กรุงเทพมหานคร สำ�นักพิมพ์มติชน 2557
Miles J. Unger เขียน ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
สารบัญ
6 8 11 13 14
บทน�ำ บทที่ 1 บทที่ 2 บทที่ 3 บทที่ 4 บทที่ 5 บทที่ 6 บทที่ 7 บทที่ 8 บทที่ 9 บทที่ 10 บทที่ 11 บทที่ 12 บทที่ 13 บทที่ 14
เมื่อโชคชะตาอาฆาตมาดร้าย ทุกข์ทนแต่ก�ำเนิด ดาบเปลือยคม ข้าราชการพลเรือน ผู้ดีตัวเปล่า มังกรออกโรง บุคคลผู้ต�่ำต้อยและยากจน วิถีแห่งดวงดาว โชคชะตากลับตาลปัตร ไล่ ริบ ล้างบางอย่างถอนรากถอนโคน เจ้าผู้ปกครอง ชีวิตที่ครุ่นคิดพินิจนึก ปราชญ์แห่งสวน ฝันร้ายและฝันดี นิ้วมือของซาตาน
17 28 53 85 106 132 154 170 192 216 233 263 290 337 361
เชิงอรรถ
378
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ค�ำน�ำผู้แปล บุคคลในเรื่อง แผนที่อิตาลี แผนที่ฟลอเรนซ์
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
บนกระดานหมากรุก ตัวหมากแต่ละชนิดมีความสามารถและคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัว ของมัน เมื่อผู้เล่นเดินเกมด้วยแผนการที่ซับซ้อนและแยบคายนั้น ทุกย่างก้าวของหมาก แต่ละตัวจึงทรงพลังและเปี่ยมความหมาย เกมการรุกฆาตก็ด�ำเนินไปอย่างมีชีวิตชีวา หาก เปรียบกระดานหมากรุกเป็นสมรภูมิทางการเมืองการปกครองแล้วละก็ บทบาท ท่าที การ พลิกเกมของแต่ละฝ่ายย่อมมีเดิมพันเป็นความเป็นความตายของประเทศชาติบ้านเมือง เลยทีเดียว หลายคนที่รู้จักมักคุ้นชื่อเสียงเรียงนามของมาเคียแวลลีอาจเข้าใจว่าเขาเป็นผู้ชักใย เบื้องหลังความเคลื่อนไหวทางการเมืองอันร้อนระอุบนคาบสมุทรอิตาลีในยุคนั้น ทว่า ความคิดเช่นนี้ผิดจากความเป็นจริงในชีวิตของเขา แม้จะเป็นทายาทของตระกูลเก่าแก่แห่ง ฟลอเรนซ์ แต่นิกโกเลาะ มาเคียแวลลีกลับใช้ชีวิตเป็นเพียงข้าราชการจนๆ ที่อุทิศตนต่อ เมืองเกิดที่เขารักยิ่งอย่างเต็มก�ำลังความสามารถ แม้หลายครั้งวาทะที่ซื่อตรงต่อความรู้สึก ซึ่งบางทีก็คมคายเสียจนกระทบใจผู้คนจะเป็นเสมือนดาบสองคมที่สุ่มเสี่ยงส�ำหรับมาเคียแวลลีเอง ด้านหนึ่งเขาเป็นนักคิดนักเขียนมากความสามารถ แต่อีกด้านที่โดดเด่นไม่ยิ่ง หย่อนไปกว่ากัน มาเคียแวลลีเป็นจอมวายร้ายที่มอมเมาผู้อ่านด้วยความคิดเจ้าเล่ห์ ปลิ้น ปล้อน และไม่แยแสผู้ใดเพื่อให้ได้มาซึ่งอ�ำนาจ 6 ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
นั่นก็เพราะปรัชญาการเมืองของมาเคียแวลลีมิได้สูงส่งด้วยศีลธรรมและสมบูรณ์ แบบตามอุดมคติ หากมุ่งแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาจากสภาพที่เป็นจริงของโลกใบนี้ ซึ่งนับเป็นมุมมองที่ฉีกกรอบเดิมๆ ของนักปรัชญาชั้นครูรุ่นก่อนหน้าอย่างเพลโตและ อริสโตเติล มาเคียแวลลีไม่ใช่ผู้เล่นยิ่งใหญ่ที่เปิดเกมเสี่ยงโชคในนามของประเทศชาติ แต่เป็นม้าใช้นักสังเกตการณ์ผู้มีสายตาแหลมคม ฉับไว สามารถอ่านเกม เดาความคิดของ ฝ่ายต่างๆ ได้อย่างเฉียบขาด ด้วยเหตุผลที่ออกตัวเสมอมาว่าเขาเป็นผู้ศึกษาธรรมชาติ ความเป็นมนุษย์อย่างลึกซึ้ง นั่นคือยอมรับในด้านมืดที่เห็นแก่ตัวและกระหายอ�ำนาจของ มนุษย์นั่นเอง มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ ผลงานของไมลส์ เจ. อังเกอร์ นักเขียน ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์อิตาลียุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการเล่มนี้ อาสาไขข้อข้องใจให้ผู้อ่าน ได้ท�ำความรู้จักชีวิตจริงของนักคิดผู้ทรงอิทธิพลต่อโลกมายาวนานหลายศตวรรษ ด้วย ข้อมูลที่ค้นคว้าเพิ่มเติมอย่างรอบด้านจากต้นฉบับภาษาอิตาเลียนถ่ายทอดสู่ชีวประวัติที่ เข้มข้น และในการนี้ส�ำนักพิมพ์มติชนขอขอบคุณคุณมิ่ง ปัญหา และคุณกฤตบดินทร์ พูลพิพัฒน์ ที่ช่วยตรวจทานการถอดเสียงภาษาอิตาเลียนให้ถูกต้องสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เราทุกคนต่างก็มีบทบาทหลากหลายที่ต้องแสดงออกตามจังหวะเหตุการณ์ของโลก ที่หมุนไป เกร็ดการด�ำเนินชีวิตของมาเคียแวลลีจึงไม่ได้เหมาะส�ำหรับผู้ชื่นชอบทฤษฎี การเมืองของเขาเท่านัน้ แต่จะเป็นตัวช่วยทีม่ ปี ระโยชน์แก่ผทู้ อี่ ยากเข้าใจความเป็นไปของโลก นิกโกเลาะ มาเคียแวลลีซ่อนแง่มุมที่น่าสนใจด้านต่างๆ ของเขาไว้ภายใต้ท่าทีเย็นชา แต่เมื่อมองผ่านเปลือกนอกของอคติ เขาก็เป็นเพียงชายธรรมดาคนหนึ่งที่(จงใจ)มีบุคลิก คลุมเครือ ดุจถ้อยค�ำอมตะของเขาจากหนังสือเจ้าผู้ปกครอง ที่ว่า “คนส่วนใหญ่เห็นสิ่งที่เราแสดงออก หากน้อยคนนักเคยสัมผัสตัวตนที่แท้จริง ของเรา”
ส�ำนักพิมพ์มติชน
มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ 7
ค�ำน�ำผู้แปล
ในยุคที่บ้านเมืองเราก�ำลังประสบภาวะแตกต่างทางความคิดทางการเมือง หลายๆ คนอาจ จะก�ำลังท้อแท้ หมดหวัง หรือตัดสินว่านี่คือจุดต�่ำสุดทางการเมือง และหวังให้บ้านเมือง คืนสู่ความสงบสุขตามอุดมคติที่เราใฝ่หาโดยเร็ว แต่หากคุณลองอ่านชีวประวัติของนิกโกเลาะ มาเคียแวลลี บิดาแห่งวิชารัฐศาสตร์สมัยใหม่สักหนึ่งรอบ คุณอาจจะปรับมุมมอง ต่อสิ่งที่เราทุกคนก�ำลังเผชิญอยู่ร่วมกัน ว่านี่ไม่ใช่ “ทางตัน” ของปัญหา หากแต่เป็นการ เปลี่ยนผ่าน เพื่อน�ำไปสู่สิ่งใหม่ หรือคุณอาจจะมองเห็นความจริงที่ว่าแล้วตั้งค�ำถามเชิงศีล ธรรม ความระส�่ำระสาย การแย่งชิงอ�ำนาจ การต่อสู้โดยประชาชน ความเชื่อเรื่องพระเจ้า การยึดติดกับรูปแบบการปกครอง หาใช่สภาวการณ์ที่แปลกใหม่ไม่ แต่เป็นวัฏที่เกิดขึ้นซ�้ำ แล้วซ�้ำเล่าในประวัติศาสตร์ ดังที่มาเคียแวลลีเองได้เสนอไว้ว่า ความขัดแย้งทางความคิด เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจจะเป็นสิ่งสร้างสรรค์เสียด้วยซ�้ำ ขอเพียงแต่ผู้ที่มีอ�ำนาจ อยู่ในมือ แก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจ และเห็นแก่ประโยชน์ของรัฐมากกว่าประโยชน์ ส่วนตน เราอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงลือกระฉ่อนของ “นิกโกเลาะ มาเคียแวลลี” ในฐานะ นักปรัชญาการเมืองซึ่งน�ำเสนอมุมมองที่ค่อนข้างแปลกและดูจะขัดต่อหลักศีลธรรม ถึง ขนาดที่มีผู้ให้นิยามค�ำว่า “Machiavellian” เพื่อใช้แทนลักษณะการมีเล่ห์เหลี่ยม คดโกง 8 ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
มุมมองที่เรามีต่อเขาจึงกลายเป็นมุมมองในเชิงลบมากกว่าเชิงบวก แต่ชีวประวัติเล่มนี้อาจ จะท�ำให้คุณมองเขาด้วยสายตาที่ “เข้าใจ” ถึงที่มาที่ไปในการมองโลกเช่นนั้นมากขึ้น ทั้ง ยังเห็นภาพที่แท้จริงอันซับซ้อนของวงการการเมืองชัดเจนยิ่งขึ้น ต�ำแหน่งนักการทูตแห่ง ฟลอเรนซ์เปิดโอกาสให้มาเคียแวลลีได้สัมผัสและชิงไหวชิงพริบในเกมการเมืองสารพัด รูปแบบกับผู้มีอ�ำนาจสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์หรือจักรพรรดิ ขณะเดียวกันปัญหารอบ ด้านที่รุมเร้าฟลอเรนซ์ในสภาวะที่ผู้น�ำไม่ยอมตัดสินใจและลอยตัวเหนือปัญหาก็เป็นเหตุ ให้ข้าราชการผู้ไร้อ�ำนาจในมือเช่นเขาต้องประสบภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก การผลัด เปลี่ยนผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินก็ดูเหมือนจะพลิกชะตาของเขาให้กลับตาลปัตรไปมาหลาย ต่อหลายครั้งเช่นกัน ทว่าต�ำแหน่งในวงราชการที่เขาด�ำรงอยู่นี่เองที่เปิดโอกาสให้ชายผู้นี้ สังเกตธรรมชาติของมนุษย์ตามความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมชาติของผู้มีอ�ำนาจ และบรรจงถ่ายทอดเรื่องราวจนกลายเป็นผลงานอมตะอย่าง เจ้าผู้ปกครอง (The Prince) โดยหวังว่าผู้ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นใหญ่ควรจะได้อ่านและใช้งานเขียนชิ้นนี้เป็นคู่มือ แต่ น่าเสียดายที่ว่าในช่วงชีวิตของเขา เรื่องดังกล่าวกลับไม่ได้รับความนิยมแต่อย่างใด นอกจากมุมมองเรื่องการเมืองแล้ว หนังสือเล่มนี้จะท�ำให้คุณรู้จักมาเคียแวลลีอย่าง รอบด้านและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักปรัชญาการเมือง นักเขียน กวี ข้าราชการ พลเรือน หรือแม้แต่ในฐานะหัวหน้าครอบครัว ชีวิตของเขาก็ไม่ต่างจากรถไฟเหาะตีลังกา ที่เหินทะยานขึ้นสู่จุดที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด หยุดนิ่งเฉยอยู่ตรงจุดกึ่งกลาง และร่วงหล่นลงสู่ จุดที่ต�่ำที่สุดได้โดยไม่คิดฝัน ชีวประวัติเล่มนี้คงท�ำให้ท่านผู้อ่านได้ลิ้มรสชาติชีวิตทุกรส ของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งวิชารัฐศาสตร์สมัยใหม่ นิกโกเลาะ มาเคียแวลลี ศิริรัตน์ ณ ระนอง
มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ 9
แด่พ่อและเดบี ด้วยความรักและชื่นชม
10 ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
บุคคลในเรื่อง
เชซาเร บอร์จา, ดยุกวาเลนติโน (c.1475-1507) โรดริโก บอร์จา, พระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 (b.1431, พระสันตะปาปา 14921503) บิยาโจ บูโวนัคคอร์ซี, เพื่อนและผู้โต้ตอบจดหมายกับมาเคียแวลลี จักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 5, ราชวงศ์ฮัปสเบิร์กแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (1500-58) พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8, กษัตริย์แห่งฝรั่งเศส (1470-98) ฟรานเชสโก กวิชชาร์ดินี, เพื่อนและผู้โต้ตอบจดหมายกับมาเคียแวลลี นักประวัติศาสตร์ ผู้ปกครองแคว้นโรมัญญา พระเจ้าหลุยส์ที่ 12, กษัตริย์แห่งฝรั่งเศส (1462-1515) แบร์นาโด มาเคียแวลลี, บิดาของนิกโกเลาะ (c.1425-1500) นิกโกเลาะ ดิ แบร์นาร์โด มาเคียแวลลี, รองมุขมนตรีแห่งฟลอเรนซ์ นักทฤษฎีการเมือง นักเขียนบทละคร (1469-1527) มาริเยตตา คอร์ซินี, ภรรยาของนิกโกเลาะ มาเคียแวลลี บุตร : พริมาเวรา แบร์นาโด ลูโดวิโก กวิโด บาร์โตโลเมอา ปิแยโร จักรพรรดิมักซิมิลเลียนที่ 1, ราชวงศ์ฮัปสเบิร์กแห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ 11
จูลิโอ เด เมดิชี, พระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 (b. 1478, พระสันตะปาปา 1523-34) ลอเรนโซ เด เมดิชี, อิล มัญญิฟิโก (“ผู้เป็นเลิศ”) (1449-92) บุตรของลอเรนโซผู้เป็นเลิศ ปิแยโร เด เมดิชี, (“ผู้โชคร้าย”) (1472-1503) โจวานนี เด เมดิชี, พระสันตะปาปาเลโอที่ 10 จูลิยาโน เด เมดิชี, ดยุกแห่งเนอมูร์ส (1479-1516) ลอเรนโซ เด เมดิชี, ดยุกแห่งอูร์บิโน (1492-1519) จูลิยาโน เดลลา โรเวเร, พระสันตะปาปาจูเลียสที่ 2 (b. 1443, พระสันตะปาปา 1503-13) จิโรลาโม ซาโวนาโรลา, เจ้าส�ำนักแห่งอารามซัม มาร์โก ศาสดาพยากรณ์ (1452-98) ลูโดวิโก สฟอร์ทซา, อิล โมโร (“แขกมัวร์”) ดยุกแห่งมิลาน (1452-1508) ปิแยโร โซเดริน,ี กมฟาโลนิแอเรแห่งฟลอเรนซ์ (1450-1522, ด�ำรงต�ำแหน่งกมฟาโลนิแอเร 1502-12) โจวานนี แวร์นาชชี, หลานชายของนิกโกเลาะ มาเคียแวลลี ฟรานเชสโก เวตตอรี, ผูโ้ ต้ตอบจดหมายกับมาเคียแวลลี ทูตแห่งฟลอเรนซ์ประจ�ำพระองค์ พระสันตะปาปาเลโอที่ 10 (1474-1539)
12 ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
อิตาลีตอนปลายศตวรรษที่ 15
ฟลอเรนซ์ มิลาน
ย
เขตปกครองของซ าว อ
มิลาน
เวนิซ
เขตปกครองแฟรารา โบโลญญา เจนัว อิโมลา โรมัญญา ลุกกา ซาร์ทซานา ฟลอเรนซ์ อูร์บิโน ปิซา ทะเลลิกูเรียน รัฐสันตะปาปา เซียนา เกาะ คอร์ซิกา (เจนัว)
ซาร์ดิเนีย (สเปน)
อาณาจักรออตโตมัน
ำน้ ไทเบอ แมน่
ร์
ฝรั่งเศส
เนเปิลส์ ดินแดนในก�ำกับ ของพระสันตะปาปา เวนิซ
ทะเ
ลอา
อิตาลี
เดร
โรม เนเปิลส์
ทะเลเทอเรเนียน
ทะเล เมดิเ ตอ
ียติก
ปาแลร์โม เกาะซิชิลี
รเ์ รเ นียน N
ทวีปแอฟริกา
W
E S
0 0
100 ไมล์ 100 กิโลเมตร
ย่านและกมฟาโลนิแห่งฟลอเรนซ์
1
ซานตา มาเรีย โนแวลลา งูพิษ ยูนิคอร์น สิงโตแดง สิงโตขาว
ปอร์ตา ฟาเอนซา า อัล ปอร์ต
ต
ปราโ
เลออน บิอังโก (สิงโตขาว) อูนิกอร์โน (ยูนิคอร์น)
1
ซานตา มาเรีย โนแวลลา เลออน รอสโซ (สิงโตแดง)
3
ดราโก (มังกร)
ซานโต สปิริโต บันได เปลือกหอย แส้ มังกร
ปราสาทของ ตระกูลพิตตี
นิคคิโอ (เปลือกหอย)
โอลต
3 รา
แฟร์ทซา (แส้) เมตร หลา
ปอร์ตา โรมานา
ปอร์ตา ซัง กัลโล
2
ซาน โจวานนี เลออน ดอโร (สิงโตทอง)
สิงโตทอง ล้อ กุญแจ กระรอก
วายโย (กระรอก)
เอรูอ
ปราสาท ของ ตระกูลเมดิชี
อตเต
(ล้อ)
ซัม มาร์โก
ซานติสซิมา อันนุนซิอาตา
2
ซาน ลอเรนโซ มหาวิหาร
หอศีลจุ่ม
คิยาวี (กุญแจ)
ปราสาทของตระกูลปาซซี ปาลาซโซ เดลลา ซิญญอเรีย
วิเปรา (งูพิษ)
ปอน
เต เว
คคิโอ
บ้านของมาเคียแวลลี
ร์โน
สกาลา (บันได)
4
4 เลออน เนโร (สิงโตด�ำ)
ซานตา โครเช
แม่น�้ำอาร์โน
บูเว (วัว)
ซานตา โครเช เกวียน สิงโตด�ำ วัว ล้อ
บทน�ำ
เมื่อโชคชะตาอาฆาตมาดร้าย “ผมบันทึกสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากบทสนทนาเหล่านี้ และเขียนหนังสือเล่ม เล็กๆ ที่ชื่อ ว่าด้วยการปกครอง (De principatibus) ซึ่งผมได้ค้นคว้า ข้ อ มู ล เกี่ ย วกั บ เรื่ อ งที่ เ ขี ย นอย่ า งละเอี ย ดมากเท่ า ที่ จ ะมากได้ โดยตั้ ง ค�ำถามว่า รัฐขนาดเล็กที่มีผู้ปกครองคืออะไร มีกี่ประเภท จะรักษาดิ น แดน เหล่านี้ ไว้ ได้อย่างไร และเหตุใดดินแดนที่ว่านี้จึงสูญสิ้นไปในที่สุด” นิกโกเลาะ มาเคียแวลลี จดหมายถึงฟรานเชสโก เวตตอรี, 10 ธันวาคม 1513
ช่างเป็นปีที่ย�่ำแย่ส�ำหรับนิกโกเลาะ มาเคียแวลลี ไม่เพียงแต่ตกงาน “ถูกไล่ ริบ ล้างบาง อย่างถอนรากถอนโคน” ชนิดไม่ไยดีตามค�ำพิพากษาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท เท่านั้น แต่สาธารณรัฐฟลอเรนซ์ที่เขารับใช้มาอย่างซื่อสัตย์ตลอดระยะเวลา 14 ปีตกอยู่ ภายใต้เงื้อมมือของทรราชเสียแล้ว บรรดาเพื่อนๆ ของเขาหนีไปเมื่อกองทัพต่างชาติบุกมา ถึงเมือง แต่บุคคลผู้ไม่หวังดีต่อเขากลับมาเยี่ยมเยือนเขาแทน ส�ำหรับผู้ที่เฝ้าติดตามเรื่อง ราวหน้าที่การงานของมาเคียแวลลีและยังระลึกถึงอารมณ์โกรธของเขาได้ดีจะเข้าใจว่าการ ที่เขาถูกโดดเดี่ยวไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ระหว่างที่เขายังท�ำงานให้รัฐบาลฟลอเรนซ์ อยู่ บ่อยครั้งที่เขามักจะแสดงออกด้วยค�ำพูดทื่อๆ หรือผลักดันเรื่องต่างๆ ให้เป็นจริงด้วย ความกระตือรือร้นมากกว่าการใช้กลยุทธ์ใดๆ และในขณะนี้ที่เขาต้องการพันธมิตรอย่างยิ่ง ปรากฏว่ากลับไม่มีผู้ใดอยู่เคียงข้างเขาเลย วิกฤตที่เกิดขึ้นกับเขาซ�้ำแล้วซ�้ำเล่าเช่นนี้เป็นอารมณ์ที่มากเกินกว่าจะเรียกว่าความ เจ็บปวด ด้วยเราไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่านโยบายของมาเคียแวลลีเป็นส่วนหนึ่ง ของความหายนะทั้งหลายที่เกิดขึ้น ยิ่งเขาพยายามที่จะลืมความจริงข้อนี้มากเพียงใด ผู้ ให้ร้ายต่อเขากลับยิ่งรู้สึกมีความสุขมากขึ้นที่ได้ตอกย�้ำให้เขาร�ำลึกถึงความผิดพลาดครั้ง มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ 17
นี้ กองก�ำลังประชาชนที่เขาสร้างสรรค์ด้วยความภาคภูมิใจเป็นที่สุด ต้องถอยทัพกลับ ไม่เป็นท่าหลังจากที่ประมือกับข้าศึกครั้งแรก ทหารเหล่านั้นทิ้งเมืองใกล้เคียงอย่างเมือง ปราโตเพื่อที่จะเข้าโจมตี ปล้นสะดม และท�ำให้สาธารณรัฐฟลอเรนซ์ที่เป็นเอกราชมาช้า นานประสบความหายนะ สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นก�ำลังจะมาเยือน การที่เพื่อนของเขาประสบกับความอัปยศ แต่ ศัตรูของเขากลับได้รับชัยชนะท�ำให้ชื่อของมาเคียแวลลีปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ไม่ ประสงค์ดี บัญชีที่ว่านี้รวบรวมขึ้นโดยบุคคลผู้ถูกจับกุมขณะก�ำลังวางแผนโค่นล้มระบอบ ใหม่ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1513 มาเคียแวลลีถูกจับกุมและโยนเข้าคุกเล สติงเค (Le Stinche) ซึ่งอยู่ห่างจากที่ท�ำงานเก่าของเขาเพียงไม่กี่ช่วงตึก เขาถูกลากจากห้องขังชื้นๆ เต็มไปด้วยพยาธิในคุก ถูกทรมานด้วยการ “ลงแส้” ซ�้ำแล้วซ�้ำเล่าเพื่อเค้นให้เขารับ สารภาพว่ากระท�ำผิดจริงๆ การทารุณกรรมเช่นนี้อาจจะใช้ได้ผลกับบุคคลผู้ไร้ซึ่งความคิด สร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ส�ำหรับมาเคียแวลลีแล้วนั้น เขา พยายามหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับสถานการณ์ที่เลวร้าย โดยเลือกที่จะมองสถานการณ์ เช่นนีว้ า่ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของเขาให้ดขี นึ้ เพียงไม่กสี่ ปั ดาห์ตอ่ มาขณะทีย่ งั คงพักฟืน้ จากอาการบาดเจ็บ เขาเขียนจดหมายถึงฟรานเชสโก เวตตอรี เพื่อนของเขาว่า “และเมื่อ ผมหันกลับมาเผชิญหน้ากับโชคชะตา คุณควรจะยินดีปรีดาจากความทุกข์ยากของผม ผมทนทุกข์ทรมานด้วยความอดทนอย่างมากถึงขนาดที่ท�ำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจและเคารพ ตัวเองมากกว่าที่เคยเป็นมา” อันที่จริงแล้ว เกียรติที่เขาได้รับเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถกอบกู้มาได้หลังจากความ หายนะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราสามารถประเมินสภาพจิตใจของมาเคียแวลลีได้จาก บทกวีแบบซอนเน็ตที่เขาประพันธ์ขึ้นระหว่างที่ถูกจองจ�ำในคุก ความซื่อสัตย์และอารมณ์ ขันแบบหม่นๆ เป็นแบบฉบับในการประพันธ์ของเขา เช่นเดียวกับความสามารถในการหัวเราะ เยาะตัวเองที่เขามี จูลิยาโน1 ตัวผมมีโซ่ตรวนตรึงอยู่ที่ขา เส้นสายทั้งหกได้รัดรึงบ่า2ทั้งสองข้างของผมไว้ ความล�ำเค็ญอื่นๆ ผมไม่ขอเล่าให้คุณฟัง นี่แหละคือวิถีที่เราปฏิบัติต่อกวี ก�ำแพงที่แตกร้าวเป็นรังของเห็บเหาที่ตัวอวบเกือบจะเท่าแมลงวัน ไม่เคยมีกลิ่นใดจะเหม็นเท่ากลิ่นของที่พักอันแสนเลิศเลอของผมอีกแล้ว แทนที่มาเคียแวลลีจะคร�่ำครวญอย่างน้อยเนื้อต�่ำใจให้ตัวเอง เขากลับยอมรับโชคชะตาที ่ กลับตาลปัตรด้วยความตลกแบบประชดประชันพร้อมกับยักไหล่ครั้งหนึ่ง การบรรยาย 18 ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
ภาพ “ที่พักอันแสนเลิศเลอ” ของเขาซึ่งมีเหาตัวอวบอ้วนด้วยเลือดเนื้อของนักโทษคลาน อยู่รอบๆ เปรียบประดุจภาพในละครตลกกึ่งโศกนาฏกรรม การล้อเล่นระหว่างแสงและ เงาซึ่งสะท้อนให้เห็นในงานด้านการเมืองและวรรณกรรมของเขา “นี่แหละคือวิถีที่เราปฏิบัติ ต่อกวี” เขากล่าวตอบโดยไม่ยหี่ ระต่อสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนีเ้ ลยแม้แต่นอ้ ย แทนที่ จะเย้ยหยันโชคชะตาของตน เขากลับจัดให้ตนเองอยู่ในประเภทเดียวกับศิลปินผู้ทนทุกข์ ทรมานเพือ่ สร้างสรรค์งานหัตถศิลป์ขนึ้ มา สัญญาณชัดเจนทีส่ ดุ ทีแ่ สดงให้เห็นว่าจิตวิญญาณ ของเขายังคงเข้มแข็ง เห็นได้จากการที่เขามีเวลาไปต่อกรกับคู่ต่อสู้คนโปรดของเขา ซึ่งก็คือ พวกคลั่งไคล้ศาสนาที่แก้ปัญหาชีวิตต่างๆ ด้วยการสวดมนต์ สิ่งที่ท�ำให้ผมทรมานที่สุดตอนที่จะเอนกายลงเมื่อใกล้รุ่งสางคือ ผมได้ยินคนพวกนั้นพร�่ำพูดบทสวด “ลูกขอสวดมนต์ถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า” เอาค�ำสวดพวกนี้ไปไกลๆ ผมเสียทีเถิด ผมขอร้อง หากจะยังมีความสงสารผมเหลืออยู่บ้าง พระผู้เป็นเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ ได้โปรดปลดปล่อยพันธนาการอันโหดร้ายนี้ไปเสียที ไม่มีผู้ใดนอกจากมาเคียแวลลีที่ยืนยันว่าการฟังบทสวดตลอดคืนเป็นสิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่า การถูกทรมานหนึ่งครั้งในคุกเสียอีก ในยามที่อ่อนแอ เขาน่าจะยอมตายดีกว่าที่จะยอมรับ เอาความเชื่อทางศาสนาที่เขาเย้ยหยันตลอดช่วงเวลาที่เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่มายึดถือ เขา มิใช่พวกคนช่างสงสัยที่จะปฏิเสธการมีอยู่ของพระผู้เป็นเจ้าในห้วงเวลาแห่งความสุขและ พร้อมที่จะเชื่อในพระเจ้าในห้วงเวลาที่จ�ำเป็นเท่านั้น แต่เขาปฏิเสธที่จะรับเอาอาหารสมอง รสชาติจืดชืดที่กลุ่มคนทางศาสนาหยิบยื่นให้ และเลือกที่จะเสี่ยงกับเทพีแห่งโชคชะตา ที่อารมณ์แปรปรวนมากกว่าจะพนันขันต่อกับพระสงฆ์ซึ่งเขามองว่าไม่ได้ดีไปกว่านักต้มตุ๋น หรือหลอกลวง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ปลดปล่อยมาเคียแวลลีไม่ใช่เสียงสวดมนต์ที่เขาได้ยินตลอด ช่วงสามอาทิตย์ที่เขาพักค้างอ้างแรมใน “ที่พักอันเลิศเลอ” หรือแม้แต่เพราะเสน่ห์ของบท กลอนสั้นๆ ที่ตลกขบขันของเขา แต่เป็นเพราะว่าพวกที่จับกุมเขายอมรับอย่างไม่เต็มใจว่า ตนไม่มีหลักฐานใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่ามาเคียแวลลีสมรู้ร่วมคิดในการวางแผนใดๆ3 ทว่า การถูกปล่อยตัวไม่ได้ท�ำให้ความยุ่งยากทั้งหลายหมดไป แม้แต่ตอนที่เขาได้รับอิสรภาพ แล้ว ก็ยังคงมีผู้เคลือบแคลงสงสัยว่าเขาเป็นผู้กระท�ำผิด เขาถูกสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับ การงานต่างๆ ของรัฐบาล ซึง่ เป็นเพียงอาชีพเดียวทีเ่ ขาเคยท�ำและเป็นทางเดียวทีเ่ ขาสามารถ ใช้พรสวรรค์อันโดดเด่น ภาวะที่เขาต้องเสี่ยงต่อการเสียชีวิตท�ำให้เขาแทบจะมองไม่เห็น เลยว่าช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาจะน�ำความผิดหวังและความโศกเศร้าให้เขาหนักหนาสาหัส ไปกว่านี้ได้ มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ 19
ช่วงนั้นเขาแทบจะไม่ได้เดินทางไปยังฟลอเรนซ์เลย แม้ว่าการเดินทางจะใช้เวลา เพียงไม่กี่ชั่วโมงโดยการขี่ล่อ หรือแม้แต่เดินเท้าไปตามถนนอันคดเคี้ยวที่มุ่งหน้าไปสู่ไร่ มะกอกและไร่องุ่นแถบชนบทของแคว้นทัสคานี เพื่อนหลายคนที่ยังคงภักดีต่อเขาแม้ ในช่วงทีต่ กระก�ำล�ำบากรูด้ วี า่ เขามีชวี ติ อยูอ่ ย่างลึกลับทีบ่ า้ นไร่ของเขาในหมูบ่ า้ นซานตันเดรอา อิม เพร์กุซซินา (Sant’ Andrea in Percussina) พยายามใช้ชีวิตอยู่อย่างกระเบียด กระเสี ย รด้ ว ยมรดกของบิ ด าที่ มี อ ยู ่ น ้ อ ยนิ ด โดยไม่ ป ระสบความส� ำ เร็ จ แต่ อ ย่ า งใด อีกทั้งเขายังขาดความกระตือรือร้น เมื่อมองจากไร่ของเขาจะเห็นหลังคากระเบื้องสีแดง ของบ้านในเมืองฟลอเรนซ์อันเป็นที่รักของเขา ตัดกับส่วนโค้งอันสูงลิ่วของโดมบรูเนลเลสคี (Brunelleschi) และสภาผู้ปกครอง (Palazzo della Signoria) ตึกที่ท�ำการของรัฐบาล ที่เขาท�ำงานมาเป็นเวลาหลายปี4 แต่ทิวทัศน์ที่มองเห็นนี้กลับท�ำให้เขานึกถึงชีวิตที่ยุ่งเหยิง มากกว่าการปลอบประโลมใจ เรารู้สึกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวที่ฝังลึกได้จากข้อความที่ เขาจดไว้ตามมุมกระดาษที่เขาก�ำลังเขียนอยู่ ความว่า “post res perditas” ซึ่งหมาย ความว่า “หลังจากทุกอย่างสูญสลายไป” สิ่งที่สามารถปลอบประโลมใจเขาประการหนึ่งก็คือ การที่เขาไม่มีงานท�ำเป็นชิ้นเป็น อัน ท�ำให้เขามีเวลามากมายที่จะครุ่นคิดตามหลักปรัชญา วางปัญหาทุกอย่างไว้เบื้องหลัง และพยายามสร้างบทเรียนที่ยิ่งใหญ่กว่าจากประสบการณ์ตรงของเขา ขณะที่เขาเดินเล่น อยู่ใต้ผืนฟ้าที่สดใสของแคว้นทัสคานี และมองกลับไปยังเมืองที่ส่องแสงระยิบระยับจาก ระยะไกลๆ เขาจึงได้มุมมองใหม่เรื่องเงื่อนไขของความเป็นมนุษย์ เขาระบายความขมขื่น ออกไปเป็นครั้งคราว หรือแม้แต่เวลาที่เขามีอารมณ์โศกเศร้า เขาพยายามที่จะมองภาพ ของสิ่งต่างๆ ให้กว้างกว่าที่เป็นอยู่ ในบทกวีที่ชื่อว่า “ว่าด้วยเรื่องความอกตัญญูหรือความ อิจฉาริษยา” เขาใคร่ครวญถึงโชคชะตาที่โหดร้ายของบุคคลหลายๆ คนที่ท�ำงานเพื่อ ประเทศชาติอย่างดี และพบว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาได้รับการกล่าวโทษให้ร้ายกลับมาแทน บ่อยครั้งที่คุณท�ำงานเพื่อรับใช้ประเทศชาติ แต่รางวัลตอบแทนความตั้งใจท�ำงานของคุณ กลับเป็นชีวิตอันแสนบัดซบและมรณกรรมอันโหดร้าย ความไร้ส�ำนึกในบุญคุณไม่มีวันจางหาย เราจงหนีไปจากบรรดาราชส�ำนักและรัฐบาลนี้กันเถิด เนื่องจากไม่มีถนนสายใดที่ท�ำให้เราต้องร�่ำไห้เสียน�้ำตา ให้กับความปรารถนาของเราได้เท่ากับการได้ครอบครองมันในที่สุดอีกแล้ว แม้ว่าค�ำแนะน�ำครั้งสุดท้ายของเขาจะฟังดูลุ่มลึกอย่างไร ตัวมาเคียแวลลีเองก็ไม่สามารถ ท�ำตามสิ่งที่ตนกล่าวไว้ได้ เขาไม่ต่างจากบุคคลอื่นๆ ซึ่งคอยหมิ่นประมาทผู้อื่นอยู่เสมอ 20 ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาน่าจะถือเอาโอกาสนี้แก้แค้นรัฐบาลที่ขับไล่เขาออกมาให้ได้รับสภาพ ความเจ็บปวดเล็กๆ น้อยๆ ฟรานเชสโก เวตตอรี เพื่ อ นของเขาซึ่ ง ด� ำ รงต� ำ แหน่ ง ตั ว แทนของคณะทู ต ฟลอเรนซ์ประจ�ำสันตะส�ำนัก* เอาแต่พร�่ำบ่นเกี่ยวกับความไม่สะดวกสบายเล็กๆ น้อยๆ ของชีวิตในกรุงโรม มาเคียแวลลีจึงตอบเขาด้วยน�้ำเสียงเสียดสีประชดประชันว่า “ผม ไม่สามารถบอกอะไรคุณได้อีกในจดหมายฉบับนี้ นอกเสียจากว่าชีวิตของผมเป็นอย่าง ไรบ้าง และหากคุณเชื่อว่าสภาวะของผมกับคุณควรค่าที่จะสับเปลี่ยนกัน ผมเองก็ยิน ดีที่ จะแลกหน้าที่นี้กับคุณ” มาเคียแวลลีเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตในชนบท เขาเป็นคนเมืองที่ฝัก ใฝ่การเข้าสังคม และได้รับการกระตุ้นจากบทสนทนาที่มีชีวิตชีวา เขาเป็นนักสังเกตการณ์ ที่กระตือรือร้น และเป็นผู้บันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทุกซอกทุกมุมเกี่ยวกับสัตว์โลก ที่ชื่อว่ามนุษย์ เมื่อเขาอาศัยอยู่ท่ามกลางฝูงสัตว์ในท้องทุ่ง เขารู้สึกได้ว่าแทบไม่มีสิ่งใดเลย ที่กระตุ้นให้จินตนาการของเขาบรรเจิดขึ้นได้ เขาท�ำทุกอย่างที่สามารถท�ำได้เพื่อรักษา ทักษะทางความคิดให้แคล่วคล่องว่องไวเช่นที่เคยเป็นมา แต่มิตรสหายในช่วงที่เขาอาศัย อยู่ในบ้านพักนอกเมือง ช่างแตกต่างจากพวกคาร์ดินัล หรือดยุกที่เขาเคยคบหาสมาคม ด้วย เขาเล่าว่า “ผมเดินทางไปเรื่อยๆ ตามถนนที่อยู่ข้างโรงแรม และพูดคุยกับคนที่เดิน ผ่านไปผ่านมา ถามถึงข่าวคราวของบ้านเมืองและอืน่ ๆ อีกหลายอย่าง พร้อมกับตัง้ ข้อสังเกต เกี่ยวกับรสนิยมและความปรารถนาที่หลากหลายของบุคคลเหล่านี้” อีกนัยหนึ่งคือ เขา พยายามที่จะฝึกฝนให้ตนเองมองภาพชนบทด้วยสายตาอันเฉียบคมว่องไวอย่างที่เคยเป็น มา เพื่อที่จะรับรู้ถึงความทะเยอทะยานของกษัตริย์ หรือเพื่อที่จะค้นหาแผนการที่ซ่อนอยู่ ในการส่งทูตไปเจริญสัมพันธไมตรียังเมืองต่างๆ เขายังคงมีนิสัยอยากรู้อยากเห็นไม่รู้จัก พอ ยังต้องการที่จะส�ำรวจตรวจตราเหตุการณ์ที่ไม่มีความส�ำคัญใดๆ หรือลักษณะนิสัย แปลกประหลาดบางประการ เพื่อจะได้มุมมองซึ่งสามารถน�ำไปใช้มองกฎเกณฑ์ธรรมชาติ ในระดับใหญ่ขึ้นได้ แต่เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพรสวรรค์อย่างเดียวที่เขามีอยู่สูญเสียไป เมื่อครั้งที่เขาเข้ามาอยู่บ้านหลังเล็กๆ แห่งนี้ การท�ำงานบ้านที่ไม่สลักส�ำคัญเพียงไม่กี่อย่าง ดูเหมือนจะท�ำให้เขารู้สึกงุนงงเมื่อต้องมาเผชิญความยุ่งยากของสนธิสัญญาระดับนานาชาติ อีกครั้งหนึ่ง เพือ่ คลายความสับสนวุน่ วายหรือบรรเทาความเบือ่ ในช่วงทีพ่ ำ� นักอยูใ่ นซานตันเดรอา มาเคียแวลลีมปี ากเสียงเล็กน้อยกับเพือ่ นบ้าน เขาอธิบายเรือ่ งดังกล่าวไว้ในจดหมายทีเ่ ขียน ถึงเพื่อนๆ พวกเพื่อนๆ ของเขาน่าจะเข้าใจมุขตลกของเขาได้ทันที เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว * สันตะส�ำนัก หรือ Holy See คือการปกครองของศาสนจักรโรมันคาทอลิก ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ กรุงโรม และมีสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นประมุขสูงสุด-บรรณาธิการ มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ 21
เขาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับบรรดาพระราชา แต่ตอนนี้เขาได้แต่สุมหัวกับพวกชาวนา เขาเขียนในจดหมายที่ส่งถึงเวตตอรีว่า “หลังจากที่กินเสร็จ...” ผมกลับมายังโรงแรมที่มีคนร้อยพ่อพันแม่มาพักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ โรงแรม คนขายเนื้อ เจ้าของโรงสี และคนเผาถ่าน ผมใช้เวลาตอนกลางวัน เล่นไพ่และเกมแบ็คแกมมอนกับพวกเขา* เกมพวกนี้ท�ำให้ผมเผลอมีปาก เสียงและสบถด้วยความโกรธเป็นพันครั้ง และแม้ส่วนใหญ่เราจะทะเลาะ กันเรื่องเงินไม่กี่เพนนี แต่คุณจะได้ยินเราตะโกนกันตลอดทางไปซาง คาส ชาโน (San Casciano) ดังนั้น เมื่อผมถูกกักบริเวณให้อยู่ร่วมกับคน จ�ำพวกนี้ ผมจึงต้องเอาเชื้อราออกจากสมองและปลดปล่อยความโกรธ เคืองที่ผมมีให้กับความเลวร้ายแห่งโชคชะตาของตัวเอง ผมพอใจที่จะถูก เหยียบย�่ำเช่นนี้ หากเพียงแต่เทพีแห่งโชคชะตาจะรู้สึกละอายใจบ้างที่เล่น งานผม แม้ว่ามาเคียแวลลีจะอยู่อาศัยร่วมกับคนท้องถิ่น แต่เขาเริ่มวางแผนการที่จะหวน กลับสู่ชีวิตในเมืองอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่โชคชะตาเล่นสกปรก แต่เขาเองไม่เคยเลิกล้ม ความหวังที่จะกลับไปมีต�ำแหน่งในวงราชการอีกครั้ง เขาอาจจะต้องปลุกปล�้ำกับเทพี จอมกลับกลอกอย่างสุดตัว และบีบให้เธอท�ำตามที่เขาต้องการให้จงได้ และต่อมาไม่นาน นัก เขาได้เขียนข้อความอันห้าวระห�่ำมากกว่าจะเขียนด้วยความกล้าหาญว่า “เทพีแห่ง โชคชะตาเป็นสตรี และวิธีที่จะก�ำราบคือต้องทุบและโบยตีเทพีองค์นี้เสียบ้าง” ดังนั้น ในฤดูหนาวของปี 1513 เขาจึงคิดแผนการที่จะเข้าไปประจบประแจงตระกูล เมดิชีอันเรืองอ�ำนาจพร้อมกับลูกสมุนของพวกเขา การกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลของตระกูล เมดิชีเปิดศักราชความวุ่นวายทั้งปวงของเขา เพื่อนเก่าของมาเคียแวลลีบางคนคิดว่าการที่ มาเคียแวลลีมาของานท�ำจากตระกูลเมดิชีด้วยความกระตือรือร้นถือเป็นการกระท�ำที่ไม่ สามารถให้อภัยได้ เพราะตระกูลนี้เคยโค่นล้มรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งมาตามระบอบ ประชาธิปไตย นอกจากนี้ การแปรพักตร์อย่างกะทันหันของมาเคียแวลลีท�ำให้นักวิจารณ์ รุ่นหลังอีกหลายรุ่นดูถูกเขาในเวลาต่อมา ค�ำวิจารณ์สถานเบาที่เขาได้รับคือเขาเป็นพวก หน้าไหว้หลังหลอก ส่วนค�ำวิจารณ์สถานหนักคือเขาตั้งใจบิดเบือนหลักการทุกอย่างที่มี เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงานของตน อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาพวกนี้ไม่ยุติธรรม * Backgammon เป็นเกมกระดานเก่าแก่ชนิดหนึ่งส�ำหรับผู้เล่นสองคน โดยให้แต่ละฝ่ายก�ำจัดเบี้ย ของตนออกไปให้หมดกระดาน รวมถึงขัดขวางฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เบี้ยหมดกระดาน เดินเกมโดย การนับแต้มเดินจากการทอยลูกเต๋า-บรรณาธิการ 22 ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
ส�ำหรับมาเคียแวลลีเลย จริงอยู่ที่ว่ามาเคียแวลลีเป็นผู้ให้การสนับสนุนประชาธิปไตยใน ฟลอเรนซ์อย่างออกนอกหน้า เขาตรากตร�ำท�ำงานหนักเพื่อรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งมา เป็นเวลา 14 ปี เสียทั้งสุขภาพและเงินทอง ต้องท�ำงานเคียงข้างกับเพื่อนร่วมงานที่ไร้ ประสิทธิภาพและไม่รู้จักบุญคุณ เมื่อบุคคลไร้ส�ำนึกละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หรือกระท�ำ การใดๆ โดยไม่ค�ำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม แทนที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวจนร�่ำรวยด้วย สินบนต่างๆ ซึ่งง่ายมากส�ำหรับข้าราชการอย่างเขา แต่เขากลับไม่ท�ำเช่นนั้น เมื่อครั้งที่เขา ออกจากราชการ เขาไม่ได้มีเงินมากไปกว่าตอนที่เขาเริ่มเข้ารับราชการใหม่ๆ เลย ดังที่เขา เขียนไว้ว่า “ความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ของผมได้รับการพิสูจน์จากความยากจน ของผมเอง” ความจริงก็คือ ไม่ว่าเขาจะชื่นชมสถาบันต่างๆ ในสาธารณรัฐฟลอเรนซ์มากเพียง ใด แต่เลือดรักชาติของเขาเป็นความรักที่ลึกล�้ำยิ่งกว่านั้น ความรักที่เขามีต่อประเทศชาติ ถือเป็นความหลงใหลคลั่งไคล้อย่างรุนแรงและปราศจากเหตุผล และเป็นความอ่อนแอ ที่หาได้ยากยิ่งส�ำหรับบุคคลซึ่งปฏิเสธแนวคิดเคร่งศาสนาแต่ดั้งเดิม ทั้งยังสามารถตีแผ่ ความอ่อนแอของมนุษย์ให้ผู้อื่นได้รับรู้ มีบุคคลเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถท�ำให้พวก เชื่อมั่นในศาสนาหน้าหงายได้ด้วยแนวคิดตรงกันข้าม หรือมีความยินดีที่ได้เยาะเย้ยถาก ถางเพื่อนร่วมงานสูงวัยกว่าและล้อเลียนลีลาทางเพศอันแสนประหลาดพิสดารของพวกเขา ที่มีไว้พิชิตใจหญิงสาว เพื่อนๆ ของเขาให้อภัยวาจาอันเสียดแทงของบุคคลที่ได้รับสมญา ว่าอิล มัคเคีย (Il Macchia แปลว่า จุดหรือรอย) ไม่เพียงเพราะเขาสามารถใช้ถอ้ ยค�ำแหลม คมนี้ต่างอารมณ์ขันที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะตัวเขาเองมีความสุขที่ จะยอมใช้ข้อด้อยของตัวเองเพื่อเยาะเย้ยผู้อื่น ทว่าเมื่อถึงนาทีที่ต้องแสดงความจงรักภักดี อย่างสูงสุด เขาจะอุทิศตนให้ดินแดนบ้านเกิดของเขาอย่างแท้จริงโดยไม่ตั้งค�ำถามหรือข้อ สงสัยใดๆ เลย “ผมรักเมืองฟลอเรนซ์มากกว่าจิตวิญญาณของผมเสียอีก” เขาเคยสารภาพ ครั้งหนึ่ง (เป็นค�ำกล่าวที่แสดงให้เห็นว่าเขาเพิกเฉยต่อเรื่องจิตวิญญาณอมตะพอๆ กับที่ แสดงให้เห็นความรักชาติอันแรงกล้าของเขา) และความรักชาติอย่างบ้าคลั่งหลงใหลนี้เอง ที่เป็นเครื่องน�ำทางในการด�ำเนินชีวิตของเขา รวมทั้งชี้น�ำความคิดอ่านและการกระท�ำของ เขาทัง้ หมดให้มงุ่ ไปสูเ่ รือ่ งความรักชาติเพียงประเด็นเดียวเท่านัน้ 5 ความรักชาติเช่นนีส้ ามารถ อธิบายความไม่อยู่กับร่องกับรอยทางการเมือง และช่วยให้เขาพ้นข้อกล่าวหาหน้าไหว้หลัง หลอกซึ่งติดตัวเขามาเกือบ 500 ปีได้ เมื่อบ้านเกิดเมืองนอนที่เขารักกลายเป็นสมบัติของ ตระกูลเมดิชีซึ่งสามารถฟื้นฟูอ�ำนาจของตนขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่ง เขาก็จ�ำต้องกล�้ำกลืน ศักดิ์ศรีทั้งหมดและพยายามสงบศึกกับผู้ที่มีอ�ำนาจครอบครองรัฐ แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ใช่ หลักการของเขาเลยก็ตาม นี่ไม่ใช่งานง่ายๆ เลย จริงอยู่ที่ว่าข้อหาทั้งหมดที่มาเคียแวลลีได้รับนั้นตกไปแล้ว ทว่าผู้มีอ�ำนาจทั้งหลายเริ่มที่จะสอดแนมเพื่อหาหลักฐานกล่าวโทษมาเคียแวลลีให้เขาถูก มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ 23
ก�ำจัดออกจากวงราชการอย่างถาวร ซึ่งก็เป็นธรรมดาของบรรดาผู้ปกครองชุดใหม่ที่ถูกตั้ง ข้อสงสัยเรือ่ งความชอบธรรม การทีม่ าเคียแวลลีกลับเข้ามารับราชการอีกครัง้ หนึง่ จะง่ายดาย ยิ่งขึ้นมากหากชื่อเสียงวงศ์ตระกูลและทรัพย์สินในบัญชีของเขามีตัวเลขที่น่าประทับใจ มากกว่านี ้ แต่เนือ่ งจากเขาไม่มหี นทางใดๆ ทีจ่ ะติดสินบนเพือ่ กลับเข้าไปท�ำงานให้ผปู้ กครอง คนใหม่ได้ เขาจึงต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่แต่เดิม แสดงให้ว่าที่เจ้านายเห็นพรสวรรค์ ประการเดียวที่เขามี นั่นคือการน�ำเสนอวิสัยทัศน์ต่อเรื่องต่างๆ ที่เขาได้ฝึกฝนทักษะนี้มา ตลอดช่วงเวลาสิบห้าปีด้วยความจงรักภักดีต่อบ้านเมือง เมื่อเขานั่งประพันธ์ผลงานสั้นๆ ซึ่งกลายเป็นงานชิ้นเอกที่ท�ำให้เขามีที่ยืนในประวัติศาสตร์ ตอนนั้นเขามีเพียงจุดมุ่งหมาย ไม่กี่อย่างในใจ จริงๆ แล้วหากเขามีคุณสมบัติเป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ เขาคงจะไม่ หันกลับมาเขียนงานต่างๆ และชื่อของเขาคงจะถูกลืมไปอย่างรวดเร็วแล้ว แต่เขาตระหนัก ในความจริงข้อนี้ดี “เทพีแห่งโชคชะตาได้จัดสรรไว้แล้ว เพราะว่าผมไม่สามารถค้าขายผ้า ไหม หรือผลิตผ้าขนสัตว์ได้ จะพูดคุยเรื่องก�ำไรหรือขาดทุนใดๆ ก็ไม่ได้อีก สิ่งเดียวที่ ผมสนทนาได้คือเรื่องความเป็นไปเกี่ยวกับรัฐ” เราไม่สามารถประเมินค่าความส�ำเร็จของมาเคียแวลลีต�่ำกว่าความเป็นจริงได้ด้วย เหตุผลเพียงว่าเขามีจุดมุ่งหมายธรรมดามากๆ ในการเขียนงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สถานการณ์ เช่นนี้มีความคล้ายคลึงกับเมื่อใกล้ถึงก�ำหนดเวลาส่งงาน ศิลปินมักจะสร้างสรรค์ผลงาน ทีด่ ที สี่ ดุ เมือ่ ขาดรายรับจากงานราชการ เขาจึงมีรายได้ไม่เพียงพอทีจ่ ะเลีย้ งครอบครัวและ บุคคลที่ต้องกินต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นภรรยาของเขาและลูกเล็กๆ อีกห้าคน เขาบ่นว่า “ผม ใช้เงินที่มีอยู่จนใกล้จะหมดไปและไม่สามารถท�ำตัวแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะรังแต่จะ ยากจนลง ผมหวังว่าพวกเจ้าชายตระกูลเมดิชีจะให้งานผมท�ำเหมือนที่ผ่านมา แม้ว่างานที่ ได้รับนั้นจะน้อยนิดเพียงใดก็ตาม” สิ่งที่กล่าวมานี้ได้กลั่นกรองจากสิ่งที่เขาเรียนรู้และน�ำมาเขียนไว้ในหนังสือเล่มบางๆ เขาเรียกหนังสือเล่มนี้อย่างไม่ใส่ใจนักว่า “แนวคิดชวนหัวขนาดย่อมของผม” ซึ่งเขาตั้งใจ จะอุทิศหนังสือนี้ให้กับจูลิยาโน เด เมดิชี พี่ชายของพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน และ บุคคลผู้ซึ่งเขาจะต้องผูกสัมพันธไมตรีด้วย หากหวังว่าจะกลับเข้ามาท�ำงานอันมีเกียรติใน อาณาจักรฟลอเรนซ์ภายใต้การปกครองของตระกูลเมดิช6ี ตัวมาเคียแวลลีเองวาดภาพเขา นั่งลงเขียนงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขา ภาพทรงเสน่ห์ที่สุดที่เขาจินตนาการได้คือภาพ นักวิชาการนั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ สลัดความกังวลทั้งหมดทิ้งไปเพื่อจะได้แลกเปลี่ยนความ คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวในยุคโบราณ ทว่าภาพฝันที่เขาวาดช่างขัดกับชื่อเสียงอันเลวร้าย ของหนังสือและผู้เขียนหนังสือเล่มนี้อย่างยิ่ง ในตอนเย็ น ผมกลั บ มาที่ บ ้ า นและเข้ า ไปในห้ อ งอ่ า นหนั ง สื อ พอเดิ น มา ถึงบริเวณธรณีประตู ผมถอดชุดธรรมดาๆ เสื้อผ้าซึ่งเปรอะเปื้อนโคลนตม 24 ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
และสิ่งสกปรกของผมออก จากนั้นผมจึงน�ำเสื้อคลุมที่จะต้องใส่เมื่อไป ราชส�ำนักหรือราชวังมาสวมแทน เมื่อผมแต่งกายเหมาะสมแล้ว ผมจึง ก้าวเข้าไปในราชส�ำนักโบราณซึ่งมีบุคคลในยุคโบราณอยู่ด้วย ผมได้รับ การต้ อ นรั บ อย่ า งดี ผมดื่ ม ด�่ ำ กั บ อาหารสมองที่ เ ป็ น ของผมแต่ เ พี ย ง ผู้เดียว ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนแต่อย่างใดที่จะ ต้องสนทนาหรือขอให้บุคคลเหล่านั้นอธิบายเรื่องราวต่างๆ ของพวกเขา เลย พวกเขาตอบค�ำถามของผมด้วยความยินดี ตลอดเวลา 4 ชั่วโมง ผมไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย ผมลืมปัญหาทั้งหมด ไม่กลัวความยากจนหรือ แม้ แ ต่ ค วามตาย ผมเข้ า ไปเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ในชี วิ ต ของพวกเขาอย่ า ง สมบูรณ์…ผมจึงบันทึกสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากบทสนทนาเหล่านี้ และเขียน หนังสือเล่มเล็กๆ ชื่อ ว่าด้วยการปกครอง (De principatibus) ซึ่งผม ได้ค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เขียนอย่างละเอียดมากเท่าที่จะมากได้โดยตั้ง ค�ำถามว่า รัฐขนาดเล็กที่มีผู้ปกครองคืออะไร มีกี่ประเภท จะรักษาดินแดน เหล่านี้ไว้ได้อย่างไร และเหตุใดดินแดนที่ว่านี้จึงสูญสิ้นไปในที่สุด นี่คือต้นก�ำเนิดของหนังสือเรื่องเจ้าผู้ปกครอง (The Prince) หนังสือเล่มเล็กที่อื้อฉาว และทรงอิทธิพลทางด้านการเมืองมากที่สุดที่เคยเขียนขึ้นมา 7 เราอาจจะคาดไม่ถึงเลยว่า การเปิดตัวของหนังสือเล่มนี้เป็นไปอย่างเงียบเชียบส�ำหรับหนังสืออันมีชื่อเรื่องจากบุคคลผู้ อื้อฉาวที่มีตัวตนจริง อันที่จริงหนังสือเล่มนี้มีความประหลาดอย่างหนึ่งคือตัวละครทรราช ที่กระหายเลือด ไร้ความปรานีใดๆ เมื่อตัวละครหนึ่งท�ำเพื่อให้ได้มาซึ่งอ�ำนาจ คลั่งศาสนา นิยมความรุนแรง และจิตใจเหี้ยมโหด ในขณะที่อีกตัวละครเป็นนักวิชาการที่มีท่าทาง นุ่มนวล สวมเสื้อคลุมเก่าเก็บและรองเท้าแตะ อาจกล่าวได้ว่าบุคลิกที่ขัดแย้งของตัวละคร ทัง้ สองไม่ได้ชว่ ยให้มาเคียแวลลีมชี อื่ เสียงมากขึน้ เท่าใดนัก เขาถูกล้อเลียนว่าเป็นดอกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์*ในชีวิตจริง ด้วยบทบาทของนักวิชาการซึ่งค้นหาความจริงในแบบฉบับ ของตนเองโดยไม่ได้ค�ำนึงถึงผลกระทบที่จะได้รับเลย เขาปล่อยให้สัตว์ประหลาดของเขา ออกไปสู่โลกภายนอกโดยที่ตัวเองไม่สามารถจัดการ หรือไม่คิดจะลุกขึ้นมาจัดการอะไร เลย เราอาจพร้อมที่จะให้อภัยมาเคียแวลลีได้ หากเขาเป็นนักปฏิบัติที่ท�ำให้ทุกอย่างเป็น จริงได้ แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เขากลับเป็นนักวิชาการที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายโกลาหล * ตัวละครจากนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ Mary Shelley วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์เป็นตัวละคร นักวิทยาศาสตร์คงแก่เรียนที่ตั้งใจจะคืนชีพให้มนุษย์ซึ่งสร้างจากชิ้นส่วนศพ-บรรณาธิการ มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ 25
ทั้งปวง เป็นข้าราชการแถวหน้าในบรรดาข้าราชการทั่วๆ ไปผู้ปลอดภัยอยู่ในวังวนความ คิดของตนที่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงเพื่อเป็นข้ออ้างในการกระท�ำการต่างๆ ที่เรียกว่า เหตุผลแห่งรัฐ (reason of state) ภาพลักษณ์ของเขาฝังรากลึกอยู่ในจินตนาการของบุคคลทั่วไปถึงขนาดที่ชื่อของ เขาถูกเปลี่ยนเป็นค�ำคุณศัพท์เพื่อใช้อธิบายพฤติกรรมเยาะหยันไม่แยแส หรือการแสวงหา อ�ำนาจโดยปราศจากส�ำนึกใดๆ ภาพแทนทีว่ า่ นีไ้ ม่ใช่ภาพใหม่ เมือ่ เขาเสียชีวติ ได้ไม่นานนัก มีคนของโบสถ์แห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรียกเขาว่า “ศัตรูของชาติพันธุ์มนุษย์” และอีกเพียงไม่ กี่ปีต่อมาสมเด็จพระสันตะปาปาจัดให้หนังสือของเขาอยู่ในดัชนีหนังสือต้องห้าม ซึ่งช่วง นั้นการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านมาเคียแวลลีได้รับการสนับสนุน อันที่จริงแล้วชื่อเสียงภาย หลังการเสียชีวิตของเขาส่วนหนึ่งมาจากความเจ็บแค้นของศัตรูของเขา ซึ่งท�ำให้ข้าราชการ ไร้ชื่อเสียงใดๆ อย่างเขากลายเป็นปีศาจที่อวตารมาใหม่ 8 กลายเป็นบิดาของปรัชญาไร้ จริยธรรม กลายเป็นผู้โน้มน้าวให้เกิดสังคมโลกที่มนุษย์ไม่พึ่งพาศาสนา และไม่เห็นความ ดีงามความกรุณาของพระผู้เป็นเจ้า ท�ำให้เกิดสงครามซึ่งทุกฝ่ายเป็นศัตรูกัน และกลาย เป็นการไล่ล่าแสวงหาอ�ำนาจโดยไม่ลืมหูลืมตา ชื่อเสียงในทางชั่วร้ายของมาเคียแวลลีมาจากงานเขียนหนังสือเล่มบางเล่มนี้ ซึ่ง เขียนขึ้นด้วยจุดประสงค์เพื่อสมัครเข้าท�ำงานกับขุนนางตระกูลเมดิชีแห่งเมืองฟลอเรนซ์ สิ่งที่ย้อนแย้งกันก็คือ ในขณะที่หนังสือเรื่องเจ้าผู้ปกครองไม่อาจบรรลุวัตถุประสงค์ที่ผู้ เขียนตั้งไว้ คือท�ำให้เขาสามารถกลับไปมีอ�ำนาจในฐานะขุนนางของฟลอเรนซ์อีกครั้งหนึ่ง หนังสือเล่มนี้กลับท�ำให้เขามีที่ยืนอย่างมั่นคงในประวัติศาสตร์ความคิด สิ่งนี้อาจท�ำให้ มาเคียแวลลีรสู้ กึ ยินดีทไี่ ด้เห็นการกลับตาลปัตรของโชคชะตาทีท่ ำ� ให้ผมู้ ตี ำ� แหน่งรองเช่นเขา มีชื่อเสียงมากกว่าขุนนางทั้งหลาย ซึ่งเขาเคยหวังว่าจะก้าวไปถึงต�ำแหน่งนั้นเพื่อรับเงิน เดือนอันน้อยนิดให้จงได้9 แต่ในขณะเดียวกันว่าที่เจ้านายของเขากลับไม่รู้สึกชื่นชมกับ ความส�ำเร็จที่ว่านั้นมากพอๆ กัน เมื่อเขานั่งลงเขียนหนังสือเรื่องเจ้าผู้ปกครอง โต๊ะท�ำงานของเขาคงจะเต็มไปด้วย หนังสือประวัติศาสตร์ยุคโบราณกองพะเนินซึ่งเขาเก็บไว้เป็นสมบัติ และในสมองของเขา คงเต็มไปด้วยบทเรียนต่างๆ ที่ได้รับจากการท�ำงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมานานปี ในขณะที่ มาเคียแวลลีมอี ายุเพียง 44 ปี ซึง่ ถือว่าอยูใ่ นช่วงปลายของวัยกลางคนแล้วในศตวรรษที ่ 1610 เขาคิดว่าตนเองประสบความล้มเหลว และคงจะมีเพื่อนของเขาเพียงไม่กี่คนที่จะไม่เห็น ด้วยกับค�ำกล่าวนี้ แม้ว่าเขาจะได้รับบันทึกว่าเป็นข้าราชการแถวหน้า แต่เขาก็แทบจะ ไม่ได้แตกต่างจากเพื่อนร่วมงานไร้ชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่ท�ำงานอยู่ในปาลาซโซ เดลลา ซิญญอเรียเลยแม้แต่น้อย ส่วนผู้ที่ระลึกถึงเขานั้นมักจดจ�ำเขาในฐานะนักเขียนผู้สร้างความ ล้มเหลวทางการทหารครั้งร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมาเคียแวลลีชอบตั้งข้อสังเกตวงจรชีวิตของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ 26 ศิริรัตน์ ณ ระนอง แปล
ในอดีต เขาพบว่าในการพิสูจน์ความกล้าหาญของชายชาตรีจะไม่มีค�ำว่าประสบเคราะห์ กรรมแม้เพียงน้อยนิด และมาเคียแวลลีเองมีส่วนร่วมในการพิสูจน์สิ่งนี้เป็นอย่างยิ่ง11 การ ที่เขาประสบหายนะทางการเงิน ถูกปลดออกจากราชการพร้อมกับอนาคตที่มืดมน และ ไม่รู้ว่าจะท�ำงานการสิ่งใดต่อไปนั้น ท�ำให้เขากลายเป็นคนหมดสภาพจนในที่สุดความตาย จึงคร่าชีวิตของเขาไป มาเคียแวลลีเลือกที่จะต่อสู้กับความตายอันแสนหดหู่ซึ่งโชคชะตา ได้ตระเตรียมไว้ให้เขาแล้ว เขาถูกทดสอบเรื่อยมาแต่เขาก็ไม่มีอันเป็นไปเสียที การถูก ทรมานยิ่งท�ำให้เขากลับมีศรัทธาเพิ่มขึ้นว่าเขาจะต้องค้นพบสิ่งแปลกใหม่ที่จะน�ำเสนอให้ โลกใบนี้ ชีวิตอันโดดเดี่ยวในบ้านไร่บนยอดเขาท�ำให้เขามองเห็นภาพประวัติศาสตร์ในมุม กว้างฉายชัดให้เห็นตรงหน้า เมื่อขาดสุ้มเสียงแลกเปลี่ยนจากบทสนทนา เสียงจากบุคคล ที่เสียชีวิตไปแล้วเริ่มหลอกหลอนจิตวิญญาณของเขา มันเป็นเสียงกระซิบที่กล่าวถึงความ จริงอันเป็นสากลซึ่งก่อนหน้านี้เคยพร่าเลือนอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายในชีวิตประจ�ำวัน ของเขา การที่เขาได้สื่อสารกับบุคคลในยุคโบราณท�ำให้เขาสามารถล้วงความลับในจิตใจ มนุษย์ออกมาได้ โดยเจาะลึกเชื่อมโยงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเพื่อค้นหากฎเกณฑ์ที่กุม บังเหียนโชคชะตาแห่งรัฐเอาไว้
มาเคียแวลลี เจ้าทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่ 27