ÃÙà¾Ôà µ ¤Ô§¿ ªàªÍà à¢Õ¹ «Ù àÎÅÅÒà ´ ÀÒ¾»ÃСͺ ÇÔÅÒÊÔ¹Õ à´ÍàºÊ á»Å กรุงเทพมหานคร M Young, สํานักพิมพ์มติชน 2556
3
บทที่หนึง่
ณ ริมฝั่งแม่น�้ำของกรุงปารีส ร้านขายของร้าน
หนึ่ ง ซ่ อ นตั ว อยู ่ ใ นตรอกแคบๆ ที่ ค ดเคี้ ย วและห่ า ง จากถนนใหญ่ ตัวร้านดูคอ่ นข้างทรุดโทรม สีทที่ าไว้ซดี จาง กันสาดมีฝนุ่ จับและหน้าต่างมีคราบเขม่าด�ำเขรอะ เหนือประตูร้านมีป้ายเขียนว่า ‘เอดิเบิลส์’ เพราะมัน 9
เป็นร้านขายอาหารสารพัดชนิดที่หายากและ มาจากแดนอันไกลโพ้น แต่ไม่ใช่แค่นนั้ หรอก ร้านนีเ้ ป็นของมาดามแปมเปิลมูส และเธอก็ ขายของกินที่แสนแปลกประหลาด หายาก อร่อยล�้ำพิเศษสุด รสชาติมหัศจรรย์อย่าง หาไม่ได้ที่ไหนแล้วในโลก กลิ่นอับชื้นอวลอยู่ภายในร้านซึ่งมีแต่แสงเทียน เท่านัน้ ทีใ่ ห้ความสว่างอยู ่ และในเงาริบหรีน่ นั้ ก็ปรากฏ ให้เห็นไส้กรอกและสมุนไพรแห้งสารพัดอย่าง นอก จากนี้ก็ยังมีกระเทียม พริกแห้ง และเนื้อเค็มชิ้นมหึมา ห้ อ ยระโยงระยางอยู ่ เ ป็ น พวงจากเพดานร้ า นด้ า น ล่างมีเนยแข็งนานาชนิดวางอยู่บนใบไม้สีเขียวเข้ม รอบๆ ร้านมีชั้นวางของมากมายเรียงรายขึ้นไป จรดเพดาน มันเต็มไปด้วยขวดและกระปุกรูป ร่างประหลาดตา
แต่เมื่อดูใกล้ๆ จะเห็นว่านั่นไม่ใช่ไส้
กรอกธรรมดาๆ มันเป็นไส้กรอกที่ท�ำจากเนื้อ 10
ไบซอนกับพริกไทยด�ำ หมูป่ากับไวน์แดง และมิโนทอร์ซาลามีกับใบเสจและใบไทม์ ป่า ในบรรดาเนื้อเค็มเหล่านั้นประกอบด้วยหางแร็พเตอร์หมักเกลือ เทอโรแดกทิลเบคอน เสือเขี้ยวดาบ รมควัน และลิน้ ไทแรนโนซอรัสเร็กซ์มว้ น เนยแข็งต่างๆ เหล่ า นั้ น มี ก ลิ่ น สุ ด จะบรรยาย บางชนิ ด ก็ เ ก่ า ขนาด ย้ อ นไปถึ ง ยุ ค กลาง และบนขวดและกระปุ ก ต่ า งๆ เหล่านั้นมีฉลากเขียนไว้อย่างสวยงามด้วยหมึกสีม่วง ได้แก่ หางแมงป่องในน�ำ้ มันกระเทียมรมควัน ไตจระเข้ ในไวน์บลูเบอร์รี่ สมองงูเห่าในเนยด�ำ ปลาปิรันย่าย่าง ในราสเบอร์รซี่ อส ปาเต้ปลาไหลไฟฟ้ากับ กระเทียมและพรุน ครีบฉลามขาวยักษ์ ในเหล้ารสกล้วย หนวดปลาหมึกยักษ์ใน เยลลี่กลิ่นมะลิ
ร้านมีบันไดวนลงไปยังใต้ถุนได้ ตรงสุดทางเดิน
ยาวและมื ด นั้ น มี ป ระตู อ ยู ่ บ านหนึ่ ง ซึ่ ง ถู ก ปิ ด ล็ อ กไว้ ตลอดเวลา เพราะมันเป็นห้องที่มาดามแปมเปิลมูสใช้ 12
ปรุงอาหารอันโอชะที่หาไม่ได้ง่ายๆ อาหารวิเศษที่ว่านี้ บรรจุอยู่ในกระปุกใบจิ๋วซึ่งมีป้ายติดอยู่แต่ไร้ข้อความ ใดๆ และส่ ว นผสมทั้ ง ปวงก็ เ ป็ น ความลั บ เพราะมั น เป็นอาหารอันโอชะหนึ่งเดียวที่อร่อยล�้ำพิเศษสุด รส ชาติมหัศจรรย์อย่างหาที่ไหนไม่ได้แล้วในโลก
แต่ทั้งๆ ที่มาดามแปมเปิลมูสขายอาหารแสน
อร่อยเท่าที่เคยมีมา ร้านของเธอก็ไม่ได้เป็นที่โด่งดัง ในปารีสแต่อย่างใด และเธอก็ไม่ได้ต้องการให้เป็น เช่นนัน้ ด้วย เธอมีชวี ติ อยูไ่ ด้โดยไม่ลำ� บาก เธอมีความ สุขที่ตื่นแต่เช้าตรู่ทุกวัน ดื่มกาแฟด�ำถ้วยเล็กๆ แล้ว ก็เปิดร้านให้บริการลูกค้าและพบปะกับผู้จัดหาสินค้า ให้เธอ เมื่อตกค�่ำเธอชอบไปนั่งที่ระเบียงเหนือหลัง คาร้าน คุยเรื่องสัพเพเหระกับกาม็องแบร์ แมวเหมียว ของเธอพร้อมจิบไวน์กลีบดอกไวโอเล็ต
กาม็องแบร์ เคยเป็นแมวจรจัดมา
ก่อน คืนหนึง่ มันเผชิญหน้ากับกลุม่ แมว ไทยขาโหดและต่ อ สู ้ กั น จนกาม็ อ งแบร์ 13
ตาบอดไปข้างหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับ สิ่ งที่ เ กิ ดขึ้ นกั บแมวไทยพวกนั้น นับตั้ง แต่ นั้ นมามัน จึ ง เป็ นที่ รู ้ จั กในฐานะเจ้ า เหมี ย วที่ ใ ครอย่ า ได้ แ หย็ ม มาดามแปมเปิลมูสกับกาม็องแบร์ถูกชะตากันตั้งแต่ แรกพบและอยู่ด้วยกันอย่างเป็นมิตร แม้ว่าบางครั้ง มันจะท�ำให้ลูกค้าเสียความรู้สึกอยู่บ้างโดยท�ำท่าขู่จะ กัดคนที่มันไม่ชอบหน้า
ชายร่างอ้วนเป็นหมูนามว่าเมอร์สิเออร์ลาร์ด
เป็นคนที่กาม็องแบร์ไม่ชอบหน้าขนาดหนัก ชายผู้น ี้ เป็นเจ้าของร้านอาหารใหญ่โตหรูหราซึ่งอยู่ใจกลาง เมื อ งชื่ อ ร้ า นหมู เ สี ย งแหลม ปั ญ หาของร้ า นนี้ ก็ คื อ ลาร์ดคิดว่าอาหารของเขามีรสชาติเข้าขั้น ถึงขนาด เป็นหนึ่งในบรรดาร้านยอดเยี่ยมของปารีส แต่เอา เข้าจริงแสนจะน่าขยะแขยง ไม่ว่าเขาจะท�ำอาหาร อะไร ก็ล้วนออกมาเลี่ยนหรือไม่ก็หวานเกิน หรือมัน เยิม้ เกิน และอีกปัญหาหนึง่ ก็คอื ลาร์ดปฏิบตั ติ อ่ ลูกค้า ยิ่งแย่หนักเข้าไปกว่าอาหารของเขาเสียอีก ครั้งหนึ่ง 14
เขาต้องการสร้างความประทับใจให้ลูกค้าผู้เป็นดารา ฮอลลีวู้ดซึ่งแวะเข้ามารับประทานอาหารกลางวันแบบ เบาๆ ที่ร้าน ลาร์ดจึงเสิร์ฟลูกแกะทั้งตัวชุบแป้งทอด และราดด้วยน�้ำเชื่อมส้ม ปรากฏว่าดาราฮอลลีวู้ดคน นั้นเกิดอาการคลื่นไส้อย่างรุนแรง
เมอร์สิเออร์ลาร์ดมีทีมเชฟท�ำงานอยู่ในครัวที่
ร้าน หลายคนเป็นเชฟที่เก่งทีเดียว ทว่ามีแต่คนโง่ เท่านั้นที่จะกล้าวิจารณ์ ‘อาหารจานเด็ดของร้าน’ ซึ่ง เป็นฝีมอื ของลาร์ด นัน่ ก็เพราะว่าลาร์ดมีความสามารถ แท้จริงอยู่อย่างเดียว คือท�ำให้ใครต่อใครกลัวเขาจน หัวหด พ่อครัวที่มีประสบการณ์สูง เคยท�ำงานในร้าน อาหารเยี่ยมๆ และมีลูกค้าคับคั่งในปารีส เกิดอาการ สั่นเป็นเจ้าเข้า ท�ำข้าวของหล่นอุตลุดวุ่นวายกันหมด เมื่อลาร์ดเยื้องเข้ามาในครัว แม้กระทั่งหัวหน้าเชฟ ของร้ า นซึ่ ง เคยเป็ น พ่ อ ครั ว ฝี มื อ ฉกาจ ก็ ก ลั บ กลาย เป็ น คนไม่ ไ ด้ เ รื่ อ งหลั ง จากถู ก ลาร์ ด กดขี่ ม าหลายปี และยังถูกบังคับให้เตรียมอาหารที่น่าขยะแขยงอย่าง 15
เช่น พิซซ่าหูหมู เบอร์เกอร์ไตกับดับเบิลครีม ไส้กรอก เครื่องในกับอาหารทะเล หรือราวิโอลีปูในซอสช็อก โกแลตขาวร้อนๆ
อั น ที่ จ ริ ง เชฟที่ เ ก่ ง ที่ สุ ด
ของร้ า นหมู เ สี ย งแหลมก็ คื อ หลานสาวของลาร์ ด ผู ้ มี น าม ว่ามัดแล็นด์ ทุกฤดูร้อนพ่อแม่ ของมัดแล็นด์จ ะส่งเธอมาอยู ่ กั บ ‘ลุ ง ร่ า งใหญ่ ใ จดี ’ แต่ เ มื่ อ มัดแล็นด์บอกพ่อแม่ว่าจริงๆ แล้วลุงของเธอไม่ใช่คน ใจดี แต่เป็นจอมละโมบผู้ชอบกดขี่คนอื่น แม่แทบจะ เป็นลม และพ่อก็บอกว่าอย่าใจแคบนัก ดังนั้น นับ ตั้งแต่นั้นมา เมื่อพ่อแม่ของมัดแล็นด์ไปท่องเที่ยวล่า สัตว์หรือเที่ยวรอบโลกโดยเรือส�ำราญ เธอก็จะถูกส่ง ไปท�ำงานในครัวที่ร้านหมูเสียงแหลม ที่ร้านอาหาร แห่งนี้เธอจะต้องยิ้มให้มากๆ ลาร์ดหมกมุ่นอยู่กับการ ยิ้มอย่างจริงจัง ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนเสิร์ฟชายหญิง 16
เชฟ และแม้แต่คนท�ำความสะอาดซึ่งท�ำงานอยู่ด้าน หลังประตูครัวบานยักษ์ ต่างถูกสั่งให้ยิ้มตลอดเวลา อันทีจ่ ริงร้านของลาร์ดก็ไปได้ด ี เนือ่ งจากมีลกู ค้า ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวและแขกขาจรที่มีเงินและคาดว่า อาหารจะต้องอร่อยเพราะราคาแพง และหากจะว่าไป อาหารอื่นๆ ในร้านก็อร่อยทุกอย่างยกเว้นแต่อาหาร จานเด็ ด ของลาร์ ด แต่ ล าร์ ด เป็ น คนไม่ รู ้ จั ก พอ เขา อยากมีชื่อเสียงมากกว่าสิ่งอื่นใด อยากได้ชื่อว่าเป็น เชฟที่เก่งที่สุด แต่ฝันไปเถอะ มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก นั่น อาจจะเป็นเพราะจริงๆ แล้ว เขาเป็นเชฟที่แย่ที่สุด เท่าที่โลกเคยมีมา และยิ่งเขาพยายามมากเท่าไหร่ อาหารของเขาก็ยิ่งออกมาน่าขยะแขยงและน่าหัวเราะ เยาะมากขึ้นทุกที จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้ค้นพบสิ่ง มหัศจรรย์บางอย่างและสิ่งนั้นก็มีที่มาจากมัดแล็นด์ หลานสาวของเขานั่นเอง
17