คังซี
จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 ตอน ศึกรวมแผ่นดิน
คังซี
จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 ตอน ศึกรวมแผ่นดิน
เอ้อเยว่เหอ เขียน เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
กรุงเทพมหานคร ส�ำนักพิมพ์มติชน 2557
คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 • เรืองชัย รักศรีอักษร แปล จากเรื่อง《康熙大帝·惊风密雨》ของ 二月河 Copyright © 2009 by 二月河. All rights reserved. Thai Language Copyright © 2014 by Matichon Publishing House. All rights reserved. Published by arrangement with 长江文艺出版社 Through Tuttle-Mori Agency Co., Ltd. พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, ตุลาคม 2557 ราคา 380 บาท ข้อมูลทางบรรณานุกรม เอ้อเยว่เหอ. คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2. กรุงเทพฯ : มติชน, 2557. 520 หน้า. 1. วรรณกรรมจีน I. เรืองชัย รักศรีอักษร, ผู้แปล II. ชื่อเรื่อง 895.13 ISBN 978 - 974 - 02 - 1327 - 7 ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์ : อารักษ์ คคะนาท, สุพจน์ แจ้งเร็ว, สุชาติ ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์ สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : รุจิรัตน์ ทิมวัฒน์ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์ บุนปาน • หัวหน้ากองบรรณาธิการ : พัลลภ สามสี บรรณาธิการเล่ม : ภาวินีย์ สังขรัตน์ • ผู้ช่วยบรรณาธิการ : จันทรัตน์ สิงห์โตงาม พิสูจน์อักษร : โชติช่วง ระวิน • กราฟิกเลย์เอาต์ : กิตติชัย ส่งศรีแจ้ง ศิลปกรรม : นุสรา สมบูรณ์รัตน์ • ออกแบบปก : สิริพงษ์ กิจวัตร ประชาสัมพันธ์ : ตรีธนา น้อยสี • นักศึกษาฝึกงานแผนกประชาสัมพันธ์ : ฐิมาภรณ์ โพธิ์ขวัญ หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�ำนวนมากในราคาพิเศษ เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3353 โทรสาร 0-2591-9012 www.matichonbook.com บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) : 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 1235 โทรสาร 0-2589-5818 แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองการเตรียมพิมพ์ บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 2400-2402 พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด 27/1 หมู่ 5 ถนนสุขาประชาสรรค์ 2 ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 โทรศัพท์ 0-2584-2133, 0-2582-0596 โทรสาร 0-2582-0597 จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี จำ�กัด (ในเครือมติชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3350-3353 โทรสาร 0-2591-9012 Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd, Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน
สารบัญ
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ค�ำน�ำผู้แปล แนะน�ำตัวละครส�ำคัญ
บทที่ 1 ฟู่หงเลี่ยเดินทางมารับโทษที่เมืองหลวง โจวเผยกงช่วยหญิงสาวอ่อนแอ บทที่ 2 พบปะเจ้าครองหัวเมืองที่วังเฉียนชิง ฟู่หงเลี่ยชนะพระทัยฮ่องเต้ บทที่ 3 ข่งสื้อเจินลดตัวแต่งงานกับซุนเหยียนหลิง คังซีพระราชทานหอกให้หม่าเย่าจื่อ บทที่ 4 ย่าหลานไปนมัสการเขาหวู่ไถ บุกข่มขู่ราชบุตรเขยถึงจวน บทที่ 5 สามหวังประชุมลับที่ยวิ๋นหนาน เหล่าที่ปรึกษาเสนอแผนต่อต้านชิง บทที่ 6 จูซานไท่จื่อเยือนวังหวู่หัว คังซีลอบเสด็จยังเขาไท่หัง บทที่ 7 วิจารณ์นโยบายชาม้าที่ซาเหอเป่า คืนหิมะตกหนักทรงห่วงใยราษฎร บทที่ 8 หลี่อวี่เหลียงสังหารโจรกลางดึก หลิวชิงหยวนจัดเลี้ยงแขกเจ้าเล่ห์ บทที่ 9 บัญชาเสี่ยวเหมาจื่อเล่นงานเจ้าเมือง หวังฝู่เฉินตัดไมตรีกลับฉางอัน บทที่ 10 คังซีพบผู้สืบเชื้อสายหมิงที่อ�ำเภอกู้อัน นายอ�ำเภอหย่งติ้งเหอฟ้องผู้ว่าการเขต บทที่ 11 เว่ยตงถิงก�ำจัดขุนนางชั่วบนเขื่อน คังซีปลอบขวัญขุนนางตงฉิน บทที่ 12 หวู่ฉื้อโหย่วถวายนโยบายส�ำคัญ หวงไท่ชงร่ายกวีชมหิมะ บทที่ 13 ชมดอกเหมยแดงรู้ใจสหายเก่า ชุมนุมกวีหวู่ฉื้อโหย่วแสดงความเป็นอัจฉริยะ บทที่ 14 หวู่ฉื้อโหย่วพบหญิงสาวมัวเมาในรัก เจ้าลิงน้อยพบผู้มีพระคุณ บทที่ 15 จอมยุทธ์สาวเล่นงานบ่าวชั่ว หวู่ฉื้อโหย่วรักษาสัตย์ตอบแทนเจ้าเหนือหัว
8 9 10 19 29 39 49 60 72 82 92 100 111 122 128 138 147 156
บทที่ 16 องค์หญิงสี่ต�ำหนิหมิงจู ป้าซุนคิดถึงเจ้าเหนือหัว 165 บทที่ 17 สาวยากจนช่วยคนที่หอเจียงเจ้อ บัณฑิตใช้ฝูจีเผยชะตาชีวิตสุดระทม 174 บทที่ 18 ฟังเพลงเศร้าโอรสสวรรค์ห่วงใยราษฎร โจวเผยกงแสดงความเป็นอัจฉริยะ 184 บทที่ 19 หารือการยกเลิกหัวเมืองอิสระ เสด็จเยือนวัดหนิวเจียช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน 194 บทที่ 20 คังซีตัวปลอมอาละวาดมัสยิด ฮ่องเต้จริงใช้ปัญญาสู้ซานไท่จื่อ 204 บทที่ 21 เป่าขลุ่ยท�ำนองเพลงโศก ร้องเพลงซานเกอเคราะห์ร้ายกลายเป็นดี 212 บทที่ 22 หลี่ยวิ๋นเหนียงดูแลคนป่วยในโรงเตี๊ยมยวิ่นเหอ หูกงซานช่วยชีวิตคนที่เหยี่ยนโจว 220 บทที่ 23 หญิงงมงายรักกินถั่วเขียวกล่าวอ�ำลา บัณฑิตซื่อตรงพลาดพลั้งถูกจับขัง 229 บทที่ 24 บัณฑิตใหญ่ตอบแทนคุณเด็กสาวยากไร้ ฮองเฮาสอบขันทีหาไส้ศึก 239 บทที่ 25 เสี่ยวเหมาจื่อถูกโบยตามแผนยอมเจ็บตัว หวงสื้อชุนให้ยาซื้อใจเสี่ยวเหมาจื่อ 248 บทที่ 26 หวู่ฉื้อโหย่วถูกหลอกประสบภัย หลี่ยวิ๋นเหนียงบุกช่วยถูกธนูบาดเจ็บ 257 บทที่ 27 พี่น้องปลอมหนีไปชวีฟู่เจิ้นตลอดคืน แม่เฒ่าใจดีรับคนพเนจร 264 บทที่ 28 ยายจางเล่าเหตุการณ์ในอดีต หวู่ฉื้อโหย่วพูดชมนิยายเรื่องพัดดอกท้อ 272 บทที่ 29 ข่งสื้อเจินลงใต้ตามพระบัญชา เจ้าลิงน้อยบุกแดนประหาร 281 บทที่ 30 ผัวเมียแตกคอราชบุตรเขยแปรพักตร์ องค์หญิงยึดอ�ำนาจทางการทหาร 289 บทที่ 31 เจ้ากับขุนนางหารือยกเลิกหัวเมืองอิสระ ให้โจวเผยกงร่างราชโองการ 300 บทที่ 32 บัณฑิตเล่นหมากวิจารณ์สถานการณ์ ฮ่องเต้ทรงใช้ความจริงใจโน้มน้าวราชบุตรเขย 309 บทที่ 33 หยางฉี่หลงวางแผนป่วนเป่ยจิง หวูอิงสุงท�ำสงครามลิ้นที่ถนนกู่โหลวตะวันตก 319 บทที่ 34 เจ้ากับขุนนางตรากตร�ำจนมืดค�่ำ เป่าจู้ลอบเข้าวังขโมยป้ายทองยอมจ�ำนน 328 บทที่ 35 แผนซ้อนแผนใช้อุบายต�่ำช้า กลซ้อนกลสาวงามท�ำให้ฮ่องเต้หวั่นไหว 337 บทที่ 36 หวงสื้อชุนรับกรรมที่ก่อ เสี่ยวเหมาจื่อจากร้ายกลายเป็นดี 345 บทที่ 37 ขันทีเตือนภัยอย่างร้อนรน สองพี่น้องปลิดชีพตัวเอง 354 บทที่ 38 ชายาจางอาละวาดศาลาเลี่ยชุ่ย จูกั๋วจื้อรับต�ำแหน่งข้าหลวงตรวจการ 364
บ ทที่ 39 หวูซานกุ้ยแกล้งต�ำหนิหม่าเป่า ซุนเหยียนหลิงประหารแม่ทัพชูธงลุกขึ้นสู้ บทที่ 40 วังสื้อหรงก่อกบฏที่ส่านซี ข้าหลวงใหญ่ถูกสังหารที่ฉางอาน บทที่ 41 หวูอิงสุงร้อนใจหาทางหนี หวู่ฉื้อโหย่วหมดหนทางต้องกลับเมืองหลวง บทที่ 42 หวูซานกุ้ยประกาศต่อต้านชิง จูกั๋วจื้อด่าขุนนางกบฏก่อนพลีชีพ บทที่ 43 อาจารย์กับศิษย์พบกันอีกครั้ง จอมยุทธ์หญิงปลิดชีพตัวเองท่ามกลางหิมะ บทที่ 44 คังซีทรงปล่อยหวังจี๋เจิน หวู่ฉื้อโหย่วออกบวชที่วัดต้าเจว๋ บทที่ 45 หวูอิงสุงหนีไปสถานีพักม้าลู่เหอกลางดึก เสี่ยวเหมาจื่อพูดขู่จนหวังเจิ้นปังหัวใจวาย บทที่ 46 เจ้าลาดื้อรับพระบัญชาปกป้องวังหลวง หยางฉี่หลงจนตรอกต้องหนีตาย บทที่ 47 คังซีตรวจพลที่หอหวู่เฟิ่ง โจวเผยกงร่ายกลอนในวังฉู่ซิ่ว บทที่ 48 วังสื้อหรงลอบเข้ากว่างโจวกลางดึก ซุนเหยียนหลิงกลับใจที่อารามไป๋อี บทที่ 49 ฉาฮาเอ่อก่อกบฏโจมตีเป่ยจิง โจวเผยกงขึ้นแท่นพิธีใช้อาญาทหาร บทที่ 50 แม่ทัพใหญ่น�ำทัพบดขยี้ผิงเหลียง หวังฝู่เฉินแตกพ่ายที่ริมฝั่งแม่น�้ำจิงเหอ บทที่ 51 โจวเผยกงบุกเผาเนินพยัคฆ์ วังสื้อหรงฉวยโอกาสลอบเข้าเมือง บทที่ 52 สองทูตพูดโน้มน้าวหวังฝู่เฉิน จางเหลียงน้อยคับแค้นใจจนกระอักเลือดตาย บทที่ 53 หวูซานกุ้ยสิ้นชีพหลังครองบัลลังก์ คังซีพระราชทานเมล็ดพันธุ์ให้เหล่าขุนนางแสดงความเห็น
372 383 393 403 412 422 433 442 452 463 472 483 493 502 510
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
ใน คังซี จอมจักรพรรดิตา้ ชิง เล่ม 1 ตอน แผนกูบ้ ลั ลังก์ อ๋าวป้าย ศัตรูผทู้ รงอิทธิพล ในราชส�ำนักถูกสยบจนสิ้นฤทธิ์ไปแล้ว ในตอน ศึกรวมแผ่นดิน นี้ ศัตรูผู้แข็งแกร่งอีกราย ซึ่งสะสมเสบียงกรัง ระดมก�ำลังทหารอยู่ภายนอก เฝ้ารอโอกาสอันสุกงอมได้ขึ้นมาแสดง บทบาท เขาก็คือ หวูซานกุ้ย คนขายชาติชื่อกระฉ่อน หวูซานกุ้ยเป็นชาวฮั่น แต่ภายหลังทรยศชาติ เปิดด่านให้แมนจูบุกเข้าสู่กรุงปักกิ่ง ยอมสวามิภักดิ์ต่อต้าชิงจนได้ครอบครองยวิ๋นหนาน ผ่านเวลานับสิบปี สั่งสมเงินทองและ อิทธิพลได้ระดับหนึ่งแล้วจึงเริ่มคิดการใหญ่ ด้วยการปลุกระดมสามหัวเมืองอิสระให้โค่น ล้มอาณาจักรต้าชิง ฝ่ายฮ่องเต้คังซีในวัยหนุ่มน้อย แม้จะขจัดอ๋าวป้ายไปแล้ว ทว่าราชบัลลังก์ของ พระองค์ก็ยังไม่มั่นคง จ�ำต้องก�ำจัดภัยแฝงเร้นให้สิ้นซากเสียก่อน การนี้ถือเป็นภารกิจ ใหญ่ที่ใช้เวลายาวนานถึงแปดปีจึงจะก�ำราบสามหัวเมืองอิสระจนราบคาบได้ แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่หลักการ “เลือกใช้คนให้ถูกงาน” ยังคงใช้ได้เสมอ ในเล่มนี้จะสะท้อนให้เห็นพระอัจฉริยภาพในการเลือกใช้คนของฮ่องเต้คังซี จนสามารถ พลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดีได้ในท้ายที่สุด แต่ก่อนจะถึงวันนั้นต้องผ่านเหตุร้าย มากมาย อาศัยร้อยเล่ห์กลลวงในแผนการช่วงชิงแผ่นดิน และชีวิตอีกนับร้อยพันที่ต้อง เสียสละ หลากเรื่องราวชีวิตสะเทือนใจ หลายบทกลอนเปี่ยมความหมาย และเศษเสี้ยว เหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์ ถูกร้อยเรียงอย่างน่าตื่นตาตื่นใจด้วยฝีมือเอ้อเยว่เหอ ถ่ายทอดเป็นภาษาไทยอย่างราบรื่นงดงามโดยเรืองชัย รักศรีอักษร ส�ำนักพิมพ์มติชน ขอน�ำมาก�ำนัลแด่ผู้อ่านที่รักด้วยความภาคภูมิใจยิ่ง ส�ำนักพิมพ์มติชน
8 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
ค�ำน�ำผู้แปล
คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 ตอน ศึกรวมแผ่นดิน เริ่มเรื่องหลังจากที่คังซี ทรงก�ำจัดอ๋าวป้ายส�ำเร็จในปี 1669 ในรัชศกคังซีปีที่แปด ขณะที่มีพระชนมายุเพียง 15 พรรษา ในเล่ม 2 บรรยายเรื่องราวในช่วงวัยรุ่น (วัยทีนเอจ) ของพระองค์ซึ่งต้องท�ำ สงครามปราบสามหัวเมืองอิสระที่มีหวูซานกุ้ยเป็นหัวโจกเพื่อรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็น เอกภาพ เนื้อหาในเล่มนี้สะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพของคังซีและความห่วงใยบ้านเมืองและ ราษฎรของพระองค์ เมื่ออ่านจบแล้วจะท�ำให้เกิดค�ำถามในใจว่า ถ้าขณะนั้นไม่ใช่อ้าย ซินเจว๋หลัวเสวียนเย่ขนึ้ ครองราชย์ตอ่ จากฮ่องเต้ซนุ่ จือ้ บางทีอาณาจักรต้าชิงอาจไม่ยนื ยาว ต่อมาอีกกว่าสองร้อยปี ข้อเด่นของคังซีคือทรงสันทัดในการเลือกใช้คน ไม่เลือกว่าเป็น ขุนนางชาวแมนจูหรือฮั่น ขอเพียงมีความสามารถก็ทรงมอบหมายภารกิจให้ ทั้งยังทรง มีพระทัยกว้าง เมื่อมีพระด�ำริหรือตัดสินพระทัยผิดพลาดก็ทรงยอมรับอย่างจริงใจ ท�ำให้ สามารถรวบรวมความเห็นต่างๆ ได้รอบด้าน เป็นข้อดีประการหนึ่งของผู้ที่จะเป็นจอม จักรพรรดิในวันหน้า เรื่องราวในเล่ม 2 จะสนุกตื่นเต้นและน่าติดตามกว่าเล่ม 1 เพียงไร ขอให้ผู้อ่าน เป็นผู้ตัดสิน ความดีของหนังสือเล่มนี้คงเป็นของเอ้อเยว่เหอผู้ประพันธ์ ส่วนข้อผิดพลาด ใดๆ ในการแปล ผู้แปลขอน้อมรับไว้ เรืองชัย รักศรีอักษร
คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 9
แนะน�ำตัวละครส�ำคัญ
โจวเผยกง
บัณฑิตตกยาก มีความเชี่ยวชาญทั้งบู๊และบุ๋น ต่อมาเป็นขุนนางคู่ บัลลังก์ของคังซี สร้างความชอบในสงครามปราบกบฏหัวเมืองอิสระ
ข่งสื้อเจิน
บุตรีของข่งโหย่วเต๋ออดีตแม่ทัพกว่างซี เป็นพระธิดาบุญธรรมของ ไทฮองไทเฮา และเป็นเพือ่ นสนิทของซูหมาหล่ากู ต่อมาแต่งงานกับ ซุนเหยียนหลิงแม่ทัพกุ้ยหลิน
เสี่ยวเหมาจื่อ
ขันทีคนสนิทของคังซี แฝงตัวเข้าไปในนิกายจงซานหลาง เสี่ยงชีวิต ช่วยคังซีปราบกบฏ เป็นคนฉลาดมีไหวพริบ รู้จักเอาตัวรอด
หลี่ยวิ๋นเหนียง
จอมยุทธ์สาว ศิษย์ผู้น้องของหูกงซาน เป็นยอดฝีมือที่ห้าวหาญ นิสัยก้าวร้าว ชิงชังความชั่วร้าย ต่อมาตกหลุมรักหวู่ฉื้อโหย่ว
หยางฉี่หลง
หัวหน้านิกายจงซานหลาง อ้างตัวว่าเป็นจูซานไท่จื่อผู้สืบทอดของ อดีตหมิง ภายหลังก่อกบฏในเป่ยจิงแต่ล้มเหลว
หวูอิงสุง
บุตรชายคนโตของหวูซานกุย้ เป็นราชบุตรเขย ถูกกักตัวทีเ่ มืองหลวง ในฐานะตัวประกัน ภายนอกวางตัวเป็นคนซื่อ แต่เจ้าเล่ห์และโหด เหี้ยม วางแผนลอบปลงพระชนม์คังซี
หวงฝู่เป่าจู้
องครักษ์คกู่ ายของหวูซานกุย้ ฉายาแม่ทพั ปราบพยัคฆ์ ต่อมากลับใจ สวามิภักดิ์ต่อคังซี
จื่อยวิ๋น
อดีตนางคณิกาโฉมสะคราญ ต่อมามีฐานะเป็นภรรยาน้อยของ หวูอิงสุง ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อลอบปลงพระชนม์คังซี
วังสื้อหรง
ที่ปรึกษาคนส�ำคัญของหวูอิงสุง เป็นบัณฑิตรูปงาม ความรู้สูงส่ง แต่เจ้าเล่ห์และโหดร้าย ยุแหย่ให้หลายเมืองต่อต้านคังซี
10 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
หมายเหตุที่ควรทราบก่อนอ่าน ผูแ้ ปลคงการเรียกขานชือ่ ในราชส�ำนักชิง วิธนี บั เวลา และมาตราวัดตามแบบจีนไว้ ตามต้นฉบับ เพื่อให้ผู้อ่านอ่านอย่างได้อรรถรสเพิ่มขึ้น และท�ำหมายเหตุเรื่องเหล่านี้ไว้ เพื่อสะดวกในการอ่าน การเรียกขานชื่อในราชส�ำนักชิง เนื่องจากราชวงศ์ชิงเป็นชาวแมนจู มีวิธีเรียกขานชื่อต่างออกไปจากราชวงศ์อื่นซึ่ง เป็นชาวฮั่น ผู้แปลต้องการคงค�ำเรียกชื่อเหล่านี้ไว้ตามต้นฉบับเพราะเห็นว่าจะท�ำให้เข้าใจ ธรรมเนียมแบบแผนของราชวงศ์ชงิ ได้ดยี งิ่ ขึน้ ตัวอย่างเช่น ขุนนางทัว่ ไปมักเรียกสรรพนาม แทนฮ่องเต้วา่ พระหมืน่ ปี (万岁爷) หรือเรียกสรรพนามแทนตนเองว่าบ่าว (奴才) เป็นต้น ในขณะที่ยังคงใช้ค�ำว่าฝ่าพระบาทหรือเกล้ากระหม่อมเช่นกัน การนับเวลาสมัยโบราณของจีน สมัยโบราณ จีนแบ่งเวลาหนึง่ วันออกเป็นสิบสองยาม แต่ละยามเท่ากับสองชัว่ โมง และมีการใช้ชื่อสัตว์ตามปีนักษัตรก�ำกับแต่ละยามด้วย - จื่อสือหรือยามชวด เวลาระหว่างห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง - โฉ่วสือหรือยามฉลู เวลาระหว่างตีหนึ่งถึงตีสาม - หยินสือหรือยามขาล เวลาระหว่างตีสามถึงตีห้า - เหม่าสือหรือยามเถาะ เวลาระหว่างตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้า - เฉินสือหรือยามมะโรง เวลาระหว่างเจ็ดโมงเช้าถึงเก้าโมงเช้า - ซื่อสือหรือยามมะเส็ง เวลาระหว่างเก้าโมงเช้าถึงสิบเอ็ดโมง - หวู่สือหรือยามมะเมีย เวลาระหว่างสิบเอ็ดโมงถึงบ่ายโมง - เว่ยสือหรือยามมะแม เวลาระหว่างบ่ายโมงถึงบ่ายสามโมง - เซินสือหรือยามวอก เวลาระหว่างบ่ายสามโมงถึงห้าโมงเย็น - โหย่วสือหรือยามระกา เวลาระหว่างห้าโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม - ซวีสือหรือยามจอ เวลาระหว่างหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม - ไฮ่สือหรือยามกุน เวลาระหว่างสามทุ่มถึงห้าทุ่ม ยังแบ่งเวลาช่วงกลางคืนออกเป็นห้ายาม - ยามหนึ่งหรือยามสวีสือ เวลาระหว่างหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม - ยามสองหรือยามไฮ่สือ เวลาระหว่างสามทุ่มถึงห้าทุ่ม - ยามสามหรือยามจื่อสือ เวลาระหว่างห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 11
- ยามสี่หรือยามโฉ่วสือ เวลาระหว่างตีหนึ่งถึงตีสาม - ยามห้าหรือยามหยินสือ เวลาระหว่างตีสามถึงตีห้า นอกจากนี้ ชาวจีนยังแบ่งเวลาภายในหนึ่งวันออกเป็น 100 ส่วน แต่ละส่วนคือ หนึ่งเค่อ (刻) โดยใช้นาฬิกาน�้ำ หนึ่งเค่อจะเท่ากับ 14.4 นาที หรือราวสิบห้านาที (หนึ่ง ชั่วยาม หรือสองชั่วโมงจึงเท่ากับ 8 เค่อ) มาตราวัดความยาวของจีน มาตราเหล่านี้น่าจะแตกต่างจากสมัยโบราณบ้าง นี่เป็นการเทียบค่ากับมาตรา เมตริกในปัจจุบัน 1 ชุ่น เท่ากับ 3.33 เซนติเมตร 1 ฉื่อ เท่ากับ 0.33 เมตร 1 จั้ง เท่ากับ 3.33 เมตร 1 ลี้ เท่ากับ 0.5 กิโลเมตร
12 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
หวูซานกุ้ยตบโต๊ะเต็มแรง พูดด้วยความโมโห “เวลานี้ข้าเป็นผิงซีหวังแห่งต้าชิง! นับแต่ โบราณฟ้าไม่มสี องตะวัน ราษฎรไม่มสี องเจ้า ราชวงศ์หนึง่ รุง่ เรือง อีกราชวงศ์ยอ่ มล่มสลาย มีธรรมราชันเข้าแทนที่ นี่คือสัจธรรม!”
พอเข้าไปในห้อง คังซีก็ทรงตะลึงงัน ที่นี่ราวกับนรกบนดินโดยแท้
ผู้ที่เข้ามาคือจื่อยวิ๋น คังซีทอดพระเนตรเห็นนางสวมชุดยาว ดวงตาหยาดเยิ้ม ยิ้มอย่าง อ่อนหวาน สายพระเนตรก็เจิดจ้าทันที
ในชั่วพริบตาคังซีทรงรู้สึกว่าพระองค์สูงส่งสุดประมาณ ความกังวลและความหม่นหมอง ในพระทัยถูกขจัดไปจนหมดสิ้น
คังซี
จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 ตอน ศึกรวมแผ่นดิน
1
ฟู่หงเลี่ยเดินทางมารับโทษที่เมืองหลวง โจวเผยกงช่วยหญิงสาวอ่อนแอ
เป็นเวลาเทีย ่ ง เรือราชการล�ำหนึง่ แล่นฝ่าลมหนาว ค่อยๆ เข้าสูท ่ า่ เรือ เมืองเทียนจิน (เทียนสิน) ท่ามกลางหิมะโปรยปรายทั่วฟ้า คนเรือผู้หนึ่งร่างเต็มไปด้วย หิมะเลิกม่านผ้านวมหนาที่หนักอึ้ง เข้ามาแจ้งว่าเส้นทางน�้ำจากเทียนจินถึงแถบประตู เฉาหยางถูกน�้ำแข็งปิดกั้น ทุกคนจ�ำต้องละทิ้งเรือเดินเท้าเข้าสู่เมืองหลวง บนเรือมีผโู้ ดยสารสีค่ น ฟูห่ งเลีย่ เจ้าเมืองเฉาโจว (แต้จวิ๋ ) กับเสมียนสองคนซึง่ พูดจา ส�ำเนียงชาวเมืองหลวง อีกคนเป็นจวี่เหรินหนุ่ม (จวี่เหรินคือบัณฑิตที่สอบไล่ได้ระดับท้อง ถิ่น) คนผู้นี้คิ้วห่างอย่างชัดเจน นั่งไขว่ห้างท่าทางเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว ชมทัศนียภาพ ของท่าเรือยามหิมะตกทีอ่ ยูน่ อกหน้าต่างอย่างสนใจ เขาสวมเสือ้ ผ้าบางมาก มีเพียงชุดยาว ผ้าเนื้อหยาบสีน�้ำเงินและไม่สวมหมวก ดูมีชีวิตชีวากว่ามากเมื่อเทียบกับฟู่ หงเลี่ยที่ฝั่ง ตรงข้ามซึ่งดูแก่เฒ่าและอ่อนล้า จวี่เหรินหนุ่มผู้นี้ชื่อโจวเผยกง ชื่อรองว่าชาง เป็นชาวเมืองจิงเหมิน เขาเดินทางมา เมืองหลวงเพื่อสอบเข้ารับราชการ เนื่องจากไม่มีเงินค่าเดินทางจึงรับจ้างเขียนหนังสือที่ เมืองเต๋อโจว บังเอิญฟู่หงเลี่ยมาพบเข้าขณะขึ้นจากเรือมาเดินเล่นจึงชวนให้ลงเรือมาจน ถึงเทียนจิน เดินทางบนเรือร่วมกันมาแปดวัน ทั้งสองพูดคุยกันทุกเรื่อง ทั้งคัมภีร์โบราณ ประวัติศาสตร์ วรรณคดี และพิชัยสงคราม จนเป็นเหมือนสหายต่างวัยผู้รู้ใจ โจวเผยกง ได้ยินที่คนเรือบอก เห็นฟู่หงเลี่ยขมวดคิ้วไม่พูดอะไร จึงยิ้มแล้วว่า “มีอะไรต้องกังวล ทาง บกก็ทางบก คนโบราณขี่ลากลางฝนพร�ำฝ่ าประตูกระบี่ เราขี่ม้าไปตามเส้นทางโบราณ จินเหมิน เป็นเรื่องที่น่ารื่นรมย์” ฟู่หงเลี่ยหันไปมองสองเสมียนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ทั้งคู่สีหน้าหมองคล�้ำเช่นกัน ฟู่หงเลี่ย คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 19
ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วล้วงเศษเงินออกมาจากอกเสื้อราวสิบต�ำลึง ผลักเบาๆ ไปให้โจวเผยกง พลางบอกว่า “เผยกง พอขึ้นจากเรือแล้วเราคงไม่สะดวกที่จะเดินทางร่วมกัน ข้ามีเงิน เล็กน้อยติดตัวแค่นี้ รับไปเถอะ ไว้ใช้ยามขัดสน...” “เพราะเหตุใด” โจวเผยกงถามด้วยความแปลกใจ ฟูห่ งเลีย่ ถอนหายใจ ฝืนยิม้ แล้วว่า “ระหว่างทางกลัวจะตกใจจึงไม่กล้าบอกให้เจ้ารู้ อย่าเห็นว่าข้าโดยสารเรือหลวงล�ำใหญ่ของแม่ทพั หังโจว ดูฐานะสูงมาก ทีจ่ ริงข้าเป็นขุนนาง ต้องโทษที่กรมอาญาจับกุมล่ามโซ่มารับโทษที่เมืองหลวง พอลงจากเรือก็ต้องสวมโซ่ตรวน ขืนยังพาเจ้าไปพร้อมเสียงโซ่เหล็กแกรกๆ จะเข้าท่าหรือ” “จริงหรือ” โจวเผยกงใจหายวาบ โดยสารเรือร่วมกับฟู่หงเลี่ยแปดวัน ไม่เคยได้ยิน เขาเอ่ยถึงเรื่องนี้แม้แต่น้อย ทั้งเห็นเจ้าหน้าที่สองนายนั้นดูพินอบพิเทากับเขา ยังคิดว่า เจ้าเมืองวัยกลางคนผู้รอบรู้ท่านนี้คงเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อรับการเลื่อนต�ำแหน่ง หลัง จากลังเลเล็กน้อย โจวเผยกงจึงรีบถามว่า “เพราะเหตุใด” “เป็นความจริง” เสมียนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “เราสองคนเป็นเจ้าหน้าที่กรมอาญา รับ บัญชามาคุมตัวใต้เท้าฟู่เข้าเมืองหลวงเพื่อรับโทษ ทั้งนี้เพราะใต้เท้าฟู่ถวายฎีกาให้ยกเลิก สามหัวเมืองอิสระ พอผิงซีหวังหวูซานกุ้ยทราบข่าวก็ไม่พอใจ ถูกคนของจวนผิงหนานหวัง จับตัว เดิมทีเตรียมประหารเขาที่กว่างโจว แต่ราชส�ำนักมีค�ำสั่งให้กรมอาญาและส�ำนัก ต้าหลี่สอบสวนเรื่องนี้ เรือล�ำนี้เป็นแม่ทัพถูไห่ผู้บัญชากองทัพทหารราบเป่ยจิงไหว้วานให้ แม่ทัพเมืองหังโจวจัดไว้ใช้เดินทาง...” “น้องชาย” ระหว่างทางฟู่หงเลี่ยได้ฟังโจวเผยกงพูดโจมตีหวูซานกุ้ยอย่างเต็มที่ ก็ ถือเขาเป็นสหายผู้รู้ใจ พอเห็นโจวเผยกงโกรธแค้นจนนิ่งงัน จึงยิ้มแล้วว่า “ฟังเจ้าพูดคุย มาตลอดทาง เจ้าไม่เพียงเขียนบทความได้ดี ยังรู้พิชัยสงคราม บ้านเมืองก�ำลังต้องการ คนเก่ง อย่าเพิ่งท้อใจเด็ดขาด เดิมข้าอยากเขียนจดหมายแนะน�ำตัวให้เจ้า แต่สภาพข้า ในเวลานี้ขืนเขียนก็เท่ากับท�ำร้ายเจ้า น้องชาย ไปหาทางก้าวหน้าด้วยตนเองเถอะ” “เอาเถอะ” โจวเผยกงค่อยๆ ผลักเงินกลับไป มองดูฟู่ หงเลี่ยอย่างอาลัยอาวรณ์ ด้วยดวงตาที่ด�ำเป็นประกายแล้วพูดว่า “จะจากกันแล้ว พูดคุยกันอย่างรู้ใจถึงแปดวัน ผู้ แซ่โจวยากจะลืมเลือนชั่วชีวิต ท่านปฏิบัติต่อข้าอย่างบัณฑิตผู้รักชาติ ข้าขอตอบแทน ท่านเยี่ยงบัณฑิตผู้รักชาติ แต่ข้าไม่อาจรับเงินนี้ ท่านก�ำลังเป็นนักโทษ จ�ำเป็นต้องใช้เงิน ยิ่งกว่าข้า...” ฟู่หงเลี่ยได้ฟังก็รู้สึกเศร้าใจ ขอบตาถึงกับแดงเรื่อ พูดเบาๆ ว่า “เกรงว่าคงจะไม่ได้ ใช้หรอก...” พระราชอ�ำนาจสุดหยั่งได้ คงจะร้ายมากกว่าดี ค�ำพูดของฟู่หงเลี่ยชัดแจ้งอย่างยิ่ง 20 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
ในห้องเรือเงียบกริบไปชั่วขณะจนได้ยินเสียงหิมะตกใส่ดาดฟ้าเรือดังซู่ๆ โจวเผยกงตั้งสติ ได้แล้ว ดวงตาก็เป็นประกายแวววาว นิ่งคิดครู่หนึ่งแล้วถามว่า “ท่านกับแม่ทัพถูไห่เป็น เพื่อนเก่ากันหรือ” “เดิมไม่รู้จักกันหรอก” ฟู่ หงเลี่ยตอบ “สองปีก่อนแม่ทัพถูไห่ถูกลดต�ำแหน่งไปที่ เฉาโจว เราอยู่ด้วยกันหนึ่งปี เขาเป็นคนห้าวหาญ เราทั้งคู่ยังสนิทกับขอทานเหล็กหวูลิ่วอี หลังจากหวูลิ่วอีย้ายไปรับต�ำแหน่งข้าหลวงใหญ่กว่างตงก็ได้ถวายหนังสือถึงฮ่องเต้ สนับ สนุนให้ถไู ห่ไปรับต�ำแหน่งผูว้ า่ การส�ำนักเก้าประตูควบผูบ้ ญ ั ชาการกองทหารราบ จึงเดินทาง กลับไปเมืองหลวงไม่นานนี่เอง...” เขาถอนหายใจอีก “น่าเสียดาย พอแม่ทัพเถี่ยไก้ไปถึง กว่างตง จู่ๆ ก็ล้มป่วยหนักกะทันหันจนเสียชีวิต ถ้าเขายังอยู่ ข้าคงไม่ตกยากถึงขั้นนี้” พอโจวเผยกงได้ฟังก็กลอกตาไปมา จู่ๆ ก็ยิ้มแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้พลางพูดกับ ฟู่ หงเลี่ยว่า “เคยได้ยินกลอนของหลี่ชิงเหลียน (ฉายาของหลี่ไป๋) หรือไม่ ‘ฤๅเหนือหัว ไม่เห็นว่าข้าภักดี เสียทีที่ห่วงใยชาติบ้านเมือง’ ข้าเห็นว่าฝ่าพระบาททรงพระปรีชา คงไม่ ทรงประหารขุนนางตงฉินง่ายๆ การเดินทางมาเมืองหลวงครั้งนี้ของท่าน น่าจะแค่ตกใจ แต่ไม่มีอันตราย!” หลายวันมานีฟ้ หู่ งเลีย่ รูน้ สิ ยั ใจคอของโจวเผยกงอย่างลึกซึง้ แม้เขาจะพูดจาแข็งกร้าว แต่ไม่เคยพูดอะไรเลื่อนลอย เขาเข้าใจสภาพการณ์ที่สามหัวเมืองอิสระอย่างหวูซานกุ้ย เกิ่งจิงจง และส้างเข่อสี่ต่างตั้งตนเป็นใหญ่ รวมทั้งสภาพด้านการทหารและเศรษฐกิจ เป็นอย่างดี มีความเห็นแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ดูแล้วทีโ่ จวเผยกงพูดคงไม่ใช่แค่ปลอบใจ ตน จึงยิ้มแล้วว่า “เผยกง เจ้าพูดให้ข้าแปลกใจอีกแล้ว” “ใต้เท้า ก็แค่คิดดูแล้วน่าจะเป็นเช่นนั้น” โจวเผยกงเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ นิ่งคิด แล้วว่า “วันก่อนเคยได้ยินใต้เท้าบอกว่าไม่นานมานี้ฝ่าพระบาททรงเรียกตัวหวังแห่งสาม หัวเมืองอิสระเข้าเมืองหลวงพร้อมกัน ตามความเห็นของศิษย์ ถ้าหากน�ำเรื่องที่ท่านเข้า เมืองหลวงมาโยงเข้าด้วยกัน ก็เป็นเรื่องเชียวละ” ฟู่หงเลี่ยหันไปสบตากับเจ้าหน้าที่สองคนนั้น โจวเผยกงยิ้มแล้วบอกว่า “จะยกเลิก หัวเมืองอิสระแล้วอย่างไรเล่า! สามหัวเมืองอิสระอยู่ในสภาพร่อแร่เต็มที แขกเข้าพัก ท�ำตัวกร่างจนโรงเตี๊ยมเดือดร้อน ราชส�ำนักไม่อาจทนให้คนพวกนี้ก่อความวุ่นวาย! เรา วิเคราะห์เหตุผลกันไปแล้ว แผ่นดินมีเจ้าได้เพียงหนึง่ เดียวไม่อาจมีสองได้ ใจฟ้า ใจราษฎร์ สถานการณ์บ้านเมืองล้วนเป็นเช่นนี้!” โจวเผยกงพูดอย่างฉาดฉานแล้วบิดตัวแก้เมื่อย ท่าทางราวกับไม่ใช่บัณฑิตยากจนไร้ชื่อเสียง แต่เป็นขุนนางใหญ่ที่ก�ำลังหารืออยู่ในราช ส�ำนัก “ในอดีตเมื่อราชส�ำนักจะยกเลิกหัวเมืองอิสระมีอยู่สามวิธี อย่างฮั่นเกาจู่แกล้ง เดินทางไปยวิ๋นเมิ่ง ให้ราชองครักษ์ประจ�ำราชรถจับตัวหานซิ่น หรือฮั่นปราบกบฏเจ็ด คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 21
แคว้น มีราชโองการบังคับให้ยกเลิกหัวเมืองอิสระ ไม่เกรงกลัวสงคราม หรืออย่างซ่งไท่จู่ ทรงยกจอกสุราแล้วประกาศยึดอ�ำนาจทางทหารคืนระหว่างงานเลี้ยง แก้ปัญหาใหญ่ของ บ้านเมืองได้ทันที เวลานี้ราชส�ำนักเรียกตัวสามหวังเข้าเมืองหลวง ดูแล้วคงจะใช้วิธีนี้” ฟู่หงเลี่ยฟังแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผลมากจึงพยักหน้าไม่หยุด แต่แล้วจู่ๆ ก็ผงะเหมือน ฉุกคิดอะไรขึ้นได้ บอกว่า “แต่ว่าในราชโองการที่ฝ่ าพระบาททรงให้จับกุมข้า ระบุอย่าง ชัดเจนว่าให้กรมอาญากับส�ำนักต้าหลี่พิจารณาคดีข้าใหม่ เรื่องคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก! ในสมัยฮั่น เฉาฉั้วเสนอให้ยกเลิกหัวเมืองอิสระก็ถูก...” “จะล�ำบากแสนเข็ญอย่างไรอย่างมากก็แค่ตาย...นับว่าเติ้งฮั่นอี๋เข้าใจจิตใจคน อย่างถ่องแท้!” โจวเผยกงหัวเราะร่า “ท่านก็เหมือนค� ำกล่าวที่ว่าผู้อยู่ในสถานการณ์มัก สับสน ที่กว่างตงใต้เท้าถูกตัดสินประหารแล้ว ยังต้องพิจารณาคดีใหม่ไปไย ที่ให้คุมตัว มาเมืองหลวงเห็นได้ชัดว่าฝ่าพระบาททรงท�ำเพื่อช่วยใต้เท้า ไม่แน่นะ ใต้เท้าอาจได้เลื่อน ต�ำแหน่งด้วยซ�้ำ!” “ถ้าหากฝ่าพระบาทไม่ทรงยกเลิกหัวเมืองอิสระเล่า” เจ้าหน้าทีผ่ หู้ นึง่ เห็นโจวเผยกง พูดอย่างมั่นอกมั่นใจก็รู้สึกไม่เห็นด้วยจึงอดถามไม่ได้ “แต่ละปีประเทศมีรายได้สามสิบเจ็ดล้านต�ำลึง” โจวเผยกงหันมาพูดอย่างดูแคลน “เฉพาะหวูซานกุ้ยก็เอาไปเก้าล้านต�ำลึง เกิ่งจิงจงกับส้างเข่อสี่คนละห้าล้านห้าแสนต�ำลึง ยังไม่นับบัญชีอื่นอีก แค่เรื่องนี้ ถ้าเป็นบ่าวไพร่บ้านเจ้า จะยอมให้เป็นเช่นนี้หรือไม่” พูด จบก็ยกถ้วยชาบนโต๊ะซึ่งเย็นชืดแล้วดื่มจนหมด แล้วหันมาพูดกับฟู่ หงเลี่ย “ใต้เท้าฟู่ ได้ นั่งเรือร่วมกันมาหลายวัน นับว่าเป็นบุญวาสนา เผยกงรู้ดีถึงความสามารถและคุณธรรม ของท่าน วันนี้จะจากกัน ข้ามีค�ำพูดอยากเตือน ไม่ทราบว่ายินดีฟังหรือไม่” ฟู่หงเลี่ยประสานมือคารวะ “เชิญพูด” “ดูจากบุคลิก วัดจากความรู้ความสามารถ ฟังจากค�ำพูด ท่านสมกับเป็นบัณฑิต รักชาติ” โจวเผยกงพูดชมก่อน “แต่วิธีคิดท่านตายด้าน ยึดถืออารมณ์ความรู้สึกมากเกิน ไป ต้องระวังจะเดือดร้อนเพราะมิตรสหาย” ฟู่หงเลี่ยแปลกใจ ไม่เข้าใจความหมายที่โจวเผยกงพูด จึงรีบถาม “เพราะเหตุใด” โจวเผยกงว่า “ที่ท่านทูลขอให้ยกเลิกหัวเมืองอิสระเป็นฎีกาลับ หวูซานกุ้ยรู้เรื่องได้ อย่างไร” ฟูห่ งเลีย่ ฟังแล้วก็นงิ่ เงียบครูห่ นึง่ สัน่ ศีรษะแล้วว่า “แม้จะเป็นฎีกาลับ แต่มสี หี่ า้ คน ทีร่ เู้ รือ่ งนี ้ มีเพียงวังสือ้ หรงทีท่ �ำงานรับใช้หวูซานกุย้ แต่เขาเป็นน้องร่วมสาบานของข้า หรือ ว่า...” “หลายวันมานี้ใต้เท้าเอ่ยถึงวังสื้อหรงหลายครั้ง ข้าเองก็เสียดายที่ไม่ได้พบเจอเขา 22 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล
จะนึกระแวงได้อย่างไร” โจวเผยกงยิ้มร่า “วิญญูชนท�ำการใหญ่ ต้องเก็บเป็นความลับ ไม่ควรเผยต่อภายนอก อย่าเชื่อคนที่ท�ำเป็นซื่อตรง อย่าวางใจคนที่อวดอ้างคุณธรรม วันนีต้ อ้ งจากกัน ไม่รวู้ า่ จะได้พบกันเมือ่ ใด คนโบราณเป็นหนีบ้ ญ ุ คุณข้าวหนึง่ มือ้ ตอบแทน ด้วยทองพันชัง่ ถ้าผูแ้ ซ่โจวมีความก้าวหน้า ต้องตอบแทนบุญคุณท่าน! ใต้เท้าระวังตัวด้วย ระวังตัวด้วย!” พูดจบก็ลุกขึ้นยืน ค้อมคารวะแล้วมุดออกจากห้องเรือขึ้นฝั่ง ฟู่หงเลี่ยรีบวิ่ง ออกจากห้องเรือ ตะโกนบอกว่า “เผยกง อาจารย์เผยกง...รับเงินด้วย...” โจวเผยกงยืนอยู่ข้างเสาหินส�ำหรับผูกเรือ หิมะตกโปรยปรายลงบนศีรษะ เขาท�ำ คอย่น รวบชายชุดยาวขึ้นสูง แต่ไม่แสดงอาการหนาวเหน็บออกมา พอเห็นฟู่หงเลี่ยและ เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนตามออกมาจากห้องเรือก็ประสานมือคารวะ ร้องบอกว่า “ใต้เท้าเชิญ กลับ ทั้งสองท่านเชิญกลับ แล้วพบกันใหม่!” พูดจบก็เดินฝ่าหิมะจากไป ฟูห่ งเลีย่ มองดูโจวเผยกงเดินลับหายไปท่ามกลางหิมะ จึงค่อยเดินกลับเข้าไปในห้อง เรืออย่างเศร้าใจ แล้วบอกกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองว่า “ใส่โซ่ตรวนข้า แล้วออกเดินทางเถอะ!” ระหว่างเดินทาง โจวเผยกงรับจ้างเขียนหนังสือและท�ำนายดวงชะตา จนวันทีส่ บิ สีเ่ ดือนอ้ายจึงมาถึงเมืองหลวง มองไกลออกไปเห็นก�ำแพงเมืองสูงใหญ่สเี ทาทึม ของเมืองหลวงตัง้ โดดเดีย่ วบนพืน้ หิมะทีไ่ ร้ผคู้ น เขาตืน่ เต้นจนหัวใจเต้นรัว ลูกหลานตระกูล ทีต่ กต�ำ่ ลงผูน้ แี้ ม้จะเพิง่ อายุยสี่ บิ ห้า แต่ผา่ นเรือ่ งราวทุกข์สขุ และความเป็นไปบนโลกมนุษย์ มาหมดสิ้นแล้ว เมื่อรัชศกซุ่นจื้อปีที่เจ็ด พ่อแม่เขาทยอยเสียชีวิตในช่วงกาฬโรคอันน่า สะพรึงกลัวระบาด ทรัพย์สมบัติและที่นาถูกคนในตระกูลยึดครอง เหลือเพียงหนังสือบน ชัน้ หนังสือขนาดใหญ่สามหลังทีส่ บื ทอดมาจากบรรพชน ป้ากงผูเ้ ป็นแม่นมเห็นว่าคนสกุล โจวจะทอดทิ้งเด็กก�ำพร้าผู้นี้ จึงรับเผยกงมาอาศัยที่บ้านนาง แต่กลับให้ลูกชายตัวเองไป เป็นทหาร อดออมเพื่อส่งเสียให้เขาเรียนหนังสือ โจวเผยกงเป็นคนที่มีพรสวรรค์สูง พอ อายุสิบห้าก็อ่านต�ำรามากมายทั้งคัมภีร์โบราณอย่างคั่งชังจื่อ หานเฟยจื่อ ก่วนจื่อ โม่จื่อ เหลาจื่อ กุ่ยกู่จื่อ และหนังสือประวัติศาสตร์ยี่สิบสี่เล่ม รวมทั้งไท่กงยินฝู ฉีเหมินตุ้นเจี่ย และต�ำราพิชัยสงครามซุนจื่อ ป้ากงเห็นโจวเผยกงรักความก้าวหน้า จึงตัดสินใจน�ำเงินที่ สะสมจากการทอผ้าเป็นทุนให้โจวเผยกงตระเวนไปศึกษาหาความรู้ยังต่างถิ่น เขาเดินทาง ไปเป็นระยะๆ รวมเวลาสิบปี พอถึงรัชศกคังซีปีที่แปดได้เข้าสอบในระดับต�ำบลและระดับ เมือง ล้วนประสบความส�ำเร็จ ถึงตอนนี้ผมบนศีรษะป้ากงขาวโพลนแล้ว หลังจากสอบไล่ระดับท้องถิน่ แล้ว โจวเผยกงเห็นว่าสุขภาพของป้ากงย�ำ่ แย่ลงทุกวัน จึงไม่คดิ จะสอบอีก เขาอาศัยความรูท้ มี่ ตี ดิ ตัวไปหาบัณฑิตและผูม้ อี ทิ ธิพลในท้องถิน่ ไปถึง เมืองเอกของมณฑลเพื่อพบกับผู้มีอ�ำนาจอย่างผู้ว่าการมณฑลและหัวหน้าส�ำนักตุลาการ คังซี จอมจักรพรรดิต้าชิง เล่ม 2 23
หวังจะได้ต�ำแหน่งงาน แต่ติดที่เขาไม่มีอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงสนับสนุน ตัวโจวเผยกงเอง เดิมทีก็ไร้ชื่อเสียง คนเหล่านั้นต่อหน้าก็ดูกระตือรือร้นแต่ในใจนึกดูแคลน หลังจากป้ากง ทราบเรือ่ งก็โกรธเกรีย้ ว “เจ้ายิง่ โตขึน้ ก็ยงิ่ ไม่ได้เรือ่ ง หรงอวีพ้ ใี่ หญ่เจ้าต้องทนล�ำบากไปเป็น ทหารเพื่อให้เจ้าได้ร�่ำเรียน เจ้าออกจากบ้านไปตระเวนถึงสิบปี พอสอบไล่ได้เป็นจวี่เหริน ก็คิดจะเลิกราเสียแล้ว โบราณว่า ‘ร�่ำเรียนวิชาจนเก่งกาจ ด้วยมุ่งมาดรับใช้ราชส�ำนัก’ แต่ เจ้ากลับคิดจะอยู่รับใช้ยายแก่อย่างป้างั้นหรือ ไม่เอาไหนเลย! ป้าต้องการยศถาบรรดา ศักดิ.์ ..จงไปเมืองหลวง ขอจากฮ่องเต้มาให้ปา้ !” บัดนีไ้ ด้เห็นวังหลวงอันใหญ่โตโอฬารแล้ว โจวเผยกงไม่อาจข่มความตื่นเต้นในใจได้ ในอกเสื้อโจวเผยกงมีจดหมายฉบับหนึ่ง เป็นหนังสือแนะน�ำตัวที่หวู่ฉื้อโหย่วเขียน ให้อ�ำมาตย์หมิงจูขณะที่เขาตระเวนสอนอยู่ในซานตง ได้ข่าวว่าผู้รับจดหมายเลื่อนขึ้นเป็น เจ้ากรมลี่ปู้แล้ว โจวเผยกงไม่เคยคิดทบทวนว่าจดหมายจะมีประโยชน์หรือไม่ จะมีผล มากน้อยเพียงไร เขานึกถึงหวยหยางโหวหานซิ่นแรกเข้าสวามิภักดิ์ต่อฮั่น ในตัวมีหนังสือ แนะน�ำของจางเหลียง รอจนฮั่นเกาจู่ยกเขาเป็นแม่ทัพแล้วจึงค่อยเอาจดหมายออกมา นั่นแหละจิตใจแบบชายชาตรีที่จะท�ำการใหญ่เพื่อบ้านเมือง! ดังนั้นโจวเผยกงจึงไม่เห็น ความส�ำคัญของจดหมายที่หวู่ฉื้อโหย่วตั้งใจมอบให้ตน โจวเผยกงคล�ำถุงผ้า เป็นถุงผ้าที่ป้ากงเย็บทีละเข็มๆ ใต้แสงตะเกียงในคืนก่อนที่ เขาจะออกจากเมืองจิงเหมิน แม้ฝีมือจะไม่ดีนัก แต่เขาถือเป็นของล�้ำค่า ในนั้นมีเงิน เหรียญอรหันต์สองอันและเหรียญทองแดงคังซีหลายสิบอัน ต่อให้ประหยัดกินประหยัด ใช้อย่างไรก็ใช้ได้เพียงสามวัน แต่ขณะนี้ยังห่างจากการสอบฤดูวสันต์เดือนสามอีกห้าหก สิบวัน จะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างไร หลังจากครุ่นคิดแล้วโจวเผยกงตัดสินใจว่าต้อง พักในวัดอาศัยกินอาหารเจ สอบถามดูแล้วจึงมาอาศัยที่วัดฝ่าหัวใกล้ชานเมือง ขณะนั้นตรงกับช่วงเทศกาลหยวนเซียว1 รัชศกคังซีปีที่แปด ธัญพืชสุกงามในฤดู ศารทไม่วา่ ทีใ่ ด ทัง้ ราชส�ำนักมีคำ� สัง่ ยกเลิกการล้อมทีด่ นิ ด�ำเนินนโยบายคืนทีน่ าให้ชาวนา บวกกับธัญพืชหลายร้อยล้านต้านที่เอ้อปี้หลงล�ำเลียงจากหวูหู ซูโจว และหังโจวมายัง เป่ยจิง ท�ำให้จื๋อลี่และซานตงซึ่งเกิดทุพภิกขภัยในฤดูวสันต์ตลอดมานั้น ปีนี้ข้าวหนึ่งโต่ว ราคาเพียงเงินสามเฉียน สินค้าราคาปกติ บ้านเมืองไร้ปัญหา เมืองเป่ยจิงฉลองเทศกาล ทั้งกลางวันกลางคืน ไม่ห้ามออกนอกบ้านยามค�่ำคืน ชาวเมืองต่างยินดีปรีดา มีการฉลอง เทศกาลโคมไฟเดือนอ้ายติดต่อกันถึงเจ็ดวัน ในวัดฝ่าหัว จวี่เหรินสิบกว่าคนและพวก 1
เทศกาลหยวนเซียวตรงกับวันที่สิบห้าเดือนอ้ายตามปฏิทินจีน เรียกอีกชื่อว่าเทศกาลขนมบัวลอย มักมีการแสดงโคมไฟและการละเล่นต่างๆ-ผู้แปล 24 เรืองชัย รักศรีอักษร แปล