ในพื้นที่ทับซ้อนของความทรงจำ โดย บาสเต็ท [ทดลองอ่าน]

Page 1



แด่ เหน่ และ กง


ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ผมรู้จักบาสเต็ทครั้งแรกในพื้นที่โซเชียลผ่านงานเขียนบน เว็บไซต์เล่าเรื่องแห่งหนึ่ง ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาหรือเคยพูดคุยด้วย แต่ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้อ่าน 1 ปีก่อน เฉกเช่นปกติเหมือนทุกวัน ผมหาอะไรแก้เบื่อด้วยการอ่านบทความตามสื่อโซเชียล ต่างๆ ก่อนจะสะดุดตากับบทความเรือ่ งหนึง่ ซึง่ ถูกแชร์ลงในแฟนเพจ หลักของเว็บไซต์เล่าเรื่องที่ผมติดตามอยู่ ‘เราต่างก็มีความรู้สึก’ ชื่อบทความและรูปภาพโชว์หรา ในหน้าแฟนเพจ พร้อมเนื้อหาบางส่วนที่ถูกหยิบยกมาให้อ่าน ผม ตามลิงค์เข้าไปอย่างสนใจใคร่รเู้ รือ่ งราวทัง้ หมด ไล่อา่ นตัง้ แต่บรรทัด แรกจนถึงบรรทัดสุดท้ายโดยไม่วางตา งานเขียนของบาสเต็ทมีเสน่ห์ ชวนหลงใหลอย่างน่าประหลาด ตลอดการอ่านผมสัมผัสได้ถงึ อารมณ์ ความรู้สึกที่ส่งผ่าน ส�ำนวนที่ลื่นไหลภาษาที่สวยงามถูกเรียบเรียง ให้กระชับและอ่านง่าย โลกกลมกว่าที่คิด เมื่อเพื่อนสนิทซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงาน บอกว่ารู้จักเจ้าของงานเขียนชิ้นนี้ ผมรู้สึกทึ่งเมื่อทราบว่าเขาเองก็ รุ่นราวคราวเดียวกัน นอกจากนั้นเขายังชื่นชอบการเขียนกวีสาม บรรทัดและมีแฟนเพจที่มีผู้ติดตามอยู่หลักหมื่น แรกเริ่มผมเพียง


กดถูกใจและแสดงความเห็นชืน่ ชมในฐานะนักอ่าน ก่อนจะท�ำความรูจ้ ัก ในฐานะเพือ่ น พร้อมค่อยๆ หว่านล้อมชักชวนให้นำ� งานเขียนมารวม เล่มเป็นหนังสือ เราใช้เวลากันอยู่พักใหญ่ในการพูดคุยและเตรียม งาน จนในที่สุดก็ออกมาเป็นรูปเล่ม ‘ในพื้นที่ทับซ้อนของความทรงจ�ำ’ เป็นหนังสือที่เต็มไป ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย บาสเต็ทท�ำให้ผมตระหนักรู้ว่าในทุกๆ พื้นที่ของชีวิต ต่างเต็มไปด้วยความทรงจ�ำที่อาจซ้อนทับกันโดยที่ เราไม่ทันได้สังเกต ผมเองก็หวังไว้ว่าหนังสือเล่มนี้ จะสะกิดความทรงจ�ำใน พื้นที่ทับซ้อนของคุณเช่นกัน

ภูริทัต แสงล�้ำ

บรรณาธิการเล่ม


ค�ำน�ำนักเขียน ในพื้นที่หนึ่ง... เป็นพืน้ ทีเ่ ล็กๆ ขนาดหนึง่ ก�ำมือ มีเรือ่ งราวมากมายเกิดขึน้ ให้สนั่ ไหวภายในนัน้ มวลบรรยากาศเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา บางครัง้ อากาศสดใสดัง่ แสงแรกของยามเช้า ต้นไม้ใบหญ้าตืน่ จากพรมน�ำ้ ค้าง ชูคอต้อนรับความอบอุน่ ด้วยความเบิกบาน บางครัง้ อากาศแปรปรวน เฉกเช่นมรสุมลูกใหญ่ ฟ้ามืดครึ้มกลืนกินแสงของความสดใส พายุ ลูกแล้วลูกเล่าพัดครืนๆ ณ พื้นที่แห่งนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ตราบใดที่ยังมีความรู้สึก ในพื้นที่หนึ่ง...พื้นที่เดิม ปฏิทินเปลี่ยนหน้าแล้วเปลี่ยนหน้าเล่า เรื่องราวในพื้นที่ นั้นมีเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา พื้นที่ขนาดหนึ่งก�ำมืออัดแน่นไปด้วย เหตุการณ์ฝังรากลึก พร้อมกันนั้นมีบางเรื่องราวที่หล่นหายไปด้วย ความไม่ส�ำคัญ พื้นที่แห่งนั้นยังคงด�ำรงอยู่ได้เพราะการเคลื่อนไหว ของชีวิต เรียกเรื่องราวเหล่านั้นว่าความทรงจ�ำ คนหนึ่งคน...เต็มไปด้วยความทรงจ�ำ ชีวติ คือการเดินทางไกลประเภทหนึง่ แม้เราจะนัง่ หลังตรง ติดกับพนักพิงเก้าอีท้ ที่ ำ� งาน หรือจะนอนคุดคูใ้ ต้ผา้ ห่มในเช้าวันจันทร์


ณ ปัจจุบันขณะภายในก�ำลังเดินทางตลอดเวลา และขณะนั้นเอง เมื่อมีเหตุการณ์ใดส่งผลให้ความรู้สึกสั่นไหว ความคิดเริ่มท�ำงาน จะร้ายที่สุดหรือดีที่สุด เราจดจ�ำมันไว้ ฝังลึกลงไปภายในจิตใจ วันแล้ววันเล่าเราทุกคนผ่านเหตุการณ์มากมาย แล้วพืน้ ทีห่ นึง่ ก�ำมือ จะท�ำเช่นไรให้บรรจุทุกอย่างลงไปได้ นอกเสียจากเกิดการทับซ้อน สถานที่หนึ่ง เราอาจเคยมาคนเดียว กระทั่งปีต่อมา ได้ จับมือเคียงข้างมากับใครสักคน ก่อนหลายปีให้หลังอาจจะมากับ ใครคนเดิม...หรือจะเป็นคนละคน หรือสุดท้ายเราอาจจะมาคนเดียว เช่นครั้งแรก เพียงเท่านี้หนึ่งสถานที่ก็เกิดการทับซ้อนความทรงจ�ำ เสียแล้ว กาแฟแก้วนั้นเคยดื่มมันอย่างละเมียด ใช้ก้นแก้วที่เปรอะ เปื้อนคราบกาแฟทับลงไปที่สมุดหน้าหนึ่งพร้อมบันทึกบางสิ่งที่ พิเศษลงไป แล้วก็เป็นกาแฟแก้วนั้นที่เราใช้ทับมันกับสมุดเล่มใหม่ พร้อมเขียนสิ่งที่พิเศษสิ่งใหม่ลงไป...ทุกอย่างเหมือนเดิม เพียงแค่ ต่างเรื่องราวและบุคคล เป็นเรื่องปกติราวใบไม้ร่วงจากต้นเพื่อผลิใบสีเขียวชอุ่ม ขึ้นใหม่ แล้วใบสีเขียวเหล่านั้นก็ร่วงหล่นเพื่อผลิใบรุ่นต่อไป พืน้ ทีข่ นาดหนึง่ ก�ำมือ มีการทับซ้อนเหตุการณ์เกิดขึน้ เสมอ

บาสเต็ท


สารบัญ

เราต่างก็มีความรู้สึก บ้าน หงุญหงิญกับคุณยายชาปั่น คนรักของนัก(อยาก)เขียน ชีวิตก็เท่านี้ Uncontrollable But are we all lost stars ด้วยค�ำที่บอกว่าเราจะมาพบกันใหม่ วันที่กงป่วย วันที่เอเวอเรสต์น่าเบื่อ ในพื้นที่ทับซ้อนของความทรงจ�ำ

8 14 22 30 36 42 48 56 62 70 76


จดหมายจากท้องฟ้า หล่น | หาย รอยเท้า ระหว่างทางสายหนึ่ง You know nothing, me too. In a Relationship เกิดขึ้นแล้ว, ดีเสมอ

82 90 96 102 110 116 122

[ ในพื้นที่พิเศษ ] Someday ฉันจะฝันถึงเธอ

132 138


เราต่างก็มีความรู้สึก


9 |

1 ค�่ำวันหนึ่งในเดือนสิงหาคม ผมติดต่อเพื่อนผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ใจความบทสนทนาผมมีความจ�ำเป็นที่จะต้องไปจัดการธุระส่วนตัวที่ต่างจังหวัด จึงขอ ให้เพือ่ นเป็นธุระเรือ่ งขับรถให้ เพือ่ นตอบรับง่ายดาย พร้อมกับเปรย ออกมาว่าดีเหมือนกัน หาอะไรท�ำบ้าง ช่วงนี้เหงา สาเหตุเพราะ เพิ่งเลิกกับแฟน ถ้าไม่ได้ติดต่อไปก็คงไม่รู้ว่าเขาเพิ่งประสบเหตุทาง หัวใจ ตอนแรกควรจะมี แ ค่ ผ มและเพื่ อ นที่ เ พิ่ ง บอบช�้ ำ ทาง ความรักเดินทางกันเพียงสองคน แต่ก่อนหน้าวันที่จะไป มีเพื่อนอีก หนึ่งคนติดต่อมาพอดี ผมจึงชวนเขามาด้วย เขาตอบรับทันที เราอยู่บนรถกันสามคน มุ่งหน้าสู่หัวหิน สองคนนี้เป็น บาสเต็ท


| 10

เพื่อนที่ผมสนิทมาตั้งแต่มอปลาย ระดับความกดดันภายในรถจึง เป็นศูนย์ ไม่จ�ำเป็นต้องหยิบเรื่องดีๆ มีสาระมาเป็นหัวข้อสนทนา ใครนึกอยากจะคุยอะไรก็เปิดประเด็นขึน้ มาได้เลย ทีเ่ หลือเป็นหน้าที่ ของความเป็นกันเองในหมู่เพื่อน ระหว่างทางบทสนทนามากมายพรั่งพรูออกมา มีเสียง หัวเราะไม่ขาดสาย เป็นการเดินทางที่มีความสุขส�ำหรับผม เพื่อน อีกสองคนคงคิดไม่ต่างกัน ผมเฝ้าสังเกตเพื่อนที่เพิ่งเลิกกับแฟนอยู่เงียบๆ ท่าทีใน วันนี้ไม่เหมือนคนที่เพิ่งประสบปัญหาความรักมาแม้แต่น้อย ย้อนกลับไปเมื่อคืน “ตอนนี้กูโคตรว้าเหว่เลย” คบกันมาหลายปี ผมเพิ่งเคย ได้ยินประโยคนี้จากเพื่อน เพิ่งเคยได้ยินจริงๆ รักครั้งก่อนๆ เมื่อจบ ลงมันไม่เคยเป็นอย่างนีเ้ ลย ครัง้ นีค้ งสาหัสเกินทีม่ นั จะปล่อยผ่านได้ เมื่อได้รู้ว่าพวกเขาเลิกกัน ผมค่อนข้างตกใจ เพราะเท่าที่ รู้จักกันมา ผมเห็นทั้งสองรักกันดี ไม่เคยเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันถึงขั้น รุนแรง สรุปตามที่ผมคิด เห็นว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน ระยะเวลาที่ คบกันนานพอสมควร นานพอทีฝ่ า่ ยใดฝ่ายหนึง่ ไม่สามารถพิจารณา แยกทางได้อย่างปุบปับ ผมเชื่ออย่างนั้น คงต้องมีสาเหตุ ทุกเรื่อง ย่อมมีความเป็นไปของมัน จากการสนทนากัน สิ่งที่ท�ำให้เพื่อนต้องแยกทางกับแฟน สาเหตุหลักยังคงเป็นเรื่องของเวลาและการเอาใจใส่ที่น้อยเกินไป ท�ำให้ความรักต้องสัน่ คลอน แม้จะใช้เวลาร่วมกันมานานสักเท่าไหร่ เมื่อต้องสิ้นสุดความสัมพันธ์ มักจบด้วยสาเหตุท�ำนองนี้ทุกที ในพื้นที่ทับซ้อนของความทรงจ�ำ


11 |

2 หลังท�ำธุระของผมเรียบร้อย พวกเราปล่อยความรู้สึกให้ ไหลเวียนไปกับหัวหิน ไม่มีแผนการชัดเจน มีเพียงการพูดคุยกัน ระหว่างทาง ที่ไหนน่าสนใจค่อยแวะไป พวกเราไปกันหลายที่ ไหว้พระวัดขึ้นชื่อของหัวหิน เดิน เที่ยววานิชเมืองไทย - สโลแกนเขาว่าอย่างนั้น เก็บบรรยากาศที่ ฟาร์มแกะ เดินเล่นริมชายหาด ถ่ายรูปกับชานชาลาสถานีรถไฟ รับ ลมเบาๆ ย�่ำทรายและน�้ำทะเลให้เท้าทั้งสองชุ่มฉ�่ำ ให้ความเย็นจาก เบื้องล่างส่งขึ้นมาชโลมหัวใจ ท่ามกลางสังคมที่เต็มไปด้วยภาระหน้าที่ การได้มาปล่อย ใจและความรู้สึกถือเป็นเรื่องดี เชื่อว่าคงมีใครหลายคนที่คิดอยาก หนีออกจากโลกใบนี้ไปอยู่ในที่แสนไกล แต่ท�ำไงได้ โลกก็มีอยู่ใบ เดียว ดาวดวงอื่นก็ไกลเกิน จนปัญญาจะเดินทางไป ท�ำได้ดีที่สุด หนีจากความเป็นจริงสักพัก วางความรู้สึกอันแสนหม่นหมอง กอง มันไว้ตรงนั้น แล้วหลบฉากออกมาสู่โลกใบใหม่ รับความรู้สึกใหม่ๆ ให้ชีวิตได้เบิกบานอีกครั้ง โลกใบใหม่ - โลกใบเดิม - โลกเดียวกัน ต่างกันที่ความรู้สึก สิ้นสุดการเดินทางที่หัวหิน เวลาของพวกเรายังไม่สิ้นสุด ตกเย็นเราไปจบกันที่ร้านหมูกระทะ นานทีปีหนจะได้เจอหน้ากัน กินมื้อเย็นร่วมกันสักหน่อย บรรยากาศบนโต๊ะเป็นไปด้วยความ เป็นกันเอง ค�ำพูดมากมายเรียงร้อยเป็นบทสนทนา หยอดมุกตลก สลับคุยเรื่องจริงจังในชีวิต ได้อรรถรสในการกินไม่น้อย รสชาติ บาสเต็ท


| 12

อาหารคงไม่ส�ำคัญเท่ารสชาติบรรยากาศ ค�่ำแล้ว ถึงเวลาอันสมควร สิ้นสุดจากตรงนี้ทุกชีวิตต่าง กลับไปโคจรตามเส้นทางทีค่ วรจะเป็นต่อไป หลังจากได้หยุดพักจาก โลกแห่งภาระหน้าที่มานานพอควร เรายืนกันอยู่หน้าร้านหมูกระทะ ผมตบบ่าบอกลาเพื่อน ทั้งสอง ก่อนจะปล่อยมุกตลกตบท้ายกันอีกสอง - สามมุก แล้วค่อย แยกย้ายกันจริงๆ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่เพราะจากลามิใช่หรือ ที่ท�ำ ให้คนเราได้พบกันอีกครั้ง 3 ผมกลับบ้านพร้อมความคิดบางอย่าง ยังสะกิดใจกับความ เศร้าหมองของเพื่อนที่ไม่ค่อยแสดงออกให้ใครเห็นง่ายๆ “กูไม่เคยร้องไห้ให้ใครหนักเท่านี้มาก่อนเลย อยู่บ้าน ร้องแม่งทั้งวัน” ประโยคที่เพื่อนพูดเมื่อวานยังก้องอยู่ในหัว... ไม่ได้ยกยอตัวเองจนเกินไป ผมคงเป็นที่ไว้ใจได้ในระดับ หนึ่งส�ำหรับเพื่อน เขาจึงระบายความรู้สึกให้ผมได้รับรู้ แม้จะไม่ ทุกอย่าง แต่ผมก็พอรู้อยู่ข้างในลึกๆ ว่าเขารู้สึกอย่างไร เจ้าตัวอาจ ไม่รู้ตัว แต่สายตาเขาบ่งบอกอย่างเด่นชัด ปั จ จุ บั น มี สื่ อ ที่ ท� ำ ให้ เราแสดงออกทางความรู ้ สึ ก ได้ มากมาย แม้อยู่กันคนละมุมโลกยังสามารถรับรู้และระบายออกได้ ทางตัวอักษร หรือจะเป็นภาพเคลือ่ นไหวให้อกี ฝ่ายได้เห็นหน้าค่าตา เห็นการแสดงท่าทีในแต่ละอารมณ์ ในพื้นที่ทับซ้อนของความทรงจ�ำ


13 |

การแสดงความรู้สึกท�ำได้ง่ายขึ้น ง่ายจนคนเราทุกวันนี้ท�ำ ความรู้สึกเล็กๆ ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ พลาดละครรอบดึก - ร้านอาหารเจ้าประจ�ำปิด - ตั๋วหนัง รอบที่อยากดูเต็ม - ทีมกีฬาที่ตนเชียร์แพ้ - ส่งชิงโชคไม่ได้รางวัล ซื้อของลดราคาไม่ทัน - ฯลฯ ในขณะที่เราแสดงความรู้สึกกันอย่างเปิดเผย ยังมีคน บางส่วนเลือกที่จะเก็บซ่อนสิ่งที่รู้สึกมากกว่าแสดงออก ท�ำให้เราไม่ สามารถรู้ได้เลยว่าเขาก�ำลังรู้สึกเช่นไรถ้าไม่ได้พูดคุยกับเขาโดยตรง ภูเขาน�้ำแข็งตั้งตระหง่านท่ามกลางมหาสมุทร มีเพียงแค่ ส่วนที่พ้นน�้ำให้ได้เห็น ไม่มีใครรู้ว่าใต้น�้ำยังมีภูเขาลูกใหญ่สักเพียง ไหนแอบซ่อนอยู่ ไม่มีวันรู้ จนกว่าจะมีใครสักคนเข้ามาส�ำรวจ หรือมันจะ ปรากฏตัวจากผิวน�้ำขึ้นมาเอง เราทุกคนต่างมีภูเขาน�้ำแข็งก้อนนั้น

บาสเต็ท


บ้าน


15 |

1 เช้าวันนั้นต่างออกไป โต๊ะกลางห้องรับแขกว่างเปล่า ปราศจากแก้วกาแฟสองใบ ที่ควรตั้งอยู่ ไม้กวาดหน้าบ้านแห้งสนิท ไม่มีคราบรอยเปียกจาก การใช้งาน โทรทัศน์หน้าบ้านนอนหลับเงียบๆ ไม่ปรากฏเสียงและ รูปภาพ ไม่มีธูปปักในกระถางที่ศาลพระภูมิหน้าบ้าน เป็นเช้าที่สงบ เกินความคุ้นชิน ปกติทุกเช้าก่อนไปท�ำงาน เมื่อตื่นมาจะเจอเหน่และกง (ยายกับตาของผมเป็นคนจีนไหหล�ำ เชื้อสายจีนได้มาจากพวกเขา การเรียกชื่อจึงเป็นไปตามภาษาบ้านเกิดทางฝั่งของพวกเขาด้วย ในภาษาจีนไหหล�ำ ‘เหน่’ หมายถึง ยาย ส่วนค�ำว่า ‘กง’ นัน้ หมายถึง ตา) ใช้ชีวิตประจ�ำวัน ตื่นเร็วหน่อยก็เห็นทั้งสองนั่งกินกาแฟกับ บาสเต็ท


| 16

ขนมปังกรอบ วันไหนตื่นช้าโต๊ะกลางห้องรับแขกจะว่างเปล่า เห็น อีกทีทั้งสองก็อยู่หน้าบ้านแล้ว กงกวาดลานหน้าบ้าน ให้อาหาร เจ้าสี่ขา เหน่เตรียมน�้ำชาถวายพระพุทธรูปในบ้านและศาลพระภูมิ เดินออกก�ำลังกายบริเวณหน้าบ้าน เมือ่ กงเสร็จภารกิจทุกอย่างก็จะ เริ่มเตรียมมื้อเช้า แล้วทั้งคู่จะนั่งกินข้าวด้วยกันพร้อมกับดูโทรทัศน์ ฟังข่าวสารบ้านเมือง ทั้งหมดนี้คือกิจกรรมยามเช้าของทั้งสอง เหน่ - กง หายไปไหน ถามจากพ่อได้ความว่าเหน่และกง ไปท�ำพาสปอร์ต ทั้งสองจะไปต่างประเทศ ผมแทบไม่เชือ่ หูตวั เอง คิดว่าตัวเองฟังผิด เท่าทีเ่ ป็นหลาน ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา เหน่และกงไม่เคยเลยที่อยากจะไปไหน ไกลๆ ไม่ตอ้ งต่างประเทศหรอก เอาแค่ตา่ งจังหวัดก็พอ นัง่ ยานพาหนะ นานๆ เหน่ก็บ่นปวดก้นปวดหลังแล้ว ไม่ใช่การเที่ยวซะทีเดียว ที่ทั้งสองจะบินไปต่างประเทศ คราวนี้ เพราะก�ำลังจะหวนคืนถิ่น กลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน กลับ ไปหาสถานที่เดิม ที่พวกเขาเคยจากมา 2 เหน่และกงเป็นคนจีนโดยก�ำเนิด เข้าเมืองไทยโดยเรือ ส�ำเภา ด้วยปัจจัยต่างๆ ในสมัยนั้น ท�ำให้จ�ำใจต้องมาแดนสยาม เพื่อแสวงหาความเป็นอยู่ที่ดีกว่า ทั้งสองมาคนละรอบกัน เหน่มา กับพ่อ ส่วนกงจ�ำต้องละทิ้งลูกและเมียมา เหมือนหย่าร้างกันไป โดยปริยาย ในพื้นที่ทับซ้อนของความทรงจ�ำ


17 |

บุพเพพาคนทั้งสองมาพบเจอกันที่ประเทศอู่ข้าวอู่น�้ำ แห่งนี้ บังเอิญเหน่และกงพักอยู่ตึกเดียวกัน กงเป็นช่างไม้ที่มีฝีมือ ทัง้ ด้านการงานอาชีพและความสามารถในการจีบสาว เรียกว่าเสน่ห์ แรงทีเดียว เหน่ในตอนนั้นก็ไม่เบา สาวสวยวัยสิบเก้า มีหรือที่หนุ่ม มากมายจะไม่หมายปอง แต่จนแล้วจนรอดแจ๊กพ็อตแตก รางวัล หัวใจครั้งนี้กงเป็นผู้ชนะเหนือคู่แข่งคนอื่น เหน่และกงชอบพอกัน รักกันแล้วไม่รักเปล่า หนีตามกันออกมาซะอย่างนั้น หายไปเป็นปี ถึงค่อยกลับไปขอขมาพ่อฝ่ายหญิง ขอลูกสาวเขาอย่างเป็นทางการ จากตึกแถวละแวกกองสลากฯ หนีตามกันมาอยู่ห้องเช่า เล็กๆ ย่านบางล�ำพู อยูก่ นิ ฉันสามี - ภรรยา กงออกไปท�ำงานตกเย็น จึงกลับห้อง เหน่เป็นแม่ศรีเรือนดูแลความเรียบร้อยของที่พัก นาน วันสมาชิกเพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงการมาของภาระที่เพิ่มขึ้นตาม สมาชิกเพิ่มขึ้น จากหนึ่ง เป็นสอง จากสอง เป็นสาม ห้องหับเดิมที่อยู่เริ่มแออัด ถึงเวลาต้องขยับขยายขนาดที่พักเพื่อ รองรับจ�ำนวนสมาชิกในครอบครัว เก็บเงินก้อนหนึง่ ซือ้ ตึกแถว ย่าน พระรามเจ็ดเป็นทีอ่ าศัย ก่อนจะบากบัน่ ท�ำงาน สะสมเงินได้อกี ก้อน จากตึกแถวกลายเป็นบ้านหลังสมความตั้งใจ ตัง้ แต่วนั ทีล่ งส�ำเภาเข้ามาเมืองไทย ทัง้ สองก็ไม่เคยได้กลับ ไปยังทีท่ จี่ ากมาอีกเลย กว่าครึง่ ชีวติ ทีพ่ วกเขาตัง้ รกรากอยูท่ นี่ ี่ เรียนรู้ ภาษาประจ�ำชาติ มีลูกหลาน ปักหลักใช้ชีวิตอยู่ที่นี่โดยสมบูรณ์

บาสเต็ท


| 18

3 จะว่าไปเที่ยวรึเปล่า - ก็ไม่เชิง เพราะทั้งสองก�ำลังกลับ ‘บ้าน’ ของตัวเอง เป็นบ้านที่อยู่ตั้งแต่เกิด ญาติพี่น้องก็อยู่กันพร้อมหน้า (เท่าที่พอมีหลงเหลือ) บรรยากาศทุกอย่างที่คุ้นเคย ได้ใช้ภาษา บ้านเกิดอย่างเต็มที่ ทีน่ นั่ คงเป็นบ้านทีพ่ วกเขาทัง้ สองถวิลหาทัง้ ชีวติ ด้วยวัยที่ล่วงเลย เป็นครั้งแรกที่ได้กลับ - และอาจจะเป็น ครั้งสุดท้าย ผมเคยใช้ชีวิตเด็กหออยู่ช่วงหนึ่ง ใช้ชีวิตด้วยตัวเองอย่าง มีอิสระ เคยหลงคิดไปว่าดีด้วยซ�้ำที่ออกมาอยู่แบบนี้ และผมก็เรียน รู้ดว้ ยตัวเองว่านัน่ คือความคิดทีผ่ ดิ ส�ำหรับตัวเอง เงินในกระเป๋าต้อง เจียดใช้อย่างประหยัด ออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง อยู่บ้านจะเดินไป ไหนก็เข้าไม้เข้ามือ อยากท�ำอะไรที่บ้านมีทุกอย่าง จะอ่านหนังสือก็ เดินไปหยิบ จะกินอะไรก็เดินไปครัว สะดวกสบายกว่าหลายเท่าตัว ไม่ต่างอะไรกับต้องเริ่มต้นใหม่ อยูต่ า่ งจังหวัด จะไปสยามหรือสถานทีเ่ ทีย่ วในกลางเมือง ก็ทำ� ไม่ได้ เพือ่ นๆ หลายกลุม่ นัดเจอต้องบอกปฏิเสธอย่างจ�ำใจ บาง ปัญหาต้องการคุยกับเพือ่ น ท�ำได้แค่คยุ ผ่านโทรศัพท์ บรรเทาได้ดว้ ย เสียงคือทางออกที่ดีที่สุดในตอนนั้น แต่กับบางปัญหาก็น่าจะรู้ ต้อง พบหน้า ต้องการก�ำลังใจ ต้องการคนปลอบโยน แค่เสียงยังช่วย อะไรมากไม่ได้หรอก ไม่ต้องถึงขั้นข้ามน�้ำ - ข้ามทะเล เอาแค่ต่างจังหวัดผมก็ แย่แล้ว ในพื้นที่ทับซ้อนของความทรงจ�ำ


19 |

พอจะเดาได้ ทัง้ สองมีความสุขแค่ไหนทีไ่ ด้กลับไปยังทีน่ นั่ จะมีใครบ้างที่ไม่มีความสุขครั้งได้กลับบ้าน แต่ด้วยเวลาที่ล่วงเลย กว่าค่อนชีวิต อะไรๆ จะเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ไม่รู้ ไปอีกทีอาจจ�ำ สภาพเดิมไม่ได้แล้วก็ได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นส�ำคัญ ขอเพียงแค่ได้ กลับไป ร่องรอยความทรงจ�ำก็คงจะหลงเหลืออยู่ ด้วยบรรยากาศ และสถานที่ น่าจะเป็นตัวกระตุ้นความทรงจ�ำชั้นดี 4 เช้าวันนี้เข้าสู่ปกติ หลังจากการเดินทางสิบวัน เหน่ - กง กลับบ้านทีเ่ มืองไทย โดยสวัสดิภาพ ทัง้ สองกลับเข้าสูช่ วี ติ ประจ�ำวันทีต่ นื่ เช้า ชงกาแฟกิน กวาดบ้าน ท�ำกับข้าวกินพร้อมกับนั่งดูโทรทัศน์ เหมือนไม่มีอะไร เกิดขึ้น “นัง่ เครือ่ งบินโคตรเมือ่ ย” เป็นค�ำจ�ำกัดความการไปเทีย่ ว ครั้งนี้ของเหน่ ดูเหมือนทั้งสองจะไม่ค่อยเล่าอะไรสักเท่าไหร่ ไถ่ถามได้ ใจความหลักๆ คือที่โน่นเปลี่ยนไปเยอะมาก เยอะจนบางที่จ�ำไม่ได้ แล้ว และญาติพี่น้องของพวกเขาก็เหลืออยู่ไม่เยอะเท่าไหร่ แอบสังเกตแววตา ไม่ได้บอกกล่าวสิง่ ใดเป็นพิเศษ ไม่ยนิ ดี ยินร้าย ออกแนวลักษณะเฉยๆ - ไปเฉยๆ ไม่ได้มีความสุขหรือทุกข์ อะไร ไมรู้ว่ามันดีหรือไม่ดีกับการที่เป็นอย่างนี้ หรือทั้งสองคนจะ ล่วงเลยวัยจนจ�ำอะไรไม่ได้แล้ว ไม่น่าใช่ บาสเต็ท


| 20

เหน่ถงึ แม้จะแก่ตวั ลงไปมาก แต่เรือ่ งความจ�ำนีถ่ อื ว่ายังดี เวลาพูดคุยกันยังไม่ถงึ ขัน้ ทีต่ อ้ งมาช่วยนึกย้อนอะไร เมือ่ วานท�ำอะไร พรุ่งนี้จะต้องไปไหน ความจ�ำยังท�ำงานสมบูรณ์ดี ส่วนกง แข็งแรง กว่าเหน่เยอะ ยังออกนอกบ้านไปตลาดทุกวัน ยังท�ำอาหารให้เหน่ กินบ่อยๆ เรือ่ งความจ�ำไม่มปี ญ ั หา ติดอยูท่ วี่ า่ หูเริม่ ไม่คอ่ ยดีแล้ว ฟัง อะไรต้องถามทวนซ�้ำหลายรอบ ลูกหลานต้องใช้เสียงดังเวลาคุย ดู กลายๆ เหมือนก�ำลังขึ้นเสียงกับผู้ใหญ่ไปเสียอย่างนั้น 5 ระหว่างบ้านเกิดที่พวกเขาจ�ำใจต้องจากมา กับบ้านที่ไม่ ได้เกิด แต่หว่านเมล็ดปลูกต้นตระกูลด้วยเลือดเนือ้ ตัวเองไว้ทนี่ ี่ ทีไ่ หน จะมีความส�ำคัญมากกว่า เหมือนตัวเองก�ำลังเป็นเจ้าหนูจ�ำไม - ใช่ ถ้าจะหยิบยื่น ตัวตนนัน้ ให้ ผมก็นอ้ มรับ เพราะค�ำถามนีค้ อ่ นข้างรบกวนความเป็น ปกติสุขของชีวิตผมไม่น้อย ไม่รู้สิ ถ้าค�ำตอบออกมาเป็นบ้านเกิดที่อยู่ตรงโน้น ผม ในฐานะลูกหลานคงน้อยใจแทนทัง้ ตระกูลทีอ่ ยูท่ เี่ มืองไทย (อันนีเ้ หมา รวมเอง ญาติพนี่ อ้ งคงไม่มใี ครว่างมาตัง้ ค�ำถามให้ปวดหัวตัง้ แต่แรก) ตัวเองเป็นต้นตระกูลแท้ๆ แต่กลับให้ความส�ำคัญกับที่ที่ตัวเองจาก มามากกว่า อีกใจหนึ่งก็พร้อมจะเข้าใจ ถ้าค�ำตอบของพวกเขาไม่ใช่ ตามที่ผมคิด ทุกคนมีถิ่นก�ำเนิด เหน่และกงเองก็เช่นกัน พวกเขา ต้องย้ายถิน่ ฐานด้วยสาเหตุทเี่ ลีย่ งไม่ได้ ไม่ใช่ความต้องการจากก้นบึง้ ในพื้นที่ทับซ้อนของความทรงจ�ำ


21 |

หัวใจที่ปรารถนาให้เขาออกเดินทางมายังที่แห่งนี้ พอแล้วล่ะ - ทัง้ สองจะรูส้ กึ อย่างไร ผมคงไม่คาดคัน้ ค�ำตอบ ไปมากกว่านี้ ได้เห็นพวกเขากลับมาอย่างสวัสดิภาพ ไม่น�ำโรคร้าย ใดจากอีกฝัง่ ฟากทะเลมาท�ำให้ตวั เองเจ็บไข้ได้ปว่ ย เท่านีค้ นเป็นหลาน อย่างผมก็อุ่นใจพอแล้ว แม้อยากจะถามเหลือเกินก็ตาม ที่ไหนคือ ‘บ้าน’ ส�ำหรับพวกเขามากกว่ากัน

บาสเต็ท


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.