LOLH Leisurely Wander Through the North of Esan
The Great Jouney
Cover Way เสน่ห์ของความธรรมดาที่สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่ | เว่าสู่ฟัง มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง คำ�เลาะ สองสาวหัวใจมาราธอน วีโกะ & แอน | Trail Me เดินทาง ท่องเที่ยวในแบบโปเตโต้ ISSN 2408-2759
ห้ำงเพชรทองชัยเฉลิม ตรำดำว
088-560-5601, 042-245-750
ห้างเพชรทองชัยเฉลิม ตราดาว
“
“
วันส�ำคัญของคุณ คือวันส�ำคัญที่สุดของเรำ
chaichalermgold
@chaichalermgold
Editor’s Talk
Content คำ�เลาะ
10
ช่วงเข้าพรรษา เป็นช่วงเวลาแห่งคำ�สัญญาของใครหลายๆ คน บ้างงดเหล้า บ้างถือศีล 5 ต่างๆ นานา กับคำ�สัญญาที่ให้ตัวเองรักษามัน เราว่าเป็นเรื่องดีนะ กับกิจกรรมแบบนี้ เป็นการท้าทายเพื่อพิสูจน์ตัวเอง และเป็นการแสดงความซื่อสัตย์กับตัวเอง ว่าต้องทำ�ตาม “คำ�สัญญา”
เรื่องเล่าจากปากของผู้ที่ ชอบออกเลาะเดินทาง ท่องเที่ยวในดาวเคราะห์ สีน้ำ�เงิน Cover Way
ส่วนตัวเราก็ได้สัญญากับตัวเองไว้เหมือนกันนะ เราสัญญาไว้ว่า “เราจะเสาะหาสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะทางธรรมชาติ วิถีชีวิต ศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม แม้กระทั่งประวัติศาสตร์ เรื่องเล่าขาน และเราจะ เก็บบันทึกสิ่งเหล่านั้นอย่างเต็มความสามารถเพื่อนำ�มาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ได้ เกิดความอยากออกไปเลาะบ้าง”
12
ความงดงามแห่งวิถีชีวิต ความวิจิตรที่ธรรมชาติ รังสรรค์ ก่อเกิดเรื่องราว ให้ได้ออกไปเลาะ
ช๊อป ชิม ชิลล์
22
เซคชั่นว่าด้วยการออกเลาะ ไปหาหม่องช้อป ฮ้านชิม หม่องชิลล์ และแฮงเอาท์ สีสันชีวิตที่เราขีดเขียนเอง Trail Me
28
บทสนทนาที่พาเราได้รู้จัก คนที่ตกหลุมรักการเดินทาง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ ได้ออกไปเลาะกัน
เว่าสู่ฟัง
34
เป็นการรวบรวมเรื่อง เล่าขานหรือประวัติ นิทานในถิ่นอีสานบ้านเรา ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
บ้านเฮา
38
เสน่ห์ชุมชนที่ซุกซ่อนให้ ออกไปเลาะเพื่อเสาะ หาความสุขที่อบอวลใน บ้านเฮา
อนุญาตให้ได้ตามสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย
ปัจจุบันเราทำ�ตามคำ�สัญญานั้นมา 17 เดือนแล้ว ขอบคุณทุกๆ คน ที่ให้กำ�ลังใจในการเลาะของพวกเรา บรรณาธิการ Editorial Team ที่ปรึกษา ร.ต.อ.พชร มูลสาร, อภิวัฒน์ อินทร์หา ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา เอกกวี ชัยปภาฐกิตต์, กมล ปิติวัชรากุล บรรณาธิการ ธชา ปรางค์นวรัตน์ นักเขียน ภัทรภร พรมทอง, สุวิษา แก้วฤทธิ์, พานทิพย์ ลาลด บรรณาธิการภาพ ธชา ปรางค์นวรัตน์ ช่างภาพ อัครพล ลีกำ�เนิดไทย บรรณาธิการศิลปกรรม กฤษดินทร์ ช้างรักษา พิสูจน์อักษร ธนภัทร อินทักษิณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กนิษฐิกา ศรีภูมี ฝ่ายการตลาด ภาณุพงศ์ ชีวะพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน ธนกฤต การัณย์สกุล เจ้าของ บริษัท บี ที เจ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำ�กัด ที่อยู่ 323/9 หมู่ที่ 8 ซ.บ้านบงคำ� ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พิมพ์ที่ บริษัท กู๊ดเฮด พริ้นท์ติ้ง แอนด์ แพคเกจจิ้ง กรุ๊ป จำ�กัด Contributors สุวิษา แก้วฤทธิ์ สาวห้าวผู้เปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์ ความตั้งใจแรกคือการท�ำงานนิตยสารท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสิ่งที่ชื่นชอบ เป็นที่สุด บวกกับการเป็นคนชอบเขียน มีสาระบ้าง ไร้แก่นสารบ้าง แต่ขอให้ได้เขียน มีงานอดิเรกคือ มีมุมมองต่อการเดินทางเพื่อความเพลิดเพลิน สบายใจ ซึมซับความรู้สึก วัฒนธรรมและธรรมชาติ ชนิดที่ว่าการไปวัดก็คิดว่าท่องเที่ยวนะ ติดตามอีกบทบาทของเธอได้ในคอลัมน์ เว่าสู่ฟัง พานทิพย์ ลาลด เมื่อการเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และมีโอกาสได้เล่าเรื่องผ่าน คอลัมน์ Cover Way ให้ทุกท่าน ได้อ่านและท่องเที่ยวไปด้วยกัน ทุกสถานที่ที่ไปมักมีความหมาย และมีเรื่องราวระหว่างทางที่ประทับใจ อยากให้ทุกคนลองออกไปสัมผัสทุกอย่างด้วยตนเอง หวังว่าการเดินทางของเราจะเป็นจุดเริ่มต้นของการ ก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อที่จะพบสิ่งใหม่ๆ เท่านี้ก็สุขใจ จากใจนักเขียน
ติดต่อโฆษณา 091-865-3102, 086-858-4969 ฝ่ายการตลาด Email : lolh.mag@gmail.com
เลาะ แมกกาซีน
LOLH.MAGAZINE
E-news
ตลาดพ่อบัวพันธ์ ตลาดต้นแบบพืชผลปลอดสารพิษ เกษตรอินทรีย์วิถีชุมชน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการเปิด “ตลาดพ่อบัวพันธ์ เครือข่ายเกษตรอินทรีย์” ณ อ.นากลาง จ.หนองบัวล�ำภู โดยมี ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวล�ำภู ท่านพศิน โกมลวิชญ์ เป็น ประธานในพิธีเปิด ตลาดพ่อบัวพันธ์เป็นตลาดที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อ จุดประกายและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือของชุมชน ภาครัฐและ เอกชน ในการสร้างชุมชนออแกนิกคือการจ�ำหน่ายผักออแกนิกหรือ ผักปลอดสารพิษโดยเฉพาะ แห่งแรกใน จ.หนองบัวล�ำภู
RUN2GETHER
ผ่านไปแล้วกับ “ซ้อมวิ่งด้วยกันอุดรธานีครั้งที่ 3” ในวันที่ 21 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา วิ่งด้วยกันเป็นกิจกรรมอาสาพาคนพิการ วิ่งออกกําลังกาย (คนพิการในที่นี้รวมถึง คนหูหนวก นั่งวีลแชร์ และอื่นๆ ด้วย) โดยการวิ่งจะมีไกด์รันเนอร์ 1 คน วิ่งไปด้วยกัน กับคนพิการ กิจกรรมจะจัดขึ้นทุกเสาร์ที่ 3 ของเดือน โดยติดตาม ข่าวสารการนัดแนะผ่าน LINE:@r2gudon Facebook: วิ่งด้วยกันอุดรธานี กิจกรรมนี้ต้องการสร้างเพื่อนที่จะสุขภาพดีไปด้วยกัน
” เสื้อพี่ให้น้อง ” เมื่อปี พ.ศ. 2547 ทีมฟุตบอลโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ได้รับความอนุเคราะห์ชุดกีฬา เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลระดับจังหวัดจาก ปู พงสิทธิ์ คัมภีร์ นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ซึ่งเป็นความทรงจำ�ที่ประทับใจทำ�ให้อดีตนักฟุตบอลกลุ่มนี้ระลึกอยู่เสมอและให้คำ�มั่นสัญญากันก่อนจบ การศึกษาไว้ว่า “ ถ้าสักวันหนึ่งที่เราพร้อม เราจะกลับมาเป็นผู้ให้ ”
นักฟุตบอลกลุ่มนี้ได้เห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาที่เราจะกลับมาเยือนถิ่นเก่า โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จึงระดมทุนมอบชุดกีฬาฟุตบอลให้คุณครูที่เกษียณอายุ ราชการเป็นที่ระลึกและมอบให้น้องๆ นักฟุตบอลศิษย์ปัจจุบันไว้ใช้แข่งขัน บรรยากาศอบอุ่นเหมือนได้กลับมาเป็นนักฟุตบอลทีมโรงเรียนอีกครั้ง กิจกรรมเสื้อพี่ให้น้องได้จัดในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ณ สนามฟุตบอลโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล
FACEBOOK : Udonpit Football Club
ค้นหาสารคดี YOUTUBE : เกษียณอายุราชการครูโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล
2559
9
คำ�เลาะ Come Lolh
สองสาวหัวใจมาราธอน อัครพล ลีกำ�เนิดไทย
ธชา ปรางค์นวรัตน์
หากนึกถึงการวิ่งระยะไกลเราส่วนใหญ่ก็คงนึกถึงสภาพบุรุษ หุ่นดี ตัวโต นัยน์ตามุ่งมั่น และคงมองข้ามผู้หญิงตัวเล็กๆ ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ใครจะรู้บ้างว่าสุภาพสตรีในคอลัมน์คำ�เลาะ ฉบับเดือนกันยายนนี้ ก็สามารถทำ�ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเกินความสามารถของผู้หญิงได้เช่นกัน ร่วมเดินทางไปพร้อมกับการรับรู้เรื่องราวของ 2 สาวหัวใจมาราธอน “ วีโกะ วลิศรา พิพัฒน์ไชยศิริ และ แอน ภัทรา วิวัฒน์พัฒนกุล ”
จุดเริ่มต้นของการวิ่งคืออะไร
วีโกะ : ถ้าถามถึงจุดเริ่มต้นของการวิ่ง คือ อยากมี
สุขภาพดี อยากมีหุ่นที่สวยๆ เหมือนกับคนอื่น อีกอย่าง คือเรื่องของอายุที่ต้องเริ่มสนใจจริงจังกับการดูแลตัวเอง นี่คือจุดเริ่มต้นที่คิดจะวิ่งออกก�ำลังกาย แอน : ส�ำหรับจุดเริ่มต้นในการวิ่ง คือ นอนไม่หลับ เครียด แล้วพอดีที่ท�ำงานอยู่ตรงข้ามกับสวนสาธารณะ หนองประจักษ์ฯ พอได้เห็นทุกวันมันเลยเกิดความ อยากลอง อีกหนึ่งสิ่งที่ท�ำให้เริ่มออกก�ำลังกายคือเรื่อง สุขภาพ เพราะโดยส่วนตัวมีโรคประจ�ำตัวอยู่แล้วเลย อยากออกก�ำลังกายเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น การเริ่มต้นวิ่งในแบบมาราธอนเกิดจากอะไร
วีโกะ : มันคือความท้าทายหลังจากที่จากวิ่งออก
ก�ำลังกายเป็นกิจวัตรประจ�ำวัน เลยเริ่มมองหาความ ท้าท้ายครั้งใหม่นั้นก็คือการลงแข่งขันมาราธอน เริ่มต้น ก็ลงแค่มินิมาราธอนระยะทาง 10 กิโลเมตร พอวิ่งมินิ มาราธอนได้ก็มีความตั้งใจครั้งใหม่ที่อยากจะลงแข่งขัน ในระยะที่ไกลขึ้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็สามารถวิ่งใน ระยะ 42 กิโลเมตรได้ คือการวิ่งแบบ Full Marathon (วิ่งมาราธอนระยะเต็ม) แอน : คือเห็นพี่ชายไปวิ่งแข่งขันมาราธอนแล้วรู้สึก ว่าอยากลงแข่งขันบ้างก็เลยขอตามไปด้วย ตอนนั้นที่ ตามพี่ชายไปคือจะไปเที่ยวด้วยและก็ไปวิ่งด้วย ครั้งแรก ที่ลงแข่งก็ลงระยะทางเพียงแค่ 10 กิโลเมตร หลัง จากนั้นเหตุผลก็คงเหมือนกันกับพี่วีโกะ คือเราอยาก วิ่งมาราธอนแบบเต็มได้ คือระยะทาง 42 กิโลเมตร นั้นคือเหตุผลว่าท�ำไมถึงต้องวิ่งมาราธอน แรงผลักดันสำ�คัญที่ทำ�ให้สามารถวิ่งมาราธอน
วีโกะ + แอน : คือความภาคภูมิใจในตอนที่เข้า เส้นชัยเพราะรู้ว่าเราเองก็สามารถท�ำได้ จาก
เมื่อก่อนที่คิดว่า “จะท�ำได้หรือ ?” เพราะไม่เคย ออกก�ำลังกายเลย อีกอย่างก็คือ รูปร่างที่ค่อนข้างอ้วน ด้วยเลยคิดว่าท�ำไม่ได้ แต่เอาเข้าจริงนั้นมันไม่ใช่เหตุผล แต่เหตุผลที่ท�ำให้วิ่งไปถึงเส้นชัยได้คือการเอาชนะใจ เอาชนะความรู้สึกตัวเอง และที่ส�ำคัญคือเรื่องของ ระเบียบวินัยต่อตนเอง การวิ่งมาราธอนมันไม่ใช่แค่นึกอยากจะออกไปแข่งขัน ก็ไปเลย มีแต่ใจอย่างเดียวแต่ไม่มีการฝึกซ้อมก็คงไม่ใช่ สิ่งที่ดี กว่าจะลงแข่งขันรายการแรกเราเองก็ต้องมีการ ฝึกซ้อม เตรียมตัวใช้เวลามากพอประมาณ ถึงกล้าบอก ว่าวินัยเป็นสิ่งส�ำคัญ ไม่ใช่วันนี้ขี้เกียจก็ไม่ซ้อมแบบนี้ ก็คงไม่ใช่ สิ่งที่ได้จากการเดินทางแข่งขันวิ่งมาราธอนคืออะไร
วีโกะ + แอน : สิ่งที่ได้จากการเดินทางแข่งขันวิ่ง คงเป็นเรื่องของมิตรภาพใหม่ๆ การได้พบเจอคนกลุ่ม ที่มีใจรักในสิ่งเดียวกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกัน และกัน เหมือนกับเราสองคนที่มารู้จักกันได้ก็เพราะ การวิ่ง อีกสิ่งหนึ่งที่ได้ก็คือการได้ท่องเที่ยว เราได้เห็น สถานที่สวยๆ ก็เพราะว่าเดินทางไปแข่งขันนี่แหละ วิ่งระยะทางเท่ากันแต่สถานที่ สภาพแวดล้อมไม่ เหมือนกัน ความรู้สึกก็แตกต่างกันแล้วกองเชียร์ที่ คอยปรบมือให้ก�ำลังใจตลอดเส้นทางการวิ่งมันคือ ความรู้สึกที่ดีมากจนเราสองคนไม่รู้จะอธิบายได้ยังไง ในฐานะคนที่วิ่งมาในทุกระดับแล้วก็อยากจะขอ แนะน�ำคนที่จะเริ่มต้นการออกก�ำลังกายด้วยวิธีการวิ่ง คือไม่ว่าเราจะท�ำอาชีพอะไรเราก็สามารถพาตัวเอง ออกไปวิ่งได้ ไม่ควรอ้างเรื่องเวลาหรือเรื่องงานมาเป็น เหตุผลที่จะไม่ออกก�ำลังกายเพราะถ้างานเราเลิกดึก เราก็เลือกที่จะตื่นแต่เช้าแล้วออกมาวิ่งได้ หรือบางคน ท�ำงานไม่เป็นเวลาก็สามารถเลือกช่วงเวลาที่ตัวเองว่าง เพียงวันละ 1 – 2 ชั่วโมง มาออกก�ำลังกายเพื่อดูแล
สุขภาพของตัวเราเอง เรื่องของวินัยเป็นสิ่งที่ส�ำคัญ มากส�ำหรับการออกก�ำลังกาย เพราะถ้าขาดวินัยก็คง ท�ำไม่ส�ำเร็จ พยายามสร้างแรงจูงใจให้กับการออก กายด้วยวิธีที่ตัวเองถนัด สุดท้ายอยากให้ทุกคนหัน มาให้ความส�ำคัญกับเรื่องออกก�ำลังกาย เพราะถ้า ร่างกายแข็งแรงเราก็พร้อมที่จะท�ำงานทุกอย่างที่ อยากท�ำได้ “วีโกะ แอน”
BIOGRAPHIC จุดเริ่มต้นของการเป็นเพื่อนกัน คือการวิ่ง “วีโกะ วลิศรา พิพัฒน์ไชยศิริ” ประกอบธุรกิจส่วนตัว อุดรไทยพิพัฒน์ วิ่งเพื่อสุขภาพ และอยากมีหุ่นที่ สวยเหมือนกับคนอื่นๆ “แอน ภัทรา วิวัฒน์พัฒนกุล เภสัชกรสาว วิ่งเพื่อ ต้องการเอาชนะโรคภูมิแพ้ที่ตัวเองเป็นอยู่ และการ แข่งขันมาราธอนคือความท้าทายของทั้ง 2 คน ปัจจุบันทั้งคู่ยังคงแข่งขันวิ่งมาราธอนและไตรกีฬา อย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ
การวิ่งท การเอา ี่ว่ายาก... ที่ต้องอ ชนะใจตัวเอง อกไปวิ่ง ยากกว่า ทุกวันนั้น หลายเท ่า
11
วีโกะ
แอน
Cover Way เสน่ห์ของความธรรมดาที่สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่ พานทิพย์ ลาลด
ธชา ปรางค์นวรัตน์
ข้ามผ่านระยะทางอันแสนยาวไกล สู่เมืองแห่งความเรียบง่าย เหมาะกับการเลาะทุกฤดู ลองได้มาสัมผัสจริงๆ คุณจะรู้ว่าคนที่นี่มีเสน่ห์พอกับช้างเลยทีเดียว อบอุ่นในวิถีชีวิตกับวันหยุดได้ที่จังหวัดสุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่
Elephant world
การเดินทางครั้งนี้เราไม่มีภูเขารายล้อมใกล้ๆ ได้ เผชิญกับหน้าผาสวยยาวสุดลูกหูลูกตาเหมือนที่ผ่านมา เป็นการเดินทางที่เลี่ยงคนเยอะ ปลีกตัวออกมาเลาะ เมืองที่เงียบสงบ เมืองที่รถไม่ติดอาหารอร่อยและเสน่ห์ ของผู้คน ออร่าทะลุผิวสีแทนออกมาเลยก็ว่าได้ เราเคย ได้ยินชื่อเสียงของช้างไทยมาตลอด ซึ่งที่นี่ตอบโจทย์ ต้นต�ำหรับดินแดนแห่งช้างคู่บุญคู่บารมี เรามุ่งหน้าไป ที่หมู่บ้านช้างจังหวัดสุรินทร์ ตั้งอยู่ที่บ้านตากลางและ หมู่บ้านข้างเคียง ต�ำบลกระโพ อ�ำเภอท่าตูม จังหวัด สุรินทร์ หมู่บ้านช้างจะมีการแสดงของช้างโชว์ความสามารถพิเศษน่ารักๆ ทุกวันวันละ 2 รอบ เราได้เข้าชมในรอบบ่าย 2 โมงพอดี ซึ่งเป็นอะไรที่ แปลกใหม่ส�ำหรับเรามากส�ำหรับโชว์ไม่ว่าจะเป็นการ
วาดรูป ช้างนวดคน เตะบอล เต้นกระจาย ท่าทาง สุดพลิ้ว (ตัวอ้วนๆ แต่อารมณ์ฉันไม่แคร์ น่ารักจริงๆ) ถึงจะเป็นช้างที่ถูกฝึกมาก็ยังน่าทึ่งในความสามารถอยู่ดี ช้างรู้จักขอบคุณคนดู เอ็นดูช้างมากค่ะ พอโชว์เสร็จ เราก็เดินชมรอบๆ หมู่บ้านช้างมีช้างตัวเล็กๆ ให้เรา อินต่อ เราเจออรทัยอายุ 4 ปี น่ารักมากเวลาถ่ายรูป ให้เราขี่หลัง ซึ่งเคยกลัวช้างพอมาเป็นที่นี่ช้างเยอะ และตัวใหญ่มากแต่เรากลับกล้าที่จะเข้าใกล้โดยไม่ได้ กลัวเลยสักนิด Fabric care
เราเดินทางต่อไปยังบ้านท่าสว่าง ห่างจากตัวจังหวัด ตามเส้นทางสายสุรินทร์ - เมืองลีง ประมาณ 10 กิโลเมตร การทอผ้าขึ้นชื่อของสุรินทร์นั่นก็คือ ทอผ้าไหม
14
ตัวอ้วนๆ แต่อารมณ์ฉันไม่แคร์ น่ารักจริงๆ ถึงจะเป็น ช้างที่ถูกฝึกมา ก็ยังน่าทึ่งในความสามารถอยู่ดี
15
ห้องทอผ้าด้านบน
ห้องทอผ้าด้านล่าง
ยกทองโบราณ บรรยากาศเหมือนอยู่ที่แถบภาคเหนือ มาก อากาศเย็นสบายร่มรื่นการตกแต่งเรือนไม้สไตล์ ล้านนา ชาวบ้านที่นั่นจับกลุ่มกันทอผ้าพูดคุยกับยิ้มแย้ม พร้อมตอบค�ำถาม ที่เราต่างสงสัยว่าใช้เวลานานแค่ไหน แต่ละผืนต้องใช้เวลานาน 3 เดือนกว่าเป็นอย่างต�่ำงาน ละเอียดงานปราณีตมากอยากบอกว่าผ้าไหมทอมือที่นี่ งามมาก (ก.ไก่ร้อยบรรทัดเลย) โดดเด่นทั้งสีลายขับ สีผิวแม้จะเป็นคนผิวคล�้ำใส่ก็ยังสวยชนิดที่ว่ามองเห็น เด่นมาแต่ไกลหากมีโอกาสได้มาสุรินทร์บอกเลยว่าต้อง ห้ามพลาดผ้าไหมทอมือที่นี่จริงๆ เพราะว่าสวยมาก จนต้องซื้อกลับมาฝากคนที่รักเลย และระหว่างทาง ของการเชื่อมแต่ละจุดที่เราไปเลาะบอกเลยว่าของกิน เยอะมากเป็นการเดินทางที่ไม่มีโอกาสได้หิวเลยก็ว่าได้ เพราะตลอดเส้นทางมีร้านขนมและร้านอาหารเยอะมาก ชนิดที่ว่าแวะชิมกันทั้งวัน
Relax time
และคืนนี้ขอจบด้วยการตามหาผัดไทยร้านเด็ด ธรรมดา 25 พิเศษ 30 ผัดไทยเจ้ปั๋งที่อยู่ในตลาด เทศบาลในตัวเมืองสุรินทร์ต้องมาโดนสักครั้งไม่งั้นถือว่า มาไม่ถึงกันเลยก็ว่าได้ และต่อที่ตลาดโต้รุ่งของกิน และเสื้อผ้าบอกเลยว่าเดินชิมกันสนุกปากเลยทีเดียว ก่อนกลับไปพักเอาแรงเพื่อลุยอีกหนึ่งพิกัดสุดท้ายของ ทริปส�ำหรับสุรินทร์ เราขอแนะน�ำให้เข้ามาเที่ยวใน ตัวอ�ำเภอเมืองก่อนพักในเมืองหนึ่งคืนก่อนเดินทางต่อ เพราะจะเห็นถึงวิถีชีวิตความเรียบง่ายไม่วุ่นวายไม่เร่งรีบ ถือว่าเป็นอีกเมืองที่คลาสสิคในเรื่องการเป็นอยู่ แต่ เพรียบพร้อมทั้งในเรื่องความทันสมัยด้วยไม่ได้ล้าหลัง แต่อย่างใด
16
Blue Lake
พิกัดสุดท้ายของสุรินทร์ ทะเลสาบทุ่งกุลา อ.ชุมพลบุรี เราออกเดินทางมาที่นี่เป็นจุดสุดท้ายก่อนกลับบ้าน ต้อง บอกว่าพลังงานในร่างกายเหลือไม่มากแล้ว ตอนนี้ อากาศร้อนเหมือนไม่ใช่หน้าฝน แต่ก็ยังสบายตาเพราะ ก้อนเมฆสวยมาก รถจอดแล้วเรียบร้อยเกิดค�ำถามกันว่า เล่นน�้ำรึเปล่า เราตอบออกไปแบบยังไม่ได้มองออกไป ยังวิวข้างหน้าด้วยความเหนื่อยล้าว่าไม่เล่น ถ่ายรูป เสร็จแล้วกลับกันเลยไหมแต่พอลงจากรถแล้วเท่านั้น อ่างเก็บน�้ำแก้มลิงธรรมดาๆ ตามข้อมูลที่อ่านมากลับ ไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย น�้ำสีฟ้าเหมือนทะเลอันดามัน น�้ำใสสะอาด นี่มันทะเลน�้ำจืดชัดๆ จากที่บอกว่าไม่เล่น กลายเป็นเล่นน�้ำไม่ยอมขึ้นเลยทีนี้ ที่นี่มีแพที่ชาวบ้าน จัดท�ำกันขึ้นเป็นรายได้ของชาวบ้านภายใต้การดูแลของ อบต.ชุมพลบุรี ที่นี่มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม มีห้องน�้ำ บริการ 5 บาทต่อครั้ง ค่าแพอยู่ที่ ชม.ละ 250 ต่อครั้ง คุณลุงถามว่า 250 แพงไหม? เราเลยตอบไปว่าแพง งั้นลุงเอาแบบนี้ ลุงให้เราเหมาทั้งวันในราคา 500 บาท (นี่ใช่ไหมวลีที่ว่าช่วยหน่อยได้ไหมคนไทยด้วยกัน) ได้ยิน ราคาเราก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้ากันใหญ่
17
Just a feeling
พอเราพร้อมคุณลุงก็ลากแพเราออกจากฝั่งด้วย เรือหางยาวยิ่งออกจากฝั่งมาไกลเท่าไหร่ยิ่งสวยน�้ำสีฟ้า ที่ถูกแสงอาทิตย์สาดแสงทอลงมาใส่ระยิบระยับสวย จนอยากลงไปเล่นน�้ำเร็วๆ ลมเย็นๆ น�้ำสวยๆ กับ เครื่องเล่นที่นี่มีบานาน่าโบ๊ท 300 บาท ต่อรอบ เรา เริ่มกันที่บานาน่าโบ๊ทกัน บก. ขอพี่ที่ขับเครื่องเล่นว่า ขอแบบแรงเร็วสุดๆ ไปเลยนะ แปลกตรงที่เราเป็นคนที่ กลัวความเร็ว พอการออกตัวของเครื่องเล่นทุกอย่าง ไปเร็วมาก เข้าโค้งทีปะทะคลื่นทีแทบช๊อคด้วยความเร็ว ของบานาน่าโบ๊ท พอมองเห็นน่านน�้ำสีฟ้าเรากลับ รู้สึกว่าไม่กลัวมันเหมือนการท�ำไทม์แลปส์ในโทรศัพท์ ที่ทุกอย่างไปเร็วมากแต่กลับมีความสุข สายน�้ำก้อนเมฆ ที่ลอยตัวต�่ำมากเหมือนอยู่ใกล้ๆ เสียงร้องของพวกเรา
ราวกับว่ามาปลดปล่อยความทุกข์ความเหนื่อยล้า จากงานจากการท�ำงานมาตลอดทั้งเดือน ทั้งปี ถูก เทลงที่นี่ทะเลสาบทุ่งกุลา Place In My Heart
เรามาที่นี่ไม่ได้ขึ้นไปใกล้ภูเขา แต่การแบกเป้ขึ้นรถ เปิดเพลงชิลล์ๆ ไปตามเส้นทางสบายใจอย่างบอกไม่ถูก นี่แหละเสน่ห์ของธรรมชาติ ทุกอย่างท�ำให้รู้สึกว่า คุ้มค่าแก่การมาไกล บอกกับตัวเองว่าดีแค่ไหนแล้ว ที่ได้มา ถูกโอบกอดด้วยช้าง ถูกโอบกอดด้วยฝีมือการ ทอผ้าที่งดงาม ถูกโอบกอดด้วยทะเลสาบสายน�้ำสีฟ้า ถูกโอบกอดด้วยรอยยิ้มและน�้ำใจของชาวสุรินทร์ ต้อง ห้ามพลาด แล้วพบกันอีกเมืองสุรินทร์คนมีเสน่ห์
18
ขอบคุณผู้สนับสนุน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนเราร่วม เดินทางในครั้งนี้ ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ ไม่เหมือนใคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
มิตซูเจียงหนองคาย มิตซูเจียงบึงกาฬ มิตซูเจียงรอบเมือง อุดรธานี มิตซูเจียงมิตรภาพ อุดรธานี มิตซูเจียงบานดุง
042-407-441-2 042-492-018 042-126-031-3 042-292-320 042-136-599
s ’ D N O
Y E B
O C O H C M U I G L BE
E K A C LATE
BEYOND CAFE ขอเสิร์ฟความอร่อยสุดพิเศษส่งตรงถึงมือคุณ โดยคัดสรรดาร์กช็อคโกแลตนำ�เข้าคุณภาพเยี่ยมมาเสริฟในรูปแบบของเค้กหอมกรุ่น จากเตาให้ได้ลิ้มลองกันได้ที่ร้านแล้ววันนี้ หลากหลายเรื่องราวบอกต่อกันมาว่า1ในช็อคโกแลตที่ดีที่สุดของโลก คือช็อกโกแลตจากประเทศเบลเยี่ยม BEYOND CAFE จึงอยากมอบความสุขผ่านช็อคโกแลตแท้ๆ ที่มีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม แต่ละลายในปาก ซึ่งคนรักช็อคโกแลตไม่ควรพลาดเมนูนี้ และในเล่มนี้เราได้มีสูตร การทำ�ช็อคโกแลตเค้กที่ไม่มีส่วนผสมของแป้ง แต่อร่อยมากและทำ�ง่ายสุดๆ เชฟหนิงบอกว่าน่าจะเหมาะกับคน ที่กำ�ลังเริ่มต้นหัดทำ�ขนม เพราะเป็นเค้กที่ทำ�ง่าย ส่วนผสมน้อย ใครๆ ก็ทำ�ได้
ฉบับนี้ เลาะแมกกาซีน มีโอกาสลิ้มลองความอร่อยของเค้กที่ทาง BEYOND CAFE ได้คัดสรรเมนูใหม่ ท�ำได้ง่ายๆ ที่เพื่อนๆ สามารถท�ำตามเองได้ที่บ้าน รับรองความอร่อย ได้รสชาติดาร์กช็อคโกแลตแท้ๆ
Belgium Chocolate Cake ที่ทำ�ได้ง่ายๆ ใช้ส่วนผสมน้อย
รับรองความอร่อยถึงรสชาติดาร์กช๊อคโกแลตแท้เข้มข้น ละลายในปาก ให้เราฟินไปในโลกของช็อคโกแลตอย่างแน่นอน
Beyond Cafe
Beyond_Cafe
@beyondcafe
095-654-4412, 096-969-4412
Belgium chocolate cake
ส่วนประกอบ Dark Chocolate (ควรใช้ Dark chocolate couverture 64% ขึ้นไป) Butter Egg Sugar Vanilla
270
g.
125 g. 5 pc. 160 g. 1 Tsp.
พบกับเมนูพเิ ศษ
How to :
น�ำช็อคโกแลตกับเนยไปละลาย(Double Boil) โดยการใช้หม้อ 2 ใบ ใบแรกใส่น�้ำแล้วต้มน�้ำจากนั้นน�ำหม้อใบที่ 2 ไปวางซ้อนใบแรก ใส่ ช็อคโกแลตกับเนยลงไปพร้อมกัน คนจนละลายแล้วพักไว้ 2. แยกไข่แดงไข่ขาว แล้วน�ำไข่แดงตีเข้ากับน�้ำตาลครึ่งนึง จนฟูขึ้น โดย สีของไข่แดงจะเปลี่ยนเป็นสีอ่อนนวลๆ 3. น�ำช็อคโกแลตกับเนยที่ละลายทิ้งไว้มาผสมกับไข่แดงที่ตีไว้ให้เข้าเป็น เนื้อเดียวกัน พักไว้ 4. ตีไข่ขาวกับน�้ำตาลที่เหลือตีอีกครึ่งนึงเข้าด้วยกันจนฟูขาว ขึ้นมันเงา 5. จากนั้นน�ำไข่ขาวที่ตีเสร็จแล้วมาตะล่อมเข้าด้วยกัน โดยค่อยๆ ใส่ไข่ ขาวลงไปในส่วนของ ช็อคโกแลต เนย ไข่แดงที่ตีรวมกันเมื่อครู่ ตะล่อม ใส่จนหมด ตะล่อมไปในทิศทางเดียวกันเบาๆจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้ว เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ 6. น�ำเข้าเตาอบในอุณหภูมิ 175 องศา ประมาณ 35-40 นาที 7. พักให้เย็น โรยผงโกโก้ หรือ น�้ำตาลไอซิ่ง ตามใจชอบ เสิร์ฟพร้อม ไอศกรีม 1.
ติดตามชมวีดีโอวิธีทำ� Beyond’s Belgium chocolate cake ได้ทาง Facebook Fanpage : Beyond Cafe Facebook Fanpage : เลาะ แมกกาซีน
ทุกวัน เวลา 08:30 น. - 21:00 น.
“Strawberry Cheese Cake”
BINGSU
@BEYOND CAFE NONGKHAI st
1 Aniversary
แฮงเอาท์ Hangout
บำ�รุงคาเฟ่ มินิคอนเสิร์ต สุวิษา แก้วฤทธิ์
ธชา ปรางค์นวรัตน์
ร้าน บำ�รุง คาเฟ่ ได้จัดมินิคอนเสิร์ต Live in Bamroong Cafe เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสที่ครบรอบ 1 ปี ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าคนสำ�คัญ โดยทาง คุณก้อย เจ้าของร้านได้เชิญนักร้องสุดติสท์อย่าง Greasy cafe มาร่วมสร้างสีสันบรรยากาศในงาน ซึ่งงานนี้แฟนคลับของ Greasy cafe และลูกค้าต่างมามอบความสุขและกำ�ลังใจอย่างล้นหลาม
บ�ำรุง คาเฟ่ คาเฟ่ไซส์เล็กย่านสีแ่ ยกคอกม้า เนือ่ ง ด้วยมีเจ้าของร้านสามคน จึงออกมาเป็นสามแบบตาม สไตล์ถนัดผ่านอาหารแนวฟิวชัน่ ภายในคุมโทนด้วยสี ขาวด�ำ เสริมด้วยเฟอร์นเิ จอร์ไม้สนี ำ�้ ตาลสว่างถูกจัดวาง อย่างเรียบร่ายตามสัดส่วนของร้าน บ�ำรุง คาเฟ่เก๋ใน แบบทีต่ วั เองเป็น ดูสขุ มุ แต่ซอ่ นความเถิดเทิงไว้อย่าง ลงตัว จึงออกมาเป็นคาเฟ่แสนซน อย่างคนทีช่ อบสรรหา สิง่ ต่างๆ ทีเ่ ต็มไปด้วยความแปลกใหม่ ชวนตืน่ ตาตืน่ ใจ น�ำมาบ�ำรุงให้ผอู้ นื่ อยูเ่ ป็นประจ�ำ
บำ�รุง คาเฟ่เก๋ในแบบที่ตัวเองเป็น ดูสุขุมแต่ซ่อนความเถิดเทิงไว้อย่าง ลงตัว จึงออกมาเป็นคาเฟ่แสนซน อย่างคนที่ชอบสรรหาสิ่งต่างๆ นอกจากนีย้ งั มีเมนูเครือ่ งดืม่ ทัง้ กาแฟ นำ�้ หวาน หลากชนิด รวมทัง้ ช่วงค�ำ่ ยังมีดนตรีโฟล์ค เรียก ความรืน่ เริงเติมบรรยากาศให้สนุกสนานแบบเป็น กันเอง ซึง่ ใครอยากร่วมแจมก็ไม่ผดิ กติกาแต่อย่างใด ว่ากันว่าการได้กนิ อาหารอร่อยในบรรยากาศทีด่ ี นอกจากบ�ำรุงกายและยังช่วยให้ใจมีความอิม่ เอม เช่นกัน หากได้แวะเวียนมาบ�ำรุง คาเฟ่ คุณจะ สัมผัสสิง่ เหล่านีท้ เี่ ขาอยากมอบให้
Info.
บ�ำรุง คาเฟ่” ทุกวัน 17.00 น. - 00.00 น. 093-324-8245
ซ.แสวงมิตร ปั๊ม Shell
ถ.ศรีสุข
บ�ำรุงคาเฟ่
ถ.ประชารักษา
ถ.ประชารักษา 7-Eleven
โรงแรมนภาลัย
ร.ร. สตรีราชินูทิศ ถ.ศรีชมชืน่
ขึ้นภู ดูอีสานเขียว
“ จุดชมวิวหินหัวช้าง ภูสิงห์ จ.บึงกาฬ “
อุดรธานี - หนองคาย - บึงกาฬ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำ�นักงานอุดรธานี 042-325-406-7 24
“ หินจอมธาตุ ภูหินจอมธาตุ จ.อุดรธานี ”
UNFORGETTABLE PLACE ON MEKONG RIVERSIDE NONGKHAI - BUENGKAN สถานที่ที่ไม่เคยลืม เลาะริมโขง เชื่อมโยงหนองคาย – บึงกาฬ พานทิพย์ ลาลด
สุวิษา แก้วฤทธิ์, พานทิพย์ ลาลด
เทศบาลหนองคาย
โฟนพิสัย
วัดอาฮงศิลาวาส(สะดือแม่น�้ำโขง)
ล่องแพหนองคอน
หนองคาย-บึงกาฬ
วัดโพธาราม (หลวงพ่อใหญ่)
ภูสิงห์เมืองบึงกาฬ
ภูสิงห์เมืองบึงกาฬ
ล่องแพหนองคอน
วัดอาฮงศิลาวาส(สะดือแม่น�้ำโขง)
การเลาะครั้งนี้ขอเปรียบเทียบกับอาหารสักหนึ่งอย่างที่ ชื่นชอบไม่เคยเบื่อนั่นก็คือ น�้ำพริก (แจ่ว) ริมโขงเมืองที่มี กลิ่นอายของความสงบเรียบง่าย มีเอกลักษณ์ในแบบเมือง ลุ่มแม่น�้ำโขงที่ชวนหลงใหลส�ำหรับคนนอกพื้นที่อย่างเรา เหลือเกิน ทุกครั้งที่อยากเลาะแล้วคิดอะไรไม่ออกที่เลาะ ที่สบายใจที่สุดอีกหนึ่งที่บอกเลยว่าคือริมโขง ไม่ใช่ที่ที่สิ้น คิดอะไร ริมโขงคือสถานที่ไม่เคยลืมไปจากใจอยากกลับ มาอีกหลายๆ ครั้ง เล่าไปก็นึกถนนที่ตีคู่แม่น�้ำสายสีน�้ำตาล ที่น่านน�้ำกว้างบ้างแคบบ้างที่สลับกันไปช่วงหน้าหนาว หน้าแล้ง(ฤดูร้อน) น�้ำก็จะลดลงมองเห็นทรายสีขาวโขดหิน และมีต้นไคร้สีเขียวขึ้นเป็นย่อมๆ กลางน�้ำโขงสวยจน อยากลงไปถ่ายรูปใกล้ๆ พอหน้าฝนแบบนี้น�้ำที่เพิ่มขึ้นก็ ให้อารมณ์ที่แปลกมีความน่ากลัวแต่ก็ยังสวยเหมือนเดิม แต่ไม่ว่าจะมาในช่วงไหนเราผู้มาเยือนก็มีความสบายใจ ที่ได้กลับมาอีกครั้ง และทุกครั้งที่มาเราได้เจอสิ่งใหม่ๆ ที่ เลาะใหม่ๆ อยากพาเพื่อนๆ คนพิเศษ ครอบครัวกลับมา อีกครั้ง ไม่ได้นึกถึงว่าเคยมาแล้วต้องไปที่อื่น ธรรมชาติ สร้างความสมบูรณ์แบบไว้ให้และคนที่นี่ยังรักษาเอาไว้ ได้มาก กลิ่นไอของแม่น�้ำโขงความสัมพันธ์ของสองฝั่งที่ เชื่อมต่อกันมาเป็นความคุ้นเคยที่ตัดกันไม่ขาด เป็นอีก เรื่องราวที่เราเห็นทุกครั้งที่มาผ่านช่วงน�้ำลด น�้ำขึ้น ก็ยัง ไปมาหาสู่กันเหมือนเดิม การเลาะริมโขงทุกครั้งส�ำหรับเราก็คงเหมือนกับ น�้ำพริก ถ้วยเก่าที่ทานไม่เบื่อ อยากทานอยู่อย่างนั้น เหมือนการ ออกมาเลาะริมโขงที่ต้องมาทุกฤดูไม่เปลี่ยนใจ
ขอบคุณผู้สนับสนุน
ททท.สำ�นักงานอุดรธานี ที่ชวนเราร่วมเดินทางในครั้งนี้ กับกิจกรรม คาราวานรถยนต์เลาะริมโขง เชื่อมโยง หนองคาย – บึงกาฬ ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ภูสิงห์เมืองบึงกาฬ
26
Trail Me เดินทาง ท่องเที่ยวในแบบโปเตโต้ อัครพล ลีกำ�เนิดไทย
ธชา ปรางค์นวรัตน์
หากการเดินทางเปรียบได้กับการใช้ชีวิต การเดินทางก็คงจะมีเรื่องเล่ามากมาย ที่คอยอธิบายให้คนอื่นได้ฟังทั้งเรื่องราวที่ดีและร้าย วงดนตรีวงนี้ก็เช่นกันที่การเดินทาง กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเพลง อะไรที่ทำ�ให้วงดนตรีวงนี้ประทับใจ ในดินแดนที่เรียกว่าอีสาน ร่วมเดินทางและรับรู้เรื่องราวความประทับใจในแบบ “โปเตโต้”
นิยามสำ�หรับการเดินทางของโปเตโต้คืออะไร นิยามการเดินทางของพวกเราเปรียบเหมือนกับชีวิต ของคนคนหนึ่ง จากเด็ก มาเป็นวัยรุ่น จนเติบโตมาเป็น ผู้ใหญ่ แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าตอนแก่จะเป็นอย่างไร เพราะ ว่าเรายังเดินทางไม่ถึงจุดนั้น แต่โปเตโต้เองมีการ เปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ เช่นในตอนที่เราเป็นเด็กเราก็ จะมีทัศนคติอย่างหนึ่ง พอเวลาผ่านไปสักประมาณ 3 ปี เราก็จะมีทัศนคติใหม่ ซึ่งมันก็จะมีการเปลี่ยนแปลง อยู่เรื่อยๆ รวมไปถึงความคิดส่งผลถึงเพลงถึงดนตรี ด้วยเช่นกัน เราว่าการเดินทางของโปเตโต้เหมือนกับคน ถ้าการเดินทางในภาพที่ทุกคนมองเห็นได้คือเรื่อง ของการท่องเที่ยวที่ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เจออะไร ที่หลากหลาย โปเตโต้เองก็เช่นเดียวกัน ที่ตอนเริ่มต้น ก็มีความน่ารักสดใสเหมือนกับเด็กคนหนึ่ง เมื่อผ่าน ประสบการณ์ไปสักระยะบุคลิกของเราก็เริ่มเปลี่ยน เพราะเราได้เจออะไรมากยิ่งขึ้น มีเรื่องราวในชีวิต มากยิ่งขึ้น เราโตขึ้นตามประสบการณ์ที่ได้เจอมา อีกหนึ่งนิยามของเราส�ำหรับการเดินทางของโปเตโต้ ถ้าให้มองเราเป็นรถอะไรสักคันหนึ่ง โปเตโต้คงเป็น รถเมล์ ที่มีคนเดินขึ้นมาในรถเมล์ของเราแล้วก็ลงไป แต่รถเมล์สายโปเตโต้เองก็ยังเดินทางต่อไปเพื่อให้ได้ รับและส่งผู้คนจนถึงปลายทางที่เค้าต้องการ
แม้ว่าบางครั้งการเดินทางไปในเส้นทางสายเดิมที่ เราเคยไป เมื่อเรากลับไปอีกครั้งในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน สิ่งที่เราเจอก็อาจจะแตกต่างด้วย โปเตโต้ว่า เพื่อนๆ หลายคนคงเข้าใจในสิ่งนี้ เช่นเราเดินทางไป เที่ยวสถานที่ไหนสักแห่งหนึ่งคนเดียวในช่วงฤดูฝน สิ่งที่ เรารู้สึกหรือสัมผัสได้ก็คงเป็นเหงาและความอ้างว้าง พอผ่านเข้าฤดูหนาวเราได้กลับไปสัมผัสในสถานที่แห่ง เดิมอีกครั้งกับคนรักหรือคนที่รู้ใจสักคน ความรู้สึก ก็อาจจะเปลี่ยนจากที่เคยเหงา ความอ้างว้างกลายเป็น ความโรแมนติกเข้ามาแทนที่ได้เช่นกัน
การเดินทางให้อะไรกับโปเตโต้บ้าง การเดินทางให้ประสบการณ์กับเราแน่นอน ท�ำให้ เราได้เรียนรู้อะไรอยู่ตลอดเวลา เพราะโปเตโต้เดินทาง ตลอดก็จะได้พบเจออะไรใหม่ๆ ทุกครั้ง ยิ่งเราเดินทาง มากแค่ไหนเรายิ่งได้เจออะไรใหม่ๆ มากแค่นั้น โปเตโต้ เองเคยเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศ นั้น ก็คือประเทศออสเตเรียเราเองไม่ได้คาดคิดว่าเราจะมี แฟนเพลงที่มากขนาดนั้น มันเป็นอะไรที่เราประทับใจมาก
29
แม้ว่าบางครั้งการเดินทาง ไปในเส้นทางสายเดิมที่เราเคยไป แต่เมื่อเรากลับไปอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน สิ่งที่เราเจอก็อาจจะแตกต่างด้วย
30
ลองมาสัมผัสดินแดนอีสานสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่ามีอะไรมากมาย ให้คุณได้สัมผัส ซึ่งหาจากที่อื่นไม่ได้
การเดินทางให้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ผลงานเพลงกับโปเตโต้หรือไม่ ส่วนใหญ่แรงบันดาลใจในการท�ำเพลงของโปเตโต้ ก็ได้จากการเดินทาง การนั่งรถตู้ด้วยกัน การได้คุยได้ แลกเปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติกัน มันก็จะเกิดมุมมองใหม่ๆ ให้เราสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ อยู่เสมอ การที่เราได้ เดินทางแล้วเห็นชีวิตของคนในสายอาชีพเดียวกัน คน ท�ำงานเบื้องหลัง คนที่ตรากตร�ำเหน็ดเหนื่อยกับการ ประกอบเวที หรือแม้แต่คนทั่วๆ ไปที่เราได้ผ่านไปเจอ มันก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งที่ท�ำให้เราได้น�ำเอามา ประกอบกับความคิดของเราในการท�ำเพลงด้วยเช่นกัน จริงๆ แล้วผลงานเพลงอัลบั้มนี้เราก็ได้เดินทางไป เขียนเพลงไปอัดเพลงกันที่ อ.หัวหิน จ.เพชรบุรี เพราะ เรารู้ว่าการออกไปข้างนอกแบบนี้มักจะท�ำให้เราได้รับ ความรู้สึกอะไรบางอย่างมากกว่าการอยู่ที่บ้าน อย่างน้อยเราก็ได้เปลี่ยนบรรยากาศในการท�ำงาน ความรู้สึก จากที่เราจะคิดว่าเป็นการท�ำงาน มันกลับเปลี่ยนเป็น รู้สึกว่าเราได้ออกไปเที่ยว แต่เราก็ได้งานกลับมาด้วย บางทีแค่เปลี่ยนสถานที่มันก็ท�ำให้เราเปลี่ยนความรู้สึกแล้ว โปเตโต้ประทับใจอะไรในภาคอีสาน อีสานเป็นภาคแรกๆ ตั้งแต่เริ่มเดินทางทัวร์คอนเสิร์ต ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกเลย เพราะอีสานเป็นภาคที่ โปเตโต้มาเล่นคอนเสิร์ตแล้วสนุกมากๆ คนอีสานไม่มี ก�ำแพงในการดูคอนเสิร์ตเลย ท�ำให้เราสบายใจทุกครั้ง ที่มา เรารู้ว่าถ้ามาที่อีสานเราจะได้รับการต้อนรับอย่าง อบอุ่นมากๆ แน่นอน
31
นอกเหนือจาความประทับใจในการมาทัวร์คอนเสิร์ต แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวในอีสานเองก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ โปเตโต้ประทับใจ เพราะอีสานมีสถานที่ท่องเที่ยว ทางธรรมชาติที่สวยงามอยู่เยอะมาก โดยเฉพาะคนที่ ชอบขี่มอเตอร์ไซด์ไม่ควรพลาดเส้นทางเรียบแม่น�้ำโขง จาก อ.เชียงคาน จ.เลย เลาะมาจนถึง อ.สังคม จ.หนองคาย จนมาจบที่สะพานมิตรภาพไทย – ลาว ทีกล้าพูดแบบนี้ก็เพราะว่าสมาชิกในวงโปเตโต้เองเคย สัมผัสกับเส้นทางนี้มาแล้ว เพราะได้เห็นความสวยงาม ของแม่น�้ำโขงรวมไปถึงธรรมชาติที่สวยงามตลอด เส้นทางนี้ โปเตโต้ชวนเที่ยวอีสาน อีสานในมุมมองโปเตโต้ เป็นดินแดนที่มีสถานที่ ท่องเที่ยวเยอะมาก แล้วก็อยากให้คนไทยที่ยังไม่เคย มาเที่ยวอีสานลองมาเที่ยวดู ถ้าจะให้ดีต้องมาค้างคืน ด้วยจะดีมากๆ เพราะจะได้รับบรรยากาศแบบเต็มที่ ยิ่งตอนนี้เข้าสู่ยุค AEC แล้วเราก็ยิ่งจะได้แลกเปลี่ยน วัฒนธรรมจากประเทศเพื่อนบ้านเราด้วย อีกอย่างมี งานวิจัยออกมาจากส�ำนักวิจัยหนึ่งบอกว่าสาวอีสาน เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศไทยเรื่องนี้โปเตโต้ กล้ายืนยัน
ขอขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ� :
หัง่
ปัป๊
โอม
กานต์
BIOGRAPHIC วงดนตรีที่มีเรื่องราวมากมาย ทั้งดีและร้าย สมหวังและผิดหวัง การเดินทาง ท�ำให้พวกเขาโตขึ้น มีมุมมอง ทัศนคติที่เปลี่ยนไป จากวงดนตรีที่มีความน่ารัก สดใส แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาได้เปลี่ยนให้พวกเขาเป็นวงดนตรีที่มีความแข็งแกร่ง เนื้อหาในเพลงที่สะท้อนมุมมองของความคิดที่เป็นผู้ใหญ่เป็นสิ่ง ตอกย�้ำให้ “โปเตโต้” ยังคงยืนหยัดในวงการเพลงได้อย่างยาวนาน ปัจจุบัน โปเตโต้ มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย (ปั๊ป) พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข, (โอม) ปิยวัฒน์ อนุกูร, (กานต์) กานต์ อั่มสุพรรณ และ(หั่ง) ทีฑทัศน์ทวีอารยกุล สังกัดค่าย We Record (วี เรคคอร์ด)
โรงแรม ดิโอโซน บูทิค โฮเต็ล อุดรธานี
32
มา i-view ชิลล์ทุกคน คงไม่ได้มาเพราะความบังเอิญ แต่คือความจริง ที่ทางร้านตั้งใจให้ทุกคนได้ผ่อนคลาย กับบรรยากาศของร้านคาเฟ่ ทีมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ มากไปกว่านั้นทาง i-view ยังมีบริการห้องพักสุดชิลล์ ไว้ให้บริการถึง 15 ห้องเลยทีเดียว
ถนนรอบเมือง
แยก รังษิณา โลตัสอุดร I VIEW CAFE
ซ.พิบูลย์
I-VIEW CAFE
I VIEW_CAFE
042-181-903, 095-658-5535
เว่าสู่ฟัง Wao Soo Fung
มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง สุรินทร์ สุวิษา แก้วฤทธิ์
ธชา ปรางค์นวรัตน์
เป็นที่รู้กันว่าเทศกาลเข้าพรรษาเป็นช่วงเวลาที่รวมวันสำ�คัญทางพระพุทธศาสนาได้ถึงสองวันด้วยกัน คือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา เว่าสู่ฟังจะพาไปสัมผัสเทศกาลงานบุญไกลถึงจังหวัดสุรินทร์ ถิ่นช้างใหญ่ ในงาน “มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง”
เรียกได้ว่างานใหญ่สมค�ำล�่ำลือกันจริงๆ กับงาน “มหกรรมแห่เทียนพรรษาและ ตักบาตรบนหลังช้าง” ที่จัดขึ้นมาเป็นระยะเวลากว่า 9 ปี และเป็นที่เทศกาลที่ได้รับ ความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศกันเลยทีเดียว โดยปีทุกจะมี การจัดงานขึ้น 2 วัน บรรยากาศในบ่ายวันแรกของงานคือมีขบวนแห่เทียนพรรษา ที่สวยงามตระการตา ขบวนฟ้อนร�ำศิลปวัฒนธรรมของชาวจังหวัดสุรินทร์จาก 12 คุ้มวัดชื่อดังในจังหวัดพร้อมขบวนแห่ช้างที่ยิ่งใหญ่นับ 89 เชือกที่ช้างประดับสวยงาม เหตุที่น�ำช้างมาร่วมงานนั้นเนื่องจากจังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดที่มชี ้างเยอะที่สุดใน ประเทศ ทางหน่วยงานต่างเห็นความส�ำคัญของช้างและเพื่อสืบทอดวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป เรามาย้อนกลับไปถึงความเป็นมาของวันพรรษากันดีกว่า เพราะมีบางความเชื่อ ที่บอกเล่าเว่าสู่ฟังมาว่า จุดเริ่มต้นนั้นเกิดขึ้นจากศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู
เมื่อวัวตายจะเอาไขจากวัวมาท�ำเป็นน�้ำมันเพื่อจุดบูชาพระผู้เป็นเจ้าที่ตนเคารพ เพราะถือว่าวัวเป็นพาหนะของพระอิศวร แต่ชาวพุทธซึ่งนับถือศาสนาพุทธจะท�ำ เทียนเพื่อจุดบูชาพระรัตนตรัย โดยการเอารังผึ้งร้างมาต้มเอาขี้ผึ้งแล้วฟั่นเป็นเทียน เล่มเล็กๆ มีความยาวตามต้องการใช้จุดบูชาพระ ในพุทธกาลวันเข้าพรรษาเป็น วันที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้พระภิกษุสงฆ์จ�ำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน ในฤดูฝน ระหว่างแรม 1 ค�่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 ค�่ำ เดือน 11 เพื่อไม่ให้ไปเหยียบย�่ำ ต้นกล้าของชาวนาเสียหายและมีสิ่งที่ส�ำคัญ 2 อย่างได้แก่ ประเพณีแห่เทียนพรรษา และการถวายผ้าอาบน�้ำฝน แต่ประเพณีแห่งเทียนพรรษาที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจาก สมัยก่อนพระสงฆ์ไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านจึงหล่อเทียนต้นใหญ่น�ำถวายเพื่อใช้ใน การท�ำกิจวัตรต่างๆ อีกความเชื่อก็เพื่อปรารถนาให้ตนเองเฉลียวฉลาด มีไหวพริบ ประดุจแสงสว่าง ของดวงเทียน การน�ำเทียนไปถวายประชนชาวบ้านจะจัดขบวนแห่กันอย่างยิ่งใหญ่ สนุกสนาน คึกคักและปฏิบัติสืบทอดกันมาจนกลายเป็นประเพณีถึงปัจจุบัน
35
ขณะเดียวกันในเช้าวันงานอีกวันซึ่งเป็นวันอาสาฬหบูชาเป็นวันที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรกเป็นปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 การ แสดงธรรมครั้งนั้นท�ำให้โกณฑัญญะ 1 ใน 5 ปัญจวัคคีย์ เกิดดวงตาเห็นธรรม และความเลื่อมใสในพระธรรมของพระพุทธเจ้าจนบรรลุเป็นพระโสดาบัน ท�ำให้ ในวันนั้นมีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์เป็นครั้งแรกในโลก คือพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ดังนั้นวันอาสาฬหบูชาจึงถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึง วันเกิดเหตุการณ์ส�ำคัญของพระพุทธศาสนา และเพื่อให้ชาวพุทธต่างระลึกถึงค�ำ สอนของพระพุทธเจ้า ยึดมั่นในหลักความดี ทั้งยังช่วยเสริมสร้างจิตใจให้เรา ด�ำเนินชีวิตไปอย่างมีความสุขอีกด้วย จึงท�ำให้เราได้ชมกับอีกมหกรรมงานบุญคือการ “ตักบาตรบนหลังช้าง” โดยฤกษ์งามยามดีเวลา 07.00 น. เป็นต้นไป พิธีท�ำบุญตักบาตรบนหลังช้างนั้น
จะมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้าง จ�ำนวน 89 รูป ซึ่งมีที่เดียว ในโลก ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ใจกลางเมือง สุรินทร์นั่นเอง ภายในงานจะเนืองแน่นไปด้วยประชาชนจากทั่วสารทิศ ที่มาตั้งหน้าตั้งตารอ ตักบาตรด้วยจิตใจที่ต้องการจะบริจาคทานท�ำบุญ ไม่ว่าจะเป็นลูกเล็ก เด็กแดง วัยรุ่นยันไปถึงรุ่นคุณปู่-คุณย่ากันเลยทีเดียว และจะสังเกตได้ว่าตลอดงานทั้งสอง วันชาวสุรินทร์ร่วมแต่งกายด้วยผ้าไหมสุรินทร์ ซึ่งเป็นของดีเมืองสุรินทร์ให้นักท่องเที่ยว ได้ชมและให้เป็นรู้จักอีกด้วย หลังเสร็จพิธีช้างบางเชือกยังอยู่ภายในงานเพื่อให้ ประชาชนได้ร่วมถ่ายภาพ ท�ำให้เราได้รู้จักช้างน้อยน่ารักเชือกนึงชื่อน้อง อรทัย อายุ 4 ขวบ เรียกได้ว่าอิ่มทั้งบุญอิ่มทั้งใจและอย่าลืมไปเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ ปีหน้าหวัง ว่าจะเจอกันใหม่นะ อรทัย.
36
น้องอรทัย
37
บ้านเฮา My Hometown
สาวไหม...? ธชา ปรางค์นวรัตน์
คุณแม่ประดิษฐ์ (ไม่ใช่คนในภาพ แต่นั่งข้างๆ ผม) ได้เล่าให้ฟังว่า สมัยตะกี้เด้อ ตอนแม่ยังสาวๆ ช่วงครึ่งปีหลังแม่สินั่งสาวไหมเบิ่ดมื่อ นอกจากสาวไปขายแล้ว แม่สาวไหมกะย่อนซ้อมไปแข่งงานทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี เป็นงานประจำ�ปี ในงานกะสิมีการแข่งขันสาวไหม คือจังคำ�เพิ่นว่า “ธานีผ้าหมี่ขิด” ฮั่นล่ะ แม่ไปแข่งสามปี มาได้ที่หนึ่งตอนปีที่สาม สองปีแรกแม่บ่มีประสบการณ์ ตื่นหลาย ...สมัยลูกๆ คือสิบ่มีแล้วล่ะ (ขอบคุณรอยยิ้มจากคุณแม่ประดิษฐ์)
หากใครชอบขีดเขียน ถ่ายภาพ และมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน “บ้านเฮา” อย่าเก็บไว้อ่านคนเดียว ส่งเรื่องราวมาได้ที่ facebook.com/เลาะ-แมกกาซีน หรือ Email : lolh.mag@gmail.com
38