CITY MAGAZINE
FREE
WEEKLY
WWW.247FREEMAG.COM
MAGAZINE OF THE GM Group VOL.10 NO.312 3 - 9 NOVEMBER 2016
02 - 24 7
เสียงเพลงจากใจ ส่งไปถึงพ่อหลวง cover story Text: กาญจนา เตชาวัฒนากูล Photo: ทีมช่างภาพ 24 7
ท่ามกลางบรรยากาศที่ยังคงโศกาอาดูรจากการสูญเสีย ครัง้ ยิง่ ใหญ่ของคนไทยทัง้ ชาติ แต่ยงั มีเหตุการณ์หนึง่ ทีช่ วน ให้เกิดความปลื้มปีติและประทับใจที่ได้เห็นคนนับแสนจาก ทั่ ว ประเทศเดิ น ทางมารวมตั ว กั น ในที่ เ ดี ย วและเพื่ อ วัตถุประสงค์เดียวกัน คือ ‘ร้องเพลงให้พอ่ ฟัง’ วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ถือเป็นวันที่น่า จดจ�าอีกวันหนึ่ง เมื่อคนไทยจ�านวนนับแสนหลั่งไหลมา รวมตั ว กั น ณ บริ เ วณท้ อ งสนามหลวง หน้ า พระบรม มหาราชวัง เพือ่ ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี น้อมร�าลึก ถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ และร่วมแสดงความไว้อาลัยถวายแด่ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร กิจกรรมการรวมตัวเพื่อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ในครัง้ นี้ เกิดจากแนวคิดของสองศิลปินไทยคนส�าคัญจากสอง สาขาวิชาชีพ คือ ท่านมุย้ - หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ผูก้ า� กับ ภาพยนตร์ และอาจารย์สมเถา สุจริตกุล วาทยกร คีตกร และ นักประพันธ์เพลงคลาสสิก ซึง่ ท่านมุย้ ได้ทรงด�าริทจี่ ะถ่ายท�า ภาพยนตร์เพลงสรรเสริญพระบารมีเวอร์ชนั่ ใหม่ ทีเ่ ปิดโอกาส ให้คนไทยได้รว่ มกันร้องเพลงถวายพ่อหลวง และน�าไปฉาย ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ รวมถึงสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง โดยท่านมุย้ ได้รบั หน้าทีใ่ นการก�ากับดูแลการถ่ายท�าและการ ตัดต่อ ส่วน อ.สมเถา เป็นผูด้ แู ลด้านเพลงและควบคุมการร้อง เพลงสรรเสริญพระบารมีในวันจริง 24 7 - 03
04 - 24 7
“แต่มันเป็นการสอนให้ทุกคนฟังซึ่งกันและกัน คนกว่าแสนชีวิตไม่สามารถเห็นการ คอนดักต์ของเราได้หมด เราก็ต้องขอให้เขาฟังกัน จากการที่คนร่วมกันฟังคนอื่น มันก็จะมี ความสามัคคีขึ้นมาได้ จริงๆ แล้วเป็นบทเรียนอันหนึ่งส�าหรับประเทศด้วย เพราะว่าปัญหา ทุกอย่างทีเ่ กิดขึน้ มาในสังคมเราทุกวันนี ้ เกิดจากคนไม่ฟงั กัน แต่ในการแสดงดนตรีทกุ คน ต้องฟังกันเอง ถึงจะมีสิ่งที่สวยงามเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าคนเป็นแสนไม่มีประสบการณ์แบบ นีแ้ น่ๆ เป็นสิง่ ทีเ่ ราต้องเสีย่ ง แต่ในทีส่ ดุ พอทุกคนลองฟังกันเองมันก็ออกมาได้เป็นอย่างดี” ปัจจุบัน การขับร้องเพลงชาติหรือเพลงประจ�าถิ่น ที่มีจ�านวนผู้เข้าร้องมากที่สุด และ ได้รบั การบันทึกลงใน Guinness Book of World Records คือทีป่ ระเทศบังกลาเทศ ซึง่ มีผรู้ ว่ ม ขับร้องประมาณ 250,000 คน แต่เหตุการณ์ครัง้ นีถ้ อื เป็นบันทึกหน้าหนึง่ ของประวัตศิ าสตร์ ไทย และอาจจะกลายเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลกด้วย เพราะประมาณการกันว่า ตลอดทั้งวันมีผู้มาร่วมร้องเพลงมากถึง 3.7 แสนคน หากตัวเลขดังกล่าวได้รับการรับรอง อย่างเป็นทางการจากรัฐบาล และน�าเสนอไปบันทึกสถิติโลกกับ Guinness Book of World Records ต่อไป
ภาพ : เอก สร.๑
อ.สมเถา ได้เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของกิจกรรมนี้ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและใช้เวลาเตรียม การเพียงไม่กี่วันก่อนถึงวันจริง “จุดเริ่มต้นคือ ท่านมุ้ยได้มีโอกาสชมคลิปวิดีโอจากยูทูบของงาน คอนเสิร์ตช่วงปีใหม่ ที่ผมจัดและเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมฟรีเป็นประจ�าทุกปี และในการแสดง ยังได้ชวนคนดูมาร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีดว้ ยกัน เพราะอยากให้คนทีม่ าดูดนตรีคลาสสิก ไม่ได้แค่มานั่งดูกันเฉยๆ แต่มีส่วนร่วมกับเราด้วย” “คลิปนี้มีคนเข้าไปชมและถูกแชร์ออกไปเยอะมาก จากนั้นท่านมุ้ยก็โทรศัพท์มาหาผม จะขอเอาคลิปนี้มาใช้ ซึ่งผมได้อนุญาตแล้ว แต่คุณภาพของภาพและเสียงของคลิปยังไม่เพียงพอ ท่านมุ้ยเลยคิดขึ้นมาว่า ท�าไมเราถึงไม่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาใหม่ และใช้โอกาสที่ชาวไทยมารวมอยู่ใน สถานที่เดียวกันเพื่อแสดงความรู้สึกที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยให้วงดุริยางค์มาบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมกับให้ประชาชนมาร่วมร้องในพื้นที่ ที่มันกว้างใหญ่มากขึ้น ก็คือที่ท้องสนามหลวง ซึ่งจะกลายเป็นการร้องเพลงครั้งประวัติศาสตร์ ของพวกเรา ผมก็เลยตอบตกลงและยินดีท�า” อ.สมเถา ยังได้เล่าต่อถึงการเตรียมงาน ซึง่ มีหลายส่วนทีต่ อ้ งเตรียมการทัง้ ในด้านของเพลง จ�านวนคน และเวลาที่ค่อนข้างจ�ากัด โดยจะใช้นักร้องประสานเสียงและวงดุริยางค์ สยาม ฟิลฮาโมนิกออร์เคสตรา (The Siam Philharmonic Orchestra) มาน�าการร้องเพลง เพื่อให้ คนทัว่ ไปสามารถร้องตามและมีระเบียบในการจัดการมากขึน้ ซึง่ ปกติแล้วในเวลาคอนเสิรต์ แต่ละครัง้ จะใช้นักดนตรีประมาณ 70 คน แต่พอเริ่มเรียกนักดนตรีที่อยู่ในเครือข่าย กลับมีคนสมัครใจ เข้าร่วมถึง 200 คน และยังมีทมี นักร้องประสานเสียงอีกกว่า 150 คน ท�าให้ตอ้ งเรียบเรียงบทเพลงใหม่ เพือ่ รองรับจ�านวนคนและเครือ่ งดนตรีทมี่ ากขึน้ โดยมีเวลาเพียง 3 วัน แต่อาจารย์บอกว่าเป็นการ น�าของเดิมที่เคยท�าไว้แล้วมาปรับ ซึ่งนักดนตรีและนักร้องค่อนข้างคุ้นเคยกับเพลงสรรเสริญ พระบารมีเวอร์ชั่นนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่มาจูนเข้าหากัน จึงไม่มีปัญหาในการซ้อมมากนัก อ.สมเถาอธิบายถึงดนตรีที่เรียบเรียงขึ้นใหม่ว่า “วิธีที่ผมจะสื่อในคราวนี้ คืออยากให้ การแสดงครั้งนี้คล้ายกับรวมเอาประวัติศาสตร์ของเราใน 70 ปีที่ผ่านมา สรุปเข้ามาไว้ใน 2 นาที เพลงเริ่ ม จากโน้ ต เดี ย ว ทุ ก คนร้ อ งโน้ ต เดี ย วกั น หมดแล้ ว ค่ อ ยๆ ขยายจนเสี ย งมั น เต็ ม เหมือนน�้าจากหยดเล็กๆ แต่ไหลไม่หยุด และไหลไปรวมกัน จนกลายเป็นล�าธารและไหลลงไป ในแม่น�้า ไปสู่มหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ นี่คือความรู้สึก 70 ปีที่ผ่านมาของประเทศไทย” ในส่วนของทีมงานถ่ายท�า ท่านมุ้ยเผยว่าทางทีมใช้กล้องประมาณ 50 ตัว แต่ยังมีส่วนของ อาสาสมัครเข้ามาอีก ท�าให้มีกล้องไม่ต�่ากว่า 60 ตัว เครน 2 ตัว และทีมงานอีกกว่า 1,300 ชีวิต ไม่รวมภาพนิ่ง ทีมอาหาร อาสาสมัคร และทีมซาวนด์ แต่กิจกรรมใหญ่ขนาดนี้ ท่านมุ้ยบอกว่า “ไม่ได้เสียเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ทุกคนร่วมใจกันมาเอง ผมเองก็ไม่ได้ขอความสนับสนุนจากภาค รัฐเลย ไม่เคยขอสปอนเซอร์จากใคร ตรงนีค้ อื งานของประชาชนทุกคน ดาราศิลปินจากแต่ละค่าย สื่อจากทุกส�านักพร้อมใจกันมาโดยไม่แบ่งช่องแบ่งค่าย” ตามก�าหนดการ กิจกรรมจะเริ่มต้นจริงบ่ายโมงตรงเป็นต้นไป และยาวไปถึงช่วงกลางคืน แต่เมื่อถึงวันจริงปรากฏว่ามีผู้คนจ�านวนมากมารอจนแน่นสนามหลวงตั้งแต่ช่วงเช้า และยิ่งใกล้ ถึงเวลาเริ่มร้องเพลง ยิ่งมีประชาชนเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระจายไปทั่วท้องถนน ที่ล้อมรอบสนามหลวง โดยไม่หวั่นแม้ว่าจะแดดร้อนขนาดไหน ท�าเอาทั้งท่านมุ้ย และ อ.สมเถา ถึงกับน�้าตาซึมด้วยความปลาบปลื้มที่มีคนสนใจเข้าร่วมมากขนาดนี้ “ผมรู้สึกไม่เชื่อเลยว่าจะมีวันนี้ จะมีคนมาได้มากมายขนาดนี้ และเราจะถ่ายกันไปเรื่อยๆ จนถึงตอนเย็นเลยครับ เพราะช่วงเย็นเราจะให้ทกุ คนจุดเทียนเหมือนกับเป็นดวงตาล้านดวง และ ให้เห็นว่าทัง้ หมดนีค้ อื ประชาชน การเตรียมงานก็ไม่ยากเลยครับ เป็นสิง่ ทีง่ า่ ยทีส่ ดุ จนผมเองก็ไม่ อยากเชื่อว่าจะมีคนมาช่วยกันมากมายขนาดนี้ ทุกคนทุกค่ายช่วยกันไม่มีการแบ่งแยก” ท่านมุ้ย เผยความรู้สึก ในการถ่ายท�าจะแบ่งออกเป็นช่วงหลักๆ 2 ช่วง คือช่วงบ่าย และช่วงกลางคืน โดยช่วงบ่ายมี วงดุรยิ างค์เล่นเพลงประกอบ สว่ นกลางคืนเป็นเพลงบรรเลง แต่มกี ารจุดเทียนเสริมเข้ามา ซงึ่ พวกเรา ส่วนใหญ่คงได้รบั ชมภาพความประทับใจของผูค้ นจ�านวนมากทีม่ าอยูร่ วมกัน และแสดงความรูส้ กึ ผ่านทางแววตา ท่าทาง และเสียงร้องที่ดังก้องกังวานไปทั่ว ความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้ไม่อาจก�ากับหรือควบคุมในการแสดงออกได้ แต่เป็นสิ่งที่สะท้อน ออกมาจากใจอย่างแท้จริง และนี่คงเป็นประวัติศาสตร์ครั้งส�าคัญครั้งหนึ่งที่เราได้เห็นความรัก ของคนไทยทีม่ ตี อ่ พระมหากษัตริย ์ และแม้องค์พอ่ หลวงจะเสด็จสูส่ รรคาลัยแล้ว แต่ทา่ นยังคงเป็น ศูนย์รวมจิตใจและความสามัคคีของคนในชาติที่จะมาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ หลังจากนี้ ก็เข้าสู่กระบวนการตัดต่อ และน�าออกฉาย ซึ่งท่านมุ้ยคาดว่าจะเริ่มออกฉายได้ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม อ.สมเถายังได้เผยความรู้สึกในการท�างานและถือเป็นข้อสรุป ทีน่ า่ สนใจของกิจกรรมนี ้ ทีไ่ ด้รวมใจของคนไทยเป็นหนึง่ เดียวเอาไว้วา่ การก�ากับเพลงและท�างาน กับคนแสนกว่าคน มันไม่ใช่เป็นการน�าของเราอย่างเดียว 24 7 - 05
ภาพ : เอก สร.๑
ภาพ : เอก สร.๑
Did You Know ? คุณรูจ้ กั เพลงสรรเสริญพระบารมีมากแค่ไหน ?
06 - 24 7
• การตามรอยประวัติความเป็นมาของเพลงสรรเสริญ พระบารมี ยังคงท้าทายความสามารถนักประวัตศิ าสตร์มาจวบ จนทุกวันนี้ เพราะแต่ละข้อมูลมักไม่ปรากฏแน่ชดั เป็นเพียง แต่การคาดคะเนและวิเคราะห์ตามหลักฐานบางอย่างทีค่ น้ พบ • เรื่องราวของเพลงสรรเสริญพระบารมีเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัย กรุงศรีอยุธยา ซึ่งปรากฏหลักฐานว่ามีการใช้เพลงบรรเลง เพื่ อ พระเกี ย รติ ย ศของพระมหากษั ต ริ ย ์ ใช้ ชื่ อ ว่ า เพลง ‘สรรเสริญนารายณ์’ และบางต�าราก็บอกว่าเป็นเพลง ‘เสด็จ ออกขุนนาง’ • เพลงสรรเสริญพระบารมีมาปรากฏเรือ่ งราวอีกครัง้ ในสมัย รัชกาลที่ 4 โดยมีเค้าโครงมาจากเพลง God Save The King หรือ God Save The Queen ซึง่ เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงชาติของสหราชอาณาจักร เปลีย่ นแปลงเนือ้ ร้องใหม่ ให้เป็นแบบไทย โดย พระยาศรีสนุ ทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) มีชอื่ เพลงว่า ‘จอมราชจงเจริญ’ และในยุคนีเ้ องที่ เพลงสรรเสริญพระบารมีในบ้านเรากระท�าหน้าทีม่ ากกว่าแค่ เพลงของพระราชา หากแต่ยงั เป็นเพลงประจ�าชาติของไทย • พอเข้าสูส่ มัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชด�าริให้ครูดนตรีไทยแต่งเพลง รับเสด็จฯ แทน God Save The King เพือ่ ไม่ให้ซา�้ ทางเพลง ของชาติอนื่ เป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้บา้ นเมือง จากนัน้
เพลงสรรเสริญพระบารมีก็มีพัฒนาการเรื่อยมา จนมา เป็ น เพลงสรรเสริ ญ พระบารมี ที่ คุ ้ น หู ใ นปั จ จุ บั น โดยมี พระประดิษฐไพเราะ (มี ดุรยิ างกูร) เป็นผูป้ ระพันธ์ทา� นอง ทางไทยเอาไว้เมือ่ ปี พ.ศ. 2416 ส่วนผูป้ ระพันธ์ทา� นองดนตรี ตะวันตกยังคงเป็นข้อถกเถียง บ้างก็ว่าเป็นนักแต่งเพลง ชาวรัสเซีย ปโยตร์ ชูรอฟสกี้ (Pyotr Schurovsky) บ้างก็วา่ เป็นนักดนตรีชาวฮอลันดา ชือ่ เฮวุดเซน (Heutsen) ส�าหรับ ค�าร้องที่เราร้องกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นพระนิพนธ์ใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยา นริศรานุวดั ติวงศ์ โดยมีวตั ถุประสงค์แรกเพือ่ ใช้ในพระราชพิธี ลงสรงของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรณ ุ หิศ สยามมกุฎราชกุมาร • ทว่า ได้มกี ารปรับเปลีย่ นค�าร้องบางท่อนอีกครัง้ ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั โดยพระองค์ทรง เป็นผูเ้ ปลีย่ นค�าร้องท่อนสุดท้าย จากค�าว่า ฉะนี้ เป็น ชโย ซึง่ แผลงมาจาก ไชโย และ ชย ทัง้ นี้ ก็เพือ่ ให้ความหมาย อันเป็นมงคลและความไพเราะยังคงอยู่ เนือ่ งจากค�าร้องเดิม ว่า ฉะนี้ มักท�าให้ผรู้ อ้ งออกเสียงเพีย้ นเป็นค�าว่า ชะนี • เพลงสรรเสริญพระบารมีได้รับการบันทึกเสียงครั้งแรก เมือ่ ปี พ.ศ. 2443 ณ กรุงเบอร์ลนิ โดยเป็นการบันทึกบน กระบอกเสียงไขขีผ้ งึ้ เอดิสนั บันทึกเสียงโดย ดร.คาร์ล สตุม๊ ฟ์
ภาพ : เอก สร.๑
“ผมรู ้ สึ ก ไม่ เ ชื่ อ เลยว่ า จะมี วั น นี้ . .. การ เตรียมงานก็ไม่ยากเลยครับ เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด จนผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนมาช่วย กันมากมายขนาดนี้ ทุกคนทุกค่ายช่วยกัน ไม่มีการแบ่งแยก” - ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล -
“ปั ญ หาทุ ก อย่ า งที่ เ กิ ด ขึ้ น ในสั ง คมเรา ทุกวันนี้ เพราะคนไม่ฟังกัน แต่ในการแสดง ดนตรี ทุ ก คนต้ อ งฟั ง กั น เอง ถึ ง จะมี สิ่ ง ที่ สวยงามเกิดขึ้นได้” และบรรเลงโดยคณะดนตรีของนายบุศย์มหินทร์ เสียงร้อง โดยแม่ปุ่นและแม่แป้น ในแผ่นเสียงปาเต๊ะร่องกลับของ บริษทั ปาเต๊ะ ประเทศฝรัง่ เศส เพือ่ ส่งแตรวงกรมทหารราบ ที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เมือ่ พ.ศ. 2450 • มีขอ้ มูลบอกว่า ประเทศไทยเมือ่ ครัง้ ยังเป็นประเทศสยาม เคยใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีเวอร์ชนั่ ปัจจุบนั เป็นเพลงชาติ อยูน่ านถึง 44 ปี (ระหว่างปี พ.ศ. 2431-2475) แต่หลังจาก เปลีย่ นแปลงการปกครองได้เกิดเพลงชาติไทยขึน้ ส่วนเพลง สรรเสริญพระบารมีกย็ งั ถูกใช้ในฐานะของเพลงถวายความ เคารพพระมหากษัตริย์ • ค�าร้องของเพลงสรรเสริญพระบารมียังมีอีกหนึ่งเวอร์ชั่น ทีส่ า� คัญ คือ ส�านวนพระนิพนธ์ในพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตร อุดมศักดิ์ ซึง่ เป็นส�านวนส�าหรับทหารเรือขับร้องโดยเฉพาะ • อนึ่ง เพลงสรรเสริญพระบารมีนอกจากใช้บรรเลงเพื่อ แสดงความเคารพต่อพระมหากษัตริยต์ ามพระราชพิธตี า่ งๆ แล้ว ยังใช้ในการมหรสพต่างๆ ในประเทศไทย เช่น การฉาย ภาพยนตร์หรือการแสดงดนตรีรปู แบบต่างๆ เป็นต้น
ภาพ : เอก สร.๑
- อ.สมเถา สุจริตกุล -
24 7 - 07
สถานที่ใดในโลกนี้ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ไปประทับ อยู่นานที่สุดนอกเหนือจากประเทศไทย ที่แห่งนั้นก็คือ สวิตเซอร์แลนด์ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๖-๒๔๙๓ เป็นเวลาร่วม ๑๗ ปี ที่ทรงด เนินชีวิตในวัยเยาว์ วัยรุ่น วัยหนุ่ม จนกระทั่งเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ สวิตเซอร์แลนด์เป็นพื้นที่ที่บ่มเพาะประสบการณ์ ชีวิตแต่เยาว์วัย ให้กับพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวไทย ตลอดระยะเวลาที่เสด็จฯ ประทับอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์พร้อมกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และครอบครัวราชสกุลมหิดล เป็นช่วงปีทองอันแสนสุขที่ทรงใช้ชีวิตเยี่ยง สามัญชนและเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินไปพร้อมกัน สวิ ต เซอร์ แ ลนด์ จึ ง เป็ น เสมื อ นบ้ า นหลั ง ที่ ส อง เป็ น สถานที่ ที่ ค นไทยทุ ก คนอยาก ตามรอยทางแห่งความทรงจ ๑๗ ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๖ จนถึงวันสุดท้ายที่เสด็จนิวัต ประเทศไทย ว่ามีเรื่องราวมากมายเพียงใดเกิดขึ้นบ้าง ทุกๆ สถานที่แห่งความทรงจ นั้นอยู่ที่ไหน ปัจจุบันยังมีอยู่หรือไม่ หรือเปลี่ยนแปลงไป อย่างไร และยังมีสิ่งใดที่คงประทับอยู่ในความทรงจ ของชาวสวิสไม่รู้ลืม ตามรอยเสด็จฯ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คือสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมพ ิ ลอดุลยเดช เนือ ่ งในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ ๗๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ตลอดความยาวกว่า ๑๕๐ นาที ทีบ ่ น ั ทึกเรือ ่ งราวอันทรงคุณค่า ทั้งหมดนี้ ก หนดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ชอ ่ ง ๙ (โมเดิรน ์ ไนน์ทวี )ี เริม ่ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๐๘.๕๕ - ๐๙.๐๐ น. ทุกวัน เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ รวม ๓๐ ตอน ตอนละ ๕ นาที (ให้เสียงโดย : นิรุตติ์ ศิริจรรยา)
ร่ ว ม เ ฉ ลิ ม พ ร ะ เ กี ย ร ติ โ ด ย :
ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นแบบอย่างส�าคัญให้กับสังคมไทยในหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ผมคิดว่า ส�าคัญมากๆ มีอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือ ‘วิธีการแบบวิทยาศาสตร์’ หรือ Scientific Method หากสังเกตพระราชกรณียกิจต่างๆ ให้ดี เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า แต่ละพระราชกรณียกิจนั้น มีสิ่งที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Scientific Method แฝงเร้นอยู่เสมอ จนอาจกล่าวได้ว่า พระองค์ท่าน ทรงมีความเป็นนักวิทยาศาสตร์ในทุกเรื่อง วิธีคิดวิทยาศาสตร์แบบยุคใหม่ (อย่างที่เรียกกันว่า New Science หรือ New Scientific Method) แม้ไม่ใช่สงิ่ ใหม่ แต่กไ็ ม่ใช่สงิ่ ทีเ่ ก่าแก่ เราเคยมีวธิ คี ดิ แบบวิทยาศาสตร์ในยุคกรีกและโรมัน ไม่วา่ จะเป็นในด้านดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรือการแพทย์ แต่ศาสตร์ตา่ งๆ ในยุคนัน้ ยังขาด ‘หัวใจ’ ส�าคัญของความเป็นวิทยาศาสตร์สมัยใหม่อยู่อย่างหนึ่ง, นั่นคือการ ‘ทดลอง’ เพื่อยืนยันสมมุติฐาน วิทยาศาสตร์ยุคใหม่ที่เน้นการยืนยันผลนั้น ถือก�าเนิดขึ้นในราวศตวรรษที่ 17-18 เมื่อเริ่ม มีการทดลองเพื่อหาผลลัพธ์เชิงประจักษ์มาประกอบวิธีคิดแบบใช้ตรรกะล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นงานของ กาลิเลโอ งานของไอแซก นิวตัน หรืองานของชาร์ลส์ ดาร์วนิ เหล่านีล้ ว้ นแล้วแต่เปิดโลกใหม่ให้มนุษย์ ได้เปล่งศักยภาพทางปัญญาสูงสุด ด้วยการน�าความคิดเชิงตรรกะ การสังเกตทีล่ ะเอียดอ่อน มาผสาน เข้ากับการทดลอง จนเกิดเป็นทฤษฎีที่ไม่อาจโต้แย้งได้ในกรอบหนึ่งๆ นี่คือวิธีการแบบวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ในพระราชกรณียกิจแทบทุกอย่างของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เราจะเห็นได้ชดั เจนเลยว่า พระองค์ทา่ น ทรงใช้ฐานคิดเรื่อง ‘ความรู้’ และ ‘การทดลอง’ ในทางวิทยาศาสตร์เกือบทั้งหมด หลายเรื่องที่ดูเป็น วิทยาศาสตร์มากๆ เราจะเห็นได้ชัดเจน เช่นการทดลองเรื่องฝนเทียม การทดลองเกี่ยวกับกังหันน�้า ชัยพัฒนา การทดลองเกีย่ วกับการปลูกพืชทดแทนฝิน่ บนทีส่ งู รวมถึงอีกหลายเรือ่ งทีซ่ บั ซ้อนเกินกว่า คนทัว่ ไปจะเห็นและเข้าใจได้ถอ่ งแท้ทนั ที เช่นเรือ่ งเกีย่ วกับการจัดการน�า้ ในพืน้ ทีต่ า่ งๆ ทีส่ ลับซับซ้อน ทรงใช้ข้อมูลทั้งหลายมาประมวล ทรงคิดหาวิธีการต่างๆ และทรง ‘ทดลอง’ ทั้งในสเกลเล็กและใหญ่ เพื่อให้ได้ข้อสรุป แล้วพระราชทานข้อสรุปต่างๆ ให้ผู้ปฏิบัติงานอีกต่อหนึ่ง เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ตรงไปตรงมา จึงอาจเห็นได้ชัดเจน แต่นอกจากนี้แล้ว ยังทรง ประยุกต์ใช้ ‘วิธกี ารแบบวิทยาศาสตร์’ กับศาสตร์อนื่ ๆ อย่างบูรณาการอีกด้วย โดยเรือ่ งหนึง่ ทีผ่ มทึง่ มาก คือการที่ทรงศึกษาตัวอักษรเทวนาครี ซึ่งเป็นอักษรโบราณในอินเดีย ใช้ในการเขียนภาษาฮินดี สันสกฤต บาลี และอื่นๆ แล้วทรงประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นฟอนต์ (Font) ที่ใช้งานในคอมพิวเตอร์ อักษร เทวนาครีนั้นไม่เหมือนอักษรทั่วไป เพราะเมื่อผสมแต่ละตัวเข้าแล้ว จะเกิดเป็นตัวอักษรใหม่ขึ้นมา ท�าให้เลือ่ นไหลไม่แน่นอนได้มาก การออกแบบอักษรเทวนาครีในทางคอมพิวเตอร์จงึ เป็นเรือ่ งยากมาก แต่นนั่ แปลว่าต้องทรงศึกษาทัง้ ภาษาศาสตร์ นิรกุ ติศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และการออกแบบไปพร้อมกัน คล้ายเป็นการเชื่อมร้อยพรมแดนระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน จึงสลับซับซ้อนลึกซึ้ง อย่างยิ่ง โดยทั้งหมดนี้ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์มาเป็นฐานทั้งสิ้น วิธคี ดิ แบบวิทยาศาสตร์ คือวิธคี ดิ ทีพ่ าสังคมเดินไปข้างหน้า ผ่านการทดลองและตรวจสอบผลทีไ่ ด้ เพือ่ ทลายกรอบคิดหรือ Paradigm เดิม นัน่ คือสิง่ ทีใ่ นหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงปฏิบตั ใิ ห้เห็นเป็นตัวอย่าง มาโดยตลอด จึงถือเป็นสิ่งที่ล�้าค่ายิ่ง...ส�าหรับสังคมไทย
- โตมร ศุขปรีชา -
• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
บรรณาธิการที่ปรึกษา ณิพรรณ กุลประสูตร, โตมร ศุขปรีชา บรรณาธิการอำานวยการ อนันต์ ลือประดิษฐ์ ผูช้ ว่ ยบรรณาธิการ / LifestyLe สิรญ ิ า ใจบุญ ผูช้ ว่ ยบรรณาธิการ / features เพลงมนตรา บุบผามาศ กองบรรณาธิการ สุกฤษฏิ์ บูรณสรรค์ บรรณาธิการอำานวยการศิลปกรรม ประทีป ปัจฉิมทึก บรรณาธิการศิลปกรรม มีนรักษ์ ขัดทรายขาว ศิลปกรรม ณัฐพงษ์ กำาเนิดทิม บรรณาธิการศิลปกรรมโฆษณา สันติจิต ไวยากรณ์ กราฟิกดีไซน์ ประสิทธิ์ เอนกอนันตพันธุ์ พิสูจน์อักษร ดวงใจ เข็มแดง, ลัมภนีย์ ธรรมพากรณ์ บรรณาธิการฝ่ายภาพ ดำารงค์ฤทธิ์ สถิตดำารงธรรม หัวหน้าช่างภาพ พิชญุตม์ คชารักษ์ ฝ่ายภาพ กฤตพล วิทย์วอ่ งไว, กฤตธี อ้วนอร่ามวิไล ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา / การตลาด สุขฤทัย เอนกวศินชัย ฝ่ายโฆษณา / การตลาด รังสิพรรณ พุกจรูญ, พิณชยาน์ สิรทิ วีสทิ ธิ,์ พิชชาณันท์ นิธกิ รณ์จริ โชติ เลขานุการฝ่ายโฆษณาและกองบรรณาธิการ กวินพิตรา บุรานนท์ ผูจ้ ดั การทัว่ ไป ภานุวชั ร พงศ์วราภา รองผูจ้ ดั การฝ่ายพัฒนาการตลาด กานต์ชนก มูณเี กิด หัวหน้างานธุรการ สมประสงค์ แสนจอม ผูจ้ ดั การฝ่ายการเงิน วิมลลักษณ์ อาศัยพานิชย์ ผูจ้ ดั การฝ่ายบัญชี ณิชาภา บุพรานนท์ หัวหน้าฝ่ายบัญชี ปราณีวรรณ ตระการพฤกษ์ ฝ่ายบัญชี นุชนารถ ใจประสาท, ขนิษฐา รักษ์ศิริ ผู้จัดการฝ่ายผลิต อุดมทรัพย์ ก๋องชัย บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : พีศิลป์ พงศ์วราภา
บริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำากัด (มหาชน) อาคาร GM Group 914 ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสติ กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ : 02 241 8000 แฟกซ์ : 02 241 8008 แฟกซ์ฝา่ ยโฆษณา : 02 241 6886 แฟกซ์กองบรรณาธิการ : 02 241 2333 E-mail : freemag.247@gmail.com ประธานกรรมการบริหาร / กรรมการผู้จัดการ : ปกรณ์ พงศ์วราภา รองประธานกรรมการบริหาร สายงานการเงิน : พรจิตต์ พงศ์วราภา สายงานพัฒนาธุรกิจ : ฤทธิณรงค์ กุลประสูตร สายงานการตลาด : สืบวงศ์ แก้วทิพรัตน์ สายงานนิวมีเดีย : พีศิลป์ พงศ์วราภา GM MULTIMEDIA GroUp pUBLIC CoMpANY LIMITED 24 7 oFFICE : GM Group BLDG., 914 RAMA 5 RD., DUSIT, BANGKOK 10300 THAILAND TEL. : (+66) 2241 8000 FAX : (+66) 2241 8008
www.gmgroup.in.th, www.247freemag.com
CHAIrMAN / CEo : PAKORN Pongvarapa EXECUTIVE VICE prESIDENT : PORNJITT Pongvarapa : FINANCE RITNARONG Kulprasoot : BUSINESS DEVELopMENT SUEBWONG Kaewthipharat : MArKETING PEESILP Pongvarapa : NEW MEDIA 24 7 GroUp EDITorS : NIPHAN Kulprasoot, TOMORN Sookprecha, ANANT Lerpradit GENErAL MANAGEr : PANUWAT Pongvarapa EXECUTIVE ArT DIrECTor : PRATEEP Patchimtuck ArT DIrECTor : MEENRUK Khadzaikhow ADVErTISING & MArKETING MANAGEr : SUKRUETHAI Anekwasinchai
U p d at e s & a c t i v i t i e s • t r e n d & ta s t e • t r av e l & l e i s U r e • e at & d r i n k • l i v i n g & M o r e
ในหลวง
VIsIT OuR WWW.247FREEmag.cOm
WHERE TO FIND COFFEE
& BAKERY
SHOPPING MALL
HOSPITAL
OTHERS
เชียงราย ร้านกาแฟ ดอยตุง ท่าอากาศยาน แม่ฟ้าหลวง
เชียงใหม่ สตาร์บัคส์ เซ็นทรัล แอร์พอร์ต สตาร์บัคส์ นิมมานเหมินทร์ สตาร์บัคส์ เชียงใหม่ท่าแพ สตาร์บัคส์ กาดฝรั่ง วิลเลจ สตาร์บัคส์ เซ็นทรัลพลาซา กาดสวนแก้ว แบล็คแคนยอน โรงพยาบาล มหาราช
เขาใหญ่ สตาร์บัคส์ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท
BEAUTY &SPA
ขอนแก่น สตาร์บัคส์ เซ็นทรัลพลาซา
อุดรธานี สตาร์บัคส์ เซ็นทรัลพลาซา
บุรรี มั ย์ แบล็คแคนยอน นางรอง
สระบุรี แบล็คแคนยอน โรบินสัน
อยุธยา สตาร์บัคส์ อยุธยาซิตี้ ปาร์ค สตาร์บัคส์ นิคมมินิ แฟคทอรี่ ฟาสท์แฟค (วังน้อย)
นครปฐม แบล็คแคนยอน เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา
สมุทรสาคร สตาร์บัคส์ พอร์โตชิโน่
HOTEL
พัทยา เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช
หัวหิน สตาร์บัคส์ (ใกล้หอนาฬิกา) สตาร์บัคส์ หัวหิน มาร์เก็ต วิลเลจ
สมุย สตาร์บัคส์ เซ็นทรัลเฟสติวัล
หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี แบล็คแคนยอน เซ็นทรัลพลาซา ดาวน์โหลด E-Magazine ในเครือ GMG ในรูปแบบเวอร์ชนั Interactive ได้ที่ App Store หรือเวอร์ชนั ปกติผา่ นแอพฯ แผงหนังสือออนไลน์ชนั้ น�าและ TrueBook, Dtac, BookSmile, Bookdose, NaiinPann
สตาร์บัคส์ เซ็นทรัลเฟสติวัล
ภูเก็ต สตาร์บัคส์ เซ็นทรัลเฟสติวัล สตาร์บัคส์ จังซีลอน ป่าตอง
ชื่อภาพ : องค์พ่อหลวง ศิลปิน : สุวิทย์ ใจป้อม
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รำาลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า คณะผูบ้ ริหารและพนักงาน บริษทั เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำากัด (มหาชน) และบริษทั ในเครือเอ็กซอนโมบิลในประเทศไทย
Text: สุกฤษฏิ์
In the footstep of our beloved late KIng bhumIbol ตามรอยเบือ้ งพระยุคลบาทขณะทรงพระเยาว์ แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช
ตลอดช่วงพระชนมพรรษา ๘๙ พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ผู้เป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระราชหฤทัย เพื่อพสกนิกรของพระองค์มาอย่างต่อเนื่องโดยมิทรงเหน็ดเหนื่อย แต่กระนั้นในช่วงพระชนมพรรษา ๑๗ พรรษาแรก พระองค์ทรงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ทรงพระเกษมส�าราญเฉกเช่นสามัญชน พร้อมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อานันทมหิดล, สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย และสมเด็จพระเจ้าพีน่ างเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวฒ ั นา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทีเ่ มืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และสถานทีอ่ นื่ ๆ ในภูมภิ าคยุโรป ตามแต่โอกาสจะอ�านวย แม้จะเป็นระยะเวลาสัน้ ๆ แต่มคี วามส�าคัญต่อพระองค์ไม่แพ้ชว่ งใดๆ ในโอกาสนี้ เราขอเชิญชวนคุณผู้อ่าน ร่วมเดินทาง ‘ย้อนรอย’ ไปยังสถานที่เล็กๆ ตลอดช่วงพระชนม์ชีพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เพือ่ เรียนรูจ้ ดุ เริม่ ต้นของ ‘พ่อแห่งแผ่นดิน’ ในแง่มมุ ต่างๆ ทีน่ า่ สนใจ
arosa KuLM hoTeL, arosa
เมือ่ พูดถึงสวิตเซอร์แลนด์กอ็ ดไม่ได้ทจี่ ะนึกถึงภูเขาหิมะ ทิวทัศน์อนั สวยงาม กีฬาสกี ซึง่ ช่วงทรง พระเยาว์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดลนัน้ มักจะเสด็จพระราชด�าเนินยังเมือง Arosa และเข้าพักทีโ่ รงแรม Arosa Kulm Hotel หนึง่ ในสถานทีพ่ กั อันเก่าแก่ลา� ดับต้นๆ ของเมือง มีจดุ เด่นด้านทัศนียภาพของเทือกเขา Arosa ทีส่ วยงาม อากาศเย็นสบาย และผูค้ นทีเ่ ป็นมิตร ทัง้ นีโ้ รงแรม Arosa Kulm ยังคงเปิดให้บริการแก่นกั ท่องเทีย่ วและผูเ้ ดินทาง จนถึงปัจจุบัน ด้วยการตกแต่งพื้นผิวด้านนอกจากวัสดุไม้ ภายในให้ความรู้สึกผ่อนคลายด้วยการตกแต่ง แสนอบอุน่
Trivia • เมือง Arosa นัน้ ได้รบั ความสนใจอย่างมากในช่วงปลายศตวรรษที่ ๑๙ จากการที่ Sir Arthur Conan Doyle นักประพันธ์ชอื่ ดังผูแ้ ต่งซีรสี ์ Sherlock Holmes นัน้ ชอบทีจ่ ะมาเล่นสกีเป็นประจ�า รวมถึงบันทึกเรือ่ งราวการเดินทางผ่านการเล่นสกีของตนเองใน The Strand ปี ๑๘๙๔ ซึง่ ดึงดูด ชาวอังกฤษให้เข้ามาทีส่ วิตเซอร์แลนด์ในภายหลัง รวมถึงการที่ Erwin SchrÖdinger นักวิทยาศาสตร์ คนส�าคัญ ทีค่ ดิ ค้นกฎแห่งแรงคลืน่ (Wave Mechanics) ทีเ่ มือง Arosa ปี ๑๙๒๖
12 - 24 7
Maurice eT Pierre FoeTisch sa., Lausanne เป็นทีท่ ราบกันดีวา่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้าน ดนตรี โดยเฉพาะแซกโซโฟน อันเป็นทีป่ ระจักษ์แก่ปวงชนชาวไทยและนานาอารยประเทศอย่าง มากมาย ซึง่ จุดเริม่ ต้นพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของพระองค์นนั้ เกิดขึน้ จากร้านเครือ่ งดนตรี เล็กๆ ทีช่ อื่ Maurice et Pierre Foetisch SA. ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทีพ่ ระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ จะทรงจักรยานไปเรียนดนตรีหลังเลิกเรียนวันละครึง่ ชัว่ โมงเป็นประจ�า ปัจจุบนั ร้าน Maurice et Pierre Foetisch SA. ยังคงเปิดกิจการอยู่ รับช่วงโดยทายาทรุน่ ทีส่ าม และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ มาทีเ่ ครือ่ งเสียง และ Home Entertainment แต่ยงั มีแผ่นเสียงหายากให้เลือกซือ้ หาส�าหรับผูท้ สี่ นใจ สามารถ ดูรายละเอียดได้ทเี่ ว็บไซต์ foetisch.ch
Trivia • แรกเริม่ เดิมที คลาสแซกโซโฟนนัน้ ลงทะเบียนเรียนโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อานันท มหิดล แต่พระองค์ทรงโปรดให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ เข้าเรียนแทน ซึง่ พระองค์ ก็ทรงตามมาศึกษาคลาสเครือ่ งเป่าคลาริเน็ตในภายหลังร่วมกับพระอนุชา
universiTy oF Lausanne, Lausanne
Parc du denanTou, Lausanne
สถานศึกษาก็เป็นอีกสถานที่ส�าคัญที่เราจะได้เรียนรู้ถึงเส้นทางชีวิตของคนคนหนึ่ง ผ่านวิชา ทีเ่ รียน สภาพแวดล้อม และประวัตศิ าสตร์ทหี่ ลอมรวมความเป็นพวกพ้องทีม่ แี นวคิดและทัศนคติ เดียวกัน (Alma Mater) ซึ่งมหาวิทยาลัยโลซานน์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ได้ทรงศึกษาวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ก่อนทีจ่ ะเบนเข็มมายังคณะรัฐศาสตร์และกฎหมาย เมือ่ เสด็จ ขึน้ ครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ เพือ่ น�าความรูก้ ลับมาทรงงานเพือ่ พสกนิกรปวงชนชาวไทย (แต่ความสนพระราชหฤทัยทางด้านวิทยาศาสตร์ ก็ยงั คงพบเห็นได้จากโครงการพระราชด�าริ รวมถึงพระราช กรณียกิจทั้งหลายโดยทั่วกัน) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้ไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์ควรไปเยี่ยมชมสักครั้ง ด้วยทัศนียภาพทีส่ วยงาม และบรรยากาศแห่งสถานศึกษาทีส่ า� คัญทีไ่ ม่ควรพลาด
อีกหนึง่ สถานทีส่ า� คัญในกรุงโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงทรงพระเยาว์ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ นัน่ คือสวน Parc du Denantou ทีอ่ ยูใ่ กล้กบั พระต�าหนักวิลลา วัฒนา ทีป่ ระทับของพระองค์ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึง่ ในปัจจุบนั ยังคงเปิดให้ประชาชนทัว่ ไปได้ เข้าชม มีจุดเด่นส�าคัญคือรูปปั้นลิงสามตัว และศาลาไทย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชด�าเนินร่วมพิธเี ปิด เนือ่ งใน โอกาสครองราชย์ครบรอบหกสิบปี และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คส�าคัญของชาวไทยที่มายังเมืองนี้ควรร่วม เข้าชมความงดงามสักครัง้
Trivia
Trivia
• ทัง้ นี้ มหาวิทยาลัยโลซานน์ เป็นหนึง่ ในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทีก่ อ่ ตัง้ มาตัง้ แต่ปี ค.ศ. ๑๕๓๗ ในฐานะโรงเรียนทางด้านเทววิทยา (Theology) ก่อนจะปรับเปลีย่ นเป็น มหาวิทยาลัยและเพิม่ ศาสตร์การศึกษาในภายหลัง อีกทัง้ ยังเป็นสถานทีท่ กี่ อ่ ก�าเนิดนักคิดนักเขียน และนักธุรกิจมากมาย อาทิ Jean-Claude Biver ผู้ก่อตั้ง Hublot, Charles Ferdinand Ramuz นักเขียนชาวสวิส และ Georges de Rham นักคณิตศาสตร์ชาวสวิส ผูม้ สี ว่ นในการคิดค้นทฤษฎี โทโพโลยีอนุพนั ธ์ (Differential Topology)
• มีเรือ่ งเล่าขานของกรุงโลซานน์เกีย่ วกับสวน Parc du Denantou ทีแ่ ม้จะไม่ได้มบี นั ทึกเอาไว้อย่าง เป็นทางการ แต่ก็มีการกล่าวอ้างที่เชื่อถือได้ว่า เกิดขึ้นจากการ ‘พนันขันต่อ’ ของสามสหายคือ William Haldimand, Auguste Perdonnet และ Charles Cerjat ทีจ่ ะมาแข่งขันปรับปรุงภูมทิ ศั น์ให้ กรุง Lausanne เป็นหนึง่ ในเมืองทีง่ ดงามทีส่ ดุ โดย Parc du Denantou คือผลงานของ Haldimand ร่วมกับ Perdonnet Tower ทีส่ วน Mon-Repos Park และผลงานทีไ่ ม่ปรากฏชือ่ ของ Charles Cerjat แต่ทงั้ นีไ้ ม่มกี ารตัดสินอย่างเป็นทางการว่าใครเป็นผูช้ นะในการพนันขันต่อดังกล่าว
adeLboden, Lausanne
ช่วงทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อานันทมหิดล ยังทรงพระเยาว์ และทรงพ�านักอยูท่ ปี่ ระเทศสวิตเซอร์แลนด์นนั้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ได้ทรงพิจารณาถึงความส�าคัญของการศึกษา และพระพลานามัยของทั้งสอง พระองค์ และมักจะสนับสนุนให้ทา� กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ตา่ งๆ รวมถึงการเสด็จออกค่ายฤดูรอ้ นทีเ่ ทือกเขา Adelboden โดยในปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางแบบแบกเป้ ชื่นชม ธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมทีย่ งั คงความดัง้ เดิมโดยไม่ถกู แต่งแต้มด้วยความเจริญแบบเมืองมากนัก
Trivia • ในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ อันเป็นช่วงเวลาทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ และพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ได้ทรงเสด็จเข้าค่ายฤดูร้อนนั้น ก็เกิดขึ้นจากแรงสนับสนุนของ เกลย์อง เซ. เซไรดารีส (Mr.Cleon C. Seraidaris) ผูเ้ ป็นครูสว่ นพระองค์ ทีม่ สี ว่ นส�าคัญด้านต่างๆ ในช่วงทรงพระเยาว์ของทัง้ สองพระองค์
MounT auburn hosPiTaL MassachuseTTs
แม้ในช่วงทรงพระเยาว์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ จะทรงผูกพันกับสวิตเซอร์แลนด์ เป็นส่วนมาก แต่ถา้ ดูจากสถานทีเ่ สด็จพระราชสมภพของพระองค์อย่างโรงพยาบาล Mount Auburn Hospital หรือในชือ่ เดิมคือโรงพยาบาล Cambridge Hospital ทีม่ ลรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศ สหรัฐอเมริกาแล้วนัน้ จะท�าให้เราทราบถึงความเกีย่ วพันกับภูมภิ าคโลกมากกว่าทีเ่ ห็น โดยเสด็จพระราชสมภพ เมือ่ วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ โดยนายแพทย์ W.Stewart Whittemore เป็นผูถ้ วายพระประสูตกิ าล ทัง้ นี้ โรงพยาบาล Mount Auburn Hospital มีชอื่ เสียงอย่างมากในภาควิชารังสีวทิ ยา (Department of Radiology) ที่ก่อตั้งโดย Dr.Richard Schatzki ที่สามารถวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร หรือที่รู้จักกันในชื่อ Schatzki Ring
Trivia • ในการเสด็จพระราชด�าเนินไปเยีย่ มของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ เมือ่ วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๐๓ นายแพทย์ W.Stewart Whittemore ผูถ้ วายพระประสูตกิ าลนัน้ ได้รบั พระราชทานหีบบุหรีถ่ มทอง พร้อมพระปรมาภิไธยสลักข้างกล่องว่า ‘ให้เพือ่ นคนแรกของฉัน ดอกเตอร์ ดับบลิว. สจ๊วต วิตต์มอร์ เพื่อเป็น Token of Affectionate Sentiment’ พร้อมพระราชทานของที่ระลึกแก่นางพยาบาล สีค่ นคือ มิสซิสเลสลี่ เลตัน, มิสเจนีเวียฟ เวลด้อน, มิสซิสมาร์กาเร็ท เฟย์ และมิสรูธ แฮริงตัน
24 7 - 13
Text: เพลงมนตรา
สัมผัสผลพวงจากพระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทีท่ รงทุม่ เทพระวรกายท�างานอย่างหนัก เพือ่ ให้ลกู หลาน ในแผ่นดินอยูอ่ ย่างมีความสุข ผ่านแหล่งท่องเทีย่ วตามเส้นทางตามรอยพระบาท ทีพ่ สกนิกรไทยทุกคนควรไปเยือนให้ได้สกั ครัง้ ในชีวติ
The Golden Jubilee AGriculTurAl MuseuM | Pathumthani
สืบเนือ่ งมาจากโครงสร้างสังคมไทยสัมพันธ์ใกล้ชดิ กับเกษตรกรรมมาช้านาน ก่อเกิดเป็นวิถชี วี ติ การด�ารงอยู่ และค�า้ ชูผคู้ นมาตัง้ แต่รนุ่ ปูย่ า่ กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ จึงจัดตั้ง ‘พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาที่จะพาทุกคน ก้าวเข้าไปสัมผัสความเป็นอยูข่ องเกษตรกรอย่างลึกซึง้ พร้อมทัง้ เรียนรูพ้ ระอัจฉริยภาพด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ล อดุลยเดช ทีท่ รงสร้างสรรค์ภมู ปิ ญ ั ญาสังคมเกษตรไทยให้พฒ ั นาอย่างยัง่ ยืนบนพืน้ ฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และด้วยส�านึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พิพธิ ภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนเข้าชมพิพธิ ภัณฑ์ ‘ในหลวงรักเรา’ ตัง้ แต่วนั ที่ ๑๗ ตุลาคม-๑๓ พฤศจิกายน เวลา ๐๙.๐๐-๒๐.๐๐ น. โดยไม่เสียค่าเข้า พร้อมเรียนรูพ้ ระราชประวัติ พระราชด�าริ พระราชจริยวัตร หลักการทรงงาน และภาพยนตร์ ๓ มิติ ‘เรือ่ งของพ่อในบ้านของเรา’ เพือ่ ร่วมกันสืบทอดพระราชปณิธานพระองค์ทา่ นสืบไป สอบถามรายละเอียดเพิม่ เติม โทร. ๐๒ ๕๒๙ ๒๒๑๒, ๐๒ ๕๒๙ ๒๒๑๓ หรือ www.wisdomking.or.th
The bhubinG rAJAnives PAlAce | Chiang mai
สวรรค์บนพื้นพิภพที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี ๒๕๐๔ เพื่อใช้เป็นที่ประทับยาม เสด็จพระราชด�าเนินแปรพระราชฐานมาทรงงาน และเยีย่ มเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ รวมทัง้ รับรองพระราชอาคันตุกะทีเ่ ข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี กับไทยในโอกาสต่างๆ พระต�าหนักภูพงิ คราชนิเวศน์ยงั ให้ความส�าคัญกับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ทโี่ ดดเด่นอยูท่ า่ มกลางหมูมวลดอกไม้เมืองหนาว นานาพรรณ ซึง่ เป็นผลงานของหม่อมราชวงศ์มติ รารุณ เกษมศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) ประจ�าปี ๒๕๓๐ ปัจจุบนั เปิดเป็น สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วเพือ่ ให้ประชาชนเข้าไปศึกษาประวัตศิ าสตร์เกีย่ วกับพระราชวงศ์อย่างใกล้ชดิ อย่างไรก็ตาม กรุณาเคารพสถานทีด่ ว้ ยการแต่งกายสุภาพ ห้ามใส่กางเกงขาสัน้ กระโปรงสัน้ หรือเสือ้ แขนกุด สอบถามรายละเอียดเพิม่ เติม โทร. ๐๕๓ ๒๒๓ ๐๖๕ หรือ www.bhubingpalace.org
PA sAk JolAsid dAM | LoPBuri
ด้วยพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยพสกนิกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน�้าท่วม และขาดแคลนน�้า พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชด�าริให้พัฒนาลุ่มน�้าป่าสักอย่างเร่งด่วน ท�าให้เกิดเป็นเขื่อนดินกักเก็บน�้า ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ที่ใช้เวลาการก่อสร้างนาน ๕ ปี และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชด�าเนินทรงเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สร้างประโยชน์แก่พสกนิกรดังชื่อเขื่อนที่มีความหมายว่า ‘เขื่อนเก็บกักน�้าที่มีประสิทธิภาพ’ ปัจจุบนั เขือ่ นป่าสักชลสิทธิก์ ลายเป็นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วส�าคัญของจังหวัดลพบุรี โดยนักท่องเทีย่ วนิยมนัง่ รถรางไปชืน่ ชม ทิวทัศน์อนั งดงามบริเวณสันเขือ่ น และแวะสักราระพระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิม์ งคลชัย นอกจากนัน้ ยังมีบริการบ้านพัก ส�าหรับนักท่องเทีย่ วในราคาย่อมเยาด้วย สอบถามรายละเอียดเพิม่ เติม โทร. ๐๓๖ ๔๙๔ ๒๙๑ หรือ www.pasakdam.com
14 - 24 7
ชื่อภาพ : บิดาของแผ่นดิน ศิลปิน : สุวิทย์ ใจป้อม เทคนิค : เกรยองบนกระดาษ ๒๕๕๓
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รำาลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาทีส่ ดุ มิได้ ข้าพระพุทธเจ้า คณะผูบ้ ริหารและพนักงาน บริษทั ไทยซัมซุง ประกันชีวติ จำากัด (มหาชน)
24 7 - 1
ภาพ: daily.rabbitstatic.com
ผุดเรือ่ งเล่าสุดประทับใจ ของกษัตริยน์ กั พัฒนา
เป็นเรือ่ งปกติสำ� หรับประเทศไทยทีจ่ ะมีกำรแบ่งปันเรือ่ งรำวพระรำชกรณียกิจ หรือเรือ่ งเล่ำสุดแสนประทับใจ ของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช ขณะลงพื้นที่แก้ปัญหำต่ำงๆ ให้ประชำชนออกมำ ได้รับรู้กัน แต่ภำยหลังกำรสวรรคตของพระองค์ท่ำน ได้มีกำรน�ำเรื่องรำวเหล่ำนี้มำบอกต่อกันอย่ำง แพร่หลำยมำกขึน้ เพือ่ ให้เห็นถึงพระรำชกรณียกิจบำงส่วนทีพ่ ระองค์ได้ทรงท�ำแต่มคี นรูไ้ ม่มำกนัก เป็นกำรน้อม ร�ำลึกถึงพระองค์อีกทำงหนึ่ง โดยพระรำชกรณียกิจที่คนไทยอำจไม่เคยรู้มำก่อนมีทั้งกำรพระรำชทำน ทรัพย์สว่ นพระองค์สร้ำง ‘โรงพยำบำลปอดเหล็ก’ ทรงเป่ำแซกโซโฟนตำมค�ำขอทำงวิทยุเพือ่ หำทุนปรำบอหิวำตกโรค หรือกำรฉำยภำพยนตร์สว่ นพระองค์เพือ่ หำทุนไปบ�ำรุงด้ำนสำธำรณสุข เป็นต้น ด้วยพระรำชกรณียกิจทีพ่ ระองค์ทำ่ นได้รเิ ริม่ ไว้อย่ำงมำกมำยกว่ำสีพ่ นั โครงกำร จึงท�ำให้มหี ลำยๆ โครงกำรทีป่ ระชำชนอำจไม่เคยได้เห็น และก�ำลังมีกำรเผยแพร่ตำมสือ่ ทุกรูปแบบ ออกมำมำกขึน้ เรือ่ ยๆ
Text: Jakkrit
จับตาเศรษฐกิจ
หลังสูญเสียพระมหากษัตริย์ แนวโน้มในด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยหลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชยังคงไม่คงที่ หลังจากมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจจะมีความผันผวนอย่างมาก ทั้งตลาดหุ้นและค่าเงินบาทในตอนนี้ยังคงอยู่ในภาวะแกว่งตัวตลอดสัปดาห์ หลังจากที่ข่าวของพระองค์ เผยแพร่สสู่ าธารณะ สาเหตุสว่ นหนึง่ ทีเ่ ศรษฐกิจของไทยยังคงทรงตัวอยูไ่ ด้เป็นเพราะพระองค์คอื ศูนย์รวม จิตใจชาวไทย ท�าให้พสกนิกรยังอยูใ่ นอาการเศร้าโศกเสียใจและไว้อาลัย รวมทัง้ ยังไม่มกี ลุม่ ใดทีจ่ ะเข้ามาต่อกร กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เกิดความวุน่ วาย แต่ทตี่ อ้ งจับตาดูเป็นพิเศษ คือ กรณีคา่ เงินบาท ทีม่ กี ารลดลง ซึง่ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจต้องเข้าแทรกแซง ถ้ามีความจ�าเป็นในการดูแลค่าเงิน สภาพ เศรษฐกิจของไทยนัน้ เน้นการส่งออกเป็นหลัก แต่ปจั จุบนั ความต้องการจากจีนและสหรัฐฯ ก็ลดน้อยตามไป ด้วย ท�าให้ประเทศไทยจะยังคงมีประชากรเกือบ 10% ทีต่ อ้ งตกอยูใ่ นภาวะยากจน รวมทัง้ อัตราการเติบโต ทางเศรษฐกิจก็อาจไม่ถงึ 3% ถ้ามีการด�าเนินการล่าช้า รวมไปถึงอัตราบริโภคในช่วงไว้ทกุ ข์ทลี่ ดลง
16 - 24 7
InspIratIonal Quote “...เทคโนโลยีนั้น โดยหลักการ คือ การท�าให้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิด เป็นสิ่งที่น�ามาใช้ประโยชน์ ได้ ดังนั้น เทคโนโลยีที่ดีสมบูรณ์ จึงควรจะสร้างสิ่งที่จะใช้ประโยชน์ ได้ อย่างคุ้มค่า และมีความสูญเปล่า หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นน้อยที่สุด...” - ความตอนหนึง่ ใน พระบรมราโชวาท ในพิธพ ี ระราชทานปริญญาบัตร ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร 18 ตุลาคม 2522
ภาพ: www.posttoday.com ภาพ: www.washingtonpost.com
ผูน้ า� ทัว่ โลกพร้อมใจ แสดงควำมอำลัยแด่ในหลวง บรรดาผูน้ า� จากหลายประเทศทัว่ โลก ได้แสดงความไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมกันนีย้ งั มีการกล่าวถึงพระปรีชาสามารถในการปกครองประเทศให้เป็นสุข น�าพาประเทศให้มี ความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้านตลอด 70 ปีทผี่ า่ นมา รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทีพ่ ระองค์ ทรงสร้างไว้ ก็ทา� ให้ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทดี่ ตี อ่ ประเทศต่างๆ เสมอมา รวมไปถึงพระอัจฉริยภาพ ทีโ่ ดดเด่น ส่งผลให้พระองค์เป็นทีเ่ คารพรักของปวงชนชาวไทยและผูค้ นทัว่ โลก ไม่วา่ จะเป็นผูน้ า� จาก สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ญีป่ นุ่ ภูฏาน จีน ฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลปิ ปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย รัสเซีย เยอรมนี นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และซาอุดีอาระเบีย ต่างก็แสดงความอาลัยต่อการจากไปของพระองค์ โดยพร้อมกัน และยังมีการร�าลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อประเทศต่างๆ เหล่านี้ ด้วยความช่วยเหลือด้านต่างๆ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับจากนานาชาติอย่างไม่มขี อ้ สงสัย
ช่วงเวลาสูญเสีย !
กรมสุขภำพจิตแนะ หลัก 3L ดูแลคนใกล้ชดิ
ล่าแม่มด
ไม่ใส่เสือ้ ด�ำ ถือเป็นควำมผิด
ธารน�า้ ใจไม่ขาดสาย
ผูค้ น จิตอำสำ ท�ำดีเพือ่ พ่อหลวง
ภาพ: www.tnewsonline.tv
การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช น�ามาซึ่งความเศร้าโศก เสียใจของพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ เพราะกว่า 70 ปีที่พระองค์ทรงครองราชย์ได้สร้าง คุ ณ ประโยชน์ เ พื่ อ แผ่ น ดิ น นานั ป การ ชาวไทยทุ ก คนต่ า งเคารพเทิ ด ทู น พระองค์ ท ่ า น ในฐานะพ่อหลวงของปวงชน และกษัตริย์นักพัฒนา ความเศร้าเสียใจครั้งนี้ใหญ่หลวง และกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การรับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์เป็นไป อย่ า งรวดเร็ ว ซึ่ ง กรมสุ ข ภาพจิ ต ก็ ไ ด้ แ นะให้ ดู แ ลคนใกล้ ชิ ด ที่ มี ค วามรู ้ สึ ก สู ญ เสี ย อย่างรุนแรง และมีปฏิกริ ยิ าความโศกเศร้าทีแ่ สดงออกท่ามกลางฝูงชน เช่น เป็นลม หายใจเร็ว ร้องไห้คร�า่ ครวญ หรือมีอาการชัก โดยให้ใช้หลัก 3L (Look, Listen, Link) ในการดูแลคนรอบข้าง คือ Look มองหาคนต้องการความช่วยเหลือ และส�ารวจกลุ่มเสี่ยง Listen รับฟังอย่างตั้งใจ ใช้ภาษากายเพื่อช่วยให้เขาบอกเล่าความรู้สึก และ Link ช่วยเหลือตามความเหมาะสม ติดต่อหน่วยงาน และคนในพืน้ ทีม่ าดูแลต่อไป
ถึ ง แม้ ว ่ า ตอนนี้ จ ะเป็ น วาระ แห่งความสูญเสียของคนไทย ทั้ ง ประเทศ แต่ อ ย่ า งน้ อ ย ก็มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลา ยากล� า บากที่ เ ราต้ อ งผ่ า น ไปด้วยกัน นั่นคือกลุ่มคนที่ คอยอ� า นวยความสะดวก ในการเดินทางมาถวายสักการะ พระบรมศพของพระบาท สมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหา ภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชให้ เ ป็ น ไป ด้วยความเรียบร้อย ซึง่ กลุม่ คน ที่มาร่วมสร้างมหากุศลนี้มีตั้งแต่ดาราไปจนถึงบุคคลทั่วไปที่พร้อมใจกันมาท�าความดีเพื่อพ่อหลวง ไม่ว่าจะเป็นการแจกข้าว แจกน�้า ริบบิ้นสีด�า ยาหม่อง ไปจนถึงการให้บริการรถสาธารณะ เหล่านี้ ล้วนเป็นน�้าใจของคนไทยที่เกื้อกูลต่อกัน และเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยมาอย่างช้านาน แต่การ ท�าความดีในครัง้ นีจ้ ะมีความหมายมากขึน้ ถ้ามีการปฏิบตั อิ ย่างต่อเนือ่ ง แม้จะผ่านช่วงเวลานีไ้ ปแล้ว ก็ตาม ให้ถือปณิธานการท�าดี น�าค�าสอนจากพระองค์ท่านเป็นที่ยึดเหนี่ยว และเป็นแรงผลักดัน ให้สงั คมไทยยังเต็มไปด้วยการเกือ้ กูลกัน
ชาวไทยต่างแดน น้อมร�ำลึก
ภาพ: www.citizenthaipbs.net
การแสดงความอาลัยด้วยการแต่งกายไว้ทกุ ข์ ตามทีร่ ะเบียบการเนือ่ งด้วยเหตุพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั สวรรคต ปี พ.ศ. 2484 ได้ระบุถงึ ข้อปฏิบตั ขิ องข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐให้แต่งกายโดยแบ่งตามล�าดับ และยึดเค้าโครงสีด�าเป็นหลัก ซึ่งส่งผล ให้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติสู่ประชาชนทั่วไปในการแต่งกายไว้ทุกข์ด้วยเสื้อผ้าสีด�าตลอดทั้งชุด ตามไปด้วย แต่ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อในโลกออนไลน์มีการกล่าวถึงกรณีของผู้ที่ไม่สวมชุดด�า ในช่วงไว้ทุกข์จนเกิดการประณามผ่านสื่อออนไลน์ ก่อให้เกิดการส่งต่อและสร้างสังคม แห่งความเกลียดชังให้เกิดขึ้นต่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามสังคมส่วนใหญ่ แต่ปัจจัยที่อาจส่งผลให้ ผู ้ ค นไม่ ส ามารถสวมใส่ ชุ ด ด� า เพื่ อ แสดงความอาลั ย ได้ คื อ ปั ญ หาเสื้ อ ด� า ที่ ข าดตลาด เพราะผู้คนแห่ไปซื้อกันเป็นจ�านวนมาก จนท�าให้สินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ รวมถึง การฉวยโอกาสขึน้ ราคาเสือ้ ผ้าจนเป็นปัญหาแก่ผทู้ มี่ กี า� ลังซือ้ จ�ากัด ซึง่ ล่าสุดกรมการค้าภายใน ได้ลงพื้นที่ดูแลเรื่องราคาอย่างใกล้ชิดแล้ว ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องแก้ด้วยความเข้าใจ ซึง่ กันและกัน เห็นใจกันถึงปัจจัยและข้อจ�ากัดทีแ่ ต่ละคนมีอยูด่ ว้ ย
ภาพ: www.posttoday.com
ภาพ: www.matichon.co.th
กำรจำกไปของในหลวงรัชกำลที่ 9
การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ท�าให้พสกนิกรทั่วประเทศเศร้าเสียใจ และเดินทางมาสักการะพระบรมศพ กันอย่างไม่ขาดสาย แต่ไม่ใช่เฉพาะคนไทยในประเทศเท่านั้นที่หัวใจสลาย ชาวไทยที่อาศัย อยูม่ มุ ต่างๆ ทัว่ โลก ก็รสู้ กึ โศกเศร้าไม่นอ้ ยไปกว่ากัน แม้วา่ จะไม่สามารถเดินทางมาร่วมแสดงความ ไว้อาลัยในประเทศไทยได้ แต่หลายๆ ประเทศ ก็มกี ารจัดสถานทีเ่ พือ่ แสดงความไว้อาลัยและร�าลึกถึง เช่น สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้เปิดให้ประชาชนชาวไทยมาร่วมลงนาม ไว้อาลัย รวมไปถึงประเทศภูฏานก็ประกาศไว้ทุกข์ และลดธงลงครึ่งเสา พร้อมทั้งสั่งหยุดงานและ โรงเรียน เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางไปยังวัดเพื่อสวดอธิษฐานแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทีม่ คี นไทยเดินทางมาอาศัย และท�าธุรกิจรวมกว่าแสนคน ในย่าน Thai Town นับตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2493 ก็มกี ารรวมตัวเพือ่ แสดงความร�าลึกถึงเช่นกัน 24 7 - 17
muSiCalhenriinStrument SeLMer SaxoPhone เครื่องดนตรีคู่พระราชหฤทัยของในหลวงรัชกาลที่ 9 เห็นจะหนีไม่พ้น ‘แซกโซโฟน’ พระองค์ทรงโปรดการเล่นโซปราโน แซกโซโฟน ตามพระราชอัธยาศัยในดนตรีแจ๊ส และทรงโปรด แซกโซโฟนแบรนด์ Henri SELMER เครื่องดนตรียี่ห้อดังจากมหานครปารีสในฝรั่งเศสอย่างมาก เครื่องดนตรีอย่างแซกโซโฟนชิ้นนี้ดูจะสวนกระแสกับสิ่งของส่วนพระองค์อื่นๆ ที่จะเป็นของธรรมดาทั่วไป หากแต่กับเครื่องดนตรีนั้นทรงเอาพระราชหฤทัยใส่เป็นพิเศษ โดยเลือกเครื่องดนตรีที่เกรดดีที่สุด และมี คุณภาพยอดเยี่ยม โดยมากก็จะเป็นแซกโซโฟนยี่ห้อเซลเมอร์ ที่ได้เข้าไปอยู่ในฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์ เคยมีเรือ่ งเล่าว่า บรรดานักข่าวอเมริกนั มักจะซุบซิบกันว่าแซกโซโฟนของในหลวงเป็นทองค�าบริสทุ ธิ์ ซึง่ ในหลวง ก็มพี ระราชกระแสในท�านองว่า หากเป็นทองค�าจริงคงหนักมากจนหยิบมาใช้งานไม่ไหว แซกโซโฟนแบรนด์เซลเมอร์ ผลิตเป็นครัง้ แรกในปี ค.ศ. 1920 เป็นหนึง่ ในยีห่ อ้ แซกโซโฟนชือ่ ก้องทีส่ งั่ สม ชือ่ เสียงและคุณภาพมาอย่างยาวนานในฐานะแบรนด์แห่งคุณภาพ ทีน่ กั ดนตรีทงั้ หลายใฝ่ฝนั อยากจับจอง
GadGet canon eoS 30D
Text: Yamin
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงสน พระราชหฤทัยการถ่ายภาพมาตัง้ แต่ยงั ทรงพระเยาว์ และมีพระปรีชาสามารถด้านการถ่ายภาพอย่างยิ่ง ทัง้ ยังมีกล้องถ่ายภาพส่วนพระองค์อยูเ่ ป็นจ�านวนมาก เรียกได้วา่ กล้องถ่ายรูปคือเครือ่ งประดับเพียงชิน้ เดียว ที่คล้องอยู่บนพระศอ แทนที่จะเป็นเครื่องประดับ ราคาแพงตามพระราชฐานะ แม้วา่ พระองค์จะทรงหยิบจับกล้องถ่ายรูปมาตัง้ แต่ยคุ อะนาล็อก แต่เมือ่ พัฒนาการ มาถึงยุคดิจทิ ลั พระองค์กท็ รงก้าวตามทันและทดลองใช้งานทุกระบบ สะท้อนให้เห็นความสนพระราชหฤทัย ในด้านนีเ้ ป็นทีย่ งิ่ โดยในบรรดากล้องถ่ายรูปส่วนพระองค์ เราขอหยิบยกกล้องดิจทิ ลั Canon รุน่ EOS 30D กล้องที่ทรงใช้ถ่ายรูปประชาชนเมื่อครั้งจะเสด็จกลับจากโรงพยาบาลศิริราชเมื่อปี พ.ศ. 2552 มาบอกกล่าว เพราะมีความร่วมสมัย และหาได้จริงในยุคนี้ ส�าหรับ Canon EOS 30D เป็นกล้องระดับกึ่งโปรฯ ของแคนนอน ที่มีฟังก์ชันต่างๆ แบบมืออาชีพ มีจอ LCD ขนาด 2.5 นิ้ว ให้ภาพละเอียดแจ่มชัด มีฟังก์ชันเลือกลักษณะของภาพถ่ายตามความเหมาะสม เซ็นเซอร์ CMOS 8.2 ล้านพิกเซล ซึง่ เพียงพอแล้วต่อการใช้งานแทบจะทุกรูปแบบ
Style
ColleCtor Seiko SkJ045P
ทันทีทมี่ ผี สู้ บื ค้นนาฬิกาข้อพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รั ช กาลที่ 9 จนค้ น พบว่ า นาฬิ ก าที่ พ ระองค์ ท รงสวมใส่ นั้ น เป็ น นาฬิกาทัว่ ไปตามท้องตลาด ทีม่ รี าคาเพียงหลักพัน และนัน่ ก็ทา� ให้ Seiko SKJ045P กลายเป็นที่เสาะแสวงหาในหมู่นักสะสมนาฬิกา รวมถึ ง ประชาชนทั่ ว ไปที่ อ ยากจะตามรอยความมั ธ ยั ส ถ์ ข อง พระองค์ทา่ น ภายในเวลาชัว่ ข้ามคืน ส�าหรับ Seiko SKJ045P เป็นนาฬิกาทีท่ า� งานด้วยระบบคิเนติก (พลังงานจลน์) ตัวเรือนไททาเนียม กันน�า้ ได้ลกึ 200 เมตร หน้าปัด เป็นรูปแบบอะนาล็อก มีกระจกแซฟเฟล็กกันกระแทก ตัว Caliber เป็นรุน่ 5M43 เมือ่ ชาร์จอย่างเต็มทีส่ ามารถท�างานได้สงู สุด 2 สัปดาห์ คาดการณ์กันว่านาฬิการุ่นนี้ผลิตครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1994-1995 ส่วนรุ่นที่ในหลวงทรงสวมในพระหัตถ์นั้น นักเลงนาฬิกาว่ากันว่า น่าจะเป็นรุน่ ที่ 2 ทีอ่ ปั เกรดมาจากรุน่ แรก
automobile Maybach 62
รถพระที่นั่งสีขาวครีมที่ตีทะเบียน ร.ย.ล. 1 คือรถยนต์พระที่นั่ง อันดับที่ 1 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 ยีห่ อ้ มายบาค รุ่น Maybach 62 ตามประวัติเล่าว่า รถยนต์คันนี้สั่งซื้อมาแทน รถพระที่นั่งคันเก่า คือ โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม ซิกซ์ ซึ่งท�าหน้าที่ มายาวนานถึง 30 ปี มายบาคเป็นรถยนต์ระดับหรูหรา ผลิตในประเทศ เยอรมนี เป็นทีร่ จู้ กั อย่างดียงิ่ ในช่วงสงครามโลกครัง้ ที่ 2 เพราะได้ผลิต ยวดยานให้กองทัพเยอรมนีใช้ในการสงคราม มายบาคถูกผนวกเป็น แฟล็กชิพของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในปี พ.ศ. 2503 พร้อมทั้งได้เริ่ม สายพานการผลิตรถยนต์หรูหราอีกครัง้ โดยมายบาค 62 ได้เริม่ ผลิต ออกมาตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2545 มีราคาขายตีเป็นเงินไทยได้ 9 หลัก ภายใน เต็มไปด้วยความประณีตวิจติ รทุกกระเบียดนิว้ ตามรูปแบบของรถที่ เน้นให้นงั่ มากกว่าขับ ทัง้ ระบบปรับอากาศดิจทิ ลั ระบบกรองอากาศ ระบบเอนเตอร์เทนเมนต์ เบาะหนังเกรดพิเศษ และอืน่ ๆ อีกมากมาย ปัจจุบนั มายบาค 62 รวมถึงรุน่ อืน่ ๆ กลายเป็นรถยนต์ทที่ รงคุณค่า ไปโดยปริยาย เมือ่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ตดั สินใจยุตกิ ารผลิตในปี พ.ศ. 2556 เพราะตลาดรถหรูสว่ นใหญ่ตกอยูใ่ นมือของโรลส์-รอยซ์ ยากทีจ่ ะแข่งขัน
converSe vintage Jack PurceLL
ภาพที่เหล่าพสกนิกรไทยเห็นกันจนชินตา คือภาพที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 ทรงบุกป่าฝ่าดงไปบ�าบัดทุกข์บา� รุงสุขแก่ราษฎร รวมถึงพระอิริยาบถต่างๆ ที่สะท้อนถึงพระราชจริยวัตรอันเรียบง่าย ซึง่ ฉลองพระบาทผ้าใบ ก็เป็นอีกหนึง่ เครือ่ งแต่งกายทีท่ า� ให้เราได้เห็นว่า ในหลวงของเราทรงเป็นผูม้ ธั ยัสถ์อย่างแท้จริง การพินจิ พิเคราะห์รายละเอียดทางรูปถ่าย ท�าให้มขี อ้ มูลเกีย่ วกับ ฉลองพระบาทมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ซึ่ง 1 ใน ฉลองพระบาททีพ่ ระองค์ทรงสวมใส่ ก็คอื Vintage Jack Purcell สีขาว รองเท้ายอดนิยมตลอดกาลของคอนเวิร์ส ที่มีสัญลักษณ์คล้ายรอยยิ้ม อยูบ่ นหัวรองเท้า จนท�าให้มอี กี ชือ่ เรียกหนึง่ ว่า Smile ก�าเนิดของรองเท้า รุน่ นี้ มีมาแต่ปี ค.ศ. 1972 ตัง้ ชือ่ รุน่ ตาม แจ็ค เพอร์เซลล์ นักแบดมินตัน ผูย้ งิ่ ยงซึง่ มีสว่ นร่วมในการดีไซน์ ปัจจุบนั Jack Purcell เป็นไอคอนของ วินเทจแฟชัน่ ประจ�าแบรนด์คอนเวิรส์ ทีส่ าวกต้องมีในครอบครอง
24 7 - 18
Text: สุกฤษฎิ์
From the Brilliant mind oF our Beloved late King rama iX เป็นทีร่ บั รูก้ นั โดยทัว่ กันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ผูเ้ ป็นทีร่ กั ยิง่ ของปวงชนชาวไทยนัน้ ทรงมีพระอัจฉริยภาพเป็นทีย่ งิ่ สะท้อนผ่านพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ รวมถึงการเป็น ‘นักประดิษฐ์’ ที่น�าเอาความรู้ความสามารถมาช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ผ่านโครงการในพระราชด�าริ ที่เป็น พระมหากรุณาธิคณ ุ อันหาทีเ่ ปรียบมิได้ ซึง่ หลากหลายผลงานของพระองค์ ก็ได้รบั การทูลเกล้าฯ ถวาย สิทธิบตั ร เพือ่ ยังให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนชาวไทยอย่างบูรณาการ ยัง่ ยืน เพือ่ เป็นการร่วมน้อมร�าลึกถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ในครัง้ นี้ เราจึงขอยกตัวอย่างโครงการในพระราชด�าริทไี่ ด้รบั การถวายสิทธิบตั ร ทีย่ งั คงเป็นทีก่ ล่าวถึงโดยทัว่ กัน และตราตรึงอยูใ่ นหัวใจ เป็นความภาคภูมใิ จของคนไทยตลอดไป
• โครงการดั ดแปรสภาพอากาศเพื่ อให้ เกิ ดฝน (โครงการฝนหลวง) • หมายเลขสิทธิบตั ร: ๑๓๘๙๘
การเกษตรกรรมจัดได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประเทศไทย ทั้งทางด้าน สังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ แต่ดว้ ยสภาพแวดล้อมทีเ่ ปลีย่ นไป ท�าให้นา�้ ฝนทีเ่ คยตกต้องตามฤดูกาล เริม่ มีความแปรปรวน สร้างความ เดือดร้อนให้เกษตรกรไทยเป็นจ�านวนมาก ซึ่งพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ก็ได้ทรงรับทราบถึงความทุกข์ของพสกนิกร จากการเสด็จพระราชด�าเนินในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ และได้ทรงมีพระ มหากรุณาธิคณ ุ พระราชทานโครงการ ‘ฝนเทียม’ ให้หม่อมราชวงศ์ เทพฤทธิ์ เทวกุล อดีตสมาชิกสภานิตบิ ญ ั ญัตแิ ห่งชาติ ไปด�าเนินการ โดยจะสร้างฝนเทียมขึน้ จากการโปรยสารเคมีในท้องฟ้า เพือ่ เหนีย่ วน�า ความชื้นปะทะความเย็น เพื่อให้กลั่นตัวเป็นน�้าฝนตามที่ต้องการ ซึง่ ผลส�าเร็จของโครงการในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ จึงได้มกี ารตราพระราช กฤษฎีกา ก่อตัง้ ส�านักปฏิบตั กิ ารฝนหลวงขึน้ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ในสังกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
• เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน�้าหมุนช้าแบบทุ่นลอย (โครงการกังหันน�้าชัยพัฒนา) • หมายเลขสิทธิบัตร: ๓๑๒๗
สื บ เ นื่ อ ง จ า ก ค ว า ม รุนแรงของปัญหาน�า้ เสีย ที่สร้างความเดือดร้อน แก่ พ สกนิ ก รชาวไทย และหนักหน่วงเกินกว่า ที่ ก ระบวนการทาง ธรรมชาติ จ ะสามารถ จั ด การให้ ก ลั บ คื น สู ่ วิถเี ดิมได้ วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานพระราชด�าริในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยวิธีการใหม่ โดยการใช้ ‘กังหันน�้า’ ที่เรียบง่าย ช่วยเติมปริมาณ อากาศดีให้นา�้ เสียอย่างต่อเนือ่ ง เพือ่ ปรับเปลีย่ นสภาพน�า้ ให้มสี ภาพ ดีดังเดิม โดยมีกรมชลประทานรับสนองพระราชด�าริในการศึกษา และสร้ า งเครื่ อ งต้ น แบบ ก่ อ นที่ จ ะได้ ผ ลส� า เร็ จ เป็ น ‘กั ง หั น น�้ า ชัยพัฒนา’ ที่ได้เริ่มติดตั้งที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ภายหลังความส�าเร็จ กังหันน�้าชัยพัฒนา ได้รับการพิจารณา และทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย ซึ่งถือเป็นเครื่อง กังหันน�้าเครื่องที่ ๙ ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของโลก และเป็น สิง่ ประดิษฐ์จดสิทธิบตั รแรกของราชวงศ์ ในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๖ ทีถ่ อื ได้วา่ เป็น ‘วันนักประดิษฐ์โลก’ เพือ่ เป็นการเทิดพระเกียรติของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ อีกด้วย โดยองค์การ การประดิษฐ์นานาชาติ
• โครงการกระบวนการปรับปรุงสภาพดินเปรี้ยวเพื่อให้เหมาะแก่การเพาะปลูก (โครงการแกล้งดิน) • หมายเลขสิทธิบตั ร: ๒๒๖๓๗
สืบเนือ่ งจากการเกษตรทีม่ มี าอย่างต่อเนือ่ งของประเทศไทย และการขาดซึง่ การปรับปรุงดินอย่างมีประสิทธิภาพ ท�าให้ดนิ เสือ่ มสภาพ ไม่เหมาะสม ส�าหรับการเพาะปลูก มีสภาวะ ‘ดินเปรีย้ ว’ ทีเ่ ป็นกรดสูง ซึง่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ได้ทรงรับทราบปัญหา จากการเสด็จเยีย่ มราษฎร ในจังหวัดนราธิวาส ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ และทรงมีพระราชด�าริให้ดา� เนินการปรับปรุงสภาพดินให้กลับมาเป็นดินทีเ่ หมาะสมส�าหรับการเพาะปลูกพืช ชนิดต่างๆ โดยใช้วธิ กี ารเลียนแบบธรรมชาติ ด้วยการ ‘แกล้งดิน’ ให้มฤี ทธิท์ เี่ ปรีย้ วจัดสูงสุด ก่อนท�าการชะล้างและปรับสภาพหน้าดินด้วยกรรมวิธี ทางวิทยาศาสตร์ ซึง่ โครงการในพระราชด�าริดงั กล่าวนัน้ ประสบความส�าเร็จ และทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบตั รเมือ่ วันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
• โครงการเครือ่ งก�าเนิดไฟฟ้าพลังงานจลน์ และชุดเครือ่ งก�าเนิดไฟฟ้า ‘อุทกพลวัต’ • หมายเลขสิทธิบตั ร: ๒๙๑๖๓
• โครงการการใช้นา�้ มันปาล์มกลัน่ บริสทุ ธิเ์ ป็น น�า้ มันเชือ้ เพลิงเครือ่ งยนต์ดเี ซล (น�า้ มันไบโอดีเซล) • หมายเลขสิทธิบตั ร: ๑๐๗๖๔
เครื่องก�าเนิดพลังงานจลน์จากพลังงานน�้าไหล ที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ชื่อ ‘อุทกพลวัต’ ที่นอกจากจะใช้ส�าหรับผลิตพลังงานไฟฟ้าจาก พลังงานน�า้ ไหลแล้ว ยังมีสว่ นช่วยในการป้องกันอุทกภัยทีจ่ ะเกิดขึน้ ในพืน้ ทีใ่ ห้ไหลออกสูท่ ะเลอย่างเป็นระบบ โดยไม่กอ่ ให้เกิดผลกระทบ ต่อราษฎรในพื้นที่ ซึ่งได้น�าสิ่งประดิษฐ์นี้ไปติดตั้งบริเวณคลอง ลัดโพธิ์ ตามพระราชด�าริ และพระองค์ทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๓
ด้วยภาวะน�า้ มันเชือ้ เพลิงทีม่ อี ยูอ่ ย่างจ�ากัด และมีราคาแพงในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๐๔ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงมี พระราชด�าริให้เริ่มต้นคิดค้นพลังงานทดแทน ด้วยการน�าวัตถุดิบ ทีม่ อี ยูอ่ ย่างมากมายของประเทศ เช่น ผลผลิตทางการเกษตร มาค้นหา กระบวนการทีจ่ ะสกัดส่วนผสมเพือ่ ให้เกิดเป็นพลังงานทดแทนทีจ่ ะช่วย ลดภาระของพสกนิกรชาวไทยลง และจากพระราชด�าริดังกล่าว สานต่อมาเป็นเชือ้ เพลิง ‘เอทานอล’ และ ‘ไบโอดีเซล’ ทีเ่ ป็นส่วนผสม ของน�า้ มันเชือ้ เพลิงทีใ่ ช้ในเครือ่ งยนต์ทางด้านอุตสาหกรรมและรถยนต์ โดยสารของประชาชน ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบตั รเมือ่ วันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
24 7 - 19
Text: Ti-na
ส�ำหรับโทนสีกำรแต่งกำยที่เหมำะสมในช่วงสถำนกำรณ์ ขณะนี้ โทนสีที่เหมำะสม ได้แก่ สีด�ำ สีขำว และสีเทำ โดยสีด�ำได้รับกำรยอมรับว่ำเป็นสีที่แสดงออกถึงควำม สุภำพมำกที่สุด ดังนั้นส�ำหรับหนุ่มออฟฟิศที่มีนัดหมำย ค่อนข้ำงเป็นทำงกำร แนะน�ำให้มสี ทู สีดำ� เข้ำรูปเอำไว้สกั ชุด แต่ส�ำหรับในวันท�ำงำนที่สบำยๆ อำจจับคู่เสื้อเชิ้ตสีด�ำกับ กำงเกงจ๊อกเกอร์ ก็ท�ำให้ดูสุภำพและล�ำลองได้ในเวลำ เดียวกัน หรือจะเลือกสวมทับด้วยสูทตัวนอกอีกชัน้ บำงท่ำน อำจเบรกด้วยรองเท้ำผ้ำใบสีขำว ทว่ำด�ำล้วนทัง้ ตัวก็เสริมลุค ให้ดสู ขุ มุ ไปได้อกี แบบเช่นกัน สมาร์ทวอทช์สดุ ล�า้ สีดา� เงา Apple Watch Series 2 จาก Apple
สูทเข้ารูปสีเทาอมด�า จาก Topman หมวกหนังปรับขนาด ได้และมีลกู เล่น ตรงซิปด้านหน้า จาก Caylor & Sons
เสือ้ เชิต้ สีดา� เข้ารูปคอจีน จาก Pull & Bear
เสือ้ ยืดทีม่ เี ทคโนโลยี เก็บความร้อนฮีทเทค คอวี จาก Uniqlo
รองเท้าผ้าใบสีดา� รุน่ ยอดนิยม Adidas x Pharrell Williams NMD Human Race Core Black จาก Adidas กระเป๋าสะพายข้าง ขนาดกะทัดรัด จาก Nike จ็อกเกอร์เเพนท์ส รุน่ Izzy จาก Publish
20 - 24 7
Info GraphI c Design: EGPE
2470
2493
วันพรำราชสมภพ (5 ธันวาคม)
เสด็จเข้าพิธบ ี รมราชาภิเษก (5 พฤษภาคม)
เป็ น พระมหากษั ต ริ ย์ ร าชวงศ์ จั ก รี พ ระองค์ เ ดี ย วที่ป ระสู ติ ณ ต่างแดน ทีป่ ระเทศสหรัฐอเมริกา
2475 ศึกษาทีโ่ รงเรียน มาแตร์เดอีวท ิ ยาลัย
เลขประจำาตัว 449
ณ พระทีน่ ง่ั ไพศาลทักษิณ ประเทศไทย
ทรงปรำกอบพรำราชพิธรี าชาถิเษกสมรส
2476
กับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ณ วังสระประทุม
เสด็จไปพำานักที่ ปรำเทศสวิตเซอร์แลนด์
2481 เสด็จนิวต ั ป ิ รำเทศไทย เป็นครัง้ แรก
2491
2489
2549 2550
ปรำสบอุบต ั เิ หตุทางรถยนต์
เสด็จกลับปรำเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพือ ่ ศึกษาต่อในคณำนิตศ ิ าสตร์
ทีถ่ นนสายเจนีวา-โลซานน์ และทรงเข้ารับการผ่าตัด
ได้ทรงพบกับ หม่อมราชวงศ์สริ กิ ติ ์ิ กิตยิ ากร
กินเนสส์บคุ๊ บันทึกว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริยท์ ค่ี รองราชย์ยาวนานทีส่ ดุ ในโลก
2524
2536
2552
ทูลเกล้าฯ ถวายรหัสสัญญาณวิทยุ
กรมไปรษณียโ์ ทรเลขได้ทลู เกล้าฯ ถวายรหัสสัญญาณวิทยุ รหัส VR009
ทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบต ั ร การปรำดิษฐ์ 'กังหันชัยพัฒนา'
วันนักประดิษฐ์ ตรงกับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
พรำราชพิธฉ ี ลองครองราชย์ ครบ 60 ปี
สำนักพรำราชวัง ออกแถลงการณ์ เสด็จฯ ปรำทับ ณ โรงพยาบาล ศิรริ าช ฉบับที่ 1
งานพรำราชพิธม ี หามงคล เฉลิมพรำชนมพรรษา 80 พรรษา
2559 เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิรริ าช
13 ตุลาคม พ.ศ. 2559
Facts & Trivia • เริ่มสวมฉลองพระเนตรในช่วง พระชนมพรรษาไม่ถงึ 10 พรรษา • สุ นั ข ทรงเลี้ ย งนั บ จากปี พ.ศ. 2548 มีจาำ นวนทัง้ สิน้ 70 ตัว • ทรงพระราชนิ พ นธ์ ด นตรี เมื่อพระชนมพรรษา 18 พรรษา และมี จำ า นวนพระราชนิ พ นธ์ ทั้งสิ้น 48 เพลง • พระราชนิ พ นธ์ ใ นพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มีทั้งสิ้น 6 เรื่อง • ได้รับการถวายการต้อนรับ จากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถึง 6 คน • ในงานพระราชพิ ธี ฉ ลอง ครองราชย์ ค รบ 60 ปี ทรง พระราชทานอภัยโทษแก่นกั โทษ ทั่วประเทศกว่า 25,000 คน
ทีม่ า : wikipedia.org / correct.go.th / encyclopedia.com
24 7 - 21
Text: เพลงมนตรา
royal taste • ข้าวแช่ บ่อยครั้งพระเจ้าวรวงศ์
เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวร ราชาทินดั ดามาตุ จะท�าอาหารถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมพิ ลอดุลยเดช และครัง้ หนึง่ อาหาร ดั บ ร้ อ นข องค นโ บร าณ อย ่ า ง ‘ข้ า วแช่ ’ ก็ เ คยเป็ น เครื่ อ งเสวย ทีพ่ ระองค์ตรัสว่าทรงโปรด
super simple & delicIous
• โอวัลติน เครื่อง ดืม่ ทีพ่ ระบาทสมเด็จ พระปรมิ น ทรมหา ภูมพิ ลอดุลยเดชทรง โปรดเป็นพิเศษคือ โอวั ล ติ น พระองค์ สามารถเสวยได้ หลายครัง้ ในหนึง่ วัน
พระกระยาหารทรงโปรดแสนเรียบง่าย ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช
• ผัดผักตามฤดูกาล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ล อดุลยเดชทรงโปรดผัดผักทุกชนิดมากกว่าเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น ผักคะน้า ถั่วงอก ถั่วลันเตา หรือผักบุ้ง โดยพระองค์รับสั่งให้ หัวหน้าต้นเครือ่ งใส่ผกั ให้มากกว่าเนือ้ สัตว์เสมอ
• ปลาทู ท อด ในหนั ง สื อ ‘เครื่ อ งต้ น ก้ น ครั ว ’ คุ ณ หญิ ง ประสานสุข ตันติเวชกุล หัวหน้า ต้ น เครื่ อ งไทย พระต� า หนั ก จิตรลดารโหฐาน ได้ให้สมั ภาษณ์ ว่า อาหารจานโปรดของพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชคือ ‘ปลาทูทอด’ ที่มัก จะเสวยคูก่ บั น�า้ พริกนานาชนิด 22 - 24 7
• ข้าวกล้อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เสวยข้าวกล้องเป็นพระกระยาหารหลัก และครัง้ หนึง่ พระองค์เคย ตรัสว่า “ข้าวกล้องดี มีประโยชน์ คนอืน่ เขาว่าเป็นข้าวของคนจน เรากินข้าวกล้องทุกวัน เรานีแ่ หละคนจน”
• ไข่พระอาทิตย์ สูตรอาหารที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสูตร ให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ตีพิมพ์ลงหนังสือ ‘สูตรอาหารต้นต�าหรับข้าวหอมมะลิไทยในครัวนานาชาติ’ และ มีการบันทึกไว้ในหนังสือความว่า ‘เมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เคยทรงประกอบอาหารพระราชทาน เรียกว่า ไข่พระอาทิตย์’
• ไข่ ล วก เครื่ อ งเสวย ประจ� า วั น ยามเช้ า ของ พระบาทสมเด็ จ พระปร มินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช คือ ไข่ลวก โดยจะเสวยกับ ข้าวโอ๊ต และไอศกรีม
calendar
4-8 Nov 2016
50 ปี ปลานิลพระราชทาน ร�าลึกพระคุณพ่อของแผ่นดิน Central Plaza West Gate
Text: รุง่ วิสาข์
ทุกวันที่ 7 พฤศจิกายน ของทุกปี ถือเป็น วันร�าลึกถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ ทีพ่ ระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ เสด็จทรงปล่อยพันธุ์ปลาจาก บ่อส่วนพระองค์ ก่อนทีจ่ ะทรงพระราชทาน พั น ธุ ์ ป ลาให้ ข ้ า ราชการและเกษตรกร น�าไปเลีย้ งเพือ่ แพร่ขยายพันธุ์ ทางบริษทั เซ็นทรัลพัฒนา จึงร่วมกันจัดงาน ‘ประมง ร�าลึก ส�านึกในพระมหากรุณาธิคุณ’ ที่ จัดขึ้นต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 6 แล้ว ส�าหรับ กิจกรรมภายในงานแบ่งโซนที่ให้ความรู้ ด้านต่างๆ ทั้งสิ้น 3 โซน ได้แก่ ‘๕๐ ปี น้อมร�าลึก สืบสานแนวพระราชด�าริ ปลานิล พระราชทาน’, ‘สิ น ในน�้ า ที่ พ ่ อ ให้ … สู ่ พั ฒ นาการด้ า นประมง’ และโซน สุดท้าย ‘การต่อยอดปลาพระราชทาน… สู่การเลี้ยงชีพที่ยั่งยืน’ ผู้ที่สนใจสอบถาม รายละเอียดเพิม่ เติมได้ที่ 02 021 9999
24 7 สัปดาห์นไี้ ด้รวบรวมปฏิทนิ กิจกรรมต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกับพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเป็นการน้อมระลึกถึงพ่อหลวงของปวงชน ชาวไทย ทีแ่ ม้นเสด็จสูส่ วรรคาลัย แต่ยงั สถิตอยูใ่ นใจเราทุกคนตราบนานเท่านาน
Today9 deC 2016 ใต้ร่มพระบารมี PsG art Gallery
5 deC 2016 ruN for KiNg 2016 lumPhini Park
งานวิง่ การกุศลประจ�าปีทจี่ ดั ขึน้ ทุกๆ วันที่ 5 ธันวาคมซึ่งเป็นวันที่มีความส�าคัญของ คนไทยทั้งประเทศมาอย่างต่อเนื่องกว่า 22 ครัง้ โดยโรงพยาบาลกล้วยน�า้ ไท และกล้วยน�า้ ไทมูลนิธิ ซึง่ จัดแข่งขันภายใต้กติกา IAAF โดยการรับรองมาตรฐานจาก สหพันธ์กรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ ควบคุมเทคนิคการแข่งขันโดย สมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่ง ประเทศไทย ระยะทางการวิง่ แบ่งออกเป็น 2 กิโลเมตร และ 10.5 กิโลเมตร นักวิง่ ทีส่ นใจสมัครได้ตงั้ แต่วนั นีถ้ งึ 15 พฤศจิกายน ค่าสมัครทุกระยะ 400 บาท รายได้จากการจัดงานวิง่ ครัง้ นีจ้ ะมอบให้กบั โรงเรียนวังไกลกังวล และโรงเรียนในเขตเทศบาลเมือง หัวหิน เพือ่ สนับสนุนทุนการศึกษาทางด้านสาธารณสุข นอกจากนีย้ งั เป็นการงานวิง่ ครัง้ ประวัตศิ าสตร์ทนี่ กั วิง่ ทุกคนจะได้วงิ่ เพือ่ พ่ออีกด้วย สนใจดูรายละเอียดเพิม่ เติมหรือสมัครได้ที่ www.runforking.com
Exhibition UpdatE
นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะของคณาจารย์ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิ ท ยาลั ย ศิ ล ปากร ที่ ว าดขึ้ น มาเพื่ อ เป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องใน โอกาสมหามงคล เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ 70 ปี วันที่ 9 มิถนุ ายน 2559 ทีผ่ า่ นมา โดยเดิมทีนิทรรศการนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 15 ตุลาคม ภายหลังการเสด็จสวรรคตของพระองค์ทา่ น ทางหอศิลป์ฯ จึงได้ขยายเวลาการ จัดแสดงออกไปให้ประชาชนได้มโี อกาสเข้าชม นอกจากนีย้ งั สามารถร่วมแสดงความ เคารพสักการะถวายความอาลัยยังจุดทีห่ อศิลป์ได้จดั เตรียมไว้ได้ดว้ ย นิทรรศการเปิด ให้เข้าชมวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00-18.00 น. ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ชมฟรี ไม่เสียค่าเข้าชม
13 November 2016 อัครศิลปิน
นอกเหนือจากการไปถวายความอาลัยแด่พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทีบ่ ริเวณ ท้องสนามหลวงแล้วตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ก็ มี นิ ท รรศการถาวรจั ด แสดงพระบรมฉายา สาทิสลักษณ์ขณะที่พระองค์ท่านก�าลังทรงงาน ศาสตร์และศิลป์แขนงต่างๆ ให้ประชาชนชมเพือ่ ร่ ว มระลึ ก ถึ ง พระองค์ ใ นฐานะอั ค รศิ ล ปิ น ของ คนไทยด้วย ส�าหรับพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ทั้ง 9 ภาพ เป็นผลงานของกลุม่ นักศึกษา และคณาจารย์ คณะ จิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่รวมตัวกัน เฉพาะกิจเพือ่ ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานแสดงความ อาลัยและร�าลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ อย่างหาทีส่ ดุ มิได้ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งในวันที่พวกเขา ทราบข่าวการสวรรคตของพระองค์ ทัง้ นักศึกษา ศิษย์เก่า และคณาจารย์กว่าร้อยคนต่างช่วยกันวาดภาพโดยใช้สอี ะคริลกิ บนคัทเอาท์ไม้ขนาดความสูง 2 เมตร กว้าง 2 เมตร 40 เซนติเมตร ถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ในระหว่างที่ พระองค์ทา่ นก�าลังทรงงานศาสตร์และศิลป์ดา้ นต่างๆ ทัง้ ด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ งานช่าง และงานประดิษฐ์ ผ่านการเรียง ล�าดับเหตุการณ์ตามพระชนมพรรษา ใช้เวลาทัง้ สิน้ 3 วัน 3 คืนจึงแล้วเสร็จ ทุกภาพล้วนแล้วแต่เป็นภาพทีค่ นุ้ ตาประชาชนชาวไทยทัง้ สิน้ เช่น ภาพพระองค์ทรงจักรยานในช่วงวัยเด็ก แม้จะ ไม่เกีย่ วกับศิลปะโดยตรง แต่กเ็ ปรียบเสมือนจุดเริม่ ต้นของพระองค์ทา่ น, ภาพขณะทรงเป่าแซกโซโฟน และภาพขณะทรงเปียโน โดยมีแมวทรงเลีย้ งติโตอยูไ่ ม่ไกล สือ่ ให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านการดนตรีทพี่ ระองค์ฝกึ ฝนมาตัง้ แต่ทรงพระเยาว์, ภาพพระองค์ทรงประดิษฐ์ตอ่ เรือใบซึง่ สือ่ ให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในงานไม้และงานออกแบบ หรือภาพพระองค์ขณะทรง ถือกล้องซึง่ เป็นภาพทีค่ นุ้ ชินคนไทยมากอีกภาพหนึง่ เพราะไม่วา่ พระองค์จะเสด็จไปทีใ่ ด เราจะเห็นพระองค์ทา่ นทรงโปรด การถ่ายภาพเสมอ
นับเป็นอีกหนึง่ พลังความตัง้ ใจของนักศึกษา และคณาจารย์ทมี่ งุ่ มัน่ อยากทีจ่ ะ สร้างสรรค์งานศิลปะเพือ่ ร่วมระลึกถึงความเป็นอัครศิลปินของพระองค์ทา่ น และยัง เป็นการสือ่ ว่าพระองค์ไม่ได้หายไปไหน แม้จะเสด็จสูส่ วรรคาลัยแล้วทว่าพระองค์ทา่ น ทรงสถิตในใจของคนไทยตลอดไป
ส�าหรับผูท้ สี่ นใจสามารถแวะเวียนเข้าไปชมพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของ องค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ฟรีทุกวัน บริเวณแนวก�าแพงมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ฝัง่ ตรงข้ามพระบรม มหาราชวัง และจะจัดแสดงตลอดไปเพื่อให้คนไทยไม่ลืมความเป็น อัครศิลปินในดวงใจของไทยทัง้ ปวง
24 7 - 23
ทุกภาคส่วนรวมใจน้อมส�านึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ อย่างหาทีส่ ดุ มิได้
CPN แสดงความไว้ อาลั ย Where: ศู น ย์ ก ารค้ าเซ็ น ทรั ล เวิ ล ด์
How: ดร.ศุภชัย พำนิชภักดิ์ และสุทธิชยั จิรำธิวฒั น์ น�ำคณะผูบ้ ริหำรระดับสูงของบริษทั เซ็นทรัล พัฒนำ จ�ำกัด (มหำชน) พร้อมด้วยเหล่ำพนักงำน จัดพิธีถวำยสักกำระและแสดงควำมไว้อำลัย หน้ำพระบรมฉำยำลักษณ์ พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลำธิเบศรรำมำธิบดี จักรีนฤบดินทร สยำมินทรำธิรำช บรมนำถบพิตร พร้อมน้อมน�ำพระรำชด�ำริมำเป็นแนวทำงกำรท�ำงำน Text: Yamin
24 7 City Magazine น้ อมส� า นึ ก ในพระมหากรุณาธิคุณ อย่า งหาที่ สุ ดมิ ไ ด้ Where: ท้ องสนามหลวง How: 24 7 City Magazine น้อมร�ำลึกในพระมหำกรุณำธิคณุ อย่ำงหำทีส่ ดุ ไม่ได้ ด้วยกำรน�ำนิตยสำร
เล่มพิเศษทีพ่ มิ พ์ภำพพระบรมฉำยำสำทิสลักษณ์บนกระดำษชนิดพิเศษ ศิลปินโดย สุวทิ ย์ ใจป้อม ไปแจก ให้แก่พสกนิกร ณ ท้องสนำมหลวง เพือ่ ให้ทกุ คนทีร่ กั พ่อหลวงได้เก็บไว้เป็นมิง่ มงคลสืบไป อีกทัง้ ทีมงำน ยังได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบำรมี และเก็บภำพบรรยำกำศมำร่วมบันทึกเหตุกำรณ์ประวัติศำสตร์ ถ่ำยทอดเป็นนิตยสำรเล่มพิเศษทีก่ ลัน่ จำกใจถึงมือคนไทยในแผ่นดินรัชกำลที่ 9 ทุกคน
เวิ ร ์ ค พอยท์ จั ดพิ ธีแ สดงความไว้ อาลั ย พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช Where: บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จ�ากัด (มหาชน) จ.ปทุมธานี How: เวิรค์ พอยท์ฯ น�ำโดย ปัญญำ นิรนั ดร์กลุ ประธำนบริษทั พร้อมด้วยคณะผูบ้ ริหำร บุคลำกร
ศิลปินนักแสดงในสังกัด และพนักงำนบริษัทในเครือ จัดพิธีแสดงควำมไว้อำลัย พระบำทสมเด็จ พระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช มหิตลำธิเบศรรำมำธิบดี จักรีนฤบดินทร สยำมินทรำธิรำช บรมนำถบพิตร โดยมีพิธีกล่ำวค�ำถวำยอำลัย ร้องเพลงสรรเสริญพระบำรมี ก่อนร่วมกันยืนสงบนิ่ง เป็นเวลำ 9 นำที และก้มลงกรำบพร้อมกันเบื้องหน้ำพระบรมฉำยำลักษณ์ เพื่อน้อมส�ำนึกใน พระมหำกรุณำธิคณ ุ อย่ำงหำทีส่ ดุ มิได้
คณะผู้จัดการประกวด Miss grand international 2016 แสดงความไว้อ าลัย W h e r e : ล า ส เ ว กั ส ป ร ะ เ ท ศ สหรัฐ อเมริ กา How: คณะเจ้ำภำพและผู้จัดกำรประกวด
มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชัน่ แนล 2016 น�ำโดย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธำนและผู้ก่อตั้งเวทีกำรประกวด มิ ส แกรนด์ อิ น เตอร์ เ นชั่ น แนล พร้ อ มที ม งำน และนำงงำมผู้เข้ำประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2016 จ�ำนวน 80 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง ฝ้ำย-สุภำพร มะลิซ้อน มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2016 จัดพิธีไว้อำลัย ภำยหลังกำรเสด็จสวรรคตของ พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุยเดช พระมหำกษัตริยแ์ ห่งรำชอำณำจักรไทย โดยมี ณวัฒน์ อิสรไกรศีล และฝ้ำย-สุภำพร มะลิซอ้ น มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2016 เป็นตัวแทนถวำยควำมอำลัย บรรยำกำศเต็มไปด้วย ควำมโศกเศร้ำ ภำยหลังเสร็จพิธี ตัวแทนนำงงำมต่ำงชำติได้เข้ำมำแสดงควำมเสียใจ หลังได้รับรู้เรื่องรำว ควำมสูญเสียครัง้ ยิง่ ใหญ่ของคนไทยในครัง้ นี้
24 - 24 7
ผู ้ บ ริ หาร และพนั ก งาน ผ้ าเบรกเบ็ น ดิ กซ์ น้ อ มร� าลึ ก ในพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ อย่ างหาที่ สุด มิ ได้
How: ผูบ้ ริหำร และพนักงำน บริษทั เอฟเอ็มพี กรุป๊ (ประเทศไทย) จ�ำกัด ผูผ้ ลิตและจัดจ�ำหน่ำย ผ้ำเบรกเบ็นดิกซ์ น้อมร�ำลึกในพระมหำกรุณำธิคณ ุ พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช ร่วมสงบนิ่งต่อหน้ำพระบรมฉำยำลักษณ์ และลงนำมแสดงควำมไว้ควำมอำลัยต่อกำรสวรรคตของ พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช
ดี แ ทค ร่ ว มพิธีแสดงความไว้อ าลัย ถวายแด่ ใ นหลวงรั ช กาลที่ 9 Where: อาคารจัตุรัสจามจุรี
How: คณะผูบ้ ริหำร คณะกรรมกำร และพนักงำนของ บริษทั โทเทิล่ แอ็คเซ็ส คอมมูนเิ คชัน่ (มหำชน)
หรือดีแทค น�ำโดย บุญชัย เบญจรงคกุล ประธำนกรรมกำรบริษทั และลำร์ส นอร์ลงิ่ ประธำนเจ้ำหน้ำทีบ่ ริหำร ร่วมในพิธีแสดงควำมอำลัย ถวำยแด่พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช มหิตลำธิเบศร รำมำธิบดี จักรีนฤบดินทร สยำมมินทรำธิรำช บรมนำถบพิตร
How:
อิ น ดี้ ไ ทย ร้ องเพลงเพื่อ พ่อ Where: สถานีโทรทัศน์ ไ ทยพีบีเ อส
กลุ่มเยำวชนโคตรอินดี้ น�ำโดย บุรินทร์ทร แซ่ล้อ หรือเฮงโคตรอินดี้ นัดรวมพลศิลปินอินดี้ ผูม้ ใี จรักพ่อภำยในเวลำไม่กชี่ วั่ โมง ปรำกฏว่ำมีศลิ ปินมำรวมตัวกันคับคัง่ น�ำทีมโดย เทียรี่ เมฆวัฒนำ, เล็ก พรำว, หนุม่ ทีโบน, โป้ โยคีเพลย์บอย, สุกญ ั ญำ มิเกล, เอส กล้วยไทย, หล่น Tea for Three, ตัม้ sakalaxy, เจสซี่ เมฆวัฒนำ, เบียร์ สรณัฐ, Johnnifer The Voice Thailand Season 3 และอีกมำกมำย เพือ่ ร่วมสร้ำงสรรค์ ผลงำนเพลงเพือ่ พ่อ โดยร่วมร้องเพลงพระรำชนิพนธ์ ‘ชะตำชีวติ ’ และ ‘เพลงของพ่อ’ แต่งโดย เก่ง-ประวิทย์ แซ่ลอ้ ซึง่ เป็นน้องชำยของบุรนิ ทร์ทร แซ่ลอ้ เพือ่ น้อมร�ำลึกในพระมหำกรุณำธิคณ ุ ของพระองค์ทำ่ น
How:
เดอะมอลล์ รวมพลังดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ร่วมถวายสักการะพ่อหลวง Where: ศู น ย์ ก ารค้ า ดิ เอ็ ม ควอเที ย ร์
บริษทั เดอะมอลล์ กรุป๊ จ�ำกัด และบริษทั ในเครือ ผูป้ ระกอบกำรภำยในศูนย์กำรค้ำ และ ประชำชนทัว่ ไปกว่ำ 2,000 คน รวมพลังดวงใจเป็นหนึง่ เดียว ร่วมถวำยสักกำระหน้ำพระบรมฉำยำลักษณ์ และแสดงควำมไว้อำลัยแด่พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช เพื่อขอน้อมเกล้ำ น้อมกระหม่อมร�ำลึกในพระมหำกรุณำธิคณุ หำทีส่ ดุ มิได้ โดยทุกคนร่วมขับร้องเพลงสรรเสริญพระบำรมี จำกนั้นร่วมยืนไว้อำลัยแด่พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช เป็นเวลำ 9 นำที และ ก้มกรำบถวำยควำมเคำรพพระบรมฉำยำลักษณ์และลงนำมแสดงควำมไว้อำลัยโดยพร้อมเพรียงกัน ทัง้ นีไ้ ด้เปิดให้ประชำชนทัว่ ไปลงนำมแสดงควำมไว้อำลัย ณ จุดลงนำมทีเ่ ดอะมอลล์ทกุ สำขำ ศูนย์กำรค้ำ ดิ เอ็มโพเรียม ดิเอ็มควอเทียร์ ศูนย์กำรค้ำสยำมพำรำกอน และศูนย์กำรค้ำบลูพอร์ต หัวหิน
มี เรคคอร์ ด ขอร่ ว มเป็ น อี กหนึ่ ง พลั ง ใจท� าดี เ พื่ อ ‘พ่ อ’ Where: ท้ อ งสนามหลวง
How: มี เรคคอร์ด น้อมน�ำพระรำชด�ำรัสของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช
ทีว่ ำ่ ‘เสียใจได้ แต่อย่ำละเลยหน้ำที’่ มำเป็นพลังใจส�ำคัญในกำรยืนหยัดใช้ชวี ติ ท่ำมกลำงควำมอำดูร ของแผ่นดินไทย โดยศิลปินจำกค่ำย มี เรคคอร์ด ได้ร่วมกันสร้ำงสรรค์พลังควำมดีเพื่อน้อมถวำย เป็นพระรำชกุศลแด่พอ่ หลวง เริม่ ทีน่ กั แต่งเพลงและผูบ้ ริหำรค่ำยเพลง ฟองเบียร์-ปฏิเวธ ได้เขียนเพลง ‘พ่อครับ’ ออกมำจำกหัวใจ เอก-สุดเขต สมำชิกวงซีซันไฟฟ์ ได้เข้ำพิธีอุปสมบทหมู่ เพื่อน้อมถวำย เป็นพระรำชกุศลแด่พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช ซึ่ง เอ-วงพอส ก็จะเป็น อีกคนหนึ่งที่ตำมเข้ำร่มกำสำวพัสตร์ในเดือนพฤศจิกำยนนี้ด้วยเช่นกัน ส่วน ตุลย์-เพลย์กรำวด์ รวมกลุ่มกับมิตรสหำยถ่ำยรูปบันทึกควำมทรงจ�ำแก่ประชำชน ณ ท้องสนำมหลวงฟรี นอกจำกนี้ ยังมี ฟิลม์ -บงกช และแด๊กซ์ ร็อกไรเดอร์ ร่วมระดมทุนแบ่งปันอำหำร เครือ่ งดืม่ และยำสำมัญ ไปแจกจ่ำย ให้ประชำชนบริเวณท้องสนำมหลวงอีกด้วย
บริ ษั ท สรรพสิ น ค้ า เซ็ น ทรั ล ร่ ว มแสดงความจงรั ก ภั ก ดี และแสดง ความไว้ อาลั ย Where: ศู นย์ ก ารค้า เซ็นทรัล เอ็มบาสซี How: คณะผูบ้ ริหำรและพนักงำนของ บริษทั สรรพสินค้ำเซ็นทรัล จ�ำกัด น�ำโดย นิตย์สนิ ี จิรำธิวฒั น์
และสิรเิ กศ จิรกิติ กรรมกำรผูจ้ ดั กำรใหญ่ ร่วมแสดงควำมจงรักภักดี และแสดงควำมไว้อำลัย พระบำทสมเด็จ พระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช ด้วยส�ำนึกในพระมหำกรุณำธิคุณเป็นล้นพ้นหำที่สุดมิได้ นอกจำกนี้ ทำงศูนย์กำรค้ำเซ็นทรัล เอ็มบำสซี ยังได้จัดดอกไม้สดในโทนสีขำวปักบนโครงร่ำงรูปทรงคล้ำยมวลเมฆ และเลข ๙ ซึง่ หมำยถึงเลขประจ�ำรัชกำล สะท้อนควำมหมำยว่ำแม้เสด็จสูส่ วรรคำลัย แต่พระองค์ทำ่ นก็ยงั คง ทอดพระเนตรปวงชนชำวไทยด้วยควำมรักตลอดไป ทัง้ นีท้ ำงศูนย์กำรค้ำเซ็นทรัล เอ็มบำสซี ยังเปิดโอกำส ให้ประชำชนทัว่ ไปได้รว่ มลงนำมแสดงควำมไว้อำลัยถึงวันที่ 15 พฤศจิกำยนนี้ เพือ่ แสดงควำมรักและภักดี แด่องค์พอ่ หลวงร่วมกัน
Cs LoxiNfo แสดงความไว้ ค วามอาลั ย How: คณะกรรมกำร ผูบ้ ริหำร พนักงำน บริษทั ซีเอส ล็อกซอินโฟ จ�ำกัด (มหำชน)
จัดพิธไี ว้อำลัยแด่องค์พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช เพือ่ น้อมเกล้ำน้อมกระหม่อม ร�ำลึกในพระมหำกรุณำธิคณ ุ อันหำทีส่ ดุ มิได้
24 7 - 25
Text: สุกฤษฏิ์
FILMOGRAPHY
ความสุขของกะทิ: สุขอย่างพอเพียง หล่อเลี้ยงด้วยความอาทร
• เมือ่ กล่าวถึงแนวทางและปรัชญา ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ ตามพระราชด�ารัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้เป็นที่รักของปวงชน ชาวไทยแล้วนัน้ หลายครัง้ เรามักจะเข้าใจว่า เป็นสิง่ ทีเ่ กีย่ วพันกับแง่มมุ ทางด้าน การเงิน เศรษฐกิจ และปากท้องแต่เพียงอย่างเดียว แต่ถา้ ลองลงลึกถึงแก่นแท้แล้วนัน้ จะพบว่าครอบคลุมถึงแนวคิดการใช้ชวี ติ ในหลากมิติ ทีม่ งุ่ หวังให้เราค้นพบความสุข อย่างเรียบง่ายตามอัตภาพ และเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ตามปัจจัยทีม่ ี ซึง่ ภาพยนตร์ เรือ่ ง ความสุขของกะทิ ทีด่ ดั แปลงจากนวนิยายผ่านปลายปากกาของ งามพรรณ เวชชาชีวะ เจ้าของรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยีย่ มแห่งอาเซียน (รางวัลซีไรต์) ปี พ.ศ. 2549 ทีจ่ ะจูงมือผูช้ มไปพบกับโลกอันเรียบง่าย และงดงาม ทีอ่ บอวลไปด้วย ความอาทรอันพอเพียงตามแนวทางพระราชด�ารัสทุกประการ ‘ความสุขของกะทิ’ จะบอกเล่าถึงเรือ่ งราวชีวติ ของ หนูกะทิ (น�าแสดงโดย น้องพลอย-ภัชธร ธนวัฒน์) เด็กหญิงวัยเก้าขวบ ทีก่ า� ลังจะสูญเสียคุณแม่ผปู้ ว่ ยเป็น โรคกล้ามเนือ้ อ่อนแรง (ALS) อันเป็นวาระทีย่ ากล�าบากส�าหรับเด็กหญิงทีเ่ ริม่ รูค้ วาม แต่กระนัน้ กะทิกห็ าได้โดดเดีย่ วไม่ เพราะรอบข้างของหนูนอ้ ยยังคงมีคนทีค่ อย ห่วงใย ใส่ใจ และมอบความเอือ้ อาทรให้อย่างเต็มเปีย่ ม ทัง้ คุณยายทีเ่ จ้าระเบียบ แต่อารี คุณตาผูค้ งแก่เรียนแต่สนุกสนาน น้าชายผูเ้ มตตา ทีผ่ ชู้ มจะได้รบั ทราบ ความอบอุ่น และการเดินผ่านช่วงเวลาวิกฤติแห่งชีวิตด้วยแนวทางที่ ‘พอเพียง’
Trivia • คุ ณ งามพรรณ เวชชาชี ว ะ ได้ก�าหนดเนื้อหาในนวนิยาย ให้คุณแม่ของกะทินั้นป่วยเป็น โรคกล้ามเนือ้ อ่อนแรง (Amyotrophic Lateral Sclerosis, ALS) ซึ่งคุณพ่อของเธอก็เป็นแพทย์ ผู ้ เ ชี่ ย วชาญในสาขาดั ง กล่ า ว ทัง้ นี้ โรคกล้ามเนือ้ อ่อนแรง เคย เป็นประเด็นที่ส�าคัญ จากการ รณรงค์ ‘Ice Bucket’ ทีก่ ระหึม่ โลกโซเชียลเมือ่ สองปีทผี่ า่ นมา • นวนิยายเรื่องความสุขของ กะทินนั้ เป็นทีช่ นื่ ชอบของบุคคลหลายวงการ รวมถึง นภ พรช�านิ ผูท้ า� เพลงประกอบ และ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล นักวิชาการชือ่ ดัง ทีช่ อบถึงขนาดทีก่ ล่าวว่า ถ้ากะทิโตเป็นสาวอยากจะให้มาแต่งงานกับลูกชายของตนเลยทีเดียว • แม้จะมีเนื้อหาที่หนักหน่วงและแทรกด้วยปรัชญา แต่คุณงามพรรณ เวชชาชีวะ ได้ใช้หลักการเขียนในสไตล์ ‘ท�าน้อย ได้มาก’ แบบเดียวกับ อเลซซานโดร บาริกโก นักเขียนชาวอิตาเลียนเจ้าของผลงานชื่อดังอย่าง ‘ไหม (Seta)’ ‘โนเวเชนโต้ (Novecento, ได้รบั การสร้างเป็นภาพยนตร์เรือ่ ง The Legend of 1900) ซึง่ เป็นสไตล์ ทีเ่ ขียนได้ยาก และสร้างความล�าบากให้กบั คุณงามพรรณในการร้อยเรียงเนือ้ หาอยูพ่ อสมควร
26 - 24 7
และ ‘เพียงพอ’ ในบรรยากาศบ้านริมคลอง ทีร่ าวกับจะสงวนเอาไว้เพือ่ ให้ตวั ละคร กับผูช้ มได้ทบทวนความคิดและจิตใจของตนเองไปในคราวเดียวกัน ภาพยนตร์เรือ่ ง ‘ความสุขของกะทิ’ นี้ เป็นผลงานการก�ากับของ เจนไวย์ ทองดีนอก ที่ประเดิมงานในฐานะผู้ก�ากับครั้งแรกด้วยผลงานดัดแปลงจาก นวนิ ย ายเรื่ อ งนี้ และมาพร้ อ มกั บ นั ก แสดงผู ้ ม ากฝี มื อ คั บ คั่ ง อาทิ สะอาด เปีย่ มพงศ์สานต์, จารุวรรณ ปัญโญภาส, รัชนก แสง-ชูโต และกฤษดา สุโกศล แคลปป์ (น้อย วงพรู) ทัง้ ยังได้ นภ พรช�านิ อดีตนักร้องน�าวง P.O.P มาร่วมบรรเลงเพลงประกอบ และมีหม่อมราชวงศ์ปัทมนัดดา ยุคล ช่วยอ�านวยการตัดต่อภาพให้ออกมา สวยงาม เรียบง่าย สงบนิง่ และมากด้วยความหมาย ภายใต้ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย ห้วงความคิดค�านึงที่สับสน มันอาจจะเป็นจังหวะที่การรื้อฟื้นคุณค่าและแนวทางของความ ‘พอเพียง’ ผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นสื่อกลางนั้น มีความจ�าเป็นภายใต้โลกอัน ‘ล้นเกิน’ ที่การหาจุดลงตัวที่จะเป็นสะพานเชื่อมให้เราด�ารงตนได้อย่างพอดีตามอัตภาพ อาจจะช่วยให้เราสามารถข้ามผ่านภาวะอันเร่งเร้า สับสน และโศกเศร้า เช่นเดียวกับ ที่หนูน้อยกะทิและผู้ที่อยู่รอบตัวเธอได้เรียนรู้ ท�าความเข้าใจ และด�าเนินชีวิต ได้อย่างงดงามตามแนวทางพระราชด�ารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมพิ ลอดุลยเดช ดังภาพยนตร์เรือ่ งนีก้ เ็ ป็นได้
Must see
Be With You: ปาฏิหาริย์ 6 สัปดาห์ เปลี่ยนฉันให้รักเธอ
• ท่ามกลางห้วงอารมณ์ แห่งการสูญเสีย แม้จะเป็น สภาวะอันเป็นอนิจจังของ ทุ ก สิ่ ง แต่ ใ ครเล่ า จะบอก ออกมาว่ า สามารถเรี ย นรู ้ มันได้อย่างเต็มปาก เช่น เดียวกับ ‘ทาคุมิ’ ชายหนุ่ม พ่อหม้าย ที่ต้องดูแล ‘ยูจิ’ ลูกชายวัยหกขวบ ทีภ่ รรยา ของเขาได้จากไปด้วยอาการ ป่วยไข้ แต่กับสมุดโน้ตที่ เหลือทิง้ ไว้ ค�าสัญญาทีจ่ ะกลับมาหาในฤดูฝน และปาฏิหาริยท์ เี่ กิดขึน้ เมือ่ ภรรยาและแม่ผเู้ ป็นทีร่ กั ได้กลับมา จะช่วยให้สองพ่อลูกได้คน้ พบความรัก ความอบอุน่ ความเอือ้ อาทร และการเรียนรู้ ทีจ่ ะก้าวต่อไป ใน Be With You ปาฏิหาริย์ 6 สัปดาห์ เปลีย่ นฉันให้รกั เธอ ผลงานภาพยนตร์ เดบิวต์ยอดเยี่ยมจากผู้ก�ากับมากฝีมือ โนบุฮิโระ โดอิ ในปี 2548 ที่เป็นหนังขึ้นหิ้งของ นักดูภาพยนตร์หลายต่อหลายคน ในการตัดต่อทีส่ วยงาม เนือ้ หาทีเ่ รียบง่าย แต่ลกึ ซึง้ ในแก่นคิด และสามารถเรียกน�า้ ตาแม้แต่คนทีใ่ จแข็งทีส่ ดุ ให้รว่ งได้อย่างไม่ยาก ในวาระแห่งการสูญเสีย การเรียนรูท้ จี่ ะก้าวต่อไปคือสิง่ ทีส่ า� คัญยิง่ และการน�า Be With You กลับมาดูอีกครั้ง แม้จะเป็นปลายทางที่ Bittersweet แต่มันก็เป็นหลักฐานส�าคัญว่าเมื่อ ฤดูฝนอันหมองเศร้าได้ผา่ นพ้น แสงสว่างจักกลับคืนมา เพือ่ คืนเรีย่ วแรงให้เราออกเดิน…อีกครัง้
music corner Text: Jessica
คืนเศร้ากับอัลบั้มบทเพลงพระราชนิพนธ์
The Jazz King ส�าเนียงแจ๊สในห้วงค�านึง อัลบั้มบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่จัดท�าขึ้นเมื่อครั้งเฉลิมฉลองวาระที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงครองสิรริ าช สมบัตคิ รบ 60 ปี ในปีพทุ ธศักราช 2549 และการเริม่ ปีมหามงคลที่ พระองค์จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษาในปีพทุ ธศักราช 2550 โดยความร่วมมือของมูลนิธโิ ครงการหลวง ร่วมกับ สโมสรโรตารี กรุงเทพ ภายใต้การดูแลของ Larry Carlton นักกีตาร์แจ๊สชัน้ แนวหน้า ชาวอเมริกัน ซึ่งนอกจากจะมาโชว์ฝีมือการบรรเลงกีตาร์ที่ไพเราะ จับใจแล้ว เขายังดึงผองเพือ่ นชือ่ ดังของวงการแจ๊ส อาทิ Earl Klugh, Nathan East, Harvey Mason, Tom Scott ฯลฯ มาร่วมบรรเลง โดยใช้ชอื่ การรวมตัวเฉพาะกิจในครัง้ นัน้ ว่า Larry Carlton & Guests - All Star Jazz อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์จ�านวน 10 บทเพลง มาเรียบเรียง บรรเลง และขับร้องใหม่ในลีลาทีต่ รึงใจ การได้กลับมาฟังงานเพลง ในอัลบั้มนี้อีกครั้งหลังจากว่างเว้นไปนาน ท�าให้น�้าตาเริ่มไหลริน ด้วยความส�านึกในพระมหากรุณาธิคณุ ‘ในหลวงของปวงชนชาวไทย’
BOOKSHELF Text: Yamin
แนะน�าหนังสือที่จะท�าให้ปวงชนชาวไทยเข้าใจในพระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตร ของกษัตริย์ผู้ทรงงานตลอดพระชนม์ชีพ
ดุจดวงตะวัน • ใครที่มีหนังสือเล่มนี้อยู่กับตัว ควรค่ายิ่งที่จะรักษาไว้ด้วยเหตุผล หลายๆ ประการ ประการแรกคือ เป็นหนังสือรวมพระราชนิพนธ์ ประเภทต่างๆ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประการถัดมาที่ส�าคัญยิ่งคือ เรื่องราวที่รวบรวมอยู่ภายในเล่มเป็น เรือ่ งราวทีเ่ กีย่ วข้องกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช นี่ จึ ง เป็ น หนั ง สื อ ที่ ถ ่ า ยทอดความเคารพรั ก ของลู ก สาวถึ ง พ่ อ มี ทั้ ง พระราชนิพนธ์กวี บทเพลงพระราชนิพนธ์ พระราชนิพนธ์สารคดี บทสัมภาษณ์ และปาฐกถา รวมไปถึงภาพการ์ตนู ฝีพระหัตถ์ ทีเ่ ต็มไปด้วย ความหมายและคุ ณ ค่ า ‘ดุ จ ดวงตะวั น ’ จึ ง เป็ น การเปรี ย บเปรยถึ ง แสงแห่งพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทีส่ อ่ งทางแห่งความสุข สันติ และความร่มเย็น แก่ประชาชนชาวไทย คณะกรรมการจัดงานสัปดาห์หนังสือ แห่งชาติ ครัง้ ที่ 27 พ.ศ. 2542 และนานมีบคุ๊ ส์ จัดท�าขึน้ เนือ่ งในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา รวบรวมเนือ้ หาโดย ศุภรัตน์ เลิศพาณิชย์กลุ
การทรงงานของพ่อในความทรงจ�า • ถ้าให้นกึ ถึงข้าราชบริพารทีร่ บั ใช้ใต้เบือ้ งพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 อย่างใกล้ชิด ต้องมีชื่อ อ.ปราโมทย์ ไม้กลัด อยู่ในล�าดับแรกๆ เขาคือผู้ที่ได้ชื่อว่า ‘ข้าราชการที่ดีของในหลวง’ เขาคือสามัญชนลูกชาวสวนส้มที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน จนสามารถสอบชิงทุน อานันทมหิดลได้ไปศึกษาต่อยังต่างแดน ก่อนจะกลับมารับใช้แผ่นดิน และสนองพระราชด�าริในเรื่อง ‘การชลประทาน’ อย่างเต็มก�าลัง ความสามารถ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นดั่งหลักฐานให้เห็นการทรงงาน อย่างไม่ย่อท้อและเหน็ดเหนื่อย ในการบ�าบัดทุกข์บ�ารุงสุขแก่ราษฎร โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ทุกบรรทัดกลั่นกรองจากความทรงจ�าที่แจ่มชัดเสมอ ในจิตใจของอดีต อธิบดีกรมชลประทานผูน้ ี้ อีกทัง้ ในเล่มยังมีภาพประกอบทีค่ วรค่าแก่การ อ่าน และชม เพือ่ สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยได้มหี ลักชัยในการด�ารงชีวติ โดยเฉพาะเยาวชนรุน่ หลังจะได้ซมึ ซับว่า ในแผ่นดินยุคหนึง่ ของไทยได้มี พระมหากษัตริย์ผู้เสียสละพระวรกายเพื่อความสุขของคนในชาติ มากขนาดนี้ หนังสือเล่มดังกล่าวจัดท�าขึน้ เพือ่ ช่วยเหลือ และสนับสนุน สมาคมสงเคราะห์สตั ว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้รบั เสียงตอบรับทีด่ ี จนท�าให้เกิด ‘การทรงงานของพ่อในความทรงจ�า เล่มที่ 2’ ในเวลาต่อมา
ความทรงจ�าในการตามเสด็จ ต่างประเทศทางราชการ เพลงของพ่อผ่านเสียงกีตาร์คลาสสิก พระปรีชาสามารถทางด้านดนตรี คือหนึ่งในพระอัจฉริยภาพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช อันเป็นทีป่ ระจักษ์ แก่สาธารณะและได้รับการยกย่องไปทั่วโลก เพลงพระราชนิพนธ์ แสดงให้เห็นถึงการทรงความรูอ้ ย่างแตกฉานในทฤษฎีการประพันธ์ บทเพลงแจ๊สและบลูส์ ทีถ่ อื เป็นความแปลกใหม่ของวงการเพลงไทย ในขณะนัน้ โดยหนึง่ ในผลงานซึง่ เป็นทีร่ จู้ กั อย่างกว้างขวาง คือ อัลบัม้ Candlelight Blues เมื่อปี 2538 การบรรเลงเดี่ยวกีตาร์คลาสสิก เพลงพระราชนิพนธ์ โดยนักกีตาร์ชาวเยอรมัน Hucky Eichelmann อัญเชิญ 13 บทเพลงยอดนิยม อาทิ ค�า่ แล้ว ชะตาชีวติ ดวงใจกับความรัก ลมหนาว ใกล้รงุ่ ยามเย็น แสงเทียน ฯลฯ ถ่ายทอดลงบนเอ็น 6 สาย บรรเลงผ่านปลายนิว้ ด้วยความละเมียดละไม เสียงของกีตาร์คลาสสิก ในแต่ละโน้ต นอกจากจะสุขุมลุ่มลึก ยังเยือกเย็นจับใจ ดั่งสายฝน โปรยปรายในค�า่ คืนทีร่ ะงมไปด้วยเสียงร�า่ ไห้ของพสกนิกร
• เราขอใช้ภาษาชาวบ้านเรียกหนังสือเล่มนี้ว่า ‘ไดอารี่ของราชินี’ และขอใช้ภาษาทั่วไปบรรยายว่า นี่คือหนังสือที่มีค่ายิ่ง ณ ห้วงกาลนี้ เพราะเป็ น บั น ทึ ก ความทรงจ� า จากสายพระเนตรของแม่ ห ลวง จากการทีท่ รงเฝ้าติดตามพระบารมีของพ่อหลวง และร่วมอยูใ่ นเหตุการณ์ การทรงงาน ณ ต่างแดนมาโดยตลอด โดยเป็นเรือ่ งราวระหว่างการปฏิบตั ิ พระราชกรณียกิจช่วงปี พ.ศ. 2502-2510 ใน 15 ประเทศ แต่ละเรือ่ งราว น�ามาซึง่ ความซาบซึง้ ความประทับใจ และความตืน่ เต้น ไม่เพียงแค่กบั ประชาชนที่อ่าน หากแต่พระองค์ผู้พระราชนิพนธ์ก็ทรงรู้สึกแบบนั้น เช่นกัน ทัง้ ยังมีภาพประกอบเป็นพระบรมฉายาลักษณ์หาชมยาก และมี พระราชประวั ติ พ อสั ง เขปให้ ศึ ก ษาด้ ว ย ตี พิ ม พ์ ค รั้ ง แรกโดยกอง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เสรีรัฐ เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 36 พรรษา ในวาระแรกใช้ชอื่ หนังสือว่า ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ ต่อมาส�านักพิมพ์กเิ ลนการพิมพ์ได้นา� ไปจัดพิมพ์ตอ่ ในชือ่ หนังสือ ‘ความ ทรงจ�าในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ’ ทัง้ ยังท�าฉบับแปลในชือ่ ‘In Memory of The State Visits of His Majesty The King’ เอาไว้ดว้ ย
24 7 - 27
“เวลาที่ทรงพระส�าราญ คือเวลาที่เสด็จฯ ออกวาง โครงการพัฒนาประเทศ และเห็นว่าพระราชด�าริ คงจะมี ป ระโยชน์ ต ่ อ ประชาชนในเวลาที่ เ ห็ น ผล จากโครงการต่างๆ อีกประการหนึ่งที่ท�าให้ทรงพระส�าราญคือ การทีไ่ ด้ทอดพระเนตรเห็นประชาชนมีนา�้ ใจต่อท่านและประชาชน ด้วยกัน ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินจะมีส่วนช่วยพระองค์ท่านได้โดย การช่วยตัวเอง ช่วยเพือ่ นร่วมชาติคนอืน่ ๆ มีความรักความสามัคคีกนั ท�าตนเป็นพลเมืองดี เห็นแก่ชาติบา้ นเมือง” • พระราชกระแสจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี จากหนังสือในหลวงของเรา ตีพมิ พ์เมือ่ พ.ศ. ๒๕๑๙
“พระเจ้าอยูห่ วั นี่ แม้แต่อยูล่ า� พัง ไม่เคย เห็นท่านเคยรับสัง่ อะไรทีไ่ ม่ควร ไม่เคย โปรดเลยที่จะว่าใครนินทาใคร ท่าน ไม่มีเลย ท่านไม่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ใครเลย แม้แต่ อยู่ล�าพังนี่ ท่านก็จะพูดสิ่งที่สร้างสรรค์ทั้งนั้น ท่าน จะสนุก อย่างเรื่องดนตรี เรื่องเรือใบ ตอนนี้ท่านก็ สนุกกับการพัฒนา ท่านก็พูดแต่พัฒนาแผนที่ของ ท่าน ท่านไม่รับสั่งเรื่องที่ไปกระทบหรือไปใส่ร้าย หรืออะไรกับใคร ต้องคนอยูใ่ กล้พระองค์นถี่ งึ จะเห็น แล้วท่านท�าอะไร ท่านก็ท�าเองหมดเลย อย่างจะ เสด็จฯ ภาคใต้นี่ ท่านก็แพ็กของเอง ในการแต่ง พระองค์ก็ไม่สนพระทัยเลย ข�า เมื่อตอนท่านหนุ่มๆ บอกว่าท่านดัดผม (ทรงพระสรวล) ในหลวงดัดผม ที่แท้แม้แต่จะส่องกระจกนานๆ ก็ไม่ส่อง ไม่สน พระทัย แล้วก็อย่างกระดุม กระดุมของรัชกาลที่ ๕ ที่ทรงใส่ ๕ เม็ดนี่ สวย เป็นไพลิน งามๆ ทั้งนั้น ฉันเอามาให้ท่านไว้ใส่ ท่านก็ไม่ชอบใช้ นาฬิกาซื้อ ถวายเมื่อวันเฉลิมฯ ซื้อเป็นเรือนทอง ท่านก็ไม่ชอบ เพราะท่านบอกว่า “ต้องแกะเข้าแกะออก ฉันไม่ชอบ ชอบเวลาล้างมืออะไรมันได้ทั้งนั้น” ตกลงเสด็จฯ ออกสเตทวิ สิ ท (การเสด็ จ พระราชด� า เนิ น เยื อ น ต่างประเทศอย่างเป็นทางการ) ก็นาฬิกาเหล็กนั่น เสด็จฯ ลงเรือใบก็นาฬิกาเหล็กเรือนนั้น” • พระราชกระแสจากสมเด็ จ พระนางเจ้ า สิ ริ กิ ติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานสัมภาษณ์กับคณะ ผู้สื่อข่าวไทย เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๒๓
ภาพ: thaipublica.org
สารพันเรือ่ งเล่าของพระราชาแห่งพสกนิกรไทย จากพระราชวงศ์ผใู้ กล้ชดิ และประชาชนผูไ้ ด้รบั พระมหากรุณาธิคณ ุ อย่างหาทีส่ ดุ มิได้จากในหลวงรัชกาลที่ ๙
“ไปเรียนหนังสือ ไม่ได้ไปเรียนอยู่แต่ในห้องนะ ให้ไปดูสวิ า่ ในเมืองนอกเขาท�าอะไรกัน เรือ่ งราวของ ชลประทาน เรื่องราวของเขื่อนเขาท�ากันแบบไหน ไปเก็บความรูใ้ ห้ได้มากทีส่ ดุ เพือ่ น�ามาไว้ใช้ประโยชน์ในบ้านเรา” พระองค์ทา่ นได้แสดงให้เห็นถึงพระเมตตา และพระทัยใส่ ทีท่ า� ให้ ผมซาบซึง้ ใจอย่างหาทีส่ ดุ มิได้จนขนลุกไปหมด เมือ่ พระองค์ตรัสถาม อธิบดีกรมชลประทานว่า “ถ้าปราโมทย์เขาไปแล้วจะเป็นอย่างไร ได้ขา่ วว่าพ่อแม่เขาเป็นชาวสวน ปราโมทย์เขาต้องส่งสตางค์ให้พอ่ แม่ ทุกเดือน เมือ่ ไปแล้วจะยังได้รบั เงินเดือนอยูห่ รือเปล่า” ผมได้ยนิ ได้ฟงั นี่น�้าตาซึมไหลออกมาโดยอัตโนมัติ ด้วยความปลาบปลื้มซาบซึ้ง พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ ปกครองประชาชนทัง้ ประเทศ ไม่นกึ เลย ว่าพระองค์เป็นห่วงแม้กระทัง่ ครอบครัวของผมทีอ่ ยูใ่ นสวนส้ม หลังจากเรียนจบมาแล้ว สิง่ ส�าคัญในชีวติ ทีท่ า� ให้รบั ราชการ ด้วยความเต็มใจถวายหัวและภูมใิ จเป็นอย่างยิง่ คือการได้เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานผลการศึกษา ผมเตรียมพร้อมด้วยความตั้งใจ และ พยายามที่จะจับใจความสิ่งที่พระองค์ทรงมุ่งหวังให้ผมท�าอะไร ให้เกิดประโยชน์กบั บ้านเมือง แต่พระองค์ไม่ได้รบั สัง่ โดยตรง เพียงแค่ ชีแ้ นวทางและไม่ผกู มัดคาดหวังสิง่ ใดจากผมเลย แต่พระราชด�ารัส หนึง่ ทีช่ ดั เจนเหลือเกิน ก้องอยูใ่ นหัวมิอาจลืมเลือน ชัดเจนในชัว่ ชีวติ ของผมเลยก็วา่ ได้ “ฉันไม่มีการเซ็นสัญญาที่จะต้องท�างานรับใช้ทุน รับใช้ ราชการเป็ น ลายลั ก ษณ์ อั ก ษรนะ แต่ อ ยากจะขอให้ ท� า งาน ใช้ประสบการณ์ตา่ งๆ ทีเ่ รียนมาให้เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมต่อไป” • เรื่องเล่าจาก ปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน และรองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
“ในช่วงที่เราท้อมากๆ กับงานที่ท�าอยู่ วันหนึ่ง เราได้รบั การสนับสนุนจากส�านักงานทรัพย์สนิ ส่วน พระมหากษัตริย์ และได้รบั ค�าพูดหนึง่ จากเจ้าหน้าที่ ของส�านักงานฯ ว่า สิง่ ทีเ่ ราท�าเป็นเรือ่ งดีให้ทา� ไปเถอะ งานทีเ่ ราท�า เป็นสิง่ ทีพ่ ระองค์ทา่ นอยากให้เกิดขึน้ ในหลวงเคยตรัสว่า ให้ทา� แต่เล็ก แต่นอ้ ย เริม่ จากตัวเราแล้วจึงค่อยแผ่ขยายไปในวงกว้าง แล้วมันจะ แข็งแรง อย่าท�าจากใหญ่เลย นัน่ คือหลักทีเ่ รายึดมาจนทุกวันนี”้ • เรือ่ งเล่าจาก ท็อป-พิพฒ ั น์ และนุน่ -ศิรพันธ์ คนรุน่ ใหม่หวั ใจอีโค ผู้สร้างศูนย์การเรียนรู้งานออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้ชอื่ ECOSHOP common
“ครัง้ แรกทีเ่ ข้าเฝ้า พระองค์ทา่ นรับสัง่ ว่า ใครทีเ่ ขียน รูปที่วัดพุทธปทีป ผมหมอบอยู่แทบพระบาทของ พระองค์ทา่ นและยกมือขึน้ บอกว่า “ข้าพระพุทธเจ้า พ่ะย่ะค่ะ” นีค่ อื ความภูมใิ จทีส่ ดุ ในชีวติ ไม่เคยมีครัง้ ใดเลยทีจ่ ะภูมใิ จ เท่านี้ หัวใจเราบอกกับตัวเองว่า “ไอ้เหลิมเอ๋ย เป็นความส�าเร็จแล้ว ในการรอคอยสิง่ นีม้ าตัง้ แต่เด็ก วันนีเ้ ป็นโอกาสของมึงแล้ว มึงท�าได้ แล้ว” จากการทีไ่ ด้เข้าเฝ้าและได้ฟงั ความเป็นครูของพระเจ้าอยูห่ วั ในการที่พระองค์ทรงวินิจฉัยรูป ได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของ พระเจ้าอยู่หัวในเชิงจิตวิทยาในการมอบหมายงานให้แต่ละคน ทรงให้กา� ลังใจ ให้ขอ้ คิด และมีพระอารมณ์ขนั เมือ่ ได้ใกล้ชดิ ยิง่ ท�าให้ เราไม่นกึ ไม่ฝนั ว่าพระเจ้าอยูห่ วั ท�าไมทรงมีชวี ติ ทีง่ า่ ยเหลือเกิน ทรง ขับรถมาพระองค์เดียว และหอบรูปของพวกเรามาด้วยพระองค์เอง และทรงบอกว่าเมือ่ คืนทรงไม่ได้บรรทมเลย เพราะทรงนัง่ ตรวจงาน ของพวกเราอยู่ เป็นปึง๊ ใหญ่มากๆ สิง่ นีก้ ส็ ร้างความประทับใจให้มาก ขนาดเป็นพระเจ้าอยูห่ วั ยังทรงงานหนักขนาดนี้ แล้วเราล่ะ เราก็ตอ้ ง ท�างานเพือ่ ชาติบา้ นเมือง นัน่ คือสิง่ ทีน่ า� ไปสูก่ ารสร้างวัดร่องขุน่ ซึง่ งานนี้ เป็นสิ่งที่ผมทุ่มเทท�าเพื่อถวายแด่พระเจ้าอยู่หัวด้วยชีวิตและจิต วิญญาณของผม นีค่ อื ศิลปะประจ�ารัชกาลที่ ๙ ทีเ่ ป็นทัง้ สถาปัตยกรรม จิตรกรรม และศิลปกรรม ผมเอาชีวติ เป็นเดิมพัน ไม่ขอและรับเงินใคร มาสร้างทัง้ สิน้ ผมขอสร้างวัดร่องขุน่ ให้เป็นงานศิลปะประจ�ารัชกาล ที่ ๙ ทีย่ งิ่ ใหญ่ระดับโลก ฝากไว้ในแผ่นดินนีโ้ ดยไม่ปรารถนาสิง่ ใด ตอบแทนจากพระองค์ทา่ น หรือจากประเทศชาติแต่อย่างใด” • เรือ่ งเล่าจาก เฉลิมชัย โฆษิตพิพฒ ั น์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ผูอ้ ทุ ศิ ตนสร้างงานศิลปะประจ�ารัชกาลที่ ๙
ภาพ: www.matichon.co.th
“ตอนนั้นผมก�าลังท�างานอยู่ในสภาพจิตใจที่แย่มาก มันไม่มีก�าลังใจจะท�าอะไร ท้อแท้กับงานมากไม่มีใคร เข้าใจ ‘เหมือนท�าดีแต่ไม่ได้ด’ี ในหลวงท่านเสด็จฯ มา พอดี และท่านได้เห็นสีหน้าผมไม่สจู้ ะดี ท่านได้สอบถามจนได้ความว่า ผมก�าลังท้อแท้กับงาน ท่านจึงตั้งค�าถาม และรับสั่งว่า “ท่านสุเมธ เคยขายเศษเหล็กไหม ? เศษเหล็กเหล่านัน้ เวลาขายคุณค่ามันต�า่ มาก ใช่ไหม ? คงได้เงินมาไม่กบี่ าทใช่ไหม ? แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านัน้ มาหลอมรวมกันเป็นแท่ง เวลาหลอมนีเ่ หล็กมันคงรูส้ กึ ร้อนมากใช่ไหม ? พอหลอมเสร็จเราน�ามาท�าเป็นดาบ คงต้องน�ามาตีให้แบนอีกใช่ไหม ? เวลาตีกต็ อ้ งคอยเอาไปเผาด้วย ต้องตีไป เผาไป อยูห่ ลายรอบจนกว่าจะ เป็นรูปเป็นร่างดาบอย่างทีเ่ ราต้องการ ต้องผ่านความเจ็บปวด ร้อนอยู่ นาน แถมเมือ่ เสร็จแล้วถ้าจะให้สวยงามดังใจ ก็ตอ้ งน�าไปแกะลวดลาย อีกใช่ไหม ? เวลาที่แกะลวดลายก็คงต้องใช้ของแข็งมีคมมาตีให้เป็น ลวดลายอีก แต่เมือ่ เสร็จเป็นดาบทีง่ ดงามก็จะมีคณ ุ ค่าทีส่ งู มาก เทียบกับ เศษเหล็กคงจะต่างกันลิบลับ จะเห็นว่ากว่าทีเ่ ศษเหล็กไม่มคี ณ ุ ค่ามากนัก จะกลายเป็นดาบอันงดงามนัน้ ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย ทัง้ ความ เจ็บปวดต่างๆ กว่าจะประสบความส�าเร็จ ดังนัน้ ขอให้จา� ไว้อย่างหนึง่ ว่า “ใครไม่เคยถูกตีถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น จงอย่าได้คดิ ท�าการใหญ่” • เรือ่ งเล่าจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิ ชัยพัฒนา ข้าราชบริพารทีร่ บั ใช้เบือ้ งพระยุคลบาทอย่างใกล้ชดิ
“ในครัง้ แรก ผมท�างานตามพระราชด�าริ โดยไม่ทราบ ว่าเป็นงานของพระองค์ จนกระทัง่ วันหนึง่ มีคนบอกว่า ให้เข้าไปในวังด้วยกัน และให้นา� ระบบสายอากาศ ชนิดใหม่ขนึ้ ไปติดตัง้ ก็ไม่ได้คดิ ว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมพิ ลอดุลยเดชจะเสด็จฯ มา แต่วา่ แปลกใจท�าไมอยูด่ ๆี เจ้าหน้าที่ ทีก่ า� ลังติดตัง้ อุปกรณ์ตา่ งๆ อยูบ่ นดาดฟ้าของพระต�าหนักถึงปีนลงมา ทัง้ ๆ ทีง่ านยังไม่เสร็จ แท้ทจี่ ริงพระองค์ทา่ นเสด็จฯ มายืนอยูข่ า้ งหลัง ผมเหลียวหลังไปมองนิดหนึง่ ครัน้ พอเห็นพระองค์ทา่ นก็ตกใจ เป็น อาการวูบขึน้ มาทันที นึกอยูใ่ นใจว่าใช่แล้ว ใช่แน่ๆ เพราะคิดว่าเหมือน ในรูป ผมก็รบี ท�าความเคารพ แล้วก็ทา� อะไรไม่ถกู สิง่ ทีผ่ มจ�าได้คอื เราต้องอยูต่ า�่ กว่า จึงรีบคุกเข่าให้ตา�่ ลงมาเป็นเหมือนชันเข่า เพราะว่า ตอนนัน้ พระองค์ทา่ นประทับยืนอยู่ ถ้านัง่ พับเพียบเลยก็จะต�า่ เกินไป เพราะว่าผมต้องพูดอธิบายด้วย ปรากฏว่าพระองค์ทา่ นก็คกุ เข่าลงไป ด้วย ผมก็เลยนัง่ พับเพียบให้ตา�่ ลงไปอีก พระองค์ทา่ นก็ทรงประทับ พับเพียบเหมือนกัน เลยกลายเป็นว่าวันนัน้ นัง่ พับเพียบสนทนากัน ๒-๓ ชัว่ โมง บนดาดฟ้าพระต�าหนักในเวลาช่วงบ่ายทีร่ อ้ นเปรีย้ ง” • เรื่องเล่าจาก รองศาสตราจารย์ ดร.สุธี อักษรกิตติ์ ผู้สนอง พระราชด�าริ ในโครงการระบบสือ่ สารสายอากาศ และอิเล็กทรอนิกส์
ภาพ: www.chaipat.or.th
ภาพ: www.sappayanammong.com
ภาพ: fb-ong kanjanavanit ภาพ: ig-toppipat
“เมือ่ ตอนอายุผม ๑๔ ปี ได้เข้าร่วมการแข่งขันเรือใบ ประเภท Super MOD รายการชิงแชมป์ประเทศไทย ที่พระราชวังไกลกังวล ยังจ�าได้อยู่ทุกวันนี้ มีอยู่ เทีย่ วนึงลมเบามากๆ ตอนนัน้ ผมน�้าหนักเพียง ๔๕ กก. เรือทีเ่ ข้า แข่งขันมีมากกว่า ๕๐ ล�า เมือ่ อ้อมทุน่ แรก เรือใบของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั ทรงอ้อมเป็นล�าแรก และเรือของผมอ้อมเป็นล�าที่ ๒ ทิ้งนักกีฬาล�าอื่นๆ แบบห่างมากๆ พระเจ้าอยู่หัวทรงหันมาทอด พระเนตรเห็นผมตามจีม้ าติดๆ ท่านก็ทรงพยายามบังคับเรือพระทีน่ งั่ ให้แล่นโดยเร็วทีส่ ดุ เพือ่ ทีจ่ ะทิง้ ผม ทันใดนัน้ เองได้เกิดมีลมกรรโชก มาค่อนข้างแรงมาก ด้วยความทีผ่ มมีนา�้ หนักทีเ่ บามาก ท�าให้เรือใบ ของผมเพิม่ ความเร็วแบบไม่ได้ตงั้ ตัว ผมพยายามสุดความสามารถ ทีจ่ ะหลบเพือ่ จะไม่ให้ชนเรือพระทีน่ งั่ แต่กไ็ ม่สามารถท�าได้ เรือของผม ชนท้ายเรือพระทีน่ งั่ แรงมากๆ เสียงดังลัน่ ทะเล ตูม้ ! ผมยังจ�าได้ดี จนทุกวันนี้ พระเจ้าอยูห่ วั ทรงหันกลับมาพร้อมทอดพระเนตรมาทีผ่ ม และทรงตรัสว่า “อุย้ !” ขณะนัน้ ผมไม่ทราบจะอธิบายความรูส้ กึ ได้ถกู ครับ มันทัง้ สัน่ ทัง้ กลัว ทัง้ อยากร้องไห้ สารพัดอารมณ์ทเี่ ข้ามาในหัว แต่สงิ่ ทีจ่ า� ได้ไม่ลมื เลยคือ พระองค์ทา่ นทรงแย้มพระสรวล แล้วทรง ตัง้ ใจแข่งต่อ ส่วนตัวผมนัน้ สัน่ ไปหมด อยากจะอ้วกกลางทะเล และ ได้ออกจากการแข่งขันไป พอกลับขึน้ ฝัง่ คุณพ่อ (ดร.รชฏ กาญจนะวณิชย์) ซึ่งก็แข่งด้วย และทราบเรื่อง ท่านก็เดินเข้ามาหาผมด้วย สีหน้าแปลกๆ ผมคิดว่าจะต้องโดนดุแน่ๆ แค่เห็นหน้าพ่อเดินมาหา ผมร้องไห้แบบแหกปากไม่หยุดเลยครับ คุณพ่อไม่ได้พดู อะไร แค่เอา ตัวผมมากอดไว้ ผมเลยร้องไห้หนักเลยคราวนี้ หลังจากนัน้ คุณพ่อท่าน ก็ได้พาไปเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวที่หาดทราย ซึ่งผมก็ก้มลงกราบ พระองค์ทา่ นทีพ่ ระบาท ท่านทรงตรัสสัน้ ๆ ว่า “เก่งมาก” คราวนี้ ผมยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีก เหตุการณ์ครั้งนั้นผมจะไม่มีวันลืมไป ชัว่ ชีวติ ของผมเลยครับ พระองค์ทา่ นทรงมีพระเมตตากับผมมากๆ หลังจากกลับมาทีพ่ กั คุณพ่อยังพูดตลกๆ กับผมว่า “นีถ่ า้ เป็นสมัย โบราณ ผมคงต้องถวายตัวเพื่อให้ตัดหัว เหมือนพันท้ายนรสิงห์” ตัง้ แต่นนั้ มา หลังจากทีค่ ณ ุ พ่อเสียชีวติ ผมได้มโี อกาสถวายงานให้ พระองค์ทา่ นมาตลอด ชีวติ นีผ้ มได้มอบให้พระองค์ทา่ นแล้วครับ” • เรือ่ งเล่าจาก ระดับ กาญจนะวณิชย์ เมือ่ ครัง้ แข่งเรือใบกับในหลวง แชร์จาก FB: Rungsrit Kanjanavanit
“เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชด�าเนินด้วยพระบาทเข้าไปในป่ายาง ท่ามกลางฝนตกหนักโดยมีสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ ตามรอยพระยุคลบาทไปไม่หา่ ง ค�า่ วันนัน้ ระหว่างเสด็จ พระราชด�าเนินกลับพระต�าหนักทักษิณราชนิเวศน์ ขบวนรถยนต์ พระที่นั่งได้หยุดลงอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุเป็นเวลา หลายนาที ถามไถ่ได้ความภายหลังว่า ยังมีทากหลงเหลือ กัดติด พระวรกายอยู่อีก เมื่อรู้สึกพระองค์จึงได้ทรงหยุดรถยนต์พระที่นั่ง และรับสั่งให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ช่วยจับทากออกจาก พระวรกาย ทรงตรัสมาทางวิทยุวา่ “หยุดขบวนสักประเดีย๋ ว ขอหยุด จับตัวยึกยือก่อน” ปรากฏว่ามีอยูต่ วั หนึง่ ติดพระศอ ทรงปลิดออก ทรงปล่อยตัวทากลงข้างทาง ทรงตรัสแบบอารมณ์ขันว่า “โถ... เขามาขอทาน ขอเลือดไปถึงสองซีซี ให้เขาไปเถอะ” • เรื่องเล่าจาก มนูญ มุกข์ประดิษฐ์ กรรมการและรองเลขาธิการ มูลนิธชิ ยั พัฒนา ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อดีตเลขาธิการ ส�านักงานกรรมการพิเศษเพือ่ ประสานงานโครงการอันเนือ่ งมาจาก พระราชด�าริ
24 7 - 29
Text: พลสัน นกน่วม
We Respect YouR King Liverpool Fc & Leicester city Fc ฟุ ต บอลคื อ กี ฬ ายอดนิ ย มอั น ดั บ หนึ่ ง ของคนไทย และ ลีกต่างประเทศทีม่ แี ฟนคลับชาวไทยเชียร์มากทีส่ ดุ ก็หนีไม่พน้ พรีเมียร์ลกี อังกฤษ คนไทยผูกพันกับฟุตบอลอังกฤษมาอย่างยาวนาน และ หลายครัง้ ทีส่ โมสรในอังกฤษท�าอะไรทีส่ อื่ สารถึงเมืองไทย แม้จะ ไม่ใช่สโมสรทีต่ วั เองรักหรือเชียร์ แต่ในฐานะคนไทยด้วยกันก็อด ทีจ่ ะภูมใิ จไม่ได้ ล่าสุด 2 สโมสรที่ท�าในสิ่งที่เรียกได้ว่าซึ้งใจคนไทย ทั้งประเทศในห้วงเวลานี้ก็คือการแสดงความอาลัยแด่พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยทั้ง 2 สโมสร ไม่ได้มกี ารส่งข่าวบอกมาก่อนล่วงหน้า แต่แฟนบอลไทยบังเอิญ ได้พบเห็นเอง และมีการพูดถึงน�า้ ใจในครัง้ นี ้ ทัง้ 2 สโมสรนัน่ คือ ‘ลิเวอร์พลู ’ และ ‘เลสเตอร์ ซิต’ี้ ส�าหรับสโมสรแรกที่ร่วมแสดงความเสียใจ และแสดง ความอาลัยแด่ในหลวง คือ ลิเวอร์พูล ในแมตช์ที่หงส์แดงเปิด บ้านเอนฟิลด์ ดวลกับผีแดง ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ลิเวอร์พลู เจ้าบ้านขึ้นข้อความแสดงความอาลัยที่ป้าย LED ข้างสนาม ข้อความที่ระบุอยู่ในป้ายคือ ‘ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ร�าลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ แด่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช พระราชาของปวงชนชาวไทย ข้าพระพุทธเจ้า สโมสรลิเวอร์พูล’ การขึ้นข้อความไว้อาลัย ดังกล่าวถูกพูดถึงในหมูแ่ ฟนบอลชาวไทยอย่างมาก และได้รบั เสียงชืน่ ชมอย่างล้นหลาม แม้จะเป็นแฟนทีมคูแ่ ข่งอย่างแมนยูฯ แต่พวกเขาก็ปรบมือให้กบั ลิเวอร์พลู อย่างเต็มใจ ส�าหรับการขึน้ ป้ายแสดงความอาลัยครัง้ นีท้ างสโมสรได้ อธิบายเหตุผล 4 ข้อด้วยกัน คือ 1. ลิเวอร์พลู เข้าใจดีวา่ คนไทยรัก พระมหากษัตริยม์ ากแค่ไหน และพวกเขาอยากร่วมเป็นส่วนหนึง่ ของการไว้อาลัย 2. ประโยคข้อความไว้อาลัยนัน้ ทางสโมสรเป็น ผู้เลือกเอง โดยมีการปรึกษากับทีมงานที่เป็นคนไทยถึงความ ถูกต้องเหมาะสมของข้อความ 3. ฟอนต์ทใี่ ช้นนั้ คือฟอนต์พเิ ศษ ทีช่ อื่ ว่า Liver Thai และ 4. ทผี่ า่ นมาลิเวอร์พลู มีสว่ นร่วมกับแฟนบอล ชาวไทยมาตลอด ทัง้ แสดงความยินดี หรือร่วมแสดงความเสียใจ ด้วยเสมอตามแต่เหตุการณ์ รวมถึงครัง้ นีก้ เ็ ช่นกัน ขณะเดียวกันกัปตันทีมหงส์แดง ‘จอร์แดน เฮนเดอร์สนั ’
30 - 24 7
ก็เป็นตัวแทนของทีมแสดงความเสียใจและกล่าวค�าไว้อาลัยแด่ พระมหากษัตริย์ของชาวไทยผ่านคลิปวิดีโอว่า “ในนามของ ตัวแทนลิเวอร์พูล เราขอแสดงความอาลัยต่อพระมหากษัตริย์ ของปวงชนชาวไทย และส่งก�าลังใจมายังแฟนลิเวอร์พลู ชาวไทย ทีก่ า� ลังอยูใ่ นช่วงเวลาทีน่ า่ เศร้า” อีกหนึ่งทีมในพรีเมียร์ลีก ที่ร่วมแสดงความอาลัยแด่ ในหลวง ก็คอื จิง้ จอกสยาม ‘เลสเตอร์ ซิต’ี้ แชมป์ฤดูกาลทีแ่ ล้ว โดยในแฟนเพจของสโมสรได้โพสต์ข้อความแสดงความอาลัย ว่า ‘เสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมร�าลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและ ร่วมแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ล อดุลยเดช ข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหารและพนักงาน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์’ หลังจากนั้นทีมงานของสโมสรเลสเตอร์ ทั้งนักเตะ และ สตาร์ฟโค้ช ได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย เป็นเวลา 1 นาทีก่อนการซ้อม พร้อมส่งสาส์นมายังแฟนบอลชาวไทยว่า ทางสโมสรขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึง้ ขณะเดียวกันยังสวม ปลอกแขนสีดา� ในนัดทีล่ งไปดวลกับ ‘เชลซี’ ด้วย และอีกไม่กี่วันต่อมาเกมนัดที่จิ้งจอกสยาม เปิดบ้านคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ‘เอฟซี โคเปนเฮเก้น’ ก่อนเริ่มเกม เจ้าบ้านเลสเตอร์ฯ ได้ฉายพระบรมฉายาลักษณ์ บนจอใหญ่ในสนามเป็นเวลา 1 นาทีกอ่ นเริม่ เกม พร้อมข้อความ แสดงความอาลัย และมีการแปรอักษรค�าว่า Leicester City เป็น สีขาว-ด�า นอกจากนี้ บ ริ เ วณหน้ า สนามยั ง มี ก ารลดธงชาติ ไ ทย ธงตราสัญลักษณ์ ยูฟ่า, ธงสหราชอาณาจักร และธงสโมสร ลงครึง่ เสา อีกทัง้ ในหนังสือโปรแกรมการแข่งขันนัดนี ้ ยังมีการ พิมพ์หน้าพิเศษขึ้นมาซึ่งในหน้าพิเศษมีข้อความแสดงความ อาลัยของ ‘อัยยวัฒน์ ศรีรตั นประภา’ รองประธานสโมสร พร้อม ด้วยการลงพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รวมถึงภาพที่เหล่า ทีมงานของเลสเตอร์ฯ ยืนไว้อาลัยในช่วงฝึกซ้อม และภาพนักเตะ สวมปลอกแขนสีดา� ในนัดทีเ่ จอกับเชลซี ล่าสุดนัดที่พวกเขาเปิดบ้านดวลกับ ‘คริสตัน พาเลซ’ ‘เคลาดิ โ อ รานิ เ อรี ’ กุ น ซื อ ของ ‘จิ้ ง จอกสยาม’ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นตัวแทนของทีมเลสเตอร์ฯ ถือพระบรมฉายาลักษณ์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ลงมาใน สนามเพือ่ ร่วมแสดงความอาลัย ก่อนเกมพรีเมียร์ลกี โดยในระหว่างนัน้ ยังมีการขึน้ พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อม ข้อความไว้อาลัยบนป้าย LED ว่า ‘ด้วยความเสียใจอย่างทีส่ ดุ ใน การสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช จากทีมงานและผูส้ นับสนุนของสโมสรเลสเตอร์ ซิต’ี้ รวมถึงยังมี การยืนสงบนิ่งก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้นด้วย ขณะเดียวกัน นักเตะทีมจิ้งจอกสยามก็สวมปลอกแขนสีด�าลงแข่งด้วยเป็น นัดทีส่ ามติดต่อกัน แม้จะอยูก่ นั ไกลคนละทวีป แต่ความห่วงใย และเอาใจใส่ ความรูส้ กึ ของแฟนบอลในเมืองไทยของลิเวอร์พลู และเลสเตอร์ ซิต ี้ ก็ถอื เป็นหนึง่ ก�าลังใจดีๆ ทีม่ อบคืนให้แก่แฟนบอลชาวไทย ทุกคน เพราะในห้วงยามนี้ก�าลังใจถือเป็นสิ่งที่ดีงามมากกว่า อืน่ ใดจริงๆ
ยังมีหลายสโมสรฟุตบอลใน พรีเมียร์ลีก ที่ร่วมแสดงความอาลัย ด้วยเช่นกัน อาทิ สโมสรเอฟเวอร์ตนั ใส่ปลอกแขนสีดำ� เพือ่ ร่วมแสดงควำมอำลัย ในนัดทีเ่ จอ กับแมนฯ ซิตี้ พร้อมโพสต์ขอ้ ควำมถวำยควำมอำลัยลงแฟนเพจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โพสต์ขอ้ ควำมแสดงควำมอำลัยลงแฟนเพจว่ำ ‘เสด็จสูส่ วรรคำลัย น้อมร�ำลึกถึงพระมหำกรุณำธิคุณและร่วมถวำยควำมอำลัยพระบำทสมเด็จ พระปรมินทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช ด้วยเกล้ำด้วยกระหม่อม ข้ำพระพุทธเจ้ำ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ เชลซี โพสต์ขอ้ ควำมแสดงควำม อำลัยลงแฟนเพจว่ำ ‘สโมสรฟุตบอลเชลซี ขอกรำบถวำยบังคม น้อมส่งเสด็จ พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชสู่สวรรคำลัย ด้วยเกล้ำด้วย กระหม่อมขอเดชะ พวกเรำทุกคนที่เชลซีขอแสดงควำมเสียใจอย่ำงสุดซึ้ง ร่วมกับปวงชนชำวไทยของพระองค์ทกุ คน’ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ส โพสต์ พระบรมฉำยำลักษณ์ของในหลวง และโพสต์ข้อควำมสั้นๆ ว่ำ ‘เรำรัก พระเจ้ำอยู่หัว #ขอเป็นข้ำรองพระบำททุกชำติไป’ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ทีมในศึกแชมเปีย้ นชิพของอังกฤษ ได้ทำ� กำรเปิดเพลง ‘สรรเสริญพระบำรมี’ และยืนสงบนิง่ เป็นเวลำ 2 นำที ทีส่ นำมฮิลส์โบโรห์ ก่อนเริม่ เกมในนัดทีด่ วลกับ ‘ควีนส์พำร์ค เรนเจอร์ส’
ชื่อภาพ : ร่มโพธิ์แห่งมหาธีรราช ศิลปิน : สุวิทย์ ใจป้อม เทคนิค : เกรยองบนกระดาษ ๒๕๕๓
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รำาลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาทีส่ ดุ มิได้ ข้าพระพุทธเจ้า คณะผูบ้ ริหารและพนักงาน บริษทั อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำากัด (มหาชน)
24 7 - 1
พ ร ะ อั จ ฉ ริ ย ภ า พ ท า ง ด้ า น กี ฬ า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษ คือ แบดมินตัน สกี และเรือใบ นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ จะทรงออกแบบและทรงต่อเรือใบแล้ว พระองค์ทรงพิชติ เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครัง้ ที่ ๔ ณ ประเทศไทย ในวันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ด้วยเรือทีท่ รงต่อขึน้ ด้วยพระองค์เอง ในโอกาสต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ก�าหนดวันที่ ๑๖ ธันวาคมของทุกปี เป็น ‘วันกีฬาแห่งชาติ’ ครั้งหนึ่งในหลวงทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯ ว่า เสด็จกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวล์ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน
90,000+ People like this
www.facebook.com/247FreeMagazine นิตยสาร Unisex ส�ำหรับคนเมืองที่เป็นเหมือน ไกด์ไลน์ส�ำหรับหนุ่มสาวในคอนซ็ปต์ Work Hard, Play Hard อัพเดททุกความทันสมัยตอบสนอง ความสุขในการใช้ชีวิตแบบเต็มดีกรี ทั้งวิสัยทัศน์ ความคิ ด ศั ก ยภาพการท� ำ งาน และไลฟ์ ส ไตล์ อินเทรนด์ เพื่อให้คุณเป็น ‘คุณ’ ได้เต็มพิกัด เจิดจรัสในดาวน์ทาวน์ ทุก 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน