My Facebook Story 8

Page 1








คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

1 มกราคม 2019

A Romantic New Year’s Day Story ข�ำขันวันปีใหม่กันครับ คู่แต่งงานออกมาช็อปปิ้งกันทั้งวัน อยู่ๆ ภรรยาก็ พบว่าสามีได้หายตัวไป เธอเคืองมากจึงโทรมือถือไปหาสามีถามว่า “คุณอยู่ที่ไหน” สามี “ที่รัก คุณจ�ำร้านเพชรที่คุณเคยเข้าไปดูสร้อยเพรชเส้นหนึ่งที่คุณบอกว่าสวย มากๆ ชอบมากๆ เลยได้รึเปล่า แต่ตอนนั้นผมไม่มีเงินเพียงพอ ผมบอกคุณว่า ที่รัก สร้อยเส้นนี้จะเป็นของคุณวันหนึ่ง” ภรรยาตื่นเต้นมากอย่างบอกไม่ถูก ตอบด้วยน�้ำ เสียงอ่อนโยนว่า “ค่ะ ฉันจ�ำได้ดีเลย ที่รักของฉัน” สามีตอบว่า “ดีแล้ว ผมนั่งอยู่ใน ผับที่อยู่ข้างๆ ร้านเพชรนั่นแหละ รอคุณช็อปปิ้งอยู่นะ” (Kindly sent in by Shay Foley) ไม่ทราบผลลัพท์ในภายหลังนะครับ เริ่มต้นปีกันด้วยอารมณ์แจ่มใส และ ให้เป็นเช่นนี้ตลอดทั้งปีนะครับ Happy NewYear 2019

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

1


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

3 มกราคม 2019

Many today try to explain away their sin by denial. Muhammad Ali เป็นนักมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลก และเป็นที่ รู้จักกันดีว่าเขาเป็นคนที่ยกย่องตนเอง มองดูตนเองสูงส่งมาก เขาพูดเสมอว่า “ฉัน ยิ่งใหญ่ที่สุด” วันหนึ่งเขาก�ำลังบินไปยังเมืองใหญ่เมืองหนึ่ง เที่ยวบินนั้นพบกับ บริเวณอากาศแปรปรวน กัปตันจึงสั่งให้ผู้โดยสารทุกคนกลับไปยังที่นั่งของตนและ รัดเข็มขัด แอร์โฮสเตสคนหนึ่งสังเกตุเห็นว่า อาลีไม่ได้รัดเข็มขัด ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่า อาลีคอื ใครเพราะไม่ได้ตดิ ตามเรือ่ งกีฬามวยเลย เธอจึงรีบเข้าไปหาเขาพูดว่า “คุณค่ะ กัปตันสั่งให้ทุกคนรัดเข็มขัดแล้ว” อาลีไม่ตอบอะไร เขามองตรงไปไม่สนใจเธอเลย เธอจึงพูดกับเขาอีกครั้งหนึ่งขอให้รัดเข็มขัด เขาก็ยังคงไม่สนใจเธอเลย ที่สุดเธอจึง เอื้อมมือไปเพื่อรัดเข็มขัดให้เขาด้วยตนเอง อาลีรีบจับมือเธอไว้แน่นแล้วจ้องตาเธอ พูดว่า “ซูเปอร์แมนไม่จ�ำเป็นต้องใช้เข็มขัด” แอร์โฮสเตสสาวจึงตอบสวนไปทันที ว่า “ซูเปอร์แมนไม่ต้องการใช้เครื่องบินหรอก เอาละ รัดเข็มขัดของคุณซะ เดี๋ยวนี้” คนเราทุกวันนี้พยายามปฏิเสธและบอกว่าตนเองไม่ผิด ไม่บาป หาเหตุผลเพื่อ อธิบายว่าสิ่งที่ตนเองท�ำนั้นไม่ผิดอะไร ไม่บาปอะไร กลับบอกว่า “ฉันมีชีวิต ศีลธรรม ที่ดี” คนเหล่านี้ประเมินตนเองสูงมากเกินไป มองดูตัวเองเลิศลอย แม้สิ่งที่ตนท�ำผิด ก็มองไม่เห็น แยกไม่ออกว่าอะไรผิดไม่ผิด อย่ายกตนเองสูงนะครับ เพราะจะถูกกด ให้ต�่ำลงเสมอ

ถูกใจ

2

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

5 มกราคม เวลา 08:17 น.

Bad Storms of Life - Great Reasons to Pray Rick Crandall เล่าว่า “เที่ยวบินที่น่าขนลุกที่สุดที่ผมเคยเจอมาเกิด ขึ้นในปี 1982 ตอนนั้นผมท�ำงานกับกองทัพอากาศและก�ำลังบินไปเกาหลีเพื่อ ท�ำสัญญากับเกาหลีแอร์ไลน์ พอเรามาถึงมหาสมุทรแปซิฟิค เราพบกับอากาศที่ เลวร้ายมาก ผมหมายถึงมันเลวร้ายจริงๆ ผมมองออกไปจากหน้าต่าง ไม่ได้พูดเล่น นะครับ ปีกเครื่องโบอิ้ง 747 กระพือเหมือนกับปีกนกเลย เครื่องบินกระเทือนจน กระทั่งแอร์โฮสเตสคนหนึ่งไม่สามารถกลับไปถึงที่นั่งของเธอได้ เธอจึงนั่งอยู่ที่พื้น ทางเดินข้างหน้าผมเลย ผมบอกได้เลยว่าเธอก�ำลังตกใจกลัวมากๆ กฎข้อหนึ่งบน เครื่องบินก็คือ ถ้าหากแอร์โฮสเตสสบายใจ คุณก็จะโอเค แต่เมื่อไหร่ที่แอร์โฮสเตส ตกใจกลัว คุณมีปัญหาแน่ๆ ก่อนเจอพายุ คุณจะได้ยินผู้คนคุยกันทั้งล�ำ แต่พออยู่ ท่ามกลางพายุ เครื่องบินจะเงียบมากๆ ขนาดเข็มตกพื้นคุณก็จะได้ยินเสียงเลย ไม่มี ใครคุยกันอีก แต่ผมรับประกันได้เลยว่าพวกเราส่วนใหญ่ก�ำลังสวดภาวนาอยู่ คุณ ไม่จ�ำเป็นต้องขอร้องให้พวกเขาบนเครื่องบินต้องสวด พวกเรามีเหตุผลหนักแน่น พอให้สวดอยู่แล้ว” เวลาขึ้นเครื่องบิน อย่าท�ำอะไรที่ท�ำให้แอร์โฮสเตสอารมณ์เสีย นะครับแล้วทุกอย่างจะราบรื่น สวดภาวนาได้ตั้งแต่ขึ้นเครื่อง ไม่ต้องรอให้มีเหตุผล ใหญ่ๆ แล้วค่อยสวดก็ได้ ไม่ใช่เพียงให้พระช่วยเรา แต่ให้เราช่วยผู้ประสพภัยจาก พายุร้ายด้วย Happy Saturday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

3


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

5 มกราคม เวลา 08:35 น.

ข�ำขันนะครับ เครื่องบินโดยสารล�ำหนึ่งก�ำลังแท๊กซี่เพื่อเตรียมน�ำเครื่องขึ้น ทันใดนัน้ เครือ่ งบินก็หยุดชงักและกัปตันน�ำเครือ่ งกลับมายังทีจ่ อดเครือ่ งบิน หลังจาก รอคอยนานประมาณชั่วโมงกว่าๆ ที่สุดก็น�ำเครื่องขึ้นบินได้ ผู้โดยสารคนหนึ่งจึง ถามแอร์โฮสเตสคนหนึ่งว่า “ก่อนบินมีปัญหาอะไรหรือ?” แอร์โฮสเตสตอบว่า “นักบินได้ยินเสียงผิดปกติบางอย่างที่เครื่องยนต์ตอนแท๊กซี่แล้วรู้สึกกังวลค่ะ เรา ต้องใช้เวลานานพอควรทีเดียวกว่จะหานักบินคนใหม่มาบินไห้เราได้” อ้าวนึกว่าใช้ เวลาตรวจเครื่องยนต์ นี่มาเปลี่ยนนักบินแทน คราวนี้ได้กังวลกันทั้งล�ำแน่ๆ ปัญหา ไม่ได้อยู่ที่นักบินนะครับ ฮาดี มีความสุขกันนะครับ

ฮ่าๆ

4

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

7 มกราคม เวลา 08:00 น.

Poor Foundation หอเอนเมือง ปิซ่า ในอิตาลีถือเป็นอาคารที่มีรากฐานที่แย่ที่สุดในโลกหอนี้ เริ่มเอนหลังจากการก่อสร้างไปถึงชั้นที่ 3 ในปี 1178 เลยทีเดียว นักวิทยาศาสตร์ เดินทางมาส�ำรวจและวัดการเอนลงนี้ทุกปี พวกเขารายงานว่า “หอที่สูง 179 ฟุต นี้เอนลง 1 ใน 20 ของนิ้วทุกปี หอนี้มีแนวโน้มว่าจะเอนจนล้มลงและอาจมีผลร้าย ต่ออาคารใกล้เคียงอย่างมาก แม้แต่ค�ำว่า Pisa ยังมีความหมายว่า “แผ่นดินเดินได้” เป็นลางบอกเหตุว่าท�ำไมหอนี้จึงเริ่มเอนตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ และที่ส�ำคัญก็คือฐาน ของอาคารนี้มีความลึกเพียง 10 ฟุตเท่านั้นเอง ในเดือนพฤษภาคม 2008 หลังจาก เอาดินออกไป 70 เมตริกตัน บรรดาวิศวกรประกาศว่า “หอนี้มีเสถียรภาพแล้วและ หยุดการเอนลงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แล้ว และเสถียรภาพนี้จะคงอยู่ต่อไป นานถึง 200 ปีทีเดียว” เรื่องทั้งหมดนี้เกิดจาก “รากฐานที่ไม่มั่นคง” (All because of a poor foundation!) (Source: Leaning Tower of Pisa, http://www. bible.org/illus.php?topic_id=579) รากฐานของประเทศคือประชาชน รากฐาน ขององค์กรคือพนักงาน รากฐานของคนคือศีลธรรมและศาสนา อย่าตีความหลัก ศีลธรรมเข้าข้างการกระท�ำของตนเองนะครับ แต่ใช้ชีวิตตามหลักศีลธรรมดีที่สุด ไม่เช่นนั้นชีวิตเราก็จะโอนลงๆ Happy Monday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

5


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

7 มกราคม เวลา 08:16 น.

RICH OR POOR? มีข้อความดีๆ น่าคิดมาฝากครับ “คนที่น่าสงสารที่สุดก็คือสิ่งเดียวที่คนนั้นมีก็คือ “เงิน” (There are people so poor that the only thing they have is money.)-Unknown... “คนรวยหรือคนจน ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขาเป็น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขามี” (He is rich or poor according to what he is, not according to what he has.) -- Henry Ward Beecher (1813–1887) เงินส�ำคัญก็จริง แต่ไม่ใช่สิ่งที่ส�ำคัญที่สุดของมนุษย์นะครับ เงินท�ำลายผู้คนมา มากมายแล้ว เงินท�ำลายได้แม้แต่ศีลธรรมในตัวคน ระวังกันด้วยนะครับ

ถูกใจ

6

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

7 มกราคม เวลา 08:42 น.

ข�ำขันสักนิดนะครับ สุนัขตัวหนึ่งพันธุ์เกรฮาวด์ก�ำลังนอนที่สนามหญ้า ชายชราคนหนึ่งก�ำลัง นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ระเบียงหน้าบ้าน นักท่องเที่ยวคนหนึ่งจอดรถที่ถนนหน้าบ้าน ร้องถามชายชราว่า “ขอโทษครับ สุนัขคุณจะกัดมั้ยครับ?” ชายชราตอบว่า “ไม่ กัดครับ” นักท่องเที่ยวจึงออกมาจากรถ สุนัขเห็นเข้าจึงเข้าโจมตีทันที มันกระโจน เข้ากัดเขาที่ขาและที่แขนและก�ำลังลากเขาคลุกฝุ่นไปตามทาง เขาจึงตะโกนถามว่า “ไหนคุณบอกว่าสุนัขคุณจะไม่กัด?” ชายชราตอบว่า “มันไม่ใช่สุนัขของผม” ไม่รู้ ว่าจะโทษใครดีครับ ฮา

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

7


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

8 มกราคม เวลา 08:16 น.

Charlemagne’s Final Message ในปี ค.ศ. 1000 เป็นปีที่ 186 หลังจากความตายของจักรพรรดิ ชารลส์ เลอ มาญ จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของโลก เจ้าหน้าที่ของจักรพรรดิ Otto ได้ท�ำการเปิดที่ฝังพระศพของพระองค์ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาหลังจากเปิดที่ฝัง พระศพท�ำให้พวกเขาตกตะลึง ในท่ามกลางทรัพย์สมบัติที่ถูกฝัง เช่น เพชร พลอย ทองค�ำและของมีค่ามากมายนั้น มีโครงกระดูกของจักรพรรดิ ชารลส์ เลอ มาญ ใน ท่านั่งอยู่บนบัลลังค์ สวมมงกุฏบนพระเศียร ที่ตักของพระองค์ มีหนังสือพระคัมภีร์ นิ้วของพระองค์ที่เป็นกระดูกแล้วชี้ไปที่ข้อความในพระวรสาร นักบุญมารโก บทที่ 8 ข้อที่ 36 ซึ่งเขียนไว้ว่า “จะเป็นประโยชน์อะไร ที่ได้โลกทั้งโลกมาเป็นกรรมสิทธิ์ และต้องเสียวิญญาณไป” (Mark 8:36: “For what does it profit a man to gain the whole world and forfeit his soul?” From a sermon by Freddy Fritz, What Is a Christian? 3/4/2010) เป็นค�ำเตือนใจอย่างดีส�ำหรับผู้ที่ใฝ่หาแต่ ทรัพย์สินเงินทอง ความร�่ำรวย ละโมภจนใช้หนทางผิดๆ เพื่อมัน ใครมีเงินก็ช่วยคน ยากคนจนกันบ้างนะครับ คนไทยใจบุญไม่แพ้ชาติใดในโลก Hip Hip Hooley

ถูกใจ

8

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

8 มกราคม เวลา 08:57 น.

ตลกฝรั่งครับ เซนต์ปีเตอร์พบแกงค์นักเลงขี้ขโมยจากนิว ยอร์ก ที่ประตูเข้าสวรรค์ ท่าน จึงรีบวิ่งไปหาพระเจ้าพูดว่า “พระเจ้าข้า มีพวกชั่วบางคน พวกขี้ขโมยจากนิวยอร์ก มาที่ประตูทางเข้าสวรรค์แล้ว ผมจะต้องท�ำอย่างไรดี?” พระเจ้าตอบว่า “ก็ท�ำอย่าง ที่เคยท�ำนั่นแหละ บอกให้พวกเขาไปลงนรกซะ” ท่านจึงรีบกลับไปที่ประตูสวรรค์ เพื่อสั่งการแต่ทันใดนั้นท่านก็ต้องรีบวิ่งกลับไปหาพระเจ้าอีก ร้องว่า “พระเจ้าๆ พวกมันหายไปกันหมดแล้ว หายไปหมดแล้ว” พระเจ้าตรัสว่า “ใคร พวกขี้ขโมย นิวยอร์กรึ?” เซนต์ปีเตอร์ตอบว่า “ไม่ ไม่ใช่ครับ ประตูสวรรค์ของเราหายไปหมด แล้ว พวกมันขโมยไปหมดเลย” ดูสิ ขนาดประตูสวรรค์ พวกมันยังกล้าขโมย ควรลง นรกแล้วละ ฮา

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

9


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

10 มกราคม เวลา 08:18 น.

Ten Word Sermon Kevin Barron นักเทศน์ เล่าถึงปู่เขาเองซึ่งเป็นนักเทศน์เหมือนกันว่า “บทเทศน์ที่สั้นที่สุดที่ผมรู้จักคือบทเทศน์ 10 ค�ำ เทศน์โดยปู่ผมเองให้กับวัดเล็กๆ ในชนบทแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับชายซามาริตันผู้ใจดี (มก. 10:35-45) เป็นเรื่องของ คนนอกศาสนาที่แสดงความรักต่อเพื่อนมนุษย์ที่ถูกท�ำร้ายบาดเจ็บอยู่ข้างถนน เขา หยุด ช่วยท�ำแผลและพาไปที่โรงแรม จ่ายเงินให้และดูแลอย่างดี ในขณะที่เวลาพระ สงฆ์เดินผ่านเขาไป ไม่ช่วยอะไรเลย พออ่านข้อความในพระวรสารแล้ว ปู่ผมขึ้นมา ที่ธรรมาสน์แล้วเทศน์ว่า “เราต่างรู้ว่าหมายถึงอะไร จงท�ำตามนั้น” (We all know what this means. Just do it.) แล้วท่านก็ลงจากธรรมาสน์ จบบทเทศน์ ผมได้ยิน เรื่องบทเทศน์นี้จากคนมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ต่างบอกว่าเป็นบทเทศน์ที่ เข้าถึงหัวใจของพวกเขา สั้นและตรงมาก ความเรียบง่ายของค�ำว่า “จงท�ำตามนั้น” เตือนใจพวกเราว่า ค�ำพูดทุกค�ำที่เราอธิบาย บรรยายถึงพระนั้นควรมุ่งตรงไปที่แก่น ของพระวรสาร เราต่างรู้ว่ามีความหมายอะไร จงรักพระและรับใช้มนุษย์ มันช่าง ชัดเจน มันช่างเรียบง่ายและตรงมาก” - Amy Reumann, “A Lectionary Study on Mark 10:35-45 ”, Bread for the World Sunday 2018 ตามนี้ครับ Happy Thursday

ถูกใจ

10

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

13 มกราคม เวลา 07:57 น.

ใกล้ ๆ กับโคลีเซียม สนามกีฬาของชาวโรมันในกรุงโรมเก่า มีวัดอยู่แห่ง หนึ่งชื่อว่าวัด S.Giuseppe dei Falegnami ใต้วัดแห่งนี้เคยเป็นคุกของชาวโรมัน ใช้ ขังนักโทษที่มีโทษอุกฉกรรจ์ อับชื้นและสกปรกมาก ไม่มีแสงสว่าง ตามที่เราทราบ นะครับว่านักบุญเปโตรและเปาโลต่างก็ถูกจับที่กรุงโรม และก็ช่างบังเอิญเหลือเกิน ก่อนที่ท่านทั้งสองจะถูกประหารชีวิต ได้ถูกน�ำตัวมาขังที่นี่และขังในห้องเดียวกัน มีโซ่เส้นเดียวกันล่ามทั้งสองท่านเอาไว้ เคยน�ำคณะจาริกแสวงบุญมาที่นี่ในโอกาส ปีนักบุญเปาโล ไปยืนอยู่ในห้องที่ท่านถูกขัง ในนั้นมีเสาหินที่มีโซ่เส้นเดียวที่ใช้ล่าม ท่านทั้งสองเอาไว้ ใกล้ ๆ กันมีตาน�้ำแห่งหนึ่ง และมีหินอ่อนสลักข้อความไว้เล่าให้ ฟังว่า “ที่นี่เป็นที่ท่านนักบุญเปโตรและเปาโลถูกขังไว้ด้วยกัน ท่านได้ท�ำให้ ผู้คุมขัง สองคนชื่อ Processo และ Martiniano ได้กลับใจ พร้อม ๆ กับคนอื่น ๆ อีก 47 คนได้กลับใจ” ท่านได้ใช้น�้ำจากตาน�้ำที่เกิดขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ภายในห้องของท่าน นั้นล้างบาปคนเหล่านั้น สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ตรัสถึงเรื่องท่านทั้งสอง ในคุกว่า ท่านทั้งสองได้มีโอกาสสวมกอดกันและกันด้วยความรักในพระคริสตเจ้า คงได้มีโอกาสเตือนใจกันและกัน เป็นก�ำลังใจให้แก่กันก่อนที่ท่านทั้งสองจะถูกน�ำ ตัวไปประหารชีวิต เป็นภาพที่ลองจินตนาการดูแล้ว รู้สึกสะเทือนใจและก็ประทับ ใจเหลือเกิน น่ารักทั้งสององค์ เข้มแข็งทั้งสององค์เลย มีความเชื่อที่เข้มแข็งที่สุด เปโตรถูกน�ำตัวไปขังต่อที่เนินเขาวาติกัน ที่นั่นเป็นสนามกีฬาของชาวโรมัน และถูก ประหารชีวิตด้วยการตรึงกางเขน และด้วยความสุภาพ ท่านขอให้ทหารน�ำศีรษะ ของท่านลงดิน แม้แต่ความตายที่จะคล้ายพระอาจารย์ท่านก็ยังคิดว่า ไม่สมควร เป็นแบบอย่างแก่พวกเราดีจริง ๆ ครับเพราะส�ำหรับเรา แม้แต่กางเขนไม่หนักมาก นัก เราก็ยังอยากจะมีสิทธิ์ขอเลือกกางเขนเอง ส่วนท่านนักบุญเปาโล ถูกน�ำตัวไปที่ เนินเขาอีกแห่งหนึ่งซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า “เนินเขาแห่งน�้ำพุ 3 แห่ง” เขาเรียกกัน เตร ฟอนตาเน (Tre Fontane) และถูกตัดศีรษะที่นี่เอง ศีรษะของท่านตกลงมาตาม ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

11


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

13 มกราคม เวลา 07:57 น.

เนินเขานี้และเกิดน�้ำพุขึ้น 3 แห่งจึงเป็นที่มาของชื่อนี้ ถ้าเราไปที่นี่เราจะพบแท่น 3 แท่น และเสาหินที่ใช้พาดศีรษะท่านก่อนที่จะถูกเพชฌฆาตตัดศีรษะ หดหู่ครับ แต่ก็ได้เห็นความเชื่อที่ยิ่งใหญ่กับตาตนเอง ปัจจุบันศพของท่านนักบุญเปโตรถูก ฝังอยู่ที่เนินวาติกัน และเหนือเนินนี้ได้กลายมาเป็น มหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งถูก เรียกและได้รับการยอมรับว่า เป็นมหาวิหารที่ส�ำคัญและสง่างามที่สุดในโลก ส่วน ศพของท่านนักบุญเปาโลถูกน�ำมาฝังที่ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็น มหาวิหารนักบุญ เปาโล ที่มีมนต์ขลังและเสน่ห์แห่งความเชื่อของท่าน วันเวลาผ่านไปเกือบสองพันปี ความยิ่งใหญ่ของท่านทั้งสองนี้ยังปรากฏให้เห็นอยู่อย่างชัดเจนครับ แบบอย่างของ ความเชื่อ อาบราฮัม บิดาแห่งความเชื่อก็ต้องผ่านการทดสอบเช่นกันครับ วันนี้เรา ฉลอง The Baptism of the Lord ระลึกถึงศีลล้างบาปที่เราได้รับกันนะครับ

ถูกใจ

12

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

14 มกราคม เวลา 08:41 น.

AMEN, PHARAOH ข�ำขันหย่อนใจกันนะครับ เจ้าอาวาสคนหนึ่งได้รับเชิญไปเทศน์ที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านเริ่มต้นเทศน์ได้ เร้าใจมาก ผู้คนต่างตอบรับการเทศน์ด้วยเสียงปรบมือและเสียงร้องเป็นระยะๆ ยิ่ง ตอบรับเท่าไร ท่านก็ยิ่งเทศน์ไปเรื่อยๆ ในที่สุดท่านก็สังเกตเห็นว่า พ่อเจ้าวัดที่นั่น ก็เริ่มตอบรับท่านด้วยการร้องว่า “อาแมน ฟาโรห์” หลังจากติดลมอยู่ยาวนานใน การเทศน์แล้วพร้อมๆ กับการตอบรับซ�้ำๆ ข้อความ “อาแมน ฟาโรห์”ของพ่อองค์ นั้น ท่านก็จบบทเทศน์ เมื่อพบกันที่ส�ำนักงานของวัด ท่านจึงถามพ่อเจ้าวัดองค์นั้น ว่า “ท�ำไมคุณพ่อจึงพูดค�ำว่า “อาแมน ฟาโรห์”ให้กับบทเทศน์ของผม?” พ่อเจ้าวัด ตอบว่า “ผมพยายามจะบอกพ่อว่า ปล่อยประชาชนของผมไปเถิด” (I was trying to tell you to ‘Let my people go!) นึกถึงโมเสสไปร้องขอฟาโรห์ให้ปล่อยชาว อิสราเอลออกจากอียิปต์เลยครับ

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

13


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

15 มกราคม เวลา 08:48 น. ·

Christopher Columbus ประสพความส�ำเร็จในการค้นพบแผ่นดินใหม่ๆ และยึดครองมาเป็นของสเปน แต่ในงานเขียนของ Manuel และ Marshall กล่าว ว่าความส�ำเร็จก็ได้พรากนิสัยดีๆ ของเขาไปด้วย แรงจูงใจที่ชั่วร้าย 3 ประการท�ำให้ เขาเห็นแก่ตนเองและบุกรุกเข้ามาในชีวิตของเขา หนทางของพระเจ้าซึ่งเขาเคารพ นับถือมาชั่วชีวิตถูกขับไล่ออกไปจากใจเขา แรงจูงใจที่ชั่วร้าย 3 ข้อนั้นก็คือ 1. ความโลภ (greed) เขาแสวงหา Gold ไม่ใช่ God อีกต่อไป เขาไม่หยุดที่จะ แสวงหามันในแผ่นดินใหม่ ใจเขามีแต่เงินทอง 2. อ�ำนาจ (power) ครอบง�ำจิตใจเขามากขึ้นๆ เขาต้องการควบคุมทุกอย่างและ ยอมฆ่าคนหลายพันคนก็เพื่ออ�ำนาจนี้ 3. ความจองหอง (pride) เขาต้องการได้รับต�ำแหน่ง (titles) เกียรติยศและการ ยกย่องสดุดี (praise) เขาจองหองและวางโตถึงกับกล่าวหากับกษัตริย์โปรตุเกสว่า กษัตริย์โปรตุเกสส่งทหารมาฆ่าเขา คนเราเปลี่ยนไปเพราะ 3 สิ่งนี้อย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นใคร อาชีพอะไร วงการอะไร ร�่ำรวยมีจนขนาดไหน คนเราไม่เคยเพียงพอและพอเพียง เมือ่ ต้องเผชิญกับมารร้าย 3 มารนี้ ถ้าไม่ระวังเตือนตน คนไหนๆก็หลงได้ครับ Happy Tuesday

ถูกใจ

14

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

16 มกราคม เวลา 08:53 น.

“His Forgiveness Won Him” ในบ้านของมิชชันารี Goheen ในอินเดีย คนรับใช้ในบ้านซึ่งเป็นคนท้อง ถิ่นก�ำลังปัดฝุ่นออกจากเฟอร์นิเจอร์ แต่ไม่ระวังจนกระทั่งท�ำแจกันเก่าแก่และมี ค่ามากตกลงมาแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย คนรับใช้ตื่นตระหนกอย่างมาก ทรุดตัวลง คุกเข่าต่อหน้ามิชชันนารีวอนขอความเมตตา มิชชันนารียิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร หรอก ฉันยกโทษให้” คนรับใช้ฉงนใจมาก เขาเฝ้ามองใบหน้าที่นิ่งเฉยของมิชชัน นารีและไม่เห็นร่องรอยแห่งความโกรธเคืองอะไรเลยจากท่าน เขาลุกขึ้นยืนและ ร้องว่า “ผมเชื่อ ผมเชื่อ ผมเป็นคนรับใช้ในบ้านของท่าน ผมรู้จักกับความเชื่อ ในพระเจ้าของท่านทีละเล็กละน้อยผ่านทางการด�ำเนินชีวิตของท่านและตอนนี้ ความพร้อมที่จะให้อภัยของท่านขนะใจผมแล้วโดยสิ้นเชิง” เฟอร์นิเจอร์สวยงามขึ้น เมื่อไม่มีฝุ่น การให้อภัยก็ท�ำให้หัวใจคนสะอาดขึ้นได้ การให้อภัยเอาชนะใจคนได้ ครับ เดี๋ยวนี้มีฝุ่นคอยรังควานใจเรามากขึ้นเยอะเลยทั่วบ้านทั่วเมือง แต่อย่าให้มัน เกาะอยู่นานนะครับ เราจะไม่สบาย Take care.

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

15


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

17 มกราคม เวลา 09:10 น. ·

THE BEGGAR AND THE BREAD ขอทานคนหนึ่งเข้ามาในร้านเบเกอรี่ของผม นั่งหน้าผมแล้วพูดว่า “ผม ต้องการขนมปัง” ผมจึงตอบเขาว่า “คุณฉลาดนะ ขนมปังคือสิ่งที่คุณต้องการ คุณ มาถูกที่แล้ว” ผมเอาหนังสือวิธีการท�ำเบเกอรี่ลงมาจากหิ้งแล้วเริ่มพูดเรื่องทุกอย่าง เกี่ยวกับขนมปังให้เขาฟัง เรื่องแป้ง สูตรการท�ำ ขั้นตอนต่างๆ ผมเงยมองเขาแต่เขา ไม่ยิ้มเลยพูดว่า “ผมแค่ต้องการขนมปังครับ” ผมตอบว่า “งั้นตามผมมา ผมจะให้ คุณดูที่ท�ำขนมปัง” ผมพาเขาดูห้องต่างๆ เครื่องอบขนมปัง อธิบายให้เขาว่า “เรา มีเครื่องทุกชนิด ที่อื่นๆ ไม่มีอย่างนี้ เราท�ำขนมปังได้ทุกแบบ” ผมพามาจนถึงห้อง ประชุมส�ำหรับบรรยายให้แก่ผู้ที่มาชมร้าน เป็นห้องกระจกสีสวยมาก เขาต้องชอบ แน่ๆ แต่เขาไม่พูดอะไรเลย ผมโอบไหล่เขาแล้วพูดว่า “ผู้คนมาที่นี่จากไกลแสนไกล เพื่อมาฟังผมบรรยาย พนักงานของผมมาที่นี่อาทิตย์ละครั้งเพื่อฟังผมสอนสูตรการ ท�ำขนมปังต่างๆ” ถึงตรงนี้ชายนั้นนั่งที่เก้าอี้แถวหน้า ผมจึงถามว่า “คุณต้องการ ฟังผมพูดมั้ย?” เชาตอบว่า “ไม่ครับ แต่ผมต้องการขนมปัง” ผมตอบว่า “ฉลาด ดีครับ” ผมจึงน�ำเขาไปที่ประตูร้านแล้วพูดว่า “สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ส�ำคัญมาก” ตอนนี้เราออกมายืนนอกร้านแล้ว “ถนนเส้นนี้มีร้านเบเกอรี่มากมาย แต่ร้านพวก นี้ไม่มีขนมปังแท้ๆ อย่างเรา บางร้านใส่เกลือสองช้อนแทนที่จะใส่เพียงหนึ่งช้อน บางร้านก็อบขนมปังด้วยความร้อนที่มากไปถึงสามองศา พวกเขาก็ยังเรียกมันว่า ขนมปัง แต่ผมบอกได้เลยว่า ไม่ได้ท�ำตามต�ำรา” ชายขอทานหันหลังกลับและเริ่ม เดินจากไป ผมจึงถามว่า “คุณไม่ต้องการขนมปังรึครับ?” เขาหยุด มองกลับมาที่ ผมแล้วพูดว่า “ผมรู้สึกว่าไม่อยากกินแล้ว” ผมส่ายหน้าแล้วกลับมาที่ห้องท�ำงาน พูดกับตัวเองว่า “น่าเสียดายมากที่โลกไม่หิวกระหายขนมปังแท้ๆ อีกต่อไปแล้ว” SOURCE: Max Lucado, A Gentle Thunder : Hearing God Through the Storm (Dallas, TX: Word Pub., 1995), 41. บางทีพวกเราก็ฟังบรรยายความรู้ ถูกใจ

16

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

17 มกราคม เวลา 09:10 น. ·

มากมาย เรามีแต่ความรู้ที่ไม่อยากรู้ บางอย่างไม่อยากได้ยิน ไม่อยากรู้เลย แต่ไม่ ได้กินอะไรเลย จนในที่สุดก็ไม่อยากกินอีกแล้ว น่าเสียดายมากที่มีความรู้แต่กลับ ไม่รู้อะไรเลย อย่าป้อนความรู้กันมากนักเลย ป้อนค�ำสอนดีกว่าครับ THE BEGGAR AND THE BREAD

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

17


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

18 มกราคม เวลา 08:46 น. ·

ข�ำขันเรื่องความโลภครับ เพื่อนสองคนพบกันและคุยกัน “เฮ้ย เพื่อน หน้าตาแกดูราวกับว่าโลกจะแตก ดูเศร้าเหมือนอยากร้องไห้งั้นแหละ” “เออใช่ ฉันจะบอกให้นะ สามอาทิตย์กอ่ นลุงฉันตายและทิง้ เงิน 50000 ดอลล่าร์ให้ฉนั ” “ก็ดีแล้วไง”... “สองอาทิตย์ก่อน ญติคนหนึ่งก็ทิ้งเงินให้ฉันอีก 75000 ดอลล่าร์” “ก็ยิ่งดีนี่นา” “อาทิตย์ที่แล้วปู่ฉันตายและยกมรดกให้ฉัน 1 ล้านดอลล่าร์” “แล้วแกมาเศร้าอะไรเนี่ย?” “อาทิตย์นี้ ไม่มีใครให้อะไรเลย” คนเรามักจะไม่เคยพอ ยิ่งเป็นเรื่องเงินทองแล้ว ยิ่งมีก็ยิ่งไม่พอ ไม่ว่าใครก็อยาก มีเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี แปลกแต่จริงครับ ทั้งๆ ที่เงินก็คือต้นเหตของความชั่วร้าย มากมาย เกินบรรยาย ตลกมั้ย!

ฮ่าๆ

18

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

19 มกราคม เวลา 09:13 น.

Bishop Desmond Tutu of South Africa ตอนที่ท่านเป็นเด็ก การ เหยียดผิวยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่นั่น คนผิวด�ำจะต้องหลีกทางให้พร้อมทั้งค�ำนับ แสดงความเคารพคนผิวขาวที่ก�ำลังเดินสวนมา วันหนึ่งตูตูกับแม่ของท่านก�ำลัง เดินมาตามถนนและเห็นว่ามีชายผิวขาวคนหนึ่งสวมสูตรด�ำก�ำลังเดินสวนทางมา และก่อนที่ตูตูและแม่จะหลบออกมาข้างทาง ชายคนนั้นกลับหลบออกข้างทางให้ ก่อนและในขณะที่ทั้งสองคนเดินผ่านเขา เขาก็เปิดหมวกและก้มศีรษะแสดงความ เคารพด้วย ตูตูช๊อคและถามแม่ว่า “ท�ำไมคนผิวขาวคนนี้จึงท�ำเช่นนั้น?” แม่ของ ท่านอธิบายว่า “ชายผิวขาวคนนั้นเป็นพระสงฆ์แองกลิกัน ท่านเป็นคนของพระเจ้า ท่านจึงได้ท�ำเช่นนั้น” นี่เป็นต้นเหตุที่ท่านสังฆราชตูตูต่อมาพูดว่า “ฉันตัดสินใจ ที่นั่นและตอนนั้นว่าฉันต้องการเป็นพระสงฆ์แองกลิกันและยิ่งกว่านั้นฉันต้องการ เป็นคนของพระเจ้า” นี่เป็นบทเรียนที่สอนว่าหากเราต้องการความเคารพนับถือ จากผู้อื่น เราก็ต้องให้ความเคารพนับถือต่อผู้คนเช่นกัน ไม่มีการแยกคนจนคนรวย ไม่รังเกียจผิวสี ไม่แยกแยะอาชีพ มนุษย์มีศักดิ์ศรีเท่ากัน อย่าข่มเหงและดูถูก กันและกันเลย เคารพกันและกันจึงจะท�ำให้เรารักกันได้ เราก็เป็นคนของพระได้ เท่ากันครับ และแม้เราจะเป็นเพียงคนธรรมดาที่สุดคนหนึ่ง เราก็ยังเป็นคนของ พระเจ้าได้ Be happy

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

19


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

19 มกราคม เวลา 09:22 น.

ข�ำขันมาฝากครับ คืนวันหนึ่งสามีและภรรยาได้ยินเสียงบางอย่างผิดสังเกตอยู่ชั้นล่างของ บ้าน ทั้งสองจึงชวนกันลงมาดูด้วยกัน ก็พบกับเจ้าหัวขโมยอย่างจัง หัวขโมยจึง ชักปืนออกมาเล็งไปที่สามีและภรรยาพูดว่ “เมื่อแกเห็นหน้าฉันแล้ว ฉันก็คงต้อง ปิดปากพวกแกทั้งสองคน” จากนั้นเขาหันมาถามคนที่เป็นภรรยาว่า “บอกหน่อย ว่าเธอชื่ออะไร” “ฉันชื่อเอลิซาเบธ” “ไม่นะ นั่นเป็นชื่อแม่ของฉันเอง ฉันจะไม่ยิง เธอเป็นอันขาด” จากนั้นก็หันมาถามสามีว่า “แกละชื่ออะไร?” สามีตอบว่า “ฉัน ฉัน ฉัน ชื่อแจ๊ค แต่ใครๆเขาเรียกฉันว่า เอลีซาเบธ” เจ้าหัวขโมยจะท�ำยังไงดีนะ ครับ สงสัยคงยอมถูกจับ ฮาดีครับ

ฮ่าๆ

20

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

28 มกราคม เวลา 08:46 น.

Phillip Yancey สาธุคุณที่มีชื่อเสียงพูดถึงเพื่อนคนหนึ่งซึ่งพูดกับท่านว่า พระคัมภีร์ถามเรา 3 ข้อเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง 1. คุณได้เงินมาอย่างไร? 2. คุณก�ำลังท�ำอะไรกับเงิน? 3. เงินก�ำลังท�ำอะไรกับตัวคุณ? เงินท�ำให้เราใจกว้างมากขึน้ หรือท�ำให้ใจเราแคบและคอยแสวงหาแต่เงิน เงินควบคุม เราหรือเราควบคุมเงิน... (From a sermon by Monty Newton, “Asking for Money: Biblical Principles for Generosity” 6/28/2009) เราไม่สามารถรับใช้พระเจ้าและเงินตราได้พร้อมกัน ใครมีหูก็ฟังบ้างก็ดีนะครับ ฟัง แล้วถามตัวเองบ้างก็ดีเพราะเมื่อเกี่ยวกับเรื่องเงิน แม้ผู้ชอบธรรมก็ยังชอบเงิน เงิน ท�ำให้เราต้องโกหก ต้องหลอกลวง ต้องเสแสร้ง จากคนถือศีลก็กลายมาเป็นถือสาก ได้ อนาถใจ 28 มกราคม เวลา 09:04 น. · มาหัวเราะกันหน่อยครับ ชายชราก�ำลังจะตายและนอนบนเตียงบนชั้นสองของบ้าน เขาได้กลิ่นคุกกี้ช๊อคโคแลตที่เขาชื่นชอบจากเตาอบชั้นล่าง เขาอยากจะกินคุกกี้ครั้ง สุดท้าย จึงคลานลงจากเตียงค่อยๆ ลงบันไดจนถึงครัว ใช้ก�ำลังเฮือกสุดท้ายนั่งลง บนโต๊ะอาหารจนได้ เขาเอื้อมมือไปจะหยิบคุกกี้ชิ้นหนึ่งที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ทันใดนั้น เองภรรยาก็ใช้ไม้เล็กๆ ตีเขาที่มือ เขากลั้นหายใจแล้วถามภรรยาว่า “ท�ำไมเธอ ถึงต้องท�ำอย่างนี้?” ภรรยาตอบว่า “คุกกี้พวกนี้เตรียมไว้ส�ำหรับพิธีฝังศพนะ” โห พูดจาไม่สนใจจิตใจคนฟังบ้างเลย ความตายเนี่ยช่างโหดร้าย แม้แต่คุกกี้ชิ้นเดียวก็ ยังยื่นมาหยิบก็ไม่ได้ อนิจจา อนิจจังครับ ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

21


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

28 มกราคม เวลา 09:04 น.

มาหัวเราะกันหน่อยครับ ชายชราก�ำลังจะตายและนอนบนเตียงบนชั้น สองของบ้าน เขาได้กลิ่นคุกกี้ช๊อคโคแลตที่เขาชื่นชอบจากเตาอบชั้นล่าง เขาอยาก จะกินคุกกี้ครั้งสุดท้าย จึงคลานลงจากเตียงค่อยๆ ลงบันไดจนถึงครัว ใช้ก�ำลัง เฮือกสุดท้ายนั่งลงบนโต๊ะอาหารจนได้ เขาเอื้อมมือไปจะหยิบคุกกี้ชิ้นหนึ่งที่ตั้งอยู่ บนโต๊ะ ทันใดนั้นเองภรรยาก็ใช้ไม้เล็กๆ ตีเขาที่มือ เขากลั้นหายใจแล้วถามภรรยา ว่า “ท�ำไมเธอถึงต้องท�ำอย่างนี้?” ภรรยาตอบว่า “คุกกี้พวกนี้เตรียมไว้ส�ำหรับพิธี ฝังศพนะ” โห พูดจาไม่สนใจจิตใจคนฟังบ้างเลย ความตายเนี่ยช่างโหดร้าย แม้แต่ คุกกี้ชิ้นเดียวก็ยังยื่นมาหยิบก็ไม่ได้ อนิจจา อนิจจังครับ

ฮ่าๆ

22

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

29 มกราคม เวลา 08:01 น.

“การโกหก การหลอกลวงและการขโมยก�ำลังกลายเป็น กฎที่ยอมรับ ได้ (acceptable norm) ในท่ามกลางนักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษาใน มหาวิทยาลัย” นี่คือค�ำพูดของ Ralph Wexler โฆษกของ Joseph and Edna Josephson Institute of Ethics จากการส�ำรวจเมื่อไม่นานมานี้ สถาบันรายงาน ว่า “61% ของนักเรียนมัธยมและ 32 % ของนักศึกษามหาวิทยาลัยยอมรับว่า พวกเขาโกงข้อสอบตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ 33% ของนักเรียนมัธยม และ 16% ของนักศึกษามหาวิทยาลัยสารภาพว่าพวกเขาขโมยข้าวของต่างๆใน ปีที่ผ่านมา อีกอย่างหนึ่งก็คือ 16% ของนักเรียนมัธยมและ 32% ของนักศึกษา มหาวิทยาลัยยอมรับว่าได้ให้ข้อมูลโกหกอยู่ในประวัติย่อ (resume) หรือ ในใบ สมัครงาน (job application) (National and International Religion Report, quoted in Signs of the Times, June, 1993, p. 6) สถาบันการศึกษายังไม่สามารถสั่งสอนได้ หากสถาบันศาสนายังต้อง โกหก หลอกลวงและขโมยด้วยแล้ว สังคมก็คงเหลือแต่ “ท�ำทุกสิ่งให้ได้สิ่งที่ตนเอง ต้องการ” (Do anything to get what you want) เรามาถึงจุดนี้กันแล้วหรือ?

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

23


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

29 มกราคม เวลา 08:19 น.

Thou Shalt Not Lie ข�ำขันเรื่องนี้มีชื่อว่า “อย่าโกหก” พ่อองค์หนึ่งเห็นเด็กชายอายุ 10-12 ขวบราวๆ สิบกว่าคนก�ำลังล้อมสุนัข ตัวหนึ่ง ท่นกลัวว่าเด็กๆ จะแกล้งสุนัขและท�ำร้ายมันจึงเข้าไปถามว่า “พวกเธอ ก�ำลังจะท�ำอะไรกับเจ้าสุนัขตัวนี้รึ?” “มันเป็นหมาจรจัดครับและน่ารักดี พวกเรา อยากได้มันก็เลยแข่งกันว่าใครโกหกได้แนบเนียนที่สุดก็จะได้มันไปครับ” พ่อตกใจ รีบพูดว่า “พวกเธอไม่ควรใช้วิธีโกหกมาตัดสิน มาแข่งกันนะ” จากนั้นพ่อก็เริ่ม เทศนาให้เด็กๆโดยเริ่มว่า “พวกเธอไม่รู้หรือว่าการโกหกเป็นบาป” พ่อจบบทเทศน์ ด้วยค�ำว่า “ท�ำไมนะหรือ ตอนพ่อเป็นเด็กอายุราวๆพวกเธอนี่แหละ พ่อไม่เคยโกหก เลยแม้แต่ครั้งเดียว” พวกเด็กๆเงียบไปสักพักแล้วเด็กคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “ตกลง พวกเรายกสุนัขให้พ่อไปเถอะ” (“All right, give him the dog.”) ฝรั่งเรียกการ โกหกแบบนี้ว่า the biggest lie ครับ ฮา มีความสุขกันนะครับ

ถูกใจ

24

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

30 มกราคม เวลา 08:26 น.

สาธุคุณ Matthew Kratz เทศน์เรื่องการใช้จ่ายเงินทองและเตือนเรื่อง นี้ว่า “พ่อมักได้ยินค�ำโฆษณาของธนาคารและบริษัทรับจ�ำนองต่างๆ และท�ำให้ พ่อรู้สึกเคืองใจมาก เช่นว่า “คุณสามารถพักร้อนตามที่ใฝ่ฝันเสมอมา ห้องรับแขก หรูหราอย่างที่เคยอยากได้เสมอมา โรงรถที่คุณพอใจอย่างยิ่ง เราให้คุณขอยืมเงิน ได้เท่าที่คุณปรารถนา” แล้วพวกเขาก็จะบอกคุณว่า “อย่าชะลอความฝันของคุณ อย่าไปรอจนกว่าคุณจะมีเงินพอ คุณสามารถมีได้ตอนนี้เลย” ท่านแนะน�ำให้เห็นว่า “ความคิดเช่นนี้เองที่ท�ำให้ลูกล้างผลาญในพระวรสารตกอยู่ในความล�ำบาก” ดังนั้นก่อนที่จะลงทุกซื้ออะไรส�ำหรับครอบครัวคุณ จ�ำเป็นต้องถามตัวเอง เสียก่อนว่า “ฉันจ�ำเป็นต้องมีสิ่งนั้นรึเปล่า? หรือเพียงแค่ฉันต้องการมันเท่านั้น?” “หากฉันจะต้องการมันหรือจ�ำเป็นจะต้องมีสิ่งนั้น ต้องถามตัวเองว่า “ฉันมีเงิน เพียงพอหรือเปล่า?”และค�ำถามสุดท้ายก็คือต้องถามตัวเองว่า “เงินที่ฉันว่าเพียง พอนั้นเป็นเงินของเรารึเปล่า?” บางคนแยกแยะไม่ออกครับระหว่าง “จ�ำเป็น” กับ “ต้องการ” แยกแยะไม่ได้ระหว่าง “เงินเรา” หรือ “เงินรวม” ที่ร้ายที่สุดก็ คือแยกแยะไม่ได้ระหว่าง “ผิด” หรือ “ถูก” ครอบครัวมากมายล่มจมและเป็นหนี้ เป็นสินกันก็เพราะมาจากการแยกแยะไม่ออกนี่แหละครับ ระวังการใช้จ่ายของเรา กันนะครับ อย่าไปกู้หนี้ยืมสิน อย่าไปเอาเงินที่ไม่ใช่ของเรามาเพียงแค่สนองความ ต้องการของเรานะครับ Happy Wednesday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

25


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

31 มกราคม เวลา 08:38 น.

คุณพ่อ West Garner ให้ข้อคิดที่ดีมากเกี่ยวกับความรับผิดชอบไว้ดังนี้ ครับ “พวกเราเคยสังเกตป้ายหรือค�ำที่บอกว่า “ไม่รับผิดชอบ” รอบๆ ตัวเราหรือ ไม่? อาทิตย์นี้พ่อไปทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง ที่แผนกรับฝากเสื้อผ้ามีป้าย ติดไว้ว่า “ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือต่อเสื้อผ้าที่ถูกขโมยไปจากแผนกนี้” พวกเราที่ต้องบิน เคยอ่านค�ำที่ติดอยู่ที่ตั๋วเครื่องบินหรือเปล่าที่เขียนว่า “สายการ บินไม่รับผิดชอบต่อการล่าช้าของเที่ยวบินหรือความผิดพลาดในการต่อเครื่องบิน” และถ้าหากกระเป๋าเดินทางของเราสูญหายไป พวกเขาจะจ่ายเงิยชดเชยจ�ำนวน หนึ่ง จ�ำนวนนี้ก�ำหนดมาตั้งแต่ปี 1962 แล้ว หากเราไปจอดรถในที่จอดรถที่แพง แสนแพงที่ French Quarter เราจะเห็นป้ายเขียนไว้ว่า “ไม่รับผิดชอบ รถถูกขโมย รถเสียหาย” วันหนึ่งพ่อขับรถตามรถบรรทุกคันหนึ่ง มีป้ายท้ายรถบรรทุกเขียน ว่า “รถคันนี้ไม่รับผิดชอบกระจกหน้ารถแตกหรือรอยร้าวของกระจกหน้ารถ” พ่อ คิดว่าพ่อจะเขียนป้ายสักป้ายหนึ่งว่าไว้หน้าแถวรับศีลมหาสนิท เขียนว่า “ไม่รับ ผิดชอบต่อบาปใดๆ หรือการกลับใจใดๆ” พ่อเชื่อว่าพระเจ้าควรจะระวังเรื่องนี้เอง หรือบางทีก็อาจจะถูกเรียกไปให้การที่ศาลในข้อหาไม่ตอบรับค�ำภาวนา” คนเรามัก หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบเสมอครับ ท�ำผิดก็ไม่ต้องรับผิดชอบ มากกว่านั้นถึงกับ ปฏิเสธความผิดด้วย แต่ทุกศานาก็สอนให้รู้จักรับผิดชอบ บางทีคนสอนเองก็ไม่รับ ผิดชอบเสียเอง เสียจริงๆครับ บ้านเราก็มีป้ายพวกนี้ไม่น้อยหน้าใครในโลกนะครับ Be responsible.

ถูกใจ

26

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

31 มกราคม เวลา 08:54 น.

ข�ำขันเรื่องนักบินครับ สามีเป็นนักบินมักมีเรื่องถกเถียงกับภรรยาเสมอ ที่โต๊ะอาหารเขาถาม ภรรยาว่า “นี่เธอ เกลืออยู่ที่ไหน ฉันเดินดูทั่วไปหมดก็หาไม่เจอ” ภรรยาส่งสายตา ไม่พอใจตอบว่า “อะไรกัน คุณเป็นนักบิน คุณเห็นแม้แต่เมือง บรุคลิน เล็กๆ ตอน ที่อยู่บนฟ้า แล้วเกลือในบ้านคุณกลับหาไม่เจอ” สามีตอบว่า “นี่ที่รัก ก็ไม่มีใครมา คอยย้ายเมืองบรุคลินไปไว้ที่โน่นที่นี่ นี่นา” เชื่อแน่ว่าเรื่องเกลือคงจบ แต่เรื่องที่จะ ตามมาอีกมากแน่ๆครับ ฮา

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

27


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

2 กุมภาพันธ์ เวลา 08:49 น.

ข�ำขันหรือเปล่าก็ไม่ทราบชัดนะครับ คุณพ่อ Jimmy Chapman เล่าว่า “พ่อได้ยินเรื่องนี้ไม่นานมานี้เกี่ยวกับชายหนุ่มคนหนึ่งไปเที่ยวกับแฟนสาวของเขา ซึ่งเขารักมาก เขาถามแฟนว่า “ผมจะจูบคุณได้มั้ย?” แฟนสาวเงียบ จากนั้นเขา ถามแฟนอีกครั้งว่า “ผมจะจูบคุณได้มั้ย?” แฟนสาวก็ยังเงียบอยู่ เขาจึงพูดว่า “ถ้า งั้น คุณเป็นใบ้รึเปล่า?” แฟนสาวจึงตอบกลับว่า “แล้วคุณละ เป็นอัมพาตรึเปล่า” ( “Are you paralyzed?”) ฮา ชายหนุ่มก็เลยเป็นอัมพาตไปเลยจริงๆ คงเป็นเรื่อง ข�ำๆนะครับ แต่ชีวิตจริงก็มักจะเจอแบบนี้ Happy Saturday

ฮ่าๆ

28

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

3 กุมภาพันธ์ เวลา 08:11 น.

REJECTED ON EARTH, ACCEPTED IN HEAVEN ในปี 1888 Campbell Morgan เป็น 1 ใน 150 คนที่สอบเพื่อผ่านเป็น ศาสนาจารย์จากสถาบัน Wesleyan เขาสอบผ่านข้อเขียนและจะต้องผ่านการ สอบเทศน์ด้วย การสอบเทศน์ใช้ห้องประชุมใหญ่ที่บรรจุคนได้ 1000 คน ตอนนั้น มีอาจารย์สอบ 3 ท่านและบรรดาศาสนาจารย์อีก 75 ท่านด้วยกัน มอร์แกนก้าว ขึ้นไปที่ธรรมาสน์ เขาเริ่มตกใจและเห็นสายตาของบรรดาอาจารย์ก็ท�ำให้เขาเทศน์ สอบในวันนั้นได้แย่มาก สองอาทิตย์ต่อมา เขาเป็น 1 ในผู้สอบ 105 คนที่ไม่ผ่าน การสอบเป็นศาสนาจารย์ เขาโทรเลขไปหาพ่อเขาด้วยค�ำๆเดียวว่า “ถูกปฏิเสธ” (rejected) เขาเขียนลงบันทึกประจ�ำวันว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างมืดมนไปหมด แต่ พระองค์ทรงทราบดีที่สุด” จากนั้นพระเจ้าก็ทรงตอบเขาทันทีเขารีบเขียนลงบันทึก ต่อว่า “ถูกแฏิเสธบนโลก ได้รับการยอมรับในสวรรค์ “ (Rejected on earth. Accepted in heaven.) หลายครั้งส�ำหรับหลายคนแล้ว บทเทศน์และบทสอนไม่ ได้รับการยอมรับ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเรา ต้องเลิกเทศน์สอน อย่าไปจองหองกับการเทศน์ของเราเลย แต่จงสุภาพกับการ ด�ำเนินชีวิตตามนั้นดีกว่าครับ Happy Sunday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

29


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

4 กุมภาพันธ์ เวลา 08:21 น.

Abraham Lincoln ถกเถียงอยู่กับเจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งเป็นคนดื้อรั้นมาก และคิดเสมอว่าความคิดของเขาถูกเสมอ ดีเสมอและไม่ฟังใครเลย ลินคอล์นพูดว่า “เอาละ ขอถามหน่อยว่าวัวตัวหนึ่งมีกี่ขา?” เขาตอบแบบบเย้ยหยันว่า “แน่นอน มี 4 ขา” “ถูกต้องแล้ว แล้วสมมติว่าเราเรียกหางวัวว่าเป็นขา วัวจะมีกี่ขา?” เขา ตอบอย่างมั่นใจว่า “แน่นอนก็ต้องมี 5 ขา ไม่เห็นมีอะไรน่าสงสัยเลย” ลินคอล์นพูด ว่า “นี่แหละ ที่คุณผิดพลาด การเรียกหางวัวว่าเป็น “ขา” ไม่ได้ท�ำให้หางวัวกลาย เป็นขาได้เลย”(“Calling a cow’s tail a leg doesn’t make it a leg.” Bits & Pieces, July, 1991.) โรบินฮูดปล้นคนรวยมาช่วยคนจน ก็ยังเป็นโจรอยู่ดี เป็น ขโมยอยู่ดี เป็นโจรที่ต้องซ่อนตัวในป่าอยู่ดี แม้บางคนจะเรียกเขาว่านักบุญก็ตาม สมุนร่วมปล้นก็เป็นโจรไปด้วย คนดื้อรั้นมักพยายามเปลี่ยนสิ่งผิดให้เป็นถูก ร้ายไป กว่านั้น เขาได้ท�ำสิ่งถูกให้เป็นผิดได้ด้วย ค�ำว่า “อ�ำนาจ”น่ากลัวจริงๆ ครับ Happy Monday

ถูกใจ

30

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

5 กุมภาพันธ์ เวลา 08:20 น.

Lewis Smedes, ศาสนาจารย์สอนในบ้านเณรและผู้เขียนหนังสือ “Shame and Grace,” เล่าถึงเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ในบทแรกที่เปิดตาท่านให้รู้ ถึงความจริงเรื่อง ความละอายใจในชีวิตของท่าน เหตุการณ์แรก เป็นการสนทนากับเพื่อนสนิทของท่านเอง ท่านกล่าวว่า คนเรามีความรู้สึกผิดที่ไม่ต้องใส่ใจ (vaguely guilty) เพื่อนสนิทของท่านพูดเพียง แค่ว่า “ฉันไม่คิดว่าแกรู้สึกผิดอะไรเลยนะ เลวิส ฉันคิดว่าแกคงรู้สึกแค่ละอายใจ เท่านั้น” เหตุการณ์ที่สอง ท่านไปเยี่ยมแม่ที่ก�ำลังจะตายที่โรงพยาบาล แม่พูดกับ ท่านว่า “โอ ลูวิส แม่ดีใจที่พระเจ้าอภัยบาปให้แก่แม่ ลูกรู้มั้ย แม่เป็นคนบาปที่สุด เลย” ท่านคิดว่าค�ำพูดของแม่จะเป็นไปได้อย่างไร ชีวิตแม่มีแต่เลี้ยงดูครอบครัว เต็มใจช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ เรียบง่าย สวดภาวนาทุกคืนให้พระเจ้าช่วยแม่ให้ท�ำ หน้าที่เหล่านั้นในวันรุ่งขึ้น ท่านคิดว่า “แม่เอาเวลาที่ไหน เอาพละก�ำลังที่ไหนอีก มาท�ำบาปได้อีก” ท่านจึงสอนผู้ที่ก�ำลังเรียนในบ้านเณรเพื่อจะเป็นศาสนาจารย์ให้ รู้จักกับค�ำว่า “ละอายใจ” (shame)และ “รู้สึกผิด” (guilty)เพราะทั้งสองค�ำนี้คือ “พระหรรษทาน” (grace) ตัวท่านเองเป็นอาจารย์สอนจึงต้องมีก่อนเพื่อจะสอน เณรในบ้านเณรได้ มิฉะนั้นอาจจะมีแต่เพียง ความรู้สึกผิดที่ไม่ต้องใส่ใจ (vaguely guilty) เท่านั้นเองครับ Happy Chinese New Year 2019

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

31


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

7 กุมภาพันธ์ เวลา 08:07 น.

Adam Deibert เล่าว่า “ในหมู่บ้านชนพื้นเมืองแห่งหนึ่งพบว่ามีขโมยคน หนึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา หัวหน้าหมู่บ้านออกค�ำสั่งว่าหากพบว่าใครเป็นขโมยใน หมู่บ้าน คนนั้นจะต้องถูกโบยด้วยแส้ 15 ที ดึกของคืนวันหนึ่ง หัวหน้าหมู่บ้านถูก ปลุกขึ้นมาและแจ้งว่าขโมยถูกจับแล้ว เขาตกใจอย่างมากเมื่อทราบว่าแท้ที่จริงแล้ว ขโมยก็คือลูกชายที่เขาแสนรักนั่นเอง ลูกบ้านเริ่มคิดพะวงไป พูดกันไปต่างๆ นานา ว่าหัวหน้าหมู่บ้านคงไม่ลงโทษลูกชายของเขาแน่ๆ โดยไม่รีรอหัวหน้าออกค�ำสั่งให้ โบยด้วยแส้ 15 ที่ แต่ก่อนที่แส้จะสะบัดออกมาหัวหน้าหมู่บ้านก็ออกมายืนคร่อม ลูกชายไว้ให้แส้ทั้งหมดนั้นมาลงที่หลังของเขาแทน” ปกป้องคนผิด รับโทษแทนคน ชั่ว ลูกชายคนนี้จะเป็นหัวขโมยไปทั้งชีวิตของเขา รักลูกให้เป็น รักลูกให้ถูกทางนะ ครับ Happy Thursday

ถูกใจ

32

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

9 กุมภาพันธ์ เวลา 10:27 น.

ท�ำไมการเลิกท�ำบาปมันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน? ก็เพราะว่า 1. เราสนุกอยู่กับบาป เราหาประโยชน์จากบาป นักบุญเอากุสตินครั้งที่ยังใช้ชีวิต ทางโลกเคยภาวนาว่า “ข้าแต่พระเจ้า ช่วยท�ำให้ผมเป็นคนดี แต่ไม่ใช่ตอนนี้” 2. มีบาปที่ต้องเลิกท�ำมากเหลือเกิน Gordon MacDonald เล่าในหนังสือของ เขาว่า หลายปีก่อนตอนที่ เกล กับผมซื้อฟาร์มร้างที่นิวแฮมเชอร์ ตอนนี้เรา ตั้งชื่อว่า Peace Ledge เราพบว่าพื้นที่นี้เต็มไปด้วยก้อนหินใหญ่และโขดหิน มากมาย เราต้องท�ำงานหนักและใช้เวลามากมายเพื่อเอาพวกมันออกไป ขั้น ตอนแรกไม่...ยากนัก การเอาโขดหินและก้อนหินใหญ่ออกไม่ยากนัก แต่หลัง จากเอาพวกมันออกไปหมดแล้วเรากลับพบว่ายังมีก้อนหินเล็กๆอีกมากมาย จริงๆในพื้นที่ตรงนั้น การเอาพวกมันออกไปเป็นงานหนักกว่าและน่าเบื่อกว่า มากทีเดียว แต่เราก็พยายามเต็มที่จนในที่สุดพื้นที่นั้นก็พร้อมที่จะปลูกต้นไม้ และใบหญ้า เวลาที่เราต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตเราก็มักจะตั้งใจเปลี่ยนเรื่องใหญ่ๆที่ เราผิดพลาดทั้งทางสังคมและทางศีลธรรม เรื่องที่เราคิดว่าส�ำคัญๆเช่น เลิกเสพยา เลิกสูบบุหรี่ เลิกนอกใจภรรยา เลิกดื่มเหล้า เมื่อท�ำได้ตามที่ตั้งใจก็มักจะหยุดแค่นั้น เอง ไม่ยอมขจัดบาปเล็กบาปน้อยที่กระจายอยู่เต็มพื้นที่ในชีวิตเรา ก้าวแรกเพื่อการ ก้าวหน้าทางจิตวิญญาณคือ ยอมรับว่าสิ่งที่เราท�ำไปนั้นมันผิด มันบาป ยอมรับได้ก็ แก้ใขได้ แต่ผู้ร้ายปากแข็งครับ Happy Sunday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

33


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

11 กุมภาพันธ์ เวลา 08:17 น.

SHAME UPON THE FATHER จากบทเทศน์ของ Gerald Flury, How to Honor Our Father, พ่อเป็น นักธุรกิจที่ประสพความส�ำเร็จ มีลูกชายที่ได้รับการศึกษาดีมาก วันหนึ่งทุกคนต้อง แปลกใจที่ลูกชายของเขาถูกจับข้อหา ยักยอก ฉ้อฉล (embezzlement) ในศาล ลูกชายคนนี้ก็ยังมีท่าทีเมินเฉย ไม่ใยดีและทะนงตนในสิ่งเลวร้ายที่เขาท�ำไป เมื่อ ผู้พิพากษาบอกให้เขายืนขึ้นเพื่อฟังค�ำตัดสิน เขาก็ยังไม่รู้สึกส�ำนึกผิด ตอนนั้นมี เสียงดังที่มุมห้อง ลูกชายก็หันไปดูเห็นพ่อชราของเขาก�ำลังยืนขึ้น ไหล่และศีรษะ ของเขาก้มลงด้วยความละอายใจแทนลูกชาย เขายืนขึ้นมาเพื่อรับค�ำตัดสินราวกับ ว่าก�ำลังตัดสินตัวเขาเอง ตอนนั้นเองลูกชายตระหนักได้ว่าพ่อของเขาก�ำลังเป็นทุกข์ อย่างมากจากสิ่งที่เขากระท�ำ น�้ำตาเริ่มไหลออกมาจากตาของเขา เขาได้ท�ำร้าย และท�ำลายชื่อเสียงของครอบครัวด้วยความประพฤติของเขาเอง ตอนนี้พ่อที่ น่าสงสารต้องมารับผลกรรมจากสิ่งเลวร้ายที่เขากระท�ำ (From a sermon by Gerald Flury, How To Honor Our Father, 6/19/2010) คนจองหองทะนงตน มักไม่ยอมรับในความผิดของตน ไม่แยแสสายตาใคร คนท�ำผิดที่ไม่ยอมรับความผิด ของตนมักจะไม่ได้รับการอภัยง่ายๆ ครับ ไม่ยอมรับก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาคอย ให้ใครสักคนมายอมรับแทนเขา ทุกคนท�ำผิดได้ครับ ต่างกันก็ตรงที่จะยอมรับหรือ ไม่เท่านั้น คนที่ยอมรับก็ยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงครับ Happy Monday

ถูกใจ

34

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

11 กุมภาพันธ์ เวลา 09:02 น.

ข�ำขันนะครับ ซิสเตอร์ทา่ นหนึง่ ตายและไปสวรรค์ และพบกับนักบุญเปโตร เธอสังเกตเห็นว่ามีนาฬิกาเรือนใหญ่อยู่ทั่วไปหมดจึงถามนักบุญเปโตรว่า “ท�ำไม สวรรค์ถึงมีนาฬิกามากมายถึงขนาดนี้?” เปโตรอธิบายว่า “ อ๋อ เอาไว้คัดคนโกหก นาฬิกาแต่ละเรือนเป็นของแต่ละคน คนไหนโกหกเข็มนาฬิกาก็จะเร็วขึ้นทันที 1 วินาที เรือนที่เข็มไม่หมุนเลยโน่นเป็นของคุณแม่เทเรซาครับ เธอไม่เคยโกหกเลย ตลอดชีวิต เรือนถัดไปเป็นของ Abraham Lincoln ครับ ท่านโกหกเพียง 2 ครั้ง ทั้งชีวิต เข็มก็เลยเดินหน้าไป 2 วินาที” เธอจึงถามว่า “แล้วนาฬิกาของ (ท่านทราบ ดีว่าฉันหมายถึงใคร) คือเรือนไหน?” เปโตรตอบว่า “อ๋อคนนั้น เรือนนั้นอยู่ใน ส�ำนักงานของพระเจ้าครับ พระองค์ใช้มันแทนพัดลม มันเดินหน้าตลอดเวลาครับ” ฮา ใครจะโกหกได้มากและรวดเร็วถึงขนาดนี้ได้ครับ ไม่มีหรอก

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

35


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

16 กุมภาพันธ์ เวลา 08:51 น.

Napoleon Hill (1986) กล่าวว่า “มนุษย์เรามีความกลัวหลักๆอยู่ 6 ประการ 1. Fear of Poverty – กลัวความยากจน 2. Fear of Criticism – กลัวค�ำวิพากย์วิจารณ์เสียชื่อเสียง 3. Fear of Ill-health – กลัวปัญหาสุขภาพ 4. Fear of Loss of Love – กลัวสูญเสียความรัก 5. Fear of Old age – กลัวความแก่ชรา 6. Fear of Death – กลัวความตาย เขากล่าวเสริมว่า “ความกลัวแต่ละชนิดมีอาการต่างๆของมันเอง มีการ ต่อสู้ต่อต้านแตกต่างกันไป เขาเสนอวิธีการเอาชนะความกลัวเหล่านี้คือ 1. ยอมรับความกลัวเหล่านี้และตั้งใจเอาชนะความกลัวเพื่อก้าวหน้าไป 2. ยืนอยู่เหนือความกลัว อย่าให้ความกลัวยืนค�้ำชีวิตเราได้ 3. คิดในทางที่ดี (positive thinking) ทุกอย่างเป็นไปและจะผ่านไปเสมอ 4. เหนือสิ่งอื่นใด จงวางใจในพระเจ้าและน�้ำพระทัยของพระองค์ (But above all, trust in God and do His will.) “คนทั้งหลายที่ยากจนย่อมเป็นสุข อาณาจักรของพระเจ้าเป็นของท่าน”

ถูกใจ

36

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

16 กุมภาพันธ์ เวลา 08:54 น.

“No Money- No Learning – But Joy” ในขณะที่มีการประชุมเพื่อสวดภาวนาในวัดน้อยแห่งหนึ่งของมิชชันนารี กรรมกรยากจนคนหนึ่งก็เข้ามาที่วัดน้อยนั้นและคุกเข่าที่หน้าพระแท่น เขาไม่ สามารถเข้าใจความหมายของพระวรสารหรือข้อความในพระคัมภีร์ใดๆแม้จะเป็น ตอนที่ง่ายที่สุดก็ตาม ในขณะที่คนอื่นๆ ในวัดต่างก�ำลังชื่นชมยินดี เขาได้แต่สวด ภาวนาว่า “ Jesus, Jesus, Jesus “ เป็นบทภาวนาบทเดียวที่เขารู้จัก ไม่นานนัก เขาก็ลุกขึ้นและด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบใจเขาแบ่งปันว่า “ผมเป็นแค่กรรมกรยากจน คนหนึ่งครับ ผมไม่มีเงิน ไม่มีการศึกษา แต่ในหัวใจของผม ผมมีความชื่นชมยินดี ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นค�ำพูดได้เลยครับ”-----Christian Herald คน ยากจนก็มีความสุขได้จริงๆ Happy Sunday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

37


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

17 กุมภาพันธ์ เวลา 08:02 น.

ฝรั่งมีค�ำพูดน่าคิดดีครับเกี่ยวกับเงิน เงิน เงิน “เงินสามารถซื้อ เตียงนอนดีๆได้ แต่ซื้อ การนอนหลับไม่ได้ เงินสามารถซื้อ หนังสือดีๆ ได้ (book) แต่ซื้อสมองไม่ได้ (brain) เงินสามารถซื้อ อาหารดีๆ ได้ แต่ซื้อการเจริญอาหารไม่ได้ เงินสามารถซื้อที่พักอาศัยดีๆ ได้ (house) แต่ซื้อบ้านไม่ได้ (home)... เงินสามารถซื้อ ยาดีๆ ได้ แต่ซื้อสุขภาพไม่ได้ เงินสามารถซื้อ ความบันเทิงดีๆ ได้ แต่ซื้อความสุขไม่ได้” เงินมีความส�ำคัญและจ�ำเป็นนะครับ แต่เราไม่จ�ำเป็นต้องท�ำทุกสิ่งอย่างเพื่อเงิน ไม่ ต้องโกง ไม่ต้องหลอกลวงใคร ไม่ต้องปล้น ไม่ต้องใช้เล่เหลี่ยมต่างๆเพื่อมัน ไม่ต้อง กลายเป็นคนสองหน้าและไม่มีใครคบเพื่อเงิน คนจนยังรู้จักพอเพียงได้ แต่คนรวย กลับไม่รู้จักเพียงพอ ความสุข ไม่ต้องใช้เงินซื้อก็ได้ครับ “ท่านทั้งหลายที่ยากจน ย่อมเป็นสุข อาณาจักรของพระเจ้าเป็นของท่าน” Happy Sunday

ถูกใจ

38

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

19 กุมภาพันธ์ เวลา 09:20 น.

นั่นแหละเราจึงจะได้รับการฟื้นฟู If all the sleeping folk will wake up, หากผู้คนที่ก�ำลังนอนหลับจะตื่นขึ้นมา If all the lukewarm folk will get fired up, หากคนเฉื่อยชา จะร้อนรนขึ้นมา If all the dishonest folk will confess up, หากคนที่ไม่ซื่อ จะสารภาพออกมา If all the disgruntled folk will cheer up, หากคนที่หงุดหงิด จะร่าเริงขึ้นมา... If all the depressed folk will cheer up, หากคนที่หดหู่ จะอารมณ์ดีขึ้นมา If all the estranged folk will make up, หากคนที่แยกจากกันไป จะกลับมา อยู่ด้วยกันอีก If all the gossipers will shut up, หากคนขี้ฉ้อนินทา จะปิดปาก If all true soldiers will stand up, หากทหารที่แท้จริง จะยืนหยัดขึ้นมา If all the dry bones will shake up, หากกองกระดูกทั้งหลาย จะเคลื่อนไหว ขึ้นมา If all the church members will pray up...หากสมาชิกของวัดทั้งหลาย จะร่วม กันสวดภาวนา Then we can have a revival! นั่นแหละเราจึงจะได้รับ การฟื้นฟู --R. G. Lee บางคนเข้าเงียบเพียงครั้งเดียวก็เปลี่ยนแปลงตนเองได้ บางคนเข้าเงียบมาทั้งชีวิต ก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย บางคนให้การอบรมเข้าเงียบ สั่งสอนอบรมคนอื่นมาทั้ง ชีวิตก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไร อย่าเพิ่งท้อใจนะครับ การฟื้นฟูตัวเราอยู่ที่ ตัวเราครับ Happy Holiday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

39


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

19 กุมภาพันธ์ เวลา 10:02 น.

ข�ำขันฝรั่งครับ ชายหนุ่มสามคนเดินผ่านป่ามาพบกับล�ำธารน�้ำเชี่ยวมาก ไม่รู้จะข้ามล�ำธารนี้ได้อย่างไร ชายคนแรกจึงสวดขอพระเจ้าช่วย “โปรดประทานพละก�ำลังแก่ข้าพเจ้า” ทันใดนั้น เขาก็มีกล้ามขึ้นทั้งตัว เขาว่ายข้ามไปได้ใน 2 ชั่วโมงและเกือบจมน�้ำถึง 2 ครั้ง ชายคนที่ 2 จึงภาวนาว่า “โปรดประทานพละก�ำลังและเครื่องมือด้วยเพื่อข้าม ล�ำธารนี้” ทันใดนั้นเรือก็ปรากฎขึ้นมาพร้อมทั้งพละก�ำลัง เขาพายเรือฝ่าน�้ำเชี่ยว หนึ่งชั่วโมงก็ถึงฝั่ง เรือเกือบคว�่ำไป 2 ครั้ง ชายหนุ่มคนที่ 3 เห็นดังนั้นจึงภาวนาว่า “โปรดประทานพละก�ำลัง เครื่องมือและ สติปัญญาด้วย” ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมองแผนที่และเดินขึ้น ไปตามล�ำธารประมาณ 100 เมตรแล้วเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งอย่างปลอดภัย ฮาเลย นี่ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าหญิงฉลาดกว่าชาย ถ้าฉลาดก็อย่าไปเถียงกับพวกเธอเข้า ท้องเรื่องไม่ได้บอกว่าถึงฝั่งแล้วกลับมาเป็นชายเหมือนเดิมรึเปล่านะ ฮาดีครับ

ฮ่าๆ

40

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

20 กุมภาพันธ์ เวลา 08:19 น.

Eusebius นักประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 3 กล่าวไว้ว่า “มีผู้คนจ�ำนวน มหาศาลถูกจ�ำคุกอยู่ทั่วไปหมด คุกมากมายที่ถูกสร้างเตรียมไว้ส�ำหรับฆาตกรและ ขี้ขโมยก็เต็มไปด้วยพระสังฆราชที่มีจิตตารมณ์ เต็มไปด้วยพระสงฆ์ที่ร่าเริงและ สังฆานุกรที่ก�ำลังมีความสุขทั้งหลาย ดังนั้นจึงไม่มีที่ว่างในคุกส�ำหรับพวกที่ถูก ตัดสินว่าเป็นอาชญากรเลย” ทุกคนล้วนเป็นคนบาปด้วยกันทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะ อยู่ในฐานะอะไร เราโชคดีที่ไม่ได้อยู่ในยุคที่มีการเบียดเบียนศาสนาครับ Happy Wednesday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

41


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

23 กุมภาพันธ์ เวลา 08:46 น.

เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องข�ำขันนะครับ คุณพ่อองค์หนึ่งขับรถโดยมีนกเพนกวินสองตัวนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ต�ำรวจ สั่งให้หยุดเพราะพ่อขับรถเร็ว ต�ำรวจเห็นนกเพนกวินที่เบาะหลังจึงถามพ่อว่า “พ่อ ก�ำลังจะน�ำนกสองตัวนี้ไปสวนสัตว์รึครับ? ถ้าเช่นนั้นพ่อก็พามันไปได้เลย” ต�ำรวจ ก็ปล่อยพ่อไป วันต่อมาคุณพ่อก็ขับรถพานกสองตัวและก็ถูกต�ำรวจจับอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ต�ำรวจสังเกตเห็นว่านกเพนกวินทั้งสองตัวสวมแว่นกันแดดด้วย ต�ำรวจจึงพูด กับคุณพ่อว่า “ผมบอกคุณพ่อวานนี้ว่าให้น�ำนกเพนกวินทั้งสองตัวนี้ไปสวนสัตว์” คุณพ่อตอบว่า “พ่อพาพวกมันไปสวนสัตว์เมื่อวานนี้แล้ว วันนี้พวกเราก�ำลังจะไป ชายหาดกันนะ” ฮา บางทีเรื่องง่ายๆก็ท�ำให้เข้าใจยาก เรื่องง่ายๆก็กลายเป็นเรื่องยากไป เรา มักใช้ตัวตนของเราเองมาวัดทุกสิ่งทุกอย่าง เรื่องผิดก็กลายเป็นเรื่องถูก ถูกก็กลาย เป็นผิดได้นะครับ

ฮ่าๆ

42

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

23 กุมภาพันธ์ เวลา 09:15 น.

มีค�ำถามว่า “พระสงฆ์นักบวชหนุ่มๆอยู่ที่ไหน?” จ�ำนวนของพระสงฆ์ หนุ่มๆก�ำลังลดลงอย่างสม�่ำเสมอในปีที่ผ่านๆมา ไม่กี่ปีก่อน จ�ำนวนศาสนาจารย์ นิกาย Presbyterian ที่มีอายุต�่ำกว่า 35 ปีมีอยู่ถึง 24% ปัจจุบันนี้มีเหลือเพียง 7%, จ�ำนวนพระสงฆ์นิกาย Episcopal ที่มีอายุต�่ำกว่า 35 ปีลดลงจาก 19% เหลือ เพียง 4%, ส�ำหรับนิกายโรมันคาทอลิก จ�ำนวนพระสงฆ์หนุ่มลดลงจาก 16% เหลือ เพียง 6% บรรดานักวิจัยค้นคว้าให้ค�ำแนะน�ำว่า มีเหตผลที่ส�ำคัญๆ 2 อย่างที่ท�ำให้ จ�ำนวนคนหนุ่มๆลดน้อยลงคือ 1 ค่าครองชีพที่เหมาะสมกว่านี้ 2 ...ความเป็นผู้น่า เคารพ เกียรติคุณ ชื่อเสียงมีไม่มากพอ (Discipleship Journal 9-10/01) http:// garydfoster.com อย่างไรก็ตามงานวิจัยนี้ท�ำขึ้นในปี 2006 ครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าปัจจุบัน นี้สถานการณ์ดีขึ้นหรือแย่ลง แต่เรายังโชคดีมากๆครับที่มีผู้น�ำคือพระสันตะปาปา หลายองค์ที่ผ่านมาติดต่อกันมีชื่อเสียง มีชีวิต มีเกียรติคุณ เป็นที่น่าเคารพและ ยกย่องจากสังคมโลกอย่างกว้างขวาง เป็นที่ยอมรับ กระแสเรียกน่าจะดีขึ้นนะครับ Happy Sunday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

43


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

25 กุมภาพันธ์ เวลา 08:16 น.

GIVING, GREED AND SALVATION “ชายชราขี้เหนียวคนหนึ่งสุขภาพไม่ดีแล้ว ในที่สุดก็เริ่มคิดถึงชีวิตหลัง ความตายอย่างจริงจัง ไปขอพบเพระสงฆ์เจ้าวัดของตนถามว่า “พ่อครับ ผมไม่เคย ให้เวลากับพระเลย ไม่เคยท�ำบุญอะไรให้กับพระเลย ผมจะสามารถท�ำอะไรได้บ้าง เพื่อพระ?” พ่อเจ้าวัดมองดุชายนั้นแล้วพูดว่า “เอาละ ในที่สุดลูกก็คิดว่าก�ำลังจะท�ำ อะไรสักอย่างใช่มั้ย?” เขารู้สึกผิดแล้วพูดว่า “ตกลงครับ หากผมมอบเงินทองทั้งหมด ของผมให้แก่วัดละครับ? หากผมท�ำจริงๆแบบนั้น จะประกันได้หรือไม่ว่าผมจะได้ ไปสวรรค์หลังความตาย... หากผมมอบเงินทั้งหมดนั้นให้แก่คุณพ่อ?” พ่อเจ้าวัด หยุดชั่วขณะแล้วตอบว่า “คุ้มค่าที่จะลองดูนะ” (As told by Bishop J. Lawrence McCleskey at the clergy session of the Western North Carolina Conference of the United Methodist Church, June 6, 2007.) ท�ำดีตั้งแต่ตอนนี้ ตอนที่มีเวลาท�ำได้ เงินทองซื้อสวรรค์ได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเงินทองซื้อนรกได้แน่นอน ความโลภ การติดใจในเงินทองสามารถท�ำให้ แม้แต่สังฆราช พระสงฆ์ ฆราวาสเปลี่ยนมาเป็นคนเจ้าเล่ห์ได้ โกหกได้ ขี้โกงก็ได้ อย่างไม่น่าเชื่อครับ เราทุกคนจึงต้องระวังตัวครับ Happy Monday

ถูกใจ

44

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

26 กุมภาพันธ์ เวลา 08:24 น.

ข�ำขันครับ หญิงสาวคนหนึ่งมาที่ส�ำนักงานบริการหาคู่ด้วยคอมพิวเตอร์แล้วพูดว่า “ฉันก�ำลังหาเจ้าบ่าวคนหนึ่ง คุณจะช่วยหาคนที่เหมาะสมให้ฉันได้มั้ยค่ะ?” เจ้าหน้าที่จับคู่ถามว่า “คุณก�ำลังหาเจ้าบ่าวแบบไหนครับ?” หญิงสาวตอบว่า “จะต้องเป็นชายรูปหล่อ สุภาพ เป็นคนตลก มีอารมณ์ขัน เป็น นักกีฬา รอบรู้ ร้องเพลงเก่ง เต้นร�ำเก่ง เต็มใจที่จะอยู่เป็นเพื่อนฉันเวลาที่ฉันไม่ อยากออกไปที่ไหน เป็นคนเล่าเรื่องสนุกๆต่างๆเวลาที่ฉันต้องการเพื่อนคุย และเป็น คนเงียบเวลาที่ฉันต้องการพักผ่อน” เจ้าหน้าที่จับคู่จึงใส่ข้อมูลลงไปในคอมพิวเตอร์และในเวลาไม่นานก็ประมวลผล ออกมาให้แก่หญิงสาวว่า “ให้ไปซื้อโทรทัศน์เครื่องหนึ่ง” ฮาๆๆ แฟนที่ดีมีมากมาย นะครับ แต่แฟนที่สมบูรณ์แบบแบบนี้มีแค่ในความคิดก็แปลกแล้ว อย่าไปเรียกร้อง ความสมบูรณ์แบบจากใครเลย ยอมรับความบกพร่องของกันและกันมีความสุขกว่า ครับ Happy Tuesday

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

45


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

27 กุมภาพันธ์ 2019

PAINTING PICTURES OF THE LOST A Bishop Tucker of Uganda เคยเป็นศิลปินมาก่อน แล้วท่านกลาย มาเป็นสังฆราชได้อย่างไร? เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งขณะที่ท่านก�ำลังวาดภาพหนึ่ง เป็น ภาพของหญิงยากไร้คนหนึ่งก�ำลังอุ้มลูกของเธอเร่ร่อนไปตามถนนเพราะเป็นคนไร้ บ้าน ไปตามถนนรกร้าง ไร้ผู้คนในคืนมืดมิดที่ก�ำลังมีพายุ ในขณะที่ท่านก�ำลังวาด ภาพจะเสร็จ จู่ๆ ท่านก็ขว้างแปรงวาดภาพทิ้งไปและร้องตะโกนว่า “แทนที่ฉัน เพียงแต่มานั่งวาดภาพของวิญญาณดวงหนึ่งที่น่าสงสาร สู้ฉันออกไปหาวิญญาณ เหล่านั้นแล้วลงมือช่วยเหลือพวกเขาให้รอดจะไม่ดีกว่าหรือ” แล้วท่านก็ทิ้งทุกสิ่ง แล้วเริ่มช่วยเหลือผู้คนในอาฟริกา (From a sermon by Steve Shepherd, “In the Face of Human Suffering,” 2/3/2010) เป็นสังฆราชที่น่าชื่นชมมากๆ ครับ มีหัวใจที่น่ายกย่อง เป็นผู้น�ำที่รับใช้ผู้คน ไม่ใช่ใช้ อ�ำนาจเหนือผู้คน Happy Wednesday

ถูกใจ

46

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

27 กุมภาพันธ์ 2019

ข�ำขันฝรั่งนะครับ หญิงกลางคนคนหนึ่งไปให้ศิลปินวาดภาพเหมือน เธอบอกศิลปินว่า “วาด ภาพฉันก�ำลังสวมแหวนเพชรหลายๆ วง สร้อยคอมรกต ต่างหูทับทิมแล้วก็สวม นาฬิกาโรเล็กซ์ทองค�ำด้วยนะ” ศิลปินตอบว่า “แต่คุณไม่มีเครื่องประดับเหล่านั้น เลยนะครับ” เธอตอบว่า “ฉันรู้ดี แต่วาดไว้ในกรณีที่ฉันตายก่อนสามีของฉัน ฉัน แน่ใจว่าเขาจะต้องแต่งงานใหม่ทันทีอย่างแน่นอน และฉันต้องการให้ภรรยาใหม่ ของเขาเที่ยวควาญหาเพชรพลอยเหล่านั้นอย่างบ้าคลั่งไปเลย” พิษภัยของสมบัติมี แม้หลังความตายด้วยนะครับ อย่าไปหลงไหลกับมันมากจนบ้าคลั่งแบบนี้เลย อยู่ แล้วคนรัก ตายแล้วพระรักดีที่สุดแล้ว ฮา

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

47


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

1 มีนาคม เวลา 03:18 น.

ชายพื้นเมืองคนหนึ่งนับถือและเคารพมิชชันนารีท่านหนึ่งมาก เข้ามาถาม มิชชันนารีว่า “ท่านครับ ถ้าหากพระเจ้าให้บ้านแก่ท่าน 2 หลัง ท่านจะมอบบ้าน 1 หลังให้แก่พระเจ้าหรือไม่ครับ?” มิชชันนารีตอบว่า “แน่นอน มอบให้แน่นอน” ชายพื้นเมืองถามต่อไปว่า “ท่านครับ ถ้าพระเจ้ามอบเงินให้ท่าน 2 ล้านดอลล่า ร์ ท่านจะมอบเงิน 1 ล้านดอลล่าร์ให้แก่พระองค์หรือไม่ครับ?” มิชชันนารีตอบว่า “แน่นอนที่สุด มอบให้แน่” ชายพื้นเมืองถามต่อไปว่า “ท่านครับ ถ้าพระเจ้ามอบ รถยนต์ให้ท่าน 2 คัน ท่านจะมอบรถ 1 คันให้แก่พระองค์หรือไม่ครับ? “มิชชันนารี ยืนนิ่งอยู่สักครู่หนึ่ง ก้มศีรษะแล้วก็เดินจากไป ชายพื้นเมืองแปลกใจมากไปถาม มิชชันนารีอีกท่านหนึ่งว่า “เขาเป็นอะไรไปครับ?” มิชชันนารีท่านนั้นตอบว่า “ก็ เพราะเขามีรถยนต์สองคันจริงๆ นะสิ” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มิชชันนารีก็ยังมีความ ละอายใจที่มีทรัพย์สมบัติมาก แต่มีแล้วก็ไม่อยากจะสูญเสียไปเหมือนกับคนทั่วไป คนที่น่าสงสารที่สุดก็คือสิ่งเดียวที่เขามีคือเงินทองครับ นอกนั้นเขาไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครเลย ไม่มีเพื่อนแท้เลยจริงๆ Happy Friday

ถูกใจ

48

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

1 มีนาคม เวลา 03:35 น.

ข�ำขันชีวิตครอบครัว เย็นหนึ่งสามีภรรยาทานอาหารเย็นที่บ้าน ในระหว่างอาหาร ภรรยาบ่น กับสามีว่า “ตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ๆ คุณจะหยิบสเต๊กชิ้นเล็กไปและให้สเต๊กชิ้น ใหญ่แก่ฉัน แต่เเดี๋ยวนี้คุณจะเลือกสเต๊กชิ้นใหญ่ไปและเหลือชิ้นเล็กไว้ให้ฉัน คุณไม่ รักฉันแล้วใช่มั้ย?” สามีตอบภรรยาว่า “เหลวไหลน่า ที่รัก เดี๋ยวนี้เธอปรุงอาหาร เก่งขึ้นต่างหาก” ฮาดีครับ แต่ก่อนท�ำอาหารไม่เก่งได้กินชิ้นใหญ่ พอท�ำอาหารเก่ง ก็ได้กินชิ้นเล็ก ความรักไม่มีที่จานอาหารอีกแล้ว เหลือแต่ความอร่อย ทุกมื้อควรมี “ความรักจานร้อนๆ” นะครับ ท�ำไมไม่ท�ำสเต๊กสองชิ้นเท่ากันก็ไม่รู้ ฮา

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

49


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

2 มีนาคม เวลา 03:33 น.

Bishop Potter of New York ก�ำลังเดินทางไปยุโรป เมื่อท่านขึ้นเรือ โดยสารขนาดใหญ่แล้วก็พบว่าท่านต้องร่วมห้องพักกับผู้โดยสารอีกคนหนึ่งด้วย หลังจากที่ท่านพิจารณาดูรอบๆ ห้องพักสักครู่หนึ่งแล้วท่านก็ไปขอพบกับเจ้าหน้าที่ ดูแลห้องพักและถามว่า “พ่อขอฝากนาฬิกาทองและของมีค่าอื่นๆ ทั้งหมดไว้ในตู้ เซฟของเรือได้หรือไม่?” จากนั้นท่านก็อธิบายว่า “ปกติพ่อก็ไม่ท�ำเช่นนี้นะครับ แต่ พอไปถึงที่พักและพบกับชายคนหนึ่งที่จะต้องพักด้วยกันแล้ว ดูจากสภาพภายนอก แล้ว พ่อก็เกรงว่าเขาจะไม่ใช่คนที่จะวางใจได้สักเท่าไรนัก” เจ้าหน้าที่ที่พักตอบว่า “ยินดีอย่างยิ่งครับ พระคุณเจ้า ผมจะดูแลของมีค่าเหล่านี้อย่างดีครับ ชายคนนั้นที่ อยู่ห้องพักเดียวกับพระคุณเจ้าก็เพิ่งจะน�ำของมีค่าของเขาทั้งหมดมาฝากไว้ที่นี่ด้วย เหตุผลเดียวกันครับ” ใครๆ ก็ห่วงสมบัติด้วยกันทั้งนั้นเวลาที่มีมากๆ คอยระแวงว่า จะมีใครมาพรากเอาไป ระแวงว่าจะมีใครมารู้จนต้องคอยตัดสินใครต่อใคร มีมาก ก็ยังต้องการมีมากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ ยิ่งวิจารณ์ยิ่งกล่าวโทษคนอื่นมากเท่าไร ก็ ปกปิดความผิดของตนเองได้มากเท่านั้น พอเพียงก็เพียงพอ Happy Sunday

ถูกใจ

50

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

5 มีนาคม เวลา 03:34 น.

ข�ำขันนะครับ ชายคนหนึ่งวางดอกไม้ที่หลุมศพของแม่และก�ำลังกลับไปที่รถของตน เขา เห็นชายอีกคนหนึ่งก�ำลังสวดภาวนาอยู่ที่หน้าหลุมศพหนึ่ง เขาร�ำพึงร�ำพันซ�้ำไปซ�้ำ มาว่า “ท�ำไมคุณถึงต้องตาย ท�ำไมคุณถึงต้องตาย” เขาจึงเดินเข้าไปถามว่า “คุณครับ ผมไม่อยากจะรบกวนเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่การแสดงออกซึ่งความเจ็บปวดของ คุณขนาดนี้ผมไม่เคยพบมาก่อนเลย คุณโศกเศร้าอย่างมากขนาดนี้เพื่อใครหรือ ครับ?” ชายคนนั้นนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วรวบรวมความกล้าตอบว่า “คนที่ตายนี่ก็คือสามี คนแรกของภรรยาผมเองครับ” ฮา กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว อยู่ด้วยกันต่างฝ่าย ต่างก็ต้องอดทนต่อกันนะครับ จะไปโทษใครฝ่ายเดียวไม่ได้นะครับ รักกันสุขกว่า ทะเลาะกันเป็นไหนๆ Happy Happiness.

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

51


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

7 มีนาคม เวลา 03:37 น.

Arthur Gordon ก�ำลังท�ำความสะอาดบ้านและก็ไปพบของมีค่ามากชิ้น หนึ่ง มันเป็นกล่องใส่จดหมายเก่าๆ ของครอบครัวที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน จดหมายพวกนี้ร้อยเรียงเรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆ ของครอบครัว มีค�ำพูดมากมาย ที่แสดงถึงความซื่อสัตย์ ความรักความผูกพันที่มีอยู่ในครอบครัว ฉบับหนึ่งเขียนว่า “ฉันเคยบอกคุณหรือยังว่าคุณช่างเป็นคนที่แสนวิเศษมากเหลือเกิน อย่าลืมเป็น อันขาดนะว่าเพื่อนๆ และครอบครัวรักคุณและชื่นชมคุณมากเพียงใด” อีกฉบับ หนึ่งเขียนว่า “คุณไม่รู้หรอกว่าการมาเยี่ยมของคุณมีความหมายต่อเรามากเพียงใด ตอนที่คุณจากไป ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าพระอาทิตย์หยุดส่องแสงแล้ว” กอร์ดอนอ่าน จดหมายเหล่านั้นแล้วพูดว่า “ตอนนี้ผมรู้อย่างกระจ่างแจ้งแล้วว่าความรู้สึกเหล่านี้ มีผลต่อครอบครัวอย่างมาก มันตอบสนองความต้องการของมนุษย์เราจริงๆ ความ ต้องการการยอมรับและการรับรอง ท�ำไมนะ พวกเราถึงต้องการได้ยินค�ำเหล่านี้ อย่างมาก แต่เราเองก็ยังคงปฏิเสธที่จะพูดสิ่งเหล่านี้แก่กันและกัน” ค�ำพูด ค�ำชื่นชม มีความหมายอย่างมากต่อพวกเราจริงๆ นะครับ แต่พวกเราก็มักจะอายเกินกว่าที่ จะพูดทั้งๆ ที่อยากฟัง หาค�ำพูดที่น่าฟังสื่อสารแก่กันในครอบครัวนะครับ นั่นคือ ขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่มากในครอบครัว Happy Family ครับ

ถูกใจ

52

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

7 มีนาคม เวลา 04:03 น.

ข�ำขันครับ ชื่อว่า หญิงชราใจศรัทธา หญิงชรามีใจศรัทธาและชายเพื่อนบ้านเป็นใจไม่ศรัทธา หญิงชรามักพูด ว่า “จงสรรเสริญพระเจ้า” ชายเพื่อนบ้านมักพูดตอบว่า “ฉันไม่เชื่อ” วันหนึ่งหญิง ชราออกมาสวดดังๆ หน้าบ้านว่า “พระเจ้า ลูกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความยากล�ำบาก ลูกต้องการอาหาร ลูกล�ำบากจริงๆ โปรดส่งอาหารและเครื่องใช้มาให้แก่ลูกด้วย” วันรุ่งขึ้นหญิงชราออกมาที่ระเบียงหน้าบ้านก็พบถุงใหญ่บรรจุอาหารการกินและ เครื่องใช้วางอยู่ เธอจึงร้องว่า “จงสรรเสริญพระเจ้า” ทันใดนั้นชายเพื่อนบ้านก็ กระโดดออกมาจากพุ่มไม้พูดว่า “ฮืม ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันไม่เชื่อ ฉันเป็นคนซื้อ ของเหล่านี้ให้เธอเอง พระไม่ได้ท�ำสักหน่อย” หญิงชรากระโดดโลดเต้นด้วยความ ยินดี ตบมืออย่างสะใจแล้วพูดว่า “จงสรรเสริญพระเจ้า พระองค์ไม่เพียงส่งอาหาร การกินและเครื่องใช้มาให้ แต่พระองค์ยังท�ำให้ปีศาจจ่ายเงินส�ำหรับของเหล่านั้น ด้วย จงสรรเสริญพระเจ้า” Praise the Lord!” ฮา มหาพรตนี้ท�ำดีต่อกันไว้นะครับ ไม่ต้องทะเลาะกัน ช่วยกันและกัน สวดภาวนากันในบ้านก็ได้นะครับ

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

53


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

9 มีนาคม เวลา 03:26 น.

SOMEONE ELSE IS PUNISHED เรื่องราวของจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีน เป็นจักรพรรดิของจีนตั้งแต่ อายุยังน้อย มีชีวิตอย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย ท�ำทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามใจตน มีข้าราช บริพารล้อมรอบ 1000 คน พร้อมจะรับใช้พระองค์ ครั้งหนึ่งพระเชษฐาถามพระองค์ ว่า “จะเกิดอะไรขึ้นหากพระองค์ทรงกระท�ำผิด?” พระองค์ตรัสตอบว่า “เมื่อข้าท�ำ ผิด จะมีใครคนหนึ่งมารับโทษแทนข้า” ตรัสแล้วพระองค์ก็ไปน�ำแจกันใบหนึ่งมา และโยนแจกันนั้นลงพื้นไป ข้ารับใช้คนหนึ่งต้องรับโทษถูกโบยแทนพระองค์ เรื่อง แบบนี้มีเฉพาะผู้มีอ�ำนาจและใช้อ�ำนาจผิดๆ เท่านั้นเขาท�ำกัน นอกจากคนผิดไม่ถูก ลงโทษแล้ว ยังไปหาคนอื่นมารับผิดรับโทษแทน คนผิดก็ได้รับการคุ้มครองปกป้อง ไว้ เรือ่ งแบบนีบ้ างครัง้ ก็เกิดใกล้ตวั เรา บางทีกเ็ กิดแก่เราเองด้วยครับ Happy Saturday

ถูกใจ

54

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

9 มีนาคม เวลา 03:39 น.

เรื่องข�ำขันระหว่างอาดัมกับเอวาครับ อาดัมกลับบ้านช้ามาสองสามคืน เอวาเสียใจมากไปถามอาดัมว่า “เธอไป สุงสิงกับผู้หญิงอื่นใช่มั้ย?” อาดัมตอบว่า “เธอนี่ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยนะ เธอเป็นผู้ หญิงคนเดียวที่มีอยู่ในโลกนี้นะ” การทะเลาะก็เริ่มขึ้นตั้งแต่นั้น คืนหนึ่งอาดัมตื่นขึ้น มาเพราะมีบางคนก�ำลังเคาะที่อกของเขา เป็นเอวานั่นเอง เขาจึงถามว่า “เธอก�ำลัง ท�ำอะไร” เอวาตอบว่า “ก�ำลังนับซี่โครงของเธออยู่” ฮา เอวาถูกสร้างขึ้นมาจาก ซี่โครงของเขาครับ แล้วซี่โครงเขาก็มีหลายอันอยู่นะ รักกันก็ต้องเชื่อใจกัน ไว้ใจกัน Happy Holiday

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

55


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

10 มีนาคม เวลา 03:41 น.

ข�ำขันวันอาทิตย์ครับ เด็กหอพักก�ำลังเข้าแถวเพื่อรับอาหารเที่ยง ที่หัวโต๊ะวางอาหารมีตะกร้า แอปเปิ้ลวางอยู่ ซิสเตอร์ดูแลหอพักเขียนป้ายติดไว้ที่ตะกร้าว่า “หยิบได้คนละ 1 ลูก พระเจ้าก�ำลังมองอยู่นะ” ที่ปลายโต๊ะวางอาหารก็มีตะกร้าช๊อคโคแลตวางอยู่ด้วย เด็กหอพักคนหนึ่งก็เขียนป้ายมาติดไว้ด้วย เขียนว่า “หยิบไปเท่าไหร่ก็ได้ พระเจ้า ก�ำลังมองอยู่ที่ตะกร้าแอปเปิ้ล” ฮา บางคนก็ไม่ซื่อเพราะคิดว่าพระไม่เห็น บาง คนไม่ซื่อทั้งๆ ที่รู้ว่าพระเห็น ในโลกเรามีหลายอย่างที่ท�ำให้เรากลายเป็นคนไม่ซื่อ บางคนหาเหตุผลให้กบั เรือ่ งทีไ่ ม่ซอื่ ขีโ้ กงจังเลย คนเรา หยิบกันคนละลูกก็พอนะครับ

ฮ่าๆ

56

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

12 มีนาคม เวลา 02:47 น.

สามีเบื่อภรรยาที่ขี้บ่น เขาท�ำอะไรก็ไม่ดีไปหมด สามีไปขอผู้อาวุโสของ หมู่บ้าน ขอร้องให้ไปตักเตือนภรรยาของเขาให้หน่อย ผู้อาวุโสถามเขาว่า เจ้ายังรัก ภรรยาอยู่หรือเปล่า คิดสักนิดสามีพูดว่า ยังรักอยู่ครับ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปตัดฟืน ส�ำหรับหน้าหนาว ไม่ต้องให้ภรรยาบอกก่อน เวลาเลิกงานกลับบ้านก็หาดอกไม้ไป ให้เธอ ซื้อของไปฝากเธอแบบที่เคยท�ำตอนรักกันใหม่ๆ จูบเธอตอนจะไปท�ำงาน จูบ ราตรีสวัสดิ์เธอ ห่มผ้าให้เธอตอนที่เธอหลับแล้วบ้าง แล้วเชื่อเถอะ เธอจะไม่บ่นว่า อะไรเธออีกเลย อย่าลืมให้ความใกล้ชิดกับคนที่คุณรักนะครับ ทุกคนต้องการมิใช่ แค่ค�ำว่ารักแต่ต้องการเห็น ความรักด้วย ถ้าคุณยังรัก คุณต้องให้ความรัก เมื่อไรไม่ รัก ทุกอย่างก็เริ่มยาก รักอดทนทุกสิ่ง อภัยทุกสิ่ง Happy Tuesday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

57


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

16 มีนาคม เวลา 04:08 น.

พ่อบวชใหม่และประหม่าในการเทศน์ครั้งแรกองค์หนึ่งลงท้ายบทเทศน์ ว่า “พวกเขาเลี้ยงชาย 5 คนด้วยขนมปังห้าพันก้อนและปลาสองพันตัว” สัตบุรุษ คนหนึ่งยกมือขึ้นพูดว่า “คุณพ่อครับ ก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับ ผมก็ท�ำได้ถ้างั้น” พ่อ องค์นั้นก็ไม่ตอบอะไร อาทิตย์ต่อมาพ่อก็ตัดสินใจใช้บทการทวีขนมปังเหมือนเดิม คราวนี้พูดถูกทุกอย่าง “พวกเขาเลี้ยงชายห้าพันคนด้วยขนมปังห้าก้อนกับปลาสอง ตัว” พ่อยิ้มแล้วพูดกับชายคนเดิมนั้นว่า “คุณเพอร์กิ้นครับ อย่างนี้คุณท�ำได้มั้ย?” เพอร์กิ้นลุกขึ้นพูดว่า “พ่อครับ ท�ำได้แน่นอน” พ่อก็ถามอีกว่า “คุณจะท�ำยังงัย?” เขาตอบว่า “ ก็จากขนมปังและปลาที่เหลือจากอาทิตย์ที่แล้วงัยครับ” ช่างคิดเนอะ คนเรา ฮาดีครับ Happy

ถูกใจ

58

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

16 มีนาคม เวลา 04:21 น.

เฮเลน เคลเลอร์เป็นนักประพันธ์ตาบอดที่ชาวอเมริกันรู้จักดี ในบทความ หนึ่งของเธอ “Three days to see” เธอเขียนว่าเธออยากเห็นอะไรบ้างถ้าเธอมอง เห็นได้เพียงสามวัน เธอบอกว่า “วันแรกที่มองเห็นได้เธอจะมองดูใบหน้าของคนที่ เธอรักอย่างละเอียด คนที่รักเธอ ใจดีต่อเธอและอ่อนโยนกับเธอ คนที่ให้ชีวิตและ เป็นเพื่อนเธอในชีวิตนี้ รวมถึงครูแอน ซัลลิแวน เพื่อนๆ ของเธอและสุนัขที่ซื่อสัตย์ ของเธอ ก่อนตะวันตกดินเธออยากเห็นป่า ท้องทุ่งและตอนกลางคืนเธออยากเห็น บ้านของเธอตอนที่ไม่มีแสงสว่างเลยว่าเป็นอย่างไร วันที่สองเธออยากไปเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์เพื่อ จะได้รู้จักอดีตและปัจจุบัน จากนั้นไปชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ดูการวาด การแกะสลัก การปั้น จบลงด้วยการไปดูหนัง เต้นร�ำ ดูละคร วันสุดท้ายเธออยากไป ชมเมือง ดูสะพาน ดูอนุสาวรีย์ต่างๆ ดูผู้คน อยากไปยืนตรงที่ที่มีผู้คนมากๆ อยาก เข้าใจชีวิตของพวกเขา อยากเห็นพวกเขายิ้ม ร่าเริง อาจเห็นใบหน้าที่หม่นหมองหรือ เป็นทุกข์ ก่อนจบวันสุดท้ายอยากไปเยี่ยมเพื่อนบ้านของฉันทุกคนหรือมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ นี่คือความฝันของคนตาบอดครับ ส่วนเราตามองเห็น บางครั้ง ก็เหมือนไม่เห็นอะไรเลย มหาพรตเป็นช่วงเวลาเปิดตาเปิดใจ มองเห็นตัวตนเรา และมองเห็นเพื่อนมนุษย์ของเรา Happy Lenten Season

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

59


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

21 มีนาคม เวลา 02:37 น.

มาคลายเครียดกันหน่อยครับ พ่อองค์หนึ่งก�ำลังเทศน์อยู่ในวัด เด็กเล็กๆ คนหนึ่งนั่งกับแม่ด้านหน้าก็ร้องไห้เสียงดังมาก แม่พยายามอย่างที่สุดที่จะให้ลูก หยุดร้อง แต่ก็ไม่ส�ำเร็จ แม่จึงอุ้มลูกขึ้นและก�ำลังจะเดินออกไปด้านนอกวัด คุณพ่อ เห็นดังนั้นก็สงสารจึงหยุดเทศน์และพูดกับแม่คนนั้นว่า “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องพา ลูกไปข้างนอก เขาไม่ได้รบกวนอะไรพ่อเลย” แม่คนนั้นหยุดทันที หันมาทางพ่อ แล้วพูดว่า “ขอโทษนะค่ะคุณพ่อ พ่อต่างหากที่ก�ำลังรบกวนลูกดิฉันอยู่” แม้จะเป็น เรื่องตลกแต่ก็ชวนให้รู้ว่าแม่รักลูกและปกป้องลูกของตนเสมอ ฮา สงสารพ่อ

ฮ่าๆ

60

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

21 มีนาคม เวลา 02:43 น.

สามร้อยปีก่อนคริสตศักราช พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชยึดครองโลก (ในความหมายของคนยุคนั้นนะครับ) ตอนที่อาณาจักรสุดท้ายถูกพระองค์ยึดครอง นักประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าพระองค์เดินเข้าไปในเต้นท์และร้องไห้เพราะว่าไม่มี โลกที่พระองค์จะยึดครองอีกแล้ว วันหนึ่งพระองค์เดินไปหาเพื่อนชื่อ Diogenes ซึ่งก�ำลังนอนอาบแดดอยู่ พระองค์บอกเขาว่า “เพื่อนรัก ขออะไรเราสักอย่างสิ ฉัน จะให้ทุกอย่างที่ขอแม้ว่าจะเป็นครึ่งหนึ่งของอาณาจักรทั้งหมดนี้ก็ตาม” ดิโอเยแนส ตอบไปอย่างซื่อๆ ว่า “กระผมขอให้พระองค์อย่ายืนบังแดดอันอบอุ่นนี้ ก็พอ” อเล็กซานเดอร์เดินออกมาจากเขาพูดว่า “หากฉันไม่ใช่อเล็กซานเดอร์ ฉันขอเป็น แค่ดิโอเยแนสนี่แหละ” ใครร�่ำรวยกว่ากันครับ อเล็กซานเดอรืหรือดิโอเยแนส คน หนึ่งแม้โลกทั้งโลกนี้ก็ยังไม่พอส�ำหรับเขา แต่อีกคนหนึ่งพอใจแค่แสงอาทิตย์อัน อบอุ่นเท่านั้น วัตถุนิยม อ�ำนาจวาสนา ชื่อเสียง ความร�่ำรวยท�ำให้เราเป็นทาสของ มัน ท�ำให้เรากังวลตลอดเวลา พอใจในทุกสิ่งที่เรามี ที่เราเป็นเราก็เป็นอิสระและ มีความสุขได้มากกว่าครับ มีประโยชน์อะไรรับที่ได้ทุกสิ่งในโลกแต่ต้องสูญเสียจิต วิญญาณของเราละครับ Happy Day

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

61


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

22 มีนาคม เวลา 03:03 น.

อเล็กซานเดอร์มหาราชท�ำสงครามยึดครองโลกอยู่นานหลายปี ที่สุดจึง เข้าใจว่าสิ่งที่ส�ำคัญที่สุดที่เขาต้องการก็คือ กลับไปหาแม่และกอดแม่สักครั้งหนึ่ง เขายกทัพกลับบ้าน แต่ช้าไปเพราะอเล็กซานเดอร์สิ้นพระชนม์ระหว่างทางด้วยอายุ เพียงสามสิบกว่าๆ เท่านั้นเอง มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความตายของเขาแบบนี้ด้วยครับ ก่อนตายพระองค์เรียกขุนพลทั้งหมดมาสั่งว่า “เมื่อข้าตายแล้วให้หมอหลวงทั้งหมด เป็นคนแบกศพข้า เอาเพชร ทองค�ำ นิล พลอย เงินที่ข้ายึดได้จากอาณาจักรต่างๆ เทบนถนนที่ศพข้าจะผ่านและท�ำโลงศพของข้าโดยให้มือทั้งสองข้างของข้าออกมา จากโลง” ไม่มีใครกล้าถามพระองค์ว่าท�ำไมถึงท�ำเช่นนี้ ขุนพลทุกคนตอบรับแต่คน หนึ่งกล้าถามว่าท�ำไมจึงรับสั่งเช่นนั้น” พระองค์ตอบว่า “เพราะว่า ไม่มีหมอไหน แม้ที่เก่งที่สุดในอาณาจักรจะสามารถหยุดยั้งความตายได้ ตายแล้วทุกสิ่งที่มี ที่ท�ำ สงครามยึดครองมาก็เป็นเพียงแค่หินท�ำถนนเท่านั้นเอง สุดท้ายก็เพราะข้าเกิดมา มือเปล่าและข้าก็ตายแบบมือเปล่าเช่นกัน ไม่สามารถน�ำสิ่งใดไปได้เลย แม้อยาก จะกอดแม่อีกสักครั้ง ก็ยังท�ำไม่ได้เลย” และใครจะเชื่อบ้างละครับว่าแม้แต่ที่ฝัง ศพของมหาราชผู้นี้ก็ยังไม่มีใครเคยพบเลยว่าอยู่ที่ใด อเล็กซานเดอร์มารู้ว่าสิ่งที่เขา ต้องการที่สุดในชีวิตคืออะไรก็ตอนที่สายเกินไปแล้ว มีสิ่งที่มีค่าทางจิตใจของเราอีก มากมายทีเ่ ราควรท�ำเสียตัง้ แต่ตอนนี้ อย่าปล่อยให้มนั สายเกินไปนะครับ Happy Day

ถูกใจ

62

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

23 มีนาคม เวลา 05:05 น.

ครอบครัวร�่ำรวยครอบครัวหนึ่งลงโฆษณารับสมัครพนักงานขับรถ หลัง จากการคัดกรองของผู้จัดการก็มี 4 คนที่ผ่านเกณฑ์ ภรรยาน�ำทั้ง 4 คนไปที่ระเบียง บ้านแล้วชี้ให้ทุกคนดูก�ำแพงหินที่อยู่ริมถนนทางเข้าบ้านถามว่า “พวกคุณคิดว่า สามารถขับรถเข้าไปชิดก�ำแพงหินนั้นได้ใกล้ขนาดไหนโดยไม่ให้รถได้รับความเสีย หาย?” คนแรกตอบว่า “ผมท�ำได้ใกล้ 1 ฟุตครับ” คนที่ 2 ว่า “6 นิ้ว” คนที่สาม บอกว่า “3 นิ้วครับ” ส่วนคนที่ 4 ตอบว่า “ผมไม่ทราบว่าผมสามารถขับได้ชิด ก�ำแพงเท่าไร แต่ผมจะพยายามอย่างที่สุดที่จะขับรถให้ห่างจากก�ำแพงหินนั้นให้ มากที่สุดเพื่อไม่ไห้รถได้รับความเสียหาย” คนขับรถเก่งไม่ได้หมายความว่าสามารถ เข้าไปใกล้อันตรายได้มากเท่าไร แต่หมายถึงคนที่สามารถออกห่างจากอันตราย ได้มากที่สุดต่างหาก อย่าน�ำชีวิตเราเข้าไปใกล้อันตราย เช่น อย่าแต่งกายจนเป็น อันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น โดยคิดว่าเราดูดีที่สุด แต่พยายามน�ำชีวิตให้ออกห่าง จากอันตรายที่สุดดีกว่าครับ อย่าน�ำชีวิตครอบครัวเราเข้าไปเสียงกับการไปสนใจ คนอื่นมากกว่าสนใจคนในครอบครัวเรา คนเก่งไม่ได้หมายความว่าท�ำร้ายคนอื่น ได้ แต่หมายถึงคนที่ช่วยให้ตนเองและคนอื่นไม่ถูกท�ำร้ายต่างหากครับ ชีวิตเรามี อันตรายหลายอย่างทีเ่ ราต้องออกมาให้หา่ งนะครับ Happy Holiday and Election.

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

63


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

23 มีนาคม เวลา 05:34 น.

ข�ำขันกันหน่อยครับ นายทหารยศพันตรีได้รับมอบหมายหน้าที่ใหม่ที่กองบัญชาการทหาร ใน ขณะที่ก�ำลังจัดข้าวของในส�ำนักงาน พลทหารคนหนึ่งก็เคาะประตูห้อง นายพันตรี จึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อให้ดูเหมือนว่าก�ำลังท�ำงานยุ่งอยู่ พอพลทหารเข้ามา เขาก็พูดในโทรศัพท์ว่า “ครับท่านนายพล ชวาซคอฟ, กระผมคิดว่านั่นเป็นความ คิดที่ดีมากครับท่าน ไม่ครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี ท่านเรียกกระผมได้ตลอดเวลา ครับท่าน กระผมดีใจที่สามารถช่วยท่านได้ครับ ครับผม ผมจะท�ำเช่นนั้นครับ ฝาก ความระลึกถึงถึงครอบครัวท่านด้วยนะครับ ขอบคุณครับท่าน ขอให้ท่านมีความสุข เช่นเดียวกันครับ ท่านนายพล ชวาซคอฟ” พอเขาวางโทรศัพท์แล้ว จึงหันมาถาม พลทหารว่า “ฉันพอจะช่วยอะไรได้บ้างละ พลทหาร?” ด้วยใจซื่อๆ พลทหารพึมพ�ำ ออกมาว่า “อืม ท่านครับ ผมถูกส่งมาที่นี่เพื่อเชื่อมต่อสายโทรศัพท์ของท่านครับ” อืม ฮาดีครับ บางทีคนที่ไม่มีอะไรจะท�ำ ก็พยายามท�ำตนเหมือนยุ่งๆ อยู่ตลอดเวลา จะได้ดูดีนะครับ บางทีก็อาจจะท�ำอะไรไม่เป็นก็ได้ สู้ท�ำแบบพลทหารใจซื่อดีกว่า ครับ ซื่อดีกว่าเจ้าเล่ห์ Happy Day

ฮ่าๆ

64

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

24 มีนาคม เวลา 03:19 น.

ในปี 1818 ฝรั่งเศส หลุยส์อายุ 9 ขวบก�ำลังนั่งดูพ่อเขาท�ำงาน พ่อมีอาชีพ ท�ำบังเหียนม้า เขาพูดกับพ่อว่า พ่อครับวันหนึ่งผมจะเป็นคนท�ำบังเหียนม้าเหมือน พ่อ พ่อตอบว่าท�ำไมไม่ท�ำตอนนี้เลยละ พ่อหยิบหนังมาผืนหนึ่ง วาดลวดลายลงไป พูดว่า ลูกเอาตัวเจาะรูและฆ้อนมา เจาะรูไปตามแบบนี้นะ ระวังอย่าตอกไปโดน มือตัวเองด้วย หลุยส์ตื่นเต้นมากและลงมือท�ำแต่เขาท�ำตัวเจาะรูหลุดและมันเข้าไป แทงตาเขา ตาข้างนั้นบอดตั้งแต่ตอนนั้นเลย ไม่นานตาอีกข้างหนึ่งก็ล้มเหลวด้วย เขาตาบอดทั้งสองข้าง หลายปีต่อมาขณะที่เขานั่งอยู่ในสวน เพื่อนคนหนึ่งยื่นผล ของต้นสนให้เขา ขณะที่เขาใช้มือและนิ้วลูบไล้ที่ผลต้นสน เขาเกิดมีความคิดหนึ่ง เข้ามา เขาดูกระตือรือร้นมากและเริ่มคิดประดิษฐ์ตัวอักษรเป็นจุดๆ บนกระดาษ เพื่อให้คนตาบอดสามารถสัมผัสและตีความสิ่งที่เขียนอยู่ได้ นี่แหละครับหลุยส์ เบรล Louis Braille ผู้ประดิษฐ์ตัวอักษรเบรล ผู้เปิดโลกใหม่ให้แก่คนตาบอด ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุครั้งนั้น อุบัติเหตุท�ำลายและท�ำร้ายร่างกายได้ อย่า ให้มันมาท�ำร้ายจิตวิญญาณของเราไปด้วย คนพิการมากมายได้ท�ำให้ชีวิตของเขา มีค่าด้วยจิตวิญญาณแบบนี้และช่วยให้คนไม่พิการกลับมีจิตวิญญาณแบบนี้ได้ด้วย ขอขอบคุณจิตวิญญาณแห่งนักสู้ตัวจริงในผู้พิการทุกท่าน ไม่มีอะไรส�ำคัญไปกว่า จิตวิญญาณครับ น่าเสียดายคนที่ไม่พิการแต่กลับสูญเสีย จิตวิญญาณของตนไป นะครับ Happy Sunday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

65


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

25 มีนาคม เวลา 03:18 น.

ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ Old Sufi เล่าสอนว่า Nasruddin นั่งดื่มน�้ำชากับ เพื่อนคุยกันเรื่องชีวิตและเรื่องความรัก เพื่อนคนหนึ่งถามว่า “นาสรุดดิน เป็นไปได้ อย่างไรที่แกยังไม่แต่งงาน” เขาตอบว่า “บอกตามตรงนะฉันตามหาผู้หญิงสมบูรณ์ แบบมาตั้งแต่เป็นหนุ่มแล้ว ที่ไคโร ฉันพบผู้หญิงฉลาดคนหนึ่ง ตาของเธอสวยมากๆ แต่ว่าเธอไม่ใจดี ที่แบกแดด พบอีกคนหนึ่งเธอเป็นคนวิเศษมาก จิตใจกว้างขวาง แต่เราชอบอะไรๆ ไม่เหมือนกัน และก็อีกหลายๆ คนที่มักจะขาดอะไรบางอย่างไป เสมอเลย จนกระทั่งวันหนึ่งฉันก็พบเธอ ทั้งสวย ฉลาด ใจดีและใจกว้าง เราชอบ อะไรๆ เหมือนกันด้วย” เพื่อนของเขาจึงถามว่า “แล้วเกิดอะไรขึ้นละ?” นาสรุด ดินจิบชาครุ่นคิดเล็กน้อยแล้ว ตอบว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากจริงๆ เพราะเธอ สารภาพว่าเธอเองก็ก�ำลังตามหาชายสมบูรณ์แบบอยู่เหมือนกันและคนนั้นไม่ใช่ ฉัน” ในชีวิตแต่งงานการยอมรับข้อบกพร่องของกันและกัน ยอมรับ ความอ่อนแอ ของกันและกันยังง่ายกว่าการเรียกหาความสมบูรณ์แบบจากกันและกัน เราทุกคน ดีได้ครับแม้ไม่สมบูรณ์แบบ หากจะต�ำหนิคนอื่นว่าไม่ดีก็จงต�ำหนิตัวเองก่อนนะ ครับ เพราะเราเองก็มีข้อต�ำหนิมากมาย ยอมรับได้ก็รักได้ครับหรือถ้ารักก็ยอมรับได้ เหมือนกันครับ Happy Day

ถูกใจ

66

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

25 มีนาคม เวลา 03:37 น.

ข�ำขันกันอีกนิดนะครับ Abe และ Sol ก�ำลังนั่งเลี้ยงนกพิราบด้วยกันในสวน คุยกันเรื่องกีฬา เบสบอล เอบถามว่า “แกคิดว่าในสวรรค์มีกีฬาเบสบอลหรือเปล่า?” โซลคิดนิดนึง แล้วตอบว่า “ฉันไม่รู้ งั้นเอางี้นะ ถ้าฉันตายก่อนแก ฉันจะกลับมาบอกแกละกัน ว่ามีเบสบอลในสวรรค์หรือไม่มี แต่ถ้าแกตายก่อน แกก็ต้องท�ำอย่างเดียวกันนะ” ทั้งสองคนจับมือตกลงกัน สองสามเดือนต่อมา เอบก็ตายไป ไม่นานจากนั้นขณะที่ โซลก�ำลังเลี้ยงนกพิราบอยู่คนเดียว เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบว่า “โซล โซล” โซลจึง พูดขึ้นว่า “เอบ เป็นแกใช่มั้ย?” “ใช่ ฉันเอง” โซลถามต่อว่า “ตกลงในสวรรค์มี เบสบอลรึเปล่า?” เอบจึงบอกว่า “เออ เรื่องนี้ฉันมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย” “งั้นบอก ข่าวดีมาก่อนละกัน” “ในสวรรค์มีกีฬาเบสบอลจริงๆ ด้วยนะ” “ยอดไปเลย งั้นจะ มีข่าวไม่ดีอะไรได้อีกล่ะ?” เอบส่ายหน้าแล้วพูดว่า “มีชื่อแกเป็นคนขว้างลูกในวัน ศุกร์นี้” ฮา ไม่รวู้ า่ โซลช๊อคตายไปเลยรึเปล่านะครับ ไม่มใี ครรูว้ า่ เราจะถึงเวลานีก้ นั เมือ่ ไหร่ ก็เตรียมพร้อมไว้ มหาพรตก็เตือนใจเราเรือ่ งนีเ้ องครับ Have a good time.

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

67


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

3 เมษายน เวลา 09:09 น.

ประวัติศาสตร์ของกรีกบันทึกเรื่องภรรยาของนายพลคนหนึ่งของ ไซรัส ราชาแห่งเปอร์เซียผู้ยิ่งใหญ่ ภรรยาคนนี้ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงและถูกตัดสินประหาร ชีวิต ทันทีที่สามีของเธอรู้ข่าวนี้ เขารีบเข้าวังและเข้าไปถึงท้องพระโรง เขาเข้าไป คุกเข่าต่อหน้าราชาและร้องขอว่า “ข้าแต่พระราชาของข้า ไซรัส โปรดเอาชีวิตของ ข้าไปแทนชีวิตของภรรยาข้าด้วยเถิด ปล่อยภรรยาของข้าพระองค์ไป” ไซรัส ซึ่งนัก ประวัติศาสตร์กล่าวขานว่าเป็นชนชั้นสูงและมีความรู้สึกละเอียดอ่อนรู้สึกประทับ ใจในข้อเสนอนี้มากตรัสว่า “ความรักเช่นนี้ไม่ควรถูกความตายท�ำลายไป” จึงปล่อย ภรรยาและสามีคนู่ ใี้ ห้เป็นอิสระ ขณะทีท่ งั้ สองคนออกจากวังอย่างมีความสุข สามีพูด ขึ้นว่า “ที่รัก เธอสังเกตเห็นสายตาของพระราชาที่มองดูเราด้วยสายตาแห่งเมตตา หรือไม่ตอนที่พระองค์อภัยให้เราทั้งสองคน?”ภรรยาตอบว่า “ฉันไม่ได้มองไปที่ พระราชาเลย ฉันมองแต่เพียงชายคนที่ยอมมอบชีวิตของเขาตายแทนฉันเท่านั้น” ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการที่คนหนึ่งยอมตายแทนกันได้ มีคนหนึ่งยอมตายเพื่อ คนบาปอย่างเราด้วยนะครับ มหาพรตมองหาพระ Happy Day

ถูกใจ

68

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

6 เมษายน เวลา 08:44 น.

FORGIVE AND FORGET สตรีผู้หนึ่งอ้างว่าพระเยซูประจักษ์มาหาเธอ เธอจึงไปขอพบพระคาร์ดินัล ซิน พระคุณเจ้าจึงสอบสวนดูว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ หลังจากสนทนากันพอ สมควรแล้ว พระคุณเจ้าจึงร้องขอจากหญิงคนนั้นว่า “ลูก หากลูกพบพระเยซูอีก ครั้งหนึ่ง ลูกช่วยถามพระองค์ตอนที่พระสังฆราชของลูกคนนี้เป็นพระสงฆ์หนุ่มได้ ท�ำบาปอะไรไว้ จากนั้นลูกมาพบพ่อแล้วบอกพ่อนะ” เธอตกลง พระสังฆราชทราบ แก่ใจว่านอกจากตัวท่านแล้ว ไม่มีใครรู้บาปของท่านแน่นอน นอกจากพระเท่านั้น หลายเดือนต่อมาหญิงคนนี้ก็กลับมาอีกครั้งหนึ่งรายงานว่าพระเยซูประจักษ์มาหา เธออีกครั้งหนึ่งแล้ว พระคุณเจ้าจึงถามเธอว่า “ดี ลูกถามพระองค์รึเปล่าเกี่ยวกับ บาปของพ่อ?” เธอตอบว่า “ถามแล้วค่ะ” “พระองค์ตอบว่าอย่างไร?” “พระองค์ ตอบว่า “เราลืมไปหมดแล้ว” (Larson, B., & Ogilvie, L. J. (1983). Vol. 26: The Preacher’s Commentary Series, Volume 26 : Luke. The Preacher’s Commentary series (314). Nashville, Tennessee: Thomas Nelson Inc.) พระเจ้าไม่เพียงอภัยบาปเรา แต่ ยังลืมบาปของเราด้วย มนุษย์เราให้อภัยยาก แม้เมือ่ อภัยแล้วก็ยงั ไม่ลมื ความเจ็บปวด ความแค้นเคืองที่มีในใจ บางครั้งเราก็ต้องสูดหายใจลึกๆ และลืมไปบ้างนะครับ มหาพรต ลืมแบบพระ ความรักไม่จดจ�ำความผิด Happy Sunday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

69


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

6 เมษายน เวลา 09:11 น.

ข�ำขันกันหน่อยครับ คู่บ่าวสาวก�ำลังเดินทางไปเข้าพิธีแต่งงาน เกิดอุบัติเหตุรถยนตร์เสียชีวิต ทั้งคู่และพบว่าตนเองอยู่ที่ประตูสวรรค์รอนักบุญเปโตรมาต้อนรับ เมื่อท่านมาถึงทั้ง สองจึงถามท่านว่า “ท่านเปโตรครับ เราสองคนอยากจะขอท่านแต่งงานในสวรรค์ ได้หรือไม่ครับ?” “ไม่ทราบเหมือนกันครับ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนขอเช่นนี้ ถ้าได้ค�ำ ตอบแล้วจะมาบอกนะครับ” ทั้งสองรอค�ำตอบอยู่สามเดือน ที่สุดท่านเปโตรก็กลับ มาแล้วบอกคู่แต่งงานว่า “ได้ครับ คุณสองคนแต่งงานในสวรรค์ได้” “ดีจังเลย แต่ เราสองคนยังสงสัยอยู่ข้อหนึ่งครับ ถ้าหากอยู่ๆ ไปแล้วเราไม่สามารถไปกันได้ดี เรา จะขอแยกกันอยู่ได้หรือไม่ครับ?” ท่านเปโตร หน้าแดงกล�่ำ ขว้างคลิปบอร์ดลงพื้น ด้วยความไม่พอใจ ทั้งสองจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้นครับท่าน?” เปโตรตะโกนตอบว่า “นี่คุณสองคน ผมใช้เวลากว่าสามเดือนที่จะมีพระสงฆ์สักองค์ขึ้นมาบนสวรรค์ คุณ รู้มั้ยว่ามันต้องใช้เวลามากแค่ไหนกว่าจะมีสังฆราชขึ้นมาบนนี้?” ขึ้นสวรรค์ยากง่าย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับต�ำแหน่งหน้าที่นะครับ ทุกคนล้วนขึ้นอยู่กับบาปบุญคุณโทษของเรา เองนะครับ ฮา

ฮ่าๆ

70

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

8 เมษายน เวลา 09:03 น.

ในหนังสือ Confessions ของนักบุญเอากุสติน ตอนหนึ่งท่านสารภาพไว้ ว่า “วันหนึ่งฉันมองออกไปนอกหน้าต่างและมองเห็นลูกแพรบนต้นแพรของเพื่อน บ้านและแม้ว่าในบ้านฉันก็มีต้นแพรของเราเองก็ตามแต่ฉันก็ยังอยากจะได้ลูกแพร เหล่านั้นอยู่ดี ฉันจึงกระโดดข้ามรั้วบ้านและเข้าไปขโมยลูกแพรของเพื่อนบ้าน จาก นั้นเมื่อฉันชิมลิ้มรสลูกแพร ฉันก็พบว่ารสชาติของมันไม่ดีเท่ากับลูกแพรในบ้านฉัน เลย สุดท้ายฉันก็เอาพวกมันไปเลี้ยงหมู” เอากุสตินสุภาพมากที่สารภาพเรื่องการ ขโมยเล็กๆน้อยๆ นี้ บางคนแม้มีก็ยังขโมย บางคนขโมยก็เพื่อจะมี บางคนมีแล้วก็ โลภอยากมีเพิ่ม บางคนก็เปลี่ยนค�ำว่าขโมยเป็นขอยืมโดยไม่บอก บางคนก็หลอก เพื่อจะได้สิ่งที่ตนต้องการ เราล้วนต้องต่อสู้กับการล่อลวงมากมายครับ แต่เราก็ต้อง สุภาพพอที่จะสารภาพความบาปผิดของเรา มหาพรต สารภาพกับพระ Happy Lenten Season

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

71


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

8 เมษายน เวลา 09:22 น.

ข�ำขันกันอีกหน่อยครับ ชายคนหนึ่งตายและขึ้นสวรรค์ เขาได้พบกับพระเจ้า เขาจึงถามพระองค์ว่า “ผมขอ ถามพระองค์สักสองสามค�ำถามได้มั้ยครับ?” “ได้สิ ถามมาได้เลย” “ครับ ท�ำไมพระองค์จึงสร้างสตรีให้น่ารักขนาดนี้ครับ?” “ก็เพื่อให้เจ้าชอบเธอไงละ” “อ๋อ ครับ แล้วท�ำไมพระองค์จึงสร้างเธอให้สวยมากขนาดนี้ละครับ?” “ก็เพื่อให้เจ้าจะได้รักเธอได้ไงละ” ชายคนนั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามต่อว่า “แต่ท�ำไมพระองค์จึงสร้างเธอให้โง่ แบบนั้นละครับ?” พระเจ้าตอบว่า “ก็เพื่อให้เธอรักเจ้าลงยังไงละ” เจ็บปวดดีแท้ครับ รู้สึกต่อกันในทางที่ดีก็ดีอยู่แล้ว อย่ามัวแต่ไปมองกันในทางที่ แย่ๆ เลย หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ เลยครับ

ฮ่าๆ

72

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

12 เมษายน เวลา 07:40 น.

HOW TO BE MISERABLE มีบทความกล่าวถึง “จะเป็นผู้น่าสมเพทเวทนาได้อย่างไร” พูดว่า - คิดเกี่ยวกับตัวเอง พูดเกี่ยวกับตัวเอง ใช้ค�ำว่า “ฉัน”ให้มากที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ - อยากฟังทุกอย่างที่คนทั้งหลายพูดถึงตัวเองว่าอย่างไร - คาดหวังว่าจะมีคนชื่นชอบตนเองอย่างมาก เป็นคนชอบสงสัย อิจฉาริษยา - ไม่เคยลืมค�ำวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ไว้ใจใครเลยนอกจากตนเอง - ต้องการความเคารพและชื่นชมจากผู้อื่นเท่านั้น - เรียกร้องให้ทุกคนเห็นด้วยกับความคิดของตนเองในทุกเรื่อง - งอน หากคนทั้งหลายไม่รู้คุณในสิ่งที่ตนท�ำอะไรบางอย่างให้ - ไม่เคยลืมสิ่งที่ตนเองท�ำ หลบเลี่ยงหน้าที่ถ้าท�ำได้ - ท�ำให้ผู้อื่นน้อยที่สุดเท่าที่จะได้ ช�ำระล้างความเกลียดชัง ความไม่ชอบของเรา คนบางคนไม่เหมาะสมให้เราเกลียดชัง จนเสียความรู้สึกนะครับ เป็นคนที่เราควรสงสาร เวทนามากกว่าครับ เราเองก็อาจ จะเป็นที่น่าเวทนาคนหนึ่งก็เป็นได้ครับ สงกรานต์ล้างจิตล้างใจ Happy Songkran 2019

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

73


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

13 เมษายน เวลา 08:16 น.

เรือ่ งน่าคิดจากพระคาร์ดนิ ลั ซิน อดีตพระอัครสังฆราชแห่งมะนิลา ฟิลปิ ปินส์ ท่านเป็นคนฉลาดมีไหวพริบและเป็นคนอารมณ์ขนั ท่านเป็นผูก้ ล้าวิจารณ์การปกครอง แบบเผด็จการและการคอรัปชั่นของประธานาธิบดี มาร์คอสในเวลานั้น ครั้งหนึ่ง ท่านได้รับเชิญให้นั่งรถลีมูซีนไปกับประธานาธิบดี มาร์คอสและอีเมลดา มาร์คอส การเดินทางครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักข่าวมาก นักข่าวจึงขอสัมภาษณ์ท่านหลัง จากนั้นเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้ พระคุณเจ้าตอบว่า “พ่อก็นั่งเงียบๆ ซะเป็นส่วน ใหญ่นะ พ่อแค่รู้สึกเหมือนกับพระเยซูนั่นแหละ” นักข่าวถามต่อว่า “อย่างไรครับ พระคุณเจ้า?” พระคุณเจ้าอธิบายว่า “พ่อรู้สึกเหมือนพระเยซูตอนที่พระองค์ถูก ตรึงกางเขนท่ามกลางโจรสองคนนั้น” สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้นตั้งแต่อาทิตย์ใบลาน หรืออาทิตย์แห่งพระมหาทรมานนี้แล้วนะครับ การรู้สึกเหมือนพระองค์รู้สึกย่อมมี บทสอนใจที่ดีเสมอ Be blessed.

ถูกใจ

74

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

15 เมษายน เวลา 09:00 น.

Friday The 13th #หมายเลข 13 ชาวเติร์กไม่ชอบเลข 13 อย่างมากจนต้องเอาตัวเลขนี้ออกไปจากพจนานุกรมของ พวกเขา (Brewer, 1894) เมืองหลายๆ เมืองในโลกไม่ยอมใช้เลข 13 เป็นเลขที่ของถนนหนทาง รวมไปถึง ถนนหลักด้วย ตึกมากมายหลายตึกไม่ยอมใช้เลข 13 ก�ำกับชั้นของอาคาร และจากข้อมูลหลายปีก่อน สายการบินบางสายปฏิเสธที่จะใช้เที่ยวบินที่มี หมายเลขนี้ รวมไปถึงแถวที่นั่งด้วย #ตัวอย่างความกลัววันศุกร์ มาจากเรื่องเล่า “นิทานของหญิงชรา” เล่า จงอย่าเปลี่ยนที่นอนในวันศุกร์ มิฉะนั้นจะฝันร้าย จงอย่าเริ่มเดินทางในวันศุกร์ มิฉะนั้นจะพบกับโชคร้าย จงอย่าตัดเล็บในวันศุกร์ มิฉะนั้นจะพบกับความโศกเศร้า จงอย่าเดินเรือในวันศุกร์ มิฉะนั้นจะพบกับโชคร้าย #ดังนั้นเมื่อเรารวมค�ำสองค�ำนี้เข้าด้วยกัน วันศุกร์ที่ 13 คุณก็จะสรุปได้ว่าท�ำไมคน บางคนจึงกลัววันเหล่านี้ในปฏิทิน คุณหมอ Donald Dossey จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การรักษาผู้ป่วยที่มีความหวาดระแวง ประเมินไว้ว่าชาวอเมริกัน 8% (ราวๆ 21 ล้านคน) มีความกลัววันศุกร์ที่ 13 (From Jeff Strite’s Sermon: It Was Grace that Taught My Heart to Fear) บางคนกลัววันที่นี้มากกว่ากลัวท�ำบาปซะอีกนะ ครับ จิตแพทย์และการสร้างภาพยนตร์ในอเมริกาเจริญรุ่งเรืองมากเพราะความกลัว นี้เอง มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นในทุกวันครับ ร้ายแรงกว่าเกิดขึ้นในวันศุกร์เสียอีก ถ้าหากจะกลัวก็กลัวบาปกลัวกรรมจะดีกว่าครับ ชีวิตเรามีพระพรมากมายให้ชื่นชม Happy Holy Week ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

75


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

15 เมษายน เวลา 09:21 น.

ข�ำขันครับ จิมมี่มาวัดกับแม่ลินดาในวันอาทิตย์และเขารู้สึกไม่สบาย “แม่ครับ เรา ออกจากวัดได้มั้ยครับ?” “ไม่ได้นะลูก มิสซายังไม่จบเลย” “แต่ผมคิดว่าผมก�ำลัง จะอาเจียน” “งั้นลูกออกประตูวัดไปนะ แล้วไปที่หลังวัด อาเจียนที่พุ่มไม้นะลูก” ราวๆ ไม่ถึงนาทีจิมมี่ก็กลับมาที่นั่งข้างๆ แม่ ลินดาจึงถามลูกเบาๆว่า “ลูกอาเจียน แล้วรึยัง” “เรียบร้อยครับแม่” “ “แล้วท�ำไมลูกถึงกลับมาได้เร็วจัง” จิมมี่ตอบว่า “ผมยังไปไม่ถึงทางออกเลยครับ แม่ พวกเขาตั้งกล่องไว้ที่ใกล้ประตู ติดป้ายไว้ว่า “ส�ำหรับคนเจ็บป่วย” วัดนี้บริการดีจริงๆ เลย เพียงแต่เขาตั้งไว้ไม่ใช่เพื่อบริการ ครับ แต่เพื่อบริจาค มีความสุขใจในอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์นะครับ

ฮ่าๆ

76

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

16 เมษายน เวลา 12:37 น.

ข�ำขันกันนะครับ ชายคนหนึ่งขับรถบนถนนในรัฐเท๊กซัส เขาชนลูกวัวตัวหนึ่งที่ก�ำลังข้าม ถนนเสียชีวิต เขาจึงไปตามหาเจ้าของลูกวัวและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วถามว่า “ลูกวัวตัวนั้นมีค่าเท่าไหร่ครับ?” เจ้าของวัวตอบว่า “โอ้ ประมาณ 200 เหรียญครับ ราคาตอนนี้ แต่ว่าอีกหกปีข้างหน้าราคาจะขึ้นไปอีกเป็น 900 เหรียญครับ นั่นคือผม สูญเสียไป 900 เหรียญครับ” ชายคนนั้นจึงนั่งลงแล้วเขียนเช็คใบหนึ่งยื่นให้เจ้าของ ลูกวัวพูดว่า “นี่ครับ เช็ค 900 เหรียญ สั่งจ่ายอีกหกปีข้างหน้านับจากวันนี้นะครับ” ทุกวันนี้คนเราฉลาดเรียกร้องเพื่อหาเงินและคนเราก็ฉลาดที่จะปกป้องเงินทองของ ตน คนฉลาดบางคนก็กลายเป็นคนขี้โกงได้ด้วย หลอกลวงผู้คนได้ด้วยครับ ฉลาด หรือฉลาดน้อยก็แยกยาก ฮา กว่าจะได้เงิน เช็คคงหมดอายุไปแล้ว เผลอๆ คนก็อาจ จะหมดอายุไปด้วยแล้ว

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

77


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

18 เมษายน เวลา 08:45 น.

Marion Gilbert in Reminisce, Reader’s Digest, February, 1994, p.12. เล่าว่า “เช้าวันหนึ่งฉันเปิดประตูบ้านออกมาเพื่อจะมาหยิบหนังสือพิมพ์ แล้วก็ต้องแปลกใจมากทีเดียวที่เห็นสุนัขเล็กๆ ตัวหนึ่งนั่งคาบหนังสือพิมพ์ของเรา ไว้ในปาก ฉันรู้สึกสุขใจมากที่เห็นภาพนี้ มันเป็นเหมือนการบริการส่งหนังสือพิมพ์ ที่ดีและน่ารักมาก ฉันจึงตอบแทนมันด้วยการเลี้ยงอาหารมัน เช้าวันต่อมาฉัน ต้องใจหายที่เห็นเจ้าสุนัขตัวเดิมก�ำลังนั่งอยู่ที่หน้าประตูบ้านฉัน กระดิกหางและมี หนังสือพิมพ์อีก 8 ฉบับวางอยู่รอบๆ ตัวมัน ฉันต้องใช้เวลาเช้านั้นน�ำหนังสือพิมพ์ ไปคืนให้แก่เจ้าของ” บางทีแม้แต่สุนัขก็รู้ว่าท�ำดีจะได้ดีนะครับ แม้ว่าบางที ดีของ เรา อาจจะไม่ดีส�ำหรับคนอื่นก็ได้ บางทีดีของเราอาจจะไม่ถูกใจคนอื่นก็ได้ เราควร ท�ำอย่างไรดีครับ เราก็ควรจะท�ำดีของเราต่อไป น่าจะดี Happy Holy Week

ถูกใจ

78

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

20 เมษายน เวลา 09:47 น.

ในหนังสือ Hidden in Plain Sight ของ Mark Buchanan เล่าถึงหญิง คนหนึง่ ชือ่ เรจีเน ชาวระวันดา ประเทศทีต่ อ้ งเผชิญกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุท์ โี่ หดร้าย ทีส่ ดุ ครัง้ หนึง่ ของมนุษยชาติ เธอหนีไปถึงคานาดาและได้แต่งงานกับกอรดอน ทัง้ สอง ตัดสินใจกลับไปที่ระวันดาเพื่อแสดงความรักของพระเจ้าแก่ผู้คนที่ครั้งหนึ่งเป็นศัตรู เรจีเนเล่าเรือ่ งนีใ้ ห้ผเู้ ขียนหนังสือ “ลูกชายคนเดียวของหญิงคนหนึง่ ถูกฆ่าตาย เธอทุกข์ ทรมานและขมขืน่ มาก เธอภาวนาว่า “พระเจ้า โปรดเปิดเผยให้ลกู ทราบว่าใครกันคือ ฆาตกรฆ่าลูกชาย” คืนหนึง่ เธอฝันว่าเธอก�ำลังไปสวรรค์และหากจะไปถึงทีน่ นั่ ได้จำ� ต้อง ผ่านบ้านหลังหนึง่ เธอต้องเดินไปตามถนน เข้าไปในบ้านหลังหนึง่ เข้าประตูบา้ น ผ่าน ห้องต่างๆ ขึน้ บันไดแล้วก็ออกไปทางประตูหลังบ้าน เธอถามพระเจ้าว่า “บ้านหลังนีเ้ ป็น ของใคร?” พระเจ้าตอบว่า “เป็นบ้านของคนทีฆ่ า่ ลูกชายเธอเอง” สองคืนต่อมามีใครคน หนึง่ มาเคาะประตูบา้ นเธอ เธอเปิดประตูและพบชายหนุม่ คนหนึง่ อายุราวๆ ลูกชายของ เธอ “ค่ะ” เธอทักไป หนุม่ คนนัน้ ลังเลอยูแ่ ล้วพูดว่า “ผมคือคนทีฆ่ า่ ลูกชายของคุณครับ ตัง้ แต่วนั นัน้ ผมสูญเสียชีวติ ไม่มสี นั ติสขุ เลย ผมจึงมาทีน่ ี่ มามอบชีวติ ของผมไว้ในมือ ของคุณ ฆ่าผม ผมได้ตายไปแล้วครับ โยนผมเข้าคุกไป ผมอยูใ่ นคุกเรียบร้อยแล้ว ทรมาน ผมก็ได้ ผมเหมือนถูกทรมานตลอดเวลาอยูแ่ ล้ว จะท�ำอย่างไรกับผมก็ได้ครับ” หญิงคน นีส้ วดภาวนามาตลอดก็เพือ่ วันนี้ แต่ตอนนีเ้ วลามาถึงแล้ว เธอกลับไม่รวู้ า่ จะท�ำอย่างไร ดี เธอแปลกใจทีพ่ บว่าตัวเองไม่ตอ้ งการฆ่าเขาอีกแล้ว ไม่อยากโยนเขาเข้าคุก ไม่อยาก ทรมานเขาอีก เธอครุน่ คิดตอนนัน้ และพบว่าสิง่ เดียวทีเ่ ธอต้องการก็คอื ลูกชายคนหนึง่ “ฉันจะขอสิง่ นีจ้ ากเธอ มาอยูท่ บี่ า้ นฉัน มีชวี ติ อยูก่ บั ฉัน กินอาหารทีล่ กู ชายฉันควรจะได้ กิน ใส่เสือ้ ผ้าทีฉ่ นั ท�ำเพือ่ ลูกชายฉัน มาเป็นลูกชายทีฉ่ นั สูญเสียไป” ชายหนุม่ คนนัน้ จึง โผเข้าสวมกอดเธอ เขาเป็นอิสระแล้ว เขามีชวี ติ ใหม่อกี ครัง้ หนึง่ การอภัย การให้อภัยคือ การให้ชวี ติ ใหม่แก่ตนเองและแก่ผทู้ ที่ ำ� ผิดต่อเราด้วยครับ สุขสันต์วนั ปัสกา SOURCE: Hidden in Plain Sight, by Mark Buchanan. ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

79


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

22 เมษายน เวลา 08:14 น.

JOY LIST C.W. Metcalf นักเขียนซึ่งเป็นอาสาสมัครท�ำงานในแผนกผู้ป่วยระยะ สุดท้าย (hospice) เขาได้พบกับ Chuck อายุ 13 ปีซึ่งป่วยระยะสุดท้าย วันหนึ่งชัค ส่งกระดาษให้เขาราวๆ 6 แผ่นที่เขาเขียนบางสิ่งไว้ทั้งสองหน้าทุกแผ่นแล้วพูดกับ เขาว่า “ผมอยากให้คุณมอบสิ่งนี้แก่พ่อและแม่ของผมหลังจากที่ผมตายไปแล้ว มัน เป็นเรื่องราวต่างๆ ที่มีความสุข สนุกสนานด้วยกันของพวกเรา เป็นช่วงเวลาที่เรา หัวเราะด้วยกัน มีความสุขด้วยกันครับ” เขารู้สึกทึ่งมากกับหนุ่มคนนี้ซึ่งแม้จะใกล้ ความตายแค่ไหน เขาก็ยังคิดถึงความเป็นสุขของผู้อื่นได้ เขาน�ำกระดาษเหล่านั้น มอบให้แก่พ่อและแม่ของชัค สองสามปีต่อมาเขาตัดสินใจเขียนรายการแห่งความ สุขของเขาเองขึ้นมา เขาต้องแปลกใจมากที่พบว่ามันช่างยากล�ำบากจริงๆ ที่จะ รวบรวมรายการแห่งความสุขเหล่านี้ แต่พอเขาเริ่มคิดถึงแต่ละวัน แต่ละขณะที่เขา หัวเราะ ที่เขาพออกพอใจ ที่เขายินดี รายการแห่งสุขของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ เรา เองก็สามารถท�ำรายการแบบนี้ได้ครับ มองไปที่ชีวิตของเรา มองดูพระพรที่พระ มอบให้แก่เรา เราจะพบความสุขมากมายและก�ำลังใจมากหลายที่เรามีในชีวิต ย้อน คิดถึงความสุขดีกว่าจมอยู่ในความทุกข์ ความแค้น ความเสียใจ สุขแล้วสู้ได้ ทุกข์ แล้วมีแต่ถอยครับ Happy Easter

ถูกใจ

80

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

22 เมษายน เวลา 08:43 น.

ข�ำข�ำ นะครับ คุณยาย กรีน มองข้ามรั้วบ้านและเห็นเด็กน้อยคนหนึ่งเพื่อนบ้านก�ำลังกลบหลุม หนึ่งที่หลังบ้าน เธอจึงถามเด็กน้อยว่า “จิมมี่ เธอก�ำลังท�ำอะไรอยู่?” จิมมี่ตอบทั้งน�้ำตาว่า “ปลาทองของผมตายครับและผมเพิ่งจะฝังมัน” คุณยายกรีน พูดต่อว่า “แต่หลุมที่เธอขุดฝังมันเนี่ยมันใหญ่เกินไปส�ำหรับปลาทองนะ” จิมมี่โปรยดินลงบนหลุมนั้นเสร็จแล้วตอบว่า “นั่นก็เป็นเพราะปลาทองมันยังอยู่ใน ท้องแมวของยายนี่ครับ” ไม่รู้ว่าจะสงสารแมวหรือสงสารยายดีนะครับ ฮา ที่ตายก็ ตายไปแล้ว ที่เป็นก็ท�ำไงดีครับ ฮา

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

81


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

24 เมษายน เวลา 08:31 น.

บทความเรื่อง “The Gold Circled Ring” เล่าเรื่องเกี่ยวกับนักศึกษา ในมหาวิทยาลัย รัฐ Kent ที่ถูกจับในคดีมีส่วนร่วมในการขโมยของจากนายจ้าง นักศึกษาเหล่านี้ขโมยสินค้าที่มีมูลค่ารวมได้ 150,000 ดอลล่าร์ พวกเขาขโมยทุก อย่างทั้งของเล็กของใหญ่ พวกเขามอบของบางส่วนเป็นของขวัญให้แก่เพื่อนๆ ด้วย พวกเขาไม่ใช่พวกอันธพาลในมหาวิทยาลัย แต่พวกเขาเป็นนักศึกษาที่หัวดี เรียน เก่งทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าคนที่มีการศึกษาดีเช่นนี้จะท�ำเรื่องขโมยแบบนี้ได้ ยิ่งกว่า นั้นเมื่อได้อ่านสิ่งที่พวกเขาคิดเกี่ยวกับการขโมยจากการสัมภาษณ์ พวกเขาบอก ว่า “ฉันไม่เคยส�ำนึกและเสียใจในสิ่งที่ฉันท�ำเลยแม้แต่น้อย แต่ฉันเสียใจที่พวกเรา ถูกจับได้และไม่รอบคอบพอมากกว่า” ส่วนใหญ่รู้สึกโกรธผู้ร่วมขบวนการที่ไม่รู้จัก ควบคุมตัวเอง คนหนึ่งในนั้นพูดว่า “คุณรู้มั้ย พวกเรารู้สึกติดอยู่กับการขโมยแบบ นี้ จนไม่รู้ว่าจะหยุดได้อย่างไร” น่าละอายมากที่ผู้มีการศึกษาดีแต่ไม่ซื่อสัตย์ ขโมย แล้วยังไม่เคยรู้สึกส�ำนึกผิด ไม่เคยเสียใจ ขโมยจนกระทั่งไม่รู้ว่านั่นเป็นการขโมย การยอมรับผิดเป็นต้นก�ำเนิดของการให้อภัยด้วยนะครับ ท�ำบาปแล้วเสียใจก็อภัย ได้เสมอ Happy Day

ถูกใจ

82

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

25 เมษายน เวลา 08:23 น.

Talk About Doing Good, or Do Good Lewis Smedes เล่าว่า ผู้พิพากษาแห่ง New Orleans มีค�ำสั่งให้โรงเรียน รัฐรับนักเรียนผิวด�ำ ผู้ปกครองนักเรียนผิวขาวตัดสินใจว่าไม่ให้ลูกของตนไป โรงเรียนและประกาศว่านักเรียนผิวด�ำที่จะไปโรงเรียนจะต้องเจอดี ผู้ปกครองของ เด็กๆ ผิวด�ำจึงไม่กล้าให้ลูกไปโรงเรียน ยกเว้นหนูน้อย Ruby Bridges อายุ 6 ขวบ ซึ่งพ่อแม่บอกให้เธอไปเรียนตามล�ำพัง ทุกๆ เช้าเธอจะเดินฝ่าฝูงชนไปยังโรงเรียนที่ ว่างเปล่า พวกผิวขาวตั้งแถวอยู่ทั้งสองฝั่งถนนและยื่นหมัดใส่เธอตลอดทาง ข่มขู่เธอ ว่าเจ็บตัวแน่หากยังมาโรงเรียนอีก แต่ทุกเช้าเวลา 7.50 น. รูบี้เดินตรง มองตรงไป ที่ฝูงชนข้างหน้า ไปโรงเรียน มีต�ำรวจ 2 นายเดินน�ำหน้าและสองนายตามหลัง จาก นั้นเธอใช้เวลาทั้งวันคนเดียวกับครูหลายคนที่อยู่ในโรงเรียนใหญ่และเงียบเชียบ Robert Coles ศาสตราจารย์แห่งฮาร์เวิร์ดอยากรู้เหลือเกินว่าอะไรท�ำให้เด็กหญิง คนนี้กล้าหาญถึงเพียงนี้ได้ เขาไปคุยกับพ่อแม่ของเธอและกลับมารายงานว่า “พ่อ แม่เธอพูดว่า มีผู้คนมากมายที่พูดเกี่ยวกับ “การท�ำดี” มีผู้คนมากมายที่ถกเถียงกัน เกี่ยวกับ “อะไรดี อะไรไม่ดี” แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่ง “มอบชีวิตของพวกเขา เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง” จริงครับ ผู้ใหญ่บางคนสนใจแต่สิ่งที่ตนเองถูกใจและท�ำตามใจ ไม่ สนสิ่งที่ถูกต้อง เด็กเองยังเรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องได้ บางคนก็มีแต่พูด มีแต่สอน แต่กลับ ท�ำสิ่งตรงข้าม สอนให้รัก แต่กลับมีแต่กิจการแห่งความเกลียดชังและอคติจนมอง ไม่เห็นความรักเลย น่าอายเด็กจริงๆ Happy Easter

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

83


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

27 เมษายน เวลา 08:44 น.

Even when He is Silent การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายและรุนแรงมากที่สุดใน ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ในฝรั่งเศส ครอบครัวชาวยิวครอบครัวหนึ่งได้รับความช่วย เหลือจากครอบครัวชาวฝรั่งเศสครอบครัวหนึ่งแอบซ่อนพวกเขาไว้ที่ห้องใต้ดินของ บ้าน พวกเขาแอบที่นั่นเฝ้ารอคอย รอแล้วรอเล่าด้วยความหวาดกลัวตลอดเวลา หลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีผู้พบข้อความต่อไปนี้เขียนบนก�ำแพงห้องใต้ดินนี้ “ฉันเชื่อในพระอาทิตย์ แม้ว่ามันจะไม่ได้ส่องแสง ฉันเชื่อในความรัก แม้ว่าฉันจะไม่ได้รับความรักนั้น ฉันเชื่อในพระเจ้า แม้ว่าพระองค์จะเงียบอยู่ก็ตาม” Source: reported in Hans, God on the Witness Stand (Baker, 1987) ในท่ามกลางความทุกข์เข็ญ ความหวาดกลัวและโชคชะตาที่เลวร้าย ก็ยังมีเรื่อง ราวของความกล้าหาญและความเชื่อเสมอ การมีชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อย่อมมีหวัง มากกว่าความสงสัย เราอาจจะสงสัยได้แบบโธมัส เป็นคนบาปได้แบบเปาโล แต่เรา ก็สามารถมีความเชื่อที่แข็งแกร่งได้ด้วยครับ Happy Easter

ถูกใจ

84

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

27 เมษายน เวลา 09:33 น.

ข�ำขันกันนิดนึงครับ สามีภรรยาคู่หนึ่งไปวัดด้วยกัน พ่อผู้เทศน์สังเกตุเห็นว่าผู้เป็นสามีนอน หลับอยู่ จึงพูดตรงๆ กับภรรยาของเขาว่า “คุณผู้หญิงครับ สามีคุณนอนหลับอยู่ กรุณาปลุกเขาด้วย” ผู้เป็นภรรยาของเขาตอบว่า “ขอโทษที่ต้องบอกตรงๆ คุณพ่อ เป็นคนท�ำให้เขานอนหลับไปนะค่ะ คุณพ่อก็ปลุกเขาเองก็แล้วกัน” บางทีเราก็ไม่ เคยนึกนะครับว่าเราเองนั่นแหละเป็นสาเหตุของเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น มัวมองแต่ คนอื่น ไม่มองตัวเองเลย จะพูดอะไรก็คิดให้ดีๆนะครับ ฮา

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

85


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

2 พฤษภาคม เวลา 08:56 น.

มันเป็นวันที่ 23 มีนาคม 1945 ในระหว่างปฏิบัติการทางทหารต่อต้าน กองทัพเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 นายพล ไอเซนฮาว ก�ำลังเดินใกล้ๆ กับแม่ น�้ำไรน์ และบังเอิญได้เดินไปอยู่ข้างๆ กับพลทหารราบคนหนึ่งพอดี ทหารคนนั้นดู หดหู่และสิ้นหวังมาก ไอเซนฮาวจึงถามว่า “ลูกชาย เธอรู้สึกอย่างไร?” “ท่านนาย พลครับ ผมจะบ้าตายอยู่แล้วครับ ผมรู้สึกแย่มากๆ ครับ” ท่านจึงตอบไปว่า “ดี ถ้างั้นเธอและฉันก็เป็นเพื่อนซี้กันได้เพราะว่าฉันก็จะเป็นบ้าอยู่เหมือนกัน บางที ถ้าหากเราเดินไปตามริมแม่นำ�้ ด้วยกัน เราทัง้ คูก่ จ็ ะรูส้ กึ ดีขนึ้ ได้บา้ งนะ” SOURCES : KERUX ILLUSTRATION COLLECTION - ID Number: 1891 - SOURCE: Reader’s Digest - TITLE: The Fine Art Of Encouragement - AUTHOR: Mark Littleton - DATE: 11/1/89) ก�ำลังใจจากผู้น�ำที่เข้าใจผู้น้อย ความสุภาพ ของผู้น�ำให้ก�ำลังใจ รับรู้ความรู้สึก ร่วมทุกข์ร่วมสุข เดินไปด้วยกัน นี่คือการค้นพบ ที่ยิ่งใหญ่ครับ พระเจ้าต้องการให้เรามีก�ำลังใจ และต้องการให้เราเป็นผู้ให้ก�ำลังใจ แก่เพื่อนพี่น้องเราครับ เป็นก�ำลังใจให้กันและกันครับ Happy Day

ถูกใจ

86

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

2 พฤษภาคม เวลา 09:52 น.

ข�ำขันในโรงพยาบาลกันหน่อยครับ หลังจากหัวใจวายและได้รับการผ่าตัดบายพาสเรียบร้อยแล้ว ชายคนนี้ตื่นขึ้นมาพบ ว่าอยู่ในโรงพยาบาลและมีพวกแม่ชีเป็นผู้ดูแลไข้ แม่ชีคนหนึ่งถามเขาว่า “คุณมีประกันสุขภาพหรือเปล่าค่ะ?” “ไม่มี ไม่มีประกันสุขภาพครับ” “คุณมีเงินในธนาคารรึเปล่าค่ะ” ... “ไม่มี ไม่มีเงินในธนาคารครับ” “คุณมีญาติพี่น้องที่พอจะช่วยคุณได้มั้ยค่ะ?” “ผมมีแค่น้องสาวโสดคนหนึ่ง ตอนนี้เป็นแม่ชีอยู่คนหนึ่งครับ” แม่ชรี บี อธิบายว่า “แม่ชไี ม่ใช่หญิงโสดนะค่ะ แม่ชคี อื ผูท้ แี่ ต่งงานกับพระเจ้าแล้วค่ะ” “งั้นก็ดีเลยครับ ส่งบิลไปเก็บตังกับน้องเขยผมเลย” สรุปแล้วจะได้เงินหรือเปล่าก็ ไม่รู้นะครับจากเคสนี้ เส้นใหญ่มาก ฮาๆครับ

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

87


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

4 พฤษภาคม เวลา 09:19 น.

จิม ไปวัดมิสซาเช้าวันอาทิตย์ เขาได้ยินคนเล่นออร์แกนผิดโน๊ต เขา หงุดหงิดมาก เขาเห็นวัยรุ่นก�ำลังคุยกันในขณะที่ทุกคนก�ำลังก้มหน้าสวดภาวนา เขารู้สึกว่าคนเก็บถุงทานก�ำลังจ้องมองเขาเพื่อดูว่าเขาจะใส่อะไรลงไปในถุงทาน เขาสังเกตุเห็นว่าพ่อใช้ค�ำพูดผิดๆ ในบทเทศน์ถึง 5 ครั้ง และในขณะที่เขาก�ำลังรีบ ออกจากวัดในระหว่างบทเพลงสุดท้าย เขาพึมพ�ำกับตัวเองว่า “ไม่มาอีกแล้ว ที่นี่มี แต่คนเซ่อซ่าและหน้าไหว้หลังหลอก” รอน ไปวัดมิสซาเช้าวันอาทิตย์ เขาได้ยินคนเล่นออร์แกนบรรเลงเพลง “ A Mighty Fortress “ เขาสั่นเทิ้มไปด้วยความยิ่งใหญ่ของเพลงนี้ เขาได้ยินหญิงสาวคนหนึ่ง ก�ำลังสวดภาวนาด้วยค�ำพูดง่ายๆ ของเธอเองและเต็มไปด้วยความเชื่อ เขาดีใจที่วัด ก�ำลังรณรงค์ช่วยเหลือเด็กยากจนในไนจีเรียที่ก�ำลังอดอยาก เขาชอบบทเทศน์ใน วันนั้นมาก ตอนเขาออกจากวัด เขาคิดว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่คนที่มาวัดจะไม่รู้สึก ถึงการประทับอยู่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า? ที่จริง จิมและรอน ไปวัดในวันอาทิตย์ที่วัดเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน ต่างได้พบกับ สิ่งที่เขาแต่ละคนมองหา ครับ เรามองหาอะไรในวัดเราก็จะพบสิ่งนั้น หากเรามอง หาพระ เราก็จะพบ หากเรามองหาข้อผิดพลาดทั้งหลาย เราก็จะพบเหมือนกัน Happy Sunday

ถูกใจ

88

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

4 พฤษภาคม เวลา 10:02 น.

ข�ำขันกันอีกแล้ว ดึกคืนวันหนึ่ง พ่อองค์หนึ่งรีบขับรถไปส่งศีลเจิมที่ชนบทแห่งหนึ่ง ทั้งมืด และต้องรีบไป ที่สุดก็เกิดอุบัติเหตชนต้นไม้ข้างทางอย่างแรง ชาวนาคนหนึ่งขับรถ ตามหลังมาจึงจอดรถและเข้าไปช่วยพ่อถามท่านว่า “คุณพ่อเป็นอะไรหรือเปล่า ครับ?” พ่อตอบว่า “ยังได้ครับ ไม่เป็นไร พ่อมีพระเจ้ามาด้วย” ชาวนาพูดว่า “อย่าง นั้นผมว่าพ่อให้พระองค์มานั่งรถผมดีกว่านะครับ เพราะว่าพ่ออาจจะฆ่าพระองค์ ได้” ดูจะเป็นห่วงพระมากกว่าห่วงพ่อนะครับ ฮา มีความสุขนะครับ

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

89


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

6 พฤษภาคม เวลา 08:23 น.

มิชชันนารีท่านหนึ่งกลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากไปท�ำงานในทวีปอาฟริกา อยู่หลายปี ท่านไปร่วมมิสซาที่วัด มีคนถามท่านว่า “ช่วงเวลาไหนที่พ่อรู้สึกว่าเลว ร้ายที่สุด?” ท่านตอบว่า “ระหว่างฤดูร้อนครับ” ทุกคนต่างประหลาดใจมากเพราะ คิดว่าค�ำตอบน่าจะเป็น คนพื้นเมืองที่ดุร้าย สงครามในอาฟริกา สัตว์ร้ายต่างๆ ที่ ต้องระวังหรือไม่ก็สิ่งเลวร้าย น่ากลัวต่างๆ ที่นั่น แต่กลับเป็นฤดูร้อน ท่านจึงอธิบาย ว่า “ในระหว่างฤดูร้อน ผู้คนจะออกไปพักผ่อนกัน พักร้อน ท่องเที่ยว พวกเขาจะ ไม่ได้ไปวัดและก็จะขาดสวดภาวนา ช่วงเวลาแบบนี้แหละครับที่อันตรายที่สุด” ค�ำ ภาวนา การสวดภาวนา ช่วยเราให้รอดพ้นจากความไม่ดีทั้งหลายได้ ค�ำภาวนาชนะ ทุกอย่างได้ Happy Monday

ถูกใจ

90

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

7 พฤษภาคม เวลา 08:09 น.

ข�ำขัน เกีย่ วกับชายคนหนึง่ ทีม่ าวัดสม�ำ่ เสมอ เป็นเสาหลักของวัด เขาท�ำบุญ ด้วยเงินจ�ำนวนมากและช่วยก่อสร้างอาคารต่างๆในวัดด้วยแต่เขาก็ชอบวิจารณ์ กล่าว ร้ายคนอืน่ ๆ มากมายจนไม่นา่ เชือ่ ว่าเขาเป็นคริสตชน เขาตายไปและไปยืนต่อหน้านัก บุญเปโตรทีป่ ระตูสวรรค์ เปโตรตรวจสอบอยู่ 1 วันแล้วพูดกับเขาว่า “เสียใจด้วยนะครับ คุณไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ถูกก�ำหนดให้อยู่ที่อื่น เชิญเดินผ่านประตูนี้ ไป แล้วลงบันได ระวังร้อนด้วยครับระหว่างทาง” “ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ผมไม่อยากคุยกับพวกลูกน้อง ไปคุยกับพระเจ้าก่อนดี กว่านะ” เปโตรไปพบพระเจ้าแล้วกลับมาพูดว่า “ไม่มอี ะไรผิดพลาดครับ เชิญทีป่ ระตู ลงบันได ระวังด้วยระหว่างทางมันร้อนมาก” ชายนั้นโกรธมากพูดว่า “ไปบอกพระเจ้าว่า นี่ผมเองนะ ผมออกเงินมหาศาล ช่วยสร้างวัด ผมใส่ถุงทานเป็นแบงค์ ไม่ใช่เหรียญ พระเจ้าผิดพลาดแน่ๆ ไปบอก พระองค์เลย” เปโตรหายไปสักครู่แล้วกลับมาพูดว่า “ใช่ครับ คุณพูดถูก ผมเรียนพระองค์ว่าคุณ ช่วยวัดมากมายหลายปีที่ผ่านมาและพระองค์ก็ยอมรับว่าผิดพลาดไป พระองค์บอก ให้ผมน�ำเงินทั้งหมดของคุณคืนไป นี่ครับ เชิญที่ประตูแล้วลงบันไดนะครับ ระวัง ด้วย ระหว่างทางมันร้อนมากทีเดียว” (From Bacon Sandwiches and Salvation by Adrian Plass published by Authentic – a very funny book) ฮากันไม่ออกเลย สวรรค์ไม่ได้มีไว้ขายนะครับ You can’t buy your way into heaven. Heaven is not for sale.

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

91


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

11 พฤษภาคม เวลา 08:54 น.

หลายปีก่อนมี Richard Burton นักแสดงที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งได้รับเชิญ ไปร่วมงานเลี้ยงที่โบสถ์ที่เขาเคยมาประจ�ำ ทุกคนต้องการฟังน�้ำเสียงในการสวด ภาวนาของเขา เขาตอบรับถามว่า”พวกคุณต้องการฟังบทอะไรพิเศษหรือเปล่า?” ที่ประชุมเสนอบท สดุดีที่ 23 เขาตอบตกลงภายใต้เงื่อนไขเดียวก็คือหลังจากเขา ร้องบทสดุดีนี้จบ คุณพ่ออาวุโสที่อยู่กับเราที่นี่จะต้องสวดบทเดียวกันนี้ด้วย คุณพ่อ ตอบว่า “พ่อไม่ใช่นักพูดที่ดีนะแต่ถ้าต้องการพ่อก็จะน�ำสวดต่อให้” เขาจึงเริ่มร้อง เพลงสดุดีที่ 23 พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน เสียง และจังหวะของเขาประทับใจทุกคนที่นั่น พอเขาร้องจบเสียงปรบมือดังสนั่นห้อง ทีเดียว จากนั้นคุณพ่ออาวุโสก็ลุกขึ้นจากรถเข็นเริ่มสวดบทภาวนาบทเดียวกันนี้ น�้ำเสียงของท่านตะกุกตะกัก จังหวะก็ไม่ตรงนัก แต่สวดในความสงบอย่างยิ่ง ท่าน ก�ำลังสนทนากับพระเจ้าเอง ทุกคนสวดไปกับท่านอย่างสงบ ทุกค�ำที่มาจากบทสดุดี นี้เข้าไปถึงจิตใจ เมื่อพ่อสวดจบทุกคนในห้องประชุมนั้นซาบซึ้งใจจนน�้ำตาไหลและ ขอบคุณคุณพ่อส�ำหรับบทภาวนานี้ นักแสดงคนนี้ลุกขึ้นและพูดด้วยน�้ำเสียงสั่นเทา ว่า “ท่านผู้มีเกียรติครับ ผมสามารถเข้าถึงเพียงแค่ตาและหูของพวกท่านเท่านั้น แต่คุณพ่ออาวุโสของเราสามารถเข้าถึงหัวใจของเรา มีความแตกต่างกันตรงที่ ผม แค่รู้จักบทสดุดี แต่คุณพ่อรู้จักนายชุมพาบาลจริงๆ” (I know the psalm, but he knows the Shepherd ) นักแสดงท�ำได้เพียงท่องบทและลอกเลียนแบบครับ การ สวดภาวนาจึงต้องไม่ใช่การแสดง แต่เป็นการน�ำจิตวิญญาณไปถึงนายชุมพาบาล ครับ Happy Good Shepherd Day.

ถูกใจ

92

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

13 พฤษภาคม เวลา 08:17 น.

มีผู้คนจ�ำนวนหนึ่งที่มีสิทธิพิเศษเข้าเฝ้าส่วนตัวกับพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 หนึ่งในนั้นก็คือ Jim Russert หัวหน้านักข่าว NBC จากนิวยอร์ก เขา เคยเป็นเด็กช่วยจารีตมาก่อนด้วย จิมเล่าให้ฟังว่า “ผมจะไม่มีวันลืมวันนั้นเลย ผม ตั้งใจจะทูลพระสันตะปาปาว่าการปรากฎตัวของพระองค์ในรายการ Today Show นั้นจะมีคุณประโยชน์อย่างยิ่งในการประกาศข่าวดีแห่งความรอด แต่พอผมยืนอยู่ ต่อหน้า “ผู้แทนพระคริสตเจ้า” จริงๆ ผมกลับพูดอะไร นึกอะไรไม่ออกเลย ผมพูด ได้แค่ว่า “คุณพ่อครับ อวยพรผมด้วย” พระองค์โอบไหล่ผมและกระซิบว่า “คุณ คือคุณ ทีโมธี ใช่มั้ย ชายที่มาจาก NBC?” “ใช่ครับ ผมเอง” “พวกเขาบอกพ่อว่า คุณเป็นคนที่มีความส�ำคัญมาก” ผมถอยหลังไปนิดนึงแล้วพูดว่า “บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ในห้องนี้มีเพียงเราสองคนและแน่นอนที่สุดผมมีความส�ำคัญเป็นอันดับสองที่ยัง ห่างไกลจากพระองค์มาก” พระองค์มองดูผมแล้วตรัสว่า “ถูกต้อง” ผมจึงสรุปได้ เพียงว่า “จะเป็นการฉลาดเสมอ ที่จะรู้ว่าที่จริงแล้ว เราไม่ส�ำคัญอะไรมากนัก” ปราศจากเราโลกก็ยังคงหมุนไป ทุกสิ่งเป็นไปตามวิถีได้ อย่าส�ำคัญตนเองมากมาย นักเลย ค�ำสอนเล็กๆ น้อยๆ จากพระสันตะปาปายอห์นปอล ที่ 2 ครับ โอกาสครับ รอบ 35 ปีแห่งการเสด็จเยี่ยมประเทศไทยครับ ( 10-11 พฤษภาคม 1984-2019)

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

93


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

13 พฤษภาคม เวลา 08:44 น.

ข�ำขันกันหน่อยครับ ชาย 3 คนเสียชีวิตและไปที่ประตูสวรรค์ เปโตรถามชายคนแรกว่า “ศาสนาอะไร?” เขาตอบว่า “ศาสนายิวครับ” “โอเค เดินไปที่ห้อง 23 นะครับ แต่ ตอนเดินผ่านห้องที่ 8 กรุณาเดินผ่านเงียบๆ นะครับ” คนที่สองตอบว่า “อิสลาม ครับ” “โอเค คุณไปที่ห้อง 10 นะครับ ตอนเดินผ่านห้อง 8 กรุณาเดินผ่านเงียบๆ นะครับ” คนที่ 3 ตอบว่า “โปรเตสแตนท์ครับ” “โอเค คุณไปที่ห้อง 71 นะครับ ตอนเดิน ผ่านห้อง 8 กรุณาเดินผ่านไปเงียบๆ นะครับ” คนที่ 3 จึงถามขึ้นว่า “ท�ำไมพวกเรา ต้องเงียบด้วยเวลาเดินผ่านห้อง 8?” เปโตรตอบว่า “โอ้ คือพวกคาทอลิกอยู่ที่ห้อง 8 ครับและพวกเขาคิดว่า มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่อยู่บนสวรรค์ครับ” ฮา บนสวรรค์มี ที่มากมายส�ำหรับทุกคนนะครับ คนบาปอย่างเราก็ยังสามารถและมีสิทธิ์ไปสวรรค์ เหมือนกัน พวกที่เราคิดว่าน่าจะไปสวรรค์อาจจะไม่ได้ไปก็ได้นะครับ พวกที่เราคิด ว่าไม่น่าไปสวรรค์ได้ ก็อาจจะอยู่บนสวรรค์แล้วก็ได้ ไปสวรรค์กันดีกว่า แต่ไม่ใช่ ตอนนี้ ไม่รีบใช่มั้ย?

ฮ่าๆ

94

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

18 พฤษภาคม

John พบกระดาษพับอยู่ในกระเป๋า เขียนโดยภรรยาของเขาที่เพิ่งเสีย ชีวิตจากมะเร็ง เธอทรมานกับมะเร็งนานถึงแปดปี เธอไม่สามารถพูดและเขียนได้ นานนัก เธอเขียนถึงสามีเป็นค�ำๆทุกครั้งที่เธอเจ็บปวดจากโรคร้าย บรรทัดแรก เขียนว่า “คุณรัก คุณดูแลฉัน คุณเป็นห่วงฉัน” บรรทัดต่อมาเธอเขียน “คุณช่วยฉันเมื่อฉันเจ็บป่วย” ต่อมาเธอเขียนว่า “คุณให้อภัยฉันหลายครั้ง คุณอยู่ข้างๆ ฉัน คุณชมเชยฉัน คุณท�ำทุกอย่างเพื่อแน่ใจ ว่า ฉันไม่ขาดอะไร” อีกหน้าหนึ่งของกระดาษเธอเขียนว่า “อบอุ่น อารมณ์ดี ใจดี ช่างคิด” บรรทัด...สุดท้ายเธอเขียนว่า “ขอบคุณนะ คุณอยู่กับฉันเสมอเวลาที่ฉันต้องการ” เพื่อนของจอห์นคนที่เล่าเรื่อง นี้ให้เราฟังถามจอห์นว่า “จอห์น แกสองคนรักกันขนาดนี้ถึ 38 ปีได้ยังงัย ฉันยัง ไม่แน่ใจเลยว่าจะอยู่ข้างๆ ภรรยาตลอดเวลาถ้าเขาป่วยแบบนี้ได้เลย” จอห์นตอบ ด้วยน�้ำเสียงสงบๆ ว่า “บิล แกท�ำได้ ถ้าแกรักเธอพอ แกท�ำได้” (You can, Bill, if you love her enough, you can.) ความรักจ�ำเป็นที่สุดส�ำหรับชีวิตมนุษย์ และจ�ำเป็นต้องมีมากพอครับ พอที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจนตลอดชีวิต พอที่จะ อภัยในความบกพร่องของกันและกัน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ มีความรักหรือไม่มี แต่อยู่ เรามีความรักเพียงพอหรือเปล่าครับ (You can .......,if you love each other ENOUGH, you can)

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

95


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

20 พฤษภาคม

The Trip to Beijing ข�ำขันกันนะครับ Ralph และ Janice ก�ำลังฉลอง 50 ปีของการแต่งงาน โบสถ์ก�ำลังจัดงาน ครบรอบการแต่งงานให้แก่ทุกคู่ พ่อเจ้าวัดจึงเชิญ ราล์ฟ ขึ้นมากล่าวถึงเคล็ดลับของ ชีวิตแต่งงาน ราล์ฟพูดว่า “เอาละ เคล็ดลับของชีวิตแต่งงานของเราก็คือ ผมปฏิบัติ ต่อเธอด้วยความเคารพอยู่เสมอ และผมใช้เงินจ�ำนวนมากเพื่อเธอ และสุดท้ายผมก็ ซื้อทริปการเดินทางที่ดีที่สุด แพงที่สุดเพื่อให้เธอมีเวลาสบายๆ เป็นของตนเองบ้าง และอยู่ห่างไกลจากแวดล้อมเดิมๆ” พ่อจึงถามว่า “นั่นมันสุดยอดมาก คุณจัดให้ เธอไปที่ไหนครับ?” เขาตอบว่า “ตอนฉลองครบ 25 ปีของการแต่งงานผมให้เธอไป ปักกิ่งครับ” ที่ประชุมต่างร้อง โอ้ พร้อมทั้งพยักหน้ากันด้วยความชื่นชม จากนั้นพ่อ ถามต่อว่า “แล้วฉลอง 50 ปีนี้คุณจะให้เธอไปไหนครับ?” ราล์ฟตอบว่า “ไปปักกิ่ง ครับ ไปรับเธอกลับมาซะที” ฮา เคล็ดลับการแต่งงานดีมากครับ เคารพกันและกัน เสมอ ให้เกียรติกัน ทุ่มเททุกอย่างเพื่อกันและกัน แต่ไม่ต้องท�ำกันถึงขนาดนี้ก็ได้นะ ครับ Happy Holiday

ถูกใจ

96

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

20 พฤษภาคม

Roberta Karchner เล่าให้ฟังว่า “หลายปีก่อน สามีและฉันไปทาน อาหารเย็นที่ร้าน Applebees โอกาสครบรอบแต่งงาน มื้อนั้นเราทานกันเงียบ มากเพราะว่าสามีฉันได้รับค�ำสั่งจากหมอให้ไปตรวจ MRI เรารู้ดีว่าผลการตรวจจะ เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราสองคนไปตลอดกาล เรานั่งจับมือกันและพุดคุยถึงเรื่องดีๆ ที่เราเจอมาด้วยกัน สุดท้ายเราก็สั่งของหวานเล็กๆ มาฉลองด้วยกัน พอเราเรียก เก็บเงิน พนักงานแจ้งว่า “สุภาพบุรุษท่านหนึ่งได้ยินว่าเป็นวันครบรอบแต่งงาน ของพวกคุณ เขาจึงขอจ่ายมื้อนี้ให้” ปีต่อมาสามีก็ถูกตรวจพบว่า เป็นโรคทางสมอง ระยะสุดท้ายแล้ว เราจึงกลับไปที่ร้านอาหารเดิมอีกครั้ง นั่นอาจจะเป็นอาหารค�่ำ สุดท้ายที่เราจะฉลองครบรอบการแต่งงานด้วยกัน ปีต่อๆ ไปเขาอาจจะอาเจียร ในระยะพักฟื้น ปีต่อไปเขาอาจจะนั่งรถเข็นแล้ว ตอนที่ฉันยังท�ำอะไรได้บ้าง ฉัน อาจจะพาเขาเข็นไปตามทางเดินและเราอาจนั่งทานอาหารเย็นร่วมกันที่บ้านของ เราเอง แต่ในใจของฉัน ฉันยังจดจ�ำชายคนนั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม เขาอาจ จะไม่รู้หรอกว่า ของขวัญที่เขาให้พวกเราในวันครบรอบการแต่งงานมื้อนั้นมีความ หมายต่อเราสองคนมากเพียงใดในวันพิเศษเช่นนั้น” เป็นชีวิตการแต่งงานที่น่ารัก มากครับ เมื่อเรากระท�ำสิ่งดีๆ เราไม่รู้หรอกครับว่า เราได้สัมผัสชีวิตของใครไปบ้าง “ตอนคุณเกิดมา คุณร้องไห้ แต่โลกชื่นชมยินดี จงมีชีวิตอยู่ในแบบที่ว่า เมื่อคุณตาย ไป โลกจะร้องไห้ แต่คุณจะชื่นชมยินดี” สุภาษิตอินเดีย ท�ำดีต่อกันเข้าไว้ครับ

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

97


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

26 พฤษภาคม เวลา 11:06 น.

สาธุคุณท่านหนึ่งเล่าให้ฟัง เรื่องจริงหรือเล่นก็ลองอ่านดูนะครับ ท่าน เล่าว่าวันหนึ่งนั่งรถไฟและในตู้รถไฟมีหญิงชรา 2 คนนั่งอยู่ ทั้งสองก�ำลังทะเลาะ กันใหญ่โตถึงขนาดต้องเรียกเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วโดยสารมาไกล่เกลี่ย หญิงชราคน หนึ่งพูดด้วยความโมโหว่า “ฉันคงต้องร้อนตายอยู่บนรถไฟนี่แน่ๆ หากไม่เปิด หน้าต่างรถไฟนี่” หญิงชราอีกคนหนึ่งพูดว่า “ฉันก็คงต้องเป็นปอดบวมตายอยู่ ในนี้เหมือนกันถ้าหากไม่ปิดหน้าต่างรถไฟนี่” นายตรวจและท่านสาธุคุณไม่รู้จะ แก้ไขสถานการณ์อย่างไรได้ ที่สุดนายตรวจตัดสินว่า “เราจะท�ำอย่างนี้นะครับคุณ ผู้หญิง เราจะเปิดหน้าต่างก่อน คนหนึ่งก็จะเป็นปอดบวมตายไป จากนั้นเราก็จะ ปิดหน้าต่างให้อีกคนหนึ่งร้อนตายไป แล้วทุกคนบนรถไฟนี้ก็จะพบกับสันติสุขกัน เสียที” ไม่ทราบว่าผลสุดท้ายจะปรานีปรานอมกันได้หรือไม่นะครับ แต่เมื่อต่าง คนต่างเอาแต่ใจตนเอง คิดถึงแต่ตนเองและคิดว่าตนเองถูกเสมอและคนอื่นๆนั้น ผิดเสมอ ก็มักจะลงเอยด้วยการทะเลาะเบาะแว้งกัน ทุกวันนี้คนเราทะเลาะกัน ด้วยเรื่องเล็กน้อยมากก็เพราะเหตผลนี้ครับ “เรามอบสันติสุขของเราให้แก่ท่าน ทั้งหลาย” Happy Sunday

ถูกใจ

98

My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

29 พฤษภาคม เวลา 08:30 น.

PRAYING FOR YOUR PROSPERITY ชายคนหนึ่งก�ำลังเดินไปพร้อมกับพ่อเจ้าวัด เขารู้ว่าพ่อเจ้าวัดใช้ชีวิตด้วย ความยากจนอย่างยิ่งในเอธิโอเปีย เขารู้สึกสงสารท่านมากและแสดงความเห็นใจ ท่านพูดว่า “พ่อครับ พวกเราสวดภาวนาให้คณ ุ พ่อนะครับเพือ่ ต่อสูก้ บั ความยากจน” พ่อเจ้าวัดที่มีใจสุภาพมากท่านนี้หันมาหาเขาและพูดว่า “ไม่นะ คุณไม่เข้าใจ พวกเราต่างหากที่สวดภาวนาให้พวกคุณในท่ามกลางความเจริญรุ่งเรือง” ชายคน นั้นผงะไป แต่คุณพ่อก็ยังอธิบายต่ออีกว่า “พวกเราสวดให้พวกคุณชาวอเมริกัน ก็เพราะว่ามันยากมากส�ำหรับพวกคุณที่จะใช้ชีวิตอย่างถูกต้องในท่ามกลางความ ร�่ำรวยและความเจริญรุ่งเรืองเหล่านั้น ยากกว่าการที่พวกเราใช้ชีวิตในท่ามกลาง ความยากจนของเรา” เงินทองและความร�่ำรวยเปลี่ยนนิสัยคนมามากแล้ว เขามอง ทุกอย่างเป็นเรื่องเงินทอง รายได้ ผลประโยชน์ เขาใช้จ่ายเงินผิดลู่ผิดทาง เขาใช้ เงินเป็นอ�ำนาจข่มขู่ใครต่อใคร เขาใช้เงินบ�ำเรอตนเองและใช้เงินเพื่อให้ได้มาในสิ่ง ที่ต้องการ หลายครั้งต้องโกง โกหกและหลอกลวง คนเหล่านี้ต่างหากที่ต้องการค�ำ ภาวนาครับ บางทีคนนั้นอาจจะเป็นตัวเราเองก็ได้ Happy Day (From a sermon by Anthony Zibolski, Gideon; Man of Purpose, 6/14/2011)

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

99


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

29 พฤษภาคม เวลา 08:46 น.

Life After Death ข�ำขันครับ เจ้านายถามลูกน้องคนหนึ่งว่า “คุณเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายรึเปล่า?” ลูกน้องคนนี้เพื่งเข้ามาท�ำงานไม่นานตอบว่า “เชื่อครับท่าน” เจ้านายจึงพูดต่อว่า “ผมก็คิดว่าคุณเชื่อนะเพราะเมื่อวานนี้ตอนที่คุณขออนุญาตออกไปร่วมงานฝังศพ คุณยายของคุณ ยายคุณก็เข้ามาที่ส�ำนักงานขอพบคุณ” คุณยายคงคิดถึงหลานชาย มากจริงๆ ยายกลับมีชีวิต แต่ที่จะตายจริงสงสัยจะเป็นหลานชาย ฮา หัวเราะบ้าง ยิ้มบ้าง อะไรบ้างนะครับ

ถูกใจ

100 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

3 มิถุนายน เวลา 08:45 น.

Just My Type Stanley Morison ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด ของกรุงลอนดอน สิ่งที่เขาบ่นไปก็คือ “แบบตัวอักษรที่พวกคุณใช้ท�ำให้อ่านยาก มาก มันควรอ่านได้ง่ายกว่านี้” หนังสือพิมพ์ตอบกลับมาว่า “ถ้าคุณสแตนลี่ไม่ชอบ แบบตัวอักษรนี้ คุณก็ควรหาตัวอักษรที่ดีกว่านี้มาเสนอด้วยสิ” สแตนลี่รับค�ำท้านี้ เขาร่วมมือกับนักออกแบบตัวอักษรชื่อ Victor Lardent ทั้งสองคนช่วยกันสร้าง แบบตัวอักษรที่อ่านได้ง่ายมากขึ้นมา ในปี 1926 หนังสือพิมพ์ Times ทดสอบแบบ ตัวอักษรที่พวกเขาคิดค้นขึ้นแล...ะพบว่าเป็นแบบตัวอักษรที่ได้รับความนิยมมาก และดีกว่าเดิมมาก Times จึงเริ่มใช้แบบนี้ พวกเขาตั้งชื่อแบบตัวอักษรนี้ว่า “The Times New Roman” ต่อมาเปลี่ยนมาเป็น “Times New Roman” ปัจจุบันนี้ ก็ยังมีใช้อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป สแตนลี่เป็นผู้ที่เตือนใจเราได้ว่า เราอย่า หยุดแค่การบ่นว่าเท่านั้น เราต่างมีเรื่องมากมายที่จะบ่น บ่นและบ่นในชีวิตของเรา ด้วยกันทั้งนั้น ให้เราก้าวข้ามการบ่นและให้เราเป็นมากกว่าการบ่น นั่นคือเป็นส่วน หนึ่งของการแก้ปัญหาด้วย– be part of the solution. การบ่นหลายครั้งมาจาก เหตผลครับ แต่บางครั้งก็มาจากอารมณ์ส่วนตัวล้วนๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ ปัญหาดีกว่าครับ Good Monday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

101


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

8 มิถุนายน เวลา 09:03 น.

ธรรมเนียมต่างๆ กันในวันสมโภชพระจิตเจ้าครับ วัดบางวัดได้เริ่มชักชวนให้สัตบุรุษแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีแดง เนื่องจากว่า สีของพิธีกรรมวันนี้คือสีแดง และมีธรรมเนียมที่จะตกแต่งบ้านเรือนและวัดด้วย ดอกไม้หลากสีสรรด้วย ในประเทศโปแลนด์ วันฉลองพระจิตเจ้าบางครั้งถูกเรียก ว่า “วันหยุดสีเขียว” (Green Holiday) ส่วนในประเทศเยอรมันเรียกว่า “วันฉลอง ดอกไม้” (Flower Feast) ในบางประเทศของลาติน อเมริกา เรียกว่า Pascha Rosatum (วันฉลองดอกกุหลาบ) ในประเทศอิตาลี ใช้ชื่อว่า Pasqua Rossa แปลว่า ปัสกาสีแดง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากอาภรณ์แดงของวันฉลองคริสตชน ยุคกลางชอบที่จะใช้สัญญลักษณ์ของพระจิตเจ้ามาเร้าใจนั่นคือ นกพิราปและเปลว ไฟ ประวัติศาสตร์เล่าว่าในประเทศฝรั่งเศส เมื่อพระสงฆ์เอ่ยค�ำว่า “เชิญเสด็จมา พระ จิตเจ้า” เสียงทรัมเป็ตก็จะดังขึ้นหมายถึงลมแรง ในบางประเทศเด็กๆ ช่วยพิธีกรรม ก็จะฮัมพร้อมๆ กันด้วยอุปกรณ์ที่ท�ำเสียงลม จากนั้นก็จะมีภาพวาดนกพิราบ ที่สวยงามมากปรากฎขึ้นที่กลางวัดแล้วดอกไม้ทั้งหลายก็จะร่วงลงมาจากด้านบน ของวัดเป็นสัญลักษณ์ถึง พระคุณของพระจิตเจ้า ในศตวรรษที่ 13 อาสนวิหารต่างๆ ในฝรั่งเศสจะปล่อยนกพิราปในอาคาร ของอาสนวิหารและปล่อยดอกกุหลาบลงมาพร้อมกันด้วย บางเมืองในยุโรปกลาง ถึงกับปล่อยฟางไหม้ลงมาจากข้างบนด้วยหมายถึงลิ้นไฟของพระจิตเจ้า ธรรมเนียมเหล่านี้สุดท้ายแล้วก็ไม่เป็นที่นิยม วัดมากมายหลายแห่งเกิดไฟไหม้ ใน รูปแบบของไฟจริงๆ และในรูปแบบการทะเลาะเบาะแว้งกันในเรื่องนี้ด้วย (Fr. Hoisington). (frtonyshomilies.com) L/19 ดูอดีต เทียบปัจจุบัน เราก็จะพบ ความจริงบางอย่างและความแตกต่างบางอย่างที่เกิดจากเรื่องเดียวกันครับ ที่ส�ำคัญ วันฉลองนี้ยังมีความส�ำคัญเสมอครับ อย่าลืมไปรับพระคุณพระจิตเจ้า Happy Pentecost Day ถูกใจ

102 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

20 มิถุนายน เวลา 08:10 น.

John Ortberg ในหนังสือ “When the Game Is Over, It All Goes back in the Box.” ของเขา เล่าถึง Armand Hammer ประธานบริษัทและ ประธานกรรมการบริหารของ Occidental Petroleum เป็นเวลาหลายปี เป็นยักษ์ ใหญ่ของบรรดานายทุนและน่าเชื่อถือของผู้น�ำโลก เป็นความใฝ่ฝันของนักธุรกิจ โลกทีเดียว หลังจากเขาตายไป เรื่องจริงของเขามากมายก็ค่อยๆ ปรากฎขึ้น เริ่มต้น ด้วยการปล่อยเงินให้แก่ประเทศรัสเซียและรับรายได้อย่างงาม เขาจ้างนักเขียนให้ เขียนประวัติของตนเองให้เริดหรู ตอนเขายังเรียนแพทย์และก�ำลังจะจบการศึกษา แพทย์ เขาท�ำแท้งให้กับหญิงคนหนึ่งและท�ำให้ผู้หญิงคนนั้นตาย พ่อของเขายอมรับ ผิดแทนลูกชายและต้องจ�ำคุกแทนถึง 2 ปี ตัวเขาเองไม่เคยออกมาพูดเลยว่าเขา เป็นคนท�ำ เขาทิ้งลูกชายของตัวเองและไม่เคยยอมรับลูกสาวของเขาเองที่เกิดจาก หญิงนอกสมรส เขาไม่มีเพื่อนเลยสักคนในบริษัทของเขาเอง เขาไล่ผู้บริหารออก ตามใจของเขาเสมอ เมื่อน้องชายของเขาเสียชีวิต เขาฟ้องร้องเอาทรัพย์สินของน้อง ชายจากภรรยาและลูกๆ ของน้องชายมาเก็บไว้ 667,000 ดอลล่าร์ จาก 700,000 ดอลล่าร์ และตอนนั้นภรรยาของน้องชายก็อยู่ที่บ้านคนชราแล้วด้วย เมื่อเขาตาย ไป ลูกชายของเขาเองไม่มาร่วมงานศพและคนที่มาแบกศพของเขาก็คือคนที่เขา จ้างมาดูแลเขาในบ้านของเขาเองเท่านั้น นี่เป็นเรื่องของคนจองหองและละโมภใน เงินทองครับ คนพวกนี้ไม่มีเพื่อน ไม่มีแม้พี่น้อง มีแต่หลอกลวงคนเพื่อสมบัติและชื่อ เสียง กฎที่ส�ำคัญที่สุดของชีวิตข้อหนึ่งก็คือ คนย่อมมาก่อน ทรัพย์สินเงินทองและ ต�ำแหน่ง (The second rule is that people come before possessions and positions.) มิฉะนั้นแล้วคุณจะไม่มีใครร่วมสุขและร่วมทุกข์กับคุณเลย อย่าปล่อย ให้สมบัติและต�ำแหน่งมากัดกินชีวิตของเราเลย รักคนรอบตัวเราให้มากๆ ผู้คนคือ พระพรอีกประการหนึ่งที่เราได้รับครับ Happy Thursday ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

103


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

21 มิถุนายน เวลา 08:40 น.

ข�ำขันกันนิดนึงครับ เรื่องฤทธิ์ยานอนหลับ ชายคนหนึ่งพูดกับเจ้าหน้าที่บนรถไฟว่า “ขอโทษนะครับ ผมจะรู้สึกวิง เวียนศีรษะเสมอเวลานั่งรถไฟ ผมจ�ำเป็นต้องทานยานอนหลับ ดังนั้นคุณช่วยท�ำ ทุกอย่างที่ท�ำได้ให้ผมลงรถไฟที่สถานี บัลติมอร์ ผมไม่อยากจะพลาดงานศพของป้า ผมที่นั่นจริงๆ ครับ” เจ้าหน้าที่ตอบพร้อมกับรอยยิ้มว่า “แน่นอนครับ เราจะท�ำให้ คุณลงรถไฟที่บัลติมอร์ให้ได้ครับ อย่าห่วงเลย” หกชั่วโมงต่อมารถไฟหยุดที่สถานี วอชิงตัน ดีซี ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ชายคนนั้นตื่นตระหนกตื่นขึ้นมาแล้วรีบไป ต่อว่าเจ้าหน้าที่ “นี่มันอะไรกัน ผมขอร้องคุณให้ปลุกผมที่สถานี บัลติมอร์” คู่สามี ภรรยาที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาจึงคุยกันว่า “แย่แล้ว เขาคงโกรธมากทีเดียวนะเนี่ย” ภรรยาเขากระซิบกลับมาว่า “คงไม่โกรธเท่ากับผู้ชายคนที่พวกเจ้าหน้าที่ลากไปลง ที่สถานีบัลติมอร์หรอก” น่าสงสารผู้โดยสารทั้งสองคนเลยนะครับ เจ้าหน้าที่ก็เหลือ เกินนะ ดันไปเรียกผิดคน แถมไม่ยอมลงง่ายๆ ซะด้วย คนเราก็เข้าใจผิดกันได้ทุก คน เราคงต้องระวังกันหน่อยนะครับ อย่าเข้าใจผิดกันได้เป็นดี Happy Friday

ฮ่าๆ

104 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

22 มิถุนายน เวลา 09:17 น.

ข�ำขันที่พิพิธภัณฑ์ครับ “และที่อยู่ตรงนี้ก็คือ ฟอสซิลอายุ 4 ล้านและ 69 ปี” ชายชราผู้น�ำทัวร์ ในพิพิธภัณฑ์ร้องอธิบาย “ส่วนทางซ้ายมือนี้ก็เป็นฟอสซิลอีกชิ้นหนึ่งที่มีอายุ 2 ล้านและ 69 ปี” “ว้าว นั่นมันน่าประทับใจมากครับ” หนึ่งในผู้ฟังร้องขึ้นมาแล้ว ถามต่อไปว่า “คุณสามารถบอกจ�ำนวนปีที่แท้จริงขนาดนี้ได้อย่างไรครับ?” ชาย ชราตอบว่า “นั่นมันง่ายมากครับ ฟอสซิลนี้มีอายุ 2 ล้านปีเมื่อผมเริ่มมาท�ำงานที่ พิพิธภัณฑ์นี้ 69 ปีที่แล้ว” ฮาดีนะครับ อย่าลืมบวกอายุเราเข้าไปด้วยเวลาก�ำหนด ปีในประวัติศาสตร์ คนเราก็มักชอบพูดอะไรๆ แล้วบวกๆ อะไรๆ เข้าไปอยู่เสมอนะ ครับ พูดบวกก็อาจจะดีกว่าพูดลบนะครับ Happy Saturday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

105


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

24 มิถุนายน เวลา 08:54 น.

A Child’s Sincere Worship Heard in a Man’s Dream ชายคนนหนึ่งถูกน�ำไปที่วัดแห่งหนึ่งในความฝัน ในฝันนั้นเขามองเห็น นักออร์แกนก�ำลังบรรเลงเพลง แต่เขาไม่ได้ยินเสียงออร์แกนเลย คณะนักขับร้อง และสัตบุรุษเริ่มร้องเพลง แต่ไม่มีเสียงอะไรออกมา จากนั้นพระสงฆ์ก็เริ่มต้นสวด ภาวนาท่าทางแข็งขัน แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากริมฝีปากของท่าน ชายคนนั้น จึงหันไปถามเทวดาที่น�ำทางเขา เทวดาพูดว่า “คุณไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยก็เพราะ ว่าไม่มีเสียงอะไรที่จะได้ยิน ผู้คนเหล่านี้มิได้ใส่ใจในพิธีกรรม พวกเขาสนใจแต่เพียง รูปแบบของพิธีกรรม หัวใจของเขาไม่ได้ถูกสัมผัส แต่ลองฟังตอนนี้สิ” เขาเริ่มฟัง และได้ยินเสียงของเด็กคนหนึ่ง มันช่างชัดเจนและแตกต่างในท่ามกลางความเงียบ นั้น “ในขณะที่พระสงฆ์ดูเหมือนว่าสวดภาวนาอยู่และสัตบุรุษดูเหมือนว่าร่วมสวด ภาวนาไปด้วย มีเสียงเด็กคนนี้เท่านั้นที่เขาได้ยิน เทวดากล่าวว่า “นั่น เพราะเหตุว่า หัวใจของเด็กคนนี้ได้รับการสัมผัส นี่คือสักการะบูชาที่แท้ คนส่วนใหญ่มักจะสนใจ แต่เพียงรูปปรากฎภายนอกของการเคารพบูชา” บทเรียนบทหนึ่งที่ส�ำคัญส�ำหรับ เราก็คือ เราต้องจริงใจในการสวดภาวนาและการถวายบูชา บางทีเราก็แค่มาร่วม เท่านั้นและไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงของเราเอง ( Our worship of the Father must be sincere and not for show ) From a sermon by Mark Schaeufele, New Life On Purpose: Worship, 1/22/2010

ถูกใจ

106 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

29 มิถุนายน

ผู้น�ำพระศาสนจักรในศตวรรษที่ 21 มักจะไม่ค่อยสนใจนักกับปัญหาและ ประเด็นซับซ้อนต่างๆของพระศาสนจักรมากเหมือนในอดึต จะมีก็แต่การแสวงหา ต�ำแหน่งและอ�ำนาจ แสวงหาการยอมรับหรือบางครั้งก็แสวงหาแต่เงินทอง Dr. Rowan Williams ต้องการชี้ให้เห็นความแตกต่างของผู้น�ำศาสนาในอดีตกับ ปัจจุบันท่านจึงเล่าเรื่องของพระสันตะปาปา ยอห์นที่ 23 ให้ฟังว่า “พระองค์ตื่น ขึ้นมาพร้อมกับความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาที่ยุ่งยากมากปัญหาหนึ่ง พระองค์ถึง กับตรัสกับตัวเองว่า “ฉันจะต้องไปขอพบพระสันตะปาปาเพื่อปรึกษาปัญหาข้อนี้” จากนั้นพระองค์ก็คิดว่า “เดี๋ยวก่อนสิ ฉันเองเป็นพระสันตะปาปานี่นา” (Wait a minute, I am the Pope!) บางครั้งความสุขสบายของชีวิตก็ท�ำให้เราหลงและลืม หน้าที่ของเราเองได้นะครับ Happy Saturday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

107


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

6 กรกฎาคม

ไมเคิ้ล แอนเยโล นอกจากจะเป็นยอดนักวาดภาพแล้ว ยังเป็นยอดนักสลัก หินอีกที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก หากใครไปเยี่ยม “อะคาเดมี” ที่เมืองฟลอเรนซ์ อิตาลีจะพบผลงานมากมาย งานชิ้นหนึ่งที่ท่านสลักในปี 1453 เป็นรูปสลักชุด 4 รูปที่รู้จักกันว่า เป็นภาพที่ไม่มีวันเสร็จ พระสันตะปาปา จูเลียส สั่งให้ท�ำเพื่อตั้ง ใว้ที่หลุมศพของพระองค์ แต่ก็ไม่เคยถูกน�ำไปวางใว้ รูปชุดนี้มีชื่อเรียกว่า “ The Slaves” (ทาส) ไมเคิ้ลพูดถึงพวกเขาในฐานะ “นักโทษ” เป็นรูปของชาย 4 คน ซึ่งก�ำลังดิ้นรนกระเสือกกระสนที่จะเป็นอิสระจากก้อนหินซึ่งกักขังพวกเขาใว้ เป็น ภาพทีสะกดจิตใจผู้คนและมีเสน่ห์อย่างมาก สัมผัสได้ถึงความกระหายและโหย หาเสรีภาพและอิสรภาพของมนุษย์จากพลังบางอย่างที่กักขังเขาใว้ราวกับนักโทษ เมื่อมองดูที่รูปสลัก เราจะเข้าใจทันทีว่าชายทั้ง 4 ต้องการมือของช่างสลักเพื่อ ปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระจากก้อนหิน ใครไปฟลอเรนซ์ก็อย่าพลาดไปชมกัน นะครับ บางทีอาจท�ำให้เราพบว่ามีอะไรในชีวิตที่กักขังเราใว้ในก้อนหินบ้าง บางที อาจจะเป็นความเกลียดชัง ความอิจฉา ความละโมภโลภมาก อ�ำนาจ ชื่อเสียง เรา ล้วนต้องการพระหัตถ์ของพระมาแกะเราออกจากกรงขังหินเปล่านี้นะครับ Happy Saturday

ถูกใจ

108 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

6 กรกฎาคม

เรื่องข�ำขันของผู้สูงวัยครับ วันหนึ่งจอห์นไปเยี่ยมเพื่อนเก่าสมัยมัธยมชื่อร๊อบ ร๊อบแปลกใจและทักว่า “จอห์น แกดูดีมากเลย ดูหนุ่มอยู่เลย ดูเหมือนอายุ 40 ไม่ใช่ 60” จอห์นตอบว่า “ฉันเองก็รู้สึกว่าตัวเองอายุ 40 นะ” “มันไม่น่าเชื่อเลยนะ มันเกี่ยวกับสายเลือดรึเปล่าละ พ่อแกตายไปตอนอายุเท่า ไหร่?” “ฉันเคยบอกแกรึว่าพ่อฉันตายไปแล้ว? ตอนนี้พ่อฉันอายุ 81 ยังดูแข็งแรงกว่าเดิม ด้วยซ�้ำนะ พ่อเพิ่งเข้าร่วมทีมบาสเก็ตบอลข้างบ้าน” “โอ้โห อย่างนั้นปู่แกตายตอนอายุเท่าไหร่?” “ฉันเคยบอกแกรึว่าปู่ฉันตายไปแล้ว? ปู่เพิ่งฉลองวันเกิดครบ 105 ปีไปเอง ตอนนี้ เล่นกอล์ฟและไปว่ายน�้ำทุกวัน อาทิตย์หน้าปู่ก�ำลังจะแต่งงานด้วยนะ” “แต่งงานรึ! ตอนนี้ท่านอายุ 105 ปีแล้ว มีเหตุผลอะไรในโลกนี้ที่ท่านต้องการจะ แต่งงาน?” จอห์นมองหน้าร๊อบแล้วตอบว่า “ฉันเคยบอกแกรึว่า ปู่ฉันต้องการ” กวนนิดหน่อยพอสนุกๆ นะครับ เรื่องนี้คงจบแบบไม่มีเรื่องราวอันใดระหว่างเพื่อน สุงอายุนะครับ ก็แค่อยากคุยถึงวัยแข็งแรงและก็คงอยากคุยกันอีกมากมายทีเดียว การฟังผู้สูงอายุเป็นของขวัญที่ดีมากส�ำหรับพวกท่านนะครับ

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

109


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

9 กรกฎาคม

21 Apples From Max “Max หลานชายฉันบอกแม่เขา แอนเดรีย ให้บริจาคเช็คที่แม่จะให้เขาเป็น ของขวัญวันเกิด แอนเดรียก็เกิดความคิดขึ้นมา เธอยื่นกล้องบันทึกวีดีโอให้ชาร์ลี น้องชาย แล้วไปเบิกเงินเป็นแบงค์ใบละ 10 ดอลล่าร์มา 21 ใบและไปซื้อแอปเปิ้ ลมา 21 ลูก จากนั้นเธอก็ไปที่พบชายไร้บ้านคนหนึ่ง แอนเดรียบอกเขาว่า “วันนี้ เป็นวันเกิดแม๊กซ์ครบ 21 ปีและเขาขอร้องฉันให้มอบของขวัญให้ใครสักคนได้ร่วม ฉลองวันเกิดกับเขา” เธอยื่นแบงค์ใบละ 10 ดอลล่าร์ 1 ใบและแอปเปิ้ล 1 ลูกให้ เขา ชายไร้บ้านยิ้มให้แก่กล้องแล้วร้องว่า “สุขสันต์วันเกิดแมกซ์” จากนั้นทั้งสอง คนก็ต่อไปยังแถวชายหญิงตกงานที่ก�ำลังรอรับซุปไก่และท�ำเช่นเดียวกัน พวกเขา ทุกคนร้องเป็นเสียงเดียวกันบันทึกในกล้องว่า “สุขสันต์วันเกิด แมกซ์” ที่ร้านพิซซ่า เธอให้เงิน 50 ดอลล่าร์แก่เจ้าของร้านและบอกว่า “กรุณาเลี้ยงพิซซ่าคนยากจนให้ ด้วย” มีเสียงตะโกนออกมาว่า “สุขสันต์วันเกิด แมกซ์” สุดท้ายเธอไปที่ท�ำงานของ น้องสาวเธอเอง น้องสาวเธอหัวเราะทั้งน�้ำตาแล้วพูดว่า “สุขสันต์วันเกิด แมกซ์” เมื่อเรามี ก็อย่าลืมคนที่ไม่มีนะครับ กิจการแห่งความใจกว้างนี้สามารถเปลี่ยนแปลง ชีวิตคนได้ ไม่มากก็น้อย ใจดีต่อกันนะครับ Happy Tuesday

ถูกใจ

110 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

10 กรกฎาคม

“I Can Still Help” คุณหมอ Mohammed Basha เล่าเรือ่ งนีเ้ องครับ “ตอนผมเดินไปทีจ่ อดรถ ผมคิดถึงแต่เรื่องของผลการตรวจโรคที่ผมยื่นให้แก่คนไข้หนุ่มคนหนึ่งชื่อ จิมมี่ เขา พบว่าเป็นมะเร็งตับอ่อน ตอนนั้นผมสังเกตุเห็นชายชราคนหนึ่งก�ำลังยื่นเครื่องมือ ให้ใครบางคนที่อยู่ใต้รถของชายชราคนนั้น ดูอีกครั้งใครบางคนคนนั้นคือ จิมมี่ นั่นเอง ผมจึงร้องถามไปว่า “จิมมี่ เธอก�ำลังท�ำอะไรอยู่?” จิมมี่ปัดฝุ่นที่กางเกงเขา แล้วตอบว่า “มะเร็งของผมไม่ได้บอกผมว่า ไม่ให้ช่วยเหลือคนอื่นนะครับหมอ” จากนั้นเขาก็โบกมือให้ชายชราติดเครื่องยนต์ รถกลับมาเป็นปกติแล้ว ชายชรา ขอบคุณเขาแล้วก็ขับรถออกไป จิมมี่ก็ขับรถกลับไปด้วย ผมเองก็ขับรถกลับไป พร้อมกับข้อคิดที่ดีมากว่า “ความใจกว้างนั้นไม่มีขอบเขตและไม่มีข้อก�ำหนดใดๆ” (Kindness has no limits and no restrictions) บางครั้งความทุกข์ของเราก็สอน ให้เรารู้จักความทุกข์ของผู้อื่นได้ดีขึ้น ในโลกใบนี้คงไม่มีอะไรดีกว่าการยื่นมือให้แก่ กันและกัน ท�ำอะไรดีๆ ได้ก็ท�ำตั้งแต่ตอนนี้นะครับ Happy Wednesday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

111


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

13 กรกฎาคม

Selfless Act นักดับเพลิงสองคนก�ำลังเข้าแถวซื้ออาหารจานด่วน ตอนนั้นเองเสียง ไซเรนแจ้งเหตุไฟไหม้ก็ดังมาจากรถของเขาที่จอดอยู่ภายนอกร้าน ทั้งสองจึงทิ้งแถว รออาหารและรีบออกจากร้านไปปฏิบัติหน้าที่ ตอนนั้นสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งเพิ่งจะ ได้รับอาหารตามคิวของตนก็ยื่นอาหารของตนให้แก่นักดับเพลิงทั้งสองคนนั้น “คุณ ช่วยชีวิตพวกเราไว้” นักดับเพลิงขอบคุณ พวกเขาตอบว่า “พวกคุณต่างหากที่ช่วย เรา” จากนั้นสามีภรรยาคู่นั้นก็ไปต่อแถวเพื่อซื้ออาหารอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพวกเขาได้ รับอาหารและก�ำลังจะจ่ายเงิน ผู้จัดการร้านอาหารไม่ยอมเก็บเงินพวกเขาแล้วพูด กับพวกเขาว่า “ผมชื่นชมการกระท�ำที่ไม่คิดถึงตนเองของคุณ ผมขอท�ำเช่นเดียวกัน ครับ” (JoAnn Sanderson, Brandon, Florida. This is the nicest place in America! Hint: It’s a restaurant in Tennessee) กิจการเล็กๆ น้อยๆ ที่มา จากความใจกว้างสามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัวเลย เชื่อว่าทุกคนที่เข้าแถวรอ อาหารในวันนั้นคงเห็นคุณค่าของความใจกว้าง พวกเราก็เหมือนกันครับ ความใจ กว้างท�ำได้ทุกที่ Happy Saturday

ถูกใจ

112 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

13 กรกฎาคม

ข�ำขันสามีภรรยาครับ น่ารักน่าชัง แมรี่เอะอะกับสามีที่แต่งงานกันมา 20 ปีแล้วว่า “แฮรี่ ฉันควรท�ำยังไงดี ฉันยังไม่พร้อมที่จะแก่ ฉันอายุ 40 เองแต่ดูเหมือนฉันอายุ 55 หน้าก็เหี่ยว หลังก็ เริ่มค่อมแล้ว ผมก็เริ่มร่วง” แฮรี่มองเธอจากศรีษะถึงเท้าแล้วพูดว่า “แต่มีอย่างหนึ่ง นะที่ยังดีอยู่มากเหมือนใหม่เลย” แมรี่รีบมานั่งข้างๆ แฮรี่แล้วแล้วถามว่า “โอ้ แฮรี่ คุณรู้เสมอเลยว่าจะพูดอะไร คุณหมายถึงอะไรรึ?” “ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปสนใจ เลย” “น่า แฮรี่บอกฉันหน่อยว่าคุณหมายถึงอะไร” “แมรี่อย่าบังคับฉันเลย” “ฉัน ขอยืนยันนะ ฉันอยากรู้” สุดท้ายแฮรี่ตอบว่า “ฉันหมายถึงสายตาของเธอ (ที่มอง ตัวเอง) ยังคงเฉียบคมเหมือนเดิมเลย” ฮา อยากรู้ก็ได้รู้ แต่ที่น่ารู้มากที่สุดก็คือรู้จัก ตัวเองและรู้จักยอมรับความจริงนะครับ

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

113


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

16 กรกฎาคม

ข�ำขันวันหยุดนะครับ แอนเป็นแอร์โฮสเตส เธอพบว่าหญิงชราคนหนึ่งน�ำสุนัขที่ก�ำลังนอนอยู่ ในกรงเล็กๆ ขึ้นเครื่องมาด้วย จึงพูดกับหญิงชราว่า “ขอโทษนะคะ คุณน�ำสุนัขขึ้น เครื่องไม่ได้ค่ะ คุณต้องโหลดมันไปกับกระเป๋า” หญิงชราไม่พอใจแต่สุดท้ายแอน ก็ท�ำให้เธอยอมแต่โดยดี เมื่อถึงปลายทาง แอนพบว่า สุนัขตัวนั้นตายแล้ว เธอคง ต้องถูกฟ้องร้องแน่นอน เธอจึงรีบส่งลูกน้องรีบไปหาซื้อสุนัขตัวหนึ่งที่เหมือนกับ ตัวที่เสียชีวิตมา แอนก็คุยกับหญิงชราให้รอ พอสุนัขมาถึงเธอก็รีบน�ำสุนัขที่ใส่กรง เหมือนกันมาให้หญิงชรา “นี่ไม่ใช่สุนัขของฉัน” หญิงชราพูดทันทีที่เห็นสุนัข แอน ยืนยันว่า “ดิฉันมั่นใจว่านี่คือสุนัขของคุณ ดิฉันดูแลมันด้วยตัวดิฉันเองนะค่ะ” หญิง ชราก็เถียงว่า “ฉันก�ำลังจะพามันกลับมาที่บ้านเกิดก็เพื่อจะฝังมัน แต่สุนัขตัวนี้มัน ยังมีชีวิตอยู่เลย” เครื่องจอด แอนก็จอดไปด้วย ความจริงอยู่ใกล้ตัวเราเสมอนะ ครับ มันอยู่ในจิตส�ำนึกเรานั่นแหละครับ ความจริงว่าสุนัขตายเป็นสิ่งไม่ตายครับ Happy Holiday

ฮ่าๆ

114 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

20 กรกฎาคม

John Wesley นักเทศน์ผู้ยิ่งใหญ่นิกาย Evangelist มีรายได้ในสมัย นั้น 1,400 ปอนด์เท่ากับ 300,000 ดอลล่าร์ต่อปีเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เขามีชีวิตอย่าง ประหยัด เขาใช้เงินต่อปีไปเพียง 2% ของรายได้ ส่วนอีก 98%เขาน�ำไปช่วยเหลือ คนยากจน เขาเทศน์ไว้ตอนหนึ่งว่า “เงินคือของขวัญที่วิเศษมากจากพระเจ้า มัน เป็นอาหารส�ำหรับคนหิวโหย เป็นน�้ำส�ำหรับคนหระหาย เป็นเสื้อผ้าส�ำหรับคนไม่มี เป็นพ่อแม่ส�ำหรับเด็กก�ำพร้า เป็นยาส�ำหรับคนเจ็บป่วย เป็นตาส�ำหรับคนตาบอด เป็นเท้าส�ำหรับคนพิการ เป็นลิฟท์ส�ำหรับขึ้นสวรรค์จากแดนผู้ตาย เป็นค�ำตอบ ส�ำหรับปลายทางชีวิตเรา” Wesley ให้กฎแก่เรา 3 ข้อเพื่อน�ำทางเรา จงหาเงินให้มากที่สุดเท่าที่เราจะท�ำได้ จงประหยัดมัธยัสถ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ จงให้ให้มากที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ ครั้งหนึ่งท่านพูดไว้ด้วยว่า “ถ้าหากผมทิ้งเงิน 10 ปอนด์ (ในสมัยนั้น) ไว้ เบื้องหลัง คุณเองและมนุษยชาติสามารถเป็นพยานประนามผมได้เลยว่า ชายคนนี้มี ชีวติ และตายไปเช่นโจรและขโมยเท่านัน้ ” (Source: information about Wesley reported in Christian History Newsletter, November 30, 2001.) โลกของ เราตอนนี้เราใช้เงิน จ่ายเงิน จ่าย จ่าย จ่าย แม้รายได้จะน้อยกว่าที่อยากจ่าย เรา มีทางใช้เงิน จ่ายเงินได้อย่างง่ายดายครับ ทางบัตร ทางออนไลน์ เราชอบกฎข้อที่ 1 ของเวสลี่แต่เราไม่ค่อยชอบกฎข้อที่ 2 และ 3 มากนัก ชอบบทเทศน์ตอนนี้ของ ท่านมากครับ เงินเป็นอะไรๆ ได้มากกว่าที่เราคิดครับ ใช้ให้ดี หามาให้ถูกทางก็เป็น พระพร ใช้ผิด หามาด้วยวิธีการผิดๆ ก็กลายเป็นลิฟท์ลงไปสู่แดนผู้ตาย Happy Saturday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

115


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

22 กรกฎาคม

ว่าแต่เขา เราเป็นเอง เพื่อนสนิท 4 คนตัดสินใจไปฝึกฝนการร�ำพึงภาวนา พวกเขาตัดสินใจเข้า เงียบ 7 วันและตกลงกันว่าจะไม่พูดคุยกันเลยตลอด 7 วัน แต่ขอผู้ช่วยคนหนึ่งเพื่อ ดูแลความจ�ำเป็นต่างๆ ให้ วันแรกของการถือเงียบ ภาคเช้าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ภาคค�่ำ ผู้ช่วยจุดตะเกียงให้แล้วก็นั่งเหม่อลอย เพื่อนคนแรกเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ระวังตะเกียงดับ” เพือ่ นคนทีส่ องได้ยนิ ดังนัน้ จึงพูดออกมาว่า “แกลืมไปแล้วหรือว่าเราจะไม่พดู อะไรเลย” เพื่อนคนที่สาม เอ๋ยออกมาว่า “แกเองก็คงลืมไปว่าแกก็ก�ำลังพูดอยู่นะ แกพูดออก มาท�ำไม” เพื่อนคนสุดท้ายจึงพูดว่า “อืม ฉันจึงเป็นเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย” นี่แหละครับว่าแต่เขา เราเป็นเอง เราชอบตัดสินกันและกันอย่างรวดเร็ว ถูกบ้างผิด มาก แต่เราก็ลืมที่จะมองดูตัวเราเอง ดูการกระท�ำของเราเองและดูความประพฤติ ของเราเอง ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใครๆ จงหันมาดูตัวเราเองเสียก่อน ดูว่าเราเนี่ย สมบูรณ์แบบแค่ไหนหรือ? Happy Monday

ถูกใจ

116 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

23 กรกฎาคม

อะไรคือความเมตตากรุณา? ศิษย์หนุ่มเข้ามาถามอาจารย์เซนของตนว่า “อาจารย์ครับ อะไรคือความ เมตตากรุณา (Compassion) ครับ?” อาจารย์พาศิษย์ไปที่หน้าต่าง ชี้ให้ดูขอทาน คนหนึ่งที่นั่งอยู่ริมถนน หญิงชราเดินผ่านมาและให้เหรียญทองแก่ขอทาน 1 เหรียญ ต่อมามีพ่อค้าคนหนึ่งเดินผ่านมาก็มอบเหรียญทองให้ 5 เหรียญ สุดท้ายมีเด็กคน หนึ่งเดินผ่านมาและมอบดอกไม้ที่ถือมาให้ขอทาน อาจารย์ถามว่า “ใครในสาม คนนี้มีความเมตตากรุณาต่อขอทาน?” ศิษย์ตอบว่า “พ่อค้าครับ เขาให้มากที่สุด” อาจารย์ยิ้มและสอนว่า “หญิงชราเห็นขอทานยากจนถึงเพียงนี้รู้สึกโกรธ ขุ่นเคือง ใจที่มีคนยากจนแบบนี้ จึงรู้สึกสงสารขอทาน เธอจึงมอบความสงสารให้เท่านั้น พ่อค้าคนนี้สังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งก�ำลังพูดถึงตัวเขา เขาเลยให้ไป 5 เหรียญและรีบ จากไป พ่อค้าภาคภูมิใจในความร�่ำรวยของตนและต้องการแสดงให้ผู้คนเห็นว่าเขา มีจิตใจกว้างขวาง ชอบช่วยเหลือผู้คน ส่วนเด็กคนนี้เก็บดอกไม้ไปฝากแม่ของเขา มาเห็นขอทาน เขายิ้มให้แก่ขอทานและมอบดอกไม้ให้แก่ขอทาน เด็กคนนี้มีความ เมตตากรุณา” อาจารย์หยุดสักครู่หนึ่งแล้วสอนเขาต่อว่า “ความเมตตากรุณานั้น ยิ่งใหญ่กว่าและสูงส่งกว่า ความสงสารมาก รากฐานของความสงสารคือ ความกลัว เมื่อความกลัวสัมผัสกับความเจ็บปวดของผู้คนแล้ว มันก็กลายเป็นความสงสาร แต่ เมื่อใดที่ความรักสัมผัสกับความเจ็บปวดของผู้คน มันก็จะกลายมาเป็นความเมตตา กรุณา” นี่คือความแตกต่างของความเมตตากรุณาและความสงสารครับ สิ่งมีชีวิต ทั้งหลายมีทุกข์มีสุขเหมือนกัน เรามนุษย์แท้จริงแล้วไม่ต่างกัน ไม่ควรมีใครอยู่เหนือ ใคร ไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่าใคร บางทีคนร�่ำรวย มีเกียรติ อาจจะมีความทุกข์ยิ่งกว่าคน ยากจนเสียอีก เขาก็ต้องการความเมตตากรุณาเช่นกันครับ Happy Tuesday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

117


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

24 กรกฎาคม

จงซื่อสัตย์ ค�ำแนะน�ำของชายชรา ชายชราเข้าแถวซื้อตั๋วรถไฟและตั๋วส�ำหรับกระเป๋าใหญ่ตามระเบียบ เจ้า หน้าที่ขายตั๋วรู้จักชายชราดี เขาจึงหยิบตั๋วรถไฟให้ชายชราและพูดว่า “คุณไม่ต้อง ซื้อตั๋วส�ำหรับกระเป๋านะครับ ผมอยู่ในรถไฟขบวนเดียวกัน ผมจะดูแลให้แน่ใจว่า คุณไม่ต้องจ่ายส�ำหรับกระเป๋า” ชายชราจึงถามว่า “แล้วคุณจะเดินทางไปกับผม ไกลแค่ไหนครับ?” “ก็สักสองสถานีครับ แต่คุณจะไปไกลแค่ไหนก็ตาม ผมจะบอก กับเจ้าหน้าที่บนรถไฟอ�ำนวยความสะดวกในเรื่องกระเป๋าแก่คุณเอง ไม่ต้องห่วง นะครับ” “แล้วเจ้าหน้าที่คนนั้นจะไปกับผมได้ไกลแค่ไหนครับ?” “เขาจะไปจนถึง สถานีสุดท้ายเลยครับ” ชายชราพูดขึ้นว่า “แต่การเดินทางของผมไม่ได้จบลงที่นั่น ครับ” “แล้วคุณจะเดินทางไปถึงไหนละครับ?” “ผมต้องเดินทางต่อไปจนเลยสถานี ของโลกนี้ทั้งหมด หลังจากความตายของผม ผมต้องไปพบกับพระเจ้า จะมีใครไป ช่วยผมที่นั่นได้บ้าง?” เจ้าหน้าที่ขายตั๋วพูดอะไรไม่ออก ชายชราพูดต่อไปว่า “รถไฟ นี้เป็นสมบัติของส่วนรวม ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้น�ำกระเป๋าใหญ่ไปด้วยโดยไม่ต้อง จ่ายเงินตามระเบียบนะครับ วันนี้ผมอาจหลุดรอดจากกฎเกณฑ์ข้อนี้ได้ แต่ผมก็ไม่ สามารถหลอกลวงพระเจ้าได้แน่ๆ” เจ้าหน้าที่ขายตั๋วส�ำนึกผิด เขาจึงขอโทษชาย ชราและยื่นตั๋วรถไฟและตั๋วกระเป๋าใหญ่ให้แก่ชายชราไป จงซื่อสัตย์นะครับ คน อื่นๆไม่รู้ แต่พระเจ้ารู้และเห็น ตัวเราเองก็รู้ เราถูกล่อลวงให้ท�ำผิดแบบนี้ ท�ำสิ่ง ผิดๆแบบนี้ เราชอบทุกอย่างฟรีๆ โดยไม่รู้เลยว่าของฟรีคือของที่แพงที่สุดในโลก ใครๆไม่รู้ครับ แต่พระเจ้ารู้และตัวเราเองก็รู้ Happy Wednesday

ถูกใจ

118 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

25 กรกฎาคม

ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ โสคราตีส นักปราชญ์ชาวกรีกก�ำลังสนทนากับลูกศิษย์ หมอดูคนหนึ่งก็ เข้ามาพบอ้างว่าสามารถบอกนิสัยของคนได้เพียงแค่ดูหน้าของเขาเท่านั้น เขามอง ดูหน้าโสคราตีสแล้วพูดว่า “รูปร่างของจมูกท่านบ่งบอกว่า ท่านเป็นคนขี้โมโห” ลูกศิษย์ได้ยินดังนั้นก็โกรธ แต่ท่านโสคราตีสห้ามปรามไว้และบอกให้หมอดูพูด ต่อไป หมอดูพูดต่อว่า “รูปทรงของศีรษะท่านบ่งบอกว่าท่านเป็นคนละโมภโลภ มากอย่างที่สุด คางของท่านก็บอกว่าเป็นคนท�ำตามอารมณ์ เอาแต่ใจ รูปปาก และฟันก็บอกว่าท่านเป็นคนชอบพูดยุแยงให้ผู้คนต่อต้านอ�ำนาจหน้าที่” โสคราตี สฟังจบแล้วก็ขอบคุณหมอดูและให้เงินตอบแทนเขาด้วย บรรดาศิษย์แปลกใจจึง ถามถึงเหตุผลจากอาจารย์ว่า “ท�ำไมอาจารย์ยังตอบแทนเขาทั้งๆที่เขาพูดแต่สิ่ง ต่างด้านลบแบบนี้?” โสคราตีสจึงอธิบายว่า “ทุกสิ่งที่หมอดูพูดถึงอาจารย์ล้วนถูก ต้องทั้งหมด อาจารย์จึงให้ค่าตอบแทนเขาไป แต่หมอดูพูดขาดไปอย่างหนึ่งก็คือ เขาไม่ได้พูดว่าพลังของมโนธรรมในใจมนุษย์นั้นสามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ด้านลบ เหล่านั้นได้ มนุษย์สามารถเอาชนะความอ่อนแอและข้อบกพร่องที่มีอยู่ในตัวเรา ได้” เรื่องนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้ไปดูหมอกันนะครับ แต่น่าชมท่านโสคราตีสครับ ท่านมี ความสุภาพยอมรับความอ่อนแอทั้งหลายต่อหน้าศิษย์ได้ ในโลกใบนี้ไม่มีใครหรอก ครับที่สมบูรณ์แบบ เราล้วนขาดบางสิ่งบางอย่างไปเสมอ เราต้องใช้มโนธรรมของ เราควบคุมความประพฤติของเราเอง ความอ่อนแอของเราเอง มโนธรรมมีพลัง มหาศาลถ้าเราใช้ มโนธรรมจะเป็นเพียงคนใบ้ถ้าหากเราไม่ใช้ แต่ทั้งหมดนี้ต้องเริ่ม จากการยอมรับความบกพร่องของเราครับ Happy Thursday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

119


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

25 กรกฎาคม 2019

ข�ำขันกันหน่อยครับ แซลลี่เข้าไปพบหมอฟันเพื่อนัดการท�ำฟันถามหมอว่า “ถอนฟันซี่ละเท่าไร ค่ะคุณหมอ?” หมอตอบทันทีว่า “130 ดอลล่าร์ครับ” แซลลี่อ้าปากค้างและบอก ว่า “นี่มันตลกสิ้นดี มันต้องมีทางที่ถูกกว่านี้สิค่ะคุณหมอ?” หมอคิดสักครู่ก็บอก ว่า “งั้นเอางี้ครับ หากเราไม่ใช้ยาชา ก็ลดราคาลงได้อีก 30 ดอลล่าร์ครับ” “ได้แค่ 30 ดอลล่ร์เองรึค่ะ ก็แปลว่ายังต้องจ่าย 100 ดอลล่าร์ ท�ำให้ถูกกว่านี้อีกได้มั้ยค่ะ คุณหมอ?” หมอเงียบไปสักพักหนึ่งแล้วบอกว่า “ถ้าหากเราใช้ประแจตัวเดียวดึง ครั้งเดียวแรงๆ เอาฟันออกมาได้ ก็จะลดราคาลงได้อีก 50 ดอลล่าร์ครับ” แซลลี่ ตอบอย่างมีความสุขว่า “สมบูรณ์แบบมากค่ะ ดิฉันขอนัดกับหมอวันอังคารหน้านี้ เลยนะค่ะส�ำหรับแจ๊คสามีของดิฉัน” นึกว่านัดส�ำหรับตัวเองซะอีก แจ๊คจะตกลง ด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้นะครับ โชคดีแจ๊ค ฮาๆ พอครับ

ถูกใจ

120 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

26 กรกฎาคม

Small Things สิ่งเล็กๆ น้อยๆ หญิงคนหนึ่งเห็นว่าไม่มีม้านั่งรอรถเมล์เลย เธอจึงไปซื้อม้านั่งเล็กๆ มาตัว หนึ่งและน�ำมาวางไว้ มีแต่คนมาถามเธอว่า เธอมีเหตุผลอะไรที่ท�ำเช่นนี้ เธอตอบ ว่า “ก็อยู่ใกล้ๆ บ้านฉันเอง ถ้าฉันไม่ท�ำแล้วใครจะท�ำละ” มีคนมากมายมานั่งรอ รถเมล์ที่ม้านั่งนี้ บรรดาคุณแม่ เด็กๆ คนไร้บ้าน วัยรุ่นและใครต่อใครมากมาย วัน หนึ่งเธอเห็นม้านั่งถูกสีพ่นเต็มไปหมด เธอก็รีบไปเอาน�้ำยาและแปรงมาล้างและมี อีกหลายครั้งที่มีคนเอาสีมาพ่นใส่ม้านั่ง เธอก็จะมาล้างมันออกไปทุกครั้ง ต่อมาเธอ พบว่ามุมม้านั่งแตกหัก เธอก็หาช่างมาซ่อมมัน ผู้โดยสารมาแล้วก็ไปและทิ้งขยะไว้ เธอก็จะมาเก็บขยะ เธอบอกว่า “ฉันอยากให้ม้านั่งสวยงามและสะอาด ถ้าหากฉัน ไม่มาเก็บแล้วใครจะมาเก็บขยะละ” ต่อมาเธอพบว่าแผ่นรองนั่งแตกหัก เธอถึงกับ ร้องไห้และไม่รู้ว่าจะต้องท�ำอย่างไร มันถูกทิ้งไว้หลายอาทิตย์ทีเดียวโดยไม่มีใครมา ซ่อมเลย ที่สุดเธอขอให้เพื่อนบ้านบางคนช่วยยกม้านั่งขึ้นรถบรรทุกของเธอและขับ ไปหาช่างซ่อมให้ ช่างต้องตัดส่วนที่แตกหักออกและท�ำให้ม้านั่งนั้นสั้นลง จากนั้น เธอก็น�ำมันมาตั้งใหม่ ผู้คนก็เริ่มมาใช้ม้านั่งตัวนั้น สองวันต่อมา ขาม้านั่งก็หัก เธอ พยายามจะเคลื่อนที่มันแต่ท�ำไม่ได้ เธอมองดูม้านั่ง มองดูข้อความที่ถูกพ่นไว้ เธอ เดินกลับบ้านและตามสามีของเธอให้มาช่วยกันซ่อมม้านั่งและท�ำความสะอาดมัน เรื่องจบลงแบบนี้ครับ ความไม่ดีและการท�ำลาย ช่างท�ำได้ง่ายดาย แต่การท�ำความ ดีนั้นมันเติบโตมาจากความพยายามที่เหนียวแน่น มาจากความสุภาพและมาจาก การมีส่วนร่วมในหมู่คณะ หากเรามองแต่ตัวเรา มองแต่หน้าที่ของเรา เราก็จะมอง ไม่เห็นความจ�ำเป็นและความดีของส่วนรวม บางครั้งเราเกี่ยงกันว่าใครจะต้องเป็น คนท�ำ ไม่ใช่ฉัน หญิงคนนี้ท�ำสิ่งเล็กน้อยแต่สวยงามที่สุดเท่าที่เธอจะท�ำได้ ไม่ใช่เพื่อ ตนเองเลย ท�ำดีต่อผู้คนนะครับ ท�ำให้ชีวิตดีขึ้น Happy Friday ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

121


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

29 กรกฎาคม

Billy Graham นักเทศน์แห่งยุคของคริสเตียนได้รบั เชิญไปทานอาหารที่ สภาเมือง Charlotte บอกท่านว่า “ท่านไม่ตอ้ งปราศรัย ไม่ตอ้ งเทศน์อะไรเลย แค่ ไปร่วมทานอาหารให้พวกเราให้เกียรติทา่ นบ้างเท่านัน้ ” ท่านจึงไป หลังจากการกล่าว สดุดที า่ นแล้ว ท่านก็ขนึ้ ไปทีเ่ วทีกล่าวว่า”มกราคม ปี 2000 นิตยสาร Time ยก่อง ให้เกียรติ Albert Einstein เป็นบุรษุ แห่งศตวรรษ ครัง้ หนึง่ ไอสสไตน์กำ� ลังเดินทาง โดยรถไฟจากเมือง Princeton เจ้าหน้าทีต่ รวจตัว๋ รถไฟมาพบท่านก็จำ� ได้วา่ ท่านเป็น ใคร ไอนสไตน์พยายามหาตัว๋ ทีก่ ระเป๋ากางเกง กระเป๋าเดินทาง ข้างๆ ทีน่ งั่ แต่กห็ าไม่ พบ เจ้าหน้าทีพ่ ดู ว่า “ท่านไม่ตอ้ งหาหรอกครับ ผมเชือ่ ว่าท่านซือ้ ตัว๋ มาแน่นอนครับ” พอเขาก�ำลังจะไปตรวจทีอ่ นื่ ก็หนั มาพบท่านก�ำลังค้นหาตัว๋ ทีใ่ ต้ทนี่ งั่ อีก จึงพูดกับท่าน อีกว่า “ท่านครับ ท่านไม่ตอ้ งค้นหาหรอกครับ พวกเรารูว้ า่ ท่านเป็นใคร ท่านซือ้ ตัว๋ มา แน่นอนครับ” ไอนสไตน์จงึ พูดขึน้ ว่า “พ่อหนุม่ ฉันเองก็รวู้ า่ ฉันเป็นใคร แต่สงิ่ ทีฉ่ นั ไม่รู้ ตอนนีก้ ค็ อื ฉันก�ำลังจะไปไหน ฉันต้องหาตัว๋ ให้เจอ” ( Young man, I know who I am, what I don’t know is where I am going.) Billy พูดต่อว่า “พวกคุณ เห็นเสือ้ สูททีผ่ มใส่นไี่ หม เป็นสูททีต่ ดั ใหม่ พวกลูกๆหลานๆของผมบอกผมว่า พักหลัง มานีผ่ มท�ำตัวไม่คอ่ ยเรียบร้อยแบบคนแก่ แต่กอ่ นผมเป็นคนพิถพี ถิ นั มากกว่านี้ ผมจึง ไปตัดชุดสูทนีม้ าเพือ่ มาร่วมงานเลีย้ งวันนีแ้ ละเพือ่ โอกาสอีกโอกาสหนึง่ พวกคุณรูม้ ยั้ ครับว่าส�ำหรับโอกาสอะไร? นีค่ อื เสือ้ สูททีผ่ มจะสวมใส่ในวันฝังศพของผมเอง แต่เมือ่ พวกคุณได้รบั ข่าวการตายของผม ผมไม่ตอ้ งการให้พวกคุณจดจ�ำสูทชุดนีข้ องผมนะ ครับ แต่ผมปรารถนาให้พวกคุณรับรูว้ า่ ผมรูว้ า่ ผมเป็นใคร และผมรูด้ ว้ ยว่าผมก�ำลัง จะไปไหน” สิง่ ทีเ่ ราควรระลึกเสมอก็คอื เราก�ำลังจะไปไหน บางครัง้ แม้คนทีเ่ ก่งทีส่ ดุ ดีทสี่ ดุ ฉลาดทีส่ ดุ เองก็ยงั ลืมไปได้วา่ ตัวเองก�ำลังจะไปไหน ทางไปสวรรค์นนั้ เราต้อง ออกแรงสร้าง ออกแรงเดินไป ส่วนทางไปนรกนัน้ มีแต่คนคอยช่วยฉุดช่วยแบกและ ผลักดันเราไป แทบจะอุม้ เราไปด้วยซ�ำ้ นะครับ Happy Holiday ถูกใจ

122 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

3 สิงหาคม

Who is he? Keichu เป็นอาจารย์เซนทีม่ ชี อื่ เสียงมากทีส่ ดุ ของเมืองเกียวโต เป็นทีร่ จู้ กั และเคารพของผูค้ นมากมาย เจ้าครองนครเกียวโตชือ่ Kitagaki เดินทางมอขอพบกับ ท่านทีอ่ าราม เขามอบนามบัตรให้แก่ศษิ ย์ทวี่ ดั บอกว่า “ช่วยเรียนท่านว่าฉันมาขอพบ ท่านอาจารย์” ศิษย์เข้าไปพบอาจารย์พดู ว่า “มีชายคนหนึง่ มาขอพบท่านครับ” “เขา เป็นใครรึ?” ศิษย์อา่ นตามนามบัตรว่า “คิตากาคิ เจ้าครองนครเกียวโต” อาจารย์เคชู ได้ฟงั ดังนัน้ จึงตอบไปว่า “ฉันไม่มอี ะไรจะสนทนากับชายคนนี้ บอกให้เขาไปซะเถอะ” ศิษย์จงึ ออกมาเรียนให้เจ้าครองนครทราบ คิตากาคิได้ฟงั ดังนัน้ จึงขอนามบัตรคืนมา เขามองนามบัตรและพบว่าเขาท�ำผิดพลาดไป จึงเอานามบัตรนัน้ มาแก้ใขแล้วส่งให้ ศิษย์วดั ไปบอกว่า “กรุณาน�ำนามบัตรนีไ้ ปเรียนท่านอาจารย์อกี สักครัง้ เถอะ” ศิษย์ก็ ท�ำตาม อาจารย์ถามว่า “ใคร” ศิษย์อา่ นตามนามบัตรว่า “คิตากาคิ” อาจารย์ได้ฟงั ดังนัน้ จึงบอกว่า “อ๋อ คิตากาคิเองรึ รีบให้ทา่ นเข้ามาเลย” บางทีคนเราก็มกั จะคิด ว่าการอวดใหญ่ อวดต�ำแหน่งหน้าที่ อ้างชือ่ เสียง อ้างอ�ำนาจจะท�ำให้ผคู้ นเคารพรัก แต่ความสุภาพถ่อมตนต่างหากทีเ่ ชิดชูผคู้ นได้ ให้เกียรติคนดีกว่าให้คนให้เกียรติตน ยิง่ แสวงหาเกียรติกม็ กั จะไม่ได้รบั นะครับ อย่าอวดใหญ่อวดโตกันนักเลย ความสุภาพ น่ารักกว่าเยอะครับ Happy Saturday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

123


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

13 สิงหาคม

A NEW MAN AFTER THAT SERMON เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องข�ำขันนะครับ บทเทศน์ของคุณพ่อองค์หนึง่ ในวันอาทิตย์ยาวนานกว่าปกติ เป็นบทเทศน์ ที่ ต ระเตรี ย มมาอย่ า งดี แ ละให้ แ รงบั น ดาลใจจนท� ำ ให้ คุ ณ พ่ อ รู ้ ว ่ า ท่ า นคงท� ำ ให้ สัตบุรุษประทับใจอย่างมาก หลังพิธีท่านยืนหน้าวัดจับมือทักทายสัตบุรุษที่วัด ชาย คนหนึ่งหยุดคุยกับพ่อพูดว่า “พ่อครับ บทเทศน์ของพ่อให้พลัง ดลบันดาลใจและ ท�ำให้มีชีวิตชีวามากครับ” พ่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตอนนั้นเองชายคนนนั้นก็พูดต่อไป ว่า “นั่นก็เป็นเพราะว่าผมรู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่เมื่อผมตื่นขึ้นมา” “Why, I felt like a new man when I woke up!” เบาๆสมองนะครับ อย่าซีเรียส บทเทศน์ ทุกบทมีประโยชน์เสมอส�ำหรับผู้ฟัง ต่างคนต่างมีวิธีการเทศน์ที่แตกต่างกันครับ แต่ ก็เหมือนกันที่ทุกบทเทศน์ท�ำให้เราพบกับพระและค�ำสอนของพระได้ มีข้อเตือนใจ ข้อปฎิบัติ นั่งฟังกันนะครับ Happy Homily.

ถูกใจ

124 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

14 สิงหาคม

Kids’ Love กลุ่มนักวิชาการตั้งค�ำถามแก่เด็กๆ อายุระหว่าง 4-8 ขวบว่า “ความรัก หมายถึงอะไร?” ค�ำตอบที่ได้มาช่างกว้างและลึกซึ้งเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ มาดูกันว่าคุณคิดอย่างไร “เมื่อคุณย่าเป็นโรคไขข้ออักเสบ ท่านก้มลงไม่ได้เพื่อจะทาเล็บเท้า คุณปู่จะท�ำให้ คุณย่าเสมอ แม้ว่าต่อมาคุณปู่เองก็เป็นโรคไขข้อเหมือนกัน ท่านก็ยังท�ำให้คุณย่าต่อ ไป” รีเบคคา 8 ขวบ “เมื่อมีใครบางคนรักคุณ วิธีที่เขาเรียกชื่อของคุณก็แตกต่างจากคนอื่น คุณจะรู้ว่า ชื่อของคุณจะปลอดภัยจากปากของพวกเขา” บิลลี่ 4 ขวบ “ความรักคือตอนคุณออกไปทานอาหารด้วยกันและคุณมอบมันฝรั่งทอดของคุณให้ แก่คนบางคนและไม่เรียกร้องให้พวกเขาให้อะไรตอบแทนกลับมา” คริสซี่ 6 ขวบ “ความรักคือสิ่งที่ท�ำให้คุณยิ้มตอนที่คุณเหน็ดเหนื่อย” เทอรรี่ 4 ขวบ “ความรักคือตอนที่แม่ฉันท�ำกาแฟให้พ่อและแม่จะจิบกาแฟดูก่อนว่ารสของกาแฟ เป็นอย่างไร” แดนนี่ 7 ขวบ “ความรักคือตอนที่คุณจูบกันตลอดเวลา พอคุณเบื่อที่จะจูบกันต่อไป คุณก็ยังอยาก จะอยู่ด้วยกันต่อไปและคุยกันมากมาย พ่อและแม่ของฉันชอบท�ำแบบนั้น พวกท่าน ดูยิ่งใหญ่มากตอนที่พวกท่านจูบกัน” เอมิลี่ 8 ขวบ “ถ้าคุณต้องการเรียนรู้ความรักให้ดีขึ้น คุณควรเริ่มต้นกับเพื่อนคนหนึ่งที่คุณ เกลียด” นิกกา 6 ขวบ “ความรักคือเมื่อคุณบอกใครสักคนว่า ฉันชอบเสื้อคุณจังเลยจากนั้นเขาก็ใส่มันทุก วัน” โนเอล 7 ขวบ “ความรักคือตอนที่แม่ให้ไก่ชิ้นที่ดีที่สุดให้แก่พ่อ” อีเลน 6 ขวบ “ความรักคือเมื่อแม่เห็นพ่อมีกลิ่นและมีเหงื่อ แม่ก็ยังบอกพ่อว่าพ่อหล่อกว่า ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

125


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

14 สิงหาคม

โรเบิร์ต เรดฟอร์ด” คริส 7 ขวบ “คุณไม่ควรพูดว่า ฉันรักคุณ จนกว่าคุณจะหมายความอย่างนั้นจริงๆ และถ้าคุณ หมายความอย่างนั้นจริงๆ คุณควรจะพูดค�ำนี้มากๆหลายๆครั้ง คนส่วนใหญ่มักจะ ลืมไป” เจสสิกา 8 ขวบ บางครั้งเด็กๆก็เข้าใจความหมายของความรัก มากและลึกซึ้งกว่าผู้ใหญ่เสียด้วยนะ ครับ เป็นความรักที่มีความหมายมากจริงๆ รักกันมากๆนะครับ Happy Love

ถูกใจ

126 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

15 สิงหาคม

A Wise Counting. จักรพรรดิ อักบาร์มีอุปนิสัยชอบตั้งค�ำถามและปริศนาแปลกๆ ให้แก่ บรรดาขุนนางของพระองค์เสมอ หลายครั้งเป็นค�ำถามแปลกๆ และมีนัย ต้องใช้ ปรีชาญาณอย่างมากเพื่อตอบค�ำถามเหล่านั้น ครั้งหนึ่งพระองค์ตั้งค�ำถามแปลก มากจนทุกคนในท้องพระโรงล้วนเป็นใบ้สนิท อักบาร์มองไปยังบรรดาขุนนางทีละ คนๆ ทุกคนต่างก้มหน้าเพื่อหาค�ำตอบ ตอนนั้นเอง Birbal ก็เข้ามาในท้องพระโรง เขารู้นิสัยของจักรพรรดิดี เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้นจึงถามขึ้นว่า “ขอให้ข้าพเจ้า ทราบค�ำถามได้หรือไม่เพื่อจะได้ช่วยหาค�ำตอบ?” จักรพรรดิจึงตรัสว่า “ในนคร ของเรา มีนกกาอยู่ทั้งหมดกี่ตัว?” บีร์บาลตอบทันทีโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดเลยว่า “มีทั้งหมด 50,589 ตัวพะยะค่ะ” จักรพรรดิจึงถามต่อว่า “ท�ำไมท่านจึงแน่ใจได้ ขนาดนั้น?” บีร์บาลตอบว่า “ให้ทหารของพระองค์ไปนับดูเถิดพะยะค่ะ พระองค์ หากมีนกกามากกว่าจ�ำนวนนี้ก็หมายความว่ามีกาบางตัวจากที่อื่นบินมาเยี่ยมญาติ ของพวกมันที่นี่ แต่หากมีจ�ำนวนน้อยกว่านี้ก็แสดงว่านกกาบางตัวของที่นีบินไป เยี่ยมญาติของพวกมันที่อื่นพะยะค่ะ” จักรพรรดิ อักบาร์รู้สึกพึงพอใจในค�ำตอบ และไหวพริบของบีร์บาล ปรีชาญาณหรือไหวพริบไม่ใช่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นได้ในตัวเรา นะครับ มันเกิดจากการรู้จักคิด การรู้จักพูด การตั้งสติ จากประสพการณ์ชีวิต ของเรา จะท�ำอะไร จะพูดอะไรก็จงรู้จักคิดให้ดีเสียก่อนนะครับ แยกแยะสิ่งดีและ ไม่ดี ปรีชาญาณและไหวพริบก็เกิดขึ้นได้ครับ ค�ำพูดที่ฉลาดบรรลุเป้าหมายเสมอ ครับ Happy Thursday

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

127


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

16 สิงหาคม

ผู้คนพากันมาขอพบกับท่านอาจารย์ผู้รอบรู้ ทุกครั้งที่มาก็จะพากันบ่น เรื่องเดิมๆ ปัญหาเดิมๆเสมอ วันหนึ่งท่านอาจารย์เล่าเรื่องตลกให้พวกเขาฟัง ทุก คนพากันหัวเราะอย่างสนุกสนาน หลังจากนั้นอีกสองสามนาทีท่านก็เล่าเรื่องตลก เรื่องเดิมให้พวกเขาฟังอีก ครั้งนี้มีสองสามคนเท่านั้นที่ยิ้มๆ จากนั้นท่านก็เล่าเรื่อง ตลกเรื่องเดิมเป็นครั้งที่สาม ครั้งนี้ไม่มีใครหัวเราะเลย ท่านอาจารย์จึงพูดสอนพวก เขาว่า “พวกท่านไม่สามารถหัวเราะกับเรื่องตลกเดิมๆ ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้ว ท�ำไมพวกท่านจึงชอบร้องคร�่ำครวญเกี่ยวกับปัญหาเดิมๆ ของพวกท่านเล่า?” การ บ่น การคร�่ำครวญเกี่ยวกับปัญหาของเราเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่ไม่ปกติแน่ๆ ถ้า มีแค่เพียงการบ่น การคร�่ำครวญเพราะไม่ช่วยอะไรเลย และไม่มีอาจารย์ใดมาแก้ใข แทนเราได้ Happy Friday

ถูกใจ

128 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

17 สิงหาคม

มาเรีย หญิงชาวเปอโตริโก เป็นคนไม่มีบ้านและ ท�ำงานให้กับพ่อ บิล วิลสันที่วัดในนิวยอร์ก เธอพูดอังกฤษไม่ค่อยได้แต่รักเด็กๆ พ่อจึงให้เธอมีหน้าที่ ไปกับรถบัสของวัดรับเด็กๆ ยากจนมาเรียนที่วัดในวันเสาร์อาทิตย์ เธอมักจะมอง หาเด็กที่น่าเกลียดและสกปรกที่สุดและพามานั่งตักของเธอและมักจะกระซิบค�ำ อังกฤษที่เธอเพิ่งเรียนรู้มาคือค�ำว่า I love you. Jesus loves you. ให้เด็กนั้นฟัง เสมอ หลายเดือนผ่านไปเธอผูกพันกับเด็กชายคนหนึ่งเป็นพิเศษ เด็กคนนี้ไม่พูด จะมาวัดกับพี่สาวและมานั่งตักของมาเรียเสมอโดยไม่พูดอะไรเลย วันหนึ่ง ด้วย ความแปลกใจมาก เด็กชายหันมาหาเธอและพูดแบบติดอ่างว่า “ I—I—I love you too” แล้วก็กอดมาเรียไว้แน่นกระซิบที่หูเธอว่า “and I love Jesus too.” ตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง สี่ชั่วโมงต่อมาแม่ของเขาซึ่งเสพยาเสพติดเกิน ขนาดได้ทบุ ตีเขาจนตายและโยนร่างของเขาไว้ในกองขยะ ค�ำว่า “ I love you and Jesus loves you.”เป็นค�ำดีๆ ค�ำสุดท้ายที่เด็กน้อยคนนี้ได้รับในช่วงชีวิตอันแสน สั้นของเขาจากริมฝีปากของมาเรียชาวเปอโตริโกที่พูดอังกฤษยังไม่ค่อยจะได้ เด็ก คนนี้คงไม่เคยได้ยินค�ำว่า “รัก”นี้ที่บ้านของเขาเลย มาเรียได้ใช้ทักษะที่เธอมีเพียง น้อยนิดบอกให้เขารู้จักค�ำว่า รัก ได้ ส่วนพวกเรามีทักษะ มีพระพร มีครอบครัว มี ทุกอย่างที่เด็กคนนี้ไม่มี มาช่วยกันบอกต่อ ความรัก ในบ้านของเรากันนะครับ Happy Family

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

129


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

25 สิงหาคม

ชีวิตแต่งงาน เรื่องเล่าของชายคนหนึ่งที่มารับเพื่อนที่สนามบิน “วันนั้นตอนที่ผมรอเพื่อน ชายคนหนึ่งแบกกระเป๋าสองใบเดินตรงมาที่ผมและหยุด ข้างๆ ผมเพื่อทักทายกับครอบครัวที่มารับ เขารีบวางกระเป๋าลงแล้วตรงไปยังลูก คนเล็กสุดราวๆ 6 ขวบแล้วเข้าไปกอดลูกชายด้วยความอบอุ่นและความรัก จาก นั้นเขาก็มองตาลูกชายแล้วพูดว่า “พ่อคิดถึงลูกเหลือเกิน ดีจังที่พบลูกอีก” ลูกชาย ยิ้มแล้วพูดว่า “ผมก็เช่นกันครับพ่อ” จากนั้นเขาก็ไปที่ลูกชายคนโตราว 9 ขวบพูด ว่า “โอ้ ดูสิ ลูกเป็นหนุ่มแล้ว พ่อรักลูกมากนะ” แล้วเขาก็สวมกอดลูกชายอย่าง อ่อนโยนที่สุด จากนั้นเขาก็พูดกับลูกสาวคนเล็กว่า “ไง สาวน้อย” หนูน้อยก�ำลัง ตื่นเต้นในอ้อมแขนของแม่ รอคอยและเฝ้ามองพ่อตลอดเวลา เขาเข้าไปอุ้มเธอมา และจูบใบหน้าของเธอตลอดเวลาแล้วให้เธอมาซบที่ไหล่ หนูน้อยเอาศีรษะพาดที่ ไหล่เขาอย่างมีความสุข หลังจากนี้แล้ว ชายคนนี้ก็มองมายังภรรยาของเขาแล้วพูด ว่า “ผมเก็บสิ่งที่ดีที่สุดไว้เป็นล�ำดับสุดท้าย ที่รัก” เขาเข้ามาจูบภรรยาอย่างดูดดื่ม ที่สุด ทั้งสองจ้องมองกันและยิ้มให้กันตลอดเวลา จนท�ำให้ผมคิดถึงคู่แต่งงานที่เพิ่ง แต่งงานกัน ตอนนั้นเองผมได้ยินตัวเองถามครอบครัวนั้นว่า “ว้าว พวกคุณแต่งงาน กันมานานเท่าไหร่แล้วครับ?” เขาตอบว่า “อยู่กันมา 14 ปีและแต่งงานกันมาแล้ว 12 ปีครับ” “แล้วพวกคุณไม่ได้เจอกันมานานเท่าไหร่แล้วครับ?” เขาตอบมาด้วย รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาว่า “สองวันเต็มครับ” ผมอึ้งไปทันทีเพราะผมคิดว่าพวก เขาคงไม่ได้เจอกันมาหลายๆ อาทิตย์แล้ว ผมจึงพูดไปว่า “ผมหวังว่าชีวิตแต่งงาน ของผมจะเป็นแบบนี้บ้างหลังจากผ่านไป 12 ปี” ชายคนนั้นมองดูที่ตาของผมแล้ว บอกบางสิ่งที่ท�ำให้ผมเปลี่ยนชีวิตไปเลย เขาพูดว่า “อย่าหวังนะเพื่อนรัก ตัดสินใจ เลย” ( Don’t hope, my friend, decide!) รักษาชีวิตแต่งงานให้สดชื่นเสมอด้วย ความรัก ตัดสินใจท�ำ อย่าแค่หวังครับ Happy Marriage life. ถูกใจ

130 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

29 สิงหาคม

“Happiness is a choice” ชายแก่คนหนึ่งในหมู่บ้านเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอกที่สุดคนหนึ่งและน่าเบื่อ ที่สุดคนหนึ่ง คนทั้งหมู่บ้านต่างเอือมระอา เขาเป็นคนเศร้าหมอง บ่นไปทุกเรื่อง และมีอารมณ์เสียเสมอ พูดจาด้วยค�ำพูดที่เลวร้ายมากขึ้นทุกวัน ผู้คนหลีกเลี่ยงเขา เสมอเพราะท�ำให้พวกเขารู้สึกหดหู่ตามไปด้วย ชายแก่คนนี้เป็นผู้ท�ำให้ทุกคนเกิด ความรู้สึกว่าไม่มีความสุข วันหนึ่งเขาอายุ 80 ปีมีบางอย่างเกิดขึ้น มีเสียงร�่ำลือว่า “นี่ ตาแก่คนนั้นมีความสุขวันนี้ เขาไม่บ่นเรื่องอะไรเลย ยิ้มแย้ม หน้าตาดูสดชื่น มากๆ” คนทั้งหมู่บ้านต่างพากันไปดูเขาและถามเขาว่า “เกิดอะไรขึ้นกับลุง?” เขา ตอบว่า “ไม่มีอะไรพิเศษหรอก ฉันไล่ตามหาความสุขมา 80 ปีแล้ว มันไร้ประโยชน์ จริงๆ จากนี้ฉันตัดสินใจว่าจะมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องมี ความสุข และจะใช้ชีวิตอย่าง ชื่นบานดีกว่า คิดได้อย่างนี้ฉันก็มีความสุขแล้ว ตอนนี้ฉันมีความสุขจริงๆ” มีความ สุขกับสิ่งที่เรามี เราเป็นดีกว่านะครับ จะมีมากมีน้อยก็สุขได้ สุขหรือไม่สุข เราเอง เป็นคนเลือกครับ Happy Thursday, Happy Everyday.

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

131


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

30 สิงหาคม

Grandpa, what you are whispering? “ปู่ครับ ปู่ก�ำลังกระซิบอะไรอยู่ครับ?” หลานชายถามคุณปู่หลังจาก สังเกตุเห็นปู่ก�ำลังกระซิบบางอย่างกับตัวเองก่อนเข้านอน ปู่ตอบว่า “ปู่ใส่ความคิด อันหนึ่งไว้กับหัวใจปู่” “หมายความว่าอย่างไรครับ?” ปู่อธิบายว่า “ปู่ไม่อยาก ทะเลาะกับเพื่อนบ้านคนหนึ่ง เขาท�ำให้ปู่โกรธมาก ปู่เลยไม่รู้จะท�ำตัวอย่างไร ก็เลย ใส่ความคิดนี้ไว้กับหัวใจแล้วก็เข้านอน พอตอนเช้าหัวใจก็จะบอกปู่เองว่าควรท�ำ อย่างไร” “แล้วหัวใจจะรู้ว่าต้องท�ำอย่างไรจากที่ไหนละครับ ปู่?” “หัวใจรู้ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ปู่เรียนรู้เรื่องนี้มาตลอดชีวิต ปู่จะแนะหลานอย่างนี้นะ เมื่อใดที่มองหาค�ำ ตอบส�ำหรับปัญหาที่ยากที่สุด เมื่อมีบางอย่างไม่ชัดเจน จงใส่ความคิดด้านดีๆ ไว้กับ หัวใจก่อนที่จะเข้านอน แล้ววันรุ่งขึ้น ค�ำตอบเหล่านั้นก็จะเปิดเผยออกมาเอง เพียง ท�ำมันด้วยความเชื่อเท่านั้นเอง” ทุกวันนี้คนเราใจร้อนมากๆ อะไรนิดอะไรหน่อยก็ ไม่ยอมกัน ขัดใจกันไม่ได้ โมโหก็ใช้ก�ำลัง ใช้อาวุธแบบไม่คิดถึงอนาคตกันเลยทีเดียว ใจเย็นๆ กันหน่อยนะครับ ผ่านไปหนึ่งคืน ใช้หัวใจทบทวนดูดีๆ อะไรๆ ในวันรุ่งขึ้น ก็ดีขึ้นได้ ค�ำตอบอยู่ในวันรุ่งขึ้นเสมอและมักเป็นค�ำตอบที่ดีด้วย อย่าลืมคุยกับตัว เองดีๆ ก่อนนอนกันนะครับ Good Night

ถูกใจ

132 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

31 สิงหาคม

Story about happy married life ครอบครัวสองครอบครัวอาศัยอยู่ติดกัน ครอบครัวหนึ่งทะเลาะเบาะแว้ง กันเป็นประจ�ำ อีกครอบครัวหนึ่งอยู่ด้วยกันอย่างสงบและสันติ วันหนึ่งด้วยความ รู้สึกอิจฉา ภรรยาจึงบอกกับสามีว่า “ลองไปดูครอบครัวนั้นสักหน่อยสิ จะได้รู้ว่า อยู่กันแบบสันติสุขเนี่ยอยู่กันยังไง” สามีก็ไปแอบดูชีวิตของสามีภรรยาข้างบ้าน เขาเห็นหญิงภรรยาก�ำลังถูพื้นบ้านอยู่ ตอนนั้นมีบางอย่างเกิดขึ้นและเธอรีบวิ่งไปที่ ครัว ตอนนั้นเองสามีเธอก็รีบวิ่งมาที่ห้อง แต่เขาไม่ทันสังเกตุถังน�้ำที่ภรรยาทิ้งไว้ใน ห้อง เขาจึงเตะถังน�้ำและน�้ำก็เปียกท่วมพื้นห้อง จากนั้นภรรยาก็กลับมาจากที่ครัว และพบเข้า ภรรยารีบพูดขึ้นว่า “ที่รัก ฉันขอโทษนะ เป็นความผิดของฉันเอง ฉัน น่าจะเอาถังน�้ำออกจากทางเดิน” สามีพูดว่า “ไม่ ไม่ ผมต่างหากต้องขอโทษ นี่เป็น ความผิดของผม ผมควรจะสังเกตุและระวังมากกว่านี้” ชายที่แอบดูอยู่ก็กลับบ้าน ภรรยาของเขาถามว่า “คุณเข้าใจเหตุผลของการอยู่กันอย่างสันติสุขรึยัง?” สามี ตอบว่า “ผมว่าผมเข้าใจแล้วนะ คุณเห็นหรือเปล่าว่า เราสองคนต่างคนต่างบอกว่า เป็นคนถูกเสมอ ในขณะที่ครอบครัวนั้นต่างคนต่างโทษตัวเอง ต�ำหนิตัวเอง” บางที เราก็ทะเลาะเบาะแว้งกันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จริงๆ เลย หลายครั้งเราก็คิดว่าเรา เป็นฝ่ายถูกอยู่เสมอ บางทีเราก็ไม่รู้จักใช้ค�ำพูดดีๆ แก่กัน ใส่ใจในความรู้สึกของกัน และกันให้มากขึ้นนะครับ ท�ำให้สุข ดีกว่าท�ำให้เสียใจ Happy Home

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

133


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

31 สิงหาคม

ข�ำขันเรื่อง ภรรยาขี้หึงครับ ทอม ก�ำลังยืนรอภรรยาอยู่หน้าร้านเครื่องส�ำอางแห่งหนึ่ง มีสาวสวยมี เสน่ห์มากคนหนึ่งเดินผ่านมาหน้าร้าน เขาจึงเดินเข้าไปหาสาวสวยคนนั้นทันทีพูด ว่า “ขอโทษนะครับ คุณจะว่าอะไรมั้ยครับหากผมจะขอคุยด้วยสักสองสามนาที?” สาวคนนั้นจึงถามกลับมาด้วยความสงสัยว่า “ท�ำไม ฉันจึงควรคุยกับคุณละค่ะ?” ทอมตอบว่า “ภรรยาของผมเข้าไปหาซื้อเครื่องส�ำอางในร้านนี้นานมากแล้วครับ และผมรู้ว่าเธอจะรีบออกมาจากร้านเครื่องส�ำอางแน่ๆ ถ้าเธอเห็นผมก�ำลังคุยอยู่ กับคุณ” ฮาดีครับ จะว่าทอมลงทุนมากก็ได้ จะว่าทอมเสี่ยงชีวิตมากก็ได้นะครับ ความหึงไม่เข้าใครออกใคร ช๊อบได้ครับ แต่อย่านานไป

ฮ่าๆ

134 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

1 กันยายน

เรื่องน่ารักๆ ส�ำหรับทุกคนครับ เล่าโดยสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่ไม่ได้บอกชื่อ ไว้ครับ เล่าว่า “มันเป็นวันฝังศพแม่ฉันเอง แม่เป็นคนใจดีและชอบช่วยเหลือผู้คน แม่จะอยู่เคียงข้างฉันเสมอในเวลาที่ฉันต้องการ แม่สวดภาวนาเพื่อฉันมาตลอดทั้ง ชีวิต แม่ป่วยหนัก พี่สาวฉันเพิ่งมีลูกและน้องชายก็เพิ่งแต่งงาน ฉันคนเดียวที่อุทิศ ตนดูแลแม่ เวลานี้แม่ตายแล้ว ฉันพบว่าฉันสูญเสียโดยสิ้นเชิง รู้สึกว่างเปล่าอยู่ ภายใน ฉันนั่งคนเดียวในวัด เป็นทุกข์เสียใจ แม่เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันเลย เราอ่านพระคัมภีร์ด้วยกัน ฉันเตรียมอาหาร พาไปหาหมอ พาแม่เดิน ตอนนี้ไม่มี อะไรท�ำเพื่อแม่ได้อีกแล้ว ฉันอ้างว้างไปหมด ตอนนั้นเองชายหนุ่มคนหนึ่งเปิดประตู เข้ามาในวัดและรีบเร่งมานั่งข้างๆ ฉันและร้องไห้พูดว่า “ผมมาช้า” และถามฉันว่า “ท�ำไมเขาใช้ชื่อ มากาแรต แทนชื่อ แมรี่ละครับ?” ฉันกระซิบตอบว่า “เพราะว่า เธอชื่อ มากาแรตนะสิ ไม่มีใครเรียกเธอว่า แมรี่เลย” “แต่เธอชื่อ Mary Peters” เขาย�้ำ แต่ฉันก็ยืนยันว่า มันไม่ถูกต้อง เขาเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาถามว่า “นี่คือวัด ลูเธอรันรึเปล่าครับ?” “ไม่ใช่ค่ะ วัดนั้นอยู่อีกด้านหนึ่งของถนนนี้” เขา มาผิดวัดและเรื่องนี้ท�ำให้ฉันอยู่ในสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วนมากถึงกับหัวเราะ ออกมาจนบางคนในวัดต้องมองฉันด้วยสายตาตักเตือน ชายคนนั้นก็เริ่มหัวเราะ ด้วย ตอนนั้นฉันวาดภาพว่าแม่ของฉันก็คงก�ำลังหัวเราะอยู่เหมือนกัน หลังจากพิธี ศพจบแล้ว บังเอิญเราพบกันที่จอดรถ เขายิ้มให้แล้วพูดว่า “เนื่องจากผมมางานศพ ป้าผมผิดที่ บางทีผมคิดว่าเราควรไปดื่มกาแฟด้วยกันนะครับ” ฉันตอบตกลง หนึ่งปี ต่อมาเราแต่งงานกันที่วัดชนบทเล็กๆ คราวนี้เราไปไม่ผิดวัด พระเจ้าให้ความรัก และเสียงหัวเราะแก่ฉันในยามโศกเศร้า ตอนนี้เราก�ำลังฉลองครบรอบ 22 ปีของ การแต่งงาน เมื่อมีคนถามว่า เราพบกันได้อย่างไร สามีฉันจะบอกว่า “แม่ของเธอ และป้าของผมแนะน�ำเราให้รู้จักกัน คู่ของเราถูกจัดไว้จากสวรรค์” มีสิ่งดีๆรอเรา อยู่เสมอ Happy Sunday รักแม่กันมากๆ ครับ ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

135


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

1 กันยายน

ข�ำขันกันเรื่องศีลธรรม จรรยาบรรณครับ ปู่กับหลานก�ำลังยืนเข้าแถวเพื่อจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อ ปู่ถามหลานชาย ว่า “จิมมี่ วันนี้หลานเรียนรู้อะไรมาบ้างที่โรงเรียน?” จิมมี่ตอบว่า “บอกปู่ตามตรง นะครับ ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนักว่าเรียนรู้อะไรมาบ้าง คุณครูพูดเกี่ยวกับอะไรสัก อย่างไปเรื่อยๆ บางอย่างที่ครูเรียกว่า ศีลธรรมอะไรเนี่ยแหละ ผมก็ยังไม่รู้เหมือน กันครับว่าครูก�ำลังพูดถึงเรื่องอะไรครับปู่” ปู่จึงพูดว่า “อ๋อ เรื่องศีลธรรมนะรึ มัน เป็นเรื่องส�ำคัญมากจริงๆนะหลาน เอางี้ปู่จะอธิบายให้หลานฟังนะ ถ้าปู่จ่ายเงินให้ พนักงานเก็บเงิน แล้วพนักงานทอนเงินคืนปู่มากกว่าที่ควรจะเป็น ศีลธรรมก็จะให้ ปู่เลือกได้ว่า ปู่จะเก็บเงินเกินนั้นไว้เอง หรือปู่ควรจะส่งคืนให้แก่คุณย่าของหลาน ดี” ฮา หลานไม่รู้ดีกว่าปู่เข้าใจศีลธรรมแบบนี้นะครับ ปู่ต้องส่งเงินให้ย่ามาตลอด ชีวิตจนเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าครับเนี่ย Happy Sunday

ฮ่าๆ

136 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

2 กันยายน

How many friends a person needs? ศิษย์คนหนึ่งมาหาอาจารย์ถามว่า “อาจารย์ครับ คนๆ หนึ่งควรมีเพื่อนสัก กี่คนครับ หนึ่งคนหรือหลายๆ คน?” อาจารย์ตอบว่า “สรรพสิ่งล้วนเรียบง่าย เจ้า ไปเก็บลูกแอปเปิ้ลที่อยู่บนกิ่งที่สูงที่สุดมาให้อาจารย์ซิ” ศิษย์มองไปที่ยอดไม้แล้ว ตอบว่า “แต่นั่นมันสูงเกินไปครับ อาจารย์ ผมเอื้อมไปไม่ถึงครับ” “ขอร้องเพื่อน สักคนสิ เขาอาจจะช่วยเจ้าได้นะ” ศิษย์เรียกเพื่อนมาคนหนึ่งแล้วเขาก็ขึ้นไปยืนบน ไหล่ของเขา “ผมก็ยังเอื้อมไม่ถึงครับอาจารย์” “เจ้าไม่มีเพื่อนมากกว่านี้รึ?” เขาจึง เรียกเพื่อนๆ มาเพิ่ม พวกเขาต่างยืนกันบนไหล่ของกันและกัน พยายามสร้างเป็น รูปปิรามิด แต่แอปเปิ้ลก็ยังสูงเกินไป ที่สุดปิรามิดก็พังลงมา เขาก็ยังเก็บแอปเปิ้ลไม่ ได้ อาจารย์จึงเรียกศิษย์กลับมาพูดว่า “เจ้าเข้าใจรึยังว่าคนเราต้องการเพื่อนกี่คน” “ผมเข้าใจแล้วครับ คนเราต้องการเพื่อนหลายคนครับ หลายคนช่วยกันย่อมแก้ ปัญหาได้” อาจารย์ตอบว่า “ใช่แล้ว” แล้วส่ายศีรษะด้วยความผิดหวังพูดต่อไปว่า “แน่นอน เจ้าต้องการเพื่อนหลายคนทั้งนี้ก็เพราะว่าในบรรดาเพื่อนนักกีฬาของเจ้า นี้ควรจะมีใครสักคนฉลาดพอที่จะคิดได้ว่าการใช้บันไดพาดต้นไม้เป็นวิธีที่ดีกว่านี้” เพื่อนจะอยู่กับเราเสมอเมื่อเราต้องการ ครับ เพื่อนช่วยเราได้เสมอ เราช่วยเพื่อนๆ เราได้เสมอ เพื่อนเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด และเราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเพื่อนเรา เสมอด้วย เรามีเพือ่นกันกี่คนครับ Happy Friendship

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

137


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

2 กันยายน

ข�ำขัน ขอขึ้นเงินเดือนครับ แซมเดินเข้าไปในห้องท�ำงานของนายจ้างพูดว่า “ท่านครับ ผมขอพูดตรงๆ กับท่าน ผมรู้ดีว่าตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้มีบริษัท 3 บริษัทต้องการตัว ผมอยู่ ดังนั้นผมจึงมาขอให้ขึ้นเงินเดือนผมด้วยความเคารพครับ” นายจ้างพิจารณา ด้วยความเงียบอยู่สองสามนาทีแล้วตอบไปแบบต่อรองราคาว่า “ผมตกลงขึ้นเงิน เดือนคุณ 5% ได้มั้ยละ?” “ตกลงครับ” เขารีบลุกขึ้น ตอนนั้นเจ้านายเขาถามขึ้น มาว่า “ว่าก็ว่าเถอะนะ บริษัทสามบริษัทที่ก�ำลังต้องการตัวคุณเป็นบริษัทอะไรบ้าง ละ?” แซมตอบว่า “บริษัทการไฟฟ้า บริษัทการประปา และบริษัทโทรศัพท์ครับ ท่าน” ฮาจริงๆ บริษัทเจ้าหนี้ทั้งนั้นเลยครับ แซมช่างกล้าจริงๆ ฮา เศรษฐกิจไม่ดีก็ ระมัดระวังการใช้จ่ายกันด้วยนะครับ

ฮ่าๆ

138 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

3 กันยายน

ข�ำขันเรื่องสั้นๆ ไร้เดียงสา แม่พาลูกชายไปที่สุสานเพื่อเยี่ยมพ่อที่เสียชีวิตไป ลูกชายถามแม่ว่า “แม่ ครับ พวกเขาฝังคนสองคนในหลุมเดียวกันหรือเปล่าครับ” แม่ตอบว่า “ลูกรัก พวก เขาไม่ท�ำเช่นนั้นแน่นอน ท�ำไมลูกถึงคิดแบบนั้นละ?” ลูกชายตอบว่า “ที่หลุมศพ ด้านหลังเรามีเขียนไว้ที่ป้ายหลุมศพว่า “ทนายความและชายผู้ซื่อสัตย์นอนอยู่ที่นี่” (Here lies a lawyer and an honest man.) เราอภัยทุกอย่างได้ให้แก่คนตาย แต่เรากลับอภัยยากแสนยากส�ำหรับคนเป็น เป็นคนดีทั้งตอนเป็นและตอนตายดี กว่าครับ Happy Life

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

139


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

4 กันยายน

Temper control ยาวนิดนึงครับ น่าอ่าน เด็กหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนฉลาดมาก มีความสามารถหลายด้าน รูปหล่อและ ไหวพริบดี แต่เวลาเดียวกันก็เป็นคนเห็นแก่ตัวและอารมณ์ร้าย เมื่อใดที่เขาโกรธ และอารมณ์เสีย เขาจะพูดและท�ำบางสิ่งและทุกสิ่งที่ท�ำร้ายจิตใจผู้คน ไมสนใจเลย ว่าคนเหล่านั้นจะเจ็บปวดและรู้สึกอย่างไร เขาจึงไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก มีไม่กี่คน แต่เขาก็บอกกับตัวเองว่า “คนเหล่านี้ช่างโง่มากที่ไม่มีฉันเป็นเพื่อน” พ่อแม่ของ เขาก็จนปัญญาไม่รู้ว่าควรท�ำอย่างไรดี ที่สุดพ่อของเขาเรียกลูกชายมาท�ำสัญญา ลูกผู้ชายกัน พ่อส่งตะปูให้ลูก 1 ถุงและค้อนใหญ่ 1 อัน บอกว่า “เมื่อใดที่อารมณ์ เสีย พ่ออยากให้ลูกปลดปล่อยมันออกมาเพียงแค่ตอกตะปูลงไปที่แผงรั้วไม้โอ๊ค เก่าๆ หลังบ้านเรา ตอกตะปูให้แรงที่สุดเท่าที่สามารถ” แน่นอนว่าไม้โอ๊คเก่าขนาด นั้นย่อมแข็งมากและค้อนของเขาก็หนักมาก มันไม่ง่ายที่จะตอกตะปูลงไปอย่าง ที่คิด อย่างไรก็ตามจบวันแรกเขาก็ตอกตะปูลงไปได้ถึง 37 ตัว นี่เพียงความโกรธ ครั้งเดียวเท่านั้น ผ่านไปสองสามอาทิตย์จ�ำนวนตะปูก็ค่อยๆลดลง เขาพบว่าการ ค่อยๆลดความโกรธลงดีกว่าการพยายามตอกตะปูเหล่านั้น ที่สุดก็มาถึงวันที่หนุ่ม คนนี้พบว่า อารมณ์ของเขาคงที่ได้แล้ว เขาไม่โกรธง่ายอีกต่อไป เขาบอกกับพ่อแม่ อย่างภาคภูมิใจว่า “ผมท�ำส�ำเร็จแล้วครับ ควบคุมอารมณ์ของผมได้แล้ว” พ่อของ เขาตอบว่า “เพื่อเป็นเครื่องหมายของความส�ำเร็จ วันไหนที่ลูกอารมณ์ปกติดีก็จง ไปถอนตะปูออกมาวันละ 1 ตัว” ผ่านไปหลายอาทิตย์ ลูกชายมารายงานอย่างภาค ภูมิใจว่า “ตะปูทั้งหมด ผมถอนออกมาหมดแล้ว” ต่อไปนี้เป็นข้อความที่ดีมากๆ ที่ พ่อสอนลูกชายของเขานะครับ เขาพาลูกชายเดินไปที่รั้วไม้และมองดูมันดีๆ พูดว่า “ลูกรัก ลูกท�ำได้ดีมาก พ่ออยากให้ลูกลองมองดูที่รูตะปูมากมายที่รั้ว ไม่ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น รั้วนี้ก็ไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมได้อีกแล้ว การพูดหรือการกระ ท�ำใดๆ ที่สร้างความเจ็บปวดก่อให้เกิดผลอย่างเดีนวกับรั้วนี้ มันจะมีรอยแผลเป็นที่ ถูกใจ

140 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

4 กันยายน

ไม่ลบเลือนไปได้ ไม่ว่าเราจะกล่าวค�ำขอโทษสักกี่ครั้ง ไม่ว่าเราจะกล่าวค�ำว่าเสียใจ สักกี่ครั้ง แผลเป็นก็จะยังคงอยู่ บาดแผลจากค�ำพูดมันเลวร้ายเท่าๆ กับบาดแผล ของร่างกาย มนุษย์เรามีค่ามากกว่ารั้วเก่าๆ มากมาย พวกเขาท�ำให้เราหัวเราะและ ยิ้มได้ พวกเขาช่วยให้เราประสพความส�ำเร็จ บางคนกลับกลายมาเป็นเพื่อนของเรา ได้ด้วย เพื่อนๆ ที่จะมาร่วมยินดีกับเรา มาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา และถ้าพวกเขาไว้ วางใจเรา พวกเขาก็จะเปิดใจกับเรา นั่นหมายความว่าเราต้องปฏิบัติต่อทุกคนด้วย ความรักและด้วยความเคารพ เราต้องไม่ยอมให้เกิดแผลเป็นเหล่านั้นมากที่สุดเท่าที่ สามารถ” (Author Unknown) ใครเป็นคนขี้โมโห โมโหแล้วชอบท�ำร้ายจิตใจคนรอบข้างก็พยายาม ควบคุมอารมณ์นะครับ คนเราทุกคนบางครั้งก็โกรธ โมโหเป็นธรรมดา อยู่ที่ว่าเรา จะควบคุมมันอย่างไรครับ อย่าท�ำลายความสัมพันธ์ด้วยการสร้างรั้วสร้างก�ำแพง แต่ใช้เวลามาสร้างสะพานข้ามไปดีกว่าครับ Happy Temper

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

141


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

5 กันยายน

พยาบาลคนหนึ่งน�ำทางชายหนุ่มที่ดูเหนื่อยล้าและกังวลใจมาที่ข้างเตียง ของชายชราและกระซิบที่ข้างหูของชายชราว่า “ลูกชายคุณอยู่ที่นี่แล้วนะค่ะ” เธอกระซิบอยู่หลายครั้งจนกระทั่งชายชราเปิดตา ขึ้น เขามองเห็นลางๆว่าลูกชายเขายืนอยู่ด้านนอกเต้นท์ออกซิเจนของเขา เขายื่น มือออกไปและชายหนุ่มก็จับนิ้วมือของเขาไว้แน่น เขากระซิบค�ำพูดที่ให้ก�ำลังใจ และให้ความรักแก่ชายชรา พยาบาลน�ำเก้าอี้มาให้เขานั่งคุยกัน ตลอดทั้งคืนหนุ่ม คนนี้นั่งจับมือของเขาไว้ ชายชราไม่อาจสนทนาได้ด้วยความอ่อนเพลียแต่ใบหน้าก็ สุขใจอย่างมาก ตอนรุ่งสางวันนั้นชายชราก็เสียชีวิตอย่างสงบ ชายหนุ่มรีบไปแจ้ง พยาบาล ชายหนุ่มคนนี้รอจนกระทั่งพยาบาลเสร็จงานที่ต้องท�ำแล้ว พยาบาลเข้า มาปลอบใจชายหนุ่มส�ำหรับการสูญเสียครังนี้ เขาพูดขัดจังหวะขึ้นว่า “ชายชรานี้ คือใครครับ?” พยาบาลตอบว่า “ดิฉันคิดว่าเขาเป็นบิดาของคุณ” “ไม่ใช่ครับ เขาไม่ใช่พ่อผม ผมไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลยในชีวิต” “แล้วท�ำไมคุณ ไม่พูดอะไรเลยตอนที่ดิฉันพาคุณมาพบเขา?” เขาตอบว่า “ผมเพียงรู้ว่าเขาต้องการพบลูกชายและลูกชายของเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ ด้วย เขาก�ำลังป่วยมากและรู้ว่าเขาต้องการผมในตอนนั้นมากเพียงใด” เรื่องนี้ไม่ใช่ เรื่องจริงแต่ Roy Popkin แต่งขึ้นมาในปี 1964 เรื่องนี้ถูกน�ำมาสร้างเป็นละคร เป็น ภาพยนตร์ในชื่อต่างๆกันเช่น “Night Watch”, “Just Stay”, “He needed Me” ผู้คนแสวงหาน�้ำใจ น�้ำใจที่ให้กับคนที่ไม่รู้จัก เปลี่ยนความทุกข์เป็นความสุข ให้ ความหวังและความบรรเทาใจได้ เรามักประเมินค่าของ การสัมผัส รอยยิ้ม ค�ำพูด ดีๆ น้อยเกินไป กิจการแห่งการใส่ใจที่เล็กน้อยที่สุด ล้วนมีพลังที่จะขับเคลื่อนชีวิต เราได้เสมอนะครับ Happy Caring ถูกใจ

142 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

6 กันยายน

ข�ำขันกันหน่อยครับ 10 เรือ่ งราวทีผ่ มรูเ้ กีย่ วกับคุณ (Ten Things I know about you) 1. คุณก�ำลังอ่านเรื่องที่ผมเขียน 2. คุณเป็นมนุษย์ 3. คุณไม่สามารถอ่านออกเสียงตัวอักษร P ได้โดยไม่แยกริมฝีปากออกจากกัน 4. คุณเลยพยายามลองออกเสียงดู 6. คุณก�ำลังหัวเราะตัวเองอยู่ 7. คุณมีรอยยิ้มบนใบหน้าและคุณได้ข้ามเลข 5 ไป 8. คุณก็เลยตรวจสอบดูว่ามีเลข 5 อยู่หรือเปล่า 9. คุณหัวเราะกับเรื่องนี้เพราะว่าคุณเป็นคนรักความสนุกขบขันและใครๆก็ท�ำแบบ เดียวกัน 10. คุณอาจจะก�ำลังส่งเรื่องนี้เพื่อดูซิว่าจะมีใครตกหลุมพรางนี้หรือไม่ You are a fun loving person. ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ Happy Life

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

143


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

9 กันยายน

ฝน กับ เด็กน้อย “บ่ายวันฝนตกพร้อมลมแรงวันหนึ่ง ผมก�ำลังขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะถนนลื่น ตอนนั้นเองลูกส่าวของผม แอสเพน พูดขึ้นมาจากที่นั่งที่แสนสบาย ของเธอว่า “พ่อขา หนูก�ำลังคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง” เธอจะพูดแบบนี้เสมอตอนที่ เธอครุ่นคิดบางเรื่องมาได้ระยะหนึ่งแล้วและพร้อมที่จะปลดปล่อยสิ่งที่เธอค้นพบ ออกมาจากจิตใจเด็กอายุ 6 ขวบ ผมจึงถามไปว่า “ลูกก�ำลังคิดถึงอะไร?” เธอเริ่ม พูดว่า “ฝนค่ะ ฝนเหมือนกับบาป และที่ปัดน�้ำฝน เหมือนพระเจ้าก�ำลังปัดบาปทิ้ง ไปค่ะ” ผมตอบไปว่า “ดีมากเลยลูกรัก นั่นดีมากจริงๆ” ผมก็อยากรู้ว่าความคิดของ เธอจะไปไกลได้อีกแค่ไหนจึงถามเธอว่า “แอสเพน ลูกเห็นมั้ยว่าฝนก็ยังคงตกลงมา ไม่หยุดเลย มันควรจะหมายความว่าอย่างไรล่ะ?” แอสเพนไม่ต้องใช้เวลาคิดเลย เธอตอบว่า “หมายความว่าเราก็ก�ำลังท�ำบาปกันอยู่และพระเจ้าก็ยังคงอภัยบาป เราอยู่ตลอดเวลาเลย” ผมจะจดจ�ำเรื่องนี้ไว้เสมอเวลาที่ผมใช้ที่ปัดน�้ำฝน เพื่อที่จะ เห็นสายรุ้ง เราต้องผ่านพ้นฝนเสียก่อน” (Unknown Author) แอสเพนช่างคิดดี มาก พ่อแม่คงภูมิใจในตัวเธอมากๆแน่ๆ พ่อแม่คงเป็นต้นแบบของลูก อย่าลืมให้สิ่ง ที่ดีๆแก่ลูก ค�ำสอนที่ดี ตัวอย่างที่ดี ลูกก็จะให้สิ่งที่ดีๆกลับมาแน่นอนครับ Happy Family

ถูกใจ

144 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

9 กันยายน

ข�ำขันแบบตลกร้ายนะครับ ชายสองคนก�ำลังเล่นกอล์ฟด้วยกัน คนหนึ่งก�ำลังจะตีลูกกอล์ฟ เขาเห็น ขบวนแห่ศพก�ำลังเคลื่อนขบวนมาตามถนนและก�ำลังจะผ่านพวกเขาไป ชายคนนั้น หยุดตีกอล์ฟทันที เขายืนตรง ปิดตาและสวดบทภาวนาสั้นๆ บทหนึ่ง เพื่อนของ เขาเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ฉันซาบซึ้งใจมากจริงๆ สิ่งที่แกท�ำช่างสวยงามมากเลย ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะ” ชายคนนั้นตอบว่า “ก็ฉันแต่งงานกับเธอมาตั้ง 35 ปีนะ” ฮาไม่ออกเลยนะครับ วันฝังศพภรรยายังมาตีกอล์ฟได้ด้วย รัก และ ยกย่อง ให้เกียรติกัน จนกว่าชีวิตจะหาไม่นะครับ

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

145


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

12 กันยายน

Enjoy Life Joke แซมไปพบหมอตรวจร่างกายประจ�ำปี หมอบอกว่า “ทุกอย่างดีหมดเลย คุณท�ำดีมากส�ำหรับอายุอย่างคุณ” “ส�ำหรับอายุแบบผมงั้นรึ? ผมอายุแค่ 75 เอง นะ หมอคิดว่าผมจะอยู่จนถึง 80 รึเปล่า?” หมอตอบว่า “คุณดื่มหรือสูบบุหรี่รึ เปล่า?” “ไม่ครับ ผมระวังเรื่องการกินมากๆ เลย” “แล้วคุณมีกิจกรรมอะไรบ้างละ ครับ? มีอะไรๆ ที่ตื่นเต้นท�ำบ้างมั้ยครับเช่น ชอบความเร็วหรือสกีอะไรท�ำนองนี้” แซมตอบว่า “ผมไม่ยอมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมที่อันตรายแบบนั้นแน่ๆ” หมอ ตอบว่า “ถ้างั้นอะไรที่ท�ำให้คุณอยากอยู่ไปจนถึงอายุ 80 ละครับ?” แก่แล้วก็ยังท�ำ อะไรๆ ได้นะครับ อย่าอยู่เฉยๆ ออกก�ำลังบ้างแต่ไม่ใช่หักโหม มีกิจกรรมมากมาย ที่มีประโยชน์ ยกเว้นแต่ถ้าท�ำไม่ไหวนะครับ ฮา Happy Aging Society. ไปตรวจ ร่างกายกันบ้างนะครับ

ฮ่าๆ

146 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

14 กันยายน

มาอ่านนิทานสอนใจกันนิดนึงครับ A Wise Old Owl นกฮูกตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนต้นโอ๊ก ทุกวันมันเห็นเหตุการณ์มากมายรอบๆ ตัว วานนี้มันเห็นเด็กชายคนหนึ่งก�ำลังช่วยลุงคนหนึ่งแบกตะกร้า เห็นหลานคนหนึ่ง ดูแลคุณปู่ของเขา วันนี้มันเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งก�ำลังขึ้นเสียงกับแม่ของตัวเอง ชาย สองคนก�ำลังทะเลาะกัน ยิ่งมันเห็นมากเท่าไร มันก็พูดน้อยลงเท่านั้น พอมันพูด น้อยลงมีนก็ได้ยินอะไรๆมากขึ้น มันได้ยินคนนินทากัน บางคนก�ำลังเล่าเรื่องโน้น นี้ มันได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งพูดถึงเรื่องดาราตั้งท้อง ได้ยินชายคนหนึ่งพูดว่าเขาไม่เคย ผิดพลาดอะไรเลย อีกคนหนึ่งว่าเขาเก่งทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง มันได้เห็นและได้ยินสิ่ง ที่เกิดขึ้นมากมายกับผู้คนทั้งเรื่องดีๆและไม่ดี นกฮูกชรากลับฉลาดขึ้นทุกวัน บท สอนของเรื่องนี้ก็คือ จงพูดให้น้อยลง ฟังคนให้มากขึ้น จะท�ำให้เราเป็นคนฉลาด เรา มักชอบพูด ชอบอวดฉลาด ชอบรอบรู้ทุกอย่างจนไม่ชอบฟังใคร การฟังช่วยให้เรา รอบรู้ขึ้น รอบคอบขึ้น นิทานสอนเด็กก็สอนเราได้ครับ Happy Listening.

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

147


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

16 กันยายน

เรื่องนี้ย่อมาจากบทความของคุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทรนะครับ ลงในมติชนราย สัปดาห์ ปีที่ 39 ฉบับที่ 2039 เรื่อง “สามฟุต” มีบ้านสองหลังอยู่ติดกัน แต่ละหลังมีที่ดินกว้างขวางมาก แต่ก็มาไม่ถูกกัน ด้วยเรื่อง ต่างกล่าวหากันว่า ล่วงล�้ำที่ดินของตนมา สามฟุต ต่างด่าว่ากัน ด่าทอ กันและเกลียดกัน ไม่มีความสุข เรื่องนี้ไปถึงหูของจางอิง ปราชญ์ผู้มีชื่อเสียง มีผู้ ร้องขอว่า “เราต้องการคนกลางมาไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทนี้ บ้านทั้งสองไม่มีความสุข กันเลย” จางอิงยิ้มและตรึกตรองอยู่พักหนึ่ง จึงเขียนจดหมายไปถึงบ้านทั้งสองหลัง นั้นว่า “จดหมายจากระยะทางพันลี้ ส่งมาพื่อแก้ข้อพิพาทระยะสามฟุต ก�ำแพง เมืองจีนตั้งสง่าทุกวันนี้ แต่จิ๋นซีฮ่องเต้ก็ล่วงลับไปแล้ว” เจ้าของบ้านอ่านแล้วก็ได้ สติเข้าใจว่า “จิ๋นซีผู้ยิ่งใหญ่สร้างก�ำแพงคู่ฟ้าแผ่นดินจีน แต่ตัวเองก็เอาอะไรไป ด้วยไม่ได้สักอย่างเดียว ส่วนเราจะหวงที่ดินเพียงสามฟุตแลกกับความทุกข์ใจไป ท�ำไม” เขาจึงน�ำธงเขตแดนร่นระยะลงมาสามฟุต เพื่อนบ้านเห็นดังนั้นก็แปลกใจ ว่า “พิพาทกันมานาน อยู่ๆท�ำไมถึงเปลี่ยนใจง่ายเพียงนี้” ที่สุดเกิคความไม่สบายใจ เห็นใจ จึงตัดสินใจลดอาณาเขตของตนลงสามฟุตเช่นกัน ถึงตอนนี้มีที่ดินกว้างหก ฟุตที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นพื้นที่กว้างสะท้อนถึงความใจกว้าง ยิ่งใจกว้างมาก เท่าไร พื้นที่ก็กว้างมากเท่านั้น ความุข ความสบายใจก็เกิดขึ้น ต่อมาทั้งสองบ้าน ก็ใช้ที่กว้างนั้นใช้สอยท�ำกิจกรรมร่วมกัน สังสรรค์กันเป็นประจ�ำ บางครั้งคนเราก็ ยอมทะเลาะกันก็เพื่อจะเป็นคนถูก แลกกับความไม่สบายใจและความทุกข์ใจ ลด ราวาศอกกันก็เปิดพื้นที่ให้กัน ใจก็เปิดกว้างขึ้นได้จริงๆนะครับ เมื่อตัวตนเราเล็กลง หัวใจเราก็ใหญ่ขึ้นครับ Happy Life. Life is beautiful.

ถูกใจ

148 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

17 กันยายน

The Fall of Rome อาณาจักรโรมยิ่งใหญ่มากและปกครองโลกหลายร้อยปี สร้างเมือง สร้าง ถนนและกฎหมายจนดูว่าเป็นอาณาจักรที่ไม่มีใครพิชิตลงได้ ในศตวรรษที่ห้า โรม ขยายอาณาจักรไปจนถึงภาคเหนือ ถึงอังกฤษและปกครองชาวบาเบเรียนไว้ทั้งหมด จากนั้นต้นศตวรรษที่ห้านี่เองชาวโรมต้องเผชิญหน้ากับ อาราริค กษัตริย์แห่งชาว วิสิโกธซึ่งยกทัพมาถึงหน้าประตูเมืองกรุงโรม กษัตริย์ที่บ้ามากที่คิดว่าโรมจะต้อง ตกอยู่ในมือของเขา โรมส่งผู้แทนออกมาเจรจาให้เขาถอยทัพกลับไป โรมข่มขู่ว่า “หากท่านโจมตีโรมจะต้องพบกับกองทัพที่แข็งแกร่งและนักรบจ�ำนวนนับไม่ถ้วน” อาราริคตอบด้วยน�้ำเสียงเรียบเฉยว่า “หญ้ายิ่งหนาเท่าไหร่ก็ยิ่งตัดง่ายเท่านั้น” ผู้ แทนรู้ทันทีว่าอาราริคไม่ใช่คนโง่ที่จะหลอกได้ จึงถามว่า “ท่านต้องการอะไรเพื่อ ที่ท่านจะถอนทัพกลับไป?” อาราริคตอบว่า “เปิดประตูเมือง ทหารของข้าจะเดิน ผ่านประตูเมืองเข้าไป ค้นหาทองค�ำ เงินและสี่งที่มีค่าทั้งหมดที่สามารถขนย้ายได้ และพวกเขาจะพาทาสบาเบเรียนทั้งหมดกลับไปกับข้าด้วย” ผู้แทนแสดงความไม่ พอใจอย่างยิ่งถามว่า “แล้วพวกท่านจะทิ้งอะไรไว้ให้แก่พวกเราละ?” อาราริคตอบ ว่า “ชีวิตของพวกท่านไงละ” และนี่ก็คือจุดจบของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อีกอาณาจักรหนึ่ง Source: Story of Rome’s fall found in T. Cahill, How the Irish Saved Civilisation (Hodder, 1995) วันหนึ่งอ�ำนาจที่มีก็จะหมดไป ไม่ ว่าจะเป็นอ�ำนาจปกครอง อ�ำนาจเงินทอง อ�ำนาจของชื่อเสียง อย่าหลงตนมากไป นะครับ ลืมตัวตนจะดีกว่าเพราะเราจะท�ำอะไรๆให้ผู้อื่นได้มากขึ้น นั่นคืออ�ำนาจ แห่งความรักที่ไม่มีวันหมดสิ้นไป Happy Love

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

149


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

18 กันยายน

Sir Michael Costa เซอร์ คอสตา ผู้ควบคุมวงออเคสตราที่ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 19 ครั้งหนึ่ง ตอนซ้อมใหญ่ส�ำหรับการแสดงที่ต้องแสดงเพลงพร้อมกับคณะร้องเพลง ขณะที่การ ซ้อมร่วมกันด�ำเนินไป ผู้เล่น Piccolo (ขลุ่ยเล็กๆที่มีเสียงสูง) ก็หยุดเล่นไปเฉยๆ ที่ จริงก็ไม่น่าส่งผลอะไรนัก เขาเองก็คิดว่าเสียงขลุ่ยเล็กๆ ท่ามกลางเสียงเครื่องดนตรี มากมาย ไม่มีใครเขาว่าแน่ๆ ตอนนั้นเอง เซอร์ คอสตาสั่งหยุดวงออเคสตราทั้งหมด รวมถึงนักร้องด้วย เขาร้องขึ้นว่า “หยุด หยุด Piccolo หายไปไหน เกิดอะไรขึ้น กับ Piccolo?” บางครั้งเราก็คิดเหมือนกับผู้เล่น Piccolo ว่าเราไม่ส�ำคัญอะไรนัก หน้าที่ของเราเล็กๆ เราเองก็ไม่รู้จะท�ำอะไรได้มากนัก และหากเราไม่ท�ำก็จะไม่มี ใครรู้ แต่ผู้ควบคุมวงดนตรีสังเกตุเห็นเสมอ และต้องการให้เราร่วมกันสร้างสรรค์ งานให้สมบูรณ์ เราทุกคนล้วนส�ำคัญในงานของพระ ไม่ว่างานนั้นจะเล็กสักปานใด ก็ตาม ปราศจากงานเล็กๆ ของเรา งานก็ไม่สมบูรณ์ วงออเคสตราก็ไม่ไพเราะแล้ว Happy Piccolo

ถูกใจ

150 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

25 กันยายน

ตอนเป็นเด็กก็อยากโตเร็วๆ ตอนแก่ก็อยากกลับไปเป็นเด็กอีก เพิ่งเข้าใจ ว่าท�ำไมคนแก่จึงชอบพูดถึงเรื่องในอดีต เพราะพอมองกลับไปก็พบว่าเวลาเป็นสิ่งที่ ทีค่าที่สุดและทุกสิ่งที่เรามีเราเป็นในตอนนี้ก็ล้วนมาจากอดีต มีบทเรียนดีๆมากมาย ทั้งสนุก ทั้งทุกข์ ทั้งดี ทั้งไม่ดี อ้อ การทบทวนอดีตบ่อยๆยังช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ได้ด้วย อย่างนี้นี่เอง มีความสุขกับอดีตกันบ้างนะครับ Happy Time.

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

151


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

28 กันยายน

นักร้องที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อ Mary Martin เปิดการแสดงที่ South Pacific ก่อนการแสดงเล็กน้อยเธอได้รับโน๊ตจาก Oscar Hammerstein นักแต่ง เพลงซึ่งก�ำลังจะตาย โน๊ตนั้นเขียนว่า “แมรี่ที่รัก A bell is no bell till you ring it, a song is not a song till you sing it. Love in your heart is not put there to stay. love is not love till you give it away.” เธอได้รับแรงบันดาล ใจอย่างมากจากข้อความนี้ การแสดงครั้งนั้นได้รับค�ำชมว่าเป็นการแสดงที่ดีที่สุด ของเธอ ผู้ร่วมแสดงทั้งหลายมาแสดงความยินดีกับเธอพูดว่า “ปกติเธอแสดงได้ดี มากแต่ครั้งนี้เธอแสดงได้วิเศษสุดจริงๆ” เธอน�ำโน๊ตนั้นออกมาสารภาพว่าข้อความ ของนักแต่งเพลงผู้นี้ได้ท�ำให้เกิดความแตกต่างแบบนี้ขึ้นมา “ระฆังไม่เป็นระฆัง จนกว่าคุณจะตีมัน เพลงไม่เป็นเพลงจนกว่าคุณจะขับร้องมัน ความรักในหัวใจไม่ เป็นความรักจนกว่าคุณจะให้หัวใจคุณ” พระไม่ได้บอกว่ารักเราเท่านั้นแต่พระองค์ ท�ำทุกสิ่งแล้วเพื่อบอกเราว่ารักเราเพียงใด บอกรักคนที่คุณรักไม่พอ ท�ำทุกอย่าง ด้วยหัวใจให้รู้ด้วยว่าเรารักพวกท่านเพียงใด ให้ข้อความนี้เป็นแรงบันดาลใจเราด้วย นะครับ เป็นในสิ่งที่คุณเป็นอยู่ให้ดีที่สุด ท�ำทุกอย่างด้วยหัวใจของเรา เท่านี้ก็ยิ่ง ใหญ่แล้วครับ Happy Life

ถูกใจ

152 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

28 กันยายน

Ludwig van Beethoven (1770-1827) นักประพันธ์เพลงผู้ยิ่งใหญ่ของ โลกคนหนึ่งกลัวหูหนวกมาตลอดชีวิต เพราะการได้ยินส�ำคัญต่อการแต่งเพลงมากๆ ตอนที่ทราบว่าหูเริ่มมีปัญหา บีโธเฟนกังวลใจมาก ปรึกษาหมอและหาทางทุกทาง ที่จะรักษาแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นจนในที่สุดหูของเขาก็หนวกสนิท บีโธเฟนได้พบกับ ความเงียบและความเงียบนี้ท�ำให้มีสมาธิ ทุกคนแปลกใจมากที่เพลงที่ท่านแต่งหลัง จากหูหนวกแล้วกลายเป็นเพลงที่ไพเราะอย่างยิ่ง ท่านบอกว่า “การที่ไม่มีเสียงใด เลยมารบกวน ดนตรีหลั่งไหลมาที่ปลายปากกาจนท่านเขียนโน๊ตแทบไม่ทัน” หู หนวกกลายเป็นสมบัติอันทรงคุณค่า ความเงียบในชีวิตคือการรับฟังที่ชัดเจนที่สุด ครับ เราคิดแต่จะได้ยินแต่หลายครั้งเราก็ไม่ได้รับฟัง หลายสิ่งหลายอย่างที่เราคิดว่า ไม่ดีกลับกลายเป็นสิ่งที่ดีได้ ตั้งใจฟังกันและกันบ้าง เราจะพบสิ่งดีๆมากมายมาจาก การรับฟังกันครับ การพูดให้คนอื่นฟังอาจกลายเป็นสิ่งที่ไม่ดีได้เสมอ ความเงียบ ย่อมสยบทุกสิ่งที่ไม่ดีได้ครับ Happy Deep Listening

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

153


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

29 กันยายน

พระสังฆราชองค์หนึ่งเล่าให้ฟังว่า การแข่งขันส�ำหรับเด็กๆ ครั้งหนึ่ง เด็ก เก้าคนตั้งแถวพร้อมส�ำหรับการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร เสียงปืนปล่อยตัวนักกีฬาดัง ขึ้น เด็กๆ ทั้งเก้าคนวิ่งไปที่เส้นชัย แต่อีกเพียงไม่กี่เมตรจะถึงเส้นชัยเด็กคนหนึ่ง ล้มลงและก็เริ่มร้องไห้ ด้วยเหตุผลที่เราผู้ใหญ่ไม่เข้าใจในความหมายของกีฬาของ เด็กๆ เด็กอีกแปดคนต่างหยุดวิ่งและหันกลับมาที่เพื่อนของเขา เด็กหญิงดาวน์ซิน โดรมคนหนึ่งจูบเขาและปัดฝุ่นให้เขา เด็กๆช่วยกันประคองเพื่อนขึ้นมาและจับมือ กันทั้งหมดวิ่งพร้อมกันเข้าเส้นชัยพร้อมกัน ทุกคนที่อยู่ในสนามแข่งตอนนั้นน�้ำตา ไหลและยืนปรบมือให้ทั้งน�้ำตาอาบแก้ม เพราะการแข่งขันคราวนี้ไม่มีผู้ชนะ แต่ เด็กทั้งเก้าคนนั้นชนะการแข่งขันทุกคน เด็กๆ เหล่านี้แสดงให้เราเห็นว่าอาณาจักร ของพระเป็นอย่างไร ชีวิตใหม่ในพระคริสต์ไม่ใช่ชีวิตแห่งการช่วงชิง ชิงดีชิงเด่น แต่ เป็นชีวิตแห่งความรักและอาทรต่อกัน โดยเฉพาะผู้ที่ล้มลงไปในสังคม ไม่นึกถึงแต่ ตนแต่ทุกคนล้วนส�ำคัญส�ำหรับเรา พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์เพราะเราส�ำคัญครับ และกลับคืนพระชนม์ก็เพื่อให้เรามอบชีวิตแก่กันและกัน มอบโอกาสให้แก่กันและ กัน ให้เราวิ่งเข้าเส้นชัยไปด้วยกันทุกคนด้วยนะครับ อย่าทิ้งใครที่ล้มไว้ข้างหลังเลย Happy Time.

ถูกใจ

154 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

30 กันยายน

สมณะฮินดูกับลูกศิษย์ไปที่แม่น�้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์เห็นชาวบ้านที่ก�ำลัง โกรธกันตะโกนใส่กันจึงถามศิษย์ว่า “ท�ำไมคนที่ก�ำลังโกรธกันจึงต้องตะโกนใส่ กัน?” ศิษย์ตอบว่า “เมื่อเราสูญเสียความสงบ เราก็ตะโกน” สมณะถามต่อว่า “เรา ตะโกนท�ำไมในเมื่ออีกคนหนึ่งก็อยู่ใกล้เรา เราพูดกับเขาเบาๆก็ได้” ท่านอธิบาย ต่อว่า “เมื่อคนสองคนโกรธกัน หัวใจเขาก็อยู่ห่างกัน พวกเขาต้องตะโกนเพื่อจะได้ คลอบคลุมระยะห่างนี้ได้ ยิ่งโกรธมากเท่าใดก็ต้องตะโกนดังขึ้นเท่านั้นเพราะระยะ ห่างมากขึ้น เวลาที่คนสองคนรักกัน พวกเขาไม่ตะโกนใส่กันแต่คุยกันอย่างนุ่ม นวล เพราะหัวใจเขาอยู่ใกล้กัน เมื่อรักกันมากขึ้น พวกเขาไม่พูดกันแล้วแต่กระซิบ และรักกันมากขึ้น ในที่สุดพวกเขาจะไม่กระซิบแต่มองดูกันและกันก็เข้าใจกันได้ สองคนนี้ใกล้ชิดกันขนาดไหน” สมณะมองดูศิษย์และพูดต่อว่า “ดังนั้นเมื่อเราถก เถียงกันอย่าปล่อยให้หัวใจห่างกัน อย่าใช้ค�ำพูดที่จะท�ำให้เราห่างจากกัน มิฉะนั้น แล้วระยะห่างจะมีมากขึ้นเรื่อยๆจนเราหาทางกลับไม่ถูกและลงเอยด้วยความ แตกแยก” น่าคิดนะครับบางครั้งเป็นความแตกแยกแบบท�ำลายล้างกันอย่างน่าเสีย ดายจริงๆ มิตรภาพย่อมดีกว่าความเกลียดชังเสมอครับ หลายครั้งความไม่เข้าใจ กัน ความเป็นอริ ความเกลียดชังกันนี้เริ่มต้นจากตัวเราเองแต่ไปจบที่คนอื่นนะครับ รักกันดีกว่าครับเพราะรักนั้นท�ำให้เราอภัยกันได้เสมอ ตะโกนไปก็เหนื่อย อภัยได้ก็ หายเหนื่อยครับ Peaceful Time.

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

155


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

9 ตุลาคม

คริสตชนรู้จักค�ำว่า เอเมน หรือ อาแมน Amen เป็นค�ำที่มีความหมาย ที่สุด แปลมาจากภาษาฮีบรู มาเป็นภาษากรีกในพระคัมภีร์ใหม่แล้วก็มาเป็นภาษา ลาตินและก็ภาษาอังกฤษและก็กลายมาเป็นค�ำที่ใช้ไม่ว่าจะพูดภาษาอะไรก็ตาม แม้แต่เราคริสตชนไทยก็ยังใช้ค�ำนี้ มีความหมายตามฮีบรูว่า “เชื่อ” หรือ “เต็มไป ด้วยความเชื่อ” จากนั้นก็หมายถึง “แน่นอน” “ถูกต้อง” เป็นค�ำที่บอกพระเจ้าว่า เราวางใจและไว้ใจ ดังนั้นเมื่อเราเชื่อพระ เรากล่าว” อาแมน” เมื่อพระสัญญา เรา ตอบรับ อาแมน หมายความว่า “จะเป็นเช่นนั้นแน่ๆ” พระคัมภีร์ใหม่จะแปลว่า “อย่างถูกต้อง อย่างแท้จริง” เมื่อเราสวดภาวนาถึงพระเจ้าและตามน�้ำพระทัยของ พระเราจบค�ำภาวนาด้วยค�ำว่า “อาแมน” เมื่อเราจะรับศีลมหาสนิทเราก็ยืนยัน ความเชื่อว่า “อาแมน” เราเชื่อมั่นว่า พระรับรู้และจะตอบรับเรา ดังนั้นการตอบ รับ อาแมน ของเราทุกครั้งมีความหมายส�ำหรับพระมากกว่าที่เราคิดนะครับ อย่า หยุดและอย่าเบื่อที่จะตอบรับค�ำสั้นๆนี้เลยนะครับ เป็นการสรรเสริญพระและเชิดชู ความเชื่อของเราที่ง่ายที่สุดจริงๆ เป็นค�ำสั้นๆที่ให้พลัง อาแมน Happy Amen

ถูกใจ

156 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

10 ตุลาคม

Caring Love เมื่อเด็กหญิงเล็กๆ พยายามอย่างยิ่งที่จะจูบพ่อของเธอ นั่นคือ ความรัก เมื่อภรรยาชงชาให้แก่สามีของเธอ และนั่งเงียบๆ ต่อหน้าเขา นั่นคือความรัก เมื่อแม่คนหนึ่งให้ชิ้นเคกที่ดีที่สุดแก่ลูกชายของเธอ นั่นคือความรัก เมื่อเพื่อนของ คุณจับมือคุณแน่นเวลาอยู่บนถนนลื่นๆ นั่นคือความรัก เมื่อพี่ชายหรือพี่สาวของ คุณส่งข้อความมาถามคุณว่า ถึงบ้านหรือยัง นั่นคือความรัก ความรักไม่ใช่แค่ชายหนุ่มก�ำลังกอดหญิงสาวและพากันไปเที่ยวรอบเมือง ที่จริง ความรักเป็นชื่ออีกชื่อหนึ่งของค�ำว่า CAREเราสามารถแสดงออกถึงความรักเราได้ เสมอครับ ทุกครั้งที่เราแคร์ เรายังสามารถท�ำอะไรๆได้อีกหลายอย่างมากเพียงแค่ เราแคร์เท่านั้นครับ ใส่ใจกันและกันน�ำความสุขใจ แคร์กันมากๆนะครับ หลายคน ก�ำลังรอคุณอยู่ รักก็คือแคร์ แคร์ก็คือรัก ค�ำพูดบรรยาย ความรัก ไม่ได้ แต่กิจการ บรรยายได้ครับ Happy Love

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

157


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

11 ตุลาคม

Salt of the World เกลือมีคุณค่ามหาศาล โลกเราต้องการเกลือปีละมากกว่า 40 ล้านตัน โฮม เมอร์เรียกเกลือว่า เทพ พลาโตเรียกเกลือว่า สิ่งที่เทพเจ้ารัก เช็คสเปียร์พูดถึงเกลือ ถึง 17 ครั้งในบทละคร แม้ในภาพอาหารค�่ำครั้งสุดท้ายของเลโอนารโด ดา วินชี่ ก็ยังมีภาชนะใส่เกลือวางอยู่หน้ายูดาส ส�ำนวนกรีกโบราณยังมีค�ำพูดว่า ทาสมีค่า น้อยกว่าเกลือ ชาวโรมันใช้เกลือชั่งตวงเป็นค่าแรงและค่าตอบแทนแก่ทหารรู้จัก กันในค�ำว่า Salarium Argentum ค�ำที่ภาษอังกฤษน�ำมาใช้คือ salary หรือเงิน เดือน ทหารหลายพันคนของนโปเลียนตายไปในระหว่างถอยทัพจากรัสเซียก็เพราะ ว่าบาดแผลของพวกเขาขาดเกลือมารักษา เกลือช่างมีความส�ำคัญต่อมนุษย์และ โลกเรา พระเยซูเจ้าจึงสั่งให้เราคริสตชนเป็นเกลือของแผ่นดิน เกลือนี้คือความรัก ความรักจึงรักษาได้ทุกสิ่งแต่ความเกลียดชังนั้นท�ำลายทุกสิ่งแม้แต่ตัวเองครับ มา เป็นเกลือ มาเป็นความรักกันดีกว่าครับ Happy World

ถูกใจ

158 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

12 ตุลาคม

“Then where’s his hat?” Winston Churchill ชอบเล่าเรื่องนี้ครับ เด็กเล็กๆ คนหนึ่งก�ำลังเล่นอยู่ ที่สะพานท่าเรือและพลัดตกไปลงในทะเล กะลาสีเรือสูงอายุคนหนึ่งเห็นเข้าจึงรีบ กระโดดลงไปในทะเลเพื่อช่วยเด็ก เขาด�ำน�้ำควานหาเด็กจนพบแล้วพาเขาขึ้นฝั่ง อย่างปลอดภัยด้วยความเหนื่อยยาก สองวันต่อมาแม่ของเด็กคนนี้ก็พาเด็กมาหา กะลาสีคนนี้ เธอถามหาจากคนแถวนั้นจนพบกับกะลาสี เธอถามเขาว่า “คุณเป็น คนด�ำน�้ำลงไปในทะเลเพื่อช่วยเด็กคนนี้ขึ้นมาจากน�้ำใช่มั้ยค่ะ?” กะลาสีตอบว่า “ผมเองครับ” แม่ของเด็กรีบถามทันทีว่า “แล้วหมวกของลูกฉันอยู่ที่ไหน?” คน โรคเรื้อน 9 คนไม่ได้กลับมาขอบคุณพระเยซูที่ช่วยรักษาให้หายจากโรค มีชาว ซามาริตันคนเดียวที่หายแล้วกลับมาขอบคุณพระ แต่หญิงคนนี้นอกจากจะไม่ ขอบคุณแล้ว ยัง...ความหวงแหน ความละโมภในสมบัติสิ่งของท�ำให้เราหลงลืม คุณค่าทางใจ หลงลืมพี่น้องเพื่อนฝูง หลงลืมกระทั่งพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเราด้วย บางครั้ง ยิ่งเรามีมากเท่าไร เราก็รู้สึกกตัญญูน้อยลงเท่านั้นThe more we have, the less grateful we feel. Happy Gratefulness.

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

159


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

14 ตุลาคม

ข�ำขันวันหยุดกันหน่อยนะครับ พ่อเจ้าวัดชาวไอริชพูดกับพี่น้องในวัดว่า “ทุกคนที่ต้องการไปสวรรค์ กรุณายืนขึ้นครับ” คนทั้งวัดต่างยืนขึ้นพร้อมกัน พ่อจึงพูดต่อไปว่า “คราวนี้ใคร ก็ตามที่ต้องการไปนรก ก็กรุณายืนอยู่ต่อไป” ทุกคนรีบนั่งลงยกเว้นตาแก่เมอร์ฟี่ คนเดียวยังคงยืนอยู่ พ่อจึงถามเขาว่า “คุณเมอร์ฟี่ คุณต้องการไปนรกหรือครับ?” เมอร์ฟี่ตอบว่า “ไม่อยากไปครับคุณพ่อ ผมเพียงไปม่อยากให้พ่อไปที่นั่นตามล�ำพัง คนเดียว” เรื่องของเรื่องก็คือพ่อก�ำลังยืนอยู่ครับ แกเลยสงสารพ่อไม่อยากให้ไป นรกคนเดียว จะขอตามไปเป็นเพื่อน ว่างั้น ถ้าคิดจะไปนรก ก็ไปคนเดียวนะครับ ไม่ต้องพาใครไปเป็นเพื่อนจะดีกว่ามากนะครับ แต่ชวนกันไปสวรรค์ได้จะดีที่สุด Happy Time.

ฮ่าๆ

160 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

19 ตุลาคม

THE RED PHONE ข�ำขันนะครับ พ่อ Stephen Knapp บอกว่าชอบเล่าเรือ่ งนี้ เลยเอามาเล่าให้ฟงั ครับ สงฆ์ฮินดูที่เมือง Mathura มีโอกาสมาเยี่ยมวาติกันและได้เข้าเฝ้าโปป เป็นการส่วนตัว เขาพบว่าวังโปปสวยงามและอลังการมาก หินอ่อน เสาหิน ศิลปะ ล้วนท�ำให้เขาทึ่งอย่างยิ่ง เมื่อมาถึงห้องโปป ได้ค�ำนับและสนทนากันอย่างน่าพึง พอใจ สงฆ์คนนี้สังเกตุเห็นโทรศัพท์สีแดงที่โต๊ะท�ำงานจึงถามโปปว่านั่นโทรศัพท์ ส�ำหรับอะไร โปปตอบว่า “โอ้ นั่นเป็นสายฮอตไลน์ถึงพระเจ้า พ่อจะโทรหา พระองค์เมื่อจ�ำเป็น เมื่อพบความยากล�ำบากต่างๆ” “จะว่าอะไรมั้ยครับ หากผม ขอลองคุยกับพระเจ้า?” โปปตอบตกลง เขาหยิบโทรศัพท์และติดต่อพระเจ้าได้ เขา กล่าวทักทายพระเจ้า สวดภาวนากับพระองค์อย่างมีความสุข ห้านาทีก็วางสายไป จากนั้นก็ขอบคุณโปปที่ให้สนทนากับพระเจ้า โปปตอบว่า “ได้เสมอนะ ค่าโทรคิด เป็นเงินทั้งหมด 75 ยูโร” “ 75 ยูโรเชียวหรือครับ?” โปปตอบว่า “ใช่แล้ว มันเป็น ค่าโทรทางไกลนะจากที่นี่ไปถึงสวรรค์” (Long Distance Call) สงฆ์ฮินดูจึงจ่ายไป ตามนั้น หลายเดือนต่อมา โปปไปเยี่ยมอินเดียและไปเมือง Mathura มีโอกาสพบ กับพระสงฆ์ท่านนั้นที่บ้านของเขาด้วย โปปเข้าไปในกระท่อมเล็กๆของเขา ทั้งสอง ทักทายกันอย่างสนิทสนม โปปสังเกตุเห็นว่าเขามีโทรศัพท์สีแดงเหมือนกัน สงฆ์ ฮินดูอธิบายว่า “ผมก็มีฮอตไลน์ถึงพระเจ้าเหมือนกันครับ” โปปจึงขอลองโทรถึง พระเจ้า แน่นอนสายถึงพระเจ้า โปปสวดภาวนากับพระ สนทนาเกี่ยวกับปัญหาที่ วาติกัน ความยากล�ำบากกับบรรดาพระสงฆ์ สังฆราชทั้งหลาย เรื่องทัศนคติทาง ศาสนาของยุโรป จาก 15 นาทีจนเป็นชั่วโมงจึงวางโทรศัพท์ “ขอบคุณมาก พ่อรู้สึก ดีมากเลย มีเรื่องสนทนากับพระเจ้ามากมาย อ้อ ค่าโทรศัพท์รวมเป็นเงินเท่าไหร่?” สงฆ์ฮินดูคิดเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ 2 รูปีครับ” โปปตกใจถามว่า “ท�ำไมจึงถูกแบบ ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

161


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

19 ตุลาคม

นี้?” สงฆ์ฮินดูตอบว่า “ที่นี่กับพระเจ้า เราใช้โทรทางใกล้” (Local Call) ฮา พระเจ้าของเราอยู่ไกลมาก แต่พระเจ้าของเขาอยู่ใกล้มาก มีความแตก ต่างกันมากระหว่างวังกับกระท่อม หลายครั้งเงินเข้ามามีส่วนในศาสนา ทุกอย่าง ล้วนเป็นแต่เรื่องของเงิน ความผิดพลาดหลายอย่างก็เกิดขึ้นจากเรื่องเงินทอง บางที เงินนี่แหละที่ท�ำให้เรากับพระห่างจากกัน เราจะโทรหาพระเจ้าทางใกล้หรือทาง ไกลดีครับ

ฮ่าๆ

162 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

19 ตุลาคม

Generosity of heart! พ่อองค์หนึง่ เทศน์ในมิสซาเรือ่ งพระเยซูเจ้าทรงทวีขนมปัง 5 ก้อนกับปลา 2 ตัว ว่า “นีค่ อื อัศจรรย์แห่งความใจกว้าง ความใจกว้างของเด็กทีเ่ ต็มใจแบ่งปันสิง่ ทีม่ ี และความใจกว้างของพระเยซูเจ้าทีเ่ อาใจใส่ดแู ลฝูงแกะ” หลังมิสซาขณะทีอ่ ยูท่ หี่ อ้ ง เตรียมพิธขี องพระสงฆ์หญิงชราคนหนึง่ เดินเข้ามาหาถามว่า “มีใครเห็นถุงทีฉ่ นั ลืมทิง้ ไว้ในวัดบ้างหรือเปล่าค่ะ?” เจ้าหน้าทีห่ อ้ งเตรียมพิธตี อบว่า “ไม่มคี รับ ไม่มใี ครพบ ถุงนัน่ เลยครับ” พ่อคิดว่าหญิงชราจะบ่นว่า “คนประเภทไหนกันนะทีม่ าโขมยของใน วัด ในบ้านของพระเจ้าแบบนีไ้ ด้” แต่หญิงชราไม่ได้พดู เช่นนัน้ เธอไม่มรี อ่ งรอยของ ความโกรธหรือความเสียดายเลย เธอพูดอย่างซือ่ ๆว่า “บางทีคนทีเ่ ขาเอาไปอาจจะ มีความจ�ำเป็นมากกว่าฉันก็ได้” พ่อจึงถามเธอว่า “ในถุงมีอะไรอยูบ่ า้ ง?” เธอตอบว่า “ขนมปัง 2 ก้อน” ค�ำตอบของเธอท�ำให้พอ่ รูส้ กึ ยินดี แต่กท็ ำ� ให้พอ่ รูส้ กึ ช�ำ้ ใจด้วยเพราะ ตัวพ่อเองก็ไม่ได้ใจกว้างเท่าทีค่ วรต่อเธอในสถานการณ์แบบนี้ พ่อยังรูส้ กึ ชอกช�ำ้ ด้วย เหตุผลอีกข้อหนึง่ ก็คอื ท่านก�ำลังเทศน์สอนถึงความใจกว้าง แต่หญิงชราผูน้ กี้ ำ� ลัง ปฏิบตั คิ วามใจกว้าง หัวใจของหญิงชราช่างกว้างขวางจริงๆ ( He was preaching generosity; this woman was practicing it. Hers was generosity of the heart.) Flor McCarthy, in ‘New Sunday & Holy Day Liturgies’ ใจกว้างต่อกันมากๆนะครับ เดี๋ยวนี้เราใจแคบลงๆ เราอดทนต่อกันน้อยลง เราเอาแต่ใจกันมาก ไม่ปรานีปรานอมแม้ในเรื่องเล็กน้อย เราทะเลาะ ต่อว่ากันตาม ท้องถนนอย่างไม่ลดราวาศอก เราท�ำร้ายกันง่ายแม้จากเหตุผลเพียงเล็กน้อย หัวใจ เราต้องการ ความใจกว้างกว่านี้ครับ Happy Generosity.

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

163


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

23 ตุลาคม

There are actually seven forms of intelligence: Howard Gardner นักจิตวิทยาสอนว่าสติปัญญาของมนุษย์นั้นมี 7 รูปแบบ บางคนมีพรสวรรค์ด้านภาษา คนเหล่านี้ก็เป็นนักเขียน นักประพันธ์ บางคนมีความฉลาดด้านหลักเหตุผลและการค�ำนวน พวกเขาก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ และนักบัญชี บางคนมีพรสวรรค์ด้านศิลปะและการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม บางคนมีพรสวรรค์ทางสรีระ พวกเขาเป็นนักกีฬาและนักเต้นร�ำ บางคนมีพรสวรรค์ในการเข้าถึผคู้ น พวกเขาเป็น นักขายสินค้า ทีป่ รึกษา ครูบาอาจารย์ บางคนมีพรสวรรค์ในการมองดูสิ่งต่างๆอย่างลึกซึ้ง พวกเขาเป็นนักปรัชญา เป็น ปรมาจารย์ บางคนก็มีพรสวรรค์ด้านดนตรี การ์ดเนอร์เชื่อว่า เราทุกคนมีพรสวรคค์แตกต่างกัน คนมากมายฉลาดกว่าที่เราคิด เราทุกคนต่างมีสิ่งที่เราจ�ำเป็นต้องมีเพื่อไปต่อในชีวิต พระเจ้าสร้างเรามาแตกต่าง กันก็เพื่อให้งานที่แตกต่างกันในโลกนี้ส�ำเร็จลงได้ พระเจ้าให้สิ่งที่เราจ�ำเป็นต้องมี แล้ว เรื่องน่าเศร้าก็คือ เรามักจะไม่พอใจในพรสวรรค์ที่เรามี (God has given us all we need! The sad thing is that we do not appreciate the gifts we have.) คนเราไม่สามารถเก่งไปซะทุกเรื่องได้ รู้ไปซะทุกอย่างได้ บางคนก็ไม่พอใจ ในพรสวรรค์ของตนเอง บางคนก็พอใจเสียจนมากล้นไป คนพวกนี้จะพูด พูด พูด และไม่ฟังใครเลยครับ พอเพียงในความเพียงพอ สุขที่สุดแล้ว นี่คือสุดยอดของสติ และปัญญามนุษย์แล้ว สรุปก็คือน่ารูปแบบของสติปัญญา 8 รูปแบบครับคือ บาง คนมีพรสวรรค์ในความพอเพียง Happy Sufficiency.

ถูกใจ

164 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

23 ตุลาคม

ข�ำขันนะครับ Gunar เป็นนักโม้ ขี้คุย เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่บ้าน เขาโม้ว่า “ไม่ต้องไป กลัวสิงโต ข้าเคยไล่สิงโตเพียงแค่บอกให้มันไป มันก็ไป” วันหนึ่งสิงโตหิวโซตัวหนึ่ง ก็เข้ามาในหมู่บ้าน ทุกคนจ�ำค�ำพูดโอ้อวดของเขาได้จึงเรียกเขาให้ไปไล่สิงโต กูนาร์ กลัวมากแต่ก็รวบรวมความกล้าไปกับชาวบ้านเพื่อไล่สิงโต ตอนนี้เขากับสิงโตเผชิญ หน้ากัน ห่างกันราวๆ 100 ฟุต เขาค่อยๆ ก้าวไปหาสิงโตแล้วตะคอกใส่สิงโตว่า “ไอ้ สิงโตโง่เง่า แกไม่รู้หรือว่านี่คือสังคมมนุษย์ แกไม่มีอนุญาตให้เข้ามาที่นี่ ไปให้พ้น เดี๋ยวนี้” สิงโตก็เฉย เขาก้าวเข้าไปใกล้อีกนิดแล้วก็ไล่มันอีกว่า “ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้” คนทั้งหมู่บ้านต่างจ้องดูการเผชิญหน้ากันครั้งนี้ กูนาร์ขยับใกล้เข้าไปอีก ตอนนั้น สิงโตก็ค�ำรามขึ้นกึกก้อง “งาว งาว” กูนาร์หันหลังร้องตะโกนบอกชาวบ้านว่า “วิ่ง วิ่ง สุดชีวิต สิงโตตัวนี้หูหนวก” ฮา คิดว่าจะแน่ คนชอบโม้โอ้อวด บางทีก็เจอแบบนี้ ได้ครับ Happy Deaf Lion.

ฮ่าๆ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

165


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

23 ตุลาคม

ข�ำขันเรื่องนี้ชื่อว่า “ลาก่อน” อันนาเป็นสาวร่างอ้วน ขณะที่นั่งในฟูดคอร์ตในห้างสรรพสินค้าก็เขียน ไดอารี่ของตน เขียนว่า “ไดอารี่ที่รัก การ์โลนัดฉันไปเที่ยวด้วยกันสองคน เขาเป็น หนุ่มที่น่ารักมาก ฉันก็เป็นคนสวย แต่ฉันอ้วนเพราะกินมากเกินไป เอาละ ลาก่อน ช๊อคโคแล๊ต ลาก่อนสปาเก็ตตี้ ลาก่อนฮอตดอก” เธอหยุดเขียนแล้วหันหลังไปก็พบ กับร้านฮอตดอก เห็นฮอตดอกพร้อมอยู่ในจาน เธอหันกลับมาเขียนต่อว่า “อืมๆๆ ลาก่อนการ์โล” แล้วเธอก็กินฮอตดอก ฮา สุดแต่ใจจะเลือก สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ครับแบบนี้ อยู่ท่ามกลางการประจญล่อลวงแบบนี้ก็ยากที่จะเลือกการ์โลนะครับ ลาก่อนอันนา ฮา

ฮ่าๆ

166 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

26 ตุลาคม

พระคุณเจ้า Paul Emile Leger อัครสังฆราชแห่งมอนทรีอลั คานาดา ระหว่าง ปี 1950 - 1968 ได้รบั การแต่งตัง้ เป็นคาร์ดนิ ลั ในปี 1953 โดยพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 ท่านเป็นคนทีม่ อี ำ� นาจมากทีส่ ดุ คนหนึง่ ในพระศาสนจักรทีเดียว แต่กเ็ ป็นคนที่ สุภาพถ่อมตนมากทีส่ ดุ คนหนึง่ ด้วย วันที่ 20 เมษายน 1968 ท่านขอลาออกจากหน้าที่ ท่านทิง้ เครือ่ งแต่งกายสีแดงของท่าน ไม้เท้า หมวกสูงและปัลลิอมุ ของท่านไว้ในห้อง ท�ำงานทัง้ หมด จากนัน้ ก็หายตัวไป หลายปีตอ่ มามีคนไปพบท่านมีชวี ติ อยูท่ า่ มกลาง คนโรคเรื้อนและคนพิการในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในอาฟริกา นักข่าวคานาดา ถามท่านว่า “ท�ำไมครับพระคุณเจ้า?” ท่านตอบว่า “มันเป็นทีส่ ะดุดอย่างยิง่ ของ ศตวรรษเรา ผูค้ น 600 ล้านคนก�ำลังกินอยูแ่ ละใช้ชวี ติ อย่างหรูหราฟุม่ เฟือย ในขณะที่ ผูค้ นอีก 3 พันล้านคนก�ำลังอดตาย ทุกปีมเี ด็กๆหลายล้านคนก�ำลังจะตายเพราะความ หิว พ่อแก่เกินไปแล้วทีจ่ ะเปลีย่ นแปลงสิง่ เหล่านี้ สิง่ เดียวทีส่ ามารถท�ำได้กค็ อื อยูก่ บั พวกเขา พ่อเพียงต้องการอยูท่ า่ มกลางพวกเขาเท่านัน้ ช่วยบอกกับชาวคานาดาด้วย ว่าพวกคุณพบกับพระสงฆ์องค์หนึง่ พ่อเป็นพระสงฆ์องค์หนึง่ ทีม่ คี วามสุขทีแ่ ก่แล้ว และยังเป็นพระสงฆ์และมีชวี ติ อยูท่ า่ มกลางผูม้ คี วามทุกข์ยากเหล่านัน้ พ่อมีความสุข ทีอ่ ยูท่ นี่ แี่ ละมีพวกเขาอยูใ่ นหัวใจเสมอ” (http://www.rockies.net/~spirit/sermons/a-or09-2-keeping.php Barry Robinson,) ไม่งา่ ยเลยทีเ่ ราจะพบผูม้ ตี ำ� แหน่ งสูงๆ จะสุภาพถ่อมตนลงได้ถงึ ขนาดนีน้ ะครับ พบแต่คนทีต่ อ้ งการเกียรติ การยกย่อง ชมเชย จนกระทัง่ ต่อมาเราได้พระคาร์ดนิ ลั องค์หนึง่ ทีม่ ชี วี ติ อยูก่ บั คนยากไร้ คนป่วย คนทีถ่ กู ทอดทิง้ จนท่านถึงกับลงไปจูบเท้าผูป้ ว่ ยโรคเอดส์ คนคุก ใช้ชวี ติ อย่างสมถะ ไม่ถอื ยศ ถือเกียรติตามต�ำอแหน่งทีท่ า่ นมี ทีส่ ดุ เราก็มพี ระสันตะปาปาแห่งคนยากจน แห่งคนเจ็บป่วย คนพิการ นัน่ คือคือพระสันตะปาปา ฟรังซิสครับ พระองค์ไม่ได้กำ� ลัง แค่สอนพระวรสาร แต่พระองค์มชี วี ติ ตามพระวรสาร He is not preaching, he is practicing. Viva Papa. ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

167


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

26 ตุลาคม

Humility ความสุภาพถ่อมตน บนเที่ยวบินจากโจฮันเนสบูร์ก หญิงผิวขาววัยกลางคนพบว่าเธอนั่งอยู่ติด กับชายอัฟริกันผิวด�ำคนหนึ่ง เธอเรียกโฮสเตสมาบ่นว่า “เธอไม่เห็นรึว่าเธอจัดให้ฉัน นั่งติดอยู่กับไอ้มืดคนหนึ่ง ฉันนั่งติดอยู่กับคนที่น่ารังเกียจแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ หาที่ ใหม่ให้ฉัน” “ใจเย็นๆนะค่ะคุณผู้หญิง เที่ยวบินนี้เต็มมาก ดิฉันขอไปตรวจดูก่อนนะ ค่ะว่ายังพอมีที่ว่างในชั้นธุรกิจหรือชั้นที่ 1 บ้างรึเปล่า” หญิงคนนั้นส่งสายตาเยาะ หยิ่งๆไปยังชายผิวด�ำพร้อมทั้งมองไปยังผู้โดยสารรอบๆเธอด้วย สองสามนาทีต่อมา โฮสเตสกลับมาบอกว่า “ดิฉันมีข่าวดีค่ะ โชคไม่ดีเลยที่ชั้นประหยัดเต็มตามที่คาดไว้ ค่ะ ดิฉันพูดกับหัวหน้าเที่ยวบินนี้แล้ว ชั้นธุรกิจก็เต็มเช่นกัน แต่ชั้นที่หนึ่งยังมีว่างอยู่ 1 ที่นั่งค่ะ” หญิงนั้นส่งสายตาไปยังผู้โดยสารทั้งหลายด้วยความสะใจ โฮสเตสพูด ต่อไปว่า “ครั้งนี้เป็นการอัพเกรดผู้โดยสารที่พิเศษมากจริงๆค่ะ ดิฉันต้องขออนุญาต จากกัปตันเครื่องบิน ในสถานการณ์เช่นนี้กัปตันบอกว่า “นี่เป็นการท�ำลายความ รู้สึกที่รุนแรงมากที่บังคับให้คนใดต้องนั่งติดกับคนที่น่ารังเกียจเช่นนี้” โฮสเตสหัน ไปพูดกับชายอัฟริกันที่นั่งติดกับหญิงนั้นว่า “ท่านคะ กรุณาเก็บข้างของของท่าน นะค่ะ ดิฉันมีที่นั่งชั้นที่หนึ่งเตรียมไว้ให้ท่านเรียบร้อยรอท่านอยู่ค่ะ” พอได้ยินเช่น นั้นผู้โดยสารทั้งหลายต่างยืนขึ้นปรบมือให้ชายอัฟริกันในขณะที่เขาเดินไปยังชั้นที่ หนึ่งของเที่ยวบิน (Unfortunately I do not know the source of this story by Fr. Tommy Lane) เรื่องนี้น่าจะตั้งชื่อว่า ความจองหองพองขนมากกว่านะครับ แต่สอนให้เรารู้จักสุภาพถ่อมตน เคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ต่อหน้าพระ เราทุกคนเสมอกัน อย่าเบียดเบียนกันเอยนะครับ Happy Humility

ถูกใจ

168 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

27 ตุลาคม

สวดภาวนาด้วยความสุภาพ “ความจองหองคือโรคชนิดหนึ่งซึ่งมนุษย์รู้จักว่ามันท�ำให้ทุกคนล้วนเป็นคนป่วย ยกเว้นคนที่มีความจองหองเท่านั้น” Uncle Bud Robinson “ความจองหองออกมาจากความรักตัวตนและท�ำให้ตัณหาที่ชั่วร้ายทั้งหลายเจริญ เติบโตขึ้น” Alexander Whyte “ความจองหองคือผืนดินที่บาปอื่นๆทั้งหลายเติบโตขึ้นมา” William Barkley “ไม่มีใครว่างเปล่ามากไปกว่าผู้ที่เต็มไปด้วยตัวเอง”Benjamin Whichcote “คนที่บูชาตัวเองก็คือคนที่มีแต่ “ฉัน” อยู่ในบทสนทนาตลอดเวลา” Milton Berle (From a sermon by Scott Carroll, The Disease of “Me” 5/9/2011) สรุปคือ เมื่อเราจองหอง เราจะเห็นคนอื่นๆเป็นคนป่วยไปหมด ยกเว้นตัวเอง เมื่อเราจองหอง เราจะท�ำบาปมากขึ้นและง่ายขึ้นและคิดว่ามันไม่บาป เมื่อเราจองหอง เราจะเป็น คนขาดเพื่อน ชีวิตว่างเปล่า และเมื่อเราจองหอง เราจะพูดถึงตัวเองตลอดเวลา อวด ตัวเอง อ้างตัวเองตลอดเวลา เราพบคนแบบนี้จากคนในทุกฐานะ “ความจองหอง ท�ำให้เทวดาเป็นปีศาจ ความสุภาพท�ำให้คนบาปเป็นนักบุญ” นักบุญเอากุสติน ครับ สุขสันต์วันอาทิตย์ครับ

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

169


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

30 ตุลาคม 2019

Henri Nouwen นักเทววิทยา นักเทศน์และพระสงฆ์นักเขียนพูดกี่ยวกับคริสตชน ในฐานะ “wounded healers” ว่า ความเมตตากรุณาไม่ใช่ความสงสาร ความสงสารท�ำให้เรายืนอยู่ห่างๆ มันท�ำให้คน รับรู้สึกด้อยค่า ความเมตตากรุณาไม่ใช่ความเห็นอกเห็นใจ ความเห็นอกเห็นใจมีไว้ส�ำหรับผู้ที่อยู่ เหนือมีต่อผู้ต�่ำต้อย ความเมตตากรุณาไม่ใช่การท�ำบุญ การท�ำบุญมีไว้ส�ำหรับคนรวยที่ต้องการคง สถานะของตนเหนือคนยากจน ความเมตตากรุณาคือการเกิดของพระเจ้า มันหมายถึงการเข้าไปในปัญหาของผู้อื่น มันหมายถึงการรับภาระของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง มันหมายถึงการเข้าไปยืน อยู่ในรองเท้าของผู้อื่น มันเป็นเรื่องตรงข้ามกับ “การท�ำตนเป็นมืออาชีพ” มัน เป็นหนทางแบบมนุษย์ที่จะเกี่ยวข้องกับผู้คน เหมือนกับค�ำพูดที่ว่า “ขนมปังที่ ปราศจากความรัก น�ำสงครามแทนที่จะน�ำสันติภาพ” การท�ำตนเป็นมืออาชีพโดย ปราศจากความเมตตากรุณาจะเปลี่ยนจากการให้อภัยมาเป็นแค่การเรียกร้องความ สนใจเท่านั้น (Ron Lavin, Alone/Together, CSS Publishing Co., Inc.) ความ เมตตากรุณาจึงมิใช่แค่ ความสงสาร มิใช่แค่ ความเห็นอกเห็นใจ มิใช่แค่การท�ำบุญ เป็นมากกว่าเรือ่ งเหล่านีม้ ากเพราะเป็นเรือ่ งของพระกับเราทุกคน (Compassionate Love) Happy Day.

ถูกใจ

170 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

11 พฤศจิกายน เวลา 07:54 น.

Fisherman ชาวประมง มีเหตุผลพื้นฐานอยู่ 4 ประการว่า ท�ำไมคนเราจึงจับปลาไม่ได้ เขาใช้เหยี่อผิด (wrong bait) เขาไปตกในทะเลสาปผิด (wrong lake) คือพวกเขาไม่รู้ว่าปลาอยู่ที่ไหน เขาใช้เหยื่อถูกต้อง และพวกเขาไปตกปลาในทะเลสาปที่ถูกต้องด้วย แต่พวกเขา ไม่รู้จักวิธีตกปลา พวกเขาใช้เหยื่อที่ถูกต้อง ไปที่ทะเลสาปที่ถูกต้อง พวกเขารู้วิธีตกปลาที่ถูกต้อง แต่ พวกเขาเพียงไม่ออกไปตกปลา (Rev. Maxie Dunnam) ปัญหาของเรามนุษย์จึงไม่ได้อยู่ที่ความรู้ เพราะความรู้แสวงหาได้ แต่อยู่แค่ใจเรา อยากจะท�ำหรือไม่เท่านั้นครับ Happy Fishing).

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

171


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

19 พฤศจิกายน เวลา 07:50 น.

10 ข้อเพื่อการมีชีวิตที่มีความสุขขึ้น (unknown source) จงให้บางสิ่งบางอย่าง (ไม่มีเชือกติดอยู่ด้วย) จงใจกว้างสักอย่างหนึ่ง (แล้วลืมมันไป) จงใช้เวลาสักสองสามนาทีกับคนชรา (พวกท่านมีประสพการณ์ที่หาค่ามิได้เลย) จงมองไปในดวงตาของเด็กทารก (นั่นแหละปาฏิหารย์) จงหัวเราะบ่อยๆ (มันเป็นน�้ำมันหล่อลื่นชีวิตเรา) จงขอบคุณเสมอๆ (พันครั้งต่อวันก็ยังไม่พียงพอ) จงสวดภาวนา (มิเช่นนั้นท่านจะหลงทางแน่นอน) จงท�ำงาน (ด้วยความขยันและกระฉับกระเฉง) จงวางแผนชีวิตที่จะมีชีวิตตลอดไป (เพราะคุณจะมีชีวิตตลอดไป) จงมีชีวิตอยู่ราวกับว่าคุณจะตายวันพรุ่งนี้แล้ว (เพราะคุณจะตายในวันพรุ่งนี้แน่ๆ สักวันหนึ่ง) Happier Living. Happy Life.

ถูกใจ

172 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

30 พฤศจิกายน เวลา 09:25 น.

หลังจากโป๊ปให้โอวาทแล้ว พระองค์เสด็จไปอวยพรผู้ป่วย 40 ท่าน เนื่องจากพระองค์ต้องการความเป็นส่วนพระองค์กับผู้ป่วย เราจึงไม่มีภาพถ่าย ใดๆเลย แต่เรามีภาพพระคาร์ดินัล มีชัย ซึ่งตามเสด็จมาและเข้ามาสนทนากับผู้ ป่วย เป็นก�ำลังใจให้แก่ผู้ป่วยอย่างมาก วันที่ 20 ธันวาคมนี้เป็นวันครบรอบ 60 ปี แห่งศักดิ์สงฆ์ของพระคุณเจ้า เราจะเฉลิมฉลองท่านในฐานะ “นายชุมพาบาลที่ดี” Pastor Bonus ครับ รอฟังนัดหมายกันนะครับ

ถูกใจ

แสดงความคิดเห็น

แชร์

My Facebook Stories 8

173


คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์

4 ธันวาคม 2019

ข�ำขันกันหน่อยครับ พ่อองค์หนึ่งไปฟังแก้บาปนักเรียนทุกวันเสาร์ ครั้งนี้มีเด็ก 7 คนเข้าแถว พร้อมมาแก้บาป คนแรกมาถึงพูดว่า “คุณพ่อครับ ผมขว้างถั่วลงไปในบ่อน�้ำ” พ่อ ยกบาปให้แล้วเขาก็ออกไป คนที่ 2 มาถึงพูดว่า “คุณพ่อครับ อาทิตย์ที่ผ่านมา ผม โยนถั่วลงไปในบ่อน�่ำใกล้ๆ สนามเล่นครับ” พ่อก็ยกบาปให้ เด็กคนที่สามและสี่ก็ พูดคล้ายคลึงกันหมด คนที่หกก็เช่นกัน ที่สุดเด็กคนสุดท้ายก็เข้ามา ตอนนั้นพ่อรู้สึก เบื่อมากๆ และก่อนที่เขาจะพูดอะไรพ่อก็พูดกับเด็กคนที่ 7 ว่า “เธอก็โยนถั่วลงไป ในบ่อน�้ำใกล้สนามเล่นเหมือนกันใช่มั้ย?” เด็กน้อยที่น่าสงสารร้องไห้น�้ำตานองหน้า ตอบว่า “คุณพ่อครับ เด็กพวกนั้นเรียกผมว่า “ถั่ว” ( Peanut )ครับ” ฮาจริง ฮา จัง เทศกาลรับเสด็จแล้วก็อย่าลืมเป็นทุกข์เสียใจในบาปแล้วก็ไปแก้บาปกันนะครับ เรื่องของเด็กแค่นี้ เด็กยังเสียใจกันเลย เราผู้ใหญ่มีเรื่องใหญ่กว่านี้ให้เป็นทุกข์เสียใจ แน่นอนครับ Happy Advent.

ฮ่าๆ

174 My Facebook Stories 8

แสดงความคิดเห็น

แชร์



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.