1
b side
Content March 2018 Vol.14 No.161
Bike Route Bike Trip Bike Special Run Trip Special Report Journey & Amazing Dishes
04 06 10 14 18 22 28
Cover B
Matsuyama Castle
18
22
Trip
Special Report
เมื่อผู้ช่วย บก.ฝ่ายดิจอตอลของ HIP ไปเยือน ‘อุดรธานี’ กับเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากเชียงใหม่ของแอร์ เอเชีย เพื่อให้คนที่ยังไม่เคยไปได้รู้ว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง เธอจึงรวบรวมสถานที่ที่ควรไปมาให้แล้วเรียบร้อย ชนิดที่ว่าถ้าไปแล้วไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เปิดคอลัมน์นี้ แล้วตามรอยกันได้เลย!
ฉบั บ นี้ น อกจากผู ้ ช ่ ว ย บก.ที่ ไ ปเที่ ย วอุ ด รธานี แ ล้ ว บก.ของเราก็เดินทางด้วยเช่นกัน โดยไปญี่ปุ่นเพื่อเข้า ร่วมชมงาน Matsuyama Design Week ที่เมือง Matsuyama เรือ่ งไปญีป่ นุ่ นีก่ น็ า่ อิจฉาแล้ว แต่ทนี่ อ้ งๆ ที่ออฟฟิศกรีดร้องกันมากกว่า คือว่า บก.ได้เจอ (และ ถ่ายรูป) กับ AKB48!
Bike Route
HIP SUNDAY RIDE
ปั่ น เ ชี ย ง ใ ห ม่ ส บ า ย ๆ วั น อ า ทิ ต ย์ เรื่อง / ภาพ : HIP Editor
ส�ำหรับ HIP ฉบับนี้ เราเลือกปัน่ เส้นทาง เลี ย บน�้ ำ ปิ ง ซึ่ ง เป็ น 1 ใน 6 เส้ น ทางที่ Chiang Mai Cycling Map แนะน�ำ (ตาม Map ทีแ่ จก เส้นทางปัน่ จะเริม่ จากตรงขัวเหล็ก ด้านหน้า ส�ำนักงาน ททท. แต่ของ HIP เราเริม่ ปัน่ มาจากบ้าน และมาปัน่ เข้าเมืองด้วยถนนล�ำพูนสายเก่า ผ่านหน้า ค่ายกาวิละ ก่อนทีจ่ ะมาถึงขัวเหล็ก)
ปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส�ำนักงานเชียงใหม่ ด�ำเนินการจัดท�ำโครงการ ‘Chiang Mai Sports Festival 2018’ เพื่อเพิ่มจ�ำนวนและกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่ม ที่มีความสนใจ ทางด้านกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งให้เพิม่ มากขึน้ โดยได้จดั ท�ำคูม่ อื ท่องเทีย่ ว เส้นทางจักรยาน Chiang Mai Cycling Map ขึ้นมา เพื่อน�ำเสนอเส้นทาง ท่องเที่ยวโดยจักรยาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 เส้นทาง ตามระดับความยากง่าย ให้นกั ปัน่ ทัง้ มือสมัครเล่นและมืออาชีพได้มาลองปัน่ เพือ่ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ของการปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
4
b side
เส้นทางเลียบน�ำ้ ปิ ง ตามที่ Chiang Mai Cycling Map ได้แนะน�ำให้ปนั ่ เป็ นลูปทีใ่ ครๆ ก็สามารถปัน่ ได้ เพราะระยะทางตามลูปแค่ 11 กม. เท่านัน้ และไม่มที างยาก ทางชันอยู่เลย เพราะเป็ นการปัน่ ในเมืองล ้วนๆ เส้นทางนี้ เหมาะอย่างยิง่ ส�ำหรับปัน่ ในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นๆ ก่อนค�ำ่ ในวันหยุด เพราะรถยนต์จะน้อยกว่าวันธรรมดา จุดเริม่ ต้นตาม Map คือ ขัวเหล็กทีอ่ ยูฝ่ งั ่ ตรงข้าม ส�ำนักงาน ททท. เราก็ใช้เส้นทางปัน่ เลียบน�ำ้ ปิ งมุ่งหน้า ไปทางร้าน Good View และพบว่าช่ วงสัน้ ๆ จาก สะพานนวรัฐถึงสะพานนครพิงค์ มีรา้ นกาแฟ ร้านอาหาร หรือจุดให้ได้แวะเยอะมาก รวมทัง้ วัดเกตที่หากใคร อยากจะแวะไหว้พระหรือท�ำบุญก็ได้เลยนะครับ
Don’t Miss
01
: ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ริมน�้ำปิง
ร้านนี้อยู่นอกลูปของ Map เราแวะ ขากลั บ ปั ่ น ย้ อ นจากขั ว เหล็ ก มา นิ ด เดี ย วก็ เ จอ อยู ่ ท างขวามื อ ก๋วยเตี๋ยวเรือ ชามเล็ก 15 บาท มี ใ ห้ เ ลื อ กทั้ ง เนื้ อ หรื อ หมู หรื อจะ ใส่เป็น ขนมจีนน�ำ้ เงีย้ ว หรือก๋วยเตีย๋ ว น�้ำเงี้ยวก็ได้
02
Recommend
จากแยกสะพานนครพิงค์ เส้นทางนี้ให้เราปัน่ ตรงไปเลียบน�ำ้ ปิ ง ก่อนทีจ่ ะไปข้ามน�ำ้ ปิ งทีส่ ะพานถัดไป แล ้วก็ปนั ่ เลียบน�ำ้ ปิ งอีกฟากย้อนกลับมา เส้นทางพาเรา ผ่านกาดเมืองใหม่ ผ่านกาดวโรรส และกาดดอกไม้ ช่วงนี้จะเป็ นถนนวันเวย์ ก่อนทีเ่ ส้นทางจะพาเราเลี้ยวขวา ตรงนี้ตอ้ งระวังนิดนะครับ เพราะเราจะต้องค่อยๆ ปัน่ ชิดซ้ายเข้าตรงถนนหน้าไนท์บาซ่าร์ เมือ่ เข้าถนนนี้ได้แล ้ว เส้นทางก็ให้ปนั ่ ตรงไปยาวไปเลยครับ ผ่านสีแ่ ยกเข้าถนน ช้างคลาน ซึ่งจะพบว่าเส้นนี้มรี า้ นอาหาร โดยเฉพาะ ร้านก๋วยเตีย๋ วให้เราเลือกกินเพียบ เป็ นต้นว่า ก๋วยเตีย๋ ว เรือตีห๋ มวย ก๋วยเตีย๋ วเนื้อรสเยีย่ ม ก๋วยเตีย๋ วลูกชิ้นปลาเจียง ปันต่ ่ อไปจนเจอสีแ่ ยกไฟแดง เราก็เลีย้ วซ้ายเลยครับ พอเจอสามแยก ก็เลี้ยวซ้ายอีกที ตอนนี้เราก็จะอยู่บน ถนนเลียบน�ำ้ ปิ งแล ้ว (แม่นำ�้ ปิ งอยู่ทางขวามือ) ปัน่ ชิลล์ ไปเรื่อยๆ เพราะในวันหยุดถนนนี้รถราจะน้อยมาก เราก็ ปัน่ ไปจนกระทังถึ ่ งขัวเหล็ก แล ้วก็ปนั ่ ข้ามน�ำ้ ปิ งทีข่ วั เหล็ก เป็ นอันว่าครบลูปตามเส้นทางของ Map (อย่าลืมจอด แวะถ่ายรูปทีข่ วั เหล็กกันด้วยนะครับ) จุดเด่นของเส้นทางนี้คอื ตลอดเลียบน�ำ้ ปิ ง จะมี ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ให้ได้แวะจิบกาแฟ จิบเครือ่ งดืม่ เย็นๆ หรือจะเติมอาหารได้ตลอดทาง แลว้ เรายังจะได้เห็น ตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรมรุ่นเก่าทีย่ งั คงมีให้เห็นอยู่ รวมทัง้ วัดวาอาราม วิถชี ีวติ ความเป็ นอยู่ทงั้ กาดต่างๆ และท่ารถสองแถว
03 05
04 01 ท�ำบุญไหว้พระในวันหยุด 02 ร้านกาแฟวาวี ริมน�้ำปิง เป็นร้านกาแฟริมน�้ำที่น่านั่งมาก 03 ร้านกาแฟในสวนอรรถรส ร้านนี้อยู่หน้าค่ายกาวิละ ติดน�้ำปิง บรรยากาศดี จนเราอดจะแวะไม่ได้ตอนขากลับ 04 ไปเจองาน Street Art ตรงสะพานคนเดินข้ามไปกาดดอกไม้ 05 ‘บ้านทองอยู่’ อยู่ติดน�้ำปิง เป็นทั้งที่พักและร้านอาหารเครื่องดื่ม มีคนบอกว่าขนมจีนน�้ำเงี้ยวที่นี่เด็ด แต่วันนั้นเราไม่ได้ลอง
DON’T MISS
: Khagee Cafe
ร้านอยู่ริมถนนระหว่าง ททท. กั บ สี่ แ ย ก ส ะ พ า น น ว รั ฐ Espresso ดับเบิ้ลช็อท ช่วย กระตุ้นให้สดชื่น เค้กชาเขียว ของร้าน Khagee รสชาติดี สมค� ำ ร�่ ำ ลื อ แต่ ร ้ า นจะเปิ ด 09:30 น. ท� ำ ให้ เ ราได้ แ วะ ก่อนปั่นกลับบ้าน
ส่วน บก. HIP ก็ปนั ่ มากกว่าในลูปของเส้นทางนี้ อีก เล็ก น้อ ย เพราะปัน่ มากจากบ้า น ก็ ข อปัน่ กลับ ในเส้น ทางเดิ ม ที่ ผ่ า นหน้า ค่ า ยกาวิ ล ะไปทางถนน เชียงใหม่ - ล�ำพูนสายเก่านะครับ ส�ำหรับนักท่องเทีย่ วทีส่ นใจปัน่ จักรยานท่องเทีย่ ว ในเชี ย งใหม่ สามารถติ ด ต่ อ ขอรับ แผนที่จ กั รยาน Chiang Mai Cycling Map ได้ที่ ททท.ส�ำนักงานเชียงใหม่ (โทร 053 - 248604) หรือสามารถดาวน์โหลดแผนทีไ่ ด้ทาง http://chiangmaicycling.info/
03 มีนาคม 2018
13 เมษายน 2018
ปรากฏการณ์ การแข่ ง ขั น จักรยานทีช่ คิ ทีส่ ดุ ทีท่ กุ คนต่างตัง้ ตารอ กับการหวนกลับมาระเบิดความมันส์ใน EP.Light Racer สุดเฟี้ยว ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 16.30-22.30 น.
ไม่ใช่แค่วงิ่ แต่นคี้ อื สนามวิง่ บนถนนทีม่ ตี ำ� นานและ พลังแห่งศรัทธาของชาวล้านนาที่ผ่านมา ที่มีเฉพาะนักวิ่ง ที่ “มีไฟ” ในจิตใจ และ มีไฟติดกายเท่านั้น เพราะนี่คือ รายการวิง่ ในราตรีบนเส้นทางประวัตศิ าสตร์ ถนนศรีวชิ ยั (ดอยสุเทพ) ของพวกเราชาวเชียงใหม่
: Singha Songkran Chiang Mai Night Run 2018
: CNXLOOPER 2
5
b side
Bike Trip
FIO WATCHAN ป่ า ส น วั ด จั น ท ร์ อ . อ . ป . เรื่อง / ภาพ : acidslapper และ Cheez Photo
สวัสดีชาว ‘ฮินานุฮพิ ’ ทุกท่านครับ ฉบับนีผ้ มจะพาท่านซ้อนท้ายจักรยานไปพบประสบการณ์ (ประสบกรรม) สุดพิเศษ ทีม่ ชี อื่ ทริปว่า ‘ป่าสนวัดจันทร์ ฉันไม่รวู้ า่ จะรักหรือเกลียดเธอดี’ ครับ คืออีตอนแรกเนีย่ ก็ไม่ได้คดิ ว่ามันจะพีกอะไรหรอกครับ แต่พอเจอหน้างานจริงละแหมมมมม มิหน�ำซ�ำ้ พอปัน่ จบปุบ๊ กดดู STRAVA คุณพระ! ทุบสถิตไิ ปหลายหัวข้อเชียวพ่อคุณเอ๊ย ก็เลยน�ำเอาบรรยากาศทีข่ อบสวรรค์ (ติดเขตนรก) มาเล่า (เขียน) ให้ฟงั (อ่าน) กันครับ สถานที่แห่งนี้เรียกว่า ‘ป่ าสนวัดจันทร์’ แผ่หราอยู่บนอ�ำเภอ กัลยาณิ วฒั นา เมือ่ ก่อนโน้นเป็ นแค่ตำ� บลนึงของอ�ำเภอแม่แจ่ม แต่ อัพเกรดตัวเองมาเป็ นอ�ำเภอด้วยเหตุผลทางการเมืองการปกครองอะไร ท�ำนองนัน้ น่ะ เราสามารถมาทีน่ ่ีได้จากสองเส้นทางคือ ทางแรก จาก อ�ำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และทางทีส่ ะ สะ สะ สองงง จะ จะ จะ จาก ทะ ทะ ทาง สะ สะ เมอ เมิง (ขอโทษครับ พอพูดถึงเส้นทางแล ้ว มันเกิดอาการเครื่องสะดุด หน้ามืด ปวดแข้งปวดขากระทันหันน่ะ แฮ่!) ย้อนหลังกลับไปเมือ่ สิบกว่าปี ก่อน ‘ป่ าสนวัดจันทร์’ เป็ นชื่อที่ เคยมีคนบางใครพูดถึงในฐานะสถานทีท่ ่องเทีย่ วแถวๆ ปาย ตอนนัน้ ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย ก็แค่ฟงั ผ่านหู ภาพตัดไปเมือ่ สองปี ก่อน ได้มีโ อกาสไปจัด งานแข่ง จัก รยานเสือ ภูเ ขาทางเรีย บที่อำ� เภอปาย จัง หวัด แม่ฮ่ อ งสอน ครัง้ นัน้ ผมต้อ งออกแบบเส้น ทางส�ำ หรับ การ แข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ โดยมีโจทย์วา่ จะต้องปล่อยตัวจาก
6
b side
ตัวเมืองปาย แล ้ววนเป็ นวงให้ได้ระยะทางตามทีผ่ ูส้ นับสนุนงานก�ำหนด เราจึงได้ทำ� เส้นทางวนอ้อมไปจนเจอป้ าย ‘ป่ าสนวัดจันทร์’ ตอนนัน้ ผม ก็ยงั ไม่เอะใจหรอกครับ จนกระทัง่ วันหนึ่งไม่นานมานี้ โทรศัพท์ฉลาด ก็คำ� รามก้อง เสียงในสายนัน้ บอกผมว่า “ทางไปป่ าสนวัดจันทร์ทำ� ถนน ลาดยางเสร็จเรียบร้อย เสือหมอบไปได้แล ้ว! ไปลองกัน” ผมก็ตกลง สิครับ ก็แค่ ป่าสนวัดจันทร์ท่อี ยู่ก่อนถึงปายไง แหมมมม ก็เราปัน่ ไปปายได้ตงั้ หลายครัง้ แล ้ว กะอีแค่สถานทีท่ อ่ี ยู่ก่อนถึงปาย มันจะไป ยากอะไรฟะ ลุยสิ! นรกไม่เคยอะลุม่ อล่วยให้กบั คนประมาท สองวัน ก่ อ นไป ผมมารู เ้ ส้น ทางการปัน่ ของเราจากสาย โทรศัพท์นริ นามนัน้ ว่า... “เจอกันหน้าสนามกีฬา 700 ปี เราจะปัน่ ไปทาง แม่รมิ - สะเมิง แล ้วไปป่ าสนวัดจันทร์จากสะเมิง” ตาผมแทบถลนก่ อนตอบกลับไปว่า “อ้าว ไม่ได้ไปทางปาย
แล ้วไปแวะป่ าสนวัดจันทร์หรอกเหรอ?” โทรศัพท์โวยวายกลับมาว่า “เราจะไปทางสะเมิง! นึกว่าบอก ไปแล ้วซะอีก ทางร้อยกว่ากิโล ระยะไต่แค่สามสีพ่ นั เมตรเอง เอาเป็ นว่า ถ้าปัน่ ไม่จบมึงไม่ตอ้ งมาคุยกับกูนะ!” ตูด๊ ตูด๊ ตูด๊ ตูด๊ (ผูอ้ อกแบบเส้นทางก็จะใครทีไ่ หนล่ะ Route Designer เจ้าของ ฉายา ‘มารซาดิสม์’ ทีส่ ร้างชื่อจากผลงานต่างๆ ของทีมซอยตันหรรษา โปรไฟล์ร ะดับ ที่เ คยพาคนเป็ น ร้อ ยไปเดิน จู ง จัก รยานกัน ตามเขา ตามดอยต่างๆ ทัว่ ภาคเหนือนัน่ แหละ! แต่ในคอลัมน์น้ ผี มจะขอสงวน นามที่แท้จริงของท่านไว้ เพราะท่านเป็ นถึงอาจารย์ด็อกเตอร์จาก มหาวิทยาลัยชื่อดังของเชียงใหม่ เดีย๋ วจะท�ำให้ภาพลักษณ์ทางอาชีพ การงานแกสัน่ คลอนเอา แฮ่!) (ชิบหายแลว้ ครับคุณผูช้ ม!) ในวงเล็บของเสียงอุทานทีก่ อ้ งกึก อยู่ในห้วงมโนคิด เอาวะ! โยนเงินเดิมพันไปแลว้ ถ้าชักกลับโดนโห่ ตายเลย ว่าแล ้วก็ซอ้ มสิครับ วิธซี อ้ มก็ไม่ยากครับ วิง่ วันละ 5 กิโลเมตร และปัน่ ขึ้นดอยกอม (แค่บางวัน) ด้วยความเร็วระดับลุงใส่รองเท้าผ้าใบ ปัน่ เสือ ภูเ ขาแซง ท�ำ แบบนี้ ไ ด้ส องสัป ดาห์ รู ส้ ึก ว่า ร่ า งกายสดชื่น พร้อมลุย แฮ่ ! (ก็กลา้ พูดเนาะ) มิหน�ำซ�ำ้ ยังปลอบใจตัวเองอีกว่า ไม่เป็ นไรหรอก อย่าไปซีเรียสมากนัก ปัน่ ทริปท่องเทีย่ วกับเพือ่ นฝูง วันหยุด สบายๆ คิดอะไรมากวะ นรกไม่เคยอะลุม่ อล่วยให้กบั คนประมาท พอถึงวันจริง เราเริม่ ต้นกันตอน 6 โมงเช้า ทีจ่ ดุ นัดพบสนามกีฬา 700 ปี ฝากกระป๋ งกระเป๋ าทีไ่ ม่จำ� เป็ นส�ำหรับการปัน่ ใส่รถเซอร์วสิ ไว้ แล ้วพวกเราทัง้ 7 จึงเริ่มออกเดินทางสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พกี !!! เราหันหัวรถขึ้นทางเหนือ ปัน่ แบบเรียบๆ สบายๆ ไปทางอ�ำเภอแม่รมิ แต่เลี้ยวเข้าถนนเส้นเลีย่ งถนนใหญ่ทก่ี องพลทหารราบที่ 7 หรือเรียกกัน
คุน้ หูวา่ เส้นวัดป่ าดาราภิรมย์ จุดแวะทีแ่ รกของเราคือเซเว่นฯ แม่แรม ใครจะโหลดใครจะตุนอะไรก็ตามสะดวก เพราะว่าหลังจากนี้เราจะ ท�ำการบรรเลงท่อนอินโทรกันแล ้ว ส�ำหรับใครทีเ่ คยปัน่ เส้นทางสะเมิง คลาสสิคกันมาแลว้ คงพอนึกภาพออกนะครับว่าสิ่งที่เคยท�ำให้เรา ทรมานสุดๆ ในวันนัน้ น่ะ วันนี้มนั เป็ นได้แค่เมนู เรียกน�ำ้ ย่อย! เป็ นได้ แค่ ท่อนอินโทรเพลงร็อคสี่กระเดื่อง!!! พอคิดแบบนี้ได้ก็สบายใจ ดีเหมือนกันแฮะ มันดูเบาหวิวกว่าทีเ่ คยเชียวล่ะ 555 น้องๆ แน้งๆ มากันจนถึงโป่ งแยง ทีน่ เ่ี ราแวะเซเว่นฯ กันอีกครัง้ หลายๆ ใครทีร่ ว่ มทริป เริม่ โหลดอะไรทีเ่ รียกว่าอาหารเช้า แต่บางใครก็ยงั เพราะเรานัดกันไว้ว่า เดีย๋ วจะไปกินข้าวกันอย่างซีเรียสลีท่ ส่ี ะเมิง จากเซเว่นฯ โป่ งแยงไปจนถึงจุดแวะพักต่ อไปก็คือ จุดชม ทิวทัศน์ป่าสะเมิง หรือทีเ่ หล่าเสือน่องเป่ งทัง้ หลายเคยคุน้ รูปากว่า ศาลา แปดเหลีย่ ม ใครต่อใครทีป่ นั ่ วนรอบสะเมิงก็จะต้องมาแวะถ่ายรูปกัน ที่น่ีเสมอ เราก็เลยแวะบ้าง เอ่อ อันที่จริงแลว้ เริ่มเหนื่อยครับ แฮ่! หลังจากศาลาแปดเหลีย่ มเราดิ่งลงดอยกันแบบสบ๊ายสบายมาจนถึง สามแยกป้ อมต�ำรวจ คราวนี้เราเลือกเลี้ยวขวาเพือ่ ไปอ�ำเภอสะเมิง (ปกติ จะเลี้ยวซ้ายไปอ�ำเภอหางดง) ไหลลงแบบเพลินๆ จนไปถึงตัวอ�ำเภอสะเมิง จ๊ะเอ๋! เจอขบวนแห่ เทศกาลสตรอเบอรี่ประจ�ำปี พอดีเลย บรรยากาศคึกคักมาก เลยต้อง เลีย่ งการปิ ดถนนไปจนเจอร้านก๋วยเตีย๋ วแห่งนึง อ่ะ โอเค ร้านนี้แหละ ลุย! ใครบางคน (ที่แอบดูสปอยล์หนังเรื่อง ‘วัดจันทร์ ฉันรักเธอ’) บอกพวกเราว่า “อยากกินอะไรก็กนิ ไปเลย กินเยอะๆ เลยเน่อ หลังจากนี้ เราคงต้องล�ำบากกันนิดหน่ อย!” ผมเลือกข้าวไข่เจียวหมูสบั แม้ว่า ทางร้านจะโคตรภูมใิ จน�ำเสนอก๋วยเตีย๋ วต้มย�ำซุปกระดูกออกนอกหน้า แค่ไหนก็ตาม แต่ผมไม่กล ้าแบกเอาความทรมานแนวเจ็บท้องใกล ้คลอด ไปด้วยระหว่างปัน่ 555 ดังนัน้ เพลย์เซฟ อย่ากินอะไรหวือหวานัก 7
b side
ยังไงก็ตอ้ งกิน! ร้านติดป้ ายหราว่าผัดไทย โอ้ววว ผัดไทย! น่ ากิน เป็ นบ้า! อันทีจ่ ริงแล ้วอารมณ์น้ ถี า้ เอากบโดนรถทับทีแ่ ห้งอยู่กลางถนน มาราดน�ำ้ มันมะกอก โรยด้วยออริกาโน่อแิ ทเลีย่ น ผมเชื่อว่ามีคนกิน! ดีไม่ดที งั้ หมดนี้จะแย่งกันกิน! ท่านผูอ้ ่านรูม้ ยั้ ครับว่าเกิดอะไรขึ้น? โลคอลเชฟของเรานวยนาด มาด้วยวิถแี บบ เชียงใหม่ Slow Life เอ่อออ ลุงฮะ ท�ำกับข้าวหรือ ฟ้ อนเล็บฮะ นีจ่ ะบ่ายสองแล ้วฮะ!!! เพิง่ มาได้ครึง่ ทาง ข้าวเทีย่ งยังไม่ได้กิน สมาชิกได้แต่มองตากันปริบๆ จนแลว้ จนรอด มาแลว้ ผัดไทยอาหาร ขึ้นชือ่ (หมายถึงชือ่ ขึ้นป้ ายใหญ่มาก) ด้วยความหิวและรีบ เรารีบใช้ส ้อม ตวัดเส้นเข้าปาก... ถุย้ !!! รสชาติโคตรไม่อร่อย แฉะเป็ นสปาเกตตี้ ซอสเนื้อ หวานซะแสบคอเลย! นึกว่าสัง่ บัวลอยกุง้ แห้ง + ถัว่ งอก แต่ไม่เชื่อก็ตอ้ งเชื่อ ผัดไทยรสชาติรยิ ำ� แบบนี้... พวกเรากินกันจนหมด แฮ่! นี่ไงล่ะทีเ่ ขาเรียกว่ากินกันตาย! เสร็จสิ้นผัดไทยฟ้ อนเจิง แต่รสชาติแนวปัจเจกนิยม เราเหล่ตา ดูนาฬกิ า บ่ายสองแลว้ ... เชี่ย! (กราบขออภัยท่านผูอ้ ่านด้วยนะครับ ...ผมไม่สามารถหาค�ำทีห่ ยาบกว่านี้ได้แล ้วจริงๆ) ไหนว่าจบบ่ายสามไง! เหลือระยะทางอีก (ตีซะว่า) ครึ่งนึง (60 กิโลเมตร) และระยะไต่ร่วม 2,000 เมตร ในฐานะศิลปิ นผู ม้ จี ินตนาการแต่ไม่มคี วามรู จ้ ึงเสนอ ทฤษฎีวา่ เหลือระยะ 60 กิโลฯ เป็ นทางลง 20 กิโลฯ งัน้ ลบ 20 ที่ ไม่ตอ้ งปัน่ ทิ้ง เหลือ 40 กิโลฯ ถ้าเราปัน่ ด้วยความเร็ว 40 กม./ชม. เราจะใช้เวลา 1 ชัวโมง ่ ซึง่ จะจบเรือ่ งบ้าๆ นี้ได้ตอนบ่ายสามโมง ตรงตาม ก�ำหนดการเป๊ ะ บางใครถามโพล่งขึน้ ว่า “เมือ่ กี้ปนั ่ ความเร็ว 40 กม./ชม. กันเหรอ? กูกม้ ดูมเิ ตอร์วดั ความเร็วได้แค่ 4 ฉะนัน้ ... เหลือ 40 กิโลฯ ด้วยความเร็ว 4 เราต้องใช้ 10 ชัว่ โมง สรุปว่าจะจบทริปตอนเทีย่ งคืน!!!” แล ้วพวกเราก็ระเบิดหัวเราะกันขึ้นมา เห็นได้ชดั ว่าสมการโง่ๆ นี้ทำ� ให้ เราตลก และนักจิตวิทยาบอกว่าการหัวเราะจะช่วยท�ำให้เราลืมความเจ็บ ปวดได้... อย่างน้อยก็ชวั ่ ขณะหนึ่ง แต่อย่าลืม! นักฟิ สกิ ส์ระดับจักรวาล นักปรัชญาระดับโลก และหนุ่มขี้เหงาต่างก็ยนื ยันเป็ นเสียงเดียวกันว่า ความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ… โอเค เตรียมทรมานกันต่อ! เราเดินทางจากตัวเมืองสะเมิงด้วยจิตใจทรนง ฮึกเหิม และ จมูกบานเข้าบานออกเหมือนกระทิงเขี่ยพื้น จนกระทัง่ คนบางใคร พูดขึ้นมาว่า “ดูแลตัวเองเน่อ เราคงจะจบทริปกันประมาณบ่ายสาม” เฮอะ ใครจะไปเชือ่ นีแ่ พะภูเขานะครับ ออแดกซ์ 200 กิโลฯ ไต่ 2,000 เมตร ก็ลยุ มาแล ้ว ให้เกียรติกนั หน่อยนะฮะ นรกไม่เคยอะลุม่ อล่วยให้กบั คนประมาท แควก! มองไปทางไหนก็เจอแต่ภาพยนตร์เรื่อง ‘ซิปแตก แหวก หนีนรก’ แดดร้อนๆ เนินชันๆ ทุกคนแหกเสื้อแหกผ้าปัน่ กันเป็ นทิวแถว ลมอุ่นๆ ตีเข้ามาที ปลิวไสวสวยงามยิง่ นัก! เราไต่ ไต่ ไต่ แลว้ ก็ไต่ เรียกว่าไต่แบบพหูพจน์ซะจนต้องเอ่ยค�ำหยาบแบบฟุ่มเฟื อยมาก 555 (นัก วิท ยาศาสตร์ค น้ พบว่ า การสบถท�ำ ให้ม นุ ษ ย์เ ราสามารถทน ความเจ็บปวดได้มากขึ้นถึง 60% ทัง้ นี้ข้นึ อยู่กบั ระดับความหยาบคาย ของค�ำ วลี หรือประโยคทีพ่ น่ ออกมา) เราจอดแวะร้านขายของช�ำข้าง ทางเพือ่ แวะเติมน�ำ ้ สารภาพตามตรงเลยครับ ทริปนี้ผมกินน�ำ้ น้อยมาก ท�ำไมน่ะเหรอ? ก็นงั ่ ปุ๊ บตะคริวมา นัง่ ปุ๊ บปวดหลังปั ๊บ วิธเี ดียวทีจ่ ะรอด คือ... ลุกขึ้นยืนสปรินท์ทุ่มน�ำ้ หนักตัวลงไปช่วยผ่อนภาระในการกด ลูกบันได เสียงเพลงทีว่ นเวียนอยูใ่ นหูทอ่ี ้อื อึงตอนนี้คอื ‘ทัง้ รักทัง้ เกลียด’ 555 แต่ก็ตอ้ งยอมรับกันตรงนี้เลยว่า ช่วงทีผ่ ่านมาการเถลไถลเอาใจ ออกห่างจักรยานไปหมกมุน่ อยูก่ บั การวิง่ ก็ถอื ว่าผลิดอกออกผลไม่นอ้ ย เพราะท�ำให้ผมสามารถยืนสปรินท์ได้ยาวนานกว่าทีค่ ดิ ไว้เยอะเลย พวกเรา 7 ประจันบานฟาดฟันเคี่ยวเข็ญกันมาถึงกิโลเมตรที่ 80 เราจอดแวะพักและกินข้าวที่ตำ� บลบ่อแก้ว ที่รา้ นขายอาหารตามสัง่ แห่งหนึง่ ถ้าดูจากพฤติกรรมการกินของพวกเรา นีเ่ รียกว่าอาหารมื้อเทีย่ ง แต่นาฬกิ าข้อมือนัน้ เถียงคอเป็ นเอ็น บอกว่านี่บา่ ยโมงแล ้ว! ไม่รูแ้ หละ
8
b side
ทันทีทร่ี ถไหลออกจากร้านผัดไทยบรรลัยลิ้น ‘มาซาดิสม์’ หันมา ยิ้มหวานกับพวกเราแล ้วบอกว่า “คิดง่ายๆ นะ เราเพิง่ มาได้ครึง่ ทาง และ เราจะต้องท�ำแบบเมือ่ กีท๊ งั้ หมดอีกรอบนึง” จบประโยคแกก็เอื้อมนิ้ว ไปกดชิฟเตอร์ยกโซ่ข้นึ ฟาดเฟื องท้ายทีใ่ หญ่ข้นึ พร้อมกับส�ำแดงรอบขา ระดับเอวกระต่าย และหายไปจากจอมอนิเตอร์ของพวกเราในทีส่ ุด เอาวะ! ก็แค่ทำ� แบบเมือ่ กีอ๊ กี รอบเอ๊งงงง / เอ๋งงงง (เสียงหมา โดนเหยียบขา) หรือข้าพเจ้าจะน�ำชื่อเสียงที่สงั ่ สมในยุทธภพมาทิ้ง ณ ทีแ่ ห่งนี้ แค่คดิ ก็อา้ งว้างหัวใจเฉียบพลันแล ้วเธอจ๋า ในใจก็คดิ แต่วา่ รูง้ ้ซี อ้ มอย่างงัน้ รูง้ ้จี ะเตรียมตัวอย่างงี้ หรือ รูง้ ้กี ูนอนอยู่บา้ นดีกว่า แฮ่! นรกไม่เคยอะลุม่ อล่วยให้กบั คนประมาท พวกเราได้แต่มองตากันปริบๆ ไม่มใี ครพูดอะไร เพราะต้อง ใช้ปากหายใจช่วย ล�ำพังแค่จมูกน่าจะไม่พอ! ความชันระดับเกิน 20% ดาหน้ากันมาต้อนรับเราไม่ขาดสาย มันจะมีก่ีครัง้ ในชีวติ เชียวครับ ทีเ่ จอความชัน 12% แล ้วรูส้ กึ ว่า “ดีจงั เจอทางเรียบ ได้พกั แล ้วโว้ยยยยย” ประสาทรับรูไ้ ด้แหลกสลายไปแล ้วสินะหนุ่มๆ – ค่อยๆ บรรจงยืนสปรินท์ กดลูกบันไดด้วยอัตราส่วนเฟื องหน้าสแตนดาร์ด 39T และเฟื องท้าย 32T - ความเร็ว 4 กม./ชม. – รอบขา 35 rpm – หัวใจ Anaerobic!!! ล�ำขนาดเน่ออ้ายยยย ใครต่อใครขับรถผ่านไปผ่านมาต่างก็มองพวกเรา ด้วยสายตา 1. ว้าววว 2. ง่าววว ผมเชื่อว่าเราทุกคนพร้อมทีจ่ ะ DNF ออกจากวีรกรรมไปขึ้นรถเซอร์วสิ ทันที เพียงแต่ศกั ดิ์ศรีมนั ค�ำ้ คอไง! นายก็ไปก่อนสิ ถ้านายเลิกเดีย๋ วเราขึ้นนัง่ กระบะเป็ นเพือ่ นด้วยก็ได้ อายุ จะสีส่ บิ (บางคนเกิน) กันแลว้ ยังมาแหย่กนั แบบละอ่อนน่อยอยู่เนาะ เหตุการณ์น้ ีสอนให้รูว้ า่ ... พวกเรายอมตาย ดีกว่าตกเป็ นเหยือ่ สังคม ออนไลน์!!! จนท้ายที่สุด พวกเรา 7 ประจันบาน ก็ระห�ำ่ ไต่ กนั จนจบ แบบไม่มใี ครถอนตัว แบบหัวเราะไม่ได้รอ้ งไห้ไม่ออก หวยออกแล ้วววว มหากาพย์แห่งทรมานบันเทิง ระยะทาง 155 กิโลเมตร – สถิตใิ หม่! Moving Time 9:19:30 ชัว่ โมง – สถิตใิ หม่! เวลาทัง้ ทริป 12 ชัว่ โมง (6 โมงเช้า – 6 โมงเย็น!!!) – สถิตใิ หม่! ระยะไต่ Total Ascent 3,630 เมตร (ดอยอินทนนท์หนั ค้อนทันใด) – ทริปแบบนี้ มีผ่านๆ เข้ามาในชีวติ บ้างก็ดี แต่อย่ามาบ่อยนะ ลุงแก่แล ้ว! 555
เราจองเข้าทีพ่ กั กันทีศ่ ูนย์พฒั นาโครงการหลวงวัดจันทร์ อากาศ ที่น่ีหนาวมาก เราจึงรีบอาบน�ำ้ กัน (อันที่จริงแลว้ ขี้จะ๊ ตัวเองเพราะ แต่ละคนเน่ามาก 555) เสร็จปุ๊ บก็บรรเลงดินเนอร์กนั ชุดใหญ่ เราสังจอง ่ อาหารเย็นจากร้านอาหารทีศ่ ูนย์ฯ ไว้สำ� หรับอิม่ แรก หลังจากนัน้ จึงเป็ น เวลาของอิ่มหลัง... ซึ่งทีมงานแม่บา้ นหรรษาได้บรรจงจัดเตรียมไว้ อย่างอลังการในนาม... มหกรรมปิ้ งย่างนานาชาติ!!! บทสนทนาหลังถ้วยน�ำ้ จิ้ม แก้วไวน์ และแก้วเบียร์ ก็หนีไม่พน้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทัง้ หมดในวันนี้ เอามาแชร์กนั เพราะตอนที่ปนั ่ นัน้ แทบจะไม่มใี ครได้คยุ กันเลย 555 ใครเจออะไรกันมาบ้างเอามาแชร์กนั ปรากฏว่าไม่ค่อยมีใครได้ชมวิวกันเลย เพราะก้มหน้ากันตลอดทาง 555 แม้จะอยูใ่ นทริปในเส้นทางและบนจักรยานเหมือนกัน ทว่าประสบการณ์ หรือมุมมองของแต่ ละคนก็แตกต่ างกันไป แต่ ถึงกระนัน้ พวกเรา มีความเห็นร่วมกันอย่างนึงว่า ถ้ามีทริปนี้อกี พวกเราจะอาสาเป็ นรถ เซอร์วสิ ให้ เพราะ... พวกกูเข็ดแล ้ว!!! 555 เพื่อตอกย�ำ้ ความส�ำเร็จให้กบั ความดิบเถื่อน เราจึงตื่นมาวิ่ง คลายเส้นกันตอนเช้า ทีแรกเนี่ยตัง้ ใจว่าเอาสักพอดีๆ สัก 10 กม. ก็แลว้ กัน พอพุ่งออกไปเจอแต่เขาเจอแต่ดอย โอเค! จบที่ 5 กิโลฯ เห๊อะ! ลุงแก่แล ้ว! 555 แฟนานุ แฟน HIP ที่สนใจอยากลองไปปัน่ เส้นทางนี้อย่าเพิง่ ตกใจนะครับ ก็ผมดันเล่าซะทรมานทรกรรมขนาดนี้ ใช่ครับ มันโหด ร้ายจริงๆ แต่ผมเชื่ออย่างนึง ถ้าท่านอ่านมาถึงบรรทัดนี้ (แบบไม่ได้ ฉาบฉวยแอบลัดมาอ่านช่วงท้าย) ผมเดาว่าเรามีอาการป่ วยชนิดเดียวกัน มันคือการเสพติดความทรมาน เสพติดการสร้างวีรกรรมแนวโหดๆ เถือ่ นๆ ยิง่ ผ่านความยากล�ำบากมาได้แล ้วมันชื่นใจเป็ นบ้า ประเภทที่ ตืน่ มาพบอาการปวดเมือ่ ยตัวจนอุทานกับตัวเองว่า “เมือ่ วานนี้กูไปต่อย กับบัวขาวมารึไงฟะ” แต่ดนั รูสึ้ กดีกบั อาการดังกล่าว มิหน�ำซ�ำ้ นับวันยิง่ ต้อง เพิม่ ระดับความรุนแรงขึ้นด้วยแล ้วล่ะก็... เราพวกเดียวกันว่ะ! แล ้วพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ ปล. ใครจะไป ไม่ตอ้ งชวนนะครับ ไม่วา่ ง!!!
* ค�ำคมประจ�ำทริป “พอนะ! กูไม่มอี ะไรให้ต้องพิสจู น์แล ้วต่อจากนี้” 9
b side
Bike Special
KETOGENIC เ ดิ น ท า ง บ น โ ภ ช น า ก า ร โ ย คี (2) เรื่อง / ภาพ : Jung Yonyang
บั น ทึ ก รํ า พั น ฟั ง เ สี ย ง ร่ า ง ก า ย ถ า ม ห า ค ว า ม ห ม า ย ชี วิ ต ความรู ้สึ ก ท่ ว มท้น ระคนความล� ำ พัง อั น เป็ นสิ่ ง ใหม่ ของประสบการณ์ รู ส้ กึ อาลัยอาวรณ์เล็กๆ คลา้ ยต้องจากเพื่อนใหม่ท่คี ุยถูกคอ ทุ ก จุ ด พัก ช่ ว งเช้า ก่ อ นออกเดิ น ทางต่ อ แวะตระเวนชมอุ ท ยาน ประวัตศิ าสตร์ เก็บความรูส้ กึ และพิจารณาเรื่องราวด้วยท้องว่างไม่มี อาหารใดๆ แต่ไร้หวิ โหย แรกว่าจะเพียงแค่ผ่านๆ ปรายตาชม แต่เมือ่ ต้องพลังรับทักทายจากเนื้อหารูปทรงทีเ่ ปี่ ยมพลังมากมายจึงตัดสินใจ ซื้อตัวจากเจ้ ๋ าหน้าทีท่ น่ี ่าจะเป็ นคนท้องถิน่ พูดจาไพเราะมีนำ�้ มิตร แนะน�ำ ถึงการให้ซ้อื ตัวชุ ๋ ดเพือ่ จะได้ชมอีกฝัง่ ให้เต็มหน�ำใจ แต่เนื่องจากต้องรีบ ออกเดินทาง ใจจึงคิดว่าเดีย๋ วเราจะมาพบกันใหม่อกี ครัง้ แน่นอน ร่ องรอยซากอารยธรรมท�ำให้จินตนาการไปถึงวันต้นก�ำเนิด สิ่งเหล่านี้ มโนภาพเห็นช่ างฝี มือและแรงงานมากมายในอดีตกาล เดินง่วนพัลวันแกะสลักประดิษฐ์ประกอบซ�ำ้ ๆ วนๆ อันเป็ นเวลา เนิ่นนานทีผ่ ่านพ้นไปแลว้ ประสมกับเกิดความสงสัยว่า ค�ำว่าอนุรกั ษ์ นัน้ แท้จริงแลว้ ปล่อยให้ทกุ อย่างค่อยๆ เสือ่ มสลายไปเหลือหลงเพียง ซากหลัก ฐานเพีย งแค่ ไ ด้ต ระหนัก รับ รู ้ หรือ ว่า คนรุ่ น ปัจ จุบ นั ควร ทะนุ บ ำ� รุ ง ขึ้น มาใหม่ อี ก ครัง้ เกิ ด ค�ำ ถามล่ อ งลอยมากมายขณะ นัง่ ทอดตัวเหยียดขาอยู่บนผืนหญ้าอันกว้างใหญ่ทม่ี เี บื้องหน้าเป็ นองค์ พระพุท ธรู ป ที่แ ตกกระเทาะ จนเหลือ รู ป ทรงราวกับ เป็ น ผลงาน นามธรรมเเอ็บสเเตรค
ใช้เวลาทอดหุย่ ลุยล ้นในความรูส้ กึ และชัง่ ใจสลับอยูน่ าน ใจหนึ่ง ก็อยากออกปัน่ กับอีกใจก็ยงั อยากนัง่ อยู่ในย่านความถี่พลังงานสู ง อันมีแรงบันดาลใจสันสะเทื ่ อนตลอดเวลา ณ ทีแ่ ห่งนี้เฝ้ าสดับความรูสึ้ กเท่า ทีร่ สึู ้ ก จนเกือบ 10 โมง วนเมืองก�ำเเพงเพชรเก็บรายละเอียดอีกครัง้ วนไปมาหลงทางบ้า งอะไรบ้า ง พร้อ มก�ำ ชับ กับ ตนเองตลอดเวลา ว่าอย่ารีบ “เรามีเวลาเยอะแยะ” จนก่อนเทีย่ งจึงได้ตดั สินใจเดินทางต่อ โดยมีเป้ าหมายทีเ่ มือง ‘นครสวรรค์’ เป้ าหมายระหว่างทางอีกทีอ่ นั เป็ นสถานแห่งความผูกพันมาเกือบ 30 ปี นัน่ คือ ‘เขาหน่อ’ กับความทรงจ�ำเดิมๆ ทีต่ กค้างในบรรยากาศ ธรรมชาติร ายล อ้ มง่า ยๆ แต่ ก็ เ กิด เรื่อ งที่ช วนเบื่อ เสีย บรรยากาศ นัน่ ก็คอื จูๆ่ ยางเกิดรัว่ ขึ้นมาทีค่ ลองขลุง จึงแวะข้างทางจัดการซ่อมบ�ำรุง ด้วยตนเอง แต่ ผิดคาดด้วยที่ตนนัน้ ไม่ได้สนใจหรือศึกษามีความเข้าใจ ในเชิงช่างท�ำให้การประกอบเกิดการผิดพลาดเล็กน้อย ตีนผีทำ� งาน ไม่เสถียรลงเกียร์บางเกียร์ไม่ได้ ชวนท�ำให้ตดิ ค้างในการปัน่ เป็ นอย่าง ยิง่ ร�ำคาญใจ จึงตัดสินใจถามผู ้คนข้างทางถึงร้านจักรยานดีๆ สักร้านว่าอยู่ ทีใ่ ด ได้รบั ค�ำตอบเป็ นการชี้น้ วิ ไปทางโน้นแบบไม่เห็นเป้ าหมาย คนหนึ่ง บอกว่า 10 กม. อีกคนบอก 6 กม. ซึง่ สุดท้ายระยะทางเพียงแค่น้ นี นั้ พอท�ำให้ตดั สินใจจัดการกับปัญหาให้เสร็จๆ ไป เพือ่ การปัน่ มุง่ หน้าไป นครสวรรค์นนั้ จะได้มคี วามราบรืน่ ทัง้ คน อารมณ์ และตัวรถจักรยานเอง 10
b side
และเรื่องตลกกว่านัน้ ระหว่างทางได้ทกั ทายชายหนุ่มซุปเปอร์ ใหญ่นกั ปัน่ ทีพ่ บกันบังเอิญระหว่างทาง พูดคุยกันเล็กน้อยแล ้วถามไถ่ ถึงร้านจักรยานปลายทางของวันนี้ พูดถึงปัญหาของจักรยานทีเ่ กิดขึ้น ทันใดนัน้ เพือ่ นใหม่ร่นุ ใหญ่กบ็ อกให้จอดรถเดีย๋ วจะดูให้ เห็นจากบุคลิก และจักรยานทีแ่ กขีแ่ ลว้ ผมไม่คาดหวังอะไรใดๆ ว่าปัญหาเกียร์ไม่ลง ที่เกิดขึ้นจะสามารถทุเลาลงได้แน่ นอน แต่ ก็เอาเถอะดีกว่าไม่ลอง อะไรเลย อย่างเลวร้ายทีส่ ุดถ้าวิง่ ไม่ได้ข้นึ มาก็เรียกรถขนไปนครสวรรค์ จะไปยากอะไร หลังจากหลบข้างทางใต้ตน้ ไม้ แกรื้อค้นกระเป๋ าเครื่องมือ ในจักรยานของแกสักพัก แลว้ ก็ดงึ ประแจหกเหลีย่ มออกมาหนึ่งตัว และใช้เวลาเพียงครู่ราวกับเสกได้ดว้ ยสีหน้าไร้อารมณ์เฉยเมยเหมือน ไม่มีอะไรยากแม้แต่ น อ้ ย ก่ อนขี่เป็ นเพื่อนมาส่ งทางแยกข้างหน้า จึงแยกย้ายอ�ำลาขอบคุณอย่างสุดจะทดแทนได้
เเดดจัดไม่มปี ญั หาต่อร่างกายทีไ่ ร้อาหารตกถึงท้อง แต่ปญั หา ชวนปวดใจนัน่ ก็คอื ร้านจักรยานท้องถิน่ 2 แห่งทีจ่ ะเข้าไปรบกวนลบล ้าง ปัญหาสุขภาพจักรยานนัน้ ไม่มใี ครท�ำได้สกั คนสักร้าน จึงจ�ำทนปัน่ ไปอย่างนัน้ คิดว่าถึงเมืองนครสวรรค์เมือ่ ไหร่จะรีบ มุ่งหน้าตรงไปทีร่ า้ นจักรยานทันที ระหว่างทางทีค่ ิดนัน้ แวะกินอาหาร ข้างทางทีม่ ปี ้ ายเขียนไว้วา่ ‘ขาหมู’ ด้วยอาการที่ตาใหญ่กว่ากระเพาะ นอกจากขาหมูแลว้ จึงสัง่ ไข่พะโล ้ 5 ลูกและน�ำ้ พริกปลาทูอกี ชุด โดยที่คนขายก�ำชับซ�ำ้ ๆ ว่า “ไม่เอาข้าวเหรอ” ซึง่ ก็ได้ตอบไปเท่าทีถ่ ามมาว่า “ไม่เอาข้าวครับ” คนขายคงเเปลกใจว่าการบริโภคกับข้าวเปล่าๆ นัน้ คืออะไร ท�ำไมลู กค้าคนนี้ถึงไม่กินข้าว นัน่ คือปัญหาของเขาซึ่งไม่ใช่ ของผม อย่างแน่นอน (ฮา) ขณะทีท่ านก็นำ� เนยตลับมาแกะกินเติมพลังอีกเกือบ 10 ตลับ ส�ำรองพลังงานไว้ เนื่องจากร่างกายขณะนี้ได้ปรับเป็ นโหมด Ketosis อันใช้พลังงานจากไขมันแล ้วผันเป็ นพลังงาน Ketones อันน้อยมลพิษ และอนุมลู อิสระ ดังทีไ่ ด้เคยกล่าวไปแล ้วในฉบับก่อน มีหลายคนสงสัยว่าการทานมื้อเดียวนัน้ จะเอาพลังงานจากทีไ่ หน มาขับเคลือ่ นเป็ นแรงปัน่ ได้ อันทีจ่ ริงผมควรเปิ ดท้องให้ดูโดยไม่ตอ้ ง อธิบายใดๆ แล ้วชี้ไปทีห่ น้าท้องทีเ่ ริม่ มีรอยย่นยับชัดขึ้น เนื่องจากไขมัน จากหน้าท้องทีถ่ กู ร่างกายดึงมาใช้เป็ นพลังงานอย่างรวดเร็ว จนท�ำให้ ผิวหนังคืนกลับกระชับไม่ทนั นัน่ เอง เเปลกดีท่ีเรี่ยวแรงนัน้ ดู เหมือนจะยังมีตลอดเวลา ต่ างกับ ช่วงเวลาก่อนหน้านัน้ ทีโ่ หลดคาร์โบฯ โดยหมันเติ ่ มอยู่เรื่อยๆ ไม่วา่ จะ เป็ นทัง้ ข้าวปลาอาหารจนถึงเอเนอร์จ้ ีบาร์ เกลือแร่อะไรอีกมากมาย ที่ เ ปี่ ยมไปด้ว ยน�้ำ ตาลมากมายอัน เป็ นความปรู ๊ ด ปร๊ า ดแสน ประเดีย๋ วประด๋าว แถมยังตกค้างมลพิษทิ้งไว้ดูต่างหน้าเติมความ อ่อนเพลียเป็ นรางวัลวางไว้อกี ผมมุง่ หน้าด้วยความเร็วกลางๆ ไม่ถงึ 30 กม./ชม. ดิง่ อาบแดด คลอไปกับเสียงลมหึ่งๆ ที่ทะลวงเข้ามาในหูฟงั ขณะฟังเพลงซึ่งก็ได้ อารมณ์อยูไ่ ม่นอ้ ยทีเดียว ผมหลงรักเสียงผสมลมกับความสังเคราะห์น้ ี ขณะขาควงบนเส้นทางตรงเหยียดยาวเบื้องหน้าเหลือเกิน 11
b side
เกียร์ไหลลื่นเงียบสนิทเหมือนรถใหม่ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ชะตากรรมที่ไม่เคยควบคุมอะไรได้ ฉันใดฉันนัน้ ระหว่างแยกทาง กับรุ่นใหญ่เมือ่ สักครู่ ท�ำให้ผมได้แต่เฝ้ าครุ่นคิดถึงการได้มาพบเจอกัน เพียงครัง้ เพื่ออาจจะไม่ได้พบกันอีกเลยตลอดชีวิตนัน้ เพื่ออะไร? คืออะไร? ปัน่ ระลึกเห็นนัน่ นี่ก็ยงั ระลึกถึงกันอยู่ จนได้สกั พักก็มาถึง เขาหน่อตามทีต่ งั้ ใจ ความรูส้ กึ ถาโถมเหมือนทุกครัง้ ดูจะน้อยนิ่งและ ไม่งามเท่าที่คะเนไว้ ทุกอย่างเปลีย่ นไป แม้นปากทางเข้าก็ดูผิดตา ไปมาก ความเป็ นธรรมชาติเช่นความทรงจ�ำเมือ่ เกือบ 30 ปี ก่อนไม่มี ให้หลงเหลือเห็นอีกแลว้ นอกเสียจากสายไฟมากมายระโยงระยาง น่าเกลียดรบกวนสายตาเป็ นทีส่ ุด เมื่อ ปัน่ เข้า ไปจากปากทางได้ส กั 200 เมตรผมตัด สิน ใจ วกรถกลับเพือ่ จักเก็บความรูส้ กึ ดีๆ ในอดีตเหล่านัน้ ไว้ในความทรงจ�ำ อย่างเช่นเดิมและปิ ดผนึกอย่างดี โดยหวังว่าวันหนึ่งเมือ่ จิตใจความรูส้ กึ ของตนทีป่ ล่อยวางและไม่ยดึ ติดในอะไรใดๆ ได้เกิดขึ้นแล ้ว คงมีสกั วัน ทีผ่ มจะกลับมาทีน่ ่อี กี ครัง้ อย่างแน่นอน ผมหวังไว้วา่ จากเขาหน่อ เวลา 3 - 4 ชัว่ โมงทีย่ งั เหลือ ระยะทางไกลพอควร เกือบๆ 50 กิโลกว่าจะถึงนครสวรรค์ อากาศลมเย็นๆ ของภาคเหนือ เริม่ หมดและสิ้นสุดไว้ทีก่ ำ� เเพงเพชร ยามเย็นรายทางก่อนถึงนครสวรรค์ ให้รูส้ กึ สงบอุ่นแปลกๆ คล ้ายภาพอดีตชานเมืองกรุงเทพฯ ในวัยเด็ก และเมื่อ ไปได้ส กั กว่ า 2 ชัว่ โมง จัก รยานก็ ไ ด้พ ามาถึ ง ย่ า นอาณาเขตที่ทำ� ให้รู ส้ ึก ได้ว่า เป็ น ตัว เมือ ง เหมือ นจะมีชีวิต ชีว า เหมือนจะเป็ นคล ้ายความวุน่ วายมากคนมากความระคนจนบอกไม่ถกู โดยเมือ่ มาถึงผมรีบหาสนามหญ้าก่อนอืน่ เพือ่ กระท�ำการปลดความล ้า หรือทีเ่ รียกว่า Earthing Therapy หรือการใช้ประจุบวกจากพื้นดิน สร้างสมดุลในร่างกายทีเ่ กิดกระเเสลบจากความอ่อนเพลีย คลืน่ มือถือ ไวไฟ คลืน่ ไฟฟ้ าสถิตต่างๆ เพือ่ ลดอักเสบ ให้คำ� ่ คืนนี้มกี ารพักผ่อน ทีส่ มบูรณ์แบบให้ได้มากทีส่ ดุ ในตัวเมืองนัน้ หาสนามหญ้าไม่ง่าย นครสวรรค์ก็เจริญเป็ น ตัวเมืองตึกรามบ้านช่องอิฐปูนเสียมาก และเมือ่ เหลือบตาไปเห็น ก่อน พลบค�ำ่ จึงต้องรีบบ�ำบัดให้เสร็จเพราะทีพ่ กั นัน้ ก็ไม่ได้จองไว้ ไปหาเอา ดาบหน้าตลอดศก เหมือนนักจักรยานบ้าใบ้ นัง่ เหยียดแข้งขาถอดถุงเท้ารองเท้า อยู่ บ นสนามหญ้า หน้า ห้า งสะดวกซื้อ ขนาดยัก ษ์ ราดน�ำ้ แข้ง ขาให้ คลายเมือ่ ยแถมยังดึงประจุบวกจากดินก็งา่ ยขึ้น ใช้เวลานัง่ อยูร่ าวชัว่ โมง จนฟ้ ามืดจึงเริ่มออกเดินทาง ลุน้ ในโชคชะตาว่าค�ำ่ คืนนี้จะได้นอน โรงแรมแห่งใดในบรรยากาศเช่นไรอย่างไร
สรุปว่าคืนนัน้ ได้โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองในราคา 500 บาท สามารถน�ำ จัก รยานขึ้น ไปเก็ บ บนห้อ งได้ เมื่อ เข้า ห้อ งช�ำ ระล า้ ง อาบน�ำ้ ตัวเสร็จก็ออกไปเดินเล่น ก่ อนจะนัง่ ดู หนังสักเรื่องแลว้ หลับ เพือ่ มาตื่นอีกที 6 โมงเช้า ไม่มคี วามอ่อนเพลียตกค้างจนต้องนอนซมใดๆ การกินแบบ Ketogenic น่าจะฟันธงได้วา่ มลพิษตกค้างทีน่ ำ� มาซึง่ ความอ่อนเพลีย หมดเรี่ยวหมดแรงนัน้ มีเพียงน้อยนิดจนน่าเเปลกใจ นาฬกิ าชีวภาพในตัวปลุกให้ต่ืนเช้าตรู่ เหมือนทุกวันที่ผ่านมา ล ้างหน้าล ้างตาแล ้วลงมากินกาแฟด�ำทีท่ างโรงแรมมีไว้ให้บริการ แล ้วจึง ขึ้น มาเตรีย มตัว เก็ บ สัม ภาระเซ็ต รถนิ ด หน่ อ ย แบ็ต เรดาห์ไ ฟท้า ย ฮาร์ทเรตมอนิเตอร์แลว้ ก็พาวเวอร์แบงค์ชาร์จเต็มรวมทัง้ มือถือด้วย พร้อมเดินทางกันต่อไป ก่ อ นออกจากตัว เมือ งนครสวรรค์ แวะปัน่ ในตัว เมือ งเก่ า ย่านตึกแถวที่มากความรูส้ กึ สัมผัส สีสนั คลา้ ยเดินเยาวราชในอดีต พยายามหาร้านผลไม้ดงั ร้านหนึ่งทีเ่ คยมาเมือ่ สัก 25 ปี ถามไถ่คนใคร ก็รูจ้ กั แต่กห็ ลงทางไปกว่าชัว่ โมงกว่าจะหาเจอได้ หลังจากเจอพบว่าเวลา เกือบ 30 ปี เหลีย่ มมุมความทรงจ�ำนัน้ กลับทีก่ ลับทาง อาคารก็เปลีย่ นไป ความเดิมทีบ่ นั ทึกไว้ในหัวไม่มสี ง่ิ ใดหลงเหลือให้ยอ้ นร�ำลึกได้ เส้นทางจากนครสวรรค์เริ่มต้นด้วยอากาศทีร่ อ้ น การจราจรเช่น เมืองใหญ่ ผูค้ น รถรา ควัน เริ่มส่งสัญญาณขู่คำ� รามให้การปัน่ ต้อง ระมัดระวังขึ้น รถสิบล ้อทีว่ ง่ิ ตะบึงความเร็ว การปัน่ จักรยานวิง่ ชิดซ้าย เป็ นสัญญาณของการอยู่รอดให้ได้บนท้องถนน กาแฟ 2 แก้วเมือ่ เช้ายังคงกระตุน้ พลังงานได้ดถี งึ แม้ทอ้ งจะว่าง แต่ร่างกายที่เข้าโหมด Ketosis นัน้ สามารถดึงไขมันพลังงานส�ำรอง มาใช้ได้ ความหิวโหยหมดแรงนัน้ จึงไม่เป็ นปัญหาใดๆ และเมือ่ วิง่ ไป สักพักก็พบร้านขายสเต็กทีเ่ ดาว่าพอจะพึง่ พาได้ในยามเทีย่ ง อันเป็ นการ ทานอาหารเพียงมื้อทีส่ ำ� คัญและส่งผลกับการเดินทางต่อไป ไขมันน�ำ ทีเ่ กินครึง่ ค่อน ตามด้วยโปรตีนอีกส่วนใหญ่ๆ รองลงมา เพือ่ เหลือพื้นที่ ไว้ให้ผกั และคาร์โบอีกอีก 5% เพียงพอแล ้วทีจ่ ะเดินทาง สิงห์บุรี อันเป็ นเป้ าหมายที่คำ� นวนไว้แลว้ ว่าแรงพอระยะทาง เป็ นจริงที่จะปัน่ ได้ 100 กว่า กม.กลายเป็ นเรื่องสบายๆ แม้ว่าแดด จะร้อนสักหน่อย แต่การเดินทางบนพื้นฐานการไร้อกั เสบจากแป้ งและ น�ำ้ ตาลนัน้ กลายเป็ นเรื่องการปัน่ ทีผ่ าสุก ผ่านชัยนาทเหมือนราวกับเป็ นเพียงแค่อำ� เภอ ไม่มอี ะไรผิดแผน และแวะเลือกทีพ่ กั ด้วยความรูส้ กึ ตามรายทาง และก็พบทีพ่ กั แห่งหนึ่ง ในราคา 400 บาท โดยขอเปลีย่ นห้องไปหนึ่งครัง้ เนื่องจากรับสีหอ้ ง 12
b side
สีฟ้าอ่อนไม่ได้ (ปกติเป็ นคนไม่เรื่องมากแต่ หนึ่งคืนแห่งการพักผ่อน อย่างมีความหมายนัน้ ส�ำคัญมากเช่นกัน) หลังจากอาบน�ำ้ ช�ำระกายเสร็จ ก็ออกมาเดินเล่น และพบว่าเจ้าของที่พกั ที่มอี ธั ยาศัยดีป็นคนท�ำอาหาร ปลาน�ำ้ จืดขาย ซึง่ วันนี้เป็ นวันแรกทีแ่ หกกฎการกินมื้อเดียวด้วยการโหลด ปลานึ่งกับผัดฉ่ าปลาอีกจานกินก่อนนอนให้เพลิดเพลินสบายท้อง เช้าเช่นเดิมกับการร�ำ่ ลาราวกับรูจ้ กั กันมานาน รูส้ กึ อาลัยอาวรณ์นดิ ๆ ก่อนออกปัน่ มุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ อย่างทีต่ งั้ ใจไว้ในระยะทาง 170 กม. ถ้าจ�ำไม่ผดิ ข้ามอ่างทองเหมือนไม่มอี ะไรเกิดขึ้นและยิงตรงไปยังอยุธยา โดยมีเป้ าหมายนัน่ ก็คอื ก๋วยเตีย๋ วเรือเท่านัน้ และไม่นานเหมือนไม่รูต้ วั ก็พบว่าถึงอยุธยาเที่ยงๆ และมุ่งตรง ถามหาก๋วยเตีย๋ วเรือทันที โดยมีหลายร้านทีค่ นท้องถิน่ แนะน�ำและไปจบ ทีร่ า้ นหนึ่งคนกินมากมาย เพือ่ พบกับความผิดหวังตัง้ แต่รสทีห่ วานและใช้ ถัวงอกผสมผั ่ กบุง้ ยุคสมัยท�ำให้โภชนาการของมนุษย์ไม่มเี วลาพักหวานใดๆ คล ้าย กินขนมตลอดเวลาอันเป็ นการรุมโทรมบีบคัน้ ตับอ่อนให้หลังอิ ่ นซูลนิ ยับ จนวันหนึ่งเมือ่ หมดอายุใช้งานก่อนก�ำหนด โรคเบาหวานจู่โจมแก่ชีวติ ทีอ่ ายุเฉลีย่ ของผูป้ ่ วยโรคนี้ตำ� ่ ลงเรื่อยๆ ก็ไม่น่าใช่เรื่องเเปลกใดๆ หลังจากกินเสร็จก็ปนั ่ ฝ่ าเเดดไปยังหมู่บา้ นญี่ป่ ุนอันเป็ นสถานที่ ท่องเทีย่ วทางประวัตศิ าสตร์อนั โด่งดังตัง้ แต่ในอดีต ไม่เหลือหลักฐานใดๆ นอกจากอาคารสมัยใหม่ทเ่ี ก็บข้อมูลฉายอธิบายเป็ นสารคดีทพ่ี ูดถึงชีวติ ความเป็ นอยู่ของชาวญี่ป่ นุ ในสมัยนัน้ ทีท่ ้งิ รกรากจากบ้านเกิดเมืองนอน ซึง่ คิดเท่าไหร่กค็ ดิ แทนไม่ออกอยู่ดี ก่อนออกจากอยุธยาแวะวัดใหญ่ชยั มงคลอันเป็ นวัดทีส่ มัยเด็กๆ เคยติดสอยห้อยตามผูใ้ หญ่ทบ่ี ้านมากินนอนช่วงปิ ดเทอม ทุกสิง่ เปลีย่ นไป ไม่ให้ความรูส้ กึ อะไรใดๆ จึงตัดสินใจเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ ในช่วง บ่ายแก่ๆ อีกนิดเดียวก็ถงึ กรุงเทพฯ แล ้ว นึกแล ้วก็ล ้าเบือ่ แต่ไม่ใช่เหนือ่ ยล ้า หมดแรง จนอีกอึดใจไม่นานมากก็ถงึ รังสิต จากนัน้ ความไกลโพ้นรอนแรม ไม่ถึงสักทีได้เริ่มต้น เหมือนปัน่ อยู่กบั ที่ไม่พน้ รังสิตเสียที ปัน่ เร่ งรีบ เท่าไหร่กย็ งั อยู่ทเ่ี ดิมซึง่ เป็ นเรื่องทีเ่ ข้าใจไม่ได้ (ฮา)
แต่ สุดท้ายกาลเวลามีเริ่มย่ อมมีจบ ผมพาตัวเองมาผ่านหน้า สนามบินดอนเมืองจนได้ รูส้ กึ เหมือนถึงบ้านก็ไม่เชิง รูส้ กึ ว่าเป็ นเป้ าหมาย ในการเดินทางก็ไม่ใช่ เนื่องจากย่านนี้ก็คือถิน่ ใกลบ้ า้ นเป็ นสิ่งเเวดลอ้ ม คุน้ ชินในอดีต บางสิง่ ก็ไม่เปลีย่ นเเปลงคงเดิมจนน่าฉงน เริ่มมีความเหนื่อยล ้าคืบคลานเข้ามาคลอเคลียนัวเนียให้หมดแรง ขึ้นมาดื้อๆ เมื่อได้กลิ่นกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทย เข้าจมูกฉุนชัดเจน และเมื่อถึงเป้ าหมายที่ตงั้ ไว้จึงใช้สถานที่ย่านบ้านเก่ าที่เคยอยู่ เป็ นเป้ าหมาย นัน่ คือแยกรัชโยธินในเวลาราว 5 โมงเย็น โดยปัน่ เป็ น ระยะทางทัง้ สิ้นจากหน้าบ้านทีเ่ ชียงใหม่ 833 กม. ‘ฟังเสียงร่ างกาย แรงยังไม่หมด’ คราแรกตัดสินใจว่าจะนอน ย่านนนทบุรีอนั เป็ นแหล่งพักพิงล่าสุดก่อนย้ายกลับเชียงใหม่เพือ่ มาอยู่ ถาวรครัง้ นี้ แต่ เนื่องจากแรงที่ยงั เหลือ ความร่ าเริงสดชื่นยังคงพอมี เจียดจ่ายให้กบั การปัน่ หัวค�ำ่ ด้วยการแวะทักทายสถานทีท่ เ่ี คยผูกพันต่างๆ บางกระบือ ศรีย่ า น จนเลยมาจอดสงบและพัก เสีย ที่ซ อยรามบุต รี และอยู่ ย าวไปอีก หนึ่ ง สัป ดาห์ ปัน่ เที่ย วเล่น รอบกรุ ง เทพฯ ดู ค วาม เปลีย่ นเเปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงร่างกายตนเองด้วยทีก่ ลับมามีสุขภาพดี อีกครัง้ ด้วยการหันมาใช้วถิ ชี วี ติ ‘Ketogenic’ นอนครบ 8 ชัว่ โมง ตัดเเป้ ง - น�ำ้ ตาล กินเพียงแค่ อ่ิมและ ออกก�ำลังกายอย่างสม�ำ่ เสมออย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ความแจ่มใส มากมายเช่นวัยหนุ่มสาวทีก่ ลับเข้ามาในชีวติ อีกครัง้ เป็ นสิง่ ทีผ่ มหวงแหน เป็ นทีส่ ุด และยังคงทดลองเฝ้ าสังเกุฟงั เสียงร่างกายศึกษาค้นคว้าร่วมกับ ผองเพือ่ นชาวโยคีต่อไป ปล. ขณะทีท่ า่ นก�ำลังอ่านสิง่ ทีผ่ มร�ำพันรวมเล่าบอกกล่าวอยูน่ ้ ี การทานโภชนาการ แบบโยคี Ketogenic เข้าสู่เดือนที่ 8 อย่างราบรื่น ผมนอนเร็วเท่าทีจ่ ะท�ำได้ไม่ เกิน 5 ทุ่ม (อันทีจ่ ริงควรจะก่อน 3 ทุ่มด้วยซ�ำ้ ) ออกก�ำลังกายเช้า 2 - 3 ชัว่ โมง ทานเพียงมื้อก่อนเทีย่ ง และท�ำงานเปิ ดร้านช่วงเย็นอย่างมีชวี ติ ชีวามากขึ้นเรือ่ ยๆ
ขอขอบคุณ อ.ปริวรรต องค์ศุลี เเอดมินแห่งกลุ่ม ‘อยู่เกินร้อย’ และ ไอ้เทิ่ง อนุศิษย์ สุรีพิทักษ์ ที่เข้าร่วมทดลองบ�ำบัดโรคประจ�ำตัวเบาหวานของตนเอง ศึกษา Ketogenic ร่วมกันจนทุเลาดีขึ้นแทบเหมือนหายสนิท ผลิตภัณฑ์แห่งน�้ำมิตร Velovelo Bangkok ครับ น�ำเข้าชุดจักรยานคุณภาพ เเละเป็นตัวเเทนจ�ำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Morvelo ตั้ม ขวัญชัย แห่ง Velocity และทีมงานคนหนุ่มสาวที่เปิดโอกาสให้ทดลองควบและเซอร์วิสดีๆ แก่จักรยานขี่ดีที่รักคันนี้
13
b side
THE PACE MAKER
Run
นั ก วิ่ ง ผู้ เ ป็ น น า ฬิ ก า ใ ห้ แ ก่ นั ก วิ่ ง ทุ ก ค น ใ น ส น า ม แ ข่ ง ขั น เรื่อง / ภาพ : อาเหลียง
หลายๆ คนทีเ่ คยไปวิง่ ตามงานวิง่ ใหญ่ๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะงานทีม่ รี ะยะไกลๆ อย่างฮาล์ฟมาราธอน หรือแม้กระทัง่ ฟูลมาราธอน เราจะเห็นนักวิ่งกลุ่มหนึ่ง ที่จะแต่งตัวเป็นชุดสีเดียวกันหรือเป็นธีมเดียวกัน แล้วติดสัญลักษณ์บอกเวลา อยู่ตามตัว หรือเป็นอุปกรณ์เด่นชัด ซึ่งบ้านเราก็จะเป็นลูกโป่งที่มีสีสันฉูดฉาด ลอยอยู่เหนือหัวพวกเขาเป็นจ�ำนวนมาก และมีเลขบอกเวลาติดลูกโป่งเป็นเลขต่างๆ แล้วก็วิ่งออกตัวไปพร้อมนักวิ่งไปเป็นชุดๆ ผมว่าคนทีเ่ คยเห็นครัง้ แรกคงสงสัยเหมือนกันแหละ ว่า เอ๊ะ! เขาท�ำเพือ่ อะไรหว่า บ้างก็เรียกว่าเป็ นนักวิง่ แฟนซี แต่งตัวเพือ่ เรียกสีสนั ภายในงานบ้างล่ะ แต่งตัวเอาสนุ กบ้างล่ะ ซึ่งอันที่จริงแลว้ เขาเป็ น กลุม่ คนทีม่ บี ทบาทต่อตัวงานวิง่ และเป็ นกลุม่ บุคคลทีม่ คี วามส�ำคัญ ต่อนักวิง่ มากในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ‘เพซเมกเกอร์’ หรือ ‘เพเซอร์’ ที่บ า้ นเราเรีย กกัน ติด ปาก หากแปลกันตรงตัวเลย คือ ผูส้ ร้างเวลาวิง่ (Pace แปลว่าก้าวเดิน แต่หากเรียกในศัพท์การวิง่ แลว้ มันคือ อัตราการวิง่ นับเป็ นนาทีต่อ กิ โ ลเมตร) บทบาทของพวกเขาคื อ การวิ่ง ด้ว ยความเร็ ว ที่ค งที่ ให้มากทีส่ ุด อาจจะมีเร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ตามโอกาส เพือ่ ให้เข้าถึงเส้นชัย ตามเวลาทีก่ ำ� หนด แลว้ พวกเขาส�ำคัญต่อนักวิ่งอย่างไร ? นักวิ่งเองก็จะได้รูว้ ่า ตอนนี้หากตัวเองวิ่งอยู่ดว้ ยความเร็วเท่านี้แลว้ ตัวนักวิ่งจะสามารถ
14
b side
วิง่ จบได้ดว้ ยเวลาเท่าใด เช่น นาย ก. อยากวิง่ ฮาล์ฟมาราธอนให้ได้ ต�ำ่ กว่า 2 ชัว่ โมง ดังนัน้ นาย ก. ต้องมองหาลูกโป่ งหรือกลุม่ เพเซอร์ ที่ระบุเวลา 2 ชัว่ โมงให้เจอ และวิ่งแซงเพเซอร์ชุดนี้ไปให้ได้จนจบ หรือ นางสาว มม. ก�ำลังวิง่ ฟูลมาราธอนอยู่ แลว้ พบว่า ชุดเพเซอร์ 4:30 ชัว่ โมง ก�ำลังวิง่ ผ่านไป นางสาว มม. ต้องรูต้ วั แล ้วว่า หากยังวิง่ ด้วยความเร็วเท่าเดิม แลว้ เพเซอร์กลุม่ นี้วง่ิ ห่างไปเรื่อย ๆ เธอจะจบ มาราธอนด้วยเวลามากกว่า 4:30 ชัว่ โมง เป็ นต้น แล ้วเพเซอร์เป็นใคร? มาจากไหน? และท�ำไมเขาถึงมาเป็นเพเซอร์ได้? เพเซอร์ก็เป็ นนักวิ่งธรรมดาทัว่ ไปนี่แหละครับ ไม่ตอ้ งถึงกับ มีช่อื เสียงโด่งดัง แต่การเป็ นเพเซอร์ตอ้ งดูทค่ี วามสามารถของตัวเอง ว่าการทีเ่ ขาจะวิง่ ในระยะทีเ่ ลือกนัน้ เป็ นไปได้หรือไม่? เพราะเพเซอร์ จะต้องวิง่ ด้วยอัตราความเร็วที่ค่อนข้างคงที่ และต้องมัน่ ใจได้ว่าเขา สามารถจบการแข่งขันได้ดว้ ยเวลาทีเ่ ขาเลือก
การคัดเลือกเพเซอร์นนั้ มีปจั จัยหลายอย่าง อย่างผูเ้ ขียนเอง เป็ นหนึ่งในผูค้ ดั เลือกเพเซอร์ให้งาน CMU Chiang Mai Marathon มาตลอด 3 ปี ปัจจัยทีผ่ มจะเลือกเพเซอร์นนั้ มีดงั นี้ 1. เพเซอร์ตอ้ งมีประวัติเวลาที่ดีกว่าเวลาที่ตวั เองเลือก เช่น นาย อ. ต้องการสมัครเพเซอร์มาราธอน 3:45 ชัว่ โมง นาย อ. ต้องเคย วิง่ มาราธอนจบต�ำ่ กว่า 3:45 ชัว่ โมง มาแล ้วอย่างน้อย 2 - 3 สนาม ในเวลาไม่เกิน 2 ปี นับจากวันสมัคร 2. เพเซอร์ตอ้ งมีความเป็ นมิตรไมตรีและมีนำ�้ ใจมากกว่าปกติ เพราะว่าต้องคอยให้กำ� ลังใจนักวิง่ คนอืน่ ๆ ระหว่างทางเสมอ และต้อง สามารถช่วยเหลือคนทีล่ ำ� บากได้โดยทีต่ วั เองไม่ลำ� บาก 3. ต้องสามารถเข้ากับทีมได้ดี และในทีมเพเซอร์เองก็ตอ้ งมี ความเข้ากันได้ดี ไม่แบ่งแย่งแข่งขันกันเอง ต้องช่วยเหลือกันเพือ่ ให้ บรรลุเป้ าหมาย 4. ส�ำหรับตัวผมเองหรือผูค้ ดั เลือก จะมีอกี อย่างทีจ่ ะให้คะแนน นัน่ คือ ความตัง้ ใจจริง ของผู ส้ มัค ร บางครัง้ เราไม่ไ ด้ดู ท่ีค วามเร็ว เพียงอย่างเดียว แต่จะดูทค่ี วามตัง้ ใจ ดู Passion ทีเ่ ขาแสดงออกมา เพราะหลายครัง้ ทีผ่ มท�ำการคัดเพเซอร์ จาก 300 กว่าคนจนเหลือเพียง 55 คนนัน้ ผมจะดูทค่ี วามตัง้ ใจ บางคนไม่เคยวิง่ ท�ำเวลาได้เร็วขนาดนี้ แต่ผมจะให้การบ้านเขาไป เพื่อให้เขาสามารถพิสูจน์จนผมมัน่ ใจว่า
เขาจะสามารถท�ำหน้าทีต่ รงนี้ได้ เพราะแน่นอนว่าเราไม่ตอ้ งการคนที่ ท�ำงานเก่งอย่างเดียว แต่เราอยากได้คนรุ่นใหม่ ทีม่ หี วั ใจพร้อมส่งต่อ ความรูส้ กึ ทีเ่ รามีให้แก่เขาไปสู่นกั วิง่ คนอืน่ ๆ อีกด้วย ดัง นัน้ เพเซอร์ท่ีผ มจะเลือ ก ส่ ว นใหญ่ จะเป็ น ทีม ที่ต อ้ งมี ความเข้าขากันได้ดเี ป็ นอันดับแรก ก่อนทีจ่ ะหาปัจจัยอื่นๆ ต่อๆ ไป ไม่ใช่ว่าเอาความเร็วได้ก่อนเป็ นหลัก เพราะนัน่ จะท�ำให้ทมี เสียสมดุล บางอย่างไป ในความคิดของผมเอง แล ้วเพเซอร์ตอ้ งท�ำอะไรบ้าง ? หน้าทีข่ องเพเซอร์ ตามทีผ่ มได้บอกไว้ในตอนต้น คือวิง่ ตามเวลา แต่อนั ที่จริงมันมีอะไรมากกว่านัน้ การที่นกั วิ่งจะวิ่งได้ตามเวลานัน้ มันไม่งา่ ยเลย เพราะ 1. อย่าลืมว่านักวิง่ เหล่านี้ คือนักวิง่ ทีเ่ คยท�ำเวลาได้เร็วกว่านี้มาก การลดความเร็วลงมานัน้ สิง่ ทีเ่ พเซอร์จะประสบเลยก็คือความเมือ่ ย จากการวิง่ นานๆ และท�ำให้ล ้ามากกว่าปกติ 2. เพเซอร์จะต้องวิง่ ด้วยความเร็วคงที่ แม้วา่ จะเจอเนินขึ้นลง มากขนาดไหน พวกเขาก็ตอ้ งท�ำให้ได้ 3. ต้องแบกลูกโป่ ง หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่ามันแบกยังไง ลูกโป่ งมันลอยเหรอ? จริงๆ แล ้วค�ำว่าแบกในทีน่ ้ คี อื ต้องทนเสียงลูกโป่ ง ตีกนั ไปตลอดทางครับ บางท่านก็จะร�ำคาญอยู่หน่อยๆ 15
b side
4. ต้องทนใส่ชดุ ทีต่ วั เองไม่ค่อยถนัด เพราะเพเซอร์จะโดนบังคับ ให้ใส่ชดุ ทีท่ มี งานให้มา เพือ่ เป็ นกิมมิกของงาน (ยกเว้นเพเซอร์แฟนซี จะแต่งตัวมาตามถนัดเลย) 5. เพเซอร์ตอ้ งมาฟังบรีฟ + มาถึงงานก่ อนเวลาที่กำ� หนด เพือ่ เตรียมตัวให้เรียบร้อยก่อนเข้าสู่สนามแข่ง 6. เพเซอร์ตอ้ งมีแรงเหลือทีจ่ ะช่วยเชียร์นกั วิง่ (หรือเรียกกันว่า ลูกค้า) เพื่อสร้างขวัญและก�ำลังใจแก่นกั วิ่งที่เข้าแข่งขันระหว่างทาง บางท่านก็พกสเปรย์ไปด้วยเผือ่ เจอนักวิง่ บาดเจ็บ 7. หากเพเซอร์เจ็บ เพเซอร์จะต้องท�ำการ ‘ปล่อยโป่ ง’ ในทีน่ ้ คี อื การตัดลูกโป่ งของตัวเองปล่อยทิ้งไป ในกรณีทเ่ี พเซอร์คนนัน้ ไม่สามารถ ท�ำหน้าทีข่ องตัวเองได้ตลอดจนจบงาน เพือ่ ไม่ให้นกั วิง่ สับสน (เพเซอร์ ส่วนใหญ่จะไม่ยอมทิ้งโป่ งตัวเองเด็ดขาด หากไม่เจ็บจริงๆ) 8. เพเซอร์ตอ้ งเสียสละทีจ่ ะไม่รบั ถ้วยรางวัลอันดับ เพราะต้องวิง่ ตามเวลาทีไ่ ด้รับมอบหมาย แทนทีจ่ ะวิง่ ด้วยความเร็วของตัวเองจริงๆ 9. เพเซอร์ทกุ คนจะต้องพก Pace Chart ในการควบคุมเวลา
16
b side
จากผู เ้ ข้า แข่ง ขัน และจะต้อ งมีก ารเช็ค ก่ อ นแข่ง ว่า ระยะตรงไหม เพราะจะได้คำ� นวณ Pace ที่ใช้วง่ิ ได้ถูกต้อง (บางงานเป็ นกระดาษ บางงานก็เป็ น Tattoo Sticker) 10. เพเซอร์จ ะมีอี ก ชุ ด หนึ่ ง เป็ น ชุ ด พิเ ศษที่ เ รี ย กกัน ว่ า ชุดเก็บกวาด (Sweeper) นักวิง่ เพเซอร์ชดุ นี้จะวิง่ ตามเวลา Cutoff ของงาน (วิ่งตามเวลาที่กำ� หนดให้เป็ นเวลาสุดท้ายของงาน หรือวิ่ง ปิ ดงานนัน่ เอง) นักวิง่ ชุดนี้ ในสายตาของผมคือนักวิง่ ชุดทีท่ รมานทีส่ ุด หากเป็ นงานทีม่ รี ะยะมาราธอน นักวิง่ ชุดนี้จะต้องวิง่ 7 ชัว่ โมง บางงาน ถ้าตัดตัวที่ 8 ชัว่ โมง ก็จะต้องวิง่ กันถึง 8 ชัว่ โมงเลยทีเดียว เรียกว่า แทบจะเดินกันแล ้ว แถมแดดก็รอ้ น ชุดนี้ตอ้ งทนร้อนไปด้วย บางงาน ก็ จ ะมีก ารเตรี ย มครี ม กัน แดดให้ ไม่ ก็ พ กร่ ม ไปเลยเพื่อ บรรเทา ความร้อนของบ้านเรา และทีส่ ำ� คัญ เมือ่ ชุดนี้เข้าเส้นชัยแล ้ว ก็เรียกว่า แทบจะปิ ดงานนัน้ ได้เลย เพราะเมื่อชุดนี้เข้าเส้นชัย ก็คือหมดเวลา ของงานพอดี นักวิง่ ชุดนี้จงึ ต้องมีความอดทนสูงมากจริงๆ ครับ สังเกตไหมว่า การเป็ นเพเซอร์นนั้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
ต้องเสียสละเวลาของตัวเองเพือ่ เป็ นเวลาของคนอืน่ นอกจากเพเซอร์ จะเป็ น สีส นั ของงานแล ว้ ในมุม มองของผม เพเซอร์ย งั เป็ น ผู ท้ ่ี จุดประกายความหวังและจุดไฟให้กบั นักวิ่งที่มเี ป้ าหมายจะท�ำเวลา ในสนามนัน้ ๆ ด้วย หลายๆ ครัง้ ทีผ่ มเห็นคนท้อแท้ แล ้วเขามองลูกโป่ ง จนกลับมามีแรงฮึดวิง่ อีกครัง้ กระทัง่ ถึงเส้นชัยไปพร้อมๆ กับเพเซอร์ หลายๆ ครัง้ ผมเห็นนักวิง่ วิง่ เข้ามาขอบคุณเพเซอร์ บ้างก็เข้ามากอด มาขอบคุณ ขอถ่ายรูป ดัง่ เขาเป็ นฮีโร่ของนักวิง่ ตัวเพเซอร์เอง หลังจากรับหน้าทีไ่ ปแล ้ว หลายๆ คนก็เริ่มเข้าใจ นักวิง่ มากขึ้น เริ่มเห็นอะไรทีเ่ ขาไม่เคยเห็นตอนวิง่ ไวๆ แบบไม่สนใจ อะไร ในวันทีค่ นทีเ่ ป็ นเพเซอร์ตอ้ งวิง่ ให้ชา้ ลงเพือ่ เป็ นเวลาของคนอื่น เขาจะมีเวลาทีจ่ ะได้มองไปรอบ ๆ ตัวมากขึ้น จะได้เห็นอะไรมากขึ้น และเขาจะเริ่มเข้าใจคนอืน่ มากขึ้น การเป็ นเพเซอร์ ก็เหมือนกับการวิง่ น�ำหน้าตัวเองในอดีต เพราะเราเคยวิง่ ช้ามาก่อน วันนี้เราวิง่ เร็วกว่าตัวเองในเมือ่ วาน
แล ้วท�ำไมเราไม่อยากให้เขาวิง่ เร็วเท่าเราวันนี้ละ่ ? ให้ก�ำลังใจ แล ้วเกาะโป่ งไปด้วยกัน เพราะเราจะพาคุณเข้าเส้นชัย ไปพร้อมๆ กัน ในมุม มองของทีม ผู จ้ ดั งานอย่ า งผม เพเซอร์ คื อ ผู ส้ ร้า ง แรงบันดาลใจให้กบั นักวิง่ ทีม่ ฝี นั ผูซ้ ง่ึ มีเป้ าหมายในชีวติ ไม่วา่ จะออกมา วิ่งเพื่อท�ำเวลา หรือออกมาวิ่งเพื่อลืมอะไรบางอย่ างในชีวิตที่ไม่ดี มันเป็ นการจ�ำลองชีวติ แบบเบาๆ เหมือนกับว่าเป้ าหมาย (ซึง่ ก็คอื เวลา ทีเ่ ราอยากได้) รออยู่ข ้างหน้า เราจะสูต้ ่อเพือ่ คว้ามัน หรือว่าจะปล่อยให้ มันค่อยๆ จากไปจนลิบตา มันอยู่ท่ตี วั ของคุณ คุณเลือกเอง และคุณต้องพยายามเพื่อ ตัวของคุณเอง
17
b side
Trip
UDONTHANI ไ ป อุ ด ร ธ า นี ทํ า อ ะ ไ ร ไ ด้ บ้ า ง เรื่อง / ภาพ : ศมนภรณ์
3 วัน 2 คืน อาจะไม่ใช่เวลาที่มากมายนัก หากเราจะได้เข้าไปสัมผัสกับ จังหวัดอุดรธานี ทีม่ ชี อื่ เสียงในเรือ่ งแหล่งโบราณคดีบา้ นเชียง ประวัตศิ าสตร์ และธรรมชาติ แต่เราจะพาไปดูอกี แง่มมุ หนึง่ ในปัจจุบนั ทีอ่ ดุ รธานีถกู วางให้เป็น ศูนย์กลาง หรือประตูของอีสาน ที่จะเชื่อมโยงจังหวัดทางภาคอีสานของไทย และยิ่งสายการบิน AirAsia เปิดเส้นทางใหม่ ที่สามารถเดินทางจากเชียงใหม่ ไปอุดรธานีได้ทันที ด้วยเวลาเพียงชั่วโมงเศษๆ ก็ท�ำให้เราอยากจะกลับมาซ�้ำ อีกครั้ง มาดูกันว่าในครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง… #AirAsia #Thailand #UdonThani #travel3sixty #HIPThailand #CanonEOSM100
18
b side
ไปล่องเรือดูทะเลบัวแดง บัวแดงอมชมพูลอยสุดลูกหูลูกตา เป็ นภาพทีไ่ ม่เคยเห็น มาก่อน เรามักจะเห็นภาพถ่าย ตามป้ ายประชาสัมพันธ์ของ ททท. ถึงสถานทีแ่ ห่งนี้ แต่พอได้เห็นเองกับตาจริงๆ ขอบอกว่า ภูมใิ จกับจังหวัดนี้จริงๆ ทีม่ ขี องดีแบบนี้ ส�ำหรับใครทีต่ อ้ งการมา อาจจะต้องเช็คฤดูกาลกันนิดนึง เพราะบัวแดงนัน้ จะบานช่วง ฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม และช่วงเวลา ที่เหมาะสมคือ 06:00 - 11:00 น. ถ้าโดนแดด บัวก็จะหุบ ไปเช้าเท่าไหร่ยง่ิ ดี เพราะต้องไปจองเรือกันก่อนด้วย เดินทาง ไม่ใกล ้ไม่ไกลจากตัวเมือง ไปทีบ่ งึ หนองหาน อ�ำเภอกุมภวาปี ไปไหว้ศาลเจ้าปู่ - ย่า เป็ นโชคดีของเราทีไ่ ปตรงกับช่วงเทศกาลตรุษจีน คึกคัก เป็ นพิเศษ ศาลเจ้าปู่ - ย่า นัน้ อยู่ในตัวเมืองของอุดรธานี หลัง สถานี รถไฟใกล ต้ ลาดหนองบัว ถนนนิ ต โย นอกจาก ภายนอกจะกว้างขวางใหญ่โตและวิจติ รงดงามแล ้ว ภายในศาล เป็ นที่เก็บรักษารู ปปัน้ มังกรยาวกว่า 90 เมตร นอกจากนี้ นักท่องเทีย่ วและคนในพื้นทีย่ งั นิยมเข้ามาสักการะสิง่ ศักดิ์สทิ ธิ์ ตามความเชื่อของตนเองอีกด้วย ไปเซลฟี่กับเป็ดเหลืองยักษ์ อ่ า นไม่ ผิ ด ค่ ะ เป็ นเป็ ดเหลือ งยัก ษ์จ ริ ง ๆ อยู่ ใ น สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลเมืองอุดรธานี ทีเ่ รา ต้องขอปรบมือให้กบั ไอเดียของจังหวัดที่จดั ท�ำแลนด์มาร์คนี้ ขึ้นมา เราไปช่วงเย็นนอกจากจะได้เห็นเป็ ดยักษ์แล ้ว เรายังเห็น คนในพื้นทีม่ าออกก�ำลังกายรอบๆ หนองประจักษ์ ทัง้ วิง่ และ ปัน่ จักรยาน ดูเป็ นภาพทีน่ ่ารักและเป็ นระเบียบเรียบร้อย
01
02
03
04 01 จุดชมวิวแม่น�้ำโขง บน Skywalk วัดผาตากเสื้อ 02 เรือของชาวบ้านที่พานักท่องเที่ยวเข้าไปดูบัวแดง 03 ถ้าเรามาช่วงเช้า บัวจะบานรับแสงแดดอ่อนๆ 04 ศาลเจ้าปู่ - ย่า คึกคักเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลตรุษจีน 05 บรรยากาศรอบๆ สวนสาธารณะหนองประจักษ์
ไปดูวิวแม่น�้ำโขงที่วัดผาตากเสื้อ จะขอออกจากอุดรธานีไปจังหวัดทีต่ ดิ กันอย่าง อ.สังคม จ.หนองคายกันบ้าง สถานทีแ่ ห่งนี้เป็ นแหล่งท่องเทีย่ วเส้นทาง ในฝัน Dream Destination จาก ททท. ด้วยจุดทีต่ งั้ ทีอ่ ยู่บน ผาสูง จึงท�ำให้เห็นวิวแบบพาโนราม่าของแม่นำ�้ โขง (มองลงมา คล ้ายพญานาค) และฝัง่ ประเทศเพือ่ นบ้านอย่างลาวทีส่ วยงาม ส�ำหรับใครทีช่ น่ื ชอบความหวาดเสียว อย่าลืมเดินบน Skywalk กระจกใส (ทีจ่ ำ� กัดคราวละ 20 คน)
05
19
b side
ทริปนี้เราไม่พลาดที่จะข้ามไปเที่ยวฝัง่ ลาวอย่ างนครหลวง เวียงจันทร์ เพียงข้ามสะพานมิตรภาพไทย - ลาว จาก จ.หนองคาย ส�ำหรับใครมีเวลาน้อยแค่หนึ่งวันแบบเรา ก็สามารถเก็บสถานทีส่ ำ� คัญๆ ได้เช่นกัน แต่ถา้ มีเวลา แนะน�ำให้นอนค้างซักคืน หรือนัง่ รถต่อไป วังเวียงก็ดนี ะ!!! แล ้วอยู่นครหลวงเวียงจันทร์ ไปไหนได้บา้ งนะ... ไปประตูชัย ถ้า ไม่ มีรู ป ที่ป ระตู ช ยั หรือ ประตู ไ ซ ก็ ค งเหมือ นมาไม่ ถึง นครหลวงเวียงจันทร์ สิง่ ก่อสร้างนี้ถกู สร้างราวปี 1957 เป็ นอนุสรณ์ ระลึกถึงวีรชนในการประกาศเอกราชจากประเทศฝรัง่ เศส แรงบันดาลใจ นัน้ มาจาก Arc de Triomphe ประตูชยั แห่งปารีส แต่ผสมผสานศิลปะ ของลาว อย่างรูปปัน้ สัตว์ในวรรณคดีมาตกแต่ง ส�ำหรับใครทีอ่ ยาก ขึ้นไปชมวิวเวียงจันทร์ เขาก็ให้ข้นึ ได้นะ เสียค่าธรรมเนียมแลกกับการ เดินขึ้นบันไดประมาณ 5 ชัน้ เล่นเอาเหงือ่ ตก ขาอ่อนเลยทีเดียว
06
ไปขอพรที่วัดศรีเมือง เป็ นอีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจของนครหลวงเวียงจันทร์ เป็ นวัด เก่าแก่ทถ่ี กู สร้างด้วยสถาปัตยกรรมลาว - ไทย นอกจากนี้ยงั เป็ นทีต่ งั้ ของศาลหลักเมืองอีกด้วย คนนิยมมาขอพรกัน เพราะนักแสวงโชค ยกให้เป็ นวัดแห่งโชคลาภนัน่ เอง (ห้ามมาขอเรือ่ งความรัก ไกด์บอกมา) ไปนั่งชิคที่โจมา โจมา เบเกอรี่ คาเฟ่ เป็นร้านกาแฟทีข่ น้ ึ ชือ่ ของนครหลวงเวียงจันทร์ (เขาว่ามาอย่างนี้) เราก็ตอ้ งแวะหน่อยตามค�ำบอกเล่า แต่ละสาขาก็จะ มีการตกแต่ งที่เรียบง่าย นักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่เข้ามาเยอะ พอสมควร เมนู ก็เยอะทัง้ กาแฟและขนมสไตล์ฝรัง่ เศส ขอให้แวะมา ถ้าคุณชื่นชอบกาแฟ เพราะมาทีล่ าวไม่เจอ Starbucks แน่นอน
07
08
10
09
20
b side
ไปไหว้พระธาตุหลวง สิง่ ศักดิ์สทิ ธิ์คู่บา้ นคู่เมืองนครหลวงเวียงจันทร์ ใหญ่โต สวยงามด้วย สถาปัตยกรรมแบบลาว โดดเด่นด้วยสถูปเจดียส์ ที องอร่ามเป็ นศูนย์กลาง ถูกสร้างโดยสมเด็จพระเจ้าอภัยพุทธบวร ไชยเชษฐาธิราช ในปี ค.ศ. 1566 และถูกบูรณะมาตามกาลเวลา บริเวณรอบๆ ก�ำแพง จะมีรูปปัน้ และ เครื่องปัน้ ดินเผาเก่าแก่ให้เดินดูอกี ด้วย
11 06 ก่อนข้ามไปฝั่งลาว ทุกคนต้องมาอยู่ที่ด่านตรวจผ่านแดน ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถคณะทัวร์ และรถสาธารณะ 07 เรามักจะเห็นรถตุ๊กตุ๊กลาว จอดรับ - ส่งนักท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ 08 กระทงบายศรีดอกไม้บูชาพระที่วัดศรีเมือง 09 มุมจากด้านบนของประตูชัย เห็นวิวนครหลวงเวียงจันทร์ 10 ประตูชัย แลนด์มาร์คที่ส�ำคัญแห่งหนึ่งของลาว 11 พระธาตุหลวงเวียงจันทร์ 12 Lao Duty Free ช้อปปิ้งก่อนกลับฝั่งไทย 13 JOMA ร้านกาแฟสัญชาติลาว 14 Brown House ที่พักในอุดรธานี สไตล์บูติค อีสานประยุกต์
ไปช้อปปิ้งที่ Duty Free และแน่ นอนว่านี่เป็ นการไปเที่ยวลาวแบบไปเช้าเย็นกลับ เรื่องช้อปปิ้ งจึงเป็ นเรื่องส�ำคัญ ขากลับไปอุดรธานีจะต้องผ่านด่าน ที่หนองคาย ซึ่งใกลๆ้ กันนัน้ ก็จะมีรา้ นขายของปลอดภาษีหรือ Duty Free ให้นกั ท่องเทีย่ วได้ชอ้ ปปิ้ งกันอย่างสนุกสนาน (ทีน่ ิยม คือแอลกอฮอล์ จ�ำกัดจ�ำนวนลิตรนะจ๊ะ เช็คให้ด)ี ส่วนของอืน่ ๆ ก็ตาดีได้ตาร้ายเสีย ขอให้ดูกนั ดีๆ แล ้วจะหาว่าไม่เตือน
12
นอกจากสถานที่ท่ อ งเที่ย วที่เ รากล่ า วมาทัง้ หมดแล ว้ อุดรธานียงั มีอาหารที่ทำ� ให้เราไม่ผดิ หวังในรสชาติ และตื่นเต้น ทุกครัง้ ทีไ่ ด้กิน ทัง้ อาหารอีสานดัง้ เดิม แหนมเหนือง หรือขนม แปลกๆ ทีเ่ ราได้กนิ ตลอดทริป คอยเพิม่ พลังงานให้เรามีแรงเทีย่ ว เหมาะส�ำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง Information
13
ข้อมูลเพิ่มเติมเที่ยวบิน ขาไป : เชียงใหม่ - อุดรธานี เวลา 15:50 - 17:10 น. ขากลับ : อุดรธานี - เชียงใหม่ เวลา 14:00 -15:20 น.
14
ทางไปจอง www.airasia.com 21
b side
Special Report
01
MATSUYAMA DESIGN WEEK
ด น ต รี วั ย รุ่ น แ ล ะ ง า น ศิ ล ป ะ I L L U M I N A T I O N ใ น เ มื อ ง มั ต สึ ย ะ ม ะ เรื่อง : Somchai-san ภาพ : Somchai-san / © InfinityComm
Matsuyama Design Week เป็นงานที่จัดไปเมื่อวันที่ 9 - 12 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา งานนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ โปรเจ็คท์ Japan Design Week โดยจัดขึ้นในเมืองมัตสึยะมะ จังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) บนเกาะชิโกะกุ (Shikoku) และเป็น ครั้งแรกที่โปรเจ็คท์นี้มาจัดบนเกาะแห่งนี้ HIP Magazine / HIP Thailand เป็นสื่อจากจังหวัด เชียงใหม่, ประเทศไทย ที่ ได้รับเชิญเข้าไปเที่ยวชมงานนี้ โดยการ ประสานงานจัดการดูแลจาก Infinity Communications จาก ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในงาน Matsuyama Design Week ครั้งนี้ เราจะได้ดูการแสดงดนตรีจากศิลปินญี่ปุ่น และได้ดูนิทรรศการ ‘Poupelle of Chimney Town’ ในรูปแบบของงาน Illumination
02
01 AKB48 Team8 บนเวทีการแสดง Matsuyama Design Week / 02 HIP Editor in Matsuyama Design Week / 03 รถรางสีสม้ ในเมือง / 04 อากาศหนาวจริงๆ นะครับ 05 เดินเล่มชมเมืองมัตสึยะมะ / 06 อากาศหนาวและไม่รู้จะท�ำอะไร ก็เลยมานั่งเอาเท้าแช่น�้ำอุ่น / 07 Matsuyama Castle ถ้ามาเมืองนี้ แล้วไม่ได้มาเที่ยวชมที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงมัตสึยะมะ 08 อาหารมื้อแรกที่มัตสึยะมะ ข้าวหน้าเนื้อกับซุปหอยร้อนๆ
22
b side
ศุกร์ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ประมาณ 09:15 น. (เวลาประเทศญี่ปุ่น)
04
หลังจากนัง่ เครื่องบินแบบ 3 ต่อรวด จากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ จากกรุงเทพฯ ไปโตเกียว จากโตเกียวมามัตสึยะมะ, ผมก็เดินทางมาถึง เมืองมัตสึยะมะแบบง่วงๆ มึนๆ โดยมี คุณแอนนา ซูซูกะ และ คุณซาโยโกะ ชิโนะทานิ เจ้าหน้าทีจ่ าก Infinity Communications มารอรับทีส่ นามบิน เราทักทายกันตามธรรมเนียม ก่อนทีจ่ ะออกไปสัมผัสกับอากาศหนาวเย็น เฉียบนอกอาคารสนามบิน คุณแอนนาเป็ นคนพาผมมาส่งทีท่ พ่ี กั โรงแรม Dormy Inn ตรงย่าน Okaido และอยูไ่ ม่ไกลจากทางขึ้นปราสาทมัตสึยะมะ เท่ า ไหร่ น กั ด้ว ยที่ย งั ไม่ถึง เวลาที่จ ะเช็ค อิน เข้า ห้อ งพัก ได้ (โรงแรมนี้ ให้เช็คอินได้ บ่าย 3) ผมจึงได้แค่ฝากกระเป๋ าที่รีเซฟชัน่ แลว้ ก็ลา้ งหน้า แปรงฟันทีห่ อ้ งน�ำ้ ตรงล็อบบี้ ส่วนคุณแอนนาขอตัวกลับไปสนามบิน เพือ่ รอ นักข่าวอีกคนจากสิงคโปร์ทจ่ี ะบินมาถึงในช่วงบ่าย ดังนัน้ ส�ำหรับผมก็เลย เป็ นช่วง Free Time ตัง้ แต่เวลาประมาณ 10:30 ไปจนถึงบ่าย 3 แล ้วผมก็เริ่มออกไปเดินตากลมหนาวส�ำรวจเมืองมัตสึยะมะ โรงแรมที่พ กั ตัง้ อยู่ ท่ี Okaido ซึ่ง เป็ น ย่ า นร้า นค้า ร้า นอาหาร แหล่งช้อปปิ้ ง แต่สงสัยว่าคงยังเช้าเกินไป แถวโรงแรมก็ดูจะเงียบๆ อยู่ ผมเลยตัดสินใจเดินเรื่อยเปื่ อย ไปทางถนนใหญ่ มองเห็นร้าน Starbucks อยู่ฝงั ่ ตรงข้าม แล ้วก็เห็นรถราง ‘สีสม้ ’ สดใส ติดไฟแดงอยู่กลางถนน ผมตัดสินใจเดินข้ามแยกไปฝัง่ ตรงข้าม ใจหนึ่งอยากหาร้านกาแฟ แต่อกี ใจก็บอกว่า ไว้รอกินข้าวเทีย่ ง (หรือเช้า?) เลยดีกว่า ก็เลยเดินถ่ายรูป เล่นๆ ไปเรื่อย ถนนเส้นนี้เหมือนเป็ นทางเนินขึ้นเขา และก็มคี นใช้จกั รยาน เป็ นพาหนะเต็มไปหมด ทัง้ นักเรียน วัยรุ่น วัยหนุ่ มสาว และวัยลุงป้ า ปัน่ กันแบบเหมือนไม่ค่อยจะรูส้ กึ หนาวกันซะเลย เดินไปเรื่อย จนกระทังถึ ่ ง Ropeway ขึ้นไปเทีย่ วปราสาทมัตสึยะมะ (Matsuyama Castle) ผมก็จดั ตัว๋ ขึ้น กระเช้า ขึ้น ไปเดิน เที่ยวสิครับ จะว่าไปแลว้ ผมเองมีโอกาสได้ไปเที่ยวชมปราสาทในญี่ป่ ุนมาหลายแห่ง 07
08
03
06
05
ต้องยอมรับว่าความงดงามของปราสาทมัตสึยะมะนัน้ อยู่ในระดับแนวหน้า ของญี่ป่ ุนเลยก็ว่าได้ จนเลยเที่ยงมาสักพัก เดินเที่ยวถ่ายรู ปปราสาท จนเพลิน หนาว และหิว เพราะตัง้ แต่ลงเครื่องบินมายังไม่ได้กนิ อะไรเลย จึงกลับลงมาอะไรกินแถว Okaido (ใกล ้ๆ ทีพ่ กั ) เจอร้านง่ายๆ ขายอาหารเซ็ต ก็จดั ข้าวหน้าเนื้อทีเ่ สิรฟ์ พร้อมซุปหอยร้อนๆ ก็สบายแล ้วครับ 14:00 ผมเดินวนไปวนมาอยู่แถวโรงแรม รอเวลาอีกราว 1 ชัว่ โมง ถึงจะเช็คอินเข้าห้องพักได้ ความทีอ่ ากาศหนาวเย็น และเริ่มจะหมดแรง คราวนี้ใจหนึ่งบอกให้ไปหาร้านนัง่ กินเบียร์ซะเลย อีกใจก็บอกอย่าเพิ่ง ดืม่ เลย นอนก็ไม่ค่อยได้นอน เก็บแรงไว้ดม่ื ตอนค�ำ่ ๆ ดีกว่า แต่ในทีส่ ุด ความคิดแรกก็ชนะ เอาวะ กินเบียร์กก็ นิ เบียร์ ทีน้ พี อเดินไปดูตามร้านอาหาร กลางวัน ปรากฎว่าส่วนใหญ่ปิดบ่ายสอง เปิ ดอีกทีกโ็ น่น 5 - 6 โมงเย็นเลย เอาไงดีๆ ดูเวลาก็บา่ ยสองกว่าเข้าไปแล ้ว งัน้ เปลีย่ นใจอีกที เห็นด้านหน้า โรงแรมทีพ่ กั มีบอ่ น�ำ้ ร้อนส�ำหรับให้นงั ่ แช่เท้าแก้หนาว งัน้ ไปแช่เท้าดีกว่า 15:00 เช็คอินเข้าห้องพัก ได้อยูช่ นั้ 11 ห้องกว้างทีเดียว นอนคนเดียว สบาย โรงแรม Dormy Inn มีออนเซน อยู่ทช่ี นั้ บนสุดคือ ชัน้ 13 มีทงั้ ออนเซนเอ้าท์ดอร์และอินดอร์ ตอนเช้ามีอาหารเช้าแบบฟูลสเกล และทีพ่ เิ ศษ ก็คอื ช่วง 19:00 - 22:00 ทีเ่ ล ้าจ์ ชัน้ 13 จะมีเครือ่ งดืม่ ให้ฟรี 1 แก้ว (เลือกได้ ว่าจะเป็ น เบียร์ หรือ น�ำ้ ส้ม) และทีห่ อ้ งอาหารชัน้ ล่าง ช่วง 21:30 - 23:00 จะมีราเมนร้อนๆ เสิรฟ์ ให้ฟรี (ช่างเข้าใจคนดื่มดีแท้) เมือ่ เข้าห้องพักได้ เรียบร้อย ผมก็ไม่รอช้าทีจ่ ะเปลีย่ นชุดแล ้วไปแช่ออนเซนเอ้าท์ดอร์ให้ร่างกาย อบอุ่น แล ้วกลับห้องมางีบเอาแรง ก่อนทีจ่ ะออกไปกินมื้อเย็นตามนัดหมาย กับคุณแอนนา คุณซาโยโกะ และสือ่ จากสิงคโปร์ มื้อค�ำ่ วันแรก ผมเลือกข้าวกับปลาดิบ (ปลากะพงแดง) ทีเ่ สิรฟ์ มากับ ไข่ดบิ ซึง่ เป็ นเมนูยอดฮิตของร้าน KADOYA ทีอ่ ยูแ่ ถว Okaido นัน่ แหละครับ พอหลังมื้อค�ำ ่ ทุกคนก็แยกย้ายไปตามความชอบ ผมเองเปิด Google แล ้วเดิน ฝ่ าลมหนาวไปร้าน Bokke Craft Beer ที่หาข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้แลว้ เดินไปราว 1.2 กิโลเมตร จัด Craft Beer ญีป่ ่ นุ ไป 2 แก้ว แล ้วเดินฝ่ าลมหนาว กลับมาจัดราเมนร้อนๆ ของฟรีทโ่ี รงแรมตอนก่อน 5 ทุ่ม 23
b side
09
11
10
12
13 © InfinityComm
14
Don’t Miss
© InfinityComm
เสาร์ 10 กุมภาพันธ์ 2561
Orange Beer
จังหวัด Ehime ได้ชอื่ ว่า เป็น The Land of Mikans หรือแหล่งปลูกส้มที่มีชื่อเสียง ของญีป่ นุ่ ในเมืองมัตสึยะมะ จึงมี ร้านที่ขายผลิตภัณฑ์จาก ส้ม อยูท่ วั่ ไป แนะน�ำให้แวะทีร่ ้าน 10 Factory แล้วลองสัง่ ‘เบียร์สม้ ’ มาลองชิมดูครับ รสชาติไม่หนัก ไม่ขม ดื่มพอสนุกๆ ได้
24
b side
ตืน่ มาตอนเช้าราว 6 โมง เช็คอุณหภูมแิ ล ้วพบว่า ข้างนอกเหมือน จะอุ่นกว่าเมือ่ วานขึ้นมาหน่อย เพราะฝนตก! ตามโปรแกรมช่วงหลัง อาหารเช้าจะเป็ นการเที่ยวชมเมือง หลังมื้อเที่ยงจะเป็ นการดู ดนตรี ในโปรเจ็คท์ของ Matsuyama Design Week เช้า นี้ ส่ือ จากสิง คโปร์ข อตัว พัก ผ่ อ น เพราะเหน็ ด เหนื่ อ ย จากการเดินทาง ส่วนสือ่ จากเชียงใหม่ หลังจากเมือ่ วานได้แช่ออนเซน ได้เบียร์คราฟท์ ได้เบียร์กระป๋ องก่อนหลับ เช้านี้ก็เลยสดใส โดยมี สองสาวจาก Infinity Communications เป็ นผูน้ ำ� เที่ยวชมเมือง ด้วยเวลาทีม่ ไี ม่เยอะมากและฝนตก เราเลยใช้วธิ นี งั ่ รถรางจากแถวทีพ่ กั ไปเทีย่ วแถว Dogo Onsen แหล่งน�ำ้ พุรอ้ นเก่าแก่มากทีส่ ุดแห่งหนึ่ง ของญีป่ ่ นุ ส�ำหรับเมืองมัตสึยะมะแล ้ว การมาเมืองนี้นอกจากจะต้องมา ดูปราสาทมัตสึยะมะแล ้ว ก็จะต้องมาเทีย่ ว Dogo Onsen ด้วย ถึงจะ เรียกได้วา่ มาถึงเมืองนี้อย่างแท้ทรู (จะให้ดคี วรแช่ออนเซนแถวนี้ดว้ ย) รถรางมาจอดที่ Dogo Onsen Station ซึ่งเป็ นอาคารเก่าสวยงาม และได้เป็ นร้านกาแฟ Starbucks ไปแล ้วเรียบร้อย ย่าน Dogo Onsen เป็ นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าเดินเล่นและ ซื้อของฝาก ผมได้ลองชิม ‘เบียร์สม้ ’ แถวนี้ แต่ดว้ ยเวลาทีเ่ รามีไม่มาก เลยไม่ได้แวะร้านสาเกท้องถิ่น (และยังเช้าอยู่ดว้ ย) ได้แต่บอกกับ ตัวเองว่า แถวนี้ถา้ มีโอกาสผ่านมาคงได้แวะมาเทีย่ วอีกแน่นอน
Did You Know
หลังมื้อเทีย่ ง เป็ นช่วงเวลาของ ‘Onwasai Music Festival’ ทีอ่ ยู่ในโปรเจ็คท์ Matsuyama Design Week ซึง่ เวทีของการแสดง ดนตรีก็ถูกตัง้ อยู่ย่านช้อปปิ้ งตรง Okaido ใกลๆ้ กับโรงแรมที่พกั ของเรานัน่ แหละ ตามโปรแกรมแล ้ว การแสดงดนตรีจะมีให้ชมทัง้ หมด 5 ศิลปิ น เริ่มด้วย ศิลปิ นแนวอินดี้ - ป๊ อป 3 ศิลปิ น และต่อด้วยวงวัยรุ่นใสๆ อีก 2 ศิลปิ น ซึ่งไฮไลท์ของงานก็คือ AKB48 Team8 ที่มาร้อง มาเต้นโชว์ 3 คน และดูเหมือนว่าจะมีแฟนเพลงเหล่าโอตะของพวกเธอ มาจับจองพื้นทีเ่ พือ่ รอชมตัง้ แต่การแสดงเบอร์แรกยังไม่เริ่ม Charan-Po-Rantan (www.charanporantan.net) ศิลปิ น ดู โอพี่นอ้ งสองสาวขึ้นมาพบกับคนดู เป็ นโชว์แรก โมโมะ (Momo) น้อ งสาวเป็ น คนร้อ งเพลง ส่ ว น โคฮะรู (Koharu) พี่ส าวเล่ น แอคคอร์เดียน เห็นได้เลยว่าทัง้ คู่มแี ฟนเพลงที่เมืองนี้อยู่พอสมควร เพลงของ Canran-Po-Rantan เป็ นอินดี้ทอ่ี อกทางป็ อป สนุก และ เล่นกับคนฟังได้เป็ นอย่างดี หลังจากทีไ่ ด้ดูโชว์ ผมมีโอกาสได้พูดคุย กับดูโอคู่น้ ี เธอบอกว่าเคยมาเล่นโชว์ทก่ี รุงเทพฯ ด้วย เป็ นงานดนตรี Street Music ทีจ่ ดั ทีแ่ ถวๆ ประมาณสวนลุมนัน่ แหละครับ โชว์ต่อมาเป็ นของ Rina Katahira (www.katahirarina.com) ศิลปิ นหญิงสาวเสียงเพราะกับกีตาร์โปร่งเพียงตัวเดียว เหมือนเธอจะ มาในแบบ New Look เพราะดูจากโปรไฟล์และปก CD ชุดเก่าๆ แล ้ว เหมือนรูปลักษณ์จะเปลีย่ นไปไม่นอ้ ย ผมเองไม่เคยฟังเพลงเธอมาก่อน แต่ยอมรับว่าแค่เสียงร้องกับเสียงกีตาร์ของเธอก็ ‘เอาอยู่’ แม้วา่ จะฟัง ภาษาญีป่ ่ นุ ไม่รูเ้ รื่อง แต่กย็ งั สัมผัสได้ถงึ ความไพเราะของเพลง Kohei Dojima (www.djkh.jp) ศิลปิ นหนุ่ มเป็ นคิวต่อไป เขาเล่นกีตาร์ตวั เดียวกับลูปสเตชัน่ และเป่ าฮาร์โมนิกา้ บ้างในบางเพลง เป็ นดนตรีในแบบอินดี้ - ป๊ อปทีฟ่ งั สนุกดีนะครับ และตัวศิลปิ นก็เก่ง มีฝีมอื ในการโชว์อยู่ไม่นอ้ ย
Dogo Onsen
Dogo Onsen เป็นแหล่งน�ำ้ พุรอ้ นทีเ่ ก่าแก่ทสี่ ดุ แห่งหนึง่ ของญี่ ปุ ่ น ที่ นี่ มี ชื่ อ เสี ย งอย่ า งมาก เรี ย กได้ ว ่ า เป็ น สถานที่ ท่องเที่ยวที่ส�ำคัญของเมืองมัตสึยะมะเลยทีเดียว นอกจาก จะเป็นแหล่ง Onsen และ ที่พักแบบเรียวกังแล้ว ย่านนี้ยังเป็น แหล่งช้อปปิ้งอีกด้วย
09 วงวัยรุ่นท้องถิ่น Hime Kyun Fruit Can 10 Charan-Po-Rantan 11 ผลงาน Illumination ของ Akihiro Nishino 12 Rina Katahira 13 Kohei Dojima 14 ร้านขายผลิตภัณฑ์จาก ส้ม 15 AKB48 Team8 ระหว่างเดินพาเหรด 16 ด้านหน้าสถานี Dogo Onsen 17 แถว Dogo Onsen ก็มีที่ ให้นั่งแช่เท้า
15
16
17
25
b side
18
19
20
21
โชว์เซ็ตแรกปิ ดท้ายด้วยการคัฟเวอร์เพลง All You Need Is Love ของ The Beatles โดยทัง้ 3 ศิลปิ นออกมาร้องร่วมกัน และมี การแต่งเนื้อเพลงเป็ นภาษาญีป่ ่ นุ จะเห็นว่าทัง้ 3 ศิลปิ นอินดี้ป็อปทีถ่ กู เลือกให้มาโชว์ในโปรเจ็คท์ Matsuyama Design Week ครัง้ นี้ เป็ น ศิ ล ปิ น ที่มีค วามเป็ น ตัวของตัวเอง แต่งเพลงเอง และมัน่ ใจกับการแสดงตัวเองอย่างมาก ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบเพลงของ Rina มากที่สุด บนเวที เสียงร้อง ของเธอและเพลงของเธอเหมือนกับมีเสน่หบ์ างอย่างทีช่ วนให้น่าฟัง ก่อนจะถึงคิวของ AKB 48 Team8 ก็เป็ นโชว์ของวงเด็กวัยรุ่น ท้องถิน่ Hime Kyun Fruit Can (www.himekyun.jp) ก็รอ้ งๆ เต้นๆ สดใสตามสไตล์เด็กวัยรุ่นญีป่ ่ นุ ล่ะครับ เหมือนกับว่าวงนี้มาเป็ นวงเปิ ด ให้กบั AKB48 Team8 และเป็ นการแนะน�ำวงดนตรีวยั รุ่นท้องถิ่น ให้กบั คนฟังไปด้วย
18 ชาวเมืองมัตสึยะมะมาร่วมแรงร่วมใจใน Music Parade 19 เมืองนี้ยังน�ำเอารถไฟรุ่นเก่ามาประยุกต์ ให้บริการ่ 20 ลองปั่นจักรยาน (ไฟฟ้า) เที่ยวชมเมือง แต่ปั่นได้พักเดียวก็หยุด เพราะหนาวเกิน 21 อากาศหนาวๆ เดินไปเจอปิ้งหอย
‘Poupelle of Chimney Town’ Exhibition จาก Photo Book ‘Poupelle of Chimney Town’ ผลงานสุดโด่งดังของ Akihiro Nishino ศิ ล ปิ น และนั ก แสดงชาวญี่ ปุ ่ น ได้ ถู ก น� ำ มาจั ด แสดงในรู ป แบบของ Illumination Exhibition ในงานเทศกาล Matsuyama Design Week ครั้งนี้ด้วย จ�ำนวนงานที่แสดงมีทั้งหมด 41 ชิ้น ถูกจัดวางตามที่ต่างๆ ในเมือง ทั้งในห้างสรรพสินค้า ตามหน้าร้านบนถนนย่านช้อปปิ้ง หน้าร้านบนถนนทางเดินไป Ropeway ที่จะไปขึ้นเที่ยวชม ปราสามมัตสึยะมะ เท่าที่เราได้ ไปเดินชมผลงานของเขาในรูปแบบนี้ บอกได้เลยว่าน่าสนใจมาก ทีเดียว ยิ่งถ้าได้ชมในเวลาค�่ำคืนจะยิ่งดูงดงามเป็นพิเศษ นอกจากนี้แล้วเจ้าของผลงานยังมาจัด Workshop ให้กับผู้คนที่สนใจในเทศกาลอีกด้วย
26
b side
ไฮไลท์โชว์บนเวทีในวันนัน้ คือ AKB48 Team8 ซึ่งมากัน 3 คน และหนึ่งในนัน้ คือ Kaoru Takaoka เป็ นเด็กท้องถิ่นด้วย โชว์สนุ กตามสไตล์ คนดูสนุ กสนาน ดูแลว้ ไม่น่าแปลกใจทีโ่ ปรเจ็คท์ AKB48 จะโด่งดังไปทัว่ ไม่เว้นแม้แต่เมืองไทย ตามโปรแกรมการแสดงดนตรี เมือ่ จบโชว์ทงั้ 5 โชว์บนเวทีแล ้ว จะเป็ น Music Parade โดยให้ศิลปิ นและนักดนตรีทอ้ งถิน่ ร่วมกัน ร้องบรรเลงและเดินพาเหรดในย่านนัน้ ซึง่ พอดีวนั นัน้ ฝนตก การเดิน พาเหรดจึงเป็ นการเดินในโซนบนถนนช็อปปิ้ งที่อยู่ใต้หลังคาทัง้ หมด อันนี้ตอ้ งบอกว่าสนุ กและไอเดียดีครับ อีกทัง้ เพลงทีเ่ ลือกมาบรรเลง (แบบจบเพลงแลว้ ก็ข้ นึ ต้นใหม่วนไปวนมา) ก็เป็ นเพลงที่หลายคน คงคุน้ หูคอื เพลง Sukiyaki เห็นได้ว่าการน�ำเอา ‘ดนตรี’ มาเป็ นสื่อในการเสนอโปรเจ็คท์ Matsuyama Design Week ประสบความส�ำเร็จได้เป็ นอย่างดี ผูค้ น ต่ า งก็ ส นุ ก สนานกับ การดู แ ละฟัง เพลงในวัน นั้น ทัง้ ยัง ร่ ว มกัน เดินพาเหรดกันด้วย ในขณะทีค่ วามคิดและการแสดงทีศ่ ิลปิ นต้องการ สือ่ ออกมาก็เข้าถึงคนดูได้ด.ี ..
หลังจากจบจากการดูดนตรีและร่วมเดินพาเหรด คุณแอนนา และคุณซาโยโกะ ก็ชวนเราไปดูเดินดูผลงานบางส่วนของ ‘Poupelle of Chimney Town’ Illumination Exhibition ของศิลปิ น Akihiro Nishino ทีจ่ ดั วางแสดงอยู่ตามหน้าร้านต่างๆ ก่อนทีเ่ ราจะไปกินมื้อค�ำ่ ทีร่ า้ น Chicken George ร้านแนวอิซาคายะปิ้ งย่างแกล ้มเบียร์ไม่ไกล จากทีพ่ กั เท่าไรนัก คื น นัน้ ผมเดิน กลับ ไป Bokke ร้า นคราฟท์เ บีย ร์ร า้ นเดิม แต่คราวนี้ไม่ได้เดินคนเดียวแลว้ เพราะทัง้ หมดที่กินมื้อเย็นด้วยกัน ต่างก็ตามผมไปทุกคน ไม่อยากบอกเลยว่า ตอนเย็นวันถัดมา (อาทิตย์ 11 กุมภาพันธ์) ผมก็นงั ่ เครือ่ งบิน 3 ต่อรวดจากมัตสึยะมะ กลับมาถึงเชียงใหม่ตอนเช้า วันจันทร์ท่ี 12 กุมภาพันธ์ดว้ ยอาการมึนๆ ง่วงๆ อีกเช่นกัน แล้วไว้เจอกันใหม่ มัตสึยะมะ.
Interview With
AKB48
TEAM 8
คาโอรุ ทาคาโอกะ (Kaoru Takaoka) จากเมืองมัตสึยะมะ, จังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) อิคูมิ นาคาโนะ (Ikumi Nakano) ตัวแทนจากจังหวัดทตโตะริ (Tottori) เซะริกะ นางาโนะ (Serika Nagano) ตัวแทนของจังหวัดโอซาก้า (Osaka) Q : พวกคุณทั้งหมดมาจากต่างจังหวัดกันใช่ ไหม? A : ใช่ค่ะ แต่ละคนก็จะเป็ นตัวแทนของแต่ละจังหวัดในญีป่ ่ นุ ค่ะ Q : ในฐานะตัวแทนของเมืองมัตสึยะมะ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับ งาน Design Week? ช่วยบอกถึงสิ่งที่คุณเห็นว่าน่าสนใจ เกี่ยวกับงานนี้ ให้เราฟังหน่อย A : (ทาคาโอกะ) : งานนี้เป็ นกิจกรรมที่จดั ขึ้นเพื่อเพื่อโปรโมต
เมืองมัตสึยะมะ ดังนัน้ จึงเป็ นการดีท่จี ะน�ำเสนอสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจ ของมัตสึยะมะ รวมทัง้ การท�ำให้ผูค้ นได้รูจ้ กั Team8 มากยิง่ ขึ้นด้วย
Q : คุณอยากจะประชาสัมพันธ์มตั สึยะมะในแง่มมุ ไหนบ้าง ส�ำหรับ ตลาดต่างประเทศ? A : (ทาคาโอกะ) : ก่ อนอื่นฉันอยากจะบอกว่าชาวมัตสึยะมะนัน้
มีมติ รไมตรีมากๆ เราอยากให้คนทัว่ ไปได้ทราบว่าย่านโดโงะออนเซน (Dogo Onsen) เป็ นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วยอดนิยม และปราสาทมัตสึยะมะ (Matsuyama Castle) ก็เป็ นอีกแห่งหนึ่งที่เราอยากแนะน�ำ ที่น่ี มีจดุ ชมวิวทีส่ วยงามมาก
Q : แล้ ว คุ ณ นาคาโนะกั บ คุ ณ นางาโนะ มี ค วามคิ ด เห็ น ยั ง ไง เกี่ยวกับมัตสึยะมะบ้าง A : (นาคาโนะ & นางาโนะ) : นี่เป็ นครัง้ แรกของพวกเราทีไ่ ด้มาที่
มัตสึยะมะ จังหวัดเอฮิเมะค่ะ เมือ่ วานนี้เราไปกิน ‘จาโกะเทน’ ลูกชิ้นปลา
ซึง่ เป็ นอาหารท้องถิน่ ของเอฮิเมะ ส่วนเช้านี้เรากิน ‘ทาร์ตอิชโิ รกุ’ ซึง่ เป็ น หนึ่งในของฝากยอดนิยมของมัตสึยะมะที่คาโอรุจงั (ทาคาโอกะ) เอามาให้เรา มันอร่อยมากจริงๆ ค่ะ
Q : พวกคุ ณ เคยมี ไ ปแสดงให้ แ ฟนๆ ในต่ า งประเทศได้ ช ม มาก่อนไหม? A : (นางาโนะ) : Team8 เคยไปแสดงทีฟ่ ิ ลปิ ปิ นส์หลายครัง้ แล ้วค่ะ
พวกเราไปร้องเพลงและเต้นต่อหน้าแฟนๆ ชาวฟิ ลปิ ปิ นส์ของเรา
Q : พวกคุ ณ ได้ รั บ การตอบรั บ ยั ง ไงบ้ า งจากแฟนๆ ชาวฟิลิปปินส์? A : พวกเขาตื่นเต้นกันมาก มันเยีย่ มยอดมากเลยค่ะ Q : ส่วนมากพวกเขาอายุเท่าไหร่? A : ส่วนใหญ่ยงั เด็กมาก คนส่วนใหญ่ทม่ี าดูการแสดงของพวกเรา
เป็ นผูช้ าย อายุระหว่าง 10 - 20 ปี
Q : แล้วคุณเคยไปที่ ไหนมาอีกบ้าง? A : ไทยและปักกิ่งค่ะ Q : จะมี ไปแสดงที่ต่างประเทศที่ ไหนบ้างในเร็วๆ นี้ ? A : สมาชิกของ AKB48 จะไปเปิ ดการแสดงสดทีเ่ กาะกวมในเดือน
เมษายนทีจ่ ะถึงนี้ (21 เมษายน 2018) พวกเราอยากจะไปเทีย่ วชม สถานทีต่ ่างๆ และอยากท�ำให้คนต่างชาติรูจ้ กั พวกเราให้มากยิง่ ขึ้น
Thank You Wongsathan Jessadaporn / Anna Suzuka / Sayoko Shinotani INFINITY COMMUNICATIONS (www.dccom.co.jp)
27
b side
Journey & Amazing Dishes คอลัมน์นี้เกิดจากความตื่นเต้นของเราที่ได้ไปเจออาหารแปลกๆ ใหม่ๆ แบบ... เฮ้ย!!! เพิ่งเคยเห็นง่ะ จากการท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือแม้แต่ในประเทศเอง อาหารนั้นๆ ส�ำหรับหลายๆ คนคงไม่รู้สึก wowww! แต่อีกหลายคนต้อง wowww! แน่ๆ เพราะไม่รู้จักเช่นเดียวกับเรา ซึ่งอาจไม่ได้เป็นอาหารที่แปลกหรือเป็นอาหาร พืน้ บ้านธรรมดา แต่กท็ ำ� ให้เรา wowww! ได้ จนเราต้องไปค้นหาสูตรเพือ่ ทีจ่ ะปรุงรสชาติให้เหมือนหรือคล้ายทีส่ ดุ และบางทีกเ็ ป็นเเรงบันดาลใจให้เราดีไซน์เมนูใหม่ๆ ขึน้ มาซะเลย
01
02
THAI HOM MALI RICE ICE CREAM @ ROI-ET ไ อ ศ ค รี ม ข้ า ว ห อ ม ม ะ ลิ @ ร้ อ ย เ อ็ ด เรื่อง/ภาพ : Missน�้ำปู๋
Wowww… หอมกลิ่นข้าวอ่อนๆ ด้วย!!! ณ ร้านเนยสดปาร์ค, ร้อยเอ็ด
ปี 2014 ได้ไปเที่ยวอีสานแบบจริงจังครัง้ แรก ก็คราวนี้เพราะไปเป็ น ชวนป๋ วยตราลูกกตัญญู (แม่ชวนเทีย่ ว) และอีสานตอบโจทย์ได้หมด ทัง้ อาหาร ศิลปวัฒนธรรม ดนตรี และทีเ่ ราทีต่ งั้ ใจไปเทีย่ วอีสานก็เพือ่ ... ‘กิน’ จากเชียงใหม่ไปอีสานโดยเครือ่ งบินมีให้เลือกหลายสายการบินขึ้นอยูก่ บั ว่า จะลงจังหวัดไหน ทริปนี้เราเลือกลงอุดรธานีเพราะตัง้ ใจเทีย่ ว - กินในจังหวัด ละแวกนัน้ ก่อนจะไป ‘ร้อยเอ็ด’ เราเลือก Air Asia เพราะชอบกินอาหารทีจ่ ำ� หน่าย บนเครื่อง... อร่อยมากแค่จองอาหารทางออนไลน์ลว่ งหน้าตอนซื้อตัว๋ (เพือ่ ให้ แน่ใจว่าได้กนิ แน่ๆ) เทีย่ วร้อยเอ็ด 2 วัน แน่นอนว่าต้องไปเทีย่ ววัดเพราะไปกับผูใ้ หญ่และ ภาคอีสานมีวดั เยอะ ที่มชี ่อื เสียงก็มากด้วย... วัดแรกที่ไปคือ ‘วัดผาน�ำ้ ทิพย์ เทพประสิทธิ์วราราม’ ซึ่งเป็ นที่ตงั้ ของ ‘พระมหาเจดียไ์ ชยมงคล’ ซึ่งได้ช่ือว่า เป็ นเจดียอ์ งค์ใหญ่ท่ีงดงามตระการตามากที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย... ทางเข้าวัดมีรา้ นอาหารชือ่ ‘VR ปลาเผา’ เราไปติดใจไก่ยา่ ง เพราะไก่ยา่ งของอีสาน ส่วนใหญ่จะตัวเล็ก ย่างแห้ง หนังกรอบ อร่อยมากกกก แถม ‘แจ่ว’ ของทีน่ ่ี ก็อร่อยมาก มีกลิน่ และรสชาติพเิ ศษ เฉพาะตัวทีเดียว ส่วนส้มต�ำเเน่นอนอยู่แล ้ว มาถึงถิน่ ต้องปูปลาร้า!
03
28
b side
วัดที่สองเราไป ‘วัดป่ ากุง’ เป็ นวัดที่มีเจดีย ์ หินทรายซึง่ จ�ำลองแบบมาจาก ‘บรมพุธโธ (Borobudur)’ ประเทศอินโดนีเซีย บริเวณวัดมีตน้ ไม้ร่มรื่นถูกใจ พวกเราจึง นัง่ พัก เหนื่ อ ยและให้อ าหารปลากัน อยู่ พักใหญ่ เพราะปลาในบ่อดูเหมือนจะหิวมาก โยนอะไร ลงไปให้ก็กินหมด จนขนมที่แม่พกมาหมดเกลี้ยง!!! ให้อาหารปลาแลว้ ก็ถงึ เวลาให้อาหารกับตัวเองบ้าง… ‘สวนอาหารฟอล์คแลนด์’ เราประทับใจปลานิลตัวเล็ก เป็ นแพติดกันทอดกรอบ กินได้ทงั้ ตัว เริ่ดมากกกก... 06 07
08
04
Amazing Dish ( ไอศครีมข้าวหอม) 01 ภายในพระมหาเจดียไ์ ชยมงคล 02 เจดีย์หินทรายในวัดป่ากุง 03 วิวทิวทัศน์บนชั้น 7 ของพระมหาเจดีย์ไชยมงคล 04 - 05 มุมหนึง่ ของเจดียห์ นิ ทรายในวัดป่ากุง 06 ความร่มรื่นภายในวัดป่ากุง 07 ปลานิลตัวเล็กเป็นแพติดกันทอดกรอบ ร้านฟอล์คแลนด์ 08 ไก่ยา่ งร้าน VR ปลาเผา 09 ของฝากจากร้อยเอ็ดและละแวกใกล้เคียง 10 แพส�ำหรับให้เต่าพักที่บึงพลาญชัย
05
09
หลังอาหารแล ้วก็อยากกินขนมกินกาแฟ ท�ำให้เราไปเจอ Amazing Dish ที่รา้ น ‘เนยสดปาร์ค’ แค่ เห็นชื่อเมนู ‘ไอศกรีมข้าวหอมมะลิ’ เรากระดีก๊ ระด๊าทันที พอตักเข้าปาก แค่ นนั้ แหละ Wowww… หอมกลิ่นข้าวอ่อนๆ ด้วย!!! รสชาติหวานมันอ่อนๆ แต่ท่มี เี สน่ หค์ ือกลิน่ ข้าวหอมมะลิ นัน่ เอง... สิง่ ทีท่ ำ� ให้เราประทับใจ นอกจากของฝากจากร้อยเอ็ด เช่ น มวยนึ่ ง ข้า วเหนี ย ว (ใช้ส ำ� หรับ หม้อ หุง ข้า วไฟฟ้ า), ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา ๑๐๑, มะพร้าวแก้วจากหนองคาย, กระทะท�ำไข่กระทะ และผ้าจากตลาดผ้าบ้านนาข่า อุดรธานีแล ้ว อีกอย่างที่เราประทับใจที่รอ้ ยเอ็ดก็คือ เราไปเห็นว่ามีแพ ขนาดเล็กมากกกก อยูต่ รงเกาะกลางบึงพลาญชัย ทีแ่ พเขียนป้ าย ติดไว้ว่า ‘แพพักเต่า’ และเราก็เห็นเต่าตัวเป็ นๆ หนึ่งตัว มาพักอยู่จริงๆ น่ารักน่าเอ็นดูมาก ช่างคิด ช่างท�ำ เรียบง่าย แต่กลับท�ำให้เรายิ้มและอารมณ์ดไี ปทัง้ คืนเลย...
10
29
b side