พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
LOLH Leisurely Wander Through the North of Esan
ISSN 2408-2759
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม สำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า กองบรรณาธิการนิตยสารเลาะ แมกกาซีน และบริษัท บี ที เจ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำ�กัด
ห้างเพชรทองชัยเฉลิม ตราดาว
หากคุณกำาลังมองหา แหวนแต่งงาน สำาหรับวันที่สำาคัญที่สุด วันหนึ่งในชีวิตคุณ ทางร้านให้คุณได้มากกว่าที่คุณคิด
เพียงแค่ซื้อเครื่องประดับเพชร หรือถ่ายรูป/วีดีโอ Pre-Wedding วันนี้ Gift Vouchers มูลค่า 2,000.-
รับทันที ร้านที่เข้าร่วม กิจกรรม 088-560-5601, 042-245-750
ห้างเพชรทองชัยเฉลิม ตราดาว
chaichalermgold
@chaichalermgold
พระบรมสาทิสลักษณ์ โดย นายสมมาตร คำ�เพิ่มพูล ครูโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล
Content คำ�เลาะ
Editor’s Talk
10
เรื่องเล่าจากปากของผู้ที่ ชอบออกเลาะเดินทาง ท่องเที่ยวในดาวเคราะห์ สีน้ำ�เงิน Cover Way
22
เซคชั่นว่าด้วยการออกเลาะ ไปหาหม่องช้อป ฮ้านชิม หม่องชิลล์ และแฮงเอาท์ สีสันชีวิตที่เราขีดเขียนเอง
เว่าสู่ฟัง
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า กองบรรณาธิการนิตยสารเลาะ แมกกาซีน และบริษัท บี ที เจ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำ�กัด
12
ความงดงามแห่งวิถีชีวิต ความวิจิตรที่ธรรมชาติ รังสรรค์ ก่อเกิดเรื่องราว ให้ได้ออกไปเลาะ
ช๊อป ชิม ชิลล์
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม สำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้
34
เป็นการรวบรวมเรื่อง เล่าขานหรือประวัติ นิทานในถิ่นอีสานบ้านเรา ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
Editorial Team
ที่ปรึกษา ร.ต.อ.พชร มูลสาร, อภิวัฒน์ อินทร์หา ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา เอกกวี ชัยปภาฐกิตต์, กมล ปิติวัชรากุล บรรณาธิการ ธชา ปรางค์นวรัตน์ นักเขียน ภัทรภร พรมทอง, สุวิษา แก้วฤทธิ์, พานทิพย์ ลาลด บรรณาธิการภาพ ธชา ปรางค์นวรัตน์ ช่างภาพ อัครพล ลีกำ�เนิดไทย บรรณาธิการศิลปกรรม กฤษดินทร์ ช้างรักษา พิสูจน์อักษร ธนภัทร อินทักษิณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กนิษฐิกา ศรีภูมี ฝ่ายการตลาด ภาณุพงศ์ ชีวะพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน ธนกฤต การัณย์สกุล เจ้าของ บริษัท บี ที เจ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำ�กัด ที่อยู่ 323/9 หมู่ที่ 8 ซ.บ้านบงคำ� ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พิมพ์ที่ บริษัท กู๊ดเฮด พริ้นท์ติ้ง แอนด์ แพคเกจจิ้ง กรุ๊ป จำ�กัด
ติดต่อโฆษณา 091-865-3102, 086-858-4969 ฝ่ายการตลาด Email : lolh.mag@gmail.com อนุญาตให้ได้ตามสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย
เลาะ แมกกาซีน
LOLH.MAGAZINE
E-news Club ชวนคนอุดรมาดูหนังคุณภาพใน บรรยากาศสบายๆ ที่คนรักหนังไม่ควรพลาด MOVMOV
ถ้าคุณเคยบ่นว่า “เฮ้อ ท�ำไมหนังดีๆ แต่ไม่ท�ำเงินไม่ค่อยมาฉายให้คนต่าง จังหวัดอย่างเราดูเลย” MOVMOV Club ขอชวนคนอุดรมาดูหนังคุณภาพใน บรรยากาศสบายๆ ที่ร้านกาแฟ หากใครดูจบแล้วใคร่กลับบ้านเลยก็ตามสบาย ใครอยากอยู่พูดคุยต่อก็ล้อมวงแลกเปลี่ยนประเด็นกัน ที่ผ่านมาจัดฉายหนังมาแล้ว สองเรื่อง ได้แก่ Where to Invade Next เมื่อเดือนสิงหาคมและ Gayby Baby ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทั้งสองครั้งจัดที่ร้านกาแฟกลางเมืองอุดร SET a day ซอยจินตคาม ถนนทหาร MOVMOV Club เกิดจากการรวมตัวของคนอุดรที่อยากดูหนังคุณภาพพร้อมกัน ชื่นชอบบรรยากาศ Doc+Talk (ดูหนังจบแล้วมาพูดคุยกัน) ที่เกิดขึ้นตามเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพ และเชียงใหม่เป็นต้น จึงได้น�ำรูปแบบดังกล่าวมาท�ำให้เกิดขึ้นที่ อุดรธานี แอบรู้มาว่าต่อไปจะน�ำหนังมาฉายทุกวันเสาร์ที่ 4 ของเดือน โดยคิว สองเรื่องต่อไปได้แก่ “Tsukiji Wonderland: อัศจรรย์ตลาดปลาสึคิจิ” วันที่ เสาร์ที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน และ “The Lover & The Despot: ท่านผู้น�ำ & คนท�ำหนัง” ในวันเสาร์ที่สี่ของเดือนธันวาคม ท่านใดสนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่ม MOVMOV Club ได้ Facebook Pages หรือสอบถามรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่ร้าน SET a day มาชม หนังคุณภาพและแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ที่คนรักหนังไม่ควรพลาด
9
คำ�เลาะ Come Lolh
คนเดียวก็เที่ยวทั่วโลกได้ อัครพล ลีกำ�เนิดไทย
ธชา ปรางค์นวรัตน์
การออกเดินทางท่องเที่ยว คือการให้รางวัลชีวิตของเธอคนนี้ เสน่ห์ของทุกสถานที่ ล้วนแล้วแต่เป็นความทรงจำ�ที่สวยงาม และเป็นแรงบันดาลใจให้เธอต้องออกเดินทางเพื่อค้นพบสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง การเดินทางจะให้ประสบการณ์อะไรกับเธอบ้าง เดินทางไปพร้อมกับผู้หญิง ที่มีรูปแบบชีวิตเก๋ๆ กับเธอคนนี้ “เอ๋ ณัฐนันท์ ธนะเธียรานันท์”
เราเป็นคนที่เวลาทำ�งานเราก็จะเต็มที่ กับงานที่เราทำ� แล้วเราก็จะให้รางวัล ชีวิตด้วยการเดินทางท่องเที่ยว
นิยามการท่องเที่ยวในแบบ เอ๋
ถ้าจะให้นิยามการเดินทางในแบบของเราเอง คงอธิบายว่าการเดินทางมันคือการหาแรงบันดาลใจ การได้เปิดโลก เปิดมุมมองใหม่ให้กับตัวเราเอง เมื่อเราได้ออกเดินทางไปที่ไหนสักแห่งหนึ่งแล้ว เรา ก็จะมีแรงบันดาลใจเพื่อที่จะได้ไปอีกแห่งหนึ่ง ดังนั้น เป้าหมายของเราก็จะไกลออกไปเรื่อยๆ อีกอย่างการ เดินทางมันท�ำให้เราได้เอาประสบการณ์หรือว่าสิ่งที่ พบเจอกลับมาใช้กับงานของเราได้ด้วย เพราะโลกเรา มันไม่ได้มีเพียงแค่พื้นที่ที่เราอยู่เท่านั้น ฉะนั้นยิ่งเรา ออกไปเจออะไรมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งได้อะไรกลับมา มากเท่านั้น เริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่เมื่อไหร่
เริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวจริงๆ คงเป็นสมัยเรียน ม. 4 จ�ำได้ว่าตอนนั้นไปเที่ยวภาคใต้กับชุมนุมลูกเสือ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากเพราะเราได้ออกไป เที่ยวไกลๆ กับเพื่อน จากนั้นไม่ว่าโรงเรียนจัดกิจกรรม ท่องเที่ยวที่ไหนเราก็จะไปด้วยทุกครั้งก็ได้รู้ตัวเองว่า เราเป็นคนที่ชอบเดินทางจริงๆ
แล้วสไตล์การท่องเที่ยวของเราอีกอย่างหนึ่งคือการ ท่องเที่ยวด้วยตัวเอง เราจะไม่ค่อยเที่ยวในลักษณะไป กับบริษัททัวร์ เพราะมองว่าการได้เดินทางเที่ยวใน แบบของตัวเองจะเป็นอะไรที่ใช่ตัวตนเรามากกว่า ได้ใช้ เวลาอยู่กับสิ่งที่เราชอบเป็นเวลานานๆ ทุกแห่งที่เรา ไปเราสามารถก�ำหนดเองได้หมด อีกสิ่งที่ได้จากการ ท่องเที่ยวด้วยตัวเอง คือเราได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองจริงๆ ได้พักผ่อนสมองของเราด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องของคน อื่นมากมาย ส่วนตัวเป็นคนชอบเที่ยวแบบสบายๆ หมายความว่า เรื่องของการเดินทางต้องเดินทางสะดวก ที่พักก็ต้อง ให้รู้สึกปลอดภัยกับตัวเองมากที่สุด เพราะเราไม่ได้มี ใครมาดูแลเราตลอดเวลา และเป็นคนที่ชอบกินมาก ร้านอาหารร้านไหนที่เด่นที่ดัง เราจะชิมหมดทุกร้าน อะไรประมาณนั้น ความสุขของการเดินทางคืออะไร
ความสุขของการเดินทาง เราอาจจะบอกว่ามันเป็น เรื่องของความท้าทายในชีวิต มันคือการเติมพลังให้ กับชีวิตที่เราท�ำงานเต็มที่ พอเวลาเราได้ออกไปเที่ยว มันท�ำให้เราไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น เราสนใจแค่ตัว สไตล์การท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ เราเองก็พอ ความสุขคือการได้ใช้ตัวตนของตัวเองได้ จริงๆ แล้วเป็นคนชื่นชอบธรรมชาติมาก ไม่ว่าจะ อย่างเต็มที่ คนบางคนอาจจะมีความกลัวที่จะออกเดินทาง เป็นการท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม เพราะว่าธรรมชาติเป็นอะไรที่ไม่คงที่ มีการเปลี่ยนแปลง ท่องเที่ยวเพราะกลัวสิ่งต่างๆ ที่เราไม่คุ้นเคย แต่เรา ตลอดเวลา แต่ละสถานที่ก็มีความแตกต่างกันไป เช่น อยากจะบอกว่า ทุกวันนี้สิ่งที่คอยอ�ำนวยความสะดวก เราเคยเดินทางไปเที่ยวสถานที่แห่งนี้ในช่วงฤดูฝน ให้เรามีเยอะมาก การเดินทางไม่ได้น่ากลัวอะไร ความรู้สึกก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่พอเราไปในฤดูที่ ลองออกท่องโลกกว้างดูแล้วจะได้รับอะไรหลายสิ่ง แตกต่าง ความรู้สึกเราก็จะต่างไปด้วย จากการเดินทาง
11
BIOGRAPHIC เพราะการเดินทางท�ำให้เธอได้เห็นในสิ่งที่คนอื่น มองไม่เห็น สถานที่แต่ละสถานที่ล้วนเป็นส่วนหนึ่ง ของแรงบันดาลใจในการคิดสร้างสรรค์ผลงานของเธอ ทุกวันนี้ “เอ๋ ณัฐนันท์ ธนะเธียรานันท์” เจ้าของ กิจการ หจก.บานาน่า 24 ครีเอชั่น ยังคงออกเดิน ทางท่องโลกกว้างเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มาพัฒนางานที่รักของเธออยู่เสมอ
Cover Way เยือนถิ่นที่คุ้นเคย...อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท สุวิษา แก้วฤทธิ์
ธชา ปรางค์นวรัตน์
เส้นทางการเดินทางตามทิศทางของดวงอาทิตย์ที่นำ�ทางเราไปยัง “น�้ำตกจากสันภูพาน อุทยานแห่งธรรมะ อารยธรรม 5,000 ปี...” หากใครเป็นคนอุดรอาจจะคุ้นเคยกับประโยคนี้เป็นอย่างดี สถานที่กล่าวมานั้นก็คือ “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” ซึ่งวัยเด็กของหลายคนอาจจะเคยมาทัศนศึกษา กับทางโรงเรียนก็เป็นไปได้ และบางคนอาจจะห่างหายจากการมาเยือนสถานที่นี้ เราจึงได้ย้อนรอยตามประวัติศาสตร์ ณ ที่แห่งนี้อีกครา การเดินทางครั้งนี้จะเรียกได้ว่า มาผจญภัยในรูปแบบมินิก็ว่าได้ กับสถานที่ที่เต็มเป็นไปด้วยธรรมชาติ และประวัติศาสตร์เรื่องราวความเป็นมามากมายเหลือเกิน
Let’s Start.
เส้นทางการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติภูพระบาท ในครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ปรึกษากันตัดสินใจกันว่า “เราไปภูพระบาทกันไหม?” หลังจากลงมติเป็นเอกฉันท์ ก็ออกเดินทางเลยจ้า! ล้อหมุนออกจากตัวเมืองอุดรฯ ไป ยังอ�ำเภอบ้านผือ สถานที่ตั้งของจุดหมายนั้นเราได้ฝ่า ทั้งสายฝนและแสงแดดที่สาดส่องสลับกันไปมาตลอด ระยะทางประมาณ 67 กม. จากตัวเมืองอุดรฯ พอเข้า เขตบ้านพาน สองข้างทางเราจะเห็นวิวภูเขาภูพาน เราลดกระจกรับลมเย็นหลังจากฝนหยุดตก รับโอโซน ให้ชุ่มปอดกันเลยทีเดียวตลอดระยะทาง 11 กม. ก่อน เราก็พบกับทางเข้าอุทยานฯ ซึ่งคดเคี้ยวหลากหลาย โค้งกัน ถ้าใครเมารถง่ายควรพกยาดมไปด้วยจะดีมาก เลยทีเดียว
When I was young
เมื่อเข้าเขตอุทยานฯ ด้านหน้าจะมีป้อมที่เจ้าหน้าที่ คอยให้บริการอยู่ด่านแรกทักทายด้วยรอยยิ้มก่อนจะ เข้าไปยังลานจอดรถด้านในที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยว ความรู้สึกแรกที่เห็นป้ายชื่ออุทยานฯ ท�ำให้หวนนึกไป ถึงตอนเด็กๆ ที่มาทัศนศึกษากับทางโรงเรียน อารมณ์ ตื่นเต้นเริ่มเข้ามาสู่จิตใจคิดไปต่างๆ ว่าด้านในจะ เปลี่ยนไปมากขนาดไหนกัน ดังนั้นเราจึงรีบเดินไป สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ประจ�ำศูนย์บริการให้ ข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานฯ รวมทั้งแผนที่ที่ใช้เส้นทางเดิน เที่ยวชมโดยในแผ่นพับจะมีจุดต่างๆ ระยะเวลาใน การเดินทางและข้อห้ามต่างๆ ที่ไม่ควรกระท�ำนั้นระบุ ไว้ด้วย ในส่วนเวลาเปิด-ปิดอุทยานฯ จะเปิดบริการ ทุกวันเวลา 08.00 -16.30 น. แต่เราสามารถเที่ยว
14
ชมด้านในได้ตลอด อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณเชิงเขาภูพาน ซึ่งอุดมไปด้วย พืชพันธุ์ธรรมชาติและร่องรอยทางวัฒนธรรมของ มนุษย์มาแต่ครั้งอดีตกาล โครงสร้างส่วนใหญ่เป็น หินทรายที่ถูกขัดเกลาจากขบวนการกัดกร่อนทาง ธรรมชาติ ท�ำให้เกิดเป็นโขดหินน้อยใหญ่รูปร่างต่างๆ ผู้คนในท้องถิ่นและบริเวณใกล้เคียงเชื่อถือกันมาแต่ โบราณว่าสถานที่นี้ มีความเกี่ยวโยงกันกับนิทาน พื้นบ้านเรื่องอุสา-บารสที่เลื่องลือกันมาช้านาน พอได้กางแผนที่ก็วางแผนว่าจะไปจุดไหนเป็น อันดับแรก จากนั้นเราก็ลุยกันสิทีนี้ เอ้า..ลุย! แต่ เดี๋ยวก่อนอย่าลืมจ่ายค่าเข้าชมอุทยานฯ เชียว อัตราค่าเข้าชมนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท จ่าย ณ ป้อมจ�ำหน่าย
หิคอกม้ นจอมธาตุ าน้อย
ถ�้ำฤ ษี
15
บัตร-ตรวจบัตร ด้วยสภาพอากาศในวันนี้ช่างเป็นใจ เหลือเกินส�ำหรับการเดินป่า เราจึงเดินไปยังสถานที่ แรกคือ คอกม้าน้อยจากจุดเริ่มต้นเดินศึกษาเส้นทาง เดินตามทางมาเรื่อยๆ ประมาณ 200 เมตร จะเห็น ลานหินกว้างตรงกลางมีหินที่ซ้อนกันอย่างสวยงาม ถัด จากคอกม้าน้อยไปอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะเห็น คอกม้าท้าวบารส เป็นหินแผ่นบนอยู่บนฐานครึ่งหนึ่ง ยื่นออกมานอกฐานครึ่งหนึ่งประจวบเหมาะพอดี ต่อจาก คอกม้าท้าวบารสมาอีกประมาณ 100 เมตร คือ ถ�้ำฤ ษี จะมีทางลาดๆ ซึ่งปัจจุบันทางอุทยานฯ ได้ท�ำ บันไดทางขึ้นเพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ถัดจากถ�้ำฤ ษีไป 60 เมตร จะเจอกับถ�้ำวัว-ถ�้ำคน จุดเด่นของถ�้ำคือภาพเขียนสีแดงรูปวัวและคนสันนิษฐาน ว่ามีอายุ 2000-3000 ปีก่อนประวัติศาสตร์ ท�ำให้ เราฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ามนุษย์สมัยก่อนนี่เขาช่างฉลาด เสียจริง ทั้งความเจริญไม่มีเหมือนปัจจุบันเลยแต่ยัง สามารถสร้างสรรค์ผลงานให้เราได้ชื่นชมมากว่าพันปี สุดยอดจริงๆ
ถ�้ำวัว - ถ�้ำคน เอาล่ะ! ไปลุยต่อกันเถอะ จุดต่อไปที่จะไปนั้น เรียกได้ว่าเรียกเหงื่อและเสียงโอดโอยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเส้นทางที่เดินไปนั้นช่างสูงชันอะไรเช่นนี้ แต่ ด้วยแรงถีบ ไม่สิ! แรงผลักดัน (ดันจริงๆ ดันหลังกัน!) ท�ำให้ไปพบกับจุดชมวิวหรือจุดชมพระอาทิตย์ตก ซึ่งช่วงที่เราไปนั้นพระอาทิตย์ยังห่างไกลกับค�ำว่าตก เหลือเกิน แต่ก็ไม่เสียแรงที่โดนผลักให้ขึ้นมาตรงนี้ได้ เพราะวิวที่เรามองไปด้านหน้านั้นช่างเขียวขจี ปกคุม ไปด้วยต้นไม้ ด้านล่างดูสบายตา นั่งพักรับลมเย็นที่โชย มาสัมผัสกับใบหน้าพอให้หยาดเหงื่อแห้งเหือดไปได้ นิดหน่อย เก็บภาพความทรงจ�ำอยู่สักพักที่ใต้เงาไม้ ลมเย็นๆ ปะทะเม็ดเหงื่อจนแห้งไป... ช่างเป็นช่วงเวลา สุขใจเสียจริง หากพาคนพิเศษมาด้วยคงดีไม่น้อย ดื่มด�่ำบรรยากาศจากจุดชมวิวเต็มอิ่มแล้วก็เลาะกัน ต่อเลยสิ เรียกพลังกลับมาได้แล้ว แลนด์มาร์คต่อไป ยุ้งฉางนายพราน เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ จะพบกับสถานที่
ส�ำคัญอีกหนึ่งสิ่งคือ บ่อน�้ำนางอุสามีลักษณะเป็น สี่เหลี่ยมมีความลึกราว 1 เมตร ถัดไปอีก 100 เมตร จะพบกับโบราณสถานต่างๆ รายล้อมใกล้เคียงกัน เช่น กู่นางอุสา วัดพ่อตา โบสถ์พ่อตา หีบศพท้าวบารส หีบศพพ่อตา หีบศพนางอุสา ถ�้ำช้าง และสุดท้าย ในอาณาบริเวณนั้นคงเป็นถ�้ำพระ ที่มีรอยแกะสลัก พระพุทธรูปเรียงอยู่ในซุ้มซอกหิน ช่างเป็นศิลปะที่ ค่อนข้างสมบูรณ์เป็นอย่างมาก เมื่อเดินออกจาก บริเวณนั้น 50 เมตร เราก็มาถึงจุดไฮไลท์ที่เราตั้งหน้า ตั้งตามาพบเจอ คือ หอนางอุสา ที่ตั้งตระหง่านเป็น เอกลักษณ์อันโดดเด่นมีลักษณะเป็นแท่นหินคล้ายรูปเห็ด ตั้งอยู่บนลาน ที่เกิดจากกัดกร่อนตามธรรมชาติรอบๆ มีใบเสมาหินขนาดกลางและขนาดใหญ่ปักล้อมรอบ โขดหิน จุดนี้ถือว่าเราใช้เวลานานมากพอสมควร
16
เก็บภาพความทรงจำ�อยู่สักพักที่ใต้เงาไม้ ลมเย็นๆ ปะทะเม็ดเหงื่อจนแห้งไป... ช่างเป็นช่วงเวลาสุขใจเสียจริง หากพาคนพิเศษมาด้วยคงดีไม่น้อย
17
หอนางอุสา
บ่อน�้ำนางอุสา
เนื่องจากอยากได้รูปแสงเย็น (แสงเมื่อพระอาทิตย์ ตกดิน) ในระหว่างนั้นก็มีกิจกรรมคลายเครียดเฮฮา ปาจิงโกะ เรียกเสียงหัวเราะเล็กๆ น้อยๆ จนเวลา ประจวบเหมาะแก่การเก็บภาพสวยๆ มาฝากผู้อ่านกัน สถานที่ในอดีตที่หลายคนอาจจะลืมเลือนไปบ้าง หากแต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเรากลับมาเยือนมันอีกครั้ง ความทรงจ�ำต่างๆ ในวัยเด็กที่โรงเรียนมักจะพามา ทัศนศึกษากับเพื่อนในตอนนั้น กับการเดินป่าเองใน ตอนนี้ความสนุกความโลดโผนมันช่างต่างกันเหลือเกิน แต่ท้ายที่สุดก็คือความประทับใจที่ได้มาสัมผัสอีกครั้ง
ป่ายังคงอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงโบราณสถานต่างๆ แม้เวลาจะผันผ่านพัดพาให้กร่อนลงไปบ้าง แต่ยังคง สวยงามตามแบบฉบับของมัน เรียกได้ว่าคุ้ม ไม่เสียแรงเดิน การรอดูพระอาทิตย์ตกมันละมุนและสวยงาม จริงๆ ....แล้วเราจะกลับมาอีกนะ อุทยานประวัติศาสตร์ ภูพระบาท Contact: โทรศัพท์ 042-250-616, 042-251-350 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท
หีบศพท้าวบารส หีบศพพ่อตา หีบศพนางอุสา
ถ�้ำพระ
18
หากใครกำ�ลังสนใจเรื่องการสร้างบ้านหรือตกแต่งบ้าน แล้วยังหาที่ปรึกษา ที่คอยให้คำ�แนะนำ� เกี่ยวกับการออกแบบและเลือกวัสดุต่างๆ ที่บุญถาวรเรา พร้อมให้คำ�ปรึกษาทุกปัญหาและ ตอบสนองได้ทุกความต้องการให้กับคุณ เพราะไอเดียดีๆ มีได้ไม่รู้จบ ที่บุญถาวร
บุญถาวร คือ ห้างสรรพสินค้าทีม่ งุ่ เน้นเรือ่ งของอุปกรณ์ ตกแต่งบ้านเป็นหลัก ซึง่ ได้รวบรวมสินค้ามากมายหลาย ประเภทมารวมไว้ทเี่ ดียวกัน แต่สงิ่ ทีท่ �ำให้คนจดจ�ำบุญถาวร ได้เป็นอย่างดีนนั้ คือเรือ่ งของกระเบือ้ ง ซึง่ ถือได้วา่ บุญถาวร เป็นแหล่งรวบรวมของกระเบือ้ งทีเ่ ยอะทีส่ ดุ จากทัว่ ทุกมุมโลก มาให้คนไทยได้เลือกสรร นอกจากนัน้ บุญถาวรยังมีสนิ ค้า ประเภทสุขภัณฑ์หอ้ งน�ำ้ จากผูผ้ ลิตชัน้ น�ำของโลกรวบรวมไว้ ทีน่ ดี่ ว้ ย ซึง่ ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกซือ้ ได้อย่างเพลิดเพลิน และบุญถาวรยังโดนเด่นในเรือ่ งสินค้าประเภทห้องครัว ที่ ทางบุญถาวรเป็นผูผ้ ลิตและออกแบบเอง จากประสบการณ์ กว่า 30 ปี บุญถาวร สาขาอุดรธานี เป็นสาขาที่ 11 และเป็น สาขาล่าสุด บุญถาวรไม่ได้เป็นห้างสรรพสินค้าทีห่ วังจะ สร้างก�ำไรจากการค้าขายเพียงอย่างเดียว แต่ยงั ค�ำนึงถึง วิถชี วี ติ ของคนในชุมชนรวมไปถึงพนักงานของบุญถาวรเอง ซึง่ ท�ำให้บญ ุ ถาวร สาขาอุดรธานี มีนโยบายเกีย่ วกับการ จัดสรรพืน้ ทีข่ องบุญถาวรให้กลายเป็นลักษณะของชุมชน เล็กๆ ทีป่ ระกอบไปด้วย หมูบ่ า้ น สวนสาธารณะ พืน้ ที่ ออกก�ำลังกาย ตลาดชุมชน เพือ่ สร้างความเป็นชุมชน แบบดัง้ เดิมให้กลับมาอีกครัง้ บริการของบุญถาวร เราได้น�ำเอาเทคโนโลยีระดับสูง มาไว้ทน่ี ี้ เพือ่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ มากทีส่ ดุ ไม่วา่ จะเป็นทีมงานออกแบบทีจ่ ะคอยให้ค�ำ ปรึกษาเรือ่ งต่างๆ รวมไปถึงช่วยค้นหาไอเดียดีๆ ให้กบั ลูกค้า พร้อมทัง้ สร้างภาพเสมือนให้กบั ลูกค้าเพือ่ ให้เห็น ภาพทีช่ ดั เจนยิง่ ขึน้ รวมไปถึงเทคโนโลยีการเลือกซือ้ สินค้า ออนไลน์ เพือ่ ความสะดวกของลูกค้า และการบริการ จัดส่งสินค้าทีท่ างบุญถาวรจัดส่งให้ฟรีในระยะไม่เกิน 200 กิโลเมตร และยังมีบริการอีกมากมายทีร่ อให้ทกุ ท่าน ได้ใช้บริการทีบ่ ญ ุ ถาวร บุญถาวรเราเป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า เพราะเรา ใส่ใจทุกความรูส้ กึ เพือ่ หวังให้ทกุ คนมีชวี ติ ทีด่ ขี นึ้ พบกับ บุญถาวร สาขาอุดรธานีได้แล้ววันนี้ และพร้อมเปิดให้ บริการเต็มรูปแบบในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559
แฮงเอาท์ Hangout
ฟลูอิด มินิคอนเสิร์ต ธชา ปรางค์นวรัตน์
ครบ 1 ปีแล้วกับการเปลี่ยนจาก “อุตสาหกรรมความสุข“ มาเป็น “FLUID“ งานวันเกิดในครั้งนี้ ได้เชิญศิลปินมาดเนี้ยบ “บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์” หนุ่มดิสโก้ มาสร้างความสุขให้กับเพื่อนๆ ชาวอุดรธานีและใกล้เคียง ยิ่งเป็นการย�้ำถึงตัวตนของ FLUID ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบจากร้านอาหาร มาเป็นจุด Hang out อย่างเต็มตัว ถึงแม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่หน้าที่สำ�คัญซึ่งเป็นหัวใจของที่สถานที่แห่งนี้คือ “การผลิตความสุข”
เมือ่ วันที่ 8 ตุลาคม 2558 ร้านอาหารทีม่ ชี อื่ ว่า อุตสาหกรรม ความสุข ได้ปดิ ตัวลงไป เนือ่ งจาก 5 หนุม่ ตกลงกันว่าต้องการ เปลีย่ นรูปแบบการบริการจากร้านอาหาร มาเป็นร้านดืม่ กิน ชิลล์ หรือทีห่ ลายๆ คนเรียกว่า Hang out นัน่ เอง จะเน้นไปทางเครือ่ งดืม่ ค็อกเทลและม็อกเทล ทีน่ มี่ บี าร์คอ็ กเทลโดยทางผูบ้ ริหารร้านบอก เรามาว่า “สุดมาก” ทัง้ ด้านคุณภาพและวัตถุดบิ ทีใ่ ช้ ด้านสูตรและ ฝีมอื ของบาร์เทนเดอร์ผสมผสานกันออกมาเป็นเครือ่ งดืม่ ค็อกเทล ทีใ่ ครได้มาเยือนล้วนต้องไม่พลาดทีต่ อ้ งลิม้ ลอง นอกจากทีก่ ล่าว มาแล้ว ยังมีการแสดงทีน่ า่ ตืน่ ตาตืน่ ใจส�ำหรับเมนูคอ็ กเทลต่างๆ อีกด้วย นับว่าเป็นโชว์ทเี่ ป็นไฮไลท์เลยทีเดียว
หน้าที่สำ�คัญซึ่งเป็นหัวใจของ สถานที่แห่งนี้คือ การผลิตความสุข ไม่เพียงแต่เครือ่ งดืม่ เท่านัน้ ทีน่ า่ สนใจ อาหารก็ไม่นอ้ ยหน้าใคร เลยนะ อาหารทีเ่ ป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านคือ พิซซ่าเตาถ่าน แฮนด์เมดล้วนๆ ซึง่ เป็นสูตรเด็ดทีไ่ ม่ควรพลาด เริม่ ตัง้ แต่ครัว พิซซ่าทีแ่ ยกออกมาจากครัวรวม เชฟจะโชว์การนวดแป้งท่าทาง พริว้ สวยงามชวนน�ำ้ ลายสอตัง้ แต่เดินเข้าร้าน และยังมีเมนูเด็ดๆ อีกนับไม่ถว้ น บอกตามตรงว่าต้องมาลองเอง ทางร้านแบ่งโซนเป็น 3 โซน โซนหน้าร้าน เป็นบรรยากาศโล่งๆ เท้าเหยียบหญ้าประดับ ไปด้วยไฟปิงปองอบอุน่ สบายๆ โซนในร้าน เป็นห้องปรับอากาศ เป็นโซนทีม่ บี าร์คอ็ กเทลและเวทีดนตรีสดบรรยากาศมืดๆ ให้
อารมณ์ตดื๊ ตืด๊ ขึน้ มาอีก โซนหลังร้าน เป็นโซนทีใ่ ห้บรรยากาศโล่งๆ ไปอีกแบบ (แต่ไม่เท่าหน้าร้าน) โอบล้อมไปด้วยส่วนของในร้านทีเ่ ป็น ห้องปรับอากาศและห้องครัวโซนนีม้ จี ดุ เด่นตรงทีม่ นี ำ�้ พุอยูต่ รงกลาง หากใครก�ำลังมองหาร้านประจ�ำในจังหวัดอุดรธานี ทีม่ เี ครือ่ งดืม่ ทีด่ ี และแตกต่างจากร้านทัว่ ไป อาหารอร่อย เพลงเพราะ ดนตรีสด ทีไ่ ด้คณ ุ ภาพ และยังสามารถเลือกโซนนัง่ ได้ตามใจชอบ ไม่วา่ จะนัง่ บาร์ ยืนแดนซ์หรือนัง่ ชิลล์ ลองมาเยือนได้ทนี่ ี่ “FLUID” FLUID
7-Eleven
Info.
CELLNI ถ.ศรีชมชื่น
FLUID
ทุกวัน 18.00 น. - 00.00 น.
084-642-8239
ซ. อัศวมิตร
หลัง รร.อุดรพิทยานุกูล
OSHIN
ถ.ศรีชมชื่น หลัง รร. สตรีราชินูทิศ
หม่องชอป Shop
สนุกกับการชอปปิงอีกครั้ง สุวิษา แก้วฤทธิ์
ธชา ปรางค์นวรัตน์
เดือนพฤศจิกายน เป็นเดือนแห่งการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูหนาวและบอกลาฤดูฝนอย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเป็นสัญญาณที่ดี ให้ทุกคนมายืดเส้นยืดสาย หลังจากเป็นหมีจำ�ศีลในสภาพอากาศที่ชื้นแฉะในช่วงก่อนหน้านี้ไปออกกำ�ลังให้สุขภาพดี เลาะฉบับนี้ขอแนะนำ�สายเฮลตี้ที่รักสุขภาพและคนที่เริ่มมาสนใจสุขภาพ กับสถานที่ชอปปิงชุดออกกำ�ลังหรืออุปกรณ์การกีฬา ที่เอาใจนักชอปนำ�สินค้าแบรนด์ดังระดับโลก หลากหลายมาให้เลือกกว่า 100 แบรนด์ มาลดกระหน�่ำสูงสุดถึง 70% และลด 80% ในบางรายการ ที่นี่ที่เดียวในภาคอีสาน Premium Outlet Udon – Thani
สี่แยกบ้านสามพร้าว
ARE YOU READY?
จากแบรนด์ชนั้ น�ำร่วมราการ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของ ถือเป็นการเอาใจเหล่าคนรักสุขภาพตัวยงส�ำหรับ ทุกคนในครอบครัว โปรโมชัน่ สิน้ ปีทที่ างพรีเมีย่ ม เอาท์เล็ท อุดรฯ จัดขึน้ อีกทัง้ ยังให้บรรยากาศเหมือนต่างประเทศ ด้วย ในโซน Sports Stadium ในหมวดสินค้าแนวสปอร์ต โครงสร้างสถาปัตยกรรมสไตล์ยโุ รปประยุกต์ มีสงิ่ มาพร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 70% และลด 80% ในบาง อ�ำนวยความสะดวกไว้มากมาย มีศนู ย์อาหารและ รายการทุกวัน โดยมีสนิ ค้าแบรนด์ดงั ระดับโลก หลาก- เครือ่ งดืม่ เย็นๆ ไว้บริการให้หายเหนือ่ ย รองรับทีจ่ อด หลายมาให้เลือกกว่า 100 แบรนด์ อาทิเช่น NIKE, รถกว่า 100 คัน หากใครต้องการชอปปิงหรือก�ำลัง ADIDAS, REEBOK, LEVI’S, MC, VOLCOM, VANS, หาของขวัญพิเศษให้แก่คนส�ำคัญ ลองมาทีน่ คี่ งไม่ PAUL FRANK, G2000 และ AllZ ให้เลือกสรร ผิดหวังอย่างแน่นอน มาสนุกกับการชอปปิงได้ที่ ทัง้ นีน้ อกจากสินค้าแนวสปอร์ตแล้วยังมีสนิ ค้าแฟชัน่ พรีเมีย่ ม เอาท์เล็ท อุดรธานี
Info.
พรีเมีย่ มเอาท์เล็ท อุดรธานี
เปิดบริการทุกวัน 10.00 น. - 21.00 น.
Global House Premium Outlet UdonThani
หมู่บ้าน การเคหะ อุดรธานี Playport
index living mall
042-931-234-6
ถ.มิตรภาพ
สี่แยกบ้านหนองใส
ภาพจาก : ภัทรภร พรมทอง
26
ภาพจาก : ภัทรภร พรมทอง
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร “การถ่ายรูปนั้นไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายรูปให้เป็นศิลปะ หรือจะเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงอะไร เป็นแต่เพียงกดชัตเตอร์สำ�หรับเก็บรูปให้เป็นที่ระลึก แล้วถ้ารูปนั้นดี มีคนได้เห็นรูปเหล่านั้นและพอใจ ก็จะทำ�ให้เป็นการแผ่ความสุขไปให้ผู้ที่ได้ดู เพราะว่าเขาชอบหมายความว่าได้ให้เขามีโอกาส ได้เห็นทัศนียภาพที่เขาอาจไม่ค่อยได้เห็น หรือในมุมที่เขาไม่เคยเห็น ก็แผ่ความสุขไปให้เขาอีกทีหนึ่ง เป็นจุดประสงค์ของการถ่ายรูป”
พระราชด�ำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่ทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้คณะกรรมการจัดท�ำหนังสือภาพพัฒนาประเทศเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ณ พระต�ำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2537 เราได้ค้นหาข้อมูลและภาพความทรงจ�ำที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช เสด็จเยี่ยมราษฎรและพระราชทานความช่วยเหลือประชาชนให้อยู่ดีกินดี ในพื้นที่อีสานตอนบน ซึ่งต่อมาสถานที่เหล่านี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับ ความนิยมในเวลาต่อมา ประกอบไปด้วย 1. ภูทอก จังหวัดบึงกาฬ 2. ท่าเสด็จ จังหวัดหนองคาย 3. พระต�ำหนักหนองประจักษ์ จังหวัดอุดรธานี เลาะ แมกกาซีน จะน�ำพระราชด�ำรัสมาเตือนสติน�ำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตรวมไปถึง การท�ำงานด้วยการเดินทางบันทึกเรื่องราวต่างๆ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับผู้อ่าน สืบต่อไป 27
ภูทอก จังหวัดบึงกาฬ
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชด�ำเนิน ทรงประกอบพิธีบรรจุพระธาตุและอัฐิธาตุ พร้อมทั้งทรงเปิดพระเจดีย์พิพิธภัณฑ์ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ณ วัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ (อดีตเป็นกิ่งอ�ำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย)
28
ภาพจาก : dhammajak.net
เลาะ แมกกาซีนเคยนำ�เสนอในคอลัมน์ Cover Way เมื่อเดือน ธันวาคม 2558 ฉบับที่ 8
29
ท่าเสด็จ จังหวัดหนองคาย
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2511 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จฯ ณ อาคารท่าเรือ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “ท่าเสด็จ” นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
30
เลาะ แมกกาซีนเคยนำ�เสนอในคอลัมน์ Cover Way เมื่อเดือน มีนาคม 2559 ฉบับที่ 11
31
พระต�ำหนักหนองประจักษ์ จังหวัดอุดรธานี วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จทรงเยี่ยมราษฎร ในจังหวัดอุดรธานี ณ สนามทุ่งศรีเมือง และประทับที่ พระต�ำหนักหนองประจักษ์ จ.อุดรธานี
32
มา i-view ชิลล์ทุกคน คงไม่ได้มาเพราะความบังเอิญ แต่คือความจริง ที่ทางร้านตั้งใจให้ทุกคนได้ผ่อนคลาย กับบรรยากาศของร้านคาเฟ่ ทีมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ มากไปกว่านั้นทาง i-view ยังมีบริการห้องพักสุดชิลล์ ไว้ให้บริการถึง 15 ห้องเลยทีเดียว
ถนนรอบเมือง
แยก รังษิณา โลตัสอุดร I VIEW CAFE
ซ.พิบูลย์
I-VIEW CAFE
I VIEW_CAFE
042-181-903, 095-658-5535
เว่าสู่ฟัง Wao Soo Fung
พระธาตุบังพวน พานทิพย์ ลาลด
ธชา ปรางค์นวรัตน์
ถ้าเรื่องเล่ามีอยู่พันเรื่องที่หนองคาย ก็คงมีอยู่สักครึ่งหนึ่งของเรื่องเล่าที่มีอยู่ ฉบับนี้กลับมาสู่จังหวัดหนองคายอีกหนึ่งครั้ง จังหวัดที่ติดกับลำ�น�้ำโขงและเรื่องเล่าขาน เกี่ยวกับตำ�นานพญานาค หลากหลายที่เรื่องเล่าถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วัดพระธาตุบังพวน เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อีกสถานที่หนึ่งที่สำ�คัญของจังหวัดหนองคาย
วัดเก่าแก่มีเจดีย์พระธาตุบังพวนใหญ่สร้างด้วยศิลาแดงอิฐดินเผา ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมาเพื่อสร้างอุโบสถอีกแห่ง ภายในวัดมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ส�ำคัญ ของพระพุทธศาสนาให้เราได้เข้าไปเรียนรู้ศึกษาอดีตมากมาย ในบริเวณวัดร่มรื่น ด้วยต้นไม้ ผืนหญ้าเขียวขจีและ สัตตมหาสถานโบราณที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า หลังจากตรัสรู้แล้ว จ�ำนวน 7 แห่ง อีกด้วย ตามต�ำนานอุรังคธาตุย้อนไปช่วงการสร้างพระธาตุพนมแล้วเสร็จ พระยาสุวรรณพิงคานเจ้าเมืองหนองหาน สกลนคร พระค�ำแดง เจ้าเมืองหนองหานน้อย อุดรธานี และพระยาจุลณีพรหมทัติ เจ้าเมืองจุลณี (ลาวเหนือ แคว้นสิบสองจุไทย) พระยา อินทปัตถนคร เจ้าเมืองอินทปัตถนคร (เขมร) และพระยานันทเสน เจ้าเมืองศรี โคตรบูรณ์หลวง กษัตริย์ทั้ง 5 พระองค์ได้ทรงอุปถัมภ์พระมหกัสสปะเถระ พร้อมด้วย พระอรหันต์อีก 500 ก่อสร้างพระธาตุพนมจนเสร็จแล้วและได้บรรลุอรหันต์
พระธาตุบังพวน
ในเวลาต่อมา กษัตริย์ทั้ง 5 จึงออกเดินทางไปอินเดีย เพื่ออัญเชิญพระบรม สารีริกธาตุจ�ำนวน 45 องค์ มาประดิษฐานไว้ในสถานที่ 4 แห่ง หนึ่งในนั้น คือ พระธาตุบังพวน ว่ากันว่าที่นี่เป็นอยู่อาศัยของพญานาค ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับ ยังดินแดนแถบลุ่มน�้ำโขงพญานาคได้มาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ท�ำให้ดินแดนแห่งนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จากต�ำนานอุรังคธาตุเหมือนกันแต่ที่มาของการก�ำเนิดพระธาตุ ไม่เหมือนกันคือ เชื่อว่าหลังการก่อสร้างพระธาตุพนมเสร็จสิ้น เหล่าพระอรหันต์ 500 องค์ที่ท�ำการสร้างพระธาตุพนมได้เดินทางไปอินเดียอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้าน�ำมาประดิษฐานไว้ยังสถานที่ 4 แห่ง ในเมืองหนองคายและ เมืองเวียงจันทน์โดยหนึ่งในนั้นก็คือพระธาตุบังพวน “พระธาตุบังพวน” ตามต�ำนาน อุรังคธาตุกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาลพื้นที่แห่งนี้คือ “ภูเขาลวง” ริมน�้ำบางพวน
พระวิหาร
35
อชาปาลนิโครธเจดีย์
อนิมมิสเจดีย์
รัตนฆรเจดีย์
รัตนจงกรมเจดีย์
ทุกสถานที่มักมีประวัติความเป็นมาอยู่แล้ว แต่ทุกเรื่องราว ที่เราเสาะหามานั้นย่อมอยากให้เกิดประโยชน์กับผู้อ่านของเราเป็นหลัก ที่แห่งนี้เหมาะกับการทำ�บุญและการพาลูกหลานมาเรียนรู้ ประวัติศาสตร์นอกห้องเรียนเป็นอย่างมาก
36
โพธิบัลลังก์
6.มุจลินทเจดีย์ : สถานที่ที่พระพุทธเจ้าประทับใต้ต้นจิกเสวยวิมุตติผลเป็นเวลา 7 วันในสัปดาห์ที่ 6 ใกล้สระน�้ำโดยมีพญานาคนาม “มุจจลินท์” ขึ้นมาแผ่พังพาน ป้องกันลมฝนให้พระพุทธองค์ 7.ราชายตนะเจดีย์ : สถานที่ที่พระพุทธเจ้าประทับใต้ต้นเกดเสวยวิมุติผลสมาบัติ เป็นเวลา 7 วันโดยมีพระอินทร์ถวายผลสมอทิพย์และมี 2 พาณิชย์หนุ่มถวายข้าว สัตตุจึงเกิดปฐมอุบาสกในพุทธศาสนาขึ้น “สัตตมหาสถานที่ยังหลงเหลือซากโบราณมาตั้งแต่ยุคอดีตถึงปัจจุบันครบ 7 สิ่ง มีที่นี่แห่งเดียวในโลกเท่านั้น” ทุกสถานที่มักมีประวัติความเป็นมาอยู่แล้ว แต่ทุกเรื่องราวที่เราเสาะหามานั้น ย่อมอยากให้เกิดประโยชน์กับผู้อ่านของเราเป็นหลัก ที่แห่งนี้เหมาะกับการท�ำบุญ และการพาลูกหลานมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์นอกห้องเรียนเป็นอย่างมาก และช่วง ปลายปีแบบนี้การไปท�ำบุญไหว้พระ 9 วัด เพื่อความเป็นศิริมลคลแก่คนเองและ ครอบครัวก็ดีไม่น้อย ออกเดินทางตามศรัทธาใต้ร่มพระโพธิสัตว์ วัดพระธาตุบังพวน
หรือภูลวง วัดพระธาตุบังพวน นอกจากมีองค์พระธาตุแล้ว ยังกลุ่มโบราณสถาน ที่เรียกว่า สัตตมหาสถาน ที่สร้างขึ้นตามคติพุทธศาสนา หมายถึงการจ�ำลองสถานที่ เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ หลังจากตรัสรู้แล้ว จ�ำนวน 7 แห่ง คือ 1.โพธิบัลลังก์ : สถานที่ที่พระพุทธเจ้าประทับตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์เป็นเวลา 7 วัน ภายหลังการตรัสรู้ในช่วงสัปดาห์แรกจากนั้นจึงเสด็จลงจากวัชรอาสน์ 2.อนิมมิสเจดีย์ : สถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับยืนทอดพระเนตร โพธิบัลลังก์ในสัปดาห์ที่ 2 เป็นเวลา 7 วันโดยมิได้กะพริบพระเนตรอยู่ทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือของโพธิบัลลังก์ช 3.รัตนจงกรมเจดีย์ : สถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จจงกรมในสัปดาห์ที่ 3 อยู่ 7 วัน เพื่อแสดงปาฏิหาริย์และบรรเทาความกังขาของเทวดา 4.รัตนฆรเจดีย์ : สถานที่ที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งพิจารณาพระอภิธรรมปิฎก ในสัปดาห์ที่ 4 เป็นเวลา 7 วันในเรือนแก้วที่เทพยดานิมิตถวาย 5.อชาปาลนิโครธเจดีย์ สถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับใต้ต้นไทรซึ่งเป็น ที่พักของคนเลี้ยงแพะเป็นเวลา 7 วันเพื่อเสวยวิมุตติผลสมาบัติในสัปดาห์ที่ 5 โดยทรงมีพุทธฎีกาต่อนางมารว่าพระองค์ทรงละซึ่งกิเลสหมดสิ้นแล้ว
ขอขอบคุณ ข้อมูลจากสำ�นักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย
ราชายตนะเจดีย์
มุจลินทเจดีย์
37
อีก
๑ กุศโลบายที่ “พ่อ” ทำ�เพื่อลูก
หากย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2540 ขณะนั้นเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจที่เรียกกันว่า ฟองสบู่แตก ลือกันว่าโตโยต้า ประเทศญี่ปุ่น จะประกาศปิดโรงงานที่เกตเวย์ จะมี พนักงานกว่า 5,500 คน ตกงาน วันหนึ่งผู้บริหารโตโยต้าก็ได้รับโทรศัพท์จากในวัง “ในหลวงทรงขอสั่งซื้อรถยนต์ โตโยต้า รุ่นโซลูน่า จำ�นวน 1 คัน โดยรับสั่งว่าไม่ต้องรีบประกอบก็ได้รวมทั้งให้ใช้ มือผลิตก็ได้ จะได้ใช้แรงงานเยอะๆ อยากให้ใช้เวลาประกอบนานๆเพราะพระองค์ มิได้ทรงเร่งร้อนอะไร” ทางโตโยต้าต้องประชุมผู้บริหารโดยด่วนเพื่อตีความพระราช กระแสรับสั่ง เมื่อตีความได้แล้ว จึงออกข่าวยืนยันกับสื่อมวลชนว่า “โตโยต้ายืนยันที่จะทำ�ธุรกิจที่ประเทศไทย ไม่ไปไหน” จากนั้นโตโยต้าก็นำ�รถยนต์รุ่นโซลูน่าขึ้นทูลถวาย ซึ่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวมีความพิเศษ ตรงที่ โลโก้ชื่อรุ่น “โซลูน่า ๑.๕” ใช้เป็นตัวอักษรไทยและตัวเลขไทยผลิตออกมา จำ�นวน 600 คันเท่านั้น และขายหมดทั้ง 600 คัน นับเป็นอีกครั้งที่ “พ่อ” ได้ช่วยให้ ลูกชาวไทยผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้นมา สำ�หรับผู้ใดที่อยากชมรถยนต์โตโยต้า รุ่นโซลูน่า
1.5
สามารถมาเยี่ยมชม ได้ที่ โตโยต้า ชิณณ์ นนท์ อุดรธานี
38