เหยื่อฮิโรชิมา
HIROSHIMA John Hersey เขียน ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
กรุงเทพมหานคร ส�ำนักพิมพ์มติชน 2556
สารบัญ
6 8
บทที่ 1 เงียบ...แต่สว่างวาบบาดฟ้า
13
บทที่ 2 ไฟ...
34
บทที่ 3 การตรวจสอบเรื่องราว
67
บทที่ 4 ชีวิตยังต้องก้าวต่อไป
99
บทที่ 5 ผลที่ตามมา
132
216
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ค�ำน�ำผู้แปล
เกี่ยวกับผู้เขียน
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
เหยื่อฮิโรชิมา ที่ท่านถืออยู่ในมือเล่มนี้ ได้รับการยกย่อง มาช้านานว่าเป็นหนังสือสงครามคลาสสิก เขียนโดยจอห์น เฮอร์ซีย์ นักข่าวและนักเขียนชาวอเมริกัน เจ้า ของรางวัลพูลิตเซอร์ เฮอร์ซีย์เติบโตในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล ในปี 1945-1946 แม็กกาซีนไลฟ์ และหนังสือพิมพ์เดอะ นิว ยอร์กเกอร์ ส่งเฮอร์ซีย์ไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อเขียนบทความเกี่ยวกับผู้ คนในฮิโรชิมาหลังจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณู และออกเป็นนิตยสาร ฉบับพิเศษขายดีเป็นเทน�้ำเทท่า ว่ากันว่าอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์สั่งซื้อ นิตยสารฉบับนี้ถึง 1,000 เล่ม! เหยื่อฮิโรชิมา ได้รับการแปลเป็น ภาษาต่างๆ ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เว้นแต่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งถูกรัฐบาล อเมริกันสั่งห้าม 6 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
เฮอร์ซีย์ไม่ได้เขียนเรื่องราวที่เน้นเฉพาะเกมสงคราม แต่เจาะ ลึกชีวิตผู้คนธรรมดา 6 คนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ซึ่งเป็นผู้คน ที่มีจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ก่อนที่หนังสือเรื่องนี้จะตีพิมพ์ คน อเมริกันยังมีภาพเหมารวมว่าคนญี่ปุ่นเป็นทหารใจโหด ภาพถ่ายของ ฮิโรชิมาที่เผยแพร่ในอเมริกาก็เป็นเพียงภาพความเสียหายของบ้าน เมือง แต่ เหยื่อฮิโรชิมา ท�ำให้คนอ่านตระหนักถึงภัยของสงคราม และรู้ว่าประชาชนญี่ปุ่นก็ไม่ต่างจากคนอเมริกัน ต่อมามหาวิทยาลัยนิวยอร์กยกย่องว่าหนังสือเล่มนี้เป็นบันทึก เหตุการณ์อันดับ 1 ของศตวรรษที่ 20 สุดยอดผลงานของโลกเล่มนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดย คุ ณ ฉั ต รนคร องคสิ ง ห์ ผู ้ มี ผ ลงานหนั ง สื อ แปลเชิ ง สงครามมาแล้ ว หลายเล่ม เช่น หลั่งเลือดที่นานกิง หรือ เด็กหญิงผู้ชูธงขาว เนื่อง จากในหนังสือมีชื่อตัวละครและสถานที่ภาษาญี่ปุ่นซึ่งเฮอร์ซีย์ถอด เสียงเป็นภาษาอังกฤษในช่วงปีที่ยังไม่มีหลักการถอดเสียงภาษาญี่ปุ่น ที่เป็นมาตรฐานนัก ทางผู้แปลและส�ำนักพิมพ์มติชนจึงต้องขออภัย หากมีบางชื่อที่คลาดเคลื่อน แต่เราได้ตรวจสอบกับผู้รู้ภาษาญี่ปุ่น และส�ำนักพิมพ์ต้นสังกัดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เพื่อให้เกิดความผิดพลาด น้อยที่สุด ด้วยความสามารถของทั้งผู้เขียนและผู้แปล ส�ำนักพิมพ์มติชน ขอรับประกันว่า เหยื่อฮิโรชิมา เล่มนี้จะไม่ท�ำให้ผู้อ่านผิดหวังแน่นอน ส�ำนักพิมพ์มติชน
เหยื่อฮิโรชิมา 7
ค�ำน�ำผู้แปล
ฮิโรชิมา เป็น 1 ใน 2 เมืองของญี่ปุ่นที่ถูกถล่มด้วยระเบิด ปรมาณู อันเป็นอาวุธที่ถูกน�ำมาใช้เพื่อปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านใดที่ได้อ่ าน นางาซากิ เสียงครวญแห่งสันติ ของ นพ. ทาคาชิ นากาอิ (โดยส�ำนักพิมพ์มติชน-ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล) ย่อม ได้ทราบถึงความล�ำบากยากแค้นแสนสาหัสของพลเรือนผูต้ อ้ งรับกรรม จากการพาประเทศเข้าสู่สงครามของรัฐบาลญี่ปุ่นอยู่บ้างแล้ว เหยื่อ ฮิโรชิมา คือหนังสืออีกเล่มที่ถือกันว่าผู้อ่านควรได้อ่านคู่กัน ใช้เวลาไม่ถึงสองเดือนหลังได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร เดอะ นิวยอร์กเกอร์ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1946 (คือเพียง 1 ปีหลังการ ทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูกนั้น) เหยื่อฮิโรชิมา ก็ถูกรวมเล่ม จากนั้นได้ รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก พิมพ์จ�ำหน่ายแล้วกว่า 3 ล้านเล่ม และยังคงมีวางแผงอยู่แม้ในปัจจุบัน 8 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
นิตยสาร ไทม์ ให้ค�ำนิยมงานของจอห์น เฮอร์ซีย์ ชิ้นนี้ไว้ว่า “เป็นงานรวบรวมและรายงานเกีย่ วกับสงครามโลกครัง้ ที ่ 2 ชิ้นที่ควรได้รับการยกย่องที่สุด” ซึ่งค�ำนิยมนี้ ให้ไว้ก่อนที่ผู้เขียนจะเดินทางกลับไปค้นหาตัว ละครทั้ง 6 ในอีก 50 ปีถัดมาด้วยซ�้ำ เป็นการไปเพื่อน�ำเรื่องราวการ ใช้ชีวิตหลังระเบิดลูกนั้นของบุคคลทั้ง 6 มาเล่าเพิ่มเติมให้ผู้อ่านได้ รับรู้จนครบสมบูรณ์ เหยื่ อ ฮิ โ รชิ ม า ฉบับที่อยู่ในมือท่านผู้อ่าน จึงแตกต่างจาก ฉบับที่ตีพิมพ์ในปี 1946 ตรงที่มี “ภาคสรุป” มาเติมเต็มไว้ให้ด้วย แน่นอนว่านีค่ อื หนังสือทีร่ ายงานสภาพชีวติ พลเมืองชาวฮิโรชิมา ที่ต้องเผชิญหลัง “แสงสว่างเจิดจ้า” วาบขึ้นบนฟากฟ้าเหนือศีรษะ ของพวกเขา เป็นอีกเล่มที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาเข้าปกครองหลังสงครามเสร็จสิ้น เพราะมีเนื้อหาก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เนื้อหาชนิดที่ท�ำให้รัฐบาลอเมริกันต้องเป็นกังวลถึงขนาดนั้น บัดนี้อยู่ในมือท่านแล้ว
ฉัตรนคร องคสิงห์ ตุลาคม 2556
เหยื่อฮิโรชิมา 9
บ ท ที่ 1 เงียบ...แต่สว่างวาบบาดฟ้า
แปดโมงสิ บ ห้ า นาที ต ามเวลาท้ อ งถิ่ น ญี่ ปุ ่ น ของวั น ที่ 6 สิงหาคม ปี 1945 ระเบิดปรมาณูสว่างวาบทัว่ ฟ้าเหนือฮิโรชิมา โตชิโกะ ซาซากิ เสมียนประจ�ำแผนกบุคคลของบริษัทอีสต์เอเชียทินเวิร์ก เพิ่ง ลงนัง่ ทีโ่ ต๊ะท�ำงานในส่วนของโรงงาน เธอก�ำลังหันหน้าไปพูดกับเพือ่ น สาวที่อยู่โต๊ะข้างๆ เป็นเวลาเดียวกับที่ นพ.มาซาคาสุ ฟูจิอิ ทรุดตัวลง นั่งขัดสมาธิเตรียมอ่านหนังสือพิมพ์โอซาก้า อาซาฮี ที่ระเบียงด้าน หนึ่งของโรงพยาบาลที่เขาเองเป็นเจ้าของ เป็นโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่บน ตลิ่งของแม่น�้ำหนึ่งในเจ็ดสายซึ่งแบ่งฮิโรชิมาออกเป็นส่วนๆ ขณะ เดียวกัน คุณฮัตสึโย นากามูระ ภรรยาม่ายของช่างตัดเสื้อก็ก�ำลังยืน ตรงหน้าต่างครัว ตามองเพื่อนบ้านที่ก�ำลังรื้อบ้านของเขาเอง เพราะ บ้านหลังนั้นอยู่บนเส้นทางที่ถูกก�ำหนดให้เป็นแนวกันไฟในกรณีตัว เมืองถูกถล่มด้วยระเบิดเพลิง บาทหลวงวิลเฮล์ม ไคลน์ซอร์เกอ นัก เหยื่อฮิโรชิมา 13
บวชชาวเยอรมันในสังกัดโซไซตี้ออฟจีซัส*เอนกายลงบนเตียงผ้าใบ อยู่บนชั้นบนสุดของอาคารสูงสามชั้น ซึ่งถูกจัดให้เป็นที่พักและที่ท�ำ การของหมอสอนศาสนา ท่านซึ่งสวมเพียงชุดชั้นในก�ำลังอ่านนิตยสาร ศาสนา ‘สติมเมิน เดอ เซต์’ (เสียงแห่งยุคสมัย) ส่วน นพ.เทรุฟูมิ ซาซากิ แพทย์หนุ่มสังกัดหน่วยศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลกาชาดซึ่ง นับเป็นโรงพยาบาลทันสมัยขนาดใหญ่ของเมืองก็ก�ำลังเดินมาตาม เฉลียงด้านหนึ่ง ในมือถือตัวอย่างเลือดส�ำหรับส่งห้องปฏิบัติการเพื่อ ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส ส่วนท่านสาธุคุณคิโยชิ ทานิโมโตะในสังกัดนิกาย เมโธดิสต์ประจ�ำฮิโรชิมานั้น ไปหยุดยืนอยู่หน้าประตูบ้านใหญ่หลัง หนึ่งของโคอิ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชานเมืองด้านตะวันตก เตรียมจะยกข้าว ของจ�ำนวนมากออกจากรถเข็นคันใหญ่ เขาขนย้ายของเหล่านี้ออก จากตัวเมืองมาเพราะกลัวว่าที่นั่นจะถูกถล่มด้วยเครื่องบินขนาดใหญ่ อย่างบี-29 เพราะทุกคนต่างก็คาดว่าฮิโรชิมาจะต้องโดนอย่างหนัก ระเบิดปรมาณูลูกนั้นคร่าชีวิตคนนับแสน ทั้งหกคนที่เอ่ยถึง มานี้คือส่วนหนึ่งของผู้รอดชีวิต พวกเขายังแปลกใจไม่หาย ว่าท�ำไม ตัวเองยังอยู่ ในขณะอีกจ�ำนวนมากต้องตาย แต่ละคนมองไปที่โอกาส ครั้งเล็กๆ หลายครั้ง หรือทางเลือกหลายทาง เป็นทางเลือกที่มาถึง พอดี เช่นการตัดสินใจเดินเข้าข้างใน หรือเลือกที่จะขึ้นรถรางคันนี ้ แทนที่จะเป็นอีกคัน สิ่งเหล่านี้ที่ท�ำให้พวกเขารอดมาได้ และเมื่อถึง บัดนี้ แต่ละคนก็รู้ว่าในความอยู่รอดนั้น มันเหมือนกับเขาได้มีชีวิตอีก นับสิบๆ ครัง้ ได้เห็นความตายมากมายเกินกว่าทีค่ ดิ ว่าตัวเองจะได้เห็น แต่ ใ นช่ ว งเวลาที่ เ กิ ด เหตุ นั้ น ไม่ มี ใครรู ้ อ ะไรเกี่ ย วกั บ สิ่ ง เหล่ า นี้ เ ลย * Society of Jesus หรือที่รู้จักกันในนาม “คณะเยซูอิต” (Jesuits)-บรรณา ธิการ 14 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
สาธุคุณทานิโมโตะตื่นตีห้า และอยู่ตามล�ำพังในห้องพัก นักบวช นั่นก็เพราะภรรยาพาลูกชายน้อยวัยหนึ่งปีไปค้างคืนกับเพื่อน ที่อูชิดะซึ่งเป็นเขตชานเมืองทางตอนเหนือหลายคืนแล้ว ในบรรดา เมืองส�ำคัญๆ ทั้งหมดของญี่ปุ่นนั้น มีเพียงสองเมืองเท่านั้นที่ ‘บี-ซัง’ หรือ ‘มิสเตอร์บี’ ชื่อที่ชาวญี่ปุ่นใช้เรียกเครื่องบิน บี-29 อย่างทั้งเกรง ขาม ทั้งไม่ชอบใจ แต่ก็คุ้นเคย เมืองที่บี-ซังยังไม่ได้แห่รวมฝูงมา เยี่ยมครั้งละหลายล�ำก็คือเกียวโตและฮิโรชิมา สาธุคุณทานิโมโตะ ก็เช่นเดียวกับเหล่าสหายและพวกเพื่อนบ้าน คือเป็นกังวลกลุ้มใจจน แทบแย่ เขาได้ยินเรื่องราวรายละเอียดเกี่ยวกับการถล่มระเบิดที่คุเระ, อิวาคุนิ, โตกุยาม่า และเมืองอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง นั่นท�ำให้แน่ใจ ว่าจะต้องถึงคราวของฮิโรชิมาในเร็ววัน เมื่อคืนนี้เขานอนแทบไม่ หลับ เพราะมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นหลายครั้ง สัญญาณเตือนแบบ นี้ดังขึ้นในฮิโรชิมาแทบทุกคืนและดังมานานหลายสัปดาห์แล้วด้วย เพราะในช่วงนั้นฝูงบิน บี-29 ใช้ทะเลสาบบิว่า ซึ่งอยู่ทางตะวันออก เฉียงเหนือเป็นสถานที่รวมพล และไม่ว่าฝ่ายอเมริกันจะวางแผนเข้า โจมตีเมืองไหน เจ้าเครื่องขนาดมหึมาราวป้อมปราการบินได้เหล่านี้ ก็หลั่งไหลกันผ่านเข้ามาทางด้านชายฝั่งของฮิโรชิมา ความถี่ของ สัญญาณเตือนกับความพยายามต้องอดทนสะกดกลั้นต่อมิสเตอร์บี ท�ำให้พลเมืองชาวฮิโรชิมาตกอยูใ่ นความว้าวุน่ กระวนกระวาย มีขา่ วลือ หนาหู ม าก ว่ า พวกอเมริ กั น เตรี ย มของชิ้ น พิ เ ศษไว้ ส� ำ หรั บ เมื อ งนี้ คุณทานิโมโตะเป็นคนร่างเล็ก พูดเร็ว หัวเราะก็เร็ว ร้องไห้ก็เร็ว เขาไว้ผมค่อนข้างยาวแล้วหวีปาดมากลางศีรษะ หน้าผากที่โหนกยื่น กับหนวด ริมฝีปากและคางทีเ่ รียวเล็กท�ำให้เขาดูมปี นๆ กันไปทัง้ ความ หนุ่มและความแก่ มีความเป็นเด็กแต่ก็แบบฉลาดลึก ดูอ่อนแอแต่ เหยื่อฮิโรชิมา 15
ก็เผ็ดร้อน เขาเดินเร็วแต่ก็อย่างประหม่า มีท่ายั้งๆ บ่งบอกว่าเขา เป็นคนรอบคอบและระมัดระวัง ความจริงคุณสมบัติที่เขามีนั้นเหมาะ กับช่วงเวลายุ่งยากของชีวิตก่อนที่ระเบิดลูกนั้นจะถล่มลงมา นอกจาก จะให้ภรรยาไปอยู่เสียที่อูชิดะ คุณทานิโมโตะยังย้ายข้าวของชิ้นไม่ ใหญ่นักที่ย้ายได้ทั้งหมดออกไปจากโบสถ์แล้ว เอาไปไว้ที่บ้านหลัง หนึ่งในเขตนาการะกาว่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนย้ายเข้าไปอยู่จนแทบ เต็มแน่น บ้านหลังนั้นเป็นของโรงงานผลิตใยสังเคราะห์ที่โคอิ อยู่ห่าง จากใจกลางเมืองไปสองไมล์ มัตสึอิซึ่งเป็นพนักงานของโรงงานแห่ง นั้นเปิดบ้านซึ่งขณะนั้นไม่มีใครอยู่ให้เพื่อนๆ และคนคุ้นเคยจ�ำนวน มากเข้าใช้ เพื่อที่คนเหล่านี้จะสามารถขนย้ายอะไรก็ได้ออกมาเก็บไว้ ในที่ปลอดภัยจากพื้นที่ที่อาจเป็นเป้าของการโจมตี ส�ำหรับการขน ย้ายพวกเก้าอี้ หนังสือสวดมนต์ พระคัมภีร์ เครื่องใช้กับแท่นบูชา รวม ถึงบันทึกต่างๆ เกี่ยวกับโบสถ์ เขาใช้รถเข็นขนย้ายของเหล่านี้ด้วยตัว เอง แต่ออร์แกนกับเปียโนหลังใหญ่นั่นสิที่ต้องหาคนช่วย เมื่อวานนี ้ เองเพื่อนชื่อมัตสึโอะเพิ่งมาช่วยย้ายเปียโนหลังนั้นไปโคอิ เขาจึงรับ ปากว่าจะตอบแทนด้วยการช่วยล�ำเลียงข้าวของต่างๆ ของลูกสาว มัตสึโอะให้ และตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษในวันนี้ คุณทานิโมโตะท�ำอาหารเช้ากินเอง เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก ทั้งเรี่ยวแรงที่หมดไปกับการย้ายเปียโนเมื่อวาน ทั้งอาการนอนไม่หลับ ความเครียดที่สะสมมาหลายสัปดาห์กับอาหารการกินที่ไม่เหมาะสม การต้องดูแลงานที่โบสถ์ ทั้งหมดนี้ท�ำให้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะรับมือกับ วันใหม่เอาเสียเลย แล้วยังมีอีกเรื่อง นั่นก็คือเขาเคยเรียนศาสนวิทยา ที่วิทยาลัยอีมอรี่ ที่แอตแลนต้าในมลรัฐจอร์เจีย จบมาเมื่อปี 1940 พูด ภาษาอังกฤษได้ดีมาก ชอบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอย่างคนอเมริกัน เขา 16 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนชาวอเมริกันมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงช่วงที่สงคราม เริ่ม ในบรรดากลุ่มคนที่กลัวว่าตัวเองจะถูกทางการติดตามดูความ เคลื่ อ นไหวนั้ น เขาหมกมุ ่ น กั บความกลั ว นี้ ที่ สุ ด และยิ่ ง นั บ วั น ก็ ยิ่ ง อึดอัดขึ้นเรื่อยๆ เพราะต�ำรวจเรียกสอบปากค�ำหลายรอบแล้ว และ เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง เขาก็เพิ่งได้ยินข่าวเกี่ยวกับคนรู้จักชื่อทานากะ ซึ่งเป็นคนมีอิทธิพลคนหนึ่ง เขาเกษียณอายุจากบริษัทเดินเรือโตโย ไคเซน ไคชะ และต่อต้านชาวคริสต์ แต่เป็นผู้กว้างขวางในฮิโรชิมา เพราะมักโอ้อวดเรื่องการท�ำบุญช่วยเหลือสังคม หากพร้อมกันก็ฉาว โฉ่ด้านการกดขี่ข่มเหง เขาบอกใครต่อใครว่าไม่ควรเชื่อถือคุณทานิ- โมโตะ ซึ่งฝ่ายนี้ก็แก้เกมด้วยการรับต�ำแหน่งประธานกลุ่ม โทนาริกูมิ หรือ สมาคมเพื่อนบ้าน ต�ำแหน่งนี้เพิ่มภาระให้เขาในด้านการจัดการ รับมือเรื่องป้องกันภัยการโจมตีทางอากาศส�ำหรับคนประมาณ 20 ครอบครัวด้วย วั น นั้ น คุ ณ ทานิ โ มโตะเริ่ ม ออกเดิ น ทางสู ่ บ ้ า นมั ต สึ โ อะตั้ ง แต่ ก่อนหกโมงเช้า พอถึงที่นั่นก็พบว่าปัญหาใหญ่คือ ตันสุ หรือตู้ขนาด ใหญ่แบบของญีป่ นุ่ ในตูน้ นั้ เต็มไปด้วยเสือ้ ผ้าและข้าวของอืน่ ๆ ส�ำหรับ ใช้ในบ้าน ชายทั้งสองเริ่มต้นย้ายของ เช้านั้นฟ้าโปร่งและอากาศก็ อุ่นมากจนแน่ใจได้เลยว่าพอตกกลางวันจะต้องย�่ำแย่แน่ๆ เริ่มงาน ได้เพียงหนึ่งนาที สัญญาณเตือนภัยทางอากาศก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณ ที่ดังลั่นเพียงหนึ่งนาทีเพื่อเตือนว่ามีเครื่องบินใกล้เข้ามา แต่พร้อมกัน ก็บอกให้ชาวฮิโรชิมารู้ด้วยว่านั่นเป็นสัญญาณเตือนภัยระดับอ่อน เท่านั้น เพราะสัญญาณนี้ดังในเวลาเดียวกันนี้ทุกเช้าเมื่อเครื่องบิน ตรวจอากาศของฝ่ายอเมริกันบินผ่านมา ชายทั้งคู่ก�ำลังทั้งผลักทั้งดัน รถเข็นคันนั้นไปตามถนน ตัวเมืองฮิโรชิมาเป็นรูปพัดที่กางอยู่บนเกาะ เหยื่อฮิโรชิมา 17
แก่งต่างๆ เกือบ 6 เกาะที่ถูกแบ่งโดยแม่น�้ำ 7 สายซึ่งแยกตัวออก จากแม่น�้ำสายใหญ่โอตะ อันเป็นพื้นที่หลักของเขตเศรษฐกิจและที่ พักอาศัย กินอาณาบริเวณส่วนกลางของตัวเมืองไปราวสี่ตารางไมล์ พื้นที่ส่วนนี้มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่นถึงประมาณสามในสี่ของ ประชากรทั้ ง หมดของฮิ โ รชิ ม า แต่ ป ระชากรจ�ำ นวนนี้ ก็ ล ดลงแล้ ว เพราะการอพยพโยกย้ายที่ด�ำเนินอย่างเป็นทางการมาหลายครั้ง จาก ที่เคยมีอยู่สูงถึง 380,000 คน เหลือประมาณ 245,000 คน โรงงาน และเขตที่พักอาศัยอื่นๆ เรียงรายอัดแน่นกันอยู่ตามชายขอบของตัว เมืองทางด้านใต้ มีทา่ เทียบเรือ สนามบิน และแนวชายเขาตีวงโอบรอบ อีกสามด้านของที่เหลือจากปากอ่าวไว้ คุณทานิโมโตะกับมัตสึโอะ เข็นรถผ่านเขตศูนย์การค้าซึ่งตอนนั้นมีผู้คนออกมากันเต็มแล้ว จาก นั้นข้ามแม่น�้ำสองสายเข้าสู่พื้นที่การค้าบนถนนโคอิ แล้วมุ่งหน้าสู่พื้น ที่รอบนอกของตัวเมือง สู่พื้นที่ตีนเขา ออกไปสู่เขตหุบเขาซึ่งห่างจาก เขตที่มีบ้านเรือนหนาแน่น ได้ยินเสียงสัญญาณปลอดภัย (ฝ่ายเรดาร์ ของญี่ปุ่นตรวจพบเครื่องบินเพียง 3 ล�ำ และคิดว่า 3 ล�ำนั้นมาลาด ตระเวน) การเข็ น รถขึ้ น ไปสู ่ บ ้ า นของพนั ก งานที่ สั ง กั ด บริ ษั ท ใย สังเคราะห์คนนั้นนับว่าเหนื่อยหนัก ดังนั้น หลังจากเข็นรถคันนั้นผ่าน ทางเข้าไปจนถึงหน้าบ้านแล้ว ทั้งสองจึงพัก ต่างมาหยุดยืนอยู่ตรงปีก ด้านข้างของบ้านซึ่งกลายเป็นที่กั้นระหว่างพวกเขากับตัวเมือง บ้าน หลังนี้ก็เช่นเดียวกับบ้านอื่นๆ ทั่วไปในภูมิภาคนี้ คือตัวโครงและผนัง บ้านสร้างด้วยไม้รองรับหลังคาไม้หนาหนักด้านบน ห้องใหญ่ด้าน หน้าเต็มแน่นอยู่ด้วยกองเครื่องนอนและเสื้อผ้าที่ถูกม้วนเก็บไว้ จน มองดูเหมือนถ�้ำที่ถูกถมเต็มอยู่ด้วยกองหมอนอ้วนๆ ที่ฝั่งตรงข้าม เยื้องไปทางด้านขวาของประตูบ้านมีสวนหินที่จัดอย่างพิถีพิถัน ขณะ 18 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
นั้นไม่มีเสียงเครื่องบิน เป็นเช้าที่เงียบสงบ อากาศเย็น และสถานที่นั้น ดูช่างน่าอยู่ แล้วทันทีนั้นก็มีแสงสว่างวาบใหญ่ตัดข้ามฟ้ามา คุณทานิ- โมโตะจ�ำได้อย่างชัดเจนว่าแสงเจิดจ้าที่เห็นนั้นตัดข้ามจากฟากตะวัน ออกไปฝั่งตะวันตก จากตัวเมืองเข้าหาเทือกเขา ดูราวกับพระอาทิตย์ ทั้ ง ดวงเปลี่ ย นเป็ น แผ่ น แสง ทั้ ง ตั ว เขาและมั ต สึ โ อะต่ า งตกอยู ่ ใ น อาการตะลึงลาน แต่มีเวลาคิดว่าจะท�ำอะไรต่อไป (นั่นเพราะทั้งคู่ อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแห่งการระเบิดถึง 3,500 หลา หรือประมาณ 2 ไมล์) มัตสึโอะวิ่งถลาไปทางหน้าบ้านแล้วพรวดเข้าไปมุดอยู่ในกอง ที่นอน คุณทานิโมโตะวิ่งไปได้สักสี่ห้าก้าวแล้วจึงพุ่งเข้าหลบอยู่ใน ระหว่างซอกหินก้อนใหญ่ในสวน ล�ำตัวเขาฟาดอย่างแรงเข้ากับหิน ก้อนหนึ่ง และเป็นเพราะใบหน้าเข้าไปมุดอยู่ระหว่างซอกหินนั้น เขา จึงไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รับรู้ได้ถึงแรงกดอัดที่เกิดขึ้นในทันที จาก นั้นทั้งเศษไม้เศษกระเบื้องต่างๆ ที่แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็ ตกลงใส่ตัว เขาไม่ได้ยินเสียงกระหึ่มใดๆ (แทบจะไม่มีใครเลยใน ฮิโรชิมาที่บอกว่าได้ยินเสียงระเบิด แต่ชาวประมงคนหนึ่งที่ลอยเรือ ส�ำปั้นอยู่ในทะเลสาบใกล้กับทสึสุ ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่แม่ยายกับน้อง ภรรยาของคุณทานิโมโตะอาศัยอยู่ด้วย บอกว่าเห็นแสงสว่างวาบ และได้ยินเสียงระเบิดดังอย่างรุนแรงมาก ชายคนนั้นอยู่ห่างจาก ฮิโรชิมาไปไกลถึงเกือบ 20 ไมล์ แต่เสียงปานฟ้าผ่านั้นดังกว่าเสียง ที่ดังตอนเครื่องบี-29 โจมตีอิวาคุนิ ซึ่งอยู่ห่างไปเพียง 5 ไมล์เสียอีก) เมื่อรวบรวมความกล้าได้ คุณทานิโมโตะก็เงยหน้าและเห็นว่า บ้านพักของพนักงานโรงงานใยสังเคราะห์คนนั้นพังราบลง เขาคิดว่า ระเบิดลูกนั้นตกลงมาตรงนั้นพอดี ฝุ่นกระจายฟุ้งขึ้นมามากเสียจน เหมือนกับว่าพื้นที่บริเวณนั้นตกอยู่ในความมืดไปแล้ว เขาวิ่งถลา เหยื่อฮิโรชิมา 19
ออกไปที่ถนนอย่างแตกตื่น ลืมแม้แต่จะคิดถึงมัตสึโอะซึ่งจมอยู่ใต้ กองซากปรักหักพังของบ้านหลังนั้น ขณะวิ่งออกมาเขาสังเกตเห็น ว่าก�ำแพงคอนกรีตของพื้นที่ตรงนั้นล้มคว�่ำลงไป โดยล้มเข้าหาตัว บ้านมากกว่าที่จะล้มออกจากบ้าน พอถึงถนน สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ ทหารกลุ่มหนึ่งซึ่งก่อนหน้านั้นขุดโพรงอยู่ตรงแนวเขาฝั่งตรงกันข้าม พวกเขาเหล่านี้ขุดโพรงแบบเดียวกันนี้นับพันๆ โพรง เป็นแบบที่เห็น ได้ชัดว่าชาวญี่ปุ่นพยายามใช้เพื่อต่อต้านการรุกราน ภูเขาลูกแล้วลูก เล่า ชีวิตแล้วชีวิตเล่าที่พวกเขาเฝ้าขุด แต่ขณะนั้นพวกทหารกลับ ก� ำ ลั ง ออกมาจากโพรง ซึ่ ง ความจริ ง เป็ น สถานที่ ที่ พ วกเขาควรจะ ปลอดภัย เลือดไหลพรั่งออกจากศีรษะ หน้าอก และแผ่นหลัง พวก เขาทั้งเงียบงันและงุนงง ท่ามกลางสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นพายุฝุ่นนั้น สภาพโดยรอบยิ่ง มืดขึ้น...มืดขึ้น... เกื อ บเที่ ย งคื น ของคื น ก่ อ นที่ ร ะเบิ ด ลู ก นั้ น จะถู ก ทิ้ ง ลงมา ผู้ประกาศข่าวของสถานีวิทยุประจ�ำเมืองรายงานว่า เครื่องบิน บี-29 เกื อ บ 200 ล� ำ ก� ำ ลั ง มุ ่ ง หน้ า เข้ า มาใกล้ ท างด้ า นใต้ ข องเกาะฮอนชู พร้อมกันก็แนะให้ชาวฮิโรชิมาอพยพไปสู่พื้นที่ที่ก�ำหนดไว้ให้เป็น “ที ่ ปลอดภัย” คุณฮัตสึโยะ นากามูระ ภรรยาม่ายของช่างตัดเสื้อ ซึ่ง อาศัยอยู่ในพื้นที่โนโบริ-โช และเป็นผู้ที่ชอบท�ำตามค�ำสั่งเสมอ เธอ ปลุกลูกๆ สามคนคือ โตชิโอะ วัย 10 ขวบ ยาเอโกะ วัย 8 ขวบ และ มิเอโกะ* วัย 5 ขวบขึ้นมา สวมใส่เสื้อผ้าเพิ่มให้ จากนั้นพาพวกแก * ในต้นฉบับผูเ้ ขียนถอดเสียงชือ่ นีว้ า่ Myeko ซึง่ เป็นการถอดเสียงแบบโบราณ แต่การถอดเสียงภาษาญี่ปุ่นในปัจจุบันไม่มีเสียง Mye- ดังนั้น ในที่นี้จึงขอ ถอดเป็นชื่อที่ใกล้เคียงที่สุดคือมิเอโกะ (Mieko)-บรรณาธิการ 20 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
เดินไปยังพื้นที่ทหารที่เรียกกันว่า “ลานรวมพลด้านตะวันออก” (East Parade Ground) ซึ่งอยู่ไปสุดตัวเมืองทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อไปถึงที่นั่น เธอกางเสื่อ 2-3 ผืนแล้วให้เด็กๆ ลงนอน พวกแกหลับ ไปจนถึงประมาณตีสอง แต่แล้วก็ต้องตื่นเพราะเสียงเครื่องบินที่ดัง กระหึ่มเหนือฮิโรชิมา ทันทีที่เครื่องบินเหล่านั้นผ่านพ้นไป คุณนากามูระก็พาลูกๆ กลับ ตีสองครึ่งกว่าเล็กน้อยแม่ลูกก็ถึงบ้าน เธอเปิดวิทยุแต่แล้วก็ ต้องอึ้งอั้นไปอีก เพราะที่ได้ยินคือค�ำเตือนเรื่องใหม่ เธอมองดูลูกๆ เห็นว่าพวกแกเหนื่อยขนาดไหน ยิ่งคิดถึงว่าหลายสัปดาห์มานี้พวก แกต้องเดินไปเดินกลับกีร่ อบกันแล้ว เดินไปลานรวมพลด้านตะวันออก โดยไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย เธอก็ตัดสินใจว่าจะไม่ท�ำตามที่ผู้ประกาศ ข่าวเพิ่งแนะน�ำ เพราะไม่อาจท�ำใจบังคับให้ลูกๆ ต้องเดินกลับไปที่ นั่นอีกรอบหนึ่งได้ จึงจัดการกางที่นอนให้พวกแก ตัวเองก็ลงนอน ด้วยตอนตีสามและหลับไปในทันที เธอหลับสนิทมากเสียจนกระทั่ง ไม่ได้ยินเสียงเครื่องบินที่ผ่านมาอีกครั้งในเวลาถัดมา สัญญาณเตือนภัยกระชากให้ตื่นตอนเจ็ดโมงเช้า เธอลุกแล้ว แต่งตัวอย่างรวดเร็ว จากนัน้ รีบไปทีบ่ า้ นของนากาโมโตะซึง่ เป็นหัวหน้า กลุ่มเพื่อนบ้านเพื่อถามว่าควรท�ำอย่างไรต่อไป เขาบอกให้อยู่บ้านไป ก่อน เว้นเสียแต่ว่าจะมีสัญญาณเตือนภัยฉุกเฉิน (ซึ่งจะเป็นสัญญาณ ที่ดังเป็นชุดๆ) ดังขึ้น เธอจึงกลับบ้าน ติดไฟ หุงข้าว จากนั้นนั่งลง อ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับเช้า ชูโกคุ สัญญาณปลอดภัยดังขึ้น ตอนแปดโมงเช้าซึ่งท�ำให้เธอโล่งใจมาก เมื่อได้ยินว่าลูกๆ เริ่มตื่น เธอ จึงเดินไปหยิบถั่วให้คนละก�ำมือพร้อมบอกให้พวกแกอยู่บนที่นอนไป เหยื่อฮิโรชิมา 21
ก่อนเพราะเมื่อคืนนี้เหนื่อยกันมาแล้ว เธออยากให้พวกแกได้หลับต่อ อีกหน่อย แต่ชายเจ้าของบ้านหลังที่อยู่ทางทิศใต้ไม่ห่างจากบ้านเธอ นักกลับก�ำลังท�ำเสียงโครมครามมาก ด้วยการใช้ทั้งค้อนทั้งลิ่มในการ รื้อถอน นั่นเป็นเพราะเทศบาลก็มีความเชื่อเช่นเดียวกับพลเมืองฮิโร ชิมา ว่าที่นี่ก�ำลังจะถูกโจมตีเร็วๆ นี้ จึงเริ่มกดดันทั้งด้วยค�ำเตือนและ ค�ำขู่เพื่อให้การท�ำทางกันไฟชนิดกว้างเสร็จสิ้น ด้วยความหวังว่าทาง กันไฟนี้จะประสานกับแม่น�้ำหลายสายเพื่อจ�ำกัดวงของไฟที่เกิดจาก การทิ้งระเบิด เพื่อนบ้านรายนี้ไม่เต็มใจเลยที่จะต้องยอมสละบ้านให้ ทางการเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่เมื่อวานนี้เองทางเทศบาล ได้ อ อกค� ำ สั่ ง ให้ นั ก เรี ย นหญิ ง ทุ ก คนที่ ยั ง แข็ ง แรงพอท� ำ งานได้ จ าก โรงเรียนมัธยมหลายแห่งมาช่วยกันจัดการเคลียร์พื้นที่สัก 3-4 วัน เพื่อท�ำทางกันไฟเหล่านี้ พวกแกเริ่มงานกันทันทีที่สัญญาณปลอดภัย สิ้นสุด คุณนากามูระเดินกลับเข้าครัว ตามองไปที่ข้าวแล้วมองกลับ ไปที่ชายผู้เป็นเพื่อนบ้านคนนั้น ทีแรกเธอออกจะร�ำคาญที่เขาท�ำเสียง ดังเกินไป แต่แล้วก็นึกสงสารจนแทบน�้ำตาคลอ นึกสงสารที่เขาต้อง รื้อบ้านของตัวเอง ทีละชิ้น...ทีละชิ้น ในช่วงเวลาที่การท�ำลายเป็น เรื่องเลี่ยงไม่ได้เช่นนี้ แน่นอนว่าเธอเองก็มีความรู้สึกร่วมกับชุมชน ซึ่ง จะไม่พูดอะไรในเรื่องการสงสารตัวเอง ชีวิตเธอเองก็ไม่ได้อยู่สบาย อิซาว่าผู้สามีไปเป็นทหารหลังมิเอโกะเกิดได้ไม่นาน จากนั้นเธอก็ ไม่ได้ข่าวจากเขาหรือได้ยินเรื่องราวใดๆ เกี่ยวกับเขาอยู่นาน กระทั่ง เมื่อถึงวันที่ 5 มีนาคม ปี 1942 จึงได้รับ ‘โทรเลขเจ็ดค�ำ’ ที่มีข้อความ ว่ า “อิ ซ าว่ า เสี ย ชี วิ ต เยี่ ย งวี ร บุ รุ ษ ที่ สิ ง คโปร์ ” ต่ อ มาเธอจึ ง ได้ รู ้ ร าย ละเอียดเพิ่มว่าเขาเสียชีวิตในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่สิงคโปร์ 22 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
แตก รวมถึงที่ว่าเขาได้ยศเป็นนายสิบ อิซาว่าไม่ใช่ช่างตัดเสื้อที่มีชื่อ เสียงหรือโดดเด่นอะไร จักรเย็บผ้ายี่ห้อซังโกกุคือสมบัติชิ้นเดียวที่ เขามี หลังจากเสียชีวิตและเงินชดเชยที่ได้หมดลง ภรรยาม่ายก็เริ่ม รับงานโดยใช้จักรตัวนั้น และนับแต่นั้นก็ได้อาศัยการเย็บผ้าเลี้ยงดูลูก แต่ก็อย่างย�่ำแย่เต็มที ขณะก�ำลังยืนมองเพื่อนบ้านคนนั้นอยู่นั่นเอง แสงสว่างขาว พร่างบาดตายิ่งกว่าสีขาวชนิดไหนที่เธอเคยเห็นก็วาบเข้ามา เธอไม่ ทันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนบ้านคนนั้น แต่ความเป็นแม่ท�ำให้เธอ พุ่งปราดไปที่ลูกๆ เธอเพิ่งก้าวออกมาได้เพียงก้าวเดียว (บ้านของเธอ อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของการระเบิด 1,350 หลา หรือเศษสาม ส่วนสี่ไมล์) เมื่ออะไรสักอย่างยกตัวให้ลอยขึ้น จากนั้นก็ดูราวกับว่า ร่างของเธอบินหวือไปตกบนแท่นนอนในห้องข้างๆ ตามด้วยชิ้นส่วน ต่างๆ ของตัวบ้าน ตอนเธอตกลงสู่พื้นนั้น ท่อนไม้ต่างๆ ลอยตกตามลงมาด้วย แผ่นมุงหลังคาร่วงกราวลงมากระแทกใส่ รอบตัวเธอมืดลง นัน่ ก็เพราะ เธอถูกสิง่ เหล่านัน้ ท่วมทับเอาไว้ ซากปรักพังเหล่านัน้ ไม่ได้ทบั เธอไว้ลกึ นัก คุณนากามูระจึงยืดตัวขึ้นและตะกายออกมาได้ ได้ยินเสียงเด็ก ร้อง “แม่จ๋า...ช่วยด้วย!” จากนั้นเห็นมิเอโกะ ลูกคนเล็กวัยห้าขวบถูก ฝังอยู่ลึกระดับอกจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้ คุณนากามูระคืบคลาน เข้าหาลูกน้อยด้วยความรู้สึกคลุ้มคลั่ง แต่ไม่เห็นหรือได้ยินเสียงจาก ลูกๆ อีกสองคนเลย ก่อนที่ระเบิดลูกนั้นจะถล่มลงมา นพ.มาซาคาสุ ฟูจิอิ เป็น คนมั่งคั่งและใช้ชีวิตแบบพวกสุขนิยม อีกทั้งช่วงนั้นงานไม่ค่อยยุ่งนัก จึงใช้เวลาไปกับการนอนตื่นสายอย่างสบายๆ นอนไปกระทั่งถึงเก้า เหยื่อฮิโรชิมา 23
โมงเช้าหรือบางทีก็เก้าโมงครึ่ง แต่โชคดีที่วันนั้นเขาต้องตื่นแต่เช้า เพื่อไปส่งเพื่อนซึ่งมาค้างคืนด้วยที่สถานีรถไฟ เขาลุกตั้งแต่หกโมงเช้า ครึ่งชั่วโมงถัดมาก็พากันเดินไปยังสถานีซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เพียงข้ามแม่ น�้ำสองสายเท่านั้น เจ็ดโมงเช้าก็กลับถึงบ้าน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที ่ สัญญาณปลอดภัยดังขึ้นพอดี เขาจัดการกับอาหารเช้า หลังจากนั้น ถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่ชุดชั้นใน เพราะวันนั้นอากาศร้อนแต่เช้า แล้ว ไปเอนกายอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงระเบียง ซึ่งระเบียงแห่งนี้ หรือจะ ว่ากันตามจริง...คืออาคารทั้งหลัง ถูกสร้างขึ้นอย่างแปลกๆ และ นพ. ฟูจิอิคือเจ้าของอาคารญี่ปุ่นหน้าตาแปลกๆ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชน ที่มีแพทย์ประจ�ำเพียงคนเดียวแห่งนี้ ตัวอาคารตั้งอยู่ริมน�้ำโดยสร้าง ล�ำ้ ไปเหนือแม่นำ�้ เคียวด้วย โดยอยูถ่ ดั จากสะพานซึง่ ก็ชอื่ เดียวกับแม่นำ�้ โรงพยาบาลมี 30 ห้ อ งส� ำ หรั บ รั บ คนไข้ 30 คนพร้ อ มญาติ พี่ น ้ อ ง เพราะตามธรรมเนียมญี่ปุ่นนั้น เมื่อใดก็ตามที่มีคนป่วยและต้องไป นอนโรงพยาบาล จะต้องมีญาติอย่างน้อยหนึง่ คนอยูค่ า้ งเป็นเพือ่ นด้วย เพื่อช่วยดูแลจัดการเรื่องอาหาร ท�ำความสะอาดร่างกาย บีบนวดหรือ อ่านหนังสือให้ฟัง เพื่อดูแลให้ก�ำลังใจกันตลอดเวลา ซึ่งหากไม่มีคน มาท� ำ หน้ า ที่ นี้ คนไข้ ช าวญี่ ปุ ่ น ก็ อ าจตกอยู ่ ใ นสภาพย�่ ำ แย่ ที เ ดี ย ว หมอฟูจิอิไม่มีเตียงให้คนไข้ มีเพียงเสื่อเท่านั้น แต่ส�ำหรับเครื่องไม้ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยนั้นเขามีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง เอ็ ก ซเรย์ อุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ า เพื่ อ ท� ำ ให้ ร ่ า งกายอบอุ ่ น และห้ อ งแล็ บ ปู กระเบือ้ งอย่างดี ตัวอาคารปลูกอยูบ่ นดินสองในสามส่วน ส่วนทีเ่ หลือ นั้นตั้งอยู่บนเสาที่ปักลงในแม่น�้ำเคียว ส่วนที่อยู่เหนือน�้ำคือส่วนที่ หมอฟูจิอิใช้เป็นที่พัก นี่คือส่วนที่มองดูประหลาด แต่เป็นส่วนที่อยู ่ แล้วเย็นสบายในช่วงฤดูร้อน ระเบียงแห่งนี้หันด้านหน้าไปหาด้าน 24 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
อื่นที่ไม่ใช่ตัวเมือง ท�ำให้เห็นแม่น�้ำ เห็นเรือล่องขึ้นลง จึงเพลิดเพลิน ได้ตลอดเวลา ก็มีบ้างบางเวลาที่หมอฟูจิอิไม่ค่อยสบายใจเมื่อมีน�้ำ เอ่อท่วมขึ้นมาที่ปากแม่น�้ำโอตะ แต่เสาส่วนที่ค�้ำอยู่ในน�้ำก็ดูแข็งแรง พอจะประคองรับตัวอาคารเอาไว้ได้ นพ.ฟูจิอิแทบไม่ได้ท�ำอะไรเลยมาเกือบเดือน นั่นก็เพราะใน เดือนกรกฎาคม จ�ำนวนตัวเลขของจังหวัดที่ยังไม่ถูกถล่มของญี่ปุ่น ลดน้อยลงเรื่อยๆ และดูเหมือนในขณะที่ฮิโรชิมาเป็นเป้าซึ่งชัดเจนยิ่ง ขึ้น ชนิดที่คงไม่รอดแน่ๆ แล้ว เขาก็เริ่มไม่รับคนไข้ด้วยเหตุผลหลักคือ หากเกิดการโจมตีด้วยระเบิดเพลิง เขาจะไม่สามารถย้ายคนไข้เหล่านี ้ ออกไปได้ทัน บัดนี้จึงเหลือผู้ป่วยอยู่เพียงสองคน คนหนึ่งเป็นผู้หญิง จากยาโนะ เธอได้รบั บาดเจ็บทีห่ วั ไหล่ อีกคนเป็นชายหนุม่ วัยประมาณ 25 ที่ ก� ำ ลั ง รั ก ษาแผลไฟไหม้ เ พราะโรงงานเหล็ ก ใกล้ ฮิ โ รชิ ม าที่ เ ขา ท�ำงานอยู่ถูกโจมตี นพ.ฟูจิอิมีพยาบาลหกคนไว้เป็นผู้ช่วย ภรรยากับ ลูกๆ อยู่ในที่ปลอดภัย โดยภรรยากับลูกชายคนหนึ่งไปพักอยู่นอก ตัวเมืองโอซาก้า ลูกชายอีกคนกับลูกสาวอีกสองไปอยู่ที่คิวชู เขามี หลานสาวมาอาศัยอยู่ด้วย นอกจากนั้นยังมีคนรับใช้หญิงชายอีก อย่างละหนึ่ง แม้แทบไม่มีอะไรท�ำแต่ก็ไม่รู้สึกอะไร นั่นก็เพราะเก็บ เงินไว้ได้จ�ำนวนหนึ่งแล้ว เขาอยู่ในวัย 50 ยังสุขภาพดี เป็นคนสุขุม ที่ชอบออกสังคม ชอบไปดื่มกับเพื่อนฝูงตอนเย็นๆ เพื่อพูดคุยเรื่อง โน้นเรื่องนี้ ก่อนสงครามปะทุ เขาชมชอบเหล้านอกจากสก๊อตแลนด์ หรือไม่ก็อเมริกา แต่บัดนี้พอใจอยู่แค่ยี่ห้อดีที่สุดของญี่ปุ่น นั่นก็คือ ซันโตรี่ นพ.ฟูจิอิลงนั่งขัดสมาธิในชุดชั้นในบนเสื่อไร้รอยสกปรกตรง ระเบียง หยิบแว่นมาสวมแล้วเริ่มอ่าน โอซาก้า อาซาฮี เขาชอบอ่าน เหยื่อฮิโรชิมา 25
เรื่องราวเกี่ยวกับโอซาก้าเพราะภรรยาอยู่ที่นั่น แล้วทันทีนั้นก็เห็นแสง สว่างวาบ ขณะนั้นเขาไม่ได้หันไปทางศูนย์กลางแห่งการระเบิด อีก ทั้งยังก้มหน้าอยู่กับหนังสือพิมพ์ ดังนั้น จึงรู้สึกว่าสิ่งนั้นเป็นเหมือน แสงสีเหลืองอันเจิดจ้า เขาลุกยืนอย่างตกใจ นาทีนั้นเองโรงพยาบาล ของเขา (ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแห่งการระเบิด 1,550 หลา) ก็ เอียงกระเท่เร่ มีเสียงกราวสนั่น แล้วอาคารนั้นก็ร่วงโครมลงไปใน แม่นำ�้ นายแพทย์เจ้าของโรงพยาบาลซึง่ ยังลุกยืนไม่เต็มตัวนัน้ เหมือน ถูกจับโยนไปข้างหน้า หมุนคว้าง แล้วหล่นโครมลง ร่างของเขาเหมือน ถูกจับกระชากไปกระชากมาจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ทุกสิ่งทุกอย่าง เกิดขึ้นเร็วมาก จากนั้นเขารู้สึกเหมือนตัวเองเปียกน�้ำ หมอฟูจิอิไม่ทันมีเวลาคิดด้วยซ�้ำว่าก�ำลังจะตาย ก็พอดีเขารับรู ้ ว่าตัวเองยังอยู่ ร่างถูกหนีบไว้แน่นด้วยไม้ยาวสองท่อนใหญ่ ทั้งตัวของ เขากลายเป็นเหมือนปลาที่ถูกคีบไว้ด้วยตะเกียบยักษ์ แถมยังยกลอย ไว้สูงกระทั่งเคลื่อนไหวไม่ได้ ที่น่าอัศจรรย์ก็คือส่วนหัวของเขาอยู่พ้น น�้ำ แต่ล�ำตัวและท่อนขายังอยู่ใต้น�้ำ ซากโรงพยาบาลกระจายอยู่รอบ ตัว มีของทุกประเภทสับสนปนเปไปหมด ตั้งแต่ท่อนไม้ เศษไม้ ไป จนถึงยาแก้ปวด ไหล่ซ้ายของเขาเจ็บสาหัส ส่วนแว่นสายตาคู่ชีพหลุด หายไปแล้ว ในเช้าของวันทีเ่ กิดระเบิดนัน ้ บาทหลวงวิลเฮล์ม ไคลน์ซอร์- เกอ ในสังกัดโซไซตี้ออฟจีซัสอยู่ในสภาพค่อนข้างย�่ำแย่ อาหารการ กินที่ได้รับปันส่วนในช่วงสงครามเช่นนี้นับว่าไม่พอ ทั้งยังเครียดกับ การเป็นคนต่างชาติอยู่ในสังคมที่กลัวชาวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ จะเป็นคนเยอรมัน ซึ่งปิตุภูมิกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ก็ยังไม่เป็นที่ 26 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
ยอมรับ คุณพ่อไคลน์ซอร์เกออายุ 38 แต่กลับมีลักษณะเหมือนเด็ก หนุ่มที่โตเร็วเกินไป ใบหน้าผอมเรียว ลูกกระเดือกโด่งแหลม แต่ไหล่ หลุบโหล มือสองข้างแกว่งไกวไปมา ส่วนเท้าสองข้างก็ใหญ่โต ท่าน เดินงุ่มง่าม ตัวโยนไปข้างหน้านิดๆ และรู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา ถ้า แค่นั้นยังไม่พอ...ท่านยังมีอาการไม่ดีมาได้สองวันแล้ว เป็นพร้อมๆ กันกับคุณพ่อซีสลิคบาทหลวงร่วมโบสถ์ นั่นก็คืออาการท้องร่วงฉับ พลัน ทั้งสองโทษว่าเป็นเพราะถั่วกับขนมปังสีด� ำที่ได้รับแจกและ จ�ำเป็นต้องกินเข้าไป แต่บาทหลวงอีกสองรูปที่พักอยู่ในโบสถ์นี้ซึ่งตั้ง อยูใ่ นเขตโนโบริ-โชเช่นกัน คือคุณพ่ออาวุโสลาซาลล์กบั คุณพ่อชิฟเฟอร์ นั้น รอดจากทุกข์ครั้งนี้ไปได้อย่างค่อนข้างอิ่มอกอิ่มใจ ในเช้าวันที่ระเบิดลูกนั้นถล่มลงมา คุณพ่อไคลน์ซอร์เกอตื่น ประมาณหกโมง ซึ่งออกจะสายไปหน่อย นั่นก็เพราะไม่สบาย พออีก ครึ่งชั่วโมงถัดมาท่านก็เข้าไปน�ำสวดอยู่ในโบสถ์ซึ่งความจริงคืออาคาร ไม้หลังเล็กๆ สร้างตามสไตล์ญี่ปุ่น คือไม่มีม้ายาวไว้ให้นั่ง ผู้ที่เข้ามา สวดมนต์จะคุกเข่าลงกับพื้นที่มีเสื่อปูตามแบบญี่ปุ่น ที่แท่นบูชามีผ้า ไหมชิ้นงามปูไว้ มีเครื่องทองเหลือง เครื่องเงิน กับผ้าปักชิ้นสวย เช้า วันนี้ซึ่งเป็นวันจันทร์ ผู้มาโบสถ์มีเพียงคุณทาเคโมโตะ นักศึกษาวิชา ศาสนวิทยาซึ่งพักที่โบสถ์นั้นด้วย, คุณฟูคาอิ-เลขานุการประจ�ำโบสถ์, คุณมูราตะ-คนดูแลท�ำความสะอาดซึ่งมีจิตศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า อย่างแท้จริง และมีบาทหลวงร่วมโบสถ์ หลังเสร็จพิธีมิสซา ขณะคุณ พ่อไคลน์ซอร์เกอก�ำลังอ่านบทสวด สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น คุณพ่อ จึงหยุดพิธี จากนั้นทั้งคณะออกจากห้องนั้นไปสู่อาคารที่ใหญ่กว่า เมื่อไปถึงห้องพักซึ่งอยู่ชั้นล่างด้านขวาของประตูใหญ่ด้านหน้า คุณ พ่อไคลน์ซอร์เกอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเครื่องแบบทหารซึ่งท่านได้รับแจก เหยื่อฮิโรชิมา 27
ตั้งแต่ครั้งไปสอนที่โรงเรียนมัธยมร็อกโกะที่โกเบ เป็นชุดที่ท่านจะใส่ เวลาได้ยินสัญญาณเตือนภัยทางอากาศ หลังสัญญาณปลอดภัยทุกครั้ง คุณพ่อไคลน์ซอร์เกอมักออก ไปส�ำรวจท้องฟ้าเสมอ คราวนี้พอก้าวออกไปก็รู้สึกยินดีที่ได้เห็นว่ามี เครื่องบินตรวจอากาศเพียงล�ำเดียวซึ่งมาบินเหนือน่านฟ้าฮิโรชิมาใน เวลาเดียวกันนี้ทุกวัน เมื่อแน่ใจแล้วว่าจะไม่มีอะไร ท่านจึงกลับเข้า ข้ า งใน ไปรั บ ประทานอาหารเช้ า อั น ประกอบด้ ว ยกาแฟเที ย มกั บ ขนมปังปันส่วนร่วมกับบาทหลวงคนอื่นๆ เป็นอาหารซึ่งนับว่าแสลง โรคทีเดียวส�ำหรับอาการของท่านในขณะนั้น เหล่านักบวชนั่งคุยกัน สักครู่ กระทั่งถึงแปดโมงเช้าเมื่อได้ยินสัญญาณปลอดภัย จึงแยกย้าย กันไปตามส่วนต่างๆ ของอาคาร คุณพ่อชิฟเฟอร์กลับขึ้นห้องเพื่อไป เขียนหนังสือ คุณพ่อซีสลิคกลับไปนั่งบนเก้าอี้พนักตรงที่ห้องพักของ ตัวเอง เอาหมอนกดท้องบรรเทาอาการปวดพลางอ่านหนังสือไปด้วย คุณพ่ออาวุโสลาซาลล์ยืนคิดอะไรบางอย่างอยู่ที่หน้าต่างในห้องนอน คุ ณ พ่ อ ไคลน์ ซ อร์ เ กอกลั บ ขึ้ น ห้ อ งพั ก ถอดเสื้ อ ผ้ า ออกหมดยกเว้ น กางเกงชั้นใน จากนั้นลงนอนแผ่บนเตียงผ้าใบแล้วเริ่มอ่านนิตยสาร “สติมเมิน เดอ เซต์” หลังแสงสว่างวาบอันน่าสะพรึงกลัวนั้น ซึ่งคุณพ่อไคลน์ซอร์- เกอจ�ำได้ว่าท�ำให้ท่านนึกถึงอะไรบางอย่างที่เคยอ่านพบครั้งยังเด็ก ว่าเป็นดาวตกดวงใหญ่พุ่งเข้าชนโลก ตอนนั้นท่านมีเวลาคิดถึงหนึ่งสิ่ง (เพราะโบสถ์อยูห่ า่ งจากศูนย์กลางของการระเบิด 1,400 หลา) ‘ระเบิด ตกลงมาตรงเราพอดี’ จากนั้น...อาจจะหลายวินาทีหรือหลายนาที... ที่ท่านหมดสติไปเลย คุณพ่อไคลน์ซอร์เกอนึกไม่ออกว่าตัวเองออกจากอาคารมาได้ 28 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
อย่างไร มารู้สึกตัวอีกทีตอนพบตัวเองก�ำลังวนเวียนอยู่ในแปลงผัก หลังตึก ทั้งร่างมีกางเกงในเพียงตัวเดียว ด้านซ้ายของล�ำตัวมีบาด แผลหลายจุดที่มีเลือดไหลบ้าง จ�ำได้ว่าอาคารอื่นๆ รอบๆ นั้นพังลง มาทั้งหมด ยกเว้นอาคารที่เป็นตึกที่พักเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ม ี บาทหลวงชื่อกร็อปเปอร์ ซึ่งกลัวเรื่องแผ่นดินไหวมากได้ท�ำการค�้ำยัน ตัวตึกครั้งแล้วครั้งเล่า จ�ำได้ว่าจู่ๆ รอบตัวก็กลายเป็นความมืด และ จ�ำได้ว่ามูราตะซัง คนดูแลท�ำความสะอาดซึ่งมาอยู่ใกล้ๆ นั้นร�่ำร้อง อยู่แต่ว่า “พระผู้เป็นเจ้าโปรดเมตตาด้วย!” นพ.เทรุ ฟู มิ ซาซากิ ศั ล ยแพทย์ ห นุ ่ ม สั ง กั ด โรงพยาบาล กาชาดอยู่ระหว่างเดินทางกลับเข้าฮิโรชิมาด้วยรถไฟจากบ้านในชนบท ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับมารดา เขาคิดถึงฝันร้ายเมื่อคืน บ้านแม่อยู่มูไก ฮาระ ห่างจากตัวเมือง 30 ไมล์ เขาต้องใช้เวลาสองชั่วโมงเดินทาง ด้วยรถไฟและรถรางกว่าจะถึงโรงพยาบาล เมื่อคืนเขานอนไม่ค่อย หลับเลย ซ�ำ้ ยังตืน่ เช้ากว่าปกติถงึ หนึง่ ชัว่ โมง รูส้ กึ ทัง้ ซึมเซาและเหมือน จะมีไข้ ท�ำให้สองจิตสองใจว่าจะเข้าโรงพยาบาลดีไหม แต่ในที่สุด ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ก็ท�ำให้ตัดสินใจไป เขาจึงขึ้นรถไฟเที่ยวเช้า กว่าที่เคย ฝันร้ายเมื่อคืนท�ำให้กลัวมากกว่าปกติ เพราะมันช่างดูใกล้ เคียงความจริง เขาอายุ 25 เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยแพทย์ อีสเทิร์น เมดิคลั ทีช่ งิ เต่า ประเทศจีน เป็นคนยึดมัน่ ในอุดมการณ์ เลยรูส้ กึ ย�ำ่ แย่ กับเครื่องไม้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลนในเขต ชนบทแถบบ้านแม่ เขาเริม่ ออกเยีย่ มคนไข้แถวนัน้ ตามล�ำพังโดยไม่ได้ ขออนุญาตใคร นั่นหมายถึงหลังการท�ำงานมาแล้วแปดชั่วโมงกับ การเดินทางอีกวันละสี่ชั่วโมง แต่เขาเรียนรู้เมื่อเร็วๆ นี้เอง ว่าโทษที ่ เหยื่อฮิโรชิมา 29
ได้รับจากการออกรักษาโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นรุนแรงทีเดียว เพื่อน แพทย์ที่เขาไปถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ดุด่าเอาอย่างรุนแรง กระนั้นเขายัง คงออกรักษาอยู่ ในความฝัน เขายืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ในเขตชนบท ทันใดนั้นก็มีต�ำรวจกับหมอคนที่เขาไปปรึกษาโผล่พรวดเข้ามา จับตัว เขาไว้ ลากออกไปข้างนอกแล้วลงมือทุบตีอย่างรุนแรง เขาคิดจะ ตั ดสิ น ใจขณะอยู ่ บ นรถไฟนั้ น เอง ว่ า จะเลิ ก ตรวจรั กษาที่ มู ไ กฮาระ เพราะดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับอนุญาต เพราะผู้มีอ�ำนาจคง แย้งว่า งานที่นั่นจะท�ำให้เป็นปัญหากับงานที่โรงพยาบาลกาชาดซึ่ง เขาท�ำอยู่ เมื่อถึงสถานีปลายทางหมอซาซากิต่อรถรางทันที (ซึ่งเขามากะ ได้ในเวลาต่อมาว่า หากเช้าวันนั้นเขาขึ้นรถขบวนที่เคยขึ้น และหาก ต้องคอยรถรางอีกสัก 2-3 นาทีเหมือนที่เคยต้องคอยอยู่บ่อยๆ เขาก็ คงเดินทางเข้าใกล้ศูนย์กลางแห่งการระเบิดในเวลาที่ปรมาณูลูกนั้น ระเบิดขึ้น และคงต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอน) วันนั้นเขาเดินทาง ถึงโรงพยาบาลเวลา 07.40 น. ตรงไปรายงานตัวกับหัวหน้าหน่วยศัลย แพทย์ พออีก 2-3 นาทีถัดมาก็เดินไปห้องคนไข้ที่ชั้นหนึ่ง เจาะเลือด จากแขนคนไข้ชายคนหนึ่งเพื่อเอาไปตรวจหาเชื้อซิฟิลิส ห้องแล็บที่ม ี ตู้อบส�ำหรับการตรวจชนิดนี้อยู่ที่ชั้นสาม เขาถือตัวอย่างเลือดด้วยมือ ซ้าย เดินด้วยท่าเหมือนไม่มีสมาธิอย่างที่เป็นมาตลอดเช้าวันนี้ ซึ่งอาจ เป็นเพราะฝันร้ายนั่นบวกกับอาการนอนไม่หลับ เขาเดินไปตามเฉลียง ใหญ่ ตรงเข้าหาบันได และเพิ่งก้าวผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่บานหนึ่งมา ได้ก้าวเดียวตอนที่ล�ำแสงสว่างจ้าเหมือนแสงแฟลชขนาดยักษ์ของ ระเบิดลูกนั้นวาบเข้ามาถึงเฉลียง เขาคุกเข่าลงไปข้างหนึ่งแล้วพูดกับ 30 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
ตัวเองออกมา (อย่างที่คนญี่ปุ่นเท่านั้นจะพูด) ว่า “ซาซากิ กัมบาเระ! กล้าหาญเข้าไว้!” แล้วทันทีนั้นเองแรงระเบิดก็กระแทกเข้ามาในโรง พยาบาล (ซึ่งอยู่ห่าง 1,650 หลาจากศูนย์กลางแห่งการระเบิด) แว่น สายตาหลุดกระเด็นจากใบหน้า หลอดตัวอย่างเลือดกระเด็นกระแทก ฝาผนัง รองเท้าแตะแบบญี่ปุ่นฉีกควากหลุดจากใต้เท้า แต่นอกเหนือ จากนี้แล้วก็ต้องขอบคุณพื้นที่ที่เขายืนอยู่ในขณะนั้น เพราะมันท�ำให้ ปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บ หมอซาซากิตะโกนหาหัวหน้าศัลยแพทย์แล้วรีบวิ่งไปที่ห้อง ท�ำงานของฝ่ายนัน้ พบว่าเขาถูกกระจกบาดสาหัสมาก ทัง้ โรงพยาบาล เต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน ฉากหนักๆ ที่ใช้กั้นห้องรวมทั้งฝ้า เพดานตกลงมาใส่คนไข้ เตียงนอนพลิกคว�่ำ กระจกหน้าต่างหลุดปลิว ลิ่วเข้ามาบาดคน เลือดกระจายไปทั่วทั้งที่ผนังและบนพื้น เครื่องไม้ เครื่องมือกระจัดกระจาย คนไข้จ�ำนวนมากวิ่งวนไปมาพลางร้องระส�่ำ และมีอีกมากที่เสียชีวิตแล้ว (เพื่อนร่วมงานประจ�ำห้องแล็บที่เขาก�ำลัง เดินไปก็เสียชีวิต ส่วนคนไข้ที่เขาเพิ่งเดินจากมา ซึ่งเมื่อครู่ยังหวาด หวั่นกับโรคซิฟิลิสอย่างมากนั้น ตอนนี้ก็เสียชีวิตแล้วเช่นกัน) หมอ ซาซากิพบว่าเขาเป็นแพทย์เพียงคนเดียวของโรงพยาบาลแห่งนี้ที่ ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ นพ.ซาซากิซึ่งเชื่อว่าข้าศึกโจมตีเฉพาะอาคารหลังนี้ หาชุดท�ำ แผลแล้วเริ่มจัดการท�ำแผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ในตัวอาคาร ส่วน ที่ด้านนอก ทั่วทั้งตัวเมืองฮิโรชิมา ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งที่สาหัสและใกล้ ตายต่างเริ่มปฏิบัติการ “บุก” เข้ามาในโรงพยาบาลกาชาด อันท�ำให้ นพ.ซาซากิลืมฝันร้ายส่วนตัวไปอีกแสนนาน เหยื่อฮิโรชิมา 31
ในวันที่ปรมาณูระเบิด โตชิโกะ ซาซากิ (ซึ่งไม่ได้เป็นอะไร กับ นพ.ซาซากิ) เสมียนประจ�ำแผนกบุคคลของบริษัทอีสต์เอเชียทิน เวิร์ก ตื่นตอนตีสาม นั่นก็เพราะมีงานบ้านต้องท�ำมากขึ้น เมื่อวานนี ้ อากิโอะน้องชายวัย 11 เดือนของเธอไม่สบายมาก ปวดท้องอย่าง รุนแรง แม่พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเด็กทามูระและต้องอยู่เฝ้าน้อง ที่นั่น ซาซากิซึ่งอยู่ในวัย 20 จึงต้องท�ำอาหารเช้าให้พ่อ น้องชาย น้อง สาว และตัวเอง และเนื่องเพราะเป็นช่วงสงคราม ทางโรงพยาบาลจึง ไม่อาจเตรียมอาหารให้คนไข้ เธอจึงต้องเตรียมอาหารให้พอทั้งวัน ส�ำหรับทั้งแม่และน้อง รวมทั้งส�ำหรับผู้เป็นพ่อ ซึ่งต้องไปท�ำงานที่ โรงงานผลิตยางอุดหูส�ำหรับทหารปืนใหญ่ กว่าจะเสร็จทั้งท�ำกับข้าว และเก็บล้างทุกอย่าง ก็ปาเข้าไปเกือบเจ็ดโมง บ้านอยู่ที่โคอิ เธอจึง ต้องใช้เวลาเดินทาง 45 นาทีกว่าจะถึงโรงงานซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่คันนอน มาชิ โตชิโกะดูแลทะเบียนประวัติของพนักงานในโรงงาน เธอออก จากโคอิตอนเจ็ดโมงเช้า และทันทีที่ถึงที่ท�ำงาน เธอกับพนักงานสาวๆ อีกจ�ำนวนหนึ่งก็ตรงไปที่ห้องประชุมใหญ่ของบริษัททันที นั่นก็เพราะ อดีตพนักงานซึ่งไปเป็นทหารเรือและเป็นที่รู้จักกันดีคนหนึ่งเพิ่งฆ่าตัว ตายด้วยการกระโดดให้รถไฟทับเมื่อวานนี้เอง เป็นความตายที่นับว่า มีเกียรติพอทีจ่ ะได้รบั อนุมตั ใิ ห้มกี ารจัดพิธใี ห้ โดยพิธจี ะจัดขึน้ ทีโ่ รงงาน ดีบุกแห่งนี้ในเวลาสิบนาฬิกา ซาซากิกับเพื่อนๆ ช่วยกันจัดเตรียมที่ ทางส�ำหรับพิธีในห้องประชุมใหญ่ ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นซาซากิกลับไปนั่งที่โต๊ะท�ำงานในห้องซึ่งด้านซ้ายมือ ของเธอมีหน้าต่างอยู่หลายบาน ข้างหลังโต๊ะเป็นตู้หนังสือสูงสองตู้ ซึง่ อัดแน่นด้วยหนังสือของโรงงาน ตูน้ อี้ ยูใ่ นความดูแลของแผนกบุคคล ซาซากิลงนัง่ จัดแจงตัวเองอยูท่ โี่ ต๊ะ หยิบของบางอย่างใส่ลนิ้ ชัก จัดแจง 32 ฉัตรนคร องคสิงห์ แปล
เอกสารบนโต๊ะ ในใจคิดว่าก่อนเริ่มจดบันทึกเกี่ยวกับพนักงานใหม่ ทั้งที่ถูกปลดและพวกที่ออกไปเข้ากองทัพ เธอจะคุยกับเพื่อนหญิงที่ อยู่โต๊ะทางด้านขวาสักหน่อย จังหวะที่เธอหันหน้าไปทางด้านตรงกัน ข้ามกับหน้าต่างนั่นเอง ทั้งห้องก็สว่างวาบขึ้นด้วยล�ำแสงเจิดจ้าชนิด บาดตา (โรงงานแห่งนัน้ อยูห่ า่ งจากจุดศูนย์กลางแห่งการระเบิด 1,600 หลา) เธอนั่งตัวแข็งทื่อด้วยความกลัว อึ้งตะลึงอยู่กับเก้าอี้เป็นเวลา นาน ข้าวของทุกอย่างตกลงมาท่วมถม ซาซากิสนิ้ สติ เพดานยุบยวบ ลงมา พื้นไม้ของชั้นบนหลุดตามลงมาเป็นชุด คนที่อยู่ข้างบนร่วงลง ข้างล่าง ส่วนฝ้าทีอ่ ยูเ่ หนือหัวขึน้ ไปก็พงั ตามพวกเขาลงมา แต่ทหี่ ลักๆ และเกิดขึ้นก่อนอย่างอื่นก็คือตู้หนังสือสองใบที่อยู่ด้านหลังถลาคว�่ำ โครมลงมา บรรดาหนังสือที่อยู่ในนั้นร่วงลงใส่เธอจนล้มลง ขาซ้าย ของเธอหักบิดจนผิดรูปผิดร่าง นัน่ เป็นครัง้ แรกของยุคปรมาณู ทีม่ นุษย์ ถูกถล่มด้วยหนังสือ
เหยื่อฮิโรชิมา 33