1
2
4
เรื่อง : กษิรา ธรรมรัต ภาพ : Pang Shutter
5
My Style
Eak Architect a n d D e ve l o p m e n t
“Home Office ออฟฟิ ศที่เป็นโมเดลบ้านตัวอย่าง”
และบ้านหลังทีส่ ามทีท่ มี งาน Check in ของเราจะพาไป เยีย่ มชมก็คอื บ้านสวยสไตล์ Modern ทีเ่ ป็นทัง้ บ้านและทีต่ งั้ ของ บริษัท Eak Architect and Development จ�ำกัด ซึ่งเจ้าของก็คือ คุณเอกอนันต์ วิชิต หรือ “คุณเอก” นั่นเอง จากการที่เรียนมาทางด้านสถาปัตย์และจบออกมาเป็น สถาปนิกเต็มตัว คุณเอกนัน้ มีความฝันทีอ่ ยากจะมีบา้ นเป็นของ ตัวเองสักหลัง และคิดมาตลอดว่าจะสร้างบ้านหลังนัน้ ด้วยทฤษฎี ทางสถาปัตย์ทไี่ ด้เรียนรูม้ าอย่างเต็มที่ เมือ่ ได้มโี อกาสทีจ่ ะสร้าง จริงๆ คุณเอกจึงได้ลงมือออกแบบบ้านหลังนี้เองในทุกๆ ส่วน
ชี วติ ความเป็นอยู ข่ องคนเมืองในทุกวันนี้ มีรูปแบบที่เปลี่ยน ไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด จนท�ำให้คำ� ว่าบ้านและสถานที่ทำ� งาน ที่แต่ก่อนอาจมองว่าเป็นสิ่งที่สวนทางกันนัน้ ตอนนี้กลับกลาย ต้องมาอยู ร่ วมกันในแบบฉบับของ Home Office ซึ่ งมีให้เห็นอยู ่ มากมายในปั จจุ บนั เรียกได้วา่ รู ปแบบในการด�ำรงชี วติ ของคนใน ยุ คนี้นอกจากต้องการความสะดวกสบายและความทันสมัยแล้ว ความแปลกใหม่ท่ ีสามารถปรับเปลี่ยนได้อยู ่ตลอดเวลานั้นก็เป็น สิ่งจ�ำเป็นส�ำหรับสิ่งก่อสร้างในยุ คปั จจุ บนั
และยั ง ได้ มี ก ารปรึ ก ษา ระดมความคิ ด จากเพื่ อ นๆ ที่ เ ป็ น สถาปนิกด้วยกัน เพือ่ ให้ได้สงิ่ ทีด่ ที สี่ ดุ ส�ำหรับบ้านหลังนีอ้ กี ด้วย Home Office หลังนี้เป็นอาคารที่ดูกว้างขวางโล่ง โปร่ง และมีพื้นที่ใช้สอยอย่างครบครัน จนแทบไม่น่าเชื่อว่าตั้งอยู่ บนพื้นที่เพียงแค่ 50 ตารางวา ความรู้สึกครั้งแรกเมื่อเดินเข้า มาจะรู้สึกได้ถึงความเป็นธรรมชาติ เห็นได้จากก�ำแพงน�้ำตก ที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย มีการน�ำเส้นสายมาใช้ในการตกแต่ง ซึ่ ง สามารถดึ ง ดู ด ความสนใจของผู ้ ม าเยื อ นได้ เ ป็ น อย่ า งดี และนอกจากนี้ยังได้เห็นถึงความช่างคิดของผู้ที่เป็นเจ้าของ 5
ที่น�ำวัสดุปูพื้นมาตกแต่งผนัง มีการน�ำบันได มาวางไว้ตรงกลางบ้านเพื่อสร้างความรู้สึก เชิญชวนให้อยากที่จะขึ้นไปชั้นบน และเมื่อได้พูดคุยกับคุณเอกที่เป็นทั้ง ผู้ออกแบบและเจ้าของบ้านก็ท�ำให้ทราบว่า ทุกพืน้ ที่ ทุกส่วนของบ้านหลังนีม้ คี วามหมาย เริ่มตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าที่คิดไว้ตั้งแต่แรก แล้วว่าจะท�ำให้บา้ นหลังนีเ้ ป็น Home Office ดั ง นั้ น จึ ง ต้ อ งคิ ด อี ก ว่ า จะท� ำ ยั ง ไงให้ ไม่เหมือนกับ Office ทัว่ ไป ท�ำยังไงให้คนรูส้ กึ อยากที่จะเดินเข้ามา จึงต้องยกบันไดขึ้นสูง เพือ่ ให้มคี วามโดดเด่นกว่าทีอ่ นื่ ๆ เมือ่ เดินเข้า มาด้านในก็ได้สร้างพืน้ ทีท่ ใี่ ห้ความรูส้ กึ ทีเ่ ป็น ธรรมชาติไว้ เพือ่ ต้องการให้ผทู้ ไี่ ด้เข้ามารูส้ กึ สบายและผ่อนคลาย พืน้ ทีไ่ หนไม่ใช้กต็ ดั ออก อย่างพื้นที่ส่วนตรงกลางบ้านที่คุณเอกได้ ตัดออกไปท�ำให้เกิดเป็นพื้นที่โล่งที่สามารถ มองทะลุผ่านได้ตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไปยังชั้นบน สุดของบ้าน ท�ำให้เกิดความรู้สึกโล่ง โปร่ง ไม่อึดอัด โดยคุณเอกยังบอกอีกว่าการสร้าง บ้านนั้นก็สร้างเพื่อตอบสนองความต้องการ ของมนุษย์ ดังนั้นการออกแบบบ้านก็ต้อง ใช้หลักจิตวิทยา ต้องศึกษาพฤติกรรมของ มนุษย์ เพื่อที่จะท�ำให้สิ่งที่ออกแบบมานั้น สามารถน�ำไปใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุด เมือ่ เดินขึน้ บันไดมาทีช่ นั้ สองก็จะพบกับ ส่วนที่เป็นส�ำนักงาน ที่มีก�ำแพงเป็นกระจก ท�ำให้คนที่อยู่ด้านนอกสามารถมองเห็นได้ ว่าคนที่อยู่ด้านในท�ำอะไรกันอยู่ มีการวาง สระน�้ำกั้นระหว่างมุมพักผ่อนกับส่วนที่เป็น ส�ำนักงาน โดยมีทางเชือ่ มทีเ่ ป็นแผ่นไม้ขนาด ไม่ใหญ่มาก วางต่อกันโดยเว้นช่องว่างให้ดู สวยงาม ซึง่ ต้องอาศัยเทคนิคของผูอ้ อกแบบ ทีจ่ ะต้องติดตัง้ ไม้ให้พอดี ท�ำให้เกิดความรูส้ กึ เหมือนกับว่าไม้นั้นลอยอยู่บนน�้ำ ซึ่งสระน�้ำ ที่วางไว้นั้นก็ไม่ใช่เพื่อความสวยงามเพียง อย่างเดียว แต่น�้ำที่เคลื่อนตัวตลอดเวลานั้น ยังสามารถช่วยคลายความร้อนของอาคาร หลังนี้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เมื่อเดินเข้ามา ในตั ว ส� ำ นั ก งานก็ จ ะพบกั บ โต๊ ะ ท� ำ งานที่ จั ด ไว้ อ ย่ า งเป็ น ระเบี ย บเป็ น สั ด ส่ ว น 6
อย่างชัดเจน และสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดีคือ โต๊ะประชุมตัวยาว ที่ใช้เป็นโต๊ะน�ำเสนองานให้กับลูกค้า โดยจะเห็นได้ ว่ามีการเลือกใช้สีที่ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี มีการใช้อุปกรณ์ส�ำนักงานที่ช่วยประหยัดพื้นที่ ท�ำให้ดูไม่เกะกะ ช่วยให้การ ท�ำงานเป็นไปอย่างราบรื่น และเพือ่ ตอบโจทย์คำ� ว่า Home Office ซึง่ จะต้องเป็นทัง้ ทีอ่ ยูอ่ าศัยและทีท่ ำ� งานไปพร้อมๆ กันนัน้ คุณเอกจึงได้จดั ส่วนทีเ่ ป็น มุมพักผ่อนไว้ทชี่ นั้ สามของบ้าน โดยมีไว้สำ� หรับให้พนักงานมารวมตัวกัน เป็นมุมไว้ใช้อา่ นหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ซึง่ ถือได้วา่ สามารถ สร้างความผ่อนคลาย และลดความเมื่อยล้าจากการท�ำงานได้ดีทีเดียว และชั้นบนสุดของบ้านคือชั้นสุดท้ายที่คุณเอกได้เปิดให้ ทางทีมงานได้เข้าไปเยีย่ มชม ซึง่ ก็คอื ส่วนทีค่ ณ ุ เอกได้ออกแบบไว้สำ� หรับการพักผ่อน ซึง่ ส่วนทีเ่ ป็นห้องนอนของคุณเอกนัน้ ยังอยู่ ในขัน้ ตอนของการตกแต่งโดยคุณเอกได้สญ ั ญากับทางทีมงาน Check in ไว้แล้วว่าถ้าท�ำเสร็จเมือ่ ไหร่จะเปิดให้ทางทีมงานเข้ามา เยีย่ มชมกันอีกครัง้ อย่างแน่นอน
7
เป็นยังไงบ้างคะส�ำหรับ Check in ฉบับนี้ ที่ทางทีมงานของเราได้เปลี่ยนบรรยากาศมา ท�ำความรู จ้ กั กับบ้านในรูปแบบใหม่ หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า Home Office โดยบ้านในรู ปแบบนี้ ก็คือการน�ำบ้านไปเป็นที่ท�ำงาน ซึ่ งข้อดีและ ข้อเสียนัน้ ก็มตี า่ งกัน ขึน้ อยู ก่ บั ลักษณะงานและ ความคิดของแต่ละคน แต่เชื่ อได้เลยว่าส�ำหรับ คุณเอกนั้นถือได้ว่า Home Office หลังนี้ สามารถตอบโจทย์ ท่ี อ ยู ่ ใ นใจของเจ้ า ของได้ ตรงตามที่ตอ้ งการแน่นอน และถ้าใครอยากได้ ความรู ส้ กึ แบบนีก้ ล็ องเอาไอเดียของคุณเอกไป ปรับใช้กนั ดูนะคะเผื่อจะได้มี Home Office เก๋ๆ ให้ทางทีมงานของเราได้ไป Check in อีกทีห่ นึง่ ส�ำหรับวันนีท้ างทีมงานก็ตอ้ งขอขอบคุณ “คุณเอก” สถาปนิกผู ้ใจดีเป็นอย่างมากที่เปิ ด บ้ า นสวยให้ ที ม งานของเราได้ เ ข้ าไปเยี่ ย มชม แล้วพบกันใหม่ในฉบับหน้าค่ะ เราจะพาไปเปิ ด บ้านกันที่ไหนต้องคอยติดตามกันนะคะ
โทนสีแบบไหนท�ำให้ห้องน่าอยู่ ส�ำหรับบ้านทีต่ อ้ งปรับปรุง หรือสร้างใหม่ อาจมีเรือ่ งของ สีเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการเพิ่มสีสัน และความสดใหม่ให้กับ ตัวบ้าน โดยการเลือกสีก็จ�ำเป็นอย่างมากที่ต้องดูให้ดีเพราะถ้า หากเลือกใช้โทนสีที่ผิด อาจท�ำให้บ้านดูทึบ ดูมืดไป ท�ำให้บ้าน ดูไม่น่าอยู่ได้เลยนะคะ นอกจากการเลือกโทนสีแล้ว ก็ยังต้อง เลือกใช้สีให้เข้ากับพื้นผิวให้เป็นด้วย ส�ำหรับการเลือกโทนสีให้ ห้องอาจเป็นสิง่ ทีเ่ จ้าของบ้านลังเลใจว่าจะเลือกอย่างไรให้เหมาะ กับห้องนั้นๆ “Check in” ขอแนะน�ำแนวทางง่ายๆ ซึ่งสามารถ น�ำไปปรับใช้ได้กับทุกห้องของบ้าน ดังนี้ 1. ถ้าห้องไม่ใหญ่มากแนะน�ำว่าควรเลือกโทนสีสว่างๆ เพราะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น เช่น สีครีม สีฟ้าอ่อน สีเขียวจางๆ ไปจนถึงเฉดสีนำ�้ ตาลอ่อนก็ได้ ถ้ากลัวจะจืดชืดก็สามารถใช้โทน สีเดียวกัน แต่เฉดเข้มขึ้น ทาตัดสักผนังหนึ่งก็ช่วยให้ดูสดใสขึ้น ในอัตราสีอ่อนต่อสีเข้ม = 70:30 (ไม่ควรทาสีเข้มทั้งห้อง เพราะ จะท�ำให้รู้สึกอึดอัด) 2. ควรดูองค์ประกอบอื่น ๆ ของห้องร่วมด้วย เช่น สี ของเฟอร์นิเจอร์ โซฟา พรม หรือผ้าม่านที่มีอยู่เดิม เพื่อให้ บรรยากาศของห้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 3. สีกับแสงนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก ดังนั้นขอบ 8
อกเคล็ ด ลั บ ในการเลื อ กสี อี ก นิ ด ว่ า ก่ อ นไปซื้ อ สี ที่ ร ้ า นค้ า ลองสังเกตห้องคุณสักนิดว่าในเวลาทีค่ ณ ุ ชอบอยูใ่ นห้องนัน้ ๆ มีแสง มาตกกระทบมากน้อยแค่ไหนเช่น ชอบนั่งเล่นในห้องรับแขก ตอนเย็นมีแสงส่องเวลาโพล้เพล้ ก็ควรไปเลือกดูสีจากร้านค้า ภายใต้แสงไฟในเวลาใกล้เคียงกัน ถ้าเลือกเวลาซือ้ สีไม่ได้ ลองเผือ่ เฉดให้สว่างขึ้น เพราะสีจะดูทึมขึ้นเนื่องจากแสงในเวลาเย็น 4. เวลาเลือกสีจากชิ้นตัวอย่างเล็กๆ อาจหลอกตาให้ ดูผิดเพี้ยนได้ ถ้าสามารถเลือกจากพื้นที่ใหญ่ได้เท่าไรก็จะยิ่ง ได้สีที่ใกล้เคียงความจริงมากขึ้น
9
ลดอ้วนเข้าด้วยกันแล้ว นักจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยังน�ำเสนอผลงาน ที่น่าสนใจไม่น้อยว่า จากการส�ำรวจแม่บ้านกลุ่มตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา พบว่า การท�ำงานบ้านส่งผลดีต่อสุขภาพจิตมากกว่าการออกก�ำลังกายตาม ฟิตเนส อันเนื่องมาจากมันจะช่วยก�ำจัดความรู้สึกผิดและข้อกังวลที่ว่า แม้จะ ได้ออกก�ำลังกาย แต่ฉนั ก็ยงั มีภาระต้องกลับไปเก็บกวาดทีบ่ า้ นต่อ ซึง่ จะท�ำให้ ร่างกายหลั่งสารแห่งความกังวลออกมากโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง ว่าแล้ว ก็ตอ้ งเชิ ญชวนคุณแม่บา้ นมามีความสุขกับการท�ำงานบ้าน เพื่อหุ่นสวยกันค่ะ
11
เราสามารถเดินลงบันไดลดระดับความสูงไปสูห่ าดทราย เวิ้งขาว ที่พิเศษมากนอกเหนือจากกิจกรรมชายหาด ในระดับ น�ำ้ ตืน้ บริเวณหน้ารีสอร์ทพอดิบพอดีเป็นแหล่งปลาและปะการัง นานาชนิด สามารถติดต่อขอหิ้วสน็อกเกิ้ลจากล็อบบี้ลงไปด�ำ ส�ำรวจบรรยากาศสวยของโลกใต้น�้ำได้ทันที หากยังไม่เต็มอิ่ม จากการด�ำน�้ำตื้น ก็สามารถจับจองทริปต์ด�ำน�้ำลึกจาก PADI Diving เพื่อไปส�ำรวจจุดด�ำในระดับลึกที่มีอยู่หลายจุดรอบๆ เกาะหรือจะเพิ่มระยะทางอีกประมาณ 15 นาที เดินทางไปเช็ค อินที่เกาะนางยวน เกาะพี่น้องที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเกาะเต่ามาก นักก็น่าสนใจไม่น้อย พูดแต่กิจกรรมเอ้าท์ดอร์เพียงอย่างเดียว ก็ดูจะไม่ครบ เครื่อง หลังจากเที่ยวจนเหนื่อย ถึงเวลาย้ายกระเป๋าเข้าสู่ที่พัก อย่างเป็นทางการ ลักษณะของห้องพักถูกออกแบบลดหลั่น ความสูงลงมาจากร้านอาหาร การออกแบบของห้องพักแบ่ง ออกเป็น 4 ประเภท ทั้งที่เป็นห้องบนอาคารกับแยกตัวออก เป็นบังกะโลหลังเดี่ยว ที่ดีไซน์หน้าต่างและประตูให้กว้างโปร่ง โล่งสบาย เพือ่ ให้สามารถมองเห็นวิวของทะเลสวยๆ ได้ชดั เจน ขณะเดียวกันยังช่วยในเรื่องการระบายอากาศ ท�ำให้ลมทะเล สามารถโกรกภายในบ้านลดไอร้อนช่วงกลางวันได้ดี สอดคล้อง กับช่วงเวลาจ่ายไฟตั้งแต่หกโมงเย็นถึงหกโมงเช้า ส่วนการ ตกแต่งภายในเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ วัตถุดิบหลักที่ น�ำมาใช้คอื ไม้ แทรกกับงานปูนแบบโมเดิรน์ ตกแต่งเพดานด้วย ผ้ามุ้งที่แฝงฟังชั่นช่วยกันยุงและแมลงได้อีกทาง
Ao Muong Resort & Diving
ที่ตงั้ หาดมะม่วง เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี (มีบริการเรือรับ-ส่งจากท่าแม่หาด เกาะเต่า) ส�ำรองที่พัก โทร. 0-7745-6665, 0-7745-7027 ปิ ดบริการในช่ วงมรสุม 26 กันยายน -20 ตุลาคม
Room Type
Room Type
ความลงตั ว ของที่ ตั้ ง และบรรยากาศภายในรี ส อร์ ท นั บ ได้ ว ่ า เป็ น ดั บ เบิ้ ล อิ ม แพค ที่ ส ะกดใจให้ นั ก ท่ อ งเที่ ย ว จ� ำ นวนมากเลื อ กหลบความวุ ่ น วาย มาเข้ า สู ่ โ ลกส่ ว นตั ว ที่เงียบสงบ แต่แฝงไปด้วยกลิ่นไอของความโรแมนติก ท�ำให้ เราแทบอยากจะหายตั ว ไปปรากฏกายอยู ่ บ นเตี ย งนุ ่ ม ๆ ของอ่าวม่วงรีสอร์ทในชั่วนาทีนี้เลยทีเดียว
1. Superior Room จ�ำนวน 2 ห้อง ห้องขนาดกะทัดรัดที่ ท�ำให้คุณสดชื่ นไปด้วยบรรยากาศของแมกไม้ ครบครันด้วย สาธารณูปโภค เคเบิลทีวี ตูเ้ ย็น และสัญญาณอินเตอร์เน็ท 2. Deluxe Junior Sea View จ�ำนวน 2 ห้อง ส�ำหรับคนที่ชอบ ทะเลที่เดินทางแบบคูร่ กั แนะน�ำให้เลือกห้องแบบนี้ เพราะขนาดไม่ ใหญ่เกินไปและมีระเบียงเล็กๆ ส�ำหรับนั่งรับลม 3. Deluxe Room จ�ำนวน 2 ห้อง ตกแต่งพิเศษ วิวธรรมชาติ และแมกไม้ 4. Deluxe Sea View จ�ำนวน 2 ห้อง ตกแต่งพิเศษ พร้อม ระเบียงเพื่อนั่งชมวิวทะเล
17
18
19
เรื่อง : สุทธาทิพย์ อร่ามศักดิ์ ภาพ : Yeno
21
Spiritual Tourism
107 ปีชาตกาล กับสวนโมกข์ “ทุกที่” ปี 2556 ข้าพเจ้าไม่มมี รดกอะไร ทีจ่ ะฝากไว้ กับเพือ่ นพุทธบริษทั ผูเ้ ป็นเพือ่ น เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งหลาย นอกจาก สิ่งที่ระบุไว้ ใน ข้อความข้างล่างนี้ ด้วยความหวังว่า ถ้า ยังมีการสืบมรดกนี้อยู่เพียงใด กิจกรรม สวนโมกขพลาราม ก็จะยังคงมีอยู่ ตลอด กาลนานเพียงนัน้ และ “พุทธทาส” ก็จะ ยังคงมีอยู่ ในสถานทีน่ นั้ ๆ ตลอดกาลเพียง นัน้ ขอได้โปรดรับพิจารณากันเสียแต่บดั นี้ ซึง่ จะเป็นการง่ายในการสืบมรดก ดังกล่าว ขอให้ถอื ว่า เป็นมรดกธรรมแก่บรรดาเพือ่ น ผู้มอบกายถวายชีวิตในการสืบอายุพระ ศาสนา เพือ่ ประโยชน์แก่คนทัง้ โลกเถิด มิได้ เป็นเรือ่ งส่วนบุคคลแต่ประการใด” พุทธทาส อินทปัญโญ นับตั้งแต่การละสังขารของปราชญ์ แห่งธรรม ตัง้ แต่วนั ที่ 8 กรกฎาคม 2537 เป็นเวลากว่า 19 ปีทหี่ ลักธรรมของท่านพุทธ ทาส ภิกขุ ยังคงท�ำหน้าทีใ่ นการจรรโลงโลก ของเราไว้ เฉกเช่นประโยคทีไ่ ด้ยนิ จนคุน้ หูวา่ “พุทธทาสจักอยูไ่ ปไม่มตี าย”
จากไชยาสูป่ ราชญ์ของโลก
เชือ่ ว่า ชาวสุราษฎร์ธานีทกุ คนรูจ้ กั ประวัติความเป็นมาของท่านพุทธทาสได้ดี ใกล้เคียงกับการท่องสูตรคูณหรือร้องเพลง ชาติ จึงขอประมวลประวัตชิ วี ติ ของท่านแต่ เพียงคร่าวๆ ท่านอาจารย์พทุ ธทาส มีนามเดิมว่า เงือ่ ม นามสกุล พานิช เกิดเมือ่ วันอาทิตย์ ขึน้ 7 ค�ำ ่ เดือน7 ปีมะเมีย วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ ในสกุลของพ่อค้าที่ตลาด พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี บิดาของ ท่านมีเชื้อสายจีน ประกอบอาชีพหลักคือ การค้าขายของช�ำ เฉกเช่นทีช่ าวจีนนิยมท�ำ กันทั่วไป แต่อิทธิพลที่ท่านได้รับจากบิดา 21
กลับเป็นเรือ่ งของความสามารถทางด้านกวี และทางด้านช่างไม้ ซึง่ เป็นงานอดิเรกทีร่ กั ยิง่ ของบิดา ส่วนอิทธิพลทีไ่ ด้รบั จากมารดา คือ ความสนใจในการศึกษาธรรมะอย่างลึกซึง้ อุปนิสยั ทีเ่ น้นเรือ่ งความ ประหยัด เรือ่ งละเอียดลออในการใช้จา่ ยและการท�ำทุกสิง่ ให้ดที สี่ ดุ ท่านได้เรียนหนังสือเพียงแค่ชนั้ ม.3 แล้วต้องออกมาค้าขาย แทนบิดาซึง่ เสียชีวติ จนอายุครบ 20 ปี ก็ได้บวชเป็นพระ ตามคตินยิ ม ของชายไทยทีว่ ดั โพธาราม ไชยา ได้รบั ฉายาว่า “อินทปัญโญ” แปล ว่า ผูม้ ปี ญ ั ญา อันยิง่ ใหญ่ เดิมท่านตัง้ ใจจะบวชเรียน ตามประเพณี เพียง ๓ เดือน แต่ ความสนใจ ความซาบซึง้ ความรูส้ กึ เป็นสุข และ สนุกในการศึกษาและเทศน์แสดงธรรม ท�ำให้ทา่ นตัดสินใจด�ำเนินชีวติ ในเส้นทางธรรมดังความตัง้ ใจทีเ่ คยกล่าวไว้วา่ “ข้าพเจ้าจะใช้ชวี ติ ให้ เป็นประโยชน์ แก่เพือ่ นมนุษย์ ให้มากทีส่ ดุ ” จากเด็กชายในครอบครัวพ่อค้าในต�ำบลพุมเรียง อ.ไชยา ในปี 2549 ซึง่ เป็นปีทคี่ รบรอบชาตกาล 100 ปี ท่านพุทธทาสได้รบั การยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลส�ำคัญของโลกด้านการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม และสันติภาพ น�ำมาซึง่ ความภาคภูมใิ จแก่คน สุราษฎร์ธานีอย่างไม่รลู้ มื
พุทธทาส นักปราชญ์แห่งธรรม
นับว่าโชคดีทคี่ รัง้ หนึง่ ผูเ้ ขียนเคยมีโอกาสฟังธรรมเทศนาในยาม บ่ายจากท่านพุทธทาส ภิกขุ ณ วัดสวนโมพลาราม หรือวัดธารน�ำ้ ไหล ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนจ�ำนวนคับคัง่ บริเวณลานหินโค้ง นัน่ เป็นระยะ เวลาไม่หา่ งกันนักกับการล้มป่วยและละสังขารของท่านในเวลาต่อมา ตลอดชีวติ ของท่านพุทธทาส ท่านย�ำ้ อยูเ่ สมอว่า “ธรรมะคือ หน้าที”่ เป็นการท�ำหน้าทีเ่ พือ่ ความอยูร่ อดทัง้ ทางฝ่ายกายและฝ่าย วิญญาณของมนุษย์ และท่านได้ทำ� หน้าทีใ่ นฐานะทาสผูซ้ อื่ สัตย์ของ พระพุทธเจ้า ทุกลมหายใจเข้าออก จนแม้วาระสุดท้ายแห่งชีวติ จึง ไม่นา่ สงสัยเลยว่า ผลงานทีท่ า่ นสร้างสรรค์ไว้เพือ่ เป็นมรดกทางธรรม นัน้ จะมีมากมายสักปานใด ทีโ่ ดดเด่นและเป็นทีย่ อมรับอย่างกว้างขวางก็นา่ จะเป็นหนังสือ ชุด “ธรรมโฆษณ์” ซึง่ เป็นหนังสือทีร่ วบรวมพิมพ์จากปาฐกถาธรรม ที่ท่านแสดงไว้ในวาระต่างๆ และงานหนังสือเล่มอื่นๆ ของท่าน ซึง่ แบ่งออกเป็น 5 หมวด คือ หมวด “จากพระโอษฐ์” เป็นเรือ่ งทีท่ า่ น ค้นคว้าจากพระไตรปิฎก ฉบับภาษาบาลีโดยตรง หมวด”ปกรณ์พเิ ศษ” เป็นค�ำอธิบายข้อธรรมะที่เป็นหลักวิชาและหลักปฏิบัติ หมวด “ธรรมเทศนา” เป็นค�ำบรรยายแบบเทศนาในเทศกาลต่างๆ หมวด “ชุมนุมธรรมบรรยาย” เป็นค�ำขยายความ ข้อธรรมะ เพือ่ ให้เข้าใจได้ อย่างถูกต้องและหมวด “ปกิณกะ” เป็นการอธิบายข้อธรรมะ เบ็ดเตล็ด ต่างๆ ประกอบความเข้าใจ
คอมมิวนิสต์แห่งศาสนา ผูส้ ร้างทางแห่งธรรม
ก่อนทีท่ า่ นพุทธทาสจะได้รบั การยอมรับเป็นแสงประทีปแห่ง ธรรมดัง่ ปัจจุบนั ท่านพุทธทาสสนใจใฝ่หาความรูท้ างธรรมะตลอด
22
เวลา ไม่เฉพาะแต่พระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท หรือหินยาน แต่ครอบคลุมไปถึงพระพุทธ ศาสนา แบบมหายาน และศาสนาอื่น เช่น คริสต์ อิสลาม ฮินดู สิกข์ เป็นต้น เพื่อประยุกต์ วิธีการสอนและปฏิบัติธรรมะให้คนได้เลือกปฏิบัติให้สอดคล้องกับพื้นความรู้และอุปนิสัย ของตนได้ โดยไม่จ�ำกัดชนชั้น เชื้อชาติ และศาสนา เพราะท่านเชื่อว่า มนุษย์ทุกคน คือ เพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น และหัวใจของทุกศาสนาก็เหมือนกันหมด คือ ต้องการให้คนพ้นจากความทุกข์ ด้วยปณิธานดังกล่าว ส่งผลให้หลายคนไม่เข้าใจและจาบจ้วงว่าท่านพุทธทาสเป็นเดียรถีย์ เป็นคอมมิวนิสต์ หรือรับจ้างคนคริสต์มาท�ำลายล้างพระพุทธศาสนา แต่ดว้ ยวิถปี ฏิบตั ทิ ดี่ งี าม ก็ทำ� ให้ทา่ นได้รบั การยอมรับจากวงการคณะสงฆ์ไทย วงการศึกษาของไทย และวงการศึกษา ธรรมะของโลก และได้รบั การยกย่องให้เป็นเสนาบดีแห่งกองทัพธรรมในยุคหลังกึง่ พุทธกาล ไม่เว้นแม้แต่ในระดับนานาชาติ ซึง่ ปัจจุบนั ทุกมหาวิทยาลัย ทีม่ แี ผนกสอนวิชาศาสนา สากล ทัง้ ในยุโรปและ อเมริกาเหนือ ล้วนศึกษางานของท่าน หนังสือของท่านกว่า 140 เล่ม ได้รบั การแปลเป็นภาษาอังกฤษ กว่า 15 เล่มเป็นภาษาฝรัง่ เศส และ อีก 8 เล่มเป็นภาษา เยอรมัน นอกจากนัน้ ยังแปลเป็นภาษาจีน อินโดนีเซีย ลาว และตากาล็อกอีกด้วย กล่าวได้วา่ ในประวัตศิ าสตร์ไทยท่านอาจารย์พทุ ธทาสมีผลงานทีเ่ ป็นหนังสือแปลสูต่ า่ งประเทศมากทีส่ ดุ
สวนโมกข์ “ทุกที”่ มรดกธรรมทีย่ งั คงอยู่
สวนโมกขพลาราม คือมรดกส�ำคัญทีท่ า่ นอาจารย์พทุ ธทาส และสหายธรรมผูร้ ว่ ม ก่อตั้งได้มอบไว้ให้แก่คนรุ่นหลัง สวนโมกข์ในความหมายของรูปธรรม อาจเปลี่ยนแปลง ไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ และตามเหตุปัจจัยของผู้อยู่หลัง แต่ความหมายในเชิง นามธรรมแล้ว “สวนป่าอันเป็นก�ำลังแห่งความหลุดพ้นจากทุกข์” นี้จะไม่มีวันดับสูญ และ ไม่จำ� เป็นทีจ่ ะต้องตัง้ อยูท่ อี่ ำ� เภอไชยา หากสามารถจะเกิดและด�ำรงอยูใ่ นทุกๆ ทีแ่ ม้ในบ้าน เราเอง ด้วยธรรมะที่ท่านอาจารย์พุทธทาสได้ปักหลักเผยแผ่อยู่ที่สวนโมกข์เป็นเวลาถึง 6 ทศวรรษนี้ เป็นธรรมะทีไ่ ม่มวี นั ตาย และจะไม่เปลีย่ นแปลงไปตามเวลาและสถานที่ เพราะ เป็นกฎสูงสุดแห่งธรรมชาติ ซึ่งพระบรมศาสดาเป็นผู้ค้นพบ
ภายในสวนโมกข์ประกอบด้วยสถาน ทีอ่ นั เป็นปริศนาธรรมมากมาย หนึง่ ในสถาน ที่ส�ำคัญ คือ โรงมหรสพทางวิญญาณ ที่ ภายในเต็มไปด้วยภาพเขียน บนผนัง เสา ใต้ บันใด ฯลฯ ทัง้ ทีค่ ดิ ขึน้ ใหม่ และน�ำมาจาก ของเก่าไม่วา่ จะมาจาก เซน ธิเบต ตะวันตก จีน ไทย ฯลฯ เพื่อเป็นการเล่าธรรมะผ่าน ภาพด้วยหลักสูตรเร่งรัด โรงมหรสพทางวิญญาณแห่งนี้ ท่าน พุทธทาสเริม่ ก่อสร้างขึน้ ในปี 2505 ใช้เวลา 10 ปีเต็มกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ โดยมีจุดมุ่ง หมายสองประการ คือ ใช้เป็นที่ช่วยสอน ธรรมะแทนตั ว ท่ า นและอี ก ประการหนึ่ ง ซึ่งท่านอธิบายไว้ว่า “เพื่อประหยัดเวลา ของแขก ทั้งที่เพื่อไปศึกษาและไปเพื่อเยี่ยม ชั่วเวลาสองสามชั่วโมงจ�ำท�ำให้เขาได้รับ ความรูเ้ ท่ากับการอ่านธรรมดาทีใ่ ช้เวลาเป็น เดือนๆ ทีเดียว ทัง้ ยังได้รบั ความสนุกสนาน เพลิดเพลินอย่างยิง่ ตลอดเวลาเหล่านัน้ ด้วย” แม้สวนโมกข์จะก้าวย่างเข้าสูป่ ที ี่ 80 แห่งการก่อตัง้ ในปี 2475 แต่ปณิธานแห่งการ ท�ำงานเพือ่ รับใช้พระศาสนาและเพือ่ นมนุษย์ ก็ยงั ไม่เคยเปลีย่ นแปลงไปจากอดีต กิจวัตร 23
24
ของคณะสงฆ์ยังคงด�ำเนินไปดังเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต เพื่อมุ่งไป และส่วนชั้น 3 ก็มีห้องประชุม ห้องจดหมายเหตุ ส�ำนักงาน สูจ่ ดุ มุง่ หมายทีต่ งั้ ไว้ ห้องค้นคว้า ห้องนิทรรศการ จากค�ำสอนของท่านพุทธทาสทีว่ า่ “ธรรมะนีจ้ งึ มิใช่มอี ยูเ่ พียง ที่สวนโมกข์ไชยา และมิใช่ธรรมะของชาวพุทธหากคือธรรมะของ มนุษยชาติ ที่จะคงคุณค่าอยู่เสมอไป” ในวันนี้สวนโมกข์พลาราม และสวนโมกข์นานาชาติ นับได้วา่ เป็นเพียงสัญลักษณ์ทชี่ ว่ ยสะท้อน เสียงแห่งธรรมสู่พุทธศาสนิกชนทุกคนอย่างแข็งขัน เช่นเดียวกับ สวนโมกข์นอ้ งใหม่ “หอจดหมายเหตุพทุ ธทาส อินทปัญโญ” ทีต่ งั้ อยู่ ณ สวนวชิรเบญจทัศ อุทยานจตุจกั ร (สวนรถไฟ) กรุงเทพฯ สวนโมกข์กรุงเทพฯ สถานธรรมกลางเมือง เริม่ ก่อสร้างเมือ่ มิถนุ ายน พ.ศ. 2552 มีลกั ษณะเป็นอาคารปูน 3 ชัน้ อยูร่ มิ สระน�ำ้ และ สวนกิจกรรมลานธรรมะ ทีเ่ รียกชือ่ ล้อตามส่วนโมกข์รนุ่ พีว่ า่ ลานริม สระนาฬิเก ส�ำหรับรองรับกิจกรรมต่าง ๆ เพือ่ เรียนรูแ้ ละเข้าใจธรรม บริเวณชัน้ ล่างของอาคาร 3 ชัน้ ชัน้ ล่างประกอบด้วย ลานหิน โค้ง ทีป่ ฏิบตั ธิ รรมหน้าพระโพธิส์ ตั ว์ซงึ่ เต็มไปด้วยภาพพุทธประวัตทิ ี่ จ�ำลองมาจากภาพพุทธประวัตชิ ดุ แรกจากอินเดีย ถือว่ามีความครบ ถ้วนสมบูรณ์มากกว่าแห่งใดในโลก กึง่ กลางลานหินโค้งประดิษฐาน พระอวโลกิ เ ตศวร ซึ่ ง จ� ำ ลองแนวคิ ด จากลานปฏิ บั ติ ธ รรม สวนโมกขพลาราม วัดธารน�้ำไหล ห้องหนังสือและสื่อธรรมะ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมศึกษาธรรมะและผลงานของพุทธทาส และ โรงมหรสพทางวิญญาณ ส่วนชัน้ 2 สวนปฏิจจสมุปบาท มีหอ้ งนิทรรศการนิพพาน จ�ำลอง ห้องปฏิบตั สิ ทั ธรรมและประชุมสัมมนา และสวนปฏิจจสมุ ปบาท และชัน้ บนสุดเป็นส่วนนิทรรศการแสดงผลงานท่านพุทธทาส
ธรรมะในหัวใจของคนสุราษฎร์ ปี 2556
เวลาหลายสัปดาห์ในการเก็บข้อมูลและเยี่ยมชมสวนโมกข์ “ทุกที่” สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนตระหนักขึ้นในใจ คือ ความโชคดีของ คนสุราษฎร์ธานีทมี่ เี นือ้ นาบุญแห่งธรรมเกิดขึน้ คูก่ บั แผ่นดินบ้านเกิด ในช่วงเวลาทีบ่ า้ นเมืองก�ำลังประสบปัญหาวุน่ วาย ทัง้ เรือ่ งเศรษฐกิจ การปกครอง และสังคมโลกาภิวตั น์ น่าอิจฉาไม่นอ้ ยทีเ่ รามีเกราะ แห่งธรรมเป็นเครือ่ งยึดเหนีย่ วตัง้ แต่ยงั จ�ำความได้ หากแต่ยังมีข้อสังเกตบางประการที่อาจเป็นเสียงสะท้อน ในมุมเล็กๆ ทีว่ า่ ในขณะทีค่ นต่างบ้านต่างเมืองก�ำลังตีฆอ้ ง ให้ความ สนใจกับการค้นพบอันยิ่งใหญ่ในธรรมอันไม่รู้จบของนักปราชญ์ คูแ่ ผ่นดินของเรา และพยายามเรียนรู้ เข้าถึงรสแห่งธรรมให้ลกึ ซึง้ ยิง่ ขึน้ นัน้ เรากลับละเลยและมองข้าม “ของดี” ทีม่ อี ยูใ่ กล้ตวั ในบาง ขณะ จนถึงขัน้ ภาษิตทีว่ า่ “ใกล้เกลือกินด่าง”
สวนโมกข์ “ทุกที่” ในวันนี้ ปี 2556 ยังคง ท�ำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สะท้อนเสียงแห่งธรรมของ ท่านพุทธทาสภิกขุ และแสดงความหมายที่แท้จริง ของประโยคที่ว่า “พุทธทาสจักอยู่ ไม่รู้ตาย” ได้ลึก ซึ้งมากกว่าที่เคยเข้าใจ...แล้วเราพร้อมที่จะเริ่มออก เดินทางเพือ่ ตามหาความหมายทีแ่ ท้จริงนัน้ หรือยัง 25
ข้อมูล: วิโรจน์ ศิรอิ ฐั ประธานมูลนิธเิ ผยแพร่ชวี ติ ประเสริฐ (อดีตผูต้ ดิ ตามท่านพุทธทาส ภิกขุ) บทความ บันทึกความสัมพันธ์ระหว่าง “หัวหน้า(คนรับใช้)” กับ “(ทาส)ของพระพุทธเจ้า”
จากสวนโมกข์ ไชยาสูส่ วนโมกข์กรุงเทพฯ
107 years with The Garden of Liberation “everywhere” in 2013. Since the passing away of the sage of Dharma. Since July 8th, 1994, for more than 19 years, the principles of Buddhadasa Bhikkhu continue to sustain on the earth for us, as we constantly hear the familiar phrase that “Buddhadasa Bhikkhu will live and never die.” Throughout the life of Buddhadasa Bhikkhu, he always emphasized that “Dharma is the duty”, it is the act of survival of both the body and spirit of man. He had served as a faithful servant to the Lord Buddha of every single inhale and exhale of his breath until the end of life. It’s no wonder how much his creative legacy of dharma could be. Before Buddhadasa Bhikkhu was recognize as the beacon of dharma as of present. Buddhadasa Bhikkhu constantly desired the knowledge of dharma, not only just the Theravada, or Hinayana but Mahayana as well, he was also interested in other religions such as Christianity, Islam, Hinduism, Sikhs, etc., to apply to the teaching and practice of religion and for people to choose in complying with the basic knowledge and habits of themselves regardless of class, race and religion. Buddhadasa Bhikkhu believes that every human being is a fellow birth, age, sickness, and death, and the heart of every religion is the same, it is to keep people from suffering. From his good deed of practice he had been accepted by the clergy of Thailand, the education of Thailand, and the world dharma study, and has been regarded as the Secretary of Dharma Army in the late Buddha era. Currently, all university even on the international level has the Department of International Religion both in Europe and North America are studying his work. From a boy in a family of merchants in the sub-district Phumriang Chaiya district. The year of 2006, was the 100-year anniversary of Buddhadasa Bhikkhu, he was regarded by UNESCO as an important person in the world for education, religion, culture and peace. In which, unforgettably acquired pride to the people of Surat Thani. แปล: ครูป้อม บ้านภาษา
26
สนทนาภาษาจานอรอยแสนสะดวก 1
32
38
39
สนใจสั่งซื้อหรือเปน ตัวแทนจําหนาย
ติดตอ 086-3630461 คุณแซนดี้ cle' ขนาด 10 ml. ราคา 390.cle' ขนาด 30 ml. ราคา 950.-
โปรโมชั่นพิเศษ สั่งเดือนนี้ จัดสงฟรี คุณสมบัติ : มารกเพื่อผิวหนาขาวกระจางใส ชวยผลัดเซลลผิวอยางออนโยน คืนความชุมชื้น ใหแกผิวหนา และชวยลดเลือนจุดดางดํา ความ หมองคลํ้า และรอยแดงจากสิว เหมาะสําหรับทุก สภาพผิว
วิธีใช : ใชพอกหนาๆ ทั่วผิวหนากอนนอนโดย ไมตองลางออก สัปดาหละ 2-3 ครั้ง หรือสามารถ ใชไดบอยครั้งตามตองการ
1/149-150 ถ.ดอนนก ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎรธานี www.aleezaholistic.com, aleezasurat@hotmail.com
Call. 077-273 133, 077-273 533
ALEEZA
สาขาโรงแรมแกรนธารา (ตรงขามศาลหลักเมือง)
Health & Beauty Club
ALEEZA HEALTH & BEAUTY CLUB