The Science of Interstellar ทะลุมิติวิทยาศาสตร์กับอินเตอร์สเตลลาร์

Page 1



Copyright © 2014 Kip Thorne Text © Kip Thorne Foreword copyright © 2014 by Christopher Nolan Film © 2014 Warner Bros. Entertainment Inc. INTERSTELLAR and all related characters and elements are trademark of and © Warner Bros. Entertainment Inc. WB SHIELD: TM & © Warner Bros. Entertainment Inc. The Following images from the book are included with permission from Warner Bros.: Figures 1.2, 3.3, 3.4, 3.6, 5.6, 8.1, 8.5, 8.6, 9.7, 9.9, 9.10, 9.11, 11.1, 14.9, 15.2, 15.4, 15.5, 17.5, 17.9, 18.1, 19.2, 19.3, 20.1, 20.2, 24.5, 25.1, 25.7, 25.8, 25.9, 27.8, 28.3, 29.8, 29.14, 30.1 and 31.1 Images © 2014 Warner Bros. Entertainment Inc. Thai Language Copyright © 2015 by Matichon Publishing House. All rights reserved. Copyright arranged with W.W. Norton & Company, Inc. 500 Fifth Avenue New York, New York 10110 through Tuttle-Mori Agency Co., Ltd.


THE SCIENCE OF

I N T E R S T E L LA R

ท ะ ลุ มิ ติ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ กั บ

อินเตอร์สเตลลาร์ K i p  T h o r n e  เขียน ดร.อรรถกฤต ฉัตรภูติ  แปล

กรุงเทพมหานคร  ส�ำนักพิมพ์มติชน 2558


ทะลุมิติวิทยาศาสตร์กับอินเตอร์สเตลลาร์ • ดร.อรรถกฤต ฉัตรภูติ แปล จากเรื่อง The Science of Interstellar ของ Kip Thorne พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, มีนาคม 2558 ราคา  499  บาท ข้อมูลทางบรรณานุกรม ธอร์น คิป. ทะลุมิติวิทยาศาสตร์กับอินเตอร์สเตลลาร์.--กรุงเทพฯ : มติชน, 2558. 328 หน้า. 1. วิทยาศาสตร์  I. อรรถกฤต ฉัตรภูติ, ผู้แปล  II. ชื่อเรื่อง 500 ISBN  978 - 974 - 02 - 1397 - 0

ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์  : อารักษ์ ​คคะนาท, สุพจน์  แจ้งเร็ว, สุชาติ  ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์  สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์  พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์  : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์  : รุจิรัตน์  ทิมวัฒน์ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์  บุนปาน • หัวหน้ากองบรรณาธิการ : พัลลภ สามสี บรรณาธิการเล่ม : วรางคณา เหมศุกล, เฉลิมพล แพทยกุล, ทิมา เนื่องอุดม, สุพรรณี สงวนพงษ์ พิสูจน์อักษร : เมตตา จันทร์หอม, โชติช่วง ระวิน • กราฟิกเลย์เอาต์  : กิตติชัย ส่งศรีแจ้ง ศิลปกรรม-ออกแบบปก : นุสรา สมบูรณ์รัตน์  • ประชาสัมพันธ์  : สุภชัย สุชาติสุธาธรรม หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�ำนวนมากในราคาพิเศษ  เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3353 โทรสาร 0-2591-9012 www.matichonbook.com

บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) : 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์  0-2580-0021 ต่อ 1235  โทรสาร 0-2589-5818 แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองงานเตรียมพิมพ์  บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  1  เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900  โทรศัพท์  0-2580-0021 ต่อ 2400-2402 พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด 27/1 หมู่  5 ถนนสุขาประชาสรรค์  2 ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี  11120 โทรศัพท์  0-2584-2133, 0-2582-0596  โทรสาร 0-2582-0597 จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี  จำ�กัด (ในเครือมติชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  1  เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900  โทรศัพท์  0-2580-0021 ต่อ 3350-3353 โทรสาร 0-2591-9012 Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd, Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ  ลดภาวะโลกร้อน  และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน


สารบัญ

ค�ำน�ำผู้แปล ค�ำน�ำเสนอ ค�ำน�ำผู้เขียน

7 8 9

1 นักวิทยาศาสตร์ในฮอลลีวู้ด : ก�ำเนิดของอินเตอร์สเตลลาร์

13

I ทฤษฎีพื้นฐาน 2 เอกภพของเราอย่างคร่าวๆ 3 กฎเกณฑ์ที่ควบคุมเอกภพ 4 เวลาและอวกาศที่บิดโค้ง และความโน้มถ่วงไทดัล 5 หลุมด�ำ

27 29 39 47 57

II การ์แกนทัว 6 กายวิภาคศาสตร์ของการ์แกนทัว 7 หนังสติ๊กความโน้มถ่วง 8 การจ�ำลองภาพของการ์แกนทัว 9 จานและเจ็ต 10 ความบังเอิญเป็นปฐมบทแห่งวิวัฒนาการ

67 69 79 87 99 111

III ภัยพิบั ติบนโลกมนุษย์ 11 โรคระบาดในพืช 12 ไขว่คว้าอากาศหายใจ 13 การเดินทางระหว่างดวงดาว

113 115 122 125


IV รูหนอน 14 รูหนอน 15 การเนรมิตภาพรูหนอนในอินเตอร์สเตลลาร์ 16 การค้นพบรูหนอน และคลื่นความโน้มถ่วง

133 135 146 154

V ส�ำรวจบริเวณรอบๆ การ์แกนทัว 17 ดาวมิลเลอร์ 18 การสั่นของการ์แกนทัว 19 ดาวแมนน์ 20 ยานเอนดูแรนซ์

167 169 178 182 187

VI ฟิสิกส์สุดขั้ว 21 มิติที่  4 และมิติที่  5 22 สิ่งมีชีวิตบัลค์ 23 ความโน้มถ่วงที่ถูกกักขัง 24 ความวิปลาสของความโน้มถ่วง 25 สมการของศาสตราจารย์ 26 ภาวะเอกฐานและความโน้มถ่วงเชิงควอนตัม

191 193 197 202 210 220 231

VII ไคลแมกซ์ 27 ปากปล่องภูเขาไฟ 28 เข้าไปในหลุมด�ำ 29 เทสเซอแร็กต์ 30 การส่งข้อความกลับไปยังอดีต 31 การยกอาณานิคมขึ้นจากโลก

243 245 254 260 270 280

283 296 303 304 307 312 316

ศึกษาเพิ่มเติมได้จากที่ไหนบ้าง? บันทึกเชิงเทคนิค กิตติกรรมประกาศ เครดิตภาพประกอบ บรรณานุกรม ดัชนีบุคคล ดัชนีเนื้อหา


ค�ำน�ำผู้แปล

อินเตอร์สเตลลาร์เป็นภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ที่โด่งดังมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ในรอบสิบปีทผี่ า่ นมา ผูช้ มส่วนมากตืน่ เต้นและงุนงงไปกับทฤษฎีวทิ ยาศาสตร์  ไม่วา่ จะ เป็นรูหนอน หลุมด�ำ การเดินช้าลงของเวลา ฯลฯ ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดแต่เฉพาะ ผูช้ มทีส่ นใจวิทยาศาสตร์เท่านัน้  แต่สงิ่ มหัศจรรย์ทพี่ บในภาพยนตร์ได้กระตุน้ ความสนใจ วิทยาศาสตร์  และท�ำให้การถกเถียงเกีย่ วกับจักรวาลขยายออกไปในวงกว้าง จนกระทัง่ คณะวิทยาศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องจัดเสวนาเกีย่ วกับภาพยนตร์เรือ่ งนีถ้ งึ 2 ครั้ง  ทั้งยังมีการกล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่เสมอๆ ในโลกอินเตอร์เน็ต หนังสือเล่มนี้เขียนโดย ศาสตราจารย์คิป ธอร์น ผู้อยู่เบื้องหลังวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดในภาพยนตร์  จะช่วยตอบค�ำถามหลายข้อซึ่งอยู่ในใจของผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ เรื่องนี้ได้  (หรืออาจจะกระตุ้นความอยากรู้ของคุณเพิ่มขึ้นไปอีก) นอกจากผู้อ่านจะได้ ตื่นเต้นกับทฤษฎีวิทยาศาสตร์แบบ “จัดหนัก” ในหนังสือเล่มนี้แล้ว ยังจะได้เห็นว่าการ จะหาดาวเคราะห์ที่มนุษย์สามารถอยู่อาศัยได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากล�ำบากมากจนแทบจะ เป็นไปไม่ได้  จ�ำเป็นต้องอาศัยการเดินทางผ่านรูหนอน (ถ้ามันมีอยู่จริง) การใช้กลยุทธ์ หนังสติ๊กรอบหลุมด�ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรจะท�ำในขณะนี้ ก็คือ รักโลกให้มากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้โลกของเราต้องกลายเป็น “โลกของคูเปอร์” หรือ อย่างน้อยก็ยืดเหตุการณ์นั้นออกไปอีกหน่อย เพราะต้องยอมรับว่าความรู้วิทยาศาสตร์ ที่เรามีในปัจจุบันยังคงห่างไกลจากการเดินทางข้ามจักรวาลอยู่มากโข ผู้แปลขอขอบคุณส�ำนักพิมพ์มติชนที่เห็นความส�ำคัญของหนังสือแนววิทยา ศาสตร์และให้ความสนับสนุน รวมถึงทีมบรรณาธิการของส�ำนักพิมพ์   โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง คุณรุจิรัตน์  ทิมวัฒน์, คุณวรางคณา เหมศุกล, คุณเฉลิมพล แพทยกุล และ คุณทิมา เนื่องอุดม ที่ช่วยเหลือและทุ่มเทจนหนังสือเล่มนี้ส�ำเร็จเป็นรูปเล่มได้ทันเวลา และท้ายที่สุด  ผู้แปลขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้ความสนใจ ขอให้ทุกท่านได้รับ ความสนุกตื่นเต้นกับการผจญภัยในโลกของฟิสิกส์และจักรวาลที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าใน ภาพยนตร์ อรรถกฤต ฉัตรภูติ มีนาคม 2558


ค�ำน�ำเสนอ

ความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งในการก�ำกับภาพยนตร์อินเตอร์สเตลลาร์  ก็คือการ ได้รู้จัก คิป ธอร์น ผมเห็นศรัทธาแรงกล้าในวิทยาศาสตร์ของเขานับตั้งแต่ประโยคแรก ที่เราสนทนากัน  และเขาไม่เคยเต็มใจเลยหากต้องเสนอความเห็นที่ไม่รัดกุม  เขามัก ไตร่ตรองอย่างสุขุมรอบคอบ และที่ส�ำคัญคือเป็นวิทยาศาสตร์  เมื่อเจอกับสิ่งท้าทาย ในบทภาพยนตร์ของผม เขาพยายามคุมให้ผมอยูก่ บั ร่องกับรอยของความสมเหตุสมผล เขาไม่เคยแสดงทีท่าร�ำคาญเมื่อผมไม่ยอมรับสิ่งต่างๆ อย่างง่ายดาย (เขาคงต้องถอน ใจเบาๆ หลายเฮือกในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผมพยายามท้าทายข้อห้ามของเขาที่ว่าต้องไม่มี สิ่งใดเคลื่อนที่เร็วกว่าแสง) ผมมองว่าบทบาทของเขาไม่ใช่ต�ำรวจวิทยาศาสตร์  หากแต่เป็นผู้ร่วมเล่าเรื่อง ราว ซึ่งมีหน้าที่ส�ำรวจตรวจสอบวารสารทางวิทยาศาสตร์และบทความทางวิชาการ มากมาย เพื่อแผ้วถางทางออกให้แก่ทางตันในบทภาพยนตร์ที่ผมเขียน  คิปได้สอนผม ถึงคุณลักษณะส�ำคัญของวิทยาศาสตร์  นั่นคือการยอมรับในความมหัศจรรย์ของธรรม ชาติ  ทัศนคติเช่นนี้เองท�ำให้เขาสนุกเพลิดเพลินไปกับความเป็นไปได้อันหลากหลาย ในนวนิยายวิทยาศาสตร์  ซึง่ เสนอทางแก้ปญ ั หาความขัดแย้งและความไม่รใู้ นแง่มมุ ต่างๆ หนังสือเล่มนี้เป็นการแสดงมหาสมุทรแห่งจินตนาการและความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันหมด ของคิป ในการทีจ่ ะท�ำให้วทิ ยาศาสตร์กลายเป็นสิง่ ทีเ่ ข้าถึงได้  โดยเฉพาะอย่างยิง่ ส�ำหรับ พวกเราที่ไม่ได้มีอัจฉริยภาพและความรู้มากมายมหาศาลอย่างที่เขามี  เขาต้องการ ให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจและรู้สึกตื่นเต้นไปกับความพิลึกกึกกือของเอกภพของเรา หนังสือ เล่มนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้อ่านสามารถดื่มด�่ำไปในหัวข้อต่างๆ อย่างลึกซึ้งเท่าที่ความ หลงใหลในวิทยาศาสตร์ของตนเองจะผลักดันไป ไม่มีใครถูกทิ้งไว้เบื้องหลังแน่นอน และทุกคนจะได้รบั ความสนุกสนานในแบบเดียวกับทีผ่ มได้รบั ยามไล่ตามสมองทีว่ งิ่ เร็ว ของคิป ธอร์น คริสโตเฟอร์ โนแลน ลอสแอนเจลิส, แคลิฟอร์เนีย 29 กรกฎาคม 2014


ค�ำน�ำผู้เขียน

อาชีพของผมตลอดเวลายาวนานครึ่งศตวรรษคือนักวิทยาศาสตร์  มันเป็นอาชีพ ที่สนุกเพลิดเพลิน (เสียเป็นส่วนใหญ่) อาชีพนี้ยังท�ำให้ผมได้เห็นอีกมุมมองที่น่ามหัศ จรรย์ต่อโลกและเอกภพของเรา นับตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆ จนเติบโตมาจนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ผมได้รับแรงบันดาลใจ จากนิยายวิทยาศาสตร์ของไอแซก อาซิมอฟ, โรเบิร์ต ไฮน์ไลน์  และนักเขียนคนอื่นๆ รวมถึงหนังสือวิทยาศาสตร์ส�ำหรับคนทั่วไปทั้งของอาซิมอฟ และนักฟิสิกส์  จอร์จ กาโมว์  ผมเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาเป็นอย่างมาก และผมมีความปรารถนาจะตอบแทน บุญคุณนี้มานานแล้ว ด้วยการส่งต่อแรงบันดาลใจไปยังคนรุ่นต่อๆ ไป สร้างความ หลงใหลในวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนและบุคคลทั่วไป ในที่นี้ผมหมายถึงวิทยาศาสตร์ ที่แท้จริง อธิบายให้กับผู้ที่ไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ได้รู้ว่าวิทยาศาสตร์มีกลไกอย่างไร และมันมีศักยภาพที่จะท�ำประโยชน์ใดๆ ได้บ้าง ทั้งประโยชน์แก่ตัวเราและวัฒนธรรม ของเรา รวมถึงมนุษยชาติโดยรวม ภาพยนตร์อินเตอร์สเตลลาร์ของ คริสโตเฟอร์  โนแลน เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะให้ ผมได้ท�ำสิ่งเหล่านั้น ผมโชคดีเป็นอย่างมาก (และมันเป็นโชคล้วนๆ) ที่ได้มีส่วนร่วมใน อินเตอร์สเตลลาร์ตั้งแต่ช่วงแรกเริ่ม  ผมได้ช่วยโนแลนและทีมงานถักทอวิทยาศาสตร์ เข้าไปในทุกอณูของภาพยนตร์  เนื้อหาส่วนใหญ่ของอินเตอร์สเตลลาร์เป็นจุดที่อยู่ภายในพรมแดนความรู้ของ มนุษยชาติ  หรือหลุดออกไปนอกขอบเขตนัน้ ไม่ไกลนัก สิง่ นีส้ ร้างความลึกลับอันน่าสนใจ ให้แก่ภาพยนตร์  และยังเป็นโอกาสให้ผมได้อธิบายความแตกต่างระหว่างวิทยาศาสตร์ ที่เป็นที่ยอมรับกันดีแล้ว, การคาดเดาเชิงวิชาการ และการคาดการณ์  มันให้โอกาสผม อธิบายว่า แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเริ่มต้นจากการคาดการณ์  ถูกพิสูจน์ว่าผิด หรือ ถูกเปลี่ยนให้เป็นการคาดเดาเชิงวิชาการ หรือกระทั่งกลายเป็นวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการ ยอมรับได้อย่างไร ผมเลือกใช้สองวิธีในการอธิบายสิ่งเหล่านี้  วิธีแรก ผมอธิบายทุกสิ่งที่เรารู้ใน ปัจจุบันเกี่ยวกับปรากฏการณ์ในภาพยนตร์  (หลุมด�ำ รูหนอน ภาวะเอกฐาน มิติที่  5 และอื่นๆ) และผมจะอธิบายว่าพวกเราได้รับความรู้เหล่านั้นมาได้อย่างไร และพวกเรา


10

หวังว่าจะท�ำความเข้าใจสิง่ ทีเ่ ราไม่เคยรูม้ าก่อนอย่างถ่องแท้ได้อย่างไร  วิธที สี่ อง ผมจะ ตีความสิ่งที่เราได้เห็นในภาพยนตร์อินเตอร์สเตลลาร์  จากมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ ในลักษณะเดียวกับที่นักวิจารณ์หรือผู้ชมทั่วไปตีความศิลปะของปีกัสโซ  หลายครัง้ ทีก่ ารตีความของผมเป็นการอธิบายสิง่ ทีผ่ มจินตนาการว่าเกิดขึน้ เบือ้ ง หลังฉากที่เราเห็นในภาพยนตร์  เช่น ฟิสิกส์ของหลุมด�ำการ์แกนทัว ภาวะเอกฐานของ มัน ขอบฟ้าเหตุการณ์  รวมถึงลักษณะที่มันปรากฏให้เราเห็น และวิธีที่ความโน้มถ่วง ไทดัลของการ์แกนทัวสามารถท�ำให้เกิดคลื่นน�้ำสูง 4,000 ฟุตบนดาวมิลเลอร์  วิธีการ ทีเ่ ทสเซอแร็กต์  ซึง่ เป็นวัตถุในมิตขิ องอวกาศ 4 มิต ิ สามารถขนส่งตัวคูเปอร์ซงึ่ มีลกั ษณะ 3 มิติ  ผ่านบัลค์  5 มิติ  เป็นต้น บางครั้งการตีความของผมเป็นเพียงการคาดเดาเรื่องราวของอินเตอร์สเตลลาร์ ที่อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่เราเห็นในภาพยนตร์  ตัวอย่างเช่น ก่อนที่เรื่องราวในภาพยนตร์ จะเริ่มต้นขึ้น ศาสตราจารย์แบรนด์ค้นพบรูหนอน โดยการตรวจพบคลื่นความโน้มถ่วง ซึ่งเดินทางมาจากดาวนิวตรอนใกล้ๆ กับการ์แกนทัว ผ่านรูหนอนมายังโลก  แน่นอนว่าการตีความเหล่านี้เป็นของผมเอง ไม่ได้เป็นแนวคิดที่ริเริ่มโดย คริสโตเฟอร์  โนแลน คล้ายกับการตีความของนักวิจารณ์ศิลปะที่ไม่ได้เป็นแนวคิดเริ่มต้น ของปีกัสโซ มันเป็นวิธีที่ผมใช้อธิบายความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์ บางส่วนของหนังสือเล่มนี้อ่านไม่ง่ายนัก นั่นเป็นธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความคิด และบางครั้งก็ต้องใช้การครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง แต่การ ครุ่นคิดเป็นสิ่งที่มีคุณค่า คุณสามารถข้ามส่วนที่อ่านยากหรือเลือกที่จะพยายามท�ำ ความเข้าใจมันก็ได้   ถ้าคุณพยายามแล้วแต่กย็ งั ไม่เข้าใจ นัน่ ไม่ใช่ความผิดของคุณครับ มันเป็นความผิดของผมเอง ผมต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ผมหวังว่าอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในยามดึกขณะที่คุณก�ำลังผล็อยหลับ คุณจะ พบว่าตัวเองก�ำลังครุ่นคิดเรื่องที่ผมเขียนในหนังสือเล่มนี้   คล้ายกับตอนที่ผมพยายาม ไขปริศนาจากค�ำถามของคริสโตเฟอร์  โนแลน ขณะก�ำลังปรับบทภาพยนตร์ให้สมบูรณ์ แบบ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมหวังว่าอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในช่วงเวลาดึกสงัดนั้น ขณะที่คุณก�ำลังพยายามไขปริศนาอยู่นั้น คุณจะได้ประสบกับวินาทีแห่งการค้นพบ เหมือนกับที่ผมได้ประสบอยู่เสมอจากค�ำถามของโนแลน ผมขอขอบคุณ คริสโตเฟอร์  โนแลน, โจนาธาน โนแลน, เอ็มมา โทมัส, ลินดา ออบส์ท และ สตีเวน สปีลเบิร์ก ส�ำหรับการชักน�ำผมเข้าสู่ฮอลลีวู้ด และให้โอกาสอัน แสนวิเศษในการท�ำความฝันของผมให้เป็นจริง ความฝันที่จะส่งแรงบันดาลใจให้คนรุ่น หลัง ให้พวกเขาได้เห็นถึงความงดงาม ความน่าตื่นตาตื่นใจ และพลังของวิทยาศาสตร์ คิป ธอร์น พาซาดีนา, แคลิฟอร์เนีย 15 พฤษภาคม 2014


ท ะ ลุ มิ ติ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ กั บ

อินเตอร์สเตลลาร์



1

นักวิทยาศาสตร์ในฮอลลีวู้ด : ก�ำเนิดของอินเตอร์สเตลลาร์

ลินดา ออบส์ท คู่หูของผมในฮอลลีวู้ด

มล็ดพันธุ์ของอินเตอร์สเตลลาร์  เริ่มต้นขึ้นจากความรักที่ร่วงโรย ซึ่งกลับกลายเป็น  มิตรภาพและความเป็นหุ้นส่วนที่สร้างสรรค์ เดือนกันยายน  1980   คาร์ล เซแกน เพือ่ นของผมโทรศัพท์มาหา  เขาทราบดีวา่ ผมเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเลี้ยงดูลูกสาววัยรุ่น (หรืออย่างน้อยก็พยายามที่จะดูแลเธอ แต่รู้สึกว่าผมท�ำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก) และใช้ชีวิตอยู่ตามประสาคนโสดในแคลิฟอร์เนียใต้ (ผมท�ำสิ่งนี้ได้ดีขึ้นหน่อย) ในขณะที่พยายามไต่เต้าในสายอาชีพนักฟิสิกส์ทฤษฎี  (ซึ่ง ผมท�ำได้ดีกว่าสองอย่างแรกมาก) คาร์ล โทร.มาบอกว่าจะจัดนัดบอดให้ผม  เขาจัดการให้ผมออกเดทกับลินดา ออบส์ท ในงานเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ของ คอสมอส (Cosmos) รายการสารคดีของเขา ที่ออกฉายทางโทรทัศน์ ลินดาเป็นบรรณาธิการสาวที่ทั้งสวยและเก่ง ประจ�ำฝ่ายวัฒนธรรมทวนกระแส และวิทยาศาสตร์ของนิตยสารนิวยอร์กไทมส์  ที่เพิ่งจะถูกย้ายมายังลอสแอนเจลิส เมื่อเร็วๆ นี้   สามีของเธอเป็นคนลากเธอมาเองโดยที่เธอไม่เต็มใจ ซึ่งในที่สุดก็น�ำไปสู่ การแยกทาง  เพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี  ลินดาพยายามผันตัวเองสู่ธุรกิจ ภาพยนตร์  โดยเริ่มคิดคอนเซ็ปต์ให้กับภาพยนตร์เรื่อง แฟลชแดนซ์ รอบปฐมทัศน์ของ คอสมอส เป็นงานเลีย้ งแบบแบล็กไทจัดขึน้ ทีห่ อดูดาวกริฟฟิท แล้วผมก็ท�ำตัวเปิ่นๆ เช่นเคย  วันนั้นผมใส่ทักซิโดสีฟ้าอ่อน  ดูเหมือนว่าทุกคนในลอส แอนเจลิสมารวมตัวอยู่ที่นั่นกันหมด  ผมหลุดออกจากสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย และ รื่นเริงไปกับค�่ำคืนนั้น ตลอด 2 ปีถดั มา ผมกับลินดารักๆ เลิกๆ เคมีระหว่างเรายังไม่คอ่ ยจะตรงกันนัก ความจริงจังในทุกเรื่องของเธอท�ำให้ผมทั้งหลงเสน่ห์และรู้สึกหมดแรง  ผมนึกชั่งใจอยู่ ตลอดว่าความเหนือ่ ยล้านัน้ คุม้ ค่าหรือไม่   แต่อย่างไรก็ตาม คนทีต่ ดั สินใจกลับไม่ใช่ผม บางทีมันอาจเป็นเพราะเสื้อเชิ้ตเห่ยๆ กับกางเกงผ้าถักนิตติ้งของผม  ไม่รู้สิ  ไม่นานนัก


14

ลินดาก็หมดความสนใจที่จะสานต่อความสัมพันธ์กับผม แต่กลับมีบางสิ่งที่งดงามกว่า งอกงามขึ้นมา มันคือมิตรภาพที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์  ระหว่างคนสองคนที่แตกต่างกัน อย่างสุดขั้วเหมือนมาจากคนละโลก ข้ามมายังเดือนตุลาคมปี  2005  เป็นอีกวาระหนึ่งที่เราทั้งคู่ได้ทานอาหารค�่ำ ด้วยกันสองต่อสอง บทสนทนาของเรามีตงั้ แต่การค้นพบใหม่ลา่ สุดในวิชาจักรวาลวิทยา การเมืองฝ่ายซ้าย อาหารอร่อยๆ ไปจนถึงสถานการณ์ทเี่ ปลีย่ นแปลงในวงการภาพยนตร์ ในเวลานั้นลินดากลายเป็นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ที่ประสบความส�ำเร็จและมีผลงาน มากมาย (อาทิ  ภาพยนตร์เรื่องแฟลชแดนซ์,  เดอะฟิชเชอร์คิง, คอนแทค และ ฮาวทู ลูสอะกายอินเท็นเดย์) ส่วนผมก็แต่งงานแล้วด้วย  ภรรยาของผมคือ คาโรลี  วินสไตน์ ซึ่งเธอก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีกับลินดา และผมก็ท�ำได้ไม่เลวนักในโลกของฟิสิกส์ ในระหว่างอาหารค�่ำ ลินดาอธิบายแนวคิดของเธอว่าได้เริ่มวางแผนสร้างภาพ ยนตร์แนววิทยาศาสตร์  และขอให้ผมช่วยเธอท�ำให้มนั สมบูรณ์ขนึ้  นีจ่ ะเป็นการผจญภัย ครั้งที่สองของเธอในโลกของภาพยนตร์วิทยาศาสตร์  และเธอต้องการร่วมงานกับผม เหมือนครั้งที่เธอร่วมงานกับคาร์ล เซแกน ในภาพยนตร์เรื่อง คอนแทค ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะไปช่วยใครสร้างภาพยนตร์  ผมไม่เคยนึก อยากมีหน้ามีตาในวงการฮอลลีวู้ด นอกไปจากการได้รับฟังเรื่องที่คนอื่นๆ เล่าให้ฟัง อย่างเช่นเรื่องราวของลินดา  แต่การได้ท�ำงานร่วมกับลินดาเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะภาพยนตร์ของเธอมีไอเดียเกีย่ วกับรูหนอน ซึง่ เป็นแนวคิดทางฟิสกิ ส์ดาราศาสตร์ ที่ผมได้บุกเบิกไว้   ดังนั้น เธอจึงโน้มน้าวให้ผมช่วยระดมความคิดได้ไม่ยากนัก ตลอด 4 เดือนถัดมา ผ่านการรับประทานอาหารค�่ำ และการติดต่อทางอีเมล และโทรศัพท์  เราก็ได้ร่วมกันสร้างร่างแรกของภาพยนตร์แบบหยาบๆ มันรวมเอา รูหนอน หลุมด�ำ และคลื่นความโน้มถ่วง รวมถึงเอกภพใน 5 มิติ  และการเผชิญหน้า ระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตจากมิติที่สูงกว่า แต่สิ่งส�ำคัญที่สุดส�ำหรับผมก็คือ วิสัยทัศน์ของเราส�ำหรับภาพยนตร์ที่จะต้อง ได้รบั ความนิยมสูง และมีพนื้ ฐานทีเ่ ริม่ ต้นมาจากวิทยาศาสตร์จริงๆ นัน่ คือวิทยาศาสตร์ ที่อยู่  ณ พรมแดนแห่งความรู้ของมนุษย์หรือพ้นจากพรมแดนนั้นออกไปไม่ไกลนัก มันจะเป็นภาพยนตร์ซึ่งทั้งผู้ก�ำกับฯ ผู้เขียนบท และผู้สร้าง ยอมรับในความเป็นวิทยา ศาสตร์  และได้รับแรงบันดาลใจจากมัน ถักทอวิทยาศาสตร์เข้าไปในทุกๆ เส้นใยของ ภาพยนตร์อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็สนุกชวนติดตามในเวลาเดียวกัน  ภาพยนตร์ที่จะ ท�ำให้ผู้ชมสัมผัสรสชาติของสิ่งมหัศจรรย์ที่กฎทางฟิสิกส์อาจดลบันดาลให้เกิดขึ้นใน เอกภพของเรา และความส�ำเร็จอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าเราเข้าใจ กฎทางฟิสิกส์อย่างท่องแท้   ภาพยนตร์ที่จะมอบแรงบันดาลใจผู้แก่ชมหลายๆ คนให้ อยากศึกษาวิทยาศาสตร์  และแม้แต่อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ในอนาคต 9 ปีหลังจากนั้น ภาพยนตร์อินเตอร์สเตลลาร์  ก็ได้บรรลุในทุกๆ สิ่งที่เราวาดฝัน


15

ไว้  แต่เส้นทางจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดนั้นค่อนข้างจะคล้ายกับละครเรื่อง “อันตราย ของพอลลีน” (Perils of Pauline) มีหลายครั้งที่ความฝันของเราอาจล้มครืนลงได้  เรา ได้รับการตอบรับจากผู้ก�ำกับฯ ระดับต�ำนานอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก แต่สุดท้ายก็ต้อง เสียเขาไป  เราได้ตวั นักเขียนบทภาพยนตร์หนุม่ ชัน้ ยอดอย่าง โจนาธาน โนแลน แล้วก็ เสียเขาไปถึงสองรอบในระยะเวลาหลายเดือนและในเวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม  เป็นเวลาถึง 2 ปีครึ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในสถานะที่ถูกลืม ไร้ผู้ก�ำกับฯ  แต่แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็ บังเกิดขึน้  เมือ่ มันถูกชุบชีวติ และแปลงโฉมใหม่โดยฝีมอื ของพีช่ ายของโจนาธาน นัน่ คือ คริสโตเฟอร์  โนแลน ผู้ก�ำกับภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในโลกภาพยนตร์ยุคใหม่

สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้ก�ำกับฯ คนแรก ในเดือนกุมภาพันธ์ป ี 2006  เป็นเวลา 4 เดือนหลังจากทีเ่ ราได้เริม่ ระดมสมองกัน ลินดา มีโอกาสรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ ทอดด์  เฟลด์แมน ตัวแทนของสปีลเบิร์ก ที่  “ครีเอทีฟ อาร์ททิส เอเจนซี” หรือ  CAA  เฟลด์แมนถามเธอว่าตอนนี้เธอก�ำลังสร้าง ภาพยนตร์เรื่องไหนอยู่   เธอจึงถือโอกาสอธิบายโปรเจ็กต์ที่เราท�ำร่วมกัน รวมถึงวิสัย ทัศน์ของเราเกี่ยวกับภาพยนตร์แนวไซไฟที่มีวิทยาศาสตร์จริงๆ ถักทอในภาพยนตร์ ตัง้ แต่จดุ เริม่ ต้น ภาพยนตร์อนิ เตอร์สเตลลาร์  ทีเ่ ป็นความฝันของเรา  เฟลด์แมนตืน่ เต้น มาก เขาบอกว่าสปีลเบิรก์ อาจจะสนใจ และขอให้ลนิ ดาส่งทรีตเมนต์ให้เขาภายในวันนัน้ เลย (“ทรีตเมนต์” (treatment) เป็นค�ำอธิบายเนื้อเรื่องและตัวละคร ส่วนมากจะยาว ประมาณ 20  หน้าหรือมากกว่า) แต่ที่เราเขียนกันมาทั้งหมดมีเพียงการแลกเปลี่ยนอีเมลไม่กี่ฉบับ และบันทึก จากการสนทนาขณะรับประทานอาหารค�ำ่   ดังนัน้  เราจึงต้องท�ำงานอย่างรวดเร็วภายใน เวลาไม่กี่วันเพื่อร่างทรีตเมนต์จ�ำนวน 8 หน้า ที่พวกเราภาคภูมิใจมากและส่งงานให้ เขา  ไม่กี่วันต่อมา ลินดาก็ส่งอีเมลมาถึงผมว่า “สปีลเบิร์กได้อ่านมันแล้ว และเขาก็ สนใจมากๆ ด้วย เราอาจจะต้องมีการประชุมเล็กๆ กับเขา  คุณพร้อมมั้ยล่ะ? ลินดา” แน่นอนผมพร้อมอยู่แล้ว!  แต่หนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้น ก่อนที่จะมีการนัดหมาย ใดๆ ลินดาก็โทร.มาหาผม “สปีลเบิรก์ ตกลงทีจ่ ะก�ำกับฯ อินเตอร์สเตลลาร์ของเราแล้ว!” ลินดาดีใจมากๆ และผมก็ดีใจมากเช่นกัน “เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในฮอลลีวู้ด” เธอ บอกผม “ไม่เคยเกิด” แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว หลังจากนั้นผมได้สารภาพกับลินดาว่า ผมเคยดูภาพยนตร์ที่สปีลเบิร์กก�ำกับฯ เพียงเรื่องเดียว แน่นอนมันคือเรื่อง อีที  (ตั้งแต่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่มาผมก็ไม่เคยให้ความ สนใจกับภาพยนตร์เลย)  ดังนั้น เธอจึงได้ให้การบ้านแก่ผม ด้วยการจดรายชื่อ “หนัง ของสปีลเบิร์ก ที่คิปจะต้องดู” หนึ่งเดือนหลังจากนั้น วันที่  27  มีนาคม  2006  พวกเราก็ได้ประชุมกับสปีลเบิร์ก เป็นครั้งแรก  ผมเริ่มเรียกเขาอย่างคุ้นเคยว่าสตีเวน เราพบกันในห้องประชุมที่อบอุ่น


16

เหมือนอยู่ในบ้านภายในใจกลางของบริษัทแอมบลิน ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตภาพยนตร์ ของเขา ในเขตเบอร์แบงก์ ในการประชุมของเรา ผมเสนอแนวทาง 2 ข้อส�ำหรับวิทยาศาสตร์ในภาพยนตร์ อินเตอร์สเตลลาร์  ให้กับสตีเวนและลินดา  : 1.  จะต้องไม่มีสิ่งใดในภาพยนตร์ละเมิดกฎทางฟิสิกส์  หรือความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเอกภพซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป 2. การคาดการณ์ใดๆ ก็ตาม (ซึง่ ส่วนมากค่อนข้างจะหลุดโลก) เกีย่ วกับกฎทาง ฟิสิกส์หรือเอกภพ ในส่วนที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจหรือได้รับการพิสูจน์แล้ว จะต้องมีที่มา จากวิทยาศาสตร์จริงๆ จากแนวคิดที่อย่างน้อยนักวิทยาศาสตร์ที่  “น่าเชื่อถือ” คิดว่า น่าจะเป็นไปได้ ดูเหมือนว่าสตีเวนจะยอมรับมันได้  และยอมรับข้อเสนอของลินดาที่จะโน้มน้าว นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งให้มาร่วมระดมสมองกับเรา เป็นการประชุมวิชาการส�ำหรับ ภาพยนตร์อินเตอร์สเตลลาร์ การประชุมวิชาการครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่  2  มิถุนายน ที่สถาบันเทคโนโลยีแห่ง แคลิฟอร์เนีย (แคลเทค) ในห้องประชุมที่อยู่อาคารเดียวกับห้องท�ำงานของผม มันเป็นการอภิปราย 8 ชั่วโมงอย่างเมามันและไม่มีข้อจ�ำกัด ระหว่างนักวิทยา ศาสตร์  14 คน (นักชีววิทยาเชิงดาราศาสตร์  นักวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์  นักฟิสิกส์ ทฤษฎี  นักจักรวาลวิทยา นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการอวกาศ) ร่วมกับ ลินดา สตีเวน อาร์โนลด์คุณพ่อของสตีเวน และผม  ทุกคนเหน็ดเหนื่อยแต่ก็สนุกกับ แนวคิดที่หลากหลาย และอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับแนวคิดดั้งเดิมของเรา เป็นแรงกระตุ้น ให้ลินดาและผมขณะที่เราท�ำการปรับปรุงและขยายทรีตเมนต์ของเรา ภารกิจนี้ใช้เวลาถึง 6 เดือนเนื่องจากพวกเราติดภาระอื่นๆ ด้วย แต่ภายใน เดือนมกราคม  2007  ทรีตเมนต์ของพวกเราก็ขยายยาวถึง 37  หน้า บวกกับค�ำอธิบาย วิทยาศาสตร์ของอินเตอร์สเตลลาร์อีก 16 หน้า

โจนาธาน โนแลน ผู้เขียนบทภาพยนตร์ ในเวลาเดียวกันนั้น ลินดาและสตีเวนได้สัมภาษณ์คนที่จะมารับหน้าที่ผู้เขียนบท ภาพยนตร์  มันเป็นกระบวนการที่ยาวนาน แต่ในที่สุดก็สามารถโน้มน้าว โจนาธาน โนแลน นักเขียนบทหนุ่มวัย 31 ปี  ผู้เคยเขียนบทภาพยนตร์  (ร่วมกับพี่ชายของเขา คริสโตเฟอร์) เพียงแค่สองเรื่อง นั่นคือ เดอะเพรสทีจ และ เดอะดาร์คไนท์  ซึ่งเป็น ที่นิยมมากทั้งคู่ โจนาธาน หรือที่เพื่อนๆ ของเขาชอบเรียกกันว่าโจนาห์  มีความรู้เกี่ยวกับวิทยา ศาสตร์น้อยมาก แต่เขาเป็นคนเฉลียวฉลาด ช่างซักถาม และกระหายที่จะเรียนรู้   เขา อ่านหนังสือวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์สเตลลาร์  เป็นเวลาหลายเดือน และ


17

ตัง้ ค�ำถามเพือ่ ทดสอบความเข้าใจของตัวเอง  เขายังให้แนวคิดใหม่ๆ ส�ำหรับภาพยนตร์ ของเราที่ทั้งสตีเวน ลินดา และตัวผม ต่างยอมรับด้วยความยินดี การร่วมงานกับโจนาห์เป็นสิ่งที่วิเศษมาก เขากับผมระดมสมองร่วมกันหลาย ต่อหลายรอบส�ำหรับวิทยาศาสตร์ในอินเตอร์สเตลลาร์  โดยมากจะเป็นช่วง 2-3 ชั่วโมง ระหว่างอาหารกลางวันที่สโมสรเดอะเอเธเนียม ของมหาวิทยาลัยแคลเทค  โจนาห์ จะมารับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับแนวคิดใหม่ๆ และค�ำถามมากมาย ผมจะ ตอบเขาในทันทีว่า สิ่งนี้เป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์  สิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้...   บางครั้งค�ำ ตอบของผมก็ไม่ถูกต้องนัก โจนาห์จะยิงค�ำถามใส่ผม  ท�ำไมล่ะครับ?  แล้วถ้าเป็น อย่างนั้นล่ะ...?  แต่ผมค่อนข้างช้า ก็เลยบอกว่าผมจะเก็บเอาไปคิดที่บ้านก่อนเข้านอน ในช่วงที่สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนราง ผมมักเฟ้นหาวิธีที่จะท�ำให้สิ่งที่เขาต้องการเกิดขึ้น ได้  หรือไม่กห็ าทางเลือกอืน่ ทีท่ ำ� ให้ได้ผลลัพธ์ทเี่ ขาต้องการ  ความคิดสร้างสรรค์ของผม มักเกิดขึ้นขณะครึ่งหลับครึ่งตื่น เช้าวันรุง่ ขึน้  ผมจะปะติดปะต่อบันทึกทีผ่ มเขียนตอนกลางคืนซึง่ เนือ้ หายังไม่คอ่ ย ต่อเนื่องเข้าด้วยกัน ถอดใจความส�ำคัญ แล้วเขียนอีเมลไปยังโจนาห์   เขาจะตอบกลับ ทางโทรศัพท์  อีเมล หรือไม่กอ็ าหารกลางวันอีกมือ้  จนกว่าเราจะเข้าใจตรงกัน  ตัวอย่าง เช่น เราใช้วิธีนี้ท�ำให้เรามาถึงความวิปลาสของความโน้มถ่วง และความท้าทายในการ ควบคุมพวกมันเพื่อยกมนุษยชาติออกจากโลก และผมพบวิธีซึ่งอยู่นอกเหนือขอบเขต ความรู้ปัจจุบัน เพื่อที่จะท�ำให้ความวิปลาสนี้เป็นไปได้ในทางวิทยาศาสตร์ ในช่วงเวลาส�ำคัญ เราจะดึงลินดาเข้ามาร่วมด้วย เธอท�ำหน้าที่วิจารณ์แนวคิด ของพวกเราได้เป็นอย่างดี  และสามารถช่วยให้เราปรับเปลี่ยนแนวคิดไปยังทิศทางใหม่ พร้อมๆ กับการระดมสมองร่วมกับพวกเรา  เธอได้ใช้ความสามารถพิเศษที่จะท�ำให้ บริษัทพาราเมาท์  พิกเจอร์ส เฝ้ารอเราอยู่ห่างๆ เพื่อที่เราจะสามารถรักษาความเป็น อิสระทางความคิด และวางแผนส�ำหรับขัน้ ต่อไปในการเปลีย่ นอินเตอร์สเตลลาร์ให้เป็น ภาพยนตร์จริงๆ ภายในเดือนพฤศจิกายนปี  2007  โจนาห์, ลินดา, สตีเวน และผม ก็เห็นพ้อง ต้องกันเกี่ยวกับโครงเรื่องที่ปรับปรุงใหม่เกือบทั้งหมดจากทรีตเมนต์ต้นฉบับที่ลินดา และผมช่วยกันเขียน โดยรวมเอาแนวคิดส�ำคัญของโจนาห์  รวมถึงแนวคิดอีกหลายๆ เรื่องที่ปรากฏขึ้นมาระหว่างการสนทนาของพวกเรา ในขณะที่โจนาห์ก�ำลังหมกมุ่นกับ การเขียนบทภาพยนตร์   และแล้วในวันที่  5  พฤศจิกายน  2007  สมาคมนักเขียนแห่ง อเมริกาก็ก่อการประท้วงหยุดท�ำงาน โจนาห์ถูกห้ามไม่ให้เขียนบทภาพยนตร์ต่อ และ เขาก็หายตัวไป ผมตกใจมาก งานที่เราทุ่มเทไปทั้งหมด ความฝันทั้งหมด ทุกอย่างจะสูญเปล่า งั้นหรือ?  ผมถามลินดา เธอตอบกลับมาว่า ให้เราอดทน แต่ผมรู้สึกได้ว่าเธอหัวเสีย เป็นอย่างมาก  เธอได้เล่าเรื่องการประท้วงนี้ไว้อย่างชัดเจนในฉากที่  6  ของหนังสือ สลีปเลสอินฮอลลีวดู้  (Sleepless in Hollywood) ของเธอ เธอให้ชอื่ ฉากนัน้ ว่า “หายนะ”


18

การประท้วงยาวนานถึง 3 เดือน วันที่  12  กุมภาพันธ์  เมื่อการประท้วงจบลง โจนาห์ก็กลับมาเขียนบทต่อและพูดคุยกับลินดาและผมอย่างเข้มข้น  อีก 16 เดือน หลังจากนัน้  เขาก็ได้ผลิตโครงเรือ่ งส�ำหรับบทภาพยนตร์อย่างละเอียด และหลังจากนัน้ ก็ตามด้วยแบบร่างของบทภาพยนตร์จริงๆ ถึงสามฉบับติดต่อกัน  เมื่อแต่ละร่างของ บทภาพยนตร์ถูกเขียนเสร็จ เราก็จะน�ำไปปรึกษาหารือกับสตีเวน และสตีเวนจะยิง ค�ำถามใส่เราสัก 1 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้น ก่อนจะเสนอ ขอร้อง หรือแนะน�ำให้เปลี่ยน แปลงบางอย่าง  เขาไม่ได้ลงมาท�ำงานด้วยตัวเองในรายละเอียดมากนัก แต่เขาก็ใช้ ความคิดอันลึกซึ้งหลักแหลม มีความคิดสร้างสรรค์และเฉียบขาดในบางครั้ง ในเดือนมิถุนายนปี  2009  โจนาห์ยื่นร่างบทภาพยนตร์ฉบับที่  3 ให้แก่สตีเวน แล้วเขาก็หายตัวไป เนื่องจากเขาได้สัญญาว่าจะเขียนบทภาพยนตร์  เดอะดาร์คไนท์ ไรส์  แต่พักงานไว้เป็นเวลาหลายเดือนเนื่องจากเขาต้องเขียนบทให้อินเตอร์สเตลลาร์ เขาเลื่อนมันออกไปไม่ได้อีกแล้ว เราจึงขาดผู้เขียนบทภาพยนตร์อีกครั้ง  นอกจากนั้น คุณพ่อของโจนาห์ยังมีอาการป่วยทรุดลงหนัก  โจนาห์อยู่ข้างๆ คุณพ่อของเขาในกรุง ลอนดอนเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งพ่อเสียชีวิตในเดือนตุลาคม  ตลอดช่วงเวลา ที่ขาดหายไปนี้  ผมกลัวว่าสตีเวนจะหมดความสนใจ แต่สตีเวนยังอดทนกับเรา และรอคอยให้โจนาห์กลับมา  เขาและลินดาสามารถ จ้างนักเขียนบทภาพยนตร์คนอืน่ มาท�ำงานนีใ้ ห้สำ� เร็จก็ได้  แต่พวกเขายังเชือ่ ในฝีมอื และ พรสวรรค์ของโจนาห์จนรู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะอดทนรอ ในทีส่ ดุ เมือ่ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ป ี 2010  โจนาห์กก็ ลับมา  และในวันที ่ 3  มีนาคม สตีเวน ลินดา โจนาห์  และผม ก็ได้มาประชุมกันเพือ่ อภิปรายร่างฉบับที ่ 3  อายุ  9 เดือน ของโจนาห์   ผมรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย ในที่สุดเราก็กลับมาอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง จากนัน้ ในวันที ่ 9  มิถนุ ายน ขณะทีโ่ จนาห์กำ� ลังหมกมุน่ อยูก่ บั ร่างฉบับที ่ 4  ผมก็ ได้รบั อีเมลจากลินดา “เรามีปญ ั หากับสัญญาของสตีเวน ฉันก�ำลังหาทางแก้อยู”่  แต่มนั ไม่สามารถแก้ไขได้   ทัง้ สปีลเบิรก์ และพาราเมาท์ไม่สามารถบรรลุขอ้ ตกลงกันได้สำ� หรับ รูปที ่ 1.1  โจนาห์  โนแลน, คิป และลินดา ออบส์ท


19

ขั้นตอนต่อไปของอินเตอร์สเตลลาร์  และลินดาไม่สามารถหาทางออกได้   อยู่ดีๆ เราก็ ขาดผู้ก�ำกับภาพยนตร์ไปซะเฉยๆ อินเตอร์สเตลลาร์จะต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการสร้าง ทั้งสตีเวนและ ลินดาต่างบอกกับผมอย่างนั้น มีผู้ก�ำกับฯ เพียงไม่กี่คนที่พาราเมาท์จะเชื่อใจและยอม ให้ก�ำกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ลักษณะนี้   ผมหลับตาเห็นภาพอินเตอร์สเตลลาร์ก�ำลัง ถูกทอดทิง้  และปล่อยให้ตายลงอย่างช้าๆ ผมรูส้ กึ สิน้ หวังเช่นเดียวกับลินดา  อย่างน้อย ก็ในตอนแรก แต่เธอเป็นนักแก้ปัญหาชั้นยอดที่หาตัวจับยากจริงๆ

คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้ก�ำกับฯ และนักเขียนบทภาพยนตร์ เพียง 13 วันหลังจากที่ลินดาส่งอีเมล “เรามีปัญหากับสัญญาของสตีเวน” มาให้  ผม ก็ได้เปิดเครือ่ งคอมพิวเตอร์มาเช็กอีเมล แล้วก็พบข้อความทีน่ า่ ปลาบปลืม้ ใจ “การพูดคุย ที่ยอดเยี่ยมกับเอ็มมา โทมัส...”  เอ็มมาคือภรรยาของคริสโตเฟอร์  โนแลน และเป็น โปรดิวเซอร์และผูร้ ว่ มงานในภาพยนตร์ทงั้ หมดของเขา เธอกับคริสโตเฟอร์กำ� ลังให้ความ สนใจงานของเรา  เรื่องนี้ท�ำให้ลินดาตื่นเต้นมากๆ  โจนาห์โทรศัพท์หาเธอและบอกว่า “นีเ่ ป็นผลลัพธ์ทดี่ ที สี่ ดุ ” แต่ดว้ ยปัญหาหลายๆ อย่าง การตกลงก็ยงั ไม่เป็นทีส่ นิ้ สุด และ ต้องใช้เวลารอต่อไปอีกถึง 2 ปีครึง่  แม้วา่ เราจะมัน่ ใจว่าคริสโตเฟอร์และเอ็มมาจะรักษา สัญญา ดังนั้น ผมจึงท�ำได้เพียงแค่นั่งรอตั้งแต่มิถุนายน  2010  ไปจนหมดปี  2011  เรื่อย มาจนถึงกันยายน  2012   ตลอดช่วงเวลานั้นผมหงุดหงิดมาก แต่ลินดาได้สร้างบรรยา กาศแห่งความมั่นใจไว้ตรงหน้าผม แต่หลังจากนั้นเธอสารภาพว่าเคยเขียนข้อความ ต่อไปนี้ถึงตัวเอง “วันพรุ่งนี้ฉันอาจตื่นขึ้นมาและคริส โนแลนอาจจะไปแล้ว หลังจากที่ รอมา 2 ปีครึ่ง  เขาอาจมีแนวคิดของตัวเอง ผู้สร้างคนอื่นอาจเอาบทภาพยนตร์ที่ เขาชอบมากกว่ามาเสนอ หรือเขาอาจตัดสินใจจะหยุด  ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันคงคิดผิด ที่รอคอยเขาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา สิ่งนี้เกิดขึ้นเสมอ  นั่นเป็นชีวิตของฉัน ชีวิตของ ผู้สร้างภาพยนตร์  แต่เขาก็เป็นผู้ก�ำกับฯ ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของเรา ดังนั้นเราจะรอ” ในทีส่ ดุ การเจรจาต่อรองก็เกิดขึน้  ซึง่ อยูห่ า่ งไกลจากการควบคุมของผม คริสโตเฟอร์  โนแลนจะรับก�ำกับฯ ก็ตอ่ เมือ่ พาราเมาท์ตกลงจะร่วมสร้างภาพยนตร์กบั วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ซึง่ เป็นบริษทั ภาพยนตร์ทสี่ ร้างภาพยนตร์เรือ่ งหลังๆ ของเขา  ดังนัน้  ข้อตกลง ที่มีความซับซ้อนอย่างมากจึงได้ถูกสร้างขึ้นระหว่างสองค่ายหนังที่ปกติเป็นคู่แข่งกัน ในที่สุดในวันที่  18  ธันวาคม  2012  ลินดาก็อีเมลมาบอกผมว่า “พาราเมาท์และ วอร์เนอร์ตกลงกันได้แล้ว ค่อยโล่งขึน้ หน่อย!  จะเริม่ งานฤดูใบไม้ผลิน!ี้ !”  และหลังจากนัน้ เมื่ออินเตอร์สเตลลาร์มาอยู่ในมือของคริสโตเฟอร์  โนแลน  เท่าที่ผมบอกคุณได้คือ ทุกอย่างมีทิศทางชัดเจน ในที่สุด!  เป้าหมายชัดเจน สนุก และมีชีวิตชีวา คริสโตเฟอร์รจู้ กั บทภาพยนตร์ของโจนาห์ด ี พวกเขาเป็นพีน่ อ้ งกัน และเคยคุยกัน แล้วขณะที่โจนาห์เขียนบท สองพี่น้องประสบความส�ำเร็จอย่างมหาศาลในการร่วมมือ


20

กันเขียนบทภาพยนตร์  เดอะเพรสทีจ, เดอะดาร์คไนท์  และเดอะดาร์คไนท์ไรส์  โจนาห์ จะเขียนร่างบทภาพยนตร์ขึ้นมาก่อน จากนั้นคริสโตเฟอร์จะรับมาปรับปรุงและเขียน ใหม่  โดยใคร่ครวญอย่างรอบคอบว่าเขาควรถ่ายท�ำแต่ละฉากอย่างไรในขณะที่เขาร่าง มันลงบนแผ่นกระดาษ และเมื่ออินเตอร์สเตลลาร์ตกอยู่ในมือของคริสโตเฟอร์โดยสมบูรณ์  เขาก็ได้รวม ร่างบทภาพยนตร์ของโจนาห์เข้ากับบทภาพยนตร์ของเขาจากอีกโครงการหนึ่ง และ ใส่มมุ มองใหม่  และแนวคิดใหม่ทไี่ ม่เคยมีมาก่อน เป็นแนวคิดส�ำคัญทีอ่ าจพาภาพยนตร์ ไปยังทิศทางใหม่อย่างคาดไม่ถึง ราวกลางเดือนมกราคม คริส ซึง่ เป็นชือ่ ทีผ่ มใช้เรียกเขาไม่นานหลังจากทีส่ นิทกัน ขอนัดพบผมสองต่อสองทีห่ อ้ งท�ำงานของเขาใน ซินก๊อปปี ้ บริษทั ผลิตภาพยนตร์ของเขา ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัทวอร์เนอร์  บราเธอร์ส ในระหว่างการสนทนาของเรา ผมรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าคริสรู้จักวิทยาศาสตร์ ทีเ่ กีย่ วข้องเป็นอย่างดี  และมีสญ ั ชาตญาณของความเป็นนักวิทยาศาสตร์  บางทีสญ ั ชาต ญาณของเขาไม่ค่อยจะตรงจุดนัก แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาเข้าใจตรงประเด็นเลยทีเดียว และเขามีความกระตือรือร้นอย่างมาก โดยมากแล้วการสนทนาของเรามักจะออกจาก อินเตอร์สเตลลาร์ไปยังประเด็นทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เกี่ยวข้องแต่เป็นเรื่องที่ท�ำให้เขา ตื่นเต้น ในการพบกันครั้งแรก ผมลองเสี่ยงบอกข้อเสนอของผมเกี่ยวกับแนวทางส�ำหรับ วิทยาศาสตร์ในอินเตอร์สเตลลาร์ให้แก่คริส  นั่นคือ จะไม่มีสิ่งใดละเมิดกฎทางฟิสิกส์ ที่เป็นที่ยอมรับกันดีแล้ว และการคาดการณ์ใดๆ จะต้องมาจากวิทยาศาสตร์ทั้งหมด เขาดูเหมือนจะตอบรับเป็นอย่างดี  และได้บอกกับผมว่า ถ้าผมไม่ชอบสิง่ ทีเ่ ขาท�ำเกีย่ วกับ วิทยาศาสตร์ในภาพยนตร์  ผมไม่จำ� เป็นทีจ่ ะต้องปกป้องเขาในทีส่ าธารณะ นัน่ ท�ำให้ผม ช็อกเล็กน้อย  แต่ในตอนนีภ้ าพยนตร์อยูใ่ นช่วงหลังการผลิตแล้ว ผมค่อนข้างประทับใจ ที่เขาปฏิบัติตามแนวทางที่ให้ไว้เป็นอย่างดี  และควบคุมไม่ให้มันเป็นอุปสรรคในการ สร้างภาพยนตร์ คริสท�ำงานอย่างหนักตัง้ แต่กลางเดือนมกราคมจนถึงต้นพฤษภาคม เพือ่ ปรับปรุง บทภาพยนตร์ของโจนาห์  เขาหรือไม่ก็ผู้ช่วยคือแอนดี  ทอมป์สัน จะโทรศัพท์มาหาผม เพื่อขอให้ผมไปพบเขาที่ห้องท�ำงาน หรือที่บ้านเป็นครั้งคราว เพื่อปรึกษาในประเด็นที่ เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์  หรือเพื่ออ่านร่างบทภาพยนตร์ฉบับใหม่ของเขา และจากนั้น จึงประชุมเพื่ออภิปรายประเด็นต่างๆ  การพูดคุยของเรามักจะยาวนาน ส่วนมากจะใช้ เวลา 90 นาที  บางครัง้ จะตามมาด้วยการพูดคุยอันยาวนานทางโทรศัพท์วนั หรือสองวัน หลังจากนัน้   เขาได้จดุ ประกายหลายประเด็นให้ผมต้องเอากลับไปคิด และเช่นเดียวกับ คราวที่ท�ำงานร่วมกับโจนาห์  เวลาที่ผมมีสมาธิที่สุดคือช่วงกลางดึกเงียบสงัด  และใน เช้าวันรุง่ ขึน้  ผมจะเขียนสิง่ ทีผ่ มคิดลงในบันทึกหลายหน้ากระดาษ พร้อมด้วยแผนภาพ และรูปประกอบ และน�ำไปยื่นให้คริสกับมือของผม (คริสกังวลว่าแนวคิดของเราจะรั่ว


21

ออกไป และท�ำลายอรรถรสบรรดาแฟนภาพยนตร์ที่ก�ำลังติดตามและรอคอยอย่าง คาดหวัง เขาเป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่ชอบเก็บตัวเป็นความลับ) บางครั้งแนวคิดของคริสดูเหมือนจะละเมิดแนวทางที่ผมให้ไว้  แต่น่ามหัศจรรย์ ที่ผมหาทางท�ำให้มันเกิดขึ้นได้ในทางวิทยาศาสตร์   มีเพียงครั้งเดียวที่ผมท�ำไม่ส�ำเร็จ และหลังจากการอภิปรายตลอดช่วงเวลากว่า 2 อาทิตย์   ในที่สุดคริสก็ยอมถอย และ ปรับส่วนเล็กๆ ของภาพยนตร์ไปในทิศทางอื่น ดังนัน้  ในทีส่ ดุ แล้ว ผมไม่มคี วามกังวลเกีย่ วกับการปกป้องคริสในสิง่ ทีเ่ ขาท�ำกับ วิทยาศาสตร์เลย ในทางตรงกันข้ามผมกลับตื่นเต้นเป็นล้นพ้น!  เขาท�ำให้ความฝันของ ลินดากับผมให้เป็นความจริง ความฝันที่จะมีภาพยนตร์ยอดนิยมซึ่งมีรากฐานจาก วิทยาศาสตร์  และมีวิทยาศาสตร์จริงๆ ถักทออยู่ในทุกๆ อณูของมัน เมื่อผ่านมือของโจนาห์และคริส เรื่องราวของอินเตอร์สเตลลาร์ถูกเปลี่ยนไปเป็น อย่างมาก  มันคล้ายกับทรีตเมนต์ของผมกับลินดาเพียงแค่ผวิ เผิน และมันออกมาดีกว่า มากๆ! และแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ในภาพยนตร์ก็ไม่ใช่แนวคิดของผมเสียทั้งหมด คริสได้น�ำแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจของเขาเองใส่ลงไปในภาพยนตร์  ซึ่งเพื่อน ร่วมงานที่เป็นนักฟิสิกส์ของผมอาจคิดว่ามันมาจากความคิดผมก็ได้   บางครั้งเมื่อผม ได้ฟังแนวคิดพวกนี้  ผมถึงกับคิดว่า ท�ำไมผมถึงนึกไม่ออกนะ?  และไอเดียที่น่าสนใจ อีกหลายอย่างก็เกิดขึ้นจากการพูดคุยของผมกับคริส รวมถึงกับโจนาห์และลินดา เย็นวันหนึ่งในเดือนเมษายน คาโรลีและผมได้จัดงานเลี้ยงใหญ่โตให้กับสตีเฟ่น ฮอว์กิ้งที่บ้านของเราในเมืองพาซาดีนา มีแขกร่วมร้อยคนจากหลากหลายสาขาเข้าร่วม งาน ทั้งนักวิทยาศาสตร์  ศิลปิน นักเขียน นักถ่ายภาพ นักสร้างภาพยนตร์  นักประวัติ ศาสตร์  คุณครูในโรงเรียน ผูแ้ ทนชุมชน ผูแ้ ทนแรงงาน นักธุรกิจ สถาปนิก และอีกมาก รูปที่  1.2  คิปและคริสโตเฟอร์  โนแลน ก�ำลัง สนทนากันในฉากภาพ ยนตร์ทเี่ ป็นโมดูลควบคุม ของยานเอนดูแรนซ์


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.