Say Hi Japan Culture 81

Page 1

SAY HI JAPAN : ISSUE 49 AUGUST 2017

เรื่องโดย : ดวงพร เพชรสังกฤต ภาพโดย : กองบรรณาธิการ

JAPAN

CULTURE


ตลาดปลาแห่งโตเกียว

ในบรรดาตลาดปลาที่มีอยู่มากมายทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น “ตลาดปลาสึกิจิ” (Tsukiji Fish Market) ดูจะมาเป็นที่หนึ่งในฐานะของการเป็นตลาดปลา เก่าแก่ทมี่ ชี อื่ เสียงมากทีส่ ดุ ทัง้ ในและต่างประเทศ แถมยังได้ชอื่ ว่าเป็นตลาดปลาทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ในโลกอีกด้วย แต่ขนึ้ ชือ่ ว่าตลาดปลาก็ใช่จะมีแต่ปลาส�าหรับค้าขาย เพราะตลาดปลาสึกจิ ยิ งั เต็มไปด้วยผักผลไม้และสินค้าอืน่ ๆ อีกมากมาย อาหารทะเลสดจะหมุนเวียนผ่านเข้ามาในตลาดแห่งนี้วันละกว่า 2,000 ตัน ที่ส�าคัญคือ เสน่ห์ของการเที่ยวชมตลาดสึกิจิสา� หรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นไม่ได้อยู่ที่เฉพาะการแวะชมการประมูลปลาของเหล่าพ่อค้าและฟังเสียงตะโกนตั้งราคากัน เท่านั้น แต่อยู่ที่การได้เดินชมบรรยากาศของตลาดที่มีร้านอาหารทะเลสดชนิดที่เรียกว่าสดกันจริงๆ จังๆ ราวกับเพิ่งขึ้นมาจากทะเล และหลายร้านมีบริการ ส�าหรับลูกค้าที่พอใจจะซื้อกินกันหน้าร้านเลย เน้นไปที่จ�าพวกปลาดิบและหอยนางรมสดราคาไม่แพงทั้งที่ขนาดตัวไม่เล็กไปกว่าฝ่ามือเลย

76 |


ความเก่าแก่ของตลาดปลาสึกจิ นิ นั้ อยูท่ จี่ ดุ เริม่ ต้นซึง่ ก่อตัง้ กันมาในยุคเอโดะโชวะที่ 10 ตรงกับปี 1935 จะนับนิ้วหรือจิ้ม เครื่องคิดเลขอายุของตลาดปลาสึกิจิก็ตกอยู่ที่ประมาณ 80 ปี และก็กอ่ ตัง้ ขึน้ จากเรีย่ วแรงของเหล่าพ่อค้าแม่คา้ ใน “ตลาดปลา นิฮงบาชิ” (Nihonbashi) และ “ตลาดผักผลไม้เคียวบาชิ” (Kyobashi) ซึง่ ตลาดทัง้ สองแห่งนีพ้ งั เสียหายและเกิดไฟไหม้จาก เหตุการณ์แผ่นดินไหว ตลาดสึกจิ จิ งึ เหมือนเป็นตลาดกลางค้าส่ง และค้าปลีกแห่งมหานครโตเกียวซึง่ ได้รบั ควบคุมดูแลเรือ่ งความ สะอาดอย่างดี รวมถึงราคาสินค้าและราคาในการประมูลของ พ่อค้าทัง้ หลายก็ขนึ้ ชือ่ เรือ่ งความยุตธิ รรมโปร่งใส อีกทัง้ ยังตัง้ อยู่ ใกล้กับอ่าวโตเกียว อาหารทะเลที่ตลาดแห่งนี้จึงมีราคาไม่แพง หูฉี่จากที่ต้องบวกราคาค่าขนส่งสินค้ามากนัก สวรรค์แห่งอาหารทะเลอร่อยนามว่าสึกิจิแห่งนี้เปิดให้ นักท่องเที่ยวมาสัมผัสบรรยากาศกันตั้งแต่ตี 4 และจะคึกคัก ถึงขีดสุดในโซนประมูลปลาและเจรจาธุรกิจต่อรองราคาปลา มากุโระหรือทูน่าช่วงตี 5 ด้วยความเป็นตลาดจึงพลุกพล่านไป ด้วยผู้คนและเสียงโหวกเหวก สิ่งที่ชาวต่างชาติไม่ควรลืมก็คือ สึกิจิคือตลาดและไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว จึงไม่ควรส่งเสียงดัง วิ่งเล่นถ่ายรูปตามหน้าแผงจัดวางขายอาหาร แนะน�าให้ค่อยๆ เดินชมไปตามล็อกต่างๆ ในตลาด สนใจร้านไหนแวะชมแวะ ถ่ายรูปได้โดยระมัดระวังการกีดขวางลูกค้ารายอืน่ รวมถึงขวางทาง รถเล็กขนส่งสินค้า ส่วนโซนร้านที่ขายอาหารสดพร้อมกินจะวาง อาหารเต็มแผงให้เราเลือกโดยมีป้ายราคาเขียนติดไว้โดยไม่ต้อง ถามหรือต่อรองราคา โซนอร่อยของนักท่องเทีย่ วอีกจุดอยูบ่ ริเวณด้านนอกตลาด แถบนีร้ า้ นอาหารเพียบ จะเลือกกินอาหารทะเลแนวไหนมองป้าย มองรูปภาพจากหน้าร้าน ทั้งซาชิมิและซูชิรับรองอร่อยทุกร้าน หลายร้ า นการั น ตี ด ้ ว ยจ� า นวนลู ก ค้ า เข้ า คิ ว ต่ อ แถวยาวแบบ ไม่ลดละ ส่วนใครสนใจซื้ออาหารทะเลแห้งหรือจ�าพวกเครื่อง เคียงอย่างผักดองและบ๊วยโซนนี้ก็มีอยู่มาก ส�าหรับทริปเที่ยว โตเกียวใครไม่ได้แวะมาตลาดสึกิจิหรือมาแล้วไม่ได้ลองอาหาร ทะเลสักมื้อถือว่าพลาดและเสียเที่ยวแน่นอน ตลาดจะปิดวัน อาทิตย์และวันหยุดของตลาด ตรวจสอบวันหยุดได้ที่เว็บไซต์ www.tsukiji-market.or.jp ซึ่ ง จะมี ป ฏิ ทิ น วั น หยุ ด แจ้ ง ไว้ สัญลักษณ์สีแดงบอกถึงวันหยุด สีฟ้าแสดงถึงบางโซนอาจปิด สีเขียวปิดเฉพาะตลาดผักผลไม้ แต่สขี าวคือเปิดทุกโซนตามปกติ ขอให้ไปถึงตลาดตั้งแต่เช้าเน้น 7.30-14.00 น. รับรองว่าเพลิน และอิ่มแน่นอน

| 77


สบายกาย

ด้วยทรายร้อน เปลือยกายลงแช่ออนเซนน�้าแร่อุ่นจัดดูจะเป็นเรื่องคุ้นเคยส�าหรับใครก็ตามที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ถ้า ได้ลองโฉบไปปักหลักแถบตอนใต้ของญี่ปุ่นก็จะพบว่านอกจากออนเซนน�้าแร่จะมี “ออนเซนทรายร้อน” (Sunaburo) เพิ่มเข้ามาเป็นอีกทางเลือกชวนสบายตัว และเมื่อคุณได้รู้จักก็จะรู้มากขึ้นอีกว่า ออนเซน ทรายร้อนหรือการอาบทรายร้อนเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ดึงดูดให้คนมากมายอยากมาลองสัมผัสกับอีก ประสบการณ์ซึ่งต่างไปจากที่เคย และคงแปลกมากหากคุณไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น ออนเซนทรายร้อนหรือการอาบทรายร้อนพบมากแถบภูมิภาคคิวชูซึ่งมีแนวภูเขาไฟอยู่มากมาย แร่ธาตุและความร้อนใต้พิภพหล่อหลอมผสมสานกันจนท�าให้พื้นที่ทั่วบริเวณนี้มีทั้งน�้าแร่และทรายด�าที่ ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าหากได้แช่และสัมผัสชั่วระยะเวลาหนึ่งจะมีผลดีต่อร่างกาย ซึ่งนอกจากจะสร้างความ สบายและผ่อนคลายแล้วยังกระตุ้นระบบเผาผลาญ ขับเหงื่อ เสริมการไหลเวียนเลือด ที่ส�าคัญคือส�าหรับ นักท่องเที่ยวสาวๆ ชาวไทยที่ออกจะเขินอายเมื่อต้องเปลื้องผ้าก้าวขาลงบ่อออนเซนตามธรรมเนียมปฏิบัติ มักจะดีอกดีใจเมือ่ ได้ลองออนเซนทราย เพราะกิจกรรมนีท้ งั้ ผูห้ ญิงและผูช้ ายเราสามารถสวมชุดยูกาตะติดตัว ไว้ได้ตลอด เพียงแต่ไม่ต้องสวมใส่ชุดชั้นในเท่านั้นเอง สถานที่ให้บริการออนเซนทรายส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ริมชายหาด บ้างก็จัดพื้นที่ส�าหรับให้ลูกค้า อาบทรายใต้โรงเรือน บ้างก็จดั กันกลางแจ้งโดยมีรม่ กางกันแดดลมไว้เล็กน้อย ดีเยีย่ มไปอีกเพราะมีววิ ทะเล ให้ชม และเพราะอยู่ใกล้ภูเขาไฟทรายที่เราจะได้สัมผัสจึงมีสีด�าจากการปะปนด้วยก�ามะถัน ซึ่งแน่นอนว่า เราจะได้กลิ่นก�ามะถันอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูกอยู่เรื่อยๆ ได้บรรยากาศและเข้าถึงกิจกรรมนี้กันที่สุด การอาบทรายร้อนทีว่ า่ นีม้ ขี อ้ จ�ากัดอยูบ่ า้ งส�าหรับผูท้ เี่ ป็นโรคหัวใจ โรคปอด ความดันโลหิตสูง ตัง้ ครรภ์ ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการของโรคเหล่านี้ก็พร้อมลุยได้เลย ขั้นตอนเมื่อเราเข้าสู่ออนเซนทรายนั้นไม่ต่างจาก ออนเซนน�า้ แร่มากนัก เริม่ จากติดต่อทีเ่ คาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพือ่ ลงชือ่ แล้วรับชุดยูกาตะตามขนาดตัวซึง่ จะมาพร้อมผ้าขนหนูส�าหรับเช็ดตัวหลังอาบน�้าและกุญแจล็อกเกอร์ จากนั้นเข้าห้องเปลี่ยนไปสวมยูกาตะ ขั้นตอนนี้ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจะชวนเขินอยู่บ้างเพราะแม้จะแยกชายหญิงแต่ก็จะเป็นห้องรวมที่สาวๆ ชาวญี่ปุ่นจะเปลือยกายเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเป็นเรื่องปกติ ถอดเสื้อผ้าชุดเดิมและชุดชั้นในแล้วเปลี่ยนเป็น สวมยูกาตะ เก็บเสื้อผ้าและของมีค่าไว้ในล็อกเกอร์แล้วพาตัวเองออกไปยังลานทราย เมื่อถึงลานอาบทรายจะมีพนักงานรอเราอยู่พร้อมอุปกรณ์ในมือซึ่งนั่นก็ถือพลั่วส�าหรับกวาดเอาทราย มากลบตัวเรา แต่ละจุดอาบทรายจะเป็นแอ่งร้อนแบบพอดีตัว เราแค่ค่อยๆ ลงไปนอนหงายในแอ่งทราย หนุนศีรษะให้เหมาะแล้วปล่อยตัวเองให้เหยียดแขนขาในท่าที่สบายที่สุด จังหวะนี้จะรู้ได้เลยว่าพื้นทราย ที่เรานอนลงไปจะค่อนข้างร้อน จากนั้นพนักงานจะตักทรายถมทับตัวเราตั้งแต่ใต้คอลงมาถึงปลายเท้า ทีละน้อย จะหนักและอึดอัดอยู่บ้างจากน�้าหนักทรายที่ทับลงมา ความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 50 องศา เซลเซียสจะท�าให้ผ่อนคลาย เรานอนนิ่งอาบทรายนานประมาณ 10-15 นาทีก็เพียงพอแล้ว ครบตามเวลา ให้ค่อยๆ ดันกองทรายขึ้นมานั่งสักพักแล้วจึงค่อยลุกขึ้นเพื่อป้องกันหน้ามืด แล้วจึงไปอาบน�้าเย็น เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาในชุดเดิม หรืออาจแช่ออนเซนน�้าแร่ร้อนต่ออีกสักนิดซึ่งหลายออนเซนจะมีไว้บริการ คู่กันให้ลูกค้าเลือกได้ตามอัธยาศัย หลังออนเซนทรายร้อนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าหายเมื่อยและ เลือดลมในร่างกายขับเคลื่อนดีเยี่ยมชนิดที่คุณจะติดใจไปอีกนาน

78 |


| 79


SUSHI

อาหารแห่งวัฒนธรรม ในบรรดาอาหารญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักดีและ นานวันก็ดจู ะกลมกลืนกับชีวติ ประจ�าวันของคนไทย จนแยกกันไม่ออกน่าจะเป็น “ซูชิ” ที่ทุกวันนี้ หากินง่ายตั้งแต่ราคาไม่กี่บาทจนถึงระดับแพง ระยับในภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นสัญชาติไทยที่ปรุง ออกมาได้ทงั้ หน้าตาและรสชาติทแี่ ทบไม่ตา่ งไปจาก ต้นต�ารับเลย หากยังมีใครสักคนยังไม่เคยลองชิม อาหารชนิดนี้เราอยากให้ลอง เพราะซูชิไม่ได้มี รูปแบบแค่เพียงข้าวปัน้ ก้อนกลมๆ มีรสเปรีย้ วอ่อนๆ ของน�้าสมสายชูพร้อมชิ้นอาหารทะเลสดวางอยู่ บนหน้า แต่ซูชิมีมากกว่านั้น และน่ากินมากกว่า ที่คุณคิดเสียอีก ต้นก�าเนิดของซูชิบ้างก็ว่าได้รับอิทธิพลมา จากจีน บ้างก็ว่ามาจากไทยเรานี่เอง แต่ไม่ว่าจะ ด้วยวัตถุประสงค์ใดอาหารอร่อยชนิดนี้ก็เกิดขึ้น เพื่อถนอมให้มีอายุอยู่ได้นานกว่าที่ควรด้วยการ ปรุงข้าวด้วยน�้าส้มสายชูหมัก กินกับอาหารทะเล สดทั้งดิบและสุกซึ่งพัฒนาเพิ่มเติมหลากหลายขึ้น เรื่อยๆ จากเดิมที่มีแค่หน้าปลาดิบเป็นมาตรฐาน แต้มด้วยวาซาบิเล็กน้อยซึ่งลักษณะนี้เป็นซูชิที่เรา คุ้นตามากที่สุดซึ่งเรียกว่า “นิงิริซูชิ” (Nigiri Sushi) อีกแบบที่หลายคนชอบกินซึ่งเป็นลักษณะของซูชิที่คุ้นตาและน่ากินไม่น้อยไปกว่ากัน นั่นคือซูชิที่ปรุงโดยกระจายข้าวให้แผ่กว้างบนแผ่นสาหร่ายที่ วางอยูบ่ นแผ่นซีไ่ ม้ไผ่สา� หรับท�าซูชโิ ดยเฉพาะ จากนัน้ วางเนือ้ สัตว์และผักเรียงกันเป็นแถวก่อนจะม้วนให้แน่นเป็นแท่งยาวแล้วตัดให้ได้ชนิ้ พอดีคา� กลายเป็น “มากิซูชิ” (Maki Sushi) ซึ่งหากดัดแปลงให้แผ่นสาหร่ายสลับไปวางอยู่ด้านในแล้ววางผิวนอกสุดด้วยเนื้อปลาหรือคลุกกับไข่กุ้งจนกลายเป็น “อูรามากิ ซูช”ิ (Uramaki Sushi) หรือ “แคลิฟอร์เนีย โรล” (California Roll) หรือจะวางข้าว ผักและเนือ้ สัตว์บนแผ่นสาหร่ายแล้วม้วนเป็นกรวยแหลมก็ได้ แบบนีเ้ รียก “เทมากิซูชิ” (Temaki Sushi) ถ้าจะต่างออกไปจากนี้ก็จะเป็นซูชิในรูปแบบที่นา� ข้าวและเนื้อปลาอัดลงบนแม่พิมพ์จนได้ซูชิขนาดเท่ากันทุกชิ้นดูเป็นระเบียบและสวยงามในยาม จัดลงจานซึ่งเรียกว่า “โอชิซูชิ” (Oshi Sushi) และ “ชิราชิซูชิ” (Chirashi Sushi) ที่เป็นการจัดปลาดิบชั้นโตๆ รวมถึงหมึก กุ้ง ไข่หอยเม่นและผักดอง ลงบนข้าวที่อัดแน่นอยู่ในชามหรือกล่องซึ่งมักจะท�าให้อิ่มอร่อยกันแบบเกินอิ่ม และไม่ว่าจะเป็นซูชิรูปแบบใดสิ่งที่ขาดไม่ได้คือวาซาบิและโชยุ นอกจากนี้ ราคาซูชิแต่ละแบบจะถูกหรือแพงก็จะขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารทะเลที่จะเลือกให้มาวางบนข้าวของเรา การกินที่ถูกวิธีคือคีบชิ้นซูชิด้วยตะเกียบหรือจะด้วยมือก็ตามแต่ แตะโชยุเล็กน้อยด้วยด้านที่เป็นเนื้อสัตว์ เพราะถ้าแตะด้วยข้าวชิ้นซูชิอาจจะ แตกออกจนไม่น่ากิน ทุกซูชิทุกชิ้นเชฟจะแต้มวาซาบิมาแล้วเรียบร้อย ฉะนั้นแตะโชยุแล้วกินได้เลยทันที ส่วนธรรมเนียมการกินซูชิในรูปแบบที่ถูกเสิร์ฟ ในภัตตาคารญี่ปุ่นมาเป็นนิงิริซูชิจานรวมเราควรเริ่มกินจากชิ้นที่เป็นเนื้อปลาสีขาวก่อน ไล่ไปที่สีเงินและสีแดงเพื่อให้เนื้อปลาสีเข้มที่มีรสชาติจัดกว่า ไม่ไปกลบชิน้ ทีร่ สชาติออ่ นกว่าจนพาให้เสียรสไปหมด ทีส่ า� คัญคือควรกินซูชิ 1 ชิน้ ให้หมดใน 1 ค�า และเพือ่ ให้ได้สมั ผัสความอร่อยของเนือ้ ปลาแต่ละชนิด เมื่อชิมแล้ว 1 ชิ้นควรล้างปลาด้วยขิงดองสักนิดเพื่อปรับการรับรสของตัวเอง เพื่อให้ซูชิค�าต่อไปอร่อยสมกับความตั้งใจที่เชฟบรรจงปั้นออกมาเสิร์ฟ เก็บข้อมูลเหล่านีเ้ พือ่ ให้การกินซูชคิ รัง้ ต่อไปเต็มเปีย่ มไปด้วยรสชาติ ซึมซับความหวานมันของเนือ้ ปลาให้เต็มที่ ขออย่างเดียวว่าให้เลือกกินซูชทิ มี่ คี ณุ ภาพ และเชื่อถือ ทั้งที่เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากการกินอาหารดิบที่ไม่สะอาดและอาจน�าเชื้อโรคมาสู่คุณ

80 |


สนุกและอร่อย

กับราเมง กลิน่ หอมยัว่ ยวนของน�า้ ซุปราเมงยามทีล่ อยมาแตะจมูก ไม่เคยท�าให้ใครอดใจได้ แถมเส้นเหนียวนุ่มชวนเคี้ยวก็มี เสน่หม์ ากมายให้เราตัง้ อกตัง้ ใจใช้ตะเกียบคีบใส่ปากครัง้ แล้ว ครัง้ เล่า ด้วยความอร่อยและสามารถดัดแปลงได้หลากหลาย เมนู ท� า ให้ ร าเมงขึ้ น แท่ น การเป็ น อาหารยอดนิ ย มทั้ ง กั บ คนญี่ปุ่นเองและคนทั่วโลก ที่ส�าคัญคือนอกจากอร่อยแล้ว ราเมงยังเป็นอาหารที่หากินง่ายและราคาไม่แพง ยิ่งถ้าเป็น ราเมงญี่ปุ่นแท้ท่ีนิยมเสิร์ฟมาแบบชามโตๆ ด้วยแล้วโดน เข้าไปชามเดียวรับรองว่าอิ่มได้ตลอดวัน เรียกกันทัว่ ไปว่าราเมงแต่จริงๆ แล้วแบ่งออกได้หลายชนิด ตามส่วนผสมและการปรุง ทัง้ ยังแยกย่อยได้อกี หลายสูตรตาม แต่ละร้านจะคิดค้นซึ่งก็จะต่างกันที่เรื่องของเส้นและน�้าซุป ร้านไหนบุกเบิกสูตรกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่าก็จะยิ่งสะสม ลูกค้าไว้มาก ทัง้ ความคลาสสิกในรสชาติกย็ งั ช่วยสร้างลูกค้า รายใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วราเมงญี่ปุ่นจะแบ่ง ออกตามลักษณะของน�า้ ซุป เริม่ ที่ “ชิโอะราเมง” (Shio Ramen) น�า้ ซุปใสทีเ่ คีย่ วจากกระดูกปลาหรือกระดูกไก่แล้วปรุงรสด้วย เกลือล้วนๆ ตามชื่อ “ชิโอะ” ที่หมายถึงเกลือ ถือเป็นน�้าซุป รสชาติพื้นฐานทั่วไปที่เราพบเห็นได้บ่อย ส่วนอีกชนิดหนึง่ เป็นน�า้ ซุปใสสีดา� มีกลิน่ หอมเฉพาะตัว จากที่มีโชยุผสมรวมกับซุปที่เคี่ยวจากกระดูกหมู จึงเรียกว่า “โชยุราเมง” (Shoyu Ramen) ปรุงรสจนกลมกล่อมหอม ชวนกินไม่ได้เค็มจัดตามรสแท้ของโชยุอย่างทีค่ ดิ ตามมาด้วย “มิโสะราเมง” (Miso Raman) ส่วนผสมเป็นไปตามชื่อเพราะ น�้าซุปผสานความหอมและเค็มของมิโสะหรือเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น ได้น�้าซุปเป็นสีน�้าตาลอ่อนแต่รสชาติเข้มข้น แต่ถ้าจะเลือก น�า้ ซุปเข้มข้นทีผ่ า่ นการเคีย่ วกระดูกหมูยาวนานเฉียด 10 ชัว่ โมง ต้องนี่ “ทงคัตสึราเมง” (Tonkatsu Ramen) น�้าซุปไขกระดูก หอมหวานติดปลายลิ้น ใครเจอเมนูนี้เข้าไปเป็นต้องเผลอซด กันถึงก้นชาม และทีเ่ ป็นตัวเรียกแขกได้มากรองจากน�า้ ซุปเห็นจะเป็น เส้นราเมงที่แม้ญี่ปุ่นจะได้รับอิทธิพลมาจากจีน แต่ปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นรุ่นต่อรุ่นพัฒนาส่วนผสมจนผลิตเส้นราเมงได้เป็น เอกลักษณ์ของตัวเอง ส่วนจะเลือกแบบไหนเส้นหยักหรือ เส้นกลมหนาก็ต้องแล้วแต่ความชอบ นอกนั้นก็เป็นเครื่อง เคียงที่นิยมวางเรียงไว้บนเส้นตามเมนูและเป็นตัวเพิ่มสีสัน ความอร่อยให้ราเมงแต่ละชามได้มากซึ่งมีทั้งหมูชาชูหรือ

เนื้อหมูส่วนสะโพกต้มสไตล์ญี่ปุ่นจนเปื่อยนุ่มหั่นบางๆ หน่อไม้ดอง ลูกชิ้นปลา ไข่ต้ม ปรุงรสจนผิวไข่ขาวด้านนอกเป็นสีนา�้ ตาลเข้มแต่ไข่แดงเป็นยางมะตูม ขิงดองสีแดงสด สาหร่ายแผ่น เห็ดหูหนูหั่นฝอย ถั่วงอกต้ม ฯลฯ แทบทุกร้านราเมงที่มีอยู่มากกว่า 200,000 แห่งทั่วญี่ปุ่นมักมีเมนูราเมงมากกว่า 5 เมนูให้เราเลือกกิน มีบริการเครือ่ งปรุงจ�าพวกน�า้ ส้มสายชู ขิงดอง พริกป่นแบบญีป่ นุ่ และน�้ามันงาไว้ประจ�าโต๊ะให้ลูกค้าตักเติมได้ตามชอบ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในทุกร้าน ระหว่างที่เรานั่งกินกันอยู่ก็คือเสียงสูดเส้นราเมงดังลั่นของเจ้าถิ่นที่คนต่างชาติยากจะ เลียนแบบ แต่ส�าหรับชาวญี่ปุ่นวิธีนี้นอกจากจะแสดงถึงความอร่อยและช่วยลดความ ร้อนให้กินราเมงได้เร็วขึ้นแล้ว รอยหยักบนเส้นราเมงจะดึงเอาน�้าซุปตามเข้าปากไป พร้อมกัน ได้ทั้งเส้นทั้งน�้าในเวลาเดียวกัน มีเทคนิคคือคีบเส้นแต่พอดีไม่มากเกินไป แล้วสูดเข้าปากให้หมดโดยไม่กดั ให้เส้นขาดเป็นท่อนลงไปลอยอยูใ่ นน�า้ ซุปซึง่ ทัง้ ไม่สวย และยังคีบกินซ�้าได้ยากอีกต่างหาก แถมบางร้านที่คงเอกลักษณ์ความเก่าแก่เอาไว้มัก ไม่มีช้อนส�าหรับตักซุปมาให้ ให้ใช้วิธียกชามซดเลย ฉะนั้นถึงแม้จะแตกต่างจาก วัฒนธรรมการกินของเราชาวไทยอยู่เสียหน่อย แต่ถ้าได้ลองกินราเมงตามสไตล์ญี่ปุ่น แท้ๆ จะยิ่งได้บรรยากาศและสนุกกับการกินราเมงได้มากขึ้นด้วย

| 81





Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.