คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม3

Page 1


คังซี

จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3 ตอน ยุทธนาวีชิงไต้หวัน สงครามปราบข่านมองโกล เอ้อเยว่เหอ  เขียน เรืองชัย รักศรีอักษร  แปล

กรุงเทพมหานคร  ส�ำนักพิมพ์มติชน  2558


คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3 • เรืองชัย รักศรีอักษร แปล จากเรื่อง《康熙大帝·玉宇呈祥》ของ  二月河 Copyright © 2009 by  二月河. All rights reserved. Thai Language Copyright © 2015 by Matichon Publishing House. All rights reserved. Published by arrangement with  长江文艺出版社 Through Tuttle-Mori Agency Co., Ltd. พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, มีนาคม 2558 ราคา  390  บาท ข้อมูลทางบรรณานุกรม เอ้อเยว่เหอ. คังซี  จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3. กรุงเทพฯ : มติชน, 2558. 560 หน้า. 1. วรรณกรรมจีน I. เรืองชัย รักศรีอักษร, ผู้แปล  II. ชื่อเรื่อง 895.13 ISBN  978 - 974 - 02 - 1387 - 1 ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์  : อารักษ์ ​คคะนาท, สุพจน์  แจ้งเร็ว, สุชาติ  ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์  สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์  พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์  : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์  : รุจิรัตน์  ทิมวัฒน์ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์  บุนปาน • หัวหน้ากองบรรณาธิการ : พัลลภ สามสี บรรณาธิการต้นฉบับ : ภาวินีย์  สังขรัตน์  • บรรณาธิการเล่ม : จันทรัตน์  สิงห์โตงาม พิสูจน์อักษร : ชัยรัตน์  เลิศรัตนาพร • กราฟิกเลย์เอาต์  : กิตติชัย ส่งศรีแจ้ง ศิลปกรรม-ออกแบบปก : นุสรา สมบูรณ์รัตน์ ประชาสัมพันธ์  : ตรีธนา น้อยสี หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�ำนวนมากในราคาพิเศษ  เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3353 โทรสาร 0-2591-9012 www.matichonbook.com บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) : 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์  0-2580-0021 ต่อ 1235  โทรสาร 0-2589-5818 แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองงานเตรียมพิมพ์  บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  1  เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900  โทรศัพท์  0-2580-0021 ต่อ 2400-2402 พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด 27/1 หมู่  5 ถนนสุขาประชาสรรค์  2 ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี  11120 โทรศัพท์  0-2584-2133, 0-2582-0596  โทรสาร 0-2582-0597 จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี  จำ�กัด (ในเครือมติชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  1  เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900  โทรศัพท์  0-2580-0021 ต่อ 3350-3353 โทรสาร 0-2591-9012 Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd, Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ  ลดภาวะโลกร้อน  และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน


สารบัญ

ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ค�ำน�ำผู้แปล แนะน�ำตัวละครส�ำคัญ

บทที่ 1 น�้ำล้อมเมือง แม่อบรมลูกชาย ตงฉินขัดค�ำสั่ง ช่วยราษฎรประสบภัย บทที่ 2 คังซีลงโทษคนร้ายปล่อยองค์หญิง เผิงเสวเหรินได้รับพระเมตตาจากฮ่องเต้ บทที่ 3 หยางฉี่หลงนึกถึงอดีตที่หน้าศาลเจ้า เกาสื้อฉีรักษาโรคที่จวนสกุลหาน บทที่ 4 ป้าหลิวชิงเจ้าสาวช่วยสะใภ้ คนพเนจรประชันกลอนพบสหายเก่า บทที่ 5 เฉินหวงจุดเทียนเฝ้าหญิงสาวจนสว่าง อาซิ่วรับแม่บุญธรรม ตกหลุมรัก บทที่ 6 โอรสสวรรค์เสด็จตรวจแม่น�้ำที่เปี้ยนเหลียง ถูไห่ถูกตัดสินความดีความชอบ บทที่ 7 แสวงหาคนเก่ง เมื่อเจอกลับไม่รู้ กลัวภัยกลับก่อภัย ไม่อาจฝืนพระบัญชา บทที่ 8 บัณฑิตนอกราชการกล่าวถึงการจัดการแม่น�้ำ เสี้ยวเหลียนต�่ำต้อยยกนิทานด่ากระทบคน บทที่ 9 ชมสุ่ยเซียนเกาสื้อฉีหลงรักฟางหลาน โม่จวี๋ทูลฟ้องหมิงจู บทที่ 10 เขียนประวัติศาสตร์หมิงเอ่ยถึงขุนนางสองราชวงศ์ ใช้คารมก่นด่าขุนนางที่กุมอ�ำนาจ

7 9 10 19 29 38 48 57 66 75 83 93 103


บทที่ 11 ตกระก�ำล�ำบากได้พบผู้สูงศักดิ์ บัณฑิตเจ้าส�ำราญพบหญิงคนรัก บทที่ 12 มอบจี้หยกหมั้นหมายในศาลเจ้า ฮ่องเต้ฟังเรื่องสนุกในจวนอ�ำมาตย์ บทที่ 13 เจ้ากับขุนนางปรึกษาการจัดการแม่น�้ำที่พระต�ำหนักจงเหอ บัณฑิตประชันความรู้ที่หอถี่เหริน บทที่ 14 ขุนนางสมคบคิดก่อกบฏ ฮ่องเต้รับบัณฑิตตามความรู้ บทที่ 15 ถวายต้นไม้มงคลเกาสื้อฉีเหนือกว่าทุกคน จิ้นฝู่ตกตะลึงพบธิดาข่าน บทที่ 16 นางแอ่นคู่พลัดพราก ยากจะข้ามห้วงทุกข์ หวังใกล้ห่วงไกล ใช้อุบายให้เป็นที่โปรดปราน บทที่  17 บัณฑิตอธิบายต้นเหตุในวิหารน้อย ฮ่องเต้ตรัสปลอบขุนพลในพระต�ำหนักหย่างซิน บทที่  18 ขุนนางดีปกป้องชาวบ้านต�ำหนิข้าหลวงแม่น�้ำ ตัวแทนพระองค์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย บทที่  19 อวี๋เฉิงหลงเปิดศาลตัดสินคดี เฉินเทียนอียอมเสียเงินเพื่อความสงบ บทที่  20 เผชิญผู้ว่าการเขตโง่งมป้องกันเขื่อน ข้าหลวงรู้สึกผิด ต้อนรับตัวแทนพระองค์ บทที่  21 เว่ยเสี้ยงซูกล่าวโทษข้าหลวงจัดการแม่น�้ำ อีซังอาโต้แย้งจนได้รับความอับอาย บทที่ 22 ปิดสนามสอบคังซีเปิดคดีหลวง คดีโกงสอบแดนใต้  หมิงจูเตะกระดานหมาก บทที่ 23 อัจฉริยะประหลาดรับสินบน เกาสื้อฉีวางแผนเคาะระฆังไม้ บทที่ 24 เกาสื้อฉีวิจารณ์คดีใหญ่ เจ้ากับขุนนางหารือราชกิจผ่านเรื่องดาวหาง บทที่ 25 แม่ทัพหารือการบุกไต้หวัน ขุนนางคนโปรดประสบเคราะห์ บทที่ 26 เว่ยตงถิงมาถวายรายงานที่เมืองหลวง คังซีเสด็จประพาสล่าเสือทางเหนือ บทที่ 27 คังซีประชวรพักโรงเตี๊ยมซิงหลง ป้าหลิวรุดมาต�ำบลหลงหัวกลางดึก

111 118 126 136 145 154 165 173 181 190 200 209 218 226 237 244 254


บทที่ 28 คังซีตะลึงในความงามรับธิดาข่านไว้ อ�ำมาตย์ใหญ่คุยเรื่องอาหารพูดถึงการดูแลสุขภาพ บทที่ 29 คังซีเสด็จเยี่ยมโจวเผยกงกลางดึก เกาเจียงชุนตรวจชีพจรไท่ซู่ บทที่ 30 ใช้ทั้งพระเดชและพระคุณสยบหวังมองโกล หญิงบ้านนอกพูดล้อฮ่องเต้ บทที่ 31 ขันทีน้อยวางอ�ำนาจที่อ�ำเภอซานเหอ ขุนนางเที่ยงตรงทูลต�ำหนิต่อหน้าพระพักตร์ บทที่ 32 กัวซิ่วเพ็ดทูลชี้ความผิด ข้าหลวงเร่งสงครามทางทะเล กวงตี้ถวายฎีกา บทที่ 33 แม่ทัพใหญ่เสี่ยงทายเหรียญปลุกขวัญทหาร ลั่นกลองศึกซือหลางกินลูกตาตนเอง บทที่ 34 หลานหลี่ขอออกรบทั้งที่ไส้ทะลัก ล่อข้าศึกออกรบ เรือธงบุกยึดหัวหาด บทที่ 35 รบชนะไต้หวันจิ้นชิงได้เลื่อนต�ำแหน่ง อ�ำมาตย์ใหญ่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายพูดจาข่มขู่ บทที่ 36 หลี่กวงตี้ปิดบังงานศพหวังต�ำแหน่ง เกาสื้อฉีปกป้องขุนนางซื่อหมายชื่อเสียง บทที่ 37 ไต่สวนขุนนางซื่อตรงปลอบขวัญนักโทษ ทรงตรวจดูแม่ทัพจอมงีบหลับผ่านหน้าต่าง บทที่ 38 ในพิธีฉลองชัยขุนนางเหมือนนั่งบนหมอนเข็ม บัณฑิตต้องโทษได้รับการกระตุ้น บทที่ 39 ฮ่องเต้ทรงเล่นงิ้วแสดงความกตัญญู ขุนนางใหญ่ฟังอบรมมิให้เล่นพรรคเล่นพวก บทที่ 40 มู่จื่อสวี้ลงใต้ก�ำจัดภัยร้าย ทดสอบวิชายุทธ์จนอวี๋อีสื้อท้อใจ บทที่ 41 มู่จื่อสวี้ใช้ปัญญาพักในวัดผีหลู หยางฉี่หลงแสดงความโหดเหี้ยมริมแม่น�้ำฉางเจียง บทที่ 42 นักพรตชิงเฟิงยึดถือคุณธรรมช่วยสหาย ข้าหลวงชั่วกลัวถูกสอบสวน บทที่ 43 ประทับเรือมังกรตรวจงานแม่น�้ำ  หลานอดีตขุนนางใหญ่ตกยาก บทที่ 44 ถามถึงขุนนางชั่วเหล่าอ�ำมาตย์หน้าถอดสี คังซีพระราชทานการวิวาห์

262 271 283 293 303 314 322 329 338 346 356 365 376 385 393 402 412


บทที่ 45 แม่ลูกใช้คารมหลอกโจรใหญ่ ฮ่องเต้ตรัสแก้ไขสถานการณ์ร้าย บทที่ 46 เหล่าขุนนางเมืองจินหลิงรับเสด็จคังซี กังฉินถูกลงทัณฑ์เพราะถวายหนังสือนอกรีต บทที่ 47 คังซีระดมเบี้ยหวัดทหารด้วยคุณธรรม แม่ยกประวัติศาสตร์สอนลูกกตัญญู บทที่ 48 คังซีทรงกันแสงอาลัยพระอาจารย์ ประทับแรมวัดหลิงกู่  ขุนนางฟ้องคดีหลวง บทที่ 49 ฮ่องเต้เสด็จเยือนศาลขงจื่อ ซูหมาหล่ากูรู้ข่าวร้าย เล่าถึงความผิดหวัง บทที่ 50 พระแม่เจ้าประชวรที่วังฉือหนิง เหล่าขุนนางอวยพรวันเกิดที่จวนมหาอ�ำมาตย์ บทที่ 51 กัวซิ่วบุกงานเลี้ยงกล่าวโทษอ�ำมาตย์ใหญ่ หมิงจูถูกยึดทรัพย์  ปรึกษาคนเจ้าปัญญา บทที่ 52 กระต่ายหมดรูกินสุนัข ขุนนางใหญ่ถูกจับ ขุนนางดีสละตนช่วยบัณฑิต บทที่ 53 โอรสสวรรค์ประกอบพระราชพิธีศพ อ�ำมาตย์ใหม่คุยเรื่องวิธีท�ำให้เป็นคนโปรด บทที่ 54 ชิงอ�ำนาจทหารอ�ำมาตย์สั่วเข้าจวนสกุลถง หารือการรบตะวันตกราชบัณฑิตถูกโต้แย้ง บทที่ 55 คังซีน�ำทัพออกจากเมืองหลวง จาก้งละเลงเลือดรับทัพกบฏ บทที่ 56 ทัพสวรรค์รบใหญ่ที่แม่น�้ำปู้ทง นึกถึงพระเมตตาออกอุบายหยุดทหารหนีทัพ บทที่ 57 ระดมทัพบุกท�ำลายแนวก�ำแพงอูฐ เก่อเอ่อตานแสร้งขอยอมจ�ำนนหนีไปกลางดึก บทที่ 58 สยบดินแดนตะวันตกแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว แม่น�้ำเหลืองใสสะอาดเป็นศุภนิมิต

421 429 437 447 457 467 477 487 497 507 517 526 536 546


ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์

หลังปราบกบฏสามหัวเมืองอิสระและลัทธิจงซานหลางของจูซานไท่จื่อจนราบคาบ  แล้ว อาณาจักรต้าชิงก็สงบเรียบร้อยในระดับหนึ่ง ทว่าสิ่งหนึ่งยังคอยรบกวนจิตใจของ  ฮ่องเต้คังซีวัยฉกรรจ์นั่นคือค�ำว่า “เอกภาพ”  ส�ำหรับคังซี  ดินแดนที่ยังไร้เอกภาพย่อม  ไม่ใช่  “แผ่นดินทอง” เฉกเช่นรัชสมัยอันรุ่งเรืองของฮ่องเต้ถังไท่จงและซ่งไท่จู่ที่ราษฎรยัง  โหยหา ไกลออกไปยังน่านน�้ำทางใต้  ไต้หวันยังคงแยกตัวเป็นอิสระ การตายของเจิ้งเฉิงกง  ขุนพลผู้ปกครองไต้หวันและผู้ช�ำนาญการศึกในทะเลเป็นเสมือนลางบอกเหตุแห่งสงคราม  เมื่อเสบียงพรั่งพร้อม ขวัญสู้รบของเหล่าทหารชิงยังฮึกเหิม จึงไม่มียามใดอีกแล้วที่จะ  เหมาะแก่การเปิดฉากยุทธนาวีชว่ งชิงไต้หวันกลับคืนสูแ่ ผ่นดินแม่เพือ่ บูรณภาพแห่งดินแดน  เท่ายามนี้   ในการนี้คังซีจ�ำต้องขัดแย้งกับขุนนางกว่าครึ่งราชส�ำนักที่ไม่เห็นด้วยกับการ  เปิดศึกทางทะเลอันเป็นสมรภูมิที่ทหารชิงไม่คุ้นเคย ห่างไปไกลถึงชายแดนด้านเหนือ เก่อเอ่อตานข่าน ผู้น�ำเผ่าจุ่นเก่อเอ่อยังเฝ้าใฝ่ฝัน  ถึงอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของเจงกิสข่าน ซ�้ำยังได้รัสเซียคอยหนุนหลัง จึงสังหารข่านด้วย  กันเองและปล้นชิงทุง่ หญ้าอย่างอุกอาจเพือ่ หาทางแยกตัวเป็นอิสระจากต้าชิง สถานการณ์  ระหว่างชนเผ่าระส�่ำระสายเข้าขั้นวิกฤต คังซีจึงต้องน�ำทัพใหญ่ไปสยบความเหิมเกริม  ของข่านผู้นี้ด้วยพระองค์เอง ใน คังซี  จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3 ตอน ยุทธนาวีชิงไต้หวัน-สงครามปราบข่าน มองโกล จะเสมือนผู้อ่านได้เข้าไปร่วมในสองสมรภูมิประกาศแสนยานุภาพของต้าชิง  หนึ่งคือสงครามที่เกาะเผิงหูภายใต้บัญชาการของซือหลาง แม่ทัพห้าวหาญผู้สร้างต�ำนาน  กินลูกตา อีกหนึง่ คือสมรภูมนิ องเลือดบนหลังม้าทีว่ หู ลานปูท้ งภายใต้การน�ำของเฟยหยางกู่ อีกครั้งที่  เอ้อเยว่เหอ ร่ายมนตร์แห่งตัวอักษร ร้อยเรียงประวัติศาสตร์ต้าชิง สะท้อนภาพ  ฮ่องเต้คังซีผู้เปี่ยมด้วยอุดมการณ์และชั้นเชิงทางการเมือง ทั้งความทระนงในฐานะโอรส  สวรรค์และความโดดเดี่ยวอันล�้ำลึกของฮ่องเต้เมื่อต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่  แทรกด้วยเรื่องรักแสนตรึงใจของอาซิ่ว เจ้าหญิงมองโกลผู้มีกลิ่นกายหอมกรุ่น  เฉินหวง  บัณฑิตหนุ่มผู้ขันอาสาสยบแม่น�้ำเหลืองอันเชี่ยวกราก  กัวซิ่ว ขุนนางผู้อาจหาญก�ำราบ  คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3 7


ขันที  ต�ำหนิฮ่องเต้   เกาสื้อฉี  บัณฑิตหนุ่มเจ้าปัญญาผู้คอยสร้างสีสันให้แก่ราชส�ำนัก  อันเคร่งขรึมของคังซี   และหลากเรื่องราวอุทาหรณ์ชีวิตอันรุ่งเรืองและอับเฉาของเหล่า  ขุนนางผู้กุมอ�ำนาจในราชส�ำนักชิง   ไหวพริบเฉียบแหลมและเรือ่ งราวพลิกผันสุดสะเทือนใจจะชวนให้ผอู้ า่ นต้องตามติด  ตัง้ แต่ตน้ จนจบ ก่อนจะถึงเล่มสุดท้ายอันเป็นบทสรุปแห่งรัชสมัยหนึง่ ทีร่ งุ่ เรืองยิง่ ในประวัต ิ ศาสตร์จีน ส�ำนักพิมพ์มติชน

8  เรืองชัย  รักศรีอักษร แปล


ค�ำน�ำผู้แปล

คังซี จอมจักรพรรดิตา้ ชิง เล่ม 3 ตอน ยุทธนาวีชงิ ไต้หวัน-สงครามปราบข่านมองโกล  ด�ำเนินเรือ่ งมาถึงวัยหนุม่ ของฮ่องเต้คงั ซี  พร้อมกับสามภารกิจยิง่ ใหญ่ทที่ �ำให้ประวัตศิ าสตร์  จารึกว่านี่เป็นยุคทองยุคหนึ่งของจีนและของราชวงศ์ชิง คือการท�ำยุทธนาวีชิงไต้หวันกลับ  คืนมาสู่จีน สงครามปราบข่านมองโกลเก่อเอ่อตาน ผู้หวังจะสร้างชาติมองโกลให้เป็น  อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เยี่ยงเจงกิสข่านในอดีต และงานการควบคุมแม่น�้ำเหลือง สายน�้ำที่  ได้ชื่อว่าแม่น�้ำวิปโยคซึ่งต้องทุ่มเทงบประมาณและผู้คนมหาศาล รวมทั้งใช้เวลานับสิบปี  เมือ่ อ่านจบจะท�ำให้เราเข้าใจว่าเหตุใดนักประวัตศิ าสตร์จงึ ยกย่องให้คงั ซีเป็นหนึง่ ในฮ่องเต้  ที่ยิ่งใหญ่ของจีน ตอนที่สามยังมีบุคคลที่โดดเด่นมากมายในยุคชิงตอนต้นออกมาสร้างสีสัน ทั้งเกา  สือ้ ฉีบณ ั ฑิตจอมกะล่อน และมหาอ�ำมาตย์คพู่ ระทัยของคังซี  เฉินหวงบัณฑิตหนอนหนังสือ  ที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อควบคุมแม่น�้ำเหลือง หลี่กวงตี้ราชบัณฑิตผู้ดีจอมปลอมที่หวังลาภยศชื่อ  เสียงจนละเลยคุณธรรมทอดทิ้งลูกเมีย อาซิ่วองค์หญิงแห่งมองโกลซึ่งเร่ร่อนมาจงหยวน  เพือ่ แก้แค้นแทนบิดาและชิงบ้านเกิดคืน ต่อมานางได้เป็นพระสนมของคังซีและร่วมไปกับ  กองทัพปราบเก่อเอ่อตานซึ่งคังซีทรงน�ำทัพไปด้วยพระองค์เอง ตอนที่สามยังเป็นการเปิดตัวเหล่าพระโอรสหรือบรรดาอาเกอ ทั้งองค์ชายใหญ่  องค์ชายรองซึ่งเป็นพระยุพราช องค์ชายสาม และองค์ชายสี่  ฯลฯ  ต่อมาองค์ชายเหล่านี้  จะเป็นผู้เดินเรื่องในตอนที่สี่ของนิยายชุดนี้  อันกล่าวถึงศึกสายเลือดเพื่อชิงต�ำแหน่ง  ผู้สืบทอดบัลลังก์แห่งต้าชิง  ผู้แปลหวังว่าผู้อ่านจะได้รับความรู้และความบันเทิง ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จีน  ช่วงต้นของราชวงศ์ชงิ ผ่านนิยายอิงประวัตศิ าสตร์เรือ่ งนี  ้ รวมทัง้ ได้แง่คดิ ในการด�ำเนินชีวติ   จากตัวละครมากมายในเรื่องซึ่งเป็นบุคคลจริง พวกเขาประสบชะตากรรมต่างๆ กัน ทั้งดี  และร้าย รุ่งโรจน์และตกต�่ำ  สมหวังและผิดหวัง บางครั้งก็ไม่อาจฝืนชะตาลิขิตได้  แต่ก็ยัง  ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ของตนต่อไป เรืองชัย  รักศรีอักษร คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3 9


แนะน�ำตัวละครส�ำคัญ

เกาสื้อฉี

บัณฑิตจอมกะล่อน เดิมฐานะยากจน เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก ฉลาด  เจ้าเล่ห์  ไม่ยึดติดกับแบบแผน ชอบแกล้งคน  ต่อมาเป็นอ�ำมาตย์คู่ใจ  ของคังซี

เฉินหวง

บัณฑิตหนอนหนังสือ อัจฉริยะด้านชลประทาน มีปณิธานที่จะควบคุม  แม่น�้ำเหลือง ป้องกันน�้ำท่วม ทุ่มเทชีวิตเพื่องานโดยไม่หวังลาภยศ

จิ้นฝู่

ข้าหลวงใหญ่ส�ำนักจัดการแม่น�้ำ  เป็นผู้ที่ทุ่มเทท�ำงาน มีเฉินหวงเป็น  ที่ปรึกษา

อวี๋เฉิงหลง

บัณฑิตหัวรั้น เป็นขุนนางที่ซื่อตรง กล้าต่อสู้กับความอยุติธรรมอย่าง  ไม่กลัวเกรง

หลี่กวงตี ้

ผู้ดีจอมปลอม มาจากครอบครัวพ่อค้า ต่อมาได้เป็นราชบัณฑิต ยึดติด  ในชื่อเสียงและต�ำแหน่ง  เขาสนับสนุนการท�ำสงครามยึดคืนไต้หวัน

ซือหลาง

แม่ทัพเรือที่ยกกองเรือไปพิชิตไต้หวัน เชี่ยวชาญการรบทางทะเล เป็น  แม่ทัพที่ห้าวหาญและช�ำนาญกลศึก

เก่อเอ่อตาน

ข่านมองโกลแห่งเผ่าจุ่นเก่อเอ่อ เป็นคนโหดเหี้ยม มีความทะเยอทะยาน  ต้องการสร้างอาณาจักรมองโกลขึ้นใหม่  ท�ำสงครามยึดครองเผ่าต่างๆ  จนเป็นปฏิปักษ์กับราชส�ำนักชิง  ภายหลังเก่อเอ่อตานพ่ายแพ้และปลิด  ชีวิตตัวเอง

อาซิ่ว

หรื อ องค์ ห ญิ ง เป่ า รื่ อ หลงเหมย พระธิ ด าของถู ่ เ ซี่ ย ถู ข ่ า นมองโกลเผ่ า  คาเอ่อคา  เผ่าของนางถูกเก่อเอ่อตานยึดชิงไป จึงเร่ร่อนมายังจงหยวน  เคยหลงรักกับเฉินหวง ภายหลังได้เป็นพระสนมของคังซี

เฟยหยางกู่

แม่ทัพอัจฉริยะของทัพหน้าในสงครามปราบเก่อเอ่อตาน

10  เรืองชัย  รักศรีอักษร แปล


หมายเหตุที่ควรทราบก่อนอ่าน ผูแ้ ปลคงการเรียกขานชือ่ ในราชส�ำนักชิง วิธนี บั เวลา และมาตราวัดตามแบบจีนไว้  ตามต้นฉบับ เพื่อให้ผู้อ่านอ่านอย่างได้อรรถรสเพิ่มขึ้น และท�ำหมายเหตุเรื่องเหล่านี้ไว้  เพื่อสะดวกในการอ่าน การเรียกขานชื่อในราชส�ำนักชิง เนื่องจากราชวงศ์ชิงเป็นชาวแมนจู  มีวิธีเรียกขานชื่อต่างออกไปจากราชวงศ์อื่นซึ่ง  เป็นชาวฮั่น ผู้แปลต้องการคงค�ำเรียกชื่อเหล่านี้ไว้ตามต้นฉบับเพราะเห็นว่าจะท�ำให้เข้าใจ  ธรรมเนียมแบบแผนของราชวงศ์ชงิ ได้ดยี งิ่ ขึน้  ตัวอย่างเช่น ขุนนางทัว่ ไปมักเรียกสรรพนาม  แทนฮ่องเต้วา่ พระหมืน่ ปี  (万岁爷) หรือเรียกสรรพนามแทนตนเองว่าบ่าว (奴才) เป็นต้น  ในขณะที่ยังคงใช้ค�ำว่าฝ่าพระบาทหรือเกล้ากระหม่อมเช่นกัน การนับเวลาสมัยโบราณของจีน สมัยโบราณ จีนแบ่งเวลาหนึง่ วันออกเป็นสิบสองยาม แต่ละยามเท่ากับสองชัว่ โมง  และมีการใช้ชื่อสัตว์ตามปีนักษัตรก�ำกับแต่ละยามด้วย - จื่อสือหรือยามชวด เวลาระหว่างห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง - โฉ่วสือหรือยามฉลู เวลาระหว่างตีหนึ่งถึงตีสาม - หยินสือหรือยามขาล เวลาระหว่างตีสามถึงตีห้า - เหม่าสือหรือยามเถาะ เวลาระหว่างตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้า - เฉินสือหรือยามมะโรง เวลาระหว่างเจ็ดโมงเช้าถึงเก้าโมงเช้า - ซื่อสือหรือยามมะเส็ง เวลาระหว่างเก้าโมงเช้าถึงสิบเอ็ดโมง - หวู่สือหรือยามมะเมีย เวลาระหว่างสิบเอ็ดโมงถึงบ่ายโมง - เว่ยสือหรือยามมะแม เวลาระหว่างบ่ายโมงถึงบ่ายสามโมง - เซินสือหรือยามวอก เวลาระหว่างบ่ายสามโมงถึงห้าโมงเย็น - โหย่วสือหรือยามระกา เวลาระหว่างห้าโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม - ซวีสือหรือยามจอ เวลาระหว่างหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม - ไฮ่สือหรือยามกุน เวลาระหว่างสามทุ่มถึงห้าทุ่ม ยังแบ่งเวลาช่วงกลางคืนออกเป็นห้ายาม - ยามหนึ่งหรือยามสวีสือ เวลาระหว่างหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม - ยามสองหรือยามไฮ่สือ เวลาระหว่างสามทุ่มถึงห้าทุ่ม - ยามสามหรือยามจื่อสือ เวลาระหว่างห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3 11


- ยามสี่หรือยามโฉ่วสือ เวลาระหว่างตีหนึ่งถึงตีสาม - ยามห้าหรือยามหยินสือ เวลาระหว่างตีสามถึงตีห้า นอกจากนี้  ชาวจีนยังแบ่งเวลาภายในหนึ่งวันออกเป็น 100 ส่วน แต่ละส่วนคือ  หนึ่งเค่อ (刻) โดยใช้นาฬิกาน�้ำ  หนึ่งเค่อจะเท่ากับ 14.4 นาที  หรือราวสิบห้านาที  (หนึ่ง  ชั่วยาม หรือสองชั่วโมงจึงเท่ากับ 8 เค่อ) มาตราวัดความยาวของจีน มาตราเหล่านี้น่าจะแตกต่างจากสมัยโบราณบ้าง นี่เป็นการเทียบค่ากับมาตรา  เมตริกในปัจจุบัน 1 ชุ่น เท่ากับ 3.33 เซนติเมตร 1 ฉื่อ เท่ากับ 0.33 เมตร 1 จั้ง เท่ากับ 3.33 เมตร 1 ลี้  เท่ากับ  0.5 กิโลเมตร

12  เรืองชัย  รักศรีอักษร แปล


เฉินหวงเห็นนางเขินอาย ส่งสายตาให้ ก็อดใจเต้นโครมครามไม่ได้ รีบก้มหน้างุด ก้าวไป  ข้างเก้าอี ้ หยิบหนังสือมาเล่มหนึง่  แล้วพูดขึน้ เบาๆ โดยไม่มองนางว่า “ข้า...จะอ่านหนังสือ  ที่นี่ เจ้าพักผ่อนเถอะ...”


คังซีทรงเลิกพระขนง ตรัสเพียงว่า “ลายมือของวูซือเต้าสวยดี!” ทรงวางหนังสือรายงาน  ความเห็นลงข้างๆ แล้วทอดพระเนตรฎีกาเดิม  เป็นฎีกาของผู้ตรวจการเขตเจียงหนาน


“เจ้าไม่ต้องวุ่นวายต้อนรับข้าหรอก” เกาสื้อฉียกเก้าอี้มานั่งข้างเตียงโจวเผยกง ยิ้มร่า  แล้วพูดว่า “เวลานี้เจ้าเป็นคนป่วย ข้าเป็นหมอ ขอตรวจชีพจร”


คังซีได้สดับถึงตรงนี้ก็กลั้นไม่อยู่ ทรงโผเข้าสู่อ้อมพระอุระของพระอัยยิกา ทรงกันแสง  พลางทูลขานรับ “จะท�ำตามที่เสด็จย่าบอก...หลานเอง...ก็ไม่อยากให้เสด็จย่าจากไป...”


คังซี

จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3 ตอน ยุทธนาวีชิงไต้หวัน สงครามปราบข่านมองโกล



1

น�้ำล้อมเมือง แม่อบรมลูกชาย ตงฉินขัดค�ำสั่ง ช่วยราษฎรประสบภัย

ฤดูใบไม้ร่วงรัชศกคังซีปีที่สิบเจ็ด ฝนตกหนักต่อเนื่อง พอพ้นวันที่เก้า  เดือนเก้า สวรรค์ก็พิโรธ ส่งฝนลงมาไม่ขาดระยะ บางครั้งเป็นฝนพร�ำ บางครั้งเป็นฝน โปรยปราย ถ้าไม่มืดครึ้มด้วยเมฆหมอกก็มีพายุฝน ท้องฟ้าปลอดโปร่งไม่เคยเกินสามวัน ถนนที่สร้างใหม่ในจื๋อลี่  ซานตง ส่านซี  เหอหนานเป็นเหมือนมังกรพอกโคลนเลื้อยเลี้ยว ไปไกลท่ามกลางม่านสายฝน  น�้ำฝนขุ่นคลั่กทะลักออกจากท้องนาไหลไปยังท้องร่องเข้า สู่คลองลงสู่แม่น�้ำ  แม่น�้ำหย่งติ้ง แม่น�้ำฝู่หยาง แม่น�้ำไห่เหอ แม่น�้ำฮูถัว คลองยวิ่นเหอ เอ่อท่วมทันที  แผดเสียงค�ำรามดังครืนครืน ซัดเอาดินโคลน ต้นไม้ใบหญ้า ผลหมากรากไม้ ต่างๆ นานา...เป็นกระแสน�้ำวนทะยานซัดม้วนตลบ ผุดฟองสีขาวราวกับน�้ำเต้าหู้  มุ่งไป ทางตะวันออก ที่น่ากลัวที่สุดคือแม่น�้ำเหลือง  ผืนน�้ำที่กว้างสุดสายตา ลมพายุหอบฝนตลบไป มา เกิดเป็นละอองน�้ำก่อตัวเป็นหมอกหนาพัดไปยังสายน�้ำขุ่นคลั่ก ส่งเสียงค�ำรามราวกับ สายฟ้า  อ�ำเภอชิงเจียง มณฑลเจียงหนาน (ปัจจุบันหมายถึงมณฑลเจียงซูและมณฑล อันฮุย) ซึง่ เป็นทีบ่ รรจบของสามสายน�ำ้ คือแม่นำ�้ เหลือง แม่นำ�้ หวยเหอ และคลองยวิน่ เหอ นับตัง้ แต่ตน้ ฤดูใบไม้รว่ ง เขือ่ นป้องกันตลิง่ ต้นแม่นำ�้ หวยเหอทีเ่ กาเหลียงเจีย้ นก็พงั ลงมาถึง ยี่สิบหกจุด เขื่อนหินเกาเจียพังลงถึงเจ็ดจุด น�้ำในแม่น�้ำเหลืองและแม่น�้ำหวยเหอจึงเซาะ ตลิ่งพังทลายกลายเป็นดินโคลน ส่งผลให้น�้ำในบึงชิงสุ่ยถานในอ�ำเภอชิงเจียงสูงถึงห้าจั้ง ขึ้นไปบนก�ำแพงเมืองเห็นระลอกคลื่นสีเหลืองแผ่ไกลสุดสายตา ตัวอ�ำเภอชิงเจียงเป็นตัวเมืองเล็กๆ ทีเ่ พิง่ สร้างขึน้ ใหม่  เนือ่ งจากบริเวณนีเ้ ป็นชุมทาง ราชส�ำนักจึงสร้างเส้นทางล�ำเลียงธัญญาหารและเกลือ เรือล�ำเลียงที่แล่นไปมามักจะแวะ คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3  19


พักที่นี่  นานเข้าจึงกลายเป็นชุมชน  ปกติที่นี่มีราษฎรเพียงหมื่นกว่า แต่เวลานี้เมื่อเกิดน�้ำ ท่วมจึงมีราษฎรหนีภยั น�ำ้ ท่วมเข้ามา จ�ำนวนคนจึงเพิม่ ขึน้ เป็นแสนกว่าทันที   ตามโรงเตีย๊ ม ร้านรวง เพิงพัก และใต้ชายคาบ้านในเมืองจึงเต็มไปด้วยผู้คนร่างผอมโซใบหน้าซีดเซียว สองข้างทางเต็มไปด้วยสัมภาระเปียกแฉะ ร้านอาหารในเมืองปิดหมด ขนมปิ่งแผ่นหนึ่ง ปกติราคาแค่หนึ่งเหรียญทองแดง ขณะนี้ต้องใช้เงินถึงหนึ่งต�ำลึงจึงซื้อได้ อวี๋เฉิงหลงนายอ�ำเภอของที่นี่ถูกไล่ออกจากต�ำแหน่ง เพราะเกิดมีคดีผิดศีลธรรม ในเขตนี้  แต่นายอ�ำเภอคนใหม่ยังไม่มา อวี๋เฉิงหลงจึงติดอยู่ในตัวเมืองพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ผู้ริบตราประจ�ำต�ำแหน่ง  เมื่อตกอยู่ในสภาพเช่นนี้อวี๋เฉิงหลงจึงไม่ยอมมอบตราประจ�ำ ต�ำแหน่ง เจ้าหน้าที่กลัวว่าต้องรับผิดชอบ จึงยอมให้อวี๋เฉิงหลงท�ำตามอ�ำเภอใจ ส่วนตัว เขาเองหลบไปพักผ่อนในยุ้งฉางใหญ่ด้านในประตูเมืองด้านตะวันออก  อวี๋เฉิงหลงเดิม เป็นคนซานตง ญาติผู้พี่อวี๋เฉิงหลงได้ชื่อว่าเป็นขุนนางซื่อสัตย์  มีต�ำแหน่งเป็นผู้ตรวจการ ซานตง1  ในวัยเด็กอวี๋เฉิงหลงได้รับการอบรมจากมารดา มุ่งมั่นที่จะเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์ แต่เมื่อปีที่แล้วเก่อหลี่ข้าหลวงใหญ่เจียงซูและเจียงซีจัดงานวันเกิด เขาให้เพียงรองเท้าผ้า คู่หนึ่งเป็นของขวัญ ท�ำให้เก่อหลี่โกรธจัดและหาเรื่องเขา  ที่จริงทุกอ�ำเภอต่างมีคดีผิด ศีลธรรม ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ หากช่วยเหลือกันไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แต่อวี๋เฉิงหลงไม่รู้จัก พลิกแพลงจึงไม่แปลกที่มีภัยถึงตัว ขณะนีฝ้ นหยุดตกชัว่ คราวแล้ว อวีเ๋ ฉิงหลงประคองนางฟางผูเ้ ป็นมารดาวัยกว่าหกสิบ ยืนข้างป้อมธนูทปี่ ระตูเมืองทิศใต้ของอ�ำเภอชิงเจียง มองไปยังสันเขือ่ นทีโ่ ผล่ขนึ้ เหนือแม่นำ�้ เหลืองไกลออกไป  ทั้งสองใส่เสื้อผ้าที่แทบไม่น่าจะช่วยปกปิดร่างให้หายหนาวได้  เนื้อตัว จึงสั่นสะท้าน  เจ้าหน้าที่รักษาประตูเมืองสี่สิบห้าสิบคนเนื้อตัวเปรอะโคลนนั่งพิงก�ำแพง ป้อมงีบหลับระเกะระกะ “เฉิงหลง” นางฟางพูดขึน้ หลังจากนิง่ เงียบครูใ่ หญ่  “ดูทา่ วันนีฟ้ า้ คงครึม้ เหมือนเดิม” อวี๋เฉิงหลงส่ายหน้า ใบหน้าที่ซูบผอมไร้อารมณ์ความรู้สึก  เขาหยิบหนังสือเวียน ของราชส�ำนักออกมาจากอกเสื้อยื่นให้มารดา บอกว่า “ท่านแม่  นี่เป็นหนังสือเวียนของ ราชส�ำนัก...” หญิงชราใช้มือผลักเบาๆ พลางว่า “ตาแม่ไม่ดี  สองสามวันมานี้ยิ่งมัวลงไปอีก แย่ ลงเรื่อยๆ ลูกอ่านให้แม่ฟังเถอะ” อวี๋เฉิงหลงจึงเปิดหนังสือเวียนออกมา ขานรับเสียงเบา “ขอรับท่านแม่   ฉบับแรก อวี๋เฉิงหลงผู้ตรวจการมณฑลซานตง เป็นญาติตระกูลเดียวกันกับอวี๋เฉิงหลงนายอ�ำเภอชิงเจียง บังเอิญชื่อตรงกัน-ผู้แปล 1

20  เรืองชัย  รักศรีอักษร แปล


เป็นค�ำสัง่ จากราชส�ำนักให้จนิ้ ฝูผ่ ตู้ รวจการมณฑลอันฮุยเดินทางไปรับต�ำแหน่งทีเ่ มืองหลวง อีกฉบับหนึ่งเป็นหนังสือแต่งตั้งให้ฝู่หย่วนไปรับต�ำแหน่งข้าหลวงเฟิ่งเทียน  อีกฉบับหนึ่ง แจ้งว่าตลิ่งที่ฮัวหยวนโขว่เมืองเจิ้งโจวพัง ตลิ่งที่ต้นน�้ำก็พัง น�้ำที่นี่คงไม่เพิ่มสูงกว่านี้แล้ว แม่วางใจเถอะ” “แม่แก่แล้ว จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้  มีอะไรต้องกลัวอีก” ลมหนาวพัดเข้ามาวูบ หนึ่ง นางฟางส�ำลักจนไอโขลก อวี๋เฉิงหลงรีบทุบหลังให้มารดา แต่นางฟางดันมือลูกชาย ออกพลางพูดเสียงหอบ “ปัญหาเร่งด่วนคือในเมืองมีคนอพยพมาอยูร่ วมกันเป็นแสน แต่ละ คนทัง้ หนาวทัง้ หิว จะทนได้อย่างไร  ลูกเป็นขุนนางปกครองทีน่  ี่ ต้องรีบหาทางแก้ไข ได้ยนิ ว่าเมื่อวานมีคนอดตายถึงยี่สิบกว่าคน!” เรื่องนี้แหละที่ท�ำให้อวี๋เฉิงหลงล�ำบากใจมาก  ยุ้งฉางมีข้าวกองสูงเป็นภูเขา แต่ แทบทุกครัวเรือนในเมืองต่างอดอยาก เขารู้สึกปวดร้าวใจ แต่เขาไม่ได้เป็นคนดูแลยุ้งฉาง และเจ้าหน้าที่ผู้ริบตราประจ�ำต�ำแหน่งก็อยู่ที่นั่น แค่ขุนนางที่ดูแลยุ้งฉางและหัวหน้าเขต ยังมีต�ำแหน่งสูงกว่าเขาหลายขั้น เรื่องนี้น่าล�ำบากใจจริงๆ  อวี๋เฉิงหลงฟังมารดาแล้วครุ่น คิด “ท่านแม่  ลูกรูด้  ี ลูกเสียใจทีช่ าวบ้านตายเพราะอดอยาก ลูกให้คนไปเชิญใต้เท้าเหลียง ใต้เท้ากัวเจินผู้ดูแลยุ้งฉางและใต้เท้าหานชุนหัวหน้าเขตไปส�ำรวจความเสียหายจากน�้ำ ท่วมร่วมกัน คงจะหาวิธีได้” พูดพลางประคองมารดาเข้าไปพักในป้อมธนู  พลางบอกคน งาน “ไปยุ้งฉางกับข้า” ขณะที่ก�ำลังเดินออกไปก็เห็นเหลียงโส่วอี้  กัวเจิน และหานชุนกับอีกหลายคนรวบ ชุดยาวก้าวขึ้นไปบนก�ำแพงเมือง  หานชุนเป็นหัวหน้าเขตมีต�ำแหน่งสูงที่สุด ดูแลทั้งงาน ด้านบู๊และบุ๋น เขาเดินน�ำหน้ามา พอเห็นอวี๋เฉิงหลงยืนอยู่ก่อนก็รีบเข้ามาจับมือทักทาย “พี่เฉิงหลง ล�ำบากหน่อยนะ!  โถๆ ไม่เจอหน้าไม่กี่วันก็ผอมขนาดนี้  มีอะไรขาดเหลือก็ บอกข้าได้!” “ใต้เท้าหาน ใต้เท้าเหลียง ใต้เท้ากัว” อวี๋เฉิงหลงคารวะแล้วพาทั้งสามเข้าไปใน ป้อมธนู  นั่งบนม้านั่งหินพลางบอกว่า “เมื่อเช้านี้ผู้น้อยอวี๋ลู่น�ำหนังสือไปมอบให้ที่จวน ใต้เท้าทุกท่านคงได้อ่านแล้วใช่หรือไม่” ทั้งสามพอได้ยินก็มองหน้ากัน หานชุนยิ้มร่าพลางพูดว่า “ข้าอ่านแล้ว ความรู้สึก รักราษฎรของท่านท�ำให้ข้าซาบซึ้งมาก แต่การเปิดยุ้งฉางไปช่วยราษฎรที่ประสบภัยเป็น เรื่องพิเศษ...อ่า...เอ่อ ท่านพี่อยู่ที่นี่สองปีกว่าแล้วยังไม่เข้าใจระเบียบนี้หรือ ผู้น้องจนใจ จริงๆ!” เหลียงโส่วอี้ได้ยินก็ยิ้ม “พูดถึงเรื่องนี้  หลายวันมาแล้วพวกเราพูดคุยกันเรื่องท่านพี่ ทีต่ วั เมืองชิงเจียงรอดพ้นภัยไม่ถกู น�ำ้ ท่วมก็เพราะท่านพีพ่ าคนป้องกันทัง้ วันทัง้ คืน นีถ่ อื เป็น คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3  21


ความดีความชอบอย่างหนึ่ง  ใต้เท้าเก่อส่งข้ามาริบตราประจ�ำต�ำแหน่ง แต่ข้าเห็นว่ายัง ไม่ควรริบ  ถ้ากลับไปรายงานท่านเก่อ เกรงว่าต้องรายงานสนับสนุนท่านพี่ต่อราชส�ำนัก!” อวี๋เฉิงหลงฟังแล้วครุ่นคิดความหมายในค�ำพูดของคนเหล่านี้  ครู่หนึ่งจึงพูดอย่าง เย็นชา “เดิมทีข้ามาเงียบๆ อย่างบัณฑิต ข้าก็ยินดีจากไปเงียบๆ อย่างบัณฑิต  ในเมื่อ ใต้เท้าเหลียงยังไม่ยดึ ตราประจ�ำต�ำแหน่ง เวลานีข้ า้ ก็ตอ้ งรับหน้าทีร่ กั ษาเมือง ทางราชส�ำนัก เตรียมข้าวไว้ให้ราษฎร พวกท่านก็รู้ดี  สามวันมานี้ในเมืองมีคนอดตายเจ็ดสิบกว่าคนแล้ว ถ้าเกิดชาวบ้านก่อความวุ่นวาย ในเมืองไม่มีทหาร นอกเมืองก็ไม่มีการหนุนช่วย ขอถาม ว่าใครจะรับผิดชอบ แล้วจะท�ำอย่างไรต่อไป” “พวกเรามาหาท่านนายอ�ำเภอทีน่ กี่ เ็ พราะเรือ่ งนีแ้ หละ” กัวเจินพูดอย่างไม่สบายใจ “ชาวบ้านในเมืองตกลงกันว่าจะรวมตัวปล้นชิงข้าว  พูดอย่างไม่ปดิ บังละ  เมือ่ วานนีค้ นเฝ้า ประตูยุ้งฉางเล่นงานชาวบ้านที่ก่อความวุ่นวายตายไปสามคนแล้ว...” มุมปากของอวีเ๋ ฉิงหลงยิม้ หยัน เขาพูดว่า “ในเมือ่ ก่อเรือ่ งวุน่ วาย มาหนึง่ คนก็ตตี าย หนึ่งคน มาสองคนก็ตีตายทั้งคู่  คงจะสะใจมาก!  พวกนั้นไปก่อเรื่องที่ยุ้งฉางก็เป็นเรื่อง ที่ท่านต้องจัดการ ข้าจะมีปัญญาท�ำอะไรได้” กัวเจินเดิมเป็นทหารจึงฟังไม่ออกว่าอวี๋เฉิงหลงพูดประชด ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ “ถ้าคน นับหมื่นก่อความวุ่นวาย ข้าคงท�ำอะไรไม่ได้  อีกอย่างทหารเฝ้ายุ้งฉางเป็นคนท้องที่  ไม่มี ใครอยากลงมือ ใครจะมีปัญญาจัดการได้” “ที่เรามาก็เพราะอยากขอร้องนายอ�ำเภอ” เหลียงโส่วอี้ฟังค�ำพูดที่หยาบกร้าวของ กัวเจินก็อดขมวดคิว้ ไม่ได้  ค้อมตัวลงพูด “มาถึงทีน่ หี่ ลายวันข้าก็มองออกแล้วว่าถึงท่านจะ มีคดีติดตัวแต่ก็เป็นที่ยอมรับของราษฎร ชาวบ้านที่นี่เชื่อฟังท่าน  ขอให้ท่านออกหน้า ประกาศควบคุมบ้าง คงจะสงบได้   หลังภัยน�้ำท่วมผ่านไป มีหรือที่ชั้นเหนือจะไม่ช่วย บรรเทาทุกข์  นี่เพิ่งผ่านมาแค่สิบกว่าวันเอง” นางฟางฟังอยู่ในห้องแล้วอดไม่ได้  รีบถือไม้เท้าก้าวออกมาแล้วพูดเสียงดัง “แค่ สิบกว่าวันรึ   รูไ้ หมว่าสิบกว่าวันทีไ่ ม่มขี า้ วกินเป็นอย่างไร นัน่ หมายถึงชีวติ ของคนนับพัน!” นางยืนอยู่หน้าประตู  ศีรษะผมขาวโพลนสั่นสะท้าน “เจ้าเป็นใคร” ขณะทุกคนก�ำลังพูดคุยกัน จู่ๆ ได้ยินเสียงคนข้างนอกดังขึ้นจึงตกใจ เหลียงโส่วอี้เห็นนางเป็นหญิงชรายากจนจึงตวาดว่า “ที่นี่ให้เจ้าพูดพล่ามได้รึ  เจ้า...” หานชุนรูว้ า่ นางเป็นมารดาอวีเ๋ ฉิงหลงจึงรีบห้ามเหลียงโส่วอีว้ า่  “ท่านผูน้ เี้ ป็นมารดา ของนายอ�ำเภอ...ท่านผู้เฒ่าอายุมากแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ พวกเราก�ำลังปรึกษาหาวิธีอยู่ ไม่ใช่หรือ” นางฟางส่งเสียงหึ  แต่ไม่ถอยออกไป กลับลากม้านัง่ มานัง่ ลง ถือไม้เท้าสีหน้าครุน่ คิด 22  เรืองชัย  รักศรีอักษร แปล


แล้วพูดขึ้นอีก “ผู้หญิงไม่ควรสอบถามเรื่องบ้านเมือง ข้าอ่านหนังสือมาตั้งแต่น้อยท�ำไม จะไม่ร ู้  แต่เวลานีเ้ พือ่ ชีวติ ของราษฎร ไม่อาจยกเอาข้อห้ามนีม้ าอ้าง ในภาวะระส�ำ่ ระสาย เมื่อมีคนปลุกเร้าผู้คนย่อมขานรับ ตั้งแต่โบราณก็มีบทเรียนมาแล้วไม่รู้เท่าไร  น�้ำที่ท่วม นอกก�ำแพงเมืองเอาดินสกัดกัน้ ได้  แต่นำ�้ ทีท่ ว่ มในก�ำแพงเมืองจะท�ำให้เรือคว�ำ่   หากราษฎร ลุกขึ้นสู้  ยายแก่อย่างข้าขอถามหน่อยว่าใครจะรับผิดชอบ” พูดพลางส่ายหน้าช้าๆ ยก ไม้เท้าไม้ไผ่เคาะพื้นเบาๆ แม้นัยน์ตาจะไม่เป็นประกายแต่สีหน้าขึงขัง หลายคนตะลึงงัน  ค�ำพูดที่มีเหตุผล ท่าทางเคร่งขรึม กิริยาอย่างผู้มีตระกูลของ หญิงชราสามารถสยบขุนนางกลุ่มนี้ “เช่นนั้นท่านผู้เฒ่าเห็นอย่างไร” ครู่ใหญ่หานชุนจึงได้สติแล้วถามขึ้น “ความเห็นของลูกข้าถูกต้องแล้ว” นางฟางพูดอย่างสงบ “สถานการณ์เวลานี้มีแต่ ต้องเปิดยุ้งฉางออกมาบรรเทาทุกข์  ไม่มีทางอื่นแล้ว!” “ข้าวมีอยู่” หานชุนยิ้มหยัน “ทว่าไม่ใช่ของข้าและไม่ใช่ของอวี๋เฉิงหลง แต่เป็นของ ราชส�ำนัก ปีนี้เหลืออยู่หนึ่งล้านต้านที่ยังไม่ได้ขนไปจื๋อลี่...” นางฟางพูดต่อทันที  “งั้นก็ดแี ล้ว เอามาช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้พอดี...เฉิงหลง เขียนใบยืมข้าวล้านชั่งช่วยราษฎรที่ประสบภัย ค่อยคืนวันหลัง” “ขอรับ!” “เดีย๋ ว!” เหลียงโส่วอีโ้ บกมือ หัวเราะพร้อมกับเดินมาเบือ้ งหน้านางฟาง มือไพล่หลัง ค้อมตัวลงพูดว่า “ท่านผู้เฒ่า หนึ่งล้านชั่งเท่ากับหนึ่งหมื่นต้าน ถ้าคิดราคาข้าวต้านละ ห้าเฉียนก็เท่ากับเงินห้าพันต�ำลึง  ท่านอวี๋ไม่มีเงินเลย อืม...เงินจ�ำนวนนี้ข้าโส่วอี้ขอถาม ว่าจะเอามาจากไหน” นางฟางได้ยนิ ก็หวั เราะเสียงดัง แล้วว่า “ใต้เท้าอุตส่าห์ชอื่  ‘โส่วอี’้ ! (รักษาคุณธรรม) แต่ท�ำไมไม่รู้ว่าคุณธรรมอยู่ไหน  เมื่อมีภัยมาไยไม่รู้จักหลีก เงินห้าพันต�ำลึงข้าใช้คืนได้ ข้าไม่เชื่อว่าวันข้างหน้าชาวบ้านจะไม่คืนเงิน...เอาพู่กันกับหมึกออกมา เขียน!” เจ้าหน้าที่ ทั้งในและนอกป้อมธนูที่ได้ยินต่างตกตะลึง  ครอบครัวของคนเหล่านี้ไม่มีข้าวกินนานแล้ว พอได้ยินค�ำพูดนี้ก็รีบยกเครื่องเขียนที่อวี๋เฉิงหลงใช้ออกมา “ไม่ได้!” หานชุนถือว่าเป็นหน้าที่ของตัวเอง รู้ดีว่านี่เป็นเรื่องใหญ่  จึงยืดตัวตรง แล้วพูดเสียงเฉียบ “ข้าวนี้เป็นเสบียงทหาร ฮ่องเต้มีราชโองการมอบให้ทหารใช้ในยามฝึก ขืนแตะต้องแม้แต่เม็ดเดียว ทุกคนที่นี่ต้องรับโทษ!” “การท�ำให้ราษฎรเดือดร้อนเป็นพฤติกรรมต�่ำช้า ข้าไม่เชื่อว่าชีวิตขุนนางไม่กี่คน อย่างพวกเจ้าจะมีค่ามากกว่าราษฎรนับหมื่น!” กัวเจินเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดขึ้น “พวกเราเป็นขุนนางของฮ่องเต้   ท่านผู้เฒ่า ค�ำว่า คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3  23


ซื่อสัตย์ภักดีกับค�ำว่ากตัญญู  ซื่อสัตย์ภักดีต้องมาก่อน จะให้เราละเมิดราชโองการได้ อย่างไร” เขาพูดไม่ทันจบนางฟางก็โต้กลับ “เมิ่งจื่อกล่าวว่า ราษฎรต้องมาก่อน รองลงมา คือบ้านเมือง ฮ่องเต้มาทีหลัง  เข้าใจหรือยัง” เดิมทีอวี๋เฉิงหลงอยากบีบให้เอาข้าวออกจากยุ้งฉางมาแจกจ่ายชาวบ้านก่อน แต่ รู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่  วันข้างหน้าจะรับโทษหนัก เกรงว่ามารดาจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย แต่การถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนในห้องครัง้ นีม้ ารดากลับยืนยันหนักแน่นกว่าเขาเสียอีก อวีเ๋ ฉิง หลงจึงรู้สึกละอายใจ รีบลุกไปที่โต๊ะ เขียนหนังสือสองสามบรรทัดแล้วเดินมาตรงหน้า หานชุน ค้อมกายพร้อมประสานมือขึ้นคารวะ บอกว่า “ใต้เท้าโปรดลงนามอนุมัติ” ตอนแรกตั้งใจว่าจะมาหาอวี๋เฉิงหลงให้เขาก�ำราบชาวบ้านที่อดอยาก ไม่นึกว่าพอ มาถึงกลับพบคนหัวรั้นเช่นนี้   นางฟางยกค�ำสอนของจอมปราชญ์ขึ้นมาอ้าง ท�ำให้คนทั้ง สามได้แต่มองหน้ากัน ไม่อาจโต้แย้ง  หานชุนทนไม่ไหว พอเห็นอวี๋เฉิงหลงท�ำท่าเหมือน จะบีบให้เขาลงชื่อ จึงตีสีหน้าเครียด พูดอย่างวางอ�ำนาจว่า “อวี๋เฉิงหลง เจ้าจะบังคับข้า งั้นหรือ ถ้าข้าไม่ลงชื่อล่ะ” “ข้าได้รับราชโองการให้มาปกครองที่นี่” อวี๋เฉิงหลงประสานมือคารวะแล้วพูดว่า “เวลานี้ในตัวอ�ำเภอมีราษฎรลี้ภัยนับแสน น�้ำท่วมรอบตัวอ�ำเภอ อยู่ในภาวะวิกฤต ทุกคน ทีอ่ ยูใ่ นเมืองล้วนเป็นราษฎรในปกครองของข้า รวมทัง้ พวกท่านด้วย  ข้ายืมข้าวจากตระกูล ร�่ำรวยจนทั่วแล้ว ใครกักตุนข้าวถือเป็นคนรวยชั้นเลว ข้ามีหน้าที่ต้องใช้กฎหมายบังคับ!” เขาพูดยังไม่ทันจบคนทั้งสามก็โกรธจนตัวสั่น  เหลียงโส่วอี้ตบโต๊ะทันที  ใบหน้า แดงก�่ำเหมือนตับหมู  ค�ำรามออกมา “บังอาจ! ข้าขอยึดตราประจ�ำต�ำแหน่งเจ้าเดี๋ยวนี้!” “สายไปหน่อย และเร็วไปนิด!” อวีเ๋ ฉิงหลงแหงนหน้าหัวเราะ “ท่านควรริบตราประจ�ำ ต�ำแหน่งตัง้ นานแล้ว แต่ทา่ นกลับกลัวว่าน�ำ้ ท่วมอย่างนีจ้ ะต้องรับภาระหนัก  ในเมือ่ ยังไม่ ริบตราประจ�ำต�ำแหน่ง ข้าก็จะใช้อ�ำนาจให้เต็มที่  รอให้เอาข้าวออกมาแล้วแจกจ่ายเสร็จ ก่อน ข้าจะมอบตราประจ�ำต�ำแหน่งให้ท่านเอง!” หานชุนเห็นบรรดาเจ้าหน้าที่ยืนท่าทางดุร้ายอยู่ที่หน้าประตูก็รู้สึกหวาดหวั่น นึก เสียใจที่วันนี้ออกมาโดยไม่น�ำทหารที่ยุ้งฉางมาด้วย จึงร้องหึพร้อมกับลุกขึ้นพลางถูมือ แล้วว่า “กัวเจิน โส่วอี้  สายแล้ว ไม่ต้องโต้แย้งกับคนไม่เอาไหนอย่างนี้  ไปกันเถอะ!” พูด จบทั้งสามก็ลุกขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เจ้าหน้าที่...” อวี๋เฉิงหลงถอยไปนั่งลง เงยหน้าขึ้นร้องสั่ง “ปิดประตู!” “ขอรับ!” 24  เรืองชัย  รักศรีอักษร แปล


เจ้าหน้าที่หลายสิบคนขานรับพร้อมกัน พลางคุกเข่าข้างหนึ่งคารวะแล้วปิดประตู อย่างแน่นหนาดังโครม จากนั้นก็ยืนเรียงแถวทั้งสองข้างของอวี๋เฉิงหลง จัดขบวนเป็นรูป ฝูงห่านป่าบินน่าเกรงขามเหมือนยามสอบสวนคดี “ครอบครัวหานชุนร�่ำรวยมีข้าวเก็บไว้” ใบหน้าตอบของอวี๋เฉิงหลงสีหน้าไร้ความ รู้สึก พูดเสียงเนิบว่า “ข้าต้องการช่วยราษฎรทั้งอ�ำเภอ ขอยืมข้าวหนึ่งหมื่นต้าน  ท่าน หานชุน โปรดลงชื่อ” หานชุนโกรธจนแทบลมจับ รู้สึกใจหายวาบ หันไปมองอีกสองคนที่มาด้วยกันก็ เห็นแต่ละคนงุนงงเหมือนตกอยู่ในความฝัน ยืนโงนเงนไปมาราวกับเมาเหล้า...เขาลังเล อยู่ครู่หนึ่ง บรรดาเจ้าหน้าที่ก็ส่งเสียงขึ้นพร้อมกันราวเสียงฟ้าร้อง “รีบลงชื่อ จะให้โบยรึ” หานชุนได้สติ  ใจหายวาบ เนือ้ ตัวสัน่  มองรอบตัวเห็นแต่เจ้าหน้าทีข่ องอวีเ๋ ฉิงหลง ดูทา่ หาก ชักช้าคงโดนลงทัณฑ์แน่  ตัวเขาเป็นขุนนางขัน้ สี ่ ถ้าถูกเฆีย่ นจนก้นแตกคงอับอายขายหน้า ไปทั้งชาติ   หานชุนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วกัดฟันยิ้ม “ลูกผู้ชายต้องรู้จักยืดหยุ่น ข้าจะลงชื่อ ดูวา่ เจ้าจะหนีพน้ พระอาญาได้อย่างไร!” พูดพลางหยิบพูก่ นั มาเขียนบนใบยืม แล้วหักพูก่ นั เป็นสองท่อนโยนลงบนโต๊ะ “ดี!” อวีเ๋ ฉิงหลงหยิบกระดาษมาเป่ารอยหมึกให้แห้ง “ถ้ายอมให้ยมื ข้าว ข้าไม่สนใจ ว่าท่านจะต่อว่าอย่างไร” พูดพลางมอบใบยืมให้เสมียน “เอาไปจ้างคนขนข้าวมาไว้ที่ศาล เจ้ากวนตี้  (ศาลกวนอู) หลังที่ท�ำการอ�ำเภอ แล้วกลับมารายงานข้า ข้าจะไปแจกจ่ายเอง” กัวเจินเดิมเป็นขุนนางฝ่ายบู๊  ตอนแรกคิดจะใช้ก�ำลัง แต่ประการแรกเพราะคนของ อวี๋เฉิงหลงมีมาก ประการที่สองอวี๋เฉิงหลงเป็นขุนนางที่ราชส�ำนักแต่งตั้ง ถ้าเกิดการต่อสู้ ไม่อาจได้เปรียบด้วยเหตุผลทัง้ หมด พอเห็นหานชุนลงชือ่ จึงพูดว่า “อวีเ๋ ฉิงหลง ในเมือ่ ลงชือ่ ให้ยืมข้าวแล้วก็น่าจะปล่อยพวกเราไป” “รบกวนท่านทั้งสามนั่งต่ออีกสักพัก” อวี๋เฉิงหลงยิ้มพลางเหลือบมองมารดา “ข้าว ถึงมือก่อนข้าจึงจะวางใจ อีกอย่างหนึ่ง ข้าละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง ไม่นานก็ต้องถูก ลงโทษสถานหนัก ท�ำไมถึงรีบไปนักล่ะ  เจ้าหน้าที่  มีเหล้าหรือไม่  ไปเอามาขวดหนึ่ง” เหลียงโส่วอีห้ วั เราะพลางว่า “ยามนีม้ เี หล้าก็นบั ว่าดี  แต่ดมื่ แล้วคงยากทีจ่ ะรับไมตรี คืนนี้ข้าสามคนจะเข้าชื่อกันเขียนรายงาน มอบให้ผู้ตรวจการรายงานความดีความชอบ ของเจ้าไปยังราชส�ำนัก!” “ก็ตามใจ!” อวี๋เฉิงหลงพูดอย่างไม่ใส่ใจแล้วลุกเดินเข้าห้องข้างใน คืนนัน้ อวีเ๋ ฉิงหลงมีงานยุง่ ทัง้ คืนจนไม่ได้นอน  เขาแจกจ่ายข้าวหมืน่ ต้านทีข่ นมาไว้ ในศาลกวนตีใ้ ห้แก่ราษฎรทีป่ ระสบภัยจนเหน็ดเหนือ่ ยเมือ่ ยล้า  พอหานชุนกับพวกกลับไป ที่ยุ้งฉางก็เขียนรายงานฟ้องร้องอวี๋เฉิงหลง  ไม่ถึงสิบวันส�ำนักข้าหลวงก็มีค�ำสั่งมาถึงชิง คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 3  25


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.