1
b side
Contents February 2018 Vol.14 No.160
Cover Story Bike Trip Bike Special Run Travel Journey & Amazing Dishes
04 10 14 16 20 24
Cover B
HIP Pan Pai Vol.3 Photo : WJS
(www.facebook.com/wjscyclingclub)
04
20
Cover Story
Travel ภาคต่อจากการไปเวียดนามของ ผู้ช่วย บก.ดิจิตอล ของเรา ที่ แ ม้ จ ะมี เ วลาอยู ่ ใ น ‘ฮานอย’ ไม่ เ ยอะ แค่ 2 วั น 1 คื น แต่ เ ธอก็ ไ ด้ สั ม ผั ส เมื อ งส� ำ คั ญ ของเวี ย ดนามแห่ ง นี้ ใ นหลากหลายมิ ติ ตั้ ง แต่ เรื่ อ งอาหารการกิ น ไปจนถึ ง เรื่ อ งใหญ่ ๆ อย่ า ง ประวัติศาสตร์ เรียกว่าใช้เวลาได้คุ้มจริงๆ
‘HIP ปั่นปาย’ จัดกันมาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยปีนี้ นอกจากชวนกันปั่นจากเชียงใหม่ไปปายที่หลายคน เคยผ่านมาในครั้งที่ 2 ยังน�ำเสนอเส้นทางปั่นในปาย เส้นทางใหม่ และเพอิ่มกิจกรรมดีๆ อย่างการจัดงาน วันเด็ก และการมอบสิ่งของให้กับโรงเรียนและเด็กๆ ในพื้นที่กันอีกด้วย
Promotion
VALENTIN’S DAY DELIGHT ต้อนรับวันวาเลนไทน์ ที่ห้องอาหารนิมมาน บาร์ & กริลล์ โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ ขอเชิญทุกท่าน มาดืม่ ด�ำ่ กับความรักร่วมกับคนพิเศษในคืนวันวาเลนไทน์ กั บ บุ ฟ เฟ่ ต ์ มื้ อ พิ เ ศษหลากหลายเมนู อ ร่ อ ย ภายใต้ บรรยากาศสุ ด โรแมนติ ก ที่ จ ะท� ำ ให้ ท ่ า นและคนรั ก ประทับใจมิรู้ลืม ณ ห้องอาหารนิมมาน บาร์ & กริลล์ โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 18:00 – 22:00 น. (ราคาเพียงท่านละ 690++ บาท รวม สปาร์กกลิ้งไวน์ 1 แก้ว) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 053 - 222111 หรือที่ เว็บไซต์ www.kantarycollection.com
Cover Story
พาไปปั่นบนเส้นทางใหม่ กับความสุขของเด็กๆ ที่อ�ำเภอปาย เรื่อง / ภาพ : HIP Team
เพราะจัดงาน ‘HIP ปั่นปาย’ กันมาแล้วสองหน (แถมมี ‘HIP ปั่นไปปาย’ ด้วยอีกหนึ่งหน) ท�ำให้พวกเราที่ HIP รับรู้กันว่า งานนีเ้ ป็นงานประจ�ำปีทจี่ ะท�ำกันไปเรือ่ ยๆ ตราบใดทีค่ นจัดยังสนุกและมีแรงอยากจัด, ผูส้ นับสนุนทัง้ หลายยังหนุนหลังเราอย่างเต็มที่ และเหล่านักปัน่ ยังคงทักทายถามไถ่อยากไปร่วมปัน่ กับเรา กับท�ำให้เราคอยเตือนตัวเองว่า เมือ่ ปีใหม่เริม่ ต้น เป็นสัญญาณว่าอีกไม่นาน ก็จะถึงเวลาที่นักปั่นจะมารวมตัวกันในงานของพวกเราอีกครั้งหนึ่งแล้ว แต่แล้วก็มีเรื่องเซอร์ ไพรส์ ในที่ประชุม เมื่อพี่โหน่ง บรรณาธิการของเราประกาศว่า “HIP ปั่นปาย 3 เราจะไปปั่นปายกันตอน วันเด็ก แล้วก็จะมีกิจกรรมวันเด็กร่วมกับคนที่ปายด้วย” เอาล่ะสิ มองหน้ากันแล้วไม่มี ใครเคยจัดงานวันเด็กเลยซักคน แล้วงานนี้จะเป็นยังไงล่ะเนี่ย?
4
b side
เพื่อไม่ให้เสียเวลามากไปกับเรื่องราวเบื้องหลัง เราจึงขอเล่าแบบ พอเป็ นพิธวี า่ หลังจากประชุมกันไปหลายรอบ, ออกไปเซอร์เวย์สถานทีแ่ ละ เส้นทาง, ติดต่อประสานงานกับผูส้ นับสนุนและหน่วยงานต่างๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง ซึง่ ต่อเนื่องไปถึงการท�ำเอกสาร, รับของ, ส่งของ, รวมถึงส่งอีเมล, โทรศัพท์ และไลน์หากันแบบตัง้ แต่เช้ายันดึกมาตัง้ แต่ปลายปี 2560 บทสรุปทีอ่ อกมา ก็คอื ‘HIP ปัน่ ปาย 3’ จะประกอบไปด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่ ‘ปัน่ ไปปาย’ ที่เหล่านักปัน่ จะปัน่ จักรยานจากเชียงใหม่ม่งุ หน้าสู่อำ� เภอปาย จังหวัด แม่ฮ่องสอน ในวันศุกร์ท่ี 12 มกราคม โดยคนทีป่ นั ่ ไปจนถึงจุดหมาย ณ ทีว่ า่ การอ�ำเภอปาย จะได้รบั ประกาศนียบัตรและเหรียญรางวัลเป็ นทีร่ ะลึก ต่อด้วย ‘ปัน่ ปาย’ ในวันที่ 13 มกราคม ที่คราวนี้เปลี่ยนเส้นทางใหม่ โดยจะให้ปนั ่ ไปโรงเรียนบ้านสบสา ต�ำบลเมืองแปง ซึง่ จะเป็ นสถานทีท่ เ่ี รา จะน�ำทุกคนไปร่วม ‘กิจกรรมวันเด็ก’ กับน้องๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านสบสา และโรงเรียนเขตพื้นที่การศึ กษาอ�ำเภอปาย (ห้องเรียนบ้านเหมืองแร่ ) สองโรงเรียนทีเ่ รา (ด้วยความอนุเคราะห์จากผูส้ นับสนุนใจดีทงั้ หลาย) จะน�ำ อุปกรณ์การศึกษาและสิง่ ของต่างๆ ไปมอบให้ในงานนี้ไปพร้อมๆ กัน และหลังจากผ่านเตรียมการทุกอย่างกันจนครบถ้วนแล ้ว ก็ได้เวลา ทีน่ กั ปัน่ ทัง้ หลาย (ทีใ่ ห้ความสนใจสมัครเข้าร่วมงาน HIP ปัน่ ปาย กันอย่าง คึกคัก) จะเริ่มต้นออกเดินทางไปสู่อำ� เภอปายกันซะที 5
b side
เช้าวันศุกร์ท่ี 12 มกราคม ถึงอากาศจะไม่หนาวจัด แต่กน็ บั ว่า เย็นใช้ได้สำ� หรับคนทีต่ อ้ งตืน่ แต่เช้า อย่างไรก็ตามสภาพอากาศดูเหมือน จะไม่เป็ นอุปสรรคต่ อนักปัน่ ที่ค่อยๆ ทยอยมารวมตัวกันที่บริเวณ ด้านหน้าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สถานทีน่ ดั รวมตัวก่อนออกเดินทางของเราซักเท่าไหร่ เพราะทุกคนก็ดูสดชืน่ รืน่ เริงกันดี เรียกว่าเตรียมความพร้อมของตัวเอง กันมาแล ้ว ส�ำหรับการปัน่ ทางไกล ระยะทาง 120 กิโลเมตร ผ่านขุนเขา ทางโค้ง และทางชัน มากมายจากเชีย งใหม่ไ ปสู่ จุด หมายปลายทาง ทีอ่ ำ� เภอปาย หลัง จากรับ ฟัง ค�ำ แนะน�ำ เกี่ ย วกับ เส้น ทางและการปัน่ จาก ทีมงานมาร์แชลคุณภาพทีจ่ ะดูแลกันไปตลอดเส้นทางจนถึงเภอปายแล ้ว ก็ได้เวลาทีน่ กั ปัน่ จะเริม่ ต้นออกเดินทาง จากศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า นานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ขบวนนักปัน่ แต่ละชุด ทยอยเดินทางไปตามเส้นทาง โดยมีจดุ หมายแรกอยู่ท่จี ดุ เช็คพอยต์ ร้านกาแฟแป้ นเกล็ด ร้านกาแฟยอดฮิตทีน่ กั ปัน่ ทีเ่ คยผ่านเส้นทางสายนี้ คุน้ เคยดี ขบวนนักปัน่ ของเราค่อยๆ ทยอยมาถึงจุดหมายแรก แวะพัก ถ่ายรูปกับจุดเช็คพอยต์กนั ตามอัธยาศัย แล ้วก็เดินทางกันต่อ มุง่ หน้า ไปสู่จดุ เช็คพอยต์ทส่ี องทีร่ า้ นโอเคมาร์ท ซึง่ ณ จุดนี้ซง่ึ ถือว่ามากันได้ ครึ่งทางแลว้ นัน้ จะเป็ นจุดทีเ่ หล่านักปัน่ ได้แวะพักรับประทานอาหาร กลางวันกัน หลังท้องอิม่ มีเรี่ยวแรงแล ้วก็ได้เวลาลุยกันต่อ! จากโอเคมาร์ท เหล่านักปัน่ ยังคงออกแรงกดบันได น�ำจักรยานของตัวเองผ่านทางโค้ง และความชัน ที่มีใ ห้ไ ด้ท ดสอบความสามารถกัน ไปตลอดเส้น ทาง แถมสภาพอากาศในช่วงนัน้ ยังมีหมอกลงมาเพิม่ ความยากในการปัน่ เสียด้วย แต่กไ็ ม่เกินความสามารถของนักปัน่ ทีส่ ามารถเดินทางมาจนถึง จุดเช็คพอยต์ต่อมา นัน่ ก็คือจุดชมวิวรักจัง และหลังจากเคลือ่ นตัว ออกจากจุดนี้ นัน่ หมายความว่าเป้ าหมายของวันนี้อยู่อกี ไม่ไกลแล ้ว! จากจุดชมวิวรักจัง จักรยานแต่ละขบวนทยอยเดินทางโดยมี เป้ าหมายต่อไปอยุ่ท่จี ุดเช็คพอยต์สะพานประวัติศาสตร์ปาย ซึ่งเป็ น จุดทีเ่ มือ่ มาถึงแลว้ เหล่านักปัน่ ขอใช้เวลาในการถ่ายภาพและพักผ่อน นานกว่าจุดอื่นๆ นิดหน่ อย ทัง้ เพื่อดื่มด�ำ่ กับการผ่านเส้นทางยากๆ มาจนเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการเดินทาง และเพื่อเก็บภาพกับสถานที่ ซึง่ ถือเป็ นแลนด์มาร์คส�ำคัญแห่งหนึ่งของอ�ำเภอปายไว้อวดพรรคพวก เพื่อนฝูง ก่ อนที่เหล่านักปัน่ จะเดินทางตรงเข้าสู่ตวั อ�ำเภอเมืองปาย เพื่อสิ้นสุดการเดินทางกัน ณ ที่ว่าการอ�ำเภอปาย ซึ่งเป็ นทัง้ เส้นชัย และสถานที่เหล่านักปัน่ ผู ป้ ระสบความส�ำเร็จกับการเดินทางตลอด 120 กิโลเมตร จะได้รบั เหรียญรางวัลและประกาศนียบัตรเป็ นสิง่ ยืนยัน
6
b side
ความส�ำเร็จทีท่ ำ� ได้ในวันนี้ โดยในการนี้ คุณธนกฤต ฉันทะจ�ำรัสศิลป์ นายอ�ำเภอปาย และคุณสบธนา อันประเสริ ๋ ฐ ผูอ้ ำ� นวยการการท่องเทีย่ ว แห่ ง ประเทศไทย ส�ำ นัก งานแม่ ฮ่ อ งสอน ให้เ กี ย รติ เ ป็ น ผู ม้ อบ เหรียญรางวัลและประกาศนียบัตรที่ลงนามโดยผูว้ ่าราชการจังหวัด แม่ฮ่องสอนให้กบั เหล่านักปัน่ กิจกรรมในวันแรกของ HIP ปัน่ ปาย 3 จบลงทีก่ ารรับประทาน อาหารและสัง สรรค์ร่ ว มกัน ของเหล่า นัก ปัน่ ในงานเลี้ย งที่จ ดั ขึ้น ทีโ่ รงแรมเบลล์ วิลล่า รีสอร์ต ซึง่ เป็ นสถานทีพ่ กั ของเหล่านักปัน่ ก่อนที่ ทุกคนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน เพราะในวันรุ่งขึ้น ยังมีอกี กิจกรรม ทีร่ อคอยเหล่านักปัน่ อยู่ นัน่ คือ “เราจะปัน่ ไปงานวันเด็กกัน!” เช้าวันเสาร์ท่ี 13 มกราคม เหล่านักปัน่ พร้อมจักรยานคู่ ใจ มารวมตัวกันทีห่ น้าโรงแรมเบลล์ วิลล่า รีสอร์ต โดยเส้นทางทีเ่ ราจะน�ำ นัก ปัน่ เดิ น ทางกัน ในวัน นี้ จ ะแตกต่ า งไปจากสองครั้ง ก่ อ นหน้า ที่นำ� นักปัน่ ตระเวนท่องเที่ยวไปตามเส้นทางภายในปาย เพราะครัง้ นี้ เราจะน�ำนักปัน่ ออกนอกตัวเมืองไปตามเส้นทางใหม่ โดยมีจดุ หมาย ปลายทางอยู่ทโ่ี รงเรียนบ้านสบสา ต�ำบลเมืองแปง สถานทีท่ เ่ี หล่านักปัน่ จะได้ร่วมกิจกรรมวันเด็กกับน้องๆ นักเรียนและคนในชุมชน จากโรงแรมเบลล์ วิลล่า รีสอร์ต ขบวนนักปัน่ เดินทางผ่าน ทีว่ า่ การอ�ำเภอปายและสถานีตำ� รวจภูธรปาย ก่อนจะเลี้ยวเข้าสูเ่ ส้นทาง บ้านกุงแกง – ตีนธาตุ ซึง่ ในระหว่างเส้นทาง นักปัน่ จะได้ปนั ่ ไปตามทาง ที่เงียบสงบ และได้พบเห็นวิถชี ีวติ ของผูค้ นในท้องถิ่น ก่อนที่ขบวน นักปัน่ จะออกมาสู่ถนนเชียงใหม่ – ปายอีกครัง้ เพือ่ มารวมตัวกันที่ บริเวณศาลาริมทางข้างองค์การบริหารส่วนต�ำบลทุ่งยาว และจากจุดนี้ นักปัน่ จะเดินทางต่อไปตามเส้นทางชมทิวทัศน์ ปาย – แปง โดยมี จุดหมายอยู่ทโ่ี รงเรียนบ้านสบสา สถานทีจ่ ดั งานวันเด็กของเรา ก่อนจะเล่าถึงการเดินทางของเหล่านักปัน่ ในเส้นทางดังกล่าว ขอเล่าถึงเรื่องการจัดงานวันเด็กกันซักเล็กน้อย อย่างทีก่ ล่าวไว้ขา้ งต้น ว่าในปี น้ ี HIP อยากชวนเหล่านักปัน่ มาร่ วมกันท�ำกิจกรรมที่เป็ น ประโยชน์ต่ออ�ำเภอปายที่พวกเรามาเยือนกันด้วย จนได้ขอ้ สรุปว่า เราจะจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนและสิง่ ของทีจ่ ำ� เป็ นอืน่ ๆ มามอบ ให้กบั โรงเรียนบ้านสบสา และโรงเรียนเขตพื้นทีก่ ารศึกษาอ�ำเภอปาย (ห้องเรียนบ้านเหมืองแร่) สองโรงเรียนทีต่ งั้ อยูใ่ นเส้นทางทีเ่ ราพานักปัน่ มาปัน่ กัน รวมทัง้ จะจัดให้มีกิจกรรมวันเด็ก ที่ประกอบด้วยการ น�ำสิง่ ของไปแจกให้กบั เด็กๆ และการรับประทานอาหารร่วมกับเด็กๆ รวมถึง คนในชุม ชน ซึ่ง รับ หน้า ที่จ ดั เตรีย มสถานที่แ ละท�ำ อาหาร ไว้ตอ้ นรับคณะของเราด้วย กลับมาเล่าเรื่องการเดินทางกันต่อ ความทีเ่ ส้นทางทีม่ งุ่ หน้าไปสู่ โรงเรียนบ้านสบสาเป็ นเส้นทางที่นกั ปัน่ ส่วนใหญ่ ไม่เคยไปมาก่ อน ความสงบร่มรื่นและทิวทัศน์ท่เี ขียวขจีตลอดสองข้างทางจึงเป็ นสิ่งที่ สร้างความตืน่ ตาตืน่ ใจให้กบั เหล่านักปัน่ ได้ไม่นอ้ ย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ตอ้ งบอกว่าเส้นทางนี้แอบมีความยากอยู่ดว้ ย ทัง้ จากทางโค้งและเนิน ทีร่ อต้อนรับนักปัน่ อยู่อย่างต่อเนื่อง เล่นเอานักปัน่ หลายคนโอดครวญ ว่าจะไปงานวันเด็กทัง้ ที ต้องไปยากกันขนาดนี้เลยหรือ? แต่สุดท้ายแล ้ว เส้นทางนี้ก็ไม่เกินความสามารถของเหล่านักปัน่ ที่จะพิชิตให้สำ� เร็จ ซึ่งเมื่อมาถึงโรงเรียนบ้านสบสา นักปัน่ ทุกคนก็จะได้รบั การต้อนรับ ด้ว ยพวงมาลัย ที่ค นในหมู่บ า้ นได้จ ดั ท�ำ ไว้ เพื่อ มอบให้ก บั นัก ปัน่ ทีเ่ ดินทางมาถึงทีห่ มายโดยเฉพาะ 7
b side
ส�ำหรับในส่วนของงานวันเด็กทีโ่ รงเรียนบ้านสบสานัน้ มีบางส่วน ทีเ่ ริ่มต้นไปก่อนแล ้ว ในระหว่างทีเ่ หล่านักปัน่ ก�ำลังตัง้ หน้าตัง้ ตาปัน่ มา ตามเส้นทางกันอยู่ โดยทีภ่ ายในบริเวณโรงเรียนมีทงั้ การจัดซุม้ ให้เด็กๆ ทัง้ ทีเ่ ป็ นนักเรียนจากทัง้ สองโรงเรียน กับเด็กๆ ทัง้ ในชุมชนและชุมชน ใกลเ้ คียงได้ทำ� กิจกรรมต่างๆ อย่างเช่นการวาดภาพระบายสี การเป่ า และบิดลูกโป่ ง และเกมอีกหลายๆ เกมทีใ่ ห้เด็กๆ ออกมาร่วมสนุกกัน ตรงหน้าเวที ที่ต่อมาก็กลายเป็ นการดึงเหล่านักปัน่ ที่เดินทางมาถึง โรงเรียนแล ้วให้มาร่วมสนุกกับน้องๆ ด้วย (โดยเฉพาะการชักคะเย่อหมู่ และเก้าอี้ดนตรีทเ่ี รียกเสียงกรีด๊ กร๊าดและเสียงหัวเราะเฮฮาทัว่ ทัง้ งาน) และหลังจากเหล่านักปัน่ เดินทางกันมาครบถ้วนแล ้ว ก็ถงึ เวลา ของงานพิธีการ กับการส่งมอบห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็ นผูใ้ ห้การสนับสนุน ตามโครงการ ‘ติดปี กเติมฝัน แบ่งปันให้นอ้ ง’ รวมถึงการส่งมอบสิง่ ของเครื่องใช้อน่ื ๆ ทีท่ างธนาคาร, HIP และพันธมิตรอื่นๆ ได้ร่วมกันสนับสนุ นให้กบั ทัง้ สองโรงเรียน รวมไปถึงการมอบกระเป๋ าเป้ (ทีภ่ ายในใส่ของไว้ให้อกี เพียบ) ซึง่ ได้รบั การสนับสนุ นจาก มูลนิธิครอบครัวข่าว ให้กบั น้องๆ นักเรียนจาก ทัง้ สองโรงเรียนแบบครบถ้วนกันทุกคน โดยในการนี้ได้รบั เกียรติจาก คุณประภาส ทองสุข รองกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย พร้อมด้วยแขกผูม้ เี กียรติอกี หลายๆ ท่าน รับหน้าทีใ่ นการส่งมอบ กระเป๋ าให้ถงึ มือน้องๆ ทุกคน ในขณะเดียวกัน ทางชุมชนบ้านสบสาซึ่งเป็ นเจ้าของสถานที่ ก็มขี องทีร่ ะลึกมอบให้กบั หน่วยงานต่างๆ ทีม่ สี ่วนร่วมในการจัดงาน วันเด็กในครัง้ นี้ดว้ ยเช่ นกัน ก่ อนที่ทุกๆ คนในงานจะมาอิ่มอร่ อย ไปกับอาหารมากมายหลายอย่างที่ทางชุมชนได้ตระเตรียมไว้ตอ้ นรับ โดยในระหว่างนัน้ ก็มีการแจกขนมและของเล่นที่ HIP ได้รบั จาก ผูใ้ หญ่ใจดีมากมายทีข่ อมีสว่ นร่วมสร้างความสุขให้กบั น้องๆ ในวันเด็ก
ชนิดทีเ่ รียกได้วา่ เด็กๆ ได้ขา้ วของหอบกลับบ้านกันไปคนละหลายถุง เลยทีเดียว ก่อนที่ในช่วงเย็นวันเสาร์จะเป็ นเวลาส�ำหรับการพักผ่อน ตามอัธยาศัยของบรรดานักปัน่ ทีจ่ ะได้เลือกเทีย่ วชมเมืองปายกันตาม ความสนใจ ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับสู่ภูมลิ ำ� เนาในวันต่อมา และรอคอยที่จะกลับมาพบเจอ รวมทัง้ ปัน่ จักรยานร่ วมกันอีกครัง้ ใน HIP ปัน่ ปาย ครัง้ ต่อไป การที่ HIP ปัน่ ปาย 3 ส�ำเร็จได้ดว้ ยดี รวมทัง้ ได้มอบความสุข ให้กบั น้องๆ จากทัง้ สองโรงเรียนที่มาร่ วมกิจกรรมวันเด็กสมตาม 8
b side
เป้ าหมายทีว่ างไว้ เกิดขึ้นได้เพราะความร่วมมือและการสนับสนุนอันดี จากหลายหน่ ว ยงาน ที่จ ะขอกล่า วค�ำ ขอบคุ ณ ไว้ ณ ที่น้ ี ได้แ ก่ การท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย ส�ำนักงานแม่ฮ่องสอน ทีร่ ่วมกับ HIP สร้างสรรค์กิจกรรมนี้ข้นึ มา และท�ำงานร่วมกันจนมาถึงปี ท่ี 3 แลว้ , ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทีใ่ ห้การสนับสนุนคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และ การปรับปรุงสถานทีส่ ำ� หรับห้องเรียนคอมพิวเตอร์ของทัง้ สองโรงเรียน รวมถึงสนับสนุนสิง่ ของส�ำหรับการเรียนการสอนอืน่ ๆ อีกด้วย, มูลนิธิ ครอบครัวข่าว ทีส่ นับสนุนกระเป๋ าเป้ สำ� หรับน้องๆ นักเรียน, Wildlives ทีน่ ำ� ผลิตภัณฑ์มามอบให้เหล่านักปัน่ ได้ใช้ รวมทัง้ ส่งทีมนักปัน่ มาร่วม เดินทางไปด้วยกัน, Air Asia ทีใ่ ห้การสนับสนุ นการจัดงาน และมี เหล่านักปัน่ มาร่วมงานกับเราทุกปี , คุณประเสริฐและเพือ่ น จากร้าน Pai Republic ทีม่ เี สื้อมาให้กบั เด็กๆ และร่วมสนับสนุนการจัดงาน รวมไปถึง ‘น�ำ้ ใจ’ จากเพือ่ นพ้องน้องพีอ่ กี มากมาย ที่คงไม่อาจระบุ รายชื่อได้หมด ไม่ว่าจะเป็ นการสบทบทุน มอบสิง่ ของ ไปจนถึงการ อุทศิ เวลาและแรงกายมาช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยมีเป้ าหมายเดียวกัน นัน่ คือการเผือ่ แผ่ความสุขไปสู่เด็กๆ ทีอ่ ำ� เภอปายในวันเด็กครัง้ นี้ หวังเป็ นอย่างยิง่ ว่า ใน HIP ปัน่ ปาย 4 เราจะได้พบกับทุกๆ คน อีกครัง้
9
b side
Bike Trip
PRC Cycling Club
ชมรมจักรยานสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เรื่อง / ภาพ : acidslapper
เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ปั่นจักรยาน ร่วมทริป ‘สะเมิงคลาสสิค’ กับชมรมจักรยานศิษย์เก่า โรงเรีย นที่ว่า กันว่า มีเครือข่ายคอนเน็คชั่นที่แพร่ขยายกว้างขวางอันดับต้นๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ นั่นก็คือ ‘ชมรมจักรยานสมาคมนักเรียนเก่าโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย’ นักปั่นทั้งหลายคงคุ้นตากับเสื้อจักรยาน PRC Cycling Club ด้วยสีประจ�ำ โรงเรียน น�้ำเงิน - ขาว ที่ออกเพ่นพ่านเกลื่อนกลาดกันทั่วเชียงใหม่นะครับ
10
b side
ก่อนอืน่ ขอเล่าประวัตชิ มรมจักรยาน PRC Cycling Club กันก่อน นะครับ สืบเนื่องมาจาก ‘พีห่ มวด’ ท่านนายก ส.น.ป. (สมาคมนักเรียนเก่า โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วทิ ยาลัย) หรือทีเ่ ราเรียกกันคุน้ ปากว่า พีห่ มวด Good View / พีห่ มวด แผลงฤทธิ์ คนนี้น่แี หละครับ แกขึ้นด�ำรงต�ำแหน่ง เมือ่ ต้นปี 2560 ทีผ่ า่ นมา เมือ่ รับต�ำแหน่งหัวเรือใหญ่ปบุ๊ แกก็แถลงนโยบาย ของสมาคม ว่าด้วยเรื่องการขับเคลือ่ นเครือข่ายและสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างศิษย์เก่ าด้วยกิจกรรมกีฬา จึงเป็ นที่มาของการก่อตัง้ ชมรมกีฬา ในนามสมาคมนักเรียนเก่าจ�ำนวน 9 ชมรม นัน่ คือ ชมรมฟุตบอล, รักบี้, บาสเก็ตบอล, วอลเลย์บอล, กอล์ฟ, สนุกเกอร์, วิง่ และจักรยาน ซึง่ แต่ละ ชมรมก็ได้รบั มอบหมายให้ทำ� การจัดกิจกรรมกีฬาต่างๆ ตลอดปี ทผ่ี ่านมา เขียนถึงตรงนี้กต็ อ้ งขอแสดงความชืน่ ชมในวิสยั ทัศน์ของท่านนายกฯ เลยนะครับ นี่ สิคื อ วิธี คิ ด ของคนรุ่ น ใหญ่ ท่ีเ ป็ น รุ่ น ใหม่ อ ย่ า งแท้จ ริ ง เพราะสามารถน�ำ เอากระแสรัก สุ ข ภาพของคนไทย มาผสมผสาน ประยุกต์ใช้กบั การสร้างความสัมพันธ์ของเครือข่ายศิษย์เก่าฯ จนเกิดเป็ น นโยบายเจ๋งๆ และน�ำมาสูก่ จิ กรรมกีฬาหลากหลายชนิด ซึง่ เกิดเป็ นประโยชน์ ในด้านต่างๆ ได้จริงๆ วัยรุ่นยุค 90 เขาเรียกว่า... สองต่อเข้าฮอส! จากนโยบายของท่านนายกฯ ดังที่ได้เล่ามา ตัวผมจึงได้มโี อกาส เข้ารับต�ำแหน่งประธานชมรมจักรยาน PRC Cycling Club และได้จดั ทริป จักรยานทริปนี้ข้นึ เพือ่ เป็ นการเปิ ดตัวชมรม และเพือ่ กระชับความสัมพันธ์ ระหว่างสมาชิก รวมไปถึงนักปัน่ อื่นๆ ที่สนใจเข้าร่ วมงาน โดยโจทย์ท่ี คณะกรรมการชมรมตัง้ กัน ขึ้น มาก็ คื อ ทริ ป ของเราต้อ งเป็ น ทริ ป ที่ ไม่ง่ายเกินไปจนคนร้องแอ๊! แต่ก็ไม่โหดจนถึงขัน้ ที่ไม่มใี ครกลา้ มาร่วม เราจึงได้ขอ้ สรุปว่า ‘สะเมิงคลาสสิค’ (ขึ้นแม่รมิ ลงหางดง) นี่ละ่ เหมาะทีส่ ุด โดยทางชมรมต้องการให้ทริปนี้เป็ นทริปน่ารักๆ ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ อันดีในกลุม่ ผูร้ ่วมปัน่ เลยก�ำหนดว่าเป็ นการปัน่ ทริปประเพณี ไม่ให้เป็ น การแข่งขัน และให้จบลงด้วยงานเลี้ยง ประมาณว่าปัน่ เหนื่อยๆ แลว้ มา กินข้าวกันอร่อยๆ เราจึงจัดให้ปล่อยตัวและจบทริปกันที่ The Good View Village ซึง่ พอเหมาะพอเจาะกับเส้นทางของเราเลย ผมย้อนกลับไปไล่ดูคอลัมน์เก่าๆ ย้อนหลังไปสองปี กว่าๆ ทีไ่ ด้ละเลง ตัวหนังสือใน HIP มา ปรากฏว่าสะดุง้ โหยง เฮ่ย! เราพานักปัน่ ไปโน่นมานี่ แต่ยงั ไม่เคยเขียนถึง Route นี้เลยนี่นา! โป๊ ะเชะ! งัน้ ขอใช้โอกาสนี้พาแอ่ว สะเมิงเลยเน่อตัว๋
‘สะเมิงคลาสสิค’ ชื่อนี้ท่านอาจไม่ค่อยคุน้ หู ก็แน่ สิ ก็ผมเป็ นคน ตัง้ เองนี่นา แฮ่! เท้าความกันก่อน... เส้นทางวนรอบสะเมิงเนี่ยมีหลายแบบ แต่ทใ่ี นวงการจักรยานว่ากันว่าง่ายทีส่ ุด และนิยมกันทีส่ ุดก็คอื เส้นทางนี้ละ่ ขึ้นแม่รมิ ลงหางดง หลายใครเรียก ‘สะเมิงวนซ้าย’ พอผมเห็นว่านักปัน่ ฮิตกัน ก็เลยเรียกเส้นนี้วา่ สะเมิงคลาสสิค แล ้วมันคลาสสิคยังไงเหรอ? เส้นทางนี้กนิ ระยะทางทัง้ สิ้นประมาณ 85 - 90 กิโลเมตร สมัยทีเ่ พิง่ ปัน่ จักรยานใหม่ๆ ผมร้องแอ๊ เพราะสมัยนัน้ เอะอะต้อง 100 กิโลเมตรสิ! นี่มนั ไม่ถงึ นี่นา แต่อย่าเพิง่ ด่วนสรุปนะจ๊ะหนู ๆ เส้นทางไม่ถงึ ร้อยโลนี่แหละ ทีน่ รกเลยนะเธอ! ก็ดนั มีระยะไต่เขาสูงร่วม 1,500 เมตร! ความสูงนี้นกั ปัน่ สายเรียบ (เกลียดดอย) ต้องหันค้อนกันเป็นทิวแถวพร้อมสบถเบาๆ ว่า ชิ! ความคลาสสิคของเส้นทางนี้กค็ อื เราจะต้องปัน่ ทางเรียบโต้ลมหนาว 16 องศาเซลเซียสกันไปราว 30 กิโลเมตร ก่อนทีจ่ ะเริ่มกระท�ำการ ‘ดันดอย’ เราเริ่มทริปที่ The Good View Village เลาะขนานคันคลองชลประทาน ผ่านตลาดต้นพยอม ผ่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านศูนย์ประชุมและแสดง สินค้านานาชาติ ผ่านสนามกีฬา 700 ปี และผ่านอ่างเก็บน�ำ้ ห้วยตึงเฒ่า จากนัน้ ก็ เ ลี้ย วซ้า ยที่ก องพัน ทหารราบที่ ๗ หรือ ที่เ รีย กอีก แบบว่า ไป วัดป่ าดาราภิรมย์ (เพือ่ เลีย่ งถนนช่วงอ�ำเภอแม่รมิ แคบๆ แต่รถวิง่ โคตรเร็ว) แล ้วจึงเข้าสู่ถนนเส้นหลักเพือ่ มุง่ หน้าไปพิชติ สะเมิง ทันทีทม่ี าถึงถนนเส้นหลัก เราจะเจอต�ำบลแม่แรม ซึง่ ทีน่ ่ีจะมีรา้ น เซเว่น - อีเลเว่น แนะน�ำให้จอดเติมน�ำ ้ เติมอาหาร หรือจะตุนเอาไว้ก่อน ก็ไม่วา่ กัน เพราะว่าเส้นทาง 15 กิโลเมตรต่อจากนี้... ภูเขาล ้วนๆ ไม่มเี นิน ปนเลยสักนิด!!! ไต่แลว้ ก็ไต่แลว้ ก็ไต่แลว้ ก็ไต่ ผ่านน�ำ้ ตกแม่สา ปางช้าง แม่สา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ์ิ ถ้าออกกันแต่เช้าอากาศ จะสบายๆ แต่ถา้ ออกสายๆ นี่ ทับทิมเผาเกลือ!!! เฉลีย่ แรงให้ดนี ะครับ เพราะทีเด็ดของเรายังมาไม่ถงึ ! 11
b side
พอพ้นช่วงสเตจภูเขาช่วงที่หนึ่ง จะมาถึงต�ำบลโป่ งแยง ที่น่ีจะมี นักท่องเทีย่ วเพียบ เพราะขวามือด้านบนนัน้ คือม่อนแจ่ม จะสังเกตได้จาก สายตานักท่องเทีย่ วไม่วา่ จะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ยิง่ ถ้าเป็ นป้ ายทะเบียน ทีม่ าจากจังหวัดเรียบๆ ไม่มดี อยแลว้ ล่ะก็ ทุกคนจะมองพวกเราจักรยาน ด้วยสายตาสองชนิด หนึ่ง... โอ้โหเก่งจัง ปัน่ มาได้ไงเนี่ย และ สอง... ไอ้พวกนี้แม่งโคตรโง่เลยว่ะ! ล�ำบากขนาดนี้ ท�ำไมมันไม่ขบั รถยนต์มาวะ? ก็ว่ากันไป ม่วนไผ๋ม่วนมันเน่ อตัว๋ และที่จะลืมไม่ได้ กรุณาแวะเซเว่นฯ โป่ งแยงซะนะครับ เพราะถึงเส้นทางต่อจากนี้จะไม่โหดเท่าสเตจทีผ่ ่านมา แต่ก็ไม่ได้ดอ้ ยกว่ามากนัก มิหน�ำซ�ำ้ ยังเปล่าเปลีย่ วและอ้างว้างเหลือเกิน เพราะไม่มรี า้ นขายของช�ำอีกแล ้ว! ถ้าน�ำ้ หมดคือหมด อาหารหมดคือหมด ดังนัน้ พกไว้ไม่เสียหลายนะครับ เตรียมไว้เลยดีกว่าไปอดตายเน่อ ออกจากโป่ งแยงปุ๊ บเราก็จะท�ำกิจกรรมเช่นเดิมครับ... ‘ดันดอย’ ระยะทางต่อจากนี้จะซัดกันประมาณ 7 - 8 กิโลเมตร แต่! อย่าเพิง่ ร้องแอ๊ นะจ๊ะหนุ่ มสาว เพราะเราโดนต่ อยแบบนวดล�ำตัวมาตัง้ แต่ ยกแรกแลว้ ตอนนี้จะรูส้ กึ ว่ามันลา้ ๆ เชียวล่ะ พอมาถึงจุดยอดสุด สังเกตขวามือจะมี จุดชมวิวสะเมิงอยู่ ตรงนี้แหละแลนด์มาร์คในชีวติ นักปัน่ ควรเอาจักรยาน มาพิงถ่ายรูปให้ได้สกั ครัง้ เพือ่ ส�ำแดงเดชในสังคมออนไลน์ซะหน่อย 555 ต่อจากนี้จะได้พกั ขาด้วยการไหลดิ่งลงยาวๆ แต่อย่าเพลินเกินนะ มีโค้งอันตราย และมีรถอันตรายเต็มไปหมด จะเจอสามแยกขวางอยู่ มีป้อมต�ำรวจตัง้ ตระหง่าน ใครน�ำ้ หมดแนะน�ำให้ปล ้นน�ำ้ พีต่ ำ� รวจเลยครับ! แกชินแลว้ เพราะนักจักรยานท�ำแบบนี้กนั ประจ�ำ 555 เลี้ยวซ้ายเพือ่ ไต่อกี นิดหน่ อยจนไปถึงจุดเชื่อมต่ออ�ำเภอสะเมิงและหางดง เส้นทางต่อจากนี้ เรียกได้ว่าดิ่งระห�ำ่ นรก! ระมัดระวัง ตัง้ สติให้ดีนะครับ เส้นทางช่วงนี้ อันตรายสุด การดิง่ ครัง้ นี้จะท�ำให้ทา่ นรูส้ กึ ชุ่มชืน่ มีชวี ติ ชีวาสุดๆ ท่านจะรูส้ กึ ดีใจทีไ่ ด้มาทริปนี้ และรูส้ กึ ว่าโลกใบนี้ช่างสวยงามเหลือเกินนนนนน กรุณา จดจ�ำความรูส้ กึ นี้ไว้ให้ดนี ะครับ เพราะต่อจากนี้....
เส้นทาง 2 กิโลเมตรต่อจากนี้ จะเป็ นสองกิโลทีต่ รึงอยูใ่ นความทรงจ�ำ ของท่านตลอดไป (ถ้าเป็ นภาพยนตร์เรื่อง Inside Out รับรองได้วา่ งานนี้ มีลูกแก้วสีนำ�้ เงินเข้มแน่ๆ!!!) ตรงนี้แหละครับทีเ่ ขาเรียกกันว่า ‘เจ็ดพับ’ คนตัง้ ชื่ อ ว่ า น่ า สนใจแล ว้ แต่ ค นรัง สรรค์เ ส้น ทางนี้ ย่ิง น่ า สนใจกว่ า ! โอ้โห มันทัง้ ชันและพับหักศอกต่อเนื่องได้อร่อยสุดๆ ไปเลยอีหนู เอ๊ยยย! คิดดูสคิ รับ ออกบ้านมาตัง้ แต่เช้า ดันดอยกันเป็ นพหูพจน์ แล ้วปล่อยให้เรา ดิง่ ลงจนตายใจ จูๆ่ ก็จดั ความชันระดับแหงนปวดคอมาปิ ดท้ายอย่างอ�ำมหิต ความรูส้ กึ โลกนี้ช่างสวยงามเมือ่ สักครู่หายไปจากหัวใจโดยสิ้นเชิง! 555 ใครที่เพิ่งหัดใส่คลีทหรือยังไม่คล่อง ระวังจังหวะที่จะกระโดด ลงจากรถด้วยนะจ๊ะ เดีย๋ วจะหาว่าไม่เตือน เพราะตอนทีไ่ ม่ไหวสุดๆ แล ้ว พอเราดีดเท้าให้คลีทหลุด มันจะเกิดตะคริว ซึง่ จะลงมายืนยากมาก 555 (ที่เ ขีย นได้น่ี เ พราะเจ็บ มาเยอะ!) ใครที่ป นั ่ ไหวก็ ข อยิน ดีด ว้ ยนะครับ ส่วนใครที่ไม่ไหวก็ลงจูงจักรยานเสือภูเข็นด้วยท่าซูเปอร์แมนกัน (ใครที่ เคยจูงบนทางชันๆ จะรู ้ อิอ)ิ เสน่หข์ องเจ็ดพับก็คอื ตอนแรกเราจะพยายาม นับพับให้ได้ แต่หลังจากพับทีส่ ามเป็ นต้นไปแลว้ สมองเราจะมึนๆ ตื้อๆ จ�ำจ�ำนวนพับทีผ่ ่านมาไม่ได้ซะดื้อๆ 555 ไปลองกันดูเองเถอะพ่อม้าหนุ่ม! จบตรงนี้แล ้วก็ตอ้ งบอกว่ายินดีดว้ ยจริงๆ ครับ เพราะเส้นทางทีเ่ หลือ มันก็จะโรลลิง่ ขึ้นๆ ลงๆ ส่วนใหญ่หนักไปทางลงซะมากกว่า พอมาถึง เขตต�ำบลบ้านปง คราวนี้จะเจอช็อตวัดใจว่าจะเลี้ยวซ้ายขึ้นดอยกอมมัย้ ? ถ้าขึ้นจะลัดได้ 8 กิโลเมตร แต่มนั เป็ นดอย! ถ้าไม่ข้นึ ก็ปนั ่ เรียบๆ สบายๆ แต่ออ้ มไปเยอะกว่าเดิม! ตามศรัทธาเลยก็แลว้ กันนะครับ ส่วนทริปนี้ ส่วนใหญ่เลือกอ้อมแบบเรียบๆ กันครับ 555 12
b side
แล ้วเราก็ปนั ่ ทางเรียบฝ่ าลมและไอแดดกลับมาถึง The Good View Village กันโดยสวัสดิภาพ มาถึงปุ๊ บก็ตรงดิ่งเข้าหาโต๊ะบุฟเฟ่ ตก์ นั ทันที ไปอดอยากกันมาจากไหนล่ะพ่อเอ๊ยยยย 555 หลังกินกันพอตึงท้อง เราก็ เริม่ กิจกรรมจับฉลากแจกของรางวัลกันเล็กๆ น้อยๆ และรับเหรียญทีร่ ะลึก ไปแขวนสะสมไอเท็มกีฬากันสวยงาม เป็ นอันจบทริปอบอุน่ สุดประทับใจ แกว่งกวัดมาถึงบรรทัดนี้ ผมก็ยงั คงย�ำ้ เหมือประโยคต้นๆ ว่า แนวทางการด�ำเนินงานของสมาคมด้วยการขับเคลือ่ นความสัมพันธ์ศษิ ย์เก่า ด้วยกิจกรรมกีฬาผ่านชมรมต่างๆ นัน้ ถือเป็ นโมเดลที่องค์กรทัง้ หลาย สมควรน�ำไปใช้หรือน�ำไปประยุกต์ใช้อย่างยิง่ เพราะจะท�ำให้สมาชิกมีสขุ ภาพ ทีด่ ี และในมิตขิ องเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์เก่า ก็จะถูกพัฒนา และกล่อมเกลาด้วยกีฬา เพราะส่วนตัวผม ผมเชื่อเสมอว่ากีฬาเป็ นศาสตร์ ที่ทำ� ให้มนุ ษย์สมบูรณ์ได้ นอกจากสุขภาพดีแลว้ กีฬายังท�ำให้เรามีทงั้ ความมุ่งมัน่ มีพลังใจ มีวนิ ยั รูจ้ กั การเอาชนะทัง้ ตนเองหรือคู่แข่ง รูจ้ กั ประมาณตน ยอมรับผล ยอมรับความพ่ายแพ้ รูจ้ กั วางตัว รักษามารยาท รักษามิตรภาพ และได้พฒั นาทักษะทางสังคม โอ้โห โคตรเจ๋ง! ฉบับนี้ผมจึงได้นำ� เอาเรื่องราวนี้มาน�ำเสนอชาว HIP เผื่อจะเป็ น แนวทางให้ใครน�ำเอาไอเดียกีฬานี้ไปต่อยอดเพื่อส่งเสริมการขับเคลือ่ น องค์กรหรือสังคมกันได้ แล ้วพบกันใหม่ฉบับหน้า... สวัสดีครับ * สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมของชมรม PRC Cycling Club ได้ทาง Facebook : P.R.C. Cycling Club * 13
b side
Bike Special
Ketogenic เ ดิ น ท า ง บ น โ ภ ช น า ก า ร โ ย คี เรื่อง / ภาพ : Jung Yonyang
ทาน Keto ไปเพือ่ อะไร? เพือ่ ให้รา่ งกายปรับเปลีย่ นจากการเผาผลาญน�ำ้ ตาล (Glycolysis) ไปเป็นเผาผลาญไขมัน (Lipolysis) เปลี่ยนท�ำไม? เพราะการเผาน�้ำตาลนั้น 1. ก่อให้เกิดมลภาวะในร่างกาย (มากกว่าเผาไขมัน) 2. ท�ำให้อินซูลินหลั่ง (เข้าสู่โหมด สะสมไขมัน) 3. พอเผาหมดปุ๊บ หิวปั๊บ แล้วเผาผลาญไขมันดีกว่ายังไง? 1. พละก�ำลังต่อเนื่องยาวนาน ไม่หิวบ่อย ไม่หงุดหงิด 2. เผาได้สะอาดกว่า 3. มีผลพลอยได้ คือ Ketones แลว้ Ketones คืออะไร? Ketones เกิดจากการเผาผลาญไขมัน สร้างขึ้นโดยตับ มีคุณลักษณะพิเศษคือสามารถข้าม Blood Brain Barrier ทีเ่ ป็ นเยือ่ บางๆ กัน้ ไม่ให้สง่ิ แปลกปลอมในกระแสโลหิตเข้าสู่สมอง ดังนัน้ สมองจึงใช้ Ketones เป็ นพลังงานร่วมกับกลูโคสได้ ร่วมกับกลูโคส แปลว่ายังต้องกินน�ำ้ ตาลใช่ไหม? ไม่ใช่ ร่างกาย สามารถแปลงโปรตีนและไขมันบางส่วนให้เป็ นกลูโคสได้ ด้วยกระบวนการ Gluconeogenesis ดังนัน้ ไม่มคี วามจ�ำเป็ นต้องกินน�ำ้ ตาลเลย ไม่ กิ น น�้ำ ตาลน่ ะ เข้า ใจ แต่ ท �ำ ไมไม่ ใ ห้กิ น แป้ ง? เพราะแป้ ง (ข้าว ขนมปัง เส้นก๋วยเตีย๋ ว) เมื่อย่อยในร่างกายแลว้ ผลลัพธ์สุดท้าย ปลายทางก็คอื กลูโคส นัน่ ก็คอื น�ำ้ ตาลนัน่ เอง ฉันไม่สนใจทีเ่ ธอร่ายยาวยืด ฉันสนอย่างเดียวว่ากินแล ้วผอมไหม? การทาน Keto ช่วยให้ร่างกายเผาไขมัน แต่ไม่ได้แปลว่าจะผอมลง หากยัง กินไม่ยงั้ ทานแบบนี้ไม่ตอ้ งนับแคลอรี แต่สง่ิ ส�ำคัญคือ เมือ่ อิม่ แล ้วพอ... หลังจากทดลองใช้ชวี ติ อยู่บนโภชนาการโยคี (Ketogenic) สิง่ ทีด่ ี ที่สุดในการวัดพลังงานชีวติ นัน้ ก็คือวิถปี ระจ�ำวัน ไม่ว่าจะเป็ นการท�ำงาน ท�ำการได้อย่างสดชื่นแจ่มใส และการออกก�ำลังอย่างสนุ กสนานเรี่ยวแรง คงทน โดยไม่ตอ้ งคอยเติมสารอาหารพลังงานใดๆ ให้วุ่นวาย ปล่อยให้ ท้องว่างเพือ่ ฝึ กให้ร่างกายเก็บกินไขมันจนถึงขยะภายในมาใช้ประโยชน์ การทดสอบร่างกายแบบกึ่งท่องเทีย่ วจึงเกิดขึ้นในโปรเจ็คท์น้ ี นัน่ คือ ตัง้ ใจไว้นานแล ้วถึงเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ อันเป็ นเส้นทาง การเดินทางไกลทีต่ นเองนัน้ รักและผูกพัน สองริมทางกับเรื่องราวทีเ่ กื้อกูล หัวใจกันมาใกล ้ๆ จะ 30 ปี ขับรถยนต์นนั้ ว่าสนุกแล ้ว ขีม่ อเตอร์ไซค์บกิ ๊ ไบค์ สนุ กกว่ามาก แต่ถา้ ได้ปนั ่ จักรยานบนเส้นทางอันหลากหลายความรู ส้ กึ เส้นนี้ พาหนะสองสิง่ แรกนัน้ จะถูกลืมและบันทึกความทรงจ�ำดีๆ ทดแทน 14
b side
แบบเทียบไม่ได้ ผมวางเเผนคร่าวๆ ง่ายๆ รอไว้ หาเพียงวันทีเ่ หมาะสม ในการเริม่ เดินทาง ประจวบเหมาะกับเป็ นช่วงฤดูหนาวพอดี จึงท�ำให้การปัน่ ครัง้ นี้พถิ พี ถิ นั ในอารมณ์เท่าทวีข้นึ ก่ อนคืนเดินทาง ส�ำหรับโยคีนกั เดินทาง การนอนนัน้ ส�ำคัญแก่ พลัง ชี วิต ที่สุ ด เรื่ อ งกิ น นั้น ได้ฝึ ก กิ น เพีย งมื้อ ต่ อ วัน มาก่ อ นล่ ว งแล ว้ หลายเดือน ไม่มกี ารโหลดคาร์โบใดๆ หรือสารอาหาร เกลือแร่บำ� รุงก�ำลัง ฯลฯ แค่นอนให้ครบ 8 ชัว่ โมงเต็มอิม่ อัดชาร์จปัดกวาดร่างกายในเวลาพักผ่อน ให้เคลียร์กริบ๊ เป็ นพอ เช้าตี 5 ทุกการเดินทางการทีต่ ่นื เช้าอย่างสดใสนับเป็ นการเริ่มต้น ทีด่ ี สัมภาระมีนอ้ ยชิ้นกระเป๋ าติดจักรยานแค่สองใบย่อมๆ ชุดครบ หมวก, แว่นใสกันลม, ถุงมือ, เสื้อจักรยาน 3 ตัว, กางเกงจักรยาน 2 ตัว, เสื้อยืด กางเกงขาสัน้ ปกติอย่างละตัว, รองเท้าแตะ, สบู่, เเปรงสีฟนั , ยาสีฟนั , เครื่องมือซ่อม – ปะยาง, อะไหล่นิดหน่อย, ไฟท้าย-ไฟหน้า เผือ่ อาจฉุกเฉิน ต้องเดินทางยามวิกาล ขาดไม่ได้คอื ปมติดตัง้ พาวเวอร์แบงค์สำ� รองไฟไว้ท่ี เฟรมพร้อมชาร์จแก่โทรศัพท์และฮาร์ตเรทเสมอ แลว้ ก็เนยเค็มตลับเล็ก (ทีช่ อบใช้ในโรงแรม) 100 ตลับ และสีนำ�้ สมุดวาดรูปชนิดพกพา ทุกอย่าง บรรจุประกอบติดตัง้ ลงในจักรยาน ที่มผี ลท�ำให้นำ�้ หนักเพิ่มขึ้นมาทันที อีกเกือบ 10 กิโลกรัม การเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสจะมีหวั ใจ ทีต่ มุ๊ ๆ ต่อมๆ คอยเชียร์ให้แรงใจว่าไม่มอี ะไรต้องกังวล จักรยานทีล่ ้างเช็ค บ�ำรุงอย่างดีแน่นทัง้ คันขูค่ ำ� รามก้องพร้อมออกเดินทาง ผมขึ้นคร่อมจักรยาน ล ้อหมุนที่ 7 โมงกว่า เหมือนวันปกติทต่ี อ้ ง ออกก�ำลังกายยามเช้า มุ่งหน้าสู่ลำ� พูนจังหวัดแรก การมีกระเป๋ าสัมภาระ ไม่ได้หนักอย่างที่คิด กลับท�ำให้การกดตัวกับพื้นและแรงเฉื่อยพร้อมดัน ไปข้างหน้าดีข้นึ ฝนเย็นปรอยผ่านใบหน้าล�ำตัวให้เยือกเย็น ภาพสองข้างทาง
วันนี้สวยงดงามเป็ นพิเศษ เพราะมีเป้ าหมายใหม่ท่จี ะหีบห่อความทรงจ�ำ ก้อนนี้นำ� พาไปกรุงเทพฯ ด้วยประสบการณ์ทไ่ี ม่เคยรูจ้ กั มาเลย ผมพยายามให้เดินทางครัง้ นี้ไม่มกี ารรีบเร่ง ตัง้ ความรูส้ กึ ของตน ไว้กบั ปัจจุบนั เท่านัน้ ไม่คาดหวัง ไม่รอคอยใดๆ ปัน่ ควงขาไปเรื่อยๆ สู ดหายใจลึกๆ ด้วยจมูกทัง้ เข้าออก ไม่ใช้แว่นด�ำเคลือคลุมแสงอาทิตย์ โอสถพิเศษ ปล่อยให้แสงอาทิตย์ชำ� ระลา้ งพิษภายในกายและหลอดเลือด เเถมยังสามารถนวดดวงตาอันเป็ นมิตรแท้ แสงอาทิตย์นนั้ กลายเป็ นผูร้ า้ ย ไปตัง้ แต่เมือ่ ผูก้ อบโกยกินสินค้าโง่เขลาสร้างการตลาดบัดซบขึ้นมานัน่ แหละ สองข้างทางยามเช้าคลอประดับจักรยาน 3T Exproro รถหมอบ ลุยกรวด Gravel Bike รถ Aero ตัวแรกของโลกคันนี้ ทีข่ ส่ี นุก บรรทุกของ ก็ไม่ทำ� ให้การขีเ่ สียสมดุลใดๆ แม้นยามทีต่ อ้ งขึ้นเขาเนินชันต่างๆ เช่นด่านหิน ด่านแรก นัน่ คือไต่ให้ถงึ ยอดถ�ำ้ ขุนตาล ท้องว่างๆ ทีไ่ ร้หวิ เนื่องจากร่างกาย ย้ายโหมดเข้าไปใช้ไขมันเป็ นพลังงานหลักแล ้ว ไขมันเกินในตัวจึงกลับเป็ น พลังงานส�ำรองในที ยิง่ ปัน่ ยิง่ สดชื่นเนื่องจากพลังงานไขมันนัน้ ไม่มอี นุมลู อิสระตกค้างเหมือนเช่ นแป้ งและน�ำ้ ตาล อาจไม่ปรู ๊ดปร๊าดเหมือนการ โหลดคาร์โบ แต่เรือ่ งเรีย่ วแรงนัน้ ไม่มตี ก ไม่มมี ลพิษ กล ้ามเนื้อไม่มหี ย่อนยม ท้อถอย กลับสับควงได้เรื่อยๆ ราวกับขานัน้ เป็ นเครื่องจักรอย่างหนึ่ง ยอดถ�ำ้ ขุนตาลถึงปุ๊ บปั ๊บต่างกับเมือ่ ตอนหน้าร้อนสมัยเมือ่ ยังโหลด คาร์โบ ซึ่งจะเทียบกันคงไม่ยุติธรรมเท่าที่ควร เนื่องด้วยอุณหภูมทิ ่ตี ่าง แถมเวลานัน้ ก็ใช้จกั รยานเสือภูเขาปัน่ ไม่ตอ้ งคอนเส็ปท์การเดินทางไกล ความรูส้ กึ อิม่ เอมท่วมท้นสดชืน่ ผลิตเกิดออกมาเรือ่ ยๆ เสียงลมหึง่ ๆ ผสมกับ เพลงที่เปิ ดในหูฟงั ท�ำให้การเคลือ่ นตัวไปข้างหน้านัน้ ยิ่งดู มคี วามหมาย มากขึ้น ชีวติ กลางแจ้งขนาบสองข้างทางที่เป็ นธรรมชาติ อยู่กบั ตนเอง เพียงล�ำพัง ฟังเสียงร่ างกาย จิตใจ สายตาที่เพ่งไปข้างหน้าอย่างมุ่งมัน่ การเดินทางคือรากเหง ้าและความหมายของสิง่ มีชวี ติ การปัน่ อย่างเพลิดเพลินใจผ่านมาถึงล�ำปาง แวะกินอาหารเพียงมื้อ ณ ร้านอาหารเหลาไทยจีนทีอ่ ร่อยมาก เย็นย�ำ่ วันแรกของการปัน่ ก็หยุดพัก ที่เถิน เนื่องจากพบห้องพักราคาถูกพอดีๆ แถมไม่ควรเสี่ยงให้ตนเอง ต้องปัน่ จักรยานเดินทางในเวลากลางคืน จึงหยุ ดไว้เป็ นระยะทัง้ สิ้นที่ 180 กิโลเมตร อย่างไม่มคี วามบอบช�ำ้ ใดๆ ทัง้ สิ้น ห้องพักน่ากลัวนิดหน่อย ตรงหลังบ้านชนภูเขาและไม่มมี า่ น (ฮา) ผมตื่นเช่นปกติในเวลาก่อน 6 โมงเช้า ทดลองวาดรูปนิดหน่อยซึง่ ก็ พบว่าไม่ใช่เรื่อง จึงหยุดไว้แลว้ ออกมาเดินสูดอากาศนอกห้องซึง่ หนาวจัด จนตกใจ วันนี้กเ็ ช่นเคยกับท้องทีว่ า่ งแต่พร้อมจะปัน่ หาอาหารกินเบื้องหน้า ในเวลาเดิม นัน่ คือก่อนเทีย่ งนิดหน่อย เช้าต่างถิน่ กับโลกใบเล็กๆ ของตน ทีม่ เี พียงจักรยานกับสมบัตนิ อ้ ยชิ้น แสดงให้เห็นและพบว่าชีวติ อันไม่มภี าระ และห่วงนัน้ คือความผาสุขชนิดหนึ่ง เป้ าหมายต่อไปทีเ่ ริ่มวางเเผนไว้คร่าวๆ นัน่ คือไปให้ถึงจังหวัดตาก ทุกอย่างขับเคลื่อนตัวไปข้างหน้า คลอกับ ความอบอุ่น ของแสงอาทิต ย์ท่ีป ดั ไล่ค วามหนาวเหน็ บ จัด สลัด หายไป เป็ นอย่างดี เรียกความสดชื่นของเช้าที่สองนี้ให้สดชื่นมากขึ้นเป็ นพิเศษ ภาพเบื้องหน้าที่ม่งุ เข้ามาหาดวงตาช้าๆ ด้วยชักน�ำของความเร็วจักรยาน ท�ำให้เกิดความคิดทบทวนต่ างๆ ทัง้ เรื่องปัจจุบนั อดีต จนถึงอนาคต อีกหลายๆ เรื่องที่ยงั มาไม่ถงึ และไม่รู ้ สมองแจ่มใสปลอดโปร่ง ท�ำงาน ทัง้ คอยควบคุมให้เกิดสติระมัดระวังมองกระจกหลังเสมอๆ เรื่องบางเรื่อง เข้ามาตัง้ ่ ค�ำถาม น�ำทางประเด็นชีวติ ใหม่ๆ ความสุขใจทีไ่ ด้อยู่กบั ตนเอง บนอานจักรยานบางๆ ชิ้นนี้ เพิม่ อรรถรสให้แก่การเดินทางยิง่ ๆ ขึ้นอีก
หลังจากแวะกินอาหารง่ายๆ ในปั ๊มน�ำ้ มันที่นบั เป็ นต้นทางของ จังหวัดตากเสร็จสิ้น ออกปัน่ ได้อกี สักพักก็เหลือบไปเห็นป้ าย ‘เขือ่ นภูมพิ ล’ ความลังเลบังเกิด พยายามบอกตนเองว่าจะไม่เสียดายเชียวหรือถ้ามองข้าม สิง่ นี้และรีบบึง่ ตรงไปตามเป้ ามหมายแรกเพียงอย่างเดียว จึงแวะจอดข้างทาง ถามไถ่ถงึ ระยะทางถึงตัวเขือ่ นว่าไกลแค่ไหน ได้คำ� ตอบว่าเกือบ 20 กิโลเมตร ฟังแลว้ ถอดใจ คงเดินทางต่อไปเก็บแรงไว้ดกี ว่า แต่สุดท้ายแลว้ ขาแขน ก็วกจักรยานวนกลับทีย่ ูเทิรน์ แล ้วก็มงุ่ หน้าเข้าเขือ่ นแต่โดยดี เส้นทางจากถนนใหญ่เข้าตัวเขือ่ น สองข้างทางสวยงามเป็ นพิเศษ มีทศั นียภาพคลา้ ยรูปเขียน ช่วยให้รูส้ กึ ได้วา่ การตัดสินใจแวะครัง้ นี้ไม่ผดิ แน่นอน และเมือ่ เข้ามาถึงในเขือ่ น กับบรรยากาศทีจ่ ดั สรรตกแต่งจนเป็ น สถานทีท่ ่องเทีย่ วทีส่ วยงามอีกแห่งของจังหวัดตาก ท�ำให้ตวั ผมรูส้ กึ ฮึกเหิม ปัน่ ขึ้นปลายเขือ่ นก่อนจะหาทีพ่ กั อย่างเมามัน ถีบกดไต่เนินอย่างมิเกรงกลัว ความเมือ่ ยล ้าใดๆ เมือ่ ถึงเป้ าหมายก็นงั ่ เสพทุกสิง่ ทีต่ ามองเห็น ได้ใคร่คววญ คิดเรื่องราวต่างๆ ด้วยความสงบนิ่ง ดัง่ ผืนสายน�ำ้ ประกายวิบวับที่อยู่ใน เขือ่ นภูมพิ ลอันกว้างใหญ่ คืนนี้ผมตัดสินใจพักในเขือ่ นภูมพิ ล ถึงจะมีราคาค่าทีพ่ กั สูงหน่อย แต่ความพิเศษสุดทีไ่ ด้รบั จึงยอมจ่ายได้อย่างยินดี ค�ำ่ คืนนี้อาบน�ำ้ อาบท่า ให้สดชื่น เปิ ดทีวี ซักเสื้อผ้าชุดทีใ่ ส่ปนั ่ ตากไว้หน้าเเอร์ พร้อมเตียงนุ่มสบาย คลายกล ้ามเนื้อราวกับถูกนวดเฟ้ น การเป็ นนักเดินทางเปิ ดโลกกว้างให้แก่ ผู ้ทีไ่ ม่ค่อยมีประสบการณ์ทอ่ี าศัยหมกตัวอยูแ่ ต่ในโลกแคบๆ ให้หูตาสว่างขึ้น จัง หวัด ต่ อ มา ก�ำ เเพงเพชร อัน เป็ น จัง หวัด แห่ ง ความทรงจ�ำ ในความว่างเปล่า คิดออกแต่มกี ระยาสารทกับกล ้วยไข่ทข่ี ายริมทาง และใน ความคิดโหวงๆ ที่นึกว่าเมืองนี้มเี พียงอะไรเท่านี้ซ่งึ ผิดถนัด โดยเฉพาะ โบราณสถานของก�ำเเพงเพชรนัน้ สร้างพลังพิเศษและมีแง่คิดจิตวิญญาณ มากมายให้แก่ตนเอง ร่มเงา ซากปรักหักพัง องค์พระทีแ่ ผ่นปูนแหว่งวิน่ แตกหักผ่านกาลเวลามาเเสนเนิ่นนาน กับอีกสิง่ ทีพ่ บเห็น นัน่ คือเรายืนอยู่ ในจุดของความเจริญครบครันในตัวเมืองทีเ่ ท่าๆ กัน ในโมเดลเดียวกันแบบ โคลนนิ่งเป๊ ะ! ได้เข้าทีพ่ กั ก็เกือบ 5 โมงเย็น สถานทีอ่ ยู่หลังห้างสะดวกซื้อ ป้ ายเขียวอักษรเเดง เเถมน่าจะปรับปรุงจากโรงแรมม่านรูดเก่าอย่างแน่นอน ชีวติ หลังปัน่ คือเพียงพักผ่อนเท่านัน้ อาจมีพเิ ศษบ้างเป็ นอาหาร นิดหน่ อย ในวันที่เสียงร่ างกายเรียกร้องตามสภาวะสิ่งแวดลอ้ มนัน้ ๆ ส่วนเช้าก็เช่นเดิม ออกปัน่ แบบท้องว่าง ฝึ กร่างกายให้เรียกไขมันส่วนเกิน หลายๆ ส่วนหยิบขึ้นมาใช้เป็ นพลังงาน ท�ำให้ปนั ่ อึด ปัน่ ทน ไม่หมองหม่น หมดเรี่ยวแรง และทีเ่ ข้าใจในขณะนัน้ ก็คอื เพราะนี่ยงั เพิง่ แค่วนั ที่ 2 – 3 เท่านัน้ กระมัง เรี่ยวแรงจึงยังหลงเหลือไม่หมดไป ภาษายุคสมัยกล่าวขานเรื่องราวเหล่านี้ไว้วา่ ฟิ น! (อ่านต่อฉบับหน้า) 15
b side
Run
From Runner TO ORGANIZER จ า ก นั ก วิ่ ง สู่ ผู้ จั ด เรื่อง / ภาพ : อาเหลียง
ผมคิดว่า นักวิ่งที่เคยสัมผัสงานวิ่งมาสักระยะหนึ่งแล้ว ต้องมี ความคิดอยู่ ในใจกันบ้างล่ะว่า “ท�ำไมงานนี้ไม่มีอย่างนี้ ท�ำไมงานนี้ไม่มีอย่างนั้น” “ท�ำไมงานนี้อาหารน้อยจัง” “ท�ำไมงานนี้ไม่มแี บบงานนัน้ มัง่ ล่ะ ไม่มแี จกของเหมือนงานนีม้ งั่ ล่ะ” “ค่าสมัครแพงจัง” “จัดได้ไม่สมราคาเลย” แล้วก็จะจบลงที่ว่า “ผู้จัดท�ำไมแค่นี้ท�ำไม่ได้ ?” หรือ “ถ้าฉันท�ำเอง ยังจะดีมากกว่านี้ซะอีก” คุณรู้ ไหมครับ จากนักวิ่งตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่ ได้เก่งกาจอะไร แค่ชอบและหลงใหลในวิถขี องการวิง่ และไม่เคยคิดว่าสักวันจะต้องลงมา ท�ำเองทั้งหมดนี้ ก็เคยมีค�ำถามเหล่านี้เหมือนกัน แต่ส�ำหรับผมนั้น ค�ำตอบมันมาเร็วไปนิดนึงเท่านั้นเอง
16
b side
ความคิดแรกของผมเลยคือ “ค�ำว่ามินิมนั หายไปไหนวะ ท�ำไมเหลือแต่มาราธอน” ด้วยความทีผ่ มจะไม่มคี วามมันใจเลย ่ ถ้าไม่เคยผ่านเหตุการณ์ อะไรมาก่อนแล ้วต้องมาท�ำสิง่ สิง่ นัน้ ตอนนัน้ ผมยังไม่เคยวิง่ มาราธอน มาก่อน และยังไม่คิดจะวิง่ มาราธอนในหัวเลย มันเป็ นเรื่องใหม่มาก ส�ำหรับผม ไกลตัวสุดๆ ผมเริ่มวิตกกังวล และลองถามไปเล่นๆ ว่า “คราวทีแ่ ล ้วยังเป็ นมินิมาราธอนอยู่เลยไม่ใช่เหรอครับ?” “เราท�ำทัง้ ที ท�ำให้ใหญ่ๆ ไปเลยครับ” ค�ำตอบทีด่ ูฟงั แลว้ ตลกจากในวงประชุมพร้อมกับเสียงหัวเราะ มันดูผ่อนคลาย แต่สำ� หรับผม มันเริ่มก่อตัวเป็ นความเครียด ผมจึงต้องเริม่ ค้นคว้าหาความหมายของค�ำว่ามาราธอน และเริม่ ท�ำความรูจ้ กั กับมัน ค�ำว่ามาราธอน มันไม่ได้หมายความว่า แค่ฉนั ต้องวิง่ ไปให้ถงึ ระยะ 42.195 กิโลเมตรเท่านัน้ แต่ มนั มีความหมายมากกว่านัน้ กว่าคุณจะไปถึงระยะนัน้ ได้ คุณต้องอาศัยการฝึ กซ้อม ต้องอาศัยวินยั และความพยายามอย่างมาก มันไม่งา่ ยเลยทีเ่ ราจะตื่นขึ้นมา และไป วิง่ มาราธอนได้อย่างยิ้มแย้มแจ่มใส ผมเริ่มเข้าสู่การซ้อมวิง่ มาราธอนอย่างรวบรัด เรื่องราวเริ่มต้น ประมาณเดือนมิถุนายน และผมตัง้ เป้ าไว้ว่าจะไปมาราธอนในงาน กรุงเทพมาราธอน 2015 ให้ได้ ซึ่งเท่ากับว่ามีเวลาซ้อมเพียงไม่ถงึ 5 เดือนเท่านัน้ เพือ่ ทีจ่ ะได้เข้าใจค�ำว่ามาราธอนให้ลกึ ซึ้งกว่าเดิม ระหว่างซ้อม ด้วยความที่เราเคร่งเครียดเกินไป จึงท�ำให้เกิด อาการบาดเจ็บขึ้นบ้าง ตรงนี้ทำ� ให้เราเรียนรูค้ ำ� ว่ามาราธอนเข้าไปอีก จนกระทัง่ ได้ลองวิง่ มาราธอนเข้าจริงๆ งานแรกทีบ่ งึ บอระเพ็ด จังหวัด นครสวรรค์ แบบงงๆ เพราะโดนกล่อม (ภาษานักวิง่ เรียกว่าป้ ายยา) จากจ�ำนวนคนวิง่ ในรุ่น แลว้ ดันฟลุคติดถ้วย ท�ำให้ได้เรียนรูก้ ารรับ ถ้วยรางวัลมาแบบฟลุคๆ อีกต่างหาก จนกระทัง่ ไปจบมาราธอนแรก จริงๆ จังๆ ทีก่ รุงเทพมาราธอนแบบไม่เจ็บ แต่หน้ามืดไปนิด ทัง้ หมดนี้ ก็เพือ่ ให้เข้าใจความหมายของเลข 42.195 จริงๆ ว่าแต่ละช่วงเกิดอะไร ขึ้นบ้าง ตามประสาผม คือถ้าไม่อนิ มันจะไม่เข้าใจ
ตัง้ แต่ผมเข้าวงการวิง่ มาได้ไม่ถงึ ปี เรียกว่าเสพติดอย่างรุนแรง เลยเถอะ อาทิตย์ไหนมีงานวิง่ อาทิตย์นนั้ ก็ไปมันซะ เป็ นแบบนี้แทบทุก อาทิตย์ บางครัง้ งานในเชียงใหม่ไม่มี ก็ถ่อไปวิ่งถึงกรุงเทพฯ ก็มี แต่กไ็ ม่ตดิ ใจเท่างานจังหวัดบ้านเรา เพราะมันง่าย ไปไหนมาไหนก็งา่ ย วิ่งได้แบบไม่รูจ้ กั เบื่อเลย มันสนุ ก เหมือนได้มาหลัง่ อะดรีนาลีน อย่างเต็มที่ตลอดการวิง่ 10 กิโล 20 กิโล หรือแม้กระทัง่ การซ้อม ของเราเองก็เถอะ แต่วง่ิ ในสนามจริงก็สนุกกว่าเสมออยู่แล ้ว แต่ อยู่ มาวันหนึ่ง ผมได้รบั เกียรติจากสมาคมนักศึ กษาเก่ า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทีใ่ ห้ผมเข้าไปประชุม หารือถึงกิจกรรมทีจ่ ะท�ำในปี หน้า ซึง่ ตอนนัน้ ทางสมาคมมีความคิด จะจัดงานวิง่ แต่อยากให้เกียรติเป็ นในนามของมหาวิทยาลัย เลยคิดว่า จะจัดงานมินมิ าราธอนสักงานหนึ่ง ส่วนผมก็ดใี จมาก ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ให้ช่วยงานนี้ เพราะผมเองแม้จะหน้าใหม่ แต่กช็ อบวิง่ มินมิ าราธอนมาก จ�ำได้วา่ ตอนนัน้ วิง่ มาไม่ตำ� ่ กว่า 10 งานแลว้ อีกอย่างผมเป็ นคนชอบ เสพบรรยากาศ ชอบจดจ�ำรายละเอียดต่างๆ ในงาน ท�ำให้ผมมัน่ ใจ พอตัวเลยว่า ถ้าเป็ นงานมินิมาราธอน คงจะท�ำได้โดยไม่ยากเท่าไหร่ แต่บางเรื่องราวก็ชอบเล่นตลกกับเราเสมอ ในการประชุมครัง้ ต่อมา ผมท�ำรายละเอียดเส้นทางการแข่งขัน แนวทางการออกแบบเหรียญ เสื้อ รวมไปถึงของที่น่าจะจัดเตรียม ส�ำหรับท�ำงานวิง่ ทัง้ หมดมาเสนอ แต่ในวันนัน้ ทางทีป่ ระชุมบอกว่า “เราจะจัดงานมาราธอนของมหาวิทยาลัยขึ้นมาครับ ขอความ ร่วมมือจากทุกๆ คนด้วยนะครับ” 17
b side
นอกจากนี้ ผมยังต้องไปโปรโมทงานวิ่งที่สมาคมจะจัดขึ้น ตามต่ า งจัง หวัด ด้ว ยตัว เอง ผมเคยไปโปรโมทงานด้ว ยโบรชัว ร์ (สมัย นัน้ ) เพราะคิด ว่า น่ า จะเป็ น การโปรโมทงานที่ดีท่ีสุ ด จากที่ เคยเห็นมา คือท�ำโบรชัวร์กระดาษและตามด้วยใบสมัครหลังโบรชัวร์ นัน่ ไง! ตามสเต็ปเป๊ ะเลย แค่ทำ� ให้สสี วยกว่า ใช้กระดาษดีกว่าก็เริ่ดละ นครสวรรค์ ล�ำพูน เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ไปหมด!! เอาให้ทัวถ้ามี ่ แรงไหว คือแวะไปท�ำธุระทีไ่ หน ก็จะถือโอกาสหยิบเสื้อวิง่ ตัวอย่างของงานไปวิง่ ตามงานต่างๆ ด้วย แน่นอนว่าไม่มใี ครรูจ้ กั งานเราหรอก งานหน้าใหม่ แค่เริ่มให้คนสังเกตได้กย็ งั ดี หลังจากคนเริ่มรู จ้ กั งานของเราแลว้ ก็เริ่มมาดู รายละเอียด ของงานต่ออีก ผมคิดว่างานวิง่ ทีด่ ี เหรียญต้องสวย แต่มนั ติดปัญหา ตรงค�ำว่าสวยนี่แหละ ใครจะเป็ นคนนิยาม ผมคิดว่าตัวเองเป็ นคนที่ มีเซนส์ดา้ นการออกแบบในระดับหนึ่ง แต่กอ็ ย่างว่า เอาวิศวกรโยธามา ท�ำงานออกแบบ ก็เหมือนเอาลิงมาวาดรูปให้ดู สุดท้าย ก็ตอ้ งหาคน ทีพ่ อจะมีเซนส์ออกแบบมาท�ำ เหรียญเลยออกมาเป็ นรูปช้าง น่ารักมุงมิ ้ ้ง พอไปวัดไปวาได้ แต่ท่ผี มพลาดก็คือ ไม่ได้ระวังในเรื่องการดูแบบ ทีจ่ ะท�ำออกมา ท�ำให้แบบออกมาไม่ได้อย่างทีค่ ดิ ไว้ กว่าจะรูต้ วั ก็ทำ� ไป หลายร้อยชิ้นแล ้ว นี่กเ็ ป็ นบทเรียนทีด่ ขี องผมอีกอันหนึ่งเลย นอกจากเรื่องการออกแบบเตรียมของแล ้ว การท�ำราคาของงาน ออกมาให้อ ยู่ ใ นเกณฑ์ท่ีร บั ได้ก็ เ ป็ น อีก ปัญ หาที่ต อ้ งถกเถีย งกัน เพราะนอกจากจะมีการสังของแบบระบบฉั ่ นรูจ้ กั คือประมาณว่าฉันรูจ้ กั เจ้านี้ ให้เจ้านี้ทำ � ฉันรูจ้ กั เจ้านัน้ ให้เจ้านัน้ ท�ำ เราก็ตอ้ งมาตามเรื่องต่อ อีกว่า ของทีส่ งั ่ ๆ ไปจะได้คุณภาพตามทีค่ ดิ กันมัย้ นี่ก็เป็ นอีกปัญหา ของการทีม่ หี ลายคนหลายไอเดีย เป็ นต้น เป็ นอะไรทีผ่ มไม่เคยคิดว่า ชีวติ วิศวกรเงินเดือนธรรมดาๆ จะต้องมาเจอ งานที่เราวิ่งกันง่ายๆ สบายๆ แต่พอมาท�ำเองแล ้ว มันมีอะไรเยอะมาก ถ้าจะให้พูดถึงการเตรียมงาน ผมคงพูดได้อกี เป็ นวันๆ แต่ถา้ ยาวกว่านี้ กลัวคอลัมน์จะยาวเกินไป ผมขอตัดภาพมาทีว่ นั งานบ้างดีกว่า วันรับเบอร์ว่งิ โชคดีท่ีทางอาจารย์ได้จดั หาคนมาช่ วยตรงนี้ หานักศึกษามาช่ วยงาน เตรียมของแจกให้นกั วิ่ง ทีแรกก็ทุลกั ทุเล
นิดหน่อย แต่กส็ ามารถหาแนวทางและกลับมาได้ ซุมปล่ ้ อยตัวก็ตอ้ งจัด ดีไซน์ซุม้ ก็ตอ้ งท�ำ ไหนจะติดตัง้ นาฬกิ าบ้างล่ะ ระบบชิปจับเวลาบ้างล่ะ ไหนการแจกเหรียญ จะขนของมาแจกยังไง เสื้อฟิ นิชเชอร์จะแจกยังไง ทัง้ หมดนี้คือค�ำถามทีเ่ ราต้องหาค�ำตอบด้วยตัวเอง จากประสบการณ์ ทีส่ งสมมา ั่ บวกกับอินเนอร์ของเราทีบ่ วิ ท์กนั มาหลายเดือน แน่นอนว่า ทัง้ หมดนี้ทำ� คนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่มอี าจารย์และบรรดาลูกช้าง มช. รวมถึง ศิ ษย์เก่ าที่ทุ่มเทเอาใจใส่ทุกคน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาราธอน ครัง้ ที่ 1 ก็คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ ทุกคนร่วมแรงร่วมใจท�ำด้วยจุดประสงค์ เดียวกัน คือเพือ่ มหาวิทยาลัย เป้ าทุกคนเลยตรงดิง่ ไปทางเดียวกันหมด ท�ำให้การท�ำงานค่อนข้างราบรื่นไปในทิศทางทีด่ ี และในคืนก่ อนวันแข่งขัน นับเป็ นคืนที่หนักที่สุดส�ำหรับผม ไม่ใช่งานเยอะหรอก แต่แค่กงั วลทีส่ ุดต่างหาก เทีย่ งคืน ผมยังไม่ได้กลับจากศาลาอ่างแก้ว เพราะเคลียร์จดุ รับ ลงทะเบีย นเป็ น จุด ฝากของแทน ผมแว้บ กลับ ไปอาบน�ำ้ แป๊ บนึ ง ก่อนกลับมาถึงทีเ่ ดิมเวลาประมาณตีสองเพือ่ ดูสถานการณ์ต่อ อาจารย์ หลายท่านก็ไม่ได้นอนเช่นกัน ต่างมาเช็คจุดต่างๆ เช่นจุดเช็คพอยต์บ ้าง เส้น ทางบ้า ง นัก วิ่ง ที่ก�ำ ลัง มารอวิ่ง บ้า ง ผมเองก็ เ ป็ น หนึ่ ง ในนัน้ คอยสังเกตการณ์ตลอด จากลานทีไ่ ม่มคี น จนนักวิง่ ฟูลมาราธอนมาอัด กันเต็มทางวิง่ รวมไปถึงเพเซอร์ทล่ี นกั ุ ้ นว่าลูกโป่ งทีส่ งไว้ ั ่ จะมาทันเวลา หรือเปล่า ณ วินาที ทีเ่ วลานับถอยหลัง ใจผมเต้นรัวยิง่ กว่ารัวกลองชุด ณ เวลาทีเ่ สียงแตรลมดังขึ้น นักวิง่ คนแรกวิง่ ออกไป จนกระทัง่ คนสุดท้ายวิง่ ออกไปตาม ผมเองก็วง่ิ ตามเขาไปด้วยเช่นกัน ไม่รูว้ ่า เพราะอะไร หรืออาจด้วยความเป็ นห่วง ผมวิ่งตามไปถึงหน้า มช. ดูนกั วิง่ ที่วง่ิ ขึ้นไปกลับตัวที่ลานครูบาศรีวชิ ยั ก่อนจะลงมาหน้า มช. อีกครัง้ ด้วยความกังวล “ทางทีเ่ ราคิดไว้มนั จะดีมยั้ นะ?” “จุดให้นำ�้ ครบมัย้ นะ?” “เขาจะรูส้ กึ ยังไงนะ?” “เขาจะกลับมาถึงเส้นชัยมัย้ นะ?” ความคิดเรือ่ งเปื่ อยมันถาโถมมาเรือ่ ยๆ ทัง้ ๆ ทีห่ ลายๆ อย่างทีค่ ดิ 18
b side
มันก็เป็ นเรื่องทีแ่ พลนไว้หมดแล ้ว อันทีจ่ ริงก็ไม่น่าจะกังวลอะไรเลย การปล่อยตัวของรุ่นฮาล์ฟมาราธอนก็เริ่มต้นด้วยความกังวล เช่ น เดีย วกับ ฟู ล มาราธอน ค�ำ ถามเดีย วกัน มัน ก็ ว นซ�ำ้ กลับ มาอีก แต่ทงั้ หมดนัน้ มันก็เริ่มดีข้ นึ เมื่อนักวิ่งฟูลมาราธอนคนแรกกลับมา ถึงเส้นชัยด้วยเวลา 2:45 ชัว่ โมง ท�ำให้หลายๆ ค�ำถามในหัวของผม มันจางลงไป กลายเป็ นความโล่งใจเข้ามาแทน นักวิง่ คนแล ้วคนเล่า วิง่ เข้าซุม้ เส้นชัย นักวิง่ มินิทอ่ี อกจากจุดปล่อยตัวอีกจุด ก็เริ่มวิง่ ออกไป แลว้ ก็ ทยอยกลับมาทีเ่ ดิมอีกที ความโล่งใจก็เริ่มพูนขึ้นในใจแทนความกังวล ประกอบกับ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ผมมองเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งตอนที่เห็น เพือ่ นๆ ทีบ่ อกว่าจะมาจบมาราธอนแรกทีน่ ่ี แล ้ววิง่ เข้าเส้นชัยนี่นะ น�ำ้ ตา แทบจะไหล ความสุขมันก็เริ่มเติบโตในหัวใจ จนหัวใจมันพองโต จังหวะนัน้ ผมลืมความเหนื่อยทัง้ หมดไป จากที่เคยเสพความสนุ ก ในสนาม ผมเริ่มเข้าใจความรู ส้ ึกของคนที่อยู่ หลังเส้นชัยบ้างแลว้ ผมได้ท้งิ ความกังวลทัง้ หลายออกไป แล ้วไปท�ำหน้าทีแ่ จกเหรียญให้กบั ผูเ้ ข้าเส้นชัยแทน และเริ่มสนุกกับนักวิง่ ทุกคนทีว่ ง่ิ เข้าเส้นชัยมา ภาพทีผ่ มเห็นคือ นักวิง่ และรอยยิ้มส�ำหรับความส�ำเร็จของเขา ภาพในวันเก่าๆ ตอนทีผ่ มยังเป็ นนักวิง่ กะโปโล มันก็ผดุ เข้ามา ถ้าวันนัน้ ผมไม่เริ่มวิง่ ถ้าวันนัน้ ผมไม่รูจ้ กั พีๆ่ น้องๆ ทีช่ อบวิง่ และถ้าวันนัน้ ผมท้อ ผมก็คงไม่ได้มาเสพความสุขตรงนี้ การจัดงานวิง่ ทีจ่ ริงมันเหนื่อยมาก เหนื่อยกว่าวิง่ เองไม่รูก้ ส่ี บิ เท่า คนวิง่ มาราธอนอาจจะวิง่ เพียงแค่ 3 - 7 ชัว่ โมง แต่การจัดงานวิง่ ต้อง อาศัยการเตรียมการเป็ นเดือนๆ และมันจะดีมาก ถ้าคนจัดเป็ นนักวิง่ ทีม่ องเห็นปัญหาของนักวิง่ ด้วยกันเอง ทัง้ หมดนัน้ เป็ นครัง้ แรก ที่ผมได้ลงมาจัดงานวิ่งด้วยตัวเอง ทุกวันนี้ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า CMU Marathon สามารถยืนได้ ด้วยตัวเองแลว้ แต่ทงั้ นี้ ตัวงานเองก็ยงั คงความเป็ นกันเองเสมือน วัน แรกที่เ ราเจอกัน ไว้ เพราะงานนี้ ค งมีว นั นี้ ไ ม่ไ ด้ถ า้ ไม่ไ ด้ทุก คน สนับสนุน ทุกปัญหาทีเ่ คยมีการพูดถึง ก็จะพยายามแก้ไขให้ได้ดที ส่ี ุด ตราบเท่าทีผ่ มยังพอมีแรงท�ำไหว ตอนที่ HIP ฉบับนี้ออก ก็คงจะใกลเ้ วลาของงาน CMU Marathon ครัง้ ที่ 3 แล ้ว ทุกท่านทีไ่ ด้อ่านคอลัมน์น้ ี คงได้รบั รูท้ ม่ี า ของงาน ว่ากว่าจะมาเป็ นวันนี้ได้ มันผ่านอะไรกันมาบ้างกว่าจะออกมา เป็ น CMU Marathon อย่างทีเ่ ห็นในทุกวันนี้ หวังว่าทุกท่านคงเข้าใจ การท�ำงาน การทุม่ เทของคณะกรรมการและทีมงานทุกท่าน หากตัวงาน มีขอ้ บกพร่องประการใด ผมขอเป็ นตัวแทนของงาน กราบขออภัย มา ณ ที่น้ ีดว้ ยนะครับ และขอขอบคุณทุกท่านที่มางาน หรือนึกถึง CMU Marathon นะครับ
Little Facts About CMU 1st Marathon
- งานปีแรก ที่ต้องเอาปีนั้น เพราะว่า 14 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันอาทิตย์พอดี แล้วอยากจะใช้ธีม Winter Love Run กัน - CMU Marathon เป็นงานแรกที่มีซุ้มปล่อยตัว 2 ซุ้มติดกัน - เป็นงานที่มีอาหารกินหลังงานมากกว่าแคลอรีที่ ใช้วิ่งไป - แอดมินที่ตอบเพจ กับเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ ในเพจเป็นคนเดียวกัน - และใช้เบอร์นั้นมา 3 ปีแล้วด้วย! - เหรียญปีแรกตั้งใจจะเอาสายผ้า แต่ได้สายริบบิ้น เสียค่าท�ำสายเพิ่มแบบไม่ได้อย่างที่อยากได้ - ใจจริงอยากให้วิ่งขึ้นดอยสุเทพแล้วลงมา แต่คงจะโดนด่ามากกว่าโดนชม - วันก่อนแข่ง 1 วัน มีรถมาชนซุ้มปล่อยตัวมินิพังยับเลย แต่ซ่อมเสร็จก่อนฟ้าสาง ทุกคนเลยไม่เห็นซากซุ้มมินิ - เป็นงานที่ไม่มีการรับหน้างาน แต่ปีแรกมีคนมาตั้งเต๊นท์รอหน้างานเพื่อซื้อบัตร! - และปีแรก มีลานกางเต๊นท์ส�ำหรับ 100 ที่ แต่มีคนมานอนเต๊นท์เดียว เลยไม่ได้ท�ำอีก - ต�ำนานแตงโมไร้เมล็ด มันมีที่มา เนื่องจากแตงโม ของกิโลเมตรที่ 30 กว่าๆ หมด อาจารย์เลยให้เด็กไปซื้อที่ตลาด แล้วเด็กไปซื้อแตงโมแบบที่แม่ค้า แกะเมล็ดมาแล้ว ท�ำให้นักวิ่งจ�ำเรื่องนี้แล้วเอาไปบอกต่อๆ กัน ว่าแตงโมที่นี่ไม่มีเมล็ด ท�ำให้ปีต่อๆ มา อาจารย์ต้องให้นักศึกษาาคว้านเมล็ดแตงโมแทน!
19
b side
Travel
Ha Noi In My Memory 2 วั น 1 คื น ใ น ฮ า น อ ย เรื่อง / ภาพ : ศมนภรณ์
เวลามีเท่านี้ ก็เที่ยวแค่นี้แหละ ทริปเวียดนามครั้งนี้เราเจาะจงเมืองซาปาทางตอนเหนือมากกว่า ท�ำให้เรามีเวลาอยู่ฮานอย ก่อนไปซาปา 1 วัน 1 คืน และหลังจากเทีย่ วซาปาเสร็จ เราก็กลับเข้าฮานอยอีก 1 วันเพือ่ รอต่อเครือ่ งกลับไทย แต่มนั ก็ไม่ใช่เรือ่ งใหญ่ เรือ่ งโต การมีเวลาทีจ่ ำ� กัดท�ำให้เราสามารถจัดการหรือตัดสินใจอะไรได้งา่ ยกว่าเดิม ว่าจะไปเทีย่ วหรือเก็บแลนด์มาร์คไหนให้ชวั ร์ๆ และอันไหนไปไม่ได้ชวั ร์ๆ ง่ายดีมยั้ 555+
ถ้าใครได้อ่านฉบับทีแ่ ลว้ ทีเ่ ราพาไปเทีย่ วซาปาและไปเดินขึ้น ยอดเขาฟานสิปนั จะเห็นได้วา่ เราไม่ค่อยได้พดู ถึงรายละเอียดในฮานอย ชัดเจนเท่าไหร่ เอาจริงๆ คือทีน่ ่เี ป็ นจุดหมายปลายทางของนักเดินทาง สาย Backpack เลยล่ะ พอๆ กับกรุงเทพฯ มีสนามบิน Nội Bài (โหน่ยบ่าย) ทีใ่ หญ่และค่อนข้างดีทเี ดียว รองรับนักท่องเทีย่ วได้มากโข หลังจากปวดหัวกับการซื้อซิมมือถือที่สนามบินว่าจะเลือกค่ายไหนดี เราก็เลยคิดกันว่าก็ซ้อื กันคนละค่ายเลยดีไหม เผือ่ ของใครแป๊ กก็ยงั มี ของอีกคนส�ำรองแชร์ๆ กันไป ซิมเน็ตไม่แพงมาก เน้นอัพรูปเล่นโซเชียล ก็ถอื ว่าคุม้ ค่าเลยแหละ รถบัสสาธารณะ No.86 เข้าเมืองราคาไม่แพง 30,000 เอง (หน่วยเป็ นดองนะ) ทริปนี้รวยเละเป็ นเศรษฐีกระเป๋ าตุง ทุกคน ทริปนี้เราเป็ นน้องเล็กสุดในทริป เราก็เลยอาสาทีจ่ ะหาและจอง ที่พกั ให้ทุกคนเอง ออกแนวบังคับว่าทุกคนต้องนอนที่ท่เี ราเลือกนะ เว็บเลือกทีพ่ กั เจ้าประจ�ำทีใ่ ช้ก็คือ Booking.com ค่อนข้างจะเชื่อใจ คะแนนและรีววิ ของเว็บนี้ในระดับหนึ่ง ถ้าที่ไหนดู แลว้ ไม่ชวั ร์ก็เข้า TripAdvisor.com อ่านรีววิ รีเช็คอีกทีเพือ่ ความปลอดภัย ส่วนใครจะใช้ Agoda, Hotels, Hostel World หรือ Airbnb ก็แลว้ แต่สะดวก 20
b side
หลายๆ คนที่เพิ่งจะเริ่มเที่ยวแนะน�ำเลยว่าจองผ่านเว็บพวกนี้ดีกว่า ยิ่ง เราเลือ กที่ๆ สามารถยกเลิก ได้ฟ รี เผื่อ เปลี่ย นแผนกะทัน หัน จะได้ไ ม่ เ สีย เงิน ฟรี หรื อ ตอนใกล เ้ ดิน ทางเปลี่ย นใจอยากไปพัก อีกย่านหนึ่งแทน จะได้ไม่เจ็บตัว (ต้องดูเงือ่ นไขดีๆ บางเว็บก็จะเก็บ มัดจ�ำก่อน) หลังจากเราส่องและเปลีย่ นใจไปมา คืนแรกก็ตดั สินใจ พักที่ Nexy Hostels ใจกลางเมืองย่าน Old Quarter เหมาห้องรวม นอนได้ 8 คนไว้เลย สไตล์ชคิ ๆ เก๋ๆ ถูกใจคนเลือก ไม่ถกู มาก ไม่แพงไป และสะอาดก็ถอื ว่าโอเคแล ้วล่ะ ข้อดีของการพักย่าน Old Quarter ก็คอื มันเป็ นจุดศูนย์กลาง ทีค่ ล ้ายๆ ถนนข้าวสารผสมผสานย่านท่าแพและกาดหลวงเอาไว้ด้วยกัน (งงมัย้ ?) มันจะเป็ นโซนใหญ่ๆ โซนหนึ่งทีม่ ตี กึ และซอยเล็กๆ เยอะมาก หาของกินง่าย ช้อปปิ้ งสะดวก มีท่ารถบัส ใกล ้สถานีรถไฟ คือสามารถ เดินไปได้หมด (ถ้าขาคุณไหว!) แต่เป็ นย่านทีค่ ่อนข้างจอแจนะ ในทีน่ ้ ี คือเสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์อนั เลือ่ งชื่อของเวียดนาม ซึง่ พวกเราก็ได้ ประสบพบเจอกันตัง้ แต่เดินแบกเป้ ไปหาทีพ่ กั แล ้ว บอกเลยต้องสตรอง นะคุณขา มาหยุดๆ ชะงักๆ นี่ไม่ได้ขา้ มไปไหนกันพอดี ถือว่าเป็ นอีก หนึ่งสกิลทีเ่ ราได้อพั เกรดกันในทริปนี้
มื้อแรกในฮานอย ทุกคนดูต่นื เต้นไปหมดเพราะเป็ นครัง้ แรก ทีไ่ ด้มาเวียดนามกัน ไม่รูจ้ ะกินอะไรดี ปกติอยู่บา้ นก็กนิ แต่แหนมเนือง ทีส่ นิทใจไปแลว้ ว่ามันคืออาหารเวียดนาม ฮา พีใ่ หญ่ผูเ้ ดินน�ำใช้หลัก ร้านไหนคนเยอะ ร้านนัน้ ต้องดีเป็ นตัวบ่งชี้ในการเลือก เรามาจบกันที่ ร้านขายอาหารร้านหนึ่งซึ่งระบุประเภทไม่ได้ แต่มโี ต๊ะนัง่ อยู่ริมถนน และพนักงานก็ดูเป็ นกันเอง ต้อนรับขับสูส้ ุดๆ เหมาะกับไก่อ่อนอย่าง พวกเรา สุดท้ายชี้โบ๊ช้ ีเบ๊ไปมาก็ได้ของกิน ที่จากวันนี้ไปเราสัง่ มากิน ทุกมื้ออย่างปอเปี ย๊ ะ และสิง่ ทีต่ ลกคือ สังหม้อไฟ ่ แต่ได้หมูกระทะสไตล์ เวียดนามหนึ่งเซ็ตมากินกับขนมปังฝรัง่ เศส งงไปอีก แต่รวมๆ แลว้ ก็สนุ กหรรษากันดี เปิ ดโลกกันไป โชคดีทท่ี ริปนี้กนิ ง่ายเหมือนๆ กัน พอความหิวเข้าครอบง�ำทุกอย่างก็ดูอร่ อยไปหมด ทุกครัง้ ที่คิดเงิน ก็จะมีพค่ี นหนึ่งพูดค�ำว่า ‘Tính tiền’ (อ่านว่า ถิง เตี่ยน รึเปล่า? 55) แปลว่าคิดเงิน แต่พนักงานก็หวั เราะพยักหน้านะ แสดงว่าก็โอเคแล ้วล่ะ ซึง่ มันจะเป็ นค�ำทีพ่ วกเราใช้พดู ทุกมื้ออาหารในทริปนี้เลย คาวเสร็จก็ต่อด้วยหวานสิ ตามสไตล์หนุ่ มสาวยุคใหม่อย่าง พวกเรา ทีต่ อ้ งหาคาเฟ่ ไว้นงั ่ ชิลล์ (หรือพักน่องจากการเดิน) ตัดสินใจ ไม่ยาก ด้วยหน้าตาของร้านและพนักงาน ร้านไหนดู ดีถ่ายรู ปสวย ก็เข้าเลย รสชาติดไี ม่ดกี ็แลว้ แต่ดวงทีส่ งั ่ สมกันมา ‘Cộng Cà Phê’ (เรียกกันเองว่าคอง) คือคาเฟ่ รา้ นแรกทีไ่ ด้เงินจากพวกเรา ไม่มคี าปูชโิ น่ ไม่ มีล าเต้ ไม่ มีช าเขีย วชาเย็ น หรื อ อเมริ ก าโน่ ใ ดๆ เสิร ์ฟ กาแฟ สไตล์โบราณ ไม่ใช้นมแต่ ใช้กะทิสด เป็ นความแปลกใหม่ในชีวิต ของพวกเรา ร้านเล็กมาก แต่ววิ จากชัน้ 2 คือดี มองลงมาเป็ น 5 แยก ทีร่ ถมอเตอร์ไซค์ขบั สวนกันอย่างบ้างคลัง่ และมีฉากหลังเป็ นทะเลสาบ Hoàn Kiếm Lake (เรียกกันเองว่า เลค) ช่างดูขดั หูขดั ตากันเหลือเกิน แต่ ก็สนุ กที่ได้ดูการใช้ถนนของชาวเวียดนาม และแปลกใจที่ไม่มี อุบตั เิ หตุเกิดขึ้นเลย แม้วา่ พวกเขาจะขีก่ นั แบบนัน้ ? หลังจากนัง่ คลายความเมื่อยลา้ ก็ถึงเวลาเก็บแลนด์มาร์ค กันแล ้ว สภาพทุกคนคือง่วงและเพลียจากการบินไฟลท์เช้า แต่กข็ ม่ ใจ กันน่าดูทจ่ี ะเดินต่อรอบทะเลสาบ เพือ่ ไปแชะภาพกันที่ St. Joseph Cathedral โบสถ์เก่าทีช่ อ่ื เด้งมาตอนเสิชกูเกิล เราเดินเหมือนทีเ่ ดินกัน มาแล ้วทัง้ วัน ความสตรีทของฮานอยก็ถอื ว่าเป็ นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง ร้านขายน�ำ ้ (อะไรไม่รู)้ ข้างทางและมีเก้าอี้ตวั เล็กล ้อมวงกัน ร้านขาย ผลไม้สดทีแ่ พงเกินจริง ร้านซ่อมรองเท้าทีอ่ ยูต่ ดิ กันแผงปลาสด ทีส่ ำ� คัญ ใจกลางเมือง! เราเดินผ่านนักเรียนที่เพิ่งเลิกเรียน เดินผ่านตึกราม บ้านช่องทีค่ นเวียดนามต่างก็กำ� ลังใช้ชวี ติ ปกติของพวกเขาอยู่ เหล่านี้ คือเสน่หข์ องฮานอยทีเ่ ราสัมผัสได้จากเพียงไม่ก่ชี วั ่ โมงเมือ่ ได้มาถึง Night Life แสง สี เสียงในฮานอย แน่นอนว่าเราไม่พลาด หลังจากได้งบี และเติมพลังด้วย phở หรือเฝอกันแลว้ เราก็เปิ ด กูเกิลแมปตรงไปตรอกทีค่ กึ คักทีส่ ดุ ในยามค�ำ่ คืน ซึง่ ชือ่ ว่าอะไรไม่แน่ใจ เหมือนกัน แต่ความวุน่ วายนี้ไม่ยากเกินจะหาเจอ ถ้าเราอาศัยอยูใ่ น Old Quarter ร้านรวงมีให้เลือกมากมาย พวกเราพยายามหาเบียร์สด ตามค�ำชี้แนะของเพือ่ นฝูงในเฟซบุค๊ ว่า มันมีเบียร์แก้วละ 10 บาทนะ แต่มนั อยู่ไหนหาไม่เจอ เราก็เลยนัง่ เก้าอี้เตี้ย ดื่มโลคอลเบียร์ของ เวียดนามในตรอกนี้แทน มีกบั แกลม้ เป็ นปลาหมึกย่างเหมือนบ้านเรา รายล ้อมไปด้วยเอเชีย่ นพีเพิล่ ทีก่ ำ� ลังขะมักเขม้นกับการสังเบี ่ ยร์ วุน่ วาย กันพอสมควร แต่คนื นัน้ เราก็ได้พบกับประสบการณ์แปลกใหม่อกี แล ้ว เมือ่ ต�ำรวจลง! อ้าวเห้ย! ไม่เหมือนทีค่ ุยกันไว้น่ีหว่า เมือ่ เจ้าของร้าน ตะโกนเป็ นภาษาอังกฤษว่า โปลิส โปลิส เราก็งงสิ อายุถงึ แล ้วจะกลัว อะไร ทันใดนัน้ เองทุกคนลุกฮือพร้อมกันอย่างไม่ได้นดั หมายทัง้ ตรอก! เหตุการณ์เกิดขึ้นไวมากเมือ่ เจ้าหน้าทีย่ ดึ เก้าอี้ทเ่ี จ้าของร้านเก็บเข้าร้าน ไม่ทนั ไป ซักพักเหตุการณ์ก็สงบ เจ้าของร้านยิ้ม พวกเรายืนหน้างง 21
b side
22
b side
เกิดอะไรขึ้น? สรุปว่าร้านตัง้ เก้าอี้บนถนนสาธารณะ ผิดกฎหมาย บ้านเมืองงี้ วงแตกกันไป ประกอบกับดึกแลว้ พวกเราเลยตัดสินใจ เดิน กลับ ที่พ กั แวะซื้อ เบีย ร์ไ ปชิ ล ล์บ นดาดฟ้ าของโฮสเทลแทน ก่อนนอนก็ตงั้ นาฬกิ าปลุกกันไว้ 6 โมงเช้า ไม่งนั้ เดีย๋ วจะซวยตกรถบัส ทีจ่ ะไปซาปา หมดแล ้ว 1 วันแรกในฮานอย วันที่ 2 ในฮานอยเริม่ จากการทีพ่ วกเรานัง่ รถไฟนอนกลับมาจาก ซาปา ซึ่ง เราจะต้อ งแยกย้า ยกัน ที่ห น้า สถานี ร ถไฟในฮานอยเลย เพราะพี่แต่ ล ะคนซื้อ ตัว๋ ขากลับไทยคนละเวลากัน และจะต้องไป สนามบินทันที พวกเรา Say Goodbye ด้วยการกินเฝอด้วยกันทีห่ น้า สถานีรถไฟ ส่วนเราจะอยูเ่ ทีย่ วฮานอยต่ออีกวัน ด้วยการเดินเรือ่ ยเปื่ อย ถ่ายรูปเล่น นัง่ ชิลล์รา้ นกาแฟก็แล ้ว ช้อปปิ้ งก็แล ้ว ท�ำไมมันไม่หมดวัน ซักที เลยตัดสินใจหยิบแผ่นพับแถวๆ นัน้ มาดูวา่ มีอะไรทีพ่ ลาดไปอีกมัย้ ในฮานอย ก็สะดุดกับที่เที่ยวแนวพิพธิ ภัณฑ์ท่ไี ม่ไกลจากที่เรานัง่ อยู่ แต่ ณ ตอนนัน้ คือขี้เกียจและปวดขามาก เลยลองเปิ ดแอพ Grab เล่นๆ คนจะได้ไปยังไงก็ได้ไป ฮา ในแอพโชว์วา่ Grab Bike 10,000 ดอง คือประมาณ 15 บาท! โห! ราคานี้ไม่ตอ้ งคิดให้ยาก ใจก็อยากลองซ้อน มอเตอร์ไซค์ในเวียดนามอยู่แล ้ว บ่ายวันนัน้ เลยได้ไป Tower of Flag, Army Museum ซึง่ ก็จะออกแนวพิพธิ ภัณฑ์ทางทหาร ทีเ่ ล่าเรื่องราว สมัยสงครามเวียดนาม ส่วน Hoa Lo Prison ทีส่ ุดท้ายนี่หดหู่ทเี ดียว เป็ นคุกเก่าที่มกี ารเล่าถึงเรื่องราวต่างๆมากมาย ควบหลายสงคราม รวมถึงสงครามเวียดนาม แต่กถ็ อื ว่าเก็บทุกอย่างไว้อย่างดี ไม่เสียดาย ค่าเข้าทีไ่ ม่ได้แพงจนเกินไป จะว่า 2 วัน 1 คืนมันพอมัย้ ก็ตอบได้ไม่เต็มปาก แต่ถา้ มีเวลา มากกว่านี้ก็อยากจะไปฮาลองด้วย ค้างซักคืนสองคืน หรือไปเที่ยว เมืองรอบๆ ฮานอย แต่เสียดายทีง่ านเลี้ยงต้องมีวนั เลิกรา เรามีเวลาน้อย เพราะต้องนัง่ เครื่องไปลงกรุงเทพฯ และต่อเครื่องกลับเชียงใหม่อกี แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคหรอกนะ มันกลับท�ำให้เราต้องวางแผนและเห็น คุณค่าของเวลามากขึ้น สัญญากับตัวเองว่า ฉันจะต้องมาซ�ำ้ ฮานอย อีกแน่นอน เมือ่ ไหร่ไม่รู ้ แต่ฉนั จะคิดถึงเธอ... ฮานอย
ส�ำหรับชาวเชียงใหม่ เรามีข่าวดีมาบอก! สายการบินบางกอกแอร์เวย์สเปิดเส้นทางใหม่ บินตรง เชียงใหม่ - ฮานอย แล้วนะ บินทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป เวลาก็สวย ลงเครื่องปุ๊บเที่ยวได้เลย! สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokair.com หรือ Call Center 1771
23
b side
Journey & Amazing Dishes คอลัมน์นี้เกิดจากความตื่นเต้นของเราที่ได้ไปเจออาหารแปลกๆ ใหม่ๆ แบบ... เฮ้ย!!! เพิ่งเคยเห็นง่ะ จากการท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือแม้แต่ในประเทศเอง อาหารนั้นๆ ส�ำหรับหลายๆ คนคงไม่รู้สึก wowww! แต่อีกหลายคนต้อง wowww! แน่ๆ เพราะไม่รู้จักเช่นเดียวกับเรา ซึ่งอาจไม่ได้เป็นอาหารที่แปลกหรือเป็นอาหาร พืน้ บ้านธรรมดา แต่กท็ ำ� ให้เรา wowww! ได้ จนเราต้องไปค้นหาสูตรเพือ่ ทีจ่ ะปรุงรสชาติให้เหมือนหรือคล้ายทีส่ ดุ และบางทีกเ็ ป็นเเรงบันดาลใจให้เราดีไซน์เมนูใหม่ๆ ขึน้ มาซะเลย
02
Hotaru Ika 01
03
Wowww… ปลาหมึกจิ๋วน่ารักจัง กินไงอ่ะ!!! ณ ร้าน Shimofusaya (下総屋), Monzen- nakacho Station, Tokyo
@ T O เรื่อง/ภาพ : Missน�้ำปู๋
K
04
Y O
05
24
b side
มาญีป่ ่ นุ อีกแล ้ววววว มาบ่อยๆ ก็เพราะชอบไง... แต่คราวนี้เราไปกันเป็ นครอบครัวใหญ่ เพือ่ ไปงาน รับ ปริ ญ ญาหลานรัก ที่ ม หาวิ ท ยาลัย โตเกี ย ว (The University of Tokyo) และเป็ นช่วงซากุระด้วย การไปเป็ นครอบครัวใหญ่ทม่ี ผี ูส้ ูงอายุไปด้วย เราก็ เ ลยต้อ งแพลนที่ท่ อ งเที่ย วให้อ ยู่ ใ กล ท้ ่ีพ กั ใกล ้มหาวิทยาลัย และถ้าจะเทีย่ วนอกโตเกียวก็ตอ้ ง ไม่ไกลมาก เราเลือกไปสวน ‘Rikugien Garden’ เพราะอยู่ ใกลท้ ่ีพกั เดินเล่นรอบสวน ตัง้ ใจไปดู ต้นซากุระโบราณ สายพันธุ ์ Shidarezakura หรือ Weeping Cherry Tree แต่ปีน้ อี ากาศคลาดเคลือ่ น ดอกซากุระส่วนใหญ่ยงั ไม่บาน มีแค่บางต้นเท่านัน้ .... ส่วนสถานทีช่ อ้ ปปิ้ ง หลานแนะน�ำมา เพราะเห็นป้ าๆ น้าๆ 50 อัพกันหมด คือ ‘ฮาราจูกุคุณป้ า’ หรือ ‘Old Ladies’ Harajuku’ อยู่ท่ี Sugamo Jizo Dori เป็ นถนนยาวประมาณ 800 เมตร ทีม่ สี นิ ค้าส�ำหรับ
01 ต้นซากุระโบราณในสวน Rikugien 02 Rikugien Garden 03 ต้นซากุระโบราณพันธุ์ Shidarezakura หรือ Weeping Cherry Tree 04 ผ้าที่ย้อมด้วยไม้จากต้นซากุระในสวน Rikugien 05 Sugamo Jizo Dori Shopping Street (ฮาราจูกคุ ณ ุ ป้า) 06 ต้นซากุระโบราณในวัด Kitain 07 ต้นซากุระในวัด Kitain ที่ยังไม่ออกดอกเพราะสภาพภูมิอากาศประจ�ำปีคลาดเคลื่อน 08 ถนนเมืองเก่า Kurazukuri Street 09 โชว์ในงานเทศกาลที่ Kurazukuri Street 10 พาเหรดในงานเทศกาลที่ Kurazukuri Street 11 ร้าน Shimofusaya (下総屋)
06
คนสูงอายุจำ� หน่ายล ้วนๆ เราไม่ได้ของเลย เพราะเรา ยังใส่ Converse อยู่นะ 555 ส่วนที่เที่ยวไม่ไกล โตเกียว เราเลือกเมือง ‘Kawagoe (Saitama)’ เราไปเทีย่ ววัด ‘Kitain’ ซึง่ ก�ำลังเตรียมจัดงานเทศกาล ซากุระกันอยู่ และไปเดินถนนเมืองเก่า ‘Kurazukuri Street’ เป็ นถนนคนเดินที่มบี า้ นไม้เก่าสมัยเอโดะ เดินเล่นกินขนม กินข้าว พอดีช่วงทีไ่ ปมีงานเทศกาล ก็ เ ลยได้เ ห็น เขาแต่ ง ชุ ด โบราณมาเดิน ให้ถ่ า ยรู ป กันอย่างสนุกสนาน Amazing Dish (Hotaru Ika)
11
07
08
09
10
มาถึง Amazing Dish กันบ้าง เราไปเจอในร้าน Shimofusaya ใกล ้สถานี Monzen-nakacho Tokyo สุม่ ๆ เข้าไป เพราะดูจากภายนอกร้านแล ้วเข้าทางเราแน่!!! (ท�ำประจ�ำ) เข้าไปตัง้ ใจแค่ด่มื ฆ่าเวลา เพราะไปก่อน เวลาทีน่ ดั กับเพือ่ นญีป่ ่ นุ ไว้... เราสัง่ Sparkling Sake เสร็จ เจ้าของร้านก็เอาปลาหมึกจิว๋ มาวางให้บนโต๊ะ Wowww… ปลาหมึกจิว๋ น่ ารักจัง กินไงอ่ะ!!! ฟรีดว้ ย แน่ นอน คนอย่ า งเราชอบลองอยู่ แ ล ว้ คี บ เข้า ปากแล ว้ ถึงสวรรค์... อร่อยมาก กรอบ สด หวาน และไม่คาวเลย ถามเพือ่ นญีป่ ่ นุ ก็ได้ความว่าเป็ นปลาหมึกทีอ่ อกช่วงฤดูน้ ี เรียกว่า ‘ปลาหมึกหิ่งห้อย’ หรือ ‘Firefly Squid’ ญีป่ ่ นุ เรียก ‘Hotaru Ika’
25
b side