HIP MAGAZINE ISSUE 137 : MARCH 2016 (SECTION B)

Page 1

1

b side


EDITORIAL

M A R C H 2 0 1 6 V o l. 1 2 N o. 1 3 7

CONTENTS Specia 03 Cover Story 06 Bike Section 12 Travel 20

03

SPECIAL

ฉบั บ นี้ , เราจะพาคุ ณ แบกเป้ เ ที่ ย วดอย สไตล์จิตอาสาที่แม่วางสกูลสเตย์ โรงเรียน ที่ เ ปิ ด ให้ บ ริ ก ารบ้ า นพั ก แก่ นั ก ท่ อ งเที่ ย ว เป็นแห่งแรกในประเทศไทย

Team Work ปลายเดือนกุมภาฯ ทีผ่ ่านมา HIP Magazine และ HIP Event แทคทีมกันไปจัดกิจกรรม HIP ปัน่ ปาย (HIP Boke Vol.1) ทีอ่ ำ� เภอปาย แม่ฮอ่ งสอน กันมา เดือนทีแ่ ล ้วเลยเป็ นอะไรทีว่ นุ่ วายกันสุดๆ ไหนจะมีวนั น้อยลง ไหนจะต้องแบ่งภาคดูแลทัง้ หนังสือและกิจกรรมในความรับผิดชอบ ไหนจะต้อง วางแผนจัดการงานนี้ ที่พวกเราเห็นตรงกันว่าถ้าเกิดขึ้นได้น่าจะดี และน่ าจะดีมากๆ ถ้างานออกมา น่ารัก น่าปัน่ สมดังทีต่ งั้ ใจ แล ว้ งานก็ อ อกมาน่ า ประทับ ใจจริ ง ๆ ด้ว ยสิ แม้ผู เ้ ข้า ร่ ว มจะไม่ ใ ช่ ห ลัก ร้อ ยหลัก พัน คน แถมสปอนเซอร์ย งั น้อ ย ในส่ ว นนี้ ก็ ต อ้ งขอบคุ ณ ททท. ส�ำ นัก งานแม่ฮ่ อ งสอน, ธ. กรุ ง เทพฯ และสายการบินแอร์เอเชีย นอกจากนัน้ ก็เป็ นน�ำ้ ใจของเพือ่ นฝูงคนพันธุเ์ ดียวกัน ทีอ่ ยากให้เกิดกิจกรรม เช่นนี้ข้ นึ มา อย่าง บุระล�ำปาย รีสอร์ท ที่ช่วยกันคิด ช่วยกันท�ำมาตัง้ แต่โครงการยังเป็ นวุน้ หรือ Reverie Siam ทีม่ อบรางวัลห้องพักให้นักปัน่ ทีร่ ่วมกิจกรรม และ หมาใจด�ำ ทีใ่ จดีมอบเครือ่ งดืม่ บ�ำรุงใจ ให้ตงั้ 2 ลัง ก็ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ทีน่ ้ อี กี ครัง้ ด้วย หลังกิจกรรมผ่านพ้น แม้ทมี งาน HIP ทัง้ Magazine และ Event จะอ่อนเพลียจากการจัดงาน ขนาดไหน วันถัดมาเราก็ยงั คงต้องรับผิดชอบหน้าทีท่ ร่ี ออยู่ Magazine ก็ลยุ ปิดเล่มกันต่อแบบไฟแรงเฟร่อ! ส่วน Event ก็มงี านพีอาร์กจิ กรรมทีต่ อ้ งสานต่อให้กบั ลูกค้า เรียกได้วา่ ต้องหยุดเรื่องพักเอาไว้ก่อน และยิง่ ได้เห็นฟี ดแบคทีต่ ามมาทางหน้าเฟซบุค๊ ของผูเ้ ข้าร่วมกิจกรรมในวันนัน้ แลว้ ก็ยง่ิ ท�ำให้เรี่ยวแรง กลับมาเต็ม!!! จนพอจะมีแรงเหลือคิดเผือ่ ไปแล ้วว่า HIP Bike คราวหน้าจัดเดือนไหนดี (ฮ่าๆ) นัน่ จึงเป็ นสาเหตุวา่ ท�ำไม HIP ฉบับมีนาคมจึงเพิง่ คลอดออกมาให้ผูอ้ ่านได้หยิบจับกันในวันนี้ แต่ถงึ อย่างไรก็ตาม งานนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มี Team Work ทีด่ ี ส่วนนี้ก็ตอ้ งขอบคุณ พนักงาน HIP ทุกคนทัง้ 2 แผนกทีช่ ว่ ยกันปัน่ ให้งานนี้ออกมาเป็ นจริง และสนุกสนานกันแบบสุดเหวีย่ ง (ฮ่าๆ) สมกับเป็ นการปัน่ จักรยานแบบ HIP HIP ทีไ่ ม่มใี ครเหมือน และไม่เหมือนใคร ส�ำหรับใครที่ถามว่าจะจัดอีกมัย้ ? บอกตรงนี้เลยว่า ‘จัดให้แน่ นอน’ แต่จะเป็ นตอนไหนนัน้ แจ้งให้ทราบอีกที.

ชลธิดา พระเมเด หัวหน้ากองบรรณาธิการ

digital contents www.hipthailand.net

2

b side

06 COVER STORY

HIP และ ททท.แม่ฮ่องสอน ชักชวน นั ก ปั ่ น จากทั้ ง เชี ย งใหม่ แ ละกรุ ง เทพฯ ไปที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อร่วมกัน ปัน่ จักรยานในกิจกรรม ‘ปัน่ ปาย’ ด้วยกัน งานนี้เราไม่ลืมที่จะเก็บภาพและเรื่องราว มาฝากคุณผู้อ่าน ว่าบรรดานักปั่นเขา เจอกับอะไรกันมาบ้าง ตลอดระยะทาง กว่า 40 กิโลเมตรรอบเมืองปาย

20 TRAVEL

จะเป็ น อย่ า งไร...เมื่ อ กราฟิ ก ดี ไ ซเนอร์ แห่งออฟฟิศ HIP Magazine เก็บกระเป๋า หอบกล้องไปเยือนเทศกาลดนตรีระดับอินเตอร์ ไกลถึงสิงคโปร์ มาดูกนั ว่าทีน่ นั่ มีอะไรคูลๆ บ้าง และเทศกาลดนตรีทวี่ า่ นีเ้ ป็นอย่างไร กับการเล่า แบบฉากต่อฉากถึงรสถึงชาติ ใน Travel ฉบับนี ้


BIKE&TRAVEL -special-

MAE WANG SCHOOL STAY แบกเป้เที่ยวดอยสไตล์จิตอาสา เรื่อง: ชลธิดา ภาพ: ศมนภรณ์

ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา, ตอนที่ลมหนาวยังไม่จางไปจากเชียงใหม่ เราได้ รั บ การชั ก ชวนให้ ไ ปเที่ ย วดอยที่ แ ม่ ว างจากเพื่ อ นรุ ่ น พี่ เธอบอกว่ า มีโรงเรียนแห่งหนึ่งน่าสนใจ ท�ำเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวเข้าพักได้ด้วย ชื่อแม่วางสกูลสเตย์ บริหารจัดการโดยคุณครูและนักเรียน พอได้ยินว่าแม่วาง ใจก็อยากไปแล้ว ยิ่งได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่

หลังตกลงกันได้ว่าไปวันธรรมดาดีกว่า จะได้ทำ� กิจกรรมกับเด็กๆ ด้วย เมือ่ ถึงวันนัดหมาย ทีมของเราก็ออกเดินทางจากเชียงใหม่ไปแม่วาง เพือ่ ไปเจอกับ คุณอุบ๊ - ภัทราทิพย์ พงษ์พานิช ตัวแทนกลุม่ นิเทศฯ จุฬาฯ อาสา ผูด้ ูแลโครงการ ทีข่ บั รถมาจากกรุงเทพฯ แล ้วรอรับเราขึ้นรถไปด้วยกัน เพราะทางโหดมาก ต้องลัดเลาะ ไปตามไหล่เขา ผ่านหมูบ่ า้ นเล็กๆ ไปอีกเกือบ 10 กิโลเมตร แถมยังชันมากด้วย ต้องใช้รถโฟร์วลี เท่านัน้ คุณอุบ๊ บอกว่าหน้าฝนล�ำบากกว่านี้อกี ถนนบางแห่งมี ดินสไลด์มาปิ ดทางด้วย ท�ำให้การสัญจรอันตรายมากๆ เด็กนักเรียนคงไม่เท่าไหร่ สามารถเดินมาเรียนได้ แต่ครูบางคนมีบ ้านอยูด่ ้านล่างก็เดินทางมาสอนกันล�ำบากน่าดู เรามาถึงทีห่ มาย คือ โรงเรียนสโมสรไลออนส์รตั นโกสินทร์ บ้านห้วยหอย เป็ นเวลาพักเทีย่ งพอดี เด็กๆ ก�ำลังวิง่ เล่นในสนามกันสนุกสนาน แต่เราทัง้ 4 คน ทีเ่ พิง่ มาถึงรูส้ กึ เหมือนกันว่าหิวท้องกิ่ว หลังเอากระเป๋ าเข้าห้องพักทีอ่ ยู่ดา้ นหลัง ของโรงเรียน ครูนา - พรสรัญ มูลธิ ผูอ้ ำ� นวยการโรงเรียน เดินมาทักทายพวกเรา และก็บอกให้พกั ผ่อนก่ อน ก�ำลังเตรียมอาหารเที่ยงเอาไว้ให้ แหม...รู ใ้ จจริงๆ ระหว่างรออาหาร ก็เลยเดินส�ำรวจซะหน่ อย อย่างแรกคือบ้านพักที่เรานอน เป็ น กระท่ อมเล็ก ๆ มีระเบียงหัน หน้า ออกไปเห็น วิว ภูเขาทอดยาวสุ ดสายตา แค่ววิ ก็ระดับพันลา้ นแลว้ ยังไม่นบั อากาศสดชื่น หายใจเต็มปอด ภายในบ้านมี 2 เตียงเล็กๆ ห้องนี้พกั ได้ 2 คน และก็มกี ระท่อมคล ้ายๆ กันนี้อกี 2 หลังรวมเป็ น 3 หลัง และก็มบี า้ นหลังใหญ่สำ� หรับนอนกันเป็ นหมูค่ ณะ เหมาะมาเข้าค่ายอาสา หรือแคมป์ป้ ิ งกันในหมูเ่ พือ่ นฝูง ส่วนบริเวณรอบๆ บ้านพัก ก็เป็ นสวนดอกไม้น้อยๆ มาช่วยเพิม่ ความสดชืน่ ในส่วนของโซนทีพ่ กั จะมีหอ้ งครัวเล็กๆ ให้ทำ� กับข้าวกินได้ แต่ตอ้ งช่วยกันดูแลความสะอาดเอง

3

b side


BIKE&TRAVEL -special-

ครู นาต้อนรับด้วยอาหารง่ายๆ อย่างไข่เจียว, ผัดผัก, แกงจืดวุน้ เส้น และข้าวสวยร้อนๆ ซึง่ วัตถุดบิ เหล่านี้เป็ นผลผลิตมาจากโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ที่ค รู น าริเ ริ่ม ไว้ส ำ� หรับ เป็ น อาหารกลางวัน ให้เ ด็ก ๆ รวมทัง้ อาหารเย็น ให้ค รู และนักเรียนกินนอนทีโ่ รงเรียนด้วย ระหว่างกินข้าวเราคุยกันคร่าวๆ ว่าวันนี้จะเดิน ไปน�ำ้ ตกทีห่ า่ งออกไปไม่ไกล และอยู่ในเส้นทางทีน่ กั ท่องเทีย่ วมาเดินป่ า แต่ตอ้ งรอ ให้โรงเรียนเลิกก่อน เพราะมัคคุเทศน์นอ้ ยทีจ่ ะพาเราเทีย่ วก�ำลังเรียนหนังสือกันอยู่ ช่วงเวลานัน้ เราเลยถือโอกาสเยีย่ มชมการเรียนการสอนไปพลางๆ โรงเรียนนี้มที งั้ หมด 8 ชัน้ คืออนุบาล 1 และ 2 รวมทัง้ ประถม 1 - 6 นักเรียนทัง้ หมดราวๆ 70 คน ครูนาบอกว่าก่อนหน้านี้คุณครูในโรงเรียนต้องใช้วธิ ี เวียนสอน เพราะมีครูไม่ครบชัน้ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ดี บางคนเรียน ถึงชัน้ ป.6 แลว้ ยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ก็พยายามหาทางแก้ปญ ั หากันไป โดยช่วงแรกใช้วธิ เี รียนจากโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม แต่กต็ ดิ ปัญหาทีไ่ ฟฟ้ า เข้ามาไม่ถงึ ต้องเพิง่ พาพลังงานจากโซล่าร์เซลล์ ถ้าวันไหนไม่มแี ดด หรือฝนตกก็ จะไม่มไี ฟฟ้ าเพียงพอใช้ในโรงเรียน แต่ตอนนี้ไฟฟ้ าเข้าถึงแล ้ว ปัญหานี้จงึ บรรเทาไป แต่ปญั หาครูไม่ครบชัน้ ก็ยงั คงอยู่ กระทังได้กลุ ่ ม่ นิเทศฯ จุฬาฯ อาสา เข้ามาช่วยเหลือ จนเกิดเป็ นโครงการแม่วางสกูลสเตย์ข้ นึ มาเมื่อปลายปี ท่แี ลว้ เพื่อหารายได้ให้ กับโรงเรียนอย่างยัง่ ยืน “สาเหตุทค่ี รูไม่ครบชัน้ เพราะเด็กนักเรียนเราน้อย ตามกฏคือเฉลีย่ ครูหนึง่ คน ต่อเด็ก 20 หรือ 25 คน แต่เด็กนักเรียนของเรามีอยูแ่ ค่ 70 กว่าคน ท�ำให้ครูไม่เพียงพอ ต้องเวียนสอน ครูกเ็ ลยนึกถึงกลุม่ นิเทศฯ จุฬาฯ อาสา เพราะเขาเคยช่วยเหลือครู ตอนอยูโ่ รงเรียนก่อนหน้านี้ ก็เล่าปัญหาให้อบุ๊ ฟัง เขาก็บอกว่าจะช่วยเป็ นเงินบริจาค ในระดับหนึ่ง แต่การบริจาคไม่ยงั ่ ยืนหรอก เช่นบริจาคเงินมาก้อนนึง เราจ้างครู ได้ระยะนึงก็หมดแลว้ เลยมาคิดกันว่าจะท�ำยังไงเพือ่ ส่งเสริมการพัฒนาทีย่ งั ่ ยืน ให้โรงเรียนดูแลตัวเองได้ โครงการนี้กเ็ ลยเกิดขึ้น” นอกจากรับผูเ้ ข้าพักในฐานะนักท่องเที่ยวแลว้ ที่น่ียงั รับอาสาสมัครด้วย อย่าง ปี เตอร์ ชายหนุ่มชาวอิตาลี ทีพ่ กั อยู่ก่อนหน้าก็มาช่วยสอนเด็กๆ เช่นเดียวกัน ครูนาเล่าว่าปี เตอร์เริ่มต้นจากมาพักเป็ นนักท่องเทีย่ วนี่ละ่ แต่พอได้รูจ้ กั โครงการ ก็เกิดความสนใจ และผันตัวเป็ นอาสาสมัครเสียเลย แถมยังช่วยกิจกรรมทุกอย่าง ของโรงเรียน ไม่วา่ จะเป็ นการสอนภาษาอังกฤษ, ช่วยซ่อมแซมบ้านพัก, ท�ำอาหาร, แนะน�ำนักท่องเทีย่ ว ฯลฯ ด้วยบุคลิกทีเ่ ป็ นคนร่าเริงและมีนำ�้ ใจ ท�ำให้ปีเตอร์เป็ น ทีร่ กั ของเด็กๆ และชาวบ้านละแวกนัน้ ถึงขัน้ ไปนอนพักกับชาวบ้านมาแล ้ว รู ปแบบของแม่วางสกูลสเตย์ก็เหมือนโฮมสเตย์ทวั ่ ไป คือราคาย่อมเยา ได้เรียนรูว้ ถิ ชี วี ติ ชุมชนไปพร้อมกันด้วย การมาพักของเราในครัง้ นี้จงึ ได้ทงั้ ท่องเทีย่ ว ธรรมชาติโดยมีไกด์เป็ นนักเรียนตัวน้อยพาเดินชมป่ า เที่ยวน�ำ้ ตก ดู ปางช้าง พร้อมบรรยายให้ฟงั ด้วยว่าตรงไหนคืออะไร แถมยังพาเราไปชมแปลงเกษตรของ โรงเรียนทีป่ ลูกไว้อีก ก่อนจะกลับมาอาบน�ำ้ เปลีย่ นเสื้อผ้าและช่วยกันเตรียมอาหารเย็น ไปกินด้วยกันข้างกองไฟอุ่นๆ ให้อารมณ์เหมือนไปเข้าค่ายอาสาสมัยมหา’ลัยเลย

ขณะนัง่ อยูข่ ้างกองไฟ ชิลล์ๆ ท่ามกลางหมูด่ าวเต็มฟ้ า เราเลยถือโอกาสถามคุณอุบ๊ ถึงความเป็ นมาเป็ นไปของ โครงการนี้ ใ นฐานะผู ร้ ิ เ ริ่ ม และดูแล เธอเล่าว่าส่วนตัว สนใจท�ำ งานอาสาอยู่ แ ล ว้ และก็มีเพื่อนพันธุ เ์ ดียวกัน อยูห่ ลายคน จึงก่อตัง้ เป็ นกลุม่ นิ เ ทศฯ จุฬ าฯ อาสา ขึ้น เพือ่ ท�ำงานอาสากันตามก�ำลัง ก่ อ น ห น้ า นี้ ก็ ไ ด้ ไ ป ท� ำ โครงการค่ ายคอมพิวเตอร์ ให้ก ับ โรงเรี ย นหลายแห่ ง จนกระทัง่ ได้รู จ้ กั กับ ครู น า ก่ อนที่ จ ะย้า ยมาอยู่ ที่ น่ี พอครูนาติดต่อไปว่าต้องการ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ เ พ ร า ะ มี ป ัญ หาแบบนี้ เธอก็ ม า ส�ำรวจว่าพอจะช่วยเหลืออะไรได้บ ้าง และก็พบว่าสถานทีต่ งั้ ของโรงเรียนเป็ นทางผ่าน ของนักท่องเทีย่ วทีช่ อบมาเดินป่ าอยูแ่ ล ้ว บวกกับแนวคิดว่าอยากช่วยเหลือแบบยังยื ่ น ให้โรงเรียนสามารถดูแลตัวเองได้ จึงปรึกษากับเพือ่ นๆ แล ้วก็เกิดเป็ นแม่วางสกูลสเตย์ ขึ้นมา โดยเพือ่ นในกลุม่ มาช่วยวางระบบ และแบ่งงานตามความถนัดของแต่ละคน

4

b side


BIKE&TRAVEL -special-

“ก่อนจะไปช่วยทีไ่ หนเราจะถามก่อนว่าปัญหาของเขาคืออะไร เราจะช่วย ในลักษณะทีเ่ ริ่มต้นให้ก่อน แล ้วโรงเรียนบริหารจัดการต่อ โดยมีเราเป็ นทีป่ รึกษา และติดตามผล เพือ่ ให้โปรเจ็คท์เกิดความต่อเนื่อง อย่างโรงเรียนนี้รูจ้ กั ก็เพราะครูนา เรารูจ้ กั กับครูนามาก่อน เห็นว่าเป็ นครูทจ่ี ริงจังในการท�ำงาน แล ้วก็ทำ� เพือ่ นักเรียน จริงๆ พอครูย ้ายมาอยูท่ น่ี แ่ี ล ้วเล่าให้ฟังว่าเป็ นโรงเรียนทีก่ นั ดารมาก เราอยากมาดูเลย มาดูแลว้ ก็เกิดไอเดียต่างๆ นานา เพราะครู นาบอกว่าตรงนี้เป็ นเส้นทางเดินป่​่ า ของนักท่องเที่ยว มีฝรัง่ เดินผ่านตลอดเวลา ก็เลยคิดว่าท�ำไมเราไม่ทำ� บ้านพัก ก็ไปเสิรช์ ดูว่าเคยมีโฮมสเตย์ทอ่ี ยู่ในโรงเรียนมาก่อนหรือเปล่า ปรากฏว่ายังไม่มี แล ้วมาเช็คว่าผิดกฏของกระทรวงศึกษาฯ มัย้ ก็พบว่าท�ำได้ ไม่ผดิ อะไร และเงิน ทีเ่ ราได้มาก็เอามาช่วยเหลือโรงเรียนจริงๆ หลังจากนัน้ ก็ได้ปรึกษากันในทีมว่าจะ ท�ำในลักษณะนี้นะ ทุกคนก็ช่วยกันเต็มที่ แบ่งงานกันไปดูแลตามความสามารถ เช่น 2 - 3 คนนี้เก่งเรือ่ งสือ่ ก็ให้ดูแลไป อีก 2 - 3 คนภาษาอังกฤษดี ก็จะให้ตอบอีเมล์ คนอืน่ ก็คดิ คอนเท้นท์ เช่น ครูนาโพสท์เรื่องอะไร เราก็เก็บรูปและเรื่องนัน้ มาเขียน แปลเป็ นภาษาอังกฤษแล ้วอัพขึ้นเฟซบุค๊ ”

คุณอุบ๊ เล่าให้ฟังว่าเมือ่ ก่อนเธอก็เป็ นคนหนึ่งทีอ่ ยากท�ำงานอาสา แต่คดิ ว่าตัว เองยังไม่มคี วามพร้อม เวลาก็ไม่มเี พราะต้องท�ำงาน จึงคิดเอาไว้ว่าจะท�ำงานให้หนัก เก็บเงินให้เยอะ แลว้ ค่อยลาออกมาท�ำงานอาสาอย่างเต็มตัว แต่เมือ่ เวลาผ่านไป เธอพบว่าถ้ารอให้ตวั เองพร้อม ก็ไม่รูจ้ ะต้องรอไปจนถึงเมือ่ ไหร่ และกว่าจะพร้อม อาจจะหมดแรงเสียก่อน เธอจึงเริ่มต้นท�ำงานอาสาทันทีทม่ี โี อกาส “อาจจะฟังดู นำ�้ เน่ านิดนึงนะ แต่ คิดไว้ว่าเกิดมาครัง้ นึงต้องมีประโยชน์ กับโลกบ้าง มีคณ ุ ค่ากับคนอืน่ บ้าง การท�ำงานอาสาท�ำให้เราได้เจอคนดีๆ มีคนรอบข้าง ทีค่ อยช่วยเหลือ เช่น พีจ่ นู ทีม่ าด้วยกันคราวนี้ ก็เป็ นมนุษย์พนั ธุเ์ ดียวกัน แกบอกว่า ท�ำไมต้องรอให้รวยก่อน เราช่วยกันตัง้ แต่ตอนนี้น่ีละ พราะเรายังมีแรงที่จะท�ำ ซึง่ ขึ้นอยู่กบั การแบ่งเวลามากกว่า หากคิดว่ารอให้พร้อมก่อน ก็ไม่ได้เริ่มต้นซักที เหมือนกับการออกก�ำลังกายนัน่ แหละ ใครทีบ่ อกว่าไม่มเี วลา ไม่จริงเลย ถ้ามีเวลา ดูทวี ี ก็ตอ้ งมีเวลาออกก�ำลังกาย การช่วยเหลือสังคมไม่จำ� เป็ นต้องท�ำงานอาสา เหมือนเราก็ได้ คุณจะท�ำในรู ปแบบไหนก็ได้ ขึ้นอยู่ กบั ศักยภาพของตัวเอง เพราะทุกคนก็มสี ไตล์ของเขา เราไม่มสี ทิ ธิ์ไปตัดสินชีวติ คนอืน่ แต่หากเราท�ำให้ดู วันนึงคนทีไ่ ม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย เขาอาจจะเปลีย่ นใจมาช่วยเหลือคนอืน่ บ้างก็ได้” ส�ำหรับโครงการแม่วางสกูลสเตย์ คุณอุบ๊ บอกว่ายังไม่ได้วางแผนการณ์ ในระยะยาว แต่คาดว่าอยากจะปรับปรุงโครงการไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็ นระบบ สาธารณู ปโภค การประชาสัมพันธ์ให้นกั ท่องเที่ยว การหาคนมาดูแลสกูลสเตย์ อย่ า งจริง จัง และยัง มีอีก หลายส่ ว นที่จ ะต้อ งเข้า มาดู แ ล เพื่อ ให้โ ครงการนี้ อยู่ คู่ โ รงเรี ย นไปอย่ า งยัง่ ยื น และสร้า งรายได้ม าพัฒ นาโรงเรี ย นได้จ ริ ง ๆ เธอบอกด้วยว่าหากโรงเรียนไหนต้องการค�ำแนะน�ำหรือต้องการความช่วยเหลือ ทางกลุม่ นิเทศฯ จุฬาฯ อาสา ก็ยนิ ดี แต่ตอ้ งอยู่ภายใต้เงือ่ นไขข้างต้นด้วย ในฐานะทีไ่ ปเทีย่ วชมมาแล ้ว ก็อยากจะชวนเพือ่ นๆ ทีส่ นใจลองหาโอกาส ไปเยี่ยมเยือนกันดู สกั ครัง้ แลว้ จะพบว่าการเป็ น ‘ผูใ้ ห้’ ไม่ได้เริ่มต้นยากเลย แค่แบกเป้ ไปเที่ยวเหมือนที่ทำ� กันเป็ นปกติก็ช่วยเหลือผูอ้ ่นื ได้ อย่างโครงการนี้ แค่ ไ ปพัก ก็ ท ำ� ให้น กั เรีย นในพื้น ที่ห่ า งไกลมีโ อกาสทางการศึ ก ษาเพิ่ม มากขึ้น ตัวเราเองก็จะได้ซมึ ซับทัง้ ความบริสทุ ธิ์ของธรรมชาติ และอิม่ ใจไปกับความตัง้ ใจดีๆ ของคนกลุม่ เล็กๆ ทีไ่ ม่เพียงแค่คดิ แต่ได้เริ่มท�ำเพือ่ คนอืน่ แล ้ว

นักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจอยากไปสัมผัสประสบการณ์ เที่ยวดอยสไตล์จิตอาสาแบบเราบ้าง สามารถติดต่อสอบถาม และดูรายละเอียดตามช่องทางเหล่านี้ www.facebook.com/maewangschoolstay www.maewangschoolstay.com E-Mail : maewangschoolstay@gmail.com 5

b side


BIKE&TRAVEL -cover story -

HIP PAI CYCLING SURROUND เมื่อ HIP พานักปั่น ไป ‘ปั่นปาย’ เรื่อง/ภาพ: HIP Team

หลายคนรูจ้ กั ปาย หลายคนเคยมาเทีย่ วปาย (และหลายคนน่าจะมากกว่าครัง้ เดียว) เชือ่ ว่าหลายคนหลงรัก และมีปายเป็นหนึง่ เมืองในดวงใจ แต่เรือ่ งราวเกีย่ วกับปายต่อจากนีจ้ ะพิเศษกว่าปกติ เพราะว่าคราวนี้ พวกเราชาว HIP ชวนนักปัน่ ไป ‘ปัน่ ปาย’ ด้วยกัน

6

b side


BIKE&TRAVEL -cover story -

ก่อนจะเล่าว่าเราไปท�ำอะไรกันมาบ้าง ขอย้อนไปถึงทีม่ าของงานนี้ กันซักหน่อย ‘HIP ปัน่ ปาย’ เป็ นกิจกรรมที่เกิดจากความร่ วมมือกันระหว่าง HIP Magazine กับ การท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย (ททท.) ส�ำนักงาน แม่ ฮ่ อ งสอน ที่ คิ ด เห็ น ตรงกัน ว่ า อยากจะชัก ชวนนัก ปัน่ จัก รยาน จากเชียงใหม่ จากกรุงเทพ หรือจากจังหวัดอื่นๆ ให้เอาจักรยานมาปัน่ เที่ยวเล่นที่อำ� เภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนกัน เพราะทัง้ ในตัวเมืองปาย และรอบๆ เมือง มีแหล่งท่องเที่ยว ร้านกาแฟ ร้านอาหาร มีธรรมชาติ มีเ นิ น มีด อยเล็ก ๆ ซึ่ง คนที่ช อบปัน่ จัก รยาน ไม่ว่า จะมือ สมัค รเล่น หรือมือเก๋าน่าจะปัน่ กันได้อย่างสนุกสนาน เมือ่ คิดได้ดงั ทีว่ ่า กิจกรรม ‘HIP ปัน่ ปาย’ จึงถูกก�ำหนดให้มขี ้นึ ในระหว่างวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ โดยที่ HIP โดยก�ำหนดไว้คร่าวๆ ว่า วันที่ 26 กุมภาพันธ์ เป็ นวันเดินทางของทัง้ คนและจักรยานไปยังอ�ำเภอปาย ส่ ว นในวัน ที่ 27 และ 28 เราจะพานัก ปัน่ ที่ม าร่ ว มงานออกไปปัน่ ตามเส้นทางที่ทีมงานของเราได้ไปทดสอบและคัดเลือกเส้นทางเอาไว้ ทีเ่ ชื่อว่าจะสร้างความสนุกสนานและความประทับใจให้ผูม้ าร่วมงานทุกคน ได้เป็ นอย่างดี ก่ อนที่จะแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้านในบ่ายวันที่ 28 7

b side

และหลังจากท�ำการประชาสัมพันธ์ผา่ นช่องทางต่างๆ ทัง้ ใน HIP Magazine ในเว็บไซต์ hipthailand.net และเพจ HIP Thailand เราก็ได้บรรดา นักปัน่ ทีจ่ ะร่วมไป ‘ปัน่ ปาย’ ด้วยกัน และเตรียมพร้อมทีจ่ ะออกเดินทาง ไปสู่อำ� เภอปายตามวันเวลาทีว่ างไว้ เมือ่ ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ บรรดานักปัน่ ก็เริ่มออกเดินทาง งานนี้ มีทงั้ คนที่เลือกเดินทางและน�ำจักรยานไปด้วยตัวเอง คนที่นำ� จักรยาน มาฝากไว้กับทีมเซอร์วสิ ของ HIP ทีร่ บั อาสาดูแลและน�ำจักรยานของทุกคน ไปส่งให้ถึงจุดหมาย รวมถึงนักปัน่ ที่จะเดินทางไปอ�ำเภอปายด้วยกัน กับ ชาว HIP ซึ่ง ได้จ ดั เตรีย มรถตู เ้ พื่อ น�ำ นัก ปัน่ เดิน ทางไปสู่ ท่ีห มาย และหลังจากทีท่ กุ คนได้สมั ผัสกับประสบการณ์การเดินทางผ่าน 762 โค้ง ของเส้นทางจากเชียงใหม่ไปยังอ�ำเภอปายแลว้ ทัง้ นักปัน่ และจักรยาน ของทุกคนก็เดินทางมาถึงบุระล�ำปาย รีสอร์ท ที่พกั ของทุกคนตลอด กิ จ กรรมในครัง้ นี้ โ ดยสวัส ดิ ภ าพ (แม้จ ะพบกับ ฝนที่ต กมาทัก ทาย ระหว่างทางบ้างก็ตาม) ก่ อนที่จะแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อ เตรี ย มตัว ส�ำ หรับ การออกปัน่ ในวัน รุ่ ง ขึ้น ขณะที่ทีม งาน HIP


BIKE&TRAVEL -cover story -

ความประทับใจใน ‘ปั่นปาย’ มนตรา แสงวรรณา

(เชียงใหม่) “อุ ป สรรคส่ ว นมาก จะเป็ น เส้ น ทางที่ ป ั ่ น มากกว่ า ถนนบางช่ ว งมั น ไม่ ค ่ อ ยดี เ ลย แต่อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรนะ ส�ำหรับงานครั้งนี้คิดว่า มันต่างจากงานอื่นๆ ตรงที่เรา ไม่ได้แข่งกับเวลา แล้วก็ไม่ได้แข่ง กับใคร เหมือนมาปั่นเที่ยวเล่น ไปเรื่อยๆ มากกว่า อยากจะแวะ ถ่ายรูปที่ไหนก็ได้ แล้วพอได้เห็น คนในกรุ๊ปมีความสุข ก็รู้สึกว่า เราประทับใจตรงนี้”

8

b side

พงศ์พันธ์ เตชะศิรินุกุล

(กรุงเทพฯ) “เส้ น ทางที่ บ างช่ ว ง นี่โหดมากเลยนะครับ ผมเอง เห็นแล้วยังตกใจเลย แล้วบางคน ประสบการณ์ อ าจจะยั ง น้ อ ย การปั่นในเส้นทางแบบนี้ก็อาจจะ ยากหน่อย แต่ทุกคนก็ดูแลกัน จนผ่านมาได้ทุกคน มาปั่นงานนี้รู้สึกเหมือน ได้มาปั่นกับเพื่อนกับครอบครัว เห็ น ทุ ก คนช่ ว ยกั น เวลาอี ก คน มีปัญหา จอดรอกัน ช่วยกัน ซ่ อ มจั ก รยาน ผมประทั บ ใจ ตรงจุดนี้มากๆ ครับ”


ซึง่ ประกอบด้วยทีมมาร์แชลจักรยานทีจ่ ะน�ำและปิ ดท้ายขบวนในแต่ละกลุม่ ทีมจักรยานยนต์ทจ่ี ะติดตามขบวนนักปัน่ และทีมเซอร์วสิ ทีม่ ที งั้ รถตูแ้ ละ รถปิ คอัพคอยให้บริการ ก็มาประชุมกันอีกครัง้ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจ และรับทราบหน้าทีท่ แ่ี ต่ละคนจะต้องท�ำในวันรุ่งขึ้น เพือ่ ให้การ ‘ปัน่ ปาย’ ของบรรดานักปัน่ ด�ำเนินไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัยมากทีส่ ุด เช้า วัน ที่ 27 กุ ม ภาพัน ธ์เ ริ่ ม ต้น ขึ้น ด้ว ยสภาพอากาศที่ส ดใส และอุณหภูมกิ ำ� ลังพอเหมาะไม่รอ้ นหรือหนาวเกินไป หลังจากบรรดานักปัน่ อิม่ หน�ำกับอาหารเช้าทีท่ างบุระล�ำปาย รีสอร์ท จัดเตรียมไว้ให้แล ้ว ก็ได้เวลา รวมพลเพื่อรับฟังการอธิบายเส้นทางและกฎกติกาของการปัน่ ในครัง้ นี้ จากทีมมาร์แชลซึง่ น�ำโดย จุย๋ จุย๋ ส์ – สุทธิพงศ์ สุทนิ รัมย์ และหลังจาก แบ่งกลุม่ ตามความถนัดเรียบร้อยแลว้ นักปัน่ ทุกคนก็เริ่มทยอยออกจาก บุระล�ำปายตามล�ำดับ เพือ่ เริ่มต้นการ ‘ปัน่ ปาย’ อย่างเป็ นทางการ ส�ำหรับเส้นทางที่ HIP จัดเตรียมให้กบั บรรดาสิงห์นกั ปัน่ ในครัง้ นี้ ถูกแบ่งเป็ น 4 ช่วง รวมระยะทางทัง้ หมดกว่า 40 กิโลเมตร โดยด่านแรก ของวันนี้คือการปัน่ ออกจากบุระล�ำปายไปตามเส้นทางในพื้นทีต่ ำ� บลแม่ฮ้ ี ผ่านน�ำ้ พุรอ้ นท่าปาย ผ่านปางช้าง ก่ อนจะปัน่ ผ่านวัดพระธาตุแม่เย็น เพือ่ ข้ามสะพานข้ามแม่นำ�้ ปายกลับสู่ตวั เมือง ผ่านโรงเรียนปายวิทยาคาร ก่อนจะไปถึงจุดหมายของการเดินทางช่วงแรกทีร่ า้ นกาแฟเข้าท่า ในชุมชน โพธิ์ร่มรืน่ หลังสถานีตำ� รวจภูธรอ�ำเภอปาย กับระยะทางราวๆ 10 กิโลเมตร ของเส้นทางช่วงแรก ผสมกับเนินที่แม้จะไม่ชนั แต่กินระยะทางยาวใช้ได้ ก็เรียกเหงือ่ และเรีย่ วแรงของบรรดานักปัน่ ได้มากพอสมควร แต่จากท่าทาง ของบรรดานัก ปัน่ ที่แ วะเวีย นมาถ่ า ยรู ป กับ ป้ ายอิน สตาแกรมที่ HIP เตรียมไว้ให้แล ้ว ต้องบอกว่างานนี้ยงั สบาย ไปได้อกี ไกลแน่นอน

วรพจน์ จันทร์หนองสรวง

(กรุงเทพฯ) “ความประทั บ ใจของพี่ คื อ การที่ เ ส้ น ทางที่ อ อกไปปั ่ น มันแปลกไปจากทีเ่ ราเคยเห็น คือเรา เคยมาปาย เคยเห็นปายในมุมที่เป็น ถนนคนเดิน แต่วันนี้มันได้ไปปั่น จักรยาน ถึงถนนบางเส้นทางอาจ จะไม่ ค ่ อ ยดี อาจจะยั ง ไม่ ค ่ อ ย พร้อม คนทีจ่ ะปัน่ ต้องระมัดระวัง นิดหนึ่ง แต่มันก็ท�ำให้ได้เห็นปายใน เส้ น ทางที่ แ ปลกไปจากที่ เ คยเห็ น อีกอย่างคืองานนี้มันไม่ได้เป็นการ แข่งขัน แต่วา่ เป็นการปัน่ แบบอบอุ่น กับเพื่อนๆ มากกว่า”

กิตติศาสตร์ สว่างบ�ำรุง

(เชียงใหม่) “อุ ป สรรคในการปั ่ น ส�ำหรับผมนี่คิดว่าไม่มีนะครับ เพราะว่ า ได้ ม าส� ำ รวจเส้ น ทาง ก่อนแล้ว อีกอย่างกรุป๊ ทีผ ่ มไปนี่ เรียกว่าสบายสุดๆ เลย จอดพัก ได้บ่อยๆ เรื่อยๆ ที่ไหนสวยๆ ก็แวะถ่ายรูปเลย ไม่รีบ ส่วนสิง่ ทีผ ่ มชอบในการ มาปั่นครั้งนี้ คือในระหว่างที่ปั่น จะเจอช่วงถนนเส้นทีห่ ลุมเยอะๆ ถ้าไม่ระวังนี่ล้มแน่ๆ แต่ว่าก็จะได้ คนข้างหน้าที่คอยช่วยไว้ ไม่งั้น คงแย่แน่เลย”

9

b side


BIKE&TRAVEL -cover story -

หลังแวะพักกันพอประมาณ บรรดานักปัน่ ก็ออกเดินทางกันต่ อ โดยทีเ่ ป้ าหมายของช่วงที่ 2 อยู่ทเ่ี นิน ตชด. ซึง่ การจะไปถึงจุดดังกล่าว บรรดานักปัน่ ต้องข้ามสะพานข้ามแม่น�ำ้ ปาย แลว้ เลี้ยวไปตามเส้นทาง ทีเ่ ข้าสู่พ้นื ทีต่ ำ� บลเวียงเหนือ ผ่านไปตามเส้นทางทีผ่ ่านหมูบา้ นตาลเจ็ดต้น และหมูบ่ า้ นแม่นาเติง ก่อนจะไปพักชมวิวเมืองปายกันทีเ่ นิน ตชด. ซึง่ เป็ น จุดหมาย งานนี้เรียกได้วา่ บรรดานักปัน่ ได้เจอครบทุกอย่าง ทัง้ การขึ้นลง เนินชัน ผ่านเส้นทางคดโค้ง ผ่านสองข้างทางที่มีบรรยากาศสวยงาม ทัง้ ป่ าไม้ ทุ่งนาและสายน�ำ ้ จนต้องขอแวะจอดถ่ายรูปเก็บไว้เป็ นที่ระลึก โดยเฉพาะช่วงขึ้นเนินส่งท้ายก่อนถึงเนิน ตชด. ทีต่ อ้ งอาศัยแรงกายแรงใจ ในการน�ำจักรยานผ่านความสู งชัน แต่ เมื่อถึงจุดหมาย ภาพความงาม ของขุนเขาทีอ่ ยู่รายล ้อมก็ทำ� ให้ความเหนื่อยหายไปอย่างรวดเร็ว ต่อจากนัน้ บรรดานักปัน่ จึงพากันเคลือ่ นขบวนต่อไปยังเป้ าหมาย ของเส้นทางช่วงที่ 3 ซึ่งได่แก่หมู่บา้ นสันติชล แหล่งท่องเที่ยวที่สำ� คัญ อีกแห่งหนึ่งของอ�ำเภอปาย แน่นอนว่าทัง้ เนินซึม เส้นทางชันต่างๆ ยังมีไว้ รอต้อนรับนักปัน่ เหมือนเช่นเคย โดยเฉพาะหลังจากทีอ่ อกสูถ่ นนใหญ่แล ้ว เข้าสู่เส้นทางมุ่งหน้าไปยังน�ำ้ ตกหมอแปลง เพราะเนินซึมที่คู่ขนานไปกับ รัว้ โรงเรียนราชประชานุ เคราะห์นนั้ แม้จะไม่สูงชัน แต่ก็กนิ ระยะทางยาว ในแบบที่ตอ้ งใช้ความอึดเข้าสูเ้ พือ่ ให้ผ่านไปได้ เมือ่ ผ่านจุดดังกล่าวแลว้ ก็จะเจอกับเส้นทางคดเคี้ยวและเนินขึ้นลง อันเป็ นทางลัดไปสู่พ้ นื ที่ของ ต�ำบลเวียงใต้ และไปสู่หมู่บา้ นสันติชลที่เป็ นจุดหมาย ซึ่งนักปัน่ ทุกคน ก็มาถึงจุดหมายได้ครบถ้วนโดยไม่มใี ครถอดใจ แถมในระหว่างที่พกั ถ่ายรูปสวยๆ กันทีห่ มูบ่ า้ นสันติชล ยังมีนกั ปัน่ แรงเหลือหลายคนปัน่ ขึ้นไป เยือนจุดชมวิวหยุนไหลทีช่ นั สุดๆ ด้วยอีกต่างหาก ออกจากหมู่บา้ นสันติชล ก็เหลืออีกเพียงสองเป้ าหมายสุดท้าย ทีน่ กั ปัน่ จะต้องพิชติ โดยช่วงที่ 4 มีเป้ าหมายอยู่ทร่ี า้ นกาแฟยอดฮิตอย่าง Coffee In Love โดยเส้นทางที่รอต้อนรับบรรดานักปัน่ คือเส้นทาง ถนนบายพาสเลีย่ งเมืองปาย ซึง่ มีเนินสูงสองลูกให้บรรดานักปัน่ ได้ทดสอบ ก�ำลังแรงและก�ำลังใจ และแม้ความสูงชันกับสภาพถนนจะท�ำให้ตอ้ งเพิม่ ความระมัดระวังในการปัน่ อยู่บา้ ง แต่นกั ปัน่ ก็ผ่านด่านนี้ไปได้ครบถ้วน และแวะมายืดเส้นยืดสายพร้อมกับถ่ายรูปเป็ นทีร่ ะลึกกันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่จะทุกคนจะมุ่งหน้าไปตามเส้นทางเพื่อกลับสู่บุระล�ำปาย รีสอร์ท ที่เป็ นจุดเริ่มต้นของการปัน่ ในครัง้ นี้ และเมื่อรถคันสุดท้ายเลี้ยวเข้าสู่ บุระล�ำปาย การ ‘ปัน่ ปาย’ ก็ถอื ว่าส�ำเร็จลุลว่ งได้ตามเป้ าหมาย ตลอดระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร แน่นอนว่าเส้นทางทีเ่ ราน�ำนักปัน่ ไปสัญจรกันรอบเมืองปายนัน้ ไม่งา่ ย และมีอปุ สรรคต่างๆ มาคอยทดสอบ บรรดานักปัน่ อยู่อย่างต่อเนื่อง แต่นกั ปัน่ ทุกคนก็สามารถผ่านสิ่งเหล่านี้ มาได้อย่างสวยงาม รวมทัง้ ได้รบั ความสนุกสนานเพลิดเพลินจากธรรมชาติ และทิวทัศน์สองข้างทาง (ทีท่ ำ� ให้นกั ปัน่ ของเราได้รูปสวยๆ กลับบ้านเพียบ) แต่ส่งิ ที่สำ� คัญ นอกเหนือจากการที่นกั ปัน่ ทุกคนสามารถเดินทางจนจบ เส้นทางได้อย่างปลอดภัย คือบรรยากาศของการขีจ่ กั รยานทีไ่ ม่ได้มงุ่ แข่งขัน ท�ำเวลา แต่ว่าเปิ ดโอกาสให้ตวั เองได้สมั ผัสความสวยงามของธรรมชาติ รอบกาย การได้ทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจผ่านเส้นทาง ทีท่ า้ ทาย และมิตรภาพทีเ่ กิดขึ้นตลอดเส้นทาง เหล่านี้คอื สิง่ ทีท่ ำ� ให้การมา ‘ปัน่ ปาย’ ในครัง้ นี้ไม่ได้เป็ นเพียงแค่ การมาขี่จกั รยานเพียงอย่างเดียว แต่วา่ ยังได้ความประทับใจ กับการได้รูจ้ กั เพือ่ นใหม่ ทีช่ น่ื ชอบการขีจ่ กั รยาน เหมือนกัน บนเส้นทางดีๆ ทีท่ ำ� ให้การปัน่ สนุกและมีความหมาย และท�ำให้รูส้ กึ ว่า ถ้ามีครัง้ ต่อไปอีกเร็วๆ ก็คงดีนะ

10

b side


BIKE&TRAVEL -cover story -

MAE NA TOENG WIANG NUEA PAI MAE HI

THUNG YAO

‘ปั่น’ ที่ปาย

ปายมีเส้นทางที่น่าปั่นจักรยานอยู่หลายจุด เส้นทาง ที่นิยมกันมากก็อย่างเช่น การปั่นไปเที่ยวน�้ำพุร้อนท่าปาย ไปนมั ส การหลวงพ่ อ อุ ่ น เมื อ ง พระพุ ท ธรู ป ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ที่ประดิษฐานในวัดน�้ำฮู หรือบางคนก็สนุกกับการปั่นขึ้นไป ชมวิวที่วัดพระธาตุแม่เย็น เป็นต้น หรือถ้าใครคิดไม่ออก จะเอาเส้นทางของ HIP ปั่นปายไปใช้ก็ไม่ว่ากัน (แต่ถ้าคิดจะ ลองขึน้ ไปจุดชมวิวหยุนไหลต้องมัน่ ใจว่าตัวเองเป็นสายแข็ง เพราะนักปั่นที่ไปกับเราแล้วขึ้นไปได้นั้นเขาไม่ธรรมดากัน!) ส�ำหรับใครที่ไม่ได้เอาจักรยานไปด้วย ที่ปายมีร้าน ให้เช่าจักรยานให้เลือกมากมาย มีทั้งรถจักรยานแบบทั่วไป จนถึงจักรยานเสือภูเขาส�ำหรับการบุกป่าฝ่าดง ราคาค่าเช่า ก็ไม่โหดร้ายอะไร (ค่าเช่าจักรยานเสือภูเขาวันละ 100 บาท) แนะน�ำว่าให้ลองชมลองถามตามร้านต่างๆ ก่อนตัดสินใจ และถ้านึกไม่ออกว่าจะไปไหนดี ก็ขอแผนที่หรือสอบถาม เส้นทางที่น่าสนใจกับร้านเหล่านี้ได้

ขอขอบคุณ ผู้ร่วมสนับสนุนให้กิจกรรม ‘HIP ปั่นปาย’ เกิดขึ้นและส�ำเร็จลุล่วงไปด้วยดี - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส�ำนักงานแม่ฮ่องสอน - ธนาคารกรุงเทพ จ�ำกัด (มหาชน) - สายการบินแอร์เอเชีย www.airasia.com - บุระล�ำปาย รีสอร์ท โทร. 0-5306-5777, 08-9955-5400, 09-4829-8222 www.buralumpaivilla.com - Reverie Siam Resort โทร. 0-5369-9870, 09-3164-1574 www.reveriesiam.com - หมาใจด�ำ โทร. 08-5530-5003 - จุ๋ย จุ๋ยส์ – สุทธิพงศ์ สุทินรัมย์ และทีมมาร์แชลจักรยาน JJs Team

11

b side


BIKE&TRAVEL - mtb -

RUN TIGERRUN เมื่อเสืออยากลองวิ่ง

ใจไหว ขาไม่ไหว

เรื่อง: ฝาฟา ภาพ: นายละอ่อนฅนเมือง

ช่วงหนึง่ ปีทผ ี่ า่ นมา ผมมัน่ ใจว่าทุกคนน่าจะเริม่ เห็นเพือ่ นๆ ในเฟซบุค๊ ออกมาแชร์มาโพสต์เกีย่ วกับ กิจกรรมการวิง่ กันมากขึน้ ... “สิบโลเช้านี้ ฟินเว่อร์ (แคปชัน่ พร้อมเช็คอินทีส่ นามกีฬา 700 ปี แนบรูป เซลฟีห่ น้าใสกิก๊ )” “สิน้ ปีเราไปวิง่ มาราธอนด้วยกัน งานแรกนะเตงง (แคปชัน่ หวานๆ ประกอบรูปคู่ ถ้าเป็น ผูห้ ญิงก็ทเี่ รียกกันว่า คอผ.)”... อะไรเทือกๆ นี้ อีกทัง้ จะเห็นเพจหรืออีเวนท์งานวิง่ เด้งขึน้ มาระราน ให้เห็นกันอยูท่ กุ วีท่ กุ วัน ผมเองทีอ่ อกก�ำลังโดยการ ปัน่ จักรยานเป็นประจ�ำอยูแ่ ล้ว ก็อดใจไม่ได้วา่ เอ๊ะ! มันจะอะไรกันนักกันหนา วิง่ กันจังเลอออ ส่วนตัวผม ไม่เคยออกก�ำลังกายใดๆ ทีใ่ ช้การวิง่ มาก่อน จะมีแค่ ตอนประถมทีว่ งิ่ เตะบอลพลาสติกก๊อกๆ แก๊กๆ บ้าง ไม่ได้จริงจังอะไร กับเข้าใจว่าการวิง่ เนีย่ มันไม่ถงึ ใจ เอาเสียเลย มันจะไปสนุกได้ยงั ไง ก็แค่วงิ่ จ็อกๆ ช้าๆ ไม่มอี ะไรหวือหวาอย่างปัน่ จักรยาน แต่กอ็ ย่างว่า ด้วยพลังแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ค ท�ำให้อดใจไม่ไหว อยากลองวิ่งขึ้นมา ก็ท�ำตัวเยี่ยงคนรักสุขภาพ ร่วมสมัยทั่วๆ ไปนั่นแหละครับ อันดับแรกคือ ไปช็อปปิง้ รองเท้าวิง่ คูใ่ จสักคู่ ตามด้วยชุดวิง่ เกร๋ๆ คือิ พร็อพต้องมี! แล้วถึงจะได้วงิ่ อิอิ 12

b side

ผลประกอบการพบว่า ผมสามารถพัฒ นาการวิ่ง ได้อ ย่ า ง รวดเร็วเหลือเชื่อ ระบบหายใจและการท�ำงานของหัวใจทีไ่ ด้มาจาก การปัน่ นัน้ สามารถน�ำ มาใช้ก บั การวิ่ง ได้ดีเ ยี่ย ม คือ ถ้า ไม่ไ ด้ว่ิง อัดเร็วมาก ผมจะสามารถทนกับความเหนื่อยนัน้ ๆ ได้อย่างสบาย เพราะเคยชิน กับ ความเหนื่ อ ยระดับ นี้ เ วลาปัน่ จัก รยานอยู่ แ ล ว้ ซึ่ง เผลอๆ ตอนปัน่ จะมีโ อกาสเจอจุด พีค ของหัว ใจมากกว่า อีก เช่น ตอนสปรินท์แข่งกับเพือ่ นๆ หรือยืนโยกอัดขึ้นเนิน แต่กระนัน้ สิ่งที่สวนทางและขัดใจเอามากๆ คือกลา้ มเนื้อขา เพราะผมพบว่า มันไม่ได้ทำ� งานอย่างที่คิดเอาไว้ ซึ่งมันเป็ นอาการแบบว่า ‘ไม่ถงึ ’ ใจน่ะยังไม่เหนือ่ ยเลย แต่ขาเนีย่ พลีชพี ไปก่อนเสมอ หลายต่อหลายครัง้ ผมต้องเดินกระเผลกกลับบ้าน ยิ่งไปกว่านัน้ อาการบาดเจ็บที่เข่า กลับมาบันทอนประสิ ่ ทธิภาพการปัน่ ของเราอีก อาการบาดเจ็บเหล่านี้ เกิดขึ้นบ่อยราวกับว่าเป็ นคนไม่ได้ออกก�ำลังกายมาก่อน ซึง่ ชวนให้ หงุดหงิดมากๆ เพราะงงว่ามันเกิดขึ้นได้ยงั ไง ทัง้ ๆ ที่ตวั ผมเอง ก็ปนั ่ จักรยานมาแลว้ หลายปี แลว้ ไฉนจึงเป็ นอย่างนี้ ก็แน่ ล่ะครับ กล ้ามเนื้อของการวิง่ กับปัน่ จักรยานท�ำงานกันคนละแบบครับ การปัน่ นัน้ จะใช้กลา้ มเนื้อต่ างกันไป ซึ่งก็แลว้ แต่ ว่าอยู่ใน วงรอบขาไหน เช่ น เมื่อบันไดปัน่ อยู่บนสุดของรอบ กลา้ มเนื้อ Outer Quadriceps และ Hamstrings จะท�ำงานมากทีส่ ุด และ เมือ่ ผลักบันไดลงมาตัง้ ฉากกับแนวตัง้ กล ้ามเนื้อ Gluteus Maximus, Hamstrings, Calves และ Inner Quadriceps จะเริม่ ท�ำงาน มากขึ้น เป็ นต้น ซึง่ การท�ำงานของกล ้ามเนื้อปัน่ จักรยานนัน้ จะท�ำงาน แบบ Concentric Muscle Contraction นึกง่ายๆ ก็เหมือนการ ท�ำงานของกล ้าม Bicep ทีก่ ำ� ลังหดตัว แขนก็จะพับเข้าเพือ่ ยกเวทขึ้น


BIKE&TRAVEL - mtb -

หากมาดู ท่ีการวิ่งนัน้ จะใช้กลา้ มเนื้ อส่ วน Adductors, Quadriceps และ Hamstrings มากทีส่ ุดขณะวิง่ ทางราบ และใช้ กลา้ มเนื้อส่วนท้องพยุงร่างกายให้มนั ่ คงและสมดุล เมือ่ วิง่ ขึ้นเนิน จะมีกล ้ามเนื้อหลายทีท่ ำ� งานมากขึน้ ได้แก่ Inner Thigh, Hamstrings, Gluteal, Calf และ Quadriceps ช่วยในการออกแรงขายันตัวต้าน ต่อแรงโน้มถ่วง และกล ้ามเนื้อแกนกลางก็ตอ้ งออกแรงเพิม่ เข้าไปอีก เพื่อพยุงตัวให้มนั ่ คงยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่ากลา้ มเนื้อในการวิ่งนัน้ จะถูกใช้ต่างไปจากการปัน่ ทีส่ ำ� คัญการวิง่ กลา้ มเนื้อจะท�ำงานแบบ Eccentric Contraction ลองนึกภาพว่าขณะที่ Bicep หดตัว เพือ่ ยกเวทนัน้ แขนดันถูกยืดออกในเวลาเดียวกัน นัน่ เป็ นอีกสาเหตุ ที่ทำ� ให้การวิ่งเสี่ยงต่ อการบาดเจ็บกว่าการปัน่ จักรยาน ช่ วงที่ผม เริ่มวิง่ ใหม่ๆ บางครัง้ กลับบ้านมาเผลอหัวเราะแรงไปหน่อย ก็เจ็บ กลา้ มท้องซะงัน้ หรือกางเกงขายาวตัวเก่งทีเ่ คยใส่ประจ�ำ กลับเริ่ม รูส้ กึ ว่ามันฟิ ตเปรีย๊ ะทีน่ ่อง ผิดทีผ่ ดิ ทางยังไงไม่รู ้ ขึ้นลงบันไดเหรอ ไม่ตอ้ งพูดถึง ขึ้นชัน้ สองใช้เวลา 15 นาทีเป็ นอย่างต�ำ ่ ทัง้ ทีก่ อ่ นจะวิง่ นัน้ ต่อให้ปัน่ หนักแค่ไหนก็ไม่มอี าการเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง ของกล ้ามเนื้อ

ค่อยเป็นค่อยไป

ทีน้ ีเมื่อท�ำใจและเข้าใจแลว้ ว่า เออ กลา้ มเนื้ อมันใช้งาน กันคนละอย่างจริงๆ คิดว่าปัน่ แรงๆ แลว้ มาวิ่งให้แรงเหมือนปัน่ มันไม่ได้จริงๆ ฉะนัน้ สิ่งที่ผมท�ำก็คือการกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ เหมือนกับคนเริ่มหัดวิง่ ผมไม่สนใจเรื่องความเหนื่อยหรือฮาร์ทเรต ใดๆ ทัง้ สิ้น เอาแค่ว่งิ ช้าๆ นี่แหละ เริ่มจากระยะทางสัน้ ๆ ก่อน 2-3 กิโล แล ้วค่อยๆ ขยับไปเรือ่ ยๆ และท่องไว้ในใจยุบหนอพองหนอ อย่าเร่ ง อย่าเร่ ง ผมใช้เวลาประมาณเดือนเศษในการวิ่งจ็อกกิ้ง ช้าๆ ชิวๆ 5 กิโลบ้าง 10 กิโลบ้าง สลับกับการปัน่ จักรยานอย่างทีเ่ คย เมือ่ รู ส้ กึ กลา้ มเนื้อเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ประจวบเหมาะกับงานแข่ง มินิมาราธอนสนามแรกมาถึง เป็ นการวิ่งระยะ 10.5 กิโลเมตร ตอนแรกผมนึกในใจขอให้อย่าเจ็บอีกก็พอ ถ้าเจ็บอีกจะเลิกวิง่ ละ งอน!! ฮ่าๆๆ แต่ในวันจริงอินเนอร์นกั แข่งเสือภูเขามันก็ครอบง�ำ เมือ่ ออกจากจุดสตาร์ทผมซัดเต็มที่ ผมจ�ำได้ว่าความรูส้ กึ ตอนนัน้ เหนื่อยพอๆ กับแข่งปัน่ จักรยานจับเวลาจากหน้าสวนสัตว์ถงึ หน้า วัดพระธาตุดอยสุเทพยังไงยังงัน้ เมื่อแข่งเสร็จผลปรากฏว่าเวลา ดีเกินคาด ทีส่ ำ� คัญ ไร้ซง่ึ อาการบาดเจ็บใดๆ ทัง้ สิ้น ดีใจทีต่ วั เอง สามารถออกแรงให้เหนื่อยเต็มที่เหมือนขณะปัน่ จักรยานได้ หัวใจ สู บฉี ดเลือด กลา้ มเนื้อตอบสนองไม่งอแง ฉะนัน้ ส�ำหรับเพื่อนๆ นักปัน่ ขาแรงทุกท่านทีส่ นใจจะมาวิง่ จงอย่ารีบร้อน จงใจเย็นๆ ฝึ กฝน อย่างค่อยเป็ นค่อยไปไม่กา้ วกระโดด รอให้กล ้ามเนื้อปรับตัวส�ำหรับวิง่ อีกสักนิด ท่านก็จะสามารถเรียกประสิทธิภาพของขาให้สมั พันธ์กบั หัวใจได้อย่างมาก และทีส่ ำ� คัญจะไม่บาดเจ็บจนเลิกวิง่ ไปเสียก่อน

จะเป็นนกหรือเป็นปลา

แต่ อ ย่ า งไรเสีย หากจะเอาดีท างแข่ง จัก รยาน การซ้อ ม ทีไ่ ด้ประสิทธิภาพทีส่ ดุ ก็คงจะเป็นการซ้อมด้วยจักรยาน อย่างทีก่ ล่าวมา ตอนต้น กลา้ มเนื้อทีท่ ำ� งานคนละส่วนและคนละแบบ (Eccentric กับ Concentric) ท�ำให้การวิ่งอาจจะทดแทนแรงกดในการปัน่ ได้ไม่เท่าไหร่นกั อันนี้เจอมากับตัว พักหลังมานี้ผมหลงใหลในการวิง่ มากขึ้น ท�ำให้อูป้ นั ่ จักรยานไปบ้าง ล่าสุดผมหยุดปัน่ มาประมาณ สองสัปดาห์และซ้อมวิง่ อย่างเดียว เมือ่ กลับมาปัน่ ขึ้นดอยสุเทพ พบว่า ต้องใช้เกียร์ให้เบาลง ไร้ซง่ึ แรงกดอย่างแต่ก่อน ถึงแม้วา่ ระบบหัวใจ ยังใช้ได้อยูก่ ต็ าม แต่ถา้ เพือ่ นกระตุกยิงหนี คือโบกมือบ๊ายบายได้เลย แต่ก็ใช่วา่ จะหมดหวังซะทีเดียว เพราะยังมีการวิง่ เพือ่ เสริมส่วนทีใ่ ช้ ในการปัน่ จักรยานอยูน่ ะครับ เป็ นการวิง่ แบบจัดท่าวิง่ ต่างไปจากทีเ่ รา วิ่ ง กัน ตามปกติ เพื่ อ สร้า งความแข็ ง แรงของกล า้ มเนื้ อหลัง และสร้างความเคยชินใหม่ให้ย้ายไปใช้กล ้ามเนื้อทีส่ ะโพกและก้นแทน (เชื่อว่าคงมีหลายคนที่ปนั ่ จักรยานแลว้ ปวดหลังก�ำลังอ่านอยู่ อิอ)ิ เรื่องนี้ยาว เดีย๋ วหาโอกาสเล่าในฉบับต่อๆ ไปก็แล ้วกันครับ จะเห็ น ได้ว่ า การวิ่ ง ก็ มี ข อ้ ดี ท่ี เ ป็ นอี ก ทางเลือ กส�ำ หรับ การพัฒนาการปัน่ ส�ำหรับนักปัน่ สมัครเล่นเน้นเอาสนุกว่าอย่างผมนัน้ ทีม่ าวิง่ ก็ไม่ได้จะหวังเพือ่ ให้การปัน่ พัฒนาจริงจังอะไร ก็แค่ทนกระแส ไม่ไหว ฮ่าๆ ก็เลยอยากลองแค่นนั้ ลองไปลองมาก็รูส้ กึ ตัวเองท�ำได้ ค่อนข้างดี (อวดเลย) ทีส่ ำ� คัญได้รูจ้ กั กับกลุม่ คนใหม่ๆ ได้มติ รภาพ เพิม่ ขึ้นทีด่ งี าม รูต้ วั อีกที การวิง่ ก็กลายมาเป็ นอีกส่วนหนึ่งของชีวติ ไปแล ้ว ลองวิง่ กันดูสคิ รับ....

สลับกันบ้างอะไรบ้าง

การวิ่งนัน้ มีความแตกต่ างจากการปัน่ อย่างหนึ่งที่ชดั มาก คือเรื่องการบาดเจ็บจากการกระแทก หากผมจะต้องซ้อมวิง่ ทุกวัน เพือ่ จะลงแข่งขันวิง่ ระยะฮาล์ฟมาราธอนหรือประมาณ 21 กิโลเมตร เป็ นไปไม่ได้เลยทีจ่ ะวิง่ ได้ทกุ วัน เข่าจะพังเสียก่อน ฉะนัน้ สลับมาซ้อม ด้ว ยการปัน่ ก็ เ ป็ น การพัฒ นาร่ า งกายด้า นคาร์ดิโ อให้แ ข็ง แรง เสริม กัน ได้อีก ที่ส ำ� คัญ คือ เป็ น การปล่อ ยให้เ ข่า ได้พ กั ผ่ อ นบ้า ง หรือบางกรณีทอ่ี อกปัน่ ไม่ได้ เช่นรถเสียยางแบน แฟนไม่ปนั ่ ไปไกล การวิง่ ชิลล์ๆ แถวบ้าน ก็เป็ นการออกก�ำลังแบบแอโรบิคที่ช่วยให้ การปัน่ ดีย่งิ ขึ้นอีกด้วย แต่ไม่นานมานี้มกี ารศึกษาของ Seene & Kaasik ปี 2013 พบว่าการบาดเจ็บจากการวิง่ สามารถย้อนกลับมา ให้มกี ารสร้างกล ้ามเนื้อใหม่ทแ่ี ข็งแรงมากขึ้น (ขุน่ พระ!!) 13

b side


BIKE&TRAVEL

CLASSICTRIP - road -

แม่แจ่ม : ตะกายฟ้า คว้าตะวัน เรื่อง: Weekend Warrior ภาพ: Wachakorn Sriboonruang

สวัสดีครับ ฉบับนีผ ้ มจะพาออกทริประยะไกล (มาก) เอาให้อมิ่ ทัง้ ทางเรียบและทางดอยเลยครับ เรือ่ งของเรือ่ งมีอยูว่ า่ ชมรมซอยตันหรรษาได้จดั กีฬาสีภายในชมรมขึน้ เพือ่ ความสามัคคี (คือพลัง!!!) ฟาดฟันกันเองนีแ่ หละครับสนุกทีส่ ดุ ! 555 โดยก�ำหนดเส้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังจุดหมาย คืออ�ำเภอแม่แจ่ม ไปถึงแล้วก็ทำ� พิธบี ริจาครองเท้าผ้าใบและอุปกรณ์กฬ ี าให้กบั น้องๆ นักเรียนในพืน้ ที่ ระยะทางในการปัน่ ก็สบายๆ ครับ 160 กิโลฯ เอง!!! ปัน่ กันบนทางเรียบไปก่อน 110 กว่ากิโลฯ แล้วค่อย ไปไต่ดอยทีม่ รี ะยะไต่ประมาณ 2,000 เมตร (ตีซะว่าดอยอินทนนท์!) อีก 50 กิโลฯ อร่อยเหาะตามประสา ผูเ้ สพติดความทรมานบันเทิงครับ!!!

อ�ำเภอแม่แจ่มไปได้ 2 ทาง 1. จากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมือ่ ถึงด่านตรวจอ�ำเภอแม่แจ่ม กม. 38 เลี้ยวซ้ายตามแยกไปจะถึง ตัวอ�ำเภอแม่แจ่ ม 2. จากอ�ำเภอจอมทองมุ่งหน้าเข้าอ�ำเภอฮอด แยกขวาไปทางแม่ฮ่ อ งสอน เลาะแม่น�ำ้ แม่แ จ่ ม จนถึง ออบหลวง แลว้ เลี้ยวแยกขวาไปอีกกว่า 40 กิโลเมตรจะถึงตัวอ�ำเภอแม่แจ่ม ส�ำหรับชาวจักรยานเลือกปัน่ ไปเส้นทางที่ 2 ผ่ านตัวอ�ำเภอฮอด ซึง่ ไกลกว่าเส้นทางแรก!!! แม่แจ่มหรือ ‘เมืองแจ๋ม’ เดิมเรียกกันว่า ‘เมืองแจม’ มีเรื่องเล่า ครัง้ โบราณกาลว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระมหากัจจายนะ ได้จาริกผ่านมาทางยอดดอยอ่างกา (ดอยอินทนนท์) เช้าวันหนึ่ง เมือ่ พระองค์เสด็จออกบิณฑบาต มียา่ ลัวะเฒ่า (หญิงชราชาวลัวะ) คนหนึง่ น�ำปลาปิ้ งเพียงครึง่ ตัวมาใส่บาตรถวาย พระบรมศาสดาทอดพระเนตร ด้วยความเมตตาและความสงสัย จึงตรัสถามย่าลัวะว่า “แลว้ ปลา อีกครึ่งตัวล่ะอยู่ไหน” ย่าลัวะทูลตอบว่า “เก็บไว้ให้หลาน” พระองค์ จึงทรงร�ำพึงว่า “บ้านนี้เมืองนี้มนั แจมแต๊นอ่ ” (เมืองนี้ชา่ งอดอยากจริงหนอ) ซึง่ ต่อมาดินแดนนี้จงึ ได้ชอ่ื ว่า ‘เมืองแจม’ ค�ำว่า ‘แจม’ เป็ นภาษาลัวะ แปลว่า มีนอ้ ย ไม่พอเพียง หรือขาดแคลน ต่อมาเมือ่ กลุม่ คนไท-ยวน (ไต) มาอยู่ จึงเรียกชือ่ ตามส�ำเนียงไท-ยวนว่า ‘เมืองแจ๋ม’ และเพีย้ นเป็นเมืองแจ่ม หรือ ‘แม่แจ่ม’ อันเป็ นนามมงคล หมายถึงให้เมืองนี้เป็ นเมืองแห่ง ความแจ่มใส ลบความหมายของค�ำว่า ‘แจม’... เท่วะ่ - การปัน่ จักรยานเป็ นกลุม่ ใหญ่ จากเชียงใหม่ไปจอมทองจะท�ำให้รูว้ า่ ระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร ไม่รูส้ กึ ไกลเลยสักนิด เพราะมีเพือ่ นคุย ตลอดทาง และมีเพือ่ นปัน่ น�ำเพือ่ ให้เราตามหลัง... สวรรค์บนดิน 14

b side


BIKE&TRAVEL -road-

- การปัน่ จักรยานจากจอมทองไปฮอด ท�ำให้เรียนรูว้ า่ ไม่วา่ จะเหนื่อย ขนาดไหนก็อย่าผ่อนแรงกดลูกบันได เพราะการผ่อนแรงอาจท�ำให้ หลุดกลุม่ และเหนื่อยยิง่ กว่าเก่า... นรกบนดิน - การปัน่ จักรยานจากฮอดไปออบหลวง ท�ำให้เรียนรูว้ า่ ถึงแม้เส้นทาง จะสวยงามขนาดไหน แต่ ส �ำ หรับ นัก กระทืบ ลู ก บัน ไดอย่ า งเรา ไม่มโี อกาสแม้แต่จะมองข้างทาง เพราะถ้าเสียสมาธิจากการปัน่ กลุม่ ทีม่ กี ารยกสวนชิงจังหวะกันตลอดเวลาเมือ่ ใด หมายถึงการหลุดกลุม่ และจะได้รบั บทบาทเป็ นพระเอกเรื่อง ‘หนังชีวติ ’... ชีวติ ช่างขมขืน่ - ระหว่างนัง่ พัก เหล่านักปัน่ ทัง้ หลายมักแสดงกิริยาถ่อมตัว เช่น บอกเพือ่ นๆ ว่าไม่ได้ซ้อมเลย!!! (อื้อหืออออ ไม่ได้ซ้อมแต่อยูก่ ลุม่ หน้า), ตะคริวมาตัง้ แต่จอมทองแล ้ว ปัน่ แทบไม่ไหว (ค่ะ!!! ปัน่ ไม่ไหวแต่ลาก ตัวเองมาถึงออบหลวงได้), ผมปัน่ ขึ้นดอยไม่เก่ง (จ้า... พ่อสิงห์ทางราบ แต่ทางดอยก็เห็นกระแทกอยูข่ ้างหน้าตลอด) เป็ นต้น... นักปัน่ เป็ นพวก ลวงโลก - ค�ำว่าปรองดองเป็ นเพียงถ้อยค�ำทีอ่ ปุ โลกน์ข้นึ เพือ่ เสริมสร้างก�ำลังใจ และความสามัคคีว่าพวกเราจะปัน่ ไปด้วยกันไม่ทอดทิ้งกัน แต่ใน ความเป็ นจริงไม่มคี ำ� ว่าปรองดองในโลกของจักรยาน มันคือการ ท�ำ สงครามการแข่ ง ขัน ระดับ ย่ อ มๆ ที่ไ ม่ มีใ ครยอมใคร ทุก คน พร้อมบดขยี้เพือ่ นร่วมทริปให้อย่างสาสม... ไม่มสี จั จะในหมูโ่ จร - การซ้อมปัน่ จักรยานระยะ 50 กิโลเมตร เพือ่ มาปัน่ ท�ำศึกสงคราม ระยะทางกว่ า 160 กิโ ลเมตร มัน คื อ การฆ่ า ตัว ตายชัด ๆ แค่ น้ ี มันไม่เพียงพอส�ำหรับนักปัน่ มือใหม่ ทีบ่ ญ ุ เก่าสะสมมายังไม่เข้มข้น เต็มที่ แต่สำ� หรับมือเก๋าทีส่ ะสมบุญเก่ามาเต็มทีก่ อ็ าจจะปัน่ จบทริปได้ แต่มนั ไม่งา่ ยเลย!!!... บางทีนกั ปัน่ จักรยานก็ดูคล ้ายนักแสวงบุญ

- เริ่มปัน่ ตัง้ แต่เช้าอุณหภูมิ 14 องศายันบ่ายแก่ๆ อุณหภูมิ 40 องศา การเปลีย่ นแปลงอุณหภูมริ ะหว่างวันช่างโหดร้ายเหลือเกิน แต่จติ ใจเรา ไม่ได้ใส่ใจกับอุณหภูมริ ะหว่างวัน เราสนใจแค่วา่ อย่าลงจูง อย่าขึ้นรถ อย่ายอมแพ้ แพ้ใครก็ได้แต่อย่าแพ้คนนี้ท่เี ป็ นไม้เบื่อไม้เมากันมา ไม่ว่าจะเหนื่อยขนาดไหนก็อย่าหายใจเหนื่อยหอบให้เพือ่ นเห็นว่าเรา หน่อมแน้ม มีบางช่วงทีใ่ ต่เนินยาวๆ กลางแดดร้อนผ่าว ขนกลับลุกซู่ เหมือนร่างกายได้รบั ลมหนาว เป็ นสิ่งที่ร่างกายบอกว่าเราใกลม้ าถึง ขีดจ�ำกัดของร่างกายเราแล ้ว แต่เราก็ทน มิใช่เพือ่ ข้ามขีดจ�ำกัดร่างกาย แต่เพือ่ ไม่ให้เสียฟอร์มต่อหน้าเพือ่ นๆ... ทรมานบันเทิง - มีเพือ่ นบางคนลงจูงในทางชันๆ บางคนโดนลอ้ แต่บางคนไม่โดน ท�ำไมน่ะเหรอ!! เพราะคนทีล่ งจูงถูกถ่ายรูปเก็บไว้เป็ นหลักฐานยังไงล่ะ คนนัน้ แหละจะโดนล ้อไปตลอดทัง้ ปี ส่วนอีกคนทีถ่ งึ แม้จะลงจูงเหมือน กันแต่หลบกล ้องไม่ถกู จับภาพได้ ก็เหมือนไม่มอี ะไรเกิดขึ้น นี่แหละ ชีวติ นักจักรยานทีม่ แี ต่คนรัก!!!... เวรกรรมติดจรวด - เบียร์เย็นๆ หลังปัน่ เสร็จมันช่างอร่อยเหาะเหลือเกิน ดืม่ 1 กระป๋ อง ก�ำลังชุ่มชื่น, 2 กระป๋ องก�ำลังคุยสนุ ก, 3 กระป๋ องหลับเป็ นตาย รู ต้ วั อีกทีตอนเช้า ท�ำให้พลาดงานปาร์ต้ ีรอบกองไฟตอนกลางคืน ไปอย่างน่าเสียดาย สรุปดืม่ 2 กระป๋ องพอ…แอลกอฮอล์เก็บไว้ไม่เสีย ไม่ตอ้ งรีบดืม่ - การคุยทับถมกันหลังปัน่ เป็ นเรื่องปกติ ห้ามมีอารมณ์ แพ้คือแพ้ อย่าขี้แพ้ชวนตี ขอให้มองว่าเป็ นเรื่องตลกสนุกสนาน อย่าลืมว่าเรามา ปัน่ จักรยานเพือ่ สุขภาพ มิตรภาพต่าง ๆ ทีไ่ ด้มาเกิดจากการปัน่ ดังนัน้ ควรรักษามันไว้ วันไหนมีอารมณ์ให้มองย้อนกลับมาว่าออกก�ำลังกาย เพือ่ สุขภาพ... ชีวติ มันก็เท่านี้ จะอะไรกันนักหนา!!! 15

b side


BIKE&TRAVEL - race -

POLKA DOT อินทนนท์ สูงสุดโดยสยิว

เรื่อง: acidslapper ภาพ: TOey Wutisak, แต้ม เสือสันก�ำแพง, Scarlet Minivet, Sopinm Nemona

เวลาทีเ่ ราดูการแข่งขันจักรยาน Tour de France สุดโหด ติดต่อกันหลายวัน ในแต่ละวันจะมีการให้รางวัลโดยการใช้เสือ้ เป็นสัญลักษณ์ส�ำหรับนักปั่นที่ท�ำคะแนนน�ำในประเภทต่างๆ เสือ้ สีขาว = นักปัน่ หนุม่ แน่น U25, เสือ้ สีเขียว = เจ้าความเร็ว/ สปรินเตอร์, เสือ้ ลายจุด = นักไต่เขา, เสือ้ สีเหลือง = ผูน้ ำ� เวลารวม แล้วท�ำไมเสือ้ เจ้าภูเขาถึงได้สลี ายจุดแดงๆ น่ารักเก๋ไก๋ กว่าชาวบ้านเขาเหลือเกิน ก็เลยไปค้นข้อมูลหาทีม่ าทีไ่ ปซะหน่อย... คืองี้ครับ โลกเราเนี่ย ยิ่งขึ้นไปสู งๆ อากาศมันก็จะยิ่งเบาบางลง แล ว้ ธรรมชาติ ม นุ ษ ย์เ ราก็ จ ะปรับ ลดความหนาแน่ น ของเม็ ด เลือ ด ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศดังกล่าว ก็เลยกลายเป็ นทีม่ าของงานดีไซน์เสื้อ ส�ำหรับนักไต่เขาให้เป็ นลายจุดแดง เพือ่ แทนค่าเม็ดเลือดทีไ่ ม่หนาแน่นไงครับ แลว้ นักปัน่ ชาวเชียงใหม่อย่างพวกเราล่ะ? ก็อยู่ในข่ายนี้ครับ ใช่สิ จะไปไหนมาไหนก็มแี ต่ดอย เอะอะก็เจอภูเขา จนเป็ นที่อจิ ฉาของนักปัน่ ชาวภาคกลางและชาวอีสาน สหายบางกอกคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่าอิจฉา คนเชียงใหม่ มีภเู ขาให้ปัน่ ทีก่ รุงเทพฯต้องตืน่ เช้าๆ แล ้วไปปัน่ วนขึ้นทีจ่ อดรถ ของตึกสูงๆ วนขึ้นไปเรื่อยๆ แล ้วก็มว้ นกลับลงซ�ำ้ ไปซ�ำ้ มา หรือไม่กต็ อ้ งรอ สุดสัปดาห์ เอาไปปัน่ ทีเ่ ขาใหญ่ โคราชโน่น... อ๊ออ๊อย... น่าสงสารเป็ นบ้า! บ้านเฮาปัน่ ออกหน้าบ้านปุ๊ บเจอเนินเจอดอยเลย ไม่ตอ้ งแปลกใจ เวลา ไปไหนมาไหน พอบอกเขาว่ า มาจากเชีย งใหม่ เขาจะท�ำ หน้า ตื่น เต้น พร้อมยัดเยียดข้อหา ‘เด็กดอย’ ให้โดยพลัน ในวงการจักรยานก็มกี ารแบ่งประเภทของนักปัน่ ออกเป็ นสองพวก ใหญ่ๆ คือ สายเรียบ และ สายดอย จะพิเศษหน่อยก็ Overall แต่ส่วนมาก ที่เจอก็จะเป็ น ชอบเรียบแต่ เกลียดดอย ชอบดอยแต่ ข่ีทางเรียบไม่ดี ซึง่ ผมเองก็เป็ นอีพวกหลังนี่แหละ มักดอย! ผมชอบถามเพือ่ นๆ สายเรียบ ว่าท�ำไมถึงเกลียดดอย ส่วนใหญ่จะตอบเป็ นเสียงเดียวกันว่า “เหนื่อย!” ก็แน่ สิฟะ! แหม ก็เอาวิธีข่ที างเรียบมาใช้ตอนขึ้นเขา มันก็เหนื่อยสิฮะ มายเดียร์! หลักฟิ สกิ ส์งา่ ยๆ ทางเรียบนี่เราออกแรงเพือ่ เคลือ่ นทีไ่ ปข้างหน้า

แต่ การขึ้นเขาเนี่ยเราออกแรงเคลื่อนไปข้างหน้าบวกกับการยกน�ำ้ หนัก (ทัง้ คนทัง้ รถ) ขึ้นทีส่ ูงด้วย มันก็เหนื่อยกว่าสิจะ๊ ยาหยี! สายเรียบขี้หงุดหงิด มักจะไม่ชอบเหนื่อยแต่เคลือ่ นไปช้าๆ 555 ยังมีเรื่ององศาของการปัน่ อีก ปัน่ ทางเรียบวางท่าแบบหนึ่ง พอขึ้นเขาทัง้ รถทัง้ คนจะอยู่เฉียงๆ อยู่ทว่ี า่ ใคร ถนัด ออกแรงปัน่ ในองศาแบบไหนมากกว่า กัน ไงดาร์ล้ ิง และที่ส ำ� คัญ ก็เรื่องเลือดนี่แหละครับ ยิง่ สูง เลือดยิง่ น้อย ใจ (น้อยๆ ดวงนี้) ก็เลยต้อง เร่ งปั ๊มอากาศจางๆ กับเลือดบางๆ ไปให้กลา้ มเนื้อที่กำ� ลังแบกน�ำ้ หนัก ขึ้นทีส่ ูง พอหัวใจ (อ้อล ้อ) เต้นเร็วมันก็เหนื่อยสิครับ! ฉะนัน้ เราจึงมักพบว่า สายดอยส่วนใหญ่ จะตัวบางๆ ผอมๆ (แบกน�ำ้ หนักขึ้นชกน้อย) แต่ มี คุณสมบัตทิ นทานหัวใจเต้นเร็วได้ เรียกว่า ‘อึด’ หรือ ‘ถึก’ แลว้ ถ้าไม่ชอบดอยจะท�ำไงดีละ่ ? ย้ายบ้านหนีไปอยู่อสี านเลยบ๋อ? เรียบแปล ้ประชดชีวติ ซะเลย! ไสว่าสิบถ่ ม่ิ กันนนนนน ๋ ก็บ ้านเฮามันมีกา้ ดอย เนี่ยก่ะ! มิหน�ำ! ดันมีดอยทีส่ ูงทีส่ ุดของประเทศตระหง่านเย้ยหยันอยู่อกี !!! ดอยอินทนนท์ไง! ใครเคยไปปัน่ มาแล ้วบ้างครับ? ม่วนก่อจ๊าวววว? ไม่สนุก แล ้วไปท�ำไมคะ?... ทรมานบันเทิงสินะ... หึหึ ดอยอินทนนท์นนั้ วางทับอ�ำเภอจอมทองเจียงใหม่ สูง 2,565 เมตร จากระดับน�ำ้ ทะเล ถ้าปัน่ รถถีบจะมีระยะไต่ประมาณ 2,200 เมตร ระยะทาง จากหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองไปจนถึงยอดดอยประมาณ 50 กิโลเมตร โดยมีความชันเฉลีย่ อยู่ท่ี 5% (อย่าชะล่าใจกับตัวเลขนี้!!!) 16

b side


BIKE&TRAVEL - race -

เมือ่ ดูจากโปรไฟล์ และป้ าย ‘สูงสุดแดนสยาม’ มันเป็ นเหมือนสิง่ ล่อใจ ให้นกั ปัน่ จากทัวทุ ่ กสารทิศอยากมาชูจกั รยานทีป่ ้ ายสูงสุดฯ ลันชั ่ ตเตอร์และ อวดภาพเย้ยหยันสังคมออนไลน์ เป็ นเกียรติประวัตปิ ระดับชีวติ จักรยาน สักครัง้ ในชีวติ มันก็เลยเกิดเป็ นงานประเพณี ทา้ พิชิตดอยอินทนนท์ข้ นึ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี มีการบันทึกสถิติเวลา และถ้วยที่ระลึก ให้กบั ผูเ้ ข้าร่วมปัน่ ด้วยครับ ผมเองในฐานะนักปัน่ เจ้าถิ่นเจียงใหม่ก็เคยไปดันดอยอินทนนท์ มาแล ้ว 4 คราด้วยกัน หลายอารมณ์เชียว... ไปแบบแข่งขันม้วนเดียวจบ ไม่ลงจากรถ ไปแบบเฮฮาจอดถ่ายรู ปแวะกินข้าวเที่ยวไปเรื่อยๆ บางที คนพร้อ มแต่ ร ถเสีย อีก ทีร ถพร้อ มแต่ ค นพัง ทัง้ เสือ หมอบเสือ ภู เ ขา ลองมาแล ้วครับ จากประสบการณ์สว่ นตัว ถ้าดอยอินทนนท์เปรียบเป็ นเพลง มันก็มอี ยู่ 6 ท่อน... 1. Intro : ทางเรียบๆ จากหน้าวัดจอมทองไปยังตีนดอย อุ่นเครื่อง กันเบาๆ ครับ 2. Verse : ปี ศาจตัวแรก! (หน้าน�ำ้ ตกแม่กลาง) ในวงการเราเรียกเนินนี้วา่ ‘เนินคัดเกรด!’ ก็หลังจากทีป่ นั ่ ตามๆ กันมาเป็ นทางเรียบสบายๆ ดูดกันมา เป็ นกลุม่ เบ้อเร่อ เนินนี้เนินเดียวจะแยกกลุม่ ขาแรง ขาเกือบแรง ขากลางๆ ขาเกือบเบา และขาเบา ออกจากกันอย่างสิ้นเชิง! ดีครับ ผมว่านักปัน่ แต่ละกลุ่มก็มเี ป้ าหมายต่างกัน แยกๆ กันไปนี่แหละจะได้ไม่เกะกะกัน สายแรงก็บดขยี้กนั ไป สายท่องเทีย่ วแวะถ่ายรูป มีวถิ เี กร๋ๆ ไม่ถูกไม่ผดิ ไม่วา่ กัน 3. Pre-Hook : หลังเนินคัดเกรดช่วงนี้จะเป็ นทางเรียบ ลงบ้าง ขึ้นบ้าง นิดหน่ อยสลับกันไป จะรู ส้ กึ ว่าท่อนนี้รอ้ งตามง่ายและไพเราะเหลือเกิน จนล�ำพองใจว่า “แค่น้ เี องเหรอดอยอินทนนท์?” 4. Hook 1 : นับตัง้ แต่ กม.31 (ลานกางเต๊นท์) เป็ นต้นไป... นรกส�ำหรับ ยุงร้าย!!! จากจุดนี้ไปจนถึงยอดดอยระยะแค่ 16 กิโลฯ แต่รบั รองว่า 16 กิโลฯ นี้จะตราตรึงไปในใจคุณตราบชัว่ ชีวติ ! 5. Solo : เดินออกมาหน้าเวที เหยียบล�ำโพงมอนิเตอร์ แล ้วกระหน�ำ่ โซโล่ กีตา้ ร์แบบ Heavy Metal ปี ศาจตัวนี้ดุทส่ี ุดครับ!!! จุดสังเกตคือ เจดียค์ ู่ ถ้าเงยมาเจอปุ๊ บ เตรียมตัวเตรียมใจเลยครับ!!! ค่อยๆ นัง่ กดไปแบบช้าๆ แต่ทรมาน มือก็กดเปลีย่ นเกียร์ทงั้ ๆ ทีม่ นั หมดไปตัง้ นานแลว้ !!! แต่แค่ อยากเช็คดูเผือ่ ฟลุค๊ เหลือเฟื องเบาๆ อีกสักใบ!!! อาการของคนสิ้นหวังน่ะ!!! โค้งหักศอกขึ้นไปวึบวับ เห็นคนลงเดินจูงกับเป็ นทิวแถว งดงามตระการตา! แล ้วกลับมาถามตัวเองว่า ลง ไม่ลง ลง ไม่ลง แต่ถา้ พ้นไปถึงลานจอดรถ และจอดฮอลิคอปเตอร์ได้แล ้วล่ะก็... ยินดีดว้ ยครับ... คุณได้ไปต่อ... แต่... 6. Hook 2 : ปี ศาจตัวสุดท้าย! แม้ว่าตัวนี้จะไม่ใหญ่มาก ไม่ดมุ าก แต่สภาพ สะบักสะบอมที่เหลือมาจากท่อนโซโล่น่ีสิ! หลายๆ คนมาโดนตะคริว โจมตีกนั ช่วงนี้แหละ แต่ถา้ ไหว... กลัน้ ใจอีกนิดเดียวเท่านัน้ จุดหมาย อยู่ขา้ งหน้าแล ้ว!!! แหมมม ชีวติ มนุษย์น่มี นั ช่างซับซ้อนแต่งดงามนะครับ กว่าจะได้มา ถ่ า ยรู ป บนยอดดอยอิ น ทนนท์น่ี ท �ำ ไมมัน ต้อ งล�ำ บากกัน ซะขนาดนี้ แต่ ก็อย่างว่า ผู เ้ สพติดความทรมานเขารู ก้ นั ! 555 ง่ายเกินไปก็ไม่อ่ิม แต่โหดเกินก็ไม่ดอี กี แหละ ปวดเข่า ปวดหลัง เจ็บโน่น เจ็บนี่ เดีย๋ วจะพาล เข็ดขยาดจักรยานไปซะ มันจะได้ไม่คมุ ้ เสีย งัน้ เอางี.้ .. ถ้าจะต้องไปถลุงดอยสูง ก็ตอ้ งเตรียมตัวกันหน่อยยยย หายใจลึกๆ : พูดง่ายแต่ทำ� ยาก หายใจให้ถูกวิธี (เอ่อออ ถ้าผิดมันคง ขาดใจตายกันไปแลว้ สิ!) หายใจเข้าอกและปอดขยายพองโต หายใจออก รีดเค้นลมออกไปให้หมด พองหนอ-ยุบหนอ อ็อกซิเจนจะได้เข้าไปเยอะๆ หนอ กล ้ามเนื้อจะได้ทำ� งานได้ดๆี หนอ ฝึ กหนอออ ท�ำตัวนิ่ งๆ อย่าขย่ม : นี่กพ็ ดู ง่ายแต่ทำ� ยาก! (ผมยังเป็ นเลย แก้ยาก 555) จักรยานไม่ใช่มา้ ไม่ตอ้ งขีข่ ย่ม! เก็บแรงไว้ใช้ทข่ี าเถอะแม่ยอดพธู จริงอยู่ ทีบ่ างจังหวะการขย่มตัวอาจช่วยให้เราออกแรงปัน่ ได้มากขึ้น แต่มนั เป็ นการ ใช้กลา้ มเนื้อหลัง (Core Muscle) เป็ นฐานในการแกว่งและกระแทกขา นี่แหละครับ สาเหตุของอาการปวดหลัง!!! แก้ได้ดว้ ยการฝึ กปัน่ นิ่งๆ เมือ่ ล�ำตัวและหลังนิ่ง ร่างกายก็จะย้ายไปใช้กลา้ มเนื้อช่วงสะโพกและก้น ในการออกแรง ฝึ กบ่อยๆ ก็กลายเป็ นความเคยชินไปเองครับ 17

b side


BIKE&TRAVEL - race -

ลุกขึ้นยืนโยกบ้าง : ลองหันมาเปลีย่ นอิริยาบถกันบ้างนะ มือชา เท้าชา น้อง (ชายและน้องสาว) หาย ลา้ ขา และฯ แก้ดว้ ยการสลับมาลุกขึ้นยืน แลว้ ใช้นำ�้ หนักตัวกดบันไดลงไปแทน ให้กลา้ มเนื้อขาได้พกั บ้าง แต่ละคน มีนำ�้ หนักตัวไม่เท่ากัน ซึ่งจะสัมพันธ์กบั เกียร์ท่ีใช้พอดีๆ ไม่เบาไปและ ไม่หนักเกิน การยืนปัน่ เพื่อพักนัน้ ต่างกับการยืนสปรินท์เพื่อระเบิดพลัง ท�ำความเร็วนะครับ (เรือ่ งนี้แปะไว้ก่อน ไว้มีโอกาสจะมาพูดกันอีกทีนะครับ) ซ้อมให้ถงึ : ดอยอินทนนท์ 50 กิโลฯ ขึ้นเขาล ้วนๆ แต่ซอ้ มครัง้ ละ 30 กิโลฯ ทางเรียบ... ฆ่าตัวตายชัดๆ!!! อย่างน้อยก็ควรซ้อมให้ได้ระยะเทียบเท่า หรือมีลกั ษณะคล ้ายๆ กัน เช่น ระยะ 50 กิโลฯ หรือ ซ้อมขึ้นเขาเยอะๆ หรือถ้ากะว่าจะปัน่ 4 ชัว่ โมงก็ควรจะซ้อมมากกว่า 4 ชัว่ โมง ร่ างกาย มันจะได้คนุ ้ กับระยะเวลาทีใ่ ช้งานจริง ศึกษาเส้นทาง : แต่ละคนมีความถนัดในการปัน่ ทีต่ ่างกัน การศึกษาเส้นทาง จะท�ำให้เรารู ว้ ่าเราจะเอาสิ่งที่ถนัดออกมาใช้ตอนไหน แลว้ จะเอาตัวรอด จากเรื่องที่ไม่ถนัดได้ยงั ไง เราจะเฉลี่ยแรงยังไงให้ปนั ่ ถึงยอดดอยได้ โดยสวัสดิภาพ ถ้าเป็ นไปได้ การไปลองเส้นทางจริงนี่แหละครับดีท่สี ุด แต่ถา้ โอกาสไม่เอื้ออ�ำนวย ก็ลองหาศึกษาโปรไฟล์ดอยอินทนนท์ได้จาก เว็บจักรยานทัว่ ไปก็มใี ห้เพียบ กินอิ่ม นอนหลับ : สองวันก่อนกระหน�ำ่ ดอย กินคาร์โบไฮเดรตเยอะๆ ไม่ตอ้ งห่วงครับ ดอยอินทนนท์จะรีดออกมาจนหมดจนหยดสุดท้ายแน่ๆ! แล ้วคืนก่อนปัน่ นอนตุนไว้เยอะๆ 6-8 ชัว่ โมงไปเลย แต่ส่วนใหญ่จะตื่นเต้น จนนอนไม่หลับ!!! ฮี้วววววว คนพร้อมแลว้ รถและอุปกรณ์ก็ตอ้ งพร้อมด้วยนะ คอนเส็ปท์ ของนักไต่เขาเลยครับ ‘เบาที่สุดเท่าที่จะท�ำได้’ อะไรที่ไม่จำ� เป็ นเอาออก ให้หมด แต่อย่าเผลอไปเอาของจ�ำเป็ นออกซะล่ะ! ก็เราต้องแบกน�ำ้ หนัก ขึ้นทีส่ ูง นัง่ อ่าน HIP อยูอ่ าจคิดว่า “แอ๊! เอาขาตัง้ ออก น�ำ้ หนักลดไปขีดกว่าเอง” ตอนอยู่บนเนินชัน 20% ตะคริวตอดแปล๊บๆ ทัว่ ร่ าง ถ้ามีคนเอาของ หนักขีดกว่าๆ มาฝากติดรถไปด้วย ถามว่าจะรับเอามัย้ ? !!! ถ้าเลือกล ้อได้ แนะน�ำล ้อขอบต�ำ่ นะครับ เสือภูเขาเกียร์เบาแต่รถหนัก เสือหมอบเกียร์หนัก แต่รถเบา ใครมีรถหลายประเภทก็เลือกทีเ่ หมาะกับสไตล์กแ็ ล ้วกัน

น�้ ำ : 2 กระติกครับ พกไปเลย! กระติกแรกใส่นำ�้ เปล่า กระติกสองใส่นำ�้ ผสมเกลือ แร่ สัญ ชาตญาณการเอาชี วิต รอดจะบอกเองว่ า ตอนไหน ควรดื่ ม น�้ำ อะไร 555 ที่ส �ำ คัญ ห้า มปล่ อ ยให้ต วั เองหิ ว น�้ำ เด็ ด ขาด! หิวน�ำ้ คืออาการหม้อน�ำ้ แห้ง อันตราย! จิบนิดๆ ไปเรื่อยๆ ดีกว่า อาหาร : ถ้าจะม้วนเดียวจบ ไม่จอดพัก แนะน�ำ ขนมปัง ขนมหวาน กล ้วย ใส่กระเป๋ าเสื้อไปเลย เลือกให้แกะกินง่ายขณะปัน่ 1 มื้อที่เราฟาดเข้าไป จะเกื้อหนุ นพลังชีวิตเราได้ประมาณ 3 ชัว่ โมง ยิ่งภารกิจตะกายดอย ทีย่ ดื เยื้อติดพันเกินสามชัว่ โมง การพกอาหารไปด้วยนัน้ ส�ำคัญมากครับ รองเท้าแตะ : ถ้ากะว่าลงจูงแน่ ๆ พกไปด้วย เสียดายรองเท้าจักรยาน เดินก็ยาก แพงก็แพง ...ตึกโป๊ ะ!!! อุปกรณ์กนั หนาว : เสื้อกันหนาว เสื้อกันลม ถุงมือเต็มนิ้ว หมวกไหมพรม ตอนปัน่ ขึ้นร้อนแทบตาย หม้อน�ำ้ ก�ำลังฮีท อาจคิดไม่ออกว่าจะพกไปท�ำไม แต่พอถึงยอดดอย ตัวชุ่มๆ เหงือ่ โดนลมเย็นๆ พัดแรงๆ โกรกมาทีน่ี สันสะท้ ่ านไปถึงขัว้ วิญญาณ! ยิง่ ถ้าจะต้องปัน่ ลงอีกล่ะก็ พกไปเถิด เชื่อสิ! เพื่อนร่ วมทางอาจมองว่าเป็ นคนบ้าหอบฟาง แต่ พอขาลงเท่านัน้ แหละ นอนหนาวตายเกลือ่ นตามข้างทาง สมน�ำ้ หน้ามัน!!! และถ้าจะต้องปัน่ ลง : หมวกกันน็อคต้องใส่ ตรวจสอบระบบเบรคให้ดี เทคนิ ค การปัน่ และการใช้เ บรคตอนลงเขา (ที่สู ง ที่สุ ด ของประเทศ) นัน้ ยากพอๆ กับการปัน่ ขึ้นเลยครับ ยิง่ ถ้าเป็ นช่วงเทศกาลทีน่ กั ท่องเทีย่ วเยอะ ยิง่ ต้องระวังครับ และขอเตือน! อย่าทะลึง่ แข่งกันเป็ นอันขาด!!! เรือ่ งแบบนี้ เก็บไว้ให้นกั จักรยานมืออาชีพเขาท�ำกันเถอะครับ สายสมัครเล่นอย่าห้าว!!! แข่ง กัน ตอนขึ้น ... แพ้- ชนะก็ สุ ข ภาพดีมีค วามสุ ข แต่ แ ข่ง กัน ขาลง... เสีย่ งตายทุกกรณี!!! ไม่คมุ ้ ! ยังมีเรื่องดีๆ รอให้พวกเราไปท�ำกันอีกตัง้ เยอะ อย่าเอาชีวติ มาทิ้งแบบนี้! สุ ด ท้า ย : อย่ า ลืม หาโอกาสมาซ�ำ้ ดอยอิน ทนนท์ก นั บ่ อ ยๆ นะครับ กระทืบกันจนเชื่อง...ว่างัน้ ! 555 ขอให้มีความสุขกับภูเขาทีส่ ูงทีส่ ดุ ของประเทศไทย และเสื้อลายจุดครับ การเมือง - การปกครองบอกว่า... ‘ยิง่ สูง ยิง่ หนาว’ จักรยานบอกว่า... ‘ยิง่ สูง ยิง่ สวย’ สวัสดอยครับ...

18

b side


BIKE&TRAVEL - healthy -

To drink, or not to drink, that is the question: Whether ‘tis Nobler in the mind to suffer - Ham หลุด

TO DRINK OR NOT TO DRINK THAT IS THE QUESTION. ดื่มดี หรือ ไม่ดื่มดี หรือ ดื่มไม่ดี ดีกว่าไม่ดื่ม

เรื่อง: @T ภาพ: Tor Chiangchon & Wachakorn Sriboonruang

- ร่างกายของมนุษย์ ประกอบด้วยน�ำ ้ 60% - 70% เปอร์เซ็นต์ [1] เชียว เพราะฉะนัน้ เราต้องดืม่ น�ำ้ เยอะๆ นะ - ขีจ่ กั รยานตากแดดร้อนๆ ไม่ดม่ื น�ำ ้ เดีย๋ วจะเป็ นลมนะ - เวลาออกก�ำลังกาย ต้องดืม่ น�ำ้ เยอะๆ และต้องดืม่ น�ำ้ ก่อนหิวนะ - รอให้หวิ น�ำ้ ก็ชา้ ไปแล ้วนะ ร่างกายจะขาดน�ำ ้ ความเร็วจะลดลงนะ - อ้าว คราบเกลือเต็มเสื้อ นี่เสียเกลือแร่นะ อย่าลืมดืม่ เครื่องดืม่ ทีม่ เี กลือแร่นะ แลว้ ท�ำไมสมัยก่ อนจะมีน�ำ้ ขายเป็ นขวด ยังไม่มีเครื่องดื่มที่มีเกลือแร่ นักกีฬาไม่ตายเพราะขาดน�ำ ้ ขาดเกลือแร่ ไปแล ้วล่ะ? ท�ำไม ในการแข่งขันนิวยอร์กมาราธอน 42.195 กม. สมัยก่อน ทีม่ จี ดุ ให้นำ�้ ทีเ่ ดียว ทีก่ ม.xx นักกีฬา หลายคน น�ำ้ หนักลดจากการเสียเหงือ่ ถึง 3 กิโลกรัม โดยไม่มอี าการเจ็บป่ วย ท�ำไมมีคนตายในการแข่งขันวิง่ บอสตันมาราธอนปี 2002 จากการดืม่ น�ำ้ มากเกินไป ทัง้ ๆ ทีเ่ ป็ นเครื่องดืม่ เกลือแร่ [2] ท�ำไม การแข่งขันตูรเ์ ดอฟรองซ์ ปี ท่ี บก. เกิด นักปัน่ ถูกสอนให้ดม่ื น�ำ้ น้อยๆ [3] นักกีฬาเหล่านัน้ รอดตายมาได้อย่างไร? ถ้าเราควรดืม่ น�ำ้ ก่อนความรูส้ กึ หิวน�ำ ้ แล ้วเรามีความรูส้ กึ หิวน�ำ้ ไว้เพือ่ อะไร??? ถ้าในธรรมชาติไม่มเี ครื่องดื่มอย่างอื่น นอกจากน�ำ้ เปล่า (ซึ่งบางครัง้ ไม่สะอาด ไม่สามารถใช้ด่ืมได้) เผ่าพันธุม์ นุษย์ซง่ึ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายหมืน่ ปี อยู่รอดมาจนมีความสามารถท�ำลายโลกทิ้งเล่นๆ ได้ น่าจะมี กลไกของร่างกายทีท่ ำ� ให้มนุษย์ดม่ื น�ำ ้ เมือ่ เขารูส้ กึ หิวน�ำ้ ได้กระมัง? เฮ้อ งง ไม่เป็ นไร เอ้า... ดืม่ มมม [1] Jackson, Sheila (1985). Anatomy & Physiology for Nurses. Nurses’ Aids Series (9th ed.). London: Bailliere Tindall. ISBN 0-7020-0737-4. [2] “Fluid Cited in Marathoner’s Death”. Associated Press. 13 August 2002. http://www.apnewsarchive.com/2002/Fluid-Citedin-Marathoner-s-Death/id-424edce6ed89d8adcb14d4d97c0448a3 [Retrieved 14 February 2016]. [3] William Fotheringham. “Put Me Back On My Bike: In Search of Tom Simpson”. Yellow Jersey Press 2007, p. 180. 19

b side

- bike news-

13 มีนาคม 2559 การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์ภาคเหนือ สนามที่ 2 ปี 2559 “บ่อน�้ำมันฝางเสือภูเขา ครั้งที่ 2”

ณ บ ริ เ ว ณ อุ ท ย า น วี ร ก ร ร ม เ จ ้ า พ ่ อ ข้อมือเหล็ก (ศาลเจ้าพ่อข้อมือเหล็ก) ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชี ย งใหม่ พิ ธี เ ปิ ด การแข่ ง ขั น พร้ อ มปล่ อ ยตั ว นักกีฬาทุกรุ่น 10.00 น. - ถ้ ว ยรางวั ล ได้ รั บ ทุ ก ๆ ท่ า นที่ เ ข้ า ร่ ว มแข่ ง ขั น อันดับ 1-10 มีตดิ อันดับให้ ส่วนอันดับที่ 11 เป็นต้นไป รับเป็นถ้วยรางวัลเกียรติยศทุกท่าน - รับเสือที่ระลึกอย่างดี มอบให้ทุกๆ ท่านที่เข้าร่วม การแข่งขัน - อาหาร น�้ำดื่ม ฟรี - ค่าสมัครเพียง 450 บาททุกรุ่น - เปิดรับสมัครในวันแข่งขัน เวลา 08:00-09:50 น. รายละเอียดเพิม่ เติมติดต่อสอบถามได้ที่ อูด๊ จักรยาน แม่แฝก 08-2187-0932


BIKE&TRAVEL - travel -

LANEWAY

SINGAPORE FIRST TIME! สิงคโปร์อลหม่าน เรื่อง/ภาพ hoijor

ทีไ่ ปสิงคโปร์ครัง้ นีต้ อ้ งบอกก่อนเลยว่า อยากลองไปเทีย่ วมิวสิคเฟสติวลั ไปอยูใ่ นบรรยากาศงานดนตรีในต่างประเทศสักครัง้ ในชีวติ อีกอย่างตัง้ ใจจะไปดู ศิลปินที่ชอบจริงๆ ที่บังเอิญติดตามมาเรื่อยๆ จนรู้ว่าเขามาเล่นที่เลนเวย์ ไม่ได้บอกใครว่าจะไป ‘เทีย่ วสิงคโปร์’ เลยสักคน เอาง่ายๆ สมาชิกทีร่ ว่ มทริป ทุกคนจะมีศลิ ปินในดวงใจทีแ่ ต่ละคนอยากจะดูสกั ครัง้ ในชีวติ ในงานนี้ ไม่มใี คร โฟกัสเรือ่ งแฮงเอาท์ตามสถานบันเทิงชัน้ น�ำของสิงคโปร์ ย่านเดินเก๊กฮิพๆ เก๋ๆ หรือทีช่ อ้ ปปิง้ ถูกๆ ลืมไปได้เลย เราไม่มอี ะไรเล่าให้ฟงั แน่ๆ แต่การมาครัง้ นี้ เรียกว่าได้ใช้ประสบการณ์ครัง้ แรกแบบคุม้ มากๆ ทัง้ ประสบการณ์ในสิงคโปร์ บรรยากาศงาน Laneway และการหาทางกลับทีพ ่ กั แบบงงๆ คือมีอะไรให้เรา ตืน่ เต้นกันตลอดทริป เรียกว่าได้ทงั้ ประสบการณ์และประสบภัยกันเลย ฮ่าๆๆ

20

b side

ดอนเมือง – ชางงี – แคนตันเมนท์

หลังหนีจากเชียงใหม่มากบดานที่ กทม. ตัง้ แต่วนั ที่ 28 มกราคม พอถึงวันที่ 30 ก็ถงึ เวลาบิน ทีต่ อ้ งมาก่อนเพราะเรื่องจองตัวเครื ๋ ่องบินน่ะ มัน ไม่ ใ ช่ ง่ า ยๆ ต้อ งดู ว ัน ที่ ค นอื่ น ๆ ว่ า งตรงกัน อะไรท� ำ นองนี้ แลว้ เราดันตกลงกับน้องๆ ว่าจะจองเป็ นกรุป๊ กัน ก็เลยต้องไปพร้อมกัน ต้องลางานเพิม่ ไปอีก (ตรงกับปิ ดเล่มด้วย ตายๆ สงสารทีมงานฮิพเน่อ แต่เป็ นก�ำลังใจให้ตลอดทริปนะ ฮ่าๆๆ) จะบินวันที่ใกลก้ ว่านี้ ตัวก็ ๋ ราคา ต่างกันเยอะ แถมเวลาบินก็ไม่ได้อกี สรุปก็ตามนี้ละกัน ทริปอลหม่านนี้อบอุ่นเป็ นพิเศษ เพราะนี้มรี ุ่นน้องชาวเชียงใหม่ หลายๆ คนบอกว่าจะไป LanewaySG เหมือนกัน แล ้วเทีย่ วบินก็มอี ยู่ ไม่ก่ีรอบ และราคาที่พอรับไหวก็ตรงกับวันนี้พอดี ฮ่ าๆ สรุปคนรู จ้ กั ในเชียงใหม่ก็ข้ ึนเครื่องบินล�ำเดียวกันหมด รู ส้ ึกเหมือนอยู่ เชียงใหม่ ทัง้ ทีจ่ ริงๆ แล ้วนัง่ อยู่ดอนเมือง หลังจากเช็คอิน ตรวจสัมภาระ ก็ถึงเวลาบินไปกับสายการบิน ส�ำหรับคนหนุ่มสาวสมัยใหม่ ฟลายกับ Scoot สิครับ (โฆษณาให้เฉย) ตัวเครื่องเขากว้างขวางนัง่ สบายทีเดียว ที่นงั ่ ในเครื่องเรียงแบบ 3-4-3 มาเป็ นแผนเตะฟุตบอลเลย สายการบินนี้เป็ นลูกของสิงคโปร์แอร์ไลน์ เลยมีโ ปรโมชัน่ บิน ราคาถู ก ด้ว ยเครื่ อ งโบอิ้ ง 777 ไซส์บิก๊ นัน่ เอง ทีน่ งั ่ ของเขานุ่มจริงๆ ครับ หลับตาแป๊ บเดียว ตืน่ มาเครือ่ งแลนด์เสร็จแล ้วจ้า งงมาก นัง่ สบาย แอร์กส็ วย จ�ำอะไรไม่ได้เลย ฮ่าๆๆ


BIKE&TRAVEL - travel -

จากสนามบินดอนเมืองสูส่ นามบินชางงี สิงคโปร์ เวลาประมาณตีห ้า ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชัว่ โมง ลงเครื่องเสร็จพวกเราก็เข้าสู่โซนด้านใน อาคาร จุดเด่นๆ เลยก็จะมีสวนดอกไม้อยู่กลางอาคาร เห็นว่ามีสวนผีเสื้อ กับโรงหนังด้วย สองส่วนนี้พวกเราไม่เห็น น่าจะอยู่คนละตึกกัน จากนัน้ ก็เดินเข้าสู่โซนสินค้าดิวตี้ฟรี ซึ่งทีมงานของผมคุณภาพอยู่ แลว้ ครับ พุง่ ตรงไปเช็คราคาของต่างๆ แลว้ ก็จดั ยาสูบมาเผือ่ ไว้คนละซองสองซอง เห็นเขาบอกว่าในเมืองสิงคโปร์ราคาซองละสองร้อยบวกเลยนะ จากนัน้ ก็เดินมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ทุกอย่างผ่านไปราบรื่นดี แต่ ว่าสมาชิกร่ วมทริปแต่ ละคนดู จะเกร็งๆ กันมากบริเวณหน้า ตม. เพราะ 3 ใน 4 คนนี้เพิ่งเคยมาเยือนต่ างแดนเป็ นครัง้ แรกกันหมด (ผมก็หนึ่งในนัน้ ) ต้องมากรอกใบอะไรไม่รู ้ ไปนอนพักทีไ่ หน บ้านใคร มากี่วนั คงเหมือนลงทะเบียนมาเที่ยวบ้านเขา แต่ ท่ีเราไปถามข้อมูล จากบรรดาคนที่เคยไปมา ส่วนใหญ่พูดเป็ นเสียงเดียวกันว่ากฎหมาย ของทีน่ ่แี รงอย่างนัน้ อย่างนี้ อย่างการทิ้งขยะเป็ นทีเ่ ป็ นทาง, ห้ามถ่มน�ำ้ ลาย ลงพื้น, ห้ามสู บบุหรี่ในที่สาธารณะเด็ดขาด บางคนบอกว่าสมัยก่ อน ใครทีถ่ ม่ น�ำ้ ลายลงพื้นจะโดนตัดลิ้น โค้วว! (อุทานในภาษาเหนือ ประมาณว่า ‘โอ้โห’) เราก็คดิ ในใจ คณะเรานี่สงิ ห์นกั สูบจัดๆ เลย ลิ้นกุดหมดแน่! ผ่านโซนละลายทรัพย์นกั ท่องเที่ยวเสร็จ พวกเราก็ม่งุ ตรงไปที่ จุดบริการ Taxi Stand เรียกได้ว่าไม่ตอ้ งต่ อแถวรอแย่งกันขึ้นครับ เดินเลือกรถลวดลายที่ชอบกันได้เลย เพราะตอนนัน้ เป็ นเวลาประมาณ

ชุดส�ำหรับใส่เพื่องานนี้ แต่ นอ้ งหนู ผูต้ อ้ นรับบอกพวกเราว่าร้อนแน่ ๆ และฝนอาจจะตกถ้าตามทีพ่ ยากรณ์อากาศบอก ทุกอย่างพร้อม เราเช็คของ รอบสุดท้าย และออกเดินทางไปย่าน Orchard Road เพราะว่านัดน้องๆ ชาวเชียงใหม่อกี กลุม่ ทีช่ ่วยจัดการเรื่องบัตรเข้างานให้ทกุ คน โดยเดินเท้า ไปสถานีรถไฟฟ้ าใกลๆ้ ชื่อสถานี Tanjong Pagar เพือ่ ต่อไปที่สถานี Orchard ถึง ย่ า นออร์ช าร์ด พวกเราก็ เ ดิน เลือ กห้า งเพื่อ รอน้อ งที่จ ะเอา บัตรเข้างานมาให้ แลว้ ก็หาที่กินข้าวเที่ยงด้วย ย่านนี้เรียกว่ารวมร้าน แบรนด์เนมดังไว้สองข้างทาง ถ้าเป็ นสาวๆ ทีช่ อบพวกกระเป๋ า เครือ่ งส�ำอาง ผมว่ามีปวดคอ (นี่แค่มองนอกตึกนะยังไม่ได้เข้าไป) เราเลือกห้างที่ช่ือ Wisma Atria เหมือนห้างทัว่ ๆ ไปนี่แหละ เพราะมันเยอะจริงๆ ย่านนี้ อาหารมื้อแรกของทริปสิงคโปร์ทเ่ี รากินในห้างก็จะคล ้ายๆ บ้านเรา ทัง้ ร้าน แฟรนไชส์และร้านทีม่ ชี ่อื ตามย่านนัน้ ๆ ทีข่ ้นึ มาเปิ ดบนห้าง เราได้ขอ้ มูล มาว่าต้องกินข้าวมันไก่ ถงึ จะเรียกว่าถึงสิงคโปร์ แต่เรากลัวไม่ทนั เวลา เงยหน้ามาเจอร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบ เป็ ดย่างและรวมบะหมี่เกีย๊ ว คลา้ ยๆ ชายสี่หมี่เกีย๊ วบ้านเรา ตรงเข้าสัง่ ทันที ข้าวหมูกรอบ-หมูแดง น่ ากินมากๆ อร่อยพอใช้ได้ ประมาณ 6 เหรียญหรือ 150 บาทไทย ระหว่างกินข้าวน้องกลุม่ ทีถ่ อื บัตรเข้างานก็แวะเอาบัตรมาให้ แล ้วก็จากไป อย่างรวดเร็ว พวกเราเดินออกจากห้างไปตามถนนออร์ชาร์ด สองข้างทางก็มี

SG 2016 ตี 5 (เร็วกว่าไทย 1 ชม.) คนทีม่ าจากต่างประเทศมาเทีย่ วบ้านเขา ปกติ คงไม่มาเวลานี้กนั แน่ ๆ โล่งเชียว พวกเราก�ำลังจะไปหมูบ่ ้านใน Cantonment Block 11 (แคนตันเมนท์) ทีพ่ กั ของน้องๆ ชาวสถาปัตย์ทเ่ี อื้อเฟื้ อทีพ่ กั ให้กบั พวกเราในครัง้ นี้นนั ่ เอง ซึง่ ระยะทางจากสนามบินชางงี ไปถึงทีพ่ กั ใช้เวลาราวๆ 20 นาที เรียกได้ว่าใกลแ้ ละเดินทางสะดวกเลย อีกอย่าง เวลาขณะนัน้ รถเมล์รวมไปถึงรถไฟฟ้ ายังไม่เปิ ดบริการ เลยจ�ำเป็ นต้อง ใช้บริการลุงแท็กซี่ ซึง่ มีให้เลือกหลายเกรดตัง้ แต่หน้าตาเหมือนแท็กซีท่ วไป ั่ จนถึงลัมโบร์กินี ต้องสังเกตรถพวกนี้จะมีเบอร์โทรอยู่ขา้ งรถ มีทวั ่ ไป ในสิงคโปร์ พอคุณลุงกดมิเตอร์คิดสตางค์เท่านัน้ แหละ พวกเราก็ได้รบั การต้อนรับด้วยค่าแท็กซี่ 600 กว่าบาทไทย ทีท่ กุ คนรูก้ นั มาก่อนอยู่แล ้ว จากเพือ่ นๆ ทีม่ ปี ระสบการณ์ นี่ขนาดรูแ้ ล ้วนะ โดนจริงยังสะดุง้ กันเป็ นแถว หลังกระเป๋ าเงินแงม้ รับอรุณไปเบาๆ กับค่าแท็กซี่ สมาชิกทุกคน ก็พบกับน้องหนู สถาปนิกสาวจากรัว้ มช. เพื่อนของน้องกิก๊ (หนึ่งใน สมาชิกทริปนี้) ทีม่ อบทีพ่ กั ฟรีกบั วิธใี ช้ชวี ติ ทีแ่ ท้จริงในสิงคโปร์ให้กับสมาชิก อลหม่านทีม ในโซนนี้เขาเรียกรวมๆ ว่า Cantonment Close แบ่งเป็ น ตึกๆ เหมือนคอนโดมีเนียม แลว้ ก็แยกเป็ นบล็อกตามหมายเลขตึก อย่างทีเ่ ราอยู่กค็ อื แคนตันเมนท์ บล็อก 11 น่าจะราวๆ 30 ชัน้ ได้ เจ้าถิน่ บอกพวกเราว่าคนที่น่ีเกือบทัง้ ประเทศเขาก็อยู่กนั ในตึกแบบนี้แหละพี่ คนมีบา้ นและรถนี่คอื รวยมากๆ ระดับเจ้าของธุรกิจ ขนาดเลี้ยงน้องหมา ยังเสียภาษีแพงโคตรๆ แถมพื้นทีใ่ นเมืองส่วนใหญ่ยงั ห้ามจูงมาเพ่นพ่าน อีกนะจ๊ะ เรียกว่าสมค�ำร�ำ่ ลือเรื่องกฎต่างๆ ทีม่ นั เคร่งครัดจริงๆ

Orchard Road – The Meadow, Gardens by the Bay – Laneway Festival

ช่วงสายๆ หลังจากหลับพักกันได้ 3-4 ชัว่ โมง ก็ตอ้ งตื่นเตรียมตัว ไปงานกัน โดยเฉพาะเสื้อผ้านี่ สมาชิกแต่ละคนจัดเต็มมาก ต้องไปหาซื้อ

คนเดิน กัน เยอะพอประมาณ น้อ งหนู ผู ใ้ ช้ชีวิต ที่น่ี ม าหลายปี บ อกว่า วันอาทิตย์ย่งิ กว่านี้พ่ี คนหยุดมาเดินเทีย่ วชอปปิ้ ง เรียกว่าเบียดกันเลย ระหว่างเดินก็มรี า้ นรถเข็นต่างๆ มีการแสดงข้างถนน ให้ดูเพลินๆ จนถึง จุด รอรถเมล์ใ กล ๆ้ เพื่อ รอรถหมายเลข 106 ไปลงสถานี ท่ีใ กล ก้ บั The Meadow, Gardens by the Bay ทีจ่ ดั งานเลนเวย์ เราใช้เวลา รอรถสาย 106 ประมาณ 10 นาที ก็มาถึงตามเวลาในป้ ายทีบ่ อก ระหว่างทาง รถวิง่ ผ่านแลนมาร์คของสิงคโปร์หลายๆ ที่ น่าจะเป็ นเพราะเราอยู่ใกลๆ้ โซนกลางเมืองด้วย รถเมล์วง่ิ ไปอีกราว 20 นาทีก็ถงึ ทีห่ มายบริเวณตึก SkyPark หน้าทางเข้าจะมีป้ายบอกโซนทีแ่ บ่งไว้ในบริเวณนี้ เราก็เจอป้ าย Gardens by the Bay พอดี แถมได้เดินลอดตึกสกายปาร์ค ชมวิวสิงคโปร์ ก่อนจะข้ามไปถึงทางเข้างาน Laneway Singapore 2016 อย่างเป็ นทางการ เย้! (ขอบคุณน้องหนู ทม่ี าส่งทุกคนถึงงาน ไม่งนั้ อาจจะหลงทาง!) 21

b side


BIKE&TRAVEL - travel -

ถึงแล้ว Laneway ทะลุ 33 องศา!

จริ ง ๆ งานเขาเริ่ ม ตัง้ แต่ 11:30 น. (เวลาสิง คโปร์) แล ว้ แต่ ที ม อลหม่ า นเราดู ต ารางศิ ล ปิ นที่ ช อบแล ว้ เห็ น ว่ า ยัง ไปสายได้ เพราะคุยกันตัง้ แต่เริ่มทริปแลว้ ว่าโฟกัสศิลปิ นที่ชอบจริงๆ ไม่ได้สนใจ บรรยากาศรอบๆ ของงานเลย แต่ เราก็เก็บบรรยากาศงานโดยรวม มาคร่ าวๆ ระหว่างพักรอศิลปิ นที่ชอบไว้บา้ ง อากาศวันนี้เป็ นเหมือน ทีพ่ ยากรณ์ คือร้อนทะลุ 30+ องศา แถมเมฆฝนทีล่ อยไปมาเป็ นหย่อมๆ ตลอดบ่าย งานนี้เรียกว่ากฎในงานไม่ได้เคร่งครัดอย่างทีค่ ดิ แต่บางอย่างก็ตอ้ ง ปฏิบตั ติ ามแบบงงๆ ตอนเข้างานพวกเราหลายคนติดแท็กข้อมือผิดด้าน พอถึงช่องทางเข้าเขากักตัวไว้ บอกว่าต้องติดแท็กข้างขวา รอไม่นานเขาก็ เอาอันใหม่มาติดให้ตดั อันเก่าทิ้งไปเลย มีจุดตรวจค้นกระเป๋ า ผมเจอ คุณป้ าเจ้าหน้าที่หญิงขอเปิ ดกระเป๋ ากลอ้ งที่ผมลืมบราวนี่จากเซเว่นไว้ จริงๆ ต้องทิ้งหรือจะกินให้หมดก่อนเข้างาน แต่คุณป้ าแกใจดี ปิ ดกระเป๋ า แล ้วบอกผมว่า ควิกลีๆ่ ! เข้าไปให้ไวเลยไอ้หนุ่มมัง้ หรือว่าเขาให้ท้งิ ไวๆ แล ้วผมรีบเดินเข้าไปก่อนก็ไม่รู ้ ไม่สนล่ะเดินเข้ามาละ ฮ่าๆ ผ่านจุดตรวจ เข้ามาเขาจะมีแจกน�ำ้ เปล่ากับเสื้อกันฝนฟรีดว้ ย กรุป๊ บ้านนอกแบบเรา ก็ ไ ปเดิน หาซื้อ กัน ตัง้ แต่ ท่ีก รุ ง เทพฯ ไม่ ไ ด้ศึ ก ษาตัว งานกับ ประเทศ กันมาเลย เรียกว่าดัน้ ด้นจะมาดูแต่ศิลปิ นทีช่ อบกันจริงๆ

เข้ามาโซนเวทีหลักพวกเราก็หาจุดนัง่ รอดูศิลปิ นกัน เสื่อจะปูนงั ่ ก็ไม่ได้เตรียม เห็นกลุม่ อืน่ ๆ เขาเตรียมมาเต็มเลย หลากลวดลายสวยงาม เหมือนมีงานประกวดเสื่อและผ้าปู นงั ่ ดู เฟสติวลั บางกรุ๊ปเขายืนกัน ก็นงั ่ กลางวงมันแบบนัน้ ผมคิดว่าเขาน่ าจะจองที่รอชมศิ ลปิ นที่ชอบ ตอนค�ำ่ แน่ ๆ เพราะเวลานี้ ค นยัง โล่ง อยู่ ม ากๆ พอได้จุด รอกัน แล ว้ ผมไม่รอช้าเดินดูรอบๆ งาน คนอืน่ บอกว่าขี้เกียจเดิน ร้อน ก็นงั ่ รอกัน แถวหน้าเวทีหลัก ทีเ่ วลานัน้ เป็ นวง Violent Soho วงชาวร็อคทีก่ ำ� ลัง เล่นกันดุเดือดในสภาพ 31 องศา พวกเราแก๊งชุดด�ำ จะเหลือหรอครับ เหงือ่ แตก! บางคนจะเป็ นลมครับ ร้อนมาก! ในบริ เ วณรอบเวทีใ หญ่ จะมีก ลุ่ ม เต๊น ท์ท่ีแ บ่ ง เป็ น โซนหลัก กระจายอยู่ อย่างโซนด้านข้างเวทีหลัก คือ Food Village จะมีรา้ นอาหาร ออกแนวๆ ฟาสต์ฟ้ ดู กับร้านอาหารฮาลาลและมังสวิรตั กิ ระจายอยูด่ ว้ ยกัน รวมไปถึงพวกเต๊นท์เครือ่ งดืม่ ทัง้ มึนและไม่มนึ ในส่วนฝัง่ ตรงข้ามเวทีหลัก จะมีโซน Play Ground ที่มีแบรนด์แฟชัน่ แบรนด์เครื่องดื่มและ ร้านดังต่างๆ ทีเ่ ป็ นสปอนเซอร์ให้กบั งาน รอบๆ โซนหลักก็จะมีจดุ ทิ้งขยะ โซนสูบบุหรีแ่ ละจุดแจกน�ำ้ ฟรี (Hydration Station) เพราะอากาศร้อนจริงๆ และจุดพยาบาล เดินรอบๆ โซนหลักแบบคร่าวๆ ซักพักก็ได้เวลาของ Thundercat วงโปรดที่สมาชิกร่วมทริปทุกคนเฝ้ ารอก�ำลังจะขึ้นเล่น และต่อด้วยวง The Internet กรุป๊ ฮิพฮอพสุดเท่ โอยตายๆ ร้อนก็รอ้ น แต่ สู โ้ ว้ย ! แน่ น อนว่ า งานนี้ ป ระทับ ใจสุ ด ๆ การที่ไ ด้ดู ศิ ล ปิ น ที่ช อบ มันบรรยายไม่ได้จริงๆ แค่อยากบอกเพือ่ นๆ ทีเ่ สพดนตรี ว่ามันต้องมีสกั ครัง้ ทีเ่ ราต้องไปดูศิลปิ นทีช่ อบในเฟสติวลั ใหญ่ๆ ทีต่ ่างประเทศ บรรยากาศ มันสุดยอดจริงๆ วง Thundercat เป็ นศิลปิ นทีผ่ มติดตามมาได้ประมาณ สองปี แล ้ว ฟังมันจนคนในบ้านร้องตามได้ น้องทีบ่ ้านมันว่างัน้ ซึง่ ในงานนี้ เขาท�ำได้ดมี าก แยกไม่ออกเลยว่าไหนเครื่องดนตรีไหนอวัยวะในร่างกาย

#LanewaySG 22

b side


BIKE&TRAVEL - travel -

วง The Internet ก็เล่นสดได้ดแี ละมันมากๆ ผิดคาดกับผลงาน ที่ฟงั จากอัลบัม้ ซึ่งดูชิลล์และเย็นกว่านี้ คงเพราะเล่นสดด้วยเลยท�ำให้ เพลงของวงสนุกขึ้นไปอีก นักร้องลุคทอมบอยเท่มากๆ (สาวกรีด๊ โคตรดัง ตอนหันมาส่งหัวใจให้คนดู) วงก็เต็มทีก่ บั โชว์มาก (ถึงจะบ่นร้อนตลอด ฮ่าๆ) หลังจากสองวงนี้ผมก็หมดเป้ าหมาย รออีกวงที่เคยมาเล่นที่กรุงเทพฯ ก่อนงานนี้ นัน่ คือวง Battles แต่กว่าจะเล่นก็ 18:10 น. เลยตัดสินใจ ติดสอยห้อยตามทีมอลหม่านไปโซนเวทีเล็กที่ช่ือว่า Cloud Stage ก่อนเข้าโซนเวทีสมาชิกสองสาวในแก๊งก็แวะซื้อเครื่องดืม่ สีเหลือง จัดไป กระป๋ องละ 8 เหรียญ หรือ 200 บาทไทย! (กระป๋ องเล็กด้วย) ก่อนจะไปดู ศิลปิ นลูกครึง่ ฝรัง่ เศส (และลูกครึง่ ชาย-หญิง) นาม Shamir ซึง่ สนุกสนาน ใช้ได้เลย ผมเคยฟังผ่านๆ มาบ้าง โชว์ดี มีอยู่เพลงหนึ่งที่ฟีทเจอริ่ง กับ นัก ร้อ งหญิง เสีย งชาย ร้อ งสลับ กับ ตัว เองที่เ ป็ น เสีย งหญิง ด้ว ย คูลสุดๆ เวทีน้ ีก็เจอพีน่ อ้ งชาวเชียงใหม่ – กรุงเทพฯ เพียบเลย สงสัย มารอดูศิลปิ นคนนี้กนั เยอะ หลัง จากจบโชว์ส มาชิ ก ก็ แ ยกย้า ยไปรอหาที่ น ัง่ แต่ ผ มไป เวทีสุดท้ายของงาน ทีเ่ ป็ นเต๊นท์สขี าว ชื่อว่า White Room ทีเ่ ป็ นเวที ของเหล่าดีเจและศิลปิ นแนวอิเล็คทรอนิกส์ ตอนเข้าไปน่าจะเป็ นศิลปิ น สิงคโปร์ช่อื ว่า Mean ในแนวฮิปฮอป ข้างในมีบูธกลับหัวให้ถา่ ยรูปเล่น กับบูธล ้วงแขนเข้าไปติดแทททู ของ H&M ฟรีหมดเลย แล ้วก็ถงึ เวลา วงสุดท้ายทีผ่ มรอของงานนี้ ก็คอื วง Battles วงนี้เรียกว่าดังในระดับหนึ่ง ในเรื่ อ งโชว์สุ ด พีค และซาวด์ท่ีส ร้า งสรรค์จ ากชายฉกรรจ์ 3 คน อายุกป็ าไป 40+ กันหมดแล ้ว แต่พลังของโชว์น่สี ุดยอดมากๆ หลังโชว์ เลยปรบมือ รัว ๆ ให้เ ลย อากาศในช่ ว งนัน้ เริ่ม เย็น ลงมานิ ด หน่ อ ย เวลาประมาณ 19:00 น. ช่วงค�ำ่ ก็จะเป็ นวงทีส่ องสาวในทีมอลหม่านรอ คอย อย่าง Chvrches, Grimes, Beach House, Purity Ring และ Flume โอยเลือกไม่ถกู เป็ นศิลปิ นตัวฟรีทผ่ี มรอดูรองลงมา สรุปดูมนั หมด บางวงอย่างละสองเพลงก็ยา้ ยเวที

ฟินกับโชว์ช่วงค�่ำ และกลับที่พักอลหม่าน!

ต้องยอมรับเลยว่าวงที่ประทับใจสุดของงานนี้กลับไม่ใช่วงที่ผม เฝ้ ารอ กลายเป็ นวง Beach House ทีท่ งั้ เพลง ทัง้ วิชวล รวมทัง้ โชว์ทำ� ให้ ประทับใจทีส่ ุดแล ้วครับในงาน และวง Flume ศิลปิ นหนุ่มเดีย่ วของเรา ก็ทำ� โชว์ออกมาได้ดพี ร้อมกับเพลงในอัลบัม้ ใหม่เป็ นส่วนใหญ่ เรียกว่า คุม้ ค่าแบบไม่ได้ตงั้ ตัว เพราะเป็ นศิลปิ นทีเ่ คยติดตามผลงานมา แต่ไม่ได้ ต่อเนื่องเท่า 3 วงทีบ่ อกไป หลังฟิ นาเล่กบั โชว์ทงั้ หมด โปรโมเตอร์งาน ก็ออกมาขอบคุณกันยกใหญ่ แต่สง่ิ ทีน่ ่าตกใจผมว่าเป็ นขยะขวดพลาสติก ที่เกลื่อนงานมากๆ เอาจริงๆ เฟสติวลั ใหญ่ ๆ ในไทยหลายๆ งาน ยังไม่เยอะเท่านี้ หรือผมเคยเห็นครัง้ แรกก็ไม่รู ้ เพราะจ�ำนวนคนทีม่ างาน น่าจะ 15,000 คนขึ้นไปเลย

ถึงเวลากลับทีพ่ กั ตอนนี้ทกุ คนเหนื่อยล ้าจากงานทีอ่ ากาศร้อนและ อบอ้าวเหมือนฝนจะตก ตอนกลับพยายามติดต่อน้องหนู วา่ กลับวิธไี หน ได้บ้าง ฮ่าๆ บอกแล ้วศึกษาสิงคโปร์มาดีมาก ไลน์ถามเพือ่ นเอาน่าจะชัวร์กว่า ข่าวร้ายจากไลน์เพื่อน โถน้องผู ด้ ู แลพวกเราจักรยานลม้ ต้องรออยู่ โรงพยาบาลแถวนัน้ คือน้องไม่ยอมบอกกลัวพวกเราจะไปหา (ดู สิ ความแข็งแกร่งของเธอ) บอกว่าไม่ตอ้ งห่วง หาทางกลับกันก่ อนเลย เดีย๋ วเจอกันที่พกั พวกเราก็ไปต่ อครับ แบตมือถือก็จะหมดกันแลว้ พวกเราก็เดินย้อนกลับทางเก่า ข้ามตึกสกายปาร์คไปหาทีร่ อ Taxi การโบก Taxi ทีน่ ่ีไม่ธรรมดาครับ จะมีจดุ รอมีป้ายบอกชัดเจน จะไปยืนโบกตามทางเขาไม่จอดเลย เพราะถนนเส้นแถวนัน้ มันใหญ่ และทางเท้าทีใ่ ห้ยืนติดขอบถนนก็แทบไม่มี พวกเราก็ยนื ต่อแถวรอยาวมากๆ แถมยังมีการเรียกตัดหน้าจากคนท้องถิน่ ได้ดว้ ย คือวิง่ ป้ ายไฟเขียวมา อยู่ดๆี ก็ Busy ซะงัน้ แลว้ ก็เลี้ยวออกไปหาคนทีโ่ ทรหาเลย พวกเรา ลองย้างฝัง่ หวังจะไปโบกข้างหน้า ก็มที ใ่ี ห้รอเหมือนกัน ยาวกว่าเดิมอีก จนสุ ดท้ายหนึ่งในสมาชิกเสนอไอเดียเดินและใช้แผนที่จากไกด์บุค๊ เขียนจุดหมายจาก สกายปาร์ค ไป แคนตันเมนท์ ทีพ่ กั ของเรา หลังพวกเราลากปากกาบนแผนที่ วงชื่อถนนและจุดส�ำคัญต่างๆ ก็เริ่มเดินไปเรื่อยๆ ระหว่างทางนี้กล ้องแบตหมดแล ้ว ไม่ได้เก็บภาพอะไร ไว้เลย รูแ้ ต่วา่ ตึกสูงเต็มไปหมด และทางเดินสะอาดมากๆ ระหว่างทาง สมาชิกนักสูบก็บน่ หาเซเว่น ซึง่ มีอยู่ไม่เยอะเหมือนบ้านเรา เพราะยาสูบ หมดตัง้ แต่ ในงานแลว้ บ่นจริงจังเลยตลอดทางจริงๆ “ถ้าเจอเซเว่น เราก็รอดแล ้วๆ” แต่หายากจริงๆ ครับ ไปเจอสาขาทีใ่ กล ้จะถึงแคนตันเมนท์แล ้ว เราดูจากอากูแ๋ มพแล ้วว่าใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีในการเดิน ในทีส่ ุด ก็เจอเซเว่นและก็เดินจนถึงทีพ่ กั เวลานัน้ ประมาณตี 2 เราติดต่อน้องหนู กันไปอีกครัง้ แต่นอ้ งก็ยงั ไม่ได้เจอหมอสักที เพราะต้องเย็บแผลในปาก โอย พวกเรารูส้ กึ ผิดและเกรงใจขึ้นไปอีก เพราะน้องเขาดูแลเรื่องทีพ่ กั ให้คำ� แนะน�ำต่างๆ พวกเราก็นงั ่ จิบเบียร์คุยกันว่าจะรอน้องหนู กลับมา ปรากฏว่ากว่าจะรักษาเสร็จพวกเราหลับกันไปหมดแลว้ ครับ คือน้อง รอคิวนานมากๆ ตัง้ แต่เทีย่ งคืน กว่าจะได้เจอหมอปาไปตี 4 – 5 เลย ลืมถามเหตุผลน้องเหมือนกันว่าท�ำไมถึงนานขนาดนัน้ หลังผ่านคืนตื่นเต้นจากเลนเวย์ พวกเราตื่นไปดูอาการน้องหนู ที่พกั อยู่ในห้องเพื่อขอบคุณและเตรียมตัวเดินทางกลับดอนเมืองกัน วันนัน้ น่าจะมีงานวิง่ มาราธอนในเมืองพอดี เห็นคนใส่ชดุ วิง่ กันเต็มถนน หนทาง ก่อนกลับสมาชิกทุกคนก็แวะซื้อของฝากทีด่ วิ ตี้ฟรีโซนปลอดภาษี ในสนามบินชางงี เตรียมบินตอนสีโ่ มงกว่าๆ จบทริป เลนเวย์สิง คโปร์อ ลหม่า นแล ว้ จ้า ถ้า มีโ อกาสอาจจะ ได้อ่านทริปอืน่ ๆ จากเราอีกก็ได้นะ read digital contents : www.hipthailand.net 23

b side


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.