SCARE & SCREAM
Movie Attraction เดื อ นนี้ เ ป็ น เดื อ นที่ ค อหนั ง แนวสยองขวั ญ น่ า จะถู ก ใจมากเป็ น พิ เ ศษ เพราะมีหนังเขย่าขวัญสั่นประสาทมาให้เลือกดูกันหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการ ปรากฏตัวของปีศาจแม่ชที เี่ ป็นจุดเริม่ ต้นของความหลอนอีกมากมาย, การกลับมา ของพรีเดเตอร์ที่โหดและอันตรายยิ่งกว่าที่เคยเป็น, โรงเรียนประจ�ำหญิงที่มี ความลับด�ำมืดอันน่ากลัวซ่อนอยู,่ การต่อสูเ้ อาชีวติ รอดของมนุษย์และหมาป่า และการผจญภัยในโลกเวทมนตร์ เพือ่ ค้นหานาฬิกาทีก่ มุ ชะตาของโลกนีเ้ อาไว้
The Nun
The Predator
Down A Dark Hall
แม่ ชี ฝึ กหัด และ นั ก บ ว ช ผู ้ซ่ึ ง ถู ก อ ดี ต ตามหลอกหลอน เดินทาง ไ ป ยั ง โ บ ส ถ์ แ ห่ ง ห นึ่ ง ในโรมาเนี ย เพื่ อ สื บ หา ความจริงเกีย่ วกับการตาย ของแม่ชรี ูปหนึ่ง แต่สง่ิ ที่ รอพวกเขาอยู่ ท่ีน นั ่ คื อ ปี ศ าจแม่ชีผู เ้ ต็ม ไปด้ว ยแรงอาฆาต และเรื่อ ง ลึกลับที่ทำ� ให้ชีวติ ของทุกคนตกอยู่ในอันตราย (Recommended)
นักล่าที่อนั ตราย ที่สุดในจักรวาลกลับมา ทีโ่ ลกอีกครัง้ โดยผลจาก การตัด ต่ อ พัน ธุ ก รรม เข้ากับดีเอ็นเอของสปี ชสี ์ อื่นๆ ในจักรวาล ท�ำให้ มันแข็งแกร่ง ฉลาด และ อันตรายยิ่งขึ้นกว่าเดิม งานนี้ มีเ พีย งคนกลุ่ม เล็ก ๆ ที่รู ถ้ ึง การมาของ พวกมันเท่านัน้ ที่จะช่ วยไม่ให้เผ่าพันธุ ม์ นุ ษย์ ต้องสิ้นสุดลง
จากความผิด ที่ทำ� เอาไว้หลายเรื่อง คิท กอร์ด้ ี ถูกส่งตัวมา ทีโ่ รงเรียนประจ�ำหญิง แบล็กวูดเพื่อเป็ นการ ลงโทษในสิ่ ง ที่ เ ธอ ท�ำลงไป แต่เมือ่ เรื่อง เหนือธรรมชาติต่างๆ เริ่มเกิดขึ้น เธอและเด็กสาวคนอื่นๆ จึงได้รูว้ ่า ในแบล็ก วู ด แห่ ง นี้ มีวิญ ญาณร้า ยที่ห มายจะ เอาชีวติ พวกเธออยู่ดว้ ย
วันที่เข้าฉาย : 6 กันยายน 2561 แนวหนัง : Horror, Mystery ผู้ก�ำกับ : Corin Hardy นักแสดง : Bonnie Aarons, Taissa Farmiga, Demian Bichir
วันที่เข้าฉาย : 13 กันยายน 2561 แนวหนัง : Action, Horror ผู้ก�ำกับ : Shane Black นักแสดง : Jacob Tremblay, Olivia Munn, Boyd Holbrook
Alpha (3D)
วันที่เข้าฉาย : 20 กันยายน 2561 แนวหนัง : Adventure, Family ผู้ก�ำกับ : Albert Hughes นักแสดง : Kodi Smit-McPhee, Natassia Malthe, Leonor Varela
การออกล่าสัตว์ ครัง้ แรกกับ คนในเผ่ า ของ เคด้า จบลงตรงที่ เขาขาหัก และถูก ทิ้ง ไว้ เพียงล�ำพัง ระหว่างการ หาทางเอาชี วิ ต รอด ในดิ น แดนทุ ร กัน ดาร เขาได้พบหมาป่ าตัวหนึ่ง ซึ่งกลายเป็ นเพื่อนที่จะร่ วมกันฟันฝ่ าอันตราย เพื่อหาหนทางที่จะกลับสู่บา้ น ก่อนที่ลมหนาว แห่งความตายจะมาถึง
วันที่เข้าฉาย : 13 กันยายน 2561 แนวหนัง : Drama, Horror ผู้ก�ำกับ : Rodrigo Cortes นักแสดง : AnnaSophia Robb, Uma Thurman, Isabelle Fuhrman
The House With A Clock In Its Wall
วันที่เข้าฉาย : 27 กันยายน 2561 แนวหนัง : Fantasy, Horror ผู้ก�ำกับ : Eli Roth นักแสดง : Cate Blanchett, Jack Black, Kyle MacLachlan
ในบ้า นที่ ลู อิ ส อาศัย อยู่ ก บั ลุง ของเขา มีน าฬิก าที่จ ะน�ำ มาซึ่ง การสิ้นสุดของโลกใบนี้ ซ่ อ นอยู่ ท่ี ไ หนสัก แห่ ง ด้ว ยเวทมนตร์ท่ีลุ ง ซึ่ง เป็ นพ่ อ มดเป็ นผู ส้ อน และความช่วยเหลือจาก แม่ ม ดเพื่ อ นซี้ ข องลุ ง พวกเขาต้อ งช่ ว ยกัน หานาฬกิ าให้เจอ ก่ อนที่แม่มดตัวร้ายจะใช้มนั น�ำโลกนี้ไปสู่จดุ จบ ***หมายเหตุ: โปรแกรมหนังอาจมีการเปลี่ยนแปลง
let’s be frienDS > majorgroup majorfriends www.majorcineplex.com
Content
September 2018 Vol.14 No.166
Cover Story Run Bike Special Bike Trip Bike Route Trip Journey & Amazing Dishes Report
04 06 09 10 12 16 18 20
Cover B
MAE HONG SON CROSS COUNTRY 2018
10
12
Bike Trip
Bike Route
ครั้งหนึ่ง เฮียหุ่น – เลอศักดิ์ อินชัย เคยปรากฏตัวใน HIP ในฐานะ คุณปู่วัย 70 กะรัตผู้ยังคงปั่นจักรยานอย่างสนุกสนาน แต่การมา ในคราวนี้ เขามาพร้อมกับเรื่องราวการท�ำสถิติที่ใครได้ยินแล้วก็ต้องทึ่ง เพราะมันคือการปั่นเพื่อฉลองการไต่ดอยอินทนนท์ครั้งที่ 100!
กลุ่ม 55 Cycling Club กลับมาพบกับผู้อ่าน HIP อีกครั้ง กับการเดินทางในเส้นทาง ‘จอมทอง – แม่แจ่ม – ป่าบงเปียง’ เพื่อไป สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติตลอดเส้นทาง และชมความ สวยงามของทุ่งนาขั้นบันได ที่ดึงดูดให้ใครต่อใครอยากจะมาเยือน ‘บ้านป่าบงเปียง’
Cover Story
MAE HONG SON CROSS COUNTRY 2018 ชวนไปวิ่งปลายฝนต้นหนาวที่แม่ฮ่องสอน เรื่อง /ภาพ : ททท.แม่ฮ่องสอน
จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดติดชายแดนประเทศไทย ทีม่ ภี มู ปิ ระเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา มีปา่ ไม้อดุ มสมบูรณ์ อากาศบริสทุ ธิ์ มีทัศนียภาพที่สวยงาม และยังเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลาย ของชาติพันธุ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นมากที่สุดในประเทศไทย ขณะที่ เ ศรษฐกิ จ ของจั ง หวั ด แม่ ฮ ่ อ งสอนส่ ว นใหญ่ ม าจาก ภาคเกษตร และภาคการท่องเทีย่ วและบริการ โดยปกตินกั ท่องเทีย่ ว นิยมเดินทางมาจังหวัดแม่ฮ่องสอนในช่วงฤดูหนาว
หอการค้าจังหวัดแม่ฮอ่ งสอน และกลุม่ นักธุรกิจรุน่ ใหม่ YEC (Young Entrepreneur Chamber of Commerce) ร่วมกับ พันธมิตรหลักคือ การท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคส่วน ทีเ่ กีย่ วข้อง จึงได้เล็งเห็นความส�ำคัญของการจัดกิจกรรมเพือ่ กระตุน้ เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนในช่วงอื่นๆ เช่นฤดูฝน (Green Season) ซึง่ เป็ นฤดูทส่ี วยงามไม่แพ้ฤดูหนาว อากาศเย็นสบาย หมอกฝนมีความงดงามและโรแมนติกทีส่ ดุ และนี่จงึ เป็ นทีม่ าของการจัดกิจกรรม MAE HONG SON CROSS COUNTRY 2018 ซึง่ เกิดขึ้นจากความตัง้ ใจทีจ่ ะน�ำเสนอ มุมมองของจังหวัดแม่ฮอ่ งสอน โดยผนวกการกีฬาและการท่องเทีย่ ว (Sports Tourism) ผ่านเส้นทางวิง่ ทีส่ วยงามไม่ซำ�้ ทีใ่ ด ท่ามกลาง อากาศที่บริสุทธิ์เย็นสบายในช่วงปลายฝนต้นหนาว เหมาะกับ การออกก�ำลังกายในที่โล่ง รวมถึงมีจุดเด่นและความน่ าสนใจ ด้านความหลากหลายของวัฒนธรรม ทีจ่ ะดึงดูดให้นกั วิง่ จากทัง้ ในและต่างประเทศเข้าร่วมกิจกรรมในครัง้ นี้
ถึงตรงนี้หลายคนคงเริม่ อยากรูแ้ ล ้วว่า MAE HONG SON CROSS COUNTRY 2018 จะจัดการแข่งขันในระยะใดบ้าง ส�ำหรับการวิง่ ในครัง้ นี้มดี ว้ ยกันทัง้ หมด 3 ระยะ ได้แก่ Fun Run 6 กิโลเมตร, Mini - Marathon 11.3 กิโลเมตร และ Cross Country 26 กิโลเมตร โดยรายได้หลังหักค่ าใช้จ่ายจะน�ำไปช่ วยเหลือ ผู ้ด้อยโอกาส และน�ำไปดูแลคนชราติดบ้าน ผู ้ป่ วยติดเตียง ในพื้นที่ ทุรกันดารของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส�ำหรับเสื้อวิง่ , ถ้วยรางวัลและเหรียญรางวัล ซึง่ เป็ นอีกสิง่ ทีไ่ ด้รบั ความสนใจจากเหล่านักวิง่ เช่นเดียวกับเส้นทางนัน้ ก็มกี าร ออกแบบให้มีเ อกลัก ษณ์ข องจัง หวัด แม่ฮ่ อ งสอน โดยเสื้อ วิ่ง จะเป็ นการดีไซน์ให้มกี ลิน่ อายของความเป็ นชนเผ่า ซึง่ เป็ นตัวแทน ของวัฒนธรรมชาติพนั ธุ ข์ องพื้นที่จงั หวัดแม่ฮ่องสอน ขณะที่ ถ้วยรางวัลจะเป็ นไม้เนื้อแข็งที่แกะสลักมือโดยชุมชนชาวบ้าน โดยจะเป็ นรูปถ้วยไม้สำ� หรับนักวิง่ ทีล่ งสมัครแบบ VIP และเป็ น รูปตุก๊ ตากะเหรีย่ งคอยาวส�ำหรับนักวิง่ ทีเ่ ข้าเส้นชัยในล�ำดับที่ 1 - 3 ของแต่ละระยะตามทีไ่ ด้กำ� หนดไว้ในกติกา ส่วนเหรียญรางวัลนัน้
จะใช้สีน�ำ้ ตาลและสีท องเป็ น หลัก ซึ่ง พัฒ นาแนวคิ ด มาจาก ถัวเน่ ่ าแผ่น ทีเ่ ป็ นเครือ่ งปรุงประจ�ำท้องถิน่ ทีท่ กุ บ้านต้องมี ผนวกกับ สีทองและห่วงคอของชุมชนกะเหรี่ยงคอยาว อีกหนึ่งสัญลักษณ์ ส�ำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน งาน MAE HONG SON CROSS COUNTRY 2018 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้ นอกจากจะเป็ นการ เปิ ดเมืองต้อนรับนักวิ่งและแขกผู ม้ าเยือนทุกท่านอย่างอบอุ่น ของเจ้าบ้านที่ดี ท่ามกลางอากาศที่ใสสะอาด และบรรยากาศ สุดโรแมนติกของหมอกฝนจางๆ ตลอดระยะทางวิง่ แล ้ว การมาเยือน ของทุกๆ คน ยังเป็ นการดูแล กระจายรายได้และช่วยเหลือชุมชน อย่างเป็ นรูปธรรมอีกด้วย แล ้วพบกันที่ MAE HONG SON CROSS COUNTRY 2018 ทีแ่ ม่ฮ่องสอน ** ท่านที่สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก Facebook : Mae Hong Son Cross Country **
Run
DNF : DO NOT FINISH วันที่แข่งไม่จบ... เรื่อง /ภาพ : อาเหลียง
สวัสดีผอู้ า่ นคอลัมน์ Run ทุกคนนะครับ ช่วงนีผ ้ มไปงานวิง่ หลายงาน งานไตรบ้างบางงาน สิ่งที่ผมพบเห็นมา นอกจากนักวิ่ง ผู้ชนะ ผู้เข้าเส้นชัย ผู้ซัพพอร์ต ทั้งหลายแล้ว ผู้เข้าแข่งขัน อีกประเภทที่ผมสังเกตเห็น ก็คือผู้เข้าแข่งขันที่ไม่จบการแข่งขัน นั่นเอง กลุ่มคนกลุ่มนี้จะถูกเรียกว่า DNF หรือที่ย่อมาจากค�ำว่า Did Not Finish (ไม่จบการแข่งขัน) นั่นเอง (คนละอย่างกับ DQ นะครับ เพราะนั่นคือแดรี่ควีน เอ๊ย!! Disqualified ครับผม)
ลักษณะการ DNF ก็จะมีหลายรูปแบบ ตัง้ แต่ไม่ถงึ จุดตามเวลา ที่กำ� หนด หรือว่าขอถอนตัวจากการแข่งขัน ซึ่งส่วนใหญ่ เกิดจากการ ซ้อมไม่พอ พอไปลงรายการใหญ่ๆ แข่งขันกันหนักๆ นานๆ ยาวๆ แล ้ว สภาพร่างกายตัวเองไม่แข็งแกร่งพอจะผ่านมันไปได้ ก็เลยต้องถูก DNF จากการแข่งขันไป แต่ในวันนี้ คอลัมน์ Run จะขอน�ำเสนอเรื่องราวของ ชายคนหนึ่งที่มเี รื่องราวน่ าสนใจ ตลอดการแข่งขันของเขาค่ อนข้างจะ เพอร์เฟกต์ในทุกๆ อย่าง แต่แล ้วมันมีเหตุบางอย่าง ทีท่ ำ� ให้เขาต้องถอนตัว ออกจากการแข่งขันในระหว่างการแข่งทันที ขอเชิญทุกท่านพบกับ ‘พีห่ มิน’ ครับ
สวัสดีครับ ขอให้พี่หมินแนะน�ำตัวหน่อยครับ
- สวัสดีครับ นิพนธ์ จงประสาธน์สุข หรือว่า หมิน ครับ อยู่จงั หวัดน่าน ท�ำธุรกิจส่วนตัว เป็ นดีลเลอร์ขายรถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าและเวสป้ า อายุ 43 ปี ลูกสองครับ
ประสบการณ์ ใ นการออกก� ำ ลั ง กาย/การแข่ ง ขั น เป็นอย่างไรบ้างครับ?
- จริงๆ ก็ออกก�ำลังกายตัง้ แต่เด็กนะ ตัง้ แต่ชนั้ ประถมก็ตีเทนนิส, กอล์ฟ, แบดมินตัน ตอนวัยรุ่นก็มเี ทรนนิ่งเพิม่ แต่เริ่มมาปัน่ จักรยาน ตอนกลับมาช่วยงานที่บา้ น แลว้ ก็มาวิง่ ครับ ช่วงนัน้ เข้าฟิ ตเนสด้วย แลว้ ได้เจอกับคุณฟาร์ม เจ้าของฟิ ตเนสที่เล่นไตรกีฬา เขาก็ชวนเรา เล่นไตรกีฬาครับ เราก็เริ่มหัดวิง่ ซ้อมวิง่ รวมไปถึงการว่ายน�ำ้ ด้วยครับ จ�ำได้วา่ งานแรกทีล่ งแข่งเป็ นงานทวิกฬี า แต่ความรูส้ กึ คือไม่ค่อยชอบ เพราะวิง่ สองรอบเราก็รูส้ กึ ลา้ แต่พอเล่นไตรกีฬากลับรู ส้ กึ สนุ กกว่า เพราะว่ามันไม่ซำ�้ เดิมดี ก็ชอบตัง้ แต่ตอนนัน้
เหตุการณ์ทพ ี่ จี่ ะเล่าให้ผอู้ า่ นได้ทราบในครัง้ นี้ ไม่ทราบว่า เกิดขึ้นที่ไหนครับ?
- เป็ นประสบการณ์ลา่ สุดทีไ่ ปแข่งมาครับ คือรายการ Ironman 70.3 (ฮาล์ฟ ไอร่ อ นแมน) ที่เ มือ งดานัง ประเทศเวีย ดนาม รายการนี้ จะประกอบไปด้วยว่ายน�ำ ้ 1.9 กิโลเมตร, ปัน่ จักรยาน 90 กิโลเมตร แล ้วก็วง่ิ อีก 21 กิโลเมตรครับ
พี่หมินใช้เวลาในการเตรียมตัวยังไงบ้างครับ?
- ก็ เ ตรี ย มตัว เยอะพอสมควรนะครับ พอเราลงแข่ ง รายการ ไตรกีฬา (ระยะโอลิมปิ ก) การแข่งจักรยาน วิง่ มินิ, ฮาล์ฟ, และฟูล มาราธอนมาแล ว้ เราก็ จ ะรู ต้ วั ว่ า ตัว เองแข็ง แกร่ ง ในระดับ ไหน และสามารถตัง้ เป้ าหมายในการขยับ ระยะต่ อ ๆ ไปได้ ตัง้ เป้ า ให้ตวั เองได้ โดยตัง้ เป้ าให้บบี ตัวเองเล็กน้อย แลว้ ก็มาเปลีย่ นเป็ น ตารางซ้อมของตัวเองครับ
เรียกว่าพี่ก็คาดหวังพอสมควรกับงานนี้?
- ใช่ครับ ผมซ้อมหนักมาก สามเดือน อาทิตย์ละหกวัน
ช่ ว ยเล่ า เรื่ อ งราวการแข่ ง ขั น ของพี่ ที่ เ วี ย ดนาม ให้ฟังหน่อยครับ
- การแข่งขันฮาล์ฟไอร่อนแมนทีเ่ มืองดานัง แข่งขันกันในวันอาทิตย์ เริ่มต้นด้วยการว่ายน�ำ้ ในทะเล ออกมาปัน่ เลียบชายหาด และวิ่ง ในเส้นทางเดิม ทีน้ ีตอนวันเสาร์ก่อนวันแข่งหนึ่งวันเนี่ย ปรากฏว่า ลมแรงมาก คนที่ลงไปซ้อมว่ายก่ อนนี่ทอ้ บ้างก็มี ช่ วงบ่ายวันเสาร์ ผูจ้ ดั ก็เลยแจ้งว่าอาจเปลีย่ นจากการว่ายน�ำ้ ไปเป็ นวิง่ แทน เราได้ยนิ ก็เกิดความผิดหวังเบาๆ เพราะว่าเราอยากมาไตรกีฬา ไม่ได้มาทวิ แต่พอถึงวันวันอาทิตย์ปรากฏว่าฟ้ าฝนเป็ นใจ ผูจ้ ดั ก็เลยให้แข่งขัน ตามปกติ แต่วา่ คลืน่ ก็ยงั แรงอยู่นะครับ พอถึงเวลาแข่ง ตอนทีเ่ ริ่มว่ายน�ำ้ กันเนี่ย มันจะยากตรงทีเ่ รา ต้องฝ่ าคลืน่ ตัง้ แต่จดุ ทีเ่ ริ่มลงทะเลไป จนกว่าจะถึงจุดๆ หนึ่งทีค่ ลืน่ เริ่ ม เบาลงพอสมควรแล ว้ จากตรงนัน้ เราถึง จะว่ า ยได้ต ามปกติ ผมตัง้ เป้ าไว้วา่ จะต้องใช้เวลาว่ายน�ำ้ ไม่เกิน 60 นาที ซึง่ ผมใช้เวลาว่าย ไป 51 นาที ก็ดกี ว่าทีต่ งั้ ใจไว้ครับ คือในกีฬาทัง้ 3 อย่างนี้ ว่ายน�ำ้ เป็ นกีฬาทีผ่ มอ่อนทีส่ ุด คนอาจจะมองว่า 51 นาทีน่ชี า้ นะ แต่สำ� หรับผม มันเร็วขึ้นจากเดิมเยอะเลย ท�ำให้ฮกึ เหิมมาก ส่วนการปัน่ จักรยาน เราก็คิดว่าเราท�ำได้ดี เพราะตัง้ เป้ าไว้ท่ี 2:30 ชัว่ โมง ไม่เกิน 2:45 ชัว่ โมง แต่ผมปัน่ จักรยานจนจบคอร์ส 90 กิโลมตร เวลารวมอยู่ท่ี 2:37 ชัว่ โมง (โอ้โห เวลาดีมาก) ผมก็เริ่ม ประเมินแลว้ ว่า กับการวิง่ อีก 21 กิโลเมตร เราก็น่าจะท�ำได้ตามเป้ า ทีต่ งั้ ไว้ ซึง่ ก็คอื เวลารวมไม่เกิน 5:30 ชัว่ โมง แต่แล ้วก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น หลังจากทีป่ นั ่ จักรยานเสร็จ...
เกิดอะไรขึ้นครับ?
- พอปัน่ จักรยานเสร็จ เราก็จะต้องเอาจักรยานไปทีจ่ ดุ Transition 2 คือเอาจักรยานไปเก็บ ไปเปลีย่ นรองเท้า แล ้วก็ออกมาวิง่ ต่อให้จบ ทีน้ ี ตอนประมาณสิบเมตรก่อนถึงจุดทีต่ อ้ งลงจากจักรยาน เขาจะมีกฎว่า เราต้องลงจากจักรยาน แลว้ ก็ตอ้ งจูงรถเอาเข้าไปเก็บ ไม่สามารถปัน่ เข้าไปเก็บได้ ผมก็เตรียมตัวลงรถตามแผนที่วางไว้ คือถ้าไม่มอี ะไร ผิดพลาด ผมจะต้องลงจากรถในขณะที่รถยังวิ่งอยู่ เพื่อที่ว่าเราจะ ไม่ตอ้ งเสียเวลาในการหยุดรถตรงนี้ พูดง่ายๆ คือพยายามท�ำตัว ให้เหมือนพวกโปร (นักกีฬามืออาชีพ) แต่ตรงนี้คือความผิดพลาด เพราะเราซ้อมมาเยอะ ลงดีเทลต่างๆ เพือ่ ทีจ่ ะเซฟเวลา แต่วา่ มันพลาด ตรงทีไ่ ม่ได้ลองท�ำทุกๆ ขัน้ ตอนจริงๆ เพือ่ ให้เกิดความเคยชิน
พี่หมินคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันสอนอะไรกับเราบ้างครับ?
ไอ้ขนั้ ตอนลงรถแบบทีผ่ มท�ำเนี่ย ก็ดูแต่จากในยูทบู ไม่เคยลองจริงๆ คิดว่าเราท�ำได้ แต่ ณ วันนัน้ ร่างกาย จิตใจ มันไม่เหมือนทีซ่ อ้ ม อาจจะ ตืน่ เต้นหรือยังไงนี่แหละ ผมถอดเท้าจากรองเท้าแล ้ว (ปกติรองเท้าจักรยาน จะติดกับบันไดคลีท ทีต่ วั จักรยาน) คือถ้าท�ำถูกต้อง ผมจะต้องถอดเท้าขวา กระโดดออกจากรถ แลว้ ก็จูงรถเข้าไปเก็บ แต่ สิง่ ทีเ่ กิดขึ้นก็คอื เมือ่ ผม ถอดเท้าขวาออกมาปุ๊ บ ผมไม่ได้หยุด ผมไปหมุนเท้าซ้ายต่อ โดยทีเ่ ท้าขวา วางอยู่บนรองเท้า แลว้ จังหวะนัน้ รองเท้าขวาก็ไปติดกับพื้น เท่านัน้ แหละ รถก็ตลี งั กาเลย
- บทเรียนจากเหตุการณ์น้ ีก็คือ บางอย่างที่มนั ไม่จำ� เป็ น เราก็ไม่จำ� เป็ น ต้องท�ำ ส�ำหรับไตรกีฬานะครับ เช่นการขึ้นลงรถแบบทีผ่ มท�ำเนี่ย มันเป็ น สิ่ง ที่มือ อาชีพ หรือ พวกโปรเขาท�ำ กัน เพราะมัน เซฟเวลาไปประมาณ 5 - 10 วินาที ซึง่ มันมีผลกับเขาเยอะในระดับการแข่งขันของเขา แต่สำ� หรับ มือสมัครเล่นอย่างเรามันไม่จำ� เป็ น เพราะว่าถ้ามันท�ำให้เสี่ยงกับการเกิด อันตรายเนี่ยมันก็ไม่คุม้ ท�ำอะไรเซฟๆ ดีกว่า เสียเวลาไปนิดหน่อยก็ไม่น่า เป็ นอะไร หรือถ้าคิดจะท�ำจริง ก็ตอ้ งไม่ประมาท ต้องซ้อมให้ชนิ จนคิดว่า เราท�ำได้จริงๆ แล ้วค่อยท�ำ รวมไปถึงการซ้อมปกติดว้ ย ไม่ว่าจะเป็ นการซ้อมว่ายน�ำ ้ การปัน่ การวิง่ ควรอย่างยิง่ ทีจ่ ะต้องมีการซ่อมในเงือ่ นไขสภาวะคลา้ ยการแข่งขัน อยู่บา้ งในตารางซ้อม เช่นการว่ายน�ำ ้ แข่งจริงทุกรายการว่ายในน�ำ้ ทะเล หรือบึง เราก็ควรที่จะลองซ้อมในทะเลหรือบึงบ้าง ไม่ใช่แค่ ซอ้ มในสระ เพราะ Factor มันต่างกันพอสมควร ปัน่ จักรยานก็ไม่ควรลงแต่เทรนเนอร์ (ปัน่ เองในบ้าน) เพราะของจริงมีทงั้ ภูเขา อุณหภูมิ ลม ฯลฯ หรือวิง่ เอง ก็เหมือนกัน เราก็ไม่ควรซ้อมแต่ลูไ่ ฟฟ้ า ในยิม มันไม่เหมือนกันเลย เราควร เตรียมตัวให้พร้อมทุกอย่างก่อนลงสนามจริงครับ
สุดท้ายนี้ พี่มีอะไรอยากจะแนะน�ำกับผู้อ่านบ้างครับ?
- ใช่ครับ ผมก็เลยตีลงั กาลงจากรถ แลว้ ก็ลม้ ซึง่ ผมก็ลุกขึ้นมาทันทีนะ วินาทีนนั้ คือจะเข็นเอาจักรยานไปเก็บ จะได้ไปต่อ แต่ปรากฏว่าทีเ่ ท้ามันมี บาดแผล เหมือนจะไปโดนอะไรเฉือนเอาสักอย่างตรงฝ่ าเท้า เลือดเต็มเลย ผมรูเ้ ลยว่าไปต่อไม่ได้แล ้ว
- ทุกวันนี้ งานวิง่ งานไตรกีฬา ก�ำลังบูมในบ้านเรา อยากให้มกี ารซ้อม มีการเตรียมตัวที่ดี ไม่ว่าจะลงแข่งจักรยาน หรือไตรกีฬา ทัง้ นี้ก็เพื่อ ตัวเราเองทัง้ นัน้ ไม่จำ� เป็ นว่าจะต้องซ้อมเพือ่ ให้ได้เวลาดีหรือเอาถ้วยรางวัล แต่การซ้อมก็เพื่อให้ร่างกายเราพร้อมส�ำหรับการแข่งนัน้ ๆ แข่งได้จนจบ ไม่บาดเจ็บ มีความสุข อย่างเช่นฟูลมาราธอน 42.195 กิโลเมตร มันใช้ ร่างกายเราเยอะมาก การทีเ่ ราไม่ได้ซอ้ มเลยแล ้วไปแข่งเนี่ย มันเป็ นเหมือน การท�ำร้ายร่างกายเราเองมากกว่าทีเ่ ราจะไปสนุกกับมันครับ อย่างไตรกีฬา ก็เหมือนกัน ยิง่ การว่ายน�ำ้ เนี่ย ก็จะมีความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จักรยานก็เช่นกัน ถ้าล ้มขึ้นมา ไม่เจ็บน้อยก็เจ็บเยอะครับ ซ้อมให้ถงึ และค�ำนึงถึงเรือ่ งความปลอดภัยเป็ นหลัก ให้ความส�ำคัญ กับสองข้อนี้เยอะๆ แลว้ คุณจะออกก�ำลัง เล่นกีฬา และแข่งขันอย่าง มีความสุขครับ
ตอนนั้นมีความคิดว่าจะลองฝืนไปต่อไหมครับ?
พี่คิดจะกลับไปแก้มือที่ดานังไหมครับ?
รองเท้าปั่นไปขัดกับพื้น?
- ตอนทีผ่ มยังไม่เห็นแผลทีเ่ ท้า ผมก็คดิ ว่าจะฝื นนะ เพราเห็นแค่แผลถลอก เต็มตัว คิดว่ายังไปต่อได้ ช่างมัน แต่พอเห็นแผลทีเ่ ท้าปุ๊ บ รูเ้ ลยว่าไปต่อ ไม่ได้แล ้ว เพราะแผลมันค่อนข้างใหญ่ครับ
ตัดสินใจทันทีเลยว่าไม่ไปแล้ว?
- ใช่ครับ ตัดสินใจเลย ยกมือเรียกเจ้าหน้าทีเ่ ลย เขาก็มาช่วย พาผมเข้า เต๊นท์พยาบาล จากนัน้ ก็ข้นึ รถพยาบาลไปทีโ่ รงพยาบาลดานังเพือ่ ท�ำแผล ต้องเย็บเลยครับ แผลค่อนข้างยาว
พีห่ มินรูส้ กึ เสียดายไหมครับทีแ่ ข่งไม่จบในการแข่งขันครัง้ นี? ้
- เสียดายมากครับ เจ็บใจมาก คือเราซ้อมมาหนักมาก ถ้าคิดในแง่ทว่ี ่า ตัวเราไม่ใช่นกั กีฬาอาชีพ ถือว่าเราซ้อมหนักมาก และคาดหวังไว้สูงมาก การไปแข่งในต่างประเทศครัง้ แรก เราก็อยากท�ำให้ดที ส่ี ุดอยู่แล ้ว ตอนทีเ่ รา นอนอยู่ในรถพยาบาล เราก็รูว้ ่าจริงๆ แลว้ ร่ างกายเรายังไปได้อีกเยอะ ไม่ได้หมดแรง ยังไงเราก็ว่งิ จบได้อยู่แลว้ แต่เราไม่มโี อกาสพิสูจน์แลว้ เสียดายมาก เสียดายจริงๆ แต่เราก็ตอ้ งเคารพกฎกติกาการแข่งขัน ก็เลย ต้องออกจากการแข่งขันไป
เรียกได้วา่ เป็นการ DNF ครัง้ แรกเลยทีไ่ ม่ได้ตงั้ ใจจะให้เกิดขึน้ ?
- ใช่ครับ ครัง้ แรกเลย
- แน่นอนครับ ให้มนั หายคาใจ
Bike Special แพร
ไอซ์
มะตูม
น็อต
CYCLING IN THE ASIAN GAMES 2018 นักปั่นเชียงใหม่ ในเอเชี่ยนเกมส์ 2018
เรื่อง : acidslapper/ ภาพ : Peerapol Chawchiangkwang, Pariwat Tanlek, Pear Phetdarin และ Yuttana NNot
ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นักปั่นทั้งหลายโดยเฉพาะชาวเชียงใหม่คงได้เคยเห็นกลุ่มคนปั่นจักรยานเสื้อสีเหลือง/น�้ำเงิน ที่ขะมักเขม้นปั่นกันทั้งวี่ทั้งวัน ไปไหนก็เจอเต็มถนน จริงๆ แล้วพวกเขาคือนักปั่นทีมชาติไทย ซึ่งเป็นตัวแทนของพวกเราไปสู้ศึก ในมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เพราะพวกเขามาเก็บตัวฝึกซ้อมกันที่เชียงใหม่เรานี่เองครับ
ทุกครัง้ ที่เจอพวกเขาตามท้องถนน ผมไม่อายที่จะส่งเสียง ทักทาย โบกไม้โบกมือให้กำ� ลังใจกัน เพราะผมเชื่อว่าเราควรเชียร์กฬี า กันตัง้ แต่นกั กีฬาเก็บตัวฝึ กซ้อม ไม่ใช่วา่ ฉาบฉวยไปรอลุนผลการแข่ ้ ง อย่างเดียว แล ้วก็ปล่อยปละละเลยผูแ้ พ้ให้เงียบหายไป ดังนัน้ นอกจาก จะเจอพวกเขาตามท้องถนนแลว้ ผมยังติดตามข่าวสารของพวกเขา ทางสือ่ ออนไลน์ต่างๆ ด้วยครับ ในบรรดานักปัน่ ทีมชาติไทยชุดนี้นนั้ มีหลายคนทีค่ นุ ้ หน้าคุน้ ตา กันอยู่ เพราะในขุนศึกทัพหลวงมีชาวเชียงใหม่ร่วมทัพอยูด่ ว้ ยหลายคน โดยเฉพาะ ไอซ์ - ปาริวฒั น์ ตันเหล็ ๋ ก และ มะตูม - พีระพล ชาวเชียงขวาง ทีเ่ คยแวะเวียนมาป้ วนเปี้ ยนอยู่บนหน้ากระดาษ HIP ของเรา ดังนัน้ ในฐานะทีเ่ ราเป็ นคนรักการปัน่ จักรยาน เพือ่ ความมันอย่างเต็มรูปแบบ เราก็ควรส่งก�ำลังใจไปเชียร์เหล่าบรรดาฮีโร่ของพวกเราด้วย และเหล่านี้คือหนุ่ มสาวชาวเชียงใหม่ ที่ใส่ชุดเหลืองน�ำ้ เงิน ไปสู ้ศึกในนามทีมชาติไทย พร้อมกับผลงานของพวกเขาในเอเชียนเกมส์ 2018 ทีอ่ นิ โดนีเซียครับ
• อส.ทพ.ปาริวฒั น์ ตันเหล็ ๋ ก (ไอซ์) : เสือภูเขา Cross - Country - อันดับที่ 7 • เพชรดารินทร์ สมราช (แพร) : เสือหมอบ หญิง - อันดับที่ 9 / Time Trial หญิง - อันดับที่ 5 • จ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง (มะตูม) : เสือหมอบ ชาย - อันดับที่ 4 • ส.ต.ท.ยุทนา มะโน (น็ อต) : ลู่ เปอร์สูต ชาย - อันดับที่ 5 / ลู่ ทีมเปอร์สูต ชาย - อันดับที่ 7 ถึงแม้วา่ พวกเขาและเธอจะยังไม่ตดิ อันดับ 1 - 3 ทีจ่ ะได้ยนื บนโพเดียมและมีเหรียญรางวัลกลับบ้าน แต่การต่อสู อ้ ย่างดุเดือด ของแต่ละคนก็ตอ้ งถือว่าเจ๋งมากๆ และโดยเฉพาะการที่อนั ดับของ ทุกคนนัน้ อยู่ใน Top 10 ของแต่ละประเภทการแข่งขัน ตอกย�ำ้ ว่า ละอ่ อ นเจีย งใหม่ เ ฮาก้า วขึ้น มาอยู่ แ ถวหน้า ระดับ เอเชี ย กัน แล ว้ ! นัน่ ยิง่ ท�ำให้น่าติดตามผลงานของพวกเขาเหล่านี้ยง่ิ ขึ้นไปอีก เป็ นก�ำลังใจให้ทกุ คนนะครับ ไทยแลนด์! ปู๊ น! ปู๊ น!
Bike Trip
BREAKING
100
INTHANONT คุณปู่มหากาฬ
เรื่อง : acidslapper ภาพ : CHEEZPHOTO
เมือ่ นานแล้วพอสมควร ผมเคยพา เฮียหุน่ – เลอศักดิ์ อินชัย มาสัมภาษณ์ลงคอลัมน์ Bike Interview (HIP ฉบับเดือนพฤศจิกายน ปี 2015) ในฐานะที่เขาเป็นคุณปู่วัย 70 กะรัตผู้ยังคงปั่นจักรยาน อย่างเร่าร้อน! หลังจากที่พาแกมาแนะน�ำให้แฟน HIP ได้รู้จักกันไปแล้ว แม้ ว ่ า ช่ ว งหลั ง มานี้ จ ะไม่ ค ่ อ ยได้ ป ั ่ น จั ก รยานกั บ แกมากนั ก แต่ ผ ม ก็ติดตามแกทางเฟซบุ๊กอยู่ตลอด ทุกสุดสัปดาห์มักเห็นแกโพสต์รูป ที่ดอยอินทนนท์อยู่เสมอ ตอนนั้นได้แต่คิดในใจว่า “เฮียหุ่นแกฟิตจัง”
10
a side
จนวันหนึ่งผมไปเห็นว่า มีการโพสต์ประกาศเชิญชวนนักปัน่ ไปร่วมทริปปัน่ จักรยานขึ้นดอยอินทนนท์ ตอนแรกก็ไม่ได้ใส่ใจ ก�ำลังจะ ป้ ายนิ้วผ่าน แต่ดนั เห็นเลข 100 เข้านี่ส!ิ ก็เลยเข้าไปอ่านรายละเอียดดู คุณพระ!! เฮียหุน่ ก�ำลังจะจัดทริปร่วมปัน่ เพือ่ ฉลองการไต่ดอยอินทนนท์ ครัง้ ที่ 100 ของแก!! ท่านไม่ได้อา่ นผิดครับ คุณปู่วยั 73 ขวบก�ำลังจะไป ปัน่ จักรยานขึ้นดอยอินทนนท์เป็ นครัง้ ที่ 100!! “เชีย่ ยยยย” ผมเผลออุทาน ด้วยน�ำ้ เสียงกระเส่า อะไรเนีย่ ยยย!!! คนหนุ่มวัยฉกรรจ์อย่างเราๆ ยังไต่ ไม่ถงึ 10 ครัง้ เลย แต่เฮียแกจะไปเป็ นครัง้ ที่ 100 แล ้ว นัน่ จึงเป็ นทีม่ าของการตัดสินใจพาเฮียแกมาปรากฏตัวบนคอลัมน์ ของผมอีกครัง้ ครับ
‘เฮียหุน่ ’ ชือ่ นี้คงคุน้ หูกนั ในวงการจักรยานเชียงใหม่ (อันทีจ่ ริง แกดังมากในอดีต ระดับประเทศเลยนะ) ผู ้เรียกตัวเองว่า ‘วัยสะรุ่น’ ปี น้ ี อายุครบ 73 ปี เป็ นชายผู ้หลงใหลในการปัน่ จักรยาน ตัง้ แต่ครัง้ ยังเป็ น นักกีฬาในการแข่งขันทัง้ ระดับประเทศไปจนถึงระดับนานาชาติ จนถึง วันนี้ทก่ี ารปัน่ จักรยานกลายเป็ นการแข่งเพือ่ พิสูจน์จติ ใจของตัวเอง เมือ่ เจอหน้ากัน ผมจึงถามถึงแรงบันดาลใจในการสร้างวีรกรรม ในครัง้ นี้ เฮียหุน่ ตอบว่า ตอนแรกก็ไม่ได้ตงั้ ใจจะซีเรียสกับจ�ำนวนครัง้ ขนาดนี้หรอก ก็แค่จะปัน่ เพือ่ สุขภาพและรักษาความฟิ ตนี้ไว้ แต่พอมัน หลายครัง้ ขึ้นเรื่อยๆ เฮียก็เกิดอยากพิสูจน์ตวั เองขึ้นมาว่าจะไหวมัย้ ? ก็เลยตัง้ ตัวเลขขึ้นมาเพือ่ เป็ นธงปักไว้ จากนัน้ ก็เริม่ ลุยให้ครบ (“ปัน่ เพื่อ สุ ข ภาพ” อายุ เ จ็ด สิบ กว่ า ปัน่ ขึ้น ดอยอิน ทนนท์ สัปดาห์ละครัง้ เนี่ยนะครับเฮีย!!!) ...ในวงเล็บของความในใจ... แกเล่าให้ฟงั ต่อว่า ลูกแกก็โตแลว้ ดูแลตัวเองได้แลว้ ไม่ตอ้ ง เป็ นห่วง ธุรกิจของแกก็อยูใ่ นจุดทีแ่ กก็คอยบริหารอยูห่ า่ งๆ ไม่ตอ้ งไป คลุกคลีมากนัก อะไรทีม่ นั ดีอยูแ่ ล ้วก็ปล่อยมันด�ำเนินของมันไป แกเลย มีเวลามาท�ำสิง่ ทีช่ อบ เป็ นบัน้ ปลายในฝันทีแ่ กบอกว่า “ผมเหนื่อยจนแก่ แก่แล ้วก็ยงั เหนื่อย ผมชอบปัน่ จักรยาน ผมชอบเหนื่อย 5555” โดยทุก สุดสัปดาห์แกจะเอาจักรยานใส่รถตู ้ ขับมาจอดที่ตีนดอยอินทนนท์ แลว้ แกก็ปนั ่ จักรยานขึ้น - ลง ถ้าสัปดาห์ไหนมีเพือ่ นฝูง (ทีถ่ กู น่าจะ หมายถึงลูกๆ หลานๆ อิอ)ิ มาปัน่ ด้วยก็ดมี เี พือ่ นคุย แต่ถ ้าไม่มกี ไ็ ม่เป็ นไร แกก็ปนั ่ ของแกไป ท�ำแบบนี้ไปเรือ่ ยๆ ก็มคี วามสุขดี
ส�ำหรับบรรยากาศวันทีจ่ ดั ทริปฉลองครบครัง้ ที่ 100 ของเฮียหุน่ นัน้ ก็สนุกสุดๆ ครับ สนุกสนานทัง้ ทีฝ่ นตกและหนาวมาก! แต่บรรยากาศ มันอบอุ่นเหลือเกิน ใครต่อใครที่มาก็ลว้ นเป็ นคนคุน้ หน้าคุน้ ตากัน เรียกว่าทัง้ หมดก็คอื แฟนคลับของเฮียแกนี่แหละ มีทงั้ คนปัน่ จักรยาน คนวิง่ ทุกคนก็มาเพือ่ ร่วมฉลองและสดุดวี รี กรรมทีเ่ ฮียแกได้ท�ำไว้ ซึง่ เป็ น ทัง้ ก�ำลังใจและเป็ นแรงบันดาลใจให้กบั พวกเราทุกคน ขนาดว่าผมเอง ก็มนใจในตั ั่ วเองว่าออกก�ำลังกายเยอะในระดับหนึ่งแล ้ว เจอสถิตทิ แ่ี ก ท�ำเอาไว้นี่ ก็ตอ้ งบอกตามตรงว่ายอมศิโรราบให้แกเลยจริงๆ ครับ ถ้าหากผูอ้ ่านทีก่ ำ� ลังอ่านคอลัมน์น้ ี ก�ำลังต้องการแรงบันดาลใจ อะไรบางอย่าง เพือ่ เปลีย่ นแปลงตัวเองให้ดขี ้นึ และเพือ่ สร้างก�ำลังใจ ให้กบั ตัวเองทีจ่ ะต้องอดทนตัง้ ใจท�ำอะไรบางอย่าง ผมเชือ่ ว่าการได้รบั รู ้ เรื่องราวของคุณปู่วยั เจ็ดสิบกว่าๆ ผู ป้ นั ่ จักรยานขึ้นดอยอินทนนท์ ครบร้อยครัง้ จะเป็ นหมุดทีด่ ที จ่ี ะสร้างจุดเปลีย่ นให้ชีวติ ของคุณนะครับ อนุ ญาตให้เปิ ดเพลง ‘นายไข่เจียว’ ของวงเฉลียงฟังไปด้วย จะได้อารมณ์ยง่ิ ขึ้น ปล. ขณะที่พิมพ์ตน้ ฉบับนี้อยู่ เปิ ดเฟซบุก๊ เจอภาพเฮียหุ่น ในชุดจักรยานท่ามกลางบรรยากาศฉ�ำ่ ฝน พร้อมทัง้ ถือกระดาษเขียนว่า 101 จ้าาาาา!!!
Bike Route
CHOM THONG MAE CHAEM PA BONG PIANG
ระยะทางของความคิดถึง… ปั่นป่าบงเปียง เรื่อง : 55 Cycling Club https://www.facebook.com/55CyclingClub/ ภาพ : CHEEZPHOTO / Ratchata Tanwira
ผมมีความสงสัยว่าทุกวันนีเ้ รายังมีความรูส้ กึ คิดถึงอยูร่ เึ ปล่า... ในขณะทีเ่ ราคิดถึงอยากคุยกับใคร เราสามารถกดโทรศัพท์ไปหา ได้ทันที อยากเห็นหน้าก็คุยผ่าน Facetime หรืออยากจะรู้ว่าใครท�ำอะไรอยู่ก็เปิดดู Facebook หรือว่า Instagram หรือแม้กระทั่ง อะไรที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ก็จะมี Notified เตือนขึ้นมาใน Feed ทุกๆ เช้า กว่าจะรู้ตัวผมก็กลายเป็นคนที่ติดโทรศัพท์มือถือหรือติด Social Network ไปแล้ว ผมจะรู้สึกหงุดหงิดทุกๆ ครั้งที่ไม่มีสัญญาณ Internet หรือว่าไฟฟ้าดับ
12
a side
หนึง่ ในเหตุผลทีผ่ มชอบปัน่ จักรยานก็คอื ความรูส้ กึ Disconnect เป็ นความรูส้ กึ ทีต่ ดั ขาดจากเรื่องราวต่างๆ ของสังคมออนไลน์ มันเป็ น กิจกรรมทีบ่ งั คับให้เรามีสมาธิกบั สิง่ ทีเ่ ราก�ำลังท�ำอยู่ ในขณะทีข่ บั รถ ยังมีบางครัง้ ทีผ่ มแอบกดดูโทรศัพท์มอื ถือ แต่กบั จักรยาน ผมถูกบังคับ ให้มสี มาธิกบั การกดบันได การเปลีย่ นเกียร์ การที่จะต้องเคลือ่ นที่ ไปข้างหน้า จนในทีส่ ดุ ผมมีความรูส้ กึ เป็ นอิสระและมีความสุขกับสิง่ ต่างๆ ทีเ่ กิดขึ้นรอบตัว ทุกวันหลังเลิกงาน ผมจะหาเวลาออกจากบ้านมาปัน่ จักรยาน มันเหมือนเป็ นการท�ำสมาธิอย่างหนึ่ง และทุกๆ วันหยุด ผมชอบที่จะออกไปปัน่ จักรยานไกลๆ กับเพื่อนและน้องๆ ในทีม มันคือโอกาสทีจ่ ะได้เจอหน้ากันหลังจากคุยกันในกลุม่ ไลน์มาทัง้ อาทิตย์ “พี.่ .. ทริปหน้าเราไปป่ าบงเปี ยงกันนะ” “ยังไม่เคยมีใครปัน่ จักรยานไปเลย คงจะสนุกและท้าทายน่าดู” ผมรับปากและเริ่มเปิ ดหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ผมรูส้ กึ ตื่นเต้น หลังจากทีไ่ ด้เห็นรูปภาพและเรื่องราวของบ้านป่ าบงเปี ยง หมูบ่ า้ นเล็กๆ ของชาวเขาปกาเกอะญอ ที่ทำ� เกษตรและปลู กข้าวเป็ นอาชีพหลัก ด้วยสภาพภูมปิ ระเทศทีเ่ ป็ นหุบเขาไม่มพี ้นื ราบ พวกเขาเลือกทีจ่ ะท�ำนา ลดหลันกั ่ นไปตามไหล่เขา เกิดเป็ นนาขัน้ บันไดอันสวยงาม จนกระทัง่ มีคนมาเห็นและถ่ายรู ปไปเผยแพร่ จึงมีนกั ท่องเที่ยวตามมาเที่ยว กันมากมาย และเกิดเป็ นธุ รกิจโฮมสเตย์เพิ่มรายได้ให้แก่ ชาวบ้าน ในทีส่ ุด ธุ รกิจโฮมสเตย์และธุ รกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่ างๆ เช่ น ร้า นค้า หรื อ รถรับ ส่ ง นัก ท่ อ งเที่ย วถู ก ด�ำ เนิ น การโดยชาวบ้า น เรียกได้ว่าป่ าบงเปี ยงเป็ นสถานที่ท่องเที่ยวไม่ก่ีแห่งที่ไม่มีนายทุน มาลงทุนเลย เนื่องจากสภาพเส้นทางที่ยากล�ำบาก รวมถึงเหตุผล ข้อหลักๆ คือทีน่ ่ยี งั ไม่มไี ฟฟ้ าใช้ ไฟฟ้ าส่วนใหญ่มาจากเครื่องปัน่ ไฟ และมีใช้แค่ ช่วงเวลากลางวัน ถ้าจะมีท่ีไหนที่ทำ� ให้เรารู ส้ ึกตัดขาด โดยแท้จริง ก็คงจะเป็ นทีบ่ า้ นป่ าบงเปี ยงนี่แหละ +++++ จากตัวเมืองเชียงใหม่ ผ่านอ�ำเภอจอมทอง เดินทางมาทีอ่ ำ� เภอ แม่แจ่ม แลว้ เดินทางต่อไปทีบ่ า้ นป่ าบงเปี ยง รวมระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร ถ้าปัน่ ไปกลับระยะทางจะเพิม่ เป็ นเท่าตัว มันคงจะยาก และเราคงไม่มเี วลาพอทีจ่ ะชมความงามของนาขัน้ บันได หรือถ้าค้างคืน ผมก็ไม่ชนิ กับการใช้ชวี ติ โดยไม่มไี ฟฟ้ าและความไม่สะดวกต่างๆ “ถ้าอย่างนัน้ เริ่มปัน่ จากจอมทองก็แล ้วกัน ระยะทางจะเหลือแค่ 78 กิโลเมตร ไปกลับ 156 กิโลเมตร คงไม่ยากเกินความสามารถ ของพวกเรา” ผมรีบสรุปกับคนในทีม การเตรียมการส�ำหรับทริปนี้เป็ นไปอย่างราบรืน่ ก่อนออกเดินทาง ฝนตกเกือบทุกวัน แต่ผมไม่ค่อยมีความวิตกกังวลอะไร อย่างมาก ถ้าฝนตกก็ปนั ่ ลุยฝนนัน่ แหละสนุ กดี จริงๆ ผมชอบหน้าฝน แต่ผม นึกไม่ออกว่าท�ำไม… +++++
เหมือนทุกๆ ครัง้ เราแบ่งการปัน่ ออกเป็ น 4 สเตจ สเตจ 1 จอมทอง – ที่ทำ� การอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (ระยะทาง 31 กิโลเมตร) เรานัดกันตอน 7 โมงเช้าที่ป ั ๊มปตท. ก่ อนสามแยกขึ้นดอย อินทนนท์ โชคดีท่เี ช้านี้ฝนไม่ตก มีเพือ่ นนักปัน่ ที่ไม่มเี วลาไปกับเรา ทัง้ วันมาร่วมปัน่ ส่งพวกเราอีกกลุม่ ใหญ่ ทันทีทอ่ี อกจากปั ๊ม กลุม่ ทีอ่ ยู่ ด้านหน้าเริ่มเร่งความเร็ว ความเร็วกลุม่ เพิม่ ขึ้นจนด้านหลังตะโกนแซว ขึ้นมาว่า นี่มาเทีย่ วหรือมาแข่งกันแน่! ทุกๆ คนดูเหมือนจะมีความสุข กับการทีไ่ ด้ปลดปล่อยพลัง หลังจากฝนตกมาตลอดทัง้ อาทิตย์ สเตจ 2 ที่ทำ� การอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (กม.31) – ด่านตรวจ จุดที่ 2 (ระยะทาง 7 กิโลเมตร) กลุ่มที่มาส่งเริ่มทยอยกลับ ที่สเตจนี้เราได้เจอกับพี่ศกั ดิ์ชยั หรือพีศ่ กั ดิ์ ที่เดินเท้าจากจังหวัดตรังเพือ่ น�ำอัฐขิ องแฟนสาวมาเที่ยว ดอยอินทนนท์ เรื่องราวของพีศ่ กั ดิ์เป็ นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์ เมือ่ สองสามวันก่อน เราจอดทักทายและถ่ายรูปซักพักจึงเดินทางต่อ ผมไม่ได้ถามพีศ่ กั ดิ์วา่ ท�ำแบบนี้ทำ� ไม แต่ถา้ จะให้เดา ผมคิดว่าพีศ่ กั ดิ์ ท�ำเพราะความคิดถึง... สเตจ 3 ด่ า นตรวจขึ้ น ดอยอิน ทนนท์จุ ด ที่ 2 – อ�ำ เภอแม่ แ จ่ม (ระยะทาง 23 กิโลเมตร) จากทีไ่ ด้คุยกับเจ้าหน้าทีท่ ด่ี ่าน 2 เราจึงได้รูว้ า่ จากจุดนี้สามารถ ไปป่ าบงเปี ยงได้ 2 เส้นทาง คือไปทางแม่แจ่ม และมีทางลัดอีกทางหนึ่ง
ไปทางน�ำ้ ตกห้วยทรายเหลือง ซึง่ ใกล ้กว่าทางแม่แจ่มราวๆ 30 กิโลเมตร ผมคิดในใจว่าถ้าอย่างนัน้ ขากลับเรากลับเส้นทางลัดดีกว่า... เราเริ่มปัน่ ออกจากด่าน 2 เข้าอ�ำเภอแม่แจ่มตามแผนทีว่ างไว้ตอนแรก เส้นทาง ส่วนใหญ่เป็ นทางลงเขายาวๆ ตรงจุดนี้เราท�ำความเร็วได้พอสมควร ผมปัน่ และจอดพัก เป็ น ช่ ว งๆ เพื่อ ลดความร้อ นสะสมที่ข อบล อ้ ซึง่ เกิดจากการเบรคติดต่อกันเป็ นเวลานาน นักปัน่ ชาวต่างชาติอกี 2 คน ก็ทำ� แบบเดียวกัน ทางช่วงนี้สวยมาก วิวสองข้างทางสวยงามแปลกตา เราพักกินข้าวกลางวันกันทีแ่ ม่แจ่มก่อนทีจ่ ะออกเดินทางต่อ สเตจ 4 อ�ำเภอแม่แจ่ม – บ้านป่ างบงเปี ยง (ระยะทาง 17 กิโลเมตร) เป็ น สเตจสัน้ ๆ ที่มีค รบทุ ก รสชาติ ! ทัง้ ทางดิ น ทางหิน ทางคอนกรีตเก่ าๆ สะพานไม้ผุๆ และโคลน ผมเห็นเส้นทางแลว้ เริ่มเป็ นกังวลว่าจะพาทุกคนมาล�ำบากรึเปล่า ผมหันไปดูเห็นทุกคน คุยกันและหัวเราะอย่างมีความสุข มันท�ำให้ผมคิดถึงตอนเป็ นเด็ก ผมชอบหนีพอ่ กับแม่ออกไปปัน่ จักรยานทีท่ า้ ยสวนกับเพือ่ นๆ และหา เส้นทางแปลกๆ ปัน่ เล่นกันเป็ นประจ�ำ… ก่อนถึงป่ าบงเปี ยงประมาณ 2 กิโลเมตร เราเริ่มเห็นทิวทัศน์ของนาขัน้ บันไดตลอดสองข้างทาง มันสวยจนบรรยายแทบจะไม่ถูก เพือ่ นที่ปนั ่ อยู่ดา้ นหลังพูดออกมา เป็ นเสียงเดียวกันว่าคุม้ จริงๆ ที่มาปัน่ วันนี้! นี่ขนาดยังไม่ถงึ ยังสวย ขนาดนี้ แล ้วป่ าบงเปี ยงจะสวยขนาดไหน! ก่อนถึงป่ าบงเปี ยงเราจะเจอ กับเนินชันๆ อีกหนึง่ ลูก ค�ำนวณจากสายตาแล ้วความชันน่าจะเกือบ 20% ตอนนี้ฝนเริ่มตกปรอยๆ เลยท�ำให้ถนนค่อนข้างลืน่ ไม่มใี ครสามารถ ปัน่ ข้ามเนินนี้ได้ ทุกคนต้องจอดเพือ่ จูงขึ้นเนิน...
14
a side
ตามคาดที่ปลายเนินช่างกลอ้ งมาดักรอถ่ายรูป ทุกคนหัวเราะ เหมือนรูท้ นั มันน่าจะเป็ นธรรมเนียมของพวกเราไปแลว้ ถ้ามีใครลม้ จอด หรือจูง จะต้องถูกถ่ายรูปไว้ทนั ที... เมือ่ พ้นจากเนินสุดท้ายเข้าสู่ ป่ าบงเปี ยง เราได้เจอกับน้องๆ นักเรียนจากในหมู่บา้ นที่เอาน�ำ้ และ ผลไม้มารอรับคณะของเรา น้องๆ ยืนตากฝนยิม้ รอพวกเราอย่างมีความสุข น้องๆ บอกว่าได้ส่งข้อความถามไปในเพจว่าพวกเราจะมาถึงกันกี่โมง แต่ไม่มใี ครตอบ เลยออกมายืนตากฝนรอ… ผมนึกขึ้นได้วา่ ตัง้ แต่เช้า ผมยังไม่ได้เปิ ดดูโทรศัพท์มอื ถือเลย ผมเห็นน้องๆ หัวเราะและเล่นกัน ท่ามกลางฝนปรอยๆ เบื้องหลังเป็ นทิวทัศน์ของนาขัน้ บันได ท�ำให้ ผมคิดถึงตอนเป็ นเด็กอีกครัง้ คิดถึงชีวติ ทีต่ ่างจังหวัดตอนทีพ่ อ่ กับแม่ พาไปดู นาข้าวข้างๆ บ้าน คิดถึงตอนที่ฝนตกแลว้ แอบออกมาเล่น กลางสายฝนกับเพือ่ น... ตอนนี้ผมนึกออกแล ้วว่าท�ำไมผมถึงชอบหน้าฝน +++++ พวกเราใช้เวลาถ่ายรู ปและซึมซับกับบรรยากาศที่ป่าบงเปี ยง ประมาณ 2 ชัว่ โมงก่อนจะเดินทางกลับ เราถามชาวบ้านว่าจะปัน่ กลับ ตรงทีเ่ ป็ นทางลัดได้หรือเปล่า ชาวบ้านหัวเราะพร้อมกับแนะน�ำให้พวกเรา ขึ้นรถ 4 x 4 จะดีกว่า เดีย๋ วจะขับรถไปส่ง ผมถามว่าท�ำไม… ชาวบ้าน ตอบกลับมาว่า เดีย๋ วเห็นเส้นทางแล ้วก็จะได้คำ� ตอบ! +++++
ป่ าบงเปี ยงสวยงามกว่าทีผ่ มคิดไว้มาก บรรยากาศและทิวทัศน์ สองข้างทาง รวมถึงน�ำ้ ใจของชาวบ้าน ช่วยขับให้ท่นี ่ีมเี สน่ หม์ ากขึ้น อีกหลายเท่า ผมสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาทีน่ ่ีอกี ครัง้ ก่อนกลับผมนึกได้วา่ ยังไม่ได้ยกมือถือออกมาถ่ายรูปซักรูปเลย ผมก�ำลังจะถ่ายรูปและก�ำลังจะส่งไลน์ไปให้คนทีบ่ า้ น แต่เปลีย่ นใจ... เดีย๋ วกลับไปถึงค่อยไปเล่าให้ฟงั ดีกว่า ช่วงหลังๆ ตัง้ แต่มโี ทรศัพท์มอื ถือ เราต่ า งก้ม หน้า ก้ม ตาเล่น มือ ถือ เราอยู่ ด ว้ ยกัน ทุก วัน แต่ แ ทบจะ ไม่ได้คุยกันเลย… ผมเก็บมือถือและมองไปยังทิวทัศน์ท่อี ยู่ตรงหน้า เพือ่ ซึมซับกับบรรยากาศต่ออีกซักพัก +++++
ตอนนี้ผมเริ่มรู ส้ ึกคิดถึง... ผมคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อกับแม่ และคิดถึงคนทีร่ อผมอยู่ทบ่ี า้ น การเดินทางในวันนี้ มันท�ำให้ผมได้รูว้ ่าความคิดถึงยังคงมีอยู่ และระยะทางของมันก็แค่รอ้ ยกิโลเมตรกว่าๆ จากตัวเมืองเชียงใหม่ แค่นนั้ เอง ขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ส�ำนักงานเชียงใหม่ - Fujiyama Go Go / Megumi Group - The Wisdom Medical Clinic (เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต) - HIP Magazine
15
a side
Trip
DIFFERENCE PATTAYA พัทยาแบบชิลชิล เรื่อง/ภาพ : ศมนภรณ์
เชือ่ ว่าหลายคนคงรูจ้ กั หรือเคยได้มาเมืองพัทยากันบ้างแล้ว เมืองเล็กๆ ทีด่ งั ไปทัว่ โลก เป็นแหล่งท่องเทีย่ วทีส่ ร้างรายได้ มหาศาลให้กับประเทศไทย จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อยากมาพักร้อน อาบแดดริมทะเล ใช้ชีวิต Night Life สนุกสนาน ข้ามวันข้ามคืน แต่คราวนี้เราอยากพาทุกคนไปเปลี่ยนบรรยากาศชิลๆ กันสักหน่อย
ออกตัวเลยว่ามาพัทยาหรือชลบุรกี ค่ี รัง้ ๆ จุดมุง่ หมายคือการไปเกาะใดเกาะหนึ่ง เล่นน�ำ้ ทะเล แต่การมาพัทยาคราวนี้ต่างออกไป มีโอกาสได้มาสถานทีห่ นึ่งทีช่ อ่ื ว่า ‘The Sky Gallery Pattaya’ ไม่ได้คาดหวังและหาข้อมูลมาก่อน เป็ นร้านอาหารกึง่ คาเฟ่ บนเนินเขา ทีส่ ามารถเห็นวิวทะเลสุดสายตา เหมือน Sea Therapy ร้านมีหลายโซนทัง้ Outdoor และ Indoor แน่นอนว่าด้านนอกถูกจับจอง แน่นด้วยผู ้คนทีอ่ ยากชิลดูพระอาทิตย์ตกและวิวพาโนรามาสุดอลังการ (ต้องรีบมาหน่อยถ้าอยากนัง่ บีนแบ็ค) ร้านนี้ให้บรรยากาศทีต่ ่างออกไป ด้วยดีไซน์ทไ่ี ม่ได้เอาใจนักท่องเทีย่ วต่างชาติเหมือน ร้านอืน่ ๆ แถวชายหาด มีทางเดินลงไปชายหาดส�ำหรับเดินเล่นก็ได้ อาหารทีน่ ่มี คี รบทัง้ ไทย ฝรัง่ ญีป่ ่ นุ ของหวานโฮมเมด รวมถึงเครือ่ งดืม่ ทีม่ คี รบทุกประเภท Hang out ได้ทงั้ คืน ส�ำหรับใครที่ เดินดุ่มๆ Walk-In เข้าไปอาจจะเต็มหรือไม่ได้ทน่ี งั ่ ดีๆ ยิง่ ช่วงวันหยุดศุกร์เสาร์ แนะน�ำเลยว่า โทรไปจองโต๊ะก่อนจะดีทส่ี ุดนะจ๊ะ Faceook : The Sky Gallery Pattaya Website : http://theskygallerypattaya.com เปิด : 08:00 - 24:00 น. โทร : 092-8218588
16
a side
สถานทีต่ อ่ มาทีอ่ ยากแนะน�ำชือ่ ว่า ‘A’ La Campagne Pattaya’ อ่านเป็ นภาษาไทยว่า อะลาคอมปาณย์ ทีน่ ่ีจำ� ลองหมู่บา้ นชนบทเล็กๆ กึ่งวินเทจในยุโรปไว้ได้อย่างน่าประทับใจ ทุกรายละเอียดของการก่อสร้าง บอกเลยว่าดีไซน์เนี้ยบทุกมุม สถาปัตยกรรมแบบชนบทยุโรปและต้นไม้ทป่ี ระดับตกแต่งท�ำให้ไม่น่าเชื่อว่า นี่เราอยู่ในพัทยาจริงๆ เหรอ ภายในหมู่บา้ นนี้ประกอบด้วยหลายโซน มีทงั้ ร้านอาหาร คาเฟ่ สวนผัก และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ให้เดินได้ทง้ั วัน เจ้าของยกอาหารที่คนไทยคุน้ เคยดีอย่างส้มต�ำเข้ามาผสมผสานกับ สถานทีแ่ ห่งนี้ อย่างร้าน ‘ส้มต�ำวิลล่า’ อยู่ในโบสถ์เก่าคลาสสิก ส�ำหรับใครทีอ่ ยากมานัง่ ชิลในคาเฟ่ เขาก็มี ‘Tea Factory And More’ โรงชาทีต่ กแต่งสไตล์วนิ เทจและมีชาให้เลือกดืม่ มากมาย นอกจากนี้ยงั มีเบเกอรี่ และอาหารสุดพิถพี ถิ นั จากเชฟมืออาชีพ ด้านหลังมีวลิ เลจฟาร์ม ทีเ่ นรมิตสวนผัก เลี้ยงไก่ไข่ ห่าน และคอกม้า พันธุ ์ Gypsy Vanner เชื้อผูด้ อี งั กฤษให้ทกุ คนได้ถา่ ยรูปเล่น นอกจากนี้ อะลาคอมปาณย์ ยังจัด Workshop ให้ผูท้ ่สี นใจเข้ามาท�ำกิจกรรมกับทางร้าน เช่น Tea Class ทีส่ อนให้เรารูถ้ งึ ประวัตขิ องชา ท�ำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานและผสมชาในแบบเฉพาะของตัวเอง (หากใครสนใจสอบถามเข้าไปล่วงหน้า ทางร้านมีโปรโมชัน่ ดีๆ พร้อมกับมื้ออาหาร คุม้ สุดๆ) Facebook : A’ La Campagne Pattaya Website : www.alacampagnepattaya.com เปิด : 10:00 - 21:00 น. (จันทร์ - พฤหัสบดี) / 10:00 - 22:00 น. (ศุกร์ - อาทิตย์) โทร : 091-7838772
ส�ำหรับชาวเชียงใหม่สามารถเดินทางมาพัทยาหรือชลบุรีได้ง่ายๆ เพราะสายการบิน AirAsia มีเทีย่ วบินตรงไปและกลับ เชียงใหม่ - อู่ตะเภา วันละ 1 เที่ยวบิน เมือ่ มาถึงแลว้ ก็สามารถเช่ารถขับไปชลบุรีหรือระยอง ได้งา่ ยๆ ไม่ตอ้ งเข้ากรุงเทพฯ สะดวกสบายสุดๆ สีสนั ตะวันออกยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ฉบับหน้ามาติดตามสถานทีท่ อ่ งเทีย่ ว อื่นๆ ในชลบุรีและระยองกันต่อ ยังมีอีกหลายสถานที่ที่รอให้ทุกคนเข้าไปและ บอกต่อ สร้างความทรงจ�ำดีๆ กับคนรอบข้าง ส�ำหรับวันพักผ่อนที่แสนพิเศษ
17
a side
Journey & Amazing Dishes คอลัมน์นี้เกิดจากความตื่นเต้นของเราที่ได้ไปเจออาหารแปลกๆ ใหม่ๆ แบบ... เฮ้ย!!! เพิ่งเคยเห็นง่ะ จากการท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือแม้แต่ในประเทศเอง อาหารนั้นๆ ส�ำหรับหลายๆ คนคงไม่รู้สึก wowww! แต่อีกหลายคนต้อง wowww! แน่ๆ เพราะอาหารนั้นๆ อาจจะประยุกต์ใหม่ได้อร่อยและสวยงามหรือเป็นอาหาร พืน้ บ้านธรรมดา แต่กท็ ำ� ให้เรา wowww! ได้ จนเราต้องไปค้นหาสูตรเพือ่ ทีจ่ ะปรุงรสชาติให้เหมือนหรือคล้ายทีส่ ดุ และบางทีกเ็ ป็นเเรงบันดาลใจให้เราดีไซน์เมนูใหม่ๆ ขึน้ มาซะเลย
2
3
MARINATED ANCHOVIES TAPAS
1
ปี 2015 เราเลือก ไป เที่ยวประเทศสเปน เหตุผล อัน ดับ แรกคื อ เราชอบกิ น ข้าวอบสเปน (Paella) มาก และก�ำลังค้นหาสูตรทีเ่ คยกิน แล ว้ อร่ อ ยอยู่ ก็ ต อ้ งไปที่ 4 ประเทศต้น ต� ำ หรั บ ของ ข้าวอบสเปนใช่ ไหมล่ะคะ และอีกเหตุผลหนึ่งเพราะอยากเห็นผลงานของ ‘กาวดี้’ (Antoni Gaudi) มาก... เราเลือกเมืองมรดกโลกเล็กๆ คือเมือง Cuenca (ออกเสียงเป็ น เกวนกา / เกวงกา / กูเองกา) เป็ นเมืองแรก เพราะอยูไ่ ม่ไกลจาก Madrid คือลงเครือ่ งที่ เเมดริดตอนเช้าก็ต่อรถไฟความเร็วสูงมาทีเ่ กวนกา ใช้เวลาแค่ 1 ชัวโมง... ่ สถานี รถไฟความเร็วสูง (Cuenca–Fernando Zóbel Railway Station) อยู่ห่างจาก ตัวเมืองเกวนกา 5 กิโลเมตร เป็ นสถานีรถไฟสร้างใหม่ได้ไม่นาน ดีไซน์เก๋ไก๋ สไตล์โมเดิรน์ เห็นแล ้วชอบ จากสถานีรถไฟเราก็นงั ่ รถบัสเข้าเมือง... เราเจอกับ ปัญหาแรกเมือ่ ถึงที่พกั เพราะเจ้าของพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จนต้องเรียก ลูกสาวตัวน้อยมาช่วยในการใช้ Google Translate กว่าจะพอเข้าใจกันก็เล่นเอา เสียเวลาไปบ้าง แต่กไ็ ด้มติ รภาพทีด่ มี าแทน
@ CUENCA, SPAIN
ปลาแอนโชวี่หมัก @ เมืองเกวนกา, สเปน เรื่อง/ภาพ : Missน�้ำปู๋
Wowww… เฮ้ย ไม่เค็ม เริดอ่ะ!!! ณ Cafe-Bar Marton, Cuenca, Spain
5
18
a side
เกวนกาเป็ น เมืองมรดกโลกเล็กๆ ที่เที่ยวหลักๆ ก็มีข อ้ มูลอยู่ แล ว้ (Plaza Mayor, Cuenca Cathedral, St. Paul Bridge, Hanging Houses ฯลฯ) แต่ละทีไ่ ม่ไกลเกินไป เราก็อาศัยการเดินเป็ นหลักทัง้ เดินขึ้นเขาลงเนิน ซึง่ เราแพลน ว่าจะไปเทีย่ วพรุง่ นี้... ดังนัน้ มือ้ แรกทีเ่ รามาถึงประเทศสเปน เราขอนังตั ่ ง้ หลัก กินเล่น ดื่ม เล่น ๆ ดู ผู ค้ น สู ด อากาศให้ห ายเหนื่ อ ยก่ อ น ร้า นทาปาสคื อ ตัว เลือ ก (ไม่พดู ภาษาอังกฤษอีกแล ้ว แต่สบายมาก) ชี้ๆ เอาอยากกินอะไร... 1. Espacio Torner Museum 2. สถานี Cuenca Fernando Zobel 3. ทาปาสมื้อแรกบนถนน San Francisco 4. ที่เห็นไกลๆ คือ Mangana Tower 5. St. Paul Bridge 6. Hanging Houses 7. Plaza Mayor 8. Cuenca Cathedral 9. Mangana Tower มองจากสะพาน San Anton 10. Cafe-Bar Marton มุมซ้าย 11. ทาปาสฟรีแบบบ้านๆ ที่มากับมิตรภาพ
6 7
Amazing Dish : MARINATED ANCHOVIES TAPAS
8
พออิม่ แล ้วก็เดินเล่นดูเมืองไปเรื่อยๆ ตอนจะเดินกลับไปที่พกั ผ่านร้านทาปาส แบบบ้านๆ อยู่ตรงหัวมุมถนน วิวดีมาก... นั ่ง ทั น ที ลุ ง เจ้า ของร้า นยิ้ มเล็ ก ๆ ให้เ รา (เรี ย กเขาลุ ง หน้า กับ ผมดู จ ะ รุ่นเดียวกัน!) ลุงก็ไม่พูดภาษาอังกฤษกว่า ร้านแรกเข้าไปอีก ง่ายสุดสังเบี ่ ยร์และไวน์ขาว ก่ อนเลย แลว้ เครื่องดื่มก็มาพร้อมกับทาปาส แบบบ้านๆ (ปูอดั , กระเทียมดอง, แตงดอง, มะกอกดอง, หนวดปลาหมึกดอง)... เราก็ทำ� หน้างง แต่ทา่ ทางมือไม้ของลุงบอกว่าฟรีๆ... ยิ้มแป้ นสิคะ ลูกค้าทีม่ าร้านนี้ดูแล ้วส่วนใหญ่เป็ นคนท้องถิน่ เป็ นเพือ่ น หรือเป็ นลูกค้าประจ�ำแน่ๆ เพราะทักกับลุงแกแบบสนิทสนม บางคน ที่พอพูดอังกฤษได้บา้ งก็เข้ามาคุยกับเรา สนุ กสนานเฮฮากันไป... ตาเหลือบไปเห็นจานทาปาสของพวกเขาในจาน เป็ นปลาตัวเล็กๆ เสิร ์ฟ กับ Potato Chips เราก็ ถ ามเขา รู เ้ พีย งว่ า เป็ น แอนโชวี่ ก็เลยสัง่ บ้าง พอหยิบเข้าปาก... Wowww… เฮ้ย ไม่เค็ม เริดอ่ะ!!! เพราะแอนโชวีท่ เ่ี ราเคยเห็นหรือรูม้ ามันมักจะเค็มมาก ไม่ได้กนิ เป็ นตัวๆ แบบนี้ พอมาหาข้อมูลทีหลังก็ได้ความว่าเป็ นแอนโชวี่ขาวหมักกับ วิเนการ์และอืน่ ๆ ไม่ใช่ปลาร้าฝรัง่ แบบทีเ่ คยรูจ้ กั เลย พออาหารเช้า อี ก วัน เราก็ ก ลับ ไปอุ ด หนุ น ร้า นลุ ง แกอี ก เพราะมิตรภาพและเพราะแกขายอาหารเช้าด้วย... (อ้าว ต้องสัง่ ไวน์ขาวกันมัย้ นี่... ฮ่าๆๆ)
9
10 11
19
a side
Report
THE MUSIC PITCH CONCERT ‘บ้านปันเสียง’ ปันน�้ำใจ ให้โอกาส เรื่อง / ภาพ : ณัฐรดา, นิรชา, วริษฐา เรียบเรียง : HIP Team
เสียงดนตรีที่เกิดขึ้นภายในบริเวณของ Thapae East คงเป็นเรื่องปกติส�ำหรับ หลายๆ คน เพราะสถานทีแ่ ห่งนีเ้ ป็นทีร่ จู้ กั ทัง้ ชาวไทยและชาวต่างชาติ ในฐานะแหล่งของการแสดง ดนตรีสดที่น่าสนใจแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่อยู่แล้ว
แต่เสียงดนตรีทบ่ี รรเลงใน Thapae East ในวันที่ 29 กรกฎาคม ซึง่ เป็ นวันทีง่ าน The Music Pitch Concert จัดขึ้นนัน้ ‘พิเศษ’ กว่าวันอืน่ ๆ ตรงทีเ่ สียงดนตรีในวันนัน้ ไม่ได้สร้างความบันเทิงแก่ผูม้ าร่วมงาน เพียงอย่างเดียว หากยังบอกเล่าเรื่องราวของพื้นที่แห่งการแบ่งปันที่มชี ่ือว่า ‘บ้านปันเสียง’ ซึ่งเกิดจากการ ร่วมแรงร่วมใจของหลายๆ ฝ่ าย เพื่อสร้างโอกาสให้แก่เด็กๆ ได้มาเรียนรู ้ สัมผัส และเติมเต็มความฝัน ของพวกเขาผ่านการเล่นดนตรี โดยทีไ่ ม่มเี รื่องของค่าใช้จ่ายมาเป็ นข้อจ�ำกัดให้ผูค้ นได้รบั รูอ้ กี ด้วย
20
a side
ก่อนจะเป็น ‘บ้านปันเสียง’ จุดเริ่มต้นของ ‘บ้านปันเสียง’ นัน้ เกิดจากความตัง้ ใจของ คนกลุ่ ม หนึ่ ง ที่อ ยากจะสร้า งพื้น ที่แ ห่ ง การเรี ย นรู ท้ างดนตรี ณ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เพือ่ ให้เด็กๆ ได้สมั ผัสกับความมหัศจรรย์ แห่งเสียงดนตรี โดยไม่มี ‘ค่ าเรียน’ มาเป็ นตัวก�ำหนดโอกาส ในการเรียนรูข้ องเด็กและเยาวชนทีข่ าดแคลนทุนทรัพย์ และเป็ นการ หยิบยืน่ ‘โอกาส’ ให้เด็กๆ ได้เติมเต็มความฝันของตนเอง ซึ่งในขัน้ ตอนของการท�ำงานจริงนัน้ พวกเขาวางแผนที่จะ อาศัยพื้นทีข่ อง Thapae East เป็ นสถานทีส่ ำ� หรับท�ำการสอนดนตรี และศิลปะต่างๆ ให้กบั เด็กๆ ทีส่ นใจในช่วงสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การที่โครงการนี้จะสามารถด�ำเนินไปได้ตามที่ตงั้ ใจนัน้ แค่เพียง มีความตัง้ ใจและมีสถานทีค่ งไม่พอ แต่จำ� เป็ นจะต้องมี ‘ อาสาสมัคร จิตอาสา’ ในด้านต่างๆ เข้ามาช่วยให้โครงการนี้สามารถด�ำเนินไปได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยเหตุน้ ี The Music Pitch Concert จึงเกิดขึ้น เพือ่ ประชาสัมพันธ์โครงการ ‘บ้านปันเสียง’ ให้เป็ นทีร่ ูจ้ กั ในวงกว้าง มากยิง่ ขึ้น ผ่านกิจกรรมต่างๆ ในงาน ไม่วา่ จะเป็ นการแสดงดนตรี, การเปิ ดรับบริจาคเครื่องดนตรีเพื่อน�ำไปใช้ในการเรียนการสอน, นิทรรศการศิลปะจาก Addict Art Studio ทีใ่ ห้ทงั้ เด็กและผูใ้ หญ่ ได้ร่ ว มท�ำ เวิร ์ก ช็ อ ปเพื่อ เสริม สร้า งจิน ตนาการ รวมไปถึง การ รับบริจาคเสื้อผ้า ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และรองเท้า เพือ่ มอบให้แก่โรงเรียนในมูลนิธิ Metta Charity อีกด้วย
ให้โอกาส = ให้ความหวัง
ครูแอ๋ม - ศิริพร พรมวงศ์
“ทุกวันนี้มเี ด็กๆ อีกมากมายที่ไม่มโี อกาสเข้าถึงการเรียนรู ้ ทางด้านดนตรี อย่างเช่นเด็กก�ำพร้า เด็กไร้สญั ชาติ หรือเด็กไร้บา้ น ผมได้เห็นการเรียนดนตรีท่โี รงฆ่าสัตว์ในชุมชนคลองเตย ท�ำให้ผม ย้อนกลับมาคิดว่า สุดท้ายแล ้วไม่ใช่เรื่องของสถานที่ แต่เป็ นความรูส้ กึ ของคนทีเ่ ขามีความเชื่อ มันเป็ นความหวัง ความปรารถนา ความฝัน ซึง่ ไม่เกี่ยวว่าจะเป็ นสถานทีไ่ หนด้วยซ�ำ ้ พวกเขามีความฝันทีจ่ ะเข้าถึง การเรียนรูช้ ดุ หนึ่ง นัน่ ก็คอื ดนตรี ซึง่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีค่าใช้จ่ายทีส่ ูง ท�ำให้เด็กเหล่านัน้ หมดโอกาส เมือ่ ไม่มโี อกาสเขาก็จะหมดความหวัง และหมดก�ำลังใจไป” ปอ - ภราดล พรอ�ำนวย หนึ่งในผูร้ เิ ริ่มโครงการ เริ่มต้นอธิบายถึงทีม่ าทีไ่ ปของโครงการนี้ จากประสบการณ์ท่ีเคยพบเจอ บวกกับแรงบันดาลใจที่ปอ ได้จาก ‘บ้านดินคีตาทาน’ ซึง่ ก่อตัง้ โดย ครูเบลล่า - นลี อินทรนันท์ ซึง่ เริ่มต้นจากการสอนเด็กทีเ่ คยก้าวพลาดในชีวติ มาก่อน แต่พวกเขา เป็ นเด็กทีม่ พี รสวรรค์ดา้ นดนตรี จากนัน้ จึงพัฒนามาสูก่ ารสร้างบ้านดิน เพื่อเป็ นสถานที่สอนดนตรีให้กบั เด็กๆ ในชุมชนได้เรียนฟรี และ ‘Music Sharing คลองเตยดีจ งั ’ เครื อ ข่ า ยสิท ธิ เ ด็ ก ที่ท �ำ งาน ด้านจิตอาสา ด้วยการสอนดนตรีให้แก่เด็กๆ ทีข่ าดโอกาส ท�ำให้เขา เกิดความคิดทีอ่ ยากจะ ‘สร้างโอกาส’ ให้กบั คนทีย่ งั ขาด เหมือนอย่างที่ เขาได้แรงบันดาลใจมาบ้าง “พวกเราเป็ นกลุม่ นักดนตรีทเ่ี ชียงใหม่ ถือว่าเป็ นกลุม่ ทีเ่ ข้มแข็ง เลยรูส้ กึ ว่าอยากจะรวมตัวกันมาเป็ นอาสาสมัคร แบ่งเวลาของเราเอง เพือ่ แบ่งชุดความรูด้ า้ นดนตรีทเ่ี รามีสง่ ต่อไปให้กับน้องๆ ทีย่ งั ขาดโอกาส ให้พวกเขาได้เห็นศักยภาพของตัวเอง เกิดความเชื่อมัน่ ในตัวเอง ซึง่ สุดท้ายแล ้ว มันก็จะท�ำให้เขามีพลังและความหวังทีจ่ ะท�ำสิง่ อืน่ ๆ ต่อไป”
ปอ - ภราดล พรอ�ำนวย
21
a side
‘โอกาส’ เปลี่ยนชีวิต นอกจากเสียงดนตรีทเ่ี กิดขึ้นภายในงานในวันนัน้ จะมาจากการ บรรเลงโดยเหล่า นัก ดนตรี ใ นเชีย งใหม่ ที่ส ละเวลามาช่ ว ยสร้า ง บรรยากาศภายในงานให้มที งั้ ความเพลิดเพลิน กับท�ำให้ผูท้ ม่ี าร่วมงาน รูส้ กึ อบอุน่ เป็ นกันเองแล ้ว ภายในงานยังมีช่วงเวลาทีเ่ ปิ ดโอกาสให้นอ้ งๆ เยาวชน ไม่วา่ จะเป็ นวงเยาวชนบ้านดินคีตาทาน หรือน้องๆ จากกลุม่ Music Sharing จากชุมชนคลองเตย ได้ข้นึ เวทีบรรเลงดนตรีให้ทุกคน ในงานได้ฟงั กันด้วย ณัฐ - ณัฐพล ถนอมจันทร์ และ ซี - กองชาน สมาชิกวงดนตรี Music Sharing คลองเตยดีจัง
ภาพการเล่นดนตรีของเหล่าน้องๆ เยาวชน ทีใ่ นบางเพลงก็ได้ พี่ ๆ นัก ดนตรี อ าชี พ มาร่ ว มเล่ น ไปด้ว ยนั้น ด้า นหนึ่ ง ก็ ถื อ เป็ น ประสบการณ์ทน่ี ่าจดจ�ำของน้องๆ เหล่านี้ ทีไ่ ด้มาร่วมแจมดนตรีกบั พีๆ่ นักดนตรี รวมไปถึงเพือ่ นจากต่างถิน่ และในขณะเดียวกัน ภาพทีเ่ กิดขึ้น ซึ่งน่ าจะสร้างความประทับใจให้กบั ผูท้ ่ไี ด้พบเห็นนัน้ ก็เป็ นตัวอย่าง ทีช่ ดั เจนของการได้รบั โอกาส และการเลือกทีจ่ ะหยิบยืน่ โอกาสทีต่ นเอง เคยได้รบั ไปสู่คนอืน่ ๆ ทีต่ อ้ งการโอกาสในแบบเดียวกัน “ถ้าท�ำให้เด็กๆ รูส้ กึ ว่าเขาเป็ นฝ่ ายได้ให้ผูอ้ ่นื ด้วย เขาจะรูส้ กึ ภูมใิ จมากกว่าทีจ่ ะเป็ นฝ่ ายได้รบั โอกาสเพียงอย่างเดียว” เป็ นค�ำกล่าว จาก ครูแอ๋ม - ศิรพิ ร พรมวงศ์ จาก Music Sharing อีกหนึ่งผูใ้ ห้ ทีเ่ ป็ นหนึ่งในแรงบันดาลใจทีท่ ำ� ให้ ‘บ้านปันเสียง’ เกิดขึ้น “นอกจากเรา จะสอนให้เขาเล่นดนตรีแล ้ว เรายังพยายามพาเด็กๆ ออกเดินทางด้วย เพราะในชุมชนอาจจะเป็ นแค่พ้นื ทีแ่ คบๆ แต่วา่ เมือ่ เขาได้ออกไปตาม ทีต่ ่างๆ อย่างทีม่ าเชียงใหม่กนั ในครัง้ นี้ มันจะท�ำให้เขามีแรงบันดาลใจ แลว้ เราก็ไม่ตอ้ งไปสอนอะไรเขาเลย เพราะการเดินทางจะท�ำให้เขา เติบโตได้เอง” ‘การเติบโต’ อย่างที่ครู แอ๋มกล่าวถึงนัน้ หากจะลองมองหา ตัวอย่าง เส้นทางชีวติ ของ ณัฐ - ณัฐพล ถนอมจันทร์ และ ซี - กองชาน สมาชิกวงดนตรี Music Sharing คลองเตยดีจงั น่ าจะเป็ นสิ่งที่ แสดงให้เห็นว่า โอกาสทีไ่ ด้รบั มาแค่สกั ครัง้ หนึ่งในชีวติ นัน้ อาจท�ำให้ ชีวติ ของใครหลายคนเปลีย่ นไป ได้พบเจอกับสิ่งใหม่ๆ และก้าวพ้น ไปจากชีวติ เดิมๆ ทีไ่ ม่คดิ มาก่อนว่าจะผ่านจุดนัน้ มาได้ “ถ้าเป็ นชีวติ แบบเมือ่ ก่อน ก็ไม่มโี อกาสได้มาเล่นดนตรีอย่างนี้ แต่เมือ่ ได้รบั โอกาสจากครูแอ๋ม ผมถึงได้มาเรียนดนตรี แล ้วก็มโี อกาส ได้มาเล่นดนตรีทเ่ี ชียงใหม่ครับ” เป็ นค�ำตอบของ ณัฐ ผูเ้ ปลีย่ นบทบาท จากคนที่ไ ด้เ รี ย นดนตรี ก บั โครงการ Music Sharing มาเป็ น ผูส้ อนดนตรีให้กบั เด็กตามทีต่ ่างๆ และท�ำงานกับ Music Sharing มาถึง 7 ปี แล ้ว ขณะที่ ซี ซึง่ เป็ นเด็กมอญไร้สญั ชาติจากเมียนมา พูดถึงชีวติ ของตัวเองว่าพ่อแม่ไม่มเี วลาดูแล และเมือ่ อายุได้ 17 – 18 ปี ก็ตอ้ ง ออกมาหางานท�ำ แต่ เพราะไม่อยากเป็ นแค่ กรรมกร ซีจึงไปเรียน ทีว่ ดั ปรก ยานนาวา โดยสิง่ ทีเ่ ขาชอบทีส่ ุดก็คอื การเรียนดนตรี จากนัน้ ครูแอ๋ม Music Sharing ก็ได้เข้ามาชวนให้เขามาท�ำงานด้วย “ถ้าผม อยู่ ท่ีวดั ผมว่าผมคงไม่ได้มาเชียงใหม่ ส่ วนโครงการนี้ ผมคิดว่า เป็ นโครงการทีด่ ี เพราะว่ายังมีเด็กทีไ่ ม่มโี อกาสเยอะมาก แต่เขาอาจจะ ไม่ได้มโี อกาสออกมาพูดแบบผม” และซียงั เสริมอีกว่า เขาอยากกลับไป ท�ำโครงการแบบนี้ทบ่ี า้ นเกิด ให้เด็กๆ ทีน่ นั ่ ได้รบั โอกาสแบบนี้บา้ ง
22
a side
ส่งต่อ ‘โอกาส’ เสียงดนตรีภายในงานบรรเลงไปเรื่อยๆ ตามล�ำดับการแสดง เช่ น เดี ย วกับ ผู ค้ นที่ ม ารวมตัว กัน ภายในงาน ที่ ต่ า งก็ ไ ด้พู ด คุ ย แลกเปลี่ย นความคิ ด เห็น ภายใต้เ ป้ าหมายที่อ ยากจะมีส่ ว นร่ ว ม และเห็น ‘บ้านปันเสียง’ สามารถช่วยสร้างโอกาสให้กบั เด็กๆ ทีย่ งั ขาด ได้สมตามความตัง้ ใจ แซนดี้ - ธนพร สว่างเมือง หนึ่งในอาสาสมัครบอกเล่าถึง ความรูส้ กึ ทีไ่ ด้มสี ว่ นร่วมในงานนี้วา่ “บรรยากาศภายในงานอบอุน่ มากๆ ได้พบปะผูค้ นมากมายทีม่ คี วามสนใจใกล ้เคียงกันค่ะ ส่วนตัวโครงการ ก็เป็ นโครงการที่ดีมาก เพราะเด็กหลายคนยังขาดพื้นที่และโอกาส ในการฝึ กฝนดนตรี ดนตรีไม่เพียงแต่สร้างความจรรโลงใจ แต่ยงั เป็ นการเสริมสร้างพัฒนาการทีส่ ำ� คัญ เป็ นหนึ่งในการเรียนรูท้ ไ่ี ม่ควร ถูกแบ่งแยกเพราะทุนทรัพย์ การได้มาเป็ นอาสาสมัครและได้ช่วยเหลือ ถึงแม้จะเป็ นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่กท็ ำ� ให้เราได้ออกมาท�ำอะไร เป็ นรูปเป็ นร่าง ว่าปัญหาพวกนี้ เราทุกคนสามารถช่วยกันจัดการได้ ไม่ยาก และไม่ไกลเกินตัวทีจ่ ะใส่ใจ” ส่วน โฟล์ค - ณัฐพนธ์ ปานอุดมลักษณ์ หนึ่งในผูท้ ไ่ี ด้มาสัมผัส บรรยากาศของงานบอกว่า “ได้เห็นน้องๆ แสดงดนตรีในวันนี้แลว้ รูส้ กึ ชื่นใจมาก เพราะเทียบกับอายุแล ้ว ฝี มอื ของน้องๆ ไม่ธรรมดาเลย ส�ำหรับคนทีช่ อบดนตรีอย่างเรา การให้โอกาสในการเข้าถึงเสียงดนตรี เป็ นการให้โอกาสในการเข้าถึงคุณค่าหนึ่งทีม่ คี วามหมายต่อชีวติ ซึง่ จะ เป็ นแรงผลักดันให้ใครหลายๆ คนพร้อมที่จะเติบโตเป็ นส่วนหนึ่ง ของสังคมต่อไป” ด้าน ณัฐ ซึ่งเป็ นทัง้ ตัวอย่างที่เป็ นรูปธรรมของการให้โอกาส ทางดนตรีแก่เด็กๆ และในงานครัง้ นี้กเ็ ป็ นหนึ่งในนักดนตรีทข่ี บั กล่อม ผูม้ าร่วมงานด้วย บอกว่า “การเริ่มต้นท�ำโครงการนี้เป็ นสิง่ ทีด่ มี ากครับ ส่วนการทีไ่ ด้มาเล่นดนตรีในงานวันนี้กร็ ูส้ กึ อบอุ่นดีครับ เพราะว่ามีคน มาดูเยอะ ทัง้ เพือ่ น ทัง้ พี่ ทัง้ น้อง บางคนเรารูจ้ กั อยูแ่ ล ้ว บางคนก็ไม่รูจ้ กั กันมาก่อน แต่ทกุ ๆ เสียงปรบมือจากทุกๆ คน ก็ทำ� ให้เรามีกำ� ลังใจ ในการเล่นต่อไป” ขณะที่ค รู เ บลล่า ซึ่ง เป็ น หนึ่ ง ในแรงบัน ดาลใจที่ท ำ� ให้เ กิด ‘บ้านปันเสียง’ ขึ้น กล่าวว่า “ครู อยากให้ดนตรีไปไกลมากกว่าแค่ ในร้านเหล ้า อยากให้ลงไปถึงเด็กๆ ลงไปถึงคนทีต่ อ้ งการความเจริญ ทางด้านนามธรรม ซึง่ ปอและเพือ่ นๆ ทีค่ ดิ ท�ำโครงการนี้ เขาสามารถ ทีจ่ ะท�ำให้มนั ส�ำเร็จได้ ครูคดิ ว่าเมือ่ บ้านปันเสียงเกิดขึ้นแล ้ว ทีน่ ่จี ะเป็ น บ้านทีม่ ปี ระโยชน์มากๆ กับสังคมเมืองเชียงใหม่” ภาพต่างๆ ทีเ่ กิดขึ้นภายในงาน ไม่วา่ จะเป็ นการสลับสับเปลีย่ น กันมาเล่นดนตรีของเหล่านักดนตรีจติ อาสา การปรากฏตัวของน้องๆ เยาวชนทีม่ าเล่นดนตรีให้คนในงานได้เห็นถึงความสามารถ การรวมตัว ของอาสาสมัครจากหลากหลายความสนใจ แต่มเี ป้ าหมายเดียวกัน คือมีสว่ นร่วมให้งานส�ำเร็จลุลว่ งไปด้วยดี และผู ้คนทีม่ าร่วมงานซึง่ สนใจ และอยากมีส่วนร่วมกับ ‘บ้านปันเสียง’ คือสิง่ ทีท่ ำ� ให้หลายๆ คนเชื่อว่า แม้งานนครัง้ นี้จะจบลง แต่ความคิดทีจ่ ะสานฝันให้กบั เด็กๆ ให้เป็ นจริง ผ่านการแบ่งปันความรู ท้ างด้านดนตรีนนั้ ไม่เพียงแต่ จะเป็ นไปได้ แต่สามารถเกิดขึ้นในสังคมได้เสมอ เมือ่ ใครก็ตามรับรูว้ า่ มีคนอีกมากทีย่ งั ขาดโอกาส และอยากส่ง ต่อน�ำ้ ใจของตนเอง ให้กลายเป็ นโอกาสทีด่ สี ำ� หรับผูอ้ น่ื ** ใครที่ ส นใจอยากเป็ น เป็ น ครู ด นตรี อ าสา, เป็ น อาสาสมั ค รในด้ า นต่ า งๆ, มีเครือ่ งดนตรีไม่วา่ จะเก่าหรือใหม่อยากบริจาค หรืออยากมีสว่ นร่วมในการให้โอกาส แก่น้องๆ ที่ยังขาดโอกาสในสังคม สามารถติดตามข้อมูลต่างๆ และติดต่อทีมงาน ‘บ้านปันเสียง’ ได้ที่ Facebook : The Music Pitch บ้านปันเสียง **
ครูเบลล่า - นลี อินทรนันท์
23
a side