สรุปสาระสำคัญงานมหกรรมความรู้ ครั้งที่ 4 by Office of Knowledge Management and Development

สารบัญ เรื่อง “The Future of Modern Business: Global Trends and What’s Next”

หน้า 4

Urbanization สร้างโอกาสจากความเป็นเมือง: Urbanization “Opportunities from the Urban Sprawl” 10 เทรนด์ทอล์ค (เสวนา): เมื่อเมืองขยาย...เมื่อนั้นเรามีโอกาส 13 New Generation สร้างโอกาสจากกระแสคนรุ่นใหม่ “NEW Gen & Explosive Business Opportunities” เทรนด์ทอล์ค (เสวนา) : โอกาสจากเทรนด์ NEW GEN ปลุกผู้ประกอบการรุ่นใหม่

18 20

Digital Age สร้างโอกาสจากโลกดิจิทัล: Digital World “Change, Disrupt and Digital Opportunities” 24 เทรนด์ทอล์ค (เสวนา) : โลกดิจิทัล...โอกาสมีอยู่ทุกที่ ทุกเวลา 26

สํานักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ในสังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี มีบทบาทภารกิจใน การพัฒนา ความคิด เพิ่มความรู้และสร้างสรรค์ภูมิปัญญาแก่ประชาชนโดยผ่านกระบวนการเรียนรู้สาธารณะ ได้จัดงาน มหกรรม ความรู้ (OKMD Knowledge Festival) ประจําปีมาแล้ว 3 ครั้ง ภายใต้หัวข้อ “ความรู้คือโอกาส: Knowledge is Opportunity” เพื่อให้เป็นเวทีรวมองค์ความรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อ สังคมไทย ทําให้ผู้เข้า ร่วมงานตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ ความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาไทยที่สามารถนําไปใช้ ในการสร้างโอกาสทาง เศรษฐกิจและพัฒนาสังคมต่อไป ในโลกอนาคตทีเ่ ทคโนโลยีการสือ่ สารมีความก้าวหน้าและเชือ่ มโยงสังคมในทุกระดับ ส่งผลต่อพฤติกรรมและ การตัดสิน ใจของคน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฉับพลัน และยากต่อการคาดคะเน ความสามารถในการ คาดการณ์ แนวโน้มการเปลีย่ นแปลงและพฤติกรรมทัง้ ในระดับบุคคล ระดับองค์กร และระดับประเทศ ถือเป็นปัจจัย สําคัญต่อความ สําเร็จทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ดังนั้น ในการเตรียมความพร้อมเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ พัฒนาและพร้อม รับต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งความไม่แน่นอน จึงต้องอาศัยปัจจัยหลัก ซึ่งได้แก่ (1) ข้อมูลองค์ ความรู้ และทักษะ ที่จําเป็นในการคาดการณ์ พัฒนา ปรับตัว และสร้างสรรค์โอกาสจากความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว (2) โครงสร้างพื้นฐาน ทางปัญญาทั้งที่จับต้องได้และที่เป็นโลกเสมือนจริงผ่านสื่อดิจิทัล ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมข้อมูลและ องค์ความรู้ ชุมชนใน การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พื้นที่ให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้แสดงออกอย่างเสรี (3) การสนับสนุนจากภาครัฐ และเอกชนในการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้และการประกอบอาชีพและธุรกิจ ที่เอื้ออํานวย ให้เยาวชนคนรุ่นใหม่และ ผู้ประกอบการรายย่อย ได้สามารถพัฒนาและแข่งขันได้อย่างเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ มหกรรมความรู้ ครั้งที่ 4 (OKMD Knowledge Festival 4) ตอน “Know Your Trends, Know Your Future เทรนด์ โลกคือโอกาส” นําเสนอและถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพื่อกระตุ้นและให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ เข้าถึงองค์ความ รู้ใหม่ๆ เปิดมุมมองในการใช้โอกาส ความรู้ และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาตนเองและงานไปสู่ ความสําเร็จในโลก แห่งการเปลีย่ นแปลง โดยเน้น 8 Global Mega Trends หลักทีส่ ง่ ผลให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในการ สร้างงานและอาชีพของ คนไทยซึ่งประกอบด้วย 1) Connectivity 2) Digital Age 3) Aging Society 4) Urbanization 5) New Generation 6) World Friendly 7) Global Knowledge Society และ 8) Womenomics (Sheconomy)

“The Future of Modern Business: Global Trends and What’s Next”

โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ฮุย เด็น ฮวน ผู้อํานวยการ ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการทางด้านเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนันยาง สาธารณรัฐสิงคโปร์

Philip Kotler กล่าวไว้ว่า อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ Jack Welch กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงภายในและการเปลี่ยนแปลง ภายนอก ให้เราต้องปรับเปลี่ยนและพัฒนาตนเองให้เร็วกว่าการเปลี่ยนแปลงภายนอก และอย่าให้การเปลี่ยนแปลง ภายนอกมาบีบบังคับเราให้ตอ้ งเปลี่ยน และนี่เป็นแนวคิดหลักของการมีจติ วิญญาณของผู้ประกอบการ (Entrepreneur Mindset) ทุกอย่างในโลกเปลีย่ นไปอย่างรวดเร็วและเร็วขึน้ เรือ่ ยๆ หากเราไม่สามารถปรับตัวก็ไม่สามารถจะอยูร่ อดได้ ใครเคยคิดว่า บริษทั อย่าง IBM จะต้องล้มเลิกกิจการไป คอมพิวเตอร์ตงั้ โต๊ะและแป้นคีบอร์ดจะกลายมาเป็นสิง่ ล้าสมัย การเปลีย่ นแปลง ของสิ่งแวดล้อมจะส่งผลให้เราต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา แนวโน้มของโลกในอนาคต คือสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ ว่าจะเกีย่ วข้องกับลูกค้า คูแ่ ข่ง มาตรฐาน และเทคโนโลยี ซึง่ เราต้องปรับตัวเพือ่ ให้ยงั คงสามารถสร้างมูลค่าและคุณค่าให้ แก่ลูกค้า ตามความต้องการและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป หรือที่เราเรียกว่า Value Migration ปัจจัยสำ�คัญที่นำ�มาซึ่งความเปลี่ยนแปลง อาทิ การเปลี่ยนแปลงด้านประชากร เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ เทคโนโลยี การเมือง กฎหมาย และวัฒนธรรม ในอนาคตประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในประเทศกำ�ลังพัฒนา เมื่อจำ�นวนคนเพิ่มขึ้น โอกาสทางธุรกิจก็เพิ่มขึ้น ดังในตัวอย่างเรื่องของน้ำ� ที่จะไม่เพียงพอสำ�หรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น เกิดโอกาสสำ�หรับธุรกิจบริหารจัดการน้ำ� และให้คำ�ปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมด้าน อย่างบริษัท Hyflux ในสิงคโปร์ ที่เริ่มจากคนเพียงไม่กี่คนและเติบโต ขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย แนวโน้มการเข้าสูส่ งั คมผูส้ งู อายุ ในหลายประเทศ เนือ่ งจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดา้ นต่างๆ ทำ�ให้คนมีอายุยนื ยาว

5 ขึน้ ซึง่ นำ�มาสูโ่ อกาสทางธุรกิจในสินค้าและบริการสำ�หรับผูส้ งู วัย โดยเฉพาะธุรกิจโรงพยาบาล การดูแลสุขภาพ และเครือ่ ง มือเครือ่ งใช้สำ�หรับผูส้ งู อายุ เราพบว่าในประเทศพัฒนาแล้วจะมีการใช้จา่ ยด้านสุขภาพสูงถึง 10% ของรายได้ประชาชาติ ในกรณีของจีนมีการใช้จ่ายด้านนี้สูงถึง 8% ของรายได้ประชาชาติหรือกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ครอบคลุมเรื่องยา และบริการที่เกี่ยวข้อง อาทิ การจัดการของเสียทางด้านการแพทย์ เมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน เราต้องเปลี่ยนให้เร็วกว่า โดยในกรณีธุรกิจ สินค้าและบริการใหม่ๆ จะเข้ามาแทนที่สิ่งที่มีอยู่เดิม เนื่องจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เราอาจไม่แปลกใจเลยเมื่อเห็น Apple ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (I-car) หรือ Google ผลิต รถยนต์ที่ไม่มีคนขับ (Driverless car) ในอนาคตเมืองต่างๆ จะกลายเป็น Smart Cities ซึง่ นำ�ไปสู่ Smart House, Smart Healthcare, Smart Infrastructure และแม้แต่ Smart Government โดยเทคโนโลยีสมัยใหม่จะสามารถชีแ้ นะ ให้ขอ้ มูลความรู้ และอำ�นวยความสะดวกแก่ เราได้อย่างมากมาย อาทิ เทคโนโลยี Copy and Paste การสือ่ สาร การเชือ่ มโยง และการค้นหาข้อมูลผ่าน Google และ Wikipedia โดยเทคโนโลยีเหล่านีท้ ำ�ให้เกิดกระแสโลกาภิวตั ิ (Globalization) และ Digitalization ซึง่ เชือ่ มโยงโลกเข้าด้วย กัน ส่งผลให้เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในซีกโลกหนึ่งแต่กลับมีผลกระทบต่อคน เศรษฐกิจ และสังคม ในอีกซีกโลกหนึ่งได้ การเปลีย่ นแปลงด้านวัฒนธรรมและแนวคิดก็มผี ลต่อการดำ�เนินชีวติ ของคน อาทิ เราพบว่าภาษาทีถ่ กู ใช้มากทีส่ ดุ ในโลก เพียง 12 ภาษา ถูกใช้โดยประชากรกว่าครึ่งโลก ปัจจุบันมีคนที่กำ�ลังเรียนภาษาจีนกลางที่อยู่นอกประเทศจีนกว่า 30 ล้านคน ต่อปี ในขณะที่จีนกำ�ลังจะกลายเป็นชาติที่มีคนพูดภาษาอังกฤษได้มากที่สุดในโลก และคนจีนมากกว่า 20 ล้าน คน สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี อีกตัวอย่างหนึ่ง คือวัฒนธรรมเกาหลีที่เราเรียกว่า Korean Wave ที่ ถูกเผยแพร่ ติดตาม และลอกเลียนแบบในหลากหลายประเทศ จนกลายเป็น Soft Power ของประเทศไปในที่สุด สิ่งที่ตามมา เทรนด์โลกทำ�ให้เกิดโอกาสทางธุรกิจมากมาย ในการสร้างคุณค่าให้แก่สินค้าและบริการต่างๆ หากเราสามารถคาดเดา เทรนด์ได้ ซุนวูได้กล่าวไว้ว่าเราควร “รู้จักศัตรู รู้จักตัวเอง รู้จักพื้นที่ รู้จักภูมิอากาศ และรู้จักสิ่งรอบๆ ตัว” ซึ่งหากเรา สามารถวิเคราะห์และเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ก็จะสามารถประสบความสำ�เร็จได้ ในการดำ�เนินธุรกิจ เราสามารถแบ่งบริษัท (หรือผู้ประกอบการ) ได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1. บริษัทที่สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมา (Ones that make things happen) 2. บริษัทที่คิดที่จะสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมา (Ones that think they can make things happen) 3. บริษัทที่เฝ้ามองสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น (Ones that watch things happen) 4. บริษัทที่แปลกใจในสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น (Ones that wonder what things happen) 5. บริษัทที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น (Ones that don’t know what things happen) ดังนัน้ เราควรทีจ่ ะมองในภาพกว้างเข้ามาว่าอะไรได้เกิดขึน้ ภายนอกหรือกำ�ลังจะเกิดขึน้ และจะมีผลกระทบต่อเราอย่างไร (Outside-in Perspective) ในกรณีของประเทศสิงคโปร์ ที่ปัจจุบันมีประชากรกว่า 5 ล้านคนและประเทศมีการพัฒนา อย่างรวดเร็ว เริ่มจากการเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ การมีจิตใจที่ไม่ยอมแพ้และจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ ทำ�ให้สิงคโปร์ก้าวข้ามจากรูปแบบธุรกิจและสังคมแบบ Conservative สู่การพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง (Renewal)

6 เพื่อสอดรับกับโอกาสและสร้างโอกาสใหม่ๆ โดยในปัจจุบันสิงคโปร์มุ่งพัฒนาในด้าน Biomedical Sciences เพื่อตอบ โจทย์การเป็นสังคมผูส้ งู อายุ และยังให้ความสำ�คัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ�และสิง่ แวดล้อม เพือ่ ตอบโจทย์การ ขาดแคลนน้ำ�และพลังงานในอนาคต เป็นต้น หากเราต้องการที่จะเป็นผู้นำ�ในโลกธุรกิจ สิ่งสำ�คัญลำ�ดับแรกคือต้องวางตำ�แหน่งของเราที่ชัดเจน (Clear Positioning) ว่าเราต้องการเป็นอะไรที่เราเป็นได้ดีที่สุด เพื่อที่จะสามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ โดยเราไม่ จำ�เป็นทีจ่ ะต้องเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน แต่จะต้องมีจดุ เด่น มีความแตกต่าง และมีกลยุทธ์หลัก (Core Tactics) ในการบรรลุ ตำ�แหน่งที่เราต้องการจะเป็น สิ่งสำ�คัญต่อไป คือการสร้างคุณค่า (Value) ซึ่งเกิดจากการรับรู้และยอมรับของลูกค้าใน สิ่งที่เราเป็นหรือทำ�อยู่ ซึ่งแน่นอนที่สุดเมื่อโลกเปลี่ยนไปและความต้องการของคนเปลี่ยนไป เราจะต้องพัฒนาและปรับ ตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะสิ่งใหม่จะเกิดขึ้นมาแทนที่สิ่งเก่าอยู่ตลอดเวลา (Creative Destruction) เพื่อรักษาคุณค่านั้นไว้ หรือสร้างให้เพิ่มขึ้น โดยการสร้าง Brand ก็เป็นถือกลยุทธ์ที่สำ�คัญในการสร้างคุณค่าให้กับเรา

สร้างโอกาสจากความเป็นเมือง: Urbanization “Opportunities from the Urban Sprawl” Synopsis: เมืองเปลี่ยน พฤติกรรมคนเปลี่ยน ผุดโอกาสทางธุรกิจ จากการขยายตัวของเมือง โดย ผศ.ดร.นิรมล กุลศรีสมบัติ ผู้อานวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (Urban Design and Development Center: UDDC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ หัวหน้าโครงการฟื้นฟูเมือง อาทิ “ริมน�้ำยานนาวา” และ "กรุงเทพฯ 250"

ดร.นิรมลฯ ให้ขอ้ มูลเกีย่ วกับโครงการกรุงเทพฯ 250 ทีเ่ ป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (Urban Design and Development Center : UDDC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับสำ�นักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ซึ่งมี วัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเมืองและสร้างดุลยภาพให้กรุงเทพฯ โดยมีหมุดหมายที่ พ.ศ. 2575 ซึ่งเป็นปีที่กรุงเทพฯจะ มีอายุครบ 250 ปี ในศตวรรษที่ 3 จะเป็นยุคสมัยของการเปลีย่ นผ่าน กรุงเทพฯจะเปลีย่ นโฉมจากระบบเรือไปสูร่ ะบบล้อและระบบรางตาม ลำ�ดับ โดยมีการเปลีย่ นแปลงทีส่ ำ�คัญ เช่น คนกรุงเทพฯทีเ่ คยออกไปอาศัยอยูบ่ ริเวณชานเมืองเริม่ กลับเข้ามาอยูใ่ นเมือง มากขึ้น ดูได้จากจำ�นวนยูนิตคอนโดมีเนียมที่เพิ่มมากขึ้น แต่ในพื้นที่ที่ระบบรางยังไปไม่ถึง ประชากรลดต่ำ�ลงแต่ความ แออัดยังสูง หรือบางพื้นที่เริ่มแก่เพราะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10 % ดังนั้น กรุงเทพฯ จึงจำ�เป็นต้องมีการ ลงทุนสาธารณะให้เกิดประโยชน์และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในรูปแบบใหม่ เมื่อ “การฟื้นฟูเมืองคือโอกาส” ในอีก 17 ปีข้างหน้านี้จึงให้ความสำ�คัญกับการปรับปรุงทางกายภาพ การเพิ่ม ประสิทธิภาพการลงทุนและการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายของแต่ละพื้นที่ โดยศูนย์ UDDC และกรุงเทพมหานครได้ตั้งเป้าหมายสำ�คัญที่จะจัดทำ�ผังแม่บทการฟื้นฟูเขตพื้นที่เมืองชั้นใน 17 เขต และผังแม่บทพื้นที่นำ�ร่องที่เชื่อมโยงระหว่างบริบทประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและทุนทางสังคมที่มีอยู่กับความท้าทาย ใหม่ๆที่กำ�ลังจะเกิดขึ้น ผลการศึกษาของโครงการกรุงเทพฯ 250 บ่งชี้ให้เห็น 10 เทรนด์ 8 ย่าน ซึ่งแบ่งเทรนด์ทั้ง 10 ออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

11 กลุ่มเทรนด์เทคโนโลยี ประกอบด้วยเทรนด์สำ�คัญ คือ 1. รางเชื่อมเมือง (Connected Track) ระบบรางจะเชื่อมต่อกับระบบล้อและระบบเรือมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ คนจะอยู่ กับบ้านมากขึ้น ในอนาคตห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อาจไม่มีความจำ�เป็นอีกต่อไป 2. ชีวิตเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา (Ubiquitous Life) ความก้าวหน้าของ ICT และระบบเศรษฐกิจดิจิทัลจะทำ�ให้พฤติกรรมคน กรุงเทพฯเปลี่ยนไป พื้นที่กายภาพใหม่ๆจะเกิดขึ้น เช่น พื้นที่ที่มี link connect กับข้อมูลทั้งหมด 3. อิสระแห่งการทำ�งาน (Freedom of work) โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีวิถีการทำ�งานและรูปแบบ ธุรกิจใหม่ๆ นำ�ไปสู่การเกิดสิ่งอำ�นวยความสะดวกใหม่ๆ เช่น Co working space ที่ใช้โกดังหรือตึกแถวมากกว่าอาคาร สำ�นักงานขนาดใหญ่ 4. การบริการสาธารณะทีส่ ะดวก (Convenient Public Service) จะมีการให้บริการแบบครบวงจร (one stop service) กระจายอยู่ทุกพื้นที่ทุกช่องทาง กลุ่มเทรนด์เศรษฐกิจ ประกอบด้วยเทรนด์สำ�คัญ คือ 5. บูรณาการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Integrated Cultural Tourism) เป็นการท่องเที่ยวแนวใหม่เน้นการสร้าง ประสบการณ์ใหม่ๆ และเฉพาะกลุ่มมากขึ้น 6. อุตสาหกรรมใหม่ของเมือง (New Urban Industries) ที่จะมีความหลากหลาย อยู่ใจกลางเมือง ตอบสนองคนกลุ่ม ต่างๆ เป็นโอกาสในการจะทุบตึกหรือฟื้นฟูย่านเมืองเก่าขึ้นมา 7. แหล่งพลังงานหลากหลายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental – Friendly) มีการพัฒนาพลังงานทางเลือก หรือพลังงานทดแทน กลุ่มเทรนด์ด้านสังคม ประกอบด้วยเทรนด์สำ�คัญ คือ 8. โครงสร้างประชากรกรุงเทพฯ ใหม่ๆ (Land & Space for New Bangkokian) จะมีการใช้ที่ดินอย่างหนาแน่นและ เข้มข้น เพื่อตอบสนองประชากรกลุ่มใหม่ๆ เช่น แรงงานต่างด้าว 9. ความปกติใหม่ของชีวิตคนเมือง (Urbanite’s new normal) จะเกิดสังคมพหุวัฒนธรรมและนวัตกรรมใหม่ รวมทั้ง การใช้พื้นที่ทั้งในเชิงกายภาพและ Virtual 10. การพัฒนาอย่างทั่วถึง (Inclusive Development) ที่สร้างโอกาสให้คนทุกกลุ่ม ทั้งนี้ ผลการศึกษากำ�หนด 8 ย่านหลัก ดังนี้ 1. ย่านเดิม ได้แก่ ย่านประวัติศาสตร์วัฒนธรรม (เช่น เกาะรัตนโกสินทร์) ย่านพาณิชยกรรม (สุรวงศ์-สาทร) ย่านสถาบัน ราชการ (ดุสิต-พญาไท) และย่านที่อยู่อาศัย 2. ย่านใหม่ ได้แก่ ย่านสร้างสรรค์ (ย่านเก่าที่ได้รับการขับเคลื่อนด้วยคนที่ทำ�งานด้านศิลปะ ออกแบบ ดนตรีและ วรรณกรรม มีค่าเช่าไม่แพง) ย่านนานาชาติ (มีประชากรต่างชาติเข้ามาอยู่มาก เช่น เยาวราช พาหุรัด) ย่านการผลิตใหม่ และย่านอัจฉริยะ (ขับเคลื่อนด้วย ICT) ในการพัฒนานั้นเน้นพัฒนาทั้ง “ย่าน อาคาร คน” โดยเชื่อมโยงความหลากหลายทั้ง 3 ระดับเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ Alpha – ความหลากหลายระดับย่าน Beta – ความหลากหลายระหว่างย่าน และ Gamma – ความหลากกหลายของเมือง พื้นที่เขตเมืองชั้นใน 17 เขตแบ่งออกเป็น 7 Cluster ได้แก่ ประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ ประวัติศาสตร์ธนบุรี เศรษฐกิจ พาณิชยกรรมปทุมวัน–บางรัก ทีอ่ ยูอ่ าศัยของคนทำ�งาน (ยานนาวา–บางคอแหลม) เศรษฐกิจพาณิชยกรรมตากสิน ส่วน ราชการดุสิต-พญาไท และที่อยู่อาศัยจรัลสนิทวงศ์ โดยมีการตั้งโจทย์การพัฒนาของแต่ละคลัสเตอร์และมียุทธศาสตร์ มารองรับชัดเจน

12 ถ้าจะนำ�เทรนด์การขยายตัวของความเป็นเมืองมาสร้างโอกาสนัน้ จะต้องพัฒนากรุงเทพฯตามแนวทางใหม่ มงุ่ สูค่ วาม มีคณ ุ ภาพและยัง่ ยืน มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุม้ ค่า ส่งเสริมเศรษกิจสังคมรูปแบบใหม่ ต้องมีการพัฒนาทัง้ นวัตกรรมและ การบริหารจัดการ และที่จำ�เป็นคือ การสร้างปฎิสัมพันธ์ของกลุ่มคนในพื้นที่ด้วย ผู้เข้าร่วมการสัมมนาได้ตั้งคำ�ถามและแสดงความเห็นต่างๆ ซึ่ง ดร.นิรมลฯชี้แจงว่า ประเด็นต่างๆนั้นเป็นวัตถุประสงค์ และแนวทางการทำ�งานของโครงการอยู่แล้ว เช่น การจัดทำ�ผังเมือง การออกแบบให้สอดรับกับปัญหาทางสิ่งแวดล้อม การวางแผนเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมและที่จอดรถสำ�หรับผู้ที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งการพัฒนา ให้กรุงเทพฯเป็นมืองเดินได้และเดินดี

เทรนด์ทอล์ค (เสวนา): เมื่อเมืองขยาย...เมื่อนั้นเรามีโอกาส

Synopsis: โอกาส วิถีและคุณภาพชีวิตคนเมืองเปลี่ยนผัน ก้าวสู่ ความเป็นเมืองด้วยธุรกิจแนวใหม่ แค่คิดโอกาสก็เปิด โดย คุณยิหวา อรรถเวทยวรวุฒิ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้จัดการโครงการ One Day | Pause & Forward ธุรกิจ Co-working Space และที่พัก ประเภทโฮสเทล (Hostel) คุณเบญจพร การุณกรสกุล ผู้ก่อตั้ง Absolute Fit Food ธุรกิจ Delivery อาหารเพื่อ สุขภาพ และ ผู้อํานวยการบริหาร กลุ่มบริษัท แอ็บโซลูท โยคะ ว่าที่ร้อยตรีมนตรี ฉันทะยิ่งยง ผู้ร่วมก่อตั้ง BikeXenger เมสเซนเจอร์ สีเขียว บริการรับ-ส่ง เอกสารในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คุณยิหวา อรรถเวทยวรวุฒิ (ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้จัดการโครงการ One Day I Pause & Forward) จุดเริม่ ต้น/แนวคิดการท�ำธุรกิจ เนือ่ งจากมีพนื้ ฐานการท�ำธุรกิจอพาร์ทเมนท์อยูแ่ ล้ว ในช่วงแรกจึงตัง้ ใจจะใช้โกดังเก่าอายุ ประมาณ 30 ปี ขนาดพื้นที่ 1,500 ตารางเมตรในซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งมีการเปลี่ยนรูปแบบการใช้สอยมาหลายครั้งแล้ว เพือ่ มาท�ำเป็นร้านคาเฟ่ทเี่ ป็นเหมือน flagship store แต่เมือ่ หารือกับเพือ่ นๆทีเ่ ป็นหุน้ ส่วน ซึง่ ส่วนใหญ่เป็นนักออกแบบ มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกันไปและท�ำธุรกิจอยู่แล้ว เกิดเป็นแนวคิดที่ว่า “ท�ำอย่างไรให้เป็นสถานที่ที่คนสามารถเข้ามา ใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบในหนึ่งวัน” จึงพัฒนาต่อยอดเป็น Co-working Space ร้านอาหารและ Hostel ที่ลูกค้า สามารถซื้อบริการในราคาเดียว แต่สามารถทั้งท�ำงาน รับประทานอาหารและนอนพักได้ภายในหนึ่งวัน การตัง้ ราคา จะใช้วธิ ศี กึ ษาจากคนทีท่ �ำธุรกิจประเภทเดียวกันว่ามีขอ้ ดีขอ้ เสียอย่างไร และควรตัง้ ราคาทีเ่ หมาะสมไว้ทใี่ ด ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ แต่เนื่องจาก One Day มีหลายธุรกิจอยู่ในนั้น ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ Co working space และ Hostel การตั้งราคาจะแตกต่างกันไป แต่ให้ความส�ำคัญกับทั้ง 4 ธุรกิจเท่าเทียมกัน และเมื่อมีเหตุการณ์ที่ ท�ำให้ตอ้ งปรับลดราคาลง ก็สามารถใช้วธิ โี ปรโมชัน่ จากความได้เปรียบของการมีธรุ กิจหลายอย่างมาท�ำการตลาดได้ โดย ดึงอีกธุรกิจมาช่วยกันได้ การก�ำหนดราคาใช้เวลาประมาณหนึ่งปีกว่าจะลงตัว ปัญหาอุปสรรค หัวใจของการท�ำธุรกิจคือ การสร้างรายได้และสร้างแบรนด์ ถา้ วันใดมีปญ ั หาอุปสรรคจากปัจจัยภายนอก ที่ควบคุมไม่ได้ เช่น น�้ำท่วม จนกระทบต่อการสร้างรายได้ ก็จะให้ความส�ำคัญกับการสร้างแบรนด์แทน ทั้งนี้ เห็นว่ารัฐ ควรเข้ามาช่วยสนับสนุนการพัฒนาสภาพแวดล้อมในชุมชน เพื่อให้เชื่อมโยงกับเส้นทางหลัก เช่น การปรับปรุงถนนใน ซอย การดูแลท่อระบายน�้ำ ทางเท้า ไฟฟ้า ระบบรถสาธารณะ ฯลฯ โดยเฉพาะในชุมชนที่มีศักยภาพ เพื่อให้คนชุมชน เห็นช่องทางที่จะท�ำธุรกิจได้

14 มองภาพอนาคตในอีก 5 ปีข้างหน้า การท�ำธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากจะวางแผนระยะยาว 5-10 ปีแล้ว ต้องวางแผนปี ต่อปีดว้ ย แต่มองว่าการขยายตัวของความเป็นเมืองจะเป็นโอกาสให้ธรุ กิจเล็กๆเติบโตได้ การเริม่ ต้นสร้างธุรกิจใหม่ๆขึน้ มาค่อนข้างเป็นเรือ่ งยากในยุคนี้ อาจใช้โอกาสในการรวมหลายๆธุรกิจเข้าด้วยกัน โดยใช้แนวคิดในการเชือ่ มโยงธุรกิจเก่า ที่มีอยู่เพื่อให้เกิดธุรกิจใหม่ที่แข็งแรงขึ้น คุณเบญจพร การุณกรสกุล (ผู้ก่อตั้ง Absolute Fit Food ธุรกิจ Delivery อาหารเพื่อสุขภาพ และผู้อำ�นวย การบริหาร กลุ่มบริษัท Absolute Yoga) จุดเริ่มต้น/แนวคิดการท�ำธุรกิจ กลุ่ม Absolute เริ่มมาจากธุรกิจโยคะ แล้วค่อยขยายมาเป็นธุรกิจอาหาร โดยต้องการ ตอบโจทย์การท�ำอาหารที่ดีต่อสุขภาพและอร่อยให้ได้ จนกลายมาเป็น Absolute Fit Food ซึ่งมีการพัฒนาออกมา หลายสูตร/ดปรแกรม เช่น สูตรอาหารลดน�้ำหนัก สูตรแอนตี้เอจจิ้ง Lunch/Dinner Express โดยมีฉลากระบุจ�ำนวน แคลอรี่และคุณค่าอาหารไว้ชัดเจน การที่คนเราจะมีสุขภาพดีได้ต้องมาจากลักษณะนิสัย ซึ่งการจะเปลี่ยนพฤติกรรมการกินท�ำได้ยาก จึงมีบริการส่งถึง บ้านและที่ท�ำงานเพื่อให้คนสามารถรับประทานได้อย่างน้อย 1-2 มื้อต่อวันติดต่อกันไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการกินไปสู่สุขภาพที่ดีได้ ช่วงแรกมีพนักงาน 10 คน ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 30 คน เริ่มต้นจากอาหาร 80 รายการเพราะคิดว่าน่าจะคลุมได้ทั้งเดือน แต่พอลองตลาดจริง ลูกค้าบ่นเบื่อ จึงพัฒนาเป็น 300 รายการ เพื่อสนองตอบลูกค้าที่ผูกปิ่นโตรายวัน ในการท�ำธุรกิจนี้ ครัวสะอาดเป็นสิ่งส�ำคัญที่สุด ขณะเดียวกัน ต้องให้ความส�ำคัญกับการเลือกวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ด้วย เพราะอาหารทุกอย่างสามารถท�ำให้สุขภาพดีได้ แต่ต้องดึงเอาส่วนที่ไม่ดีออก เช่น ข้าวมันไก่ จะใช้ข้าวหุงในน�้ำมัน ร�ำข้าวแทน หรือเปลี่ยนส่วนผสมน�้ำจิ้ม ซึ่งทั่วไปจะใส่เต้าเจี้ยวที่มีสารกันเสีย เปลี่ยนมาใช้ถั่วเน่าแทน การตั้งราคา มาจากหลายปัจจัย เช่น ราคาต้นทุน ราคาหลักๆสามารถประมาณการได้จากจ�ำนวนกรัมตามสูตรอาหารที่ ชัดเจน แม้วา่ วัตถุดบิ อาจมีราคาขึน้ ลงตามฤดูกาล แต่กส็ ามารถตัง้ ราคาได้ เพราะเริม่ ท�ำในขณะทีเ่ ป็น leader การก�ำหนด ราคาใช้เวลา 6 เดือนกว่าจะลงตัว ราคาต่อมื้อประมาณ 300-350 บาทรวมค่าจัดส่ง ทั้งนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับอาหารโดย ทั่วไป Absolute Fit Food จะมีจุดเด่นที่ราคาสูงกว่าแต่แคลอรี่ต�่ำกว่า ขณะที่อาหารทั่วไปมีราคาต�่ำแต่แคลอรี่สูง จึง ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ปัญหาอุปสรรค สิ่งที่ยากคือการปรับเปลี่ยนทัศนคติของลูกค้าว่าอาหารเพื่อสุขภาพก็อร่อยได้ นอกจากนี้ เป็นปัญหา บุคลากรไม่ว่าจะเป็นการหาคนมาท�ำงานและการบริหารคน มองภาพอนาคตในอีก 5 ปีขา้ งหน้า ตลาดอาหารยังมีทศิ ทางทีไ่ ปได้หลายสาขา อาจพัฒนาไปเป็นอาหารสุขภาพส�ำหรับ เด็ก ซึ่งเริ่มต้นดูแลสุขภาพตั้งแต่เด็กจะดีมาก และพ่อแม่ยุคนี้นิยมซื้อของดีให้ลูก ว่าที่ร้อยตรีมนตรี ฉันทะยิ่งยง (ผู้ร่วมก่อตั้ง BikeXenger เมสเซนเจอร์สีเขียว บริการรับส่งเอกสารในพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณฑล) จุดเริม่ ต้น/แนวคิดการท�ำธุรกิจ การท�ำธุรกิจรับส่งเอกสารด้วยจักรยานเริม่ ต้นจากกลุม่ เพือ่ นทีป่ น่ั จักรยานนอกเวลางาน เพื่อให้มีสุขภาพดี มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน เช่น รถติดท�ำให้เสียเวลาในการเดินทางและเกิดความเครียดในการ ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งเกิดมลภาวะเป็นพิษ จึง “มองเห็นโอกาสจากปัญหาของคน” และเริ่มต้นท�ำธุรกิจนี้ภายใต้แนวคิด “Bikexenger จะจัดการความทุกข์ให้คุณได้”

15 ปัจจุบัน BikeXenger มีพนักงานประจ�ำ 3 คนและพาร์ทไทม์ 3 คน โดยจะมีการวางแผน ช่วยเป็นโค้ช และทดสอบ การท�ำงานก่อน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการท�ำงาน เพราะมีความเชื่อว่า “การวางแผนที่ดีจะท�ำให้เกิดประสบการณ์ ที่ดีด้วย” ในการท�ำงานจะมีแผนที่เส้นทางการเดินทางที่คนไปได้และจักรยานก็ไปได้ในทุกพื้นที่ ให้บริการรับส่งสิ่งของ ทุกอย่างทีไ่ ม่ผดิ กฎหมาย ลูกค้าสามารถส่งค�ำสัง่ ผ่านมาทางเทคโนโลยีการสือ่ สารทีส่ ามารถให้รายละเอียดได้ชดั เจนกว่า และจะมีการตรวจสอบลูกค้าก่อน โดยคิดว่า “BikeXenger เป็นมากกว่าการส่งของ แต่เป็นบริการ” การตัง้ ราคา เนือ่ งจากเป็นธุรกิจรับส่งเอกสารโดยจักรยานเพียงรายเดียว ตอนแรกจึงตัง้ ราคาตามระยะทาง แต่พอปฎิบตั ิ งานจริง ระยะทางไม่ตรงกับที่คิดไว้ จึงเปลี่ยนมาตั้งราคาตามเขต โดยมีศูนย์กลางเริ่มที่เขตสาทรจะคิดราคาที่ 100 บาท ในเขตพื้นที่อื่นๆที่ติดกันก็บวกเข้าไปอีก 50 บาท ปัญหา/อุปสรรค การรู้ปัญหาในการท�ำงานมาจากประสบการณ์ อ่านข้อมูลแล้วรู้ว่าผิด เช่น เอกสารธุรกรรม เป็นต้น ซึ่งต้องมีพื้นฐานและประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาที่ดี มองภาพอนาคตในอีก 5 ปีขา้ งหน้า BikeXenger อาจเป็นอมตะได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น อาจใช้จกั รยาน ไฟฟ้า เป็นต้น

สร้างโอกาสจากกระแสคนรุ่นใหม่ “NEW Gen & Explosive Business Opportunities” Synopsis: โอกาสทองทางธุรกิจจากกระแสไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดย ผศ. ดร.การดี เลียวไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการศูนย์ C asean

ผศ.ดร.การดี น�ำเสนอเนื้อหาในหัวข้อสร้างโอกาสจากคนรุ่นใหม่ ผ่านประสบการณ์รอบตัว ทั้งครอบครัวและการท�ำงาน ของตนเอง ในแต่ละ Gen จะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน แต่มันจะมีความเหมือนที่ถ่ายทอดซึ่งกันและกัน และสุดท้าย ความแตกต่างที่เกิดขึ้นจะถูกปรับเข้าหากันเอง ความแตกต่างของเจเนอเรชั่นในอดีตคือ ช่วงอายุ และปีเกิด เป็นตัวบ่ง บอกว่าเราอยู่ในเจเนอเรชั่นไหน แต่ในปัจจุบัน คือวิธีการใช้ชีวิต และพฤติกรรมในการบริโภคสินค้าและบริการ มุมมอง การแบ่งแยกคนตาม Gen ต่างๆ ที่เคยได้ท�ำการศึกษามานั้น ในปัจจุบันอาจใช้ไม่ได้ผลทั้งหมด เพราะพฤติกรรมของคน มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากการศึกษาพฤติกรรมของ Gen Y ซึ่งเคยให้ข้อมูลไว้ว่า กลุ่มคน Gen Y มีพฤติกรรมที่เป็นไปในทิศทางลบ อาทิเช่น เป็นตัวของตัวเองสูงไม่สนใจใคร (self-center) มีความคิดเป็นของตนเอง คิดอยากท�ำอะไรก็ท�ำ จากผลการศึกษาพบ ว่า เด็ก Gen Y มีความเป็นตัวของตนเอง และมีความสามารถที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นข้อดีในการพัฒนาตัวตนตัวเองที่ชัดเจน เพราะเขาจะมีเป้าหมายในการท�ำงานและการด�ำเนินชีวติ ทีแ่ น่วแน่ ผูป้ กครอง หรือ ผูใ้ หญ่จงึ ต้องท�ำความเข้าใจและปรับ ตัวไปพร้อมๆกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป วิธีคิดเดิมเปลี่ยนไปกับการท�ำงานของคนรุ่นใหม่ โซเชียลมีเดีย เป็นสิง่ ทีช่ ว่ ยเชือ่ มคนทุกช่วงวัยเข้าด้วยกัน แม้วา่ จะมีรปู แบบการส่งข้อมูลทีแ่ ตกต่างกัน เช่น ข้อความ ภาพ สติกเกอร์ แต่ทุกเจเนอเรชั่นยังอยู่ภายใต้ platform เดียวกัน เพราะฉะนั้นโซเชียลมีเดีย จึงถือเป็นช่องทางใหม่ที่คนใน ทุกเจเนอเรชั่นใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน รวมทั้งยังช่วยในปรับและเปลี่ยนแปลงของคนในแต่ละเจเนอเรชั่นเข้าหากัน ไม่ ว่าจะเป็นเรื่องของบทสนทนาผ่านทาง หรือการใช้ภาษาในการสื่อสาร เช่น การใช้ภาษาของกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ New Gen ที่พยายามสรรหาค�ำใหม่อยู่เรื่อยๆ กลุ่มวัยเกษียณ หรือ Baby Boomer ที่พยายามจะเรียนรู้และปรับตัวกับการ ใช้ภาษาของกลุ่มคนรุ่นใหม่

19 จากข้อมูลของ ผศ.ดร.การดี พบว่า New Gen เป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของขอบเขตเจเนอเรชั่น (Gen Boundaries) เนือ่ งจากการเปลีย่ นแปลง และการปรับตัวเข้าหากัน ในการท�ำงาน ท�ำกิจกรรมร่วมกัน โดยไม่มเี พศ และอายุมาเกีย่ วข้อง กล่าวคือ การเลือกจะเป็นคน New Gen ไม่ได้มาจากที่อายุหรือเพศอีกต่อไป แต่เกิดจากพฤติกรรมเป็นตัวแสดงออก NEW Gen คืออะไร 1. Year of Birth ≠ Principle of attitude & Behavior ปีที่เกิดไม่ใช่หลักคิดหรือเหตุผลที่จะสะท้อนพฤติกรรม หรือ ทัศนคติที่เกิดขึ้น แต่สิ่งจะบ่งบอกว่าเราอยู่ Gen ใด คือ พฤติกรรม หรือการเลือกใช้ชีวิต อดีตและปัจจุบัน อดีต Device ข้อได้เปรียบ (Privilede) Social media New toy Education

การศึกษาเพื่ออนาคตที่สดใส

วัยเกษียณ

ปลายทางของชีวิต

ปัจจุบัน It’s community product Human sense การศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยคือสิ่งที่ ทำ�เพื่อพ่อแม่ การเริ่มต้น

2. Rethinking conventional theories ความคิดของคนแต่ละช่วงอายุไม่มีความแตกต่างกัน (Converse culture) 3. Ministry of Education > Ministry of Human Competitiveness การศึกษาไม่ใช่เพียงแค่ในโรงเรียน แต่เราสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ เพิ่มพูนประสบการณ์ สร้างระบบใหม่ในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ 4. LIFE HACKING. And it is not just about shortcut การเรียนรู้แบบทางลัด แบบไม่เป็นขั้นตอนเหมือนในอดีต 5. Corporate - No more cubical nation ไม่ได้ต้องการเพียงเงินแต่ความหมายจากการท�ำงานได้อะไร เกิดอะไรต่อสังคมบ้าง 6. Rethinking the roles of GOVERNMENT จ�ำนวนหน้าของกฏหมายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก�ำจัดความคิดสร้างสรรค์ลง เรื่อยๆ เช่นกัน เมือ่ ทราบถึงพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของ คนกลุม่ New Gen แล้วก็จะเกิดสินค้าและบริการใหม่ๆ ทีม่ าตอบสนองกลุม่ คน ดังกล่าว เช่น เว็ปไซต์สอนภาษาชื่อ “Globish-Academia.com” เว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษในรูปแบบที่ทุกคนสามารถ เรียนได้ทกุ ทีท่ กุ เวลา หรือวิธกี ารหาแหล่งเงินทุนทีห่ ลากหลายมากขึน้ กล่าวคือนอกจากการกูเ้ งินธนาคารแล้วยังมีชอ่ งทาง หาแหล่งเงินทุนในช่องทางอื่นๆในระบบ ยกตัวอย่างเช่น Crowd Funding การระดมเงินจากชุมชน หรือบุคคลธรรมดา ที่สนใจผลิตภัณฑ์ที่น�ำเสนอในรูปแบบออนไลน์ เป็นต้น

เทรนด์ทอล์ค (เสวนา) : โอกาสจากเทรนด์ NEW GEN ปลุกผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Synopsis: สร้างสรรค์ธุรกิจ ตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ สตาร์ทอัพทําได้ ไม่ยาก โดย

คุณวรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง ที่ปรึกษาด้านธุรกิจดิจิทัล คอลัมนิสต์ด้านการตลาดและ เทคโนโลยี ผู้เขียนหนังสือ startup ideas ไม่เริ่มคิดใหม่ก็เดินได้ ไกลเท่าเดิม คุณสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหาร UDrink IDrive ธุรกิจบริการ พนักงานขับรถรูปแบบใหม่ แห่งแรกของประเทศไทย ที่มีจุดมุ่งหมายในการลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับ คุณปิยะ ชยาภัม ผู้ร่วมก่อตั้ง Manhattan Mango ฟู้ด ทรัก ที่ตอบสนองไลฟ์ สไตล์และเข้าถึงความ ต้องการของผู้บริโภคในเมือง คุณวรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง (นักบริหาร เจ้าของกิจการ นักทวีต นักการตลาด พิธีกร และคอลัมนิสต์ด้านไอที) จุดเริม่ ต้น/แนวคิดการท�ำธุรกิจ ท�ำธุรกิจ start up ให้บริการหนังออนไลน์ ให้คำ� ปรึกษาในการท�ำธุรกิจ และเขียนหนังสือ ส�ำหรับคนอยากท�ำธุรกิจ “startup ideas ไม่เริ่มคิดใหม่ก็เดินได้ไกลเท่าเดิม” โดยมีแนวคิดในการจะท�ำธุรกิจของ New Gen ว่าสิง่ ทีจ่ ะท�ำให้ธรุ กิจนัน้ ๆ ประสบความส�ำเร็จได้ หลักๆคือ ความชอบ และความอดทน นอกจากนัน้ คือ การพัฒนา สินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด และต้องปรับตัวรวดเร็วให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง การจะท�ำธุรกิจให้ประสบความส�ำเร็จ ต้องพยายามหาผลิตภัณฑ์มาน�ำเสนอในหลายๆรูปแบบ ทดสอบกับกลุม่ เป้าหมาย ท�ำต่อเนื่อง ซ�้ำๆ เพื่อจะได้รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรที่แท้จริง ธุรกิจ Start up ที่ตอบสนอง NEW Gen นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท • On demand ตอบสนองความต้องการ เช่น Netflix เป็นบริการทีเ่ ปิดให้ผใู้ ช้สามารถเลือกดูรายการทีวี ซีรสี ์ ภาพยนต์ และรายการต่างๆ และTaskRabbit ผู้ใช้เข้าไปโพสต์งานที่ต้องการให้ท�ำ อาทิ ซื้อของในซูเปอร์มาเก็ต (ราคาเฉลี่ย นอยู่ที่ 35 USD) ระบุสถานที่ เวลา และราคาที่จะจ่าย • Anytime / Anywhere ทุกที่ทุกเวลา เช่น Dropbox LINE Uber ท�ำไมจึงเลือกธุรกิจนี้ เริ่มเขียนหนังสือ Start up ไอเดีย โดยสังเกตเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ คือ อยากประสบความส�ำเร็จ เร็วกับรวยเร็ว มองว่าธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยียังไม่ค่อยมาในประเทศไทยจึงเป็นโอกาสที่จะเริ่มเขียนหนังสือเกี่ยวกับ ธุรกิจทางด้านนี้ โดยสรุปมาเป็นข้อๆ ดังนี้ • สร้างไอเดีย • เริ่มต้น ประเมินตนเองว่าเหมาะสมหรือไม่ • หาทีม • ปัญหาในการท�ำธุรกิจในช่วงเริ่มต้น

21 • สร้าง Product • Business model • บทเรียนของแต่ละบริษัทเพื่อเป็นกรณีศึกษา ท�ำให้เห็นภาพรวมทั้งหมด ธุรกิจที่ท�ำเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอย่างไร ส่วนใหญ่ธุรกิจที่ท�ำกับกลุ่ม NEW Gen ไม่จ�ำเป็นต้องผูกติดกับเทคโนโลยี แต่สาเหตุที่ถูกเลือกใช้เป็นอันดับต้นๆนั้น เนื่องจากการเริ่มต้นมีราคาไม่แพง เข้าถึงได้ง่าย มีแค่การใช้ Idea กับ Application หรือเรียกว่าหน้าร้านออนไลน์ จุดเด่น ส�ำหรับการท�ำธุรกิจเพื่อตอบสนองคนกลุ่ม New Gen ต้องมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง โอกาสของ New Gen การท�ำธุรกิจ start up ในหลายๆตัว เกิดมาจากการเห็นปัญหาก่อน แล้วอยากแก้ปัญหาตรงไหน ขอให้มองว่า ปัญหา คือ โอกาส หลังจากนั้นให้มองหาตลาด และศึกษาข้อมูลอ้างอิง หรือธุรกิจที่ใกล้เคียงต่างๆที่เคยเกิด ขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ แล้วน�ำมาปรับใช้กับตัวเอง คุณสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ (ผู้ร่วมก่อตั้ง U DRINK I DRIVE) จุดเริ่มต้น/แนวคิดการท�ำธุรกิจ เป็นบริการส่งคนขับรถ เพื่อขับให้คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ มีจุดเริ่มต้นมาจากตอนเรียน ปริญญาโท ต้องท�ำวิทยานิพนธ์ จึงได้ศึกษาข้อมูลด้านต่างๆที่เราสนใจ และสิ่งรอบตัวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง จนมาเห็นธุรกิจ ให้บริการคนขับรถ ส�ำหรับคนดื่มแอลกอฮอล์น่าจะมีในประเทศไทย ประกอบกับข้อมูลสถิติของ WHO ปี 2556 พบว่า คนไทยตายบนท้องถนนเป็นอันดับ 3 ของโลก และอีก 40% ของปัญหามาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้ง ยังเห็นปัญหา ทีเ่ กิดขึน้ กับตัวเองโดยตรงและคนรอบข้าง จึงเห็นปริมาณความต้องการการใช้บริการธุรกิจดังกล่าว และยังไม่มธี รุ กิจด้าน นี้ จึงรวมทีมกันกับเพื่อนที่สนใจท�ำธุรกิจนี้ขึ้นมา จุดเด่น บริษทั มีคนขับรถทีเ่ ป็นมืออาชีพ เพราะเราได้บริษทั ลิมซู นี เอ็กซ์เพรสของประเทศไทย เป็นพาร์ทเนอร์ในการท�ำ ธุรกิจ อีกทัง้ ยังมีแอพพลิเคชัน เพือ่ เรียกใช้บริการ มีเทคโนโลยีบอกต�ำแหน่งรถว่าก�ำลังเคลือ่ นทีไ่ ปถึงไหนแล้ว มีอปุ กรณ์ กล้องติดรถในขณะให้บริการขับรถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า และยูนิฟอร์มของคนขับ เพื่อสร้างเอกลักษณ์และจุด เด่นให้ลูกค้า ปัญหาอุปสรรค แรกๆไม่มคี นรูจ้ กั ธุรกิจของเรา ลูกค้าบางคนเข้าใจผิดในรูปแบบการบริการของเรา จึงจ�ำเป็นต้องสือ่ สาร กับลูกค้าในช่องทางต่างๆ ผ่านทางโซเชียลออนไลน์ เพื่อให้ข้อมูลกับลูกค้า คุณปิยะ ชยาภัม (ผู้ร่วมก่อตั้ง Manhattan Mango ฟู้ดทรัค ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์และเข้าถึงความต้องการ ของคนรุ่นใหม่) จุดเริ่มต้น/แนวคิดการท�ำธุรกิจ ธุรกิจรถอาหารเคลื่อนที่ ซึ่งมีมะม่วงเป็นวัตถุดิบหลักน�ำมาประกอบเป็นอาหารทั้ง อาหารคาวและอาหารหวาน เริ่มต้นจากการได้สัมผัสและใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามาระยะหนึ่ง และมีความต้องการบริโภค อาหารไทยแต่หาทานได้ค่อนข้างยาก จึงอยากจะท�ำอาหารไทยให้เข้าถึงคนทั่วโลก ส่วนวัตถุดิบได้เลือกมะม่วงเป็น วัตถุดิบหลัก เนื่องจากความชอบทานมะม่วงเป็นส่วนตัว ส�ำหรับการบริหารจัดการธุรกิจ หลักๆคือ สถานที่ที่จะขายต้อง สามารถจอดรถเราได้ จุดเด่น การตกแต่งรถอาหารที่มีลวดลายเป็นแผนที่เกาะแมนฮัตตันที่น่าดึงดูด และมีโลโก้สื่อถึงความเป็นไทย ปัญหา/อุปสรรค ในระยะ 2-3 เดือนแรกมีปัญหามาก ขายของยาก เราจึงแก้ไขโดยการเพิ่มช่องทางการให้ข้อมูลลูกค้า ในสื่อต่างๆ

สร้างโอกาสจากโลกดิจิทัล: Digital World “Change, Disrupt and Digital Opportunities”

Synopsis: เปลี่ยนแปลง คิดต่าง และโอกาสในยุคดิจิทัล โดย คุณเรืองโรจน์ พูนผล ผู้ร่วมก่อตั้ง 500 Tuk Tuks | ผู้ก่อตั้ง Disrupt University | อดีต ผู้บริหาร Google, Silicone Valley

โลกดิจิทัลเป็นช่วงเวลาที่เรียกว่า re-imagination เป็นยุคแห่งการท�ำลายล้างเพื่อการสร้างสรรค์ “The age of disruption” แต่ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมใช้เวลา 50-100 ปี แต่ในยุคปัจจุบันใช้เวลาเพียง 5 ปีเท่านั้น ก็สามารถท�ำลายล้าง อุตสาหกรรมหนึ่ง แล้วเกิดอุตสาหกรรมใหม่ได้ โดยใช้ Digital technology เป็นยุคที่หากไม่คิดค้นนวัตกรรมใดๆขึ้นมาใหม่อุตสาหกรรมนั้นก็จะตายไป “Innovation or die” เช่น • โทรศัพท์มือถือ Nokia, Motorola, Blackberry ในปัจจุบันนี้ถูกแทนที่ด้วย สมาร์ทโฟน Apple, Samsung และ Xiaomi • Borders บริษัทขายหนังสือรายใหญ่ของอเมริกา ที่เห็นว่า e-book ไม่ส�ำคัญ จึงจ้างบริษัท Amazon เป็นผู้ด�ำเนิน การ ภายใน 10 ปี บริษัท Borders ล้มละลาย ในขณะที่ Amazon เติบโตมีมูลค่ากว่า 150 พันล้านเหรียญ • Blockbuster ร้านเช่า VDO รายใหญ่มีสาขามากมาย ถูกแทนที่ด้วย Netflix ที่บริการให้เช่าวิดีโอออนไลน์ ปัจจุบัน ใช้วิธี Streaming โดยลูกค้าจ่ายเงินเป็นรายเดือน • Kodak ผู้คิดกล้องดิจิทัลรายแรก แต่ทางบริษัทไม่สนใจผลิตกล้องดิจิทัลขาย ในปัจจุบันบริษัทโกดักล้มละลาย

25 ยุคนี้เป็นยุคที่อุตสาหกรรมแบบเก่าถูกท�ำลายล้างด้วย Startup ซึ่ง Startup คือ SME ในยุคดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างการเติบโต เป็น Business model รูปแบบใหม่ Startup สามารถเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉลีย่ 10 เท่าต่อปี เป็นยุค ทีจ่ ติ นาการเมือ่ 50 ปีทแี่ ล้วกลายเป็นจริง เช่น รถทีส่ ามารถขับเคลือ่ นได้ดว้ ยตนเอง (Self-driving car) รถทีส่ ามารถบินได้ The Age of Startups เป็นยุคที่สามารถสร้างธุรกิจได้อย่างง่ายดาย บริษัทเล็กๆสามารถเติบโตและขยายขนาดได้อย่าง รวดเร็วด้วยดิจิทัล เช่น ในปัจจุบันมี Startup ที่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าและบริการทางการเงินมาแข่งขันกับธนาคาร มากมาย ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าธุรกิจเกี่ยวกับธนาคารจะไม่เหมือนเดิม ยุคนี้เป็นช่วงเวลาที่ง่ายในการสร้าง Startup ที่ สามารถปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยใช้ดิจิทัล และเกิดโอกาสมากมายในการสร้าง Startup • สามารถสร้างธุรกิจมูลค่าเกินหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐในเวลาไม่เกิน 5 ปี เช่น GrabTaxi, Uber, Whatapps, Nextdoor • Startups ที่ประสบความส�ำเร็จของไทย เช่น Ookbee ที่ท�ำธุรกิจ e-books • สามารถสร้างแอพพลิเคชั่นที่จะมีผู้ใช้เกิน 1 ล้านคน โดยใช้เวลาลดลงเรื่อยๆ angry bird, Instagram • Startup ส่วนใหญ่เริม่ จากไอเดียทีเ่ พีย้ นมาก เช่น SnapChat แอพพลิเคชัน่ ทีไ่ ม่บนั ทึกข้อมูลใดๆไว้เลย Airbnb เป็น เป็นตัวกลางให้ผู้คนที่มีบ้านพัก/ห้องพักว่างมาโพสต์ให้ข้อมูลและปล่อยเช่า • Startup ไม่จ�ำเป็นต้องเป็นตลาด Blue ocean แต่เป็นตลาด Red ocean แค่มีไอเดียที่แตกต่าง หลักการคือการ สร้าง new ways doing the same thing • 3 ใน 4 ของบริษัท Startup ไม่เคยท�ำธุรกิจมาก่อน • ในปีแรกๆไม่ตอ้ งคิดเรือ่ งท�ำเงินเลย รูปแบบของ Startup คือ สร้างธุรกิจขึน้ มาจากนัน้ ระดมทุนจากนักลงทุน สินทรัพย์ ที่ใช้คือ ตนเอง ทีมงาน ไอเดีย ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ • ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปปฏิวัติการเปลี่ยนแปลง สร้างพฤติกรรมใหม่ เช่น DoorDash ธุรกิจจัดส่งอาหาร ที่จัดส่ง อาหารด้วยวิธีการใหม่ ค�ำนึงถึงอุณหภูมิที่แตกต่างกันของอาหาร • Startup บางบริษทั ไม่จ�ำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั มากๆ แต่มคี วามคิดแบบ Startup คือมีความคิดทีแ่ ตกต่าง เช่น »Spanx » บริษัทท�ำชุดชั้นในรัดรูปส�ำหรับเวลาใส่ชุดราตรี »Bonobos » กางเกงในก้นสวยขายทางออนไลน์อย่างเดียว »Ipsy » founders เป็นธุรกิจที่จ่ายเงินเดือนละ 300 บาท เพื่อทดลองใช้เครื่องส�ำอางค์ตัวอย่างทุกเดือน »Etsy » เป็นมาร์เกตเพลสของสินค้าศิลปะ »Blisby » มาร์เกตเพลสของสินค้าศิลปะของไทย »Rent » the runway เช่าสินค้าดีไซน์เนอร์แบรนด์ออนไลน์ »ผู» ้ประกอบการ startup มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ Lim Ding Wen อายุ 9 ปี เป็นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน ไอโฟนที่อายุน้อยที่สุด และจากการส�ำรวจอายุมากที่สุดคือ 84 ปี ทุกคนสามารถเป็น Startup ได้ แต่ตอ้ งมีแนวคิดใหม่ มีความหลงใหล ต้องเปลีย่ นวิธคี ดิ เปิดใจรับวิธกี ารคิดแบบ Startup

เทรนด์ทอล์ค (เสวนา) : โลกดิจิทัล...โอกาสมีอยู่ทุกที่ ทุกเวลา Synopsis: เมื่อดิจิทัลเทคโนโลยี สร้างโอกาสให้ธุรกิจของคนรุ่นใหม่ โดย โดย

คุณณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง Vice President – Head of Online Marketing, dtac |Columnist: a-day, Positioning | Host & Producer, DigiLife TV (Nation Channel) | Trainer, DOTS Consultancy คุณธนบูรณ์ สมบูรณ์ ผู้ก่อตั้ง และ Creative Director องค์กรนวัตกรรมสังคม CreativeMOVE

คุณวรัทธน์ วงศ์มณีกิจ ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO บริษัท ZocialRipple เครื่องมือสร้าง กิจกรรมการ ตลาดผ่านโซเชียลให้แบรนด์ฝีมือคนไทยในสิงคโปร์ คุณณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง กล่าวว่า การมีมนุษย์มมี อื ถือ มีอนิ เตอร์เน็ตในมือ สามารถท�ำลายธุรกิจเดิมๆ และสร้าง โอกาสมหาศาลให้ธุรกิจมากมาย เปลี่ยนขนบ ความเป็นคนในสังคม เปลี่ยนกระบวนการ ทัศนคติ การบริหารบุคคล วิธี การสือ่ สาร เปลีย่ นแม้กระทัง่ สมองมนุษย์ให้ทนั ต่อการรับข้อมูลมหาศาล การเปลีย่ นทีเ่ กิดขึน้ เป็นทัง้ ความเสีย่ งและโอกาส ถ้าใครสามารถใช้ประโยชน์จากการเปลีย่ นแปลง คุณจะสามารถเปลีย่ นชีวติ ได้ เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ท�ำให้เราสามารถสือ่ สาร โดยไม่ต้องใช้เงินมหาศาล ใช้ต้นทุนไม่สูงมากนักแต่เข้าถึงคนได้มากขึ้น แนวคิดของธุรกิจที่ท�ำอยู่ เริ่มต้นจากเป็นคนชอบเขียน ชอบสอน เมื่อมีสื่อดิจิทัล จึงเกิดความคิดว่า เรามีสื่อของตนเอง ใครๆก็สามรถมีพนื้ ทีใ่ นการสือ่ สารได้ จึงใช้พนื้ ทีก่ ารตลาดออนไลน์ในการบอกเล่าเรือ่ งราวว่าตนเองมีความแตกต่างจากผู้ อืน่ เริม่ จากการเขียนเนือ้ หาเกีย่ วกับการตลาดออนไลน์ ลงเฟซบุค๊ และบล็อก เริม่ แรกไม่มคี นอ่าน แต่เมือ่ ท�ำจริงจัง เรียน รู้ไปกับมัน ท�ำให้มีจ�ำนวนคนอ่านมากขึ้น หลังจากมีคนติดตามมากขึ้น ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ รับบรรยาย เป็นพิธีกร รายการทีวี เขียนหนังสือ และจึงเปิดบริษัท DOTS Consultancy ที่รับบริการเป็นที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ ฝึกอบรม และออกแบบวางแผนการตลาดออนไลน์ ในการท�ำธุรกิจมี Turning point ทีเ่ กือบท�ำให้ลม้ เลิก คือ ตอนเริม่ ต้นนัน้ การเขียนบล็อกใช้เวลาพอสมควร และมีผตู้ ดิ ตาม ประมาณ 30-40 คน ตอนนั้นถามตนเองว่าจะท�ำต่อเองหรือไม่ จะเดินต่อหรือยอมแพ้ ถามตนเองอยู่เสมอว่าท�ำไมต้อง เขียน ท�ำไปก็ไม่มคี นอ่าน ต้องต่อสูก่ บั ตนเอง แต่ถา้ เราเชือ่ ว่ามันคืออนาคตของตนเองจงท�ำ กุญแจแห่งความส�ำเร็จในการ ท�ำธุรกิจ คือ ต้องมีโฟกัส เป้าหมาย แผนงาน และต้องมีความอดทน ความโดดเด่นของ DOTS Consultancy ที่ท�ำให้ แตกต่างจากคนอื่น คือ จะต้องอัพเดทบล็อกทุกวัน สร้างความต่อเนื่องตลอดเวลา โดยการเขียนเนื้อหาใหม่ทั้งหมด ไม่ แปลมาจากที่อื่น ทุกอย่างมาจากความคิดของตนเอง

27 การตลาดออนไลน์ เปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมคน หน้าที่ของการตลาดต้องไขให้ออกว่าคนอยู่ในภาวะไหน แล้วเรา จะเข้าถึงได้อย่างไร การตลาดเปลี่ยนเพราะคนเปลี่ยน ทุกคนที่ท�ำธุรกิจต้องมองให้ออก คนเปลี่ยนธุรกิจต้องปรับตาม คุณธนบูรณ์ สมบูรณ์ กล่าวว่า CreativeMOVE เป็นองค์กรที่เชื่อว่า ความคิดสร้างสรรค์ งานออกแบบ และศิลปะ สามารถเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้นได้ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการขับเคลื่อนสังคม ในการท�ำงานให้ลูกค้า CreativeMove ใช้ 3 กลุ่มในการท�ำงานเพื่อลูกค้า ได้แก่ 1) เครือข่ายศิลปินและนักออกแบบแนวสร้างสรรค์ ในเว็บไซต์ portfolios.net 2) เครือข่ายอาสาสมัครฟื้นฟูประเทศไทย และ 3) กลุ่มองค์กรภาคสังคมและบริษัทที่ต้องการท�ำ CSR องค์กรต่างๆที่มีงบ ประมาณในการท�ำงานเพื่อสังคม แต่ยังไม่มีแนวคิดการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ จึงจัดตั้ง CreativeMove ขึ้นมาเพื่อ เชื่อมโยง 3 กลุ่มเข้าด้วยกัน สิ่งที่ CreativeMove ด�ำเนินการมี 3 อย่าง คือ 1) ออกแบบนวัตกรรม โดยพัฒนาออกแบบ สินค้าและบริการ พัฒนาโครงการเพื่อสังคม ออกแบบกิจกรรม CSR ให้บริษัทต่างๆ 2) การสื่อสาร CreativeMove จะมีการศึกษาวิจัยว่าสื่อตัวไหนที่เหมาะสมกับงานลูกค้า 3) Creative Citizen คือการผลักดันนักสร้างสรรค์ให้ลุกขึ้น มาท�ำงานเพื่อสังคม โดยการเขียนบล็อกเกี่ยวกับการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการท�ำงานเพื่อสังคมจากทั่วโลก พัฒนา ศักยภาพโดยการจัดอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร ผลักดันให้นกั สร้างสรรค์ท�ำโครงการเพือ่ สังคม ตัวอย่างงานทีไ่ ด้เคยท�ำ เช่น ถีบ ฉันท�ำไม สวนบ�ำบัดเพื่อเด็กพิการ “แสนดี” เตาพลังงานชีวมวล Green hope learning center CreativeMove ใช้การตลาดออนไลน์ในการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มคน เริ่มต้นโดยการเขียนบล็อกเนื้อหาเกี่ยวกับการท�ำ กิจกรรมทางสังคมจากทั่วโลก 600 เรื่อง/ปี ส่งผลให้คนรู้จักบริษัทโดยที่ไม่ต้องซื้อสื่อเลย ในขณะเดียวกันผลจากการ เขียนบล็อกท�ำให้คนเห็นว่าบริษัทเข้าใจนวัตกรรมสังคมลูกค้าจะเดินเข้ามาเรื่อยๆ Turning point ที่ท�ำให้เกิด CreativeMove ขึ้นมาคือ แรกเริ่มท�ำ Portfolio.Net ขึ้นมาก่อน แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติน�้ำท่วม ได้ยา้ ยไปอยูท่ พี่ ทั ยาท�ำงานเป็นอาสาสมัครในการรวบรวมและเรียบเรียงข่าวเกีย่ วกับอาสาสมัคร และไม่ได้ดแู ลธุรกิจของ Portfolio.Net จึงคิดว่าจะท�ำอย่างไรถึงจะช่วยเหลืออาสาสมัครได้อย่างยัง่ ยืนจึงตัง้ CreativeMove ขึน้ มาเพือ่ เชือ่ มโยง นักออกแบบ อาสาสมัคร และแหล่งเงินทุนเข้าด้วยกัน และปัจจัยแห่งความส�ำเร็จคือ การมีจดุ เน้นและเป้าหมายทีช่ ดั เจน มุ่งไปสู่จุดนั้น ทีมงานที่ดี การเปิดใจยอมรับปัญหาและหาหนทางแก้ ดิจิทัลท�ำให้งานสังคมขับเคลื่อนไปได้ดีมากขึ้น ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่ถ้างานภาคสังคมปรับใช้ ดิจิทัลมากขึ้นจะท�ำให้เกิดอิมแพคและเกิดประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนสังคมมากขึ้น คุณวรัทธน์ วงศ์มณีกิจ จากบริษัท ZocialRipple กล่าวว่าแนวคิดการตั้งบริษัทเกิดจาก 3 เหตุผล คือ 1) บริษัทเดิม ท�ำงานเกีย่ วกับการวิเคราะห์ขอ้ มูลบน Social network 2) ได้พบกองทุนหนึง่ ของรัฐบาลของประเทศสิงค์โปรสนับสนุน ผู้ประกอบการ Startup 3) มีหุ้นส่วนเป็นชาวสิงค์โปรถือหุ้นไม่ต�่ำกว่า 20% จึงเปิดบริษัท ZocialRipple ขึ้นที่ประเทศ สิงค์โปร์ โดยความตัง้ ใจเดิมท�ำขึน้ มาเพือ่ แก้ปญ ั หาการควบคุมราคาค่าจ้างคนทีม่ อี ทิ ธิพลบนโลกออนไลน์ (influencers) เพือ่ โพสข้อความบนอินเตอร์เน็ต พฤติกรรมของคนส่วนใหญ่บนอินเตอร์เน็ตมักจะเชือ่ การโพสข้อความจากเพือ่ นกันเอง มากกว่าการเชือ่ โฆษณาจากแบรนด์สนิ ค้าโดยตรง แต่ influencers จริงๆนัน้ มีจ�ำนวนแค่ 2% ของคนทีโ่ พสทัง้ หมด จึงเกิด แนวคิดว่าควรมุง่ เน้นไปทีค่ น 98% มากกว่า influencers อีกทัง้ ส่วนใหญ่ปจั จุบนั จะมีแคมเปญในการแชร์เพือ่ ทีแ่ จกของ รางวัลต่างๆ มีความยุ่งยาก ทางบริษัทจึงคิดท�ำเครื่องมือส�ำหรับท�ำ Micro influencers platform ซึ่งมีทั้ง platform ที่ ให้คนสามารถดาวน์โหลดลงบนมือถือ และ platform ส�ำหรับบริษทั เพือ่ ใช้ส�ำหรับท�ำแคมเปญการประชาสัมพันธ์แบรนด์ ที่ไม่ยุ่งยาก ปัจจุบันบริษัทย้ายกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยเนื่องจากนักลงทุนสนใจลงทุนในประเทศไทยมากกว่า

28 Turning point คือ ปัญหาและอุปสรรคทีเ่ กิดจากการเรียนจบทางด้านการบริหารธุรกิจแต่ท�ำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ เมื่อไปท�ำงานที่สิงค์โปรได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านการท�ำธุรกิจ ประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจยังน้อย ไม่มีความรู้ ด้านกฎหมายของประเทศสิงค์โปร ท�ำให้เหนือ่ ยและท้อ สุดท้ายกลับมาทางด้านการเป็นโปรแกรมเมอร์ ปัจจัยแห่งความ ส�ำเร็จ คือ ต้องใช้เวลากับสิ่งนั้นเยอะๆ สภาพแวดล้อมก็ส่วนส�ำคัญ และตนเองต้องอดทน รูปแบบการท�ำการตลาดออนไลน์ในอนาคต ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนคือ ดิจิทัลและเทคโนโลยีจะแทนที่ สิ่งที่เราท�ำมานาน บางอาชีพที่จะหายไป เปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์พื้นฐาน เราต้องตามมันให้ทัน วิ่งให้เร็วให้ใกล้ที่สุด