HIP MAGAZINE ISSUE 157 : NOVEMBER 2017 (SECTION B)

Page 1

1

b side


C ONTENTS

N o v e m b e r

2 0 1 7

ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙ Bike Special Bike Collection Bike Trip Bike Route Bike Safe Run Travel Journey & Amazing Dishes

V o l. 1 4

N o. 1 5 7

03 12 16 18 22 24 25 28 32

14 Travel

หลังบรรลุเป้า หมายกั บ การตามล่ า พระอาทิ ต ย์ ดั บ ชาวคณะ Thailand Eclipse Chaser ถือโอกาส เที่ยวกันต่อก่อนกลับเมืองไทย และนี่คือตอนแรก ของการท่องเทีย่ ว กับการแวะชมความสวยงามของ ภูเขาหิน ซึ่งถูกธรรมชาติสร้างออกมาในหลากหลาย รูปแบบและสวยงามน่าประทับใจ

03 ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙

18 Bike Special

เมือ่ รูว้ า่ ทีมจักรยาน Vitamilk - Vanilla Residence Chiangmai มีภารกิจเดินทางไปแข่งขันจักรยาน กันถึงเมืองซีอาน ประเทศจีน HIP จึงไม่รอช้าที่จะ ขอให้ พ วกเขามาบอกเล่ า เรื่ อ งราวการเดิ น ทาง และการแข่งขัน ซึ่งจะสนุกสนานและตื่นเต้นแค่ไหน ขอเชิญติดตามภายในเล่มได้เลย

เรื่องราวและภาพถ่ายต่างๆ ที่ปรากฏใน ‘ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙’ นี้ เกิดจากความเต็มใจของหลายๆ บุคคลที่ HIP เอ่ยปากชักชวน ไม่เพียง เพราะทุกคนล้วนภูมิใจที่ตนเองเกิดในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๙ เท่านั้น หากยั ง ถื อ เป็ น การน้ อ มส� ำ นึ ก ในพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ เป็ น ล้ น พ้ น อันหาทีส่ ดุ มิได้อกี ด้วย

digital contents www.hipthailand.net

2

a side


๙ ฉันเกิดในรัชกาลที่

BORN IN THE REIGN OF

KING RAMA IX

เรือ่ งราวต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นข้อเขียนหรือภาพทีจ่ ะได้พบต่อจากนี้ คือส่วนหนึง่ ของประสบการณ์ของประชาชน ที่อาจต่างฐานะ ต่างหน้าที่การงาน ต่างเพศ ต่างวัย แต่พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นหาทีส่ ดุ มิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพ ิ ลอดุลยเดช และอยากจะถ่ายทอดความรูส้ กึ ของตน ทีย่ นิ ดีและภูมใิ จ กับการทีไ่ ด้เกิดในรัชสมัย ของรัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริยท์ จี่ ะสถิตอยูใ่ นหัวใจชาวไทยไปตราบนานเท่านาน


ดร.บุรินทร์ ธราวิจิตรกุล

อาจารย์ประจ�ำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ เวลา 15:52 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เป็นช่วงเวลาที่ได้พรากแก้วตาดวงใจของชาวไทยทั้งประเทศไปตลอดกาล และถือได้ว่าเป็นห้วงเวลามหาวิปโยคสูงสุดในชีวิตของคนไทยทุกคน

หลังจากเริ่มตัง้ สติได้บา้ ง ผมเริ่มถามตัวเองว่าพวกเราจะอยู่กนั ต่อไปยังไงดี ผมเริ่มทบทวนเหตุผลของความเศร้าทีเ่ กิดขึ้น และพบว่า มันเกิดขึ้นจากความรูส้ กึ ว่าพวกเราได้สูญเสียพระองค์ทา่ นไปแล ้ว ต่อไปนี้ ภาพของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทีท่ รงงานหนักในทัว่ ทุกพื้นทีข่ องประเทศ ด้วยความเมตตา และภาพเม็ดเหงือ่ ทีไ่ หลอาบพระพักตร์นนั้ คงเป็ นเพียง ความทรงจ�ำของอดีต ปัจจุบนั จากนี้ไป จะไม่มโี อกาสได้เห็นพระองค์อยู่กบั พวกเรา ในโลกนี้แลว้ ความรูส้ กึ ดังกล่าวช่างเป็ นความเจ็บปวดทีย่ ากจะเข้าใจได้ ถึงรูว้ ่าตอนนี้พระองค์ทรงประทับอยู่บนสรวงสวรรค์แลว้ แต่สวรรค์นนั้ อยูไ่ กลเหลือเกิน ไม่วา่ จะแหงนมองยังไงก็เป็ นไปไม่ได้ทจ่ี ะเห็นด้วยตาเปล่า มองไปเมือ่ ไหร่กเ็ ห็นแต่ทอ้ งฟ้ าสีครามและแสงอาทิตย์ทส่ี ่องลงมา ผมนัง่ มองแสงอาทิตย์ยามบ่าย และเริ่มรู ส้ กึ ว่าแสงอาทิตย์นนั้ ได้ส่องสว่างมาสู่โลกจากฟากฟ้ าอันแสนไกล ประหนึ่งว่าแสงได้ทำ� หน้าที่ เป็ นสะพานในการเชื่อมสวรรค์มาสู่โลกมนุษย์ หากพวกเราสามารถหาวิธี รองรับแสงอาทิตย์ท่ีส่องลงมาจากท้องฟ้ า ให้ฉายปรากฏเป็ นภาพเงา

รอยยิ้มของพระองค์ท่านได้ แม้จะเป็ นภาพทีเ่ กิดขึ้นชัว่ คราวตามการ เปลีย่ นแปลงเวลาของดวงอาทิตย์ในแต่ละวัน แต่นนั ่ อาจท�ำให้รูส้ กึ ว่า พระองค์ทา่ นไม่ได้หายไปจากพวกเราตลอดกาลอย่างทีค่ ดิ กัน แต่ทำ� ให้ ระลึกว่าพระองค์ทรงมองพวกเราจากท้องฟ้ าอยู่เสมอ และพระองค์ ยังคงส่องสว่างเป็ นก�ำลังใจให้เราสามารถด�ำเนินชีวติ ได้ต่อไป ผมเริม่ คิดถึงแสงอาทิตย์ ณ เวลา 15:52 น. ผมคิดว่าถ้าสามารถ ใช้ช่วงเวลานี้ ให้กลายเป็ นชัว่ ขณะเวลาพิเศษแห่งการน้อมพาให้พระองค์ กลับมาปรากฏในโลกอีกครัง้ และแสงอาทิตย์ ณ ห้วงเวลานี้เท่านัน้ ทีจ่ ะท�ำให้พวกเราได้เห็นภาพรอยยิ้มของพระองค์ทา่ นอย่างชัดเจนและ งดงามทีส่ ุด หากท�ำได้ตามดัง่ ฝัน อาจสามารถเปลีย่ นแปลงความหมาย ของเวลานี้ จากห้วงเวลาที่ทำ� ให้ชีวติ เราต้องลม้ พังพาบ กลายเป็ น ห้วงเวลาแห่งการลุกขึ้น เงยหน้ามองไปบนฟ้ า แลว้ ยิ้มให้กบั ก้าวเดิน ของชีวติ ต่อไปในอนาคต อดีต - ปัจจุบนั - อนาคต ไม่วา่ จะเมือ่ ไหร่กต็ าม... ในหลวง รัชกาลที่ ๙ จะทรงสถิตอยู่เป็ นก�ำลังใจให้เราชัว่ นิรนั ดร์ หมายเหตุ : ภาพเงารอยยิ้มของพระองค์ทา่ น จะปรากฏขึ้นในงานประติมากรรมแสง ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่ลอยอยู่เหนื อผนังอาคารเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในเวลา 15:52 น. ของทุกวัน และรองรับการเปลี่ยนแปลง ของแสงอาทิตย์ได้ในทุกฤดูกาล


ฉั น เ กิ ด ใ น รั ช ก า ล ที่ ๙ ฉันภูมิใจทีไ่ ดเ้ กิดมาเป็ น

พังค์ไทยในรัชกาลที่ ข อ เ ป็ น ข้ า ร อ ง บ า ท ทุ ก ช า ติ ไ ป

I was born in the reign of King Rama IX of Thailand

จีระศักดิ์ ทรัพย์อมรชัย

Product Designer, United Arts Co.,Ltd ส� ำ หรั บ ตั ว ผมแล้ ว ความรู ้ สึ ก ที่ มี ต ่ อ ในหลวง รั ช กาลที่ ๙ จะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย ตอนเด็กๆ เราจะได้เห็นท่านในข่าวในพระราชส�ำนัก ซึ่งเราได้ชมเพราะว่าจะรอดูรายการอื่นๆ ที่ออกอากาศหลังจากนั้น ก็จะรับรู้ ว่าท่านคือพระเจ้าอยู่หัว ท่านเสด็จไปตามที่ต่างๆ แต่ยังไม่ได้สนใจอะไรมากนัก จนกระทั่งโตเป็นวัยรุ่น ได้เห็นพระองค์ท่านเสด็จไปตามที่ต่างๆ ท�ำโครงการ หลายๆ อย่าง ก็เกิดความสงสัยว่าท�ำไมพระองค์ท่านต้องท�ำอะไรมากขนาดนี้ คือในความคิดของผมในตอนนัน้ คิดว่าพระมหากษัตริยไ์ ม่จำ� เป็นต้องท�ำอะไร แบบนี้ หรือไม่ก็ใช้ให้คนอื่นไปท�ำแทนก็ได้ แต่ท�ำไมพระองค์ท่านถึงเสด็จไป ด้วยพระองค์เอง

จนกระทัง่ เป็ นผูใ้ หญ่ ได้รูจ้ กั โครงการต่างๆ ของพระองค์ท่าน ก็รูส้ กึ ภูมใิ จทีไ่ ด้ใช้ชวี ติ ในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๙ รูส้ กึ ว่ากษัตริยท์ ไ่ี หน ก็ไม่มใี ครท�ำงานให้ประชานมากขนาดนี้ กับท�ำให้เข้าใจมากขึ้นว่า การที่ประชาชนรักพระองค์ท่านมาก ก็เพราะว่าเราได้เห็นสิ่งต่างๆ ทีพ่ ระองค์ท่านท�ำ ซึง่ ล ้วนแต่ทำ� เพือ่ พัฒนาประเทศชาติ เพือ่ ประชาชน กับเป็ นเพราะพระองค์ท่านทรงเสด็จไปตามทีต่ ่างๆ ด้วยพระองค์เอง ทัง้ ไปติดตามความคืบหน้าของโครงการต่างๆ และพบปะราษฎร พอเรามีความรู ส้ กึ แบบนี้แลว้ ก็เลยเริ่มคิดว่าเราจะสามารถ แสดงความรู ส้ ึกของเราได้อย่ างไรบ้าง เป็ นที่มาของการที่ผมเอา เสื้อหนังด�ำทีต่ วั เองมีอยู่มาใส่คำ� ว่า ‘ทรงพระเจริญ’ กับเลข ‘๙’ คือเรา คิดท�ำของเราเอง เป็ นการแสดงออกในแนวทางของเรา ไม่ได้สนใจ ว่าคนจะมองยังไง แต่ รูส้ ึกว่าอยากแสดงออกถึงความรู ส้ ึกที่มตี ่ อ พระองค์ท่านก็เท่านัน้ เอง เราเป็ นพังค์ท่ีรกั ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ใครเห็นแล ้วก็รูเ้ รื่องเลย ไม่ตอ้ งพูดอะไรมาก ถ้าจะเล่าให้ลูกหลานฟังว่า การเกิดในยุคสมัยของรัชกาลที่ ๙ นี้ดยี งั ไง เราคงจะบอกว่าเป็ นช่วงเวลาทีท่ กุ คนมีท่านเป็ นศูนย์รวมใจ ของทุกคนในชาติจริงๆ ความขัดแย้งทุกอย่างจะจบเมือ่ ท่านออกมาพูด เป็ นคนทีส่ ามารถคลีค่ ลายปัญหาต่างๆ ลงไปได้ เวลาทีส่ งั คมไม่รูว้ ่า จะเดิน ต่ อ ไปยัง ไง คือ ทุก เรื่อ งไปจบที่ท่ า น อย่ า งเช่ น เหตุก ารณ์ พฤษภาทมิ ฬ เป็ นต้น กับอยากจะบอกพวกเขาว่าท่านทรงท�ำอะไร เรื่อง/ภาพ : กานต์ ฮาร์โม ไว้บา้ ง ซึง่ มีอยู่มากมาย คงต้องใช้เวลานานกว่าจะอธิบายได้ครบ

ตัวอย่างหนึ่งจากสิ่งต่ างๆ มากมายที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ท่ า นทรงท�ำ ไว้ ผมว่า น่ า จะเป็ น เรื่อ งการแก้ไ ขปัญ หาในด้า นต่ า งๆ คือเราจะได้เห็นมาตลอดว่า พระองค์ท่านจะเสด็จพระราชด�ำเนิน ไปติดตามงานเองถึงที่ เป็ นตัวอย่างว่าคนระดับท่านยังลงมือท�ำเอง ไปดูเอง พระองค์ท่านถึงรูจ้ ริง ถึงบอกได้ว่าปัญหาคืออะไร ท�ำให้เรา ได้เรียนรู ว้ ่า การที่จะแก้ปญ ั หาอะไรก็ตามเราต้องลงไปดู เอง ไม่ใช่ ให้ค นอื่น ไปเก็ บ ข้อ มูล มาให้แ ล ว้ ค่ อ ยมาคิด เพราะจะได้รู ป้ ญ ั หา ว่าเป็ นยังไง อย่างตัวผมเองซึง่ ท�ำงานด้านการออกแบบ เวลาทีม่ ปี ญั หา เกี่ยวกับงาน เราก็ตอ้ งรูจ้ กั ขอบเขตของงาน รูจ้ กั วัตถุดบิ ทีเ่ ราเอามาใช้ จะได้รูว้ า่ อะไรคือปัญหาและสามารถแก้ไขปัญหาได้ วันทีใ่ นหลวงสวรรคตก็ตดิ ตามข่าวตลอด ผมคิดว่าลึกๆ แล ้ว ทุกคนรู ส้ กึ เสียใจ เชื่อว่าในวันนัน้ มีหลายคนที่กลับบ้านแลว้ ไปแอบ ร้องไห้ ผมเองก็เป็ น อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็อาจจะแค่ คุยกัน แต่ เมื่อ กลับบ้านไปคิดทบทวนแลว้ ก็เสียใจร้องไห้น�ำ้ ตาไหล ซึ่งพอมาถึง วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ อารมณ์ความรูส้ กึ เหมือนตอนเมือ่ วันที่ 13 ตุลาคมก็กลับมาอีกครัง้ แต่หลังจากนัน้ ชีวติ เราก็ตอ้ งก้าวต่อไป จะมาเสียใจตลอดก็คงไม่ได้ ในหลวงท่านก็คงไม่อยากให้เรามัวแต่ เสียใจ อยากให้พวกเราใช้ชวี ติ เดินหน้าต่อไป ส่วนความทรงจ�ำก็จะเป็ น สิ่ง ที่ติด ตัว แต่ ล ะคนไป เพื่อ เอาไปบอกลู ก หลานกัน ว่า เราเกิด ใน รัชสมัยของพระองค์ท่าน


จินตนา กิจมี

ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์มติชน / ผู้บริหาร เว็บไซต์ ส�ำนักข่าวเห็ดลม ความรู้สึกที่มีต่อในหลวง รัชกาลที่ ๙ คงเป็นความรู้สึกที่ซึมซับ ผ่านค�ำบอกเล่าของครอบครัวมาตั้งแต่เด็กๆ คุณแม่มักจะเล่าให้ฟังเสมอว่า ในหลวง รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระราชินี เสด็จมาถึงหน้าบ้านของเรา เพราะคุณแม่ตั้งโต๊ะรอเตรียมถวายช่อดอกไม้ที่หน้าประตูบ้าน หลังทราบข่าว จากเจ้าหน้าที่ทหารว่า ทั้งสองพระองค์จะเสด็จผ่านหน้าบ้าน ซึ่งตอนนั้นดิฉัน ยังไม่เกิดเลย จึงไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้า

ดิฉนั เป็ นคนจังหวัดอุตรดิตถ์ บ้านอยูห่ น้าค่ายพระยาพิชยั ดาบหัก เรียกว่าเป็ นลู กหลานทหาร เวลาพระบรมวงศานุ วงศ์เสด็จทรงงาน ในพื้นทีก่ ต็ อ้ งเสด็จมาทีค่ ่าย เราจึงได้เห็นได้สมั ผัสพระจริยวัตรทีง่ ดงาม ของแต่ ละพระองค์ โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพ ลอดุ ล ยเดช บรมนาถบพิตร ท่ า นงามทัง้ กายและใจ ทรงมี พระเมตตาต่อทุกคนทีพ่ บ หากแต่นนั ่ ก็เป็ นเรื่องราวในสมัยทีเ่ รายังเด็ก เมือ่ ดิฉนั โตขึน้ มา ด้วยความทีเ่ ป็นคนชอบอ่านหนังสือ ไม่เว้นแม้แต่ หนังสืองานพระราชทานเพลิงศพของนายทหารที่ไปรบแต่ไม่มโี อกาส ได้ก ลับ มาพบหน้า ครอบครัว ก็ จ ะได้เ ห็น พระเมตตาที่ท รงมีต่ อ ครอบครัวพวกเขาเหล่านัน้ และยิ่งได้มาอ่านเรื่องราวพระราชประวัติ การใช้ชวี ติ เรื่องความรัก ไปจนถึงการทรงงานหนักของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะพื้นที่ทรงงานทางภาคเหนือ ตามป่ าตามเขาและยอดดอย ก็รูส้ กึ ทึง่ ในความทรหดอดทนและมุ่งมัน่ ทีจ่ ะไปให้ถงึ แม้ว่าพื้นทีน่ นั้ จะห่างไกลและทุรกันดารแค่ไหนก็ตาม

ตอนนัน้ ก็ไม่ได้ลกึ ซึ้งอะไรมากนัก เพราะอยู่ในช่วงวัยเรียน แต่เมือ่ จบการศึกษาและเลือกทีจ่ ะมาท�ำงานทีจ่ งั หวัดเชียงใหม่ คราวนี้ ได้เจอของจริงเลย เพราะต้องท�ำทุกเรื่อง เรียกว่าท�ำงานทัง้ พื้นราบ และขึ้นดอยไปเรือ่ ยๆ สมัยนัน้ คือเมือ่ 20 ปี ก่อน ลองนึกภาพตามนะคะ ว่าจะสมบุกสมบันขนาดไหน แลว้ อยากให้นึกเลยไปก่อนหน้านัน้ อีก สมัยที่พระองค์ท่าน พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จไปจะล�ำบากขนาดไหน สมัยนัน้ ถนนหนทางยังไม่มกี ารลาดยางแบบสมัยนี้ เสี่ยงอันตรายทุกอย่าง เพราะพื้นทีบ่ างแห่งอยู่ตดิ กับตะเข็บชายแดน แต่พระองค์ท่านก็เสด็จ ไปจนถึง ยิ่งพื้นที่โครงการหลวงแต่ละแห่งลว้ นห่างไกลความเจริญ ตอนทีด่ ฉิ นั ไปท�ำงานสะดวกสบายขึ้นมากแล ้ว ดิฉนั ยังมีแอบบ่นเหนื่อย เทียบไม่ได้เลยกับสมัยก่อน เรือ่ งของเราถือว่าเล็กน้อยมากถึงมากทีส่ ดุ หลังจากนัน้ ได้รบั โอกาสจากเจ้าวงศ์สกั ก์ ณ เชียงใหม่ ทายาท เจ้าผูค้ รองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย ให้เข้าไปช่วยท�ำงานทางด้าน การเก็บรวบรวมข้อมูล ภาพถ่าย และเขียนบทความเกี่ยวกับเจ้านาย พระองค์ต่างๆ อยู่ หลายเล่ม แต่ ท่ีภูมิใจมากคือ การท�ำหนังสือ ‘เทิดพระเกียรติ เจ้าพ่อหลวง’ คณะท�ำงานทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน อย่างเต็มก�ำลัง คราวนี้มโี จทย์คอื พื้นทีโ่ ครงการหลวงทุกแห่งทีพ่ ระองค์ เสด็จ ตอนท�ำงานยังไปไม่ครบเลย แต่หนังสือเล่มนี้ทำ� ให้เราเข้าถึง ค�ำว่า ‘โครงการหลวง’ จริงๆ “ชาวบ้านบนนัน้ ยากจนจริงๆ แต่เหนือสิง่ อื่นใดคือ การทีเ่ ขา อยู่ ก บั ต้น น�ำ้ ล�ำ ธาร อยู่ ก บั ทรัพ ยากรทางธรรมชาติ และเป็ น ทัง้ เกราะป้ องกันประเทศ หากมีเหตุใดเกิดขึ้นกลุม่ ชาติพนั ธุท์ อ่ี ยู่ในพื้นที่ ต้อ งรู ก้ ่ อ น ยิ่ ง ท�ำ ให้ซ าบซึ้ ง ในพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ อัน ยิ่ ง ใหญ่ ของในหลวง รัช กาลที่ 9 สายพระเนตรของพระองค์ท่ านลึก ซึ้ง คือช่วยได้ทงั้ คนบนดอยและพื้นราบเสร็จสรรพไปพร้อมกัน จะมีใคร เหมือนพระองค์ท่าน ไม่มอี กี แล ้ว” ตลอดชีวติ การท�ำงานได้มโี อกาสเจอเหตุการณ์หลายรูปแบบ มีบางเรือ่ งราวทีไ่ ด้รบั รู ้ บางเรือ่ งก็ทำ� ได้แค่จดจ�ำเอาไว้ในใจ ท�ำมาเรือ่ ยๆ จนวันหนึ่งได้รบั พระเมตตาพระราชทาน ‘เหรียญสองพระองค์’ มาให้ เรียกว่าเป็ นสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้กบั ชีวิตมาก เพราะปกติ เหรียญดังกล่าวจะมอบให้บุคคลที่รบั ราชการเท่านัน้ แต่ดิฉนั ไม่ใช่ จึง อัญ เชิญ ติด ตัว ไว้ต ลอดเวลาจนกระทัง่ ปัจ จุบ นั นี้ ด้ว ยถือ เป็ น สิรมิ งคลสูงสุดกับความเป็ นคนธรรมดาคนหนึ่ง จากวันนี้ไปจะไม่รอ้ งไห้ และสัญญาว่าจะท�ำความดีถวาย พระองค์ท่านทุกวัน

จักรพงศ์ เทียนวิจิตร

ศิลปิน, นักแต่งเพลง และครูสอนร้องเพลงโรงเรียนดนตรีจิตรลดา ตัง้ แต่เกิดมาและจ�ำความได้ ในชีวติ ของผมก็มใี นหลวงอยู่ จนกลายเป็น เรื่องปกติ ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะเห็นภาพของในหลวงอยู่ทุกที่ทุกหนแห่งจนเป็น เรือ่ งชินตา ไม่วา่ จะเป็นบนฝาผนังหลายๆ บ้าน ส�ำนักงาน องค์กร ห้างสรรพ สิ น ค้ า หรื อ แม้ แ ต่ ป ้ า ยตามท้ อ งถนน ในหลวงเป็ น ที่ รั ก ใคร่ แ ละเคารพ ของประชาชนทุกคนรวมถึงผมด้วย ซึง่ ผมก็ไม่รเู้ หมือนกันว่าเริม่ รักพระองค์ ตัง้ แต่เมือ่ ไร ส่วนหนึง่ อาจเป็นเพราะครอบครัวก็รกั พระองค์ทา่ น จึงปลูกฝัง และพูดถึงทุกเรือ่ งราวดีๆ ทีพ ่ ระองค์ทำ� เพือ่ ประชาชนให้ผมฟังบ่อยๆ มาตัง้ แต่ สมัยผมยังเป็นเด็ก


ฉั น เ กิ ด ใ น รั ช ก า ล ที่ ๙ ตอนเป็ นเด็กเราก็จะรับรูว้ า่ พระองค์ทรงงานหนักเพือ่ ประชาชน เรื่อยมาเสมอ ไม่วา่ จะเป็ นถิน่ ทุรกันดาร หนทางล�ำบากและไกลแค่ไหน ในหลวงก็จะไปทุกพื้นที่ ผมคิดว่าทุกพื้นทีข่ องประเทศไทย ไม่มที ไ่ี หน ที่ในหลวงไม่เคยเสด็จไป หลายๆ ครัง้ การเดินทางของพระองค์ เจออุปสรรคทีใ่ หญ่ เจอทัง้ พายุฝน น�ำ้ ท่วม ซึง่ ผมคิดว่าบางครัง้ พระองค์ จะไม่เสี่ยงไปก็ได้ อาจจะรอให้สถานการณ์คลี่คลายก่ อน หรือส่ง หน่วยงานอืน่ ๆ เข้าไปท�ำหน้าทีแ่ ทน แต่พระองค์กย็ นื ยันทีจ่ ะเสด็จไปเอง นัน่ ก็ เ พราะพระองค์เ ป็ น ห่ ว งประชาชนคนไทยมากที่สุ ด คงไม่มี

ให้พระองค์ท่านได้บา้ ง ในหลวงทรงย�ำ้ อยู่เสมอว่าอยากให้เราทุกคน เป็ นคนดี และรูร้ กั สามัคคีกนั ไว้ นอกจากสองสิง่ นี้พระองค์ไม่ได้ตอ้ งการ อะไรจากพวกเราเลย ผมจึ ง น�ำ หัว ข้อ นี้ ม าเขีย นขึ้น มาเป็ น เพลง ‘พ่อเหนื่อยพอแลว้ ’ เพลงนี้ผมใช้เวลาแต่งเนื้อร้องและท�ำนองไม่ถงึ หนึ่งชัว่ โมงก็เสร็จ ทุกค�ำร้อง ทุกท�ำนองทีค่ ดิ ออกมามันไหลลืน่ ออกมา จากใจ จ�ำได้วา่ ตอนทีร่ อ้ งไกด์เพลงนี้สง่ เดโมกลับไปให้พเ่ี อ ผมมีอาการ เสียงสันน� ่ ำ้ ตาคลอไปด้วย โดยเนื้อหาใจความของเพลงสือ่ ว่า พวกเรา ทุกคนรับรูเ้ สมอว่าพระองค์ท่านท�ำเพือ่ พวกเรามาหนักและนานแค่ไหน

พระราชาคนไหนในโลกทีจ่ ะรักและทุม่ เทให้ประชาชนได้ขนาดนี้อกี แล ้ว นอกจากการช่วยเหลือประชาชนแล ้ว ในหลวงยังพยายามคิดค้น หาวิธใี ห้ประชาชนมีคุณภาพชีวติ ทีด่ ขี ้นึ ให้ประชาชนมีอาชีพ สามารถ ท�ำประโยชน์เลี้ยงชีพตัวเองได้ มีรายได้ทพ่ี อเลี้ยงดูครอบครัว มีชวี ติ ทีเ่ ป็ นสุข สอนให้คนไทยรูจ้ กั พอเพียง ไม่วา่ จะเป็ นงานเกษตร คิดค้น ทฤษฎีใหม่ มื่อเกิดเหตุการณ์ความแห้งแลง้ ก็มีโครงการฝนหลวง ในหลวงของเราทรงท�ำทุกๆ อย่าง ทุกครัง้ ที่เห็นข่าวของในหลวง ไม่วา่ จะตามสถานทีใ่ ดก็ตาม ผมจะส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเสมอ สมัย เรี ย นอยู่ ม หาวิท ยาลัย พายัพ สาขาดุ ริ ย ศิ ล ป์ ผมมีโ อกาส ไปร้องเพลงกับคณะประสานเสียงเพื่อถวายพระพร ถือเป็ นความ ภาคภูมใิ จเล็กๆ ของผม ทีอ่ ย่างน้อยก็ได้ทำ� อะไรเพือ่ ในหลวงของเรา จนมาถึงวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เป็ นอีกวันหนึ่งทีค่ นไทย ทัง้ ประเทศได้รบั ข่าวร้ายทีส่ ุดในชีวติ หลังจากนัน้ ไม่นาน ผมก็ได้รบั โทรศัพท์จากพีเ่ อ วีระ นักดนตรีรุ่นพีข่ องผม ที่บอกว่าอยากให้ผม แต่งเพลงเพื่อเป็ นการถวายอาลัยแด่ในหลวงของเราเป็ นครัง้ สุดท้าย โดยจะชวนศิ ลปิ นนักร้องนักดนตรีในเชียงใหม่มาร้องบรรเลงและ บันทึกเสียงร่วมกัน ผมตอบรับพีเ่ อไปในทันที เพราะจริงๆ แล ้วก่อนที่ พีเ่ อจะโทรมา ผมเองก็คดิ ไว้อยู่แล ้วว่าอยากแต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง เพราะอารมณ์ในตอนนัน้ มันอัดแน่นไปด้วยความรูส้ กึ ทีย่ ากจะอธิบาย พอได้รบั มอบหมายหน้าทีใ่ ห้แต่งเพลง ผมจึงคิดย้อนกลับไปว่า ในหลวงท�ำเพื่อประชาชนคนไทยมามาก แลว้ เราจะตอบแทนอะไร

แต่ต่อไปนี้ทา่ นไม่ตอ้ งเหนื่อยแล ้วนะ จากนี้ให้เป็ นหน้าทีข่ องพวกเราเอง เราจะน�ำทุกค�ำสอนของพระองค์ไปใช้ และพวกเราจะรักและสามัคคีกนั อย่างทีท่ ่านหวังไว้ เพลงๆ นี้เป็ นเสมือนค�ำปฏิญาณ เมือ่ ทุกคนได้รอ้ ง หรือได้ฟงั ก็จะตระหนักถึงค�ำสอนเหล่านี้จากในหลวงเสมอ อันทีจ่ ริงเพลงถวายอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผมได้แต่งไว้ 2 เพลงด้วยกัน นอกจากเพลง ‘พ่อเหนื่อยพอแล ้ว’ ยังมีอกี หนึ่งบทเพลง ชือ่ ว่าเพลง ‘บนฟ้ า’ เพลงนี้ขบั ร้องโดยดารานักแสดงและศิลปิ นเชียงใหม่ อาทิเช่น พิมฐา, ริชชี่กบั ยิหวา นักแสดงจากช่อง 3, เบญ เรวิญานันท์ นักแสดงจาก Exact, ปลื้ม ปุรมิ นักแสดงจาก GMM TV ซึง่ แม้วา่ แต่ละคนจะอยู่คนละสังกัด แต่ก็มารวมใจเป็ นหนึ่งเดียวกันเพือ่ ร้อง ถวายแด่ในหลวงของเรา นอกจากนี้ยงั มีพๆ่ี น้องๆ จาก The Voice อาทิเช่น พีน่ ทั , พีป่ อนด์, ไตเติ้ล, หมิงหมิง ฯลฯ เพลงบนฟ้ ามีเนื้อหา ใจความสือ่ ว่า ทุกวันนี้เรายังคงเสียใจทีพ่ ระองค์ท่านได้จากเราไปแล ้ว แต่พระองค์ไม่ตอ้ งเป็ นห่วงนะ เราทุกคนจะเข้มแข็ง จะก้าวเดินต่อไป ข้างหน้า เพราะเมือ่ ไรทีเ่ ราเหนื่อยและท้อ เรารับรูอ้ ยู่เสมอว่าพระองค์ ทรงทอดพระเนตรมองเราจากบนฟ้ าตลอดเวลา ผ่านมาจนถึงวันนี้ เวลาก็ผา่ นเลยมาพอสมควร แต่กไ็ ม่มวี นั ไหน เลยทีจ่ ะไม่คดิ ถึงพระองค์ทา่ น พระองค์ยงั คงสถิตอยูใ่ นใจของผมเสมอ จากนี้และตลอดไป


อย่างพระองค์ท่าน แม้เพียงสักเสี้ยวหนึ่ง ฉันไม่ได้เก่งและท�ำงานหนัก มากมายอะไร แต่ ฉนั จะน้อมน�ำสิ่งที่พระองค์สอนพวกเราชาวไทย นัน่ คือ การรูจ้ กั หน้าทีข่ องตัวเองและท�ำตัวให้เป็ นประโยชน์ : รัชกาลที่ ๙ เป็ นต้นแบบของความประหยัด อดออม และการรู ้ คุณค่าของเงิน ไม่มีใ ครไม่รู จ้ กั ส�ำ นัก งานทรัพ ย์สิน ส่ ว นพระมหากษัต ริย ์ และหลายคนรูว้ า่ สินทรัพย์ภายใต้การบริหารของส�ำนักงานทรัพย์สนิ ฯ มีมากเพียงใด แต่เรากลับไม่เคยเห็นในหลวง รัชกาลที่ ๙ ใช้ชีวติ อย่างหรูหรา ฟุ่มเฟื อย ภาพหลอดยาสีพระทนต์ทถ่ี ูกบีบใช้จนยับยู่ย่ี เป็ นภาพที่ติดตาฉันมาตลอด ท�ำให้ฉนั ไม่กลา้ ทิ้งยาสีฟนั ที่ใกลห้ มด ถ้าไม่มนั ่ ใจว่ายังมียาสีฟนั หลงเหลืออยู่หรือไม่ และยังต้องคิดเสมอ เวลาจะทิ้งอะไร หรือซื้ออะไรให้กบั ตัวเอง พ่อหลวงสอนคนไทยให้รูจ้ กั ท�ำงาน อดออม สร้างฐานะ และน้อมน�ำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ในชีวติ ซึง่ ถ้าท�ำได้ แม้จะไม่ได้รำ� ่ รวยก็จะมีความมันคง ่ และความมันคง ่ ในระดับครัวเรือน จะน�ำมาซึง่ ความมันคงในระดั ่ บประเทศในทีส่ ุด : รัชกาลที่ ๙ เป็ นต้นแบบของความกตัญญู เสียดายแทนเด็กๆ ทีเ่ กิดไม่ทนั เห็นภาพความรักความผูกพัน ของรัชกาลที่ ๙ กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า เพราะช่างเป็ นภาพสะท้อนของความกตัญญู อนั ยิ่งใหญ่ท่ลี ูกมีต่อแม่ พระองค์ทรงเป็ นกษัตริย ์ มีพระราชกรณี ยกิจที่ตอ้ งทรงท�ำมากมาย แต่กย็ งั ให้ความเคารพและไม่เคยลืมทีจ่ ะดูแลเอาใจใส่ แสดงความรัก ความห่วงใยต่อพระมารดาจนวาระสุดท้ายของชีวติ ทีบ่ อกว่าอยากให้ เด็กๆ ได้เห็น ก็เพราะอยากให้ยดึ ถือเอาความกตัญญูมาเป็ นแบบอย่าง School Manager, โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ เชียงใหม่ / ไม่ใช่แค่กบั พ่อกับแม่ กับครูบาอาจารย์ แต่ยงั รวมถึงองค์กร หรือแม้แต่ ประเทศด้วย นางสาวไทยปี พ.ศ. 2545 : รัชกาลที่ ๙ เป็ นต้นแบบของการให้ความรูแ้ ละให้การศึกษา ครอบครัวของฉันท�ำโรงเรียน พ่อแม่กส็ อนหนังสือเป็ นอาจารย์ ฉันเกิดและใช้ชีวิตในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ซึ่งทรงเป็นพระประมุข และเป็นพ่อหลวง เราอยากให้การศึกษากับลูกหลานของเรา เพราะเราเชือ่ ว่าเมือ่ คนฉลาดขึ้น ของชาวไทยทุกคนที่พวกเรารักและเทิดทูน การที่ได้เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๙ คิดเป็ น สังคมก็จะดีข้ นึ ซึ่งนี่เป็ นแนวทางของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ช่างถือเป็นโชคดีเหลือเกิน เพราะนอกจากบารมีของพ่อหลวงจะท�ำให้ประเทศ ทีท่ รงวางไว้ พระองค์ทรงมีพระบรมราโชวาทบ่อยครัง้ ถึงความส�ำคัญ สงบร่ ม เย็ น และผาสุ ก แล้ ว ฉั น ยั ง ได้ แ นวคิ ด และแบบแผนการใช้ ชี วิ ต ที่ ดี ของการศึกษา ว่าการศึกษาเป็ นหัวใจส�ำคัญในการพัฒนาคนในชาติ อยู่ในท�ำนองคลองธรรม โดยมีพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง ให้มีคุ ณ ภาพ และท�ำ ให้เ กิด ความมัน่ คง ยัง่ ยืน พระองค์จึง ทรง ให้ความส�ำคัญกับการศึกษาของประชาชนคนไทย โดยเฉพาะที่อยู่ ห่างไกลความเจริญ ทรงพัฒนาการศึกษาทัง้ ในและนอกระบบโรงเรียน จัดตัง้ โรงเรียนในพระบรมราชูปถัมป์ จัดตัง้ ศู นย์ศึกษาการพัฒนา ตัง้ แต่ เ กิด และจ�ำ ความได้ รัช กาลที่ ๙ เป็ น ต้น แบบของ อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ และให้ทนุ พระราชทานจ�ำนวนมาก พระองค์ คุณงามความดี การประพฤติดี ความสมบูรณ์แบบ และความไม่ยอ่ ท้อ สอนให้คนไทยเห็นความส�ำคัญของความรู แ้ ละการศึ กษา เพื่อให้ ในการท�ำงานตามหน้าที่ของตนเอง พ่อสอนให้คนไทยคิดดี ท�ำดี ตระหนัก ว่า การพัฒ นาคนให้มีคุ ณ ภาพนัน้ ส�ำ คัญ กว่า การพัฒ นา ไม่ได้แค่ เพียงพูดสอน แต่ พ่อท�ำความดีให้ดูเป็ นตัวอย่าง เพื่อให้ ด้านวัตถุสง่ิ ของ และเป็ นการพัฒนาทีย่ งั ่ ยืนถาวร ประชาชนเห็นว่า การท�ำความดี แม้จะไม่งา่ ย แต่ถา้ ตัง้ ใจ ก็ทำ� กันได้ รัชกาลที่ ๙ ทรงเป็ นแบบอย่างของคุณงามความดีอกี มากมาย ทุกคน ไม่วา่ จะเป็ นใคร อยูท่ ไ่ี หน ฐานันดรอะไร ความดีอยูท่ ต่ี วั ของเรา หลายอย่ า งเกิ น กว่ า จะเขีย นบรรยายได้ห มด ฉัน มีชี วิต ที่ดี แ ละ : รัชกาลที่ ๙ เป็ นต้นแบบของการท�ำงานหนัก และท�ำงานตามหน้าที่ มีความสุข เพราะฉันได้เกิดในรัชสมัยของพระองค์ท่าน และได้อาศัย ฉันเชื่อว่าพ่อหลวงเป็ นคนที่ทำ� งานหนักมากที่สุดในประเทศ อยู่ ในประเทศที่พระองค์ทรงสร้างไว้ให้ จึงท�ำให้ฉันรักและส�ำนึก ท�ำงานอย่างยาวนาน และไม่ได้ทำ� งานเพือ่ ตัวเอง แต่ทำ� งานหนักให้กบั ในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์มากเหลือเกิน ประชาชนของพระองค์ คนบางคนท�ำงานหนัก เพราะอยากสร้างฐานะ อยากก้าวหน้า เป็ นคนมีภาระ หรือไม่ก็เป็ นคนบ้างาน แต่สำ� หรับ พระองค์ท่าน ท่านทรงท�ำงานหนักเพราะท่านเป็ นกษัตริยท์ ่ตี งั้ อยู่ใน ทศพิธราชธรรม สมดังที่พระองค์ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพือ่ ประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” และพระองค์กไ็ ม่เคยบกพร่องในหน้าทีข่ องพระองค์เลย ฉันอยากท�ำได้

พนิตพิมพ์ สิทธิพงศ์


ฉั น เ กิ ด ใ น รั ช ก า ล ที่ ๙

เดช รังสี

ขบคิดก็คือ เราต้องพัฒนาตัวเอง สิ่งที่ทำ� สืบทอดจากพ่อจากแม่มา ถ้ายังเอาแต่ทำ� แบบเดิมๆ มันก็ไม่มกี ารพัฒนา ท�ำไมไม่เอามาพลิกแพลง หาทางท�ำให้มันดียง่ิ ขึ้น สิง่ ทีผ่ มได้เรียนรูจ้ ากการไปอยูใ่ นโครงการหลวง ก็คอื เราจะมีทางเลือกทีห่ ลากหลาย เจ้าหน้าทีแ่ ต่ละคนเขาก็มคี วามรู ้ ชีวิตผมที่มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะโครงการหลวง มีหน้ามีตา มีชื่อเสียง แตกต่างกันไป เจ้าหน้าทีไ่ ม้ผลก็ถนัดไม้ผล เจ้าหน้าทีไ่ ม้ดอกก็ถนัด ก็เพราะโครงการหลวง ทัง้ ครอบครัว ทัง้ ชีวติ ความเป็นอยูอ่ ะไรหลายๆ อย่าง ไม้ดอก ท�ำให้เราได้ความรูใ้ หม่ๆ อีกหลายอย่าง เหมือนกับว่าเราไป ถ้าไม่มีโครงการหลวงก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้ เรียนรู จ้ ากตรงนัน้ อย่ างเมื่อก่ อนที่ผมเพาะเห็ด ก็ได้เจออาจารย์ อีกหลายๆ คน ได้ความรูห้ ลายๆ อย่าง เอามาปรับใช้กบั งานของเรา ผมคิดว่าถ้าเปิ ดใจให้กว้าง ก็จะเห็นว่ามีทางอีกมากที่เราสามารถ เลือกได้ ยังมีอกี หลายๆ คน หลายๆ อาชีพ หลากหลายความคิดให้เรา คนในพื้นทีน่ ้ เี ราเป็ นเกษตรกร ท�ำการเกษตรต่างๆ ทุกวันนี้กย็ งั ได้เรียนรู ้ ซึง่ ถ้าเราท�ำโดยไม่ทอ้ ท�ำด้วยตัวด้วยหัวใจไปพร้อมๆ กัน ท�ำกันอยู่ ผมเองก็เคยท�ำเหมือนกับคนอืน่ ๆ จนกระทัง่ โครงการหลวง ก็จะมีกำ� ลังใจและสามารถทีจ่ ะประสบความส�ำเร็จได้ เข้ามาแนะน�ำให้ปลูกชา ตอนแรกๆ ก็อาจจะต้องท�ำอย่างอืน่ เสริมด้วย ในชีวติ ผมผมไม่เคยเจอในหลวง รัชกาลที่ ๙ เคยเจอแต่ท่าน เพราะว่าต้นชามันยังเล็กอยู่ ยังได้ผลผลิตได้นอ้ ย เราก็ทำ� พืชตัวอื่น หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ท่านเคยเสด็จมาทีน่ ่ี 2 ครัง้ ได้เจอ ได้ทานอาหาร เสริมเข้าไป พืชบางตัวใช้เวลาแค่ 2 - 3 เดือน บางตัวใช้เวลาเป็ นปี กับท่าน และท่านเป็ นผูป้ ระทานพันธุช์ าให้กบั ผมด้วย แต่ถงึ แม้ในหลวง เราก็เลือกเอาทีไ่ ด้เงินเร็วๆ แต่ถงึ ตอนนี้กส็ บายแล ้ว ชานี่ปลูกครัง้ เดียว รัชกาลที่ ๙ ท่านจะไม่อยู่แลว้ ผมเชื่อว่าโครงการหลวงก็จะยังคง ถึงมันจะโตช้า แต่พอมันโตเลี้ยงตัวมันได้แลว้ ปลูกครัง้ เดียวก็อยู่ได้ เป็ นโครงการหลวงอยูเ่ หมือนเดิม เพราะว่าเขามีแนวทางทีช่ ดั เจนอยูแ่ ล ้ว เป็ นร้อยปี มีผลผลิตต่อไปให้ลูกให้หลานได้ดว้ ย คนทีเ่ ข้ามาอยูใ่ นจุดนี้กต็ อ้ งมุง่ มันตั ่ ง้ ใจทุกคน เหมือนกับผมทีไ่ ม่ได้รูส้ กึ เรื่องประโยชน์ของโครงการหลวงต่อเกษตรกร ผมว่าขึ้นอยู่กบั ท้อแท้แม้ท่านจะไม่อยู่แล ้ว บอกตัวเองว่าเคยท�ำอะไรส่งโครงการหลวง แต่ละบุคคลนะว่าใครชอบอะไร แต่สง่ิ หนึ่งทีเ่ กษตรกรเราควรจะต้อง ทุกวันนี้กย็ งั ท�ำอยู่ และจะท�ำต่อไปเรื่อยๆ ตราบเท่าทีย่ งั ท�ำไหว

เกษรตรกร / เจ้าของ ‘ไร่ชาลุงเดช’ ในพื้นที่ของโครงการหลวง ม่อนเงาะ อ�ำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่


26 ตุลาคม พ.ศ. 2560...

ก่อนจะถึงวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 มีผู้คนมากมายที่เดินทางออกจากบ้าน ทั้งจากในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดที่อยู่ไกลๆ ยินยอม มาตากแดด ตากฝน ทนร้ อน ทนเปีย ก ทนเหนื่ อย อยู่ในบริเวณที่ไม่ไกลจากพระเมรุม าศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง หากเมื่อ ยล้ าก็ นั่ง หรือนอนพักผ่อนอยู่ริมทาง ภายใต้สภาพที่ห่างไกลจากค�ำว่าสะดวกสบายมากนัก แต่น่าแปลกที่ไม่มีใครออกปากบ่นหรือรู้สึกย่อท้อต่อความล�ำบาก


ฉั น เ กิ ด ใ น รั ช ก า ล ที่ ๙

เพราะทุกๆ คนที่มารวมตัวกันอยู่ ณ ที่แห่งนั้น ต่างก็มีสิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดเหมือนๆ กัน นั่นคือพวกเขาอยากจะมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่ง ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และอยากมาเพื่อถวายความอาลัยแก่บุคคลที่พวกเขารักเป็นครั้งสุดท้าย... ขอขอบคุณภาพจาก คุณธนัทเสฏฐ์ วันทนีย์ และคุณโสนิดา สระทองค�ำ


B I K E S P E C I A L

BIKE RACE IN

CHINA จากเชียงใหม่ ไปปั ่นแข่งที่เมืองจีน เรื่อง : ปุณทวัฒน์ ดิบเตจ๊ะ ภาพ : เกมส์ แอนด์ เดอะ แก๊งส์

การเดิ น ทางในครั้ ง นี้ เ ริ่ ม ต้ น จาก มี รุ ่ น พี่ ท ่ า นหนึ่ ง ส่ ง หนั ง สื อ เชิ ญ ให้ ผ ม ไปร่วมแข่งขันในรายการ Silk HuaShan International Road Bike Race ที่ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ท�ำให้ผม ต้องมาหารือกับเพื่อนๆ ในทีม Vitamilk - Vanilla Residence Chiangmai ก่อนจะตัดสินใจกันว่าพวกเราจะเดินทาง ไปปั่นกันในรายการนี้ และท�ำให้พวกเรา ต้องมาวางแผนเตรียมตัวท�ำการฝึกซ้อม ซึ่ ง ใช้ เ วลาเตรี ย มการและฝึ ก ซ้ อ มกั น ประมาณ 2 เดือน ก่อนจะถึงเวลาเดินทาง ไปร่วมแข่งขันทีเ่ มืองซีอาน ซึง่ เป็นสถานที่ จัดการแข่งขันครับ

เริ่มออกเดินทาง

ส�ำหรับการเดินทางของพวกเรา ผมและเพือ่ น 3 คนต้องเดินทาง ไปพบกับ เพื่อ นอีก 2 คนที่ก รุ ง เทพฯ เพื่อ ที่จ ะเดิน ทางต่ อ ไปยัง เมืองซีอานพร้อมกัน ผมออกเดินทางจากเชียงใหม่โดยสายการบิน Air Asia ตอน 11:15 น. ถึงดอนเมือง 12:35 น. เจอเพือ่ นร่วมทีมแล ้วก็พากัน ไปโหลดกระเป๋ า ความทีเ่ รามีทงั้ กระเป๋ าส่วนตัวและกระเป๋ าจักรยาน มัน ก็ จ ะยุ่ ง ๆ หน่ อยนะครั บ เมื่ อ โหลดข้า วของเสร็ จ ก็ พ ากั น เดินหาอะไรกิน ก่อนขึ้นเครื่องเพือ่ เดินทางต่อไปยัง Xi’an Xinyang International Airport เมือ่ ถึงสนามบิน Xi’an Xinyang International Airport ก็มนี อ้ ง Liaison หรือผูป้ ระสานงานระหว่างนักแข่งกับผูจ้ ดั งานมาดูแล เพราะว่าผูจ้ ดั งานไม่สามารถจะมาดูแลนักกีฬาได้ทุกคน ก็เลยต้องมี 12

a side


น้องๆ เลซองเหล่านี้มาช่วยดูแลแทนนะครับ เขาดูแลเรื่องอะไรบ้าง? ก็อย่างเช่นแจ้งก�ำหนดการต่างๆ หรือจะเป็ นเรือ่ งการพาไปทานข้าวกีโ่ มง ประชุมทีมกี่โมง เดินทางกลับวันไหนเวลาไหน แบบนี้เป็ นต้นนะครับ เพราะนักแข่งไม่สามารถที่จะพูดคุยภาษาท้องถิ่นของแต่ ละเมืองได้ เลยต้องให้นอ้ งๆ เลซองมาช่วยเหลือพวกเราครับ ตอนทีเ่ ราเจอกับน้องๆ เลซอง เขาจะมาพร้อมกับรถตู ้ 1 คัน เพือ่ ทีจ่ ะพาพวกผมทุกคนเดินทางไปยังทีพ่ กั จากสนามบินไปยังทีพ่ กั ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชัว่ โมงครึ่ง ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ท�ำให้ได้ดูววิ ชมเมืองซีอานในเวลาค�ำ่ คืนไปด้วย พอถึงทีพ่ กั ก็มนี อ้ งๆ และทีมงานผูจ้ ดั มารับและดู แลเรื่องห้องจนเสร็จ ถึงตอนนี้พวกเรา ก็เริ่มหิวกันแลว้ เลยออกไปหาอะไรกิน จนมาเจอร้านอาหารร้านหนึ่ง เห็น มีผู ค้ นนัง่ กิน กัน อยู่ ห ลายคน พวกผมจึง ตัด สิน ใจว่า จะเข้า ไป ทดลองทานดู คิดว่าคงเป็ นอาหารของคนท้องถิน่ แต่พอจะสัง่ อาหาร กลายเป็ นว่าคุยกันไม่รูเ้ รือ่ ง ใช้ภาษามืออยูน่ านเลย โชคดีทน่ี อ้ งๆ เลซอง ตามมาดูแล เลยได้นอ้ งๆ ช่วยสังอาหารให้ ่ ครับ อาหารที่ส งั ่ มาหน้า ตาและการจัด เตรี ย มต่ า งจากที่บ า้ นเรา มากเลยครับ ทีแรกผมดูแลว้ เหมือนจะเป็ นสุก้ ี แต่พอเขายกมาเสิรฟ์ เท่านัน้ แหละครับ งงกันไปทัง้ โต๊ะเลยว่าจะทานยังไงดี เพราะทุกอย่าง จะมีไม้เสียบทุกอัน ผมเลยเอาลงหม้อสุก้ ไี ปทัง้ ไม้เลย กินไปได้สกั พัก เจ้าของร้านถึงบอกว่าให้เอาไม้ออกแลว้ เอาใส่ไว้ในถังที่เตรียมไว้ให้ ข้างๆ โต๊ะ เราก็เอาไม้ใส่ถงั กันแบบงงๆ ตามทีเ่ ขาบอก สักพักเริ่มหิวน�ำ ้ ผมเลยขออนุ ญาตเดินเข้าไปหยิบจากตูแ้ ช่ พอเปิ ดตูเ้ ท่านัน้ ล่ะครับ เจอเครื่องดื่มชูกำ� ลังยี่หอ้ ชิงเต่า ของดีของเมืองจีนเข้า เลยพากันชิม คนละขวดสองขวด สุดท้ายก็กนิ กันจนหมดตูถ้ งึ ได้เวลากลับไปพักผ่อน พอถึงตอนเรียกเก็บเงิน เจ้าของร้านเดินมาหยิบเอาไม้ท่เี สียบในถัง ไปชัง่ น�ำ้ หนัก ผมสงสัยเลยถามเจ้าของร้านว่าท�ำอะไร สรุปว่านี่คือ วิธคี ดิ เงินครับ คือเจ้าของร้านเขาจะเอาไม้เสียบอาหารทัง้ หมดทีเ่ รากิน ไปชัง่ น�ำ้ หนัก แล ้วก็คดิ เงินตามน�ำ้ หนักทีไ่ ด้ ก็เลยได้เข้าใจครับว่าท�ำไม เขาถึงต้องมีถงั ไว้ให้ใส่ไม้เสียบอยู่ขา้ งๆ โต๊ะด้วย

ก่อนลงสนาม

วัน นี้ พ วกเราต้อ งไปปัน่ ทดสอบสนามก่ อ นที่จ ะลงแข่ ง จริง ในวัน พรุ่ ง นี้ ก่ อ นจะไปทดสอบสนามก็ เ ริ่ม ต้น วัน ด้ว ยอาหารเช้า แบบคนจีนกันก่อน ด้วยการกินหมันโถ ่ ผัดผัก และตามด้วยซุปร้อนๆ ปิ ดท้ายด้วยผลไม้สดจากสวน เมือ่ ทานเสร็จก็พากันไปประกอบจักรยาน เพือ่ ทีจ่ ะปัน่ ไปชมเมืองและทดสอบสนามแข่ง พอถึงเวลา 10:30 น. ที่เป็ นเวลานัดหมาย พวกเราก็เริ่มต้นออกเดินทางไปปัน่ ชมเมือง อากาศวันนี้ดมี ากครับ อุณหภูมปิ ระมาณ 17 – 21 องศาเซลเซียส แต่ก็ไม่ถงึ กับหนาว แดดอ่อนๆ ปัน่ จักรยานก�ำลังสนุ กเลย พวกเรา ปัน่ ไปได้สกั พักก็เจอสะพาน จึงปัน่ ข้ามไปเพื่อที่จะไปดู อีกฝัง่ หนึ่ง ของเมือง ปัน่ ไปนานพอสมควรก็ไม่ถงึ อีกฝัง่ ซักที ผมคิดในใจเลยว่า เดีย๋ วขากลับจะวัดระยะทางว่ามันไกลซักเท่าไหร่ เมื่อข้ามไปถึงอีกฝัง่ พวกเราก็เริ่มปัน่ ชมเมือง ผมสังเกตว่า ที่น่ี ไ ฟสัญ ญาณจราจรของเขามีส ญั ญาณไฟส�ำ หรับ จัก รยานด้ว ย ส่วนเลนจักรยานของทีน่ ่กี ก็ ว้างพอๆ กับบ้านเรา แต่วา่ ให้วง่ิ ได้ทางเดียว ห้ามสวนเลน เลยปัน่ ได้สบายๆ ไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่ เมือ่ ถึงเวลา ปัน่ กลับเพื่อที่จะไปดู สนามแข่ง ผมจึงเริ่มวัดระยะทางของสะพาน ว่าจะไกลแค่ไหน สรุปว่าวัดระยะทางได้ 5 กิโลเมตร ว่าแล ้วว่าท�ำไม ปัน่ มาตัง้ นานไม่ถงึ อีกฝัง่ ซักที 13

b side


หลังจากลงลงสะพานกลับมาฝัง่ เดิม พวกเราก็เริ่มปัน่ ส�ำรวจ ดูเส้นทางทีจ่ ะใช้ในการแข่งขัน ถึงได้รูว้ า่ งานนี้เขาให้เราปัน่ กันรอบเมือง เลยครับ พอปัน่ เสร็จกลับไปถึงโรงแรม ผมจึงเข้าไปถามผูจ้ ดั งานว่า เส้นทางในเมืองรถเยอะมาก อาจจะท�ำให้เกิดอันตราย จะปัน่ กันได้เหรอ เขาตอบว่าไม่ตอ้ งเป็ นห่วง ในวันแข่งเขาจะปิ ดถนน 100% ไม่ว่ารถ หรือคนก็หา้ มเข้ามาใกลใ้ นเวลาแข่ง รับรองปลอดภัย 100% มีแรง เท่าไหร่ใส่ให้หมด พวกผมเลยสบายใจและพากันไปพักผ่อน หลัง จากที่ทุ ก คนแยกย้า ยกัน ไปพัก ผ่ อ น ผมก็ ไ ปประชุ ม กับ บรรดาผู จ้ ดั การทีม ต่ อ ในการประชุม ทางผู จ้ ดั งานได้อ ธิ บ าย รายละเอียดต่างๆ ที่พวกเราต้องรูไ้ ว้ อย่างเช่น จะให้นำ�้ ได้หลังจาก ปัน่ รอบที่สามแลว้ , เมือ่ ยางรัว่ ยางแตก แต่ละทีมต้องไปเปลีย่ นยาง ทีจ่ ดุ เปลีย่ นซึง่ จัดไว้ให้เท่านัน้ หรือถ้าทีมไหนมีรถเซอร์วสิ ตามก็สามารถ ให้ทีมช่ างช่ วยเปลี่ยนได้ทนั ที หลังจากนัน้ ก็จะเป็ นการจับฉลากว่า ทีมไหนจะได้ลำ� ดับทีเ่ ท่าไหร่ โดยจะเรียกตัวแทนมาจับฉลากทีละทีม จนถึงคิวของทีมเรา ผมซึง่ เป็ นตัวแทนไปจับฉลากก็ลนๆ ุ ้ หน่อยล่ะครับ เพราะว่าอยากจะได้ลำ� ดับต้นๆ ปรากฏว่าโชคดีมากเลยครับทีจ่ บั ฉลาก ได้ลำ� ดับที่ 2 เมือ่ ประชุมเสร็จแล ้วผมก็กลับไปทีห่ อ้ ง แล ้วเรียกทุกคน ในทีมมาวางแผนส�ำหรับวันพรุ่งนี้ เสร็จแล ้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

ได้เวลาลงแข่ง!

วันนี้เป็ นวันแข่งขัน พวกเราตื่นมาเตรียมตัวกันตัง้ แต่เช้าครับ เอาตัง้ แต่เรือ่ งอาหารเช้าเลยว่าจะเริม่ กินกันกี่โมง อาหารถึงจะย่อยพอดี กับการปล่อยตัว และต้องทานอะไรถึงจะน�ำมาใช้เป็ นพลังงานได้ ในเวลาแข่ง รวมไปถึงการขับถ่ายด้วยครับ ก็ท่เี มืองจีนทุกคนคงรู ้ กันนะครับว่าห้องน�ำ้ เป็ นแบบไหน! เมื่อถึงเวลาพวกเราทุกคนก็เดินทางไปยังจุดสตาร์ท ที่จุดนี้ เขาก็จะมีจดุ พักให้แต่ละทีมเพือ่ เตรียมตัวทัง้ ก่อนและหลังแข่ง รวมถึง จุดส�ำหรับให้นกั กีฬาทุกคนทีม่ าร่วมแข่งขันลงชื่อรายงานตัวด้วยครับ เมือ่ รายงานตัวเสร็จพวกเราก็มาวอร์มอัพรอเวลาปล่อยตัว ระหว่างนัน้ ก็จะเป็ นพิธีเปิ ดที่ย่ิงใหญ่ มากครับ มีทงั้ รถทหารคุม้ กันและต�ำรวจ อีกมากมายมาดู แล แลว้ ก็มกี ารแสดงตามแบบฉบับของเมืองนัน้ ๆ เพื่อ มาแสดงให้ค นใหญ่ ค นโตและเหล่ า นัก กี ฬ าที่ม าร่ ว มแข่ ง ขัน ได้ชมวัฒนธรรมของท้องถิน่ พอการแสดงจบก็ ถึ ง เวลาปล่ อ ยตัว นัก กี ฬ ากัน ล่ ะ ครับ ส�ำหรับการแข่งขันในครัง้ นี้เป็ นรู ปแบบเซอร์กิต คือแข่งกันเป็ นรอบ รอบละ 10.26 กิโลเมตร ปัน่ กัน 8 รอบ รวมเป็ นระยะทาง 82.08 กิโลเมตร โดยในการแข่งขันจะมีหลายรางวัล ไม่ว่าจะเป็ นรางวัล Team.G.C, รางวัล In.G.C, Yellow Jersey, Green Jersey, Blue Jersey, White Jersey รวมไปถึง Intermediate Sprints และมีนกั กีฬาจากหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็ นทีมจากฮ่องกง, ไต้หวัน, มาเลเซีย, ฟิ ลปิ ปิ นส์, รัสเซีย และอีกหลายทีมทีเ่ ข้ามาร่วมแข่งขัน

14

a side


แล้วพบกันใหม่... ซีอาน

และแลว้ ก็ถงึ วันทีเ่ ราต้องเดินทางกลับบ้านแลว้ ครับ แต่ผม ยังมีเวลาเดินเที่ยวชมเมืองได้อกี นิดหน่ อย ก่อนที่จะเดินทางกลับ ตอนเย็นๆ เริ่มจากตื่นเช้ามาก็พากันไปเดินเทีย่ วตามทีต่ ่างๆ และไป หาอะไรทานกัน ส่วนมากคนที่น่ีเขาจะเดินเท้าเปล่ากับใช้จกั รยาน ไฟฟ้ ากันนะครับ ไม่ค่อยเห็นมอเตอร์ไซค์สกั เท่าไหร่ ส่วนรถยนต์ทน่ี ่ี ก็จะเป็ นพวงมาลัยซ้ายครับ เราชมเมืองกันไปเรือ่ ยๆ จนถึงเวลาทีต่ อ้ ง เดินทางกลับ ก็ได้นอ้ งๆ เลซองมาส่งที่สนามบินครับ ล�ำ่ ลากัน เรียบร้อยแลว้ พวกเราก็เดินทางกลับด้วยสายการบิน Air Asia กลับมาถึงกรุงเทพฯ ตอนเกือบๆ จะตีสองแลว้ หลังจากนัน้ ก็รอ ต่อเครื่องกลับมาเชียงใหม่ ก่อนจะถึงบ้านตอนเกือบๆ แปดโมงเช้า เป็ นอันสิ้นสุดการเดินทางในครัง้ นี้ครับ ส�ำหรับการไปแข่งขันครัง้ นี้กไ็ ด้พๆ่ี หลายท่านให้การสนับสนุน และช่วยดูแลในหลายๆ เรือ่ ง ไม่วา่ จะเป็นคุณปริญญา ปริญญานุสสรณ์ ผู บ้ ริหารทีม Vitamilk - Vanilla Residence Chiangmai, คุณสมชาย ขันอาษา (พีโ่ หน่ง) HIP Magazine รวมถึงสายการบิน Air Asia ทีด่ ูแลพวกผมในการเดินทางทัง้ ไปและกลับ ขอขอบคุณ ทุกๆ ท่าน ไว้ ณ ทีน่ ้ ดี ว้ ยนะครับ พบกันใหม่กบั การเดินทางครัง้ ต่อไปของพวกเรานะครับ เมือ่ เริ่มปล่อยตัวนักปัน่ ทัง้ หลายก็เปิ ดเกมกันอย่างหนักหน่วง เลยครับ ความทีแ่ ข่งกันตัง้ แต่ออกสตาร์ท ความเร็วก็ 50 – 55 ล่ะครับ เรี ย กว่ า ปัน่ กัน เร็ ว มาก พอมาถึง ช่ ว งหนึ่ ง ก็ จ ะมีน ัก ปัน่ กลุ่ ม หนึ่ ง ทีแ่ ตกออกไปเป็ นระยะ แต่กลุม่ ใหญ่กย็ งั ไม่ปล่อย ทุกทีมก็ใส่กนั ไม่ยงั้ จนมาถึงอีกไม่ก่รี อบก็มกี ลุม่ แตกออกไปอีก แต่ทนี ้ ีกลุม่ ใหญ่เกิดการ เกี่ยงกันไล่ข้นึ มา จึงท�ำให้กลุม่ หน้าหนีไปได้ โดยทีก่ ลุม่ หน้าก็ตอ้ งไป วัดกันทีค่ วามแข็งแรงว่าใครดีใครอยู่ ชนิดทีว่ า่ พอถึงช่วง 300 เมตร สุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยนี่ นักปัน่ ต้องสปรินท์กนั เต็มที่เพื่อวัดผลงาน เลยทีเดียว ซึง่ ปรากฏว่าทีมจากไต้หวันสปรินท์ได้แข็งแกร่งกว่าใครและ คว้าแชมป์ ไปครอง ที่ 2 เป็ นนักปัน่ จากจีน และที่ 3 เป็ นนักปัน่ จาก มาเลเซีย ส่วนผลงานของทีม Vitamilk - Vanilla Residence Chiangmai ของพวกเรา งานนี้ผมถือว่าพวกเราท�ำดีทส่ี ุดแลว้ ครับ ถึงแม้จะไม่ได้ รางวัลอะไรกลับบ้าน แต่พวกเราทุกคนก็ได้ประสบการณ์ดๆี ส�ำหรับ น�ำมาใช้พฒั นาฝี มอื ของทีมเราต่อไปในอนาคตครับ เมือ่ จบการแข่งขันและเสร็จสิ้นพิธีการมอบรางวัลต่างๆ แลว้ พวกเราก็กลับเข้าทีพ่ กั เพือ่ พักผ่อน ก่อนทีจ่ ะพากันออกไปส�ำรวจเมือง ในตอนเย็นอีกครัง้ ครับ เพราะอยากจะรูว้ า่ ทีน่ ่ีตอนกลางคืนเขากินอยู่ กันแบบไหน ใช้ชวี ติ กันยังไงบ้าง เพือ่ ให้การตะลุยภาคกลางคืนเป็ นไป โดยสะดวก พวกเราก็เลยจัดการเรียกแท็กซีแ่ ลว้ ให้เขาเป็ นคนแนะน�ำ ว่าเราควรจะไปที่ไหนบ้างครับ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เมื่อมาถึงเมืองจีนแลว้ ไม่ควรพลาดก็คอื อาหารขึ้นชื่ออย่าง ‘หมาล่า’ ครับ 555 งานนี้พวกเรา ก็ชิมไปเกือบทุกร้านที่ได้เจอเลยครับ อยากรู ว้ ่าที่น่ีเขามีวิธีการท�ำ แบบไหนและรสชาติอร่อยขนาดไหน ชิมแล ้วผมบอกเลยว่าอร่อยมาก! ถ้าใครได้มาต้องมากินเลยครับ รับรองว่าติดใจแน่นอน

HOW TO GO TO XI’AN?

ใครที่สนใจอยากจะเดินทางไปยังเมืองซีอาน สายการบิน Air Asia มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) บินตรงสู่ซีอาน และจากซีอานสู่กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) ทุกวัน ได้แก่เที่ยวบินที่ FD 588 (DMK – XIY เวลา 09:25 – 14:35 น.) และ เที่ยวบินที่ FD 589 (XIY– DMK 15:35 – 18:50 น.) www.airasia.com

15

b side


B I K E C O L L E C T I O N

THAT’S HOW I ROLL

ในภพ สุกัณศีล (ภพ)

จั ก ร ย า น ใ น แ บ บ ข อ ง ใ น ภ พ สุ กั ณ ศี ล เรื่อง/ภาพ : อรอุษา

หัวข้อในการพูดคุยของเราวันนี้คือชีวิตกับจักรยานของ ในภพ สุกัณศีล ซึ่งเล่าให้เราฟังว่า แรกเริ่มเขาแค่อยากได้จักรยานถูกๆ สักคันส� ำหรับปั่นเล่น แถวบ้านเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปเท่านั้นเอง แต่เมื่อมีคันแรก แน่นอนว่าคันที่สอง และคันต่อๆ ไปก็ตามมา

Bridgestone Radac

Olmo Competition

: เฟรม Aluminium, ชุดเกียร์ Shimano 105 6 Speeds

: เฟรม Cromoly, ชุดเกียร์ Campagnolo Gran Sport 6 Speeds

คันนี้คอื จักรยานคันแรกของผมเลย จุดเริม่ ต้นมาจากการได้ลอง ขีจ่ กั รยานของเพือ่ นเมือ่ ประมาณ 5 - 6 ปี ก่อน แล ้วเกิดติดใจอยากมี เป็ น ของตัว เองสัก คัน ในราคาที่ไ ม่ สู ง มาก เลยได้ค นั นี้ ม าจากเว็บ ThaiMTB ในราคา 7,500 บาท แบบไม่มคี วามรู อ้ ะไรเลย คันนี้ เหมือนเป็ นครูของผมเลยก็วา่ ได้ พอได้มาก็ลองถอดประกอบอะไหล่เล่น เพื่อ ที่จ ะได้ท ำ� ความรู จ้ กั กับ จัก รยานให้ม ากขึ้น ปัน่ คัน นี้ อ ยู่ ส กั พัก จนเริม่ รูส้ กึ ว่ามันแคบไป และเพิง่ มารูท้ หี ลังว่ามันผิดไซส์ คือมันค่อนข้าง เล็กไปส�ำหรับตัวผม เลยยกให้แฟนไปซะ การเริ่มต้นมีจกั รยานคันนี้ ท�ำให้ทกุ วันนี้ผมยังคงชอบเฟรมสามเหลีย่ มและเกียร์สบั ถังแบบนี้อยู่

พอคันแรกมันเล็กไป เลยได้คนั ที่สองมาหลังจากที่เริ่มศึกษา เรื่องจักรยานมากขึ้น สมัยนัน้ ยังตามอ่านความรูต้ ่างๆ จากรุ่นพีใ่ นเว็บ ThaiMTB ทีเ่ ขาเขียนถึงข้อมูลของเฟรมแต่ละคัน เราก็เก็บข้อมูลไป พร้อมๆ กับเก็บตังค์ไปด้วย ความฝันคืออยากได้รถอิตาลีสกั คัน เลยไป จีบเฟรมยุค 70s คันนี้มาจากรุ่นพีค่ นหนึ่งที่เขาเล่นรถเฟรมอิตาลีอยู่ ใช้เวลานานเกือบปี กว่าเขาจะยอมขายให้ ปัน่ คันนี้ค่อนข้างคุม้ เลยทีเดียว จากนัน้ ก็เริ่มเปลีย่ นอะไหล่ไปเรื่อยๆ เพราะพวกรถวินเทจมันจะมีของ ให้เล่นเยอะ เลยขุดคุย้ หา Groupset มาใส่ให้มนั ตรงรุ่น แต่ช่วงนัน้ ราคา อะไหล่ทน่ี ำ� เข้ามาขายยังค่อนข้างสูงอยู่ จะได้จาก ebay ซะส่วนใหญ่

16

a side


Colnago Tecnos

: ชุดเกียร์ Campagnolo Chorus 8 Speeds

ก่ อนจะได้คนั นี้มา ตอนนัน้ ยังใส่เสื้อยืดกางเกงขาสัน้ ธรรมดา ปัน่ จักรยานอยู่เลย พอมีคนั นี้เลยเริ่มใส่ชดุ ปัน่ จักรยานจริงจังขึ้น จากที่ เราปัน่ สับถังมาได้สกั พัก จนเริ่มจริงจังกับการปัน่ มากขึ้น เลยท�ำคันนี้ ขึ้นมา โดยมีโจทย์วา่ อยากได้รถช่วงยุค 90s ตอนแรกได้เฟรมคาร์บอน มาก่อน แต่ดว้ ยความทีม่ นั เป็ นคาร์บอนยุค 90s ปัญหาของมันคือมันไม่ใช่ คาร์บอนทัง้ หมด ข้อต่อมันยังเป็ นอลูมเิ นียมโดยใช้กาวอัดเข้าไป พอเรา ปัน่ เยอะๆ กาวมันเริ่มหมดอายุ ปรึกษาผูร้ ูเ้ ขาก็บอกว่าเริ่มไม่ปลอดภัยละ มันมีสทิ ธิ์ทจ่ี ะหลุดออกมาได้ เลยเปลีย่ นเฟรมมาเป็ นเฟรมเหล็กอันทีเ่ ห็น แต่น่เี ป็ นเหล็กพิเศษตัวทีเ่ บาและแข็งแรงทีส่ ุดในช่วงยุค 90s ละ พอได้ คันนี้มาก็กลายเป็ นคันทีป่ นั ่ บ่อยและจริงจัง เคยพากันไปถึงเชียงรายมาแล ้ว

Giant XTC

: ชุดเกียร์ Shimano XT จานใบเดียว

พอปัน่ ทางเรียบมาได้สกั พักมันเริ่มไม่ตน่ื เต้น เลยลองเข้าป่ าดูบา้ ง จึงได้คนั นี้มาแบบเป็ นของใหม่หมดเลย ไปเลือกอะไหล่ทร่ี า้ นแลว้ ให้เขา ประกอบให้ พอได้ลองเข้าป่ าเลยกลายเป็ นชอบปัน่ เสือภูเขาทีส่ ุดไปเลย เพราะในป่ ามันเป็ นทางเล็กๆ ทีต่ อ้ งใช้สติในการมองทางตลอดเวลา บางที ปัน่ ไปในเส้นทางเดิม เจอหินก้อนเดิม แค่พลิกด้านมันก็ให้ความรู ส้ กึ ทีแ่ ตกต่าง แม้วา่ เราจะมีกำ� ลังขาอยู่แล ้ว แต่พอมาปัน่ เสือภูเขามันต้องมี เทคนิคเพิม่ ขึ้น เรือ่ งแขน เรือ่ งจังหวะต่างๆ คันนี้ดูเหมือนจะเป็ นรถทีห่ นัก แต่ ดว้ ยความที่เ ฟื องหลัง ใหญ่ อัตราทดมัน เลยค่ อ นข้า งครอบคลุม เคยปัน่ ไปปายและอินทนนท์มาแลว้ และเคยใช้คนั นี้ลงแข่งในหลายๆ รายการมาแล ้วด้วย ช่วงหลังเลยปัน่ เสือภูเขาเยอะขึ้น บวกกับช่วงนี้ฤดูฝน เลยปัน่ คันนี้บอ่ ย เพราะเป็ นรุ่นใหม่ไม่ตอ้ งดูแลรักษามาก เปื้ อนโคลนมา ก็เอาน�ำ้ ฉีดท�ำความสะอาดได้เลย ต่างกับพวกรถวินเทจ ถ้าช่วงหน้าฝน แบบนี้ผมจะไม่เอาออกมาปัน่ เลย เสีย่ งต่อการเป็ นสนิม

Dahon Classic I : Single Speed

อยากหาจักรยานไว้ปนั ่ ในเมืองไปจ่ายตลาดสักคัน เลยได้รถพับ คันนี้มาจาก ThaiMTB อีกนัน่ แหละ โชคดีได้รถสภาพดี แค่ เอามา ใส่ตะกร้าเพิม่ ก็ใช้ได้แลว้ ชอบตรงที่เป็ นเฟรมเก่าวินเทจกับทรงที่มนั มี ค�ำ้ คอขึ้นมาแบบนี้ ดูแปลกดี คอนเส็ปท์ของรถคันนี้คอื ดร.เดวิด ฮอน นัก ฟิ สิก ส์ ออกแบบรถพับ คัน นี้ ใ นช่ ว งเกิ ด วิก ฤตการณ์ น�ำ้ มัน แพง เลยคิดค้นจักรยานทีส่ ามารถไปไหนก็ได้และราคาย่อมเยาให้ทกุ คนได้ใช้ แต่ ต งั้ แต่ ไ ด้ม าเคยพับ เก็ บ แค่ ค รัง้ เดีย ว เพราะด้ว ยความที่ม นั เป็ น รถวินเทจ ระบบการพับของมันยังไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เลยท�ำให้พบั เก็บ ค่อนข้างยาก คันนี้ปนั ่ ในเมืองสนุกและคล่องตัวมาก

17

b side


B I K E T R I P

MYANMAR TRIP ปั่ น เ ข้ า พ ม่ า เรื่อง/ภาพ : กานต์ ฮาร์โม

สวัสดีครับพี่ๆ แฟนๆ HIP Bike Section มาพบกันอีกครั้ง ช่วงนี้สงสัยพี่ บก.หัวแวววาว คงมั ว แต่ ไ ปวิ่ ง เล่ น ในสระว่ า ยน�้ ำ เยอะซะจนไม่ ค ่ อ ย ได้ขึ้นอานจักรยาน 555 ช่วงนี้เลยเปิดโอกาสให้ผม ได้เฉิดฉายบนหน้ากระดาษมากขึน้ ได้พานักปัน่ ชาว HIP ไปปั่นเที่ยวกันหลายครั้งหลายครา อย่างที่เราเจอกัน ในครั้งก่อนนั่นแหละครับ ผมเองเชื่อและย�้ำเสมอว่า การไปปั่นจักรยานท่องเที่ยวต่างประเทศนั้นเป็นสิ่งที่ คุณต้องลองหาโอกาสไปให้ได้สักครั้งในชีวิต 18

a side


เพราะรสชาติของการที่เราได้ท่องเที่ยวด้วย รถจักรยานของเราเองในแบบที่นกั ท่องเที่ยวปกติ ไม่ อ าจสัม ผัส ได้ ได้เ ห็ น อะไรที่ค นนัง่ รถบัส จะ ไม่ได้เห็น ได้ลงไปเล่นน�ำ้ ตกข้างทาง ได้เข้าไปกินขนม อร่อยๆ ในบ้านชาวบ้าน ได้พบน�ำ้ ใจริมทางที่ไม่มี ภาษาหรือเชื้อชาติมาขวางกัน้ นัน้ มันสุดยอดมาก แค่ไหน ผมจึงหลงเสน่หข์ องการขีจ่ กั รยานท่องเทีย่ ว ในต่างแดน โดยเฉพาะแถวๆ ประเทศเพื่อนบ้าน ของเรานี่เลยครับ เพราะว่าผู ้คนก็เป็ นมิตร วัฒนธรรม วิถีชีวิตก็ใกลเ้ คียงกันกับเรา อากาศเอย อาหาร การกินเอยก็คล ้ายๆ บ้านเรา แถมยังดูจะเป็ นไปได้ ทีจ่ ะไปได้บอ่ ยๆ ด้วย (อันทีจ่ ริงแล ้ว ประเทศไกลๆ นี่ก็อยากไปนะครับ อาจจะชอบก็ได้ แต่ เกรงว่า จะต้องมาอดมื้อกินมื้อทีหลังน่ะสิครับ 555) ในบรรดาประเทศเพื่อ นบ้า นของเรานั้น มีประเทศหนึ่งที่คนไทยมักเข้าใจและคิดกันไปว่า ไม่ค่อยน่าสนใจ ไม่อยู่ในลิสต์ทอ่ี ยากจะไปเทีย่ วเลย นัน่ ก็คือประเทศพม่า (ปัจจุบนั เปลีย่ นชื่อให้จ ั ๊กจี้หู เป็ นเมียนมาไปแลว้ แต่ ในที่น้ ีผมขอเรียกว่าพม่า นะครับ รูส้ กึ มันติดปากมากกว่าน่ะ) หลายปี ทแ่ี ลว้ ตอนได้ไปพม่าครัง้ แรก (ไม่นบั ข้ามไปฝัง่ ท่าขี้เหล็ก) ก็ยงั คิดอยู่เลยว่าพม่าจะเป็ นยังไง? คนพม่าจะท้ารบ กับเราอยูร่ เึ ปล่า? หรือเขาจะชอบคนไทยมัย้ ? สุดท้าย เมื่อ ได้มีโ อกาสไปปัน่ จัก รยานท่ อ งเที่ย วในพม่ า หลายๆ ครัง้ ก็เลยกลายเป็ นว่าพม่าคือประเทศทีผ่ ม อยากไปอีกมากที่สุด! เป็ นประเทศที่ผูค้ นบริสุทธิ์ จริงใจทีส่ ุด! ยึดถือศาสนาพุทธแบบทีค่ นไทยชิดซ้าย ไปเลย ขนาดวัยรุ่นพม่ายังเข้าวัดกันทุกๆ ทีเ่ ป็ นเรื่อง 19

b side

ปกติ เส้นทางขีจ่ กั รยานก็น่าสนุก (แต่อย่าเอาเสือหมอบ ไปนะ ขอร้อง! ยกเว้นคุณอยากเจอประสบการณ์แบบ ปารีส รูเบ!!!) แถมยังมีเส้นทางไต่ภเู ขาแบบมันสุดๆ อีกด้วยด้วยนะ หุหุ ดัง นั้น ใน HIP ฉบับ นี้ ผมจะขอเล่ า ถึง ทริปยาวๆ ทริปหนึ่งเลยละกันครับ เป็ นทริปสุดยอด ของผมเลยล่ะ (เน้นเทีย่ ว + กินดืม่ แบบเต็มคราบ!) การเดินทางทริปนี้คอื ปัน่ จักรยานเข้าพม่า โดยเริม่ ต้น เส้น ทางที่ด่ า นชายแดนอ�ำ เภอแม่ ส าย จัง หวัด เชียงราย (อย่าลืม! ต้องท�ำวีซ่าไปก่อนนะครับ ถ้าจะ เข้าพม่าทางบก ราคา 800 บาท แต่ถา้ จะไปทาง เครือ่ งบินไม่ตอ้ งท�ำครับ) ประเดิมวันแรกของเราด้วย การปัน่ จักรยานยาว 160 กิโลเมตรไป ‘เชียงตุง’ ครับ โหดแต๊ๆ มีข้นึ เขายาวๆ ช่วงท้ายด้วย กว่าจะถึงกัน ก็มดื ค�ำ ่ แต่มนั ก็คมุ ้ ค่าครับ เพราะว่าเชียงตุงสวยมาก ผูค้ นยังใช้ชวี ติ ราวกับสมัยปู่ทวดเราเป็ นเด็กๆ เลย ทีน่ ่เี ป็ นรัฐฉาน คนส่วนใหญ่เป็ นชาวไทใหญ่ ซึง่ ก็เคย เป็ นคนไทยนี่แหละครับ ส่วนใหญ่พูดไทยได้คล่อง ดูทวี ไี ทย ชอบคนไทยครับ (คนทีน่ ่เี ขาบอกว่าเขาไม่ใช่ คนพม่านะ เขาเป็ นไทใหญ่) เราอยู่ท่นี ่ีแค่วนั เดียว โดยมีเจ้าถิ่นคือทีมจักรยานของเชียงตุงมาต้อนรับ พวกเราด้วย (รับดีมาก ไม่เมาไม่ให้หลับ 555) วัน ต่ อ มาเราขี่ต่ อ ไป ‘เมือ งเปี ย ง’ ซึ่ง จาก เชียงตุงเป็ นต้นไปนี่เราต้องขออนุ ญาตจากทางการ ซะก่อนนะครับ คนต่างชาติผา่ นรัฐฉานไม่ได้นะครับ! (ต้องติดตามข่าวกันดีๆ ครับ เพราะเป็ นเส้นทางทีย่ งั ไม่สงบ ได้ยนิ ว่าช่วงนี้พม่าไม่ให้ผา่ นเส้นทางนี้อกี แล ้ว ฮือๆๆ) กลายเป็ นว่ากลุม่ เราเป็ นกลุม่ จักรยานแรกๆ


ของโลกทีไ่ ด้มาปัน่ จักรยานในกลางรัฐฉาน เพราะทีน่ ่ี ถูกปิ ดมาประมาณ 60 ปี แล ้ว เส้นทางจากเมืองเปี ยง ต่อไป ‘เมืองกุนเฮง’ และ ‘เมืองน�ำ้ จาง’ (ใช้เวลาขี่ 3 - 4 วัน) เป็ นบริเวณที่ไม่ให้นกั ท่องเที่ยวเข้าได้ เราจึงได้เห็นสภาพภูมปิ ระเทศ ชีวติ คนไทใหญ่และ ชนเผ่าต่างๆ ที่ไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน เวลาขี่ ก็กลัวๆ ลูก RPG ตกใส่หวั อยู่เหมือนกัน 555 วันทีข่ ไ่ี ปเมืองน�ำ้ จาง ยางรถผมรัว่ ต้องปัน่ อยู่คนเดียวกลางทุ่งโล่งๆ ร้อนซะจนร่างแทบไหม้ พอเปลีย่ นยางเสร็จ หัวหน้าทีมขีต่ ามมาแล ้วก็ไม่ยอม เข้า โรงแรมที่พ กั ไถลพาไปกรึบ๊ ซะหน้า แดงเลย (กินส้มต�ำ แฮ่!) จนเรามาถึง ‘เมืองตองจี’ ซึง่ เป็ น เมืองหลวงของรัฐฉาน เมืองนี้อนุญาตให้นักท่องเทีย่ ว เข้ามาเทีย่ วได้ครับ (แต่ตอ้ งมาจากทางอีกด้านหนึ่ง) เราจึงได้พบเจอนักท่องเที่ยวอีกครัง้ หนึ่ง ตอนนี้ เราก็ผ่านจุดต้องห้ามมาแล ้วครับ จากจุดนี้กจ็ ะเข้าสู่ ความเป็ นพม่าแบบเต็มๆ ไม่มคี นไทใหญ่ทอ่ี ูก้ ำ� เมือง กับเฮาฮูเ้ รื่องแหมแล ้ว มีแต่ภาษาพม่า + อาหารพม่า ทีโ่ หดเอาเรื่องครับ รสชาติไม่ค่อยถูกปากสักเท่าไหร่ 555 สาวไทใหญ่ หน้าตาออกจะเหมือนสาวเหนือ ส่วนสาวพม่าจะออกแนวกึ่งแขกกึ่งใต้ก่งึ บังคลาเทศ (ข้อมูลปี 2560) สวยงามตามท้องเรื่อง เราดิ่งดาวน์ฮิลล์ 30 กิโลเมตรลงมาจนถึง ‘ทะเลสาบอินเล’ แหล่งท่องเที่ยวส�ำคัญของพม่า นักท่องเทีย่ วชาวฝรัง่ มากันเยอะมาก ล่องเรือเทีย่ วชม วัดและชีวติ ชาวเล เส้นทางช่วงนี้เรามีโอกาสได้พกั การ ปัน่ จัก รยานเพื่อจริง จัง กับการดื่ม กิน กัน ละครับ! ใครจะมาเทีย่ วทีน่ ่ตี อ้ งลุนให้ ้ ฝนไม่ตกนะครับ ไม่งนั้ อดเห็นทะเลสาบยักษ์บนทีร่ าบสูงทีส่ วยสุดๆ ไปเลย 555 พอเที่ยวกันจุใจแลว้ ก็เก็บของแพ็คจักรยาน เพือ่ นัง่ รถยาวๆ กลับเข้าเขตไทใหญ่กนั อีกครัง้ เราจะ ขึ้นไปเมืองท่องเทีย่ วทีช่ ่อื ว่า ‘สีป้อ’ ครับ เป็ นเมืองใน รัฐฉานทางเหนือ อยู่ใกล ้ชายแดนประเทศจีน เมืองนี้ ที่โลกรู จ้ กั จากหนังสือ ‘สิ้นแสงฉาน’ เป็ นเจ้าเมือง ในอดีตเคยมีเจ้าฟ้ าจาแสง และพระชายา อิงเง่ ซาเจนท์ ถ้าเราได้อ่านก่อนแลว้ ไปเทีย่ วเมืองนี้ จะอินยิ่งกว่า ติดละครใจเริง เริงใจ อีกครับ! ผมแนะน�ำเลยนะครับ สีป้อ เป็ นเมืองที่โคตรโรแมนติก ฟ้ าสวย วิวสวย ถ้ามาแบบคู่ รกั นี่เหมาะมากครับ มีประวัติศาสตร์ ทีน่ ่าสนใจ แถมปัน่ จักรยานสนุกมาก คนไทใหญ่ทน่ี ่ี ดูแลเราเหมือนญาติจริงๆ ครับ สามารถเดินไปทักทาย ชาวบ้าน ไปนังคุ ่ ยเล่นได้ คนทีน่ น่ี ่ารักมากๆ ครับ ถึง ตอนนี้ เ ราจะอ�ำ ลารัฐ ฉานจริง ๆ ละนะ แพ็ ค จัก รยานส่ ง ขึ้น รถบรรทุ ก ล่ ว งหน้า ไปก่ อ น แลว้ นัง่ รถไฟสุดคลาสสิคตามไป เป็ นรถไฟโบราณ กระเด้งกระดอนยิ่งกว่าขี่ทริปดาวน์ฮิลล์ดอยปุย ลงห้วยตึงเฒ่า! 555 ผ่าน ‘สะพานก๊อกเต๊ก’ เป็ น สะพานรถไฟเหล็กข้ามเหวทีส่ ูงเกือบจะทีส่ ุดในโลก ตื่นเต้นหวาดเสียวมากครับ ขนาดคนที่เคยมาแลว้ หลายครัง้ ก็ยงั อดตื่นเต้นไม่ได้ เพือ่ เป็ นการย้อมใจ ไม่ให้ตน่ื เต้นกับการสันสะเทื ่ อนและความหวาดเสียว ของเส้นทางรถไฟ เราจึงเปิ ดผับเล็กๆ กันบนรถไฟ 555 จนเริ่ม ‘เมารถ’ กันได้ทก่ี ล็ ง (อ่าว... ลงซะละ) อยากจะบอกว่า เครื่องดื่ม สิงห์ส าราสัต ว์ก ระป๋ อ ง ทีม่ าจากบ้านเรา ทีน่ ่เี ขาขายกระป๋ องละ 15 - 25 บาท เองนะครับ มีแสตมป์ ถกู กฎหมายด้วยนะ ฮือๆ 20

a side


เราลงรถไฟมาปุ๊ บก็ปนั ่ จักรยานในโหมดมึนๆ เข้าเมืองชื่อ ‘พิล อูละวิน’ (Pyin Oo Lwin อ่านยาก แต่ น่ารัก) ซึ่งเคยเป็ นเมืองตากอากาศของทหาร อังกฤษสมัยก่อน จึงเต็มไปด้วยคนเชื้อสายอินเดีย สมัยทีอ่ งั กฤษพามาร่วมรบแล ้วติดใจปักหลักอยู่ทน่ี ่ี เป็ นเมืองแนวมัลติวฒั นธรรม (Multi - Cultures) พม่ า + อิน เดีย + อัง กฤษ ซึ่ง สวยงามน่ า อยู่ และน่าเทีย่ วมากครับ ทีน่ ่ีมที มี จักรยานมัณฑะเลย์ ที่พวกเรารู จ้ กั และคุน้ เคยกันดีมารอต้อนรับด้วย เราขี่ล งเขายาวๆ จากเมือ งนี้ไปยัง ‘มัณฑะเลย์’ เมืองใหญ่ทค่ี นุ ้ หูคนไทย เป็ นเมืองทีค่ ล ้ายเชียงใหม่ มากๆ มีแม่นำ�้ อิรวดีไหลผ่าน มีคูเมืองยักษ์สเ่ี หลีย่ ม มีภูเ ขามัณ ฑะเลย์ ฮิล ล์ บนเขาเป็ น วัด พระธาตุ อยูท่ างด้านเหนือของคูเมือง ใกล ้ๆ มีพระมหามัยมุณี (1 ใน 5 สถานทีศ่ กั ดิ์สทิ ธิ์ของพม่า) อันทีจ่ ริงเมืองนี้ พวกเราเคยมากันหลายครัง้ แลว้ เที่ยวกันมาแลว้ เกือบครบ มาคราวนี้จงึ ไม่ได้ออกไปเทีย่ วทีไ่ หน จิบๆ เครื่องดืม่ ราคากระป๋ องละ 22 บาท (ยีห่ อ้ ยักษ์ใหญ่ จาก USA) อยู่ขา้ งโรงแรม 555 การขี่ท่องเที่ยว เมืองมัณฑะเลย์น่ีสบายๆ เหมือนขีอ่ ยู่บา้ นเราครับ แต่อย่าลืมนะครับ! ถนนทีพ่ ม่า รถยนต์วง่ิ เลนขวา นะตัวเธอ (ไม่ยาก! วันสองวันก็ชนิ ) ช่วงเวลา 2 - 3 วันทีเ่ มืองมัณฑะเลย์ ท�ำให้ เราอิม่ (จนใบหน้าแดงเรื่อๆ) กับน�ำ้ ใจและมิตรภาพ ของเพื่อนๆ เราที่นนั ่ ทีมจักรยานมัณฑะเลย์กบั ทีมจักรยานเชียงตุงน่ ารักและมีน�ำ้ ใจมากๆ แถม ขาแรงสุดๆ ครับ แล ้วก็ถงึ เวลาลงใต้ไปลุยแถบย่างกุง้ กันบ้าง คราวนี้ผมไม่ได้ไปเมืองย่างกุง้ นะครับ แต่ถา้ ใครอยากไป ‘เจดียช์ เวดากอง’ ก็น่าจะหาโอกาสไป ให้ได้ ส่วน ‘พุกาม’ นัน้ ขีไ่ ปจากมัณฑะเลย์ได้ครับ พักที่ ‘เมืองมิงยาน’ ระยะทาง 180 กิโลเมตร อากาศ ร้อนตับแลบ ครัง้ หนึ่งผมเคยไปร่ างเดี้ยงที่เมือง พุกาม กินอะไรก็อว้ ก (ถ้าหาทางออกไม่เจอ ให้ไปออก ที่ทางเข้า!) เพราะร่ างกายเกิดอาการ Overtrain (อยากไปช�ำระแค้นมาก ก�ำลังหาโอกาสไปอีกรอบ) เราแพ็คจักรยานขึ้นรถบรรทุก แล ้วนัง่ รถยาว ผ่าน ‘เมืองเนปิ ดอว์’ ลงมาที่ ‘เมืองพะโค’ หรือ ‘เมืองหงสาวดี’ ในประวัติศาสตร์นนั ่ เอง เพื่อชม ‘เจดียม์ เุ ตา’ (นี่กอ็ กี 1 ใน 5 สถานทีศ่ กั ดิ์สทิ ธิ์ของ พม่าอีกละ) เราเริ่มปัน่ จักรยานอีกครัง้ จากเมือง หงสาวดีน้ ไี ปที่ ‘เจดียอ์ นิ แขวน’ (อีก 1 ใน 5 สถานที่ 21

b side

ศัก ดิ์ สิท ธิ์ ข องพม่ า อี ก เช่ น กัน เหลือ อี ก สองคื อ เจดียช์ เวดากอง และ ‘เจดียช์ เวสิกอง’ ทีเ่ มืองพุกาม) ระยะทาง 100 กว่ากิโลเมตร ข้ามแม่น�ำ้ สะโตง ที่พ ระนเรศวรทรงยิง พระแสงปื น ข้า มแม่ น�ำ้ โดน แม่ทพั พม่านัน่ แหละครับ เราโชคดีได้ทพ่ี กั ทีโ่ รงแรม บริเวณเจดียอ์ นิ แขวนเลย สวยจริงๆ ต้องเดินขึ้นไป ไกลพอสมควร มีผูแ้ สวงบุญมากันล ้นหลาม เป็ นอีก หนึ่งแลนด์มาร์คทีใ่ ครมาเทีย่ วพม่าต้องมาทีน่ ่คี รับ ใกลจ้ บทริปละครับ เราปัน่ ยาวจากเจดีย ์ อินแขวนไปถึง ‘เมืองมะละแหม่ง’ หรือ ‘เมาะล�ำไย’ หรือ ‘เมาะล�ำแหย่น’ (เลือกอ่านตามใจเถอะ) พักทีน่ ่ี สักวันสองวัน เมืองนี้สวยจริง มีอ่าว มีทะเล มีแม่นำ�้ ไหลมาบรรจบกัน ก่ อ นลงทะเลด้ว ย มีว ดั ใหญ่ ๆ สวยงาม น่าเสียดายทีเ่ รามีเวลาทีเ่ มืองนี้นอ้ ยเกินไป เท่านัน้ ยังไม่พอ เราปัน่ จักรยานได้แค่ช่วงเช้า จากนัน้ ก็ตอ้ งนัง่ รถเซอร์วสิ เพื่อให้เรากลับเข้าประเทศไทย ทีด่ ่านอ�ำเภอแม่สอด จังหวัดตาก (ตรงข้ามกับเมือง เมียวดี) ให้ได้ทนั ก่อนด่านชายแดนจะปิ ด! เป็ นอันจบทริปพม่าทีใ่ ช้เวลาเกือบ 2 อาทิตย์ อย่างสนุ กสนาน จากที่สอบถามเหล่าเพื่อนนักปัน่ เจ้าถิ่นพบว่า ยังมีเส้นทางปัน่ จักรยานที่น่าสนใจ อีกมากให้เลือกไปได้ เช่น แถบอ่าวเบงกอล หรือ ขึ้นเหนือไป ‘มิตจินา’ (เท่าทีท่ างการพม่าจะอนุญาต ให้เราปัน่ ไปได้) ดังนัน้ ถ้ามีโอกาสผมจะไม่พลาดแน่ พม่า มีอ ะไรมากกว่า ที่เ ราเคยรู จ้ กั จริง ๆ คนพม่า ยังค่อนข้างใหม่กบั โลกภายนอก และทีส่ ำ� คัญคนพม่า เขาไม่ได้สนใจเรือ่ งประวัตศิ าสตร์ทม่ี กี บั ประเทศไทย (เหมือนทีค่ นไทยใจแคบบางคนชอบเหยียดชาติพนั ธุ)์ คนพม่าเขายินดีตอ้ นรับคนไทยมากๆ ค่ าใช้จ่าย ก็ไม่แพง เบียร์ถกู เอ๊ย! ไปปันจั ่ กรยานตะลุยต่างประเทศ ก็อย่าลืมเที่ยวให้มากๆ นะครับ ตักตวงสิ่งต่ างๆ ไว้เยอะๆ ประสบการณ์ชีวติ แบบนี้ไม่ได้มมี าบ่อย รักษาสภาพร่างกายไปด้วย อย่าหักโหมขี่จนไม่ได้ ลิ้มรสสิง่ ใหม่ๆ ในชีวติ ทีอ่ ยู่ตรงหน้า บอกเลยว่าพม่า จะท�ำ ให้ก ารมองโลกของพวกเราเปลี่ย นไปเลย โดยเฉพาะถ้ามาด้วยการปัน่ จักรยาน แลว้ มีโอกาส ค่อยๆ ละเมียดสัมผัสสิง่ ทีไ่ ด้เจอ สุดท้ายนี้ พีๆ่ จะไปปัน่ จักรยานเทีย่ วทีไ่ หน อย่าลืมชวนกันบ้างนะครับ แลว้ พบกันฉบับหน้า สวัสดีครับ (รีบไปเปิ ด Google กันเลย!!!)


B I K E R O U T E

KRISDADOI

กฤษดาดอย (เกิดทันกันมั้ยจ๊ะหนูๆ?) เรื่อง/ภาพ : New Dawn

หายกันไปนานกว่าจะได้กลับมาปั่น นานจนสับเกียร์ผิดๆ ถูกๆ นานจนกล้ามขาลีบหมดแล้วค่ะคุณผูช้ ม วันนีฤ้ กษ์งามยามดี อากาศเย็นๆ ฟ้าฝนเป็นใจปล่อยให้เราได้ออกมายืดเส้นโดนแดดเช้ากันบ้าง เลยพา หนูฟ้ามาเที่ยวเล่นเบาๆ ขอย�้ำว่าเบาๆ เพราะหยุดไปนาน เล่นใหญ่เลย อาจไม่ ร อดชี วิ ต ช่วงนี้ต ้องซุ่มซ้อมก่อนไปออกรอบกับ เดอะแก๊ง ไม่ อ ยากให้ เ พื่ อ นๆ นักปั่นที่เ คยร่วมทางกันรู้สึกผิดหวัง ในตัวเรา เพราะพวกเขาอาจจะเยาะเย้ ย เรา แถมเก็ บ เรื่ อ งความด้ อ ยของเรา ไปกัดกันอีกเป็นปีก็เป็นได้... ใช่ค่ะ มิตรแท้นักปั่นเขาน่ารักกันอย่างนี้! ที่เกริ่นมาไม่ใช่ อะไร จะขอใช้เป็ นข้ออ้างในการปัน่ ไต่ดอยแบบเตี้ยๆ พอสมฐานะของมือเก่าหัดขีค่ ่ะ เน้นทางราบ ราบไม่พอ ขอร่มด้วย ไม่ยอมออกถนนใหญ่อกี นะ เพราะช่วงนี้ รถเยอะ พอสรุป Requirements ทัง้ หมดแล ้ว เราก็ได้เลือก เส้นทางที่เหมาะจะเป็ นหนทางการซ้อมรบของเรา นัน่ คือ จากศู นย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ เชียงใหม่ ไป ‘กฤษดาดอย รีสอร์ท (Flora Creek Resort)’ จ้า เริ่มจาก ลัดเลาะเส้นใน กองกีดทัง้ หลาย เข้าถนนแม่ขวั มุง ทะลุออก ข้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา เลี้ยวเข้าประตู หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านไปดูอ่างแก้วกับอ่างตาดชมพู อ่างเก็บน�ำ้ น้องใหม่ของ มช. อ้อมไปออกหลัง มช. แล ้วเลี้ยว เข้าซอยวัดอุโมงค์ จากจุดเริม่ ต้นมาถึงตรงนี้โดนแดดน้อยมาก เพราะวันนี้เมฆเยอะ อากาศก�ำลังสบาย ลมเย็นๆ แปะแก้ม ชิลล์มาก ณ จุดนี้ ปัน่ ตามทางไปเรื่อยๆ ผ่านวัดอุโมงค์ ผ่านวัดร�ำ่ เปิ ง และวัดโป่ งน้อยไปก็จะถึงสีแ่ ยก เลี้ยวขวาเข้าซุม้ ประตูหมูบ่ า้ น สันลมจอย ไปตามเส้นแม่เหียะในเรื่อยๆ เพือ่ ทะลุเข้าไป มช. แม่เหียะ เช้าวันเสาร์เช้ามีตลาดขายของออร์แกนิคส�ำหรับ คนรักสุขภาพกันนะคะ คนเยอะเชียวค่ะ ทุกเพศทุกวัย ทุกชุด ทัง้ ชุดนอน ชุดออกก�ำลังกาย ชุดแม่บา้ น ชุดไปเทีย่ ว ใน มช. เช้านี้เลยครึกครื้นมากเป็ นพิเศษ 22

a side


ด้วยเป้ าหมายคือจะไปทะลุเส้นพืชสวนโลกโดยไม่เจอ ถนนใหญ่ เลยต้องใช้ความสามารถของการเป็ นคนท้องถิน่ เล็กน้อย แต่ถามว่าหลงมัย้ ตอบเลยว่าหลงมาก... มาเอง ทีไรไม่เคยรอดเลยค่ ะ สุดท้ายก็ทะลุพืชสวนโลกได้ สติ เริ่ ม กลับ มาแล ว้ ค่ ะ ไปต่ อ ทางร่ ม รื่ น ของเรา ผ่ า นหน้า ไนท์ซาฟารี เข้าเส้นที่เขียวและร่มรื่นที่สุด ยาวไปจนทะลุ เส้นสะเมิง (ทางหลวง 1269) ออกมาเจอถนนใหญ่แลว้ จ้า แต่เส้นนี้รถน้อย ปลอดภัย ไม่วุน่ วาย มีหมาเจ้าถิน่ ยืนคุม ตามรายทาง ร่มบ้างแดดบ้าง ขึ้นเนินบ้างลงดอยบ้างสลับไปมา เพื่อนปัน่ ร่วมทางก็ย้ มิ แย้มให้กนั ตลอดทาง ท�ำให้เราต้อง แอ๊บหน้าเหมือนคนปกติ แรงดี ไม่มเี หนื่อยตลอดเวลา ด้วย ระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร สุดท้ายก็มาถึงจุดหมาย ณ กฤษดาดอย รีสอร์ท หรือทีเ่ รียกว่า Flora Creek Resort ด้านหน้ามีรา้ นอาหาร Creek Cafe บรรยากาศดี ตกแต่ง แบบโมเดิรน์ โล่งสบาย มีทงั้ ห้องแอร์ และโซนรับลมธรรมชาติ แถมมีท่ีจอดจักรยานให้เรียบร้อยค่ ะ ตอนแรกจะนัง่ พัก แป๊ บเดียว บรรยากาศสบายไปหน่อย นัง่ เป็ นชัว่ โมงเลยจ้า

ถ้าพูดถึงรีสอร์ทในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็ นที่นิยม ส�ำหรับนักท่องเที่ยวทัง้ ชาวไทยและชาวต่างประเทศในช่วง 10 - 20 ปีกอ่ น ใครๆ ก็ต ้องรูจั้ ก ‘กฤษดาดอย’ (เกิดทันกันมัย้ จ๊ะ?) นักท่องเทีย่ วต่างถิน่ นิยมมาเทีย่ วกัน ส่วนตัวไม่ได้มานานมาก เพราะคิดว่าเป็ นทีข่ องนักท่องเทีย่ ว จ�ำได้วา่ ตอนเด็กๆ มากๆ ก็นานแล ้วล่ะ... ชอบมากับครอบครัว เป็ นรีสอร์ททีเ่ ขียวชอุ่ม มีบา้ นไม้ทรงเหมือนบ้านในชนบทแถบยุโรป หรือพวกสวิส ชาเลต์หลายหลัง ดูมคี วามเป็ นไพรเวทมาก แต่ละหลังจะมี ใบไม้เกาะตามผนัง ดอกไม้ในรีสอร์ทเยอะมาก สวนตกแต่ง สวยงาม น�ำ้ ตกไหลผ่าน เคยมีชา้ งให้ขด่ี ว้ ย ทีจ่ ำ� ได้อกี อย่างคือ เคยมีคนบอกว่า พีเ่ บิรด์ ธงไชย ชอบทีน่ ่มี ากจ้า จริงเท็จอย่างไร อันนี้ไม่ทราบ ตอนนัน้ หนู เป็ นแฟนคลับพี่เบิรด์ ค่ ะ พี่ชอบ หนู กช็ อบ แฮ่... แต่ตอนนี้เขาเพิง่ ปรับปรุงโครงการใหม่ทงั้ หมด เพราะฉะนัน้ ภาพของรีสอร์ทนี้ได้กลายเป็ นที่พกั ที่ดูหรูหรา โมเดิรน์ ชอบที่ยงั สามารถคงความกลมกลืนกับธรรมชาติ ได้อย่างดี และรักษาอาคารไม้กับการจัดสวนทีเ่ ป็ น Signature ของทีน่ ่ไี ว้อยู่ ท�ำให้คิดถึงความทรงจ�ำสมัยวัยเยาว์ทกุ ครัง้ ทีเ่ ห็น ไม่รูจ้ ะมีใครเป็ นบ้าง ต้องเคยมาอ่ะถึงจะเข้าใจ ถ้าเกิดช้าไป ก็อดอ่ะเนอะ สิทธิพเิ ศษของคนเกิดเร็วจ้า สุดท้าย วันนี้ไปกลับทางเดิม รวมๆ ก็ 60 กิโลเมตร ขากลับหลงเพิม่ เล็กน้อยตามคอนเส็ปท์ (อยาก) สวยต้องโก๊ะ! ถือว่าการกลับมาของนักปัน่ สายสวยงามมือสมัครเล่นก็เป็ นที่ น่าพอใจในระดับปานกลาง เพราะยังมีการหลงทางและสับเกียร์ เสียงดังอยู่ รอบหน้าก็ว่าจะไปเล่นทีอ่ ่นื บ้าง ค่อยๆ หาไปว่า ทีไ่ หนจะเข้ากับ Requirements ทีเ่ รือ่ งมากขนาดนี้ได้ นี่ขนาด เลือกแล ้วนะ ขากลับยังโดนแดดฟาดหน้าเข้าไปเต็มๆ หรือว่า ความรักสวยรักงามอาจจะไม่เหมาะกับเราจริงๆ... ไปค่ะ ปัน่ วนไปค่ะ!

23

b side


B I K E S A F E

3. เลี้ยวขวา

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

ใช้ทกั ษะนิดหนึ่งนะครับ เพราะต้องใช้มอื ขวาโบก ท�ำให้เหลือมือซ้าย (ข้างที่ ไม่ถนัด) จับแฮนด์ขา้ งเดียว ซึ่งเสี่ยงที่จะเสียหลักได้ วิธีฝึกคือหาถนนโล่งๆ ลองจนคล่องก่อนนะครับ 4. ชะลอ จะใช้มอื ซ้ายหรือขวาก็แล ้วแต่ถนัด แต่อย่าลืมว่ามืออีกข้างทีอ่ ยู่ทแ่ี ฮนด์จะต้อง ควบคุมเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยนะครับ 5. จอด ก�ำหมัดแน่นๆ เน้นชัดๆ ว่าจะหยุด อย่าสอยท้ายเรานะ นักปัน่ บางท่านจะก�ำมือ สลับแบมือก็ได้นะครับ 6. ให้แซง ในกรณี ท่ีถ นนแคบ ถ้า มีโ อกาสหรื อ มีไ หล่ ท างกว้า งพอ ก็ ห ลบเข้า ซ้า ย แล ้วกวักมือให้สญั ญาณเพือ่ ให้รถคันข้างหลังได้แซงไปก่อนนะครับ 7. ขอบคุณ ถ้ามีรถคันอื่นให้ทางหรือแสดงน�ำ้ ใจให้เรา ควรขอบคุณเขานะครับ เป็ นคน มีมารยาทน่ารักจะตาย จะได้สร้างทัศนคติทด่ี รี ะหว่างจักรยานและรถอืน่ ๆ ด้วย 8. มีรถสวน เวลาปัน่ จักรยานกันเป็ นกลุม่ จักรยานคันแรกจะมองเห็นสถานการณ์มากทีส่ ุด กรณี ท่ีถนนแคบหรือรถที่สวนมาวิ่งเร็วเกินไป เราสามารถส่งสัญญาณบอก จักรยานคันอืน่ ๆ ทีต่ ามมาว่ามีรถสวนนะ อย่าเพิง่ แตกกลุม่ ออกมา อันตราย! 9. อันตรายที่พื้น อย่างทีบ่ อกครับ การปัน่ จักรยานเป็ นกลุม่ นัน้ คันทีต่ ามๆ กันมาจะมองไม่เห็น อุปสรรคด้านหน้าเลย ดังนัน้ คันหน้าสุดจะต้องส่งสัญญาณมือบอกต่อๆ กันไป เช่น ถนนเป็ นหลุมเป็ นบ่อ ไหล่ทางช�ำรุด ฯลฯ เพราะถ้าจักรยานคันใดคันหนึ่ง เกิดเสียหลักล ้ม ก็จะไปเกีย่ วคันอืน่ ให้ล ้มระเนระนาดตามกันหมด นี่ถอื ว่าเป็ นการ สังหารหมูเ่ ลยนะครับ!!! 10. หลบอันตราย จากข้อ 8 และ 9 เมือ่ เจออุปสรรคหรืออะไรทีเ่ สีย่ งต่อการเกิดอุบตั เิ หตุ จะต้อง ส่งสัญญาณมือบอกกันว่าให้หลบเข้ามาปัน่ ตามไลน์คนั ข้างหน้า อย่าแตกแถว ด้วยการกวักมือจากด้านข้างเข้ามาทีห่ ลังของเราครับ

HAND SIGN สั ญ ญ า ณ มื อ

ผ่านไป 10 ข้อส�ำหรับความปลอดภัย ต่ อไปนี้คือสัญญาณมือแบบ สร้างทัศนคติทด่ี ใี ห้กบั นักปัน่ และสร้างโลกใบนี้ให้น่าอยู่ครับ

เรื่อง/ภาพ : acidslapper

สวัสดีครับนักปั่นชาว HIP Bike Section ฉบับนี้ เราจะมาว่ า กั น ด้ ว ยเรื่ อ งที่ ส� ำ คั ญ มากๆ ส� ำ หรั บ การ ปั่นจักรยานบนถนนร่วมกับผู้ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ ซึ่งก็คือ ‘สัญญาณมือ’ นั่นเองครับ การใช้สญั ญาณมือนัน้ เป็ นเพราะเราไม่สามารถตะโกนคุยแข่งกับ เสีย งรบกวนต่ า งๆ ได้ ดัง นัน้ เราจึง ต้อ งใช้มือ ท�ำ สัญ ลัก ษณ์ เ พื่อ สือ่ สารกัน ทัง้ เพือ่ บอกผูใ้ ช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ว่าเราก�ำลังจะท�ำอะไร หรื อ เพื่อ สื่อ สารกัน เองในกลุ่ ม นัก ปัน่ ให้เ กิ ด ความเข้า ใจตรงกัน โดยทัง้ หมดนี้กเ็ พือ่ ความปลอดภัยของทุกคนบนท้องถนนนัน่ เอง ว่าแล ้วก็ไปดูสญั ญาณมือส�ำหรับนักจักรยานกันครับ

11. รักนะ Cyclist

ไม่ว่าจะบอกรถคันอื่น หรือจะบอกสาวๆ นักปัน่ (หน้าจิ้มลิ้มแขนขาสองสี เหมือนตัวสมเสร็จ) ที่สวนมา หรือบอกใครๆ ที่เดินอยู่ตามข้างทางก็ตาม บอกไปเถอะครับ ดีกว่าชูน้ วิ อืน่ ตัง้ เยอะ จริงมัย้ ? 12. Rock ‘n Roll Baby!!! “จะเริ่มเร่งความเร็วในระดับไม่ปกติแล ้วนะ” “มาๆๆ เพือ่ นๆ ทัง้ หลาย ระเบิดพลังให้มนั กระชุ่มกระชวยกันหน่อย!” 13. ยิง!!! เตรียมจู่โจมด้วยความเร็ว!!! ถ้ายิงแล ้วไปไม่รอด โดนกลุม่ รวบ ให้ดูขอ้ 14 14. ตะเองๆ (เสียงอ่อนเสียงหวาน) “เค้าหมดแรงแล ้ว ขอเค้ากลับเข้าไปดูดกลุม่ นะ แหะแหะ” 15. สู้ตายข่ะ! การให้กำ� ลังใจคนอื่น ไม่ว่าจะเป็ นจักรยานคันอื่น หรือผูอ้ อกก�ำลังกายอื่นๆ ตามทาง หรือการให้กำ� ลังใจกัน การสร้างแรงบันดาลใจให้กนั เป็ นเรื่องส�ำคัญ เราได้แรงบันดาลใจมากจากคนอื่นตัง้ เยอะ ถึงเวลาที่มโี อกาสให้คนอื่นบ้าง ก็ทำ� ซะสิ ...สูๆ้ นะทิด!

1. ตรงไป

ชี้ข้ ึนฟ้ าไปเลยครับ รถคันข้างหลังจะได้รูว้ ่าเราจะตรงไป แต่ อย่ า ปล่อยมือจากแฮนด์แล ้วชี้ข้นึ ฟ้ าแบบขอบคุณพระเจ้าเหมือนนักฟุตบอล ยิงประตูได้นะครับ!!! 2. เลี้ยวซ้าย

ขอให้มีค วามสุ ข และปลอดภัย กับ การปัน่ จัก รยานบนท้อ งถนน แล ้วพบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ

จะยื่นไว้น่ิงๆ หรือกระพือเป็ นนกนางแอ่ นก็แลว้ แต่ ลลี าเถอะครับ แต่ขอให้รถคันอืน่ เขารูว้ า่ เราจะเลี้ยว 24

a side


R U N

LADIES ON TRAILS

ส า ว ส ว ย ใ น ป่ า ใ ห ญ่ เรื่อง : อาเหลียง

คอลัมน์ Run ใน HIP ฉบับนี้ยังอยู่กับเรื่องการวิ่งเทรลกันอยู่ แต่เราจะมาพูดถึงการวิ่งเทรลในมุมมองของบรรดาสาวๆ กันบ้าง เพราะทุกวันนีผ ้ หู้ ญิงเริม่ เข้ามาสูว่ งการนีม้ ากขึน้ ไม่ได้มแี ต่หนุม่ หล่อล�ำ่ ที่มาวิ่งเพียงฝ่ายเดียว ยิ่งงานวิ่งเทรลแล้ว หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า วิ่งเข้าป่าขึ้นเขาลงดอยนี่ล่ะ สาวๆ ชอบกันนัก! ด้วยเหตุนี้เราจึงขอพาผู้อ่านไปรู้จักกับ 3 สาวผู้ชื่นชอบการ วิง่ เทรล เรียกได้วา่ เจอกันเมือ่ ไหร่กจ็ ะได้ยนิ ค�ำว่า “อาทิตย์นดี้ อยไหน?” เป็นประโยคทักทายกันเสมอ ได้แก่ การ์ตูน - สุดา ตันติวีรสุต, กุ้ง - อัญรินทร์ ขจรเวคิน และ กวาง - จันทนี ดวงค�ำสวัสดิ์ โดยเรา จะมาพูดคุยกับทั้ง 3 สาวถึงมุมมองของแต่ละคนในการวิ่งเทรล รวมไปถึงการฝึกซ้อมต่างๆ เผื่อจะเป็นแนวทางส�ำหรับผู้ที่สนใจ ในการวิ่งเทรลได้นะครับ

ช่วยแนะน�ำตัวกันหน่อยครับ ตูน : ตูน - สุดา ตันติวรี สุตค่ะ กวาง : กวาง - จันทนี ดวงค�ำสวัสดิ์ค่ะ กุ้ง : กุง้ - อัญรินทร์ ขจรเวคินค่ะ นี่แม่เอง ตูน : มากะแม่ค่ะ 555 แม่? กวาง : พีก่ งุ ้ เขามีช่อื ในวงการว่า ‘แม่ทกุ สนาม’ ค่ะ 555 ตูน : ด้วยวัยวุฒดิ ว้ ยแหละ พอจะเป็ นแม่ได้ อ๋ออออออ ว่าแต่ท�ำไมสาวๆ ถึงมาวิ่งเทรลกันครับ? ตูน : คือเมือ่ ก่อนก็วง่ิ ถนนเนี่ยแหละ แต่พอกลับมาอยู่เชียงใหม่

ก็มเี พื่อนที่เขาวิ่งเทรลอยู่แลว้ พาไปเส้นทางเทรลในเชียงใหม่ ตอนนัน้ เปิ ด โลกมาก ไม่ เ คยรู ว้ ่ า เชีย งใหม่ มีเ ส้น ทางแบบนี้ หลังจากวันนัน้ ก็ตดิ ใจเลย จนมาถึงตอนนี้ก็ประมาณ 2 ปี แล ้ว ชอบวิง่ เทรลมากกว่าถนนเพราะมันไม่น่าเบือ่ มันสนุกตรงทีเ่ วลา เราไปกันเป็ นกลุม่ เดินๆ คุยกันไปกับเพือ่ นๆ ได้ ไม่เหมือนกับ ตอนวิง่ ถนนทีต่ ่างคนต่างวิง่ กัน 25

b side


กุ ้ ง : จุดเริ่มต้นของการวิ่งเทรลคือมาด้วยตัวเองแบบงงๆ

ไม่รูจ้ กั เพือ่ นสายเทรลมาก่อน บังเอิญเปิ ดเจอเพจโป่ งแยงเทรล น่าจะตอนราคาเออร์ลเ่ี บิรด์ วันท้ายๆ เลยสอบถามทางแอดมินว่า ช่วงนัน้ วิง่ ได้เกือบปี ผ่านฮาล์ฟมาราธอนประมาณ 5 – 6 งาน มีซอ้ มดอยสุเทพทางถนนบ้าง จะไปเทรลไหวมัย้ ทางแอดมิน ก็บอกว่าไหว เลยสมัครไป 30 กิโลเมตร จบสบายๆ หลังจากวันนัน้ ชีวติ ก็เปลีย่ น หลงดอยแล ้วหาทางออกไม่เจอ กวาง : ทีเ่ ริ่มวิง่ จริงๆ จังๆ น่าจะซักประมาณ 4 ปี ทแ่ี ล ้ว เริ่มจาก พีส่ าวชวนว่าวิง่ สิ เนี่ย วิง่ ตามแอพ 5 กิโลเมตร ลองโหลดมา ไหนๆ เราก็เดินๆ วิ่งๆ อยู่ บา้ งแลว้ เลยโหลดแอพมาลอง แล ้วก็วง่ิ ๆ ไปตามทีแ่ อพบอก ได้บา้ งไม่ได้บา้ ง สุดท้ายก็วง่ิ ยาว แบบ 5 กิโลเมตรได้ แบบใช้เวลาเบาๆ พอได้ 5 กิโลเมตรแรก ได้ไม่นานก็ขยับมาลงมินิมาราธอนเลย งานของคณะตัวเอง (คณะวิทยาศาสตร์ มช.) ก็วง่ิ เรื่อยๆ จากนัน้ ก็ขยับระยะขึ้นเป็ น ฮาล์ฟ มาราธอน หลังจบฮาล์ฟแรกเสร็จก็ลองไปวิ่งเทรลดู เพราะเดิมทีก็เดินป่ าบ้าง (ตามสาขาวิชาที่เรียน) จะได้ดูตน้ ไม้ ชมธรรมชาติอะไรบ้าง งานแรกคือสิงห์เทรลทีเ่ ชียงราย จ�ำได้วา่ ช่วงเช้าอากาศเหมือนฝนจะตก แต่ตอนวิง่ จริงๆ แดดมาเต็มจ้า แถมเริ่มบ่ายสอง ร้อนมาก เหนื่อย ตอนถึงจุดรับน�ำ้ เกลือแร่ ถึงขัน้ กินเกลือแร่ ขวดที่สอง พอเข้าเส้นนี่คือดีใจมากกกกก ขากลับนัง่ หลับตลอดทางเลย

“วิ่ ง เทรลได้ ผ ่ า นวิ ว สวยๆ อากาศดีๆ สดชื่นๆ เส้นทางเดิมๆ ใ น แ ต ่ ล ะ วั น มั น ก็ ต ่ า ง กั น ไ ป เ ห มื อน แ บ บ ได ้ ไป ธร ร ม ช า ติ บ�ำบัดอะไรท�ำนองนั้น”

คิดว่าเสน่ห์ของการวิ่งเทรลคืออะไรครับ? ตูน : วิง่ เทรลได้ผ่านวิวสวยๆ อากาศดีๆ สดชื่นๆ เส้นทางเดิมๆ

ในแต่ละวันมันก็ต่างกันไป เหมือนแบบได้ไปธรรมชาติบำ� บัด อะไรท�ำนองนัน้ กุ้ง : เสน่หข์ องการวิง่ เทรลคือได้ไปในทีท่ เ่ี ราไม่เคยไปด้วยเท้า ของเราเอง จดจ่ อและมีสมาธิในทุกๆ ก้าว ได้อยู่ กบั ตัวเอง และที่สำ� คัญได้มติ รภาพในสนาม คือมันไม่เชิงเป็ นการแข่งขัน ด้ว ยการที่ใ ช้เ วลาค่ อ นข้า งนานด้ว ยกัน ในป่ า ท�ำ ให้ทุ ก คน ช่วยเหลือกัน พากันไปถึงเส้นชัยมากกว่า กวาง : ทีช่ อบวิง่ เทรลเพราะตอนวิง่ คนน้อย เหมือนเราได้อยู่ กับตัวเอง (คนอื่นวิ่งเร็ว อยู่ขา้ งหน้ากันหมดแลว้ 555) กับ ชอบตอนขึ้นดอยแลว้ เห็นวิวสวยๆ มีหลายที่สวยมาก แต่ ท่ี ขึ้นไปเจอหมอกบังวิวก็มเี หมือนกัน การเจอหมอกบังวิวนี่บางที ก็ถือเป็ นโชคดีเหมือนกัน เพราะเราไม่ตอ้ งเห็นว่าข้างๆ ทาง ที่เราวิง่ เนี่ยมันสูงแค่ไหน อีกอย่างตอนไปวิง่ ซ้อมๆ หรือเล่นๆ กันเองก็สนุก มีเพือ่ นๆ พีๆ่ น้องๆ ทีไ่ ปด้วย วิง่ ไป กินไป บ่นไป บางทีไปวิง่ กับพีท่ ร่ี ูจ้ กั กัน (พีเ่ ทิด) เขาจบชีววิทยา รูจ้ กั ต้นไม้เยอะ พีเ่ ขาก็จะสอนว่านี่คือต้นอะไร ดอกอะไร แต่ไม่จำ� นะ จ�ำไม่ได้ แยกไม่ออก ก็น่าจะถือว่าเป็ นความรูไ้ ปด้วย หลัง จากนั้ น ก็ ว่ิ ง เทรลสลับ กัน กับ การวิ่ ง บนถนน เพราะยังอยากวิง่ จบมาราธอนสักครัง้ ในชีวติ (ซึง่ ตอนเริม่ วิง่ ใหม่ๆ ยังบอกกับอาจารย์ท่สี อนท่านหนึ่งว่า จบมินิหนู ก็จะพอแลว้ ค่ะ ไม่ไปมาราธอนหรอก) พอจบมาราธอนแรกไม่นาน มีโอกาสได้ ทดสอบเส้นผาส้มเทรลทีส่ ะเมิง เชียงใหม่ (ไปกับทีมมาราธอน สุดขอบโลก น�ำโดยพีเ่ ป้ พีต่ อ๊ ก และพีพ่ ฒั น์) 21 กิโลเมตร รูส้ กึ ว่า โชคดีนะทีม่ า เพราะเหนื่อย หยุดพักและเดินเรื่อยๆ เลย ขาแรง ก็นำ� ไป ดีท่มี พี ก่ี ุง้ ช่วยเดินเป็ นเพือ่ น นี่เป็ นการเจอกันครัง้ แรก กับพี่กุง้ ด้วย จ�ำได้ว่าตอนนัน้ พี่กุง้ ยังสอนอยู่เลยว่าเวลาวิ่งลง ทางชันๆ ให้เอียงๆ ลง สรุปการทดสอบเส้นทางผาส้มคือ ถ้าเรา วิง่ จบได้ คนอืน่ ทีม่ าแข่งวิง่ จริงๆ ก็ตอ้ งวิง่ จบแน่นอน 555

มี ค� ำ แนะน� ำ หรื อ เทคนิ ค อะไรส� ำ หรั บ คนที่ ก� ำ ลั ง จะเข้ า วงการเทรลมั้ยครับ โดยเฉพาะสาวๆ ตูน : ง่ายๆ คือซ้อมค่ะ ถ้าซ้อมแลว้ จะท�ำให้เรามีความมัน่ ใจ

มากขึ้น และไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บแน่ นอน บางทีถา้ วิ่งเทรล ในระยะยาวๆ คิดว่าจะเสีย่ งต่อการบาดเจ็บได้งา่ ยและอาจต้อง หยุดพักยาว นอกจากซ้อมวิง่ จริงๆ แลว้ การปัน่ จักรยานหรือ เล่นเวทเสริมก็ช่วยได้มาก (แต่ส่วนตัวไม่ได้เวทนะคะ แหะๆ) ไม่จำ� เป็ นว่าต้องมาซ้อมกับภูเขากับดอยตลอด แต่อาจจะต้อง เลือกการซ้อมทีเ่ หมาะกับตัวเอง เพราะอย่างนักวิง่ ขาแรงหลายคน ก็อยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้มภี เู ขาหรือทางเทรลให้ซอ้ ม ก็อาจจะอาศัย การวิง่ ลูช่ นั วิง่ ขึ้นบันได วิง่ ยาวๆ และเวทเสริม ก็น่าจะช่วยได้ค่ะ 26

a side


แต่ละคนมีเส้นทางซ้อมประจ�ำที่ชอบมั้ยครับ? ตูน : ห้วยคอกม้า เส้นทางร่มรืน่ ไม่รก มีทงั้ ทางราบและชันสลับกัน กุ้ง : กาแล ชันแต่สนั้ ไปสะดวก กวาง : กาแลด้วย สัน้ สุด และดี แลว้ วิ่งลงผาลาดด้วยนะ

ลูปสัน้ ๆ เล็กๆ

ไปเรซไหนแล้วประทับใจที่สุดครับ? กุ้ง : Eco 100 ระยะ 50 กิโลเมตร ทีม่ าเลเซีย เป็ นอัลตร้าแรก

ทีไ่ ปต่างประเทศและไม่จบ รูจ้ กั ค�ำว่า DNF

กวาง : สนามเทรลต้องลังกาหลวงเลย วิง่ เกือบไม่จบ แต่กจ็ บ

แบบโคตรเหนื่อย! ตูน : CM6 เพราะสนามท้าทายและได้ข ้ามลิมติ ของตัวเอง (ระยะ 130 กิโลเมตร) กุ้ง : สนามนัน้ เขาเรียกว่าป่ าเถือ่ นมัย้ ? ตูน : 555 ยังตราตรึง ดูดวิญญาณมาถึงปัจจุบนั สุดท้ายแล้วครับ เนื่องจากพื้นที่เรามีน้อย พี่ตูน พี่กุ้ง พี่กวาง คิดว่า ท�ำไมสาวๆ ถึงต้องมาวิ่งเทรลกัน หรือ มีอะไรอยากจะฝากถึงสาวๆ ที่ก�ำลังคิดจะมาวิ่งเทรล กันบ้างไหมครับ? ตูน : จริงๆ แค่ออกก�ำลังกาย จะวิง่ ปัน่ ว่าย หรืออะไรก็ดหี มด

นะคะ แต่ส่วนตัวรูส้ กึ ว่าการวิง่ เทรลหรือการเดิน Hiking สัน้ ๆ ในเส้นทางเทรลหรือเส้นทางเดินป่ า ช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ และได้อยู่กบั ตัวเองมากขึ้น บางวันเราเดินไปเรื่อยๆ ได้เหงือ่ อากาศดีๆ วิวสวยๆ สดชื่นๆ ก็ทำ� ให้รูส้ กึ ดีแลว้ อีกอย่างการ วิง่ เทรลมันไม่น่าเบือ่ เหมือนวิง่ ถนน อย่างทีเ่ ชียงใหม่ก็มเี ส้นทาง หลากหลายให้เลือก ไม่จำ� เจ จะไปเดินตอนสายๆ หรือบ่ายๆ ก็ได้ เพราะอากาศไม่ค่อยร้อนมาก มีร่มไม้เยอะกว่า แต่สำ� หรับสาวๆ ก็ โดยส่วนตัวคิดว่าในการแข่งระยะอัลตร้าเทรล ส่วนหนึ่ง อยากจะแนะน�ำให้ไปเดินหรือวิ่งเทรลในเส้นทางที่ไม่เปลี่ยว ทีไ่ ด้จากการซ้อมก็คอื บางทีเราออกไปซ้อม ไปเป็ นวัน ก็จะได้เรือ่ ง จนเกินไป หรือมีเพือ่ นไปด้วย เผือ่ เวลาบาดเจ็บ หรือมีปญั หาอะไร การกิน การพัก ได้ลองรองเท้าว่าเข้ากับเท้ามัย้ เพราะรองเท้า จะได้มคี นช่วยเหลือได้ค่ะ บางรุ่นพอใส่วง่ิ ถนนอาจจะไม่เป็ นอะไร ระหว่างวิง่ ก็จะได้รูจ้ งั หวะ กุ้ง : คือการได้ไปสัมผัสธรรมชาติดว้ ยสองเท้า เป็ นการชาร์จ ตัวเอง สามารถกะถูกว่าช่ วงไหนเราควรเร่ งควรผ่อน ท�ำให้ พลังงานชีวติ ลืมเรือ่ งหนักๆ เครียดๆ จากชีวติ ประจ�ำวัน มาจดจ่อ รูร้ ่างกายตัวเองมากขึ้น รวมทัง้ สามารถช่วยให้เตรียมตัวได้ก่อน กับเท้าตัวเอง ท�ำให้มีวินยั และที่สำ� คัญคือสุ ข ภาพโดยรวม เพราะเหมือนได้ซอ้ มกับสนามหรือสภาพแวดลอ้ มที่เป็ นเทรล ก็จะแข็งแรงขึ้นค่ะ เพราะบางทีตอนวิง่ ถนนมันจะเป็ นอีกอารมณ์หนึง่ ถ้าหากมีตรงไหน กวาง : มาวิง่ เลยค่ะ สนุกแน่นอน ทีไ่ ม่โอเคก็จะได้มเี วลาปรับแก้ได้ก่อนแข่งค่ะ กุ้ง : เรื่องเทคนิคในการวิ่งเทรล ส่วนตัวให้ความส�ำคัญกับ การซ้อม ทัง้ การบริหารแรง การกิน ขับถ่าย ให้อยูไ่ ด้ร่วม 10 ชัวโมง ่ ในป่ า สิง่ ทีเ่ ราได้ความรูแ้ ละเทคนิคจากครู เพือ่ นๆ รวมถึงอุปกรณ์ ทัง้ หลาย ต้องเอามาทดลองและปรับใช้เองว่าเหมาะกับเรามัย้ กวาง : เทคนิกการวิง่ ส�ำหรับผูห้ ญิง จริงๆ ก็ไม่น่าจะต่างกับผูช้ าย เท่าไหร่ เราก็ไม่ได้เป็ นคนวิง่ เก่งอะไรอยูแ่ ล ้ว ก็จะมีทค่ี นอืน่ แนะน�ำ คือให้เล่นเวทด้วย หรือว่ามีแผนการซ้อม แต่ อย่ างเราปกติ ถ้าอยากรูอ้ ะไรก็ถามจากคนอื่นเอาเลย หรืออ่านตามเพจต่างๆ ส่วนตารางซ้อมของตัวเองจริงๆ เนี่ยไม่มี ตามคนอืน่ เอา ทีไ่ หน เขาไปวิง่ กันเราก็ไปด้วย วันเสาร์อาทิตย์ แต่ว่าวันจันทร์ถงึ ศุกร์ ท�ำงานก็มาวิ่งตอนเย็น พยายามไม่ข้ เี กียจ แต่ส่วนใหญ่ก็เน้น เสาร์อาทิตย์เอาค่ะ (รูส้ กึ เป็ นค�ำตอบทีน่ ่าผิดหวัง ฮ่าๆ) แต่สำ� หรับ ผูห้ ญิง จริงๆ น่าจะเป็ นเรื่องความปลอดภัยมากกว่า ตอนซ้อม หรือตอนไปวิง่ ควรมีเพือ่ นไปด้วย เวลาวิง่ ก็พยายามจ�ำทาง สังเกต จุดอะไรไว้บา้ ง จะได้ไม่หลงทาง อ้อ! ขอเติมอีกเรื่องทีน่ ึกขึ้นได้ คือกันแดด ทากันบ่อยๆ นะคะ (ส่วนตัวเองก็ทำ� ไม่ได้ 555)

27

b side


T R A V E L

THE AFTERMATH SOLAR ECLIPSE CHASER ค วั น ห ล ง สุ ริ ยุ ป ร า ค า เรื่อง /ภาพ : ธวัชชัย โคตรพจน์

ไหนๆ ไปไกลถึ ง อเมริ ก าทั้ ง ที ถ่ า ยสุ ริ ยุ ป ราคาเสร็ จ แล้ ว จะกลับเลยก็จะเสียดุลไปหน่อย ถือโอกาสเทีย่ วตามรายทางเลยดีกว่า โดยมีโจทย์การเดินทางอยู่ว่าเราจะมาขึ้นเครื่องขากลับที่ LA ในวันที่ 28 สิงหาคม 2560 หัวหน้าทีมจึงวางแผนการเดินทางจากเดนเวอร์ มาแอลเอ ซึ่งมีระยะทางราวๆ 1,700 กิโลเมตรว่าผ่านสถานที่ ท่องเที่ยวแห่งไหนที่สวยงามในเชิงการถ่ายภาพบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้ว เวลาเราไปต่างถิ่นแบบนี้ เห็นอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ก็อยากจอดรถ ถ่ายรูปอยู่ร�่ำไป ถนนก็สวย แปลงเกษตรก็สวย บ้านเมืองเก่าๆ ก็สวย หากไม่ได้วางแผนหรือจองที่พักไว้แล้วในแต่ละจุด ก็อาจจะ หยุ ด กลางทางหรื อ โยกโย้ อ ยู ่ แ ถวๆ กลางทางก็ เ ป็ น ได้ ก็ เ ลย กลายเป็นว่าวิวข้างๆ ทางที่ขับรถผ่าน ก็ถ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือกล้อง DSLR ในขณะรถวิ่งผ่านนั่นแหละ

02

28

a side


ค่ากินอยู่แถวๆ นี้ก็คงจะสูงตามไปด้วย ถนนพาผ่านเทือกเขาคดเคี้ยว ลงไปเรื่อยๆ ผ่านชุมชนน้อยใหญ่ จอดแวะเติมน�ำ้ มันและเข้าห้องน�ำ้ ในปัม๊ ซึ่ง จะอยู่ ใ นร้า นค้า ของปัม๊ อีก ทีห นึ่ ง มีข อ้ สัง เกตว่ า ประตู ห้องน�ำ้ สาธารณะมักจะไม่ค่อยสนิท จะห่างๆ หน่อย เห็นมาหลายทีแ่ ล ้ว เป็ นเพราะอะไรไม่รู ้ ขี้เกียจเดา 5555 Shiprock คือจุดแวะแรกของเรา ตัว Shiprock เป็ นหิน ทีเ่ กิดจากธารลาวาภูเขาไฟผุดขึ้นมากลางทะเลทราย จึงเป็ นจุดโดดเด่น หนึ่งเดียวในละแวกนัน้ มองเห็นได้ไกลจากถนนใหญ่ มีผูน้ ิยมกีฬา ปี นผาและช่างภาพให้ความสนใจท่องเที่ยวเรื่อยมา คณะเราก็ดูภาพ จากในอินเตอร์เน็ตนี่แหละ และตกลงใจว่าจะไปถ่ายดาวกันแถวนัน้ แต่เนื่องด้วยพื้นทีเ่ ป็ นทะเลทรายรกร้าง กลัวสัตว์มพี ษิ ตอนกลางคืน จึง อยู่ได้ไม่นาน เทีย่ งคืนกว่าๆ ก็กลับทีพ่ กั โรงแรมดับเบิ้ล ทรี ได้รูปมาคน ละนิดๆ หน่อยๆ

03

04

01 หินสามก้อน สัญลักษณ์ของ Monument Valley ใครที่เข้ามาเยี่ยมชมต้องผ่านจุดนี้ก่อน 02 โรงแรม The View Hotel สร้างขึ้นกลมกลืนกับธรรมชาติ ห้องพักทุกห้องมองเห็นหินสัญลักษณ์ของ Monument Valley 03 สัญลักษร์บนแผงหน้าปัดรถ จะขึ้น Speed Limit บนถนนในขณะที่เราวิ่งอยู่ได้อย่างแม่นย�ำ ตอนนี้จ�ำกัดที่ 80 Miles/hr. 04 ประตูห้องน�้ำสาธารณะ (ตามปั๊ม) มีช่องห่างระหว่างประตูพอสมควร เข้าที่แรกๆ เขินพอดู 05 Shiprock ยามค�่ำคืน

01

เมือ่ กางแผนที่ดูแลว้ เส้นทางที่เราเดินทางจะผ่าน Shiprock, Monument Valley, Four Corners, Antelope Canyon, Horseshoe Bend, ลาสเวกัส แต่พอเมื่อจะเดินทางจริงๆ Antelope Canyon ไม่สามารถซื้อตัวและต่ ๋ อคิวได้ จึงตัดออกไป และเพิม่ อุทยาน Zion แทน ดูจากรายชือ่ แล ้วเป็ นป่ าหินทัง้ นัน้ ยกเว้นลาสเวกัสทีไ่ ปสัมผัสบรรยากาศ แสงสียามราตรี เดินทางออกจากเดนเวอร์มาตามระบบ GPS ของรถ โดยเรา ใส่จุดหมายปลายทางแลว้ ระบบจะพล็อตแผนที่มาให้เราพร้อมน�ำทาง ด้วยระบบเสียง แม่นย�ำมากถึงขนาดว่าถนนตรงนี้ควบคุมความเร็ว อยู่ท่เี ท่าไหร่ ก็จะมีข้นึ มาปรากฏบนจอให้เราเห็นได้เลย เพราะฉะนัน้ ถ้าโดนต�ำรวจเรียกกลางทางก็เถียงเขาไม่ได้แลว้ ว่าไม่ทราบ ผมไม่รูว้ ่า เขาท�ำ อย่ า งไร แต่ ต วั เลขที่แ จ้ง ขึ้น ในหน้า ปัด กับ ป้ ายที่ป กั บนถนน เปลีย่ นตรงกันทุกที่ ระบบเขาดีจริงๆ จากเดนเวอร์ไป Shiprock ระยะทาง 400 กว่าไมล์ ห้ามแวะ ตรงไหนนาน คือเราขับรถลงใต้ ผ่านเทือกเขาร็อคกี้ ถนนพาเราผ่านย่าน สกีรสี อร์ต Aspen ทีเ่ ขาว่าเป็ นสกีรสี อร์ตระดับหรูหรา เล่นได้เกือบทัง้ ปี

05

29

b side


06

รุ่งขึ้นเดินทางไม่ไกลมากมาที่ Four Corners ซึ่งเป็ นจุดตัด ของ 4 รัฐมาชนกัน ซึ่งมีเพียงจุดนี้จุดเดียวเท่านัน้ ได้แก่รฐั Utah, New Mexico, Arizona และ Colorado ซึง่ การขีดเส้นเขตแดนรัฐนัน้ สมัยก่อนก็ต่างคนต่างส�ำรวจจนลากเส้นแล ้วมาตัดกัน จึงนับว่าเป็ นเรื่อง น่ าสนใจ ผูค้ นนักท่องเที่ยวก็มาถ่ายรู ปที่จุดนี้กนั เยอะมาก เพราะว่า เหมือนกับได้เทีย่ ว 4 รัฐไปในคราวเดียว จุดนี้จะมีรา้ นขายของทีร่ ะลึก ซึง่ ผูค้ า้ ก็เป็ นคนเผ่า Navajo แถวๆ นัน้ (อินเดียนแดง) ขายของทีร่ ะลึก พวกหิน ลูกปัด ส่วนมากถ่ายรูปเสร็จก็ไม่มอี ะไร

08

07

30

a side


06 ป้ายทางเข้า Four Corners เวลาเปิด - ปิด จะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล 07 จุดที่รัฐทั้ง 4 มาตัดกัน นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งทับ ท�ำนองว่าได้มาเหยียบรัฐทั้ง 4 แล้ว 08 กองเขาหินภายใน Monument Valley อันนี้ชื่อ The Cube เหมือนลูกเต๋า 09 ป้ายต้อนรับเข้าสู่ Monument Valley จากตรงนี้ห่างออกจากตัวอุทยานพอสมควร

09

31

b side

คณะเราถ่ายรูปเสร็จก็เดินทางต่อไปยัง Monument Valley ซึง่ อยู่ไม่ไกลกันนัก เดินทางราวๆ ชัว่ โมงเดียว Monument Valley เป็ นกลุม่ เขาหินสึกกร่อนจนเกิดรูปทรงต่างๆ กระจายตัวอยูใ่ นทะเลทราย ซึง่ มีหลายกลุม่ โดยตามในคู่มอื นัน้ ได้แบ่งเป็ นชือ่ เรียกตามรูปทรงทีเ่ ห็น เช่น กลุ่มอูฐ กลุ่มช้าง กลุ่มปราสาท กลุ่มสามพีน่ อ้ ง อะไรท�ำนองนี้ การเข้าเที่ยวชมที่น่ีก็ตอ้ งอาศัยยานพาหนะนัน่ แหละ เดินคงไม่ไหว มีทงั้ รถน�ำเที่ยวหรือจะน�ำรถเข้ามาเองก็ได้ เสียค่ าธรรมเนียมค่ าเข้า ตามปกติ คณะของเราได้จองทีพ่ กั ที่ The View Hotel ซึง่ ก่อสร้าง ได้กลมกลืนกับธรรมชาติ และเขาออกแบบให้ทกุ ห้องสามารถมองเห็น วิว Monument Valley ได้จากห้องพัก ข้อสังเกตอีกอย่างก็คือ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะโดย อุท ยานหรือ ตามข้า งๆ ทาง เขาจัด การได้มีร ะเบีย บเรีย บร้อ ยมาก ไม่มรี า้ นค้าอะไรๆ แบบบ้านเรา น�ำ้ ดื่มหรืออาหารต้องเตรียมมาเอง อย่าไปหวังน�ำ้ บ่อหน้า จะพาลอดตาย เอ๊ะ! อันนี้บา้ นเราน่ าจะดีกว่า เพียงแต่บา้ นเราไม่ค่อยจัดระเบียบ บางอย่างมันก็เกินเลยไป ยังมีตอนหน้าอีกตอนนะครับ


J O U R N E Y & A M A Z I N G D I S H E S คอลัมน์นี้เกิดจากความตื่นเต้นของเราที่ได้ไปเจออาหารแปลกๆ ใหม่ๆ แบบ... เฮ้ย!!! เพิ่งเคยเห็นง่ะ จากการท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือแม้แต่ในประเทศเอง อาหารนั้นๆ ส�ำหรับหลายๆ คนคงไม่รู้สึก wowww! แต่อีกหลายคนต้อง wowww! แน่ๆ เพราะไม่รู้จักเช่นเดียวกับเรา ซึ่งอาจไม่ได้เป็นอาหารที่แปลกหรือเป็นอาหาร พืน้ บ้านธรรมดา แต่กท็ ำ� ให้เรา wowww! ได้ จนเราต้องไปค้นหาสูตรเพือ่ ทีจ่ ะปรุงรสชาติให้เหมือนหรือคล้ายทีส่ ดุ และบางทีกเ็ ป็นเเรงบันดาลใจให้เราดีไซน์เมนูใหม่ๆ ขึน้ มาซะเลย

MOHINGA @ MANDALAY เรื่อง/ภาพ : Missน�้ำปู๋

Wowww... เฮ้ย อร่อย ชอบอ่ะ!!! ณ The Home Hotel, Mandalay, Myanmar

01

02

03

04

32

a side

ไปเทีย่ วมัณฑะเลย์มา 2 ครัง้ ... ครัง้ แรกเพือ่ นดูแลเลยไม่ค่อยได้เห็น อะไรเท่าไหร่ อยูแ่ ต่ในโรงแรม ไปเทีย่ วทีส่ ำ� คัญนิดหน่อย และนัง่ รถไปโน่นนี่ เห็นแต่ตกึ รามบ้านช่องซึง่ สวยและน่าสนใจทีเดียว ส่วนเรื่องกินก็ไม่ค่อย ได้ไปกินข้างนอก จ�ำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ทจ่ี ำ� ได้แม่นคือสนามบินมัณฑะเลย์ ตอนนัน้ ยังเป็ นสนามบินเก่า ความรูส้ กึ เหมือนท่ารถโดยสารบ้านเราเลยแหละ (แต่ตอนนี้สร้างใหม่แล ้วนะ) พอได้ไปเทีย่ วเองครัง้ ทีส่ อง ก็ไปตามสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วหลักๆ หลายที่ และได้เดินเล่นถ่ายรูปตึกรามบ้านช่องทีเ่ คยประทับใจคราวก่อนอย่างจุใจ พร้อมกับกินฝุ่นไปด้วย (อ่านเรือ่ ง ‘ชะงัก!!!....ลวดลาย @ มัณฑะเลย์’ ได้ท่ี http://www.hipthailand.net/variety/art-design/383)


07

05

09

08

06

สถานทีเ่ ทีย่ วหลักๆ แน่นอนว่าต้องไป Mya Nan San Kyaw Golden Palace พระราชวังมัณฑะเลย์, Shwe In Bin Monastery วัดทีใ่ ช้ไม้ขนาดใหญ่ แกะสลัก ลวดลายได้สวยงามและเก่าแก่ดว้ ย, ไหว้พระมหามัยมุนี (Mahamuni Buddha) เป็ นพระพุทธรูปคู่บ ้านคู่เมืองของ ประเทศพม่า, Su Taung Pyae Pagoda เจดียท์ อ่ี ยู่บน ยอดเขามัณฑะเลย์, U Bein Bridge สะพานไม้สักทีเ่ ชือ่ ว่าเก่าแก่ และยาวทีส่ ุดในโลก, Mahar Thatkyarthiha Pagoda ภายใน โบสถ์จะกรุดว้ ยโมเสกแก้วระยิบระยับดี และเราก็ไปเดินเล่นตลาด Zay Cho Market ทีอ่ ยู่ใกลๆ้ กัน เกือบจะซื้อผ้าห่มก�ำมะหยี่สสี ดๆ มาแล ้ว แต่ความขี้เกียจหอบ... มีมากกว่า และเเลว้ Amazing Dish ของเราก็ได้ไปเจอในมื้ออาหารเช้า ของโรงแรมทีพ่ กั (The Home Hotel)... เดินวนดูอาหารบุฟเฟ่ ตอ์ ยู่แป๊ บ ก็ตดั สินใจเลือกกินขนมจีนของเขาดีกว่า อยากชิมด้วย พอเอาเข้าปาก แค่นนั้ แหละ Wowww... เฮ้ย อร่อย ชอบอ่ะ!!! รสชาติคล ้ายขนมจีนน�ำ้ เงีย้ ว ผสมข้าวซอยของทางเหนือ ใส่หยวกกลว้ ยซอยมาด้วย ชอบมากกกก รีบถามพนักงานว่าชื่ออะไร ก็ได้คำ� ตอบว่า ‘โมนฮินกา’ หรือคนส่วนใหญ่ จะออกเสียง ‘โมฮิงกา’ ตามภาษาอังกฤษ (Mohinga) มากกว่า… 01 02 03 04 05 06

Amazing Dish : Mohinga

11

U Bein Bridge พระราชวังมัณฑะเลย์ Mya Nan San Kyaw Golden Palace หอคอยไม้ภายในพระราชวังมัณฑะเลย์ Shwe In Bin Monastery Su Taung Pyae Pagoda ภายในโบสถ์ของ Mahar Thatkyarthiha Pagoda

10

33

b side

07 มุมมองจากบนระเบียงของ Su Taung Pyae Pagoda 08 มุมมองจากบนสะพาน U Bein Bridge 09 Mahamuni Buddha 10 หุน่ สายจ�ำลองเป็นของทีร่ ะลึกทีม่ ขี ายตามแหล่งท่องเทีย่ ว 11 ย่านตลาด Zay Cho Market


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.