SAY HI JAPAN : ISSUE 18-1 JANUARY 2015 Story / Photo : เรวดี กองทัพธรรม
a w a Kag More Than You Can Think
| 96
a รมชาติ Kagaคw วามสวยงามตามธร
รรมอันน่าตื่นตาตื่นใจ
ปัตยก วิถีชีวิตชุมชน และสถา
คอลั ม น์ Say Hi Japan ฉบั บ นี้ เ ราได้ รั บ เชิ ญ จาก “การท่ อ งเที่ ย วจั ง หวั ด คางาวะ (Kagawa)” ให้ร่วมส�ำรวจเส้นทาง “จังหวัดคางาวะ” ไปด้วยกัน คางาวะเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ เล็กที่สุดในญี่ปุ่นแต่กลับอัดแน่นไปด้วยความสวยงามตามธรรมชาติ วิถีชีวิตชุมชน และ สถาปัตยกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจ ครั้งนี้เราเดินทางไปกับ “บริษัท แพลนเนเชีย จ�ำกัด” โดย “China Airlines” สายการบินแห่งชาติของสาธารณรัฐไต้หวัน บินออกจากกรุงเทพฯ ในช่วงเช้า และไปแวะเปลีย ่ นเครือ ่ งกันทีไ่ ทเป ก่อนจะมุง ่ หน้าสู่ “สนามบินทากามาทสึ (Takamatsu Airport)” ของจังหวัดคางาวะเพื่อเริ่มต้นทริปดีๆ พร้อมกันในครั้งนี้ การเดินทางมาถึงในช่วงค�่ำท�ำให้เราได้เห็นสภาพความสงบเงียบตามแบบฉบับของ จังหวัดเล็กๆ อย่างคางาวะตลอดเส้นทางจากสนามบินจนเข้าสูต ่ วั เมืองเพือ ่ ไปยังโรงแรมทีพ ่ ก ั เราเริม ่ มีคำ� ถามเกิดขึน ้ ในใจว่าเมืองเล็กๆ แห่งนีจ ้ ะมีอะไรให้เราค้นหามากน้อยแค่ไหน จนเมือ ่ ถึง โรงแรมก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองจากเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวของจังหวัด คางาวะก่อนที่พวกเราจะเข้าพักกันในค�่ำคืนแรกที่ “Hanajukai Hotel”
จังหวัดคางาวะตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ “เกาะชิโกกุ” (Shikoku Island) แต่เดิมเคยมีชื่อว่า “ซานูคิ (Sanuki)” และมีชื่อเสียง โด่งดังมากในเรือ่ งของอุดง้ ฉะนัน้ ถ้าพูดถึงอุดง้ ทีอ่ ร่อยทีส่ ดุ แล้วคนญีป่ นุ่ ก็มกั จะนึกถึงอุดง้ ของคางาวะทีเ่ รียกว่า “Sanuki Udon” เป็นอันดับแรก เรื่องนี้ต้องขอยืนยันด้วยอีกคนเพราะเมื่อเราได้ลองชิมอุด้งต้นต�ำรับ คางาวะแท้ๆ ก็ตอ้ งยอมรับในความอร่อยและคุณภาพของเส้นอุดง้ ทีท่ งั้ แน่นและเหนียวนุม่ ก�ำลังดี เนือ้ แป้งนุม่ ลืน่ ยิง่ ได้ซดน�ำ้ ซุปหอมหวานไป พร้อมกันก็นับเป็นความสุขที่ได้ลิ้มลองอุด้งต้นต�ำรับแล้วจริงๆ
97 |
Hanajukai Hotel โ ร ง แ ร ม ที่ ส ว ย ที่ สุ ด แ ห ่ ง ห นึ่ ง ข อ ง คางาวะซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินเพียงแค่ระยะ เวลานั่งรถยนต์ 30 นาทีเท่านั้น เป็นโรงแรม สไตล์รส ี อร์ทบนขุนเขาทีเ่ ราจะได้เห็นทัง ้ วิวภูเขา และทะเล ให้บริการห้องพักสะอาดกว้างขวางใน สไตล์เรียวกัง พร้อมออนเซ็นธรรมชาติเพื่อ สุขภาพและผิวพรรณ ทัง ้ ยังมีบริการ Wi-Fi ฟรี ในห้องพักอีกด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้นเราเริ่มส�ำรวจแหล่งท่องเที่ยว ของจังหวัดคางาวะในเมืองต่างๆ เป้าหมายแรกที่ เราไปเยีย ่ มชมคือ “สวนริทสึรน ิ (Ritsurin Garden)”
Ritsurin Garden
ที่สุดของญี่ปุ่น
1 ใน 6 ของสวนที่สวย
ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวส�ำคัญของเมือง “ทากามาทสึ (Takamatsu)” และด้ ว ยความ สวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ก็ท�ำให้สวนริทสึรินได้รับ การจัดอันดับ 3 ดาวโดย Michelin Green Guide Japan เมื่ อ เดื อ นมี น าคม ปี 2009 อี ก ทั้ ง สวนแห่งนี้ยังเป็น 1 ใน 6 ของสวนที่สวยที่สุดของ ญี่ปุ่น และเป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกด้วย โดยมีพน ื้ ทีท ่ ง ั้ หมดถึง 75 เฮกตาร์ ถือเป็น หนึง ่ ในเสน่หข ์ องคางาวะทีม ่ ส ี วนสวยทีใ่ หญ่ทส ี่ ด ุ ซึง ่ ตั้งอยู่ในจังหวัดที่เล็กที่สุดของประเทศเช่นนี้
ก่อนหน้านี้สวนริทสึรินถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็น สวนของ “ไดเมียวอิโคมะ ทากาโทชิ (Daimyo Ikoma Takatoshi)” ในยุคเอโดะ โดยเริ่มสร้าง ประมาณเมื่อปี 1620 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 1745 จากความเก่าแก่ของสวนทีม่ อี ายุเกือบ 400 ปีทำ� ให้ เราได้สัมผัสกับความร่มรื่นของต้นไม้ขนาดใหญ่ นานาพันธุ์ ได้เห็นการจัดวางภูมิทัศน์ที่สวยงาม ลงตัว มีฉากหลังของสวนเป็น “ภูเขาชิอุน (Mount Shiun)” มีทิวต้นสนใหญ่ที่ถูกดัดตัดแต่งให้เป็นรูป ทรงต่างๆ ประมาณ 1,400 ต้น มีทะเลสาบมาก ถึง 6 แห่ง และเทือกเขาน้อยใหญ่อีก 13 ลูก ค่าเข้าชมสวนริทสึรินส�ำหรับผู้ใหญ่ 410 เยน และ ส�ำหรับเด็ก 170 เยน
ส่ ว นนั ก ท่ อ งเที่ ย วที่ ต ้ อ งการศึ ก ษา ประวั ติ ค วามเป็ น มาในระหว่ า งชมสวน สามารถเช่าเครื่อง Audio Guide เพื่อรับ ข้อมูลได้ โดยเครื่อง Audio Guide ที่สวน แห่งนี้มีใ ห้บ ริการจะใช้วิธีน�ำปากกาลงไป สัมผัสบนแผนที่ เครื่องก็จะแปลความออกมา เป็นภาษาต่างๆ แต่นา่ เสียดายทีต่ อนนีย้ งั ไม่มี การแปลเป็นภาษาไทย ค่าบริการ Audio Guide อยู่ที่ 200 เยน นอกจากนี้ยังมีบริการ ล่องเรือเพื่อชมความงามของสวนโดยรอบซึ่ง ถื อ เป็ น สถานที่ ที่ มี ม าตั้ ง แต่ ใ นยุ ค เอโดะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่าบริการล่องเรือ ส�ำหรับผู้ใหญ่ 610 เยน และเด็ก 300 เยน
และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงสวน ริ ท สึ รึ น ก็ คื อ การชงชาที่ เรื อ นชงชาคิ คุ เ กะทสึ เ ท (Kikugetsu-tei Tea House) ซึง่ จะเปิดให้บริการเป็นรอบ ตั้งแต่ช่วงเวลา 9.00-16.30 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวและ บุคคลทั่วไปได้เรียนรู้วิธีการชงชาและลองดื่มชาแบบ โบราณท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น กิจกรรมนี้สร้างความ ประทับใจให้แก่ผู้ร่วมพิธีชงชาได้อย่างมากทีเดียว Travel Tips: การดืม ่ ชาในพิธช ี งชา (Tea Ceremony) ให้หยิบถ้วยชาด้วยมือขวา และน�ำไปวางบน ฝ่ามือซ้าย หมุนถ้วยชาไป 90 องศาตามเข็ม นาฬิกา 2 ครัง ้ ยกถ้วยชาขึน ้ จิบ เมือ ่ จิบชาเสร็จ แล้วให้หมุนทวนเข็มนาฬิกาอีก 2 ครั้ง
| 98
Shodoshima Islandาะมีลอส (Milos)” เกาะพี่เกาะน้องกับ “เก ในประเทศกรีซ
เป้าหมายต่อไปของเราคือการไปเยือนแหล่งปลูกมะกอกทีส ่ ำ� คัญบน “เกาะโชโดะชิมะ (Shodoshima Island)” ซึง ่ เป็นเกาะขนาดใหญ่ทม ี่ รี ะยะทางรอบเกาะประมาณ 126 กิโลเมตร เราเดินทางด้วยเรือเร็ว จากท่าเรือทากามาทสึ (Takamatsu Port) เพือ ่ ข้ามไปยังท่าเรือ โทโนะโช (Tonosho Port) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่าบริการส�ำหรับผูใ้ หญ่เทีย ่ วเดียว 1,170 เยน หรือถ้าจะเลือกแบบไปกลับก็ 2,230 เยน เด็กอายุตำ�่ กว่า 12 ปีเทีย ่ วเดียว 590 เยน และไปกลับ 1,130 เยน เปิดบริการรอบแรกเวลา 7.40 น. และรอบสุดท้ายเวลา 18.30 น.
Travel Tips: ในคางาวะจะนิ ย มเลี้ ย งวั ว และปลาด้ ว ยใบ มะกอก ซึ่งจะส่งผลให้เนื้อวัวและเนื้อปลามีคุณภาพ และดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค ซ�้ำยังมีรสชาติอร่อย ไม่เหมือนใครในแบบที่ต้องลิ้มลองให้ได้
99 |
เกาะโชโดะชิมะเป็นทีต่ งั้ ของแหล่งก�ำเนิดการเพาะปลูกมะกอกทีส่ ำ� คัญของญีป่ นุ่ ซึง่ มีชอื่ ว่า “Shodoshima Island Olive Park” เมื่อมาถึงเกาะแห่งนี้เราจะได้พบกับผลิตภัณฑ์ที่ท�ำ จากมะกอกวางจ�ำหน่ายเยอะแยะไปหมด เฉพาะบนเกาะโชโดมีการปลูกมะกอกไว้มากกว่า 30,000 ต้น มีทั้งมะกอกสีเขียวไว้ส�ำหรับรับประทานสด และมะกอกสีด�ำม่วงส�ำหรับน�ำ มาสกัดเป็นน�ำ้ มันมะกอก ชาวสวนจะเก็บผลมะกอกกันในราวเดือนกันยายนถึงธันวาคม และ ก็โชคดีที่เราไปถึงในช่วงที่จะมีการเก็บผลมะกอกกันพอดิบพอดี กรรมวิธกี ารเก็บมะกอกของชาวสวนทีน่ ยี่ งั เป็นแบบดัง้ เดิม นัน่ คือใช้การปีนเก็บด้วยมือ แล้วคัดแยกสีมะกอกลงตะกร้าไว้ ครั้งนี้นอกจากเราจะได้ชมชาวสวนเก็บมะกอกกันเพลินๆ แล้วยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ตามล่าหาใบมะกอกรูปหัวใจ กันอีกด้วย เพราะชาวบ้าน เชื่อกันว่าใบมะกอกรูปหัวใจคือใบไม้แห่งความสุข พวกเราก็ช่วยหากันอย่างสนุก ในที่สุด ก็สามารถตามหาใบไม้แห่งความสุขมาฝากคุณผู้อ่านได้ส�ำเร็จ และไม่ใช่จะมีแค่มะกอก แต่บน Olive Park ยังมี “สวนสมุนไพร (Herb Garden)” ที่ เต็มไปด้วยสมุนไพรกว่า 130 ชนิดกระจัดกระจายอยูท่ วั่ ทัง้ สวน เดินผ่านมุมไหนหากลองหยิบ ใบสมุนไพรมาขยี้แล้วดมดูก็จะได้กลิ่นที่ต่างกันไป บ้างก็มีกลิ่นหอมแบบอโรมา บ้างก็มีกลิ่น ฉุนจัด และทีน่ ยี่ งั มี “วงเวียนเสียงสะท้อน” โดยให้เราเข้าไปยืนบนวงเวียนในต�ำแหน่งทีก่ ำ� หนด แล้วตะโกนส่งเสียงออกมา ไม่นานเราจะได้ยนิ เสียงสะท้อนกลับมาชวนให้เจ้าของเสียงตืน่ เต้น และสนุกสนานไปตามๆ กัน รอบบริเวณ Olive Park เราจะมองเห็นอาคารสถานที่ต่างๆ ถูกออกแบบตกแต่งไป ในแนวสถาปัตยกรรมกรีกโบราณ นั่นเพราะเกาะโชโดะชิมะมีสถานะเป็นเกาะพี่เกาะน้องกับ “เกาะมีลอส (Milos)” ในประเทศกรีซ มองเห็น “กังหันลม (Greek Windmill)” ที่สร้างขึ้น แทนการร�ำลึกถึงความสัมพันธ์อนั ดีระหว่างเกาะทัง้ สอง และยังมีจตั รุ สั เสาหินของกรีกโบราณ “Fureai Square” ที่ช่วยท�ำให้เกาะแห่งนี้น่าสนใจทั้งด้านพืชผลทางการเกษตรและ สถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
Kankakei Gorge
ที่สุดในญี่ปุ่น
1 ใน 3 ของวิวที่สวย
จาก Olive Park เราไปกันต่อที่ “Kountei” เพื่อขึ้น กระเช้าสู่ “หุบเขาคังคะเค (Kankakei Gorge)” จุดชมวิวที่ ติดอันดับ 1 ใน 3 ของวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น Kankakei Gorge ตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลาง “เกาะโชโดะชิมะ” วิวที่ว่า สวยงามนัน ้ จะยิง ่ สวยงามขึน ้ อีกหลายเท่าตัวเมือ ่ ย่างเข้าสู่ ฤดู ใ บไม้ เ ปลี่ ย นสี ป ระมาณกลางเดื อ นพฤศจิ ก ายน ค่าบริการส�ำหรับ Ropeway คือ 750 เยนส�ำหรับเที่ยว เดียว และ 1,350 เยนส�ำหรับไปกลับ เปิดให้บริการตั้งแต่ 8.30-17.00 น.
ตลอดทางระหว่างนั่งกระเช้าขึ้นเขาเราจะได้เห็น ต้นไม้ดอกไม้หลากหลายสี สีสนั ของใบไม้คละกันไปมาทัง้ แดง เขียว เหลือง จนเมื่อเราขึ้นไปถึงจุดชมวิวบนยอดเขา ก็จะพบกับวิวมุมสูงทีม่ องเห็นทิวทัศน์ทวั่ ทัง้ เกาะ จุดนีน้ เี่ อง ที่ท�ำให้ Kankakei Gorge กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเกาะโชโดะชิมะ
Angel Road
ชาติ ความงามตามธรรม ทะเลลด จากปรากฏการณ์น้ำ�
ไม่ ไ กลกั น นั ก เราไปแวะชม “แองเจิ ล โรด (Angel Road)” เพื่ อ สั ม ผั ส กั บ ความงามตามธรรมชาติ จ าก ปรากฏการณ์ น�้ ำ ทะเลลดจนท�ำ ให้ เ รามองเห็ น เกาะเล็ ก ๆ 3 เกาะถูกเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งโดยมีแนวทรายกั้นกลาง ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงวันละ 2 ครั้งเท่านั้น Angel Road ถือเป็นสถานทีส ่ ำ� หรับคูร่ ก ั ชักชวนกันมาเทีย ่ ว เพราะ มีความเชื่อว่าหากคู่รักคู่ใดจูงมือกันเดินข้ามแนวทราย เชื่ อ มเกาะไปได้ รั ก ครั้ ง นี้ ก็ จ ะเป็ น รั ก นิ รั น ดร์ แต่ โ ชคไม่ ดี นิดหน่อยที่เมื่อเราไปถึงยังไม่ใช่ช่วงเวลาน�้ำทะเลลด เลย ต้องพลาดเก็บภาพปรากฏการณ์ครั้งนี้มาฝากเสียแล้ว
จบโปรแกรมส�ำรวจสถานที่เที่ยวของวันนี้เราได้เข้า พักที่ “Resort Hotel Olivean Shodoshima” โรงแรมนี้ ตั้งอยู่ใจกลางเกาะโชโดะชิมะ สามารถเดินทางไปยัง สถานที่ต่างๆ บนเกาะได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน แถมมี เจ้าหน้าทีข่ องโรงแรมคอยต้อนรับพวกเราอย่างน่าประทับใจ ท�ำให้บรรยากาศยิ่งน่าพักผ่อนมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว
| 100
Seto Ohashi Bridge สะพานเชื่อมแผ่นดิน
วันรุ่งขึ้นเราไปกันที่ “สะพานเซโตะโอฮาชิ (Seto Ohashi Bridge)” นี่คือสะพานพี่น้องคู่กับ “สะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge)” สะพานชือ ่ ก้องโลกในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา สะพานเซโตะโอฮาชิสร้างขึน ้ เพือ ่ เชือ ่ มแผ่นดินของจังหวัดคางาวะ และโอกายาม่าเข้าด้วยกัน และยังถือเป็นการเชื่อมระหว่างเกาะ ชิโกกุและเกาะฮอนชูดว้ ยเพือ ่ ใช้เป็นเส้นทางข้ามไปยังเกาะเล็กๆ อีก 5 เกาะ
สะพานเซโตะโอฮาชิเริ่มสร้างในปี 1978 และไปสร้างเสร็จ ในปี 1988 รวมใช้เวลาสร้าง 10 ปีจึงสมบูรณ์แบบ ใช้งบประมาณ ในการสร้างประมาณ 1,133,800 ล้านเยน และด้วยความยาวของ สะพานที่มีถึง 13.1 กม. ท�ำให้สะพานเซโตะโอฮาชิ ได้รับการ จัดอันดับให้เป็นสะพานที่มีการสร้างด้วยระบบ Two-tiered ยาวที่สุดในโลก บ่งบอกถึงความเป็นที่สุดในจังหวัดที่เล็กที่สุด อย่างคางาวะไปอีกแห่งหนึ่ง นอกจากจะได้ชมความสวยงามของสะพานทีท่ อดยาวตลอด แนวท่ามกลางลมทะเลทีพ่ ดั เย็นสบายแล้ว เรายังได้รบั ความรูเ้ พิม่ เติมจากการเข้าชม “พิพิธภัณฑ์สะพานเซโตะโอฮาชิ (The Seto Ohashi Memerial Hall)” มุมจัดแสดงประวัติความเป็นมาของ การสร้างสะพานแห่งนี้ รวมทั้งยังมีโมเดลจ�ำลองรูปทรงของ สะพานให้ได้เห็นถึงเทคโนโลยีการก่อสร้าง มุมนิทรรศการนี้เปิด ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี และก็เปิดให้บริการทุกวันยกเว้น วันจันทร์ของทุกสัปดาห์
หลังจากตืน ่ ตาตืน ่ ใจกับเทคโนโลยีการสร้างสะพาน
Nakano Udon School เมืองแห่งอุด้ง
ที่แสนจะทันสมัยไปแล้ว เราก็เดินหน้าต่อไปเพื่อไปชมวิถี ชีวต ิ ความเป็นเมืองแห่งอุดง ้ อันเลือ ่ งชือ ่ นัน ่ คือไปลองฝึก ท�ำอุด้งด้วยฝีมือของเราเองที่ “โรงเรียนสอนท�ำอุด้ง นากาโนะ (Nakano Udon School)” โรงเรียนสอนท�ำ อุดง ้ ชือ ่ ดังในย่าน “โคโตฮิระ (Kotohira)” เท่าทีเ่ ห็นคือตัว อาคารเรียนยังคงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไว้อย่าง น่าชม มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการอย่างเป็นกันเอง ตลอด การเรี ย นการสอนจะใช้ เ วลาประมาณ 40-90 นาที โดยผูเ้ รียนจะได้เรียนรูต ้ ง ั้ แต่วธ ิ ผ ี สมแป้ง นวดแป้งและตัด เส้นเพื่อน�ำไปต้มจนได้เส้นอุด้งพร้อมรับประทาน
จุดเด่นของโรงเรียนสอนท�ำอุด้งแห่งนี้นอกเหนือ จากเคล็ดลับความเหนียวนุ่มของเส้นแล้วยังเน้นไปที่ ความครึกครืน้ คึกคัก เพราะครูผสู้ อนจะเปิดเพลงญีป่ นุ่ ที่ มีจังหวะสนุกสนานไปในขณะที่พวกเราก�ำลังนวดแป้ง ทั้งร้องและเต้นไปด้วยก็ได้ เรียกว่าแสง สี เสียงมาครบ จนเหมือนเป็นผับขนาดย่อม สร้างความสนุกสนานใน การเรียนได้มาก จนเมือ่ เตรียมเส้นอุดง้ พร้อมแล้วเราก็นำ� ไปต้มในน�้ำร้อนประมาณ 5 นาที และไปจบลงที่การชิม อุดง้ ฝีมอื ตัวเองในน�ำ้ ซุปรสกลมกล่อม ถือเป็นอีกกิจกรรม หนึง่ ทีต่ อ้ งแวะไปร่วมสนุกให้ได้เมือ่ เดินทางไปถึงคางาวะ
101 |
จบโปรแกรมเราเข้าพักที่ “Reoma No Mori Hotel” โรงแรมหรูหราขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วยสระว่ายน�้ำในร่ม บริเวณโถงของโรงแรมที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน Reoma No Mori Hotel เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งห้องพักแบบ สากลและแบบเรียวกัง พร้อมมีออนเซ็นธรรมชาติส�ำหรับ การผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์แบบ ใช้เวลาเดินทางด้วย รถยนต์จากสนามบินถึงโรงแรมประมาณ 30 นาที และพิเศษสุดที่ทางโรงแรมได้จัดไว้ให้เราก็คือการ ร่วมกิจกรรมฝึกท�ำซูชิปลา “Olive Hamachi (ปลาโอลีฟ ฮามาจิ)” นี่คือครั้งแรกที่เราได้เรียนรู้วิธีการแล่เนื้อปลา เรียนรู้การปั้นซูชิ การจัดวาง และได้รับประทานซูชิฝีมือ ตัวเองเป็นครั้งแรก มั่นใจมากว่าการฝึกท�ำซูชิจะเป็นอีก หนึ่งกิจกรรมที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ มากอย่างแน่นอน
Kotohiki Park
สวนสนเก่าแก่ วครึ้ม สร้างความร่มรื่นเขีย
เช้าวันสุดท้ายของทริปเรามีโอกาสไปเยือน “สวนสาธารณะโคโตฮิคิ (Kotohiki Park)” สวนขนาดย่อมที่มีมาตั้งแต่ปี 1633 ทั่วทั้งสวนเต็มไปด้วยต้นสนเก่าแก่ที่ช่วยสร้างความ ร่มรืน ่ เขียวครึม ้ ในวันทีอ ่ ากาศสดใสเราจะเห็นชาวเมืองนีพ ้ ากันออกมาท�ำกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งปั่นจักรยาน หรือเดินเล่นชมธรรมชาติ และภายในสวนยังมี “Zenigata Sunae” หรือ “Sand Coin” ซึ่งเป็นศิลปะบนเม็ดทรายที่สร้างสรรค์โดยการวาดลวดลายลงบนผืนทราย ขนาดใหญ่ทรงกลม ลวดลายที่ว่านี้คล้ายกับลวดลายที่ปรากฏบนเงินเหรียญ
Sand Coin ทีด่ อู ลังการนีม้ คี วามกว้างจากตะวันออกจดตะวันตก 122 เมตร และความ ยาวจากเหนือจดใต้ 90 เมตร เล่ากันว่าศิลปะชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น เพือ่ เฉลิมฉลองให้กบั ไดเมียวของเมือง กลายเป็นอีกหนึง่ ความมหัศจรรย์ดว้ ยฝีมอื มนุษย์ และ เพราะตั้งอยู่ในที่โล่งแจ้งจึงเปิดให้เข้าชมได้ตลอดไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ยิ่งถ้าได้มอง Sand Coin จากมุมสูงจะยิง่ เห็นความงามของประติมากรรมบนผืนทรายชิน้ นีท้ มี่ ฉี ากหลังเป็นทะเล โดยเฉพาะหากเป็นช่วงพระอาทิตย์ตกดินแล้วล่ะก็ยิ่งเป็นภาพที่สวยงามจนยากจะลืม
Takamatsu Central Shopping Arcade
าวที่สุดในญี่ปุ่น
ถนนสายชอปปิ้งที่ย
และที่พวกเราไม่ยอมพลาดเด็ดขาดก็คือ การตะลุยไปในย่าน ชอปปิ้งชื่อดังอย่าง “Takamatsu Central Shopping Arcade” ถนนสายชอปปิ้งที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น นี่คือศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ขนาดใหญ่และชอปเล็กๆ ของสินค้าแบรนด์ญป ี่ น ุ่ มีรา้ นขายของสไตล์ พื้ น เมื อ ง สิ น ค้ า แนวแฟชั่ น ตั้ ง แต่ ร าคาถู ก ถึ ง แพง ร้ า นสิ น ค้ า แบรนด์เนมหรูหรา สมค่าความเป็นที่สุดอีกแห่งหนึ่งของคางาวะ
ด้วยความยาวของถนนสายนี้และความหลากหลายของสินค้าจึงอยากแนะน�ำให้เผื่อเวลาส�ำหรับ การเดินเลือกซื้อเลือกชมสินค้าอย่างน้อยสัก 3-4 ชั่วโมงเพื่อให้ได้เพลิดเพลินกับการชอปปิ้งอย่างเต็มที่ เราแวะไปที่ “Schule” ร้านที่ออกแบบตกแต่งด้วยสไตล์ร่วมสมัยและเน้นสินค้าออร์แกนิกเป็นหลัก มีอาหารและขนมน่ารักๆ รวมไว้ด้วยกันพร้อมกับสินค้าตกแต่งบ้าน เสื้อผ้าเก๋ๆ น่าซื้อ และมีแกลลอรี่ แสดงสินค้าให้ชมด้วย สินค้าภายในร้านเหมาะทั้งซื้อใช้เองและซื้อเป็นของฝาก จึงเป็นอีกจุดหนึ่งให้ นักท่องเที่ยวแวะหาของติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อย่างเหมาะเจาะที่สุด ส�ำหรับเราแล้วคางาวะคือเมืองเล็กๆ ที่ครบถ้วนและครบครันแถบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความเลิศรสด้านอาหาร ความงดงามตามธรรมชาติ ความมีเอกลักษณ์ในวิถีชีวิต และการเป็นแหล่ง ชอปปิง้ ขนาดใหญ่ทไี่ ม่นอ้ ยหน้าทีใ่ ดในญีป่ นุ่ ใครมีโอกาสได้มาสัมผัสความเป็นคางาวะเราเชือ่ ว่าจะรูส้ กึ ประทับใจได้ไม่ยาก เพราะคางาวะมีอะไรมากกว่าที่คุณคิดจริงๆ
SPECIAL THANKS
www.plannasia.com
| 102