คนเถื่อน

Page 1


2 วัลยา วิวัฒน์ศร แปล


คนเถื่อน เรื่องจริงอ้างตามบันทึกลายมือของ ป.เกสเนล

L’INGÉNU

Histoire Vèritable Tirèe des Manuscrits du P. Quesnel Voltaire เขียน Moreau Le Jeune และ Charles Monnet ภาพประกอบ วัลยา วิวัฒน์ศร แปล

กรุงเทพมหานคร ส�ำนักพิมพ์มติชน 2556

คนเถื่อน 3


1 เจ้าอารามนอทเทรอะดาม เดอ ลา มงตาญ และน้องสาว พบหนุ่มอินเดียนแดงเผ่าอูรงได้อย่างไร

วันหนึ่งนักบุญดันสตั้น ชาวไอร์แลนด์ ผู้ประกอบอาชีพนักบุญ ขี่ภูเขาขนาดย่อมจากประเทศไอร์แลนด์  เคลื่อนฝ่าคลื่นมายังชาย  ฝั่งประเทศฝรั่งเศส  พาหนะนี้พาท่านมาถึงอ่าวเมืองแซ็งต์-มาโล  เมื่อขึ้นฝั่ง ท่านก็สวดมนต์อ�ำนวยพรให้ภูเขา ฝ่ายหลังแสดงความ  เคารพนบนอบอย่างอ่อนน้อมทีส่ ดุ  แล้วเดินทางกลับไปยังประเทศ  ไอร์แลนด์ตามเส้นทางเดิม ดันสตั้นสร้างอารามเล็กๆ หลังหนึ่งในย่านนั้น ตั้งชื่อความ  หมายเดียวกับพาหนะว่า อาราม เดอ ลา มงตาญ ทุกวันนี้อาราม  ยังคงชื่อเดิมอยู่  มิว่าผู้ใดก็รู้ ในปี  ค.ศ. 1689 วันที่  15 เดือนกรกฎาคม เพลาเย็น พ่อ อธิการ  เดอ  แกร์กาบง  ผู้เป็นเจ้าอารามนอทเทรอะดาม  เดอ  ลา  มงตาญ ไปเดินเล่นริมทะเลกับมาดมัวแซล เดอ แกร์กาบง ผู้เป็น คนเถื่อน 13


น้องสาว เพือ่ สูดอากาศสดชืน่  เจ้าอารามซึง่ บัดนีเ้ ริม่ สูงอายุแล้วเป็น  พระที่ดีมากรูปหนึ่ง  เพื่อนบ้านชายในละแวกล้วนรักใคร่ชอบพอ  ท่าน  เหมือนเมื่อครั้งกระโน้นท่านเป็นที่รักของบรรดาเพื่อนบ้าน หญิง  สิ่งซึ่งท�ำให้ผู้คนรักนับถือท่านยิ่งนักก็คือ  ท่านเป็นพระกิน  เงินประจ�ำต�ำแหน่งรูปเดียวในท้องถิ่นนั้นที่ไม่ต้องมีผู้ใดหามกลับ  ไปนอนบนเตียงเมื่อท่านไปดื่มกินมื้อค�่ำกับเพื่อนนักบวชด้วยกัน  ท่านทรงภูมิรู้เทววิทยาอย่างเพียงพอ  ยามใดท่านเหนื่อยจากการ  อ่านงานนิพนธ์ของนักบุญออกุสแต็ง  ท่านจะหันไปเพลิดเพลิน  กับงานประพันธ์ของราเบอเลส์  มิว่าผู้ใดก็พูดถึงท่านในแง่ดีทั้งนั้น มาดมัวแซล เดอ แกร์กาบงไม่เคยแต่งงานแม้จะปรารถนา อย่างยิ่งก็ตาม  หล่อนอายุสี่สิบห้าปีแต่ยังดูเปล่งปลั่ง  หล่อนเป็น  คนดี  มีอารมณ์อ่อนไหว  ชอบความรื่นเริงบันเทิงใจเท่าเทียมกับ  การเป็นผู้เปี่ยมศรัทธา เจ้าอารามมองทะเลพลางกล่าวแก่น้องสาวว่า “นิจจาเอ๋ย  ที่นี่เอง  เมื่อปีหนึ่งพันหกร้อยหกสิบเก้า  น้อง  ชายผู้น่าสงสารของพี่กับน้องสะใภ้คนดี  มาดาม  เดอ  แกร์กาบง  ภรรยาของเขา  ลงเรือรบคุ้มกันขนาดเล็กชื่อ  ‘นางแอ่น’  ออกเดิน  ทางไปรับใช้ชาติที่ประเทศแคนาดา  หากเขามิได้ถูกสังหารไปแล้ว  เราก็คงจะหวังได้ว่าจะได้พบเขาอีก” “คุณพี่ว่าพี่สะใภ้ของน้องถูกพวกอินเดียนแดงเผ่าอีโรกัวส์  กินไปแล้วดังที่มีผู้มาเล่าให้ฟังไหม  ที่จริงแท้แน่เทียวก็คือ หาก  เธอมิได้ถูกกิน  เธอคงจะได้กลับมาแล้ว  น้องจะร้องไห้เสียดาย  เธอไปชั่วชีวิต  เธอช่างมีเสน่ห์น่ารัก  นอกจากนี้พี่ชายของน้องซึ่ง  14 วัลยา วิวัฒน์ศร แปล


เป็นคนฉลาดเฉลียวยิ่งนัก  คงจะร�่ำรวยมหาศาลเป็นแน่หากเขามิ  ได้จากไปเสียก่อน” ขณะร�่ำปริเทวนะแก่กันและกันเมื่อหวนร�ำลึกถึงความหลัง  นี้  ทั้งสองก็เห็นเรือขนาดย่อมล�ำหนึ่งเคลื่อนตามกระแสน�้ำเข้ามา  ในอ่าว  เดอ  รองซ์  พวกอังกฤษน�ำสินค้าจากประเทศของตนเข้า  มาขายนัน่ เอง  คนเหล่านัน้ กระโดดขึน้ ฝัง่ โดยมิใส่ใจมองเจ้าอาราม  หรือน้องสาวของท่าน  ฝ่ายหลังถึงกับพิศวงงงงันเมื่อเห็นว่ามิม ี ผู้ใดสนใจตนเลย ทว่ามีบคุ คลหนึง่ ต่างออกไป ชายหนุม่ ร่างงามผูห้ นึง่ กระโจน  ผลุงเดียวข้ามหัวบรรดาเพื่อนร่วมเดินทางมาลงเบื้องหน้ามาด-  มัวแซล  เขาผงกศีรษะให้หล่อนด้วยเขาไม่รู้จักการโค้งค�ำนับเพื่อ  ทักทาย  รูปร่างหน้าตาตลอดจนการแต่งกายของเขาดึงดูดสายตา  พี่น้องคู่นี้  เขามิได้สวมหมวก  น่องเปลือยเปล่า  เท้าสวมรองเท้า  สานพื้นบาง  ผมยาวบนศีรษะถักเปียไว้  เสื้อตัวบนรัดรูปอวดเอว  คอด อกผายไหล่ผึ่ง  ท่าทางองอาจดุจนักรบทว่าอ่อนโยน  มือ  หนึ่งถือขวดโอ  เดส์  บาร์บาดส์อันเป็นเหล้าประเภทรัม  อีกมือถือ  ย่ามซึ่งบรรจุจอกใบหนึ่งและอาหารแห้งส�ำหรับนักเดินเรือ เขาพูด  ภาษาฝรั่งเศสชัดเจนคล่องแคล่ว  เสนอเหล้าบาร์บาดส์แก่มาดมัว  แซล  เดอ  แกร์กาบงและเมอสิเยอร์พี่ชายของหล่อน  ตนเองก็  ร่วมดื่มกับทั้งสอง แล้วรินเพิ่มให้อีกด้วยท่าทีง่ายๆ จริงใจจนสอง  พี่น้องรู้สึกต้องใจยิ่งนัก  จึงพร้อมที่จะเอื้อเฟื้อ  เริ่มด้วยการถาม  ไถ่ว่าเขาเป็นใครและจะไปยังหนใด  ชายหนุ่มตอบว่ายังไม่ทราบ  ตนเป็นคนอยากรู้อยากเห็นและใคร่ประจักษ์ว่าชายฝั่งฝรั่งเศส  คนเถื่อน 15


มีลักษณะเช่นใด จึงเดินทางมาแล้วก็จะกลับไป เจ้าอารามฟังส�ำเนียงของเขาก็แน่ใจว่ามิใช่คนอังกฤษ  จึง  ถือโอกาสถามว่าเขาเป็นชาวเมืองใด “ข้าเป็นอินเดียนแดงเผ่าอูรง” ชายหนุ่มตอบ มาดมัวแซล  เดอ  แกร์กาบงประหลาดใจ  อีกทั้งปลื้มปีต ิ ที่ได้พบอินเดียนแดงเผ่าอูรงซึ่งแสดงกิริยาสุภาพต่อหล่อน  จึง  เชื้อเชิญให้ไปรับประทานอาหารด้วยกัน  ชายหนุ่มก็มิได้ออกตัว  ให้ต้องเชิญซ�้ำสอง  ทั้งสามจึงร่วมทางกลับไปยังอาราม  เดอ  ลา  มงตาญ มาดมั ว แซลร่ า งอ้ ว นเตี้ ย ส� ำ รวจตรวจดู เ ขาด้ ว ยดวงตา  เล็กๆ ของหล่อน แล้วพูดซ�้ำๆ กับเจ้าอารามว่า “เจ้าหนุ่มร่างสูงคนนี้ผิวสีขาวอมชมพู!  ผิวสวยเกินกว่า  จะเป็นชาวเผ่าอูรงเจียวนะ!” “น้องพูดถูกแล้ว” เจ้าอารามเห็นพ้อง หล่อนจึงรัวค�ำถามร้อยแปดพันเก้าใส่เขาถี่ยิบ  หนุ่มนัก  เดินทางก็ตอบค�ำตรงไปตรงมาทุกครั้ง ในไม่ชา้ ก็รำ�่ ลือกันไปทัว่ ว่ามีชาวเผ่าอูรงหนึง่ นายอยูท่ อี่ าราม  เดอ  ลา  มงตาญ  ผู้มีหน้ามีตาในละแวกใกล้ไกลต่างรีบมาร่วมรับ  ประทานอาหาร  พ่ออธิการ  เดอ  แซ็งต์-อีฟส์  มาพร้อมกับมาด-  มัวแซลผู้เป็นน้องสาว  หล่อนผู้นี้เป็นชาวเบรอตาญล่าง  ทรงโฉม  ยิ่งนัก อีกทั้งเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว  ตระลาการกับเจ้าภาษีก็มา  พร้อมกับภรรยา  หนุ่มแปลกหน้าได้นั่งกลางระหว่างมาดมัวแซล  เดอ  แกร์กาบงกับมาดมัวแซล  เดอ  แซ็งต์-อีฟส์  ทุกคนต่างมอง  16 วัลยา วิวัฒน์ศร แปล


คนเถื่อน 17


ดูเขาอย่างชื่นชมยินดี  ต่างพูดกับเขาไต่ถามเขาพร้อมๆ  กัน  ชาว  เผ่าอูรงหาได้ระย่อไม่  คล้ายกับว่าเขายึดถือคติของลอร์ดโบลิงโบรก  ที่ว่า ‘จงกุมสติให้มั่นในทุกเรื่อง’ แต่แล้วเมื่อมิอาจทนเสียงอึกทึก  ต่อไปได้อีก  เขาก็จ�ำต้องกล่าวแก่ทุกคนในที่นั้นด้วยน�้ำเสียงค่อน  ข้างอ่อนโยนทว่าแฝงความหนักแน่น ดังนี้ “ท่านทั้งหลาย  ในประเทศของข้า  ผู้คนผลัดกันพูด  พวก  ท่านจะให้ข้าตอบค�ำได้อย่างไรเล่าในเมื่อข้ามิอาจฟังค�ำถามของ  พวกท่านออกเลย” การมีเหตุผลย่อมท�ำให้ผู้คนสงบปากสงบค�ำลงได้ชั่วขณะ  ความเงียบบังเกิดขึ้น ตระลาการซึ่งชอบตะครุบคนแปลกหน้าทุกคนไม่ว่าตนเอง  จะอยูใ่ นทีพ่ ำ� นักของผูใ้ ดก็ตาม และเป็นนักตัง้ ค�ำถามตัวฉกาจทีส่ ดุ   ในเมืองอยู่แล้ว อ้าปากกว้างเจ็ดนิ้วถามว่า “เมอสิเยอร์  ท่านมีนามว่ากระไร” “ใครๆ ก็เรียกข้าว่า คนเถื่อน” ชาวเผ่าอูรงตอบ  “เมื่อข้า  มาถึงประเทศอังกฤษ  พวกเขาก็เรียกข้าเช่นนี้  ด้วยว่าข้าพูดสิ่งที่  ข้าคิดเสมอ อีกทั้งข้ายังท�ำทุกอย่างที่ข้าประสงค์” “ในเมื่อท่านเป็นชาวเผ่าอูรง  ท่านมายังประเทศอังกฤษได้  อย่างไรเล่า” “มีคนพาข้ามา ในการสู้รบครั้งหนึ่งที่ประเทศแคนาดาของ  ข้า  ข้าถูกชาวอังกฤษจับเป็นเชลยหลังจากข้าต่อสู้ป้องกันตัวอยู่  เป็นเวลานาน  ชาวอังกฤษชอบความกล้าหาญ เพราะพวกเขาเอง  ก็เป็นผู้กล้าอีกทั้งยังเป็นคนรักเกียรติเช่นเดียวกับเรา  ข้าจึงได้รับ  18 วัลยา วิวัฒน์ศร แปล


ค�ำเสนอว่าจะกลับไปหาญาติพี่น้องหรือจะมาประเทศอังกฤษกับ  พวกเขา  ข้าเลือกประการหลังเพราะข้านั้นมีนิสัยชอบท่องเที่ยว  ยิ่งนัก” “แต่  เมอสิเยอร์”  ตระลาการเสียงเข้ม  “ท่านเลือกที่จะ  ทอดทิ้งบิดามารดาได้อย่างไร” “ก็ข้ามิเคยเห็นหน้าพ่อหรือแม่ข้าเลย” คนพลัดถิ่นตอบ ผู้คนทั้งนั้นพากันเวทนา เสียงอุทานดังซ�้ำแล้วซ�้ำเล่า “ไร้พ่อไร้แม่!” “เราจะเป็นพ่อแม่ให้เขา”  นายหญิงของบ้านกล่าวกับเจ้า  อารามผู้พี่  “ชาวเผ่าอูรงคนนี้น่าสนใจยิ่งนัก” คนเถื่อนกล่าวขอบคุณหล่อนอย่างสุภาพ  เปี่ยมมารยาท  และหยิ่งในตน เขาพูดให้หล่อนเข้าใจว่าเขาไม่ประสงค์สิ่งใด “เมอสิเยอร์คนเถือ่ น” ตระลาการผูเ้ อาจริงกล่าว  “ข้าพเจ้า สังเกตเห็นว่าท่านพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดีกว่าที่ชาวเผ่าอูรงคนหนึ่ง  คนใดจะพูดได้” “ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง”  คนเถื่อนตอบ  “ซึ่งพวกเราจับได้  ในแคว้นอูรอนีของเราเป็นผู้สอนข้า  ตอนนั้นข้าโตมากแล้วและ  ข้าก็เป็นมิตรของเขา ข้าเองก็เรียนได้เร็วด้วยเป็นสิง่ ทีข่ า้ อยากเรียน  รู้  ต่อมาเมื่อข้ามาถึงเมืองพลีมัธ  ข้าได้พบผู้อพยพชาวฝรั่งเศส  พวกที่ท่านเรียกว่าอูเกอโนต์อะไรนั่นแหละ  มีคนหนึ่งสอนภาษา  ฝรั่งเศสให้ข้าเพิ่มเติมจนข้ารู้ภาษาของท่านดีขึ้น  และเมื่อข้าพูด  ภาษานี้ได้รู้เรื่อง  ข้าก็เดินทางมาเที่ยวประเทศของท่าน  ข้าเองก็  พอจะชอบคนฝรั่งเศสอยู่บ้างยามที่พวกเขาไม่ตั้งค�ำถามมากเกิน  คนเถื่อน 19


ไปนัก” แม้จะได้ยินค�ำเตือนนี้  พ่ออธิการ  เดอ  แซ็งต์-อีฟส์ก็ยัง  ถามว่า  ระหว่างภาษาอูรง  ภาษาอังกฤษ  และภาษาฝรั่งเศส  เขา  ชอบภาษาใดมากกว่ากัน “ภาษาอูรงสิท่าน” คนเถื่อนตอบ “จะเป็นไปได้อย่างไร”  มาดมัวแซล  เดอ  แกร์กาบงอุทาน  “ดิฉันนั้นเชื่อเสมอมาว่าภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่ไพเราะที่สุดรอง  ลงมาจากภาษาเบรอตาญล่าง” มีการถามไถ่คนเถื่อนเรื่องค�ำต่างๆ  ชาวอูรงเรียก ‘ยาสูบ’  ว่าอย่างไร  ค�ำตอบคือ  ‘ตาย่า’  แล้วค�ำว่า  ‘กิน’  เล่า  ค�ำตอบคือ  ‘เอสซ็องต็อง’  มาดมัวแซล เดอ แกร์กาบงประสงค์จะทราบเป็น  อย่างยิ่งว่าชาวอูรงใช้ค�ำใดหมายถึง  ‘เกี้ยวพา’  คนเถื่อนตอบว่า  ‘โทรวองเดร์’  แล้วแสดงเหตุผลยืนยันว่าค�ำเหล่านัน้ มีความหมาย  ตรงตามค�ำภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ  ผู้ร่วมโต๊ะอาหารใน  ที่นั้นต่างรู้สึกว่า ‘โทรวองเดร์’ ไพเราะยิ่งนัก เจ้าอารามมีต�ำราไวยากรณ์ภาษาอูรงในห้องสมุด ต�ำราเล่ม  นี้บาทหลวงซาการ์-เตโอดาต์ซึ่งเป็นนักบวชฟรานซิสกันปฏิรูปแล้ว  อีกทั้งยังเป็นมิชชันนารีโด่งดังมอบให้ไว้  เจ้าอารามจึงลุกจากโต๊ะ  อาหารไปเปิดต�ำราดู  ท่านกลับมาในชั่วครู่  ท่าทีปลาบปลื้มปีติด้วย  ประจักษ์แล้วว่าคนเถื่อนเป็นชาวอูรงแท้จริง  คนทั้งนั้นถกเถียง  กันเรื่องภาษาที่มีอยู่หลากหลาย  เห็นพ้องต้องกันว่า หากมนุษย์  รู้จักเจียมตนมิได้สร้างหอคอยบาเบลเพื่อให้สูงเทียบเทียมสวรรค์  แล้ว  พระเป็นเจ้าก็คงไม่หาวิธีให้มนุษย์แตกสามัคคีกันด้วยการ  20 วัลยา วิวัฒน์ศร แปล


ลงโทษให้พูดภาษาต่างกัน  ทุกผู้ทุกนามทั่วโลกคงจะพูดภาษา  ฝรั่งเศสภาษาเดียวเท่านั้น ตระลาการนักตั้งค�ำถามตัวฉกาจซึ่งก่อนหน้านี้มิวางใจคน  แปลกหน้า ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจในตัวเขา จึงปราศรัยด้วยท่าทีสุภาพ  กว่าเดิม ทว่าคนเถื่อนมิได้ใส่ใจสังเกต มาดมัวแซล  เดอ  แซ็งต์-อีฟส์กระหายใคร่รู้ว่าในแคว้น  อูรอนีนั้นผู้คนเกี้ยวพากันอย่างไร “ด้วยการกระท�ำแต่สิ่งดีงามเพื่อให้เป็นที่พอใจแก่อิสตรี  ทรงโฉมดุจเดียวกับท่าน” คนเถื่อนตอบ แขกรับเชิญทุกคนปรบมือให้ด้วยคาดไม่ถึง  มาดมัวแซล  เดอ  แซ็งต์-อีฟส์หน้าแดงและรู้สึกปลาบปลื้ม  มาดมัวแซล  เดอ  แกร์กาบงหน้าแดงเช่นกันแต่หาได้อิ่มใจไม่  หล่อนเคืองอยู่บ้างที่  ค�ำเยิรยอนั้นมิได้หมายถึงหล่อน  แต่หล่อนเป็นคนดียิ่ง  ความ  รูส้ กึ รักใคร่เอ็นดูชายชาวอูรงจึงไม่ลดน้อยถอยลงแม้แต่นดิ  หล่อน  ถามเขาอย่ า งปรารถนาดี ว ่ า เขาเคยมี ห ญิ ง คนรั ก กี่ ค นในแคว้ น  อูรอนี “ข้าเคยมีเพียงนางเดียว” คนเถื่อนตอบ  “นางคือมาดมัว  แซลอาบากาบาผู้เป็นมิตรของแม่นมที่รักแห่งข้า  เถาหวายยังไม่  เหยียดตรงเท่า  ขนเออร์มีนยังขาวไม่เทียบ  แกะนั้นอ่อนโยนน้อย  กว่า  เหยี่ยวมิอาจหยิ่งเทียม  ยามโลดแล่นกวางก็หาตัวเบาเท่า  อาบากาบาไม่  วันหนึ่งนางไล่ตามกระต่ายป่าในละแวกไกลออก  ไปประมาณหนึ่งโยชน์กับหนึ่งร้อยเส้น  ชาวเผ่าอัลกงแก็งนิสัย  ทรามคนหนึ่งซึ่งพ�ำนักห่างสองโยชน์กึ่งมาจับกระต่ายของนาง  คนเถื่อน 21


เมื่อข้าทราบเรื่อง  ข้ารุดไป  ข้าหวดมันหมอบด้วยกระบอง  แล้ว  มัดมือมัดเท้าลากมันมาแทบเท้าคนรักของข้า  พ่อแม่ของอาบา-  กาบาประสงค์จะกินมัน  แต่อาหารมื้อใหญ่เช่นนี้ไม่เคยต้องรส  นิยมข้า  ข้าจึงปลดปล่อยมันให้เป็นอิสระ  มันกลายเป็นเพื่อนแท้  ของข้า อาบากาบาซาบซึง้ ใจในการกระท�ำของข้ายิง่ นัก นางจึงพึงใจ  นิยมข้ายิ่งกว่าชายทุกผู้ที่ทอดไมตรีสู่นาง  นางคงยังรักข้าอยู่หาก  นางมิได้ถูกหมีกิน  ข้าลงโทษหมีตัวนั้น  ข้าสวมใส่หนังของมันอยู่  นานทว่าข้ามิได้หายเศร้าสร้อยแต่อย่างใด” ขณะฟั ง เล่ า   มาดมั ว แซล  เดอ  แซ็ ง ต์ - อี ฟ ส์ รู ้ สึ ก อิ่ ม อาบ  ก�ำซาบทรวงเมื่อได้รู้ว่า  คนเถื่อนเคยมีคนรักเพียงคนเดียวและ  นางผู้นั้นก็มิคงอยู่แล้ว  ทว่าหล่อนยังมิได้พิเคราะห์หาเหตุแห่ง  ความรู้สึกนั้น  สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่คนเถื่อน  ต่างสรรเสริญ  เยิรยอเขาที่ห้ามมิให้เพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์กินชาวเผ่าอัลกงแก็ง ตระลาการคนกระด้างผู้มิอาจหักห้ามความคลั่งไคล้ในการ  ซั ก ถาม  กระหายใคร่ รู ้ ไ ปจนถึ ง ว่ า ชาวอู ร งผู ้ นี้ นั บ ถื อ ศาสนาใด  เขาเลือกนับถือนิกายแองกลิคันของอังกฤษ!  หรือคาทอลิกของ ฝรั่งเศส หรืออูเกอโนต์ “ข้านับถือศาสนาของข้า” คนเถื่อนตอบ “เหมือนดั่งที่พวก  ท่านนับถือศาสนาของท่าน” “นิจจาเอ๋ย!”  มาดมัวแซล  เดอ  แกร์กาบงครวญ  “เห็นชัด  แล้วว่าพวกชาวอังกฤษเคราะห์ร้ายทั้งหลายนี่ไม่เคยคิดท�ำพิธีศีล  จุ่มให้เขาเลย” “พระเป็นเจ้าทรงโปรด!”  มาดมัวแซล  เดอ  แซ็งต์-อีฟส์  22 วัลยา วิวัฒน์ศร แปล


อุทาน  “ไฉนหนอชาวเผ่าอูรงจึงมิได้เป็นคริสตัง  พวกพระเยซูอิต  มิได้เปลี่ยนศาสนาให้พวกเขาทุกคนดอกหรือ” คนเถื่อนยืนยันกับหล่อนว่าในแคว้นของเขานั้นไม่มีการ เปลี่ยนศาสนาผู้ใด  ไม่เคยมีชาวเผ่าอูรงแท้คนใดเปลี่ยนความคิด เห็น  อีกทั้งในภาษาของพวกเขาก็ไม่มีค�ำที่มีความหมายว่า อสัตย์  เลย ประโยคสุดท้ายนี้ต้องใจมาดมัวแซล เดอ แซ็งต์-อีฟส์ยิ่งนัก “เราจะท�ำพิธีศีลจุ่มให้เขา  เราจะท�ำพิธีศีลจุ่มให้เขา”  มาด  มัวแซล เดอ แกร์กาบงกล่าวแก่เจ้าอาราม  “คุณพี่จักได้มีเกียรติ  ยศสืบไป น้องเองจะเป็นแม่ทูนหัวให้เขา  พ่ออธิการ เดอ แซงต์-  อีฟส์จะเป็นผู้พาเขาไปที่อ่างรับศีลในโบสถ์  พิธีนี้จะงามบาดตายิ่ง  ผู้คนจะเล่าลือไปทั่วแคว้นเบรอตาญล่างและจักเป็นเกียรติแก่เรา  ตราบชั่วกาลนาน” ผู้คนทั้งนั้นสนับสนุนหญิงเจ้าบ้าน  ต่างประสานเสียงว่า  “เราจะท�ำพิธีศีลจุ่มให้เขา” คนเถื่อนโต้ว่าในประเทศอังกฤษนั้นผู้คนมีเสรีภาพในการ  ด�ำรงชีวิตตามความคิดฝันของตน  เขายืนยันว่าเขาไม่พึงใจข้อ  เสนอนี้แม้แต่น้อย  ธรรมเนียมแห่งชาวเผ่าอูรงย่อมศักดิ์สิทธิ์เท่า  เทียมกับธรรมเนียมแห่งชาวแคว้นเบรอตาญล่าง  ท้ายสุดเขา  กล่ า วว่ า เขาจะออกเดิ น ทางกลั บ ไปวั น พรุ ่ ง   งานเลี้ ย งสิ้ น สุ ด ลง  ด้วยการดื่มเหล้าบาร์บาดส์จนหมดขวด  แล้วต่างก็แยกย้ายกัน  ไปเข้านอน มีผู้พาคนเถื่อนไปยังห้องนอนที่จัดไว้ให้  มาดมัวแซล  เดอ  แกร์กาบงและมาดมัวแซล  เดอ  แซ็งต์-อีฟส์มิอาจหักห้ามใจไม่ให้  คนเถื่อน 23


มองผ่านรูกุญแจดูว่าชาวเผ่าอูรงนอนอย่างไร  หญิงทั้งสองได้เห็น  ว่าบนผ้าคลุมเตียงซึ่งถูกดึงลงมาปูบนพื้นนั้น  คนเถื่อนนอนอยู ่ ในลักษณาการงดงามที่สุดในโลก

24 วัลยา วิวัฒน์ศร แปล


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.