หัวที่หายไป ของดามัชเซนู มงเตยรู La Testa Perduta di Damasceno Monteiro
Antonio Tabucchi เขียน นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ แปล
กรุงเทพมหานคร สำานักพิมพ์มติชน 2556
หัวที่หายไป ของดามัชเซนู มงเตยรู La Testa Perduta di Damasceno Monteiro
หัวที่หายไปของดามัชเซนู มงเตย์รู
11
แด อันตอนีโอ คัสเซเซ (Antonio Cassese) และมาโนโลคนยิปซี
นวนิยายวิทยาศาสตร์ O Marciano encontrou-me na rua e teve mêdo de minha impossibilidade humana. Como pode existir, pensou consigo, um ser Que no existir põe tamanha anulação de existência? Carlos Drummond de Andrade มนุษย์ดาวอังคารพบข้าพเจ้าบนถนน เขาตกใจกลัวความไม่น่าจะเป็นมนุษย์ในตัวข้าพเจ้า มีสิ่งมีชีวิตชนิดนี้อยู่ได้อย่างไรกัน เขาคิดถาม สิ่งมีชีวิตที่ลบล้างความมีอยู่อย่างใหญ่หลวงเช่นนี้ในการมีชีวิต
14 นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ แปล
1 มาโนโลคนยิปซีลืมตา มองแสงสลัวที่สองลอดเขามาตาม ช่องฝาเพิง ลุกจากที่นอนโดยพยายามไม่ส่งเสียงดัง เขาไม่ จ�าเป็นต้องแต่งตัว เพราะเข้านอนโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า เสื้อแจ๊ก เก็ตสีส้มที่อกูชตินญู ดา ซิลวา ฉายาฟรันซ์คนเยอรมัน คนฝึก สิงโตไม่มีฟันที่โรงละครสัตว์มาราวิลญัชให้มาเมื่อปีกลาย ตอนนี้ เขาใช้เป็นทั้งชุดปกติและชุดนอน ในแสงมัวซัวของยามเช้ามืด มาโนโลคล�าหารองเท้าสายรัดซึ่งได้กลายสภาพเป็นรองเท้าแตะ คู่ชีพ เมื่อพบแล้วก็สวม เขาจ�าได้ว่าในเพิงอะไรอยู่ตรงไหน เดินไปในความมืดสลัวได้ โดยไล่ตามต�าแหน่งที่ตั้งอันแน่ชัด ของเครื่องเรือนอนาถาที่ใช้ตกแต่งเพิง เขาเดินสบายๆ ไปยัง ประตู แต่ แ ล้ วเท้าขวาก็พ ลันเตะตะเกียงน�้ามันบนพื้น อีห่า มาโนโลคนยิปซีสบถลอดไรฟัน เป็นฝีมือเมียเขานั่นเอง เมื่อค�่า หัวที่หายไปของดามัชเซนู มงเตย์รู
15
วานนางต้องการจะวางตะเกียงไว้ข้างที่นอน อ้างว่าความมืด ท�ำให้นางฝันร้าย ฝันเห็นผี นางบอกว่าถ้ามีตะเกียงส่องแสง วอมแวม ผีปู่ย่าตายายจะไม่กล้ามาหา และปล่อยให้นางนอน หลับอย่างเป็นสุข “ราชาท�ำอะไรแต่เช้าน่ะ วิญญาณทุกข์ทนของผีปู่ย่าอัน ดาลูเซียเอ๊ย” เสียงเมียของเขานุ่มหูและอู้อี้ประสาคนเพิ่งตื่นนอน นาง มั ก พู ด กั บ เขาเป็ น ภาษาเฌอริ ง กงซา (geringonça) ซึ่ ง ผสม ผสานกั น ระหว่ า งภาษายิปซี ภาษาโปรตุเกส และภาษาของ แคว้นอันดาลูเซีย นางเรียกเขาว่า ราชา (El Rey) ราชาห่าเหวน่ะสิ มาโนโลอยากจะตอบ แต่ไม่พูดอะไร ราชาห่าเหวน่ะสิ เมื่อก่อนน่ะใช่ว่าเขาเป็นราชา ตอนที่ชาวยิปซี ยังมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ตอนที่เผ่าพันธุ์ของเขาเดินทางท่องไปบน ที่ราบอันดาลูเซียอย่างอิสรเสรี ตอนที่พวกเขาท�ำสร้อยทองแดง ไปขายในหมู่บ้าน แต่งกายชุดด�ำ สวมหมวกสักหลาดงามสง่า มีดที่พกก็ไม่ได้มีไว้ป้องกันตัว เป็นแต่เครื่องประดับเกียรติท�ำ ด้วยเงินแกะสลัก ตอนนั้นสิถึงจะเรียกว่าเป็นยุคสมัยของราชา แล้วตอนนี้ล่ะ ตอนนี้ที่ต้องระหกระเหินเร่ร่อน ตอนนี้ที่ชีวิต ล�ำเค็ญเมื่ออยู่ในสเปน ในโปรตุเกสซึ่งพักพิงอยู่ขณะนี้อาจยิ่ง ล�ำเค็ญกว่า ตอนนี้ที่หมดหนทางจะท�ำสร้อยหรือแพรคลุมผม ตอนนี้ที่ต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยการลักเล็กขโมยน้อยและแบ มือขอทาน ราชาส้นตีนอะไรวะไอ้มาโนโล ราชาห่าเหวน่ะสิ เขา คิดย�้ำ เทศบาลเมืองอนุญาตให้เขาอาศัยอยู่ในที่ดินขยะเกลื่อน 16 นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ แปล
ผืนนั้นบริเวณชานเมือง พ้นเขตบ้านเรือน ให้มาด้วยความเวทนา แท้ๆ เขาจ�ำสีหน้าแสดงความสมเพชของเจ้าหน้าที่เทศบาลคน นั้ น ผู ้ ล งชื่ อ ในใบอนุญาตได้ดี ก�ำหนดให้อ ยู่สิบสองเดือนใน ราคาน้อยนิดพอเป็นธรรมเนียม และมาโนโลต้องไม่ลืมว่าทาง เทศบาลจะไม่เป็นธุระจัดหาโครงสร้างพื้นฐานให้ ทั้งน�้ำและไฟ ไม่ต้องพูดถึง ส่วนเรื่องขี้ก็ให้ไปป่าสน เพราะอย่างไรชาวยิปซี ก็ชินแล้วนี่กับเรื่องนี้ จะได้ใส่ปุ๋ยให้ดินด้วย แล้วก็ระวังไว้ด้วยนะ เพราะเจ้าหน้าที่ต�ำรวจรู้เรื่องการลักลอบค้าของเล็กของน้อย ของพวกเขาและก�ำลังจับตามองอยู่ ราชาห่าเหวน่ะสิ มาโนโลคิด อยู่ในเพิงท�ำด้วยกระดาษ แข็ง หลังคามุงสังกะสี หน้าหนาวอากาศชืน้ แฉะ หน้าร้อนเหมือน อยู่ในเตาเผา ถ�้ำแห้งๆ สะอาดสะอ้านอย่างในเมืองกรานาดา สมัยเขาเป็นเด็กไม่มีแล้ว ที่เขาอยู่นี่มันค่ายผู้อพยพชัดๆ หรือ เรียกค่ายกักกันจะถูกกว่า มาโนโลราชาห่าเหวบอกตัวเอง “ราชาท�ำอะไรแต่เช้าน่ะ วิญญาณทุกข์ทนของผีปู่ย่าอัน ดาลูเซียเอ๊ย” เมียเขาถามซ�้ำ นางตื่นเต็มที่แล้วตอนนี้ ลืมตาโพลง เส้นผมสีเทาไม่ติด กิ๊บสยายระอกราวกับจะเตรียมตัวนอน และชุดยาวหลวมสีชมพู ที่สวมนอน ท�ำให้นางดูเหมือนผีเสียเอง “ไปเยี่ยว” มาโนโลตอบห้วนๆ “ดีแล้ว” เมียว่า มาโนโลจัดของลับในกางเกงในให้เข้าที่ เขารู้สึกว่ามัน แข็งและบวมกดทับลูกอัณฑะจนเจ็บ หัวที่หายไปของดามัชเซนู มงเตย์ร ู
17
“ข้ายัง ฟินฟาร์ ได้อยู่” เขาพูด “ตื่นมาเป็นอย่างนี้ทุกเช้า มังกัลญู แข็งเป๊ก ข้ายัง ฟินฟาร์ ได้อยู่” “มันบวมเยี่ยว” เมียเขาตอบ “แกแก่แล้ว ราชาเอ๊ย แก คิดว่าตัวเองยังหนุ่ม แต่ความจริงแกแก่แล้ว แก่กว่าฉันอีก” “ข้ายัง ฟินฟาร์ ได้” มาโนโลตอบ “แต่กับแก ฟินฟาร์ ไม่ได้ ของของแกมีใยแมงมุมจับเต็ม” “ถ้าอย่างนั้นก็ไปเยี่ยวซะไป” เมียตัดบท มาโนโลเกาหัว หลายวันมานีผ้ วิ หนังของเขาเป็นผืน่ สีชมพู จากต้นคอลามขึ้นไปจนถึงบริเวณหัวล้าน ท�ำให้คันเหลือทน “ข้าเอามาโนลีโตไปด้วยนะ” เขากระซิบขอเมีย “ให้เจ้าหนูมันนอนไป” นางตอบ “มาโนลีโตมันชอบไปเยี่ยวกะปู่” มาโนโลอ้าง เขามองไปทางที่มาโนลีโตนอนอยู่ ความรักแล่นวูบเข้า มาในหัวใจ เด็กชายมาโนลีโตอายุแปดขวบ ทายาทคนเดียว ของเขาที่เหลืออยู่ หน้าตาไม่คล้ายชาวยิปซีเสียด้วยซ�้ำ ผมด�ำ ตรงเหมือนคนยิปซีแท้ก็จริง แต่นัยน์ตาสีฟ้าอมเขียว คงต้อง เหมือนแม่ของเขา ซึง่ มาโนโลไม่รจู้ กั ปาคูลกู ชายของเขา ลูกชาย คนเดียวของเขา มีลูกกับโสเภณีเมืองฟารู ปาคูบอกว่าเธอเป็น คนอังกฤษ หากินตามถนนในยิบรอลตาร์ มีปาคูเป็นแมงดาคอย คุม ต่อมาเธอหายไปในอังกฤษ เพราะโดนเจ้าหน้าที่ต�ำรวจจับ ตัวส่งกลับประเทศ ปาคูจึงมีลูกติด และเอามาทิ้งให้ปู่ย่าเลี้ยง เพราะเขามีกิจส�ำคัญต้องไปสะสางในแคว้นอัลการ์ฟ เขาอยู ่ ในวงการลักลอบค้าบุหรี่ แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย 18 นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ แปล
มาโนลีโตจึงอาศัยอยู่กับปู่ย่า “มันชอบดูพระอาทิตย์ขึ้น” มาโนโลเซ้าซี้ “ให้เจ้าหนูมันนอนไป” เมียเขาบอก “ฟ้าเพิ่งสาง แกไม่ สงสารมันหรือยังไง ไปเยี่ยวซะไป” มาโนโลคนยิปซีเปิดประตูเพิงออกไปสู่อากาศยามเช้าตรู่ บริ เ วณลานนอกเพิ ง ไม่ มี ค น ทั่ ว ทั้ ง แคมป์ ก� ำ ลั ง หลั บ ใหล ลู ก หมาจรจัดตัวหนึ่งซึ่งคนในแคมป์จ�ำใจเลี้ยงผละจากกองทราย เดินกระดิกหางเข้ามาหา มาโนโลดีดนิ้ว หมาน้อยยกขาหน้า ขึ้นพร้อมกับกระดิกหางแรงกว่าเดิม มาโนโลเดินผ่านลานของ แคมป์มีเจ้าหมาน้อยตามต้อย แล้วเลี้ยวเข้าถนนซึ่งทอดไปตาม ป่าสนของเทศบาล เลียบเนินเขา ทอดลงสู่แม่น�้ำโดรู ที่ดินไม่ กี่เฮกตาร์นั้นได้รับการขนานนามอย่างเอิกเกริกว่าเป็น “สวน สาธารณะประจ�ำเมือง” มีการโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ว่าเป็น ปอดสี เ ขี ย วของเมื อ ง ทว่ า ความจริ ง มั น คื อ ที่ ร กร้ า ง ไม่ มี ก าร ควบคุมดูแลความปลอดภัย ทุกเช้ามาโนโลจะพบถุงยางอนามัย และเข็มฉีดยาเกลื่อนพื้น ซึ่งทางเทศบาลไม่จัดการมาเก็บ ถนน สายเล็ ก ๆ นั้ น เริ่ ม ลาดลง ข้ า งทางมี พุ ่ ม จี เ นสตรากิ่ ง ก้ า นดก ตอนนั้นเป็นเดือนสิงหาคม ต้นจีเนสตราเหล่านั้นไม่รู้เหตุใดจึง ยังคงออกดอกราวกับอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ มาโนโลสูดดมอากาศ อย่างผู้ช�ำนาญ เขามีความสามารถในการดมกลิ่นอันหลาก หลายของธรรมชาติ ดังที่ชีวิตในไพรกว้างได้สอนเขามา เขาไล่ ดูจีเนสตรา ลาเวนเดอร์ และโรสแมรี่ ณ เบื้องล่างนั้น สุดผืนดิน ลาดแม่น�้ำโดรูระยิบระยับต้องแสงหักเหของดวงตะวันซึ่งหลบอยู ่ หัวที่หายไปของดามัชเซนู มงเตย์ร ู
19
ในหมู่เนินเขา เรือสินค้าสองสามล�ำแล่นออกมาจากทางแผ่น ดินใหญ่ มุ่งหน้าสู่ปอร์ตู ใบเรือขึงตึง ทว่าเรือดูสงบนิ่งอยู่บนผืน น�ำ้ เรือเหล่านัน้ ขนถังไวน์ไปยังห้องเก็บไวน์ในเมือง เรือ่ งนีม้ าโนโล รู้ไวน์ซึ่งจะกลายเป็น “พอร์ตไวน์” อยู่ในขวด แล้วออกเดินทาง ไปทั่วโลก มาโนโลรู้สึกโหยหาอย่างท่วมท้นถึงโลกกว้างที่เขา ไม่เคยเห็น ท่าเรือที่ไม่รู้จักในดินแดนไกลโพ้น เมฆครึ้มหมอก ลงเหมือนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นในภาพยนตร์ ส่วนเขารู้จักแต่ แสงขาวเจิดจ้าของคาบสมุทรไอบีเรียแห่งนัน้ แสงของอันดาลูเซีย ของเขา และแสงของโปรตุเกส บ้านเรือนทาสีน�้ำปูนขาว หมา จรจัด ป่าโอ๊ก และต�ำรวจซึ่งคอยไล่ที่ ส�ำหรับที่เยี่ยวเขาเลือกโอ๊กใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งแผ่ร่มเงากว้าง ทาบทุ่งหญ้า พ้นเขตป่าสนออกไปนิดหน่อย ไม่รู้ท�ำไมเขาถึง รู้สึกสบายใจเมื่อได้เยี่ยวรดโคนไม้ต้นนั้น อาจเพราะมันเป็นต้น ไม้แก่เฒ่ากว่าเขามาก มาโนโลดีใจที่ในโลกนี้มีสิ่งมีชีวิตอายุ มากกว่าเขา แม้มันจะเป็นเพียงต้นไม้ก็ตาม เขารู้สึกเป็นตัว ของตัวเอง ประหนึ่งเกิดความสงบขึ้นในใจขณะท�ำกิจส่วนตัว รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเองและกับเอกภพ เขาเดินไปที่โคนต้น ไม้แล้วถ่ายปัสสาวะอย่างโล่งใจ ขณะนั้นเองเขามองเห็นรอง เท้าข้างหนึ่ง สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือมันดูไม่ใช่รองเท้า เก่าและถูกโยนทิ้ง อย่างที่พบเห็นบางครั้งบางคราวบนที่ดินผืน นั้น แต่เป็นรองเท้าขึ้นเงาแวววาว ท�ำด้วยหนัง เขาคิดว่าน่า จะเป็นหนังลูกแพะ ปลายรองเท้าชี้ขึ้นเหมือนสวมเท้าอยู่ มัน โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ 20 นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ แปล
มาโนโลย่องเข้าไปใกล้ ประสบการณ์สอนเขาว่าอาจเป็น คนเมาหรือคนร้ายคอยดักซุ่มอยู่ เขามองเหนือพุ่มไม้ ไม่เห็นมี อะไร เขาหยิบกิ่งไม้มาเขี่ยพุ่มไม้นั้น ถัดจากรองเท้าซึ่งเป็น รองเท้าบู๊ตสั้นนั้นขึ้นไปเป็นขาสองข้างห่อหุ้มด้วยกางเกงยีนส์ รัดรูป สายตาของมาโนโลไล่ขึ้นไปจนถึงเอวแล้วหยุด เข็มขัด เป็นหนังสีอ่อน หัวเข็มขัดขนาดใหญ่ท�ำด้วยเงินสลักรูปหัวม้า ข้างบนมีข้อความว่า “Texas Ranch” มาโนโลพยายามถอดตัว อักษรของค�ำนั้นอย่างยากยิ่ง แล้วจ�ำไว้ในใจ จากนั้นจึงเขี่ย พุ่มไม้ส�ำรวจต่อไป ล�ำตัวสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน�้ำเงิน บนเสื้อมี ตัวหนังสือภาษาต่างประเทศเขียนว่า “สโตนส์ออฟโปรตุเกส” มาโนโลเพ่งอยู่นานเพื่อให้จ�ำได้แม่น เขาใช้กิ่งไม้นั้นส�ำรวจต่อ ไปอย่างใจเย็นและระมัดระวัง ราวกับกลัวว่าจะท�ำให้ร่างที่นอน หงายอยู่ในพุ่มไม้นั้นเจ็บ เขาไล่ไปถึงคอ และไม่อาจไปต่อได้ เพราะร่างนั้นไม่มีหัว รอยตัดเนียนเรียบท�ำให้เลือดไหลออกไม่ มาก จับตัวเป็นก้อนสีคล�้ำเพียงไม่กี่ก้อนตรงจุดที่แมลงวันก�ำลัง ตอม มาโนโลชักไม้กลับให้พุ่มไม้ปิดคลุมสิ่งน่าสังเวชนั้น เขา เดิ น ละออกไปสองสามเมตร ลงนั่ ง พิ ง โคนต้ นโอ๊กแล้ว ขบคิด เพือ่ ช่วยให้สมองแล่นเขาควักไปป์ออกมาใส่ไส้บหุ รีย่ หี่ อ้ “Defini- tivos” ซึ่งเขาบรรจงแกะมวนออก สมัยก่อนเขาชอบสูบไปป์ใส่ ใบยาสูบซอย แต่ปัจจุบันราคามันแพงมาก จึงต้องหันมาแกะ บุหรี่ใบยาสีคล�้ำ ซึ่งซื้อเป็นมวนได้ที่ร้านของฟรันซิสคู ฉายาไอ้ ขี้ราด เพราะเขาชอบเดินหนีบก้นเหมือนก�ำลังจะขี้รดกางเกง มาโนโลใส่ไส้บุหรี่ลงในกล้องยา สูบสองสามครั้งแล้วใคร่ครวญ หัวที่หายไปของดามัชเซนู มงเตย์ร ู
21
ใคร่ครวญสิ่งที่เขาพบเห็น แล้วคิดว่าไม่จ�ำเป็นต้องย้อนกลับไปดู ที่เห็นก็เกินพอแล้ว ระหว่างนั้นเวลาเดินหน้าไป จักจั่นเริ่มส่ง เสียงร้องน่าร�ำคาญ ทั่วทั้งบริเวณอบอวลด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์ และโรสแมรี่ เบื้องหน้าเขาแถบแวววาวของล�ำน�้ำทอดยาวไป สายลมอุ่นพัดแผ่วมา ร่มเงาไม้ก�ำลังร่นสั้นเข้า มาโนโลคิดว่า เคราะห์ดีที่เขาไม่ได้พาหลานมาด้วย เด็กๆ ไม่ควรเห็นสิ่งสยอง ขวัญเช่นนี้ แม้แต่เด็กยิปซีก็เถอะ เขานึกถามตัวเองว่าน่าจะกี ่ โมงแล้ว จึงดูแสงตะวัน เพิง่ สังเกตเห็นว่าเงาไม้เคลือ่ นออกไปแล้ว แดดก�ำลังส่องตรงมาที่เขา ตัวเขาชุ่มเหงื่อ มาโนโลลุกขึ้นอย่าง เหนื่อยล้า เดินกลับที่พัก บนลานโมงยามนั้นคึกคัก หญิงชรา หลายคนก�ำลังอาบน�้ำให้เด็กในกะละมัง บรรดาแม่ๆ ก�ำลังหุง ต้มอาหารผู้คนทักทายเขา แต่เขาแทบไม่ตอบ เขาเข้าไปในเพิง เมียเขาก�ำลังแต่งตัวให้เจ้าหนูมาโนลีโตด้วยชุดอันดาลูเซียเก่าๆ เพราะคนในแคมป์ได้ตกลงกันให้เด็กๆ ไปขายดอกไม้ที่ปอร์ต ู และถ้าเด็กๆ แต่งชุดพื้นเมืองจะเรียกร้องความเห็นใจได้มาก ยิ่งขึ้น “ข้าพบคนตายในป่าสน” มาโนโลพูดไม่เต็มเสียง เมียไม่เข้าใจ นางก�ำลังหวีผมให้มาโนลีโต และทาน�้ำมัน ใส่ผมให้ “ราชาว่าอะไรนะ” หญิงชราถาม “ศพ อยู่ข้างต้นโอ๊ก” “ปล่อยให้มันเน่าไป” เมียเขาตอบ “แถวนี้มีแต่ของเน่า” “มันไม่มีหัว” มาโนโลพูด “โดนเฉือน ฉับ” 22 นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ แปล
แล้วเอามือแตะคอ หญิงชรามองเขาตาเบิกกว้าง “แกหมายความว่ายังไง” นางถาม มาโนโลเอามือจ่อคอเหมือนเป็นมีด แล้วพูดอีกครั้งว่า ฉับ หญิงชราลุกขึ้นแล้วให้มาโนลีโตออกไปข้างนอก “แกต้องไปบอกต�ำรวจ” นางพูดน�้ำเสียงเด็ดขาด มาโนโลมองนางอย่างเวทนา “ราชาไม่ไปหาต�ำรวจ” เขาพูดด้วยความหยิ่งทะนง “มา- โนโลแห่งยิปซีอิสระของสเปนและโปรตุเกสไม่ไปสถานีต�ำรวจ” “แล้วแกจะเอายังไง” หญิงชราถาม “ฟรันซิสคูจะเป็นคนไปแจ้งความ” มาโนโลตอบ “ไอ้ขี้ ราดนั่นมีโทรศัพท์ และก็ติดต่อกับต�ำรวจเป็นประจ�ำอยู่แล้ว ให้ เขาเป็นคนแจ้ง เขาสนิทสนมกับต�ำรวจ” หญิงชรามองหน้าเขาด้วยแววตาเศร้าสร้อยแล้วนิ่งเงียบ มาโนโลลุกขึ้นไปเปิดประตูเพิง ขณะอยู่ตรงประตู มีแสงแห่ง ยามเที่ยงวันสาดจ้า เมียเขาพูดขึ้นว่า “แกติดหนีเ้ ขาอยูส่ องพันเอสกูโดนะราชา เขาให้แกค้างค่า ฌิริปิติ สองขวด” “ช่างหัวมันสิแค่เหล้าสองขวด” มาโนโลตอบ “ให้มันไป ไกลๆ ตีนเลย”
หัวที่หายไปของดามัชเซนู มงเตย์ร ู
23