701 เจาะจารชนแดนมังกร
ม่ายเจีย เขียน เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
กรุงเทพมหานคร ส�ำนักพิมพ์มติชน 2558
701 เจาะจารชนแดนมังกร • เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
จากเรื่อง 暗算 by 麦家 Copyright © 2003 by Mai Jia. All rights reserved. Published in agreement with the author c/o The Grayhawk Agency, through Little Rainbow Agency Thai Language Copyright © 2014 by Matichon Publishing House. All rights reserved. พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, กุมภาพันธ์ 2558 ราคา 280 บาท ข้อมูลทางบรรณานุกรม ม่ายเจีย. 701 เจาะจารชนแดนมังกร. กรุงเทพฯ : มติชน, 2558. 368 หน้า. 1. นวนิยายจีน I. เรืองชัย รักศรีอักษร, ผู้แปล II. ชื่อเรื่อง 895.13 ISBN 978 - 974 - 02 - 1378 - 9 ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์ : อารักษ์ คคะนาท, สุพจน์ แจ้งเร็ว, สุชาติ ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์ สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : รุจิรัตน์ ทิมวัฒน์ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์ บุนปาน • บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ : พัลลภ สามสี บรรณาธิการเล่ม : จันทรัตน์ สิงห์โตงาม • พิสูจน์อักษร : ชัยรัตน์ เลิศรัตนาพร กราฟิกเลย์เอาต์ : อรอนงค์ อินทรอุดม • ออกแบบปก-ศิลปกรรม : ศศิณัฏฐ์ กิจศุภไพศาล ประชาสัมพันธ์ : ตรีธนา น้อยสี
หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�ำนวนมากในราคาพิเศษ เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3353 โทรสาร 0-2591-9012
www.matichonbook.com บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) : 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 1235 โทรสาร 0-2589-5818 แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองงานเตรียมพิมพ์ บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 2400-2402 พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด 27/1 หมู่ 5 ถนนสุขาประชาสรรค์ 2 ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 โทรศัพท์ 0-2584-2133, 0-2582-0596 โทรสาร 0-2582-0597 จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี จำ�กัด (ในเครือมติชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3350-3353 โทรสาร 0-2591-9012 Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd, Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน
สารบัญ
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ค�ำน�ำผู้แปล บทเกริ่นน�ำ
4 6 11
ภาค 1 ผู้ฟังลม บทที่ 1 อาปิ่ง หนุ่มตาบอด
25 26
ภาค 2 ผู้เห็นลม บทที่ 2 นางฟ้ามีปัญหา บทที่ 3 ภาพเงาของเฉินเอ้อหู
83 84 271
ภาค 3 ผู้จับลม บทที่ 4 ค�ำบอกเล่าจากวิญญาณของเหวยฟู
335 336
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
หลังสงครามปลดปล่อยในปี 1949 ซึ่งเป็นการสู้รบชิงอ�ำนาจใน จีนแผ่นดินใหญ่ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับพรรคก๊กมินตั๋ง เจียง ไคเช็คและพรรคพวกก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้ อพยพไปตั้งหลักที่เกาะไต้หวัน สถาปนาสาธารณรัฐจีนที่นั่นเพื่อรอเวลากลับมาโจมตีและยึดคืนแผ่นดิน ใหญ่ ขณะนั้นสงครามภายในของจีนจึงยังไม่สิ้นสุด ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียก็ระส�่ำระสาย ทั้งยังเกิดสงครามเย็น ในเวียดนามซึ่งเกี่ยวโยงมาถึงผู้ถือหางฝ่ายคอมมิวนิสต์อย่างจีนแผ่นดิน ใหญ่ องค์กรลับ 701 ซึ่งท�ำหน้าที่สืบราชการลับให้กับฝ่ายแผ่นดินใหญ่ จึงมีบทบาทส�ำคัญอย่างยิ่งในการเอาชนะศึกรอบด้านครั้งนี้ 701 เจาะจารชนแดนมังกร เปิดเผยเรื่องราวของเหล่าจารชน 701 และบุคคลที่ถูกดึงเข้ามามีส่วนร่วมกับภารกิจเพื่อชาติทั้งโดยสมัคร ใจและไม่สมัครใจ นิยายเรื่องนี้ไม่เพียงเปิดเผยภารกิจลับเกี่ยวกับการ ดักฟัง ถอดรหัส และปฏิบัติการของ 701 เท่านั้น แต่ยังเน้นหนักไปที่ ชะตากรรมของตัวละครและชะตาฟ้าลิขิตที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง สะท้อน 4 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
ชีวิตและจิตวิญญาณของเหล่าจารชนได้อย่างถึงแก่น ทั้งยังตั้งค�ำถาม กับความเป็นมนุษย์ เสรีภาพ และชะตากรรม ผลงานของม่ายเจียเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 แม้ แต่ในจีนแผ่นดินใหญ่เองนวนิยายแนวจารชน (特情小说) ยังถือเป็น แนวใหม่ แต่ม่ายเจียเป็นทั้งผู้บุกเบิกและท�ำให้นวนิยายแนวนี้ได้รับ ความสนใจอย่างต่อเนื่อง เขาได้รับการยกย่องให้เป็น “ตัวพ่อ” แห่ง นวนิยายแนวจารชน งานเขียนของม่ายเจียน่าติดตาม ส�ำนวนกระชับ ทั้งเสียดสีและสะเทือนอารมณ์ แม้แต่ลักษณะการสร้างสรรค์ตัวละคร ยังมีสีสันโดดเด่นและน่าสนใจ โครงเรื่องพลิกล็อกอย่างไม่อาจคาดเดา ผลงานของม่ายเจียจึงได้รับความนิยมสูงสุดในแวดวงนวนิยายแนว จารชนของจีน นวนิยายหลายเรื่องได้น�ำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ จนกระทั่งม่ายเจียกลายเป็นนักเขียนที่มีค่าตัวสูงสุด ในขณะนั้น และสิ่งที่การันตีความส�ำเร็จของม่ายเจียก็คือ 701 เจาะ จารชนแดนมังกร เล่มนี้ได้รับรางวัลวรรณกรรมเหมาตุ้นในปี 2008 ซึ่งถือเป็นรางวัลวรรณกรรมที่ทรงคุณค่าสูงสุดรางวัลหนึ่งของจีน ส�ำนักพิมพ์มติชนยินดีอย่างยิง่ ทีไ่ ด้เปิดประตูแห่งองค์กรลับ 701 ซึ่งเคยปิดตาย ให้ผู้อ่านชาวไทยได้สัมผัสจิตวิญญาณของเหล่าจารชน แดนมังกรผู้อุทิศตนเพื่อชาติและภารกิจลับอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา ส�ำนักพิมพ์มติชน
701 เจาะจารชนแดนมังกร
5
ค�ำน�ำผู้แปล
ผู้อ่านชาวไทยคงคุ้นเคยกับนิยายแนวจารกรรมหรือสายลับของ ทางตะวันตก โดยเฉพาะนิยายที่มีการน�ำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ แนวสายลับอย่างเจมส์ บอนด์ 007 ของเอียน เฟลมมิ่ง หรือยอดจารชน อย่างเจสัน บอร์นของโรเบิร์ต ลัดลัม ในขณะที่ 701 เจาะจารชนแดน มังกร เล่มนี้อาจจะเป็นนิยายแนวจารกรรมเรื่องแรกของจีนที่มาปรากฏ ตัวในวงการหนังสือไทย และนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายแนวจารกรรมที่โด่งดังที่สุดในประเทศจีน เมื่อน�ำไปสร้างเป็น ละครโทรทัศน์ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง อีกทั้งยังได้รับรางวัลวรรณ กรรมเหมาตุ้นครั้งที่เจ็ด (ปี 2008) จึงเป็นการประกันถึงความยอด เยี่ยมในเชิงวรรณกรรมของนิยายเรื่องนี้ 701 เจาะจารชนแดนมังกร เป็นนิยายที่ย้อนยุคไปในช่วงทศวรรษ ที่ 50 และ 60 ของศตวรรษที่แล้ว เป็นการต่อสู้ด้านงานจารกรรม ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) กับจีนคณะชาติ (ไต้หวัน) แกนของเรื่องคือองค์กรลับ 701 ซึ่งท�ำงานด้านข่าวกรองให้ 6 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
แก่รัฐบาลจีน ทั้งงานดักฟัง ถอดรหัส และปฏิบัติการจารกรรม เพื่อ ป้องกันการโจมตีและการบ่อนท�ำลายจากไต้หวัน เป็นเรื่องราวของ บุคคลที่น่าอัศจรรย์ใน 701 ทั้งอาปิ่งหนุ่มตาบอดซึ่งมี “หูทิพย์” สามารถ ได้ยินในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน ผู้สร้างวีรกรรมในการดักฟังที่เหลือเชื่อ หวงอีอี นักคณิตศาสตร์สาวอัจฉริยะที่ชะตากรรมชักน�ำให้มาถอดรหัส ซึ่งได้ชื่อว่ายากที่สุดในโลกในเวลานั้น เรื่องของเหล่าเฉินปรมาจารย์ นักถอดรหัสของจีนที่ทุ่มเทชีวิตท�ำงานเพื่อปกป้องประเทศชาติพร้อม กับเรื่องราวชีวิตที่น่าอัศจรรย์ของเขา รวมถึงหนุ่มเวียดนามชื่อเหวยฟู ซึ่งมีบทบาทในงานจารกรรมต่อต้านอเมริกาในสงครามเวียดนามใน แบบที่ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึง 701 เจาะจารชนแดนมังกร เป็นหนึ่งในงานที่ผู้แปลท�ำงานอย่าง แปลแล้ววางไม่ลง (ท�ำนองเดียวกับที่อ่านแล้ววางไม่ลง) ทั้งนี้ เพราะ การเดินเรื่องที่สนุกตื่นเต้น เต็มไปด้วยเรื่องที่คาดไม่ถึง ชวนให้ติดตาม สะท้อนชีวิตของผู้ท�ำงานด้านจารกรรมได้อย่างถึงราก และยังสะท้อน แก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ออกมาอย่างหมดเปลือก เป็นนิยายแนว จารกรรมที่ไร้การต่อสู้ฆ่าฟัน ไร้เลือดสาดกระจาย แต่เต็มไปด้วยการ ประลองสติปัญญา การต่อสู้ทางจิตวิญญาณที่น่าทึ่ง ผู้แปลเชื่อว่า 701 เจาะจารชนแดนมังกร จะเปิดศักราชใหม่ให้ กับนิยายจีนแนวจารกรรมในวงการนิยายแปลของไทย และขอขอบคุณ ส�ำนักพิมพ์มติชนที่วางใจให้ผู้แปลท�ำหน้าที่อันมีเกียรตินี้ เรืองชัย รักศรีอักษร
701 เจาะจารชนแดนมังกร
7
701 เจาะจารชนแดนมังกร
10 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
บทเกริ่นน�ำ
01 คนที่ไม่ได้พบปะกันหลายสิบปี อยู่มาวันหนึ่งจู่ๆ ก็บังเอิญเจอ กันบนถนน หรือคนไม่รู้จักมักจี่ อยู่มาวันหนึ่งจู่ๆ ก็กลายเป็นเพื่อน สนิท จากนั้นชีวิตคุณก็เหมือนน�้ำเจอกับน�้ำ หรือเหมือนน�้ำเจอกับไฟ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่รู้ตัว ว่าไปแล้วผมเชื่อว่าทุกคนย่อมมีเรื่อง ท�ำนองนี้ ผมเองก็มี บอกตามตรง หนังสือเล่มนี้มีที่มาจากการพบกัน โดยบังเอิญอันน่าประหลาดครั้งหนึ่งของผม
02 ขอบอกก่อนว่าการพบปะกันโดยบังเอิญครั้งนี้น่าสนใจมาก เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 12 ปีก่อน ตอนนั้นผมยังเป็นหนุ่มอ่อนหัด อายุไม่ถึงสามสิบ ท�ำงานพื้นๆ ในบริษัท เดินทางไปไหนก็ไม่มีสิทธิ พิเศษให้นั่งเครื่องบิน แต่มีอยู่หนหนึ่งหัวหน้าหน่วยงานของผมเดิน ทางไปรายงานเรื่องงานต่อหัวหน้าใหญ่ที่เป่ยจิง ทีแรกก็เขียนเนื้อหา ที่จะรายงานไว้ในกระดาษเรียบร้อย ระหว่างทางหัวหน้าอ่านทบทวน หลายครั้ง พยายามท่องจนขึ้นใจแล้ว จึงไม่จ�ำเป็นต้องให้ผมติดตามไป 12 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
ด้วย แต่พอถึงเวลารายงาน หัวหน้าใหญ่อยากฟังเนื้อหาโดยละเอียด หัวหน้าเล็กเครียดขึ้นมาทันที จึงให้ผมรีบบินไปให้ข้อมูล ผมก็เลยได้รับ เกียรติให้นั่งเครื่องบินเป็นครั้งแรก เหมือนที่มีกวีกล่าวไว้ว่า พึ่งพลัง แห่งฟ้า ผมใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงเป่ยจิง หัวหน้าเล็กก็สมกับที่ เป็นหัวหน้าเล็ก มารับผมที่สนามบินด้วยตัวเอง แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะ มารยาท แต่เพราะอยากให้ผมด�ำเนินการโดยด่วน แต่พอผมก�ำลัง จะออกจากสนามบินมาพบหัวหน้าเล็กก็มีสหายต�ำรวจสองนายเข้ามา ขวางผมไว้ ไม่ทันถามอะไรสักค�ำก็บอกให้ผมตามไป พอผมถามว่า นี่มันเรื่องอะไร ต�ำรวจบอกว่าไปถึงก็รู้เอง พูดพลางผลักผมเดิน ท�ำเอา หัวหน้าเล็กร้อนใจกว่าผมเสียอีก ระหว่างทางหัวหน้าเล็กพยายามถาม ผมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจะรู้ได้อย่างไร คงเป็นการเชิญตัวอย่างลับๆ แน่ หรือไม่ก็เป็นความเข้าใจผิด ผมอธิบายกับสองท่านนั้นซ�้ำแล้วซ�้ำอีก ว่า ชื่อผมคือ ม่าย ในค�ำว่า ม่ายจื่อ (麦子-ข้าวสาลี) และ เจีย ในค�ำว่า เจียถิง (家庭-ครอบครัว) ไม่ใช่ เจีย ในค�ำว่า เจียฝ่า (加法-วิธีบวก) ความจริงที่พ่อแม่ตั้งชื่อผมว่าม่ายเจีย (麦家) ประการแรกเป็นเพราะ ความรู้น้อย ไม่รู้ว่าโลกนี้มีนครศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อ ม่ายเจีย (麦加–นคร เมกกะ) ประการต่อมาเป็นเพราะความถ่อมตัว คงอยากให้ผมเป็น คนอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะว่าไปแล้วม่ายเจียก็หมายถึงที่นา หมายถึง การท�ำนา และหมายถึงชาวนา ซึ่งเป็นค�ำที่แสนจะธรรมดา1 สองท่านไม่ใส่ใจชื่อผมสักนิด บอกแต่ว่าคุณจะชื่อเจียฝ่าหรือ เจียถิงก็ช่าง คนที่เราต้องการก็คือคุณนี่แหละ ไม่ผิดหรอก ฟังเหมือน ไม่มีเหตุผล แต่ความจริงแล้วเป็นเหตุเป็นผลทั้งสิ้น เพราะมีคนเป็นตัว เป็นตนก�ำลังชี้มาที่ผมพร้อมตะโกนสั่งให้เอาตัวผมไป แล้วจะผิดตัว 1
ข้อความตอนนี้ผู้เขียนเข้าใจว่าที่ตนถูกต�ำรวจเชิญตัวไปเป็นเพราะชื่อของตน พ้องกับชื่อนครเมกกะในภาษาจีนซึ่งออกเสียงว่าม่ายเจียเหมือนกัน ซึ่งอาจถือ ว่าเป็นการดูหมิ่น-ผู้แปล 701 เจาะจารชนแดนมังกร
13
ได้อย่างไร คนที่ร้องบอกให้คุมตัวผมก็มีสองคน ตอนอยู่บนเครื่องบิน ผมนั่งแถวเดียวกับสองคนนี้ ได้ยินพวกเขาคุยกันเป็นส�ำเนียงท้องถิ่น ดังเข้าหูตลอด ท�ำให้ผมรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเกิดอันแสนไกล เนื่อง จากได้ยินส�ำเนียงบ้านเกิดที่คุ้นหูของสองท่าน ผมจึงเป็นฝ่ายทักพวก เขาก่อน นึกไม่ถึงว่าการพูดคุยครั้งนี้จะกลายเป็นการหาเหาใส่หัว เป็นชนวนชักน�ำต�ำรวจสองนายนี้มาคุมตัวผมไปราวกับเป็นคนร้าย ต�ำรวจสองนายนี้เป็นต�ำรวจสนามบิน เขามีอ�ำนาจควบคุมตัว ผมหรือไม่ เรื่องนี้ค่อยว่าทีหลัง ปัญหานี้ซับซ้อนมากและดูเหมือนจะ ไม่ส�ำคัญนัก ปัญหาส�ำคัญอยู่ที่ว่าผมจะเอาตัวรอดได้อย่างไร ต�ำรวจ น�ำผมกับหัวหน้าเล็กเข้าไปในห้องท�ำงาน ห้องนี้แบ่งเป็นห้องด้านนอก และห้องด้านใน ด้านนอกไม่กว้าง พอเราสี่คนเข้าไปห้องก็แคบถนัดตา หลังจากทุกคนนั่งลง ต�ำรวจสองนายก็เริ่มสอบสวนผม ถามชื่อ หน่วย งาน ครอบครัว สถานภาพทางการเมือง ความสัมพันธ์ทางสังคม ฯลฯ ราวกับว่าจู่ๆ ผมก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยที่พวกเขาต้องสอบสวน ยังดี ที่หัวหน้าของผมอยู่ด้วย จึงยืนยันอย่างหนักแน่นและเด็ดขาดครั้งแล้ว ครั้งเล่าว่าผมไม่ได้เป็นเดนสังคม แต่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเคารพกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ผมจึงผ่านการสอบสวนมาอย่างราบรื่น ต่อจากนัน้ สองท่านก็เปลีย่ นหัวข้อซักถามทันที โดยมุง่ ตัง้ ค�ำถาม เกี่ยวกับสิ่งที่ผมพบเห็นตอนอยู่บนเครื่องบิน แต่ผมกลับไม่รู้ว่าจะเริ่ม ต้นอย่างไรดี เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับเกียรติให้นั่งเครื่องบิน สิ่งที่พบเห็นจึงมีมากมายหลากหลายสับสนปนเปไปหมด ใครจะรู้ว่า ควรตอบอย่างไร หลังจากผมขอร้อง สองท่านจึงเริ่มถามผมอย่างมี เป้าหมาย ความจริงพูดไปพูดมาก็คือถามว่าผมได้ยินคนบ้านเดียวกัน สองคนนั้นคุยอะไรกันบ้าง พอถึงตอนนี้ผมจึงเริ่มเข้าใจ คนบ้านเดียว กันที่ผมบังเอิญเจอไม่ใช่คนธรรมดา และประสบการณ์ไม่ธรรมดาของ ผมครั้งนี้ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับการที่ผมได้ยินและที่ส�ำคัญคือเข้าใจเรื่อง 14 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
ที่เขาสองคนคุยกัน สองคนนั้นคิดว่าการคุยกันด้วยภาษาถิ่นซึ่งเข้าใจ ยากคงไม่มีใครฟังรู้เรื่อง จึงเปิดเผยความลับส่วนตัวเต็มที่เหมือนอยู่กัน ตามล�ำพัง นึกไม่ถึงว่าก�ำแพงมีหู ผมได้ยินทุกอย่างชัดเจน ดังนั้น จึงวิตกกังวล ดังนั้น จึงล้อมคอกเมื่อวัวหาย แต่บอกตามตรง ผมไม่ได้ยินอะไรที่น่ากลัวจากปากพวกเขาเลย ตอนแรกสองคนนั้นไม่ได้คุยด้วยภาษาถิ่น ผมเองก็ไม่ใช่ประเภทที่เห็น ใครก็ตีสนิท อีกทั้งเป็นการนั่งเครื่องบินครั้งแรก นอกจากเรื่องที่ผม อยากรู้อยากเห็นแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจอีก ทันทีที่เครื่องบินเหิน ขึ้นฟ้าผมก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรท�ำ ได้แต่นั่งเฉยเหมือนคนโง่ เอาหูฟังมา ครอบแล้วดูทีวี ผมได้ยินพวกเขาคุยกันด้วยภาษาถิ่นตอนที่ถอดหูฟัง ออก พอได้ยินก็เหมือนเจอหน้าพ่อแม่ รีบทักทายพวกเขาทันที ใครจะ ไปรู้ว่าก�ำลังคุยอะไรกันอยู่ ผมพูดอย่างนี้เหมือนแก้ตัวน�้ำขุ่นๆ แต่ฟ้ารู้ ดินรู้ และผมก็รู้ ผมไม่ได้โกหกจริงๆ ความจริงแล้วเมื่อลองคิดดู ถ้าผมมีเจตนาร้าย ผมจะทักว่าเป็น คนบ้านเดียวกันไปท�ำไม อีกอย่าง ในเมื่อผมตั้งใจจะทัก ท�ำไมต้องรอ ฟังเขาสองคนคุยกันตั้งนานแล้วค่อยทัก และก็อีกอย่าง พอได้ยินปุ๊บ ผมก็ทักเลย แล้วจะได้ยินอะไรเป็นเรื่องราวได้อย่างไร แม้จะบอกว่า ผมได้แต่พูด ไม่มีหลักฐาน แต่ถ้าพิจารณาอย่างเป็นธรรมก็น่าจะเคารพ ค�ำพูดของผมที่ว่าไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ค�ำหว่านล้อมของผม ไม่ได้เสียเปล่า รวมทั้งหัวหน้าของผมก็พูดจานอบน้อม ในที่สุดต�ำรวจ สองท่านจึงยอมปล่อยตัวผม แต่ให้ผมรับประกันว่า “ไม่ว่าผมจะได้ยิน อะไร เรื่องราวทั้งหมดเป็นความลับของชาติ ห้ามแพร่งพรายเด็ดขาด ไม่ว่ากรณีใด ไม่เช่นนั้นผมต้องรับผิดชอบต่อผลทุกอย่างที่ตามมา” ผมรับปากอย่างมั่นเหมาะ ในที่สุดจึงหมดเรื่องหมดราว
701 เจาะจารชนแดนมังกร
15
03 หมดเรื่องหมดราวแล้วจริงหรือ หลังจากนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหมือนสิ่งแปลกปลอมรกอยู่ใน สมองของผม ท�ำให้ผมทั้งประหลาดใจและหวาดผวา ผมนึกไม่ออก จริงๆ ว่าคนบ้านเดียวกันสองท่านนั้นเป็นคนประเภทใด ถึงได้มีอ�ำนาจ ลึกลับและความลับมากมายจนไม่ยอมให้ใครได้ยินเรื่องที่พูดแม้แต่ ประโยคเดียว ผมว่าตัวเองก็ผ่านโลกมาพอสมควร แต่โลกอย่างนี้ อย่าว่าแต่เจอเลย บอกตรงๆ ผมกลัวเจอด้วยซ�้ำ พอออกจากสถานี ต�ำรวจ เรื่องแรกที่ผมท�ำคือล้วงกระเป๋าเสื้อหานามบัตรที่คนบ้านเดียว กันทั้งสองให้ไว้ เอามาฉีกแล้วทิ้งลงถังขยะ เป็นถังขยะที่สนามบิน ไม่ ต้องบอกก็รู้ว่านามบัตรปลอมแน่ๆ บอกได้เลยว่านามบัตรนี้เป็นขยะ อยู่แล้ว สิ่งที่ผมอยากโยนทิ้งไม่ใช่แค่ขยะ แต่ผมอยากโยนเรื่องเดือด ร้อนทั้งหลายแหล่ที่เกิดจากคนบ้านเดียวกันลงถังขยะให้หมด ไปให้ พ้นซะ เรื่องนี้ส�ำคัญกับผมมาก เพราะผมเป็นประชาชนคนธรรมดา กลัวที่สุดคือเรื่องเดือดร้อน แต่ผมสังหรณ์ใจว่าพวกเขาจะมาหาผมอีก แล้วก็เป็นไปตามคาด กลับจากเป่ยจิงไม่นานผมก็ได้รับโทรศัพท์ จากคนบ้านเดียวกันทั้งสองคน (ผมเขียนที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ ให้พวกเขา) ทั้งคู่ผลัดกันพูดกับผมทางโทรศัพท์ ทั้งอธิบาย ถามสาร ทุกข์สุกดิบ ขอโทษ ปลอบใจ และยังชวนผมไปเที่ยวที่โน่นอย่างสุภาพ บอกว่าหน่วยงานของพวกเขาอยู่นอกตัวอ�ำเภอ คงจะเป็นเขตภูเขา ผมเคยได้ยินมาก่อนว่าอ�ำเภอนั้นมีหน่วยงานใหญ่ตั้งอยู่ในหุบเขา เร้น ลับมาก หลังจากหน่วยงานนี้มาตั้งที่นี่ คนในอ�ำเภอก็ไม่ขึ้นไปบนเขา 16 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
อีกเลย รวมทั้งชาวบ้านที่เคยอาศัยอยู่บนนั้นก็ย้ายออกไปหมด ด้วย เหตุนี้จึงไม่มีใครรู้ชัดว่าที่นั่นเป็นหน่วยงานอะไรแน่ แต่ก็มีเสียงร�่ำลือ ต่างๆ นานา บ้างว่าเป็นหน่วยงานด้านอาวุธนิวเคลียร์ บ้างว่าเป็นที่ท�ำ การของผู้น�ำจากส่วนกลาง บ้างว่าเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงของ ชาติ ฯลฯ หน่วยงานลึกลับอย่างนี้ ถ้ามีคนชวนไปเที่ยว ไม่ว่าใครก็ ต้องตื่นเต้น ผมซึ่งยังไม่หายกลัวก็อดตื่นเต้นไม่ได้ แต่ผมไม่ได้ไปตาม ค�ำชวน คงเพราะยังไม่หายกลัวกระมัง ต่อมาวันหนึ่งในช่วงเทศกาลวันชาติ มีคนขับรถมาหาผมที่บ้าน บอกว่ามีคนเชิญผมไปกินเลี้ยง ผมถามว่าใคร เขาบอกว่าเป็นสหาย น�ำ ผมถามว่าสหายน�ำของพวกเขาเป็นใคร เขาบอกว่าไปถึงก็รู้เอง พูดแบบเดียวกับต�ำรวจที่สนามบิน ผมนึกถึงคนบ้านเดียวกันผู้ลึกลับ สองคนนั้นทันที พอไปถึงก็เป็นไปตามคาด และยังมีอีกหลายคนที่ พูดส�ำเนียงบ้านเกิดผม ทั้งชายหญิง คนแก่ คนหนุ่ม ราวเจ็ดแปดคน ความจริงคือเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ประจ�ำปีของคนบ้านเดียวกันจัดมา ห้าหกปีแล้ว สิ่งที่ต่างออกไปคือปีนี้มีผมเพิ่มมาอีกคน ถึงตรงนี้พูดได้ว่าผมเกริ่นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนี้ ไปแล้ว เหตุการณ์ข้างหน้าย่อมตามมาอย่างแน่นอน
04 หนังสือเล่มนี้เล่าถึงหน่วยงานพิเศษที่ชื่อ 701 ‘7’ เป็นตัวเลขที่ประหลาด อาจมีสีด�ำ แน่นอนว่าสีด�ำไม่ใช่สีที่ 701 เจาะจารชนแดนมังกร
17