HIP MAGAZINE ISSUE 95 : SEPTEMBER 2012 (SECTION B)

Page 1


editorIAL: Come Together สิ้นเดือนทีผ่ ่านมา... ชาวฮิพยกขบวนไปเป็ นชาวเกาะมา ไปทัง้ ๆ ทีย่ งั ปิ ดเล่มไม่เสร็จนี่ละ่ (ฮ่าๆ) ทุกๆ ปี ออฟฟิ ศเราจะหาเรื่องไปเอาท์ต้ งิ นอกสถานทีก่ นั เป็ นประจ�ำ ใกลบ้ า้ ง ไกลบ้าง แลว้ แต่โอกาสจะ เอื้ออ�ำนวย นัยว่าเพือ่ กระชับมิตร กิน นอน เทีย่ ว เล่นด้วยกันปี ละหนสองหน อีกนัยหนึ่งคือเป็ นของขวัญ ส�ำหรับการท�ำงานหนักทีผ่ ่านมาในแต่ละเดือน พักผ่อนชาร์ตแบตเตอรี่ให้ร่างกายและสมองได้พกั กันเสียบ้าง ก่อนจะกลับมาลุยงานหนังสือให้ออกมาทันตามก�ำหนดในทุกๆ เดือน… เวลาไปไหนมาไหนแต่ละครัง้ ก็ตอ้ งคอยบอกตัวเองอยูเ่ สมอว่าอย่าเทีย่ วเพลิน เดือนๆ นึงมีอยูแ่ ค่สามสิบวัน ไปเทีย่ วกลับมา ก็จะเหลือเวลาท�ำงานอีกไม่มาก กว่าเนื้อหาจะลงตัว กว่าจะนัดเวลาท�ำคอลัมน์ กว่าจะรีไรท์ กว่าจะจัดหน้า กว่าจะตรวจทาน ไหนจะต้องเผือ่ เวลาเข้าโรงพิมพ์อกี เวลาแต่ละเดือนก็หมดไปอย่างรวดเร็ว แป๊ บๆ HIP ก็จะเข้าใกล ้เล่มทีร่ อ้ ยเต็มที เริ่มท�ำงานในฉบับที่ 21 เป็ นฉบับแรก ถึงตอนนี้กน็ บั ได้ 74 ฉบับ เหมือนจะนาน... แต่กไ็ ม่ อาจจะเพราะสนุกจนลืมเวลา หรือไม่กด็ ว้ ยมีอะไรต่อมิอะไรให้ทำ� อยู่ตลอด เชียงใหม่ไม่เคยเหงา แม้บางคราวใครจะบอกว่าลมเหนือเมือ่ หน้าหนาวเหงาจับใจ ในเชียงใหม่กลับคึกคัก ไปด้วยแสงสียามราตรี รถราขวักไขว่ ผูค้ นทัง้ ไทยและเทศมากมายทีบ่ า่ ยหน้ามาเยือนและมาอยู่ ยังเมืองเปี่ ยมสีสนั แต่ผสมผสานกับธรรมชาติ อย่างกลมกลืนแห่งนี้ หลายคนกลัวกันว่าความเจริญเติบโตอันรวดเร็วของเชียงใหม่ จะพาให้เมืองเดินไปสู่ความวุ่นวายสิ้นเสน่ หข์ องดินแดนเวียงพิงค์ อันสงบสวยงาม เราเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าจะเมืองไหน หรือประเทศใด คงจะหนีความเจริญไปไม่พน้ แต่เราสามารถเลือก และก�ำหนดทิศทาง ความเจริญในเมืองของเราได้ ด้วยการคิดร่วมกัน พัฒนาร่วมกัน และก�ำหนดนโยบายร่วมกันของผูอ้ ยู่อาศัย หนึ่งเสียงอาจจะไม่มาก แต่ถา้ รวมกันหลายๆ เสียง การขับเคลือ่ นเมืองไปสู่ทศิ ทางทีเ่ ราเป็ นผูก้ ำ� หนดเอง ก็น่าจะง่ายขึ้น เช่นเดียวกันกับสิง่ ที่ HIP ท�ำมาตลอด เราเพียงหวังว่าด้วยเนื้อหาทีเ่ ราตัง้ ใจน�ำเสนอในทุกฉบับ ในทุกคอลัมน์ อย่างน้อยคุณอ่านแล ้ว แม้จะไม่รูเ้ ยอะขึ้น แต่รบั รองว่าไม่เสียเวลาถ้าจะเปิ ดอ่านทุกหน้า - แน่นอน ชลธิดา พระเมเด หัวหน้ากองบรรณาธิการ

COVER by HIP Team feat. ตุ๊กตุ๋นตึ๋ง

CONTENTS:

SEPTEMBER 2012 VOL.08 No.95

B Side Cover Story 03 Dj Seed 10 Sound of Studio 12 Music 14 Book 16 Designเน้อ 18 Art 20 Exhibition 22 Slang 24 Something 25

03

Cover Story





05 01

02

03

14

13

12

10

06

04

15

11

22 20

16

21 23

19

24 30 29

31

3

32 33

28


01. Poorboylife + Ppoojiradt

09

08

07

ความน่ ารักของผู้ ชาย มักจะแฝงอยู่หลัง ความเข้มแข็งและความดิบเถือ่ นเสมอ จริงแล ้วผู้ชาย มีความอ่ อน ที่อ่อนกว่าผู้ หญิง มีความหวานที่ สามารถหวานกว่าผู้หญิง แต่กส็ ร้างเกราะด้วยการ ไว้หนวดไว้เครา แต่ งตัวเซอร์ๆ จึงใช้สีหวานๆ ทีเ่ หมือนเอาข้างในของผู้ชายมาไว้ขา้ งนอก มันจึง มีช่อื ว่า ‘ต๊กุ ต่นุ ตึง๋ poorboy’

02. P7

dead horror bear!

03. Miss Ink

17 18

25. Paper The Kids

16. พี่เล็ก Greasy Cafe

26. มะเดี่ยว

20. ยุรี เกนสาคู

29. Chubby Chian

เกี่ ย วกับ สัต ว์ป ระหลาดจมู ก ยาวที่ร บั รู ้ 13. แพรว คณิตกุล ความรูส้ กึ จากผูอ้ น่ื โดยการหายใจ เลยต้องมีจมูก ท�ำเท่าทีท่ ำ� ได้ ทีย่ าว ไม่มหี ูเลยใช้การรับรูจ้ ากหูไม่ได้ เลยต้องใช้ สายตาบ่งบอกความรูส้ กึ เลยต้องมีสต่ี า แต่การที่ 14. Spacenoid มีส่ตี าเพราะเขามองไม่ค่อยชัด เหมือนคนที่ตอ้ ง ‘a20b’ คอนเส็ปท์ ทุกอย่าง 20 บาท เพราะ ใส่แว่น เลยต้องมีสต่ี า แต่เป็ นสัตว์ประหลาดทีม่ ี เป็นงานทีใ่ ช้ของทีท่ ำ� ขึน้ จากการซือ้ ของจากร้านทุกอย่าง ความอบอุ่น เนื่องจากมีขนรอบตัว แม้หน้าจะบึ้งไป 20 บาท มาปรับให้เข้ากับงาน แล ้วสร้างฟังก์ชนั ่ ขึ้น หน่ อย แต่ในใจเขาเป็ นสัตว์ประหลาดที่มจี ติ ใจดี เป็ นสัตว์ประหลาดทีอ่ ารมณ์ขนั ต้องรูจ้ กั ให้ลกึ ซึ้ง 15. Cher แล ้วคุณจะรูว้ า่ เขาน่ารักแค่ไหน

Me and the Cat เป็ นความผู กพันธ์ ‘เรา - ต่าง’ สิ่งที่เราเป็ นหรือสิ่งที่เป็ นเรา ระหว่างเรากับแมวทีเ่ ลีย้ งไว้ เป็ นเพือ่ นเราในยามเหงา เกิดจากสิง่ ทีเ่ ราพยายามจะเป็ นหรือคือสิง่ ทีเ่ ราเป็ น 27. Jammerstudio และอยู่เป็ นเพือ่ นทุกครัง้ เวลาท�ำงาน เลยถ่ายทอด ในแบบทีเ่ ราเป็ นได้อย่างดีทส่ี ุด ‘No I’m Not Wood’ เปรียบเทียบ เสียดสี ความรูส้ กึ นี้ผ่านตุก๊ ตุ่นตึง๋ ออกมาเป็ นผลงานนี้ เติมแต่ง บิดเบือน หลงใหล ลืม สิง่ ทีเ่ ป็ น แท้จริง 17. จุ๋ยจุ๋ยส์ ฉันคือ...? 04. นที มณฑลวิทย์ + เพ็ญพักตร์ สุดา ‘rock lek lek’ ความสนุกของการฟังเพลงร็อค ลุงหนวดเป็นกะลาสีเรือนักเดินทาง พร้อมเสมอ ไม่ว่าจะเป็ นของไทยหรือเทศ ก็ลว้ นเกิดความมัน 28. Kobby1 ทีจ่ ะขนสัมภาระไปทุกที่ เพราะมีกระเป๋ าหลังและ และความสนุ กด้วยกันทัง้ สิ้น งานชิ้นนี้เกิดขึ้นมา จากการที่ไ ด้ท ำ� งานศิ ล ปะมาพอสมควร ทีเ่ หน็บปากกา แบกเสบียงทีจ่ ำ� เป็ นไว้ใช้ อุ่นใจไป จากการฟังเพลงร็อคเป็ นเวลานานติดต่อกันหลาย วันหนึ่งได้มโี อกาสจับตะหลิว เข้าครัวท�ำอาหาร กับลุงหนวด ชัว่ โมง เมือ่ ร็อคออกมาเป็ นภาพ ในความคิดของผม ท�ำให้เรารูส้ กึ ว่า ในอาหารแต่ละจาน แต่ละเมนู กม็ ี ไม่จำ� เป็ นต้องเป็ นสีด ำ� แบบร็อคเข้มๆ เสมอไป ศิลปะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทุกจุด... ผลงานชิ้นนี้เรา 05. tua pen not ดังนัน้ สีสนั ในงานมันจึงช่วยท�ำให้ภาพความเป็ นร็อค จึงส่งไปในฐานะคนท�ำอาหาร คิดอะไรก็เห็นแต่กะทะ ต้องการแสดงออกถึงความงามของเศษวัสดุ ของผมสนุกสนานและหลากหลายมากยิง่ ขึ้น เตาแก๊ส ตะหลิว มีด ช้อน ส้อม และอืน่ ๆ ตุก๊ ตุ่น ทีเ่ กิดขึ้นจากร่องรอย คราบ โดยสร้างให้สอดคล ้อง ตึง๋ ท�ำอาหารจึงเสมือนแทนตัวเรา ที่กำ� ลังเข้าครัว กับความงามของเศษไม้ของของตุก๊ ตุ่น ให้เกิดเป็ น 18. Hoo Doll และมาในชุ ด สี ข าวแบบเชฟจริ ง ๆ แต่ ย ัง คง ความงามในอีกรูปแบบ ทีไ่ ม่เพียงแค่ไม้ แต่เป็ นการ Hoo Doll x Tuktunteung = Hoo Tun ธรรมชาติของสีเนื้อไม้ เพือ่ ให้รูส้ กึ สะอาดตา แฝง น�ำเอาวัสดุมาใช้ให้เกิดความสวยงามในตัวของ Teung Transformer ค ว า ม ซุ ก ซ น ตุก๊ ตุ่น และโยงความสัมพันธ์กบั tua pen not สไตล์ตกุ๊ ตุน่ ตึง๋ เอาไว้ และแทรกกลิน่ อายสตรีทอาร์ท 19. โอ๊ก (Big Ass) แนวทีเ่ ราถนัดปนไปนิดส์ เหมือนเป็นน�ำ้ จิ้มไม่ให้ขาดรส

06. MAMAFAKA

26

12. TRX

Killer robot.

07. เมธี น้อยจินดา

ดัดแปลงหุ่นไม้ของคุณตึง๋ กลายเป็ นแมว ‘ถ่านดับกลิน่ ’ กระป๋ องใส่สตรอเบอรี่รสอร่อย

แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์การขับ รถยนต์สว่ นตัวจากกรุงเทพขึ้นมาท�ำงานทีเ่ ชียงใหม่ 21. อ.ไทวิจิตร

30. รักกิจ ควรหาเวช

อยากผสมผสานกันระหว่าง เชียงใหม่กบั กรุงเทพ โดยแมตทีเรียลมาจากเชียงใหม่ เราก็ใช้ 08. Michelle Segrave-Daly 22. Nal’s Kama งานศิลปะทีเ่ ป็ นตัวของเราซึง่ กลันกรองจากการใช้ ่ tuktun punk rocker เป็ น คนที่ช อบ ‘หุ่นตึง๋ หนืด’ คอนเส็ปท์ จากหุ่นไม้เป็ น ชีวติ ในกรุงเทพ ผลงานเลยออกมาอย่างทีเ่ ห็นครับ ตัวประหลาดอยู่แล ้ว พอตึง๋ ส่งตัวตุก๊ ตุ่นตึง๋ มาให้ทำ � หุน่ เหล็ก แข็งภายนอกแต่ภายในมีชวี ติ จิตใจ แม้แต่ ก็อยากผสมออกมาให้เป็ นตัวเอง โดยใช้ของทีม่ อี ยู่ หุ่นเหล็กยังเป็ นหวัดได้...ฮัดเช้ย!!! 31. Dj Seed รอบๆ ตัว ก็เลยออกมาเป็ นอย่างทีเ่ ห็นก๊าบผม ‘My Music Inspiration‘

25

34

27 35

23. พลอย มัลลิกะมาส + ชวนชม บุญมีเกิด

คอนเส็ปท์คอื ความว่าง (สุญญตา) = ความสุข พยายามวาดให้กลับไปเป็ นเหมือนก่ อนที่ จึงแทนค่าด้วยการใช้วสั ดุสำ� เร็จรูปทีไ่ ม่ได้ตกแต่ง ผมจะวาดมัน อะไรเพิม่ เติม จาก สัจจุวตั ถุ ของตัววัสดุเอง เพียงน�ำ มาจัดวางและใส่ความหมายใหม่ลงไป ซึง่ ตีความ 10. GEE ในแง่ของความเรียบง่าย ใช้ความเป็ นสัจจะวัสดุ เอฟวรี่แวร์ แฮส มอนสเตอร์ Everywhere เช่น การเอาแม่เหล็กมาติดด้านข้าง ให้ความหมาย has monster ...ในโลกของตัวประหลาดไม่มอี ะไร ว่าเป็ นหู โดยแม่เหล็กมีคุณสมบัติในการดึงดู ด แปลกประหลาด ผมสร้างมันขึ้นมาจาก คราบน�ำ้ เศษเหล็กต่างๆ เข้ามา เปรียบกับการทีเ่ ราฟังหรือ บนก�ำแพง รอยแตกบนพื้น เศษกิ่งไม้หกั เศษหนัง รับเรื่องราวจากสิง่ กระทบ ทัง้ ทีส่ าระและไม่มสี าระ กระเป๋ าเก่า...ฯลฯ ค่อยๆ คิดปะติดปะต่อ จาก แลว้ เก็บมาคิด ก็เหมือนกับเราไม่วา่ ง ไม่ยอมวาง สภาพแวดลอ้ มรอบๆ ตัว... ผมเชื่อว่า ทุกที่มี ก็จะเป็ นทุกข์ เป็ นต้น ตัวประหลาดซ่อนอยู่...

09. ต่อลาภ ลาภเจริญสุข

32. วงรพี 33. วชิรา รุธิรกนก

ปลูกผม

34. จิรณรงค์ วงษ์สุนทร

เป็ น คาแรคเตอร์ท่ีท ำ� ให้ดู เ หมือ นท�ำ จาก ช็อคโกแลตก้อน

35. Foet (Slot Machine)

‘สวนดอกไม้ของ ค.’ คือ ธรรมชาติคนื ชีพ เหมือนกับคืนชีวติ ให้เศษไม้ทีเ่ คยเป็ นต้นไม้มาก่อน 24. บ้านขันอาษา ผมเอาคอตตอนบัดมาท�ำเป็ นเกสร ทาสีแดงเหมือน 11. NEV3R ด�ำ-ผมยาว-รักชาติ-และศรัทธาหลวงพ่อ HIP คนท�ำแผลสด วางองค์ประกอบเหมือนแขนขาของคน ชือ่ งาน N’3 ไม่มคี อนเส็ปท์ แต่มทิ ชอบชือ่ แรก แล ้วก็มดี อกไม้สีขาวเป็ นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณ ทีแ่ กตัง้ มากกว่า ชื่อ ตึง๋ V3R! (อ่านว่า ’ตึง๋ เวอร์) แห่งความบริสทุ ธิ์ แล ้วปล่อยให้เห็นลายของเนื้อไม้เก่า สมมุตใิ ห้เป็นต้นไม้จากต่างดาว ในจินตนาการของผม




dj seed inside chiangmai

# THE TUK : JIMI HENDRIX แห่งลุ่มนำ�้ปิง # เรื่อง: นรเศรษฐ หมัดคง ภาพ: อัจฉรี

…ค�ำโปรยข้างบน ต้องให้เครดิตกับ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ท่านพญา อินทรีแห่งดอยโป่งแยง สวนทูนอิน เพราะเป็นผู้ให้สมญานามอันเกรียงไกร นี้ไว้กบั พีต่ กุ๊ มือกีตาร์ระดับพระกาฬ เจ้าของร้านบราสเซอรี่ ริมแม่นำ�้ ปิง ณ เมืองเชียงใหม่ (แต่ตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่ใหม่แล้ว)

10 HIP MAGAZINE

ผมได้ยินเสียงร�ำ่ ลือเสียงเล่าอ้างเรือ่ งฝี มอื การกรีดนิ้วบนสายลวดทัง้ หก หรือ เทพเจ้ากีตาร์ อีกคนของเมืองไทยคนนี้มานานมาก จากลมปาก ของ ท่าน พายุหนิ กูรู หรือ อารี แท่นค�ำ พีช่ ายทีแ่ สนดีอกี คนแห่งบรรณพิภพ และโลกดนตรี ได้บอกกล่าวแนะน�ำกับผมเสมอมาเมือ่ ได้นงั ่ คุยกันว่า พีต่ กุ๊ เป็ นยอดฝี มอื กีตาร์แห่งเมืองไทย ทีใ่ ครคิดว่าตนเองเป็ นชาวร็อค หากได้ข้นึ มาเชียงใหม่แล ้วไม่ได้มาดูพต่ี กุ๊ เล่นทีร่ า้ นบราสเซอรี่ ก็ถอื ว่ามาไม่ถงึ หรือ ไม่ใช่คอร็อคตัวจริง หลังจากนัน้ เป็ นต้นมา ผมก็พยายามหลายครัง้ หลาย คราที่จะเดินทางไปเยือนและไปสดับรับฟังพลังจากปลายนิ้วของพี่ตุ๊ก สักครัง้ เมือ่ ได้ข้ นึ มาเที่ยวหรือมาท�ำงานที่เชียงใหม่ แต่ก็ไม่มโี อกาสสักที เนื่องจากมีเวลาน้อยมากแถมส่วนใหญ่จะขึ้นมาท�ำงานมากกว่ามาเที่ยว ส�ำหรับพีต่ ุก๊ เองนัน้ ก็รูจ้ กั ชื่อผมมาจากเพือ่ นๆ ของพีต่ ุก๊ อย่าง พีโ่ หน่ง, คุณน้าทิวา แห่งสีสนั , พีอ่ ว้ น - วิรตั น์ โตอารีมติ ร แห่งร็อคโทเปี ย และอีก หลายคน ส่วนผมนัน้ ก็ได้ยนิ สรรพคุณรวมทัง้ เรื่องน�ำ้ จิตน�ำ้ ใจไมตรีของ พีต่ กุ๊ ก็มาจากคนกลุม่ นี้เช่นกัน ผมเลยคิดเข้าข้างตัวเองเสมอว่า ผมรูจ้ กั พีต่ กุ๊ และพีต่ กุ๊ ก็รูจ้ กั ผม พีต่ กุ๊ เป็ นเพือ่ นรักของพีๆ่ ของผม เพราะฉะนัน้ พีต่ กุ๊ ก็ย่อมเป็ นพีช่ ายของผมเช่นกัน 555 วันหนึ่งเราต้องได้พบและได้คุยกันแน่ ไม่นานเกินรอหรอก… และไม่นานเกินรอจริงๆ... ย�ำ่ ค�ำ่ วันหนึ่งของปี 2004 ณ ร้านขันอาษา แถบคูเมือง ซึง่ เป็ นออฟฟิ ศเดิมของ HIP และเป็ นทีซ่ ุกหัวนอนทัง้ เป็ นทีก่ นิ อาหารอันแสนอร่อยของผมเสมอเมือ่ ขึ้นมาเยือนเชียงใหม่ (ซึง่ ตอนนี้รา้ นนี้ได้ กลายเป็ นอดีตไปแลว้ -เสียดายมากกกกก) ผมมีโอกาสได้ข้ นึ มาเปิ ดตัว หนังสือ ‘ดนตรี คีตา เวหา อิเลคโทรนิกส์’ ซึง่ เป็ นหนังสือเล่มแรกของผมที่ รวบรวมต้นฉบับเด่นๆ จากทีเ่ คยลงเป็ นตอนๆ ในนิตรสาร มติชนสุดสัปดาห์ มาพิมพ์ขายอย่างเป็ นทางการโดยส�ำนักพิมพ์โอเพ่นบุค๊ ผมเลยได้เจอ ผูช้ าย ร่างสูงโย่งผอมเกร็งในชุดยีนส์บคุ ลิกท่าทางเงียบขรึมแต่สหี น้าตาอาบไปด้วย รอยยิ้มบางๆ และเต็มไปด้วยไมตรีจติ ได้เดินเข้ามาทักทายผมแล ้วพูดว่า “สวัสดีครับ ซี้ด พี่ตุก๊ เองครับ พี่ดีใจด้วยนะครับกับหนังสือดีๆ เล่มนี้ ของน้อง และดีใจทีไ่ ด้เจอกันหน้าเสียที หลังจากได้ขา่ วว่า ซี้ดขึ้นมาเล่นดีเจ ที่น่ีบ่อยๆ แต่พก่ี ็ไม่ค่อยมีโอกาสได้มาดูนอ้ งเลย เพราะพีก่ ็ตดิ เล่นดนตรี ทีร่ า้ นพี่ วันนี้ดหี น่อยที่งานนี้เริ่มแต่หวั ค�ำ ่ โหน่งโทรฯ ไปบอกว่า ซี้ดมา พีเ่ ลยแว่บมาร่วมงานซี้ดได้ พีต่ ดิ ตามงานเขียนของน้องอยู่บา้ งนะ ว่างๆ ก็ แว่บไปหาไปนัง่ คุยหรือนัง่ ฟังเพลงกับพีท่ ร่ี า้ นได้เสมอนะ” อัยย๊ะละก๊ะ!!! (ค�ำอุทานของคนใต้ ทีเ่ มือ่ ได้เจอหรือเห็นอะไรทีม่ นั ยิง่ ใหญ่และน่าทึง่ ) โห! โอ้โห! พระเจ้า!!! หัวใจผมพองโต เลือดสูบฉีดและ เร่งความเร็วการเต้นเพิม่ ขึ้นราว 160 bpm เท่ากับความเร็วของจังหวะ ดรัมแอนด์เบสส์เลยก็วา่ ได้ เว่อร์! ไปมัง้ ? ใครบางคนนึกในใจ แต่ขอยืนยัน


ว่า ‘ไม่เว่อร์!!!’ เรื่องจริงเลย! เพราะ พีต่ กุ๊ เป็ นคนทีผ่ มฝันใฝ่ ไว้เสมอว่า อยากไปหา ไปฟังส�ำเนียงและการเล่นกีตาร์ทร่ี า้ นบราสเซอรีด่ ว้ ยตัวเองให้ได้หลังเสร็จงานเปิ ดตัว หนังสือในคืนนี้หรือไม่กใ็ นคืนถัดไป เพราะพลาดหลายครัง้ แล ้ว มาครานี้ไม่พลาด แน่ๆ แต่คนื นี้ พีต่ กุ๊ ตัวเป็ นๆ สูงโย่งได้แอบมานัง่ ฟังผมพูดเรื่องหนังสือจนจบแล ้ว เข้ามาทักทายผมด้วยตัวเอง (แทนทีผ่ มจะเป็ นคนไปแอบฟังทีร่ า้ น แลว้ เดินเข้าไป แนะน�ำตัวเองหลังพีต่ กุ๊ เล่นจบ) แล ้วก็ขอตัวกลับทันทีหลังพูดคุยกันจบ ผมพูดอะไร ไม่ออก ท�ำอะไรไม่ถกูุ ตื่น!!! ตื่นและไม่เต้นด้วย!!! ได้แต่ ยืนยิ้มๆๆๆๆ แล ้วตอบ กลับไปอย่างตืน่ ๆ ว่า “ครับพี”่ , “ขอบคุณมากครับพี”่ ซ�ำ้ แล ้วซ�ำ้ เล่า จนพีต่ กุ๊ ร�ำคาญ (มัง้ ) เดินกลับไปขึ้นรถ ผมเลยรีบบอกกับพีต่ กุ๊ ด้วยน�ำ้ เสียงดังทีส่ นเทาแต่ ั่ เต็มไปด้วยความ ปลาบปลื้มว่า “ผมจะไปหาพีเ่ ร็วๆ นี้แน่นอนครับ” หลังจากนัน้ ได้ข้นึ มาเชียงใหม่อกี ครัง้ ก็ไม่มโี อกาสได้ไปเหมือนเดิม!!! หลังจากนัน้ ได้ข้นึ มาเชียงใหม่อกี ครัง้ ก็ไม่มโี อกาสได้ไปเหมือนเดิม!!! หลังจากนัน้ ได้ข้นึ มาเชียงใหม่อกี ครัง้ ก็ไม่มโี อกาสได้ไปเหมือนเดิม!!! หลังจากนัน้ ได้ข้นึ มาเชียงใหม่อกี หลายครัง้ ก็ไม่มโี อกาสได้ไปเหมือนเดิม!!! หลัง จากนั้น อี ก ครา ผมก็ ไ ด้ไ ปเยื อ น ร้า นบราสเซอรี่ ในที่ สุ ด !!! (ต้องขอบคุณ ดีเจ ใจสมัคร ทีจ่ บั ผมซ้อนท้ายเวสป้ าคันโปรดของเขาไป) ผมนัง่ ฟังเพลงต่างๆ ทัง้ สไตล์ร็อค บลูส ์ ฮาร์ดร็อคและโปรแกรสซีฟร็อค ไม่วา่ จะเป็ นผลงานของวงร็อคอมตะตลอดกาลอย่าง Pink Floyed, Jimi Hendrix หรือ Led Zapplin เป็ นต้น เพลงสุดโปรดของผมอย่าง ‘Wish You Were Here’ ของวง พิงค์ฟลอยด์ หรือ ‘Hey, Joe’, ‘The Wind Cries Mary’ และ ‘Little Wing’ เพลงเด่นๆ ของ จิม่ี เฮนดริกซ์ ต่อด้วยเพลงเอก ‘Layla’ ของ Eric Clapton และ ‘White Room’ เพลงยอดนิยมของวง Cream และอีกหลายเพลง ได้จบั ผม ตรึงติดอยู่กบั เก้าอี้ใกลๆ้ กับหน้าเวทีคลา้ ยถูกมัดด้วยเทปกาวหรือโดนตอกตะปู!! ส�ำเนียงกีตาร์ทห่ี ลุดรอดออกมาจากปลายนิ้วทัง้ สีแ่ ละเสียงร้องห้าวๆ แตกพร่าจาก กระบังลมได้ประสานสอดรับกันอย่างคล ้องจอง ราวกับพีต่ กุ๊ เป็ นเจ้าของดนตรีและ เนื้อร้องนัน้ เอง เสียงดนตรีทเ่ี ล่นด้วยจิตวิญญานย่อมกระชากวิญญานของคนฟังเพ ลงร็อคระดับคอทองแดงอย่างผม ให้หลุดออกจากร่างได้เสมอ… และแล ้ว... ผมก็มโี อกาสได้นงั ่ คุยถามไถ่ถงึ ความเป็ นมาและแรงบันดาลใจทีท่ ำ� ให้พต่ี กุ๊ เลือกเล่นดนตรีบลูส ์ ร็อค ฮาร์ดร็อคและโปรแกรสซีฟเป็ นอาชีพหลักเลี้ยงดูชีวติ ตามประสานักวิจารณ์และการคุกเข่ายกน�ำ้ ชาคารวะเป็ นสาวกคนใหม่ลา่ สุดในคืนนัน้ พี่ตุ๊ก ได้ตอบด้วยน�ำ้ เสียงที่หา้ วแหบพร่ าแต่ เต็มไปด้วยพลังว่า “ช่ วงที่พ่ีเรียน มหาวิทยาลัย คนอืน่ ๆ ทีอ่ ยู่ในชมรมดนตรีดว้ ยกัน จะเล่นแบบเอามันเข้าว่า แต่พ่ี สนใจเกี่ยวกับการเจาะลึกโครงสร้างของดนตรีมากกว่า ท�ำให้เกิดการซึมซับกับ บทเพลงหลากหลายแนวทัง้ ร็อค คลาสสิก ลูกกรุง ลูกทุ่ง ฯลฯ มาตัง้ แต่เด็กๆ เลย ท�ำให้มาหยุดอยูก่ บั แนวดนตรีหลัก 3 - 4 แนวทีเ่ ล่นอยูใ่ นปัจจุบนั นี้ เพราะแนวดนตรี พวกนี้ลว้ นเป็ นรากฐานส�ำคัญของแนวดนตรีร็อคและป๊ อปในแขนงสาขาต่ างๆ

ในวันนี้ทงั้ นัน้ ” พีต่ กุ๊ เป็ นคนทีค่ ยุ สนุกมาก ค�ำพูดค�ำจาของเขาแต่ละค�ำแต่ละประโยค ได้กระตุน้ ต่อมให้ผมเกิดแรงบันดาลใจยิ่งกว่าแรงดีดของยาบ้าตามส�ำนวนของ นักเล่นนิยมควบม้าทัง้ หลาย ทีส่ ำ� คัญทีส่ ุดนอกจากพีต่ กุ๊ จะเล่นกีตาร์เก่งแล ้วยังเล่า เรือ่ งได้ตน่ื เต้นเร้าใจและน่าฟังมากด้วย ทัง้ มีเสียงฮาครืนๆๆๆ เป็ นระยะๆ โดยเฉพาะ ช่วงหนึ่งของชีวติ ทีพ่ ต่ี กุ๊ ไปทัวร์ทวั ่ ยุโรปว่า “เมือ่ ได้เล่นดนตรีอย่างจริงจัง ประกอบ กับอยู่ในวัยห้าว พีจ่ งึ ตัดสินใจเดินทางไปเปิ ดโลกทัศน์ทางดนตรีให้กบั ตัวเอง เริ่ม จากการเดินทางไปประเทศอังกฤษก่อน ด้วยการเป็ นนักดนตรีรบั จ้างให้กบั วงดนตรี ทีร่ บั เล่นตามงานปาร์ต้ตี า่ งๆ หลังจากนัน้ พีจ่ งึ ตัง้ วง TUK – TUK Experience ขึน้ มา ซึง่ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชือ่ วงของ จิม่ี เฮนดริกซ์ ทีช่ อ่ื The Experience นันแหละ ่ หลังจากได้ออกตระเวณแสดงไปตามเมืองต่างๆ ของอังกฤษเท่าทีไ่ ปได้ประมาณ ครึ่งปี พี่ก็ยุบวงแลว้ ตระเวนเล่นดนตรีขา้ งถนนไปทัว่ ยุโรปตามเมืองต่างๆ อาทิ อัมสเตอร์ดมั ปารีส บาร์เซโลนา เวียนนา โรม เป็ นต้น ท�ำให้พไ่ี ด้คน้ พบแนวทางการ เล่นกีตาร์ของพีใ่ นทีส่ ุด มันเป็ นช่วงเวลาทีด่ แี ละยิ่งใหญ่มากส�ำหรับชีวติ ของพีน่ ะ เพราะไลฟ์ สไตล์ ประเพณี วัฒนธรรม เพือ่ นและผูค้ นทีพ่ ไ่ี ด้พบเจอในแต่ละเมือง มีทงั้ น่ ารักและน่ าเกลียด ลว้ นเป็ นพลังและแรงบันดาลใจที่ส่งกลับมาหาพี่อย่าง มหาศาล ซึง่ เป็ นเรื่องราว ความทรงจ�ำทีด่ แี ละน่าจดจ�ำ แต่ในทีส่ ุดพีก่ ซ็ มซาน (พีต่ กุ๊ พูดพลางหัวเราะลันเหมื ่ อนภูมใิ จมาก 555) กลับมาใช้ชวี ติ ทีน่ ่คี อื เชียงใหม่ ท�ำวง ดนตรีเล่นทีร่ า้ น ‘บราสเซอรี่’ ของภรรยาพีเ่ อง จนถึงวันนี้ ครับ”… หลังจากนัน้ อีกคราในปี ต่อมา ผมก็ได้พบกับพีต่ กุ๊ อีกครัง้ พร้อมทัง้ ได้ฟงั พีเ่ ขา บรรเลงเพลงบลูสต์ ่อหน้า ร่างอันไร้วญิ ญานของ อาว์ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ทีว่ ดั พระ สิงห์ฯในคืนสุดท้ายก่อนจะเคลือ่ นย้ายไปท�ำการฌาปนกิจพระราชทานเพลิงศพใน วันรุ่งขึ้น... ผมก็ไปฟังพีต่ กุ๊ บรรเลงต่อที่ ร้านบราสเซอรี่ และนัง่ คุยกันเกือบเช้า คืนวันนัน้ ในระหว่างทีเ่ รานัง่ คุยกันอย่างออกรส ผมหันไปทางแม่นำ�้ ปิ งทีอ่ ยู่ไม่ไกลจากโต๊ะที่ นัง่ กันอยู่มากนัก แลว้ หันกลับมาถามพีต่ กุ๊ ว่า “ฉายา จิม่ี เฮนดริกซ์แห่งลุม่ น�ำ้ ปิ ง ทีอ่ าว์ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ตัง้ และมอบให้พน่ี นั้ ท่านพีไ่ ด้มาอย่างไร?” พีต่ กุ๊ ตอบด้วย แววตาและน�ำ้ เสียงที่ภาคภูมใิ จว่า “เป็ นเพราะท่านเอ็นดู ในฝี มอื กีตาร์ของพี่จึง กล่าวขานยกย่องไว้เช่นนัน้ และขอรับไว้ดว้ ยความเต็มใจ แต่สำ� หรับพีแ่ ล ้ว จิมก่ี ค็ อื จิม่ี ตุก๊ ก็คอื ตุก๊ ไม่มใี ครทีจ่ ะสามารถแทนทีใ่ ครได้เลย เพราะต่างคนก็มฝี ี ไม้ลายมือ ทีแ่ ตกต่างกันแน่นอน แม้จะเล่นเพลงของจิม่ี แต่พก่ี ม็ แี นวทางของพีเ่ องครับ” The Tuk : Jimi Hendrix แห่งลุม่ น�ำ้ ปิ ง ก็คอื พีต่ กุ๊ บราสเซอรี่ ทีใ่ จดี น่ารักของน้องๆ เพือ่ นๆ พีๆ่ และแฟนเพลงทุกคนเสมอ พีต่ กุ๊ มีอโี ก้ของความเป็ น ร็อคสตาร์อย่างมันคง ่ มีความเป็ นตัวของตัวเอง มีแนวทางในการกรีดนิ้วบนสายลวด ทีเ่ ป็ นลายเซ็นต์หรือส�ำเนียงของตัวเอง มีเรือ่ งราวของตัวเอง และมีเป้ าหมายของตัวเอง อย่างแน่วแน่เสมอและตลอดไป และ The Tuk : Jimi Hendrix แห่งลุม่ น�ำ้ ปิ ง คือ พีช่ ายทีแ่ สนดีแห่งโลกดนตรีของผมอีกคนในจังหวัดเชียงใหม่ ทีผ่ มรูจ้ กั เคารพรัก คิดถึงเสมอและตลอดไป...

HIP MAGAZINE

11


sound of studio

THE BUG แมลงร็อค เรื่อง: วรวรรณ ภาพ: ประสิทธิ์

12 HIP MAGAZINE

ฉบับนี้ HIP Magazine มีโอกาสดีได้สัมภาษณ์วงดนตรี ดาวรุ่งอีกวงของเชียงใหม่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของ นักดนตรีระดับคุณภาพ เปี่ยมล้นประสบการณ์ทางดนตรี ที่สั่งสมมากว่า 10 ปี นั่นก็คือวง The Bug


วงดนตรีประจ�ำร้าน The Riverside Bar & Restaurant ทีข่ าประจ�ำและ ไม่ประจ�ำของร้านหลายคนน่าจะคุน้ หน้าคุน้ ตากับพวกเขากันดี สมาชิกประกอบด้วย ลัคกี้ - อนุลกั ษณ์ เจริญทัง้ วิวฒั น์ ต�ำแหน่งร้องน�ำ/กีตาร์, ปาล์ม - ประชากุล ทองค�ำ ต�ำแหน่งกีตาร์, เดีย่ ว - สรกร พันธุพงศ์ ต�ำแหน่งเบสส์ และเจมมี่ - เอกรัฐ ความเพียร ต�ำแหน่ งกลอง นอกจากจะเล่นดนตรีสดให้ฟงั กันทุกคืนแลว้ พวกเขายังเพิง่ เซ็น สัญญาเป็ นศิลปิ นในสังกัดค่าย Medium Music บริหารงานโดย มด - อันน์รชต รามโยธิน ซึง่ วันสัมภาษณ์เขาให้เกียรติมาร่วมพูดคุยด้วย และปล่อยซิงเกิ้ลแรกออก มาให้แฟนเพลงได้ฟงั กันไปเมือ่ ตอนต้นปี พร้อมเซอร์ไพรส์นอกสถานทีก่ บั การเล่น เป็ นวงเปิ ดให้กบั คอนเสิรต์ HUGO ทีร่ า้ น Warm Up Cafe เมือ่ เดือนเมษายน ทีผ่ ่านมา ตัง้ แต่การเริ่มก่อตัง้ วง การท�ำเพลง จนถึงการออกซิงเกิลแรก The Bug มี กระบวนการสร้างผลงานอย่างไรบ้าง มด: ส่วนตัวผมเองก็มองเห็นความสามารถของวงนี้มานานแล ้วครับ ได้คยุ กันมาก่อน หน้านี้บา้ งแล ้ว พอมีโอกาสเหมาะก็เลยชวนเขามาท�ำเพลงด้วยกัน โดยทางเดอะบัค จะท�ำเพลงมาก่อน จากนัน้ ทางค่ายเพลงก็จะช่วยกันเกลาเพลงอีกที ซึง่ ผู ้ดูแลในส่วนนี้ ก็จะเป็ นพีป่ ิ ง (จิรวัฒน์ ตันตรานนท์) ร่วมกับน้องๆ วง ETC. และทีมงานของค่าย เข้ามาช่วย The Bug: ในส่วนเนื้อร้องนัน้ ลัคกี้จะเป็ นคนแต่งครับ จากนัน้ ก็สมาชิกทุกคนก็จะ ใส่ทำ� นอง คิดไลน์กนั เอง ให้อสิ ระในการสร้างสรรค์กบั ทุกคน เพราะเราโปรดิวเซอร์ กันเอง แล ้วท�ำเป็ นเดโมออกมา จากนัน้ ก็ได้พป่ี ิ งมาช่วยปรับให้ลงตัวมากขึ้น พอทุก อย่างโอเคลงตัว ทุกคนชอบ ก็ค่อยเริ่มอัดเพลง ก็อดั ในเชียงใหม่น่ลี ะ่ ครับ ทีม่ วิ สิค เมคเกอร์ ตอนนี้เราก็ได้ออกซิงเกิลแรกไปแล ้วหนึ่งเพลง ชื่อเพลงว่า ‘รักอย่างเดียว ไม่พอ’ กระแสตอบรับดี และมีแฟนเพลงเข้ามาฟังเรื่อยๆ ช่วงนี้กจ็ ะเป็ นช่วงโปรโมท ซิงเกิลแรก และท�ำซิงเกิลทีส่ องควบคู่ไปด้วยครับ

ส�ำหรับผลงานซิงเกิลแรกของ The Bug ได้มีการโปรโมทผ่านช่องทางใดบ้าง และ มีกระแสตอบรับเป็ นอย่างไร มด: ตอนนี้ทางค่ายก็ส่งเพลงไปโปรโมทตามคลืน่ วิทยุทวั ่ ประเทศ แลว้ ก็เคเบิ้ลทีวี ช่องยู ทูเพลย์และยู มวิ สิค ส่วนซิงเกิลสองก็น่าจะออกไม่เกินเดือนตุลาคมนี้โดย ประมาณ เวลาปล่อยซิงเกิลใหม่ๆ ก็ตอ้ งเลือกดูตามเวลาทีเ่ หมาะสมด้วยครับ ถ้าเรา ปล่อยในช่วงที่กระแสเพลงใหม่ออกมาเยอะ ก็อาจจะโดนกระแสเพลงอื่นกลืนไป แฟนเพลงก็อดใจรอกันนิดนึงนะ The Bug: หลังจากออกซิงเกิลมาก็ได้ไปเล่นคอนเสิรต์ เป็ นวงเปิ ดให้ ฮิวโก้ ที่ วอร์มอัพ และเร็วๆ นี้ จะเป็ นคอนเสิรต์ เล่นในลานเบียร์ ก็ถอื ว่าได้โปรโมทเพลงไป ด้วย ตอนออกคอนเสิรต์ ด้วยความทีเ่ พลงเราเองยังมีนอ้ ย ก็เล่นเพลงตัวเองสัก 2 เพลง มีซงิ เกิลแรก และเพลงช้าอีกเพลงหนึ่งทีก่ ำ� ลังท�ำอยู่ นอกจากนัน้ ก็จะเป็ นคัฟ เวอร์จากศิลปิ นดังๆ และประมาณปี หน้าน่าจะมีคอนเสิรต์ ใหญ่ๆ ออกมาครับ ตอน นี้เวลาเล่นในร้านริเวอร์ไซด์กเ็ ริม่ มีแฟนเพลงขอให้เล่นซิงเกิลแรกกันอยูเ่ รือ่ ยๆ ครับ” ถ้าจะให้จำ� กัดความแนวดนตรีของ The Bug นั้นเป็ นไปในทิศทางไหน The Bug: เพลงของเราก็เป็ นร็อคนะ แต่วา่ จะไปในทางคอนเท็มโพลารีร่ อ็ คมากกว่า เป็ นเพลงร็อคแบบร่วมสมัย พูดง่ายๆ คือ เอาท�ำนองเพลงสมัยเก่า มาปรับท�ำนอง ให้ซาวน์ดฟังโมเดิรน์ ขึ้น มีอเิ ล็กทรอนิกส์เข้ามาบ้างตามความเหมาะสม ซึ่งก็ไม่ ยึดติดอะไรมาก อย่างร็อครุ่นเก่าเพลงจะฟังสบาย ไม่ซบั ซ้อนและติดหูงา่ ย เราก็ยงั คงความเดิมๆ ในส่วนนี้ไว้ ท�ำเพลงง่ายๆ แต่กม็ คี วามน่าสนใจ เน้นในเรือ่ งของความคิด และเทคนิคในการเล่นมากกว่า ส่วนเวลาอัดเพลงเราจะไม่ใส่อะไรเข้าไปเยอะ ใส่แค่ ทีเ่ ราเล่นได้จริงๆ เพือ่ เวลาเล่นสดจะไม่มปี ญั หาตามมา จากประสบการณ์ทเ่ี ล่นดนตรี ประจ�ำมานาน และส่วนใหญ่เล่นเพลงสากล พอมาท�ำเพลงของตัวเองก็เลยจะมีกลิน่ แบบเพลงสากลอยู่บา้ ง” มด: “หลายคนบอกว่าดนตรีไม่มอี ะไรทีเ่ พอร์เฟ็ คท์ทส่ี ุด บางคนหรือบางทฤษฎีกไ็ ม่ ได้เจ๋งทีส่ ุด แต่วา่ ทีเ่ จ๋งทีส่ ุดคือความลงตัว เพราะไม่มอี ะไรถูกหรือผิด ถ้าทุกคนฟัง ลงตัวแล ้วเพราะ เราก็แฮปปี้ นี่คอื สิง่ ทีด่ ี อาจจะดังหรือไม่ดงั ก็ไม่รู ้ แต่ความลงตัว ของเพลงถือเป็ นทีส่ ุด” สุดท้ายแล้ว The Bug อยากจะฝากอะไรถึงแฟนเพลงบ้าง The Bug: “ส�ำหรับซิงเกิลต่อไปพวกเราก็ตอ้ งขอฝากเพลง ‘หยุดร้องไห้ได้ไหม’ ลองมาฟังเพลงนี้กนั ดู นะครับ เราใช้เวลาท�ำอยู่หลายเดือน มีการปรับแก้หลาย กระบวนการ ทัง้ เนื้อเพลงทีเ่ ราอยากจะให้คนฟังนึกภาพตามได้งา่ ย และท�ำนองทีต่ อ้ ง ปรับแก้ให้ลงตัวมากทีส่ ดุ ท�ำให้เพลงนี้อาจจะใช้เวลามากหน่อยกว่าจะได้ปล่อยออกมา เพลงของพวกเราก็เหมือนเป็ นอีกทางเลือกหนึ่งให้คนได้ฟงั อาจจะถูกใจหรือไม่ถกู ใจ อย่างไร พวกเราทัง้ หมดก็ตอ้ งขอขอบคุณทุกๆ คนทีค่ อยติดตามผลงานของเราครับ” ในอีกไม่ก่เี ดือนข้างหน้า แฟนเพลงของ The Bug ก็จะได้ฟงั เพลงใหม่ของ พวกเขากันแล ้ว ระหว่างนี้หากใครอดใจรอไม่ไหว ขอแนะน�ำให้ไปเป็ นก�ำลังใจพวกเขา กันก่อนพลางๆ ที่ The Riverside Bar & Restaurant ทุกคืนเวลาสามทุ่มครึ่ง จนถึงตีหนึ่งครึ่ง (หยุดวันจันทร์) หรือติดตามผ่านทางเว็บไซต์ www.mediummusic.net หรือ www.facebook.com/mediummusicLTD หรือถ้าอยากจะใกล ้ชิด มากกว่านัน้ ก็ได้ไม่ยากแค่เพียงกด *1238015 แล ้วโทรออก ก็สามารถโหลดเพลง ‘รักอย่างเดียวไม่พอ’ ให้เป็ นเสียงเรียกเข้าและเสียงรอสายกันได้ทนั ที

HIP MAGAZINE

13


music

Album: Skying Artist: The Horrors Label: XL The Horrors วงดนตรีร็อคจากอังกฤษที่มี แนวดนตรี เ ป็ น เอกลัก ษณ์ เ ด่ น ชัด ในเพลง มีลีล า ไม่ เ หมือ นใคร จากอัล บัม้ แรกในปี 2007 อย่ า ง Strange House ออกแนวโพสต์พงั ก์และการาจร็อค ฟังดูโหดนิดๆ แต่กม็ กี ระแสตอบรับดีมากๆ ถึงอัลบัม้ สอง Primary Colours แนวเพลงของพวกเขาก็เปลีย่ น ไปมาก มีความเป็ นชูเกสเพิม่ เข้ามา จนกระทัง่ อัลบัม้ ล่าสุด Skying ทีย่ งั คงกลิน่ อายความเป็ นโพสต์พงั ก์ เอาไว้ แต่กเ็ รียกได้วา่ กลายมาเป็ นวงชูเกสอย่างเต็มตัว และเพิม่ ซาวน์ดดนตรีไซคีเดลิกเข้ามา กลายเป็ นเสน่ห ์ ใหม่ทน่ี ่าสนใจในเสียงดนตรีทเ่ี พิม่ เมโลดี้สดใสมากขึ้น

ให้อารมณ์ดา้ นบวก ไม่เกรี้ยวกราดเหมือนเคย แต่ยงั คง ความดุดนั ซ่อนอยู่ในที ส�ำหรับอัลบัม้ นี้ พวกเขาได้ ปล่อยซิงเกิลแรก Still Life ไปตัง้ แต่เดือนพฤษภาคม ปี 2011 ตามด้วยซิงเกิลทีส่ อง I Can See Through You ในเดือนตุลาคมปี เดียวกัน ถึงแม้ดนตรีจะเปลีย่ น ไปมาก แต่กระแสความนิยมกลับพุ่งขึ้นสู งกว่าเดิม เหมือนได้กลุม่ ผูฟ้ งั ทีห่ ลากหลายมากขึ้น จนกระทังติ ่ ด อันดับ 5 ของ UK Albums Chart กันเลยทีเดียว ติด ตามความเปลี่ย นแปลงของพวกเขากัน ต่ อ ได้ท่ี www.thehorrors.co.uk

Album: The Soul Sessions Volume 2 Artist: Joss Stone Label: S-Curve Records Joss Stone เจ้าแม่เพลงโซลและอาร์แอนด์บี เจ้าของเสียงแหบเสน่หอ์ นั ทรงพลัง เธอเริ่มร้องเพลง โซลมาตัง้ แต่อายุ 13 จนกระทังออกผลงานชุ ่ ดแรกเป็ น อัลบัม้ รวมเพลงคัฟเวอร์ในชื่อ The Soul Sessions ไปเมือ่ ปี 2003 หากนับเวลามาถึงตอนนี้ การเดินทาง แห่งเสียงเพลงของเธอก็ลว่ งเลยมาจนเกือบ 10 ปี แล ้ว ในระหว่างนัน้ เธอก็ได้ออกผลงานมาให้ได้เชยชมกัน แล ้วถึง 5 อัลบัม้ และยังมีงานแสดงและงานโฆษณา อีกมากมาย จนมาถึงปี น้ ีซ่ึงเหมือนจะเป็ นเวลาที่ดี เธอจึงได้คลอดงานเพลงชุด The Soul Sessions มาอีกครัง้ ใน Volume 2 ซึง่ เป็นอัลบัม้ ล�ำดับที่ 6 ของเธอ

ประกอบไปด้วย 11 เพลงคัฟเวอร์ และสเปเชียลโบนัส แทร็คอีก 4 เพลง แน่นอนว่าทุกเพลงนัน้ ถูกแต่งแต้ม ด้วยสีสนั ใหม่จากเสียงร้องของ Joss Stone ทีน่ ุ่มลึก หอมหวาน สือ่ อารมณ์ได้ชดั เจน และซึ้งกินใจ สร้าง ความประทับใจในทุกเพลงทีไ่ ด้ฟงั ไม่ว่าจะเป็ นเพลง (For God’s Sake) Give More Power To The People ของ Chi Lites, เพลง While You’re Out Looking For Sugar จาก The Honey Cone และ เพลง I Got The... แต่งโดย Labi Siffre รับรองได้ เลยว่าเพลงเพราะซึ้งกินใจ ร่วมดืม่ ด�ำ่ น�ำ้ เสียงแห่งโซล ของเธอได้ท่ี www.jossstone.com

Album: What We Saw from the Cheap Seats Artist: Regina Spektor Label: Sire Records แม่สาวอินดี้ Regina Spektor ออกอัลบัม้ ล�ำดับ 6 ในชื่อ What We Saw from the Cheap Seats วางแผงไปเมื่อเมษายนที่ผ่านมา แนวเพลง มาในสไตล์น่ารักกุก๊ กิก๊ แต่ซาวน์ดดนตรีไม่กกุ๊ กิก๊ นะคะ เพราะความสามารถของเธอนัน้ เรียกว่าเกินตัวเลย ทีเดียว ทัง้ แต่งเพลงเองทัง้ หมด บรรเลงเปี ยโนและเล่น กีตาร์เองอีกด้วย ในแต่ละเพลงจึงโดดเด่นด้วยเสียง ร้องและเปี ยโนเป็ นหลัก เพลงของสาวคนนี้จงึ มีสไตล์ ของตัวเองชัดเจนมาก กลมกล่อมไปด้วยกันระหว่าง ความเป็ นโฟล์คและบลูสท์ ซ่ี ่อนอยู่ในบทเพลงท�ำนอง น่ารักสดใส ความดึงดูดใจทีซ่ กุ อยูใ่ นอัลบัม้ นี้คอื จังหวะ บีทบ๊อกซ์ท่วงท�ำนองแปลกใหม่จากเสียงใสๆ ของเธอ 14 HIP MAGAZINE

ตามด้วยเสียงเคาะแปลกหู แต่ก็ทำ� ให้เพลงน่ าสนใจ มากขึ้น เพลงทีอ่ ยากแนะน�ำให้ลองฟังเป็ นซิงเกิลแรก ทีป่ ล่อยออกมานัน่ ล่ะ คือเพลง All The Rowboats มาในจังหวะรุกเร้า ขึ้นอินโทรด้วยเสียงบีทบ๊อกซ์และ จังหวะกลองเร้าใจ ให้ความรู ส้ ึกตื่นเต้นน่ าติดตาม ตลอดทัง้ เพลง เสมือนการเล่าเรื่องผ่านดนตรี ฟังแล ้ว เกิดจินตนาการเป็ นภาพเหตุการณ์ได้อย่างน่ าตื่นใจ ต่อด้วยเพลง Don’t Leave Me (Ne Me Quitte Pas) จากอัลบัม้ เก่าปี 2002 มาในจังหวะน่ ารักเพราะพริ้ง ฟัง แล ว้ โลกสดใส ร่ ว มปล่อ ยใจไปกับ จิน ตนาการ ของเธอได้ท่ี www.reginaspektor.com


เรื่อง: วรวรรณ

Album: F*** Me I’m Famous! - Ibiza Mix 2012 Artist: Cathy & David Guetta Label: EMI F*** Me I’m Famous! ซีรยี อ์ ลั บัม้ รวมเพลง รีมกิ ซ์จาก David Guetta สุดยอดโปรดิวเซอร์เพลง เฮาส์และดีเจมือฉมัง ออกผลงานรวมเพลงใหม่ลา่ สุด Ibiza Mix 2012 ซึง่ เป็ นอัลบัม้ ล�ำดับที่ 8 โดยเขาได้ คัดเลือกเพลงแดนซ์ฮอตสุดในเพลย์ลสิ ต์ปาร์ต้จี ากอิบซิ า่ เกาะแห่งคลับดีเจอันเลือ่ งชื่อมาโดยเฉพาะ เปิ ดฟังปุ๊ บ ก็อยากออกไปเขย่าฟลอร์กนั ทันที แดนซ์กนั ให้มนั สุดติ่งตัง้ แต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้าย แบบไม่ตอ้ ง พึง่ พาดีเจอืน่ ไกลทีไ่ หน เพียงแค่เปิ ดลิสต์ Ibiza Mix 2012 นี้ข้ นึ มาก็ได้ปล่อยพลังเต้นกันทัง้ คืนแน่ นอน เพลงที่น่าติดตามเห็นจะเป็ น Turn Me On feat. Nicki Minaj ในเวอร์ชนั ่ ออริจนิ ลั ก็แดนซ์กนั มันแล ้ว

ยิง่ น�ำมามิกซ์ใหม่โดย Michael Calfan ก็ยง่ิ ให้จงั หวะ เร้าใจชวนโยกมากขึ้นไปอีก ต่อด้วยเพลงทีร่ บั รองได้วา่ ขาแดนซ์ต ้องรักอย่าง Wild One Two ให้กลิน่ อายของ ดั ๊บสเต็ปท์นิดๆ ก็ได้อกี อารมณ์หนึ่ง ต่อด้วยเพลงทีม่ ี จังหวะหนักหน่วงขึน้ มาอีกหน่อยอย่างเพลง Greyhound ในแบบ Radio Edit จาก Swedish House Mafia แถมด้วยเพลงใหม่ลา่ สุดอย่าง Metropolis อาจจะไม่ แดนซ์มากเท่าเพลงอืน่ ด้วยจังหวะลีลาชวนส่ายเบาๆ เอาเป็ น ว่า แค่ มีอ ลั บัม้ นี้ ติด บ้า นไว้ก็ จ ดั ปาร์ต้ ีก นั ได้ สบายๆ ไปติดตามความมันและลีลามิกซ์เพลงของเขา ได้ท่ี www.fmif.fr

Album: Scandinavia Artist: MLTR Label: MLTR Music สามหนุ่ ม วงป๊ อป MLTR หรือ Michael Learns To Rock ออกอัลบัม้ ใหม่ให้แฟนเพลงได้ เซอร์ไ พรส์ห ลัง จากห่ า งหายจากอัล บัม้ ก่ อ นหน้า นี้ ถึง 4 ปี หากใครยังจ�ำได้พวกเขาคือเจ้าของเพลงฮิต เพราะซึ้งทีน่ ยิ มในกิจกรรมคาราโอเกะอย่าง Take Me to Your Heart จากอัลบัม้ ในชื่อเดียวกันเมือ่ ปี 2004 ส�ำหรับอัลบัม้ ล่าสุด Scandinavia นับเป็ นอัลบัม้ ล�ำดับ ที่ 10 ของพวกเขาแล ้ว เพิง่ จะเปิ ดตัวไปหมาดๆ เมือ่ เดือนมิถนุ ายนที่ผ่านมา แนวดนตรีก็ยงั คงเป็ นป๊ อป ฟังสบายๆ ซึ้งกินใจ ซึ่งพวกเขาได้ปล่อยซิงเกิลแรก Renovate My Life ออกมาก่อนทีอ่ ลั บัม้ จะวางแผง

เพียง 2 วัน ส�ำหรับเพลงนี้ รับรองได้เลยว่าจะเป็ นอีก เพลงคลาสสิคอยู่คู่วงการเพลงไปอีกนาน ด้วยความ เพราะพริ้ ง ลงตัว ซาวน์ด ดนตรี ถู ก ปรับ ตามสมัย ฟังเพียงครัง้ เดียวก็ตรึงใจ เรียกได้ว่าถูกใจคนทุกรุ่น ทุกวัยแน่นอน ตามด้วยเพลง Any Way You Want It ที่ปล่อยเอ็มวีออกมาพร้อมกับวันเปิ ดตัวอัลบัม้ ก็ได้ กระแสตอบรับอย่างล ้นหลาม ส�ำหรับเพลงนี้บอกได้ เลยว่าถ้าแฟนคลับได้ฟงั แล ้วดูเอ็มวีไปพร้อมกันคงจะ มีซ้งึ จนน�ำ้ ตาไหลกันบ้างล่ะ เอาเป็ นว่าตามไปฟังเพลง เพราะๆ ของพวกเขา เพิม่ ความโรแมนติคให้ชวี ติ กัน ได้ท่ี www.mltr.dk

Album: Language Artist: Zulu Winter Label: Hostess Entertainment Unlimited Zulu Winter วงอินดี้รอ็ คน้องใหม่จากอังกฤษ ประกอบด้วย Will Daunt (ร้องและกีตาร์), Iain Lock (เบสส์), Dom Millard (คียบ์ อร์ด), Henry Walton (กีตาร์) และ Guy Henderson (กลอง) เพิง่ รวมตัวกัน ในปี 2011 ออกซิงเกิลมาไม่ก่เี พลงแต่ความแรงอยู่ใน ระดับแม็กซ์ ไม่ทนั ไรหลังเปิ ดตัวก็ได้เล่นเป็ นวงเปิ ดให้ กับทัวร์คอนเสิรต์ ของ Keane และหลังเปิ ดตัวอัลบัม้ แรกในชือ่ Language ก็มรี ะดับความนิยมเทียบเท่ากับ วง The Horrors กันเลย ความสนุกของอัลบัม้ นี้อยู่ท่ี ลูกเล่นแพรวพราวในการเรียบเรียงเพลง ให้ซาวน์ด อิเล็กทรอนิกส์อยู่หน่ อยๆ ในแบคกราวน์ท่เี ติมแต่ง ด้วยซินธ์และเสียงแอมเบียนท์พอให้มสี สี นั ท�ำนอง เพลงเร้าใจ เด่นทีจ่ งั หวะกลองชวนโยก เนื้อหาเพลงมี

ทัง้ เรื่องความรัก สังคม ไปจนถึงเรื่องความเชื่อและ ศาสนา ออกแนวปรัชญาชวนคิด อยากฟังเนื้อหารูเ้ รือ่ ง อาจต้องตีความกันหน่อย อัลบัม้ นี้เริม่ ปล่อยซิงเกิ้ลแรก Never Leave อินโทรด้วยเสียงแอมเบียนท์สะดุดหู คลอเคล ้าไปกับจังหวะกลองและเสียงร้อง นับได้วา่ เป็ น เพลงเปิ ดตัวที่ดึงดู ดใจมากเลยทีเดียว ตามมาด้วย ซิงเกิ้ลทีส่ องอย่างเพลง We Should Be Swimming จังหวะเพลงสนุกสนานแต่ไม่ค่อยไปในทิศทางเดียวกับ เนื้อเพลง ฟังแล ้วตงิดๆ แต่กลับกลายเป็ นข้อดีเพราะ ให้อารมณ์ทา้ ทายขนบเดิมๆ เพิม่ ความกล ้าขึ้นมาอีกโข ไปเติมพลังแห่งเสียงเพลงของพวกเขาได้ท่ี www.zuluwinter.com

HIP MAGAZINE

15


book

เรื่อง: วรวรรณ

เรื่องเล่าจากร่างกาย ชัชพล เกียรติขจรธาดา อัมรินทร์ 275 บาท

‘เรื่องเล่าจากร่างกาย’ โดย นพ. ชัชพล เกียรติ ขจรธาดา ชวนคุณมาท�ำความเข้าใจร่างกาย พฤติกรรม และธรรมชาติผา่ นกระบวนการวิวฒั นาการมนุษย์ เพือ่ ค้น หาค�ำ ตอบว่า ท�ำ ไมกัน น้า ...คนถึง ดู ค ล า้ ยกับ ลิง แต่กไ็ ม่เหมือนกันเสียทีเดียว แล ้วท�ำไมเราจึงฉลาดกว่า เอ๊…ความรักเกิดจากอะไร แล ้วท�ำไมเราถึงอยากมีคกู่ นั นัก หรือผู ้หญิงคนนัน้ สวยจัง ทรวดทรงองค์เอวไฉไลเสียจริง ผู ช้ ายคนโน้นก็หล่อกระชากใจ เราเอาเกณฑ์อะไร มาตัดสินว่าใครหล่อใครสวย หรือขี้เหร่ แล ้วอย่างไหน จะดีกว่ากัน หลายค�ำถามทีร่ ่ายมายาวเหยียดมีคำ� ตอบ แบบเคลียร์ๆ โดยอ้างอิงจากหลักการทางวิทยาศาสตร์ มาเฉลยให้อ่านอยู่ในหนังสือเล่มนี้ละ่ ‘...เรือ่ งของหน้าตาดี หุ่นดี เซ็กซี ่ รู ปร่างล�ำสั ่ น เราจะเห็นว่าทัง้ หมดมันเป็ นการบ่งถึงสิง่ หนึ่ง นัน่ คือ สุขภาพ สมองทีม่ องความหล่อสวยคือสมองทีม่ องหา ค�ำบอกใบ้ว่าเพศตรงข้ามทีเ่ ราจะมีลกู ด้วยนัน้ มีสขุ ภาพดี แค่ไหน ภูมคิ มุ ้ กันดีแค่ไหน โภชนาการดีแค่ไหน... ‘…ความสวยหล่อนัน้ เป็ นวิธีการทีธ่ รรมชาติ สร้า งมาเพื ่อ คัด กรองหาพ่ อ แม่ พ ัน ธุ ์ที ่สุ ข ภาพดี เมือ่ สมองผลักดันให้เราอยากมีลูกกับคนหน้าตาดี ลูกของเราก็มโี อกาสทีจ่ ะมีภูมคิ มุ ้ กันทีด่ ี โอกาสทีจ่ ะ รอดจากการติดเชื้อก็สูง และโอกาสทีจ่ ะโตไปเป็ น ผูใ้ หญ่และมีหลานให้เราได้มากกว่า พันธุกรรมทีท่ ำ� ให้ ชอบคนหน้า ตาดี ก็ ถู ก คัด เลือ กมา หรื อ ในภาษา วิทยาศาสตร์จะใช้คำ� ว่า “การชอบคนหล่อสวยเป็ น Adaptive Response ต่อสิง่ แวดล ้อมทีม่ กี ารติดเชื้อ

16 HIP MAGAZINE

มากในอดีต” ค�ำว่า Adaptive Response ในทีน่ ้หี มายถึง การตอบสนองเพือ่ ปรับตัวทีเ่ ป็ นประโยชน์ในแง่ของ วิวฒั นาการ’ (หน้า 60) หากอธิ บ ายตามหลัก การของ นพ. ชัช พล การมีหน้าตาดี มักตอบสนองต่อเพศตรงข้ามได้รวดเร็ว และง่ า ยดายกว่ า คนหน้า ตาไม่ ดี (อัน นี้ ก็ แ ล ว้ แต่ วิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ) เพือ่ การสืบเผ่าพันธุ ์ อันสมบูรณ์แข็งแรงต่อไปในอนาคต แต่ในความเป็ น จริงแล ้ว ใช่วา่ คนหน้าตาไม่ดจี ะไม่มโี อกาสมีคู่ เพราะ นอกจากเรือ่ งหน้าตา มนุษย์เรายังมีความคิดและความ รูส้ กึ อันซับซ้อนมากมายหลายชัน้ กว่านัน้ ยังมีเรื่องของ ฐานะทางสังคม อุปนิสยั ใจคอ รสนิยม ความเชื่อ ความเห็นอกเห็นใจ แม้กระทัง่ เผลอใจเข้าให้แลว้ ... นานาประการทีจ่ ะก่อให้เกิดเป็ นความรัก (หรือไม่รกั ?!?) กระทังอยู ่ ก่ นิ มีลูกหลานเต้มบ้านเต็มเมือง แถมยุคสมัย ยังท�ำให้ชีวติ มนุษย์แยกย่อยลงไปมากกว่าสมัยก่อนเก่า ทีเ่ รายังเป็ นเพียงสิง่ มีชวี ติ เพือ่ สืบเผ่าพันธุ ์ ดังจะเห็นว่า บางคน บางคู่ ก็รกั กัน มีความสัมพันธ์กนั แต่ไม่ได้ อยากมีทายาท ฉะนัน้ บางข้อสงสัยทีห่ ลายคนตัง้ ค�ำถาม และ เพียรหาค�ำตอบอยู่นนั้ จึงอธิบายได้เพียงคร่าวๆ ในเชิง หลักการทางวิทยาศาสตร์เท่านัน้ อย่าเพิ่งตัดสินว่า สิง่ เหล่านี้คอื ทีส่ ดุ ของค�ำตอบ เพราะเรือ่ งของความรูส้ กึ จิตใจ ต่างใครก็ต่างคนกัน เอาความรูส้ กึ แบบของฉัน ไปตัดสินเธอไม่ได้ดอก...


book release

เจ็บนิดเดียว เดี๋ยวก็เช้า เหตุผลของธรรมชาติ ชัชพล เกียรติขจรธาดา อัมรินทร์ 195 บาท

หนังสือเล่มนี้เป็ นภาคต่อจาก ‘ร่างกายของเรา’ โดย นพ. ชัชพล เกียรติขจรธาดา ว่าด้วยเรือ่ งของกลไก ภายในร่างกายและกระบวนการวิวฒั นาการของมนุษย์ โดยการอธิบายและยกตัวอย่างในภาษาทีเ่ ข้าใจได้งา่ ย และไม่ซบั ซ้อน ส�ำหรับเล่มนี้เนื้อหาในเล่มอาจจะลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยความรูอั้ ดแน่นอยูใ่ นทุกๆ ตอน อ่านดูแล ้ว อาจจะบันเทิงน้อยกว่าเล่มแรกลงมาหน่อย ให้ความ รูส้ กึ ทางวิชาการมากขึ้น แต่ก็ยงั ดึงความสนใจได้พอ สมควร อาทิบางบทจากตอนที่ 3 เช่น ท�ำไมเราถึงมีไข้, ท�ำไมเราเบื่ออาหารเวลาเราเป็ นหวัด และท�ำไมเรา แพ้ทอ้ ง เป็ นต้น

น�้ำตาลเปลี่ยนโลก

Marc Aronson และ Marina Budhos เขียน วิลาสินี เดอเบส แปล มติชน 175 บาท หนังสือเล่มนี้เล่าประวัติศาสตร์ของ ‘น�ำ้ ตาล’ เครื่องปรุงรสหวานทีท่ กุ ๆ บ้านขาดไม่ได้ ทัง้ จุดเริ่มต้น ของการผลิตน�ำ้ ตาล ก่อนน�ำไปใช้เป็ นเครื่องปรุงรส และจากความนิยมของชนชัน้ สู งในอดีตท�ำให้นำ�้ ตาล เกล็ดเล็กๆ มีค่าเทียบเท่าทองค�ำ นัน่ ท�ำให้สถานภาพ ของน�ำ้ ตาลกลายเป็ นเครื่องบูชาอันศักดิ์สทิ ธิ์ และด้วย มูลค่ามหาศาลเช่นนัน้ จึงก่อให้เกิดการผลิตน�ำ้ ตาลใน ระบบอุตสาหกรรมในยุคเริม่ แรกขึ้น น�ำไปสูก่ ารอพยพ ย้ายถิน่ ฐานของแรงงาน และตามมาด้วยปัญหาการค้าทาส ใครจะไปนึกว่าน�ำ้ ตาลทีห่ วานหอมนี้สามารถส่งอิทธิพล ต่อการเปลีย่ นแปลงในระดับโลก นับแต่อดีตจวบจน ปัจจุบนั

ภูมิชาย บุญสินสุข a book 225 บาท

เจ็บนิดเดียว เดีย๋ วก็เช้า (And this, too, shall pass.) เป็ นความเรียงสอนการใช้ภาษาอังกฤษทีเ่ หมาะ ส�ำ หรับ ใครที่แ พ้ภ าษาอัง กฤษ และคิ ด ว่ า ยากจัง ขอแนะน�ำให้ลองหยิบมาอ่าน แลว้ คุณจะสนุ กไปกับ เทคนิควิธีการจดจ�ำและใช้คำ� ศัพท์อย่างเข้าถึงและ เข้าใจ โดยผูเ้ ขียนจะหยิบยกเหตุการณ์จริงทีเ่ กิดขึ้นกับ ตัวเขาเอง มาสือ่ ถึงความหมายและโยงเข้ากับค�ำศัพท์ ภาษาอังกฤษ เป็ นการสอนแบบเนียนๆ ไปกับเรื่องเล่า เมือ่ เราก�ำลังอินกับเนื้อหาก็พาให้เข้าใจถึงความหมาย ของภาษาอังกฤษในบริบทนัน้ ๆ ไปโดยไม่รูต้ วั และ จดจ�ำไปได้โดยปริยาย นับว่าเป็ นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ ให้ทงั้ ความรูแ้ ละความบันเทิงในเวลาเดียวกัน

ประวัติศาสตร์ความตายฉบับคนดัง

โปรดอ่านใต้แสงเทียน เพราะผมเขียนใต้แสงดาว

ทรงกลด บางยี่ขัน a book 345 บาท เล่มนี้บอกได้เลยว่าแฟนหนังสือของ ทรงกลด บางยีข่ นั ไม่ควรพลาด เพราะเป็นหนังสือทีร่ วมความเรียง ของเขาไว้ตงั้ แต่ยุคแรกเริ่มจนถึงปัจจุบนั บทความ นับ 100 เรื่องบนเส้นทางหนังสือกว่า 10 ปี เริ่มตัง้ แต่ พ.ศ. 2545 จนถึง พ.ศ. 2555 อาทิ ‘นายเท้าซ้าย เด็กชายเท้าขวา’ และ ‘นัง่ ฝัง่ ตะวันตื่น ยืนฝัง่ ตะวันตก’ พร้อมด้วยงานเขียนอีกหลายชิ้นที่ยงั ไม่เคยรวมเล่ม มาก่ อน น�ำมาให้อ่านกันอย่างจุใจ คุม้ ค่ าน่ าสะสม ส�ำหรับแฟนๆ ของหนุ่ มนักเขียนส�ำนวนโรแมนติก คนนี้ ไม่เพียงจะได้อม่ิ เอมกับเรือ่ งราวสนุกสนานลึกซึ้ง กินใจจากปลายปากกาของ ทรงกลด แล ้ว คุณจะเห็น พัฒนาการทางงานเขียนทีโ่ ดดเด่น และมีวธิ ีการเล่าที่ น่ าสนใจปรับเปลีย่ นไปในแต่ละช่วงวัยแห่งการเขียน ของเขา

Michael Largo เขียน นพดล เวชสวัสดิ์ แปล มติชน 240 บาท

วิชาชู ใจ (สิ่งที่คนอื่นสอนผม)

หนังสือสารคดีวา่ ด้วยเรือ่ งของประวัตคิ นดัง ทัง้ ดารานักแสดง นักการเมือง นักวิทยาศาสตร์ วีรบุรุษ บุคคลในต�ำนาน ฯลฯ ถูกรวบรวมมาอยูใ่ นหนังสือเล่มนี้ โดยจัดเรียงตามตัวอักษรน�ำหน้าชื่อตัง้ แต่ A - Z เนื้อหาข้อมูลของแต่ละคนจะถูกบันทึกประวัตไิ ว้สนั้ ๆ จากนัน้ เป็ นในส่วนของสาเหตุการตายแบบเจาะลึก ไม่ว่าจะเป็ นการป่ วยตายจากเรื่องสุขภาพ อุบตั ิเหตุ ฆาตรกรรม หรือแม้กระทัง่ เรื่องของยาเสพติด พร้อม เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากเหตุการณ์สำ� คัญ และข้อมูล สถิติ นอกจากจะอ่านเอาความรู แ้ ลว้ อีกอย่างหนึ่ง ที่สะท้อนอยู่ในหนังสือเล่มนี้คือทุกคนไม่ว่าจะโด่งดัง แค่ไหน สุดท้ายก็ล ้วนต้องตาย

เล่มนี้ ‘อีแร้ง’ กลับมาพร้อมกับความเรียงฉบับ พิเศษในชื่อ วิชาชูใจ (สิง่ ทีค่ นอืน่ สอนผม) แบ่งเนื้อหา ออกเป็ น 2 ภาคการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 นัน้ เป็ นเรือ่ งเล่า ถึง ครู อ าจารย์ผู ม้ ีพ ระคุ ณ ต่ อ ตัว ผู เ้ ขีย นตัง้ แต่ ส มัย ยังเป็ นนักศึกษา ไล่เรียงมาจนถึงตอนท�ำงานเป็ นสจ๊วต จนกระทัง่ เป็ นนักเขียนในทีส่ ุด ส่วนภาคเรียนที่ 2 นัน้ เป็ นเรือ่ งราวประสบการณ์จากสิง่ ต่างๆ และผู ้คนรอบตัว ทีร่ ายล ้อมทีผ่ ูเ้ ขียนได้พบพาน และน�ำเรื่องราวเหล่านัน้ มาเป็นข้อคิดสอนใจ ส่วนลีลาการเขียนในเล่มนี้ของเขานัน้ รับ รองว่ า ทัง้ สนุ ก เฮฮา อ่ า นเพลิน จนวางไม่ ล ง สมยีห่ อ้ ‘อีแร้ง’

อีแร้ง มติชน 150 บาท

HIP MAGAZINE

17


สุรชัย พุฒิกุลางกูร

THE VISIONAR(ตอนจบ)

เรื่อง: ลัทธิปลาวาฬ | whalism@gmail.com

ความเดิมตอนที่แล้ว... ก็ตอ้ งอยูใ่ น HIP ฉบับทีแ่ ล้วสิครับคุณผูอ้ า่ น ฉบับนีเ้ ราก็ตอ้ งคุยกันถึงเรือ่ งราวทีต่ อ่ เนือ่ งมา ยิง่ ผมเพิง่ โดนคุณบอกอ สาวเธอดุมาว่า “เขียนไม่รู้จักจบในตอน ให้คุณผู้อ่านเค้าเสียอารมณ์อยู่เรื่อยเลยนะยะ” ผมเลยต้องปรับปรุงตัวกันหน่อย จะมาเสียพื้นที่อธิบายตอนที่แล้วให้ยืดยาวก็คงจะท�ำไม่ได้ เอาเป็นว่าคุณผู้อ่านลองเข้าไปตามอ่าน HIP ฉบับที่ผ่านๆมากัน ที่ http://www.hipthailand.net/e-magazine-2012.php ได้เลยนะครับ ทางทีมงาน HIP เค้าได้จัดท�ำอีแมกกาซีนเอาไว้ อ�ำนวยความสะดวกแล้วครับ โอเค ถ้า อย่ า งนั้น ฉบับ นี้ เ รามาคุ ย ถึง คุ ณ สุ ร ชัย พุฒกิ ลุ างกูร แห่งบริษทั Illusion (http://www.illusion.co.th) กันต่อให้จบนะครับ ฉบับทีแ่ ล ้วผมจบไว้ ตอนที่ คุ ณ สุ ร ชัย แกเรี ย นจบจากคณะวิจิ ต รศิ ล ป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึง่ พอแกรูตั้ วว่าชอบท�ำงานประเภท ‘เรียลลิสติก’ แกจึงมีความคิดทีจ่ ะพัฒนาศักยภาพในสิง่ ทีแ่ กสนใจ คุณสุรชัยตัดสินใจไปศึกษาต่อทางด้าน ‘แอพพลาย อาร์ท’ หรือ ศิลปะประยุกต์ ทีป่ ระเทศญีป่ ่ นุ ครับ การ ตัดสินใจไปเรียนต่อของแกน่ าสนใจมากครับ คือถ้า เป็ นผม เรียนจบปริญญาตรีมาแล ้ว เป้ าหมายต่อไปก็ ต้องเป็ นปริญญาโทเท่านัน้ ถึงจะเรียกว่าเป็ นความ ก้าวหน้าทางการศึกษา ซึง่ มันก็ดูสมเหตุสมผลดีใช่ไหม ครับ แต่ตรงนี้เองที่คุณสุรชัยแกแสดงความเป็ นผูม้ ี วิสยั ทัศน์อกี แล ้ว ด้วยการคิดต่างครับ คุณผูอ้ า่ นทีไ่ ด้อา่ น HIP ฉบับทีแ่ ล ้วคงจะสังเกต 18 HIP MAGAZINE

ได้วา่ คุณสุรชัยแกเป็ นคนทีม่ คี วามชัดเจนในสิง่ ทีแ่ กท�ำ มาก ครัง้ นี้ก็เช่นกัน แกรู ต้ วั ว่าเป้ าหมายของแกคือ การน�ำความรูจ้ ากการเรียนมาประกอบวิชาชีพทางการ ออกแบบ แต่การเรียนระดับปริญญาโทนัน้ จะเน้นไปที่ ทฤษฎีเป็ นหลัก ซึ่งแกว่ามันก็ดี แต่พ้ นื ฐานเป็ นสิ่งที่ ส�ำคัญกว่าในการเริ่มต้นท�ำงาน คือ ‘มือต้องแม่นก่อน สมองมันจึงจะแล่น’ ส่วนทฤษฎีนนั้ สามารถเรียนรูเ้ อา ระหว่างการท�ำงานจริงก็ได้ถ ้าหัวใจใฝ่ รู ้ แกจึงเลือกกลับ ไปเรียนระดับวิชาชีพ (Diploma) ทีเ่ น้นภาคปฏิบตั คิ รับ อึ้งกันไหมล่ะครับคุณผู ้อ่าน คนอะไรเรียนจบปริญญาตรี แลว้ กลับไปเรียนต่ อสายวิชาชีพ แต่ คุณสุรชัยแกก็ พิสูจน์แล ้วว่าเราสามารถท�ำอะไรก็ได้ทกุ อย่างโดยทีไ่ ม่ ต้องไปสนใจว่าสังคมจะมองยังไง แต่มขี ้อแม้ว่า เราต้อง รูว้ า่ เราก�ำลังท�ำอะไรอยู่ และท�ำไปเพือ่ อะไร ระหว่างเรียน คุณสุรชัยแกก็เจอทีเด็ดอีกครับ คื อ อย่ า งที่ผ มบอกไปว่ า แกจบปริ ญ ญาตรี ม าแล ว้


พอเข้าไปเรียนสายวิชาชีพปี แรกซึง่ เป็ นระดับทีต่ ำ� ่ กว่า แกก็ตอ้ งเหนือว่าชาวบ้านเค้าเป็ นธรรมดาสิครับ เรียกว่า ขยับตัวท�ำอะไรก็เป็ น ‘เอ’ ไปหมดจนเพือ่ นๆ อิจฉา แต่อนิจจา ความสุขของคุณสุรชัยแกไม่ยงั ่ ยืนเลยครับ พอปี ต่อมา เพือ่ นๆ ของแกตัง้ หลักกันได้ เค้าวิง่ แซงแก ไปหมดเลยครับ จาก ‘เอ’ เป็ น ‘บี’ เป็ น ‘ซี’ ตกต�ำ่ ลง เรื่อยๆ อย่างชอกช�ำ้ เชียวครับ พีส่ รุ ชัยแกสงสัยมาก ว่าโศกนาฏกรรมทีโ่ หดร้าย ราวกับปี ศาจเขียนเองกับมือเรื่องนี้มนั มันก่อก�ำเนิดขึ้น มาจากปัจจัยอะไรกันแน่ แล ้วแกก็พบค�ำตอบว่าสาเหตุ ทีแ่ ท้จริงนัน้ คือ แกเป็ นแค่ ‘เสือกระดาษ’ ครับคุณผู ้อ่าน คือตลอดชีวติ แกดู งานของศิลปิ นเพื่อเอามาต่อยอด ในงานของแกเพียงแค่จากหนังสือหรือต�ำราเท่านัน้ แล ้ว แกก็คิ​ิ ดว่านัน่ เป็ นงานของศิลปิ นจริงๆ หารูไ้ ม่วา่ คุณค่า ของมันเป็ นเพียงแค่เงาของงานจริงเท่านัน้ พอไปอยู่ท่ี ญีป่ ่ นุ แกได้มโี อกาสดูงานจริงๆ แล ้วพบว่ามิตขิ องงาน มันช่างแตกต่างจากภาพในหนังสือราวกับแสงและเงา เลยทีเดียว ตลอดชีวติ ของแกเปิ ดแต่ หนังสือแลว้ ก็ ทึกทักเอาว่าคุณค่าของรูปภาพในหนังสือคือคุณค่าของ งานจริงๆ เมือ่ เทียบกับเพือ่ นๆ ชาวญีป่ ่ นุ ทีโ่ ตมากับงาน จริงๆ แล ้ว ยังไงก็ไม่มที างสูไ้ ด้ จึงเป็ นทีม่ าของนิยาม ‘เสือกระดาษ’ ทีแ่ กตัง้ ให้ตวั เอง เมือ่ เรื่องราวมันเป็ นไป ได้ถงึ เพียงนี้ ถ้าเป็ นผมก็คงจะถือคติ ‘รูเ้ ขา รูเ้ รา’ คือ รูว้ า่ ยังไงก็สูเ้ พือ่ นไม่ได้ งัน้ เก็บกระเป๋ ากลับดีกว่า แต่พ่ี สุรชัยแกกลับเห็นทางออกครับ แกบอกว่า เมือ่ เราเห็น ปัญหาคือ ถ้าเราเห็นน้อย เราก็แค่ดูให้เยอะจนดูเท่า คนอืน่ ถ้าคุณภาพงานเราสูค้ นอืน่ ไม่ได้ เราก็ตอ้ งเน้น ปริมาณ ชาวบ้านเค้าท�ำมางานเดียว แกท�ำสิบงานไปเลย ครับ พูดง่ายแต่ทำ� ยากจริงๆ ครับ แต่แกก็ทำ� ได้ เอ้า!!! อย่างงี้มนั ก็ตอ้ งจบแบบแฮปปี้ เอ็นดิ้งสิครับ เรียกว่าพอ จบมา พีส่ รุ ชัยแกก็พฒั นาทักษะของตัวเองไปในทิศทาง ทีแ่ กต้องการได้อย่างทีต่ งั้ ใจไว้อย่างสวยงามเลยทีเดียว ครับ หลังจากเรียนจบ แกก็ตดั สินใจฝึ กงานต่ อที่ ประเทศญี่ป่ ุน ซึ่งก็ทำ� ท่าว่าจะไปได้สวยเพราะความ

ขยันขันแข็งและระเบียบวินยั ของแกอีกต่างหาก แต่มี อยูว่ นั นึงแกได้คยุ กับอาจารย์ชาวญีป่ ่ นุ ทีแ่ กเคารพ ท่าน แนะน�ำแกว่า “สุรชัย ยูจะมาอยู่ประเทศแก่ๆ อย่าง ญีป่ ่ นุ ท�ำไม กลับไปประเทศหนุ่มๆ อย่างเมืองไทย ยู ถึงจะมีโอกาสใช้ศกั ยภาพได้เต็มที”่ เพราะการพูดคุย ครัง้ นัน้ เอง ท�ำให้แกย้ายส�ำมะโนครัวกลับมาทีเ่ มืองไทย ในสมัยทีค่ อมพิวเตอร์กบั การออกแบบยังเป็ นสิง่ ทีไ่ ม่ได้ เชือ่ มโยงกัน สมัยทีเ่ มือ่ พูดถึงคอมพิวเตอร์คนจะนึกถึง เครือ่ งคิดเลขมากกว่าน่ะครับ แล ้วทุกอย่างก็เริม่ ต้นขึ้น ทีเ่ มืองไทย ดังทีค่ ุณผูอ้ ่านได้อ่านในฉบับทีแ่ ล ้วนัน่ เอง ครับ เรือ่ งราวประวัตขิ องคุณสุรชัยในการบรรยายทีผ่ ม สรุปแบบเนื้อๆ เพราะกลัวไม่จบในฉบับ ก็มเี พียงเท่านี้ แหละครับ อย่างไรก็ตาม มันยังมีรายละเอียดของแง่คิดทีแ่ กสอดแทรก ไว้ระหว่างตอนที่เล่าถึงชีวประวัติของแกเองอีกหลาย เรื่องเชียวครับ ผมขออนุ ญาตยกตัวอย่างตามที่หน้า กระดาษจะเอื้ออ�ำนวยแล ้วกันนะครับ เรื่องแรก เป็ นข้อสังเกตทีผ่ มเห็นระหว่างทีฟ่ งั คุณสุรชัยบรรยาย คือแกมีสต๊อกของเรื่องทีแ่ กจะพูด มากกว่าที่แกพูดจริงๆ อยู่พอสมควรเลยครับ แต่ ระหว่างแกพูดแกก็จะสังเกตว่าคนดูจะรับระดับความ ซับซ้อนของเรื่องทีแ่ กจะพูดได้แค่ไหน แล ้วแกจึงเลือก พูดแต่เฉพาะเรื่องทีเ่ หมาะสมกับคนฟังเท่านัน้ วิธพี ูด ของแกนัน้ ท�ำให้ผมนึกไปถึงพิพธิ ภัณฑ์ทเ่ี ค้าเก็บงานไว้ ในโกดังประมาณสิบเท่าของงานที่น�ำมาโชว์ในพื้นที่ แสดงงานตามวาระและโอกาส ยังไงยังงัน้ เรื่องทีส่ อง แกฟันธงเลยครับว่า “ช่างภาพ (ใน บริบทของงานเชิงพาณิชย์) ตายแน่” เพราะเทคโนโลยี มันเข้ามามีบทบาทแทนทีข่ ้นึ ทุกทีๆ หากทีมงาน ‘พรีโปร ดัก ชัน’ มีไอเดียที่ช ดั เจน แลว้ ให้มือสมัครเล่นใช้ โทรศัพท์ถา่ ยให้แกมาท�ำงานต่อ หรือ ให้แกสร้างภาพนัน้ ขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ล ้วนๆ เลยก็ย่อมได้ ซึง่ ผมเอง ก็มโี อกาสติดตามเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพมา บ้าง เช่น การพัฒนากลอ้ งทีถ่ ่ายเป็ นภาพเคลือ่ นไหว

ทีม่ คี วามละเอียดสูงมากจนสามารถเลือกเอาเฟรมหนึ่ง มาใช้เป็ นภาพนิ่งได้เลย หรือกล ้องทีเ่ ก็บข้อมูลเกีย่ วกับ การถ่ายภาพทุกอย่างไว้ก่อนแล ้วค่อยมาคลิก๊ ทีห่ น้าจอ เอาทีหลังว่าจะเอาเลนส์แบบไหน ความเร็วชัทเตอร์เท่าไหร่ ได้หมด หรือแม้กระทัง่ คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง จนผลิตงานสามมิตไิ ด้รวดเร็วราวกับพิมพ์ดดี ฯลฯ ก็ ต้องยอมรับว่าค�ำพยากรณ์ของแกมีความเป็ นไปได้ ค่อนข้างสูงทีเดียวครับ ซึง่ แกก็กล่าวทิ้งท้ายไว้วา่ ไม่วา่ เราจะชอบหรือไม่ชอบ แต่โลกมันหมุนมาในทิศทางนี้แล ้ว ผู ้ทีป่ รับตัวไม่ได้กต็ อ้ งจากไปตามทฤษฎีของคุณดาร์วนิ นัน่ แล เรื่องต่อมา คือ คุณสุรชัยแกเผยว่า งานอดิเรก ของแก คือการทดลองใช้โปรแกรมเวอร์ชนั แรกๆ ตอน ที่มนั ยังไม่สมบู รณ์ แลว้ ตามใช้มนั ไปเรื่อยๆ ครับ ซึง่ ส่วนตัวผมว่ามันค่อนข้างจะขัดกับสามัญส�ำนึกของ ชาวบ้านอย่างผมเหลือเกินจนอยากจะแย้งแกไปว่า ท�ำไมไม่เลือกใช้งานโปรแกรมทีส่ มบูรณ์ทส่ี ุดเพือ่ ความ สะดวกและโอกาสในการสร้างผลงานทีด่ ที ส่ี ดุ แต่ไม่ทนั จะได้แย้งแกก็อธิบายต่อว่า เมือ่ เราท�ำอย่างทีแ่ กท�ำ เรา ก็จะได้พฒั นาความสามารถในการใช้งานไปพร้อมๆ กับ ความสมบูรณ์ของโปรแกรมทีค่ ่อยๆ ลงตัวขึ้นเรื่อยๆ พอทีมงานเค้าพัฒนาโปรแกรมจนสมบูรณ์แบบแลว้ ก็เป็ นช่วงเวลาเดียวกับทีเ่ ราใช้งานโปรแกรมเก่งพอดี เป็ นอย่างไรบ้างล่ะครับคุณผูอ้ า่ น วิสยั ทัศน์ของ คุณสุรชัย พุฒิกุลางกูร ดีไซน์เน้อของเราในฉบับนี้ ที่จริงยังมีแนวคิดอยู่อีกสองสามเรื่องที่ผมเห็นว่าน่ า สนใจ จริงๆ อาจจะเรียกว่าเป็ นทฤษฎีทม่ี ศี กั ยภาพพอที่ จะเปลีย่ นทัศนคติเกี่ยวกับการใช้ชีวติ ของบางคนได้ เลยนะครับ (อันนี้ผมโม้เองนะครับ) แต่หน้ากระดาษ หมดแล ้วคุณผูอ้ ่านก็เลยอดไปนะครับ... ล ้อเล่นครับ จริงๆ มันสามารถน�ำไปแทรกไว้กับ ‘ดีไซน์เน้อ’ ท่านอืน่ ทีผ่ มจะพูดถึงในฉบับต่อๆ ไปได้อยู่ ครับ แต่มขี อ้ แม้วา่ คุณผูอ้ ่านต้องตามอ่าน ‘ดีไซน์เน้อ’ และ HIP ต่อไปอย่างไม่หยุดยัง้ นะครับผม ไม่งนั้ อด จริงๆ แน่... เฮ้อ ขายของเก่งจริงๆ เลยผมนี่ ox=

หมายเหตุ: บทความชิ้นนี้เรียบเรียงจากการ

ตัวอย่างผลงานโดยคุณ สุรชัย พุฒกิ ลุ างกูร

บรรยายสามชัวโมงของคุ ่ ณสุรชัย พุฒกิ ลุ างกูร ทีค่ ณะวิจติ รศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมือ่ วันที่ 30 มิถนุ ายนทีผ่ า่ นมา พอมาถึงวันทีเ่ ขียน ต้นฉบับคราวนี้ เวลาก็ลว่ งเลยไปเดือนกว่าๆ ความทรงจ�ำของผู ้เขียนอาจจะเล่นตลก ท�ำให้ เกิดความผิดพลาดทางข้อมูลได้ จึงขออภัยคุณ ผู ้อ่านมา ณ โอกาสนี้ด ้วยนะครับ HIP MAGAZINE

19


art

20 HIP MAGAZINE


RUMPUENG LOUDSPEAKER

COMMUNITY ART SPACE ร�่ำเปิงกระบอกเสียงสถาน เรื่อง: สุธามาศ ภาพ: ประสิทธิ์

ร�ำ่ เปิงกระบอกเสียงสถานเป็นอีกหนึง่ พืน้ ทีเ่ ปิดกว้างทางความคิดส�ำหรับทุกคน ที่มีความสนใจ และต้องการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของศิลปะ การแลก เปลี่ยนความคิด พบปะพูดคุยกัน รวมไปจนถึงการท�ำกิจกรรมในชุมชน พื้นที่แห่งนี้จึง เปรียบเสมือนกระบอกเสียงหนึ่งที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมไปในทิศทาง สร้างสรรค์ ริเริม่ โดย ผ.ศ.ศุภชัย ศาสตร์สาระ หรืออาจารย์ตู่ อาจารย์คณะวิจติ รศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากสอนศิลปะนักศึกษาแล้วเขายังเป็นที่หันมาท�ำงานเพื่อ ชุมชนอีกด้วย อย่าง การท�ำป้ายเตือนผู้ขับขี่รถบนท้องถนนในซอยวัดอุโมงค์ต่อมา จนถึงวัดร�่ำเปิงให้ตระหนักถึงความปลอดภัยต่อผู้อื่น

ในเดือนทีผ่ า่ นมา ร�ำ่ เปิ งกระบอกเสียงสถานจัด นิทรรศการขึ้นมาเป็ นครัง้ แรก โดยรวบรวมผลงานของ ศิลปิ นทีม่ ชี อ่ื เสียงกว่า 20 ชีวติ มาแสดงงาน อาทิ อารยา ราษฏร์จำ� เริญสุข, รุ่งศักดิ์ ดอกบัว, ยุพา มหามาตร, โฆษิต จันทรทิพย์, อังกฤษ อัจฉริยโสภณ, เกศ ชวนะลิขิก ร และฤกษ์ฤ ทธิ์ ตี ร ะวนิ ช จุ ด ประสงค์ข อง นิทรรศการในครัง้ นี้เพือ่ สร้างพื้นทีส่ ำ� หรับแสดงความ เห็น คิด ในทุก รู ป แบบ ไม่ว่า จะเป็ น เรื่อ งของศิ ล ปะ ดนตรี กวี หรือการแลกเปลีย่ นความคิด พร้อมต้อนรับ วงสนทนาทุกประเด็น ทัง้ ทางการเมือง ศาสนา สังคม หรือประเด็นอืน่ ๆ ทีเ่ กิดขึ้นและตัง้ อยู่ท่ามกลางสังคม ทีก่ ำ� ลังเปลีย่ นแปลง ผลงานศิลปะจากศิลปิ นทุกชิ้นทีน่ ำ� มาจัดแสดง ร่วมกันในนิทรรศการครัง้ นี้ จึงเป็ นเหมือนตัวแทนของ การร่ วมด้วยช่ วยกันพูดผ่านกระบอกเสียงว่าสิ่งดีๆ ได้เริ่มขึ้นแล ้ว ณ พื้นทีแ่ ห่งนี้ เพือ่ สร้างแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่กลา้ ที่จะแสดงความคิดและจุดยืนของ

ตนเองเพือ่ ขับเคลือ่ นสังคมให้กา้ วต่อไป “อยากให้มองว่าพื้นทีแ่ ห่งนี้ไม่ได้เป็ นแกลเลอรี่ แสดงศิลปะเท่านัน้ แต่เป็ นมากกว่านัน้ บนพื้นทีเ่ ล็กๆ ดูเหมือนจะเป็ นส่วนตัวนี้ หลายคนบอกว่าไม่ใช่บา้ น ของผมแล ้วนะ แต่เป็ นบ้านของส่วนรวม บางคนบอก ว่าดีจะได้มที น่ี อนแล ้ว มีทน่ี งั ่ พูดคุย นัง่ ดืม่ แลกเปลีย่ น ความคิดกัน หลายคนถึงได้มารวมตัวทีน่ ่กี นั จะเห็นว่า วันเปิ ดงานคนมาเยอะมาก และหลากหลายอาชีพมาที่ เข้ามา พื้นทีแ่ ห่งนี้ถกู สร้างขึ้นมาเพือ่ รองรับหลากหลาย กิจ กรรมที่เ กิ ด ขึ้น แล ว้ และก�ำ ลัง จะเกิ ด ขึ้น อีก ใน อนาคต เช่นวันอาทิตย์เราจะเปิ ดสอนศิลปะให้เด็กๆ หรือท�ำกิจกรรมเข้าค่ ายเรื่องสิ่งแวดลอ้ ม บางทีก็มี ครอบครัวคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ทม่ี ลี ูก เข้ามาใช้พ้นื ทีน่ ้ ี พูดคุยกันไปก็เลี้ยงลูกไปด้วย ก็จะมีอยูห่ ลากหลายมาก ไม่จำ� กัดเลยว่าใครจะเข้ามาใช้ประโยชน์จากพื้นทีน่ ้ บี ้าง เป้ าหมายหลักไม่ใช่แสดงศิลปะอย่างเดียว อยากให้ พื้นที่น้ ีถูกใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เช่นหนังบ้าง

สอนศิลปะบ้างเด็กบ้าง สอนกิจกรรมสิง่ แวดล ้อมชุมชน เป็ นพื้นทีเ่ สวนาทีไ่ ม่ได้อยู่ในระบบ ไม่ได้อยู่ในสถาบัน อย่างน้อยอยากให้คนภายในและนอกวงศิลปะเองก็ดี ได้มาใช้พ้นื ทีไ่ ด้มาแลกเปลีย่ นประสบการณ์ ได้มาแชร์ ความคิดความรู ส้ ึก เพื่อสังคม เพื่อความก้าวหน้า ความเจริญ ไปสู่ยุคต่อจากนี้ เช่นเรื่องสิง่ แวดล ้อมบ้าง เราก็เห็นว่าตอนนี้มตี ึกสู ง มีปญั หาเรื่องความเร็วรถ เยอะ ผูค้ นทีม่ าจากต่างเผ่าพันธุ ์ มาจากต่างพื้นที่ ย่อม มีปญ ั หามีปญ ั หาเรื่องยาเสพติด แลว้ สถาบันนี้หรือ สถานทีแ่ ห่งนี้คงไม่ได้หวังว่าจะเข้ามาเปลีย่ นแปลงอะไร หรอก แต่มหี น้าทีท่ ำ� ให้เกิดความหลากหลาย ท�ำให้ขอ้ ขัดแย้งน้อยลง เพือ่ ให้สงั คมเดินหน้าต่อไปได้ครับ” ร�ำ่ เปิ งกระบอกเสียงสถาน ตัง้ อยู่เลขที่ 23/8 หมูบ่ า้ นร�ำ่ เปิ ง ซอยวัดอุโมงค์ ต�ำบลสุเทพ เชียงใหม่ หรือติดตามความเคลือ่ นไหวและกิจกรรมผ่าน www.facebook.com/rumpueng.artspace

HIP MAGAZINE

21


exhibition

THE TRAVELLING SOUL ตามหาจิตวิญญาณล้านนา เรื่อง: ชลธิดา

นิทรรศการภาพถ่าย โดย ช�ำนิ ทิพย์มณี 25 สิงหาคม - 9 ธันวาคม 2555 ณ โรงแรม แทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่ โทร.053-418-896

22 HIP MAGAZINE

นิทรรศการภาพถ่าย THE TRAVELLING SOUL ตามหาจิตวิญญาณ ล ้านนา จากฝี มอื การลันชั ่ ตเตอร์ของ ช�ำนิ ทิพย์มณี ช่างภาพชือ่ ดังผูค้ ร�ำ่ หวอด ในวงการถ่ายภาพมายาวนาน ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษทีผ่ า่ นมาเขาได้เก็บ จิตวิญญาณของล ้านนาบรรจุในภาพถ่ายสีและขาวด�ำ จ�ำนวน 53 ภาพ เพือ่ ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวของเขาจากการเดินทางท่องเที่ยวในดินแดน ทีเ่ คยเป็ นอาณาจักรล ้านนาทางภาคเหนือของไทย สะท้อนความเรียบง่ายของ วิถชี วี ติ ทีส่ อดคล ้องไปกับธรรมชาติ รวมถึงประเพณีและวัฒนธรรมอันผูกพัน อยู่กบั ศาสนาและความเชือ่ ดัง้ เดิมจนผสานเป็ นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก่อให้เกิด อัตลักษณ์เฉพาะทางวัฒนธรรมของผูค้ นในดินแดนแถบนี้ รวมไปถึงภาพ ภูมทิ ศั น์อนั งดงาม และสถาปัตยกรรมอันอ่อนช้อยซึง่ เป็ นเอกลักษณ์ของล ้านนา ทีก่ ำ� ลังเลือนหายไปตามกาลเวลา


นอกเหนื อ จากการเก็ บ ภาพความทรงจ�ำ อัน มีค่ า มาถ่า ยทอดสู่ ผู ช้ มแล ว้ นิทรรศการนี้ยงั สะท้อนถึงการแสวงหาทางจิตวิญญาณ ไม่เพียงเพือ่ การค้นหาและ เก็บรักษาความงดงามแบบดัง้ เดิมของล ้านนาเท่านัน้ แต่การเดินทางทุกครัง้ อาจพูด ได้วา่ เขาแสวงหาจิตวิญญาณภายในตัวตนของตนเอง “ผมออกท่องเทีย่ วไปเพือ่ บันทึกสิง่ ต่าง ๆ รอบตัว ในฐานะช่างภาพ กล ้องเป็ น เสมือ นดวงตาที่ส ามที่ส ามารถถ่ า ยทอดเหตุ ก ารณ์ อ อกมาด้ว ยความซื่อ ตรง ผมพยายามจับภาพที่มมี ติ ิมากกว่าสิ่งที่ตามองเห็นท�ำให้คนมองมีความรู ส้ กึ ร่วม ไปกับเรือ่ งราวในรูปนัน้ เพราะในทีส่ ุดแล ้ว ผมเชือ่ ว่าการเดินทางของช่างภาพนัน้ เป็ น เรื่องของจิตวิญญาณมากกว่าสิง่ ใดๆ ทัง้ สิ้น” - ช�ำนิ ทิพย์มณี จัดแสดงให้ชาวเชียงใหม่และผูส้ นใจชมกัน ตัง้ แต่วนั ที่ 25 สิงหาคม จนถึง วันที่ 9 ธันวาคม 2555 เปิ ดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10.00 - 20.00 น. (ไม่มคี ่าใช้จ่าย) ณ บริเวณโถงทางเดินภายในโรงแรม แทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่ ถนนราชด�ำเนิน ต�ำบลศรีภมู ิ เชียงใหม่ โทร. 0-5341-8896-9 www.tamarindvillage.com

เกี่ยวกับศิลปิ น: ช�ำนิ ทิพย์มณี ศิลปิ นช่างภาพชัน้ น�ำของประเทศไทย ค้นพบความหลงไหลในการถ่ายภาพแต่เยาว์วยั เมือ่ เขาได้แอบมองบิดาถ่ายภาพในบริเวณบ้านเกิดของตนในจังหวัดสงขลา ในวัยหนุ่ม ช�ำนิ ตัดสินใจ ออกเดินทางไปยังยุโรปเพื่อเปิ ดโลกทัศน์พร้อมกับฝึ กปรือฝี มอื ในการถ่ายภาพและกลับมาเริ่มท�ำงาน เป็ นช่างภาพอิสระ ก่อนทีจ่ ะเปิ ด สตูดโิ อ ช�ำนิอาย ขึ้นในปี พ.ศ.2525 และต่อมาได้ขยายกิจการไปยังประเทศ เวียดนาม จนถึงวันนี้ ช�ำนิ ทิพย์มณี นับเป็ นหนึ่งในบุคคลทีช่ าววงการโฆษณายอมรับนับถือเป็ นทีส่ ุด แต่ถงึ กระนัน้ ทุกครัง้ ทีม่ โี อกาส ช�ำนิ ทิพย์มณี ยังเลือกทางเดินของการเป็ นศิลปิ นผูท้ เ่ี ดินทางไปพร้อมกับ กลอ้ งถ่ายภาพเพือ่ บันทึกเรื่องราวทีส่ ะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมมนุษย์ ประเด็นทางสังคมในยุคปัจจุบนั ซึง่ ทุกสิง่ แปรปรวนและเปลีย่ นแปลงอยู่เสมอ

HIP MAGAZINE

23


slang

{

{Slang

Dictionary {

เรื่อง: โญลัลดา

AIGHT: เป็ น Adjective อ่านว่า ไอท์ แปลว่า ใช่ / ก็ได้ (ดี) / ตกลง / สบาย การใช้แล ้วแต่คำ� ถามทีจ่ ะถามมาอีกทีนึงนะจ้ะ ซึง่ ค�ำนี้เป็ นค�ำทีไ่ ม่ใช้ในทางการ ลองมาดูตวั อย่างประโยคกันคร่าวๆ นะจ้ะ Speaker: Do you want to go and watch movie? Response: Aight. Speaker: เธอต้องการจะออกไปดูหนังใช่มย? ั๊ Response: ใช่แจ๊วววววว This movie was aight, but I liked the other one better. หนังเรือ่ งนี้กด็ ีนะ แต่ฉนั ชอบเรือ่ งอืน่ มากกว่า

FACETY: อ่านว่า เฟซที แปลว่า ตัวร้าย / นางมารร้าย / แรง (แรว๊งส์) / แสบ หรืออาจจะแปลว่า เกรียน / กาก ก็วา่ กันไป เป็ นสแลงของทางคุณพีผ่ ูด้ อี งั กฤษ ซึง่ มีความหมายเหมือนกับค�ำว่า Rude (หยาบคาย, ทราม, สามหาว) / Cheeky (ทะลึง่ , ห่าม) มาดูประโยคตัวอย่างกันนะจ๊ะ Helen!! You’re so facety. เฮเลนเอ๊ยยยย แกนีม่ นั แรวงส์จริงๆ เลยน๊อออ แนะน�ำเพลงของ Roxxxan - ‘Too Fucking Facety’ รับเข้าไปเต็มๆ เลยจ้ะพีจ่ า๋ FRENCH BATH: อ่านว่า เฟรนช์-บาธ ไม่ได้แปลว่า อาบน�ำ้ แบบชาวฝรัง่ เศสนะฮ๊า แต่ความหมายของสแลงค�ำนี้ คือ น�ำ้ หอมโคโลญจ์ ประมาณนัน้ ดังเปรียบเปรย ว่า อาบน�ำ้ หอมมาเหรอ? ก็ทราบๆ กันอยู่แล ้วว่า ในอดีตชาติเค้าลือกันว่าฝรัง่ เศสนัน้ เป็ นเมืองแห่ง น�ำ้ หอม พอดีเ ป๊ ะกับ นิ ว เจเนอร์เ รชัน่ นี้ เลยเหมาะเจาะลงตัว เวลาของค�ำ ว่า FRENCH BATH นี้แล ตัวอย่างประโยคนะจ้ะ She did not take a real shower, she took a French bath. หล่อนไม่ได้อาบน�ำ้ จริงๆ หร๊อก อาบน�ำ้ หอมละสิท่า ฮ่าๆๆๆๆ (อันนี้เพิม่ อรรถรสในการพูดเอง เออเอง) CHILLAX: อ่านว่า ชิล-แล็ก แปลว่า ชิล (ห้ามพูดค�ำว่า ชิลชิล นะจ๊ะ แย่ระเบิด ฝรัง่ เขาไม่ใช้กนั จ้ะ) หรือจะแปลว่า พักผ่อน (ตามอัธยาศัย อันนี้เติมเอง) ก็ได้จะ้ Chillax นี้ มาจาก การเชื่อมค�ำ (portmanteau) ของค�ำว่า chill (ชิล) + relax (พักผ่อน) มาดูตวั อย่างประโยคกันนะจ๊ะ We should chillax on Weekend. เราควรจะพักผ่อนในสุดสัปดาห์นา๊ 24 HIP MAGAZINE

สุดท้ายแล ้วมาดูแสลงภาษาอังกฤษทีค่ นไทยมักใช้ผดิ และบ่อยเป็ นทีส่ ุด อินเทรนด์ (In trend) คือ จะบอกว่า มันล�ำ้ มาก มันทันสมัย โมเดิรน์ สุดๆ งี้ช่ะ แนะน�ำให้ใช้คำ� ว่า ‘TRENDY’ นะจ้ะ อย่าใช้เลย In trend เดีย๋ วขึ้นรถไฟไม่ทนั !! ดูหนัง Soundtrack อะ มาอีกละ ได้ยนิ โคตรบ่อยกะอีคำ� ว่า SOUNDTRACK เช่น “ป่ ะแกไปดูหนังกัน ไม่เอาพากย์ไทยนะ จะดู Soundtrack” คือแบบว่า จะดูแต่ Soundtrack เหรอ รอแผ่นซีดหี นังแลว้ เปิ ดนอนฟังทีบ่ า้ นก็ได้มา้ งงงงง ไปท�ำไม โรงหนัง เสียเวลาซะเปล่า เฮ้อ Soundtrack เนี่ย มันแปลว่า ดนตรีท่ีอยู่ใน หนัง (ภาพยนตร์) ต่างหากเล่า!!! แนะน�ำให้พดู ว่า SUBTITLES นะจ้ะพีข่ อร้อง นักศึกษาปี 1 คนไทยมักเรียกว่า ‘Freshy’ อ้ะ นี่ๆๆๆ ใครเป็ น FRESHY มัง่ ประโยคแรกหรืออาจจะคลับคลา้ ย คลับคลานี่แหละกับค�ำนี้ ตอนเข้ามหาลัยปี 1 เอาจริงๆ นะ คือกะรูงง FRESHY ไม่เคยได้ยนิ ค�ำนี้มาก่อนเลย แต่รูจ้ กั ค�ำว่า FRESH ทีแ่ ปลว่า ‘สด’ จากครูศิรเสรี เคยสอนไว้เมือ่ ตอนม.6 เด็กปี 1 อะ เค้าเรียก JUNIOR ส่วนอีแก่ปี 4 อะ เค้าเรียก SENIOR ใช้ให้ถกู ใช้ให้เป็ นนะจ๊ะ อันทีจ่ ริงมันมีอกี เยอะมาก ในค�ำภาษาอังกฤษทีค่ นไทยใช้ผดิ แต่ก็ไม่เห็น บ่อยเท่ากับ 3 ค�ำ ทีก่ ล่าวมาข้างต้นนี้

SLANG นี้เป็ นสแลงฉบับสุดท้ายนะจ๊ะพีจ่ า๋ ใจจริงอยากเผยแพร่หลากหลายค�ำศัพท์ แต่ส่วนมากค�ำสแลงจะเป็ นนิยามศัพท์ท่เี กี่ยวข้องกับศัพท์หยาบซะเป็ นส่วนใหญ่ จะแผ่เลยก็เกรงใจหนังสือ HIP เอาเป็ นว่า ฉบับหน้าจะเป็ นคอลัมน์ประเภทไหน ก็รอติดตามอ่านได้ใน HIP นะจ๊ะ ขอกราบขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆ ทีใ่ ช้เป็ นแนวทาง http://eco-kuro.com/forum/forum.php?mod=viewthread&tid=308 http://onlineslangdictionary.com/ http://chadiousburg.exteen.com/20120506/new-american-slangs?n=y


something

ทิ้ง

เรื่อง/ภาพ: วรวรรณ

มีใครคนหนึ่งบอกกับฉันว่า ‘เส้นทางชีวติ ของเราถูกลิขติ ไว้ก่อนแลว้ บางครัง้ บางเหตุการณ์อาจไม่ใช่เรื่อง บังเอิญเสมอไป’ ค�ำกล่าวนี้พาให้ได้คดิ ถึงชีวติ ตนเองทีผ่ ่านมา และเห็นด้วยว่านัน่ คงจะจริง ด้วยจังหวะชีวติ ทีพ่ อดี มาตลอด ยอมรับว่าเดินทางตามความอยากของตนเองเป็ นหลัก อาจจะช้าบ้างเร็วบ้าง ไม่รูใ้ ครก�ำหนด แต่มกั จะมี ช่วงเวลาทีพ่ อดีเสมอ ตัง้ ความฝันและความหวังไว้ให้มาก แต่ไม่รบี ร้อนเพราะจะร้อนใจไปเสียเปล่า หากโอกาสดีและเราพร้อมทีจ่ ะ รับมัน ความหวังนัน้ ก็จะเป็ นจริงในทันที แต่อย่าได้ท้งิ ตัวตนของตัวเองไป หากเรายืนหยัดในความเป็ นตัวเองพร้อม กับความเชื่อมันในใจ ่ ไม่วา่ เมือ่ ไหร่ นัน่ ก็จะเป็ นโอกาสทีด่ สี ำ� หรับชีวติ ไม่ขอเปรียบเหมือนน�ำ้ เต็มแก้ว ขอแค่อย่าเป็ นแก้วทีค่ ว�ำ่ ไว้ แก้วก็คอื แก้ว หากตัวตนของเราคือแก้วหนึ่งใบ ให้เลือกว่าจะหยิบแก้วใบนัน้ มาใช้ หรือจะคว�ำ่ ไว้ตามเดิม HIP MAGAZINE

25


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.