ปรุงรัก ปารีส

Page 1


Lunch

in

Paris

A Love Story with Recipes

ปรุงรัก ปารีส

Elizabeth  Bard   เขียน

ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล

กรุงเทพมหานคร  ส�ำนักพิมพ์มติชน  2556


สารบัญ

ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ค�ำน�ำผู้แปล บทที่  1 บทที่  2 บทที่  3 บทที่  4 บทที่  5 บทที่  6 บทที่  7 บทที่  8 บทที่  9 บทที่  10 บทที่  11 บทที่  12

รับชา กาแฟ หรือฉันดีคะ มนต์รักฝังใจ เดือนเมษาในปารีส งานเลี้ยงวันเกิด เวทมนตร์มายา ห้องเรียนภาษา เทศกาลลูกฟิก ฤดูหนาวอันยาวนาน พบหน้าว่าที่ มรดกของตระกูล วงบิ๊กแบนด์กับชีสกลิ่นแรงเหลือใจ คุณค่าคู่ครอบครัว

7 9 13 29 44 58 74 88 103 120 132 151 166 181

ปรุงรัก ปารีส // 5


บทที่  13 วกวนอลเวง บทที่  14 หลังจากเทพนิยายก็ตบท้ายด้วยพาร์สนิป บทที่  15 วิธีท�ำชีสเค้กในพิมพ์ปาเต บทที่  16 ฝรั่งเศสชั่วนิรันดร์ บทที่  17 มื้อกลางวันแบบคุณน้ายคุณนาย บทที่  18 อาหารปลอบใจ บทที่  19 โลกทั้งใบในก�ำมือ บทที่  20 เมื่อพลพรรคนิวยอร์กมาเยี่ยมเยียน บทที่  21 คิดใหม่ ท�ำใหม่ บทที่  22 มื้อฉลองวันปีใหม่ บทส่งท้าย ปีต่อไปในปารีส

194 206 219 235 247 261 274 291 302 312 323

กิตติกรรมประกาศ เกี่ยวกับผู้เขียน

334 335


1 รับชา กาแฟ หรือฉันดีคะ

ฉันมีอะไรกับสามีชาวฝรั่งเศสตอนออกเดตกันครั้งแรกไปได้ครึ่งทาง

ที่ฉันบอกว่าครึ่งทางก็เพราะเรากินมื้อเที่ยงกันเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้สั่งกาแฟ ปรากฏว่ามันกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจอย่างแท้จริง  ซึ่งส�ำคัญกับ ความสุขในอนาคตของฉันมากกว่าเรื่องที่ว่าฉันจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย ไหน  หรือหลายต่อหลายปีที่ไปพบจิตแพทย์ซะอีก    ค�ำถามนั้นถูกยกขึ้นมา ง่ายๆ แค่ว่า ดูเหมือนฝนจะตกนะ เราจะนั่งรอให้ฝนซาในคาเฟ่  หรือไหนๆ อพาร์ตเมนต์เขาก็อยู่ไม่ไกลอยู่แล้ว  จะให้เขาชงชาให้ดื่มก็ได้นะ ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ตัวหรอกว่าสาวอเมริกันในปารีสถูกนิยามไว้ว่า เป็นสาวเร่าร้อน  ผู้ยินดีที่จะท�ำในสิ่งที่สาวอังกฤษยอมท�ำต่อเมื่อเมาเท่านั้น ทั้งๆ  ที่ตัวเองยังตาสว่าง    มันดูเป็นทางเลือกที่ง่ายดาย  ก็ฉันชอบชานี่นา แต่ขอบอกก่อนว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น  (หรืออย่างน้อยตอนนั้น ก็ไม่ใช่ละ)    ฉันไม่ใช่สาวที่โหนลงมาจากโคมไฟแชนเดอเลียร์และมีอะไร กับผู้ชายแค่เพราะท�ำได้    แล้วพอเรียบร้อยก็มานั่งส่องกระจกมองหลังเติม ลิปสติกใหม่ในรถแท็กซี่ที่โบกเอาตอนเช้าตรู่    ฉันเป็นผู้หญิงที่คุณสามารถ โทร.มาหาวันพุธเพื่อวางแผนส�ำหรับนัดวันเสาร์ได้   ผู้หญิงที่อ่านมิลตันเพื่อ ปรุงรัก ปารีส // 13


ความสนุกสนานและรู้จักส้อมส�ำหรับกินปลาถ้าได้เห็น  เป็นคนที่อาจจะ ชอบหว่านเสน่ห์บ้าง    แต่ก็ในแบบไม่มีพิษมีภัยสไตล์ศตวรรษที่  19  แนวๆ จุมพิตมือฉันแล้วขอเต้นวอลซ์ด้วยได้อะไรแบบนี้  ส่วนใหญ่แล้วฉันเป็น พวกชอบคิดชอบวิตก  แถมฉันยังเป็นสาวนิวยอร์กด้วย    คุณจะมองว่าฉัน เป็นเอามากก็ยังได้    มันไม่ใช่ว่าฉันไม่มีจิตวิญญาณเสรีหรืออะไรหรอกนะ แต่เป็นจิตวิญญาณเสรีแบบมีแผนห้าปีรองรับเสียละมากกว่า ระหว่างที่บริกรใช้ปากกาหมึกซึมบวกค่าอาหารเราลงบนกระดาษปู โต๊ะ  ฉันก็มองชายแปลกหน้ารูปหล่อที่นั่งตรงกันข้ามฉันอีกทีหนึ่ง    เกว็นดาล  เกว็น-ดาล นี่ฉันเน้นน�้ำหนักเสียงเรียกชื่อเขาผิดพยางค์มาตลอดทั้ง บ่ายหรือเปล่านะ เอาเถอะ เขาตัวสูง ผมสีเข้มหนายาวระลงมาที่ปกเสื้อนิดๆ  ผมปอยหนึ่งชี้โด่ ชี้เด่อยู่บนกระหม่อม มันคงเป็นแบบนี้ตั้งแต่เขาอายุห้าขวบแล้ว  สเวตเตอร์ คอเต่าของเขาเป็นสีนมอุ่นๆ บนเก้าอี้ว่างข้างเขามีหมวกแก๊ปแข็งๆ สีน�้ำเงิน แบบที่พวกเด็กขายหนังสือพิมพ์บนถนนเกลื่อนหิมะในชิคาโกใส่กันเมื่อ ปี  1932    และถ้าค�ำนึงว่าเขาเป็นชาวยุโรปแล้วละก็  ฟันของเขากลับเป็น ระเบียบไร้ที่ติ    และถึงตอนนี้จะแค่บ่ายโมง  ฉันก็มองเห็นเคราจางๆ  ของ เขาแล้ว    ฉันพยายามไม่จ้องมอง  แต่ดวงตาสีเขียวอมน�้ำตาลของเขาดูจะ เป็นสีเดียวกันกับตาฉันเป๊ะ และก็เหมือนกับเดตแรกทั่วๆ  ไป  ฉันรู้รายละเอียดยั่วยวนใจแค่ ไม่กี่เรื่อง  อย่างเช่นชื่อแปลกหูของเขามาจากแคว้นเบรอตาญที่ชายฝั่งช่อง แคบของฝรั่งเศส   ครอบครัวเขาอยู่ที่เมืองแซ็งต์-มาโล เมืองท่าท้องถิ่นที่เขา เผ่นหนีจากมาทันทีที่ท�ำได้    เขาพูดภาษาอังกฤษพอใช้ได้  ถือว่าดีกว่าภาษา ฝรั่งเศสที่หลงเหลือมาจากสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของฉันมาก    แต่ก็ติด ส�ำเนียงออสเตรเลียซึ่งเขาได้มาจากตอนไปประจ�ำการเป็นทหารที่สถานทูต ฝรั่งเศสในกรุงแคนเบอร์ราหนึ่งปี   เขาดูขี้อายและจริงจัง แต่ก็ยิ้มกว้างออก มาง่ายๆ  ส่วนใหญ่จะเป็นตอนที่ฉันบอกว่าอะไรบางอย่าง น่าทึ่งจัง เราเจอกันปลายเดือนกันยายนระหว่างการประชุมวิชาการในลอนดอนที่มีชื่อว่า  “แหล่งข้อมูลดิจิตัลในสาขาวิชามนุษยศาสตร์”  (คุณจินตนา 14 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


การถึงที่ไหนที่ดูไร้วี่แววว่าจะได้เจอรักแท้มากกว่านี้ได้ไหมเนี่ย)    เขาก�ำลัง จะจบปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์  ฉันก�ำลังเริ่มเรียนปริญญา โทด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ    พอฉันเห็นเขาในสัมมนาเกี่ยวกับหนังสือเรื่อง ฟินเนแกนส์  เวก1  ฉบับไฮเปอร์เท็กซ์  ฉันก็รู้เลยว่าเขาต้องเป็นคนยุโรปแน่ คนอเมริกันจะหน้าตาชื่นมื่นเกินไป    ส่วนคนอังกฤษก็จะซีดเซียวกระเซอะ กระเซิง    ฉันว่าถ้าดูจากความสูงของเขา  เขาอาจจะเป็นคนเยอรมันก็ได้ (แล้วไหนจะเสื้อกันลมสีฟ้าอ่อนน่าเกลียดที่เขาสวมอีกล่ะ)  แต่เส้นผมสีเข้ม กรามเหลี่ยม และแว่นตาคู่เล็กๆ  กลับฟ้องว่ากาเฟ  แคร็ม ฉันบังเอิญเจอเขาที่บันไดในวันสุดท้ายของการประชุม  พวกเราชาว อเมริกันมีวิธีเข้าหาคนแปลกหน้าแบบลูกหมาตัวน้อยที่ยอดมาก  นั่นก็คือ ใช้รอยยิ้มและค�ำถามโง่ๆ ฉันแทบไม่เคยฝืนเลย  ในสถานการณ์หลายครั้ง มันถือว่าเป็นพรสวรรค์ด้วยซ�้ำไป    ฉันถามเขาว่างานวิจัยของเขาเกี่ยวกับ อะไร และเขาก็รับช่วงต่อจากนั้นเลย อีเมลประดิดประดอยถ้อยค�ำถูกส่งโต้ตอบกันไปมา  ฉันถึงกับพยายามเขียนฉบับหนึ่งด้วยภาษาฝรั่งเศส  แล้วอ้อนวอนเกว็นดาลไว้ล่วงหน้า ให้ช่วยแก้ไวยากรณ์ให้ด้วย    อีกหลายเดือนให้หลังกว่าเขาจะบอกฉันว่า กอร์ริเชซ์-มัว ไม่ได้หมายถึง “ตรวจตัวสะกดให้ฉันด้วย”  แต่แปลว่า “มัด ฉันไว้แล้วเอาไม้ขนไก่จั๊กจี๋ฉันสิคะ”    แหม  มันน่าจะมีเชิงอรรถในหนังสือ เรียนสมัยไฮสกูลจริงๆ  นะเนี่ย พอถึงเดือนธันวาคม  ฉันก็หาเหตุไปปารีสจนได้  อะไรสักอย่างเกี่ยว กับนิทรรศการชั่วคราวนี่ล่ะ แล้วเราก็มากินมื้อเที่ยงด้วยกันอยู่ตรงนี้ไง เกว็นดาลเลือกร้านอาหารอย่างมียุทธศาสตร์   ร้านบุยล์ยง ชาร์ติเยร์ เป็นโรงอาหารขนาดใหญ่มีชีวิตชีวาในเขต  9  ส�ำหรับคนอเมริกันแล้ว  ถือว่า นี่คือปารีสแบบฉากในหนังเลยละ  มันแอบอยู่ในทางเดินเล็กๆ  ที่มีหลังคา –––––––––––––––––––––––––––––– 1 Finnegans  Wake  วรรณกรรมของเจมส์  จอยซ์  นักเขียนชาวไอริช  ถือว่าเป็น หนึ่งในวรรณกรรมอังกฤษที่ยากที่สุด-ผู้แปล ปรุงรัก ปารีส // 15


คลุม  ซุกตัวอยู่ระหว่างร้านอาหารจีนและร้านปาติสเซอรี 2    ร้านชาร์ติเยร์ เปิดมาตั้งแต่ปี  1896  และยังคงเจตนารมณ์เดิมตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงบัดนี้ นั่นก็คือช่วยให้ผู้คนมากมายอิ่มท้องก่อนจะไปเดินเฉิดฉายตามกรองด์ส บุลวาร์ 3 ทั้งหลาย  ห้องอาหารกว้างใหญ่  อึกทึกครึกโครมและแน่นเอี้ยด    แว่นของ เกว็ น ดาลเป็ น ฝ้ า มั ว ทั น ที ที่ เ ขาดั น ประตู ห มุ น บานหนั ก น� ำ หน้ า ฉั น เข้ า ไป ก�ำแพงทาสีเนยสด  แสงไฟจากแชนเดอร์เลียประดับโคมช่อมหึมาสิบช่อ สว่างจ้ากว่าแสงสีเทาจางๆ  ของปารีสยามบ่ายด้านนอกที่เราผละจากมา มีคนสักสองร้อยเห็นจะได้    ทุกคนถือส้อมและมีดค้างอยู่ระหว่างปากตัว เองกับจมูกเพื่อนร่วมโต๊ะ  (ฉันจินตนาการว่าคงเพื่อเน้นย�้ำประเด็นที่พูด) โต๊ะแต่ละกลุ่มถูกแยกส่วนจากกันด้วยฉากไม้สีเข้มเหมือนห้องนั่งรอใน สถานีรถไฟ    และเหนือศีรษะของลูกค้าคือราวทองเหลืองมันวับที่เต็มไป ด้วยกองเสื้อโค้ต  ถุงช้อปปิ้ง  และผ้าพันคอห้อยระเกะระกะ ที่แน่ๆ  คือบรรดาบริกรดูเหมือนก�ำลังรีบร้อนจะไปขึ้นรถไฟ    พวก เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับเสื้อกั๊กสีด�ำ  แทรกตัวเดินไปมาอยู่ท่ามกลางฝูงคน บ่อยครั้งจะเสิร์ฟหอยทากเอสคาร์โกต์สักโหล  เนื้อสเต๊กบูร์กิญญง  และ หนีบจานขนมบาบา  โอ  รัมไว้ด้วยนิ้วโป้งงอๆ  เพียงแค่นิ้วเดียว  มีลิ้นชัก กระจิ๋วหลิวติดหมายเลขเรียงรายอยู่บนผนัง  ซึ่งครั้งหนึ่งเหล่าลูกค้าประจ�ำ เคยเก็บผ้าเช็ดปากลินินของพวกเขาไว้ที่นั่น    โต๊ะเล็กเสียจนถ้าคุณเท้าข้อ ศอกไว้ที่ขอบโต๊ะ  คุณก็แทบจะต้องกุมมือคนฝั่งตรงข้ามเอาไว้เลย ถึงฉันจะไม่เคยเข้าร้านนี้มาก่อน แต่บางสิ่งบางอย่างกลับรู้สึกคุ้นเคย อย่างแสนวิเศษ    ยุโรปส่งผลแบบนี้กับฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันก้าวเท้าลงมา จากเครื่องบินสมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว    เมื่ออยู่ที่นี่ฉันรู้สึกเป็นตัวเอง –––––––––––––––––––––––––––––– 2 ร้านขายขนมอบนานาชนิด-ผู้แปล 3 ถนนสายหลักที่ถือว่าสวยและดีที่สุดในปารีส  อาทิ  Boulevard  Beaumarchais,   Filles-du-Calvaire, Bonne-Nouvelle, Poissonniçre, Montmartre, Made leine boulevards-ผู้แปล 16 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


มากขึ้น ราวกับว่าความรักในศิลปะและประวัติศาสตร์ของฉันเป็นเรื่องธรรม ชาติ    และการที่ฉันไม่สามารถบอกชื่อวงร็อกล่าสุดได้ไม่มีความหมายอะไร เลย    ในปารีส  อดีตจะอยู่กับคุณเสมอ    คุณมองเห็นมัน  คุณเหยียบย่าง อยู่บนมัน  แล้วคุณก็นั่งทับมันด้วย    ฉันต้องหยุดตัวเองไม่ให้คว้าแขน เกว็นดาลระหว่างที่เราเดินไปตามทางแคบๆ  ตรงไปยังทางออก    ขอโทษ ด้วยนะคะคุณ  แต่ฉันอดสังเกตไม่ได้จริงๆ  ว่าถนนปูหินหน้าบ้านคุณเก่า แก่กว่าประเทศฉันเสียอีก ความคิดนี้ท�ำให้ฉันตื่นเต้น    ฉันออกจะเป็นสาว หัวโบราณนิดๆ  มาตลอด  และรู้สึกดีเวลาได้อยู่ในสถานที่เก่าแก่ ขณะที่เรารอให้หนึ่งในบริกรไฟแรงสูงทั้งหลายรับออร์เดอร์จากเรา ฉันก็ซักไซ้ไล่เลียงเกว็นดาลเกี่ยวกับงานวิจัยปริญญาเอกของเขา  จากที่เขา อธิบายให้ฉันฟังนิดหน่อยตอนเราเจอกัน  รู้สึกว่ามันจะเกี่ยวกับการจัดเก็บ ข้อมูลภาพยนตร์และวิดีโอทางอินเตอร์เน็ต    แต่ที่จริงเขาท�ำงานกับสถาบัน ฐานข้อมูลวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติของฝรั่งเศสเต็มเวลาอยู่แล้วระหว่าง รอเรียนจบ “การจัดเก็บข้อมูลคือการคัดเลือกความทรงจ�ำร่วม”  เขาพูดพลาง เขี่ยขนมปังบาแก็ตหั่นชิ้นในตะกร้าบนโต๊ะเล่น    “เวลาที่คุณตัดสินใจในเชิง วัฒนธรรมว่าคุณอยากเก็บอะไรเอาไว้  คุณก็ตัดสินใจด้วยว่าคุณพร้อมจะ ลืมอะไรไป” สารภาพจากใจจริงเลยว่าถึงเขาฮัมเพลงรายการโชว์ฉันก็คงไม่รู้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจฟังหรอกนะ  แต่ส่วนใหญ่แล้วฉันเอาแต่มองหน้า เขามากกว่า    ฉันชอบมองดูเวลาผู้คนพูดถึงเรื่องที่พวกเขาหลงใหล  โดย เฉพาะถ้ามันเป็นสิ่งที่ฉันไม่รู้อะไรเลย    สมัยอยู่นิวยอร์ก  ไม่รู้กี่คืนต่อกี่คืน ที่ฉันเคลิบเคลิ้มไปกับวาจาของหนุ่มคนไหนสักคนที่ร่ายยาวถึงเรื่องนาโน เทคโนโลยี  ไม่ก็เคียร์เคอกอร์4    การกระโดดขึ้นรถไฟ  และร่อนเร่พเนจร ไปทั่วรัฐดาโคตาทั้งเหนือและใต้  ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เทคนิคจีบสาวชั้นยอดใน –––––––––––––––––––––––––––––– 4 Soren  Aabye  Kierkegaard  1813-1855  นักปรัชญาชาวเดนมาร์ก  ถือเป็นนัก ปรัชญาด้านอัตถิภาวนิยมคนแรก-ผู้แปล ปรุงรัก ปารีส // 17


ความคิดของทุกคน    แต่ส�ำหรับฉันแล้ว  ความเฉลียวฉลาดเป็นสิ่งที่เซ็กซี่ เร้าใจเสมอมา  “ว้าว มันน่าทึ่งจังค่ะ” เอาอีกแล้ว ไอ้เจ้าค�ำนั้นอีกแล้ว ต้องปิดตาย ความกระตือรือร้นเกินเหตุแบบอเมริกันซะแล้วละ  “คุณรู้รึยังว่าจะท�ำอะไร หลังเรียนจบ”  ฉันถามเสียงสดชื่น    “การใช้อินเตอร์เน็ตออกจะแพร่หลาย ขนาดนี้  คุณต้องได้รับข้อเสนอเยอะแน่ๆ  เลย”  เขาหรี่ตาแล้วเอียงศีรษะ น้อยๆ  ราวกับตัดสินใจไม่ถูกว่าฉันประชดหรือล้อเขาเล่นหรือเปล่า “ใช่เลย”  เขาพูดกลั้วหัวเราะ  (มีกระแสความขมขื่นแทรกอยู่หรือ เปล่านะ)    “ข้อเสนอเยอะจริงๆ”  เห็นชัดเลยว่าเขาไม่คุ้นกับการที่มีใครมา ประเมินอนาคตเขาในแง่บวกขนาดนี้ ฉันเหลือบลงมองเมนู  ค่อยโล่งใจที่แม้ฉันจะไม่ได้เรียนภาษาฝรั่งเศส อีกเลยตั้งแต่ปีสองของมหาวิทยาลัย ฉันก็ยังจ�ำศัพท์ส่วนใหญ่ได้   เมนูร้าน ชาร์ติเยร์เต็มไปด้วยรายการอาหารคลาสสิกอย่างสเต๊กและเนื้อติดกระดูก ปลากะพงย่างกับเมล็ดเฟนเนล เกาลัดหวานบด และลูกพรุนแช่ไวน์   หญิง สาวคนไหนจะอดรนทนเสน่ห์ร้านอาหารที่ยอมให้คุณสั่งแคร็ม  ชองติล์ยี หรือวิปครีมธรรมดาๆ  สักถ้วยเป็นของหวานได้กันล่ะ “คุณคงต้องคิดถึงอะไรแบบนี้มากตอนคุณอยู่ออสเตรเลีย”  ฉันว่า “เรามีกลเม็ดเคล็ดลับนิดๆ  หน่อยๆ”  เกว็นดาลพูดพร้อมรอยยิ้ม มีเลศนัย    “พวกเขาส่งกาม็องแบร์กับฟัวกราส์5มาที่สถานทูตทางวาลิส ดีโปลมาติค6    และเหตุที่มันเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลฝรั่งเศส  ศุลกากร ออสเตรเลียก็เลยตรวจค้นมันไม่ได้    โทรเลขลับสุดยอดมาพร้อมกับชีส อะไรแบบนี้ไง”  “มันต้องเป็นกระเป๋าใบใหญ่แน่ๆ  เลยนะคะ” –––––––––––––––––––––––––––––– 5 เนยแข็งยี่ห้อหนึ่งและตับห่าน-ผู้แปล 6 ถุงเมล์การทูต ส�ำหรับส่งเอกสารและของใช้ทางการจากประเทศแม่ไปยังสถานทูต ของตัวเองประจ�ำประเทศต่างๆ  โดยที่ประเทศเจ้าบ้านไม่สามารถเปิดตรวจสอบ ได้-ผู้แปล 18 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


“ช่วงคริสต์มาสน่ะใหญ่เชียวละครับ”  เขารับ ฉันจ�ำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่หิวมากขนาดนี้คือเมื่อไหร่    ความ จริงก็คือผู้หญิงเรามีสิทธิอดตายได้ในลอนดอน    ไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นนะ ถึงน�้ำชากับขนมปังปิ้งอาจจะพอไหวหน่อยเวลาเมาค้าง    แต่พวกผู้ชายนี่ น่ะสิ  แม้พวกเขาอาจจะดูส�ำอางและมีเสน่ห์  แต่ผู้ชายอังกฤษก็มีวิถีทาง เฉพาะตัวในการท�ำให้ผู้หญิงรู้สึกไร้ตัวตน    ถ้าพวกเขาไม่มองผ่านเรา  ก็จะ โผเข้าหาเวลาเมาได้ที่    ความอบอุ่นเดียวที่ได้รับมาจากเตาผิงแก๊สง่อยๆ (แล้วก็เบียร์อีกสองสามไพนท์)    ฉันเคยเรียนที่อังกฤษมาก่อน  ฉันน่าจะ เตรียมตัวเตรียมใจได้    แต่เวลาและระยะทางท�ำให้บรรดาท้องฟ้าสีทึมเทา เนื้อสัตว์ซีดๆ  และผู้ชายเซียวๆ  ค่อยดูดีขึ้นมาได้หน่อย    ฉันกลับไปอยู่ ลอนดอนได้แค่สามเดือน  แต่ก็เริ่มรู้สึกซีดเซียวไร้สีสันตามไปด้วยอีกคน แล้ว บริกรกระแทกจานปาเว  เดอ  ปวฟวร์  ของฉันลงบนโต๊ะ    มันไม่ใช่ อาหารที่ดูน่าประทับใจอะไรนักเลย    เนื้อชิ้นโตกับมันฝรั่งทอดชิ้นอ้วนๆ วางกองเขละอยู่ข้างๆ    แต่บางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้นเมื่อฉันหั่นค�ำแรก  เนื้อ นุ่มละมุนปราศจากความเหนียว ไร้แรงต้านทานอย่างสิ้นเชิง มีดเฉือนลงไป ในเนื้อนุ่มๆ  เปลือกผิวสีน�้ำตาลบางเฉียบเปิดออกให้เห็นเนื้อในสีแดงชุ่มฉ�่ำ ฉันได้แต่มองน�้ำเนื้อสีชมพูไหลเอ่อลงมาในซอสพริกไทยชุ่มเนย เกว็นดาลเงยหน้าขึ้น  ฉันคงต้องส่งเสียงอุทานอย่างมีความสุขออก ไปแน่ๆ    “ฉันไม่รู้ว่าท�ำไมเราถึงหาสเต๊กแบบนี้ในอังกฤษไม่ได้”  ฉันพูด ระหว่างที่จิ้มค�ำแรกใส่ปากอย่างร้อนรน  พลางระวังไม่ให้มันหยดใส่เสื้อ สเวตเตอร์ไปด้วย    “ฉันคิดว่ามันคงผิดกฎหมายตั้งแต่โรควัวบ้าระบาด แล้ว”  มีดกับส้อมของฉันค้างอยู่กลางอากาศขณะที่ฉันปล่อยให้รสเค็มเจือ มันปนกับรสของเลือดละลายอยู่บนลิ้น ฉันไม่ได้ประเมินค่าเสน่ห์ล้นเหลือของเกว็นดาลต�่ำไปหรอกนะคะ แต่เขาเกือบจะท�ำคะแนนเต็มไปแล้วทันทีที่ฉันหั่นสเต๊กอร่อยล�้ำชิ้นนั้นนั่นละ

ปรุงรัก ปารีส // 19


ห้องพักแบบสตูดิโอเล็กจิ๋วของเกว็นดาลอยู่ในเขต 10 ที่ดูซอมซ่อ บนถนน ที่บริษัทโทรศัพท์เรียกว่า  ลา  รู  เดส์  สกัตเตร์ส    เพราะเหล่าผู้อยู่อาศัย ผิดกฎหมายตามตึกในละแวกใกล้ๆ  กัน  นี่ไม่ใช่ปารีสอย่างในโปสการ์ด อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้    เราเดินผ่านด้านหน้าของสถานีรถไฟการ์ เดอ  เลสต์    ซึ่งเปรอะเปื้อนเขม่าควันและเต็มไปด้วยภาพกราฟฟิตี  แล้วก็ ขึ้นสะพานสูงสไตล์ญี่ปุ่นข้ามคลองแซ็งต์-มาร์แต็ง  หมอกชื้นฉ�่ำหยาดหยด ลงมาจากหมู่ไม้  ฉันไม่รู้ด้วยซ�้ำไปว่าปารีสก็มีคลองด้วย เราขึ้นบันไดวนแคบๆ  อีกสองชั้น    อพาร์ตเมนต์มีขนาดเดียวกับใน นิวยอร์ก  นั่นก็คือคับแคบแต่น่าอยู่    จริงๆ  แล้วเป็นห้องใหญ่หนึ่งห้องที่มี ก�ำแพงบางๆ  กั้นกลางกับประตูบานพับที่เปิดจากตู้เย็นไปเจอเตียงพอดี  เกว็นดาลหยิบกาน�้ำชาเก่าๆ  ออกมาจากชั้นหนังสือแน่นเอี้ยด    ผิว โลหะบุบๆ กับพวยกาอ่อนช้อยของมันท�ำให้ดูเหมือนเป็นมรดกตกทอดของ ตระกูล  “มันเป็นของตาผมครับ”  เขาบอก    “ท่านตายในสงครามอินโดจีน หลังจากแม่ผมเพิ่งเกิดเท่านั้น”  เปลือกหอยมุกทรงกลมอันเล็กนิดเดียว อยู่ด้านบนของกา  กันไม่ให้นิ้วเราถูกลวกเวลาเปิดฝากาออก ฉันวางเสื้อโค้ตลงบนฟูกแล้วสยายผมเหมือนลูกแมวตกน�้ำ    เกว็นดาลหายเข้าไปในครัวแล้ว    “ครัว”  ออกจะเป็นค�ำที่ดูดีไปหน่อยเพราะมัน เป็นแค่พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าแคบๆ  ปูเสื่อน�้ำมัน  มีเคาน์เตอร์กับตู้เย็นอยู่ ด้านหนึ่ง  อีกด้านมีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าแบบพกพาอันเล็กๆ    เขาหยิบ สะระแหน่ก�ำหนึ่งจากแก้วน�้ำข้างอ่างล้างจานแล้วเสียบปลั๊กกาต้มน�้ำไฟฟ้า มันส่งเสียงฉี่ฉ่าก่อนเริ่มท�ำงาน “นี่คือขั้นตอนส�ำคัญ” เขาบอกพลางราดน�้ำเดือดลงบนใบสะระแหน่ ลวกมันเหมือนเป็นผักโขม    “มันช่วยก�ำจัดรสขมๆ” ระหว่างที่เกว็นดาลก้มหัวหายไปหาน�้ำตาลใต้เคาน์เตอร์  ฉันก็เหลียว มองไปรอบๆ  อพาร์ตเมนต์  มีขวดแก้วใส่ทรายหลายใบจากการท่องทะเล ทรายในออสเตรเลีย  โปสการ์ดรูปมาร์เชลโล  มาสโตรยานนี่7มองสาวๆ  ที่ –––––––––––––––––––––––––––––– 7 Marcello  Mastroianni  (1924-1996)  นักแสดงชื่อดังชาวอิตาเลียน  ผลงานที่มี ชื่อเสียงได้แก่เรื่อง La Dolce Vita-ผู้แปล 20 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


เดินผ่านไป  หนังสือวางอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งหนังสือปรัชญา (หนุ่มฝรั่งเศส นี่เป็นอะไรกับปรัชญากันนะ) วรรณกรรม หนังสือเกี่ยวกับภาพยนตร์เพลง แนวคอมเมดี้ของอเมริกา (อืมม) และหนังสือชื่อ  ฮอลลีวูด, โมด  ด็องปลัว มีหินภูเขาไฟสามก้อนอยู่ข้างเครื่องเสียง  สีแดงหนึ่งก้อน  สีด� ำหนึ่งก้อน อีกก้อนเป็นสีแดงด�ำรูปหยดน�้ำตาเกี่ยวกระหวัดกันเหมือนสัญลักษณ์หยินหยาง เกว็นดาลเปิดกล่องชาเขียวกันพาวเดอร์8  แล้วตักใส่กาน�้ำชา  โยน น�้ำตาลสองสามก้อนลงไป    เขาก�ำลังเล่าเรื่องการประชุมที่เขาเพิ่งไปมาที่ ออร์แลนโด รัฐฟลอริดา  “พนักงานต้อนรับแต่งเป็นโดนัลด์  ดั๊ก” เขาบอก พลางใส่ใบสะระแหน่ลวกลงไป    “ผมคิดว่าผมเห็นภาพหลอนซะอีก    ที่ เดียวที่ใช้อินเตอร์เน็ตได้ก็คือในโถงเล่นวิดีโอเกม    หนังสือพิมพ์ฉบับเดียว ที่ผมเจอคือ  ดิสนีย์  เจอร์นัล    มันเหมือนจักรวาลที่สร้างมาเพื่อเด็กห้าขวบ เลยละ”  ฉันเล่าเรื่องทริปมาปารีสครั้งแรกของฉันกับเพื่อนรักที่แพ้อาหาร นมเนยทุกอย่างและเกือบจะเป็นมังสวิรัติอยู่รอมร่อ    เราพักกันในโรงแรม ส�ำหรับนักศึกษาเก่าซอมซ่อในเขต  5  เตียงใหญ่เตียงเดียวของเรามีรูอยู่ ตรงกลาง แล้วน�้ำประปาจากก๊อกก็ไหลออกมาเป็นสีน�้ำตาลสนิม  “ลาเคี้ยว สเวตเตอร์ผ้าแคชเมียร์ฉันหน้าวิหารนอตเตรอะ-ดามด้วยละค่ะ” “แล้วคุณกินอะไรกัน”  เกว็นดาลถาม  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพยายาม เค้นสมองจินตนาการถึงปารีสที่ปราศจากเนื้อนมไข่อย่างสุดความสามารถ “กินซอร์เบต์มะม่วงซะเยอะเลยละ” ระหว่างนั้นบทสนทนาคู่ขนานก็ดังอยู่ในหัวของฉัน   เราแทบไม่รู้จัก กันเลย เราน่าจะรอไปก่อนนะ   ฉันได้ยินเสียงยายบอกว่า  ถ้าหลานชอบเขา ก็ส่งเขากลับบ้านไปซะ    แต่มันฟังแล้วงี่เง่าเสียจนฉันอาจจะส่ายหัวออกมา จริงๆ  จู่ๆ ฉันก็เข้าใจความหงุดหงิดของผู้ชายทุกคนที่ฉันทิ้งไว้ข้างทางหลัง –––––––––––––––––––––––––––––– 8 ชาที่ถูกม้วนจนเป็นเม็ดกลมแน่น  ได้ชื่อจากลักษณะที่เหมือนลูกกระสุนของมัน ผู้แปล ปรุงรัก ปารีส // 21


นัวเนียกันอย่างเต็มรักหลังรถแท็กซี่ขึ้นมาได้    วิธีการรับมือกับเรื่องเซ็กซ์ อย่างตรงไปตรงมาของคนยุโรปเป็นสิ่งที่รับรู้ได้    คุณรู้สึกได้เวลาเห็นคน มองกันในรถไฟใต้ดินหรือวิธีที่คู่รักจูบกันบนทางเท้า    มันช่าง...ธรรมดา มาก    ถ้าฉันเดินออกไปในตอนนี้  เขาคงไม่คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ดี  เป็น แบบที่ต้องแต่งงานด้วยหรอก  (นี่ก็เป็นส�ำนวนของยายฉันอีกนั่นแหละ) แต่เขาจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่กล้าไขว่คว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ มากกว่า  แล้วเขาก็คงจะคิดถูกด้วย    ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง  มองลง ไปที่สวนเล็กๆ ในอาคาร  การเดินลัดเลาะไปตามถนนที่ไม่คุ้นเคยท�ำให้ฉัน ต้องหวนกลับมาคิดใหม่   ฉันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าฉันยืนอยู่ที่จุดไหน  ฉันรู้สึก เหมือนได้รับเอกสิทธิ์ทางการทูตอะไรแบบนั้น    ถ้าฉันไม่เข้าใจกฎกติกา อย่างแท้จริง  แล้วฉันจะท�ำตามกฎได้อย่างไร  จู่ๆ  ฉันก็หันไปเจอแว่นตากรอบทองอันเล็กๆ  ที่โผล่มาจากไหนก็ ไม่รู้   ไม่นานฉันจึงได้เรียนรู้ว่าที่เก็บของในปารีสถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความ คิดสร้างสรรค์อย่างใหญ่หลวง    ข้าวของต่างๆ  นานาถูกซุกไว้ตามซอกมุม ทั้งหลาย  เกว็นดาลยกน�้ำชาขึ้นเทเหนือแก้วราวๆ หนึ่งถึงสองฟุต เกิดฟอง ผุดพรายบนผิวน�้ำชาหวานละมุนหอมกรุ่น เขาพูดอย่างไร้เล่ห์กลว่าเขาไม่ได้จองร้านส�ำหรับมื้อค�่ำเอาไว้

สายฝนหยุดโปรยปรายในอีกหลายชั่วโมงต่อมา  และฉันก็พบว่าตัวเองสวม เสื้อยืดตัวหนึ่งของเกว็นดาล  นั่งอยู่ในเก้าอี้พับข้างโต๊ะในครัว  ผมเผ้ากระ เซอะกระเซิงและหิวแทบขาดใจ  ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลยนอกจากโยเกิร์ตรสธรรมชาติ  แยมราสพ์เบอร์รี่ หนึ่งกระปุก แคร์รอตสองหัว หอมใหญ่ครึ่งหัว ห่ออะไรบางอย่างที่ดูเหมือน เบค่อนหั่นชิ้น  แล้วก็กระทะที่มีจานคว�่ำปิดไว้    มันเป็นกระทะแบบราคา เก้าสิบเก้าเซนต์ที่มีด้ามจับพลาสติกและมีลายดอกไม้สีน�้ำตาลกับเหลือง มัสตาร์ดวาดไว้ข้างๆ  อย่างดูดีมีรสนิยม 22 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


เขาคว�่ำกระทะเขย่าไปมา    และในเจ้ากระทะราคาเก้าสิบเก้าเซนต์ นี่เองของหวานที่ควรค่ากับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ก็เผยโฉมออกมา  มันคือ แอปริคอต  ชาร์ล็อตที่จัดไว้สวยงามสมบูรณ์แบบ    ขนมปังกรอบเลดี้ฟิงเกอร์แต่ละชิ้นเรียงสวย  เกาะกันอยู่ด้วยครีมเป็นชั้น  ประดับประดาด้วย ผลไม้หั่นชิ้น    เขาเตรียมอะไรแบบนี้ให้แขกผู้หญิงเสมอรึเปล่านะ  ท่าทาง เขาดูตรงกันข้ามกับหนุ่มเจ้าชู้เอามากๆ    แน่นอนว่าการท�ำอาหารให้ผู้หญิง ที่คุณแทบไม่รู้จักในโอกาสที่เธอบังเอิญมาเปลือยกายและยังหิวโซอยู่ใน อพาร์ตเมนต์เป็นสิ่งที่น่ารักมากกว่าการไล่ล่าเหยื่อมาก  เกว็นดาลตักขนมชิ้นใหญ่ใส่จานฉัน เขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าท�ำไมฉัน ถึงยิ้ม  ตอนฉันยังเด็ก แม่กับฉันมีธรรมเนียมปฏิบัติที่เรียกว่า “อาหารเช้า ย้อนหลัง”  เพื่อไม่ให้ฉันแกล้งป่วยการเมืองช่วงหน้าหนาว    แต่ละปีฉันจะ ได้รับโอกาสให้เลือกวันติดหิมะอยู่บ้านเอง    แม่จะลาหยุดงานหนึ่งวันแล้ว เราก็จะนอนตื่นสาย กินไอศกรีมเป็นอาหารเช้า ไม่ก็กินแพนเค้กเป็นอาหาร ค�่ำ คุณคงนึกออกว่าเป็นยังไง  ในชีวิตจริง ฉันใช้เวลามากมายจัดการอะไร ต่ออะไรให้เป็นระเบียบเรียบร้อย    ฉันเป็นคนชอบยึดกฎเกณฑ์หลักการ แต่วันนี้ให้ความรู้สึกเหมือนวันติดหิมะอยู่บ้าน...ของหวานก่อนอาหารค�่ำ เซ็กซ์ก่อนกาแฟ    อะไรๆ  ก็แหวกระเบียบแบบแผนอย่างสุดวิเศษและชวน ให้จิตใจปลอดโปร่งเสียจริง เราจัดการขนมชาร์ล็อตทั้งก้อนภายในสิบห้านาที  ฉันพร้อมจะกิน อย่างอื่นต่อแล้ว    เมื่อมองเข้าไปในตู้เย็นฉันก็ไม่เจออะไร  นอกจากของ เหลือๆ  ไอ้โน่นนิด  ไอ้นี่หน่อย  แต่เกว็นดาลกลับมองเห็นอาหารค�่ำ    สิ่งนี้ เองที่จะกลายมาเป็นรูปแบบของปฏิสัมพันธ์ต่างๆ  ในความสัมพันธ์ของเรา จุดบอดของเราแตกต่างกัน    เวลาที่คนใดคนหนึ่งมองเห็นหลุมลึก  อีกคน กลับเห็นช่องทางของโอกาส เขาหยิบแคร์รอตกับหัวหอมครึ่งหัวออกมา    ฉันไม่แน่ใจว่าเคยเห็น ใครใช้หอมครึ่งหัวมาก่อน หรือจะให้ถูกก็คือไม่เคยเห็นใครเก็บหอมครึ่งหัว ที่ยังไม่ได้ใช้ไว้เลย    ทว่าส่วนผสมลับเฉพาะที่แท้จริงคือลาร์ดงส์  ฟูเมส์ ปรุงรัก ปารีส // 23


ห่อนั้น    เนื้อหมูชิ้นสี่เหลี่ยมอวบอั๋นสีชมพูสดที่มีริ้วไขมันแทรกอยู่  เขาเท มันลงในกระทะกับผักที่หั่นแล้ว  (เขาคงจะล้างคราบขนมชาร์ล็อตออกจาก กระทะก่อนแล้วละ)  และส่วนผสมทั้งหลายก็เริ่มร้อนฉ่า  พาสต้าทาญเลียเตลเล่9  อีกหนึ่งกล่อง    เส้นพาสต้าที่พันทบกันราวรังนกช่วยเสริมให้มื้อนี้ สมบูรณ์ มันอาจจะเป็นเพราะเซ็กซ์  หรือจะเจ้าเบค่อน  หรือว่าทั้งคู่ก็ได้    แต่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันอร่อยที่สุดที่ฉันเคยลิ้มรสมา    “มันวิเศษจังค่ะ”  ฉัน บอกพลางม้วนเส้นพาสต้าพันส้อม    “คุณต้องบอกสูตรให้ฉันนะคะ” “มันไม่มีสูตรหรอก”  เขาบอกยิ้มๆ    “ผมใช้อะไรก็ตามที่มีอยู่  รส ชาติมันไม่เคยซ�้ำกันเลย” ฉันไม่มีทางหยั่งรู้ได้เลยว่าในค�่ำคืนอันชื้นฉ�่ำคืนแรกในปารีส  ผู้ชาย คนนี้กับอาหารไร้สูตรของเขาจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของฉันไปมากมายขนาด ไหน

สูตรเด็ดเพื่อความวาบหวามใจ

ชาสะระแหน่สด เต อา ลา ม็องธ์ ใบชาเขียวกันพาวเดอร์ที่คลายม้วนแล้ว สะระแหน่ที่ยังมีก้าน  (อย่างน้อย 7-8 กิ่ง) น�้ำตาล หรือมากกว่านั้นตามชอบ –––––––––––––––––––––––––––––– 9 พาสต้าเส้นใหญ่แบน  ประมาณ  6.5  มม.-1  ซม.-ผู้แปล 24 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล

2 ช้อนชา 1 ก�ำ  4-5 ก้อน


น�้ำเดือด กับอีกเล็กน้อยส�ำหรับล้างใบชาและลวกสะระแหน่ ไพน์นัตส�ำหรับเสิร์ฟ กลิ่นดอกส้มสกัด (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

2 ถ้วย

2-3 หยด

ใส่ใบชาลงไปในกาน�้ำชา  เติมน�้ำเดือดเล็กน้อยแล้วเขย่ากาไปมาเพื่อล้างใบ ชา เทน�้ำทิ้ง ล้างสะระแหน่ให้สะอาด  ถือก้านสะระแหน่ไว้เหนืออ่างล้างจานแล้ว เทน�้ำเดือดราดใบ    ใส่สะระแหน่ลงไปในกาน�้ำชาพร้อมกับน�้ำตาลก้อน  4-5 ก้อน เติมน�้ำเดือด 2 ถ้วยลงไปในกาและแช่ทิ้งไว้  5 นาที   ลองชิมดูว่าคุณ อยากเติมน�้ำตาลอีกไหม  มันควรจะหวาน แต่ไม่ใช่หวานจ๋อย  โรยไพน์นัตเล็กน้อยลงไปที่ก้นถ้วยชาเนื้อแก้วใบผอมๆ    ถ้วยแก้ว ทรงเตี้ยใบใหญ่ก็ใช้ได้ดีเหมือนกัน    เหยาะกลิ่นดอกส้มสกัดลงไปหนึ่งถึง สองหยดถ้าคุณชอบ    แต่แค่หยดนะคะ  เพราะมันเข้มข้นมาก ปรากฏว่าการรินชาเหนือแก้วสูงๆ  ไม่ใช่แค่กลเม็ดเด็กๆ  ที่ใช้สร้าง ความประทับใจให้สาวๆ  แต่มันช่วยให้อากาศแทรกเข้าไปในน�้ำชา  ท�ำให้ชา คลายความร้อนและปล่อยกลิ่นหอมหวานเตะจมูกของสะระแหน่ออกมา พวกมือโปรจะวางแก้วเรียงติดกันหลายๆ  ใบแล้วรินชาโดยไม่เว้นวรรค  ชานี้เหมาะส�ำหรับตบท้ายอาหารอย่างคูสคูส10  หรือ  ทาฌีน 11  ได้ อย่างวิเศษสุด  ส�ำหรับ 2 ที่ –––––––––––––––––––––––––––––– 10 เมล็ดข้าวสาลีหักละเอียด ปรุงให้สุกด้วยการต้มหรือแช่ในน�้ำเดือด นิยมมากแถบ แอฟริกาเหนือ-ผู้แปล 11 อาหารจานหลักแถบแอฟริกาเหนือ  เป็นอาหารตุ๋นหรืออบในหม้อดินพร้อมเครื่อง เทศต่างๆ-ผู้แปล ปรุงรัก ปารีส // 25


เค้กชาร์ล็อต ฉบับ “นักเรียน” ชาร์ล็อต โอ ซาบริโกต์ ชาร์ล็อตของแท้เป็นอะไรที่หรูหรามาก  มันท�ำมาจากแคร็ม ปาติสเซอรี  และขนมปัง กรอบเลดี้ฟิงเกอร์แช่แอลกอฮอล์   จนถึงวันนี้ฉันก็ยังชอบฉบับนักเรียนมากกว่า มัน ใช้โฟรมาจ บล็องก์  หรือโยเกิร์ตแบบกรีกกับแอปริคอตกระป๋องที่ซื้อหาได้ในซูเปอร์ มาร์เก็ตนี่ละ    อาหารจานนี้เหมือนงานศิลปะและงานฝีมือรวมๆ  กัน  แต่จ�ำเป็นต้อง ท�ำไว้หนึ่งคืนก่อนวันที่จะเสิร์ฟเพื่อให้ขนมปังกรอบเลดี้ฟิงเกอร์ดูดน�้ำหวานจากผลไม้ เข้าไป มันลงตัวมากทั้งเป็นอาหารเช้า บรันช์  หรือมื้อค�่ำแบบกันเองกับเพื่อนๆ

ขนมปังกรอบเลดี้ฟิงเกอร์สไตล์อิตาเลียน 25–35 ชิ้น  (ขึ้นอยู่กับขนาด) โฟรมาจ บล็องก์  หรือโยเกิร์ตแบบกรีก 3 ถ้วย แอปริคอตหรือลูกแพร์ในน�้ำเชื่อมเข้มข้นขนาด 32 ออนซ์ 1 กระป๋อง ปูพลาสติกห่ออาหารให้รอบขอบด้านในหม้อใบเล็กหรือชามซูเฟล่  เส้นผ่า ศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว เรียงเลดี้ฟิงเกอร์ตามขอบด้านในของพิมพ์    มันควรจะเรียงชิดกัน เป็นแถวเหมือนทหารของเด็กเล่น  คุณจะป้ายโยเกิร์ตนิดหน่อยให้มันอยู่ กับที่ก็ได้ เรียงเลดี้ฟิงเกอร์ชั้นแรกลงบนก้นพิมพ์  (ตัดให้พอดี)    พยายามเรียง ให้สมดุล  เพราะชั้นนี้จะเป็นด้านบนของขนมเวลาคุณเสิร์ฟ เกลี่ยโฟรมาจ บล็องก์  (ประมาณ 3/4 ถ้วย) ให้ทั่ว แล้วเรียงแอปริคอตหั่นชิ้นทับหนึ่งชั้น    เรียงเลดี้ฟิงเกอร์อีกหนึ่งชั้น  กดเบาๆ  แล้วเทน�้ำ เชื่อมแอปริคอตลงไป 1/4 ถ้วย ท�ำแบบเดิมอีก  2-3  ชั้น  โดยจบลงด้วยเลดี้ฟิงเกอร์    ราดน�้ำเชื่อม ลงไปข้างบน  1/4  ถ้วย  แล้วเทน�้ำเชื่อมอีก  1/4  ถ้วยรอบๆ  ขอบพิมพ์เพื่อ ให้เลดี้ฟิงเกอร์ด้านนอกชุ่ม 26 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


ห่อด้วยพลาสติกห่ออาหาร  ใช้จานหรือจานรองกดด้านบนเบาๆ  ให้ ส่วนผสมแน่น    แช่เย็นอย่างน้อย  12  ชั่วโมง  หรือถ้าจะให้ดีควรแช่ข้ามคืน เวลาจะเอาออกจากพิมพ์  วางจานที่จะใช้เสิร์ฟลงบนหม้อแล้วพลิก  เขย่า หม้อเบาๆ    ถ้าพลาสติกติด ค่อยๆ ดึงออกอย่างเบามือ ส�ำหรับ  4-6  ที่  หรือส�ำหรับชายหนุ่มหญิงสาวกระหายรัก  2  คนที่กินมื้อเช้ากันตอน หกโมงเย็น

กลเม็ดเคล็ดลับ  :  ขึ้นอยู่กับว่าเลดี้ฟิงเกอร์ของคุณอุ้มน�้ำแค่ไหน  มันอาจ จะมีน�้ำหวานค้างอยู่ใต้จานตอนคุณแกะชาร์ล็อตออกจากพิมพ์  แค่ใช้ทิชชู่ ซับก็พอ

พาสต้าสูตรเกว็นดาล ฉันรู้สึกว่ามันไร้สาระหน่อยๆ ที่ลงสูตรนี้ด้วย เพราะบ่อยเสียยิ่งกว่าบ่อยที่เกว็นดาล จะใช้อะไรก็ตามที่ค้างอยู่ก้นตู้เย็น    ถ้าคุณมีเบค่อนกับหอมใหญ่  คุณก็ไปได้สวย แล้ว    อาหารค�่ำเรียบง่ายจานนี้บ่งบอกทุกสิ่งที่ฉันรักเกี่ยวกับการท�ำอาหารฝรั่งเศส อย่างมากมาย  นั่นก็คือการเกิดแรงบันดาลใจจากส่วนผสมเท่าที่มีและเปลี่ยนเครื่อง ปรุงเล็กๆ น้อยๆ ให้เป็นอาหารอิ่มท้องอุ่นใจ  ฉันมักจะมีลาร์ดงส์ ทิ้งไว้ในตู้เย็นห่อ หนึ่งเสมอ  อีกทางเลือกก็คือเก็บเบค่อนแผ่นใหญ่หรือปันเช็ตต้าอิตาเลียนเผื่อไว้ใน ตู้แช่แข็งส�ำหรับยามยาก    สูตรนี้เหมาะมากส�ำหรับฤดูหนาว    ในช่วงหน้าร้อน  ฉัน มักจะใช้มะเขือเทศเชอร์รี่แทนแคร์รอต  และใส่ไวน์ขาวลงไปนิดหน่อยด้วย

น�้ำมันมะกอก ลาร์ดงส์  ฟูเมส์  เบค่อนหั่นชิ้น หรือปันเช็ตต้า  หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาด 1/4 นิ้ว  หอมใหญ่หั่นลูกเต๋า กระเทียมฝาน

3 ช้อนโต๊ะ 8 ออนซ์ 2 หัว  2 กลีบ  ปรุงรัก ปารีส // 27


แคร์รอตฝานบางๆ หัวเฟนเนลสับหยาบๆ ซุคคินีหั่นเป็นแว่นหนา 1/4 นิ้ว มะเขือเทศตากแห้งหั่นลูกเต๋า สปาเก็ตตี้ยี่ห้อเด เช็คโค หรือสปาเก็ตตี้โฮลวีต พาร์สลีย์สับและพริกไทยด�ำป่นใหม่ๆ ส�ำหรับเสิร์ฟ

4 1 2 3 1

หัว  หัว ลูก ลูก ปอนด์

ใส่น�้ำมันในกระทะตั้งให้ร้อน    ใส่ลาร์ดงส์  หอมและกระเทียม ผัดประมาณ 2-3  นาทีจนกระทั่งน�้ำมันไหลออกจากชิ้นลาร์ดงส์  และหอมใหญ่สุกใส เติมผักที่เหลือ  คนให้น�้ำมันเคลือบ  ตั้งเตาต่อไป  คนเป็นระยะๆ  จนกว่า จะนุ่มและหวาน ต้มเส้นพาสต้าในหม้อน�้ำใส่เกลือใบใหญ่    เก็บน�้ำต้มไว้หนึ่งถ้วย เล็กๆ    เทน�้ำที่เหลือทิ้ง  เทพาสต้าลงในซอส  เติมน�้ำต้มอีกเล็กน้อยถ้าคุณ รู้สึกว่ามันดูแห้งเกินไป  โรยพาร์สลีย์สับกับพริกไทยป่น    เอาหม้อกลับไป ที่เตียงด้วยก็ดี  เพราะไม่มีอะไรเหมือนเดตแรกที่คุณต้องกินเพิ่มพลังอีก แล้วล่ะ ส�ำหรับ 4 ที่  หรือคนสองคนที่ใช้แรงหมดจนหิวโหย

28 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


2 มนต์รักฝังใจ

ฉั น ใช้ชีวิตสองแบบไปพร้อมๆ  กัน    ตอนกลางวันฉันอ่านเรื่องสถาน

พยาบาลคนวิกลจริตยุควิกตอเรียนในหอสมุดแห่งชาติอังกฤษ    ตอนกลาง คืนฉันก็ถอดรหัสอีเมลเรตเอ็กซ์ด้วยพจนานุกรมภาษาฝรั่งเศส-อังกฤษ ทุกๆ  สองสามสัปดาห์  ฉันจะหิ้วกระเป๋าค้างคืนไปท�ำงานด้วยในวันศุกร์ แล้วกระโดดขึ้นรถไฟยูโรสตาร์    พอถึงเวลาดินเนอร์  ฉันก็อยู่ปารีสแล้ว เดินแค่สิบห้านาทีจากสถานีการ์  ดู  นอร์  ก็ถึงแฟลตของเกว็นดาล แล้ว    และนั่นก็คือเวลาทั้งหมดที่ฉันใช้ในการสลัดชีวิตแบบลอนดอนทิ้งไป ฉันรู้สึกตัวเบาขึ้นเมื่อเทนามบัตรติดต่อต่างๆ  และก�ำจัดเส้นตายที่ก�ำหนด กับรายการสิ่งที่ต้องท�ำทั้งหลายออกจากกระเป๋าจนเกลี้ยง    ฉันผ่อนฝีเท้าที่ ก้าวเดินอย่างมุ่งมั่นให้ช้าลงตรงหน้าบานหน้าต่างร้านค้าที่มืดสนิทและบรรดา กระดานด�ำที่เขียนเมนูอาหารซึ่งพากันร้องขอให้เราเลือกเป็นอาหารมื้อถัดไป ทุกสุดสัปดาห์ในปารีสเริ่มต้นด้วยดินเนอร์  เกว็นดาลกับฉันหาร้าน ประจ�ำแถวนั้นได้อย่างรวดเร็ว    บิสโตร  แซ็งต์  มาร์ธ  ไม่ใช่ร้านแบบที่เรา บั ง เอิ ญ ก้ า วเข้ า ไป    มั น เหมื อ นหลุ ด ออกมาจากฉากในนิ ย ายสื บ สวนยุ ค ทศวรรษห้าศูนย์    ท�ำนองว่า ทีส่ ดุ สายปลายถนนทางเดียวแคบๆ มีรา้ นหลบ ปรุงรัก ปารีส // 29


อยู่ในมุมหนึ่งของจัตุรัสเล็กๆ  ใต้กันสาดสีเบอร์กันดี  หลังม่านก�ำมะหยี่  ให้ ถามหาฌาคส์ที่นั่น    ตอนที่หมู่อาคารเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 21  มันน่าจะเคยเป็นที่อยู่อาศัยของคนหาเช้ากินค�่ำในปารีส    บางทีอาจจะ เป็นครอบครัวของคนงานที่ท�ำงานในโกดังสิ่งพิมพ์เก่าๆ  ตรงริมคลองก็ได้ แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยครอบครัวผู้อพยพ  แสงไฟฟลูออเรสเซนต์สาด จ้าออกมาจากบานหน้าต่าง  สายไฟเถื่อนห้อยระโยงระยางอยู่ตามข้างตึก เหมือนเถาวัลย์  มีโบสถ์คริสตจักรความหวังของชาวจีนอยู่อีกด้านของจัตุรัส ฉากหน้าของอาคารหนึ่งหรือสองด้านทาสีสันสดใส บอกให้รู้ว่ามีเหล่าศิลปิน ผู้แสวงหาอสังหาริมทรัพย์ราคาถูก  และ  “ความจริงอันถ่องแท้”  พ�ำนักอยู่ เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเตะบอลเฉียดโต๊ะบนเฉลียงที่บรรดาสุภาพสตรีหิ้วกระ เป๋าถือราคาแพงระยับแวะเวียนมานั่งกิน    ฉันเป็นคนสุดท้ายในโลกที่ใคร จะนิยามว่าเก๋ไก๋  แต่ฉันก็มองร้านเก๋ไก๋ออกแน่ถ้าได้เห็น    โชคดีฉันซุกไข่มุก ไว้ในลิ้นชักที่ลอนดอน    เพราะที่นี่เหมือนอเวนิวซีบวกกับกรุงเบรุตยังไง ยังงั้นเลย ข้างในร้านเป็นห้องแคบๆ มีก�ำแพงสีแดงฉานกับโต๊ะแปดเก้าตัววาง อยู่รอบบาร์    เพดานสูงประดับช่อแชนเดอร์เลียร์ต่างแบบกันไว้หลายช่อ ระหว่างรอโต๊ะ  ฉันก็ซุกจมูกเย็นๆ  ของตัวเองเข้ากับคออุ่นๆ  ของเกว็นดาล มักจะมีช่วงเวลาแปลกๆ เสมอหลังจากเรานั่งลงที่โต๊ะไม้ตัวแคบ ได้เจอหน้า กันอีกครั้งหลังห่างหายไปหลายสัปดาห์  ไม่ว่าจะเป็นความเงียบชวนอึดอัด หรือไม่ก็อาการช่างพูดช่างคุยเกินเหตุ    ก่อนจะกลับเข้าสู่ความคุ้นเคยที่น่า สบายใจจากการประสานสายตากันนานๆ หรือสัมผัสจากมือของเขาบนเส้น ผมของฉัน    ตอนฉันเป็นวัยรุน่  ฉันเรียกมันว่า “ใจกระตุก” สัมผัสทีร่ อคอย มาแสนนานที่ท�ำให้เรารู้สึกถึงมันได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า    แม้ว่าทุกคน  (แม่ฉัน เพื่อนสนิทฉัน  เจ้านายฉัน)  จะรู้ว่าฉันไปไหน  แต่สุดสัปดาห์ในปารีสก็ยัง ให้ความรู้สึกเหมือนความลับล�้ำค่าที่ฉันหวงแหนรักษาไว้อย่างดี   เหมือน สัมพันธ์รักเร้น    สิ่งที่ยังขาดไปในตอนนี้ก็คือเสื้อโค้ตตัวยาวกับที่คีบก้าน บุหรี่เท่านั้น การคิดการณ์ไกลเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติของฉัน    ดังนั้น  ก่อนสั่ง 30 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


อาหารค�่ำ  ฉันก็วางยุทธศาสตร์ส�ำหรับสั่งของหวานไว้แล้ว     ระหว่างเกว็นดาลก�ำลังแปลรายการอาหารให้เลือก  ฉันก็วอกแวกเพราะกลิ่นช็อกโกแลต ที่ก�ำลังละลายไปเรียบร้อยแล้ว    อาหารจานแล้วจานเล่าทยอยออกมาจาก ครัวโดยเหล่าบริกรที่ยกมันลอยไว้ระหว่างเดินผ่านบาร์อย่างเชื่องช้า    ฉัน ยืดคอมองหาว่ากลิ่นช็อกโกแลตลอยลมมาจากทางไหน    ขนมหลายจาน ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะมุมห้องที่แน่นขนัดไปด้วยหนุ่มๆ  ท่าทางเซอร์ๆ  กับสาวๆ ที่โปรดปรานมันมาก  กลุ่มควันบุหรี่ลอยมาบดบังสายตาของฉัน เมื่อเลอ เดสแซร์ มาถึงในที่สุด มันหน้าตาเหมือนคัพเค้กช็อกโกแลต คว�่ำหน้าธรรมดาๆ มาพร้อมกับวิปครีมก้อนเล็กฟูฟ่องที่ตีมาใหม่ๆ    แต่พอ ช้อนของฉันตักลงไปในผิวเค้ก  ช็อกโกแลตที่อยู่ใจกลางก็หลั่งไหลออกมา บนจานสีขาวราวกับลาวาสีเข้ม    เศษเสี้ยวของความเครียดที่หลงเหลืออยู่ หายไปเป็นปลิดทิ้ง    ฉันรู้สึกได้ว่ากระดูกสันหลังละลายหายไปกับเก้าอี้ เมนูเขียนไว้ว่า มัวล์เยอซ์  โอ โชโกลาต์  “กิตู ” “‘กิตู’*  เป็นการเล่นค�ำ”  เกว็นดาลบอกพร้อมกับหรี่ตาเลียนแบบ ฮัมฟรีย์  โบการ์ตอย่างสุดความสามารถ    “มันหมายถึง  ‘ฆ่าให้ตาย’”  ฉันค้นพบ  “ความตายจากช็อกโกแลต”  แบบฉบับฝรั่งเศสแล้วละ ฉันชอบคิดว่าฉันเกิดผิดศตวรรษ    ฉันแน่ใจว่าฉันต้องไปได้สวยในชุดกระโปรงสุ่ม ถือพัด กับเหล่าปรมาจารย์สอนวาดภาพแน่ๆ (แต่แม่ฉันชอบบอก ว่า  ฉันคงเป็นสาวรับใช้สายตาสั้นสุดๆ  เสียละมากกว่า)    ปารีสเป็นเมืองที่ สมบูรณ์แบบส�ำหรับการเดินทางย้อนอดีตของฉัน    มีถนนแค่ไม่กี่สายเท่า นั้นที่ปราศจากร่องรอยจารึกเล็กๆ  น้อยๆ  ของช่วงเวลาอันเลิศหรูอลังการ และสง่างามกว่าในสมัยนี้    อย่างเช่นระเบียงเหล็กดัดโค้งอ่อนช้อย หรือรอย –––––––––––––––––––––––––––––– * “Kitu” ในชื่อขนมพ้องเสียงกับวลีที่ว่า qui tue ซึ่งแปลว่า “ฆ่าให้ตาย” ในภาษา ฝรั่งเศส เป็นการตั้งชื่อเพื่อบ่งบอกว่าขนมจานนี้อร่อยมากเสียจนฆ่าคนกินให้ตาย ได้-บรรณาธิการ ปรุงรัก ปารีส // 31


อักษรสีจางเหนือหน้าต่างร้านบูลองเฌอรี ฉันเล่นเกมนี้มานานตั้งแต่จ�ำความได้   ฉันก็เหมือนลูกคนเดียวส่วน ใหญ่ที่ใช้เวลาเล่นสนุกกับตัวเองนานๆ    ฉันไม่เคยมีเพื่อนในจินตนาการ แต่มีชีวิตในจินตนาการแทน    และที่จริงก็มีหลายชีวิตเลยละ    ของเล่นชิ้น โปรดของฉันคือกล่องเครื่องแต่งตัว  ตะกร้าหวายใส่เสื้อผ้าเก่าๆ  ที่เต็มไป ด้วยกระโปรงบัลเล่ต์  หมวกปีกกว้างประดับดอกไม้ผ้าใยสังเคราะห์  และ ชุดแต่งงานของป้าลินน์ที่ย้อมเป็นสีชมพูแปร๋น ติดระบายให้ใส่เป็นชุดกล้วย ชิคิต้าในวันฮัลโลวีนได้    ฉันเล่นเป็นเจ้าหญิง  เจ้าสาว  คุณครู  ราชินี    แล้ว ฉั น ก็ มี เ สื้ อ เกาะอกสี เ ทอร์ ค วอยส์ ป ั ก เลื่ อ มอยู ่ ตั ว หนึ่ ง ที่ น ่ า จะท� ำ ให้ ฉั น ดู เหมือนผู้หญิงอย่างว่าเอามากๆ  เสียด้วย  แม่ฉันเป็นครูสอนเด็กพิเศษ  ส่วนพ่อเป็นเซลส์แมน    หลังจากฉัน เกิดปุ๊บ  แม่กับพ่อก็ย้ายจากบรูคลินมายังบ้านแบบทิวดอร์ชานเมืองรัฐ นิวเจอร์ซีย์    ฉันไปเรียนชั้นประถมในโรงเรียนตึกอิฐแดงจากยุคปีหกศูนย์ ที่อยู่ถัดไปสองสามช่วงตึก    แม้แต่ในตอนนั้น  สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดก็คือการ เป็นคนธรรมดาๆ ตั้งแต่ตอนฉันยังเด็กมาก  ฉันก็เชื่อมโยงความพิเศษสุดไม่เหมือน ใครไว้กับยุคสมัยที่ผ่านไปเนิ่นนานและแสนห่างไกล  ในขณะที่เพื่อนอนุบาล ของฉันฝันว่าจะเป็นนักบัลเล่ต์หรือนักบินอวกาศ  ฉันกลับอยากเป็นนัก โบราณคดี    ฉันมีหนังสือภาพสถานที่ขุดสมบัติดังๆ ที่พ่อกับฉันอ่านด้วยกัน ซ�้ำแล้วซ�้ำอีกจนกระทั่งปกแข็งของมันแทบจะหลุดเป็นชิ้นๆ    ฉันจินตนาการ ว่าตัวเองเปิดสุสานของตุตันคาเมนออก บรรจงหยิบสร้อยข้อมือทองค�ำหรือ คนโทใส่ไวน์ที่วางอยู่โดยปราศจากคนรบกวนมาเป็นพันๆ ปี    ฉันชอบกลิ่น อับๆ  ของหนังสือเก่า    ความเรืองรองของภาพเหมือนของซาร์เจนท์  และ ประกายวิบวับของคริสตัลสีอเมธิสต์ในห้องโถงอัญมณีที่มืดสลัวของพิพิธ ภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ    พอหมดยุคเล่นแต่งตัวฉันก็หายเข้าสู่โลก ของนวนิยาย  ด�ำดิ่งลงไปสู่โลกในจินตนาการของคนอื่นๆ    ฉันเข้าใจถนน หนทางในลอนดอนในยุคของดิคเกนส์มากกว่าเรื่องเศษส่วนตั้งเยอะ    สมัย ไฮสกูล ฉันเล่นละครเวทีของเชกสเปียร์  ออสการ์  ไวลด์  และมอลิแยร์  ฉัน 32 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


รู้สึกผ่อนคลายในคอร์เซ็ตกระดูกปลาวาฬมากกว่ากางเกงยีนส์ตัดขาขาดรุ่ย ที่ใส่ไปเข้าเรียน    พอถึงตอนเรียนจบมหาวิทยาลัยซึ่งฉันย้ายจากเอกจิต วิทยาที่แสนจะสมเหตุสมผลมากๆ  มาเป็นเอกวรรณคดีอังกฤษ  และท�ำ วิทยานิพนธ์เรื่อง  พาราไดส์  ลอสต์  และ  ปีเตอร์  แพน  ฉันก็จูนกับอะไร อย่างอื่นไม่ติดซะแล้ว   ฉันมองไม่เห็นทางเลือกอื่นนอกจากจะฟูมฟักความ ชอบนี้ให้เติบโต    เพื่อนๆ  ล้อฉันอย่างสนุกสนาน  เคิร์ท  โคเบนคือคนที่ใส่ เสื้อเชิ้ตลายตารางใช่มั้ย เกว็นดาลมองปารีสด้วยสายตาแบบเดียวกับฉัน    เขาเห็นศตวรรษ ที่แตกต่างออกไปอยู่ทั่วทุกหัวระแหง    เขายังคงเป็นนักศึกษาและไม่ได้มี เงินมากมาย เราก็เลยใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงแรกๆ ของเราไปกับการเดิน เล่น    ถึงเขาจะอยู่ปารีสมาสิบปีแล้ว  ความหลงใหลได้ปลื้มแบบหนุ่มชนบท ที่มีต่อเมืองใหญ่ของเขาก็ไม่เคยจางหาย  เขายังคงเปิดใจรับมนต์ขลังของ สถานที่แห่งนี้    ฉันแทบไม่รู้จักใครสักเท่าไรที่ยังคงเปิดใจรับมนต์ขลังของ สิ่งต่างๆ อยู่ ทุกคนพูดถึงปารีสในฤดูใบไม้ผลิ    บางทีอาจจะเป็นเพราะเรื่องรักใน ปารีสของฉันเองเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมก็ได้    ฉันเลยชอบนครแห่งแสงสีนี้ ในฤดูหนาวมากกว่า  ปารีสในฤดูหนาวชื้นฉ�่ำและเงียบงัน  แตกต่างจากแสงอาทิตย์จัดจ้า ชวนปวดตาและอากาศเย็นเฉียบบาดผิวของนิวยอร์กมากมาย    ที่จริงสภาพ อากาศในปารีสเหมือนในลอนดอนเปี๊ยบ  เพียงแต่ปารีสมีสถานที่ให้ซุกตัว ที่ดีกว่า จะมีกันสาดร้านบราสเซอรี*ให้ยืนซุกหลบ หรือไม่ก็ประตูลายสวยๆ ให้มุดแอบ    ฉันชอบเวลาสายฝนผสมผสานสีสันต่างๆ  ให้ปนกันเหมือน ภาพวาดสีชอล์กตามทางเท้า    หลังพระอาทิตย์ตกจะมีช่วงเวลาหนึ่ง  เวลา ที่ร้านรวงพากันเปิดไฟและไอน�้ำเริ่มเกาะตามหน้าต่างคาเฟ่ทั้งหลาย     ใน –––––––––––––––––––––––––––––– * brasserie  ร้านอาหารที่เสิร์ฟทั้งอาหารครบคอร์สตามเมนูและเครื่องดื่มประเภท ต่างๆ  (โดยเฉพาะเบียร์)   ต่างจาก  bistro  ซึ่งมักบริการแต่อาหารจานด่วนแบบ ง่ายๆ-บรรณาธิการ ปรุงรัก ปารีส // 33


ภาษาฝรั่งเศส  ยามสนธยาเช่นนี้สื่อถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา  มันเรียก ว่า  อ็องเทรอ  เชียง  เอต์  ลูป์  หรือระหว่างสุนัขกับหมาป่านั่นเอง เพิ่งจะเริ่มมืดตอนที่เราเดินตัดสวนเล็กๆ  ในปาเลส์  รัวยัล  เรามอง เด็กๆ  ที่แต่งตัวอย่างประณีตในเสื้อโค้ตกลัดกระดุมป้ายและถุงมือผ้าขน สัตว์ลายทางเล่นฟุตบอลแบบประยุกต์กันเองเหมือนที่เราเคยเห็นมาแล้วที่ จัตุรัสแซ็งต์  มาร์ธ  ด้านหลังปาเลส์  รัวยัล  บรรดาถนนคนเดินสายใหญ่ๆ  ที่รายรอบ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก็กลับกลายเป็นถนนแคบๆ  บรรดาร้านบูติกเล็กๆ*  และ ร้านบิสโตรหลายร้าน    สายฝนเริ่มโปรยปราย  เกว็นดาลเลี้ยวตรงมุมถนน จากจุดที่ซ่อนอยู่ระหว่างด้านหน้าร้านสองแห่งซึ่งแทบจะไม่กว้างกว่าประตู บานคู่สักเท่าไร   ฉันพบว่าตัวเองก�ำลังมองไปยังทางเดินแคบๆ ตกแต่งด้วย ไฟระย้า  มีซุ้มโค้งเรียงรายไปจนไกลสุดสายตา  เหนือซุ้มโค้งเหล่านั้นเป็น หลังคาแก้วใสเหมือนเรือนกระจกซึ่งสะท้อนเสียงหยดฝนที่กระทบลงมา ราวกับว่าเราได้ก้าวเข้าไปในตู้เสื้อผ้าของแม่มด  ด่านผ่านทางลวงตา  หรือ จะอะไรก็ตามแต่ที่พาเราเข้าไปในอีกยุคสมัยหนึ่ง ปัสซาจ  วิเวียนน์  คือทางเดินของปารีสสมัยศตวรรษที่  19  ซึ่งทอด ยาวไปสู่ห้างสรรพสินค้า    มันเป็นถนนสายในเส้นเล็กๆ  ที่มีร้านบูติกและ ร้านน�้ำชาซึ่งบรรดาสุภาพสตรีที่มาเลือกซื้อสินค้าสามารถดูโน่นนี่ได้โดยที่ สุ่มชายกระโปรงยาวๆ  หรือขนนกบนหมวกใบใหม่ของพวกหล่อนจะไม่ เปียกฝนตั้งเรียงรายอยู่ แน่นอนว่ามันห่างไกลจากห้างสรรพสินค้าที่มีแต่เพลงบรรเลงดาษๆ ดื่นๆ และศูนย์อาหารติดไฟนีออนในสมัยวัยรุ่นของฉันมาก   มีรูปปั้นนูนต�่ำ ของเหล่าเทพธิดากรีกในชุดทูนิคบางเบาประดับอยู่ตามก�ำแพง  โคมไฟทอง เหลืองสามแฉกแขวนลงมาจากเพดานด้วยโซ่เส้นยาว เดินไปสักครึ่งทางจะมีร้านแอนทีคที่ขายเฉพาะเครื่องครัวโบราณ อย่างถ้วยเซรามิกขอบหยักส�ำหรับช็อกโกแลตร้อน  พิมพ์รูปปลาท�ำจาก –––––––––––––––––––––––––––––– * boutique ร้านขนาดเล็กหรือแผงขายสินค้าประเภทเสื้อผ้าเครื่องประดับ 34 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


ทองแดงมันวับ  และพิมพ์ขนมมัดแล็นท�ำจากดีบุกที่ขอบของมันเก่าลอก เสียจนน่าเชื่อว่าอาจจะเป็นของพรูสต์ 1ก็เป็นได้    สุดทางเดิน  ใต้นาฬิกา ที่มีนางฟ้าเปลือยอกสององค์ชูไว้  มีร้านหนังสือตั้งอยู่  ลายพิมพ์ตัวอักษร สีทองบนประตูกระจกเขียนไว้ว่า  เมซง  ฟงเด  อ็อง  1826  (ร้านนี้ก่อตั้งใน ปี  1826) ฉันแทรกตัวผ่านชั้นที่วางขายโปสการ์ดแน่นเอี้ยด  ทั้งรูปคู่รักหน้า หอไอเฟล  เด็กน้อยก�ำลังวิ่งพลางหนีบขนมปังบาแก็ตไว้ใต้แขน  และหญิง เปลือยนั่งยองๆ เหนือโถช�ำระ กระดิ่งทองเหลืองสีแดงที่แขวนอยู่กับโซ่ตรง ลูกบิดประตูส่งเสียงกรุ๋งกริ๋งเมื่อเราก้าวเข้าไป  กลิ่นฝุ่นและขี้ผึ้งลอยมาจาก ชั้นหนังสือสีช็อกโกแลตเข้มที่เช็ดถูจนสะอาดเอี่ยมเรียงรายอยู่ริมก�ำแพง ที่มุมหนึ่งมีบันไดวนที่เล็กเสียจนแมวอ้วนๆ คงปีนขึ้นไปไม่ไหวแน่  ฉันแทบ จะรู้สึกถึงกระโปรงสุ่มของตัวเองระไปตามพื้น    ชัดเจนแล้วว่าเมืองนี้ไม่ได้ ช่วยบรรเทาอาการสาวหลงยุคของฉันขึ้นมาได้เลย

ครึ่งชั่วโมงหลังจากกินมะกอกเขียวกับอเปริติฟ  หรือเหล้าเรียกน�้ำย่อยของ ร้านระหว่างรอ  บริกรสาวก็มารับรายการอาหารจากเรา    เรามากินมื้อเที่ยง ยามบ่ายที่กันที่ร้านแลร์แมส  ร้านอาหารเล็กๆ ในเขต 19 บนเนินเขาเหนือ อพาร์ตเมนต์ของเกว็นดาล  “เอ,  อลอร์ ”  บริกรสาวเริ่มต้นด้วยการบรรยายอาหารพิเศษประจ�ำ วัน   “เรามีเป็ดกับกะหล�่ำปลีและแอปเปิลตุ๋น คัสซูเลต์2    และที่พิเศษมากๆ ก็คือ”  เธอพยักหน้าเน้นหนัก “ดู  ปอร์  นัวร์  เดอ บิกอร์ ”  –––––––––––––––––––––––––––––– 1 Marcel  Proust  (1871-1922)  นักเขียนและนักวิพากษ์วรรณกรรมคนส�ำคัญยิ่ง ทั้งในวงการวรรณกรรมฝรั่งเศสและโลก    งานเขียนชิ้นเด่นที่สุดของเขาคือ  In   Search of Lost Time ซึ่งในเรื่องเขากล่าวถึงขนมชนิดนี้ว่าน�ำเขากลับคืนสู่ความ สุขในอดีตได้ทุกครั้ง–ผู้แปล 2 อาหารประเภทตุ๋นที่ท�ำจากเนื้อสัตว์ต่างๆ ใส่ถั่วขาวและอบในหม้อดินเผา–ผู้แปล ปรุงรัก ปารีส // 35


“หมูนี่พิเศษยังไงเหรอครับ”  เกว็นดาลถาม  เธอจึงสาธยายร่ายยาว อย่างสุดอลังการ “คือว่า”  เธอพูดแล้ววางสมุดจดลงบนเคาน์เตอร์    “มันมีขนสีด�ำ สั้นๆ  แล้วก็ตัวใหญ่ประมาณนี้” เธอกางแขนออกกว้างตลอดความยาวของ โต๊ะเรารวมกับโต๊ะข้างๆ    “มันจุกจิกจู้จี้มาก  จับมาเลี้ยงก็ยากมากด้วยค่ะ เพราะอย่างนี้นะคะ  คือมันชอบหาอาหารกินในป่า  อะไรก็ตามที่มันชอบ” และพอเธอหยุดคิดถึงชีวิตอันแสนรื่นรมย์ของสัตว์ป่านักล่าเห็ดทรัฟเฟิล ขนสีด�ำขลับที่ชอบร่อนเร่ไปทั่วอย่างอิสระแล้ว เธอก็จบด้วยประโยคสวยหรู ที่ว่า  “อิล  เลส์ต  เออเรอซ์,  กัว  คือมัน...มีความสุขน่ะค่ะ!” ฉันเห็นได้จากสีหน้าของเกว็นดาลเลยว่าเขาน่ะยิ่งกว่าปักใจเชื่อเสีย อีก    ก็อะไรที่จะดีต่อสุขภาพไปกว่าอาหารมื้อกลางวันจากเนื้อของหมูที่มี ความสุขอีกล่ะ  ส่วนฉันเองสั่งคัสซูเลต์  ฉันพบว่าการท�ำความรู้จักเกว็นดาลก็ออกจะคล้ายๆ การผูกมิตรกับ มนุษย์ต่างดาวที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ  (แถมยังเซ็กซี่ด้วย)    เขาดูเหมือนผู้คนที่ ฉันรู้จัก  และพูดจา  (ค่อนข้าง)  คล้ายกับคนที่ฉันรู้จัก    แต่เห็นได้ชัดเจน เลยว่าเขาถูกดึงดูดด้วยอะไรที่แตกต่างออกไป    แน่นอนว่าฉันก็ต้องเรียนรู้ บรรดาแฟนหนุ่มก่อนหน้า แต่ฉันไม่เคยต้องศึกษาใครแบบนี้มาก่อน  พวก หนุ่มๆ ที่ฉันเคยไปเดตด้วยต่างก็อยู่โรงเรียนเดียวกัน มาจากเมืองเดียวกัน กับฉัน    ฉันเดาได้ว่าพวกเขาจะคิดยังไงเกี่ยวกับสารพัดสารพันสิ่ง    แต่ฉัน ไม่มีทางคาดเดาได้เลยว่าเกว็นดาลจะคิดยังไงไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม    ถึง เราจะอายุไล่เลี่ยกัน  แต่เราก็ไม่ได้มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมแบบเดียวกัน ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับแซร์จ  แก็งสบูร์ 3   ส่วนเขาก็ไม่เคยดู  เดอะ  เบรกฟาสต์  คลับ หรือกินขนมทวิงกี้   เราเดินผ่านสถานีรถไฟใต้ดินสตาลินกราด ระหว่างทางไปร้านอาหาร    “ท�ำไมสถานีรถไฟใต้ดินในปารีสถึงตั้งชื่อตาม เมืองในประเทศคอมมิวนิสต์อย่างรัสเซียด้วยล่ะคะ”  ฉันถาม –––––––––––––––––––––––––––––– 3 Serge Gainsbourg (1928-1991) ศิลปินมากความสามารถชาวฝรั่งเศส เขาเป็น ทั้งนักร้อง กวี  นักเขียน นักแสดงและผู้ก�ำกับฯ–ผู้แปล 36 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


“มันคือสมรภูมิไง”  เขาพูดพลางมองฉันเหมือนกับว่าฉันก�ำลังพูด ภาษารัสเซียยังไงยังงั้น  “ตอนที่สตาลินชนะฮิตเลอร์ได้ที่แนวรบด้านตะวัน ออกน่ะ” ก็แหม  มันเป็นช่วงเวลาเดียวเท่านั้นที่พลิกสถานการณ์สงครามโลก ครั้งที่  2  จากหน้ามือเป็นหลังมือ    มันเป็นเหตุการณ์ที่ช่วยฝรั่งเศสให้รอด จากการถูกยึดครองและถูกย�่ำยีอย่างถาวรโดยพวกนาซีเยอรมัน  ไม่เห็นจะ มีสถานีรถไฟใต้ดินชื่อดีเดย์ที่ไหนเลยนี่นา  มันไม่ใช่แค่ว่าเรารู้อะไร แต่เป็นเรื่องที่ว่าเราต้องการอะไรด้วย  เมื่อ มองย้อนกลับไป ทุกคนที่ฉันรู้จักมีรายการสิ่งที่ต้องการคล้ายคลึงกัน  และ สิ่งแรก (ขีดเส้นใต้และใส่เครื่องหมายตกใจเอาไว้ด้วยเลย) ก็คือความส�ำเร็จ และฉันก็เหมือนกับเพื่อนๆ  ส่วนใหญ่ของตัวเองตรงที่พออายุยี่สิบห้า  ฉัน ก็พิจารณาตัวเองแล้วว่าอยู่ในช่วงต้องกล�้ำกลืนฝืนทนท�ำอะไรก็ตามที่เรา ต้องท�ำเพื่อให้ได้เป็นคนอย่างที่เราอยากจะเป็น    ถ้ามันหมายความว่าต้อง ท�ำงานสัปดาห์ละร้อยชั่วโมงที่ธนาคาร ส�ำนักงานกฎหมาย บริษัทเทคโนโลยี ก่อตั้งใหม่  หรือนิตยสารข่าวทั้งหลาย  ก็จงท�ำไป    เราอยู่บนเส้นทางแคบๆ ที่ตรงดิ่งไปยังต�ำแหน่งหุ้นส่วน การเข้าตลาดหลักทรัพย์  ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์  หรืออะไรก็ตามที่พิสูจน์ให้เราและโลกใบนี้เห็นว่าเราท�ำส�ำเร็จ เกว็นดาลดูจะไม่มีรายการอะไรที่ว่านั่นเลย    ที่จริงแล้วชวนเขาคุย ได้ง่ายๆ  ทุกเรื่อง  ยกเว้นเรื่องนี้    เขาก็เหมือนกับเจ้าหมูที่ซอกแซกหาของ กินในป่า  เพราะดูเหมือนจะมีเพียงข้อเดียวที่เขาต้องพิจารณาเพื่อตัดสินใจ นั่นก็คือสิ่งนั้นท�ำให้เขามีความสุขไหม    สิ่งนั้นสร้างความพึงพอใจให้เขา รึเปล่า  ว่ากันตามตรงแนวคิดนี้ท�ำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ  อยู่เหมือนกัน ปรากฏว่าปอร์  นัวร์  เดอ  บิกอร์เป็นแค่ชิ้นเนื้อหมูติดกระดูกย่าง ธรรมดาๆ  ที่เสิร์ฟกับมันฝรั่งต้มผัดน�้ำมันและกะหล�่ำปลีบรัสเซลส์    ส่วน ข้างใต้เปลือกหน้าที่เป็นเศษขนมปังป่น    คัสซูเลต์ของฉันคือถั่วขาวกอง ย่อมๆ  ที่อบจนเนียนนุ่มกับกงฟีต์  เดอ  การ์นาร์  ซึ่งก็คือไส้กรอกชิ้นโตชิ้น หนึ่ง  และรสจางๆ  ของมะเขือเทศ    ยังไงก็เถอะ  ฉันไม่ค่อยอยากรู้เท่าไหร่ ปรุงรัก ปารีส // 37


หรอกว่าเจ้าสัตว์ที่สละชีวิตของพวกมันมาเป็นอาหารของฉันน่ะมีขนสีอะไร เราทั้งคู่พากันหาวนิดๆ เหนือแก้วเอสเปรสโซ่ที่ว่างเปล่าขณะดันเก้าอี้ ลุกขึ้นจากโต๊ะ  น่ายินดีที่มื้อกลางวันสบายๆ  ในฤดูหนาวแบบนี้มักจะตบ ท้ายด้วยการงีบหลับ    เกว็นดาลได้แนะน�ำให้ฉันได้รู้จักกับแนวคิด  เลอ แซ็งก์  อา แซ็ต  แปลตรงๆ ตัวเลยก็คือ “ ช่วงห้าโมงถึงหนึ่งทุ่ม”  ช่วงเวลา ตามตัวยากหลังเลิกงานที่เหล่าชู้รักจะแอบนัดพบกันก่อนกลับบ้านไปกิน มื้อค�่ำกับครอบครัวของตัวเอง  วิฟว์  ลา  ฟรองซ์  (ฝรั่งเศสจงเจริญ) ขณะเราใส่เสื้อโค้ตเตรียมออกจากร้าน ฉันก็สังเกตเห็นภาพในกรอบ รูปบนโต๊ะที่อยู่ข้างประตู  มันเป็นภาพเจ้าหมูด�ำอันเลื่องชื่อ    มันดูเหมือน ลูกกวาดเหนียวหนึบยี่ห้อทุตซีโรลล์อันยาวสีเข้ม  นอนกลิ้งเกลือกอยู่บน กองฟางในคอกของมัน    มันดูมีความสุขจริงๆ  เสียด้วย    แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังดีใจอยู่ดีที่ไม่ได้เห็นมันก่อนเราจะนั่งกินมื้อกลางวัน

สูตรอาหารที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ร้านบิสโตร แซ็งต์ มาร์ธ

ทาร์ทาร์ปลาดาบ ตาร์ตาร์  เดสปาดง ฉันได้ลิ้มรสอาหารเรียกน�้ำย่อยจานนี้เป็นครั้งแรกที่บิสโตร  แซ็งต์  มาร์ธ    ไม่มีอะไร จะง่ายไปกว่าทาร์ทาร์อีกแล้ว  มันเป็นแค่เนื้อปลาดิบหั่นลูกเต๋าเล็กๆ ในน�้ำสลัดแบบ ใสที่ปรุงให้จัดจ้านขึ้นอีกนิด  ฉันลองท�ำมาหลายสูตรแล้ว แต่นี่คือสูตรโปรดของฉัน คุณจะท�ำแยกจานก็ได้  หรือจะเสิร์ฟแต่ละอย่างขนาดพอดีค�ำพร้อมกับผักสลัดสดๆ คั่นตรงกลางก็ได้    สูตรต่อไปนี้ส�ำหรับอาหารเรียกน�้ำย่อยเท่านั้นนะคะ    แต่ถ้าเติม มันฝรั่งผัดไปอีกนิดหน่อย มันก็จะเป็นอาหารมื้อเบาๆ ได้เลย  เสิร์ฟบนใบราดิชชิโอ หรือใบอองอิฟ มันจะกลายเป็นออเดิร์ฟที่หรูหราฟู่ฟ่าเชียวละค่ะ 38 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


สูตรดั้งเดิม เนื้อปลาดาบที่สดที่สุด  (อย่าลืมบอกคนขายปลาว่าคุณจะกินมันดิบๆ)  น�้ำเลมอน และอีก เกลือทะเลเม็ดหยาบ มัสตาร์ดแบบโฮลเกรน น�้ำมันวอลนัต น�้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้นคุณภาพดี ต้นหอมหั่น ดิลสับ

1/2 ปอนด์ 1 1 1/4 2 2 2 2 2

ช้อนโต๊ะ  ช้อนชา  ช้อนชา ช้อนชา ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ ช้อนชา

เลาะหนังปลาและเนื้อที่มีสีแดงออกให้หมด    หั่นเนื้อปลาที่เหลือเป็นชิ้น สี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาด  1/4  นิ้ว  ใส่จานแก้วพักไว้ในตู้เย็นชั้นที่เย็นที่สุด ผสมส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด  (ยกเว้นดิล)  ลงในเหยือกแก้วใบเล็ก หรือกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท  เขย่าแรงๆ ให้เข้ากัน น�ำไปแช่เย็น ห้านาทีก่อนเสิร์ฟปลา เทน�้ำสลัดและดิลลงไป คนให้เข้ากัน  ถ้าคุณ ทิ้งปลาไว้ในน�้ำสลัดนานกว่านี้  กรดผลไม้ก็จะเริ่มท�ำให้เนื้อปลาสุก แล้วคุณ ก็จะลงเอยด้วยการได้เซบิเช  ซึ่งไม่ได้มีรสสัมผัสสดใหม่เหมือนตาร์ตาร์  ส�ำหรับ 2 ที่  หากเสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน�้ำย่อย หรือ 4 ที่  ส�ำหรับอาหาร “พอดีค�ำ”

สูตรเอเชีย เนื้อปลาดาบที่สดที่สุด  (อย่าลืมบอกคนขายปลาว่าคุณจะกินมันดิบๆ)  น�้ำมะนาว และอีก

1/2 ปอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ 1 ช้อนชา  ปรุงรัก ปารีส // 39


เกลือทะเลเม็ดหยาบ ขิงสดขูดละเอียด น�้ำปลา น�้ำตาล ต้นหอมหั่น น�้ำมันงา น�้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้นคุณภาพดี มะม่วงสุกปอกเปลือกหั่นลูกเต๋า พริกไทยผสมบดพอประมาณ ผักชีสับละเอียด

1/4 2 1 1 2 2 4 1/2

ช้อนชา ช้อนชา ช้อนชา ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วย

1 ช้อนโต๊ะ

เตรียมเนื้อปลาและผสมส่วนผสมเข้าด้วยกัน (ตั้งแต่น�้ำมะนาวจนถึงน�้ำมัน) เพื่อท�ำน�้ำสลัดเช่นเดียวกับที่มีใน  “สูตรดั้งเดิม” ห้านาทีก่อนเสิร์ฟปลา  ใส่น�้ำสลัด  มะม่วง  พริกไทยและผักชี  คนให้ เข้ากัน ส�ำหรับ  2  ที่  หากเสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน�้ำย่อย    หรือ  4  ที่  ส�ำหรับอาหารกินเล่น “ พอดีค�ำ”

ซี่โครงหมูอบน�้ำผึ้ง ทราแวร์  เดอ ปอร์  โอ มิแย็ล ฉันรู้ว่าท�ำไมพวกร้านบิสโตรถึงได้รักอาหารจานนี้นักหนา  เพราะมันเตรียมง่าย  ท�ำ ล่วงหน้าได้ทั้งหมด  ถ้าคุณท�ำได้  ขอให้ใช้โรสแมรี่สด เพราะมันสร้างความแตกต่าง ได้มาก    เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งบดกองพูนๆ  ที่ชุ่มฉ�่ำด้วยซอสน�้ำผึ้งหวานละมุน

น�้ำผึ้งโรสแมรี่  (หรือน�้ำผึ้งรสเข้มข้นอื่นๆ) น�้ำมันมะกอก 40 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล

1/2 ถ้วย 1/4 ถ้วย


น�้ำส้มสายชูหมักไวน์แดง เกลือทะเลเม็ดหยาบ กระเทียมที่ใช้สันมีดทุบเบาๆ โรสแมรี่แห้ง หรือโรสแมรี่สดสองสามก้าน ซี่โครงหมูหั่นเป็นชิ้นๆ

1/4 1 2 1 1/2

ถ้วย ช้อนชา กลีบ ช้อนชา

4 ปอนด์

ผสมน�้ำผึ้ง น�้ำมัน น�้ำส้มสายชู  เกลือทะเล กระเทียม และโรสแมรี่แห้ง (ถ้า ใช้)  คนให้เข้ากัน ใส่ซี่โครงหมูลงในถุงซิปล็อกขนาดใหญ่แล้วเทน�้ำหมักหมูลงไป    ถ้า ใช้โรสแมรี่สด ใส่ลงไปในถุงทั้งก้าน แช่ตู้เย็นไว้หนึ่งชั่วโมงครึ่ง กลับหมูเป็น ครั้งคราว อุ่นเตาอบที่  300 ฟาเรนไฮต์ เรียงซี่โครงหมูบนถาดอบขนาดใหญ่ไม่ให้ซ้อนกัน    ต้มน�้ำหมักหมู ในหม้อใบเล็กให้เดือด  ราดลงบนซี่โครงหมูแล้วอบในเตาอบ  2-3  ชั่วโมง กลับ  1-2  ครั้ง    เอาซี่โครงหมูออกจากเตา  ตักไขมันออกจากซอสเล็กน้อย ถึงตอนนี้คุณจะพักซี่โครงหมูไว้ข้ามคืนก็ได้  แค่อุ่นมันใหม่ในซอส ด้วยไฟอ่อนๆ ก็พอ ส�ำหรับ 4 ที่

บทสรรเสริญเกลือทะเลเม็ดหยาบ  :  ตั้งแต่ฉันย้ายมาปารีส  ฉันก็มีสัมพันธ ภาพใหม่ถอดด้ามกับเกลือ    เกลือทะเลเม็ดหยาบที่ได้จากการท�ำให้น�้ำทะเล ตกผลึกราคาถูกและมีมากมายก่ายกองในฝรั่งเศส    เม็ดเกลือจะถูกตาก แห้งเป็นเนินสีขาวผ่อง  โดยเฉพาะในแคว้นเบรอตาญ  (เมืองเกร็องด์)  และ เขตคามาร์ก ฉันพบว่ารสชาติของมันละมุนละไมกว่าเกลือธรรมดา   ถ้าคุณ ยังไม่เคยลอง  ตอนนี้ก็ถึงเวลาลองได้แล้ว    ใส่มันไว้ในโหลแก้วเล็กๆ  บน ปรุงรัก ปารีส // 41


เคาน์เตอร์  และใช้ปรุงทีละหยิบมือตามต้องการ    การโรยด้วยมือจะช่วยให้ คุณกะปริมาณได้ดีกว่าขวดเกลือแบบเขย่าหรือแบบบดมาก    และฉันก็พบ ว่ามันให้ความรู้สึกเย้ายวนใจดีด้วย  เหมือนกับโปรยปรายเพชรเม็ดเล็กจิ๋ว หลิวลงบนอาหารของคุณ

เค้กช็อกโกแลตลาวาส�ำหรับเสิร์ฟหนึ่งที่ มัวล์เยอซ์  โอ โชโกลาต์  “กิตู”

ถ้าคุณมีคนรักช็อกโกแลตอยู่ในชีวิตของคุณแล้วละก็  เตรียมตัวรอรับการชื่นชมบูชา ได้เลย  มันเป็นของหวานที่สมบูรณ์แบบส�ำหรับสองคน    และสูตรนี้จะท�ำให้คุณดู เหมือนอัจฉริยะการท�ำครัวต่อหน้าของแขกคุณนิดๆ เลยละค่ะ  เตรียมท�ำแป้งขนม ไว้ล่วงหน้า  แล้วใส่เค้กเข้าไปในเตาอบทันทีหลังมื้อค�่ำ    ส�ำหรับเครื่องเคียง  ขอให้ หักห้ามใจอย่าประโคมใส่มากจนเกินไป    ลืมซอสคาราเมลและซอสราสพ์เบอร์รี่ไป ได้เลย    แค่วิปครีมหวานน้อยสักก้อนหรือไอศกรีมวานิลลาขนาดเท่าลูกกอล์ฟคือ ทั้งหมดที่เจ้าเค้กชนิดนี้ต้องการเท่านั้น

เนยจืด (1 แท่ง) 8 ช้อนโต๊ะ ดาร์กช็อกโกแลต 5 ออนซ์          (ชนิดที่มีโกโก้  70  เปอร์เซ็นต์---คุณภาพของช็อกโกแลตส�ำคัญมาก      ฉันมักใช้วาล์โรนา  หรือกรีนแอนด์แบล็กส์) เกลือทะเลเม็ดหยาบหนึ่งหยิบมือ ไข่ 2 ฟอง  ไข่แดง 2 ฟอง แป้ง 1 ช้อนโต๊ะ อุ่นเตาอบที่  450 ฟาเรนไฮต์ ละลายเนยและช็อกโกแลตเข้าด้วยกันในตุ๋นชั้นบนหรือในไมโครเวฟ ใส่เกลือลงไป 42 // ภัทรา  หงษ์พร้อมญาติ   แปล


ระหว่างนั้นตีไข่  ไข่แดงและน�้ำตาลเข้าด้วยกันด้วยตะกร้อตีไข่หรือ เครื่องตีไข่ไฟฟ้า  จนกระทั่งขึ้นฟูและเป็นฟองเล็กน้อย  ใส่ส่วนผสมไข่ลงไปในช็อกโกแลตอุ่นๆ  คนเร็วๆ  ให้เข้ากัน  ใส่แป้ง และคนเบาๆ  พอให้เข้ากัน  แป้งขนมเค้กจะค่อนข้างข้น การแกะออกจากพิมพ์เป็นสิ่งที่ต้องใช้กลเม็ดเคล็ดลับส� ำหรับเค้ก ชิ้นน้อยเหล่านี้    ทางออกที่มั่นใจได้ทางเดียวที่ฉันค้นพบก็คือใช้ถ้วยฟอยล์ รองคัพเค้กยี่ห้อเรย์โนลด์ส  (ถ้วยกระดาษไม่ได้ผลเพราะมันจะติด)    ใช้ ถ้วยรอง  5  หรือ  6  ชั้นซ้อนกันให้แข็งแรงพอที่จะเป็นพิมพ์ตั้งเดี่ยวๆ  ได้ ท�ำพิมพ์แบบนี้  6 อัน (ถ้าคุณหาถ้วยฟอยล์รองอบไม่ได้  ให้ใช้ถ้วยกระเบื้อง กลมใบเล็กๆ ทาเนยเยอะๆ เป็นพิมพ์แทน) แบ่งแป้งใส่พิมพ์ให้เท่าๆ กัน (คุณเตรียมแป้งขนมไว้จนถึงขั้นตอนนี้ และแช่เย็นไว้จนกว่าคุณพร้อมจะอบก็ได้    แต่ต้องแน่ใจว่าแป้งขนมคลาย ความเย็นมาอยู่ที่อุณหภูมิห้องก่อนอบ) เวลาในการอบจะขึ้นอยู่กับเตาอบของคุณ    เริ่มจาก  7  นาทีส�ำหรับ เปลือกนอกบางๆ  และไส้ในที่ละลายจนเยิ้มเต็มที่    หรือ  8  นาทีส�ำหรับ เปลือกขนมที่หนาขึ้นอีกนิดและไส้ในที่นุ่มหนึบก�ำลังดี ส�ำหรับ 6 ที่

เคล็ดลับ  :  เค้กพวกนี้อบได้หลังแช่แข็งไว้ด้วยเหมือนกัน    แช่แข็งมันไว้ใน พิมพ์ถ้วยฟอยล์คัพเค้ก  เอาออกจากตู้แช่แข็งล่วงหน้า  10  นาที  แล้วอบที่ 410 ฟาเรนไฮต์เป็นเวลา 15-17 นาที

ปรุงรัก ปารีส // 43


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.