Moment ณ ขณะ... โดย รวม 8 นักเขียน [ทดลองอ่าน]

Page 1

| 268

Moment


| 8

ณ ขณะ

...

คิด Moment


9 |

ณ ขณะ...


บาสเต็ท

Happiness


11 |

1 ช่วงหลังมานีผ้ มได้ครุน่ คิดเกีย่ วกับความสุขบ่อย ๆ ครั้งแรกมาจากน้องนักศึกษาที่มาท�ำวิดีโอเกี่ยว กับร้านหนังสือของผม รวมถึงบางแง่มุมชีวิตที่ได้พบผ่าน น้องถามว่าความสุขในชีวิตตอนนี้คืออะไร ผมใช้เวลาคิดอยู่ ครู่หนึ่งเพราะตัวเองใช่ว่าจะโชกโชนชีวิตสักเท่าไหร่ ยังคงมี ประสบการณ์อีกมากที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน วันนัน้ ผมตอบไปว่า ความสุขคงต้องแบ่งเป็นช่วงวัย ถ้าเป็นสมัยเรียนความสุขก็คอื ท�ำงานเสร็จหรือไม่มกี ารบ้าน กลับมานั่งท�ำให้ปวดหัว ส่วนถ้าเป็นตอนนี้ ความสุขคงเป็น แค่การตื่นเช้ามาเปิดร้าน ได้อยู่กับหนังสือ ได้ท�ำกาแฟ ได้เล่นกับแมว ท�ำให้ร้านที่เราสร้างขึ้นมาอยู่รอด แค่นั้นก็ คงพอ ณ ขณะ...


| 12

ไม่ถงึ อาทิตย์ น้องทีร่ จู้ กั คนหนึง่ ก็ถามเกีย่ วกับเรือ่ ง นีเ้ พือ่ น�ำไปใช้ในงานเขียนของเขา เริม่ จากเรือ่ งส่วนตัวอย่าง เริ่ ม เขี ย นครั้ ง แรกเมื่ อ ไหร่ ท� ำ ไมถึ ง อยากมี ห นั ง สื อ เป็ น เล่ม ตลอดจนเกี่ยวกับเรื่องร้านหนังสือที่ท�ำอยู่ รายได้เป็น อย่างไร ความแตกต่างของการขายหน้าร้านและออนไลน์ การเอาตัวรอดจากวิกฤตของร้านหนังสือในยุคปัจจุบนั ก่อน ปิดท้ายด้วยค�ำถามง่ายๆ แต่ชวนคิดอีกครั้ง อะไรคือความสุขทีท่ ำ� ให้อยากเปิดร้านแบบนีต้ อ่ ไป เรื่อย ๆ ผมใช้เวลาคิดค�ำตอบเหมือนครั้งแรก แม้จะไม่ได้ ถามถึงความสุขของ ‘ชีวิตส่วนตัว’ โดยตรง แต่การที่ผม สร้างร้านด้วยความตัง้ ใจ ลงแรงลงทุนไปทัง้ หมด ไม่ตา่ งอะไร กับเอาชีวิตส่วนตัวมาอยู่ในที่แห่งนี้เลย “แค่อยูก่ บั มันก็มคี วามสุขแล้ว มีรา้ นเป็นของตัวเอง ก็ยิ่งมีความสุข ได้อยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบ อ่านหนังสือ เขียน หนังสือ ท�ำกาแฟ ตอนมีลูกค้าก็ให้บริการ พอร้านเงียบก็ นั่งท�ำอะไรของตัวเองไป เหมือนอยู่ในบ้านของเราเอง” ผม ตอบไปอย่างนั้น ยังมีอีกบ้างที่มาขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับร้านเพื่อน�ำ ไปลงตามสื่อต่าง ๆ และมักมีค�ำถามเกี่ยวกับความสุขอยู่ Moment


13 |

ด้วยเสมอ ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งผมจึงย้อนถามตัวเองตลอดว่า ‘ความสุข’ เป็นอย่างไร 2 หรือความสุขจะมีมากกว่านั้น คนตั้งหลายคนบน จักรวาล จะให้มีความสุขเหมือนกันหมดคงเป็นเรื่องแปลก ความสุขส�ำหรับผมตอนนี้ค�ำตอบก็คล้ายคลึงกับที่ เคยตอบไปทัง้ หมด ความสุขเป็นสิง่ หลายสิง่ ทีแ่ ตกต่างกันไป ตามช่วงวัย ในวัยหนึ่งความสุขของเราอาจแค่ได้วิ่งเล่นใน สนามเด็กเล่น ได้ไต่บันไดเล่นสไลด์เดอร์กับเพื่อน ๆ (สมัย ก่อนเรียกสไลด์ลื่น) ถัดมาอีกหน่อย ความสุขคือการไม่มี การบ้าน การสอบได้คะแนนดี ๆ การได้แอบชอบเด็กหญิง คนหนึ่งแล้วแกล้งเขาทุกวี่วัน เพราะอย่างนั้น ชีวิตที่ด�ำเนิน ผ่านกระแสกาลเวลาคงระคนด้วยความสุขหลากเรือ่ งหลาก รสมากมาย นอกเหนือจากวัย สถานะที่ตัวเองอยู่ก็เป็นอีก ปัจจัยหนึ่ง ชีวิตเราต่างมีบทบาทมากมายกับผู้คนรอบข้าง ด้วยบทบาทที่ต่างไปท�ำให้ความสุขของผมแตกต่างตามไป ด้วย ในบทบาทคนรัก ความสุขของผมคือการได้ดูแล อีกคนหนึง่ อย่างดีทสี่ ดุ ปรับความเข้าใจได้ทกุ ครัง้ ทีผ่ ดิ ใจกัน ณ ขณะ...


อโลน

Enjoy the moment


17 |

ความคิดเดินทางได้เร็วกว่าแสง หนักกว่าความเศร้า ทั้งยังตามหลอกหลอนยิ่งกว่าความทรงจ�ำ เมื่อไหร่ที่คิดมาก เราจะพบว่าเราแทบจะหลีกหนี จากความคิดนั้นไม่ได้เลย จริงอยู่ที่ความคิดนั้นไม่มีเสียง เพราะเหตุผลนี้ที่ท�ำให้หลายคนต้องทนเจ็บปวด กับความรู้สึกมากมายในใจ เราเคยอยากเลิกคิด อยากเลิกนึกถึง แต่เหมือนยิ่งพยายามไม่คิด ความรู้สึกนั้นกลับฉายซ�้ำไปซ�้ำมา ในจิตใต้ส�ำนึกของเราไม่รู้จบ ณ ขณะ...


| 18

จนกลายเป็นว่าการคิดมากไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ส�ำหรับชีวิตประจ�ำวันของเรา น่าแปลกที่เรามองว่าการคิดมากไม่ใช่เรื่องที่น่าเศร้า เพราะมันแสดงให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ความรู้สึกของเราเป็นอย่างไร เราอาจบอกใครหลายคนว่าเราไม่สนใจบางเรื่อง แต่ลับหลังแล้วเราเอาแต่คิดถึงมัน ดังนั้นความคิดจึงเป็นกระจกสะท้อน ความรู้สึกของเราได้ดีที่สุด ณ ขณะที่เราหยุดคิด ทุกอย่างจะเดินทางช้าลง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เรากลับได้มองเห็นอะไรมากกว่าที่เคย การคิดมากไม่ใช่เรื่องที่น่าหลีกหนีเช่นเดียวกัน บางคนเอาแต่มองว่าความคิดท�ำให้ตัวเองเศร้า ทว่าพวกเขาเหล่านั้นล้วนเอาความเศร้า มาท�ำร้ายตัวเองจนคิดมาก Moment


19 |

หากเราเรียนรู้ที่จะคิดอย่างถูกต้อง มองทุกอย่างให้ลึกลง แม้ความคิดของเราจะส่งถึงคนที่อยู่ในเรื่องราวนั้น หรือไม่ก็ตาม ความคิดจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่ท�ำให้เราเศร้าอีกต่อไป เพราะความคิดไม่เคยท�ำร้ายใคร มีแต่เราเท่านั้นที่จะท�ำร้ายตัวเอง คิดถึงได้ คิดมากได้ แต่อย่าคิดจนท�ำให้ตัวเองเศร้าก็พอ เรายอมรับว่าเราเป็นคนที่ชอบคิดมาก แต่ในขณะเดียวกันเรากลับเป็นคนที่ไม่คิดอะไรเลย นั่นเพราะเราเลือกที่จะไม่สนใจไม่ฟั งเสียงของความคิดร้ายที่ท�ำให้เราไม่มีความสุข เรื่องทุกเรื่องเราเก็บมันมาคิ ดแต่มีไม่กี่เรื่องที่เอามันมาใส่ใจ เพราะถึงจุดหนึ่ง เรารู้สึกว่าคิดมากไปก็ไม่ได้อะไร คิดมากไป ทุกอย่างก็ยังเป็นเหมือนเดิม ณ ขณะ...


บารจเฉยๆ

การตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่


23 |

หลาย ๆ ช่วงชีวิตมันมักมีอะไรที่เราต้องมานั่งคิด ทบทวนเสมอว่าเราจะไปเดินหน้าต่อไปอย่างไรดี ตั้งแต่เรา เริ่มเข้าเรียนเราก็ต้องคิดแล้วว่า เราจะเลือกคณะอะไร หรือ จบมาแล้วเราจะต้องท�ำงานอะไร ในเรื่องของความรักเราก็ ต้องคิดให้มาก เพือ่ จะเลือกใครสักคนมาเป็นคูช่ วี ติ ในทุก ๆ ช่วงเวลามีโมเมนต์ที่เราต้องคิดและทบทวนอยู่เสมอ แล้วท�ำไมเราต้องคิดก่อนเสมอ เมื่อไหร่ ? จะท�ำ อะไร ? เป็นค�ำถามที่มีค�ำตอบง่ายมาก.. “ก็เพื่อท�ำให้เราใช้ ชีวติ อย่างมีสติและรอบคอบเสมอ” ส�ำหรับผมถ้าถามว่า เรา คิดถึงตัวเองในมุม ๆ ไหนบ้าง ? มันคงตอบได้หลายปัจจัย ด้วยอายุ 26 ย่าง 27 ปี ก็ถอื ว่าผ่านโลกมาพอประมาณ และ 26 ปีที่ผ่านมา มันมีเรื่องให้เราคิดทบกวนก่อนจะตัดสินใจ เยอะเป็นอย่างมาก.. ณ ขณะ...


| 24

การตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ครั้งที่ 1 ถ้ า ในเรื่ อ งของการใช้ ชี วิ ต สมั ย ก่ อ นตอนเป็ น วั ย รุ ่ น ผมเป็ น คนค่ อ นข้ า งที่ คิ ด อะไรแล้ ว มั ก จะท� ำ เลย โดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อนและการไม่คิดอะไรให้รอบคอบ มันมีผลกระทบตามมาเสมอ ถึงขนาดที่ว่า ช่วงวัยรุ่นผม ลองผิดลองถูก และได้รับบทเรียนจากมันมาเยอะจนรู้เลย ว่า ‘คิดบ้างก็ดีจะท�ำอะไรลงไปอย่าให้มันเกิดขึ้นซ�้ำสอง’ หลังจากที่คิดได้และมีสติ การตัดสินใจครั้งใหญ่ ครั้ ง แรกของผมก็ ม าถึ ง นั่ น คื อ การเลื อ กเรี ย นคณะใน มหาวิทยาลัย พ่ออยากให้เป็นต�ำรวจ เราก็ไม่ได้เป็นให้เขา แม่อยากให้ค้าขาย อยากให้เรียนการตลาด เราก็ไม่ได้เรียน ให้เขา สุดท้ายผมก็ตัดสินใจมาจบที่คณะวิศกรรมศาสตร์ เพราะลองสอบและติดหนึ่งในโควต้าของมหาวิทยาลัย ถามว่าอยากเข้าตั้งแต่เลือกหรือเปล่า ไม่เลย.. ผม เพียงอยากเท่ รู้ว่าการได้เรียนวิศวะฯ มันเป็นอะไรที่สาว ๆ คงกรีด๊ และเป็นหน้าตาเป็นของครอบครัว เวลามีคนถามว่า “ลุูกเรียนอะไร ?” นั้นแหละ...ผมคิดแค่นั้น หลังจากที่เรียน มาจึงรู้ว่าเส้นทางการเป็นผู้ใหญ่มันไม่ได้ง่ายเอาซะเลย แต่ ผมก็ผา่ นมาและจบคณะวิศวะฯ ด้วยเกรดเฉลีย่ 2.79 เรียก ได้ว่าก็ยังพอไหว ถือว่าพอไปวัดไปวาได้ Moment


25 |

การตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ครั้งที่ 2 หลังจากที่ผมเรียนจบ การตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ก็มา ถึงอีกครั้ง ในวันที่ผมต้องไปจับใบด�ำใบแดงเพื่อรับใช้ชาติ การเป็นทหารมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ ณ ตอนนั้น ผมมีภาระ อีกมากมายที่ต้องจัดการ เราจึงค่อย ๆ กลับมานั่งวางแผน ว่า ถ้าวันนี้จับได้ใบแดง จะต้องท�ำอย่างไรบ้าง แล้วถ้าเรา จับได้ใบด�ำ เราจะด�ำเนินชีวิตต่อไปแบบไหน ในช่วงเวลาที่ ค่อย ๆ ครุ่นคิด ผมรู้สึกว่าตัวได้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อาจมี ความตื่นเต้นลุ้นอยู่เล็กน้อย แต่เราก็พยายามวางแผนชีวิต ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เราก็เคารพสิ่งที่มันจะเกิดขึ้น และ โชคก็บอกผมว่า ‘ใบด�ำใบนี้คือการที่ชีวิตต้องก้าวสู่การ ท�ำงานอย่างแท้จริง’ การตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ครั้งที่ 3 ผมได้ผา่ นบททดสอบการเป็นผูใ้ หญ่มาหลายอย่าง นี่ก็เป็นอีกบทหนึ่งที่ต้องผ่านมันไปให้ได้ นั้นคือการท�ำงาน เนือ่ งจากผมเรียนวิศวะฯ จึงต้องท�ำงานในสายทีต่ วั เองเรียน จบมา ผมได้มีโอกาสท�ำงานอยู่ในสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ทุกคนในที่ท�ำงานต้อนรับผมเป็นอย่างดี และผมก็โอเคกับ ที่ท�ำงาน ณ ขณะ...


ของขวัญ

แทจริงแลว ความสุขคืออะไร


29 |

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราถามตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ถึงความสุขในชีวิต เป็นค�ำถามสุดคลาสสิกที่เชื่อว่าต้องอยู่ ในความคิดของใครหลาย ๆ คน

คนเราจะมีความสุขจากอะไรได้บ้าง ?

การได้มีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนที่ดี มีหน้าที่การงาน ดี มีเงินเหลือใช้เยอะ มีของสะสมที่ชอบ ได้ไปเที่ยวตามที่ ต่าง ๆ ได้ท�ำบุญ ได้ท�ำอะไรที่อยากท�ำ ประสบความส�ำเร็จ ในชีวติ สิง่ เหล่านีล้ ว้ นแต่เป็นความสุข เรียกว่าสุขมาตรฐาน ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการ เคยคิดเล่น ๆ ว่า หากวันหนึ่งเราได้สิ่งเหล่านั้นมา ทั้งหมด เราจะมีความสุขไหม ? และความสุขนั้นจะอยู่กับ ณ ขณะ...


| 30

เรายาวนานแค่ไหน ? หรือที่จริงแล้วเราก�ำลังมองหาอะไร บางอย่างที่ไม่มีตัวตนอยู่ เรายั ง คงแสวงหาความสุ ข ในแบบของตั ว เอง บางครั้งยิ่งพยายามตามหามากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรู้สึก เหนือ่ ยเพราะหามันไม่เจอสักที ยิง่ พยายามผลักดันตัวเองให้ ไปถึงจุดสูงสุดของชีวิต แต่ระหว่างทางไม่ได้เก็บเกี่ยวอะไร เลย เพราะเอาแต่คดิ ว่าความสุขรอเราอยูท่ ปี่ ลายทาง โดยที่ เราลืมคิดไปว่าเราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้เอง ความสุขที่ บางทีอาจจะมาจากภายในจิตใจ ไม่ใช่สุขนอกกาย อาจอยู่ ใกล้แค่เอื้อมแต่ไม่เคยสังเกตเห็น เพราะจุดสูงสุดของชีวิต ไม่ใช่จุดที่ใคร ๆ ต่างก็ไป ถึง แต่คือจุดที่เราพึงพอใจ การแสวงหาท�ำให้เราค้นพบว่า ความพอดี คื อ จุ ด เริ่ ม ต้ น ของความสุ ข ที่ แ ท้ จ ริ ง ไม่มากและ ไม่น้อยจนเกินไป ความสุขนั้นอยู่ที่การคิด อยู่ที่เราจะมองว่าสิ่ง ๆ นั้นมันเป็นความสุขหรือเปล่า บางคนอาจจะไม่ได้ต้องการ Moment


31 |

มีเงินเหลือเยอะมากมาย อาจจะไม่ได้อยากไปเที่ยวรอบ โลก แค่มีหนึ่งวันที่ได้นอนดูโทรทัศน์อยู่บ้าน ได้ไปกินข้าว กับครอบครัว ท�ำความสะอาดบ้าน เห็นคนที่รักมีความสุข เท่านั้นก็เรียกว่าสุขได้แล้ว เพราะคนเรามีความสุขในแบบอย่างของตัวเองและ ไม่สามารถเอาไปเปรียบเทียบกันได้วา่ แบบไหนสุขมากกว่า กัน การใช้ ชี วิ ต ให้ อ ยู บ นความพอดี คื อ การสร้ า ง ความสุขแบบยั่งยืนที่เราค้นพบ ไม่เข้มงวดกับตัวเองเกินไป แต่ก็ไม่ปล่อยปะละเลย ด�ำเนินอยู่บนทางสายกลาง ไม่มาก ไม่น้อย แล้วเราจะไม่ทุกข์ สิ่งใดที่เกินพอดี ล้วนแล้วแต่ไม่ เคยน�ำความสุขมาให้ ยิง่ มีมากไปก็ยงิ่ เกิดทุกข์ พอมีนอ้ ยไปก็ ไม่พงึ พอใจ หลายครัง้ ทีค่ นเราพยายามหาควาสุขมาเติม แต่ เติมเท่าไหร่กไ็ ม่เต็มสักที เพราะสิง่ ทีเ่ ราต่างหามานัน้ มันเป็น เพียงแค่เปลือกนอกทีใ่ ช้ปดิ บังความทุขไ์ ด้ชวั่ คราวเท่านัน้ ใน เมื่อใจเราไม่รู้จักพอ เราก็จะไม่พบเจอกับสุขที่แท้จริง หากวันนี้เรายังไม่พอใจกับสิ่งที่มี ขอให้คิดแค่ว่า ณ ขณะ...


ภูริทัต

กลับสู่จุดเริ่มตน


35 |

ผมกลัวการต้องกลับไปอยู่บ้านแบบถาวร ในขณะ ที่ยังมีสิ่งที่อยากท�ำอยู่ที่นี่อีกมากมายมาโดยตลอด แต่กลายเป็นว่าอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ ซึ่งดูเหมือนว่ามี ความเป็นไปได้คอ่ นข้างมาก ทีผ่ มจะต้องหอบข้าวของพร้อม กับรือ้ หมุดชีวติ ของตัวเองจากกรุงเทพฯ กลับไปยังบ้านเกิด ในต่างจังหวัดทางตอนล่างของภาคอีสาน แรกเริ่มผมเป็นเพียงเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียน มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ด้วยหวังว่านอกจากการเรียน ในห้องเรียนแล้ว ผมจะสามารถหาประสบการณ์ใหม่ ๆ นอกห้องเรียนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิตได้ง่ายขึ้น เพราะเมืองแห่งนีเ้ รียกได้วา่ เป็นศูนย์กลางความทันสมัยของ ประเทศเลยก็ว่าได้ แถมยังมีสถานที่และกิจกรรมน่าสนใจ มากมายละลานตาไปหมด ซึ่งดูจะถูกโฉลกกับคนที่เต็มไป ณ ขณะ...


| 36

ด้วยความเพ้อฝันอย่างผมยิ่งนัก กว่า 8 ปีกับการใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ นับตั้งแต่ ร�่ำเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยลากยาวมาจนถึงชีวิตวัยท�ำงาน ในปัจจุบัน ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกว่าเมืองหลวงนี้ยังมีอะไร ที่รอผมไปสัมผัสอยู่อีกมาก แม้จะเบื่อหน่ายกับการจราจร ติดขัดทีย่ งั แก้ปญ ั หาไม่ได้อยูบ่ า้ ง แต่กย็ งั ไม่เบือ่ ทีจ่ ะเดินทาง ไปร่วมงานกิจกรรมหรืออีเวนต์ต่างๆ ที่น่าสนใจ ผมยังมีความสุขกับเมืองนี้ยังอยากท�ำอะไรสนุก ๆ อีกมาก...ยังไม่พร้อมที่จะจากที่นี่ไป เหตุที่ต้องกลับบ้านนั่นเพราะพ่อและแม่ของผม ท่านใกล้เกษียณอายุราชการแล้ว ในขณะที่น้องสาวเองที่ เพิง่ ท�ำงานในฐานะแพทย์หญิงเต็มตัวก็ตดิ พันงานต้องขึน้ เวร อยู่ประจ�ำ ท�ำให้เป็นไปได้ยากทีจ่ ะปลีกตัวมาดูแลอยู่ใกล้ ๆ ทางเลือกทีเ่ หลือเมือ่ ถึงเวลานัน้ ก็คอื การเรียกตัวผมกลับมา อยู่ที่บ้าน เพื่อคอยดูแลและเป็นธุระงานให้กับพวกท่าน ผมเกิดและโตในหมูบ่ า้ นทีใ่ หญ่และดูจะเจริญทีส่ ดุ ในต�ำบล แต่ทว่าอ�ำเภอทีต่ งั้ ของต�ำบลก็เป็นเพียงอ�ำเภอเล็ก ๆ ที่ไม่เจริญมากนักหากเทียบกับเขตอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกัน แถมยังเป็นอ�ำเภอทีอ่ ยูเ่ ขตรอบนอกซึง่ ห่างจากตัวเมืองของ Moment


37 |

จังหวัดเกือบหนึ่งร้อยกิโลเมตร หากใครชอบวิถีสโลวไลฟ์ ที่นี่ก็อาจจะตอบโจทย์อยู่ไม่น้อย แต่กับผมมันแค่บางเรื่อง เท่านั้น หากต้องการซื้อข้าวของที่เกินข้อจ�ำกัดของร้านช�ำ เล็ก ๆ ก็จ�ำเป็นต้องเดินทางอีกหลายสิบกิโลฯ ข้ามไปอีก อ�ำเภอที่เจริญกว่าเพื่อจับจ่ายในร้านรวงใหญ่ เรื่องกิจกรรมหรืออีเวนต์ต่าง ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ด้วยความที่ผมโตมาในรูปแบบเด็กบ้านนอกแทบจะร้อย เปอร์เซ็น น�้ำ หิน ดิน โคลน ลุยมาแล้วแทบทุกอย่าง ใน ตอนนี้ผมจึงรู้สึกว่ามันแทบจะไม่มีอะไรให้ผมได้สนใจใคร่ รู้มากนัก ซึ่งหากจะเทียบกับเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ก็ คงจะต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะที่นั่นหลากหลายทั้งมุม มองและความคิด เห็นจะมีก็เพียงงานบุญหรืองานเทศกาล ประจ�ำปีของที่นี่เท่านั้นที่พอจะกระตุ้นความรู้สึกตื่นตาอยู่ บ้าง หากท้ายที่สุดผมต้องกลับบ้านแล้วนั้น คงเป็นการ กลับบ้านที่พลิกวิถีชีวิตของผมอย่างมาก เหมือนมีภาระอัน หนักอึง้ ต้องแบกรับไว้ ผมไม่รวู้ า่ จะหางานทีไ่ ด้เงินเดือนเท่า เดิมหรือสูงขึน้ มากกว่าเดิม ในเขตพืน้ ทีอ่ าศัยอยูห่ รือเขตใกล้ เคียงได้หรือไม่ ซึ่งก็คงมีโอกาสเป็นไปได้น้อยมากทีเดียว และมันยังส่งผลกระทบกับอีกหนึง่ ปัญหาใหญ่ของครอบครัว ณ ขณะ...


waylaway

สถานที่ที่เรียบง่าย


41 |

โลกภายนอกสะท้อนโลกภายใน โลกภายในสะท้อน โลกภายนอก’ เธอเห็นด้วยกับค�ำกล่าวด้านบนนี้ไหม... เมื่อก่อนฉันไม่ค่อยเข้าใจพฤติกรรมบางอย่างของ ใครบางคนนักหรอก มันท�ำให้ฉันสับสนอยู่บ่อยครั้งว่า เจตนาของเขาจริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่ บางครัง้ ฉันก็ไม่ทนั สังเกตด้วยซ�้ำว่าใครมีเจตนาอย่างไร เพราะฉันอาจจะยัง เด็กเกินไปกว่าเข้าใจความซับซ้อนแห่งโรงละครโรงใหญ่ท ี่ เรียกว่า ‘โลก’ จนฉั น ได้ มี โ อกาสเข้ า ไปเรี ย นในคณะสั ง คมสงเคราะห์ศาสตร์ จึงได้เรียนรู้ความหลากหลายของสิ่งมี ชีวิตที่เรียกว่า ‘มนุษย์’ มากขึ้น อั น ดั บ แรก ฉั น เรี ย นรู ้ ที่ จ ะไม่ ตั ด สิ น ใครจาก ณ ขณะ...


| 42

ความคิดของตัวเอง แต่ลองท�ำความเข้าใจในการกระท�ำ เหล่านั้นของเขาก่อน ว่าเพราะอะไรถึงท�ำเช่นนั้น อันดับ ที่ ส อง เมื่ อ ฉั น เข้ า ใจเบื้ อ งหลั ง ของการกระท� ำ เหล่ า นั้ น แล้ว ก็เรียนรู้ที่จะยอมรับอย่างที่มันเป็น เพราะคงไม่มีใคร เปลี่ยนแปลงใครได้ นอกเสียจากจะอยากเปลี่ยนแปลงตัว เราเอง หลั ง กลั บ จากการเดิ น ทางคนเดี ย วครั้ ง แรกใน ประเทศเกือบหนึ่งเดือน (จากบท ณ ขณะหยุด) ฉันได้ ตัดสินใจไปอาศัยอยูก่ บั ตายายทีภ่ าคใต้ หรือพ่อเฒ่าแม่เฒ่า (ภาษาถิ่น) การกลับไปอยู่กับท่านประมาณ 1 ปี ท�ำให้ฉันมี เวลาทบทวนและคิดเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตอย่างเป็นจังหวะ ธรรมชาติมากขึ้น จนค่อย ๆ ตกตะกอนในตัวเอง การได้อยูใ่ นสถานทีท่ เี่ รียบง่าย ไม่ซบั ซ้อน มันท�ำให้ เราเรียบง่ายไปโดยปริยาย ถ้าใจเราเปิดกว้างมากเพียงพอ บ้านตายายของฉันเป็นบ้านไม้ริมคลอง พ่อกับแม่ มักพาฉันกับพี่สาวไปเที่ยวเล่นที่นั่นเสมอ ตั้งแต่เล็กจนโต แต่เมือ่ โตขึน้ สอบเข้าเรียนมหาลัยได้ทเี่ มืองกรุง ก็กลายเป็น ว่าต้องห่างจากบ้าน รวมถึงบ้านตากับยายไปโดยปริยาย ฉันคิดถึงทุกคนที่บ้านมาก การใช้ชีวิตในเมืองกรุง ท�ำให้ฉันได้กลับบ้านปีละ 1-2 ครั้งตามโอกาสเอื้ออ�ำนวย Moment


43 |

เมืองกรุงให้ประสบการณ์กับฉันมากมายก็จริง แต่ในขณะ เดียวกันก็บั่นทอนจิตใจของฉันไปด้วย การใช้ชีวิตในสังคม ที่เราไม่คุ้นชินนั้นต้องใช้เวลาปรับตัว ฉันคอยบอกตัวเอง แต่ไม่ว่าจะปรับตัวเท่าไหร่ จนเรียนจบ จนท�ำงาน ก็ยังไม่ พอ ท�ำให้รู้ตัวเองว่า ฉันไม่เหมาะกับเมืองกรุงจริงๆ และการได้กลับไปอยู่ที่บ้านตายายปีนั้นหลังจาก เรียนจบประมาณหนึง่ ปี นับเป็นเวลาทีม่ คี า่ ทีส่ ดุ อีกช่วงหนึง่ ของชีวิต เป็นหนึ่งปีที่ฉันได้ใช้วิชาความรู้ฉันเรียนมาเพื่อ ดูแลคนที่เรารักเท่าที่ท�ำได้ ทางกายภาพ ฉันอาจจะดูแล อะไรท่านไม่ได้มาก แต่ฉันเชื่อว่าหากเป็นทางจิตใจแล้ว ฉัน สามารถดูแลท่านได้ดีที่สุดเท่าที่หลานคนหนึ่งจะท�ำได้ เวลาหนึง่ ปีผา่ นไป ฉันมองเห็นสายสัมพันธ์ รูปแบบ ความเชื่อมโยง ความรัก ความขัดแย้ง ของคนในครอบครัว ใหญ่มากขึน้ ฉันค่อย ๆ ท�ำตัวเป็นกาวผสาน แทรกซึมเข้าไป เท่าที่ท�ำได้ ถึงแม้จะยังไม่สนิท แต่ก็รู้สึกได้ว่าเราเข้าใจกัน มากขึ้น ไม่มีครอบครัวใดไม่มีปัญหา และความสัมพันธ์ ระหว่างคนในครอบครัวใหญ่เป็นสิ่งที่เราควรรักษาไว้ให้ดี เพราะมันคือรากฐานของชีวิตเราทั้งชีวิต ความคิดของฉันเรียบง่ายขึ้นเมื่ออยู่ในสถานที่ที่ ณ ขณะ...


ธีธาฬา

หยุด...คิด


47 |

ความคิดที่เกิดขึ้นมา รวดเร็วยิ่งกว่าความไวแสง เห็นจะได้ ใครบ้างที่ไม่อยากคิด คิดที่จะอยากได้สิ่งดีดีเข้ามา ในชีวิต คิดเพ้อฝัน หรือคิดเรื่องส่วนตัว ล้วนแต่จะต้องคิดเพื่อที่จะยังให้คงอยู่ต่อไป ปี 2552 งานนวนิยายเข้ามาอย่างมากมาย พร้อมกับ การเรียนระดับปริญญาตรีที่แสนจะยากเย็น ท�ำให้ในช่วง นั้นในชีวิตมีแต่ท�ำงาน เรียน พักผ่อนด้วยการออกก�ำลัง กาย และนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง จากนั้นวนกลับมาที่ตื่นขึ้น มาเรียน ท�ำแลป ท�ำวิจัย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นวัฏจักร เช่นนี้เสมอ จนคืนหนึ่งในปี 2553 ท่ามกลางความวุ่นวายของ ณ ขณะ...


| 48

เพื่อน ๆ ที่อยู่ในห้อง แต่เป็นเวลานอนของผม บ้างก็หัวหมุนท�ำงาน ท�ำวิจัยของตัวเอง บ้างก็กลับมาบ่นถึงเรือ่ งฝึกงานของตัวเองว่าพบเจอ อะไรมาบ้าง บ้างก็กลับมาโมโหโวยวาย ผมเป็นคนเดียวที่นอนอยู่บนเตียงในห้องพักสี่คน ได้แต่นอนคิดว่า ชีวิตนี้เราท�ำอะไรอยู่ เราก�ำลังเดินมาสู่โลก แห่งการท�ำงานจนไม่มีเวลาเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ เขาเลย เหรอ... ผมได้ยินแต่เสียงบ่นของเพื่อนที่อยากจะไปเที่ยว อยากจะนอนพักยาว ๆ ทัง้ วัน และอยากจะไปไหนสักทีห่ นึง่ นาน ๆ โดยไม่ติดต่อใครสักคน ผมจึงหันไปถามเพื่อนว่า “เหนื่อยไหม ?” แต่ ค�ำตอบที่ผมได้กลับมาคือ “เหนื่อย แต่ก็คงไม่เท่ากับบิ๊ก หรอก” เชื่ อ ไหม ? ค� ำ ตอบของเพื่ อ นท� ำ ให้ ผ มสตั๊ น ไป 3 วินาที ผมนึกในใจว่า นี่เราท�ำแต่งานจนเพื่อนเห็นเป็น แบบนั้นเชียวเหรอ ? ผมกลายเป็นคนท�ำงานที่ไม่มีเวลาเข้า ออกออฟฟิศเท่านั้นเอง Moment


49 |

ผมจึงหันไปหาเพื่อนแล้วยิ้มแหย ก่อนเอ่ยถาม ประโยคหนึ่งสั้น ๆ “แล้วท�ำไมคิดว่าเราท�ำงานหนักขนาด นั้นละ ?” “ก็ไม่เห็นจะไปเที่ยวไหนเลย ไม่เห็นจะไปเดินห้าง เหมือนคนอืน่ ๆ เค้าบ้าง ไม่เห็นมีเพือ่ นกลุม่ ใหญ่ ๆ ทีไ่ ปไหน ด้วยกันสักช่วงเวลานึงไง” นั่นคือค�ำตอบของเพื่อนผม นัน่ สิ... แม้วา่ เราจะมีกลุม่ เพือ่ นใหญ่ ๆ แต่กไ็ ม่มชี ว่ ง เวลาอย่างที่เพื่อนว่าเลยจริง ๆ ผมจึงยิ้มและจบบทสนทนา นั้นลงไปทันที แล้วหลับตาลงนึกคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง เวลานั้น เสียงถอนหายใจของผมแรงเหลือเกิน ประหนึ่งมี อะไรคับอกคับใจ ภายในหัวของผมเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ผ่านมา ระหว่างที่ขบคิด ก็มีเสียงต้าน กับเสียงเห็นด้วย ตีกันจนท�ำให้เกิดการลังเล สุดท้ายเครียดจนนอนไม่หลับ พยายามข่มตานอน แต่เหมือนไม่ได้ช่วยอะไร ผมต้ อ งคิ ด ให้ อ อกว่ า ทางที่ เ ลื อ กเดิ น อยู ่ ต อนนี ้ คือถูกหรือผิด เชื่อไหมว่า เวลาคุณเลือกที่จะเดินหรือท�ำอะไร แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอดีตไปแล้วก็ตาม มันยากนักที่จะถอน ณ ขณะ...


ปากกาสี

ลองดูอีกทีไดไหม ?


53 |

‘ถ้าไม่มีเราสักคน พ่อแม่จะมีความสุขกว่านี้หรือ เปล่านะ ?’ หนึ่งค�ำถามที่ผุดขึ้นมาในช่วงจังหวะชีวิตที่ไม่ราบ รื่นของฉัน ใครเล่าจะคิดว่า คนไม่ชอบการเรียนอย่างฉันจะ มีวันที่เครียดหนักจนอยากคิดสั้นเพราะเรื่อง การเรียน จุด เริ่มต้นมันคงมาจากการเลือกก้าวเท้าเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย อินเตอร์ ทั้งที่ตัวเองไม่เก่งเรื่องภาษาเลยแม้แต่นิดเดียวนั่น แหละ ในเทอมแรก เกรดไม่ค่อยดี ฉันยังไม่คิดอะไรมาก เพราะมองว่า เราเพิ่งเข้ามา ยังปรับตัวไม่ได้ เทอมต่อไป มันต้องดีกว่านี้ ผ่านพ้นเทอมสองไป เกรดไม่มีทีท่าจะดีขึ้น เอาน่า เราอาจปรับตัวช้าหน่อย แต่ขึ้นเทอมหน้ามันต้องดี ขึน้ เลือ่ นไปเทอมสาม เทอมสี่ และเทอมห้า...ติดโปรรัวยาว ณ ขณะ...


| 54

3 เทอม ชีวิตมันเริ่มไม่โอเคแล้ว ทั้งที่ตั้งใจพยายามไม่น้อย กว่าใคร แต่ท�ำไมความพยายามอยู่ที่ไหน ความส�ำเร็จถึงไม่ อยู่ที่นั่น...เข้าสู่เทอมที่หก ชีวิตเต็มเปี่ยมด้วยความกดดัน อย่างเต็มรูปแบบ เพราะนี่เป็นเทอมสุดท้าย หากหนีไม่พ้น โปร สถานะจะกลายเป็น ‘รีไทร์’ ให้ได้อายคนอื่นอีก ถ้าคิดว่านั่นคือบ่อเกิดแห่งความทุกข์ทั้งหมดของ ฉันแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าผิด แท้จริงแล้วฉันรู้ดีว่า สาเหตุที่ ท�ำให้ตัวเองเครียดได้ขนาดนี้นั้นเกิดจากการที่คนรอบข้าง ชอบถามค�ำถามชวนกดดันอย่าง “เมื่อไรจะเรียนจบ ?” “ท�ำไมเกรดได้น้อยขนาดนี้ ?” “จะเรียนให้เต็มโควต้า 8 ปีเลยหรือไง ?” และที่หนักสุดก็คงเป็นค�ำถามที่ว่า “ท�ำไมยังยิ้มได้อีก ถามจริงเถอะ ชีวิตนี้เคยเครียด กับเขาบ้างไหม ?” จากไม่เครียดจึงกลายเป็นเครียดหนัก จ�ำได้วา่ กลัว มาก กลัวว่าตัวเองจะต้องได้ชอื่ เป็นคนทีถ่ กู ไล่ออกและเรียน ไม่จบในที่สุด กลัวพ่อแม่จะผิดหวัง กลัวญาติพี่น้องต�ำหนิ และหาว่าไม่ได้เรื่อง กลัวเพื่อนจะมองด้วยสายตาสมเพช กลัวมันไปหมดทุกสิ่ง ตามด้วยค�ำถามต่าง ๆ นา ๆ ที่เอาแต่ Moment


55 |

คอยตอกย�้ำตัวเองว่า ท�ำไม...ท�ำไมฉันถึงท�ำไม่ได้ ? คิดไปคิดมา อาการยิ่งหนัก ประสาทหลอนเหลือ หลาย กลายเป็นว่าตัวฉันเอาแต่พยายามฝืนท�ำตัวเองให้ ร่าเริง ไม่ยอมแสดงมุมอ่อนเเอให้ใครเห็น แต่เลือกที่จะไป แอบร้องไห้เงียบ ๆ คนเดียวเสียอย่างนั้น ร้องไปร้องมา เครียดไปเครียดมา สุดท้ายความคิดที่อยากจบทุกสิ่งอย่าง ก็มาถึง... ฉันเขียนจดหมายขึน้ มาฉบับหนึง่ หมายมัน่ ตัง้ ใจไว้ ว่า มันคงเป็นการพูดคุยกับครอบครัวเป็นครัง้ สุดท้าย ฉันจัด ใส่ซองอย่างดี ก่อนวางมันลงบนหมอน และพาร่างตัวเอง เดินออกไปยืนที่ระเบียง นาทีนั้นมันมึนงงไปหมด คิดแต่ ว่าจะท�ำอย่างไรให้ตายแบบทีเดียวแล้วจบเลย ไม่เอาแบบ ทรมานเพราะเป็นคนกลัวความเจ็บ ระหว่างที่ยังคิดหาวิธี ไม่ได้นั้น อยู่ ๆ เสี้ยวหนึ่งของความคิดมันก็ส่งค�ำถามออก มาอีกว่า ตายแล้วจะช่วยอะไรได้ ? แค่นี้ยังท�ำพ่อแม่เสียใจไม่พอเหรอ ? มีชีวิตอยู่มาตั้ง 20 ปี กับเรื่องแค่นี้ ถึงกับต้องตาย ณ ขณะ...


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.