, modern trade has developed new formats such as category killer and single-price stores. Also, they expand their branches to other provinces and penetrate into communities, tambon, and villages. Retail outlets have become a center of communities. Modern trade; therefore, has continued to increase among intensifying competition.

Situation

Modern trade has shown a tendency to move in line with consumer confidence. Data from the Thai Retailers Association show that, prior to the outbreak of political conflict in 2014, modern trade grew at a rate which was in excess of that of the economy in general, particularly modern trade such as, hypermarkets, supermarkets and convenience stores. These stores have thus taken an increasingly large share of income and play an increasing influential role in the market as they have displaced older, more traditional outlets. However, given the Thai economic slowdown from 2013, domestic political conflicts, rising levels of household debt, weak economic fundamental due to falling prices for agricultural crops, all of which conspired sluggish domestic spending. Although the government attempted to stimulate consumer spending, modern trade has seen a softening of growth rates, at only 3.8% per year during 2013-2016, a sharp decline from the 9.5% seen in the period 2010-2012. In any case, large operators still managed to maintain their margins and continued to add new outlets. The opening of retail space has sped up during 2013-2015, particularly in department stores, shopping and community malls, which have benefited from continuing investment in both the capital and in regional centers across the country. This has led to increased retailer competition. However, new investment in large-scale modern trade slowed in 2016. But investment in Bangkok and the outskirts still rose slightly by 0.13 million sq.m. Particularly in Bangkok, total retail space were 7.5 million sq.m5. However, in the upcountry, investments made by large-scale retailers outside Bangkok focus on provinces which are larger and more densely populated, which have ready access to public utilities and which may also be in areas of economic and trade centers or attracting significant numbers of tourists, such as Chiang Mai, Phuket, Udon Thani, Khon Kaen, and Nakhon Ratchasima.

The Situation for Individual Types of Modern Trader • Department Stores: Flows of new investment in Thai department stores has been consistent for many years. 2012 and 2013 were boom years for the provinces and this led to increased activity in land purchases and house building, which in turn opened opportunities for investors in large modern trade businesses and prompted a number of department stores to expand operations in regional centers and in tourism provinces. However, following a slowing of regional economies (partly due to falling prices for agricultural goods since 2H13), investors turned their attention back to Bangkok Metropolitan Region (BMR). Investments were mostly made in large department stores, shopping malls and community malls. In 2016, there were 77 department stores operating in Thailand from 72 in 2015. These figures are for major operators, i.e. Central Department Store Group and the Mall Group only. The sales growth of department stores in 2016 was only 2.8%. This is the lowest recorded level, lower even than that seen during 2013-2014, a period which saw extended street protests in the heart of Bangkok and which culminated in a coup. This has naturally put pressure on profit margins as income has fallen but fixed and variable costs remain high and several leading operators have increasingly turned for investment opportunities to markets overseas. This is due to their high potential in the case of ASEAN markets and for their low investment costs in the case of Europe. • Discount Stores/Hypermarkets/Supercenters: Investing in discount stores has been restricted by City and Town Planning Act, together with additional regulations introduced in 2013 to strengthen the control. This made it difficult to open outlets within communities6 and so investors have had to adjust their investment strategies for long-term growth. - Investments in BMR will focus on branches with a smaller footprint and will expand the outlets in alternative store formats. For example, Tesco Lotus is increasingly investing in its Lotus Express and Talad Lotus outlets to increase its penetration of lower-end markets and Big C is opening Mini Big C stores to expand its potential market. - Another route for expansion is the opening of upcountry stores, especially in larger regional centers which are seeing urban growth and in areas which are well served by communications networks and so which function as gateways to new geographical markets. Discount stores have shown low levels of growth in income, a result not only of the factors described above and increasing competition from other store formats, namely convenience stores and supermarkets, through which food and household goods are distributed, and specialty stores, which stock non-food items. In 2016, discount stores were estimated to have expanded by only 2.0%, a fall from the 10% rate of expansion seen in 2012 and 2.6% average during 2013-2015. • Supermarkets: Investment in supermarkets has been continuous and ongoing both by the larger players which have been opening new branches, although almost exclusively in Bangkok and its surroundings or in major regional centers such as Chon Buri, Chiang Mai and Phuket, attracted by consumers with higher purchasing power and who are typically middle class, with a strong tendency to shop in modern trade outlets. Only Talad Lotus has pursued an extensive policy of investment in more provincial areas, with the result that in this area, it is now the market leader in terms of both the number of outlets and total retail floor space occupied. In 2016, there were 448 supermarkets in the country, up from 424 in 2015. Tops opened the largest number of new branches, increasing its portfolio with 10 additional stores. The general picture for supermarkets is one of strong growth as compared to other store types, as they managed to create an impression of being modern and of offering a selection of high quality, fresh items. Moreover, attracting middle- and upper level customers and meeting their consumer demands requires reassurances of food safety. Marketing in this territory allows retailers to regain some power in setting prices and this has allowed these businesses to maintain solid rates of expansion; in 2016, supermarkets were approximated to have expanded at a rate of 9.0%, comparable to the rates recorded in the past.

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

33


SPECIAL FOCUS • Convenience Stores: Convenience stores have shown the highest rates of growth in investment of all modern trade store formats and have also taken the greatest market share from traditional retailers. 7-Eleven (part of the CP Group), large-scale player, has benefited from continuous investment and expansion including branch expansion in PTT’s petrol stations such that the chain can achieve complete national coverage. In addition to 7-Eleven, new entrants have also appeared in the market: - Thai operators from other retail businesses (such as Lotus Express, Mini Big C and Tops Daily) who engage in standalone shops and outlets in petrol stations in order to support demand from travelers and people in communities; and - Foreign businesses including 1) Lawson, from Japan, which is engaging in joint ventures with Sahapat, a major Thai manufacturer of consumer goods and in 2012. Lawson took over Sahapat’s chain ‘108 Shop’; and 2) Aeon, another Japanese venture, has joined with Maxvalu Tanjai, to distribute ready-made meals and distinguishes itself from the competition by offering imported Japanese items around a fifth of its total range. In 2016, Thailand was home to 15,325 convenience stores nationwide, up from 14,292 in 2015 or by 7.2% The latest expansion include all brands, led by 7-Eleven opened 773 branches (8.9%), FamilyMart 50 (4.6%) and Lawson108 52 (11.7%). Despite all of the above, growth rates have slowed since 2013. Data from the Thai Retailers Association showed that for 2011-2013, growth averaged 13.3%, for 2014-2015 it was 3.4%. For 2016, Krungsri Research estimated that the rate of growth was only 3.0%.

Industry Outlook

The modern trade sector is expected to see improving prospects over the next three years (2018-2020) as the Thai economy recovers (Krungsri Research estimates that annual growth will be in the range of 3.5-4.5% from average of 2.4% during 2013-2016), driven by investment, consumer spending, and tourism. Moreover, benefits will also accrue to the economy from government infrastructure development in areas such as transport, airport expansion, and special economic zones in border regions, and from government measures to stimulate the economy. Retailers will gain generally from both increasing purchasing power as the rate of urbanization continues to increase and a vibrant and growing tourism sector. When these are added to the efforts of the private sector to develop Thailand as a regional shopping hub7, the advantages modern trade businesses gain from their extensive national networks, and increasing consumer demand for modern shopping environments, the near future looks much brighter for the sector than the experience of the recent past might indicate. Indeed, forecasts for the next three years are for average annual growth of 4-6%. That said, the overall outlook for the sector is also for increasing competition. This competition will be with 1) businesses operating stores of a similar type; 2) businesses of a different type but targeting the same customer base; and 3) new players who will see opportunities to seize more market share, especially for foreign brands and entrepreneurs who will also wish to tap into spending by foreign visitors in Bangkok and other tourist areas by opening and/or expanding retail outlets and to exploit the long-term potential of the economy for growth. In addition to this, the rapid expansion of online shopping is expected to take market share from competitors despite a small proportion. E-commerce market in Thailand is anticipated to expand at 22% per year until 20208 as consumers become more comfortable with online shopping and largescale foreign investors engage in e-commerce business in Thailand. To counter this danger and to maintain market share, businesses in the modern trade sector thus need to implement strategies including pricing and cost-cutting policies to increase their competitiveness. Given that operators are also investing in developments of their e-commerce businesses alongside the retail outlets, they will likely face falling margins. A response to this will be to expand coverage in major urban zones to capitalize on the rising purchasing power of consumers in these areas to maintain revenue and long-term growth.

34

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

Investment will Continue in the Modern Trade Sector in both Thailand and Overseas. • Investments in Thailand will come from groups operating shopping malls and department stores. Several will schedule to be opened during 2017-2020. Investments in small retail outlets are likely to grow at a slower rate. New stores will be opened in BMR following the lines of new mass transit routes and in upcountry in locations with real estate projects by large-scale developers or the special economic zones. • Investments overseas will increase. The level of outward Thai investments in 2016 have more than doubled the level registered in 2012. They included those going to other ASEAN nations to provide increasing opportunities to enter new territories and to benefit from new and opening markets which, given their size, increasing purchasing power, rising middle class, and tourism growth in ASEAN, have significant opportunities for modern trade operators. Thai retailers will gradually expand more investments to retail business in neighboring countries. After 2016, Thailand’s private sector has invested more than USD 1 billion in Vietnam. However, risk factors that may put negative impacts on modern trade should be monitored. For example, the Thai economic recovery may differ from expectations and possible future tax hikes (particularly, the value-added tax; VAT) will lift product and service prices. Therefore, consumer spending could be dampened. In addition, using online store service is likely to rise at an accelerating pace in line with lifestyle of customers who utilize advance technology to apply in businesses, such as direct debit payment, e-wallet, logistics system, which help respond consumers’ demand. Therefore, frequency of online shopping and online services is expected to increase and this poses risks to small retail outlets and threaten their survival in the long term.

Additional Information 1 Modern traders have significant bargaining powers and can undercut traditional grocers and retailers since they are able to specify terms of trade to their advantage and to collect a variety of charges from suppliers and agents who wish to be stocked by an operator. These include: charges for first orders or for providing a product code; fees to support services or activities such as rent for store space and charges for signage, meeting sales targets, and transportation from distribution centers to branches; charges for promotions and marketing such as those for printing leaflets, and subsidizing giveaways, and discounts, particularly for occasions such as anniversaries, new store openings, renovations and festivals; providing favorable credit terms to retailers, typically 90-120 days; and contracts which allow for unilateral termination of business. 2 Working in retail and wholesale is a restricted activity, according to the Foreign Business Act B.E. 2542 and as such, non-Thai nationals who wish to make invest ments of less than THB 100 million are required to seek authorization from the Foreign Business Committee. However, those investing more than this limit need only notify the authorities and they will automatically be granted authorization to engage in retail and wholesale trade in Thailand and thus the law provides an opening for non-Thais to enter the sector. 3 The Standing Committee on Commerce, Industry and Labor, the National Legislative Assembly. 4 Cash and Carry stores are regarded as wholesalers and were not discussed here. 5 Colliers International Thailand 6 Regulations on the establishment of commercial buildings (retail and wholesale) are, for instance, 1) those with a store floor space of less than 300 sq.m. may be located in the area which is permitted and specified in the comprehensive city plan; 2) those with a store floor space of between 300-1,000 sq.m. should face a public road with at least four lanes or over 20 meters wide, and with a front road setback of at least 50 meters from public roads; 3) those with a store floor space over 1,000 sq.m must be located outside the area specified in the urban comprehensive plan, face public road or over 40 meters wide, and a front road setback of over 75 meters from public roads. 7 Thai Shopping Centers Association 8 DHL eCommerce (part of Deutsche Post Group, a global logistics company)


SMART PRODUCTION

Keystone Food Products

ก้าวล�้ำหน้าอีกขั้นกับระบบเทิร์นคีย์ Paul Webster

General Manager – Asia tna paul.webster@tnasolutions.com

ด้ ว ยฐานการผลิ ต ในเมื อ งอี ส ตั น มลรั ฐ เพนซิ ล วาเนี ย Keystone Food Products (คีย์สโตน) ผู้ผลิตสินค้าและขนมขบเคี้ยวจากข้าวโพดจากธรรมชาติและมีประโยชน์ต่อ สุขภาพ เช่น แผ่นตอร์ตญ ิ า ป๊อปคอร์น และขนมขบเคีย้ วต่างๆ ต้องการปรับปรุงการใช้พนื้ ที่ การท�ำงานให้เต็มศักยภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มก�ำลังการผลิตและตอบโจทย์ลูกค้าในอนาคต ท�ำให้ทผ ี่ า่ นมา บริษทั ฯ ได้พยายามสรรหาเทคโนโลยีการบรรจุแบบครบวงจรอันทันสมัยทีส่ ดุ ที่มีในปัจจุบันเข้ามาปฏิวัติการผลิตของบริษัทฯ

นอกจากนี้ ระบบแพ็คเกจจิง้ นวัตกรรมแบบครบวงจร1 นีย้ งั ไม่ตอ้ งการ การปรับตัง้ ค่าเชิงเทคนิคทีซ่ บั ซ้อนเวลาทีต่ อ้ งเปลีย่ นสินค้าทีผ่ ลิต หรือฟิลม์ ที่ใช้ในการบรรจุ ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นจุดส�ำคัญที่เหมาะส�ำหรับความต้องการของคีย์สโตน ที่มองหาเครื่องจักรที่เรียบง่ายแต่มีความคุ้มค่า และยังพร้อมรับมือการผลิตที่สลับไปมาระหว่างแพ็คเกจต่างขนาด และ สินค้าต่างชนิดกัน มากไปกว่านั้นประสิทธิภาพการท�ำงานของเครื่องจักร ชนิดนี้ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต หากมีการเปลี่ยนอัพเกรด Jaw set ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมส�ำหรับอนาคตของคีย์สโตนอย่างแท้จริง

โซลูชันแบบยืดหยุ่น...รองรับการขยายตัวในอนาคต

ในฐานะผูผ้ ลิตและรับจ้างบรรจุขนมขบเคีย้ วท�ำจากข้าวโพดหลากหลายชนิด คีย์สโตน มองหาระบบแพ็คเกจจิ้งที่มีความยืดหยุ่นแต่คงประสิทธิภาพสูง และต้องสามารถปรับ เข้ากับกระบวนการผลิตเดิมได้ นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าในแพ็คเกจที่มีขนาดเล็กลง ยังเป็นความท้าทายใหม่ส�ำหรับคีย์สโตนในการเพิ่มก�ำลังการผลิตเพื่อตอบโจทย์ ผู้บริโภคพร้อมกับการรักษาผลก�ำไรของบริษัทอีกด้วย ระบบแพ็คเกจจิ้งนวัตกรรมแบบครบวงจร1 ที่ติดตั้งล่าสุดในโรงงานสามารถใช้กับ ระบบ Jaw configuration ได้ทุกขนาดและทุกชนิด (Single, Flat, Double หรือ Triple) ซึ่งให้ความยืดหยุ่นตามที่คีย์สโตนต้องการส�ำหรับการบรรจุสินค้าหลากหลายประเภท และด้วยประสิทธิภาพการท�ำงานที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 ทั้งในรูปของผลผลิตและ ปริมาณสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานที่ลดลง จึงต้องยอมรับว่าระบบแพ็คเกจจิ้งนวัตกรรม แบบครบวงจร1 นี้ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นย�ำในการท�ำงานอย่างมาก ซึ่งช่วย ให้ คี ย ์ ส โตนสามารถปรั บ เปลี่ ย นการผลิ ต ส� ำ หรั บ แพ็ ค เกจขนาดเล็ ก ได้ อ ย่ า งมี ประสิทธิภาพ

ระบบเครือ่ งชัง่ น�ำ้ หนักทีแ่ ม่นย�ำและกระบวนการคัดกรองสินค้า ที่ปรับปรุงใหม่

นอกเหนือจากระบบแพ็คเกจจิ้งนวัตกรรมแบบครบวงจร1 แล้ว คีย์สโตน ยังต้องการระบบชัง่ น�ำ้ หนักทีแ่ ม่นย�ำ เพือ่ ให้มนั่ ใจว่าปริมาณสินค้าทีบ่ รรจุ นั้นตรงกับน�้ำหนักที่ก�ำหนด และต้องการระบบคัดกรองสินค้าอัตโนมัติ เพื่อรักษามาตรฐานในระดับพรีเมียม เพื่อให้สามารถคงความเป็นผู้น�ำ ในตลาดด้านนวัตกรรมได้อย่างมั่นคง ระบบหัวชัง่ น�ำ้ หนัก แบบ Multi-head ทีแ่ ม่นย�ำ2 ทีร่ วมเอาโหลดเซลล์ แบบสเตรนเกจเข้ากับเครื่องคัดแยกแบบดิจิตัล สามารถช่วยลดแรงสั่น จากภายนอก ช่วยให้การชัง่ น�ำ้ หนักสามารถท�ำได้อย่างรวดเร็วพร้อมความ แม่นย�ำในระดับทีเ่ หนือกว่า ท�ำให้แทบจะไม่มคี วามต่างของน�ำ้ หนักสินค้า ในแต่ละบรรจุภัณฑ์ ซึ่งท�ำให้คีย์สโตนสามารถส่งสินค้าได้มาตรฐาน ที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ ระบบหัวชั่งน�้ำหนัก แบบ Multi-head ที่ แม่นย�ำ2 ยังออกแบบมาให้สามารถส่งปัญหาทีพ่ บย้อนกลับได้ มีการบ�ำรุงDEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

35


SMART PRODUCTION รักษาที่ง่าย และล่าสุดก็ได้รับการปรับปรุง ระบบการเคลื่อนที่ของสินค้าในระบบ ท�ำให้ มั่ น ใจได้ ว ่ า กระบวนการชั่ ง น�้ ำ หนั ก จะมี ประสิทธิภาพและน่าเชื่อถืออย่างมาก และเพื่ อ บรรลุ ค วามต้ อ งการในการพัฒนาระบบทวนสอบสินค้า คีสโตนส์ได้เพิม่ การติดตัง้ ระบบสแกนบาร์โค้ดแบบอัตโนมัติ อันทันสมัย3 ที่สามารถรองรับการทวนสอบ ผลิตภัณฑ์ทมี่ กี ารบรรจุอนั รวดเร็วได้ เพือ่ ช่วย ให้ มั่ น ใจได้ ว ่ า สิ น ค้ า ทุ ก ชิ้ น ได้ ผ ่ า นการตรวจตราที่มีมาตรฐานสูงสุด ทั้งนี้ ระบบ สแกนบาร์ โ ค้ ด แบบอั ต โนมั ติ อั น ทั น สมั ย 3 จะท�ำการสแกนบาร์โค้ดที่อยู่บนแผ่นฟิล์ม และท�ำการเช็คข้อมูลย้อนหลัง เพื่อให้มั่นใจ ว่าเครือ่ งก�ำลังผลิตสินค้าทีถ่ กู ต้องตามค�ำสัง่ ซึ่งระบบอัตโนมัตินี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คีย์ สโตนสามารถเร่งความเร็วในการผลิตได้ แต่ ยังช่วยให้มนั่ ใจได้อกี ด้วยว่าสินค้าทีผ่ ลิตและ ออกจากโรงงานเป็นสินค้าที่มีน�้ำหนักและ แพ็คเกจที่ถูกต้อง

ยกระดั บ โรงงาน..ใช้ ทุ ก พื้ น ที่ ใ ห้ เ กิ ด ประโยชน์สูงสุด

ความท้าทายที่ส�ำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการปรั บ เปลี่ ย นการจั ด วางเลย์ เ อ้ า เครื่ อ งจั ก ร ต่ า งๆ ภายใต้ พื้ น ที่ โ รงงานที่ มี เ พดานเตี้ ย การติดตั้งเครื่องตรวจจับโลหะ4 ช่วยให้คีย์สโตนสามารถใช้พื้นที่ว่างในโรงงานให้เกิด ประโยชน์ สู ง สุ ด ด้ ว ยการออกแบบที่ เ ป็ น ลิขสิทธิเ์ ฉพาะ เครื่องตรวจจับโลหะถูกน�ำมา วางไว้ใกล้กับเครื่องชั่งแบบ Multi-head ซึ่ง ช่วยลดความสูง และเพิม่ ความเร็วอย่างมาก ในการบรรจุ สิ น ค้ า ลงถุ ง การปรั บ ปรุ ง นี้ ช่วยให้คีย์สโตนมีระบบการท�ำงานที่เสถียร ส� ำ หรั บ การตรวจสอบสิ น ค้ า ที่ ต ้ อ งการ การตอบสนองที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก อีกทั้ง ยังช่วยให้การผลิตมีความคงที่มากขึ้นกว่า เดิมอย่างมีนัยส�ำคัญ ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information 1 tna robag® FX 3ci – flexible packaging system 2 tna intelli-weigh® omega 314 – high speed scale 3 tna installed its intelli-read® 3 – a revolutionary barcode scanner 4 tna hyper-detect® – metal detector 36

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

Keystone Food Products… one step ahead with turnkey solutions Based in Easton, Pennsylvania, Keystone Food Products produces and copackages a wide variety of natural and healthy, unique corn-based snacks from tortilla chips to snack mixes, popcorn and extruded snacks. In order to maximise workspace, boost productivity and meet further customer demand, Keystone sought several new start-to-finish packaging solutions to revolutionise its production line. Flexible Solutions for Expanded Capabilities

As a producer and co-packer of a range of corn-based snacks, Keystone needed a flexible, high performance packaging solution that could easily be integrated into its existing production line. In addition, the growing market requirement for smaller bag sizes meant Keystone needed to expand the plant’s manufacturing capabilities to address this customer demand while still maintaining profitability. Keystone’s new innovative packaging system1 allows for any jaw configuration (single, flat, double or triple) or size, giving Keystone the flexibility it needs for its wide range of packaging services. With performance improvements of up to 30% in both output and the reduction of rejects, this state-of-the art packaging system also significantly increased the speed and precision of the entire production, helping Keystone optimise performance while catering to the demand for smaller bags. Furthermore, the new packaging system1 does not require any mechanical adjustments when changing product or film. This was a particularly important benefit for Keystone who required a simple, yet efficiently-designed machine to facilitate the switch between different bag formats and products. Additional performance improvements can be achieved by upgrading the jaw setup, leaving Keystone fully prepared for the future.

Accurate Weighing and Improved Product Verification

Besides a new packaging solution1, Keystone also needed a highly accurate weighing system that would ensure that only the exact amount of product would be included in the bag. In addition, the company required a more automated verification system to stay at the forefront of innovation and maintain its premium quality standards. The new multi-head scale2 combines strain gauge load cells with digital filtering to virtually eliminate the influence of external vibration, allowing for high speed weighing with superior precision. As a result, discrepancies between bags are negligible, enabling Keystone to deliver the quality standards its customers expect. The modular design of the new weighing system2 enables quick and easy troubleshooting and maintenance, enhancing product flow and ensuring that an efficient and reliable weighing process is maintained. To address Keystone’s verification requirements, the company installed a new barcode scanner3, which is suited for high packaging speeds while ensuring that products are checked to the highest standards. The system automatically scans the barcode on the film and cross checks it to verify that the correct product is being processed. With a new fully automated barcode scanning system in place, Keystone was not only able to speed up the bagging process, but also gained the peace of mind that only products at the right weight and with the correct packaging, leave the plant.

Maximizing Plant Footprint

Another key challenge was to adapt the layout to the plant’s low ceiling height. The installation of a new metal detector4 enabled Keystone to maximise the available floor space. Its patented design allows the metal detector to be positioned much closer to the multi-head weigher, reducing machine height and dramatically increasing the speed at which the bagger can produce finished bags. This provided Keystone with a stable operation for optimum sensitivity and consistent performance when inspecting products.


ad_TNA.indd 2

11/22/17 10:45 AM


SMART PRODUCTION

บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จ�ำกัด Mettler-Toledo (Thailand) Limited

MT-TH.CustomerSupport@mt.com

ระบบทดสอบอัตโนมัติ (The Automatic Test System – ATS) ช่วยย่นระยะเวลาในการทดสอบตรวจจับโลหะได้ถึงร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับ กระบวนการที่ท�ำด้วยคน นอกจากนี้ ผลการทดสอบที่ได้ยังมีความครบถ้วน สมบูรณ์ สม�่ำเสมอทุกครั้ง ในการตรวจจับโลหะหลายชนิดเพื่อปรับปรุงคุณภาพ ของการท�ำงาน

นวัตกรรมล่าสุดสำ�หรับเครื่องตรวจจับโลหะ ในสินค้าที่ไหลตกผ่านตามแนวดิ่งกับระบบทดสอบอัตโนมัติ การท�ำการทดสอบเป็นประจ�ำถือเป็นความท้าทายอย่างหนึง่ ของผูป้ ฏิบตั กิ าร บนระบบตรวจจับโลหะแบบแนวตั้ง หรือแบบที่ใช้แรงโน้มถ่วงเป็นตัวขับเคลื่อน ซึง่ เป็นระบบทีม่ คี วามเร็วสูง การใส่ตวั อย่างโลหะทีต่ อ้ งการตรวจจับลงในอาหาร ตัวอย่าง เช่น แป้ง ขนมขบเคีย้ ว หรืออาหารทานเล่น ซึง่ เคลือ่ นทีต่ ามแรงโน้มถ่วง อย่างเสรีและบันทึกผลการทดสอบใช้เวลาและทรัพยากรอย่างมาก ในหลายกรณี ผู้ปฏิบัติการยังต้องท�ำงานในที่สูง และต้องเอื้อมมือไปหยิบจับอุปกรณ์ ซึ่งอาจ ก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ และระบบทดสอบอัตโนมัติสามารถช่วยแก้ปัญหา เหล่านี้ได้ ระบบอั ต โนมั ติ ดั ง กล่ า วนี้ ยั ง สามารถช่ ว ยลดต้ น ทุ น และปรั บ ปรุ ง ผล การทดสอบโลหะที่ต้องท�ำซ�้ำเป็นกิจวัตร เนื่องจากถูกออกแบบมาให้ใช้ตรวจจับ โลหะในวัสดุที่มีการเคลื่อนที่ตามแรงโน้มถ่วงอย่างเสรีตามแนวตั้ง หรือระบบ การผลิตที่ใช้แรงโนมถ่วงเป็นตัวขับเคลื่อน เมือ่ เริม่ ใช้ระบบปฏิบตั กิ าร ระบบจะทดสอบเครือ่ งตรวจจับโลหะเพือ่ ให้มนั่ ใจ 38

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

ว่าระบบปฏิบัติงานจะเดินหน้าตามที่ผู้ใช้ต้องการ อย่างไรก็ตาม ระบบไม่ สามารถตรวจสอบความแม่นย�ำของระบบคัดแยกสินค้าได้

ระบบทดสอบอัตโนมัติทำ�งานอย่างไร?

ตัวอย่างของโลหะที่ต้องใช้ในการทดสอบที่ได้มาตรฐานจะถูกน�ำไปบรรจุไว้ ในท่ออะคริลิค ซึ่งแยกออกมาต่างหากและเชื่อมต่อเข้ากับช่องภายในเครื่องตรวจจับโลหะ โดยระบบนูเมติกส์อัตโนมัติจะส่งตัวอย่างขึ้นไปที่ด้านบนของขดลวดสัมผัสที่อยู่ภายในเครื่องตรวจจับโลหะ หลังจากนั้น ตัวอย่างที่ใช้ทดสอบจะ ตกลงมาคืน เพื่อจ�ำลองสารปนเปื้อนที่อยู่ในวัสดุที่เคลื่อนที่ตามแรงโน้มถ่วง การทดสอบด้วยระบบอัตโนมัติจะเริ่มปฏิบัติงานและตรวจสอบในช่วงที่ ชิ้นตัวอย่างตกลงสู่ด้านล่างภายในท่อทดสอบ โดยกระบวนการทั้งหมดนั้นใช้ เวลาประมาณ 30 วินาที ในการทดสอบตัวอย่างโลหะ 3 ชนิด หรือราว 45 วินาทีในการทดสอบตัวอย่างโลหะ 4 ชนิด ระยะเวลาที่ใช้น้อยลงในการทดสอบนี้


SMART PRODUCTION

จะช่วยเพิ่มก�ำลังการผลิตและประสิทธิภาพในการผลิต เมื่อเทียบกับระบบทดสอบแบบแมนนวล ผู้ปฏิบัติการ เพียงคนเดียวสามารถท�ำการทดสอบแบบเป็นกิจวัตรได้ และยังใช้เวลาในการทดสอบลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติการก็ยังเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ระบบอัตโนมัตินี้ ก�ำจัดความจ�ำเป็นในการท�ำงานบนที่ สูงของผูป้ ฏิบตั กิ าร ตลอดจนความจ�ำเป็นในการเอือ้ มไป หยิบอุปกรณ์ใน การท�ำการทดสอบการตรวจจับโลหะ

อุปกรณ์

ประโยชน์ของระบบอัตโนมัติ

การติดตั้งระบบอัตโนมัติในสายการผลิตจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิผล ด้วยการลดระยะเวลาในการทดสอบที่ เป็นกิจวัตรได้ถงึ ร้อยละ 90 นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริม ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ด้วยการลดขั้นตอน การปฏิบัติงานในที่สูง หรือการเอื้อมมือข้ามอุปกรณ์ เพื่อท�ำการทดสอบ ไม่เพียงเท่านั้น ระบบอัตโนมัติ ยั ง ช่ ว ยเพิ่ ม คุ ณ ภาพของกระบวนการท� ำ งานด้ ว ย การปรับปรุงกระบวนการทดสอบทีม่ กี ารปฏิบตั ซิ ำ�้ ได้

ระบบอัตโนมัติสามารถออกแบบให้ทดสอบโลหะได้ทั้ง แบบ 3-4 ชนิด โดยระบบทั้งหมดประกอบด้วยชิ้นส่วน 4 ชิ้น ได้แก่ ระบบนูเมติกส์ ชิ้นส่วนท่อ หน่วยควบคุม และเครื่องตรวจจับโลหะ โดยระบบอัตโนมัตินี้ไม่ได้ รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในพื้นที่อันตราย และยังไม่ได้ รับการรับรอง ATEX/IEC Ex

ระบบนูเมติกส์

ระบบควบคุมด้วยแรงดันนั้นเป็นส่วนที่ประกอบไปด้วย เครื่องควบคุมที่ตั้งค่าได้ (Programmable Logic Controller – PLC) และระบบควบคุมแรงลม (Pneumatics) โดยเชื่อมต่อกับชิ้นส่วนท่อ หน่วยควบคุม และเครื่องตรวจจับโลหะ โดยระยะทางที่มากที่สุดที่ระบบนูเมติกส์ สามารถวางไว้ห่างจากชิ้นส่วนท่อคือ 2 เมตร

ชิ้นส่วนท่อ

ชิ้นส่วนท่อนั้นสามารถใช้ในการทดสอบตัวอย่างได้ทั้ง แบบ Three metal test (ดังแสดงในรูป) และแบบ Four metal test โดยใช้ วั ส ดุ ตั ว อย่ า งที่ ทั้ ง แบบที่ มี สเตนเลส 316 มีเหล็ก และไม่มีเหล็กเป็นส่วนประกอบ ซึ่งในระบบแบบ Four metal test จะสามารถตรวจจับ อลู มิ เ นี ย มได้ ด ้ ว ย ชิ้ น ส่ ว นท่ อ เชื่ อ มต่ อ เข้ า กั บ ระบบ นูเมติกส์ผ่านทางท่อลมแบบอ่อน ซึ่งตั้งอยู่ในช่องด้านนอก เครื่องตรวจจับโลหะ โดยมีสกรู 2 ตัวยึดเอาไว้

หน่วยควบคุม

หน่ ว ยควบคุ ม ช่ ว ยให้ ผู ้ ป ฏิ บั ติ ง านสามารถเริ่ ม การทดสอบสินค้า และตั้งค่าระบบได้ตามที่ต้องการ โดย สามารถติดตั้งได้ห่างจากระบบควบคุมนูเมติกส์ได้ถึง 30 เมตร ตามแต่ความสะดวกของผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งท�ำให้ การควบคุมการท�ำงานของเครื่องตรวจจับโลหะเป็นไป ได้ง่าย แม้จะติดตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เข้าไม่ถึง ระบบทดสอบ อั ต โนมั ติ แ ละสถานะการทดสอบนั้ น สามารถเห็ น ได้ ชั ด เจนจากเครื่ อ งมื อ ตรวจจั บ โลหะ (Metal test indicators) DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

39


SMART PRODUCTION The Automatic Test System (ATS) can decrease the time it takes to complete metal detector performance monitoring tests by up to 90%, compared to manual testing processes. The ATS ensures tests are completed consistently, every time, for multiple metal types to improve process quality.

Automatic Test System of Vertical Metal Detector Routine performance testing is particularly challenging for operators of high speed, vertical or gravity-fed metal detection systems. Introducing metal test samples into free-falling powders, snack food, or confectionery applications and documenting the results takes considerable time and resource. In many cases the process requires operators to work at height and to reach across equipment which creates potential risk. The ATS addresses each of these challenges. The ATS is a system that can be used to reduce the cost and improve the repeatability of metal detector routine performance monitoring tests. It is designed for use with metal detectors inspecting free-falling product in vertical packing or gravity-fed applications. Once activated, the system automatically tests the metal detector to ensure it continues to operate to the customer’s required quality standard. It does not however, verify the effectiveness of the reject control system in place.

How the ATS works

Test samples, to a known certified standard, are assembled in discrete acrylic tubes that run up the inside face of the metal detector aperture. The automated pneumatic control transports each test sample in turn, to a defined position above the principle sensing coils within the metal detector. The test sample is then released, simulating the presence of a contaminant in free-fall under gravity. The ATS test is performed and monitored on the return of the test samples to their original position. The whole process takes less than 30 seconds to complete for a three-metal test, or less than 45 seconds for a four-metal test. The significant reduction in the time required to perform the tests increases productivity. Operator efficiency is improved compared with manual testing. Only one operator is required to conduct routine

performance monitoring tests, and the time taken to conduct the process is reduced considerably. Operator safety is improved when using the ATS because it virtually eliminates the need for an operator to work at height or reach across other production line equipment to conduct routine metal detector performance tests.

Equipment

The ATS can be configured to test with three or four metal types. The complete system consists of four distributed assemblies: a Pneumatic Control Module, a Tube Assembly, a Control Unit and a metal detector. The ATS is not intended for use in hazardous areas and is not currently ATEX/IEC Ex approved.

Pneumatic Control Module

The Pneumatic Control Module houses the Programmable Logic Controller (PLC) and pneumatics. It connects to the Tube Assembly, Control Unit and metal detector. The maximum allowable distance between the Pneumatic Control Module and the Tube Assembly is 2 m.

Tube Assembly

The Tube Assembly is available as a three metal test (as pictured in p.39) or a four metal test option. Ferrous, Non-ferrous (brass) and Stainless Steel 316 test samples are standard in both. The four-metal option also includes aluminum. The Tube Assembly is connected to the Pneumatic Control Module via flexible pneumatic pipes and is located onto the external flange of the metal detector. Two thumb screws hold it in place.

Control Unit

The Control Unit enables an operator to start a production test and reset the system should the need arise. The Control Unit can be mounted up to 30m from the Pneumatic Control Module in a position that is convenient for regular operator use, making it ideal for applications where the metal detector is installed in a location that is not easily accessible. The ATS operating and test status is clearly visible via the metal test indicators.

Benefits of the ATS

Having the ATS featured in the line can improves productivity by reducing the time taken to conduct routine performance tests by up to 90%, Moreover, it also enhances operator safety by reducing or virtually eliminating the need to work at height or reach across equipment to conduct tests as well as improves process quality by enhancing repeatability of test processes.

40

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017


STRONG QC & QA

World Health Organization

แปลและเรียบเรียงโดย นิตยสารฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์ Translated by Food Focus Thailand magazine editor@foodfocusthailand.com

ความปลอดภัยอาหาร... ข้อมูลและความส�ำคัญ โรคที่เกิดจากอาหารและสาเหตุของโรค

โรคที่ เ กิ ด จากอาหารมั ก ท� ำ ให้ เ กิ ด อาการติ ด เชื้ อ และอาหารเป็ น พิ ษ โดยเกิดขึ้นได้จากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต หรือสารเคมีต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย ผ่านทางอาหารและน�้ำที่ไม่สะอาด เชือ้ โรคในอาหารเป็นสาเหตุของอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงและการติดเชือ้ ทีท่ ำ� ให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เช่น โรคเยือ่ หุม้ สมองอักเสบ ส่วนสารเคมีปนเปือ้ น ในอาหารอาจท�ำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษเฉียบพลันหรือโรคในระยะยาว เช่น มะเร็ง นอกจากนี้ โรคที่เกิดจากอาหารยังน�ำไปสู่ความพิการในระยะยาวจนถึง ขั้นเสียชีวิตได้ด้วย ตัวอย่างของอาหารที่ไม่ปลอดภัย ได้แก่ เนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่อน การปรุงสุก ผักและผลไม้ที่ปนเปื้อนมูลสัตว์ รวมทั้งอาหารทะเลเปลือกแข็งที่มี สารชีวพิษ แบคทีเรีย Salmonella, Campylobacter และ Enterohaemorrhagic Escherichia coli นับเป็นเชื้อโรคที่พบในอาหารได้บ่อย และมักก่อให้เกิดโรคต่อเนื่องทุกปี ซึ่งบางครั้งส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ไข้ ปวดหัว คลื่นไส้วิงเวียน อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย ตัวอย่างของอาหาร ที่มักก่อให้เกิดการระบาดของเชื้อ Salmonella ได้แก่ ไข่ สัตว์ปีก และอาหาร ที่ มี เ นื้ อ สั ต ว์ ซึ่ ง ท� ำ จากสั ต ว์ ขณะที่ เ ชื้ อ Campylobacter พบได้ บ ่ อ ยใน อาหารประเภทนมดิ บ สั ต ว์ ป ี ก ที่ ไ ม่ ผ ่ า นการปรุ ง สุ ก และน�้ ำ ดื่ ม ส่ ว น Enterohaemorrhagic Escherichia coli มักพบในนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ เนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงสุก ผักและผลไม้สด การติดเชื้อ Listeria อาจท�ำให้หญิงตั้งครรภ์แท้งลูกโดยไม่ตั้งใจ หรือ คร่าชีวิตเด็กแรกเกิด แม้ว่าการระบาดของโรคจะเกิดขึ้นได้น้อย แต่มีความร้ายแรงมากและบ่อยครั้งน�ำไปสู่การเสียชีวิต โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็น เด็กทารก เด็ก และคนชรา ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ Listeria พบได้ใน อาหารทีม่ นี มเป็นส่วนประกอบและไม่ผา่ นการพาสเจอร์ไรซ์ อาหารพร้อมทาน และเชื้อสามารถเติบโตได้ในอุณหภูมิต�่ำ เช่น อุณหภูมิตู้เย็น

เป็นทีท ่ ราบกันดีวา่ การรับประทานอาหารทีป ่ ลอดภัยและมีประโยชน์ ให้เพียงพอ เป็นกุญแจส�ำคัญของสุขภาพที่ดีและยืนยาว ในปัจจุบัน อาหารที่ไม่สะอาดและปนเปื้อนด้วยแบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต และ สารเคมีต่างๆ สามารถก่อให้เกิดโรคได้กว่า 200 โรค ไม่ว่าจะเป็น โรคท้ อ งร่ ว งไปจนถึ ง โรคร้ า ยแรงมากๆ อย่ า งโรคมะเร็ ง ทุ ก ปี ประชากรโลกราว 600 ล้านคน หรือราว 1 ใน 10 ต้องล้มป่วย และ อีก 420,000 ราย ต้องเสียชีวติ จากการรับประทานอาหารทีป่ นเปือ้ น ส่งผลให้มีการสูญเสียเวลาในการมีสุขภาพดีรวมแล้วถึง 33 ล้านปี (DALYs) เด็กที่มีอายุต�่ำกว่า 5 ปี ต้องเสี่ยงเป็นโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารถึงร้อยละ 40 และเสียชีวิตถึง 125,000 รายต่อปี โดยโรคท้องร่วงเป็นอาการป่วยที่พบมากที่สุดและส่งผลให้มีผู้ป่วย ทั่ ว โลกรวมแล้ ว ถึ ง 550 ล้ า นคน เสี ย ชี วิ ต ถึ ง 230,000 ราย ในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยทางด้านอาหาร สารอาหาร และความมั่นคงทางอาหารนั้นเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน อาหารที่ ไม่ ป ลอดภั ย ก่ อ ให้ เ กิ ด วงจรอุ บ าทว์ ข องการระบาดของโรคและ ภาวะขาดสารอาหาร โดยเฉพาะในกลุม ่ ประชากรทีเ่ ป็นทารก เด็กเล็ก คนแก่ และผู้ป่วย โรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารยังเป็นตัวถ่วง ความเจริญในด้านการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ เป็นภาระต่อ ระบบสาธารณสุ ข บั่ น ทอนภาคเศรษฐกิ จ และการท่ อ งเที่ ย ว ด้ ว ยภาวะที่ ห ่ ว งโซ่ ก ารผลิ ต อาหารโยงใยกั น ไปในหลายประเทศ ความร่วมมือทีด ่ รี ะหว่างรัฐบาล ผูผ ้ ลิต และผูบ ้ ริโภค จึงเป็นสิง่ จ�ำเป็น ในการสร้างความปลอดภัยทางด้านอาหาร DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

41


STRONG QC & QA เชื้อ Vibrio cholerae มักพบได้ในอาหารและน�้ำ และมักก่อให้เกิดการติดเชื้อและ อาการเจ็บป่วยต่างๆ เช่น ปวดท้อง อาเจียน และท้องร่วงเฉียบพลัน ซึ่งอาจน�ำไปสู่ การเสียน�้ำอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยเชื้อดังกล่าวพบได้ใน ข้าว ผัก ธัญพืช และ อาหารทะเลหลายชนิด ส�ำหรับยาต้านจุลชีพ เช่น ยาปฏิชีวนะ เป็นตัวยาส�ำคัญในการรักษาอาการติดเชื้อ จากแบคทีเรีย อย่างไรก็ตาม การใช้ยาเกินขนาด และการใช้ยาผิดวัตถุประสงค์ ในอุตสาหกรรมปศุสัตว์และในการรักษาโรคของมนุษย์ ท�ำให้เกิดการแพร่กระจายและ การก�ำเนิดใหม่ของเชื้อที่ดื้อยา ส่งผลท�ำให้การรักษาโรคติดเชื้อในมนุษย์และสัตว์ไม่ได้ผล แบคทีเรียเหล่านีจ้ ะเข้าสูก่ ระบวนการผลิตอาหารผ่านทางเนือ้ สัตว์ (เช่น เนือ้ ไก่ทปี่ นเปือ้ น Salmonella) เชื้อที่ดื้อยาถือเป็นภัยคุกคามหลักของการรักษาโรคในสมัยใหม่

ความปลอดภัยอาหาร...ความส�ำคัญที่ทุกคนต้องช่วยกัน

อาหารที่ไม่ปลอดภัยถือเป็นภัยคุกคามทางสุขภาพของโลก ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงกับ ประชากรทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเด็กทารก เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ และคนชรา รวมทั้งคนป่วย ทุกปีมีเด็กล้มป่วยลงด้วยโรคอหิวาตกโรคถึง 220 ล้านคน และเสียชีวิตถึง 96,000 ราย อาหารที่ไม่ปลอดภัยยังท�ำให้เกิดวงจรการระบาดของโรคท้องร่วงและการขาด สารอาหาร ซึง่ เป็นภัยคุกคามกับความมัน่ คงด้านสารอาหาร เนือ่ งจากหลายคนมักเปลีย่ น ไปรับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเมื่ออาหารไม่เพียงพอ และมัก รับประทาน “อาหารที่ไม่ปลอดภัย” ซึ่งปนเปื้อนสารเคมี จุลชีพ และสารที่เป็นอันตราย ต่อสุขภาพ

งานประชุมนานาชาติด้านสารอาหารครั้งที่ 2 (Second International Conference on Nutrition; ICN2) ซึ่งจัดขึ้นในกรุงโรมของประเทศอิตาลี เมื่ อ เดื อ นพฤศจิ ก ายน ปี 2557 ได้ ย�้ ำ ถึ ง ความส� ำ คั ญ ของความปลอดภั ย ทางอาหารต่อการรับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์ การเพิ่ม ความปลอดภัยทางด้านอาหารจึงเป็นปัจจัยส�ำคัญในการบรรลุเป้าหมายเพื่อ การพัฒนาอย่างยัง่ ยืน (Sustainable development goals) รัฐบาลของประเทศ ต่างๆ ควรผลักดันให้ความปลอดภัยทางด้านอาหารเป็นนโยบายที่ส�ำคัญ และเข้ามาเล่นบทน�ำในการผลักดันกรอบการท�ำงานและพัฒนาเชิงนโยบาย จั ด ตั้ ง และบั ง คั บ ใช้ ร ะบบที่ ส ่ ง เสริ ม ความปลอดภั ย ทางด้ า นอาหารที่ มี ประสิทธิภาพ และรับรองได้วา่ ผูผ้ ลิตอาหารในห่วงโซ่การผลิตจะปฏิบตั งิ านอย่าง มีความรับผิดชอบ ในการส่งต่ออาหารที่ปลอดภัยถึงมือผู้บริโภค ทัง้ นี้ การปนเปือ้ นของอาหารสามารถเกิดขึน้ ในขัน้ ตอนใดก็ได้ตลอดห่วงโซ่ ไม่วา่ จะเป็นในการผลิตไปจนถึงการจัดส่ง โดยความรับผิดชอบขัน้ ต้นเป็นหน้าที่ ของผู้ผลิตอาหาร แต่กระนั้น โรคที่เกิดจากอาหารส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเนื่องจาก อาหารไม่ได้รับการเตรียมและปรุงอย่างถูกต้องที่บ้าน ร้านอาหาร และตลาด อีกทั้ง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเตรียมอาหารและผู้บริโภคบางคนยังไม่ทราบ บทบาทของตัวเองอย่างดีพอ เช่น การปฏิบัติตามหลักอนามัยพื้นฐานเมื่อเลือก ซือ้ สินค้า การจ�ำหน่ายและเตรียมอาหาร เพือ่ ป้องกันโรคทัง้ กับตัวเองและชุมชน ดังนั้นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทั่วถึงในชุมชนจึงเป็นเรื่องที่ส�ำคัญ

Food Safety… Facts and Importance

42

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

As we all know that access to sufficient amounts of safe and nutritious food is key to sustaining life and promoting good health. At present, unsafe food containing harmful bacteria, viruses, parasites or chemical substances, causes more than 200 diseases – ranging from diarrhoea to cancers. An estimated 600 million – almost 1 in 10 people in the world – fall ill after eating contaminated food and 420,000 die every year, resulting in the loss of 33 million healthy life years (DALYs). Children under 5 years of age carry 40% of the foodborne disease burden, with 125,000 deaths every year. Diarrhoeal diseases are the most common illnesses resulting from the consumption of contaminated food, causing 550 million people to fall ill and 230, 000 deaths every year. However, food safety, nutrition and food security are inextricably linked. Unsafe food creates a vicious cycle of disease and malnutrition, particularly affecting infants, young children, elderly and the sick. Foodborne diseases impede socioeconomic development by straining health care systems, and harming national economies, tourism and trade. Food supply chains now cross multiple national borders. Good collaboration between governments, producers and consumers helps ensure food safety.


STRONG QC & QA Major Foodborne Illnesses and Causes Foodborne illnesses are usually infectious or toxic in nature and caused by bacteria, viruses, parasites or chemical substances entering the body through contaminated food or water. Foodborne pathogens can cause severe diarrhoea or debilitating infections including meningitis. Meanwhile, chemical contamination can lead to acute poisoning or longterm diseases, such as cancer. Foodborne diseases may lead to long-lasting disability and death. Examples of unsafe food include uncooked foods of animal origin, fruits and vegetables contaminated with faeces, and raw shellfish containing marine biotoxins. Bacteria Salmonella, Campylobacter, and Enterohaemorrhagic Escherichia coli are among the most common foodborne pathogens that affect millions of people annually – sometimes with severe and fatal outcomes. Symptoms are fever, headache, nausea, vomiting, abdominal pain and diarrhoea. Examples of foods involved in outbreaks of salmonellosis are eggs, poultry and other products of animal origin. Foodborne cases with Campylobacter are mainly caused by raw milk, raw or undercooked poultry and drinking water. Enterohaemorrhagic Escherichia coli is associated with unpasteurized milk, undercooked meat and fresh fruits and vegetables. Listeria infection leads to unplanned abortions in pregnant

Unsafe food creates a vicious cycle of diarrhoea and malnutrition,

women or death of newborn babies. Although disease

threatening the nutritional status of the most vulnerable. Where food supplies

occurrence is relatively low, listeria’s severe and sometimes

are insecure, people tend to shift to less healthy diets and consume more

fatal health consequences, particularly among infants,

“unsafe foods” – in which chemical, microbiological and other hazards pose

children and the elderly, count them among the most serious

health risks.

foodborne infections. Listeria is found in unpasteurised dairy

The Second International Conference on Nutrition (ICN2), held in Rome

products and various ready-to-eat foods and can grow at

in November 2014, reiterated the importance of food safety in achieving

refrigeration temperatures.

better human nutrition through healthy nutritious diets. Improving food safety

Vibrio cholerae infects people through contaminated

is thus a key in achieving Sustainable Development Goals. Governments

water or food. Symptoms include abdominal pain, vomiting

should make food safety a public health priority, as they play a pivotal role

and profuse watery diarrhoea, which may lead to severe

in developing policies and regulatory frameworks, establishing and

dehydration and possibly death. Rice, vegetables, millet gruel

implementing effective food safety systems that ensure that food producers

and various types of seafood have been implicated in cholera

and suppliers along the whole food chain operate responsibly and supply

outbreaks.

safe food to consumers.

Antimicrobials, such as antibiotics, are essential to treat

Food can become contaminated at any point of production and

infections caused by bacteria. However, their overuse and

distribution, and the primary responsibility lies with food producers. Yet a

misuse in veterinary and human medicine has been linked

large proportion of foodborne disease incidents are caused by foods

to the emergence and spread of resistant bacteria, rendering

improperly prepared or mishandled at home, in food service establishments

the treatment of infectious diseases ineffective in animals

or markets. Not all food handlers and consumers understand the roles they

and humans. Resistant bacteria enter the food chain through

must play, such as adopting basic hygienic practices when buying, selling

the animals (e.g. Salmonella through chickens). Antimicrobial

and preparing food to protect their health and that of the wider community.

resistance is one of the main threats to modern medicine.

Food Safety: A Public Health Priority Unsafe food poses global health threats, endangering everyone. Infants, young children, pregnant women, the elderly and those with an underlying illness are particularly vulnerable. Every year 220 million children contract diarrhoeal diseases and 96,000 dies.

แหล่งที่มา/Source ส�ำหรับข้อมูล “Food Safety” Fact sheet ฉบับเต็มสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.who.int/mediacentre/factsheets/fs399/en For a full “Food Safety” fact sheet reviewed on October 2017, please go to www.who.int/mediacentre/factsheets/fs399/en DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

43


STRATEGIC R & D Joe (M.Sc. Nutrition) Dietitian

โภชนบำ�บัด โภชนบ�ำบัด (Diet therapy) คือ วิธีการรับประทานที่แนะน�ำโดยแพทย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ร่างกายมีสุขภาพดี โดยทั่วไปแพทย์ จะแนะน�ำอาหารที่มีส่วนช่วยในการส่งเสริมและปรับปรุงสุขภาพ โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ บางรายอาจรับประทานอาหาร บ�ำบัดโรคหรืออาหารเฉพาะโรคเพียงชั่วคราว แต่ในบางรายอาจต้องรับประทานในระยะยาวกว่านั้นหรือตลอดไปเพื่อรักษาสุขภาพ แพทย์หรือ นักก�ำหนดอาหารจะเป็นผู้ปรับสูตรอาหารโดยอาจมีการปรับเปลี่ยนสูตรอาหารในแต่ละช่วงเวลา ขึ้นอยู่กับการตอบสนองและพัฒนาการด้าน สุขภาพของแต่ละบุคคล

ประเภทของอาหารบ�ำบัดโรคหรืออาหารเฉพาะโรค

อาหารที่ ป ราศจากกลู เ ตนเป็ น ตั ว อย่ า งหนึ่ ง ของการปรั บ เปลี่ ย นอาหารเพื่ อ รักษาสุขภาพ ผู้ท่ีแพ้กลูเตน คือ กลูเตนสามารถผ่านเข้าสู่ล�ำไส้เล็กได้ ซึ่งจะคล้าย กับการแพ้นม ผู้แพ้กลูเตนอาจมีอาการท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะ และท้องเสีย แต่ไม่มีการอักเสบของล�ำไส้อย่างรุนแรง ดังนั้น ผู้ที่แพ้กลูเตนต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกลูเตนเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับ ล�ำไส้ อาหารบ�ำบัดโรคหรืออาหารเฉพาะโรคที่พบเห็นโดยทั่วไปมากที่สุด คือ อาหารสําหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเป็นอาหารที่จ�ำกัดปริมาณน�้ำตาลเพื่อ ช่วยควบคุมระดับน�้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ควบคุมปริมาณเกลือ เพื่อควบคุมความดันโลหิต อาหารที่ควบคุมไขมันอิ่มตัวเพื่อควบคุมคอเลสเทอรอล เป็ น ต้ น ทั้ ง นี้ ควรปรึ ก ษาแพทย์ เ พื่ อ การพิ จ ารณาปรั บ เปลี่ ย นสู ต รอาหารให้ เหมาะสม

อาหาร 10 ชนิดที่มีส่วนช่วยลดระดับน�้ำตาลในเลือดส�ำหรับผู้ป่วย โรคเบาหวาน

การรั ก ษาระดั บ น�้ ำ ตาลในเลื อ ดให้ ต�่ ำ อาจเป็ น เรื่ อ งยากส� ำ หรั บ ผู ้ ป ่ ว ย โรคเบาหวาน อาหารที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต�่ำนั้นมีประโยชน์ในภาพรวม อย่างไรก็ตาม 44

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

ยังมีอาหารอีกหลายชนิดที่มีส่วนช่วยลดระดับน�้ำตาลในเลือด และ/หรือ ช่วย ปรับปรุงภาวะความไวต่ออินซูลินของร่างกาย มาดูกนั ว่าจากผลงานวิจยั ล่าสุด อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 10 ชนิด ที่มีส่วนช่วยลดระดับน�้ำตาลในเลือดมีอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหล่านี้ไม่สามารถทดแทน วิธีการรักษาโรคเบาหวานตามค�ำแนะน�ำของแพทย์ได้ แต่เราสามารถเลือก รับประทานไปพร้อมๆ กับแนวทางการรักษาของแพทย์

แป้งที่ทนต่อการย่อย (Resistant Starch) ช่วยลดระดับ น�้ำตาลหลังมื้ออาหาร

แป้งที่ทนต่อการย่อยมีส่วนช่วยลดระดับน�้ำตาล สตาร์ชเป็นกลูโคส (น�้ำตาล) สายยาว พบในข้าวโอ๊ต ธัญพืช กล้วย มันฝรั่ง และอาหารอีกหลายชนิด แป้งบางชนิดสามารถทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร ไม่สามารถดูดซึมภายในล�ำไส้เล็ก แต่สามารถผ่านเข้าไปสู่ล�ำไส้ใหญ่ และถูก หมักโดยจุลินทรีย์ที่อยู่ในล�ำไส้ใหญ่ แป้งเหล่านี้เรียกว่า แป้งที่ทนต่อการย่อย หรือสตาร์ชที่ให้พลังงานต�่ำ งานวิจยั หลายชิน้ แสดงให้เห็นว่าแป้งทีท่ นต่อการย่อยสามารถปรับปรุงภาวะ


STRATEGIC R & D ความไวต่ออินซูลนิ ได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ แป้งทีท่ นต่อการย่อยช่วยให้กลไกของ ร่างกายในการน�ำน�้ำตาลจากกระแสเลือดไปเก็บไว้ตามเซลล์ต่างๆ ที่ต้องการ พลังงานเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี และนี่เป็นเหตุผลว่าท�ำไมแป้งที่ทนต่อการย่อย จึงมีประโยชน์ช่วยลดระดับน�้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร (1,2) หากรับประทานแป้งทีท่ นต่อการย่อยในมือ้ กลางวันจะช่วยลดปรากฏการณ์ ทีร่ ะดับอินซูลนิ ในร่างกายขึน้ และลงอย่างรวดเร็วในช่วงอาหารมือ้ เย็น หรือทีเ่ รา เรียกกันว่าผลกระทบในมื้อที่สอง (3) อย่างไรก็ตาม อาหารหลายชนิด เช่น มันฝรั่ง ถึงแม้จะประกอบไปด้วยแป้งที่ทนต่อการย่อยในปริมาณสูง แต่ก็ยัง มีคาร์โบไฮเดรตที่สามารถย่อยได้อยู่ในปริมาณสูงเช่นกัน จึงมีค�ำแนะน�ำให้ รับประทานแป้งทีท่ นต่อการย่อยในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเนือ่ งจาก จะไม่มีคาร์โบไฮเดรตส่วนที่เพิ่มเข้ามา สรุป: การรับประทานแป้งทีท่ นต่อการย่อยในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจส�ำหรับผู้ที่มีความจ�ำเป็นต้องควบคุมน�้ำตาล หรือมีน�้ำตาลในเลือดในระดับที่สูง

อบเชยศรีลังกา (Ceylon Cinnamon)

อบเชยมีส่วนช่วยลดระดับน�้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในสมัยก่อนตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณและในประเทศจีนมีการน�ำ อบเชยมาใช้เพื่อการรักษาทางการแพทย์ สารประกอบในอบเชยหลายชนิดมีผลในการป้องกันการดูดซึมของน�้ำตาล เข้าสูก่ ระแสเลือด โดยช่วยลดปรากฏการณ์ทรี่ ะดับอินซูลนิ ในร่างกายขึน้ และลง อย่างรวดเร็ว และยังช่วยปรับปรุงภาวะความไวต่ออินซูลินได้อย่างมาก (4,5) เมือ่ เร็วๆ นี้ มีการศึกษาเชิงคลินกิ กับผูป้ ว่ ยโรคเบาหวานทีไ่ ม่คอ่ ยได้ควบคุม อาการของโรคจ�ำนวน 25 คน โดยรับประทานอบเชยปริมาณ 1 กรัมต่อวัน และ อีกกลุ่มหนึ่งได้รับยาหลอกเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ผลการตรวจระดับน�ำ้ ตาลในเลือดหลังจากอดอาหาร 8 ชัว่ โมง หรือ Fasting Blood Sugar (FBS) พบว่ากลุ่มที่ได้รับอบเชยมีระดับน�้ำตาลในเลือดลดลงถึง ร้อยละ 10 หลังจากรับประทานอบเชยไป 6 สัปดาห์ และร้อยละ 17 หลังจาก 12 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (6) ผลของผงอบเชย 1 กรัม ต่อการลดระดับน�ำ้ ตาลในเลือด (จากการตรวจระดับ น�้ำตาลในเลือดหลังจากอดอาหาร 8 ชั่วโมง) มีความแตกต่างอย่างมีนัยส�ำคัญ (P< 0.001) ค่าน�้ำตาลสะสม (HbA1c) ซึ่งใช้ประเมินระดับน�้ำตาลเฉลี่ยในระยะเวลา ประมาณ 3 เดือน เริ่มลดลงร้อยละ 8 หลังจาก 12 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าจะไม่มี นัยส�ำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกการศึกษาเชิงคลินิกที่พบผลของอบเชยต่อการลด ระดับน�ำ้ ตาลในเลือด ดังนัน้ จึงอาจยังกล่าวไม่ได้เต็มทีว่ า่ เป็นแนวทางการรักษา ที่มหัศจรรย์ (7) ปริมาณที่แนะน�ำต่อวัน คือ 1-6 กรัมต่อวัน โดยอบเชยศรีลังกาให้ผลดีกว่า อบเชยจีน (Cassia Cinnamon) สรุป: อบเชยอาจมีผลช่วยชะลอการดูดซึมน�้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด โดย อบเชยศรีลังกามีความปลอดภัยกว่าอบเชยจีน

ราสเบอร์รีและสตรอเบอร์รี

เบอร์รีมีส่วนช่วยลดระดับน�้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในเชิงเทคนิคแล้วเบอร์รีไม่ได้ลดระดับน�้ำตาลในเลือด แต่จะช่วยได้

หากเรารับประทานเบอร์รีแทนผลไม้ทั่วไปอื่นๆ เนื่องจากเบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีแนวโน้ม ว่ามีระดับน�้ำตาลต�่ำมาก ราสเบอร์รีหรือสตรอเบอร์รี 1 ถ้วยจะมีน�้ำตาล 5-7 กรัม หรือประมาณ 1 ช้อนชา เท่านั้น เทียบกับแอปเปิ้ล 1 ถ้วย มีน�้ำตาล 13 กรัม ส่วนมะม่วง 1 ถ้วย มีน�้ำตาล 24 กรัม (8) เบอร์รยี งั อุดมไปด้วยสารต้านอนุมลู อิสระ ทีร่ จู้ กั กันดีคอื แอนโธไซยานิน และนัน่ เป็น เหตุผลว่าท�ำไมเบอร์รีจึงมีสีแดงสดหรือสีฟ้าสด แอนโธไซยานิ น มี ส ่ ว นช่ ว ยปรั บ ระดั บ น�้ ำ ตาลในเลื อ ดและลดปั จ จั ย เสี่ ย งต่ อ โรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (9,10) สรุป: เบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน�้ำตาลต�่ำเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ และยัง อุดมไปด้วยแอนโธไซยานินซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพของระบบการเผาผลาญ

เม็ดมะม่วงหิมพานต์และอัลมอนด์

เม็ดมะม่วงหิมพานต์และอัลมอนด์มีส่วนช่วยปรับปรุงการควบคุม ระดับน�้ำตาลในเลือด แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุทมี่ คี วามส�ำคัญกับกลไกต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงการควบคุม ระดับน�้ำตาลในเลือด (11,12) แม้ ว ่ า กลไกจะยั ง ไม่ ชั ด เจนนั ก แต่ ร ะดั บ แมกนี เ ซี ย มที่ ต�่ ำ มี ผ ลเกี่ ย วข้ อ งกั บ โรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2 โดยมีอิทธิพลต่อการขับอินซูลินซึ่งอาจเป็นเหตุผลว่า ร้อยละ 25-38 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จะมีระดับแมกนีเซียมต�่ำ (13) นอกจากนี้ จากผลการศึกษาเชิงคลินิกได้แสดงให้เห็นว่า การปรับแก้ไขปริมาณ แมกนีเซียมทีต่ ำ�่ จะช่วยปรับปรุงกลไกการท�ำงานของอินซูลนิ และลดระดับน�ำ้ ตาลในเลือด ได้ (13,14) นอกจากผักโขมแล้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์และอัลมอนด์เป็นหนึ่งในแหล่งของ แมกนีเซียมที่ดีที่สุดในอาหาร มีความสะดวก คาร์โบไฮเดรตต�่ำ และมีรสชาติอร่อย สรุป: เม็ดมะม่วงหิมพานต์และอัลมอนด์อุดมไปด้วยแมกนีเซียมซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มี ส่วนเกีย่ วข้องกับการควบคุมระดับน�ำ้ ตาลในเลือด ผูป้ ว่ ยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่า ร้อยละ 38 มักจะมีแมกนีเซียมในปริมาณที่ต�่ำ

ชาเขียว

ชาเขียวมีสว่ นช่วยปรับปรุงระดับน�ำ้ ตาลในเลือดในผูป้ ว่ ยโรคเบาหวาน มีค�ำกล่าวที่ว่ากาแฟดีต่อสุขภาพ แต่ชาเขียวดีต่อสุขภาพที่สุด เนื่องจากมี ส่วนประกอบของสารต้านอนุมลู อิสระอันทรงพลังและคาเทชินซึง่ มีประโยชน์ตอ่ สุขภาพ ในหลายๆ ด้าน รวมทั้งการควบคุมน�้ำตาลในเลือด (15) จาก 7 ผลการวิจัยโดยการสังเกต ซึ่งเป็นการศึกษากับ 286,701 คน พบว่าผู้ที่ดื่ม ชาเขียวสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานได้ร้อยละ 18 (16) ผลการศึกษาในญีป่ นุ่ พบว่าผูท้ ชี่ นื่ ชอบชาเขียวมีความเสีย่ งในการเป็นโรคเบาหวาน ลดลงร้อยละ 42 (17) โดยปกติแล้ว ผู้เขียนจะไม่สรุปจากผลการวิจัยโดยการสังเกต ซึ่งไม่ได้พิสูจน์สาเหตุ และผลกระทบ แต่ก็มีหลักฐานที่ปรากฏว่าชาเขียวมีประโยชน์ต่อสุขภาพของระบบ เผาผลาญในร่างกาย ถ้าคุณเป็นคอชาตัวยง ก็ถึงเวลาแล้วที่จะรวมเอาชาเขียวเข้าไปในช่วงเวลาการดื่มชา แต่หากคุณยังไม่ใช่คอชา ก็ได้เวลาเริ่มแล้ว สรุป: มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าสารประกอบในชาเขียวมีประโยชน์ต่อระบบการเผาผลาญ จากผลการวิจยั โดยการสังเกตแนะน�ำว่าผูท้ ดี่ มื่ ชาเขียวเป็นประจ�ำ มีแนวโน้ม ที่จะเป็นโรคเบาหวานลดลง ร้อยละ 18-42 DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

45


STRATEGIC R & D

ฟีนูกรีกหรือลูกซัดอาจมีส่วนช่วยลดระดับน�้ำตาลในเลือด

ฟีนูกรีกช่วยลดระดับน�้ำตาลในเลือด ฟีนูกรีกหรือลูกซัดเป็นสมุนไพรที่โด่งดังในวัฒนธรรมอารบิกและอินเดีย เป็นแหล่งทีด่ ขี องใยอาหารทีล่ ะลายน�ำ้ และมีสารประกอบหลายชนิดทีม่ ผี ลช่วยควบคุม ระดับน�้ำตาลในเลือด จากการศึกษาทั้งในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวาน แสดงให้เห็นว่าระดับน�้ำตาลในเลือดลดลงถึงร้อยละ 13 หลังมื้ออาหาร (18,19) และยังมีหลักฐานอีกหลายชิน้ ทีพ่ บว่าฟีนกู รีกหรือลูกซัดมีสว่ นช่วยลดระดับน�ำ้ ตาล ในเลือดเช่นกัน (20) การรับประทานฟรีนกู รีกหรือลูกซัดทัง้ เมล็ด หรือในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนัน้ มีประโยชน์ แต่ไม่ปลอดภัยต่อหญิงตั้งครรภ์ ทั้งนี้ ปริมาณที่แนะน�ำคือ 2-5 กรัมต่อวัน สรุป: ฟีนูกรีกหรือลูกซัดอาจช่วยปรับปรุงการควบคุมระดับน�้ำตาลในเลือดของ ผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อย่างมาก

เส้นชิราตากิ

เส้ น ชิ ร าตากิ มี ส ่ ว นช่ ว ยลดระดั บ น�้ ำ ตาลในเลื อ ดในผู ้ ป ่ ว ย โรคเบาหวาน การลดการบริ โ ภคขนมปั ง เส้ น ก๋ ว ยเตี๋ ย ว หรื อ อาหารที่ มี ส ่ ว นประกอบของ คาร์โบไฮเดรตสูง มีผลในการช่วยจัดการและควบคุมโรคเบาหวาน แต่ทว่าการได้ รับประทานอาหารที่ชื่นชอบสักครั้งก็ส�ำคัญเหมือนกัน เส้นชิราตากิของญี่ปุ่นมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต�่ำ ใยอาหารสูง โดยเส้นชิราตากิ 3.5 ออนซ์ หรือ 100 กรัม จะมีคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้น้อยกว่า 1 กรัม และให้ พลังงานต�่ำ เส้นก๋วยเตี๋ยวส่วนมากท�ำมาจากกลูโคแมนแนน ซึ่งเป็นใยอาหารที่ไม่สามารถ ย่อยได้ จึงอาจมีผลช่วยลดระดับน�้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร และปรับปรุงระบบ การเผาผลาญในผู้ป่วยโรคเบาหวาน (21,22,23) Bottom Line: เส้นชิราตากิมีคาร์โบไฮเดรตและแคลอรีต�่ำมากอย่างไม่น่าเชื่อ โดย เส้นใยที่เป็นองค์ประกอบในเส้นชิราตากิอาจมีส่วนช่วยควบคุมระดับน�้ำตาลในเลือด และระบบการเผาผลาญอื่นๆ

โกโก้ในดาร์กช็อกโกแลต

ดาร์กช็อกโกแลตส�ำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โกโก้ในช็อกโกแลตมาจากต้นโกโก้ซงึ่ มีองค์ประกอบของฟลาวานอลทีม่ ี ผลช่วยปรับปรุงความดันโลหิต ภาวะดื้อต่ออินซูลิน และการควบคุมระดับน�้ำตาล ในเลือดโดยรวม (24) อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลตยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน เนื่องจากยัง มีส่วนประกอบของน�้ำตาล ผู้เขียนมีความเห็นว่าเป็นการรักษาที่ค่อนข้างเป็นกลาง (เกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ) และเป็นทางเลือกที่ดีทางเลือกหนึ่งส�ำหรับผู้ป่วย โรคเบาหวาน แต่ต้องเป็นดาร์กช็อกโกแลตแท้ ซึ่งมีปริมาณโกโก้ร้อยละ 85 หรือมากกว่า หากมี ปริมาณโกโก้น้อยกว่านี้จะมีน�้ำตาลในปริมาณที่สูง มีงานวิจัยที่พบประโยชน์ของ ดาร์กช็อกโกแลตหรือสารสกัดโกโก้ ซึ่งจะเท่ากับการได้รับฟลาวานอลในปริมาณ 5001,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยเทียบคร่าวๆ ได้กับดาร์กช็อกโกแลตระดับความเข้มข้น ร้อยละ 85 ปริมาณ 25-40 กรัม สรุป: ผู้ที่รับประทานช็อกโกแลตเป็นประจํา ลองเปลี่ยนมาเป็นดาร์กช็อกโกแลต ระดับความเข้มข้นร้อยละ 85 หรือมากกว่า 46

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

น�้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar)

น�้ ำ ส้ ม สายชู ห มั ก จากแอปเปิ ้ ล มี ส ่ ว นช่ ว ยลดระดั บ น�้ ำ ตาล ในเลือด น�้ำส้มสายชูหมักเป็นวัฒนธรรมพื้นเมืองที่เก่าแก่ เป็นภูมิปัญญาที่นิยม รับประทานกันมาอย่างยาวนานส�ำหรับการบ�ำบัดรักษาปัญหาสุขภาพ งานวิจยั พบว่าน�ำ้ ส้มสายชูหมักจากแอปเปิล้ อาจช่วยเพิม่ การน�ำน�ำ้ ตาลจาก เลือดเข้าสู่เซลล์ หรือที่รู้จักกันว่าเมทาบอลิซึมของกลูโคส (25,26) จากการศึกษาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จ�ำนวน 11 ราย ซึ่งบริโภค น�ำ้ ส้มสายชูหมักก่อนมือ้ อาหาร พบว่าการน�ำน�ำ้ ตาลเข้าสูเ่ ซลล์เพิม่ ขึน้ (ทดสอบ ที่ ป ลายแขน) และลดระดั บ น�้ ำ ตาลในเลื อ ด รวมทั้ ง ลดระดั บ อิ น ซู ลิ น และ ไตรกลีเซอไรด์ (27) น�้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเป็นน�้ำส้มสายชูหมักที่ได้รับความนิยม มากที่สุดในหมู่ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ แต่ก็ไม่ได้เป็นเพียงประเภทเดียวที่จะ ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ สรุป: มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าการบริโภคน�้ำส้มสายชูหมักก่อนมื้ออาหารหรือ ระหว่างมื้ออาหาร สามารถช่วยปรับปรุงเมทาบอลิซึมของกลูโคส โดยน�้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเป็นน�้ำส้มสายชูหมักชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

สตีเวีย (หญ้าหวาน) ทางเลือกของสารให้ความหวาน ทดแทนน�้ำตาล

สตีเวียเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของสารให้ความหวานทดแทน

น�้ำตาล สตีเวียเป็นสารให้ความหวานทดแทนน�้ำตาลที่ได้รับความนิยมและมี ต้นก�ำเนิดมาจากอเมริกาใต้ มีความส�ำคัญและมีประโยชน์ตอ่ ผูป้ ว่ ยโรคเบาหวาน เนือ่ งจากปราศจากน�ำ้ ตาลและแคลอรี และสามารถใช้ทดแทนน�ำ้ ตาลได้โดยตรง แต่ในบางงานวิจยั อาจยังมีขอ้ สงสัยถึงผลต่อการท�ำงานของอินซูลนิ (28,29) ในความเป็นจริงแล้ว พบว่าสตีเวียมีส่วนช่วยลดทั้งระดับน�้ำตาลในเลือด และอินซูลนิ ได้มากกว่าแอสพาร์เทมซึง่ เป็นสารให้ความหวานสังเคราะห์หลังจาก มื้ออาหาร (30) ส�ำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน น�้ำผึ้งถือว่าดีกว่าน�้ำตาล อย่างมีนัยส�ำคัญ เล็กน้อย หากคุณยังต้องการความหวานให้กับเครื่องดื่มของคุณ การใช้สตีเวีย สามารถตอบโจทย์ได้ สำ�หรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ กองบรรณาธิการ นิตยสารฟู้ด โฟกัส ไทยเเลนด์ อีเมล์ editor@foodfocusthailand.com For additional informatioin, please contact Food Focus Thailand magazine at editor@foodfocusthailand.com


STRATEGIC R & D

Diet therapy is a method of eating prescribed by a physician to improve health. A number of conditions are treated in part with therapeutic diets. Treatments involve including foods that improve specific health conditions, while avoiding foods that may make the condition worse. Some health conditions require temporary therapeutic diets. Other times a therapeutic diet may become a permanent change necessary to keep the person healthy. Medical doctors or dietitians normally formulate therapeutic diets. The diet may change over time based on the person’s response and improvement in health status.

Types of Therapeutic Diets

A gluten-free diet is an example of a dietary change that you must maintain to remain healthy. People with a gluten intolerance must avoid gluten-containing foods to prevent damage to their intestines. The diabetic diet is a very common therapeutic diet involving limiting high-sugar foods to help control blood sugar levels. Other therapeutic diets limit nutrients such as salt, to control blood pressure, or saturated fat, to manage cholesterol. These types of diets take some getting used to. Your physician will work with you to gradually make the changes necessary.

10 Foods That Lower Blood Sugars In Diabetics

Maintaining low blood sugar levels can be difficult for diabetic patients While a low carb diet appears to be useful on the whole, there are also many foods shown to help. Either by lowering blood sugars and/or improving insulin sensitivity. Let’s look at 10 of the best foods and supplements for lowering blood sugars, based on current research. Just know they should never be used in place of your diabetes medication, but rather alongside.

Resistant Starch Lowers Sugars After Meals

Resistant starch can lower sugar levels Starches are long chains of glucose (sugar) found in oats, grains, bananas, potatoes and various other foods. Some varieties pass through digestion unchanged and are not absorbed as sugar into the blood. These are known as resistant starch. Many studies show resistant starch can greatly improve insulin sensitivity. That is, how well the body can move sugar out of the blood and into cells for energy. This is why it’s so useful for lowering blood sugar levels after meals (1,2). The effect is so great that having resistant starch at lunch will reduce blood sugar spikes at dinner, known as the “second meal effect” (3). Problem is many foods high in resistant starch, such as potatoes, are also high in digestible carbs that can spike blood sugar. Therefore resistant starch in supplement form – without the extra carbs – is recommended. Summary: Supplemental resistant starch is a fantastic option for those struggling to control sugars or have hit a plateau.

Ceylon Cinnamon

Cinnamon can lower sugar levels in diabetics Cinnamon has been used for its medicinal properties since Ancient Egypt and China. Several cinnamon compounds appear to prevent the absorption of sugar

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

47


STRATEGIC R & D into the bloodstream, minimising blood sugar spikes. It may also dramatically improve insulin sensitivity (4,5). In a recent clinical trial, 25 poorly-controlled type 2 diabetics received either 1 gram per day of cinnamon or placebo (dummy supplement) for 12 weeks. Fasting blood sugar levels in the cinnamon group dropped by 10% after 6 weeks and 17% after 12 weeks compared to placebo (6). Effect of 1 g cinnamon powder on fasting blood glucose. **Highly significant difference from baseline (P<0.001). The HbA1c (3-month marker of blood sugar levels) also began to decrease by 8% after 12 weeks, although it did not reach statistical significance. Note that not all clinical trials have found cinnamon to be effective, so it’s by no means a “miracle” treatment (7). The recommended dose is 1-6 grams daily, from ceylon rather than cassia. Summary: Cinnamon may slow the absorption of sugar into the bloodstream. Ceylon cinnamon is much safer than cassia.

Raspberries and Strawberries

Berries can lower blood sugars in diabetics Berries technically don’t lower blood sugar, but they help if you are eating them instead of other common fruits. This is because berries tend to be very low-sugar fruits. There is only 5-7 grams (about one teaspoon) of sugar in one cup of raspberries or strawberries, compared to 13 grams in one cup of apples and 24 grams in one cup of mango (8). Berries are also rich in antioxidants known as anthocyanins, which is why they are such bright red or blue colours. Anthocyanins appear to improve blood sugar and cardiovascular risk factors in type 2 diabetics (9,10). Summary: Berries are very low in sugar compared to other fruits. They are also rich in anthocyanins, which is beneficial for metabolic health.

Cashews and Almonds

Almonds and cachews improve blood sugar regulation Magnesium is an essential mineral involved in hundreds of bodily processes, including blood sugar regulation (11,12). The mechanism of action is unclear, but low magnesium levels is strongly associated with both type 1 and type 2 diabetes. It seems to influence insulin secretion, which may be why 25-38% of type 2 diabetics have low magnesium (13). Additionally, clinical trials have shown that correcting low magnesium improves insulin response and lowers blood sugar levels (13,14). Alongside spinach, cashews and almonds are one of the best sources of magnesium in the human diet. The fact they are convenient, low carb and delicious is just a bonus. Summary: Cashews and almonds are very rich in magnesium, a mineral involved in blood sugar regulation. Up to 38% of type 2 diabetics are thought to be low in magnesium.

Green Tea

Green tea to improve blood sugar in diabetics Coffee is healthy, sure. But green tea is healthiest. It contains a number of powerful antioxidants and catechins that benefit so many aspects of health… including blood sugar control (15). In a review of 7 observational studies totalling 286,701 people, green tea drinkers had an 18% lower risk of becoming diabetic (16). One Japanese study found that reduced risk blew out to a massive 42% for the real green tea enthusiasts (17). Normally I don’t make conclusions from observational studies (which don’t prove cause and effect), but it’s evident that green tea is beneficial for metabolic health. If you’re already a tea drinker, then it’s time to include some green tea. If you aren’t, it’s time to start. Summary: It’s clear the compounds in green tea are beneficial for metabolic health. Observational studies suggest regular green tea drinkers are 18-42% less likely to become diabetic.

Fenugreek May Lower Blood Sugar Levels

Fenugreek for lower blood sugar Fenugreek is a popular herb in Arabic and Indian culture. It’s a good source of soluble fiber, and has several compounds thought to improve blood sugar control.

48

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

Studies in both type 2 diabetics and non-diabetics have shown decreases in blood sugar levels by up to 13% after meals (18,19). The weight of evidence seems to support these findings too (20). Eating the seeds whole or in supplement form appears the most useful, but is not safe if pregnant. The effective dosage is 2-5 grams per day. Summary: Fenugreek appears to greatly improve blood sugar control in diabetics.

Shirataki Noodles

Shirataki noodles to lower blood sugars in diabetics Reducing the amount of bread, noodles and other high carbohydrate foods is beneficial for diabetes management. However, it’s important to enjoy your favourites once in a while. Enter the Japanese shirataki noodle, which is tremendously low in carbs and high in fibre. A 3.5 oz (100 gram) serving contains less than one gram of digestible carbs and only two calories. Most of the noodle is made of glucomannan, an indigestible fibre that may help lower blood sugar levels after meals and improve other metabolic health markers in diabetics (21,22,23). Bottom Line: Shirataki noodles are incredibly low in carbs and calories. The fibre in them may also help with blood sugar control and other aspects of metabolic health.

Cocoa in Dark chocolate

Dark chocolate for diabetics The cocoa in chocolate comes from the cocoa plant. It contains beneficial flavanols thought to improve blood pressure, insulin resistance and overall blood sugar regulation

(24). However, whether dark chocolate itself is beneficial is debatable, because it does still contain a small amount of sugar. I view it as a somewhat neutral treat (regarding health effects) and great alternative for diabetics. But the chocolate must be really dark, typically 85% cocoa or more. Anything less is too high in sugar. The studies that found benefits used either dark chocolate or a cocoa extract equivalent to 500-1,000 mg of flavanols per day. This is roughly 25-40 grams of 85% dark chocolate. Summary: Those who regularly eat chocolate must swap to 85% dark chocolate or more. This will be neutral for health at worst, and beneficial for blood sugar control at best.

Apple Cider Vinegar

Apple cider vinegar to lower blood sugar Vinegar is an ancient folk remedy long used for numerous health problems. Research suggests is may increase sugar uptake from the blood into cells, also known as glucose metabolism (25,26). In a study of eleven type 2 diabetics, those who consumed vinegar before a meal had an increased uptake of sugar into the cells (tested in the forearm) and reduced blood sugar levels, insulin levels and triglycerides (27). Apple cider vinegar is the most popular type of vinegar among the natural health community, but not the only beneficial variety. Summary: There is strong evidence that vinegar consumption before or during meals can improve glucose metabolism. Apple cider vinegar is just the most popular type.

Stevia as a Sugar Alternative

Stevia as a sugar alternative Stevia is a popular sugar alternative that originates from South America. It’s beneficial for diabetics because it contains zero sugar or calories, and is used as a direct swap for sugar. But some researchers also suspect it has a direct influence on insulin function (28,29). In fact, stevia was found to lower both blood sugar and insulin levels more than aspartame (an artificial sweetener) after meals (30). Honey is marginally better than sugar for diabetics, but if you really must sweeten your drink then use stevia.

เอกสารอ้างอิง/References Janet Renee, MS, RD. The Definition of Diet Therapy. Available from http://www.livestrong.com/article/314861-the-definition-of-diet-therapy/ Last Updated: Aug 13, 2015 Joe (M.Sc. Nutrition), Dietitian. 10 Foods That Lower Blood Sugars in Diabetics. Avail able from https://www.dietvsdisease.org/foods-lower-blood-sugars-diabetics/


49_Ad.Roadshow 2018_Outline.pdf

C

M

Y

CM

MY

CY

CMY

K

1

11/23/17

2:27 PM


SOMETHING ABOUT FOOD

Gerben Meursing

Managing Director Emsland Asia Food Innovation Corp. Co., Ltd. Emsland Group info@emsland-group.de

EnterING the Potato Snack World มันฝรั่งเกล็ด (Potato flake) มันฝรั่งผง (Potato granule) และสตาร์ชมันฝรั่ง (Potato starch) ถูกน�ำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวทั้งที่เป็นแบบ ขยายตัวได้ทันทีและแบบที่ต้องเอาไปให้ความร้อนอีกครั้งอย่างแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์จากมันฝรั่งดังกล่าวมีคุณสมบัติที่สามารถพองตัวได้ ทั้งในสภาวะที่เย็นและร้อน

Today, a complete range for the production of snackproducts by processing flakes, granules and starches (modified, pre-gelatinised and native starch) has now available and offered to the markets for both direct and indirect expanded snacks with potato flakes and potato granules as well as cook up and cold swelling starches.

นอกจากช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสในด้านความกรอบ ความแน่นเนื้อ และอัตราการพองตัว ที่ดีเยี่ยมแล้ว กลุ่มผลิตภัณฑ์จากมันฝรั่งนั้นยังช่วยปรังปรุงและเพิ่มเนื้อสัมผัสให้เบา นุ่ม ให้กับผลิตภัณฑ์ ในขณะที่แป้งจากถั่วลันเตาจะให้เนื้อสัมผัสมีลักษณะที่แข็งกว่า และ ท� ำ ให้ โ ครงสร้ า งของผลิ ต ภั ณ ฑ์ มี ค วามเป็ น เนื้ อ เดี ย วกั น ที่ น ้ อ ยกว่ า มากไปกว่ า นั้ น ในปัจจุบนั ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบขนมมันฝรัง่ ทีข่ นึ้ รูปเป็นแผ่น หรือแบบทีใ่ ช้ การอบมากขึ้น และล่าสุดก็ได้เห็นแป้งมันฝรั่งนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อฉลาก1 เริ่มเข้ามา มีบทบาทมากขึ้นแล้วในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยว โดยมักจะพบการน�ำไปใช้กับขนม แบบที่ใช้การอบ ทั้งนี้ ด้วยกระแสความนิยมของขนมขบเคี้ยวที่เน้นการอบมากขึ้นกว่าการทอด ในปัจจุบัน เพราะมีการใช้น�้ำมันในปริมาณที่น้อยกว่ามากเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ ซึ่ง คุณสมบัติของแป้งมันฝรั่งนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อฉลาก1 ที่สามารถรวมเป็นเนื้อเดียวกัน กับน�้ำได้นั้นจะช่วยให้โด (Dough) เป็นเนื้อเดียวกันและมีความยืดหยุ่น อีกทั้งยังมีการช่วยควบคุมการยึดเกาะที่ดี ช่วยควบคุมให้มีลักษณะการขึ้นรูปเป็นแผ่น และช่วยในการ ตัดแต่งได้ดี ช่วยควบคุมการพองตัวในระหว่างการอบได้ดี และให้เนื้อสัมผัสที่กรอบเบา จึงนับเป็นทางเลือกที่สามารถใช้แทนแป้งข้าวโพดข้าวเหนียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่ อ ให้ เ กิ ด ประสิ ท ธิ ภ าพสู ง สุ ด ในการพั ฒ นาผลิ ต ภั ณ ฑ์ การผสมผสาน กลุม่ ผลิตภัณฑ์จากมันฝรัง่ เหล่านีใ้ นสูตรก็สามารถช่วยให้ประสบผลส�ำเร็จได้ เช่น การใช้ แป้ ง มั น ฝรั่ ง นวั ต กรรมที่ เ ป็ น มิ ต รต่ อ ฉลาก 1 ร่ ว มกั บ มั น ฝรั่ ง เกล็ ด นวั ต กรรมอื่ น ๆ 2,3 เพื่อตอบโจทย์ด้านการตลาดที่ต้องการกล่าวอ้างบนฉลากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างดีอีกด้วย

These natural ingredients increase crunchiness and firmness and yield excellent expansion, resulting in lighter and softer textures to the final product and creating the typical potato taste. Addition of pea starches results in snacks with harder textures and less homogeneous structures. Furthermore a sustain solutions for stack chips/sheeted snacks as well as baked snacks has also been developed. The latest innovations are clean label starches1 for the entire snack industry. The success story of clean label products continues with the new development of clean label starches1 for use in baked snacks. At present. these snacks are very trendy since they are not fried like traditional potato snacks and therefore contain a much lower fat content. The clean label starches1 offers the many advantages including a homogeneous controlled water retention, a uniform and homogeneous dough formation and elasticity, a controlled adhesive behaviour, an excellent shaping and cutting behaviour, a controlled expansion, a crispy light texture, and an alternative to waxy maizebased products. Moreover, using in combination with other clean label flakes2,3 it allows manufacturers to be in the comfortable situation to be able to manufacture clean label snacks.

50

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information 1 Empure® AKJEL 200 แป้งมันฝรั่งนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อฉลาก Empure® AKJEL 200 clean label potatoe products 2 Empure® KF มันฝรั่งเกล็ดนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อฉลาก Empure® KF clean label potatoe flake 3 Empure® AKF มันฝรั่งเกล็ดนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อฉลาก Empure® AKF clean label potatoe flake


ad_Emsland.indd 2

11/27/17 6:55 PM


SOMETHING ABOUT FOOD นัทธมน ไชยธงรัตน์

Natthamon Chaithongrat

Client Manager/Food Division British Standards Institution (BSI) natthamon.chaithongrat@bsigroup.com

เทคโนโลยี ก ารท� ำ แห้ ง แบบแช่ เ ยื อ กแข็ ง ภายใต้ สุ ญ ญากาศ หรื อ “ฟรี ซ ดราย” (Freeze dried technology) หมายถึ ง การท�ำแห้ง (Dehydration) ด้วยการแช่เยือกแข็ง (Freezing) ท�ำให้น�้ำเปลี่ยนสถานะเป็นผลึกน�้ำแข็งก่อน แล้วจึงลดความดันเพื่อให้ ผลึกน�้ำแข็งระเหิด (Sublimation) เป็นไอ ด้วยการลดความดันให้ต�่ำกว่าบรรยากาศปกติ ขณะควบคุมให้อุณหภูมิต�่ำ (เท่ากับ หรือต�่ำกว่า 0 ํC น�้ำแข็งระเหิดที่ความดันเท่ากับ 4.7 มิลลิเมตรปรอท หรือต�่ำกว่า)

Freeze Dried Technology

ทำ�ความรู้จักกับเทคโนโลยีและประโยชน์ของการทำ�แห้งแบบแช่เยือกแข็ง ขั้นตอนการทำ�แห้งแบบแช่เยือกแข็ง

ขั้นตอนเบื้องต้นของการท�ำแห้งแบบแช่เยือกแข็งก็เหมือนกับการผลิตอาหารแห้ง โดยทั่วไป เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม เช่น การล้าง การปอกเปลือก การลดขนาด จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการหลัก ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอนคือ 1. การแช่เยือกแข็ง (Freezing) เป็นการลดอุณหภูมิของอาหารให้ต�่ำกว่า จุดเยือกแข็ง (Freezing point) เพื่อให้เกิดผลึกน�้ำแข็ง (Ice crystal formation) อัตราเร็วของการแช่เยือกแข็ง (Freezing rate) ควรเป็นการแช่เยือกแข็งแบบเร็ว เพือ่ ให้เกิดผลึกทีม่ ขี นาดเล็ก โดยมีหลายวิธี เช่น การแช่เยือกแข็งแบบใช้ลมเย็นเป่า (Air blast freezing) การแช่เยือกแข็งแบบไครโอเจน (Cryogenic freezing) และ การแช่เยือกแข็งแบบจุ่มในของเหลวเย็นจัด (Immersion freezing) เป็นต้น 2. การท�ำแห้งขัน้ ต้น (Primary drying) เป็นการลดปริมาณน�ำ้ (Dehydration) ด้วยการระเหิดน�้ำแข็งให้เป็นไอ โดยการลดความดันบรรยากาศเพื่อให้ผลึกน�้ำแข็ง ที่อยู่ภายในเกิดการระเหิดเป็นไอออกไปจากผิวหน้าของผลิตภัณฑ์ที่ระดับของ สุญญากาศ (Vacuum) ต�่ำกว่า 132 Pa และ 132 mPa ตามล�ำดับ จึงจะเกิดขึ้นได้ อย่างสมบูรณ์ การระเหิดของชั้นน�้ำแข็ง (Ice layer) จะเริ่มจากชั้นน�้ำแข็งบริเวณ ผิวหน้าของผลิตภัณฑ์ระเหิดไปเป็นไอ ท�ำให้บริเวณนีก้ ลายเป็นชัน้ แห้ง (Dry layer) จากนั้นเป็นการระเหิดของชั้นน�้ำแข็งที่อยู่ภายในผลิตภัณฑ์ ระเหิดผ่านชั้นแห้ง ออกไปสู่ผิวหน้าของผลิตภัณฑ์ ระยะเวลาการระเหิดขึ้นอยู่กับขนาด รูปร่าง และ โครงสร้างของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด 3. การท� ำ แห้ ง ขั้ น ที่ ส อง (Secondary drying) เมื่อการท�ำแห้งขั้นต้น เสร็จสมบูรณ์ น�ำ้ แข็งจะละลายไปหมด และมีความชืน้ ทีห่ ลงเหลืออยูจ่ งึ ต้องท�ำแห้ง 52

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

ด้วยการเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น เพื่อดึงความชื้นที่เหลืออยู่ออกถึงระดับความชื้น ที่ปลอดภัยส�ำหรับการเก็บรักษา

ข้อดีของการทำ�แห้งแบบแช่เยือกแข็ง

เทคโนโลยีการท�ำแห้งแบบแช่เยือกแข็งภายใต้สญ ุ ญากาศ หรือ “ฟรีซดราย” นัน้ เป็นกระบวนการถนอมอาหารทีด่ ที สี่ ดุ ในขณะนี้ เนือ่ งจากในระหว่างกระบวนการผลิตไม่มีการให้ความร้อนกับตัวอาหาร โดยอาศัยหลักการของการดูดน�้ำออก จากตัวผลิตภัณฑ์ การท�ำแห้งแบบแช่เยือกแข็งเป็นการท�ำแห้งขณะที่อาหารมี อุณภูมติ ำ�่ จึงลดการสูญเสียของอาหารเนือ่ งจากความร้อน ลดการท�ำลายเนือ้ เยือ่ และโครงสร้างอาหาร ท�ำให้ได้อาหารแห้งทีม่ คี ณ ุ ภาพสูง มีการคืนตัว (Rehydration) ที่ดี รักษาคุณภาพอาหาร เช่น สี กลิ่น รสชาติ และลักษณะเนื้อสัมผัสของ อาหารได้ดีเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการท�ำแห้งแบบอื่น เช่น การท�ำแห้งแบบพ่น ละออง (Spray drier) การท�ำแห้งด้วยลมร้อน เช่น ตู้อบลมร้อน (Tray drier, Cabinet drier) แต่มีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อเปรียบเทียบกับการท�ำแห้งด้วยเครื่อง ท�ำแห้งที่ใช้ลมร้อนทั่วไป ฉะนั้นจึงมีคุณสมบัติในการคงรูปอาหารรวมถึงคุณค่า ทางโภชนาการของอาหารได้อย่างครบถ้วนมากที่สุด และสามารถเก็บรักษาไว้ ได้นาน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงคุณภาพซึ่งมีข้อดี ดังนี้ 1. คงคุณสมบัติพื้นฐานและรักษาคุณสมบัติทางกายภาพของอาหารได้ดี อันได้แก่ สีสันของอาหาร รูปทรง-รูปร่าง ขนาดของอาหาร รสชาติ พื้นผิวสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการของสารอาหาร 2. กลับคืนสู่สภาวะเดิมหรือคุณสมบัติเดิมได้เมื่อถูกน�้ำหรือให้ความชื้น 3. ไม่บูด ไม่เน่าเสีย เพราะมีความชื้นไม่เกินร้อยละ 3 (ไม่มีการเจริญเติบโต


SOMETHING ABOUT FOOD ของเชื้อแบคทีเรีย) 4. เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติได้อย่างน้อย 1-2 ปี ไม่ต้องเก็บในห้องเย็นเพื่อกันเน่าเสีย 5. น�้ ำ หนั ก ของผลิ ต ภั ณ ฑ์ จ ะลดลงร้ อ ยละ 70-90 โดยไม่สูญเสียเนื้อเยื่อของอาหารแม้แต่น้อย 6. ผลิตภัณฑ์มีน�้ำหนักเบา ง่ายต่อการจัดการขนส่ง และการดูแลรักษา 7. ประหยั ด ต้ น ทุ น ในจั ด ส่ ง สิ น ค้ า หรื อ การส่ ง ออก เพราะไม่ต้องใช้ห้องเย็นเก็บรักษาและมีน�้ำหนักเบา 8. คงคุณค่าของอาหารได้มากกว่าการท�ำแห้งวิธีอื่นๆ 9. ไม่มีน�้ำเป็นส่วนประกอบในอาหาร ท�ำให้ไม่ต้อง กังวลจากจุลชีพต่างๆ 10. แช่แข็งแห้งอาหารหรือส่วนผสมอื่นใดๆ ได้ ไม่ว่า จะเป็นของแข็งหรือของเหลว 11. ใช้ ใ นการเตรี ย มหั ว เชื้ อ แบคที เ รี ย ชนิ ด ต่ า งๆ ให้สามารถเก็บรักษาได้เป็นเวลานาน 12. ใช้ เ ตรี ย มสารโปรตี น ให้ ส ามารถเก็ บ รั ก ษาได้ เป็นเวลานาน 13. ดอกไม้สด ผลไม้ เนื้อสัตว์ หรืออาหารส�ำเร็จรูป แทบทุกชนิดสามารถใช้วิธีนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง

หาง่าย ราคาไม่แพง เทคโนโลยีฟรีซดรายสามารถเป็นตัวช่วยในการถนอมอาหารให้คงรสชาติความอร่อย พกพาสะดวก สามารถท�ำเป็นรูปแบบอาหารส�ำเร็จรูป ง่ายต่อการรับประทาน แค่ฉีกซอง เทน�้ำร้อน หรือ เพียงนึ่งไม่กี่นาทีก็จะได้อาหารที่คงต้นฉบับเอาไว้ใกล้เคียงที่สุด อาหารส�ำเร็จรูปที่นิยมน�ำมาผ่าน กระบวนการฟรีซดรายนี้ ได้แก่ ต้มย�ำกุ้ง ผัดไทย แกงเขียวหวาน ส้มต�ำ ต้มข่าไก่ มัสมั่นไก่ ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น

เนื้อสัตว์ฟรีซดราย

ฟรีซดรายช่วยให้เนื้อสัตว์มีน้�ำหนักเบาลงกว่าร้อยละ 60 ของน�้ำหนักเนื้อสด ท�ำให้การส่งออกเนื้อสัตว์ ง่ายขึ้น ประหยัดได้มากขึ้นทั้งเรื่องการขนส่งและการดูแลรักษา ไม่ต้องเก็บไว้ในห้องแช่เย็นเป็นเวลา นานๆ บนเรือขนส่งสินค้า เนื้อสัตว์ที่นิยมท�ำฟรีซดราย ได้แก่ ไก่ หมู กุ้ง ปลาหมึก และปูอัด เป็นต้น

ประเภทของอาหารที่นิยมทำ�แห้งแบบแช่เยือกแข็ง ผลไม้ฟรีซดราย

ขณะนีส้ นิ ค้าหลักทีเ่ ป็นทีน่ ยิ มมากทีส่ ดุ คือ ทุเรียนฟรีซดราย เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดส่งออกและตลาดนักท่องเที่ยว อย่างมากโดยเฉพาะพันธุห์ มอนทอง ซึง่ นอกจากจะมีทเุ รียน ฟรีซดรายแล้ว ผลไม้อื่นๆ ก็สามารถน�ำมาผลิตเป็นผลไม้ ฟรีซดรายได้ด้วยเช่นเดียวกัน เช่น มังคุด ล�ำไย เงาะ ขนุน สับปะรด สตรอเบอร์รี ฯลฯ

ผักสดฟรีซดราย

ผักสดฟรีซดรายมีคุณสมบัติเด่นคือ เก็บไว้ได้นาน ไม่เน่าเสีย เมื่อต้องการใช้ก็เพียงแต่ใส่น�้ำอุ่น หรือต้ม ส่วนใหญ่จะเป็น พื ช ผั ก ครั ว เรื อ นที่ มี ร าคาสู ง ในบางช่ ว งเวลา เช่ น ผั ก ชี ต้นหอม คะน้า ข้าวโพด ผักขม กระเจี๊ยบเขียว ฯลฯ

กาแฟสดฟรีซดราย

กาแฟสดชนิดชงคือเครื่องดื่มที่นักดื่มกาแฟสดนิยมบริโภค ทุกวัน สามารถใช้เทคโนโลยีฟรีซดรายเข้ามาช่วย ในการคง รส กลิ่น และคุณค่าของกาแฟสด เอาไว้ โดยการน�ำเอา เมล็ดกาแฟสดมาคั่ว บด และท�ำการชงส�ำเร็จรูปไว้เป็นน�้ำ จากนั้นก็ผ่านกระบวนการฟรีซดราย จะออกมาเป็นเกล็ด สามารถเก็บไว้บริโภคได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา

อาหารสำ�เร็จรูปฟรีซดราย

ส�ำหรับประเทศที่หาอาหารได้ล�ำบากหรือมีราคาสูงนั้น ประชาชนส่วนหนึ่งนิยมรับประทานอาหารส�ำเร็จรูป เพราะ DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

53


SOMETHING ABOUT FOOD Lyophilisation or “freeze dried technology” means the dehydration, by freezing, to change water to solid phase, then apply sublimation process to transform water from solid phase to gas phase by decreasing surrounding pressure to lower than normal atmosphere while controlling low temperature (to be equal to 0 oC as ice sublimation at a pressure of 4.7 mmHg or less).

Freeze Dried Technology Get to Know the Technology and Benefits of Freeze Drying Lyophilisation Process

Initial process for freeze drying is similar to the production of any dried food. It starts with preparing the raw material to be in an appropriate condition such as washing, peeling, resizing, then proceed into the main process consisting of 3 steps; 1. Freezing - this process reduces the food’s temperature to below freezing point to create ice crystal formation. In order to create small crystals, the freezing rate should be a rapid procedure, for example, air blast freezing, cryogenic freezing, and immersion freezing. 2. Primary Drying - this dehydration process is done by sublimation and reducing environmental pressure at vacuum level below 132 Pa - 132 mPa, in order to reduce water from the product’s surface. The sublimation of ice layer starts from the surface, which makes this layer a “dry layer”. The following dehydration step is the sublimation of water (in solid state) inside the products. The sublimation time depends on the size, shape, and structure of the product. 3. Secondary Drying - after the primary drying is completed, all ice should be sublimed. Nonetheless, there could be some moist remained in the product. Here, the temperature must be increased in order to remove the remained moist to a safe level for storage.

Advantages of Freeze Dried Technology

Lyophilisation or “Freeze-dried” technology is considerably the best food preservation method existing at the moment, because it does not give food any heat during the process. Its principle relies on the absorption of water from the product, hence the process is conducted in low temperature which reduces the loss of food, for instance, tissue damage and destruction of food structure, due to heat. The result is that we get excellent dried food with good rehydration and sustained qualities - colour, aroma, taste, and texture - compared to food processed by other technologies like spray drier, tray drier, and cabinet drier. Although, freeze drying is somewhat more costly than hot air drying. Therefore, it has the ability to maintain almost all of the the food’s quality and nutrition and prolong shelf life without altering the nature of the food, which bares some advantages as follow; 1. Maintain basic qualities and physical properties of the food, including colour, shape, size, flavour, texture, and nutritional values. 2. The food can return to its original form, with original qualities, when it receives water or moisturise 3. The food remains unrotten because it has less than 3% of moisture content (no bacteria growth) 4. Product can be kept in room temperature for at least 1-2 years, and is not required to be stored in freezer to avoid decaying. 5. Product’s weight decreases 70-90% though no tissue is lost 6. Product’s lightweight makes it easy to be transported and kept 7. Logistics cost is reduced because freezer is unnecessary and the product is lightweight 8. Product’s quality is well-preserved comparing to other methods 9. No water content in the food, which means no need to concern for microbes 10. Freeze dried can be used for everything, either food or food ingredients, and either solid or liquid 11. Freeze drying technology can be used in preparing for bacteria’s leavening agent in order to preserve it for a long time

54

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

12. The technology can also be used to prepare protein substance for long shelf life 13. Fresh flowers, fruits, meats, and any instant products can use this method with high efficiency

Types of Food Products Usually Freeze Dried Freeze Dried Fruits

The hottest product at the moment is freeze dried durian, especially Mon-Thong, which is in high demand for the export market and from tourists. Apart from durian, there are other fruits that can also be freeze dried such as mangosteen, longan, rambutan, jackfruit, pineapple, strawberry, etc.

Freeze Dried Fresh Vegetables

Freeze dried vegetables bare outstanding quality of long lasting shelf life, uneasy to rot, but very convenient to use. You would only need to add hot water or boil it when you need. Most of the vegetables freeze dried are seasonal products which are expensive during some occasions, for instance coriander, spring onion, kale, corn, spinach, and okra.

Freeze Dried Coffee

Instant coffee is a drink that coffee drinkers consume every day and freeze dried technology can help in preserving the flavour, aroma, and quality of the fresh coffee. Here, coffee beans are roasted, grounded, and mixed into a liquid form. The product then goes through lyophilisation and come out as flakes which can be stored and instantly mixed anywhere, at anytime.

Freeze Dried Instant Meal

In countries where food is difficult to find or expensive, some people prefer ready-to-eat meal because it is easy to find and inexpensive. Freeze dried technology can be a great help in preserving the food and maintaining its deliciousness, while adding the convenience and portability to the product. Freeze dried instant food is easy to eat, - just open, add hot water, or steam for a few minutes - then you will have the closest similarity of the freshly cooked food. Popular freeze dried recipes are Tom Yum Kung, Pad Thai, green curry, Somtam, Tom Kha Gai, chicken massaman, durian sticky rice, and mango sticky rice, for example.

Freeze Dried Meats

Freeze dried technology can reduce 60% of the fresh meat’s weight, which makes it much easier for exporter to ship and control the product as it does not need to be stored in cold room on the logistics ship for a long time. Freeze dried meats are pork, shrimp, squid, and surimi, for instance.

เอกสารอ้างอิง/References www.bangkokfreezedry.com/bkfreezdry/futureproj/index.html#ubl3 www.foodnetworksolution.com/wiki/word/3133/freeze-drying -การทำ�แห้งแบบแช่เยือกแข็ง www.facebook.com/FreezedryThailand/ www.thaichef.in.th/mobile/article_fd.php/


STAND OUT TECHNOLOGY

CRDS คืออะไร

CRDS คือเทคโนโลยีการวิเคราะห์ทางเคมีที่ใช้หลักการดูดกลืน พลังงาน (Absorption) ที่มีขนาดพอดี ซึ่งอยู่ในช่วงความถี่ของ NIR โดยจะติดตามการเกิดปรากฎการณ์เรโซแนนซ์ผ่านการวัดเวลาของ พลั ง งานที่ ล ดลงด้ ว ยความไวสู ง โดยเริ่ ม ต้ น จากน� ำ ตั ว อย่ า ง (น�้ำมะพร้าว) มาเผาที่อุณหภูมิสูงเพื่อเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ พร้อม ก�ำจัดก๊าซส่วนเกิน เช่น O2, SO2 และ H2O ออกให้เหลือเฉพาะก๊าซ CO2 ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นปริมาณโดยตรงของ C ที่มีอยู่ในน�้ำมะพร้าว ผ่านเข้าไปใน Optical resonator cavity การวิเคราะห์ด้วยเทคนิค CRDS Analyzer โดยมีแสงเลเซอร์วิ่งผ่านก๊าซ CO2 ไปจนถึงจุด Resonance frequency ล�ำแสงเลเซอร์จะถูกปิดการท�ำงาน จากนั้น เลเซอร์ก็ยังถูกสะท้อนด้วยกระจกอีก 3 ชุด สะท้อนไปมาเป็นระยะ ทางกว่า 20 กิโลเมตร (100,000 รอบ) ในระหว่างนั้นค่าพลังงาน เลเซอร์จะค่อยๆ ลดลงไปตามเวลา (หรือทีเ่ รียกว่า Ring down) CO2 ที่ได้มาจากการเผาตัวอย่าง สามารถค�ำนวณค่าของ δ ดังรูปที่ 1 ก๊าซที่มีความเข้มข้นสูงกว่าลดลงไวกว่า

การตรวจสอบการเจือปนของน�้ำตาล C4

พืช C3 เป็นกลุ่มพืชที่มีระบบการสร้างสารอินทรีย์จากคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยวัฏจักรคัลวิน (Calvin cycle) เพียงอย่างเดียว สารอินทรียต์ วั แรกทีเ่ กิดขึน้ จากการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์คอื PGA (Phosphoglyceric acid) จึงเป็นสารที่ประกอบด้วยคาร์บอน 3 อะตอม เรียกพืชกลุ่มนี้ว่าพืช C3 ส�ำหรับพืช C4 เป็นกลุ่มพืชที่มี ระบบการสร้างสารอินทรีย์จากคาร์บอนไดออกไซด์ 2 ครั้ง โดย ครั้งแรกตรึงที่ Mesophyll cell โดยมีตัวมารับก๊าซ CO2 คือ PEP (Phosphoenol pyruvate) ได้เป็นสารประกอบคาร์บอน 4 อะตอม จึงเรียกพืชกลุ่มนี้ว่าพืช C4 รชตินทร์ สัมมาประสิทธิ์ Rachatin Summaprasit Sales Engineer Thai Unique Co., Ltd. rachatin@thaiunique.com

รูปที่ 1 แสดงการวัดเวลาที่ปล่อยพลังงานที่ถูกดูดกลืนไว้ออกด้วย CRDS

Figure 1 Different concentration of samples reflects different curve level.

น�้ำตาล C4 จึงเป็นน�้ำตาลที่ได้มาจากพืช C4 เช่น อ้อย ข้าวโพด ซึ่งมีอัตราส่วนของ 13C/12C (δ13C, ‰) ต่างกับพืช C3 (ในที่นี้ได้แก่มะพร้าว) อย่างเห็นได้ชัด จึงสามารถจ�ำแนกน�้ำมะพร้าว บริสุทธิ์ได้จากการวิเคราะห์ค่าของอัตราส่วนของ 13C/12C ที่แตกต่างกัน (รูปที่ 2)

การเปรียบเทียบการวิเคราะห์เทคโนโลยี CRDS กับ IRMS เพื่อตรวจสอบน�้ำมะพร้าว

IRMS เป็นการวิเคราะห์ไอโซโทป โดยหารูปแบบไอโซโทป (Isotopic signature) ในลักษณะการกระจายของไอโซโทปเสถียร (Stable isotopes) ซึ่งสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ทางด้านอาหารอย่าง แพร่หลาย ทฤษฎีและการปฏิบัติของ IRMS รวมถึงการน�ำมาใช้ในการวิเคราะห์น�้ำมะพร้าวซึ่งก็ได้ รับการยอมรับแล้ว (Brand, 9619; Brenna et al., 1997; Werner & Brand, 2001; Sessions, 2006) ทั้งนี้ การเปรียบเทียบผลของการวิเคราะห์ระหว่าง CRDS กับ IRMS เริ่มจากเตรียมตัวอย่าง 3 กลุ่ม

เทคโนโลยี Cavity Ring - Down

Spectroscopy (CRDS)

หาสิ่งเจือปนในน�้ำมะพร้าว

วิธก ี ารตรวจสอบการเจือปนน�ำ้ มะพร้าวด้วยน�ำ้ ตาลอ้อยหรือข้าวโพด (น�ำ้ ตาล C4) ซึ่งเป็นสารที่นิยมเจือปนในน�้ำมะพร้าวเพื่อเพิ่มความหวานด้วย CRDS (Cavity Ring-Down Spectroscopy) เป็นเทคนิคล่าสุดทีม ่ ขี อ้ ดีคอื ใช้เวลาน้อย ราคาถูก ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงไม่ต้องเตรียมตัวอย่างที่ยุ่งยาก เมื่อเทียบกับวิธีการเดิม ในการวิ เ คราะห์ ห าการเจื อ ปนน�้ ำ ตาลด้ ว ยเทคนิ ค Isotope Ratio Mass Spectrometry (IRMS) ทีม่ ค ี วามแม่นย�ำและเทีย่ งตรงสูงในการวิเคราะห์หาการเติม น�้ำตาล C4 ในน�้ำมะพร้าว โดยการวิเคราะห์หาค่าคาร์บอนไอโซโทป (δ13C) ซึ่งเป็น องค์ ป ระกอบในน�้ ำ มะพร้ า ว CRDS เป็ น อี ก หนึ่ ง เทคนิ ค ของการวิ เ คราะห์ ห า การปลอมปนในธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ผลการวัดด้วยเทคนิค CRDS สามารถแยกแยะความแตกต่ า งของน�้ ำ มะพร้ า วที่ เ จื อ ปน ด้วยน�้ำตาล C4 ลงไปได้ร้อยละ 5 โดยมีความเที่ยงตรง และถูกต้องอยู่ที่ ±0.3%o (per mil) DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

55


STAND OUT TECHNOLOGY ตารางที่ 1 ตารางแสดงค่า δ13C,‰ ของน�ำ้ มะพร้าวบริสทุ ธิก์ บั น�ำ้ มะพร้าว

ได้แก่ น�ำ้ มะพร้าวบริสทุ ธิ์ น�ำ้ มะพร้าวส�ำเร็จรูป ที่เติมน�้ำตาล Table 1 The values of δ C, ‰ of pure coconut water and coconut ที่จ�ำหน่ายทั่วไป และน�้ำตาลฟรุกโตส ผลที่ได้ water with sugar adulterated. คือ น�้ำตาลฟรุกโตสค่าที่ได้อยู่ในช่วง -10 ถึง -14 δ13C,‰ น�ำ้ มะพร้าวบริสทุ ธิอ์ ยูท่ ปี่ ระมาณ -25 δ13C,‰ และน�้ำมะพร้าวที่จ�ำหน่ายโดย ทั่วไปอยู่ในช่วง -18 ถึง -19 δ13C,‰ ผลการ วิเคราะห์ท�ำให้ทราบว่าตัวอย่างน�้ำมะพร้าวที่ จ�ำหน่ายมีการเติมน�้ำตาลลงไปที่ประมาณ 40% (รูปที่ 3) ค่า R2 มีค่า 0.99903 เมื่อน�ำผล เที ย บกั บ ข้ อ มู ล ที่ ไ ด้ จ ากการวิ เ คราะห์ ด ้ ว ย IRMS พบว่ า ค่ า ที่ ไ ด้ ใ กล้ เ คี ย งกั น แตกต่ า ง เพียง ± 0.1‰ (ตารางที่ 1) โดยมีความแม่นย�ำ ในการวัดแต่ละตัวอย่างจากการวัดซ�้ำ 3 ครั้ง น�้ำมะพร้าวบริสุทธิ์มีเฉลี่ยค่า -25.4 δ C,‰ และน�้ำมะพร้าวที่เติมน�้ำตาลมีค่าเฉลี่ย คือ ± 0.3‰ อยู่ที่ -19.1δ C,‰ ผลศึกษาการท�ำงานของเทคโนโลยี CRDS The average value of coconut juice was -25.4 δ C, ‰, and the coconut water with sugar was -19.1 δ C, ‰. ในการวิเคราะห์การเจือปนน�ำ้ ตาลของกลุม่ พืช C4 ในน�้ำมะพร้าว พบว่ามีช่วงของการวิเคราะห์ตัวอย่างที่กว้าง (4-100%) แต่เทคนิคการวัดด้วย CRDS ยังคงความแม่นย�ำ ความเที่ยงตรง มีความสัมพันธ์เชิงเส้นที่ดี และมีความคลาดเคลื่อนน้อย เปรียบเทียบ ตัวอย่างทีจ่ ดั ท�ำโดยผูผ้ ลิตน�ำ้ มะพร้าวในเชิงพาณิชย์แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างทีช่ ดั เจนในองค์ประกอบ ของน�ำ้ มะพร้าวบริสทุ ธิแ์ ละน�ำ้ มะพร้าวทีม่ กี ารเจือปน δ13C นอกจากนีย้ งั แสดงให้เห็นถึงความถูกต้องของ ข้อมูลเทคโนโลยี CRDS เมื่อน�ำไปเปรียบเทียบกับผลการวิเคราะห์ด้วยเครื่อง IRMS 13

รูปที่ 2 อัตราส่วนของ 13C / 12C ในพืชแต่ละชนิด

Figure 2 Ratio of 13C / 12C in each plant types.

ที่มา/Source: Beer et. al. (2015)

13

13

13

13

รูปที่ 3 กราฟแสดงค่า 13C / 12C(δ13C,‰) ของน�้ำมะพร้าว จากแหล่งต่างๆ Figure 3 Result of 13C / 12C (δ13C, ‰) ratio of coconut water from different sources

Cavity Ring - Down Spectroscopy (CRDS) CM-CRDS is a powerful analytical platform in the food and beverage adulteration market. It can easily distinguish down to ~5% adulteration of coconut water by the addition of C4 sugars, with excellent precision (about ±0.3 per mil) and accuracy. In this note, we present the Combustion Module Cavity Ring-Down Spectroscopy (CM-CRDS) System as a lowcost, easy-to-use, accurate, and precise solution to identify the addition of C4 sugars (Adulteration), based on the carbon isotopic (δ13C) composition of the coconut water. It is easier to use and a significantly lower capital and totalownership cost alternative to Isotope Ratio Mass Spectrometry (IRMS), and it produces results that are indistinguishable. The CM-CRDS system is simple to install, easy to operate, and does not require sample preparation. 56

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

What is CRDS?

Nearly every small gas-phase molecule (e.g., CO2, H2O, H2S, NH3) has a unique near-infrared absorption spectrum. At sub-atmospheric pressure, this consists of a series of narrow, well-resolved, sharp lines, each at a characteristic wavelength. CRDS - Cavity Ring-Down Spectroscopy - avoids this sensitivity limitation by using an effective pathlength of many kilometers. It enables gases to be monitored in seconds or less at the parts per billion level, and some gases at the parts per trillion level. The beam from a single-frequency laser diode enters a cavity defined by two or more high reflectivity mirrors. The analyzers use a three-mirror cavity to support a continuous traveling light wave. This provides superior signal to noise compared to a twomirror cavity that supports a standing wave. When the laser is on,


STAND OUT TECHNOLOGY the cavity quickly fills with circulating laser light. A fast photodetector senses the small amount of light leaking through one of the mirrors to produce a signal that is directly proportional to the intensity in the cavity. (Figure 1)

Identify the Addition of C4 Sugars

A “normal” plant—one that doesn’t have photosynthetic adaptations to reduce photorespiration—is called a C3 plant. The first step of the Calvin cycle is the fixation of carbon dioxide by rubisco, and plants that use only this “standard” mechanism of carbon fixation are called C3 plant for the three-carbon compound (3-PGA) the reaction produces. In C4 Plant, the light-dependent reactions and the Calvin cycle are physically separated, with the light-dependent reactions occurring in the mesophyll cells (spongy tissue in the middle of the leaf) and the Calvin cycle occurring in special cells around the leaf veins. These cells are called bundle-sheath cells. C4 Sugar is generated from C4 plant like corn and sugar which significantly have different ratio of 13C/12C (δ13C,‰) when compared with C3 plant (such as coconut in this study) which can detect adulteration from ratio 13C/12C. For pure coconut water, the range of 13C/12C. should be different from sucrose sugar (C4 sugar). (Figure 2)

Comparison of CRDS and IRMS Analysis for Coconut Water Authentication

Isotope Ratio Mass Spectrometry (IRMS) is a specialization of mass spectrometry in which methods are used to measure the relative abundance of isotopes in a specific sample. Cavity Ring-Down Spectroscopy (CRDS) is a form of laser absorption spectroscopy. Numerous journal articles have validated that CRDS is as precise and accurate as IRMS for isotopic analyses in a range of natural science applications. This application note compares CRDS with

IRMS for the specific purpose of organic beverage authentication, specifically, the detection of sugar adulteration in coconut water that is indicated to be pure. Coconut water samples provided by a commercial producer were analyzed to validate the linearity, reproducibility, and accuracy of the CM-CRDS. The system was calibrated using primary and secondary standards. Unadulterated coconut water and C4 sugar end-members (δ13C) were determined using respective reference material, and a linear mixing diagram was established (Figure 3). The R2 value of the dataset was 0.999. Analyzing a second commercial sample of coconut water, known to be adulterated, confirms that ~40% of its total sugar content is added fructose. Measurements of the δ13C composition of both coconut waters (pure and adulterated) using CRDS were compared to independent IRMS data provided by a coconut water producer, and they were found to be identical within ±0.1 per mil (Table 1). Precision for an individual measurement, obtained from three replicates, was ±0.3 per mil. The study demonstrates that CM-CRDS is a high-performance system that provides accurate isotopic measurements over a wide range of coconut water adulteration (4 to 100%). It maintains excellent precision, linearity, and minimal drift, with no need for any post correction to the final dataset. A comparison of samples provided by a commercial coconut water producer illustrates a clear difference in the δ13C composition of the pure and the adulterated coconut water. It also illustrates the validity of the CM-CRDS data when compared to the more costly, difficult, and time-consuming IRMS analyses.

Additional Information References and technical information of PICARRO, please contact Thai Unique Co., Ltd.

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

57


STANDARD & REGULATION ในปั จ จุ บั น นี้ เ ราทราบกั น ดี ว ่ า ทั่ ว โลกมี ค วามสนใจในเรื่ อ งอาหารปลอม กัน มากขึ้น เนื่องจากปัญหาการปลอมปนเนื้ อ ม้ า ในผลิ ต ภั ณ ฑ์ เนื้ อ วั ว จึ ง ส่ ง ผลให้ ผู ้ ค ้ า ปลี ก รายใหญ่ ข องโลกจ� ำ เป็ น ต้ อ งตระหนั ก เรื่ อ ง ความปลอดภัยและความโปร่งใสตลอดทั้งห่วงโซ่อาหาร

การปลอมบรรจุภัณฑ์อาหาร ในอุตสาหกรรมอาหาร ดังนั้น สมาคมผู้ค้าปลีกจึงได้รวมกันเพื่อออกกฎระเบียบมาบังคับผู้ผลิตตลอดทั้ง ห่วงโซ่อาหาร กฎระเบียบทีอ่ อกมานัน้ ได้ควบคุมผ่านข้อก�ำหนด GFSI โดยในปัจจุบนั GFSI ได้ประกาศเป็นฉบับที่ 7.1 เนื้อหาใจความส�ำคัญที่น่าสนใจ คือ การปลอม อาหาร รวมถึงการปลอมของบรรจุภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบของบรรจุภัณฑ์ โดย มุ่งเน้นต่อบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสกับอาหารทั้งทางตรงและทางอ้อม และความสมบูรณ์ ของผลิตภัณฑ์ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อความปลอดภัยของผูบ้ ริโภค ซึง่ แรงจูงใจทีก่ อ่ ให้เกิด การปลอมนั้นอาจจะมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การแข่งขันที่สูงขึ้น และ การลดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม ข้อก�ำหนดของ GFSI ได้ให้คำ� นิยามของการปลอมอาหารตาม GFSI Guidance Version 7.1 ไว้ว่า กิจกรรมต่างๆ ที่ตั้งใจกระท�ำ อันได้แก่ การแทนที่ การเติมสาร การปลอมแปลงหรือการบิดเบือนของอาหาร อาหารสัตว์ วัตถุดิบอาหาร วัตถุดิบอาหารสัตว์ หรือบรรจุภณ ั ฑ์อาหาร บรรจุภณ ั ฑ์อาหารสัตว์ ฉลาก การให้ขอ้ มูลสินค้า หรือการกล่าวอ้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจซึ่งก่อให้เกิด อันตรายต่อผูบ้ ริโภค ดังนัน้ ในการประยุกต์เพือ่ ให้สอดคล้องตามมาตรฐานของ GFSI โรงงานที่ผลิตบรรจุภัณฑ์จะต้องมีการประเมินความเสี่ยงและก�ำหนดมาตรการ ควบคุม การประยุกต์ใช้การประเมินความเสี่ยงและก�ำหนดมาตรการควบคุมนั้น ทาง โรงงานผูผ้ ลิตจะต้องรูแ้ หล่งของการปลอมหรือลักษณะการปลอมทีอ่ าจจะเกิดขึน้ กับ วัตถุดิบของโรงงาน เช่น • การปลอมของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไม่ตรงกับการกล่าวอ้างบนฉลาก เช่น การกล่าวอ้างว่ากระดาษที่ใช้เป็นมาตรฐาน FSC ในขณะที่วัตถุดิบมีการปลอม • ผลิตภัณฑ์ทไี่ ด้จากผูข้ ายมีการลดเกรดหรือการแทนที่ เช่น การขายเม็ดสินค้า ที่มีการผสมเม็ดเรซินที่เป็นเม็ดรีไซเคิล แต่กล่าวอ้างว่าเป็นเม็ดเรซินบริสุทธิ์ • สินค้ามีการเติมสารเคมีบางชนิดเพื่อปรับปรุงคุณภาพการผลิต เช่น การเติม สารเจือปนหรือสารช่วยในการผลิตลงไป เพื่อท�ำให้ประสิทธิภาพการไหลดีขึ้นและ ผลผลิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการปลอมบรรจุภัณฑ์อาหารแบบใด สิ่งที่จะส่งผลส�ำคัญ คือ ค่าไมเกรชันและกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยอาหาร ขั้นตอนถัดไปหลังจากที่มีการประเมินความเสี่ยงแล้ว ต้องก�ำหนดมาตรการ ควบคุมตามระดับความเสี่ยงที่ก�ำหนดไว้ ซึ่งมาตรการควบคุมจะช่วยลดความเสี่ยง ที่จะเกิดขึ้น เช่น • การยกเลิ ก สั ญ ญาซื้ อ ขายในกรณี ที่ ผู ้ ข ายมี ค วามเสี่ ย งสู ง มากและส่ ง ผลกระทบทางด้านความปลอดภัยอาหารที่ชัดเจน • การควบคุมผูข้ ายตลอดห่วงโซ่อาหารและการสร้างความสัมพันธ์ทดี่ กี บั ผูข้ าย 58

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

สมพงศ์ นิลมณี

Sompong Nilmanee

Food Product Manager SGS (Thailand) Limited Sompong.Nilmanee@sgs.com

เช่น การประเมินผูข้ ายทีแ่ หล่งผลิต การด�ำเนินการควบคุมล็อตทีจ่ ะส่งให้โรงงาน ที่แหล่งผลิต หรือส่งเสริมให้ผู้ผลิตท�ำระบบมาตรฐานที่ GFSI ยอมรับ • การตรวจสอบสินค้ารับเข้า ซึ่งโรงงานจะต้องทราบว่าสิ่งที่อาจจะเกิด การปลอมได้นั้นเป็นลักษณะใดเพื่อหาวิธีการตรวจทดสอบ เช่น การตรวจสอบ ทางกายภาพโดยการวิเคราะห์นำ�้ หนักโมเลกุล หรือทางเคมีโดยการใช้เครือ่ งมือ ที่ ใ ช้ ใ นการวั ด การเปลี่ ย นแปลงของการไหลขณะร้ อ นของตั ว อย่ า งเมื่ อ ได้รับความร้อน เทียบกับตัวอย่างอ้างอิง เป็นต้น หลั ง จากมี ก ารประเมิ น ความเสี่ ย งและก� ำ หนดมาตรการควบคุ ม ตาม ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นแล้ว ทางโรงงานต้องจัดท�ำแผนการป้องกันการปลอม บรรจุภัณฑ์ โดยแผนที่ก�ำหนดไว้จะต้องสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย รวมถึงมีการทบทวนเป็นระยะในกรณีที่ได้รับข้อมูลการปลอมใหม่เกิดขึ้น การปลอมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ไม่ได้มีเฉพาะอาหารเท่านั้น การปลอมใน บรรจุภัณฑ์สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน สิ่งส�ำคัญก็คือการช่วยลดความเสี่ยงและ อันตรายที่เกิดขึ้นจากการปลอม โดยโรงงานจะต้องเข้าใจการปลอมที่อาจจะ เกิดขึน้ ในวัตถุดบิ หรือผลิตภัณฑ์ของโรงงาน และด�ำเนินการประเมินความเสีย่ ง หลังจากนัน้ ต้องก�ำหนดมาตรการควบคุมเพือ่ ลดความเสีย่ งให้นอ้ ยลงหรือก�ำจัด ออกไปก่อนเข้าสู่โรงงาน โรงงานก็จะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามมาตรฐาน ที่ก�ำหนดไว้ เอกสารอ้างอิง/References BRC Global Standard for Packaging and Packaging Materials, P552: Position Statement – clarification on “ food defense and food fraud in the packaging standard, issue 1, May 2017 GFSI, BRC, SQF and beyond: Where food safety is heading and packaging’s role in getting us there, Dr.Claire Koelsch Sand Founder and Owner, Packaging Technology and Research Adjunct Professor, Michigan State University, 2015 Association of Dressings and Sauces Technical Meeting Food Safety System Certification 22000, Part II: Requirements for Certification, version 4.1, July 2017


STANDARD & REGULATION

Food Packaging Fraud for Food Industry Today we know that there is a growing interest in food fraud worldwide due to the problem of beef substituted with horsemeat. As a result, major global retailers need to be aware of safety and transparency throughout the food supply chain. Therefore, retailer association has combined to regulate manufacturers throughout the food supply chain. The rules governing the Global Food Safety Initiative (GFSI) are now controlled by the GFSI. GFSI had launched currently version 7.1. The interested main content is food fraud, including the fraud of food packaging and packaging materials. It focuses on packaging that is exposed to food both directly and indirectly and the integrity of the product affects the safety of consumers. The incentives for packaging fraud may be due to increased productivity, increased competition and reduced environmental problems. Requirement of GFSI introduce definition of food fraud according to GFSI guidance version 7.1 is collective term encompassing the intentional substitution, addition, tampering or misrepresentation of food/feed, food/feed ingredients or food/feed packaging, labelling, product information or false or misleading statements made about a product for economic gain that could impact consumer health. Therefore, in order to comply with GFSI standards, the factory producing the packaging will need to have a risk assessment and control measures. This application is based on risk assessment and control measures. The manufacturer must know the source of the fraud or characteristic of fraud that may occur with the raw materials of the factory such as • Fraudulent raw material used in production does not match the declare on the label , e.g. declaration that paper used as FSC standard, while raw materials are fraud. • The products obtained from the seller are degrading or replacing, such as the sale of virgin resins that are mixed with recycled resins, but claim to be virgin resins. • Some chemical products are added with additives to improve the quality of production, such as the addition of additives or processing aid to improve the flow efficiency and yield. Regardless of the type of food packaging fraud, what matters is the value of migration and the impact on food safety. The next step, after the risk assessment, is to establish control measures at the defined risk level. Control measures will help reduce the risk such as • The termination of the contract in the event of a very high risk of the supplier and a significant impact on the safety of the food. • Control the vendor throughout the food supply chain and build good relationships with the vendor, such as the vendor evaluation at the source, control at production site for production lot to be delivered to the factory and encourage manufacturers to certify standard systems recognized to GFSI. • Inspection of incoming goods, the factory must know types of fraudulent and find out the test methods, such as physical inspection by molecular weight determination or the chemical inspection by laboratory devices used to measure the change of flow during

heating of the sample and compare with reference examples. After risk assessment and risk management measures have been established. The factory must prepare a food packaging fraud prevention plan to protect the packaging fraud, which must be comply with the relevant laws. Periodically reviewed in case of new information is updated. Fraudulent is not currently only available in food. Food packaging fraud can also occur. It is important to reduce the risk and the hazards from fraudulent. The factory must understand the food packaging fraud that may occur in the raw materials or products of the factory and conducting risk assessment. After that, control measures must be taken to minimize risk or eliminate it before entering the factory. The factory will also receive products complied with standard.

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

59


SAFETY ALERT สหัส รัตนะโสภณชัย Sahas Ratanasoponchai

Assistant Vice President: Hygiene Business Betagro Group sahas@betagro.com

เนรมิตวัตถุดิบด้อยค่า… ให้เป็นสินค้ามีคุณค่า สมราคา

Transforming Useless Raw Material into Valuable Products กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มกั ประสบปัญหาเรือ่ งของวัตถุดบิ เหลือใช้ วัตถุดบิ ตกขนาดหรือข้อก�ำหนดหรือคุณภาพ บางประการที่ไม่เป็นที่ต้องการของลูกค้า ท�ำให้ต้องทิ้งและเสียเวลาคัดเกรดวัตถุดิบเหล่านี้ อีกทั้งยังท�ำให้มีโอกาสเป็นแหล่งปนเปื้อน เพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในสินค้าแก่ผู้บริโภคมากขึ้น

One recurring problem facing most productions in large-scale factories is the problem concerning raw materials, whether it be the leftover raw materials, undersized materials or materials that don’t meet with customers’ requirements. These raw materials are not only a waste of money, but also a waste of extra screening time. Besides, they can also be sources of contamination that post risks on the products’ sanitation and safety.

การคัดแยกวัตถุดิบดังกล่าว อาจแยกได้ดังนี้ 1. วัตถุดิบที่มีคุณภาพและข้อก�ำหนดเดิมทุกประการ แต่เหลือจากกระบวนการผลิต ซึ่งถือเป็นการสูญเสียอย่างมาก เศษวัตถุดิบนี้จึงยังมีคุณค่ามหาศาล เพียงแต่ว่าเราจะน�ำไป แปรรูปอย่างไร หลายโรงงานจึงน�ำไปท�ำเป็นสินค้าใหม่ที่เพิ่มมูลค่า โดยต้องมีการเสริมสาร หรือกระบวนการผลิตอย่างอื่นลงไป เช่น การผลิตน�้ำผลไม้ให้มีหลากหลายรสชาติ มีส่วนผสม ของน�้ำผลไม้หลากหลายชนิด แต่ยังคงคุณค่าไว้ครบถ้วนทุกประการ 2. วัตถุดบิ ทีม่ คี ณ ุ ภาพ แต่เป็นเศษทีไ่ ม่ได้ขนาดตามข้อก�ำหนดบางประการ สามารถ น�ำไปแปรรูปเป็นรูปแบบอืน่ ๆ เพือ่ ให้ได้คณ ุ ภาพตามความต้องการของลูกค้าหรือผูบ้ ริโภค เช่น การแปรรูปเนื้อสดที่ไม่ได้ขนาด มารวมกันปั้นเป็นสินค้าใหม่ เช่น ลูกชิ้น หรือไส้กรอก เพื่อให้ ได้สินค้ารูปแบบใหม่ตามใจผู้บริโภค แต่มีคุณค่าครบถ้วน 3. วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แต่เป็นส่วนที่ไม่ต้องการในกระบวนการผลิตนั้น การน�ำ แนวคิดใหม่ๆ เพื่อพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น จึงเป็นทางเลือกใน การสร้างคุณค่าสินค้าใหม่ เช่น น�ำคางกุ้งมาแปรรูปเป็นสินค้าเฉพาะชนิด เฉพาะกลุ่มลูกค้า หรือการแปรรูปไข่ขาวหลอดให้เป็นแบบเฉพาะกับกลุ่มลูกค้านักกีฬาที่ต้องการโปรตีน 4. วัตถุดิบที่ด้อยคุณภาพไม่ได้ตามข้อก�ำหนด ซึ่งสามารถแยกได้เป็น 2 ประเด็น คือ 4.1 วัตถุดิบด้อยคุณภาพ แต่ยังคงมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ได้แก่ วัตถุดิบที่ไม่ได้ตาม ข้อก�ำหนดลูกค้า การคัดเกรดเพื่อน�ำไปแปรรูปให้กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ เช่น ลดความเข้มข้น ลงในน�้ำผลไม้ หรือการผลิตเป็นเนื้อไก่คาราเกะที่ยังคงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค 4.2 วัตถุดิบด้อยคุณภาพ และไม่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค สถานการณ์นี้แท้จริงแล้ว คือ การต้องคัดทิ้ง ไม่สามารถน�ำมาใช้แปรรูปได้ เพราะจะเป็นความเสี่ยงเกินไป เช่น การพบ เชื้อจุลินทรีย์เกินมาตรฐานที่ก�ำหนดไว้ แม่ว่าการใช้ความร้อนจะท�ำลายเชื้อจุลินทรีย์ได้ แต่ ไม่มีใครทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดจากการท�ำลายได้ไม่หมด หรือมีสารพิษจ�ำพวกท็อกซิน ตกค้างอยู่ได้ การแปรรูปหรือเนรมิตวัตถุดิบด้อยค่า ให้เป็นสินค้าที่มีคุณค่า สมราคา จึงเป็นเรื่องของ การคิดนวัตกรรมแบบหนึ่งที่จะท�ำให้ผู้บริโภคได้จดจ�ำความเป็นเอกลักษณ์และความใส่ใจ ของผู้ผลิตอย่างเรา อีกทั้งยังเป็นการคงคุณภาพให้ได้ตามข้อก�ำหนด ค�ำนึงถึงหลักอาหาร ปลอดภัยอย่างแท้จริง การปกปิดข้อมูลและผลิตสินค้าทีด่ อ้ ยค่า ไม่มคี วามปลอดภัย ท้ายสุดแล้วภาพลักษณ์ของ องค์กรจะเสียหายมากกว่าการท�ำลายวัตถุดิบที่ด้อยค่าเหล่านั้นเสียอีก หรือแม้กระทั่งหาก คิดออกนอกกรอบการเป็นอาหารเพียงอย่างเดียว วัตถุดิบเหลือใช้บางอย่างอาจน�ำไปแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือยาได้ เช่น ในอนาคตอาจมีการแปรรูปเครื่องในสุกรบางอย่าง ให้มีคุณค่าทางการแพทย์ได้ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมหลายอย่างเข้ามาช่วยเสริม แต่ได้คุณค่าที่เปลี่ยนแปลงไปมหาศาล และมีประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ หากโรงงานใดต้องการลดต้นทุนอย่างคุ้มค่า สมราคา ก็สามารถน�ำแนวคิดเนรมิตวัตถุดิบ ด้อยค่าดังกล่าวไปแปรรูปให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ การพัฒนาอย่างยั่งยืนของทั้งสินค้า และองค์กรจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์อย่างมหาศาลทัง้ แก่องค์กรและประเทศชาติอย่างแน่นอน 60

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

These problematic raw materials can be classified as: 1. Raw materials leftover from production process that are still of good quality and specification. To throw away these valuable materials would be a huge waste of money, so many factories, by ways of adding other substances or further processes, turned them into new value-added products such as multi-flavored drinks with multiple fruit juices, with all the nutrition fully preserved. 2. Raw materials that are of good quality but not at the required or specified sizes. These raw materials can be processed differently and turned into new products that meet with customers’ or consumers’ demand, with all the nutritional values intact. For example, undersized meat of different kinds can be used to make meatballs or sausages. 3. Unwanted or unused parts of good-quality raw materials that are casted away from production process. New ideas were brought into developing new products that are different and distinctive, to be the new interesting alternatives for consumers. For example, shrimp chins were modified and processed into a new product for niche market, or egg white tube that was developed for the athlete consumer group that needs protein from egg whites. 4. Low-quality raw materials that are not up to the requirements can be categorized into 2 groups: 4.1 Low quality but safe. These raw materials are safe for consumers but are screened off for not meeting customers’ requirements. Additional sorting is needed to be done before these raw materials can be further processed into new products, e.g. a new, less-concentrated fruit juice or chicken karaage that is safe for the consumers. 4.2 Low quality and unsafe. These raw materials have to be discarded right away; no further use can be made of them, for hygiene and safety reasons. For example, raw materials that are found to contain microorganisms exceeding the standard level, though can be destroyed by heat may still carry some unknown harmful toxin. Developing innovative ways to process or transform useless raw materials into quality products not only helps enhance the uniqueness of the products, but can also reflect care and consideration of the producers who strive to make good and safe products for the consumers. Concealing accurate data of products, and producing unsafe goods will only lead, eventually, to the bad publicity and poor corporate image, which is much more damaging than simply destroying or discarding those useless raw materials. Some raw materials for food, with some out-of-the-box creativities of the producers, can be turned into something else other than food, e.g. food supplements or even medicines. For example, in the future, with innovative technologies and modern knowledge, we may be able to turn some swine entrails into useful medical application that yield much more benefit for mankind than their original forms. This concept of effectively transforming useless raw materials into quality products is ideal for factories that are looking for a way to cut cost in a productive way. Not only for organizations themselves, but also the whole nation can benefit from this concept if and when developed and employed widely throughout the country.


23_.pdf

C

M

Y

CM

MY

CY

CMY

K

1

10/20/17

5:18 PM


STRENGTHEN THE PACKAGING ในปัจจุบันนี้ผู้บริโภคได้ให้ความสนใจและตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการรณรงค์การลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือการลดปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติและน�้ำมันดิบ ซึ่งล้วนเป็นพลังงาน ที่ไม่สามารถสร้างทดแทนได้ (Non-renewable resources) หนึ่งในทางเลือก ในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืนและเป็นที่รู้จักกันดี คือ การใช้พลาสติก ชี ว ภาพ (Bioplastics) เพื่ อ ทดแทนพลาสติ ก โภคภั ณ ฑ์ แ บบเดิ ม ที่ ม าจาก อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (Petroleum-based plastics) กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารถือได้ว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแรกที่พลาสติกฐาน ชีวภาพได้เข้าไปมีบทบาทส�ำคัญอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของ บรรจุภัณฑ์ส�ำหรับอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงการประยุกต์ใช้พลาสติกชีวภาพ กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งที่สัมผัสกับอาหารได้ เช่น ช้อน-ส้อม แก้วน�้ำ ขวดน�้ำ ถาดใส่อาหาร เป็นต้น พลาสติกชีวภาพถูกผลิตจากวัตถุดิบชีวมวล โดยส่วนใหญ่เป็นพืชที่มีปริมาณ คาร์โบไฮเดรตสูง หรือมีพอลิแซคคาไรด์ (Polysaccharide) เป็นองค์ประกอบหลัก เช่น ข้าวโพด มันส�ำปะหลัง อ้อย เป็นต้น และอาศัยเทคโนโลยีชวี ภาพ (กระบวนการหมัก) เพื่อเปลี่ยนพืชเหล่านี้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ (เช่น เอทานอล กรดแลคติก เป็นต้น) ซึ่งท�ำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นของกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพ พลาสติกชีวภาพที่ถูกพัฒนาขึ้นในขณะนี้สามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะ การย่ อ ยสลายโดยจุ ลิ น ทรี ย ์ อั น ได้ แ ก่ พลาสติ ก ย่ อ ยสลายได้ ท างชี ว ภาพ (Compostable plastics) และไม่ ส ามารถย่ อ ยสลายได้ ท างชี ว ภาพ (Noncompostable plastics) แต่อย่างไรก็ดพี ลาสติกกลุม่ ทีไ่ ม่ยอ่ ยสลายนีย้ งั คงสามารถ

น� ำ กลั บ มาใช้ ใ หม่ ห รื อ รี ไ ซเคิ ล ได้ (Reusable or recyclable plastics) ซึ่ ง ได้ แ ก่ ไบโอ-พอลิ เอทิ ลี น (Bio-PE) ไบโอ-พอลิเอทิลีนเทอเรฟทาเลต (BioPET) และพอลิเอทิลีนฟิวแรโนเอต (PEF) จากข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดย Institute for Bioplastics and Biocomposites และ NOVA-Institute ประเทศเยอรมนี ได้แสดง ให้เห็นว่า ในปี 2562 กลุ่มพลาสติกชีวภาพของ Bio-PE และ Bio-PET จะเป็น ตัวขับเคลื่อนหลักในตลาดพลาสติกชีวภาพ ทั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มพลาสติก ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (อาทิเช่น Polylactide, PLA) ยังคงมีราคาต้นทุนการผลิต ทีส่ งู กว่าพลาสติกโภคภัณฑ์ 2-3 เท่า และข้อจ�ำกัดของบรรจุภณ ั ฑ์จากพลาสติกชีวภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่ม (เช่น ความเปราะ สมบัติการกันการซึมผ่านได้ ของไอน�้ ำ และก๊ า ซค่ อ นข้ า งต�่ ำ ความสามารถในการคงรู ป บรรจุ ภั ณ ฑ์ ต�่ ำ เป็นต้น) นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการหลีกเลี่ยงสภาวะความผันผวนของราคา น�้ำมันในตลาดโลก ในขณะนีบ้ รรจุภณ ั ฑ์เครือ่ งดืม่ บางยีห่ อ้ ทีจ่ ำ� หน่ายในต่างประเทศได้ผลิตขึน้ จากพลาสติกชีวภาพแล้ว เนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลและแนวโน้มของ ผูบ้ ริโภคทีต่ ระหนักถึงปัญหาสิง่ แวดล้อมมากยิง่ ขึน้ ยกตัวอย่าง เช่น บรรจุภณ ั ฑ์ น�้ำอัดลมและน�้ำดื่มของกลุ่มธุรกิจ โคคา-โคลา นั้นมาจาก Bio-PET โดย ผลิตภัณฑ์เริ่มออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2553 ซึ่งบนฉลากติดว่า “Plantbottle”

Innovative Green Beverage Packaging นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสิ่งแวดล้อม จากการเพิม่ ขึน้ ของการมีสว่ นร่วมในการแก้ไขปัญหา สิ่ ง แวดล้ อ ม การใช้ พ ลาสติ ก ชี ว ภาพจึ ง เป็ น ทางเลื อ กหนึ่ งที่ เป็ น ที่ ย อมรั บ ขวดน�้ ำ Bio-PET เป็ น อี ก หนึ่ ง นวั ต กรรมจากการพั ฒ นาเทคโนโลยี เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน From increasing participation in breaking through environmental concerns, using bioplastic is an acceptable alternative today. Bio-PET bottle is another innovation from technology development to serve the global environmental sustainability.

62

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017


STRENGTHEN THE PACKAGING (ขวดน�ำ้ ดืม่ Dasani) และ ทางกลุ ่ ม ธุ ร กิ จ โคคาโคลา ได้ ว างแผนที่ จ ะ เปลี่ ย นมาใช้ Bio-PET ส� ำ ห รั บ บ ร ร จุ ภั ณ ฑ ์ เครื่องดื่มทั้งหมดก่อนปี 2563 เป็นต้น ส�ำหรับขวด Bio-PET ในประเทศไทย รูปที่ 1 เปรียบเทียบกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติก PET กับ Bio-PET นั้ น บ ริ ษั ท เ อ ส ซี จี Figure 1 Compared production processes of PET and Bio-PET resins เคมิคอลส์ จ�ำกัด (SCG ที่มา/ Source: http://www.scgchemicals.co.th/en/story/1486/ Chemicals) เป็นผู้ผลิต เม็ดพลาสติก Bio-PET รายแรกของประเทศ ซึ่ง เป็ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ใ นกลุ ่ ม Eco Product ทีส่ ง่ ออกให้ กับกลุ่มผู้ผลิตเครื่องดื่ม ชั้นน�ำของโลก อาทิเช่น โคคา โคล่ า (ประเทศ ญี่ปุ่น) โดยทั่วไปพอลิเอทิลีนเทอเรฟทาเลต (PET) ประกอบด้วย โมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) ร้อยละ 30 และกรดเทอเรฟทาลิคบริสุทธิ์ (PTA) ร้อยละ 70 โดยน�้ำหนัก ซึ่งแต่เดิมสารตั้งต้นทั้งสองเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้ จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี แต่ Bio-PET อาศัยวัตถุดิบจากพืช เพื่อผลิตเป็นเอทานอล ซึ่งเป็นสารตั้งต้น ในการผลิต MEG ดังแสดงในรูปที่ 1 ส�ำหรับการผลิต PTA จากวัตถุดบิ ชีวมวลนัน้ ก�ำลังอยูใ่ นขัน้ การพัฒนาเพือ่ ให้ได้กระบวนการทีส่ ามารถ น�ำไปใช้ในการผลิตระดับอุตสาหกรรม และได้เป็น 100% Bio-PET ต่อไป หากพิจารณาถึงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มควบคู่กับกระแสความต้องการของผู้บริโภคในด้าน การอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อมอย่างยัง่ ยืนในขณะนี้ การใช้บรรจุภณ ั ฑ์จากพลาสติกชีวภาพในอุตสาหกรรมอาหาร และเครือ่ งดืม่ เป็นแนวทางหนึง่ ทีถ่ กู น�ำมาใช้และมีการเติบโตของตลาดเพิม่ ขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง อีกทัง้ พลาสติกชีวภาพยังมีศักยภาพสูงที่จะเข้ามาแทนที่บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกโภคภัณฑ์แบบเดิมทั้งหมด โดยเฉพาะ อย่างยิง่ ในประเทศแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึง่ เป็นประเด็นทีต่ อ้ งจับตามองของภาคอุตสาหกรรมอาหาร ในประเทศไทยในการพั ฒ นาผลิ ต ภั ณ ฑ์ ทั้ ง เพื่ อ การส่ ง ออกและการบริ โ ภค ภายในประเทศในทศวรรษนี้

เอกสารอ้างอิง/References TOP Global bioplastics production capacities continue to grow despite low oil price. Dated 5 November 2015. Available from http://www.european-bioplastics.org http://www.coca-colacompany.com/plantbottle technology/ http://www.scgchemicals.co.th/en/story/1486/

Currently, consumer awareness of environmental issue continues to grow as seen from various campaigns for reducing carbon dioxide (CO2) emission or reducing consumption of natural gas and fossil fuel, which totally come from nonrenewable resources. One of well-known alternatives to overcome the problem with sustainability is using bioplastics to replace general commodity plastics from petrochemical industry. Food industry could be counted as the first area where bioplastics play the key role significantly, in particular packaging for food and beverage. This area also covers food-contactable disposal items such as spoon-fork, cup, bottle, tray, etc. Bioplastics are produced from various biomass resources, most of them are carbohydrate-plants, containing mainly polysaccharide such as corn, cassava, sugarcane, etc. By the way, the biotechnology (i.e. fermentation) is employed to change these plants to products (e.g. ethanol, lactic acid, etc.) as reactants for further polymerization process to obtain bioplastic resins. Nowadays, the developed bioplastics can be classified by microbial digestion characteristic as compostable and non-compostable plastics. The non-compostable ones can be reused or recycled, for example, Bio-polyethylene (Bio-PE), Biopolyethylene terephthalate (Bio-PET), and polyethylene furanoate (PEF). Based on data collected by Institute for Bioplastics and Biocomposites and NOVA-Institute in Germany, it revealed that in 2019, Bio-PE and Bio-PET will become the main drivers in the global bioplastics market. It is because the production cost of compostable plastics (e.g. polylactide, PLA) is still 2-3 folds higher than those of commodity plastics, and the limitations of bioplastic packaging, especially for beverages (e.g. brittleness, relatively low gas and water vapor barrier, and low dimensional stability). Additionally, it includes the topic of avoidance of oil price fluctuations. At this moment, some beverage packaging under the international brands have been from bioplastics, due to government policies and consumption trend to decrease environmental issues. For example, soft drink and drinking water bottles of Coca-Cola Company are from Bio-PET, which were firstly launched in 2010 with labeling of “Plantbottle” on Coke’s Dasani water bottle. Moreover, Coca-Cola Company announced long term plans to have all Bio-PET bottles by 2020. For Bio-PET in Thailand, SCG Chemicals Co., Ltd. is the first manufacturer of Bio-PET resin, classified as Eco Product which is supplied for leading global drinks producers such as Coca-Cola (Japan). In general, polyethylene terephthalate (PET) comprises of 30 wt% monoethylene glycol (MEG) and 70 wt% purified terephthalic acid (PTA), they can be originally obtained from petrochemical industry, but Bio-PET uses the carbohydrate-plant as resource to produce ethanol which functions as reactant for MEG production as shown in Figure 1. Considering to food and beverage industries combining with environmental conservation trends, using of bioplastic packaging is an attractive approach and its market is continuously growing. In addition, bioplastics have high potential to completely replace commodity plastic packaging, especially in Europe and USA. It is necessary for food industry in Thailand to keep an eye on this issue to develop our products for both exportation and domestic consumption in this decade.

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

63


SHOW TIMES

Post Show

Meat Expo China 2017

celebrates successful edition at new location

31,806 Visitors from 41 Countries on 54,000 Sq.m. Exhibition space Meat Expo China 2017 ที่จัดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 14-17 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา โดยมีบริษัท เมสเซอ แฟรงก์เฟิร์ต (เซียงไฮ้) จ�ำกัด และ Circulation Industry Promotion Center (CIPC) หน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ ของจีนได้ปิดฉากลงอย่างสวยงาม ทั้งนี้ยังจัดขึ้นพร้อมกับงาน China Food & Catering Expo (CFCE) ซึง่ มีกระทรวงพาณิชย์ของรัฐบาลมณฑลหูหนานเป็น ผู้สนับสนุนร่วมกันอีกด้วย ซึ่งงานทั้งสองงานนี้นับเวทีกลางระดับนานาชาติ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานได้ศึกษาและชมนิทรรศการ ผลิตภัณฑ์ และ เทคโนโลยี ทั้ ง ในเรื่ อ งของอุ ต สาหกรรมเนื้ อ สั ต ว์ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ตลอดจนอุตสาหกรรมการจัดเตรียมอาหารอย่างครบครันไปพร้อมๆ กัน ตลอด 4 วันเต็มของงาน กับอีกกว่า 1,200 บริษัท จาก 14 ประเทศและ ภูมิภาคที่เข้าร่วมจัดแสดงบนพื้นที่ราว 54,000 ตารางเมตร 2 เวทีกลางระดับ นานาชาตินไี้ ด้ตอ้ นรับผูเ้ ข้าชมมากถึง 31,806 คน รวมทัง้ นักธุรกิจมืออาชีพจาก 41 ประเทศและภูมิภาค โดยบริษัทชั้นน�ำที่ร่วมจัดแสดงในงาน Meat Expo China ได้แก่ Changsha Shunfeng Refridgeration, Chuyinh, Dongguan Dachang, New Wellful, Shanghai Elemotion Technology, Shuanghui, Suzhou Huide Foodstuff Machinery Engineering, และ TRS group เป็นต้น ริชาร์ด หลี่ ผู้จัดการทั่วไปจากบริษัท เมสเซอ แฟรงก์เฟิร์ต (เซียงไฮ้) จ�ำกัด กล่าวว่า “ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่พอใจอย่างมาก และการร่วมมือกับ CFCE ถือเป็น ความส�ำเร็จ โดยงานนี้เป็นเหมือนประตูเชื่อมโยงอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และ อุตสาหกรรมการจัดเตรียมอาหารของจีนเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในตลาด เนื้อสัตว์ในมณฑลหูหนานที่ก�ำลังเติบโต ซึ่งเราได้จัดแสดงระบบการผลิต 64

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

Meat Expo China 2017, organised by Messe Frankfurt (Shanghai) Co Ltd and Circulation Industry Promotion Center of Ministry of Commerce (CIPC), recently drew to a successful close. The fair was held in conjunction with the China Food & Catering Expo (CFCE), which is jointly supported by the Ministry of Commerce and the People’s Government of Hunan Province from 14 – 17 September 2017. The two events provided a one-stop sourcing platform for the meat, related products and catering industries. During the four-day run, the two shows gathered 1,200 companies from 14 countries and regions. The exhibitors occupied 54,000 sq.m. of exhibition space and recorded 31,806 visits of professional buyers from 41 countries and regions. Exhibitors in Meat Expo China included Changsha Shunfeng Refrigeration, Chuying, Dongguan Dachang, New Wellful, Shanghai Elemotion Technology, Shuanghui, Suzhou Huide Foodstuff Machinery Engineering, TRS group, and more. Mr Richard Li, General Manager of Messe Frankfurt (Shanghai) Co Ltd, was satisfied with the result: “The collaboration with CFCE was a success. The fair was a gateway to the Chinese meat and catering industry, especially in the burgeoning meat market of Hunan, showcasing the entire meat processing supply chain. Visitors not only could access to the meat products, but related technology too. I am convinced that the show will continue to grow as a leading industry event.” As one of the biggest meat producing and processing bases in China, the relocation attracted new exhibitors to capture the booming meat market of Hunan. Shanghai Elemotion Technology Co Ltd exhibited for the first time, and was impressed by the show’s


SHOW TIMES

ทัง้ หมดตัง้ แต่ตน้ น�ำ้ ถึงปลายน�ำ้ ซึง่ ผูเ้ ข้าชมงานไม่เพียงแต่จะได้รบั ข้อมูลเกีย่ วกับสินค้าจากเนือ้ สัตว์ เท่านั้น แต่ยงั ได้รับข้อมูลเกีย่ วกับเทคโนโลยีด้วย ผมเชื่อว่างานแสดงสินค้านี้จะขยายขึ้นในอนาคต ในฐานะเวทีระดับอุตสาหกรรมชั้นน�ำ” ในฐานะที่มณฑลหูหนานถือเป็นฐานการผลิตและแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน การย้ายสถานที่จัดงานครั้งนี้จึงช่วยให้ผู้เข้าร่วมจัดแสดงได้เห็นภาพตลาดเนื้อสัตว์ที่คึกคักของ มณฑลหูหนาน บริษัท Shanghai Elemotion Technology จ�ำกัด ซึ่งร่วมออกบูธเป็นครั้งแรก ระบุ ว่าประทับใจกับผลลัพธ์ที่ได้จากการมาร่วมงานเป็นอย่างมาก และยังระบุว่า “มณฑลหูหนานเป็น ที่รู้จักจากของทานเล่นที่มีรสเผ็ด เช่น ปีกไก่เผ็ด และตีนไก่ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ส่งผลดีกับบริษัท ของเรามาก เนื่องจากเราเป็นผู้ผลิตเครื่องแพ็คแบบสุญญากาศอัตโนมัติส�ำหรับสินค้าประเภทเนื้อ สัตว์ ภูมภิ าคจีนกลางก�ำลังเติบโตเป็นอย่างมาก และมีโอกาสมากมายส�ำหรับอุตสาหกรรมเนือ้ สัตว์ งาน Meat Expo China จะช่วยให้เราเข้าถึงตลาดมากขึ้น โดยเราได้พบกับผู้ซื้อมืออาชีพจ�ำนวน มากและได้เปิดการเจรจาซึ่งใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว” นอกจากนี้ด้วยสถานที่ตั้งซึ่งมีความส�ำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ของมณฑลหูหนาน แบรนด์ ท้องถิ่นยังได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมงานนี้เช่นกัน เช่นบริษัท Hunan New Wellful จ�ำกัด ที่ ร่วมจัดแสดงในงานนี้ตั้งแต่ครั้งแรกถึงปัจจุบัน ยังรู้สึกประทับใจกับประโยชน์ที่ได้จากงานนี้เป็น อย่างมาก นอกจากผูเ้ ข้าร่วมจัดแสดงทีห่ ลากหลายแล้ว การแสดงสินค้ายังดึงดูดกลุม่ ผูซ้ อื้ หลายกลุม่ เช่น กลุ่มผู้ซื้อเครือซูเปอร์มาร์เกต กลุ่มผู้ค้าส่ง กลุ่มผู้กระจายสินค้า โรงเชือด และผู้ซื้อจากต่างประเทศ จ�ำนวนมากที่มีแนวโน้มจะช่วยให้เกิดการส่งออกสินค้าจากจีนไปยังนอกประเทศ

effectiveness.The company, commented: “Hunan is renowned for spicy snacks such as spicy chicken wings and chicken feet, which is very beneficial to us as we manufacture automatic vacuum packing machines for meat-related products. Central China is developing very fast with huge opportunities in the meat industry. Meat Expo China helps us to step into this market, as we met a lot of professional buyers and are already in the final stages of discussion with them.” With the geographical advantage of Hunan, local brands found the show rewarding. Returning exhibitor, Hunan New Wellful Co., Ltd, has been joining the fair since its first edition and very impressed with the show efficacy. Besides various exhibitors, the show attracted different buyers’ groups, such as supermarket chains, wholesalers, distributors, slaughterhouses, and many international buyers, which enables local products to be exported overseas.”

The next edition of Meat Expo China will be held in autumn 2018 at the Changsha International Convention & Exhibition Center. For more information, please visit www.meatexpochina.com DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

65


SHOW TIMES

Post Show

อุตสาหกรรมเครื่องดื่มนับเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มาแรง ดังจะเห็นได้จาก มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรูปแบบใหม่ๆ ออกสู่ตลาดทั้งจากผู้เล่นหน้าใหม่และ หน้ า เก่ า เนื่ อ งจากเป็ น ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ใ นอุ ด มคติ ที่ ส ามารถน� ำ มาจั บ ขั ด สนิ ม แต่งตัวใหม่ และสร้างลูกเล่นได้อย่างหลากหลาย

The beverage industry is on fire. Many new beverage products are launching into the market from both old and new players. Beverage product is “evergreen” and can be rusted away, redressed, and creative.

จับตาทั่วโลก

Quantitative sales data revealed that 700 billion liters of beverage was sold in 2009. The trend is on the rise, and expected to reach 1 trillion liters in 2018. Data from Mintel found that juice gains the highest growth (+14.85%), followed by sports and energy drinks (+13.64%), carbonated soft drinks (+13.25%), hot beverages (+11.67%), and water (+10.88%). However, some drinks are in decline such as RTDs (-2.35%). Popular claims are “eco-friendly package” (27.35%), “no additives and preservatives” (15.63%), “low/no/reduced sugar” (11.10%), and “low/no/reduced allergens” (10.78%). Prevalent flavors and tastes are vanilla bean, lemon, brown rice, and rice, to name a few.

จากข้อมูลยอดขายในเชิงปริมาณของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั่วโลก พบว่าในปี 2552 มี ยอดขายประมาณ 700 พันล้านลิตร และได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยคาดว่าจะ แตะยอด 1,000 พันล้านลิตรในปี 2561 จากข้อมูลของมินเทล พบว่า น�้ำผลไม้มีอัตราการเติบโตสูงสุด (+ ร้อยละ 14.85) รองลงมาเป็นเครื่องดื่มส�ำหรับนักกีฬาและเครื่องดื่มให้พลังงาน (+ ร้อยละ 13.64) เครื่องดื่มอัดก๊าซ (+ ร้อยละ 13.25) เครื่องดื่มร้อน (+ ร้อยละ 11.67) น�้ำเปล่า (+ ร้อยละ 10.88) เป็นต้น และกลุ่มที่มีอัตราชะลอตัว เช่น ชาพร้อมดื่ม (- ร้อยละ 2.35) การกล่าวอ้างที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ร้ อ ยละ 27.35) ปราศจากวั ต ถุ เ จื อ ปนอาหารและสารกั น บู ด (ร้ อ ยละ 15.63) ลด/ปราศจากน�้ำตาล (ร้อยละ 11.10) ลด/ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ (ร้อยละ 10.78) เป็นต้น ด้านกลิ่นและรสชาติที่มาแรง ได้แก่ ถั่ววนิลลา เลมอน ข้าวกล้อง ข้าว เป็นต้น

เจาะใจตลาดเอเชียแปซิฟิก

ข้อมูลจากมินเทล (ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 ถึงปี 2560) พบว่า เครื่องดื่มร้อนมี 66

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

Global Trend

Penetrating Asia-Pacific Market

According to information from Mintel (Q4 of 2016 to 2017), hot beverages expanded the most (+12.22%), followed by juice (+7.91%), sports and energy drinks (+0.86%). On the other hand, some beverages faced decreasing popularity, for example, RTDs (-17.48%), alcoholic beverage (-16.45%), and carbonated soft drinks (-12.23%).


SHOW TIMES อัตราการเติบโตสูงสุด (+ ร้อยละ 12.22) รองลงมาคือ น�้ำผลไม้ (+ ร้อยละ 7.91) เครื่องดื่มส�ำหรับนักกีฬา และเครื่องดื่มให้พลังงาน (+ ร้อยละ 0.86) ส่วนกลุ่มที่ชะลอตัว ได้แก่ ชาพร้อมดื่ม (- ร้อยละ 17.48) เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ (- ร้อยละ 16.45) เครื่องดื่มอัดก๊าซ (- ร้อยละ 12.23) เป็นต้น ด้านการกล่าวอ้างพบว่า บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้รับความนิยมสูงที่สุด (ร้อยละ 23.91) ปราศจากวัตถุเจือปนอาหารและสารกันบูด (ร้อยละ 18.00) ฮาลาล (ร้อยละ 15.05) มังสวิรัติ (ร้อยละ 14.06) ลด และ/หรือ ปราศจากน�้ำตาล (ร้อยละ 10.21) เป็นต้น ส� ำ หรั บ กลิ่ น รสและรสชาติ ที่ โ ดนใจ คื อ แอปริ ค อท ส้ ม เกรพฟรุ ต รู ท เบี ย ร์ มะม่ ว ง เชอร์ รี เป็นต้น

เทคโนโลยีในกระบวนการแปรรูป

เครือ่ งดืม่ จากผลไม้และเครือ่ งดืม่ ฟังก์ชนั นอลมีมลู ค่าทางการตลาดมากกว่า 4 หมืน่ ล้านบาทต่อปี เทคโนโลยี แปรรูปสมัยใหม่ทถี่ กู น�ำมาใช้เพือ่ รักษาคุณค่าทางโภชนาการ สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุม่ ได้แก่ นวัตกรรม การแปรรูปด้วยความร้อน เช่น Ohmic Heating และ Microwave & RF Heating และนวัตกรรมการแปรรูป โดยไม่ใช้ความร้อน (อุณหภูมิต�่ำกว่า 45 ํC) เช่น การกรองร่วมกับรังสียูวี การใช้เทคนิคพัลส์สนามไฟฟ้า (Pulsed Electric Fields; PEF) และการแปรรูปด้วยความดันสูง (High Pressure Processing; HPP)

ความตระหนักในเรื่องสุขภาพ…ผลักดันให้เกิดมาตรการต่างๆ

ประเทศไทยมีภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโรคที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหารที่เสี่ยงต่อสุขภาพกว่าร้อยละ 2 ของ GDP อีกทัง้ ยังมีบคุ ลากรและงบประมาณทีค่ อ่ นข้างจ�ำกัดในการป้องกันและรักษาโรค สภาขับเคลือ่ น การปฏิรูปประเทศ (สปท.) จึงเสนอให้ปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน�้ำตาลเกินเกณฑ์เพื่อส่งเสริม สุขภาพประชาชนไทย จากการศึกษามีการคาดการณ์ว่า หากจัดเก็บภาษีในเครื่องดื่มที่มีน�้ำตาลที่ท�ำให้ ราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ของราคาขายปลีก จะท�ำให้มีการบริโภคน�้ำตาลลดลง 2.122 กรัม/คน/วัน หากจัด เก็บในระยะสัน้ และจะท�ำให้การบริโภคน�ำ้ ตาลลดลง 2.562 กรัม/คน/วัน หากจัดเก็บในระยะยาว โดยมีผล บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2560 อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีเครือ่ งดืม่ ทีม่ นี ำ�้ ตาลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอทีจ่ ะจัดการปัญหาสุขภาพ ดังกล่าว ดังนั้น การจัดท�ำมาตรการเพื่อลดการบริโภคอาหารที่เสี่ยงต่อสุขภาพควรจัดท�ำเป็นชุดมาตรการ ทีม่ ผี ลครอบคลุมในการลดการบริโภคอาหารทีเ่ สีย่ งต่อสุขภาพทัง้ หมด มาตรการภาษีเป็นอีกหนึง่ มาตรการ ที่ควรด�ำเนินการร่วมไปกับมาตรการอื่นๆ เช่น สัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ ที่แสดงบนบรรจุภัณฑ์ บ่งบอกให้ทราบว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีปริมาณน�้ำตาล ไขมัน เกลือ (โซเดียม) หรือสารอาหารอื่นๆ ผ่านเกณฑ์ ที่ก�ำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยสื่อสารกับผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม ได้อย่างรวดเร็ว

Meanwhile, claims that are most popular are “eco-friendly package” (23.91%), “no additives and preservatives” (18.00%), “halal” (15.05%), “vegetarian” (14.06%), “low/no/reduced sugar” (10.21%), for instance. Favorite tastes and flavors are apricot, orange, grapefruit, root beer, mango, and cherry.

Beverage Processing Technology

Fruit juice and functional drinks yield more than THB 40 billion in market value per year. Modern technology is applied to preserve nutrition can be divided into 2 groups; (1) Thermal processing such as Ohmic Heating, and Microwave & RF Heating, and (2) Nonthermal processing (temperature below 45 oC) such as UV Filter, Pulsed Electric Fields (PEF) and High Pressure Processing (HPP).

Health Awareness…Push for Measures

Thailand bears the burden of expenses, more than 2% of the national GDP, caused by consumption of unhealthy food, while having limited budget and human resources to prevent and treat the diseases. The National Reform Steering Assembly (NRSA) proposed the revision of sugary beverage taxation to promote the health of Thai people. Studies revealed that the new excise-tax bill will push the price of sugar drinks up by 20% of former retail price. In short term, it is expected that the new tax scheme will reduce sugar consumption among Thais by 2.122 gram/ person/day, and 2.562 gram/person/day, if applies in long term. The amended excise tax came into force on September 16, 2017. However, imposing excise tax on sugary drinks cannot solely improve health issue in Thailand. Therefore, it is necessary to create a measure to reduce the consumption of all health-risk food as a whole. Tax measure is another step that must be carried out along with other policies. For example, the nutrition symbols “Healthier Choices” displayed on the packaging indicates that the amount of sugar, fat, salt (sodium), or other nutrients comply with the nutrition recommendation criteria. By this means, it can communicate with consumers faster for a decision to buy healthy balance diet.

THANK YOU ALL SPEAKERS

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

67


SHOW TIMES

Pre Show

FRUIT LOGISTICA Berlin Fresh Business Opportunities 7-9 February 2018

FRUIT LOGISTICA 2018: Expert insight on the future of the fresh produce business Where will fruit and vegetables be sold if stores become redundant?

รู้ลึก รู้จริงแห่งอนาคตของธุรกิจผักและผลไม้สดไปกับงานแสดงสินค้า FRUIT LOGISTICA 2018 ค้นหาทางออกในการจัดจ�ำหน่ายผักและผลไม้สดเมื่อร้านค้ากลายเป็นความจ�ำเจไปเสียแล้ว

การสื่อสารแบบดิจิทัลได้ปฏิวัติวิธีการเสพข้อมูลของผู้คนไปแล้ว และตอนนี้ ก็กำ� ลังเปลีย่ นวิธกี ารบริโภคผักและผลไม้ของเราด้วยเช่นกัน การเข้ามาของเทคโนโลยี นั้นรบกวนและเปลี่ยนสภาพจากที่เคยเป็นอยู่โดยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ที่น่าทึ่งในทุกส่วนของห่วงโซ่อุปทานการผลิตผลิตสด เนื่องจากวิธีการสื่อสารและ การจัดจ�ำหน่ายมีความละเอียดอ่อน ซับซ้อน และเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้น วิ ท ยาการด้ า นคอมพิ ว เตอร์ อ ย่ า งปั ญ ญาประดิ ษ ฐ์ นี้ อ าจเข้ า มามี บ ทบาท อย่างมากมายในกิจกรรมบางส่วนของการด�ำเนินธุรกิจของเรา เมื่อเดือนที่ผ่านมา มีธุรกิจสตาร์ทอัพรายใหม่ “Farmstead” ในซานฟรานซิสโก ได้ออกมาแสดง ความคิดเห็นว่าในไม่ชา้ ความก้าวหน้าแห่งเทคโนโลยีจะสร้างนวัตกรรมให้กบั โมเดล หลักอย่างซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าด้วยการใช้ระบบการวิเคราะห์แบบอัตโนมัติ เพือ่ บริหารจัดการธุรกิจการจัดส่งอาหารจากฟาร์มไปยังตูแ้ ช่ตามร้านได้ภายในเวลา ไม่ถึงชั่วโมง การต้ อ งเผชิ ญ กั บ การพั ฒ นาสุ ด ล�้ ำ ในอนาคตดั ง กล่ า วนี้ ค� ำ ถามส่ ว นใหญ่ ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิตผักและผลไม้สดก็คือ เราจะต้องท�ำอะไรให้ได้ ผลลัพธ์ที่แตกต่าง? ในทุกๆ วันเราก�ำลังเผชิญกับกระแสความคิดใหม่ๆ และ นวัตกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่อะไรกันที่จ�ำเป็นจะต้องท�ำในทันทีและอะไร ที่ควรท�ำเป็นล�ำดับต่อไป? 68

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017

Digital communication has already revolutionised the way we consume information, and now it’s changing the way we consume fruit and vegetables. By disrupting and changing the status quo, it’s provoking a remarkable transformation in all parts of the fresh produce supply chain as methods of communication and distribution become more sophisticated, complex and interconnected. Artificial intelligence, for example, could render some of our most established business practices redundant. Farmstead, a new startup launched in San Francisco last month, says it will reinvent the supermarket model and bypass real stores by using automated, analytical technology to manage food delivery from farm to fridge within the space of an hour. Faced with such radical future developments, the question most in the fresh produce industry are asking is: what must we do differently as a result? Every day, we are faced with a steady stream of new ideas and innovations, but which of these require immediate further investigation and which should be filed away for later? One of the strengths of FRUIT LOGISTICA, the leading global trade fair for the fresh produce business, is that it brings together a vast array of experts who offer valuable advice on such


SHOW TIMES

หนึง่ ในจุดแข็งของ FRUIT LOGISTICA งานแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรมผักและผลไม้สด ชั้นน�ำของโลกก็คือการเป็นเวทีระดับโลกที่น�ำผู้เชี่ยวชาญผู้มากด้วยค�ำแนะน�ำอันมีคุณค่าใน ธุรกิจดังกล่าวมารวมไว้มากที่สุด และถ่ายทอดผ่านเวทีกิจกรรม “Fruitnet World of Fresh Ideas” น�ำเสนอเทรนด์และนวัตกรรมในธุรกิจผักและผลไม้สดล่าสุดจากทั่วโลก ไปจนถึง เวทีสัมมนาวิชาการ “Fresh Produce Forum” มุ่งเน้นตอบโจทย์ด้านความท้าทายที่ส�ำคัญ ของอุตสาหกรรมผักและผลไม้สด เรียกได้ว่างานแสดงสินค้า FRUIT LOGISTICA จะเป็น ใบเบิกทางและเป็นค�ำตอบที่ใช่ให้กับการด�ำเนินธุรกิจผักและผลไม้สดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี “Future Lab” เวทีน�ำเสนอสุดยอดเทรนด์แห่งสินค้าและการบริการ ทีน่ า่ สนใจจากเหล่าผูผ้ ลิต นอกจากนี้ ผูเ้ ข้าร่วมชมงานยังจะได้เรียนรูเ้ กีย่ วกับการพัฒนาในระบบ โลจิสติกส์ห้องเย็นไปกับโซน “Logistics Hub” และติดตามเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้ในเวที “Tech Stage” ปิดท้ายด้วยการเข้าร่วมงานประชุมวิชาการ “Frutic Symposium” ที่จะว่ากัน ด้วยเรื่องของการใช้น�้ำให้เหมาะสมต่อห่วงโซ่การผลิตผักและผลไม้สด

developments. From its annual curtain-raiser “Fruitnet World of Fresh Ideas”, which presents the latest trends and newest innovations in the world of fresh produce, to the “Fresh Produce Forum”, which addresses a series of key challenges facing the industry, FRUIT LOGISTICA’s programme of events is your fast-track to finding the right answers. There is also the “Future Lab”, where the industry’s brightest minds highlight some of the most interesting products, services and trends in their conceptual stage. Plus you can learn about new developments in cold chain logistics at the “Logistics Hub”; see tomorrow’s technology in action today at the “Tech Stage”; and stop by the “Frutic Symposium” to hear how water use is being optimised in the fresh produce supply chain.

Further information, please kindly visit www.fruitlogistica.de/en

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

69


SHOW TIMES

2,900+ Exhibitors from 40 + Countries 300,000+ Visitors in 16 Halls on 300,000 Sq.m. Venue Pre Show

China Food and Drink Fair Spring 2018 (CFDF)

The first trade show in China food industry, the seize fastest growing 2nd & 3rd tier market and explore sub-channels 22 -24 March 2018 @ Western China International Expo Center, Chengdu, China กลับมาอีกครั้งเป็นครั้งที่ 98 ส�ำหรับงาน China Food and Drink Fair Spring 2018 (CFDF) งานแสดงสินค้าด้านอาหารและเครื่องดื่มส�ำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและ เครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุด ณ เมืองเฉินตู ประเทศจีน โดยภายในงานผู้เข้าร่วม งานจะได้พบกับการต่อยอดธุรกิจกับผูเ้ ชีย่ วชาญในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารและเครือ่ งดืม่ ไปจนถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการผลิตของภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครือ่ งดืม่ ครั้งส�ำคัญ อาทิเช่น สารให้ความหวาน เครื่องจักรแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ สินค้าแปรรูป และนวัตกรรมการผลิตเครื่องปรุงรส ฯลฯ สถานที่ใหม่ ใหญ่และดีกว่าเดิม CFDF Spring 2018 จะจัดขึ้นที่ Western China International Expo Center ที่มีพื้นที่จัดงานกว่า 300,000 ตร.ม. มากกว่าสถานที่เดิม ถึงกว่าเท่าตัว พร้อมรองรับการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมส่วนผสมอาหารและ เครือ่ งดืม่ ชัน้ น�ำจากกว่า 40 ประเทศทัว่ ทุกมุมโลก แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนือ่ ง และยังสะท้อนการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในจีนและรวมถึง ภูมิภาคเอเชียด้วย คว้าโอกาสเพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดแดนมังกร งานแสดงสินค้า CFDF Spring 2018 จะ เป็นเวทีสำ� คัญทีจ่ ะน�ำทางผูป้ ระกอบการไทยทีต่ อ้ งการเปิดตลาดในตลาดจีน เพราะถือว่า เป็นงานที่ท่านจะได้พบกับคู่ค้ารายใหญ่ทั้งจากจีนและกลุ่มประเทศในเอเชีย อีกทั้งยังมี การจัดท�ำ Business matching ให้กับกลุ่มผู้ค้าในธุรกิจเดียวกัน ทั้งนี้ เมืองเฉินตูนั้นเป็น เมืองศูนย์กลางการค้าที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดเมืองหนึ่งของจีน และมี ศักยภาพโดดเด่นและน่าจับตามองอย่างยิ่ง แหล่งความรู้และเทรนด์ใหม่ๆ งาน CFDF Spring 2018 เป็นงานที่จะรวบรวม ความรู้ทางอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม จะน�ำคุณไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ เพราะ มีสินค้าที่หลากหลายตอบรับความต้องการทุกรูปแบบ อีกทั้งเฉินตูเป็นเมืองอันดับ 1 ของ กลุม่ เมืองใหม่ในจีนประจ�ำปี 2559 ทีม่ ศี กั ยภาพโดดเด่นและน่าจับตามองทีส่ ดุ จัดอันดับ โดย “CBNweekly” สื่อชั้นน�ำด้านการเงินและเศรษฐกิจของจีน

Come back for the 98th China Food and Drink Fair Spring 2018 (CFDF), the largest and most comprehensive food and beverage trade show in Chengdu, China. At the event, visitors will be able to meet with greater business opportunities and experts in food and beverage industries, as well as latest technology and innovation of the food and beverage industry such as sweeteners, packaging and precessing machines, processed food, and innovation for seasoning productions and etc. New Place, Grander and Superior. CFDF Spring 2018 will be held at the Western China International Expo Center covering more than 300,000 square meters, which is larger by one fold compared to the previous venue. The venue will be showcasing innovative technology for food ingredients and beverage from over 40 countries around the global. This event has greatly reflected the strongly growth of food and beverage industry in China and Asia region. Take the Opportunity to Penetrate the Dragon Market. CFDF Spring 2018 is also an important platform for Thai entrepreneurs who want to penetrate China market as CFDF is the venue to lead you to meet with leading Chinese trading partners as well as Asian traders. There will also a business matching activity for traders in the same business. Moreover, Chengdu is one of the most commercially viable cities in China, with great potential and very interesting. Source of Knowledge and New Trends. CFDF Spring 2018 is gathering knowledge about food and beverage industry. It will lead you to a new age industry since it has a wide range of products to meet all demands. Additionally, as in 2016, Chengdu is the number one city among the new emerging cities in China as the most interesting city and remarkable potential city ranked by “CBNweekly”, a leading media on finance and economy of China.

For more information on participating and visiting CFDF Spring 2018, please contact BLI (Thailand) via Tel. +66 2204 2580, E-mail at kanokwan@blithailand.com, or visit www.cfdf.org 70

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017


SURROUNDS Organizational Resilience in the Food Industry From Risk to Opportunity Become a More Resilient, Successful Food Business

กรุงเทพฯ - BSI จับมือกับ Food Industry Asia (FIA) จัดการประชุม ร ะ ดั บ ภู มิ ภ า ค ใ น หั ว ข ้ อ “Organizational Resilience in the Food Industry - From Risk to Opportunity” ขึ้ น ณ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท เพื่อกระตุ้น ความคิดในประเด็นส�ำคัญเกีย่ วกับ อุตสาหกรรมอาหารในปัจจุบัน ซึ่ง ในงานนี้เหล่าวิทยากรจากแบรนด์ อาหารชั้นน�ำและหน่วยงานต่างๆ ในอุ ต สาหกรรมอาหารได้ ร ่ ว ม แบ่งปันประสบการณ์ ความท้าทาย ทีส่ ามารถฝ่าฟันมาและวิธปี ฏิบตั ทิ ี่ เป็ น เลิ ศ ที่ ไ ด้ น� ำ ไปสู ่ ก ารปฏิ บั ติ ได้จริง เพือ่ พัฒนาความยืดหยุน่ ขององค์กรในภาวะแวดล้อมทางธุรกิจทีซ่ บั ซ้อน ในปัจจุบันนี้ นอกเหนือจากนี้ผู้เข้าร่วมการประชุมยังมีโอกาสในการสร้าง เครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารอีกด้วย Bangkok - Discover how Organizational Resilience can help your food business turn operational, information security and supply chain risks into opportunities to gain competitive advantage. This unique innovative event; Organizational Resilience in the Food Industry - From Risk to Opportunity organized by BSI and Food Industry Asia (FIA) brings together high-profile speakers from food brands, retail and government to discuss the challenges facing our fast-moving sector and how to overcome them to drive competitive advantage. In addition, participants would have the chance to network with experts in the food industry. www.bsigroup.com/en-th

Aromatech Thailand Open House Unveiled its New Full Option Plant in Thailand

ส มุ ท ร ป ร า ก า ร , 18 ตุ ล าคม 2560 บ ริ ษั ท อ ะ โ ร ม า เ ท ค เฟลเวอร์ จ� ำ กั ด กลุ ่ ม บริ ษั ท ผลิ ต สารปรุ ง แต่ ง กลิ่ น รสในอาหารจาก ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก่อตั้ง ขึ้ น ในปี พ.ศ. 2546 ใ น ก รุ ง เ ท พ ม ห า น ค ร มี ค วามยิ น ดี เ ปิ ด บ้ า น น� ำ เสนอโรงงานผลิ ต แห่ ง ใหม่ ข นาด 1,500 ตร.ม. ในพื้ น ที่ จั ง หวั ด สมุทรปราการ โดยโรงงาน แห่งใหม่นมี้ กี ำ� ลังการผลิต สูงสุดถึง 500 ตันต่อปี เพือ่ สร้างฐานผลิตสารปรุงแต่งกลิน่ รสในอาหารทัง้ แบบ ของเหลวและชนิดผงเพือ่ ป้อนสูต่ ลาดในภูมภิ าคเอเชียแปซิฟกิ และตอบสนอง ความต้องการของผู้ผลิตและตลาดกลิ่นปรุงแต่งที่มีความหลากหลายและ ซับซ้อนมากขึ้นให้ดีที่สุด Samut Prakan, 18 October 2017 - The French Group Aromatech is pleased to present its new production facility in Samut Prakan, Thailand. 1500 m² dedicated to powder and liquid flavours in Asia - Pacific. Aromatech Flavours Co., Ltd. has been based in Bangkok since 2003. After several months of work, Aromatech Thailand is now able to produce 500 T/year. The facility will create, produce and sell the best food flavours to meet customers’ needs and market requirements. www.aromatech.fr

Mettler-Toledo Seminar on Thermal Analysis Course: The Advanced Analysis – Full Range Study of Polymer Characterization

ปทุมธานี, 19 ตุลาคม 2560 - บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จ�ำกัด ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) จัดงานสัมมนาวิชาการ หัวข้อ “Thermal Analysis Course: The Advanced Analysis – Full Range Study of Polymer Characterization “ เกี่ยวกับเทคนิคการวิเคราะห์เชิงความร้อน โดยใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงของ TGA-GCMS และการวิเคราะห์คุณสมบัติทางกลด้วยเทคนิค Dynamic Mechanical Analyzer (DMA) ทั้งนี้ งานสัมมนามี จุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีพื้นฐาน และการศึกษาคุณสมบัติของพอลิเมอร์ พร้อมยังสามารถศึกษาชนิดของก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ พอลิเมอร์ได้อกี ด้วย การบรรยายสัมมนาครัง้ นีม้ ที มี งานผูเ้ ชีย่ วชาญจากเมทเล่อร์-โทเลโด เป็นผูบ้ รรยายและตอบข้อซักถามอย่างใกล้ชดิ พร้อมกันนีย้ งั ได้รบั เกียรติ จาก Mr.Nicolas Fedelich ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เชิงความร้อน จากเมทเล่อร์-โทเลโด สวิตเซอร์แลนด์ ร่วมเป็นวิทยากรรับเชิญ Pathum Thani, 19 October 2017 – Mettler-Toledo (Thailand) Limited in conjunction with MTEC held a seminar under the topic of “Thermal Analysis Course: The Advanced Analysis – Full Range Study of Polymer Characterization” which is lectured by experts from Mettler-Toledo (Thailand) Ltd. Along with Mr. Nicolas Fedelich, Application Specialist for Thermal Analysis of Mettler-Toledo AG as co-speaker. This seminar is aimed to expand the understanding of the advanced analysis of TGA-GCMS, and the analysis of mechanical properties via DMA. Additionally, it also aims to increase understanding of basic theories, apply examples of each technique, and read reading tips for accurate results. www.mt.com

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

71


SURROUNDS The Mighty Co., Ltd. - A New Company Name for the Mighty Group & Frutarom Partnerships

กรุงเทพฯ, 18 ตุลาคม 2560 - กลุ่มบริษัทไมท์ตี้ (ประกอบด้วย บริษัท ไมท์ตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จ�ำกัด และบริษัท มหาราช ฟู้ด จ�ำกัด) ผู้ผลิตเครื่องปรุงแต่งกลิ่นรสอาหารเชิงนวัตกรรมชั้นน�ำของประเทศไทย ได้ตกลงขายหุ้นและเพิ่มการลงทุนใน “เดอะไมท์ตี้” ให้แก่ บริษัท Frutarom ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่อยู่ภายใน สิบอันดับแรกบริษัทชั้นน�ำของโลกในอุตสาหกรรมเครื่องปรุงแต่งกลิ่นรส และองค์ประกอบอาหารที่มีคุณภาพสูง การเข้าซื้อหุ้นร่วมธุรกิจในครั้งนี้เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ “เดอะไมท์ตี้” และบริษัท Frutarom ใน ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดโลกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องปรุงแต่งกลิ่นรส ดร.วสันต์ รัตนานุภาพ คุณวัชรีกลุ รัตนานุภาพ รวมทัง้ ผูบ้ ริหารระดับสูงของ “เดอะไมท์ต”ี้ จะยังคงบริหารงาน ต่อไป ด้วยการสนับสนุนจาก Frutarom และท�ำให้ “เดอะไมท์ตี้” สามารถด�ำเนินธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยังได้เพิ่มความแข็งแกร่งด้านวิทยาการการพัฒนาสินค้าและการตลาดเพื่อส่งมอบเครื่องปรุงแต่งกลิ่นรส อาหารที่มีคุณภาพสูงไปสู่ลูกค้าทั่วโลก Bangkok, 18 October 2017 - Mighty Group (incorporating Mighty International Co., Ltd. and Maharaj Food Co., Ltd.), Thailand’s leading producer of fine flavours and savory solutions, has signed an agreement to sell the shares in The Mighty to Frutarom, one of the world’s top 10 largest company in the field of flavours and natural specialty fine ingredients. The acquisition strengthens Frutarom’s and The Mighty’s position in the growing emerging markets of Southeast Asia to a leading global standing in savory solutions. Dr.Vasan Rattananupap, Mrs.Watchareekul Rattananupap and The Mighty’s senior management team will continue managing The Mighty, with additional support from Frutarom to develop manufacture and market the extensive varieties of high quality flavours, fine ingredients and savory taste solutions for customers in global market. www.mighty.co.th

Faculty of Agro-Industry KU hosted The 8th Shelf Life International Meeting (SLIM 2017) in Bangkok

กรุงเทพฯ, 1-3 พฤศจิกายน 2560 - การประชุมวิชาการระดับนานาชาติครั้งที่ 8 หรือ The 8th Shelf Life International Meeting (SLIM 2017) ทีจ่ ดั ขึน้ ณ โรงแรมสุโกศล ด้วยวัตถุประสงค์ทจี่ ะเป็นเวทีในระดับนานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและข้อมูลด้านการยืดอายุและการเก็บรักษาอาหาร โดยการประชุม ครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร และภาควิชาเทคโนโลยี การบรรจุและวัสดุ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับ Italian Scientific Group of Food Packaging (GSICA) และ ISEKI-Food Association (IFA) ภายใต้ธีม “เทรนด์ใหม่ของเทคโนโลยีและ บรรจุภัณฑ์ด้านอาหาร เพื่อการยืดอายุการเก็บรักษาและพัฒนาความยั่งยืน” (Emerging Trends in Food Technology and Packaging for Shelf-life Extension and Sustainability Improvement) โดยมีวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในสายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาอาหารให้เกียรติร่วมบรรยายอย่าง คับคั่ง นอกจากนี้ยังมีการน�ำเสนอผลงานกว่า 100 ชิ้น ทั้งในรูปแบบการบรรยายและจัดแสดงโปสเตอร์ เชิงเทคนิคมากมายเกี่ยวกับอายุการเก็บรักษาอาหารภายในการประชุมสัมมนาด้วย ทั้งนี้ งานประชุมและ สัมมนานี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 200 ท่านจากหลายประเทศ เช่น ไทย อิตาลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย Bangkok, 1-3 November 2017 - The 8th Shelf Life International Meeting (SLIM 2017) was held at the Sukosol Hotel. The aim of this conference is to be an international forum to share the most recent knowledge related to shelf life of food. This conference is hosted by Department of Food Science & Technology and Department of Packaging & Materials Technology, Faculty of Agro-Industry, Kasetsart University, in collaboration with The Italian Scientific Group of Food Packaging (GSICA) and ISEKI-Food Association (IFA). The theme for SLIM 2017 is “Emerging Trends in Food Technology and Packaging for Shelf-life Extension and Sustainability Improvement". The meeting was joined by 8 honored key speakers who are experts in different areas related to shelf life of food. Also, more than one hundred presentations both oral and poster concerning to shelf life of food were presented and displayed during the meeting. The event was interested by more than 200 participants from many countries including Thaliand, Italy, Japan, France, Korea, Australia, USA, Cambodia, Vietnam and Malaysia. www.slim2017.org, www.agro.ku.ac.th

72

FOOD FOCUS THAILAND

DEC 2017


SURROUNDS SGS (Thailand) Limited Certifies Sang Thong Canvas Awning Co., Ltd. to Get ISO 9001:2015 for Quality Management Systems

กรุงเทพฯ - คุณสิรินทร์ สินิทธานนท์ (จากซ้าย) ฝ่ายรับรองระบบงาน แผนกการรับรองระบบและพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จ�ำกัด ร่วมแสดงความยินดีและมอบใบรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ ให้แก่ คุณฐานุพงศ์ วุฒิอารีย์ชัย (ขวา) กรรมการผู้จัดการ และเป็นตัวแทนรับมอบจาก บริษัท แสงทองผ้าใบ กันสาด จ�ำกัด ทั้งนี้ มาตรฐาน ISO 9001:2015 คือมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพสากล และเป็นส่วนประกอบ ส�ำคัญที่จะน�ำพาองค์กรให้สามารถพัฒนาระบบได้อย่างมีคุณภาพอย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างความน่าเชื่อถือ และยังเป็นเครื่องมือที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ ความมั่นใจให้กับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพ การด�ำเนินการขององค์กรให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย Bangkok - Recently, Mr. Sirin Sinithanon (Left), Certification Manager of SGS (Thailand) Limited pleased to announce that it has certified Sang Thong Canvas Awning Co., Ltd. for international standard ISO 9001:2015 Quality Management System. Mr. Thanupong Wutthiareechai (Right), Executive Director and representative of Sang Thong Canvas Awning Co., Ltd. was responsible for the accreditation. The award of certification represents to compliance with the highest standards of quality.

The Opening Ceremony for Yamamori R&D Center at Food Innopolis

All the requirements of ISO 9001:2015 are generic and are intended to be applicable to any organization to be more efficient and improve quality management systems. It enhanced customer satisfaction by meeting customer requirements and increased the productivity of organization. www.sgs.co.th

Packaging Development in Japan

กรุ ง เทพฯ – ภาควิ ช าเทคโนโลยี ก ารพิ ม พ์ แ ละบรรจุ ภั ณ ฑ์ มหาวิ ทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมกับ สาขาวิชา ปทุมธานี, 8 พฤศจิกายน 2560 - กลุ่มบริษัท วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ยามาโมริ ผู ้ ผ ลิ ต และจั ด จ� ำ หน่ า ยซอสถั่ ว เหลื อ ง จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “เรียนรูก้ ารพัฒนาบรรจุภณ ั ฑ์จากญีป่ นุ่ ” ซอสปรุงรส และอาหารส�ำเร็จรูปบรรจุถุงรีทอร์ท ณ ห้องประชุมจ�ำรัส ฉายะพงศ์ ชั้น 2 อาคารเรียนรวม 2 (CB2) จั ด งานเปิ ด ตั ว ศู น ย์ วิ จั ย และพั ฒ นาผลิ ต ภั ณ ฑ์ มหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี พ ระจอมเกล้ า ธนบุ รี โดยได้ รั บ ทุ น “Yamamori R&D Center” ขึ้นที่เมืองนวัตกรรมสนับสนุนจากมูลนิธิเงินทุนงานแสดงการพิมพ์แห่งประเทศไทย อาหาร (Food Innopolis) ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย มร.โอซามุ ฟูกาดะ กรรมการบริหาร บริษัท ยามาโมริ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า การเปิด และมูลนิธิศาสตราจารย์ก�ำธร สถิรกุล และได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศูนย์วิจัยฯ ในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงศักยภาพของบริษัทฯ ในการเป็นผู้น�ำด้านการผลิตซอสถั่วเหลือง ศาสตราจารย์อรสา จิรภิญโญ และอาจารย์มยุรี ภาคล�ำเจียก ั ฑ์ไทย ร่วมบรรยาย ญี่ปุ่น (โชยุ) และซอสปรุงรสรายใหญ่ในประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทีป่ รึกษาและผูเ้ ชีย่ วชาญ สมาคมการบรรจุภณ ทั้งโรงงาน ร้านอาหารญี่ปุ่น และก�ำลังจะพัฒนาซอสและซีอิ๊วสูตรใหม่ๆ มาวางจ�ำหน่าย Bangkok – Department of Printing and Packaging Technology, King Mongkut’s University of Technology โดยได้รับการสนับสนุนจากเมืองนวัตกรรมอาหาร (KMUTT) and School of Science and Technology, ด้าน มร.มาซาฮีโร่ อาโอกิ ผู้อ�ำนวยการบริหาร บริษัท ยามาโมริ กล่าวว่า บริษัทยามาโมริก่อตั้ง Thonburi Sukhothai Thammathirat Open University jointly organized และเติบโตในเมืองไทยมาเป็นเวลา 22 ปี ผลิตและจ�ำหน่ายซอสและซีอิ๊วญี่ปุ่นในแบรนด์ของ the seminar under the topic of “Packaging Development ยามาโมริมาตลอด นอกจากนีย้ งั แตกไลน์พฒ ั นาเป็นอาหารส�ำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆ in Japan” at Chamras Chayapong Meeting Room, 2 Floor, CB2, KMUTT. The speakers include Assistant ครอบคลุมทุกไลน์การผลิต Orrasa Jirapinyo and Ms. Mayuree Paklamjiak, “ในอนาคต บริษัทฯ มีนโยบาย ยามาโมริ 4.0 เตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อเจาะตลาด Professor the expert of the Thai Packaging Association. เออีซี และส่งออกไปขายในญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับการพัฒนาสูตรใหม่” nd

Pathum Thani, 8 November 2017 - Yamamori Trading Co., Ltd. has announced the opening ceremony for Yamamori R&D Center at Food Innopolis where located in Thailand Science Park. Mr.Osamu Fukada, Executive Director of Yamamori Inc, Japan has said that this center will show company’s potential and leader of Japanese soy sauce in Thailand. The company plans to conduct research and development activities to create new products for all customer’s needs. Mr.Masahiro Aoki, Executive Director of Yamamori Trading, Thailand has said that Yamamori has been selling soy sauce in Thailand for 22 years. Moreover, the company has created products that cover all production lines of Japanese soy sauce. “In the future, our company have vision of Yamamori 4.0 to prepare product development for marketing in ASEAN market and exporting to Japan, including Thai and Japanese food.” www.yamamoritrading.com

www.prt.kmutt.ac.th, http://scitech.stou.ac.th

DEC 2017

FOOD FOCUS THAILAND

73


December

U SHARE. V CARE.

2017

Let us know which articles you interested in, please inform Should you have any enquiries, please inform us the service info code (s) Advertisement

B

B

B

B

Article

C

C

C

C

Product

P

P

P

P

Please share your comment with us!

Please fill in the form in ENGLISH Name-Surname: Position:

Gift Voucher Central worth THB500 (Only 2 Lucky Winners)

Company Name: Company Address:

Tel: Fax: E-mail:

Note: This picture is for advertising only.

Website:

We look forward to your feedback and suggestions. editor@foodfocusthailand.com, contact@foodfocusthailand.com +66 2116 5732

The winner of U. Share V. Care in OCTOBER 2017 1. Jitra Laokamol R&D Manager FB Foodservice (2017) Ltd. 2. Siriluck Ladkruea Owner Chailucksiri Group

The gift will be delivered to you by post. Thank you.

Gift Voucher The Mall/Emporium/Paragon worth THB500


“From conception to implementation”

Understanding >> Accessing >> Developing

For the processes of Foods, Pharmaceuticals, Beverages, Cosmetics, Feed mills, Petrochemicals, Plastic and other type of processes. 3 Powder Process 3 Piping Service 3 Process Machine

3 Fabrication 3 Utility 3 Automation

Fabrication

Powder Process

Cup Sealing Machine

Evapor®

Piping Service & Utility

Dhawath Technology Systems Co., Ltd.

SoliValve®

Process Machine

“Help You to Feed the World”

2 Moo. 3 Lumlukka, Lumlukka, Pathumthani 12150 Tel: +662 5495508 Fax: +662 5495500 E-mail: Sales@dhawathsystems.co.th www.dhawathsystems.co.th www.facebook.com/dhawathsystems ad_Dhawat_May.indd 19

8/19/17 9:34 AM


ad_Brenntag.pdf

C

M

Y

CM

MY

CY

CMY

K

1

11/17/17

3:42 PM


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.