วรางคณา เหมศุกล แปล
กรุงเทพมหานคร ส�ำนักพิมพ์มติชน 2557
The Best of Me • วรางคณา เหมศุกล แปล
จากเรื่อง The Best of Me ของ Nicholas Sparks Copyright © 2011 by Nicholas Sparks. All rights reserved. Thai Language Copyright © 2014 by Matichon Publishing House. All rights reserved. Copyright arranged with The Park Literary Group 270 Lafayette Street, Suite 1504, New York, NY 10012, USA through Tuttle-Mori Agency Co., Ltd. พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, กันยายน 2557 ราคา 220 บาท ข้อมูลทางบรรณานุกรม สปาร์กส์, นิโคลัส. ใจไม่สิ้นรัก. กรุงเทพฯ : มติชน, 2557. 368 หน้า. 1. นวนิยายอเมริกัน I. วรางคณา เหมศุกล, ผู้แปล II. ชื่อเรื่อง 823.914 ISBN 978 - 974 - 02 - 1330 - 7 ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์ : อารักษ์ คคะนาท, สุพจน์ แจ้งเร็ว, สุชาติ ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์ สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : รุจิรัตน์ ทิมวัฒน์ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์ บุนปาน • บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ : พัลลภ สามสี ผู้ช่วยบรรณาธิการ : ทิมา เนื่องอุดม • พิสูจน์อักษร : พัทน์นลิน อินทรหอม กราฟิกเลย์เอาต์ : กิตติชัย ส่งศรีแจ้ง • ออกแบบปก-ศิลปกรรม : อริญชย์ ลิ้มพานิช ประชาสัมพันธ์ : กานต์สินี พิพิธพัทธอาภา • นักศึกษาฝึกงานแผนกประชาสัมพันธ์ : ฐิมาภรณ์ โพธิ์ขวัญ หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�ำนวนมากในราคาพิเศษ เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3353 โทรสาร 0-2591-9012
www.matichonbook.com บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) : 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 1235 โทรสาร 0-2589-5818 แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองการเตรียมพิมพ์ บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 2400-2402 พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด 27/1 หมู่ 5 ถนนสุขาประชาสรรค์ 2 ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 โทรศัพท์ 0-2584-2133, 0-2582-0596 โทรสาร 0-2582-0597 จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี จำ�กัด (ในเครือมติชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3350-3353 โทรสาร 0-2591-9012 Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd, Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน
ค� ำ น� ำ ส� ำ นั ก พิ ม พ์
เมื่อนิโคลัส สปาร์กส์ บรรจงร่ายมนตร์ใส่หยดหมึก กลั่นเอา ความรู้สึกหลากล้น เจือด้วยแง่มุมชีวิตของผู้คนมากหลายรอบตัว เขา ผูกผสานเป็นเรื่องเล่าอันมีชีวิตชีวา ราวกับจะย�้ำว่า ความรัก เหล่ า นั้ น ล้ ว นมี ที่ ม า หากทุ ก ความพลิ ก ผั น ของเหตุ ก ารณ์ ต่ า งมี ตอนจบของเรื่องราวที่ลงรายละเอียดเฉพาะตัว ใจไม่สิ้นรัก ยืนอยู่ท่ามกลางเรื่องรักตามแบบฉบับ ด้วยตัว ละครแบบ ‘star-crossed lovers’ หรือ ‘คู่รักวิปโยค’ อันปรากฏ เจนตาแก่ผู้อ่านมาตั้งแต่สมัย Romeo and Juliet ซึ่งผู้เขียนน�ำ เอาขนบดังว่ามาปรุงเสียใหม่ โดยใส่ความเป็นปัจจุบันและอุปสรรค ในโลกความเป็นจริง อิงเงื่อนไขกับค�ำถามที่ว่า “ถ้าหาก...” ...เมื่ อ อดี ต และปั จ จุ บั น ไม่ เ คยตั ด ขาดจากกั น จริ ง ๆ สิ่ ง ที่ ท้าทายคือการตัดสินใจของตัวละคร อันขับเคลื่อนเรื่องราวให้ด�ำเนิน ต่อไปอย่างมีมิติสีสัน พลังค�ำที่เชื่อมร้อยความละมุนละไม ความ หยาบกระด้าง การแก้แค้น และการเสียสละเข้าด้วยกัน สะท้อน ถามถึงความหมายแห่งรักและคุณค่าของชีวิต ที่มิใช่อื่นใดมากไป กว่า ‘ศิลปะแห่งสุขแกมโศก’ ของโลกเรา ส�ำนักพิมพ์มติชน
แ ท น ค�ำ ข อ บ คุ ณ
นวนิยายบางเรื่องเขียนแล้วรู้สึกท้าทายมากกว่าเรื่องอื่น และ ใจไม่สิ้นรัก ก็เป็นหนึ่งในงานเขียนที่ว่านี้ ใจไม่สิ้นรัก นั้นเขียนยาก (ผมจะไม่สาธยายเหตุผลให้คุณเบื่อหรอก) และถ้าไม่มีบุคคลต่อไป นี้ ค อยสนั บ สนุ น ผมก็ ค งยั ง เขี ย นนิ ย ายเรื่ อ งนี้ ไ ม่ จ บซะที เพราะ ฉะนั้นโดยไม่พูดพร�่ำท�ำเพลงมาก ผมอยากขอกล่าวค�ำขอบคุณ ขอบคุณแคธี ่ ภรรยาของผม เมือ่ เราพบกัน มันคือรักแรกพบ (At First Sight) และไม่เคยมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปเลยตลอด หลายปีที่เราอยู่ด้วยกัน คุณเป็นคนดีที่สุด ผมคิดเสมอว่าตัวเอง โชคดีที่ได้เรียกคุณว่าภรรยา ขอบคุณไมลส์, ไรอัน, แลนดอน, เล็กซี ่ และซาวันนาห์ พวก ลูกเพิ่มพูนความสุขในชีวิตพ่อ พ่อภูมิใจในตัวลูกทุกคน ลูกของพ่อ ลูกเป็นสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ ของพ่อ (The Best of Me) เสมอมาและตลอดไป ขอบคุณเทเรซ่า พาร์ก เอเย่นต์ของผม หลังจากเขียนร่าง แรกของนวนิยายเสร็จ ผมก็มาถึงจุดเปลี่ยน (A Bend in the
ใจไม่สิ้นรัก 5
Road) คุณสมควรได้รับความซาบซึ้งในบุญคุณของผมไม่เพียง เพราะคุ ณ พยายามช่ ว ยผมปรั บ ปรุ ง นวนิ ย ายเรื่ อ งนี้ แต่ คุ ณ ยั ง มี น�้ำอดน�้ำทนตลอดระยะเวลาที่ผมเขียนมันอีกด้วย ผมโชคดีที่คุณ เป็นเอเย่นต์ให้ ขอบคุณครับ ขอบคุ ณ เจมี่ ร็ อ บ บรรณาธิ ก ารของผม ความช่ ว ยเหลื อ (The Rescue) ของคุ ณ ในนวนิ ย ายเรื่ อ งนี้ ล�้ ำ เลิ ศ เช่ น เคย คุ ณ แนะน�ำได้ “ถูกจุด” คุณไม่ได้เป็นเพียงบรรณาธิการมือฉมัง แต่ ยังเป็นคนสุดวิเศษอีกด้วย ขอบคุณครับ ขอบคุ ณ โฮวี่ แซนเดอร์ ส กั บ เคย่ า เคยาเชี่ ย น เอเย่ น ต์ ภาพยนตร์ของผม ผมเชื่อมั่นอย่างแท้จริง (True Believer) ใน ความคิดที่ว่าเกียรติ ปัญญา และความหลงใหลเป็นฐานอันมั่นคง ของความสัมพันธ์ทางอาชีพการงานที่ดี คุณทั้งสองคนเป็นตัวอย่าง ที่ดีของคุณสมบัติเหล่านี้เสมอมา ผมรู้สึกซาบซึ้งกับทุกอย่างที่พวก คุณได้ท�ำ ผมโชคดีที่ได้ร่วมงานกับพวกคุณ ขอบคุณเดนิส ดิโนวี่ โปรดิวเซอร์ของความรักฝากมาไกล หมื่นไมล์ก็ไม่แคร์ (Message in a Bottle) รวมทั้งภาพยนตร์ ที่สร้างจากนวนิยายเรื่องอื่นๆ ของผมด้วย คุณกลายมาเป็นมากกว่า เพื่อนร่วมงาน คุณกลายเป็นเพื่อนของผม ชีวิตผมจึงดีขึ้น ขอบคุณ มากส�ำหรับทุกอย่าง ขอบคุณมาร์ตี้ โบเว่น คุณท�ำงานได้ดีมากในฐานะโปรดิว เซอร์ของรักจากใจจร (Dear John) ผมซาบซึ้งในความพยายาม ที่จะช่วยเหลือผม รวมถึงมิตรภาพจากคุณด้วย ขอบคุณส�ำหรับ ทุกสิ่งที่คุณได้ท�ำ ผมดีใจที่เราได้ร่วมงานกันอีกครั้ง ขอบคุณเดวิด ยัง ประธานกรรมการของฮาแช็ตต์ บุ๊ก กรุ๊ป
6 วรางคณา เหมศุกล แปล
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณได้ท�ำให้ผมเป็นผู้โชคดี (The Lucky One) ผมปลาบปลื้มกับทุกสิ่งที่คุณท�ำ ขอบคุณครับ ขอบคุณแอบบี้ คูนส์ และเอมิลี่ สวีต จากพาร์ก ลิเทอรารี่ กรุ๊ป ผมขอบคุณจากใจจริงส�ำหรับความช่วยเหลือของพวกคุณ คุณทั้งสองช่วยผมมากกว่าที่ร้องขอทุกครั้ง ผมซาบซึ้งกว่าที่พวกคุณ รูเ้ สียอีก โอ๊ะ เอมิล!ี่ ยินดีดว้ ยส�ำหรับงานแต่งงาน (The Wedding) ขอบคุณเจนนิเฟอร์ โรมาเนลโล นักประชาสัมพันธ์ของผม จากจีซีพี และผู้ดูแล (The Guardian) การออกทัวร์ของผม… กราเซียส�ำหรับทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเคย คุณสุดยอดมาก ขอบคุณสเตฟานี่ ยีเกอร์ ผู้ช่วยของผม หลังจากภาพยนตร์ เรื่องโรดันเต้ร�ำลึก (Nights in Rodanthe) คุณก็ท�ำให้ชีวิตผม เดินไปข้างหน้าอย่างลื่นไหลตลอดมา ผมซาบซึ้งใจ ขอบคุณส�ำหรับ ทุกอย่างที่คุณท�ำ ขอบคุณเคิร์ทเนย์ วาเลนติ และเกร็ก ซิลเวอร์แมน จาก วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ขอบคุณที่ให้โอกาสผมและนิยายเล่มนี้ทั้งที ่ ไม่ได้อ่านมันล่วงหน้า มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายดายเลย แต่ผม ซาบซึ้งกับทางเลือก (The Choice) ของพวกคุณยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ผมตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับคุณทั้งสองอีกครั้ง ขอบคุณไรอัน แควานอห์ กับ ทัคเกอร์ ทูลีย์ จากริเลทิวิต ี้ มีเดีย และวิก กอดฟรีย์ ผมตื่นเต้นเป็นล้นพ้นกับภาพยนตร์ที่สร้าง จากเรือนรักแรมใจ (Safe Haven) ผมอยากขอบคุณทุกคนที่มอบ โอกาสให้ผมได้ร่วมงานด้วยอีกครั้ง มันเป็นเกียรติ ผมจะไม่มีวันลืม และรู้ว่าพวกคุณจะท�ำงานกันอย่างวิเศษ ขอบคุณอดัม แชงก์แมน และเจนนิเฟอร์ กิบก็อต ขอบคุณ
ใจไม่สิ้นรัก 7
ส�ำหรับการท�ำงานที่ยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ที่สร้างจากเพลงรักบท สุดท้าย (The Last Song) ผมเชื่อใจพวกคุณ และพวกคุณได้ผ่าน เข้ามา…หยิบยื่นบางสิ่งที่ผมจะไม่มีวันลืม ขอบคุณลีนน์ แฮร์ริส และมาร์ก จอห์นสัน เมื่อนานมาแล้ว ผมได้ท�ำงานกับคุณทั้งสอง และมันเป็นการตัดสินใจครั้งเยี่ยมที่สุด ครั้งหนึ่งในชีวิตการท�ำงานของผม ผมรู้ว่าพวกคุณสร้างภาพยนตร์ อี ก หลายต่ อ หลายเรื่ อ งหลั งจากนั้ น แต่ ผมจะรู ้ สึ ก ขอบคุ ณเสมอ ส�ำหรับภาพยนตร์จากเรื่องปาฏิหาริย์บันทึกรัก (The Notebook) ขอบคุณลอเรนโซ ดิโบนาเวนทูร่า ขอบคุณส�ำหรับภาพยนตร์ จากเรื่องก้าวรักในรอยจ�ำ (A Walk to Remember) กาลเวลา ทีเ่ ลยผ่านไม่เคยท�ำให้ความรักของผมต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ลดลงเลย ขอบคุณเดวิด พาร์ก, ชารอน คราสนีย์, แฟล็ก และทุกคน จากแกรนด์ เซ็นทรัล พับลิชชิ่ง และยูไนเต็ด ทาเลนต์ เอเจนซี่ ส�ำหรับครั้งหนึ่งที่ผมเคยใช้เวลาสามอาทิตย์กับพี่ชาย แต่เป็นเวลา สิบห้าปีมาแล้วทีผ่ มรูจ้ กั พวกคุณทุกคน ขอบคุณส�ำหรับทุกอย่างครับ!
ใจไม่สิ้นรัก 11
1 ภาพที่คอยหลอกหลอนดอว์สัน โคล เกิด ขึ้นหลังเหตุการณ์แท่นขุดเจาะน�้ำมันระเบิด ในวันที่เขาน่าจะตายไปแล้ว ตลอด 14 ปีเขาท�ำงานทีแ่ ท่นขุดน�ำ้ มัน หลายแห่ง คิดว่าเคยผ่านมาแล้วทุกเรื่อง ใน ปี 1997 เขาเห็นเฮลิคอปเตอร์ล�ำหนึ่งเสียการ ควบคุมขณะลงจอด ตัวเครื่องกระแทกกับ ลานจอดแล้วระเบิดเป็นกองเพลิง ส่วนเขาได้ แผลไฟไหม้ระดับสองบนหลังเพราะพยายาม เข้าไปช่วย มีคนตาย 13 คน ส่วนมากเป็น ผู้โดยสารในเฮลิคอปเตอร์ล�ำนั้น 4 ปีต่อมา เครนบนแท่นขุดน�้ำมันร่วงหล่นลงพื้น เศษ โลหะขนาดเท่าลูกบาสเกตบอลชิ้นหนึ่งลอย มาเกือบตัดหัวเขาขาด ในปี 2004 เขาอยู่
12 วรางคณา เหมศุกล แปล
ในกลุ่มคนงานสองสามคนซึ่งยังอยู่บนแท่นเมื่อเฮอร์ริเคนอีวาน พั ด ถล่ ม พายุ พั ด เร็ ว กว่ า หนึ่ ง ร้ อ ยไมล์ ต ่ อ ชั่ ว โมง คลื่ น ทะเลขึ้ น สูงมาก จนเขาคิดว่าต้องคว้าร่มชูชีพมาใส่ไหม ถ้าแท่นน�้ำมันถล่มลง แล้ ว ก็ ยั ง มี อั น ตรายครั้ ง อื่ น ๆ อี ก คนลื่ น ล้ ม อวั ย วะถู ก ตั ด ขาด แผลและรอยฟกช�้ำเป็นวิถีชีวิตของเหล่าคนงาน ดอว์สันเคยเห็นคน กระดูกหักมานับครั้งไม่ถ้วน มีอยู่สองครั้งที่คนงานทั้งหมดป่วย เป็นโรคอาหารเป็นพิษรุนแรง เมื่อสองปีก่อน ในปี 2007 เขาเห็น เรือบรรทุกน�้ำมันเริ่มจมลงหลังออกจากแท่น แต่เรือยามฝั่งช่วย ไว้ได้ในนาทีสุดท้าย แต่การระเบิดครั้งนี้ไม่เหมือนกัน เพราะไม่มีน�้ำมันรั่ว เหตุ การณ์จึงแทบไม่เป็นข่าวระดับชาติและเกือบถูกลืมหมดสิ้นภายใน สองสามวัน (ในตอนนั้นกลไกรักษาความปลอดภัยและกลไกส�ำรอง ได้ป้องกันการเกิดน�้ำมันรั่วในปริมาณมาก) แต่ส�ำหรับคนที่อยู่ตรง นั้น รวมทั้งเขาด้วย มันถือเป็นฝันร้ายทีเดียว ก่อนหน้านี้เขามี กิจวัตรทุกเช้า ตอนนัน้ เขาก�ำลังควบคุมเครือ่ งสูบน�ำ้ มัน เมือ่ จูๆ่ แท็งก์ เก็บน�้ำมันก็ระเบิด ยังไม่ทันได้ตั้งตัว แรงระเบิดก็เหวี่ยงตัวเขาลอย ไปกระแทกเพิงที่อยู่ใกล้ๆ แล้วไฟก็ลุกไปทั่ว ตัวแท่นซึ่งเต็มไปด้วย คราบน�ำ้ มันกลายเป็นขุมนรกอย่างรวดเร็ว เปลวไฟลุกท่วมทุกตาราง นิ้ว การระเบิดอย่างแรงอีกสองครั้งท�ำให้แท่นสั่นอย่างรุนแรงมาก ขึ้นด้วย ดอว์สันจ�ำได้ว่าตัวเองลากคนสองสามคนออกจากกองไฟ แต่การระเบิดครั้งที่สี่ซึ่งรุนแรงที่สุดโยนตัวเขาขึ้นไปในอากาศเป็น ครั้งที่สอง เขาจ�ำได้รางๆ ว่าตัวเองตกลงไปในน�้ำ ซึ่งเป็นการตก ที่อันตรายถึงตาย เมื่อรู้สึกตัวอีกที เขาก�ำลังลอยอยู่ในอ่าวเม็กซิโก ห่ า งจากตอนใต้ ข องอ่ า วเวอร์ มิ ล เลี่ ย น รั ฐ หลุ ย เซี ย นา ประมาณ
ใจไม่สิ้นรัก 13
90 ไมล์ เช่นเดียวกับคนอื่นส่วนมาก เขาไม่มีเวลาใส่ชุดชูชีพหรือคว้า อุปกรณ์ลอยตัว แต่ขณะลอยอยู่ในกระแสคลื่น เขาเห็นชายผมด�ำ คนหนึ่งโบกมืออยู่ไกลออกไป ราวกับส่งสัญญาณให้ดอว์สันว่ายน�้ำ ไปหา ดอว์สันว่ายไปทางนั้น ออกแรงต้านคลื่นมหาสมุทร เขารู้สึก เหนื่อยและมึนงง เสื้อผ้าและรองเท้าบู๊ตคอยถ่วงตัวให้จมลง แขน ขาเริ่มหมดแรงจนเขารู้ว่าต้องตายแน่ เขาคิดว่าว่ายน�้ำไปจนใกล้ถึง แล้ว แต่คลื่นทะเลท�ำให้ไม่อาจแน่ใจ ตอนนั้นเอง เขาเห็นห่วงยาง ช่วยชีวิตลอยอยู่ท่ามกลางเศษซากปรักหักพัง เขารวบรวมก�ำลัง เฮือกสุดท้ายแล้วว่ายไปเกาะห่วงยาง ในเวลาต่อมาเขาก็ได้รู้ว่า ตัวเองอยู่ในน�้ำเกือบสี่ชั่วโมงและถูกพัดออกไปเกือบหนึ่งไมล์จาก แท่นน�้ำมัน จนกระทั่งเรือบรรทุกสินค้าล�ำหนึ่งรีบรุดมาช่วยชีวิตไว้ เขาถูกดึงขึ้นเรือและอุ้มลงไปในตัวเรือพร้อมกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ เขาตัวสัน่ เพราะอุณหภูมใิ นร่างกายลดต�ำ่ กว่าปกติ รูส้ กึ มึนหัว สายตา พร่ า มั ว หมอวิ นิ จ ฉั ย หลั ง จากนั้ น ว่ า สมองเขากระทบกระเทื อ น เล็กน้อย แต่เขาก็รู้ตัวว่าโชคดีแค่ไหน เขาเห็นคนงานได้แผลไฟ ไหม้รุนแรงตามแขนและไหล่ คนอื่นๆ ก็เลือดไหลจากหูหรือไม่ก็ กระดูกหัก เขารู้จักชื่อของหลายคน มีสถานที่ไม่กี่แห่งไว้รองรับคน บนแท่นซึง่ เหมือนหมูบ่ า้ นเล็กๆ กลางมหาสมุทร ทุกคนต่างก็มงุ่ หน้า ไปยังโรงอาหาร ห้องพักผ่อนและห้องออกก�ำลังกาย แต่มีชายคน หนึ่งซึ่งเขารู้สึกคุ้นหน้า ดูเหมือนชายคนนั้นก�ำลังจ้องมองเขาจาก ในห้องทีม่ คี นแออัดกันอยู ่ เขามีผมสีดำ � อายุราวสีส่ บิ สวมเสือ้ คลุม มีฮู้ดสีน�้ำเงิน คงมีคนบนเรือให้เขายืมใส่กระมัง ดอว์สันคิดว่าเขาดู แปลกที่แปลกทาง ดูเหมือนพนักงานออฟฟิศมากกว่าคนใช้แรงงาน
14 วรางคณา เหมศุกล แปล
ชายคนนั้นโบกมือ ซึ่งกระตุ้นความทรงจ�ำถึงร่างที่เขาเห็นจากในน�้ำ เขานั่ น เอง ขนบนหลั ง คอของดอว์ สั น ลุ ก ชั น ก่ อ นที่ เ ขาจะทั น ได้ ทบทวนว่าความรู้สึกอึดอัดนั้นเกิดจากอะไร ก็มีคนเอาผ้าคลุมไหล่ ให้และผลักเขาไปยังมุมห้องที่มีแพทย์รอตรวจร่างกายอยู่ เมื่อเขานั่งลง ชายผมด�ำคนนั้นก็หายไปแล้ว ตลอดหนึ่ ง ชั่ ว โมงต่ อ มา มี ผู ้ ร อดชี วิ ต ถู ก พาขึ้ น มาบนเรื อ มากขึ้น แต่ขณะที่ร่างกายเริ่มอบอุ่น ดอว์สันก็เริ่มสงสัยว่าคนงาน ที่เหลือเป็นอย่างไร เขาไม่เห็นคนที่ท�ำงานด้วยกันมาหลายปีสักคน ต่อมาเขาจึงได้รู้ว่ามีคนตาย 24 คน ทางการพบศพเกือบทั้งหมด ในที่สุด ขณะที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล ดอว์สันหยุดคิดไม่ได้ว่า บางครอบครัวก็ไม่มีโอกาสบอกลาคนที่รักเลย เขานอนไม่ค่อยหลับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิด ไม่ใช่เพราะฝันร้าย แต่เพราะเขาสลัดความรู้สึกว่าตัวเองก�ำลังถูกจับจ้องไม่ได้ เขารู้สึก… ถูกหลอกหลอน แม้จะฟังดูไร้สาระก็เถอะ ทุกวันคืนเขาเหลือบเห็น บางสิ่งเคลื่อนไหว แต่พอหันไปก็ไม่เคยมีใครหรืออะไรอยู่ตรงนั้น เขาสงสัยว่าตัวเองก�ำลังเป็นบ้าหรือเปล่า หมอคิดว่าเขามีปฏิกิริยา ของความเครียดจากอุบัติเหตุครั้งนั้น เพราะมันกระทบเทือนจิตใจ และสมองของเขาอาจก�ำลังฟื้นตัวจากการกระแทก ฟังดูเข้าท่าและ มีเหตุผล แต่ดอว์สนั ก็ยงั ไม่สบายใจ เขาพยักหน้าให้หมอไปอย่างนัน้ หมอสั่งยานอนหลับให้ แต่ดอว์สันไม่สนใจจะกิน เขาได้รบั อนุญาตให้หยุดงาน 6 เดือนโดยทีย่ งั คงได้รบั ค่าจ้าง ในขณะเดียวกันกระบวนการทางกฎหมายก็เริ่มท�ำงานของมัน 3 อาทิตย์ถัดมา บริษัทก็จ่ายเงินชดเชยให้ เขาเซ็นชื่อบนเอกสาร ตอน นี้มีทนายหกคนติดต่อเขามาแล้ว ซึ่งต่างแย่งกันว่าความให้เหล่า
ใจไม่สิ้นรัก 15
พนักงานทีไ่ ด้รบั ความเสียหาย แต่เขายังไม่อยากรีบ เขารับเงินชดเชย ก้อนนัน้ แล้วฝากเช็คทันทีทไี่ ด้รบั เขามีเงินในบัญชีมากพอให้บางคน คิดว่าเขารวย เขาไปธนาคารแล้วโอนเงินส่วนมากเข้าบัญชีที่หมู่เกาะ เคย์แมน จากนั้นก็ส่งต่อเข้าบัญชีนิติบุคคลในปานามาซึ่งเปิดบัญชี ได้ด้วยเอกสารไม่กี่ฉบับ ก่อนจะโอนไปยังจุดหมายสุดท้าย เงิน ก้อนนี้ตามรอยได้ยากเช่นเคย เขาเก็บเงินไว้แค่ให้พอจ่ายค่าเช่าและค่าจิปาถะอื่นๆ เขาไม่ จ�ำเป็นต้องใช้เงินมาก และก็ไม่อยากได้เงินด้วย เขาอาศัยในบ้าน ส� ำ เร็ จ รู ป สุ ด ถนนลู ก รั ง ชานเมื อ งนิ ว ออร์ ลี น ส์ คนที่ ม าเห็ น บ้ า น หลังนี้อาจสรุปเอาเองว่า ข้อดีอย่างเดียวของมันคือน�้ำไม่ท่วมตอน ที่เฮอร์ริเคนคาทรีน่าถล่มในปี 2005 ตัวบ้านท�ำจากพลาสติกซึ่ง แตกร้าวและสีซดี ตัง้ อยูบ่ นอิฐบล็อกกองซ้อนกันเป็นฐานบ้านชัว่ คราว ซึง่ ก็กลายเป็นถาวรเมือ่ เวลาผ่านไป บ้านมีหนึง่ ห้องนอน หนึง่ ห้องน�ำ้ พื้นที่นั่งเล่นแคบๆ และครัวซึ่งแค่มีที่ให้วางตู้เย็นขนาดเล็ก บ้าน แทบไม่มีฉนวนกันความร้อน ความชื้นลอดผ่านพื้นบ้านขึ้นมาเป็น เวลาหลายปีจนเดินแล้วรู้สึกว่าพื้นเอียง เสื่อน�้ำมันในครัวเริ่มแตก ตรงมุม พรมผืนเล็กก็หลุดลุ่ย เขาจึงตกแต่งพื้นที่แคบตรงนั้นด้วย สิ่ ง ของซึ่ ง เขาทยอยซื้ อ มาจากร้ า นขายของมื อ สอง ไม่ มี รู ป ถ่ า ย ตกแต่งผนังเลยแม้แต่รูปเดียว เขาอยู่ที่นี่มาเกือบสิบห้าปีแล้ว แต่ มันก็ไม่ใช่บ้าน เป็นเพียงสถานที่ส�ำหรับกิน นอน และอาบน�้ำเท่านั้น แม้ว่าจะเก่า แต่บ้านก็สะอาดสะอ้านเหมือนบรรดาบ้านใน เขตการ์เด้น ดอว์สันมีนิสัยเจ้าระเบียบ เขาซ่อมรอยร้าวและอุดรอย ต่อปีละสองครัง้ เพือ่ ป้องกันสัตว์มพี ษิ และแมลง ทุกครัง้ ทีเ่ ตรียมตัว กลับแท่น เขาจะขัดพื้นครัวและห้องน�้ำด้วยน�้ำยาฆ่าเชื้อ และเอา
16 วรางคณา เหมศุกล แปล
ของซึ่ ง อาจเน่ า เสี ย ออกจากตู ้ ทุ ก ใบ ปกติ แ ล้ ว เขาท� ำ งาน 30 วั น ต่อเนื่อง แล้วตามด้วยวันหยุดอีก 30 วัน อะไรก็ตามที่ไม่อยู่ใน กระป๋องมักจะเสียภายในไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน พอกลับมาบ้านเขาก็จะขัดบ้านทุกซอกทุกมุม ระบายอากาศออก เพื่อขจัดกลิ่นเหม็นอับ แต่บ้านเงียบ และนั่นก็คือสิ่งที่เขาปรารถนาจริงๆ เขาอยู่ห่าง จากถนนเส้นหลักประมาณ 400 เมตร เพือ่ นบ้านหลังใกล้ทสี่ ดุ ยังอยู่ ห่างจากนั้นไปอีก หลังจากหนึ่งเดือนบนแท่น นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ หนึ่งในหลายสิ่งที่เขาไม่เคยท�ำใจให้ชินได้เสียทีคือเสียงดังไม่รู้จบสิ้น เสียงซึ่งไม่ได้เกิดเองโดยธรรมชาติ ตั้งแต่เครนที่ยกของทั้งวัน เฮลิ คอปเตอร์ เครื่องสูบ ไปจนถึงเสียงโลหะกระทบกัน มลภาวะทาง เสียงไม่เคยหยุดหย่อน แท่นสูบน�้ำมันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหมาย ความว่าแม้แต่ตอนที่ดอว์สันพยายามข่มตาหลับ เสียงก็ยังดังต่อไป เขาพยายามไม่ฟังเสียงตอนอยู่ที่แท่นน�้ำมัน แต่ไม่ว่าคราวใดที่กลับ มาบ้าน เขาก็จะถูกจู่โจมด้วยความเงียบสงัดภายใต้ดวงอาทิตย์ลอย นิ่งบนท้องฟ้า ในตอนเช้าเขาได้ยินเสียงเพลงของหมู่นกลอยมาจาก ต้นไม้ ครั้นตกค�่ำ เพียงไม่กี่นาทีหลังอาทิตย์ตก เขาชอบฟังจิ้งหรีด และกบร้องประสานกันเป็นจังหวะ ฟังแล้วผ่อนคลายสบายใจ แต่ บางครัง้ ก็ทำ� ให้คดิ ถึงบ้าน และเมือ่ รูส้ กึ คิดถึงบ้านขึน้ มา เขาก็จะกลับ เข้าข้างใน ไล่ความทรงจ�ำออกจากหัว เขาพยายามมุ่งความสนใจ ไปที่กิจวัตรประจ�ำวันอันเรียบง่ายซึ่งเป็นกิจกรรมส่วนใหญ่ในชีวิต ยามกลับมาบนแผ่นดิน เขากิน นอนหลับ วิ่ง ยกน�้ำหนัก และซ่อมรถ เขาขับรถไป เรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย บางครั้งก็ไปตกปลา เขาอ่านหนังสือทุกคืน
ใจไม่สิ้นรัก 17
และเขียนจดหมายถึงทัค ฮอสเทตเลอร์เป็นครั้งคราว ทั้งหมดที่ท�ำ ก็มีอยู่แค่นั้น เขาไม่มีทั้งโทรทัศน์หรือวิทยุ แม้จะมีโทรศัพท์มือถือ แต่ก็บันทึกเพียงเบอร์ของเพื่อนร่วมงาน เขาซื้อหาของใช้จ�ำเป็น และของจิปาถะ แวะเข้าร้านหนังสือเดือนละครั้ง แต่นอกจากนี้แล้ว เขาไม่เคยเข้าเมืองนิวออร์ลีนส์เลย ตลอด 14 ปีมานี้เขาไม่เคยไป ถนนเบอร์บอน หรือเดินเล่นย่านเฟรนช์ควอเตอร์ ไม่เคยไปจิบกาแฟ ที่คาเฟ่ ดู มงด์ หรือดื่มค็อกเทลเฮอร์ริเคนที่บาร์ลาฟีตส์ แบล็กสมิธ ช็อป เขาไม่ไปฟิตเนส แต่ออกก�ำลังกายหลังบ้านใต้ผืนผ้าใบที่เขา ขึงไว้ระหว่างบ้านกับต้นไม้ใกล้ๆ เขาไม่ไปดูหนังหรือนั่งดูคอนเสิร์ต ของวงเซนต์ที่บ้านเพื่อนยามบ่ายวันอาทิตย์ เขาอายุ 42 ปี และไม่ เคยออกเดตอีกเลยตั้งแต่สมัยวัยรุ่น คนส่วนใหญ่คงไม่สามารถหรือไม่มีวันใช้ชีวิตอย่างนั้นได้ แต่พวกเขาไม่รู้อะไรหรอก ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร และผ่านอะไรมาบ้าง แต่ไม่รู้น่ะดีแล้ว แต่ แ ล้ ว ในบ่ า ยของวั น ที่ อ ากาศอบอุ ่ น วั น หนึ่ ง กลางเดื อ น มิถุนายน จู่ๆ เขาก็ได้รับโทรศัพท์ ความทรงจ�ำมากมายในอดีต หวนคืนมาอีกครั้ง ดอว์สันหยุดงานมาเกือบ 9 อาทิตย์แล้ว เป็น ครั้งแรกในเวลาเกือบยี่สิบปีที่เขาจะกลับบ้านในที่สุด ความคิดนี้ ชวนอึดอัด แต่เขารู้ว่าไม่มีทางเลือก ทัคเป็นมากกว่าเพื่อน เขาเป็น เหมือนพ่อคนที่สอง ท่ามกลางความเงียบ ขณะที่นึกย้อนไปถึง ปีที่เป็นจุดหักเหในชีวิต ดอว์สันก็แวบเห็นใครคนหนึ่งเคลื่อนไหว อีกครั้ง แต่เมื่อหันไปก็ไม่เห็นอะไร เขานึกสงสัยอีกครั้งว่าตัวเอง ก�ำลังจะเป็นบ้าหรือเปล่า
18 วรางคณา เหมศุกล แปล
โทรศั พ ท์ ส ายนั้ น มาจากมอร์ แ กน แทนเนอร์ ซึ่ ง เป็ น ทนายอยู ่ ที่ โอเรียนทัล ในนอร์ธแคโรไลนา เขาโทร.มาบอกว่าทัค ฮอสเทตเลอร์ เสียชีวิตแล้ว “มีหลายอย่างทีค่ วรจัดการต่อหน้ากันครับ” แทนเนอร์ อธิบาย ความคิดแวบแรกของดอว์สันคือจองตั๋วเครื่องบินและ ห้องพักพร้อมอาหารเช้าในโรงแรมท้องถิ่น จากนั้นก็โทร.หาร้าน ดอกไม้จัดการให้ไปส่งดอกไม้ เช้าวันต่อมา หลังจากล็อคประตูหน้าบ้านแล้ว ดอว์สันก็เดิน อ้อมไปหลังบ้านเพื่อไปยังเพิงสังกะสีที่เขาจอดรถไว้ วันนั้นเป็นวัน พฤหัสบดีท ี่ 18 มิถนุ ายน 2009 เขาน�ำชุดสูทเพียงตัวเดียวทีม่ ไี ปด้วย พร้อมกระเป๋าผ้าซึ่งเขาแพ็คเสื้อผ้าใส่เมื่อคืนตอนที่นอนไม่หลับ เขา ไขแม่กุญแจแล้วดันประตูขึ้น มองแสงแดดสาดส่องลงมาบนรถ คันที่เขาคอยรักษาและซ่อมแซมมาตั้งแต่อยู่มัธยม มันเป็นรถฟอร์ด มัสแตง ฟาสต์แบ็ค ปี 1969 รถแบบที่ดึงสายตาคนสมัยนิกสันเป็น ประธานาธิบดี ที่แม้ตอนนี้ก็ยังดึงดูดสายตาอยู่ มันดูใหม่ราวกับเพิ่ง ลงจากสายพาน ตลอดหลายปีมีคนแปลกหน้านับไม่ถ้วนมาขอซื้อ ดอว์สันปฏิเสธไปทุกคน “มันเป็นมากกว่าแค่รถครับ” เขาบอกโดย ไม่อธิบายอะไรอีก ทัคคงเข้าใจดีว่าเขาหมายความอย่างไร ดอว์สันเหวี่ยงกระเป๋าผ้าลงบนเก้าอี้ด้านผู้โดยสารแล้ววาง ชุดสูทลงบนกระเป๋าก่อนจะเคลื่อนตัวมานั่งหลังพวงมาลัย เมื่อเขา บิดกุญแจ เครื่องยนต์ก็ติดขึ้นพร้อมเสียงกระหึ่ม เขาขับออกมา บนถนนกรวดแล้วกระโดดลงจากรถไปล็อคประตูโรงรถ ขณะล็อค กุญแจ เขาก็นึกทวนรายการสิ่งที่ต้องท�ำเพื่อให้แน่ใจว่ามีทุกอย่าง ครบแล้ว สองนาทีต่อมาเขาขับอยู่บนถนนหลัก และอีกครึ่งชั่วโมง ถัดมาเขาก็จอดรถในลานจอดระยะยาวของสนามบินนิวออร์ลีนส์
ใจไม่สิ้นรัก 19
เขาไม่อยากทิ้งรถไว้อย่างนี้แต่ก็ไม่มีทางเลือก จึงหยิบของขึ้นมาแล้ว มุ่งหน้าไปทางอาคารผู้โดยสาร ตั๋วเครื่องบินรอเขาอยู่ที่เคาน์เตอร์ สายการบินแล้ว ที่สนามบินคนเยอะ มีหนุ่มสาวเดินควงแขน ครอบครัวเดิน ทางไปเยี่ยมปู่ย่าตายาย หรือไม่ก็พาลูกไปเที่ยวดิสนีย์เวิลด์ บรรดา นักเรียนเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านและโรงเรียน ผู้โดยสารที่เป็น นักธุรกิจลากกระเป๋าสัมภาระตามหลังพลางพูดใส่โทรศัพท์รัวๆ เขา ต่อแถวซึ่งขยับเคลื่อนที่อืดอาด และรอจนกระทั่งมีเคาน์เตอร์ว่าง เขาแสดงบัตรประจ�ำตัวและตอบค�ำถามพื้นฐานด้านความปลอดภัย ก่อนจะได้รับบัตรขึ้นเครื่อง เครื่องบินแวะพักเครื่องที่ชาร์ลอตต์ ประมาณชั่วโมงเศษ ไม่เลวร้ายนัก เมื่อลงจอดที่นิวเบิร์นเขาก็ไปรับ รถเช่า เขามีเวลาอีก 40 นาทีบนถนน คิดว่าถ้าไม่มีเหตุขัดข้องอะไร ก็น่าจะไปถึงโอเรียนทัลตอนบ่ายแก่ๆ จนกระทัง่ นัง่ เก้าอีเ้ ครือ่ งบินแล้วนัน่ แหละ เขาจึงรูส้ กึ ว่าเหนือ่ ย มาก เขาไม่แน่ใจว่าเมื่อคืนหลับไปกี่โมง ครั้งสุดท้ายที่ดูนาฬิกาก็ เกือบตีสแี่ ล้ว แต่เขาคิดว่าจะนอนบนเครือ่ งบิน นอกจากนัน้ ยังไม่คอ่ ย มีอะไรให้ท�ำเมื่อไปถึง เขาเป็นลูกคนเดียว แม่ทิ้งไปเมื่ออายุสาม ขวบ ส่ ว นพ่ อ ของเขาก็ ท� ำ ตั ว เป็ น ประโยชน์ ด ้ ว ยการเมาหั ว ราน�้ ำ ตลอดชีวิตดอว์สันไม่ได้คุยกับคนในครอบครัวหลายปีแล้ว และก็ ไม่คิดจะสานสัมพันธ์ใหม่ด้วย นี่เป็นการเดินทางสั้นๆ รีบไปรีบกลับ เขาจะท�ำสิ่งที่ต้องท�ำ และวางแผนว่าจะไม่แกร่วอยูท่ นี่ นั่ นานเกินจ�ำเป็น เขาโตมาทีโ่ อเรียน ทัลก็จริง แต่ไม่เคยรู้สึกว่าที่นั่นเป็นบ้าน โอเรียนทัลที่เขารู้จักไม่ใช่ ภาพอันเริงร่าแบบที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวพยายามโฆษณา ส�ำหรับ