หอกข้างแคร่ : บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน

Page 1


หอกข้างแคร่ :

บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน


สารบัญ

หอกข้างแคร่ :

บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน

คำ�นิยม

(๖)

คำ�นำ�ผู้แปล

(๘)

บันทึกผู้แปล

(๑๑)

หอกข้างแคร่ :

บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน

บรรณานุกรม

๑ ๗๙


บันทึกของพันตรีโบชอง ฉบับลายมือเขียนหน้าแรก ซึ่งเชื่อว่าเป็นการ คัดลอกมาจากลายมืออีกทอดหนึ่ง ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุง ปารีส ประเทศฝรั่งเศส

2 หอกข้างแคร่ :

บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน


เรียน ฯพณฯ ท่านที่เคารพ ข้าพเจ้าได้รับค�ำสั่งจากนายพลเดส์ฟาร์จ ผู้บัญชาการกองก�ำลัง ทหารพระเจ้าแผ่นดินในราชอาณาจักรสยามให้เรียบเรียงรายงานเกีย่ วกับ ทุกสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ นับแต่วนั ทีพ่ วกเราเดินทางมาถึงกระทัง่ ต้องถูกบังคับให้ เดินทางกลับออกไป รวมทั้งเรื่องราวความทรงจ�ำที่ข้าพเจ้าถูกจับกุมตัว โดยพวกฮอลันดาเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ค.ศ. ๑๖๘๙ เท่าที่ข้าพเจ้าพึง ระลึกได้ถึงสิ่งที่ได้กระท�ำลงไป ข้าพเจ้าจึงรื้อฟื้นความทรงจ�ำและเรียบ เรียงทุกสิ่งที่ได้รู้และได้เห็นประจักษ์กับสายตาให้ท่านทราบ ยังมิทันที่ท่านราชทูต๑ จะออกเดินทางกลับไป นายพลเดส์ฟาร์จ ก็เดินทางกลับมาถึงบางกอก หลังจากนั้นไม่นาน เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ ก็เดินทางมาสมทบเพื่อจัดการสิ่งต่างๆ ที่เราต้องด�ำเนินการ วิศวกร โวลอง๒ (Volent) ข้ามไปส�ำรวจอีกฝัง่ หนึง่ ๓ ส่วนข้าพเจ้าส�ำรวจฝัง่ ตะวัน ตกเพื่อตรวจดูพื้นที่ดินและดูว่าจะสามารถปลูกสร้างเมืองตามที่พระเจ้า แผ่นดินสยามมีพระราชประสงค์ไว้ เมื่อโวลองตรวจดูแล้ว ก็ว่าจ�ำเป็น ต้องรื้อวัด๔ ที่กีดขวางออกไปก่อน แต่เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ตอบว่าท�ำ เช่นนั้นไม่ได้ เพราะจะเกิดปัญหาวุ่นวายตามมาอีกมากหากไม่ได้กราบ บังคมทูลพระเจ้าแผ่นดินก่อน ซึ่งเขาจะหาเวลากราบบังคมทูลในภาย หลัง ในช่วงเวลาที่คอยนั้น นายพลเดส์ฟาร์จได้ขอแรงคนงานเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นคงที่บางกอกซึ่งเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ก็รับปาก ใน โอกาสนัน้ เองทีเ่ ขาได้บอกข้าพเจ้าให้ขนึ้ ไปเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน เพราะ ต้องการแนะน�ำให้ทรงรูจ้ กั ข้าพเจ้า และจะเป็นสิง่ ทีห่ ลูพ่ ระเกียรติยศหาก ข้าพเจ้ายังชักช้าอยู่ ข้าพเจ้าขออนุญาตจากนายพลเดส์ฟาร์จซึง่ เมอซิเออร์ ก็องสต๊องส์ก็บอกให้เขาขึ้นไปพร้อมกันด้วยเช่นกัน เมอซิเออร์ก็อง สต๊องส์นำ� ข้าพเจ้าเข้าไปเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินในขณะทีเ่ สด็จประพาสคล้อง ช้าง พระเจ้าแผ่นดินโปรดปรานข้าพเจ้ามาก หลังจากเข้าเฝ้า ข้าพเจ้า และนายพลเดส์ฟาร์จก็เดินทางกลับบางกอก ซึง่ ก็ยงั ไม่มแี รงงานมาช่วย

พันตรีโบชอง เขียน ผศ. ดร. ปรีดี พิศภูมิวิถี แปล 3


ตามที่ขอไว้ เขาจึงส่งข้าพเจ้ากลับไปหาเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์เพื่อร้อง ขอแรงงานตามทีเ่ คยสัญญาไว้ แต่เพียง ๘ วันให้หลัง คนงานเพียงหยิบ มือหนึ่งค่อยเริ่มมาท�ำงาน แต่ก็ทยอยหายหน้าหายตาไปทีละคนสองคน และคงจะกลับมาอีกครั้งก็ต่อเมื่ออยากท�ำเท่านั้น สถานการณ์นี้ท�ำให้ นายพลเดส์ฟาร์จต้องให้ข้าพเจ้าเดินทางไปหาเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์อีก หลายสิบครั้งเพื่อจัดการสิ่งที่เกิดขึ้น และเพื่อขอจ�ำนวนแรงงานส�ำหรับ สร้างฐานปืนใหญ่ ในที่สุดความยากล�ำบากก็หมดลงพร้อมกับค�ำยืนยัน หลายต่อหลายครั้งว่าพวกเรายังมีความปลอดภัยอยู่ ในเวลาเดียวกัน นั้นเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ก็ส่งแม่วัวจ�ำนวน ๑๐๐ ตัวมาที่บางกอก และให้ชาวสยามเลี้ยงดูไว้เพื่อเป็นของตอบแทนในความห่วงใยของ ข้าพเจ้า โดยที่เขาปรารถนาว่าเมื่อใดที่ข้าพเจ้าต้องการวัวหรือน�้ำนมก็ สามารถจัดหาได้ นอกจากนี้เขายังให้ผ้าปูโต๊ะจ�ำนวนหนึ่งและจานชาม กระเบื้องแก่ข้าพเจ้าเพื่อแจกจ่ายกับเหล่าทหาร นายพลเดส์ฟาร์จได้ จัดเลี้ยงอาหารเย็นในเย็นวันนั้นเองพร้อมกับเครื่องโต๊ะต่างๆ อย่าง งดงามเท่าที่จะเป็นไปได้ เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ดื่มถวายพระพรพระ เจ้าแผ่นดินและเจ้านายองค์ต่างๆ เริ่มจากพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส กับ ทุกคนที่ร่วมในกองทัพ กับคนใกล้ชิดทั้งหลายที่ดูแลปืนใหญ่ เพื่อให้ งานต่างๆ ลุล่วงไปด้วยดี และดังที่เขาได้บอกกับนายพลเดส์ฟาร์จว่า จะเป็นการดีที่จะห้ามทหารออกไปล่าสัตว์เพราะว่ามีเสือ และจะได้ซ่อน พรางกองก�ำลังที่เราตั้งไว้ในป่าใกล้ๆ บางกอก หลังจากนั้น ๒-๓ วัน ทหารก็ไปพบ แต่ก็ไม่กล้าไปบอกนายพลเดส์ฟาร์จเพราะว่าในช่วงนั้น พวกเขาจะออกไปไหนมาไหนก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตเท่านั้น ในช่วงเวลานัน้ เมอซิเออร์ เดอ บรูออง (Monsieur de Bruant) ก็ออกเดินทางไปมะริด๕ (Mergui) หลังจากที่ได้รับพระราชทานกอง เรือจากพระเจ้าแผ่นดินแล้วเดือนหนึ่ง ราว ๑๕ วันก่อนออกเดินทาง เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ขอทหารจ�ำนวนหนึ่งจากนายพลเดส์ฟาร์จเพื่อไป ประจ�ำในกองเรือสยามที่จะออกไปต่อสู้กับกองเรือโจรสลัดที่โจมตีเรือ ทีม่ าจากจีน โดยยืนยันว่าเป็นการถวายการรับใช้พระเจ้าแผ่นดิน นายพล

4 หอกข้างแคร่ :

บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน


เดส์ฟาร์จจัดทหาร ๓๔ นาย พร้อมหัวหน้าชื่อ ลา รอช ดู วิเกย์๖ (La Roche du Vigeay) และร้อยโท ๑ นาย นายเรือ ๒ นาย ทั้งหมดอยู่ ภายใต้การดูแลของแซงต์ มารี (Saint Marie) และซูอาร์ต (Suart) ซึ่งต่างก็ประจ�ำในเรือของพระเจ้าแผ่นดินสยาม แซงต์ มารีนั้นได้รับ ต�ำแหน่งนายธงเรือโดยได้รับความเห็นพ้องจากเหล่าทหารเรือ และทั้ง จากค�ำร้องขอของบาทหลวงตาชาร์ด ซึ่งแจ้งผ่านเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ ดังนั้น แซงต์ มารีจึงได้รับค�ำสั่ง ๒ ประการจากเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ คือข้อแรกให้ออกไปจัดการเหล่าโจรสลัดอย่างหนึ่ง และอีกข้อหนึ่งคือ ให้ไปเผาเรือที่มาจากเมืองมัทราสอีกอย่างหนึ่ง และหากพบเรือฝรั่งเศส ระหว่างทางก็ให้ไปแสดงความเคารพ หากว่ากัปตันเรือเป็นนายพลเรือ แล้ว ก็ควรที่จะต้องเข้าไปเคารพเช่นกัน เขาได้แจ้งค�ำสั่งข้อแรกกับ นายพลเดส์ฟาร์จ แต่ปิดบังค�ำสั่งข้อสอง ซึ่งเดส์ ริวิแยร์ นายร้อยเอก ทหารราบได้มาแจ้งให้ทราบตอนกลับมาแล้ว ในขณะเดียวกัน บาทหลวง เดอ แบส๗ (De Bèze) ก็เดินทาง มาถึงบางกอกพร้อมกับพระราชโองการถึงนายพลเดส์ฟาร์จให้ข้าพเจ้า เดินทางขึ้นไปละโว้พร้อมกับทหารสยามจ�ำนวน ๑๐๐ นาย และนาย ทหารประจ�ำการ ๔ นาย ทันทีทขี่ า้ พเจ้าออกเดินทางจากบางกอกได้ราว ๔ ลิเออร์ (lieues)๘ ก็พบแซงต์ มารี และซูอาร์ตที่เดินทางกลับลงมา ข้าพเจ้าขึ้นไปบนเรือของแซงต์ มารี เขาบอกข้าพเจ้าว่ารู้สึกวิตกกังวล มากและไม่รู้ว่าเหตุใดเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์จึงให้เขาเดินทางไปในช่วง ฤดูเช่นนี้ ข้าพเจ้าละจากเขาแล้วเดินทางต่อไปยังละโว้ (Louvo) ซึ่งข้าพเจ้ามิได้พบเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ที่นั่น เขาก�ำลังเฝ้าพระเจ้า แผ่นดินอยู่ที่ทะเลชุบศร๙ (Tripson) บาทหลวง เดอ แบส ซึ่งเดินทาง ขึ้นมาพร้อมกับข้าพเจ้าได้เข้าไปถามว่าจะให้ข้าพเจ้าน�ำกองก�ำลังไป ไว้ที่ใด เขาตอบว่าให้เคลื่อนกองก�ำลังมายังทะเลชุบศร หลังจากนั้น ราว ๓ วัน เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์แจ้งให้ข้าพเจ้าเตรียมตัวให้พร้อมกับ ก�ำลังพล ๒๐ นาย และนายทหารยศร้อยโทเพื่อที่จะได้เดินทางไป ดูโรงถลุงแร่๑๐ เมือ่ ไปถึงพวกเราพบกับเมอซิเออร์เวเรต์ (Véret) หัวหน้า

พันตรีโบชอง เขียน ผศ. ดร. ปรีดี พิศภูมิวิถี แปล 5


แผนที่เมืองลพบุรี ค.ศ. ๑๖๘๗ (พ.ศ. ๒๒๓๐) โดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส ม. เดอ ลามาร์

สถานีการค้า ซึ่งอยู่ที่นี่มา ๑ เดือน เพื่อดูว่าเหมืองแร่เหล่านี้จะให้ ประโยชน์ใดได้บ้าง เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์บอกข้าพเจ้าให้น�ำกองก�ำลัง ขึ้นตั้งประจ�ำตามแนวเส้นทางที่เห็นสมควร ท�ำให้ข้าพเจ้าเกิดความ สงสัย ในวันรุ่งขึ้นตอนเช้าข้าพเจ้าจึงเข้าไปพบเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ และถามว่ามีสิ่งใดน่าวิตกในราชอาณาจักรนี้หรือไม่ และขอให้วางใจ

6 หอกข้างแคร่ :

บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน


ตัวข้าพเจ้า เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ตอบว่าความกังวลของข้าพเจ้านั้น เป็นจริง เพราะเขาคิดว่าขณะนี้ชาวสยามต้องการลุกฮือปฏิวัติ เมื่อเรา เสร็จสิ้นการตรวจตราเหมืองแร่ พวกเราก็เดินทางกลับทะเลชุบศร เมื่อกลับมาถึง เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ได้รับจดหมายหลายฉบับ จากนายพลเดส์ฟาร์จทีแ่ จ้งว่าได้จบั ชาวกรีกได้คนหนึง่ และชาวโปรตุเกส อีกคนหนึ่งที่พาทหาร ๕๐ นายหลบหนีออกไป เขาได้รับการแจ้งเตือน จากทหารคนหนึ่งในขณะที่กำ� ลังจะลงเรือ ที่เหลือก็รับสารภาพทั้งหมด และเป็นเจ้าชาวกรีกที่เป็นต้นคิดโดยอ้างว่าจะพากันไปโมกุล ส่วนชาว โปรตุเกสเป็นผู้จัดหาเรือให้ เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ว่าหากเหตุการณ์ เป็นเช่นนี้ก็ควรที่แขวนคอเสียทั้งคู่ เขาจึงประหารชีวิตชาวกรีกที่เชื่อ ว่าเขาจะรอดชีวิตเพราะเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ต้องช่วยให้เขารอดตาย จากความผิดนี้ เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ยังได้รับจดหมายของแซงต์ มารีหลายฉบับว่าเขาไม่สามารถแล่นเรือออกจากปากแม่น�้ ำได้เพราะ เป็นช่วงฤดูฝน เมื่อเขาเห็นว่าอะไรต่างๆ ดูจะไม่ราบรื่นอะไรนัก เขาจึง เขียนจดหมายถึงแซงต์ มารีและซูอาร์ตว่าให้ออกเดินทางไปตามที่พวก เขาจะสามารถไปได้ และจะเดินทางกลับเข้ามาก็ต่อเมื่อได้ปฏิบัติภารกิจ เสร็จสิน้ แล้ว นัน่ หมายถึงในอีก ๖ เดือน โดยให้เดินทางเข้ามาจอดประจ�ำ ระหว่างทั้ง ๒ ป้อม บาทหลวง เดอ แบส ซึ่งได้รับค�ำสั่งจากเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ บอกข้ า พเจ้ า ว่ า พระเจ้ า แผ่ น ดิ น สยามทรงปรารถนาจะพระราชทาน ต�ำแหน่งนายพันเอกให้ ข้าพเจ้าตอบไปว่าเป็นพระมหากรุณาอันยิ่งใหญ่ ทีพ่ ระราชทานต�ำแหน่งให้ หากแต่วา่ พระเจ้าแผ่นดินผูเ้ ป็นนายของข้าพเจ้า ได้มอบหมายต�ำแหน่งหน้าที่ซึ่งข้าพเจ้ารู้สึกยินดีท�ำ และข้าพเจ้าก็ไม่ อาจจะละทิ้งต�ำแหน่งได้โดยปราศจากค�ำสั่งจากนายพลผู้เป็นนายของ ข้าพเจ้าได้ แม้ว่าบาทหลวง เดอ แบสจะคะยั้นคะยออีกหลายหน ทั้ง พยายามให้คนรอบข้างโน้มน้าว ข้าพเจ้าก็ปฏิเสธทุกครั้งที่เขาพูดถึง เรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เช้าวันหนึ่ง เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ชักชวนให้ ข้าพเจ้าออกไปเดินเล่นกับเขา เราเดินไปบริเวณกองทหารก�ำลังฝึกหัด

พันตรีโบชอง เขียน ผศ. ดร. ปรีดี พิศภูมิวิถี แปล 7


ที่อยู่ระหว่างทะเลชุบศรและเมืองละโว้ เขาบอกว่าต้องการให้ข้าพเจ้ารับ ต�ำแหน่งพันเอก ข้าพเจ้าปฏิเสธว่าไม่สามารถรับต�ำแหน่งอันทรงเกียรติ นี้ได้และขออนุญาตเดินทางกลับ เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์แจ้งว่าเขาจะขอ รับผิดชอบทุกอย่างเองและว่าเขาเป็นผู้เขียนจดหมายกราบบังคมทูล พระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศส และแจ้งว่าพระเจ้าแผ่นดินสยามทรงต้อง การตัวข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าแจ้งความประสงค์ต่อนายพลเดส์ฟาร์จว่า ประสงค์จะเดินทางกลับ แต่ก็ยังไม่สามารถกระท�ำได้เพราะไม่มีค�ำสั่ง นายพลเดส์ฟาร์จขอให้ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ และว่าข้าพเจ้ามีความจ�ำเป็น ส�ำหรับราชส�ำนักและเพื่อกดดันให้เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ส่งของที่เรา ต้องการมาให้ ๒ วันหลังจากนั้น พระเจ้าแผ่นดินโปรดให้ขุนนางมาพบข้าพเจ้า เพื่อถามว่าข้าพเจ้าอยากไปดูการคล้องช้างหรือไม่ ข้าพเจ้าตกลงไป พร้อมกับทหารที่อยู่ด้วยกัน ในทันทีที่พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้า เดินทางมาถึง ก็ทรงให้เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์มาตามว่าพระเจ้าแผ่นดิน มีพระประสงค์จะพูดกับข้าพเจ้า ครั้นข้าพเจ้าเข้าไปถวายบังคมแล้ว ทรงถามว่าข้าพเจ้ารับราชการทหารอยู่นานเท่าใด อยู่ในกรมกองใด ข้าพเจ้าเคยได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ในการสู้รบครั้งไหนที่ไหนและกี่ครั้ง และทรงถามว่าข้าพเจ้าพอใจทีไ่ ด้อยูใ่ นสยามหรือไม่อย่างไร เมือ่ ข้าพเจ้า กราบบังคมทูลตอบหมดทุกข้อแล้ว พระเจ้าแผ่นดินรับสัง่ ให้ขา้ พเจ้าดูแล จัดการเหล่าทหารให้ดแี ละให้ขา้ พเจ้าฝึกสอนทหารให้รจู้ กั วิธกี ารรบแบบ ฝรั่งเศสด้วย เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ได้ให้ข้าพเจ้าลงมาบางกอกเพื่อรับผ้าสี น�้ำเงินจ�ำนวนหนึ่งในการตัดชุดเครื่องแบบให้กับทหารรักษาพระองค์ที่ พระเจ้าแผ่นดินทรงสัง่ ไว้ และได้ตงั้ ให้ลกู ชายคนโตของนายพลเดส์ฟาร์จ เป็นผู้น�ำ กองก�ำลังชุดนี้นายพลเดส์ฟาร์จรักษาไว้เท่าชีวิตตราบที่เขายัง อยู่ในบางกอก และเขายืนกรานว่าจะไม่ส่งกองก�ำลังไปที่ใดตราบเท่าที่ แซงต์ มารีและซูอาร์ตยังไม่เดินทางกลับเข้ามา เพื่อที่จะแยกกองก�ำลัง ออกมาต่างหากจากกองก�ำลังของเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์และจากสิ่งที่

8 หอกข้างแคร่ :

บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน


บาทหลวงตาชาร์ด

พันตรีโบชอง เขียน ผศ. ดร. ปรีดี พิศภูมิวิถี แปล 9


เขาต้องการ ซึ่งกองก�ำลังนี้นายพลเดส์ฟาร์จจะยอมยกให้เมื่อถูกบังคับ เท่านั้น และเขาก็ต้องการให้เรายังรู้สึกว่าเราอยู่ใต้อาณัติของเขา และ ช่วยให้กองก�ำลังของเรากระจัดกระจายออกไป หลังจากทีเ่ ขาส่งผ้ามายัง บางกอกแล้ว ก็ยังได้ส่งม้าอีกจ�ำนวนหนึ่งให้เราได้ใช้ฝึกหัดด้วย ต้นเดือนเมษายน พระเจ้าแผ่นดินเสด็จกลับจากทะเลชุบศร ไปยังพระราชวังเมืองละโว้ ทรงรู้สึกไม่สบายพระองค์ เมอซิเออร์ก็อง สต๊องส์เขียนจดหมายไปหานายพลเดส์ฟาร์จว่ามีพระราชโองการให้นำ� กองทหารขึ้นมา เมื่อนายพลมาถึงแล้วก็ไปพบบาทหลวง เลอ บลอง (Le Blanc) และบาทหลวง เดอ แบส ที่บ้านพักของเมอซิเออร์ก็อง สต๊องส์ บอกว่าพระเจ้าแผ่นดินมีพระประสงค์จะมอบราชบัลลังก์ให้ พระอนุชาองค์หนึง่ ของพระองค์๑๑ และว่าสมเด็จพระเพทราชา (Pitracha) รู้เรื่องนี้แล้วเช่นกัน ทั้งได้ร่วมกับหม่อมปีย์๑๒ (Monpy) ซึ่งเป็นโอรส บุญธรรมของพระเจ้าแผ่นดิน จะเข้ายึดพระราชวัง และหากเกิดอะไร ขึ้นแล้ว เราก็ไม่สามารถจะอยู่ในอาณาจักรนี้ได้ และมีพระราชโองการ ให้จับคนที่จะชิงบัลลังก์เฆี่ยนด้วยหวายเสีย นายพลเดส์ฟาร์จกล่าวว่า เรื่องนี้จ�ำเป็นต้องไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน เมื่อใดที่เขาตัดสินใจแล้ว จึงจะบอกข้าพเจ้า เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์เห็นด้วยว่าเป็นการดีเช่นกัน หลังจากนั้นเขาก็มาพบข้าพเจ้าพร้อมด้วยบาทหลวง เลอ บลอง และ บาทหลวง เดอ แบส ซึ่งได้เล่าเรื่องที่เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์เพิ่งจะพูด คุยกับพวกเขา ข้าพเจ้าตอบไปว่าอย่าเพิ่งคิดการไปไกลนัก และว่าหาก เมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ต้องการจะจับตัวสมเด็จพระเพทราชา ข้าพเจ้า ก็จะน�ำตัวไปถวายพระเจ้าแผ่นดิน และข้าพเจ้าถือว่าความส�ำเร็จของ งานครั้งนี้เป็นสิ่งสูงสุด สมควรที่จะไว้ใจเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์และ เชื่อมั่นในตัวข้าพเจ้าว่าท�ำได้ในสิ่งที่ข้าพเจ้าสัญญาไว้ นายพลเดส์ฟาร์จ และบาทหลวงเห็นด้วยว่าวิธีการแก้ปัญหาเช่นนี้ดีที่สุดแล้ว และนับเป็น ความจ�ำเป็นเพียงอย่างเดียวในช่วงเวลาเช่นนี้ ดังนั้นนายพลเดส์ฟาร์จ จึงไปพบเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ทันที ซึ่งเขาปฏิเสธข้อเสนออย่างไม่ สนใจไยดี วันรุ่งขึ้นข้าพเจ้าจึงไปพบเมอซิเออร์ก็องสต๊องส์ด้วยตนเอง

10 หอกข้างแคร่ :

บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.