free MAG. NO.3 MAY 2015
MAGAZINE OF THE GM Group
The Journey for Life
SWISS BY TRAIN
MORE FOCUSED มากกว่าการโฟกัส ประสิทธิภาพใหญ่ ในไซส์มนิ ิ
กล้องดิจิตอลเปลี่ยนเลนส์ ได้ Canon EOS M3 ใหม่ ขนาดเล็กดีไซน์พรีเมี่ยม ภายในอัดแน่นด้วย ประสิทธิภาพเหนือชั้นแบบกล้อง Canon DSLR ระดับมือ อาชีพ ทั้งเทคโนโลยีขั้นสูงของแคนนอนเพื่อภาพคมชัด การควบคุมที่คล่องตัว และฟังก์ชั่นใหม่ที่ให้คุณสร้างสรรค์ภาพถ่ายระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย
4.2 เฟรมต่ อ วิ น าที ถ่ายภาพต่อเนือ่ งความเร็วสูง
ทั้งในแบบ JPEG และ RAW ซึ่งเทียบเท่ากับกล้อง Canon EOS DSLR รุ่นเริ่มต้น พร้อมระบบออโต้โฟกัสแบบ 49 จุด ครอบคลุมพื้นที่ถ่ายภาพทั้งเฟรม
NEW HYBRID CMOS AF III ออโต้โฟกัสคมชัด ฉับไว
ทั้งโฟกัสใบหน้าบุคคลขณะถ่ายภาพนิ่ง หรือโฟกัสติดตามวัตถุขณะบันทึกภาพ เคลื่อนไหว เร็วกว่าระบบ Hybrid CMOS AF แบบเดิมถึง 6.1 เท่า คุณจึงมั่นใจได้ว่า จะไม่พลาดช่วงเวลาสำ�คัญแม้เสี้ยววินาที
• คมชัดด้วยเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 24.2 ล้านพิกเซล ให้ภาพสวยสะกดทุกสายตาด้วยเซ็นเซอร์ CMOS แบบ APS-C เก็บแม้รายละเอียดเล็กน้อยได้ดีเยี่ยม • ระบบประมวลผลภาพ DIGIC 6 ให้ภาพสวยคุณภาพสุดยอดทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว • ชัดเคลียร์ไร้ noise ด้วยช่วง ISO กว้าง 100-12800 (ขยายได้สูงสุด 25600) • หน้าจอ LCD TOUCHSCREEN ปรับหมุนได้ขนาด 3 นิ้ว ปรับหมุนขึ้นได้ถึง 180 องศา และปรับหมุนลงได้ 45 องศา ช่วยให้คุณเลือกถ่ายภาพจากมุมที่หลากหลายได้อย่างง่ายดายและอิสระยิ่งขึ้น
MORE CREATIVITY
เลือกโหมด Creative Assist
ความคิดสร้างสรรค์มากกว่า ลูกเล่นเยอะ เปลีย่ นภาพธรรมดาให้โดดเด่นกว่าใคร
• CREATIVE ASSIST เลือกองค์ประกอบ สีสัน และอารมณ์ของภาพได้ตามต้องการ • EOS SYSTEM COMPATIBILITY รองรับเลนส์ EF กว่า 70 ชนิด และอุปกรณ์เสริม EOS หลากหลาย • CONNECT AND SHARE เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พรินเตอร์ โอนและอัพไฟล์รูปได้ฉับไว มี Wi-Fi ในตัวและรองรับระบบ NFC (Near Field Communication) รวมถึงเชื่อมต่อไปยัง Canon image Gateway (CiG)
เลือกสไตล์ และโทนสีได้ตามใจ แต่งภาพบนหน้าจอได้ทันที
MORE CONTROL การควบคุมทีเ่ หนือชัน้ • Macro lens
• Tele-Photo lens
EF 70-300mm f/4-5.6 IS USM
EF 16-35mm f/4L IS USM
EF 100mm f/2.8L Macro IS USM
EF 8-15mm f/4L Fisheye USM
Mount Adepter EF-EOS M
EOS M3
คุณภาพเหนือระดับ แบบกล้อง DSLR ที่สุดแห่งเทคโนโลยีภาพ ดิจิตอล อัดแน่นในขนาดเล็ก กะทัดรัดเพื่อให้ภาพคุณถาพ ยอดเยี่ยมถึงขีดสุด
Happening • Passport to ASEAN • Great Drive • Explore the World • Destination • Overnight • Eat Out • Your Postcard
Editor’s Note
WE ARE
รถไฟคันแรกเกิดขึ้นในโลกที่ประเทศอังกฤษ เมื่อ 300 ปีที่แล้ว จากนั้นการเดินทาง ที่คลาสสิกที่สุดก็เกิดขึ้นทั่วทั้งทวีปยุโรป การเดินทางด้วยรถไฟในฐานะการขนส่งมวลชนกลายมาเป็น จุดก�ำเนิดการเดินทางท่องเทีย่ ว ในระบบทีเ่ รียกกันว่า Eurail Pass ซึง่ เป็นเอกสิทธิส์ ำ� หรับนักท่องเทีย่ วทีไ่ ม่ใช่ชาวยุโรป สามารถใช้ เดินทางท่องเทีย่ วในยุโรปด้วยรถไฟในราคาเหมาพิเศษ และยัง สามารถเดินทางภายในก�ำหนดเวลาทีเ่ ลือกใช้ได้ นอกจากนีก้ จ็ ะมี บัตรโดยสารแยกย่อยลงไปในยุโรปตามกลุม่ ประเทศทีม่ พี รมแดน ติดต่อกัน 2-4 ประเทศขึน้ ไป จนกระทัง่ บัตรโดยสารของแต่ละ ประเทศ เช่น German Pass, Austria Pass และ Swiss Pass เป็นต้น ค.ศ. 1844 รถไฟสายแรกในสวิตเซอร์แลนด์เกิดขึน้ อีก 100 ปี ต่อจากรถไฟคันแรก และด้วยภูมปิ ระเทศทีต่ งั้ อยูบ่ นเทือกเขาแอลป์ ซึง่ เปรียบเสมือนหลังคาของทวีปยุโรป รถไฟในสวิสส่วนใหญ่กจ็ ะวิง่ ขึน้ ไปสูภ่ เู ขาสูง และทิวทัศน์อนั งดงามตระการของดินแดนในฝัน Explore the World เดือนนีจ้ งึ ขอน�ำคุณไปนัง่ รถไฟเทีย่ วสวิส ด้วยการเดินทางรถไฟ 3 เส้นทาง โดยเฉพาะอย่างยิง่ รถไฟสาย Glacier Express เส้นทางรถไฟทีง่ ดงามทีส่ ดุ สายหนึง่ ของโลก ซึง่ จะน�ำผูอ้ า่ นไปนัง่ รถไฟลัดเลาะผ่านเส้นทางอันสวยงาม เริม่ ต้น จากยอดเขาสูงเสียดฟ้าแมตเทอร์ฮอร์นในเมืองเซอร์แมตอันแสน น่ารัก ผ่านธารน�ำ้ แข็ง ข้ามสะพานมรดกโลกทะลุอโุ มงค์ เจาะภูเขาไปบรรจบกับรถไฟสายเบอร์นนิ า่ ข้ามเทือกเขาแอลป์ จนถึงชายแดนสวิส-อิตาลี และพลาดไม่ได้กบั เส้นทางรถไฟจาก เมือง Interlaken ขึน้ เขาตามเส้นทางรถไฟทีน่ บั เป็นสุดยอดของ วิศวกรรมการก่อสร้างทางรถไฟ ไปถึงสถานีทสี่ งู สุดของยุโรป ชมวิวแบบพานอรามาบนยอดเขายุงฟราว์ ส�ำหรับการเดินทางในประเทศ จะเลาะเลียบเขาค้อ นอนเล่น ภูทบั เบิก การเดินทางสูข่ นุ เขาทีไ่ ด้ชอื่ ว่าสวยงามทีส่ ดุ ในช่วงเวลา ชุม่ ฉ�ำ่ ฝน แวะนาํ้ ตกศรีดษิ ฐ์ อนุสรณ์สถานวีรชน แวะดูวถิ ชี วี ติ ชาวม้ง ซือ้ ผลผลิตปราศจากสารพิษทีไ่ ร่ BN เสร็จแล้วออกไป นัง่ จิบกาแฟ ถ่ายรูปเก๋ๆ ที่ Route 12 สักการะพระบรมสารีรกิ ธาตุ ทีว่ ดั พระธาตุผาแก้ว ก่อนขึน้ ภูทบั เบิกไปดูไร่กะหล�ำ่ ปลีสดุ สายตา มีความสุขกับสายหมอก และจะขาดไม่ได้กบั อาหารและของฝากขึน้ ชือ่ ทัง้ ขนมจีนเส้นสด มะขามหวาน และสารพัดของกินจากไร่กำ� นันจุล และ Passport to ASEAN เดือนนี้ การบินไทยบินตรงไป โฮจิมนิ ห์ ไปสัมผัสมุยเน่ เนินทรายแห่งเวียดนามใต้ หนึง่ เดียวใน อาเซียน ไปยืนบนยอด Sand Dune ทอดสายตาชมความมหัศจรรย์ ของภูมปิ ระเทศทีท่ ะเลและสายลมแรงรังสรรค์ให้เกิดเนินทราย ขนาดมหึมา สนุกกับการขับ ATV ลุยไปบนเนินทราย หรือไปเล่น กระดานสไลด์ให้ครึกครืน้ นอกจากนัน้ มุยเน่ยงั เป็นหมูบ่ า้ นประมง ทีม่ เี สน่ห์ ทีอ่ า่ วของเมืองจะได้สมั ผัสเรือประมงสีสนั สดใส และเรือกระด้งทรงกลมทีจ่ อดรออยูเ่ รียงราย มากกว่านีต้ อ้ งติดตามไปพบกับพวกเราใน www.facebook. com/gmtravelmagazine
ดวงดาว สุวรรณรังษี
ภาพปก : รถไฟสายกอร์เ นอร์ กราต์ จากเมื องเซอร์ แ มต ขึ้นชมยอดแมตเทอร์ ฮอร์ น โดย ดวงดาว สุ ว รรณรั งษี
WHERE FIND gmtravelmagazine.com COFFEE
&BAKERY
BEAUTY &SPA
facebook.com/ gmtravelmagazine HOSPITAL
@gmtravelmagazine OTHERS
HOTEL
The Journey for Life บรรณาธิการบริหาร : ดวงดาว สุวรรณรังษี ผูช้ ว่ ยบรรณาธิการ : วนิดา เชียงอารีย์ ฝ่ายภาพ : มนตรี ศรีโอภาศ, สุรชัย มัน่ คงพิทกั ษ์กลุ นักเขียนและช่างภาพรับเชิญ : ศรัณย์ บุญประเสริฐ, สุรชัย มัน่ คงพิทกั ษ์กลุ ชนะศักดิ์ ชุมนุมวรรณ, มนตรี ศรีโอภาศ • บรรณาธิการอำ�นวยการศิลปกรรม : ประทีป ปัจฉิมทึก • ศิลปกรรม : มีนรักษ์ ขัดทรายขาว • พิสูจน์อักษร : อภิรดี นุตตะโร • ผู้จัดการฝ่ายผลิต : อุดมทรัพย์ ก๋องชัย • ฝ่ายโฆษณา : ณัฐวรินทร์ คำ�เนาวรัตน์, ณฐมน นัทนารุจน์ • เลขานุการกองบรรณาธิการ : ธนพร นุชประเสริฐ ี ชั ร เครือภูงา, เตือนใจ พรหมจรรย์ • ฝ่ายบุคคล : รุจพ • เจ้าหน้าทีเ่ ว็บไซต์ : ดำ�รงพล อ้วนเจริญ ้ ดั การทัว่ ไป : ภานุวชั ร พงศ์วราภา • ผูจ ้ �ำ นวยการฝ่ายนิวมีเดีย : พีศลิ ป์ พงศ์วราภา • ผูอ ้ ดั การฝ่ายการเงิน : วิมลลักษณ์ อาศัยพานิชย์ • ผูจ ั การฝ่ายบัญชี : ณิชาภา บุพรานนท์ • ผูจ้ ด ้ ดั การฝ่ายตรวจสอบภายใน : ธิรนันท์ เครือภูงา • ผูจ • หัวหน้าฝ่ายบัญชี : ปราณีวรรณ ตระการพฤกษ์ • ฝ่ายบัญชี : นุชนารถ ใจประสาท, ขนิษฐา รักษ์ศิริ • บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : พีศิลป์ พงศ์วราภา • ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด : ขนิษฐา เผือกผ่องใส • รองผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด : กานต์ชนก มูณีเกิด • • • •
สำ�นักงาน GM TRAVEL : บริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดีย จำ�กัด (มหาชน) อาคาร GM Group 914 ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสติ กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ : 02 241 8000 แฟกซ์ : 02 241 8008 แฟกซ์กองบรรณาธิการ : 02 668 5911 E-mail : gmtravel@gmgroup.in.th ประธานกรรมการบริหาร/กรรมการผู้จัดการ : ปกรณ์ พงศ์วราภา รองประธานกรรมการบริหาร สายงานการเงิน : พรจิตต์ พงศ์วราภา สายงานนิตยสาร : ณิพรรณ กุลประสูตร สายงานพัฒนาธุรกิจ : ฤทธิณรงค์ กุลประสูตร สายงานการตลาด : สืบวงศ์ แก้วทิพรัตน์
GM MULTIMEDIA PUBLIC COMPANY LIMITED GM TRAVEL OFFICE : GM GROUP BLDG., 914 RAMA 5 RD., DUSIT, BANGKOK 10300 THAILAND TEL. : (+66) 2241 8000 FAX : (+66) 2241 8008
www.gmgroup.in.th
CHAIRMAN/CEO : PAKORN Pongvarapa EXECUTIVE VICE PRESIDENT : PORNJITT Pongvarapa : FINANCE NIPHAN Kulprasoot : EDITORIAL RITNARONG Kulprasoot : BUSINESS DEVELOPMENT SUEBWONG Kaewthipharat : MARKETING GM TRAVEL EXECUTIVE EDITOR : DUANGDAO Suwunarungsi GENERAL MANAGER : PANUWAT Pongvarapa EXECUTIVE ART DIRECTOR : PRATEEP Patchimtuck
SHOPPING MALL
เขาใหญ่ Sheep Land Primo-Posto Palio Moon Dance Cofee Memory
หัวหิน Salon De Guru สตาร์บัคส์ (ใกล้หอนาฬิกา) สตาร์บัคส์ หัวหิน มาร์เก็ต วิลเลจ
ภูเก็ต สตาร์บัคส์ ศูนย์การค้า จังซีลอน ป่าตอง สตาร์บัคส์ เซ็นทรัล เฟสติวลั ภูเก็ต
เชียงใหม่ เวียงจูมออน Salon De Guru สตาร์บัคส์ เซ็ลทรัล แอร์พอร์ต สตาร์บัคส์ นิมมานเหมินทร์ สตาร์บัคส์ เชียงใหม่-ท่าแพ สตาร์บัคส์ ศูนย์การค้า กาดสวนแก้ว
Happening
News
Trend
THANN Sanctuary เปิดสาขาใหม่ที่ The Emporium THANN Sanctuary เปิดสาขาล่าสุด ที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า The Emporium ตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Oriental Treasure’ น�ำเสนออัตลักษณ์ ของโลกตะวันออกโดยใช้วัสดุจาก ธรรมชาติ สร้างเป็นชิน้ งานศิลปะจัดวาง ในส่วนต่างๆ ของสปา ส่วนทรีตเมนต์ อยู่บนพื้นฐานปรัชญาธรรมชาติบ�ำบัด เพิ่มความโดดเด่นด้วย Nano Shiso Body Massage Cream ที่มอบสัมผัส นุ่มละมุน อุดมคุณค่าจากสารสกัด ธรรมชาติที่คัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อ ประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว สอบถาม เพิ่มเติม โทร. 02 664 9924
การท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมถ่ายภาพแห่ง ประเทศไทย ในพระบรม ราชูปถัมภ์ จัดประกวดภาพถ่ายหัวข้อ ‘หลงรัก...วิถีไทย’ โดยรางวัลจะแบ่งเป็น 4 ประเภท คือวิถีไทยภาคเหนือ วิถีไทย ภาคอีสาน วิถีไทยภาคกลางและตะวันออก และวิถีไทยภาคใต้ ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 800,000 บาท โดยรางวัลชนะเลิศ ประเภทละ 100,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี เปิดรับภาพ 1-30 มิถุนายนนี้ รายละเอียดเพิ่มเติม www. tourismthailand.org/discoverthainessphotocontest
ประกวดภาพถ่าย ‘หลงรัก...วิถีไทย’
On The Road
Cash+Miles แลกไมล์สุดคุ้มกับ การบินไทย ส�ำหรับลูกค้าสมาชิก Royal Orchid Plus การบินไทย รับความคุม้ ค่าด้วยการ แลกรางวัลบัตรโดยสารลดจ�ำนวนไมล์ เริม่ ต้นที่ 9,700 ไมล์ บวกเงิน 790 บาท ส�ำหรับรางวัลบัตรโดยสารชัน้ ประหยัด ภายในประเทศ หรือแลกจ�ำนวนไมล์ได้ สูงสุดถึง 50% บวกการช�ำระเงินเริม่ ต้นที่ 990 บาท ส�ำหรับรางวัลบัตรโดยสาร ชัน้ ประหยัดระหว่างประเทศ ส�ำรองทีน่ งั่ วันนีถ้ งึ 30 มิถนุ ายน 2558 ส�ำหรับการ เดินทางวันนีถ้ งึ 30 มิถนุ ายน 2558 รายละเอียดเพิม่ เติม www.thaiairways. com/rop หรือ โทร. 02 356 1111
gm Travel
Burmese Days พม่าร�ำลึก หยากไย่ไรเรื้อน อุเทน มหามิตร ส�ำนักพิมพ์สมมติ เรือ่ งสัน้ ของ อุเทน มหามิตร มีสำ� นวนภาษา การเล่าเรือ่ ง และค�ำเปรียบต่างๆ ทีต่ อ้ ง ทบทวนตีความ แต่ถา้ คุณชอบ งานเขียนไทยทีไ่ ม่ตนื้ เขิน และสนุกไปกับภาษาทีม่ ี ลูกเล่นแพรวพราว ก็นา่ จะ ชอบเรือ่ งสัน้ ลูกผสมในเล่มนี้ เอาเป็นว่าถ้าชอบงานเขียน ทีต่ อ้ งขบคิด (ยกตัวอย่าง มูรากามิ) งานของอุเทนก็ ท้าทายให้อา่ นไม่แพ้กนั
George Orwell แปลโดย บัญชา สุวรรณานนท์ ส�ำนักหนังสือไต้ฝุ่น นวนิยายเรือ่ งแรกจากปลาย ปากกา George Orwell เจ้าของผลงานขึน้ หิง้ อย่าง 1984 และ Animal Farm งาน เขียนชิน้ นีถ้ กู หยิบมาแปลและ พิมพ์จำ� หน่ายล่าสุดโดยส�ำนัก หนังสือไต้ฝนุ่ สะท้อนเรือ่ งราว จากพม่าในยุค 1920 ทีเ่ ต็ม ไปด้วยการแสวงหาความรัก ความทะเยอทะยาน ทัศนคติ ทีแ่ ตกต่างระหว่างชนชัน้ การเหยียดเชือ้ ชาติ แฟน วรรณกรรมคลาสสิกไม่ควร พลาดด้วยประการทัง้ ปวง
6
อยู่ญี่ปุ่นอย่างหมาป่า นัท ศุภวาที ส�ำนักพิมพ์ a book เรือ่ งเล่าจาก 88 วัน ในโครงการ วูฟ (WWOOF) ของมนุษย์ ออฟฟิศหนุม่ ชาวไทย ผูก้ ลาย ร่างเป็นหมาป่า (WWOOFER) พาเราเดินทางไปสัมผัสความ เป็นญีป่ นุ่ ในแง่มมุ ทีน่ อ้ ยคน นักจะได้เห็น ทิง้ ความเก๋ไก๋ที่ เราคุน้ เคย มารูจ้ กั ญีป่ นุ่ ใน ระดับทีเ่ ปือ้ นฝุน่ และคลุกดิน มากยิง่ ขึน้ ด้วยการตระเวนท�ำ ฟาร์มไปทัว่ ญีป่ นุ่ ตัง้ แต่เหนือ จรดใต้ คาบเกีย่ ว 2 ฤดูกาล และอีก 4 จังหวัด
ในโลกที่ไม่ได้เป็น ของเรา โตมร ศุขปรีชา ส�ำนักพิมพ์ Salmonbooks ผลงานล่าสุดจากนักเขียนที่ คุน้ เคย ครัง้ นีเ้ ขาจะพาผูอ้ า่ น ไปพร้อมกับความครุน่ คิด ภายในขณะออกเดินทาง บางทีเขาก็ฉงนกับผูค้ น บางทีเขาก็ฝากความคิดิ ไปกับ โปสต์การ์ด และบางทีเราก็ พยักหน้ากับค�ำพูดทีว่ า่ ชีวติ ที่ ไม่มอี ะไรเหลือแล้ว คือชีวติ ที่ ผลักดันให้เราออกเดินทาง ขณะเดียวกันก็คงต้องคิด กลับกันว่า ชีวติ ทีอ่ อกเดินทาง คือชีวติ ทีแ่ สวงหาสิง่ ทีเ่ หลืออยู่ อีกมหาศาลบนโลกใบนี้
Happening
Thailand Dive Expo 2015
Samsung Galaxy S6 & S6 Edge วางจ�ำหน่ายทัว่ ไทยแล้ว
เปิดตัวสมาร์ทโฟนยอดเยี่ยมแห่งปี ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 6 และ กาแล็คซี่ เอส 6 เอดจ์ อย่างยิง่ ใหญ่ โดดเด่นด้วย ดีไซน์สวยล�ำ้ เคสด้านหน้าและด้านหลัง เป็นกระจก กรุขอบด้วยโลหะ กล้องทรงพลังแม้แสงน้อย ความละเอียด สูงถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับรูรบั แสง f1.9 และเลนส์กว้าง ชาร์จแบต เร็วพร้อมฟีเจอร์ชาร์จแบบไร้สาย รวมถึงสร้างสรรค์นวัตกรรม ขอบจอโค้ง 2 ด้าน ครัง้ แรกของโลก ในรุน่ Edge วางจ�ำหน่าย ทัว่ ประเทศไทยแล้ววันนี้
14-17 พฤษภาคม 2558 งานแฟร์ทรี่ วบรวมทัง้ บริษทั ทัวร์ โรงแรม ทัวร์ดำ� นาํ้ คอร์สเรียนด�ำน�ำ้ และอุปกรณ์สำ� หรับ การด�ำน�ำ้ ในราคาสุดพิเศษ ทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ งานหนึง่ ในรอบปีนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสริ กิ ติ ิ์ ภายในงานยังมีกจิ กรรมมากมาย เช่น พูดคุยและ แนะน�ำเทคนิคโดยผูเ้ ชีย่ วชาญการถ่ายภาพใต้นำ�้ กิจกรรม ‘ปาร์ตหี้ นังใต้นำ�้ ปี 2’ และเลือกซือ้ สินค้า น่ารักๆ ส�ำหรับคนทีห่ ลงรักโลกใต้ทะเล เป็นต้น
Katy Perry The Prismatic World Tour 14 พฤษภาคม 2558 ในที่สุดเธอก็มา หลังจากที่รอคอยอัลบั้มแล้ว อัลบั้มเล่า Katy Perry เจ้าของเพลงฮิตไปทั้งโลก มากมายอย่าง Teenage Dream, Firework ล่าสุด Roar และ Dark Horse ก็มาเปิดคอนเสิร์ต ที่เมืองไทยสักที เตรียมตัวรับความสนุกจาก ดนตรีสีลูกกวาดและพลังเสียงระดับตัวแม่ของ เธอกันได้กลางเดือนนี้
On The Road
MUMFORD & SONS Album : Wilder Mind
วงดนตรีแนวโฟล์คร็อคจากอังกฤษ กับเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยส�ำเนียงเบนโจ และกีตาร์อะคูสติก แต่กลับมาคราวนี้ Mumford & Sons เปลีย่ นแนวดนตรีไปเป็น อิเล็กทรอนิกส์รอ็ คซะแล้ว ลองฟังแทร็คชือ่ Believe และ The Wolf ซาวนด์ตา่ งไปจาก มัมฟอร์ดทีเ่ คยฟังจริงๆ ตอกยาํ้ สัจธรรม ข้อหนึง่ ว่าดนตรียอ่ มต้องเติบโตไปพร้อมกับ ประสบการณ์ของวง อัลบัม้ Wilder Mind ปล่อยจ�ำหน่าย 4 พฤษภาคม
FLORENCE + THE MACHINE
Song of the Sea
เข้าฉาย 21 พฤษภาคม 2558
แอนิเมชั่นสัญชาติไอริช หนึ่งในผู้เข้าชิง ออสการ์ 2015 สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่น นักร้องหญิงทีไ่ ด้รบั ค�ำชืน่ ชมอย่างมาก ยอดเยี่ยม เป็นเรื่องราวของ เบน เด็กชาย ทัง้ เสียงร้อง เนือ้ เพลง และงานดนตรีทมี่ สี ไตล์ ชาวไอริชที่ต้องจ�ำใจดูแล เซียร์ช่า น้องสาว หลังจากอัลบัม้ ทีแ่ ล้วประสบความส�ำเร็จทัง้ ฝัง่ เมื่อเซียร์ช่าค้นพบเปลือกหอยที่แม่ทิ้งไว้ อังกฤษและอเมริกา เธอกลับมากับอัลบัม้ ที่ 3 และเสื้อโค้ตที่ใส่แล้วสามารถแปลงกายเป็น ปล่อยเพลงออกมาให้ฟงั บ้างแล้วอย่าง What สัตว์ในต�ำนานลักษณะครึ่งคนครึ่งแมวน�้ำได้ Kind of Man, St Jude และ Ship to Wreck ใคร การผจญภัยของสองพี่น้องจึงเริ่มต้นขึ้น รอเธออยู่ แค่ฟงั 3 แทร็คนี้ คงอยากรีบซือ้ มาฟัง ใครชอบการเล่าเรื่องด้วยลายเส้นงดงาม ทัง้ อัลบัม้ How Big, How Blue, How Beautiful เรื่องนี้แนะน�ำ ปล่อยจ�ำหน่าย 1 มิถนุ ายน Album : How Big, How Blue, How Beautiful
7
Lost River
เข้าฉาย 14 พฤษภาคม 2558
ผลงานก�ำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ ไรอัน กอสลิง เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองที่ก�ำลัง ดับสูญและเหนือจริงชื่อ Lost River และ ครอบครัวของแม่ลูกสอง เมื่อโบนส์ ลูกชาย ของครอบครัวค้นพบทางเข้าลึกลับของ เมืองนี้ เขาจึงต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ของทุกคนในครอบครัว หนังเรื่องนี้ โดดเด่นด้านออกแบบงานสร้างและ ถ่ายภาพ เหมาะสมแล้วที่ได้เข้าฉาย ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีนี้
May 2015
Explore the World เรื่อง : รักพล สาระนาค ภาพ : ดวงดาว สุวรรณรังษี
gm Travel
8
หน้าร้อนแบบนี้อะไรจะดีไปกว่าหลบร้อนไปขึ้นภูเขาหิมะ และจะมีที่ไหน ที่ดีไปกว่าสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝันของการนั่งรถไฟขึ้นภูเขา ชมวิวธรรมชาติเต็มอิ่ม แต่จะไปตรงไหนดี วันนี้เราขอแนะนำ�สัก 3 เส้นทาง เป็นการเริ่มต้นสำ�หรับท่องสวิตเซอร์แลนด์ด้วยรถไฟ
ขบวนรถไฟไต่ความสูงขึ้นสู่ ยอดเขาโอเบอร์แอลป์ จุดสูงสุดของเส้นทาง สายกลาเซียร์เอ็กซ์เพรส วิวสวยๆ ในหุบเขาเมือง บรูซิโอ ขณะขบวนรถไฟ เบอร์นิน่าไต่ลงจาก ยอดเขาแอลป์กลุม
ขบวนรถด่วนกลาเซียร์ สวนกับเบอร์นิน่า ณ เมืองดีสเซนตีส
รอยยิ้มอย่างเป็นมิตร จากคนรถไฟชาวสวิส
9
May 2015
ตามรอย ยุวกษัตริย์ บนเส้นทาง Bernina Express
สะพานโค้งลังวาสเซอร์ มรดกโลกบริเวณอัลบูล่าพาส
= เส้นทางสายนี้เริ่มต้นจากเมืองทิราโน (Tirano) ในประเทศอิตาลี วิ่งผ่าน ไร่แอปเปิล้ และไร่องุน่ ข้ามแดนสูป่ า่ สนในเขตของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะพบเห็นการทำ�ป่าไม้ด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่หาชมได้ไม่กี่แห่งในยุโรป ผ่านเส้นทางสายประวัตศิ าสตร์อายุ 100 กว่าปี และมีสง่ิ ก่อสร้างอายุ 103 ปี ตั้งตระหง่านอยู่ นั่นคือสะพานก้นหอยบรูซิโอ (Brusio) ภูมิปัญญาของ คนโบราณที่ช่วยให้รถไฟไต่ขึ้นเขาแบบประหยัดเนื้อที่ ซึ่งไม่ควรพลาด ด้วยประการทัง้ ปวง เพราะเส้นทางสายนีเ้ องทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อานันทมหิดล พร้อมด้วยพระอนุชา ทรงประทับทดสอบหัวรถจักรซุลเซอร์ หมายเลข 651 ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้สั่งซื้อไปให้บริการในเขา ทางตอนเหนือของบ้านเรา วิศวกรประจำ�บริษัทได้กราบบังคมทูลเชิญ ทดสอบสมรรถนะของรถจักรในทางลาดชัดแบบซิกแซ็กสลับฟันปลาจาก เมืองพอชิเอโว่ จนถึงสะพานก้นหอยบรูซิโอ การเดินทางในเส้นทางสายนี้ จึงเท่ากับเป็นการตามรอยพระบาทของพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 2 พระองค์ ในเส้นทางเดิมที่ยังคงใช้อยู่จนปัจจุบัน
ผู้โดยสารทานอาหาร พร้อมชมวิวทุ่งหิมะ บนตู้โดยสารแบบ พานอรามาของ กลาเซียร์เอ็กซ์เพรส
จากทะเลสาบสู่ภูเขาหิมะ
ที่เมืองพอชิเอโว่ (Poschiavo) ขบวนรถไฟจะวิ่งเลียบทะเลสาบ ก่อนจะผ่านทะลุเข้าสู่ตัวเมือง ไปวิ่งอยู่บนถนนเดียวกับรถยนต์ ทั่วไป ก่อนที่จะไต่ขึ้นสู่ภูเขาหิมะ และหยุดให้ผู้โดยสารได้สัมผัสบรรยากาศจุดที่สูงที่สุดของเส้นทางที่ เบอร์นิน่า แอลป์กลุม (Bernina Alps Kulm) บริเวณซึ่งมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ตลอดเส้นทางเราจะเห็นผู้คนพากันหอบอุปกรณ์การเล่นสกีขึ้นมาบนเขา แห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย ก่อนที่ขบวนรถจะค่อยๆ เคลื่อนตัวลดระดับความสูงลงสู่ที่ราบ ผ่านป่าสน ที่พักผ่อนเดินเขาของชาวสวิส ยิ่งถ้าวันไหนอากาศดีๆ จะมีคนมานั่งปาร์ตี้โบกมือให้ขบวนรถไฟตลอดเส้นทาง
St.Moritz เมืองตากอากาศแสนสบาย ริมทะเลสาบ
การเดินทางของเราสิ้นสุดลงที่เมืองซังค์มัวริตซ์ เมืองตากอากาศสุดหรูริมทะเลสาบ ที่ในฤดูหนาวจะเป็นทะเลสาบนํ้าแข็ง โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขาวโพลน ขณะที่ในฤดูร้อนจะเป็นทะเลสาบสีครามท่ามกลางภูผาหินพร้อมยอดสีขาว ที่นี่มีโรงแรมให้เลือก หลายราคา ตั้งแต่ Hostel ราคาถูก คืนละไม่กี่ฟรังก์ ไปจนถึงรีสอร์ทระดับ 5 ดาว ราคาแพง ลงจากรถไฟมาเดินเล่นแบบชิลล์ๆ ที่เมืองนี้ก็เพลินไม่น้อยนะครับ ขบวนรถไฟในเส้นทางสายนี้มีให้เราเลือกด้วยกัน 2 แบบ ถ้าอยากเดินทางแบบสบายๆ แนะนำ�ให้เลือกเดินทางไปกับขบวน รถด่วนเบอร์นิน่า ในโบกี้โดยสารแบบพานอรามา ชมวิวพร้อมเลือกซื้อเครื่องดื่มและของขบเคี้ยว และขบวนรถจะหยุดให้เราได้ชม วิวในจุดสำ�คัญๆ เช่น สะพานก้นหอยบรูซิโอ (Brusio) และยอดเขาแอลป์กลุม (Alps Kulm) แต่สำ�หรับท่านที่ชอบถ่ายรูป แนะนำ� ให้เดินทางกับขบวนรถเร็วราจิโอ เพราะท่านสามารถเปิดกระจกถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่ แต่ก็แลกด้วยการเดินทางแบบรวดเดียว ไม่มีหยุดชมวิวระหว่างเส้นทาง ตามความชอบของแต่ละท่านนะครับ
gm Travel
10
แอลป์กลุม จุดสูงสุด บนเส้นทางสายเบอร์นิน่า
รถเสบียงในขบวน รถด่วนที่ช้าที่สุดในโลก
Glacier Express ขบวน รถด่วน ที่ช้าที่สุด ในโลก
= ด้วยความเร็วเฉลี่ยที่ 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต้องใช้เวลา 1 วันเต็มๆ จากซังค์มัวริตซ์ถึงเซอร์แมต ทำ�ให้ขบวนรถด่วนกลาเซียร์เอ็กซ์เพรสครองสถิติขบวนรถด่วนที่ช้าที่สุดในโลกโดยปริยาย เราขึ้นขบวนรถนี้จาก สถานีซังค์มัวริตซ์ เดินทางแบบเรื่อยๆ เอื่อยๆ บนเส้นทางรถไฟไต่เขาอัลบูล่าพาส (Albula Pass) ที่เต็มไปด้วย สะพานสูงแบบเวียดัคต์ (Viaduct) สลับกับอุโมงค์มากกว่า 20 แห่ง แต่จุดที่เป็นไฮไลท์ของเส้นทางสายนี้คือ สะพานลังวาสเซอร์ (Landwasser) ที่มีความสูงจากพื้นดินมากกว่า 1 กิโลเมตร ทันทีที่ขบวนรถไฟโผล่พ้นจาก อุโมงค์ออกมาก็จะข้ามสะพานสูงขนาดยักษ์แห่งนี้ทันที ซึ่งเป็นมุมสวยอีกมุมที่เหมาะแก่การถ่ายรูป ระหว่างเส้นทางขบวนรถด่วนกลาเซียร์จะผ่านเมืองคัวร์ (Chur) หากมีเวลาพอ เมืองนี้จะเป็นจุดแวะพัก สำ�คัญอีกแห่งหนึ่ง เพราะเป็นเมืองโบราณตั้งแต่ยุคอัศวินเรืองอำ�นาจ ที่ท่านสามารถเดินชมอาคารโบราณ เก็บบรรยากาศเก่าๆ ในเขตกำ�แพงเมืองได้อย่างไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว ออกจากเมืองคัวร์ไปไม่นาน ขบวนรถไฟจะวิ่งลัดเลาะไปตามแม่นํ้าที่ถูกโอบล้อมด้วยภูผาหินสูงตระหง่าน จนได้รบั คำ�เรียกขานว่าเป็นสวิสแกรนด์แคนยอน จากนัน้ ขบวนรถจะค่อยๆ ไต่ระดับความสูงขึน้ สูเ่ มืองอันเดอร์แมต (Andermatt) ที่นั่นเองที่เราจะเห็นทุ่งหิมะสุดลูกหูลูกตา ในจุดสูงของเส้นทางที่สถานีโอเบอร์แอลป์ (Oberalp) เชื่อเถอะครับว่าการเปลี่ยนทิวทัศน์จากทะเลสาบท่ามกลางป่าไม้สีเขียว พอขบวนรถลอดอุโมงค์ออกจาก เมืองดีสเซนตีส โผล่ออกมาอีกทีกลายเป็นภูเขาหิมะขาวโพลน มันเรียกเสียงฮือฮาจากผู้โดยสารได้ทุกเที่ยว ถ้าย้อนไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ขบวนรถด่วนกลาเซียร์จะต้องค่อยๆ ไต่เขาขึ้นสู่สวิสแอลป์ ผ่านทุ่งกลาเซียร์ ขนาดใหญ่ ที่ใช้เวลาในการเดินทางร่วม 3 ชั่วโมง แต่เมื่อมีการเจาะอุโมงค์ซังค์โกทาร์ด ลอดใต้เทือกเขา แอลป์แล้ว ทำ�ให้การเดินทางสามารถย่นย่อได้เหลือเพียง 30 นาที รถม้าให้บริการ ในเมืองเซอร์แมต
หมู่บ้านในชนบทข้างทาง รถไฟสายกลาเซียร์ ที่พบเห็นเกือบตลอดการ เดินทางด้วยรถไฟในสวิส
รถขายของรูปหัวแพะ ภูเขาบนรถด่วนเบอร์นิน่า
11
Matterhorn สัญลักษณ์ของสวิส
ก่อนถึงเมืองเซอร์แมต (Zermatt) เราจะเห็นภูเขารูปสามเหลี่ยม ที่เราคุ้นตากันดี จากช็อกโกแลตรูปสามเหลี่ยมที่มีขายไปทั่วโลก ยอดเขาแมตเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ความสูงกว่า 4,400 เมตร จะโผล่มาทักทายเราเสมอในวันที่ ฟ้าโปร่งอากาศดี ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่ขบวนรถด่วนกลาเซียร์กำ�ลังจะเดินทางถึง เซอร์แมตด้วยแล้ว จะเห็นแสงสีทองยามเย็นทาบไปบนหน้าผาสามเหลี่ยม เป็นภาพประทับใจที่ยากจะละสายตา แต่ในทางตรงกันข้าม ในวันที่ฟ้าปิด เมฆมาก ภูเขาทั้งลูกกลับถูกซ่อนตัวลับตาในม่านเมฆแม้แต่ฐานก็มองไม่เห็น ขบวนรถด่วนกลาเซียร์สุดปลายทางที่สถานีเซอร์แมต เมืองไร้มลพิษ ที่ไม่อนุญาตให้มีรถใช้เครื่องยนต์ในเมืองนี้ คงมีเพียงรถม้าและรถไฟฟ้าคันเล็กๆ ขนาด 5-6 ที่นั่ง ซึ่งส่วนมากก็เป็นรถของโรงแรมและร้านอาหารที่มาคอยให้ บริการลูกค้าของตัวเอง และเป็นแท็กซี่สำ�หรับนักท่องเที่ยว และรถเมล์คันใหญ่ ที่ให้บริการจากสถานีรถไฟไปยังโรงแรมแบบชาเลต์สวิส และที่พลาดไม่ได้คือ การนั่งรถรางขึ้นยอด Gornergrat เพื่อชมความงามของยอดเขาแมตเทอร์ฮอร์น อย่างใกล้ชิด
May 2015
รถไฟขบวนที่วิ่งขึ้นยอดเขายุงฟราว์ยอร์ช ก่อนถึงสถานีชุมทางไคลน์ไชเดก
ไต่เขาสู่ Top of Europe
ยอดเขายุงฟราว์ยอร์ช ซึ่งมีสถานีรถไฟที่สูง ที่สุดในยุโรป
= อีกเส้นทางหนึ่งที่จะแนะนำ�กันคือ เส้นทางไต่เขาสู่ Top of Europe เดินทางเป็นวงกลมจาก อินเทอร์ลาเกน-เลาเทอร์บรูนเน่น-ไคลน์ไชเดก-ยุงฟราว์ยอร์ช-ไคลน์ไชเดก-กรินเดลวัลด์อินเทอร์ลาเกน เส้นทางนี้อาจจะต้องเปลี่ยนรถไฟกันหลายขบวนหน่อย แต่รับรองว่าวิวสวย ถูกใจเลยทีเดียว อย่างที่เกริ่นมาแล้วว่าเส้นทางนี้เดินทางแบบวงรอบ แต่ความชอบส่วนตัวขอเริ่มต้นทางเมือง เลาเทอร์บรูนเน่น (Lauterbrunnen) ก่อน ด้วยเหตุว่าตอนเช้าๆ แรงยังดีอยู่ ยังสามารถเดินชม นํ้าตกสวยๆ ที่ไหลลงมาจากความสูง 1,000 กว่าเมตร สู่พื้นเบื้องล่าง ก่อนจะนั่งรถไฟไต่เขา ผ่านเมืองตากอากาศขนาดเล็กที่รถยนต์ขึ้นไม่ถึง ดังนั้นไม่แปลกอะไรที่รถไฟสายนี้มักจะพ่วง รถกระบะสำ�หรับขนกระเป๋าให้นักท่องเที่ยวสู่รีสอร์ทต่างๆ จนถึงสถานีไคลน์ไชเดก (Kleine Scheidegg) เป็นชุมทางของรถไฟทั้ง 2 สาย ที่ต้องมาต่อ รถไฟสีแดง สู่จุดที่สูงที่สุดของยุโรป ยุงฟราว์ยอร์ช (Jungfraujoch) ขบวนรถไฟจะวิ่งมุดเข้าสู่ใต้ ภูเขา โดยมีจุดจอดรถที่สถานีไอเกอร์และไอเมียร์ ให้เราได้ลงจากขบวนรถเพื่อไปชมทัศนียภาพ ของเทือกเขาหิมะผ่านช่องกระจกที่เขาเจาะไว้ให้ เตือนสักนิดครับ อย่าคิดว่าขากลับค่อยถ่ายรูป เพราะรถไฟที่นี่เขาจะจอดเฉพาะขาขึ้นเท่านั้นนะครับ ขากลับจะวิ่งยาวรวดเดียวไม่หยุดเลย บนยอดยุงฟราว์ยอร์ช นอกจากจะไปลุยทุ่งหิมะแล้ว กิจกรรมอีก 2 อย่างที่พลาดไม่ได้คือ เยี่ยมชมถํ้านํ้าแข็งที่เขาจะเปลี่ยนธีมในการจัดแสดงอยู่เสมอๆ และก่อนกลับ อย่าลืมเขียน โปสต์การ์ดสักใบ ส่งจากที่ทำ�การไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรปให้ตัวเองสักหน่อย แล้วมาดูกันว่า ระหว่างเรากับไปรษณีย์ อะไรจะถึงบ้านก่อนกัน ขากลับแนะนำ�ให้ลงทางเมืองกรินเดลวัลด์ (Grindelwald) เมืองเล็กๆ น่ารักเหมาะแก่การ พักผ่อนสบายๆ อีกแห่งหนึง่ แต่ถา้ ชอบช้อปปิง้ ก็แนะนำ�ให้กลับเข้าอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เพราะบรรดาร้านค้าต่างๆ ทัง้ ของทีร่ ะลึก มีดพับ จนถึงนาฬิกาสารพัดยีห่ อ้ เรียงรายรอคุณอยูต่ ลอด แถวถนนบาห์นฮอฟ และสิง่ หนึง่ ทีไ่ ม่ควรพลาดอย่างยิง่ คือการลิม้ ลองฟองดูแบบสวิสแท้ๆ ทัง้ ฟองดูชสี ฟองดูเนือ้ ไปจนถึงฟองดูชอ็ กโกแลตสุดหรู จากร้านอาหารหลายร้านในตัวเมือง
ขบวนรถไฟสีแดงสดให้บริการ บนเส้นทางสายยุงฟราว์ยอร์ช
gm Travel
12
ดอกไม้งามสีสัน ในเมืองอินเทอร์ลาเกน
ถ�้ำน�้ำแข็ง บนยุงฟราว์ยอร์ช
●
Traveller’s Guide HOW TO GET THERE :
• การเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ ขอวีซ่าได้ที่ TLS Contact
ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 อาคารสาทรซิตี้ โดยจะต้องทำ�การจองคิวทาง www.tslcontact.com ก่อน และทุกคนจะต้องไปยื่นขอด้วย ตัวเองเท่านั้น •หลักฐานทีใ่ ช้ประกอบการยืน ่ สมัครวีซา่ ประกอบด้วย สำ�เนา บัตรประชาชน ใบรับรองการทำ�งาน หนังสือรับรองบัญชีตวั จริง จากธนาคาร สำ�เนาสมุดบัญชียอ้ นหลัง 6 เดือน ตัว๋ เครือ่ งบินไป กลับ ใบยืนยันการสำ�รองทีพ ่ กั และกำ�หนดการเดินทางคร่าวๆ • การบินไทย ให้บริการเทีย่ วบินตรงจากกรุงเทพฯ-ซูรค ิ ทุกวัน
HOW TO GET AROUND :
• เดิ น ทางท่ อ งเที่ ย วทั่ ว สวิ ต เซอร์ แ ลนด์ ด้ ว ยบั ต รโดยสาร
สวิสพาส สามารถขึน้ รถไฟได้โดยไม่จ�ำ กัดเทีย่ ว รวมไปถึงรถบัส รถราง เรือล่องทะเลสาบบางสาย รายละเอียดเพิ่มเติมดูจาก www.myswiss.com หรือติดต่อตัวแทนขายคือ กัลลิเวอร์ส เทรเวล แอสโซซิเอทส์ (ไทยแลนด์) โทร. 02 654 6000 • รถไฟด่วนเบอร์นน ิ า่ และกลาเซียร์ เป็นขบวนรถทีต่ อ้ งทำ�การ สำ�รองที่นั่งล่วงหน้า โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ท่านสามารถ สำ�รองทีน่ ง่ั ได้จากประเทศไทยผ่านทางบริษทั ทีท่ า่ นซือ้ สวิสพาส หรือจะไปสำ�รองที่นั่งทันทีที่ท่านเปิดใช้บัตรสวิสพาสก็ได้ • ผู้ถือบัตรสวิสพาส สามารถนั่งรถไฟขึ้นยุงฟราว์ได้ฟรีจาก อินเทอร์ลาเกน ถึงเลาเทอร์บรูนเน่น และกรินเดลวัลด์ ส่วนจาก เลาเทอร์บรูนเน่น/กรินเดลวัลด์-ไคลน์ไชเดก-ยุงฟราว์ยอร์ช ผู้ถือบัตรสวิสพาสจะได้รับส่วนลด 25% • รถด่วนเบอร์นิน่า ให้บริการวันละ 2-3 เที่ยวต่อวัน โดยเริ่ม จากเมืองทิราโน ถึงเมืองคัวร์ ไปกลับ โดยสามารถต่อรถเข้า เมืองซังค์มัวริตซ์ได้เช่นกัน • รถด่วนกลาเซียร์ ให้บริการวันละ 3 เที่ยว จากเซอร์แมตซังค์มวั ริตซ์ และ 1 เทีย่ วจากเซอร์แมต-ดาวอส ในช่วงฤดูหนาว อาจมีการปรับลดเที่ยววิ่งลง
น�้ำตกสูง 200 เมตร ในเมืองเลาเทอร์บรูนเน่น
13
May 2015
Eat Out
Maverick TEXT : Valerie PHOTO : Krittapol
ห้องอาหารฝรั่งเศสที่น�ำเสนอประสบการณ์ใหม่ในการชิมอาหารฝรั่ง มาพร้อมกับ คอนเซ็ปต์ Evolutionary French Cuisine แสดงออกโดยผ่านการรังสรรค์บรรยากาศให้ หรูหราเก๋ไก๋ทันสมัยคล้ายภัตตาคารชื่อดังในมหานครนิวยอร์ก โดยน�ำเสนอความเรียบ เท่ของโครงเหล็กสีด�ำเคร่งขรึม ตัดกับความอบอุ่นผ่อนคลายของเพดานไม้โชว์ลวดลาย ประดับผนังด้วยชั้นวางหนังสือเพื่อสะท้อนตัวตนของ เอริค พอล เจ้าของร้าน ไฮไลท์ของมาเวอริค อยู่ที่การปฏิวัติเมนูอาหารฝรั่งเศสที่แสนคลาสสิก โดยตีความ รสชาติระดับสูงใหม่ ในรูปลักษณ์ที่รับรองความประทับใจ เด่นตรงที่การใช้วัตถุดิบชั้นดี เพื่อให้คุณได้ชิมรสสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ แนะน�ำเมนูน่าทานคือ Escargots หรือ หอยทากฝรั่งเศส มีเครื่องเคียงเป็นขนมปังแท่งบริโอช ถัดมาเอาใจคนรักเมนูตับห่าน ด้วย Foie Gras Terrine ที่ปรุงใหม่ร่วมกับส่วนผสมอันหลากหลายจนกลายเป็นฟัวกราส์ จานเด็ด อีกเมนูคือ Slow Cooked Duck Breast หรือเนื้อขาเป็ดฝรั่งเศสเสิร์ฟพร้อม กะหล�่ำปลีม่วง แอปเปิ้ลทาร์ตแบล็คซัลซิฟาย และเห็ดชิเมจิ แล้วจึงไปล้างปากกับ Tofu Cheese Cake ชีสเค้กเต้าหู้ ทานเพลินเพราะมีส่วนผสมของเยลลี่เสาวรส เคลือบชีสเค้กเต้าหู้ไว้ภายใน ให้รสเปรี้ยวนุ่มลิ้น Maverick www.maverickbkk.com ชั้น 1 อาคารโอเชียน ทาวเวอร์ 2 สุขุมวิท 21 ซอย 3 เปิดบริการ เวลา 11.30-14.30 น. และ เวลา 17.30-23.00 น. สอบถามและสำ�รองที่นั่ง โทร. 02 665 2772
Eat Sight Story
TEXT : Wanida Chiang PHOTO : Duangdao Suwunarungsi
ตามหามานาน ร้านอาหารริมแม่น�้ำเจ้าพระยาซึ่งอยู่ในท�ำเลที่วิวงามที่สุด โรแมนติกที่สุด ลองไปนั่งมาก็หลายร้าน ยังไม่มีร้านไหนสู้ที่นี่ได้เลย Eat Sight Story เราเดินเข้าซอยข้างๆ ‘ท่าเตียน’ แหล่งท่องเทีย่ วโฉมใหม่ในย่านเก่า เพียงเดินมาถึงสุดทาง เราก็เข้าสู่ร้านอาหารที่เปิดให้เห็นวิวแม่นํ้าเจ้าพระยาแบบพานอรามาจนต้องร้องว้าว เพราะภาพที่เห็นคือพระปรางค์วัดอรุณ สัญลักษณ์ของประเทศโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่นํ้า ฝั่งตรงข้าม ยิง่ ในยามเย็นทีแ่ ดดร่มลมตกแบบนี้ ได้นงั่ ดินเนอร์และมองวิวสุดเอ็กซ์คลูซฟี เหมือนอยูใ่ นความฝันจริงๆ เมนูภูมิใจเสนอคือรสชาติที่ผสานอย่างลงตัวระหว่างตะวันตกและตะวันออก พิซซ่า หน้าน�้ำตกเนื้อและผัดกะเพราหมู ฟังแล้วอาจแปลกใจ แต่รับรองว่ารสชาติเข้ากันอย่างน่าชม อร่อยอย่างคาดไม่ถึง อีกเมนูลูกครึ่งคือ เบนเน่ผัดแกงเขียวหวานไก่ รสเข้มข้น อาหารไทยก็มี อย่าง คอหมูย่างนํ้าผึ้งกินกับข้าวเหนียวใบเตย เนื้อคอหมูย่างนุ่มติดหวานนิดๆ ได้นํ้าจิ้มแจ่วด้วย อร่อยเหาะ ส่วนเมนูย�ำก็ไม่น้อยหน้า ย�ำส้มโอกุ้งสดไข่นกกระทา รสชาติจัดจ้าน สมชื่ออาหารไทย เพื่อไม่ให้คํ่าคืนนี้จบเร็วเกินไป รื่นรมย์ต่อกับวิวแผ่นดินรัตนโกสินทร์ด้วยค็อกเทลอย่าง Strawberry Margarita รสหอมหวาน หรือลอง Tomyam รสชาติหอมสมุนไพรสมชื่อ Eat Sight Story www.facebook.com/ESSDeck เปิดบริการ เวลา 11.00-22.00 น. (วันจันทร์-พฤหัสบดี) และ เวลา 11.00-23.00 น. (วันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์) สอบถามและสำ�รองที่นั่ง โทร. 02 622 2163
Loop Italian Restaurant Terrace and Bar TEXT & PHOTO : Wanida Chiang
ถ้ามองหาร้านอาหารอิตาเลียนขนานแท้ ในบรรยากาศผ่อนคลายเหนือมหานคร ห้องอาหารอิตาเลียน Loop Italian Restaurant Terrace & Bar ในโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส คือ ทางเลือกที่น่าสนใจ แถมยังสามารถเดินเชื่อมต่อ มาจากห้าง MBK แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง ได้สบายๆ ห้องอาหาร Loop อยูใ่ นบรรยากาศสดชืน่ ริมสระว่ายนาํ้ ของโรงแรม จะเลือกนัง่ ด้านนอก รับลมธรรมชาติ หรือนัง่ ในห้องแอร์เย็นฉาํ่ ก็ได้ ตกแต่งด้านในให้รสู้ กึ เหมือนอยูใ่ นห้องรับแขก สบายๆ เมนูแนะน�ำต้องไม่พลาดจานเรียกน�ำ้ ย่อย อย่าง Bruchetta Pomodoro ขนมปังอบโรยหน้า ด้วยมะเขือเทศหัน่ ลูกเต๋าเล็กๆ ปรุงรสเปรีย้ วนิดๆ
ส่วนเมนูพาสต้านัน้ ขาดไม่ได้ ทีส่ ำ� คัญเชฟพาสต้า ของห้องอาหารยังเคยคว้ารางวัลเมนูพาสต้าจาก สมาคมเชฟแห่งประเทศไทยมาแล้ว Ravioli Formaggi แป้งห่อนุม่ ลิน้ ไม่แพ้ไส้ดา้ นในทีม่ สี ว่ น ผสมของชีสจากอิตาลีถงึ 4 ชนิด ส่วนเมนูพซิ ซ่า Pepperoni Fungi Pizza แป้งบางกรอบ เปปเปอโรนีสไลซ์มาชิน้ ใหญ่รสเค็มเผ็ดนิดๆ ปิดท้ายด้วย Chocolate Fondant ทานกับไอศกรีมวานิลลา ตัดรสด้วยผลไม้รสเปรีย้ ว ครบคอร์สอาหาร อิตาเลียนอย่างลงตัว มือ้ พิเศษแบบนีข้ าดไม่ได้คอื ไวน์ชนั้ ดี ทางร้าน แนะน�ำ Marsol ไวน์ขาวรสเบา เข้ากับอาหารที่ สัง่ มา หรือคนไม่ดมื่ แอลกอฮอล์กม็ ี Melon Ginger และเมนูมอ็ กเทลอีกมากมายให้เลือก
Loop Italian Restaurant Terrace & Bar www.pprincess.com ชั้น 8 โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส เปิดบริการ เวลา 06.30-22.30 น. สอบถามและสำ�รองที่นั่ง โทร. 02 216 3700 ต่อ 20818
gm Travel
14
Overnight Arun Residence อรุณรุ่งบนฝั่งรัตนโกสินทร์ Text : Wanida Chiang Photo : Arun Residence
เปิดมาเกือบ 10 ปี แต่ Arun Residence ก็ยังคง ความคลาสสิกของที่พักเจ้าของวิวที่ดีที่สุด แห่งหนึ่งในบรรดาที่พักริมฝั่งแม่น�้ำเจ้าพระยา ไม่เปลี่ยนแปลง ควบคู่ไปกับห้องพักที่สะดวก สบายและบริการด้วยรอยยิ้มเป็นกันเอง ไม่ว่าจะ เป็นแขกต่างบ้านต่างเมืองมาเข้าพัก หรือแค่ อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมานอนนอกบ้าน ก็จะได้รับความประทับใจกลับไป อรุณเรซิเดนซ์ ตั้งอยู่ในซอยประตูนกยูง ตรงข้ามวัดโพธิ์ และติดริมแม่นํ้าเจ้าพระยา ฝั่งพระนคร ซึ่งท�ำเลนี้คือจุดที่ดีที่สุดที่จะได้ชม วิวพระปรางค์วัดอรุณ สัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมือง ของไทยอย่างเต็มตา ด้วยลักษณะโรงแรมบูทีคที่มีห้องพักเพียง 6 ห้อง การจองล่วงหน้ามาก่อนจึงจ�ำเป็นและ หากต้องการวิวที่ดีที่สุดคือสามารถมองเห็นวิว
แม่นํ้าเจ้าพระยาและพระปรางค์วัดอรุณทั้งใน ยามหลับยามตื่น ก็ควรจองห้อง Suite ซึ่งมีทั้งหมด 3 ห้อง เท่านั้น ส่วนสิ่งอ�ำนวยความสะดวก Arun Residence ก็มีให้อย่างครบครันทั้งเตียงขนาด King Size สัญญาณ Wi-Fi อาหารเช้า ช่องทีวีเคเบิล ระบบปรับอากาศ และที่ส�ำคัญยังมีร้านอาหาร The Deck ตั้งอยู่เป็นส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งเคยลงใน นิตยสารต่างประเทศทั้ง Lonely Planet และ Travel & Leisure มาแล้ว หาโอกาสกลับมาชมวิวแสนคลาสสิกนี้อีก ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ก็ยังไม่เบื่อที่จะทอดสายตามอง นานเท่านาน Arun Residence www.arunresidence.com สำ�รองห้องพัก โทร. 02 221 9158 E-mail: service@arunresidence.com
The Blue The Sense Sky Resort วิวทะเลหมอก ณ เขาค้อ Text : Valerie Photo : The Sense อิงลิชคันทรีบนแดนดินไทย ลองนึกภาพดูว่า หากคุณตื่นมาในตอนเช้า Text : Valerie Photo : The Blue Sky Resort
เขาว่ากันว่า ‘พักเขาค้อ 1 คืน อายุยนื 1 ปี’ เราจะไม่มที างเชือ่ ค�ำกล่าวข้างต้นเด็ดขาด หากไม่ได้ ลองมาเยือนเขาค้อด้วยตัวเองสักครัง้ และแล้วก็ตอ้ งขอยอมรับอย่างเต็มหัวใจว่า ที่ The Blue Sky Resort แห่งนี้ สามารถเติมเต็มความบริสทุ ธิใ์ ห้รา่ งกายได้จากอากาศทีแ่ สนสะอาด ธรรมชาติ อันงดงาม บวกกับความรืน่ รมย์เหมือนอยูใ่ นเมืองชนบทของอังกฤษทีร่ สี อร์ทแห่งนีม้ อบให้ เมือ่ มาพักผ่อนทีน่ ี่ คุณสามารถท�ำชีวติ ให้เนิบช้าเพือ่ ดืม่ ด�ำ่ กับความงดงามของขุนเขา วิวตรึง สายตาขององค์พระธาตุผาแก้ว รวมทัง้ ทะเลหมอกของจริง ภายในรีสอร์ททีเ่ นรมิตให้เป็นเหมือน หมูบ่ า้ นชนบทของยุโรป โดยมีแรงบันดาลใจส�ำคัญจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเกาะอังกฤษ ทีม่ แี บ็คกราวนด์เป็นความเขียวชอุม่ ของหุบเขาหรือทุง่ หญ้า ตัดกับเพดานฟ้าใสทีร่ งั สรรค์โดย ธรรมชาติ ตัวรีสอร์ทจึงมีกลิน่ อายอิงลิชคันทรีอยูท่ กุ อณู รวมถึงสไตล์ของห้องพักก็ถกู ตกแต่งให้ สอดคล้องกับภาพรวมของรีสอร์ทด้วย ห้องพักจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Deluxe ส�ำหรับ คูร่ กั และกลุม่ เพือ่ น และ Suite (Family) ส�ำหรับทุกครอบครัว พักผ่อนในบรรยากาศสถานทีอ่ ารมณ์ยโุ รปที่ เดอะ บลูสกาย รีสอร์ท ใช้เวลาโอบกระชับ ความสัมพันธ์กบั คนเคียงข้าง ท่ามกลางธรรมชาติรายล้อมทีแ่ สนโรแมนติก The Blue Sky Resort Khao kho www.theblueskyresort.com สำ�รองห้องพัก โทร. 02 247 7310-11 แฟกซ์ : 02 247 5744
แล้วพบกับวิวทะเลหมอกเบื้องหน้า ท่ามกลาง อากาศเย็นๆ มาสัมผัสผิว จะฟินขนาดไหน นั่นเป็นเหตุผลต้นเรื่องที่เราพาคุณมาเยือนรีสอร์ทแห่งนี้ The Sense Khao Kho เดอะ เซนส์ วิวทะเลหมอก เขาค้อ เป็นที่พักอารมณ์รีสอร์ท ตกแต่งในสไตล์บูทีค ซึ่งสถาปนิกน�ำแรงบันดาลใจส�ำคัญมาจาก ‘ความรู้สึกเป็นส่วนตัว’ เชื่อมโยงให้ผู้ที่มาพักรู้สึกถึง การพักผ่อนอันเป็นส่วนตัวทุกครั้งที่มาเยือน ด้วยท�ำเลที่ตั้งที่อยู่บนต�ำแหน่งที่ดีที่สุดในการเสพรับทัศนียภาพบนเขาค้อ ทะเลหมอก ที่ว่าไกลก็เหมือนอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ พร้อมทั้งธรรมชาติแวดล้อมที่สมบูรณ์ ที่นี่จึงขึ้นชื่อเรื่อง บรรยากาศที่แสนโรแมนติกไปโดยปริยาย เดอะ เซนส์ บริการห้องพักสไตล์วิลล่า 3 รูปแบบ ได้แก่ Erotic Sense (8 หลัง) บ้านพัก วิวสวยที่เด่นตรงระเบียงหน้าห้องติดทะเลหมอก มีธรรมชาติคอยปลุกคุณด้วยความสวยงาม ให้ตื่นขึ้นมารับอรุณในยามเช้า ถัดมาคือ Sample Sense (4 หลัง) บ้านพักที่ขายวิวสวยของ เขาค้ออีกมุมหนึ่ง มองเห็นความเขียวขจีของขุนเขาอยู่เบื้องหน้า และ Standard Room (3 หลัง) ส�ำหรับพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศส่วนตัว นอกจากนี้ทางรีสอร์ทยังมีร้านอาหารที่ตกแต่ง สวยประทับใจ พร้อมอาหารอร่อยคอยให้บริการทุกเมื่อเชื่อวัน The Sense Khao kho www.thesensekhaokho.com สำ�รองห้องพัก โทร. 081 880 6142, 086 177 3566 E-mail : thesenseresort@gmail.com, thesenseresort@hotmail.com
15
May 2015
Destination
เรื่อง : วนิดา เชียงอารี ย์ ภาพ : มนตรี ศรี โอภาศ, วนิ ดา เชี ยงอารี ย์
สายหมอกล่องลอย ไปตามเนินเขา เขียวและชุ่มฉ�่ำ ทั่วบริเวณเขาค้อ
เกือบถึงฤดูฝนกันอีกแล้ว...แต่ถึงแม้ว่าขณะที่คุณก�ำลังอ่านเราอยู่นี้ จะเหงือ่ แตกซิกอยูท่ ี่ไหนสักแห่งในประเทศไทย ก็ยงั พอจะได้จนิ ตนาการ ถึงไอหมอกและฝนฉ�่ำจากเรื่องราวต่อจากนี้ได้ ยิ่งถ้าเคยคิดว่า หน้าฝนไม่เหมาะจะออกท่องเที่ยวแล้วละก็ ขอให้คิดใหม่ เพราะที่ เขาค้อ–ภูทับเบิก ปลายทางภาคเหนือตอนล่างในช่วงเวลาหลังจากนี้ไป จะเข้าสู่ช่วงที่งดงามและอุณหภูมิจะลดต�่ำจนต้องกระชับผ้าพันคอ
เขาค้อในสายหมอก ถ่ายรูปสบายๆ บนสาย 12 Route 12 จุดพักรถ แวะกินอาหาร และจุดชมวิว ที่นอกจากจะมีวิวสวยๆ ให้ถ่ายรูป การตกแต่งแบบ ปั๊มนํ้ามันอเมริกันย้อนยุค ก็มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
ของตกแต่งและของที่ระลึก จ�ำหน่ายใน Route 12 ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ เหมือนมาเที่ยวเมืองนอก และหลายชิ้นก็น่าซื้อไป เก็บสะสมไม่น้อย
16
ถนนสาย 12 หรือเส้นทางช่วงระหว่างหล่มสัก-พิษณุโลก เป็นจุดเริ่มต้นของ การเดินทางสู่เพชรบูรณ์ของเรา วิวข้างทางเป็นขุนเขาเขียวสดขนาบไป ตลอดทางกับทิวต้นไม้ใหญ่ มองเพลินจนไม่รู้สึกถึงระยะเวลาที่ขับรถเรื่อย มาจากกรุงเทพฯ ผ่านเข้าอ�ำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ด้วยเส้นทางสาย 21 จากนัน้ เลี้ยวซ้ายตรงแยกแคมป์สน ก็จะเข้าสู่ถนนสาย 12 ขับมาสัก 3 กิโลเมตร ก็สะดุดตากับหัวจ่ายน�้ำมันแบบเก่าสีสันโดดเด่น และรถบัสสีเหลืองสด ได้บรรยากาศประมาณปั๊มบ้านนอกในอเมริกา แต่ที่นี่สร้างเป็นจุดแวะพัก เก๋ๆ ให้มานั่งชมวิว มีร้านขายของที่ระลึกเก๋ๆ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่ส�ำคัญ คือมุมถ่ายรูปกับวิวขุนเขาและสายหมอก ไม่นับมุมกุ๊กกิ๊กอีกสารพัดให้เลือก อดไม่ได้จริงๆ ที่ต้องใช้เวลาอยู่ตรงนี้นานๆ แซะหามุมถ่ายรูปกันจนหน�ำใจ ออกมาอีกไม่กี่กิโลเมตรก็เจอเข้ากับร้าน กาแฟน่ารักอีกแห่ง Kho in Love ที่จัดว่าฮิตไม่แพ้กัน บรรยากาศทุ่งหญ้า เนินเขา สายหมอกแบบนี้ จะขาดสัตว์ชนิดนีไ้ ด้ไง... เดินมาสุดทางตรงเนินหญ้า โล่งๆ เราก็เจอเข้ากับฝูงแกะตัวใหญ่ตัวเล็กก�ำลังเล็มหญ้า พอมีนักท่องเที่ยว เดินเข้าไปใกล้เท่านั้นแหละเจ้าพวกนี้ก็จะกรูกันมารอชะเง้ออย่างรู้งาน ที่นี่เขาไม่ได้ให้หญ้าไปป้อน แต่ให้ขวดนมเล็กๆ แทน เทคนิคให้ได้รูปสวย ก็ต้องหลอกล่อแกะไปตรงกลางเนินหญ้า เห็นขุนเขาและสายหมอกเป็น แบ็คกราวนด์ แค่นี้ก็ได้รูปน่ารักๆ ไปอัพ IG แล้ว
เลาะเลียบบนเขาค้อ
แวะหมู่บ้านม้งบนสาย 12
บ้านเข็กน้อย เป็นชุมชนชาวม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (ตามป้ายบอก เอาไว้) หมู่บ้านนี้อยู่ไม่ไกลบนเส้นทางสาย 12 ก็เพิ่งรู้ตอนมาเที่ยวเขาค้อ นี่แหละว่านอกจากเพชรบูรณ์จะมีขุนเขากับทะเลหมอกที่โดดเด่น ทีน่ ยี่ งั เป็นถิน่ ฐานของชาวเขาเผ่าม้งซึง่ รวมตัวกันภายหลังเหตุการณ์ไม่สงบ ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) กับรัฐบาลไทย เมื่อสัก 40 กว่าปีก่อน ชาวม้งที่นี่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ท�ำงานหัตถกรรมและปลูกข้าว ปลูกผัก ชอบเวลาที่สาวม้งกระเตงลูกออกมานอกบ้าน เด็กตัวน้อยนั่งอยู่ ในห่อผ้าปักที่แม่ผูกหลังมาเป็นภาพที่น่ารักมากๆ หญิงชาวม้งเวลาว่างๆ จะมานั่งรวมกลุ่มกันปักผ้าเอาไปประดับเสื้อหรือกางเกง แม้แต่ลายบนผ้า อุม้ เด็กก็ปกั เตรียมไว้เช่นกัน คุณยายในหมูบ่ า้ นบอกว่า ชาวม้งทีน่ มี่ ี 2 เผ่า คือม้งขาวกับม้งด�ำ แล้วแยกความแตกต่างกันยังไง? ก็ด้วยแถบผ้าบน ปกเสือ้ ทีห่ อ้ ยด้านหลัง ถ้าเป็นสีเ่ หลีย่ มคือม้งขาว ถ้าเป็น 2 แฉกแหลม คือม้งด�ำ ซึง่ ปกเสือ้ นีแ่ หละคือส่วนทีโ่ ชว์ฝมี อื ปักทีป่ ระณีตของสาวชาวม้ง ส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวที่นี่จะมีในวันเสาร์-อาทิตย์ มีสินค้าทั้งงาน เย็บปักถักร้อยและพืชผักต่างๆ มาขาย แต่ถ้าใครไม่ได้เข้าไปถึง บ้านเข็กน้อย ริมเส้นทางหมายเลข 12 ก็ยังมีซุ้มขายกระเป๋าและ เสื้อผ้าชาวม้งสวยๆ ราคาน่าซื้อให้ช้อปอยู่เช่นกัน
ด้านหลังอนุสรณ์สถาน ผู้เสียสละเขาค้อ มีพื้นที่จัด แสดงสนามเพลาะจ�ำลองเมื่อ สมัยปราบปรามคอมมิวนิสต์ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นตัวเมือง ของเขาค้อจากมุมสูง พร้อมวิวขุนเขา
เมื่อขับรถขึ้นเขาค้อ จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง ใครอยากแวะตรงไหนก่อนก็ได้ แต่ถ้าให้แนะน�ำ เราเลือกไปแวะจุดที่ไกล สุดกันก่อน ที่นั่นคือ อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ซึ่งเป็นแท่งหินอ่อน ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับผู้เสียสละนับพันชีวิต ที่เสียไประหว่างการสู้รบกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) เมื่อประมาณ พ.ศ. 2511-2524 บนนี้มีจุดชมวิวที่น่ามาแวะถ่ายรูปมากๆ มองเห็นทัง้ ตัวเมืองเขาค้อด้านล่างและหมอกคลอเคลียยอดเขาในระยะไกล ลงมาจากอนุสรณ์ไม่ไกลก็จะมีพิพิธภัณฑ์อาวุธ ฐานอิทธิ จัดแสดงอาวุธ ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่ครั้งการสู้รบกับ พคท. เช่นกัน เมื่อยุคทศวรรษประมาณ 70-80 การปราบปรามคอมมิวนิสต์ มีอยู่ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เขาค้อก็เป็นที่มั่นหนึ่งของ พคท. เพราะฉะนั้นสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งจึงมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับ ความขัดแย้งในครั้งนั้น น�้ำตกศรีดิษฐ์ก็เช่นกัน ที่นี่เคยเป็นที่มั่นของ กลุ่ม พคท. จึงหลงเหลือกลุ่มบ้านพัก ครกต�ำข้าวพลังนํ้าตกให้ชม นอกเหนือจากความสวยงามของนํ้าตกที่น่าพักผ่อนนั่งกินส้มต�ำ การขับรถบนเขาค้อเป็นความรื่นรมย์อย่างหนึ่ง มองไปทางไหนก็เห็น สีเขียว โดยเฉพาะถ้ามาในช่วงหน้าฝน เห็นหมอกลอยเรื่อยไปกับยอดไม้ ค�ำว่าเร่งรีบจะหายไปจากชีวิตชั่วขณะเลยทีเดียว ระหว่างทางยังมีที่ให้แวะ อีกมาก ทั้งพระต�ำหนักเขาค้อ พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก รวมทั้ง ไร่บเี อ็น จุดแวะซือ้ ผัก ผลไม้ และของกินของฝากในท้องถิน่ หรือลอง ไอศกรีมโฮมเมดสักถ้วยก็ไม่เลว ขาดไม่ได้คือการชมวิวทะเลหมอก ซึ่งเกิดขึ้นเหนือบริเวณอ่างเก็บน�้ำ รัตนัย ชมได้จากทั้งศาลาชมวิวเขาค้อ หรือชมจากรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บน เส้นทางสาย 2196 หรือไม่ก็ขับรถหามุมเอาเองตามสะดวก ช่วงเวลาที่ เหมาะคือตอนเช้าตรูก่ อ่ นพระอาทิตย์ขนึ้ ไปจนพระอาทิตย์ขนึ้ สูงไม่มากนัก ...เวลาแบบนี้จะมีอะไรดีไปกว่ากาแฟอุ่นๆ สักแก้ว แล้วชมสายหมอก รับอรุณ ฟังเสียงธรรมชาติเบาๆ
นํ้าตกศรีดิษฐ์ในยามที่นํ้าเต็ม และใส ให้นักท่องเที่ยวมา เล่นนํ้าได้ บริเวณใกล้ๆ ยังหลงเหลือแคมป์ของ สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และครกต�ำข้าวพลังนํ้าตก
ในยามว่าง แม่เฒ่าชาวม้ง ก็นั่งปักลวดลายบนผืนผ้า ตามภูมิปัญญาที่สืบทอดมา ของชนเผ่า ลวดลายเหล่านี้ บ้างก็น�ำไปประดับเสื้อ ปกเสื้อ หรือแม้กระทั่ง ผ้าอุ้มเด็กเล็ก
17
May 2015
นอนนับดาวบนภูทับเบิก วัดพระธาตุผาแก้ว ในสายหมอก
กลับมาบนถนนสาย 12 อีกครัง้ พอถึงประมาณ กม. ที่ 103 ถึงบริเวณทางเข้า หมู่บ้านทางแดง ถ้ามองจากระยะไกลจะเห็นเจดีย์สีทองอร่ามของวัดพระธาตุ ผาแก้วเด่นชัดอยูก่ ลางสายหมอก ดูนา่ เกรงขามและดึงดูดสายตา ยิง่ ได้เข้ามา ในวัด แหงนหน้ามองดูองค์พระธาตุในระยะใกล้ ก็ได้แต่ตะลึงในความงาม และชื่นชมในพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่ร่วมกันบริจาคทรัพย์รวมทั้ง ของมีค่าต่างๆ มาฝังอยู่ในทุกอณูของพระธาตุ ไม่ว่าจะเป็นถ้วย-ชาม มุก ลูกแก้วสีสันต่างๆ พอจัดวางเป็นโมเสกลวดลายต่างๆ ก็ยิ่งชวนให้น่าทึ่ง ...แต่เหนือไปกว่าความงดงามก็คอื ทีน่ เี่ ป็นพุทธสถานทีเ่ งียบสงบ และมีผเู้ ข้ามา ปฏิบัติธรรมวิปัสสนา เมื่อเข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐาน ในเจดีย์ หรือพระพุทธรูปต่างๆ ภายในวัด ก็ขอให้อยู่ในความส�ำรวมให้มากๆ อย่าเริงร่าจนเกินงาม
วัดพระธาตุผาแก้วตั้งอยู่บนเนินเขา หากมอง จากพระธาตุที่อยู่สูงจะเห็นเนินเขาและบ้านเรือน สร้างลดหลั่นบนไหล่เขา เป็นวิวที่งดงามมาก
คดเคี้ยวสู่ภูทับเบิก
เราขับขึ้นภูทับเบิกด้วยอาการโยกซ้ายขวากันสนุกสนาน เส้นทางขึ้นจัดว่าต้องอาศัยสมาธิในการขับรถ พอสมควร พอแหงนขึ้นไปมองบนยอดภูแล้วเห็นสายหมอกลอยอ้อยอิ่งก็ยิ่งอยากขึ้นไปถึงให้ได้ อากาศเย็นขึน้ เรือ่ ยๆ จนต้องหยิบเสือ้ กันหนาวมาใส่ เริม่ มองเห็นตุม่ สีเขียวผุดขึน้ มาตามเนินดินสองข้างทาง ผลผลิตขึ้นชื่อที่สุดบนนี้คือ กะหล�่ำปลี ว่ากันว่าที่นี่เป็นแหล่งปลูกกะหลํ่าปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ช่วงที่มาถึงก�ำลังเป็นช่วงเริ่มปลูกรอบใหม่จึงเป็นภาพแปลกตา และแอบอิจฉาเกษตรกรที่นี่ที่ได้ท�ำเกษตร ในสายหมอก โดยเฉพาะเนินเขาที่มีแต่ไร่กะหล�่ำปลีเรียงแถวไกลสุดสายตา เยอะจนคิดถึงกะหล�่ำปลี ผัดน�้ำปลาฝีมือแม่ขึ้นมาซะงั้น
ชาวไร่กะหล�่ำปลีบนภูทับเบิก เริ่มปักกล้าเพื่อเริ่มต้นรอบปลูกใหม่ ท่ามกลางความเย็นของสายหมอก หลังฝนพัดผ่านไป
gm Travel
วิวมุมสูงระหว่างทางขึ้นภูทับเบิก พื้นที่แบ่งเป็นแปลงที่เห็น อีกไม่นานก็จะมีกะหล�่ำปลีงอกเงย จนกลายเป็นสีเขียวเต็มเนิน
18
●
Traveller’s Guide How to get there :
• จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถึงจังหวัดสระบุรี
เลยไปจนถึงสวนพฤกษศาสตร์พแุ ค ตรงกิโลเมตรที่ 125 แยกขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านอำ�เภอชัยบาดาล อำ�เภอศรีเทพ อำ�เภอวิเชียรบุรี ต่อไปอีกประมาณ 221 กิโลเมตร ถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมระยะทางประมาณ 346 กิโลเมตร
Attention ! :
• การขับรถขึน ้ ภูทบั เบิกถือว่าไม่เหมาะกับมือใหม่ ควรให้คนมี
ประสบการณ์ขบั ขึน้ โดยเฉพาะหากมีบางช่วงทีว่ สิ ยั ทัศน์ไม่ดี เพราะมีหมอกปกคลุม ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ทีส่ �ำ คัญต้อง ตรวจเช็กสภาพรถก่อนขับขึน้ นํา้ มันเติมให้เต็มก่อนขึน้ และ เส้นทางนีเ้ หมาะกับรถขับเคลือ่ น 4 ล้อ
What to eat :
• อาหารการกินหลากหลายมาก มีตง้ั แต่รา้ นอาหารฝรัง่ นัง่ เก๋ๆ
แถวเขาค้อ ไปจนร้านขนมจีนหลากหลายเจ้าแถบอำ�เภอหล่มสักหล่มเก่า ของฝากจากไร่ก�ำ นันจุล ตบท้ายด้วยส้มตำ�ไก่ยา่ ง ทีอ่ �ำ เภอวิเชียรบุรี
รายละเอียดการตกแต่งของพระธาตุผาแก้ว ซึง่ ประดับประดาด้วยวัตถุแวววาวและสีสนั สวยงาม ล้วนแต่เป็นสิ่งของบริจาคโดยผู้มีจิตศรัทธา
More information :
• ททท.ส�ำนักงานพิษณุโลก (ดูแลพืน ้ ทีพ ่ ษิ ณุโลก เพชรบูรณ์
รถปิกอัพรุน่ ใหม่เอีย่ มขับผ่านไปหลายคัน เป็นรถของชาวบ้านก�ำลังขนกะหล�ำ่ ปลีลงไปขายข้างล่าง แต่ละคันเต็มเอี๊ยดไปด้วยหัวกะหล�่ำใหญ่พิเศษทั้งนั้น อย่างที่บอกว่าชนเผ่าที่ตั้งถิ่นฐานในจังหวัด เพชรบูรณ์มากที่สุดก็คือชาวม้ง ซึ่งได้รับจัดสรรที่ท�ำกินบนภูทับเบิก ระหว่างทางที่เรามาแบบไม่รีบ ไม่ร้อนนี้ ยังได้แวะทักทายชาวไร่กะหลํ่าที่ก�ำลังขุดดินลงกล้ากันขะมักเขม้น ถึงได้รู้ว่ากะหลํ่าปลีใช้เวลา งอกเงย 3 เดือน ปีหนึ่งสามารถมาชมได้ 2 ช่วง ช่วงแรกระหว่างมิถุนายน-สิงหาคม และอีกช่วงคือ ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม ท่ามกลางสายหมอกลอยละล่องไปทุกอณูอากาศท�ำให้ต้องขับรถอย่างระมัดระวัง ที่ความสูงกว่าระดับ น�้ำทะเลถึง 1,768 เมตร เราออกไปวิ่งเล่นผ่านสายหมอกกันสนุกสนานที่อาจจะมองว่าโรแมนติก หรืออาจ จะมองเหมือนบรรยากาศในหนัง Silent Hill ก็ยอ่ มได้ และพอฟ้ามืด ณ หอดูดาวและทีว่ ดั อุณหภูมภิ ทู บั เบิก ขยับตัวเลขเกิน 10 องศา มานิดเดียว พอเงยมองฟ้าเท่านั้นก็ได้แต่ร้องว้าว เสียดายที่ไม่รู้ว่าดาวอะไร เรียงตัวยังไง แต่ใช้จินตนาการมองแทน ก็แอบสงสัยว่าจะมีใครบ้างไหมที่ก�ำลังมองดาวดวงเดียวกัน
วิถีชีวิตชาวบ้าน ยังด�ำเนินไปอย่าง เรียบง่ายที่อ�ำเภอ หล่มเก่า ทางผ่าน หลังจากลงภูทับเบิก ที่นี่ยังมีบ้านเรือนเก่าๆ ให้แวะเดินชมได้
เมืองหล่ม ขนมจีน มะขามคลุก
สูดหายใจเอาไอหมอกสะอาดๆ เข้าไปให้เต็มปอด ชื่นชมหมอกลอยหนาแน่นในยามเช้าที่เกินกว่า เคยเห็นมาทั้งชีวิต เราก็มุ่งลงสู่เบื้องล่าง อ�ำเภอหล่มเก่า มาถึงเมืองหล่มเก่าเราก็สัมผัสบรรยากาศเก่าแก่สมชื่อ ตัวเมืองยังเป็นตึกแถวไม้เก่าเป็นส่วนใหญ่ ผู้คนยังขี่จักรยานมาตลาด มีรถสกายแล็ปวิ่งรับจ้าง ชาวบ้านไกลๆ ขับอีแต๊กมาจ่ายของ ร้านโชห่วย ร้านขายยา ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังคงหน้าตาเหมือนสมัยเราเด็กๆ ขนาดร้านการ์ตูนให้เช่ายังดู คลาสสิกแบบไม่ต้องแต่งเติม หล่มเก่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากจริงๆ
19
พิจติ ร) โทร. 055 252 742-3 หรือ www.tourismthailand.org
ขนมจีนเส้นสด รายล้อมด้วยน�้ำยาชนิดต่างๆ ของกินขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบูรณ์ ขนมจีนเส้นสด แตกต่างจากเส้นหมักตรงที่เส้นเหนียวนุ่มกว่า
มาถึงหล่มเก่าอย่าลืมตามหาร้านมะขามในต�ำนาน ร้านมะขามสารัช (แม่สนม) อยู่ในบ้านไม้เก่าแก่ ใช่แล้ว! ที่เราซื้อกินจากร้านสะดวกซื้อนั่นแหละ ร้านแรกของเขาถือก�ำเนิดที่นี่ มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะขามสารพัด ทั้งมะขามแก้ว มะขามแช่อิ่ม มะขามกวน มะขามคลุกอีกหลายแบบ คลุกมีเมล็ด คลุกไม่มีเมล็ด คลุกจี๊ดจ๊าด คลุกบ๊วย แช่อิ่มหยี ฯลฯ ซื้อกันไม่หวาดไม่ไหวจริงๆ ของกินขึ้นชื่ออีกอย่างเมื่อมาถึงเพชรบูรณ์คือ ขนมจีนเส้นสด ต่างกับ เส้นขนมจีนทั่วไปก็ตรงที่ท�ำสด นี่ไม่ได้จะกวนอะไรนะ แต่เส้นขนมจีน ที่ท�ำสดๆ วันต่อวัน เส้นจะเหนียวนุ่ม คลุกเคล้ากับนํ้ายาขนมจีนรสเข้มข้น จานเดียวไม่พอจริงๆ พูดเลย จังหวัดนี้มีของกินให้แวะซื้อเยอะจริงๆ ตรงแยกวังชมภู อ�ำเภอเมือง เพชรบูรณ์ ยังมีร้านไร่ก�ำนันจุล ใหญ่สะดุดตา เป็นจุดขายผลผลิตทางการเกษตร แปรรูปจากไร่ก�ำนันจุล ที่เด่นๆ ก็ต้องมัลเบอร์รี่หรือมะเม่า รวมทั้งผลไม้อื่น อีกมากมายซึ่งแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม น�้ำสกัด แยม ซอส ไอศกรีม ฯลฯ กล้วยทอดกรอบรสต่างๆ ก็อร่อย น�ำ้ พริกก็มเี ยอะ ปลาส้มก็ขนึ้ ชือ่ สาธยายไม่หมด ยัง...ยังไม่หมดนะ ผ่านอ�ำเภอวิเชียรบุรี อย่าลืมแวะกินส้มต�ำแกล้มไก่ย่าง วิเชียรบุรี จะได้จบทริปเพชรบูรณ์กันแบบไม่ค้างคา
May 2015
Great Drive เรื่องและภาพ : มนตรี ศรีโอภาศ
ฝ่าทุง่ หญ้าสะวันนา เมื่อพูดถึงทุ่งหญ้าสะวันนา ดินเเดนเเห่งสรรพสัตว์ของ ทวีปเเอฟริกา เชื่อว่าใครหลายคนต้องนึกถึงทุ่งหญ้าสีทอง ไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่เราเห็นเจนตาในสารคดีชีวิตสัตว์ ของฝรั่ง ทริปนี้เราได้รถปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมลุย ทุกสภาพถนน แล้วปลายทางของเราจึงถูกก�ำหนดลงบนจอ GPS พร้อมด้วยอุปกรณ์แคมปิ้งชุดใหญ่ เสื้อผ้าชุดลุย พร้อมอุปกรณ์ ถ่ายภาพ เพราะจุดหมายของเราในทริปคือ อุทยานเเห่งชาติ ทุง่ เเสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก ดินเเดนที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นทุ่งหญ้าสะวันนาของเมืองไทย
gm Travel
ทะเลหมอกงดงาม ยามเช้าตรู่จากจุดชมวิว ทางขึ้นทุ่งนางพญา มองเห็นเขาปู่ จากระยะไกล ซึ่งเป็น แลนด์มาร์กส�ำคัญของ ทุ่งแสลงหลวง ขับขี่ปลอดภัย ท่ามกลางสายหมอก บนเส้นทางสู่ทุ่งนางพญา ด้วยการเปิดไฟตัดหมอก ตลอดเวลา
20
น�ำ้ ตกแก่งโสภา
เราเลือกใช้เส้นทางสายกรุงเทพฯ-สระบุร-ี เพชรบูรณ์ บนเส้นทางหมายเลข 21 ใช้เวลา เดินทางราวๆ 4 ชัว่ โมง แต่กอ่ นเข้าสูต่ วั ทุง่ แสลงหลวงตรงสามแยกนางัว่ ผมเบนเข็มไป แวะเทีย่ ว น�ำ้ ตกแก่งโสภา ซึง่ อยูบ่ นเส้นทางพิษณุโลก-หล่มสัก อันเป็นน�ำ้ ตกขนาดใหญ่ ทีเ่ กิดจากล�ำห้วยเข็กใหญ่ไหลผ่านหน้าผาหินขนาดใหญ่ลดหลัน่ กันลงไปเป็นชัน้ ๆ ในยามฤดูฝนเช่นนีส้ ายน�ำ้ ตกจึงมีสอี อกน�ำ้ ตาลปนแดง และไหลรุนแรง เพือ่ ป้องกัน อุบตั เิ หตุทางอุทยานฯ จึงปิดเส้นทางไม่อนุญาตให้นกั ท่องเทีย่ วเดินลงไปชมยังชัน้ ล่าง ได้ แต่แค่ได้มาเห็นช่วงตอนบนของน�ำ้ ตกเท่านีก้ ส็ วยมากพอแล้วล่ะ
เปิดประตูสทู่ งุ่ หญ้าสะวันนา
ไฮไลท์ของการเดินทางในทริปนี้ ทุง่ แสลงหลวง ทุง่ หญ้าเเบบสะวันนา สภาพภูมปิ ระเทศเป็นทุง่ หญ้าโล่งกว้าง มีเขาปูต่ งั้ ตระหง่านอยูเ่ ป็นฉากหลังท�ำให้เกิด ทัศนียภาพทีส่ วยงาม เหมาะเเก่การนัง่ รถชมวิว เดินป่า เเละกางเต็นท์ ทุง่ เเสลงหลวง นับเป็นผืนป่าใหญ่เเห่งหนึง่ ซึง่ ปกคลุมลุม่ น�ำ้ เเละเทือกเขาระหว่างรอยต่อของจังหวัด พิษณุโลก เเละจังหวัดเพชรบูรณ์ ในอดีตชาวบ้านเล่ากันว่าบริเวณดังกล่าวมีทงุ่ หญ้า ขนาดใหญ่ ภายในทุง่ มีตน้ ไม้ใหญ่ชนิดหนึง่ ขึน้ อยูเ่ ป็นจ�ำนวนมาก โดยมีชอื่ ว่า ต้นแสลงใจ เจ้าผลสุกของต้นไม้ชนิดนีม้ ฤี ทธิเ์ ป็นยาพิษเบือ่ เมา ชาวบ้านจึงเรียก ผืนป่าอันกว้างใหญ่บริเวณนีว้ า่ ทุง่ เเสลงหลวง เมือ่ สายฝนทีเ่ ทลงมาได้หยุดลง ก็เป็นช่วงเวลาทีฟ่ า้ ก�ำลังจะเริม่ เปลีย่ นสี มีการ ไล่โทนผสมเเสง สายหมอกลอยตัวเอือ่ ยๆ คล้ายกับใครบางคนเอาส�ำลีไปเเปะอยู่ บนยอดทิวเขา เเม้วา่ ในช่วงฤดูนที้ งุ่ หญ้าโล่งกว้างทีอ่ ยูต่ รงหน้าของเราทัง้ สองนัน้ จะยัง ไม่เป็นสีทองเหลืองอร่ามก็ตาม เเต่มนั ก็ไม่ได้งดงามน้อยลงเลยเเต่อย่างใด มันกลับให้ ความรูส้ กึ ฉ�ำ่ เย็นไปด้วยโทนเขียวขจี มีสายหมอกไหลล้ออยูบ่ นยอดหญ้า เป็นภาพ บรรยากาศทีท่ งุ่ หญ้าในทวีปแอฟริกายังงามสูไ้ ม่ได้ จะว่าไปเเล้วความงามทีเ่ ข้ามา เตะตาผมในตอนนัน้ ท�ำเอาผมลืมภาพจากสารคดีของฝรัง่ ไปจนสนิทเลย กิจกรรมยามราตรีทนี่ า่ สนใจในอุทยานฯ คือทัวร์สอ่ งสัตว์ โดยการนัง่ รถออกไป ศึกษาพฤติกรรมสัตว์ทอี่ อกหากินกลางคืนผ่านการสือ่ ความหมายจากเจ้าหน้าที่ ซึง่ เป็นกิจกรรมทีไ่ ม่ควรพลาด ขอย�ำ้ ว่าทัวร์สอ่ งสัตว์นจี้ ะจัดเพียงคืนละ 1 รอบ เท่านัน้ เพือ่ มิให้เป็นการรบกวนสัตว์ปา่ มากเกินไปนัก หากใครสนใจสามารถติดต่อส�ำรองทีน่ งั่ กันได้ทศี่ นู ย์บริการนักท่องเทีย่ ว
ทุง่ แสลงหลวง ทุง่ นางพญา ทุง่ โนนสน
รุง่ สางของวันใหม่ เราขับรถออกไปเก็บภาพบรรยากาศในยามเช้าของทุง่ เเสลงหลวงซึง่ ให้อารมณ์ เเตกต่างไปจากยามเย็นของเมือ่ วันวาน มุมชมวิวมหาชนยอดฮิตของทุง่ แสลงหลวงคงหนีไม่พน้ ที่ ศาลาดุสติ า จุดทีจ่ ะสามารถชมทัศนียภาพของทุง่ แสลงหลวงได้เต็มอรรถรส มองเห็นเขาปูไ่ ด้อย่าง ชัดเจน มีฉากหน้าเป็นทุง่ หญ้าสลับป่าเต็งรัง ทีป่ รากฏต้นพลวงยืนต้นหงิกๆ งอๆ ล้อสายหมอก ดูงดงามแปลกตา เเละนอกจากนัน้ ยังมี ทุง่ นางพญา ทีอ่ ยูท่ างทิศใต้ของทีท่ ำ� การอุทยานฯ หนองแม่นา ประมาณ 15 กิโลเมตร ทีน่ นั่ ก็เป็นทุง่ หญ้าแบบสะวันนาเหมือนกัน ล้อมรอบด้วย ป่าสนเขาและป่าดิบเขา ตามกิง่ สนจะพบไม้ปา่ ทีห่ าชมได้ยากคือ เอือ้ งชะนีและเอือ้ งค�ำปากไก่ หรือหากใครชอบเล่นน�ำ้ และดูผเี สือ้ ไปพร้อมกันก็ตอ้ งแวะไปทีแ่ ก่งวังน�ำ้ เย็น อยูห่ า่ งจากทีท่ ำ� การ อุทยานฯ หนองแม่นาประมาณ 7 กิโลเมตร บนเส้นทางเดียวกันหากขับรถเลยขึน้ ไปก็จะถึงทางแยกเข้าทุง่ โนนสน ระหว่างเส้นทางเดิน สภาพป่าจะค่อยๆ เปลีย่ นไปจากทุง่ หญ้าสูป่ า่ เต็งรังสลับด้วยป่าสนและป่าเบญจพรรณ ซึง่ สามารถ พบเห็นหมูผ่ เี สือ้ ตามทุง่ ได้หลากหลายสายพันธุ์ ผีเสือ้ ตัวเด็ดๆ ของทีน่ กี่ ค็ อื ผีเสือ้ ดุก๊ ทุง่ แสลงหลวง ซึง่ จะหาพบได้งา่ ยกว่าทีอ่ นื่ ใดในประเทศไทย ใครๆ อยากเห็นก็มกั จะมาดูกนั ทีน่ เี่ ป็นส่วนใหญ่ ส่วนบริเวณป่าดิบชืน้ ริมล�ำธารน�ำ้ ตกจะมีความหลากหลายของพืชพรรณไม้ใหญ่ทผี่ นื ป่า ก็มพี รรณไม้แปลกตาขึน้ อยูม่ ากมาย เช่น เฟิรน์ และบอนต่างๆ เเละท้ายสุดของเส้นทางทุง่ แสลงหลวงก็คอื ทุง่ โนนสน เป็นทุง่ หญ้าแบบสะวันนา สลับกับ ป่าสนเขา ตัง้ อยูใ่ จกลางอุทยานฯ บนยอดเขาโคกสน มีลกั ษณะคล้ายทุง่ แสลงหลวงและทุง่ นางพญา ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีดอกไม้หลายชนิดผลัดใบ เช่น ดอกดุสติ า เอือ้ งม้าวิง่ กระดุมเงิน ยีโ่ ถปีนงั หม้อข้าวหม้อแกงลิง ทุง่ นีเ้ หมาะแก่การเดินป่า ซึง่ ปัจจุบนั มีการตัดเส้นทางเดินเท้าใหม่ ให้เดินใกล้ขนึ้ โดยใช้เวลาเดินประมาณ 3-4 ชัว่ โมง โดยจะเปิดให้นกั ท่องเทีย่ วเข้าได้ในช่วงเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี
ทิวทัศน์ของ ทุ่งแสลงหลวง ทุ่งหญ้า แบบสะวันนาสลับป่า เต็งรังที่ดูเขียวและ ชุ่มฉ�่ำในยามปลายฝน ต้นหนาว
ธรรมชาติที่อุทยาน แห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ยังคงอุดมสมบูรณ์ และหากโชคดีก็จะได้ เห็นเจ้าของบ้าน ดังเช่น กวางป่าตัวนี้ ด�ำรงชีวิต อย่างปกติสุข ส่วนเรา เป็นเพียงผู้เข้ามา เยี่ยมเยือน
น�ำ้ ตกงามนาม ‘คนเมิน’
หลายคนอาจจะไม่เคยรูม้ าก่อนว่าหน่วยฯ ทุง่ เเสลงหลวง ที่ 8 (หนองแม่นา) นัน้ มี น�ำ้ ตกสวยทีซ่ อ่ นตัวอยูใ่ นดงป่า นักท่องเทีย่ วน้อยคนนักทีจ่ ะแวะเดินเข้าไปชืน่ ชม จนเป็นฉายาของน�ำ้ ตกแห่งนีว้ า่ ‘น�ำ้ ตกคนเมิน’ พอเราได้รวู้ า่ มีนำ�้ ตกก็อยากจะดูให้ เห็นกับตาว่างดงามเพียงใด จึงรีบเอ่ยปากให้เจ้าหน้าทีน่ ำ� ทางไปในทันใด คิดในใจว่า ‘ใครจะเมินก็ชา่ ง เเต่ผมไม่เมินเเน่ๆ’ จากทีท่ ำ� การหน่วยฯ เพียง 3 กิโลเมตร เราขับรถมาจอดตรงปากทาง แล้วเดินเท้าต่อไปตามเเนวป่าระยะทางประมาณ 500 เมตร หนทางอาจจะรกเรือ้ ล�ำบากสักเล็กน้อย เเต่มาเทีย่ วทุง่ แสลงหลวงทัง้ ที ต้องไปให้ถงึ น�ำ้ ตกคนเมินนัน้ เป็นน�ำ้ ตกขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 10 เมตร บริเวณน�ำ้ ตกนัน้ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ และยังคงความอุดมสมบูรณ์ ทางธรรมชาติมาก เมือ่ ได้มาสัมผัสด้วยตาตัวเองเเล้ว ขอบอกตรงนีเ้ ลยว่า เป็นอีกหนึง่ ความงดงามทางธรรมชาติทไี่ ม่ควรเมินเป็นอย่างยิง่
ของฝากระหว่างทาง
ขากลับคงต้องแวะซือ้ หาของฝากกลับบ้านด้วยไม่งนั้ เป็นเรือ่ งแน่ เเต่เอ๊...ย่านนีถ้ า้ จะนึกถึงของฝากของดีกค็ งไม่พลาดทีจ่ ะนึกถึง ไร่กำ� นัลจุล ซึง่ เปิดเป็นร้านสะดวกซือ้ กึง่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตัง้ อยูบ่ นถนนหมายเลข 21 เส้นสระบุร-ี หล่มสัก ไม่วา่ จะเป็นปลาส้มทีข่ นึ้ ชือ่ ผลไม้สดๆ เเละเเบบเเปรรูป โดยเฉพาะมะขาม มีให้เลือกสารพัดรสชาติทชี่ อบ น�ำ้ พริกชนิดต่างๆ ขนมขบเคีย้ วของว่าง ล้วนแล้วเหมาะเเก่การซือ้ หาเป็นของฝากเล็กๆ น้อยๆ รับรองได้เลยว่าไม่ผดิ หวัง น�้ำตกคนเมิน แต่ความสวยไม่น่าเมิน อยู่บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ในหน่วยพิทักษ์อุทยานทุ่งแสลงหลวง ที่ 8 (หนองแม่นา)
บรรยากาศเข้ากับธรรมชาติ โดยรอบของแคมป์พัก ในเขตหน่วยพิทักษ์อุทยาน ทุ่งแสลงหลวง
เอื้องม้าวิ่ง กล้วยไม้ดินสีหวาน ที่จะบานในช่วงปลายฝน ต้นหนาวประมาณ เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน
●
Traveller’s Guide How to get there :
• จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายจังหวัดสระบุรี ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ บนเส้นทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้าต่อไปทางอ�ำเภอหล่มสัก จนถึง บ้านนางั่ว เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางหมายเลข 2258 ขึ้นเขาค้อผ่านสี่แยก บ้านสะเดาพงษ์ ขับตรงไปจนถึงบ้านทานตะวัน จากนั้นเลี้ยวขวาต่อไปอีก 4 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวงหน่วยฯ ที่ 8 (หนองแม่นา)
where to stay :
• บ้านพักอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง โทร. 055 268 019 E-mail : reserve@dnp.go.th
more information :
• อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โทร. 055 268 019 • ททท.ส�ำนักงานพิษณุโลก โทร. 055 252 742-3 E-mail : tatphlok@tat.or.th
May 2015
Passport to Asean เรื่องและภาพ : วนิดา เชียงอารีย์
Mui Ne เนินทราย ชายทะเล และเราสองสามคน
เราสองสามคนเดินทางถึงนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ด้วยเวลา ชั่วโมงกว่า อาจจะเร็วกว่าขับรถจากห้าแยกลาดพร้าวไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในบางวัน เร็วจนเราดูหนังบนเครื่องไม่ทันจบเรื่องด้วยซํ้า ทริปนี้อยาก ไปเที่ยวชายทะเลดูบ้าง แต่ในเมื่อประเทศเราก็มีทะเล เราจึงมาที่เมืองมุยเน่ (หรือมุ่ยเหน แล้วแต่ถนัดเรียก) ประเทศเวียดนาม ก็เพราะอยากมาดูสิ่งที่ บ้านเราไม่มี ...งอบทรงสามเหลี่ยม เรือกระด้ง สาวเวียดนามในชุดอ๋าวหญ่าย และไฮไลท์ เนินทรายกว้างไกลสุดสายตา จนเราเหลือตัวเล็กนิดเดียว
เสน่ห์ของเนินทรายเมืองมุยเน่ก็คือ ความกว้างใหญ่ และรูปทรงของ เนินทรายที่มีกระแสลมจากทะเลสู่ แผ่นดินคอยตกแต่งรูปทรงให้ กลายเป็นงานศิลปะจากธรรมชาติ
= เพื่อน เพื่อน และฉันเอง รวมเป็นเราสองสาม คน หอบผ้าหอบผ่อนกันมาจากเมืองไทยจนมา แลนดิ้งสุดรันเวย์กันที่สนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat โฮจิมินห์ซิตี้ ด้วยความกระตือรือร้น สุดขีด แหม ใครก็เตือนว่าจะโดนแบบนั้น จะโดนแบบนี้ เราเองก็กลัวจะโดน แม้ลึกๆ ก็อยากจะโดนสักทีเป็นประสบการณ์ (งงมั้ย) แต่ด้วยหน้าตาเป็นอาวุธและท่าทางเจนโลกของพวกเรา จึงส่งให้พี่แท็กซี่ กดมิเตอร์และพาวนมาจนถึงถนน Pham Ngu Lao แหล่งแบ็คแพ็คเกอร์ ใจกลาง นครโฮจิมินห์โดยสวัสดิภาพ ด้วยราคา 3 แสนกว่าดง (Dzong) หรือ 400 กว่าบาท Fairy Stream ไทย เรากรีดแบงก์จ่ายไปอย่างงงๆ แล้วออกสู่การจราจรภายนอกที่ชวนตะลึงกว่า ล�ำธารสีแดงที่ เกิดจากท้องทราย ถึงแม้ว่าเราจะคุ้นเคยกับการจราจรมาจากเมืองไทยว่าแสนจะ...ขนาดไหน สีแดงด้านล่าง และ แต่ที่โฮจิมินห์กลับ OMFG ซะยิ่งกว่า รถมอเตอร์ไซค์วิ่งไปโฉบมา ชุกชุมเป็นยุง ผาหินที่เกิดจากการ บินก็ว่าได้ ซึ่งบททดสอบแรกที่เราต้องผ่านก็คือ การข้ามถนน! โดยเฉพาะเมื่อ กัดเซาะด้วยแรงลม ต้องข้ามแยกใหญ่ๆในโฮจิมินห์ เราต้องท่องในใจไว้เลยว่า “จงเดินไป เดินไป และกระแสน�้ำ จนผาหินปูนกร่อน และเดินไป” สังเกตได้ว่า ถ้าไม่ถึงกับทะเล่อทะล่าจนเกินไป และระมัดระวังอยู่ เป็นริ้วแปลกตา พอตัว เราจะผ่านการข้ามถนนที่วุ่นวายนั้นมาอีกฝั่งได้ในแบบไม่มีรอยขีดข่วน เพราะมอเตอร์ไซค์ทุกคันจะหลบท่านเอง และเราได้พิสูจน์ด้วยการข้ามถนน หน้าตลาดเบนถันในชั่วโมงเร่งด่วนมาแล้ว (โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม) พอผ่านมาได้นี่แทบอยากขอประกาศนียบัตรส�ำเร็จหลักสูตรกันเลยทีเดียว
gm Travel
22
โฮจิมินห์ เมืองที่เราต้องผ่าน (การทดสอบ)
มุยเน่ ไปชิมแก้วมังกร ไปกินลมทะเล
= เราตั้งใจแล้วอย่างแน่วแน่ว่าต้องไปสู่ เมืองมุยเน่ จังหวัดฟานเทียต อยูห่ า่ งจากโฮจิมนิ ห์ ซิตี้ไปประมาณ 200 กิโลเมตร จะเดินทางไป ด้วยรถไฟหรือรถบัสก็ได้ ซึ่งพวกเราเลือก อย่างหลัง โดยติดต่อซื้อตั๋วรถไปกลับและทัวร์ One-Day Trip จากตัวแทนท่องเที่ยวบนถนน Pham Ngu Lao ซึ่งมีเปิดให้ บริการหลายร้าน ตกลงโปรแกรมและราคาให้เรียบร้อยก็ไปลุยกันเลย นั่งรถปรับอากาศ VIP จากอดีตเมืองหลวงมาสู่เมืองชายทะเลนาน 6 ชั่วโมง แต่สบายด้วยรถนอน (ที่เบาะเอนให้นอนได้จริงๆ) สังเกตข้างทาง เมื่อเข้าสู่เขตจังหวัดฟานเทียตจะพบเห็นสวนแก้วมังกรริมทางเรื่อยๆ จึงได้ ความรู้ใหม่ว่าเมืองนี้นี่เองที่ปลูกแก้วมังกรเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ รถที่เรานั่งจะผ่านถนนเส้นหลักซึ่งตัดเลียบชายหาดและผ่านหน้า รีสอร์ทที่พักหลายแห่ง สามารถส่งที่หน้ารีสอร์ทได้เลย แค่ลงรถมาก็ได้ กลิ่นเค็มๆ ของทะเลลอยมาพร้อมกับสายลมที่พัดกรูเกรียว เข้าที่พักแล้วไป นั่งเล่นริมหาดแบบสบายๆ ลมที่พัดหอบมาแบบนี้นอกจากจะเห็นยอดคลื่น สูงๆ แล้ว ยังได้เห็นกิจกรรมทางน�้ำยอดฮิตของแถวนี้ นั่นคือการเล่น Kitesurfing มองออกไปในทะเลยามแดดร่มลมตกก็จะเห็นตัวร่มลอยเด่น ในอากาศตรงนั้นตรงนี้ ส่วนทะเลที่นี่ก็มีคนเล่นน�้ำทะเลกันสบายๆ ไม่ถึงกับแออัดด้วย ออกจากที่พักมาเดินเล่นจะพบเห็นร้านอาหารซีฟู้ดเรียงรายติดๆ กัน เมนูยอดฮิตก็พวกกุ้ง ปูย่าง ซึ่งสดมาก ค�ำแนะน�ำพิเศษคืออย่าลืมพกนํ้าจิ้ม ซีฟู้ดรสแซบไปจากไทยด้วยเพื่อเพิ่มความฟินในรสชาติ ส่วนราคาแต่ละ ร้านไม่ต่างกันมาก ลองเลือกร้านที่พอมีคนบ้างแต่ไม่แน่นจนเกินไปก็น่าจะ โอเค ส่วนใครที่อยากลองหาที่กินไกลขึ้นหรือติดริมทะเล เราก็เห็นร้านเช่า มอเตอร์ไซค์อยู่บ้าง นอกจากนั้นยังมีแผงขายผลไม้ริมทาง พลาดไม่ได้คือ แก้วมังกร เราลองแล้วรสชาติหวานใช้ได้เลย
= ไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่ อ่าวมุยเน่ One-Day Trip ที่จองกันมาจากโฮจิมินห์ และเหล่าเรือกระด้ง นั่นเอง ทริปส่วนใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มเล็ก
พาหนะหลักจะเป็นรถจี๊ปขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นสงครามเวียดนาม นั่งรับลมทะเลไปตลอดทางเลียบชายทะเล ขอบอกว่า ได้บรรยากาศเหลือเกิน เราแวะที่แรกกันที่หมู่บ้านประมงและจุดจอดพัก เรือประมงที่อ่าวมุยเน่ จากถนนมองลงไปคือวิวมุมสูงที่จะได้มองเห็นอ่าว ทั้งอ่าวพร้อมเรือประมงสีสันสดใส และขาดไม่ได้คือ เรือกระด้ง (Thung Chai) ทรงกลม ทั้งแบบดั้งเดิมที่ท�ำจากไม้ไผ่สาน และแบบไฟเบอร์รุ่นใหม่ บางล�ำก็ใช้แรงพาย บางล�ำเก๋กว่า ติดเครื่องยนต์ลอยแต่กๆๆ มาอย่างหล่อ เราลงบันไดหินสู่หาดเบื้องล่าง อาจไม่ใช่ชายหาดขาวเนียนเท้า ในอุดมคติ แต่เป็นหาดที่คับคั่งไปด้วยวิถีชีวิตชาวเวียดนามที่น่าดู แม่ค้า มานั่งคัดปลาคัดกุ้งอยู่บนหาด บางคนเอาไปขายต่อ บางคนก็นั่งขาย ตรงนั้นเลย ถึงจะมาแวะชม ไม่รู้จะซื้อปูปลาไปท�ำอะไร แค่มายืนดู ชาวเวียดนามสวมงอบนอนลาเดินหาบของกันขวักไขว่ ฉากหลังเป็น เรือกระด้งละลานตา ผู้ชายซ่อมแหซ่อมเรือ เด็กน้อยเกาะเอวแม่ แค่นี้ก็ตรึงสายตาและน่าถ่ายรูปไปซะทุกมุมแล้ว
๊ปพาออกนอกเมืองระยะประมาณ 30 กิโลเมตร เนินทรายสีขาว =ผ่ารถจี นไปตามทางดินลูกรังฝุ่นตลบ เนินทรายสีขาว ลำ�ธารสีแดง ขนาดใหญ่ก็จะปรากฏสู่สายตาดูน่าเกรงขาม เคยเข้าใจ
อ่าวมุยเน่เต็มไปด้วยเรือ ประมงและเรือกระด้ง สีสดใสเต็มอ่าว แหล่ง ท่องเที่ยวที่ดูมีชีวิตชีวา อย่างยิ่งในยามเช้า สาวเวียดนามมานั่งคัดปลา จากเรือประมงบนหาดของ อ่าวมุยเน่ บางคนเอาไป ขายต่อที่อื่น บางคนก็นั่ง ขายตรงนั้นเลย
มาตลอดว่าที่มุยเน่มีทะเลทราย แต่ที่จริงคือเนินทราย ต่างหาก ที่ส�ำคัญไม่ได้แห้งแล้งขนาดมีอูฐนอนตายแบบในหนัง ด้านหน้ากลับมี ทะเลสาบหรือบึงบัวขนาดใหญ่ คนแถวนั้นก็ยังปลูกพืืชผักได้ตามเรื่องตามราว ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณเนินทรายสีขาวนี้ว่า Bau Trang หรือทะเลสาบสีขาว แล้วจ�ำได้ใช่มั้ยที่บอกว่าลมที่นี่พัดแรง นั่นแหละมีส่วนที่ท�ำให้เกิดเนินทราย เพราะลมหอบเอาทรายเข้ามากองทับถมลึกเข้ามาในแผ่นดิน กลายเป็น ภูมิประเทศที่แปลกตาและหาที่ไหนไม่ได้ในอาเซียน กิจกรรมที่ White Sand Dune คือการเช่ารถจี๊ป หรือ ATV ที่ซุ้มทางเข้ามาขี่ ชมทัศนียภาพ ซึมซับความอลังการของเนินทรายสุดสายตา และรังสี UVA B C D... เอาเป็นว่าแดดแรงใช้ได้ แต่ถ่ายรูปขึ้นกล้องสุดๆ ทางที่ดีก็ทากันแดดมา ให้พร้อม มีผ้าพันคอมากันฝุ่นทราย แว่นกันแดดสักอัน และรองเท้าที่ใส่เดินง่าย ถอดง่าย แค่นี้ก็ลั้ลลากับเนินทรายได้สบายๆ แล้ว เราอยู่สัมผัสเนินทราย ได้สักพักก็โชคเข้าข้าง เพราะมีเด็กเลี้ยงวัวต้อนวัวทั้งฝูงเดินผ่านมา เรานี่แทบหายไปในคลื่นวัวเลยทีเดียว (ไกด์บอกว่านานๆ จะเจอสักที) นั่งรถกลับมาตามทางเดิมยังมีอีกเนินทรายให้แวะเที่ยวตามโปรแกรมคือ เนินทรายสีแดง หรือ Red Sand Dune ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเนินสีขาว กิจกรรมที่นี่ น่าสนุกคือสไลด์บอร์ด ส�ำหรับลื่นลงไปตามเนินทราย ไม่ต้องมองหา เดี๋ยวเด็กๆ เวียดนามจะกรูมาหาเอง ตกลงราคาให้ดีก่อนเล่น แค่นั้นก็สนุกกับกระดานนี้ ให้ทรายเข้าปากพอข�ำๆ สุดท้ายโปรแกรมจะพาไปคลายร้อน (เฉพาะระดับเท้าจนถึงหน้าแข้ง) ที่ Fairy Stream ทางเข้ามีเพียงป้ายเล็กๆ ชี้เข้าไป ไม่รู้ทัวร์อื่นพาเข้าทางไหน แต่ของเราไกด์พาเข้าผ่านโรงน�้ำปลา ก็แปลกไปอีกแบบ แรกเริ่มเราเดินไปตาม ล�ำน�้ำขุ่นสีออกแดงระดับสักครึ่งแข้ง ใต้ร่มไม้ใหญ่ สักพักพอแสงแดดมาท�ำหน้าที่ แทน เราก็เข้าสู่ภูมิประเทศที่แปลกประหลาด น�้ำลดลงคลอเคลียอยู่แค่ระดับ ตาตุ่ม ทรายข้างใต้นุ่มๆ เป็นสีแดงออกส้ม ด้านหนึ่งของล�ำธารขนาบไปตลอด ทางด้วยหน้าผาหินปูนที่ถูกกัดกร่อนให้รูปทรงดูแปลก เดินลุยน�้ำเล่นให้เย็น สบายกันได้สัก 1 กิโลเมตร (หรือน้อยกว่านั้น) เราก็เดินกลับทางเดิมกัน ส่วนเหตุ ที่เรียกว่า Fairy หรือภูตสวรรค์ ก็เพราะต�ำนานท้องถิ่นว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นที่ สิงสถิตของเหล่าภูตนั่นเอง = หมดเวลาของทะเลทราย สายลม และสามเรา แต่ก่อนจะกลับเมืองไทย พวกเราก็ไม่พลาดการ ช้อปปิ้งตามประสานักท่องเที่ยวไทย รวมทั้งวิญญาณ นักผจญภัย ด้วยการลองอาหาร Street Food ต่างๆ ตั้งแต่บาแก็ตกรอบนอกนุ่มใน เฝอเนื้อร้อนๆ กาแฟเวียดนามหยดติ๋งๆ ไปจน ของกินเล่นหน้าตาคล้ายขนมเบื้องใส่ซอสพริก ท�ำตัวกลมกลืนด้วยการนั่งเก้าอี้ พลาสติกเล็กๆ ริมฟุตบาท สั่งน�้ำชามาดื่ม ขอแจมกับชาวบ้านในสวนสาธารณะ เตะลูกขนไก่ด้วยหลังเท้า (เตะยังไงก็ไม่โดน) ขาดไม่ได้คือตรงดิ่งไปที่ท�ำการ ไปรษณีย์สุดคลาสสิกเพื่อส่งโปสต์การ์ดกลับมาบ้าน สุดท้ายคือไปต่อราคาสินค้า อย่างเมามันที่ตลาดเบนถัน กลางนครโฮจิมินห์ ไล่ดูรายการที่เราอยากท�ำ ดูจะเกือบครบ เหลือแค่คราวหน้าเราสองสามคน จะไปเที่ยวเมืองไหนในเวียดนามต่อดีล่ะ
กาแฟดริป เฝอ และโปสต์การ์ด
23
May 2015
ที่เนินทรายสีขาว หรือ White Sand Dune มีกิจกรรมสนุก ให้ท�ำ เช่น นั่งรถจี๊ปขึ้น เนินทราย ชมวิวจากมุมสูง หรืออยากไปด้วยตัวเองให้ทั่ว ก็สามารถเช่า ATV มาขี่เองได้
●
Traveller’s Guide How to get there :
• การบินไทย บริการบินตรงสูโ่ ฮจิมน ิ ห์ ในเส้นทางบิน กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-โฮจิมินห์ ทุกวัน
อาหารเวียดนามที่มาทีไร เป็นต้องสั่ง ทั้งกาแฟ เวียดนามรสเข้มผสมนมข้น ที่ก้นแก้ว และเฝอน�้ำซุป รสอร่อย เลือกได้ทั้ง เฝอเนือ้ และเฝอไก่
สภาพการจราจรในนครโฮจิมินห์ ที่มีรถมอเตอร์ไซค์ขวักไขว่ และจะยิ่งเพิ่มปริมาณในชั่วโมง เร่งด่วน แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ของเมืองที่มีผู้คนมากมายนี้
gm Travel
ตารางการบิน Flight TG 550 TG 556 TG 551 TG 557
Depart Arrive กรุงเทพฯ 07.35 น. โฮจิมินห์ 09.05 น. กรุงเทพฯ 18.15 น. โฮจิมินห์ 19.45 น. โฮจิมินห์ 10.05 น. กรุงเทพฯ 11.30 น. โฮจิมินห์ 20.50 น. กรุงเทพฯ 22.15 น. สอบถามเพิ่มเติม 02 356 1111 หรือ www.thaiairways.co.th
HOW TO GET AROUND :
• หากถึงโฮจิมินห์ก่อน 6 โมงเย็น และอยากประหยัด ให้นั่ง รถโดยสารสาย 152 เข้าเมือง แจ้งคนขับว่าจะลงตรงไหน หรือ อาจไปลงตรงหน้าตลาดเบนถัน แล้วเรียกแท็กซี่ต่อ แต่ถ้าจะใช้ บริการแท็กซี่จากสนามบินควรเรียกรถที่มีชื่อบริษัท Vinasun หรือ Mailinh ควรให้คนขับกดมิเตอร์ อย่ายอมจ่ายราคาเหมา เพราะอาจโดนเรียกเกินราคา ค่าแท็กซี่จากสนามบินเข้าเมือง คิดเป็นเงินไทยตกประมาณ 200-300 บาท • จองที่พักย่านใจกลางเมือง เพื่อให้ง่ายกับการเดินเที่ยว เช่น ย่านถนน Pham Ngu Lao ถนน Le Duan หรือใกล้ตลาดเบนถัน • เดินทางสู่มุยเน่ไปได้ทั้งทางรถไฟและรถบัส สถานีรถไฟจะ อยู่ในย่านเมืองฟานเทียต ซึ่งถ้าที่พักอยู่แถวชายทะเลจะต้อง ต่อรถอีก หากนัง่ รถบัสจะใช้เวลา 6 ชัว่ โมง ถ้าพักรีสอร์ทในย่าน ริมทะเล รถบัสจะจอดส่งตรงหน้าทางเข้ารีสอร์ทให้ • ทั ว ร์ One-Day Trip หาซื้อ ได้ จ ากบริ ษัท ทั ว ร์ ใ นโฮจิ มิน ห์ หรือถามจากโรงแรมทีพ ่ กั ก็ได้ ควรวางแผนการเดินทางมาก่อน แล้วเอาแผนไปคุยกับทัวร์ท่นี ่นั ส่วนใหญ่ราคาจะรวมโปรแกรม เทีย่ วและพาหนะระหว่างเมืองให้แล้ว ส่วนทิปไกด์ตอ้ งจ่ายต่างหาก •อาหารทะเลที่มุยเน่ราคาสมเหตุสมผล แนะนำ�ให้สั่งมากิน ถ้าจะให้ดีควรติดนํ้าจิ้มซีฟู้ดจากไทยไปด้วย
Asean Discovery เรื่อง : วนิดา เชียงอารีย์
LAOs & THAILAND ประเพณีบุญบั้งไฟ (Rocket Festival) พฤษภาคม 2558
ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีทางภาคอีสานของไทยรวมไปถึง ลาว ประเทศเพื่อนบ้าน โดยชาวบ้านในพื้นที่จะจัดงานบุญ ทั้งแห่แหนบั้งไฟและจุดบั้งไฟเพื่อเป็นการบูชาพระยาแถน ตามความเชื่อให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล ประเทศลาว ประเพณี บุญบั้งไฟ จุดกันในแถบชานเมืองของนครหลวงเวียงจันทน์ และเล่นในเดือนพฤษภาคม จนกว่าจะเริ่มท�ำนาจึงจะหยุดเล่น ส่วนประเทศไทย ปีนี้จังหวัดยโสธรจัดงานแห่งบั้งไฟอย่างยิ่งใหญ่ เช่นทุกปี ในวันที่ 9 พฤษภาคม และวันจุดบัง้ ไฟคือวันที่ 10 พฤษภาคม
Malaysia Penang International Dragon Boat Festival 30-31 พฤษภาคม 2558
เมื่อเข้าสู่ปลายพฤษภาคม-มิถุนายน ประเทศที่มีประชากรเชื้อสายจีนส่วนหนึ่ง จะตกทอดประเพณีที่แต่งแต้มสีสันให้กับล�ำน�้ำ นั่นคือประเพณีแข่งเรือมังกร ในอาเซียนมีหลายประเทศที่จัดประเพณีนี้ แต่ที่ใกล้ไทยที่สุดคงจะเป็นที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย ประเพณีแข่งเริือมังกรนั้นเพิ่งเข้ามาแพร่หลายในปีนังเมื่อยุค ‘90 นี่เอง โดยการแข่งขันจะจัดเป็นประจ�ำทุกปีที่หาด Telok Bahang เมื่อถึงเวลานี้ ตลอดชายฝั่งจะคึกคักไปด้วยเรือมังกรที่ออกแบบและทาสีมาอย่างสวยงาม และไม่ว่าจะชอบดูความสนุกเร้าใจของกีฬาแข่งเรือ หรือแค่ชอบนั่งชมวิว ดูวัฒนธรรมสบายๆ ไปเที่ยวปีนังในช่วงนี้ก็น่าจะได้ความอิ่มตาอิ่มใจ และภาพสวยๆ กลับมา
INDONESIA วิสาขบูชา (Waisak) 2 มิถุนายน 2558
ในไทย วันที่ 1 มิถุนายนปีนี้ ตรงกับวันวิสาขบูชา ส่วนที่อินโดนีเซีย เรียกว่า Waisak ซึ่งปีนี้จะตรงกับ วันที่ 2 มิถุนายน อันเป็นวันที่ระลึกถึง การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถึงแม้ประเทศอินโดนีเซียจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศมุสลิมขนาดใหญ่ อันดับหนึ่งของโลก แต่รากแห่งพุทธศาสนาก็ยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย ดังเช่นทุกปีที่วันวิสาขบูชาของที่นี่นอกจากจะเป็นวันหยุดราชการแล้ว ยังมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ที่โบราณสถานมรดกโลกอย่าง บุโรพุทโธ เมืองยอคยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา ในงานมีทั้งขบวนแห่ทางศาสนาซึ่งจะเริ่มจากวัด Mendut แล้วไป สิ้นสุดที่บุโรพุทโธ คลอไปกับบทสวดมนต์ในอากาศ คลาคล�่ำไปด้วย ผู้ร่วมงานที่เป็นพระสงฆ์และชาวพุทธจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้ง ชาวพุทธในอินโดฯ ที่ส่วนใหญ่สืบเชื้อสายจีน นับเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ เป็นส่วนหนึ่งในประเพณีทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่ รวมทั้งสัมผัสจิตวิญญาณ ของพุทธศาสนา ณ ดินแดนมรดกโลก
25
May 2015
Your Postcard เมษายนที่ผ่านมา GM TRAVEL ชวนคุณมาร่วมสนุกในหัวข้อ ‘เริงร่า...Summer Time’ ด้วยการร่วมส่งโปสต์การ์ด และโพสต์ภาพลงในช่องทาง Social ของเราทั้งทาง Facebook Fanpage และ Instagram
ผู้โชคดีได้รบั ของรางวัล เดือนเมษายน 2558
• Chompooh Naka
‘เริงร่า...Summer Time’ ไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า ร้อนๆ อย่างนี้ เห็นน�้ำทะเลสีฟ้า ชายหาดทรายขาวละเอียดแบบนี้ แค่นี้ก็เย็นใจ ยิ่งกระโดดลงน�้ำไปดูปะการังอยากบอกว่าสดชื่นสายตาที่สุด เริงร่าจร้าาาา และแฮปปี้ที่สุด ไปกับน้องสาวค่ะเมื่อปีก่อน เกาะตาชัย ยิ้มจนลืมหุบ
• Mon Jirawattanachai
‘เริงร่า...Summer Time’ ไปเชงเม้ง กับครอบครัวค่ะ ไปทุก Summer ปีนี้ได้ถ่ายรูปกะอาม่า ยิ้มหวานด้วย แฮปปี้สุดๆ ค่ะ ถึงจะร้อน แต่เห็นคนที่เรารักมีความสุข เราก็สุขใจค่ะ
• นันท์นภัส โอวาทสุวรรณ
‘เริงร่า...Summer Time’ ซัมเมอร์นี้ต้องเล่นน�้ำเย็นๆ ที่น�้ำตก แสงจันทร์ จังหวัดอุบลราชธานี เย็นสบายชุ่มฉ�่ำกับครอบครัว ที่เรารักค่ะ
ทั้ง 3 ท่าน จะได้รับรางวัลเป็นบัตรชมภาพยนตร์โรง IMAX ท่านละ 2 รางวัล ส่งตรงถึงบ้าน (ติดต่อรับของรางวัลที่ คุณเป้ โทร. 086 378 9301) เนือ่ งจากในเล่มนี้ เรามีภาพทิวทัศน์ทสี่ วยงามอลังการของทัง้ ภูเขาหิมะในสวิตเซอร์แลนด์ ทะเลหมอกทีเ่ ขาค้อ หรือแม้กระทัง่ เนินทรายทีม่ ยุ เน่ ประเทศเวียดนาม เดือนนีเ้ ราจึงขอชวน คุณมาร่วมแชร์และร่วมสนุกกับเราในหัวข้อ ‘My Best Landscape’ ส่งภาพวิวทิวทัศน์ที่ คุณถ่ายได้สวยทีส่ ดุ พร้อมเขียนค�ำบรรยายสัน้ ๆ ส่งมาได้ 3 ช่องทาง 1. ทาง Instagram : @gmtravelmagazine • โพสต์ภาพโดยตัง้ ค่าเป็น Public และติด #GM TRAVEL • คุณต้องเป็นหนึง่ ใน Follower IG Account : @gmtravelmagazine • กดแชร์ภาพบน Instagram ไม่เกินวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 2. ทาง Facebook : http://www.facebook.com/gmtravelmagazine • คุณต้องกดไลค์ Fanpage Facebook เราก่อน • โพสต์ภาพส่งมาทาง Inbox และวงเล็บท้ายค�ำบรรยายว่า (Your Postcard) • ส่งภาพมาไม่เกินวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 3. ทางโปสต์การ์ด : ระบุชื่อ ที่อยู่ผู้ส่ง จะส่งจากที่ไหนก็ได้ แต่ให้ส่งมาหาเราที่ • นิตยสาร GM TRAVEL บริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดีย จ�ำกัด (มหาชน) อาคาร GM Group 914 ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
ของรางวัลประจ�ำเดือนพฤษภาคม 2558 เราจะคัดเลือกสุดยอดภาพและข้อความโดนใจเดือนนี้ 5 ภาพ และของรางวัลสุดพิเศษ คือ ชุดกิฟต์เซต สเปรย์น�้ำแร่ และครีมกันแดด จาก THANN จ�ำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 1 เซต
ประกาศผลผ่านทาง นิตยสาร GM TRAVEL เดือนมิถนุ ายน 2558 และ http://www.facebook.com/gmtravelmagazine
ของรางวัลสนับสนุนโดย THANN
gm Travel
26
The Journey for Life
www.gmtravelmagazine.com