THE SISTERS BROTHERS พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส แพตทริค เดอวิตต์ เขียน นพดล เวชสวัสดิ์ แปล Copyrights for THE SISTERS BROTHERS © 2011 Patrick DeWitt Copyright Arranged with Foundry Literary+Media 33 West 17th Street, PH, New York, NY 10011, USA Through Tuttle-Mori Agency Co.,Ltd 459 Soi Piboon-oppathum, Ladprao 48, Samsen Nok, Huay Kwang, Bangkok 10230 First published in Thailand 2018 by Legend Books Publishing Co.,Ltd Thai Translation Copyright © 2018 by Noppadon Wechsawat
พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง มีนาคม 2561 ราคา 320 บาท หมวด วรรณกรรมแปล
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data เดอวิตต์, แพตทริค. พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส.-- ขอนแก่น : เลเจ้นด์ บุ๊คส์, 2561 320 หน้า. (วรรณกรรมแปล) 1. นวนิยายอังกฤษ. I. นพดล เวชสวัสดิ์, ผู้เแปล. II. ชื่อเรื่อง. ISBN: 978-616-8093-03-0
บรรณาธิการบริหาร: เทพพิคฑูนญ์ เลิศฤทธิ์ธนะกุล, วิมล เลิศฤทธิ์ธนะกุล, บุญ หลวงจันทร์
ผู้จัดการและที่ปรึกษากฏหมาย: ศุภฤกษ์ เทิงสูงเนิน บรรณาธิการฝ่ายผลิต: ศิริธาดา กองภา จัดรูปเล่ม: ศุภรักษ์ ปฐมกสิวัฒนา พิสูจน์อักษร: ศุภรักษ์ ปฐมกสิวัฒนา/ วารยา ศุภศิริ ภาพประกอบและปก: Readery
จัดพิมพ์โดย บริษัท สำ�นักพิมพ์ เลเจ้นด์ บุ๊คส์ จำ�กัด ในเครือ บริษัท เลเจ้นด์ ลีกัล กรุ๊ป จำ�กัด ที่อยู:่ 103 หมู่ 3 ตำ�บลนาหว้า อำ�เภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น 40150 สถานที่ติดต่อ: 3/29 คอนโด เดอะคิทท์ พลัส ซอยนวนมินทร์ 163 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230 โทรศัพท์ 08 - 1051 - 9137, 09 - 0595 - 3027 Email : Legendbooks.publishing@gmail.com Facebook : www.facebook.com/legendbooks publishing พิมพ์ที่ ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด เรือนแก้วการพิมพ์ 947 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช แขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทรศัพท์ 0 - 2411 - 1523 โทรสาร 0 - 2866 - 3248 จัดจำ�หน่ายทั่วประเทศโดย บริษัท อมรินทร์ บุ๊คส์ เซ็นเตอร์ จำ�กัด 108 หมู่ 2 ถนนบางกรวย-จงถนอม ตำ�บลมหาสวัสดิ์ อำ�เภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 โทรศัพท์ 0 - 2423 - 9999 โทรสาร 0 - 2449 - 9560
Winner of the Rogers Writers’ Trust Fiction Prize 2011 Winner of the Governor General’s Literary Award: Fiction 2011 Winner of the Pacific Northwest Booksellers Association Book Award 2012 Winner of the Stephen Leacock Memorial Medal 2012 Winner of the Oregon Book Awards: Ken Kesey Award for Fiction 2012 Winner of the CBA Libris Award: Fiction Book of the Year 2012 Winner of the Prix des libraires du Quebec 2013 Short-listed for the Man Booker Prize for Fiction 2011 Short-listed for the Scotiabank Giller Prize 2011 Selected for the Amazon.ca Best Books: Editors’ Pick 2011 Selected for the Amazon.ca Best Books: Canadian Fiction 2011 Selected for the Publishers Weekly Best Book 2011 Selected for the Globe and Mail Top 100 Book 2011 Selected for the Quill and Quire Book of the Year 2011 Selected for the Toronto Star Reviewers’ Top 100 Books 2011 Selected for the Maclean’s Magazine Best Books 2011 Short-listed for the CBC Bookie Awards: Literary Fiction 2012 Short-listed for the Walter Scott Prize 2012 Short-listed for the CBA Libris Award: Author of the Year 2012 Long-listed for the IMPAC Dublin Literary Award 2013 Short-listed for the Google Play International Author of the Year 2012
“นวนิยายของ แพตทริค เดอวิตต์ ทีเ่ ข้าชิงรางวัลบุ๊คเกอร์ ไพรส์ ซึง่ เล่าเรือ่ งราวของมือปืนคูห่ เู ลือดสาดทีไ่ ด้รบั การว่าจ้างในยุคตืน่ ทอง ทัง้ สนุ กพิลกึ รุนแรงอย่างน่ าตกใจ และโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง...ซึ่ง เป็ นการยืนยันให้เห็นถึงความอมตะของนิยายขนบเวสเทิรน์ อีกครัง้ ” - รอน ชาร์ลส (Notable Fiction of 2011, Washington Post) “อัญมณีแสนประหลาด...เป็ นหนึ่งในนักเล่าเรือ่ งทีม่ กี ารครุน่ คิดและ วิเคราะห์ทส่ี ดุ คนหนึ่งทีผ่ มเคยพบเจอ....แม้รปู แบบนวนิยายเรือ่ งนี้ จะเดินตามขนบเวสเทิรน์ ...แต่ทงั ้ หมดในงานของเดอวิตต์กลับเล่า ด้วยน�้ำเสียงแบบตลกหน้าตายและแฝงปรัชญา” - Favorite Fiction of 2011 ของ ทอม เฟอร์รอตตา จากเวบไซต์ Salon.com“THE SISTERS BROTHERS ของเดอวิตต์ คือนิยายผจญภัย คาวบอยตะวันตกทีย่ อดเยีย่ ม ทุกอย่างในนิยายเรือ่ งนี้ชา่ งเก๋ไก๋ ว่า กันตัง้ แต่จนิ ตนาการของผูเ้ ขียนไปจนถึงการออกแบบปกหนังสือ ท�ำให้นวนิยายเรือ่ งนี้ควรค่าแก่การเข้าชิงรางวัลอย่างแท้จริง” - Daily Beast “ถ้าคอร์แมค แมคคาร์ธ่ี มีอารมณ์ขนั เขาอาจจะปรุงแต่งส่วนผสม ของเรื่องราวให้หลากหลายเช่นเรื่องเล่าโชกเลือดสไตล์คาวบอย ตะวันตกของเดอวิตต์ ใน THE SISTERS BROTHERS ทีต่ ลกร้าย อย่างเหลือเชื่อนัน้ ...เดอวิตต์ได้ขดั เกลาน�้ำเสียงในการเล่าเรื่องได้ อย่างมีชนั ้ เชิง เพื่อให้เรามองลงไปใต้ผา้ พันแผลเปื้ อนเลือดด้วย ความรืน่ รมย์” - Los Angeles Times “สร้างสรรค์ จับใจ และให้ความบันเทิง” - Denver Post -
“ความกล้าเขียนนิยายผจญภัยของเดอวิตต์นนั ้ โดดเด่น และเขามีวธิ ี การอันยอดเยีย่ มทีจ่ ะแสดงพรสวรรค์ในความชวนหัว โดยไม่ตอ้ ง ประนีประนอมกับความมืดมิด ความน่าขยะแขยงและลางสังหรณ์ ทีค่ อ่ ยๆ รวมตัวกันทีละน้อยในนวนิยาย” - The Millions “เช่นเดียวกับเควนติน ทารันติโน เดอวิตต์รจู้ กั วิธที ท่ี ำ� ให้สถานการณ์ เลือดสาดเป็ นเรือ่ งสนุก และเช่นเดียวกับมาร์ก ทเวน เขารูด้ วี า่ คน อ่านเต็มอกเต็มใจทีจ่ ะให้อภัยกับเรือ่ งพิลกึ ของนักเล่าเรือ่ งชัน้ ดี” - Cleveland Plain Dealer “ท่ามกลางความสง่างาม ความน่าตืน่ เต้น และความชาญฉลาด นี่คอื นวนิยายคาวบอยนัวร์...ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เคยนึกถึงเรือ่ งราว ของไอ้โรคจิตสองคนทีม่ คี วามผูกพันกันแบบนี้ดว้ ยซ�้ำ” - - เดวิด รอบเบิลสกี (นักเขียนเจ้าของผลงานขายดี The Story of Edgar Sawtelle) “ตืน่ เต้นเร้าใจ…เรือ่ งราวผจญภัยทีเ่ ล่าด้วยน�้ำเสียงอันเปี่ยมด้วยชีวติ ชีวา…เรือ่ งเล่าอันลุม่ ลึกเต็มไปด้วยรายละเอียด” - Esquire -
“เต็มไปด้วยความประหลาดใจในนวนิยายเรือ่ งนี้...ภาษาสละสลวย ทว่ากลับแปลกแปร่ง ซึง่ แพตทริค เดอวิตต์ สร้างสรรค์ขน้ึ ให้กบั ตัว ละครของเขา นี่คอื นวนิยายเรือ่ งทีส่ องของเดอวิตต์...เป็นกรณีศกึ ษา ว่าด้วยตัวละครทีม่ คี วามสร้างสรรค์ ท�ำให้เราแทบจะรอผลงานชิน้ ต่อ ไปของเขาไม่ไหว” - Dallas Morning News “รู ป แบบการเขีย นร้ อ ยแก้ ว ของมิส เตอร์ เ ดอวิต ต์ ม ีค วามเป็ น ภาพยนตร์ ท�ำให้นกั อ่านเปิดไปแต่ละหน้าด้วยความสนุกสนาน” - Wall Street Journal “ด้วยความขบขัน ฉายภาพชัดและบทร�ำพึงร�ำพัน The Sisters Brothers เอาผมเสียอยูห่ มัด ตัง้ แต่หน้าแรกจนล่วงไปถึงหน้าท้ายๆ” - NPR.org “น่าตะลึง...หนังสือเล่มนี้ดงึ ดูดเราเข้าสูต่ วั ละครของมัน และชักน�ำ เราเข้าสูน่ ยั ยะอันทรงพลังของเดอวิตต์ ไม่มปี ระโยคไหนทีส่ ญ ู เปล่า เลย เขาเขียนเรือ่ งพิลกึ พิลนได้ ั ่ อย่างพิถพี ถิ นั ” - Cleveland Plain Dealer -
ค�ำน�ำ ส�ำนักพิมพ์ พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส (THE SISTERS BROTHERS) เป็นผลงานล�ำดับที่สองของแพตทริค เดอวิตต์ นักเขียนและ นักเขียนบทชาวแคนาดา นวนิยายเล่าเรือ่ งของสองพีน่ อ้ งนักฆ่าตระกูลซิสเตอร์ส ทีอ่ ยาก ท�ำงานชิ้นสุดท้ายให้จบๆ และออกจากวงการนี้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เสียที ทว่างานชิ้นสุดท้ายของพวกเขาไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด และ มันกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาอย่างคาดไม่ถึง พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส เป็นนิยายคาวบอยย้อนยุค ถ้าจะวาดภาพให้เห็นกันชัดๆ ก็คือเรื่องราวคาวบอยตะวันตกในยุค ตืน่ ทอง คล้ายคลึงกับภาพยนตร์ ‘True Grit’ ทีก่ ำ� กับโดยสองพีน่ อ้ ง โคเอนนั่นเอง ความสนุกของนวนิยายเรื่องนี้คือความสัมพันธ์ของตัวละคร นักฆ่าสองพีน่ อ้ งอย่าง ชาร์ลกี บั อีไล ซิสเตอร์ส และการตัดสินใจทีม่ กั จะอยู่ผิดที่ผิดทาง จนน�ำชีวิตพวกเขาไปสู่ปัญหาในที่สุด ล่าสุดก็ไปเข้าตานักแสดงและเจ้าของบริษทั ผลิตภาพยนตร์อย่าง จอห์น ซี. เรลลี ซึ่งนอกจาก จอห์น ซี. เรลลี ที่กระโดดลงมารับบท อีไล ซิสเตอร์ส แล้ว ยังได้ โจอาควิน ฟินิกส์ มารับบท ชาร์ลี ซิสเตอร์ส และ เจค จิลเลนฮาล รับบท เฮอร์มันน์ เคอร์มิต วอร์ม เป้า หมายรายสุดท้ายของสองพี่น้องซิสเตอร์นั่นเอง ส�ำนักพิมพ์ เลเจ้นด์ บุ๊คส์
ค�ำน�ำ ผู้แปล หากมีค�ำว่าคาวบอยหรือนักเลงปืนหลุดเข้าหู ภาพที่ผุดมาในใจ จะเป็นการย่างสามขุม ศอกกาง ปลายนิ้ว กระดิก พร้อมจะชักปืนออกจากซอง ไวจนมองตามไม่ทนั ส่งกระสุน ออกไป ใครเร็วใครอยู่ แล้วนิยายเรื่องนี้? เอ่อ น่าจะเป็นนักเลงปืนที่ก้าวออกมาจากหน้ากระดาษ ออกมาเดินดินเหมือนมนุษย์ธรรมดาสามัญ สองพี่น้องนักฆ่า หายใจได้ แปรงฟันได้ เมาค้างหน้าเขียวหน้าเหลือง ชักดาบแม่นางในโรงแรม ขี่ม้าชนต้นไม้ กลัวผี และเรื่องชวนให้อึ้งทึ่งเหวออีกหลายร้อยหน้า รอท่าให้พลิกเข้าไปอ่าน นพดล เวชสวัสดิ์
ค�ำอุทิศ มอบให้แม่
โอเรกอนซิตี 1851
1 ปัญหาเรื่องม้าม้า
1
ผมนั่งนอกคฤหาสน์ของคอมมอดอร์ รอท่าชาร์ลี พี่ชายของ ผมออกมาพร้อมข่าวเรื่องงานใหม่ของเรา หิมะตั้งเค้าคุกคาม ผม หนาวและต้องหาเรื่องท�ำแก้เบื่อ จึงนั่งพินิจนิมเบิล ม้าตัวใหม่ของ ชาร์ลี ส่วนม้าใหม่ของผมชื่อทับ เราไม่ใคร่เชื่อเรื่องการตั้งชื่อม้า แต่ได้ม้าเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้างงานที่แล้ว แถมชื่อกลัดติดมาด้วย ม้าไม่มีชื่อของเราถูกสังเวยตายห่ะไปแล้ว ก็ใช่ว่าเราไม่จ�ำเป็นต้อง มีม้าใหม่นะ แต่ผมรู้สึกว่าเราน่าจะได้เงินค่าจ้าง ไปซื้อม้าตามที่เรา เลือก ม้าที่ไม่มีประวัติ ไม่มีนิสัยดั้งเดิม ไม่มีชื่อให้ท�ำหูกระดิกยาม ส่งเสียงเรียก ผมรักม้าตัวก่อน และในระยะหลัง เวลาหลับจะเห็น ภาพหลอนตอนม้าใกล้ตาย เท้าทัง้ สีเ่ ตะถีบ ไฟลุกท่วม ตาถลนหลุด จากเบ้า มันท�ำระยะทางหกสิบไมล์ต่อวัน วิ่งฉิวเหมือนสายลม ผม ไม่เคยลงไม้ลงมือกับมัน เว้นแต่ในยามทีต่ บคอปลอบโยนหรือใช้แปรง ปัดท�ำความสะอาด ผมพยายามไม่นึกถึงตอนมันตกอยู่กลางวงไฟใน โรงนา แต่ถา้ ภาพหลอนผุดเข้ามาโดยไม่มคี ำ� เชิญ ผมจะตัง้ ท่าระวังตัว ได้ไง? ทับสมบูรณ์แข็งแรง แต่กค็ งจะเหมาะกับมนุษย์คนอืน่ เจ้าของ
ที่ไม่ใคร่ทะเยอทะยานนัก มันร่างอวบหลังแอ่น เดินทางได้ไม่เกิน ห้าสิบไมล์ในแต่ละวัน ผมจ�ำเป็นต้องใช้แส้หวดมันในบางคราว เรื่อง ทีค่ นบางคนไม่รงั เกียจทีจ่ ะท�ำ หรือเอาเข้าจริง ถึงขัน้ อิม่ เอมใจทีเดียว ผมไม่ชอบหวดม้า เพราะหลังจากนัน้ ทับจะคิดว่าผมเหีย้ มโหด มันคง เศร้าใจสะทกสะท้อนในชีวิตม้าอันแสนเศร้า...ชีวิตม้าแสนเศร้า ผมรู้สึกว่ามีสายตามองจ้อง จึงเบือนหน้าไปจากนิมเบิล ชาร์ลี เขม้นจ้องผมจากหน้าต่างชั้นสอง ยกนิ้วห้านิ้ว ผมไม่ตอบสนอง เขาปั้นหน้าบิดเบี้ยวเพื่อท�ำให้ผมหัวเราะ เมื่อผมไม่หัวเราะ ชาร์ลี หน้าสลด ถอยหลังกลับเข้าไปข้างใน เขามองเห็นผมนัง่ มองม้าเขา ผม รู้ เช้าวันก่อน ผมเสนอแนะให้ขายทับ ออกเงินคนละครึง่ ซือ้ ม้าใหม่ เขาเห็นด้วย ยุติธรรมดี แต่แล้วตอนเที่ยงวันกลับเปลี่ยนใจ บอกว่า รอจนกว่างานใหม่จบก่อน ฟังยังไงก็โง่เง่า เพราะปัญหาของทับจะ ท�ำให้เราเสียงาน ไม่ดกี ว่าหรือทีจ่ ะเปลีย่ นม้าก่อนเริม่ งานใหม่? ชาร์ลี มีคราบไขมันจากอาหารเยิม้ เปือ้ นหนวด เขาบอกว่า “หลังงานดีทสี่ ดุ อีไล” เขาไม่มีปัญหากับนิมเบิลซึ่งดีเท่าหรือดีกว่าม้าตัวก่อนของเขา ม้าไร้ชอื่ แต่กน็ ะ เขาได้เลือกก่อน ตอนทีผ่ มนอนแซ่วบนเตียงรักษา แผลที่ขา...ของช�ำร่วยจากงาน ผมไม่ชอบทับ แต่พี่ชายพึงใจไปกับ นิมเบิล นั่นละ ปัญหาม้าม้า
18 พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส
2
ชาร์ลปี า่ ยขาขึน้ หลังนิมเบิล เราควบม้าจากไป มุง่ หน้าหาพิก-คิง เวลาผ่านไปแค่สองเดือนเท่านัน้ ตัง้ แต่เรามาเยือนโอเรกอนซิตคี รัง้ ท้าย สุด แต่ผมนับร้านรวงใหม่ได้หา้ บนถนนสายหลัก และแต่ละร้านดูจะไป ได้ดี “เผ่าพันธุอ์ จั ฉริยะ” ผมเปรยกับชาร์ลี เขาไม่ตอบ เรานัง่ ทีโ่ ต๊ะ ด้านหลังของคิง ได้เหล้าทัง้ ขวดกับแก้วสองใบเช่นเคย ชาร์ลรี นิ เหล้า ลงแก้วให้ผม แต่ปกติแล้วเราจะรินเหล้าลงแก้วของเราเอง ดังนัน้ ผม จึงเตรียมพร้อมรอรับฟังข่าวร้ายในตอนที่เขาเอ่ยว่า “ข้าเป็นหัวหน้า งานนี้ อีไล” “ใครบอก?” “คอมมอดอร์บอก” ผมดื่มบรั่นดีในแก้ว “หมายความว่าไง?” “หมายความว่าข้าเป็นคนออกค�ำสั่ง” “หมายความว่าไงเรื่องเงิน?” “หัวหน้าได้เยอะกว่า” “เงินของฉัน ฉันพูดเรื่องนั้น เหมือนคราวก่อน?”
“เอ็งได้น้อยกว่าคราวก่อน” “ฉันว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยว่ะ” “คอมมอดอร์บอกว่างานที่แล้วจะไม่มีปัญหา ถ้าข้าเป็นหัวหน้า” “ฟังยังไงก็ไม่มีเหตุผล” “มีแน่ะ” เขารินเหล้าให้ผมอีกแก้ว ผมยกดื่ม เปรยออกมาเสียงดังพอให้ เข้าหูชาร์ลี “เขาอยากจ่ายให้หวั หน้า เออ ดี แต่มนั เป็นธุรกิจง่าวถ้า มาเบียดเบียนคนข้างล่าง ขาของฉันโดนเฉือนเนือ้ ออก ส่วนม้าก็โดน ไฟคลอกเพราะท�ำงานให้เขานี่นะ” “ม้าของข้าโดนไฟคลอกเหมือนกัน เขาหาม้าใหม่ให้เรานะ” “ธุรกิจง่าว เลิกรินเหล้าให้ฉันได้แล้ว เหมือนฉันง่อยเปลี้ย” ผม ฉกขวดเหล้า ถามรายละเอียดเรือ่ งงาน เราจะไปเด็ดหัวคนร่อนทองใน แคลิฟอร์เนีย ชือ่ ว่า เฮอร์มนั น์ เคอร์มติ วอร์ม ชาร์ลหี ยิบจดหมายออก จากกระเป๋าเสือ้ นอก ผลงานของคนดูลาดเลาของคอมมอดอร์ หนุม่ หรู ชือ่ ว่า เฮนรี มอร์รสิ ซึง่ มักจะเดินทางล่วงหน้าเราไปเก็บข้อมูล “สะกด รอยวอร์มหลายวันหลายคืน พอจะบอกนิสัยและความเคยชินของ เขาได้ ปกติแล้วหมอนี่โดดเดี่ยว แต่ใช้เวลานานหลายชั่วโมงในร้าน เหล้าในซานฟรานซิสโก ฆ่าเวลาโดยการอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์และ คณิตศาสตร์หรือวาดรูปทีข่ อบกระดาษ เขาหอบหนังสือเล่มหนาเตอะ ไปโน่นมานี่ ใช้สายหนังรัดทั้งกองเข้าด้วยกันเหมือนเด็กประถม ซึ่ง นี่เป็นภาพที่ผู้คนยกมาล้อเลียน ด้วยความที่เขาเป็นชายร่างเล็ก ยิ่ง บวกเพิม่ ความตลก แต่พงึ ระวัง เขาไม่ชอบใจนักถ้ามีคนล้อเรือ่ งขนาด ฉันเคยเห็นเขาทะเลาะวิวาทหลายหน และแม้วา่ มักจะเป็นฝ่ายแพ้ แต่ ฉันก็ไม่คิดว่าศัตรูหน้าไหนจะอยากประหมัดกับเขาอีก สู้ยิบตา ไม่ ขวยเขินถ้าจะใช้ปากกัด นั่นเป็นตัวอย่างนะ ชายหัวโล้นล้านเลี่ยน เคราแดง เก้งก้างขาแขนยาว พุงป่องเหมือนสาวท้องโย้ เขาไม่ใคร่ ท�ำความสะอาดเนื้อตัวนักและล้มตัวลงนอนได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นใน 20 พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส
โรงนา หน้าประตู หรือถ้าจ�ำเป็นก็นอนข้างถนน ในยามที่มีเรื่องให้ พูดคุย เขาจะพูดห้วนสั้นกระโชกโฮกฮาก เขาพกปืนลูกโม่เบบี้ดรากูน เสียบไว้ในสายคาดเอว เขาดื่มไม่บ่อยนัก แต่ถ้าได้ยกขวดเมื่อ ไหร่ กระดกจนเมาไม่เป็นผู้เป็นคนเชียวละ เขาจ่ายเงินค่าวิสกี้ด้วย ผงทองในถุงหนังห้อยเชือกยาว ซึง่ ซ่อนอยูใ่ ต้เสือ้ ผ้าหลายชัน้ ตอนที่ ฉันอยูท่ นี่ นั่ เขาไม่เคยออกจากเมือง ฉันไม่รวู้ า่ เขาวางแผนจะกลับไป ยังที่จับจองหรือไม่ จุดนั้นห่างจากซาคราแมนโตไปทางตะวันออกสัก สิบไมล์ (แผนที่แนบมาด้วย) วันวาน ในร้านเหล้า เขาขอไม้ขีดไฟ พูดจาสุภาพถามไถ่เรียกชื่อฉันเสียด้วย ฉันไม่รู้ว่าเขารู้ได้ไง ไม่เคย เห็นเขาแสดงท่ารู้ตัวว่าฉันสะกดรอยตาม ฉันถามว่าเขารู้จักฉันได้ ไง? เขามีท่าทีคุกคามตาขวางถ่มถุย ฉันจึงเผ่นออกจากที่นั่น ฉัน ไม่เห็นหัวไอ้หมอนี่ แม้บางคนจะยกย่องว่ามันฉลาดถึงขัน้ ปราดเปรือ่ ง ฉันยอมรับก็ได้ว่ามันไม่ธรรมดา นั่นอาจจะเฉียดใกล้ค�ำชมที่สุดแล้ว” ถัดจากแผนทีข่ องทีจ่ บั จองของวอร์ม มอร์รสิ วาดรูปเขาไว้ ฝีมอื ไม่เอาอ่าว ต่อให้มายืนอยูข่ า้ งตัวผมก็คงไม่รู้ แสงเงาสะเปะสะปะสิน้ ดี ผมยกข้อนีใ้ ห้ชาร์ลเี ห็น เขาตอบว่า “มอร์รสิ จะรอพวกเราอยูท่ โี่ รงแรม ในซานฟรานซิสโก เขาจะชีต้ วั วอร์มให้และเราก็ไปตามทางของเรา ข้า ได้ยินมาว่าซานฟราน เหมาะแก่การเด็ดหัวคน ที่นั่น หากไม่วุ่นอยู่ กับการเผาเมืองทิ้ง ก็วุ่นอยู่กับการสร้างเมืองใหม่ไม่จบไม่สิ้น” “แล้วท�ำไมมอร์ริสไม่ฆ่าเสียเอง?” “เอ็งถามเรือ่ งพรรค์นตี้ ดิ ปากเชียว ข้าตอบจนเบือ่ แล้ว...ไม่ใช่งาน ของมัน งานของเรา” “ไร้สาระสิ้นดี คอมมอดอร์ลดค่าจ้างฉัน แต่ควักไปจ่ายค่าที่พัก และค่าจ้างให้ไอ้ชยุ่ นัน่ เพียงเพือ่ จะไปบอกให้วอร์มรูล้ ว่ งหน้าว่ามันตก เป็นเป้า มีคนจับตามอง” “เอ็งเรียกมอร์ริสว่าไอ้ชุ่ยไม่ได้น้องชาย นี่เป็นคราวแรกที่เขา ท�ำงานพลาด เขายอมรับผิดหน้าชื่นตาบาน ข้าคิดว่าการสังเกตเห็น นพดล เวชสวัสดิ์ แปล 21
บอกเรื่องราวของวอร์มได้มากกว่าตัวมอร์ริสเสียอีก” “แต่วอร์มนอนข้างถนนในยามค�่ำคืน มีใครห้ามมอร์ริสไม่ให้จ่อ ยิงมันสิ้นเรื่องสิ้นราว?” “เอ็งไม่คิดหรือว่ามอร์ริสไม่ใช่มือสังหาร?” “แล้วส่งมันไปท�ำห่ะอะไร? ท�ำไมไม่ส่งเราล่วงหน้าไปที่นั่นสัก เดือน?” “เดือนทีแ่ ล้ว เรารับงานอีกชิน้ อยู่ เอ็งลืมไปแล้วหรือ คอมมอดอร์ มีผลประโยชน์และปัญหานับไม่ถ้วน ไม่อาจแก้ไขปัดเป่าทุกเรื่องได้ พร้อมกันในคราวเดียว ธุรกิจเร่งรีบเป็นธุรกิจเลว ค�ำพวกนี้หลุดจาก ปากเจ้านายเลยนะ เอ็งท�ำได้แค่ชื่นชมความส�ำเร็จของเขา ถ้าเอ็งได้ รู้ความจริง” ผมขย้อนเมือ่ ได้ยนิ เขายกย่องชืน่ ชมคอมมอดอร์ ผมกล่าว “เรา ต้องใช้เวลาเดินทางหลายสัปดาห์กว่าจะไปถึงแคลิฟอร์เนีย ท�ำไมต้อง ถ่อไปที่นั่นโดยไม่จ�ำเป็น?” “เราจ�ำเป็นต้องเดินทาง นั่นงานในหน้าที่ของเรา” “แล้วถ้าวอร์มไม่อยู่ที่นั่น?” “มันอยู่อยู่แล้ว” “ถ้าไม่อยู่ล่ะ?” “ห่ะ ยังไงมันก็อยู่” พอหมดเรือ่ งถกเถียง ผมชีใ้ ห้ชาร์ลเี ห็นเรือ่ ง ‘ค่าจ้างของหัวหน้า’ โดยปกติแล้วเราแบ่งค่าจ้างครึง่ ครึง่ พีช่ ายไม่คอ่ ยโปรดนัก เขาตระหนี่ ถี่เหนียวเสมอ นิสัยดั้งเดิมที่สืบทอดจากพ่อ “ก็แค่งานนี้” เขาบอก “หัวหน้าได้ค่าจ้างหัวหน้า” “เอ็งไม่เคยชอบคอมมอดอร์ คอมมอดอร์ก็ไม่เคยชอบเอ็ง” “ฉันชอบเขาน้อยเรื่อยๆ” “เอ็งบอกเขาเลยซี ถ้าอัดอั้นตันใจเกินกว่าจะแบกไว้ได้” 22 พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส
“แกจะได้รู้ ชาร์ลี ถ้าฉันอัดอัน้ ตันใจเกินกว่าจะแบกไว้ได้ แกจะ ได้รู้ คอมมอดอร์ก็จะได้เห็นเช่นกัน” การจิกกัดคงจะด�ำเนินสืบไป ถ้าผมไม่ลกุ ออกจากโต๊ะ เดินกลับ ห้องพักโรงแรมที่อยู่อีกฟากหนึ่งของร้านเหล้า ผมไม่ชอบถกเถียง โดยเฉพาะกับชาร์ลที ลี่ นิ้ คมโหดร้ายเหลือเกิน กลางดึก ผมได้ยนิ เสียง เขาทะเลาะกับผูช้ ายกลุม่ หนึง่ กลางถนน ผมเงีย่ หูรบั ฟังให้แน่ใจว่าเขา ไม่ตกอยู่ในอันตราย ไม่มีอะไร พวกนั้นถามชื่อเขา พอบอกชื่อไป ผู้ชายกลุ่มนั้นจึงผละจากไป แต่ผมพร้อมจะกระโจนไปช่วยเหลือพี่ ชาย อันที่จริง ผมสวมรองเท้าบู๊ตแล้วในตอนที่คนกลุ่มนั้นแยกย้าย กันไป ผมได้ยินเสียงชาร์ลีเดินขึ้นบันได จึงโดดขึ้นเตียง แสร้งท�ำ ว่าหลับไปแล้ว เขายื่นหน้าเข้ามาในห้อง เรียกชื่อผม แต่ผมไม่ตอบ เขาปิดประตู เดินเข้าห้องตัวเอง ผมนอนในความมืด คิดถึงความยุง่ ยากในครอบครัว เรื่องบ้าเรื่องเพี้ยนทั้งหลายแหล่ที่คนร่วมสายเลือด ท�ำให้เกิดขึ้นได้
นพดล เวชสวัสดิ์ แปล 23
3
เช้าแล้ว ฝนตกโปรยปรายไม่ขาดสาย เม็ดโตเย็นเยียบ เปลี่ยน ถนนให้เป็นโคลนหนืด ชาร์ลีท้องไส้ปั่นป่วนจากบรั่นดีที่ดื่มเข้าไป ส่วนผมแวะไปหาหมอยาเพือ่ ขอยาแก้คลืน่ เหียน ได้ผงยาสีฟา้ เปลือก ไข่นกรอบินไร้กลิ่น ซึ่งผมผสมเข้ากับกาแฟของเขา ไม่รู้ว่ามีตัวยา อะไรบ้างในผงสีฟา้ นัน่ รูแ้ ค่วา่ มันปลุกชาร์ลลี กุ จากเตียงขึน้ หลังนิมเบิล ได้ ช่วยให้เขาตื่นตัว ลืมอาการวิงเวียนไปได้ เราหยุดพักหลังจาก ออกจากเมืองได้ยี่สิบไมล์ หยุดในป่าร้างด�ำเกรียมซึ่งถูกไฟป่าที่เกิด จากฟ้าผ่าในฤดูร้อนที่ผ่านมาเผาผลาญ เรากินอาหารกลางวันเสร็จ สิ้นและตั้งท่าจะออกเดินทาง ในตอนที่ผมเห็นชายคนหนึ่งเดินจูงม้า ห่างออกไปทางใต้สักร้อยหลา หากเขานั่งบนหลังม้า ผมคิดว่าเราคง ไม่ออกความเห็นว่าแปลกพิลกึ แต่นเี่ ขากลับเดินจูงม้าแบบนัน้ “ท�ำไม เอ็งไม่ไปดูว่าเขาเป็นไง?” ชาร์ลีส่งเสียง “ค�ำสั่งโดยตรงจากหัวหน้า” ผมกล่าว เขาไม่ตอบสนอง ผมคิด ว่ามุขตลกชักจืดเจื่อนแล้ว จึงตัดสินใจไม่เล่นมุขนี้อีก ผมขึ้นหลังทับ เดินม้าออกไปพบชายจูงม้า ขณะก�ำลังควบม้าเข้าไปใกล้ ผมเห็นเขา
น�้ำตานองหน้า ผมจึงลงจากหลังม้าเดินเข้าไปหาเขา ผมร่างสูงใหญ่ หน้ากร้าน พอจะมองเห็นอาการตื่นตระหนกบนใบหน้าของเขา ผม ปลอบให้เขาคลายความกลัว “ฉันไม่มีประสงค์ร้ายต่อคุณ พี่ชายกับ ฉันเพิง่ กินอาหารกลางวัน ท�ำไว้เยอะ คิดว่าจะมาถาม เผือ่ คุณจะหิว” ชายคนนั้ น ยกฝ่ า มื อ ปาดน�้ ำ ตา สู ด หายใจลึ ก ร่ า งสั่ น เทิ้ ม พยายามส่งเสียงตอบผม อย่างน้อยก็อา้ ปาก แต่ไม่มเี สียง ไม่มคี ำ� หลุดออกมา โศกเศร้าทุกข์ใจถึงขัน้ ไม่อาจสือ่ สารได้ ผมกล่าว “ฉันพอจะเห็นว่าคุณทุกข์ใจและอาจจะอยากเดินทางต่อ คนเดียว ขออภัยที่มากวนใจ ฉันหวังว่าคุณคงจะมุ่งหน้าไปหาสิ่งที่ดี กว่านี”้ ผมกลับขึน้ หลังทับ เดินม้ามาได้ครึง่ ทาง มองเห็นชาร์ลดี งึ ปืน ออกจากซอง เล็งมาทางผมแล้ว ผมหันหลัง มองเห็นชายร�ำ่ ไห้ควบม้า ไล่หลังมาติดๆ ดูท่าว่าเขาไม่อยากท�ำร้ายผม ผมโบกมือให้ชาร์ลีลด ปืน ขณะนี้ผมกับชายน�้ำตานองหน้าเคียงม้า เขาส่งเสียง “ฉันขอรับ ข้อเสนอของคุณ” เมือ่ เราไปถึงแคมป์ ชาร์ลคี ว้าบังเหียนของชายผูน้ นั้ บอกว่า “แกไม่ควรควบม้าไล่คนอื่นแบบนั้น ข้าคิดว่าแกไล่น้องชาย เกือบเป่าหัวแกอยูร่ อมร่อแล้ว” ชายร�ำ่ ไห้โบกมือปัด เหมือนว่าค�ำกล่าว นั้นนอกเรื่อง ท่าทางที่ท�ำให้ชาร์ลีประหลาดใจ เขาหันมาหาผม “ไอ้ หมอนี่ใคร?” “เขามีเรื่องกวนใจอะไรสักอย่าง ฉันเลยเสนออาหารให้สักจาน” “ไม่มีอะไรเหลือ นอกจากขนมปังกรอบ” “งั้นฉันท�ำเพิ่ม” “เอ็งต้องไม่ท�ำ” ชาร์ลีมองชายร�่ำไห้หัวจดเท้า “คนเศร้าเนอะ” ชายผู้นั้นกระแอมกระไอ “มารยาทไม่งามเลย พูดถึงคนอื่น เหมือนว่าเขาไม่อยู่ที่นี่ด้วย” ชาร์ลไี ม่แน่ใจว่าจะหัวเราะหรือว่าต่อยปากหมอนัน่ เขาหันมาหา ผม “มันบ้าเปล่า?” “ฉันคงต้องขอให้คุณระวังค�ำพูด” ผมหันไปหาชายแปลกหน้า นพดล เวชสวัสดิ์ แปล 25
“พี่ชายของฉันไม่ใคร่สบายตัววันนี้” “ข้าสบายดี” ชาร์ลีบอก “ความเอื้อเฟื้อของเขาหดหาย” ผมเอ่ย “ท่าทางเขาป่วยไข้” ชายเจ้าน�้ำตากล่าว “ข้าบอกแล้วสบายดี ห่ะซี” “เขาป่วยนิดหน่อย” ผมกล่าว พอจะเห็นแล้วว่าความอดทน ข่มกลัน้ ของชาร์ลจี วนเจียนจะทะลักข้ามเส้นแล้ว ผมหยิบขนมปังกรอบ กอบใส่มือชายแปลกหน้า เขาเพ่งจ้องเป็นนาน แล้วร้องไห้โฮออกมา อีกครั้ง ไอโขลก สูดจมูก ร่างสั่นเทิ้มอย่างน่าเวทนา ผมหันไปหา ชาร์ลี “สภาพแบบนี้แหละ ตอนที่ฉันพบเขา” “มันเป็นอะไร?” “ไม่ได้บอก” ผมหันไปหาเขา “เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?” “พวกเขาหายไปหมด!” เสียงกลั้วการร�่ำไห้ “หายไปหมด!” “ใครหายไป?” ชาร์ลีถาม “แอบย่องหนีไปโดยไม่บอก ฉันเองก็อยากไป อยากหนีไปกับ พวกนั้น!” เขาทิ้งขนมปังกรอบลงพื้น แล้วเดินจูงม้าจากไป เขาเดิน ไปได้สักสิบก้าว แหงนหน้าร้องไห้โฮออกมา เขาท�ำซ�้ำสามหน ส่วน ผมกับพี่ชายหันกลับมาเก็บแคมป์ “สงสัยว่ามันโดนอะไร?” ชาร์ลีกล่าว “น่าจะเป็นเรื่องเศร้าใจที่ท�ำให้มันเสียสติ” ถึงเวลาที่เราขึ้นม้า ชายร�่ำไห้หายลับตาไปแล้ว ที่มาที่ไปของ ความทุกข์ความกังวลของเขา คงจะเป็นปริศนาไปชั่วกาลนาน
26 พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส
4
เราขี่ม้าเคียงกันไปในความเงียบ จมอยู่กับความคิดตัวเอง ผม กับชาร์ลีได้ข้อตกลงที่ไม่เคยประกาศชัด ว่าจะไม่เดินทางเร็วหลังมื้อ อาหาร มีความทุกข์ยากล�ำบากหลายเรื่องในงานอาชีพประเภทที่เรา ท�ำอยู่ ยามใดได้การปลอบประโลมใจได้บา้ ง เราจะฉกฉวยไว้ ผมพบ ว่าความสุขเล็กๆ เหล่านี้พอจะชดเชยให้เราท�ำงานต่อไปได้ “เฮอร์มันน์ วอร์ม ท�ำอะไร?” ผมถาม “น่าจะฉกฉวยข้าวของบางอย่างของคอมมอดอร์” “ขโมยอะไร?” “คงได้เห็นในไม่ช้า ยังไงก็ต้องฆ่ามัน” ชาร์ลีน�ำหน้า ผมชักม้า ไล่ตาม อยากคุยเรื่องนี้มานานแล้ว โน่น ตั้งแต่ก่อนงานสุดท้ายของ เรา “แกไม่คิดว่าเป็นเรื่องประหลาดเหรอชาร์ลี จะมีใครโง่พอจะ ลักขโมยจากคอมมอดอร์? เขาโหดขนาดนั้น?” “คอมมอดอร์มีเงิน จะมีอะไรที่ดึงดูดหัวขโมยได้ดีกว่านั้น?” “พวกมันขโมยเงินได้ไง? คอมมอดอร์ระวังตัวขนาดนั้น แล้วหัว
ขโมยไม่ซ�้ำหน้าพวกนี้ไปฉกเงินเขาได้ไง?” “เขาท�ำธุรกิจทั่วทุกมุมของประเทศ คนเราอยู่สองที่ในเวลา เดียวไม่ได้ อย่าว่าแต่ร้อยที่เลย ในแง่เหตุผลก็คือเขาง่ายที่จะตกเป็น เหยื่อ?” “เป็นเหยื่อ?” ผมอุทานออกมา “เอ็งจะเรียกยังไง ถ้าผู้ชายคนหนึ่งจ�ำต้องปกปักรักษาทรัพย์สิน ของตน โดยอาศัยคนแบบพวกเรา?” “เหยื่อ!” ผมอุทานซ�้ำ สุดแสนจะอัศจรรย์ใจ เพื่อเป็นเกียรติ แด่คอมมอดอร์ผู้น่าสงสาร ผมเอื้อนล�ำน�ำแสนโศกออกมา “น�้ำตา ของเขา ซ่อนอยู่หลังม่านคลุมหน้าบุปผา ข่าวเดินทางมาจากเมือง” “โอ ช่างเหอะ” “พบสาวเจ้าพรหมจารี ในดงไม้ชนบท ในอ้อมกอดเนินหญ้าสี ทอง” “เอ็งโกรธเพราะข้าเป็นหัวหน้า” “หัวใจของเขาหลงคิดว่ารอยยิม้ ของเธอเป็นน�ำ้ ใจ บัดนี้ เขาต้อง จ่ายช�ำระ” “ข้าไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเอ็งแล้ว” “สาวเจ้าของเขานอนแผ่ในบาป เกียรติยศ รักชั่วกาลนาน สาบสูญไป” ชาร์ลอี ดไม่ได้ นอกจากจะยิม้ ออกมา “เพลงอะไรกันนักกันหนา?” “เคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง” “เพลงเศร้า” “เพลงดีที่สุดมักจะเป็นเพลงเศร้า” “นั่นเป็นค�ำที่แม่พูดติดปาก” ผมนิ่งไปชั่วอึดใจ “เพลงเศร้า ไม่ท�ำให้ฉันเศร้าเสมอไป” “เอ็งก็เหมือนแม่ ในหลายแง่” “แกไม่เหมือนแม่ แล้วก็ไม่เหมือนพ่อด้วย” 28 พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส
“ข้าไม่เหมือนใคร” ชาร์ลีเปรยออกมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่เป็นความเห็นแบบที่เข่นฆ่า การสนทนาได้อย่างชะงัด เขาดึงม้าน�ำหน้า ผมมองแผ่นหลังของเขา และเขารู้ว่าผมจ้องมองแผ่นหลังจึงกระตุกส้นเท้ากระทุ้งท้องนิมเบิล ม้าทะยานไปข้างหน้า ผมไล่ตามหลัง เราเดินทางตามวิสัยปกติของ เรา รักษาความเร็วคงที่ แต่ผมรู้สึกว่า ผมไล่ตามหลังชาร์ลีเสมอ
นพดล เวชสวัสดิ์ แปล 29
5
วันแสนสั้นปลายฤดูหนาว เราหยุดที่ซอกเขาแห้งเพื่อตั้งแคมป์ ในคืนนี้ ท่านคงเคยเห็นฉากนีใ้ นนิยายผจญภัย ...สองคาวบอยกร้าน แดดลมนัง่ หน้ากองไฟ เล่าเรือ่ งลามกสูก่ นั ฟัง ร้องเพลงบาดใจว่าด้วย ความตายกับแอลกอฮอล์ แต่ผมอยากบอกอะไรสักอย่างนะ หลังการ ขี่ม้ามาตลอดทั้งวัน ผมไม่ต้องการอื่นใด นอกจากล้มตัวลงนอน หลับสนิท ผมท�ำเช่นนั้น ไม่สนใจแม้แต่อาหารรองท้อง ตอนรุ่งสาง ผมดึงรองเท้าบู๊ตมาสวม รู้สึกปวดแปลบนิ้วหัวแม่เท้าข้างซ้าย ผม ถอดรองเท้า ยกเท มือตบส้นรองเท้า คาดว่าจะมีเม็ดหนามแหลม หล่นออกมา ตอนที่แมงมุมขนปุยใหญ่เบิ้มร่วงลงพื้น มันนอนหงาย ขาทั้งแปดกวักอากาศเย็นเยือก หัวใจของผมเต้นระรัว เวียนหน้า เพราะผมกลัวแมงมุมมากเท่าเทียมกับงูกับไอ้ตัวเลื้อยทุกประเภท ชาร์ลีทราบเรื่องนี้ เดินตรงมาช่วยเหลือ เขี่ยแมงมุมเข้ากองไฟด้วย ปลายมีด ผมจับตามองแมงมุมหงิกงอตายดับ ควันกรุ่นเหมือนก้อน กระดาษ สุดแสนจะดีใจที่เห็นมันเจ็บปวดทรมาน
บัดนี้ ความเย็นเยียบซ่านขึ้นมาตามกระดูกหน้าแข้งเหมือน น�้ำค้างแข็ง “ไอ้ตัวน้อยนี้พิษร้าย พี่ชาย” ผมจับไข้ด่วนทันใจ ต้อง เอนตัวลงนอน ชาร์ลเี ป็นกังวลกับใบหน้าซีดขาวของผม เมือ่ ผมสอบ ทานแน่ใจแล้วว่าพูดไม่ได้ ชาร์ลเี ขีย่ กองไฟให้ลกุ โชน แล้วควบม้าเข้า เมืองใกล้ทสี่ ดุ ไปหาหมอ เขาพาหมอร่วมทางกลับมาด้วย อาจจะบังคับ ขืนใจหรือขูเ่ ข็ญ ผมเลอะเลือนในหมอกไข้ แต่ยงั ได้ยนิ เสียงหมอสบถ ด่า ในทุกคราวทีช่ าร์ลเี ดินห่างออกไป หมอให้ยา หรืออาจเป็นเซรุม่ แก้ พิษก็เป็นได้ ยาทีท่ ำ� ให้ผมยินดีและเลอะเลือนเหมือนเมาแประ ความ คิดเดียวที่ผมอยากท�ำ คือให้อภัยทุกผู้ทุกคนทุกสิ่งอย่าง และอยาก ดูดบุหรี่ไม่ขาดปาก ไม่นานนัก ผมหลับเป็นตาย ตลอดทั้งวัน ตลอดทัง้ คืน ฟืน้ อีกครัง้ รุง่ สางวันใหม่ ตอนผมลืมตา ชาร์ลยี งั นัง่ ข้าง กองไฟ เขามองผม อมยิ้ม “เอ็งจ�ำได้ไหมว่าเอ็งฝันถึงเรื่องอะไรบ้าง?” “คล้ายจะโดนมัด” ผมบอก “เอ็งพล่ามไม่ขาดปาก ‘ฉันอยู่ในเต็นท์!’... ‘ฉันอยู่ในเต็นท์!’ ” “จ�ำไม่ได้” “ ‘ฉันอยู่ในเต็นท์!’ ” “ช่วยพยุงฉันลุกขึ้นที” เขาประคองผมลุกขึ้น ผมเดินเป็นวงในแคมป์ด้วยขาชาเหมือน ท่อนไม้ ยังวิงเวียนคลื่นไส้ แต่ก็กินอาหารมื้อใหญ่ อย่างเบคอนกับ กาแฟกับขนมปังกรอบ และสะกดอาหารให้นงิ่ อยูใ่ นท้องได้ ผมลงความ เห็นว่าอาการดีขึ้นพอจะเดินทางต่อ เราเดินม้าผ่อนคลายไปสักสี่หรือ ห้าชัว่ โมง ก่อนจะตัง้ แคมป์อกี ครัง้ ชาร์ลถี ามไม่ขาดปาก เป็นไงบ้าง? ผมพยายามให้ค�ำตอบ ความจริงก็คือ ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไง อาจ เป็นพิษแมงมุมหรือว่าเป็นยาแก้พิษของหมอที่โดนจี้ตัวมารักษา ผม เลอะเลือน ล่องลอยเหมือนว่าหลุดออกจากร่างไปแล้ว ผมผ่านค�ำ่ คืน ไข้สูงและอาการชักกระตุก และในตอนเช้า เมื่อผมหันไปหาการ นพดล เวชสวัสดิ์ แปล 31
ทักทายรุง่ อรุณของชาร์ลี เขามองผมและกรีดร้องออกมาสุดเสียง ผม ถามว่ามีอะไรหรือ? เขาเอาจานดีบกุ มาให้ผมส่องหน้าแทนกระจกเงา “อะไรหรือ?” “หัวเอ็งน่ะเกลอ” เขาเอนหลังทิง้ น�ำ้ หนักตัวลงบนส้นเท้า ผิวปาก หวือออกมา ใบหน้าซีกซ้ายของผมบวมเป่งจนผิดปกติ จากตีนผมลงไปตลอด ทางจนถึงล�ำคอ เรือ่ ยลงไปหาหัวไหล่ ตาของผมเหลือเพียงขีดยาวเรียว ชาร์ลีได้อารมณ์ขันคืนกลับ บอกว่าผมเหมือนหมาไปครึ่งหน้า เขา ขว้างกิ่งไม้ เผื่อว่าผมจะวิ่งไปคาบกลับมา ผมกดปลายนิ้วลงบนจุดที่ บวมเพือ่ ตามหาแหล่งก�ำเนิด ความเจ็บปวดไล่ไปจนถึงฟันและเหงือก เมื่ิอผมเคาะนิ้วลงบนฟันล่างก็ปวดจี๊ดทั่วร่าง ซ่านจากหัวลงถึงปลาย เท้า แล้วย้อนกลับขึ้นมา “น่าจะมีเลือดเป็นแกลลอนกระฉอกอยู่ในนั้น” ชาร์ลีกล่าว “แกเจอหมอทีไ่ หน? เราน่าจะแวะไปเยีย่ มเขาอีกรอบ ให้เขาเจาะ เลือดให้” ชาร์ลสี นั่ หัว “จะเป็นการดีกว่าถ้าไม่ตามหาเขา มีเรือ่ งไม่สมหวัง บาดใจว่าด้วยค่ารักษา เขาคงดีใจถ้าได้เจอหน้าข้าอีก เรื่องจริง แต่ ข้าไม่คิดว่าเขาจะยินดีที่จะช่วยเรามากไปกว่านี้ เขาบอกว่ามีหมออีก คนอยู่ที่ค่ายพักแรมห่างไปไม่กี่ไมล์ทางใต้ นั่นอาจจะเป็นความหวัง ใหม่ของเรา ถ้าเอ็งคิดว่าพอจะถ่อไปถึงที่นั่นไหว” “ฉันไม่คิดว่าฉันมีทางเลือก” “เหมือนเรื่องอื่นๆ ในชีวิต ไอ้น้องชาย ข้าคิดว่าเอ็งไม่มีทาง เลือก” การเดินทางเชื่องช้า แม้หนทางจะไม่ขรุขระนัก เดินม้าลง ลาดเนินดินแน่นผ่านป่าโปร่ง ผมรู้สึกสุขใจพิกล ราวกับล่องลอย เหมือนอยูใ่ นความฝัน...จนกระทัง่ ทับตกหลุมและฟันในปากผมกระทบ กันกึก ผมกรีดร้องออกมาสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด แต่ในเวลา 32 พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส
เดียวกันก็หัวร่อออกมาในเหตุการณ์พิลึก ผมยัดก้อนยาเส้นคั่นกลาง ฟันบนกับฟันล่าง เหมือนวางเบาะกันกระแทก เป็นเหตุให้น�้ำลายสี น�ำ้ ตาลท่วมเต็มหัว ถ่มออกมาไม่ได้ คราวนีท้ รมานของจริง ผมท�ำได้ แค่โน้มตัวไปข้างหน้า ปล่อยให้นำ้� ยาเส้นไหลยืดออกจากปากลงไปบน ล�ำคอของทับ เราเคลือ่ นผ่านปุยหิมะทีโ่ ปรยลงมา เกล็ดหิมะให้ความ เย็นฉ�่ำบนใบหน้า หัวของผมเอียงกะเท่เร่ ชาร์ลีชักม้าวนรอบตัวผม เบิ่งตามองและยักคิ้วหลิ่วตา “มองเห็นชัดจากข้างหลังเลย หนังหัว เอ็งพองบวม เส้นผมของเอ็งชี้ออกทุกทิศ” เราชักม้าเลี่ยงหลบเมือง ของหมอทีเ่ ราชักดาบ และเรือ่ ยไปถึงชุมชนทีห่ า่ งออกไปอีกหลายไมล์ เราจะพักทีเ่ มืองไม่มชี อื่ ซึง่ ยาวแค่เสีย้ วไมล์ มีชาวเมืองราวร้อยคนหรือ น้อยกว่านัน้ แต่โชคเข้าข้างเรา เราเจอหมอฟันทีน่ นั่ หมอชือ่ วัตส์นงั่ สูบกล้องยาเส้นหน้าร้านในทันทีที่เจอหน้า เขายิ้มกว้าง อุทานออก มา “ช่างเป็นอาชีพสุดวิเศษ ฉันดีใจที่ได้เห็นกับตาว่ามีคนไข้หน้าโย้ ได้ขนาดนี้” เขารุนหลังผมเข้าไปในห้องท�ำงานเล็กๆ ที่ดูมีความเป็น มืออาชีพ เก้าอีห้ มุ้ หนังใหม่เอีย่ มส่งเสียงเอียดออดเมือ่ นัง่ ลง หมอลาก ถาดที่มีเครื่องมือวาววับ สอบถามประวัติการท�ำฟัน ซึ่งผมไม่อาจให้ ค�ำตอบได้ ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกว่า เขาไม่อยากรู้ค�ำตอบเท่าไหร่นัก แค่สุขใจที่ได้ถามก็เท่านั้น ผมแบ่งปันทฤษฎีที่ว่า ปัญหานี้น่าจะเกิดจากพิษแมงมุมหรือไม่ ก็ยาแก้พิษแมงมุม แต่หมอวัตส์ตัดบทว่าไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ รับรองในเรือ่ งนัน้ เขาบอกผม “ร่างกายมนุษย์เป็นสิง่ มหัศจรรย์ขนาน แท้ จะมีใครเล่าทีผ่ า่ ช�ำแหละความมหัศจรรย์ได้? อาจเป็นแมงมุม นัน่ จริง อาจเป็นยาแก้พษิ อะไรนัน่ ก็เป็นไปได้ หรืออาจไม่ใช่ทงั้ สองอย่าง จริงๆ นะ จะต่างกันที่ตรงไหนว่าอะไรท�ำให้คุณป่วยไข้? หมอพูดถูก ไหม?” ผมตอบว่าหมออาจเป็นฝ่ายถูก ชาร์ลีโพล่งขึ้น “ข้าบอกอีไลไว้ แล้วหมอ ข้าพนันได้เลยว่ามีเลือดเป็นแกลลอนกระฉอกกระเพื่อมใน นพดล เวชสวัสดิ์ แปล 33
หัวของมัน” หมอวัตส์ดงึ เข็มเงินวาววับออกจากปลอก เอนหลังมอง เหมือน ว่าหัวของผมเป็นอสุรกาย “แล้วเราจะได้เห็นกัน” เขากล่าว
34 พี่น้องนักฆ่า นามว่าซิสเตอร์ส