1
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
1
ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
2
openbooks ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
3
พิมพ์ครัง้ แรก มีนาคม 2552 เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ 978-974-8233-63-5 ราคา 195 บาท เขียน ภิญโญ ไตรสุรยิ ธรรมา บรรณาธิการ จณัญญา เตรียมอนุรกั ษ์ ภาพปก สุมาลี เอกชนนิยม ออกแบบปกและรูปเล่ม นุสรา ประกายพิสทุ ธิ์ สำ�นักพิมพ์ openbooks 286 ถนนพิชยั แขวงถนนนครไชยศรี ดุสติ กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ 02 669 5145 โทรสาร 02 669 5146 www.onopen.com email: pinyopen@yahoo.com จัดจำ�หน่าย บริษทั เคล็ดไทย จำ�กัด 117-119 ถนนเฟือ่ งนคร ตรงข้ามวัดราชบพิธ กรุงเทพ 10200 โทรศัพท์ 02 225 9536-40 โทรสาร 02 222 5188 ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
4
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
5
สารบัญ
คำ�นิยม คำ�นำ� 01 02 03 04 05 06 07 08 09 10
ทางลงของโทนี่ วิถีของบราวน์ บนบ่าของอาเบะ ความท้าทายวัยชราของยาซูโอะ เหมา เติ้ง เจียง หู สู่จีนยุคใหม่ แมลงวันในจานปู ของหู จิ่น เทา มรดกบาปของคุณบุช โลกหลังอเมริกา ประธานาธิบดีหลังบุช ก่อนถึงประธานาธิบดีมีซาร์ วลาดิมีร์กำ�สรวล ปูตินนอมินีหรือดิมิทรีตัวจริง
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
6 8 16 32 48 62 76 90 104 120 140 156
6
11 12 13 14 15 16
17
นิโคลาส์ ซาร์โกซี เมื่อไฟรักเผาเรือน 168 ลี เมียง บัค ผู้นำ� ประชาชน และคนขายชาติ 184 ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี คนทุจริตหรือความผิดของกฎหมาย 198 เควิน รัดด์ ปฐมบทแห่งการเมืองใหม่ในออสเตรเลีย 210 บารัค โอบามา การปรากฏตัวของความกล้าและความหวัง 226 จากลิงคอล์น ลูเธอร์ คิง ถึงโอบามา 242 เลือดเนื้อ อหิงสา กว่าจะได้มา การเมืองใหม่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ 258
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
7
คํานิยม
ในบรรดาหัวข้อทั้งหลายที่นักเขียนเลือกหยิบมาเล่าให้คนอ่าน ผู้เขียนคิด ว่าการเมืองเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ “โหด” ที่สุด เพราะการเมืองมิได้ลอยอยู่ใน สุญญากาศ หากขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมมากมายที่ส่งผลกระทบซึ่งกันและ กัน และปัจจัยเหล่านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของบริบทต่างๆ ที่ย่อมแปรเปลี่ยนไป เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะบริบททางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สภาพสังคม และเศรษฐกิจ นั ก เขี ย นที่ ป รารถนาจะให้ ค นอ่ า นเข้ า ใจการเมื อ ง โดยเฉพาะ การเมืองต่างประเทศ จึงต้องทํามากกว่าถ่ายทอดและสรุปเหตุการณ์ต่างๆ หากต้องอธิบายปัจจัยและบริบทแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง และในเมื่อการเมือง ย่อมเดินไม่ได้ถ้าไม่มีนักการเมือง นักเขียนก็จะต้องอธิบายปัจจัยแวดล้อม ในระดับที่เล็กลงมาด้วย คือจากระดับสังคมย่อลงสู่ประวัติ นิสัยใจคอ ตลอด จนข้อบกพร่องแบบมนุษย์ปุถุชนของนักการเมืองแต่ละคน การเขียนเรื่องการเมืองให้คนเข้าใจจึงต้องอาศัยความสามารถ อย่างสูงในการรวบรวม วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลมหาศาล ผนวกกับ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
8
ความใจกว้างและเอื้ออาทร ต่อทั้งนักการเมืองผู้เป็นหัวข้อของบทความ และต่อคนอ่านผู้อาจไม่คุ้นชินกับบริบทของต่างประเทศ คุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมา หรือที่ผู้เขียนเรียกด้วยความภาคภูมิใจ ว่า พี่โญ เป็นนักเขียนที่เขียนเรื่องการเมืองและนักการเมืองที่เก่งที่สุด คนหนึ่ง ในบรรดานักเขียนไทยทั้งหมดที่ผู้เขียนรู้จัก พี่โญมีความสามารถอย่างน่าอัศจรรย์ในการมองและเชื่อมร้อย บริบทต่างๆ ใน “ภาพใหญ่” ของสังคม เข้ากับ “ภาพเล็ก” ในระดับ “ความ เป็นมนุษย์” ของนักการเมืองแต่ละคน ตลอดจนอธิบายปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ความเป็นมนุษย์กับอํานาจ อีกทั้งยังทําให้เรื่องที่สลับซับซ้อนอย่างการเมือง เป็นเรื่องเข้าใจง่ายและอ่านสนุก ด้วยลีลาและชั้นเชิงทางภาษาที่หาตัวจับ ยาก ในเมื่อบริบทต่างๆ ที่แวดล้อมการเมืองย่อมแปรเปลี่ยนไปเมื่อยุค สมัยเปลี่ยนแปลง การลงแรงจารึกบริบทเหล่านี้ไว้ในหน้ากระดาษ จึงทําให้ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่ เป็นอิสระจากพันธนาการ ของเวลา คือหยิบมาอ่านเมื่อใดก็เข้าใจเมื่อนั้น ในทางกลั บ กั น การฉายภาพให้ เ ห็ น “ความเป็ น มนุ ษ ย์ ” ของ นักการเมือง ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์ทางการเมืองไม่น้อยไปกว่าบริบทระดับ สังคม ก็ช่วยให้เราสําเหนียกถึงความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของอํานาจ และแยกแยะได้อย่างเที่ยงตรงมากขึ้นว่า ใครสมควรเป็น ฅ.คน ข้างฝา ที่ควรค่าแก่การเคารพทุกยุคสมัย สฤณี อาชวานันทกุล 18 กุมภาพันธ์ 2552
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
9
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
10
คํานํา
ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ การเมืองโลกจัดได้ว่ามีความผันผวนสูงยิ่ง ส่งผลให้ผู้นําประเทศจํานวนไม่น้อยต้องร่วงหล่นจากอํานาจก่อนเวลา อันควร ส่วนผู้ที่ยังดํารงตําแหน่งอยู่ตามวาระ มักจะมีคะแนนนิยม ตกต่ำ�เป็นประวัติการณ์ ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ นับ จากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ความผันผวนทางการเมืองเหล่านี้ เป็นผลสืบเนื่องโดยตรง จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี วิถีชีวิต ตลอดจนทัศนคติที่คนมี ต่อชีวิตและต่อโลก เทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการสื่อสาร ทําให้ผู้คน สามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีเพื่อความ สะดวกสบายในชีวิตประจําวันทั้งหลาย ผลของมันได้กลายเป็นวิถีชีวิต ใหม่แพร่ขยายไปทั่วโลก ก่อให้เกิดธุรกิจและบริการจํานวนมาก จาก หุบเขาซิลิคอนไปจนจรดนครมุมไบ จนกระบวนการสร้างความมั่งคั่ง ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
11
ใหม่ได้ย้ายจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตมาสู่ภาคเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ยิ่งมีตลาดเงินและตลาดทุนช่วยหนุนส่ง เศรษฐี ใหม่จึงปักธงลงฐานอย่างรวดเร็ว จากเขตผู่ตงในเซี่ยงไฮ้ไปจนถึงเมือง ใหญ่ในไอร์แลนด์ ทั้งหมดนี้ ก่อให้เกิดชนชั้นกลางและผู้ประกอบการที่ผุดขึ้น ราวดอกเห็ดในฤดูฝน ผลักดันให้โลกเปลี่ยนโฉมอย่างรวดเร็ว ทั้งทาง ด้านทัศนคติต่อชีวิตและวิธีคิดในการสร้างความมั่งคั่ง ผู้คนจํานวนไม่ น้อยหันมาสร้างกําไรจากธุรกรรมทางการเงินแทนการผลิต เงินทุนที่ เคยถูกทําให้เคลื่อนไหวอย่างจํากัด กลับไหลบ่าทะลักข้ามพรมแดน หลังประเทศส่วนใหญ่เปิดเสรี ส่งผลให้วิถีการดําเนินธุรกิจต้องเปลี่ยน ปรับเพื่อตอบรับกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แม้ในทางกายภาพผู้คนจะมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ในทางจิตใจผู้คน กลับต้องเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มมากจากความไม่แน่นอนของปัจจัยรอบ ด้านและความผันผวนของอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหายนะของ การเก็งกําไรในภาคการเงินจากความละโมบเริ่มเผยโฉมให้เห็น ยิ่งหวาดวิตกผู้คนยิ่งแก่งแย่งเพื่อความอยู่รอด ยิ่งสุ่มเสี่ยงยิ่ง ต้องแสวงหาความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ทรัพยากรซึ่งมีอยู่อย่างจํากัด ถูกแย่งชิง ทั้งด้วยเหตุผลของความมั่งคั่งและในนามของความมั่นคง จากน้ำ�มันดิบในตะวันออกกลางสู่ฝูงปลากลางทะเลลึก แต่ละประเทศ ฉกชิงทรัพยากรเรื่อยไปจนถึงการใช้ชั้นบรรยากาศรองรับก๊าซเรือน กระจกจากอุตสาหกรรม ยิ่ ง โลกเคลื่ อ นตั ว ไปข้ า งหน้ า ความขั ด แย้ ง ก็ ยิ่ ง ปะทุ ขึ้ น ใน ทุกภาคส่วนในอัตราที่เร็วขึ้น จนนํามาสู่การปะทะกันเองทั้งของกลุ่ม ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
12
ผลประโยชน์ในประเทศ รวมทั้งก่อให้เกิดสงครามระหว่างประเทศเป็น ระยะจากอิรักไปจนถึงอัฟกานิสถาน ในอดีตที่ผ่านมา ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคม ส่งผลให้การเมืองต้องเปลี่ยนตามโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง ชั่ว แต่ว่า การเมืองซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งอํานาจ มักจะเปลี่ยนแปลงไม่ทัน สั ง คม บ่ อ ยครั้ ง สั ง คมจึ ง จํ า ต้ อ งสร้ า งแรงกดดั น เพื่ อ ให้ เ กิ ด ความ เปลี่ยนแปลงทางการเมือง และวิธีการที่ใช้กันมาโดยตลอดก็คือ การ เปลี่ยนตัวผู้นํา หากผู้นําไม่สามารถนําเสนอนโยบายใหม่เพื่อตอบสนองต่อ ความเปลี่ยนไปของสังคมได้ สังคมส่วนใหญ่มักจะเลือกเปลี่ยนตัวผู้นํา ในทันทีที่มีโอกาส ไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะมาจากภายในพรรค ผ่านการเลือกตั้ง กระทั่งจากการรัฐประหาร และการลุกฮือขึ้นของ ประชาชน สุดแล้วแต่เงื่อนไขและปัจจัยในแต่ละสังคมจะกําหนด สังคมที่ก้าวหน้ามักเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงด้วยสันติวิธี เช่น เดียวกับผู้นําที่ชาญฉลาด มักเลือกลงจากอํานาจในจังหวะที่เหมาะสม แต่ก็ใช่ว่าทุกสังคมจะเป็นเช่นนั้น ด้วยผู้นําจํานวนไม่น้อยมักยึดติดกับ อํานาจ และคิดว่าอํานาจเป็นสิ่งจิรัง เมื่อได้อํานาจมาแล้วจึงพยายาม เหนี่ยวรั้งไว้กับตัวเองให้นานที่สุด แม้ว่าปัจจัยต่างๆ จะบ่งชี้ว่า ถึงเวลา ต้องวางมือจากอํานาจแล้ว แต่ผู้นําเหล่านั้นกลับไม่เคยสดับฟัง สังคม ที่มีผู้นําประเภทหลัง จึงต้องรวมพลังเพื่อกดดันให้ผู้นําพ้นจากอํานาจ ทั้งด้วยวิธีการอันละม่อมไปจนถึงวิธีการอันรุนแรง
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
13
การเมืองจึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่เรียนได้ไม่รู้จบ หากผู้ที่ พบความสําเร็จจนก้าวเข้าสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่สถิตของรัฐบุรุษ กลับมีน้อยมาก นักการเมืองส่วนใหญ่แม้จะเอาชนะศัตรูทางการเมือง ได้ทั่วทั้งแผ่นดิน หากมักต้องมาสิ้นชื่อ ตกม้าตายเอาง่ายๆ ด้วยการ พ่ายสงครามในใจเพียงครั้งเดียว การได้มาซึ่งอํานาจที่ว่ายาก จึงไม่ยากเท่ากับการรักษาไว้ซึ่ง อํ า นาจ การรั ก ษาอํ า นาจไว้ ที่ ว่ า ยาก จึ ง ไม่ ย ากเท่ า กั บ การลงจาก อํานาจเมื่อถึงเวลา นักการเมืองที่ชาญฉลาดจึงต้องเข้าใจศาสตร์และ ศิ ล ป์ ข องทั้ ง จั ง หวะและเวลา รวมทั้ ง ต้ อ งเปี่ ย มด้ ว ยปณิ ธ านที่ จ ะนํ า ความเปลี่ยนแปลงใหม่มาสู่ประเทศชาติในเวลาที่ประชาชนต้องการ และนี่คือก้าวย่างสู่เส้นทางสายรัฐบุรุษ อันเป็นเป้าหมายสูงสุด ของผู้นํา ที่กล่าวมา คือสิ่งที่ผู้เขียนได้พยายามบอกเล่าไว้ในหนังสือที่ มีชื่อว่า ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่ เล่มนี้ ผู้ เ ขี ย นได้ ร วบรวมชี ว ประวั ติ ข องผู้ นํ า โลกยุ ค ใหม่ จ ากโทนี่ แบลร์ เรื่อยไปจนถึงบารัค โอบามา โดยบอกเล่าเส้นทางการก้าวเข้าสู่ อํานาจและบริบททางประวัติศาสตร์ ทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และ การเมืองของแต่ละประเทศอย่างย่นย่อ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจพื้นฐานของ ผู้นําแต่ละคนและความเป็นมาของแต่ละประเทศได้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ เป็นการบอกเล่าอย่างกระชับ ตัดต่ออย่างรวดเร็ว และเน้นแต่ที่ควร เพื่อให้พอเหมาะกับเนื้อที่จํากัดที่มีอยู่ เนื่องจาก ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
14
เป็นการเขียนเพื่อตีพิมพ์ในหน้านิตยสารรายเดือนเป็นเบื้องต้น เรื่อง ราวแต่ละบทจึงถูกบังคับให้ต้องจบในตัว โดยผูกโยงไว้ให้เกาะเกี่ยวกัน ไปอย่างหลวมๆ จนพอจะรวมความออกมาเป็นเล่มได้ ข้อเขียนชุดนี้ ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร ฅ.คน ในคอลัมน์ ชื่อ ฅ.คนข้างฝา โดยเริ่มต้นตั้งแต่ฉบับเดือนสิงหาคม 2550 หลังโทนี่ แบลร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศก้าวลงจากตําแหน่ง ก่อนจะจบ ลงในเดือนธันวาคม 2551 เมื่อบารัค โอบามาประกาศชัยชนะจากการ ลงชิงตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทั้งหมดถูกเขียนขึ้นท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ของไทย ทั้งการเดินขบวนขับไล่รัฐบาล การปิดถนนราชดําเนิน การ ยึดทําเนียบรัฐบาล การปะทะกันอย่างรุนแรงที่หน้ารัฐสภา และการปิด สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเหตุการณ์ทั้งหลายล้วนทําให้ผู้นําคนแล้วคน เล่าต้องร่วงหล่นจากอํานาจ ทําให้รัฐบุรุษหลายคนต้องถูกท้าทายอย่าง ถึงแก่น เมื่อแรงปะทะปะทุขึ้นในสังคมอย่างรุนแรง จนไม่อาจหาทาง ยุติความขัดแย้งด้วยสันติวิธี เหตุการณ์เหล่านี้แทบทุกประเทศล้วนเคยผ่าน หลายประเทศ ก้าวพ้นด้วยพื้นฐานอันเข้มแข็ง โดยไม่หวนคืนสู่เส้นทางสายเก่า หาก แต่มุ่งหน้าหาทางรับมือกับปัญหาใหม่ ด้วยผู้นําคนใหม่ นโยบายใหม่ ที่ตอบสนองต่อปัญหาได้ดีขึ้น ในขณะที่บางประเทศเลือกที่จะนําพาตัว เองย้อนกลับไปในเส้นทางเดิม เรียกร้องหาผู้นํารุ่นเก่า วิธีการเก่า ด้วย หวนคิดถึงวันชื่นคืนสุขในอดีต แม้ว่าอดีตนั้นยากที่จะหวนกลับคืนมา ก็ตามที
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
15
และก็ใช่แต่เฉพาะสังคมไทย หากความขัดแย้งเปลี่ยนแปลง ได้เกิดขึ้นพร้อมๆ กันทั่วโลก เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น จน ไม่อาจมองอย่างแยกส่วน แม้ว่าความทุกข์ในประเทศจะใหญ่หลวงจน บดบังดวงตาจากโลกภายนอก หากทว่า การดํารงอยู่และดําเนินไป ของปัจจัยทั้งหลายที่มาชุมนุมอยู่โดยพร้อมเพรียงในเบื้องหน้าจากทุก สารทิศ เป็นสิ่งที่มิอาจปฏิเสธได้อีกต่อไป หนั ง สื อ เล่ ม นี้ จึ ง มิ ไ ด้ บ อกเล่ า เรื่ อ งใหม่ หากแต่ พ ยายาม แจกแจงปัจจัยของความเปลี่ยนแปลงแห่งโลก ออกมาให้ผู้อ่านเห็น อย่างง่ายๆ ผ่านชีวิตของผู้นําคนสําคัญและประวัติศาสตร์ที่ผูกพันผู้นํา เหล่านั้นไว้อย่างแน่นหนา โดยมีเงื่อนไขแห่งปัญญาและเวลาของผู้ เขี ย นเป็ น ข้ อ จํ า กั ด ความผิ ด พลาดทั้ ง หลายที่ มี ล้ ว นเกิ ด จากสอง เงื่อนไขนั้น อันเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนโดยตรง ผู้ เ ขี ย นขอขอบคุ ณ คุ ณ เวี ย ง-วชิ ร ะ บั ว สนธ์ บรรณาธิ ก าร บริกรแห่งนิตยสาร ฅ. คน ผู้เปิดพื้นที่ให้กับคอลัมน์นี้ ขอบคุณทีมงาน นิตยสารทุกคนที่ติดตาม ตรวจแก้ ประกอบรูปต้นฉบับขนาดยาวและ เต็มไปด้วยตัวละครชิ้นนี้ด้วยความอดทน ขอบคุณอาจารย์ปกป้อง จันวิทย์ คุณสฤณี อาชวานันทกุล และคุณจณัญญา เตรียมอนุรักษ์ ที่ช่วยอ่านและวิจารณ์ต้นฉบับด้วย ความอุตสาหะ และขอขอบคุณอาจารย์สุมาลี เอกชนนิยม สําหรับการ วาดภาพปกอย่างพิถีพิถัน ซึ่งช่วยให้หนังสือเล่มนี้น่าหยิบอ่านเหมือน ได้ดื่มชาแทนที่จะเป็นถ้วยยาขม
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
16
แน่นอน หนังสือเล่มนี้ย่อมมิได้เกิดจากความรู้ของผู้เขียนโดย ลําพัง หากเกิดจากหนังสืออ้างอิงหลายเล่ม ทั้งหนังสือเล่ม นิตยสาร ข่าว หนังสือพิมพ์รายวัน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งข้อมูล จากเว็ บ ไซต์ จํ า นวนมาก ตลอดระยะเวลาการเขี ย นกว่ า หนึ่ ง ปี ค รึ่ ง หนังสือและข้อมูลเหล่านี้ให้ความรู้อันหลากหลายแก่ผู้เขียน ทั้งให้ ความเพลิดเพลินใจในยามที่ต้องเพ่งพินิจกับสิ่งที่กําลังเกิดขึ้นในสังคม ไทย แม้มิได้เอ่ยนาม แต่ผู้เขียนขอกราบขอบพระคุณเจ้าของความรู้ใน โลกกว้างทุกท่านเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ สุดท้าย ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือเล่มนี้จะช่วยทําให้ ผู้อ่านมีความกล้าและมีความหวัง มีพลังที่จะเปลี่ยนผ่านสังคมไทยไปสู่ การเมืองใหม่อย่างแท้จริง หลังจากเรายืนพิงเสาหลักของชาติจนล้ม ระเนระนาดไปทีละต้นมานมนาน ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา กุมภาพันธ์ 2552 พระราม 9 กรุงเทพฯ
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
17
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
18
01 ทางลงของโทนี่
“Sometimes the only way you conquer the pull of power is to set it down.” Tony Blair
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
19
เอเวอเรสต์ คนที่ไม่เคยปีนเขาอาจคิดว่าการขึ้นถึงยอดเขาเป็นเรื่องสําคัญ สูงสุด แต่นักปีนเขาเอเวอเรสต์ทุกคนรู้ดีว่า สิ่งสําคัญกว่านั้น คือการลง จากยอดเขา เพราะถ้าไม่รู้วิธีการลง ไฉนเลยจะมีโอกาสอยู่ชื่นชมกับ ความสําเร็จในการขึ้นสู่จุดสูงที่สุดในโลก นักปีนเขามากประสบการณ์ บางคนยอมตัดใจไม่ขึ้นสู่ยอดเขา แม้จะเป็นความใฝ่ฝันอันท้าทายมา ตลอดชีวิต ด้วยเพราะตระหนักดีว่า พลังงานและเวลาที่เหลืออยู่ อาจ ไม่เพียงพอที่จะนําพาตัวเองลงจากยอดเขาได้อย่างปลอดภัย จิตใจที่เข้มแข็งที่สุด จึงหาใช่จิตใจที่จะนําพาตัวเองขึ้นสู่ยอด เขา หากแต่เป็นจิตที่สามารถตัดใจได้ เมื่อรู้ว่าเงื่อนไขทั้งปวงล้วนไม่ เอื้ออํานวยให้ตนเองบรรลุความฝันอันสูงสุด แม้ว่าความฝันนั้นจะห่าง ออกไปเบื้องหน้าในระยะทางไม่กี่ก้าวเดิน จิตใจที่เข้มแข็งที่สุด จึงหาใช่จิตใจที่มุ่งเสพสุขอยู่บนยอดเขา ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
20
หากแต่เป็นจิตที่สามารถพากายและใจลงจากยอดเขาอย่างปลอดภัย เมื่อรู้ว่าเวลาอันควรได้มาถึงแล้ว ยอดเขาจึงเป็นพื้นที่ชั่วคราวของมนุษย์ เมื่อถึงเวลาทุกคน ล้วนต้องก้าวกลับลงมาใช้ชีวิตบนพื้นราบตามปกติ ปล่อยให้ยอดเขา เป็นหมุดหมายเพื่อการพิชิตของคนรุ่นต่อไป การลงจากยอดเขาจึ ง เป็ น ศิ ล ปะขั้ น สู ง ของนั ก ปี น เขา ซึ่ ง มนุษย์ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองควรเรียนรู้ เพราะยอดเขา ยิ่งสูง พื้นที่ก็ยิ่งแคบและอันตราย ถ้าผู้มาก่อนไม่ยอมเดินลงมาดีๆ แทบทุกกรณีในประวัติศาสตร์ เขามักถูกผู้มาทีหลังถีบตกจากบัลลังก์ เสมอ อิรัก พูดกันอย่างภาษาชาวบ้าน อดีตนายกรัฐมนตรีโทนี่ แบลร์ ของอังกฤษเองก็หวิดๆ จะถูกถีบให้ตกจากยอดเขา หลังจากประกาศ ออกไปเมื่อวันที่ 7 กันยายน ปี 2006 ว่าจะก้าวลงจากตําแหน่งหัวหน้า พรรคแรงงานและนายกรั ฐ มนตรี แต่ จ นแล้ ว จนรอดกลั บ ไม่ ย อม ประกาศออกมาชัดๆ ว่าจะลงจากเก้าอี้ในวันไหน นานวันเข้าสมาชิก พรรคก็ชักไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกอร์ดอน บราวน์ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ซึ่งเป็นที่คาดหวังว่าจะได้ขึ้นดํารงตําแหน่ง หั ว หน้ า พรรคคนต่ อ ไป อั น หมายถึ ง การได้ เ ป็ น นายกรั ฐ มนตรี โ ดย อัตโนมัติ แรงกดดันในพรรคจึงสูงมาก เพราะยิ่งนานวันคะแนนนิยม ของโทนี่ แบลร์ก็ยิ่งตกต่ำ�ลง ตามเหตุและปัจจัยที่เขาได้ก่อไว้ในช่วง เวลาที่ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
21
จากการสํารวจของหนังสือพิมพ์เดลี่ เทเลกราฟ คะแนนนิยม ที่แบลร์เคยได้รับในระดับสูงสุดในสมัยแรก ตกลงเหลือเพียงร้อยละ 26 ในเดือนพฤษภาคม ปี 2006 อันเป็นช่วงเวลาที่มีข่าวว่าคนสนิทของ เขารับเงินสนับสนุนจากผู้มีอุปการคุณโดยมีตําแหน่งสําคัญเป็นของ แลกเปลี่ยน ความจริงคะแนนนิยมของแบลร์เริ่มตกต่ำ� ลงหลังจากที่เขา ตัดสินใจร่วมกับประธานาธิบดีจอร์จ บุชของสหรัฐอเมริกาส่งทหาร เข้ า ไปทํ า สงครามรุ ก รานอิ รั ก แบลร์ ไ ด้ อ้ า งหลั ก ฐานว่ า อิ รั ก มี อ าวุ ธ อานุ ภ าพทํ า ลายล้ า งสู ง ไว้ ใ นครอบครองต่ อ รั ฐ สภาอั ง กฤษ ทั้ ง ๆ ที่ ในเวลาต่ อ มาได้ รั บ การพิ สู จ น์ ว่ า เป็ น หลั ก ฐานเท็ จ อี ก ทั้ ง องค์ ก าร สหประชาชาติ ก็หาได้มีมติรองรับการทําสงครามกับอิรักในครั้งนี้ไม่ การตัดสินใจของแบลร์ไม่เพียงแต่ทําให้คะแนนนิยมของเขาใน ประเทศตกลงเท่านั้น แต่ยังส่งผลสะเทือนถึงความสัมพันธ์ที่อังกฤษมี ต่อสหภาพยุโรป เพราะทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนี สองเสาหลักแห่งยุโรป ต่างปฏิเสธที่จะเดินเข้าสู่สงครามครั้งนี้ นักประวัติศาสตร์และนักวิเคราะห์ข่าวการเมืองทุกสํานักจึง สรุปตรงกันว่า กรณีอิรักจะเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนโทนี่ แบลร์ ไปอีกหลายปี และอาจถือเป็นกรณีดําเนินนโยบายต่างประเทศผิด พลาดจนสร้างความเสียหายต่อประเทศในระยะยาว ยิ่งมีทหารอังกฤษเสียชีวิตในอิรักมากขึ้นเท่าใด ฝันร้ายก็จะยิ่ง ตามหลอกหลอนแบลร์หนักขึ้นเท่านั้น ในชีวิตคนเรา เรื่องราวดีๆ อาจจะมีเท่ากับเรื่องราวร้ายๆ แต่ จิตใจที่หวั่นไหวของมนุษย์มักจะทําให้เรื่องราวร้ายๆ ติดอยู่ในความ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
22
ทรงจําของตัวเราและผู้อื่นมากกว่า แบลร์ เ องกํ า ลั ง เริ่ ม ต้ น ใช้ เ วลาของชี วิ ต ที่ เ หลื อ อยู่ พิ สู จ น์ คํากล่าวนี้ หลังจากที่เขาตัดสินใจเก็บข้าวของย้ายออกจากบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง อันเป็นที่ทําการของนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2007 ทางเลือกที่สาม การยอมก้าวลงจากตําแหน่งโดยดี ทําให้แรงกดดันทั้งหลาย ทั้งปวงที่แบลร์เคยต้องแบกเอาไว้จนเกิดอาการหัวใจวายอ่อนๆ เมื่อ หลายปีก่อนหายไปแทบจะในทันที พันธมิตรนานาชาติของเขาอัน ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา องค์การสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และ รัสเซียได้พร้อมใจกันหางานใหม่ให้เขาล่วงหน้า ด้วยการแต่งตั้งให้เป็น ทูตพิเศษสําหรับการเจรจาเพื่อยุติปัญหาในตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อมา ยาวนานนับแต่สงครามโลกครั้งที่สอง แบลร์เคยสร้างผลงานเจรจาจนอังกฤษสามารถยุติปัญหาที่มี มายาวนานกับไอร์แลนด์เหนือได้ในสมัยของเขา อีกทั้งความเอาจริง เอาจั ง ในการแก้ ไ ขปั ญ หาในประเทศด้ อ ยพั ฒ นาของแบลร์ ก็ เ ป็ น นโยบายที่ได้รับความชื่นชมจากคนอังกฤษ แต่ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะ เป็นการที่แบลร์ปรับปรุงนโยบายพรรคแรงงานเดิม ซึ่งเน้นการควบคุม กิจการโดยรัฐ การเก็บภาษีสูง และต่อต้านธุรกิจขนาดใหญ่ มาสู่การ เป็นพรรคแรงงานใหม่ที่ก้าวออกจากกรอบความคิดแบบแบ่งแยกซ้ายขวา หันมาใช้นโยบายที่เรียกกันว่า ทางเลือกที่สาม (The Third Way) ที่ไม่ใช่ซ้ายไม่ใช่ขวา แต่เน้นการสร้างโอกาส ความยุติธรรม และการ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
23
เพิ่มอํานาจให้กับภาคประชาชน รวมทั้งเน้นความสามารถในการแข่ง ขันและปรับตัวเข้ากับโลกาภิวัตน์อย่างจริงจัง ทางเลือกที่สามนี้ บิล คลินตันเคยนํามาใช้จนสามารถนําพา พรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีได้ถึงสองสมัย จน ทางเลือกที่สาม ที่ไม่ใช่ซ้ายและขวา ไม่ใช่อนุรักษ์นิยมหรือเสรีนิยม ได้ ก ลายเป็ น คั ม ภี ร์ ใ หม่ ที่ ส่ ง ให้ พ รรคสายกลางซ้ า ยกลั บ มาได้ รั บ ความนิยมจากผู้ลงคะแนนอีกครั้ง หลังจากต้องตกเป็นรองพรรคสาย อนุรักษ์นิยมฝ่ายขวามาตลอดช่วงทศวรรษ 1980 แม้คนเก่าคนแก่ในพรรคแรงงานที่เคยยึดถืออุดมการณ์เดิมจะ ตกตะลึง แต่มหาชนอังกฤษส่วนใหญ่กลับถูกอกถูกใจ จนแบลร์กลาย เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคแรงงานคนแรกในยุคหลังสงครามโลกครั้ง ที่สอง ที่ดํารงตําแหน่งอยู่ครบสมัย แถมยังได้รับการเลือกกลับเข้ามา อีกสองครั้ง รวมเวลาแล้วแบลร์เป็นผู้นําพรรคแรงงานใหม่อยู่ถึง 13 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีรวม 10 ปี ในยุคของแบลร์ เป็นทศวรรษที่อังกฤษมีอัตราการเติบโตทาง เศรษฐกิจในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรป อัตราการว่างงานลดต่ำ� ลง ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีรายได้เฉลี่ยสูงขึ้น อังกฤษที่เคย จมอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยมานานค่อยๆ ปรับเปลี่ยนมาเป็น ประเทศทันสมัยน่าลงทุน ลอนดอนพลิกฟื้นกลายเป็นศูนย์กลางการ เงินของโลกอีกครั้ง กิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมเจริญก้าวหน้าขึ้น จน อังกฤษสามารถผลิตสินค้าในเชิงวัฒนธรรมและปัญญาออกสู่ตลาดโลก ได้ไม่น้อยหน้าประเทศอื่นใดในโลก เมื่อยืนหันหลังให้กับทิศตะวันออก(กลาง)และหลับตาข้างที่ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
24
มองไปยังอิรัก รัฐสภาอังกฤษจึงพร้อมใจกันลุกขึ้นยืนให้เกียรติโทนี่ แบลร์ในวันสุดท้ายที่เขาเข้าประชุมสภา อีกทั้งผู้นําพรรคอนุรักษ์นิยม อย่างนายเดวิด คาเมรอนยังกล่าววาจาตามประเพณีสรรเสริญโทนี่ แบลร์อย่างซาบซึ้ง ถึงภาระหน้าที่อันหนักอึ้งที่แบลร์ต้องแบกไว้ อัน เป็นเรื่องไม่ง่ายสําหรับทุกคนในครอบครัวของเขา “ในนามของพรรคอนุ รั ก ษ์ นิ ย ม ผมขออวยพรให้ ท่ า นและ ครอบครัวจงประสบแต่ความสุขและความสําเร็จสืบต่อไปในอนาคต” คาเมรอนกล่าวทิ้งท้าย เล่นเอาเชอร์รี่ แบลร์ ภริยาของผู้ที่กําลังจะ กลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนั่งชมการกล่าวอําลาครั้งนี้อยู่บน แกลเลอรี่สําหรับคนนอกถึงกับน้ำ�ตาซึม เช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรจากพรรคแรงงานที่กลั้นน้ำ�ตาเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อแบลร์ก้าว เดินออกจากที่ประชุมสภา เอดินเบรอะ โทนี่ แบลร์ เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ปี 1953 ที่เมือง เอดินเบรอะ ในสก็อตแลนด์ มีชื่อเต็มๆ ว่า แอนโธนี่ ชาร์ลส์ ลินตัน แบลร์ (Anthony Charles Lynton Blair) แบลร์พูดถึงตัวเองว่า เขาเป็น คนที่เกิดมาในยุคหนึ่งทศวรรษหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง เติบโตมาในทศวรรษ 60-70 ที่คนหนุ่มสาวต้องการปฏิวัติสังคม เขา สุกงอมทางการเมืองในยุคที่สงครามเย็นสิ้นสุดและโลกกําลังเปลี่ยน ผ่านเข้าสู่ยุคปฏิวัติทางการเมือง เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี วัยเด็กของแบลร์จึงเป็นช่วงเวลาที่อังกฤษกําลังเผชิญหน้า กับความยากลําบากและขาดแคลนหลังสงครามโลก แม้ว่าอังกฤษจะ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
25
เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แต่ความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่หมดไปกับการ ทําสงครามก็ทําให้มหาอํานาจอย่างอังกฤษต้องตกที่นั่งลําบาก จนต้อง ตากหน้าไปขอพึ่งพาความช่วยเหลือทางการเงินจากอเมริกาภายใต้ แผนการมาร์แชลเพื่อฟื้นฟูยุโรป ในวั ย หนุ่ ม ของแบลร์ กระแสต่ อ ต้ า นสงครามเวี ย ดนามใน อเมริกาได้ทําให้ดอกไม้ผลิบานไปทั่วโลก เรียกขานกันว่า ยุคฮิปปี้หรือ ยุ ค บุ ป ผาชน หนุ่ ม สาวปฏิ เ สธครอบครั ว และสั ง คม ดนตรี ร็ อ คและ ยาเสพติดหลายขนานแพร่หลาย ด้วยผู้คนมากมายต่างพากันเชื่อว่า มันคือยาวิเศษที่จะพาผู้เสพไปยังสรวงสวรรค์ แบลร์เองคลั่งไคล้มิก แจ็คเกอร์ ในช่วงวัยรุ่นเขาปวารณาตัวเองเป็นนักกีตาร์และใฝ่ฝันจะ เป็นร็อคสตาร์ชื่อดัง แต่ก็เหมือนความฝันในวัยหนุ่มสาวของคนส่วนใหญ่ เมื่อวัน เวลาผ่านไป เรื่องราวทั้งหลายก็เหลือเพียงภาพถ่ายและความทรงจํา สําหรับการเขียนชีวประวัติบางบทบางหน้าในวัยสนธยาของชีวิต อ็อกซฟอร์ด ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในยุค 60-70 แบลร์ เข้าเรียนที่วิทยาลัยเซ็นต์ จอห์น แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด สํานัก ที่ขึ้นชื่อว่ามั่งคั่งและมีชื่อเสียงที่สุดของมหาวิทยาลัย อ็อกซฟอร์ดทํา หน้าที่ผลิตชนชั้นปกครองให้กับอังกฤษมายาวนาน จนพลอยทําให้ ชนชั้ น ปกครองจากประเทศอื่ น นิ ย มส่ ง ลู ก หลานมาเรี ย นที่ นี่ จ นเป็ น ประเพณีมาตรฐาน แม้ครั้งหนึ่งมกุฎราชกุมารไทยก็เคยถูกส่งมาศึกษา ในสมัยรัชกาลที่ 5 เช่นเดียวกับมกุฎราชกุมารภูฏาน ผู้ซึ่งเพิ่งก้าวขึ้น ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
26
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
โทนี่ แบลร์ กับเพื่อนสมัยวัยหนุ่ม
27
เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่ จากอ็อกซฟอร์ด แบลร์เรียนต่อเนติบัณฑิตที่สํานักลินคอล์นส์ อินน์ ที่ซึ่งเขาได้พบกับเชอร์รี่ บูธ ผู้ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นภรรยา และแม่ของลูก 4 คนของเขา อันประกอบด้วย ยวน นิกกี้ แคธรีน และ ลี โ อ ลู ก ชายคนเล็ ก ที่ ถื อ กํ า เนิ ด ขึ้ น มาในช่ ว งที่ เ ขาดํ า รงตํ า แหน่ ง นายกรัฐมนตรี อันเป็นครั้งแรกในรอบ 150 ปี ที่ผู้นําประเทศอังกฤษ สามารถผลิตทายาทในระหว่างดํารงตําแหน่ง แบลร์ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก ในปี 1983 เมื่อเขามีอายุได้เพียง 30 ปีเท่านั้น โดยเซดจ์ฟีลด์เป็นเขต ที่เกิดขึ้นหลังจากมีการแบ่งพื้นที่เลือกตั้งใหม่ ทําให้ไม่เคยมีผู้สมัคร จากพรรคแรงงานมาก่อน จึงเป็นโอกาสและจังหวะดีที่นักการเมือง หนุ่มอย่างแบลร์จะแจ้งเกิด อาศัยการทํางานอย่างขยันขันแข็งและ ความมุ่งมั่นแรงกล้า แบลร์ค่อยๆ ไต่เต้าทางการเมืองจากภายในพรรค จนเมื่ อ จอห์ น สมิ ธ หั ว หน้ า พรรคแรงงานคนก่ อ นเสี ย ชี วิ ต ลงอย่ า ง ปัจจุบันทันด่วน แบลร์จึงได้โอกาสเสนอตัวเพื่อชิงตําแหน่งหัวหน้า พรรคคนต่อไป มีเรื่องเล่ากันสนุกปากแต่ไม่มีการยืนยันว่า คู่แข่งคนสําคัญ ของแบลร์ ใ นครั้ ง นั้ น หาใช่ ใ ครที่ ไ หน หากแต่ คื อ กอร์ ด อน บราวน์ นายกรั ฐ มนตรี ค นปั จ จุ บั น นั่ น เอง เพื่ อ ไม่ ใ ห้ ตั ด คะแนนเสี ย งกั น เอง แบลร์ ไ ด้ ทํ า ข้ อ ตกลงลั บ กั บ บราวน์ ว่ า ถ้ า ยอมหลี ก ทางให้ เ ขาเป็ น หัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี เขาจะยอมลงจากตําแหน่งในเวลา สองสมัยเพื่อให้บราวน์รับช่วงต่อ การต่อสู้ครั้งนั้นบราวน์จึงยอมถอน ตัวและแบลร์ก็ได้เป็นผู้นําพรรคแรงงานสมใจ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
28
แบลร์เริ่มนําพรรคแรงงานเข้าสู่ยุคใหม่ตั้งแต่ปี 1994 นอก จากนโยบายใหม่ ทีมงานคนรุ่นใหม่แล้ว แบลร์ยังใส่ใจกับการบริหาร สื่อและภาพลักษณ์สาธารณะเป็นอย่างยิ่ง ทําให้แบลร์กลายเป็นนักการ เมืองคนดังภาพลักษณ์ดี ส่ ว นผสมทั้ ง หมดทํ า ให้ ใ นปี 1997 แบลร์ ส ามารถสร้ า ง ประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการนําพรรคแรงงานคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง อย่างถล่มทลาย ยุติการนําอย่างยาวนานกว่า 18 ปีโดยพรรคอนุรักษ์นิยมลง ด้วยจํานวนเก้าอี้ในสภามากถึง 179 ที่นั่ง ส่งผลให้แบลร์กลาย เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษด้วยวัยเพียง 44 ปี คะแนนนิยมที่มีต่อตัวแบลร์พุ่งขึ้นสูงกว่าร้อยละ 70 หลังจาก ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ก่อนจะพุ่งขึ้นสูงกว่านั้นในหนึ่งปีถัดมา เมื่อแบลร์ใช้ความสามารถด้านการสื่อสารเรียกขานเจ้าหญิงไดอาน่า ด้วยคําว่า เจ้าหญิงของประชาชน (People’s Princess) ภายหลังจาก ที่ไดอาน่าเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุในกรุงปารีส และราชวงศ์มีท่าทีเย็นชา ต่ อ การจากไปของเจ้ า หญิ ง ไดอาน่ า จนสร้ า งความไม่ พ อใจให้ กั บ สื่อมวลชนและคนอังกฤษ สงครามหรือสันติภาพ แบลร์เคยกล่าวไว้ในปีที่เขาได้รับการเลือกตั้งว่า คนรุ่นเขาน่า จะเป็นคนรุ่นแรกที่สามารถใคร่ครวญถึงความเป็นไปได้ที่จะมีชีวิตทั้ง ชีวิตโดยปราศจากสงคราม หรือมิต้องส่งลูกหลานเข้าสู่สงคราม นั่นดู จะเป็นจินตนาการอันสูงส่งของคนที่เกิดมาในยุคหลังสงครามโลกครั้ง ที่สอง แต่เมื่อผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินถล่มตึกเวิร์ลด์เทรดเซ็นเตอร์ใน ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
29
มหานครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 แบลร์ได้ประกาศต่อ ประชาชนชาวอังกฤษอย่างขึงขังว่า “นี่ไม่ใช่สงครามระหว่างอเมริกากับลัทธิก่อการร้าย แต่นี่คือ สงครามระหว่างโลกเสรีประชาธิปไตยกับลัทธิก่อการร้าย ดังนั้น พวก เราชาวอังกฤษจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับสหายชาวอเมริกันของเรา ใน โมงยามแห่งความเศร้านี้” สุนทรพจน์ที่ปลุกขวัญและกําลังใจคนในชาติใช้ได้ดีเสมอใน ภาวะที่คนในประเทศตกอยู่ในอาการหวาดกลัว ไม่ว่าความกลัวนั้นจะ มาจากสาเหตุใด ไม่เพียงแต่คะแนนนิยมของบุชจะพุ่งสูงขึ้นในอเมริกา ด้วยสุนทรพจน์ชาตินิยมเท่านั้น ในอังกฤษเอง คะแนนนิยมของแบลร์ ก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้งหลังจากการประกาศอย่างแข็งขันที่จะต่อสู้กับลัทธิ ก่อการร้าย สายสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเริ่มแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นหลัง จากกรณี 9/11 จึงไม่น่าแปลกใจเมื่ออเมริกาตัดสินใจบุกอิรัก แบลร์จึงออก หน้าเคียงบ่าเคียงไหล่บุช แม้จะได้รับการต่อต้านจากสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรพรรคแรงงานที่ออกเสียงคัดค้านถึง 139 เสียง แต่แบลร์ก็ พาอั ง กฤษเข้ า สู่ ส งครามอิ รั ก ด้ ว ยเสี ย งสนั บ สนุ น จากสมาชิ ก พรรค อนุรักษ์นิยมอันเป็นพรรคฝ่ายค้าน การตัดสินใจครั้งนี้ทําให้โรบิน คุก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษจากพรรคแรงงาน รวมทั้งรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลของเขาอีกหลายคนประกาศลาออกเพื่อ เป็นการประท้วง การตัดสินใจบุกอิรักกลายเป็นการตัดสินใจครั้งสําคัญในชีวิต การเมืองของแบลร์ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ดร.เดวิด เคลลี่ แหล่ง ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
30
บุชกับแบลร์ สองผู้นำ�ประเทศมหาอำ�นาจ ผู้ส่งกองกำ�ลังทหารเข้าไปในอิรักและยืนยันความถูกต้องในการตัดสินใจของตน ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
31
ข่าวของบีบีซี ผู้ให้ข้อมูลเรื่องการไม่มีอยู่จริงของอาวุธอานุภาพทําลาย ล้างสูงในอิรัก ถูกพบเป็นศพในชายป่าแห่งหนึ่ง สื่อมวลชนอังกฤษ นํ า เสนอข่ า วนี้ อ ย่ า งต่ อ เนื่ อ งนานหลายเดื อ น จนกลายเป็ น เรื่ อ งที่ สั่นคลอนตําแหน่งนายกรัฐมนตรีของแบลร์ เช่นเดียวกับข่าวการรับ เงินช่วยเหลือของพรรคแรงงานผ่านทางที่ปรึกษาคนสนิทของแบลร์ เพื่อแลกกับตําแหน่งสําคัญ หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า cashfor-honours ที่กําลังดําเนินไปอย่างเข้มข้นในช่วงเวลาก่อนแบลร์จะ ก้าวลงจากตําแหน่ง อํานาจ ในที่สุดหลังจากรั้งรอมานาน แบลร์ก็ตัดสินใจกลับไปยังเขต เซดจ์ฟีลด์ อันเป็นเขตที่เขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ เขาเลือก จะกลับมากล่าวอําลาตําแหน่งนายกรัฐมนตรีในที่ที่เขาแจ้งเกิดทางการ เมือง เลือกที่จะกล่าวสุนทรพจน์สุดท้ายกับคนที่เลือกเขาเข้าสู่สภา แบลร์เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียนไว้ว่า เขายังยืนยัน ว่าการตัดสินใจส่งทหารเข้าไปในอิรักเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ประเทศอย่าง อังกฤษจําเป็นต้องดําเนินนโยบายต่างประเทศอย่างชาญฉลาด บาง ครั้งอาจจะต้องอาศัยแรงเหวี่ยงจากมหาอํานาจอื่นๆ เพื่อคงบทบาท ของอังกฤษในเวทีโลกไว้ แบลร์ยืนยันความคิดนี้อีกครั้งในคํากล่าวลา “ท่านอาจจะคิดว่าข้าพเจ้าผิด แต่ข้าพเจ้าทําในสิ่งที่ข้าพเจ้า คิดว่าถูกต้องสําหรับประเทศ” ไม่ มี ใ ครรู้ ว่ า ในวั น ข้ า งหน้ า ลู ก หลานชาวอั ง กฤษจะเขี ย น ประวัติศาสตร์โทนี่ แบลร์อย่างไร แต่ในวันนี้ เมื่อเขาตัดสินใจปล่อยมือ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
32
โทนี่ แบลร์และครอบครัวหน้าบ้านเลขที่ 10 ในวันอำ�ลาตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรี
จากอํานาจ คํายกย่องที่ว่าเขาเป็นนักการเมืองที่โดดเด่นที่สุดในยุค ของเขาก็เห็นจะไม่ได้เป็นคํากล่าวเกินเลย อย่างน้อยเขาก็พิสูจน์ให้ โลกเห็ น ว่ า ใช่ แ ต่ เ พี ย งการได้ ม าซึ่ ง อํ า นาจและการรั ก ษาอํ า นาจไว้ เท่านั้น แต่แบลร์ยังเรียนรู้ศิลปะขั้นสูงของการเมือง นั่นคือการก้าวลง จากอํานาจในเวลาที่ถูกต้อง จะมีก็แต่นักปีนเขาผู้เชี่ยวชาญ นักการเมืองผู้สามารถ และ มนุษย์ผู้เจนจัดในชีวิตเท่านั้น ที่จะเข้าถึงศิลปะขั้นสูงของการเดินลง จากยอดเขา โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง ยอดเขาที่ สู ง ที่ สุ ด ในโลก ที่ อ ยู่ เ หนื อ เอเวเรสต์ขึ้นไป ที่เรียกกันในภาษาไทยว่า อํานาจ ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
33
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
34
02 วิถีของบราวน์
“And now let the work of change begin.” Gordon Brown
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
35
อํานาจ สิ่งที่ผู้มีอํานาจกลัวมากที่สุด คือการตกจากอํานาจ ผู้มีอํานาจ จึงต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะรักษาอํานาจของตนเองไว้ให้แน่นหนา ที่สุด ด้วยเหตุนี้ ผู้มีอํานาจจึงมักไม่ไว้ใจใคร ไม่จริงใจกับผู้คน และ เต็ ม ไปด้ ว ยความหวาดระแวง บุ ค คลซึ่ ง ผู้ มี อํ า นาจมั ก หวาดระแวง ไม่จริงใจ และไม่ไว้ใจมากที่สุดหาใช่คนอื่นไกล หากแต่คือคนใกล้ตัว ยิ่งใกล้ตัวมากเท่าใด ยิ่งน่าวิตกกังวลว่าคนผู้นั้นจะสร้างบารมีขึ้นมา แข่งและแย่งอํานาจไปจากตน ในประวั ติ ศ าสตร์ ก ารเมื อ งของทุ ก ชาติ ทุ ก ภาษา ผู้ ที่ เ ริ่ ม มี บารมีจนท้าทายอํานาจของกษัตริย์มักมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ถ้าไม่ถูกสั่ง ประหารและริบทรัพย์ ก็มักต้องหลีกลี้หนีราชภัยออกไปใช้ชีวิตตามป่า เขาห่างไกล หรือในบ้านเมืองต่างแดน บ้างต้องแสร้งเร้นกายหายสูญ หรือเปลี่ยนชื่อแซ่ จนแม้แต่คนเคยรู้จักก็ต้องปิดบังอําพราง ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่
274
ผู้นํา อํานาจ ประวัติศาสตร์ และการเมืองใหม่