1
b side
2
b side
CONTENTS
digital contents
m a r c h
www.hipthailand.net
2 0 1 7
V o l. 1 3
N o. 1 4 9
Cover Story 04 Bike Review 11 Bike Exercise 12 Bike Tips 14 Bike Special 15 Run 16 Adventure 20 Trip 24 Bike Review
ภาพปกโดย : Playhard Production
Run Adventure
HILIGHT
04 Cover Story
ประเพณีปน่ั จักรยานพิชติ อินทนนท์ ครัง้ ที่ 10 ‘ท้าพิชติ อินทนนท์ คนพันธุอ์ ดึ # 10’ ผ่ า นพ้ น ไปแล้ ว เรี ย บร้ อ ย แต่ ใ นใจของนั ก ปั ่ น หลายๆ คนยั ง มี ค วามทรงจ� ำ มากมาย หลงเหลื อ อยู ่ HIP ชั ก ชวนเขาและเธอมาบอกเล่ า เรื่ อ งราวในวั น นั้ น วั น ที่ แ ต่ ล ะคน ตั้งหน้าตั้งตาปั่น... เพื่อไปให้ถึงยอดดอยซึ่งเป็นจุดหมาย
16 Run
Trip
ขอแนะน�ำคอลัมน์ใหม่ทจี่ ะมาพบกันเป็นประจ�ำนับแต่นเี้ ป็นต้นไป กับเรือ่ งราวมากมาย ในโลกของการวิ่ง เริ่มต้นกันด้วยประสบการณ์ส�ำคัญของเจ้าของคอลัมน์ กับการ ลงแข่งขันรายการไตรกีฬาครั้งแรกในชีวิต ที่จะบอกเล่าตั้งแต่การเตรียมตัว ไปจนถึง อุปสรรคต่างๆ ที่ต้องฟันฝ่าไปตลอดเส้นทาง
20 Adventure
ดีเจ Shaky คนคุ้นเคยกันดีของ HIP มีเรื่องราวการเดินทางมาฝากกันอีกแล้ว คราวนีไ้ ม่ได้ไปต่างประเทศทีไ่ หน แต่เขาและเพือ่ นชาวต่างชาติเลือกมุง่ หน้าสู่ ‘ดอยลังกาหลวง’ อุทยานแห่งชาติขุนแจ มาติดตามกันว่าตลอดการเดินทาง 4 วัน ทั้งสองหนุ่มได้พบเจอ กับอะไรกันบ้างบนดอยสูงแห่งนี้
Cover Story
INTHANON CHALLENGE ประสบการณ์ปั่นพิชิตอินทนนท์ คนพันธ์อึด #10 19 กุมภาพันธ์ 2560
งานประเพณีปน่ั จักรยานขึน้ สูย่ อดภูเขา ‘ดอยอินทนนท์’ ทีไ่ ด้ชอื่ ว่า เป็น ‘ยอดเขาทีส่ งู ทีส่ ดุ ในแดนสยาม’ จัดขึน้ ครัง้ แรก เมือ่ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2551 โดยในครั้งเริ่มแรกนั้น ให้ผู้เข้าร่วมช�ำระค่าลงทะเบียน คนละ 99 บาท และมี บ ริ ก ารอาหารกลางวั น มี บ ริ ก ารขนจั ก รยาน ลงจากดอย มีบริการทีก่ างเต๊นท์ และบริการให้เช่าเต๊นท์ดว้ ย ต่อมาประเพณีปน่ั ขึน้ ดอยอินทนนท์ ก็ขยับเข้ามาจัดในเดือนกุมภาพันธ์ และมีชื่อเรียกกันว่า ‘ท้าพิชิต อินทนนท์ คนพันธุ์อึด’ ซึ่งปีล่าสุด เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ทผ ี่ า่ นมา จัดเป็นครัง้ ที่ 10 มีผลู้ งทะเบียนเข้าร่วมปัน่ มากกว่า 5,000 นักปัน่ (และคาดว่ามีนกั ปัน่ ทีไ่ ม่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมปัน่ อีกมากมาย) ด้วยความสูงของยอดดอยอินทนนท์ 2,565 เมตรจากระดับน�ำ้ ทะเล ด้วยระยะทาง 48 กม. จากจุด Start จนถึงจุด Finish บนยอดดอย ด้วยความชันทีม่ ที กุ ระดับ ทัง้ ชันน้อย ชันมาก ชันยาว ชันยาวไม่สนิ้ สุด เหล่านั้นคือ เสน่ห์ของงานประเพณีนี้ ที่ดึงดูดให้นักปั่นจักรยานหลายคน บอกกับตัวเองว่า ชีวิตนี้ต้องมางานนี้ และไปให้ถึงยอดดอยอินทนนท์ พร้อมกับจักรยานให้ได้สกั ครัง้ แถมบางคน - มาครัง้ เดียว ยังไม่พอ! เครดิตภาพ หน้า 4-5 Playhard Production ขอบคุณ Tsukemen55 Cycling Team
4
b side
พงศกร เคลื่อนทอง (เจี๊ยบ) เชียงใหม่ Tsukemen55 Cycling Team หนึ่งสิ่งที่ตงั้ ใจจะท�ำก่ อนตาย คือ ปัน่ จักรยานขึ้นดอยอินทนนท์ สี่ปีแลว้ ทีม่ เี หตุให้ไม่ได้มาร่วมงาน ปี น้ ชี วนพีน่ อ้ งเพือ่ นสมาชิกในทีม Tsukemen55 ไว้เยอะ จะปฏิเสธคงยาก เป็ นอะไรทีท่ รมานมาก ซ้อมน้อยมากๆ จากงานปัน่ กี ฬ าสีซ อยตัน ที่ไ ปปาย ก็ ไ ปญี่ป่ ุ น กลับ มาปุ๊ บ ก็ ป ัน่ งานนี้ ว่าจะค่อยๆ ไป วางแผนเหมือนตอนไปปัน่ ดอยภูคา เพราะสภาพร่างกายและชัว่ โมง การซ้อ มน่ า จะเข้า ข่า ยเคสเดีย วกัน ตัง้ ใจจะไม่จู ง แต่ จ ะจอดพัก ตามจุด ให้น�ำ้ แล ้วกินกล ้วยทุกจุด ไปได้ตามแผนแฮะ แต่ ถึง กม.41 ไม่ไหวขอจอดพักหน่ อย เพื่อนร่ วมจอดเยอะดีจงั ใส่ต่อ เนินพระธาตุ ไม่จูง จอดเรียกแรงนิดนึงแล ้วกดจนถึงพระธาตุ ได้ ได้ ได้ ได้แค่นนั้ จริงๆ ไม่ไหวแล ้ว จอดจูง อีกเจ็ดกิโล เนินทีโอที โหดร้ายเหลือเกิน ยาวนานร่วมชัว่ โมง
ถึงตอนนี้ไม่เหลือบุญเก่าใดๆ ทัง้ สิ้น แต่เพือ่ นร่วมจูงเยอะมาก ค่อยๆ ไปใจจะขาด จูงยังแทบไม่ไป หมดทุกอย่างพลังงานในตัว ในสมองคิดไปต่างๆ นานา ไม่โทษใคร โทษตัวเอง ถ้าได้ซอ้ มมันน่ าจะดี ไม่น่าจะมาอยูใ่ นสภาพนี้ ค่อยๆ ไหลไปจนในทีส่ ดุ ก็ไปถึง (แล ้วใจ๋) โล่ง ยกออกจากอก ไปได้ภารกิจนึง ได้ทำ� แลว้ และท�ำได้แลว้ จบด้วยเวลา 5.12 ชัว่ โมง ใน Strava 4.16 ชัว่ โมง เรียกว่าจอดและจูงไปชัว่ โมงนึงเต็มๆ ขอบคุณทีมงานผูจ้ ดั ขอบคุณ พีน่ อ้ งเพือ่ นๆ ในทีมTsukemen55 ทุกคนทีร่ อ ขอบคุณครอบครัวทีส่ ่งก�ำลังใจมาให้ #ไม่ไปไม่เข้าใจ #คนมหาศาลมาทรมานตัวเองท�ำไม #แลว้ ใจ๋ละ #ปี หน้ามาใหม่ #Tsukemen55cyclingteam 5
b side
ขึ้นดอยสุเทพประเดีย๋ วด๋าวก็เสร็จกิจแล ้ว ฟังไปฟังมาผมลงลึกในการหว่านล ้อมนัน้ อย่างสิ้นเชิง แต่กย็ งั มีความระมัดระวังติดอยู่อกี เล็กน้อย เพราะยังไม่ได้เมาขาดสติ ขนาดนัน้ จบทีต่ สี องกว่า ผมโพล่งให้เขาน�ำทุกสิง่ ทุกอย่าง ทีจ่ ะน�ำไปติดตัง้ ทีจ่ กั รยาน พร้อมบัตรอะไรมากมายเต็มซองบรรจุมาถึงมือในวันรุ่งขึ้นจนได้ ทุกอย่างแปลว่าผมต้องไป แต่กย็ งั มิกลัวสิง่ ใด เนื่องจากถ้าไม่ไปก็คงไม่มใี คร ว่ า อะไร จนความคึ ก คะนองเป็ น ต้น เหตุ ใ ห้ผ มโพสต์ล งเฟซบุ๊ค ประกาศหา เพือ่ นร่วมทาง (ผ่าน) เพือ่ ขอโดยสารติดไปด้วย เหมือนราวกับชะตากรรมกลันแกล ่ ้ง เมือ่ นักเล่นเล็งเห็นเหยือ่ เซือ่ งๆ คนหนึ่ง ที่น่าโดนลองของที่สุดในภาคเหนือตอนบน ที่ช่ือว่า ‘ไอ้จงั้ ’ มีหลังไมค์อินบ๊อกซ์ เข้ามามากมาย ที่ดูเหมือนความปราถนาดีเต็มเปี่ ยมบนเขียงที่พร้อมจะได้เชือด ในความหวังดีมากมายกลับดู โหดร้ายพร้อมเสียงหัวเราะงอหายรออยู่ดูไม่เข้าใจ ยากแก่ความรูส้ กึ จริงๆ ผมอุทานค�ำว่า “สัสนรก” อุม้ ไปกับเสียงหัวเราะคู่กนั ไป แต่ละองค์ทรงเครื่อง นี่มนั แสบกันจริงๆ ผมเลือกเอาคนใกลต้ วั ทีส่ ุด เพราะสองท่านทีส่ ญั ญาจะมารับผมในเวลาตี 4 ของวันรุ่งขึ้น เป็ นนักเล่นจิตวิญญาณค่ายเดียวกัน ปุ๊ วอร์มอัพ และ นายในภพ MTB ผมตัง้ ใจจะนอนสัก 4 ทุ่ม เก็ บ แรงกายใจพัก ผ่ อ นให้เ ต็ ม ที่ แต่ ลิขิต และชะตากรรมไม่เอื้ออ�ำนวยขนาดนัน้ มีลูกค้าทยอยเข้าโรงงานจิตรกรรมโภชนา ไร้รูปแบบไม่ยอมหยุด สรุปสุดท้ายคือผมได้ข้นึ อาบน�ำ้ นอนก็ตอนตี 1 กว่าจะหลับ ก็เกือบตี 2 เผลอประเดีย๋ วลืมตามาก็ตี 3 กว่า พยายามข่มตาเก็บเวลาพักผ่อน ระดับนาทีนิดนึงก็ยงั ดี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ ลงมาปัน้ ข้าวปัน้ โอนิกิริ 6 ปัน้ เพื่อเป็ นการตอบแทนแก่ สหาย 2 ท่านนี้ อย่างน้อยก็เชือ่ ว่า มันจะมีค่ายิง่ ในการโหลดคาร์โบระหว่างทางขึ้นดอยสูงชัน ทีเ่ ห็นว่า ไม่มที างราบเลยแม้แต่นอ้ ย ผมนัง่ ทบทวนตรวจตราสิง่ ของต่างๆ ทีต่ อ้ งน�ำไปด้วย ไม่วา่ จะเป็ นเอเนอร์จ้บี าร์ น�ำ้ ดื่ม เครื่องมือ อะไหล่ ยางใน อะไรอีกไม่รูเ้ ยอะแยะ วิง่ ขึ้นลงชัน้ 3 กับชัน้ 1 เหนื่อยน่าจะพอๆ กับปัน่ ขึ้นดอย ลืมแล ้วลืมอีก สัสนรก! ตี 4 ครึ่ง สหายทัง้ 2 ท่าน ก็มารับผม ระหว่างทางก่อนถึง พยายามนึกเท่าไหร่ ก็นึกไม่ออกว่า จากนี้ชวี ติ จะเป็ นเช่นไร บรรยากาศต่างๆ ทีเ่ คยได้ฟงั มาเป็ นมโนภาพ ทีโ่ หดร้าย ชวนสังเวยความขายหน้าเป็ นทีส่ ุด และเมื่อถึงบริเวณปากทางแยกจอมทอง ก็พบว่า ท�ำให้นึกถึงหนังเรื่อง Fast & Furious เสือสิงห์กระทิงแรดที่ดูห่นื กระจายในความสู งชัน เอร็ดอร่อย กับความเหนื่อยล ้าท้าทาย เป็ นใครต่อใครไม่ทราบและระบุได้ ง่วนอยู่กบั การสนทนา เตรียมพร้อมกับพลพรรค บ้างก็ปรับแต่งจูน ประกอบจักรยานคู่ใจอย่างขะมักเขม้น พลังงานดุเดือดท�ำผมตัวลีบลงไปมหาศาล แทบไม่อยากไปไหนคนเดียว ต้องเกาะ 2 สหายไปด้วยราวกับเป็ นเด็กใหม่ในวงการ หน้าตาเป๋ อเหรอ เด๋อด่าตลอดเวลา น่าเอ็นดูเป็ นทีส่ ุด! และเมือ่ เตรียมพร้อม ผมกับสหายทีเ่ หลือเพียง 2 เนื่องจากอีกนายบังเอิญ ไปพบเพือ่ นใหม่ ท�ำให้ผมกับ ปุ๊ วอร์มอัพอยู่กนั เพียงล�ำพัง อันรายลอ้ มไปด้วย นักปัน่ มากหน้าหลายตาน่าสะพรึงกลัวอย่างยิง่ !
JUNG YONYANG เชียงใหม่ ย้อนแยง กรุป๊ ส์ 2017 ฉากแรก ‘17 กุมภาพันธ์ 2560’ ผมอยู่ของผมดีๆ ท�ำงานอย่างปกติสุข โดยเฉพาะการขีจ่ กั รยานออกก�ำลัง ทุกเช้าในบริเวณทุกรัศมีรอบบ้าน ต�ำบลหนองไฟน์ (ควาย) หลังบ้านผม อย่างทีเ่ ข้าใจ คนนอกเรียกว่าทางขึ้นสะเมิง - ท่าช้าง - ศาลา 12 จนถึงสามารถเป็ นต้นทางของ ลูปคลาสสิคไปลงแม่รมิ ได้ แถมส่วนทีต่ ดิ กับบ้านยังมีราชพฤกษ์ ดอยกอม ดอยค�ำ ส่วนหน้าบ้านนัน้ ถ้ามุง่ หน้าตรงไปก็ยงั ไปเส้นหนองหอย - สันก�ำเเพง ส่วนข้างบ้าน ด้านซ้าย ผมนับเป็ นเส้นทางไปดอยสุเทพ - มช. - ห้วยตึงเฒ่า แล ้วยังไถลไปยังแม่รมิ ซึง่ จะไปโน่นนี่รวมถึงไปปายได้อกี แล ้วก็ยงั มีดา้ นขวาทีจ่ ะมุง่ ตรงเป็ นถนนสายรอบขา ทีย่ งิ ผ่านไปสันป่ าตอง มุง่ ตรงแม่วาง ยันไปจอมทอง ฉะนัน้ ความปกติสุขทีผ่ มได้เอ่ย ขึ้นมานี้ มีเส้นทางแห่งยามเช้า ทีจ่ กั ท�ำให้ผมมีกจิ กรรมอันพึงควรแก่สุขภาพมากมาย แต่ ส่ิงเดียวที่ไม่เคยสนใจเลยคือกิจกรรมการแข่งขันต่ างๆ ที่มีมากมาย ในเมืองเชียงใหม่ ซึง่ ดูแล ้วจะคล ้ายๆ ว่ามีทกุ สัปดาห์กนั เลยทีเดียว ผมไม่รกั การแข่งขัน ไม่ชอบ ไม่สนใจเอาเสียเลย เพราะไม่รูว้ ่าจะต้องไปแบกรับความตึงเครียดท�ำไม ให้กดดันชีวติ อันแสนสงบสุข จนวัน หนึ่ ง วัน นัน้ ก็ ม าถึง วัน ที่ 17 กุม ภาพัน ธ์ 2560 มีมิต รแดนไกล จากเมืองหลวง นักเล่นสร้างสรรค์ในอาชีพที่มกี ารขีจ่ กั รยานเป็ นส่วนประกอบหนึ่ง ในชีวติ ประจ�ำวันเช่ นกัน ต่ างแค่ ว่าของเขานัน้ คือการพิชิตทุกเส้นทางที่ขวางหน้า ทัง้ ทางราบและเนินชันมากมายให้ปราบสยบ โดยมีพฒั นาการทางวิทยาศาสตร์การกีฬา แสนไฮเทคเป็ นพื้นฐาน แวะมาเยือนเป็ นประจ�ำทุกปี ทร่ี ูจ้ กั กัน ก็ครัง้ ที่ 3 แล ้วทีไ่ ด้พบกัน ต้นเรือ่ งทัง้ หมดคือ เขาเหลือทีว่ า่ งอันเนื่องจากสหายท่านหนึ่งมามิได้ จึงได้เอ่ย เชิญชวนผมให้เสียบเเทนทีว่ า่ งทีเ่ หลือสิทธิ์อยู่ ราวกับว่าไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ จองก็แสนยาก กว่าจะซึง่ ได้มานัน้ ล�ำบากยากเย็นแสนเข็ญ แถมเล่นกับความบ้ายอในตัวผม ทีเ่ พียงแค่ เอื้อนเอ่ยชมประสมกับดีกรีในการชนแก้ว คลอไปกับการเล่าประสบการณ์ในการ ไต่ดอยอินทนนท์ในเกร็ดมุมต่างๆ ทีด่ ูเหมือนง่ายเหลือเกิน สนุกเป็ นทีส่ ุด ก็แค่เหมือน 6
b side
7 โมงกว่าก็แลว้ ไม่เห็นเหมือนทีเ่ คยฟังมา มองซ้ายขวาหน้าหลังได้แต่มอง ว่า ใครเป็ น ใคร มีพ ฤติก รรมเตรีย มพร้อ มแค่ ไ หน พรัอ มกับ หัน มามองตัว เอง ภายในทีด่ ูเหมือนไม่พบอะไรเลยแม้แต่นอ้ ย นอกเสียจากความจ๋อยมหึมา ได้มีก ารพู ด คุ ย ทัก ทายกับ เพื่อ นใหม่ ท่ีไ ม่ เ คยรู จ้ กั กัน มาก่ อ น มาจาก จังหวัดนัน้ นี้ ฟังประสบการณ์การปัน่ ของแต่ละท่าน ยิ่งท�ำให้การมาครัง้ นี้ของผม ดูว่างเปล่า ไร้ความหมาย ถือเสียว่ามาเที่ยวเป็ นเพือ่ นเฉยๆ ก็น่าจะเพียงพอแลว้ พร้อมกับคิดว่า จะกลับมาเปิ ดโรงงานจิตรกรรมฯ ต่อได้อย่างไร และเมือ่ ถึงเวลาปล่อยตัว คลืน่ มวลมหาจักรยานชน เริ่มเคลือ่ นตัวออกจาก จุดสตาร์ท โดยมีผมที่ตอ้ งท�ำหน้ายิ้มแย้มให้มากที่สุด อย่างน้อยก็ให้คิดเสียว่า เราไม่ได้มาแข่งขันอะไรกับใคร สถิติอะไรก็ไม่สนใจอยู่แลว้ ปัน่ ไม่ถงึ ก็กลับมา ท�ำงานต่อทีบ่ า้ น ชีวติ ไม่มอี ะไรยากเลยสักนิด ความหนาแน่ นของนักปัน่ เริ่มบางตัวกระจายห่าง รอบขาเข้าที่อย่ างช้าๆ ในความเร็วที่เพิ่มขึ้น บรรยากาศรอบข้างกับความตึงเครียดบางตัว จนกระทัง่ ไปชนเนินแรก ก็พบว่าเริม่ มีผูค้ นลงเดินเข็นจักรยานกันบ้างแล ้ว สร้างความหวาดกลัว ของผมให้กลับมาอีกครัง้ แต่บนฐานของความงงงวยเล็กน้อย เนื่องจากยังพอปัน่ ได้ การไต่เนิ่นเริ่มต้น นักปัน่ ที่รอบขาเข้าที่ถูกธรรมชาติของเนินสู งชันคัดเลือก ผูอ้ ยู่รอด คล ้ายทฤษฎีชาร์ลส์ ดาร์วนิ เริ่มมีนกั ปัน่ ทีม่ รี อบขาคล ้ายๆ กันจับเป็ นกลุม่ ๆ ผูท้ ม่ี แี รงวิวฒั น์ดหี น่อย ก็จะถูกดันไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เป็ นการคัดแยก 30 กิโลเมตรแรกผ่านไปอย่างน่ าตกใจ ผมใช้เวลาเพียงไม่มาก เริ่มไม่เล่น และเข้าสูห่ ว้ งร้อยรัดความรูส้ กึ ของการพิชติ มากขึ้นเรือ่ ยๆ จากทีป่ นั ่ สบายใจกลายเป็ น เฮ้ย! กูตอ้ งท�ำได้ดกี ว่านี้! และเมือ่ ปลดทิ้งความสบายอกสบายใจไร้การแข่งขัน อาการหนังชีวติ แสนเศร้า โศกขึงเริ่มต้นขึ้นทันที ผมเริ่มกดบันไดด้วยการสับยับ ใครมาเเซงรูส้ กึ ไม่ได้ดงั ่ ใจ แซงกลับ และนัน่ หมายถึงผูถ้ กู แซง ซึง่ ก็คงรูส้ กึ เช่นเดียวกันนัน้ ได้กลับมาเเซงกันอีก เกิดเป็ นวัฎจักรคอมเพตติชนั ่ เวียนว่ายในที หลังจากนัน้ เอง สงครามอาณาจักรภายในกายเนื้อตนจึงบังเกิดขึ้น ผมได้สร้าง ใครคนหนึ่ง ซึ่งเป็ นแรงท้าทายของตนเองขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็ นใครเเซงหน้าไม่ซำ�้ ก็เห็นเป็ นบุคคลคนๆ เดียวกันตลอดเวลา ยิ่งแซงเท่าใด ผมก็ย่งิ เค้นพลังภายใน ออกมาเท่านัน้ ความเพลิดเพลินที่ได้มาอย่างสดุดี หายพลันไปในพริบตา ระเหิด คู่ไปกับแสงเเดดทีเ่ ริ่มเเผดเผาแทบให้ผมระเหยหายไปสิ้น และประสบการณ์ใหม่ทเ่ี ข้ามาในชีวติ ชนิดทีไ่ ม่คุน้ เคยมาก่อนเริ่มสอนงานผม นัน่ คือ ‘ตะคริว’ ทีค่ ่อยๆ มาโลมเลียเคล ้าแข้งเคล ้าขาไม่น่าเอ็นดู จู่โจมสร้างระทมทุกข์ ทัง้ กาย ส่งผลไปทีใ่ จ ส่งต่อกันอย่างครื้นเครงกลมกลึงแยกกันไม่ออก
การดัดขา เพือ่ พลิกกลา้ มเนื้อในมิติต่างๆ ความปวดทรมานสาหัส จนเเอบคิดว่า จะเป็ นอะไรหนัก ส่งผลถึงความทุพพลภาพในอนาคตหรือไม่ พออาการทุเลา ผมพยายามชันตัวฝื นขึ้นมายืนเพือ่ คร่อมจักรยาน แต่เนื่องด้วยอาการทีห่ นักพอควร การปัน่ เช่นปกติจงึ เป็ นไปมิได้ แต่เส้นชัยหอมหวานทีย่ วั ่ ยุอยู่ปลายทางต่างหาก ทีท่ ำ� ให้กดั ฟันท�ำอย่างไรก็ได้ ปัน่ ต่อให้ได้ ปัน่ ไม่ได้กจ็ ูง เดิน เดินกระท่อนกระแท่น แทบไม่มคี วามเร็ว ก็แก้ทาง ความรู ส้ ึกของกลา้ มเนื้อกันไป บิดซ้าย เอียง ย่อ กระตุก สะบัด หาทางออก ให้เดินทางต่อไปข้างหน้าให้จงได้ แม้นร่ างระบบหายใจยังดีอยู่ ไม่ได้เหนื่อยสุด ปางตายขนาดนัน้ ทุกอย่างนานเหลือเกิน นานแสนนาน แต่นานเท่าใด ปลายทาง เส้นชัยอย่างไรก็คลืบคลานเข้ามาหาเราเช่นกัน ฉันใดฉันนัน้ ฉาก 5 ‘เส้นชัย’ การปัน่ แบบกระต่ า ยขาเดี ย วควงกับ คลีท พร้อ มกับ ปล่ อ ยขาอี ก ข้า ง ให้ตรงเข้าไว้ ห้ามย่องอเด็ดขาด เนื่องจากตะคริวพร้อมจะกระโจนขย�ำ้ เราเสมอ และตลอดเวลา จินตนาการทีว่ าดไว้ก่อนปัน่ คือ การได้ปนั ่ ยกล ้อหน้า แล ้ววิง่ เข้าเส้นชัย คงเป็ นเพอร์ฟอร์แมนซ์อาร์ตทีน่ ่าตื่นเต้น ทัง้ ผูป้ นั ่ หรือผูม้ องเห็น ทีไ่ ด้ถกู วางเเผนไว้ ต้องพังทลายลงอย่างสิ้นเชิ้ง ผมเข้าเส้นชัยด้วยเวลาหน้าป้ าย 4 ชัว่ โมง 54 นาที ส่วนเวลาจริงนัน้ ไม่ทราบได้ เนื่องจากป้ ายหมายเลขที่ติดชิพนัน้ หายไประหว่างทาง แต่ จะเวลาเท่าไหร่ ก็ตาม ก็ไม่น่าสนใจแล ้ว หลัง จากเข้า เส้น ชัย ตะคริว ก็ ห ายพอดี ปวดเล็ก ๆ น้อ ยๆ แต่ พ อปัน่ ได้ พร้อมพอจะไหลลงไปต้นทางทันที ผมไหลลงไปได้สกั นาทีสองนาทีก็นึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ถ่ายรู ปคู่กบั ป้ าย ‘สู งสุดแดนสยาม’ จึงปัน่ ย้อนกลับมาอีกที และก็พบว่า มีการแจกเหรียญ... ‘ผูพ้ ชิ ิตอินทนนท์ คนพันธ์อดึ ’ ซึ่งผมเกือบพลาดได้เหรียญนี้ ไปแล ้ว ถ้าไม่เกิดรูส้ กึ อยากน�ำรูปนี้มาโพสต์ลงในเฟซบุค๊ เพือ่ อวดเฟรนด์ในลิสต์
ฉาก 2 ‘กล้วยน�้ ำว้า’ ให้ไปสาบานวัดไหนก็ได้วา ่ ผมเคยเป็ นเด็กคนหนึ่งทีไ่ ม่เคยหลงใหลกล ้วยน�ำ้ ว้า แต่ อย่ างใด หลายสิบปี ผ่านไปผมได้ของขวัญชิ้นหนึ่งกลับมา นับแต่ ท่ามกลาง บรรยากาศดอยวันนัน้ ผมกลายเป็ นมนุ ษย์ผูห้ นึ่งทีเ่ ข้าใจถึงรากรสแห่งความสดชื่น ทรงพลังของ ‘กล ้วยน�ำ้ ว้า’ อย่างลึกซึ้งเป็ นทีเ่ รียบร้อย หน่วยบริการข้างทางทีค่ อยหยิบยืน่ บริการส่งน�ำ้ ท่าและ ‘กล ้วยน�ำ้ ว้า’ อันเป็ น โอสถรายทางทีพ่ เิ ศษมหัศจรรย์ทส่ี ุดในขุนเขาดอยทีร่ อ้ นระอุ ดับพิษแห่งความอ่อนล ้า ได้เ ป็ น อย่ า งดี สดชื่ น ส่ ง ความกระปรี้ ก ระเปร่ า จนท�ำ ให้มีแ รงใจเดิน ทางต่ อ อย่างไม่ย่อท้อ ฉาก 3 ‘อีกนิ ดเดียวจะถึงแล้ว’ นี่คอื เสียงทีไ่ ด้ยนิ ตลอดทางของผู ้แข็งแกร่งทีส่ วนทางกลับมา แรงทีค่ ่อยๆ หมด ไปทีละไม่นอ้ ย หายไปคลา้ ยถังน�ำ้ มันรัว่ ‘อีกนิดเดียวจะถึงแลว้ ’ ‘อีกนิดเดียวสู ’้ และค�ำส่งก�ำลังใจที่ฟงั แลว้ แทนที่จะอยากสู ต้ ่อ แต่หามิได้ มันยิ่งท�ำให้หมดแรง เพราะไม่ เ ห็น จะนิ ด น้อ ยนิ ด หน่ อ ยอย่ า งที่ไ ด้ยิน ยิ่ง ปัน่ ยิ่ง ไกลห่ า ง กาลเวลา ถูกยืดออกไป ยาวนาน ยาวนาน ยาวนาน พร้อมกับตะคริวทีจ่ บั ตัวหนาขึ้น จนส�ำเเดงตัว เป็ นฉาก จนถึงกับต้องจอดแล ้วลงไปนอนดิ้นทุรนทุราย ทัง้ ๆ ทีใ่ กล ้ปลายทางแล ้ว
ปล.1 ผมยัง ปัน่ ลงอีก เป็ น เวลากว่ า ชัว่ โมง เพื่อ ลงมานัง่ กิน ข้า วที่ด่ า นหนึ่ ง ก่ อ นจะตกลงกับ ลูกเจ้าของร้านค้า เพือ่ ให้รบั จ้างส่งผมกลับมายังโรงงานจิตรกรรมโภชนาไร้รูปแบบ เพือ่ เปิ ดให้บริการ เช่นในวันปกติทวั ่ ไป และก็เป็ นวันทีแ่ ขกบุกผิดปกติ คลา้ ยกับมีเบื้องบนทีซ่ ุกซนคอยแหย่ผมเล่น ให้หน�ำใจสะใจสนุกสนาน ปล.2 ขอขอบคุณคุณย้ง แคท เรดิโอ น้องกิฟ๊ และคุณพล ทีน่ ำ� โอกาสดีๆ เช่นนี้หอบมาให้ถงึ ที่ แต่ถา้ ปี หน้าน�ำมาให้อกี ครัง้ ผมสัญญาว่าจะลบเฟซบุค๊ พวกคุณทุกคนทิ้งอย่างแน่นอน
ฉาก 4 ‘กาลเวลาเดินทางรวดเร็ว แม้กระทัง่ การรอคอยที่แสนเนิ่ นนาน’ กล ้ามเนื้อทีส่ ะสมความเครียดอย่างไม่รูต้ วั เกิดจากบางเนินหรือหลายๆ เนิน ทีผ่ า่ นมามีทศั นียภาพหลอกตา ดูลวงจนนึกว่าเป็ นพื้นราบ 0% ทัง้ ทีม่ นั มีความชันซึมๆ อยูห่ ลาย % นี่น่าจะเป็ นต้นเหตุทท่ี ำ� ให้เราลืมประคองตนเอง ประสมกับต่อสู ้กับเงาตนเอง ภายใน ทัง้ ๆ ทีท่ ำ� เวลามาอย่างดีต ้องยุตลิ ง ผมลงไปนอนดิ้ น พล่ า นจนมี ที ม งานอาสาสมัค รและนัก ปัน่ ผู ม้ ี น�้ำ ใจ มาปฐมพยาบาล ด้วยอุปกรณ์ท่ผี มไม่เคยใช้ ไม่เคยรูจ้ กั มาเลยตัง้ แต่เกิด สเปรย์
กึ่งหมายเหตุ : ผลงานวรรณกรรมชิ้นนี้ เป็ นลิขสิทธิ์สนุ ทรียะของ สนพ.ไม่พสิ ูจน์อกั ษร จึงจักขอ ยืนยันแนวคิดด้วยการไม่พสิ ูจน์อกั ษรและพิมพ์ตน้ ฉบับสลับกับการยืนหน้าเตาไฟปรุงอาหาร เพือ่ ยัง ความสดของความทรงจ�ำที่รอ้ นแรงแผดเผาท่ามกลางดอยที่สูงที่สุดในประเทศสยาม และไม่คุม ส�ำนวนการเขียนแก้ไขใดๆ ปล่อยให้มนั เป็ นอิสระเสรี จ�ำลองความปัน่ ป่ วนให้เหมือนเช่นสภาวะ อารมณ์ของการได้ปนั ่ ในช่วงเวลานั้นๆ - ย้อนแยง กรุป๊ ส์ 2017 7
b side
ที่มคี นเยอะแยะมากมายอย่างนี้มาก่ อน จนกระทัง่ ถึงเวลาประมาณ 7 โมงครึ่ง กรรมการก็ให้สญั ญานเริ่มปล่อยตัว โดยในช่วงแรกของการปัน่ จะเป็ นทางค่อนข้าง ราบเรียบ ประมาณ 7 - 8 กิโลเมตร ต่อจากนัน้ ก็ถงึ จุดทีผ่ ูเ้ คยผ่านประสบการณ์ ในการพิชติ ดอยอินทนนท์เตือนเอาไว้ให้ระวัง มันเรียกว่า ‘เนินคัดเกรด’ ซึง่ มีความยาว ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีความชันประมาณ 12 - 15% แต่สง่ิ ทีก่ ดดันก็คอื จ�ำนวนจักรยานนับพันทีแ่ ย่งกันขึ้นเนินแรก บางคนไปไหว ก็ยงั คงปัน่ ไป แต่บางคนหยุดทันที ก็ทำ� ให้คนั ทีต่ ามมาติดๆ มีโอกาสล ้มได้ มันเป็ น ความเครี ย ดในจุ ด เริ่ ม ต้น ของเส้น ทาง หลัง จากนั้น ทุ ก คนก็ จ ะผ่ า นมาสู่ จุ ด บริเวณทีท่ ำ� การอุทยานฯ ซึง่ ปี น้ ที างผูจ้ ดั ก�ำหนดให้รถยนต์สามารถขึ้นถึงได้แค่จดุ ๆ นี้ เท่านัน้ (ก่อนเวลาปล่อยตัว) ซึ่งเป็ นผลดีต่อนักปัน่ ทุกคนที่จะไม่มรี ถยนต์มาคอย รบกวนเส้นทางปัน่ ช่วงนัน้ ผมท�ำเวลาได้ประมาณสองชัว่ โมงกว่าๆ และยังไม่ได้ ลงจากรถเลย ใจยังคิดว่าปี น้ ปี ี แรกน่าจะท�ำเวลาได้ด ี และแลว้ ความจริงเพิง่ ปรากฏ ระยะทางที่เหลืออีกประมาณ 17 กิโลเมตร มันช่างโหดร้ายจริงๆ ทีซ่ อ้ มๆ มาเจ็ดแปดพับ มันเป็ นเพียง 1 ใน 10 ของทีเ่ ราซ้อมมา เท่านัน้ ระยะทางยาวกว่าสิบกิโล ความชันระหว่าง 15 - 20% มันท�ำให้คิดถึง จุดทีต่ วั เราเองคิดไว้ว่าจะไม่ให้เท้าแตะพื้นเลยนัน้ มันคงเป็ นแค่ความตัง้ ใจ แต่ชวี ติ จริง มันโหดจริงๆ ครับ ขอบอกเลย แต่ในทีส่ ุดผมก็ผ่านจุด Finish ร่วมกับเพือ่ นร่วมทีม ‘I’M NOT 50’ จนประสบความส�ำเร็จดังหมาย คาดว่าปี หน้าจะไปอีกครับ
ธนิ ต ชุมแสง (หมวด) เชียงใหม่ ทีม I’M NOT 50 จุดเริ่มต้น เกิดจาก กลุ่มเพื่อนๆ ที่ปนั ่ จักรยาน ด้วยกันเป็ นประจ�ำ อยากจะ ปัน่ พิชิตยอดดอยอินทนนท์ สัก ครั้ง ในวัย 50 กะรัต เราจึ ง ตั้ง เป้ าที่ จ ะปัน่ พิ ชิ ต ดอยอินทนนท์ในปี น้ ี และ ตัง้ แต่วนั นัน้ ทุกคนตัง้ ใจฝึ กซ้อม ในแนวของหนุ่มรุ่นใหญ่ไฟกะพริบ ซ้อมไปปัน่ ไป คุยกันไป และดืม่ กันไป จนกระทัง่ วันเสาร์ท่ี 18 กุมภาพันธ์ ซึง่ เป็ นวันก่อนปัน่ พิชติ ดอยอินทนนท์ 1 วัน พวกเราในทีมก็ได้เตรียมตัวเข้าสูอ่ ำ� เภอจอมทอง เพือ่ ลงทะเบียน รับเสื้อ และแผ่นป้ ายชิพส�ำหรับจับเวลาของตัวเอง (การ Organize งานของผูจ้ ดั ค่อน ข้างดี) ทีมเราตื่นเต้นเล็กน้อย รีบทานข้าวเย็น อาบน�ำ้ อาบท่าเสร็จ เตรียมนอนกัน แต่หวั ค�ำ่ เพื่อเก็บแรงไว้ตอนเช้า…. ตื่นมาเวลาตี 5 โดยนาฬกิ าปลุก บรรยากาศ ภายนอกยังคงมืดสลัว อากาศหนาวเย็น พวกเราก็ได้มารับประทานอาหารเช้ากัน โดยทางโรงแรมได้จดั เตรียมให้ ผู เ้ ข้าพักส่วนใหญ่ ก็เป็ นนักปัน่ ผู พ้ ิชิตกันทัง้ นัน้ ส�ำหรับอาหารมื้อเช้านัน้ ค่อนข้างจะมีความส�ำคัญต่อพวกเรา เรารับประทานข้าวต้มหมู ใส่ไข่ลวกไปอีก 2 ฟอง ตามด้วยกล ้วยหอม จิบกาแฟเบาๆ 1 แก้ว และถัวอั ่ ลมอนด์ ไร้เกลืออีกยีส่ บิ เม็ด (มีคนแนะน�ำให้ทาน) หลังจากนัน้ ก็มาเช็คความพร้อมของรถจักรยานเป็ นครัง้ สุดท้ายก่อนจะพิชติ ดอยอินทนนท์ ตรวจดูลมยาง โซ่ และเกียร์ ซึง่ เป็ นสิง่ ส�ำคัญในการปัน่ ขึ้นภูเขาสูงชัน บรรยากาศในช่วงเช้าวันนัน้ อุณหภูมนิ ่าจะอยู่ประมาณ 12 องศา ทีพ่ กั ของเราอยู่ตดิ ถนนเชียงใหม่ - จอมทอง ห่างจากจุดสตาร์ทไปประมาณ 5 กิโลเมตร พวกเรา เลยถือโอกาสปัน่ วอร์มขาไปในตัว ระหว่างทีป่ นั ่ จากทีพ่ กั ไปยังจุดสตาร์ทนัน้ ได้เห็นบรรยากาศของกลุม่ นักปัน่ ต่างๆ บ้างก็บรรทุกจักรยานมาเต็มคัน บ้างก็ปนั ่ วอร์มขากันเป็ นกลุม่ ๆ ตลอดทัง้ สายมากมาย มันเป็ นบรรยากาศทีด่ ูแลว้ สนุกตื่นเต้นดี พอไปถึงจุดสตาร์ทบริเวณสามแยกทางเข้า ดอยอินทนนท์ เห็นนักปัน่ และจักรยานหลายพันคัน ความยาวจากจุดสตาร์ทจนถึง ท้ายแถว ดูๆ แล ้วน่าจะเกือบ 1 กิโลเมตร เป็ นภาพทีย่ ง่ิ ใหญ่มาก ไม่เคยร่วมงานจักรยาน
อิสริยะ เนยปฏิมานนท์ กรุงเทพฯ VELO OSK 102 Team อิส กะ อิท... พิชติ อิน(ทนนท์) ความเดิม : กุมภาพันธ์ 2559 อิ ส ยะ กับ ยุ ด นา หนุ่ม (เกือบ) สูงวัยสองคน เพื่ อ นร่ ว มห้อ ง ร่ ว มชั้น ร่วมโรงเรียนเดียวกันในอดีต อาจจะว่างมากหรืออย่างไร ยังไม่ทราบแน่ ชดั แต่ท่เี ห็น ถนัดตาก็คอื ก�ำลังไต่เนิน ณ จุดทีส่ ูงทีส่ ดุ ในประเทศ คนนึงท่วงท่าน่าอัศจรรย์ พลิกผัน ลืน่ ปรืด๊ ๆ ไต่ได้ไต่ดี อีกคนนีส่ ิ ท่วงท่าน่ าอัศจรรย์ย่งิ กว่า ลืน่ ปรืด๊ ๆ เช่นกัน แต่มนั ดูเหมือนจะลืน่ ลงๆ เส้นทาง ของสองหนุ่มทีว่ า่ คนนึงลืน่ ขึ้น แต่คนนึงลืน่ ลง มาบรรจบตรงทีเ่ ขาเรียกกันว่า อินทนนท์ ความ ณ บัดนาวว์ : กุมภาพันธ์ 2560 สองหนุ่มวัยใกลแ้ ก่ ห้องเดียวกัน ชัน้ เดียวกัน โรงเรียนเดียวกัน (อีกแลว้ ) แต่ครานี้ต่างไปหนึ่งคน (คนเดิมลากิจไปพิชติ เนินแทน) อิสยะ กับ อิทวี (อิทหลังนี่เพิ่งจะมาสอยดอยครัง้ แรก) แลว้ ก็มนี อ้ งโจ๊ก (มารอบสองเหมือนอิสยะ) แถมรอบนี้ยงั คงมีเพือ่ นเก่าโรงเรียนเดิม (อีกแล ้ว) ทีม่ าอยู่ เชียงใหม่ ตกหลุมพรางเราอีกครัง้ มาช่วยเซอร์วสิ ให้ ‘เจ็กทู 611’ คือนามเรียกขาน ของเขา สรุปว่าทัง้ ทีมมี 4 หน่อ อิสยะ อิทวี โจ๊ก เป็ น 3 นักปัน่ และ เจ็กทู 611 อีก 1 ทีมเซอร์วสิ คือ เจ็กทู 611 มาคนเดียว แต่เราเรียกให้เจ็กอุ่นใจว่า ‘ทีมเซอร์วสิ ’ งานทุกสิง่ ย่อมมีปญั หา ปัญหาคือ ตลอดปี ท่ผี ่านมา เราเป็ นสายนักปัน่ ที่ปนั ่ ไปทัว่ ทุกทิศ พิชิตไป ทุกรู ปแบบ แต่แบบเดียวที่เราไม่ได้ไปพิชิตก็คือ แบบที่มภี ูเขา โดยเฉพาะ อิทวี ปัน่ มาก็หลายปี ขีไ่ ปทัว่ เหมือนกัน แต่มนั ก็สารภาพตามตรง อะไรทีช่ นั เกินสะพาน แถวบ้าน น้าอิทวียงั ไม่เคยรูจ้ กั 8
b side
ส่วนเรื่องราวระหว่างทางเกือบครึ่งร้อยโลจนถึงยอดดอยนัน้ ก็เป็ นสิ่งที่ แต่ละคนจะต้องพบเจอและเก็บเกี่ยวกันเอาเอง มันก็คงมีทงั้ ความสุขสันต์หรรษา และพาเพลินไปกะวิวทิวทัศน์ขา้ งทาง ไปจนถึงทุกข์ ยาก ล�ำบากกาย ไม่สบายตัว นัว ๆ กัน ไปหมดล่ะ ครับ แต่ บ ำ� เหน็ จ รางวัล ถ้า เราฟัน ฝ่ าไปจนถึง ยอดดอยได้ คุม้ สุดๆ จริงๆ ครับ รับประกัน... สุดท้ายปลายทาง เพื่อนทีมเซอร์วิส เจ็กทู 611 ที่ได้ทำ� หน้าที่เกินค�ำว่า เซอร์วิส ไปไกล หลายปี แสงเลยทีเดียว เพราะดูแลเราแบบสุดยอดจริงๆ จนพวกเราคิดว่ามี ‘พ่อ’ มาร่วมทางด้วย 555 อาเจ็กทู 611จะรอดูพวกเราตามจุดต่างๆ ทีจ่ อดรถได้ ว่ายังมี ลมหายใจกันครบถ้วนดีมยั้ ? ไปต่อไหวหรือเปล่า? คงเห็นว่า เหล่านัง้ กันแล ้วมัง้ 5555 จนถึง ณ จุดเส้นชัย เจ็กทู 611 ทีข่ ้นึ รถสองแถว มาคอยดักรอเราอยู่แล ้ว ก็รีบมาดูอาการผม ว่าหายใจ 2 รูจมูกครบถ้วนดี หู ตา ไม่เหลือก เป็ นอันว่าโอ และได้บอกข่าวดีว่า อิทวี ฟันฝ่ าผ่านจุดต่างๆ มาได้แลว้ อีกซักพักก็คงจะมาถึง... น้อ งโจ๊ก ก็ เ ช่ น กัน ขานี้ โ ทรมาบอก จัง หวะพอดีว่ า มีส ญั ญาณ ก่ อ นจะรับ สาย ใจก็ตุ๊มๆ ต่ อมๆ กลัวสุ ดใจที่จะได้ยินว่า ไม่ไหวแลว้ ค่ า… จะยกรถแลว้ น้า... อะไรประมาณนัน้ 5555 แต่ทไ่ี หนได้ เป็ นเสียงทีฟ่ งั แล ้วยินดีอย่างทีส่ ุด คือบอกว่า ใกล ้ถึงเส้นชัยแล ้วเหมือนกัน... เฮ้อ! โล่ง...
แล ้วทีต่ งั้ ใจจะมาสอยนี่ มันสารภาพตามตรง (อีกแล ้ว) ว่ามันจ�ำสับกะดอยสุเทพ บร๊ะเจ้า งานเข้าแล ้วเพือ่ นตรู... ทุกปัญหาย่อมมีทางออก มีคนเคยบอกไว้ ถ้ายังไม่เคยปัน่ ตามดอย ตามเขา เลยในชีวติ นี้ งัน้ ก็ซอ้ มปัน่ ดอย ปัน่ เขาเลยดิ จะไปยากอะไร... จริงด้วย น้าอิทวีก็ทำ� ตามที่ว่าจริงๆ คือรีบมาก่ อนงานวันปัน่ ขึ้นดอยอินฯ ได้วนั นึง แลว้ ก็พกั ซะวันนึง เพือ่ ออมแรง แลว้ ก็ซอ้ มปัน่ ขึ้นดอยอินฯ ตามทีต่ งั้ ใจไว้ ในวันที่ เขาจัดปัน่ จริงนัน่ แหล่ะ แบบนี้ละ่ มัง้ ครับ ทีเ่ ขาเรียกว่า ซ้อมจริง 555 ส่วนตัวผมกับน้องโจ๊ก เราก็รูด้ วี า ่ เส้นทางสู่ยอดดอยอินฯ มันสุดหิน สุดโหด ขนาดไหน เพราะเราเคยขึ้นมาครัง้ นึงแลว้ แต่ดว้ ยความที่เราเป็ นนักปัน่ สายชิลล์ ตลอดปี ทผ่ี ่านมา ก็แทบจะไม่มเี ส้นทางไหนทีไ่ ปแลว้ ใกลเ้ คียงกับค�ำว่า (ภู) เขาเลย พอมีโอกาส เราจึงรีบมาก่อนงานปัน่ ขึ้นดอยอินฯ เพือ่ จะหาเวลาซ้อม ซักนี้ด ก็ยงั ดี... แต่เหนือสิง่ อืน่ ใด ทีเ่ ราจะท�ำทุกครัง้ ทีม่ าถึงเชียงใหม่ คือต้องมากราบขอพร จากท่านครูบาศรีวชิ ยั เพือ่ เป็ นขวัญและก�ำลังใจของพวกเรา และสิง่ ทีต่ อ้ งอธิษฐานเลย ก็คือขอให้พวกเราส�ำเร็จในภารกิจปัน่ ขึ้นดอยอินฯ และทุกๆ เส้นทางทีเ่ ราซ้อมปัน่ อย่างปลอดภัย และขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพทัง้ ไปและกลับครับ สาธุ เส้นทางปัน่ สูย่ อดดอยอินฯ เหนือสุดแดนสยาม อาจจะเรียกได้วา ่ เป็ นเส้นทาง ที่ทา้ ทายสุด ในบรรดาการปัน่ ของทัง้ หมดทัง้ มวลในประเทศนี้ ตัวบอสส์สุดแลว้ ว่างัน้ เถอะ เป็ นแหล่งรวมจอมยุทธสายปัน่ จากทัว่ สารทิศ ทัง้ ในและนอกประเทศ ที่มคี วามฝันว่า... อยากจะมีสกั ครัง้ ในชีวติ ที่เราได้พชิ ิตได้สมั ผัส ณ จุดที่เรียกว่า จุดสูงสุดแดนสยาม ด้วยก�ำลังขาของเราเอง ซึง่ ทุกคนก็ทราบดีว่า การปัน่ จักรยาน ใครปัน่ แทนเราก็ไม่ได้ เราปัน่ แทนใครก็ไม่ได้ แต่เราให้กำ� ลังใจกันได้ สิง่ ทีผ่ มท�ำได้ดี ที่สุด ที่จะให้พลังใจกับ อิทวี ก็คือ ผมมอบ ธงชมพูฟ้า ธงสีท่ีรกั ของพวกเรา เหน็บหลังให้เพือ่ นไป แล ้วบอกเพือ่ นว่า เอาไปให้ถงึ ยอดดอย (อิน) นะเพือ่ น แล ้วเรา จะไปกางถ่ายรูป บนจุดสูงสุดแดนสยามด้วยกัน ขวัญและก�ำลังใจ คือ อ�ำนาจก�ำลังรบ ทีไ่ ม่มตี วั ตน พีท่ ร่ี กั คนนึง เคยสอนผมมาอย่างนี้…
นาทีทผ่ี มเห็น อิทวี ผ่าน Finish Line มาได้ บอกตรงๆ นะครับ ผมมีความรูส้ กึ เหมือนคนเป็ นพ่อคนนึง ที่ดีใจว่าลู กเรียนจบปริญญามาได้ อะไรประมาณนัน้ เพราะการทีต่ อ้ งลุนว่ ้ า คนทีไ่ ม่เคยได้ซอ้ มปัน่ ขึ้นเขาขึ้นดอยอะไรมาก่อนเลยในชีวติ แล ว้ ต้อ งมาปัน่ ขึ้น ดอยอิน ฯ ซึ่ง ได้ช่ื อ ว่ า สู ง สุ ด ในสยาม มัน เป็ น อะไรที่สุ ด ๆ เหมือนกันนะครับ ใบหน้าของเพือ่ นในวัยครึ่งร้อย นาทีน้ ี ไม่ต่างอะไรกับเด็กเล็กๆ ยิ้มแป้ นชะลอรถไหลเข้ามาอย่างมีความสุข แล ้วก็มายืน่ ธงให้ เตรียมจะไปรับเหรียญ แล ้วก็จะขึ้นไปถ่ายรูปด้วยกันทีจ่ ดุ Land Mark สูงสุดแดนสยาม ช่ วงเวลานัน้ บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ของผู ท้ ่ีมาถึงแลว้ และก�ำลังทยอยข้ามเส้นชัยมา เป็ นช่วงเวลาที่น่าจดจ�ำของแต่ละคนจริงๆ ครับ อีกซักพักน้องโจ๊กก็ปนั ่ ขึ้นมาถึง เป็ นอันว่าครบทีม... โดยส่วนตัวแลว้ การที่เราท�ำอะไรส�ำเร็จให้แก่ ตวั เองได้ ก็นบั เป็ นเรื่องที่ น่าภูมใิ จไม่นอ้ ยอยู่แล ้ว แต่ถา้ หากเรายิง่ น�ำความส�ำเร็จมาให้แก่หมูค่ ณะเรา ทีมเรา ตามทีต่ งั้ ใจไว้โดยครบถ้วนทุกคน และทีส่ ำ� คัญทีส่ ุดคือ ไม่มสี ว่ นใดของใครบุบสลาย ครบถ้วนปลอดภัยดีทกุ คน... อันนี้นบั เป็ นความดีใจ และภาคภูมใิ จอย่างทีส่ ุดครับ (โดยส่วนตัวผมจริงๆ ทีแ่ อบหัวใจพองโตอยู่เงียบๆ ก็คอื คราวทีข่ ้นึ ครัง้ แรกส�ำเร็จ) ก่อนเดินทางกลับ ผมนัง่ รถท่องเทีย่ ว พอเห็นภูเขาสูงๆ ระหว่างทาง ผมถาม หลานวัยสามขวบทีน่ งั ่ ข้างๆ ว่า หนู เห็นภูเขาสูงๆ นัน่ มัย้ ? หลานบอก เห็นครับ ผมบอกว่ า ลุ ง ปัน่ จัก รยานขึ้น ไปสู ง กว่ า ภู เ ขาลู ก นั้น อี ก นะ หลานสามขวบ ท�ำตาโตเบิกกว้างเลย... หุหหุ ุ ดอกนี้ ดอกเดียว คุม้ แล ้วครับ! - อิสยะ 102/612
9
b side
อุกฤษฏ์ จุย้ เจริญ (จุย้ ) กรุงเทพฯ ทีม TT5 (Toilet the Fifth) “เพราะยอดดอยไม่เคยสู งเกินอาน” เป็ นประโยคประจ�ำตัวของผมที่เอาไว้ สร้างความฮึกเหิม เพือ่ สูก้ บั ความชันของดอยๆ หนึ่ง ทีช่ ่อื ‘ดอยอินทนนท์’ ซึง่ จัดงาน ปัน่ จักรยานทีม่ ชี ่อื งานว่า ‘ปัน่ พิชติ อินทนนท์ คนพันธุอ์ ดึ ’ ปี น้ ีจดั ขึ้นเป็ นครัง้ ที่ 10 แต่เป็ นครัง้ ที่ 2 ส�ำหรับผม พูดถึงดอยอินทนนท์ คงไม่ตอ้ งสาธยายเรื่องความสูง และความชัน เพราะส�ำ หรับนัก ปัน่ แล ว้ ทุกคนรู จ้ กั ชื่อ นี้ดี เป็ น ยอดดอยที่ไม่ว่า จะนักปัน่ มืออาชีพหรือมือสมัครเล่นอย่างผม สักครัง้ หนึ่งในชีวติ ต้องเอาจักรยาน คู่ชวี ติ … เอ้ย… คู่ใจของตัวเอง ถูไถ ยังไงก็ได้ให้ไปเข้าเส้นบนยอดให้ได้ ย้อนกลับไปเมือ่ ครัง้ ทีแ่ ล ้ว ซึง่ เป็ นครัง้ แรกส�ำหรับผม ถามว่ายังจ�ำความรูส้ กึ ครัง้ นัน้ ได้ไหม บอกเลยจ�ำได้แค่ ว่า เราประเมินว่า การปัน่ ขึ้นมันคงจะยากมาก แต่สุดท้ายผมก็ประเมินมาผิด เพราะความจริง มันยากเกินกว่าทีเ่ ราคิดไว้มากเกินมาก แต่ก็ทำ� ได้ตามที่ตงั้ ใจไว้ว่า ‘เท้าไม่แตะพื้น’ ซึ่งเป็ นความตัง้ ใจของนักปัน่ ที่ปนั ่ ขึ้น ดอยอินทนนท์ครัง้ แรกอย่างผม มาครัง้ นี้เป็ นการปัน่ ขึ้นครัง้ ที่ 2 มีการเตรียมตัวมา ดีกว่าครัง้ แรก (คิดว่าอย่างนัน้ นะ) การมาครัง้ นี้ก็เลยต้องคิดเป้ าหมายก่อนมาไว้ว่า จะไต่ไปให้ถงึ เส้นชัยโดยใช้เวลาไม่เกิน 4 ชัว่ โมง เพราะครัง้ ทีแ่ ล ้วเกิน 4 ชัว่ โมง ไปทีจ่ ดุ ออกตัวเลย เพือ่ นนักปัน่ เยอะมากเหมือนเดิม บรรยากาศดูคกึ คักมาก เต็มไปด้วยจอมยุทธ์ทม่ี าชุมนุมกันนับครึง่ หมืน่ แถวยาวเต็มถนน มองไปจนสุดลูกตา ก็ยงั ไม่เห็นท้ายแถวเลยทีเดียว พอได้เวลาออกตัว ส�ำหรับตัวผมเองท�ำการบ้าน มาพอสมควร 8 กิโลเมตรแรก ออกจะทางราบไม่ชนั มาก ก็ใส่ความเร็วเต็มเหนี่ยวเลย เพือ่ ท�ำเวลาในช่วงต้น งานนี้ทุกคนลว้ นมาสูก้ บั (น�ำ้ หนัก) ตัวเอง รวมทัง้ ผมด้วย เนื่ อ งจากครั้ง นี้ มี ก ารปิ ดถนนเป็ นช่ ว งๆ เพื่ อ ความปลอดภัย ของนัก ปั น่ ภาพที่ออกมาให้เห็นเป็ นที่คุน้ ตาอย่ างมาก คือภาพนักปัน่ ที่กำ� ลังปัน่ ขึ้นเนินแรก เต็มทัง้ ถนนเป็ นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร บรรยายไปก็คงไม่เท่าได้มาเห็นด้วยตัวเอง การปัน่ ระยะแรกก่อนถึงด่านอุทยานฯ ที่ 2 เป็ นการปัน่ ทีด่ ูมคี วามสุข สนุก พอสมควร เนื่องจากยังไม่ชนั มาก ปัน่ ไปก็คยุ กับเพือ่ นนักปัน่ ทีป่ นั ่ อยู่ข ้างๆ กันไปด้วย บางคนก็ตดิ ล�ำโพงมากับจักรยาน เสียงเพลงก็ทำ� ให้เพลินหายเหนื่อยได้เหมือนกัน แนวเพลงก็มตี งั้ แต่ เพือ่ ชีวติ ลูกทุง่ เพลงฝรัง่ บอสซ่า ฮาร์ดคอร์กย็ งั มี ส่วนรถจักรยาน ทีเ่ พือ่ นนักปัน่ ปัน่ กันก็มหี ลายแนวเช่นกัน ทัง้ หมอบ ภูเขา ล ้อโต ล ้อเล็ก ปัน่ ไปดูไป ก็เพลินดี ตลอดทางผูจ้ ดั มีนำ�้ ดื่ม น�ำ้ เกลือแร่ กลว้ ย ดูแลนักปัน่ เป็ นอย่างดี อันนี้ ต้องชืน่ ชมและขอบคุณเป็ นอย่างมากครับ ผมนี่กนิ กล ้วยจนเกือบจุก และแล ้วไม่นาน ผมก็ปนั ่ มาถึงจุดทีม่ องเห็นพระธาตุเป็ นครัง้ แรก ในใจนึกนัน่ ล่ะคือของจริงทีร่ ออยู่
แต่เหมือนธรรมชาติจะไม่ยอมให้เราผ่านไปถึงได้งา่ ยๆ ก่อนถึงเนินพระธาตุ ความชันเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ในใจนึกต้องพยายามปัน่ แบบเก็บแรงไว้หน่อย เอาไว้ใช้ บนเนินพระธาตุ พอเลี้ยวเข้าโค้งปูนเนินพระธาตุเท่านัน้ แหละ ความคิดก็แว่บขึ้นมา ทันทีว่าท�ำไมเราจ�ำไม่ได้ว่ามันชันขนาดนี้นะ แลว้ ก็ปนั ่ ซอยไปด้วยรอบขาของตัวเอง ส่วนรอบๆ ตัวเรา เพือ่ นๆ นักปัน่ มีทงั้ ก�ำลังเลื้อยเป็ นงู บ้างก็ยนื โยก บ้างก็กำ� ลังเข็น ซึ่งมันท�ำให้ความคิดของเราต้องมาต่อสู ก้ นั เองระหว่างการลงเข็นกับการปัน่ ต่อไป มันต่อสูก้ นั อยู่นาน จนในทีส่ ุดจึงจัดสินใจลุกขึ้นจากอานเพือ่ ยืนโยก เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะ ตากล ้องเยอะมาก ไม่ยนื ไม่ได้แล ้ว ต้องมีตากล ้องสักคนทีถ่ า่ ยเราบ้างล่ะนะ ไม่นานนัก ก็ ผ่ า นเนิ น พระธาตุ ม าได้แ บบฉิ ว เฉี ย ด (ว่ า จะลงหรื อ ไม่ ล ง จากจักรยานดี) พอขึ้นมาถึงกิ่วแม่ปาน เป็ นทางเรียบ ได้พกั ขา บรรยากาศคึกคักมาก กองเชียร์เยอะ มีจุดแจกน�ำ้ แจกกลว้ ย ค่อยยิ้มได้หน่อย แต่ยงั ก่อน ใครทีย่ งั ไม่เคยมาอาจจะดีใจทีข่ ้นึ มาถึงกิ่วแม่ปาน ได้แลว้ ยังคงมีเนินทีโอทีเป็ นด่านทดสอบสุดท้าย จากการที่ โดนนวดมา 40 กว่ากิโลเมตรแล ้ว ขานัน้ แทบจะไม่มแี รงกดบันได ตาเริ่มพร่ามัว อุณหภูมกิ ็เริ่มต�ำ่ ลง อากาศหายใจก็เริ่มเบาบาง น�ำ้ ลายก็เหนียวคอ ด้วยความทีช่ นั และยาวมาก ตรงเนินทีโอที บอกเลยว่ า ใจล ว้ นๆ จะลงจากจัก รยานก็ ไ ด้ ไม่ มีใ ครว่ า เพราะเพื่อนเข็นมีเยอะกว่ าเพื่อนปัน่ แถมตอนนัน้ ก็รูแ้ ลว้ ว่า ท�ำเวลาไม่ได้ตามเป้ าหมายที่ตงั้ ใจไว้ ความคิดด้านมืดบอกให้ ลงไปเข็น เถอะ แต่ ค วามคิด ด้า นสว่ า งบอกว่ า จะลงไปท�ำ ไม อีกนิดเดียวก็ถงึ ยอดแล ้ว เงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นโค้ง แต่ไม่รูว้ า่ โค้ง ไปสุ ด ตรงไหน มัน ก็ ย่ิง ท้อ เข้า ไปใหญ่ สุ ด ท้า ยกัด ฟัน เฮือกสุดท้ายยืนโยกตรงสุดเนินทีโอที แล ้วก็ปล่อยไหลเข้าเส้นชัย ณ ตอนเข้าเส้นตอนนัน้ ถ้ามาถามว่าจะมาปัน่ ขึ้นอีกไหม อาจ จะไม่มคี ำ� ตอบออกจากปาก แต่ถ ้ามาถามตอนนี้ ก็บอกเลยว่า ครัง้ ที่ 11 เจอกันอีกนะ ดอย อินทนนท์ “เพราะยอดดอยไม่เคยสูงเกินอาน” นัน้ มีจริง อีกครัง้ แน่นอน! 10
b side
Bike Review
ปั่นชมบุปผา-มองหาพริตตี้ กับ
SPECIALIZED ALLEZ SPRINT EXPERT เรื่อง /ภาพ : แบงค์
เมื่อได้ข่าวจากร้าน Velocity เชียงใหม่ ถึงการมาของ Specialized Allez Sprint Expert ซึ่งเป็นรถ Demo Ride ที่ใครๆ ก็สามารถจับจองไปปั่นลองได้ง่ายๆ ผมและเพื่อนจึงไม่รอช้าที่จะขอทดสอบจักรยานรุ่นใหม่คันนี้… แรกพบ… หน้าตา สี รูปทรง นี่มนั รถซิง่ ชัดๆ เฟรมอลูมเิ นียมรอยเชื่อมดิบๆ สไตล์รถ แบบแอโรไดนามิค สีเขียวแสบตาตัดกับสีดำ� ไล่โทนสวยงาม ชุดขับเป็ นแบบผสมจาก Shimano Ultegra และ 105 11 Speed จานหน้า 52/36T เฟื องหลัง 11-28T ล ้อขอบต�ำ่ เหมือนพร้อมจะลุยทุกที่ ไปได้ทกุ ทาง เรามีโอกาสทดสอบรถคันนี้สองวัน ตอนแรกคิดว่าจะทดสอบทางราบยาวๆ ปัน่ แช่นานๆ ตามสไตล์ของรถรุ่นนี้ แต่พอมานึกอีกที… ไม่ได้สิ ทีน่ ่คี อื เชียงใหม่ เมือง ที่มเี ส้นทางให้ปนั ่ หลากหลาย เลยคิดว่าเราน่ าจะลองทัง้ ทางเขาผสมทางราบด้วย เลยวางเส้นทางไว้ 2 แบบ เส้นทางแรกปัน่ ขึ้นวิว 1 ดอยสุเทพ แล ้วไหลลงมาไปทางราบ ห้ว ยตึง เฒ่ า ต่ อ ส่ ว นเส้น ทางที่ส อง ก็จากสี่แยกต้น เกว๋น ตรงโครงการมาลาดา ขึ้นดอยไปร้านกาแฟท่าช้างฮิลล์
ล ้อขอบสูงมา มันกว่านี้แน่นอน บอกเลยว่า ใครชอบปัน่ ทางราบซิง่ ๆ ฟี ลลิง่ รถอลูฯ คันนี้คอื อีกหนึ่งตัวเลือกครับ
เส้นทางที่สอง ทางราบผสมภูเขาไปท่าช้างฮิลล์ ก่อนหน้านี้เราได้ยนิ ค�ำบอกเล่าจากเพื่อนนักปัน่ ด้วยกันว่า ช่วงนี้ทางก�ำลัง ท�ำใหม่ พื้นบางช่วงไม่ค่อยดี มีราดยางมะตอยบ้าง แต่ไม่ใช่ปญั หา เพราะเราตัง้ ใจว่า ถึงไหนถึงกัน (ฮ่ าๆ) วันนี้เราก็ออกปัน่ เป็ นคู่ เช่ นเดิม อากาศตอนเช้าเย็นสบาย ปัน่ ชมบุปผามองหาพริตตี้กนั ระหว่างทางถนนไม่ดจี ริงๆ ด้วย หิน ดิน ทราย หลุม นึกว่าดาวอังคาร ฝึ กทักษะหลบหลีกกันไป ก็ไม่ค่อยจะพ้นนะ แต่ตรงนี้กเ็ ป็ นอีกจุด ทีน่ ่าสังเกต ความนุ่มนวลนัน่ เอง รถไม่ได้แข็งกระแทกในแบบของรถอลูฯ มากนัก เราคิดว่าคงเป็ นเพราะหลักอานและตะเกียบคาร์บอนทีเ่ ซ็ตมาค่อนข้างดี อีกทัง้ เบาะทีห่ นานุ่มนัง่ สบาย ปัน่ ขึ้นลงเนินไปเรือ่ ย ไหลๆ ครับ มีเติมบ้าง แต่กไ็ ม่ได้มากมาย เริ่ม! เส้นทางที่หนึ่ ง ความรูส้ กึ แรก... เอ่อ คนมองว่ะ! (ฮ่าๆ) ไม่ได้คดิ ไปเองนะครับ คงเพราะสีรถ อะไร แล ้วเราก็มาถึงจุดหมายทีม่ แี ต่นกั ปัน่ เหมือนๆ กัน ไม่เจอพริตตี้เลยสักคน (ฮ่าๆ) ตอนโดนแดดมันสุดจริงๆ เราเริ่มจากการอุ่นเครื่องเบาๆ ก่อนขึ้นวิว 1 รูส้ กึ ได้เลยว่า ระหว่างนัน้ ก็มคี นสนใจรถรุ่นนี้พอสมควร เลยได้ทขี ายของตามประสา ชวนใช้สง่ิ ดีๆ รถค่อนข้างไหลเร็วดี เราไต่ข้นึ ไปเรื่อยๆ เบาๆ คุยกันเรื่อยเปื่ อย บลาๆ ชมนกชมไม้ แถมทดลองฟรีอกี ต่างหาก ถึงเวลาเอารถไปคืน เราไม่แปลกใจเลยว่า Specialized Allez Sprint Expert กันไป แต่พอถึงครึ่งทางของวิว 1 เราหยุดพูดกันอย่างมิได้นดั หมาย ฮ่าๆ คิดในใจคือ ขึ้นเขานี่ตวั ใครตัวมันใช่มยั้ ! ทางภูเขามันไม่ได้ช่วยอะไรเรามากนัก แรงใครแรงมัน ท�ำไมถึงเป็ นที่นิยมมากที่เมืองนอก เพราะที่แน่ ๆ เราขอสารภาพว่า แอบมีใจให้ นัน่ เอง ระหว่างทางเรานัดแนะทีจ่ ะสปรินท์ช่วง 1 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนพักทีว่ วิ 1 เจ้าคันนี้พอสมควร ลองไปส่อง IG ชาวบ้าน เขาแต่งสวยๆ กันทัง้ นัน้ ก็ 18+ ได้นะครับ ไหลแช่ยาวๆ ไปถึงวิว 1 สนุกและเหนื่อยมากๆ พักกินน�ำ้ กินท่า ลูบๆ คล�ำๆ มองแล ้วมองอีก... สวยดีจงั ได้ทีข าลงแล ว้ ชอบเลย เพราะไม่ เ หนื่ อ ย (ฮ่ า ๆ) โอ้โ ห! จรวดดิค รับ แบบลงเร็วเห็นๆ แต่กน็ ่งิ ดีนะครับ เข้าโค้งสนุก มันใจมากๆ ่ คราวนี้มาถึงสิง่ ทีร่ อคอย ทางราบยาวๆ ไปห้วยตึงเฒ่า แล ้วรถก็แสดงถึงจุดเด่นออกมาได้ชดั มากๆ รูส้ กึ ได้จริง มันเร็วครับ แรงปลายไหลๆ 40+ แช่ได้นานเติมนิดๆ หน่อยๆ นึกอยู่ในใจว่า ถ้าได้ ขอขอบคุณ : ร้าน Velocity The Cyclist Shop เชียงใหม่ (โทร. 08-1595-5975) 11
b side
Bike Exercise
CHUBBY CYCLIST ยุทธการขยับอวบ เรื่อง / ภาพ : acidslapper
ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักปั่นขาใหม่ ขาเก่า ขาเบา หรือ ขาแรง จะปั่นเพื่อการแข่งขันกีฬา เพื่อออกก�ำลังกาย ฯลฯ เราต่างก็ต้องเคยปั่นจักรยานเพื่อลดความอ้วนกันทั้งนั้น หลายคนเคยแล้ว หลากคนก�ำลังท�ำอยู่ บางใครท�ำส�ำเร็จไปแล้ว ในขณะที่อีกบางคน ก็เลิกล้มไป ยังไงซะมันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้หรอก ท�ำใจซะ! ผมก็คนนึงทีเ่ คยหวังจะผอมจากการปัน่ จักรยาน สารภาพกันตามตรงเลยว่า จักรยานคันแรกเนี่ย ทีซ่ ้อื มาก็เพราะจะปัน่ ลดความอ้วนนี่แหละ ส่วนไอ้ทม่ี นั ลุกลาม เป็ นอีกหลายคันเกลือ่ นกลาดเต็มบ้าน (ราคาไม่เป็ นทีเ่ ปิ ดเผย อิอ)ิ จัดงาน Event จักรยาน รีววิ อุปกรณ์ กวัดแกว่งตัวหนังสือเขียนคอลัมน์จกั รยาน และแปลงร่างเป็ น บก.Bike Section เหล่านี้ล ้วนเป็ นเรื่อง ‘บานปลาย’ อันสวยสดงดงาม ใครจะไปเชือ่ ล่ะครับ ทีเ่ ห็นว่าใครต่อใครออกทริปกันทีนงึ ก็ซดั กันโหดๆ ไกลๆ ระดับ 100 - 200 กิโลเมตร หรือไต่เขากันอย่างบ้าระห�ำ่ เหมือนโดนก๊อดซิลล่า วิ่งไล่หลังเนี่ย ผมถามมาหลายรายแลว้ ทุกคนต่ างก็ตอบเป็ นเสียงเดียวกันว่า อีตอนเริ่มน่ ะก็อยากปัน่ เพื่อลดความอ้วนกันทัง้ นัน้ แหละ ฉะนัน้ วันนี้เรามาคุยกัน เรื่องการจัดการกับความอวบๆ อ้วนๆ กันครับ คื อ งี้. .. ท�ำ ความเข้า ใจกัน ก่ อ นว่ า การปัน่ จัก รยานจัด เป็ น หนึ่ ง ในกี ฬ า หลายๆ ชนิดที่มีความยืดหยุ่ นในการออกก�ำลังกายสู ง หมายถึงเป็ นกีฬาที่เรา สามารถออกก�ำลังกายได้ตงั้ แต่ เบาๆ - ชมนกชมไม้, กลางๆ – ให้กนิ ข้าวอร่อย, หนัก ๆ - เสพติด ความเหนื่ อ ย ไปจนถึง ระดับ ฉี ก เสื้อ ฉี ก ผ้า - แปลงร่ า งเป็ น มนุ ษ ย์ห มาป่ า! จึง ไม่ น่ า แปลกใจที่เ รามัก จะได้เ ห็น ใครต่ อ ใครมาปัน่ จัก รยาน ซึ่งแต่ละคนก็มจี ุดประสงค์และสไตล์ในการปัน่ ที่แตกต่างกันไปอย่างหลายหลาก แต่ ก็อย่างที่บอกนัน่ แหละครับ ว่าวันนี้เราจะมาเน้นที่เรื่องการปัน่ เพื่อย่อยสลาย หมูกระทะ ชาบู ปิ้ งย่าง หรืออาหารอร่อยๆ (ซึง่ ส่วนใหญ่จะมาแบบอ้วนๆ) กัน ทีน้ ี ไอ้การปัน่ สลายพุงเนี่ย ทัง้ ขาใหม่และรุ่นเฮฟวีเ่ วททัง้ หลาย ดันมักเข้าใจผิดกันว่า มันคือการปัน่ หนักๆ โหดๆ นานๆ ...มันก็ถกู นะครับ แต่มนั ถูกไม่หมด! หรือลุกลาม ไปถึงขาเก่าทัง้ หลายทีก่ ำ� ลังสงสัยว่าท�ำไมยิง่ ปัน่ ยิง่ อวบขึ้นเรื่อยๆ ก่อนอื่นเลย เราต้องเข้าใจเรื่อง ‘ทางเข้า’ และ ‘ทางออก’ กันก่อนนะครับ สิ่งมีชีวติ ทุกอย่างบนโลกลว้ นต้องน�ำเข้าบางสิ่งบางอย่าง น�ำมาแปรรู ปเพื่อส่งออก เป็ นพลังงาน ‘ทางเข้า’ ก็คืออาหารทีเ่ รากินเข้าไป ส่วน ‘ทางออก’ ก็คือการขับถ่าย รวมไปถึงการบริหารจัดการกับสิง่ ทีอ่ ยูใ่ นพุงของเราให้กลายเป็ นพลังงานในการใช้ชวี ติ หรือพลังในการระเบิดน่องสปรินท์ข้นึ ดอยอินทนนท์อะไรประมาณเนี้ยครับ
ไอ้อาหารการกินทีเ่ ราบรรจงละเลียดเข้าไปเนี่ย แบ่งใหญ่ๆ แล ้วมันมีอยู่ 3 พวก คือ แป้ ง โปรตีน และไขมัน 1. แป้ ง ขุมพลังงานหลักของเราทุกคน ไม่วา่ จะปัน่ หรือไม่ปนั ่ ก็ตาม แป้ งคืออาหารหลัก ของมนุษยชาติ ถ้ากินน้อยไปก็ไม่มแี รง แต่ถา้ กินมากเกินไปร่างกายเราก็จะแปรรูป และเก็บมันไว้ในรูปไขมันเพือ่ เป็ นถังเชื้อเพลิงพลังงานส�ำรอง แล ้วไอ้ร่างกายเจ้ากรรม ก็ดนั เลือกเก็บสะสมไขมันทีเ่ หลือไว้ทพ่ี งุ เป็ นอันดับแรกเลย! 2. โปรตีน หน้าทีห่ ลักก็คอื ซ่อมแซมส่วนทีส่ กึ หรอ 3. ไขมัน กิ น เข้า ไปแล ว้ ถ้า เหลือ ใช้ก็ เ อาไปเก็ บ ใส่ พุง ได้เ ลย ไม่ ต อ้ งแปรรู ป ! ไขมันนี่แหละปัญหาหลักของการออกก�ำลังกายเพือ่ ลดความอ้วนเลยครับ ถ้าเปรียบว่าการกินอะไรอร่อยๆ ตามใจปากทีจ่ ดั อยู่ในข่ายว่าผิดสุขลักษณะ คือการสร้างปัญหาความอ้วน การออกก�ำลังกายก็คงเป็ นการแก้ปญั หาที่ปลายเหตุ นัน่ แหละครับ ในทางอุดมคติทถ่ี กู ทีค่ วรเนี่ย จริงๆ แลว้ เราควรจะกินอาหารเข้าไป เท่าทีเ่ ราจะใช้แรง แปลให้เข้าใจง่ายๆ คือมนุษย์เราไม่จำ� เป็ นต้องออกก�ำลังกาย ถ้าเรา ควบคุมการกินอาหารให้มนั พอดีกบั การใช้พลังงานในชีวติ ประจ�ำวัน ตัวอย่างทีด่ ที ส่ี ุด ก็คือ วิถชี วี ติ ของตุเ๊ จ้า (พระสงฆ์) นี่แหละครับ! วันละสองมื้อ ใช้ความคิดเยอะๆ เดินช้าๆ นัง่ สมาธิน่งิ ๆ (แต่หนีตำ� รวจเร็วมาก!!! แฮ่!!!) ทว่าปัญหาของเราก็คอื ‘ขาเข้า’ มันดันมากกว่า ‘ขาออก’ นี่ส!ิ มนุ ษย์หมูตยุ ้ สามัญชนอย่างเราๆ จึงต้องมาล�ำบาก ตรากตร�ำออกก�ำลังกายเพือ่ เพิม่ ปริมาณ ‘ทางออก’ กันอยู่น่ีไงครับ! อ่านถึงตรงนี้ อย่าเพิง่ เข้าใจผิดนะครับ! เพราะส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าว ซะทีเดียวนะ เพราะผมเชื่อว่าการออกก�ำลังกายมันก็มีแง่มุมเจ๋งๆ ของมันอยู่ ก็ ม นั ท�ำ ให้เ ราสุ ข ภาพดีไ งครับ มีใ ครบ้า งที่อ ยากกิน อาหารอย่ า งถูก สุ ข ลัก ษณะ (ซึง่ ส่วนใหญ่จะโคตรไม่อร่อย! ...เชื่อพีเ่ หอะ!) แลว้ ผอมแบบอมโรค เซือ่ งๆ ซึมๆ มึนๆ ทึ่มๆ หมึนๆ ถ้างัน้ สู ก้ ินให้มคี วามสุข แลว้ ไปออกก�ำลังกายอย่างพอเพียง และสนุ กสุดเหวี่ยง แลว้ ผอมแบบเฟิ รม์ ๆ กระฉับกระเฉง ปราดเปรียว ฉะฉาน ดูฉลาดเฉลียว ร่าเริงแจ่มใสกว่าตัง้ เยอะ! ดังนัน้ สายสุขนิยมอย่างผมจึงเลือกทีจ่ ะใส่ใจ เรื่องอาหารการกินกว่าเดิมสักนิด (แต่ไม่ ‘เยอะ’ นะ ผมยังคงใช้ชวี ติ ง่ายๆ ไม่เรื่องมาก 12
b side
และไม่ทำ� ตัวเป็ นปัญหาสังคม! - ไม่ใช่ตอ้ งมาอดอาหารทรมานตัวเอง กินโน่นก็ไม่ได้ กินนี่ก็ไม่ได้ รู ต้ วั อีกทีไม่อยากมีใครกินข้าวด้วย - นี่เรียกความอัปยศของชีวติ !) จ�ำไว้นะครับ การคุมอาหาร กับ การอดอาหาร ไม่เหมือนกัน! ถ้าการกินอาหารอร่อยๆ มันคือความสุขของการมีชีวติ และเป็ นสิ่งยืนยันการอยากมีชีวติ ต่อ มันก็ไม่เห็น มีความจ�ำเป็ นอะไรที่จะต้องไปเฆี่ยนหัวใจตัวเองนี่นา! ก็ทำ� มันควบคู่ ไปกับการ ออกก�ำลังกายสิ ดูจะเป็ นหนทางทีเ่ ข้าท่านะ สุขภาพกายแจ่มใส สุขภาพใจเบิกบานนนน แล ้วพุงย้วยทีเ่ พียรสะสมกันมาแรมปี น่ลี ะ่ จะเอายังไงกับมันดี? ผลงานวิจยั และทฤษฎีเป็ นกระตั ๊กต่ างก็เทคะแนนเป็ นเสียงเดียวกันว่า ‘โซน 2’ นี่แหละคืออาณาเขตทีด่ ที ส่ี ุดในการเก็บกวาดหมูสามชัน้ และเนื้อเสือร้องไห้ บนเตาถ่ านร้อนฉ่ าได้ดีท่ีสุด แล ว้ ไอ้ ‘โซน 2’ ที่ว่านี่ม นั คืออะไรคะ? มันก็คือ การแบ่งระดับอัตราการเต้นของหัวใจไงล่ะจ๊ะยาหยี โดยทัว่ ไปแลว้ เราแบ่งอัตราการเต้นของหัวใจออกเป็ น 5 โซน ซึง่ แต่ละโซน ก็จะมีหน้าทีแ่ ละประสิทธิภาพแตกต่างกันไป เพือ่ ไม่ให้หลุดประเด็นออกทะเล วันนี้ จะไม่พดู เรื่องโซนอืน่ นะครับ (ค่อยว่ากันในฉบับต่อๆ ไปละกัน) ว่ากันว่า ‘โซน 2 และ โซน 3’ นี่แหละทีร่ ่างกายของเราจะอยูใ่ นสภาวะทีพ่ ร้อมเผาผลาญไขมันสะสมได้ดที ส่ี ดุ เรียก ‘โซน 2’ อาจดูแปร่งๆ หู เอาเป็ นว่ามันคือการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) มีหน่วยส�ำหรับวัดเป็ น ครัง้ /นาที (bpm.) ซึง่ มันอยู่ใกล ้ตัวเรามากครับ เพราะ มันถูกเรียกอย่างแพร่หลายว่า แอโรบิค (Aerobic ก็ไอ้ทเ่ี ราชวนกันไปเต้นแอโรบิค กันนี่แหละ) บางส�ำนักเรียก Fat Burn หลายค่ายเอิ้น Endurance และคุน้ หูกนั ในยุคตื่นทอง (T25) ทีน่ ิยามเกร๋ๆ ปากว่า คาร์ดโิ อ (Cardio) ไงครับ โซนนี้นอกจาก เผาผลาญพุงนุย้ ๆ แก้มยุย้ ๆ ต้นขาอวบๆ ต้นแขนหย่อนๆ เหนียงคอยานๆ ของเราแล ้ว มันยังท�ำหน้าที่สร้างความ ‘ถึกควายทุย’ อึดทะลุโลกให้กบั นักกีฬาทุกประเภท อีกด้วยนะตัวเธอ แล ้วถ้าออกก�ำลังกายต�ำ่ กว่าหรือเกินกว่า ‘โซน 2’ ล่ะ? อย่างที่บอกครับ แต่ ละโซนมันก็มหี น้าที่และประสิทธิภาพแตกต่างกันไป หนัก เกิ น ไปไม่ ใ ช่ ว่ า ไม่ ดีน ะครับ แต่ ม นั จะไม่ ผ อม! ซึ่ง ประเด็ น นี้ แ หละที่ม กั เข้าใจผิดกันว่าถ้าอยากผอมต้องออกก�ำลังกายหนักๆ อันทีจ่ ริงแค่ ‘โซน 2’ นี่แหละ แต่ขอแช่ยาวๆ นานๆ พุงแฟบแน่ ฟันธง! แม้ว่าร่ างกายเราจะท�ำตัวไม่น่ารักที่เอาไขมันส่วนเกินไปเก็บสะสมไว้ท่ีพุง แต่ ม นั ก็ยงั มีมุม ที่แ สนประเสริฐนะครับ เพราะเวลาที่ร่างกายเราเริ่มเผาผลาญ เป็ นพลังงาน มันก็จะเริ่มไปท�ำเรื่องเบิกไขมันเอาจากพุงมาใส่เตาก่อนชาวบ้านเลย ฉะนัน้ จะเห็นได้วา ่ การลดพุงด้วยการซิท - อัพจึงเป็ นการแก้ปญั หาทีค่ ่อนข้างไม่ตรงจุด เพราะมันอาจท�ำให้หวั ใจเรายังเต้นไม่ทนั ถึง ‘โซน 2’ หรือถ้าจะอัดให้ถงึ เราก็ใช้เวลา กับมันน้อยเกินไป (คงไม่มใี ครอุตริซทิ - อัพเป็ นเวลา 1 ชัว่ โมง 30 นาทีใช่มยั้ ครับ!) ดังนัน้ การออกก�ำลังกายเฉพาะจุด เช่นการซิท – อัพเนี่ย ไม่ใช่วา่ จะไม่มปี ระโยชน์ แต่มนั จะมีประสิทธิภาพส�ำหรับการเล่นกลา้ มท้องมากกว่าไง! แปลว่าไม่จำ� เป็ นต้อง เน้นเฉพาะจุดหรอก แค่ออกก�ำลังกายอะไรก็ได้ ขอให้หวั ใจเต้นอยู่ใน ‘โซน 2’ นานๆ แลว้ เดีย๋ วมันจะ Burn พุงเราลงเอง ซึง่ จะเห็นได้วา่ รอบตัวเรามีกฬี าอีกหลายหลาก ประเภทเหลือเกินที่เอื้อให้เราไปถึง ‘โซน 2’ และแช่ไว้ยาวๆ ไม่ได้จำ� กัดไว้เฉพาะ จักรยานเท่านัน้ วิง่ ว่ายน�ำ้ แบดมินตัน เทนนิส และอีกเพียบ ขอแค่แช่ไว้นานๆ เอาสัก 1:30 – 2 ชัว่ โมงเลยยิง่ ดี
เครือ่ งวัดค่าการเต้นของหัวใจล่ะ? ก็สายด�ำๆ ทีพ่ วกนักกีฬาเขาคาดหน้าอกนัน่ ไง ราคาไม่แพงหรอก (ถ้าเทียบกับ ราคาจัก รยานของคุ ณ !!!) แต่ ถ า้ คาดหน้า อกแล ว้ อึด อัด ปัจจุบ นั นาฬิก าฉลาด (Smart Watch) ก็สามารถวัดค่าหัวใจได้โดยไม่ตอ้ งใส่สายคาดอกให้รำ� คาญล�ำตัว และไม่เกิดร่องรอยเหมือนเราไปแอบใส่บกิ นิ ่นี อนอาบแดดทีไ่ หนมาอีกด้วย! การแบ่งโซนหัวใจล่ะ ท�ำยังไง? แบบเบสิคทัวๆ ่ ไปก็เอา 220 ลบอายุ ได้เท่าไหร่กถ็ อื ว่านัน่ คือ 100% แล ้วก็เริม่ ค�ำนวณไปเรือ่ ยๆ ตามสูตรนี้เลย โซน 1 = 50 – 60% โซน 2 = 60 – 70% โซน 3 = 70 – 80% โซน 4 = 80 – 90% โซน 5 = 90 – 100% แต่ตอ้ งบอกก่อนนะครับ ว่าการแบ่งแบบนี้ค่อนข้างจะไม่ตรง เพราะมันคือการ ค�ำนวณจากการใช้ฐานอายุเป็ นหลัก ซึง่ ไม่ได้แปรผันไปตามสภาพร่างกายและความฟิ ต ของการออกก�ำลังกาย หลายๆ ส�ำนักจึงไม่นยิ มใช้วธิ กี ารดังกล่าว เนื่องจากไม่เหมาะกับ คนออกก�ำลังกายทีม่ สี ภาพความฟิ ตต่างกันไป ในทางการกีฬาเราจึงนิยมใช้สูตรทีค่ ำ� นวณ แบ่งโซนจากค่าการเต้นสูงสุดทีเ่ ราท�ำได้ (Max. HR.) เช่น ผมมีค่า Max. HR. อยูท่ ่ี 205 bpm. พอเอามาแบ่งโซนจะได้ * โซน 1 = 50 – 60% = 103 – 123 bpm. โซน 2 = 60 – 70% = 123 – 144 bpm. โซน 3 = 70 – 80% = 144 – 164 bpm. โซน 4 = 80 – 90% = 164 – 185 bpm. โซน 5 = 90 – 100% = 185 – 205 bpm. ดังนัน้ ถ้าผมอยากเผาผลาญ พิซซ่า พาสต้า ลาซานญ่า และผักโขมอบชีส ทีบ่ รรจงกรอกใส่ร่างไปเมือ่ คืนวันก่อน ผมต้องปัน่ จักรยานให้ได้ 123 – 144 bpm. และว่ากันว่าส�ำหรับนักกีฬาทีเ่ ตรียมตัวแข่งกีฬา ให้ซอ้ มด้วย ‘โซน 2’ ถึง ‘โซน 3’ เป็ นเวลา 3 เท่าของการแข่ง เช่น ผมจะเตรียมแข่งจักรยานเสือภูเขา Cross - Country ระยะทาง 25 กิโลเมตร ค�ำนวณคร่าวๆ แล ้วจะใช้เวลาในการแข่งประมาณ 1 ชัว่ โมง ดังนัน้ ผมควรซ้อมที่ ‘โซน 2 - 3’ เป็ นเวลาอย่างน้อย 3 ชัวโมง ่ แล ้ววันแข่งผมจะสามารถ ระเบิดพลังซูเปอร์ไซย่าตลอด 1 ชัวโมงในการแข่ ่ งได้ ถึงแม้ว่าการปัน่ จักรยานด้วย ‘โซน 2’ จะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ในการ ลดความอ้วนและความหาญหึกถึกควายทุยก็ตาม แต่การพาหัวใจตัวเองมาแช่ท้งิ ไว้ ที่ ‘โซน 2’ เนี่ย มันเป็ นอะไรทีเ่ ซ็งและน่าเบือ่ สุดๆ เลยครับ! สารภาพตามตรงเลยว่า นี่คือโซนที่ผมเกลียดที่สุดเลยครับ ก็มนั เป็ นโซนที่ทำ� ให้เราต้องปัน่ จักรยานแบบ น่าอึดอัดมาก จะช้าก็ไม่ชา ้ จะเร็วก็ไม่เร็ว หน่วงๆ อัน้ ๆ หนุ่ยๆ ดุ่ยๆ ยังไงก็ไม่รู!้ หงุ ด หงิด เป็ นบ้า ! แต่ ก็ น ะ... ก็ ด นั ตั้ง ใจไว้ว่ า เล่ น น�้ำ สงกรานต์ปี น้ ี อ ยากใส่ เสื้อเอวลอยลายขวาง! ...ยอม!!! (*การหาค่าหัวใจ และการค�ำนวณแบ่งโซนของหัวใจท�ำได้มากมายหลายวิธี แล้วแต่สตู รของแต่ละต�ำรา แต่ละส�ำนัก ดังนัน้ เรือ่ งนีอ้ าจไม่มสี งิ่ ทีถ่ กู ต้องทีส่ ดุ หรือ ผิดทีส่ ดุ ผูอ้ า่ นสามารถหาข้อมูลเพิม่ เติมเพือ่ ประกอบการพิจารณาตัดสินใจ) 13
b side
Bike Tips
BASE TRAINING พื้นฐานแห่งความแรง เรื่อง / ภาพ : Weekend Warrior
หลายๆ ครั้งเวลาออกทริปปั่น มักจะได้ยินค�ำพูดเหล่านี้ลอยมาเข้าหูบ่อยๆ เช่น ช่วงนี้ซ้อมเบสว่ะ, คุมโซนๆ, เนี่ยๆ เพิ่ง Off Season ก�ำลังกลับมาสร้างเบสใหม่ ....เรามือใหม่ก็งงๆ เบลอๆ พยักหน้าฟังเหมือนจะรู้เรื่อง แล้วเบสมันคืออะไรวะ? คือตัวให้จังหวะเหรอ? คล้ายๆ กีตาร์ไรงี้ป่าวหว่า หรือว่าปั่นแบบคุมจังหวะ ก็เลยเอาค�ำว่าเบสมาใช้เหมือนดนตรีไรงี้ อธิบายในเชิงของวิชาการ Base Training คือ การฝึ กซ้อมเพือ่ ให้ร่างกาย น�ำออกซิเจนไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพทีส่ ุดเท่าทีจ่ ะท�ำได้ ซึง่ การฝึ กซ้อมแบบนี้ จะใช้เวลานาน และมีความหนักของการฝึ กซ้อมแบบปานกลาง ในระดับทีร่ ่างกายทนได้ แบบต่อเนื่อง เพือ่ ให้ร่างกายมีการปรับตัวเพือ่ ให้มคี วามทนทานเพิม่ มากขึ้น ซึง่ แนวคิด ของการฝึ กซ้อม Base Training มาจากแนวคิดของพีระมิด ถ้าหากเราต้องการ ยอดพีระมิดทีส่ ูงและใหญ่ นัน่ หมายถึงเราต้องมีฐานของพีระมิดทีแ่ ข็งแรงและกว้าง เพือ่ ทีจ่ ะรองรับยอดทีส่ ูงเสียดฟ้ าได้ ถ้าเปรียบเป็ นร่างกายเรา หากเราต้องการความเร็ว ความแข็งแรง ความทนทาน ซึง่ เป็ นส่วนยอดสุดของพีระมิด ดังนัน้ เราต้องมีพ้นื ฐาน ร่างกายทีแ่ ข็งแรงและทนทานให้ได้เสียก่อน อย่างไรก็ตามการซ้อม Base Training มีวตั ถุประสงค์หลัก 2 ประการคือ 1. เพือ่ สร้างฐานทีก่ ว้าง ให้กบั พีระมิดมีชนั้ ล่างสุด เพือ่ ทีจ่ ะสามารถสร้างพีระมิด ชัน้ อื่น ๆ ที่สู ง ขึ้น ไปได้ เปรีย บเป็ น การฝึ ก ซ้อ มคือ พื้น ฐานร่ า งกายต้อ งแข็ง แรง และทนทานพอทีจ่ ะสามารถรองรับการฝึ กซ้อมแบบอืน่ ๆ ได้ 2. เพือ่ พัฒนาประสิทธิภาพของร่างกายในการเพิม่ ระดับความสามารถ ซึง่ ก็คอื ความเร็วทีน่ กั ปัน่ หลายท่านปรารถนาทีจ่ ะได้มนั มา โดยทีก่ ารปัน่ ไม่เหนื่อยล ้า นี่คือประโยชน์ของการซ้อม Base Training ซึง่ เป็ นพื้นฐานทีส่ ำ� คัญมากๆ ส�ำหรับกีฬาทุกประเภท ดูเหมือนง่ายมากกับการซ้อมทีไ่ ม่ตอ้ งเหนื่อยมาก แต่ขา่ วร้าย ก็คอื Base Training เป็ นการซ้อมทีต่ อ้ งใช้เวลาและความอดทนสูง ไม่มสี ูตรส�ำเร็จ แบบเร่งด่วน ทีจ่ ะส�ำเร็จได้ภายใน 2 - 3 สัปดาห์ ต้องใช้เวลาอย่างต�ำ่ 6 - 8 สัปดาห์ และมีข่าวร้ายยิ่งกว่านัน้ เมือ่ ท่านหยุดซ้อมหรือขี้เกียจขึ้นมาทันใด พื้นฐานที่ท่าน สะสมมาจะพังครืนลงมาอย่างรวดเร็วภายใน 5 - 6 วันเท่านัน้ และการทีจ่ ะกลับมาสู่ จุดเดิมได้ ต้องใช้เวลามากกว่าทีท่ ่านหยุดไปหลายเท่ายิง่ นัก
ซ้อมระดับไหนเรียกว่า Base Training? หลักการง่ายๆ แบบทีไ่ ม่ตอ้ งใช้ เครื่องวัดอะไรเลย ก็คอื การปัน่ ในความเร็วทีย่ งั สามารถพูดคุยกับเพือ่ นได้ ไม่เหนื่อย ไม่หอบ ปัน่ ไปคุยไปเรื่อยๆ ประมาณ 3 - 4 ชัว่ โมงอย่างต�ำ่ ถ้าหากเร็วขึ้นแล ้วเริ่มหอบ ให้ลดความเร็วลงมา นัน่ คือความเร็วทีเ่ หมาะสม แต่ถา้ หากคุณเป็ นพวกสายทุนนิยม หรือสายตัวเลข วิธที ด่ี ที ส่ี ุดคือการวัดชีพจรโดย Heart Rate Monitor และการวัด พลังวัตต์ในการออกแรง โดย Power Meter โดยการซ้อมระดับการเต้นของหัวใจ ควรอยู่ในช่วงของ 60 - 70% ของระดับการเต้นของหัวใจสูงสุด หรือการออกแรง ควรอยู่ในระดับ 50 - 60% FTP (Functional Threshold Power) การซ้อมทีอ่ ยู่ ในช่ วงนี้จะเป็ นการฝึ กฝนให้ร่างกายใช้พลังงานจากไขมันเป็ นหลัก ซึ่งโดยปกติ ของการออกก�ำ ลัง กายทัว่ ไป จะเป็ น การออกก�ำ ลัง กายแบบแอโรบิค ที่ร่ า งกาย จะใช้พลังงานจากไกลโคเจนเป็ นหลัก แต่เนื่องจากไกลโคเจนเป็ นพลังงานที่สะสม ในมัดกลา้ มเนื้อ ซึง่ จะสามารถปลดปล่อยออกมาได้เพียงแค่ 30 - 90 นาทีเท่านัน้ ดังนัน้ เพื่อให้ร่างกายสามารถทนต่อการปัน่ แบบ Base Training ได้ยาวนานถึง 3 - 4 ชัว่ โมง นัก กีฬ าจัก รยานจึง จ�ำ เป็ น ต้อ งใช้ไ ขมัน เป็ น แหล่ง พลัง งานหลัก โดยการซ้อมทีอ่ ยู่ในโซน Base นัน่ เอง อ่านไปอ่านมาชักจะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ศัพท์เทคนิคเริ่มหยอดเข้ามาทีละนิด แล ้วคนปกติอย่างเราจะมีเวลาซ้อม 3 - 4 ชัว่ โมงเหรอ มีทางลัดอืน่ อีกมัย้ ? แล ้วอัตรา การเต้นหัวใจสูงสุดคืออะไร? แล ้วไหนจะ FTP (Functional Threshold Power) อีก อะไรกันนักกันหนา สุดท้ายแลว้ เราต้องการความเป็ นเลิศจากการออกก�ำลังกาย หรือต้องการให้ร่างกายแข็งแรงกันแน่ โอ๊ยงง! เอาเป็ นว่าอยากแรงให้คมุ ้ ค่าจักรยาน เพือ่ นจะได้ไม่ล ้อว่ารถแพงแต่แรงหน่อม! ฉบับหน้ามาท�ำความเข้าใจกับศัพท์เทคนิค เหล่านี้ แล ้วทุกอย่างจะง่ายขึ้นถ้าเริ่มต้นแบบถูกทาง 14
b14 side b side
Bike Special
CNX LOOPER
EP.NIGHT CRITERIUM
เรื่อง / ภาพ : CNX LOOPER TEAM
“เชียงใหม่น่าจะมีงานไครทีเรียมสนุกๆ บ้างเนอะ” ประโยคสั้นๆ ที่ผุดออกมากลางวงสนทนาในกลุ่มเพื่อนนักปั่น หลังออกไปปั่นร่วมกันในตอนเย็น นับเป็นจุดเริ่มต้นของงานแข่งจักรยานที่เชียร์มันที่สุดในเชียงใหม่ ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “นี่คือครั้งแรก เราต้องจัดงานแข่งจักรยานที่เชียร์มันที่สุด ต้องมีดีเจ เพลงต้องเร้า” ทีมผูจ้ ดั ที่ประกอบด้วยวิศวกร เจ้าของร้านตัดเสื้อกีฬา นายธนาคาร และเจ้าของดิจิตอลเอเจนซี ทุกคนรักการปัน่ เคยเข้าร่ วมงานแข่งจักรยาน หลายรายการ แต่ ไ ม่เ คยจัด งานแข่ง จัก รยานมาก่ อ น ตัด สิน ใจร่ ว มลงขัน ร่วมผลักดันงานครัง้ นี้ให้เกิดขึ้น “โค้ง หัก ศอกมัน อัน ตรายมาก เส้น ทางแข่ ง แบบนี้ ชนกัน แน่ น อน ผมไม่ลงแข่งเด็ดขาด” หลังจากตกลงกันว่าจะลุยกันสักตัง้ พวกเราก็พบกับกระแสตอบรับ ทีห่ ลากหลาย จากกลุม่ นักปัน่ เชียงใหม่ทเ่ี ราเข้าไปเสนอโครงการ ขอความร่วมมือ ประชาสัมพันธ์ และส่งนักแข่งเข้าร่วมแข่งขัน ซึง่ ทุกๆ ข้อเสนอแนะกลายเป็ น แรงกดดันให้เราต้องวางแผนให้รดั กุมขึ้น ทดสอบสนามแข่ง วางแผนป้ องกัน และเฝ้ าระวังอุบตั เิ หตุครัง้ แล ้วครัง้ เล่า ในเย็นวันเสาร์ท่ี 4 กุมภาพันธ์ CNX LOOPER กลายเป็ นงานแข่ง ไครทีเรียมงานแรกในเชียงใหม่ ทีจ่ ดั ขึ้น ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ด้วยจุดเด่น ของงานทีม่ สี นามแข่งขันเป็ นถนนเส้นหลักของอุทยานฯ มีระยะรวมไปกลับเพียง 1 กิโลเมตร มีจดุ กลับตัวเป็ นวงเวียนและโค้งหักศอก ท่ามกลางความสวยงาม ของแสงไฟถนนและแสงไฟประดับทิวทัศน์ของอุทยานฯ ในยามค�ำ่ คืน การแข่งขันแบ่งออกเป็ น 6 รุน่ ทัง้ ชายและหญิง แข่งขันกันตัง้ แต่ 5 - 20 รอบ แบบน็ อครอบปรับแพ้ ซึ่งเสียงตอบรับจากบรรดานักแข่งและผู ช้ มต่ างพูด เป็ นเสียงเดียวกันว่า ทุกคนอัดกันเต็มที่ ไม่ก ั ๊ก เป็ นงูกนิ หางทีก่ ลุม่ ผูน้ ำ� พยายาม
สปริ น ท์ ห นี ก ลุ่ ม ใหญ่ และ กลุ่มใหญ่ ก็เร่ งความเร็วหนีตาย จากการโดนน็ อ ครอบ ให้ผู ช้ ม ข้า งสนามได้ส่ ง เสี ย งโห่ ร ้อ ง เชียร์นกั ปัน่ ที่ปนั ่ ผ่านเวทีกนั แทบ ทุกๆ 2 นาที นอกจากนัน้ ยังมีบูธ ทั้ง สิ น ค้า ที่ เ กี่ ย วกั บ จัก รยาน บูธอาหารหลากเมนู ให้ทงั้ นักปัน่ และผูช้ มได้เดินชม ชิม ช็อป แชะ กันถ้วนหน้า งานนี้ ต้อ งขอขอบคุ ณ สปอนเซอร์ทกุ ท่านทีใ่ ห้โอกาส ให้เราได้จดั กิจกรรมทีแ่ ม้แต่พวกเราเองก็ยงั ไม่เชือ่ ว่าจะจัดงานทีส่ นุ กได้ขนาดนี้ ขอบคุณอุทยานหลวงราชพฤกษ์ทอ่ี นุ ญาตให้เรา ใช้สถานทีจ่ ดั งาน ขอบคุณ 100PLUS เซ็นทรัลเฟสติวลั เชียงใหม่ สปอนเซอร์ หลักของเรา และผูส้ นับสนุ นอื่นๆ ที่เมตตาสนับสนุ นทัง้ เงินทุน ร่วมออกบูธ กิจกรรม หรือสนับสนุ นของรางวัลส�ำหรับแจกในงาน ขอบคุณนักแข่งทุกรุ่น ผูช้ มทุกท่านทีม่ าร่วมสนุกกัน และท�ำให้งานนี้ประสบความส�ำเร็จไปได้ดว้ ยดี พบกันใหม่โอกาสหน้า 15
b side
Run
TRIATHLON 1st TIME ก้าวแรก สู่ไตรกีฬา เรื่อง / ภาพ : อาเหลียง
คุณเชื่อในพลังของตัวเองมั้ย? คุณเคยบอกตัวเองว่าท�ำไม่ได้รึเปล่า? คุณเคยสู้กับตัวเองมั้ย? แล้วคุณชนะมันบ้างมั้ย?
ผมเปิ ดหน้าเฟซบุ๊คของตัวเองขึ้นมา เห็นหน้าตาของพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ หลายท่าน ต่างมีความสุขกับความส�ำเร็จของตัวเองทีไ่ ด้รบั หลังจากเอาชนะตัวเองได้ บ้างก็โพสต์รูปตัวเองระหว่างแข่งขัน ไม่กร็ ูปชูเหรียญทีร่ ะลึกในการ พลันให้ผมนึกถึง การแข่งขันไตรกีฬารายการนี้ทบ่ี างแสน เมือ่ ปี ทแ่ี ลว้ ซึง่ เป็ นไตรกีฬาครัง้ แรกทีผ่ ม ได้ลงแข่งขัน จากคนธรรมดาคนหนึ่งทีไ่ ม่เคยคิดจะออกก�ำลังกาย ปล่อยปละละเลย การดูแลตัวเอง ให้นำ�้ หนักทะยานทะลุไปเกือบชนเลข 3 หลัก กับการเปลีย่ นแปลง ตัวเองด้วยการหันมาวิง่ จนมาถึงจุด ๆ นี้ได้ ผมจ�ำได้ว่าเริม่ ลงแข่งวิง่ ครัง้ แรกในรายการเศรษฐศาสตร์ มินมิ าราธอน ของ มช. หลัง จากอิ่ ม เอมกับ บรรยากาศการวิ่ง ที่ ส นุ ก ครั้ง นั้น นอกจากจะเริ่ ม หัด วิ่ง อย่างเป็ นทางการแล ้ว ผมก็ยงั มีเป้ าหมายเล็กๆ ลึกๆ ในใจ คือการลงเล่นไตรกีฬา สักครัง้ ด้วยเป้ าหมายสุดเฉิ่ม แบบว่า แก่มาจะได้อวดลูกได้วา ่ พ่อเคยเล่นไตรกีฬา มาแล ้วนะเออ...แค่นนั้ เองจริงๆ แต่มนั เหมือนเป็ นระเบิดเวลาในใจ ผ่านมินมิ าราธอน ฮาล์ฟมาราธอน หรือแม้กระทังฟู ่ ลมาราธอน ครัง้ แล ้วครัง้ เล่า ระเบิดเวลาลูกนี้กย็ งั เดินนับวันเวลาไปเรื่อยๆ รอวันทีจ่ ะระเบิดออกมา และสุดท้าย ระเบิดเวลาลูกนี้ ก็เปลีย่ นจากเดินหน้าเป็ นถอยหลังทันทีเมื่อผมคลิกเมาส์ลงไป สมัครงาน Thailand Tri-League : Bangsaen Triathlon 2016 นี่ตรูทำ� อะไรลงไป... เชื่อมัย้ ว่าตอนทีส่ มัคร ผมว่ายน�ำ้ รอบเดียวยังหอบอยู่เลย (เอาง่ายๆ ว่ายน�ำ้ ไม่แข็งเลย) แต่น่เี ป็ นเหมือนแรงกระตุน้ ทีท่ ำ� ให้เราก้าวออกมาจาก Comfort Zone จากคนทีไ่ ม่ชอบน�ำ้ ต้องหันมาลงน�ำ้ ทันที สัปดาห์ละ 2-3 ครัง้ เพือ่ ให้เราว่ายไปถึง 1.5 กิโลเมตร ทีไ่ ม่เคยไปถึงให้ได้ ระหว่างนี้กย็ งั มีอเี วนต์ต่าง ๆ ให้ไปออกเช่นเคย ไม่ว่าจะไปปัน่ ทีน่ ครสวรรค์ หรือกระทัง่ เป็ นคนจัดงาน CMU Marathon ก็ตาม ตรงนี้ยอมรับเลยว่าสูบพลังชีวติ ตัวเองไปมาก ถึงผลตอบแทนทีไ่ ม่ได้รบั เป็ นตัวเงินนัน้ มัน ดีต่ อ ใจซะเหลือ เกิ น แต่ ม นั ก็ ห มิ่น เหม่ ม าก เพราะหลัง จากจัด งานรอบนี้ ผมเหลือเวลาอีกไม่ถงึ 7 วัน สนามไตรแรกของผมก็จะมาถึงแล ้ว
DID YOU KNOW?
16
b side
ศัพท์ค�ำว่า ‘ดูด’ ในวงการจักรยานคือ การปั่นต่อหลัง คนข้างหน้า เพื่อลดการปะทะของแรงลมที่จะต้องปั่นสู้ ท�ำให้ปั่นได้สบายกว่าคนข้างหน้า แต่มันคือการเอาเปรียบ คนข้างหน้า เพราะคนข้างหน้าจะเหนือ่ ยกว่า และหมดแรงก่อน ไปในที่สุด กติกา Non - Drafting จึงมีไว้เพื่อให้เกิด ความยุติธรรมในการแข่งขันประเภทนี้
วันก่อนการแข่งขัน เครือ่ งลงจากสุวรรณภูมิ รอจักรยานมาส่งทีห่ ้องขนสัมภาระเกินขนาด เริม่ เอะใจ ตัง้ แต่ของมาช้าผิดปกติแล ้ว พอแกะห่อมาตรวจสอบดีๆ ปรากฏว่าหลักอานเป็ นรอย!!! โคตรเศร้า เป็ นจุดเดียวทีไ่ ม่ได้พนั บับเบิลไว้ แต่มรี ่องรอยว่าโดนวัตถุจากภายนอกถุง กระท�ำ สังเกตได้จากถุงด้านนอกมีรอย... ซึง่ มารูท้ หี ลังว่าเขาโยนกระเป๋ าเราโครมๆ ไปเลย แต่ทำ� อะไรไม่ได้ ต้องรีบไปแล ้ว เพราะพีท่ เ่ี ขาจะพาไปทีบ่ างแสนเขามารออยู่ เราไปถึงบางแสนกันประมาณบ่ายสามโมง เมือ่ ไปถึงก็เข้าไปเช็คอินเลย น้องๆ ทีบ่ ริการ การแจกอุปกรณ์ต่าง ๆ ท�ำงานได้อย่างดี พูดภาษาอังกฤษกันคล่องดี เผลอแป๊ ปเดียว ก็ได้ Race Kit แล ้ว Race Kit จะประกอบด้วย 1. BIB (เบอร์น กั กี ฬ า) พร้อ มชิพ รัด ข้อ เท้า ที่จ ะต้อ งใช้ไ ปตลอดการแข่ ง ขัน (BIB ไม่ตอ้ งเอาลงน�ำ้ นะ มาใส่ตอนก่อนจะขึ้นจักรยาน) 2. Tattoo เลขเบอร์ 2 ชุด เอาไว้ติดไหล่ให้เห็นชัด และริสแบนด์สแี ดง เอาไว้ ใส่ขอ้ มือเวลาเข้าออก Transition Zone (ถ้าไม่มเี ขาไม่ให้เข้า) 3. สติก๊ เกอร์ เอาไว้แปะรถกับแปะกระเป๋ าเรา 4. เสื้อแจกประจ�ำงานพร้อมถุงสะพาย 5. เครื่องดืม่ ให้พลังงาน 6. หมวกว่ายน�ำ้ ให้ตามอายุเรา ยกเว้นแต่วา่ ถ้าจะขอเป็ นมือใหม่ ให้ใส่สขี าว 7. แม็กกาซีนอีก 2 เล่ม
วันแข่งขัน วันที่ระเบิดลูกนั้นนับถอยหลังเป็น 0 ความเครียดเข้ามาแทนทีค่ วามรูส้ กึ ตื่นเต้น นาฬกิ าปลุกตอน 4:30 กว่าจะลุกขึ้นมาได้ก็เกือบตี 5 เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ลงเป้ ให้หมด แลว้ เอาไปไว้ ณ จุด Transition จากนัน้ ก็เตรียมตัว ถอดรองเท้า ใส่หมวกว่ายน�ำ้ แล ้วก็เดินไปทีท่ ะเล... สารภาพตามตรง ครัง้ สุดท้ายทีล่ งไปเล่นน�ำ้ ทะเล คือเมือ่ ไหร่กไ็ ม่รู ้ จ�ำไม่ได้แล ้ว มันนานมากจริงๆ กลัวมากถึงมากทีส่ ุด และทีส่ ำ� คัญ ไม่เคยว่ายออกห่างจากสระเกิน 10 เมตรเลย ครัง้ นี้เราจะต้องว่ายออกไปไกลมากๆ แถมไม่มพี ้ นื สระให้แตะอีกต่างหาก เมือ่ ความเครียดเริ่มถาโถม เราก็ตอ้ งหาอะไร ทีท่ ำ� ให้ผ่อนคลาย เริ่มจากการไปเดินริมชายหาด เหยียบผืนทราย และสูดหายใจ เข้าลึกๆ ดีทเ่ี จอน้องบิก๊ รุ่นน้องคณะ ทีม่ าเล่นไตรครัง้ แรกเหมือนกัน ก็มาคุยกัน ท�ำให้ หายเครียดไปบ้าง ผมกับบิก๊ ลองลงไปว่ายน�ำ้ ทะเลดู ก่อนนิดนึงตอนฟ้ ายังไม่สาง ตามประสาเด็กดอยไม่เคยว่ายน�ำ้ ทะเล ปรากฏว่ามันลอยมากครับ ว่ายง่ายมาก ถีบเบาๆ ก็ไป ทีแรกนึกว่าว่ายทวนน�ำ้ จะต้องใช้แรงมาก มันท�ำให้ผมมีหวังขึ้นมาบ้าง ส�ำหรับสนามนี้ จะเป็ น Open Water Swimming Course คือเป็ นการ ว่ายน�ำ้ แบบสระเปิ ด พูดง่ายๆ คือ ทะเล แม่นำ�้ นี่แหละ มีคลืน่ มีแมลง ฯลฯ ต้องสู ้ กับธรรมชาติเพิม่ เติมด้วย และถูกตีกรอบเส้นทางด้วยทุ่นลอยน�ำ้ พร้อมเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยค่ อนข้างมาก สักพักก็เริ่มมีนกั กีฬาใส่หมวกสีเงิน นัน่ คือ พวก PRO เป็ นตัวเต็งประจ�ำงาน กลุ่ม นี้ จะได้รบั สิทธิ์ท่ีจะออกตัวกันไปก่ อน ไม่ ต อ้ งรอเวฟปกติค รับ ซึ่ง พอ 6:30 ปุ๊ ป กลุ่ม นี้ ก็ ก ระโจนลงน�ำ้ ไปเลยครับ และแน่นอนว่าไวอย่างปลาเลย ไม่ใช่ปลาธรรมดานะ ปลาฉลามชัด ๆ สักพัก กรรมการก็เตรียมตัวปล่อยชุดต่ อไป หรือว่า Wave 1 นัน่ เอง และ Wave 2 ต่ อกันไปเลย ส่วนตัวผมเลือกที่จะไปกับ Wave 3 เนื่องจาก ไม่มคี วามเร็ว และกลัวจะโดนปลาตีน (ตีนคนข้างหน้า) ปลาตบ (มือคนข้างๆ) ปลากด (โดนกดลงน�ำ้ โดยไม่ได้ตงั้ ใจ) ส่วนทีไ่ ม่ยอมสวมหมวกขาวนี่ อีโก้ล ้วน ๆ ครับ สักพักพลุก็ยงิ ออกมาเป็ นสัญญาณปล่อยตัวให้แก่นกั ไตรทุกท่าน หลังจากนัน้ คนก็ กรูกนั ลงน�ำ้ แล ้วก็วา่ ยๆ ไปแบบตูมๆ เราเห็นก็เริ่มใจสัน่ หลังจาก Wave 2 ออกตัว ไปสักพักก็ถงึ คิวผม พอพิธกี รเริม่ นับถอยหลัง ผมก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ 5 4 3 2 1 Go! ระเบิดเวลาท�ำงานแล ้ว... ขาทัง้ สองข้างผมเริม่ วิง่ ออกไปข้างหน้า ค่อยๆ กระโจน ลงน�ำ้ ลงไป น�ำ้ เริ่มลึกลงไปเรื่อย ๆ จากข้อเท้า เข่า เอว และในทีส่ ุด ผมก็ตอ้ งถีบตัว ออกไปว่ายน�ำ้ เต็มตัว... ขาผมสะบัด มือและแขนผมพายตัวเองออกไป น�ำ้ สีเขียวขุน่ ข้างหน้าท�ำให้ทัศนวิสยั ดูไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แต่ด ้วยความเป็ นน�ำ้ ทะเลท�ำให้ผมตัวเบา ทรงตัวได้งา่ ยขึ้น คลืน่ ทะเล ไม่ได้ทำ� ให้ผมล�ำบากขึ้นเท่าไหร่ แต่ทน่ี ่าล�ำบากกว่านัน้ คือเท้าคนข้างหน้าและมือคนข้างหลัง อย่างว่าปลาตีนและปลาตบ อันนี้น่ากลัวจริงๆ ครับ เวลาข้างหลังหรือข้างๆเขามาแตะโดนเราเนี่ย เราจะเกิดอาการ Panic แล ้วเราจะลืม ท่าของเราหมดเลยว่าจะต้องว่ายยังไงต่ อ เหมือนช็อตน่ ะครับ สุดท้ายความเร็ว ก็จะเสียไป เพราะต้องมาตัง้ ต้นใหม่ ร้ายทีส่ ุดเลยคือตกใจจนส�ำลักน�ำ้ เลยครับ
นับว่าเป็ นของแจกทีเ่ ยอะมาก ขาดอย่างเดียวทีจ่ ำ� เป็ น คือเข็มขัดใส่ BIB ครับ ดีนะทีเ่ ขาแจ้งก่อน ผมเลยไปเตรียมมาไว้ เสร็จแลว้ ก็ไปเตรียมรถจักรยานเอาไปจอดไว้ท่ี Transition Zone มันคือ จุดที่เราจะต้องมาท�ำการเปลีย่ นองค์ทรงเครื่องทัง้ หมด ก่อนที่จะเปลีย่ นชนิดกีฬา ทีเ่ ราจะเล่น เช่นต้องมาเอาจักรยานทีจ่ ดุ นี้ มาเปลีย่ นรองเท้าวิง่ ทีจ่ ดุ นี้ มากินอาหาร ที่เตรียมไว้ท่จี ุดนี้เป็ นต้นครับ เป็ นจุดที่มคี วามปลอดภัยสู งมาก เพราะมียามเฝ้ า ตลอดเวลา ปลอดภัยหายห่วงจากคนภายนอกครับ หลังจากนัน้ ผมก็แวะเวียนเข้ามาในงาน ซื้อของบ้างอะไรบ้าง ในงานมี Expo หลายอย่าง รวมไปถึงจุดเช็คจักรยานฟรีด ้วย อันนี้ชอบมากกก หลังจากเช็คอุปกรณ์แล ้ว ผมก็ไปนัง่ ฟังบรีฟกฎกติกาทัง้ หลาย เนื่องจากเป็ นการมางานไตรครัง้ แรก เลยท�ำให้เรา ต้องท�ำความเข้าใจกับการแข่งขันชนิดใหม่น้ เี สียก่อน ทางทีม งานได้บ รีฟ กฎต่ า งๆ เยอะมาก ละเอีย ดดี หน�ำ ซ�ำ้ ยัง มีเ วอร์ช นั ่ ภาษาอังกฤษส�ำหรับชาวต่างชาติดว้ ย ถือว่าดีมากๆ ครับงานนี้ รายละเอียดต่างๆ ก็ อ ย่ า งเช่ น หมวกว่ า ยน�ำ้ แต่ ล ะสีคื อ อะไร มีใ ครคอยช่ ว ยเหลือ บ้า ง จัก รยาน ห้ามดูด (Non - Drafting) กันนะ วิง่ คัทออฟเมือ่ ไหร่ และทีช่ อบคือ ทางทีมงานใส่ใจ รายละเอียดมาก เช่นบอกว่า ทิศทางลมเป็ นอย่างไร ขาไปจะปัน่ ต้านลมนะ ขากลับ จะมีลมส่งนะ ทะเลคลืน่ เป็ นยังไง วิ่งยังไงไม่ให้ลงิ มากวน (เขาสามมุกมีลงิ เยอะ ต้องระวังนิดหน่อย) หลังจากบรีฟเสร็จ ก็ออกมาหาอะไรทาน แล ้วก็เตรียมตัวพักผ่อน ส�ำหรับศึกวันพรุ่งนี้ 17
b side
ไม่เกี่ยวกับไตร พวกไตรจะเข้าเส้นชัยตรงกลางครับ (มีซุม้ เส้นชัย 2 ซุม้ ) แล ้วผมก็ผ่านด่านปัน่ 42 กิโลเมตร เวลา 1.22 ชัว่ โมง (AV 29.9) กลับไปที่ จุดพักจักรยาน คราวนี้จกั รยานเพียบเลยครับ 555+ แต่อย่าได้แคร์ สุดท้ายเราต้อง ไปวิ่งต่อ ตรงจุดนี้เป็ นจุดที่ผมถนัดที่สุด (แอ่นแระ) ก็ไปเปลีย่ นองค์ทรงเครื่อง ให้เรียบร้อย ถอดหมวกออก เปลีย่ นรองเท้าเป็ นรองเท้าวิง่ คู่ใจ รูส้ กึ ว่ามีอาการโหย นิดหน่อยเลยหยิบ Energy Bar มารับประทาน (ไม่กล ้ากินเจล กลัวปวดท้องเหมือน ไปแข่งกรุงเทพมาราธอน) แต่กลัวไม่ทนั เลยวิง่ ไปกินไปแม่มเลย ขนมเต็มปาก เป็ นการ เริม่ พาร์ทวิง่ แบบตลกๆ ครับ วิง่ ไป กินไป ตลอดกิโลแรก ด้วย Pace 6.30 คือไม่รบี ไง มาถึงจุดให้น�ำ้ แรก กินขนมหมดพอดี ท้องเริ่มหายหิว หายโหย กินน�ำ้ กินท่ า ให้เรียบร้อย แล ้วก็เตรียมตัววิง่ Negative Split ได้เลย ช่วงแรกจะเป็ นการวิง่ ย้อนกลับมาตรงทางเดินตลาดหาดบางแสน รอบทางนี่ มีพ่อค้าแม่คา้ ย่างหมูย่างไก่ ย่างปลาหมึกกันตลอดทาง บอกตามตรงตบะจะแตก อยากจะเหมายกตู ้ แต่โชคไม่ดไี ม่ได้พกเงินมาด้วย ไม่งนั้ พ่อค้าแม่คา้ รวยไปแลว้ วิง่ จนมาถึงวงเวียนบางแสน แล ้วค่อยวกกลับออกมาอีกที วิง่ เส้นเดิมแต่ยาวไปเรื่อยๆ จนถึงเขาสามมุกครับ ระหว่างทางผมเจอนักกีฬาทัง้ หลายเริม่ เดินบ้าง พักบ้าง สบโอกาส
ผมว่ายทวนน�ำ้ มาด้วยท่าฟรีสไตล์ผสมกบ เพราะว่าต้องแบ่งจังหวะบางจังหวะ เพือ่ ดูว่าเราอยู่ตรงไหนแลว้ โดยเฉพาะช่วงแรกที่ว่ายตรงโต้คลืน่ มาเรื่อยๆ จนถึง จุดหักฉากจุดแรก คนก็เริ่มเบาบางลง (เพราะแซงเราไปหมดละมัง้ ) คลืน่ ทะเลมันส่ง ท�ำให้ไปได้เร็วอีกหน่อย แต่กลับกัน พอกลับมาเป็ นแนวตรงยาว 350 เมตร คลืน่ ต้านเรา ท�ำให้ชา้ ไปอีกหน่อย เป็ นแบบนี้ไปตลอดทาง ผมวนครบ 750 เมตรแรก (ลูปเส้นด�ำ) เสร็จแลว้ จะเป็ นการขึ้นหาดเพือ่ ไปสแกนชิพเวลา แลว้ ลงน�ำ้ ไปอีกรอบครับ ทีน้ ีเป็ น ว่ายโต้คลืน่ ซะส่วนใหญ่เลย บางช่วงผมก็ฟรีสไตล์เพือ่ เร่งเวลาไปเต็มที่ แต่เนื่องจาก ไม่มปี ระสบการณ์วา่ ยน�ำ้ Open Water เลย ท�ำให้บางทีหลงทิศครับ ช่วงทีอ่ บั อายทีส่ ดุ คือว่ายตัดฉากชนทุน่ ครับ คือว่ายผิดทิศสุดๆ อยู่ดๆี หักฉาก 90 องศา ชนทุน่ ดังโครม ทีอ่ ายกว่านัน้ คือ มีนาวิกโยธินทีด่ แู ลความปลอดภัยแกยืนข�ำอยูข่ ้างบนด้วย อายสุดๆ ช่ วงสุดท้ายที่สปรินท์ฟรีสไตล์เข้าเส้นชัย เผลอกลืนน�ำ้ ทะเลลงไปอึกหนึ่ง เค็มฝุดๆ แสบไปถึงกระเพาะเลย... ช่วงสุดท้ายทีเ่ ห็นชายหาดอยูล่ บิ ๆ ผมไม่คดิ อะไรแล ้ว นอกจากคิดถึงจักรยานทีอ่ ยูใ่ น Transition Zone เท่านัน้ ชายหาดเข้ามาใกล ้ผมเรือ่ ยๆ และรู ส้ ึกดีใจที่สุดคือตอนขาผมแตะพื้นทรายได้ พร้อมกับพิธีกรประกาศ เอ้า หมวกแดงขึ้นมาแล ้ววว!!! เฮสิครับ แต่เฮในใจนะครับ เพราะยังเหลืออีก 2 รายการ ให้จดั การต่อ เฮอีกอย่างคือ กูยงั ไม่ใช่ทโ่ี หล่เฟร้ยยยยย!!! ระหว่างวิง่ ขึ้นจากทะเลก็จะมีนำ�้ ล ้างตัวเป็ นสเปรย์เบาๆ แต่กไ็ ม่ค่อยมีเวลา ล ้าง ตัวมากหรอก วิง่ ผ่านๆ กันทัง้ นัน้ พอขึ้นบกก็ตอ้ งรีบไปเอาจักรยานต่อ ระหว่างทาง ทีมจัดการแข่งขันท�ำดีมาก โดยที่จะมีพรมยาวตลอดทาง ท�ำให้ว่งิ ได้สะดวกมาก จนไปถึงจุดเก็บจักรยานโน่ นเลย หลายร้อยเมตร แอบประทับใจเบาๆ ผมวิง่ เข้า Transition Zone ไป พบสิง่ ทีน่ ่าตกใจครับ! จักรยานเหลือน้อยมาก นี่แสดงว่า ผมว่ายน�ำ้ ช้ามาก ไม่ได้ภาคภูมใิ จนะ อับอายครับ (ฮา) ถ้าพ้นน�้ำแล้ว เวทีนี้เป็นของเรา... ภายในจุด Transition ผมไม่รอช้า ไปถึงจักรยานตัวเอง แกะกระเป๋ า เช็ดหน้า เช็ดขานิดหน่อย ใส่ถงุ เท้า รองเท้าคลีท ใส่หมวก ใส่แว่น พกสเปรย์ตดิ หลังไปเผือ่ ตะคริว กับเยลลีพ่ ลังงาน หยิบไปอมเม็ดหนึ่ง แล ้วก็พงุ่ ตัวออกจากจุด Transition เลย พอพ้นซุม้ ผมก็เริ่มควบจักรยานเสือหมอบคู่ใจทันที เริ่มแรกเราจะออกจาก หน้าบางแสนเฮอริเทจ แล ้ววนเข้าถนนข้าวหลาม ทางทีมงานจะปิ ดถนน 60% คือเหลือ เลนเดียวให้รถสัญจร ต�ำรวจท�ำงานกันดีมาก ไม่ปล่อยให้เรารูส้ กึ อันตรายกันเลยครับ แถมที่ส ำ� คัญ วัน นี้ อ ากาศไม่ร อ้ นด้ว ยครับ ท�ำ ให้ป นั ่ สบายหน่ อ ย ช่ ว งขาออก ถนนข้าวหลามจนถึงจุดกลับตัว 1 เนี่ย จะมีลมต้านตลอดทาง ผมพยายามเร่งแล ้ว แต่ ก็ได้ดีท่สี ุดประมาณ 26 - 29 กม./ชม. พอถึงจุดกลับตัว มีจุดให้นำ�้ อันนี้ ผมเซอร์ไพรส์มาก เพราะเขาแจกเป็ นกระติกเลย กระติกสวยด้วย (ส�ำคัญมาก) ผมไม่ได้ลดความเร็วมากเท่าไหร่ พยายามจะหยิบกระติกแล ้ว เมือ่ มือสัมผัสกระติกนัน้ ! Hi Five!!! ตบกระติกกระเด็นครับ!!! เสียดายมากกก กระติกใสด้วย สวยอ่าาา (เสียดายแล ้วก็ปนั ่ ต่อไป) กระติกนี่เขาแจกฟรีเลยครับ ใครจะเอากลับไปก็เอาไปได้เลย ซึ่งบอกได้เลยว่าพลาด มีคนเคยบอกว่า ระวังรอบสองกลับมาแลว้ ของหมดนะ เราก็ทำ� ใจไว้ละว่าคงหมดหวังแน่ แต่ขากลับรอบแรกครับ มีลมส่ง! ท�ำให้ผมเร่งความเร็วไปอยูท่ ่ี 35 - 36 กม./ชม. ได้แบบเหลือเชือ่ ปัน่ มันมากกกกก ไหลไปเรือ่ ยๆ ไล่เก็บพวก Duathlon ไปเยอะเลยครับ แต่กไ็ ม่ค่อยเห็นรุ่น Triathlon มากเท่าไหร่ ไล่เก็บแถมเหลือบมองคนข้างหลังด้วย ง๊อวววว (มีความโปร ก่อนจะโดนเค้าเก็บอีกที) ตอนวนรอบสองเหมือนหนังฉายซ�ำ้ เร่งเร็วไม่คอ่ ยขึ้น แถมลมซัดแรงกว่าเดิมอีก สปีดตกไปเหลือ 25 - 28 แต่กย็ งั ไปได้เรือ่ ยๆ พอกลับไปถึงจุดกลับตัวครัง้ สุดท้าย ทีน้ รี ูแ้ กวละครับ เบรคเลยไหลจักรยานไปช้าๆ ไปรับกระติกน�ำ้ แบบงามๆ รอบนี้ได้สีขาว เก็บไว้ทีห่ ลัง แล ้วก็เร่งออกไปเลย ได้กระติกน�ำ้ กลับบ้านแบบเก๋ๆ ขากลับเหมือนจะหมดแรงแล ้วครับ ไม่ได้กนิ เจลอะไรเลย สปี ดเหลือ 34 - 35 แต่กพ็ ยายามท�ำหน้าทีต่ วั เองไปเรื่อยๆ แอบอับอายตอนปัน่ ชนกรวยจราจร คือมองแต่มองถนนจนลืมดูกรวย ดีนะไม่คว�ำ่ จะอายกว่าเดิมอีก สุดท้ายผมก็สามารถแซงรุ่น Triathlon ได้คนนึงครับ ดีใจวุย้ อย่างน้อยล�ำดับ ก็ข้นึ มาหน่อยละ มาถึงโค้งสุดท้ายมีนอ้ งๆ บริการบอกให้เข้าเลนทีถ่ กู ต้อง พร้อมกับ มีเ จ้า หน้า ที่แ จ้ง บอกเป็ น ระยะๆ จนเราเลี้ย วเข้า มาเห็น คนเริ่ม วิ่ง เข้า เส้น ชัย กัน บอกเลยว่าใจหายแว้บๆ นี่เราเพิ่งจะปัน่ เสร็จ แต่มคี นเข้าเส้นละหรอ... มารู อ้ กี ที คือพวกนัน้ เป็ นพวก Duathlon กับ Team ครับ เขาจะเข้าเส้นชัยอีกเส้นนึง
ของเราแล ว้ ล่ ะ โดนแซงเยอะตอนว่ า ยตอนปัน่ ใช่ ม ยั้ เลยวิ่ง กดไปเรื่ อ ยๆ เพซไม่เร็วมาก แต่ค่อยๆ เร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามล�ำดับ แซงไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง ก็มบี า้ งทีผ่ มแซงไป แล ้วเขาก็วง่ิ ไล่ตาม ปรากฏว่าเขาหมดแรงครับ หยุดเดินไปเลย ก็มี ส่วนผมคิดว่าตอนนี้เป็ นเวทีเล็กๆ ของตัวเองละกันครับ ถนัดด้านนี้ อันดับ ต้องเอาขึ้นมาให้ได้ ทดแทนตอนว่ายน�ำ้ กับปัน่ ครับ ตอนขึ้น เขาสามมุก มัน เป็ น ทางชัน ขึ้น ท�ำ ให้ค วามเร็ ว ผมตกลง แต่ ก็ ยังไปได้เรื่อยๆ คงเพซต�ำ่ สุดคือ 6 ไว้ (ไม่กล ้ากดลงต�ำ่ กว่านี้ เพราะยังไม่รูว้ า่ จะเจอ อะไรอีก กลัวแรงหมด เพราะเป็ นไตรแรก) แลว้ ก็ว่งิ ต่อไปจนถึงเนินที่สูงที่สุด ในสนามแข่งขัน ซึง่ มีนำ�้ กับฟองน�ำ้ ให้ ผมก็เอามาเช็ดตัวซะหน่อย เนื่องจากเริ่ม มีแต่เกลือออกแทนเหงือ่ แลว้ ทีต่ ลกคือ คนทีต่ ามผมมาทุกคนก็หยุดเหมือนกัน หมดเลย เหมือนว่าหมดแรงทันที เมือ่ พร้อมแล ้วก็ลยุ ต่อครับ! หลังจากจุดให้น�ำ้ ตรงนี้ครับ เป็ นไฮไลท์ของงานเลย เจอเจ้าภาพครับ เยอะแยะเลย! ลิงครับ!!! ลิงเต็มไปหมดเลย เขาสามมุกขึ้นชื่ออยู่แลว้ ว่าลิงเยอะ แต่ไม่คดิ ว่าจะมากขนาดนี้ ตามถนน ตามขอบทาง เป็ นร้อยอะ!! ตอนนัน้ ผมหยิบขนม ขึ้นมากินด้วย เหมือนลิงจะเห็น บางตัวก็เลยตามมา เลยต้องรีบเก็บไว้ก่อน เดี๋ย วจะมี ด ราม่ า แย่ ง ขนมกับ ลิง หลัง จากทางนั้น ก็ เ ป็ นทางลงหมดครับ เริ่มเร่งความเร็วได้เรื่อยๆ จนช่วงสองกิโลสุดท้าย ลิง เอ้ย เรา ก็สามารถกด เพซ 5 ต้นๆ ได้ละ ตอนกิโลสุดท้ายนี่คือไฮไลท์เลยครับ คือเป็ นทางตรงยาว เห็นเส้นชัยอยู่ลบิ ๆ ผมนี่กดสุดตัวเลยครับ เพซลงไปอยู่ 4.30 พยายามวิง่ แซง ให้ได้มากทีส่ ุดเท่าทีจ่ ะท�ำได้ จนเส้นชัยเข้าใกล ้มาเรื่อยๆ จุดให้นำ�้ มีกไ็ ม่กนิ แรงมัน ยังเหลืออยู่ ก็กดลงไปๆ จนสุดท้าย ซุม้ สีดำ� มันก็เคลือ่ นตัวผ่านตัวเราไป พร้อมกับ การสัมผัสผ้าแถบ Finisher ครัง้ แรกในชีวติ พร้อมกับพิธกี รประกาศว่า 18
b side
เตรียมตัวไปไตร ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง? ว่ายน�้ำ
ชุดว่ายน�้ำ อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะครับ ว่าจะเอาเป็น Tri suit (Tri Suit คือ ชุดที่ เป็นชุดส�ำหรับเล่นไตรกีฬาโดยเฉพาะ จะแบ่งเป็นส่วนทีเ่ ป็น TOP และ Bottom เป็นผ้าค่อนข้างรัด และส่วนล่างจะมีเป้าเจลให้ส�ำหรับปั่นได้เลย สามารถ ใส่ชุดนี้ ว่าย ปั่น วิ่ง ได้เลย ปัจจุบัน มีหลายยี่ห้อมาก เช่น Orca, Zoot ฯลฯ) หรือเป็นชุดว่ายน�ำ้ ธรรมดาก็ได้ แต่ผมจะแนะน�ำเป็น Tri Suit มากกว่า นะครับ เพราะว่าเราจะประหยัดเวลาตอนอยู่ Transition ได้เยอะเลย คือมาถึง เช็ดตัว ใส่รองเท้า ใส่หมวก แล้วไปปั่นได้เลย แว่นตาว่ายน�้ำ พยายามเคลือบยากันฝ้าขึน้ ด้วยนะครับ ถ้าฝ้าขึน้ ตอนว่ายแล้วมันจะดูไม่จดื เลย เพราะเราจะไม่รู้ว่า เราจะต้องอยู่ในน�้ำนานขนาดไหน หมวกว่ายน�้ำ ปกติทุกงานจะมีแจกให้นะครับ ที่ส�ำคัญแจกเป็นสีๆ ด้วย เพื่อแบ่งคนที่เก่ง ตามอายุ และคนที่ต้องได้รับการช่วยเหลือพิเศษครับ เวลาออกรอบ จะออกไม่ พ ร้ อ มกั น ครั บ เพื่ อ ให้ ไ ม่ เ กิ ด การจราจรทางน�้ ำ ที่ แ ออั ด และลดการเกิดอุบัติเหตุทางน�้ำ
ปั่นจักรยาน
“T178 You’re FINISHER!!!” มันรูส้ กึ เท่มากอะ! มีนอ้ งคลอ้ งเหรียญให้พร้อมกับแถมตุก๊ ตาลิงตัวน้อยให้อีก 1 ตัว เหรียญใหญ่ท่สี ุด เท่าทีเ่ คยได้มา พร้อมกับสายสีเรกเก้สมกับธีมงาน เขียว-เหลือง-แดง มีความเข้ากันไปซะทุกอย่าง หลัง จากเข้า เส้น ชัย ไปก็ มีป าร์ต้ ีเ ลี้ย งนัก กีฬ าด้ว ย อยากบอกว่า ฟิ น ทุก อย่ า งเลย ตัง้ แต่ มี สระแช่นำ�้ เย็น มีมาม่าผัด มีโค้ก มีเกลือแร่ มีขา้ วแกง มีขา้ วหลามหนองมน มีขา้ วต้มมัดใส่ห่อ มีมะพร้าวเป็ นลูกพร้อมเสิรฟ์ กินมันหมดทุกอย่างครับ!!!! ที่ออกก�ำลังไปเมือ่ เช้านี่ แทบจะ ทดแทนคืนกันได้หมดเลยจริงๆ เป็ นการเสพบรรยากาศการจบการแข่งแบบฟิ นสุดๆ เจอพีๆ่ หลายคนมาแสดงความยินดี ทีส่ ามารถจบไตรแรกได้ ทัง้ ๆ ทีไ่ ม่คดิ ว่าจะจบได้มาก่อนในชีวติ อย่างน้อยก็สามารถเอาไปอวด ลูกๆ หลานๆ ได้แล ้วว่า อย่างน้อยฉันก็เคยจบไตรกีฬามานะเห้ยยยย แต่ทส่ี ำ� คัญเหนือสิง่ อืน่ ใด ผมรู ส้ ึกขอบคุณทุกๆ ก�ำลังใจที่มีให้ทงั้ ก่ อนแข่งและระหว่างแข่งมาก เพราะรู ว้ ่ามีทุกคน คอยเชียร์อยู่ เพราะรู ว้ ่ามีหลายๆ คนเป็ นห่วงอยู่ ตอนอยู่ในน�ำ้ ผมจะตายไม่ได้ ตอนปัน่ ผมจะท้อไม่ได้ ตอนวิง่ ผมจะท�ำให้เต็มทีท่ ส่ี ุดเท่าทีจ่ ะท�ำได้ และรูส้ กึ ขอบคุณส�ำหรับข้อความ แสดงความยินดีของทุกๆ หลังการแข่งขันมากๆ คนธรรมดา ทีเ่ มือ่ สองสามปี ก่อนยังนัง่ อ้วนเล่นคอมอยูท่ กุ วัน ดูทวี คี นเดียว ดูหนังคนเดียว ไม่เคยคิดจะออกก�ำลังกาย ก่อนทีอ่ ยากจะเปลีย่ นแปลงตนเอง ตอนนี้ ออกมาตามความฝัน และ สามารถจบไตรกีฬาได้แลว้ ความภูมใิ จของผมจากวันนัน้ มันยังคงอิ่มเอมใจอยู่จนถึงวันนี้ ผมยังคงเชื่อว่า ร่ างกายมนุ ษย์นนั้ มันแสนวิเศษ สามารถท�ำอะไรก็ได้ และผมก็ยงั เชื่อว่า ความรูส้ กึ ของพีๆ่ เพือ่ นๆ น้องๆ ในเฟซบุค๊ ทีโ่ พสต์กนั ในวันนี้คงไม่ต่างกัน มันคงเป็ นอารมณ์ ของผูช้ นะ แม้อาจจะไม่ใช่ชนะเลิศ แต่พวกเขาชนะใจตัวเองเป็ นทีเ่ รียบร้อยแล ้ว ผมเชื่อว่า ทุกคนมีพลังซ่อนอยู่ ทุกๆ คน สามารถท�ำได้ทกุ อย่าง แต่คุณต้องเอาชนะตัวมันเองให้ได้ แล ้วคุณจะได้รูว้ า ่ ความส�ำเร็จมันหอมหวานขนาดไหน ขอให้ทกุ คนประสบความส�ำเร็จกับสิง่ ทีต่ วั เองตัง้ ใจหวังไว้นะครับ :) เป็ นก�ำลังใจให้กบั ทุกๆ คนทีก่ ำ� ลังตัง้ ใจท�ำในทุกๆ เรื่องอยู่นะครับ :) 19
b side
แน่นอนว่าต้องเป็นจักรยาน - ส่วนใหญ่ หลายๆ งานจะก�ำหนดไว้ว่าให้ใช้ เสือหมอบ เสือภูเขา และ Time Trial หากบางงานอนุญาตให้ใช้มากกว่านี้ เขาจะแจ้งในการบรีฟอีกทีครับ หมวกจักรยาน พยายามเลือกทรงแอโร่ว์ แต่ถ้างบไม่ถึง ขอให้เท่ก็พอ รูปจะได้สวย ถุงมือ มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ครับ แล้วแต่ถนัด แต่ถ้าปั่นระยะไกล ควรมีไว้ จะช่วยเรื่อง มือชาได้นิดหน่อย รองเท้าคลีท ส่วนใหญ่นักปั่นก็จะมีไว้เพื่อเร่งสมรรถภาพช่วงปั่นออกมาให้ถึงที่สุด แนะน�ำว่าถ้ามี ให้เตรียมไว้ให้ดี ให้หยิบง่าย เวลามาทรานซิชันแล้ว จะได้ หยิบออกมาได้เลยครับ หรือบางคนก็เอาติดกับบันไดรถไว้เลย แว่นจักรยาน / แว่นวิ่ง ถ้ามีจะดีมากครับ เผื่อกันเศษฝุ่นเศษหิน หรืออะไรต่างๆ ที่จะท�ำให้ตาเรา ระคายเคืองได้ระหว่างปัน่ ครับ เนือ่ งจากเราใช้ความเร็วสูง มีโอกาสทีจ่ ะโดน อะไรเข้าตาได้บ่อยๆ กระเป๋าจักรยาน กรณีที่คุณต้องหอบขึ้นเครื่อง กระเป๋าจักรยานส�ำคัญมากครับ ต้องถอด ประกอบให้ เ รี ย บร้ อ ย แล้ ว โหลดขึ้ น เครื่ อ งไป แต่ ค วรเป็ น กระเป๋ า ที่ มี ความแข็งแรงหน่อยนะครับ เพราะสายการบินเขาไม่ปรานีตอ่ กระเป๋าจักรยาน ของคุณแน่นอน ผ้าขนหนู เอาไว้เช็ดเนื้อเช็ดตัวหลังจากขึ้นบกมา เวลาปั่นจะได้ไม่เหนอะครับ
วิ่ง รองเท้าวิ่ง อันนี้ของแน่นอน เว้นแต่คุณจะวิ่งเท้าเปล่า หมวกวิ่ง บางงานแดดร้อนมาก ใส่ไว้ก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร แว่นวิ่ง อันเดียวกับแว่นปั่นนั่นแหละครับ อย่าลืมว่าพอถึงช่วงวิ่ง เราจะวิ่ง กลางแดด ไม่เหมือนกับงานวิ่งทั่วไปที่ออกหกโมงเช้าแล้วเสร็จเจ็ดโมง วิ่งไตร บางทีวิ่งกันกลางแดดแปด - เก้าโมงเช้าเลยครับ ใส่แว่นไว้เหอะ ดีกว่าไม่มีอะไรเลยนา
อาหาร
นี่แหละพีคสุดของการเล่นไตรกีฬา เราต้องเตรียมอาหารเพิ่มพลังงาน ตลอด 2 - 3 ชั่วโมง ที่เราต้องออกก�ำลังกายตลอดด้วย ยิ่งการ เปลี่ยนชนิดของกีฬา มันส่งผลมากๆ ที่จะท�ำให้เราไปต่อไหวหรือเปล่า เจล อันนี้ Recommend เลย หายี่ห้อที่กินได้ กินแล้วชอบ เวลาออกก�ำลัง อยู่แล้วจะได้ป้อนเข้าไปให้ไว ๆ เกลือแร่ เช่นกัน เตรียมของที่เราชอบไว้ แล้วบรรจุพร้อมเสิิร์ฟให้ไว ขนมขบเคี้ยวอื่นๆ เตรี ย มยี่ ห ้ อ ที่ ไ ม่ เ ป็ น อั น ตรายต่ อ กระเพาะคุ ณ เพราะว่ า ถ้ า เข้ า ห้ อ งน�้ ำ ระหว่างแข่ง คงไม่ค่อยตลกเท่าไหร่
Adventure
HIKING MAKE ME SMARTER & REJUVENATING
จุดหมายคือลังกาหลวง เรื่อง / ภาพ : shaky
ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมและ Mr. Dal bhat ได้ร่วมเดินทางด้วยกัน ทริปนี้เรามีคอนเส้ปท์ว่าจะต้องเป็นการเดินป่าปีนเขาที่ใช้เวลาไม่เกิน 3 คืน 4 วัน และต้องเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ภายในประเทศเท่านั้น โดย Mr. Dal bhat รับหน้าที่ค้นหาข้อมูลเส้นทางต่างๆ ที่น่าสนใจ จากอินเตอร์เน็ต จนได้มาเจอเส้นทางท้าทายเส้นทางหนึ่งของผู้หลงใหลการผจญภัย ‘ดอยลังกาหลวง’ คือหมุดหมายของเราทั้งสอง 20
b20 side b side
ก่อนอื่น ผมขอเล่าถึงดอยลังกาหลวงเเห่งนี้สกั หน่อย เพือ่ เพิม่ อรรถรส ในการอ่าน ดอยลังกาหลวงเป็ นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติขนุ แจ ยอดดอยมีความสูง 2,031 เมตร จากระดับน�ำ้ ทะเล เป็ นรอยต่อของจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และ ล�ำปาง หลังจากทีเ่ ราได้ยกหูโทรศัพท์ไปขอข้อมูลกับทางเจ้าหน้าทีอ่ ทุ ยานแห่งชาติ ขุนแจ ทางเจ้าหน้าทีไ่ ด้แจ้งให้เราทราบว่า เราต้องเตรียมอาหาร เครื่องนอน และ น�ำ้ ขึ้นไปเอง (ระหว่างทางของแต่ละวันจะมีตาน�ำ้ ให้เราได้ใช้สอยดืม่ กิน แต่กต็ อ้ ง เดินลงเขาไปกลับประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชัว่ โมง) ทางอุทยานบังคับให้เรา ต้องมีคนน�ำทาง 1 คน เพื่อความปลอดภัยจากการหลงป่ า จากการบอกเล่า ของเจ้า หน้า ที่ ไม่ น านมานี้ ย งั มีร่ อ งรอยของเสือ และหมีใ ห้เ ห็น อยู่ ร ะหว่ า ง สองข้างทาง
เราสามารถเลือกเส้นทางเดินได้ 2 รูปแบบ แบบที่ 1 เราต้องเอารถไปจอดทีอ่ ทุ ยานแห่งชาติขนุ แจ แลว้ นัง่ รถกระบะของอุทยาน ไปลงที่สถานีเรดาร์ ลงเดินเท้าไปผาโงม้ (พักแรมคืนที่ 1) ต่อด้วยลังกาหลวง (พักแรมคืนที่ 2) และลังกาน้อย (พักแรมคืนที่ 3) และเดินลงจากลังกาน้อยไป แม่ตอนหลวงในวันสุดท้าย เส้นทางนี้จะค่อยๆ ไต่ความสูง และจะลงชันๆ ในวันสุดท้าย แบบ 2 เริม่ เดินขึน้ จากบ้านแม่ตอนหลวง โดยการนังรถกระบะของอุ ่ ทยานแห่งชาติขนุ แจ เช่นกัน เดินเท้าไปลังกาน้อย (พักแรมคืนที่ 1) ต่อด้วยลังกาหลวง (พักแรมคืนที่ 2) และผาโงม้ (พักแรมคืนที่ 3) เส้นทางนี้วนั เเรกจะเจอผาชันตัง้ ตระหง่านท้าทาย ให้เราได้ทดสอบจิตใจ และจะสลับขึ้นลงในช่วงหลังๆ ผมและ Mr. Dal bhat เลือกเส้นทางแรก เพราะเราคาดว่าแรงก�ำลังของเรา คงจะหมดในช่วงวันสุดท้ายของเส้นทาง เราแบ่งหน้าทีก่ นั แบกเสบียงคนละประมาณ 3 - 4 กิโลกรัม อาหารนัน้ จะเน้นให้พลังงานมากเป็ นพิเศษ ทุกมื้อจะมีขา้ วสาร ผัก เนื้อสัตว์ ทีข่ าดไม่ได้คอื เครื่องต้มกาแฟ เมล็ดกาแฟ และเครื่องกรองน�ำ้ ขนาดพกพา เพราะเราไม่สามารถแบกน�ำ้ หนักของน�ำ้ สะอาดจ�ำนวนมากขึ้นไปใช้สอยและดืม่ กินได้ สามวันแรกผมไม่ได้อาบน�ำ้ ดีทต่ี ดิ ทิชชู่เปี ยก (ของลูกชาย) ไปด้วยจึงช่วยให้ผมนัน้ ได้หลับสบาย
21
b21 side b side
วันที่ 1 อากาศช่วงเช้าที่จุดเริ่มต้นในวันแรกนัน้ เย็นสบาย ไต่ข้ นึ ลงตาม เส้นทางป่ ารก มีการปี นเขาเบาๆ ให้ทดสอบระบบหายใจ ช่วงกลางวันร้อน จนต้องถอดเสื้อแจ็คเก็ตเดินป่ าออก เหลือเพียงเสื้อยืด (แต่ช่วงกลางคืน จนถึงเช้าตรู่นนั้ หนาวเย็นจบแทบนอนไม่หลับ) บ่ายสองกว่า เราก็มาถึง จุดตัง้ แคมป์ (ยอดของผาโง ้ม) ลูกหาบหรือคนน�ำทางชาวมูเซอด�ำของเรา รับหน้าทีห่ าฟื นและน�ำ้ สะอาด ผม กับ Mr. Dal bhat รับหน้าทีป่ รุงอาหาร คืนแรกพวกเรานอนแต่หวั ค�ำ่ โดยไม่มกี ารสังสรรค์ใดๆ วันที่ 2 บ่ายของวันทีส่ องเราไปถึงยอดดอยลังกาหลวงด้วยความอ่อนเพลีย แต่ ความเหนื่อยนัน้ ได้อนั ตรธานหายไป เมื่อวิวทิวทัศน์ 360 องศา ที่อยู่รอบตัวพวกเรานัน้ ช่ างสวยงามไม่แพ้สถานที่ใดในโลกใบนี้ คืนนี้ ผมนอนแทบไม่หลับเพราะลมหนาวจับจิตพัดกระแทกเต็นท์และยอดเขา แห่ ง นี้ อ ย่ า งไม่ ป รานี คื น นี้ บ รรยากาศช่ า งวัง เวงอย่ า งไม่ มีเ หตุ ผ ล หรือจะเป็ นเรื่องราวของเศษเครื่องบินตกทีผ่ มจับและพบเจอระหว่างทาง ก่ อนถึงยอดดอย (จากการบอกเล่าของลู กหาบ เมื่อ 30 กว่าปี ก่อน มีเครื่องบินลาดตระเวณของทหารบินชนยอดดอยแห่งนี้ ทหารทุกนาย เสียชีวติ ในทีเ่ กิดเหตุทงั้ หมด)
22
b side
วันที่ 3 จุดหมายของเราคือจุดกางเต็นท์ (ทีอ่ ยู่ระหว่างทางดอยลังกาหลวง และดอยลังกาน้อย) ข่าวดีจากลู กหาบคือวันนี้เราจะได้อาบน�ำ้ ในน�ำ้ ตก ทีอ่ ยู่ดา้ นล่างของหุบเขา ผมเดินตัวปลิวอย่างมีกำ� ลังใจทีจ่ ะได้ชำ� ระร่างกาย ส่วน Mr. Dal bhat ยังคงความตัง้ มัน่ ว่าจะไม่อาบน�ำ้ จนถึงบ้านของเขา เหตุเพราะความเย็นของน�ำ้ อาจท�ำให้เขาไม่สบายระหว่างการเดินทาง วันที่ 4 เช้าของวันที่ 4 เรากินทุกอย่างที่นำ� ติดตัวมาจากบ้าน ก่ อนมุ่งสู่ ยอดเขาลูกสุดท้ายของทริปนี้ เส้นทางวันนี้แคบและลาดชันลัดเลาะไปตาม หน้าผา อีกทัง้ ยังต้องป่ ายปี นซะเป็ นส่วนใหญ่ ยิง่ ช่วงลงจากยอดลังกาน้อย ขอบอกเลยว่าโหดสุดๆ ทัง้ ชัน (เกือบจะ 80 องศา) ทัง้ ลืน่ เพราะหินลอย ถ้าร่างกายและจิตใจไม่พร้อมคงมีหวังไม่ได้กลับบ้าน (ผมจินตนาการว่า ถ้าวางเท้าบนก้อนหิน และจับต้นหญ้าทีข่ ้นึ ข้างผาพลาดสักครัง้ เดียว ผมคง ต้องลงไปนอนเป็ นผีเฝ้ ายอดดอยแห่งนี้เป็ นแน่) เมื่อผมไต่ ลงมาจากหน้าผาของยอดลังกาน้อยได้ ผมปล่อยให้ Mr. Dalbhat และลูกหาบเดินน�ำหน้าไปไกล ใช้ช่วงเวลานี้มองไปรอบๆ ตัว ยืนสงบนิ่งอยู่นาน เสพวิวทิวทัศน์อนั สวยงามและท้าทาย ขอบคุณพระเจ้า ทีน่ ำ� ผมลงมาจากยอดดอยลังกาน้อยได้ อีก 1 ชัวโมงกว่ ่ าๆ ผมเดินมาถึงทีร่ าบ รอบตัวเป็ นไร่กาแฟของชาวบ้าน บ่งบอกว่าผมใกล ้ถึงจุดหมายแล ้วสิ ผมแอบเด็ดชิมผลเชอร์ร่สี แี ดงสุกงอม ของต้นกาแฟ รสชาติหวานของมัน และรอยยิ้มของชาวไร่ คือรางวัล อันยิง่ ใหญ่ของการเดินทางมาตลอดทัง้ 4 วันของผม ทีร่ า้ นกาแฟประจ�ำของหมูบ่ า้ นแม่ตอนหลวง Mr. Dal bhat และ คนน�ำ ทาง ยื น ซดเบีย ร์เ ย็ น ๆ ตะโกนโบกไม้โ บกมือ รอคอยผมอยู่ เจ้า หน้า ที่ข องอุ ท ยานแห่ ง ชาติ ขุ น แจกับ กระบะโตโยต้า คัน เก่ า มาถึง ก่ อนหน้านี้ คงถึงเวลาที่จะต้องกลับไปหาสิ่งที่รกั และความรับผิดชอบ อีกมากมาย... 23
b side
Trip
PEACE OF MIND ออกตามหาเสียงจังหวะแห่งหัวใจ ในดินแดนที่ราบสูง เรื่อง / ภาพ : สุภาพร ธรรมประโคน
24
b side
สัญลักษณ์รูปพีซ (PEACE) ซึ่ ง หมายถึ ง ‘ความเป็ น อิ ส รภาพ’ ได้ ก ลายเป็ น ประติ ม ากรรมที่ ส ะดุ ด ทุกสายตาทีส่ ดุ ในงานแห่งนี้ การเรียงต่อ ของตะกร้ า สานรู ป ครึ่ ง วงกลม ที่ท�ำจากวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่ สูงขึ้นไปขนาดใหญ่มหึมา นอกจากนี้ ยั ง มี ซุ ้ ม ที่ ถู ก ออกแบบมาอย่ า ง น่าสนใจ ซึ่งทุกอย่างถูกสร้างโดย วัสดุในท้องที่ทั้งหมด งานนี้ทุกคน สามารถที่จะ ขยับ กระโดด นิ่ง นอน นัง่ วิง่ เดิน ยืน และกิน ได้อย่างอิสระ
ก่ อ นบทสนทนาของเด็ ก หนุ่ ม วิศ วะสองคนจะถกเถีย งกัน ถึงยุคสมัยแห่งการถูกตีกรอบจากสังคม และจบลงด้วยเรื่องขาและนม ของอิสตรี... ลมเย็นยะเยือกปลิวปัดพัดเข้ากระทบใบหน้าอันแหลมคมมนงาม ของดิฉัน ขณะก�ำ ลัง ก้า วลงจากท้า ยกระบะที่ข อติ ด เข้า มาในงาน เป้ ใบใหญ่ ขา้ งในเต็มไปด้วยเครื่องห่มกันหนาว มืออีกข้างถืออะไร สักอย่างซึ่งไม่อาจเปิ ดเผยในที่สาธารณะได้ บอกตรงๆ ส�ำหรับงานนี้ ไม่มอี ะไรดึงดูดฉันเลย หากแต่มบี างสิ่งบางอย่างที่กำ� ลังผลักฉันออก ออกไปให้ไกลแค่ไหนยิง่ ดี เสี ย งบรรเลงก� ำ ลัง ดัง คลอเคลี ย อบอวลไปกับ มวลรวม ของกลิ่นควันแห่งหมู่แมกไม้ จนคลา้ ยกับรสชาติของนมปัน่ ที่กำ� ลัง นัวลิ้นอย่างพอดิบพอดี แสงไฟสลัวสีสม้ อ่อนถูกประดับประดาตามซุม้ ทีอ่ อกแบบมาเพือ่ ให้เป็ นเอกลักษณ์ของงานนี้โดยเฉพาะ ผู ้คนเดินขวักไขว่ กันไปมา ตามจังหวะแห่งท่วงท�ำนอง ราวกับฝูงมดทีก่ ำ� ลังเริงระบ�ำกัน ภายในรัง ของตัว เอง เสีย งครึ ก โครมกระหึ่ม ดัง เข้า ไปแทรกตัว ในโสตประสาทของหูทงั้ สองข้าง คล ้ายกับมีเวทมนต์มาสะกดให้เราคล ้อย ตามห้ว งอารมณ์แ ละหลงระเริง ไปกับ บรรยากาศนัน้ อย่ า งง่า ยดาย หากใครไม่มสี ติมากพอ ก็อาจจะหลงอยู่ในกลลวงนัน้ ตลอดราตรี ภาพกว้างใหญ่มากด้วยผูค้ นปรากฏอยู่ตรงหน้า ซึ่งฉันไม่ได้ จินตนาการภาพนี้มาก่อน แอบตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะมาเป็ นครัง้ แรก ทัง้ ทีน่ ่าจะต้องมาหลายครัง้ แล ้วเพราะอยู่ใกล ้บ้านตัวเอง ฤาอาจจะเป็ น เรื่องปกติธรรมดาทีค่ นเรามักจะสนใจสิง่ ทีอ่ ยู่ไกลมากกว่าสิง่ ทีอ่ ยู่ใกล ้ ทัง้ ทีแ่ ท้จริงแล ้ว สิง่ ทีเ่ ราพยายามตามหาไกลแสนไกล อาจไม่ได้พาเรา ไปไกลเกินกว่าหลีกหนีความรูส้ กึ อ้างว้างภายในจิตใจ กลับกลายเป็ น สิง่ ทีอ่ ยูใ่ กล ้ ซึง่ นัน่ หมายถึง ‘บ้าน’ ทีพ่ าเราไปไกลเกินกว่าสถานทีอ่ น่ื ใด ทีเ่ ราพยายามค้นหามาตลอด แต่แค่ความรูส้ กึ ใกล ้ของคนใกล ้ๆ ก็อาจ เป็ นค�ำตอบของทุกแง่มมุ ของชีวติ ที่คิดค้นหาจากค�ำถามที่ถูกทิ้งไว้ ใต้กน้ บึ้งของห้วงลึกในจิตใจ
‘อีส านเขีย ว’ ครัง้ ที่ 5 ณ เขื่อ นอุบลรัตน์ จัง หวัด ขอนแก่ น ถือได้ว่าเป็ นงานดนตรีแนวฮิปปี้ ทโ่ี ด่งดังและใหญ่ทส่ี ุดในภาคอีสานเลย ก็ว่า ได้ เป็ น การรวมตัว ของคนที่มีเสียงเพลงในหัว ใจ ทัง้ นัก ดนตรี ทีเ่ ดินทางมาบรรเลงบทเพลงอย่างบ้าคลัง่ รวมทัง้ คนฟังทีม่ าพร้อมรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ทัง้ คนไทยและต่างชาติ บอกเลยค่ะว่า หากใครได้มา งานนี้ เสียงดนตรีจะดังคลอเคลียไปในหัวใจอีกนานแสนนาน ซึ่งหลังจากนี้ฉนั จะขอเล่าถึงห้วงเวลาในราตรีท่ีเริงร่ าระริกระรี้ และรื่นรมย์ ให้คุณผูอ้ ่านได้จนิ ตนาการตามกันไป
25
b side
สองเท้าเดินย่างไปอย่างระริกระรี้ดดี ๊ า๊ ตามร่องรอยพื้นดินทีไ่ ม่ราบเรียบ แปรปะปนกับกอหญ้าสีเหลืองซีดที่ถูกแสงแดดแผดเผามาแรมหลายเดือน ฉันกวาดสายตาไปไกลสุดลูกหูลูกตา “กว้างมากจริงๆ กว้างมากจริงๆ ครับ เห็น ว่ า ปี น้ ี จ ดั ยิ่ง ใหญ่ ก ว่ า ปี ท่ีแ ล ว้ มาก” เสีย งเด็ ก หนุ่ ม แปลกหน้า ที่ฉัน ไม่เคยรู จ้ กั มาก่อนพูดขึ้น ขณะที่เรานัง่ ลอ้ มกันเป็ นวงไม่กลม เราต่างเป็ น คนแปลกหน้า ซึ่ง กัน และกัน ในกลุ่ม แก๊ง ที่ทุก คนต่ า งเป็ น คนแปลกหน้า ซึง่ กันและกันอีกทีเช่นกัน พื้นทีภ่ ายในงาน ถูกจัดสรรออกเป็ น 4 - 5 ส่วน ประกอบด้วย 1. โซน ของเวทีซง่ึ แยกเป็ นเวทีใหญ่ 1 เวที และเวทีย่อยอีก 2 เวที เพือ่ ให้นกั ดนตรี มากหน้าหลายวงได้มโี อกาสร่วมบรรเลงในค�ำ่ คืนทีค่ กึ คักนี้ 2. โซนเข้างานและ ลานประติ ม ากรรม 3. โซนอาหาร 4. โซนขายสิน ค้า และเวิร ์ค ช็ อ ป 5. โซนลานกว้างไว้กางเต็นท์เดินเล่นและโยกเยก ผูค้ นในงานเป็ นคนทีฉ่ นั ไม่คนุ ้ หน้าคุน้ ตามาก่อน หากแต่พดู ในส�ำเนียง ภาษาที่ฉนั คุน้ เคยมาอย่างดีตงั้ แต่เกิด ภาษาที่ราบสู งที่มกั จะมีเสียงผันของ วรรณยุกต์ตรีผสมเข้าไป เช่น ม๊าท๊ะแม๊ แอ๊ แอ๊ แอ๊ (เสียงสูงและลากยาว) ม๊าเด๊อ เอ๊อ เอ๊อ เอ๊ออ ม๊าม๊วนหน�ำกันเด๊อออออ... ,คือ๊ คักแท๊, ม่วนคักคัก เน๊าะ, ม่วนหล๊ายหลายเด๊… เป็ นต้น ซึง่ หากจะกล่าวถึงบรรยากาศก็คงเป็ นไป ตามเสียงวรรณยุกต์ผกผันทีไ่ ม่ได้โรแมนติกหวานซึ้ง แต่เป็ นจังหวะ ตึง๊ ตึง๊ โต๊ะ ตึง๊ ตึง๊ ยาวไปๆ ทีค่ ละเคล ้ากับเสียงพิณเสียงแคนจากแดนอีสานในส�ำเนียง หมอล�ำคลุกเคล ้ากับจังหวะ เร็กเก้ สกาอย่างละมุน เช่น วงละไมหรรษา ทีฉ่ นั แอบชอบเป็ นพิเศษ กับบทเพลงภาษาอีสานในท่วงท�ำนองทีท่ ำ� ให้ตอ้ งเริงร่าและ หลุดข�ำมาทุกครัง้ ทีฟ่ งั เนื้อเพลงของพวกเขา หรือจะเป็ น วงอีสานโซล ของ รัสมี เวระนะ ทีม่ เี นื้อหากัดกร่อน ผ่าวร้อน ร้าวรอน ข่มปร่า ในท่วงท�ำนอง ทีผ่ สมผสานเครื่องดนตรีอสี านให้ออกมาในแนวหมอล�ำทีม่ กี ลิน่ อายในสไตล์ คอนเทมโพรารี่รวมอยู่ในเสียงแห่งจิตวิญญาณ เริงระรื่นงดงามได้อย่ าง น่าอัศจรรย์ แม้แต่ชายชาตรีผมดกบึกบึนยังต้องร้องครวญ โอ้ยน๋ออออ ออกมา จากจิตวิญญาณ ม่วนหลาย กาลเวลาล่ ว งเลยในค� ำ่ คื น ที่ เ สี ย งกบเสี ย งเขี ย ดนาในท้อ งนา ทีร่ ายล ้อมรอบ ก็ไม่อาจสูเ้ สียงดนตรีแห่งสันติของงานอีสานเขียวได้ ดวงดาว นับ ร้อ ยอยู่ ร่ว มงานทัง้ คืน จนลับลาไปในที่สุด แสงสีค รามในยามใกล ร้ ุ่ ง เผยภาพทุกอย่างค่อยๆ ปรากฏ ชัดเจนขึ้น ฟ้ าทีจ่ รดผืนน�ำ้ จากสีม่วงคราม กลายเป็ นสีชมพูอ่อน ค่อยๆ ไล่เฉดสีให้จางลงเรื่อยๆ ตามองศาของดวงตะวัน ที่กำ� ลังโผล่ออกมาจากภูเขาเบื้องหลังของเวที บทเพลงยังคงบรรเลงไป ABOUT HER หญิงสาวนักพเนจรหน้ามนคนสวย ผูร้ กั อิสระ รักการเดินทางท่องเทีย่ ว ไปทุกหนแห่ง หลงใหลในผูค้ นและวัฒนธรรม รักในศิลปะและการออกแบบ คลัง่ ไคล้ในเสียงดนตรี งานอดิเรกของเธอคือถ่ายภาพ ตอนนีเ้ ธอท�ำรายการข่าว เพือ่ การเปลีย่ นแปลงทีช่ อ่ งไทยพีบเี อส และก�ำลังซุม่ ท�ำภาพถ่ายสารคดีเพือ่ สังคม อย่างลับๆ ของตัวเอง ติดตามเธอได้ที่ Facebook : Midori Kikochi
26
b side
อย่างต่อเนื่อง จนแสงจ้าของแดดแผดเผาแสบซ่า ผูค้ นจึงเบาบางลง จนหายวับไป เหลือเพียงแค่ความทรงจ�ำของค�ำ่ คืนเก่า เพือ่ นของฉัน ซึง่ เป็ นคนแปลกหน้าเมือ่ คืนได้เชื้อเชิญให้ตดิ รถกลับด้วยกัน พวกเขา เป็ นนักศึ กษาปี 2 ที่ มข. น่ ารัก อารมณ์ขำ� พาฉันซิ่งดิ่งกลับไป ตามเส้นทางแห่งท้องทุ่ง มุง่ สู่ทท่ี จ่ี ากมา และลาจากกันไป อี ส านบ้า นของเฮา อาชี พ เก่ า แต่ น านดล เอาหน้า สู ฟ้ ้ าฝน เฮ็ดนาไร่ บ่ได้เซา เฮ็ดนาไร่บไ่ ด้เซา... ม่วน... เอ๊ย... โอ... ม่วนเอยม่วน เสียงกบ ร้องอ๊บๆ กล่อมล�ำเนา... เนื้อเพลง ‘อีสานบ้านเฮา’ ของ เทพพร เพชรอุบล ที่ถูกร้องโดยศิลปิ นในงาน ได้วนอยู่ในหัวของฉัน จนต้องกลับบ้านมาฟังอีกหลายรอบ เว่าอีหลีเด๊ พูดจริงๆ นะคะ หากใครพลาดงานนี้ คุณก็จะพลาดงานนี้ค่ะ พลาดแล ้ว ปี หน้าฟ้ าใหม่ ยังมีอกี ค่ะ หากหัวใจของใครเต้นเป็ นจังหวะเดียวกับฉัน (ใครกันนะ) อยากให้มาเริงรื่นกันในงานนี้ รับประกันความม่วนคักๆ อย่างแน่นอน เด๊อค่าาเด๊ออออ!! อีสานเขียว
27
b side