HIP MAGAZINE ISSUE 145 : NOVEMBER 2016 (SECTION A)

Page 1



KING BHUMIBOL ADULYADEJ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

‘ในหลวงในดวงใจ’ เรื่อง : ระพินทรนาถ / ศมนภรณ์

บรรยากาศตอนหนึ่งทุ่มของวันที่ 13 ตุลาคม ทีส่ ำ� นักงานของฮิพ แม็กกาซีน คงไม่ต่าง ไปจากทีอ่ ่นื ๆ อีกหลายทีท่ วั ่ ทัง้ ประเทศ เมือ่ ผูป้ ระกาศเริ่มอ่านรายละเอียดตามแถลงการณ์ ของส�ำนักพระราชวัง เรื่องการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดุลยเดช หลังความเงียบงันในค�ำ่ คืนนัน้ แม้ชีวติ ยังต้องเดินต่อไปตามหน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบ แต่พวกเราทุกคนรูส้ กึ เหมือนกันว่าบางอย่างในชีวติ จะไม่มวี นั เหมือนเดิม การประชุมกันใน 2-3 วันต่อมา เราตัดสินใจเก็บแผนการท�ำคอลัมน์พเิ ศษต่างๆ ทีเ่ ตรียมไว้ เพือ่ ลงในฉบับนี้ ซึง่ เป็ นฉบับขึ้นปี ท่ี 13 ของฮิพ แม็กกาซีนออกทัง้ หมด และเห็นตรงกันว่า พวกเราอยากท�ำอะไรสักอย่างเพือ่ ร�ำลึกถึง ‘พระเจ้าอยู่หวั ’ ของพวกเรา และนัน่ คือสิง่ ทีผ่ ูอ้ ่าน จะได้พบในหน้าต่อจากนี้ไป เรื่องราวทีจ่ ะได้อ่านต่อจากนี้อาจจะไม่ครอบคลุมทุกพระราชกรณียกิจตลอดรัชสมัย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดุลยเดช แต่เราขอเลือกบางแง่มมุ ที่ ‘จับหัวใจ’ พวกเราทีน่ ่มี าน�ำเสนอ ด้วยส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาทีส่ ุดมิได้ และหวังจะให้สง่ิ ทีเ่ รา ได้ทำ� ในครัง้ นี้ เป็ นดัง่ การถวายความอาลัยต่อการเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระองค์ เพราะพระองค์เป็ น ‘ในหลวงในดวงใจ’ ส�ำหรับพวกเรา

ภาพประกอบในเรื่องจากหนังสือ ‘ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ทิสโก้ จ�ำกัด ‘พระฉัตรเกล้าของชาวไทย’ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช, ส�ำนักจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร ‘งานช่างของในหลวง’ มหาวิทยาลัยศิลปากร ‘คีตมหาราชาสดุดี’ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ‘ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์’ โรงเรียนจิตรลดา ‘ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พัฒนาประเทศ’ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ‘กษัตริย์ & กล้อง : วิวัฒนาการการถ่ายภาพในประเทศไทย พ.ศ. 2388-2535’ ศักดา ศิริพันธ์

3

a side


THE KING’S MUSIC ‘เพลง’ ของ ‘พระราชา’ ย้อนกลับไปหลายปีก่อน สมัยที่ยังมีสถานภาพเป็นนักศึกษา ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง ที่ผมท�ำอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้องภายในหอพักของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพลงที่ได้ยิน จากวิทยุบนโต๊ะข้างเตียงดึงความสนใจของผมจากเรื่องที่ก�ำลังท�ำอยู่

ความทีเ่ พลงดังกล่าวเป็ นเพลงบรรเลง ไม่มเี นื้อร้อง จึงไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าเพลงนัน้ คือ เพลงอะไร เพียงแต่ดว้ ยท่วงท�ำนองและดนตรีในแบบแจ๊ซซ์ทส่ี ร้างความประทับใจอย่างยิง่ ท�ำให้ผม ตัง้ ใจฟังจนจบ ด้วยความหวังว่าเมือ่ ดีเจเอ่ยชื่อเพลงและศิลปิ นเจ้าของเพลงนี้ออกมา ผมจะได้ ไปหามาฟังและซื้อไว้ครอบครองบ้าง หลังจากบทเพลงจบลง สิง่ ทีด่ เี จเอ่ยออกมาไม่ใช่ช่อื เพลงหรือชื่อศิลปิ น แต่เป็ นการบอกว่า นี่คือบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดุลยเดช ก่อนที่เขาจะเอ่ย ชื่อเพลงและชื่อศิลปิ นทีน่ ำ� เพลงดังกล่าวมาบรรเลงต่อในภายหลัง สุดท้ายผมก็ไม่รูว้ ่าเพลงดังกล่าวชื่อว่าอะไร ใครเป็ นคนเล่น ไม่เคยจ�ำได้แม้แต่ท่วงท�ำนอง ว่าเพลงดังกล่าวมีทำ� นองแบบไหน แต่สง่ิ ทีจ่ ำ� ได้แม่นก็คือ ผมนัง่ นิ่งอยู่บนเตียง อยู่กบั ความรูส้ กึ ทีอ่ ธิบายไม่ถกู และยกมือไหว้รูปภาพของเจ้าของเพลงทีอ่ ยู่บนปฏิทนิ แขวนในห้องไปโดยไม่รูต้ วั ...

4

a side


ความทรงจ�ำ อย่ า งแรกเกี่ ย วกับ บทเพลง พระราชนิพนธ์ในชีวติ ผม เกิดขึ้นเมือ่ ได้เห็นเนื้อเพลง ‘เราสู ’้ บนสมุด แจกที่ไ ด้ร างวัล จากการประกวด ในกิจกรรมภายในโรงเรียน สมุดปกสีนำ�้ ตาลเล่มนัน้ ต่ า งจากสมุดของโรงเรียนที่เป็ นปกแข็งและมีสีสนั สวยงามกว่ า แต่ ส่ิง ที่ส มุด โรงเรี ย นไม่ มี คื อ ภาพ พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภู มิพ ลอดุ ล ยเดช ขณะพระราชทานสิ่ง ของให้ก บั นักเรียนในโรงเรียนทีต่ งั้ อยู่บนพื้นทีห่ ่างไกล ในวัยนัน้ ผมเข้า ใจเอาเองว่ า ‘เราสู ’้ เป็ น บทกลอนบทหนึ่ ง ก่ อนจะรู ใ้ นภายหลังว่านัน่ ไม่ใช่ แค่ บทกลอนเท่านัน้ แต่ยงั เป็ นเนื้อเพลง และเป็ นบทเพลงที่ ‘พระเจ้าอยู่หวั ’ ทรงเป็ นผูพ้ ระราชนิพนธ์ และเมือ่ โตขึ้นมาอีกหน่อย ผมจึงได้ยนิ ชื่อและ ได้ฟงั เพลงอย่าง ‘ยามเย็น’ ‘แสงเทียน’ ‘ชะตาชีวติ ’ ‘สายฝน’ ซึ่ ง เป็ นชื่ อ บทเพลงพระราชนิ พ นธ์ ที่คนส่วนใหญ่ น่าจะค่ อนข้างคุน้ เคยกันเป็ นอย่ างดี ยังไม่รวมถึงการที่เพลงเหล่านี้มกั จะถูกน�ำมาใช้งาน อยู่เสมอในวาระส�ำคัญต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงใกล ้วัน เฉลิมพระชนมพรรษา ทีเ่ พลงเหล่านี้จะออกอากาศทัง้ ทางสถานีวทิ ยุ รายการโทรทัศน์ หรือแม้แต่ผา่ นล�ำโพง ตามสถานทีร่ าชการและหน่วยงานต่างๆ บ่อยเป็ นพิเศษ ในขณะที่ พ ระบรมฉายาลัก ษณ์ ข ณะทรงดนตรี ในหลายๆ วาระ ก็ช่วยเพิม่ ความเข้าใจให้มากขึ้นว่า ก็เพราะพระองค์ทรงเป็ น ‘นักดนตรี’ นี่ละ่ พระองค์ จึงทรงเป็ น ‘นักแต่งเพลง’ ได้ดว้ ย แต่ในความเยาว์วยั ผมไม่รูห้ รอกว่าบทเพลงพระราชนิพนธ์นนั้ ไม่ได้มแี ค่ ทีต่ วั เองเคยได้ยนิ ชื่อ แต่มมี ากกว่านัน้

Did You Know เพลง ‘พรปีใหม่’ ที่ร้องกันติดปากในวันขึ้นปีใหม่ทุกๆ ปีนั้น เกิดขึ้นจาก การทีพ ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มีพระราชประสงค์ทจี่ ะพระราชทานพร ปีใหม่แก่พสกนิกรด้วยบทเพลง และได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า จักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำ� ร้องเป็นค�ำอวยพรปีใหม่ ก่อนจะพระราชทานให้ วงดนตรีนสิ ติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น�ำออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และวงดนตรีสนุ ทราภรณ์ น�ำออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลิมไทย ในวันปีใหม่ พ.ศ.2495

5

a side

ครัง้ แรกที่ผ มได้ร บั รู เ้ รื่ อ งราวของบทเพลง พระราชนิพนธ์ว่ามีทงั้ หมดถึง 48 เพลง เรื่องที่ผม อยากรู ม้ าก (ในเวลานัน้ ) ก็คือพระองค์ทรงใช้เวลา ตอนไหนในการพระราชนิพนธ์เพลง? เพราะสิ่งที่ผม เห็นในข่าวในพระราชส�ำนักตัง้ แต่เป็ นเด็กจนกลายเป็ น วัยรุ่น คือการได้เห็นพระองค์เสด็จไปตามสถานทีต่ ่างๆ อยูเ่ สมอ หรือถ้าทรงประทับอยูใ่ นกรุงเทพฯ ก็ดูเหมือน จะมีผูค้ นมากมายมาขอเข้าเฝ้ าอยู่แทบทุกวัน จนไม่น่า จะทรงเหลือเวลาไว้ท�ำอะไรอย่างอืน่ ได้อกี เลย และเมือ่ ได้รูด้ ว้ ยว่า บทเพลงทัง้ หลายเหล่านี้มี ‘แนวเพลง’ ที่ แตกต่างกันออกไป กับการที่เพือ่ นซึ่งเล่นดนตรีเป็ น เคยบอกผมไว้วา่ ‘เพลง’ ของพระเจ้าอยู่หวั นัน้ ‘ยาก’ เพราะมีจงั หวะและท่วงท�ำนองทีส่ ลับซับซ้อน ซึง่ คนที่ ไม่ได้เล่นดนตรีอาจจะไม่เข้าใจ ก็ทำ� ให้ความ ‘ทึง่ ’ ทีม่ ตี อ่ พระอัจ ฉริย ภาพด้า นการพระราชนิ พ นธ์เ พลงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั เพิม่ มากขึ้น ยิง่ ไปกว่านัน้ ผมยังได้รูไ้ ปพร้อมๆ กันด้วยว่า หลายบทเพลงทีเ่ คยได้ยนิ ผ่านหูโดยไม่รูม้ าก่อนว่าใคร เป็ นผูแ้ ต่ง ซึง่ เป็ นเพลงของหน่วยงานในกองทัพและ มหาวิ ท ยาลัย มาจากการที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หวั ทรงพระราชนิพนธ์บทเพลงพระราชทาน ให้ห น่ ว ยงานเหล่ า นั้น โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง เพลง ‘มหาจุฬาลงกรณ์’ และ ‘ยูงทอง’ ซึง่ เป็ นเพลงประจ�ำ มหาวิท ยาลัย ของจุ ฬ าลงกรณ์ ม หาวิท ยาลัย และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ที่จะได้ยนิ ประจ�ำในการ แข่งขันฟุตบอลประเพณี จุฬา – ธรรมศาสตร์) และเมือ่ รวมถึงการทีบ่ ทเพลงต่างๆ ทีท่ รงพระราชนิพนธ์ข้นึ นัน้ ได้พ ระราชทานให้แ ก่ อ งค์ก รต่ า งๆ ได้น� ำ ไปใช้ ในหลายวาระ จึงหมายความว่า ‘เพลง’ ของพระเจ้าอยูห่ วั ไม่ได้มีคุณค่ าเฉพาะในแง่ของความไพเราะเท่านัน้ แต่วา่ ยังเกิดประโยชน์ต่อผูค้ นอีกมากมายอีกด้วย


Did You Know ‘ลายคราม’ ‘อ.ส.วันศุกร์’ และ ‘สหายพัฒนา’ คือชือ่ ของวงดนตรีทพ ี่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชส่ ง ก่ อ ตั้ ง และเป็ น สมาชิ ก ในวง โดยวงลายคราม เป็ น วงดนตรี ว งแรก เกิ ด ขึ้ น จากการรวบรวมบรรดานั ก ดนตรี ส มั ค รเล่ น และพระราชวงศ์ ผู ้ ใ หญ่ ที่ ท รงคุ ้ น เคย ต่อมาเมื่อมีนักดนตรีรุ่นหนุ่มมาเล่นดนตรีร่วมกับวงลายคราม จึงเกิดเป็นวง อ.ส.วันศุกร์ ขึ้น โดยวง อ.ส. วันศุกร์ จะเล่นดนตรีออกอากาศกระจายเสียงทางสถานีวิทยุประจ�ำวันศุกร์ (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวง) และยังเป็นวงดนตรีที่โปรดให้ไปร่วมบรรเลงในงาน ‘วันทรงดนตรี’ ตามที่มหาวิทยาลัยต่างๆ กราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ส่วนวงสหายพัฒนา เกิดจากการรวบรวม ผู ้ ป ฏิ บั ติ ร าชการใกล้ ชิ ด เบื้ อ งพระยุ ค ลบาท ซึ่ ง ส่ ว นใหญ่ ไ ม่ เ คยเล่ น ดนตรี กั น มาก่ อ น โดยพระราชทานเวลาฝึกสอนให้ จนสามารถตั้งเป็นวงขึ้นได้ส�ำเร็จ 6

a side


Did You Know ค�ำว่า อ.ส. ในชื่อวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ เป็น อักษรย่อของ ‘พระที่นั่งอัมพรสถาน’ ซึ่งเป็น สถานทีท่ ใี่ ช้ออกอากาศครัง้ แรก โดยสถานีวทิ ยุ อ.ส. นั้ น เป็ น สถานี วิ ท ยุ ที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยูห่ วั ทรงตัง้ ขึน้ เมือ่ ปี พ.ศ.2495 ณ พระราชวั ง ดุ สิ ต เมื่ อ เสด็ จ พระราชด� ำ เนิ น กลับมาประทับอยู่ในประเทศไทยเป็นการถาวร และใช้เครื่องส่งสัญญาณรุ่นแรกจากเครื่อง ทีก่ รมประชาสัมพันธ์ทลู เกล้าฯ ถวายและท�ำการ ติดตั้งให้ ก่อนที่ภายหลังจะย้ายไปตั้งสถานีใน พระต�ำหนักจิตรลดารโหฐาน ในปี พ.ศ.2500

นับตัง้ แต่ วนั ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต เรือ่ งราวพระราชประวัติ และพระราชกรณี ย กิจ ในด้า นต่ า งๆ ของพระองค์ ถูกน�ำมาถ่ายทอดอีกครัง้ ผ่านช่องทางต่างๆ ซึง่ ภายใต้ ความเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ทไ่ี ม่มใี ครอยากให้เกิด และต่างไม่เคยรับมือกันมาก่อน ก็ยงั มีความงดงาม ของการได้หวนร�ำลึกถึงพระราชกรณียกิจทีป่ ระทับอยู่ ในความทรงจ�ำ ของคนไทยมาตลอดหลายสิ บ ปี และแน่ น อนว่ า รวมไปถึง การได้ยิน ได้ฟ งั บทเพลง พระราชนิพนธ์ทงั้ หลายทีถ่ กู หยิบมาน�ำเสนออีกครัง้ ใน หลากหลายรูปแบบและจากหลากหลายฝี มอื นักดนตรี ซึง่ ช่วยกระตุน้ เตือนความทรงจ�ำทีเ่ คยได้เห็น ได้อ่าน และได้ยนิ ได้ฟงั เรื่องราวเหล่านี้เมือ่ นานมาแล ้ว ในที่น้ ี จ ะขอน�ำ เนื้ อ หาส่ ว นหนึ่ ง จากหนัง สือ ‘เจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย’์ ทีส่ มเด็จพระเจ้าพีน่ างเธอ เจ้าฟ้ ากัลยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระนิ พ นธ์ไ ว้ มาช่ ว ยอธิ บ ายให้ไ ด้เ ห็ น ภาพ เมือ่ ครัง้ ที่ ‘พระเจ้าอยู่หวั ’ ทรงเริ่มต้นหัดเล่นดนตรี

“สิง่ ทีท่ รงเล่นมาด้วยกันเป็ นเวลานานคือดนตรี รัชกาลที่ 8 ทรงเริ่มด้วยเปี ยโนเพราะเห็นข้าพเจ้า เรียนอยู่ รัชกาลที่ 9 ขอเล่นหีบเพลง (Accordion) เรียนอยู่ไม่ก่ีครัง้ ก็ทรงเลิก “เพราะไม่เข้ากับเปี ยโน” แล ้วรัชกาลที่ 8 ก็ทรงเลิกเรียนเปี ยโนไป เมือ่ อยูอ่ าโรซ่า เวลาหน้าหนาว ได้ทอดพระเนตรวงดนตรีวงใหญ่ทเ่ี ล่น อยู่ทโ่ี รงแรม รูส้ กึ อยากเล่น ทรงหาแซกโซโฟนทีเ่ ป็ น ของใช้แล ้ว (Second Hand) มาได้ ราคา 300 แฟรงค์ แม่ออกให้ครึ่งหนึ่งและสโมสรปาตาปุม ออกให้อีก ครึ่งหนึ่ง เมือ่ ครูมาสอนที่บา้ น รัชกาลที่ 8 ทรงดัน พระอนุชาเข้าไปในห้องเรียน รัชกาลที่ 9 จึงเป็ นผูร้ เิ ริ่ม เมือ่ เรียนไปแล ้ว 2-3 ครัง้ รัชกาลที่ 8 ทรงซื้อแคลริเน็ต (Clarinet) ส่วนพระองค์ วันเรียน ครู สอนองค์ละ 30 นาที แล ้วครูกเ็ อาแซกโซโฟน (Saxophone) ของเขา ออกมาและเล่นด้วยกันทัง้ 3 เป็ น Trio” ขณะทีใ่ น ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงศึกษา ดนตรี’ พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุ ม ารี ยัง ทรงเล่ า เกี่ ย วกับ ความ สนพระราชหฤทัย ในการทรงศึ ก ษาเครื่ อ งดนตรี ชนิดอืน่ ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ซึง่ ท�ำให้ เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ได้ชดั เจนมาก ยิง่ ขึ้น ดังเช่นในตัวอย่างทีไ่ ด้หยิบยกมาต่อจากนี้ “...ส�ำหรับแตรนัน้ สนพระราชหฤทัยจึงไปเช่ามา เป็ นแตรคอร์เน็ต อีกหลายปี จงึ ทรงซื้อเอง ดูเหมือนว่า แตรทรัมเป็ ตเครื่องแรกที่ทรงซื้อ จะ เป็ นแตรยี่หอ้ เซลเมอร์ สัง่ ซื้อ จากอัง กฤษ แต่ เ ป็ น ของฝรัง่ เศส (เครื่องนี้พระราชทานวงสุนทราภรณ์ไป) จึงซื้อใหม่ ยี่หอ้ เซลเมอร์เหมือนกัน ครู เวย์เบรชท์บอกว่าแตร ดีทส่ี ุดคือยีห่ อ้ กูรต์ วั แต่ไม่ได้ทรงซื้อ...” “… ส�ำ หรับ เครื่ อ งดนตรี ต่ า งๆ ที่ท รงเล่ น มีเปี ยโน ไม่เคยทรงเรียนจริงจังจากใคร เล่นเอาเอง ดู โ น้ต เรี ย นวิ ธี ป ระสานเสี ย ง กี ต าร์ ทรงเล่ น เมือ่ พระชนม์ราว 16 พรรษา เพือ่ นทีโ่ รงเรียนเป็ นรุ่นพี่ อายุมากกว่าให้ยมื เล่น ภายหลังเอาไปคืน เขาเห็นว่า สนใจจึงให้เลย ขลุย่ ทรงเล่นเมือ่ พระชนม์ประมาณ 16-17 พรรษา เห็นว่าราคาไม่แพงนัก เล่นไม่ยาก นิ้วคลา้ ยๆ แซกโซโฟน... ตอนหลังเคยเห็นทรงเล่น ไวโอลินด้วย คิดว่าทรงเล่นเอาเองไม่มคี รูสอนดนตรี…” จากเรื่ อ งราวที่ ห ยิ บ ยกมาเป็ นตั ว อย่ า ง ให้เ ห็น ภาพนี้ จึง ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งน่ า แปลกใจอัน ใดเลย ที่ ‘พระเจ้าอยู่หวั ’ จะทรงพระราชนิพนธ์เพลงไว้ได้ มากมายเช่นที่ได้กล่าวไว้ขา้ งต้น ก็ดว้ ยเพราะทรงมี ความสนพระทัยและมีพ้ ืนฐานที่ดีตงั้ แต่ ตน้ อยู่แลว้ นัน่ เอง

7

a side

นอกจากความเป็ นมาในเรือ่ งการทรงดนตรีแล ้ว เรื่ อ งราวการพระราชนิ พ นธ์ แ ต่ ล ะบทเพลงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ก็มรี ายละเอียดทีน่ ่าสนใจ ไม่ยง่ิ หย่อนไปกว่ากัน การได้เ ห็น ได้อ่ า น ได้ยิน ได้ฟ งั เรื่อ งราว เกีย่ วกับพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระองค์ในช่วง ทีผ่ ่านมา ท�ำให้ผมได้ทบทวนความรูเ้ ดิมๆ ของตัวเอง และเพิม่ ความรูใ้ หม่ทย่ี งั ไม่เคยรูม้ าก่อน เรื่องทีเ่ คยรู ้ มาก่อนแลว้ ก็อย่างเช่น เพลง ‘แสงเทียน (Candle Light Blue)’ เป็ นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรก ทีท่ รง พระราชนิพนธ์ตงั้ แต่เมือ่ ครัง้ ยังเป็ นสมเด็จพระอนุ ชา ในรัชการที่ 8 แต่คนมักจะจ�ำสลับกับเพลง ‘ยามเย็น (Love at Sundown)’ ซึ่งเป็ นเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงทีส่ อง แต่เป็ นเพลงแรกทีพ่ ระราชทานให้ประชาชน ได้ฟงั ในปี พ.ศ. 2489, ตัวย่อภาษาอังกฤษในชื่อเพลง ‘ชะตาชีวติ (H.M.Blues)’ ไม่ได้มาจาก His Majesty’s Blues อย่างทีห่ ลายคนเข้าใจ แต่วา่ มาจาก Hungry Men’s Blues ต่างหาก (และเพลงดังกล่าวยังเป็ น เพลงแรกที่ท รงพระราชนิ พ นธ์ห ลัง เสด็จ ขึ้น ครอง สิริราชสมบัติ), เพลง ‘เราสู’้ เกิดจากการที่พระองค์ ทรงหยิบซองจดหมายใกล ้พระหัตถ์มาตีบรรทัด 5 เส้น เพื่อ ทรงพระราชนิ พ นธ์ท �ำ นองเพลง หลัง จากที่ นายสมภพ จันทรประภา ได้ประพันธ์กลอนสุภาพ 4 บท จากพระราชด� ำ รั ส ที่ พ ระราชทานแก่ สมาชิ ก สภานิ ติบ ญั ญัติ ณ พระต�ำ หนัก จิต รลดารโหฐาน มาเขียนเป็ นค�ำกลอนถวาย เป็ นต้น ส่ ว นเรื่ อ งที่เ ป็ น ‘ความรู ใ้ หม่ ’ ก็ อ ย่ า งเช่ น เพลง ‘แผ่นดินของเรา (Alexandra)’ นัน้ แต่เดิม เป็ นเพลงสากลทีท่ รงพระราชนิพนธ์ในโอกาสทีเ่ จ้าหญิง อเล็กซานดราแห่งเคนท์ สหราชอาณาจักร เสด็จเยือน ประเทศไทยในปี 2502 และภายหลังได้เพิ่มค�ำร้อง ภาษาไทยจนกลายเป็ นเพลง ‘แผ่นดินของเรา’, เพลง ‘ค�ำ่ แล ว้ (Lullaby)’ เกิด จากการที่ท รงอิเ ล็ก โทน เพลงดังกล่าว ขณะที่ออ้ มพระกรข้างหนึ่งอุม้ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมือ่ ครัง้ ยังทรงพระเยาว์อยู่จนทรงหลับไป, เพลง ‘เมนู ไข่’ เป็ นเพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ข้ ึนเพื่อพระราชทาน เป็ น ของขวัญ วัน พระราชสมภพครบ 72 พรรษา ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ ากัลยาณิ วฒั นา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ด้วยทรงร�ำลึกได้วา่ สมเด็ จ พระเชษฐภคิ นี โ ปรดเสวยพระกระยาหาร ทีท่ ำ� จากไข่ เป็ นต้น การได้ ‘เรียนรู’้ เกีย่ วกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ อีกครัง้ เช่นนี้ ถือเป็ นความสุขเล็กๆ อย่างหนึ่ง ภายใต้ ความโศกเศร้าทีเ่ ต็มไปทัว่ ประเทศในยามนี้จริงๆ


เมือ่ ครัง้ ยังเป็ นนักศึกษา สิง่ หนึ่งทีผ่ มและเพือ่ น อีกหลายคนสงสัยและอยากรู ้ เมือ่ พูดคุยกันเรื่องเพลง พระราชนิ พ นธ์ข องพระบาทสมเด็จ พระเจ้า อยู่ ห วั ภูมพิ ลอดุลยเดช ก็คอื ว่า พระองค์ท่านทรงโปรดเพลง แนวไหน? และมีศิลปิ นคนใดบ้างที่ทรงชื่นชอบมาก เป็ นพิ เ ศษ? ซึ่ ง เนื้ อหาส่ ว นหนึ่ ง จากหนั ง สื อ ‘เจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย’์ ทีส่ มเด็จพระเจ้าพีน่ างเธอ เจ้าฟ้ ากัลยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ คงจะตอบค�ำถามนี้ได้เป็ นอย่างดี “เมือ่ ถึงเวลาสนพระทัยแผ่นเสียงก็แข่งกันอีก รัชกาลที่ 8 ทรงเลือก Louis Armstrong, Sidney Bechet รัชกาลที่ 9 ทรงเลือก Duke Ellington, Count Basie เกีย่ วกับการซื้อแผ่นเสียงนี้ ถ้าเป็ นแจ๊ซซ์ ต้องซื้อเอง ถ้าเป็ นคลาสสิคเบิกได้” หลายๆ คนคงทราบกันดีว่าพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หวั ทรงโปรด ‘ดนตรีแจ๊ซซ์’ โดยเฉพาะแนว ‘ดิก๊ ซีแ่ ลนด์’ มากเป็ นพิเศษ เพราะทรงหัดแซกโซโฟน กับเพลงจากแผ่นเสียงของนักดนตรีแจ๊ซซ์ท่ีมีฝีมือ หลายๆ คน อาทิเช่น Johnny Hodges และ Sidney Bechet เป็ นต้น จนทรงมีความช�ำนาญ เช่นเดียวกับ การที่พวกเราคนไทยน่ าจะเคยเห็นพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หวั ทรงดนตรีร่วมกับนักดนตรีชาวต่างชาติ มากมายหลายคน ทัง้ ที่เมืองไทยและเมื่อครัง้ เสด็จ พระราชด�ำเนินเยือนประเทศต่างๆ ในช่วงต้นรัชกาล รายชื่อของนักดนตรีอย่าง เบนนี่ กูด๊ แมน, ไลโอเนล แฮมพ์ตนั หรือ สแตน เกตซ์ ล ้วนแต่เป็ นชื่อทีค่ นชอบ ดนตรีแ จ๊ซ ซ์ต่ า งก็ รู ก้ นั เป็ น อย่ า งดีว่า เป็ น นัก ดนตรี ที่มชี ่ือเสียงโด่งดังและได้รบั การยอมรับในระดับสู ง ทัง้ สิ้น ดังนัน้ การที่บุคคลเหล่านี้ยินดีให้การยกย่อง พระมหากษัตริยจ์ ากต่างแดนที่มาเล่นดนตรีร่วมกับ พวกเขา เป็ นทัง้ การแสดงการยอมรับนับถือในฝี มอื รวมทัง้ เป็ นการ ‘รับประกัน’ พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี ทีด่ ยี ง่ิ กว่าใบประกาศรางวัลใดๆ เสียอีก เลส บราวน์ หัวหน้าวง Les Brown and His Band of Renown ซึง่ เคยอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ไปบรรเลงและบันทึก เสียง กล่าวไว้ในภาพยนตร์สารคดี ‘คีตราชัน’ ทีค่ ณะ กรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ส�ำนักนายกรัฐมนตรี จัดท�ำขึ้นเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ เนื่องในวโรกาส ฉลองศิ ริราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี พ.ศ. 2539 รวมทัง้ น�ำมาออกอากาศทางโทรทัศน์ดว้ ยในเวลาต่อมา กล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็ นนักดนตรีทย่ี ง่ิ ใหญ่ และหาก พระองค์ไม่ได้ทรงมีงานอย่างทีม่ อี ยู่ พระองค์ตอ้ งทรง เป็ นผูน้ ำ� วงดนตรีทป่ี ระสบความส�ำเร็จเป็ นแน่”

มิตรสหายคนหนึ่งได้โพสต์เอาไว้ในเฟซบุค๊ ของเขาเมือ่ ไม่นานมานี้วา่ การทีว่ งดนตรี อ.ส.วันศุกร์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดุลยเดช เล่นดนตรีสดออกอากาศทางสถานีวทิ ยุ อ.ส.ทุกวันศุกร์ ในสมัยก่อนนัน้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการแสดงสดแบบ Live Session ทีศ่ ิลปิ นมากมายในโลกนี้นิยมท�ำกัน ซึง่ ถือว่าเป็ นสิง่ ทีน่ ำ� สมัยมากๆ ในช่วงเวลานัน้ ถ้า จะมีอ ะไรที่ผ มรู ส้ ึก ว่า น่ า เสีย ดายในเรื่อ ง เกี่ ย วกับ เพลงพระราชนิ พ นธ์ ก็ เ ห็น จะเป็ น การที่ วงดนตรี อ.ส.วัน ศุ ก ร์ไ ม่ไ ด้เ ล่น ดนตรีอ อกอากาศ เหมือนแต่ก่อนอีกแล ้ว เพราะคงเป็ นเรื่องทีน่ ่าติดตาม มากๆ เมือ่ ได้รูว้ า่ ทุกๆ วันศุกร์ ‘พระเจ้าอยู่หวั ’ และ วงดนตรีของท่าน จะมาบรรเลงดนตรีให้พวกเราได้ฟงั ภายใต้ค วามเศร้า โศกที่เ ราก�ำ ลัง พยายาม ก้าวผ่าน ผมเชื่อว่าในที่ใดที่หนึ่ง คงจะมีใครซักคน ที่กำ� ลังเริ่มต้นท�ำความรู จ้ กั บทเพลงพระราชนิพนธ์ ได้ฟ งั เพลงเหล่า นี้ เ ป็ น ครัง้ แรก หรือ แม้แ ต่ ไ ด้รู ว้ ่า หลายๆ เพลงทีเ่ ขาและเธอเคยได้ยนิ นัน้ ก็เป็ นบทเพลง พระราชนิพนธ์ดว้ ยเช่นกัน และแม้วา่ เราคงไม่อาจจะคาดหวังให้ทกุ ๆ คน ชื่นชอบบทเพลงพระราชนิพนธ์ได้ เพราะดนตรีเป็ น เรื่ อ งของความชอบและรสนิ ย มที่แ ตกต่ า งกัน ไป ในแต่ละบุคคล และเจ้าของบทเพลงเหล่านี้ ก็คงไม่คดิ อยากจะบัง คับ ให้ใ ครต้อ งมาชื่น ชมยิน ดีไ ปกับ งาน ทีพ่ ระองค์ได้ทรงสร้างไว้ แต่ ผ มก็ เ ชื่อ มัน่ ว่า บทเพลงเหล่า นี้ จ ะท�ำ ให้ หลายๆ คนรูส้ กึ เหมือนทีผ่ มเคยรูส้ กึ อย่างทีไ่ ด้เล่า ให้ฟงั ตัง้ แต่ตน้ 8

a side

Did You Know Academy of Music and Dramatic Arts แห่งกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ได้ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตร และสมาชิกกิตติมศักดิ์ ล�ำดับที่ 23 แด่พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช โดยมี พ ระบรมนามาภิ ไ ธย ภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ปรากฏอยู ่ บ นแผ่ น หิ น ของสถาบัน นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็น สมาชิ ก กิ ต ติ ม ศั ก ดิ์ ที่ มี อ ายุ น ้ อ ยที่ สุ ด และเป็ น ช า ว เ อ เ ชี ย เ พี ย ง ผู ้ เ ดี ย ว ที่ เ ป ็ น ส ม า ชิ ก ของสถาบันดนตรีแห่งนี้อีกด้วย


RECOMMENDED บทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ถูกน�ำมาบรรเลงและท�ำเป็ นอัลบัม้ แล ้วหลายครัง้ มีทงั้ ศิลปิ นไทยและศิลปิ นจากต่างประเทศทีน่ ำ� บทเพลงเหล่านี้มาท�ำใหม่ในแนวดนตรีต่างๆ และมีทงั้ ที่ ยังสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด กับทีก่ ลายเป็ นของหายากและเป็ นทีต่ อ้ งการของนักสะสมไปแล ้ว ท่ามกลางอัลบัม้ มากมายเหล่านัน้ เราขอเลือกผลงาน 4 ชุดทีอ่ ยากแนะน�ำให้ลองหามาฟังกัน

H.M. Blues ร้อง บรรเลง เพลงของพ่อ

สายฝน

รวมศิลปิน Platinum

บางกอกแซกโซโฟนควอเตต อิสระ

สิ่ง ที่โ ดดเด่ น ของงานชุด นี้ นอกเหนื อ จากการมีศิ ล ปิ น หลากหลายแนวแล ้ว อยูท่ ่ี ‘ความกล ้า’ ทีจ่ ะน�ำบทเพลงพระราชนิพนธ์ มาน�ำเสนอในรู ปแบบใหม่ตามสไตล์ของแต่ละคน ซึ่งท�ำให้ผูฟ้ งั ได้สมั ผัสบทเพลงพระราชนิพนธ์ทต่ี ่างออกไปจากทีค่ นุ ้ เคย และท�ำให้ สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น (และในขณะเดียวกัน ก็มี ‘ชุดอนุรกั ษ์’ ออกควบคู่กนั มาด้วย) ซึง่ ณ เวลานัน้ ถือเป็ นสิง่ ที่ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ในวงการดนตรีของบ้านเรา และยังไม่ใช่เรือ่ งง่าย ทีจ่ ะรวบรวบศิลปิ นมากมายมาร่วมงานกันได้เช่นนี้

ความน่าสนใจของผลงานทีอ่ อกวางจ�ำหน่ายในปี พ.ศ.2535 ชุดนี้ นอกจากจะอยู่ทเ่ี ป็ นการน�ำเพลงพระราชนิพนธ์มาบรรเลงด้วย แซกโซโฟนในแบบวงควอเตต ซึง่ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในบ้านเราแล ้ว ผลงานดังกล่าวยังน�ำเอาน�ำสองสิง่ ทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั พอพระราชหฤทัย ได้แก่ ดนตรีแจ๊ซซ์และแซกโซโฟนมาใช้งาน จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็ นบทเพลงพระราชนิพนธ์ท่ีไพเราะน่ าฟัง ไม่แพ้เวอร์ชนั ่ อืน่ ๆ ชนิดทีใ่ ครได้ลองฟังแล ้วคงไม่ปฏิเสธว่า แม้จะ มีอายุกว่า 20 ปี แล ้ว แต่งานชุดนี้กย็ งั คงร่วมสมัยอยู่เสมอ

Royal New Orleans Jazz Celebration

The Jazz King

Preservation Hall Jazz Band Jazz Syndicate

Larry Carlton & Guests - All Star Jazz Sony BMG

Preservation Hall Jazz Band เป็ น วงแจ๊ซ ซ์จ าก นิวออร์ลนี ส์ท่ีเคยเดินทางมาแสดงดนตรีถวายพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดุลยเดช ในปี พ.ศ.2553 ในผลงานชุดนี้ นอกจากพวกเขาจะน�ำบทเพลงพระราชนิพนธ์ 14 เพลง มาบรรเลง ในแนวดนตรี ท่ีพ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้า อยู่ ห วั ทรงโปรดแล ว้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังได้ร่วมทรง ระนาดฝรัง่ ในเพลง Royal Celebration 2011 ซึง่ แต่งขึ้นเพือ่ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อยูใ่ นงานชุดนี้อกี ด้วย

การได้เห็นชื่อของยอดมือกีตาร์ในสายแจ๊ซซ์อย่าง Larry Carlton มารับหน้าทีเ่ ป็ นผูบ้ รรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ ถือเป็ นสิง่ ที่ เรียกความสนใจจากผู ฟ้ งั ที่รูจ้ กั และชื่นชอบในตัวศิลปิ นเป็ นทุน อยู่แล ้ว ยิง่ เมือ่ ได้เห็นรายชื่อของนักดนตรีคนอืน่ ๆ ทีม่ าร่วมในงาน ชุดนี้แล ้ว ส�ำหรับคนทีเ่ ป็ นแฟนเพลงในสายแจ๊ซซ์และฟิ วชัน่ แจ๊ซซ์ ก็ถอื ว่าไม่ควรพลาด ขณะที่ตวั ผลงานนัน้ ก็ดเี ยี่ยมสมกับการที่ได้ บรรดายอดฝี มอื มาท�ำงาน เพราะช่วยท�ำให้บทเพลงพระราชนิพนธ์ ออกมากลมกล่อมลงตัวและฟังได้อย่างเพลิดเพลินจริงๆ

9

a side


BOOKS FROM OUR KING ‘งานเขียน’ ของพระราชา ปี พ.ศ.2537 ในความทรงจ�ำของหลายๆ คนคงจะแตกต่างกันไป ตามสถานภาพและความสนใจในชีวิต ส�ำหรับตัวผมเอง เรื่องหนึ่งที่จ�ำได้ เกีย่ วกับปีนนั้ และเกีย่ วกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพ ิ ลอดุลยเดชด้วย คือการที่หนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง ‘นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ’ ออกวางจ�ำหน่าย และกลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่ขายดีตามร้านหนังสือต่างๆ ของบ้านเราในเวลานั้น

และในปี เดี ย วกัน ชั้น หนัง สื อ ในบ้า น ก็มหี นังสือปกแข็งเล่มใหญ่เพิ่มเข้ามาอีก 1 เล่ม บนปกหนังสือสีเหลืองมีตวั หนังสือสีทองสองพยางค์ บ่งบอกว่าชื่อของหนังสือเล่มนี้คอื ‘ติโต’ ผมได้รูจ้ กั กับจอมพลติโต อดีตประธานาธิบดี ของประเทศยู โกสลาเวียเป็ นครัง้ แรกจากการอ่าน หนังสือเล่มดังกล่าว รวมทัง้ ได้รูด้ ว้ ยว่า นี่ก็เป็ น พระราชนิ พ นธ์ใ นพระบาทสมเด็จ พระเจ้า อยู่ ห วั ด้วยเช่นกัน และนัน่ คื อ ครั้ง แรกในชี วิต ที่ ผ มได้อ่ า น หนังสือพระราชนิพนธ์ 10

a side

เ มื่ อ พู ด ถึ ง ห นั ง สื อ พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ์ ใ น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดุลยเดช เชื่อว่า ชื่อทีห่ ลายๆ คนคุน้ เคยกันเป็ นพิเศษน่าจะได้แก่เรื่อง ‘พระมหาชนก’ และ ‘ทองแดง’ ทีม่ ที งั้ รูปแบบหนังสือ และการ์ตูน รวมไปถึงอีก 2 เล่มทีไ่ ด้กล่าวถึงข้างต้น แต่ เมื่อลองค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือ พระราชนิพนธ์ ผมจึงได้พบว่ายังมีพระราชนิพนธ์อน่ื ๆ อยู่ ดว้ ย และยังไม่รวมถึงบทความที่ทรงแปลและ เรียบเรียงอีกหลายต่อหลายชิ้นซึ่งไม่ได้ถูกน�ำออกมา ตีพมิ พ์เผยแพร่ในวงกว้าง ในบรรดางานพระราชนิพนธ์เหล่านัน้ หากจะพูด ถึงในแง่ของอารมณ์ความรู ส้ ึก รวมถึงแง่มมุ ในเชิง ประวัติศ าสตร์แ ล ว้ พระราชนิ พ นธ์ ‘เมื่อ ข้า พเจ้า จากสยามสู่สวิตเซอร์แลนด์’ น่าจะมีเรื่องราวตรงตาม ทีว่ ่ามากทีส่ ุด เพราะพระราชนิพนธ์ทต่ี พี มิ พ์ครัง้ แรก ในหนังสือรายเดือน วงวรรณคดี ฉบับประจ�ำเดือน สิงหาคม พ.ศ.2490 เรื่องนี้ ไม่เพียงแต่จะมีทม่ี าจาก บัน ทึ ก ของพระบาทสมเด็ จ พระเจ้า อยู่ ห วั เท่ า นั้น แต่ ย ัง บัน ทึ ก เหตุ ก ารณ์ ในช่ ว งเวลาที่ พ ระองค์ เสด็ จ พระราชด�ำ เนิ น กลับ ไปศึ ก ษาต่ อ ที่ ป ระเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ในปี พ.ศ.2489 หลังจากทีท่ รงเสด็จ ขึ้นครองราชย์เป็ นพระมหากษัตริยเ์ พียงไม่ก่ีเดือน โดยมีทงั้ เรื่องราวการเดินทาง ความรูส้ กึ ส่วนพระองค์ ไปจนถึงเหตุการณ์ท่ตี ่างๆ ที่ทรงได้พบ ซึ่งท�ำให้เรา ได้เห็นทัง้ ภาพของกษัตริยห์ นุ่มทีก่ ำ� ลังเริ่มต้นท�ำหน้าที่ ของตัวเอง และสังคมไทยที่กำ� ลังวุ่นวายใจ เพราะ พระเจ้าอยู่หวั ของพวกเขาก�ำลังจะจากบ้านจากเมือง ไปไกล ดังในเนื้อความตอนหนึ่ง ซึง่ เชื่อว่าหลายๆ คน เคยได้เห็นได้อ่านมาแล ้ว แต่อาจจะไม่เคยรูม้ าก่อนว่า มาจากพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ ความว่า


“...วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 วันนี้ถงึ วันที่ เราจะต้องจากไปแล ้ว พอถึงเวลาก็ลงจากรถพระทีน่ งั ่ พร้อมกับแม่ ลาเจ้านายฝ่ ายใน ณ พระที่นงั ่ ชัน้ ล่าง แล ้วก็ไปยังวัดพระแก้ว เพือ่ นมัสการลาพระแก้วมรกต และพระภิกษุสงฆ์ ลาเจ้านายฝ่ ายหน้า ลาข้าราชการ ทัง้ ไทยและฝรัง่ แล ้วก็ไปขึ้นรถยนต์ พอรถแล่นออกไป ได้ไม่ถึง 200 เมตร มีหญิงคนหนึ่งเข้ามาหยุดรถ แล ้วส่งกระป๋ องให้เราคนละใบ ราชองครักษ์ไม่แน่ใจว่า จะมีอะไรอยูใ่ นนัน้ บางทีจะเป็ นลูกระเบิด! เมือ่ มาเปิ ดดู ภายหลังปรากฏว่าเป็ นทอฟฟี่ ท่อี ร่อยมาก ตามถนน ผู ค้ นช่ างมากมายเสียจริงๆ ที่ถนนราชด�ำเนินกลาง ราษฎรเข้ามาใกล ้ชิดรถทีเ่ รานัง่ กลัวเหลือเกินว่าล ้อรถ ของเราจะไปทับแข้งทับขาใครเข้าบ้าง รถแล่นฝ่ าฝูงชน ไปได้อย่างช้าทีส่ ุด ถึงวัดเบญจมบพิตร รถแล่นเร็วขึ้น ได้บ า้ ง ตามทางที่ผ่ า นมาได้ยิน เสีย งใครคนหนึ่ ง ร้องขึ้นมาดังๆ ว่า “อย่าละทิ้งประชาชน” อยากจะร้อง บอกเขาส่งไปว่า ถ้าประชาชนไม่ ‘ทิ้ง’ ข้าพเจ้าแลว้ ข้าพเจ้าจะ ‘ละทิ้ง’ อย่างไรได้ แต่รถวิง่ เร็วและเลยไป ไกลเสียแล ้ว...” ถ้าหากพิจารณารายละเอียดของพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จ พระเจ้า อยู่ ห วั ภูมิพ ลอดุ ล ยเดช แต่ละเล่มแล ้ว สิง่ ทีน่ ่าทึง่ ก็คอื ทรงมีงานพระราชนิพนธ์ ในหลากหลายรูปแบบ โดยไม่ได้จำ� กัดเฉพาะด้านหนึ่ง ด้านใด ซึ่งมักจะเป็ นสิ่งที่คนท�ำงานเขียนโดยทัว่ ไป เลือกท�ำกัน เพราะทรงมีทงั้ งานแปล งานเขียนความ เรียงทีบ่ นั ทึกจากชีวติ ประจ�ำวัน ไปจนถึงการน�ำข้อมูล เบื้องต้นมาขยายต่อให้กลายเป็ นเรื่องราวที่น่าสนใจ อย่างเช่นทีท่ รงท�ำใน ‘พระมหาชนก’ ซึง่ มีทม่ี าจากชาดก หากไปถามนักเขียนหรือคนทีท่ ำ� งานเกี่ยวกับงานเขียน เชื่อว่าแทบทุกคนจะออกตัวว่าถนัดในด้านใดด้านหนึ่ง เป็ นการเฉพาะ อย่ า งเช่ น เป็ นนัก เขีย นเรื่ อ งสัน้ , นวนิยาย, กวี หรือท�ำงานแปล มากกว่าที่จะบอกว่า ถนัด หลายๆ อย่ า ง เพราะไม่ ง่า ยเลยที่จ ะท�ำ งาน แต่ ละประเภทให้ออกมาดีได้ในมาตรฐานเดียวกัน ดัง นัน้ การที่พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้า อยู่ ห วั ทรงท�ำ เช่ นที่ว่าได้ และท�ำได้ดีดว้ ย ก็ถือเป็ นเรื่องที่น่าทึ่ง อย่างทีไ่ ด้วา่ ไว้จริงๆ นอกจาก ‘ความหลากหลาย’ ของผลงาน ดังที่ได้กล่าวไปแลว้ สิ่งที่น่าระทับใจอีกอย่ างหนึ่ง ในหนัง สื อ พระราชนิ พ นธ์ต่ า งๆ คื อ ความใส่ ใ จ ในรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ นการใช้สำ� นวนภาษา

การอ้างอิงข้อมูลหรือเสริมข้อมูลอื่นๆ ที่จะช่ วยให้ เข้า ใจเนื้ อหาของหนัง สื อ เล่ ม นั้น ๆ รวมไปถึ ง ‘จุดมุง่ หมาย’ ของงานพระราชนิพนธ์แต่ละเล่ม ทีต่ อ้ งการ ให้แง่คดิ สอนใจทีเ่ ป็ นประโยชน์แก่ผู ้อ่าน หากเลือกทีจ่ ะ ไม่บ อกออกมาตรงๆ แต่ ป ล่อ ยให้ผู อ้ ่ า นได้ค่ อ ยๆ ท�ำ ความเข้าใจ และค้นหาใจความส�ำ คัญที่ผูเ้ ขียน ต้อ งการน�ำ เสนอมากกว่ า หรือ แม้แ ต่ ใ นเรื่อ งของ ความสวยงาม ทีต่ อ้ งชมว่าหนังสือพระราชนิพนธ์นนั้ ลว้ นแต่สวยงามและจัดท�ำอย่างประณีตทัง้ สิ้น ตัง้ แต่ รูปเล่มไปจนถึงภาพประกอบภายใน จนอาจกล่าวได้วา่ การมีห นัง สือ พระราชนิ พ นธ์ไ ว้ใ นครอบครองนั้น เป็ น ‘ความคุม้ ค่า’ ทัง้ จากการทีจ่ ะได้อ่านเรื่องราวดีๆ และได้เป็ นเจ้าของหนังสือทีส่ วยงามน่าเก็บสะสม เมื่ อ เดื อ นสิ ง หาคมที่ ผ่ า นมา เรื่ อ งหนึ่ ง ที่ คนมากมายน�ำมาแบ่งปันและเผยแพร่ผ่านเครือข่าย สังคมออนไลน์ คือการพูดบนเวที TEDxBangkok ของ นิรนั ดร์ บุณยรัตพันธ์ หรือ น้าต๋อย เซมเบ้ นักพากย์การ์ตูนชือ่ ดังของเมืองไทย ทีบ่ อกเล่าเรือ่ งราว ในอดี ต เมื่อ เขาเคยถู ก ผู ใ้ หญ่ ใ นสัง คมต�ำ หนิ ว่ า น�ำ ‘การ์ตูน’ ซึง่ เป็ น ‘สือ่ มอมเมาไร้สาระ’ มาให้เด็กๆ ดู ก่อนทีเ่ หตุการณ์บางอย่างในชีวติ จะเป็ นข้อพิสูจน์ว่า การ์ตูนทีน่ า้ ต๋อย เซมเบ้รักนัน้ ไม่ได้มอมเมาใครอย่างที่ บางคนเข้าใจ ผมอ่านเรื่องนี้แล ้วก็อดข�ำไม่ได้ และยังคิดต่อ อยูเ่ ลยว่า บางทีถ ้าผู ้ใหญ่คนดังกล่าวได้เห็นการ์ตนู เรือ่ ง ‘พระมหาชนก’ และ ‘คุณทองแดง’ เขาคงจะเปลีย่ น ความคิด และคงอยากเขกหัวตัวเองทีพ่ ดู อะไรไม่เข้าท่า แบบนัน้ ออกมา เพราะถ้า เป็ น ‘สื่อ มอมเมาไร้ส าระ’ จริ ง ๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หวั ย่ อมไม่พระราชทาน พระบรมราชานุ ญ าตให้จ ดั ท�ำ การ์ตู น ทัง้ สองเรื่ อ ง ออกมาเป็ นแน่ 11

a side


THE ROYAL SPORTSMAN พระราชานักกีฬา วั น ที่ 20 ธั น วาคม พ.ศ.2557 ผมเป็ น หนึ่ ง ในคนไทยอี ก หลายล้ า นคน ที่นั่งเฝ้าหน้าจอโทรทัศน์ในช่วงค�่ำวันนั้น เพื่อติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ที่ทีมชาติไทยพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ณ บูกิต จาลิล สนามกีฬาแห่งชาติของมาเลเซียในเมืองกัวลาลัมเปอร์

ผลการแข่งขันในครึ่งแรกของวันนัน้ จบลงด้วยผลที่ทำ� ให้จิตใจของกองเชียร์ห่อเหี่ยว ไปตามๆ กัน เพราะทีมชาติมาเลเซียน�ำทีมชาติไทยอยู่ 3-0 และถ้าในครึ่งหลังผลการแข่งขัน ยังเป็ นเช่นนี้ นัน่ หมายความว่าทีมชาติมาเลเซียจะเป็ นแชมป์ รายการดังกล่าว ส่วนทีมชาติไทย ก็จะพบความผิดหวังอีกครัง้ หลังจากทีไ่ ม่ได้แชมป์ รายการนี้มานานถึง 12 ปี อย่างไรก็ตาม ในท้ายทีส่ ุดแล ้ว ผลการแข่งขันทีอ่ อกมาสร้างความสุขใจให้กบั แฟนฟุตบอล เพราะถึงแม้จะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่การยิงประตูคนื มาได้ 2 ลูก ก็เพียงพอทีจ่ ะท�ำให้ทมี ชาติไทย คว้าแชมป์ รายการดังกล่าวมาครองได้สำ� เร็จ และหลังจากได้แชมป์ เรื่องราวหนึ่งที่ถูกเปิ ดเผยตามมา ก็คือการที่ในช่วงพักครึ่งเวลา มีโทรศัพท์สายหนึ่ง น�ำ ‘ข้อความ’ จากบุคคลคนหนึ่ง มาถ่ายทอดต่อให้กบั ทีมงานสตาฟโค้ช และนักฟุตบอลทุกคน จนเป็ นแรงกระตุน้ ส�ำคัญทีท่ ำ� ให้พวกเขาฮึดสูจ้ นคว้าผลการแข่งขันทีต่ ้องการ พร้อมทัง้ ถ้วยแชมป์กลับเมืองไทยได้ และบุคคลคนดังกล่าว ก็คอื พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ภูมพิ ลอดุลยเดช 12

a side

ก่ อ นที่จ ะพู ด ถึง เรื่อ งของฟุต บอลนัด นัน้ ต่ อ ขอย้อนหลังกลับไปในอดีตกันก่อน เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้เห็น ได้ยนิ หรือ ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพด้านการกีฬา ของพระบาทสมเด็ จ พระเจ้า อยู่ ห วั กัน มาบ้า งแล ว้ โดยภาพที่คนไทยน่ าจะคุน้ เคยมากที่สุด เมื่อนึกถึง การทรงกีฬาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ก็คือ ‘เรือใบ’ ซึ่งเป็ นกีฬาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั โปรดเป็ นพิเศษ อีกทัง้ พระองค์ยงั ทรงเป็ นตัวแทน ของประเทศไทยลงแข่ ง ขัน และได้ร บั เหรี ย ญทอง จากการแข่งขันกีฬาแหลมทอง (หรือกีฬาซีเกมส์ในเวลา ต่อมา) มาแลว้ ขณะทีเ่ รือทีใ่ ช้ในการแข่งขันก็ยงั เป็ น เรือทีท่ รงออกแบบและประดิษฐ์ข้นึ ด้วยพระองค์เอง เรื่ อ งราวดัง กล่ า วเกิ ด ขึ้ น ในการแข่ ง ขัน กีฬาแหลมทองครัง้ ที่ 4 ที่ประเทศไทยเป็ นเจ้าภาพ ในระหว่า งวัน ที่ 9-16 ธัน วาคม พ.ศ.2510 โดย พระบาทสมเด็ จ พระเจ้า อยู่ ห วั ทรงสมัค รเข้า รับ การคั ด เลื อ กเป็ นนั ก กี ฬ าที ม ชาติ ต ามขั้น ตอน เช่นเดียวกับนักกีฬาคนอืน่ ๆ และด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงได้รบั เลือกให้เป็ นนักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย ซึง่ ก็ ทรงเข้าค่ายฝึ กซ้อมตามโปรแกรมการฝึ กซ้อม และทรง ได้รบั เบี้ยเลี้ยงในฐานะนักกีฬา เช่นเดียวกับนักกีฬา คนอื่นๆ และเมื่อการแข่งขันมาถึง พระองค์ทรงลง ท�ำการแข่งขันกับนักกีฬาจากชาติอน่ื ๆ ก่อนจะสามารถ เอาชนะนักกีฬาคู่ แข่ง และทรงชนะเลิศเหรียญทอง ในการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค. เมือ่ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2510 ซึ่งต่อมาในภายหลัง ได้มกี ารก�ำหนดให้ วันดังกล่าวเป็ น ‘วันกีฬาแห่งชาติ’ มาจนถึงปัจจุบนั


การทีท่ รงสามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขัน ครัง้ นัน้ ได้ ไม่เพียงแต่จะท�ำให้ทำ� ให้พระอัจฉริยภาพ ทางกี ฬ าเรื อ ใบของพระองค์เ ป็ น ที่ย อมรับ เท่ า นั้น แต่ยงั ท�ำให้พระเกียรติยศระบือไกลยิง่ ขึ้น เพราะเรือใบ ที่ท รงใช้ใ นการแข่ ง ขัน นั้น ไม่ ไ ด้ห าซื้อ มาจากที่ใ ด หากแต่ทรงออกแบบและประดิษฐ์ดว้ ยพระองค์เอง ซึง่ ท�ำให้ชาวไทยและชาวโลกได้รบั รูว้ า่ พระมหากษัตริย ์ ของไทยพระองค์น้ ีมีความสามารถในการสร้างเรือ ได้หลายแบบหลายรุ่น รวมทัง้ ท�ำให้คนไทยได้รูจ้ กั กับ เรือ ‘มด’ เรือ ‘ซูเปอร์มด’ และ เรือ ‘ไมโครมด’ ทีท่ รง ต่อด้วยพระองค์เองทัง้ สิ้น

Did You Know หลายคนอาจไม่ เ คยรู ้ ม าก่ อ นว่ า พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว และสมเด็ จ พระนางเจ้ า สิ ริ กิ ติ์ พระบรมราชิ นี น าถ เคยเสด็ จ ไปทอดพระเนตรการแข่ ง ขั น ฟุ ต บอลลี ก ของประเทศสเปน หรือทีเ่ รียกว่า ลาลีกา มาแล้ว โดย ทัง้ สองพระองค์ได้ทอดพระเนตร การแข่ ง ขั น ระหว่ า งที ม เรอั ล มาดริด กับทีมแอธเลติก บิลเบา ณ สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในระหว่างที่เสด็จพระราชด�ำเนิน เยื อ นราชอาณาจั ก รสเปน ในปี พ.ศ.2503

นอกจากจะเป็ น ‘นัก กี ฬ า’ ที่ มี ฝี มื อ แล ว้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ยังทรงเป็ นองค์อปุ ถัมภ์ การกีฬาของประเทศ ไม่ว่าจะเป็ นการรับเอาสมาคม กีฬาต่างๆ ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์, การพระราชทาน พระบรมราโชวาทให้กบั นักกีฬาทีมชาติท่ีจะออกไป แข่งขันในรายการส�ำคัญๆ ต่างๆ, การพระราชทาน พระราชวโรกาสให้นกั กีฬาเข้าเฝ้ าทูลละอองธุลพี ระบาท หรือแม้แต่ การพระราชทานค�ำแนะน�ำให้กบั นักกีฬาด้วยพระองค์เอง! ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน อดีตนักกีฬา แบดมินตันทีมชาติไทย และแชมเปี้ ยนระดับโลก ผูซ้ ง่ึ ได้ร บั พระราชทานทุน ส่ ว นพระองค์ใ ห้ไ ปศึ ก ษาต่ อ ที่ประเทศอังกฤษ เคยเปิ ดเผยถึงพระอัจฉริยภาพ ของพระองค์ ทีไ่ ด้พระราชทานค�ำแนะน�ำให้เขาส�ำหรับ การต่อสูก้ บั คู่แข่งคนส�ำคัญ ในสมัยทีย่ งั โลดแล่นอยูใ่ น วงการแบดมิน ตัน โดยศาสตราจารย์เ จริญ เล่า ว่ า ครัง้ หนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั รับสัง่ ถามว่า รู ส้ ึก หนัก ใจไหมในการแข่ง กับ เออร์แ ลนด์ คอปส์ (Erland Kops) นักแบดมินต้นชาวเดนมาร์กซึง่ เป็ น คู่ แข่งคนส�ำคัญ และที่หนักใจนัน้ หนักใจในเรื่องใด ซึ่งศาสตราจารย์เจริญกราบบังคมทูลว่า เออร์แลนด์ คอปส์ มีลูกตบทีร่ นุ แรง ทีเ่ สียแต้มให้คอปส์ เป็ นเพราะ รับลูกตบที่หนักหน่ วงไม่ได้ อีกทัง้ คอปส์ยงั อึดและ อดทน ยิ่ง เล่ น ก็ ย่ิง มีก�ำ ลัง มาก พระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หวั จึงรับสัง่ ว่า “เมื่อคอปส์มลี ูกตบที่หนัก และรุนแรง สิง่ ทีค่ วรจะท�ำคือ หลีกเลีย่ งอย่าให้คอปส์ ตบลูกได้บ่อย หรือใช้ลูกตบได้ถนัด ควรดึงคอปส์ มาเล่นลูกหน้าให้มาก เมือ่ เขาพะวงบริเวณหน้าตาข่าย จะท�ำให้เขาถอยตบลูกไม่ถนัด” และ ‘กลยุทธ์’ ดังกล่าว คือสิง่ ทีเ่ จริญ วรรธนะสิน ในวัยหนุ่ม ใช้ในการต่อสูก้ บั แชมเปี้ ยนชาวเดนมาร์ก จนสามารถป้ องกันต�ำแหน่งแชมเปี้ ยนชายเดีย่ วรายการ ออลมาลายัน ทีเ่ กาะสิงคโปร์เมือ่ ปี พ.ศ.2502 เอาไว้ได้ 13

a side

อีก เรื่อ งหนึ่ ง ที่เ กี่ย วข้อ งกับ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หวั และการกีฬา ซึ่งถูกส่งต่อกันมากมาย ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะหลังเสด็จสู่ สวรรคาลัย และมีการน�ำเรื่องราวความประทับใจของ พสกนิกรต่อพระราชกรณียกิจและพระจริยาวัตรต่างๆ ของพระองค์มาเผยแพร่ คือเรื่องเกี่ยวกับความทรงจ�ำ ของสมรักษ์ ค�ำสิงห์ นักชกฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิ ก คนแรกของไทย กับการได้เข้าเฝ้ าทูลละอองธุลพี ระบาท หลังจากเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล ้ว โดยในเรื่ อ งราวดัง กล่ า ว สมรัก ษ์ร ะบุ ว่ า เขา ‘เกร็ง’ มาก เพราะต้องท่องค�ำราชาศัพท์ต่างๆ ก่ อนที่จะเข้าเฝ้ าเพื่อจะกราบบังคมทู ลตอบค�ำถาม ได้ถกู ต้อง แต่เมือ่ ได้เข้าเฝ้ าจริงๆ เขาพบว่าพระองค์ ทรงเป็ นกันเองกับเขามากจนท�ำให้เขาคลายความกังวล และทรงมีพระราชด�ำรัสทีเ่ ขาน�ำมาถ่ายทอดผ่านสือ่ ว่า “พระองค์ ท่ า นเล่ า ว่ า วัน นั้น เราดู ท่ี ว ัง ไกลกัง วล ดู ส มรัก ษ์ช ก เห็ น สมรัก ษ์ถือ รู ป เราขึ้น ไปบนเวที เรานึกว่าเราชกเอง แล ้วก็ลนสมรั ุ ้ กษ์ ตืน่ เต้น พอสมรักษ์ ชนะ เราก็เผลอตัวกระโดดโลดเต้นดีใจ จนข้าราชการ ผู ้ใหญ่หวั เราะเรา เราก็เลยรูส้ กึ อาย แล ้วก็ค่อยๆ นัง่ ลง” นอกจาก ‘ความน่ารัก’ ของเรื่องราวดังกล่าว ซึง่ น่าจะเป็ นเหตุผลส�ำคัญทีส่ ร้างความประทับใจให้กบั คนที่ไ ด้เ ห็น ได้อ่ า นแล ว้ อีก สิ่ง หนึ่ ง ที่ผ มได้เ รีย นรู ้ จากเรือ่ งนี้กค็ อื พระองค์ทา่ นทรง ‘ติดตาม’ ผลงานของ นักกีฬาไทยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็ นกีฬาชนิดใดก็ตาม รวมทัง้ ทรง ‘เอาใจช่วย’ ให้นกั กีฬาทุกคนท�ำผลงาน ของตัวเองให้ได้ดที ส่ี ุดอยู่เสมออีกด้วย ในขณะทีส่ ำ� หรับตัวนักกีฬาเอง การได้รบั รูว้ ่า ‘พระเจ้าอยู่หวั ’ ของพวกเขา ‘เชียร์’ พวกเขาอยู่ ก็น่าจะ เป็ นก�ำลังใจอันยิง่ ใหญ่ และเป็ นสิง่ ทีส่ ร้างแรงผลักดัน ให้กบั นักกีฬาแต่ละคนอย่างมากมายด้วยเช่นกัน กลับมาทีเ่ รื่องฟุตบอลอีกครัง้ “ขอให้กำ� ลังใจกับผูเ้ ล่นทุกคน ขออวยพรให้มี ชัยชนะ อย่าย่อท้อแม้ว่าจะตามอยู่ ในหลวงได้ทรง ทอดพระเนตรเกมนี้อยู”่ คือพระกระแสรับสังที ่ ร่ าชเลขา ถ่ายทอดให้กบั นายเกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู จ้ ดั การ ทีมชาติไทยในขณะนัน้ ก่อนทีข่ อ้ ความดังกล่าวจะถูก ถ่ า ยทอดต่ อ ไปสู่ ส ตาฟโค้ช และผู เ้ ล่ น ทุ ก คน และเรื่องราวหลังจากนัน้ ก็อย่างทีท่ กุ คนรับรูก้ นั บางคนอาจจะบอกว่า เป็ นเพราะพระกระแส รับสัง่ นี้เอง ทีท่ ำ� ให้นกั กีฬารวมใจเป็ นหนึ่งและกอบกู ้ สถานการณ์จนกลับมาประสบความส�ำเร็จได้ บางคน อาจจะคิดว่าเป็ นเรือ่ งน่าเหลือเชือ่ ทีพ่ ระองค์ทา่ นจะทรง ทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลนัดนัน้ ด้วย แต่เรื่อง ดังกล่าวไม่ใช่สง่ิ ทีท่ ำ� ให้ผมแปลกใจอะไรเลย เพราะสิง่ ทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ทรงท�ำ ก็คอื สิง่ ทีค่ นรักการกีฬา ไม่วา่ ทีไ่ หนๆ ในโลกต่างก็ทำ� เช่นนี้ดว้ ยกันทัง้ สิ้น นัน่ ก็ คื อ ไม่ ว่ า จะลงแข่ ง ขัน ด้ว ยตัว เอง เป็ นผู ฝ้ ึ กสอนให้คำ� แนะน�ำแก่ ผูอ้ ่ืน หรือแม้แต่ เป็ น กองเชียร์คอยสนับสนุน ก็ตอ้ งท�ำอย่างเต็มทีส่ ุดฝี มอื และในขณะเดีย วกัน ก็ ต อ้ งมีน�ำ้ ใจนัก กีฬ าควบคู่ กันไปด้วย ซึง่ สิง่ ทีว่ า่ มานัน้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ได้แสดงมาตลอดพระชนม์ชพี ของพระองค์แล ้ว


“การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดีมีประโยชน์ ขออย่าถ่ายภาพเพื่อความสนุกสนาน หรือความสวยงามเท่านั้น จงใช้ภาพให้เกิดคุณค่าแก่สังคม ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม งานศิลปะจะได้ช่วยพัฒนาประเทศ ให้เจริญก้าวหน้าได้อีกแรงหนึ่ง” พระราชด�ำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะกรรมการบริหาร สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

PHOTOGRAPHY IS ART AND IS USEFUL ‘ศิลปะ’ กับ ‘ประโยชน์’ ในภาพถ่าย

จ�ำได้รางๆ ว่าฉันอ่านพระราชด�ำรัสเรือ่ งการถ่ายภาพประโยคข้างบนนี้ ครั้ ง แรกในอิ น เตอร์ เ น็ ต ขณะที่ ก� ำ ลั ง ค้ น หาดู รู ป ถ่ า ยของช่ า งภาพ ต่างประเทศดังๆ กดไปกดมาก็ลิงค์เข้ามาดูภาพงานนิทรรศการภาพถ่าย งานหนึ่งที่ก�ำลังจัดขึ้นในกรุงเทพฯ จ�ำไม่ผิดตอนนั้นน่าจะเป็นช่วง ม.6 ที่เริ่มรู้จักกล้อง DSLR ใหม่ๆ ก็เลยไฟแรงค้นหารูปดูเป็นตัวอย่าง ก็ไม่ได้คดิ อะไร แค่คดิ ว่าถ่ายภาพเพือ่ ความสวยงามและเก็บไว้เป็นความทรงจ�ำ แต่ไม่ได้เข้าใจความหมายของค�ำว่าท�ำประโยชน์เท่าไหร่นัก 14

a side

พอได้เรียนในระดับมหาวิทยาลัย จนได้เข้าชมรมถ่ายภาพ ของคณะ ก็เริม่ ได้ทำ� ประโยชน์มากขึ้น ด้วยการช่วยงานแบบจิตอาสาบ้าง สอนทฤษฎีเรื่องการใช้กล ้องให้นอ้ งๆ บ้าง ด้วยใจอยากจะท�ำประโยชน์ ให้แก่ผูอ้ น่ื ไม่มากก็นอ้ ย สิง่ เหล่านี้ฉนั รูส้ กึ ว่าถูกปลูกฝังมาตัง้ แต่เด็กๆ ฉัน มัก จะเห็น ภาพเคลื่อ นไหวของพระองค์ใ นข่ า วพระราชส�ำ นัก หรือรายการพิเศษของรวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และภาพนิ่ง บนปฏิทนิ ธนาคารที่แขวนอยู่บนผนังบ้าน ทุกอิริยาบถของพระองค์ ที่จำ� ได้ดี คือทรงมีกลอ้ งติดตัวอยู่เสมอไป เมื่อทรงออกไปปฏิบตั ิ พระราชกรณียกิจให้ถน่ิ ทุรกันดาร หรือทรงเสด็จไปเยีย่ มเยียนราษฎร ตัง้ แต่ ทรงพระเยาว์จนถึงทรงมีพระชนมพรรษามาก ก็ยงั ทรงพก กล ้องถ่ายภาพติดตัวไว้ถา่ ยพสกนิกรของพระองค์อยู่เสมอ วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 เป็ นวันทีส่ ำ� คัญทีส่ ุดของคนไทย และตัวฉันเอง ฉันเศร้าเมือ่ ได้เห็นพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ แต่ฉนั ก็คิดว่าทุกคนต่ างก็ตอ้ งท�ำหน้าที่ของตัวเอง ตามที่พระองค์เคยได้ ปลูกฝังไว้ดว้ ยพระจริยวัตรของพระองค์ และฉันอยากจะส่งต่อความรู ้ ในเรื่ อ งพระราชประวัติ แ ละพระราชกรณี ย กิ จ ของพระองค์ ด้านการถ่ายภาพให้แก่ผูอ้ น่ื เพือ่ สร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ ได้เป็ นประโยชน์ต่อไป


ก่อนทีท่ กุ คนจะเริ่มถ่ายภาพ ย่อมจะต้องมีผูท้ ่ี สร้า งแรงบัน ดาลใจหรื อ ต้น แบบต่ อ การถ่ า ยภาพ แทบทัง้ สิ้น พระบาทสมเด็จ พระเจ้า อยู่ ห วั ภู มิพ ล อดุลยเดช ก็เช่นเดียวกัน ทัง้ นี้อาจมีสาเหตุมาจากการที่ พระองค์ท รงคุ น้ เคยกับ บรรยากาศการถ่ า ยภาพ อยู่ก่อนแล ้ว ดังเห็นได้จากการทีท่ รงร่วมฉายภาพหมู่ ของครอบครัวมหิดล ขณะทีย่ งั ประทับอยู่ ณ เมือง โลซานน์ ประเทศสวิต เซอร์แ ลนด์ จากหลัก ฐาน ในหนังสือ ‘เจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย’์ พระนิพนธ์ใน สมเด็ จ พระเจ้า พี่น างเธอ เจ้า ฟ้ ากัล ยาณิ ว ฒ ั นา มีขอ้ ความระบุว่า “สมเด็จพระบรมราชชนนี ทรงพา พระองค์ เ จ้า อานั น ทมหิ ด ล และพระองค์ เ จ้า ภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีพระชันษาเพียง 2 พรรษา เสด็จไปฉายพระรูปทีร่ า้ น เดอ ยอง (De Jongh)” นอกจากนั้ น สมเด็ จ พระบรมราชชนนี ทรงปฏิบตั ิตนเป็ นแม่แบบในการถ่ายรู ปอย่างดีย่ิง ดัง จะเห็ น ได้จ ากความสนพระราชหฤทัย ของ พระองค์เอง เรื่องการถ่ายภาพ ซึ่งปรากฏหลักฐาน ในหนัง สือ ‘แม่ เ ล่ า ให้ฟ ัง ’ ซึ่ง เป็ น พระนิ พ นธ์ใ น สมเด็จพระเจ้าพีน่ างเธอ เจ้าฟ้ ากัลยาณิวฒั นา ระบุวา่ เมื่อ ครั้ง ที่ ส มเด็ จ พระบรมราชชนนี เดิ น ทางถึง เมืองเบอร์คเลย์ สหรัฐอเมริกา เมือ่ ได้รบั เงินค่าใช้จ่าย ส่วนตัว 4 เหรียญต่อเดือน ก็รบี ไปซื้อกลอ้ งถ่ายรูป แบบกล ้องบ๊อกซ์ (Box) ทันที ภายหลังเมือ่ กล ้องแรก หายไปเนื่องจากการขนย้ายสัมภาระจากเบอร์คเลย์ ไปยังบอสตัน สมเด็จพระราชบิดาได้ประทานกล ้องใหม่ กล ้องหนึ่งแก่สมเด็จพระบรมราชชนนี

สามัคคี 4 พระหัตถ์

ทูลกระหม่อม 4 พระองค์ทรงวางพระหัตถ์ขวาเรียงเทียบ กันขนาดกันไว้ ทรงฉายภาพพระหัตถ์ใหญ่พระหัตถ์เล็ก ที่ทรงวางเรียงล�ำดับกันไว้ เสมือนเป็ นการทรงสมาน สามาคคีระหว่าง ‘พี่ๆ น้องๆ’ พระหัตถ์ไหนเป็ นของ ทูลกระหม่อมพระองค์ใด ขอให้ตงั้ ใจพิจารณา ลองทาย กันดูแล ้วจะทรงทราบเอง

สมเด็ จ พระบรมราชชนนี ทรงสนพระทัย เรื่ อ งการบัน ทึก ภาพพระองค์เ จ้า ทัง้ สองพระองค์ โดยบัน ทึก วัน และสถานที่ถ่ า ย และอนุ ร กั ษ์ภ าพ ไว้อย่ างดีและมีระเบียบยิ่ง พระจริยวัตรด้านการ ถ่ า ยภาพและอนุ ร ัก ษ์ภ าพ ตลอดจนการบัน ทึ ก ภาพยนตร์ของสมเด็จพระบรมราชชนีจงึ เป็ นต้นแบบ ที่ดีอย่างยิ่งในการถ่ายภาพ ซึ่งสอดคลอ้ งกับการที่ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้า อยู่ ห วั ภู มิพ ลอดุ ล ยเดช ทรงโปรดถ่ า ยภาพสมเด็ จ พระนางเจ้า สิ ริ กิ ต์ิ พระบรมราชินี น าถ พร้อ มด้ว ยพระราชโอรสและ พระราชธิดา ดังทีเ่ ราได้เห็นรูปถ่ายกันในปัจจุบนั จากการค้นคว้าเพิม่ เติมในหนังสือ ‘วิวฒั นาการ การถ่ า ยภาพในประเทศไทย พ.ศ.2388-2535’ โดย ศักดา ศิรพิ นั ธุ ์ จะเห็นได้วา่ พระองค์ทรงมีความ วิรยิ ะอุตสาหะในการศึกษาหาความรูเ้ รือ่ งการถ่ายภาพ ด้วยตนเอง ถามจากผู ร้ ู บ้ า้ ง ทรงถ่ายภาพในยุคที่ อุ ป กรณ์ ท างการถ่ า ยภาพยัง ไม่ เ จริ ญ ก้า วหน้า อย่างปัจจุบนั กลอ้ งทีท่ รงใช้ในระยะเริ่มแรกไม่มแี ม้ เครื่องวัดแสงในตัว เวลาทีจ่ ะทรงถ่ายภาพแต่ละครัง้ จ�ำ เป็ น ต้อ งปรับ ตั้ง หน้า กล อ้ ง ความไวชัต เตอร์ เพื่อ เปิ ด รับ แสงให้พ อดี ก ับ ฟิ ล์ม ที่ท รงใช้ นับ ว่ า เป็ น เรื่อ งที่ยุ่ ง ยาก แต่ พ ระองค์ก็ ไ ด้ท รงศึ ก ษาเอง กับกลอ้ งถ่ายภาพคู่พระหัตถ์ ทัง้ แบบทีใ่ ช้ฟิลม์ ขนาด 135 จนถึงขนาด 120 ทรงใช้พระราชวิจารณญาน อย่างรอบคอบละเอียดถีถ่ ว้ น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ทรงเชี่ยวชาญ แม้กระทัง่ การลา้ งฟิ ลม์ การอัดขยายภาพทัง้ ขาวด�ำ และภาพสี โดยทรงจัดท�ำห้องมืดในบริเวณชัน้ ล่างของ ตึ ก ที่ท �ำ การสถานี วิท ยุ อ.ส. ส�ำ หรับ ล า้ งฟิ ล์ม สี และขยายภาพสีโดยใช้เครื่องล า้ งและขยายภาพสี อัตโนมัติ แบบทีม่ ใี ช้ในแล็บสีมาตรฐานทัวไป ่ พระองค์ ทรงทราบถึงทฤษฎีสอี ย่างดี และทรงศึกษาจนสามารถ อัด ขยาย ภาพสีแ ละแก้ภ าพสีด ว้ ยพระองค์เ อง เมือ่ ทรงว่างจากพระราชกรณียกิจ

15

a side


การทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ทรงโปรดการ ถ่ายภาพสิง่ ต่างๆ อยูเ่ ป็ นประจ�ำ ท�ำให้ภาพถ่ายฝี พระหัตถ์ ของพระองค์ไปปรากฏตามนิตยสารต่างๆ เช่น ปกวารสาร แสตนดาร์ดของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร เมื่อปี พ.ศ.2483 และทรงมีพระราชด�ำรัสที่แฝงด้วย พระอารมณ์ขนั แก่ ผูใ้ กลช้ ิดผู ห้ นึ่งถึงการเป็ นช่ างภาพ อาชีพของพระองค์วา่ “ฉันเป็ นกษัตริยก์ จ็ ริง แต่ฉนั ก็ยงั มีอ าชี พ เป็ นช่ า งภาพของหนัง สื อ พิม พ์แ สตนดาร์ด ได้เงินเดือนเดือนละ 100 บาท ตัง้ หลายปี มาแล ้ว จนบัดนี้ ก็ไม่เห็นเขาขึ้นเงินเดือนให้ซกั ที เขาคงถวายไว้เดือนละ 100 บาทอยู่เรื่อยมา” ด้ว ยพระอารมณ์ แ ห่ ง องค์อ ัค รศิ ล ปิ น จึ ง มี สายพระเนตรเห็นความสวยงาม ความข�ำขันในสิง่ ต่างๆ ทรงรืน่ รมย์สนุกสนานอยูเ่ ป็ นนิจ นอกจากนัน้ ยังทรงแฝง คติธรรมไว้ในภาพทีท่ รงถ่าย เพือ่ ผูด้ ูจะได้นำ� มาคิดด้วย ดังรู ปต่อไปนี้ ที่ตีพมิ พ์ส่วนหนึ่งในหนังสือ “ภาพถ่าย ฝี พระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ”

เงาพิศวง

คราวที่เสด็จพระราชด�ำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระต�ำหนัก ไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์ ขณะที่ทรงพระด�ำเนินขึ้นจากบ่อสรงน�ำ ้ เวลานัน้ อากาศแจ่มแจ้ง แสงแดดก�ำลังส่องจ้า ทอดพระเนตรเห็นเงาของพระองค์เอง กับเงาของต้นไม้ทอดลงไปในผิวน�ำ ้ พริ้วน�ำ้ ก�ำลังเต้นระริกด้วยแรงลม ท�ำให้เกิด ลวดลายผสมผสานกันอย่างน่าประหลาด เพราะในแสงสว่างยังมีแสงซ้อนกันเป็ นริ้วๆ ในเงาก็ยงั มีเงาเป็ นลวดลายสีหนักเบาสลับกัน ด้วยความสนพระราชหฤทัย จึงทรงถ่ายภาพไว้ทนั ที แต่ตรงทีท่ รงยืนอยู่นนั้ ทรงถ่ า ยภาพไม่ ถ นัด นัก ถึง กระนัน้ ด้ว ยราชอุต สาหะอย่ า งแรงกล า้ จึง ทรงใช้ พระหัต ถ์ซ า้ ยจับ ต้น ปาล์ม ไว้ ส่ ว นพระหัต ถ์ข วาทรงจับ กล อ้ งถ่ า ยภาพและทรง ลันชั ่ ตเตอร์ได้อย่างแน่นพระทัย... ‘ศิลป์ เงาสวย’ อันล�ำ้ ค่าจึงได้ปรากฏขึ้น

Did You Know ภาพ “เงาพิศวง” ภาพนี้ ทรงโปรดเกล้า ให้ น� ำ มาใช้ ท� ำ เป็ น ปกของหนั ง สื อ ‘ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว HIS MAJESTY’S PHOTOGRAPHIC PORTFOLIO’ ตี พิ ม พ์ เ นื่ อ งในวโรกาส พระราชพิ ธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ และพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก

แมวผู้ใหญ่ลี

แมวที่ทรงเลี้ยงไว้เมื่อประทับอยู่ ในสวิตเซอร์แลนด์ อยูใ่ นตึกก็เป็ นสุข แถมใส่แว่นด�ำเล่นให้ขำ � ใครลองใส่ดูพอถอด แว่นด�ำแล ้วบางทีจะได้เห็นฟ้ าแจ้งจางปางอย่างผูใ้ หญ่ลบี า้ ง 16

a side


HIS MAJESTY’S CAMERA พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงทดลองใช้ ก ล้ อ งถ่ า ยภาพมาแล้ ว มากมาย ทัง้ ทีท่ รงลองใช้เป็นระยะเวลาสัน้ ๆ หรือบางตัวทรงโปรด ก็ใช้อย่างต่อเนื่อง ฉันขอยกตัวอย่างกล้องที่น่าสนใจ เหล่านี้มาพอสังเขป Coronet Midget กล้ อ งถ่ า ยภาพตั ว แรกของพระองค์ โดยสมเด็จพระบรมราชชนนีได้พระราชทาน เมื่อมีพระชนมพรรษา 8 พรรษา

จ้อง

คราวเสด็ จ ฯ แปรพระราชฐาน ไปประทับแรม ณ พระต�ำหนักไกลกังวล หัว หิน บ่า ยวัน หนึ่ ง ทรงขับ รถพระที่นงั ่ ด้ว ยพระองค์เ อง เพื่อ ทอดพระเนตร ความเป็ น อยู่ อ นั แท้จ ริ ง ของพสกนิ ก ร ทัง้ หลายในละแวกนัน้ ระหว่างที่เสด็จฯ ผ่ า น ไ ป ต า ม ถ น น ใ น ช น บ ท ช า ย ป่ า ทอดพระเนตรเห็น เด็กชาวบ้านสองคน เด็ ก ทั้ง คู่ ไ ม่ ไ ด้ส วมเสื้ อ คนหนึ่ ง ยื น เท้าสะเอวจ้องมา คนหนึ่งก�ำลังกินขนม ยืนจ้องนิ้วจุกปากด้วยความสงสัย

ทรงเคยมีพระราชปรารภกับบรรดานักถ่ายภาพ ถึงลักษณะของภาพว่า นักข่าวและนักถ่ายภาพจะมอง มุมภาพจากประชาชนกับในหลวง แต่ ภาพที่ในหลวง ทรงทอดพระเนตรบรรดาพสกนิกรหรือสิ่งต่ างๆ นัน้ เขามองไม่เห็น หรือเห็นก็บนั ทึกภาพไม่ได้ เป็ นการมอง สวนทางกัน เพราะเหตุน้ใี นหลวงจึงต้องทรงกล ้องถ่ายภาพ เพือ่ จะได้บนั ทึกให้ตรงพระราชประสงค์ได้อย่างทันท่วงที ด้วยพระองค์เอง ยัง กล่าวต่ ออีกว่า ทัง้ ๆ ที่พระองค์มีช่ างภาพ ส่วนพระองค์และช่างภาพสือ่ มวลชนตามเสด็จเป็ นประจ�ำ อยู่ แ ล ว้ เหตุ ใ ดพระองค์จึ ง ต้อ งทรงถ่ า ยภาพด้ว ย พระองค์เอง ซึง่ เรื่องนี้น่าจะมีเหตุผลว่า การทีพ่ ระองค์ ท�ำ เช่ น นี้ ทรงเจริญ รอยตามเบื้อ งพระยุ ค ลบาทของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั ซึ่งทรงเป็ น นักถ่ายภาพทีม่ ฝี ี พระหัตถ์ลำ�้ เลิศ เวลาเสด็จประพาสต้น พระองค์ จ ะทรงถ่ า ยภาพเพื่ อ บัน ทึ ก เหตุ ก ารณ์ ด้วยพระองค์เอง เพราะช่างภาพสือ่ มวลชนจะถ่ายภาพ โดยเน้นพระองค์เป็ นส�ำคัญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ก็ดุจเดียวกัน พระองค์ทรงถ่ายภาพทิวทัศน์หรือสิ่งที่ ทรงพบเห็นในการเสด็จพระราชด�ำเนิ นเยี่ยมราษฎร ในทีต่ ่างๆ มีทงั้ ภาพสถานทีร่ าษฎรมาเข้าเฝ้ า และภาพ ธรรมชาติทง่ี ดงาม

Elax Lumie’re ผลิตในฝรั่งเศษ เหมาะกับพระหัตถ์ ทรงใช้ อยู ่ น านจนเชี่ ย วชาญ ในปี พ.ศ.2584 ท ร ง ใ ช ้ ก ล ้ อ ง E l a x บั น ทึ ก ภ า พ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ระหว่างตามเสด็จตลอด เสมือนเป็นช่างภาพ ส่วนพระองค์

Ikoflex กล้องจากบริษัท Zeiss Ikon ผู้มีชื่อเสียง เยี่ ย มยอดทางการผลิ ต เลนส์ ถ ่ า ยภาพ เป็นกล้องสะท้อนภาพแบบเลนส์คู่ ส�ำหรับ กล้ อ งนี้ ทรงมี พ ระราชด� ำ รั ส ว่ า ใช้ ง ่ า ย เลนส์ ดี ได้ ภ าพสวยคมชั ด ดี ม าก เป็ น ที่ พอพระราชหฤทัย จึงทรงใช้กล้องนีอ้ ยูน่ าน

Contax II กล้องถ่ายภาพแบบ 35 มม.แบบสะท้อนภาพ เลนส์เดี่ยว ทรงใช้กับเลนส์ Zeiss-opton no.885584 Sonnar 1:2 f. 50 mm. ถือว่าเป็นกล้องที่น�ำสมัยในยุคนั้น (ราวๆปี พ.ศ.2493) เพราะเป็นกล้องที่สามารถ เปลี่ยนเลนส์ได้ อีกทั้งยังมีเครื่องวัดแสง ในตั ว ด้ ว ย กล้ อ งนี้ ท รงได้ จ ากประเทศ สิงคโปร์ เสด็จฯ ณ ทีใ่ ดก็จะทรงใช้อยูเ่ ป็นประจ�ำ ปัจจุบันได้พระราชทานไว้ที่สวนหลวง ร.9

Canon A-1 กล้องฟิล์ม SLR จากญี่ปุ่นตัวแรกของ พระองค์ เป็นกล้องที่ใช้ระบบสะท้อนภาพ เลนส์เดี่ยว ใช้งานได้สองระบบ เรียกตาม ภาษานักถ่ายภาพว่า กึ่งอัตโนมัติ

ยิ้มรับเสด็จ

Minolta Dynax 500i

เสด็จพระราชด�ำเนิน เยี่ยมราษฎรชาวไทยอิสลาม ณ อ�ำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ระหว่ า งเส้น ทางที่ เ สด็ จ พระราชด�ำ เนิ น กลับ ผ่ า น ชาวบ้านผูห้ นึ่งในระยะใกลๆ้ เขาแสดงความดีใจที่ไ ด้เฝ้ า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั อย่ า งใกล ช้ ิ ด จึ ง กระหยิ่ ม ยิ้มย่ องอย่ า งเต็ ม ที่ อาการ ยิ้ม แย้ม แจ่ ม ใสนี้ เ ป็ น ที่ต อ้ ง พระราชหฤทัยยิง่ นัก

กล้องถ่ายภาพ ที่สร้างความแปลกใหม่ให้ วงการถ่ายภาพ สร้างความสะดวกสบาย และถ่ายภาพได้ผลเที่ยงตรง และรวดเร็ว อยู่ในระดับแนวหน้า

Ricoh FF-9D เป็ น กล้ อ งคอมแพ็ ค ที่ ท รงได้ จ ากการ จับสลากรางวัล ขณะมีงานรื่นเริงประจ�ำปี เมื่อทรงใช้แล้วทรงชมเชยว่าเป็นกล้องที่มี ประสิทธิภาพดีมาก ทรงทดลองจนใช้ครบ ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาเมื่อมีงานรื่นเริง ประจ�ำปีอกี ก็ทรงพระราชทานเป็นของขวัญ จับสลากรางวัลต่อไป 17

a side


ลีลาที่หาดูได้ยาก

1 มีนาคม พ.ศ.2525 เสด็จพระราชด�ำเนินทอดพระเนตรกิจกรรมและทรงเยีย่ ม ราษฎรที่บริเวณสถานีเกษตรหลวง ดอยอ่างขาง อ�ำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ เฮลิค อปเตอร์พ ระที่น งั ่ ลงจอดที่ล านบิน ชาวเผ่ า มูเ ซอด�ำ ซึ่ง อาศัย อยู่ ในท้อ งที่นนั้ ต่างพากันมาฟ้ อนร�ำท�ำเพลงตามประเพณีของเขาน้อมเกล ้าฯ ถวายแด่เจ้าพ่อหลวง

ต ล อ ด รั ช ส มั ย ข อ ง พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช นับตัง้ แต่ได้เสด็จขึ้นเสวย สิริราชสมบัติ พระองค์ทรงบ�ำเพ็ญพระราชกรณี ยกิจ นานัป การอย่ า งสม�ำ่ เสมอเพื่ อ ประโยชน์ สุ ข ของ ประชาราษฎร์ ได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเยีย่ มราษฎร ในพื้นที่ต่างๆ ทัว่ ทุกภาคของประเทศ ทัง้ ในเมืองและ ชนบท ทัง้ ในป่ าลึกและยอดเขา ไม่วา่ จะเป็ นทีท่ รุ กันดาร เพี ย งใด หากที่ น ัน่ มี พ สกนิ ก รอยู่ แ ล ว้ จะเสด็ จ พระราชด�ำเนินถึงทุกแห่ง อุปกรณ์ท่ที รงมีติดพระองค์ เป็ นประจ�ำก็คอื กล ้องถ่ายภาพและแผนที ่ เพือ่ ทรงถ่าย ภาพชีวติ ความเป็ นอยู่ของชาวบ้าน และทรงทราบถึง ความเป็ นอยู่เหล่านัน้ โดยถ่องแท้ โดยจะเห็นได้จาก ภาพถ่ า ยฝี พ ระหัต ถ์ใ นหนัง สือ ภาพถ่ า ยฝี พ ระหัต ถ์ พัฒนาประเทศ โดยสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 18

a side


ภาพถ่ายฝี พระหัตถ์กเ็ ป็ นสิง่ ทีม่ สี ว่ นส�ำคัญในงาน ด้านการพัฒนา ยกตัวอย่างเช่น ภูมปิ ระเทศในบริเวณ ทีน่ ่าสนใจ พื้นทีเ่ หมาะสมทีจ่ ะสร้างเขือ่ น ฝาย อ่างเก็บน�ำ ้ บริเวณหมูบ่ า้ น เส้นทางคมนาคม ทัง้ ทีถ่ ่ายจากพื้นราบ และถ่ายขณะประทับอยู่ในเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ ภาพเหล่านี้สามารถน�ำมาใช้ประกอบพระราชด�ำริในการ พัฒนาได้ เมือ่ สร้างโครงการเสร็จแลว้ บางทีก็ทรงถ่าย เจ้าหน้าทีผ่ ูร้ บั ผิดชอบกับผลงานของเขาเอาไว้ดว้ ย “ ฉั น ส น ใ จ ช ล ป ร ะ ท า น ม า ตั้ ง แ ต่ เ ด็ ก ” พระราชด�ำรัสทีพ่ ระองค์ทรงกล่าวถึงงานด้านชลประทาน ในพระราชด�ำริ ซึง่ มีอยู่จำ� นวนมากนับไม่ถว้ นทัวประเทศ ่ เมือ่ ปี พ.ศ.2526 เกิดน�ำ้ ท่วมใหญ่ ทีท่ ำ� ให้ประชาชนได้รบั ความเสียหายไปทัว่ ทุกแห่ง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และบริเ วณจัง หวัด ใกล เ้ คีย งซึ่ง มีป ระชาชนอาศัย อยู่ หนาแน่ น ความทุ ก ข์ย ากของประชาชนในครั้ง นี้ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้า อยู่ ห ัว ทรงตระหนั ก ใน พระราชหฤทัย และได้เ สด็ จ พระราชด� ำ เนิ น ไป ทอดพระเนตรบริเวณน�ำ้ ท่วมหนักเป็ นการส่วนพระองค์ ทรงถ่ายภาพด้วยกลอ้ งประจ�ำพระหัตถ์ไว้ทุกแง่ทุกมุม เมื่อรวบรวมภาพที่ทรงบันทึกไว้แลว้ จึงโปรดเกลา้ ฯ

ให้เจ้าหน้าที่ผูใ้ หญ่จากหน่ วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องน�ำ้ ท่วม เข้าเฝ้ าถวายรายงานข้อมูลต่างๆ พร้อมทัง้ ทรงศึกษาถึงสภาพสิ่งแวดลอ้ ม และพระราชทานแนว พระราชด�ำริเพื่อแก้ไขน�ำ้ ท่วมให้กบั หน่ วยงานราชการ รับ สนองและด�ำ เนิ น การโดยเร่ ง ด่ ว น เพื่อ บรรเทา ความทุกข์ยากของพสกนิกร ไม่ เ พี ย งแต่ ภ าพถ่ า ยฝี พระหัต ถ์จ ะให้ค วาม สวยงามน่ าประทับใจแก่ผูพ้ บเห็นเท่านัน้ แต่ภาพถ่าย เหล่านี้ยงั น�ำไปสู่การหาทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน หรือช่ วยพัฒนาคุณภาพชีวติ ของราษฎรในพื้นที่ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็ นการน�ำ ‘ศิลปะ’ มาใช้ในการสร้างสรรค์ ‘ประโยชน์’ ให้กบั ผูอ้ น่ื ได้อย่างน่าชื่นชม

RECOMMENDED หนังสือ ‘ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พัฒนาประเทศ HIS MAJESTY THE KING’S PHOTOGRAPHS IN THE DEVELOPMENT OF THE COUNTRY” โดย สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 19

a side


น้ อ ม ส่ ง เ ส ด็ จ สู่ ส ว ร ร ค า ลั ย ภาพ : นคเรศ ธีระค�ำศรี

บรรยากาศจากบริเวณโดยรอบพระบรมหาราชวังท�ำให้เราได้เห็นว่า แม้ความเศร้าโศกจะปกคลุมไปทั่วบริเวณ แต่ในขณะเดียวกัน การที่ผู้คนมากมายยอมทนล�ำบากเดินทางมาที่พระบรมหาราชวัง ก็เป็นเพราะทุกคนมีเป้าหมายเดียว คืออยากที่จะมาร่วมส่ง ‘พ่อของแผ่นดิน’ สู่สวรรคาลัย

20 20

a side a side


21 21 a side

a side


เจ้าของ บริษัท เชียงใหม่ ฮิพ แม็กกาซีน จำ�กัด ที่ปรึกษา ฐานิศร์ สมบัติพิบูลย์ / วรพจน์ จันทร์หนองสรวง / ธนิต ชุมแสง

บรรณาธิการ สมชาย ขันอาษา

บรรณาธิการฝ่ายศิลป์ วชิรดล ไชยภูมิ

บรรณาธิการผู้ช่วย (Magazine) ระพินทรนาถ บรรณจักร์

บรรณาธิการผู้ช่วย (Digital) ศมนภรณ์ สุ่นศิริ

ผู้จัดการทั่วไป/ฝ่ายบัญชี สุรภี ขันอาษา

นักเขียนประจำ�ฉบับ

ภาพถ่ายโดย จักรพงษ์ วิริยะมงคลชัย

วัฒนาวรรณ ขันอาษา จันจิรา อินทรศักดิ์

ช่างภาพรับเชิญประจำ�ฉบับ นคเรศ ธีระค�ำศรี

บรรณาธิการบันทึก

BIKE SECTION

บรรณาธิการ ธันยภฤศ ฟองดาวิรัตน์

วันพฤหัสบดีท่ี ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ทีมงาน

เป็ นวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร กระผม นายสมชาย ขันอาษา บรรณาธิการ นิตยสาร HIP Magazine และทีมงานทุกคน ขอน้อมถวายส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

HIP EVENT สุรภี ขันอาษา / ชนัญชิตา สงวนโชคกุล / ชัยชาญ คุณธรรมพิสฐิ / อัญชนา หอมนาน / สุรนุช วนสุวานิช

ติดต่อ: กองบรรณาธิการ / การตลาด Mail: hipthailand.cm@gmail.com โทร. 0-5332-9420 / 08-1681-0037

“พวกเรารักในหลวง รัชกาลที่ ๙ ครับ”

CONTENTS

สั่งสม สุภาสัย นที ทองศิริ

News 24 / Food & Place 32 / Recipe 40 Journey & Amazing Dishes 42 / Movie Attraction 43

ส�ำนักงานนิตยสาร HIP Magazine

32

40

42

เชื่ อ ว่ า ทุ ก คนรู ้ จั ก โครงการหลวง กันอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคย ลองชิ ม รสชาติ อ าหารและเครื่ อ งดื่ ม จากร้ า นอาหารของโครงการหลวง เราจึ ง ขออาสาพาไปเยื อ นร้ า นอาหาร ของโครงการหลวง 5 แห่งในเชียงใหม่ ที่สวยงามด้วยบรรยากาศ และมี เ มนู อร่อยหลากหลายให้ลิ้มลอง

เมื่อได้ทราบว่า ‘สปาเกตตีมิลานเนส’ เป็ น หนึ่ ง ในพระกระยาหารโปรดของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช Recipe จึงหาสูตรของ อาหารจานนีม้ าฝากให้ได้ไปลองท�ำกันดู และยังมีสูตร ‘ไก่ชุบเกล็ดขนมปังทอด’ แถมมาให้เผื่อไว้ท�ำทานคู่กับสปาเกตตี อีกด้วย

รู ้ จั ก Chinese Salad กั น ไหม? ใครยังไม่รู้จัก แนะน�ำให้ลองอ่านการไป เที่ยวปักกิ่งของ Missน�้ำปู๋ ที่นอกจาก จะได้ไปลองหม่าล่าและเป็ดปักกิง่ ถึงทีแ่ ล้ว ยั ง ได้ ชิ ม สลั ด ผั ก ซอยแบบจี น ที่ อ ร่ อ ย ถู ก ใจ จนกลั บ เมื อ งไทยแล้ ว ต้ อ งขอ เอาสูตรมาลองท�ำกินเองดูบ้าง

Food & Place

Recipe

Journey & Amazing Dishes

22

a side

บริษัท เชียงใหม่ ฮิพ แม็กกาซีน จำ�กัด เลขที่ 5/1 หมู่ 5 ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์/ แฟ็กซ์ 0-5332-9420 hipthailand.cm@gmail.com facebook.com/hipthailand www.hipthailand.net

www.hipthailand.net


23

a side


NEWS

ธ เสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย พสกนิกรชาวเชียงใหม่น้อมร�ำลึก

@ ลานประตูท่าแพ เป็ น ค�่ ำ คื น ที่ แ สงจากผางประที ป ส่ อ งสว่ า งสวยงาม ทั่ ว ลานประตู ท ่ า แพ และจุ ด อื่ น ๆ รอบคู เ มื อ งด้ า นในทั้ ง 4 ด้ า น ของเมื อ งเชี ย งใหม่ เมื่ อ ชาวเชี ย งใหม่ นั ก ท่ อ งเที่ ย วชาวไทยและ ชาวต่างประเทศจ�ำนวนกว่า 10,000 คน ได้ร่วมกันจุดผางประทีป เป็นรูปเลข 9 ไทย จ�ำนวนรวม 99,999 ดวง เพือ่ แสดงความไว้อาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในงาน ‘ธ เสด็จ สูฟ ่ ากฟ้าสุราลัย พสกนิกรชาวเชียงใหม่นอ้ มร�ำลึก’ ซึง่ จังหวัดเชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมการท่องเทีย่ วจังหวัดเชียงใหม่ และภาคธุรกิจในพืน้ ที่ ร่วมกันจัดขึ้น (ภาพ ส�ำนักข่าวเห็ดลม)

กลุม่ เซ็นทรัล จัดจุดลงนามแสดงความอาลัย

@ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต กลุ ่ ม เซ็ น ทรั ล น้ อ มเกล้ า น้ อ มกระหม่ อ มร� ำ ลึ ก ในพระมหากรุณาธิคณ ุ หาทีส่ ดุ มิได้ ด้วยการจัดจุดลงนาม แสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมพ ิ ลอดุลยเดช ภายในพืน้ ทีข่ องศูนย์การค้าทัง้ สองแห่ง ในจั ง หวั ด เชี ย งใหม่ เพื่ อ ให้ ค ณะผู ้ บ ริ ห าร พนั ก งาน ผู้ประกอบการภายในศูนย์การค้า ตลอดจนถึงประชาชน ทั่วไป ได้ร่วมกันถวายความจงรักภักดี พร้อมถวาย สั ก การะหน้ า พระบรมฉายาลั ก ษณ์ และลงนามในสมุ ด ลงนามถวายความอาลัย

24

a side


25

a side


NEWS

เชียงใหม่ เมืองแห่งโครงการพระราชด�ำริ

@ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพราะเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชด�ำเนินเพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ถึง 92 ครั้ง มากที่สุดในประเทศไทย และมีโครงการพระราชด�ำริเกิดขึ้น ในจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า 4,447 โครงการ จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ จั ด ท� ำ นิ ท รรศการโครงการอั น เนื่ อ งมาจากพระราชด� ำ ริ แ ละ พระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณ โดยรวบรวมโครงการต่างๆ รวม 8 ด้าน มาจัดแสดงผ่านแบบจ�ำลอง เสมือนจริง และเปิดให้ผสู้ นใจเข้าชมตัง้ แต่บดั นีจ้ นถึงวันที่ 20 มกราคม 2560 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ (ภาพ ส�ำนักข่าวเห็ดลม)

กลุม่ ชาติพนั ธุท์ ำ� พิธไี ว้อาลัย ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’

@ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ด้ ว ยส� ำ นึ ก ในพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มีต่อชาวไทยภูเขาบนพื้นที่สูง ราษฎร จากกลุ่มชาติพันธุ์ 6 ชนเผ่า ได้แก่ ชนเผ่าลาหู่ (มูเซอ), ชนเผ่า ปะกากะญอ (กะเหรี่ยง), ชนเผ่าลีซู, ชนเผ่าม้ง, ชนเผ่าอาข่า (อีก้อ), และชนเผ่าคะฉิ่น จึงได้ร่วมกันเดินทางมายังศาลากลาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมลงนามถวายความอาลัย พร้อมทั้ง ประกอบพิธกี รรมตามความเชือ่ ของแต่ละชนเผ่า เพือ่ แสดงออก ถึงความอาลัยที่มีต่อการเสด็จสวรรคาลัยของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ภาพ ส�ำนักข่าวเห็ดลม)

26

a side


Fix It Center ท�ำดีเพื่อพ่อ

@ วิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ วิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ ร่วมกันท�ำดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการร่วมกันท�ำกิจกรรมต่างๆ ในโครงการศูนย์ซ่อม เสริมชุมชน Fix it Center กิ จ กรรม ‘ท� ำ ดี เ พื่ อ พ่ อ ’ ไม่ ว ่ า จะเป็ น การซ่ อ ม ยานพาหนะ, ซ่อมเครือ่ งใช้ไฟฟ้า, สอนท�ำริบบิน้ พร้อม แจกฟรี, บริการย้อมผ้า และบริการตัดผมชายและ เสริมสวยหญิงให้กับประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

Sharing Time

@ Siripanna Villa Resort & Spa คุณศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ เจ้าของและกรรมการ ผู ้ จั ด การเครื อ ศิ ริ ป ั น นา พร้ อ มตั ว แทนผู ้ บ ริ ห าร มอบเสื้อยืดสีด�ำ จ�ำนวน 360 ตัว ให้กับโรงเรียน เฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา จังหวัดล�ำพูน เพื่อให้ เด็กนักเรียนทีข่ าดแคลนทุนทรัพย์ได้ใช้สวมใส่ ในช่วงเวลา แห่งการถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภู มิพ ลอดุ ล ยเดช โดยมี คุณครู ว ราภรณ์ เนตรใหญ่ รองผู้อ�ำนวยการโรงเรียนเป็นตัวแทนรับมอบ

27

a side


NEWS

ปั่นจักรยาน น้อมศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาท

@ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ นั บ เป็ น ภาพที่ ง ดงามอย่ า งยิ่ ง เมื่ อ นั ก ศึ ก ษา อาจารย์ และเจ้าหน้าทีข่ องมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ พร้อมใจกันน�ำจักรยานมาปั่นรอบเมืองเชียงใหม่ เพื่อ ถวายความอาลั ย ต่ อ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช แ ล ะ ด ้ ว ย ใ น ส� ำ นึ ก ใ น พระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงพระราชทานนามสถาบัน และทรงพระราชทานตราพระราชลั ญ จกรประจ� ำ พระองค์ เป็นตราสัญลักษณ์ประจ�ำสถาบัน

Chiangmai Ice Hockey Challenge Cup 2016

@ Sub-Zero Ice Skate Club จัดต่อเนื่องให้นักฮอกกี้น�้ำแข็งได้ประลองฝีมือทดสอบความสามารถ กันเป็นประจ�ำทุกปี ส�ำหรับ ‘Chiangmai Ice Hockey Challenge Cup’ การแข่งขันฮอกกี้น�้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สมาคมกีฬาฮอกกี้น�้ำแข็งแห่งประเทศไทย และบริษัท เมเจอร์โบว์ล กรุ๊ป จ�ำกัด โดยการแข่งขันประจ�ำปี 2016 นี้ มีทีม 27 ทีม และนักกีฬากว่า 600 คน เข้าร่วมชิงชัยตลอด 4 วันของการแข่งขัน และนอกจากนักกีฬาไทยแล้ว ยังได้ นักฮอกกี้น�้ำแข็งจากสิงคโปร์และไต้หวันมาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้อีกด้วย

28

a side


ศิลปะเล่าเรื่องตลกแบบญี่ปุ่น

@ มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น สถานกงสุ ล ใหญ่ ญี่ ปุ ่ น ณ นครเชี ย งใหม่ ร่ ว มกั บ นิ ติ บุ ค คล สมาคมศิ ล ปะเล่ า เรื่ อ งตลก โดย Mr. Takemaru Katsura น�ำศิลปินตลกและนักมายากล จากญี่ปุ่นมาท�ำการแสดงให้ นักศึ กษาและบุ คคลทั่ ว ไป ที่ ส นใจในเชี ย งใหม่ ไ ด้ ช ม โดยกิ จ กรรมดั ง กล่ า ว เป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของโครงการแลกเปลี่ ย นวั ฒ นธรรม ระหว่างประเทศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Agency for Cultural Affairs, Government of Japan

CON MOTO Meet the Press

@ Café De Museum หลั ง จากเปิ ด ตั ว ได้ ส วยกั บ การจั ด คอนเสิ ร ์ ต เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัท คอน โมโต้ จ�ำกัด ก็มาแนะน�ำตัวกับสือ่ มวลชนเชียงใหม่ พร้อมทัง้ เปิดเผย แผนงานในอนาคต โดยคุ ณ วี ร ะ วั ฒ นะจั น ทรกุ ล กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง ระบุว่าตั้งเป้าจะจัด คอนเสิ ร ์ ต ของศิ ล ปิ น ไทยจากยุ ค 80 ในรู ป แบบ Meet and Greet Concept ที่ มี บ รรยากาศ เป็นกันเอง และในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

29

a side


NEWS

Merit & Fun

@ CentralFestival Chiangmai กิ จ กรรมของศู น ย์ ก ารค้ า เซ็ น ทรั ล เฟสติ วั ล เชียงใหม่ในเดือนที่ผ่านมา ถูกใจทั้งคนอยากสร้าง บุ ญ กุ ศ ลและน้ อ งๆ หนู ๆ จริ ง ๆ เพราะมี ทั้ ง งาน J Festival 2016 กินเจอิ่มใจ ที่จัดเมนูอาหารเจ คุณภาพเยี่ยมจากร้านอาหารชื่อดัง รวมถึงเมนูเจ สุขภาพกว่า 100 เมนู ให้คนกินเจได้อร่อยกันแบบ เต็ ม อิ่ ม แถมได้ กุ ศ ลสมใจ ส่ ว นเด็ ก ๆ ก็ ไ ด้ ส นุ ก กั บ ‘Pokemon on Tour เรามาเป็นเพื่อนกัน’ ที่น�ำเหล่า โปเกม่อนมาสร้างสีสันภายในงาน พร้อมกิจกรรม สนุกๆ มากมาย และสินค้าจากโปเกมอนที่รวบรวม มาให้น้องๆ ได้จับจองเป็นเจ้าของกันถ้วนหน้า

Variety Events

@ Central Plaza Chiangmai Airport เซ็ น ทรั ล พลาซา เชี ย งใหม่ แอร์ พ อร์ ต มีกจิ กรรมหลากหลายรูปแบบให้เลือกเข้าร่วมงาน กันตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นงาน Northern Cat & Dog Expo ที่ถูกใจคนรักสัตว์ด้วยการประกวด สุนัขและแมว รวมถึงกิจกรรมเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง มากมาย, งาน ‘หล่อ เลือก เจ ปี 3…มีแต่เจ กับ เจ’ ทีน่ อกจากจะสาธิตการปรุงอาหารเจ และมีเมนูเด็ด มากมายให้ ลิ้ ม รสแล้ ว ยั ง ได้ นั ก แสดงสุ ด ฮอต เจเจ - กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม มาร่วมพิธี เปิดงานอีกด้วย และ Chiang Mai Motor Expo 2016 ที่คนรัก รถได้พบกับข้อเสนอสุด พิ เ ศษ และกิจกรรมสุดฮอตตลอดทั้งงาน

30

a side


MNA เปิดเส้นทางใหม่ เชียงใหม่ - ย่างกุ้ง

@ โรงแรม Le Meridien Myanmar National Airlines หรือ MNA เปิดตัวเส้นทางบินตรงเชียงใหม่ – ย่างกุ้ง และ ย่ า งกุ ้ ง – เชี ย งใหม่ ซึ่ ง จะเริ่ ม ให้ บ ริ ก ารตั้ ง แต่ เดือนพฤศจิกายนนีเ้ ป็นต้นไป ด้วยเทีย่ วบิน 4 เทีย่ ว ต่อสัปดาห์ เพื่อเป็นการส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจ ระหว่างทั้งสองเมือง ใครที่อยากลองไปสัมผัส บรรยากาศของเมื อ งย่ า งกุ ้ ง ประเทศเมี ย นมาร์ ดู ร ายละเอี ย ดได้ ที่ www.flymna.com หรื อ โทรสอบถามได้ ที่ 0-2235-6438 หรื อ 09-8279-7455

1st Lanna International Choir Competition 2016

@ ศู น ย์ ป ระชุ ม และแสดงสิ น ค้ า นานาชาติ ฯ เชียงใหม่ เป็ น งานที่ ไ ด้ ฟ ั ง เพลงประสานเสี ย ง เพราะๆ กันอย่างเต็มอิ่ม กับการประกวด ร้ อ งเพลงประสานเสี ย งระดั บ นานาชาติ ครั้งที่ 1 (1st Lanna International Choir Competition 2016) ที่จังหวัดเชียงใหม่ และ Interkultul Management สถาบัน จั ด การแข่ ง ขั น ร้ อ งเพลงประสานเสี ย ง ระดั บ โลกจากประเทศเยอรมนี ร ่ ว มกั น เป็ น เจ้าภาพ โดยงานนี้จัดการแข่งขันใน 5 ประเภท และมีคณะนักร้องประสานเสียงกว่า 62 ทีม จากทั่วโลกเข้าร่วม 31

a side


Food & Place

“เรื่องที่จะช่วยชาวเขา และโครงการชาวเขานั้น มีประโยชน์โดยตรงกับชาวเขา เพื่อจะส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวเขามีความเป็นอยู่ดีขึ้น สามารถที่จะเพาะปลูกสิ่งที่ เป็นประโยชน์และเป็นรายได้ของเขาเอง ที่มีโครงการนี้ จุดประสงค์อย่างหนึ่งก็คือ มนุษยธรรม หมายถึง ให้ผู้ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร สามารถที่จะมีความรู้และพยุงตัว มีความเจริญก้าวหน้าได้ อีกอย่างหนึ่งก็เป็นเรื่องช่วยในทางที่ทุกคน เห็นว่าควรจะช่วย เพราะเป็นปัญหาใหญ่ คือ ปัญหาเรื่องยาเสพติด ถ้าสามารถช่วยชาวนาปลูกพืช ที่เป็นประโยชน์บ้างเขาจะเลิกปลูกยาเสพติด คือ ฝิ่น ท�ำให้นโยบายการระงับ การปราบปรามการปลูกฝิ่นและการค้าฝิ่น ได้ผลดี อันนี้ก็เป็นผลอย่างหนึ่ง ผลอีกอย่างหนึ่งซึ่งส�ำคัญมากก็คือ ชาวเขา ตามที่รู้เป็นผู้ที่ท�ำการเพาะปลูก โดยวิธีที่ไม่ถูกต้อง ถ้าพวกเราทุกคนไปช่วยเขา ก็เท่ากับช่วยบ้านเมืองให้มีความดี ความอยู่ดีกินดี และปลอดภัยได้อีกทั่วประเทศ เพราะถ้าสามารถท�ำโครงการนี้ได้ส�ำเร็จ ให้เขาอยู่เป็นหลักแหล่ง สามารถที่จะมีความอยู่ดีกินดีพอสมควร และสนับสนุนนโยบาย ที่จะรักษาป่าไม้ รักษาดินให้เป็นประโยชน์ต่อไป ประโยชน์อันนี้จะยั่งยืนมาก” พระราชด�ำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ 9 พระราชทานในโอกาสทรงเยีย่ มคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2517

EAT WELL, LIVE HAPPINESS With Royal Project อยู่ดี กินดี ตามรอยพ่อ เรื่อง / ภาพ : HIP Team

ส�ำหรับคนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เราคุ้นเคยและคุ้นตา กันอย่างดี กับค�ำว่า โครงการหลวง หรือผลิตภัณฑ์ทชี่ อื่ ว่าดอยค�ำ แต่ ใ ครจะรู ้ ว ่ า นอกจากสถานี วิ จั ย เกษตรหลวงและศู น ย์ พั ฒ นา โครงการหลวงที่ ก ระจายอยู ่ ต ามพื้ น ที่ อ� ำ เภอต่ า งๆ ในจั ง หวั ด เชี ย งใหม่ แ ล้ ว ยั ง มี ร ้ า นอาหารของโครงการหลวง ที่ น อกจาก จะตั้ ง อยู ่ ใ นท� ำ เลที่ ดี ให้ เ ราได้ ซึ ม ซั บ กั บ ธรรมชาติ แ ล้ ว รสชาติ ของอาหารก็อร่อย รับประกับความสด ตามวัตถุดบิ ทีค่ ดั สรรมาจาก โครงการหลวง จากเกษตรกรในแต่ละพืน้ ทีท่ แี่ ตกต่างกัน ฮิพฉบับนี้ ขอแนะน�ำร้านอาหารส่วนหนึ่งให้ทุกคนได้รู้จัก เพื​ื่อพาคนที่คุณรัก ไปสัมผัสกับบรรยากาศของโครงการหลวง ตามรอยพระราชด�ำริ ของในหลวง

ห่อหมกปลาเทราต์ (ปลาเรนโบว์เทราต์)

หนึง่ ในเมนูแนะน�ำของร้านอาหารโครงการหลวงอินทนนท์ เนื้อปลามีสีขาว รสชาติคล้ายปลาแซลมอน ซึ่งเป็นปลา ในตระกูลเดียวกัน การเพราะเลี้ยงปลาเทราต์ เกิดเมื่อ ปี พ.ศ.2516 โดยในหลวงทรงพระราชทานให้มีการ เพาะเลีย้ งที่ ‘หน่วยวิจยั ประมงบนพืน้ ทีส่ งู ดอยอินทนนท์’

32 32

a side a side


อิ่มอร่อย สัมผัสลมหนาว บนดอยอินทนนท์

@ สโมสรศูนย์พัฒนาโครงการหลวง สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ร้านอาหารตัง้ อยู่ในจุดทีส่ ามารถเห็นวิวสถานีเกษตรได้ในมุมกว้าง บริเวณร้านตกแต่งด้วย พรรณไม้และดอกไม้หลายชนิด ดูแล ้วสบายตาและสบายใจกับอากาศทีเ่ ย็นตลอดทัง้ ปี สามารถ รองรับนักท่องเทีย่ วได้เป็ นจ�ำนวนมาก ทีน่ ่มี เี มนู แนะน�ำขึ้นชือ่ หลายตัว เพราะสามารถผลิตวัตถุดบิ ได้ในพื้นที่ เมนู เด็ดที่แนะน�ำได้แก่ ‘ปลาสเตอร์เจี้ยนนึ่งบ๊วย’ ความพิเศษของปลาชนิดนี้คือ ไม่มกี า้ ง มีกระดูกอ่อนๆ ทีพ่ อนึ่งแล ้วสามารถรับประทานได้ทงั้ ตัว (หรือจะสังแบบนึ ่ ่งมะนาวก็ได้) ‘เป็ ด อบกาแฟ’ อกเป็ ด อบนุ่ ม ลิ้น ละลายในปาก และเมนู อ่ืน ๆ เช่ น ห่ อ หมกปลาเทราต์, หมูอบหมัน่ โถว ฟักทองญี่ป่ ุน เป็ นต้น นอกจากรสชาติท่ีอร่ อยแลว้ การตกแต่ งก็สวยงาม ไม่แพ้กนั โดยเมนู เกือบทุกตัวจะตกแต่งด้วยดอกไม้ทส่ี ามารถรับประทานได้ ในแต่ละฤดูกาล ผลผลิตทีไ่ ด้จะแตกต่างกัน อย่างช่วงเวลานี้มอี โวคาโด้ ก็จะมีเมนู อย่าง สลัดอะโวคาโด้กุง้ สด, อะโวคาโด้กะทิสด, อะโวคาโด้ปนั ่ หรือผลไม้อย่าง พีช ก็นำ� มาท�ำ พีชลอยแก้ว พานาคอสต้าพีช กินคู่ กบั ชาสมุนไพรสดร้อนๆ หอมกลิน่ คาโมมายด์และมินต์ ปิ ดท้ายมื้ออาหารได้อย่างดี ที่ตั้ง : ใช้เส้นทาง สายจอมทอง - อินทนนท์ จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 31 เลี้ยวขวาไปทางบ้านขุนกลาง ประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เปิด : 10:00-20:30 น. โทร : 06-2269-7550 Facebook : สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ The Royal Agricultural Station Inthanon

ต้องลอง

‘น�้ำปั่นอินทนนท์’ น�้ำผักและผลไม้รวมปั่น จากโครงการหลวง ดื่มแล้วสดชื่นหายเมารถ

33

a side

DID YOU KNOW

หน่ ว ยวิ จั ย ประมงพื้ น ที่ สู ง ดอยอิ น ทนนท์ มู ล นิ ธิ โครงการหลวง สามารถผลิตคาเวียร์จากไข่ของปลา สเตอร์ เ จี้ ย น (Sturgeon) ได้ เ ป็ น ครั้ ง แรกของ ประเทศไทย โดยปลาสเตอร์เจี้ยนพบในลุ่มแม่น�้ำของ ไซบีเรีย ในประเทศรัสเซีย โดยปลาจะเติบโตได้ดใี นอุณหภูมิ ไม่เกิน 20 องศา เหมาะสมกับภูมอิ ากาศบนเขาทีห่ นาวเย็น หากใครอยากกิน โทรติดต่อสอบถามทางร้านอาหารก่อน โดยราคาจะอยู่ที่ 100 กรัม 5,000 บาท ข้อมูลจาก www.royal-inthanon.com


ต้องลอง

‘ขาหมูวนิลา’ ใช้ต้นวนิลาที่ปลูกใน เรือนเพราะช�ำ มาตุ๋น พร้อมขาหมู ให้มีกลิ่นหอม

หอมกลิ่นกาแฟ ท่องเที่ยวไปกับชุมชน

@สโมสรร้านโครงการหลวงตีนตก ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก เมือ่ เข้าไปในร้านอาหารภายในศูนย์พฒั นาโครงการหลวงตีนตก เราก็สมั ผัสได้ถงึ ความร่มรืน่ ความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ มีลำ� ธารไหลผ่าน และมีสะพานกัน้ ระหว่างตัวร้านอาหารและทีพ่ กั ส�ำหรับนักท่องเทีย่ ว หรือขาจรทีแ่ วะมากินข้าวก่อนจะขึ้นไปเทีย่ วหมูบ่ า้ นแม่กำ� ปอง ทีน่ ่ีเป็ นศูนย์สาธิตและส่งเสริมการเพาะเห็ดหอมของโครงการหลวง เพราะฉะนัน้ เมนู เด็ด ก็คงไม่พน้ ‘น�ำ้ พริกเห็ดหอมกับไข่ตม้ ’ กินแกล ้มผักต้มโครงการหลวง ข้าวสวยร้อนๆ ฟิ นไปอีกแบบ ‘ต้มย�ำไก่เบรส’ และ ‘ย�ำผักกรอบ’ ก็รสชาติจดั จ้านไม่เบา เมนู แนะน�ำนอกจากนี้ เช่น แกงเผ็ดหมูดอย, ไก่ดำ� ตุน๋ เห็ดหอม, ย�ำใบเมีย่ ง, แหนมหมูดอยโครงการหลวง เป็ นต้น และทีพ่ ลาดไม่ได้ อย่าลืมดืม่ ‘กาแฟโครงการหลวง’ และ ‘กาแฟตีนตก’ เพราะทีน่ ่ขี ้นึ ชื่อเรื่องการเพาะปลูกกาแฟอาราบิกา้ ที่ตั้ง : ไปทางถนนสาย สันก�ำแพง - แม่ออน (แม่ก�ำปอง) ผ่านน�้ำพุร้อนสันก�ำแพงไปตามป้าย ร้านอยู่ขวามือ เปิด : 11:00-16:00 น. โทร : 09-3146-7726 Facebook : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก 34

a side

DID YOU KNOW

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ครอบคลุมพื้นที่ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านป๊อก แม่ลาย บ้านแม่กำ� ปอง และบ้านธารทอง เป็นแหล่งผลิตกาแฟ อาราบิก้าคุณภาพดีของโครงการหลวง ล ้อมรอบด้วยธรรมชาติป่า ไม้ และล�ำน�้ำจากน�้ำตก มีโรงไฟฟ้าพลังน�้ำโครงการหลวงแห่งแรก และ ชุ ม ชนคนเมื อ งที่ มี ชื่ อ เสี ย งในด้ า นการจั ด การท่ อ งเที่ ย วโดยชุ ม ชน ‘บ้านแม่กำ� ปอง’ ซึง่ เป็นทีร่ จู้ กั กันดีวา่ ให้บริการทีพ ่ กั แบบ Home Stay ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศไทย ข้อมูลจาก www.thairoyalprojecttour.com


ต้องลอง

‘ไข่เจียวสมุนไพร’ ใส่ผักสมุนไพร เช่น โรสแมรี่, ลาเวนเดอร์

พักผ่อนชมวิว ทิวเขาม่อนแจ่ม

@ม่อนแจ่ม แคมป์ปิ้ง รีสอร์ท ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เชื่อว่าทุกคนต้องรู จ้ กั ม่อนแจ่ม ร้านอาหารบนม่อนแจ่ม เป็ นส่วนหนึ่งในพื้นที่ของศู นย์พฒั นาโครงการหลวงหนองหอย ซึ่งใช้ผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่ ต.แม่แรม อ.แม่ริม เป็ นส่วนใหญ่ นอกจากวิวภูเขาสลับซับซ้อนที่สวยงาม บนจุดชมวิวแลว้ โครงการหลวงหนองหอยยังมีจุดเด่นในการ เพาะปลูกสตรอเบอรี่ องุน่ อะโวคาโด้ รวมถึงผักชนิดต่างๆ เช่น ผักกาดหอมห่อ โรสแมรี่ และซอเรล เมนู อาหารส่วนมาก จะดัดแปลกจากวัตถุดินที่เกิดขึ้น ในแต่ละฤดูกาล ‘ย�ำแมคคาเดเมีย’ เป็ นเมนู แรกทีต่ ดิ ใจในรสชาติ จัดจ้านของน�ำ้ ย�ำและถัว่ แมคคาเดเมียที่เข้ากันอย่างดี ‘เมี่ยง’ แบบท้องถิ่นที่น�ำผักในโครงการมากินคู่ กบั ไส้และเครื่องเคียง ทีน่ ่าแปลกคือเมนู ทงั้ สองมีผกั ชนิดหนึ่งเป็ นส่วนประกอบอยู่ดว้ ย เพิ่งเคยได้ยินครัง้ แรก นัน่ คือผักซอเรล (มีแปลงปลู กอยู่บน ม่อนแจ่ มด้วย) ให้รสชาติเปรี้ยวแต่ ไม่ฝาด เหมาะกับการกิน แบบดิบๆ หรือแกล ้มน�ำ้ พริก เครื่องดืม่ มีทงั้ กาแฟและชาสมุนไพร จิบพร้อมกับของหวานโฮมเมด เช่น เค้กซู กิน่ี สโคนราดแยม สตรอเบอรี่ (ที่ชาวบ้านกวนเอง) รับประทานพร้อมๆ กับดู ววิ ไปด้วย ช่างจรรโลงใจจริงๆ

DID YOU KNOW ซอเรล (Sorrel) เป็นพืชขนาดเล็ก ดอกเป็นช่อสีชมพูอ่อน และก้านช่อดอกยาวมาก นิยมบริโภคใบสด ซอเรลเป็นพืชทีส่ งู ด้วย วิตามินซี มี Oxalic Acid และแร่ธาตุมาก ท�ำให้มคี ณ ุ ค่าทางอาหาร สูง มีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหารและฟอกเลือด ข้อมูลจาก www.royalprojectmarket.com

ที่ตั้ง : ใช้เส้นทาง แม่ริม - สะเมิง เลี้ยวขวาทางที่มุ่งหน้าไปม่อนแจ่ม เปิด : 07:00-19:00 น. โทร : 08-1806-3993, 08-4372-0466 Facebook : ม่อนแจ่ม แคมป์ปิ้ง รีสอร์ท 35

a side


ต้องลอง

ฟังเพลงเบาๆ กับบรรยากาศร้านอาหารในสวน

‘ย�ำทวาย’ เป็นย�ำไทยแบบโบราณ รสไม่จัด แต่เผ็ดน้อยๆ ออกรสหวานอมเปรี้ยว มีกลิน่ หอมของ หัวหอมเจียวและกะทิ

@ครัวโครงการหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์

ใกลๆ้ กับอุทยานหลวงราชพฤกษ์ หรือพืชสวนโลกที่เราทุกคนรู จ้ กั กันดี มีรา้ นอาหาร บรรยากาศร่ ม รื่ น ด้ว ยต้น ไม้แ ละดอกไม้ล ะลานตาประดับ ตกแต่ ง อย่ า งสวยงาม นัน่ คื อ ‘ครัวโครงการหลวง’ ถือเป็ นร้านอาหารของโครงการหลวงทีไ่ ม่ไกล ถ้าเทียบกับ 3 ร้านทีแ่ นะน�ำไป ข้างต้น จึงเป็ นร้านที่เป็ นที่นิยมของทุกคนที่ตอ้ งการลิ้มลองอาหารของโครงการหลวง ด้วยเมนู ทัง้ คาวและหวานทีม่ ใี ห้เลือกมากกว่า 40 เมนู และหากใครแวะไปทีร่ า้ นในวันเสาร์และอาทิตย์ จะมี เมนู พเิ ศษเฉพาะวันหยุด (ช่วงนี้) คือ ข้าวซอยไก่เมืองเหนือ และ ขนมจีนน�ำ้ เงี้ยวล ้านนา ‘เฟตตูชิน่ีปลาเทร้าต์’ หนึ่งในจานที่ทุกคนต้องลอง เพราะใช้เส้นเฟตตูชิน่ีสด ปรุงด้วย ซอสเพสโต้สด และมะเขือเทศกึ่งแห้งในน�ำ้ มัน เข้ากันเป็ นอย่างดี ‘เครมบรูเล’ ของหวานหอมละมุน กินปิ ดท้ายกับ พีชสมูทตี้ (ไม่ได้มีทุกวัน) จบมื้ออย่ างสวยงาม ทัง้ หมดเป็ นผลิตภัณฑ์ของ โครงการหลวง แถมทุกเมนู ยงั จัดหน้าตาสวยงามเหมือนได้ชมสวนดอกไม้ไปในตัว ที่ตั้ง : จากถนนคันคลองชลประทาน เลี้ยวเข้าอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เจอวงเวียนเลี้ยวขวาไปทางวัดพระธาตุดอยค�ำ ร้านจะอยู่ซ้ายมือ หรือสามารถ เข้าจากภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ก็ได้ เปิด : 08:00-17:00 น. โทร : 0-5208-0660 Facebook : ครัวโครงการหลวง - ดี อร่อย Royal Project Kitchen

36

a side

DID YOU KNOW เส้นเฟตตูชินี่สด ผลิตจากแป้งซาโมรีน่าและไข่สด มีความแตกต่าง จากเส้ น พาสต้ า อื่ น ๆ คื อ มี ค วามเหนี ย วนุ ่ ม และหอมเป็ น พิ เ ศษ และยังมีส่วนผสมของเนื้อผักสด ท�ำให้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยผสมผสานระหว่ า งสี แ ดงจากบี ท รู ท สี เ หลื อ งจากแครอท และสีเขียวจากปวยเล้ง เส้นพาสต้าตัวนี้ทางโครงการหลวงผลิตเอง สามารถเก็บเส้นสดได้ถึง 2 เดือน ทั้งนี้เพราะขั้นตอนการผลิตไม่ใส่ สารเคมีใดๆ และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ใช้เวลาลวกเส้นเพียง 2 นาที ก็สามารถทานได้ทันที ข้อมูลจาก www.royalprojectthailand.com


37

a side


ต้องลอง

‘ไก่เบรสรมควันจิ้มแจ่ว’ ท�ำจากไก่สายพันธุ์ดี จากฝรั่งเศษ มีจุดเด่นคือมีเนื้อนุ่มและหอม กินคู่กับจิ้มแจ่วรสแซ่บ กับผักจากโครงการหลวง

พักผ่อนสบายๆ แวะอุดหนุนโครงการหลวง

@ร้านโครงการหลวง สาขาสุเทพ

ถ้าจะหาของฝากคนทีค่ ุณรัก หรือจะหาวัตถุดบิ ไปท�ำกับข้าว ทีน่ ่คี งเป็ นสถานทีห่ นึ่งทีไ่ ม่ควรพลาด ในการมาช้อปปิ้ ง ด้วยตัวร้านที่ถูกออกแบบตกแต่ งให้สวยงามเข้ากับยุคสมัย และพื้นที่กว้างขวาง มีผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงวางเรียงรายหลายชนิดจนเลือกกันไม่ถูก มีทงั้ มุมผักและผลไม้สด อาหารแช่งแข็ง ผลิตภัณฑ์ดอยค�ำ หัตถกรรม ดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง เป็ นต้น นอกจากนี้ยงั มีมมุ สลัดบาร์ให้ตกั ตามใจชอบ พร้อมเลือกน�ำ้ สลัดได้เอง มุมชากาแฟและขนม ก็น่าสนใจ เหมือนได้นงั ่ ร้านกาแฟเก๋ๆ ไปในตัว หากใครอยากนัง่ ทานอาหารก็มใี ห้เลือก ตัง้ แต่เมนู งา่ ยๆ อย่างแซนวิช วอฟเฟิ ล จนกระทัง่ สเต๊กไก่ ที่ตั้ง : จากสี่แยกตลาดต้นพยอม ไปทาง ถ.สุเทพ เส้นหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร้านจะอยู่ขวามือติดกับคณะเกษตรศาสตร์ เปิด : 08:00-18:00 น. โทร : 0-5321-1656 ต่อ 241

38

a side


39

a side


Recipe

SPAGHETTI MILANESE & CHICKEN IN BREADCRUMBS สปาเกตตีมิลานเนสและไก่ชุบเกล็ดขนมปังทอด เรื่อง / ภาพ : วัฒนาวรรณ ขันอาษา

สปาเกตตีมิลานเนส... เป็นเครื่องกลางวันที่เป็นพระกระยาหารโปรดของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ...นอกจากสปาเกตตีมิลานเนสแล้ว ยังมี ซุปอาสาเรน (ซุปใสใส่ไข่) แกงจืดเซ่งจี๊ ผัดไก่เล่าปี่ ปูเค็มต้มกะทิ หลนปลากุเรา ผัดเผ็ดปลาดุกทอดฟู กล้วยหักมุกเชื่อม ไอศกรีม ผลไม้ (ข้อมูลจากหนังสือ ‘ใกล้เบื้องพระยุคลบาท กับ ลัดดาซุบซิบ’ เขียนโดย นายแถมสิน รัตนพันธุ์) ซึ่งทางเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ได้น� ำมา เผยแพร่ในหัวข้อ ‘ในหลวง กับ พระราชจริยวัตรในความทรงจ�ำไทยทั้งผอง’ เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๙:๐๓ นาฬิกา ปกติขา้ พเจ้าซึง่ ก็ทำ� สปาเกตตีรบั ประทานบ่อยมากๆ ทัง้ สปาเกตตีซอสเนื้อ, สปาเกตตีผดั กับน�ำ้ มันมะกอก หรือจะเป็ นสปาเกตตีหมึกด�ำ... พอทราบว่าพระองค์ โปรดเมนู น้ ี ข้าพเจ้าก็มคี วามปรารถนาทีจ่ ะหาสูตรมาเผยแพร่ โดยได้สอบถามเพือ่ นๆ ที่ เ ป็ น ชาวอิ ต าเลี่ย นที่ อ ยู่ เ มือ งไทยและเชพอาหารฝรัง่ พร้อ มกับ หาข้อ มู ล ในอินเทอร์เน็ต ก็ได้ค�ำตอบทีต่ า่ งกันออกไป (แน่นอนว่าอาหารในโลกมักจะไม่มแี ค่สตู รเดียว)

ก็ขอสรุปว่า สปาเกตตีมลิ านเนส จะมีส่วนผสมหลักคือซอสมะเขือเทศและเห็ด แต่จะใส่เนื้อสัตว์หรือไม่นนั้ ก็ตามชอบ... แต่ในสูตรทีเ่ ขียนให้จะใส่แฮม และข้าพเจ้า ได้เพิม่ สูตร Pollo alla Milanese ไก่ชบุ เกล็ดขนมปังทอด หรือ Chicken in Breadcrumbs มาให้ดว้ ย (จะไม่ทำ� รับประทานก็ได้) ส่วนพืชผักรวมทัง้ เครื่องเทศ ของต่างประเทศทีใ่ ช้กับเมนูน้ ี ก็ปลูกได้ในประเทศไทย ซึง่ ก็มาจากโครงการหลวงทัง้ สิ้น…

ส่วนผสมไก่ชุบเกล็ดขนมปังทอด

เนื้ออกไก่ 250 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง แป้ งสาลีอเนกประสงค์ / เกล็ดขนมปัง / พาร์มซี านชีส เกลือป่ น / พริกไทยด�ำ / น�ำ้ มันทอด * ส่วนผสมนี้ ทอดไก่ได้ประมาณ 4-6 ชิ้น

วิธีท�ำไก่ชุบเกล็ดขนมปังทอด

- เนื้ออกไก่แล่บางเป็ นชิ้นๆ และทุบด้วยทีท่ บุ เนื้อ วางเรียง ในถาด โรยเกลือและพริกไทยเล็กน้อยทัง้ สองด้าน พักไว้... - ไข่ไก่ตอกใส่ชามตีให้เข้ากัน, แป้ งสาลีเอนกประสงค์ใส่จาน รอไว้, เกล็ดขนมปังใส่จานผสมกับพาร์มซี านชีสในอัตราส่วน 2:1 และผสมเกลือเข้าไปอีกเล็กน้อย คลุกเคล ้าให้เข้ากัน - ตัง้ กระทะแบนใส่นำ�้ มัน ไฟปานกลาง พอน�ำ้ มันร้อน น�ำไก่ทท่ี บุ แล ้วคลุกแป้ งสาลี แล ้วไปชุบไข่ และน�ำไปคลุกกับ เกล็ดขนมปังทีผ่ สมแล ้ว คลุกให้ทัว่ น�ำไปทอดให้เหลืองกรอบ ทัง้ สองด้าน ซับด้วยกระดาษซับน�ำ้ มัน... น�ำไปเสิรฟ์ คู่กบั สปาเกตตีมลิ านเนสได้เลย 40

a side


ส่วนผสมสปาเกตตีมิลานเนส

น�ำ้ มันมะกอก (Extra Virgin) 1 ทัพพี เนยเค็มก้อนขนาด 10 กรัม 3 ก้อน มะเขือเทศลูกใหญ่แบบกินสด 5 ลูก หอมหัวใหญ่ขนาดกลาง 1 หัว กระเทียม 4 กลีบใหญ่ เห็ดแชมปิ ญอง 200 กรัม แฮม 200 กรัม เบค่อน 2 เส้น Tomato Paste 200 มิลลิลติ ร โหระพาสับ 2 ช้อนโต๊ะพูน ใบกระวาน 1-2 ใบ ไทม์แห้ง 1 หยิบมือ พาสเลย์สบั 2 ช้อนโต๊ะพูน น�ำ้ เปล่า 400 มิลลิลติ ร น�ำ้ ตาลทราย 1 ช้อนชาพูน สปาเกตตี / เกลือป่ น / พริกไทยด�ำ พาร์มซี านชีสโรยหน้า (ไม่ใช้กไ็ ด้) * สูตรนี้ ราดหรือคลุกสปาเกตตีได้ 6- 8 ที่

วิธีท�ำสปาเกตตีมิลานเนส

ตามด้วยแฮม ผัดต่อซักครู่จนแฮมเริ่มหดตัว ตามด้วยหอมหัวใหญ่ผดั จนเหลือง กระเทียมผัดจนหอมและเห็ดแชมปิ ญอง ผัดต่อซักครู่ จึงใส่มะเขือเทศสับและ Tomato Paste, โหระพา, พาสเล่ย,์ ไทม์แห้ง, ใบกระวานผสมน�ำ้ เปล่า ปรุงรสด้วย เกลือ 2 ช้อนชาพูน พริกไทย และน�ำ้ ตาลทราย ผัดต่อไปอีกประมาณ 10-15 นาที หรือให้ข ้นพอประมาณ ชิมอีกครัง้ รสชาติจะเค็มน�ำ เปรี้ยวตาม หวานน้อย เสร็จแล ้ว น�ำไปราดหรือคลุกกับเส้นสปาเกตตีตามชอบ โรยหน้าด้วยพาสเล่ยซ์ อยละเอียด

- ต้มเส้นสปาเกตตี โดยรอให้น�ำ้ เดือดแล ้วใส่เกลือลงไป คนให้ละลาย ใส่ปริมาณที่ ชิมแล ้วให้ได้รสเค็มเหมือนน�ำ้ ทะเล ต้มเส้นให้สุกตามความชอบ... - เตรียมของอืน่ ๆ โดยสับมะเขือเทศให้พอละเอียด, หอมหัวใหญ่สบั พอละเอียด, กระเทียมสับละเอียด, เห็ดซอย, แฮมหัน่ , เบค่อนสับละเอียด - ตัง้ หม้อไฟปานกลาง ใส่นำ�้ มันมะกอก เนย เบค่อน ผัดจนเบค่อนเริ่มจะเกรียม

TIPS * * * *

มะเขือเทศลูกใหญ่แบบกินสด... จะมีทรงกลมไม่รี เนื้อจะหวานและฟู การต้มเส้นสปาเกตตี... ครูอิตาเลี่ยนบอกว่าปริมาณเกลือที่ใส่ในน�้ำต้มจะใส่เท่าไหร่นั้น ให้ชิมแล้วรู้สึกว่าเค็มเหมือนน�้ำทะเล ถ้าต้มเส้นเสร็จแล้วแต่ยังไม่รับประทาน... ให้คลุกเส้นด้วยน�้ำมันมะกอกไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน ความสุกของเส้น... ถ้าต้มเส้นเสร็จแล้วยังไม่รับประทานทันทีให้แช่เส้นไว้ในน�้ำแข็ง เพื่อเป็นการหยุดความร้อนของเส้น 41

a side

ช้อนชา = ช้อนที่ใช้ส�ำหรับชา กาแฟทั่วไป ช้อนโต๊ะ = ช้อนส้อมที่ใช้กินข้าวทั่วไป ทัพพี = ทัพพีเมลามีนตักข้าวทั่วไป


Journey & Amazing Dishes

CHINESE SALAD @ BEIJING เรื่อง / ภาพ : Missน�้ำปู๋

บริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมินช่วงวันชาติจีน ก�ำแพงเมืองจีนช่วงต้นทาง

Installation ภายใน 798 Art District

หม่าล่า (Chinese BBQ)

มุมหนึ่งภายในบริเวณพระราชวังต้องห้าม

ว้าววว... อร่อยอ่ะ!!! ไว้กลับไปท�ำกินบ้างดีกว่า

ปี 2009 ไปเทีย่ วปักกิง่ โดยไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ เพราะช่วงทีไ่ ป เป็ นวันชาติจนี !!! เลยได้ดูตาคนจ�ำนวนมหาศาล เอิก๊ ๆ... ตัง้ ใจไปเทีย่ วเพราะอยากไปเห็นก�ำแพงเมืองจีนและ พระราชวังต้องห้าม ส่วนทีเ่ หลือก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ทีไ่ ด้จากปักกิง่ เช่น 798 Art District (โรงงานอุตสาหกรรม ที่เปลีย่ นให้เป็ นชุมชนศิลปะ) / Nan Luo Gu Xiang ซอยแคบๆ แต่ยาวทีข่ ายของดีไซน์ (Hip Shopping Alley) / จัตุรสั เทียนอันเหมิน สถานที่จดั งานฉลองวันชาติจีน เราก็ เ ดิน เล่น ดู ง าน ดู ค นมหาศาล ส่ ว นเรื่ อ งอาหาร มาเมืองจีนต้องกินหม่าล่า (Chinese BBQ) อาหารยอดฮิต ทีข่ ายตามข้างถนน อร่อยมาก และเป็ ดปักกิ่งต้องโดน... กินไป 1 ตัว เพราะครึ่งตัวเขาไม่ขาย!!!

Amazing Dishes ของเราก็คอื Chinese Salad อาหารธรรมดาๆ ทีน่ ่าจะมีแทบทุกร้าน... พอเสิรฟ์ ปุ๊ ป!!!... ก็ไม่ได้ตืน่ เต้นอะไรนัก แฮ่ๆ... แต่พอคีบเข้าปากแค่นนั้ แหละ... ว้า ววว... อร่ อ ยอ่ ะ !!!เป็ นสลัด ผัก ซอยเป็ นเส้น เล็ก ๆ ทีร่ ูส้ กึ ได้ถงึ รสและกลิน่ ของน�ำ้ มันงา เผ็ดเล็กน้อย ทีพ่ อจ�ำได้ ก็มแี ตงกวา ถัง่ งอก กะหล�ำ่ ปลี ถัว่ ลิสง และเสิรฟ์ เย็น… กินเสร็จบอกกับตัวเองว่า “ไว้กลับไปท�ำกินบ้างดีกว่า” เ สี ย ด า ย ว่ า ไ ม่ มี รู ป ใ ห้ดู เ พ ร า ะ แ ผ่ น ซี ดี ที่เก็บรูปไว้เสียไปบางส่วน แต่ไม่เป็ นไร!!! เราท�ำสูตร ให้แ ล ว้ ใช้ช่ื อ ว่ า ‘สลัด วุ น้ เส้น สไตล์เ สฉวน’ โดยประยุกต์ให้ใส่วุน้ เส้นเข้าไปด้วย เข้า ไปดู สู ต รสลัด วุ น้ เส้น สไตล์เ สฉวนได้ท่ี www.hipthailand.net สลดั หัวข้อ Food Recipe & Place > Recipe น วนุ้ เส้น สสไตลเ์ สฉว

หมายเหตุ : คอลัมน์ Journey & Amazing Dishes เกิดขึ้นมาได้เพราะความตื่นเต้นของเราที่ได้ไปพบเจอ-ชิม-กินอาหาร จากการที่เราได้ไปเที่ยวในต่างประเทศหรือแม้แต่ ในประเทศเอง อาหารนั้นๆ อาจจะไม่ว้าวววส�ำหรับหลายคน แต่อีกหลายคนว้าวววแน่ๆ เพราะไม่รู้จักเช่นเดียวกับเรา บางทีอาจจะไม่ใช่อาหารที่แปลกหรืออาจเป็นอาหาร พื้นบ้านธรรมดา แต่ก็ท�ำให้เราว้าวววได้ จนเราต้องไปค้นหาสูตรเพื่อจะได้ปรุงรสชาติให้เหมือนหรือคล้ายที่สุด และบางทีก็เป็นแรงบันดาลใจให้เราประยุกต์ขึ้นมาเป็นเมนูใหม่ๆ ซะเลย 42

a side


Movie Attraction

TIME & SPACE

หนังเด็ดน่าดูประจ�ำเดือนพฤศจิกายนนี้ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับเรื่องของ ‘พื้นที่และเวลา’ ทั้งสิ้น เริ่มกันตั้งแต่โรงเรียน ที่มีเรื่องลึกลับเขย่าขวัญซ่อนอยู่ในประวัติศาสตร์, การต่อสู้เพื่อแย่งชิง ‘สมุดมรณะ’ ของผู้สืบทอดของตัวละครจากภาค ก่อนหน้า, การไขปริศนาเพื่อช่วยมนุษยชาติของโรเบิร์ต แลงดอน ในยามที่เขาสูญเสียความทรงจ�ำบางอย่างไป, เรื่องราว โกลาหลของนักสัตว์วิเศษวิทยาที่มาเยือนมหานครนิวยอร์ก ซึ่งแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ จะได้อ่านหนังสือที่ชายผู้นี้เขียนในอีก หลายปีต่อมา และเรื่องราวสนุกสนานของคุณย่าที่บังเอิญย้อนวัยกลับมาเป็นสาววัย 20!

Death Note : Light Up The New World

โรงเรียนผี

วันที่เข้าฉาย : 3 พฤศจิกายน 2559 แนวหนัง : Comedy, Horror ผู้ก�ำกับ : มนัสนันท์ พงษ์สุวรรณ นักแสดง : อิงครัต ด�ำรงศักดิ์กุล, เพ็ชรทาย วงษ์ค�ำเหลา, พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ, เจริญพร อ่อนละม้าย

วันที่เข้าฉาย : 3 พฤศจิกายน 2559 แนวหนัง : Action, Fantasy ผู้ก�ำกับ : Shinsuke Sato นักแสดง : Tatsuya Fujiwara, Kenichi Matsuyama, Noemie Nakai

แก๊งนักเรียนมัธยมต้นสุดแสบประจ�ำรุ่นหาเรื่อง แก้เ ซ็ ง ด้ว ยการลองดี แ ข่ ง กัน เล่ า เรื่ อ งผี สุ ด สยอง ในห้องเรียนของตึกเก่ า ที่เล่าลือกันว่าสุ ดหลอน จนไม่มใี ครกล ้าย่างกราย เ ข้า ไ ป โ ด ย ไ ม่ รู ้ ว่ า ที่โรงเรียนแห่งนี้มกี ฎอยู่ 3 ข้อ คือ อย่ า รู ใ้ นสิ่ง ที ไม่ควรรู,้ อย่าท้าในสิ่งที่ มองไม่เห็น และอย่าอยู่ คนเดียวล�ำพัง!

Inferno

วันที่เข้าฉาย : 10 พฤศจิกายน 2559 แนวหนัง : Action, Crime ผู้ก�ำกับ : Ron Howard นักแสดง : Tom Hanks, Felicity Jones, Irrfan Khan

การผจญภัยครัง้ ใหม่ของโรเบิรต์ แลงดอน ที่ต่ืนขึ้นในโรงพยาบาล ในอิ ต าลี โดยสู ญ เสีย ความทรงจ�ำ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ก่ อนหน้านัน้ หน�ำซ�ำ้ ยัง ถู ก ต า ม ล่ า เ อ า ชี วิ ต มี เ พี ย ง ค ว า ม รู ้ ด ้ า น สัญ วิท ยาของเขา และ ความช่ วยเหลื อ จาก ดร.เซี ย นนา บรู ๊ ค ส์ เท่ า นั้น ที่ จ ะช่ ว ยให้เ ขา พ้นภัย และไขปริศนาทีอ่ าจท�ำลายมนุษยชาติ

ในปี 2016 ทีโ่ ลกถูกคุกคามด้วยการ ก่ อ การร้า ยผ่ า นโลก ไซเบอร์ เมือ่ ความจริง เปิ ดเผยว่า เดท โน้ต หรือสมุดมรณะไม่ได้ มีแค่หนึ่งเล่ม แต่มอี ยู่ บนโลกถึ ง 6 เล่ ม เป็ นเหตุให้ผูส้ ืบทอด ดีเอ็นเอของ แอล กับ ยางามิ ไลท์ ปรากฏตัว และเริ่มการต่ อสู เ้ พื่อ ครองสมุด มรณะทัง้ 6 เล่ม

Fantastic Beasts and Where to Find Them

20 ใหม่ ยูเทิรน์ วัย หัวใจรีเทิรน์

ผลงานของ ผูเ้ ขียน แฮร์ร่ี พ็อตเตอร์ กับ การกลับมาอีกครัง้ ของโลกเวทมนตร์ เมือ่ กระเป๋ าเดิ น ทางของ นิ ว ท์ สคามัน เดอร์ นั ก สั ต ว์ วิ เ ศษวิ ท ย า ซึ่ ง ได้ร ับ หน้า ที่ ใ ห้แ ต่ ง หนัง สื อ คู่ มื อ เกี่ ย วกับ สัต ว์ใ นเทพนิ ย ายถู ก มักเกิ้ลหยิบสลับไป ระหว่างเดินทางมายังนิวยอร์ก ในปี 1926 ความโกลาหลจึงเริ่มต้นขึ้น!

ก า ร ถ่ า ย ภ า พ ในร้าน ‘ฉายาร�ำลึก’ ท�ำให้ ปาน คุ ณ ย่ า วัย 74 ปี ซึ่ ง ครอบครัว ของเธอ วางแผนจะส่ ง ตัว ไปอยู่ บ้านพักคนชรา กลับมา เป็ นหญิงสาวอายุ 20 ปี อีกครัง้ เธอจึงใช้ชวี ติ ใหม่ อย่างสนุ กสนาน โดยมี บู ม หลานชายสุ ด ที่ร กั และ นัท โปรดิวเซอร์หนุ่ม เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่อง ปาฏิหาริยท์ เ่ี กิดขึ้นด้วย

วันที่เข้าฉาย : 17 พฤศจิกายน 2559 แนวหนัง : Adventure, Fantasy ผู้ก�ำกับ : David Yates นักแสดง : Eddie Redmayne, Ezra Miller, Colin Farrell

(Imax & 4dx Recommended)

วันที่เข้าฉาย : 24 พฤศจิกายน 2559 แนวหนัง : Comedy, Romance ผู้ก�ำกับ : อารยะ สุริหาร นักแสดง : ดาวิกา โฮร์เน่, สหรัถ สังคปรีชา, กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม

***หมายเหตุ: โปรแกรมหนังอาจมีการเปลี่ยนแปลง

“Major Movie Plus” App เดียว ครบทุกเรื่องหนังในมือคุณ

โหลดฟรี

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เชียงใหม่ เช็ครอบ จองตั๋ว โทรสายตรง

ชัน้ 4 เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ชั้น 5 เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่

โทร.053-283939 โทร.053-288852

www.majorcineplex.com

www.twitter.com/majorgroup

43

a side

www.facebook.com/majorcineplexchiangmai


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.