SAY HI JAPAN : ISSUE 48 JULY 2017
เรื่องโดย : ดวงพร เพชรสังกฤต ภาพโดย : กองบรรณาธิการ
Tokyo
เที่ยวด้วยรถไฟ
JR Yamanote Line
ก่อนนีข ้ อ ้ มูลการเดินทางด้วยรถไฟในญีป ่ น ุ่ มักเป็นทีต ่ อ ้ งการของผูท ้ น ี่ ย ิ มเทีย ่ วด้วยตัวเองแบบไม่เน้นซือ ้ ทัวร์ แต่ปจ ั จุบน ั แม้จะซือ ้ ทัวร์เทีย ่ ว หากลูกทัวร์ทั้งหลายเลือกโปรแกรมที่มีฟรีเดย์ 1-2 วันก็จะกลายมาเป็นกลุ่มที่ต้องการข้อมูลการใช้รถไฟเช่นกัน เพื่อให้การเที่ยวอิสระโดยไม่มี ไกด์นน ั้ ง่ายและสนุก แถมทุน ่ เวลาให้ได้เทีย ่ วมากขึน ้ ด้วยเพราะอย่างทีเ่ รารูก ้ น ั ดีวา่ เส้นทางรถไฟในญีป ่ น ุ่ นัน ้ ส่วนใหญ่ลด ั เลาะไปถึงย่านท่องเทีย ่ ว ทั้งใจกลางเมืองและชานเมือง ยิ่งถ้าเลือกซื้อบัตรโดยสารให้เหมาะกับเส้นทางก็จะยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นด้วย
Say Hi Japan ฉบับนี้เอาใจขาลุยโตเกียว มหานครที่ใครๆ ก็รู้ว่าเที่ยวเองได้ง่ายด้วยการเดินทางโดยรถไฟ ไม่ว่าจะตั้งใจเข้ามาเที่ยวเล่นกันอยู่เฉพาะ ในโตเกียวหรือเที่ยวอยู่เมืองอื่นๆ รอบนอกและอยากแวะเข้ามาเที่ยวโตเกียวแค่ครึ่งวัน เต็มวันหรือมากกว่านั้นก็รับรองว่าท�าได้ดังใจด้วยการเลือกนั่งรถไฟ สายหลักของโตเกียวอย่าง “รถไฟเจอาร์สายยามาโนเตะ” (JR Yamanote Line) ที่ไม่ว่าจะชมธรรมชาติ ไหว้พระ ช้อปปิ้งหรือกิน เที่ยวและแวะดื่มก็ท�าได้ง่าย สายเดียวจบเที่ยวครบทุกย่านฮอตฮิตของโตเกียวแน่นอน ที่แนะน�ารถไฟเจอาร์สายยามาโนเตะให้คุณผู้อ่านใช้เที่ยวทั่วโตเกียวก็เพราะใช้ง่ายและโอกาสหลงแทบไม่มี เพราะรถไฟเจอาร์สายยามาโนเตะเป็น เส้นทางที่รถไฟจะแล่นเป็น Loop หรือเรียกว่าให้บริการในเส้นทางที่แล่นวนเป็นวงกลมผ่านเกือบทุกย่านส�าคัญที่ไม่ควรพลาด และจะท�าให้การเที่ยวโตเกียว ของคุณๆ คุ้มค่าด้วยราคาบัตรโดยสารส�าหรับ 1 วันแบบไม่จ�ากัดเที่ยว ทริปนี้แม้จะนั่งเลยสถานีที่ต้องการหรือลงรถผิดสถานีบ้างก็ไม่เป็นปัญหาเพราะก็แค่ ลงรถมายืนรอขบวนถัดไปได้เลย เส้นทางรถไฟนี้ที่ว่านี้จริงๆ แล้วสร้างมาตั้งแต่ปี 1885 แล้ว แต่มาเริ่มออกแบบเส้นทางให้เป็นวงกลมในปี 1925 เส้นทางนี้มีระยะทางยาว 34.5 กิโลเมตร วิ่งวนครบ 1 รอบใช้เวลาประมาณ 60 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง รถขบวนแรกเริ่มให้บริการ ตั้งแต่เวลา 04.26 น. และรถขบวนสุดท้ายจากสถานีเดียวกันนี้เริ่มที่เวลา 1.18 น. ในบรรดารถไฟหลายสิบขบวนและหลายเส้นทางที่แล่นให้บริการในมหานครโตเกียวเราสามารถจะแยกเจ้ารถไฟเจอาร์สายยามาโนเตะได้จาก สีเขียวอ่อนของขบวนรถที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นกว่าใคร มองหาชานชาลาได้ชัดเจนอีกเช่นกันจากป้ายสีเขียวอ่อนบอกเส้นทางโดยจะมีขบวนรถที่แล่นเป็น “Inner Loop” ซึ่งแล่นวนซ้าย และ “Outer Loop” ที่รถจะแล่นวนขวา เป็นวงรอบนอกและวงรอบในแล่นสวนกัน ให้มองตามแผนที่ว่าสถานที่ปลายทางของ เราใกล้ฝั่งไหนก็เลือกขึ้นรถฝั่งนั้น นักท่องเที่ยวที่เดินทางออกจากสนามบินฮาเนดะหรือสนามบินนาริตะก็สามารถนั่งรถไฟจากสนามบินมาลงที่ Tokyo Station เพื่อต่อเชื่อมเส้นทางเข้า สู่สายยามาโนเตะได้เลย ส่วนขั้นตอนการเลือกซื้อบัตรโดยสารที่จะใช้สามารถกดซื้อบัตรโดยสารได้ภายในสถานีโดยเลือกบัตรแบบ “Tokunai 1 Day Pass” ราคา 750 เยนส�าหรับผู้ใหญ่ และเด็ก 370 เยน ปกติรถไฟสายนี้มีผู้ใช้บริการเป็นจ�านวนมาก โดยเฉพาะในวันธรรมดาช่วงเช้า 8.00-9.00 น. และเย็น 17.00-18.00 น. ของการเดินทางไปกลับของคนท�างานและมนุษย์ออฟฟิศทั้งหลายรถไฟจะยิ่งแน่นมากขึ้นอีก
29 สถานีในเส้นทาง
JR Yamanote Line • สถานีชินากาวะ (Shinagawa Station) • สถานีโอซากิ (Osaki Station) • สถานีโกทันดะ (Gotanda Station) • สถานีเมกุโระ (Meguro Station) • สถานีเอบิสึ (Ebisu Station) • สถานีชิบูย่า (Shibuya Station) • สถานีฮาราจูกุ (Harajuku Station) • สถานีโยโยงิ (Yoyogi Station) • สถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) • สถานีชินโอคุโบะ (Shin-Okubo Station) • สถานีทาคาดะโนะบาบะ (Takadanobaba Station) • สถานีเมจิโระ (Mejiro Station) • สถานีอิเคะบุกุโระ (Ikebukuro Station) • สถานีทามาจิ (Tamachi Station)
76 |
• สถานีฮามามัทสึโจ (Hamamatsucho Station) • สถานีชิมบาฉิ (Shimbashi Station) • สถานียุรากุโจ (Yurakucho Station) • สถานีโตเกียว (Tokyo Station) • สถานีคันดะ (Kanda Station) • สถานีอากิฮาบาระ (Akihabara Station) • สถานีโอกาชิมาจิ (Okachimachi Station) • สถานีอุเอโนะ (Ueno Station) • สถานีอุกุยสึคานิ (Uguisudani Station) • สถานีนิปโปริ (Nippori Station) • สถานีนิชินิปโปริ (Nishi-Nippori Station) • สถานีทาบาตะ (Tabata Station) • สถานีโคมาโกเมะ (Komagome Station) • สถานีสึกาโมะ (Sugamo Station) • สถานีโอทสึกะ (Otsuka Station)
Ikebukuro
Otsuka
Mejiro
Komagome Tabata Sugamo Nishi-Nippori Nippori
Takadanobaba
Uguisudani
Shin-Okubo
Ueno
Ochanomizu
Okachimachi
Shinjuku
Yamanote Line Chuo Line (Rapid) Sobu Line Harajuku
Suidobashi Iidabashi Yoyogi Ichigaya Yotsuya Tokyo Shinanomachi Sendagaya
Shibuya
Akihabara Kanda
Yurakucho
Shimbashi Hamamatsucho
Ebisu
Gotanda Meguro
Osaki
Tamachi
Shinagawa
ทีนี้ถามว่านั่งเจอาร์ยามาโนเตะเราจะเที่ยวที่ไหนในโตเกียวได้บ้าง ต้องตอบว่าในทุกสถานที่ยอดนิยมของโตเกียวนั้นเจอาร์ยามาโนเตะเข้าถึงและ เชื่อมต่อไปถึงทุกแห่ง จะชวนคุณผู้อ่านมาเริ่มต้นกันที่ “สถานีอิเคะบุคุโระ” (Ikebukuro Station) สถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟ 3 สายที่จะใช้เดินทางไป ยังเส้นทางต่างๆ ได้อีกมากมาย และใกล้ที่สุดกับการมาเที่ยวใน “อิเคะบุคุโระ” (Ikebukuro) ย่านส�าคัญหนึ่งในโตเกียวและเป็นที่นิยมส�าหรับผู้ที่ชื่นชอบ การช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าใหญ่เพราะอิเคะบุคุโระมีห้างฯ “Sunshine City” “Parco” “Tobu” และ “Seibu” มีคาเฟ่ดีๆ เก๋ๆ ส�าหรับกลุ่มคนวัยท�างาน ร้านสินค้าแฟชั่นวัยรุ่น ร้านขายยา ร้านเครื่องส�าอางตามตรอกซอกซอยและร้านอาหารอีกมากมาย ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือราเมงที่น่ากินแทบทุกร้าน
Shinjuku Station “สถานีชินจูกุ” (Shinjuku Station) ส�าหรับการเดินเล่นใน ย่าน “ชินจูกุ” (Shinjuku) ย่านหนึ่งในโตเกียวที่เราจะพบเจอ คนไทยได้เยอะมาก เพราะนี่คือแหล่งช้อปปิ้งและย่านธุรกิจ ที่ มี ชื่ อ เสี ย ง เต็ ม ไปด้ ว ยอาคารส� า นั ก งานสู ง โรงแรมและ ห้างสรรพสินค้ามากมาย เช่น “Odakyu” “Keio” หรือจะเป็น ร้านค้าย่อยทั่วไปทั้งร้านขายยา ร้านเครื่องส�าอาง ร้านจ�าหน่าย เครือ่ งไฟฟ้า รวมถึง “Don Quijote” และ “Matsumoto Kiyoshi” ก็มีอยู่ที่นี่ โดยมีอาคาร “Tokyo Metropolitan” เป็นแลนด์มาร์ก ส�าคัญจากการที่เป็นหอชมวิวบนชั้น 45 ที่สูงถึง 202 เมตร และ อาคาร “Toho Cinema Shinjuku” หรืออาคารโรงแรม ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์ที่มีหุ่นก็อตซิลล่าอยู่ด้านบนดาดฟ้า ที่ส�าคัญ คือชินจูกุคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน ย่านที่น่าเดินเล่น ยามกลางวั น และมี สี สั น มากในยามค�่ า คื น ก็ คื อ “คาบุ กิ โ จ” (Kabukicho) ซึง่ จะเต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อย ร้านเครือ่ งดืม่ ผับ บาร์และคาราโอเกะ
| 77
Harajuku Station
“สถานีฮาราจูกุ” (Harajuku Station) เป็น สถานทีท่ อี่ ยากให้แวะลงรถมาเทีย่ วย่าน “ฮาราจูก”ุ (Harajuku) เพราะเพียงแค่ลงรถไฟที่สถานี ก็สามารถเดินผ่านป่าไม้เขียวครึ้มไปสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ “ศาลเจ้าเมจิ” (Meiji Jingu) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1920 เพื่ออุทิศ ถวายแด่ดวงพระวิญญาณสมเด็จพระจักรพรรดิ เมจิและสมเด็จพระราชินี ต้นไม้ทเี่ ราเห็นหนาทึบ จนเป็นเหมือนป่าไม้ขนาดใหญ่กลางเมืองคือ สิ่ ง ที่ ไ ด้ รั บ บริ จ าคจากประชาชนซึ่ ง มี ม ากถึ ง 100,000 ต้น ย่านฮาราจูกุยังมีสีสันส�าหรับ คนไทยทีช่ อบมาแอบชมสไตล์การแต่งตัวแปลกๆ หลุดโลกของวัยรุน่ ญีป่ นุ่ รวมถึงเป็นแหล่งช้อปปิง้ และแหล่งรวมร้านขาย “เครป” ทีม่ มี ากทีส่ ดุ กว่า ที่ไหนๆ
ศาลเจ้าเมจิ
ฮาราจูกุ
78 |
Shibuya 109
Shibuya
Shibuya Station
“สถานีชิบูย่า” (Shibuya Station) ใน “ชิบูย่า” (Shibuya) เป็นอีกย่าน ยอดนิยมและคึกคักตัง้ แต่กา้ วขาลงมาจากสถานี เราสามารถเดินเท้ามาทักทาย รูปปั้น “ฮาจิโกะ” (Hichiko) แล้วเดินข้ามแยกชิบูย่า (Shibuya Cross) ไปพบ กับแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของโตเกียวซึ่งมีทั้งห้างสรรพสินค้าชิบูย่าฮิคาริเอะ (Shibuya Hikarie) ห้างสรรพสินค้าโตคิว (Tokyu Shibuya Toyoko Store) หรือ จะเป็นศูนย์รวมร้านอาหารชื่อดังอย่างอาคารชิบูย่ามาร์กซิตี้ (Shibuya Mark City) หากชอบสินค้าแฟชั่นสไตล์วัยรุ่นญี่ปุ่นก็ต้องลองไปเดินชมที่อาคาร “Shibuya 109” และ “Shibuya 109 Men’s” ที่จะมีสินค้าเฉพาะสุภาพบุรุษ ทั้งอาคาร
ฮาจิโกะ
| 79
Tokyo Station “สถานี ร ถไฟโตเกี ย ว” (Tokyo Station) ศูนย์กลางการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟไปทั่วประเทศ และมีผู้คนจ�านวนมากพลุกพล่านตลอดทั้งวันเพื่อ เดินทางต่อไปในแต่ละสถานที่ แต่สา� หรับนักท่องเทีย่ ว หนึ่งในเป้าหมายของการมาเยือนสถานีรถไฟโตเกียว คือการบันทึกภาพตัวอาคารทีส่ วยงามด้วยการออกแบบ สร้างสุดคลาสสิก อีกทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงยังมีห้าง สรรพสินค้า ย่านช้อปปิ้ง และสามารถเดินเท้าไปถึง พระราชวังอิมพีเรียลได้ด้วย วัดเซนโซจิ
Akihabara Station “สถานีอากิฮาบาระ” (Akihabara Station) จะน�าเราเข้าไปถึง “อากิฮาบาระ” เพื่อพบกับย่าน เครื่องไฟฟ้าชื่อดังยอดนิยมส�าหรับผู้ที่สนใจกล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ เกม โมเดล หนังสือมือสอง ฯลฯ ในขณะเดียวกันก็ยงั มีการรักษาความเก่าแก่ของพืน้ ทีไ่ ว้อย่างดี และจากสถานีอากิฮาบาระหาก ต้องการแวะเที่ยวย่านเมืองเก่าชื่อดังของโตเกียวอย่าง “อาซากุสะ” (Asakusa) แนะน�าให้นั่งเจอาร์ ยามาโนเตะไปอีก 2 สถานีแล้วลงที่ “สถานีอุเอโนะ” (Ueno Station) แล้วนั่งรถไฟใต้ดินสาย “Tokyo Metro Ginza Line” แยกออกไปอีก 3 สถานีเพื่อลงที่สถานีอาซากุสะ (Asakusa Station) ย่านอาซากุสะเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดกิโมโนะเดิน เทีย่ วเพราะมีรา้ นเช่ายืมชุดอยูท่ วั่ ไปในหลายราคาตามแต่จะเลือก ทัง้ ยังสามารถเดินเล่นในสวนซูมดิ ะ (Sumida Park) และนั่งเรือชมแม่น�้าซูมิดะ (Sumida River) ได้ด้วย “Tokyo Cruise” รวมถึงยังใกล้
80 |
Nakamise Shopping Sreet
กับ “Tokyo Sky Tree” หอคอยสัญลักษณ์ของมหานคร ทีส่ งู ทีส่ ดุ และเป็นจุดชมวิวทีส่ วยงามทีส่ ดุ อีกแห่งหนีง่ ของโตเกียว และก็ควรแวะไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่ “วัดเซนโซจิ” (Sensoji Temple) หรือที่คนไทย คุ้นเคยในชื่อวัดอาซากุสะ โดยที่เรายังได้เพลิดเพลิน กับการเดินชมสินค้าและขนมท้องถิน่ บนถนนนากามิเสะ (Nakamise Shopping Street) บริเวณทางเดินเข้าสู่ ตัววัด หรือหากสนใจช้อปปิง้ สินค้าทันสมัยก็ตอ้ งไปที่ ย่านถนน “Shin Nakamise Shopping Sreet”
Ueno
อาคารทาเคย่า
Station “สถานีอุเอโนะ” (Ueno Station) ในย่าน “อุเอโนะ” (Ueno) ที่คนไทยนิยมเที่ยวกันมากเพราะ เป็นที่ตั้งของจุดชมซากุระที่สวยงามภายใน “สวน อุเอโนะ” (Ueno Park) มียา่ นช้อปปิง้ และโรงแรมทีพ่ กั อยู่หลายแห่ง รวมถึงวัดวาอารามและศาลเจ้าก็มี อยู่มาก แต่ที่ยอดนิยมในหมู่คนไทยคือ “อาคาร ทาเคย่า” (Takeya) หรือ “ตึกม่วง” ที่เป็นแหล่งขนม เครื่องส�าอางและสินค้าแบรนด์เนม ระหว่างสถานี อุเอโนะ และ “สถานีโอกาชิมาจิ” (Okachimachi Station) ยังมี “ตลาดอะเมโยโกะ” (Ameyoko Market) ตลาดทีม่ ากมายด้วยเสือ้ ผ้า กระเป๋า รองเท้า กีฬาซึ่งราคาถูกมากและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มาถึงอะเมโยโกะอย่าลืมแวะซื้อผลไม้ทั้งสดและแห้ง คุณภาพดี เป็นแหล่งรวมร้านขายข้าวหน้าปลาดิบที่ อร่อยและหลากหลาย หรือหากชอบข้าวหน้าปลาไหล ซูชิ ราเมงหรือชานมไข่มุกมาอะเมโยโกะรับรอง ไม่ผิดหวัง
ตลาดอะเมโยโกะ
สวนอุเอโนะ การเที่ยวโตเกียวของคุณผู้อ่านในทริปต่อไปขอให้เลือกซื้อบัตรโดยสารรถไฟเจอาร์ สายยามาโนเตะติดตัวไว้ เพราะนอกจากจะคุม ้ ค่าคุม ้ ราคาและช่วยทุน ่ เวลาแล้วยังใช้งา่ ย แต่ละ สถานีนง ั่ รถถึงกันในเวลาเพียงไม่กน ี่ าทีและราคาไม่แพงเลย แถมในบางสถานียง ั มีระยะทางที่ ใกล้กันจนสามารถเดินเท้าถึงกันได้ด้วย จึงสามารถวางแผนท่องเที่ยวในโตเกียวได้อย่าง หลากหลาย นั่งรถบ้างเดินเที่ยวบ้างง่ายนิดเดียวด้วยการโดยสารรถไฟสายนี้