ISSUE 53 DECEMBER 2017 เรื่องและภาพโดย : ไกรศร วิจารย์ประสิทธิ์ เรียบเรียงโดย : ดวงพร เพชรสังกฤต
YAMAGATA เลาะฉางข้าวชมอดีต
เที่ยวญี่ปุ่นยุคนี้เป็นเรื่องง่ายเพราะคนไทยเลือกเที่ยวกันเองแบบไม่พึ่งพา บริษัททัวร์เหมือนเมื่อ 5 ปี 10 ปีก่อน ยอมรับว่าเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่อิสระ นึกอยากจ่อมอยูต ่ รงไหนเมืองใดนานเท่าไรก็ได้ตามใจต้องการ แต่สง ิ่ หนึง ่ ทีป ่ ฏิเสธ ไม่ได้คอ ื การท่องเทีย ่ วด้วยตัวเองบ่อยครัง ้ ท�าให้ตอ ้ งพลาดไฮไลท์สา� คัญของเมือง ต่างๆ ไปอย่างน่าเสียดาย บางทริปอาจเดินทางไปถึงเมืองเป้าหมายได้อย่างทีค ่ ด ิ แต่กลายเป็นว่าได้เที่ยวจริงๆ แค่ผิวๆ เพราะเข้าไม่ถึงแก่นแท้ของวิถีชุมชนดั้งเดิม ซึ่งหากพลาดไปจะน่าเสียดายมาก แต่เผอิญครั้งนี้เราไม่พลาดเพราะ Say Hi Japan มีโอกาสเดินทางสู่ภูมิภาค โทโฮขุพร้อม “บริษัท เวิลด์โปร แทรเวิล จ�ำกัด” เพื่อเจาะลึกในหลายสถานที่ของ จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ที่คุณผู้อ่านอาจยังไม่รู้จักและยังไม่เคยเที่ยวมา ก่อน แถมยังเป็นการเดินทางส�ารวจเส้นทางในช่วงเดือนตุลาคมซึง ่ เป็นระยะต้นฤดู ใบไม้เปลีย ่ นสีเพือ ่ น�าข้อมูลมายืนยันกับคุณผูอ ้ า่ นว่าหากได้วางแผนเทีย ่ วยามากาตะ กันในพฤศจิกายนปีนี้รับรองได้ว่าเส้นทางนี้เต็มอิ่มแน่นอนกับสีแดงสดสวยงาม ของเมเปิ้ลและต้นเคยากิ (Keyakizaka) ที่สาดใบสีเหลืองเต็มพื้นที่
เขตโซไน เราเริ่มต้นกันที่เมืองซากาตะเพื่อท�าความ รู้จักกัน “เขตโซไน” เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ ธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ ภูเขาและ แม่น�้า จุดเด่นของโซไนอยู่ที่การเป็นแหล่งน�้าแร่ ส�าคัญของเมือง เป็นศูนย์กลางออนเซนที่ได้รับ ความนิยมมาตลอดช่วงอายุ 1,200 ปี ยิ่งกว่านั้นยัง เป็นแหล่งผลิตข้าวขนาดใหญ่ที่เปรียบกันว่าเป็น เหมือนยุง้ ฉางของประเทศ ไหนจะอาคารบ้านเรือน เก่าที่เป็นชุมชนใหญ่น้อยอาศัยร่วมกันมาตั้งแต่ยุค เอโดะ อาคารบางหลังเก่าแก่กว่านั้นอายุราว 500 ปีก็มี เที่ยวโซไนจะได้ทั้งบรรยากาศของธรรมชาติ ได้แช่ออนเซนน�้าแร่ อากาศดีและมีอาหารให้อร่อย กันได้หลากหลาย
73
แม่น�้าหลายสายที่ไหลผ่านเมืองจะแตกออกเป็นล�าน�้าเล็กๆ ซอกซอนไปในเขตต่างๆ โดยมีปลายทางที่จะมาไหลออกสู่ ทะเลญี่ปุ่นที่ปากอ่าวเมืองซากาตะนี่เองมีความอุดมสมบูรณ์ด้วย สัตว์นา�้ มากมายทีช่ าวบ้านจะจับขึน้ มาเป็นอาหารตามฤดูกาลเพือ่ คงความอุดมสมบูรณ์เหล่านี้เอาไว้ การเดินทางของเราครั้งนี้ได้ จังหวะเพราะตรงกับเดือนตุลาคมซึ่งเป็นฤดูกินปูน�้าจืดซึ่งมีชุกชุม ช่วงนีพ้ อดี และได้ชมการดักจับปูดว้ ยเครือ่ งมือพืน้ บ้านทีผ่ จู้ บั ต้อง มีใบอนุญาตจับสัตว์น�้าแบบถูกกฎหมายด้วย กิจกรรมกินปูที่ว่านี้พิเศษตรงที่เราได้แวะกินปูกันริมแม่น้�า ชนิดที่ตั้งเตาเผากันเลยซึ่งได้บรรยากาศมาก อากาศเย็นๆ กับ ปูเผาที่เมื่อราดมันปูร้อนๆ ลงบนข้าวสวยแล้วตักเข้าปากก็ฟิน ติดปากติดใจกันไปตามๆ กัน ได้เห็นกิจกรรมร่อนทองทีค่ ล้ายกับ ในเมืองไทยโดยใช้อุปกรณ์ร่อนทองค�าชิ้นเล็กชิ้นน้อยออกจาก ตะกอนดินในแม่น�้า เล่ากันว่าราวปี 1600 เคยมีชาวบ้านพบเจอ เศษทองไหลตามน�า้ มา จึงกลายเป็นจุดก�าเนิดให้เกิดการร่อนทอง ในบริเวณนี้ ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมของนักท่องเที่ยวที่ สามารถทดลองร่อนทองด้วยตัวเองได้ และยังเก็บชิน้ ทองทีร่ อ่ นได้ ใส่ขวดแก้วเก็บเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย
โกดั ง เก็ บ ข้ า วซั น เกี ย ว เป็นที่รู้กันว่าจังหวัดยามากาตะเป็นท�าเลทองส�าหรับกองถ่าย ซีรีย์และภาพยนตร์ญี่ปุ่นหลายเรื่อง แต่ในจ�านวนซีรีย์และภาพยนตร์ ทั้งหมดนั้นที่ดูจะโด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในใจชาวโลกก็คือซีรีย์ สุดอมตะเรือ่ ง “สงครามชีวติ โอชิน” เรือ่ งราวของหญิงสาวชาวนาทีต่ อ่ สู้ กับความยากจนมาตั้งแต่เด็ก มีความอดทนขยันขันแข็งและความ กตัญญูตอ่ แม่เป็นแรงผลักดันให้ไม่ยอ่ ท้อต่อชะตาชีวติ และสุดท้ายโอชิน ก็ก้าวสู่การเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ตอบแทนทุกความพยายามที่เธอเคยมีมาตลอด แม้ปัจจุบันจะมีการ สร้างเวอร์ชั่นใหม่แล้วแต่ส�าหรับคนไทยอายุเกิน 35 ปีคงคุ้นภาพจาก เวอร์ชั่นเก่าของคุณยูโกะ ทานากะในบทบาทของโอชินมาโดยตลอด
74
การเที่ยวชมบ้านเมืองของชาวยามากาตะในวันนี้ เรามีโอกาสได้ชมสถานที่ถ่ายท�าซีรีย์ในต�านานเรื่องนี้ที่ “โกดังเก็บข้าวซันเกียว” อาคาร 9 หลังติดกันซึ่งเก่าแก่ และสร้างกันมาตั้งแต่ปี 1839 ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยแท้ เพราะตัวอาคารนั้นออกแบบให้มี 2 ชั้นโดยที่ ภายในก่อขึน้ ด้วยอิฐ ส่วนภายนอกก่อด้วยโครงไม้ จุดประสงค์ ของการสร้างอาคารในลักษณะนีค้ อื เพือ่ ป้องกันความร้อน และก็ช่วยควบคุมความชื้น และเป็นจุดชมต้นเคยากิ ทีอ่ ลังการมากโดยในอดีตจะใช้แนวต้นเคยากิเป็นตัวช่วย รักษาอุณหภูมิร้อนเย็นให้กับโกดังเก็บข้าวด้วย
โรงงานผลิ ต เซมเบ้
ชาวญี่ปุ่นมีความสามารถพิเศษในด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทั้งเพื่อเพิ่มรสชาติ เพิ่มมูลค่า และเป็นการหาวิธแี ก้ปญั หาวัตถุดบิ ล้นตลาดได้ดี ด้วยความเป็นเมืองยุง้ ฉางอย่างทีว่ า่ ปีไหนผลผลิต ข้าวมีมากเกินความต้องการชาวเมืองก็จะคิดค้นน�ามาแปรรูปเป็นขนมของแห้งเพื่อให้สามารถเก็บ รักษาได้นานขึ้น และครั้งนี้เรามีโอกาสได้ชม “โรงงานผลิตเซมเบ้” ขนมขบเคี้ยวที่ได้มาจากการ แปรรูปข้าวเช่นกัน แต่ส�าหรับโรงงานที่เราได้เข้าชมนี้จะผลิตเซมเบ้จากข้าวกล้องของยามากาตะ แท้ๆ ซึ่งได้ออกมาเป็นขนมที่หอมอร่อยและมีประโยชน์มาก เราได้ชมโรงงานทีส่ ะอาดเป็นระเบียบ ภายในโรงงานกว้างขวาง ทางเดินทอดยาวเป็นอุโมงค์ ประมาณ 500 เมตรเพื่อน�าเราเข้าไปชมพื้นที่การผลิตที่ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เนรมิตเซมเบ้ออก มาหลายรูปแบบ เลี่ยงการใช้เศษเมล็ดข้าวหรือปลายข้าวที่แตกหักโดยเลือกเฉพาะข้าวเมล็ดสวย มาผลิตเซมเบ้และรวมไปถึงขนมดังโงะด้วย เซมเบ้จากโรงงานนี้ส่งออกไปไกลไปถึงต่างประเทศ ถือเป็นขนมแห่งวัฒนธรรม เป็นแครกเกอร์ในแบบญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณะเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก
ภู เ ขากั ส ซั ง จังหวัดยามากาตะมีสามภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเคารพนับถือมานานและรู้จักกันในชื่อ “เดวะ ซังซัน” (Dewa Sanzan) โดยที่ภูเขาแต่ละลูกมีชื่อว่า “ฮากุโระ” (Haguro-san) “กัสซัง” (Gas-san) และ “ยูโดโนะซัง” (Yudono-san) ซึ่งครั้งนี้เราได้มาชม “ภูเขากัสซัง” (Gas-san) ที่นอกเหนือจากการเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วที่นี่ คือจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ความสวยงามของภูเขากัสซังมีอยู่ทุกฤดูกาล มีสกีรีสอร์ทให้เล่นบนลานหิมะได้นานตั้งแต่ฤดูหนาวจนถึง ประมาณเดือนเมษายนขณะที่เมืองอื่นๆ จะจบที่ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ มีสระโกชิกิที่มีฉายาว่า “สระ 5 สี” เพราะเราจะสามารถเห็นน�า้ ในสระเปลีย่ นสีไปตามการสะท้อนของธรรมชาติโดยรอบในทุกฤดูกาล ส�าหรับเดวะ ซังซัน มีความเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าที่ควรเดินทางมาสักการะให้ครบทั้ง 3 แห่ง เพราะเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ ของชีวิตในโลกที่แล้ว ชีวิตในโลกปัจจุบัน และชีวิตในโลกหน้า สักการะแล้วเสมือนการได้เกิดขึ้นใหม่และมีชีวิตที่ดี กว่าเดิม
75
พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ บ้ ำ นตระกู ล ฮอนมะ ในอดีตบุคคลในตระกูลฮอนมะเคยเป็นผู้ปกครองเมืองนี้มายาวนาน และก็ถือเป็นเจ้าเมืองที่ได้รับความเคารพรักจาก ชาวเมืองมาโดยตลอดแม้ภายหลังญีป่ นุ่ จะเปลีย่ นแปลงการปกครองจบสิน้ ระบบศักดินาไปนานแล้ว แต่ระยะการปกครองเมือง ของตระกูลฮอนมะที่มีมา 394 ปีก็ท�าให้ยังมีความผูกพันระหว่างกันอยู่จนปัจจุบันบ้านของตระกูลฮอนมะยังคงมีผู้อยู่อาศัยซึ่ง เป็นรุ่นที่ 19 ของเจ้าเมืองเก่าท่านเดิม และเปิดพื้นที่ภายในบ้านซึ่งมีทั้งอาคารหลังเก่าที่สร้างในปี 1813 และศาลเจ้าประจ�า ตระกูลให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมและสักการะได้ การเดินทางครัง้ นีข้ องเราโชคดีมากทีไ่ ด้เจอทายาทรุน่ 19 ซึง่ ให้การต้อนรับอาคันตุกะอย่างดีพร้อมอธิบายความเป็นบ้าน แห่งประวัติศาสตร์หลังนี้ให้ฟังว่าแต่เดิมนั้นท่านโกโตะผู้เป็นต้นตระกูลสร้างบ้านและพื้นที่นี้ไว้ส�าหรับเป็นที่พักตากอากาศ มี การออกแบบสวนสวยภายนอกให้เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจและชมดอกไม้ตามฤดูกาล ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาดื่ม ชาชมสวนและขอพรจากศาลเจ้าได้ รวมทั้งยังมีสินค้าที่ระลึกและยังเรียนรู้ความเป็นมาของขุนนางแห่งยุคศักดินาได้ด้วย
หมู ่ บ ้ า นโอคุ ร ะ ก่อนจะเข้าชมแหล่งน�้าพุร้อนระดับ 5 ดาวที่ “หมู่บ้านโอคุระ” (Okura Village) เราไปจัดหนักมื้อ ใหญ่กนั ที่ “ร้านโคมัตสึมากุโร่” กับเมนูปลาทูนา่ ทีเ่ สิรฟ์ กันมาครบทุกรูปแบบ แต่ที่ชวนฮือฮาที่สุดก็ต้องเป็น “ข้าวหน้าปลาทูน่าภูเขาไฟ” ที่มีเนื้อปลาทูน่าทุกส่วน โปะลงมาบนข้าวทั้งที่ขูดเฉพาะเนื้อปลาวางบนข้าว เสิร์ฟหัวปลาและกระดูกก้างกลางให้ลูกค้าทดลองขูด กินกันสดๆ แบบไม่ซ�้าใคร แล้วจึงไปหาของหวานกิน กันที่ “สวนพลับคุณโชจิ” กันชั่วครู่ ต้องเล่าว่าคุณโชจิ เจ้าของสวนพลับท่านนี้ถือเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ไม่ ได้ มุ ่ ง ผลิ ต ลู ก พลั บ ส่ ง ตลาดเพี ย งอย่ า งเดี ย ว แต่ พยายามคิดค้นลูกพลับที่มีคุณภาพและทั้งหวานทั้ง กรอบให้ได้ออกมาสูผ่ บู้ ริโภค ซึง่ แน่นอนว่าเราก็ชมิ กัน ไปคนละไม่น้อย อร่อยสมค�าร�่าลือจริงๆ
76
ส่วนหมู่บ้านโอคุระซึ่งเป็นไฮไลท์หลัก ของเราครั้งนี้ต้องถือว่าเป็นแหล่งน�้าแร่บ�าบัด โรคชื่อดังของญี่ปุ่นอีกแห่ง และก็ยังจัดว่าเป็น หมู่บ้านที่สวยงามมากที่สุดอีกแห่งของญี่ปุ่น ด้วยอายุที่มากถึง 1,200 ปีท�าให้หมู่บ้านแห่งนี้ เก็บเรือ่ งราวความเป็นมาในหลายด้านทีท่ กุ วัน นีก้ ย็ งั อนุรกั ษ์วฒั นธรรมเก่าแก่หลายด้านเอาไว้ ทัง้ ยังมีธรรมชาติทสี่ วยงาม การมาเทีย่ วทีน่ เี่ รา จึงได้เห็นภูเขาขนาดใหญ่ วัด ศาลเจ้า ปล่อง ภูเขาไฟและออนเซนเก่าแก่ท่ีสร้างอยู่บนเนิน หินภูเขาไฟซึ่งไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนัก
ตลาดเช้ า โอคุ ร ะ หากใครได้เคยเดินชมตลาดเช้าสไตล์ญี่ปุ่นมาแล้วคงจะพอ นึกภาพออกมาว่าเรามักจะได้พบกับอาหารทะเลสดและพืชผัก ทางการเกษตรมากมาย “ตลาดเช้าโอคุระ” ก็ไม่ต่างกันมากนัก แต่จะพิเศษเป็นเอกลักษณ์กว่าใครตรงที่นอกจากเราจะได้เห็น พ่อค้าแม่ค้ารุ่นคุณตาคุณยายนั่งขายสินค้าของตัวเองแล้ว ลูกค้า ทีเ่ ดินผ่านไปผ่านมาหิว้ ถุงใส่สนิ ค้าทีต่ วั เองซือ้ แล้วนัน้ มักจะมากัน ด้วยชุดยูกาตะคล้ายๆ กันหมด เลยเพิง่ ได้รวู้ า่ ผูท้ อี่ ยูใ่ นชุดยูกาตะ เหล่านี้คือกลุ่มลูกค้าออนเซนที่เดินทางมาแช่นา�้ แร่บ�าบัดที่เมืองนี้ นี่เอง แหล่งน�า้ แร่รอ้ นบ�าบัดโรคทีว่ า่ นีเ้ รียกกันว่า “ฮิจโิ อริ ออนเซน” เป็นออนเซนทีม่ มี านาน 1,200 ปี แต่ทยี่ งั ได้รบั การดูแลและอนุรกั ษ์ อย่างดีถึงปัจจุบันส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยู่ภายใต้การลงนามเซ็น
77
สัญญากันมาตัง้ แต่สมัยเอโดะ และก็จะมีเจ้าหน้าที่ 36 คน ช่วยกันดูแลกิจการตามสัญญาที่ว่านี้ภายในวงล้อมของ หมู ่ บ ้ า นโบราณโอคุ ร ะที่ มี ช าวเมื อ งอาศั ย อยู ่ ร วมกั น ประมาณ 300 หลังคาเรือน แต่ทเี่ ป็นหนึง่ ในสีสนั ของตลาดเช้าโอคุระก็คอื การ ได้เห็น “ซาโต้ซงั ” อาสาสมัครรุน่ ใหญ่ทอี่ ทุ ศิ เรีย่ วแรงมา ลากรถบริการนักท่องเทีย่ วในย่านหมูบ่ า้ นนีโ้ ดยไม่คดิ ค่า ใช้จ่าย เรียกว่าท�าด้วยใจนอกเหนือไปจากการเป็นครู สอนเทคนิคการลากรถ ทัง้ ย่านนีจ้ ะมีรถลากของซาโต้ซงั เพียงคันเดียวคนเดียว ถ้ามีโอกาสได้ใช้บริการถือว่า โชคดีและชวนประทับใจในความมีจิตอาสารักบ้านเกิด เป็นอย่างมาก
แม่ น�้ า โมกำมิ ในอดีตแม่น�้าโมกามิเคยเป็นเส้นทางหลักในการ ขนส่งล�าเลียงสินค้า และยังใช้เป็นทางสัญจรของชาวเมือง แต่ปัจจุบันเมื่อมีถนนเพิ่มมากขึ้นรถราก็มีมากขึ้นตามไป ด้วย กลายเป็นความสะดวกรวดเร็วจนเส้นทางเรือไม่เป็น ที่นิยมอย่างที่ผ่านมา ทุกวันนี้นอกจากแม่น�้าโมกามิจะ เป็นหนึง่ ในเส้นทางตามรอยโอชินจากการทีเ่ คยถูกใช้เป็น โลเกชั่นในการถ่ายท�าแล้วยังกลายเป็นเส้นทางท่องเที่ยว ชมใบไม้ผลิทมี่ สี ชี มพูหวานของดอกซากุระและสีแดงด้วย ของดอกสึสึจิ และชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงใบไม้ร่วง ส่วน ในฤดูหนาวทัว่ ทัง้ หมดนีจ้ ะขาวโพลนไปด้วยหิมะสวยงาม อลังการมาก
จังหวัดยามากาตะมีแม่นา�้ สายหลักชือ่ ว่า “แม่นา�้ โมกามิ” (Mogamikawa) ซึ่งเป็นอีกจุดชมธรรมชาติที่สวยงามใน ยามที่ต้นไม้บนภูเขาสองข้างล�าน�้าเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล จึงมีบริการนักท่องเที่ยวด้วยเรือล�าใหญ่หลังคากั้นตาข่าย โปร่งช่วยบังแดด แต่เปิดสองข้างซ้ายขวาให้เป็นเหมือน หน้าต่างให้มองเห็นแนวใบไม้เปลีย่ นสีแดงสดสวยงามมาก ภายในเรือมีโต๊ะยาวส�า หรับวางอาหารเครื่องดื่มซึ่งจะ เปลี่ยนเป็นโต๊ะโคทัตสึให้อุ่นขากันสบายๆ ยามอากาศ หนาวเย็น แถมด้วยคนขับเรือและไกด์นา� เทีย่ วทีจ่ ะคอยชีช้ วน ให้เราชมจุดนัน้ จุดนีเ้ มือ่ เรือแล่นผ่าน กิจกรรมนีส้ ดุ ยอดมาก ส�าหรับการชมธรรมชาติและสูดอากาศบริสทุ ธิก์ ลางสายน�า้
หน้ า ผา 16 อรหั น ต์ ค่อนข้างจะตื่นตาเมื่อได้ชม “หน้าผา 16 อรหันต์” (Sixteen Disciples of Buddha) ที่เป็น หน้าผาหินลาวาขนาดใหญ่จากการระเบิดของภูเขาไฟโจไก ถ้าเป็นหน้าผาหินธรรมดาทั่วไปคงไม่ เท่าไร แต่นี่มีการแกะสลักให้เป็นองค์พระโพธิสัตว์และ 16 พระสาวก เรื่องเล่าว่าหน้าผาหินแห่งนี้ เริม่ ต้นแกะสลักกันในปี 1864 ด้วยมีเหตุจากทีช่ าวบ้านล้มตายกันมากมายจากการระเบิดของภูเขาไฟ โจไกนั่นเอง 78
ชาวเมืองทีเ่ หลือจึงช่วยกันสร้างสิง่ ยึดเหนีย่ วจิตใจและเพือ่ ขอ พรให้โชคดีรอดพ้นจากภัยทะเลพร้อมกับเป็นการสร้างอุทิศให้แก่ ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น จนแกะสลักเสร็จในปี 1868 แต่ สุดท้ายผู้ที่เป็นคนแกะสลักเชื่อว่าสิ่งที่สร้างขึ้นด้วยจิตศรัทธานี้จะ ส่งตัวเองให้ถึงนิพพานจึงทิ้งลงตัวเองดิ่งลงน�้าเสียชีวิตไปในปี 1871 ด้านบนเน้นหน้าผาสร้างเป็นระเบียงให้ยนื ชมทัง้ 16 อรหันต์กนั ชัดๆ โดยมีป้ายบอกนามของอรหันต์แต่ละองค์ไว้ด้วย
โรงงานผลิ ต โชยุ มาปิดท้ายกันที่การชม “โรงงานผลิตโชยุ” ซึ่งเป็นโรงงานเก่า แก่หนึ่งในเขตโซไนด้วยอายุ 194 ปี ท�ากันมาสืบชั่วอายุคนนับตั้งแต่ ตระกูลซาโตะรุ่นที่ 7 มาจนถึงปัจจุบันเข้าสู่รุ่นที่ 15 แล้ว นอกจาก จะเป็นผลิตภัณฑ์ชอื่ ดังของโซไนแล้วก็ตอ้ งบอกว่าโชยุคอื วัฒนธรรม ส�าคัญของญีป่ นุ่ ด้านอาหารการกินและประยุกต์ดดั แปลงพัฒนาสูตร กันเรื่อยมาเพื่อให้เป็นเครื่องปรุงรสที่สามารถเข้าร่วมกับอาหารได้ หลากหลายซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักกันดี การเข้าชมโรงงานท�าให้เราได้เรียนรูก้ ารผลิตโชยุนบั ตัง้ แต่การ คัดเลือกถั่วเหลืองจนถึงการหมักและบรรจุขวดขาย และนอกจาก โชยุแล้วทีน่ ยี่ งั มีเครือ่ งปรุงอืน่ ๆ อีกมากรวมถึงมิโสะด้วย เราสามารถ ชมการผลิตและรอเลือกซือ้ ผลิตภัณฑ์ทเี่ สร็จสมบูรณ์แล้วในพืน้ ทีข่ าย อีกด้านหนึ่งของโรงงานได้ด้วย
โทโฮขุไม่ได้มแี ต่อาโอโมริเท่านัน้ ทีค่ นไทยรูจ้ กั กัน แต่วันนี้เราอยากน�าเสนอยามากาตะเพราะเป็นอีก จังหวัดทีช่ วนฮือฮามากในหลายสถานทีท่ เี่ ราเพิง่ ได้รจู้ กั และยังเป็นจุดชมธรรมชาติที่อลังการที่สุดอีกแห่งของ ญีป่ นุ่ ทีน่ บั ถึงวันนีค้ นไทยยังรูจ้ กั น้อยมากกับความครบ ถ้วนทั้งธรรมชาติ อาหาร การเกษตร วัฒนธรรมเก่า จนคิดไม่ถึงว่าที่ผ่านมาเราพลาดยามากาตะไปได้ อย่างไร
Special Thanks
www.worldprotravel.com 02 026 3372
สแกน QR Code รับชมวิดิโอ Tohoku 1 ทาง Youtube ช่อง Checktour Channel
สแกน QR Code รับชมวิดิโอ Tohoku 2 ทาง Youtube ช่อง Checktour Channel