HIP Magazine JANUARY 2019 (Section B) by HIP MAGAZINE

CONTENT J A N UA RY 2 0 1 9 Vo l . 1 5 N o . 1 7 0

Bike Special 04 Bike Travel 08 Bike Route 12 Bike Trip 16 Report 18 Run 19 Travel 22 Journey & Amazing Dishes 26

Bike Travel 55 Cycling Club พาปั่นจักรยานจากเชียงใหม่ ไปเที่ยวสิงห์ปาร์ค เชียงราย ไปชมทุกซอกทุกมุมของงาน Farm Festival on the Hill 2018 และปั่นจักรยาน เที่ยวชมไร่ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ภายในพระวิหาร พระพุ ทธศรีชยันตีบารมีประธานพร สถานที่ในไร่บุญรอด ที่น้อยคนจะรู้จัก

Travel หลังจากท่องเที่ยวในเยอรมนีไปแล้วหลายเมือง บก. HIP ขอข้ามไปเที่ยวที่เมืองเล็กๆ ตรงชายแดนฝรั่งเศส อย่าง Strasbourg ดูบ้าง กับ 2 วันที่ใช้เวลาอยู่ท่น ี ั่น มาติดตามกันว่า บก.ของเราไปพบเจออะไรมาบ้าง และท�ำไม เมืองนี้ถึงได้สร้างความประทับใจ จนต้องขอน�ำมากล่าวถึง ใน Travel ฉบับนี้

E C

มี อะ ไ ร อย าก จะบ อก เรื่อง / ภาพ : HIP Team

่ วชมเมืองปาย แล้วปั่นยิงยาวจากเชียงใหม่ ‘HIP ปั่นปาย’ ครั้งแรกในปี 2559 เราเริ่มต้นด้วยการปั่นสบายๆ เทีย ไปสู่อ�ำเภอปาย ใน ‘HIP ปั่นปาย 2’ ต่อด้วยทริปการปั่นไปงานวันเด็กที่ชนบท ใน ‘HIP ปั่นปาย 3’ เมื่อต้นปีที่แล้ว และตอนนี้ ่ วแห่งประเทศไทย ก็เดินทางมาถึงครัง ้ ที่ 4 แล้ว ส�ำหรับ ‘HIP ปั่นปาย’ จึงได้เวลาอันสมควรที่ HIP Magazine และ การท่องเทีย ๊ ะ เพราะเราจะชวนกัน (ททท.) ส�ำนักงานแม่ฮอ ่ งสอน จะมาประกาศให้นก ั ปั่นทัง ิ เปรีย ้ หลายเตรียมร่างกายและสองน่องให้ฟต ไปปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว อ.ปาย ในกิจกรรม ‘HIP ปั่นปาย 4’ ซึ่งจะจัดกันในระหว่างวันที่ 15 - 17 กุมภาพันธ์ 2562 ปีนป่ายตะกายดอยสู่ปาย

จากนัน้ ปัน่ ตะกายดอยในช่วงแรกจนถึงครึ่งทางของทริป พักรับประทาน อาหารกลางวันทีจ่ ดุ เช็คพอยต์ท่ี 2 โอเคมาร์ท อิม่ ท้องกันแล ้วอย่ารอให้เครือ่ งเย็น รีบ ปัน่ ไต่ ค วามสู ง ขึ้น ไป พร้อ มบรรยากาศที่เ ย็น สบาย แล ว้ แวะพัก ชมวิว ที่จุดเช็คพอยต์ท่ี 3 จุดชมวิวรักจัง จากนัน้ ออกเดินทางกันต่อ ผ่านอุทยาน แห่งชาติหว้ ยน�ำ้ ดัง ปัน่ อีกไม่ก่ีอึดใจก็มาถึงจุดหมายปลายทาง ที่ในครัง้ นี้ เราขยับเข้ามาใกล ้ขึ้นกว่าเดิม (2 ปี ลา่ สุด จุดหมายอยู่ ณ ทีว่ า่ การอ�ำเภอปาย) ณ สะพานประวัตศิ าสตร์ (ท่าปาย) รวมระยะทางทัง้ สิ้น 114 กิโลเมตร และรับ ประกาศนียบัตรเป็ นเครื่องยืนยัน ส�ำหรับผูพ้ ชิ ิต 700 กว่าโค้งด้วยจักรยาน ได้ส ำ� เร็ จ เมื่อ ถ่ า ยภาพเป็ น ที่ร ะลึก กัน เรีย บร้อ ยแล ว้ จึง เดิน ทางเข้า ที่พ กั แบบสบายๆ ด้วยรถตูเ้ ซอร์วสิ แต่ถา้ ใครยังมีแรงเหลือ จะปัน่ ต่ออีก 10 กิโลเมตร เข้าทีพ่ กั ก็ได้ ไม่วา่ กัน!

ตัง้ แต่ ‘HIP ปัน่ ปาย 2’ ต่อเนื่องมาถึง ‘HIP ปัน่ ปาย 3’ เราได้เพิม่ ทริป การปัน่ จากเชียงใหม่สู่อำ� เภอปายเข้ามา เพื่อให้เหล่าบรรดานักปัน่ ทัง้ หลาย ได้ทดสอบสภาพร่างกายและจิตใจ กับการเดินทางผ่านขุนเขาบนเส้นทางคดเคี้ยว สภาพอากาศทีห่ นาวเย็น ซึง่ ไม่ได้งา่ ยอย่างทีค่ ดิ 2 ครัง้ ทีผ่ า่ นมามีนกั ปัน่ หลายคน สามารถปัน่ ไปถึงจุดหมาย แต่มอี กี ไม่นอ้ ยทีพ่ บเจออุปสรรคระหว่างทาง ไม่วา่ จะเป็ น สภาพอากาศทีโ่ หดร้าย สภาพร่างกายหรือจักรยานทีไ่ ม่พร้อม จนท�ำให้ไม่สามารถ ปัน่ ไปถึงจุดหมายได้ ส�ำหรับ HIP ปัน่ ปาย 4 เราจะเริ่มต้นกันที่บริเวณหน้าศู นย์ประชุม และแสดงสินค้านานาชาติฯ เหมือนเช่นเคย ในช่วงแรกเป็ นทางราบบนถนน เลียบคันคลองชลประทาน แลว้ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนโชตนา จากนัน้ เราจะหลบ การจราจรทีค่ บั คัง่ ในช่วงเช้าบนถนนใหญ่ ผ่านกองพลทหารราบที่ 7 เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนเลียบคลองแม่สา ระยะทาง 8 กิโลเมตร ทีร่ ่มรื่นตลอดเส้นทาง ผ่าน วัดป่ าดาราภิรมย์ จากนัน้ เข้าสู่ถนนสาย 3009 ระยะทาง 22 กิโลเมตร ลัดเลาะ ผ่านชุมชน ผ่านทุ่งนาสวยๆ จนไปทะลุถนนเส้นหลักสายแม่มาลัย - ปาย ปัน่ ไป อีกไม่ไกลก็ถงึ จุดเช็คพอยต์แรกของเราที่ Green Food Coffee 4

Day 1

เส้นทางจากเชียงใหม่สู่อำ� เภอปาย เริ่มต้นด้วยการปัน่ ผ่านถนนในชนบท ผ่านทุ่งนาที่สวยงาม แลว้ มาปัน่ ขึ้นดอย สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติ และอากาศทีส่ ดชื่นตลอดสองข้างทาง ไปจนถึงอ�ำเภอปาย

Checkpoint 3 : จุดชมวิวรักจัง (86 กม.) ด่านสุดท้าย ชมวิวทิวทัศน์ทเ่ี ขียวขจีให้สดชืน่ ก่อนมุง่ หน้าสู่จดุ หมายปลายทาง

Finish : สะพานประวัตศิ าสตร์ (ท่าปาย) (114 กม.) จุดหมายปลายทางของผูพ้ ชิ ติ 700 กว่าโค้ง ด้วยจักรยาน! กับเส้นทางเชียงใหม่ - ปาย

Checkpoint 2 : โอเคมาร์ท (72 กม.) ปัน่ มาถึงครึ่งทางแล ้ว แวะเติมพลังด้วย อาหารกลางวันกันให้อม่ิ ท้องกันก่อน

Checkpoint 1 : Green Food Coffee (46 กม.) พักผ่อนตามอัธยาศัย แวะตัง้ หลักกัน ก่อนทีจ่ ะปัน่ ตะกายดอยของจริง!

ส�ำรวจปายให้หายคิดถึง

ส�ำหรับวันทีส่ อง ใครทีเ่ คยมา HIP ปัน่ ปาย ครัง้ ที่ 1 และ 2 คงจะคุน้ เคย เป็ นอย่างดีกบั กิจกรรมปัน่ ท่องเทีย่ ว ชมทิวทัศน์ธรรมชาติรอบนอกอ�ำเภอปาย โดยจะแบ่งออกเป็ นสองกลุม่ คือขาแรง และ สายชิล โดยจะปัน่ ผ่านชุมชน มีทงุ่ นา และป่ าเขาทีส่ วยงามขนาบข้างตลอดเส้นทาง ทางสายเหนือ เราจะพาไปสัมผัส ประเพณี วัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ แบบคนจีนยูนนาน ที่ ‘หมูบ่ า้ นสันติชล’ และถัดขึ้นไปไม่ไกล ส�ำหรับขาแรงต้องมาปัน่ ขึ้น ‘ม่อนหยุนไหล’ สักครัง้ ข้างบน เป็ นจุดชมทะเลหมอก และวิวทิวทัศน์อำ� เภอปายทีส่ วยงามมาก ส่วนทางสายใต้ เราจะใช้ทางหลวงชนบท 4024 ทีผ่ ่านวัดพระธาตุแม่เย็น แวะเพลิดเพลินกับสัตว์ในฟาร์มสไตล์ยุโรปสุดแสนน่ารัก ไม่วา่ จะเป็ น แพะ แกะ ไก่ กระต่าย ที่ ‘Village Farm’ แล ้วปัน่ ชืน่ ชมความงามของธรรมชาติสองข้างทาง ผ่านอุโมงค์ตน้ ไม้มาก็จะเจอแคมป์ ชา้ ง ทีม่ ชี า้ งแสนรูค้ อยต้อนรับอยู่หลายเชือก สามารถแวะเล่นและให้อาหารได้ จากนัน้ เราจะแวะพักต้มไข่ แช่ น�ำ้ พุรอ้ น ให้หายเหนื่อย ที่ ‘โป่ งน�ำ้ ร้อนท่าปาย’ เสร็จแล ้วเราจะพาไปจอดพักท�ำกิจกรรม กันที่ ‘Kalm Pai Resort’ และออกมาปัน่ กันต่อผ่าน ‘สะพานประวัตศิ าสตร์ (ท่าปาย)’ สถานทีส่ ุดท้ายทีเ่ ราจะแวะคือ ‘กองแลน (ปาย แคนย่อน)’ หนึ่งใน แลนด์มาร์กส�ำคัญ จุดชมพระอาทิตย์ตกทีส่ วยมากอีกจุดหนึ่ง เสร็จแล ้วจึงปัน่ กลับเข้าทีพ่ กั หรือใครยังไม่หน�ำใจ สามารถปัน่ เทีย่ วต่อในเมืองได้

Start : ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ (0 กม.) จุดรวมพลในตอนเช้าของเหล่านักปัน่ น่องเหล็ก ทัง้ หลาย

Day 2

ปัน่ จักรยานท่องเทีย่ วชมเมืองปายในยามเช้า ชมทิวทัศน์ธรรมชาติรอบนอกอ�ำเภอปาย โดยจะแบ่งออกเป็ นสองกลุม่ คือขาแรง และ สายชิล ปัน่ ผ่านชุมชน มีทงุ่ นาและป่ าเขาทีส่ วยงาม ขนาบข้างตลอดเส้นทาง และแวะชมสถานทีท่ ่องเทีย่ วอีกหลายแห่ง

Village Farm (3 กม. จากที่พกั ) เพลิดเพลินกับสัตว์ ในฟาร์ ม สไตล์ ยุ โ รปสุ ด แสนน่ ารั ก ไม่วา่ จะเป็ น แพะ แกะ ไก่ และกระต่าย

หมู่บา้ นสันติชล (5 กม. จากทีพ่ กั ) ชุมชนชาวจีนยูนนานทีม่ ี ประเพณี วัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ ทีส่ วยงาม แถมอาหารอร่อยอีกด้วย

ม่อนหยุนไหล (6 กม. จากทีพ่ กั ) แวะจิบชาเลือ่ งชื่อ หนึ่งใน จุดชมทะเลหมอกและวิวทิวทัศน์อำ� เภอปาย ทีส่ วยงามมาก

โป่ งน�้ ำร้อนท่าปาย

(10 กม. จากทีพ่ กั ) โป่ งน�ำ้ ร้อนธรรมชาติ อยูท่ า่ มกลาง ขุนเขาและป่ าไม้ สามารถลงแช่ตวั และต้มไข่ให้สุกได้ กองแลน (ปาย แคนย่อน)

สะพานประวัตศิ าสตร์ (ท่าปาย)

(11 กม. จากทีพ่ กั ) สะพานสมัยสงครามโลกครัง้ ที่ 2 ประตู สู่ อ ำ� เภอปาย อีก หนึ่ ง แลนด์ม าร์ก ยอดฮิต ทีต่ อ้ งแวะถ่ายรูป 6

(9 กม. จากทีพ่ กั ) กองดินทีเ่ กิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เหมือนทางเดินเล็กๆ เป็ นจุดชมพระอาทิตย์ตก ทีส่ วยมากอีกจุดหนึ่ง

ร้านแนะน�ำ Pai Republic

ร้า นขายโปสการ์ด ที่ ต กแต่ ง ร้า นน่ า รัก ๆ ที่ ห น้า ร้า นจะมี ตู ไ้ ปรษณี ย ์ ต ั้ ง อยู่ นอกจาก โปสการ์ด แล ว้ ยัง มีแ สตมป์ แ ละของที่ร ะลึก เก๋ๆ จ�ำหน่ ายอีกด้วย ร้านตัง้ อยู่ บนถนนคนเดินปาย ใกล ้สีแ่ ยกปายหนาว เปิ ดตัง้ แต่ 10:00 - 22:00 น.

One Fine Day

ร้านน้องใหม่บนถนนเทศบาล 1 ขายทัง้ อาหารยุ โ รป อาหารเม็ ก ซิ ก ัน และเครื่ อ งดื่ ม ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย เมนู แนะน�ำจะเป็ น เซ็ตอาหารเม็กซิกนั ไซส์บ้มึ ทีร่ สชาติถกู ปากคนไทย อย่างแน่นอน เปิ ดตัง้ แต่ 11:00 - 22:00 น.

Mojo Café

คาเฟ่ ที่ค นรัก ในเสีย งดนตรีไ ม่ค วรพลาดเป็ น อย่ า งยิ่ง เรียกได้วา่ ถ้าไม่ได้ไปเหมือนมาไม่ถงึ ปาย! ในทุกคืนจะมีนกั ดนตรี ฝี มอื ดี วนเวียนขึ้นมาแจมอย่างไม่ซำ�้ หน้า แถมบรรยากาศก็เหมาะ กับการจิบเครื่องดืม่ เย็นๆ มาก เปิ ดตัง้ แต่เวลา 17.00 - 00.00 น.

PAI YOGA FESTIVAL 2019

เชิญชวนมาฝึ กโยคะท่ามกลางสายลมหนาว และบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก โดยครูสอนโยคะ มืออาชีพ ผู เ้ ข้า ร่ ว มงาน ‘HIP ปัน่ ปาย 4’ ได้ร บั สิทธิพเิ ศษ ส่วนลดบัตรเข้าร่วมคลาสโยคะ 1 วัน ไม่จำ� กัดคลาส จากราคา 500 ลดเหลือ 400 บาท เพียงแจ้งว่ามาจากงาน ‘HIP ปัน่ ปาย’ สมารถติด ตามรายละเอีย ดเพิ่ม เติม ได้ท่ี www.paiyogafestival.com สถานที่ : ปายริเวอร์บริดจ์ ริมแม่นำ�้ ปาย ต.แม่ฮ้ ี อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

ไก่ทอดหาดไม่ใหญ่ (โจ๊กอิสลาม)

ร้านโจ๊กรถเข็น ทีใ่ ครมาต้องสัง่ โจ๊กไก่,ไข่,ตับ ทีอ่ ร่อยจน ไม่ ต อ้ งปรุ ง ที เ ด็ ด อยู่ ท่ี ไ ก่ ท อดสู ต รพิเ ศษ ทานกับ น�ำ้ พริ ก ทีม่ ใี ห้เลือกทัง้ น�ำ้ พริกกุง้ น�ำ้ พริกหนุ่ม และน�ำ้ พริกตาแดง อร่อย เข้ากันเป็ นอย่างยิง่ เปิ ดตัง้ แต่เช้าจนถึง 11:00 น. 7

A V

CHIANG RAI – SINGHA PARK FARM FESTIVAL ON THE HILL ปั่ นไปไร่ … ปั่ นจั ก รยานไปเชี ย งราย เที่ ย วไร่ สิ งห์ และงาน Farm Festival on the Hill เรื่อง : 55 Cycling Club www.facebook.com/55CyclingClub/ ภาพ : Cheez Photo

‘เชียงราย’ เป็นจังหวัดที่ผมต้องไปทุกปีโดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่เชียงรายมีงานแข่งจักรยานใหญ่ๆ อย่างงาน Singha Bangkok Airways Road Classic, Tour of Chiangrai และเทศกาลดนตรีเจ๋งๆ อย่าง Farm Festival on the Hill แต่ปีน้พ ี ิเศษกว่าทุกปี เพราะเราจะปั่นจักรยานจากเชียงใหม่ไปเชียงราย เพื่อไปเที่ยวงาน Farm Festival on the Hill กัน!

Farm Festival on the Hill คืองานเทศกาลดนตรีในฤดูหนาวประจ�ำปี ของเชียงรายทีย่ ง่ิ ใหญ่ทส่ี ุดในภาคเหนือ จัดขึ้น ณ ไร่บญ ุ รอด หรือสิงห์ปาร์ค เชียงราย และจัดติดต่อกันมาเป็ นปี ท่ี 6 แลว้ งานนี้เขาจัดเต็มทัง้ แสงสีเสียง ให้เราสนุกกับคอนเสิรต์ จากศิลปิ นชื่อดังกว่า 100 ชีวติ แถมยังได้อม่ิ อร่อยกับ เทศกาลอาหารจากร้านชัน้ น�ำกว่า 70 ร้าน รวมถึงขบวนรถ Food Truck สุดเท่ กับลาน Todd Food Fest ทีจ่ ดั มาให้กบั คนทีช่ อบรสชาติแซ่บๆ ถึงใจโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยงั มีการโชว์แสงสีจากบอลลู นโชว์ ที่ไม่ตอ้ งรอให้ถึงงานบอลลู น เฟสติวลั ก็มบี อลลูนหลากหลายลูกให้ชมแบบใกลช้ ิด ไหนจะกิจกรรมอื่นๆ อีกนับสิบ เช่น กิจกรรม Zip Line ชมวิว 360 องศา ความยาวกว่า 1 กิโลเมตร บนระดับความสูงเทียบเท่าตึก 8 ชัน้ , กิจกรรมฟาร์มทัวร์ ชมความสวยงามของ ทุ่งดอกคอสมอส, วิวไร่ชาทีเ่ ขียวชอุ่ม และสัตว์นานาสายพันธุ ์ ส�ำหรับปี 2561 ทีผ่ ่านมา งาน Farm Festival on the Hill 2018 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม เราเลือกวันเดินทางเป็ น วันที่ 1 ธันวาคม ตรงกับวันเสาร์ ซึง่ เป็ นวันทีท่ กุ คนว่าง และทีส่ ำ� คัญเราจะได้ แฮงค์เอาท์กนั อย่างเต็มที่ นอกจากสมาชิกในทีม ผมยังชวนพีเ่ อนก จากร้าน เอนกไบค์เชียงใหม่, แชมป์ ซูม จาก Zoom the Wrapper (รับ Wrap ทุกสิง่ ทุกอย่างในโลกทีส่ ามารถ Wrap ได้) รวมถึงดอย เจ้าของร้าน V Sport Clothes

(ร้านตัดเสื้อจักรยานที่คุณภาพคับแก้ว) นอกจากนี้ผมยังมีเซอร์ไพรส์ให้กบั ทุกคน โดยผมแอบชวนเพือ่ นเก่าตัง้ แต่สมัยมัธยมปลาย นัน่ คือ แอ๊ด จากร้าน แอ๊ดไบค์เชียงราย ให้ปนั ่ จากเชียงรายมารับพวกเรา (เอาจริงๆ คือมาลากไส้ ทุกคนในสเตจสุดท้ายต่างหาก!) เรานัดกันตอนเช้าวันที่ 1 ธันวาคม ทีล่ านจอดรถด้านนอกศูนย์การค้า เซ็นทรัลเฟสติวลั เชียงใหม่ (ต้องขอขอบคุณมา ณ ทีน่ ้ ีดว้ ยครับ) ทริปนี้พวกเรา มีกนั ทัง้ หมด 40 คน ก่อนปัน่ เราคุยกันว่าจะปัน่ กันไปเป็ นกลุม่ ค่อยๆ ประคอง กันไป โดยเราแบ่งการปัน่ วันนี้ออกเป็ น 6 สเตจ เริ่มจาก สเตจ 1 : ศู นย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวลั เชียงใหม่ – ปางแฟน ระยะทาง 45 กิโลเมตร สเตจ 2 : ปางแฟน – น�ำ้ พุรอ้ นแม่ขะจาน ระยะทาง 23 กิโลเมตร สเตจ 3 : น�ำ้ พุรอ้ นแม่ขะจาน – ปั ๊ม ปตท.แม่ขะจาน ระยะทาง 11 กิโลเมตร สเตจ 4 : ปั ๊ม ปตท.แม่ขะจาน – ปั ๊ม ปตท.แม่สรวย ระยะทาง 54 กิโลเมตร สเตจ 5 : ปั ๊ม ปตท.แม่สรวย – แยกแม่ลาว ระยะทาง 17 กิโลเมตร สเตจ 6 : แยกแม่ลาว – สิงห์ปาร์ค เชียงราย ระยะทาง 20 กิโลเมตร รวมระยะทางทัง้ หมด 170 กิโลเมตร 8

ยังไม่ทนั จบสเตจแรก จากที่คุยกันไว้ว่าจะปัน่ กันไปเป็ นกลุ่ม ทุกคน เริ่มที่จะปัน่ กันกระจัดกระจาย แยกกันเป็ นกลุ่มเล็กๆ แต่เนื่องจากเส้นทาง ในวันนี้ไม่มอี ะไรซับซ้อน บวกกับทุกคนมีประสบการณ์ปนั ่ ทางไกลกันอยู่แลว้ ผมเลยไม่ค่อยเป็ นห่วงเท่าไหร่ ก็ปล่อยให้ปนั ่ กันตามสบาย เอาจริงๆ เป็ นห่วง ก็แค่ช่างกล ้องจะท�ำงานล�ำบากอย่างเดียวแค่นนั้ แหละ หลังจากจบสเตจแรก ทุกคนมารวมกันที่จุดพักที่ปางแฟน จากจุดนี้ ไปจนถึงน�ำ้ พุรอ้ นแม่ขะจาน เป็ นจุดที่มกี ารท�ำถนนต่ อเนื่องกันไปประมาณ 11 กิโลเมตร (ทัง้ ทริปผมเป็ นห่วงแค่ช่วงนี้ช่วงเดียว) ผมเลยบอกให้ทกุ คนทยอย ปัน่ กันไปเป็ นกลุม่ เล็กๆ เพือ่ ไม่ให้กดี ขวางการจราจร (ตรงนี้รถจะค่อนข้างติด เพราะมีทงั้ รถก่อสร้าง มีการขุดถนน และมีการปิ ดช่องการจราจรบางช่วง) หลังจากทุลกั ทุเลกันในสเตจที่ 2 ทัง้ เนินสูงตรงดอยนางแก้ว ถนนฝุ่น ดิน โคลน และรถก่อสร้าง ทุกคนมาถึงจุดพักที่ น�ำ้ พุรอ้ นแม่ขะจานกันอย่าง ปลอดภัย เราคุยกันว่าเดีย๋ วเราจะไปพักกินข้าวกันทีป่ ั ๊ม ปตท.แม่ขะจาน ซึง่ ห่าง จากน�ำ้ พุรอ้ นไปประมาณ 11 กิโลเมตร พวกเราทุกคนมาถึงปั ๊ม ปตท.แม่ขะจาน ตอน 10 โมงกว่าๆ จากทีค่ ดิ กันว่าจะพักกินข้าวกันทีป่ ั ๊ม แต่บางคนบอกยังไม่หวิ ขอไปนัง่ รอทีร่ า้ นกาแฟ บางคนบอกว่าอยากจะไปหาอะไรอร่อยๆ กินในตัวอ�ำเภอ เราจึง ปล่อ ยให้ทุก คนไปหาอะไรกิน กัน เองตามสบาย แล ว้ นัด เจอกัน อีก ที ทีป่ ั ๊ม ปตท.แม่สรวย เวลาประมาณบ่ายโมง ผมมาถึงปั ๊ม ปตท.แม่สรวย พร้อมกับสมาชิกอีก 7 - 8 คน ผมนัดแอ๊ด (แอ๊ดไบค์เชียงราย) ไว้ทน่ี ่ี แอ๊ดมารอกลุม่ เราอยู่ก่อนแล ้ว พร้อมกับนักปัน่ อีก 4 คน ผมเข้าไปทักทายแอ๊ดหลังจากทีไ่ ม่ได้เจอกันมานาน ซักพักทุกคนทีเ่ หลือทยอยเข้ามาจนครบ หลังจากพักจนหายเหนื่อย เราก็เริ่มปัน่ กันอีกครัง้ เหลือระยะทางอีก 37 กิโลเมตรก็จะถึงสิงห์ปาร์คเชียงรายแลว้ จากจุดนี้เราสามารถเดินทางไปสิงห์ปาร์คได้ 2 เส้นทาง คือเส้นทางลัด โดยจะ เลี้ยวซ้ายตรงแถวๆ บ้านแม่ลาว ส่วนอีกทางคือไปตามเส้นทางหลักและเลี้ยวซ้าย ตรงวัดร่องขุน่

ครัง้ นี้เราจะไปตามเส้นทางลัด เราจึงให้กลุม่ นักปัน่ จากเชียงรายปัน่ น�ำ ตรงนี้ผมบอกให้ทกุ คนพยายามปัน่ กันเป็ นกลุม่ อย่างน้อยเราก็จะได้มรี ูปกลุม่ สวยๆ กับเขาบ้าง ปัน่ ไปได้ซกั พัก นักปัน่ จากทีมแอ๊ดไบค์เริ่มเร่ งความเร็ว จนคนในกลุ่มต้องตะโกนบอกให้ลดความเร็วลงมาหน่อย เพราะเราปัน่ กันมา 100 กว่ากิโลเมตรแล ้ว! จนในทีส่ ุดพวกเราก็มาถึงสิงห์ปาร์คกันตอนเกือบๆ บ่ายสามโมง เมือ่ มาถึงสิงห์ปาร์ค เราก็เจอกับ พีห่ นึ่ง - ปิ ยพันธุ ์ ธนะโสภณ จาก สิงห์ปาร์ค เชียงราย ที่มารอต้อนรับพวกเราอยู่ เรารีบเข้าไปสวัสดีพ่ีหนึ่ง และพักดืม่ เครือ่ งดืม่ เย็นๆ ทีท่ างพีห่ นึ่งจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนทีจ่ ะเข้าไปถ่ายรูปกับ รูปปัน้ สิงห์ตวั โต ซึง่ เป็ นสัญลักษณ์ของทางสิงห์ปาร์ค เอาเป็ นว่าถ้าใครมาเทีย่ ว ทีน่ ่ีแล ้วไม่ได้ถา่ ยรูปกับรูปปัน้ สิงห์กเ็ หมือนมาไม่ถงึ สิงห์ปาร์ค ก่อนแยกย้ายกันกลับโรงแรม แอ๊ดแอบมากระซิบกับผมว่า ที่นกั ปัน่ จากเชียงรายเร่งความเร็วกันในช่วงสุดท้าย เพราะกลัวพวกเราจะหาว่าปัน่ กันช้า เดีย๋ วจะไม่สมศักดิ์ศรีเอา! การปัน่ วันนี้ดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นมากเท่าไหร่ อาจเป็ นเพราะว่า เราเคยผ่านเส้นทางทีโ่ หดๆ กว่านี้มาแล ้ว อีกอย่างเราทุกคนเก็บแรงไว้ส�ำหรับงาน Farm Festival on the Hill คืนนี้ต่างหาก!

หลัง จากกลับ ไปอาบน�ำ้ และพัก ผ่ อ นที่โ รงแรมแล ว้ เรานัด กัน อีก ที ตอนหกโมงเย็น เพือ่ มาเทีย่ วงาน Farm Festival on the Hill ทันทีทเ่ี ข้ามา ภายในงาน เรารีบเข้าไปนัง่ โต๊ะทีท่ างสิงห์ปาร์คจัดไว้ให้ ก่อนทีจ่ ะแยกย้ายกันไป เดินเล่นในงาน จุ ด แรกคื อ บู ธ อาหารจากบุ ญ รอดฟาร์ม ซึ่ง เป็ น บู ธ อาหารของทาง ร้านอาหารภูภริ มย์ ทีน่ ำ� อาหารวัตถุดบิ ต่างๆ ภายในฟาร์มมาท�ำอาหารให้เราได้ ลองชิมลองทานกัน มีทงั้ อาหารคาว อาหารหวาน รวมถึงกับแกลม้ อร่ อยๆ จากโซน ‘Todd Food Fest’ ซอสพริก by Todd ซึง่ มีทงั้ หมาล่า, ผัดกะเพรา เนื้อพรีเมีย่ ม, ขาหมูทอดเยอรมัน, ไก่ทอดราดซอสเกาหลี หรือแม้แต่สเต็ก ไส้กรอกรมควันแบบเกรดเอ เราซื้อของมากินกันที่โต๊ะคนละอย่างสองอย่าง ยังไม่ทนั อิม่ ทางพีห่ นึ่ง - ปิ ยพันธุ ์ ก็แอบยกเบียร์ถาดใหญ่ๆ มาให้พวกเราดืม่ (ต้องขอบคุณพีห่ นึ่งและทางสิงห์อกี ครัง้ ครับ) ในระหว่างที่เรานัง่ กินอาหารและดื่มเบียร์ ก็มอี ะไรสนุ กๆ ให้ดูตลอด ทัง้ การแสดงบอลลู น ที่น่ า ตื่ น ตาตื่ น ใจ และโชว์ม ายากลจากนัก มายากล ระดับโลก Julius Dein (จูเลียส ดีน) ทีท่ างสิงห์ปาร์คแอบเอามาเซอร์ไพรส์ นักท่องเทีย่ วทุกคน จากนัน้ อีกซักพักก็ถงึ เวลาของคอนเสิรต์ สุดมัน ซึง่ วันนี้มี เอ๊ะ จิรากร, ROOM 39, มอส, เต๋า, หนุ่ม ศรราม และปิ ดท้ายด้วย วง Zeal กับ แหนม รณเดช บรรยากาศภายในคอนเสิรต์ คืนนี้ตอ้ งบอกเลยว่ามันมาก เราทุกคน ลืมความเหนื่อยจากการปัน่ ตอนกลางวันไปอย่างสิ้นเชิง เพลงเพราะ ดนตรี ฟังเพลิน ความสนุ กสนานท่ามกลางอากาศทีห่ นาวแบบนี้ ส�ำหรับเราก็คงต้อง ยกให้เป็ นอีกหนึ่งเทศกาลดนตรีทด่ี ที ส่ี ุดอีกทีห่ นึ่ง เราอยูส่ นุกกันจนงานเลิกก่อนทีจ่ ะกลับโรงแรม ผมบอกให้ทกุ คนรีบนอน เพราะพรุ่งนี้ยงั มีกจิ กรรมอีกอย่างทีผ่ มแอบเตรียมไว้ให้!

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมนัดกับแอ๊ด เพือ่ ให้เขาพาพวกเราปัน่ จักรยานชมความงาม ภายในไร่สงิ ห์ ซึง่ เป็ นเส้นทางปัน่ จักรยานทีส่ วยทีส่ ุดเส้นทางหนึ่ง เส้นทางทีเ่ รา เลือกก็จะผ่านทุ่งปอเทืองเหลืองอร่าม ทีท่ อดตัวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา จบจาก ปอเทืองเหลืองอร่ าม ก็ตอ้ งพบความละลานตาอีกครัง้ กับทุ่งดอกคอสมอส หลากสีสดใส และทีพ่ ลาดไม่ได้ คือไฮไลต์ของไร่ นัน่ คือไร่ชาอู่หลงขนาด 600 ไร่ และทะเลสาบ 101 ทีเ่ ป็ นทะเลสาบทีใ่ หญ่ทส่ี ุดในสิงห์ปาร์ค หลังจากที่ชมความงามกันจนหน�ำใจ แอ๊ดก็ชวนพวกเราไปไหว้พระ ทีพ่ ระวิหารพระพุทธศรีชยันตีบารมีประทานพร เรามองหน้ากันเลิกลัก่ เพราะ มาเทีย่ วทีน่ ่กี ห็ ลายครัง้ ยังไม่เคยเห็นวิหารทีว่ า่ เลยซักครัง้ ทันทีทม่ี าจอดจักยาน ตรงบันไดทางขึ้นวิหาร เราสัมผัสถึงบรรยากาศเย็นสบาย เราจึงไม่รอช้าที่จะ ขึ้นไปไหว้พระและขอพรเพือ่ ความเป็ นสิรมิ งคล แอ๊ดบอกกับพวกเราว่าพระวิหาร พระพุทธศรีชยันตีบารมีประทานพรแห่งนี้ บรรจุพระบรมสารีรกิ ธาตุจากอินเดีย ลงในพระธาตุดอยตุงจ�ำลอง โดยมีการท�ำบุญแด่ พระคุณเจ้าครู บาศรีวิชยั นักบุญแห่งล ้านนา และเปิ ดอย่างเป็ นทางการเมือ่ วันที่ 25 เมษายน 2558 ส�ำหรับใครที่มาเที่ยวสิงห์ปาร์ค เชียงราย ก็อยากแนะน�ำให้ทุกคน แวะมาที่น่ีสกั ครัง้ พิกดั ในไร่ก็คือ เมือ่ เข้าไปเจอรูปปัน้ สิงห์ ให้ตรงไปเรื่อยๆ ทางเดียวกับทีจ่ ะไปร้านภูภริ มย์ แล ้วจะเห็นป้ ายทางเข้าพระวิหารอยู่ทางซ้ายมือ ก่อนถึงโรงงานชาเขียวมารูเซ็น การปัน่ มาเทีย่ วเชียงรายครัง้ นี้ประทับใจพวกเราทุกคนมาก จะว่าไปแล ้ว หนึ่งในเหตุผลที่คนมาเที่ยวเชียงราย ก็คงจะเป็ น ไร่บุญรอด หรือสิงห์ปาร์ค เชียงรายนี่แหละ! แล ้วเจอกันปี หน้า กับ Farm Festival on the Hill 2019!!!! ขอขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง -

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส�ำนักงานเชียงราย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จํากัด สิงห์ปาร์ค เชียงราย Fujiyama Go Go / Megumi Group ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ HIP Magazine

R O

CYCLIN G SHIMAN AM I 2018 (PA RT 1) สอง ป่ ว น – ปั่ น - ญี่ ปุ่ น (ภาค 1 : ก่ อ นวั น ง า นจ ริ ง ) เรื่อง / ภาพ : 55 Cycling Club www.facebook.com/55CyclingClub/

Life is Chance ความฝันอย่างหนึ่งของผม (และนักปัน่ จักรยานหลายๆ คน) ก็คอื อย่างน้อย ซักครัง้ ในชีวติ ได้ไปปัน่ จักรยานทีต่ ่างประเทศ ซึง่ ประเทศทีผ่ มเล็งไว้อนั ดับต้นๆ ก็คอื ญีป่ ่ นุ นี่แหละ เพราะว่ารีววิ จากหลายๆ คนบอกว่าดีมากๆ ทัง้ อากาศและการ จราจร แล ้วก็เดินทางไม่ไกลมากด้วย ซึ่งจริงๆ ที่ญ่ีป่ ุนนี่ก็ไปเที่ยวมาหลายหนแลว้ แต่ ก็ไม่ได้มีเป้ าหมาย ทีจ่ ะปัน่ อะไรจริงจัง (เคยแค่ปนั ่ รถแม่บา้ นข�ำๆ ซึง่ ก็ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่) จนเรา ได้มโี อกาสเจองานหนึ่งครับ ชื่อ Cycling Shimanami 2018 งานนี้เราจะปัน่ บนเส้นทางทีช่ ่อื Shimanami Kaido ทีเ่ ป็ นการปัน่ ข้ามจากเมือง Onomichi จังหวัด Hiroshima ไปยังเมือ ง Imabari จังหวัด Ehime กับการปัน่ ข้ามเกาะต่างๆ หกเกาะ และข้ามสะพานหกสะพาน ที่ใครต่อใครบอกว่าเป็ น เส้นทางทีส่ วยงามสุดๆ ทัง้ วิวสวยๆ บนเกาะและวิวเหนือทะเลบนสะพาน แต่ งานนี้มคี วามพิเศษคือ เราจะได้ปนั ่ ทะลุทงั้ หกสะพานรวดเดียวบนทางด่วน ทีป่ ิ ด 100% (แบบไม่ตอ้ งลงมาจากสะพานเพือ่ ปัน่ วนบนเกาะอีกเหมือนปกติ) โดยงานนี้จะมีทกุ 2 ปี และส�ำหรับปี 2561 จัดกันในวันที่ 28 ตุลาคม โห!! แค่คดิ ก็ขนลุกแล ้วครับ!!! ผมเฝ้ าติดตามงานนี้มานานมากๆ จนงานเริ่มเปิ ดรับสมัครลงทะเบียน ตัง้ แต่ ราวกลางๆ เดือนกุมภาพันธ์ครับ ซึ่งพอเราลงทะเบียนเสร็จ ไม่ใช่ว่า จะได้ไปเลยนะครับ แต่ตอ้ งไปจับฉลากเสี่ยงดวง (หรือที่เรียกกันว่า Lotto) ตอนช่วงกลางเดือนพฤษภาคมอีกที ถ้าพลาดคราวนี้กร็ อไปอีก 2 ปี เลย

แล ้วโชคก็เป็ นของผมและแฟนครับ!!!! เราได้ Course D ทีป่ นั ่ จากเมือง Imabari มายังเมือง Onomichi ระยะทางราวๆ 70 กิโลเมตร ซึ่งถือว่า เป็ น Route ยอดนิยม (เส้นทางนี้รบั ได้ 1,500 คน แต่ เท่าที่สอบถามมา คนสมัครมีมากกว่า 7,000 คน!!!) ดังนัน้ แผนของเราคร่าวๆ คือ วันก่อนงานจริง 1 วัน เราจะปัน่ จากเมือง Onomichi มายังเมือง Imabari ด้วยเส้นทาง Shimanami Kaido แบบปกติ แลว้ พอถึงวันจริง เราก็จะปัน่ ย้อนกลับมา ด้วยเส้นทางทีเ่ ป็ นทางด่วน TIPS : เส้นทาง (Course) ของงานนี้มใี ห้เราเลือกหลายแบบ ตัง้ แต่ A - G, มีทงั้ แบบแค่ ปนั ่ รอบ 2 เกาะบ้าง, 3 เกาะบ้าง หรือไกลสุดคือไป - กลับ Imabari - Onomichi - Imabari ระยะทางรวม 140 กิโลเมตร ซึง่ ถ้าจะไป แนะน�ำให้จองโรงแรมที่เมือง Imabari รอไว้เลย เพราะโรงแรมจะเต็มก่อน เดือนพฤษภาคมที่จะประกาศผล Lotto แลว้ !! หรือถ้าใครอยากไปแน่ ๆ ให้สมัครแบบ Premium ไปเลยครับ รับรองได้แน่ แต่ ค่าใช้จ่ายแพงกว่า 3 เท่า (แบบล็อตโต้ 11,000 เยน แต่แบบพรีเมีย่ ม 33,000 เยน โดยมีเสื้อปัน่ + ของที่ระลึกเพิ่มให้นิดหน่ อย) แม้ว่ามันจะดู แพงแต่ก็อย่าคิดนานนะครับ เพราะเปิ ดให้ลงไม่ถงึ ครึ่งวันก็เต็มละครับ!!! โดย 1 คน ลงได้ 1 Course ครับ ส่วนถ้าจะลงเป็ นหมูค่ ณะ สามารถลงได้สูงสุดทีล่ ะ 5 คน ซึง่ ถ้าได้กจ็ ะได้ทงั้ หมด ทุกคน แต่ถา้ แห้วก็ไม่ได้ทกุ คนเช่นกันครับ 12

Planning for Everything แผนของเราก็ไม่ยากครับ คือเริ่มเดินทางช่ วงบ่ายวันที่ 23 ตุลาคม จากเชียงใหม่ (Transit ฮ่องกง) แล ้วไปถึง Osaka (KIX) ราวหกโมงเช้าของ วันที่ 23 ตุลาคม ซึง่ ช่วงทีอ่ ยู่ Osaka เราก็จะปัน่ ไปชมเมือง Kobe และ Nara ที่ตงั้ อยู่ไม่ห่างกัน จากนัน้ เราค่อยเดินทางไปยังเมือง Onomichi ตอนบ่าย วันที่ 26 ตุลาคม ก่อนที่วนั รุ่งขึ้นเราจะปัน่ ไปเมือง Imabari เพือ่ ไปร่วมปัน่ ในงาน Cycling Shimanami 2018 ในวันที่ 28 ตุลาคม ส่วนหลังจากนัน้ เรากะว่าจะเทีย่ วชมเมืองแถวๆ ฮิโรชิมา่ ซักหน่อยก็แล ้วกัน แผนการดูดมี ากๆ แต่มนั จะขาดรสชาติไปถ้าไร้ซง่ึ อุปสรรค ซึง่ อุปสรรค ก็มเี ยอะมากๆๆ เริ่มตัง้ แต่มโี คตรพายุเข้าญี่ป่ นุ ถึง 3 ลูกติดๆ กัน แถมไฟลต์ เครื่องบินขากลับก็เลือ่ นอีก (ซึง่ กว่าจะเคลียร์ได้เสร็จก็เหลือแค่ 1 สัปดาห์ก่อนไป) และสุดท้ายทีพ่ กั ทีเ่ ราจองไว้ท่ี Imabari ดันยกเลิกอีก แถมทัง้ เมืองไม่เหลือ ทีว่ า่ งแล ้ว มีใกล ้ทีส่ ุดคือบนเกาะ Oshima (ซึง่ เป็ นหนึ่งในเกาะของ Shimanami Kaido) ทีห่ ่างไป 20 กิโลเมตร เรียกว่าเหลือเป็ นทีส่ ุดท้ายของสุดท้ายจริงๆ

All About the Bike And Baggage โจทย์ต่อมาคือการขนจักรยานไปปัน่ ครับ ข้อดีคอื เราจะได้ใช้รถของเรา ที่คุน้ กันมาตลอด อยากปัน่ เมื่อไหร่ก็ได้ (แถมประหยัดค่ ารถไฟ) แต่ก็ตอ้ ง แลกกับการขนของแบบพะรุงพะรังโคตร (เปลืองค่ าสัมภาระบนเครื่องบิน) คิดไปหลายตลบ สุดท้ายก็ตดั สินใจขนจักรยานไปด้วยกล่อง MOVE ครับ เพราะถอดแยกชิ้นส่วนไม่มาก (แค่แกะล ้อ) แล ้วก็เอาใส่กล่องได้เลย ต่อมาเรือ่ งจัดของ เราก็จดั ไปตามปกติ แต่ทริปนี้จะไม่ใช้กระเป๋ าลากครับ (เพราะลากจักรยานแทน) เราสองคนเลยพยายามจัดของอัดในกระเป๋ าแบ็คแพ็ค ของผมให้ได้มากทีส่ ุด แล ้วพกกระเป๋ าเดินทางของแฟนเสริมไปอีกใบ ซึง่ จริงๆ ของไม่ได้เยอะมากนะครับ ชุดจักรยานค่อนข้างบางๆ อัดเข้าไปในใบเดียวก็พอไหว แถมอุณหภูมชิ ่วงทีไ่ ปก็ยงั ไม่หนาวจัด ราวๆ 10 - 25 องศาเอง เสื้อผ้าและ เสื้อกันหนาวก็แทบไม่ได้เอาไปเลย แต่ก็ตอ้ งแลกกับการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้ค รบครับ ตัง้ แต่ ต วั ล็อ ค, ไฟหน้า /หลัง , เครื่ อ งมือ /อะไหล่, กระดิ่ง , กระติกน�ำ ้ ฯลฯ ซึง่ ถ้าทุกอย่างพร้อม ก็ออกไปผจญภัยกันเถอะครับ TIPS : กล่องทีแ่ ข็งแรงหน่อย แล ้วแกะน้อยๆ ก็จะมี Scicon Aerocomfort แล ้วก็ MOVE นี่แหละครับ แต่ MOVE ก็มขี อ้ จ�ำกัดหลายอย่างนะครับ เช่น ถ้ารถใหญ่มาก เกินไซส์ 52 หรือไซส์ M อาจใส่ไม่ได้ หรือต้องถอดหลักอาน เพิม่ ด้วย รวมทัง้ กล่องจะแข็งแรงแค่ระดับหนึ่งนะครับ ถ้าจะเอาดีกว่านี้ อาจต้อง ใช้พวก Hard Case เลย ซึง่ แข็งแรงกว่ามากๆ แต่ก็ตอ้ งรื้อรถเราอย่างมาก ด้วยเช่นกัน อ้อ! อีกอย่าง กระเป๋ า MOVE สามารถยัดสูบตัง้ พื้นไปได้ดว้ ยนะ

Welcome to Osaka หลังจากผ่านการเดินทางทีแ่ สนยาวนาน เราทัง้ สี่ (คนสองคน + รถสองคัน) รวมถึงสัมภาระอีกเล็กน้อย ก็มาถึงญี่ป่ ุนตอนหกโมงเช้า เราใช้เวลาไม่มาก ในการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรญี่ป่ ุน แต่ ด่านถัดไปที่ทา้ ทาย เรามากๆ นัน่ คือรถไฟครับ เราเริ่มทีส่ นามบินทีเ่ ป็ นสถานีปลายทาง เข็นกล่อง ขึ้นได้แบบสบายๆ จนรถไฟเริ่มเคลือ่ น และรับคนจากสถานีต่างๆ มาเรื่อยๆ เราก็เริ่มรูส้ กึ ว่าภาระใหญ่หลวงก�ำลังจะมา ถูกต้องครับ!!! คนก�ำลังไปท�ำงาน + เรียนหนังสือ และอัดแน่นเต็มรถไฟ แม้ว่าจะไม่แน่นเท่ากับทีโ่ ตเกียว แต่ไม่มใี คร ไม่จอ้ งมองทีก่ ล่องใบยักษ์สองกล่องนัน่ เพราะมันมีขนาดเท่ากับ 5 - 6 คนยืน!!! ผมพยายามลดขนาดตัวเองด้วยการเอากล่องสองกล่องมาอยู่ใกล ้ๆ กัน แล ้วเอา เป้ ยกั ษ์ทส่ี ะพายหลังวางบนกล่องอีกที แต่กย็ งั รูส้ กึ ว่าตัวเองเกะกะชาวบ้านโคตรๆ จนพอถึงสถานีปลายทาง เราก็กราบขอทางชาวญีป่ ่ นุ แล ้วรีบเหวีย่ งกล่องจักรยาน ออกจากรถไฟโดยสวัสดิภาพ หลังจากเอาสัมภาระเก็บและจัดการตัวเองเรียบร้อยก็ปาไปเกือบ 11 โมงครับ เราจึ ง ไปกิ น ข้า วแถวปราสาทโอซาก้า ก่ อ น จากนั้น ลองปัน่ ไปที่ ใ กล ๆ้ ซึง่ แพลนคร่าวๆ ว่าจะปัน่ ไปทีโ่ กเบกัน เพราะไป - กลับราว 60 กิโลเมตรนิดๆ ก็คดิ ว่าเราปัน่ ไป 1 ชัว่ โมง และกลับ 1 ชัว่ โมง ก็น่าจะเหลือเวลาสบายๆ การเอาจักรยานตัวเองมาปัน่ ครัง้ แรกทีญ่ ป่ี ่ นุ ครัง้ แรกดีมากๆ ครับ อากาศดี ฟ้ าใส รถยนต์ขบั มีมารยาท คือแบบไม่มเี ลี้ยวซ้ายผ่านตลอด แล ้วเราสามารถปัน่ บนถนนหรือจะบนฟุตบาทก็ได้ แต่ระวังคนเดินด้วย แถมรถเขาก็ขบั แบบชิดซ้าย เหมือนกับเราด้วย แทบไม่ตอ้ งปรับตัวเลย (แต่ทต่ี อ้ งปรับตัวคือการเลี้ยวขวาครับ คือถ้าเราปัน่ บนถนนแลว้ เราจะเลี้ยวขวา เราไม่สามารถจะเลี้ยวตีโค้งสวยๆ ได้ แบบทีบ่ า้ นเรานะครับ เพราะทีน่ ่ีเราต้องข้ามทางม้าลายเอาครับ!!!) แต่สุดท้ายเราก็พบปัญหา นัน่ คือเราปัน่ ท�ำความเร็วไม่ได้ครับ เนื่องจาก ไฟแดงมันถีม่ ากๆ แล ้วเรายังเกร็งในการปัน่ บนถนน จึงสลับมาปัน่ บนฟุตบาทด้วย ท�ำให้ชา้ กว่าเดิมอีก ชีวติ นี้ก็ไม่เคยคิดนะครับว่าจะปัน่ เสือหมอบที่ความเร็ว 12 – 16 กิโลเมตรต่ อชัว่ โมงได้ รถขอบสู ง แต่ งชุดเต็ม อุปกรณ์รุ่นท็อป ปัน่ บนฟุตบาทนี่แพ้รถแม่บา้ นนะครับจะบอกให้!!! ปัน่ ไปสองชัว่ โมงได้ไม่ถงึ 20 กิโลเมตรเอง!!! และยิ่งปัน่ ไปยิ่งรู ส้ กึ ลา้ ๆ น่ าจะมาจากการเดินทางด้วย สุดท้ายเลยต้องขอถอยทัพก่อนดีกว่า ซึง่ ผมว่าเราตัดสินใจถูกเลยแหละทีไ่ ม่ไป เพราะมืดเร็วมาก ห้าโมงพระอาทิตย์ก็ตกแลว้ ถ้าขืนเรายังฝื นไป คงถึงโกเบ ตอนมืดแน่ๆ แถมไม่รูจ้ ะกลับยังไงด้วย... เอาเป็ นว่า วันนี้ขอเป็ นนักท่องเทีย่ วธรรมดา เดิน Dotombori ชมผูค้ น ถ่ายรูปคู่กะป้ ากูลโิ กะ ชิมทาโกะยากิไปก่อนละกัน TIPS : กาแฟที่ญ่ีป่ ุนราคาโหดพอสมควรครับ มาตรฐานลาเต้รอ้ นแก้วหนึ่ง เฉลีย่ ราว 400 – 600 เยน (120 - 200 บาท) ซึง่ ท�ำให้ราคากาแฟในสตาร์บคั ส์ ถูกไปเลย อีกอย่างคือทาโกยากิแบบโอซาก้าจะเป็ นแบบนิ่มนะครับ ซึง่ ส่วนตัว ผมชอบแบบกรอบของโตเกียวมากกว่า

Nara Is Calling หลังจากความผิดหวังเมื่อวาน วันนี้เรารีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปนาราครับ เราออกจากโรงแรมราวเก้าโมง ไปจิบกาแฟก่อน แล ้วมุง่ หน้าไปทางทิศตะวันตก ระยะทางจากโอซาก้าไปนาราแค่ 30 กิโลเมตรเท่านัน้ วันนี้เราน่าจะทันสบายๆ สภาพการจราจรวันนี้คล ้ายเมือ่ วาน คือช่วงในเมือง เราท�ำความเร็วแทบไม่ได้เลย ไฟแดงถีม่ ากๆ จนกระทังออกมานอกเมื ่ องหน่อย เราถึงพอจะท�ำความเร็วได้บา้ ง เราปัน่ ตามถนนเส้น 308 ทีเ่ ป็ นเส้นทีใ่ กล ้ทีส่ ุด แต่มคี นบอกว่า หากเรา ปัน่ เส้น นี้ ไ ปเรื่อ ยๆ เราจะพบกับ ทางหลวงระดับ ต�ำ นานที่ช นั มากและยาก ทีส่ ุดในโลกอย่าง Kuragari Hill โอ้โห!! พูดแบบนี้ข้นึ เลยครับ ญีป่ ่ นุ มันประเทศ พัฒนาแล ้ว ใครเขาจะตัดถนนแบบบ้านเราทีไ่ ม่ทอนความชัน เนินโหดๆ ของไทย ผมก็ผ่านมาเยอะนะ วันนี้มนั ต้องเจอกันหน่อยครับ!!! เราดูป้าย 308 ไม่ให้หลง ลัดเลาะในหมูบ่ า้ นเล็กน้อย จนพอพ้นแนวของ หมูบ่ ้านเท่านัน้ แหละครับ แม่เฮ้ยยยยยยย!!! ความรูส้ กึ เหมือนเป็ นทางพุง่ เข้าไป ในป่ า จากนัน้ ก็เหมือนมีผมี าดึงขาไว้ ซึง่ ทางเขาชันมากจริงๆ ครับ ไม่มชี ่วงไหน ต�ำ่ กว่า 20% (บางช่วงมี 40%!!!!) แถมยังเพิม่ ความยากตรงทีพ่ ้นื ผิวถนนจะเป็ น ตะปุ่มตะป� ่ำกับมีร่องน�ำ้ ใหญ่มากๆ ดักเรารัวๆ ทางก็แคบมาก ไม่มจี ดุ พักเลย (คือถ้าลงจอดพักก็จูงยาววววว) เอาเป็ นว่าเนิน 3 กิโลเมตร เราท�ำเวลาไป ชัว่ โมงกว่า!!! กว่าจะได้เข้าเมืองนาราก็ราวๆ บ่ายสองครึ่งครับ เราเล่ น กับ กวางที่ น าราและชมเมือ งกัน ไปแค่ ช วั ่ โมงเดี ย วเท่ า นั้น เพราะประสบการณ์สอนเราว่าทีน่ ่ีคำ� ่ เร็วมากๆ และเราจะต้องไม่กลับทาง 308 อีก โดยเราจะปัน่ อ้อมภูเขาทางทิศเหนือแทน ราวสามโมงครึ่ง เราร�ำ่ ลาเจ้ากวางน้อย รีบท�ำธุ ระให้เสร็จ แลว้ ออกเดินทางย้อนทางเดิมในช่ วงแรก จนพอถึงแยก เราก็เลี้ยวขวาขึ้นไปอีกทาง ซึง่ เขียนว่า Hanna Road ครับ ทางนี้จะไม่เหมือน ทางที่เราเคยปัน่ มาเลยครับ มันจะคลา้ ยๆ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ปนทางด่วน บ้านเราครับ รถขับค่ อนข้างเร็วมาก และไม่มจี กั รยานปัน่ กับเราเลยซักคัน เราก็พยายามขี่ชิดซ้ายและท�ำความเร็วให้มากที่สุดครับ ยิ่งตกเย็นความมืด ก็ย่งิ เพิม่ ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเพิม่ ความกังวลให้เราอย่างมาก จนสุดท้ายเราก็ถงึ เขต โอซาก้าก่อนพลบค�ำ่ พอดิบพอดี!!! 14

Onomichi U2 & Hotel Cycle : โรงแรมจักรยานในต�ำนาน พอเรามาถึง ก็ตอ้ งอึ้งกับอาณาจักรของ Onomichi U2 ทีต่ กแต่งแบบ อินดัสเทรียลล็อฟต์ ทีน่ ่เี ขาเอาโกดังเก่าติดทะเลมาแปลงร่างเป็ นโรงแรมจักรยาน ครบวงจร ข้างในเรียกว่ามีครบทุกสิง่ แถมเอาจักรยานไปไว้ในห้องได้ดว้ ย!! ทีน่ ่ี มีหลายส่วนครับ ทัง้ ร้านขายของชิคๆ, ร้านอาหาร, บาร์, ร้านกาแฟ, เบเกอรี่ และ ร้านจักรยาน Giant, แต่ส่วนทีเ่ ป็ นโรงแรมเนี่ย มันมีช่อื ว่า Hotel Cycle ครับ ข้อมูลทีเ่ คยได้รบั คือ ทีน่ ่ีเหมือนสถานทีศ่ กั ดิ์สทิ ธิ์ของนักปัน่ ทีค่ วรมาพัก สักครัง้ ในชีวติ แต่พอได้มาจริงๆ เริ่มตัง้ แต่ประสบการณ์การจอง ซึ่งที่พกั ที่น่ี ราคาค่อนข้างแพงมาก (ถ้าเทียบกับทีอ่ น่ื ๆ ในเมือง) สนนราคาต่อ 1 คน ในห้อง แบบธรรมดา (ไม่รวมอาหาร) เริ่มต้นที่ 12,200 เยน (ราวๆ 4,000 บาท) หรือ 1 ห้อง 24,400 เยน (ราวๆ 8,000 บาท) ไม่ว่าจะจองผ่านเว็บจองโรงแรม หรือจองกับโรงแรมโดยตรงก็ราคาเท่าๆ กันหมด (แล ้วถ้าจองผ่านเว็บของโรงแรม ราคานี่จะคิดเป็ นต่อคน!! แบบทีแรกตกใจเลยนะ ว่าไปสองคนก็คูณ 2 เลย!!) ซึง่ พอเช็คกับหลายๆ ที่ ราคาต่อสองคนได้ราคาเท่ากันกับ 1 ห้องพอดี หลังจากเช็คอินเสร็จ ความรูส้ กึ แรกเมือ่ เข้าห้องคือ... ประตูหอ้ งหนักมาก! และเปิ ดค้างไม่ได้ (ท�ำให้การเข็นจักรยานเข้าห้องไม่ใช่ เรื่องง่าย) ตัวห้อง ค่อนข้างแคบและอึดอัด ฝ้ าเตี้ยมาก มีทแ่ี ขวนจักรยานโดยดัดแปลงเอาแฮนด์ เสือหมอบมาพันผ้าให้รอบแลว้ เอาติดผนัง (ซึง่ รถทีไ่ ซส์เล็กๆ (ถ้าเล็กกว่า 48) น่าจะแขวนไม่ได้) ในห้องมีชดุ นอนให้ใส่ มีอปุ กรณ์ต่างๆ ครบตามมาตรฐาน ห้องน�ำ้ ญีป่ ่ นุ ส่วนการประกอบจักรยาน คือเราก็เปิ ดกล่องกลางโรงแรม แล ้วก็ ประกอบมันอย่างนัน้ ไม่ได้มอี ะไรพิเศษครับ เราท�ำเอง อุปกรณ์ทกุ อย่างก็ใช้ ของเราหมดนะครับ รวมไปถึงสู บลม พอประกอบเสร็จก็เอาไปวางบนขาตัง้ ที่โรงแรมมีให้ เมือ่ เสร็จทุกอย่างก็ขนกล่องของเราไปวางไว้หน้าห้อง เป็ นอัน จบสิ้น กับ โรงแรมจักรยาน ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่าค่ อนข้างผิดหวังเล็กน้อย เมือ่ เทียบกับราคาทีจ่ า่ ยไป (อ่านต่อฉบับหน้า)

Road To Onomichi หมดเวลาสนุกทีโ่ อซาก้าแลว้ เพราะสถานีถดั ไปของเราคือเมืองโอโนมิจิ โดยเราจะเดินทางไปด้วยรถไฟชินคันเซ็นครับ จากสถานี Shin-Osaka เราจะ ไปลงที่สถานี Fukuyama ก่อนที่จะต่อ Local Train ไปอีกรอบหนึ่งครับ ค่าเดินทางคนละ 6,080 เยน ใช้เวลาราวหนึ่งชัว่ โมง กับระยะทางเกือบ 200 กิโลเมตร TIPS : แนะน�ำว่าถ้ามีของเยอะ/สัมภาระชิ้นใหญ่ เราควรซื้อตัวกั ๋ บเจ้าหน้าที่ ดีกว่าซื้อจากตูก้ ดตัวโดยตรง ๋ โดยแนะน�ำว่าจองแบบ Reserve ไว้ดว้ ย (ถ้าเรา มีแพลนอยู่แล ้ว ซื้อล่วงหน้าหลายๆ วัน จะดีมากๆ) และบอกกับเจ้าหน้าทีว่ า่ เรา มีสมั ภาระนะ (จะให้ดกี ็โชว์ให้เขาดูไปเลย) เขาจะพยายามหาที่นงั ่ หลังสุดให้ เพราะมันพอมีพ้ ืนที่ท่ีเราสามารถวางสัมภาระและจักรยานแทรกไว้ได้ครับ (แต่จริงๆ ทีน่ งั ่ บนชินคันเซ็นค่อนข้างกว้างอยู่แล ้วนะผมว่า) หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ เราสามารถวางไว้ตรงพื้นทีร่ ะหว่างขบวนรถก็พอได้นะ ขึ้นชินคันเซ็นเพลินมากๆ แต่อย่าเพิง่ เผลอหลับนะครับ ถ้าเลยป้ ายนี่ บอกตรงๆ ว่ายาว เพราะสถานี Fukuyama ไม่ใช่สถานีปลายทาง เขาจอดให้เรา ครู่เดียวเท่านัน้ ราวๆ 2 - 3 นาที ถ้าใกล ้จะถึงทีห่ มาย ให้เราเตรียมสัมภาระ ให้พร้อม เช็คให้ครบถ้วน แล ้วเอาไปวางตรงประตูเลย (คนญี่ป่ นุ เห็นสัมภาระ เราแลว้ จะไปต่ อประตู อ่ืนทันที เพราะกลัวลงไม่ทนั ฮ่ าๆๆ) จากฟุกุยาม่า เราเปลีย่ นชานชาลาลงมาที่ JR Rail เพือ่ ไปทีป่ ลายทางของเราทีส่ ถานี Onomichi นะครับ ระยะทางราว 15 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่ถงึ 20 นาทีกถ็ งึ โดยจุดหมายแรก ก็คอื Onomichi U2 ครับ TIPS : แม้ว่าที่ Onomichi จะมีสถานีชนิ คันเซ็นด้วย (มีชอ่ื ว่า Shin-Onomichi) แต่ผมแนะน�ำให้เลือกลงทีส่ ถานี Fukuyama แล ้วไป Onomichi ต่อด้วย JR มากกว่า เพราะว่าจากสถานี Shin-Onomichi ไกลจากตัวเมืองพอสมควร หมายความว่าเราจะต้องเข็นสัมภาระมาเองราวๆ 2.5 กิโลเมตร (ไม่แน่ใจว่ามีรถบัส ไหมนะครับ) อีกทัง้ รอบรถไฟทีจ่ ะไปลง Shin-Onomichi มีนอ้ ยกว่ามากๆ ครับ

CYCLIN G E VE NT

อุ่ นไอรัก คลายความหนาว 2018 เรื่อง / ภาพ : acidslapper สวัสดีปีใหม่เน่อ! ย้อนกลับไปเมื่อสองถึงสามปีก่อน ตอนนั้นกระแส ความนิ ย มในการปั่ นจั ก รยานของประเทศไทยเราก� ำ ลั ง ทะยานพุ ่งสูงถึงขีดสุด จ�ำได้ว่าวงการจักรยานโดยเฉพาะ เสือหมอบนัน ้ คึกคักมาก เรียกว่าไปไหนก็เจอ ทัง ้ เช้าทัง ้ เย็น จะเห็นจักรยาน (แต่งตัวเต็มยศ แทบจะโกนขนหน้าแข้ง เพื่อผลทางอากาศพลศาสตร์กน ั แล้ว!!!) เกลือ่ นกลาดไปหมด ่ อกก�ำลังกายของเชียงใหม่เรา เช่นห้วยตึงเฒ่า ตามสถานทีอ พืชสวนโลก ดอยกอม ดอยค�ำ ดอยสุเทพ ถนนวงแหวน หรือตามถนนเส้ นชานเมืองทั้งหลาย ช่วงเย็นนี่ แหม... อย่างก๊ะมีงานชุมนุมลูกเสือโลก

ส่วนเสือภูเขาชาวป่ าก็ใช่ย่อยกันซะที่ไหน เถียงกันแทบเป็ น แทบตาย สรุปว่าจะ 26 หรือ 27.5 หรือ 29 กันแน่ ? งานแข่ง Cross Country ยาวไปถึง Down Hill ก็มอี ยู่หนาตา ด้านพวก ชาวต่ างจังหวัด (กรุงเทพฯ) ก็ไม่นอ้ ยหน้านะ ซัดรอบสนามบิน สุวรรณภูมกิ นั เป็ นว่าเล่น เอาซะจนรัฐเห็นความส�ำคัญ จึงต้องสร้าง ‘สนามเขียว’ เพื่อสนองความเร็วแรงอย่างปลอดภัย จนกลายร่าง มาเป็ น ‘Sky Lane’ ในปัจจุบนั คราโน้นเราเคยมีงาน Bike for Mom และ Bike for Dad ทีย่ ง่ิ ใหญ่อลังการ เป็ นสิง่ ยืนยันถึงการมีอยู่อย่างโอ่อ่าผ่าเผยของชาว จักรยานทัว่ ทัง้ ประเทศ นี่ถอื เป็ นจุดชี้วดั ความนิยมสูงสุดของวงการ จักรยานในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ตอนนัน้ ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน ก็ มีแ ต่ ค นถามผมเรื่ อ งจัก รยาน ปัน่ ยัง ไง? ขาใหญ่ จ ริ ง เหรอ? เจ็บตูดมัย้ ? ซื้อยีห่ อ้ ไหน? รุ่นไหน? ไซส์อะไร? 27.5 หรือ 29 ดี? และอีกเพียบ หรือแม้แต่ คอลัมน์ Bike ทัง้ หลายที่แฟนานุ แฟน อ่านกันอยู่น้ ี ก็สถาปนาตัวเองขึ้นมาใน HIP Magazine ตัง้ แต่ ช่วงเวลานัน้ ด้วยเช่นกัน จนกระทัง่ ในเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ก็มงี านปัน่ จักรยาน ‘อุ่นไอรัก คลายความหนาว’ ขึ้นตามจังหวัดต่างๆ ทัว่ ประเทศ ซึง่ ผม ก็ ไ ด้ไ ปร่ ว มงานปัน่ กับ เขาด้ว ย จึ ง พบว่ า ณ วัน นี้ ค นร่ ว มงาน ปัน่ จักรยานน้อยลง แต่ดูจริงจังขึ้น เอ๊ะ! มันยังไงกัน? ผมก็เลยมา นัง่ คิดนอนคิด ว่ายน�ำ้ คิด ปัน่ จักรยานคิด วิง่ คิด (แฮ่) ตัง้ ค�ำถามกับ สิง่ ทีเ่ กิดขึ้น จนกลายมาเป็ นไอเดียทีไ่ ด้แรงบันดาลใจมาจากงานปัน่ ‘อุ่นไอรัก 2018’ ในการเขียนคอลัมน์น้ ีข้นึ สองปี ผ่านไป (ไม่ได้ไวเหมือนทีใ่ ครโกหก!) แน่นอน อะไรๆ มันก็ย่อมมีข้นึ มีลง ค�ำพระท่านว่ามันเป็ นสัจธรรม ในขณะทีจ่ กั รยาน ก�ำลังเฟื่ องอยูน่ นั้ ใครจะไปคิดล่ะว่าจูจ่ โู่ มเมนตัม้ ของการออกก�ำลังกาย ก็โยกย้ายบัน้ ท้ายงามๆ บนอานจักรยานแข็งโป๊ กไปเด้งดึง๋ ๆ อยู่ท่ี 16

การวิง่ ตอนนี้น่ะเหรอ จะเห็นได้วา่ สายๆ วันเสาร์หรืออาทิตย์ ไม่วา่ จะไปไหนมาไหน จะเจอคนใส่ชดุ วิง่ โดยทีม่ เี หรียญห้อยคอกันสลอน ทัว่ เมือง เปิ ดเฟซบุก๊ มาที โอ้วว มีแต่ รูปคนไปงานวิ่ง มิหน�ำซ�ำ้ เช้าวันจันทร์ (หรือแทบจะตลอดวัน) จะต้องไล่กดไลค์รูปคาดลายน�ำ้ ของเพือ่ นทีถ่ า่ ยโดยตากล ้องอิสระ - ประมาณว่าเอารูปฟรีมา Repost ไม่ยอมซื้อเขา อิอิ ด้ว ยเหตุ น้ ี ป ัจ จุ บ นั จึ ง มี กิ จ กรรมการวิ่ ง ผุ ด ขึ้น มากมาย เปิ ดโอกาสให้นกั วิ่งได้สะสมเหรียญ เสื้อที่ระลึก และลัน่ ชัตเตอร์ อวดโอ่ในสังคมออนไลน์กนั ได้อย่างอึกทึกครึกโครม ส่วนตัวผม มองว่าดีนะครับ ได้เป็ นแรงบันดาลใจ และเปิ ดโอกาสให้คนออกก�ำลังกาย หรือเล่นกีฬากันมากขึ้น ในวันที่โลกมันบ้าๆ บอๆ บูดๆ เบี้ยวๆ อาหารก็เป็ นพิษ น�ำ้ ก็เป็ นพิษ อากาศก็เป็ นพิษ แถมพวกเราส่วนใหญ่ ยังต้องหมกมุน่ นัง่ ท�ำงานจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์กนั อีก การมีกจิ กรรม ทีเ่ ปิ ดโอกาสให้เราได้กระโจนออกมาท�ำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะ ได้ออกก�ำลังกายเนี่ย เจ๋ง! “แลว้ จักรยานหายไปไหนล่ะ?” ผมตัง้ ค�ำถาม (และยังเชื่อว่า ค�ำถามนี้น่าจะผุดขึ้นในความคิดของคนหลายใครเช่นเดียวกับผม) อันทีจ่ ริงแล ้ว จักรยานมันไม่ได้หายไปไหนครับ (ก็เอาไว้ตากผ้าทีบ่ า้ น อยู่น่ีไง แฮ่!!!) ก็แค่โดนกระแสวิง่ กลบไปเฉยๆ นัน่ แหละ พอพูดถึงเรือ่ งกระแส ผมจับสังเกตได้อย่างหนึ่งว่า อะไรก็ตาม ทีเ่ ป็ นกระแสนิยม มันมักจะมีแพทเทิรน์ ทีด่ ูออกง่ายๆ ด้วยตาเปล่า นัน่ ก็คอื ... 1. ผูน้ � ำ กลุม่ คนทีแ่ หวกกระแส ประมาณว่าคือคนกลุม่ แรกๆ ทีเ่ ริม่ คลังการปั ่ น่ จักรยาน ช่วงแรกๆ ก็จะเหมือนตอนต้นของหนังแนว ซูเปอร์ฮโี ร่นนั ่ แหละ จะเท่ แต่เหงา ไม่ค่อยมีใครเข้าใจเท่าไหร่นกั 2. ผูต้ าม พอกลุม่ ผูน้ ำ� เริ่มสร้างจ�ำนวนหรือความต่อเนื่องของ กิจกรรมได้ในระดับหนึ่ง มันจะเริม่ กลายเป็ นแรงบันดาลใจ เป็ นแฟชัน่

หรือมีอำ� นาจชักจูงผูท้ อ่ี ยากลองบ้าง กลุม่ นี้แหละทีม่ สี ว่ นส�ำคัญในการ ขับเคลือ่ นกระแส เพราะกลุม่ นี้คอื ตัวแปรทีท่ ำ� ให้จกั รยานไม่ใช่แค่การ ออกก�ำลังกาย แต่กลายเป็ นไลฟ์ สไตล์ร่วมสมัยของคนใส่ใจสุขภาพ พูดง่ายๆ ว่าท�ำให้ของมีประโยชน์มนั ดูเท่วา่ งัน้ เหอะ 3. พวกโหนกระแส แน่นอนครับ พอจักรยานกลายเป็ นแฟชัน่ คราวนี้คลื่นมหาชนก็หลัง่ ไหลพรัง่ พรู กนั มามืดฟ้ ามัวดินเลยยยย ลองกลับไปมองปรากฏการณ์... จตุคามรามเทพ, อูคูเลเล่ หรือ จักรยานฟิ กซ์เกียร์ดูก็ได้ครับ โมเดลเดียวกันเด๊ะ! ช่วงเวลานี้มนั จะ พลุกพล่าน ใครเป็ นใครไม่รูแ้ ล ้ว ดอยสุเทพตอนเย็นๆ มีแต่คนไม่รูจ้ กั เป็ นใครก็ไม่รูไ้ ม่คุน้ หน้าคุน้ ตากันเหมือนก่อนหน้านี้แลว้ ตามสูตร! พอคนเยอะ คนทีค่ ดิ หรือถูกคอ หรือมีสไตล์คล ้ายๆ กันก็จะไหลไป รวมตัว กัน เกิด เป็ น ทีม โน้น ทีม นี้ เ บ่ ง บานเฉิ ด ฉายกัน จ้า ละหวัน่ แน่นอนว่าแต่ละกลุม่ ก็จะต้องมีความพิเศษเฉพาะเป็ นตัวของตัวเอง กลุม่ นี้เป็ นงัน้ กลุม่ นัน้ เป็ นงี้ อะไรต่อมิอะไรก็วา่ กันไป เวลาผ่านไปเริม่ ไวเหมือนทีใ่ ครโกหก... ตอนนี้บรรดามือ (เท้า) ใหม่ทต่ี บเท้าพาเหรดตามกระแสกันมาก็เริ่มจะเก่งขึ้น เอาจริงเอาจัง มากขึ้น มีศกั ยภาพมากขึ้น มี Performance ทีด่ ขี ้นึ แต่ดนั ไปสวนทาง กับกระแสนิยมที่กำ� ลังดิ่งตัวลง กระแสนิยมที่มขี ้ นึ ก็มลี งเป็ นอะไร ทีแ่ สนจะปกติ และแน่นอน ช่วงนี้กจ็ ะมีกระแสใหม่สอดแทรกเข้ามา (ในกรณีน้ ีคอื การวิง่ ) ช่วงดังกล่าวจะเกิดความเหลือ่ มๆ กันระหว่าง กระแสเก่ากับกระแสใหม่ จนได้กลุม่ คนออกมาอีก 4 ประเภท 1. พวกตามกระแสใหม่ ย้ายไปเป็ นนักวิง่ เลย ไม่ป่งไม่ปนั ่ มันแล ้วจักรยาน อ๋อ ขอโทษๆ กรุณาเรียกอย่างให้เกียรติกนั ด้วยว่า ‘ราวตากผ้าคาร์บอน’ จะดีกว่า! 555 ซึง่ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร คนเราก็มสี ทิ ธิ์ท่จี ะหาความสนุ กและความท้าทายแปลกใหม่ในการ ออกก�ำลังกายไปได้เรือ่ ยๆ สบายๆ ไม่วา่ กัน คนกลุม่ นี้ถา้ ชวนออกทริป จักรยาน เขาจะบอกว่าไม่วา่ ง เพราะไปลงสมัครงานวิง่ ไว้แล ้ว แถมยัง ถามย้อนอีกว่า “อ้าว ยังปัน่ จักรยานอยู่อกี เหรอ?” ซึง่ อันทีจ่ ริงแลว้ คนกลุม่ นี้น่ีแหละทีท่ ำ� ให้วงการอะไหล่จกั รยานมือสองคึกคัก 555 2. พวกไฮบริด ระบบนิเวศน์เริ่มเกิดการกลายพันธุข์ ้นึ แลว้ ! ตัวอย่างไม่ไกลเลย ก็ผมเองนี่แหละ ปัน่ ก็ได้ วิง่ ก็ได้ ปัน่ สนุกแบบนึง วิง่ ก็มนั อีกแบบนึง วันไหนมีเวลาก็ซดั มันทัง้ คู่ อันนี้เรียก ‘Multi-Sport’ กิจกรรมของคนพวกนี้จงึ ถูกตอบสนองออกมาเป็ นอีเวนต์ทเ่ี รียกว่า ‘ทวิกีฬา (Duathlon)’ (ใครยังไม่รูจ้ กั ไปหา HIP ฉบับย้อนหลัง อ่านดูกนั เองเน่อ) ปัน่ + วิง่ และทีส่ ำ� คัญคนกลุม่ นี้มแี นวโน้มทีจ่ ะ พัฒนาโหมดไฮบริดของตัวเองไปสู่ ‘ไตรกีฬา’ ในอนาคต! พวกนี้แหละ ทีจ่ ะเป็ นตัวสร้างกระแสใหม่ เพราะทัง้ ไลฟ์สไตล์ และอาวุธยุทโธปกรณ์ ของพวก ‘รนหาทีไ่ ตร’ นี่มนั ก็เริ่มไม่ธรรมดากันแล ้ว 555 3. พวกรักแท้ ไม่วา่ คลืน่ มหาชนจะแห่ไปนิยมอะไร พวกเรา ยังรักจักรยานเสมอ คนกลุม่ นี้จะพบเจอได้ตามทริปโหดๆ งานแข่ง จักรยานระดับกึง่ สมัครเล่น (อีกกึง่ หนึ่งซีเรียสมาก!) หรือเลยไปอีกนิด ก็จะเริ่มมีตน้ สังกัดสโมสรต่างๆ ยาวไปจนใส่เสื้อเหลือง - น�ำ้ เงิน ในนามทีมชาติไปโน่นเลย กลุม่ คนพวกนี้ถา้ กระแสจักรยานกลับมา นิยมอีกครัง้ พวกเขาจะดูย่งิ ใหญ่มาก ประหนึ่งทีบ่ า้ นมีเวสป้ าเก่าๆ โทรมๆ อยู่คนั หนึ่ง อยู่มาวันนึงใครต่อใครก็แห่มาสะสมและนิยม กันขึ้นมา เวสป้ าเก่าทีบ่ า้ นเลยกลายเป็ นโคตรเท่ไปโดยปริยาย! 4. พวกนอกกระแส ก�ำลังมองหาจักรยานสักคัน เอาไว้ปนั ่ ออกก�ำลังกาย ไม่สนใจกระแส เลยไม่ได้ตามกระแส และไม่ได้ สวนกระแส แต่มาด้วยความสนใจ + แรงบันดาลใจส่วนตัวลว้ นๆ ถ้าเป็ นการ์ตูนเรื่องดราก้อนบอล เครื่องสเกาเตอร์จะไม่สามารถ อ่านค่าพลังของคนกลุม่ นี้ได้! ทัง้ หมดทีว่ า่ มาเกี่ยวกับกระแสความนิยมในการออกก�ำลังกายนี้ เป็ นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ไม่วา่ จะเป็ นกิจกรรมใดๆ ถ้าหากเป็ นการออกก�ำลังกายและน�ำพาผู ค้ นไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ก็ ย่ อ มเป็ นเรื่ อ งที่ ดี ผมยัง เห็ น ว่ า การสร้า งความหลากหลาย ยังเป็ นทางเลือกทีด่ ที ส่ี ุด เพราะจะได้เปิ ดโอกาสให้กบั คนหลายๆ แบบ ได้เลือกสิง่ ทีเ่ หมาะสมกับตนเองทีส่ ุด

จากการไปร่วมงานปัน่ จักรยาน ‘อุ่นไอรัก 2018’ ผมพบว่า ในแง่ของจ�ำนวนนักปัน่ จักรยานอาจจะน้อยลงจากเมือ่ สองสามปี ก่อน ไปบ้าง แต่ส่งิ ส�ำคัญคือ ผมกลับพบว่าคุณภาพในการปัน่ จักรยาน ในขบวนดีข้ ึน ใช่ ๆ วัน เวลาที่ผ่ า นมาคงเสริ ม สร้า งทัก ษะและ ประสบการณ์หลายอย่างให้กบั นักปัน่ มากขึ้น นี่คือค�ำตอบที่ยนื ยัน หนักแน่นว่าจักรยานไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่อยู่กนั แบบไม่เสียงดัง เหมือ นเมื่อ ก่ อ น ซึ่ง ผมหวัง ว่ า กิ จ กรรมนี้ จ ะยัง คงด�ำ เนิ น ต่ อ ไป และยังหวังว่ากิจกรรมนี้จะช่วยเป็ นก�ำลังใจให้กบั คนทีย่ งั รักจักรยาน เป็ นแรงบันดาลใจให้กบั คนทีอ่ ยากปัน่ จักรยาน หรือเป็ นทางเลือกหนึ่ง ส�ำหรับผูท้ ส่ี นใจจะออกก�ำลังกาย ไม่ ว่ า กระแสนิ ย มในการออกก�ำ ลัง กายจะแปรเปลี่ย นไป ในทิศทางใดก็ตาม ยังไงซะมันก็กลายเป็ นเรือ่ งรองลงมาอยูด่ นี นั ่ แหละ เพราะประเด็นส�ำคัญมันยังคงอยู่ท่กี ารกระตุน้ ให้ผูค้ นยังคงสนใจ และใส่ใจทีจ่ ะดูแลสุขภาพ นี่สทิ ถ่ี อื เป็ นการบ้านทีส่ ำ� คัญของรัฐหรือ หน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง ว่าจะส่งเสริมกิจกรรมแบบนี้ให้เกิดต่อเนื่องและ ยัง่ ยืนได้อย่างไร? รัฐจะวางตัวยังไงกับกระแสรักสุขภาพนี้ ไม่ใช่ ในฐานะผูจ้ ดั งานตามกระแส แต่จะต้องสร้างกระแส สร้างค่านิยม สร้างทิศทางในการใช้ชีวติ โดยการวางนโยบายบางอย่างล่วงหน้า ไปในอนาคต เยีย่ งทีป่ ระเทศพัฒนาแล ้วส่วนใหญ่เขาท�ำส�ำเร็จกันไงจ๊ะ เพราะผมเชื่อเสมอว่ากีฬาเป็ นศาสตร์ทเ่ี จ๋งมาก สามารถสร้าง สุขภาพร่างกายให้แข็งแรงขึ้น และในขณะเดียวกันกับที่ กระบวนการ ในการพัฒนาสุขภาพกายด�ำเนินไปนัน้ อีกฝัง่ หนึ่งก็จะเกิดกระบวนการ ขัด เกลาความคิด ตามมาด้ว ย ไม่เ ชื่อ ลองสัง เกตคนรอบตัว ดู ดิ! คนที่ อ อกก�ำ ลัง กายนั้น จะดู มีสุ ข ภาพดี เ อย บุ ค ลิก ภาพดี เ อย กระฉับกระเฉงเอย มีปฏิภาณไหวพริบเอย มีความคิดและภาวะ การตัดสินใจดีเอย แถมมีความรับผิดชอบ ใช่ๆ เนี่ย เรื่องใหญ่

ความรับผิดชอบ! อันนี้เห็นได้ชดั เลย! เพราะคนทีอ่ อกก�ำลังกายนัน้ จะต้องแบ่งเวลาจากเรื่องอื่นๆ ดังนัน้ นี่จงึ เป็ นสาเหตุสำ� คัญทีย่ นื ยัน ได้ชดั ว่าคนออกก�ำลังกายมักเป็ นคนที่มีการจัดการตารางเวลาที่ดี แน่ นอน! คนที่มกี ารจัดการดีพวกนี้เนี่ย จะมีความรับผิดชอบสู ง ซึง่ การได้ร่วมงานกับคนมีความรับผิดชอบดีน่ีมนั ประเสริฐเพียงไหน ทุกคนคงเข้าใจกันดี ผมคงไม่ต ้องสาธยายเพิม่ ละเนาะ เห็นปะ? การออกก�ำลังกายจึงเป็ นศาสตร์ท่มี ปี ระโยชน์มาก เพราะสามารถพัฒนาคนในหลากหลายมิติ ทัง้ ร่างกายและจิตใจ... ไอ้ทเ่ี ขาว่ากันว่า ‘ยาวิเศษ’ นี่ท่าจะจริงแฮะ

R T

เรื่อง : ชวัลวัฒน์ ภาพ : KAN RUN mini marathon

‘คัน รัน’ เริ่มปล่อยตัวกันเวลา 6 โมงเช้า ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ โดยมี นักวิ่งทุกเพศทุกวัย ทัง้ ขาแรง และมือสมัครเล่น กว่า 2,500 คน วิง่ กันด้วยความสดชื่นไปกับอากาศ ที่เย็นสบายก�ำลังดีในยามเช้า ไปตามถนนเลียบ คันคลองชลประทาน ขาออกเมือง ไปจนถึงประตู ทางเข้าสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี (ฝัง่ ที่ ติดกับโรงเรียน นวมินทราชูทิศ พายัพ) ซึ่งเป็ น ครึ่งทางของระยะ Fun Run โดยใครทีว่ ง่ิ ระยะนี้ ต้องกลับตัว ข้ามสะพานเข้าสู่ลูว่ ง่ิ และทางจักรยาน เลีย บคัน คลองชลประทานด้า นใน (ฝัง่ ที่ติด กับ สนามกี ฬ า 700 ปี ) แล ว้ วิ่ง กลับ ไปเข้า เส้น ชัย ทีศ่ ูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ ส่วนใครทีว่ ง่ิ Mini Marathon ยังไม่ตอ้ ง

่ ดใส กับ ‘KAN RUN Mini Marathon 2018’ วอร์มอัพ คาเฟ่ มาพบกับทุกคนในเช้าทีส ้ เป็นครัง ่ วันที่ 16 ธันวาคมทีผ ่ า่ นมา งานวิง ้ แรก เมือ ่ เพื่อสุขภาพ ที่ วอร์มอัพ คาเฟ่ จัดขึน ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ โดยมีระยะทางการแข่งขันให้เลือกกัน 2 ระยะ ทั้ง Fun Run 4 กิโลเมตร และ Mini Marathon 10 กิโลเมตร แถมยังได้การตอบรับที่ดีมากจากผู้ท่ร ี ักในสุขภาพ เพราะมีผู้สมัครเข้ามาเต็มจ�ำนวนที่เปิดรับ 2,500 คน ในเวลาเพียงไม่กี่นาที!!

กลับ ตัว ตรงนี้ แต่ ต อ้ งวิ่ง กัน ต่ อ ไปอีก ประมาณ 3 กิโลเมตร จะเห็นสะพานจักรยานทีเ่ หมือนขัวเหล็ก (สะพานเหล็ก ) ตรงนัน้ แหละคื อ จุ ด เช็ ค พอยต์ ครึ่ง ทางของเรา วิ่งไปกลับตัวเข้าสู่ ทางจักรยาน เส้น ทางขากลับ คือ ไฮไลต์ข องระยะนี้ เ ลยก็ ว่า ได้ เพราะมีบรรยากาศทีร่ ่มรื่น และทัศนียภาพข้างทาง สวยๆ ผ่านทุ่งหญ้าอันเขียวขจีของ Farm Cowboy Chiangmai (ลานเนินนุ่ ม) มีตน้ ไม้ใหญ่คอยให้ ร่มเงาตลอดสองข้างทาง วิง่ ไปเข้าเส้นชัยด้วยรอยยิ้ม และสุ ข ภาพดี พร้อ มรับ เหรี ย ญที่ร ะลึก ทุ ก คน และถ้วยรางวัลส�ำหรับผูท้ เ่ี ข้าเส้นชัยอันดับที่ 1 - 5 ในโอกาสนี้ ท างตัว แทนผู จ้ ดั การแข่ ง ขัน ‘KAN RUN Mini Marathon 2018’ ได้นำ� รายได้ ส่วนหนึ่งจากการจัดงาน จ�ำนวน 150,000 บาท 18

ร่วมสมทบทุนให้ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ภาควิ ช าเวชศาสตร์ฟ้ ื นฟู ท างระบบกล า้ มเนื้ อ และระบบประสาท ห้อ งเบอร์ 20 โดยมี ผู ช้ ่ วยศาสตราจารย์ นพ.ปกรณ์ วิวฒั น์วงศ์วนา ประธานอนุ กรรมการกองทุน เป็ นตัวแทนรับมอบ นอกจากได้สุ ข ภาพที่ดีแ ล ว้ ยัง ได้บุญ กลับ บ้า น ไปอีกด้วย งานในครัง้ นี้ราบรื่น และประสบความส�ำเร็จ ไปได้ดว้ ยดี แล ้วอย่าลืมติดตามกิจกรรมดีๆ จากทาง วอร์มอัพ คาเฟ่ ในครัง้ ต่อไป

R U

R EAS ON W H Y YO U RUN?

เร า วิ่ งกั น เ พื่ ออะ ไร ? เรื่อง / ภาพ : อาเหลีย

ในช่วงปีที่ผ่านมา นักวิ่งหลายๆ ท่านที่วิ่งมาตลอดทั้งปี ต่างมีเป้าหมายในการวิง ่ อยูเ่ สมอ ไม่วา่ จะเพื่อสุขภาพ, เพื่อเป้าหมาย ่ นแปลงตัวเอง มาราธอนไปจนถึงอัลตร้ามาราธอน, วิง ่ เพื่อเปลีย หรือแม้กระทั่งวิ่งเพราะอกหักก็มี ้ ปีใหม่ 2562 คอลัมน์ Run ขอน�ำเสนอ 10 แนวทาง ในวาระขึน ่ เู้ ขียนได้ประสบพบเจอตลอดทัง ของนักวิง ี่ า่ นมา ในมุมมอง ้ ปีทผ ่ ทีผ ของผู้เขียนเอง คุณอยู่ในข่ายของนักวิ่งต่างๆ เหล่านี้หรือไม่ ลองมาอ่านดูกันครับ

1. วิ่งเพื่ อกิน

ด้วยคอนเส็ปต์ทว่ี า่ ‘วิง่ มินิ กินมาราธอน’ หรือ ‘วิง่ แล ้ว กินเท่าไหร่ก็ได้’ จึงให้เกิดนักวิง่ สายพริ้ม (ตรงข้ามกับพริ้ว) ที่ย่ิง วิ่ง ยิ่ง ตัว ใหญ่ ข้ ึน เรื่อ ยๆ แปรผกผัน กับ ระยะทางที่ว่ิง อย่างสิ้นเชิง อันทีจ่ ริง เมือ่ ไปวิง่ มาแล ้วไม่ใช่วา่ จะกินอะไรก็ได้ นะครับ วิง่ แล ้วก็ตอ้ งกินของทีด่ มี ปี ระโยชน์ เพือ่ ทีจ่ ะให้ร่างกาย ได้รบั สารอาหารดีๆ แล้วร่างกายจะได้แข็งแรง ลักษณะการกิน ก็ไม่ได้ยากมากมาย ลองหาของทีเ่ ป็ นสารอาหารดี เช่นมันต้ม แทนที่จ ะเป็ น เลย์ เนื้ อ ไก่ แ ทนที่จ ะเป็ น ไก่ ท อด เป็ น ต้น เพียงเท่านี้ ร่างกายเราก็จะได้สารอาหารดีๆ เข้ามาสูร่ ่างกายแล ้ว เราจะไม่เป็ นหมูรบั ปี กนุ อีกต่อไป!!! 2. วิ่งเพื่ อสุขภาพ

สายนี้จะสังเกตได้จากความเฉยชาต่อการออกงานต่างๆ มีงานก็ไม่ค่อยอยากลง อยากจะไปเฉพาะงานทีอ่ ยากไปจริงๆ การวิง่ แบบนี้จะมีความสม�ำ่ เสมอ มีการฝึ กซ้อมทีค่ ่อนข้างคงที่ ไม่นิยมออกงานวิง่ ทุกสุดสัปดาห์เป็ นบ้าเป็ นหลัง จะไม่ค่อย ตามเทรนด์ ยกตัวอย่างเช่น สนามกีฬา 700 ปี คือแหล่งกบดาน ของข้าพเจ้า พบข้าพเจ้าได้ทน่ี ่ี ทุกวัน เวลา 16:30 - 18:30 น. ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าห้องน�ำ ้ พร้อมกับลูกชิ้นและน�ำ้ จากร้าน ป้ ารถเข็นเท่านัน้ เป้ าหมายของการวิ่งแบบนี้คือเพื่อสุขภาพ ทีแ่ ท้ทรู ออกก�ำลังกายทุกวัน เพือ่ ความฟิ ต เพือ่ ความสบายใจ ของตนเอง เป็ นเอกเทศไม่เหมือนใคร อยากวิง่ ก็วง่ิ ไม่อยากวิง่ ก็พกั มีความสุขในแบบของตนเอง ไม่ยดึ ติดกับใคร มีการ วางเป้ าทีค่ ่อนข้างชัดเจน แต่ถา้ อยากจะลงงานไหนสักงานล่ะก็ รับรอง คุณอาจพบร่างปี ศาจของนักวิง่ สายสุขภาพก็เป็ นได้

3. วิ่งเพื่ อความเป็นเลิศ

ลงคอร์ท, เทมโป้ , สไตรด์, ดริล ศัพท์เหล่านี้จะหลุด ออกมาจากนักวิง่ สายความเป็ นเลิศ นักวิง่ กลุม่ นี้จะวิง่ เพือ่ หวัง ความเร็ว หวังถ้วยรางวัล หวังเกียรติยศ ลงงานแข่งวิง่ มากกว่า สายสุขภาพ ระหว่างแข่งวิง่ ก็จะมีเทคนิคต่างๆ เริ่มตัง้ แต่การ โฉบน�ำ ้ การวิง่ เกาะหลังนักวิง่ คนข้างหน้า ถ้าแอดวานซ์หน่อย ก็จะมีการหลอกลากให้คนข้างหลังหมดแรงก่อนจะฉี กหนีไป นักวิง่ กลุม่ นี้นอกสนามจะเป็ นคนทีน่ ่ารัก คุยด้วยสนุก เหมือน เป็ นเพือ่ นกันทัว่ ไป แต่เมือ่ เข้าสนามแข่งเมือ่ ไหร่ จิตวิญญาณ เลือ ดนัก สู จ้ ะปะทุ อ อกมาทัน ที พร้อ มเชื อ ดเฉื อ นคู่ แ ข่ ง แบบไร้ความปราณีจนกว่าจะถึงเส้นชัย แต่เมือ่ จบเกมเมือ่ ไหร่ ก็ต่างมีนำ�้ ใจเป็ นนักกีฬา จับมือกัน กอดกัน ยินดีกบั ผูช้ นะและ ปลอบใจให้แก่ผูแ้ พ้ แน่นอนว่านักวิง่ สายนี้ทกุ คนไม่ใช่ผูช้ นะ ทุกครัง้ ไป และทุกครัง้ ทีแ่ พ้ เขาจะกลับมาเข้มแข็งกว่าเดิมเสมอ นี่คอื นักวิง่ สู่ความเป็ นเลิศในนิยามของผมครับ 4. วิ่งเพื่ อความบันเทิง

เป็ นนักวิ่งที่แตกสายมาจากนักวิ่งเพื่อความเป็ นเลิศ เพราะอาจจะรูต้ วั ว่า ซ้อมหนักไปแล ้วก็ไปสู่ความเป็ นเลิศไม่ได้ ก็เลยถอยกลับมาจุดที่ตวั เองท�ำได้ดี คือวิ่งธรรมดานี่แหละ แลว้ พอเราได้กลับมาอยู่ในจุดทีว่ ง่ิ ช้าๆ ตามงานแต่ไม่เหนื่อย เราเลยได้เห็นคนรอบข้างมากขึ้น เราเริ่มรูส้ กึ อยากจะให้กำ� ลังใจ พวกเขามากขึ้น ก็เลยเริ่มจากการให้กำ� ลังใจเบาๆ จนเริ่ม แตกไลน์ไปให้กำ� ลังใจโดยผ่านชุดแฟนซีบา้ ง หลังๆ เราจะพบ นักวิง่ สายแฟนซีมากขึ้น นักวิง่ เหล่านี้ ไม่ใช่นกั วิง่ ที่วง่ิ ไม่เก่ง ตามมุมมองของผม เพราะผมพบว่าหลายๆ คนคืออดีตขาแรง ทีอ่ ยากกลับมาวิง่ สบายๆ บ้างก็เท่านัน้ แต่กป็ ฏิเสธไม่ได้เลยว่า งานวิ่ง ในปัจจุบนั นัน้ มีสีสนั ขึ้น มากมายเพราะนักวิ่งแฟนซี นี่ แ หละ ท�ำ ให้ต วั งานมีค วามบัน เทิง มีค วามสนุ ก สนาน เป็ นศูนย์รวมใจของงานหลายๆ งานเลยจริงๆ

5. วิ่งเพื่ อเธอ

“ตัวเองๆ เขาอยากได้ลงิ อะ วิง่ ให้เขาหน่อย” ผูเ้ ขียน ได้ยนิ ค�ำพูดนี้กลางงานบางแสน 21 ซึง่ เป็ นงานวิง่ ทีเ่ คลมตัวเอง ว่าดีทส่ี ุดในประเทศ (และก็ดสี มค�ำร�ำ่ ลือ ไม่เถียงเลยจริงๆ) งานนี้จะมีกมิ มิกอย่างหนึ่งคือ ถ้าใครวิง่ เร็วทีส่ ุดของแต่ละเพศ 100 คนแรก จะได้ตุก๊ ตาลิงมาไว้ในครอบครอง ซึ่งปี ท่แี ลว้ คนทีไ่ ด้ลงิ คนสุดท้ายท�ำเวลาไว้ท่ี 1:37 ชัว่ โมง ตัวนักวิง่ ชายทีล่ งแข่งวิง่ ไว้เริ่มหน้าซีดเผือด “เธออออ... จะดีเหรอ... มันยากนะ... เค้าวิง่ ฮาล์ฟได้ 1:40 ชัว่ โมงเอง” “ถ้าตัวเองไม่ได้ลงิ นะ ไม่ตอ้ งมาคุยกันเลย” เมื่อค�ำพูดนี้จบลง ภารกิจวิ่งเพื่อเธอจึงได้บงั เกิดขึ้น เช้าวันแข่ง ผมเจอนักวิง่ คนนี้อกี ครัง้ ที่จดุ ปล่อยตัวบล็อก B ของการแข่งขัน เขาหน้าตาจริงจังมาก หวังชิงลิงอย่างแท้จริง และผมได้เห็นเขาอีกครัง้ ตอนที่วง่ิ สวนกันตรงกิโลเมตรที่ 8 หลังจากนัน้ ผมก็ไม่ได้เห็นเขาอีกเลย แต่เห็นแฟนเขาแว้บๆ อุม้ ตุก๊ ตาลิงผูช้ าย ก�ำลังเอาไปถ่ายรูปทีท่ ะเล จากเหตุการณ์น้ ี ท�ำให้ผมรูว้ า่ พลังแห่งความรักท�ำได้ทกุ อย่างจริงๆ ครับ 6. วิ่งสายวาร์ป

‘วิ่งไม่เร็ว แต่ อยากติดถ้วย’ นี่ คือนิยามของนัก วิ่ง ประเภทนี้ จริงๆ นักวิง่ ประเภทนี้ไม่ควรเอาเยีย่ งอย่าง เพราะ วิ่งไม่เร็วนัน้ ยังไม่เท่าไหร่ แต่ การที่ลดั เส้นทางเพื่อที่จะได้ ลดระยะทางเนี่ย ไม่ถกู ต้องเอาเสียเลย ไม่วา่ คุณจะได้ถว้ ยหรือ ไม่ได้ถว้ ยก็ตาม แค่ คุณลงสมัครวิ่ง ก็เหมือนกับเป็ นการ ทดสอบใจตัว เองเบื้ อ งต้น แล ว้ การโกงตัว เองแบบนี้ ไม่มปี ระโยชน์อะไรเลย รวมไปถึงยิง่ ท�ำให้การแข่งขันมีปญั หา อีกด้วย หากใครพบนักวิง่ ประเภทนี้ ฝากเตือนกันด้วยนะฮะ ถ้าลงแข่งวิง่ แล ้วท�ำแบบนี้ อย่าวิง่ เลยดีกว่า 20

7. วิ่งเข้าป่า

ไม่ได้หมายความว่าวิง่ หนีอะไรแต่อย่างใด แต่หมายถึง การวิง่ เทรล ซึง่ เพือ่ นๆ ของผมก็เริม่ วิง่ เข้าป่ ากันทีละคนสองคน อย่ า งปี ท่ีผ่ า นมาต้อ งยอมรับ ว่ า คนวิ่ง เข้า ป่ ากัน เป็ น ว่ า เล่น เหมือนเทรนด์กำ� ลังมา จะว่าไปการวิง่ เทรลเองก็มเี สน่ หแ์ ละ แรงจูงใจทีด่ พี อทีจ่ ะดึงดูดใครหลายๆ คนให้เข้าไปวิง่ ในป่ ากัน ตัง้ แต่ววิ ทีส่ วยเกินกว่าจะได้เจอในเมืองหรือทีท่ ำ� งาน การวิง่ ที่ไ ม่ ต อ้ งอัด หัว ใจอัด ปอดกัน ให้ร ะเบิด กัน ไปข้า งให้จ บไป ในทีเดียว จะเดินบ้าง จะวิง่ บ้างก็ได้ ไม่เห็นเป็ นไร มีทงั้ ชีวติ ขาขึ้น และชีวติ ขาลง บางทีข้นึ ก็ข้นึ อย่างเดียว จนหัวแทบจะทิม่ ดิน อยู่แล ้ว (ไต่เขาชันๆ) หรือบางทีขาลง ก็วง่ิ ลงกันเพลินจนลืมแก่ เลยทีเดียว ช่วงนี้การวิง่ เทรลก็จะฮิตๆ หน่อย ใครทีจ่ ะไปก็เตรียม อาหาร เตรียมสิง่ ของให้พลังงาน รวมไปถึงยากันแมลงและ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปด้วย กันอันตรายนะครับ บางทีคุณอาจไม่ตอ้ งไปวิง่ แข่งทีไ่ หนก็ได้ แค่วง่ิ เทรลไปเข้าป่ า ดูววิ สวยๆ เท่านี้กไ็ ด้พกั ผ่อนไปในตัวแล ้ว 8. วิ่งสายพร็อพ

พร็อพทีว่ า่ ไม่ใช่ Propaganda ทีแ่ ปลว่าโฆษณาชวนเชือ่ หรือ Proposal ทีแ่ ปลว่าข้อเสนอแต่อย่างใด แต่มนั คือค�ำแสลง มาจาก Properties of Scene ทีย่ ่อสัน้ ๆ เหลือแค่คำ� ว่าพร็อพ หรือถ้าเอามาใช้กบั ศัพท์วง่ิ ในปัจจุบนั ก็คอื นักวิง่ ทีเ่ น้นอุปกรณ์ เป็ นหลักนัน่ เอง ไม่ว่าจะเป็ นนาฬกิ า, กางเกงรัดกลา้ มเนื้อ, รองเท้าราคาหลักหมืน่ , เสื้อรัดกล้ามเนื้อ, หมวกให้ความเย็น, แว่นกันแดดปรับแสงได้, ผ้ารัดหัวระบายเหงือ่ , หูฟงั ไร้สาย, เครื่องวัดชีพจร, เป้ แบกของระหว่างวิง่ , กระติกน�ำ้ ฉุกเฉิน, ถุงเท้ารัดกล ้ามเนื้อ... เฮ้ยยยยยย จะเยอะไปไหนนนน ใครว่า วิง่ เป็ นกีฬาทีป่ ระหยัด ยิง่ วิง่ ยิง่ เยอะ อุปกรณ์กเ็ ยอะตามระยะ ขึ้นมาซะอย่างนัน้ แต่เอาจริงๆ แล ้ว ผมคิดว่ามันเป็ นความสุข ของนักวิ่งต่างหากล่ะ บางทีเขาอยากวิ่งเพราะอยากรู ข้ อ้ มูล เกี่ยวกับตัวเอง ก็เลยต้องติดเครื่องวัดชีพจร วัดการก้าวเท้า ไปในตัว บางทีเขาแพ้แดด เลยต้องใส่แว่นกันแดด บางทีเขา อาจจะเจ็บ เลยต้องใส่เสื้อผ้าแบบพิเศษ หรือบางคนอาจจะชอบ สีน้ ี ชอบแต่งตัวแบบนี้ เลยต้องท�ำตัวแบบนี้กเ็ ป็ นไปได้ ผมว่า มันเป็ นสิทธิส่วนบุคคลทีเ่ ขาอยากจะแต่งตัวยังไงก็ได้ ลองคิด ซะว่ามันเป็ นสีสนั สิ ดู ไปดู มาเพลินๆ สนุ กจะตาย เห็นคน แต่งชุดแบบนัน้ แต่งชุดแบบนี้ บางทีเราอาจจะอยากจะได้บา้ ง ก็เป็ นได้นะ เผลอๆ ได้ไอเดียเอาไว้แต่งตัวในการวิง่ ครัง้ หน้าด้วย ตอนหารูปหลังแข่งจะได้หารูปง่ายๆ ไงล่ะ 9. วิ่งเพื่ อโซเชียล

นักวิง่ สายนี้ อุปกรณ์หลักจะประกอบไปด้วยสมาร์ทโฟน ในมือของตนเอง ซึง่ จะใช้ทงั้ ระหว่างวิง่ และหลังวิง่ เขาจะนิยม ลงงานวิ่งต่ างๆ แลว้ ถ่ายรู ปก่ อนงานบ้าง ระหว่างงานบ้าง หลังงานบ้าง จากนัน้ ก็อพั ลงโซเชียลมีเดีย เพือ่ ให้โลกรูว้ ่าตรู ออกมาวิง่ นะเฟ้ ย ฉันเป็ นคนรักสุขภาพ ออกก�ำลังกายเป็ นชีวติ

แม้จะอ้วนไปนิด แต่ก็รกั ชีวติ ไม่แพ้ของหวาน อะไรแบบเนี้ย ซึ่งสายโซเชียลนี้ไม่ได้เป็ นสายสร้างภาพแต่อย่างใด ผมเอง ก็เคยเป็ น สมัยออกวิง่ ใหม่ๆ นี่ลงรูปงานวิง่ แทบทุกงาน ทุกวัน บางงานวิง่ จบไปหลายวันแล ้วยังขุดรูปมาโพสต์อยู่เลย ไม่ใช่วา่ ขี้อวดแต่อย่างใดนะครับ แค่อยากเติมเชื้อไฟให้ตวั เอง ไม่อยากให้ ไฟที่ลุกโชนตอนออกก�ำลังกายเพื่อตัวเองมันมอดไป ยิ่งเรา ดู ภ าพตัว เองตอนวิ่ง เราก็ ย่ิ ง อยากออกไปวิ่ง อี ก เรื่ อ ยๆ เหมือนเป็ นก�ำลังใจให้ตวั เอง ดังนัน้ อย่าไปคิดว่านักวิง่ สายนี้ เขาเยอะเลยฮะ เขาอาจจะชอบของเขาก็ได้ เหมือนกับทีผ่ มชอบ กินชามุกไม่ใส่มกุ นัน่ แหละครับ 10. วิ่งสายแล้วววววววววว

สายนี้คงไม่ตอ้ งพูดอะไรให้มากความ สายก็คือสาย ตัง้ ใจวิ่งแลว้ ก็ยงั ตื่นสาย ตื่นมาพร้อมกับสเตตัสในโซเชียล ของเพือ่ น จากเช้าทีค่ วรจะอยู่กบั เพือ่ นๆ ในเฟรม มีเหงือ่ ออก ชุ่มฉ�ำ่ รับเช้าวันหยุดอันแสนสดใสและหวานชืน่ กลับกลายเป็ น ความขืน่ ขมและตรอมใจ เมือ่ เลือ่ นนิ้วผ่านสเตตัสของเพือ่ นๆ ไปเรื่อยๆ แล ้วพบว่าไม่มตี วั เราอยู่ในนัน้ ความคิดหลายอย่าง จะวนเวียนอยู่ในหัว เช่น ท�ำไมกรู ไม่ต่ืน, ค่าบัตรวิ่งกรู ล่ะ, เหรียญรางวัลกับเสื้อฟิ นิชเชอร์ของตรู , แคลอรี่ท่ตี อ้ งเบิรน์ วันนี้หายไปไหนหมด และสุดท้ายก็จบวันด้วยการไปวิง่ ซ่อม คนเดียวแบบเหงาๆ พร้อมกับฉายา ‘นักวิง่ เตียงดูด’ ทีเ่ พือ่ นๆ พร้อมจะมอบให้ไปอีกสักระยะหนึ่ง จริงๆ ปี ทผ่ี า่ นมาก็มเี รือ่ งราวต่างๆ มากมายได้ผา่ นเข้ามา สร้างเราให้เป็ นนักวิง่ ทีด่ ขี ้นึ กว่าเดิมอยู่ทกุ ๆ วัน ทุกอย่างล ้วน แล ้วแต่เป็ นประสบการณ์ทจ่ี ะท�ำให้เราเติบใหญ่กลายเป็ นนักวิง่ ทีด่ ขี ้นึ ได้ในอนาคต ส�ำหรับปี 2562 นี้ ก็ขอให้นกั วิง่ ทุกท่าน มี สุ ข ภาพที่ ดี แ ละแข็ ง แรงปลอดภัย คิ ด อะไรก็ ข อให้ สมความปรารถนาทัง้ ปี และวิง่ สนุกตลอดปี กนุ นี้นะครับ 21

R A V

STRASB OURG

เมื อ งเล็ ก ๆ ช าย แ ด นฝ รั่ ง เ ศ ส เรื่อง / ภาพ : HIP Editor

เสาร์ 29 กันยายน 2561 หลังจาก ่ วในเยอรมันมาแล้ว ทีเ่ ราเดินทางท่องเทีย หลายเมือง แผนการเดินทางของเราก็คอ ื จะโฉบเข้ า ไปในดิ น แดนฝรั่ ง เศสที่ เ มื อ ง ่ วกินดืม ่ สัก 2 คืน Strasbourg เดินเล่น เทีย ก่อนจะย้อนกลับไปที่ Munich ในเยอรมัน ่ วงาน Oktober Fest และบินกลับบ้าน เทีย จาก Munich 2

จากเมือง Freiburg ในเยอรมัน การเดินทางที่ สะดวกทีส่ ุดทีเ่ ราท�ำการบ้านไว้คอื ให้ใช้บริการรถบัส Flixbus (global.flixbus.com) ซึง่ จะใช้เวลาในการเดินทางแค่ 1 ชัว่ โมง 5 นาที ราคาค่ าโดยสารก็ไม่แพง แต่ ละเที่ยวในแต่ ละวัน ราคาไม่เท่ากัน วันนัน้ เราเลือกเดินทางเทีย่ ว Freiburg 14:40 – Strasbourg 15:45 ได้ราคาคนละ 5.99 ยูโร (ถูกมาก) แต่จะบอกว่าที่ Freiburg ไม่มที ่ใี ห้ซ้ อื ตัว๋ ต้องซื้อออนไลน์ อย่างเดียว แล ้วก็ไปรอทีป่ ้ ายจอดรถประจ�ำทาง ตามหมายเลข ทีร่ ะบุ ซึง่ อยู่หน้าสถานีรถไฟ Freiburg โดยตัวโดยสารจะส่ ๋ ง มาทางออนไลน์อยู่ในโทรศัพท์มอื ถือ เรียกว่า สมัยนี้นกั เดิน ทางท่องเทีย่ ว ถ้าไม่มมี อื ถือ ไม่มอี นิ เตอร์เน็ต ก็คงล�ำบากน่าดู

Flixbus พาเรามาถึง Strasbourg ช้ากว่าก�ำหนด ไม่เกิน 10 นาที จากจุดจอดรถบัส เราเดินทางลากกระเป๋ าไป โรงแรมทีพ่ กั ทีจ่ องไว้แล ้วล่วงหน้า ซึง่ ไม่ได้ไกลมากนัก เราเลือก โรงแรมชื่อ Le Grand Hotel ทีอ่ ยู่ดา้ นหน้า (ฝัง่ ตรงข้ามถนน) สถานีรถไฟ Strasbourg เพราะวางแผนไว้ว่าในวันที่เราจะ เดินทางไป Munich เราจะใช้บริการรถไฟ ซึ่งก็จะสะดวก ในการลากกระเป๋ า เป็ น อย่ า งมาก, ระหว่า งเดิน ไปโรงแรม เราผ่านย่ านท่องเที่ยว ทัง้ ร้านกินขนม กินอาหาร ร้านดื่ม พบว่า บรรยากาศเมืองนี้ดูชิลมาก ดู เหมือนนักท่ องเที่ยว จะค่อนข้างเยอะ (อาจเพราะเป็ นบ่ายวันเสาร์) เมืองนี้ดูมคี วาม คลาสสิ ค ผสมผสานกับ ความเป็ นอาร์ ท ให้ไ ด้เ ห็ น อยู่ และบอกได้ว่าชัว่ โมงแรกใน Strasbourg เราพบเห็นผูค้ น หลากหลายสีผวิ และ โฮมเลสส์ จ�ำนวนไม่นอ้ ย

3 1. บรรยากาศริมแม่น�้ำ Ill (อิลล์) ในวันแดดดี อาทิตย์สิ้นเดือนกันยายน 2561 2. Flixbus โลว์คอสต์บัสราคาถูกส�ำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในยุโรป 3. เรียกได้ว่าเมืองนี้มีแม่น�้ำล�ำคลองอยู่ทั่วไป 4. บรรยากาศน่านั่งดื่มกินริมน�้ำ 5. สถาปัตยกรรมแบบเก่าที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับเมือง

ช่วงเย็นของวันเสาร์นนั้ กับวันอาทิตย์อกี ทัง้ วัน เรามีเวลา เดินเล่น เอื่อยเฉื่ อย ดู เมือง Strasbourg แบบไม่เร่ งรีบ เมือ งนี้ มีส ถาปัต ยกรรม อาคารตึ ก รามบ้า นช่ อ งสวยงาม และเป็ นเมืองทีไ่ ด้รบั ประกาศให้เป็ น ‘มรดกโลก’ ด้วย ในเมืองมีแม่นำ�้ อิลล์ (Ill River) ท�ำให้การท่องเที่ยว ทางเรือเพื่อดู เมืองได้รบั ความนิยมอย่างมาก สังเกตได้ว่า เรือท่องเทีย่ วในวันอาทิตย์มคี นนัง่ เต็มตลอด แต่เราเลือกเดิน เลียบคลอง แม้อากาศจะเย็นอยู่บา้ ง แต่มแี ดดดี เห็น บรรดาฝรัง่ พากัน มานัง่ เล่ น ตากแดดอยู่ ริ ม น�ำ ้ ผมเองจ�ำได้วา่ บ่ายวันนัน้ แวะคาเฟ่ รมิ แม่นำ �้ สัง่ เบียร์ฝรัง่ เศส มานัง่ ดื่มตากแดดด้วย และพบว่า ฝรัง่ อาจจะเพลิดเพลิน กับแสงแดด แต่สำ� หรับคนไทยอย่างเรา แดดมันแรงและร้อน ใช่ย่อยเลยครับ

อาหารการกิน และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เมือง Strasbourg ก็ ถู ก พู ด ถึง ในมากเป็ น พิเ ศษ ปกติ อ าหาร สัญ ชาติ ฝ รัง่ เศสส�ำ หรับ ผมนั้น ไม่ เ ท่ า ไหร่ แต่ ผ มก็ ย งั สัง่ เมนู ตบั ทอดที่เขาว่ากันว่าขึ้นชื่อของที่น่ีมาลอง ส่วนเจ๊ปูนนั้ ดู สนุ กและเพลินไปกับการได้ลองชิมอะไรใหม่ๆ ทัง้ อาหาร และขนม ส่ ว นผมนัน้ เพลิน ไปกับ ได้ล องเบีย ร์ท งั้ คราฟท์ และไม่คราฟท์หลายตัว พูดถึงเรื่องอาหารแลว้ ลืมบอกว่า โรงแรมที่เราพักมีบริการอาหารเช้ารวมอยู่ในราคาที่พกั ด้วย (ราคาที่พกั เฉียดๆ 100 ยู โร/คืน) คือจะบอกว่า อาหารเช้า ของโรงแรม Le Grand นัน้ เป็ นบุฟเฟต์ทม่ี ใี ห้เลือกแบบจัดเต็ม และเราก็กนิ แบบจัดเต็ม อิม่ ถึงบ่ายทัง้ สองวัน

6. อาหารฝรั่งเศสแบบนี้น่าลอง 7. Craft Beer ฝรั่งเศส เลือกหยิบมาลองเพราะฉลากมากกว่าอย่างอื่น 8. เขาบอกว่ามาฝรั่งเศสต้อง Fischer Beer (ใครบอกไม่รู้?) 9. ขนมฝรั่งเศส 10. มหาวิหารแห่งเมือง Strasbourg วิหารในยุคกลางที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว มาดูความสวยงามให้เห็นกับตา 11. - 12. คนชอบงานออกแบบตึกในยุคก่อน คงเดินเล่นดูเมืองเพลิน 13. วง Street Music คุณลุงคุณน้าที่เราแวะชมและซื้อผลงาน CD

ที่เมือง Strasbourg นอกจากบรรยากาศของเมือง และผูค้ นจะท�ำให้เราชอบและประทับใจแล ้ว อีกอย่างทีเ่ ราชอบ ก็คอื Street Music พวกวงดนตรีทเ่ี ล่นตามริมถนน อย่างเช่น วงคุณน้าคุณลุง (รุ่ นใกลเ้ คียงกับเรา?) ที่เลือกมาเป็ นปก ของ HIP เล่มนี้ ทัง้ บรรเลงและร้องดนตรีสไตล์ป็อป - แจ๊ซซ์ กันอย่างสนุก มีชวี ติ ชีวา และยังมีซดี ผี ลงานเพลงขายดี ผมเอง ยืนดูวงนี้อยู่นานสองนาน และอุดหนุนซีดมี าด้วย 1 แผ่น 24

14 15

14. ด้านนอกสถานีรถไฟ Strasbourg มองดูสมัยใหม่ 15. โรงแรม Le Grand Hotel อาคารเก่าฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟ 16. - 17. ภายในสถานีรถไฟ Strasbourg อยากชาร์จแบตเตอรี่มือถือ ต้องออกแรงปั่นไฟเอง และ มีเปียโนตั้งไว้ให้ใครๆ มาเล่นก็ได้ 18. เดินไปเจอม้าหมุนส�ำหรับเด็กๆ

สถานีรถไฟ Strasbourg ทีอ่ ยู่ตรงข้ามโรงแรมทีพ่ กั เป็ นอีกสถานทีท่ เ่ี ราชอบ มองจากภายนอกตัวสถานีเหมือนจะ มีความโมเดิรน์ และความอาร์ทอย่างมาก เพราะมีการดีไซน์ โครงสร้า งปิ ด ตัว อาคารเก่ า ไว้อ ยู่ เมื่อ เดิน เข้า ไปถึง ข้า งใน จึงสัมผัสได้ถงึ ความสวยงามในแบบสมัยก่อน เป็ นอีกแนวคิด ที่เท่และดูดเี ลยครับ ไม่ร้ ือของเก่า ซ่อมแซมให้ดูดี และใส่ ความเป็ นสมัยใหม่ให้อยู่ดว้ ยกันได้ ภายในสถานีรถไฟใหญ่โตโอ่โถง และมีระบบการจัดการ ที่ ดี ชนิ ด ที่ ว่ า ฟั ง ก์ ช ั ่น ของสถานี แ ละเจ้า หน้า ที่ ท่ี น่ี สร้างความประทับใจให้นกั ท่องเทีย่ วผูไ้ ม่รูเ้ รื่องภาษาฝรัง่ เศส และภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะแข็งแรงอย่างเราได้เป็ นอย่างดี บริเวณโถงของสถานีทจ่ี ดั เป็ นทีพ่ กั คอยเวลา ก็จะมีจดุ ส�ำหรับ ชาร์จ แบตเตอรี่ มื อ ถื อ ซึ่ ง เราจะต้อ งใช้แ รงขาปัน่ แบบ ปัน่ จักรยาน จึงจะได้กระแสไฟส�ำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ซึง่ เป็ น ความคูลและฮิพดีนะครับ อีกอย่างก็คอื สถานีจะวางเปี ยโนไว้ ทีต่ รงโถงนี้ดว้ ย ใครนัง่ รอรถไฟแล ้วเบือ่ ๆ ก็มานัง่ เล่นเปี ยโน ได้เ ลย วัน นัน้ ที่เ ราเข้า ไปรอรถไฟที่ส ถานี ก็เลยได้ยิน ทัง้ ชายหนุ่ มผิวสีผูห้ ดั เคาะคียเ์ ปี ยโน กับวัยรุ่นหญิงสาวฝี มอื ดี บรรเลงเพลงของ Adele ให้ได้ยนิ เป็ นไอเดียทีด่ คี รับ

ด้วยความทีเ่ ราตัง้ ใจไปพักผ่อน เทีย่ วเล่นแบบไม่เร่งรีบ ในเมือง Strasbourg ค้างคืน 2 คืน ได้สมั ผัสกินดืม่ รสชาติ ที่แ ปลกออกไป ถือ ได้ว่า เมือ งนี้ ไ ด้ส ร้า งความประทับ ใจ ให้กบั ทริปนี้ของเราได้ไม่นอ้ ย ** หลังจากกลับมาจากเมือง Strasbourg ไม่ก่เี ดือน เมือ่ คืนวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ก็เกิดเหตุการณ์ผูก้ ่อการร้าย กราดยิงคนทีต่ ลาดคริสต์มาส หนึ่งในย่านท่องเทีย่ วทีส่ ำ� คัญ ของเมืองนี้ ท�ำให้มผี ูเ้ สียเสียชีวติ ถึง 3 คน และ 1 ใน 3 นัน้ เป็ นนักท่องเทีย่ วชาวไทยทีเ่ ดินทางไปเทีย่ วกับครอบครัวด้วย, ขอแสดงความเสียใจมา ณ ทีน่ ้ ี ** นัน่ คงเป็ นอี ก สิ่ ง หนึ่ ง ที่ แ สดงให้เ ห็ น ว่ า ทุ ก วัน นี้ การเดินทางท่องเทีย่ วไปสัมผัสโลกกว้าง ทุกเมืองท่องเทีย่ วมี ‘อันตราย’ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเมืองนัน้ จะเป็ น เมืองใหญ่หรือเมืองเล็ก แต่คงไม่มอี ะไรทีจ่ ะมาห้ามความอยากออกไปท่องโลก ของเราได้

J O U R N E Y A M E Z I N G

& D I

E S

คอลัมน์นี้เกิดจากความตื่นเต้นของเราที่ได้ไปเจออาหารแปลกๆ ใหม่ๆ แบบ... เฮ้ย!!! เพิ่งเคยเห็นง่ะ จากการท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือแม้แต่ในประเทศเอง อาหารนั้นๆ ส�ำหรับหลายๆ คนคงไม่รู้สึก wowww! แต่อีกหลายคนต้อง wowww! แน่ๆ เพราะอาหารนั้นๆ อาจจะประยุกต์ใหม่ได้อร่อยและสวยงามหรือเป็นอาหาร พืน้ บ้านธรรมดา แต่กท็ ำ� ให้เรา wowww! ได้ จนเราต้องไปค้นหาสูตรเพือ่ ทีจ่ ะปรุงรสชาติให้เหมือนหรือคล้ายทีส่ ดุ และบางทีกเ็ ป็นเเรงบันดาลใจให้เราดีไซน์เมนูใหม่ๆ ขึน้ มาซะเลย

L IVE R DUMPL ING S OU P @ SCHWA N G AU

ซุปตับปั้ นก้อน @ ชวังเกา เรื่อง/ภาพ : Missน�้ำปู๋

Wowww... เป็นซุปใสนิ หอมดีเนาะ!!! ณ ร้าน Brunnenstüberl, Schwangau, Bavaria, Germany

Amazing Dish คราวที่ แ ล ว้ กับ การ เที่ย วในประเทศเยอรมนี เราได้ Wowww!!! กับ Veggie Bagel ทีเ่ มือง Rothenburg ob der Tauber ไปแล ้ว... มาคราวนี้เราตัง้ ใจมาเทีย่ วเมือง Schwangau และ Füssen ซึ่งเป็ นเมืองเล็กๆ สวยงามในแคว้นบาวาเรียที่อยู่ติดกัน และเมือง Schwangau ก็ยงั เป็ นทีต่ งั้ ของปราสาทเทพนิยาย อัน โด่ ง ดัง นัน่ คื อ ‘ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein)’ ซึง่ เป็ นต้นแบบของปราสาท วอลต์ ดิสนีย ์ และเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของ ดิสนียแ์ ลนด์... รวมทัง้ ‘ปราสาทโฮเอินชวังเกา (Hohenschwangau)’ ก็อยู่ทเ่ี มืองนี้ดว้ ย เราท�ำการบ้านไปก่อน... แน่นอนว่าหาทีพ่ กั แต่เมืองไหนดีละ่ ? เพราะอยู่ตดิ กัน ถ้าเลือกเมือง Füssen ก็ใกล ้สถานีรถไฟ แต่ถ ้าเมือง Schwangau ก็จะอยู่ใกล ้ปราสาท ดูแล ้วโรงแรมในเมือง Füssen โดยรวมจะแพงกว่าเล็กน้อยเพราะความเป็ น ‘เมือง’... ส่วน Schwangau จะเป็ นชนบท ทัง้ สองเมือง เดินถึงกันได้ (เราชอบเดิน) อีกอย่างเราตัง้ ใจว่า จะขีจ่ กั รยานด้วย ก็เลยตัดสินใจเลือกนอนทีเ่ มือง Schwangau....

เราจองตัว๋ ล่ ว งหน้า ที่จ ะขึ้น ไปดู ป ราสาท นอยชวานชไตน์วนั พรุ่งนี้ ดังนัน้ วันนี้เราจึงมีเวลา ทั้ง วัน ที่ จ ะเดิ น เล่ น และขี่ จ ัก รยานเที่ ย วเล่ น ไปทัง้ สองเมือง... จาก Füssen เราเดินเล่นบนถนน Reichenstraße ซึ่ง เป็ น Walking Street ตึกรามบ้านช่องและร้านรวงสวยงาม มีแบ็คกราวด์ เป็ นภูเขา เดินทะลุมาจนถึงโบสถ์ Parish Church of St. Mang ข้างในสวยงามมาก ทัง้ สถาปัตยกรรม และเพดานเป็ นงานจิตรกรรมแบบ Fresco เดินต่อ ก็เจอกับโบสถ์เล็กๆ Heilig–Geist–Spitalkirche สวยสะดุ ด ตาด้ว ยงานจิ ต รกรรมบนตัว อาคาร ภายนอกที่เป็ นแบบ Fresco เช่ นกัน ก่ อนที่จะ ข้ามสะพานไปเดินเล่นเลียบแม่นำ �้ Lech เพือ่ ไปดู น�ำ้ ตก Lech ก็น่ารักดี ทีส่ วยก็เพราะน�ำ้ เป็ นสีเขียว ท่ามกลางภูเขาและป่ าทึบ ดูอดุ มสมบูรณ์ดมี าก

5 7

1. ทะเลสาบ Alpsee มุมมองจากบนปราสาทนอยชวานชไตน์ 2. ปราสาทนอยชวานชไตน์ 3. ทางขึ้นปราสาทนอยชวานชไตน์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ขึ้นรถม้าเสียตังค์ แต่เดินฟรี 4. ปราสาทโฮเฮ็นชวานเกา 5. อาคารสวยงามที่ท�ำเป็นร้านขายของที่ระลึก 6. ทะเลสาบ Alpsee น�้ำเป็นสีเทอร์คอยส์ 7. ทางคนเดินและทางจักรยานที่มุ่งสู่ปราสาทนอยชวานชไตน์ (เห็นไกลๆ) 8. วิวแบบนี้ ปั่นจักรยานจะสุขแค่ไหนคงไม่ต้องบรรยาย 9. น�้ำตก Lech 10. ภาพจิตรกรรมแบบ Fresco ภายในโบสถ์ Parish Church of St. Mang 11. โบสถ์ Heilig–Geist–Spitalkirche สวยสะดุดตามาก 12. Walking Street (ถนน Reichenstraße)

Amazing Dish : Liver Dumpling Soup

จากนัน้ เราก็ปนั ่ กลับไป Schwangau เพือ่ ดู ทางขึ้น ปราสาทไว้ก่ อ น แล ว้ ไปปัน่ เล่น ในเมือ ง Schwangau ซึง่ เป็ นเมืองชนบท ถนนหนทางสะอาด เงียบ บ้านเรือนเป็ นแบบ Log Cabin Bavaria อากาศก็กำ� ลังดี เราปัน่ ไปจนถึงพื้นทีต่ งั้ แคมป์ตดิ กับ ทะเลสาบ Forggensee เจอร้านอาหารก็แวะซะเลย สัง่ เบียร์กบั ไวน์ขาวมาแก้กระหายก่อน ดูเมนู แลว้ เราก็อยากลองซุปตับ (Liver Dumpling Soup หรือภาษาเยอรมัน Leberknödel) เพราะไม่เคยกิน มาก่อน พอเสิรฟ์ มาบนโต๊ะเท่านัน้ Wowww... เป็ น ซุปใสนิ หอมดีเนาะ!!! ซดกินร้อนๆ กับขนมปัง อร่ อ ยดี ได้ร สและกลิ่น ของตับ เล็ก น้อ ยรวมกับ กลิน่ เครือ่ งเทศ น�ำ้ ซุปเป็ นแบบใส หอม ซดคล่องคอ จนหมด และตบไวน์ขาว อืมมมม... การเที่ยว และกินมันมีความสุขจริงๆ...

10 11