1
b side
2
a side
EVERYDAY IS HOL IDAY วันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา
ในยุคทีค่ นรุน่ ใหม่ใช้โซเชียลมีเดียในการเสาะแสวงหาร้านดีๆ ทีไ่ ม่จำ� กัดอยูแ่ ค่ในตัวเมือง จึงท�ำให้ ถนน เชียงใหม่-สันก�ำแพง (สายเก่า) กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากชุมชนที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในเรื่องศิลปะ หัตถกรรมท้องถิ่น กลายเป็นชุมชนที่หนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่รักชีวิต แบบเรียบง่ายและรักงานศิลปะ หันมาร่วมมือกันเพื่อพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เดือนนี้ฮิพขอน�ำเสนอสถานที่ ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะท�ำให้รู้ว่าความสุขนั้นอยู่ไม่ไกลจากตัวเรา
Meena Rice Based Cuisine
‘มีนา’ ร้านอาหารทีม่ เี อกลักษณ์พเิ ศษเฉพาะตัว ทีใ่ ครได้ไป ครัง้ หนึง่ แล ้วก็จะต้องเทใจกลับไปอีกหลายๆ ครัง้ จนอยากจะบอกต่อ ร้านตัง้ อยูใ่ นซอยก่อนถึงบ้านศิลาดล (เชียงใหม่ เรือนแพ 1) เมือ่ ขับรถ เข้าไป เราจะสัมผัสได้ถงึ ความน่ารักระหว่างทาง ตัวร้านแวดล ้อม อยู่กบั บ้านเรือนไทยโบราณ ทุ่งนาและต้นไม้ร่มรื่นให้ความรู ส้ กึ สบายตาระหว่างรับประทานอาหาร เลือกใช้วตั ถุดิบที่คดั สรร มาจากท้องถิน่ ผัก ผลไม้ ดอกไม้ ธัญพืช น�ำมาประยุกต์เป็ นอาหาร แต่งจานก็สวย ทานก็ได้ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และทีส่ ำ� คัญ คือข้าว พระเอกหลักของร้าน ซึง่ มีหลากหลายสี ชูคณุ ประโยชน์ของข้าว ที่แ ตกต่ า งกัน ไป คนที่ไ ปนอกจากจะได้ค วามอร่ อ ยกลับ บ้า น ยังได้ความรูอ้ กี ด้วย Meena rice based cuisine 10:00-17:00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
“เชียงใหม่เที่ยวได้งาน กับวันธรรมดาที่ ไม่ธรรมดา”
อ่าวคุ้งกระเบน
Chiang Mai Rice Life
ไม่ไกลจากมีนา ขับรถเข้าไปอีกนิดจนเจอโรงเรียน บ้านมอญ จะเป็ นทางเข้าของ ‘เชียงใหม่ ไรซ์ ไลฟ์ ’ ร้านกาแฟ น่ารักๆ ทีห่ อ้ มล ้อมด้วยทุง่ นา มาทีน่ ่ถี า้ หากใครสนใจเกี่ยวกับ เรือ่ งข้าว เขาก็ให้ความรูต้ งั้ แต่เริม่ ต้น เริม่ จากการเลือกพันธุข์ ้าว การเพาะปลูก ด�ำนา เกี่ยวข้าว สีขา้ ว ออกแบบผลิตภัณฑ์ และจัดจ�ำหน่าย และส่วนหนึ่งของข้าวทีน่ ่กี ว็ างขายอยู่ในร้าน ให้ลูกค้าได้ซ้อื กลับไปทดลองหุงทานเองทีบ่ ้าน นอกเหนือจากนี้ บางเมนู ในร้านยังใช้วตั ถุดบิ จากผลผลิตของร้านอีกด้วย เช่น จมูกข้าวไรซ์เบอร์ร่ที น่ี ำ� มาเป็ นส่วนประกอบของโฮมเมดเค้ก รับประกันได้วา่ ขนมและเครือ่ งดืม่ ทีน่ ่ี ใช้สว่ นผสมสุดพรีเมีย่ ม ผ่านการเลือกสรรสุดพิเศษ ให้คุณได้ลองลิ้มชิมรส ควบคู่กบั การมองวิวริมทุ่งนา
ทุ่งโปรงทอง
Chiang Mai Rice Life 09:00-18:00 น. (เปิดทุกวัน)
Maiiam Contemporary Art Museum
หลังจากอิม่ ท้องจากสองร้านด้านบนแล ้ว ต้องเดินย่อยกันหน่อย และความพิเศษของเส้นสันก�ำแพงสายเก่านี้ก็ยงั ไม่ส้ นิ สุด เมือ่ ขับรถ ต่อไปทางต้นเปา เราก็จะเจอกับตึกดีไซน์แปลกตา ทีม่ กี ระจกชิ้นเล็กๆ สะท้อนวิบวับให้เราต้องหยุดหันมามอง ‘พิพธิ ภัณฑ์ศลิ ปะร่วมสมัยใหม่เอีย่ ม’ น�ำผลงานทางศิ ล ปะหลายแขนงจากหลากหลายศิ ลปิ น ที่มีช่ือเสีย ง มาจัดแสดงงาน ด้วยตัวพื้นทีก่ ว้างขวางของพิพธิ ภัณฑ์ ผูช้ มจะสามารถ สัมผัสได้ถงึ การดูงานศิลปะในอีกมิตหิ นึ่งทีท่ ดั เทียมระดับสากล MAIIAM Contemporary Art Museum 10:00-18:00 (ปิดทุกวันอังคาร)
ข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส�ำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์: 053 248 604-5 website : www.tourismchiangmai.org facebook : www.facebook.com/tatchiangmai
เกาะมันนอก การท่ อ งเที่ ย วแห่ ง ประเทศไทย (ททท.) ส�ำนักงานเชียงใหม่ จัดโครงการ “เชียงใหม่เทีย่ วได้งาน กับวันธรรมดาทีไ่ ม่ธรรมดา” เพือ่ กระตุน้ และส่งเสริม ให้ ก ลุ ่ ม วั ย ท� ำ งานในพื้ น ที่ จั ง หวั ด เชี ย งใหม่ ออกเดิ น ทางท่ อ งเที่ ย วในวั น ธรรมดามากขึ้ น โดยก� ำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่ องเที่ยว “ท้าเที่ยวข้ามภาค ในวันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา” เส้นทางเชียงใหม่ – ระยอง – จันทบุรี ระหว่างวันที่ 4 – 8 พฤษภาคม 2560 ซึง่ จะน�ำผูเ้ ข้าร่วมกิจกรรม ทุกท่านไปเทีย่ วชม และสัมผัสแหล่งท่องเทีย่ วทีข่ นึ้ ชือ่ ของจังหวัดระยอง และจันทบุรี อาทิ ตามรอย โครงการพระราชด� ำ ริ ที่ ศู น ย์ ศึ ก ษาการพั ฒ นา อ่ า วคุ ้ ง กระเบน อั น เนื่ อ งมาจากพระราชด� ำ ริ ชมโครงการอนุรกั ษ์พนั ธุเ์ ต่าทะเลของสมเด็จพระราชินี ชมและชิมสวนผลไม้ ด�ำน�ำ้ ชมปะการังทีเ่ กาะมันนอก และเกาะมันใน ถ่ายรูปสวยๆ ทีท่ งุ่ โปรงทอง เป็นต้น
CONTE N TS M a y
2 0 1 7
Cover Story Bike Interview Bike Route Bike Safe Run Trip
V o l. 1 3
digital contents www.hipthailand.net
N o. 1 5 1
06 12 14 16 17 20
Bike Interview
ภาพปกโดย : VIA WIEN
HILIGHT
06 Cover Story เมื่อชายหนุ่มนักปั่นเกิดชีวิตพลิกผัน ต้องจากบ้านเกิดมาพ�ำนักอยู่ที่เวียนนา กับครอบครัว ในเมืองที่เป็นสวรรค์ของนักปั่น เมืองที่มีการจัดการทางจักรยาน ที่ ดี เ หมื อ นในยุ โ รปหลายแห่ ง และถู ก จั ด อั บ ดั บ ว่ า เป็ น เมื อ งที่ น ่ า อยู ่ ที่ สุ ด ในโลก ความรู้สึกอยากเห็นเมือง อยากปั่นชมเมืองของเขาจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านได้ใน VIENNA CYCLING CITY เวียนนา : คน เมือง จักรยาน
Run
12 Bike Interview เล่มนี้ บก.เปิล้ แห่ง Bike Section ไปสัมภาษณ์หนุม่ ๆ นักปัน่ ทีม่ ชี อื่ กลุม่ ว่า ‘I’m Not 50’ จากการแนะน�ำของพี่โหน่ง บก.ใหญ่ พวกเขาเจ๋งตรงไหน และอะไร ที่ท�ำให้ บก.เปิ้ลรู้สึกทึ่งในนักปั่นกลุ่มนี้ รับประกันความโหด มัน ฮาได้เลย
20 Trip เมื่อมีพบก็ต้องมีจาก ใกล้ถึงวันสุดท้ายที่เด็กๆ ฝึกงานจะออกไปโบยบิน ในโลกกว้างแล้ว เราจึงให้ HIP Junior พาผู้อ่านไปท่องเที่ยวกับพวกเขา กับทริปเดินป่าครั้งแรกของน้องๆ ที่น�ำเรื่องราวและประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือ พร้อมรูปถ่ายมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่าน
Trip 4
a side
5
b side
B I K E S P E C I A L
VIENNA CYCLING CITY
10 เดื อ นกว่ า ณ กรุ ง เวี ย นนา ประเทศออสเตรี ย เรื่ อ งราวต่ า งๆ เกิ ด ขึ้ น เมื่ อ ชี วิ ต พลิ ก ผั น ต้ อ งจากบ้ า นเกิ ด เพื่ อ มาพ� ำ นั ก ที่เมืองนี้เป็นการชั่วคราว ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ กรุงเทพฯ ผมก็เป็นนักปัน่ จักรยานตัวยงคนหนึง่ ทีท่ งั้ ปัน่ จักรยาน เพือ่ การออกก�ำลังกาย การท่องเที่ยว และปั่นจักรยานไปท�ำงาน ในเมื อ งก็ ห ลายครั้ ง หลายครา หลั ง จากทราบเรื่ อ งว่ า ตั ว เอง ต้ อ งย้ า ยครอบครั ว มาอยู ่ ที่ นี่ กรุ ง เวี ย นนา เมื อ งที่ ไ ด้ ชื่ อ ว่ า เป็ น สวรรค์ ข องนั ก ปั ่ น เมื อ งที่ มี ก ารจั ด การทางจั ก รยานที่ ดี เหมือนเมืองในยุโรปหลายแห่ง และล่าสุดเมืองนี้ก็เพิ่งได้รับการ จัดอันดับว่าเป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกเป็ น ปี ที่ 8 ติ ด ต่ อ กั น โดย Reuters เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ความรู้สึก ที่อยากจะเห็นเมือง อยากปั่นชมเมือง ชมแม่น�้ำ และทุกที่ที่นี่ สมองมันก็เริม่ คิดไปต่างๆ นานา จนได้มาเห็นของจริง สัมผัสจริง ไม่ใช่แค่มาท่องเที่ยว แต่ได้มาใช้ชีวิตประจ�ำวันที่นี่ทุกวันทุกเวลา
เวียนนา : คน เมือง จักรยาน
เรื่อง / ภาพ : VIA WIEN
6 6
a side b side
สัญลักษณ์ที่แยกทิศทางการเดินรถจักรยาน
ผังรวมเส้นทางหลักของจักรยานทั่วทั้งเมืองเวียนนา
ป้ายบอกตัวเลขสถิติจ�ำนวนผู้ขับขี่จักรยาน ในแต่ละวันและทั้งปี
สัมผัสแรกทีเ่ ห็นและรูส้ กึ ได้ก็คือ คนเมืองทีน่ ่ีเขาอยู่กบั ธรรมชาติจริงๆ เขาให้ความเคารพกับธรรมชาติเดิมทีม่ อี ยู่มาก สิง่ ปลูกสร้างอาคาร ถนน สะพาน และอืน่ ๆ จะต้องมีระยะเว้นห่างออกจากธรรมชาติเท่าทีค่ วรจะเป็ น โดยเฉพาะ การรุ ก ล�ำ้ เขตน�ำ ้ ทัง้ แม่ น�ำ้ และล�ำ คลองต่ า งๆ จะไม่ มีส่ิง ปลู ก สร้า งถาวร ที่เป็ นของส่วนบุคคลเลย ทุกๆ คนสามารถเข้าถึงแหล่งน�ำ้ ธรรมชาติได้อย่าง สะดวกเท่ า เทีย มกัน ด้ว ยเหตุผ ลนี้ จึง ได้มีก ารออกแบบและสร้า งทางเดิน ทางจักรยานริมน�ำ้ ทัว่ ไปทัง้ เมืองอย่างสะดวกสบาย ว่าแต่เหตุใด จักรยานจึงได้รบั ความนิยมใช้ในการสัญจรทัว่ ไปทัง้ เมือง เช่ นนัน้ หรือ จากค�ำบอกเล่าของผู ค้ นที่อยู่ มายาวนานที่น่ี บอกว่าเมื่อก่ อน ชาวเวียนนาก็ใช้รถยนต์ในการสัญจรมากๆ แต่ช่วงหนึ่งสมัยหนึ่งก็เกิดปัญหา สภาวะรถติดมากมายเช่ นเดียวกับกรุงเทพฯ ในปัจจุบนั รัฐบาลในยุ คนัน้ จึง ตัด สิน ใจหาทางออก ด้ว ยการหาวิธีการสัญจรทางเลือ กให้กบั ชาวเมือง นอกจากการขนส่งสาธารณะทัว่ เมืองแลว้ ในส่วนของการสัญจรส่วนบุคคล รัฐ จึง มองมาที่จ กั รยานให้เ ป็ น อีก ทางเลือ กที่เ ป็ น ไปได้ อาจจะเป็ น เพราะ ด้วยขนาดของเมืองเวียนนาที่ไม่ใหญ่มากนักด้วย หลังจากนัน้ การวางแผน วางโครงข่ายเส้นทางจักรยานจึงถูกออกแบบและสร้างขึ้นทัว่ ไปทัง้ เมือง มันไม่ใช่แค่การตีเส้นทางจักรยาน (ไบค์เลน) แต่มนั คือการวางระบบ เส้นทางสัญจรครอบคลุมไปทัว่ ทัง้ เมือง ทัง้ เส้นทางเชื่อมชัน้ ในใจกลางเมือง และเส้นทางจากนอกเมืองมุง่ เข้าสูใ่ นใจกลางเมือง รูปแบบก็เหมือนการวางระบบ จราจรของรถยนต์อ ย่ า งนัน้ เลย กล่า วคือ มีท งั้ การก�ำ หนดจุด ตัด จุด แยก การตีเส้นและสัญลักษณ์บนพื้นทาง สัญญาณไฟจราจร ช่องทางด่วนจักรยาน หรือช่องทางใช้ร่วมกับรถยนต์ หรือร่วมกับทางเท้า การติดตัง้ ป้ ายบอกทางทีเ่ ป็ น หมวดเฉพาะทางจักรยานเท่านัน้ หลังจากนัน้ ธุ รกิจการบริการจักรยานให้เช่า ตามจุดต่ างๆ ในเมืองก็เกิดตามมามากมาย โดยทัง้ หมดนี้เขาทยอยสร้าง มาตลอดหลายปี จนทุกวันนี้การขยายและพัฒนาเส้นทางก็ยงั ไม่มหี ยุด
ป้ายบอกเส้นทางจักรยานที่เห็นได้ทั่วทั้งเมือง
สัญญาณไฟเขียวไฟแดง ใช้เฉพาะจักรยานเท่านั้น 7
b side
ว่าแล ้วก็ได้เวลาออกไปส�ำรวจทางจักรยานในเมืองเวียนนานี้กนั คนไทย หลายๆ คนที่เคยมาเที่ยวในยุโรปก็คงเคยลองขี่จกั รยานเที่ยวในเมืองต่างๆ กันบ้างแล ้ว คงรูส้ กึ ได้ถงึ ความสะดวกปลอดภัยทีช่ าวจักรยานทัวไทยถามหากั ่ น แหม มันช่างมีความสุขเหลือเกินทีไ่ ด้ขจ่ี กั รยานในทีแ่ บบนี้ แต่ทน่ี ่เี ขาขีก่ นั จริงจัง กว่านัน้ มีกฎจราจรของจักรยานมากมายทีต่ อ้ งศึกษาเรียนรู ้ ทัง้ ข้อบังคับการติดตัง้ อุป กรณ์บ นรถ การเคารพกฎจราจรของจัก รยานของคนที่น่ี เ ขาเคร่ ง ครัด พอสมควร เด็กๆ จะได้รบั การฝึ กหัดให้ขจ่ี กั รยานพร้อมกับเรียนรู ก้ ฎจราจร ของจักรยาน เรียกว่าได้ข่ีจกั รยานลงถนนก่ อนจะได้หดั ขับรถยนต์เสียอีก
8
a side
ดังนัน้ เราต้องศึกษาและท�ำความคุน้ เคยกับกฎและระบบของทีน่ ่ีก่อน เส้นทาง ส่วนใหญ่ทน่ี จ่ี ะก�ำหนดทิศทางการขีเ่ ลย คือมีเลนแบ่งรถสวน มีวนั เวย์ มีชอ่ งทางร่วม มีช่องทางพิเศษ ซึง่ เราต้องขับขีใ่ ห้ถกู ต้องและต้องระมัดระวังด้วย ผมเองก็คิดว่าตัวเองเคยขี่จกั รยานในเมืองกรุงเทพมาจนช�ำ่ ชองแลว้ แต่ พ อมาลงทางถนนจัก รยานที่ น่ี ก็ ต อ้ งระแวดระวัง คนเดิ น เป็ นส�ำ คัญ ทีน่ ่คี นเดินถนนใหญ่สุด ไม่วา่ รถเล็กรถใหญ่กต็ อ้ งหยุดจอดให้คนเดินข้ามถนน หรือชะลอความเร็วทันทีทเ่ี ข้าสู่ถนนทีต่ อ้ งใช้ทางร่วมกับคนเดิน เมือ่ เข้าเขตใน ของเมือง จะมีสญั ญาณไฟเขียวแดงตามจุดตัดต่างๆ เราก็ต ้องคอยมองและหยุดจอด อยูเ่ สมอ อีกทัง้ ก็ตอ้ งคอยมองสัญลักษณ์จราจรต่างๆ เช่น ช่องทางจักรยาน บางช่วงก็สวนเลน บางช่วงก็วนั เวย์ บางเส้นทางขีบ่ นไบค์เลนดีๆ ก็เจอป้ ายบอก สุดเขตไบค์เลน และต้องลงถนนร่วมกับรถยนต์ แต่ไม่วา่ จะเจอรูปทางแบบไหน ก็ขอให้ขไ่ี ปตามเส้นทางนัน้ แล ้วเราก็จะไปถึงจุดหมายอย่างสะดวกโยธิน
V I E N N A
B I K E
F E S T I V A L
จริงๆ แล้ว ตลอดช่วงปีปฏิทนิ ในเมืองเวียนนาจะมีการจัดงานเกีย่ วกับ จักรยานมากมาย เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง แต่ที่เห็นมาทั้งหมด งาน Vienna Bike Festival จะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุด จัดในท�ำเลที่โดดเด่นสุด คือจัดที่ลานใหญ่ กลางแจ้งหน้าศาลาว่าการของเมืองเวียนนา โดยทีง่ านนีถ้ กู จัดมาแล้วถึง 16 ครัง้ นับว่าเป็นงานแสดงเกี่ยวกับจักรยานที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรียเลยทีเดียว ส่วนภาพจากงานนี้ทั้งหมดก็ได้มาจากงานที่เพิ่งผ่านไปเมื่อต้นเดือน เมษายนนี้เอง เป็นงานกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุด ในงานนี้มีการออกร้านทั้งของ หน่วยงานด้านการส่งเสริมและกิจกรรมท่องเทีย่ วในออสเตรีย การแสดงสินค้า จักรยานประเภทต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถจักรยานประเภทใช้ในเมือง หรือทีเ่ รียกว่า City Bike, Urban Bike, Commuter แต่ทเี่ ห็นมีนำ� มาแสดง
2 0 1 7
มากทีส่ ดุ ในปีนี้ก็จะเป็นจักรยานไฟฟ้า หรือ E - Bike ซึ่งน่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ ที่จะได้รับความนิยมในอนาคตอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม แข่งขันจักรยานหลายประเภท กิจกรรมสอนเด็กขับขี่อย่างปลอดภัย การจัด ตลาดนัดรถเก่าอะไหล่เก่า โดยให้เจ้าของรถเอามาจอดฝากขายได้ด้วยตัวเอง ไฮไลท์ทสี่ ดุ ของงานนีค้ อื การจัดขบวนพาเหรดจักรยานบนถนนสายหลัก ในใจกลางเมืองช่วงเช้าสายวันอาทิตย์ หัวเรือใหญ่ส�ำคัญของงานนี้ได้แก่ ‘Fahrrad Wien’ หน่วยงานหลักส�ำคัญที่ส่งเสริมด้านกิจกรรมจักรยาน โดยเฉพาะ งานนี้จัดการปิดถนนสายส�ำคัญในย่านใจกลางเมืองเก่ากันไปเลย เป็นขบวนพาเหรดที่รวมนักปั่นชาวเมืองทุกเพศทุกวัยมาร่วมกิจกรรมกัน อย่างมีความสุขสดชื่น แม้วันนั้นอากาศในเวียนนาจะร้อนมากแค่ไหนก็ตาม 9 9
b side b side
ที่เห็นภาพโครงสร้างเส้นทางจักรยานทัง้ เมืองมานี้ ไม่ได้เกิดจากการ สนับสนุ นและสร้างจากทางภาครัฐเท่านัน้ ภาคเอกชนทีน่ ่ีก็มอี งค์กรทางสังคม จักรยาน เช่น Fahrrad Wien, Radlobby ที่คอยท�ำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สนับสนุ น ส่งเสริม จัดกิจกรรม ให้คนเมืองได้รบั รู แ้ ละใช้จกั รยานในเมือง ได้เป็ นอย่างดี ในช่วงฤดูรอ้ นและฤดูใบไม้ร่วง องค์กรเหล่านี้จะมีการจัดกิจกรรม มากมาย ทัง้ การจัดขบวนขีจ่ กั รยานทุกเย็นวันศุกร์ การออกบูธย่อยตามมุมต่างๆ ของเมืองเพือ่ ให้ค�ำแนะน�ำ ค�ำปรึกษา หรือแม้แต่การบริการซ่อมบ�ำรุงจักรยานให้ฟรี กิจกรรมเช่นนี้จะมีต่อเนื่องให้เห็นตลอดเกือบทัง้ ปี โดยงานกิจกรรมและแสดง จักรยานทีใ่ หญ่สุดของปี อย่าง Bike Festival Vienna 2017 ก็เพิง่ ผ่านไป เมือ่ ต้นเดือนเมษายนนี้เอง เป็ นงานกลางแจ้งทีใ่ หญ่ทส่ี ุด มีการจัดขบวนพาเหรด จักรยานบนถนนสายหลักในใจกลางเมืองช่วงเช้าวันอาทิตย์ ในงานนี้ก็มที งั้ การแสดงสินค้าจักรยานประเภทต่างๆ ทีเ่ ห็นมีนำ� มาแสดงมากสุดในปี น้ ีจะเป็ น จักรยานไฟฟ้ า หรือ E - Bike ซึง่ จะเป็ นเทรนด์ใหม่ในอนาคตอย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็มกี ารจัดกิจกรรมแข่งขันจักรยานหลายประเภท กิจกรรมสอนเด็ก ขับขีอ่ ย่างปลอดภัย นิทรรศการจักรยานกับเมืองและสิง่ แวดล ้อม และการออกบูธ ของกิจกรรมทัวร์จกั รยานต่างๆ ในประเทศออสเตรีย แวะจอดคุ ย เล่ า เรื่ อ งราวเสีย เยอะ เรากลับ มาปัน่ จัก รยานกัน ต่ อ ทางจักรยานที่น่ีมใี ห้เราเลือกได้หลายเส้นทาง แลว้ แต่ว่าเราอยากไปทางไหน แบบไหน จะขีต่ รงๆ ไปตามถนนหนทาง หรือจะเลือกเส้นทางเข้าผ่านเส้นทาง ธรรมชาติก็ได้ทงั้ นัน้ เขาจะมีผงั เส้นทางแยกโซนแยกสีเหมือนผังรถไฟฟ้ า ช่วยแนะน�ำเราได้ตลอด และป้ ายบอกทางระหว่างทางก็มใี ห้เราดูและเลือกได้ พร้อมบอกระยะทางให้เสร็จสรรพ เรียกได้วา่ ไม่น่าจะหลงทางได้เลย แต่กห็ ลง เข้าจนได้ ด้วยความที่คิดว่าเราเองดู แผนที่ทางมาก่ อนก็เลยจะขี่ไปตามนัน้ โดยไม่ดูป้ายบอกทาง ขีอ่ ยู่ดๆี ก็ลงไปเจอถนนทางด่วนซะอย่างงัน้ หรือหลงวน เข้าไปในป่ าสาธารณะ เพียงเพราะเราไม่เชื่อป้ ายทีเ่ ขาบอกเรานัน่ เอง หลังจากนัน้ เราก็เพิง่ มาร้อง อ๋อ ทีเ่ ห็นป้ ายบอกทางต่างๆ เหล่านัน้ ทีแ่ สนจะง่ายมากมาย กว่ากันตัง้ เยอะ
About Writer
VIA WIEN ( เวีย-วีน ) Facebook Page ทีน่ ำ� เสนอเรือ่ งราวเกีย่ วกับเมืองเวียนนา และเมืองในยุโรปข้างเคียง ทัง้ เรือ่ งราวเกีย่ วกับงานออกแบบดีๆ นวัตกรรมใหม่ๆ กิจกรรมแปลกๆ สถานทีท่ นี่ า่ สนใจ ตลอดจน วิถชี วี ติ ของชาวยุโรป ผ่านการเล่าเรือ่ งราวด้วยภาพสวยๆ เป็น อีกมุมมองหนึง่ ทีแ่ ตกต่างไปจากทีเ่ คยเห็นตามเพจท่องเทีย่ วทัว่ ไป สนใจติดตามเรือ่ งราวต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/viennaviadesign และติดตามภาพสวยๆ ของเพจได้ที่ www.instagram.com/viawien 10
a side
ระหว่างทางปัน่ จักรยานในใจกลางเมือง เราจะพบเห็นนักปัน่ ชาวเมือง ท้องถิน่ มากหน้าหลายตา หนุ่มหล่อสาวสวยในชุดท�ำงานกึ่งทางการ หนุ่มเซอร์ กับรถทัวริ่งพร้อมกระเป๋ าสองข้างรถ นักปัน่ ขาแรงในชุดรัดรูป คุณป้ ากับรถวินเทจ สาวพังค์บนรถบีเอ็มเอ็กซ์ นักท่องเทีย่ วหน้าตาเอเชียบนจักรยานให้เช่าหลากสี ทีเ่ ห็นบ่อยและมากสุดก็จะเป็ นพนักงานปัน่ จักรยานส่งอาหาร ทีน่ ่นี ยิ มการบริการ ชนิดนี้มาก โดยเฉพาะในวันฝนพร�ำหิมะตก ผู ้คนอยูแ่ ต่ในบ้านไม่อยากออกไปไหน พนักงานขาแรงกลุ่มนี้จะท�ำงานรับส่งอาหารกันหนักอย่างไม่ลดละ ผูค้ นที่น่ี เขาขีจ่ กั รยานกันจริงๆ จังๆ ในวันทีอ่ ากาศดีๆ จะเห็นเอาจักรยานออกมาปัน่ กัน เหมือนอย่างกับผึ้งแตกรัง ยัว้ เยี้ยเพ่นพ่านเต็มไปหมด ในสวนสาธารณะก็เดิน จูงจักรยานกันมาจอดลงนัง่ ผึง่ แดดเรียงราย เราเห็นแล ้วก็มคี วามสุขสนุกสนาน ไปด้วยเลย จนถึงเวลาใกลค้ ำ � ่ ก็ได้เวลาทีผ่ มต้องปัน่ จักรยานกลับบ้านแล ้ว ไฟหน้า ไฟท้ายกระดิง่ ต้องเพียบพร้อมส�ำหรับการปัน่ ยามค�ำ่ คืนด้วยนะ มิเช่นนัน้ คุณอาจ โดนต�ำรวจให้ใบสัง่ ได้ ทีเ่ ล่ามาทัง้ หมดนี้ก็แค่อยากให้เห็นภาพและบรรยากาศ โดยรวมของชีวิต ผู ค้ นกับ รถจัก รยานในเมือ งเวีย นนาแห่ ง นี้ หากมีโ อกาส ผมจะส�ำรวจลงในรายละเอียดต่างๆ มาเล่าสู่กนั ฟังอีกต่อไป
11
b side
B I K E I N T E R V I E W
I’M NOT
50 เรียกพี่ได้ ไหม? เรื่อง /ภาพ : acidslapper
นี่ ก็ ป าเข้ า ไปเกื อ บสองปี แ ล้ ว ที่ ผ มรั บ หน้ า ที่ บก. Bike Section ให้ กั บ HIP Magazine เผลอแป๊บเดียวเองเนาะ (น�้ำเสียงกังวลนิดๆ กลัววัยรุ่นค้อนใส่!) ยืดอกยอมรับกันแบบหน้าไม่อายเลยครับว่ามันก็มีบ้างที่วัตถุดิบส�ำหรับน�ำมาเขียนเรื่อง ลงคอลัมน์นั้นมันตีบๆ ตันๆ ไปบ้าง ยิ่งเป็นช่วงเดือนร้อนๆ ของปีนี่ยิ่งไปกันใหญ่ ก็มันเป็นช่วงที่ปั่นจักรยานไม่สนุก ก็เลยไม่ค่อยได้ออกทริปสักเท่าไหร่ มันเลยไม่ค่อย มีเรื่องมาเขียนน่ะสิ
12 12
a side b side
ผมเลยมากวาดแกว่งสายตามองดูรอบๆ ตัว ปรากฏว่า โอ้โห! มีกลุม่ /ทีมจักรยานทีเ่ รียกว่าทีมท้องถิน่ (Local Club) มากมาย เต็มไปหมด ทัง้ ทีม่ อี ยู่แล ้วและตัง้ ขึ้นมาใหม่ สังเกตดู เมือ่ ก่อนนี้ จะมีแต่นกั ปันใส่ ่ เสื้อทีมระดับโลกทีมโน้นทีมนี้ ปัจจุบนั ไม่คอ่ ยเห็นแล ้ว มีแต่ นกั ปัน่ ใส่เสื้อทีมของตัวเอง เสื้อกลุ่ม เสื้อต้นสังกัดต่ างๆ ทัง้ ทีม่ าปัน่ คนเดียว หรือปัน่ มาเป็ นกลุม่ อาจเพราะวงการจักรยาน บ้านเราเป็ นที่นิยมมากขึ้น หรืออาจเพราะการสัง่ ผลิตเสื้อแบบ Custom Made มีกระบวนการที่ง่ายดายขึ้น หรือแต่ละกลุ่ม ต้องการสร้างสังคมและแสดงออกมากขึ้นก็ตามแต่ วงการจักรยาน ก็เลยคึกคักกันไปตามประสา ผมเลยตัดสินใจว่าจะหาแรงบันดาลใจ ในการเขียน ด้วยการพาตัวเองเข้าไปปัน่ จักรยานกับกลุ่มนักปัน่ ทีมต่างๆ ไปปัน่ ไปพูด ไปคุย ไปสัมภาษณ์ ไปร่วมทริป แล ้วกลับมา เขียนเล่าเรื่องผ่านมุมมองในแบบของผมเอง เมือ่ ช่วงต้นเดือนทีผ่ า่ นมา พีโ่ หน่ง สมชาย (บก.ใหญ่ของเรา) เล่ า ให้ผ มฟัง ว่ า แกไปเจอกลุ่ ม จัก รยานกลุ่ ม หนึ่ ง ที่ใ ช้ช่ื อ ว่ า ‘I’m Not 50’ ผมฟังชื่อนี้ครัง้ แรกถึงกับตะลึงลานเลยทีเดียว แหมมมม แค่ชอ่ื ก็ท ้าทายสุดๆ แล ้วครับ! นีม่ นั การรวมตัวของรุน่ ใหญ่ วัยเก๋าเลยนี่นา ผมจึงตัง้ ใจไว้ว่าจะขอไปเยีย่ มชมบรรยากาศสักครัง้ พอถามข้อมูลเพิม่ เติม อ้าว! หัวเรือใหญ่กไ็ ม่ใช่ใครทีไ่ หน พีห่ มวด Goodview นายกสมาคมศิ ษย์เก่ าโรงเรียนปรินส์ฯ เรานี่เอง คนใกล ้ตัวเราแท้ๆ ไม่รอช้าครับ ติดต่อขอไปร่วมวงไพบูลย์ทนั ที หลังจากทีต่ ดิ ต่อขอนัดหมายกับหนุ่มใหญ่กลุม่ นี้เรียบร้อย ตอนทีเ่ ตรียมตัวไปสัมภาษณ์ผมรูสึ้ กตืน่ เต้นมาก เพราะจะได้ไปปันกั ่ บ ‘รุ่ น ใหญ่ ’ และที่ส ำ� คัญ อีก อย่ า งก็ คื อ อยากเอาเรื่ อ งราวของ คนกลุ่มนี้ไปเล่าให้แม่ตวั เองฟังด้วย เพื่อโน้มน้าวกึ่งเข็ญเคี่ยว ให้แ ม่อ อกก�ำ ลัง กายบ้า งน่ ะ ครับ 555 ลู ก ชายก�ำ ลัง ปวดหลัง เพราะปัน่ จัก รยานเยอะเกิ น แต่ แ ม่ ด ัน ปวดหลัง เพราะนัง่ หน้าคอมพ์ฯ นานเกิน แฮ่!!! กลับมาเข้าเรื่อง! เรานัดกันทีอ่ ทุ ยานราชพฤกษ์พชื สวนโลก เพือ่ เดินทางไปยังจุดหมายทีร่ า้ นกาแฟท่าช้างฮิลล์ ซึง่ เป็ นเส้นทางที่ ทีม ‘I’m Not 50’ ปัน่ กันเป็ นประจ�ำ ระยะทางไป - กลับก็ประมาณ 50 กิโลเมตรจากในเมือง ผมเตรียมค�ำถามไว้เพือ่ พูดคุยกับพีๆ่ ระหว่างปัน่ เรื่องประหลาดใจแรกก็คอื จักรยานของพีๆ่ แต่ละคน ไม่ธรรมดาสักคันเลยครับ! อย่างก๊ะรถโปรฯ อาชีพเลย แต่กเ็ ข้าใจ ได้ไม่ยากเนาะ รุ่นใหญ่ ของต้องมี! 555 ประหลาดใจทีส่ องคือ หุ่นพีๆ่ แต่ละคนสะโอดสะองกันเหลือเกิน ยิ่งกว่านัน้ ! รูปน่ อง แต่ละคนไม่ธรรมดานะครับ! ดูมคี วามเจนโลกเชียว! รูปน่องแบบนี้ ถ้าเจอกันบนถนน ในวงการจักรยานเขาว่ากันว่า ถ้าแรงไม่ถงึ แรง... อย่าตาม! ก่อนออกปัน่ พีห่ มวดแนะน�ำตัวพีๆ่ สมาชิกทุกคนในทีม พร้อมกับค�ำอธิบายสัน้ ๆ แต่ได้ใจความว่า... “ทัง้ หมดนี้อายุเกินห้าสิบ ทุกคน!” คุณพระ!!! โคตรเจ๋งเลยว่ะ!!! (ผมเผลออุทานเสียงดังในใจ) และพีห่ มวดแกก็บรีฟคร่าวๆ ว่า ปัน่ กันสบายๆ นะทุกคน แล ้วเรา จึงเริ่มออกเดินทาง... อันทีจ่ ริงผมตัง้ ใจเอาไว้วา่ จะปัน่ ไป พูดคุยกันไป ปัน่ ตาม ขบวน 50+ คงไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงหรอก ไงล่ะ!!! ก็ออกตัวปุ๊ บ คุยกันได้ไม่ก่ปี ระโยค ความเร็วของกลุม่ ก็พ่งุ ทะยานขึ้นไปอยู่ใน ระดับทีค่ ุยกันแทบไม่เป็ นค�ำเลย! นัน่ ไงล่ะ! เจองานยากซะแลว้ ! จากที่ก ะว่ า จะมาชิล ล์ๆ เจอสงครามรุ่ น ใหญ่ ซ ะแล ว้ เว้ย เฮ้ย ! ทางเรียบๆ ความเร็วเกือบ 40 กม./ชม. พอเข้าช่วงเส้นทางทีเ่ ป็ น ภูเขา ผมนึกว่ารุ่นใหญ่จะแรงตกกัน ทีไ่ หนได้... ยิงสลุตเลยครับ! ทุกเนิน ทุกดอย จะมีพ่ไี ม่คนใดก็คนหนึ่งระเบิดพลังหนีเสมอ ใครเผลอโดนยิง ใครแผ่ ว โดนสอย ใคร Breakaway หนี โดนตัง้ กลุม่ ไล่ โอ้โห! มิน่าล่ะ รถพีๆ่ แต่ละคันนี่แต่งมาซะเต็ม! รูปน่องก็ไม่ธรรมดา เรียกว่าเจอของจริงก็วา่ ได้!
ชะตากรรมของ บก. Bike Section เริ่มล�ำบากแล ้วครับ! สรุปว่าค�ำถามทีเ่ ตรียมมา ไม่ได้เอื้อนเอ่ยเลยแม้แต่นดิ ก้มหน้าก้มตา กดกระหน�ำ่ ตามดูบรรยากาศสงครามอย่างเดียวเลย 555 แหม่ รูง้ ้ ี พา บก.ใหญ่มาด้วยซะก็ดี 555 มีการยกสปรินท์ใส่กนั ทุกเนิน พีห่ มวดหันมาถามผมว่า “สบายอยูแ่ ล ้วเนาะเปิ้ล?” ผมตอบแกทันทีวา่ “ไม่ครับพี!่ เรื่องสัมภาษณ์เนี่ย เดีย๋ วค่อยไปนัง่ พักคุยก็แลว้ กัน นะครับพี”่ (ถ้าจ�ำไม่ผดิ ก่อนเริ่มพีเ่ ป็ นคนบอกว่าปัน่ กันสบายๆ ไม่ใช่เหรอครับพี!่ ) ระยะทางผ่านไปไวเหมือนโกหก เผลอแป๊ บเดียวมาถึง ร้า นกาแฟท่ า ช้า งซะแล ว้ ผมแอบถอนหายใจ เฮ้อ อออ ดีใ จ จะได้พกั แล ้ว 555 บรรยากาศการนัง่ พักพูดคุยกันนัน้ สนุกสนาน และอบอุ่นมากครับ หยอกลอ้ แซว จิก อ�ำ หัวเราะเฮฮากัน ครื้นเครงมาก พีห่ มวดบอกผมว่า “ถ้าคนทีถ่ กู คอกันมารวมตัวกัน... มันจะไม่มเี รื่องอายุมาเกี่ยว!” น่ารักมากเลยครับ พวกพีๆ่ บอก “30 - 40 ปี ก่อนเราเล่น BMX ด้วยกัน ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะได้ กลับมาปัน่ จักรยานด้วยกันอีก” พีบ่ างคนเป็ นเพือ่ นกันมาตัง้ แต่เด็ก บางคนเพิง่ มารูจั้ กกันไม่นานแต่ก็ถกู ชะตากัน ชวนกันไปชวนกันมา ตอนนี้มสี มาชิกสิบกว่าคนแหนะ พวกพีๆ่ นัดปัน่ กันทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เส้นทางส่วนใหญ่กม็ กั จะเป็ นท่าช้างฮิลล์ หรือไม่กล็ ำ� พูน (ลัดเลาะตามแม่นำ�้ ปิ ง) ว่างบ้างไม่ว่างบ้างก็แลว้ แต่หน้าทีก่ ารงาน จะอ�ำนวย “แต่ถา้ เจอกันเมือ่ ไหร่มยี อกกันแน่ ๋ นอน! 555” “เมือ่ ก่อนนี้เคยใช้ช่ือว่ากลุ่ม 40+ แต่ตอนนี้เราข้ามผ่าน จุดนัน้ มาแล ้ว!” พวกพีๆ่ เลยตัง้ ชื่อกลุม่ กันใหม่วา่ ‘I’m Not 50’ โดยมีคอนเส็ปท์ของกลุ่มว่า ‘เราอยากเป็ นคนแก่ อย่างองอาจ’ “คนวัยนี้เนี่ย เป็ นเบาหวาน เป็ นความดัน ป่ วยเป็ นโน่ นเป็ นนี่ ไม่งนั้ ก็อ ้วนลงพุงหมด พวกเราไม่อยากเป็นแบบนัน้ ก็เลยรวมกลุม่ กัน ปัน่ จักรยาน” (อนุญาตให้ท่านผูอ้ ่านขนลุกได้ครับ!) ผมถามหนุ่ ม ๆ ว่ า “มีแ ผนจะเปลี่ย นชื่ อ กลุ่ ม ไปเป็ น I love Sixty มัย้ ครับ?” พีๆ่ บอกว่า “มีแน่นอนครับ แต่ใครจะถึง 60 ก่อนนะ?” (กรอกตามองกันก่อนจะระเบิดหัวเราะ) และค�ำถาม ทีส่ ำ� คัญอีกค�ำถามก็คอื ... “รับสมาชิกเพิม่ มัย้ ครับพี?่ ” “ยินดีตอ้ นรับ ทุกท่านครับ ใครสนใจมาปัน่ ด้วยกันได้เลย ถ้าเห็นเสื้อทีมแบบนี้ ก็ทกั ๆ กันมาเลย ปัน่ ออกก�ำลังกาย แซวกัน เล่นกัน อ�ำกันสนุกๆ แต่ถา้ อยากใส่เสื้อทีมนี้ตอ้ งผ่านคุณสมบัตดิ า้ นอายุนะครับ! 5555” ขอบพระคุณหนุ่มๆ (ทีเ่ รียกแบบนี้เพราะผมคิดว่าพวกพีๆ่ ยังไม่แก่ กนั จริงๆ) ทีม ‘I’m Not 50’ ที่กรุณาให้โอกาสทาง HIP Magazine เราได้เข้าร่ วมปัน่ และพูดคุยเพื่อน�ำเรื่องราว น่าประทับใจนี้มาเล่าสู่คุณผูอ้ ่านนะครับ พวกพีๆ่ เจ๋งมากครับ! 13
b side
B I K E R O U T E
LAZY RIDING
ปั่นเล่นพักผ่อน เรื่อง / ภาพ : Weekend Warrior
ตอนนัน้ โทรศัพท์ไม่มี แต่มนั ก็แปลกตรงทีพ่ วกแก๊ง แฟนฉันมันก็ดนั สามารถนัดพบกันได้ค่อนข้างตรงเวลา ใต้ตน้ มะม่วงใหญ่ในละแวกหมูบ่ ้าน เมือ่ ไอ้เด็กอ้วน ทีม่ กั ถูก อุปโลกน์ให้เป็ นหัวหน้ามาถึง ก็เป็ นที่รูก้ นั ว่าอีกไม่นาน พวกเราจะได้ลอ้ หมุนไปเป้ าหมายทีไ่ หนสักที่ ปัน่ กันตัง้ แต่ เช้ายันเย็น เล่นกันทัง้ วัน พอถึงเวลาโดยทีไ่ ม่ตอ้ งดูนาฬกิ า ดูแค่พระอาทิตย์วา่ ก�ำลังเริ่มอ่อนแสงลง ก็ได้เวลาแยกย้าย กลับบ้านใครบ้านมัน ค�ำจากลาก็เพียงแค่ พูดว่า “พรุ่งนี้ พบกันใหม่” เป็นทีร่ กัู ้ นว่าทีเ่ ก่าเวลาเดิม นึกถึงช่วงเวลานัน้ จริงๆ ช่วงเวลาทีไ่ ม่ตอ้ งคิดอะไร เพียงแค่ปนั ่ ไป คุยไปกับเพือ่ นๆ ไม่มนี าฬกิ า ไม่มโี ทรศัพท์ ไม่มเี ครื่องติดตามอะไรทัง้ นัน้ มีแค่ กางเกงขาสัน้ เสื้อยืด รองเท้าแตะ และเงินเหรียญ ทีใ่ ช้ยางวงมัดติดอยู่กบั เสื้อยืด แค่น้ มี นั ก็สุขสุดยอดแล ้ว ละดูบ่ะเด่ว! มันอะหยังกันปะล� ๋ ำ้ ปะเหลืออ้ายเหย! อุปกรณ์ติดตัวไม่ตำ� ่ กว่าสิบชิ้น ระหว่างปัน่ ก็ตะบี้ตะบัน กระทืบ บัน ไดจนกระบัง ลมแทบจะปลิ้น ออกมาอยู่ น อก ชายโครง ยัง!! ยังไม่พอ! ปัน่ เสร็จยังมาคุยสรุปกันอีก ความเร็วเท่าไหร่ ค่าเฉลีย่ เป็นไง วัตต์เท่าไหร่ หัวใจเต้นโซนไหน ความเร็วของใคร Max สุ ด เคิ้วววว!! จะซ้อมไปแข่ง โอลิมปิ กกันกาคร้ ๋ าบบ อยู่ดๆี มันก็เลยเกิดความเบือ่ หน่าย ถึงขัน้ ขีดสุด จูๆ่ ก็อยากกลับไปปัน่ โมเมนต์แบบเด็กๆ อีกครัง้ ว่าแล ้วก็หาทริปปัน่ กินลมชมวิวดีกว่า ไปมันคนเดียวนี่แหละ ม่วนดี ไม่กลา้ ชวนแก๊ง ‘แฟนฉัน’ ทีผ่ นั ตัวเองไปเป็ นแก๊ง ‘แฟนฉัน Ultra High Speed’ ปัน่ คนเดว บ่ะมีไผมากอย ก๋วนใจ๋เนี่ยะ สบายตี้สุดละ!
นึกภาพย้อนกลับไป สมัยตอนเด็กๆ ที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ชีวิตนี้ มีแค่จักรยาน BMX คันเล็กๆ กับแก๊งแฟนฉัน ที่มักจะนัดพบกันทุกวันหยุด สุดสัปดาห์ สมาชิกในแก๊งไม่รเู้ ป็นอะไร มักจะต้องมี ไอ้ขมี้ กู , ไอ้เด็กอ้วน, ไอ้เด็กผอม, ไอ้ขรี้ อ้ งไห้ และไอ้ลกู คุณหนูทที่ ำ� อะไรไม่เป็นซักอย่าง เป็นสมาชิกสามัญทีต่ อ้ งมีอยู่ ในทุกรอบที่ตั้งแก๊งขึ้นมาใหม่
ความตั้ง ใจเด็ ด เดี่ ย ว จากที่ เ คยใช้จ ัก รยาน เพือ่ ออกก�ำลังกาย เพือ่ ท�ำสงคราม เข่นฆ่า แก่งแย่ง ช่วงชิง สนองตัณ หา อารมณ์ก า้ วร้า วมานาน วัน นี้ จ ะขอใช้ม นั ในมิตทิ ข่ี าดหายไปจากชีวติ มาแสนนาน... ปัน่ เล่นพักผ่อน! ว่าแล ้วก็เลือกเส้นทางก่อนเลย เอาทีม่ นั ไกลๆ ยาวๆ สบายๆ งัน้ นี่เลย ปัน่ รถถีบไปจอมทองดีกว่า แต่จะปัน่ เส้นทีร่ ถสัญจรกันเยอะๆ ดูทา่ ทางจะเสีย่ งอันตรายไปหน่อย ช่ วงนี้รถเยอะเหลือเกิน ลองเลือกเส้นทางอื่นที่สามารถ ไปจอมทองได้ จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าแม่น�ำ้ ปิ งพาดผ่านจาก ตัวเมืองเชียงใหม่ ผ่านไปถึงอ�ำเภอจอมทอง ด้วยสมอง ที่รำ� ่ เรียนมาพอจะประมวลผลได้ว่า ธรรมชาติของมนุ ษย์ มักที่จะตัง้ ถิ่นฐานอยู่ริมแม่น�ำ ้ เพื่อความสะดวกในการ ด�ำรงชีพและเกษตรกรรมมาตัง้ แต่สมัยโบราณ และแน่นอน เมือ่ มีชุมชนอยู่ริมแม่นำ �้ ก็ตอ้ งมีการสัญจรระหว่างชุมชน ดัง นัน้ มัน ต้อ งมีถ นนที่เ ชื่อ มไปเรื่อ ยๆ ลัด เลาะไปตาม แม่นำ�้ ปิ ง ตัง้ แต่ตวั เมืองเชียงใหม่ไปถึงอ�ำเภอจอมทองเลยสิ แถมอีกอย่างเขาว่ากันว่าทีน่ นั ่ มีลาบปลาเจ้าอร่อยอยู่ แต่ไม่รู ้ อยู่ตรงไหน ลองปัน่ ไปตายเอาดาบหน้า ไม่ตอ้ งวางแผน 14
a side
อะไรทัง้ นัน้ ไม่เปิ ดโทรศัพท์เสิรช์ กูเกิ้ล แผนที่อยู่ท่ีปาก รูส้ กึ ว่าหลงทางก็คอ่ ยจอดถามทางชาวบ้านเอา ไปแบบนี้แหละ ไม่ตอ้ งคิดหน้าคิดหลังให้มันเมือ่ ยตุม้ อยากให้ชีวติ มันตืน่ เต้น ผจญภัย ให้ความรูส้ กึ สมัยแก๊งแฟนฉันมันหวนกลับมาดูบ ้าง เริ่มต้นตัง้ แต่กาดหลวงมันซะเลย ลัดเลาะออกจาก เมืองไปทางป่ าแดด ไปยังไงก็ได้ให้แม่น�ำ้ ปิ งอยู่ ซา้ ยมือ ไม่ตอ้ งไปสนใจอะไรทัง้ นัน้ 555 แรงขามี หัวใจยังเต้น เงินในกระเป๋ าพอมี โทรศัพท์แบตเตอรีไ่ ม่หมด ไปไหนไปกัน อย่างเก่งก็โทรเรียกทีบ่ า้ นมารับล่ะว่ะงานนี้ เมือ่ เริ่มออกจาก ตัวเมืองได้สกั พัก ลอดสะพานป่ าแดดมาแลว้ การจราจร เริ่มเบาบางลง ผมเริ่มสังเกตเห็นสองข้างทางมีชาวบ้าน ตะโกนคุยกันข้ามถนน ดูวุ่นวายแบบน่ารักๆ ตามประสา ชาวบ้า น ผ่ า นมาสัก พัก ก็ เ ข้า เขตสวนล�ำ ไย อะหืย ยย ลูกก�ำลังดกเชียว ยืนแสยะยิ้มอยู่ขา้ งทางกันสลอน ไม่มี รัว้ กัน้ ซะด้วย! เพียงแค่เอื้อมมือไปเด็ดก็ได้เสพสุขเจ้าล�ำไย ฉ�ำ่ หวาน เจ้าของสวนอาศัยเพียงความไว้ใจว่าทุกคนเป็ นคนดี คงไม่มคี นชัว่ ทีป่ นั ่ จักรยานคิดจะมาขโมยล�ำไยของแกหรอก! แกไม่ตอ้ งใช้กลอ้ งวงจรปิ ดเพือ่ คอยตรวจตราและป้ องกัน ขโมย แกเพียงแค่ เขียนป้ ายเล็กๆ ไว้ว่าสวนนี้มเี จ้าของ ผมจึงเกิดความละอายใจไม่กล ้าเด็ดดอม นีถ่ ้าเป็ นตอนเด็กนะ! พ่อจะสอยให้พงุ กางเลย 555 ผ่านสวนล�ำไยมาสักพัก เริ่มเห็นชาวบ้านเลี้ยงปลา ในกระชังตลอดริมแม่นำ�้ ปิ ง จอดรถดูวถิ ชี วี ติ ตอนเช้าๆ ผูค้ น แถวนี้ ดู ใ ช้ชีวิต ไม่ต อ้ งเร่ ง รีบเพื่อ ไปหาเงิน หมื่น เงิน แสน แต่ ทำ� ไมเขาดู มีความสุ ขดีจงั มีรอยยิ้มโต้ตอบกันไปมา งานและเงินไม่ใช่สง่ิ ทีพ่ วกเขาคุยกันในประโยคแรกทีพ่ บกัน เขาแค่ ถ ามไถ่ส ารทุก ข์สุขดิบ พอได้ใ จความก็แยกย้า ย ไปท�ำหน้าที่การงานของตัวเองกันต่ อ ดีจงั วันพักผ่อน ได้ปันรถถี ่ บสบายๆ แถมยังได้มาเห็น มาสัมผัสเรือ่ งสวยๆ งามๆ พวกนี้อกี ชืน่ ใจเป็นบ้า (สารภาพตามตรงว่าปันผ่ ่ านกระชังปลา แล ้วผมอยากกินปลาทับทิมเผาเกลือ!) ปัน่ ต่อมาได้สกั พัก ผ่านบ้านหนองตอง บ้านแม่ขอ่ งใต้ บ้านท่าวังพร้าว เส้นทางเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ จนต้องใช้ แผนที่ คือปากนี่แหละ ก็แวะถามทางมันซะดื้อๆ ทางดีบา้ ง ไม่ดบี ้าง แต่ครัง้ นี้แปลกทีไ่ ม่รูส้ กึ หงุดหงิดกับเส้นทาง ถึงแม้ จะหลงก็ยงั ยิ้มได้ เพราะหลงหรือไม่หลง ยังไงซะมันก็มคี ่า เท่ากัน ก็มนั เป็ นทางทีไ่ ม่คนุ ้ ตาอยูแ่ ล ้วนี่นา 555 และอีกอย่าง มันคงเป็ นเพราะเราไม่ได้คาดหวังอะไรกับเส้นทาง ดังนัน้ ความผิดหวังจึงไม่เกิดขึ้น มีแต่รอยยิ้มและความตื่นเต้น ทีจ่ ะได้ตอ้ นรับสิง่ ทีก่ ำ� ลังจะเกิดขึ้นต่อไปในทุกๆ นาทีทก่ี ำ� ลัง จะพบเจอ จนแลว้ จนรอดก็มาถึงจอมทองจนได้ ถึงตรงนี้
ลืมเรือ่ งลาบปลาทีต่ งั้ ใจมากินทีจ่ อมทองไปเสียสนิท 555 ก็ดนั แวะกินโน่ นกินนี่มนั ซะตลอดทางแลว้ นี่ 555 และอีกอย่าง เพราะระยะทางตลอดริมฝัง่ แม่นำ�้ ปิ งทีผ่ ่านมา มันสวย สงบ ร่มรื่น จะท�ำให้เราไม่คำ� นึงถึงสิ่งที่เราคาดหวังไว้ตงั้ แต่แรก เราก็แค่สนุกและยิ้มต้อนรับเรือ่ งราวระหว่างทางทีเ่ ราก�ำลังเจอ แค่นนั้ เอง... ตอนแรกตัง้ ใจจะมากินลาบปลาชื่อดังริมแม่น�ำ้ ปิ ง พอปัน่ มาถึงดันอิ่มขนม และอิ่มความรูส้ กึ บางอย่างไปแลว้ งัน้ ก็ไม่กนิ ลาบมันซะดื้อๆ อารมณ์เหมือนเด็กเอาแต่ใจตัวเอง น่ารักดีออก 555 ไม่ตอ้ งยึดติดอะไรจริงจังมาก ปล่อยๆ ไป ตามอารมณ์ นี่สโิ มเมนต์แบบแก๊งแฟนฉันที่เราเฝ้ าตามหา ตอนนี้ ม นั ได้ย อ้ นกลับ มาเติ ม เต็ ม ความรู ส้ ึ ก ในวัย เด็ ก ที่ขาดหายไปแลว้ พร้อมยิ้มรับเรื่องราวใหม่ๆ ที่กำ� ลังจะ เกิดขึ้นในชีวติ ต่อจากนี้ เติมพลังชีวติ เสร็จสรรพ เราก็พร้อมกลับไปโรมรันพันตู กับชีวติ วุ่นวายของเรากันต่อ แต่คราวนี้ชาร์จพลังมาเต็มที่ อะไรที่มนั ซับซ้อนยุ่งเหยิงแค่ ไหนก็มาเถอะ สุ ขภาพจิตดี ขนาดนี้ พร้อมรับมือแล ้วเฟ้ ยยย!!! บางครัง้ ลองหยุดแลว้ ย้อนถามตัวเองว่าซีเรียสเกินไป หรือเปล่า? แล ้วลองใช้ชีวติ ไปตามจังหวะเสียงเรียกของหัวใจบ้าง แล ้วพบกันใหม่ฉบับหน้านะครับ *อนึ่ ง ลาบปลาที่น่ี เด็ดจริงๆ นะครับ ถ้ามีโอกาส เพือ่ นๆ ชาวเสือ ก็แวะมาลองลิ้มกันดูนะครับ* 15
b side
B I K E S A F E
HOT TIGER HOT ฮ้อนแต๊ฮ้อนว่า เรื่อง / ภาพ : เอ๋ หนวด
สงกรานต์ผา่ นไปพร้อมกับการสลายตัวของควันทีป่ กคลุมเมืองเชียงใหม่ ท�ำให้ทงั้ นักปัน่ ทางเรียบ นักปัน่ ทางไม่เรียบ นักวิง่ ทางเรียบ หรือนักวิง่ ป่าราบ (วิง่ เทรล) ยินดีปรีดาไปตามๆ กัน สวรรค์ชว่ ยไว้แท้ๆ! ฝนทีต่ กลงมาต่อเนือ่ งสองสามวัน เมื่อช่วงสงกรานต์ น�ำพาอากาศเย็นสดชื่นมาด้วย ท�ำให้พาลนึกไปว่าคงสิ้นสุดหน้าร้อนไปแล้ว ที่ไหนได้เย็นอยู่สามสี่วัน อากาศก็กลับมาร้อนเหมือนเดิม! ส�ำหรับนักปัน่ ที่กำ� ลังฝึ กซ้อมอย่างหนัก เพื่อคัดตัวไปแข่งโอลิมปิ ก อันนี้ลอ้ เล่น หรือนักปัน่ สายลุยไม่คุยเยอะ รวมถึงนักปัน่ สายเม้าท์ คุยมากกว่าปัน่ ทีจ่ ะออกปัน่ ท่ามกลางความร้อนแบบนี้ มีข ้อแนะน�ำทีค่ วรท�ำ และข้อทีไ่ ม่น่าจะท�ำมาน�ำเสนอ
ควรท�ำ
ไม่ควรท�ำ
ยืดเส้นยืดสายก่อนออกปัน่ 10 - 15 นาที ออกให้เช้ากว่าปกติ เพือ่ ทีจ่ ะปัน่ เสร็จในเวลาไม่สายเกินไป กะเกณฑ์เส้นทางทีจ่ ะไปก่อนออกปัน่ พกกระติกใส่นำ�้ ใบใหญ่ไป 2 ใบ เพือ่ ให้แน่ใจว่ามีนำ�้ ดืม่ พอเพียง (โปรดจ�ำไว้วา่ ‘เหลือดีกว่าขาด’) พกของกินไปกินด้วยระหว่างทาง เผือ่ เกิดอาการหิวอย่างกะทันหัน อากาศร้อนจะท�ำให้เราใช้พลังงานมากขึ้น เลือกเส้นทางทีเ่ รารูแ้ น่ๆ ว่ามีรา้ นขายของช�ำ,ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ ดืม่ น�ำ้ อย่างเพียงพอ เช่น ทุก 15 นาที ดืม่ น�ำ ้ 150 - 200 ซีซี หรือ 800 – 1,000 ซีซี ต่อชัว่ โมง ถ้ารูต้ วั ว่ามีโรคประจ�ำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต ความดัน อย่าออกก�ำลังกายท่ามกลางอากาศร้อนจัด สังเกตตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ ถ้ามีให้รบี หยุดออกก�ำลังกายทันที ค่อยๆ ฝึ กตัวเองให้มคี วามเคยชินกับอากาศร้อน โดยค่อยๆ เพิม่ เวลาออกก�ำลังกายในอากาศร้อน ถ้าออกปัน่ สาย ให้ลดระยะเวลาในการปัน่ ลง ปัน่ ช้าลง หรือโซนหัวใจต�ำ่ ลง หาตัวช่วยในการปิ ดบังแดด เช่น หมวกแก๊ป ถุงแขน
ออกปัน่ ทันที โดยทีไ่ ม่ยดื เส้นยืดสาย ออกปัน่ สาย ออกปัน่ โดยไม่มเี ป้ าหมาย พกน�ำ้ ไปน้อย โดยหวังไปเติมน�ำ้ ข้างหน้า ไม่พกอะไรไปเลย เพราะปกติไม่พกอยู่แล ้ว ไปตายเอาดาบหน้า (มีรุ่นน้องถึงกับต้องเล็งชามข้าวหมาและเด็ดใบไม้ขา้ งทางกินมาแล ้ว) ไปในเส้นทางทีไ่ ม่เคยไปมาก่อน ดืม่ น�ำ้ น้อยเกินไป ซึง่ ปกติกด็ ม่ื น�ำ้ น้อยอยู่แล ้ว ร้อนยังไงก็จะออก ทัง้ ๆ ทีม่ โี รคประจ�ำตัว ระวังด้วยนะครับ มีอนั ตรายถึงชีวติ ออกก�ำลังกายโดยไม่สนความเป็ นไปของร่างกาย คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งดัง่ ซูเปอร์แมน ออกแดดทันทีนานๆ ร่างกายปรับตัวไม่ทนั ทู่ซ้ดี งึ ดันปัน่ นานๆ กลางแดดร้อน ปัน่ ในโซนสูง เปิ ดเผยตัวตนสูแ้ ดด
ถ้าสงสัย ให้กลับไปอ่านตัง้ แต่ข ้อ 1 อีกรอบ หวังว่าในอากาศร้อนแบบนี้ นักปัน่ ทัง้ หลายจะปัน่ อย่างมีความสุขและปลอดภัยนะครับ 16
a side
R U N
LET”S TALK ABOUT RUNNING มารู้จักกับงานวิ่งกันเถอะ เรื่อง / ภาพ : อาเหลียง
ในเดือนที่แล้ว เราพูดถึงเรื่องแรงบันดาลใจของการวิ่งไปแล้ว หลายๆ คน ยังสงสัยกันอยู่ ว่างานวิ่งคืออะไรกัน? มันมีกิจกรรมแบบนี้ในโลกด้วยเหรอ? ไม่ใช่ ว่ามีแค่เฉพาะแข่งซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ หรือโอลิมปิกเหรอ? วันนีเ้ ราจะตอบค�ำถามยอดฮิต ส�ำหรับนักวิ่งมือใหม่กัน ผมเชื่อว่าหลายๆ คนยังมีข้อสงสัยอยู่ วันนี้ เราจะมาคลาย ความสงสัยให้กับใครหลายๆ คนกันครับ (ค�ำถามทั้งหมด มีแหล่งมาจากคนรอบข้าง ของผมเองแหละ ชอบถามกันอยู่เป็นประจ�ำ วันนี้เลยเอามาแฉให้หมด) 1. งานวิ่งนี่มีด้วยเหรอ? แล้วเขาท�ำอะไรกันบ้าง? มัน มี ค รับ และที่ ส �ำ คัญ มี เ กื อ บทุ ก สัป ดาห์เ ลยในประเทศไทย ยิง่ ในกรุงเทพฯ นี่ สัปดาห์ละ 2 - 3 งานเป็ นอย่างต�ำ่ เลยล่ะ เรียกว่ามีเยอะจนเรา เลือกได้เลยว่าจะไปงานไหนกันดี โดยหลักๆ แล ้ว งานวิง่ ก็จะเหมือนเป็ นกิจกรรม เพือ่ ส่งเสริมสุขภาพอย่างหนึ่ง ทีจ่ ะเชิญชวนประชาชนทุกเพศทุกวัยออกมาร่วม กิจกรรมเพือ่ สุขภาพกัน โดยผูท้ เ่ี ข้าร่วมงานก็จะได้ของทีร่ ะลึก (ส่วนใหญ่เป็ น เหรียญรางวัล) กลับบ้าน ส�ำหรับผูท้ เ่ี ข้าร่วมกิจกรรมครบหลักสูตร (เข้าเส้นชัย) และมีถว้ ยรางวัลอันดับให้ ส�ำหรับผูท้ ว่ี ง่ิ เร็วเป็ นพิเศษในแต่ละรุ่นอายุ มันเหมือน การจ�ำลองการแข่งขัน มาอยู่ในรูปแบบทีป่ ระชาชนทัว่ ไปสามารถเข้าถึงได้ครับ 2. แล้วเขาวิ่งระยะเท่าไหร่กันบ้าง แล ้วแต่งานทีจ่ ะจัดครับ โดยส่วนใหญ่กแ็ บ่งได้หลักๆ ตามนี้ - เริ่มตัง้ แต่ 3 - 5 กม. จะเรียกกันว่า ระยะฟันรัน (Fun Run) หรือว่า วิง่ เพือ่ สุขภาพ, ระยะเดินเพือ่ สุขภาพ ฯลฯ - ระยะ 10.5 กม. หรื อ ใกล เ้ คี ย ง จะเรี ย กกัน ว่ า ระยะมินิ ม าราธอน (Mini Marathon) คนไทยเรียกกันติดปากว่า ‘วิง่ มินิ’ ระยะนี้จะเป็ นระยะ ยอดนิยมของนักวิง่ ชาวไทย เพราะเป็ นระยะทีค่ นทัวไปเข้าถึ ่ งได้งา่ ย วิง่ ยังไงก็ถงึ ไม่วา่ จะเป็ นมือใหม่ขนาดไหนก็ตาม เรียกว่าระยะเข้าถึงง่าย ใครๆ ก็วง่ิ ได้ครับ - ระยะ 21.1 กม. หรือ ระยะฮาล์ฟมาราธอน (Half Marathon) บ้านเรา ก็เรียกกันว่า ‘วิง่ ฮาล์ฟ’ ระยะนี้จะค่อนข้างเหมาะกับผูท้ ฝ่ี ึ กซ้อมมาบ้าง เป็ นระยะ ทีค่ ่อนข้างท้าทาย และไม่เหนื่อยมากจนเกินไป - ระยะ 42.195 กม. หรือระยะฟูลมาราธอน (Full Marathon) ระยะนี้ จะเป็ นระยะทีไ่ กลทีส่ ุดของการวิง่ ถนน แลว้ เป็ นระยะทีน่ กั วิง่ ส่วนใหญ่อยากจะ พิชติ ให้ได้ เพราะต้องอาศัยการฝึ กซ้อมมาเป็ นระยะเวลาพอสมควร แต่แลกมา ด้วยความภาคภูมใิ จ ทีจ่ ะได้เป็ นมาราธอนเนอร์ทส่ี ามารถพิชติ ระยะ 42.195 กม. ได้ในทีส่ ุด นับว่าเป็ นเป้ าหมายทีน่ กั วิง่ ทุกคนพยายามจะก้าวผ่านระยะนี้ไปให้ได้ 17
b side
3. โห วิ่งกัน 42 กม. เลยเหรอ ส่วนใหญ่ใช้เวลาเท่าไหร่? แล้วจะมีวิ่งไกลกว่านี้อีกไหม? ส่วนใหญ่นกั วิง่ บ้านเราวิง่ กันเฉลีย่ อยู่ท่ี 4 - 6 ชม. ส่วนความเร็วสูงสุด ทีน่ กั วิง่ ทีมชาติบ ้านเราเคยท�ำได้ อยูท่ ป่ี ระมาณ 2 ชม. 19 นาทีครับ ส่วนวิง่ ไกลกว่านี้ มีอยูแ่ ล ้ว ระยะพวกนี้เขาจะเรียกกันว่า ระยะอัลตร้า มาราธอน (Ultra Marathon) การแข่งขันใดๆ ก็ตามทีแ่ ข่งมากกว่า 42.195 กม. จะนับเป็ นอัลตร้า มาราธอน หมดครับ ส่วนใหญ่จะเริ่มที่ 50 กม., 75 กม.,100 กม., 160 กม. (100 ไมล์), 280 กม. จนไปถึง 320 กม. (200 ไมล์) เลยก็มคี รับ และยังมีมากกว่านัน้ อีก เอาเป็ น ว่ า ผมยัง ไม่ พู ด ถึง ละกัน นอกจากนั้น มัน เกิ น มนุ ษ ย์ม นาไปมาก และแน่นอนว่าเราหมายถึงแค่ ‘วิง่ ’ เท่านัน้ นะครับ เอาเป็ นว่าเรากลับมาพูดถึง แค่ระยะมาราธอนกันดีกว่าครับ
6. แล้วถ้าอยากเริ่มวิ่ง ต้องท�ำอย่างไร? ไม่ยากเลยนะ หารองเท้าสักคู่ ชุดกีฬาสักชุด แลว้ ก็ออกไปวิง่ ได้เลย ไม่ได้กวนด้วยนะเออ 7. แล้วการเลือกรองเท้าล่ะ? การเลือกรองเท้านี่สำ� คัญจริงๆ ครับ แรกๆ ใครๆ ก็คดิ ว่ารองเท้าอะไร ก็วง่ิ ได้ อันนัน้ ถูกต้องอยู่แล ้วครับ แต่การทีจ่ ะท�ำให้เราวิง่ ได้สนุก และสุขภาพ แข้งขาและข้อเท้าเราแข็งแรงอยู่กบั เรานานๆ เราจะต้องมีการเลือกรองเท้า สักนิดหนึ่ง เอาให้เห็นภาพง่ายๆ ก่ อน ผมขออธิบายแบบนี้ เท้าของเราเอง แบ่งได้เป็ น 3 ชนิด ง่ายๆ คือ 1. เท้าแบบ High Arch หรือเท้าโก่ง เท้าแบบนี้ จะมีลกั ษณะที่งมุ ้ โก่งมากเป็ นพิเศษ 2. แบบ Normal Arch คือ เท้าโก่ง แบบปกติ และ 3. Low Arch คือเท้าทีค่ ่อนข้างแบนกว่าปกติ หรือจะเรียก อีกอย่างว่า Flat ซึง่ เท้าเราจะมีผลต่อการวิง่ ครับ หากเลือกรองเท้าทีไ่ ม่เหมาะสม ก็จะวิง่ ได้ไม่นานนักเพราะอาจจะเกิดการบาดเจ็บขึ้นครับ เช่น ถ้าเท้าเป็ น High Arch แต่ไปเลือกรองเท้าทีเ่ ป็ นรองเท้าทีผ่ ลิตไว้สำ� หรับ Flat - Foot ก็อาจจะ ใส่ได้ไม่นาน เพราะรูส้ กึ ไม่ชอบ ทัง้ ๆ ทีพ่ นักงานบอกว่ารองเท้านี้ดที ส่ี ุดในร้าน แล ้วจะบอกว่ายีห่ อ้ นัน้ ยีห่ อ้ นี้ไม่ดี บางทีผมว่ามันก็ไม่ถกู มากนัก เวลาคนมาถาม ผมก็จะบอกว่าให้ไปลองก่ อน เดีย๋ วจะรู เ้ องว่าชอบรองเท้าแบบไหน เดีย๋ วนี้ ร้านขายรองเท้าวิง่ หลายๆ ร้านเริ่มมีวธิ กี ารตรวจสอบรูปเท้าของลูกค้า เพือ่ เลือก รองเท้าทีเ่ หมาะสมให้ลูกค้าแต่ละท่านแล ้วครับ
4. แล้วท�ำไมต้อง 42.195 ด้วยล่ะ? จริงๆ แล ้ว มันมีทม่ี านะ มันเป็ นต�ำนานแถวๆ ฝัง่ กรีซ เรื่องมันมีอยู่วา่ มีทหารนายหนึ่งชื่อ ‘มาราธอน’ ต้องการที่จะแจ้งข่าวจากสนามรบ เขาคนนี้ เลยคาบข่าวจากสนามรบวิง่ กลับเมือง เป็ นระยะทางประมาณ 25 ไมล์ หรือ 40 กว่ากิโลเมตร เพือ่ แจ้งให้ชาวเมืองทราบว่า “เราชนะแลว้ ” แลว้ เขาก็ตายเลย... ใช่ ตายจริงๆ เหนื่อยตาย แล ้วหลังจากนัน้ ก็เลยเรียกระยะนี้วา่ ระยะมาราธอน มาตลอด แต่ทม่ี าของเศษๆ 0.195 เนี่ย ถ้าจ�ำไม่ผดิ จะมาจากการแข่งโอลิมปิ ก ปี ห นึ่ ง ที่อ งั กฤษ เขาย้า ยเส้น ชัย ไปไว้ท่ีป ราสาทอะไรสัก อย่ า งนี่ แ หละครับ แลว้ ระยะก็ขยับไปเป็ น 42.195 กม. หรือ 26.22 ไมล์ แลว้ หลักจากนัน้ ก็ยดึ ระยะนี้ถาวรมาเป็ นร้อยๆ ปี เลยครับ
8. เราจะรู้ได้ยังไงว่ามีงานวิ่งที่ไหนบ้าง? แต่ก่อนจะหาได้ตามสือ่ สิง่ พิมพ์ โบรชัวร์ แต่เดีย๋ วนี้ เรามีสอ่ื ออนไลน์ มากขึ้นเยอะแลว้ ครับ สามารถหางานวิง่ ได้งา่ ยขึ้น หลักๆ เลย ทีผ่ มดูคือเพจ ‘วิ่งไหนดี’ ในเฟซบุค๊ ที่จะมีบอกทุกงานในประเทศไทย แทบจะกางปฏิทิน ออกมาเป็ นงานวิง่ เลย หรือว่าตามในเว็บไซต์ jogandjoy ก็มคี รับ
5. ถ้าวิ่งแล้วเข่าจะเสื่อมไหม? นีก่ ค็ ำ� ถามยอดฮิต ผมบอกได้เลยนะ ถ้าวิง่ ‘ถกู ’ ท่า จะไม่มที างเข่าเสือ่ มครับ การทีค่ นเราเข่าเสือ่ มมันมีหลายสาเหตุมาก แต่การวิง่ ผมว่ามันจะยิง่ ท�ำให้เข่าคุณ แข็งแรงมากขึ้นอีก เพราะเมื่อเราสร้างกลา้ มเนื้ อขาจากการออกก�ำลังกาย มากๆ เนี่ย กลา้ มเนื้อตรงนี้ เมือ่ แข็งแรงแลว้ จะช่วยผ่อนแรงทีก่ ระท�ำลงเข่า ได้มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ใช้งานได้นานขึ้นด้วย ดังนัน้ ถ้าเข่าเสือ่ มเพราะวิง่ เนี่ย ผมว่าหลักๆ แล ้วคงเกิดจากการวิง่ ผิดท่าซะมากกว่าครับผม 18
a side
9. ไม่มีเวลาซ้อม / ออกก�ำลังกายเลย ท�ำยังไงดี? ค�ำ ถามนี้ ก็ เ ป็ น อีก ค�ำ ถาม ที่เ วลาโดนถามแล ว้ จะหนัก ใจเป็ น พิเ ศษ เพราะเวลาการทีเ่ ราจะตอบว่า “ดูอย่างเราสิ ท�ำงานทัง้ วัน ยังออกไปวิง่ ได้เลย” มันก็จะดูเป็ นการดึงตัวเองไปให้สูงกว่าคนทีเ่ ราจะคุยด้วย ส่วนใหญ่เวลาผมคุย กับคนทีถ่ ามค�ำถามประเภทนี้ออกมา ผมจะถามก่อนว่า ปกติแล ้ว ใน 7 วันเนี่ย คุณท�ำอะไรบ้าง แล ้วก็พยายามหาเวลาว่างให้เขา ตัดกิจกรรมทีไ่ ม่มปี ระโยชน์ออก เช่น เล่นเฟซบุค๊ ดูยูทูบ เม้าท์มอยชาวบ้าน ออกไป แล ้วก็จะให้ไปออกก�ำลังกาย ในช่วงเวลานัน้ แทน เชื่อหรือไม่ครับ ร้อยละ 70 ทีม่ าปรึกษาผมเรื่องไม่มเี วลา ออกก�ำลังกาย ส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับเรื่องพวกนี้ วันละ 3 ชม. เป็ นอย่างต�ำ ่ ส่วนใหญ่เป็ นช่วงหัวค�ำ ่ ผมเลยบอกว่า ให้ตดั กิจกรรมเหล่านัน้ ออก แลว้ ไป ออกก�ำลังกายตอนเย็นซะ วิง่ ลูว่ ง่ิ ในฟิ ตเนส หรือว่าเอาเวลาไปนอน แล ้วก็ต่นื มา ออกก�ำลังกายตอนเช้าๆ แทน ซึ่งเดีย๋ วนี้ผมก็นอนแต่หวั ค�ำ่ นะ เพื่อที่จะมา ออกก�ำลังกายตอนเช้าๆ พอออกก�ำลังกายตอนเช้าแลว้ ผมรู ส้ ึกว่ามันสดชื่น มากกว่า เวลามาท�ำงานมันก็รูส้ กึ แอ็คทีฟมากกว่าปกติ อากาศก็เย็น สบายกว่า ช่วงเย็นๆ อีกครับ ส่วนคนทีไ่ ม่มเี วลาจริงๆ อันนี้ผมก็เข้าใจนะ ผมก็จะแนะน�ำ ให้ออกก�ำลังระหว่างการใช้ชวี ติ ประจ�ำวัน โดยต้องดูให้สอดคลอ้ งกับกิจกรรม ทีเ่ ขาท�ำอยู่ เช่นบางคนเป็ นคนส่งเอกสาร หรือต้องวิง่ ไปวิง่ มาในเมืองหลวง ปกติ เขาใช้รถยนต์ ผมก็บอกว่า ลองเปลีย่ นมาเป็ นจักรยานมัย้ ถ้าต้องไปไหนใกล ้ๆ ไม่เกิน 5 - 10 กม. อาจจะตากแดดร้อนหน่อย แต่อย่างน้อยก็ได้ออกก�ำลังกาย ไปในตัวด้วย ตกเย็นกลับบ้าน ลองเปลีย่ นเป็ นใช้ขนส่งสาธารณะดูบา้ ง เราจะได้ เดินหน่อย ดีกว่านัง่ รถอย่างเดียว แถมประหยัดเงินกว่าเดิมด้วย การท�ำแบบนี้ จะท�ำ ให้ร่ า งกายเราเบิรน์ แคลอรี่ไ ด้ม ากกว่า ปกติอีกนิ ด หนึ่ง ท�ำให้เหมือน การออกก�ำลังกายไปในตัวด้วยครับ 10. กินน้อยลงจะช่วยลดน�้ำหนักได้ไหม? อันนี้ไม่คอ่ ยเกีย่ วกับเรือ่ งวิง่ แต่กแ็ อบมีผลต่อเรือ่ งการพัฒนาตัวเองนะครับ อย่างทีท่ ราบกันดี ถ้ากินมากน�ำ้ หนักก็เพิม่ เยอะ ถ้ากินน้อยน�ำ้ หนักก็เพิม่ น้อย แต่อย่าลืมว่า เราวิง่ เพือ่ ให้ร่างกายแข็งแรง แต่พอเราออกวิง่ เนี่ย การเผาผลาญ ในร่ างกายมันเกิดขึ้นสู ง ดังนัน้ ถ้าเราอ้วนอยู่แลว้ มันก็จะเผาผลาญไขมัน แต่ ในทางกลับกัน ถ้าเราไม่มีไขมันเหลือให้เผาผลาญ มันจะไปเผาผลาญ กลา้ มเนื้อแทน (อันที่จริงจะมีเรื่องโซนการวิง่ ที่เผาผลาญไขมันหรือกลา้ มเนื้อ ด้วยนะ แต่ยงั ไม่พดู ถึง มันจะลึกเกินไปส�ำหรับตอนนี้) ดังนัน้ การกิน คือการ เสริมสิง่ ทีเ่ ราขาดหายไปมากกว่า ถ้าเรากินไขมัน ไขมันก็จะกลับมาเพิม่ แต่ถา้ เรา กินโปรตีน มันก็จะเพิม่ มวลกล ้ามเนื้อให้เรา แล ้วสองอย่างนี้ต่างกันยังไงรูไ้ หมครับ ถ้าลองเทียบง่ายๆ ไขมัน 1 กก. สมมติใหญ่เท่าลูกบาส แต่กล ้ามเนื้อ 1 กก. จะใหญ่เท่าลูกเทนนิสเท่านัน้ เอง ดังนัน้ คนที่มกี ลา้ มเนื้อเยอะ ตัวจะเล็กกว่า คนทีม่ ไี ขมันเยอะครับ แม้วา่ น�ำ้ หนักจะเท่ากันก็ตาม พูดมาซะเยอะ ผมอยากจะ บอกว่า กินน้อย มันก็ช่วยลดน�ำ้ หนักได้จริงครับ แต่การกินของทีด่ แี ละถูกต้อง จะมีประโยชน์มากกว่า ดังนัน้ ออกก�ำลังกาย แลว้ ก็กินของดีๆ มีประโยชน์ จะดีท่ีสุ ด เลย เพราะสุ ด ท้า ยแล ว้ ผมเชื่อ ว่า เป้ าหมายของคนลดน�ำ้ หนัก มันไม่ได้อยู่ทต่ี วั เลขบนตาชัง่ แต่มนั อยู่ทร่ี ูปร่างทีค่ ุณต้องการมากกว่าครับ
19
b side
11. วิ่งแล้วได้อะไร? นีก่ ค็ ำ� ถามยอดฮิตอีกข้อหนึง่ เลย ก่อนอืน่ ใครโดนถามแบบนี้ ต้องตัง้ สติดๆี ก่อนตอบนะครับ นึกถึงวันแรกทีเ่ ราวิง่ วิง่ เพือ่ อะไร และค่อยๆ กลันออกมาเป็ ่ น เหตุผลแล ้วบรรยายให้ฟงั หลายๆ คนเริ่มมาจากการลดความอ้วน หลายๆ คน อาจจะมาวิง่ เพราะไม่รูจ้ ะท�ำอะไร ตามๆ เพือ่ นๆ มากัน แต่ผมเชื่อว่า พอได้ ออกมาวิ่งแลว้ สิ่งที่ทุกคนได้กลับมานัน้ มันมากกว่าที่คิดไว้ตอนแรกแน่ ๆ เล่าให้ฟงั มันก็ดูไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ เอาเป็ นว่า ลองออกมาวิง่ เองดูก่อนครับ แล ้วจะรูว้ า่ ‘การวิง่ ’ ให้อะไรคุณมากกว่าทีค่ ดิ แน่ๆ อย่างน้อย ผมก็ได้เพือ่ นใหม่ๆ ทีพ่ ร้อมจะออกวิง่ ไปพร้อมกับผมทุกวัน และท�ำให้แต่ละวันของผมไม่เงียบเหงา อีกแล ้วล่ะ เป็ นอย่างไรกันบ้างครับ กับค�ำถามยอดฮิต Volume 1 ทีช่ อบถามกันมา มากเหลือเกินส�ำหรับผู ท้ ่ีกำ� ลังจะเริ่มออกก�ำลังกาย จริงๆ แลว้ ยังมีคำ� ถาม อยู่ อี ก มาก ไว้เ ดี๋ย วถ้า มี โ อกาส ผมจะมาเล่ า ให้ฟ ัง กัน อี ก นะครับ ผม แล ้วพบกันฉบับหน้าครับ
T R I P
TRAIN TO KHUNTAN เมื่อรถไฟพาเราไปไกลถึงดอยขุนตาล
เรื่อง /ภาพ : HIP Junior
การเดินทางไป ‘อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล’ ของน้องๆ HIP Junior ครั้งนี้ เกิดขึ้นจาก การที่พวกเขามีไอเดียมาน�ำเสนอว่า อยาก ‘นั่งรถไฟ ไปเดินป่า แล้วก็กางเต็นท์นอน’ แล้วน�ำ เรื่องราวการเดินทางเสนอต่อผู้อ่าน ซึ่งหลังจากหารือกันแล้ว ‘ดอยขุนตาล’ เป็นจุดหมาย ปลายทางที่เราคิดว่าสะดวกและเหมาะสมกับเงื่อนไขและข้อจ�ำกัดต่างๆ มากที่สุด
ในทริปทีม่ ที งั้ การโดยสารรถไฟ, การเดินด้วยสองขาตามเส้นทางมุง่ หน้าสู่อทุ ยาน และพักค้างแรม ในยามค�ำ่ คืนบนยอดดอยของคนทีม่ าจากต่างที่ แม้ว่าจะไม่ใช่ ‘การเดินทาง’ ทีไ่ กลแสนไกลหรือล�ำบาก ตรากตร�ำอะไรนัก แต่อย่างน้อยพวกเราที่ HIP ก็เชือ่ ว่า น้องๆ HIP Junior ได้ ‘เรียนรู’้ อะไรหลายๆ อย่าง จากการเดินทางหนนี้ และประสบการณ์ในครัง้ นี้จะเป็ นแรงผลักดันให้พวกเขา ‘อยาก’ ออกเดินทางไปยัง สถานทีอ่ น่ื ๆ ต่อไปในอนาคต ซึง่ เราหวังว่า สิง่ ทีพ่ วกเขาได้ถา่ ยทอดถึงการเดินทางของตัวเองในบรรทัดต่อจากนี้ จะท�ำให้คนอ่าน ‘อยาก’ เก็บข้าวของแล ้วออกเดินทางด้วย
ไต่เขาลูกแรก ที่ ‘ขุนตาล’ ทริปนี้เริ่มจากการทีพ่ ๆ่ี ที่ HIP ให้พวกเรา เด็กฝึ กงานเสนอมาว่าอยากจะเขียนเรื่องอะไรกัน ในฉบับนี้ ซึ่งพวกเราเสนอไปว่าอยากเขียนเรื่อง เกี่ยวกับการไปท่องเที่ยว หลังจากประชุมตกลง หัวข้อเรื่องทีจ่ ะท�ำกันแล ้ว สรุปได้วา่ พวกเราจะนัง่ รถไฟจากเชียงใหม่ไปเดินป่ ากันที่อุทยานแห่งชาติ ขุนตาล จังหวัดล�ำพูน งานนี้พวกเรามีเวลาเตรียมตัว ไม่ถงึ 1 อาทิตย์ เรากับเพือ่ นๆ จึงต้องช่วยกันค้นหา ข้อ มูล เบื้อ งต้น ทัง้ จากเว็บ ไซต์ข องอุท ยานบ้า ง จากรีววิ ในพันทิปบ้าง พร้อมทัง้ ไปช่วยกันซื้อของ ตุ น เสบีย ง ซื้ อ อุ ป กรณ์ ท่ีจ �ำ เป็ น ต้อ งใช้ แล ว้ ก็ ฟิ ตร่างกายให้พร้อมส�ำหรับการไปออกทริปในครัง้ นี้ เช้าวันอาทิตย์ท่ี 9 เมษายน เราตื่นตัง้ แต่ ยังไม่ถงึ เจ็ดโมงเช้าเพือ่ อาบน�ำ้ เตรียมตัวไปออกทริป เมือ่ คืนกว่าจะจัดกระเป๋ าเสร็จก็ปาไปเกือบเทีย่ งคืน จัดๆ รื้อๆ อยู่อย่างนัน้ แถมยังนอนไม่ค่อยหลับ เพราะตื่ น เต้น ที่จ ะได้ไ ปเดิน ป่ าครัง้ แรกในชี วิต (ดูต่ืนเต้นเกินเหตุเนาะ ฮ่าๆ) เช็คตารางรถไฟฟรี เชียงใหม่ – ขุนตาล สรุปว่าไปรอบ 09.30 – 10.58 น. พวกเรามาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ประมาณ 8 โมง 20
a side
ตรงดิ่ง ไปยัง ช่ อ งจ�ำ หน่ า ยตัว๋ ยื่น บัต รประชาชน เพือ่ รับตัวรถไฟฟรี ๋ (1 บัตร / 1 ตัว)๋ จากนัน้ ก็นงั ่ รอ กันไปยาวๆ ตอนแรกคิดว่ารถไฟจะมาช้า แต่คราวนี้ มาตรงเวลาเป๊ ะ ถือว่าเป็ นการเริ่มต้นทริปทีด่ ี (มัง้ ) การเดิน ทางไปขุน ตาลไม่ใ ช่ เ รื่อ งยากเย็น อะไรเลย เพราะมีหลายช่องทางให้เลือก ไม่วา่ จะเป็ น รถตู ้ รถทัวร์ รถยนต์สว่ นตัว หรือรถไฟ ส่วนเหตุผล ทีพ่ วกเราเลือกนัง่ รถไฟก็เพราะมันสะดวก ทีส่ ำ� คัญ คือมันฟรี!!! ประหยัดสุดๆ ฮ่าๆๆ ตอนแรกทริปนี้ จะมีแค่ พวกเราเด็กฝึ กงานสามคน แต่ไปๆ มาๆ มีสมาชิกมาเพิม่ ชื่อซาร่า เป็ นสาวชาวจีน พูดไทยได้ นิ ด หน่ อ ย (ซาร่ า เป็ น ครู ส อนภาษาอัง กฤษอยู่ ท่ี สุ ร าษฎร์ธ านี ) ก็ ดีน ะไปกัน หลายๆ คนสนุ ก ดี แถมยังได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษไปในตัวด้วย บรรยากาศบนรถไฟไม่รอ้ นมาก เราคุยกัน สัพเพเหระ นัง่ ไปสักพักก็เบือ่ ก็เลยเดินไปถ่ายรูปเล่น เดินไปสักพักจนถึงหัวขบวนเลยมีโอกาสได้เข้าไป ทักทายกับคนขับรถไฟ ชื่อว่าพ่อเบิ้ม (ซาร่าเรียก ก็เลยเรียกตาม) พ่อเบิ้มถามพวกเราว่าจะไปเที่ยว ที่ไ หนกัน พวกเราบอกว่า จะไปเดิน ป่ าที่อุท ยาน แห่งชาติขนุ ตาล พ่อเบิ้มได้ยนิ ก็ขำ � ใครเขาไปเดินป่ า หน้าร้อนกันหนู เขาไปหน้าหนาวกันนะ บรรยากาศ ดีกว่า (พวกหนู น่แี หละค่ะ แหะๆ) พ่อเบิ้มเล่าให้ฟงั ด้วยว่าเดีย๋ วนี้ไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการรถไฟกันแล ้ว เงียบมาก คนจะเยอะเฉพาะช่ วงเทศกาลเท่านัน้ แต่สำ� หรับเรา เราคิดว่าว่าการนัง่ รถไฟมันมีขอ้ ดีนะ นอกจากจะได้ชมวิวสวย ๆ จากสองข้างทางแลว้
ก็ เ หนื่ อ ยซะแล ว้ คิด ในใจว่า งานนี้ จ ะรอดไหม? เมื่อไหร่ จะถึง? อีกไกลไหม? อีกกี่กิโล? ค�ำถาม เหล่านี้เกิดขึ้นทุกครัง้ ที่หยุดพัก อาจจะเป็ นเพราะ อากาศร้อ นด้ว ยมัง้ ความเหนื่ อ ยก็ เ ลยคู ณ สอง เดินๆ หยุดๆ สุดท้ายก็ประคองตัวกันมาถึง ย.2 น�ำ้ ที่เ ตรี ย มมาด้ว ยสองลิต รในกระเป๋ าหมดไป เกือบครึ่งแลว้ เข้าใจความหมายของค�ำว่า ‘น�ำ้ คือ ชีวติ ’ เลย เห็นป้ ายบอกทางว่าลานกางเต็นท์ไปอีก 50 เมตร ดีใจน�ำ้ ตาจะไหล แต่พอเดินมาเรือ่ ยๆ กลับ พบว่าเราเดินเลยมาไกลพอสมควรแล ้ว (เวรกรรม) บางทีอาจจะได้พบเจอกับมิตรภาพดีๆ ระหว่างทาง พวกเราก็เลยต้องทิ้งกระเป๋ าไว้ตรงทีพ่ กั ระหว่างทาง เอาแต่ของส�ำคัญและกลอ้ งถ่ายรูปติดตัวไป เพราะ อีกด้วย กลั วว่าจะไปไม่ทนั ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่ ย.4 เวลาผ่านไปไม่นานนัก พวกเราก็มาถึงสถานี พวกเราใช้เ วลาเกื อ บสองชัว่ โมงพาร่ า ง รถไฟขุ น ตาลเป็ นที่ เ รี ย บร้อ ย แวะถ่ า ยรู ป กับ ป้ ายสถานีนิดหน่ อย ก่ อนจะออกตามหาทางขึ้น เหนื่อยๆ โทรมๆ ปี นป่ ายขึ้นมาถึงจุดสู งสุดของ อุทยาน แต่ดว้ ยความโชคดีของพวกเรา บังเอิญ อุทยานแห่งชาติขนุ ตาลจนได้ มาถึงแลว้ โว้ยยยย! ไปเจอลุงกับป้ าที่มาท�ำบุญในวันนัน้ เขาใจดีอาสา ในที่ สุ ด ก็ ถึ ง สัก ที เอาชนะใจตัว เองได้แ ล ว้ ไปส่งเราถึงหน้าอุทยาน ก็ไปสิคะ รออะไรล่ะ ฮ่าๆ นึกขอบคุณตัวเองที่ไม่ถอดใจตายไประหว่างทาง ถึงหน้าอุทยานซื้อบัตรอะไรเรียบร้อย ก็เข้าไป ซะก่ อ น นัง่ พัก ได้แ ป๊ บนึ ง ต่ า งคนต่ า งก็ ห ามุม คุยกับพีเ่ จ้าหน้าที่ ชื่อพีอ่ วิ๋ เกี่ยวกับเรื่องการเดินป่ า บันทึกภาพของใครของมัน และแลว้ ก็ไม่ผิดหวัง และการกางเต็ น ท์ว่ า เราควรพัก ที่ ไ หนยัง ไงดี ภาพตอนพระอาทิตย์ลบั ขอบฟ้ า สวยมากจริงๆ ขอบอกก่อนเลยว่าพีๆ่ เจ้าหน้าทีท่ อ่ี ทุ ยานใจดีทกุ คน คุม้ ค่ากับความเหนื่อยมาก เมือ่ ได้ภาพจนพอใจแล ้ว แนะน�ำรายละเอียดดีมาก ๆ ความจริงพีอ่ วิ๋ แนะน�ำ พวกเราก็รีบเดินกลับ สองข้างทางมืดสนิท โชคดี ให้พวกเรากางเต็นท์ท่ลี านชมดาวเพราะว่าสะดวก ทีพ่ กไฟฉายติดตัวไปด้วย ไม่งนั้ ต้องแย่แน่ๆ ขากลับ ทีส่ ดุ มีทงั้ ไฟฟ้ าและน�ำ้ ประปาให้ใช้ แต่จากทีพ่ วกเรา เราเดินกันไวมากจนมาถึงจุดทีท่ ้งิ กระเป๋ าไว้ รีบเก็บ ศึกษาข้อมูลตามรีววิ ต่างๆ กันมาพอสมควร ท�ำให้ สัม ภาระแล ว้ เดิ น ต่ อ จนถึ ง ลานสน พวกเรา พวกเราอยากไปกางเต็ น ท์ก นั ที่ ย.2 (ลานสน) รีบกินข้าวกันอย่างทุลกั ทุเลเพราะฝนท�ำท่าจะตก มากกว่า แต่ก่อนจะไป ย.2 ขอพักกินข้าวเติมพลัง เรากิ น อาหารถุ ง กับ ปลากระป๋ องที่ แ บกมากัน กันก่อนนะ ไม่งนั้ เดีย๋ วจะเป็ นลมเป็ นแล ้งกลางป่ าเอา เกือบหมด เพราะวันนี้ใช้พลังงานกันไปเยอะจริงๆ ที่อุทยานมีรา้ นค้าสวัสดิการให้บริการนักท่องเที่ยว หลังจากนัน้ เราช่วยกันกางเต็นท์ ไปล ้างหน้าแปรงฟัน มีทงั้ ร้านขายข้าวและร้านขายของช�ำ แต่วนั ทีเ่ ราไป แล ้วรีบเข้านอน วันต่อมาพวกเราตื่นกันประมาณ 7 โมงเช้า เป็ นวันอาทิตย์ เลยไม่มีนกั ท่องเที่ยวคนอื่นเลย ถ่ า ยรู ป บรรยากาศนิ ดหน่อย หลังจากนัน้ แยกย้าย ป้ าเจ้าของร้านก็เลยไม่ได้หงุ ข้าวไว้ เหลือแต่ขา้ วเก่า กั น ท� ำ ธุ ร ะส่ ว นตั ว ช่ ว ยกันเก็บเต็นท์และสัมภาระเพือ่ พวกเราเลยได้กิ น แค่ ข า้ วผัด และด้ว ยความที่ พวกเรายังไม่มขี า้ วไว้สำ� หรับกินมื้อเย็น เลยขอร้อง เตรียมตัวเดินทางกลับ พากันเดินมาจนถึงข้างล่าง ให้ป้ าเขาช่ ว ยหุง ข้า วให้ใ หม่ เป็ น อัน ว่า มื้อ เย็น นี้ เพือ่ นๆ แยกย้ายกันอาบน�ำ ้ ส่วนเราแอบหนีไปร้านข้าว ก่ อนเลย (หิวตาลายแลว้ จ้า) ระหว่างรอข้าวก็รีบ พวกเราก็เลยรอดตายกันไป พอถึงเทีย่ งตรงก็ได้เวลาออกเดินเท้าของจริง เปลีย่ นเสื้อผ้า (ขอติดไว้ก่อน ค่อยกลับไปอาบทีเดียว พวกเราเดิ น แบกน�้ำ หนัก ตัว เองและสัม ภาระ ทีบ่ ้าน ถ้าใจเราสะอาดน�ำ้ ไม่ตอ้ งอาบก็ได้ ฮ่าๆ) ก่อน (มากมาย) บนหลังมาได้สกั พักหนึ่ง ก็เริ่มรูส้ กึ หนัก เดินทางกลับเชียงใหม่พวกเราร�ำ่ ลาคุณป้ าทีร่ า้ นข้าว และเหนื่ อ ย อะไรวะเนี่ ย เดิน ยัง ไม่ ถึง กิ โ ลเลย และพีๆ่ เจ้าหน้าทีอ่ ทุ ยาน ขอบคุณทีต่ อ้ นรับพวกเรา เป็ นอย่างดี สุดท้ายแล ้ว การไปเดินป่ าครัง้ แรกทีข่ นุ ตาล คราวนี้ ได้สอนประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เราตัง้ มากมาย ทัง้ ความท้าทาย การเอาชนะใจตัวเอง การได้เห็น โลกกว้างจะท�ำให้เราลดความล�ำพองในตัว เพราะเรา เป็ นแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของโลกใบนี้เท่านัน้ เอง -พิงค์ 21 21
b side b side
ท่องป่าเขา กินลม ชมวิว “รถไฟก�ำ ลัง จะออกแล ว้ รีบ ไปกัน เถอะ” ผมบอกกับพิงค์ นาวว์ และซาร่า หญิงสาวชาวจีน ทีม่ าร่วมทริปดอยขุนตาลด้วยกัน พร้อมกับแบกเป้ สะพายสัม ภาระที่เ บาสบายกว่ า ใครอื่ น ก้า วขึ้น บนรถไฟอย่างสวยงามและทันเวลาพอดี แต่วนิ าที หลัง จากที่ไ ด้เ ข้า ไปในรถไฟแล ว้ จู่ ๆ ผมก็ เ กิ ด ความรูส้ กึ กระอักกระอ่วนใจขึ้นมาทันควัน เพราะ ไม่รูว้ ่าจะเลือกนัง่ ตรงส่วนไหนของรถไฟดี เดิน ป้ วนเปี้ ยนตัง้ แต่หวั ยันท้ายขบวน ในใจก็คิดไปว่า ท�ำไมคนใช้บริการรถไฟฟรีวนั นี้เยอะเหลือเกิน ก�ำลัง จะมุ่งหน้าไปไหนกันก็ไม่รู ้ ท�ำให้สุดท้ายผมต้อง กล�ำ้ กลืน ฝื น ทนพลีต วั เองนัง่ ใกล ถ้ งั ขยะใบหนึ่ ง ทีค่ าดว่าจะส่งกลิน่ อันเน่าเหม็นไปตลอดทาง แต่นนั ่ ก็ไม่ใช่เรื่องสลักส�ำคัญอะไร เพราะ ในระหว่างที่เรา 4 คนเดินทางไปดอยขุนตาลกัน ผมเลือกที่จะมองความงดงามทางธรรมชาติจาก สองข้างทางบนรถไฟ นัง่ มองนกน้อยทีก่ ำ� ลังโผบิน เป็ นกลุ่ม ดูดอกไม้ใบหญ้าต่างๆ นาๆ พร้อมกับ เก็บภาพไว้สกั เล็กน้อยเป็ นความประทับใจ จึงส่งผล ให้การเดินทางของผมเป็ นไปอย่างราบรื่น ดูแฮปปี้ ไปด้วยเสียงหัวเราะที่แก๊งเราเม้าท์มอยกันอย่ าง สนุ ก สนาน จนกระทัง่ ถึ ง สถานี ร ถไฟขุ น ตาล โดยปลอดภัย และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของพวกเรา กับเป้ าหมายพิชติ ยอดดอยขุนตาล
22
a side
“ส�ำหรับบทพิสูจน์น้ ี แม้เส้นทางอาจจะดู เนิ่นนานยาวไกลแค่ไหนก็ตาม ยังไงซะเราต้องไปถึง ยอดดอยก่ อ นพระอาทิต ย์ต กดิน ให้ไ ด้” นัน่ คือ มโนส�ำนึกทีบ่ อกผมอย่างนัน้ แต่กอ็ ย่างว่า จะไปถึง มันก็คงไม่ง่ายเสียทีเดียว อุปสรรคต้องมีมาด้วย อยู่แลว้ เริ่มตัง้ แต่ท่ผี มเห็นป้ ายทางเข้าไปอุทยาน แห่งชาติดอยขุนตาล แต่ตรงนัน้ กลับไม่ใช่ทางเข้า เพราะการจะเดินขึ้นไปอุทยานได้นนั้ พวกเราต้องใช้ อีกเส้นทางหนึ่ง ซึ่งนัน่ คือสิ่งที่ลุงกับป้ าคู่หนึ่งและ ญาติของเขาที่กำ� ลังเดินลงมาจากวัดดอยขุนตาล ได้บอกไว้ แลว้ พวกเขายังรับปากว่าจะอาสาไปส่ง ถึงทีท่ ำ� การอุทยานให้ดว้ ย พอถึงทีห่ มายพวกเราจึง ขอบคุณในน�ำ้ ใจไมตรีของพวกเขาพร้อมเก็บภาพ ไว้เป็ นที่ระลึก ต่อจากนัน้ พวกเราก็จดั การเคลียร์ เรื่องค่าใช้จ่ายส�ำหรับเข้าเทีย่ วชมอุทยาน พร้อมทัง้ รับฟังค�ำแนะน�ำต่างๆ จากเจ้าหน้าทีท่ อ่ี ธิบายข้อมูล เกี่ยวกับสถานทีใ่ ห้เราเป็ นอย่างดี เมื่อ ถึง เวลาที่ทุก คนต้อ งออกเดิน ทางกัน เป็ นจริงเป็ นจัง พวกเราจึงชวนกันเติมพลังไว้ก่อน ด้วยอาหารในร้านสวัสดิการที่มีแห่งเดียวเท่านัน้ ในอุทยาน เพราะคาดว่าต่อจากนี้ตอ้ งใช้พลังงาน เยอะแน่ ๆ กับ ระยะทาง 7 กิโ ลเมตรกว่า จะถึง ยอดดอย ถ้าจะเรียกง่ายๆ ก็จาก ย.1 ไป ย.4 การเดินทางครัง้ นี้แก๊งเราได้มสี มาชิกใหม่เพิม่ มาอีก 1 ตัว คือเจ้าปกป้ อง สุนขั ที่อาศัยอยู่แถวอุทยาน (พิงค์เป็ นคนตัง้ ชื่อให้) ที่มาเป็ นไกด์พาเราไปพิชิต ย.4 กัน แต่ยงั ไปไม่ทนั ถึงไหนเลย อาการขาอ่อน เริม่ เกิดขึ้นตามๆ กันแล ้ว เอาตัง้ แต่เดินมาถึง ย.1 เลย พวกเราจึง ตัด สิน ใจหยุ ด พัก ให้ห ายเหนื่ อ ยก่ อ น แลว้ ก็ทำ� เช่ นนี้เรื่อยไป จนกลายเป็ นเดีย๋ วก็เดิน เดีย๋ วก็หยุด กระทังสุ ่ ดท้ายมาโผล่ท่ี ย.2 ซึง่ จากจุดนี้ ไปอีก 50 เมตรจะถึงจุดกางเต็นท์ แต่ พวกเรา ก็เปลีย่ นเส้นทางอย่างไม่ได้ตงั้ ใจซะอย่างนัน้ ท�ำให้ เดินเลยจุดกางเต็นท์ไป แลว้ มารูท้ หี ลังว่าการจะไป จุด กางเต็น ท์น นั้ ต้อ งขึ้น ไปบนเนิ น ที่แ ยกออกมา อีกทางนัน่ แหละ คิดแล ้วรูส้ กึ เจ็บใจชะมัด แต่ดว้ ยความมุง่ มันกั ่ บภารกิจอันใหญ่หลวงนี้ ทุกคนจึงตัดสินใจยอมทิ้งข้าวของสัมภาระต่างๆ ของ ตนเองไว้กลางทางก่อน เพือ่ ช่วยให้พวกเราตัวเบา และมีแรงฮึดทีจ่ ะไปต่อขึ้นมาอีกครัง้ ยิง่ มีเสียงจักจัน่ ร้องดังขับขานเป็ นจังหวะไปตลอดทางด้วย ท�ำให้ พวกเรารู ส้ ึก ตื่น ตัว อยู่ ต ลอดเวลา มีแ รงฮึก เหิม แถมยังมีกะจิตกะใจเดินเก็บภาพสวยๆ งามๆ ไม่วา่ จะเป็ นป่ าไม้ ดอกไม้ป่า มด แมลง หรือแม้กระทัง่ ลูกสนทีร่ ่วงหล่นเกลือ่ นกลาดทาง ก่อนทีจ่ ะถึง ย.3 กันด้วยความอ่อนเพลียและมีเหงือ่ ไหลชุ่มตัว หลังจากที่พกั กันจนมีเรี่ยวมีแรงพร้อมจะ ออกเดิ น ทางกัน ต่ อ แล ว้ กับ ระยะทางอี ก แค่ 2 กิโลเมตรจะถึง ย.4 ทัง้ พิงค์ นาวว์ ซาร่า และผม ยิง่ มีกำ� ลังใจมากขึ้น สามารถทีจ่ ะก้าวไปจนถึงจุดที่ เรียกว่า ‘เนินวัดใจ’ เพือ่ พิสูจน์ตวั เองให้เดินขึ้นเนิน ไปถึงจุดสุดยอดของดอยขุนตาล ซึง่ ทุกคนก็ทำ� ได้
ส�ำ เร็ จ และทัน เวลาที่จ ะได้ช มพระอาทิต ย์ต กดิน รับ บรรยากาศดีๆ ดู ก อ้ นเมฆที่ไ กลกัน เพีย งแค่ นิดเดียว พร้อมกับยืนถ่ายรูปในจุดผูพ้ ชิ ติ ด้วยความ ภาคภูมใิ จทีพ่ าตัวเองหลุดพ้นจากการแพ้ใจตัวเองได้ ผมต้อ งขอบคุ ณ ตัว เองมากที่ ไ ม่ ย่ อ ท้อ แม้จ ะ เหน็ดเหนื่อยเมือ่ ยล ้าต่อการเดินทางแค่ไหนก็ตาม ผมนัง่ ชมพระอาทิต ย์ก บั เพื่อ นร่ ว มทริ ป อยู่อย่างนัน้ กระทัง่ ตกหายวับไป ท้องฟ้ าเริ่มเปลีย่ น เป็ น สีห ม่ น ท�ำ ให้ผ มเกิ ด ความรู ส้ ึก วัง เวงอย่ า ง บอกไม่ถกู เช่นเดียวกันทีเ่ สียงจักจัน่ ทีย่ งั ร้องแว่วดัง ในโสตประสาทจนน่ากลัว ทุกคนจึงพากันเร่งฝี เท้า เดินกลับไป ย.2 ซึ่งเป็ นบริเวณป่ าสนให้เร็วที่สุด เพื่อ กลับ ไปกางเต็ น ท์น อน พัก กิ น ข้า วกิ น ปลา และพักผ่อนร่ างกายเตรียมรับวันต่ อไป แต่ ดว้ ย ความเหน็ดเหนื่อย พอปาร์ต้ปี ลากระป๋ องกันเสร็จปุ๊ บ พวกเราก็ช่วยกันกางเต็นท์แลว้ ก็นอนปั ๊บเลย นอน เบียดกันอยู่ 4 คนในเต็นท์เดียว ไม่อาบน�ำ้ อาบท่า ไม่สนไม่แคร์ทกุ อย่าง เพราะทุกคนต่างรูส้ กึ เหนื่อย เหมือนกันหมด ส่วนสุนขั ผูพ้ ทิ กั ษ์อย่างเจ้าปกป้ อง ก็ทำ� หน้าที่เฝ้ าดูแลพวกเราอยู่หน้าเต็นท์ตลอดคืน จึงท�ำให้พวกเรารูส้ กึ อุ่นใจทีม่ มี นั มาอยู่ดว้ ย ทีส่ ำ� คัญ
ท�ำให้สามารถผ่านพ้นค�ำ่ คืนอันเงียบเหงาและวังเวง ไปได้ รุ่งเช้าวันเดินทางกลับเชียงใหม่ ท้องฟ้ าวันนี้ ดู แ จ่ ม ใสมากเป็ น พิเ ศษ หมู่ก อ้ นเมฆน้อ ยใหญ่ ลอยล่องกระจัดกระจายทัว่ อากาศก็ปลอดโปร่ ง โล่งสบาย มีสายลมพัดเอื่อยๆ สัมผัสผิวหนังแลว้ ยิ่ง บวกกับ พระอาทิต ย์ท่ีก�ำ ลัง ท�ำ หน้า ที่ท อแสง เปล่ ง ประกายสวยงามไปทัว่ บริ เ วณป่ าสนด้ว ย เหมือนเป็ นการปลุกให้พวกเราทุกคนต่างตื่นนอน มารับชมความสวยงามของธรรมชาติ โดยมีอาการ เมือ่ ยล ้าและเจ็บปวดน่องเป็ นเพือ่ น เมือ่ ทุกคนตืน่ นอนกันหมดแล ้ว ต่างก็ช่วยกัน เก็ บ เต็น ท์แ ละเคลีย ร์ส มั ภาระต่ า งๆ ของตัว เอง ให้เรียบร้อย ก่อนทีจ่ ะเดินกลับไปทีบ่ ริเวณทีท่ ำ� การ อุทยานฯ เพือ่ แยกย้ายกันอาบน�ำ้ ในห้องน�ำ้ ทีม่ บี ริการ ให้กบั นักท่องเทีย่ ว ซึง่ เหตุทไ่ี ม่อาบตรง ย.2 เพราะ คิดว่าห้องน�ำ้ ตรงนัน้ ดูทา่ จะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ พอไปถึงทุกคนรีบแยกย้ายกันไปอาบน�ำ้ ทันทีพอให้ ชื่นใจ จากนัน้ ก็มาทานข้าวในร้านสวัสดิการ โดยมี เจ้าปกป้ องตามมากินด้วย ต้องขอบคุณมันมาก ทีท่ ำ� หน้าทีไ่ กด์นำ� ทางได้เป็ นอย่างดี จะไปไหนก็จะ
23
b side
มีมนั ไปทุกหนแห่ง ในระหว่างนัน้ พวกเราก็ถอื โอกาส เม้าท์มอยกันพอหอมปากหอมคอ กระทัง่ ถึงเวลา ทีจ่ ะต้องเดินทางกลับ ทุกคนจึงมุง่ หน้าสูส่ ถานีรถไฟ ขุนตาลอีกครัง้ “ทุกคนต้องท�ำเวลานะ เราต้องรีบแล ้ว” ทุก คนพูดเป็ นเสียงเดียวกัน แม้ขา้ งหลังของแต่ละคน จะต้อ งทนแบกเป้ ใบใหญ่ ก็ ต าม แต่ ใ นเมื่อ เวลา กระชัน้ ชิดเข้ามา หากช้าไปอาจขึ้นรถไฟกันไม่ทนั ซึ่ง รถไฟก็ ท �ำ เซอร์ไ พรส์เ ข้า จริ ง ๆ ด้ว ยการมา ก่ อ นเวลา เลยท�ำ ให้เ รื่ อ งดราม่ า เกิ ด ขึ้น จนได้ เมือ่ กีตาร์ นาวว์ และพิงค์ เราทัง้ 3 คนรีบเร่งกระโดด ขึ้น รถไฟก่ อ น แต่ ซ าร่ า ไม่ ไ ด้ข้ ึน มากับ เราด้ว ย เพราะเธอมีแพลนจะเดินทางไปทีอ่ น่ื ต่อ แต่ไม่อยาก ใช้เส้นทางย้อนกลับไปทีเ่ ชียงใหม่อกี ท�ำให้พวกเรา จ�ำต้องลากันตรงนัน้ เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้รำ� ่ ลา อะไรกันเลยดีกว่า จังหวะนัน้ เรา 3 คนท�ำได้แต่เพียง ตะโกนร้อ งออกไปด้ว ยเสี ย งดัง ๆ สุ ด พลัง ว่ า “แลว้ ค่อยพบกันใหม่นะซาร่า” พร้อมกับโบกมือลา ขณะที่ ข บวนรถไฟก�ำ ลัง เริ่ ม เคลื่อ นขบวนและ ทิ้งระยะห่างออกไปไกลทุกที... - กีตาร์
เดินป่าหน้าร้อน นอนเต็นท์ เที่ยวเล่นชมธรรมชาติ เรานึกไม่ออกเลยว่ารถไฟจะพาเรามาไกล ถึงจุดนี้... การนัง่ รถไฟครัง้ นี้ เ ป็ น ครัง้ ที่ส ามของเรา แต่ละครัง้ ทีม่ โี อกาสได้ใช้บริการรถไฟไทย ความรูส้ กึ มันก็แตกต่างกันออกไป และกับการเดินป่ าครัง้ นี้ ก็ไม่ได้เป็ นครัง้ แรกของเราเช่นกัน จริงๆ แล ้วเราเคย เดินป่ ามาบ้าง ทัง้ ในไทย ลาว และไต้หวัน แต่การ เดินป่ าและตัง้ แคมป์ หนนี้เป็ นการเดินป่ าใกลท้ ่สี ุด ที่เราเคยไป ถือว่าใกลม้ ากๆ ส�ำหรับการนัง่ รถไฟ จากเชียงใหม่มาล�ำพูน ใช้เวลาประมาณชัว่ โมงนิดๆ ก็มาถึงสถานีขนุ ตาล จุดเดินป่ าของพวกเราแล ้ว ทริปเดินป่ าของเราครัง้ นี้มผี ูร้ ่วมชะตากรรม ด้วยกันทัง้ หมด 4 คน เรา กีตาร์ พิงค์ และซาร่า ย้อนกลับไปประมาณสองสัปดาห์ก่อนออกเดินทาง เราได้รูจ้ กั ซาร่าผ่านโปรแกรมหาโฮสต์โปรแกรมหนึ่ง และประจวบเหมาะกับจังหวะเวลาที่ซาร่ ามาเที่ยว ทีเ่ ชียงใหม่ แลว้ เราก็เป็ นโฮสต์ให้เธอตอนมาเทีย่ ว เชี ย งใหม่ พ อดี เราก็ เ ลยชวนเธอมาจอยทริ ป นี้ กับพวกเราด้วย ซึ่งเธอก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย โดยไม่มขี อ้ สงสัยใดๆ ทัง้ สิ้น ฮ่าๆๆ การมาเดินป่ าครัง้ นี้ ก่ อนที่จะมาเดินและ หลังจากเดินเสร็จมันแตกต่างกันมากนะ เรานึกภาพ ตัวเองไม่ออกเลยจริงๆ ว่าหอบสังขารมาเดินป่ าทีน่ ่ี มันจะเป็ นยังไง จะรอดไหม ปัญหาอย่างหนึ่งของการ เดินป่ าช่วงฤดูรอ้ น คืออากาศที่รอ้ นท�ำให้ร่างกาย สู ญเสียน�ำ้ มากกว่าปกติ ดังนัน้ เราจึงต้องพกน�ำ้ ขึ้นไปด้วย ซึง่ ก็ตอ้ งเตรียมให้พอเหมาะกับการทีเ่ รา จะอยูร่ อดบนเขาตลอดการเดินป่ า เป็ นเหตุให้เราต้อง ตัดของทีไ่ ม่จำ� เป็ นออกบ้างเพือ่ ลดน�ำ้ หนักของเป้ ลง นอกจากนี้ใบไม้ทร่ี ่วงหล่นตามฤดูกาลก็เป็ นปัญหา อีกอย่ างส�ำหรับนักเดินป่ ามือสมัครเล่นอย่ างเรา เพราะภูเขาที่สูงชัน และการที่ใบไม้แห้งที่ร่วงหล่น ตามทางมันลืน่ เอามากๆ ท�ำให้ตอ้ งคอยระวังไม่ให้ เผลอลืน่ ล ้มหัวเข่าถลอกไปเสียก่อน รถไฟขบวน 408 เป็ น รถไฟฟรี ท่ีพ าเรา และเพือ่ นๆ ออกจากเชียงใหม่มงุ่ หน้าสู่ดอยขุนตาล พอมาถึงเราก็หาทางจะไปยังอุทยาน ถามคนนัน้ คนนี้ว่ามันไปยังไง มีลุงกับป้ าผูใ้ จดีอาสาไปส่งเรา และเพื่อ น ลุ ง บอกมัน ไกลไม่ ต อ้ งเดิน ไปหรอก เดีย๋ วลุงไปส่งที่หน้าอุทยาน พวกเราตอบรับค�ำลุง อย่างรวดเร็ว ฮ่าๆ พอถึงอุทยาน พี่ๆ เจ้าหน้าที่ ทีด่ ูแลอุทยานก็มาให้ขอ้ มูลการเดินป่ าและจุดต่างๆ ของอุทยานให้กบั พวกเราฟัง เส้นทางเดิน ไป – กลับ รวมระยะทาง 14 กิโลเมตร มีอยู่ 4 ย. ด้วยกัน (ย. ย่อมาจากจุดยุทธศาสตร์ในสมัยสงครามโลก ครัง้ ที่ 2) ท่ า มกลางสภาพภู มิป ระเทศที่ง ดงาม เป็ นเทือกเขาสลับซับซ้อน ตลอดจนเป็ นแหล่งต้นน�ำ้ ล�ำธารทีส่ ำ� คัญ
การเดินทางขาขึ้นของพวกเรามีความล่าช้า อยู่พอสมควร ทัง้ จากภูเขาที่สูงชันและกระเป๋ าเป้ ที่หนัก ทีท่ ำ� ให้เราเกือบจะถอดใจไปแล ้วหลายรอบ เหมือนกัน ถึงจะเป็ นฤดูรอ้ น แต่ป่ายังคงมีความ อุดมสมบูรณ์อยูพ่ อสมควร เสียงจักจัน่ ร้องลันทั ่ วทั ่ ง้ ผืนป่ า ตลอดทางที่เดิน มีพชื พันธุ แ์ ปลกๆ ที่เรา ไม่เคยเห็นเยอะแยะเลย จริงๆ การเดินทางครัง้ นี้เราตัง้ ใจจะไปให้ถงึ ย.4 เพือ่ รอดูพระอาทิตย์ตกดิน แต่กว่าจะถึงข้างบน จุด ที่สูง ที่สุด ของภูเขาก็ท ำ� เอาหอบไปหลายตลบ เหมือนกัน พอเห็นพระอาทิตย์ตกจริงๆ มันก็ไม่ได้ แปลกไปจากเดิมตรงไหน ก็ดูคล ้ายๆ กับพระอาทิตย์ ตกในหลายๆ ทีน่ ่ลี ะ่ แต่เราว่าการทีส่ ามารถเอาชนะ ใจตัวเอง และพาสังขารของตัวเองขึ้นไปบนนัน้ ได้ ต่างหากที่มนั สุดยอดมากๆ เราเหนื่อยแบบสุดขีด เหงือ่ ท่วม ตอนแรกนึกว่าจะพาตัวเองไปไม่ถงึ ด้วยซ�ำ ้ แต่พอเราเอาชนะมันได้ มันเป็ นเรือ่ งทีส่ ดุ ยอดไปเลย มันอาจจะไม่ได้เป็ นภูเขาทีส่ ูงมากส�ำหรับนักเดินป่ า หลายๆ คน แต่บางทีมนั อาจจะเป็ นภูเขาของการ เริ่มต้นเดินป่ าของใครหลายๆ คนได้เหมือนกันนะ เหมือนกับเรา เราพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าเราเริ่ม หลงรักการเดินป่ าเข้าแลว้ ล่ะ การได้ไปเจอผู ค้ น ใหม่ๆ เพือ่ นใหม่ การมีปฏิสมั พันธ์กบั ผูค้ นระหว่าง ทาง มันท�ำให้เราได้เห็นในหลายๆ มุมมองทีแ่ ตกต่าง ออกไป ได้ไปสูดอากาศดีๆ ให้เต็มปอด อยู่กบั ป่ า อยู่กบั ธรรมชาติจริงๆ ไม่มแี ม้กระทัง่ ไฟฟ้ า ไม่มี ไวไฟ ไม่มเี มล์จากทีท่ ำ� งานเด้งมากวนใจ ฮ่าๆๆ มีแต่ เสียงลมกับจั ๊กจัน่ ที่คลอเคลียกันแค่นนั้ มันเป็ นที่ ทีเ่ ราสามารถไปชาร์จแบตให้กบั ร่างกาย ก่อนกลับมา เจองานกองโตได้ดจี ริงๆ ทริปนี้ทุกอย่ างเหมือนจะเป็ นไปได้ดว้ ยดี เหมือนจะจบแบบแฮปปี้ นัง่ รถไฟกลับบ้าน แต่ไม่!! 24
a side
ฮ่าๆๆ มีเรือ่ งทีไ่ ม่คาดฝันเกิดขึ้นกับเรา ใครจะไปรูว้ า่ ตอนเดิน ลงเขา เหลือ อีก ไม่ ก่ี ร อ้ ยเมตรก็ จ ะถึง สถานีรถไฟอยู่แลว้ โครมมม!! ภาพก็ตดั มาที่เรา กลิ้งลงเขาหลายตลบ ม้วนหน้า ม้วนหลัง ภูเขาสูงชัน ที่เต็มไปด้วยเหวและหน้าผามันน่ ากลัวมากๆ นะ สองมือตะเกียกตะกายเพือ่ เอาชีวติ รอด ถ้าเกิดโชคร้าย พลัดตกเหวขึ้นมานี่เรื่องใหญ่เลย เราได้แต่รอ้ งเรียก ให้เ พื่ อ นร่ ว มทางมาช่ ว ย และนัน่ ก็ เ ป็ นวิ น าที เฉี ย ดตายของเรา ฮ่ า ๆๆ เราก็ พู ด ให้ดู เ วอร์ๆ ไปงัน้ แหละ สรุปจริงๆ คือเราลืน่ ใบไม้แห้งแล ้วล ้ม ข้อเท้าพลิก แค่น้ แี หละ แล ้วด้วยความทีแ่ บกกระเป๋ า เป้ ที่ห นัก ท�ำ ให้ลุ ก ขึ้น เองไม่ ไ ด้ ก็ เ ลยต้อ งขอให้ เพือ่ นๆ มาช่วย ฮ่าๆๆ น่าอายไหมล่ะมึง ตอนแรก นึกว่าไม่เป็ นอะไรมาก ชิลล์ๆ ทีไ่ หนได้ พอก้มดูขา ตัวเอง กางเกงขายาวถึงขัน้ ขาด New Experience ไหมล่ะ แต่กด็ ที ไ่ี ม่ได้เป็ นอะไรมากมาย แค่เข่าถลอก ฟกช�ำ้ ด�ำเขียวนิดหน่ อย แต่มนั ท�ำให้เรามีสติและ ระวังมากขึ้นในการเดินลงเขาช่วงทีเ่ หลือ เราว่าดอยขุนตาลถือเป็ นอีกทางเลือกหนึ่ง ของคนที่มีเวลาน้อยที่อยากเดินป่ า ดู ธรรมชาติ หรือจะไปเพื่อการเดินป่ าออกก�ำลังกาย พักผ่อน ไปชาร์จแบต ชาร์จพลังให้ตัวเองเพือ่ กลับมาสู ้กับงาน ทีร่ ออยู่ ทีน่ ่กี เ็ ป็ นอีกทางเลือกทีน่ ่าสนใจ ไม่ไกลจาก เชียงใหม่เลย เดินทางสะดวกมากๆ มีเวลาว่าง เสาร์ - อาทิตย์กม็ ากันได้แล ้ว เราว่าการเดินทางมันดีนะ มันเป็ นการพาตัวเองออกจาก Comfort Zone มาพบปะผูค้ น มาเจอกับอะไรใหม่ๆ ได้เรียนรูไ้ ปกับ สิง่ ทีอ่ ยู่รอบๆตัวเรา ออกไปเถอะ ออกไปมองโลก ในแบบทีม่ นั ควรจะเป็ น - นาวว์
INFORMATION การเดินทาง
มีรถไฟจากเชียงใหม่ไปอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลทุกวัน
ขาไป
- ขบวน 102 / 06.30 – 07.35 น. - ขบวน 408 / 09.30 – 10.35 น. (รถไฟฟรี)
ขากลับ
- ขบวน 407 / 13.30 – 14.35 น. (รถไฟฟรี) - ขบวน 7 / 18.23 – 19.30 น.
สอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ โทร 0-5324-4765 ค่าเข้าอุทยาน
- ผู้ใหญ่ 20 บาท - เด็ก / นักศึกษา 10 บาท - ค่ากางเต็นท์ (ต่อหลัง) 30 บาท
ราคาห้องพักในอุทยาน
- บ้านพักหลังเล็ก : 500 / คืน 1 ห้องนอน 1 ห้องน�้ำ, จ�ำนวนเข้าพัก 2 คน / หลัง, มีเตียง, เครื่องนอน, เครื่องท�ำน�้ำอุ่น - บ้านชมดง (ขุนตาล 410) : 2,200 /คืน 3 ห้องนอน 2 ห้องน�้ำ, จ�ำนวนเข้าพัก 9 คน / หลัง, มีเตียง, เครื่องนอน, เครื่องท�ำน�้ำอุ่น - บ้านชมไพร (ขุนตาล501) : 2,700 / คืน 3 ห้องนอน 4 ห้องน�้ำ, จ�ำนวนเข้าพัก 9 คน / หลัง, มีเตียง, เครื่องนอน, เครื่องท�ำน�้ำอุ่น - บ้านชมดอย (ขุนตาล 502) : 2,200 / คืน 3 ห้องนอน 2 ห้องน�้ำ, จ�ำนวนเข้าพัก 9 คน / หลัง, มีเตียง, เครื่องนอน, เครื่องท�ำน�้ำอุ่น - บ้านชมอัสดง (ขุนตาล 503) : 1,500 / คืน 2 ห้องนอน 2 ห้องน�้ำ, จ�ำนวนเข้าพัก 6 คน / หลัง, มีเตียง, เครื่องนอน, เครื่องท�ำน�้ำอุ่น - บ้านชมดารา (ขุนตาล 504) : 1,500 /คืน 2 ห้องนอน 2 ห้องน�้ำ, จ�ำนวนเข้าพัก 6 คน / หลัง, มีเตียง, เครื่องนอน, เครื่องท�ำน�้ำอุ่น
สอบถามรายละเอียดได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล โทร 0-5354-6335, 06-2318-80 25
b side