Say Hi Japan 25-2 Kagoshima by Checktour Magazine 57

Page 1

Say Hi Japan : iSSUE 25-2 aUGUST 2015

86 |


คาโกชิม่า…

ไม่ไปไม่รู้

เชื่อไหมว่าแม้ทุก

วันนี้คนไทยจะรู้จ ักญี่ปุ่นรวมทั้งแห ล่งท่องเที่ยว ตามเมืองต่างๆ ค่อนข้างมากแล ้ว แต่หากลองเทียบ ดูกับความน่าสน ใจ ในสถานที่ท่องเท ี่ยวทั้งหมดของป เราก็จะรู้ได้ว่าที่เรา ระเทศ คุ้นเคยกันนั้นเป ็นเพียงส่วนน้อย เพราะยังคงมีเม เหลือเกิน ืองเล็กเมืองน้อย อีกมากที่เรายังไม ครั้งนี้จึงเป็นโอก ่เคยรู้จักเลย าสเหมาะเมื่อเราไ ด้รับเชิญจาก “Kagoshima P refecture” ให้ร่วมเดินทางไป ส�ารวจแหล่งท่อ งเที่ยวในจังหวัด “คาโกชิม่า” (Ka goshima) เพื่อน�ามาบอกต ่อให้คุณผู้อ่านได ้รู้จักส�าหรับวาง เป้าหมาย ในการท่องเที่ยว ญี่ปุ่นครั้งต่อไป ได้ทันที และครั้งนี้เราจะไป พบกับเมืองที่น่า เท ย ่ ี วมากที่สุด อีกแห่งหนึ่งของ ญี่ปุ่นพร้อมกัน

| 87


คาโกชิมา่ เป็นเมืองหนึง่ ในจังหวัดคาโกชิมา่ ทีต่ งั้ อยูท่ างใต้สดุ ของภูมภิ าคคิวชู ใน อดีตเคยเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของซามุไรตระกูลชิมะสึ ครองความเป็นเมือง ท่าที่ส�าคัญมาตลอดจนถึงสมัยเอโดะและกลายเป็นเมืองหลวงแห่ง “แคว้นซาสึมะ” (Satsuma Han) ในเวลาต่อมา เมืองเล็กๆ ที่น่าสนใจและชวนให้รู้สึกอบอุ่นไปกับ อัธยาศัยไมตรีของคนท้องถิน่ อย่างคาโกชิมา่ อาจให้ความรูส้ กึ แตกต่างไปจากเมืองใหญ่ ยอดนิยมที่คุณผู้อ่านเคยไปเที่ยวมาแล้ว เพราะที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีเสน่ห์ มากเกินจะบรรยายออกมาเป็นค�าพูดได้หมด

88 |


หากได้มีโอกาสเดินทางไปสัมผัสแม้เพียงสักครั้งก็จะรู้ได้ทันที ว่าคาโกชิมา่ เต็มไปด้วยมรดกทางศิลปวัฒนธรรมมากมาย มีธรรมชาติ สวยงาม อาหารอร่อย ทั้งยังเป็นเมืองต้นต�ารับของหมูด�าคุโรบุตะที่ คนไทยรู้จักกันดี เหล้าโซจูรสชาติเยี่ยม มีโชยุหวานเป็นสูตรพิเศษ ของเมือง ขนมมันส�าปะหลังชื่อดังอย่าง “คารุคังมันจู” ก็แสนอร่อย ยิ่งงานหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาอีกหลากหลายรูปแบบที่มีรากฐาน ดั้งเดิมมาจากอดีตก็ยังถูกอนุรักษ์วิธีการผลิตไว้อย่างดีถึงปัจจุบัน ทีส่ า� คัญกว่านัน้ คาโกชิมา่ คือเมืองบ้านเกิดของสองบุคคลส�าคัญ ในแผ่นดินญีป่ นุ่ นัน่ คือท่านซามูไร “ไซโง ทาคาโมริ” (Saigo Takamori) ผูม้ บี ทบาทอย่างมากในหน้าประวัตศิ าสตร์การเมืองของญีป่ นุ่ ยุคปลาย สมั ย เอโดะ และมี ก ารสร้ า งอนุ ส าวรี ย ์ ข องท่ า นไว้ ท างด้ า นหน้ า พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมเมืองคาโกชิม่าด้วย ส่วนอีกท่านหนึ่งที่คนญี่ปุ่น รู้จักกันในชื่อ “อัตสึ ฮิเมะ” (Atsu Hime) และคนไทยคุ้นเคยเมื่อเรียก ท่านว่า “เจ้าหญิงอัตสึ” ตามชือ่ ซีรยี ญ์ ปี่ นุ่ ทีถ่ กู น�าเข้ามาฉายในบ้านเรา จนท�าให้เราได้รู้จักเจ้าหญิงแห่งคาโกชิม่าผู้นี้ ฉะนั้นไม่ว่าจะเดินทาง ไปมุมไหนของเมืองเราก็มักจะได้เห็นภาพการ์ตูนหรือสินค้าที่ระลึก เกี่ยวกับบุคคลทั้งสองอยู่เสมอ

ทริปนีเ้ ราเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมถิ งึ สนามบินฟุกโุ อกะ และต้องเตรียมตัวบินต่อไปยังเมืองคาโกชิมา่ ด้วยเครือ่ งบิน เล็กซึ่งให้บริการโดยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ใช้เวลาราว 1 ชัว่ โมงเครือ่ งบินจะลงจอดทีส่ นามบินคาโกชิมา่ ดินแดนใหม่ส�าหรับ คนไทยจ�านวนมากที่ยังรู้จักกันน้อยเหลือเกิน การเที่ยวในเมืองเล็กๆ อย่างคาโกชิม่าเราสามารถเช่ารถขับเที่ยวกันเองได้สบายๆ มีโรงแรมดีๆ หลายแห่งและมีมากพอที่จะรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบรวมถึงกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ ร้านอาหารมีทุกสไตล์ ใจกลางเมืองมีช้อปปิ้งมอลล์ที่รวบรวมสินค้าไว้มากมายบนถนนสายยาว มีร้านจ�าหน่ายสินค้าที่ระลึกประจ�าเมืองที่รวมทุกสินค้า ไว้ครบทุกชนิด เราพบกับร้าน “Mujyaki” ซึ่งเป็นร้านไอศกรีมนมคล้ายกับน�้าแข็งไสเนื้อเนียนผสมผลไม้สดตกแต่งให้มีหน้าตาน่ารักที่ เรียกว่า “ชิโรคุมะ” ร้านนี้มีสัญลักษณ์หน้าร้านที่โดดเด่นมากคือตุ๊กตาหมีตัวใหญ่รอทักทายลูกค้า แต่ถ้าชอบบรรยากาศส�าหรับ ผู้ใหญ่ที่จะชวนกันไปกินดืม่ ช่วงค�า่ ก็ตอ้ งแนะน�าทีย่ า่ น “คาโกชิมา่ ยะไตมุระ” (Kagoshima Yataimura) ที่มีร้านอาหารร้านเหล้ารวม 26 ร้าน ซึ่งแม้แต่ละร้านจะเป็นร้านเล็กๆ จุลูกค้าได้ร้านละประมาณ 8-10 คน แต่อาหารอร่อย บรรยากาศดีและมีเหล้าโซจูให้ จิบทุกร้าน

| 89


SatSuma KiriKo

เราเริ่มต้นท�าความรู้จักกับคาโกชิม่าด้วยการไปชมงานฝีมือชิ้นเอกของเมืองประเภทเครื่องแก้ว คาโกชิม่าเป็น แหล่งผลิตเครื่องแก้วเนื้อดีที่เรียกว่า “ซาสึมะ คิริโกะ” (Satsuma Kiriko) ผลิตขึ้นด้วยวิธีการที่ตกทอดกันมาเป็นร้อย ปีจากซามุไรตระกูลชิมะสึ สร้างสรรค์เครื่องแก้วที่มีสีสันเฉพาะตัวด้วยการใช้รูปแบบการวางซ้อนกันของแก้วใสและ แก้วสีให้เกิดสีเหลือบผสมกันอย่างสวยงาม กลายเป็นงานฝีมือชั้นยอดสัญลักษณ์ของเมืองไปเลย ได้ไปชมตัวอย่างเครื่องแก้วสวยๆ ที่ร้าน “ISO Kogei Kan” ซึ่งยังคงผลิตเครื่องแก้วด้วยวิธีดั้งเดิม แต่ก็เพิ่มรูป แบบและลวดลายสีสันมากขึ้น เนรมิตเครื่องแก้วที่สวยงามให้เป็นได้ทั้งภาชนะและของแต่งบ้าน เห็นราคาแล้วอาจดู ว่าแพงอยู่เหมือนกันแม้จะเป็นชิ้นเล็กๆ ก็ตาม แต่ต้องบอกเลยว่าเป็นการผลิตที่ต้องใช้ความประณีตสูง เราได้เข้าชม การผลิตแก้วของที่นี่ด้วย ได้เห็นการท�างานของช่างฝีมือดีประจ�าโรงงานตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงวางจ�าหน่ายได้ ถือ เป็นงานศิลปะที่หาชมหาซื้อได้ยาก แต่ยังมีอยู่ที่คาโกชิม่าแห่งนี้

SaKura jima

เราได้พบกับภูเขาไฟขนาดใหญ่ทยี่ งั พร้อมคุกรุน่ ตลอดเวลาในคาโกชิมา่ ซึ่งมีชื่อว่า “ภูเขาไฟซากุระจิมะ” (Sakurajima) ยักษ์ใหญ่ขี้หงุดหงิดที่พร้อม จะพ่นเถ้าถ่านออกมาตามอ�าเภอใจตลอดเวลา ชาวเมืองคาโกชิมา่ ดูจะคุน้ เคย และชินกับการปะทุแบบเล็กๆ น้อยๆ ของซากุระจิมะที่ท�าให้มีเถ้าลอยออก มาปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองอยู่เป็นประจ�า แต่ถ้าเกิดรุนแรงขึ้นอย่างที่ เคยเกิดในปี 2013 ซึ่งซากุระจิมะพ่นเถ้าถ่านสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 5,000 เมตรที่ถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1955 ลาวาที่ไหลออกมาเคลื่อนจากเชิง เขาไปไกลถึง 1 กิโลเมตร ชาวเมืองก็ตอ้ งสวมหน้ากากกันฝุน่ และการคมนาคม ต้องหยุดชะงักเพราะทัศนวิสัยไม่ดีเอาเสียเลย ภูเขาไฟซากุระจิมะถือเป็นสัญลักษณ์สา� คัญของคาโกชิมา่ ภาพภูเขาไฟ ขนาดใหญ่สูงประมาณ 1,117 เมตรที่มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเป็นครั้งคราว จากปากปล่องเป็นภาพทีเ่ ห็นได้บอ่ ย และก็กลายเป็นวิวทิวทัศน์ทสี่ วยงามมาก ส�าหรับอาคันตุกะอย่างเรา แต่ก็อดตกใจไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงประทุอยู่บ้าง เดิมทีซากุระจิมะคือเกาะภูเขาไฟกลางอ่าวคาโกชิม่า แต่เพราะแรงระเบิด อย่างรุนแรงในปี 1914 ท�าให้ซากุระจิมะปล่อยลาวาร้อนๆ ให้ไหลทะลักออก มาราว 3,000 ล้านตันล้นเอ่อท่วมไปทั่วฝั่งคาบสมุทรโอซูมิ (Osumi) จนเชื่อม พื้นที่ทั้งสองด้านที่เคยห่างกันราว 500 เมตรให้กลายเป็นแผ่นดินเดียวกัน ไปเลย การเฝ้ามองซากุระจิมะจากบนฝั่งเมืองจะให้ภาพที่สวยงามเพราะ ภูเขาไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เพราะฉะนั้นเพียงแค่ยืนมอง จากตัวเมืองก็เห็นได้ชัด แต่หากลองนั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือคาโกชิม่าไปขึ้น ฝั่งที่ “Sakurajima Ferry” ก็จะใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นแต่กลับได้ไป สัมผัสจุดชมวิวเพื่อมองเห็นภาพภูเขาไฟที่สวยงามได้ชัดเจนที่สุด และเรายัง ได้เห็นร่องรอยการถูกเถ้าถ่านภูเขาไฟทับถมเมืองจนแม้แต่เสาโทริอยิ งั โผล่พน้ ดินขึ้นมาได้เพียงแค่ส่วนยอดเท่านั้น

90 |


Kubota orimono อีกหนึ่งสัญลักษณ์สา� คัญของคาโกชิม่าก็คือการเป็นแหล่งผลิตผ้าไหม เนือ้ ดีของญีป่ นุ่ และนิยมน�ามาตัดเย็บเป็นชุดกิโมโน เรามีโอกาสได้ไปพบกับ ความเป็นมาของการผลิตผ้าไหมที่ “โรงทอผ้าไหมคูโบตะ” (Kubota Ori mono) เพื่อชมวิธีการและขัน้ ตอนการผลิตทีย่ งั คงใช้วธิ ดี งั้ เดิมทีม่ มี าแต่สมัย เอโดะซึง่ เรียกว่า “ซึมกู ”ิ (Tsumugi) เป็นผ้าไหมทอมือที่สร้างลวดลายบนเนื้อ ผ้าด้วยเทคนิคการทอสลับเส้นไหมที่ผ่านการย้อมสีด้วยเปลือกไม้และหมัก ด้วยโคลนจนสีตดิ แน่นกับเนือ้ ผ้า ซึง่ ผ้าจะถูกย้อมซ�า้ หลายสิบครัง้ เพือ่ ให้สตี ดิ ทนนานที่สุด และการทอผ้าทุกชิ้นจะใช้การทอมือเพื่อให้ได้ผืนผ้าที่ประณีต และละเอียดสวยงาม เรายังได้ไปชมความเป็นมาของ “โรงทอผ้าไหมโอชิมะ ซึมกู ”ิ (Oshima Tsumugi) เพือ่ ชมการผลิตเส้นไหมและการย้อมสีแบบดัง้ เดิม ได้เรียนรูว้ ธิ กี าร ย้อมสีผ้าแบบโบราณอย่างใกล้ชิด ได้เห็นเครื่องทอผ้าและเฝ้ามองช่างทอ ค่อยๆ ประณีตกับเส้นไหมแต่ละเส้นจนออกมาเป็นผืนผ้าพร้อมตัดเย็บ ส่วน ส�าคัญส่วนหนึง่ ทีน่ ยิ มน�าผ้าไหมเหล่านี้ไปตัดเป็นชุดกิโมโนก็เนื่องจากเป็นผ้า ที่มีน�้าหนักเบา ท�าให้ผู้สวมใส่สบายตัว และไม่ร้อนอบอ้าวแม้จะสวมกิโมโน ในช่วงฤดูร้อนก็ตาม

cu art

metal art & craft รูปแบบการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นอาจต่างไปจากบ้านเราที่จะบูชากันบนหิ้งพระ แต่ของญี่ปุ่นจะนิยมสร้างที่จัดวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นแท่นบูชาที่มีลักษณะคล้ายตู้มีประตูเปิดปิด จึงเป็นทีม่ าของศิลปะการตกแต่งแท่นบูชาด้วยทองค�าเปลวทีต่ จี นเป็นแผ่นบางแล้วน�ามาบุให้เป็น ลวดลายต่างๆ เรียกกันว่า “ศิลปะคิว” (Cu Art) ช่างผู้สลักต้องฝึกฝีมือกันนานเป็นสิบปีจึงจะ ได้รับการยอมรับให้สามารถสร้างชิ้นงานออกจ�าหน่ายได้ เราเข้าชมภายในโรงงานผลิตที่สร้างสรรค์งานศิลปะเหล่านี้มาหลายสิบปี และในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมาจากที่ผลิตงานส�าหรับใช้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และใช้เฉพาะภายในวัดหรือศาลเจ้าก็ ขยายรูปแบบออกมาเป็นงานศิลปะเพื่อใช้ในบ้านหรือร้านค้าได้ด้วย และยังใช้วิธีการคล้ายกันนี้ ในการผลิตงานศิลปะด้วยชิ้นโลหะให้เป็นภาชนะและเครื่องเรือน รวมถึงโคมไฟ ของแต่งบ้าน และของที่ระลึกอีกมาก ที่มีแน่นอนคือกาน�้าโบราณสไตล์คาโกชิม่าแท้ๆ ที่มีเพียงแห่งเดียวที่นี่ และงานศิลปะทีป่ ระดิษฐ์ออกมาเป็นรูปภูเขาไฟซากุระจิมะสัญลักษณ์สา� คัญของเมืองนีก้ ม็ อี ยูด่ ว้ ย ขอย�้าว่างานศิลปะเหล่านี้มีช่างตอกโลหะสร้างงานกันด้วยมือทุกชิ้นอย่างประณีตที่สุด

| 91


เครื่องปั้น

ดินเผาอารากิ อย่างทีบ่ อกไปแล้วว่าคาโกชิมา่ คือแหล่งผลิตเครือ่ งปัน้ ดินเผา ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เราจึงเข้าชม “เครื่องปั้นดินเผาอารากิ” เพื่อ ชมการปั้นดินที่มีรูปแบบและเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ด�าเนิน กิจการถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 15 แล้ว เนื้อดินสีด�าแบบดั้งเดิมจะถูก ผสมออกมาใหม่ให้มีสีเขียวขี้ม้าอ่อนไม่ซ�้าใครและเป็นเอกลักษณ์ ของร้านนี้ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอย่างเป็นทางการเป็นแห่งแรก ดินเนื้อสี ด�าของที่นี่จะเป็นดินจากภูเขาไฟที่มีโลหะปนอยู่ มาถึงยุคปัจจุบัน มีการผสมสีอื่นเพิ่มเติมสร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับสินค้า รวมทั้งมีดิน สีขาวสีด�าเพิ่มเข้ามาท�าให้สินค้ายิ่งหลากหลายมากขึ้น

เครื่องปั้น ดินเผา

อิบุซึกิ โชวอุทาโระยากิ เราไปกันที่เมือง “อิบุซึกิ” (Ibusuki) เพื่อชม “เครื่องปั้นดินเผาโชวอุ ทาโระยากิ” ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สืบทอดวิชากันมาใน ครอบครัว “คุณคัตสึฮิเดะ อาริยามะ” (Katsuhide Ariyama) คือรุ่นปัจจุบัน ที่ยังคงสืบทอดอาชีพนี้เรื่อยมา และยังคงใช้รูปแบบเดิมในการผลิตมาโดย ตลอด ภายในห้องจ�าหน่ายชิ้นงานจะมีงานฝีมือของครอบครัวจัดแสดงอยู่ ด้วย งานที่ผลิตออกมาในแต่ละรุ่นก็จะแตกต่างกันไปโดยไม่มีกรอบ ใคร อยากสร้างสรรค์งานชิ้นใดก็ท�าออกมาได้ตามใจจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของ ตัวเองไป คุณอาริยามะเชื่อว่าไม่มีงานชิ้นใดดีไปกว่ากัน อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะ ชื่นชอบงานชิ้นไหนมากกว่าเท่านั้นเอง

92 |


ibuSuKi SatSuma DenShoKan

ชมเครือ่ งปัน้ ดินเผาทีส่ วยงามมากซึง่ น�ามาจัดแสดงเป็นนิทรรศการ ถาวรภายในอาคารหลังใหญ่ที่เปิดอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2008 เครือ่ งปัน้ ดินเผาทีเ่ ราได้ชมภายในพิพธิ ภัณฑ์แห่งนีต้ า่ งไปจากรูปแบบเดิม ที่เราเคยเห็น ได้รับค�าอธิบายว่างานศิลปะเครื่องปั้นดินเผาของที่นี่มีชื่อ เรียกว่า “ซาสึมะยากิ” ซึ่งผลิตขึ้นตั้งแต่สมัยเมจิ และล้วนแต่เป็นสินค้า ที่ผลิตส่งออกจ�าหน่ายยังต่างประเทศทั้งสิ้น เท่าที่เห็นคือเป็นเครื่องปั้นดินเผาชิ้นใหญ่ดูอลังการ หากได้ชม ลวดลายที่ช่างฝีมือวาดลงบนเนื้องานจะเห็นได้ว่าสวยงามและละเอียด ประณีตมาก ผสมกับลวดลายที่เป็นธรรมชาติของเนื้อดินยิ่งท�าให้น่ามอง ภายในอาคารมีช้ินงานให้เราชมหลากหลายจ�านวนเกือบ 400 ชิ้นใน 2 ชั้นของอาคารซึ่งเรากล้าพูดได้เต็มปากว่าสวยงามมากทุกชิ้น ส่วนอีกฝั่ง หนึ่งของตัวอาคารก็จะมีร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนที่อร่อยมาก หลังจาก เดินชมงานศิลปะสวยๆ ในพิพภิ ณั ฑ์แล้วก็สามารถแวะเข้ามารับประทาน อาหารภายในร้านนี้ได้

ออนเซน

ทรายร้อนที่อิบุซึกิ และทีส่ ดุ ของไฮไลท์ในการเทีย่ วคาโกชิมา่ ก็คอื การเดินทางมายังเมือง อิบซุ กึ เิ พือ่ สัมผัสกับออนเซนทรายร้อน ซึง่ แม้จะพอพบได้บา้ งในเมืองอืน่ ของ ญีป่ นุ่ แต่สา� หรับทีอ่ บิ ซุ กึ กิ ารแผ่ความร้อนธรรมชาติจากใต้พภิ พลงสูผ่ นื ทราย ริมคาบสมุทรซาซึมะกลายเป็นจุดเด่นของออนเซนทรายที่ตั้งอยู่รมิ ทะเลแห่ง นี้ และยังมีออนเซนน�้าแร่ควบคู่กันไปด้วยซึ่งถือเป็นแห่งเดียวในญี่ปุ่น คน ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงชื่นชอบที่จะมาแช่ออนเซนกันที่นี่หลายครั้งในแต่ละปี อุณหภูมิเมื่อเราต้องลงไปนอนแช่ในออนเซนทรายประมาณ 55 องศา เซลเซียส และแช่นานประมาณ 10 นาที ก่อนเริม่ เราก็ตอ้ งรับกุญแจล็อกเกอร์ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ามาสวมยูกาตะแล้วเดินลงไปนอนบนผืนทรายได้เลย เจ้า หน้าทีจ่ ะช่วยกันตักทรายถมตัวเราให้โผล่พน้ เฉพาะใบหน้าและล�าคอ น�า้ หนัก ของทรายที่ทับอยู่บนตัวเราประมาณ 20-30 กิโลกรัม จึงอาจจะท�าให้รู้สึก อึดอัดบ้างส�าหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคย จนเมื่อครบเวลาเราก็เข้าไปอาบน�้าล้าง ทรายออกจากตัวถือเป็นอันเสร็จเรียบร้อย สรรพคุณของออนเซนทรายจะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก ช่วย บรรเทาอาการปวดเมื่อย หากปวดหัวไหล่หรือหัวเข่าจะยิ่งได้ผลดีถ้าได้ท�า อย่างต่อเนื่อง และจะให้ผลดีกว่าออนเซนน�้าแร่ร้อนถึง 3-4 เท่า สามารถลง ออนเซนทรายได้ในคนทุกวัยตั้งแต่อายุ 3 ขวบขึ้นไป เพียงแต่ถ้าฝังตัวลึกก็ จะร้อนมากหน่อย และก็มขี อ้ ห้ามทีต่ อ้ งระวังส�าหรับผูท้ มี่ อี าการของโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงที่ไม่ควรใช้บริการเพราะอาจจะเกิดอันตรายได้

และทัง้ หมดก็เป็นเพียงแค่สว่ นหนึง่ ในอีกจ�านวนมากมายส�าหรับแหล่ง ท่องเทีย่ วในคาโกชิมา่ เท่านัน้ เราเชือ่ ว่าความพร้อมในทุกด้านของเมืองเล็กๆ เมืองนีจ้ ะดึงดูดให้คณุ ผูอ้ า่ นเดินทางมาเทีย่ วได้ไม่ยาก หากก�าลังมองหาเมือง ท่องเที่ยวใหม่ๆ ตลอดครึ่งปีหลังนี้คาโกชิม่าพร้อมที่สุดส�าหรับการต้อนรับ คุณผู้อ่าน ยิ่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสีช่วงปลายปีด้วยแล้วยิ่งไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะบรรยากาศทั่วทั้งเมืองคาโกชิม่านั้นสวยงามมากจริงๆ

Special ThankS KAGOSHIMA PREFECTURE www.kagoshima-kankou.com

Travel Innovation Japan Inc. e-mail: cuStomer@ti-j.co.jP

www.ti-j.co.jp

| 93




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.