HIP MAGAZINE ISSUE 150 : APRIL 2017 (SECTION B)

Page 1

1

b side


2

a side


digital contents www.hipthailand.net

CONTE N TS a p r i l

2 0 1 7

Bike Trips 04 Bike Route 07 Bike Event 08 Bike Safe 09 Bike Review 10 Bike Special 12 Drink 13 Run 14 Trip 16 เที่ยวข้ามภาค 18 Travel 22

V o l. 1 3

N o. 1 5 0

เที่ยวข้ามภาค

Bike Trip

HILIGHT Run

04 Bike Trips บก.เปิ้ล แห่ง Bike Section จับมือกับอีกสองนักปั่น จุ๋ย จุ๋ยส์ และบุ๊ค เดินทางจากเชียงใหม่มงุ่ หน้าสูบ่ รุ รี มั ย์ เพือ่ ร่วมแข่งขันใน Buriram Bike Festival ซึง่ นอกจากจะไปในฐานะตัวแทนจาก HIP Magazine แล้ว บก.เปิล้ ยังตัง้ ใจไปแก้มอื กับ ‘พนมรุ้งคลาสสิค’ ที่ฝากรอยแค้นไว้เมื่อปีก่อนด้วย

18

เที ่ ย วข้ า มภาค

อีกคอลัมน์ใหม่ของ HIP ที่จะชวนคุณๆ ออกเดินทางจากเชียงใหม่ไปเที่ยว ให้ทั่วทุกๆ ภาคของเมืองไทย ประเดิม ‘เที่ยวข้ามภาค’ งานแรกกันด้วยการเดินทาง ของบรรณาธิการผู้ช่วย (Digital) ของเรา ที่ไปตะลุยด�ำน�้ำชมความสวยงาม ของท้องทะเลกันที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

22 Travel

Travel

เคยไหมทีว่ างแผนจะไปเทีย่ วญีป่ นุ่ อยากมีรปู ถ่ายคูก่ บั ดอกซากุระสวยๆ มาอวดเพื่อน แต่ติดตรงที่ว่าไม่รู้จะไปชมดอกซากุระที่ไหนที่มันสวยๆ เราจึงขอให้ WILL SEE THE WORLD ที่มีประสบการณ์ ไปตามล่าดูซากุระมาหลายหน ช่วยแนะนำ� 7 จุดชมซากุระในดวงใจ ให้คุณๆ เอาไว้ ไปตามรอยกัน


B I K E T R I P

BURIRAM เสือแดดเดียว เรื่อง /ภาพ : acidslapper

หากท่านผูอ้ า่ นยังจ�ำกันได้ เมือ่ ปีทแี่ ล้ว พวกเราทีมนักปัน่ HIP ได้ยกโขยงกันไปปัน่ จักรยานโต้ลมแรงกันทีจ่ งั หวัดบุรรี มั ย์ ในงานประจ�ำปี Buriram Bike Festival ปีนี้ทาง HIP เรา ได้รบั เชิญจากผูส้ นับสนุนใจดี สายการบิน Air Asia ทีต่ ดิ ต่อมา แหม ใครจะปฏิ เ สธล่ ะ ครั บ เรื่ อ งการตระเวนปั ่ น จั ก รยาน ในที่แปลกหูแปลกตานี่มันของโปรดของชาวเสืออยู่แล้ว

4

a side

เพียงแต่วา่ ประสบการณ์จากปี ทแ่ี ล ้วมันยังคงตรึงติด (และหลอนหลอก) ในใจผมอยู่เสมอมา เชื่อมัย้ ครับว่าถ้ามีใครถามผมว่าทางเรียบทีโ่ หดร้ายทีส่ ุด ในชีวติ จักรยานคืออะไร? ผมตอบแบบไม่ต ้องคิดเลยว่า... บุรรี มั ย์! เผลอแป๊ บเดียว ครบหนึ่งปี ได้เวลากลับมาเล่นจักรยานโต้ลมกันอีกแล ้วววว ถามว่าเข็ดมัย้ ? ไม่ครับ ผมเสพติดชีวติ วิบากครับ! เนื่องจากครัง้ นี้เป็ นครัง้ ทีส่ องทีไ่ ด้มา หลังจากทีเ่ ด็กดอยอย่างพวกเรา โดนพระพายแห่งแดนอีสานฝากรอยแค้นไว้ ปี น้ ผี มเลยตัง้ ใจมากูช้ ่อื ซะหน่อย เดีย๋ วจะหาว่าแพะภูเขาวิง่ โต้ลมบนทางเรียบไม่เป็ น 555 ซึง่ ดันประจวบเหมาะ กับทีป่ ี น้ ที มี นักปัน่ HIP (เปิ้ ล – จุย๋ จุย๋ ส์ - บุค๊ ) เราเลือกลงปัน่ ในกลุม่ ที่ 1 ความเร็วเฉลีย่ 35 กม./ชม. ท�ำให้บรุ รี มั ย์ปีน้ ดี ูจะเผ็ดร้อนขึ้นกว่าปี ทแ่ี ล ้ว เสาร์ท่ี 18 มีนาคม 2560 - เราออกเดินทางจากเชียงใหม่กนั ตัง้ แต่เช้า โดยสายการบิน Air Asia ไปยังสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ แล ้วต่อเครื่อง ไปยังจังหวัดบุรรี มั ย์ การโหลดกล่องจักรยานไปกับเครือ่ งบินก็สะดวกเรียบร้อย ไม่มปี ญั หาอะไร ปัญหามันอยู่ทผ่ี มคงหน้าตาเหมือนคนจีนเกินไป ขณะทีน่ งั ่ รอ


CLASSIC เส้นทางเดิม เป็ นอันเสร็จพิธี พอตกเย็นเราก็เข้าเช็คอินทีโ่ รงแรม The Cresco ซึง่ อยูห่ า่ งจากสนามแข่งรถประมาณ 2 กิโลเมตร ไม่ไกลจากสถานทีจ่ ดั งานมากนัก ข่าวดี! เวลาตีสองของคืนวันเสาร์... ฝนกระหน�ำ่ ลงมาอย่ างหนัก! เปิ้ ลอุทานว่า “เย่ห ์ พรุ่งนี้จะได้อากาศเย็นๆ!” พี่จุย๋ จุย๋ ส์อุทานว่า “แผลกู ยังไม่แห้ง!” ตึกโป๊ ะ! เช้าวันอาทิตย์ท่ี 19 มีนาคม 2560 - เราตื่นกันตัง้ แต่เช้ามืด จะเพราะ ตื่นเต้น หรืออาหารอีสานเมือ่ วานจู่โจมโหมกระหน�ำ่ ก็วา่ กันไป 555 เราปัน่ จาก โรงแรมที่พกั ไปยังสนามตัง้ แต่ไก่โห่ เพื่อไปถึงงานแลว้ ถ่ายรู ปแชะเชะกันไป ตามประสานักปัน่ ร่วมสมัย เป็ นข้อสังเกตว่าปี น้ คี นมาร่วมปัน่ ประเภท Circuit 40 กิโลเมตรจ�ำนวนเยอะมากถ้าเทียบกับปี ทแ่ี ล ้ว และตรงกันข้าม รุ่นพนมรุง้ คลาสสิค 140 กลับบางตาลง คงจะเข็ดกันสิท่า 555 แต่ ทีมนักปัน่ HIP เด็กดอยหลึกหลึนหมู่น้ ีมนั บะใจ้จะสนใจ๋! เราทีม HIP ผนึกก�ำลังจากนักปัน่ Air Asia ในกลุม่ ที่ 1 ความเร็วเฉลีย่ ทีป่ ระกาศไว้คือ 35 กม./ชม. เริม่ พุง่ ทะยาน ไปพิชติ ยอดเขาพนมรุง้ กัน...

ขึน้ เครือ่ งที่ Gate อยูน่ นั้ ทันทีทเ่ี จ้าหน้าทีป่ ระกาศเรียกผู ้โดยสารแถวหน้า zone 1 ให้ขึ้นเครือ่ งก่อน ผมก็ลกุ ไปยืนต่อแถวตามปกติ ปรากฏว่ามีคนไทยมาเบียดผม ออกจากแถวพร้อมส่งสายตาเชิงต�ำหนิ (มาหลายคู่เชียว) ว่าพีจ่ นี หัวโล ้นคนนี้ แซงคิว! แฮ่! พีๆ่ ครับ ผมเป็ นคนเจียงใหม่แต๊ๆ เลยครับพี!่ แต่กไ็ ม่ได้ถอื โทษ โกรธเคืองอะไรกันครับ เพราะผมดันคิดว่านี่คอื เรือ่ งตลกจริงๆ นะครับ 555 ทันทีทก่ี ายหยาบของเราสัมผัสถึงบุรรี มั ย์ กายละเอียดของเราก็พงุ่ ตรง ไปยังร้านลาบเป็ ดเป็ นอันดับแรกเลย! ก็สารพัดเมนู มนั ร้ายกาจซะขนาดนี้ มันก็ตอ้ งโหลดอาหารอีสานเพือ่ เตรียมสูศ้ ึกใหญ่สคิ รับ 555 หลังจากที่เราโหลดตูดเป็ ดย่างกันเป็ นที่เรียบร้อย เราก็พากันไปยัง สนามแข่งรถ Buriram Circuit ซึง่ เป็ นสถานทีจ่ ดั งาน เพือ่ รับ bib ส�ำหรับปัน่ วันรุ่งขึ้น งานยังคงจัดเหมือนกันกับปี ทแ่ี ล ้ว คือมีการปัน่ 2 ประเภทให้เลือก 1. Buriram Circuit ระยะทาง 40 กิโลเมตร วนรอบสนามแข่งรถ และ 2. พนมรุง้ คลาสสิค ระยะทาง 140 กิโลเมตรทีพ่ วกเราลงสมัคร เส้นทางคือ ปัน่ ออกจากสนามแข่งรถ เรียบๆ ยาวๆ ไปจนถึงเขาพนมรุง้ แลว้ วกกลับ 5

b side


แน่นอนครับ ดังค�ำกล่าวทีว่ า่ ... สามัคคีคอื พลัง! เพราะความเร็วของกลุม่ ดีดตัวขึ้นไปแตะระดับ 40 กม./ชม.ตลอดเวลา แถมยังเป็ นเส้นทางเรียบๆ ยาวๆ 60 กว่ากิโลเมตร... ตอนนี้เหล่าเด็กดอยต่างสงบเสงีย่ มเจียมตัว ยิ้มหวานๆ ปัน่ หมกอยู่ในกลุม่ ด้วยจิตใจอาจหาญทรนง เราผ่านช่วงแห่งการดูดกลุม่ ใหญ่ ไปได้รวดเร็วจนไม่ทนั รู ส้ ึกตัว ก็มาถึงสเตจขึ้นเขาพนมรุง้ กันจนได้ เรื่องนี้ ไม่มเี สียพะยี่หอ้ หรอกครับ! ศิลปิ นนักปัน่ จุย๋ จุย๋ ส์ถึงขัน้ เปิ ดมินิคอนเสิรต์ โชว์สเต็ปยกสปรินท์ยอดเขาพนมรุง้ แบบไม่ห่วงอาการบาดเจ็บทีพ่ กมาเลย! 555 เราจอดพักกันทีบ่ ริเวณลานปราสาทพนมรุง้ ได้ไม่เกินช่วงหม้อข้าวเดือด ก็ตอ้ งออกเดินทางกันต่อในขากลับ... และแล ้วเรื่องทีไ่ ม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจนได้! ตอนทีเ่ ราก�ำลังดิง่ ลงจาก เขาพนมรุง้ พี่จกั รยานนิรนามคันข้างหน้าผมเกิดแหกโค้งเสียหลัก ชนรัว้ กัน้ ข้างถนนพร้อมกับตีลงั กาข้ามไปนอนเจ็บอยู่ทป่ี ่ าข้างทาง ต่อหน้าต่อตาเลยครับ! น่ ากลัวมาก! พวกเราจึงจอดเพื่อช่ วยพี่เขา (ช่ วยบอกพี่เขาว่าให้นอนเฉยๆ อย่าเพิ่งลุก) แลว้ ก็รอรถเซอร์วสิ รถพยาบาลมารับ โอเค พี่เขาไม่เจ็บมาก มีแต่หมูแดง ไม่มอี ะไรหัก โล่งใจ งัน้ ก็ไปกันต่อ แต่เอ๊ะ! นัน่ หมายฟามว่า... พวกเราเด็กดอยทัง้ สามหน่อได้ถกู กลุม่ ใหญ่ท้งิ ไปเรียบร้อยแล ้ว เอ่อออออ นี่สนิ ะ ทีเ่ ขาเรียกว่า... ท�ำบุญไม่ข้นึ !!! สนุกสิครับ! ลมทีเ่ คยดันหลังเราเมือ่ ขาไป ตอนนี้ตสี วนมาแบบไม่เกรงใจ หนุ่ มเหนือจากเมืองแอ่งกระทะที่กกั ควันเลย! เวลาก็เริ่มล่วง แดดก็เริ่มแรง ไอ้ฝนที่ตกหนักเมือ่ คืนมันไม่เห็นจะช่วยอะไรเลยฟะ! ตอนนี้เหลือกันสามคน บนถนนแห่งความอ้างว้างดายเดียว 70 กิโลเมตร! เช็คสภาพความพร้อมกันก่อน... หน่ อที่หนึ่ง คนนี้แรงสุด - เป็ นตัวความหวังของทีม ก็แบกอาการบาดเจ็บ จากการลม้ เมื่อไม่ก่ีวนั ก่อน แลว้ ดันเผลอใช้โหมดพลังงานลึกลับที่ยอดดอย

ไปเรียบร้อย หน่อทีส่ อง (ผูเ้ ขียน) ชูคอว่าเป็ นพระยาแพะภูเขา เกลียดทางเรียบ เป็ นชีวติ จิตใจ ใส่ล ้อขอบต�ำ่ ส�ำหรับงานไต่เฉพาะทาง หน่อทีส่ าม สุดยอดนักปัน่ Overall เหนียวหนึบทุกสภาพเส้นทาง แต่ตอนนี้โดนพระอาทิตย์กระท�ำช�ำเรา เสียจนช�ำ ้ ขอจอดรถเติมน�ำ้ เป็ นระยะๆ และบ่นตะคริวดิ้นตุบ๊ ๆ อ่าห์ สัญญาณ แห่งความทรมานบันเทิง! เราตัดสินใจว่าจะลดความเร็วลงมาที่ 35 กม./ชม. แลว้ ตามเก็บสมาชิกที่หลุดกระเด็นจากกลุ่มหน้ามารวมกันเพือ่ สร้างความเร็ว เพิม่ ขึ้น จะได้ออกจากเปลวแดดร้อนๆ นี้ไปเร็วๆ! ไงล่ะ? สมาชิกทีเ่ จอมีอยู่ 3 ประเภท 1. เจอพวกเราแล ้วก็ยงั หลุดอยู่ดี 2. เจอพวกเราแล ้วดูดอย่างเดียวไม่ยอมขึ้นลาก 3. เจอพวกเราแล ้วเหมือนจะ เข้ามาช่วยกันลาก แต่ทดิ หายเหนื่อยทิดก็ยิงหนีหายไปเลย! สรุป... ปัน่ กัน สามหน่ อตามเดิมจนจบสิคะ 5555 ดู เหมือนจะทุกข์ตรม แต่เชื่อมัย้ ครับว่า พวกเรามีความสุข ยิ่งทรมานยิ่งอิ่มใจ เรื่องแบบนี้นกั ปัน่ เขารูก้ นั ! ปัน่ จบปุ๊ บ ก็รบั ถ้วยทีร่ ะลึกเสร็จสรรพ อาบน�ำ้ อาบท่า แล ้วก็ลยุ ลาบเป็ ดกันต่อ! ทางทีมงาน Air Asia ก็น่ารักมาก พาพวกเราไปเทีย่ ววัดโน่นวัดนี่ อิ่มหมีพมี นั กันเต็มที่ มิหน�ำซ�ำ้ ยังกลับมาจิบกันนิดหน่ อยที่โรงแรม ก่อนตื่นเช้า วิ่งคลายเส้นเบาๆ 5 กิโลเมตร และเดินทางกลับเชียงใหม่ ขอขอบคุณสายการบิน Thai Air Asia และนิตยสาร HIP ทีใ่ ห้โอกาส พวกเราในการเดินทางไปปัน่ ตากแดดตากลมอย่างสนุกสนาน ถ้ามีโอกาส ปี หน้า ขอไปอีกนะครับ อยากได้ STRAVA New Personal Record จังครับ!!! 6

a side


B I K E R O U T E

OB ปัKHAN ่นลงน�้ำ เรื่อง /ภาพ : แพะภูเขา

อากาศร้อนมาแล้วววววว พวกเราเหล่าผู้คลั่งไคล้กิจกรรมกลางแจ้งก็ล�ำบากสิครับ ปั่นจักรยาน ฝ่าลมผึ่งไอแดดร้อนผ่าว อากาศตอนกลางคืนเย็นสบาย จะตื่นเช้ากว่าเดิมก็ยาก แต่พอเจ็ดโมงเช้า เท่านั้นแหละ แดดแรงอย่างก๊ะบ่ายสอง อ่ะ รอบเช้าพลาด งั้นย้ายไปรอบเย็น สี่โมงกว่าเตรียมตัวออกปั่น ถนนบ่มไอแดดมาทั้งวัน ร้อนหนังตาวูบวาบ ลมหายใจฝืดเคือง ทั้งฝุ่นทั้งควัน โอ่ยยยย ล�ำบากจัง งั้นจะให้หยุดปั่นเหรอ? บ้ารึเปล่า? ใครจะไปยอมล่ะ! ก็บ่นมันไปงั้นแหละ รู้ๆ กันอยู่ จะร้อน จะหนาว จะฝน ยังไงซะสาย Outdoor อย่างเราๆ เคยเกี่ยงงอนกันซะที่ไหนล่ะแหม ก็มนั ร้อนซะขนาดนี้ งัน้ ก็ปนั ่ ไปหาทีเ่ ย็นๆ กันดีฝ่า! ลองมา แต่บรรยากาศไขว่ขวักของนักท่องเที่ยวกลับท�ำให้เรารู ส้ กึ เหนื่อย นึ ก ดู ว่ า จะมีเ ส้น ทางที่ไ หนที่ม นั อยู่ ใ นระยะท�ำ การ ไป - กลับ มันไม่เห็นจะเป็ นการผ่อนพักอะไรเลย แต่ ท่ีน่ีเงียบดีเหลือเกิน ประมาณ 50 กิโลเมตร นึกขึ้นได้ เฮ้! เรามีอทุ ยานแห่งชาติอนั หนึ่ง ชอบครับชอบ ไม่ไกลมาก มีดอยดุๆ ให้ไต่ มีนำ�้ ให้เล่น ร้ายกาจมากข่ะ! ที่ตกส�ำรวจนี่นา ออบขานไง! จ�ำได้ว่าตอนเป็ นเด็ก เอะอะใครๆ แห๋มบ่ะปอ! (มิใช่แค่นนั้ ) มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติดว้ ย ก็ชอบไปเที่ยวไปเล่นน�ำ้ กันที่ออบขาน เดีย๋ วนี้ไม่เห็นมีใครพูดถึง ขนาดว่าเข้าหน้าแล ้งแล ้วต้นไม้ยงั ครึ้มๆ อยู่เลย แต่น่าเสียดายมาก กันเลย ว่าแล ้วก็เลยลองปัน่ ไปพิสูจน์ซะหน่อย ว่ายังมีอยู่มยั้ ? ที่เส้นทางดันวิบากเกินกว่าจะใส่รองเท้าจักรยานเดิน ก็เลยท�ำได้ เส้นทางก็ไม่ได้ยากไม่ได้ซบั ซ้อนอะไรเลย้ ยยย เริ่มจาก แค่ไปชะโงกมอง เล็งๆ ไว้ก่อน เดีย๋ วไว้มาคราวหน้าจะพกรองเท้าวิง่ สี่ แ ยกตลาดต้น พะยอม ตั้ง ซื่ อ (ตรงดิ่ ง ) ลงไปทางทิ ศ ใต้ มาซัดมันซะเล ้ยยย หางดง - สันป่ าตอง - จอมทอง ตรงเลาะข้างคลองชลประทาน นัง่ เล่นทอดอารมณ์ได้สกั พัก เสร็จสรรพก็ปนั ่ กลับ เส้นทางนี้ ไปเรื่อยๆ แบบไม่ตอ้ งสงสัยอะไรใดๆ ทัง้ สิ้น จนเจอป้ ายบอกว่า พิเ ศษมากครับ ถ้า ไม่ อ ยากออกถนนใหญ่ ก็ ส ามารถลัด เลาะ ‘อุทยานแห่งชาติออบขาน’ เลี้ยวขวาข้ามสะพานคลองชลประทาน ถนนสายเล็กจนกลับถึง มช.ได้เลย ไม่ยากครับ ขากลับเล็งดู แลว้ ตรงตามทางไปเรื่อยๆ ป้ ายบอกทางชัดเจน ขึ้นดอย ลงดอย วัดน�ำ้ แพร่ให้ดี เจอวัดปุ๊ บเลี้ยวซ้ายปั ๊บ จะมีหมาสามตัว ชื่อ น�ำ้ ตาล วึบวับวึบวับ อร่อยเหาะ จนมาสุดทางที่อุทยานแห่งชาติออบขาน บ่ะเต้า และคูเปอร์ เหมือนจะมาไล่กดั แต่จริงๆ แลว้ มาเล่นด้วย โอ้โห ยังมีน�ำ้ ตกและที่เล่นน�ำ้ อยู่ จริงๆ ด้วย แถมยังเจ๋งตรงที่ บอกไปเลยว่ารูจ้ กั เปิ้ ล เปิ้ ลแนะน�ำมา รับรองว่าสามหน่อจะดูแลคุณ เงียบสงบร่มเย็นดีเหลือเกิน อย่ างดี! กลับเข้าเรื่อง! เลี้ยวซ้ายที่วดั น�ำ้ แพร่ แลว้ ตรงตามทาง ผมแวะคุยกับเจ้าหน้าทีท่ ด่ี ูแล แกบอกว่า “เดีย๋ วนี้คนไม่นิยม จนข้ามเส้นสะเมิง จ๊ะเอ๋ Night Safari พืชสวนโลก และดอยค�ำ มาทีน่ ่กี นั แล ้ว เพราะอะไรก็ไม่รู”้ แต่ผมกลับชอบมากครับ เพราะมัน ทะลุวดั อุโมงค์ออกหลัง มช.ได้สบายใจเฉิบ ไม่เหวกโหวกวายโวย เคยมัย้ ครับ เวลาทีไ่ ปเทีย่ วสถานทีธ่ รรมชาติ แล ้วพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ 7

b side


B I K E E V E N T

VISIT ‘LI’ ปั่นไป ‘ลี้’ เรื่อง : HIP Team ภาพ : BIKE Community

สาเหตุ ห นึ่ ง ที่ เ ราตั ด สิ น ใจไปร่ ว มงาน ‘ปั ่ น ชมวิ ถี ช นเผ่ า ตามรอยครูบา ลีห้ ละปูน (ล�ำพูน)’ ทีก่ ารท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย ส�ำนักงานล�ำปาง ร่วมกับ BIKE Community ร่วมกันจัดขึ้น เมือ่ ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ทผ ี่ า่ นมา ณ จังหวัดล�ำพูน ก็เพราะ ค�ำโปรยของงานทีว่ า่ ‘ล�ำพูนไม่ใช่เมืองผ่าน ไม่ปน่ั กับเราก็มาไม่ถงึ ’ ยิง่ เมือ่ บวกกับข้อมูลทีว่ า่ เส้นทางทีจ่ ะปัน่ กันในครัง้ นี้ ยังจะเป็ นการน�ำร่อง เพือ่ พัฒนาเป็ นเส้นทางปัน่ จักรยาน ส�ำหรับนักท่องเทีย่ วทีช่ น่ื ชอบการปัน่ จักรยาน ต่อไปในอนาคตด้วยแล ้ว ก็ยง่ิ กระตุน้ ความสนใจให้เพิม่ มากขึ้นตามไปด้วย การปัน่ ในครัง้ นี้ ซึง่ มีระยะทางไป - กลับ รวม 23 กิโลเมตร มีทมี มาร์แชล, เจ้า หน้า ที่ต ำ� รวจจราจร, หน่ ว ยรถพยาบาล และมัค คุ เ ทศก์ มาคอยดู แ ล ความปลอดภัยให้กบั นักปัน่ ตลอดเส้นทาง รวมทัง้ มีความสวยงามน่ ารักจาก 2 นางฟ้ านักปัน่ อย่าง ‘คุณทอฟฟี่ ’ นักปัน่ คนดังจากเมืองล�ำปาง และ ‘คุณโอ๋’ พิธกี รนักปัน่ คนเก่งจากรายการ ‘ซุปตาร์ พาปัน่ ’ ทีม่ าร่วมปัน่ ในนี้ดว้ ยนัน้ อาจจะ ไม่ใช่ทริปทีเ่ น้นในเรือ่ งความไกลของระยะทางหรือการท�ำสถิตเิ วลา หากเปิ ดโอกาส ให้นกั ปัน่ ได้ซึมซับความสวยงามและสงบร่ มรื่นของธรรมชาติตลอดเส้นทาง รวมไปถึงได้สมั ผัสวิถชี วี ติ ของชุมชนและผูค้ นในอ�ำเภอลี้ จังหวัดล�ำพูน ซึง่ เป็ น อ�ำเภอทีห่ ลายคนอาจจะยังไม่รูจ้ กั ยังไม่เคยไปเยือน หรือรูจ้ กั แค่เพียงผิวเผิน แต่ในอ�ำเภอแห่งนี้มเี สน่หห์ ลายอย่างทีน่ ่าสนใจควรค่าแก่การท�ำความรูจ้ กั ทริปนี้เริ่มต้นวันแรกกันในวันเสาร์ท่ี 25 กุมภาพันธ์ โดยเหล่านักปัน่ มารวมตัวกันตัง้ แต่เช้าที่ ‘วัดพระธาตุหา้ ดวง’ ซึ่งเป็ นจุดสตาร์ทและจุดสิ้นสุด ของการปัน่ ในวันแรก เพือ่ ลงทะเบียนรับเสื้อและรับประทานอาหารเช้า ก่อนทีจ่ ะ ได้เ วลาล อ้ หมุน เคลื่อ นขบวนออกเดิน ทาง โดยจุ ด แรกที่จ ะแวะกัน คื อ ที่ ‘วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม’ ทีเ่ หล่านักปัน่ จะได้ร่วมกันท�ำบุญถวาย ‘สังฆทานผัก’ ซึ่งมีแห่งเดียวเท่านัน้ ในประเทศไทย หลังจากนัน้ จุดต่อมาที่นปั นั ่ ไปเยือนคือ ‘ศูนย์วจิ ยั หัตถกรรมบ้านห้วยต้ม’ ซึ่งเป็ นจุดที่ให้นกั ปัน่ ได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ จากฝี มอื ของพี่นอ้ งชนเผ่า โดยที่ทีมผู จ้ ดั งานรับอาสาน�ำกลับไปไว้ท่ที ่พี กั ให้ ไม่ตอ้ งหิ้วพะรุงพะรังไปตลอดทาง หลังจากช้อปปิ้ งกันแล ้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ โดยจุดหมายทีจ่ ะปัน่ ไปต่อ คือที่ ‘พระมหาเจดียศ์ รีเวียงชัย’ ซึ่งเป็ นเจดียท์ ่ีสร้างด้วยศิ ลาแลงทัง้ องค์ ทีใ่ หญ่ทส่ี ดุ ในประเทศไทย จากนัน้ ขบวนจักรยานมุง่ สู่ ‘ชุมชนน�ำ้ บ่อน้อย’ หมูบ่ ้าน ทีม่ บี อ่ น�ำ้ ศักดิ์สทิ ธิ์ทไ่ี ม่มวี นั หมด และเป็ นชุมชนทีใ่ ช้ชวี ติ สมถะ ไม่ใช้ไฟฟ้ าและ น�ำ้ ประปา ส่วนจุดสุดท้ายทีเ่ หล่านักปัน่ ไปเยือนคือ ‘อนุสาวรียส์ ามครูบา’ เพือ่ ให้ นักปัน่ ได้สกั การะอนุสาวรียข์ องพระอริยสงฆ์ 3 ท่าน ทีม่ ถี น่ิ เกิดอยู่ทอ่ี ำ� เภอลี้ จังหวัดล�ำพูน ได้แก่ ครูบาเจ้าศรีวชิ ยั วัดบ้านปาง, ครูบาเจ้าอภิชยั (ขาวปี ) วัดพระพุทธบาทผาหนาม และครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เพือ่ ความเป็ นสิรมิ งคล ก่อนทีข่ บวนของนักปัน่ จะกลับเข้าสู่วดั พระธาตุหา้ ดวง ซึง่ ถือเป็ นการสิ้นสุดการเดินทางในช่วงเช้า โดยในช่วงบ่าย หลังจากรับประทาน อาหารกลางวันแล ้ว เหล่านักปัน่ ได้เดินทางโดยรถยนต์ไปยัง ‘วัดพระพุทธบาท ผาหนาม’ สถานทีท่ ไ่ี ด้ชอ่ื ว่าเป็ นหลังคาของอ�ำเภอลี้ จากนัน้ จึงเข้าสูท่ พ่ี กั ในตัวเมือง ล�ำพูนเพือ่ พักผ่อนตามอัธยาศัย และรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ส่วนในวันวันอาทิตย์ท่ี 26 กุมภาพันธ์ เป็ นทริปเบาๆ อย่างการปัน่ ชมเมือง เพื่อให้นกั ปัน่ ได้เห็นบรรยากาศภายในตัวเมืองล�ำพูนกันบ้าง ก่ อนที่ทุกคน จะแยกย้ายกันเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับความหวังว่าจะมีโอกาส ได้มาเยีย่ มเยือนอ�ำเภอลี้และจังหวัดล�ำพูนอีกในอนาคต เพราะล�ำพูนไม่ได้เป็ นแค่เมืองผ่าน แต่มอี ะไรให้สมั ผัสมากกว่าทีเ่ ห็น 8

a side


เรื่อง / ภาพ : เอ๋ หนวด

CYCLIST MEAL กินดีปั่นดี

B I K E S A F E

ส�ำหรับนักจักรยาน นักวิ่ง และนักกีฬาสายเอ็นดูแรนซ์ การที่จะไปให้ได้เร็วที่สุด ‘น�้ำหนักตัวที่เบาและร่างกายที่ไร้ไขมัน’ ผนวกกับ ‘ความแข็งแรงและสุขภาพที่ดี’ นับว่า เป็นหัวใจของสมรรถภาพร่างกายที่เหมาะสมกับการออกก�ำลังกาย และเมื่อผสานเข้ากับ การฝึกซ้อมที่หนัก จริงจังและมีแบบแผน เราก็จะแสดงศักยภาพของเราออกมาได้เต็มที่ ในขณะเดียวกัน ถ้าหากเรามุ่งแต่ ท่ีจะลดน�ำ้ หนักตัว โดยการบริโภคแคลอรี่นอ้ ยเกินกว่าที่ร่างกาย ต้องน�ำพลังงานไปใช้มากเกินไป แทนที่จะมีนำ�้ หนักตัวที่เบาและร่างกายไร้ไขมัน กลับจะเป็ นทางลัดเร่งร่างกาย ให้เข้าสูภ่ าวะโอเวอร์เทรน ซึง่ เป็ นภาวะทีน่ ่ากลัวมากส�ำหรับนักกีฬา ในขณะทีถ่ า้ เรากินมากเกินกว่าทีร่ ่างกายต้องการ เราก็คงไม่มรี ูปร่างดีอย่างทีเ่ ราต้องการ ร่างกายคงมีไขมันมากเกินไป การรักษาสมดุลของการออกก�ำลังและการกิน จึงต้องการการเอาใจใส่ในรายละเอียดพอสมควร ส�ำหรับนักกีฬาสายเอ็นดูแรนซ์ เป้ าหมายของการลดน�ำ้ หนักควรเน้นที่การลดไขมันในร่างกาย ซึ่งเป็ น ขบวนการทีต่ อ้ งการเวลา โดยโภชนาการทีด่ มี สี ว่ นส�ำคัญมากกว่าการออกก�ำลังกาย โปรดหลีกเลีย่ งการบริโภคแคลอรี่ ทีน่ อ้ ยกว่าทีร่ ่างกายต้องการอย่างรุนแรง วางเป้ าหมายให้บริโภคแคลอรี่ให้ขาดไปวันละประมาณ 300 - 500 แคลอรี่ เพือ่ สุขภาพที่ดอี ย่างยัง่ ยืนของการลดไขมันในร่างกาย ในช่วงของการฝึ กซ้อมช่วงเบสเทรนนิ่ง การขาดแคลอรี่ ทีม่ ากเกินไปจะท�ำให้สมองเปลีย่ นโหมดร่างกายไปสู่โหมดขาดแคลนอาหาร ซึง่ สิง่ นี้จะไปขัดขวางการสร้างความฟิ ต และล็อคระบบเก็บกักไขมัน และท�ำให้ฮอร์โมนไม่สมดุล สูญเสียมวลกระดูก และภูมติ า้ นทานโรคต�ำ่ ลง ดังนัน้ เพือ่ รักษาน�ำ้ หนักตัวทีเ่ หมาะสม และมีความฟิ ตอยู่เสมอ ‘คุณต้องมีสุขภาพทีด่ ’ี วิธีงา่ ยๆ แต่ทำ� ยากของการมีนำ�้ หนักตัวทีเ่ หมาะสม มีสุขภาพทีด่ แี ละแข็งแรง คือการเลือกกินและไม่กนิ อาหารบางอย่าง - ลด ละ เลิก น�ำ้ อัดลมทุกชนิด ถ้าเป็ นไปได้ เลิกกินน�ำ้ ตาล - งดเครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ ลูกอม ขนมเค้ก ของทอด ของหวาน และอาหารขยะทัง้ หลาย - ลดอาหารประเภทแป้ งในวันทีไ่ ม่ได้ออกก�ำลัง และกินอาหารคาร์โบไฮเดรตต�ำ ่ โปรตีนสูงในมื้อเย็น - งดกินหลังสองทุ่ม - กินผักให้ได้ครึ่งหนึ่งของอาหารในแต่ละมื้อ กินผักให้ครบทุกสี ผักสียง่ิ เข้ม ยิง่ มีคุณค่าทางอาหารสูง - ผลไม้มปี ระโยชน์มากในการควบคุมน�ำ้ หนัก และเพิม่ ภูมติ า้ นทาน โดยเฉพาะผลไม้ประเภทเบอร์ร่ที งั้ หลาย - อย่าหลอกตัวเองว่า ‘เราออกก�ำลังกายมาก กินเท่าไหร่กไ็ ด้’ - และเคล็ดลับส�ำคัญ ซึง่ ผมชอบมาก... นอนให้ได้วนั ละ 8 ชัว่ โมง การนอนน้อยเกินจะขัดขวางการลดไขมัน เพิม่ การฝึ กซ้อมโซน 2 โดยให้ทอ้ งว่าง สัปดาห์ละ 2 ครัง้ ครัง้ ละ 45 – 75 นาที เพือ่ เผาผลาญแคลอรี่ แล ว้ ค่ อ ยกิ น อาหารเช้า ทัน ทีห ลัง การฝึ ก ซ้อ ม การฝึ ก ซ้อ มหรื อ ออกก�ำ ลัง กายในโซน 2 จะท�ำ ให้ส ดั ส่ ว น การเผาผลาญไขมันมากขึ้น ภูมคิ มุ ้ กันโรคของร่างกายดีข้นึ ระบบหมุนเวียนเลือดดี สมองปลอดโปร่ง ไม่ว่าคุณจะเป็ นนักกีฬา นักออกก�ำลังกาย แฟชัน่ นิสต้า หรือเริ่มออกก�ำลังกาย อย่าลืมดู แลสุขภาพ ให้แข็งแรงด้วย ขอให้สนุกกับการฝึ กซ้อม ออกก�ำลังกาย และมีความสุขกับการกินเพือ่ สุขภาพนะครับ 9

b side


B I K E R E V I E W

NOBLE COMPO SITES ของดีไม่จ�ำเป็นต้องแพง เรื่อง /ภาพ : จุ๋ย จุ๋ยส์

ผมพูดได้เต็มปากเลยครับว่า “ของดีๆ บางทีกไ็ ม่จ�ำเป็นต้องแพงเสมอไป” แล้วยิง่ ถ้าเป็นของคนไทย ผมสนับสนุนเต็มที่ ถ้ามีอะไรดีๆ แบบนี้ ผมก็อยากจะบอกต่อให้ได้ทราบกันครับ ส�ำหรับผมแลว้ ลอ้ จักรยานก็เหมือนกับขาของคน ขาแข็งแรงก็ว่งิ ได้ อย่างมันใจ ่ ขาสวยสาวก็เหลียว ขาแรงก็แซงสนุก แต่นกั ปัน่ หลายคนมีงบน้อย ในการอัพรถ อัพล ้อจักรยานให้มนั ซิง่ ๆ ฉะนัน้ ถ้าใครมีงบไม่เกินสามหมืน่ บาท แล ้วอยากได้ล ้อจ๊าบๆ คาร์บอนขอบสูง ดุมเซรามิค ผ้าเบรคเรโน แกนปลดแบบเบาๆ ผมขอแนะน�ำลอ้ ตัวนี้เลยครับ ‘NOBLE COMPOSITES’ อย่างหล่อเลย ทีผ่ มใช้อยู่ถอื ว่าเป็ นตัวท็อปของยีห่ อ้ นี้เลยนะครับ ชื่อรุ่นเจ้าล ้อตัวนี้คอื NC50R Tubular ราคาค่าตัว 26,900 บาทไทย และค�ำถามทีต่ ามมาก็คอื “ท�ำไมถูกจัง” อ๋อ... ก็เป็ นเพราะมันเป็ นแบรนด์ของคนไทยยังไงล่ะครับ เริ่มจากวัยรุ่น ไฟแรง 3 คนทีม่ คี วามฝันและรักในจักรยาน ร่วมใจลงขันท�ำแบรนด์ล ้อจักรยาน โดยคนไทย เพือ่ คนไทย ราคาจึงไม่หนีไปไหนไกล แต่ได้คุณภาพระดับสากล เป็ นล ้อเกรดดี ระดับ High-End Carbonfiber Material และยังเป็ น Best In Class Aerodynamics ทัง้ 3 เลือกสรรวัสดุอย่างดี จากโรงงานทีไ่ ด้มาตรฐาน ในประเทศไต้หวันด้วยตัวเอง ในราคาทีจ่ บั ต้องได้ แบบนี้สใิ ช่เลย ผมชอบมาก ได้ใจกันไป ผมไม่ไ ด้ล องแค่ อ าทิต ย์ส องอาทิต ย์แ ล ว้ เอามารีวิว โฆษณาชวนเชื่อ เพือ่ ให้ซ้อื ตาม แต่ผมลองมาเป็ นเดือนๆ ทดสอบมาหลายรูปแบบ พอได้ล ้อตัวนี้ มาถึงมือผมปุ๊ บ ทริปแรกก็ปนั ่ เชียงใหม่ - ปาย กับ ‘HIP ปัน่ ไปปาย’ ทดสอบ กันยาวๆ 120 กิโลเมตร ทริปนี้ได้ลองทัง้ ทางราบ ขึ้นเนิน ไต่เขา Down Hill แค่ทริปแรกของเจ้า NOBLE COMPOSITES ก็แซ่บซี้ดซ้าดแล ้วครับ ผลงาน ก็เป็ นทีน่ ่าประทับใจครับ ปัน่ ท�ำ PR (เร็วกว่าสถิตเิ ดิม) เพราะว่าล ้อมีความแข็ง 10

a side


แต่ไม่ถงึ กับกระด้าง (Stiffness) กดบันไดแล ้วมาตามแรง ไม่ยว้ ย ไม่เสียแรงเปล่า ไปได้ทกุ สภาพถนน ขอบล ้อมีความกว้าง ผมใส่ยางฮาร์ฟ (Tubular) หน้ากว้าง 25 มิลลิเมตร กว้างพอดีกบั ขอบเป๊ ะ เวลาปัน่ ลงเขาก็มนใจ ั ่ เพราะเบรคหนึบดี ถึงจะมีเสียงดังเอีย๊ ดอ๊าดบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่นนั ่ ไม่ใช่ปญั หา แค่ทริปแรกก็รูส้ กึ ประทับใจแล ้วครับ ลอ้ NOBLE COMPOSITES รุ่ น NC50R Tubular มีน�ำ้ หนัก (รวมหน้า-หลัง) 1,320 กรัม (หน้า 590 กรัม หลัง 730 กรัม ไม่รวมยาง) รับน�ำ้ หนักได้มากสุด 115 กิโลกรัม ซีล่ วดแบบแบน ทัง้ ตัวลอ้ มีความแอโร่สูง ด้วยขอบสูง 50 มิลลิเมตร (รวมขอบเบรค) แถมดุมล ้อยังเป็ นลูกปื นเซรามิคอีก เรือ่ งความลืน่ ไม่ตอ้ งพูดถึง ภาษาชาวบ้านเรียกว่าลืน่ หัวแตกกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ ผมอยู่เชียงใหม่เป็ นหลัก เรื่องปัน่ จักรยานขึ้น - ลงเขา มันก็เรื่องธรรมดา อยูแ่ ล ้ว เรือ่ งของเบรคจึงส�ำคัญมาก แล ้วผมก็ค่อนข้างพอใจในการท�ำงานระหว่าง ขอบเบรคกับผ้าเบรคทีใ่ ห้มา (ผ้าเบรค Reynold) ผมจะเน้นมากเรือ่ งการลงเขาเร็วๆ

ของล อ้ คาร์บ อน ตัง้ แต่ ล องใช้ล อ้ คู่ น้ ี ม าแล ว้ สักพัก ก็ยงั ไม่พบปัญหาใดๆ งานปัน่ ใหญ่ๆ ก็ไปมาหลายงาน อย่างงานปัน่ ขึ้นดอยอินทนนท์ ครัง้ ที่ 10 ผมปัน่ ทัง้ ขึ้น และลง ไม่ เ ป็ น กัง วลเรื่ อ งการเบรคเลยครับ หนึ บ ดี มัน่ ใจ เวลาโดนน�ำ้ หรือฝนก็เป็ นธรรมดาของขอบคาร์บอนที่จะมีอาการลื่นไปบ้าง แต่กย็ งั เบรคอยู่กว่าล ้ออืน่ ๆ ทีผ่ มเคยใช้ เรื่องความทนนี่ก็เป็ นอีกอย่าง ผมเคยจักรยานลม้ ตอนขาลงดอยสุเทพ วิง่ ทับแผ่นพลาสติกบนถนนตอนเข้าโค้ง โดยเป็ นอุบตั ิเหตุท่ไี ม่ได้เกิดจากลอ้ แต่อย่างใด ด้วยความเร็วค่อนข้างสูง จึงท�ำให้รถสไลด์ไปชนกับขอบทางอย่างจัง แฮนด์เบี้ยวไปทาง ล ้อก็เบี้ยวไปอีกทาง แต่ล ้อไม่แตก คาร์บอนแข็งมาก มีอาการ ดุง้ นิดหน่อย เอาไปตัง้ ซีน่ ิดนึงก็กลับมาปัน่ ได้ปกติ แจ๋วจริงๆ ความลูล่ มของล ้อ ก็ทำ� ได้อย่างดีครับ ทริปล่าสุด เอาไปปัน่ ที่จงั หวัดบุรีรมั ย์มา 140 กิโลเมตร ถนนโล่งๆ ยาวๆ ลมแรงพอควร แต่ก็เอาอยู่ ปัน่ AV 33 สบาย ล ้อขอบสูง แต่ไม่ยว้ ย ช่วยได้เยอะ (นีข่ นาดเพิง่ ล ้มได้ 3 วัน เจ็บยังไม่หายดีเลยนะเนีย่ ฮ่าๆๆ) สรุปแล ้ว ล ้อ NOBLE COMPOSITES NC50R Tubular คู่น้ โี ดยรวม ดีครับ ส�ำหรับผมแล ้ว ค่อนข้างครบรส ไต่เขาได้ ทางเรียบดี แข็ง ทน ลืน่ ดูแลง่าย โลโก้สวยงาม และทีส่ ำ� คัญ ราคาไม่แพง คุม้ ค่ามากกับราคาทีจ่ ่าย แล ้วได้ของ คุณภาพดี แทบไม่แตกต่างจากลอ้ ราคาเกือบแสนที่ผมได้ลองมา ถือเป็ นอีก หนึ่งตัวเลือกส�ำหรับผู อ้ ่ านนะครับ เพราะผมลองใช้แลว้ จึงรู ว้ ่าเป็ นของดี ของไม่ดเี ราจะไม่บอกกัน มันดีต่อผม และอาจจะดีต่อคุณ แต่ทแ่ี น่ๆ มันดีต่อใจ และเงินในกระเป๋ าครับ ^^ Facebook : NOBLE Composites Bikes

11

b side


B I K E S P E C I A L

rnฃ project TOKYO เสื้อผ้า กระเป๋า หมวก

และอื่นๆ ส�ำหรับคนปั่นจักรยาน เรื่อง /ภาพ : สม สมส์

ส� ำ หรั บ คนปั ่ น จั ก รยาน เวลาเดิ น ทางไปเที่ ย ว ตามเมื อ งต่ า งๆ ก็ มั ก จะไปเดิ น เล่ น หาซื้ อ ของที่ ใ ช้ ง าน เกีย่ วกับจักรยาน เดือนก่อน HIP Magazine ได้มโี อกาส ผ่านไปร้าน rin projecet ที่โตเกียว และเห็นว่าน่าสนใจ เลยอยากจะมาแนะน�ำกัน rin project เป็ นสินค้าเกี่ยวกับจักรยาน แบรนด์ญ่ีป่ ุน ที่เ น้น ทางด้า นแฟชัน่ พวก เสื้อ ผ้า กางเกงล�ำ ลอง หมวกแฟชัน่ มากกว่ า ชุ ด ปัน่ แบบจริงจัง พวกเสื้อกันฝน หมวกกันหนาว อะไรพวกนี้ ที่น่ี จ ะมีห มด และที่มีใ ห้เ ลือ กมากอีก อย่ า งก็ คื อ กระเป๋ าติดจักรยาน กระเป๋ าสะพาย ส�ำหรับนักปัน่ สายท่องเทีย่ ว ดูจากคุณภาพวัสดุและงานดีไซน์แล ้ว ใครชอบสไตล์ญ่ี ป่ ุ นน่ า จะโดน สิ น ค้า ในร้า นนี้ เกือบทัง้ หมด Made in Japan ทีส่ ำ� คัญคือ ราคา ไม่ ไ ด้แ พงมาก เป็ นร้า นที่ เ หมาะส�ำ หรับ คนที่ ปั ่น จั ก ร ย า น ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จ� ำ วั น ห รื อ ปั ่น เ พื่ อ การท่องเทีย่ วน่าจะแวะไปชม แต่อาจจะไม่ใช่ทางของ พวกนักปัน่ สายจริงจังหรือสายแข่งขัน และนอกจาก จะขายของเกี่ ย วกับ จัก รยานแล ว้ ร้า นนี้ ยัง มี จัก รยาน(ดู ) ดีใ ห้เ ช่ า ปัน่ เที่ย วเล่น ในโตเกีย วด้ว ย สนนราคาค่ าเช่า 3,000 เยน/วัน ร้านจะเปิ ดเวลา 11:00-18:00 น การเดินทางไปร้าน rin project ก็ไม่ยากนะครับ นัง่ รถไฟใต้ดนิ ในโตเกียว (Tokyo Subway) Ginza Line ลงสถานี Tawaramachi (G18) แล ้วเดินไป อีกนิดเดียว ร้านเป็ นร้านเล็กๆ อยู่รมิ ถนน ถ้าหาก สนใจจะดูสนิ ค้าของ rin project ก็สามารถเข้าไปดู แคตตาล็อกได้ทเ่ี ว็บไซต์ www.rinproject.com Rin Project 1 Chome-2-3 Matsugaya Taito Tokyo /zip 111-0036 JAPAN Tel: 03-3842-2883 www.rinproject.com 12

a side


D R I N K

ORIHARA SHOTEN TOKYO

ร้านเหล้าสาเกแบบญี่ปุ่น-ญี่ปุ่น เรื่อง /ภาพ : สม สมส์

ถ้าชอบดืม่ โดยเฉพาะชอบลองสาเก และผ่านไปโตเกียว อยากแนะน�ำ ให้ไปร้านนี้ครับ ชือ่ ภาษาอังกฤษของร้านนี้คอื Orihara Shoten คือเป็ นร้านสาเก สไตล์ญ่ีป่ ุนแท้ ในร้านนี้ไม่มีเก้าอี้ให้นงั ่ นะครับ ยืนดื่ม และไม่มีเด็กเสิรฟ์ ต้องบริการตัวเอง ที่อ ยากแนะน�ำ ร้า นนี้ เพราะในร้า นมีเ หล า้ สาเกหลายร้อ ยยี่ห อ้ ขาย โดยวางเรียงไว้ท่ตี ูต้ รงผนังของร้าน แต่เราสามารถซื้อดื่มเป็ นแก้วได้ ที่ขวด จะมีราคาติดไว้ว่า ขวดละกี่เยน แก้วละกี่เยน, วิธีการใช้บริการคือ ไปดูสาเก ทีค่ ดิ ว่าตัวเองอยากลอง แล ้วหยิบไปทีเ่ คาน์เตอร์ จะลองแบบแก้วเล็ก 55 cc. หรือแก้วใหญ่ 110 cc. ก็ได้ จ่ายเงิน แล ้วก็เอาขวดมาเก็บทีเ่ ดิม ใครอยากจะ ลองขวดไหนก็เลือกเอา หรือว่าถ้าเกิดลองขวดไหนแล ้วชอบใจ จะซื้อกลับบ้าน เป็ นขวดเลยก็ได้

กับแกล ้มในร้าน ก็จะมีโอเด้ง กับ ขนมถุง เป็ นขนมขบเคี้ยวเด็กๆ ถุงเล็กๆ สนนราคา 20-30 เยน ก็มขี าย เรียกได้วา่ สนุกและเพลินกับการดืม่ ดีครับ ทีต่ งั้ ของร้าน Orihara Shoten ไปไม่ยาก นัง่ Tokyo Subway ไปลงที่ สถานี Monzen-nakacho (Oedo Line E15 หรือ Tozai Line T12) ออกประตูทางออกหมายเลข 1 จะเจอซอยตรงสถานี เดินเข้าซอยไปประมาณ 50 เมตร ร้านจะอยู่ซา้ ยมือ นอกจากทีโ่ ตเกียวแล ้ว Orihara Shoten ยังมีสาขาทีส่ งิ คโปร์ และล่าสุด มาเปิ ดทีก่ รุงเทพฯ ตัง้ แต่เมือ่ เดือนกันยายนทีผ่ ่านมา นี่กะว่าถ้ามีโอกาสได้ลงไป กรุงเทพฯ ว่าจะแวะไปลองสักหน่อย (ถ้าสนใจลองเสิรช์ Facebook : Orihara Shoten Bangkok ดูนะครับ เห็นว่าร้านอยู่แถวเอกมัย) หรือ Website : www.orihara-net.co.jp 13

b side


R U N

FIRST TIME RUN ก้าวแรกสู่สนามวิ่ง เรื่อง / ภาพ : อาเหลียง

ในความคิดตอนนัน้ กะจะลองที่ 5 กม. ก่อน เพราะยังไม่เคยออกงานวิง่ ทีไ่ หนเลย แต่ตาก็ดนั ไปสะดุดกับค�ำว่า ‘ระยะมินมิ าราธอน ได้เหรียญ 300 คนแรก’ (สมัยก่อนงานวิง่ ในจังหวัดนี้จะแจกเหรียญจ�ำนวนจ�ำกัด ท�ำให้ตอ้ งแย่งกันครับ) ท�ำให้เราเริ่มฉุกคิด “เฮ้ย ถ้าลงฟันรันไป จะได้เหรียญมัย้ วะ?” เรื่องเหรียญนี่ เป็ นเรื่องส�ำคัญมากเลยนะส�ำหรับผมที่เกิดมาไม่เคยเป็ นเอกด้านกีฬาเลย สมัยเป็ นเด็ก เป็ นวัยรุ่น ไม่เคยแข่งขันกีฬาอะไรใดๆ ทัง้ สิ้น มากสุดก็ปิงปอง กับเปตอง ฝี มอื กากมาก การทีจ่ ะได้เหรียญรางวัลอะไรใดๆ มานัน้ เป็ นเรื่องที่ ผมเฝ้ าใฝ่ ฝนั มาตลอด เพราะไม่เคยมีโมเมนท์นนั้ เลย ดังนัน้ เรื่องเหรียญจึงเป็ น ปัจจัยหลักของผมเลยในตอนนัน้ ทีผ่ มต้องการทีจ่ ะพิชติ การแข่งขันเพือ่ ได้มนั มา ผมคิดเรื่องนี้นานมาก รูส้ กึ ตัวอีกที ภาพก็ตดั มาทีเ่ ช้ามืดวันแข่งขันแล ้ว ผมยืนงงๆ อยู่ทง่ี านวิง่ คณะเศรษฐศาสตร์ มินิมาราธอน ทีจ่ ดั อยู่ขา้ งๆ สนามกีฬากลาง มช. สมัยนัน้ สามารถสมัครหน้างานได้ เราก็ยนื ชัง่ ใจอยู่หน้างาน สองจิตสองใจ จะลงระยะอะไรดี คิดอยู่นาน จนมีเจ้าหน้าทีม่ าถามว่า “สมัครวิง่ ใช่มยั้ คะ?” เราก็ตกใจเล็กน้อย หลุดจากภวังค์ ตอบไปว่าครับ แลว้ เขาก็ช้ ี ให้ไปสมัครทีช่ ่องมินิมาราธอนเลย แลว้ ผมก็สมัครมินิมาราธอนลงไปแบบงงๆ “นี่สรุปว่าเราต้องวิง่ 10 กิโลฯ จริงๆ แล ้วใช่มะ?” แล ้วก็ได้เสื้อวิง่ มาอีก 1 ตัว ตอนนัน้ ยังไม่รูว้ า่ ต้องใส่ไปวิง่ ด้วยเหรอ หรือว่ายังไง แจกให้เฉยๆ แล ้วเอาไปเก็บ? ตอนนัน้ บอกตรงๆ ว่ายังไม่ชนิ กับเสื้อสีชมพู ก็เลยเอาไปเก็บไว้ก่อน ตอนนัน้ ไม่รูเ้ รื่องอะไรเลยครับ ไม่รูว้ า่ ต้องอบอุ่นร่างกาย ไม่รูว้ า่ ก่อนวิง่ จะต้องไปทีไ่ หนอย่างไร แล ้ว Check-In คืออะไร? จะต้องท�ำยังไงบ้าง? ตอนนัน้ ได้แต่อาศัยความชุลมุน ตีเนียนๆ ตามชาวบ้านไปเรื่อยๆ ถึงรูว้ ่า Check-In คือการเอาเบอร์วง่ิ ตัวเองไปให้ขีดเช็คก่อน ว่านักวิง่ เข้าจุดเริม่ ต้นแล ้วนะ ไม่โผล่มา ระหว่างการแข่งขันหรือโกงนะ? เวลาประมาณ 05:50 น. ท่านประธานก็มากล่าว เปิ ดพิธีการแข่งขัน นักวิง่ ใส่เสื้อกลา้ ม กางเกงขาสัน้ ก็เริ่มกรูไปข้างหน้าเส้น กันเป็ นแถวๆ เราเองก็ต่นื เต้นไม่นอ้ ย ทีม่ างานวิง่ ครัง้ แรกทัง้ ๆ ทีไ่ ม่รูจ้ กั ใครเลย บรรยากาศวันนัน้ ยังจ�ำได้ตดิ ตา สภาพฟ้ าสาง เริม่ เห็นทางร�ำไร ซุมนั ้ ง่ ร้านสีเ่ หลีย่ ม ทีอ่ ยูข่ ้างหน้าเรา รอให้เราวิง่ ลอดผ่าน ถนนในมหาวิทยาลัยทีค่ นุ ้ ตา คณะทีเ่ ราเรียน บรรยากาศทีค่ นุ ้ เคยก�ำลังจะกลับมา ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด (แอบแก๊นควัน เล็กน้อย เพราะช่วงนัน้ เป็ นหน้าฝุ่นลงเมืองเชียงใหม่) ก่อนที่เสียงจากล�ำโพง จะนับถอยหลัง “5... 4... 3... 2... 1...”

คุณเคยสงสัยไหมครับ ว่าเดี๋ยวนี้ ท�ำไมคนถึงออกมาวิ่ง กันเยอะขึน้ ถ่ายรูปลงโซเชียลเน็ตเวิรค์ มากขึน้ เปิดเฟซบุค๊ มาก็มแี ต่ คนอัพรูปวิง่ บ้าง รองเท้าใหม่บา้ ง ถ่ายรูปกับเพือ่ นๆ แบบเหงือ่ เยิม้ ๆ วันอาทิตย์ก็จะต้องเห็นคนถ่ายรูปคู่กับเหรียญรางวัล ผมเชื่อว่า หลายๆ คนคงจะไม่เข้าใจโมเมนท์แบบนี้ ผมเองก็คนหนึ่งล่ะ ทีแ่ ต่ก่อนก็ไม่เคยเข้าใจหรอก ไม่แม้แต่จะกดไลค์ กดแชร์เรื่องอะไรแบบนี้เลย เพราะผมไม่เข้าใจ และเข้าไม่ถงึ ว่าท�ำไมเราจะต้อง ถ่ายรูปหน้าเราโทรมๆ พร้อมกับเหรียญรางวัลสักอันนึงอวดชาวบ้านชาวช่องด้วย ผมไม่เ ข้า ใจจริง ๆ ในตอนนัน้ แต่ เมื่อ ผมได้ล องเข้า มาอยู่ ใ นวงการนี้ แล ว้ ความคิดผมกลับเปลีย่ นไป เราเข้าใจความรูส้ กึ ตรงนี้มากขึ้น พอเราได้สมั ผัส บรรยากาศเหล่ า นัน้ แล ว้ เราก็ ส ามารถเข้า ใจเรื่ อ งเหล่ า นี้ โ ดยไม่ รู ต้ วั เลย จนทุกวันนี้ เมือ่ เปิ ดเฟซบุค๊ แล ้วเห็นเพือ่ นๆ ถ่ายรูปคู่กบั เหรียญพร้อมเหงือ่ โทรมๆ มือผมก็พลันกดไลค์ให้เขาไปโดยไม่รูต้ วั เมือ่ เช้านี้ผมเปิ ดเฟซบุค๊ ของผมขึ้นมา สิง่ แรกทีม่ นั แสดงคือ วันนี้ในอดีต เมือ่ 2 ปี ทแ่ี ล ้ว เป็ นภาพทีผ่ มก�ำลังถ่ายรูปป้ ายวิง่ แรกในชีวติ ของผม ผมยังจ�ำวันนัน้ ได้ดี วันทีต่ วั ผมเองถึงจุดทีห่ าทางไปต่อในชีวติ ไม่ค่อยเจอ ชีวติ ก็เคว้งคว้าง หลังเลิกกับแฟนไปชีวติ ก็เหีย่ วเฉามาก เช้าท�ำงาน เย็นหาข้าวกิน ไม่ก็ดูหนังคนเดียว วนไปแบบนี้ทกุ วันๆ เป็ นวงจรอุบาทว์ การงานก็ไม่ราบรื่น เท่าไหร่ ปล่อยตัวเองจนกระทัง่ ร่างกายเริ่มป่ วยบ่อย น�ำ้ หนักขึ้น รูเ้ ลยว่าสุขภาพ ย�ำ่ แย่แลว้ แม้จะลองซื้อจักรยานมาปัน่ เพือ่ ออกก�ำลังกายสักคัน ก็ยงั ไม่ค่อย ดีข้นึ เท่าไหร่อยู่ดี น�ำ้ หนักก็ยงั เท่าเดิม จนวันหนึ่ง เจอพีท่ ร่ี ูจ้ กั คนนึงเขาพูดถึงงานวิง่ ขึ้นมา เราเองก็เริ่มสนใจ เลยถามพีเ่ ขาไปว่า “งานวิง่ เป็ นยังไงเหรอ?” และนัน่ เป็ นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ วงการวิง่ ของผมเลยครับ ในวันนัน้ สิง่ ทีผ่ มได้กลับมาคือโบรชัวร์ขนาด A4 หนึ่งแผ่น เป็ นโบรชัวร์ พร้อมใบสมัครไปในตัว ในนัน้ มีเขียนว่าระยะมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร และ Fun Run 5 กิโลเมตร สิง่ ทีท่ ำ� ให้น่าสนใจในสนามนี้คอื เป็ นสนามแข่ง ทีจ่ ดั ใน มช. มหาวิทยาลัยทีผ่ มเรียนจบมา และหลังจากเรียนจบก็ไม่ได้กลับมาทีน่ ่ี นานมากแล ้ว ทัง้ ๆ ทีอ่ ยูจ่ งั หวัดเดียวกันนี่แหละ “ได้กลับมาก็ดนี ะ ผมคิดถึงทีน่ ่”ี ผมคิดอย่างนัน้ 14

a side


แล ้วเสียงแตรลมก็ดงั ขึ้น พร้อมกับก้าวแรกในชีวติ งานแข่งของผม ตึก๊ ตั ๊กๆ เสียงฝี เท้านับร้อยคู่ว่งิ ออกมาจากซุม้ ปล่อยตัวนัง่ ร้านสีชมพู เหล่านักวิ่งต่ างกรู กนั ออกไป และสับเท้าออกไปเพื่อชิงชัยกันในการแข่งขัน ส่วนตัวผมนัน้ ยังงงๆ ค่อยๆ ไหลไปตามกระแสฝูงชนไปเรื่อยๆ ในตอนนัน้ สิ่ง ที่ช่ ว ยบอกเวลาได้อ ย่ า งเดีย วคื อ มือ ถือ เครื่ อ งเล็ก ๆ ที่ใ ส่ ถุง รัด แขนไว้ เปิ ด แอพพลิเ คชัน่ วิ่ง ไว้ แล ว้ มัน จะบอกเวลาทุกๆ ระยะ 1 กม. แต่ ดว้ ย มวลมหาชนทัง้ หลาย มันท�ำให้เราไม่ได้ยนิ อะไรเลย ผมก้ม หน้า ก้ม ตาวิ่ง ไปเรื่ อ ยๆ จากโรงยิ ม ออกมาทางถนนหลัก วิง่ ตรงไปยังหอนาฬกิ า มช. ภาพเก่าๆ มันก็ลอยมา สมัยผมยังเป็ น นศ. ยิง่ วิง่ ไป ก็ยง่ิ คิดถึง สักพักก็วง่ิ วนออกไปหลังมอ โอ้ ทีน้ มี าเต็มครับ ร้านเก่าๆ ทีเ่ คยกิน ร้านใหม่ๆ ทีม่ าเปิ ดแทน กลิน่ หมูป้ ิ งทีแ่ สนหอม (ตอนนัน้ ไม่ได้ทานข้าวก่อนวิง่ มา) ท�ำให้ผมรูส้ กึ มีความสุขขึ้นมาเต็มในหัวใจมากขึ้นไปอีก ตอนนัน้ ยังไม่รูว้ า่ เราวิง่ เร็วหรือช้า แต่รูว้ า่ ก็วง่ิ ๆ ตามมวลมหาชนนี่แหละ สักแป๊ บก็เจอโต๊ะแจกน�ำ ้ แต่ ดว้ ยความซื่อตอนนัน้ คิดว่าเป็ นชาวบ้านแจก แลว้ เราก็เป็ นคนขี้เกรงใจไง คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู ้ ขอบคุณเขาแลว้ ก็วง่ิ ผ่านไปเลย ไม่กนิ น�ำ้ ซะอย่างนัน้ (จริงๆ กินได้นะ ควรกินด้วย ไม่งนั้ เดีย๋ วหมดแรง) วิง่ ไป อีกสักนิดก็เจอน้องๆ แจกหนังยางพันด้ายสีอยู่ เราก็หยิบๆ ไป โดยทีไ่ ม่รูว้ ่า เอาไว้ทำ� อะไร (มันคือ Check Point ครับ แสดงให้เห็นว่าเราผ่านเส้นทางนี้ มาจริงๆ ไม่ได้ลดั มา) เอามาคล ้องมือไว้ แล ้วก็วง่ิ ต่อไป ความหอบเริ่มเข้ามาเยือน ผมรู ต้ วั เองว่าตอนนี้หอบมากแลว้ ไม่เคย เร่งตัวเองหนักขนาดนี้มาก่อน มือถือก็บอกเตือนๆ มาว่าตอนนี้ประมาณ 3 กิโล ก่อนทีเ่ สียงจะเริ่มขาดๆ ไปเพราะมือถือเปี ยกเหงือ่ โอย ให้ตายเถอะอาเหลียง มาเดินตอนนี้อายน้องอายนุ่งเลยนะ ผมบอกกับตัวเอง พลางหาเป้ าเบีย่ งเบน ความสนใจตัวเองไปทีอ่ น่ื ๆ เช่น “ดูนอ้ งคนนัน้ สิ ตัวเล็กกว่าเราอีก วิง่ ปร๋อๆ เลย” หรือ “พีค่ นนัน้ ด้วย ตัวอ้วนกว่าเราอีก ท�ำไมเขายังไม่หยุดเลย” อ้างโน่นอ้างนี่ ไปเรือ่ ยๆ เพือ่ ให้ตัวเองวิง่ ได้เรือ่ ยๆ แหละ แต่ยาทีด่ ที ส่ี ดุ ของวันนัน้ คือสาวผมยาว ใส่เสื้อพิมพ์ตดิ ว่า Single Runner (ทีมนักวิง่ น่ารัก) นี่แหละ ท�ำผมผ่านช่วง กม. 4 - 6 ไปได้แบบเคลิ้มๆ งงๆ

ชีวติ นี้ผมไม่เคยมีโมเมนท์แบบนี้มาก่อน เหนื่อยแทบตาย ฝื นตัวเอง ไปตลอดเส้นทาง ก้าวขาวิง่ จนขาล ้าไปหมด จนลามไปอีกวันต้องเดินกะเผลกๆ แต่มนั สุข... มันมีความสุขจัง ตลอดทางทีผ่ มวิง่ จนหอบ ผมเจอเพือ่ นร่วมทางหอบเคียงข้างผม ตลอดเส้นทางทีแ่ สนยาว ผมไม่โดดเดีย่ ว ไม่เหงาเหมือนตอนผมเลิกงาน ไปดูหนังคนเดียว ตลอดเส้นทางของงานวิ่ง ผมไม่ได้ว่งิ ตลอด และผมก็ไม่ใช่คนเดียว ทีเ่ ป็ นแบบนี้ ตลอดเส้นทางวิง่ มันทรมานนะ ทัง้ ปวดขา เหงือ่ ออก เหนื่อยก็เหนื่อย แต่ผมไม่ได้รูส้ กึ ไม่ชอบเลย กลับยิง่ รูส้ กึ สนุกกว่าเดิม ชอบชีวติ แบบนี้ มากกว่า ทีเ่ ป็ นอยู่ในทุกๆ วัน การออกวิ่งในครัง้ นี้ มันท�ำให้ผมรู ว้ ่า ชีวิตมันไม่ได้น่าเบื่อตลอดไป ผมเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่าง ผมเริ่มยิ้ม จากทีไ่ ม่เคยได้ย้มิ มานาน เริ่มหัวเราะ กับความบ้าของตัวเองทีม่ าลงวิง่ ครัง้ แรกก็ลงรุ่น 10 กม. เลย (จริงๆ วันนัน้ วิง่ แค่ 9 กม.ระยะขาดไปหน่อย) ผมมีความสุข ผมสนุกกับมัน ผมดืม่ น�ำ้ เย็นหลังวิง่ เสร็จ แล ้วรูว้ า่ มันสดชื่นมากกว่าปกติ นี่คงเป็ นอะไรที่ผมขาดมานาน ไฟในตัวที่มอดดับไปนาน มันเริ่มจะมี ประกายไฟเล็ดลอดมาให้เห็นอีกครัง้ หลังจากผมเข้าเส้นชัยได้สกั พัก ผมก็เจอพีๆ่ ทีไ่ ม่ได้เจอกันนาน เขาก็เพิง่ มาออกวิง่ เหมือนกัน แล ้วเราก็คุยกันแลกเปลีย่ นประสบการณ์กนั “เฮ้ย ตรงเนินอะ มันโหดมากเลย พีเ่ ดินตลอดเลย” “เออๆ ใช่ ๆ แต่ พอถึงอ่ างแก้วแลว้ ก�ำลังใจมาเต็มเลยนะ พอรู ว้ ่า ใกล ้จะถึงแล ้วอะ” “เนี่ย พอถึงเส้นชัย ผมนี่วง่ิ เต็มเหนี่ยวเลย” เป็ น ค�ำ พู ด ที่ห ลุ ด ออกมาจากปากของคนที่ไ ม่ เ คยเข้า สัง คมมานาน อย่ า งผม นานเท่ า ไหร่ แ ล ว้ นะ ที่เ ราไม่ ไ ด้คุ ย กับ คนอื่ น แบบนี้ แต่ ว นั นี้ กับ พี่ท่ีไ ม่ไ ด้เ จอมานาน และกับ คนที่ไ ม่รู จ้ กั เรากลับ คุ ย กัน ได้อ ย่ า งปกติ เหมือนเพือ่ นกันเลย หลังจากคุยกันแล ้วสักพักเราก็แยกย้ายกัน และเหมือนฟ้ าจะเป็ นใจให้เรา ผจญภัยกับเส้นทางสายนักวิง่ ต่อไป เพราะก่อนผมจะกลับออกจากงานในวันนัน้ มีคนแจกใบปลิวให้ เป็ นใบปลิวแจ้งรายละเอียดของงานวิง่ ในจังหวัดเชียงใหม่ งานต่อไปนัน่ เอง ซึ่งจะจัดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ขา้ งหน้า เมือ่ เห็นแบบนัน้ แลว้ ผมก็พบั ใบปลิวนี้เก็บไว้ พร้อมมีเป้ าหมายในใจต่ อไปแลว้ ว่าฉันจะซ้อมวิ่ง ไปเพือ่ อะไร วันนัน้ ผมกลับบ้านไป และลองมานัง่ นึกดูดๆี ผมเริ่มวิง่ เพราะอกหัก ผมเริ่ม รู ส้ ึก ว่า ตัว เองชิน กับ การวิ่ง ไปแล ว้ ล่ะ ขาเริ่ม ก้า วออกไปเอง ผมเริ่มวิง่ เพราะอยากลดความอ้วน แขนเหวีย่ งไปเอง เป็ นธรรมชาติมากขึ้น เริม่ แซงคนได้บ ้างแล ้ว เราก็เริม่ มีกำ� ลังใจ ผมเริ่มวิง่ เพราะสุขภาพไม่แข็งแรง จนกระทัง่ ไปเจอเนินครูบาหน้า มช.นี่แหละ ผมนี่ถงึ กับเดินเลย หมดแรงจริงๆ สิง่ ทีค่ าดหวังหลังจากวิง่ ก็แค่เหรียญเล็กๆ 1 ชิ้น ทีเ่ ป็ นรางวัลส�ำหรับ แต่ เราก็ไม่ได้หมดแรงคนเดียวนะ มีคนที่หยุดวิ่งไปเดินเหมือนกันมากมาย ผูช้ นะ และน�ำ้ หนักลดลงไปหน่อย ก็เท่านัน้ เอง เลยทีเดียว ตรงนี้แหละที่ทำ� ให้ผมรู ว้ ่า งานวิ่งก็สามารถเดินได้เหมือนกันนะ แต่หลังจากวิง่ จบแล ้ว สิง่ ทีไ่ ด้รบั นอกเหนือจากทีเ่ ราคิดคือ (ทีแรกเข้าใจไปคนเดียวว่าต้องวิง่ ตลอด ไม่งนั้ เดีย๋ วตกรอบ) หัวใจได้ทำ� งานเต็มทีแ่ บบทีไ่ ม่เคยได้ทำ� มาก่อน ผ่านการวิง่ ขึ้นดอย ลงดอย แลว้ ก็กลับเข้ามาประตูหน้า มช. แลว้ ก็วง่ิ เหงือ่ ออกแบบสะใจมากๆ อะดรีนาลีนสูบฉีดทัว่ ร่าง เข้าไปทีถ่ นนเลียบอ่างแก้ว แล ้วอ้อมลงมาวิง่ ผ่านหน้าหอพัก นศ. ก่อนกลับเข้าไป วิง่ แลว้ ได้เจอเพือ่ นฝูงมากมาย แลว้ ก็ได้มติ รภาพใหม่ๆ จากกลุ่มคน ทีจ่ ดุ ปล่อยตัว / เส้นชัย ทีข่ า้ งโรงยิม บอกตรงๆ ว่าผมเพลิดเพลินกับเส้นทาง ทีช่ ่นื ชอบสิง่ เดียวกัน มากมาย กว่าจะรู ส้ ึกตัวอีกทีก็ตอนผ่านหอนาฬิกา ถึงจะรู ต้ วั ว่าใกลจ้ ะจบ เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และออร่ าของความสุข ของคนที่เข้าร่ วมงาน การแข่งขันแลว้ นี่นา พอรู ต้ วั แลว้ ว่าใกลจ้ ะจบ ผมก็ลองวิ่งเต็มที่ มีเท่าไหร่ หลังเข้าเส้นชัย ผมกลับมามองโบรชัวร์ใบนัน้ อีกครัง้ นึกถึงเรื่องราวในเช้าวันนี้ ใส่ ใ ห้ห มด จนวิ่ง แซงได้อี ก สองสามคน ก่ อ นเลี้ย วเข้า มาถึง ซุ ม้ เส้น ชัย แลว้ ก็กลับมามองตัวเองในวันเมือ่ วาน มีคำ� ถามเล็กๆ เกิดขึ้นมาถามตัวเองว่า แอบมีเซอร์ไพรส์นิดนึง ตรงทีม่ พี รมให้เราเหยียบก่อนเข้าเส้นชัยด้วย เกิดมา เราอยากเป็ นตัวเราในวันนี้ หรืออยากเป็ นตัวเองในเมือ่ วาน ไม่เคยมีโมเมนท์แบบนี้เลย ผมวิง่ ผ่านพรมเข้าเส้นชัยไปแบบงามๆ ก่อนจะถาม ค�ำตอบนัน้ ออกมาไม่ยากเลย ค�ำถามแรกกับกรรมการว่า “มีเหรียญเหลือมัย้ ?” เพราะผมเตรียมรองเท้าทีจ่ ะเอาไว้ซ้อมวิง่ ไว้แล ้ว ส�ำหรับการผจญภัยใหม่ๆ เป็ นความรูส้ กึ ทีพ่ ดู ไม่ออก บอกไม่ค่อยจะถูก กับเช้าๆ วันอาทิตย์แบบนี้ ของผมทีก่ ำ� ลังจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้ไป เหงือ่ ออกแบบท่วมตัว กับเหรียญรางวัลงานวิง่ ครัง้ แรกของชีวติ ผมยืนจ้อง แล ้วคุณล่ะ? อยากจะออกมาผจญภัยกันบ้างแล ้วหรือยัง? เหรียญเล็กๆ ทีม่ สี ายคล ้องเป็ นลายธงชาติน้ นี านพอสมควร

ก่อนเลี้ยวเข้ามาถึงซุ้มเส้นชัย แอบมีเซอร์ ไพรส์นิดนึง ตรงที่มีพรมให้เหยียบก่อนเข้าเส้นชัยด้วย เกิดมา ไม่เคยมีโมเมนท์แบบนี้เลย ผมวิ่งผ่านพรมเข้าเส้นชัย ไปแบบงามๆ ก่อนจะถามค�ำถามแรกกับกรรมการว่า “มีเหรียญเหลือมั้ย?”

15

b side


T R I P

ONE MAN TRIP

มุ่งสู่ภาคใต้ ไปกับดนตรี ในแบบ จุ๋ย จุ๋ยส์ เรื่อง /ภาพ : จุ๋ย จุ๋ยส์

นานแล้วที่ผมไม่ได้เดินทางไปภาคใต้ และดนตรีก็ท�ำให้ผม ได้เดินทางอีกครั้ง ผมมีความสุขที่ได้ท�ำในสิ่งที่รัก ได้เดินทาง ท่ อ งเที่ ย ว พร้ อ มๆ ไปกั บ การมอบความสุ ข ให้ กั บ แฟนเพลง สิ่งเหล่านี้แหละ มันคือแรงขับเคลื่อนในการด�ำเนินชีวิตของผม

16

a side

การเดินทางครัง้ นี้เริ่มจากทางร้าน ‘Drunky Bear’ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เชิญชวนผม (จุย๋ จุย๋ ส์) ไปแสดงดนตรี ให้ชาวอินดี้สุราษฎร์ได้ชม ในวันที่ 1 มีนาคมทีผ่ า่ นมา ผมตกลง ทันที เดินทางจากเชียงใหม่ไปสุราษฎร์ธานี นัง่ เครือ่ งบินตรงยาว 1 ชัว่ โมง 45 นาที มีคนมารอรับทีส่ นามบิน ซึง่ ก็เป็ นเจ้าของร้าน นัน่ เอง ทางร้านเขาดู แลอย่างดี จัดที่พกั ให้ผมใกลก้ บั ที่รา้ น เดินทางสะดวก ผมขนเอฟเฟคชุ ด ใหญ่ ม า 1 ชุ ด กับ กี ต าร์ 1 ตัว ผมจ�ำ กัด นิ ย ามแนวดนตรีใ ห้ก บั ตัว เองว่ า ‘โฟล์ค บ้า พลัง ’ เล่นคนเดียวแต่เหมือนมากันทัง้ วง โดยผมจะใช้ Loop Station เป็ นหลัก การเล่นดนตรีของผมเป็ นแบบ ‘One Man Band’ สร้างเสียงกลอง เสียงเบส เสียงกีตาร์ หรือว่าเสียงต่ างๆ ด้วยคนๆ เดียว เวลาเล่นมันสนุกมากเลยครับ มันเหมือนได้ ปลดปล่อยอารมณ์ ไม่มกี าํ แพง อิมโพรไวส์ได้โดยทีไ่ ม่มใี คร มาขัด เวลาเครื่องติดก็จะเพลิน ชอบเล่นเกินเวลาเป็ นประจ�ำ ฮ่าๆๆ ไปเล่นทีส่ ุราษฎร์คราวนี้ทกุ คนให้การต้อนรับเป็ นอย่างดี ถึงจะจบคอนเสิรต์ แล ้ว ตัวผมกับอีกหลายคนก็ยงั นัง่ คุยกันต่อ อย่างสนุกสนาน จนไม่ได้สนเวลา ก็นานๆ ทีเจอกันอะเนอะ ข่าวการมาจังหวัดสุราษฎร์ธานีของผม รูไ้ ปถึงหูของชาว จังหวัดภูเก็ต ก็เลยมีการติดต่อมาทันที ว่าสนใจจะไปภูเก็ตไหม และว่าจ้างต่อ ให้ไปเล่นทีร่ า้ น ‘ปลื้ม’ ผมตอบตกลงโดยไม่ตอ้ ง คิดมาก ถือว่ามาท�ำงานพร้อมกับเทีย่ วไปด้วย โดยมีพจ่ี ากภูเก็ต ขับรถมารับ เดินทางด้วยรถส่วนตัว จากสุราษฎร์ถงึ ภูเก็ตใช้เวลา ประมาณเกือบ 4 ชัว่ โมง ก็มาถึงทีพ่ กั ทีท่ างภูเก็ตจัดเตรียมไว้


ให้นอนตลอด 4 คืน ชื่อว่า ‘Pakta Phuket Room Service’ อยู่ ใ กล ต้ วั เมือ ง แถมพี่เ ขาใจดีมีม อเตอร์ไ ซค์ก บั จัก รยาน ให้ใ ช้ด ว้ ย พอวางของที่ ห อ้ งพัก ได้ ผมก็ ข่ีม อเตอร์ไ ซค์ ออกส�ำรวจทันที ตามประสาคนชอบเทีย่ ว ทีพ่ กั ของผม อยู่ระหว่างกลางเขาสองลูก ด้านหลังคือ ‘เขาโต๊ะแซะ’ ส่วนด้านหน้าคือ ‘เขารัง’ วันแรกก็วง่ิ ขึ้น - ลง เขาโต๊ะแซะ วันที่ 2 ปัน่ จักรยานขึ้นลงเขารัง เรื่องออกก�ำลังกาย นี่ขาดไม่ได้เลยส�ำหรับผม ตกเย็นก็มพี ๆ่ี ทีภ่ เู ก็ตท�ำอาหารเลี้ยง มีทงั้ ปลาทะเล ปลาวัวเผา หอยจุบ๊ แจง ซึ่งผมก็เพิ่งเคยกิน ครัง้ แรก อร่อยมาก มีปาร์ต้ เี ล็กๆ ทีร่ า้ น ‘Pastel’ แจมดนตรีกนั สนุ กสนานแบบเป็ นกันเอง ผมไม่ได้มาภูเก็ตนานประมาณ 4 - 5 ปี แล ้ว บ้านเมืองเปลีย่ นแปลงเท่าไหร่ ผูค้ นยังคงน่ารัก เหมือนเดิม แลว้ ทีเด็ดคืออาหารอร่ อย โดยเฉพาะรอบดึก กับข้าวต้มแห้ง ‘ร้านโกเบ๊นซ์’ สุดยอด ช่วงกลางวันผมได้มโี อกาสไปสถานีวทิ ยุ 89.75 Radio Trip Phuket เพื่อ โปรโมทงานแสดงของผมที่ร า้ นปลื้ม ในคืนวันที่ 4 มีนาคม ซึ่งบรรยากาศที่รา้ นปลื้มในคืนนัน้ สนุกมากครับ มีคนร้องตามเพลงของผมกันได้เยอะ ส่วนใหญ่ จะเป็ นเด็กมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต (มอ.) ได้เจอกับแฟนเพลงชาวภูเก็ต ก็ทำ� ให้ได้รูว้ ่ายังคงมีแฟนเพลง ทีค่ อยติดตามเราอยู่ และคอยให้กำ� ลังใจเราเสมอ จบไปกับมินิคอนเสิรต์ ของ จุย๋ จุย๋ ส์ One Man Band In Phuket แต่อารมณ์ของผมยังไม่จบ เมื่ออารมณ์ยงั ค้าง และเวลาประจวบเหมาะ ผมจึงขอเล่นโชว์อกี สักวัน ซึง่ วันที่ 5 มี น าคมตรงกับ วัน อาทิ ต ย์พ อดี ซึ่ ง ที่ น่ี ก็ มี ถ นนคนเดิ น ‘หลาดใหญ่’ ให้ได้ปล่อยของโชว์ดนตรี แต่ก่อนไปเล่นก็ตอ้ ง เที่ยวกันอีกสักหน่ อย ผมบ่นอยากเห็นทะเล พี่ๆ ที่ภูเก็ต ก็เลยจัดให้ พากันไปกินข้าวริมเลที่แหลมตุก๊ แก เกาะสิเหร่ ได้เอาขาจุ่มน�ำ้ ทะเลสมใจอยาก แล ้วก็ถงึ เวลาหัวค�ำ ่ ผมและพีๆ่ ที่ ค อยดู แ ลจึ ง ไปเตรี ย มตัว กัน ที่ ถ นนคนเดิ น หลาดใหญ่

ซึ่งก็มีศิลปิ นนักดนตรีหลายท่านแสดงความสามารถกันอยู่ เป็ น ช่ ว งๆ ของถนน ดู แ ล ว้ มีสีส นั ไม่ต่ า งจากถนนคนเดิน เชี ย งใหม่ บ า้ นเรา คราวนี้ ผ มเล่ น ในแนวแบบเปิ ด หมวก ให้คนผ่านไปผ่านมาได้ดูได้ฟงั ผมใส่เต็มที่ เล่นแบบจัดเต็ม 1 ชัว่ โมง แอบเอาเพลงของอ้ายจรัล มโนเพ็ชร มาเล่นด้วย (โชว์เหนือนิดนึง) มีผูท้ ่สี นใจในดนตรีของผมอย่างมากมาย ดีใจสุดๆ เลยครับ ผมสนุกมาก ได้ทงั้ รอยยิ้ม เสียงปรบมือ และสินน�ำ้ ใจ เล่นเสร็จก็ยงั ถ่ายรูปกันเป็ นทีร่ ะลึก อบอุ่นจริงๆ ก่ อ นกลับ ที่พ กั พวกเราก็ ไ ปร้า นของน้อ งที่ผ มรู จ้ กั กัน ต่ อ เป็ น ร้า นที่ผ มตัง้ ใจเอาไว้ว่ า ถ้า มาภู เ ก็ ต ต้อ งมาร้า นนี้ ใ ห้ไ ด้ ชื่อร้าน ‘Zimplex’ เป็ นร้านค็อกเทลเล็กๆ ที่ดูเหมือนเป็ น ห้องแล็บทางวิทยาศาสตร์ งานนี้ผมขออนุญาตเลี้ยงขอบคุณพีๆ่ ที่ดูแลผมเป็ นอย่างดีมาตลอด 4 วัน พวกเราอยู่กนั ไม่ดึก เพราะผมต้องเดินทางกลับเชียงใหม่ในวันรุ่งขึ้น การท�ำ งานเชิ ง ท่ อ งเที่ย วของผมในครัง้ นี้ ส นุ ก มาก ได้ท งั้ มิ ต รภาพและประสบการณ์ เป็ นความทรงจ�ำ ที่ ดี การเล่นดนตรีมนั ดีแบบนี้น่ีเอง แลว้ ผมจะเดินทางไปกับมัน ตลอดไป ขอบคุณพีๆ่ ทีภ่ เู ก็ตทุกคนครับ ^^ 17

b side


เที่ ยวข้ามภาค

AS FREE AS THE SEA เที่ยวข้ามภาค ไปด�ำน�้ำที่เกาะเต่า เรื่อง /ภาพ : ศมนภรณ์

เกาะเต่า เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่กลางอ่าวไทย เป็นต�ำบลหนึ่งของอ�ำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเป็นภูเขา นับเป็นเกาะแห่งทะเลฝั่งอ่าวไทย ที่มีโลกใต้น�้ำที่สวย เหมาะกับทั้งการด�ำน�้ำตื้น (Skin Diving) และการด�ำน�้ำลึก (Scuba Diving) ไม่แปลกที่เกาะเต่าเป็นที่ตั้งของโรงเรียนด�ำน�้ำมากมาย นักท่องเที่ยวจึงสามารถ เดินทางไปเกาะเต่าได้ตลอดปี

จุ ด ท่ อ งเที่ ย วบนเกาะเต่ า ที่ เ ราอยากแนะน�ำ เมือ่ ไปถึงเกาะเต่า เราจะเข้าเกาะทาง ‘อ่าวแม่หาด’ ซึง่ เป็ น ศู นย์รวมความเจริญบนเกาะเต่ า เพราะเป็ นทัง้ ท่าเรือ ทีเ่ รือจากทุกทีจ่ ะมาจอดทีน่ ่ี รวมถึงยังเป็ นแหล่งชุมชน ร้านค้า สถานทีร่ าชการ เพราะอยู่ใกล ้กับท่าเรือซึง่ สะดวก ส�ำหรับนักท่องเทีย่ ว นอกจากนี้อ่าวแม่หาดยังมีรูปปัน้ เต่า สัญลักษณ์อนั เป็ นชื่อของเกาะเต่าอีกด้วย ‘หาดทรายรี’ 18

a side

เป็ นหาดขนาดใหญ่ทอ่ี ยู่ใกลก้ บั อ่าวแม่หาด ใช้เวลาเดิน เพียงแค่ 10 นาที ชายหาดมีความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร ทรายสีขาวอมน�ำ้ ตาลนิดๆ ละเอียด นุ่มเหมือนแป้ ง แต่วา่ ไม่ค่อยเหมาะกับการเล่นน�ำ้ มากนัก เพราะมีหินเยอะ เหมาะกับการเดินชมความงดงามของอ่าวมากกว่า ที่น่ี เป็ นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของเกาะเต่า มีทพ่ี กั มากมายหลายแห่ง และบาร์ดๆี ก็มกั จะตัง้ อยูท่ น่ี ด่ี ้วยเช่นกัน


นอกจากนี้ยงั มีอ่าวอืน่ ๆ ทีอ่ ยู่อกี ฝัง่ หนึ่งของเกาะ อาจจะต้อ งเช่ า มอเตอร์ไ ซค์ก ัน ซัก หน่ อ ยแล ว้ ขี่ ไ ป เทีย่ วเล่น เช่น ‘อ่าวโฉลกบ้านเก่า’ เป็ นอ่าวทีอ่ ยู่ทางใต้ ของเกาะเต่า หันหน้าไปทางเกาะพะงัน ได้รบั ความนิยม ไม่แพ้หาดทรายรี เพราะมีสง่ิ อ�ำนวยความสะดวก ร้านค้า ผับ บาร์ พอๆ กัน และยังเป็ นที่ตงั้ ของรีสอร์ทดังๆ หลายแห่ง ‘หาดฟรีดอม’ ตัง้ อยู่ใกลอ้ ่าวโฉลกบ้านเก่า เป็ น ชายหาดที่ส งบ มีห าดทรายขาวและน�ำ้ ทะเลใส เหมาะส�ำหรับการมาพักผ่อนชมวิว เล่นน�ำ้ ริมหาด และทีพ่ ลาดไม่ได้คอื ‘เกาะนางยวน’ เกาะสวรรค์ ของใครหลายคนในเวลานี้ ผืนน�ำ้ อันนิ่งสงบ สันทรายขาว ที่แบ่งหาดและน�ำ้ ทะเลออกจากกัน รวมถึงจุดชมวิว ที่มชี ่ือเสียงซึ่งอยู่ใกลก้ บั เกาะเต่า เปรียบเสมือนคู่ดูโอ้ โดยหากเราพักทีเ่ กาะเต่า ก็สามารถใช้บริการเรือแท็กซี่ ให้มาส่งทีเ่ กาะนางยวนก็ได้ การด�ำน�ำ้ เป็ นกิจกรรมไฮไลท์ของการมาเกาะเต่า เพราะโลกใต้ทะเลทีเ่ กาะเต่ามีความสวยงามมาก ติด 1 ใน 10 จุดด�ำน�ำ้ ทีส่ วยทีส่ ุดในประเทศไทย ปะการังก็ยงั มีความอุดมสมบูรณ์ ทัวร์ดำ� น�ำ้ จึงเป็ นกิจกรรมแรกๆ ที่หลายๆ คนเลือก ใครที่ดำ� น�ำ้ ไม่เป็ นก็มีครู สอนให้ ทัง้ One Day Trip หรือแบบค้างคืนบนเรือ ด�ำน�ำ้ ตอนกลางคืนก็มี ซึ่งจะมีทงั้ จุดด�ำน�ำ้ ลึกและด�ำน�ำ้ ตื้น ถ้าคุณเพียงต้องการชื่นชมธรรมชาติรอบเกาะ แวะลง เล่นน�ำ ้ ด�ำน�ำ ้ ชมปะการัง คุณก็สามารถเลือกโปรแกรม ท่องเทีย่ วรอบเกาะได้ภายใน 1 วัน โดยใช้บริการเรือเช่า หรื อ เรื อ แท็ ก ซี่ ซ่ึ ง มี อ ยู่ ม ากมายบริ เ วณท่ า แม่ ห าด แต่สำ� หรับผูท้ ช่ี ่นื ชอบการด�ำน�ำ้ ลึกแลว้ ระยะเวลาเพียง 1 วัน คงไม่ พ อที่ จ ะให้คุ ณ ได้ค น้ หาความงามของ โลกใต้ทะเลของทีน่ ่ี เพราะรอบๆ เกาะเต่าจะมีจดุ ด�ำน�ำ้ ลึก ให้พบความแตกต่างอยู่มากมาย ดังนัน้ การใช้เวลาอยู่ทน่ี ่ี 3 - 4 วันน่าจะได้ความฟิ นมากกว่า ส่วนเรื่องของอุปกรณ์ การด�ำน�ำ้ และการฝึ กการด�ำน�ำ้ ลึก ที่น่ีจะมีรา้ นให้เช่ า อุป กรณ์ แ ละโรงเรีย นสอนด�ำ น�ำ้ อยู่ ม ากมาย ให้คุ ณ

ได้เลือกเรียนหลากหลายหลักสูตรจนจบ และได้ใบรับรอง จากสถาบันด�ำน�ำ้ ที่เป็ นที่ยอมรับ ซึ่งคุณสามารถจะไป ด�ำน�ำ้ ในที่แห่งใดก็ได้ทวั ่ โลกหลังจากได้ใบรับรองแลว้ ส�ำหรับจุดท่องเทีย่ วหรือจุดด�ำน�ำ้ บนเกาะเต่า มีจดุ ด�ำน�ำ้ ชมปะการังอยู่หลายจุดด้วยกัน อาทิเช่น Twin Rock, Mango Bay, White Rock และถ้าโชคดี คุณอาจจะ ได้เห็นฉลามวาฬทีก่ องหินชุมพรด้วย

19

b side


DON’T MISS

Fishbowl Beach Bar

บาร์ริมชายหาดที่ชิลล์ที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะเต่า มีเอกลักษณ์คือบีนแบ็กใบใหญ่ๆ ไว้ให้นงั่ ให้นอนเอกเขนกตามสบาย ดูหนุม่ ๆ เล่นวอลเลย์บอลชายหาด ดูพระอาทิตย์ตก จิบเครือ่ งดืม่ เย็นๆ พร้อมดูโชว์จากกลุม่ คนเล่นไฟ ส่วนบรรยากาศหน้าบาร์กด็ ไี ม่นอ้ ย เพราะมีดนตรีสดแบบอะคูสติกสลับกับเพลงจากดีเจให้ได้มันกันทั้งคืน บรรยากาศ ในร้านจะสนุกมากขึ้นตอนหลังสี่ทุ่ม เพราะโต๊ะอาหารจะถูกปลี่ยนให้กลายเป็น โต๊ะปิงปอง ให้ลูกค้าได้เล่นเบียร์ปองกันอย่างสนุกสนาน เปิด : 12:00-02:00 น. Facebook : Fishbowl Beach Bar

DID YOU KNOW?

เบียร์ปอง เป็นกิจกรรมสนุกสนาน ทีน่ ำ� เอาเบียร์และปิงปองมาไว้ดว้ ยกัน เริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกา บางประเทศ ฮิตมากถึงขนาดท�ำเป็นทัวร์นาเมนต์ เลยนะ เกมนี้เล่นไม่ยาก แค่มีเบียร์ แก้ ว พลาสติ ก โต๊ ะ ปิ ง ปอง และ ลูกปิงปองเท่านั้น กติกาคือแบ่งออก เป็น 2 ทีม ทีมละ 2 คน โดยเรียงแก้ว 6 ใบ เป็นแถวรูปสามเหลีย่ ม รินเบียร์ ใส่ประมาณครึ่งแก้ว แล้วผลัดกัน โยนลูกปิงปองใส่แก้วของอีกฝ่าย ถ้าโยนไม่ลงต้องเปลี่ยนคน หากโยน ลงแก้วได้ ฝ่ายที่ถูกโยนลงแก้วต้อง ดื่มเบียร์แก้วนั้นให้หมด โดยฝ่ายที่ โยนลงจะได้สิทธิ์โยนต่อ เล่นอย่างนี้ จนแก้วฝ่ายไหนหมดก่อนก็ถือว่าแพ้ 20

a side


Cafe Culture

คาเฟ่สุดชิลล์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า

Coffee Boat

จ�ำร้านนี้ไว้ให้ดี ที่สุดแห่งความคุ้มค่าคุ้มราคา ของอาหารบนเกาะ ที่คุณจะหาจากที่ไหนไม่ได้!

HOW TO GO การเดินทางไปเกาะเต่าจากเชียงใหม่ 1. บินตรง เชียงใหม่ - สุราษฏร์ธานี แล้วใช้บริการรถและเรือเร็ว จากสนามบินถึงเกาะเต่า สามารถดูรอบรถและเรือได้ที่ - บริษัทลมพระยา www.lomprayah.com - บริษัทซีทราน 2. บินตรง เชียงใหม่ - เกาะสมุย แล้วใช่บริการเรือเร็วไปเกาะเต่า (จะย่นเวลาในการเดินทางพอสมควร) 3. นั่งรถไฟ กรุงเทพฯ - ชุมพร แล้วไปขึ้นเรือที่ท่าเรืออ่าวมะขาม จังหวัดชุมพร 4. นั่งรถทัวร์ของบริษัทลมพระยา จากถนนข้าวสาร รถออกตอน 21:00 น. และจะถึงเกาะเต่าตอน 09:00 น. ของอีกวัน

21

b side


T R A V E L

SAKURA HUNTER

แนะน�ำจุดชมซากุระ 7 อันดับในดวงใจ เรื่อง / ภาพ : I WILL SEE THE WORLD

ถ้าพูดถึงสิ่งที่ชอบในประเทศญี่ปุ่น สิ่งแรกที่นึกถึงคืออะไร? ส�ำหรับเราคงนึกถึงซากุระ ชอบมากขนาดไปตามล่ามา 3 - 4 ปีติด นี่ก็ใกล้ช่วงซากุระที่ญี่ปุ่นบานกันแล้ว ใครก�ำลังเตรียมตัวไปชมความงาม เราขอเสนอ 7 จุดชมซากุระที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่ไปมา

อันดับ 7

ซากุระริมแม่น�้ำ แถวๆ Tachikawa, Tokyo

จุดนี้อยู่ชานเมืองทางด้านตะวันตกของโตเกียว แถวๆ Tachikawa ตลอดความยาวแม่นำ�้ เล็กๆ จะมีแนวซากุระยาวเป็ นกิโลๆ เดินชมได้ทงั้ วันไม่เบือ่ ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนเมษายน ประมาณสัปดาห์แรก วิธเี ดินทาง : นัง่ รถไฟ Jr สาย Chuo ไปลงสถานี Jr Tachikawa แล ้วไปต่อ Monorail ไปลงสถานี Shibasaki-taiikukan เดินไปทางสนามเบสบอล พิกดั : 35.685413, 139.414044 22

a side


อันดับที่ 6

อุโมงค์สีชมพูริมทางรถไฟ Randen, Kyoto จุดนี้เป็ นอีกทีท่ ช่ี อบมากเป็ นพิเศษ ตรงทีค่ นไม่เยอะ แถมเวลารถรางสายสุดคลาสสิคอย่าง Randen แล่นผ่าน กลีบดอกจะปลิวฟุ้ง เป็ นภาพทีส่ วยงามมากๆ ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนเมษายน ประมาณปลายสัปดาห์แรก - สัปดาห์ท่ี 2 วิธเี ดินทาง : มาได้หลายทาง แต่แนะน�ำว่าถ้ามาจาก Arashiyama ให้นัง่ รถ Randen ไปลงสถานี Narutaki แล ้วเดินเลียบแนวรางไปทางสถานี Utano เล็กน้อย จะเห็นอุโมงค์ซากุระนี้ พิกดั : 35.025050, 135.706974

อันดับที่ 5

ท�ำนบกลางน�้ำ Sewari-tei, Kyoto

จุดนี้อยู่ระหว่าง Kyoto กับ Osaka ประทับใจ ตรงที่ ซ ากุ ร ะต้น ใหญ่ แ ละสวยมาก เหมาะกับ การ ไปนัง่ ปิ คนิคเป็ นทีส่ ุด ช่วงที่เหมาะสม : ต้นเดือนเมษายน ประมาณสัปดาห์แรก วิ ธี เ ดิ น ทาง : นัง่ รถไฟสาย Keihan ไปลงสถานี Yawatashi แล ้วเดินตามคนไปทางแม่นำ�้ ประมาณ 10 นาที พิกดั : 34.890355, 135.700584 23

b side


อันดับที่ 4

ซากุระริมแม่น�้ำ Yamazaki, Nagoya

จุดนี้เราประทับมากๆ จนต้องไปซ�ำ ้ ตลอดความยาวเป็ นกิโลๆ มีแนวซากุระให้เดินชมได้เพลินๆ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีนกั ท่องเที่ยว บรรยากาศดีมากๆ เหมาะแก่การไปนัง่ ฮานามิ ช่วงที่เหมาะสม : ต้นเดือนเมษายน ประมาณสัปดาห์แรก วิธีเดินทาง : นัง่ รถใต้ดินจากสถานี Jr Nagoya ไปลงสถานี Mizuhoundojohigashi แล ้วเดินต่ออีก 10 นาทีไปทางสนามกีฬา พิกดั : 35.122277, 136.941970

อันดับที่ 3

Haradani-en สวนสวยแห่งเมือง Kyoto

สวนนี้เป็ นสวนเอกชนทีเ่ ปิ ดให้เข้าช่วงใบไม้ผลิ ด้านในมีดอกไม้นานาชนิด จุดเด่นคือซากุระกิ่งย้อย ใครมาเทีย่ ว Kyoto ช่วงเลยพีค ไปแล ้ว แนะน�ำให้มาทีส่ วนนี้ ถึงค่าเข้าจะแพงมาก (1,500 เยนต่อคน) แต่คมุ ้ มากๆ ถ่ายรูปได้ทงั้ วันไม่เบือ่ ช่วงที่เหมาะสม : ต้นเดือนเมษายน ประมาณสัปดาห์ท่ี 2 การเดินทาง : จากวัดทอง ให้นงั ่ Taxi ไปจะสะดวกสุด เพราะรอบรถบัสทีผ่ ่านสวนจะห่างมากๆ ค่า Taxi ประมาณ 1,000 เยน 24

a side


อันดับที่ 2

ซากุระริมแม่น�้ำ และวิวภูเขาไฟฟูจิ ที่ Shizuoka

มุมนี้เป็ นจุดที่ดงั มากในหมู่ช่างภาพญี่ป่ ุน เพราะนอกจากจะได้ชม ความงามของแนวต้น ซากุ ร ะแล ว้ ยัง ได้ช มความงามของภู เ ขาไฟฟู จิ ไปพร้อมๆ กันด้วย : คุม้ คูณสองกันเลยทีเดียว ช่วงที่เหมาะสม : ต้นเดือนเมษายน ประมาณสัปดาห์แรก วิธเี ดินทาง : นัง่ รถไฟไปลงสถานี Jr Iriyamase แล ้วเดินต่ออีก 15 นาที พิกดั : 35.181208, 138.643842

อันดับที่ 1

ภูเขาซากุระ Yoshinoyama, Nara

ทีน่ ่ไี ด้ช่อื ว่าเป็ นจุดทีซ่ ากุระมากทีส่ ุดในญีป่ ่ นุ คร่าวๆ ประมาณ 30,000 ต้น ด้วยความทีเ่ ป็ นภูเขาลดหลันกั ่ นและมีตน้ ซากุระมากมาย พอผลิบานพร้อมๆ กัน ภู เ ขาทัง้ ลู ก จึ ง เปลี่ย นเป็ นสี ช มพู ท งั้ ลู ก เป็ นทิ ว ทัศ น์ ท่ี ง ดงามน่ า ประทับ ใจ จุดทีเ่ ป็ นไฮไลท์คอื จุดชมวิวในภาพ ชื่อ Hanayagura View ช่วงที่เหมาะสม : ต้นเดือนเมษายน ประมาณปลายสัปดาห์แรกถึงสัปดาห์ท่ี 2 วิธีเดินทาง : นัง่ รถไฟไปลงสถานี Yoshino ต่อรถบัสไปลงที่ยอดเขา แลว้ ค่อย เดินลงเพือ่ ทุ่นแรงในการเดินชม ระยะเวลาการชมประมาณ 1 วันเต็ม พิกดั : 34.355440, 135.871986

ABOUT HER

พญ.นุชนาฏ หนูเนตร หรือทีห่ ลายคนเรียกเธอว่า หมอเบียร์ ผูก้ อ่ ตัง้ Lullaby Studio กลุม่ ช่างภาพแนว Wedding และเป็นหมอทีห่ าตัวข้างนอก ได้งา่ ยกว่าในโรงพยาบาล ชอบเทีย่ วพอๆกับชอบกิน เพือ่ นชอบเรียก Totoro เพราะตัวโตและอบอุน่ สามารถติดตามภาพถ่ายทีเ่ ธอไปเทีย่ วได้ในเพจ facebook : I will see the world : ชีวติ เดียวเทีย่ วให้คมุ้ 25

b side


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.