Say Hi Japan 33 Tokyo by Checktour Magazine 65

Page 1

TOKYO CAMPAIGN II

พาเที่ยว

โตเกียวไปด้วยกัน ค่อยๆ ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเพิ่งผ่านไปแค่ Season ที่ 2 เท่านั้นส�าหรับ แคมเปญตะลุยโตเกียวที่ Checktour Magazine และ Checktour on TV ร่วมกับ Tokyo Convention & Visitors Bureau โดยได้คด ั เลือกผูโ้ ชคดีจากการติดตาม ชมรายการแล้วพากันไปเทีย ่ วแบบสนุกสุดเหวีย ่ ง ปีแรกสนุกแค่ไหนปีที่ 2 ดูจะสนุก ยิ่งกว่า ก่อนจะเข้าสู่แคมเปญในปีที่ 3 เราขอน�าภาพบรรยากาศในปีที่ 2 มาฝาก คุณผู้อ่านให้ได้อุ่นเครื่องกันก่อนจะเตรียมตัวคว้ารางวัลปลายปีนี้ แคมเปญที่ 2 ประจ�าปี 2015 ที่ผ่านมานอกจากสองสาวน้อยผู้โชคดีของ เราจะได้เที่ยวสนุกในโตเกียวแบบไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แล้วยังได้ร่วมเป็นพิธีกร รับเชิญในรายการ Checktour on TV ไปกับเราด้วย ส่วนจะไปเที่ยวที่ไหนมา บ้ า งเดี๋ ย วคุ ณ ผู ้ อ ่ า นลองติ ด ตามกั น ดู กระซิ บ ว่ า บางสถานที่ ค นไทยรู ้ จั ก ดี แต่บางสถานที่นั้นใหม่มากส�าหรับคนไทย อ่านแล้วชมแล้วอย่าให้เสียเปล่า น�าไป วางโปรแกรมเที่ยวโตเกียวกันเองได้เลย เพราะทุกสถานที่คัดแล้วว่าเจ๋งจริง

Centurion Hotel Ueno ทริปนีเ้ ราเลือกพักในย่านอุเอโนะ ที่ “Centurion Hotel Ueno” โรงแรมทีไ่ ด้มาตรฐาน ซึง่ เหมาะมากส�าหรับผูท้ ตี่ อ้ งการพักใกล้ยา่ นช้อปปิง้ ชือ่ ดังของโตเกียว ใกล้สถานีรถไฟ และ เป็นย่านที่มีร้านอาหารเครื่องดื่มยามค�่าให้รื่นเริงกันจนดึกดื่น แถมใกล้ร้านสะดวกซื้อ ใกล้ ร้านราเมงอร่อยมากมาย ร้านขายยา ร้านเครื่องส�าอางเยอะแยะไปหมด และที่หนุ่มสาว นักช้อปจะต้องกรี๊ดก็คือโรงแรมตั้งอยู่เยื้องกับร้านที่คนไทยรู้จักดีว่ามีสินค้าให้เลือกซื้อทั้ง ของกินของใช้ทุกประเภท นั่นคือ “ดองกิโฮเต้” (Don Quijote) หรือ “ดองกี้” (Donki) ซึ่ง ก็ตั้งอยู่ใกล้มากชนิดที่เดินเท้าถึงกันในเวลาไม่เกิน 5 นาที แถมเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ช้อปปิ้งกันเต็มไม้เต็มมือแล้วหอบของมาเก็บไว้ที่โรงแรมก่อนค่อยกลับไปช้อปใหม่อีกรอบ สองรอบก็ยังได้ หรือไปเที่ยวที่อื่นกลับมาดึกๆ ก็ยังแวะมาช้อปต่อได้ถ้ายังไหว สะดวกและ มีไว้เพื่อนักท่องเที่ยวแท้ๆ

ปุย

พฤกษา สุนทโท

เค้ก

อารยา ศรีบุญเรือง


Toden Arakawa Line โปรแกรมแรกของการตะลุยโตเกียวของเราก็คอื การไปเทีย่ ว “Asukayama Park” สวนสวยๆ ที่มีความเป็นมายาวนานและยังได้รับความนิยมในการเป็น พื้นที่ชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากมายอีกแห่งในโตเกียว และ เพราะเราพักในย่านอุเอโนะจึงเริ่มต้นขึ้นรถไฟจาก JR Ueno Station ไปลงที่ Otsuka Station แล้วนั่งรถรางสาย “Toden Arakawa Line” ซึ่งเป็นรถรางสาย เก่าแก่ที่ยังเหลืออยู่เพียงสายเดียวในโตเกียว จุดเริ่มต้นของรถรางสายนี้มีมาตั้งแต่ปี 1960 ยุคนั้นมีขึ้นเพื่อให้เป็นตัว ช่วยลดการจราจรของรถราในโตเกียวที่มีมากมาย ในอดีตได้รับความนิยมอยู่ เหมือนกัน แต่มายุคปัจจุบนั ผูใ้ ช้กเ็ ริม่ น้อยลงเพราะมีการคมนาคมอืน่ ๆ เข้ามา เป็นตัวเลือกมากขึน้ ดูจากสถิตทิ บี่ นั ทึกไว้กเ็ ห็นได้ชดั ว่าในปี 1974 เคยมีจา� นวน ผู้โดยสารใช้บริการมากถึง 93,000 คน แต่มาปี 2011 จ�านวนผู้ใช้ก็ลดน้อยลง เหลือเพียงแค่ 49,130 คนเท่านั้น

คุณผู้อ่านคงคิดว่ามีคนใช้บริการน้อยขนาดนี้รถรางสาย Toden Arakawa Line คงถูกยกเลิกแน่ๆ แต่เรื่องกลับตรงกันข้ามเพราะด้วย ความเก่าแก่และความคุ้นเคยของชาวเมืองแถบนี้จึงพากันร้องขอให้ อนุรกั ษ์และเปิดใช้ตอ่ ไปจนถึงวันนีท้ เี่ ราก็ได้มาท�าความรูจ้ กั และลองใช้ บริการดูบ้าง รถรางสายนี้มีแค่ตู้เดียว แต่ยังดูเหมือนใหม่และสะอาด สะอ้านเหมือนรถไฟญี่ปุ่นทั่วไป ตลอดเส้นทางที่รถรางแล่นผ่านซึ่งนับ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงและมีเพียง 30 สถานีนั้นจะต้องผ่านย่านเมืองเก่าที่ให้บรรยากาศเหมือนย้อนไปเที่ยว ญี่ปุ่นในสมัยโชวะ ได้ชมชานเมืองโตเกียวกันจากบนรถนี่แหละ และ ตลอดเส้นทางก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราแวะเที่ยวได้หลายแห่ง ทั้ง ศาลเจ้า สวนสนุก และหนึ่งในนั้นก็คือ Asukayama Park ที่เกริ่นไป ในตอนต้นนั่นเอง


Asukayama Park

ทีนี้กลับมาคุยถึง “Asukayama Park” กันต่อ เรา นั่งรถรางสาย Toden Arakawa Line มาลงที่ “JR Oji Station” แล้วก็นั่งกระเช้าที่มีระยะทางสั้นที่สุดในญี่ปุ่น ขึ้นไปเที่ยวสวนสวยๆ กัน กระเช้าที่พูดถึงนี้เป็นกระเช้า ที่มีระยะทางแค่ 48 เมตรเท่านั้นซึ่งสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ คนชราหรือคนพิการสามารถขึ้นไปพักผ่อนหย่อนใจใน Asukayama Park ได้อย่างสะดวก ในเดือนพฤศจิกายน ทีน่ คี่ อื จุดชมใบไม้เปลีย่ นสีทสี่ วยงาม และเมือ่ หมดเดือน มีนาคมย่างเข้าเมษายนดอกซากุระที่นี่จะอลังการมาก พื้นที่ของสวนแห่งนี้มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ และผู้ที่ เพียรปลูกซากุระมากมายให้เราได้เห็นถึงวันนีก้ ค็ อื โชกุน “Tokugawa Yoshimune” โดยจุดประสงค์ของท่านก็คอื เพือ่ เปิดโอกาสให้ชาวเมืองทัว่ ไปเข้ามาชมได้ จนถึงสมัย เมจิก็เริ่มมีการเข้ามาจัดสวนสวยๆ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆ กับมีห้องชงชาไว้ต้อนรับคนที่ขึ้นมาชมดอกไม้ ปัจจุบัน ห้องชงชาทีว่ า่ นีไ้ ม่มแี ล้ว แต่กลับมีพพิ ธิ ภัณฑ์เพิม่ เข้ามา 3 แห่ง และมีพื้นที่สุสานของคนในยุคก่อนอยู่ด้วยทาง ด้านหลังสวน

Oji Shrine จาก JR Oji Station เดินมากันนิดเดียวแค่ 5 นาทีเราก็ได้แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ “Oji Shrine” ศาลเจ้าเก่าแก่อีกแห่งในโตเกียวที่สร้างขึ้นในสมัยเมจิ และก็กลายเป็นศาลเจ้าที่ชาวเมือง นิยมมาขอพรต่อเทพเจ้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขอพรให้ลูกเรียนเก่ง ให้ลูกโชคดีสอบได้ ในปี 1945 อาคารศาลเจ้าเคยพังเสียหายไปแล้วจากภัยสงครามครั้งที่ 2 แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี 1982 จนสวยงามเหมือนที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ทางเดินขึน้ สูศ่ าลเจ้าจะเป็นเนินน้อยๆ ให้ได้ออกแรงเดินกันนิดหน่อย แต่กม็ แี นวต้นแปะก๊ว ยอยูเ่ ยอะให้เราได้ชมใบสีเหลืองสวยในฤดูใบไม้เปลีย่ นสี และก็เป็นแปะก๊วยต้นใหญ่ทมี่ อี ายุมากกว่า 650 ปี บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบแม้จะมีผู้คนแวะเวียนกันเข้ามาตลอดทั้งวันก็ตาม และก็ถือ เป็นพื้นที่ที่สวยงามในแถบปริมณฑลของโตเกียวที่น่าสนใจมาก

Takeya

102 |

เอ่ยชื่อ “Takeya” แม้จะเป็นหญิงไทยนักช้อปก็อาจงงและไม่เข้าใจว่าก�าลังพูดถึงอะไร แต่ถ้าได้ลองเปลี่ยน เป็นพูดว่า “ตึกม่วง” รับรองร้อยทั้งร้อยต้องกรี๊ด เพราะนี่คือชื่อของอาคารที่เป็นเหมือนสวรรค์น้อยๆ ของสาวๆ ซึ่งแม้หนุ่มๆ จ�านวนไม่น้อยจะสนใจตึกม่วงอยู่บ้างก็คงไม่มีทางที่จะมีจ�านวนมากไปกว่าสาวๆ แน่นอน แต่ นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ว่ามาช้อปที่นี่เยอะแยะก็ยังมีสถิติอยู่ในอันดับที่ 2 เพราะอันดับที่ 1 นั้นจีนคว้าไปครอง เรียบร้อยแล้ว Takeya เป็นอาคารสูงสีม่วงโดดเด่นที่รวมสินค้าน่าสนใจประเภทขนม ของฝากและเครื่อง ส�าอางไว้เยอะมาก สีม่วงของตัวอาคารกลายมาเป็นชื่อเรียกที่คุ้นเคยส�าหรับคนไทยที่พูดเมื่อใดก็รู้ทันทีว่า นี่คือพื้นที่ละลายทรัพย์ชัดๆ แต่ที่คนไทยอาจจะรู้กันน้อยมากก็คืออาคารหลังนี้ไม่ได้มีแค่ขนมและ เครื่องส�าอางบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 เท่านั้น แต่ชั้นอื่นๆ ถัดจากนั้นของ Takeya ยังมีทั้งนาฬิกา กระเป๋าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมชื่อดังระดับโลกอีกมากมาย มาเที่ยวแล้วต้องไม่ลืมแวะขึ้นไปชมให้ ครบเดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือน


Ameyoko คนไทยทีม่ าเทีย่ วโตเกียวมักให้ฉายา “Ameyoko” ตลาดชือ่ ดังว่าเป็น “ส�ำเพ็งญีป่ นุ่ ” แต่ ส�าหรับเรา Ameyoko น่าจะเป็นทัง้ ส�าเพ็ง เยาวราช ตลาดค้าผักผลไม้และช้อปปิง้ สตรีท เพราะ ทันทีทยี่ า่ งกรายเข้าไปในตลาดแห่งนีเ้ ราจะได้พบกับแหล่งรวมสินค้าราคาก�าลังพอดีๆ ไม่แพง มากนัก ทั้งผัก ผลไม้ ขนม อาหารทะเลสดๆ อาหารทะเลแห้ง เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ เครื่องส�าอาง และที่มีมากจนละลานตาไปหมดก็คือรองเท้ากีฬาซึ่งน่าซื้อมาก ทีพ่ ลาดไม่ได้อกี อย่างส�าหรับการเดินเทีย่ วใน Ameyoko ก็คอื การแวะชิมข้าวหน้าอาหาร ทะเลหลากหลายชนิดซึง่ มีให้เลือกทัง้ กินสดและกินสุก แต่จะให้ได้บรรยากาศและอร่อยขาดใจ ก็ตอ้ งลองข้าวหน้าปลาดิบ เพราะอร่อยและสดมากจริงๆ แถมราคาไม่แพงด้วย มีให้เลือกหลาย ร้านและสัง่ กินง่ายเพราะส่วนใหญ่จะมีรปู ให้เลือกหน้าร้านพร้อมบอกราคาชัดเจน แค่เลือกเมนู ที่อยากกินแล้วเข้าไปสั่งกับพนักงาน ทีนี้ก็ไปหาโต๊ะเก้าอี้นั่งรอกินได้เลย แต่ทุกร้านส่วนใหญ่ ลูกค้าเต็มตลอดทั้งวัน ต้องรอหาจังหวะดีๆ เข้าไปชิมให้ได้ห้ามเดินผ่านไปเปล่าๆ เด็ดขาด

Shinjuku Toho Building

TM & © TOHO CO.,LTD.

ได้เวลาเข้าเมืองสู่ย่านความเจริญอันดับต้นๆ ของ โตเกียวที่ “Shinjuku” แต่อย่าเพิ่งเพลิดเพลินไปกับแหล่ง ช้อปปิ้งกันเสียก่อน เพราะเราจะชวนคุณผู้อ่านไปเที่ยวย่าน “Kabukicho” เพื่อขึ้นไปชม “Godzilla” บนอาคาร “Shinjuku Toho Building” หรือทีน่ ยิ มเรียกกันว่า “Godzilla Building” เพราะบนชั้น 8F ของอาคารจะมีหุ่น Godzilla ขนาดใหญ่แยกเขี้ยวโชว์ความน่ากลัวให้คนทั่วไปได้เห็น ตั้งแต่บนถนนหน้าอาคาร กลายเป็นสีสันหนึ่งของ Shinjuku ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมาย อาคารหลังนี้ถือว่ามีชื่อในแง่ของการเป็นศูนย์รวม ความบันเทิงอีกแห่งของ Shinjuku เพราะมีทงั้ โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร ร้านปาจิงโกะและโรงแรม รวมแล้วมีความสูง 30 ชั้น ซึ่งส่วนของโรงแรมนั้นจะอยู่ตั้งแต่ชั้นที่ 8 เป็นต้นไป และมีอยู่ทั้งสิ้น 970 ห้อง บริษัทเจ้าของอาคารเป็นเจ้าของ เดียวกับบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่อง Godzilla ที่โด่งดัง ตลอดกาลในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลกันมาที่ นี่เรียงตามล�าดับความนิยมก็เริ่มจากจีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี ส่วนคนไทยก็มีอยู่บ้างที่ส่วนใหญ่เข้ามาพักโรงแรมนี้เพราะสะดวก มากจากการที่อยู่ในย่านช้อปปิ้งหลักใจกลาง Shinjuku และก็เป็นโรงแรมใหม่ที่น่าจะอยู่ในระดับ 4 ดาวซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2015 ที่ผ่านมาไม่นานนี้เองแต่ก็สร้างกระแสให้ตัวเองได้อย่างมากมายด้วยเจ้าหุ่น Godzilla ตัวนี้นี่แหละ

ตึกม่วง

ตึกม่วง

ตึกม่วง

| 103


Kizuna Sushi หากชอบกินซูชิแล้วมาถึงโตเกียวต้องแวะร้านนี้ “Kizuna Sushi” บุฟเฟ่ต์ซูชิที่อลังการมากเพราะร้านนี้มีซูชิให้ เลือกถึง 100 แบบ อาหารทะเลสดทุกชนิดมีอยู่ที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ฉะนั้นเที่ยว Shinjuku แล้วหิวเมื่อใดขอให้แวะมาที่นี่ด่วนๆ ทั้งไข่ปลาแซลมอน ไข่หอยเม่น หมึกสด หมึกย่างซีอิ๊ว และสารพัดปลาอีก มากมายรอให้เราชิมกันแบบไม่อั้นเพราะขึ้นชื่อว่าบุฟเฟ่ต์แล้วงานนี้ได้อิ่มกันท้องแทบแตกแน่นอน Kizuna Sushi เปิดร้านสาขาแรกในย่าน Kabukicho เมื่อปี 2011 และมาเปิดสาขา 2 ในร้านที่เราแวะมาชิมนี้ซึ่ง ห่างออกมาทางฟากตะวันตกของ Shinjuku ในปี 2015 นี่เอง ถือเป็นร้านซูชิที่มีจ�านวนหน้าซูชิมากที่สุดในโตเกียว และ ดูจะมากที่สุดในภูมิภาคคันโตด้วยซ�้า ร้านนี้กรุ๊ปทัวร์ใหญ่ๆ แวะลงฝากท้องกันได้สบายๆ เพราะมีโต๊ะทั้งชั้น 1 และ ชั้น 2 มากถึง 104 ที่นั่ง จุดเด่นอย่างมากมายของร้านนี้นอกจากอาหารจะสดมากแล้ว อาหารที่ปกติมีราคาแพงอย่าง ไข่หอยเม่นหรือไข่ปลาแซลมอนก็ยังถูกรวมไว้ในบุฟเฟ่ต์ด้วย จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเฉพาะการสั่งอาหารอื่นๆ นอกเหนือ จากซูชิ เช่น เทมปุระ สนนราคาบุฟเฟ่ต์ร้านนี้ในระยะเวลา 2 ชั่วโมงคือผู้หญิงราคา 3,480 เยน และผู้ชายราคา 3,980 เยน ส่วนเด็กๆ นั้นแค่ 2,000 เยนเท่านั้น

Kabukiza Tower มาเที่ยวทั้งทีต้องเข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุด ลองมาแปลงโฉมให้ ตัวเองกลายเป็นไมโกะและเกโกะอย่างสมบูรณ์แบบกันดูหน่อย เราขึ้นมาบนชั้น 5 ของ “Kabukiza Tower” ซึ่งนอกจากจะเป็นอาคารส�านักงานแล้ว อาคารหลังนี้ ยังมีโรงละคร Kabuki ที่ได้รับความนิยมจากผู้คลั่งไคล้ศิลปะการแสดงชนิดนี้ รวมทั้งยังมี “Studio-Alice Kabuki Photo Studio” สถานที่สร้างไมโกะตัวปลอม แต่เหมือนตัวจริงทีส่ ดุ ด้วยการสวมใส่กโิ มโนลายสวยพร้อมแต่งหน้าด้วยแป้งหนาและ วิกผมที่แทบจ�าตัวเองไม่ได้ยามส่องกระจก แต่เชื่อเถอะว่าจะเป็นประสบการณ์ดีๆ อีกหนึ่งอย่างในการเที่ยวญี่ปุ่น Studio-Alice Kabuki Photo Studio จะท�าให้ทุกคน ทั้งหญิงและชายสวยงามด้วยการแต่งกายและแต่งหน้า ย้อนอดีต ไม่ว่าจะต้องการแต่งเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ให้ตวั เอง หรือสนุกกันในครอบครัวและเพือ่ นๆ ด้วยการ เปลีย่ นตัวเองแล้วถ่ายภาพเป็นทีร่ ะลึก ราคาจะเริม่ ต้น ที่ 1,500 เยน ส่วนจะเลือกสวมกิโมโนธรรมดาหรือเลือก จะเป็นไมโกะก็ต้องลองดู ถือเป็นกิจกรรมที่สนุกมาก ยิ่งถ้ามาเที่ยวกับผองเพื่อนรับรองว่าจะเฮฮากันที่สุด

104 |

Shiokaze Park ชวนกันไปชมสวนสวยอีกแห่งในย่าน “Odaiba” ซึ่งมีชื่อ ว่า “Shiokaze Park” แต่เราไม่เดินเทีย่ วกันธรรมดาเพราะตัง้ ใจ เช่าจักรยานปัน่ เทีย่ วกันให้ทวั่ สวน จุดเช่าจักรยานในโตเกียวและ ทั่ว Odaiba มีให้บริการทั้งประเภทที่เข้าไปติดต่อขอเช่าจาก เจ้าหน้าทีห่ รือเจ้าของร้านด้วยการแสดงหนังสือเดินทางและเงิน มัดจ�า รวมถึงประเภทที่มีจักรยานจอดอยู่บนฟุตบาทให้เรา จัดการเช่าผ่านบัตรเครดิตและลงชื่อนามสกุลพร้อมให้เบอร์ โทรศัพท์หรืออีเมล์เพือ่ ขอรับรหัสส�าหรับน�ามาป้อนลงบนหน้าจอ ของจุดล็อคจักรยานแต่ละคันแล้วก็ปั่นจักรยานแล่นฉิวไปได้ ทันทีแล้วค่อยส่งคืนตามเวลาที่ก�าหนดไว้ และเหตุ ที่ ช วนคุ ณ ผู ้ อ ่ า นมาปั ่ น จั ก รยานเที่ ย วกั น ที่ Shiokaze Park ก็เพราะจุดนี้จะท�าให้เราได้ชมทัศนียภาพของ สวนสวยที่มีฉากหลังเป็น Rainbow Bridge แห่งโตเกียว แต่ เหนือสิง่ อืน่ ใดคือบรรยากาศของการกลับไปเป็นเด็กอีกครัง้ ด้วย การปั่นจักรยานจะเป็นสิ่งที่เราได้จดจ�าและมีความสุขมาก อีก ทั้งการปั่นจักรยานในญี่ปุ่นก็ค่อนข้างปลอดภัยเพราะผู้ขับขี่รถ ราบนถนนให้ความเคารพในกฎจราจร และเราเองก็ต้องขับขี่ อย่างไม่ประมาท เคารพกฎจราจรเช่นเดียวกับการขับรถยนต์ ด้วยการดูสัญญาณไฟจราจรเป็นหลัก ไม่สวมหูฟังขณะปั่น จักรยานและจอดจักรยานในที่อนุญาตให้จอดเท่านั้น


Odaiba การเที่ยวใน “Odaiba” ถือเป็นอีกความ นิยมหนึ่งของทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเอง บริเวณนี้เต็มไปด้วยความบันเทิงหลากหลาย หนึง่ ในนัน้ ต้องเป็น “หุน่ ยนต์กนั ดัม้ ” (Gundam) ตัวใหญ่ยักษ์ที่โดยรอบมีร้านจ�าหน่ายสินค้าที่ ระลึกเกี่ยวกับกันดั้มแทบจะทุกประเภท ด้าน หนึ่ ง เป็ น พื้ น ที่ ริ ม อ่ า วโตเกี ย วซึ่ ง เป็ น จุ ด ชม พระอาทิตย์ตกที่มีชื่อเสียง มีอนุสาวรีย์เทพี เสรีภาพและวิว Rainbow Bridge ให้ชม ใครๆ ก็มาที่นี่ และเราเองก็ไม่ยอมพลาดเหมือนกัน

Ooedo Onsen Monogatari Hot Springs เพิ่งรู้ว่าโตเกียวมีสุดยอดออนเซนเหมือนกับเมืองอื่นๆ เมื่อได้รู้จักกับ “Ooedo Onsen Monogatari Hot Springs” อาณาจักรแห่งออนเซนที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินฮาเนดะแค่เพียงนั่งรถ 30 นาทีเท่านั้น และแม้จะมีทั้งออนเซนแช่ตัวและแช่เท้าก็ใช่จะมีความน่าสนใจเพียงแค่นี้ เพราะ Ooedo Onsen Monogatari Hot Springs ออกแบบสร้างให้ภายในมีบรรยากาศของสมัยเอโดะ ทุกมุม ไม่วา่ จะเป็นบ่อออนเซน ร้านอาหาร เครือ่ งดืม่ ร้านขายของเล่น แสงสีตา่ งๆ ล้วนแต่เป็นการ ย้อนอดีตทั้งสิ้น และก็ได้รับความนิยมมาโดยตลอดนับแต่เปิดให้บริการในปี 2003 ผู้ใช้บริการออนเซนแห่งนี้จะได้รับกุญแจคล้องมือส�าหรับการเปิดปิดล็อกเกอร์เก็บข้าวของ เครือ่ งใช้สว่ นตัวและใช้เพือ่ ซือ้ ของในร้านค้าต่างๆ เพือ่ รอคิดเงินหลังจากเสร็จสิน้ ภารกิจแห่งความ สุขใจสบายตัวแล้ว ทุกคนจะได้รับรองเท้าและยูกาตะคนละชิ้นซึ่งพิเศษมากเพราะที่นี่มียูกาตะ ให้เลือกเยอะมากกว่าทีไ่ หนๆ เราเชือ่ ว่าจะเป็นอีกสถานทีห่ นึง่ ทีค่ นไทยยังไม่คอ่ ยรูจ้ กั และเมือ่ รูจ้ กั แล้วหลังจากเที่ยวกันมาตลอดทริป ก่อนเดินทางไปสนามบินฮาเนดะก็น่าจะแวะแช่ตัวแช่เท้ากัน สักชัว่ โมงเพือ่ ผ่อนคลายตัวเองก่อนขึน้ เครือ่ งบินกลับบ้านซึง่ น่าจะเป็นการปิดทริปทีส่ ดุ ยอดมาก

Symphony Tokyo Bay Cruise ใครก�าลังมองหาชัว่ โมงดินเนอร์ทชี่ วนประทับใจในโตเกียวเราขอแนะน�าช่วง เวลาดีๆ กับการล่องเรือ “Symphony Tokyo Bay Cruise” ที่จะพาเราอร่อยไป กับอาหารค�่าพร้อมชมวิวภายในเวลา 2 ชั่วโมงด้วยเรือส�าราญสุดหรูซึ่งแล่นไปใน ทะเลญี่ปุ่น สามารถเลือกได้ทั้งอาหารเซ็ตและบุฟเฟ่ต์ โดยในแต่ละวันจะมีเรือ ออกจากท่า 4 รอบ มื้อกลางวันก็ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเช่นกัน หากเป็นช่วงบ่ายจะมี ช่วงเวลาจิบน�้าชาเก๋ๆ บนเรือนานประมาณ 50 นาทีก่อนกลับเข้าฝั่ง จากท่าเรือจะมีเรือให้บริการน�านักท่องเที่ยวแล่นเรือชมโตเกียวทางน�้า หลายล�า แต่ส�าหรับ Symphony Tokyo Bay Cruise ความพิเศษแบบไม่ซ�้าใคร และไม่มเี รือล�าใดน�าเข้าสูเ่ ส้นทางนี้ นัน่ คือการน�าผูโ้ ดยสารผ่านชม “Tokyo Gate Bridge” สะพานสวยทีจ่ ะยิง่ อลังการมากขึน้ เมือ่ เข้าสูช่ ว่ งเวลากลางคืนเพราะแสง สีรอบสะพานนั้นสวยงามและน่ามองที่สุด นอกจากนั้นยังได้ผ่านชม Tokyo Disneyland และ Tokyo Disney Sea มองเห็น Tokyo Tower และ Tokyo Skytree อีกทัง้ ในปี 2020 ซึง่ โตเกียวได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก บริเวณท่าเรือ ก็จะมีหมู่บ้านนักกีฬาเกิดขึ้นด้วย กลายเป็นอีกสีสันที่เราจะได้จากการล่องเรือ ส�าราญชมวิวในบริเวณนี้

| 105


Harajuku ใครก็รวู้ า่ สีสนั จากเครือ่ งแต่งกายและแต่งหน้าแต่งตาแบบหลุดโลก มีให้เราได้ตะลึงกันที่ “Harajuku” แต่ครัง้ นีเ้ ราไม่ได้มเี ป้าหมายมาชมวัย รุ่นญี่ปุ่นในย่านนี้ เพราะเป้าหมายของเราอยู่ที่ “Kawaii Monster cafe Harajuku” คาเฟ่ที่มีสีสันฉูดฉาดทั้งด้วยสถานที่และอาหารซึ่งตั้งอยู่บน ชั้น 4 ของอาคาร “YM Square Building” Kawaii Monster cafe Harajuku เปิดให้บริการในวันที่ 1 สิงหาคม 2015 ด้วยลักษณะของการเป็นทั้งคาเฟ่และ ร้านอาหารทั่วไป แต่เน้นเอกลักษณ์เป็นสวนสนุกที่มีเครื่อง เล่นอยู่เต็มไปหมด เพียงแต่ไม่ได้มีไว้ให้ลูกค้าเล่นเอง แต่มี ไว้สา� หรับเจ้าหน้าทีป่ ระจ�าร้านทีแ่ ต่งคอสเพลย์กนั แบบสุดชีวติ ซึ่งจะมีรอบการแสดงวันละ 3 รอบตั้งแต่เที่ยงวันเป็นต้นไป ร้าน นีจ้ ดี๊ จ๊าดถูกใจวัยรุน่ มาก จะว่าเป็นสีลกู กวาดก็ตอ้ งบอกว่าในความ จริงนั้นสีแสนสันกว่านั้นเยอะ ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ อาหารที่นี่อร่อยมาก ทั้งสลัด สปาเก็ตตี้และไอศกรีม ซึ่ง ไม่ได้แค่อร่อยอย่างเดียว แต่สีสันของอาหารแต่ละเมนูก็ ชวนแสบตากันถึงที่สุดเหมือนกัน

Ikefukurou Cafe

Ikefukurou cafe

Tokyu Hands

บ้านเราเริ่มฮิตการมี “Dog Cafe” และ “Cat Cafe” แต่ส�าหรับญี่ปุ่น แล้วไปไกลกว่านั้นเยอะเพราะเราได้เข้าไปชม “Ikefukurou cafe” คาเฟ่ นกฮูกที่ฮิตมากมายในประเทศนี้ และในย่าน “Ikebukuro” ที่ไม่ไกลจาก Ikebukuro Station มากนักก็มคี าเฟ่นกฮูกให้เราได้เปิดประสบการณ์ใหม่ดว้ ย การสัมผัสกับเจ้านกน่ารักพวกนี้ที่อาจจะต้องระมัดระวังอยู่สักหน่อยในการ เข้าหา เพราะไม่ได้เดาใจกันง่ายๆ เหมือนสุนัขและแมว แต่ถ้าสร้างความ คุ้นเคยกันแล้วบอกได้เลยว่าเจ้านกฮูกเหล่านี้น่ารักทุกตัว คาเฟ่นกฮูกที่แสนจะน่ารักแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 6 ของอาคาร “MinamiIkebukuro” สังเกตได้ง่ายคือบริเวณชั้น 1 ของอาคารหลังนี้จะมีร้านราเมง ชื่อดัง “Mutekiya” ซึ่งมีคนต่อคิวยาวเหยียดตลอดทั้งวัน ส�าหรับค่าเข้าชม นกฮูกตัวน้อยๆ เหล่านี้ก็อยู่ที่ 1,400 เยนส�าหรับวันธรรมดา และ 1,600 เยน ส�าหรับวันเสาร์และอาทิตย์ หากแฮชแท็กชื่อร้านผ่าน IG หรือทวิตเตอร์จะได้ รับส่วนลดทันที 100 เยน มีเวลาให้เพลิดเพลินกับนกฮูกมากกว่า 20 ตัวคนละ 1 ชัว่ โมง แลจะได้รบั เครือ่ งดืม่ คนละ 1 ขวด ผูท้ สี่ นใจต้องจองล่วงหน้าเท่านัน้ โดยส่งอีเมลแจ้งวันเวลาที่จะเข้าเยี่ยมชมที่ ikefukuroucafe@gmail.com

มาแวะซื้อสารพัดของใช้และของที่ระลึกใน “Tokyu Hands” สาขา Ikebukuro กันชั่วครู่ คุณผู้อ่านที่รู้จัก Tokyu Hands จะทราบดีว่านี่คือศูนย์ รวมเครือ่ งใช้และอุปกรณ์ตา่ งๆ ส�าหรับใช้ในชีวติ ประจ�าวันทีต่ า่ งไปจากทีอ่ นื่ ๆ เพราะ Tokyu Hands คือแหล่งจ�าหน่ายงานดีไซน์เก๋ๆ รวมทั้งสินค้าทั่วไป อย่างเครือ่ งส�าอาง กระเป๋า รองเท้า เครือ่ งเขียน เครือ่ งครัว อุปกรณ์เสริมสวย อุปกรณ์เสริมสุขภาพ ฯลฯ ซึ่งมีอยู่หลายสาขาทั่วโตเกียว แต่ส�าหรับ Tokyu Hands สาขา Ikebukuro ที่นี่ดูจะอลังการครบทั้ง 7 ชัน้ โดยเฉพาะชัน้ เครือ่ งไฟฟ้าทีไ่ ด้รบั การยอมรับว่าราวกับจะเป็นย่านเครือ่ ง ไฟฟ้าชื่อดังของโตเกียวอย่าง “Akihabara” แห่งที่ 2 เลยทีเดียว และที่ดูจะ ชวนตื่นเต้นมากส�าหรับหนุ่มๆ ก็คือมีของเล่นและโมเดลหุ่นยนต์ต่างๆ อยู่ เยอะมาก โดยเฉพาะของเล่นทุกประเภททีก่ า� ลังอยูใ่ นความนิยมหรือมีกระแส จากภาพยนตร์ฮอลลีวดู้ ทีน่ มี่ คี รบเสมอ และมุมทีเ่ ราอยากให้คณุ ผูอ้ า่ นแวะชม ใน Tokyu Hands สาขานี้มากอีกจุดหนึ่งก็คือโซนอุปกรณ์ส�าหรับนักเดินทาง ที่มีครบและหลากหลายมาก เดินเข้าไปเที่ยวแล้วไม่มีทางที่จะเดินมือเปล่า กลับออกมาแน่ๆ

106 |


World Trade Center Building

Tokyo Tower

การจะชม “Tokyo Tower” ให้สวยงามที่สุดการขึ้นสู่ Tokyo Tower ย่อมไม่ใช่ทางเลือกทีถ่ กู ต้องนัก แต่ควรเลือกขึน้ ชมจากอาคาร สูงแห่งอื่นๆ ต่างหาก และในบรรดาอาคารสูงทั้งหมดในโตเกียวคุณ ผู้อ่านควรมาที่นี่ “World Trade Center Building” ซึ่งเป็นอาคารที่ ตั้งอยู่ติดกับ JR Hamamatsucho Station ความสูงของอาคารหลัง นี้ 150 เมตร การยืนอยู่บนชั้นที่ 40 ซึ่งเป็นชั้นที่สูงที่สุดของอาคาร จะท�าให้เราได้ชม Tokyo Tower อย่างชัดเจน และก็ดจู ะเป็นมุมเดียว ในโตเกียวที่เราจะได้เห็น Tokyo Tower ชัดเจนตั้งแต่ส่วนฐานจนถึง ส่วนยอด World Trade Center Building เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 1970 และ ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดในปี 2010 เพื่อให้กลายเป็นจุดชมวิว ที่อลังการจนสามารถชมวิว Tokyo Tower ได้สวยงามอลังการที่สุด ในโตเกียว และใช่จะมองเห็นแค่ Tokyo Tower แต่ชั้นที่ 40 ของ World Trade Center Building ที่ล้อมด้วยกระจกใสจะสร้างให้เป็น พื้นที่วนรอบซึ่งเดินถึงกันจนสามารถชมวิวแบบ 360 องศาได้ทั่ว ทั้งเมือง ย�้าว่าทั่วทั้งโตเกียวจริงๆ และเพราะสามารถมองเห็นสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งของ โตเกียวได้ทงั้ หมด จึงมีจดุ ดึงดูดในการมาเยือนอาคารหลังนีว้ า่ หาก ยังไม่ได้เริม่ ต้นเทีย่ วโตเกียวก็ขอให้ขนึ้ มาบนอาคารหลังนีก้ อ่ นเพือ่ เล็ง สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และท�าความรู้จักไว้ก่อนเดินทางเข้าไปชม จริงๆ และหากเทีย่ วโตเกียวมาจนทัว่ แล้วก็ขอให้ขนึ้ มาบนอาคารหลัง นี้เพื่อชมกันอีกมุมให้เห็นถึงสถานที่ทั้งหมดที่เคยได้ไปเที่ยวมาแล้ว ที่อยากแนะน�าเพิ่มเติมคือขอให้เดินทางมาถึงอาคารนี้ในช่วง ก่อนค�า่ เพราะระหว่างทีเ่ ราชมวิวอยูน่ นั้ เมือ่ เข้าสูช่ ว่ งทีท่ อ้ งฟ้าเริม่ มืด อาคารสถานที่ต่างๆ จะค่อยๆ ทยอยเปิดไฟทีละน้อยจนสว่างจ้า ทั่วทุกแห่งซึ่งเป็นภาพที่สวยงามและชวนประทับใจมาก ส่วนราคา ค่าขึ้นสู่ชั้น 40 เพื่อชมวิวนั้นอยู่ที่ 620 เยน เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 10.00-20.00 น. บนชั้น 39 มีร้านอาหารฝรั่งเศสอยู่ด้วย ส่วนใครที่ พิมพ์คูปองลดราคาจากเว็บไซต์ของอาคาร www.wtc.com ติดมือ มาด้วยราคาค่าเข้าชมจะลดเหลือ 500 เยนเท่านั้น

มองเห็น “Tokyo Tower” อยู่ร�าไรเรื่องอะไรจะไม่แวะมาเยี่ยมกันเสียหน่อย หอคอยทีถ่ อื เป็นสัญลักษณ์สา� คัญตลอดกาลของเมืองหลวงซึง่ แม้จะมีตน้ แบบมาจาก หอไอเฟลของฝรัง่ เศส แต่ Tokyo Tower ก็มคี วามเป็นตัวเองอยูด่ แี ถมยังสูงกว่าอีกด้วย โดยสร้างเสร็จใน 1958 เพื่อให้เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุ และเพื่อไม่ให้ เสียเที่ยวจึงเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ด้วย ระดับความสูงของจุดชมวิว Tokyo Tower มี 2 ชัน้ คือ 150 เมตร และ 250 เมตร ผู้ที่สนใจจะขึ้นไปชมสามารถซื้อตั๋วได้ที่ชั้น 1 ของอาคาร หากขึ้นไปบนระดับความ สูง 150 เมตรราคาอยู่ที่ 900 เยน แต่ในระดับ 250 เมตรก็ต้องเพิ่มอีก 700 เยน รวม แล้วก็ 1,600 เยน ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยผู้คนทั้งชาวญี่ปุ่นเองและชาวต่างชาติซึ่ง นอกจากได้ชมวิวแล้ว บนหอคอยยังมีสินค้าที่ระลึกจ�าหน่ายมากมาย การได้ขึ้นมา บนหอคอยหนึ่งในสัญลักษณ์เก่าแก่ของโตเกียวแห่งนี้ชวนให้รู้สึกดีและน่าประทับใจ โตเกียวในยุค 20-30 ปีก่อนไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ละครและรายการโทรทัศน์อื่นๆ มักมี Tokyo Tower เป็นหนึ่งในฉากส�าคัญด้วยเสมอ และชม Tokyo Tower เฉพาะ ช่วงกลางวันก็ไม่สวยเท่ากลางคืน เพราะโครงเหล็กของ Tokyo Tower จะสาดแสง เป็นสีส้มเข้มตัดกับความมืดด�าของท้องฟ้าสวยงามอย่างที่สุด จนแม้จะจาก Tokyo Tower มาแล้วภาพสวยๆ ที่ว่านี้ก็ยังติดตาตรึงใจอยู่ไม่รู้ลืม ทริปตะลุยโตเกียวครั้งที่ 2 ในแคมเปญดีๆ ของเรา Checktour Magazine และ Checktour on TV ปิดฉากลงอย่างสวยงามและประทับใจ โดยเฉพาะ สองสาวน้อยผูโ้ ชคดีของเราครัง้ นีก้ ส็ นุกสนานกันตลอดทริปในทุกโปรแกรม ยืนยันว่า สุดยอดแคมเปญดีๆ แบบนี้จะมีอีกแน่นอนเป็นครั้งที่ 3 คุณผู้อ่านที่ยังไม่เคยเที่ยว ญีป่ นุ่ ขอให้เตรียมตัวให้พร้อม และขอให้โชคดีกบั การคัดเลือกในครัง้ ต่อไปภายในสิน้ ปีนี้ ติดตามความคืบหน้าจากรายการและแฟนเพจของเราไว้ให้ดีๆ งานนี้ขอให้ได้ ขอให้โดน!!! SPECIAL THANKS

www.gotokyo.org/th

รับชมวิดิโอได้ที่ www.checktour.com

| 107












Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.